• ศึกอภิปรายการละคร : คนเคาะข่าว 26-03-68ร่วมสนทนา ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้าดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์https://youtu.be/GLwXOgGlWR0?si=8kUoz-imBPBWHChb
    ศึกอภิปรายการละคร : คนเคาะข่าว 26-03-68ร่วมสนทนา ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้าดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์https://youtu.be/GLwXOgGlWR0?si=8kUoz-imBPBWHChb
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 52 Views 0 Reviews
  • ศึกอภิปรายการละคร : คนเคาะข่าว 26-03-68
    ร่วมสนทนา
    ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #news1 #คนเคาะข่าว
    #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #รัฐบาล #นายกรัฐมนตรี
    ศึกอภิปรายการละคร : คนเคาะข่าว 26-03-68 ร่วมสนทนา ดร.สติธร ธนานิธิโชติ ผู้อำนวยการสำนักนวัตกรรมเพื่อประชาธิปไตย สถาบันพระปกเกล้า ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #news1 #คนเคาะข่าว #อภิปรายไม่ไว้วางใจ #รัฐบาล #นายกรัฐมนตรี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 150 Views 5 0 Reviews
  • ประชาธิปไตยทรราชย์ /ประชาธิปไตยเผด็จการครอบครัวได้ไปต่อ คนไทยแพ้
    ประชาธิปไตยทรราชย์ /ประชาธิปไตยเผด็จการครอบครัวได้ไปต่อ คนไทยแพ้
    0 Comments 0 Shares 29 Views 0 Reviews
  • 'รอมฎอน' ถล่ม 'แม้ว-อิ๊งค์' ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตย จุดไฟใต้ เกิดสภาวะลูกผีลูกคน
    https://www.thai-tai.tv/news/17818/
    'รอมฎอน' ถล่ม 'แม้ว-อิ๊งค์' ดีลปีศาจแลกประชาธิปไตย จุดไฟใต้ เกิดสภาวะลูกผีลูกคน https://www.thai-tai.tv/news/17818/
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • คนไทยยุคนี้อยู่ภายใต้การครองแบบ ประชาธิปไตยเผด็จการ ห้ามพูด ห้ามแสดงความเห็นแตกต่าง จะส่งกีกี้มาข่มขู่ทันที
    คนไทยยุคนี้อยู่ภายใต้การครองแบบ ประชาธิปไตยเผด็จการ ห้ามพูด ห้ามแสดงความเห็นแตกต่าง จะส่งกีกี้มาข่มขู่ทันที
    0 Comments 0 Shares 43 Views 0 Reviews
  • ฟันเฟืองประชาธิปไตยที่ยังหัวใจสีแดงและสีส้มอยู่ ตอนนี้ก็เริ่มมีไปร่วมกับกลุ่มอาชีวะของ คปท. และ ศปปส. ไปหลายคนแล้ว ไม่รู้ว่าฟันเฟือง ปชต. ถอดสีแดงไปยืนเคียงข้าง คปท. กันเยอะไหม แต่ผมขอให้เปลี่ยนข้างไปเยอะๆนะครับ
    ฟันเฟืองประชาธิปไตยที่ยังหัวใจสีแดงและสีส้มอยู่ ตอนนี้ก็เริ่มมีไปร่วมกับกลุ่มอาชีวะของ คปท. และ ศปปส. ไปหลายคนแล้ว ไม่รู้ว่าฟันเฟือง ปชต. ถอดสีแดงไปยืนเคียงข้าง คปท. กันเยอะไหม แต่ผมขอให้เปลี่ยนข้างไปเยอะๆนะครับ
    0 Comments 0 Shares 60 Views 0 Reviews
  • 2/
    "เก็บภาพเหล่านี้ไว้ ประเทศประชาธิปไตยเค้าสลายการชุมนุมอย่างไร"

    การประท้วงต่อต้านเออร์โดกันในตุรกี ยังไม่ลดความรุนแรง และยังคงลุกลามต่อไป หลังจากที่มีคำสั่งจับกุมนายกเทศมนตรีอิสตันบูล ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ
    2/ "เก็บภาพเหล่านี้ไว้ ประเทศประชาธิปไตยเค้าสลายการชุมนุมอย่างไร" การประท้วงต่อต้านเออร์โดกันในตุรกี ยังไม่ลดความรุนแรง และยังคงลุกลามต่อไป หลังจากที่มีคำสั่งจับกุมนายกเทศมนตรีอิสตันบูล ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 201 Views 17 0 Reviews
  • 1/
    "เก็บภาพเหล่านี้ไว้ ประเทศประชาธิปไตยเค้าสลายการชุมนุมอย่างไร"

    การประท้วงต่อต้านเออร์โดกันในตุรกี ยังไม่ลดความรุนแรง และยังคงลุกลามต่อไป หลังจากที่มีคำสั่งจับกุมนายกเทศมนตรีอิสตันบูล ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ
    1/ "เก็บภาพเหล่านี้ไว้ ประเทศประชาธิปไตยเค้าสลายการชุมนุมอย่างไร" การประท้วงต่อต้านเออร์โดกันในตุรกี ยังไม่ลดความรุนแรง และยังคงลุกลามต่อไป หลังจากที่มีคำสั่งจับกุมนายกเทศมนตรีอิสตันบูล ซึ่งเป็นคู่แข่งทางการเมืองคนสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 200 Views 14 0 Reviews
  • ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแบบทุนนิยมสุดโต่ง เขาจะอุ้มนายทุนกันเท่านั้น ส่วนรากหญ้า ชาวบ้านคือหมาก/คือคะแนนเสียง/ฐานเสียง ก็แค่หยอดคำหวานกับแจกเงินให้ (อาหารหมา)
    โจรกลับมาเราจะเห็นพวกนายทุนไม่กี่ร้อยคนไปร่วมมิตรร่วมยินดี เพราะเขาอุ้มกันไว้
    ประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยแบบทุนนิยมสุดโต่ง เขาจะอุ้มนายทุนกันเท่านั้น ส่วนรากหญ้า ชาวบ้านคือหมาก/คือคะแนนเสียง/ฐานเสียง ก็แค่หยอดคำหวานกับแจกเงินให้ (อาหารหมา) โจรกลับมาเราจะเห็นพวกนายทุนไม่กี่ร้อยคนไปร่วมมิตรร่วมยินดี เพราะเขาอุ้มกันไว้
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • #แยกกันเดิน ร่วมกันตี กับเหลี่ยมทุจริต เพื่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม โดยอ้างประชาธิปไตย อ้างประชาชน คนพวกนี้ มีวาจาตรงกัน คือ โกหกบิดเบือน ยุแยกให้แตกสามัคคี พูดหยาบ(อ้างเหตุผลข้ามขั้นตอน..เช่น แก้ ม.112, แก้รัฐธรรมนูญแล้ว จะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะอยู่ดีกินดี..ฯ) และพูดเพ้อเจ้อ ขายฝันด้วยนโยบายลม ๆ แล้ง ๆ

    *โกหกมากี่ครั้ง ยังจำกันได้ไหม ?
    *สรุปกันได้หรือยัง ว่าเด็กเลี้ยงแกะในนิทานอีสป คบไม่ได้
    *คนทุจริต เมื่อบริหารบ้านเมืองแล้ว ทำได้จริงหรือไม่ ? ผลปัจจุบัน ทำได้แค่ขายฝันและผลาญงบประมาน
    #แยกกันเดิน ร่วมกันตี กับเหลี่ยมทุจริต เพื่อการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ประเทศไทยไม่เหมือนเดิม โดยอ้างประชาธิปไตย อ้างประชาชน คนพวกนี้ มีวาจาตรงกัน คือ โกหกบิดเบือน ยุแยกให้แตกสามัคคี พูดหยาบ(อ้างเหตุผลข้ามขั้นตอน..เช่น แก้ ม.112, แก้รัฐธรรมนูญแล้ว จะเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ประชาชนจะอยู่ดีกินดี..ฯ) และพูดเพ้อเจ้อ ขายฝันด้วยนโยบายลม ๆ แล้ง ๆ *โกหกมากี่ครั้ง ยังจำกันได้ไหม ? *สรุปกันได้หรือยัง ว่าเด็กเลี้ยงแกะในนิทานอีสป คบไม่ได้ *คนทุจริต เมื่อบริหารบ้านเมืองแล้ว ทำได้จริงหรือไม่ ? ผลปัจจุบัน ทำได้แค่ขายฝันและผลาญงบประมาน
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • แจก เสรีภาพ รัวๆ...!!!
    แจก ประชาธิปไตย รัวๆ...!!!
    แจก สิทธิมนุษยชน รัวๆ...!!!
    .
    NGOไทย ทั้งหลาย...!!!
    นักสิทธิมนุษยชนไทย ทั้งหลาย...!!!
    .
    นักการเมืองไทย ผู้คลั่งไคล้ สิทธิมนุษยชนทั้งหลาย...!!!
    .
    หายหัวไปไหนกันหมด...???
    .
    ไม่กล้าเถียงเจ้านาย...???
    .
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣
    .
    https://mgronline.com/around/detail/9680000027510
    แจก เสรีภาพ รัวๆ...!!! แจก ประชาธิปไตย รัวๆ...!!! แจก สิทธิมนุษยชน รัวๆ...!!! . NGOไทย ทั้งหลาย...!!! นักสิทธิมนุษยชนไทย ทั้งหลาย...!!! . นักการเมืองไทย ผู้คลั่งไคล้ สิทธิมนุษยชนทั้งหลาย...!!! . หายหัวไปไหนกันหมด...??? . ไม่กล้าเถียงเจ้านาย...??? . 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣 . https://mgronline.com/around/detail/9680000027510
    MGRONLINE.COM
    นักสิทธิฯ ไปไหนหมด! พบแค่เดือนแรก ทรัมป์เนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมาย 3.7 หมื่นราย
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เนรเทศคนเข้าเมืองผิดกฎหมายไปแล้ว 37,660 ราย ในระหว่างเดือนแรกของการดำรงตำแหน่ง อ้างอิงข้อมูลของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิที่ไม่เคยเผยแพร่มาก่อน อย่างไรก็ตามมันถือว่าต่ำกว่ามากเมื่อเทียบกับค
    0 Comments 0 Shares 159 Views 0 Reviews
  • ♣ ตามหาไอ้คนพูดว่า ถ้าประชาธิปไตยดี อะไรๆ ก็จะดี นี่ขนาดไทยเราโดนลดอันดับเสรีภาพนะ แต่เรายังทอดไข่กินแบบไม่อั้นได้ ส่วนชาติหมาที่อุดมไปด้วยประชาธิปไตย เสรีภาพ กลับต้องเผชิญชะตากรรมแบบไม่พัก
    #7ดอกจิก
    ♣ ตามหาไอ้คนพูดว่า ถ้าประชาธิปไตยดี อะไรๆ ก็จะดี นี่ขนาดไทยเราโดนลดอันดับเสรีภาพนะ แต่เรายังทอดไข่กินแบบไม่อั้นได้ ส่วนชาติหมาที่อุดมไปด้วยประชาธิปไตย เสรีภาพ กลับต้องเผชิญชะตากรรมแบบไม่พัก #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • รูบิโอ รับมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อนุญาตให้ NED รับเงินสนับสนุนจากต่อไปได้

    เว็บไซต์ NED (National Endowment for Democracy) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดี ที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของมาร์โก รูบิโอ ที่ยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินสนับสนุนเพื่อนำไปใช้ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองในประเทศต่างๆ

