• รองนายกฯ "สุชาติ" มอบ "อธิบดีอรรถพล" เข้าเยี่ยม "เวอร์นอน" นักสำรวจถ้ำฮีโร่ถ้ำหลวง หลังเข้ารับการรักษาอาการปอดอักเสบ
    https://www.thai-tai.tv/news/21817/
    .
    #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #ถ้ำหลวง #เวอร์นอนอันสเวิร์ธ #คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ #กรมอุทยาน #กู้ภัยถ้ำหลวง
    รองนายกฯ "สุชาติ" มอบ "อธิบดีอรรถพล" เข้าเยี่ยม "เวอร์นอน" นักสำรวจถ้ำฮีโร่ถ้ำหลวง หลังเข้ารับการรักษาอาการปอดอักเสบ https://www.thai-tai.tv/news/21817/ . #ไทยไท #สุชาติชมกลิ่น #ถ้ำหลวง #เวอร์นอนอันสเวิร์ธ #คนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์ #กรมอุทยาน #กู้ภัยถ้ำหลวง
    0 Comments 0 Shares 81 Views 0 Reviews
  • อิตาลี สเปน และตุรกี ถอนการคุ้มครองขบวนเรือ "Global Sumud Flotilla" ก่อนที่จะเข้าสู่น่านน้ำของกาซา โดยอ้างเหตุผลไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหาร และไม่ต้องการเผชิญหน้ากับกองกำลังอิสราเอล!

    ทั้งอิตาลี สเปน และตุรกี ประกาศยุติบทบาทการคุ้มกัน ขบวนเรือ "Global Sumud Flotilla" ก่อนที่ขบวนเรือทั้งหมดจะถูกกองกำลังอิสราเอลเข้าสกัดกั้น

    อิตาลี ได้แจ้งอย่างชัดเจนว่าเรือฟริเกตที่ส่งมาจะยุติการคุ้มครองขบวนเรือเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่งกาซาในระยะ 150 ไมล์ทะเล (ประมาณ 278 กม.) เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางการทูตกับอิสราเอล

    สเปน ระบุว่าเรือรบที่ส่งมามีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือและกู้ภัยกองเรือ "Global Sumud Flotilla" กรณีเหตุจำเป็นเท่านั้น และจะไม่เข้าไปในทะเลที่อิสราเอลกำหนดไว้

    ตุรกี แม้ว่าจะไม่ได้ส่งเรือรบไปคุ้มกันในภารกิจนี้เหมือนอิตาลีและสเปน แต่บทบาทของตุรกีคือการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนการเฝ้าระวัง ซึ่งได้ถอนตัวออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน

    นอกจากนี้ ประเทศทั้งสามยังเรียกร้องให้นักเคลื่อนไหวของขบวนเรือ "Global Sumud Flotilla" หันหลังกลับเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอิสราเอลอีกด้วย
    อิตาลี สเปน และตุรกี ถอนการคุ้มครองขบวนเรือ "Global Sumud Flotilla" ก่อนที่จะเข้าสู่น่านน้ำของกาซา โดยอ้างเหตุผลไม่ได้มีเจตนาที่จะเข้าร่วมปฏิบัติการทางทหาร และไม่ต้องการเผชิญหน้ากับกองกำลังอิสราเอล! ทั้งอิตาลี สเปน และตุรกี ประกาศยุติบทบาทการคุ้มกัน ขบวนเรือ "Global Sumud Flotilla" ก่อนที่ขบวนเรือทั้งหมดจะถูกกองกำลังอิสราเอลเข้าสกัดกั้น 👉อิตาลี ได้แจ้งอย่างชัดเจนว่าเรือฟริเกตที่ส่งมาจะยุติการคุ้มครองขบวนเรือเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่งกาซาในระยะ 150 ไมล์ทะเล (ประมาณ 278 กม.) เพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าทางการทูตกับอิสราเอล 👉สเปน ระบุว่าเรือรบที่ส่งมามีวัตถุประสงค์หลักเพื่อช่วยเหลือและกู้ภัยกองเรือ "Global Sumud Flotilla" กรณีเหตุจำเป็นเท่านั้น และจะไม่เข้าไปในทะเลที่อิสราเอลกำหนดไว้ 👉ตุรกี แม้ว่าจะไม่ได้ส่งเรือรบไปคุ้มกันในภารกิจนี้เหมือนอิตาลีและสเปน แต่บทบาทของตุรกีคือการให้ความช่วยเหลือและการสนับสนุนการเฝ้าระวัง ซึ่งได้ถอนตัวออกไปในช่วงเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ ประเทศทั้งสามยังเรียกร้องให้นักเคลื่อนไหวของขบวนเรือ "Global Sumud Flotilla" หันหลังกลับเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับอิสราเอลอีกด้วย
    0 Comments 0 Shares 331 Views 0 Reviews
  • เร่งแก้ถนนสามเสนทรุด! กทม.ฉีดคอนกรีตกว่าพัน ลบ.ม. ป้องกันดินสไลด์ เตรียมถมทรายเสริมฐานอาคาร สน.สามเสน
    https://www.thai-tai.tv/news/21652/
    .
    #ไทยไท #ถนนสามเสนทรุด #ชัชชาติ #รฟม #กทม #กู้ภัย #สามเสน #จราจร #วชิรพยาบาล

    เร่งแก้ถนนสามเสนทรุด! กทม.ฉีดคอนกรีตกว่าพัน ลบ.ม. ป้องกันดินสไลด์ เตรียมถมทรายเสริมฐานอาคาร สน.สามเสน https://www.thai-tai.tv/news/21652/ . #ไทยไท #ถนนสามเสนทรุด #ชัชชาติ #รฟม #กทม #กู้ภัย #สามเสน #จราจร #วชิรพยาบาล
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • “Snapdragon X2 Elite mini PC: เล็กเท่าจานรองแก้ว แต่แรงระดับเวิร์กสเตชัน — เย็นด้วย AirJet ไร้พัดลม”

    ในงาน Snapdragon Summit 2025 ที่ Maui, Qualcomm ได้เปิดตัวชิป Snapdragon X2 Elite และ Elite Extreme สำหรับพีซี Windows โดยมีการโชว์ reference design ที่น่าทึ่งที่สุดคือ mini PC ขนาดเล็กบางเฉียบ รูปทรงกลมคล้ายจานรองแก้ว และอีกแบบที่เป็นสี่เหลี่ยมบางเท่าพอร์ต USB-C ซึ่งสามารถเสียบเข้าฐานจอภาพแบบ all-in-one ได้โดยตรง

    สิ่งที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามคือ “เครื่องบางขนาดนี้จะระบายความร้อนยังไง?” คำตอบคือ Frore AirJet — เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ solid-state ที่ใช้คลื่นอัลตราโซนิกแทนพัดลมในการผลักอากาศผ่านฮีตซิงก์ ทำให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้โดยไม่มีชิ้นส่วนหมุน ลดเสียงรบกวนและความเสี่ยงจากการสึกหรอ

    Snapdragon X2 Elite Extreme ที่ใช้ใน reference design นี้มีถึง 18 คอร์ และสามารถ boost ได้ถึง 5 GHz พร้อมรองรับแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 228 GB/s ซึ่งถือว่าแรงกว่ารุ่น X2 Elite ปกติ และสามารถรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การประมวลผล AI, และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่

    ตัวเครื่องถูกออกแบบด้วยวัสดุอะลูมิเนียมสีแดง Snapdragon มีพอร์ต USB-C สองช่อง, ช่องเสียบหูฟัง และพอร์ตพลังงานแบบ barrel jack โดยไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว

    แม้จะยังไม่มีการประกาศว่าจะผลิตเพื่อจำหน่ายจริงหรือไม่ แต่ Qualcomm ยืนยันว่ากำลังร่วมมือกับ OEM จากไต้หวันอย่างน้อย 3 ราย เพื่อพัฒนาแนวคิดนี้ต่อไป

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X2 Elite และ Elite Extreme สำหรับพีซี Windows
    Reference design mini PC มีสองรูปแบบ: ทรงกลมบางเฉียบ และแบบสี่เหลี่ยมเสียบฐานจอ
    ใช้เทคโนโลยี Frore AirJet ในการระบายความร้อนแบบไร้พัดลม
    AirJet ใช้คลื่นอัลตราโซนิกในการผลักอากาศผ่านฮีตซิงก์
    Snapdragon X2 Elite Extreme มี 18 คอร์ และ boost ได้ถึง 5 GHz
    รองรับแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 228 GB/s
    ตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C, ช่องหูฟัง และ barrel jack สำหรับพลังงาน
    ดีไซน์บางเฉียบและเงียบ เหมาะสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ
    Qualcomm ร่วมมือกับ OEM จากไต้หวันเพื่อพัฒนาแนวคิดนี้

