• ภาพวิดีโอภายในโรงงานแห่งหนึ่งใน Chasiv Yar ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกรมทหารที่ 331 กองพลทหารอากาศที่ 98 แห่งกองทัพรัสเซีย
    ภาพวิดีโอภายในโรงงานแห่งหนึ่งใน Chasiv Yar ที่ได้รับการปลดปล่อยโดยกรมทหารที่ 331 กองพลทหารอากาศที่ 98 แห่งกองทัพรัสเซีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพกองหน่วยทหารนาฮาลของอิสราเอล เตรียมพร้อมถอนตัวออกจากเบต ฮานูน (Beit Hanoun) ทางเหนือของฉนวนกาซา
    ภาพกองหน่วยทหารนาฮาลของอิสราเอล เตรียมพร้อมถอนตัวออกจากเบต ฮานูน (Beit Hanoun) ทางเหนือของฉนวนกาซา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์)

    ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้:
    - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น

    - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด

    - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล
    .
    ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน
    .
    (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา
    .
    นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต


    รัฐบาลอิสราเอลเพิ่งให้การอนุมัติขั้นสุดท้ายสำหรับการหยุดยิงในฉนวนกาซา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ที่ 19 มกราคม ตั้งแต่เวลา 12.00 น. (ตามเวลาปาเลสไตน์) ภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนี้: - ในช่วงเฟสแรก จะมีการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลชุดแรกจำนวน 33 คน ที่ถูกกลุ่มฮามาสจับอยู่ในกาซามานาน 15 เดือนแล้ว เพื่อแลกกับการปล่อยตัวนักโทษปาเลสไตน์หลายร้อยคนจากเรือนจำอิสราเอล ขณะที่กองทัพอิสราเอลจะถอนทหารออกจากพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในกาซาและชาวปาเลสไตน์ที่หนีภัยสู้รบจะสามารถกลับสู่บ้านเรือนของตนเองได้ และจะมีการเปิดทางให้รถบรรทุกความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปนำส่งความช่วยเหลือในกาซาได้วันละ 600 คัน ในเฟสแรกนี้จะใช้เวลานาน 6 สัปดาห์ และอาจขยายเวลาออกไปได้ หากภารกิจยังไม่เสร็จสิ้น - ก่อนเข้าสู่เฟสที่ 2 จะมีการเจรจากันเพิ่มเติมของข้อตกลงหยุดยิง โดยจะมีการปล่อยตัวประกันอิสราเอลที่เหลืออยู่ ขณะกองทัพอิสราเอลจะถอนกำลังออกไปทั้งหมด - ส่วนเฟสที่ 3 ซึ่งเป็นช่วงสุดท้าย จะเป็นระยะการฟื้นฟูกาซาที่อาจต้องใช้เวลาหลายปีและการส่งร่างของตัวประกันที่เสียชีวิตแล้วทั้งหมดคืนแก่อิสราเอล . ผู้ติดตามทางการเมืองหลายรายแสดงความเห็น ข้อตกลงหยุดยิงนี้ไม่ใช่การนิรโทษกรรมให้กับอิสราเอล หรือเนทันยาฮูที่กำลังโดนข้อกล่าวหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์และอาชญากรรมสงคราม พวกเขายังคงต้องถูกดำเนินคดี มิฉะนั้น หไม่มีใครควรอยู่เหนือกฎหมายระหว่างประเทศที่ประชาคมโลกใช้ร่วมกัน . (วิดีโอ1) อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ เวลา 12.00 น. อิสราเอลได้เพิ่มระดับความรุนแรงในการโจมตี โดยหนึ่งในเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบคือศูนย์การติดต่อสื่อสารแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกของกาซา . นอกจากนี้ ตามรายงานของหน่วยงานสาธารณะสุขของปาเลสไตน์ มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตมากกว่า 116 ราย รวมถึงผู้หญิงและเด็ก ตั้งแต่เย็นวันพุธ หลังการประกาศข้อตกงหยุดยิง เนื่องจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่โจมตีชุมชนหลายแห่งทั่วฉนวนกาซา รวมถึงจาบาเลีย และพื้นที่ตอนกลาง เช่น นูไซรัต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/ (วิดีโอแบบสั้น)

    วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา

    ส่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    2/ (วิดีโอแบบสั้น) วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา ส่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • 1/ (วิดีโอแบบยาว)

    วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์

    ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา

    ส่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    1/ (วิดีโอแบบยาว) วิดีโอนี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีว่าเนทันยาฮูเป็นอาชญากรสงครามในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์ในกาซา โดยมีโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกามีส่วนรู้เห็นด้วย โดยให้ความช่วยเหลือทางทหารและอาวุธต่ออิสราเอลมูลค่าเกือบ 3 หมื่นล้านดอลลาร์ ในการให้สัมภาษณ์กับ MSNBC ไบเดนยอมรับว่า เขาบอกกับเนทันยาฮูว่าอิสราเอลอย่าทิ้งระเบิดปูพรมใส่พื้นที่พลเรือน จากคำพูดของไบเดน เนทันยาฮูไม่ได้ปฏิเสธการกระทำนั้น แต่กลับตอบโต้ไบเดนว่า สหรัฐเองก็ทำมาก่อน ทั้งในเบอร์ลิน และฮิโรชิมา ส่งที่คนทั่วโลกได้เห็นมาตลอด 15 เดือน คือการระเบิดปูพรมและสังหารหมู่ชาวปาเลสไตน์ แต่การให้สัมภาษณ์ของสหรัฐที่นำโดยบลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ที่มีสายเลือดยิวอยู่ในตัว กลับพยายามบอกผ่านสื่อที่อยู่ในการควบคุมของพวกเขาว่าสิ่งที่เราเห็นนั้นไม่ใช่สิ่งที่เกิดขึ้นจริง แต่เป็นเพียงการปกป้องตัวเองตามสิทธิของอิสราเอลเท่านั้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • เอ้า!!!

    ทหารยูเครนกำลังลดจำนวนนักรบของพวกเขา ด้วยการขว้างระเบิดใส่พวกเดียวกันเอง
    เอ้า!!! ทหารยูเครนกำลังลดจำนวนนักรบของพวกเขา ด้วยการขว้างระเบิดใส่พวกเดียวกันเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • 433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘

    ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้

    สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี
    ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา

    ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง

    สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา

    พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว

    เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว

    เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ

    เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ
    เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว

    ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง

    เผชิญหน้าบนหลังช้าง
    พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า

    “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด”

    มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง

    ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่

    ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี

    หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้

    ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย
    สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

    พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ

    มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์

    คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี
    1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน?
    ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี

    2. ช้างศึกคืออะไร?
    ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์

    3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ?
    เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ

    ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้

    เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568

    #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย

    🎉
    433 ปี ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย ศึกแห่งเกียรติยศขององค์ดำ-องค์ขาว 🇹🇭🐘 ย้อนไปเมื่อ 433 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2135 เป็นวันที่ประวัติศาสตร์ไทย ต้องจารึกไว้ด้วยความภาคภูมิใจ นั่นคือเหตุการณ์ “ยุทธหัตถีหนองสาหร่าย” ที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช (พระองค์ดำ) และสมเด็จพระเอกาทศรถ (พระองค์ขาว) ในการต่อสู้กับทัพพม่า ณ ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี สงครามครั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ เพื่ออาณาจักรเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึง ศักดิ์ศรีของพระมหากษัตริย์ไทย ผู้ยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อปกป้องผืนแผ่นดิน และประชาชนชาวไทย การยุทธหัตถีครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ แต่ยังกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรม ที่ยังคงมีการเล่าขาน และรำลึกถึงจนถึงทุกวันนี้ สงครามบนหลังช้างที่สะท้อนศักดิ์ศรี ยุทธหัตถี หมายถึง การทำสงครามบนหลังช้าง โดยผู้บัญชาการสูงสุด ของกองทัพทั้งสองฝ่าย จะเผชิญหน้ากันบนหลังช้างศึก เป็นการต่อสู้ ที่ต้องอาศัยทั้งความสามารถ การฝึกฝน ความกล้าหาญของกษัตริย์ และช้างศึก การชนช้างนี้ถือว่า เป็นการทำศึกที่มีเกียรติยศ และเป็นที่ยอมรับ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในประเทศไทย พม่า และกัมพูชา ในยุคโบราณ ช้างถือว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ของพระมหากษัตริย์ และเป็นสัญลักษณ์ของความยิ่งใหญ่ การทำยุทธหัตถี จึงไม่เพียงแต่เป็นการต่อสู้ เพื่อชัยชนะทางการทหารเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงความกล้าหาญและความสามารถของผู้ปกครอง ที่นำทัพด้วยตัวเอง สงครามยุทธหัตถีในปี พ.ศ. 2135 มีต้นเหตุจากการที่กรุงหงสาวดี (พม่า) มีความต้องการ จะยึดครองกรุงศรีอยุธยา พระเจ้านันทบุเรง ผู้ปกครองหงสาวดีในเวลานั้น จึงส่งกองทัพใหญ่กว่า 240,000 นาย นำโดย พระมหาอุปราชา (มังสามเกียด) และมางจาชโร เจ้าเมืองจาปะโร เข้ารุกรานกรุงศรีอยุธยา พระองค์ดำทรงทราบถึง การเคลื่อนทัพของพม่า จึงทรงระดมกำลังพลหนึ่งแสนนาย และเตรียมการป้องกันเมือง พร้อมกับทรงออกคำประกาศอิสรภาพที่เมืองแครง ในปี พ.ศ. 2127 ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้น ของการต่อต้านการปกครองของพม่า อย่างเต็มตัว เมื่อกองทัพของมังสามเกียด เคลื่อนมาถึงสุพรรณบุรี พระองค์ดำทรงนำทัพหลวงไปตั้งค่าย ที่ตำบลหนองสาหร่าย พร้อมกับพระองค์ขาว เช้าวันจันทร์ แรม 2 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง องค์ดำและองค์ขาว ทรงเครื่องพิชัยยุทธเต็มยศ พร้อมด้วยช้างศึกทรง 2 เชือก คือ เจ้าพระยาไชยานุภาพ (พลายภูเขาทอง) ช้างทรงของพระองค์ดำ เจ้าพระยาปราบไตรจักร (พลายบุญเรือง) ช้างทรงของพระองค์ขาว ทั้งสองพระองค์ทรงนำช้างศึกเข้าสู่สนามรบ แต่ระหว่างที่เคลื่อนทัพเกิดความวุ่นวาย ทำให้ช้างทรงของทั้งสองพระองค์ หลุดเข้าไปในวงล้อมของทัพพม่า และเผชิญหน้ากับมังสามเกียด และมางจาชโร โดยตรง เผชิญหน้าบนหลังช้าง พระองค์ดำทรงเรียกท้ามังสามเกียด ซึ่งสนิทสนมกันตั้งแต่วัยพระเยาว์ เมื่อครั้งองค์ดำ ทรงเป็นองค์ประกัน อยู่ที่กรุงหงสาวดี ให้มาทำยุทธหัตถี ด้วยพระดำรัส ที่แสดงถึงความองอาจว่า “พระเจ้าพี่เรา จะยืนอยู่ใยในร่มไม้เล่า เชิญออกมาทำยุทธหัตถีด้วยกัน ให้เป็นเกียรติยศไว้ในแผ่นดินเถิด” มังสามเกียดจึงไสช้าง เข้าชนเจ้าพระยาไชยานุภาพ เกิดการต่อสู้ที่ดุเดือด เมื่อถึงจังหวะสำคัญ พระองค์ดำทรงใช้พระแสงของ้าวแสนพลพ่าย ฟันเข้าที่พระอังสะขวา ของมังสามเกียด จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้าง ในขณะเดียวกัน พระองค์ขาวทรงฟันมางจาชโร จนสิ้นพระชนม์บนหลังช้างเช่นกัน เป็นการปิดฉาก ศึกยุทธหัตถีอันยิ่งใหญ่ ชัยชนะของพระองค์ดำ ในยุทธหัตถีครั้งนี้ ทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราชไว้ได้ และสร้างความเกรงขามให้แก่กรุงหงสาวดี จนไม่มีการรุกรานอีก เป็นเวลาหลายปี หลังสงคราม พระเจ้านันทบุเรงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง ที่ต้องสูญเสียพระราชโอรสไป ในศึกครั้งนี้ และกรุงศรีอยุธยาก็ได้สร้าง พระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์อันสำคัญนี้ ความสำคัญของยุทธหัตถี ในประวัติศาสตร์ไทย สัญลักษณ์ของเอกราช ยุทธหัตถีครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่สะท้อนถึง ความสามัคคีและการต่อสู้ เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ พระปรีชาสามารถของกษัตริย์ไทย สมเด็จพระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ ได้ทรงแสดงให้เห็นถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถในการนำทัพ มรดกทางวัฒนธรรม การยุทธหัตถีได้กลายเป็นตำนาน ที่มีการเล่าขาน และเป็นแรงบันดาลใจในงานศิลปะ วรรณกรรม และภาพยนตร์ คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับยุทธหัตถี 1. ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ไหน? ยุทธหัตถีเกิดขึ้นที่ตำบลหนองสาหร่าย อำเภอดอนเจดีย์ จังหวัดสุพรรณบุรี 2. ช้างศึกคืออะไร? ช้างศึกคือช้างที่ได้รับการฝึกฝน เพื่อใช้ในการทำสงคราม มีลักษณะเด่นตามตำราคชลักษณ์ 3. ทำไมยุทธหัตถีถึงมีเกียรติ? เพราะเป็นการต่อสู้ ระหว่างกษัตริย์ทั้งสองฝ่าย อย่างตรงไปตรงมา และแสดงถึงความกล้าหาญ ยุทธหัตถีหนองสาหร่ายในปี พ.ศ. 2135 เป็นสงครามที่แสดงถึงความกล้าหาญ และพระปรีชาสามารถ ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และสมเด็จพระเอกาทศรถ ซึ่งทำให้กรุงศรีอยุธยา สามารถรักษาเอกราช และศักดิ์ศรีของชาติไว้ได้ เหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนไทย ในการต่อสู้เพื่อสิ่งที่ถูกต้อง และรักษาเกียรติภูมิของตน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 180833 ม.ค. 2568 #สมเด็จพระนเรศวร #ยุทธหัตถี #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามชนช้าง #กรุงศรีอยุธยา #ดอนเจดีย์ #หงสาวดี #ชาติไทย #วีรกรรมไทย #สงครามไทย 🎉
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักข่าวโดนล็อคคอนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวของบลิงเคน หลังยิงคำถามไม่ถูกใจ!!

    เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะหมดวาระจากตำแหน่ง หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมทั้งข้อตกลงเรื่องตัวประกัน

    แซม ฮัสเซนี นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ และคอลัมนิสต์ในสื่อหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงต่างประเทศล็อคคอลากออกจากห้องแถลงข่าว หลังจากที่เขาพยายามถามเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งบลิงเคนอ้างว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา

    บลิงเคนไม่ยอมตอบคำถามของฮัสเซนี หลังจากเขาพยายามถามว่าทำไมสหรัฐถึงยอมให้ฝ่ายอิสราเอลจบสงครามในกาซา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 15 เดือนและคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอย่างง่ายดาย

    ในระหว่างที่ฮัสเซนีรัวคำถามอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับพยายามนำตัวเขา ออกจากห้องแถลงข่าว ทำให้เขาโกรธมากและตะโกนออกไปว่า "ไอ้ฆาตกร! ทำไมแกไม่อยู่ในกรุงเฮก!" (กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ)

    ฮัสเซนีกล่าวภายหลังว่า เขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงแค่พยายามตั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่บลิงเคนไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยินยอมตอบคำถาม โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับระเบียบฮันนิบาล ไดเร็กทีฟ (Hannibal Directive) ซึ่งอนุญาตให้ทหารอิสราเอลดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวประกันตกไปอยู่ในมือศัตรู

    นักข่าวโดนล็อคคอนำตัวออกจากห้องแถลงข่าวของบลิงเคน หลังยิงคำถามไม่ถูกใจ!! เกิดเหตุการณ์วุ่นวายในการแถลงข่าวครั้งสุดท้ายของนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ก่อนที่เขาจะหมดวาระจากตำแหน่ง หลังการประกาศข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาส รวมทั้งข้อตกลงเรื่องตัวประกัน แซม ฮัสเซนี นักข่าวอเมริกันเชื้อสายจอร์แดน-ปาเลสไตน์ และคอลัมนิสต์ในสื่อหลายแห่ง ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกระทรวงต่างประเทศล็อคคอลากออกจากห้องแถลงข่าว หลังจากที่เขาพยายามถามเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา ซึ่งบลิงเคนอ้างว่าเป็นความสำเร็จทางการทูตในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา บลิงเคนไม่ยอมตอบคำถามของฮัสเซนี หลังจากเขาพยายามถามว่าทำไมสหรัฐถึงยอมให้ฝ่ายอิสราเอลจบสงครามในกาซา ซึ่งดำเนินมาเป็นเวลา 15 เดือนและคร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์หลายหมื่นคนอย่างง่ายดาย ในระหว่างที่ฮัสเซนีรัวคำถามอยู่นั้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลับพยายามนำตัวเขา ออกจากห้องแถลงข่าว ทำให้เขาโกรธมากและตะโกนออกไปว่า "ไอ้ฆาตกร! ทำไมแกไม่อยู่ในกรุงเฮก!" (กรุงเฮก ในเนเธอร์แลนด์ เป็นที่ตั้งของศาลอาญาระหว่างประเทศ) ฮัสเซนีกล่าวภายหลังว่า เขาถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมเพียงแค่พยายามตั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิง แต่บลิงเคนไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงไม่ยินยอมตอบคำถาม โดยเฉพาะคำถามเกี่ยวกับระเบียบฮันนิบาล ไดเร็กทีฟ (Hannibal Directive) ซึ่งอนุญาตให้ทหารอิสราเอลดำเนินการโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพลเรือนและทหารของตนเอง เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวประกันตกไปอยู่ในมือศัตรู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • อังกฤษ-ยูเครนลงนามข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงและวัฒนธรรมกับยูเครนเป็นเวลา 100 ปี!!!

    สตาร์เมอร์เดินทางเยือนยูเครนครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีกำหนดลงนามความเป็นหุ้นส่วน 100 ปีกับยูเครน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านความมั่นคงและวัฒนธรรม

    สำหรับข้อตกลงและปฏิญญาทางการเมืองดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารเป็นสำคัญ เพื่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคงในทะเลบอลติก ทะเลดำ และทะเลอาซอฟ รวมทั้งป้องกันการรุกรานของรัสเซียและประเด็นอื่นๆ เช่น ภาคพลังงาน แร่ธาตุสำคัญ และการผลิตเหล็กเขียว หรือการผลิตเหล็กกล้าโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล

    เซเลนสกีและสตาร์เมอร์ มีความเห็นตรงกันว่าทั้งสองมีความปรารถนาที่จะให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพของชาติตะวันตกประจำการในยูเครนเมื่อสงครามยูเครนกับรัสเซียยุติลง โดยอังกฤษพร้อมจะมีบทบาทที่สำคัญในเรื่องนี้อย่างเต็มที่


    อังกฤษ-ยูเครนลงนามข้อตกลงการเป็นหุ้นส่วนด้านความมั่นคงและวัฒนธรรมกับยูเครนเป็นเวลา 100 ปี!!! สตาร์เมอร์เดินทางเยือนยูเครนครั้งแรกนับตั้งแต่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว มีกำหนดลงนามความเป็นหุ้นส่วน 100 ปีกับยูเครน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทั้งด้านความมั่นคงและวัฒนธรรม สำหรับข้อตกลงและปฏิญญาทางการเมืองดังกล่าว มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางการทหารเป็นสำคัญ เพื่อสนับสนุนงานด้านความมั่นคงในทะเลบอลติก ทะเลดำ และทะเลอาซอฟ รวมทั้งป้องกันการรุกรานของรัสเซียและประเด็นอื่นๆ เช่น ภาคพลังงาน แร่ธาตุสำคัญ และการผลิตเหล็กเขียว หรือการผลิตเหล็กกล้าโดยไม่ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล เซเลนสกีและสตาร์เมอร์ มีความเห็นตรงกันว่าทั้งสองมีความปรารถนาที่จะให้มีกองกำลังรักษาสันติภาพของชาติตะวันตกประจำการในยูเครนเมื่อสงครามยูเครนกับรัสเซียยุติลง โดยอังกฤษพร้อมจะมีบทบาทที่สำคัญในเรื่องนี้อย่างเต็มที่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • 2/
    กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog

    เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

    พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055

    เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    2/ กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055 เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 1/
    กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog

    เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง

    พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055

    เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    1/ กองทัพรัสเซียโจมตีด้วยขีปนาวุธ Iskander-M จำนวน 2 ลูก ที่อาคารศูนย์ฝึกอบรมการบินของกองทัพยูเครน ซึ่งถูกดัดแปลงเป็นค่ายที่พักของกองกำลังยูเครน ใน Krivoy Rog เบื้องต้นมีรายงานทหารยูเครนเสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง พิกัดตำแหน่งเป้าหมายการโจมตี 47.925606118485334, 33.32610654674055 เหตุการณ์การโจมตีศูนย์ฝึกอบรมของยูเครนจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเช่นนี้ เคยเกิดมาแล้วครั้งหนึ่งใน Poltava เมื่อต้นเดือนกันยายน 2024 ซึ่งในครั้งนั้นทหารยูเครนกำลังฝึกอบรมจากครูฝึกของนาโต้เป็นผู้ฝึกสอน ในครั้งนั้นมีเจ้าหน้าที่ยูเครนและครูฝึกต่างชาติเสียชีวิต 41 ราย บาดเจ็บกว่า 180 ราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 189 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารยูเครนแฉ! ศพทหารถูกเผาทิ้งกลางสนามรบ เพื่อปิดบังยอดเสียชีวิตตามความจริง และหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินชดเชย

    อิวาน คุตส์ (Ivan Kuts / Иван Куц) หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนยูเครนจำนวน 6 นาย ที่เพิ่งเข้ามอบตัวโดยสมัครใจกับหน่วยป้องกันชายแดนของรัสเซียในเขตวาลูยกี้ (Valuyki) ภูมิภาคเบลโกรอด (Belgorod) เล่าผ่านวิดีโอการสอบสวนว่า

    ผู้บังคับบัญชาทอดทิ้งพวกเขาให้เผชิญชะตากรรมโดยไม่มีเสบียงอาหาร หรือการสื่อสารใดๆที่เหมาะสม

    นอกจากนี้ เขาและเพื่อนทหารคนอื่นยังถูกบังคับบัญชาของหน่วยยืมเงิน เพื่อนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และไม่เคยได้เงินคืนเลย

    เรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเมื่อคุตส์เล่าว่า มีทหารที่บาดเจ็บจำนวนมากที่แนวหน้าและเสียชีวิตลง เนื่องจากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเห็นเตาเผาศพแบบเคลื่อนที่มาที่สนามรบเพื่อใช้งาน เนื่องจากเตาเผาศพในเมืองคาร์คีฟไม่สามารถจัดการได้ทันเวลา และเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต
    คุตส์ยังยืนยันว่าพวกเขายังเผาศพของทหารรับจ้างต่างชาติอีกมากที่เสียชีวิตตามอาคารที่ถูกโจมตีจากรัสเซียอีกด้วย เพื่อปกปิดการมีอยู่ของพวกเขาในยูเครน

    คุตส์ยังพูดถึงเรื่องที่ทหารในหน่วยของเขาติดสุรา รวมทั้งยาเสพติดมากมาย เนื่องจากความเครียดและขวัญกำลังใจที่ตกต่ำถึงขีดสุด
    ทหารยูเครนแฉ! ศพทหารถูกเผาทิ้งกลางสนามรบ เพื่อปิดบังยอดเสียชีวิตตามความจริง และหลีกเลี่ยงการจ่ายเงินชดเชย อิวาน คุตส์ (Ivan Kuts / Иван Куц) หนึ่งในเจ้าหน้าที่รักษาชายแดนยูเครนจำนวน 6 นาย ที่เพิ่งเข้ามอบตัวโดยสมัครใจกับหน่วยป้องกันชายแดนของรัสเซียในเขตวาลูยกี้ (Valuyki) ภูมิภาคเบลโกรอด (Belgorod) เล่าผ่านวิดีโอการสอบสวนว่า ผู้บังคับบัญชาทอดทิ้งพวกเขาให้เผชิญชะตากรรมโดยไม่มีเสบียงอาหาร หรือการสื่อสารใดๆที่เหมาะสม นอกจากนี้ เขาและเพื่อนทหารคนอื่นยังถูกบังคับบัญชาของหน่วยยืมเงิน เพื่อนำไปเล่นการพนันออนไลน์ และไม่เคยได้เงินคืนเลย เรื่องที่น่าตกใจอย่างมากเมื่อคุตส์เล่าว่า มีทหารที่บาดเจ็บจำนวนมากที่แนวหน้าและเสียชีวิตลง เนื่องจากไม่ได้รับการช่วยเหลือที่ดีพอ ยิ่งไปกว่านั้น เขาเห็นเตาเผาศพแบบเคลื่อนที่มาที่สนามรบเพื่อใช้งาน เนื่องจากเตาเผาศพในเมืองคาร์คีฟไม่สามารถจัดการได้ทันเวลา และเพื่อจะได้ไม่ต้องจ่ายเงินชดเชยให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิต คุตส์ยังยืนยันว่าพวกเขายังเผาศพของทหารรับจ้างต่างชาติอีกมากที่เสียชีวิตตามอาคารที่ถูกโจมตีจากรัสเซียอีกด้วย เพื่อปกปิดการมีอยู่ของพวกเขาในยูเครน คุตส์ยังพูดถึงเรื่องที่ทหารในหน่วยของเขาติดสุรา รวมทั้งยาเสพติดมากมาย เนื่องจากความเครียดและขวัญกำลังใจที่ตกต่ำถึงขีดสุด
    Sad
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารรัสเซียดัดแปลงทุ่นระเบิดต่อต้านรถถังต่อกันเป็นชั้น แล้วโยนเข้าไปทำลายที่สนามเพลาะแนวป้องกันของยูเครน
    ทหารรัสเซียดัดแปลงทุ่นระเบิดต่อต้านรถถังต่อกันเป็นชั้น แล้วโยนเข้าไปทำลายที่สนามเพลาะแนวป้องกันของยูเครน
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน เข้าพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ที่มอสโกเพื่อลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Russia-Iran Comprehensive Strategic Partnership Agreement)

    ตามรายงานก่อนหน้านี้ ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีกำหนดระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี

    ข้อตกลงดังกล่าว จะรวมถึงข้อตกลงการป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุมร่วมกันด้วย โดยมีภาระผูกพันที่จะต้องปกป้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี (ลักษณะมาตรา 5 ของนาโต้)

    นอกจากนี้ ข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมนี้จะเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่าน-รัสเซีย ซึ่งจะรวมถึงการลงทุน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่กว้างขวาง การแบ่งปันความรู้ วิทยาการ และความร่วมมือทางทหารอย่างกว้างขวาง

    รัสเซียได้ทำข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับเกาหลีเหนือด้วยเช่นกันเมื่อกลางปี 2567
    ประธานาธิบดีอิหร่าน มาซูด เปเซชเคียน เข้าพบประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซีย ที่มอสโกเพื่อลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Russia-Iran Comprehensive Strategic Partnership Agreement) ตามรายงานก่อนหน้านี้ ข้อตกลงความร่วมมือดังกล่าว มีกำหนดระยะเวลายาวนานถึง 20 ปี ข้อตกลงดังกล่าว จะรวมถึงข้อตกลงการป้องกันภัยคุกคามที่ครอบคลุมร่วมกันด้วย โดยมีภาระผูกพันที่จะต้องปกป้องช่วยเหลือซึ่งกันและกัน หากประเทศใดประเทศหนึ่งถูกโจมตี (ลักษณะมาตรา 5 ของนาโต้) นอกจากนี้ ข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ครอบคลุมนี้จะเป็นการพัฒนาครั้งสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่าน-รัสเซีย ซึ่งจะรวมถึงการลงทุน ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่กว้างขวาง การแบ่งปันความรู้ วิทยาการ และความร่วมมือทางทหารอย่างกว้างขวาง รัสเซียได้ทำข้อตกลงหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์กับเกาหลีเหนือด้วยเช่นกันเมื่อกลางปี 2567
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 358 มุมมอง 21 0 รีวิว
  • Rodynske ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของ Pokrovsk เป็นอีกหนึ่งเมือง ที่ถูกรัสเซียโจมตีพร้อมกับ Bilytske เมื่อวานนี้

    ดูเหมือนว่ารัสเซียกำลังตัดเส้นทางส่งกำลังเสริม รวมทั้งที่ตั้งทางทหารของยูเครน เพื่อเตรียมตัวโอบล้อม Pokrovsk ในทิศทางนี้ต่อไป
    Rodynske ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของ Pokrovsk เป็นอีกหนึ่งเมือง ที่ถูกรัสเซียโจมตีพร้อมกับ Bilytske เมื่อวานนี้ ดูเหมือนว่ารัสเซียกำลังตัดเส้นทางส่งกำลังเสริม รวมทั้งที่ตั้งทางทหารของยูเครน เพื่อเตรียมตัวโอบล้อม Pokrovsk ในทิศทางนี้ต่อไป
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลลัพธ์จากการโจมตีด้วยระเบิดร่อน FAB ของรัสเซีย ที่อาคารฐานทัพทหารของยูเครนในเมือง Bilytske ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่

    มีรายงานทหารยูเครนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
    ผลลัพธ์จากการโจมตีด้วยระเบิดร่อน FAB ของรัสเซีย ที่อาคารฐานทัพทหารของยูเครนในเมือง Bilytske ทางเหนือของ Pokrovsk ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ มีรายงานทหารยูเครนได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตหลายราย
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 161 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพสวีเดนได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีฝูงโดรนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถควบคุมโดรนได้ถึง 100 เครื่องโดยผู้ควบคุมเพียงคนเดียว ระบบนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับบริษัท Saab ผู้ผลิตเครื่องบินรบ Saab JAS 39 Gripen และใช้เวลาเพียง 12 เดือนในการสร้าง