    National Endowment for Democracy - NED มีความยินดีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจคืนสิทธิ์เข้าถึงงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรซ หลังจากถูกระงับมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ NED สามารถดำเนินภารกิจส่งเสริมประชาธิปไตยและเสรีภาพทั่วโลกได้ต่อไป

    ปีเตอร์ รอสคัม อดีตสส. และประธานคณะกรรมการบริหารของ NED กล่าวว่า "เราขอชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของรัฐมนตรีมาร์โก รูบิโอ สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสนับสนุนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศเผด็จการทั่วโลก เช่น คิวบา เวเนซุเอลา อิหร่าน จีน และรัสเซีย" แถลงการณ์บางส่วนจาก NED

    ทางด้าน เดมอน วิลสัน ประธานและซีอีโอของ NED กล่าวว่า "เรารู้สึกขอบคุณที่กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ เราจะยังคงมุ่งมั่นหาทางออกที่ยั่งยืนเพื่อให้แน่ใจว่า NED สามารถทำงานส่งเสริมประชาธิปไตยและเสรีภาพต่อไปได้"
    รูบิโอ รับมนตรีต่างประเทศสหรัฐ อนุญาตให้ NED รับเงินสนับสนุนจากต่อไปได้ เว็บไซต์ NED (National Endowment for Democracy) ได้ออกแถลงการณ์แสดงความยินดี ที่กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารงานของมาร์โก รูบิโอ ที่ยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าถึงเงินสนับสนุนเพื่อนำไปใช้ในการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองในประเทศต่างๆ National Endowment for Democracy - NED มีความยินดีที่กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจคืนสิทธิ์เข้าถึงงบประมาณที่ได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรซ หลังจากถูกระงับมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคม การดำเนินการครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ NED สามารถดำเนินภารกิจส่งเสริมประชาธิปไตยและเสรีภาพทั่วโลกได้ต่อไป ปีเตอร์ รอสคัม อดีตสส. และประธานคณะกรรมการบริหารของ NED กล่าวว่า "เราขอชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศ ภายใต้การนำของรัฐมนตรีมาร์โก รูบิโอ สำหรับการดำเนินการในครั้งนี้ ซึ่งจะช่วยให้เราสามารถสนับสนุนผู้ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในประเทศเผด็จการทั่วโลก เช่น คิวบา เวเนซุเอลา อิหร่าน จีน และรัสเซีย" แถลงการณ์บางส่วนจาก NED ทางด้าน เดมอน วิลสัน ประธานและซีอีโอของ NED กล่าวว่า "เรารู้สึกขอบคุณที่กระทรวงการต่างประเทศได้ดำเนินการแก้ไขปัญหานี้ เราจะยังคงมุ่งมั่นหาทางออกที่ยั่งยืนเพื่อให้แน่ใจว่า NED สามารถทำงานส่งเสริมประชาธิปไตยและเสรีภาพต่อไปได้"
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • จากเชียงใหม่ไปเวียงจันทน์ เส้นทางใหม่ R11 เพียง 11 ชั่วโมง

    เปิดใช้อย่างเป็นทางการ สำหรับทางหลวงแห่งชาติหมายเลข 11 (R11) เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือของประเทศไทยกับนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดทางหลวง R11 จากเมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึงบ้านครกข้าวดอ เมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) และกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว

    สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว (Lao National Radio) รายงานว่า ทางหลวง R11 เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างไทย-ลาว ออกแบบเป็น 2 ช่องจราจร ตามมาตรฐานทางหลวงอาเซียน เริ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ก่อนจะเข้าสู่จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เข้าสู่เมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี เมืองสังทอง สิ้นสุดที่นครหลวงเวียงจันทน์ รวมระยะทางในประเทศไทย 391 กิโลเมตร และในประเทศลาว 238 กิโลเมตร

    ก่อนหน้านี้การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปนครหลวงเวียงจันทน์ ต้องออกไปทางด่านพรมแดนหนองคาย ระยะทาง 863 กิโลเมตร ใช้เวลา 14 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เส้นทางนี้จะมีระยะทาง 629 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 10-11 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการเดินทางในเส้นทางตรงที่ไม่มีสันภู หรือทางลาดชัน ช่วยให้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสองประเทศ

    ที่ผ่านมา NEDA ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว ก่อสร้างและพัฒนาถนน รวม 3 โครงการ ได้แก่

    1. ก่อสร้างถนนจากด่านภูดู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ถึงเมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี ระยะทาง 32 กิโลเมตร วงเงิน 718 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2555 แล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2557

    2. พัฒนาถนน R11 ช่วงบ้านตาดทอง-น้ำสัง และเมืองสังทอง ระยะทาง 82 กิโลเมตร วงเงิน 1,392 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2554 แล้วเสร็จเดือน ก.ค. 2557

    3. พัฒนาถนน R11 ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง ระยะทาง 124 กิโลเมตร วงเงิน 1,826.50 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค. 2562 แล้วเสร็จเตือน ก.ค. 2566

    สำหรับจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ประมาณ 160 กิโลเมตร เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. การนำรถยนต์เข้าประเทศลาว ต้องมีหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ (พาสปอร์ตรถ) ใบรับรองการตรวจสภาพรถ ทะเบียนรถที่แปลเป็นทะเบียนสากลในรูปแบบกระดาษ A4 สติกเกอร์สัญลักษณ์ตัว T และต้องทำประกันภัยรถยนต์บุคคล 3 ของ สปป.ลาวด้วย ซึ่งมีทั้งแบบ 7 วัน 3 เดือน และรายปี

    #Newskit
    จากเชียงใหม่ไปเวียงจันทน์ เส้นทางใหม่ R11 เพียง 11 ชั่วโมง เปิดใช้อย่างเป็นทางการ สำหรับทางหลวงแห่งชาติหมายเลข 11 (R11) เชื่อมต่อระหว่างภาคเหนือของประเทศไทยกับนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) โดยเมื่อวันที่ 20 ก.พ. ที่ผ่านมา มีพิธีเปิดทางหลวง R11 จากเมืองสังทอง นครหลวงเวียงจันทน์ ถึงบ้านครกข้าวดอ เมืองสานะคาม แขวงเวียงจันทน์ ภายใต้ความร่วมมือระหว่างสำนักงานความร่วมมือพัฒนาเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน (NEDA) และกระทรวงโยธาธิการและขนส่ง สปป.ลาว สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว (Lao National Radio) รายงานว่า ทางหลวง R11 เป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อระหว่างไทย-ลาว ออกแบบเป็น 2 ช่องจราจร ตามมาตรฐานทางหลวงอาเซียน เริ่มจากจังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ก่อนจะเข้าสู่จุดผ่านแดนถาวรภูดู่ เข้าสู่เมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี เมืองสังทอง สิ้นสุดที่นครหลวงเวียงจันทน์ รวมระยะทางในประเทศไทย 391 กิโลเมตร และในประเทศลาว 238 กิโลเมตร ก่อนหน้านี้การเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ ไปนครหลวงเวียงจันทน์ ต้องออกไปทางด่านพรมแดนหนองคาย ระยะทาง 863 กิโลเมตร ใช้เวลา 14 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้เส้นทางนี้จะมีระยะทาง 629 กิโลเมตร ใช้เวลาเพียง 10-11 ชั่วโมงเท่านั้น และเป็นการเดินทางในเส้นทางตรงที่ไม่มีสันภู หรือทางลาดชัน ช่วยให้สัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย นอกจากจะประหยัดเวลาแล้ว ยังมีบทบาทสำคัญขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการพัฒนาสองประเทศ ที่ผ่านมา NEDA ได้ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ สปป.ลาว ก่อสร้างและพัฒนาถนน รวม 3 โครงการ ได้แก่ 1. ก่อสร้างถนนจากด่านภูดู่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ ถึงเมืองปากลาย แขวงไซยะบุลี ระยะทาง 32 กิโลเมตร วงเงิน 718 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ธ.ค. 2555 แล้วเสร็จเดือน มิ.ย. 2557 2. พัฒนาถนน R11 ช่วงบ้านตาดทอง-น้ำสัง และเมืองสังทอง ระยะทาง 82 กิโลเมตร วงเงิน 1,392 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน พ.ค. 2554 แล้วเสร็จเดือน ก.ค. 2557 3. พัฒนาถนน R11 ช่วงครกข้าวดอ-บ้านโนนสะหวัน-สานะคาม-บ้านวัง-บ้านน้ำสัง ระยะทาง 124 กิโลเมตร วงเงิน 1,826.50 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างเดือน ต.ค. 2562 แล้วเสร็จเตือน ก.ค. 2566 สำหรับจุดผ่านแดนถาวรภูดู่ ห่างจากตัวเมืองอุตรดิตถ์ประมาณ 160 กิโลเมตร เปิดตั้งแต่เวลา 08.00-18.00 น. การนำรถยนต์เข้าประเทศลาว ต้องมีหนังสืออนุญาตรถระหว่างประเทศ (พาสปอร์ตรถ) ใบรับรองการตรวจสภาพรถ ทะเบียนรถที่แปลเป็นทะเบียนสากลในรูปแบบกระดาษ A4 สติกเกอร์สัญลักษณ์ตัว T และต้องทำประกันภัยรถยนต์บุคคล 3 ของ สปป.ลาวด้วย ซึ่งมีทั้งแบบ 7 วัน 3 เดือน และรายปี #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 368 Views 0 Reviews
  • "สนธิ" ชี้ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร ขึ้นอยู่กับสองพรรคใหญ่เพื่อไทย-ภูมิใจไทย การเมืองไทยประชาธิปไตย 4 วินาที พูดต่อหน้าจับมือลับหลัง

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยสำหรับสถานการณ์การเมือง และฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะคุยกันได้หรือไม่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการงบอุดหนุน "โมโตจีพี 500 ล้าน" ถ้าให้ไปไม่น่าจะมีปัญหา ตนคิดว่าหากเรามองการเมืองไทยแบบไร้เดียงสา เราจะไม่เข้าใจอะไรเลย เหมือนการไปสนใจเฉพาะต้นไม้ต้นเดียวไม่มองทั้งป่า และทุกวันนี้การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองไทย มีแต่ประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ ล่าสุดที่ได้ติดตามข่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โวยวายว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกแล้ว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025365

    #MGROnline #สนธิ #แพทองธาร
    "สนธิ" ชี้ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจแพทองธาร ขึ้นอยู่กับสองพรรคใหญ่เพื่อไทย-ภูมิใจไทย การเมืองไทยประชาธิปไตย 4 วินาที พูดต่อหน้าจับมือลับหลัง • ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เปิดเผยสำหรับสถานการณ์การเมือง และฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่า ขึ้นอยู่กับว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทยจะคุยกันได้หรือไม่ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยต้องการงบอุดหนุน "โมโตจีพี 500 ล้าน" ถ้าให้ไปไม่น่าจะมีปัญหา ตนคิดว่าหากเรามองการเมืองไทยแบบไร้เดียงสา เราจะไม่เข้าใจอะไรเลย เหมือนการไปสนใจเฉพาะต้นไม้ต้นเดียวไม่มองทั้งป่า และทุกวันนี้การเมืองไทยไม่มีอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อเมืองไทย มีแต่ประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมืองว่าจะตกลงกันได้หรือไม่ ล่าสุดที่ได้ติดตามข่าว นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม โวยวายว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกแล้ว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000025365 • #MGROnline #สนธิ #แพทองธาร
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 374 Views 0 Reviews
  • รัฐสภายุโรป
    อีแอบประชาธิปไตย
    เป้าหมายยกเลิก112
    แต่เอาอุยกูร์มาบังหน้า
    ไทยไม่ใช่ยุโรป
    #7ดอกจิก
    รัฐสภายุโรป อีแอบประชาธิปไตย เป้าหมายยกเลิก112 แต่เอาอุยกูร์มาบังหน้า ไทยไม่ใช่ยุโรป #7ดอกจิก
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 276 Views 0 Reviews
  • ข้อสรุปเบื้องต้นจากการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภายุโรป เกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ม.112) และการเนรเทศผู้หลบหนีเข้าประเทศชาวอุยกูร์