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    AirJet เคยถูกใช้ใน Wi-Fi hotspot สำหรับหน่วยกู้ภัยของ AT&T
    Snapdragon X2 Elite Extreme มี NPU 80 TOPS ซึ่งเป็น NPU ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อป
    ชิปนี้ใช้ CPU Qualcomm Oryon รุ่นที่ 3 ที่เร็วกว่า CPU คู่แข่งถึง 75% ที่พลังงานเท่ากัน
    GPU Adreno ใหม่มีประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงขึ้นถึง 2.3 เท่า
    ดีไซน์แบบ modular all-in-one ช่วยให้สามารถอัปเกรดเฉพาะส่วนประมวลผลได้ในอนาคต

    https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/qualcomms-snapdragon-x2-elite-reference-mini-pc-looks-like-a-coaster-some-designs-are-cooled-by-frore-airjets
    🖥️ “Snapdragon X2 Elite mini PC: เล็กเท่าจานรองแก้ว แต่แรงระดับเวิร์กสเตชัน — เย็นด้วย AirJet ไร้พัดลม” ในงาน Snapdragon Summit 2025 ที่ Maui, Qualcomm ได้เปิดตัวชิป Snapdragon X2 Elite และ Elite Extreme สำหรับพีซี Windows โดยมีการโชว์ reference design ที่น่าทึ่งที่สุดคือ mini PC ขนาดเล็กบางเฉียบ รูปทรงกลมคล้ายจานรองแก้ว และอีกแบบที่เป็นสี่เหลี่ยมบางเท่าพอร์ต USB-C ซึ่งสามารถเสียบเข้าฐานจอภาพแบบ all-in-one ได้โดยตรง สิ่งที่ทำให้หลายคนตั้งคำถามคือ “เครื่องบางขนาดนี้จะระบายความร้อนยังไง?” คำตอบคือ Frore AirJet — เทคโนโลยีระบายความร้อนแบบ solid-state ที่ใช้คลื่นอัลตราโซนิกแทนพัดลมในการผลักอากาศผ่านฮีตซิงก์ ทำให้เครื่องสามารถระบายความร้อนได้โดยไม่มีชิ้นส่วนหมุน ลดเสียงรบกวนและความเสี่ยงจากการสึกหรอ Snapdragon X2 Elite Extreme ที่ใช้ใน reference design นี้มีถึง 18 คอร์ และสามารถ boost ได้ถึง 5 GHz พร้อมรองรับแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 228 GB/s ซึ่งถือว่าแรงกว่ารุ่น X2 Elite ปกติ และสามารถรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การประมวลผล AI, และการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ตัวเครื่องถูกออกแบบด้วยวัสดุอะลูมิเนียมสีแดง Snapdragon มีพอร์ต USB-C สองช่อง, ช่องเสียบหูฟัง และพอร์ตพลังงานแบบ barrel jack โดยไม่มีพัดลมเลยแม้แต่ตัวเดียว แม้จะยังไม่มีการประกาศว่าจะผลิตเพื่อจำหน่ายจริงหรือไม่ แต่ Qualcomm ยืนยันว่ากำลังร่วมมือกับ OEM จากไต้หวันอย่างน้อย 3 ราย เพื่อพัฒนาแนวคิดนี้ต่อไป ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Qualcomm เปิดตัว Snapdragon X2 Elite และ Elite Extreme สำหรับพีซี Windows ➡️ Reference design mini PC มีสองรูปแบบ: ทรงกลมบางเฉียบ และแบบสี่เหลี่ยมเสียบฐานจอ ➡️ ใช้เทคโนโลยี Frore AirJet ในการระบายความร้อนแบบไร้พัดลม ➡️ AirJet ใช้คลื่นอัลตราโซนิกในการผลักอากาศผ่านฮีตซิงก์ ➡️ Snapdragon X2 Elite Extreme มี 18 คอร์ และ boost ได้ถึง 5 GHz ➡️ รองรับแบนด์วิดท์หน่วยความจำสูงถึง 228 GB/s ➡️ ตัวเครื่องมีพอร์ต USB-C, ช่องหูฟัง และ barrel jack สำหรับพลังงาน ➡️ ดีไซน์บางเฉียบและเงียบ เหมาะสำหรับการใช้งานระดับมืออาชีพ ➡️ Qualcomm ร่วมมือกับ OEM จากไต้หวันเพื่อพัฒนาแนวคิดนี้ ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ AirJet เคยถูกใช้ใน Wi-Fi hotspot สำหรับหน่วยกู้ภัยของ AT&T ➡️ Snapdragon X2 Elite Extreme มี NPU 80 TOPS ซึ่งเป็น NPU ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับแล็ปท็อป ➡️ ชิปนี้ใช้ CPU Qualcomm Oryon รุ่นที่ 3 ที่เร็วกว่า CPU คู่แข่งถึง 75% ที่พลังงานเท่ากัน ➡️ GPU Adreno ใหม่มีประสิทธิภาพต่อวัตต์สูงขึ้นถึง 2.3 เท่า ➡️ ดีไซน์แบบ modular all-in-one ช่วยให้สามารถอัปเกรดเฉพาะส่วนประมวลผลได้ในอนาคต https://www.tomshardware.com/desktops/mini-pcs/qualcomms-snapdragon-x2-elite-reference-mini-pc-looks-like-a-coaster-some-designs-are-cooled-by-frore-airjets
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • กทม.เปิดภาพสแกน 3 มิติ ใต้อาคาร "สน.สามเสน" หลังใหม่ พบยังมีความเสี่ยงสูง แนะหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่
    .
    หลังเกิดเหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน ซึ่งต่อมาได้เกิดดินสไลด์จากผิวจราจรลงอีกประมาณ 2 เมตร บริเวณด้านหน้า สน.สามเสน ล่าสุดเมื่อเวลา 05.58 น. วันนี้ (25 ก.ย.68) เพจเฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์คลิปภาพสแกน 3 มิติ บริเวณพื้นใต้อาคาร สน.สามเสน (หลังใหม่)
    .
    โดยเจ้าหน้าที่บริษัท ช.การช่าง เพื่อประเมินความเสี่ยงของอาคารดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า อาคาร สน.สามเสน หลังใหม่นี้ ยังมีความเสี่ยงสูง จึงได้กำชับให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด
    .
    นอกจากนี้ เมื่อเวลา 02.47 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 ยังได้โพสต์คลิปขณะที่ดินสไลด์ บริเวณเสาธงหน้าด้านหน้า สน.สามเสน และพื้นคอนกรีตโดยรอบเกิดการทรุดตัวอีกด้วย
    .
    ขอบคุณคลิป : จักรพงศ์ ฟักเย็น ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ สปภ.กทม. , เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
    กทม.เปิดภาพสแกน 3 มิติ ใต้อาคาร "สน.สามเสน" หลังใหม่ พบยังมีความเสี่ยงสูง แนะหลีกเลี่ยงเข้าพื้นที่ . หลังเกิดเหตุถนนทรุดตัวบริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล ถนนสามเสน ซึ่งต่อมาได้เกิดดินสไลด์จากผิวจราจรลงอีกประมาณ 2 เมตร บริเวณด้านหน้า สน.สามเสน ล่าสุดเมื่อเวลา 05.58 น. วันนี้ (25 ก.ย.68) เพจเฟซบุ๊กกรุงเทพมหานคร ได้โพสต์คลิปภาพสแกน 3 มิติ บริเวณพื้นใต้อาคาร สน.สามเสน (หลังใหม่) . โดยเจ้าหน้าที่บริษัท ช.การช่าง เพื่อประเมินความเสี่ยงของอาคารดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า อาคาร สน.สามเสน หลังใหม่นี้ ยังมีความเสี่ยงสูง จึงได้กำชับให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องหลีกเลี่ยงการเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด . นอกจากนี้ เมื่อเวลา 02.47 น. ศูนย์วิทยุพระราม 199 ยังได้โพสต์คลิปขณะที่ดินสไลด์ บริเวณเสาธงหน้าด้านหน้า สน.สามเสน และพื้นคอนกรีตโดยรอบเกิดการทรุดตัวอีกด้วย . ขอบคุณคลิป : จักรพงศ์ ฟักเย็น ฝ่ายปฏิบัติการพิเศษและกู้ภัยทางน้ำ สปภ.กทม. , เพจเฟซบุ๊ก กรุงเทพมหานคร
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 0 Reviews
  • นาทีชีวิตกู้ภัย ยกเลิกภารกิจ เสี้ยววินาที (24/9/68)

    #ThaiTimes
    #News1
    #News1short
    #TruthFromThailand
    #shorts
    #กู้ภัย
    #นาทีชีวิต
    #อุบัติเหตุ
    นาทีชีวิตกู้ภัย ยกเลิกภารกิจ เสี้ยววินาที (24/9/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #กู้ภัย #นาทีชีวิต #อุบัติเหตุ
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 0 Reviews
  • “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!”

    ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ

    Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS

    ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0

    หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย

    สเปกหลักของ Getac F120
    ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS)
    RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe
    รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0

    หน้าจอและความทนทาน
    หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits
    รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ
    ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66
    ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C

    การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม
    รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2
    มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6
    ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง

    การใช้งานในอุตสาหกรรม
    เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ
    รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์
    ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric
    Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม
    รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป

    https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    🛡️ “Getac F120: แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งที่รัน AI ได้แรงกว่าละครหลังข่าว พร้อมลุยทุกสนามรบและงานภาคสนาม!” ลองนึกภาพว่าคุณต้องทำงานในพื้นที่กลางแจ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่น น้ำ หรืออุณหภูมิสุดขั้ว แล้วต้องใช้แท็บเล็ตในการวิเคราะห์ข้อมูลภาพจากโดรน หรือรันโมเดล AI เพื่อวินิจฉัยอุปกรณ์ — Getac F120 คือแท็บเล็ตที่ออกแบบมาเพื่อสถานการณ์แบบนั้นโดยเฉพาะ Getac เปิดตัว F120 ซึ่งเป็นแท็บเล็ตรุ่นแรกของโลกที่ผ่านมาตรฐาน Copilot+ PC แบบเต็มตัวในรูปแบบ rugged tablet — หมายความว่ามันไม่ใช่แค่ทนทาน แต่ยังมีสมองที่ฉลาดระดับ AI ด้วย NPU ที่แรงถึง 48 TOPS (Trillion Operations Per Second) มากกว่าขั้นต่ำที่ Microsoft กำหนดไว้ที่ 40 TOPS ภายในใช้ชิป Intel Core Ultra 200V Series พร้อม RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD PCIe NVMe สูงสุด 2TB — เรียกได้ว่าแรงกว่าคอมพิวเตอร์สำนักงานทั่วไปหลายรุ่น แถมยังมี Windows Hello สำหรับสแกนใบหน้า และระบบรักษาความปลอดภัยระดับ TPM 2.0 หน้าจอขนาด 12.2 นิ้วแบบ LumiBond ให้ความสว่างสูงถึง 1,200 nits อ่านกลางแดดได้สบาย พร้อม Smart Touch ที่ใช้งานได้แม้ใส่ถุงมือ ตัวเครื่องผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ทนต่อการตกจากที่สูง 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C สำหรับการเชื่อมต่อก็จัดเต็ม ทั้ง Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 สองช่อง และรองรับ 5G Sub-6 แบบออปชัน พร้อมแบตเตอรี่แบบ hot-swappable ที่เปลี่ยนได้โดยไม่ต้องปิดเครื่อง — เหมาะกับงานภาคสนามที่ต้องทำงานต่อเนื่องโดยไม่มีเวลาเสีย ✅ สเปกหลักของ Getac F120 ➡️ ใช้ Intel Core Ultra 200V Series + Intel AI Boost NPU (สูงสุด 48 TOPS) ➡️ RAM สูงสุด 32GB LPDDR5X และ SSD สูงสุด 2TB PCIe NVMe ➡️ รองรับ Windows Hello facial recognition และ TPM 2.0 ✅ หน้าจอและความทนทาน ➡️ หน้าจอ LumiBond ขนาด 12.2 นิ้ว ความสว่าง 1,200 nits ➡️ รองรับ Smart Touch แม้ใส่ถุงมือ ➡️ ผ่านมาตรฐาน MIL-STD-810H และ IP66 ➡️ ทนต่อการตกจาก 6 ฟุต และใช้งานได้ในอุณหภูมิ -29°C ถึง 63°C ✅ การเชื่อมต่อและการใช้งานภาคสนาม ➡️ รองรับ Wi-Fi 7, Bluetooth 5.4, Thunderbolt 4 x2 ➡️ มีออปชันสำหรับ 5G Sub-6 ➡️ ใช้แบตเตอรี่แบบ hot-swappable เพื่อการทำงานต่อเนื่อง ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม ➡️ เหมาะกับงานด้านสาธารณูปโภค, ยานยนต์, ความปลอดภัยสาธารณะ ➡️ รองรับการประมวลผลภาพ, การวินิจฉัย, และการวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ➡️ ออกแบบมาเพื่องานที่ “ล้มไม่ได้” เช่น ภารกิจภาคสนามหรือการกู้ภัย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Copilot+ PC ต้องมี NPU 40+ TOPS, RAM 16GB+, SSD 256GB+, และระบบ biometric ➡️ Getac เป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านอุปกรณ์ rugged สำหรับภาคอุตสาหกรรม ➡️ รุ่น F120 เริ่มต้นที่ราคา $3,079 — เน้นกลุ่มมืออาชีพมากกว่าผู้ใช้ทั่วไป https://www.techradar.com/pro/the-worlds-fastest-rugged-tablet-just-launched-and-its-perfect-for-those-who-want-to-work-in-challenging-environments-while-compiling-ai-code
    0 Comments 0 Shares 327 Views 0 Reviews
  • อัฟกานิสถานระดมปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 และอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงหลายครั้งที่ทำให้บ้านเรือนมากมายพังถล่ม มีผู้เสียชีวิตกว่า 800 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 2,800 คน โดยเชื่อว่าตัวเลขยังจะไต่สูงกว่านี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยังเข้าไปหลายพื้นที่ประสบภัยรุนแรงไม่ได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083698

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    อัฟกานิสถานระดมปฏิบัติการกู้ภัยครั้งใหญ่ หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 และอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงหลายครั้งที่ทำให้บ้านเรือนมากมายพังถล่ม มีผู้เสียชีวิตกว่า 800 คน และบาดเจ็บอย่างน้อย 2,800 คน โดยเชื่อว่าตัวเลขยังจะไต่สูงกว่านี้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือยังเข้าไปหลายพื้นที่ประสบภัยรุนแรงไม่ได้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000083698 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 525 Views 0 Reviews
  • น่าสงสาร อ.วีระ มาก หลายคนไทยในพื้นที่ต่างรับรู้ดีว่าอ.วีระถูกรังแก และช่วงนั้นอ.วีระไม่ถูกกับฝ่ายพวกนี้ชัดเจนมีข่าวกระทบใส่กันตลอดจนมีใครบางคนหลอกล่ออ.วีระไปติดกับดัก,เพื่อกำจัด อ.วีระ หรือสั่งสอนคงไม่ใช่ด้วยอีก.

    ..บูรพาพยัคฆ์มีปัญหาแล้วจริงๆตลอดทุกๆคนที่เกี่ยวข้องตลอดพรมแดนไทยเขมรที่ภาคตะวันออกทั้งหมดในช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงทุกๆวันนี้ จนเรื่องมาแดงเพราะการปะทะเดือดยึดพื้นที่คืนจากเขมรถีบเขมรออกจากพื้นที่ไทยจริงกว่า11จุดพื้นที่อีสานใต้,หาก ผบ.เหล่าทัพสูงสุดไม่เร่งรีบจัดการทหารเลวเหล่านี้อย่างจริงจังซึ่งโดยศักยภาพสายข่าวการข่าวทางทหารและตำรวจดีๆของคนไทยเรามีข้อมูลลึกจริงชัดเจนมากมายแน่นอน แค่ ผบ.เหล่าทัพสูงสุด และ ผบ.ทบ.,ผบ.ทอ.,ผบ.ทร.,ผบ.ตร.จะดำเนินการตัดเนื้อเน่านี้จริงออกไปจากประเทศไทยหรือไม่,ตังมากมายก็ไม่รู้ว่าไปใช้การใดอีก จะอ้างว่าเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวทหารที่เสียสละเพื่อชาติแต่ทางรัฐกลับทอดทิ้งไม่ดูแลต่อเนื่องจึงต้องหากินเลี้ยงดูกันเอง อย่างนี้ไม่สามารถอ้างได้แน่นอน กองทัพต้องเข่้าไปเคลียร์กับนายกฯสมัยนั้นๆเอง ปลายปืนเคลียร์กันแมนๆก็ได้ ,เพราะภาพในอดีตประชาชนขยะแขยงทหารจริงนะ ดีแต่แม่ทัพภาคที่2กอบกู้หน้าทหารให้มีภาพลักษณ์ดีๆขึ้นมาใหม่นอกจากภาระกิจกู้ภัยช่วยเหลือทางภัยพิบัติธรรมชาติ,คือในสายตาชาวบ้านตลอดเขตชาติแดนเลวชั่วกันเลยล่ะ ส่วนทหารดีๆจริงก็ซวยไปแม้อยู่ในรั้วในฐานหน่วยตนเอง,
    ..ตอนนี้ ผบ.ทบ.สูงสุดต้องจัดการทหารแต่ละภาคตนจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งหมดหรือภาค1ทั้งหมด จะตำรวจตะเวนชายแดนหาข่าวก็ตามจึงปะปนไปกับโจรสายลับ,ทหารพรานก็ตาม ใดๆเจ้าหน้าที่ทหารหรือชื่อใดๆที่ข้องเกี่ยวกับชาติแดนเขมรทั้งหมดต้องเคลียร์คนเลวคนชั่วออกไปจริงอย่างจริงจัง,ย้ายทั้งหมดทั้งชุดทั้งทีมก็ต้องย้าย มันจะขนจะค้าเถื่อนๆกันไม่ได้อีกเลยเพราะคนที่ไปร่วมงานด้วยย้ายไปหมดแล้ว เขมรจะติดต่อทหารพรานติดต่อตำรวจตะเวนชายแดนคนเก่ามาก็ไม่ได้เพราะไม่มีหน้าที่เข้าไปเขตดังกล่าวแล้ว อ้างทำหน้าที่ปฏิบัติที่เพื่อกระทำชั่วเลวค้าขายเถื่อนๆกับเขมรต่อไปไม่ได้อีกแล้วนั้นเอง, ผบ.ทบ.ทหารบก ท่านต้องจัดการลักษณะนี้ก่อน ประชาชนสบายใจแน่นอน ยิ่งออกสื่อว่าเพื่อความสบายใจของประชาชนจึงมีคำสั่งข้าราชการทหารตำรวจชายแดนที่ผบ.ทบ.สั่งการได้มีคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่ตะวันออกทั้งหมดไปก่อนเป็นการชั่วคราว.ย้ายทหารภาค2มาทำการแทนชั่วคราวทั้งหมด,โดยภาคอื่นๆสนับสนุนกำลังพลเสริมภาค2ช่วยอุดช่องว่างของพลกำลังทหาร.






    https://youtube.com/watch?v=tPIMV6NRrDY&si=zVplJbupnwZCDz_y
    น่าสงสาร อ.วีระ มาก หลายคนไทยในพื้นที่ต่างรับรู้ดีว่าอ.วีระถูกรังแก และช่วงนั้นอ.วีระไม่ถูกกับฝ่ายพวกนี้ชัดเจนมีข่าวกระทบใส่กันตลอดจนมีใครบางคนหลอกล่ออ.วีระไปติดกับดัก,เพื่อกำจัด อ.วีระ หรือสั่งสอนคงไม่ใช่ด้วยอีก. ..บูรพาพยัคฆ์มีปัญหาแล้วจริงๆตลอดทุกๆคนที่เกี่ยวข้องตลอดพรมแดนไทยเขมรที่ภาคตะวันออกทั้งหมดในช่วงเวลาที่ผ่านมาถึงทุกๆวันนี้ จนเรื่องมาแดงเพราะการปะทะเดือดยึดพื้นที่คืนจากเขมรถีบเขมรออกจากพื้นที่ไทยจริงกว่า11จุดพื้นที่อีสานใต้,หาก ผบ.เหล่าทัพสูงสุดไม่เร่งรีบจัดการทหารเลวเหล่านี้อย่างจริงจังซึ่งโดยศักยภาพสายข่าวการข่าวทางทหารและตำรวจดีๆของคนไทยเรามีข้อมูลลึกจริงชัดเจนมากมายแน่นอน แค่ ผบ.เหล่าทัพสูงสุด และ ผบ.ทบ.,ผบ.ทอ.,ผบ.ทร.,ผบ.ตร.จะดำเนินการตัดเนื้อเน่านี้จริงออกไปจากประเทศไทยหรือไม่,ตังมากมายก็ไม่รู้ว่าไปใช้การใดอีก จะอ้างว่าเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวทหารที่เสียสละเพื่อชาติแต่ทางรัฐกลับทอดทิ้งไม่ดูแลต่อเนื่องจึงต้องหากินเลี้ยงดูกันเอง อย่างนี้ไม่สามารถอ้างได้แน่นอน กองทัพต้องเข่้าไปเคลียร์กับนายกฯสมัยนั้นๆเอง ปลายปืนเคลียร์กันแมนๆก็ได้ ,เพราะภาพในอดีตประชาชนขยะแขยงทหารจริงนะ ดีแต่แม่ทัพภาคที่2กอบกู้หน้าทหารให้มีภาพลักษณ์ดีๆขึ้นมาใหม่นอกจากภาระกิจกู้ภัยช่วยเหลือทางภัยพิบัติธรรมชาติ,คือในสายตาชาวบ้านตลอดเขตชาติแดนเลวชั่วกันเลยล่ะ ส่วนทหารดีๆจริงก็ซวยไปแม้อยู่ในรั้วในฐานหน่วยตนเอง, ..ตอนนี้ ผบ.ทบ.สูงสุดต้องจัดการทหารแต่ละภาคตนจริงจัง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคตะวันออกทั้งหมดหรือภาค1ทั้งหมด จะตำรวจตะเวนชายแดนหาข่าวก็ตามจึงปะปนไปกับโจรสายลับ,ทหารพรานก็ตาม ใดๆเจ้าหน้าที่ทหารหรือชื่อใดๆที่ข้องเกี่ยวกับชาติแดนเขมรทั้งหมดต้องเคลียร์คนเลวคนชั่วออกไปจริงอย่างจริงจัง,ย้ายทั้งหมดทั้งชุดทั้งทีมก็ต้องย้าย มันจะขนจะค้าเถื่อนๆกันไม่ได้อีกเลยเพราะคนที่ไปร่วมงานด้วยย้ายไปหมดแล้ว เขมรจะติดต่อทหารพรานติดต่อตำรวจตะเวนชายแดนคนเก่ามาก็ไม่ได้เพราะไม่มีหน้าที่เข้าไปเขตดังกล่าวแล้ว อ้างทำหน้าที่ปฏิบัติที่เพื่อกระทำชั่วเลวค้าขายเถื่อนๆกับเขมรต่อไปไม่ได้อีกแล้วนั้นเอง, ผบ.ทบ.ทหารบก ท่านต้องจัดการลักษณะนี้ก่อน ประชาชนสบายใจแน่นอน ยิ่งออกสื่อว่าเพื่อความสบายใจของประชาชนจึงมีคำสั่งข้าราชการทหารตำรวจชายแดนที่ผบ.ทบ.สั่งการได้มีคำสั่งย้ายออกจากพื้นที่ตะวันออกทั้งหมดไปก่อนเป็นการชั่วคราว.ย้ายทหารภาค2มาทำการแทนชั่วคราวทั้งหมด,โดยภาคอื่นๆสนับสนุนกำลังพลเสริมภาค2ช่วยอุดช่องว่างของพลกำลังทหาร. https://youtube.com/watch?v=tPIMV6NRrDY&si=zVplJbupnwZCDz_y
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • เชียงใหม่ – ฝนถล่มหนักทำเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ตำบแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นพบซัดบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง บาดเจ็บ 10 คน และเสียชีวิตแล้ว 2 คน รวมทั้งเด็กหญิงอายุ 12 ปี สูญหายไป 1 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งค้นหาเป็นการด่วน

    วันนี้(27 ส.ค.68) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ฝนที่ตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงวานนี้และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เมื่อเวลาประมาณ 02.05 น.วันนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซัดเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเบื้องต้น 7 หลังคาเรือน ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คน เสียชีวิต 2 คน และสูญหาย 1 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี

    ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาจร และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ศึก ได้ระดมกำลังเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นำตัวส่งโรงพยาบาลเทพรัตน์เวชชานุกูล อำเภอแม่แจ่ม โดยในส่วนของผู้บาดเจ็บมีที่อาการหนักจำนวน 2 คน มีอาการหายใจลำบาก ซึ่งให้การดูแลและนำส่งโรงพยาบาลจอมทองต่อไป ส่วนเด็กหญิงที่สูญหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันเร่งค้นหา ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000081663

    #MGROnline #ฝนถล่มหนัก #น้ำป่าไหลหลาก #ดินโคลนถล่ม #บ้านปางอุ๋ง #แม่แจ่ม #จังหวัดเชียงใหม่ #พายุฝน #ชุมชนปางอุ๋ง
    เชียงใหม่ – ฝนถล่มหนักทำเกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ตำบแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เบื้องต้นพบซัดบ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง บาดเจ็บ 10 คน และเสียชีวิตแล้ว 2 คน รวมทั้งเด็กหญิงอายุ 12 ปี สูญหายไป 1 คน โดยทางเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเร่งค้นหาเป็นการด่วน • วันนี้(27 ส.ค.68) รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ฝนที่ตกหนักลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงวานนี้และตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้เมื่อเวลาประมาณ 02.05 น.วันนี้ เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่มในพื้นที่บ้านปางอุ๋ง ตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซัดเข้าใส่บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายเบื้องต้น 7 หลังคาเรือน ขณะเดียวกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 10 คน เสียชีวิต 2 คน และสูญหาย 1 คน เป็นเด็กหญิงอายุ 12 ปี • ทั้งนี้หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยขององค์การบริหารส่วนตำบลแม่นาจร และองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ศึก ได้ระดมกำลังเข้าให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน นำตัวส่งโรงพยาบาลเทพรัตน์เวชชานุกูล อำเภอแม่แจ่ม โดยในส่วนของผู้บาดเจ็บมีที่อาการหนักจำนวน 2 คน มีอาการหายใจลำบาก ซึ่งให้การดูแลและนำส่งโรงพยาบาลจอมทองต่อไป ส่วนเด็กหญิงที่สูญหายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังกันเร่งค้นหา ซึ่งเบื้องต้นยังไม่พบ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000081663 • #MGROnline #ฝนถล่มหนัก #น้ำป่าไหลหลาก #ดินโคลนถล่ม #บ้านปางอุ๋ง #แม่แจ่ม #จังหวัดเชียงใหม่ #พายุฝน #ชุมชนปางอุ๋ง
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • ชนชาติที่ มันต้องการทำลายกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล หาว่าสอดแนม แต่มันยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ สองชุด ห่างกันไม่กี่นาที นักข่าวเสียชีวิต 4ราย หน่วยกู้ภัยและพลเรือนhttps://www.youtube.com/live/IWTlwjn7h10?si=LgBtSxaQXU0DkLvR
    ชนชาติที่ มันต้องการทำลายกล้องวงจรปิดที่โรงพยาบาล หาว่าสอดแนม แต่มันยิงด้วยกระสุนปืนใหญ่ สองชุด ห่างกันไม่กี่นาที นักข่าวเสียชีวิต 4ราย หน่วยกู้ภัยและพลเรือนhttps://www.youtube.com/live/IWTlwjn7h10?si=LgBtSxaQXU0DkLvR
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 272 Views 0 Reviews
  • ขอร่วมแสดงความเสียใจ สมาชิกลูกเรือ Royal Caribbean เสียชีวิตหลังตกเรือนอกชายฝั่งบาฮามาส

    เหตุการณ์โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นบนเรือ Icon of the Seas ในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
    เมื่อลูกเรือคนหนึ่งตกเรือระหว่างการล่องเรือในทะเลแคริบเบียนตะวันออก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มปฏิบัติการนำเรือกู้ภัยลงน้ำเพื่อทำการช่วยเหลือทันที สามารถค้นหาและกู้ตัวบุคคลได้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที แต่โชคร้ายที่ลูกเรือท่านนี้เสียชีวิตไปแล้ว

    ทางเราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของลูกเรือท่านนี้

    ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/648705

    ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด
    http://cruisedomain.com/
    LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029
    Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121
    Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620
    : 02-1169696