    หน่วยทหารราบ I 13 ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟาลุน สวีเดน จะเป็นหน่วยแรกที่ได้รับเทคโนโลยีนี้ และคาดว่าจะมีการทดสอบในระหว่างการฝึกซ้อมทางทหาร Arctic Strike ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ การพัฒนานี้เป็นผลมาจากการใช้โดรนอย่างแพร่หลายในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ยูเครนป้องกันการรุกราน

    ข้อได้เปรียบใหญ่ของระบบนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้โดรนที่ออกแบบมาเฉพาะทางทหาร สามารถติดตั้งบนโดรนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดและเปลี่ยนให้เป็นฝูงโดรนที่ทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ โดรนเหล่านี้สามารถใช้ในการสอดแนมและกลับมาชาร์จพลังงานเองเมื่อถึงขีดจำกัดของระยะการทำงาน

    นอกจากนี้ ระบบยังสามารถอัปเดตและเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการของกองทัพได้ และมีการเสนอว่าอาจจะอัปเกรดให้โดรนสามารถบรรทุกระเบิดได้ ซึ่งจะทำให้สามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องมีนักบินโดรนที่มีทักษะสูง

    แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดูมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งาน โดยหวังว่า Saab และกองทัพสวีเดนจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในโปรแกรมของฝูงโดรน AI นี้ก่อนที่จะนำไปใช้ในการโจมตี

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/swedish-armys-new-ai-drone-swarm-technology-can-control-up-to-100-devices
    กองทัพสวีเดนได้ประกาศเปิดตัวเทคโนโลยีฝูงโดรนที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ซึ่งสามารถควบคุมโดรนได้ถึง 100 เครื่องโดยผู้ควบคุมเพียงคนเดียว ระบบนี้พัฒนาโดยความร่วมมือกับบริษัท Saab ผู้ผลิตเครื่องบินรบ Saab JAS 39 Gripen และใช้เวลาเพียง 12 เดือนในการสร้าง หน่วยทหารราบ I 13 ที่ตั้งอยู่ในเมืองฟาลุน สวีเดน จะเป็นหน่วยแรกที่ได้รับเทคโนโลยีนี้ และคาดว่าจะมีการทดสอบในระหว่างการฝึกซ้อมทางทหาร Arctic Strike ในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ การพัฒนานี้เป็นผลมาจากการใช้โดรนอย่างแพร่หลายในสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งเทคโนโลยีได้พัฒนาอย่างรวดเร็วเพื่อช่วยให้ยูเครนป้องกันการรุกราน ข้อได้เปรียบใหญ่ของระบบนี้คือไม่จำเป็นต้องใช้โดรนที่ออกแบบมาเฉพาะทางทหาร สามารถติดตั้งบนโดรนที่มีจำหน่ายในท้องตลาดและเปลี่ยนให้เป็นฝูงโดรนที่ทำงานร่วมกันได้อย่างอัตโนมัติ โดรนเหล่านี้สามารถใช้ในการสอดแนมและกลับมาชาร์จพลังงานเองเมื่อถึงขีดจำกัดของระยะการทำงาน นอกจากนี้ ระบบยังสามารถอัปเดตและเปลี่ยนแปลงซอฟต์แวร์ให้ตรงกับความต้องการของกองทัพได้ และมีการเสนอว่าอาจจะอัปเกรดให้โดรนสามารถบรรทุกระเบิดได้ ซึ่งจะทำให้สามารถโจมตีได้โดยไม่ต้องมีนักบินโดรนที่มีทักษะสูง แม้ว่าเทคโนโลยีนี้จะดูมีประสิทธิภาพ แต่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งาน โดยหวังว่า Saab และกองทัพสวีเดนจะเพิ่มมาตรการความปลอดภัยในโปรแกรมของฝูงโดรน AI นี้ก่อนที่จะนำไปใช้ในการโจมตี https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/swedish-armys-new-ai-drone-swarm-technology-can-control-up-to-100-devices
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • 📌เนทันยาฮูในปี 2023: “จะไม่มีกลุ่มฮามาสในกาซ่าเหลืออยู่”
    📌เนทันยาฮูในปี 2025: เรากำลังรอการตอบสนองของกลุ่มฮามาสต่อข้อเสนอหยุดยิง...🤣🤣

    ❌ขบวนการมูกอวิมะฮ์ไม่ถูกกำจัด และยังคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในกาซ่าหรือในเลบานอน - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว

    ❌อิสราเอลนำเชลยออกจากกาซ่าไม่ได้ จนกระทั่งอิสราเอลยอมจำนนต่อการนั่งโต๊ะเจรจาแลกเปลี่ยนเชลย - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว

    ❌อิสราเอลไม่สามารถยึดครองและควบคุมกาซ่าได้และต้องถอนทัพออกไป - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว

    ❌ผู้ตั้งถิ่นฐานไซออนิสต์ยังคงไม่สามารถกลับไปยังตอนเหนือของอิสราเอลได้ - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว

    🌎ปาเลสไตน์อยู่ในใจและความคิดของผู้คนทั่วโลก ในขณะที่ผู้นำของอิสราเอลและทหารIDFถูกตราหน้าเป็นอาชญากรสงครามที่ถูกหมายจับไปทั่วโลก

    🇵🇸ปาเลสไตน์ชนะสงครามครั้งนี้

    การต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวปาเลสไตน์ยังคงดำเนินต่อไป และระบอบไซออนิสต์จะต้องถูกกำจัดในที่สุด!!
    📌เนทันยาฮูในปี 2023: “จะไม่มีกลุ่มฮามาสในกาซ่าเหลืออยู่” 📌เนทันยาฮูในปี 2025: เรากำลังรอการตอบสนองของกลุ่มฮามาสต่อข้อเสนอหยุดยิง...🤣🤣 ❌ขบวนการมูกอวิมะฮ์ไม่ถูกกำจัด และยังคงแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในกาซ่าหรือในเลบานอน - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว ❌อิสราเอลนำเชลยออกจากกาซ่าไม่ได้ จนกระทั่งอิสราเอลยอมจำนนต่อการนั่งโต๊ะเจรจาแลกเปลี่ยนเชลย - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว ❌อิสราเอลไม่สามารถยึดครองและควบคุมกาซ่าได้และต้องถอนทัพออกไป - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว ❌ผู้ตั้งถิ่นฐานไซออนิสต์ยังคงไม่สามารถกลับไปยังตอนเหนือของอิสราเอลได้ - เป้าหมายสงครามของอิสราเอลล้มเหลว 🌎ปาเลสไตน์อยู่ในใจและความคิดของผู้คนทั่วโลก ในขณะที่ผู้นำของอิสราเอลและทหารIDFถูกตราหน้าเป็นอาชญากรสงครามที่ถูกหมายจับไปทั่วโลก 🇵🇸ปาเลสไตน์ชนะสงครามครั้งนี้ การต่อสู้เพื่ออิสรภาพของชาวปาเลสไตน์ยังคงดำเนินต่อไป และระบอบไซออนิสต์จะต้องถูกกำจัดในที่สุด!!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลกับกลุ่มฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซาหลังสงครามยืดเยื้อมานานถึง 15 เดือน คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 46,000 คนโดยฝีมือของกองกำลังอิสราเอล

    เฟสแรกจะมีผล 19 มกราคมนี้ทันที และจะมีระยะเวลาดำเนินการ 6 สัปดาห์

    ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทหารอิสราเอลจะเริ่มถอนกำลังออกจากกาซา กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 33 รายที่จับกุมไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ขณะที่อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์นับร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยนในขั้นต้น

    แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะพยายามสร้างภาพว่าข้อตกลงหยุดหยิงดังกล่าว เป็นความพยายามของเขา แต่หลายฝ่ายทราบดีว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนังด์ ทรัมป์ คือผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง เนื่องจากเขาส่งสัญญาณอย่างชัดเจนในการบังคับให้เนทันยาฮูยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา

    เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้มีรายละเอียดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไบเดนสามารถทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน แต่เขาปฏิเสธที่จะใช้อิทธิพลใดๆ เพื่อหยุดยั้งมัน


    'การหยุดยิงครั้งนี้ ต่างฝ่ายก็อ้างชัยชนะทั้งคู่'
    หากมองในด้านความสูญเสีย แน่นอนว่าฮามาสอาจถูกทำลายทางสายการบังคับบัญชา และการทำลายล้างพื้นที่ในกาซา ซึ่งอิสราเอลมีสิทธิประกาศว่าตนเองเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ "อย่างน้อยก็ในเวลานี้"

    ในทางกลับกัน การสูญเสียของฮามาส กลับได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โครงสร้างของกองกำลังได้รับการเติมเต็มของช่องว่าง มีการรับกองกำลังเพิ่มเติมตลอดเวลาคง ซึ่งยังสามารถต่อต้านอิสราเอลไปได้อีกนาน นั่นทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้สูญเสียอะไรเลย