    👉 EU ระบุว่า "มีประเทศที่สามพร้อมรับอุยกูร์" ไทยไม่ควรส่งชาวอุยกูร์กลับจีน เพราะความเสี่ยงจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากจีน
    👉 มีชาวอุยกูร์เสียชีวิต 5 ราย ระหว่างถูกคุมขังในไทย
    👉ม.112 ของไทย เป็นกฎหมายที่เคร่งครัดที่สุดในโลก และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
    👉 มีนักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

    ข้อสรุปเบื้องต้นที่ EU เรียกร้อง
    👉 ต้องการให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายที่มีปัญหาอื่นๆ เพื่อรับประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมทางการเมือง
    👉 นิรโทษกรรม สส. และ นักกิจกรรมทั้งหมดที่ ที่โดนดำเนินคดีจากปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพอื่นๆ รวมถึงคดีจาก ม.112
    👉 รัฐสภายุโรป กำลังพิจารณาใช้กลไกทางการค้า (FTA) กดดันให้ไทยแก้กฎหมายที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะมาตรา 112 รวมทั้งการปล่อยนักโทษการเมือง

    https://www.europarl.europa.eu/doceo/document/RC-10-2025-0174_EN.html
    ข้อสรุปเบื้องต้นจากการอภิปรายในที่ประชุมรัฐสภายุโรป เกี่ยวกับประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย โดยเฉพาะกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ (ม.112) และการเนรเทศผู้หลบหนีเข้าประเทศชาวอุยกูร์ 👉 EU ระบุว่า "มีประเทศที่สามพร้อมรับอุยกูร์" ไทยไม่ควรส่งชาวอุยกูร์กลับจีน เพราะความเสี่ยงจะถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนจากจีน 👉 มีชาวอุยกูร์เสียชีวิต 5 ราย ระหว่างถูกคุมขังในไทย 👉ม.112 ของไทย เป็นกฎหมายที่เคร่งครัดที่สุดในโลก และขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ 👉 มีนักกิจกรรม นักสิทธิมนุษยชน และสื่อมวลชนจำนวนมาก ที่ได้รับผลกระทบจากกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ข้อสรุปเบื้องต้นที่ EU เรียกร้อง 👉 ต้องการให้มีการแก้ไขมาตรา 112 และกฎหมายที่มีปัญหาอื่นๆ เพื่อรับประกันเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการมีส่วนร่วมทางการเมือง 👉 นิรโทษกรรม สส. และ นักกิจกรรมทั้งหมดที่ ที่โดนดำเนินคดีจากปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพอื่นๆ รวมถึงคดีจาก ม.112 👉 รัฐสภายุโรป กำลังพิจารณาใช้กลไกทางการค้า (FTA) กดดันให้ไทยแก้กฎหมายที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะมาตรา 112 รวมทั้งการปล่อยนักโทษการเมือง https://www.europarl.europa.eu/doceo/document/RC-10-2025-0174_EN.html
    0 Comments 0 Shares 319 Views 0 Reviews
  • ## ท่าทีที่น่ากังวล ของ สส. ผู้ทรงเกียรติ ##
    ..
    ..
    นายคนนี้ คือ สส. พรรคสีสัม ใครเลือกมา ได้โปรด ติดตามผลงานของท่านด้วย...!!!
    .
    นายคนนี้คือ นาย รอมฎอน ปันจอร์ สส. ที่อยู่ทางภาคใต้ ของ พรรคประชาชน
    .
    ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเหตุก่อขึ้นโดย กลุ่มก่อการร้ายภาคใต้...
    .
    สส. พรรคสีส้ม รายนี้ ไม่เคยตำหนิผู้ก่อการร้าย ที่ใช้ความรุนแรงเลย...
    .
    อย่างเดียวที่เขาพูดคือ ตำหนิ รัฐไทย ว่า เจ้าหน้าที่ไทยมีปัญหา กดขี่ ข่มขู่ ไม่จริงใจในการแสวงหาสันติภาพ...!!!
    .
    ให้ยกเลิก กฎอัยการศึก ให้ยกเลิก ศอ.บต.
    .
    จริงหรือไม่ หลายครั้ง สส.ท่านนี้ ไปงานสัมนา มากกว่า 1 ครั้ง และ พูด ชวัดเชวียน ไปมา ในทำนอง ประกาศอิสรภาพ เอกราช ประชามติ ปกครองตัวเอง
    .
    โดยครั้งหนึ่ง งานเสวนาที่ท่านเป็นแขกรับเชิญ ท่าน อาจะเป็น นกรู้ หรือ อย่างไรก็ไม่ทราบ ท่านไม่มา...
    .
    แต่ในงานนั้นมีการ "จัดการจำลอง" การ "ทำประชามติ แบ่งแยกดินแดน" ให้ รัฐปาตานี ปกครองตัวเอง (ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐทางภาคใต้)
    .
    ซึ่ง รัฐปาตานี นี้นักประวัติศาสตร์หลายท่านกล่าวว่า จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้นไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงกลุ่มคนผลักดันขึ้นมาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง
    .
    ถึงขั้น คนอีกกลุ่ม เอาไปทำบอร์ดเกม เนื้อหาระบุว่า รัฐไทยกระทำการเหี้ยมโหด โหดร้ายทารุณ ต่อ ชาวปาตานี
    .
    ปาตานี ในที่นี้ พวกเขาไม่ได้หมายถึง จังหวัดปัตตานี นะครับ เขาหมายรวม ครอบคลุม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของ จังหวัดสงขลา ในปัจจุบัน รวมทั้งตอนเหนือของมาเลเซียในบางยุคสมัย ด้วย (นี่คือชุดข้อมูลของพวกเขา)
    .
    ซึ่งหลายครั้ง คุณ พวกคุณ คณะก้าวหน้า ธนาธร ช่อ ปิยะบุตร รวมไปถึง นักการเมืองอีกพรรคหนึ่ง เวลาไปเสวนา ก็จะพูดไปในทำนองนี้ รัฐไทยกดขี่ สร้างความเจ็บปวดให้ ใช่หรือไม่...???
    .
    คลิป มันมีนะครับ สมัยนี้เขาเรียก Digital Footprint พวกคุณหนีความจริงไม่พ้นหรอก
    .
    พวกเราประชาชนตาดำๆ ตัวจริงเสียงจริง ที่ไม่ใช่พรรคการเมือง ต้องช่วยกัน สอดส่องพฤติกรรม ของ สส. ที่พวกคุณเลือกเข้ามาด้วยนะครับ ว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง...???
    .
    ลึกๆแล้วพวกเขาคิดอะไร ต้องการอะไรกันแน่...???
    .
    ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ผมไม่สบายใจกับท่าที ของ สส. ผู้ทรงเกียรติหลายท่าน รวมไปถึง อดีต สส.เอย NGO เอย มานานพอสมควรแล้วครับ
    .
    แล้วจริงหรือไม่ ที่พรรคก้าวไกล เคยเสนอแก้รัฐนูญ นอกจากหมวด 2 ที่เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว...
    .
    พรรคก้าวไกล ยังเคยเสนอแก้รัฐนูญ หมวด 1 อีกด้วย
    .
    หากผมจำไม่ผิด รัฐธรรมนูญ หมวด 1 ระบุว่า
    .
    มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้
    .
    มาตรา ๒ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
    .
    มาตรา ๓ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ
    .
    ผมถาม ใน 3 มาตรานี้ พวกคุณต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อไหน...???
    .
    ผมจำชื่อไม่ได้ แต่มีอาจารย์คนหนึ่งเคยพูดว่า เรื่อง "มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้" ไว้ว่า...
    .
    "มันต้องแบ่งได้"
    .
    ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอาจารย์ท่านนั้นคนเดียวก็ได้...
    .
    แต่ผมเห็น หลายๆท่าน หลายๆกระบวนการ บอกตามตรงในฐานะ "พลเมืองไทย" ผมกังวลต่อท่าทีของหลายๆท่านมากนะครับ...
    .
    สงสารตัวเอง สงสารลูกหลาน...
    .
    และ ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า คนที่ยังไม่รู้พฤติกรรมแปลกๆพวกนี้ ยังมีอีกเยอะครับ...
    ## ท่าทีที่น่ากังวล ของ สส. ผู้ทรงเกียรติ ## .. .. นายคนนี้ คือ สส. พรรคสีสัม ใครเลือกมา ได้โปรด ติดตามผลงานของท่านด้วย...!!! . นายคนนี้คือ นาย รอมฎอน ปันจอร์ สส. ที่อยู่ทางภาคใต้ ของ พรรคประชาชน . ไม่ว่าจะกี่ครั้งที่เกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งเหตุก่อขึ้นโดย กลุ่มก่อการร้ายภาคใต้... . สส. พรรคสีส้ม รายนี้ ไม่เคยตำหนิผู้ก่อการร้าย ที่ใช้ความรุนแรงเลย... . อย่างเดียวที่เขาพูดคือ ตำหนิ รัฐไทย ว่า เจ้าหน้าที่ไทยมีปัญหา กดขี่ ข่มขู่ ไม่จริงใจในการแสวงหาสันติภาพ...!!! . ให้ยกเลิก กฎอัยการศึก ให้ยกเลิก ศอ.บต. . จริงหรือไม่ หลายครั้ง สส.ท่านนี้ ไปงานสัมนา มากกว่า 1 ครั้ง และ พูด ชวัดเชวียน ไปมา ในทำนอง ประกาศอิสรภาพ เอกราช ประชามติ ปกครองตัวเอง . โดยครั้งหนึ่ง งานเสวนาที่ท่านเป็นแขกรับเชิญ ท่าน อาจะเป็น นกรู้ หรือ อย่างไรก็ไม่ทราบ ท่านไม่มา... . แต่ในงานนั้นมีการ "จัดการจำลอง" การ "ทำประชามติ แบ่งแยกดินแดน" ให้ รัฐปาตานี ปกครองตัวเอง (ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งของรัฐทางภาคใต้) . ซึ่ง รัฐปาตานี นี้นักประวัติศาสตร์หลายท่านกล่าวว่า จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์นั้นไม่มีอยู่จริง เป็นเพียงกลุ่มคนผลักดันขึ้นมาเพื่อประโยชน์ทางการเมือง . ถึงขั้น คนอีกกลุ่ม เอาไปทำบอร์ดเกม เนื้อหาระบุว่า รัฐไทยกระทำการเหี้ยมโหด โหดร้ายทารุณ ต่อ ชาวปาตานี . ปาตานี ในที่นี้ พวกเขาไม่ได้หมายถึง จังหวัดปัตตานี นะครับ เขาหมายรวม ครอบคลุม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอ ของ จังหวัดสงขลา ในปัจจุบัน รวมทั้งตอนเหนือของมาเลเซียในบางยุคสมัย ด้วย (นี่คือชุดข้อมูลของพวกเขา) . ซึ่งหลายครั้ง คุณ พวกคุณ คณะก้าวหน้า ธนาธร ช่อ ปิยะบุตร รวมไปถึง นักการเมืองอีกพรรคหนึ่ง เวลาไปเสวนา ก็จะพูดไปในทำนองนี้ รัฐไทยกดขี่ สร้างความเจ็บปวดให้ ใช่หรือไม่...??? . คลิป มันมีนะครับ สมัยนี้เขาเรียก Digital Footprint พวกคุณหนีความจริงไม่พ้นหรอก . พวกเราประชาชนตาดำๆ ตัวจริงเสียงจริง ที่ไม่ใช่พรรคการเมือง ต้องช่วยกัน สอดส่องพฤติกรรม ของ สส. ที่พวกคุณเลือกเข้ามาด้วยนะครับ ว่าพวกเขาทำอะไรบ้าง...??? . ลึกๆแล้วพวกเขาคิดอะไร ต้องการอะไรกันแน่...??? . ผมอาจจะผิดก็ได้ แต่ผมไม่สบายใจกับท่าที ของ สส. ผู้ทรงเกียรติหลายท่าน รวมไปถึง อดีต สส.เอย NGO เอย มานานพอสมควรแล้วครับ . แล้วจริงหรือไม่ ที่พรรคก้าวไกล เคยเสนอแก้รัฐนูญ นอกจากหมวด 2 ที่เกี่ยวกับ สถาบันพระมหากษัตริย์แล้ว... . พรรคก้าวไกล ยังเคยเสนอแก้รัฐนูญ หมวด 1 อีกด้วย . หากผมจำไม่ผิด รัฐธรรมนูญ หมวด 1 ระบุว่า . มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้ . มาตรา ๒ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข . มาตรา ๓ อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อำนาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ . ผมถาม ใน 3 มาตรานี้ พวกคุณต้องการแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อไหน...??? . ผมจำชื่อไม่ได้ แต่มีอาจารย์คนหนึ่งเคยพูดว่า เรื่อง "มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอันหนึ่งอันเดียว จะแบ่งแยกมิได้" ไว้ว่า... . "มันต้องแบ่งได้" . ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของอาจารย์ท่านนั้นคนเดียวก็ได้... . แต่ผมเห็น หลายๆท่าน หลายๆกระบวนการ บอกตามตรงในฐานะ "พลเมืองไทย" ผมกังวลต่อท่าทีของหลายๆท่านมากนะครับ... . สงสารตัวเอง สงสารลูกหลาน... . และ ผมเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่า คนที่ยังไม่รู้พฤติกรรมแปลกๆพวกนี้ ยังมีอีกเยอะครับ...
    0 Comments 0 Shares 460 Views 0 Reviews
  • สถานการณ์ในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการออกมาชุมนุมประท้วงของประชาชน หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของโรมาเนียได้สั่งห้ามคาลิน จอร์เจสกู ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ

    ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จอร์เจสคู ลงสมัครในนามผู้สมัครอิสระ ซึ่งถือเป็นม้านอกสายตาของยุโรป และเป็นโปรรัสเซียเต็มตัว แต่กลับชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างถล่มทลาย แต่ถูกศาลตัดสินผลการเลือกตั้งให้เป็นโมฆะ ก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ซึ่งคาดว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งรอบที่สองเช่นกัน

    ในระหว่างนั้น จอร์เจสคู ต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาจากรัฐบาลมากมาย เพื่อพยายามขัดขวางไม่ให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ จอร์เจสคู ยังคงดึงดันลงสมัครอีกครั้ง และจำไปสู่การสั่งห้ามของคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของโรมาเนียในที่สุด

    สหภาพยุโรปซึ่งมักจะเทศนาเกี่ยวกับ "ค่านิยมประชาธิปไตย" ยังคงหูหนวกตาบอดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรมาเนีย เพราะการตัดสินใจสั่งห้ามครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา

    สหภาพยุโรปคงทนไม่ได้ หากปล่อยให้ จอร์เจสคู ชนะการเลือกตั้ง เพราะนั่นอาจหมายถึง พวกเขาเสียบริวารที่แสนดีไปให้กับรัสเซียอีกครั้ง

    นอกจากนี้ นาโต้ได้วางตำแหน่งของโรมาเนียให้เป็นฐานทัพใหญ่ของนาโต้เพื่อสร้างภัยคุกคามต่อรัสเซียในทิศทางนี้อีกด้วย

    ทั้งหมดนี้บ่งบอกได้อย่างดีว่า "ประชาธิปไตย" ที่ชาติตะวันตกป้อนใส่หัวประชาชนเป็นได้แค่เพียงผลประโยชน์บนดินแดนที่พวกเขาต้องการเท่านั้น
    สถานการณ์ในกรุงบูคาเรสต์ ประเทศโรมาเนีย ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจากการออกมาชุมนุมประท้วงของประชาชน หลังจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของโรมาเนียได้สั่งห้ามคาลิน จอร์เจสกู ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ ในการเลือกตั้งรอบแรกเมื่อปลายปีที่ผ่านมา จอร์เจสคู ลงสมัครในนามผู้สมัครอิสระ ซึ่งถือเป็นม้านอกสายตาของยุโรป และเป็นโปรรัสเซียเต็มตัว แต่กลับชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีอย่างถล่มทลาย แต่ถูกศาลตัดสินผลการเลือกตั้งให้เป็นโมฆะ ก่อนการเลือกตั้งรอบที่สองจะเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน ซึ่งคาดว่าเขาจะชนะการเลือกตั้งรอบที่สองเช่นกัน ในระหว่างนั้น จอร์เจสคู ต้องถูกตั้งข้อกล่าวหาจากรัฐบาลมากมาย เพื่อพยายามขัดขวางไม่ให้เขาลงสมัครรับเลือกตั้งครั้งใหม่ แต่ จอร์เจสคู ยังคงดึงดันลงสมัครอีกครั้ง และจำไปสู่การสั่งห้ามของคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของโรมาเนียในที่สุด สหภาพยุโรปซึ่งมักจะเทศนาเกี่ยวกับ "ค่านิยมประชาธิปไตย" ยังคงหูหนวกตาบอดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโรมาเนีย เพราะการตัดสินใจสั่งห้ามครั้งนี้เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา สหภาพยุโรปคงทนไม่ได้ หากปล่อยให้ จอร์เจสคู ชนะการเลือกตั้ง เพราะนั่นอาจหมายถึง พวกเขาเสียบริวารที่แสนดีไปให้กับรัสเซียอีกครั้ง นอกจากนี้ นาโต้ได้วางตำแหน่งของโรมาเนียให้เป็นฐานทัพใหญ่ของนาโต้เพื่อสร้างภัยคุกคามต่อรัสเซียในทิศทางนี้อีกด้วย ทั้งหมดนี้บ่งบอกได้อย่างดีว่า "ประชาธิปไตย" ที่ชาติตะวันตกป้อนใส่หัวประชาชนเป็นได้แค่เพียงผลประโยชน์บนดินแดนที่พวกเขาต้องการเท่านั้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 231 Views 0 Reviews
  • ประชาชนชาวเนปาลหลายแสนคน (บางแหล่งข่าวระบุมากกว่าล้านคน) มารวมตัวกันเพื่อต้อนรับ "สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทวะ" กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกยุบในปีพ.ศ. 2551 (2008) ขณะพระองค์เสด็จกลับกรุงกาฐมาณฑุ [กาด-มาน-ดุ] เมืองหลวงของเนปาล ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพยายามเรียกร้องให้เนปาลฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์มานานหลายปี

    ผู้ชุมนุมที่มาต้อนรับฯรายหนึ่งบอกว่า เค้าเป็นผู้ที่เคยร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านพระองค์เมื่อปี 2006 แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจต้องการให้มีสถาบันฯ ต้องการให้พระองค์กลับมาครองราช เพราะนักการเมืองคอร์รัปชั่นกันอย่างเลวร้าย เหล่าผู้มีอำนาจไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย

    ตอนนั้นที่เค้าออกมาชุมนุมประท้วงไม่เอาสถาบันกษัตริย์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ประเทศดีขึ้น แต่เค้าคิดผิด ประเทศย่ำแย่หนักกว่าเดิม ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจอยากให้ฟื้นฟูสถาบันฯ

    ในปีพ.ศ. 2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเนปาล ได้มีมติยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตย และสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นการสิ้นสุดระบอบการปกครองของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศกว่า 240 ปี และราชวงศ์ชาห์ซึ่งปกครองแผ่นดินนี้เกือบ 500 ปี
    .
    ก่อนการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาล:
    สรุปคร่าวๆมาจาก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร
    https://www.posttoday.com/columnist/639757
    หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ของราชวงศ์เนปาลในปี 2001 ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พิเรนทรพีรพิกรมศาหเทวะและสมเด็จพระราชินีไอศวรรยาราชยลักษมีเทวีศาหะ เสด็จสวรรคต พร้อมด้วยสมาชิกพระราชวงศ์อีก 7 พระองค์

    ต่อมาเจ้าชายชญาเนนทร พระอนุชาของพระมหากษัตริย์พิเรนทราพระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง โดยที่กษัตริย์ชญาเนนทรพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มที่ โดยอ้างสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารเทศที่ล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งหลาย

    ในปี 2002 กษัตริย์ชญาเนนทรทรงประกาศยุบสภา แต่การเมืองที่วุ่นวาย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จ จนที่สุดพระองค์ตัดสินใจยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2005 ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากพรรคการเมืองต่างๆ

    ในปี 2006 กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองรวมตัวกันต่อต้านการปกครองของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์

    ในที่สุดพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร ทรงยอมให้อำนาจบริหารแก่พรรคการเมืองเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง และพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกำหนดบทบาทในการเมืองของพระมหากษัตริย์

    10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 รัฐสภาเนปาลได้ยกเลิกอำนาจที่สำคัญๆของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย ทำให้บทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทำงานร่วมกับรัฐสภาได้สิ้นสุดลง (King in Parliament) และลดทอนพระมหากษัตริย์เป็นเพียงตรายาง แต่ให้พระองค์ยังทรงทำหน้าที่ประมุขของรัฐในการต้อนรับอาคันตุกะและทูตานุทูตต่อไปได้ และรัฐสภาได้โอนอำนาจที่พระมหากษัตริย์เคยมีไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาตลอด 239 ปีมีอันต้องสิ้นสุดลง

    23 สิงหาคม ค.ศ. 2007 รัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านของเนปาลได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทรที่สืบจากพระเชษฐาของพระองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งพระราชวัง (Narayanhiti Palace) แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์สินที่กษัตริย์ชญาเนนทรครอบครองก่อนขึ้นครองราชย์

    24 ธันวาคม ค.ศ. 2007 รัฐสภารักษาการได้ลงมติว่า อาจจะมีการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุติลงชั่วคราวในปี ค.ศ. 2008 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพกับพวกกบฏเหมาอิสต์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้คือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนเนปาลให้เป็นสาธารณรัฐนั่นเอง

    28 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 สภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศอย่างเป็นทางการว่าในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และเนปาลจะเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีการทำประชามติ กษัตริย์ชญาเนนทรยอมรับการตัดสินดังกล่าว และขอให้รัฐบาลจัดที่พักอาศัยให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ และรัฐบาลได้จัดให้พระองค์พำนักอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง (Nirmal Niwas Palace)

    ประชาชนชาวเนปาลหลายแสนคน (บางแหล่งข่าวระบุมากกว่าล้านคน) มารวมตัวกันเพื่อต้อนรับ "สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทวะ" กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกยุบในปีพ.ศ. 2551 (2008) ขณะพระองค์เสด็จกลับกรุงกาฐมาณฑุ [กาด-มาน-ดุ] เมืองหลวงของเนปาล ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพยายามเรียกร้องให้เนปาลฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์มานานหลายปี ผู้ชุมนุมที่มาต้อนรับฯรายหนึ่งบอกว่า เค้าเป็นผู้ที่เคยร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านพระองค์เมื่อปี 2006 แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจต้องการให้มีสถาบันฯ ต้องการให้พระองค์กลับมาครองราช เพราะนักการเมืองคอร์รัปชั่นกันอย่างเลวร้าย เหล่าผู้มีอำนาจไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย ตอนนั้นที่เค้าออกมาชุมนุมประท้วงไม่เอาสถาบันกษัตริย์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ประเทศดีขึ้น แต่เค้าคิดผิด ประเทศย่ำแย่หนักกว่าเดิม ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจอยากให้ฟื้นฟูสถาบันฯ ในปีพ.ศ. 2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเนปาล ได้มีมติยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตย และสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นการสิ้นสุดระบอบการปกครองของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศกว่า 240 ปี และราชวงศ์ชาห์ซึ่งปกครองแผ่นดินนี้เกือบ 500 ปี . ก่อนการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาล: สรุปคร่าวๆมาจาก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร https://www.posttoday.com/columnist/639757 หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ของราชวงศ์เนปาลในปี 2001 ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พิเรนทรพีรพิกรมศาหเทวะและสมเด็จพระราชินีไอศวรรยาราชยลักษมีเทวีศาหะ เสด็จสวรรคต พร้อมด้วยสมาชิกพระราชวงศ์อีก 7 พระองค์ ต่อมาเจ้าชายชญาเนนทร พระอนุชาของพระมหากษัตริย์พิเรนทราพระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง โดยที่กษัตริย์ชญาเนนทรพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มที่ โดยอ้างสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารเทศที่ล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งหลาย ในปี 2002 กษัตริย์ชญาเนนทรทรงประกาศยุบสภา แต่การเมืองที่วุ่นวาย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จ จนที่สุดพระองค์ตัดสินใจยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2005 ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากพรรคการเมืองต่างๆ ในปี 2006 กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองรวมตัวกันต่อต้านการปกครองของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์ ในที่สุดพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร ทรงยอมให้อำนาจบริหารแก่พรรคการเมืองเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง และพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกำหนดบทบาทในการเมืองของพระมหากษัตริย์ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 รัฐสภาเนปาลได้ยกเลิกอำนาจที่สำคัญๆของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย ทำให้บทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทำงานร่วมกับรัฐสภาได้สิ้นสุดลง (King in Parliament) และลดทอนพระมหากษัตริย์เป็นเพียงตรายาง แต่ให้พระองค์ยังทรงทำหน้าที่ประมุขของรัฐในการต้อนรับอาคันตุกะและทูตานุทูตต่อไปได้ และรัฐสภาได้โอนอำนาจที่พระมหากษัตริย์เคยมีไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาตลอด 239 ปีมีอันต้องสิ้นสุดลง 23 สิงหาคม ค.ศ. 2007 รัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านของเนปาลได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทรที่สืบจากพระเชษฐาของพระองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งพระราชวัง (Narayanhiti Palace) แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์สินที่กษัตริย์ชญาเนนทรครอบครองก่อนขึ้นครองราชย์ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2007 รัฐสภารักษาการได้ลงมติว่า อาจจะมีการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุติลงชั่วคราวในปี ค.ศ. 2008 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพกับพวกกบฏเหมาอิสต์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้คือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนเนปาลให้เป็นสาธารณรัฐนั่นเอง 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 สภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศอย่างเป็นทางการว่าในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และเนปาลจะเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีการทำประชามติ กษัตริย์ชญาเนนทรยอมรับการตัดสินดังกล่าว และขอให้รัฐบาลจัดที่พักอาศัยให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ และรัฐบาลได้จัดให้พระองค์พำนักอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง (Nirmal Niwas Palace)
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • ประชาธิปไตยที่กินได้ (ใครได้กิน??)

    รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายในโครงการ Broadband Equity, Access, and Deployment (BEAD) มูลค่า 42.45 พันล้านดอลลาร์ โดยยกเลิกการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (Fiber Internet) เพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีอื่น เช่นบริการดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk สามารถเข้าถึงงบประมาณจากโครงการนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 20 พันล้านดอลลาร์

    ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้ โครงสร้างใยแก้วนำแสงได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นโซลูชันที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้ง่ายในอนาคต เช่น การสนับสนุนโครงข่าย 5G แต่รัฐบาล Trump มองว่านโยบายดังกล่าวมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้นโยบาย "เทคโนโลยีเป็นกลาง" ที่มุ่งเน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วในราคาถูกแก่ประชาชน โดยลดข้อกำหนดที่ถูกมองว่าเป็นภาระหรือสร้างความล่าช้าในการก่อสร้าง

    นักวิจารณ์และกลุ่มผู้สนับสนุนการเข้าถึงบรอดแบนด์คุณภาพสูง เช่น Benton Institute for Broadband & Society ได้แสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ประชาชนในชนบทหลายล้านคนต้องพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า ไม่เสถียร และไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกลหรือการเล่นเกม

    การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสทองสำหรับ Starlink ซึ่งเป็นโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่บริหารโดย SpaceX แม้จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากโครงการ BEAD แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนบรอดแบนด์ของรัฐบาล เช่น Universal Service Programs โดย FCC และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล Trump ยังถูกตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทับซ้อน

    ในขณะที่นโยบายนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วขึ้นในบางพื้นที่ แต่การลดความสำคัญของใยแก้วนำแสงอาจส่งผลต่อความยั่งยืนและความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ในระยะยาว การสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลายกับคุณภาพของบริการจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ

    https://www.techspot.com/news/107067-broadband-policy-shift-us-drops-fiber-priority-could.html
    ประชาธิปไตยที่กินได้ (ใครได้กิน??) รัฐบาลของประธานาธิบดี Trump ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงนโยบายในโครงการ Broadband Equity, Access, and Deployment (BEAD) มูลค่า 42.45 พันล้านดอลลาร์ โดยยกเลิกการให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสง (Fiber Internet) เพื่อเปิดทางให้เทคโนโลยีอื่น เช่นบริการดาวเทียม Starlink ของ Elon Musk สามารถเข้าถึงงบประมาณจากโครงการนี้ได้มากขึ้น ซึ่งอาจอยู่ในช่วง 10 ถึง 20 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Biden ก่อนหน้านี้ โครงสร้างใยแก้วนำแสงได้รับการเน้นย้ำว่าเป็นโซลูชันที่มั่นคงและพัฒนาต่อยอดได้ง่ายในอนาคต เช่น การสนับสนุนโครงข่าย 5G แต่รัฐบาล Trump มองว่านโยบายดังกล่าวมีข้อจำกัดและอุปสรรคมากเกินไป จึงเปลี่ยนมาใช้นโยบาย "เทคโนโลยีเป็นกลาง" ที่มุ่งเน้นการให้บริการอินเทอร์เน็ตที่รวดเร็วในราคาถูกแก่ประชาชน โดยลดข้อกำหนดที่ถูกมองว่าเป็นภาระหรือสร้างความล่าช้าในการก่อสร้าง นักวิจารณ์และกลุ่มผู้สนับสนุนการเข้าถึงบรอดแบนด์คุณภาพสูง เช่น Benton Institute for Broadband & Society ได้แสดงความกังวลว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้ประชาชนในชนบทหลายล้านคนต้องพึ่งพาบริการอินเทอร์เน็ตที่ช้ากว่า ไม่เสถียร และไม่ตอบโจทย์ความต้องการทางเทคโนโลยีในระยะยาว เช่น การแพทย์ทางไกลหรือการเล่นเกม การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจเป็นโอกาสทองสำหรับ Starlink ซึ่งเป็นโครงการบริการอินเทอร์เน็ตผ่านดาวเทียมที่บริหารโดย SpaceX แม้จะยังไม่ได้รับการสนับสนุนโดยตรงจากโครงการ BEAD แต่ก็มีแนวโน้มที่จะได้รับเงินทุนจากโปรแกรมสนับสนุนบรอดแบนด์ของรัฐบาล เช่น Universal Service Programs โดย FCC และบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล Trump ยังถูกตั้งคำถามถึงผลประโยชน์ทับซ้อน ในขณะที่นโยบายนี้อาจช่วยให้การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตมีความรวดเร็วขึ้นในบางพื้นที่ แต่การลดความสำคัญของใยแก้วนำแสงอาจส่งผลต่อความยั่งยืนและความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์ในระยะยาว การสร้างสมดุลระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลายกับคุณภาพของบริการจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่สหรัฐฯ ต้องเผชิญ https://www.techspot.com/news/107067-broadband-policy-shift-us-drops-fiber-priority-could.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Broadband policy shift in the U.S. drops fiber priority, could funnel billions to Starlink
    This move marks a departure from the Biden administration's approach, which emphasized fiber-optic networks as the most future-proof and reliable option for broadband deployment.
    0 Comments 0 Shares 299 Views 0 Reviews
  • แฉ!!..ฮั้วเลือก สว. มวยล้มต้มคนดู : คนเคาะข่าว 05-03-68

    ร่วมสนทนา สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #ฮั้วเลือกสว #มวยล้มต้มคนดู #เลือกตั้งสว #การเมืองไทย #คนเคาะข่าว #สมชายแสวงการ #วุฒิสภา #ประชาธิปไตยไทย #วิเคราะห์การเมือง #ข่าวการเมือง #เลือกตั้ง2568 #ThaiTimes #ตรวจสอบอำนาจ #Transparency #รัฐสภาไทย
    แฉ!!..ฮั้วเลือก สว. มวยล้มต้มคนดู : คนเคาะข่าว 05-03-68 ร่วมสนทนา สมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #ฮั้วเลือกสว #มวยล้มต้มคนดู #เลือกตั้งสว #การเมืองไทย #คนเคาะข่าว #สมชายแสวงการ #วุฒิสภา #ประชาธิปไตยไทย #วิเคราะห์การเมือง #ข่าวการเมือง #เลือกตั้ง2568 #ThaiTimes #ตรวจสอบอำนาจ #Transparency #รัฐสภาไทย
    Like
    5
    1 Comments 0 Shares 606 Views 6 0 Reviews
  • 5 มีนาคม “วันนักข่าว” กับบทบาทสื่อมวลชนในยุค AI เผยความจริง สิ่งลวงตา และการถ่วงดุลอำนาจ

    📅 วันที่ 5 มีนาคมของทุกปี ถือเป็น "วันนักข่าว" หรือ "วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ" ในประเทศไทย ซึ่งเป็นวันสำคัญของวงการสื่อสารมวลชน โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากวันสถาปนา สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2498

    ปัจจุบัน บทบาทของนักข่าวและสื่อมวลชน กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในยุคดิจิทัล และเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ที่ไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทั้งข้อเท็จจริงและข่าวลวง (Fake News) บทบาทของสื่อ จึงไม่ใช่เพียงรายงานข่าวเท่านั้น แต่ต้องทำหน้าที่คัดกรอง ตรวจสอบ และถ่วงดุลอำนาจ เพื่อให้สังคมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อ งและเป็นธรรม

    📖 ความเป็นมาของวันนักข่าว จุดกำเนิดของวันนักข่าวในไทย 🎙
    สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ปัจจุบันคือ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นโดยนักข่าวรุ่นบุกเบิก 15 คน ที่รวมตัวกันที่ศาลานเรศวร ในสวนลุมพินี โดยมี นายชาญ สินศุข จากสยามนิกร เป็นประธานการประชุม

    🔹 ในอดีต หนังสือพิมพ์ไทยยึดถือธรรมเนียมว่า วันที่ 6 มีนาคม ของทุกปี จะเป็นวันหยุดงานของนักข่าว และจะไม่มีหนังสือพิมพ์วางจำหน่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป สังคมมีความต้องการบริโภคข่าวสารมากขึ้น ทำให้ต้องยุติธรรมเนียมนี้ไป

    🔹 ต่อมา ในปี พ.ศ. 2542 สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ได้รวมตัวกับ สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และกำหนดให้วันที่ 5 มีนาคม เป็นวันนักข่าว อย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน

    🎥 บทบาทสำคัญของนักข่าวในสังคมไทย นักข่าวไม่ได้เป็นเพียงผู้รายงานข่าว แต่ยังมีบทบาทสำคัญในหลายมิติของสังคม ตั้งแต่การเฝ้าระวังอำนาจ การเปิดโปงความจริง ไปจนถึงการสร้างความตระหนักรู้ และขับเคลื่อนสังคม

    🏛 เฝ้าระวังและตรวจสอบอำนาจ (Watchdog Journalism)
    ✅ นักข่าวทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ
    ✅ เปิดโปงการทุจริต คอร์รัปชัน และความไม่ชอบมาพากลในสังคม
    ✅ ปกป้องประชาชน จากการถูกเอารัดเอาเปรียบ

    📰 ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจของประชาชน
    ✅ รายงานข่าวสารด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม
    ✅ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล การเลือกตั้ง และภัยพิบัติ
    ✅ ช่วยให้ประชาชนตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง บนพื้นฐานของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ

    🚨 สร้างกระแส และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
    ✅ นำเสนอปัญหาสำคัญ เช่น ความเหลื่อมล้ำ สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม
    ✅ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย และการแก้ไขปัญหา
    ✅ เป็นช่องทางในการเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับประชาชน

    🎤 เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน
    ✅ นำเสนอเรื่องราวของผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มที่ถูกกดขี่
    ✅ ให้พื้นที่แก่ประชาชน ในการแสดงความคิดเห็น
    ✅ ช่วยให้เสียงของประชาชน ถูกได้ยินในเวทีสาธารณะ

    🔓 สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น
    ✅ สื่อมวลชนเป็นหัวใจของ ประชาธิปไตย
    ✅ หากปราศจากเสรีภาพทางสื่อ สังคมอาจถูกควบคุมโดยข้อมูลฝ่ายเดียว
    ✅ นักข่าวต้องกล้าหาญ และยืนหยัดในการรายงานความจริง

    🌍 ยุค AI กับความท้าทายของสื่อมวลชน
    🤖 AI และอัลกอริทึมเปลี่ยนโฉมวงการข่าว
    🔹 เทคโนโลยี AI ช่วยให้ ข่าวถูกสร้าง และกระจายได้รวดเร็วขึ้น
    🔹 แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ใช้อัลกอริทึมในการเลือกนำเสนอข่าว ที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ แต่ อาจทำให้ข่าวสารถูกบิดเบือ นและเกิด Echo Chamber (ห้องเสียงสะท้อน)

    🚨 ข่าวปลอม (Fake News) และ Deepfake
    🔹 ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือนแพร่กระจาย ในโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว
    🔹 เทคโนโลยี Deepfake ทำให้เกิดวิดีโอปลอม ที่เลียนแบบบุคคลจริงได้อย่างแนบเนียน
    🔹 นักข่าวต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล อย่างเข้มงวด

    💰 รายได้จากโฆษณาของสื่อดั้งเดิมลดลง
    🔹 หนังสือพิมพ์ และสื่อโทรทัศน์สูญเสียรายได้ ให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Facebook, Google
    🔹 นักข่าวต้องปรับตัวไปสู่การสร้างรายได้ ผ่านช่องทางออนไลน์ และการสมัครสมาชิก (Subscription-Based Media)

    🏛 แรงกดดันจากอำนาจรัฐและกลุ่มทุน
    🔹 นักข่าวบางคนอาจถูกคุกคาม หากรายงานข่าวที่กระทบต่อผู้มีอำนาจ
    🔹 สื่อบางสำนัก อาจถูกควบคุมโดยกลุ่มทุน ทำให้เสรีภาพทางข่าวสารถูกจำกัด

    ✅ แนวทางในการพัฒนาวงการสื่อมวลชนไทย
    ✔ สร้างมาตรฐานทางจริยธรรม นักข่าวต้องรักษาความเป็นกลาง และความถูกต้องของข้อมูล
    ✔ ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่กระจายของข่าวปลอม
    ✔ ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ เช่น AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร
    ✔ พัฒนาทักษะนักข่าวให้ทันสมัย ให้สามารถปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัล

    🎯 "นักข่าว" อาชีพที่ขับเคลื่อนความจริงและสังคมไทย
    👥 นักข่าวเป็นอาชีพที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคม
    📢 พวกเขาทำหน้าที่รายงานข้อเท็จจริง คัดกรองข่าวสาร และตรวจสอบอำนาจ
    🌍 ในยุค AI สื่อมวลชนต้องเผชิญกับ Fake News การคุกคามจากอำนาจรัฐ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี
    📌 อย่างไรก็ตาม จริยธรรม ความกล้าหาญ และการยึดมั่นในความจริง จะทำให้สื่อมวลชน ยังคงเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย

    💡 "เพราะข่าวที่ดี ไม่ใช่แค่ข่าวที่เร็ว แต่ต้องเป็นข่าวที่ถูกต้อง"

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 051127 มี.ค. 2568

    🔖 #วันนักข่าว #นักข่าวไทย #สื่อมวลชน #FreedomOfPress #AIกับสื่อ #ข่าวปลอม #FakeNews #Deepfake #PressFreedom #MediaEthics
    5 มีนาคม “วันนักข่าว” กับบทบาทสื่อมวลชนในยุค AI เผยความจริง สิ่งลวงตา และการถ่วงดุลอำนาจ 📅 วันที่ 5 มีนาคมของทุกปี ถือเป็น "วันนักข่าว" หรือ "วันสื่อสารมวลชนแห่งชาติ" ในประเทศไทย ซึ่งเป็นวันสำคัญของวงการสื่อสารมวลชน โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากวันสถาปนา สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2498 ปัจจุบัน บทบาทของนักข่าวและสื่อมวลชน กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ในยุคดิจิทัล และเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) ที่ไร้พรมแดน ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทั้งข้อเท็จจริงและข่าวลวง (Fake News) บทบาทของสื่อ จึงไม่ใช่เพียงรายงานข่าวเท่านั้น แต่ต้องทำหน้าที่คัดกรอง ตรวจสอบ และถ่วงดุลอำนาจ เพื่อให้สังคมได้รับข้อมูลที่ถูกต้อ งและเป็นธรรม 📖 ความเป็นมาของวันนักข่าว จุดกำเนิดของวันนักข่าวในไทย 🎙 สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ปัจจุบันคือ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นโดยนักข่าวรุ่นบุกเบิก 15 คน ที่รวมตัวกันที่ศาลานเรศวร ในสวนลุมพินี โดยมี นายชาญ สินศุข จากสยามนิกร เป็นประธานการประชุม 🔹 ในอดีต หนังสือพิมพ์ไทยยึดถือธรรมเนียมว่า วันที่ 6 มีนาคม ของทุกปี จะเป็นวันหยุดงานของนักข่าว และจะไม่มีหนังสือพิมพ์วางจำหน่าย แต่เมื่อเวลาผ่านไป สังคมมีความต้องการบริโภคข่าวสารมากขึ้น ทำให้ต้องยุติธรรมเนียมนี้ไป 🔹 ต่อมา ในปี พ.ศ. 2542 สมาคมนักข่าวแห่งประเทศไทย ได้รวมตัวกับ สมาคมนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และกำหนดให้วันที่ 5 มีนาคม เป็นวันนักข่าว อย่างเป็นทางการจนถึงปัจจุบัน 🎥 บทบาทสำคัญของนักข่าวในสังคมไทย นักข่าวไม่ได้เป็นเพียงผู้รายงานข่าว แต่ยังมีบทบาทสำคัญในหลายมิติของสังคม ตั้งแต่การเฝ้าระวังอำนาจ การเปิดโปงความจริง ไปจนถึงการสร้างความตระหนักรู้ และขับเคลื่อนสังคม 🏛 เฝ้าระวังและตรวจสอบอำนาจ (Watchdog Journalism) ✅ นักข่าวทำหน้าที่ตรวจสอบการใช้อำนาจของรัฐ ภาคเอกชน และองค์กรต่าง ๆ ✅ เปิดโปงการทุจริต คอร์รัปชัน และความไม่ชอบมาพากลในสังคม ✅ ปกป้องประชาชน จากการถูกเอารัดเอาเปรียบ 📰 ให้ข้อมูลที่จำเป็นต่อการตัดสินใจของประชาชน ✅ รายงานข่าวสารด้านการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ✅ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล การเลือกตั้ง และภัยพิบัติ ✅ ช่วยให้ประชาชนตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง บนพื้นฐานของข้อมูลที่น่าเชื่อถือ 🚨 สร้างกระแส และกระตุ้นการเปลี่ยนแปลงทางสังคม ✅ นำเสนอปัญหาสำคัญ เช่น ความเหลื่อมล้ำ สิทธิมนุษยชน และสิ่งแวดล้อม ✅ กระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางนโยบาย และการแก้ไขปัญหา ✅ เป็นช่องทางในการเรียกร้องความเป็นธรรม ให้กับประชาชน 🎤 เป็นกระบอกเสียงให้กับประชาชน ✅ นำเสนอเรื่องราวของผู้ด้อยโอกาส และกลุ่มที่ถูกกดขี่ ✅ ให้พื้นที่แก่ประชาชน ในการแสดงความคิดเห็น ✅ ช่วยให้เสียงของประชาชน ถูกได้ยินในเวทีสาธารณะ 🔓 สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ✅ สื่อมวลชนเป็นหัวใจของ ประชาธิปไตย ✅ หากปราศจากเสรีภาพทางสื่อ สังคมอาจถูกควบคุมโดยข้อมูลฝ่ายเดียว ✅ นักข่าวต้องกล้าหาญ และยืนหยัดในการรายงานความจริง 🌍 ยุค AI กับความท้าทายของสื่อมวลชน 🤖 AI และอัลกอริทึมเปลี่ยนโฉมวงการข่าว 🔹 เทคโนโลยี AI ช่วยให้ ข่าวถูกสร้าง และกระจายได้รวดเร็วขึ้น 🔹 แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ใช้อัลกอริทึมในการเลือกนำเสนอข่าว ที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ แต่ อาจทำให้ข่าวสารถูกบิดเบือ นและเกิด Echo Chamber (ห้องเสียงสะท้อน) 🚨 ข่าวปลอม (Fake News) และ Deepfake 🔹 ข่าวปลอม และข้อมูลบิดเบือนแพร่กระจาย ในโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว 🔹 เทคโนโลยี Deepfake ทำให้เกิดวิดีโอปลอม ที่เลียนแบบบุคคลจริงได้อย่างแนบเนียน 🔹 นักข่าวต้องตรวจสอบแหล่งที่มาของข้อมูล อย่างเข้มงวด 💰 รายได้จากโฆษณาของสื่อดั้งเดิมลดลง 🔹 หนังสือพิมพ์ และสื่อโทรทัศน์สูญเสียรายได้ ให้กับแพลตฟอร์มดิจิทัล เช่น Facebook, Google 🔹 นักข่าวต้องปรับตัวไปสู่การสร้างรายได้ ผ่านช่องทางออนไลน์ และการสมัครสมาชิก (Subscription-Based Media) 🏛 แรงกดดันจากอำนาจรัฐและกลุ่มทุน 🔹 นักข่าวบางคนอาจถูกคุกคาม หากรายงานข่าวที่กระทบต่อผู้มีอำนาจ 🔹 สื่อบางสำนัก อาจถูกควบคุมโดยกลุ่มทุน ทำให้เสรีภาพทางข่าวสารถูกจำกัด ✅ แนวทางในการพัฒนาวงการสื่อมวลชนไทย ✔ สร้างมาตรฐานทางจริยธรรม นักข่าวต้องรักษาความเป็นกลาง และความถูกต้องของข้อมูล ✔ ตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเข้มงวด ป้องกันการแพร่กระจายของข่าวปลอม ✔ ใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ เช่น AI ในการช่วยวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสาร ✔ พัฒนาทักษะนักข่าวให้ทันสมัย ให้สามารถปรับตัวเข้ากับแพลตฟอร์มดิจิทัล 🎯 "นักข่าว" อาชีพที่ขับเคลื่อนความจริงและสังคมไทย 👥 นักข่าวเป็นอาชีพที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสังคม 📢 พวกเขาทำหน้าที่รายงานข้อเท็จจริง คัดกรองข่าวสาร และตรวจสอบอำนาจ 🌍 ในยุค AI สื่อมวลชนต้องเผชิญกับ Fake News การคุกคามจากอำนาจรัฐ และความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 📌 อย่างไรก็ตาม จริยธรรม ความกล้าหาญ และการยึดมั่นในความจริง จะทำให้สื่อมวลชน ยังคงเป็นเสาหลักของประชาธิปไตย 💡 "เพราะข่าวที่ดี ไม่ใช่แค่ข่าวที่เร็ว แต่ต้องเป็นข่าวที่ถูกต้อง" ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 051127 มี.ค. 2568 🔖 #วันนักข่าว #นักข่าวไทย #สื่อมวลชน #FreedomOfPress #AIกับสื่อ #ข่าวปลอม #FakeNews #Deepfake #PressFreedom #MediaEthics
    0 Comments 0 Shares 580 Views 0 Reviews
  • รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) ล่าสุดแสดงความรู้สึกมึนงงหลังมีรายงานรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ (Pete Hegseth) มีรายงานสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านรัสเซียทางไซเบอร์ชั่วคราว
    .
    โพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า กลายเป็นประเด็นล่าสุดของการเปลี่ยนนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯ แบบ 360 องศาที่ดูเหมือนทำให้ “รัสเซีย” ได้เปรียบส่งผลทำให้เป็นที่กังขาในสายตาทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรป
    .
    รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) วันจันทร์ (3) ออกมาแสดงความเห็นสถานีวิทยุฟรานซ์อินเตอร์ (France Inter) ว่า “ผมมีปัญหาเล็กน้อยในความเข้าใจ (การตัดสินใจของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ)”
    .
    รัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวว่า บรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรปมักตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซีย
    .
    นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานว่า คำสั่งของเฮกเซธเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะนำประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กลับสู่โต๊ะเจรจาสงครามยูเครน แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมอสโกและวอชิงตัน อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส
    .
    The Record สื่อความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นสื่อแรกที่รายงานคำสั่งรัฐมนตรีกลาโหมเพนตากอนที่ออกคำสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านคู่อริรัสเซียเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    สำนักงานกองบัญชาการไซเบอร์สหรัฐฯ USCYBERCOM (U.S. Cyber Command) ภายใต้กองทัพสหรัฐฯ ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปีมีผู้ปฏิบัติการไม่กี่ร้อยคนประจำฐานที่ฟอร์ตมีด (Fort Meade) รัฐแมรีแลนด์
    .
    “คำสั่งนี้ไม่ใช้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ NSA ที่เฮกเซธทำหน้าที่บริหารหรือสัญญาณของตัวเองในการทำงานด้านข่าวกรองที่มีเป้าหมายไปที่รัสเซีย” The Record ชี้
    .
    ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สกล่าวว่า คำสั่งของเจ้ากระทรวงเพนตากอนออกมาก่อนเกิดศึกหน้าจอโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการกลับมาประเมินอีกครั้งในปฏิบัติการทั้งหมดต่อต้านรัสเซียที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ
    .
    ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันทั้งหลายกล่าวว่า มันเป็นเรื่องปกติสำหรับปฏิบัติการทางการทหารที่จะมีการหยุดพักชั่วคราวระหว่างการเจรจาทางการทูต ซึ่งการถอยออกมาจากปฏิบัติการทางไซเบอร์ต่อต้านรัสเซียอาจเป็นเหมือนการเดิมพันเพราะเกมจะอยู่ในมือของประธานาธิบดีปูตินที่จะยอมเคลื่อนไหวในลักษณะที่คล้ายกันหรือไม่
    .
    ทั้งนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยได้กล่าวต่อ CNN ว่า การสั่งหยุดพักชั่วคราวถือเป็นความหายนะครั้งใหญ่ ขณะที่ผู้นำเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตในสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ออกมาโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า มันอาจเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่อาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้รัสเซีย
    .
    อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ (2) สำนักงานความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐานและไซเบอร์สหรัฐฯ (U.S. Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) แถลงบนแพลตฟอร์ม X ว่า ภารกิจของสำนักงานในการปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบรวมถึงจาก “รัสเซีย” ไม่เปลี่ยนแปลง
    .
    โพลิติโกรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของเพนตากอนครั้งสำคัญนี้ทำให้มีความประหลาดใจอย่างมากในยุโรปที่ “รัสเซีย” ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามหลักในทางไซเบอร์ควบคู่ไปกับ “จีน”
    .
    ซึ่งทั้งเจ้าหน้าฝรั่งเศสและประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ต่างออกมากล่าวหา “รัสเซีย” หลายครั้งที่ปูตินใช้สงครามไฮบริดต่อฝรั่งเศสผ่านทางการโจมตีทางไซเบอร์ “รัสเซียกำลังโจมตีพวกเราผ่านทางข้อมูลทางไซเบอร์”
    .
    มาครงกล่าวในเดือนที่ผ่านมาอ้างว่า “มอสโกกำลังแสวงหาเพื่อสร้างความไร้เสถียรภาพต่อประชาธิปไตยของพวกเรา”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021231
    ..............
    Sondhi X
    รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) ล่าสุดแสดงความรู้สึกมึนงงหลังมีรายงานรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ (Pete Hegseth) มีรายงานสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านรัสเซียทางไซเบอร์ชั่วคราว . โพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (3 มี.ค.) ว่า กลายเป็นประเด็นล่าสุดของการเปลี่ยนนโยบายการต่างประเทศสหรัฐฯ แบบ 360 องศาที่ดูเหมือนทำให้ “รัสเซีย” ได้เปรียบส่งผลทำให้เป็นที่กังขาในสายตาทั่วโลกโดยเฉพาะในยุโรป . รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส ฌ็อง-โนเอล บาร์โรต์ (Jean-Noël Barrot) วันจันทร์ (3) ออกมาแสดงความเห็นสถานีวิทยุฟรานซ์อินเตอร์ (France Inter) ว่า “ผมมีปัญหาเล็กน้อยในความเข้าใจ (การตัดสินใจของรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีธ เฮกเซธ)” . รัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวว่า บรรดาชาติสมาชิกสหภาพยุโรปมักตกเป็นเป้าการโจมตีทางไซเบอร์จากรัสเซีย . นิวสวีกของสหรัฐฯ รายงานว่า คำสั่งของเฮกเซธเป็นส่วนหนึ่งของความเคลื่อนไหวที่จะนำประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กลับสู่โต๊ะเจรจาสงครามยูเครน แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ใหม่ระหว่างมอสโกและวอชิงตัน อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส . The Record สื่อความมั่นคงทางไซเบอร์เป็นสื่อแรกที่รายงานคำสั่งรัฐมนตรีกลาโหมเพนตากอนที่ออกคำสั่งให้ยุติปฏิบัติการต่อต้านคู่อริรัสเซียเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) . สำนักงานกองบัญชาการไซเบอร์สหรัฐฯ USCYBERCOM (U.S. Cyber Command) ภายใต้กองทัพสหรัฐฯ ก่อตั้งมานานกว่า 10 ปีมีผู้ปฏิบัติการไม่กี่ร้อยคนประจำฐานที่ฟอร์ตมีด (Fort Meade) รัฐแมรีแลนด์ . “คำสั่งนี้ไม่ใช้กับสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ NSA ที่เฮกเซธทำหน้าที่บริหารหรือสัญญาณของตัวเองในการทำงานด้านข่าวกรองที่มีเป้าหมายไปที่รัสเซีย” The Record ชี้ . ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สกล่าวว่า คำสั่งของเจ้ากระทรวงเพนตากอนออกมาก่อนเกิดศึกหน้าจอโทรทัศน์ที่ทำเนียบขาวระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่เป็นส่วนหนึ่งของการกลับมาประเมินอีกครั้งในปฏิบัติการทั้งหมดต่อต้านรัสเซียที่ไม่เคยเปิดเผยต่อสาธารณะ . ขณะที่เจ้าหน้าที่อเมริกันทั้งหลายกล่าวว่า มันเป็นเรื่องปกติสำหรับปฏิบัติการทางการทหารที่จะมีการหยุดพักชั่วคราวระหว่างการเจรจาทางการทูต ซึ่งการถอยออกมาจากปฏิบัติการทางไซเบอร์ต่อต้านรัสเซียอาจเป็นเหมือนการเดิมพันเพราะเกมจะอยู่ในมือของประธานาธิบดีปูตินที่จะยอมเคลื่อนไหวในลักษณะที่คล้ายกันหรือไม่ . ทั้งนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยได้กล่าวต่อ CNN ว่า การสั่งหยุดพักชั่วคราวถือเป็นความหายนะครั้งใหญ่ ขณะที่ผู้นำเสียงข้างน้อยพรรคเดโมแครตในสภาสูงสหรัฐฯ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) ออกมาโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า มันอาจเป็นความผิดพลาดทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญที่อาจจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบให้รัสเซีย . อย่างไรก็ตามในวันอาทิตย์ (2) สำนักงานความมั่นคงโครงสร้างพื้นฐานและไซเบอร์สหรัฐฯ (U.S. Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) แถลงบนแพลตฟอร์ม X ว่า ภารกิจของสำนักงานในการปกป้องภัยคุกคามทางไซเบอร์ทุกรูปแบบรวมถึงจาก “รัสเซีย” ไม่เปลี่ยนแปลง . โพลิติโกรายงานว่า ความเคลื่อนไหวของเพนตากอนครั้งสำคัญนี้ทำให้มีความประหลาดใจอย่างมากในยุโรปที่ “รัสเซีย” ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามหลักในทางไซเบอร์ควบคู่ไปกับ “จีน” . ซึ่งทั้งเจ้าหน้าฝรั่งเศสและประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง ต่างออกมากล่าวหา “รัสเซีย” หลายครั้งที่ปูตินใช้สงครามไฮบริดต่อฝรั่งเศสผ่านทางการโจมตีทางไซเบอร์ “รัสเซียกำลังโจมตีพวกเราผ่านทางข้อมูลทางไซเบอร์” . มาครงกล่าวในเดือนที่ผ่านมาอ้างว่า “มอสโกกำลังแสวงหาเพื่อสร้างความไร้เสถียรภาพต่อประชาธิปไตยของพวกเรา” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000021231 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 Comments 0 Shares 2264 Views 0 Reviews
  • บรรดาสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืนในสงครามกับรัสเซีย หรือไม่ก็ลาออกไป ยกระดับถาโถมแรงบีบเข้าใส่ผู้นำเคียฟ ตามหลังการประชุมที่เกิดศึกโต้เถียงกัน ณ ทำเนียบขาว เมื่อช่วงปลายสัปดาห์
    .
    บรรดาผู้นำยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี ณ ที่ประชุมหนึ่งในลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดย เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้บรรดาผู้นำยุโรปยกระดับความพยายามป้องกันตนเอง เพียง 2 วัน หลังจาก ทรัมป์ และรองประธานธิบดีเจดี แวนซ์ มีปากเสียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ไล่เขาออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามในข้อตกลงแร่ใดๆ ตามที่วางแผนไว้
    .
    ศึกวิวาทะดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่พวกผู้นำทั่วโลก และก่อคำถามเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปของสงคราม ที่รัสเซียเป็นคนเริ่มด้วยการรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน เช่นเดียวกับความพยายามของทรัมป์ ในการยุติความขัดแย้งนี้
    .
    เซเลนสกี อ้างในที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงปี 2019 และให้คำจำกัดความ ปูติน ว่าเป็นฆาตกรและพวกก่อการร้าย
    .
    ไมค์ วอล์ทซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ระบุรัฐบาลไม่แน่ใจว่า เซเลนสกี พร้อมเจรจายุติสงครามหรือไม่ และเน้นย้ำเป้าหมายของ ทรัมป์ สำหรับการมีสันติภาพที่ถาวรระหว่างมอสโกกับเคียฟ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมอ่อนข้อด้านดินแดน แลกกับการรับประกันความมั่นคงที่นำโดยยุโรป
    .
    เมื่อถามว่า ทรัมป์ ต้องการให้ เซเลนสกี ลาออกหรือไม่ ทาง วอล์ทซ์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่า "เราต้องการผู้นำรายหนึ่งที่สามารถตกลงกับเรา ในท้ายที่สุดตกลงกับรัสเซียและยุติสงครามนี้" เขาระบุ "ถ้ามันกลายเป็นว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี มีทั้งแรงจูงใจส่วนตัวและแรงจูงใจทางการเมืองที่ผิดแผกไปจากการยุติการสู้รบในประเทศของเขา เมื่อนั้นผมคิดว่าเรามีประเด็นปัญหาที่แท้จริง"
    .
    ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากเซาท์แคโรไลนา พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์และเคยเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง ตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงสามารถทำงานร่วมกับ เซเลนสกี ได้หรือไม่ ตามหลังการโต้เถียงในทำเนียบขาว ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) "บางอย่างจำเป็นต้องเปลี่ยน เขาจำเป็นทั้งต้องมีความสมเหตุสมผลและกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความสำนึกบุญคุณ หรือไม่อย่างนั้นคนอื่นใครบางคนก็จำเป็นต้องก้าวมานำประเทศแห่งนี้ ให้ทำเช่นนั้น" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี "มันอยากเห็นปูตินพ่ายแพ้ พูดตรงๆ เขาเป็นศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในความขัดแย้งนี้ เรากำลังหาทางให้มันถึงจุดจบของสงคราม"
    .
    อย่างไรก็ตาม ในฝ่ายเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง และรู้สึกรังเกียจต่อภาพการประชุมที่เต็มไปด้วยการโต้เถียง ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน
    .
    วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี จากคอนเนคทิคัต โวยวายใส่ทำเนียบขาว กรณีที่ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซีย มากกว่าชาติประชาธิปไตยด้วยกัน "แน่นอนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันน่าอดสูอย่างที่สุด ทำเนียบขาวกลายเป็นอาวุธของเครมลิน" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น "บริษัทโดยรวมของการประชุมดังกล่าว เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนามข้อตกลงกับปูติน ที่ส่งมอบยูเครนแก่ปูติน มันเป็นหายนะสำหรับความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ"
    .
    วอล์ทซ์ แก้ต่างว่า "มันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง" ที่มีการกล่าวหาว่าการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ เป็นการซุ่มโจมตี และรัฐบาลทรัมป์โยนแรงกดดันใส่ยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืน "เราจะพร้อมกลับมาเจรจาใหม่ เมื่อพวกเขาพร้อมสร้างสันติภาพ" มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าไม่ได้คุยกับ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน มาตั้งแต่การประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.)
    .
    "ไม่มีใครที่นี่ เคลมว่าประธานาธิบดีปูติน กำลังได้รับโนเบลสันติภาพในปีนี้" รูบิโอ ระบุและอ้างว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น "คุณไม่อาจดึงพวกเขาสู้โต๊ะเจรจา หากว่าคุณไม่ยอมเรียกชื่อพวกเขา หากว่าคุณยังคงมองเขาเป็นศัตรู"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020423
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาสมาชิกระดับสูงของพรรครีพับลิกัน ที่เป็นพันธมิตรของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ กดดันประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืนในสงครามกับรัสเซีย หรือไม่ก็ลาออกไป ยกระดับถาโถมแรงบีบเข้าใส่ผู้นำเคียฟ ตามหลังการประชุมที่เกิดศึกโต้เถียงกัน ณ ทำเนียบขาว เมื่อช่วงปลายสัปดาห์ . บรรดาผู้นำยุโรป แสดงจุดยืนสนับสนุนเซเลนสกี ณ ที่ประชุมหนึ่งในลอนดอนเมื่อวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) โดย เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เรียกร้องให้บรรดาผู้นำยุโรปยกระดับความพยายามป้องกันตนเอง เพียง 2 วัน หลังจาก ทรัมป์ และรองประธานธิบดีเจดี แวนซ์ มีปากเสียงกับ เซเลนสกี ในห้องทำงานรูปไข่ ไล่เขาออกจากทำเนียบขาว โดยไม่มีการลงนามในข้อตกลงแร่ใดๆ ตามที่วางแผนไว้ . ศึกวิวาทะดังกล่าวสร้างความตกตะลึงแก่พวกผู้นำทั่วโลก และก่อคำถามเกี่ยวกับก้าวย่างถัดไปของสงคราม ที่รัสเซียเป็นคนเริ่มด้วยการรุกรานยูเครนเมื่อ 3 ปีก่อน เช่นเดียวกับความพยายามของทรัมป์ ในการยุติความขัดแย้งนี้ . เซเลนสกี อ้างในที่ประชุมว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ไม่ยึดมั่นในข้อตกลงหยุดยิงปี 2019 และให้คำจำกัดความ ปูติน ว่าเป็นฆาตกรและพวกก่อการร้าย . ไมค์ วอล์ทซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของทรัมป์ ระบุรัฐบาลไม่แน่ใจว่า เซเลนสกี พร้อมเจรจายุติสงครามหรือไม่ และเน้นย้ำเป้าหมายของ ทรัมป์ สำหรับการมีสันติภาพที่ถาวรระหว่างมอสโกกับเคียฟ ที่เกี่ยวข้องกับการยอมอ่อนข้อด้านดินแดน แลกกับการรับประกันความมั่นคงที่นำโดยยุโรป . เมื่อถามว่า ทรัมป์ ต้องการให้ เซเลนสกี ลาออกหรือไม่ ทาง วอล์ทซ์ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ว่า "เราต้องการผู้นำรายหนึ่งที่สามารถตกลงกับเรา ในท้ายที่สุดตกลงกับรัสเซียและยุติสงครามนี้" เขาระบุ "ถ้ามันกลายเป็นว่าประธานาธิบดีเซเลนสกี มีทั้งแรงจูงใจส่วนตัวและแรงจูงใจทางการเมืองที่ผิดแผกไปจากการยุติการสู้รบในประเทศของเขา เมื่อนั้นผมคิดว่าเรามีประเด็นปัญหาที่แท้จริง" . ลินด์ซีย์ เกรแฮม วุฒิสมาชิกจากเซาท์แคโรไลนา พันธมิตรใกล้ชิดของทรัมป์และเคยเป็นผู้สนับสนุนยูเครนตัวยง ตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ จะยังคงสามารถทำงานร่วมกับ เซเลนสกี ได้หรือไม่ ตามหลังการโต้เถียงในทำเนียบขาว ที่เกิดขึ้นต่อหน้าพวกผู้สื่อข่าวในวันศุกร์ (28 ก.พ.) . ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นแบบเดียวกันในวันอาทิตย์ (2 มี.ค.) "บางอย่างจำเป็นต้องเปลี่ยน เขาจำเป็นทั้งต้องมีความสมเหตุสมผลและกลับสู่โต๊ะเจรจาด้วยความสำนึกบุญคุณ หรือไม่อย่างนั้นคนอื่นใครบางคนก็จำเป็นต้องก้าวมานำประเทศแห่งนี้ ให้ทำเช่นนั้น" เขาบอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี "มันอยากเห็นปูตินพ่ายแพ้ พูดตรงๆ เขาเป็นศัตรูของสหรัฐฯ แต่ในความขัดแย้งนี้ เรากำลังหาทางให้มันถึงจุดจบของสงคราม" . อย่างไรก็ตาม ในฝ่ายเดโมแครต ไม่เห็นด้วยกับการชี้แนะให้ เซเลนสกี ลาออกจากตำแหน่ง และรู้สึกรังเกียจต่อภาพการประชุมที่เต็มไปด้วยการโต้เถียง ระหว่างทรัมป์กับผู้นำยูเครน . วุฒิสมาชิกคริส เมอร์ฟี จากคอนเนคทิคัต โวยวายใส่ทำเนียบขาว กรณีที่ขยับเข้าไปใกล้ชิดกับรัสเซีย มากกว่าชาติประชาธิปไตยด้วยกัน "แน่นอนว่า สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในตอนนี้ มันน่าอดสูอย่างที่สุด ทำเนียบขาวกลายเป็นอาวุธของเครมลิน" เขาบอกกับซีเอ็นเอ็น "บริษัทโดยรวมของการประชุมดังกล่าว เป็นความพยายามเขียนประวัติศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อลงนามข้อตกลงกับปูติน ที่ส่งมอบยูเครนแก่ปูติน มันเป็นหายนะสำหรับความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ" . วอล์ทซ์ แก้ต่างว่า "มันเป็นเท็จโดยสิ้นเชิง" ที่มีการกล่าวหาว่าการประชุมในห้องทำงานรูปไข่ เป็นการซุ่มโจมตี และรัฐบาลทรัมป์โยนแรงกดดันใส่ยูเครน ให้เปลี่ยนจุดยืน "เราจะพร้อมกลับมาเจรจาใหม่ เมื่อพวกเขาพร้อมสร้างสันติภาพ" มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว พร้อมเผยว่าไม่ได้คุยกับ เซเลนสกี และรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน มาตั้งแต่การประชุมเมื่อวันศุกร์ (28 ก.พ.) . "ไม่มีใครที่นี่ เคลมว่าประธานาธิบดีปูติน กำลังได้รับโนเบลสันติภาพในปีนี้" รูบิโอ ระบุและอ้างว่าการเจรจากับรัสเซียเป็นสิ่งจำเป็น "คุณไม่อาจดึงพวกเขาสู้โต๊ะเจรจา หากว่าคุณไม่ยอมเรียกชื่อพวกเขา หากว่าคุณยังคงมองเขาเป็นศัตรู" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020423 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 1233 Views 0 Reviews
More Results