    #เรือRoyalCaribean #RoyalCaribbean #IconoftheSeas #News #ข่าวเรือสำราญ #TravelNews #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ข่าวอัพเดต #เที่ยว
    ขอร่วมแสดงความเสียใจ สมาชิกลูกเรือ Royal Caribbean เสียชีวิตหลังตกเรือนอกชายฝั่งบาฮามาส เหตุการณ์โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นบนเรือ Icon of the Seas ในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดีที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เมื่อลูกเรือคนหนึ่งตกเรือระหว่างการล่องเรือในทะเลแคริบเบียนตะวันออก เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้เริ่มปฏิบัติการนำเรือกู้ภัยลงน้ำเพื่อทำการช่วยเหลือทันที สามารถค้นหาและกู้ตัวบุคคลได้สำเร็จภายในเวลาไม่ถึง 30 นาที แต่โชคร้ายที่ลูกเรือท่านนี้เสียชีวิตไปแล้ว ทางเราขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของลูกเรือท่านนี้ 💙 ดูเรือ Royal Caribean ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/648705 ✅ ดูแพ็คเกจเรือทั้งหมด http://cruisedomain.com/ LINE ID: @CruiseDomain 78s.me/c54029 Facebook: CruiseDomain 78s.me/b8a121 Youtube : CruiseDomain 78s.me/8af620 ☎️: 02-1169696 #เรือRoyalCaribean #RoyalCaribbean #IconoftheSeas #News #ข่าวเรือสำราญ #TravelNews #แพ็คเกจล่องเรือสำราญ #CruiseDomain #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #ข่าวอัพเดต #เที่ยว
    0 Comments 1 Shares 501 Views 0 Reviews
  • หากหุ่นยนต์กำลังหาไขควงที่อยู่ในลิ้นชักรก ๆ หรือของที่ซุกอยู่ในกล่องปิดมิดชิด โดยปกติอาจต้องใช้กล้องหรือจับดูเอง → แต่เทคโนโลยีใหม่นี้จาก MIT ที่ชื่อ mmNorm ช่วยให้หุ่นยนต์ “มองทะลุสิ่งของ” ด้วย คลื่นมิลลิเมตรเวฟ (mmWave) ซึ่งใกล้เคียงกับความถี่ Wi-Fi

    จุดสำคัญคือ มันไม่แค่วัด “ตำแหน่งที่คลื่นสะท้อนกลับมา” → แต่สามารถประเมินได้ว่า พื้นผิวด้านใน “เอียง” หรือ “โค้ง” ยังไง ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า specularity-based surface normal estimation → ทำให้หุ่นยนต์สร้าง “ภาพสามมิติ” ของสิ่งที่ซ่อนอยู่ เช่น แยกได้ระหว่างช้อนกับมีดที่อยู่ในกล่อง

    แม่นขนาดไหน? → ทดสอบกับของ 60 ชิ้น พบว่าแม่นยำ 96% เทียบกับเรดาร์เดิมที่ได้แค่ 78% → ใช้ได้กับไม้, พลาสติก, แก้ว, ยาง — ยกเว้นโลหะหนา ๆ ยังมีปัญหาบ้าง

    นักวิจัยมองว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้ได้ในหลายวงการ เช่น
    - หุ่นยนต์ค้นหาผู้รอดชีวิต (ค้นใต้ซาก)
    - หุ่นยนต์ดูแลบ้านผู้สูงอายุ (หาของหาย)
    - เครื่องสแกนความปลอดภัย (สแกนในกระเป๋าโดยไม่ต้องเปิด)

    MIT พัฒนาเทคนิคชื่อ mmNorm ใช้คลื่น mmWave (ระดับ Wi-Fi) ช่วยให้หุ่นยนต์มองเห็นวัตถุที่ถูกปิดบัง  
    • เช่น เห็นของในกล่อง, ลิ้นชัก, หรือหลังกำแพง  
    • ใช้ได้โดยไม่ต้องสัมผัสวัตถุ

    วิธีใหม่ไม่ใช้ back-projection แบบเก่า → แต่ใช้การคำนวณ surface normal แบบสะท้อนกระจก (specular reflection)  
    • รวมสัญญาณจากหลายเสาอากาศ  
    • เหมือนให้ทุกเสา “โหวต” ว่าพื้นผิวนั้นน่าจะหันไปทางไหน

    ทำความแม่นยำได้ 96% (จากการทดสอบกับของ 60 ชิ้น)  
    • ดีกว่าเทคโนโลยีก่อนหน้า 18%  
    • แยกวัตถุคล้ายกันได้ เช่น แยกช้อน–ส้อม–มีดในกล่องเดียวกัน

    ใช้งานได้กับวัสดุต่าง ๆ เช่น พลาสติก, แก้ว, ยาง, ไม้

    มีศักยภาพใช้ในหุ่นยนต์ AI สาย logistics, กู้ภัย, ผู้ช่วยส่วนตัว, และระบบสแกนความปลอดภัย

    https://www.techradar.com/pro/security/wi-fi-signals-could-be-used-by-ai-driven-robots-to-identify-objects-inside-boxes-or-even-tools-hidden-in-a-drawer
    หากหุ่นยนต์กำลังหาไขควงที่อยู่ในลิ้นชักรก ๆ หรือของที่ซุกอยู่ในกล่องปิดมิดชิด โดยปกติอาจต้องใช้กล้องหรือจับดูเอง → แต่เทคโนโลยีใหม่นี้จาก MIT ที่ชื่อ mmNorm ช่วยให้หุ่นยนต์ “มองทะลุสิ่งของ” ด้วย คลื่นมิลลิเมตรเวฟ (mmWave) ซึ่งใกล้เคียงกับความถี่ Wi-Fi จุดสำคัญคือ มันไม่แค่วัด “ตำแหน่งที่คลื่นสะท้อนกลับมา” → แต่สามารถประเมินได้ว่า พื้นผิวด้านใน “เอียง” หรือ “โค้ง” ยังไง ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า specularity-based surface normal estimation → ทำให้หุ่นยนต์สร้าง “ภาพสามมิติ” ของสิ่งที่ซ่อนอยู่ เช่น แยกได้ระหว่างช้อนกับมีดที่อยู่ในกล่อง แม่นขนาดไหน? → ทดสอบกับของ 60 ชิ้น พบว่าแม่นยำ 96% เทียบกับเรดาร์เดิมที่ได้แค่ 78% → ใช้ได้กับไม้, พลาสติก, แก้ว, ยาง — ยกเว้นโลหะหนา ๆ ยังมีปัญหาบ้าง นักวิจัยมองว่าเทคโนโลยีนี้จะใช้ได้ในหลายวงการ เช่น - หุ่นยนต์ค้นหาผู้รอดชีวิต (ค้นใต้ซาก) - หุ่นยนต์ดูแลบ้านผู้สูงอายุ (หาของหาย) - เครื่องสแกนความปลอดภัย (สแกนในกระเป๋าโดยไม่ต้องเปิด) ✅ MIT พัฒนาเทคนิคชื่อ mmNorm ใช้คลื่น mmWave (ระดับ Wi-Fi) ช่วยให้หุ่นยนต์มองเห็นวัตถุที่ถูกปิดบัง   • เช่น เห็นของในกล่อง, ลิ้นชัก, หรือหลังกำแพง   • ใช้ได้โดยไม่ต้องสัมผัสวัตถุ ✅ วิธีใหม่ไม่ใช้ back-projection แบบเก่า → แต่ใช้การคำนวณ surface normal แบบสะท้อนกระจก (specular reflection)   • รวมสัญญาณจากหลายเสาอากาศ   • เหมือนให้ทุกเสา “โหวต” ว่าพื้นผิวนั้นน่าจะหันไปทางไหน ✅ ทำความแม่นยำได้ 96% (จากการทดสอบกับของ 60 ชิ้น)   • ดีกว่าเทคโนโลยีก่อนหน้า 18%   • แยกวัตถุคล้ายกันได้ เช่น แยกช้อน–ส้อม–มีดในกล่องเดียวกัน ✅ ใช้งานได้กับวัสดุต่าง ๆ เช่น พลาสติก, แก้ว, ยาง, ไม้ ✅ มีศักยภาพใช้ในหุ่นยนต์ AI สาย logistics, กู้ภัย, ผู้ช่วยส่วนตัว, และระบบสแกนความปลอดภัย https://www.techradar.com/pro/security/wi-fi-signals-could-be-used-by-ai-driven-robots-to-identify-objects-inside-boxes-or-even-tools-hidden-in-a-drawer
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ ปภ. จัดอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ พร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับมาตรฐานสากล ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท
    .
    วันนี้ (วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก
    เป็นประธานมอบใบวุฒิบัตรให้แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัย ที่สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue) หรือ “USAR" เป็นโครงการฝึกอบรมที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เพื่อฝึกทักษะ เพิ่มพูนความรู้ความสามารถ และทบทวนการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและกู้ภัยฯ ตามหลักมาตรฐานสากล พร้อมทบทวนข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบโครงสร้างต่างๆ การพิจารณาสาเหตุรอยร้าว การตรวจสอบอาคารวิบัติ การเข้าแก้ไขเบื้องต้น ฯลฯ โดยแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติเรียนรู้วิธีลดการพังทลายของโครงสร้างอาคาร การกำหนดสัญลักษณ์การค้นหา ฯลฯ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับภารกิจของสุนัขกู้ภัย (K9) โดยมี นายเกริกเสกข์สัณห์ วาสะสิริ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญฯ ร่วมเป็นวิทยากรในการฝึกอบรม พร้อมด้วยนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นางสาวณัฐกานต์ ขำคม ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและฝึกอบรม และนางสาวพิมพ์ณภัท สุนทรฐิติวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร ร่วมสังเกตการณ์ ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท
    .
    สำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในระดับมาตรฐานสากล จึงได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ Mou Onpimon ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผนึกกำลังทั้งทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติการ เพื่อการบูรณาการการจัดการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และ/หรืออาสาสมัครมูลนิธิฯ และเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยให้สามารถบริหารจัดการและปฏิบัติตอบโต้เหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดทีมบรรเทาเข้าโครงการอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2566 และได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา
    .
    ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาบุคลากรควบคู่กับพัฒนาโครงการ เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต”
    .
    ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung
    .
    ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
    #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จับมือ ปภ. จัดอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เสริมศักยภาพ เพิ่มขีดความสามารถ พร้อมรับมือภัยพิบัติ เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับมาตรฐานสากล ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท . วันนี้ (วันพุธที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดย นายสุรพงษ์ เตชะหรูวิจิตร กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วย นายสุรพงศ์ เสรฐภักดี กรรมการและรองเหรัญญิก เป็นประธานมอบใบวุฒิบัตรให้แก่ทีมบรรเทาสาธารณภัย ที่สำเร็จการฝึกอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue) หรือ “USAR" เป็นโครงการฝึกอบรมที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมกับ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ซึ่งกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2568 เพื่อฝึกทักษะ เพิ่มพูนความรู้ความสามารถ และทบทวนการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและกู้ภัยฯ ตามหลักมาตรฐานสากล พร้อมทบทวนข้อมูลและเรียนรู้เกี่ยวกับการตรวจสอบโครงสร้างต่างๆ การพิจารณาสาเหตุรอยร้าว การตรวจสอบอาคารวิบัติ การเข้าแก้ไขเบื้องต้น ฯลฯ โดยแบ่งกลุ่มฝึกปฏิบัติเรียนรู้วิธีลดการพังทลายของโครงสร้างอาคาร การกำหนดสัญลักษณ์การค้นหา ฯลฯ รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับภารกิจของสุนัขกู้ภัย (K9) โดยมี นายเกริกเสกข์สัณห์ วาสะสิริ ผู้อำนวยการส่วนปฏิบัติการพิเศษค้นหาและกู้ภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผศ.ดร.ธเนศ วีระศิริ นายกสภาวิศวกร พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญฯ ร่วมเป็นวิทยากรในการฝึกอบรม พร้อมด้วยนายอรัณย์ โตทวด ผู้จัดการใหญ่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นางสาวณัฐกานต์ ขำคม ผู้จัดการฝ่ายบุคคลและฝึกอบรม และนางสาวพิมพ์ณภัท สุนทรฐิติวงษ์ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารองค์กร ร่วมสังเกตการณ์ ณ ศูนย์ฝึกอบรมอาสาสมัครป้องกันฝ่ายพลเรือน จังหวัดชัยนาท . สำหรับการพัฒนาบุคลากรด้านบรรเทาสาธารณภัย มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพในระดับมาตรฐานสากล จึงได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ [MOU] ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผนึกกำลังทั้งทางด้านวิชาการ และการปฏิบัติการ เพื่อการบูรณาการการจัดการเพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ขีดความสามารถของเจ้าหน้าที่และ/หรืออาสาสมัครมูลนิธิฯ และเตรียมความพร้อมรับมือสาธารณภัยให้สามารถบริหารจัดการและปฏิบัติตอบโต้เหตุฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมูลนิธิฯ ได้จัดทีมบรรเทาเข้าโครงการอบรมหลักสูตร "การค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (Urban Search And Rescue)" มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ในรุ่นแรกเมื่อปี พ.ศ. 2566 และได้นำองค์ความรู้ดังกล่าวช่วยเหลือประชาชนได้อย่างมีประสิทธิผล โดยเฉพาะเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่เมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 ที่ผ่านมา . ตลอดระยะเวลากว่า 115 ปี ที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ขยายขอบข่ายโครงการต่าง ๆ ออกไปอย่างกว้างขวาง ไม่เพียงแต่บำบัดทุกข์ บำรุงสุข แก่ผู้ตกทุกข์ได้ยากโดยไม่จำกัดเชื้อชาติ ศาสนา เท่านั้น แต่ยังได้พัฒนาบุคลากรควบคู่กับพัฒนาโครงการ เพื่อเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่ช่วยเหลือประชาชนครบวงจรในทุกๆ ด้าน ต่อไป ดังปณิธาน “มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต” . ติดตามข่าวสาร และกิจกรรมการช่วยเหลือของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้ที่เว็บไซต์ www.pohtecktung.org และ เฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/atpohtecktung . ## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ## #แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418 #ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
    0 Comments 0 Shares 904 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเพิ่งส่งโดรนจากภายในอิหร่าน โจมตีแหล่งก๊าซ South Pars ทางใต้ของอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเตือนอิหร่านว่าทุกที่บนดินแดนอิหร่านอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล!