    อิสราเอลกับกลุ่มฮามาส บรรลุข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราวในฉนวนกาซาหลังสงครามยืดเยื้อมานานถึง 15 เดือน คร่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 46,000 คนโดยฝีมือของกองกำลังอิสราเอล เฟสแรกจะมีผล 19 มกราคมนี้ทันที และจะมีระยะเวลาดำเนินการ 6 สัปดาห์ ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว ทหารอิสราเอลจะเริ่มถอนกำลังออกจากกาซา กลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกัน 33 รายที่จับกุมไว้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 ขณะที่อิสราเอลจะปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์นับร้อยคนเป็นการแลกเปลี่ยนในขั้นต้น แม้ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน จะพยายามสร้างภาพว่าข้อตกลงหยุดหยิงดังกล่าว เป็นความพยายามของเขา แต่หลายฝ่ายทราบดีว่า ว่าที่ประธานาธิบดีโดนังด์ ทรัมป์ คือผู้อยู่เบื้องหลังที่แท้จริง เนื่องจากเขาส่งสัญญาณอย่างชัดเจนในการบังคับให้เนทันยาฮูยอมรับข้อตกลงหยุดยิงในกาซา เนื่องจากข้อตกลงหยุดยิงไม่ได้มีรายละเอียดเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ไบเดนสามารถทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้นได้ตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน แต่เขาปฏิเสธที่จะใช้อิทธิพลใดๆ เพื่อหยุดยั้งมัน 'การหยุดยิงครั้งนี้ ต่างฝ่ายก็อ้างชัยชนะทั้งคู่' หากมองในด้านความสูญเสีย แน่นอนว่าฮามาสอาจถูกทำลายทางสายการบังคับบัญชา และการทำลายล้างพื้นที่ในกาซา ซึ่งอิสราเอลมีสิทธิประกาศว่าตนเองเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ "อย่างน้อยก็ในเวลานี้" ในทางกลับกัน การสูญเสียของฮามาส กลับได้รับการฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว โครงสร้างของกองกำลังได้รับการเติมเต็มของช่องว่าง มีการรับกองกำลังเพิ่มเติมตลอดเวลาคง ซึ่งยังสามารถต่อต้านอิสราเอลไปได้อีกนาน นั่นทำให้ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้สูญเสียอะไรเลย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • 33 ปี สิ้น “หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง” พระเถราจารย์แห่งอุบลราชธานี ผู้สร้างวัดสาขาต่างประเทศมากมาย

    ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และทั่วโลกต้องเศร้าโศก เมื่อหลวงปู่ชา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพรัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ละสังขารอย่างสงบ หลังจากอาพาธ มายาวนาน

    หลวงปู่ชาไม่เพียงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปสู่ชาวต่างชาติ ผ่านการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัดสาขามากมาย ทั้งในและนอกประเทศไทย แม้ว่าท่านจะพูดได้เพียงภาษาไทย แต่ด้วยคำสอน และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย กลับสร้างแรงศรัทธา ให้แก่คนทั่วโลก

    วัยเยาว์หลวงปู่
    หลวงปู่ชา สุภัทโท เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตามปฏิทินจันทรคติ ที่บ้านก่อ (เดิมชื่อบ้านก้นถ้วย) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดามารดาของท่านคือนายมา และนางพิมพ์ ช่วงโชติ หลวงปู่ชาเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน

    เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์
    เมื่อหลวงปู่ชามีอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาที่วัดบ้านก่อนอก ร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน แต่ไม่นานท่านก็ลาสิกขาออกมา เพื่อช่วยครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ได้ผลักดันให้ท่าน หันกลับมาสู่เส้นทางธรรมอีกครั้ง

    เมื่ออายุครบ 21 ปี หลังทราบว่า ไม่ติดทหารเกณฑ์ หลวงปู่ชาจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ โดยมี พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "สุภัทโท" ซึ่งแปลว่า "ผู้เจริญด้วยดี"

    ธุดงค์พบทางธรรม
    หลวงปู่ชาได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ โดยเดินทางไกล ผ่านหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการไปศึกษาธรรมกับ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น

    หลวงปู่ชาเล่าถึงความประทับใจ เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นว่า การได้ฟังธรรมะจากท่าน ทำให้จิตใจของหลวงปู่ชา สงบลึกในทันที และทำให้เกิดความมั่นใจ ในแนวทางการปฏิบัติธรรม

    ตั้งวัดหนองป่าพง
    หลังจากธุดงค์ ยาวนานกว่า 8 ปี ในที่สุดหลวงปู่ชา ได้กลับมาที่บ้านเกิด และก่อตั้งวัดหนองป่าพง ขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยพื้นที่ดั้งเดิมของวัด เป็นป่าอันเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ชาใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย และเน้นการปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบอย่างให้ศิษย์เห็น

    วัดหนองป่าพง เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาศึกษาธรรม กับหลวงปู่ชา

    เผยแผ่พุทธศาสนาไปต่างประเทศ
    หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับหลวงปู่ชา คือความสามารถ ในการถ่ายทอดธรรมะ ให้แก่ชาวต่างชาติ แม้ว่าท่าน จะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ตาม ท่านสอนด้วยการกระทำเป็นหลัก โดยมักกล่าวว่า

    “น้ำร้อนก็มี น้ำฮ้อนก็มี ฮอตวอเตอร์ก็มี มันเป็นแต่ชื่อหรอก ถ้าเอามือจุ่มลงไป ก็ไม่ต้องใช้ภาษาหรอก คนชาติไหนก็รู้ได้เอง”

    วัดหนองป่าพง และวัดสาขาของหลวงปู่ชา กลายเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติ ที่สนใจปฏิบัติธรรม ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีวัดสาขาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศรวมกว่า 141 แห่ง โดยแบ่งเป็น 133 สาขา ในประเทศไทย และ 8 สาขา ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์

    คำสอนเรียบง่ายลึกซึ้ง
    คำสอนของหลวงปู่ชา เน้นไปที่การปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวัน ท่านสอนให้ศิษย์รักษาศีล เจริญสมาธิ และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาในชีวิต โดยหลวงปู่ชาเคยกล่าวไว้ว่า

    “พึงทำตน ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม อันสมควรเสียก่อน จึงค่อยสอนผู้อื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตทราม”

    ท่านยังเน้นย้ำว่า การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการรักษาศีล เพราะศีลจะนำไปสู่สมาธิ และสมาธิจะนำไปสู่ปัญญา ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ ต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน

    บั้นปลายชีวิต
    ในปี พ.ศ. 2520 หลวงปู่ชาเริ่มอาพาธ และแม้ว่าท่าน จะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และเผยแผ่ธรรมะจนถึงที่สุด

    หลวงปู่ชาได้ละสังขารเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ณ วัดหนองป่าพง โดยทิ้งมรดกทางธรรม และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วโลก

    33 ปี หลังการละสังขารของหลวงปู่ชา คำสอนและวัตรปฏิบัติของท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจ ของศิษยานุศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก วัดหนองป่าพง ยังคงเป็นศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนา และแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ที่ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ขยายไปสู่ชาวต่างชาติ

    หลวงปู่ชาเป็นตัวอย่าง ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธเจ้า อย่างแท้จริง

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161017 ม.ค. 2568

    #หลวงปู่ชา #วัดหนองป่าพง #ธรรมะ #พระป่ากรรมฐาน #ปฏิบัติธรรม #ศาสนาพุทธ #คำสอนหลวงปู่ชา #พระพุทธศาสนา #ธรรมะอินเตอร์ #วัดสาขาต่างประเทศ
    33 ปี สิ้น “หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง” พระเถราจารย์แห่งอุบลราชธานี ผู้สร้างวัดสาขาต่างประเทศมากมาย ย้อนไปเมื่อ 33 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ และทั่วโลกต้องเศร้าโศก เมื่อหลวงปู่ชา สุภัทโท เจ้าอาวาสวัดหนองป่าพง อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี พระเถราจารย์ผู้เป็นที่เคารพรัก ทั้งในไทยและต่างประเทศ ได้ละสังขารอย่างสงบ หลังจากอาพาธ มายาวนาน หลวงปู่ชาไม่เพียงเป็น ผู้นำทางจิตวิญญาณ แต่ยังเป็นบุคคลสำคัญ ที่ช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนา ไปสู่ชาวต่างชาติ ผ่านการปฏิบัติธรรม และการสร้างวัดสาขามากมาย ทั้งในและนอกประเทศไทย แม้ว่าท่านจะพูดได้เพียงภาษาไทย แต่ด้วยคำสอน และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย กลับสร้างแรงศรัทธา ให้แก่คนทั่วโลก วัยเยาว์หลวงปู่ หลวงปู่ชา สุภัทโท เกิดเมื่อ วันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2461 ตรงกับวันแรม 7 ค่ำ เดือน 7 ปีมะเมีย ตามปฏิทินจันทรคติ ที่บ้านก่อ (เดิมชื่อบ้านก้นถ้วย) อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี บิดามารดาของท่านคือนายมา และนางพิมพ์ ช่วงโชติ หลวงปู่ชาเป็นบุตรคนที่ 5 จากพี่น้องทั้งหมด 10 คน เริ่มต้นชีวิตในร่มกาสาวพัสตร์ เมื่อหลวงปู่ชามีอายุได้ 13 ปี ท่านได้บรรพชาที่วัดบ้านก่อนอก ร่วมกับเพื่อนๆ หลายคน แต่ไม่นานท่านก็ลาสิกขาออกมา เพื่อช่วยครอบครัว อย่างไรก็ตาม ความเบื่อหน่ายในชีวิตฆราวาส ได้ผลักดันให้ท่าน หันกลับมาสู่เส้นทางธรรมอีกครั้ง เมื่ออายุครบ 21 ปี หลังทราบว่า ไม่ติดทหารเกณฑ์ หลวงปู่ชาจึงได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2482 ณ วัดก่อใน ตำบลธาตุ อำเภอวารินชำราบ โดยมี พระครูอินทรสารคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ ท่านได้รับฉายาว่า "สุภัทโท" ซึ่งแปลว่า "ผู้เจริญด้วยดี" ธุดงค์พบทางธรรม หลวงปู่ชาได้ออกเดินธุดงค์ เพื่อแสวงหาครูบาอาจารย์ ผู้มีความรู้ทั้งด้านปริยัติ และปฏิบัติ โดยเดินทางไกล ผ่านหลายจังหวัดของประเทศไทย รวมถึงการไปศึกษาธรรมกับ "หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต" ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ สายวิปัสสนากรรมฐาน ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคนั้น หลวงปู่ชาเล่าถึงความประทับใจ เมื่อได้พบหลวงปู่มั่นว่า การได้ฟังธรรมะจากท่าน ทำให้จิตใจของหลวงปู่ชา สงบลึกในทันที และทำให้เกิดความมั่นใจ ในแนวทางการปฏิบัติธรรม ตั้งวัดหนองป่าพง หลังจากธุดงค์ ยาวนานกว่า 8 ปี ในที่สุดหลวงปู่ชา ได้กลับมาที่บ้านเกิด และก่อตั้งวัดหนองป่าพง ขึ้นในปี พ.ศ. 2497 โดยพื้นที่ดั้งเดิมของวัด เป็นป่าอันเงียบสงบ เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม หลวงปู่ชาใช้วิถีชีวิตเรียบง่าย และเน้นการปฏิบัติ เพื่อสร้างแบบอย่างให้ศิษย์เห็น วัดหนองป่าพง เริ่มเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่ในหมู่คนไทย แต่ยังรวมถึงชาวต่างชาติ ที่เดินทางมาศึกษาธรรม กับหลวงปู่ชา เผยแผ่พุทธศาสนาไปต่างประเทศ หนึ่งในสิ่งที่น่าทึ่งที่สุด เกี่ยวกับหลวงปู่ชา คือความสามารถ ในการถ่ายทอดธรรมะ ให้แก่ชาวต่างชาติ แม้ว่าท่าน จะไม่ได้พูดภาษาอังกฤษก็ตาม ท่านสอนด้วยการกระทำเป็นหลัก โดยมักกล่าวว่า “น้ำร้อนก็มี น้ำฮ้อนก็มี ฮอตวอเตอร์ก็มี มันเป็นแต่ชื่อหรอก ถ้าเอามือจุ่มลงไป ก็ไม่ต้องใช้ภาษาหรอก คนชาติไหนก็รู้ได้เอง” วัดหนองป่าพง และวัดสาขาของหลวงปู่ชา กลายเป็นจุดหมายของชาวต่างชาติ ที่สนใจปฏิบัติธรรม ปัจจุบันวัดหนองป่าพง มีวัดสาขาทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศรวมกว่า 141 แห่ง โดยแบ่งเป็น 133 สาขา ในประเทศไทย และ 8 สาขา ในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย และสวิตเซอร์แลนด์ คำสอนเรียบง่ายลึกซึ้ง คำสอนของหลวงปู่ชา เน้นไปที่การปฏิบัติจริง ในชีวิตประจำวัน ท่านสอนให้ศิษย์รักษาศีล เจริญสมาธิ และใช้ปัญญาแก้ไขปัญหาในชีวิต โดยหลวงปู่ชาเคยกล่าวไว้ว่า “พึงทำตน ให้ตั้งอยู่ในคุณธรรม อันสมควรเสียก่อน จึงค่อยสอนผู้อื่นทีหลัง จึงจักไม่เป็นบัณฑิตทราม” ท่านยังเน้นย้ำว่า การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการรักษาศีล เพราะศีลจะนำไปสู่สมาธิ และสมาธิจะนำไปสู่ปัญญา ซึ่งทั้งสามส่วนนี้ ต้องเกื้อหนุนซึ่งกันและกัน บั้นปลายชีวิต ในปี พ.ศ. 2520 หลวงปู่ชาเริ่มอาพาธ และแม้ว่าท่าน จะมีอาการทรุดหนักลงเรื่อยๆ แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ และเผยแผ่ธรรมะจนถึงที่สุด หลวงปู่ชาได้ละสังขารเมื่อ วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2535 เวลา 05.20 น. ณ วัดหนองป่าพง โดยทิ้งมรดกทางธรรม และวัตรปฏิบัติอันเรียบง่าย ให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วโลก 33 ปี หลังการละสังขารของหลวงปู่ชา คำสอนและวัตรปฏิบัติของท่าน ยังคงมีชีวิตอยู่ในใจ ของศิษยานุศิษย์ และผู้ปฏิบัติธรรมทั่วโลก วัดหนองป่าพง ยังคงเป็นศูนย์กลาง ของพระพุทธศาสนา และแหล่งเผยแผ่ธรรมะ ที่ไม่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่ขยายไปสู่ชาวต่างชาติ หลวงปู่ชาเป็นตัวอย่าง ของพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ผู้ใช้ชีวิตเรียบง่าย และยึดมั่นในคำสอน ของพระพุทธเจ้า อย่างแท้จริง ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 161017 ม.ค. 2568 #หลวงปู่ชา #วัดหนองป่าพง #ธรรมะ #พระป่ากรรมฐาน #ปฏิบัติธรรม #ศาสนาพุทธ #คำสอนหลวงปู่ชา #พระพุทธศาสนา #ธรรมะอินเตอร์ #วัดสาขาต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตความมั่นคงสหรัฐฯ! DJI ปลดล็อกโดรน 6 แสนลำ บินเสรีเหนือทำเนียบขาว-รัฐสภา หลังถูกกดดันแบนสินค้า

    ความตึงเครียดด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุด หลัง DJI ผู้ผลิตโดรนยักษ์ใหญ่จากจีนที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลก 90% ประกาศยกเลิกระบบกำหนดเขตห้ามบิน มีผล 13 มกราคม 2568

    ส่งผลให้โดรนกว่า 600,000 ลำสามารถบินเหนือพื้นที่หวงห้ามได้อย่างเสรี อาทิ ทำเนียบขาว รัฐสภา สนามบิน ฐานทัพ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และสถานที่ราชการสำคัญ

    การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเผชิญแรงกดดันหนักจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2562 ที่ห้ามกระทรวงกลาโหมซื้อโดรนจีน ตามด้วยการขึ้นบัญชี DJI เป็นบริษัททหารจีนในปี 2564 ล่าสุดถูกกล่าวหาใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ในการผลิต นำไปสู่การระงับนำเข้า พร้อมกับการผ่านร่าง Countering CCP Drones Act ที่อาจนำไปสู่การแบนสินค้าโดยสิ้นเชิง

    ยิ่งไปกว่านั้น การยกเลิกระบบความปลอดภัยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังอุบัติเหตุโดรน DJI Mini ชนเครื่องบินดับเพลิงที่ลอสแองเจลิส และในช่วงเวลาสำคัญก่อนพิธีสาบานตนประธานาธิบดี ด้าน DJI แถลงคัดค้านข้อกล่าวหาว่าไร้มูลความจริงและสะท้อนอคติต่อชาวต่างชาติ