    สื่อของอิหร่านรายงานว่า อิสราเอลใช้โดรนขนาดเล็ก 2 ลำในการโจมตีโรงแยกก๊าซที่รับก๊าซมาจากแหล่งก๊าซ South Pars ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในโรงกลั่น 2 แห่ง คือโรงกลั่นก๊าซ Fajr Jam ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน และโรงกลั่นขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเฟส 14 ของ South Pars ในจังหวัดบูเชห์รทางตอนใต้ของอิหร่าน

    เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ในโรงแยกก๊าซได้แล้ว ซึ่งได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจ่ายก๊าซ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการส่งก๊าซยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์

    อิสราเอลเพิ่งส่งโดรนจากภายในอิหร่าน โจมตีแหล่งก๊าซ South Pars ทางใต้ของอิหร่าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อเตือนอิหร่านว่าทุกที่บนดินแดนอิหร่านอยู่ภายใต้การควบคุมของอิสราเอล! สื่อของอิหร่านรายงานว่า อิสราเอลใช้โดรนขนาดเล็ก 2 ลำในการโจมตีโรงแยกก๊าซที่รับก๊าซมาจากแหล่งก๊าซ South Pars ทำให้เกิดเพลิงไหม้ในโรงกลั่น 2 แห่ง คือโรงกลั่นก๊าซ Fajr Jam ซึ่งเป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่ใหญ่ที่สุดของอิหร่าน และโรงกลั่นขนาดเล็กแห่งหนึ่งในเฟส 14 ของ South Pars ในจังหวัดบูเชห์รทางตอนใต้ของอิหร่าน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถควบคุมสถานการณ์เพลิงไหม้ในโรงแยกก๊าซได้แล้ว ซึ่งได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อย และไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการจ่ายก๊าซ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการส่งก๊าซยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 150 Views 0 Reviews
  • เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง

    ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร

    เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268

    #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    เจเรมี เรนเนอร์ เปิดใจถึงความรู้สึก ‘โล่งใจอย่างยิ่ง’ ที่เขาสัมผัสได้ขณะ ‘ตาย’ ระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะสุดสยอง • ดาราดังจากจักรวาล Marvel ได้เผยในบันทึกความทรงจำของเขาชื่อ My Next Breath ว่าเขาเคย ‘ตาย’ ชั่วขณะระหว่างอุบัติเหตุรถกวาดหิมะในวันปีใหม่ ปี 2023 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เขากระดูกหักกว่า 30 จุด และแพทย์ยังบอกว่าเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิด เพราะกระดูกหักห่างจากอวัยวะสำคัญหรือเส้นประสาทหลักเพียงไม่กี่มิลลิเมตร • เรนเนอร์ วัย 54 ปี ถูกล้อรถกวาดหิมะหนักกว่า 14,000 ปอนด์ทับร่าง ขณะพยายามช่วยหลานชายชื่ออเล็กซ์จากอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเขาเขียนเล่าในบันทึกความทรงจำว่า เขา ‘ตาย’ ไปชั่วครู่ราว 30 นาทีหลังจากนั้น ขณะที่นอนอยู่บนหิมะหน้าบ้าน รอเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาถึงบนภูเขาเซียร์รา เนวาดา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000050268 • #MGROnline #เจเรมีเรนเนอร์
    0 Comments 0 Shares 406 Views 0 Reviews
  • สุดระทึกเสมือนจริงราวกับฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์ เดอะมอลล์โคราชปฏิบัติการแผนฝึกซ้อมหนีไฟ ปลอดภัยได้มาตรฐาน

    หน่วยกู้ชีพ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และผู้ร่วมสังเกตการณ์จากสถานประกอบการต่างๆทั่วโคราช ร่วมฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟประจำปี 2568 ในวันที่ 29 พ.ค.2569 เวลา 08.30 น ที่จุดรวมพลลานมอลล์พาร์ค ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช

    โดยมีจำนวนผู้เข้าฝึกอบรม 1,200 คน รวมทั้งผู้บริหาร พนักงานและผู้แทนขาย

    โครงการฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟ เป็นโครงการที่เดอะมอลล์โคราชได้จัดขึ้นทุกปี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้พนักงานได้ฝึกซ้อมหนีไฟ โดยเตรียมความพร้อมในการป้องกันอัคคีภัย รู้เส้นทางหนีไฟและวิธีการหนีไฟอย่างถูกต้อง พร้อมเรียนรู้วิธีการรับมือระงับเหตุขั้นต้นและขั้นรุนแรงได้ ให้เกิดการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงและอุปกรณ์ผจญเพลิง
    รวมถึงการให้พนักงานฝึกการใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตในการดูแลตนเองและการดูแลลูกค้าให้ปลอดภัยสูงสุดเมื่อเกิดอัคคีภัยขึ้น

    อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้แนวทางการช่วยเหลือพนักงาน และบุคคลอื่นๆ ทรัพย์สินต่างๆให้ปลอดภัยอีกด้วย

    ซึ่งโครงการนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิกู้ภัยในการฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟ โดยสร้างเหตุการณ์อัคคีภัยจำลองเสมือนจริง ณ บริเวณจุดปิดปรับปรุงร้าน Discount Outlet ชั้น 2 อาคารใหม่ และมีการอพยพอย่างมีแบบแผน

    โดยได้รับเกียรติจากนายแพทย์พีระยุทธ สานุกูล ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา พร้อมด้วย ร.ต.อ.อานนท์ ผ่านกระโทก รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา, นายวิเศษ ทองใบ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จ.นม.,และนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมและสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด

    เพื่อให้ทุกท่านได้อุ่นใจทุกครั้งที่มาใช้บริการที่เดอะมอลล์โคราช เราจึงใส่ใจทุกความปลอดภัยให้เป็นมากกว่ามาตรฐาน
    📣สุดระทึกเสมือนจริงราวกับฉากแอ็คชั่นในภาพยนตร์ 🎬 เดอะมอลล์โคราชปฏิบัติการแผนฝึกซ้อมหนีไฟ ปลอดภัยได้มาตรฐาน🔥 📍หน่วยกู้ชีพ รพ.มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และผู้ร่วมสังเกตการณ์จากสถานประกอบการต่างๆทั่วโคราช ร่วมฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟประจำปี 2568 ในวันที่ 29 พ.ค.2569 เวลา 08.30 น ที่จุดรวมพลลานมอลล์พาร์ค ชั้น 1 เดอะมอลล์โคราช โดยมีจำนวนผู้เข้าฝึกอบรม 1,200 คน รวมทั้งผู้บริหาร พนักงานและผู้แทนขาย โครงการฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟ เป็นโครงการที่เดอะมอลล์โคราชได้จัดขึ้นทุกปี ปีละ 2 ครั้ง เพื่อให้พนักงานได้ฝึกซ้อมหนีไฟ โดยเตรียมความพร้อมในการป้องกันอัคคีภัย รู้เส้นทางหนีไฟและวิธีการหนีไฟอย่างถูกต้อง พร้อมเรียนรู้วิธีการรับมือระงับเหตุขั้นต้นและขั้นรุนแรงได้ ให้เกิดการใช้อุปกรณ์ดับเพลิงและอุปกรณ์ผจญเพลิง รวมถึงการให้พนักงานฝึกการใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตในการดูแลตนเองและการดูแลลูกค้าให้ปลอดภัยสูงสุดเมื่อเกิดอัคคีภัยขึ้น อีกทั้งมีเจ้าหน้าที่ให้แนวทางการช่วยเหลือพนักงาน และบุคคลอื่นๆ ทรัพย์สินต่างๆให้ปลอดภัยอีกด้วย ซึ่งโครงการนี้ได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิกู้ภัยในการฝึกซ้อมแผนอพยพหนีไฟ โดยสร้างเหตุการณ์อัคคีภัยจำลองเสมือนจริง ณ บริเวณจุดปิดปรับปรุงร้าน Discount Outlet ชั้น 2 อาคารใหม่ และมีการอพยพอย่างมีแบบแผน 📍โดยได้รับเกียรติจากนายแพทย์พีระยุทธ สานุกูล ผอ.ศูนย์อนามัยที่ 9 นครราชสีมา พร้อมด้วย ร.ต.อ.อานนท์ ผ่านกระโทก รองสารวัตรปราบปราม สถานีตำรวจภูธรเมืองนครราชสีมา, นายวิเศษ ทองใบ นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน จ.นม.,และนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผจก.ทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ร่วมและสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทุกท่านได้อุ่นใจทุกครั้งที่มาใช้บริการที่เดอะมอลล์โคราช เราจึงใส่ใจทุกความปลอดภัยให้เป็นมากกว่ามาตรฐาน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 404 Views 0 Reviews
  • กาญจนบุรี - ดีเจเตเต้ หายตัวปริศนา 4 วัน ก่อนพบเป็นศพกลางป่าในสภาพสุดสะเทือนใจ ถูกมัดมือไพล่หลัง กระสุนเจาะกระหม่อม 2 นัด ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่บัญชาการเอง พ่อเผย “อย่างน้อยก็ได้เจอลูก” วอนตำรวจจับคนร้ายให้ได้

    วันนี้( 18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอาสากู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ เข้าตรวจสอบจุดพบศพชายเสียชีวิตในป่าลึก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งภายหลังยืนยันแล้วว่าเป็น “ดีเจเตเต้” ผู้สูญหายไปก่อนหน้านี้

    จุดพบศพอยู่ลึกในป่ากว่า 20 นาทีจากถนนใหญ่ ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปและเดินเท้าอีกประมาณ 5 นาที พบศพในสภาพนอนตะแคง มือทั้งสองถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกเปลสีเขียว สภาพศพเริ่มบวมอืด มีหนอนจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่กระหม่อม 2 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน

    ชาวบ้านผู้พบศพคนแรกเล่าว่า เข้าไปหาเห็ดในป่าแล้วหลงทาง เพราะฝนตกและฟ้ามืด ก่อนจะเจอขาศพยื่นออกมาจากพุ่มไม้ ด้วยความตกใจจึงกลับบ้าน แต่ภาพติดตาทำให้ตัดสินใจกลับไปดูอีกครั้ง จึงแน่ใจว่าเป็นดีเจเตเต้ เพราะชุดตรงกับวันที่หายตัวไป จึงรีบแจ้งตำรวจทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000046365

    #MGROnline #ดีเจเตเต้
    กาญจนบุรี - ดีเจเตเต้ หายตัวปริศนา 4 วัน ก่อนพบเป็นศพกลางป่าในสภาพสุดสะเทือนใจ ถูกมัดมือไพล่หลัง กระสุนเจาะกระหม่อม 2 นัด ผบช.ภาค 7 ลงพื้นที่บัญชาการเอง พ่อเผย “อย่างน้อยก็ได้เจอลูก” วอนตำรวจจับคนร้ายให้ได้ • วันนี้( 18 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พลตำรวจโทนัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมด้วยชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี และตำรวจ สภ.ลาดหญ้า ร่วมกับเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและอาสากู้ภัยพิทักษ์กาญจน์ เข้าตรวจสอบจุดพบศพชายเสียชีวิตในป่าลึก ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งภายหลังยืนยันแล้วว่าเป็น “ดีเจเตเต้” ผู้สูญหายไปก่อนหน้านี้ • จุดพบศพอยู่ลึกในป่ากว่า 20 นาทีจากถนนใหญ่ ต้องใช้รถโฟวิลเข้าไปและเดินเท้าอีกประมาณ 5 นาที พบศพในสภาพนอนตะแคง มือทั้งสองถูกมัดไพล่หลังด้วยเชือกเปลสีเขียว สภาพศพเริ่มบวมอืด มีหนอนจำนวนมาก ตรวจสอบเบื้องต้นพบร่องรอยกระสุนปืนยิงเข้าที่กระหม่อม 2 นัด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 วัน • ชาวบ้านผู้พบศพคนแรกเล่าว่า เข้าไปหาเห็ดในป่าแล้วหลงทาง เพราะฝนตกและฟ้ามืด ก่อนจะเจอขาศพยื่นออกมาจากพุ่มไม้ ด้วยความตกใจจึงกลับบ้าน แต่ภาพติดตาทำให้ตัดสินใจกลับไปดูอีกครั้ง จึงแน่ใจว่าเป็นดีเจเตเต้ เพราะชุดตรงกับวันที่หายตัวไป จึงรีบแจ้งตำรวจทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000046365 • #MGROnline #ดีเจเตเต้
    0 Comments 0 Shares 477 Views 0 Reviews
  • ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพนาที “อิสราเอล” โจมตีทางอากาศใส่โรงพยาบาลในกาซายูโรเปียน (Gaza European hospital) ในเมืองข่านยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา

    ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล 28 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงผู้อพยพ ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉิน ที่มีทั้งเด็กและผู้หญิง!

    ตั้งแต่รัฐบาลทรัมป์เริ่มเว้นระยะห่างจากเนทันยาฮู อิสราเอลก็กลับมาโจมตีพลเรือนอีกครั้ง
    ภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพนาที “อิสราเอล” โจมตีทางอากาศใส่โรงพยาบาลในกาซายูโรเปียน (Gaza European hospital) ในเมืองข่านยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีของอิสราเอล 28 ราย ในจำนวนนี้รวมถึงผู้อพยพ ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่พยาบาลฉุกเฉิน ที่มีทั้งเด็กและผู้หญิง! ตั้งแต่รัฐบาลทรัมป์เริ่มเว้นระยะห่างจากเนทันยาฮู อิสราเอลก็กลับมาโจมตีพลเรือนอีกครั้ง
    0 Comments 0 Shares 310 Views 0 Reviews
  • ค้นหาจนวินาทีสุดท้าย จบภารกิจกู้ภัยตึก สตง. : [NEWS UPDATE]

    น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าการกู้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ได้ยุติการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งในวันที่ 13 พ.ค. นี้ สุนัข K9 จะสำรวจกองเศษวัสดุทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีชิ้นส่วนผู้สูญหายหลงเหลืออยู่ เพื่อถอนกำลังออกจากพื้นที่ ทั้งเครื่องจักร ตู้คอนเทนเนอร์ และส่งมอบพื้นที่คืนให้ผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ จากยอดผู้ประสบเหตุ 109 ราย รอดชีวิต 9 ราย มีผู้ไม่ได้มาทำงานในวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว 4 ราย นิติเวชระบุร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 89 ราย ซึ่งหลังยุติการค้นหาจะเป็นกระบวนของนิติเวชในการระบุตัวตนของชิ้นส่วนที่เหลือ 296 ชิ้น และตำรวจจะดำเนินการเกี่ยวกับคดี เตรียม ปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และศูนย์พักคอยสำหรับญาติผู้สูญหาย แต่สำนักงานเขตจตุจักรยังจัดศูนย์พักพิงหากมีญาติประสงค์จะพักคอยอยู่

    -ประณามข่มขู่ทนายความ

    -ทดสอบเตือนภัย 5 จังหวัด

    -ท้องถิ่นสนใจตัวบุคคล

    -พายุเศรษฐกิจมาแน่
    ค้นหาจนวินาทีสุดท้าย จบภารกิจกู้ภัยตึก สตง. : [NEWS UPDATE] น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เผยความคืบหน้าการกู้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม ได้ยุติการค้นหาผู้สูญหาย ซึ่งในวันที่ 13 พ.ค. นี้ สุนัข K9 จะสำรวจกองเศษวัสดุทั้งหมดเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีชิ้นส่วนผู้สูญหายหลงเหลืออยู่ เพื่อถอนกำลังออกจากพื้นที่ ทั้งเครื่องจักร ตู้คอนเทนเนอร์ และส่งมอบพื้นที่คืนให้ผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ จากยอดผู้ประสบเหตุ 109 ราย รอดชีวิต 9 ราย มีผู้ไม่ได้มาทำงานในวันเกิดเหตุแผ่นดินไหว 4 ราย นิติเวชระบุร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 89 ราย ซึ่งหลังยุติการค้นหาจะเป็นกระบวนของนิติเวชในการระบุตัวตนของชิ้นส่วนที่เหลือ 296 ชิ้น และตำรวจจะดำเนินการเกี่ยวกับคดี เตรียม ปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์และศูนย์พักคอยสำหรับญาติผู้สูญหาย แต่สำนักงานเขตจตุจักรยังจัดศูนย์พักพิงหากมีญาติประสงค์จะพักคอยอยู่ -ประณามข่มขู่ทนายความ -ทดสอบเตือนภัย 5 จังหวัด -ท้องถิ่นสนใจตัวบุคคล -พายุเศรษฐกิจมาแน่
    Like
    Love
    2
    0 Comments 0 Shares 882 Views 26 0 Reviews
  • กรณีมายาเกวซ (Mayaguez incident) เป็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่รวดเร็ว เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12-15 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) ในเกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองพระสีหนุ/กำปงโสม (ក្រុងព្រះសីហនុ,កំពង់សោម;Sihanoukville) จังหวัดพระสีหนุ (ព្រះសីហនុ) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา

    เวลาประมาณ 15.20 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) เรือบรรทุกสินค้าซึ่งใช้บรรทุกเวชภัณฑ์และเสบียงสัญชาติอเมริกาชื่อ เอสเอส มายาเกวซ (SS Mayaguez) ซึ่งแล่นระหว่างฮ่องกงกับประเทศไทย ขณะที่แล่นอยู่ห่างจากชายฝั่งของประเทศกัมพูชา 60 ไมล์ ซึ่งถือเป็นเขตน่านน้ำสากล ได้ถูกเรือปืนจำนวนหลายลำของเขมรแดง (ខ្មែរក្រហម,Khmer Rouge) เข้าล้อมและบุกยึด จับตัวประกันซึ่งเป็นกัปตันและลูกเรือไว้ได้ทั้งหมด 39 คน จากนั้นได้ลากไปจอดลอยลำทิ้งสมอไว้ที่เกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองกำปงโสม (เมืองพระสีหนุในปัจจุบัน)

    รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำโดยน.ท.เจอรัลด์ ฟอร์ด (Gerald Rudolph Ford Jr.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 38 (9 สิงหาคม พ.ศ.2517-20 มกราคม พ.ศ.2520) ได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหารซึ่งส่วนมากเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ ประมาณ 1,000 นาย (ประกอบด้วยกองพันที่ 1,กรมนาวิกโยธินที่ 4,กองพันที่ 2,กรมนาวิกโยธินที่ 9,กองบินปฏิบัติการพิเศษที่ 21,ฝูงบินกู้ภัยและฟื้นฟูการบินและอากาศที่ 40,ฝูงบินสนับสนุนทางอากาศทางยุทธวิธีที่ 23,กองบินรบทางยุทธวิธีที่ 3,เรือยูเอสเอส เฮนรี่ บี. วิลสัน,เรือยูเอสเอส แฮโรลด์ อี. โฮลต์,เรือยูเอสเอส คอรัลซี ฝูงบินบรรทุกเรือเครื่องบินที่ 15) จากเกาะโอกินาว่าและอ่าวซูบิก เข้าประจำการที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (U-Tapao Rayong-Pattaya International Airport) ในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นในเช้ามืดของวันที่ 14 พฤษภาคม โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพสหรัฐฯที่จังหวัดอุดรธานีและนครราชสีมา (โคราช) ออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้

    ทว่าปฏิบัติการดังกล่าว ทางการสหรัฐใช้ฐานบินอู่ตะเภาทั้งที่รัฐบาลไทยขณะนั้นไม่อนุญาตอย่างชัดแจ้ง ในวันที่ 17 พฤษภาคม ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชน 30,000 คน นำโดยธีรยุทธ บุญมี ประท้วงที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย (Embassy of the United States, Bangkok) ฝ่ายรัฐบาลไทยเรียกว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และให้สหรัฐถอนทหารออกจากอู่ตะเภาในทันที

    ในที่สุดเหตุการณ์จบลงในวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากการชุมนุมยืดเยื้อนานถึง 3 วัน เมื่ออุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว สุดท้ายสหรัฐฯถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยหมดสิ้นในปี 2519 (1976)
    กรณีมายาเกวซ (Mayaguez incident) เป็นปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ ที่รวดเร็ว เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 12-15 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) ในเกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองพระสีหนุ/กำปงโสม (ក្រុងព្រះសីហនុ,កំពង់សោម;Sihanoukville) จังหวัดพระสีหนุ (ព្រះសីហនុ) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศกัมพูชา เวลาประมาณ 15.20 น. ของวันที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2518 (ค.ศ.1975) เรือบรรทุกสินค้าซึ่งใช้บรรทุกเวชภัณฑ์และเสบียงสัญชาติอเมริกาชื่อ เอสเอส มายาเกวซ (SS Mayaguez) ซึ่งแล่นระหว่างฮ่องกงกับประเทศไทย ขณะที่แล่นอยู่ห่างจากชายฝั่งของประเทศกัมพูชา 60 ไมล์ ซึ่งถือเป็นเขตน่านน้ำสากล ได้ถูกเรือปืนจำนวนหลายลำของเขมรแดง (ខ្មែរក្រហម,Khmer Rouge) เข้าล้อมและบุกยึด จับตัวประกันซึ่งเป็นกัปตันและลูกเรือไว้ได้ทั้งหมด 39 คน จากนั้นได้ลากไปจอดลอยลำทิ้งสมอไว้ที่เกาะตาง (កោះតាង,Koh Tang) ใกล้กับเมืองกำปงโสม (เมืองพระสีหนุในปัจจุบัน) รัฐบาลสหรัฐฯภายใต้การนำโดยน.ท.เจอรัลด์ ฟอร์ด (Gerald Rudolph Ford Jr.) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนที่ 38 (9 สิงหาคม พ.ศ.2517-20 มกราคม พ.ศ.2520) ได้ตัดสินใจอย่างเร่งด่วนส่งกองกำลังทหารซึ่งส่วนมากเป็นนาวิกโยธินสหรัฐฯ ประมาณ 1,000 นาย (ประกอบด้วยกองพันที่ 1,กรมนาวิกโยธินที่ 4,กองพันที่ 2,กรมนาวิกโยธินที่ 9,กองบินปฏิบัติการพิเศษที่ 21,ฝูงบินกู้ภัยและฟื้นฟูการบินและอากาศที่ 40,ฝูงบินสนับสนุนทางอากาศทางยุทธวิธีที่ 23,กองบินรบทางยุทธวิธีที่ 3,เรือยูเอสเอส เฮนรี่ บี. วิลสัน,เรือยูเอสเอส แฮโรลด์ อี. โฮลต์,เรือยูเอสเอส คอรัลซี ฝูงบินบรรทุกเรือเครื่องบินที่ 15) จากเกาะโอกินาว่าและอ่าวซูบิก เข้าประจำการที่สนามบินนานาชาติอู่ตะเภา (U-Tapao Rayong-Pattaya International Airport) ในพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการบุกยึดเรือและตัวประกันคืน ในวันที่ 13 พฤษภาคม โดยปฏิบัติการเริ่มขึ้นในเช้ามืดของวันที่ 14 พฤษภาคม โดยมีเครื่องบินรบจากฐานทัพสหรัฐฯที่จังหวัดอุดรธานีและนครราชสีมา (โคราช) ออกปฏิบัติการร่วมด้วย และประสบความสำเร็จในเวลาประมาณ 11.00 น. โดยสามารถจมเรือปืนของเขมรแดงลงได้ 3 ลำ มีความสูญเสียด้วยกันของทั้งสองฝ่าย แต่สามารถช่วยเหลือตัวประกัน รวมถึงลูกเรือประมงของไทยจำนวน 5 คนออกมาได้ ทว่าปฏิบัติการดังกล่าว ทางการสหรัฐใช้ฐานบินอู่ตะเภาทั้งที่รัฐบาลไทยขณะนั้นไม่อนุญาตอย่างชัดแจ้ง ในวันที่ 17 พฤษภาคม ได้มีกลุ่มนักศึกษาและประชาชน 30,000 คน นำโดยธีรยุทธ บุญมี ประท้วงที่หน้าสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทย (Embassy of the United States, Bangkok) ฝ่ายรัฐบาลไทยเรียกว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของไทย และให้สหรัฐถอนทหารออกจากอู่ตะเภาในทันที ในที่สุดเหตุการณ์จบลงในวันที่ 19 พฤษภาคม หลังจากการชุมนุมยืดเยื้อนานถึง 3 วัน เมื่ออุปทูตสหรัฐฯประจำประเทศไทยได้ส่งสาสน์แสดงความเสียใจต่อการกระทำดังกล่าว สุดท้ายสหรัฐฯถอนกำลังทหารออกจากประเทศไทยหมดสิ้นในปี 2519 (1976)
    0 Comments 0 Shares 886 Views 0 Reviews
  • 5/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    5/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 428 Views 19 0 Reviews
  • 4/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    4/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 426 Views 11 0 Reviews
  • 3/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    3/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 427 Views 10 0 Reviews
  • 2/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    2/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 416 Views 11 0 Reviews
More Results