    https://www.imctnews.com/news_details-news-6184.html
    วิกฤตความมั่นคงสหรัฐฯ! DJI ปลดล็อกโดรน 6 แสนลำ บินเสรีเหนือทำเนียบขาว-รัฐสภา หลังถูกกดดันแบนสินค้า ความตึงเครียดด้านความมั่นคงในสหรัฐฯ พุ่งสูงสุด หลัง DJI ผู้ผลิตโดรนยักษ์ใหญ่จากจีนที่ครองส่วนแบ่งตลาดโลก 90% ประกาศยกเลิกระบบกำหนดเขตห้ามบิน มีผล 13 มกราคม 2568 ส่งผลให้โดรนกว่า 600,000 ลำสามารถบินเหนือพื้นที่หวงห้ามได้อย่างเสรี อาทิ ทำเนียบขาว รัฐสภา สนามบิน ฐานทัพ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ และสถานที่ราชการสำคัญ การตัดสินใจครั้งนี้เกิดขึ้นหลังเผชิญแรงกดดันหนักจากสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2562 ที่ห้ามกระทรวงกลาโหมซื้อโดรนจีน ตามด้วยการขึ้นบัญชี DJI เป็นบริษัททหารจีนในปี 2564 ล่าสุดถูกกล่าวหาใช้แรงงานบังคับชาวอุยกูร์ในการผลิต นำไปสู่การระงับนำเข้า พร้อมกับการผ่านร่าง Countering CCP Drones Act ที่อาจนำไปสู่การแบนสินค้าโดยสิ้นเชิง ยิ่งไปกว่านั้น การยกเลิกระบบความปลอดภัยครั้งนี้เกิดขึ้นหลังอุบัติเหตุโดรน DJI Mini ชนเครื่องบินดับเพลิงที่ลอสแองเจลิส และในช่วงเวลาสำคัญก่อนพิธีสาบานตนประธานาธิบดี ด้าน DJI แถลงคัดค้านข้อกล่าวหาว่าไร้มูลความจริงและสะท้อนอคติต่อชาวต่างชาติ https://www.imctnews.com/news_details-news-6184.html
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนยกระดับการส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาที่ป้อนแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จากคำยืนยันของ ไมค์ วอลต์ซ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ
    .
    ระหว่างกล่าว ณ สถาบันสันติภาพในวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร(14ม.ค.) วอลต์ซ สมาชิกสภาคองเกรสจากฟลอริดา เน้นย้ำว่า "เรามีสินค้าคงค้างกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาจ่ายเงินมา และเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขายอมควักเงินเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่ามาตรการป้องปราม"
    .
    วอลต์ซ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินหน้าแสวงหานโยบายครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยุทธศาสตร์นี้รวมไปถึงการติดตั้งแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองแก่เกาะแห่งนี้ อาทิระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ โดรนและเทคโนโลยีสอดแนมล้ำสมัย ที่จะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่อาจต้องทุ่มทุนมากกว่าเดิม หากคิดใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน แถลงว่ามีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี โดยเผยว่าพวกเขาจะติดตั้งระบบอาวุธ NASAMS ที่ผลิตโดยนอร์เวย์ ในตำแหน่งต่างๆที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทางเหนือของเกาะ
    .
    ปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ภายใต้หลักการ "จีนเดียว" และยืนยันว่าท้ายที่สุดจะมีการรวมชาติ ในนั้นรวมถึงผ่านการใช้กำลังถ้าจำเป็น นอกจากนี้แล้ว จีน ยังส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆต่อการแทรกแซงใดๆของต่างชาติในประเด็นนี้ ในนั้นรวมถึงการที่สหรัฐฯขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยปักกิ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขาและคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค
    .
    ไต้หวัน ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งกองกำลังชาตินิยมล่าถอยไปยังเกาะแห่งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ในสงคามกลางเมืองของจีน ปัจจุบันเหลือไม่กี่ประเทศที่ให้การยอมรับอธิปไตยของเกาะ และเกือบทั่วโลก ยึดถือจุดยืนของจีน ที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน
    .
    อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ แม้อย่างเป็นทางการแล้ว ยืดถือนโยบายจีนเดียว แต่ยังคงป้อนอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ และประสานความร่วมมือทางทหารกับรัฐบาลในไทเป
    .
    จีน ประณามซ้ำๆต่อกรณีสหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่าบั่นทอนเสถียรภาพและยั่วยุ และทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศถี่ๆรอบๆเกาะ เป็นการตอบโต้
    .
    ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน จีนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทกลาโหม 7 แห่งของสหรัฐฯ และสั่งแบนส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทั้งทางพาณิยช์และด้านการทหาร ไปยังบรรดาบริษัทอเมริกา ในนั้นรวมถึงโบอิ้ง, เจเนรัล ไดนามิกส์, ล็อคฮีด มาร์ติน และ เรย์เธียน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง อนุมัติจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ไต้หวัน อีก 571 ล้านดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004692
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีแผนยกระดับการส่งมอบยุทโธปกรณ์ทางทหารของอเมริกาที่ป้อนแก่ไต้หวัน ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดกับจีน ซึ่งกล่าวอ้างว่าเกาะแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งของดินแดน จากคำยืนยันของ ไมค์ วอลต์ซ ว่าที่ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ . ระหว่างกล่าว ณ สถาบันสันติภาพในวอชิงตัน เมื่อวันอังคาร(14ม.ค.) วอลต์ซ สมาชิกสภาคองเกรสจากฟลอริดา เน้นย้ำว่า "เรามีสินค้าคงค้างกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์ ที่พวกเขาจ่ายเงินมา และเราจำเป็นต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้พวกเขาได้รับในสิ่งที่พวกเขายอมควักเงินเพื่อสิ่งนี้ ที่เรียกว่ามาตรการป้องปราม" . วอลต์ซ ยังยืนยันด้วยว่า รัฐบาลใหม่ของสหรัฐฯ จะเดินหน้าแสวงหานโยบายครอบคลุมในเรื่องเกี่ยวกับไต้หวัน ยุทธศาสตร์นี้รวมไปถึงการติดตั้งแสนยานุภาพด้านการป้องกันตนเองแก่เกาะแห่งนี้ อาทิระบบขีปนาวุธเคลื่อนที่ โดรนและเทคโนโลยีสอดแนมล้ำสมัย ที่จะทำให้จีนแผ่นดินใหญ่อาจต้องทุ่มทุนมากกว่าเดิม หากคิดใช้กำลังเข้าควบคุมไต้หวัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กระทรวงกลาโหมของไต้หวัน แถลงว่ามีแผนประจำการระบบป้องกันขีปนาวุธใหม่ที่จัดหาให้โดยสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปี โดยเผยว่าพวกเขาจะติดตั้งระบบอาวุธ NASAMS ที่ผลิตโดยนอร์เวย์ ในตำแหน่งต่างๆที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ทางเหนือของเกาะ . ปักกิ่งมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน ภายใต้หลักการ "จีนเดียว" และยืนยันว่าท้ายที่สุดจะมีการรวมชาติ ในนั้นรวมถึงผ่านการใช้กำลังถ้าจำเป็น นอกจากนี้แล้ว จีน ยังส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆต่อการแทรกแซงใดๆของต่างชาติในประเด็นนี้ ในนั้นรวมถึงการที่สหรัฐฯขายอาวุธแก่ไต้หวัน โดยปักกิ่งมองว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการละเมิดอธิปไตยของพวกเขาและคุกคามเสถียรภาพในภูมิภาค . ไต้หวัน ปกครองตนเองมาตั้งแต่ปี 1949 ครั้งกองกำลังชาตินิยมล่าถอยไปยังเกาะแห่งนี้ หลังจากพ่ายแพ้ในสงคามกลางเมืองของจีน ปัจจุบันเหลือไม่กี่ประเทศที่ให้การยอมรับอธิปไตยของเกาะ และเกือบทั่วโลก ยึดถือจุดยืนของจีน ที่ว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐประชาชนจีน . อย่างไรก็ตามในส่วนของสหรัฐฯ แม้อย่างเป็นทางการแล้ว ยืดถือนโยบายจีนเดียว แต่ยังคงป้อนอาวุธให้แก่เกาะแห่งนี้ และประสานความร่วมมือทางทหารกับรัฐบาลในไทเป . จีน ประณามซ้ำๆต่อกรณีสหรัฐฯขายอาวุธให้ไต้หวัน ว่าบั่นทอนเสถียรภาพและยั่วยุ และทำการซ้อมรบทางทะเลและทางอากาศถี่ๆรอบๆเกาะ เป็นการตอบโต้ . ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นเดือน จีนกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทกลาโหม 7 แห่งของสหรัฐฯ และสั่งแบนส่งออกสินค้าที่สามารถใช้ในทั้งทางพาณิยช์และด้านการทหาร ไปยังบรรดาบริษัทอเมริกา ในนั้นรวมถึงโบอิ้ง, เจเนรัล ไดนามิกส์, ล็อคฮีด มาร์ติน และ เรย์เธียน ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจาก โจ ไบเดน ประธานาธิบดีที่กำลังพ้นจากตำแหน่ง อนุมัติจัดหาอาวุธและยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมแก่ไต้หวัน อีก 571 ล้านดอลลาร์ ในเดือนธันวาคม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004692 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 983 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะผู้แทนเจรจา บรรลุข้อตกลงแบบเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับหยุดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ และกาตาร์ หลังฉนวนแห่งนี้ต้องเผชิญกับการนองเลือดที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปหลายหมื่นคนและโหมกระพือไฟในตะวันออกกลาง
    .
    ข้อตกลงนี้วางกรอบสำหรับการหยุดยิงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปในเบื้องต้น 6 สัปดาห์ และในนั้นยังรวมถึงการที่กองกำลังอิสราเอลค่อยๆ ถอยทหารออกจากฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวโดยฮามาส แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล
    .
    ระหว่างแถลงข่าวในกรุงโดฮา นายกรัฐมนตรี เชคโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) และเวลานี้คณะผู้แทนเจรจากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลและฮามาส สำหรับก้าวย่างต่างๆ ในการนำข้อตกลงไปปฏิบัติ
    .
    "ข้อตกลงนี้จะหยุดการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นป้อนสู่พลเมืองชาวปาเลสไตน์ และนำพาตัวประกันกลับสู่ครอบครัว หลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน
    .
    ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาฉลองบนท้องถนนในกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง ขาดแคลนอาหาร น้ำและเชื้อเพลิงอย่างหนัก
    .
    ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจานานหลายเดือน ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค วกไปวนมา ชักเข้าชักออก ที่ดำเนินการโดยคนกลางอย่างอียิปต์และกาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และมันมีขึ้นไม่นาน ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม
    .
    อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน
    .
    ถ้ามันประสบความสำเร็จ แผนข้อตกลงหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะหยุดการสู้รบที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเหลือแต่ซากปรักหักพัง และประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน ในฉนวนเล็กๆ แห่งนี้ต้องไร้ถิ่นฐาน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดในแต่ละวัน
    .
    ขั้นหนึ่งของข้อตกลงคือการนำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน ประกอบด้วยผู้หญิงทั้งหมด เด็กๆ และชายที่มีอายุเกิน 50 ปี
    .
    ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของพวกเขาได้อนุมัติผ่านคนกลาง สำหรับข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน
    .
    ในอิสราเอล ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า ฮามาส ถอนข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้าย แต่ยังมีข้อแม้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่คลี่คลายในข้อตกลงดังกล่าว "เราหวังว่าจะสามารถปิดรายละเอียดกันได้ในคืนนี้" ถ้อยแถลงระบุ
    .
    กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่กลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมข้ามชายแดน เล่นงานชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารทหารและพลเมืองไป 1,200 ราย และจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอล ไปเป็นตัวประกัน 250 คน
    .
    นับตั้งแต่นั้น สงครามทางอากาศและทางภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้ปลิดชีพผู้คนไปกว่า 46,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเวลานี้กำลังดิ้นรนฟันผ่าอากาศหนาวเหน็บตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004672
    ..............
    Sondhi X
    คณะผู้แทนเจรจา บรรลุข้อตกลงแบบเป็นขั้นเป็นตอน สำหรับหยุดสงครามระหว่างอิสราเอลกับฮามาสในกาซา จากการเปิดเผยของสหรัฐฯ และกาตาร์ หลังฉนวนแห่งนี้ต้องเผชิญกับการนองเลือดที่ลากยาวมานานกว่า 15 เดือน เข่นฆ่าชีวิตชาวปาเลสไตน์ไปหลายหมื่นคนและโหมกระพือไฟในตะวันออกกลาง . ข้อตกลงนี้วางกรอบสำหรับการหยุดยิงอย่างเป็นขั้นเป็นตอนไปในเบื้องต้น 6 สัปดาห์ และในนั้นยังรวมถึงการที่กองกำลังอิสราเอลค่อยๆ ถอยทหารออกจากฉนวนกาซา และปล่อยตัวประกันที่ถูกควบคุมตัวโดยฮามาส แลกกับนักโทษปาเลสไตน์ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล . ระหว่างแถลงข่าวในกรุงโดฮา นายกรัฐมนตรี เชคโมฮัมเหม็ด บิน อับดุลราห์มาน บิน จัสซิม อัล ธานี ของกาตาร์ กล่าวว่า ข้อตลงหยุดยิงจะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (19 ม.ค.) และเวลานี้คณะผู้แทนเจรจากำลังทำงานร่วมกับอิสราเอลและฮามาส สำหรับก้าวย่างต่างๆ ในการนำข้อตกลงไปปฏิบัติ . "ข้อตกลงนี้จะหยุดการสู้รบในกาซา เพิ่มความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมที่จำเป็นป้อนสู่พลเมืองชาวปาเลสไตน์ และนำพาตัวประกันกลับสู่ครอบครัว หลังถูกคุมขังนานกว่า 15 เดือน" ประธานาธิบดีโจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ กล่าวในวอชิงตัน . ชาวปาเลสไตน์พากันออกมาฉลองบนท้องถนนในกาซา ดินแดนที่พวกเขาต้องเผชิญกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมร้ายแรง ขาดแคลนอาหาร น้ำและเชื้อเพลิงอย่างหนัก . ข้อตกลงนี้มีขึ้นตามหลังการเจรจานานหลายเดือน ที่เต็มไปด้วยอุปสรรค วกไปวนมา ชักเข้าชักออก ที่ดำเนินการโดยคนกลางอย่างอียิปต์และกาตาร์ ภายใต้การสนับสนุนของสหรัฐฯ และมันมีขึ้นไม่นาน ก่อนที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีอเมริกา ในวันที่ 20 มกราคม . อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี ประธานาธิบดีอียิปต์ โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ แสดงความยินดีกับข้อตกลงดังกล่าวเช่นกัน . ถ้ามันประสบความสำเร็จ แผนข้อตกลงหยุดยิงอย่างค่อยเป็นค่อยไปนี้ จะหยุดการสู้รบที่ทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของกาซาเหลือแต่ซากปรักหักพัง และประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 2.3 ล้านคน ในฉนวนเล็กๆ แห่งนี้ต้องไร้ถิ่นฐาน ในขณะที่ตัวเลขผู้เสียชีวิตยังคงเพิ่มขึ้นไม่หยุดในแต่ละวัน . ขั้นหนึ่งของข้อตกลงคือการนำมาซึ่งการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คน ประกอบด้วยผู้หญิงทั้งหมด เด็กๆ และชายที่มีอายุเกิน 50 ปี . ซามี อาบู ซูห์รี เจ้าหน้าที่ฮามาส เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า คณะผู้แทนของพวกเขาได้อนุมัติผ่านคนกลาง สำหรับข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกัน . ในอิสราเอล ทำเนียบนายกรัฐมนตรีของเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุว่า ฮามาส ถอนข้อเรียกร้องในนาทีสุดท้าย แต่ยังมีข้อแม้จำนวนหนึ่งที่ยังไม่คลี่คลายในข้อตกลงดังกล่าว "เราหวังว่าจะสามารถปิดรายละเอียดกันได้ในคืนนี้" ถ้อยแถลงระบุ . กองทัพอิสราเอลบุกเข้าไปยังฉนวนกาซา แก้แค้นกรณีที่กลุ่มมือปืนที่นำโดยฮามาส บุกจู่โจมข้ามชายแดน เล่นงานชุมชนต่างๆ ตามแนวชายแดนของอิสราเอล ในวันที่ 7 ตุลาคม 2023 สังหารทหารและพลเมืองไป 1,200 ราย และจับชาวต่างชาติและชาวอิสราเอล ไปเป็นตัวประกัน 250 คน . นับตั้งแต่นั้น สงครามทางอากาศและทางภาคพื้นของอิสราเอลในฉนวนกาซา ได้ปลิดชีพผู้คนไปกว่า 46,000 ราย ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน และอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย ซึ่งเวลานี้กำลังดิ้นรนฟันผ่าอากาศหนาวเหน็บตามเต็นท์และที่พักพิงชั่วคราว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000004672 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1007 มุมมอง 0 รีวิว
  • รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?!

    วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘

    ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ

    นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !!

    ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!!

    ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น

    ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก

    รสนา โตสิตระกูล
    15 มกราคม 2568
    รสนาเป็นพลทหารของประชาชนไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองพรรคใด ตามที่สื่อเต้าข่าว !?! วันนี้มีเพื่อนส่งคลิปนักข่าว3คนเครือเนชั่น ออกมาวิเคราะห์เรื่องนโยบายพลังงานของนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.กระทรวงพลังงาน มีการเอาภาพใครต่อใครมาแปะข้างกายนายพีระพันธุ์ และพาดหัวใต้ภาพว่า ‘ขุนพลข้างกาย“พีระพันธุ์” พานโยบายย้อนยุค ?‘ ในภาพดังกล่าว มีรูปดิฉันอยู่ด้วย และมีการพูดชื่อดิฉันชัดเจนในรายการ ทุนสื่อเนชั่นแกล้งเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า!? สิ่งที่นักข่าวทั้ง3คนพูด ไม่มีเนื้อหาสาระอะไรในเชิงวิเคราะห์ข่าวที่เต้าขึ้นมาแม้แต่น้อย แต่กล่าวหาดื้อๆว่าดิฉันเป็นขุนพล รมว.พีระพันธ์ุ นักข่าว นักสื่อมวลชนจะสื่อสารอะไรกับสังคมและประชาชนที่เวลานี้มีช่องทางอิสระในการหาความจริงได้มากกว่าทุนสื่อบางกลุ่มที่ทั้งตกยุค ตกเทรนด์พลังงานโลกยุคใหม่เสียอีก สื่อจึงควรมีเนื้อหาสาระ มีข้อมูลที่เป็นความจริงน่าเชื่อถือ มิเช่นนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นทุนสื่อของค่ายธุรกิจการเมืองบางกลุ่มที่หวาดกลัวการเปลี่ยนแปลงของเทรนด์พลังงานโลกจนต้องเต้าข่าว ปั่นข่าวโคมลอย เพื่อดิสเครดิตใครก็ตามที่มุ่งสู่การปลดแอกทุนพลังงานจากบ่าประชาชน สื่อเต้าข่าวจำพวกนี้ ควรระวังที่จะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อถือในอนาคตอันใกล้ !! ดิฉันก็จบคณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชนจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ สิ่งที่เราได้รับการอบรมสั่งสอนคือสื่อต้องมีจริยธรรม ในการนำเสนอความจริงต่อสังคม การเต้าข่าวเลื่อนลอยถือว่าเป็นอนันตริยกรรมในวิชาชีพสื่อ ใช่หรือไม่??!! ดิฉันไม่มีวันเป็นขุนพลข้างกายนักการเมืองของพรรคใดๆ ถ้าจะเป็น ก็จะเป็นเพียงพลทหารของประชาชน ที่จะต่อสู้เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดฤทธิ์เท่านั้น ดิฉันทำงานต่อสู้เรื่องพลังงานมานานมากก่อนที่นักการเมืองคนใดจะสนใจประเด็นนี้เสียอีก รสนา โตสิตระกูล 15 มกราคม 2568
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งกบดานใหม่ ของจีนเทา อยู่แค่ปลายจมูก
    กรณีนักแสดงซิงซิงถูกสแกมเมอร์ล่อลวงไปจังหวัดเมียวดีประเทศเมียนมา
    หากใครสงสัยทําไมซิงซิงต้องไปเมียวดีมีอะไรดีที่เมียวดี คําตอบก็คือ เวลานี้เมียวดีกําลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชํานาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติพอพอกับเชี่ยวชาญในการค้ามนุษย์คือหลอกคนให้มาทํางานเยี่ยงทาสอยู่ในเมียวดี
    ที่น่าตื่นตะลึงก็คือความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดีมาจากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดีซึ่งไม่ยักใช่รัฐบาลเมียนมา หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง
    ภาพลักษณ์ของ กะเหรี่ยง ตามที่คนไทยรับรู้มาตลอดใช้ไม่ได้กับกะเหรี่ยงในเมียวดีซึ่งจับมือทํามาหากินร่วมกับจีนเทา ในการหลอกลวงต้มตุ๋นจนกลายเป็นกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและมั่นคงด้วยกองกําลังติดอาวุธ
    เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้เจ้าพ่อตัวจริงของเมียวดี ณ เวลานี้คือพันเอกซอชิตตู่ ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง เขาจับมือกับแก๊งจีนเทาสร้างเมืองสแกมเมอร์ขึ้นมาหลายแห่ง อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ชเวโกโกและ เคเคพาร์ค โดยมีกองกําลังทหารป้องกันดินแดนนับหมื่นนาย
    โดยในการสร้างเมืองสแกมเมอร์ใหม่ก็มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากรแก๊งสแกมเมอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉานและสีหนุวิลล์ประเทศกัมพูชา
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อตัวการก่อความเดือดร้อนให้คนไทยปีละมหาศาลไปไปมามากลายเป็นแก๊งกะเหรี่ยงเทาพวกนี้ที่ร่วมมือกับจีนเทาการกระทําล่อลวงซิงซิง
    แม้จะคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วแต่ผลกระทบของมันกลับตกมาที่ประเทศไทยนักท่องเที่ยวพากันผวาเมืองไทยมองว่าเป็นประเทศไม่ปลอดภัย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    แหล่งกบดานใหม่ ของจีนเทา อยู่แค่ปลายจมูก กรณีนักแสดงซิงซิงถูกสแกมเมอร์ล่อลวงไปจังหวัดเมียวดีประเทศเมียนมา หากใครสงสัยทําไมซิงซิงต้องไปเมียวดีมีอะไรดีที่เมียวดี คําตอบก็คือ เวลานี้เมียวดีกําลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชํานาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติพอพอกับเชี่ยวชาญในการค้ามนุษย์คือหลอกคนให้มาทํางานเยี่ยงทาสอยู่ในเมียวดี ที่น่าตื่นตะลึงก็คือความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดีมาจากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดีซึ่งไม่ยักใช่รัฐบาลเมียนมา หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง ภาพลักษณ์ของ กะเหรี่ยง ตามที่คนไทยรับรู้มาตลอดใช้ไม่ได้กับกะเหรี่ยงในเมียวดีซึ่งจับมือทํามาหากินร่วมกับจีนเทา ในการหลอกลวงต้มตุ๋นจนกลายเป็นกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและมั่นคงด้วยกองกําลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้เจ้าพ่อตัวจริงของเมียวดี ณ เวลานี้คือพันเอกซอชิตตู่ ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง เขาจับมือกับแก๊งจีนเทาสร้างเมืองสแกมเมอร์ขึ้นมาหลายแห่ง อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ชเวโกโกและ เคเคพาร์ค โดยมีกองกําลังทหารป้องกันดินแดนนับหมื่นนาย โดยในการสร้างเมืองสแกมเมอร์ใหม่ก็มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากรแก๊งสแกมเมอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉานและสีหนุวิลล์ประเทศกัมพูชา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อตัวการก่อความเดือดร้อนให้คนไทยปีละมหาศาลไปไปมามากลายเป็นแก๊งกะเหรี่ยงเทาพวกนี้ที่ร่วมมือกับจีนเทาการกระทําล่อลวงซิงซิง แม้จะคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วแต่ผลกระทบของมันกลับตกมาที่ประเทศไทยนักท่องเที่ยวพากันผวาเมืองไทยมองว่าเป็นประเทศไม่ปลอดภัย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts