• BIG Story ตอน "ปริศนาวินาศกรรมกรุงเทพฯ"

    ย้อนรอยเหตุการณ์เมื่อ 28 ปีก่อน กับการพบระเบิดแอนโฟหนักกว่า 1 ตัน ซุกซ่อนในรถบรรทุกหน้า สน.ลุมพินี หากเกิดระเบิดขึ้นจริง จะมีอานุภาพทำลายล้างรัศมีกว่า 2 กิโลเมตร อาคารสูงย่านชิดลมอาจพังราบทั้งแถบ เหตุการณ์ที่อาจกลายเป็นวินาศกรรมครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย

    #BigStory #วินาศกรรมกรุงเทพฯ #ระเบิดแอนโฟ #เหตุการณ์28ปีก่อน #ลุมพินี #ภัยเงียบกลางเมือง #ThaiTimes
    BIG Story ตอน "ปริศนาวินาศกรรมกรุงเทพฯ" ย้อนรอยเหตุการณ์เมื่อ 28 ปีก่อน กับการพบระเบิดแอนโฟหนักกว่า 1 ตัน ซุกซ่อนในรถบรรทุกหน้า สน.ลุมพินี หากเกิดระเบิดขึ้นจริง จะมีอานุภาพทำลายล้างรัศมีกว่า 2 กิโลเมตร อาคารสูงย่านชิดลมอาจพังราบทั้งแถบ เหตุการณ์ที่อาจกลายเป็นวินาศกรรมครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย #BigStory #วินาศกรรมกรุงเทพฯ #ระเบิดแอนโฟ #เหตุการณ์28ปีก่อน #ลุมพินี #ภัยเงียบกลางเมือง #ThaiTimes
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 464 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • อดีต CEO ของ Google Eric Schmidt กำลังผลักดันแนวคิด ศูนย์ข้อมูลในอวกาศ ผ่านบริษัท Relativity Space ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการปล่อยจรวด โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากศูนย์ข้อมูลบนโลก

    Schmidt เตือนว่า การเติบโตของ AI อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากขึ้น โดยอาจเพิ่มจาก 3% เป็น 99% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก ในอนาคต เขาจึงเสนอให้ สร้างศูนย์ข้อมูลในวงโคจรของโลก ซึ่งจะใช้ พลังงานแสงอาทิตย์และระบบระบายความร้อนด้วยสุญญากาศ

    ✅ Eric Schmidt เสนอแนวคิดศูนย์ข้อมูลในอวกาศ
    - ใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ และ ระบบระบายความร้อนด้วยสุญญากาศ
    - ช่วยลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากศูนย์ข้อมูลบนโลก

    ✅ การเติบโตของ AI อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากขึ้น
    - อาจเพิ่มจาก 3% เป็น 99% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก
    - ศูนย์ข้อมูล AI อาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่า 10 เท่าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

    ✅ Relativity Space กำลังพัฒนา Terran R เพื่อปล่อยศูนย์ข้อมูลขึ้นสู่อวกาศ
    - เป็นจรวด รีไซเคิลได้ ที่สามารถบรรทุกน้ำหนัก 30 ตัน
    - แข่งขันกับ SpaceX Falcon 9 และ Blue Origin New Glenn

    ✅ รายงานของ IEA คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูลจะใช้ไฟฟ้าเท่ากับการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศญี่ปุ่น
    - แสดงให้เห็นถึง ความจำเป็นในการหาทางออกด้านพลังงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/could-there-soon-be-data-centres-in-space
    อดีต CEO ของ Google Eric Schmidt กำลังผลักดันแนวคิด ศูนย์ข้อมูลในอวกาศ ผ่านบริษัท Relativity Space ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการปล่อยจรวด โดยมีเป้าหมายเพื่อ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากศูนย์ข้อมูลบนโลก Schmidt เตือนว่า การเติบโตของ AI อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากขึ้น โดยอาจเพิ่มจาก 3% เป็น 99% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก ในอนาคต เขาจึงเสนอให้ สร้างศูนย์ข้อมูลในวงโคจรของโลก ซึ่งจะใช้ พลังงานแสงอาทิตย์และระบบระบายความร้อนด้วยสุญญากาศ ✅ Eric Schmidt เสนอแนวคิดศูนย์ข้อมูลในอวกาศ - ใช้ พลังงานแสงอาทิตย์ และ ระบบระบายความร้อนด้วยสุญญากาศ - ช่วยลด ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากศูนย์ข้อมูลบนโลก ✅ การเติบโตของ AI อาจทำให้ศูนย์ข้อมูลใช้พลังงานมากขึ้น - อาจเพิ่มจาก 3% เป็น 99% ของการใช้ไฟฟ้าทั่วโลก - ศูนย์ข้อมูล AI อาจต้องใช้พลังงานเทียบเท่า 10 เท่าของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ✅ Relativity Space กำลังพัฒนา Terran R เพื่อปล่อยศูนย์ข้อมูลขึ้นสู่อวกาศ - เป็นจรวด รีไซเคิลได้ ที่สามารถบรรทุกน้ำหนัก 30 ตัน - แข่งขันกับ SpaceX Falcon 9 และ Blue Origin New Glenn ✅ รายงานของ IEA คาดการณ์ว่าภายในปี 2030 ศูนย์ข้อมูลจะใช้ไฟฟ้าเท่ากับการใช้ไฟฟ้าทั้งประเทศญี่ปุ่น - แสดงให้เห็นถึง ความจำเป็นในการหาทางออกด้านพลังงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/07/could-there-soon-be-data-centres-in-space
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Could there soon be data centres in space?
    Former Google CEO Eric Schmidt recently took the helm of Relativity Space, a startup specialising in space launchers. His ambition is to one day place data centres directly into orbit, powered by solar energy, with the aim of alleviating their environmental footprint on Earth.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล

    ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น

    แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV

    ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu
    - เปิดตัวในปี 2026
    - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล
    - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม

    ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า
    - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า

    ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV
    - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ
    - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง

    ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า
    - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033

    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    ตลาดรถกระบะไฟฟ้ากำลังกลายเป็น สมรภูมิใหม่ของอุตสาหกรรม EV โดยล่าสุด Isuzu ได้ประกาศเปิดตัว D-Max EV ในปี 2026 ซึ่งจะมีสมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล ก่อนหน้านี้ Slate Auto ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Amazon ก็ได้ประกาศแผนผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า ทำให้การแข่งขันในตลาดนี้เริ่มเข้มข้นขึ้น แม้ว่าผู้ผลิตรายใหญ่อย่าง Ford และ Chevrolet จะมียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า แต่การมาถึงของ D-Max EV และรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดจากจีน อาจทำให้ตลาดนี้กลายเป็น จุดแข่งขันสำคัญของอุตสาหกรรม EV ✅ การเปิดตัว D-Max EV ของ Isuzu - เปิดตัวในปี 2026 - สมรรถนะเทียบเท่ารุ่นดีเซล - รองรับน้ำหนักบรรทุก 1,000 กิโลกรัม และลากจูง 3,500 กิโลกรัม ✅ การแข่งขันในตลาดรถกระบะไฟฟ้า - Slate Auto เตรียมผลิตรถกระบะไฟฟ้าราคาประหยัดในปีหน้า - Ford และ Chevrolet มียอดขายรถกระบะไฟฟ้าที่ค่อนข้างช้า ✅ เทคโนโลยีของ D-Max EV - ใช้แบตเตอรี่ 66.9kWh ติดตั้งใต้พื้นรถ - มีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อถาวร พร้อมมอเตอร์ที่เพลาหน้าและหลัง ✅ แนวโน้มของตลาดรถกระบะไฟฟ้า - คาดว่าตลาดรถบรรทุกไฟฟ้าทั่วโลกจะมีมูลค่า 78 พันล้านดอลลาร์ ภายในปี 2033 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/first-slate-auto-and-now-isuzu-why-electric-pick-up-trucks-could-be-the-next-big-ev-battleground
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา
    - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน
    - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory

    ✅ กำหนดการผลิต
    - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025
    - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี

    ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi
    - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด
    - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo

    ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube
    - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    Tesla กำลังเร่งผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่ล่าช้ามานาน โดยมีแผนจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน ในรัฐเนวาดา เพื่อรองรับการผลิตที่โรงงาน Gigafactory ในเมือง Sparks โดย Tesla ได้ประกาศผ่านวิดีโอบน YouTube ว่าการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่นนี้จะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 และโรงงานจะมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี การผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ถือเป็นก้าวสำคัญของ Tesla ในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด ซึ่งมีการแข่งขันสูงจากผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การจ้างงานเพิ่มในเนวาดา - Tesla จะจ้างพนักงานเพิ่มกว่า 1,000 คน - รองรับการผลิตรถบรรทุกไฟฟ้ารุ่น Semi ที่โรงงาน Gigafactory ✅ กำหนดการผลิต - การผลิตจะเริ่มขึ้นภายในสิ้นปี 2025 - โรงงานมีความสามารถในการผลิตสูงสุดถึง 50,000 คันต่อปี ✅ ความสำคัญของ Tesla Semi - เป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรถบรรทุกพลังงานสะอาด - แข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่น เช่น Nikola และ Volvo ✅ การประกาศผ่านวิดีโอ YouTube - Tesla ใช้ช่องทางออนไลน์เพื่อสื่อสารกับผู้บริโภคและนักลงทุน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/tesla-hiring-over-1000-workers-to-ramp-up-semi-truck-production-business-insider-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla hiring over 1,000 workers to ramp up Semi truck production, Business Insider reports
    (Reuters) -Tesla is hiring more than a thousand new workers in Nevada as the electric vehicle maker looks to ramp up mass production of its much-delayed Semi trucks, Business Insider reported on Tuesday, citing people familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยางคอนติเนนทอล ปิดโรงงานอลอร์สตาร์ มาเลเซีย

    คอนติเนนทอล (Continental) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถยนต์อันดับ 1 จากประเทศเยอรมนี ที่มียอดขายสูงสุด 1 ใน 3 ของโลก กำลังเตรียมปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเบา และจักรยานยนต์สำหรับตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเมืองอลอร์สตาร์ (Aloe Setar) รัฐเคดะห์ (Kedah) ทางภาคเหนือของมาเลเซีย ภายในสิ้นปี 2568 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการคงความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นผลจากการพิจารณาทบทวนธุรกิจเต็มรูปแบบ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ และสถานที่ตั้งโรงงาน

    สำหรับพนักงานทั้งหมด 950 คน ที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานในครั้งนี้ คอนติเนนทอลได้เสนอความช่วยเหลือ เช่น การให้คำปรึกษาด้านอาชีพ และการสำรวจโอกาสในการทำงานทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ การปิดโรงงานดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 46 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2522 บนพื้นที่ 133,000 ตารางเมตร และกลายเป็นบริษัทในเครือคอนติเนนทอลมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2555 อย่างไรก็ตาม ยังเหลือโรงงานในมาเลเซียอีก 1 แห่ง ที่เมืองเปอตาลิง จายา รัฐสลังงอร์ ผลิตยางออฟโรดสำหรับขนย้ายวัสดุและใช้งานทางการเกษตร มีพนักงาน 500 คน

    ยางรถยนต์คอนติเนนทอลก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2414 นำเข้าและจำหน่ายในมาเลเซียช่วงต้นทศวรรษปี 1960-1970 กระทั่งในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 คอนติเนนทอลเริ่มลงทุนโดยตรงมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งมาเลเซีย โดยในปี 2549 เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท ไซม์ ไทร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทในเครือ ไซม์ ดาร์บี้ (Sime Darby) หนึ่งในผู้นำธุรกิจยานยนต์ในมาเลเซีย ทำให้คอนติเนนตัลมีฐานการผลิตและการเข้าถึงตลาดที่สำคัญในมาเลเซียในที่สุด

    แม้ว่าโรงงานที่อลอร์สตาร์จะต้องปิดตัวลง แต่คอนติเนนทอลยืนยันที่จะให้มาเลเซียเป็นตลาดสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เน้นย้ำถึงการมุ่งรักษาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและพันธมิตรในประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคอนติเนนทอลมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ 22 แห่งใน 17 ประเทศทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชีย มีโรงงานทั้งที่มาเลเซีย เหอเฟย์ในจีน ระยองในไทย โมดิปุรัมในอินเดีย และกาลูทาราในศรีลังกา ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2567 คอนติเนนทอล ประกาศว่า กำลังขยายกำลังการผลิตยางรถยนต์ในโรงงานจังหวัดระยอง ประเทศไทย อีก 3 ล้านเส้นต่อปี สร้างงานเพิ่ม 600 อัตรา วางแผนลงทุนมากกว่า 300 ล้านยูโร (13,000 ล้านบาท)

    #Newskit
    ยางคอนติเนนทอล ปิดโรงงานอลอร์สตาร์ มาเลเซีย คอนติเนนทอล (Continental) ผู้ผลิตและจำหน่ายยางรถยนต์อันดับ 1 จากประเทศเยอรมนี ที่มียอดขายสูงสุด 1 ใน 3 ของโลก กำลังเตรียมปิดโรงงานผลิตยางรถยนต์ สำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบรรทุกขนาดเบา และจักรยานยนต์สำหรับตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ในเมืองอลอร์สตาร์ (Aloe Setar) รัฐเคดะห์ (Kedah) ทางภาคเหนือของมาเลเซีย ภายในสิ้นปี 2568 โดยให้เหตุผลว่าเพื่อต้องการคงความสามารถในการแข่งขันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นผลจากการพิจารณาทบทวนธุรกิจเต็มรูปแบบ การตัดสินใจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ปรับปรุงกลุ่มผลิตภัณฑ์ และสถานที่ตั้งโรงงาน สำหรับพนักงานทั้งหมด 950 คน ที่จะได้รับผลกระทบจากการปิดโรงงานในครั้งนี้ คอนติเนนทอลได้เสนอความช่วยเหลือ เช่น การให้คำปรึกษาด้านอาชีพ และการสำรวจโอกาสในการทำงานทั้งภายในและภายนอกบริษัทฯ การปิดโรงงานดังกล่าวนับเป็นการปิดฉากโรงงานผลิตยางรถยนต์ที่ดำเนินกิจการมาเป็นเวลา 46 ปี ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2522 บนพื้นที่ 133,000 ตารางเมตร และกลายเป็นบริษัทในเครือคอนติเนนทอลมาตั้งแต่เดือน พ.ค. 2555 อย่างไรก็ตาม ยังเหลือโรงงานในมาเลเซียอีก 1 แห่ง ที่เมืองเปอตาลิง จายา รัฐสลังงอร์ ผลิตยางออฟโรดสำหรับขนย้ายวัสดุและใช้งานทางการเกษตร มีพนักงาน 500 คน ยางรถยนต์คอนติเนนทอลก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2414 นำเข้าและจำหน่ายในมาเลเซียช่วงต้นทศวรรษปี 1960-1970 กระทั่งในช่วงต้นทศวรรษปี 2000 คอนติเนนทอลเริ่มลงทุนโดยตรงมากขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งมาเลเซีย โดยในปี 2549 เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในบริษัท ไซม์ ไทร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทในเครือ ไซม์ ดาร์บี้ (Sime Darby) หนึ่งในผู้นำธุรกิจยานยนต์ในมาเลเซีย ทำให้คอนติเนนตัลมีฐานการผลิตและการเข้าถึงตลาดที่สำคัญในมาเลเซียในที่สุด แม้ว่าโรงงานที่อลอร์สตาร์จะต้องปิดตัวลง แต่คอนติเนนทอลยืนยันที่จะให้มาเลเซียเป็นตลาดสำคัญเชิงกลยุทธ์สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เน้นย้ำถึงการมุ่งรักษาความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับลูกค้าและพันธมิตรในประเทศอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันคอนติเนนทอลมีโรงงานผลิตยางรถยนต์ 22 แห่งใน 17 ประเทศทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชีย มีโรงงานทั้งที่มาเลเซีย เหอเฟย์ในจีน ระยองในไทย โมดิปุรัมในอินเดีย และกาลูทาราในศรีลังกา ก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ต.ค. 2567 คอนติเนนทอล ประกาศว่า กำลังขยายกำลังการผลิตยางรถยนต์ในโรงงานจังหวัดระยอง ประเทศไทย อีก 3 ล้านเส้นต่อปี สร้างงานเพิ่ม 600 อัตรา วางแผนลงทุนมากกว่า 300 ล้านยูโร (13,000 ล้านบาท) #Newskit
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีเอสไอพบเอกสารสำคัญ โยงแก้แบบตึก สตง.? : [NEWS UPDATE]

    พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยหลังตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์จำนวน 24 ตู้ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวในพื้นที่ก่อสร้างตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อรวบรวมหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง พบเอกสารสำคัญหลายรายการ อาทิ แฟ้มส่งมอบงาน รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างประจำเดือน เอกสารการตั้งเบิก วางบิล ค่างวดงานก่อสร้าง ซื้อคอนกรีต ปูน เหล็ก รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลิฟต์ เอกสารสอบถามชี้แจงแบบก่อสร้าง รายการประกอบแบบ เอกสารขออนุมัติก่อสร้าง รายงานการประชุมของ Project Manager ใบตรวจสอบหน้างานของผู้คุมงาน ที่สำคัญพบรายงาน Shop Drawing ซึ่งเป็นรายละเอียดโครงสร้างที่จะนำไปสู่การตรวจสอบการแก้ไขแบบก่อสร้าง ซึ่งเอกสารมีจำนวนมาก ได้เตรียมลังเอกสารถึง 100 ลัง คาดต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ในการขนย้ายเอกสารทั้งหมดไปดีเอสไอ

    -สภาทนายความช่วยถึงที่

    -รองประธาน สว.ไม่รู้จักเอไอ

    -ส่งออกหนุนเศรษฐกิจไทย

    -ปะการังอ่าวไทยตายเพิ่ม
    ดีเอสไอพบเอกสารสำคัญ โยงแก้แบบตึก สตง.? : [NEWS UPDATE] พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) เผยหลังตรวจสอบตู้คอนเทเนอร์จำนวน 24 ตู้ ซึ่งใช้เป็นสำนักงานชั่วคราวในพื้นที่ก่อสร้างตึก สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) เพื่อรวบรวมหลักฐานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง พบเอกสารสำคัญหลายรายการ อาทิ แฟ้มส่งมอบงาน รายงานความคืบหน้าการก่อสร้างประจำเดือน เอกสารการตั้งเบิก วางบิล ค่างวดงานก่อสร้าง ซื้อคอนกรีต ปูน เหล็ก รวมถึงอุปกรณ์อื่นๆ เช่น ลิฟต์ เอกสารสอบถามชี้แจงแบบก่อสร้าง รายการประกอบแบบ เอกสารขออนุมัติก่อสร้าง รายงานการประชุมของ Project Manager ใบตรวจสอบหน้างานของผู้คุมงาน ที่สำคัญพบรายงาน Shop Drawing ซึ่งเป็นรายละเอียดโครงสร้างที่จะนำไปสู่การตรวจสอบการแก้ไขแบบก่อสร้าง ซึ่งเอกสารมีจำนวนมาก ได้เตรียมลังเอกสารถึง 100 ลัง คาดต้องใช้รถบรรทุก 6 ล้อ ในการขนย้ายเอกสารทั้งหมดไปดีเอสไอ -สภาทนายความช่วยถึงที่ -รองประธาน สว.ไม่รู้จักเอไอ -ส่งออกหนุนเศรษฐกิจไทย -ปะการังอ่าวไทยตายเพิ่ม
    Like
    Love
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 596 มุมมอง 23 0 รีวิว
  • Aurora Innovation บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจาก Pittsburgh ได้เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ระหว่างเมืองดัลลัสและฮูสตันในรัฐเท็กซัส โดยการเปิดตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ Aurora วางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับเพียงคันเดียว และจะขยายการดำเนินงานในอนาคต

    รัฐเท็กซัสได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่กว้างขวาง กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ และสภาพอากาศที่คาดการณ์ได้ง่าย การใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งที่เผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง

    อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุกแบบดั้งเดิมแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไร้คนขับบนทางหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในระดับรัฐบาลกลาง

    ✅ การเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับ
    - Aurora เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ในรัฐเท็กซัส
    - การเปิดตัวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ

    ✅ ความสำคัญของรัฐเท็กซัส
    - รัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม

    ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่ง
    - รถบรรทุกไร้คนขับช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน

    ✅ การสนับสนุนจากบริษัทอื่น
    - Volvo และ Daimler กำลังพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับเช่นกัน โดยมีเป้าหมายการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027

    https://www.techspot.com/news/107687-texas-highways-welcome-first-wave-self-driving-freight.html
    Aurora Innovation บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับจาก Pittsburgh ได้เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ระหว่างเมืองดัลลัสและฮูสตันในรัฐเท็กซัส โดยการเปิดตัวนี้ถือเป็นหนึ่งในครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ Aurora วางแผนที่จะเริ่มต้นด้วยรถบรรทุกไร้คนขับเพียงคันเดียว และจะขยายการดำเนินงานในอนาคต รัฐเท็กซัสได้รับการยอมรับว่าเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งที่กว้างขวาง กฎหมายที่เอื้อต่อธุรกิจ และสภาพอากาศที่คาดการณ์ได้ง่าย การใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับถูกมองว่าเป็นวิธีแก้ปัญหาสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมการขนส่งที่เผชิญกับความท้าทาย เช่น การขาดแคลนแรงงานและต้นทุนการดำเนินงานที่สูง อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ขับขี่รถบรรทุกแบบดั้งเดิมแสดงความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของรถไร้คนขับบนทางหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไม่มีการกำกับดูแลด้านความปลอดภัยในระดับรัฐบาลกลาง ✅ การเปิดตัวรถบรรทุกไร้คนขับ - Aurora เริ่มต้นการใช้งานรถบรรทุกไร้คนขับบนทางหลวง I-45 ในรัฐเท็กซัส - การเปิดตัวนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รถบรรทุกไร้คนขับถูกนำมาใช้งานจริงบนถนนสาธารณะ ✅ ความสำคัญของรัฐเท็กซัส - รัฐเท็กซัสเป็นพื้นที่ทดลองสำหรับเทคโนโลยีนี้ เนื่องจากมีโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสม ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการขนส่ง - รถบรรทุกไร้คนขับช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ✅ การสนับสนุนจากบริษัทอื่น - Volvo และ Daimler กำลังพัฒนารถบรรทุกไร้คนขับเช่นกัน โดยมีเป้าหมายการใช้งานเชิงพาณิชย์ในปี 2027 https://www.techspot.com/news/107687-texas-highways-welcome-first-wave-self-driving-freight.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Texas highways welcome first wave of self-driving freight trucks
    According to Axios, the company plans to start with a single autonomous truck and gradually expand its operations. The rollout marks one of the first real-world deployments...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อเต็น เมืองจีนในแดนลาว

    ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่นำพาตัวเองมายังหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศลาว เฉกเช่นเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ผ่านทางรถไฟกว่า 400 กิโลเมตร ตรงข้ามกับด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เราเดินทางด้วยรถไฟขบวน C82 เวียงจันทน์-บ่อเต็น ออกจากสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ 13.30 น. ตามกำหนดต้องถึงสถานีบ่อเต็น 17.25 น. แต่ถึงจริง 18.26 น. รวมระยะเวลา 5 ชั่วโมง เหตุต้องรอรถหลีกช่วงวังเวียงถึงหลวงพระบาง เมื่อออกจากสถานีจะมีรถรับจ้างหน้าสถานี เสียเงินคนละ 50,000 กีบ คนขับรถจะส่งชาวจีนไปยังด่านบ่อเต็นก่อน แล้วค่อยไปส่งที่โรงแรม

    ตลอดเส้นทางจะพบรถบรรทุกขนส่งสินค้าจำนวนมาก ระหว่างทางจะพบเห็นการตั้งสวนอุตสาหรรม รองรับโรงงานที่จะเข้ามาในอนาคต ถึงที่พักของเราเป็นคอนโดมิเนียม มีชาวจีนเป็นเจ้าของ นำห้องชุดมาทำเป็นโรงแรม ต้องขึ้นไปที่ชั้น 9 เพื่อลงทะเบียนและรับคีย์การ์ด ก่อนลงมาที่ห้องพักชั้น 8 ราคาที่ได้ผ่าน OTA เจ้าดังประมาณ 500 บาทเศษต่อคืน มีบริการรถส่งถึงสถานีรถไฟ ด้านข้างจะเป็นไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ทิ้งร้าง รู้สึกวังเวงไปบ้าง แต่ด้านหลังยังมีคอนโดมิเนียมที่มีผู้อาศัยอยู่

    เมื่อปี 2546 รัฐบาลลาวให้สัมปทานแก่บริษัท ฟุกฮิง ทราเวล จากฮ่องกงเพื่อก่อตั้งเขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนคำ ประกอบด้วยพื้นที่โรงงาน สำนักงาน ร้านค้าปลอดภาษี และอื่นๆ หนึ่งในนั้นมีกาสิโนแต่นักเสี่ยงโชคชาวจีนถูกยิงเสียชีวิต สุดท้ายต้องปิดตัวลง ต่อมาปี 2555 เปลี่ยนผู้ถือสัมปทานเป็นกลุ่มบริษัท ไห่เฉิงยูนนาน และเปลี่ยนชื่อเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม

    ที่นี่ช่วงเย็นถึงกลางคืนจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านนวดที่มีสาวสวยนั่งรอให้บริการ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน บางส่วนมาจากไทย ราคาสินค้าติดป้ายสกุลเงินหยวน แนะนำให้แลกเงินหยวนจะใช้จ่ายง่ายขึ้น แต่เงินกีบก็ใช้ได้ในบางร้าน ส่วนอี-เพย์เมนต์นิยมใช้ WeChat Pay หรือ Weixin Pay โดยมีคิวอาร์โค้ดแสดงอยู่ นอกนั้นจะมีคิวอาร์โค้ดธนาคารลาว อากาศที่นี่เย็นสบาย ยามค่ำคืนอุณหภูมิเหลือ 19 องศาฯ

    สอบถามชาวลาวที่ทำงานในบ่อเต็น ระบุว่า คนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่มาจากมณฑลต่างๆ ส่วนหนึ่งมีธุรกิจอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ ก็มาพักค้างที่บ่อเต็น นอกจากนี้ ยังมีคนที่อยู่เมืองไทยมาทำธุรกิจที่บ่อเต็นก็มาพักค้างที่นี่เช่นกัน สำหรับค่าครองชีพถ้าเป็นอาหารจีนราคาจะสูง แต่อาหารลาวและอาหารพื้นถิ่นจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ราคาถูกกว่า

    #Newskit
    บ่อเต็น เมืองจีนในแดนลาว ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่นำพาตัวเองมายังหมู่บ้านเล็กๆ ทางตอนเหนือของประเทศลาว เฉกเช่นเมืองบ่อเต็น แขวงหลวงน้ำทา ห่างจากนครหลวงเวียงจันทน์ผ่านทางรถไฟกว่า 400 กิโลเมตร ตรงข้ามกับด่านโม่ฮาน มณฑลยูนนาน ประเทศจีน เราเดินทางด้วยรถไฟขบวน C82 เวียงจันทน์-บ่อเต็น ออกจากสถานีนครหลวงเวียงจันทน์ 13.30 น. ตามกำหนดต้องถึงสถานีบ่อเต็น 17.25 น. แต่ถึงจริง 18.26 น. รวมระยะเวลา 5 ชั่วโมง เหตุต้องรอรถหลีกช่วงวังเวียงถึงหลวงพระบาง เมื่อออกจากสถานีจะมีรถรับจ้างหน้าสถานี เสียเงินคนละ 50,000 กีบ คนขับรถจะส่งชาวจีนไปยังด่านบ่อเต็นก่อน แล้วค่อยไปส่งที่โรงแรม ตลอดเส้นทางจะพบรถบรรทุกขนส่งสินค้าจำนวนมาก ระหว่างทางจะพบเห็นการตั้งสวนอุตสาหรรม รองรับโรงงานที่จะเข้ามาในอนาคต ถึงที่พักของเราเป็นคอนโดมิเนียม มีชาวจีนเป็นเจ้าของ นำห้องชุดมาทำเป็นโรงแรม ต้องขึ้นไปที่ชั้น 9 เพื่อลงทะเบียนและรับคีย์การ์ด ก่อนลงมาที่ห้องพักชั้น 8 ราคาที่ได้ผ่าน OTA เจ้าดังประมาณ 500 บาทเศษต่อคืน มีบริการรถส่งถึงสถานีรถไฟ ด้านข้างจะเป็นไซต์งานก่อสร้างคอนโดมิเนียมที่ทิ้งร้าง รู้สึกวังเวงไปบ้าง แต่ด้านหลังยังมีคอนโดมิเนียมที่มีผู้อาศัยอยู่ เมื่อปี 2546 รัฐบาลลาวให้สัมปทานแก่บริษัท ฟุกฮิง ทราเวล จากฮ่องกงเพื่อก่อตั้งเขตเศรษฐกิจเฉพาะบ่อเต็นแดนคำ ประกอบด้วยพื้นที่โรงงาน สำนักงาน ร้านค้าปลอดภาษี และอื่นๆ หนึ่งในนั้นมีกาสิโนแต่นักเสี่ยงโชคชาวจีนถูกยิงเสียชีวิต สุดท้ายต้องปิดตัวลง ต่อมาปี 2555 เปลี่ยนผู้ถือสัมปทานเป็นกลุ่มบริษัท ไห่เฉิงยูนนาน และเปลี่ยนชื่อเป็น เขตเศรษฐกิจพิเศษบ่อเต็นแดนงาม ที่นี่ช่วงเย็นถึงกลางคืนจะเต็มไปด้วยชีวิตชีวา ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านนวดที่มีสาวสวยนั่งรอให้บริการ แต่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูป ร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารจีน ร้านสะดวกซื้อและซูเปอร์มาร์เก็ตส่วนใหญ่เป็นสินค้านำเข้าจากจีน บางส่วนมาจากไทย ราคาสินค้าติดป้ายสกุลเงินหยวน แนะนำให้แลกเงินหยวนจะใช้จ่ายง่ายขึ้น แต่เงินกีบก็ใช้ได้ในบางร้าน ส่วนอี-เพย์เมนต์นิยมใช้ WeChat Pay หรือ Weixin Pay โดยมีคิวอาร์โค้ดแสดงอยู่ นอกนั้นจะมีคิวอาร์โค้ดธนาคารลาว อากาศที่นี่เย็นสบาย ยามค่ำคืนอุณหภูมิเหลือ 19 องศาฯ สอบถามชาวลาวที่ทำงานในบ่อเต็น ระบุว่า คนที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นชาวจีนที่มาจากมณฑลต่างๆ ส่วนหนึ่งมีธุรกิจอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์ ก็มาพักค้างที่บ่อเต็น นอกจากนี้ ยังมีคนที่อยู่เมืองไทยมาทำธุรกิจที่บ่อเต็นก็มาพักค้างที่นี่เช่นกัน สำหรับค่าครองชีพถ้าเป็นอาหารจีนราคาจะสูง แต่อาหารลาวและอาหารพื้นถิ่นจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ราคาถูกกว่า #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 319 มุมมอง 0 รีวิว
  • CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน ได้เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยแบตเตอรี่รุ่นใหม่สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้ถึง 800 กิโลเมตร และชาร์จไฟได้ในเวลาเพียง 5 นาที นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียมไอออนที่มีความปลอดภัยสูงและเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศหนาวเย็น

    ✅ แบตเตอรี่ Shenxing รุ่นใหม่เพิ่มระยะทางการขับขี่และความเร็วในการชาร์จ
    - เพิ่มระยะทางการขับขี่ได้ถึง 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
    - ชาร์จไฟได้ 520 กิโลเมตรในเวลาเพียง 5 นาที

    ✅ การออกแบบแบตเตอรี่เสริมที่ไม่มีกราไฟต์
    - ลดต้นทุนและเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานได้ถึง 60% ต่อพื้นที่
    - ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและรองรับการใช้งานในรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ

    ✅ แบตเตอรี่โซเดียมไอออน Naxtra มีความปลอดภัยสูง
    - ทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส และรักษาประสิทธิภาพการชาร์จได้ถึง 90%
    - เหมาะสำหรับรถบรรทุกในพื้นที่หนาวเย็น เช่น ภาคเหนือของจีน

    ✅ CATL มีแผนการผลิตแบตเตอรี่โซเดียมไอออนในเดือนธันวาคมนี้
    - แบตเตอรี่โซเดียมไอออนอาจเข้ามาแทนที่แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตในตลาดบางส่วน

    https://www.techspot.com/news/107637-catl-unveils-cheaper-lighter-faster-ev-batteries-breakthroughs.html
    CATL บริษัทผู้ผลิตแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีน ได้เปิดตัวเทคโนโลยีแบตเตอรี่ใหม่ที่มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV) โดยแบตเตอรี่รุ่นใหม่สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้ถึง 800 กิโลเมตร และชาร์จไฟได้ในเวลาเพียง 5 นาที นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแบตเตอรี่โซเดียมไอออนที่มีความปลอดภัยสูงและเหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศหนาวเย็น ✅ แบตเตอรี่ Shenxing รุ่นใหม่เพิ่มระยะทางการขับขี่และความเร็วในการชาร์จ - เพิ่มระยะทางการขับขี่ได้ถึง 800 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง - ชาร์จไฟได้ 520 กิโลเมตรในเวลาเพียง 5 นาที ✅ การออกแบบแบตเตอรี่เสริมที่ไม่มีกราไฟต์ - ลดต้นทุนและเพิ่มความหนาแน่นของพลังงานได้ถึง 60% ต่อพื้นที่ - ช่วยเพิ่มพื้นที่สำหรับผู้โดยสารและรองรับการใช้งานในรถยนต์ที่มีระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ✅ แบตเตอรี่โซเดียมไอออน Naxtra มีความปลอดภัยสูง - ทนต่ออุณหภูมิต่ำถึง -40 องศาเซลเซียส และรักษาประสิทธิภาพการชาร์จได้ถึง 90% - เหมาะสำหรับรถบรรทุกในพื้นที่หนาวเย็น เช่น ภาคเหนือของจีน ✅ CATL มีแผนการผลิตแบตเตอรี่โซเดียมไอออนในเดือนธันวาคมนี้ - แบตเตอรี่โซเดียมไอออนอาจเข้ามาแทนที่แบตเตอรี่ลิเธียมฟอสเฟตในตลาดบางส่วน https://www.techspot.com/news/107637-catl-unveils-cheaper-lighter-faster-ev-batteries-breakthroughs.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    CATL's new battery tech promises 800-km range and five-minute charging
    At a press event reminiscent of a high-profile car launch, China's leading battery maker CATL detailed innovations that could bring electric cars closer to price and performance...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไร้คนประณาม!

    หลังจากผ่านไปร่วมหนึ่งเดือน ในที่สุดอิสราเอลเพิ่งออกมายอมรับข้อผิดพลาดเหตุยิงถล่มขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ แต่ยังยืนยันไม่เคยคิดปกปิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น

    อิสราเอล ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 เมษายน ว่า ผลจากการตรวจสอบข้อมูลของกรณีการสังหารเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน 15 คน ในฉนวนกาซ่า เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าเป็นความผิดพลาดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่อิสราเอล โดยมีการละเมิดคำสั่ง

    เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม กลุ่มขบวนรถของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของปาเลสไตน์ ถูกยิงเสียชีวิตรวม 15 คน ใกล้เมืองราฟาห์ ทางใต้ของฉนวนกาซ่า ก่อนจะถูกฝังกลบแบบเร่งรีบหลุมตื้นๆ โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกค้นพบในอีก1สัปดาห์ต่อมา

    👉 ขณะที่ภาพคลิปเหตุการณ์ที่กู้มาจากมือถือของหนึ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทรี่เสียชีวิต เผยให้เห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบทางการแพทย์และมีป้ายบอกชัดเจนติดที่รถพยาบาลและรถบรรทุก พร้อมเปิดไฟหน้ารถชัดเจน ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงจากข้อแก้ตัวของอิสราเอลก่อนหน้าคลิปจะถูกเปิดเผย ที่ระบุว่าขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ วิ่งเข้ามาใกล้อย่างน่าสงสัย "รวมทั้งไม่เปิดไฟหน้ารถ" จึงยิงสกัดออกไปและยังอ้างด้วยว่าในขบวนรถของเจ้าหน้าที่แพทย์ มีสมาชิกกลุ่มฮามาสอยู่ในขบวนรถด้วย
    ไร้คนประณาม! หลังจากผ่านไปร่วมหนึ่งเดือน ในที่สุดอิสราเอลเพิ่งออกมายอมรับข้อผิดพลาดเหตุยิงถล่มขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ แต่ยังยืนยันไม่เคยคิดปกปิดเหตุการณ์ในครั้งนั้น อิสราเอล ออกแถลงการณ์เมื่อวันที่ 20 เมษายน ว่า ผลจากการตรวจสอบข้อมูลของกรณีการสังหารเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน 15 คน ในฉนวนกาซ่า เมื่อเดือนที่แล้ว พบว่าเป็นความผิดพลาดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่อิสราเอล โดยมีการละเมิดคำสั่ง เหตุการณ์เกิดขึ้นคืนเมื่อวันที่ 23 มีนาคม กลุ่มขบวนรถของเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ของปาเลสไตน์ ถูกยิงเสียชีวิตรวม 15 คน ใกล้เมืองราฟาห์ ทางใต้ของฉนวนกาซ่า ก่อนจะถูกฝังกลบแบบเร่งรีบหลุมตื้นๆ โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดถูกค้นพบในอีก1สัปดาห์ต่อมา 👉 ขณะที่ภาพคลิปเหตุการณ์ที่กู้มาจากมือถือของหนึ่งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ด้านการแพทย์ทรี่เสียชีวิต เผยให้เห็นว่าบรรดาเจ้าหน้าที่สวมเครื่องแบบทางการแพทย์และมีป้ายบอกชัดเจนติดที่รถพยาบาลและรถบรรทุก พร้อมเปิดไฟหน้ารถชัดเจน ซึ่งขัดแย้งอย่างสิ้นเชิงจากข้อแก้ตัวของอิสราเอลก่อนหน้าคลิปจะถูกเปิดเผย ที่ระบุว่าขบวนรถหน่วยฉุกเฉินและกาชาดของปาเลสไตน์ วิ่งเข้ามาใกล้อย่างน่าสงสัย "รวมทั้งไม่เปิดไฟหน้ารถ" จึงยิงสกัดออกไปและยังอ้างด้วยว่าในขบวนรถของเจ้าหน้าที่แพทย์ มีสมาชิกกลุ่มฮามาสอยู่ในขบวนรถด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • ภาพเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 14 เมษายน ช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย โจมตีไปที่รถบรรทุกอุปกรณ์ทางทหารของกองทัพออสเตรเลีย ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถในเมืองซูมี ของยูเครน
    ภาพเหตุการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 14 เมษายน ช่วงเวลาที่โดรน Geran-2 ของรัสเซีย โจมตีไปที่รถบรรทุกอุปกรณ์ทางทหารของกองทัพออสเตรเลีย ที่จอดอยู่บริเวณลานจอดรถในเมืองซูมี ของยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 290 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • สหประชาชาติระบุว่าแผ่นดินไหวรุนแรงที่ถล่มพม่าเมื่อเดือนก่อนได้ทำให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังทำให้ประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้งแห่งนี้ต้องกำจัดซากปรักหักพังจำนวนมากอย่างเร่งด่วน

    “มีซากปรักหักพังที่จะต้องถูกกำจัดในพม่าอย่างน้อย 2.5 ล้านตัน หรือประมาณ 125,000 คันรถบรรทุก” โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุในคำแถลง

    ผู้แทน UNDP ประจำพม่ากล่าวว่าการวิเคราะห์ของ UNDP ที่บูรณาการข้อมูลดาวเทียมขั้นสูงร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นภาพที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง

    หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 3,600 คน เมืองมัณฑะเลย์และสะกาย ทางภาคกลางของประเทศยังคงได้รับความเสียหาย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 60,000 คน ต้องแออัดอยู่ในสถานที่อพยพชั่วคราว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035772

    #MGROnline #สหประชาชาติ
    สหประชาชาติระบุว่าแผ่นดินไหวรุนแรงที่ถล่มพม่าเมื่อเดือนก่อนได้ทำให้ผู้คนหลายหมื่นชีวิตต้องไร้ที่อยู่อาศัย และยังทำให้ประเทศที่เผชิญกับความขัดแย้งแห่งนี้ต้องกำจัดซากปรักหักพังจำนวนมากอย่างเร่งด่วน • “มีซากปรักหักพังที่จะต้องถูกกำจัดในพม่าอย่างน้อย 2.5 ล้านตัน หรือประมาณ 125,000 คันรถบรรทุก” โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) ระบุในคำแถลง • ผู้แทน UNDP ประจำพม่ากล่าวว่าการวิเคราะห์ของ UNDP ที่บูรณาการข้อมูลดาวเทียมขั้นสูงร่วมกับข้อมูลอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นภาพที่น่ากังวลเป็นอย่างยิ่ง • หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 แมกนิจูดเมื่อสองสัปดาห์ก่อน ที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วมากกว่า 3,600 คน เมืองมัณฑะเลย์และสะกาย ทางภาคกลางของประเทศยังคงได้รับความเสียหาย ขณะที่ประชาชนมากกว่า 60,000 คน ต้องแออัดอยู่ในสถานที่อพยพชั่วคราว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000035772 • #MGROnline #สหประชาชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 341 มุมมอง 0 รีวิว
  • **นิยายเรื่อง *The Seven Heirs: Bonds of the Compass*

    ### **Prologue: เงามรณะบนพิธีกรรม
    **สถานที่ : วิหารลับใต้ภูเขาหลวงพระบาง, ลาว**
    **เวลา : 1632 ปีก่อน**

    หมอกควันพิษสีม่วงคลุ้งรอบแท่นบูชาหิน บรรพบุรุษแห่ง 7 ตระกูลยืนเป็นวงกลมรอบ **"ดวงแก้วจตุรภุช"** แสงแก้วสะท้อนภาพหญิงสาวในชุดขาวถูกมัดไว้กลางแท่น—เธอคือ **หยวนเยี่ยน** หญิงร่างวิญญาณอมตะ

    **"เลือดบริสุทธิ์ของเธอจะผนึกคำสาปให้เราชั่วนิรันดร์!"** หัวหน้าตระกูลหลงร้องประกาศ แต่แล้วดวงแก้วก็ระเบิดเป็นแสงวาบวับ ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือหยวนเยี่ยนยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ก่อนวิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ...

    ---

    ### **ตอนที่ 1 : เสี้ยวผลึกแก้วแห่งโชคชะตา**
    **สถานที่ : ปักกิ่ง, จีน**
    **เวลา : ปัจจุบัน - 3 วันหลังพิธีล่มสลาย**

    **หลงเหมย** ฝันเห็นแม่ตาบอดส่งเสียงร้องในความมืด เธอตื่นขึ้นมาในห้องแล็บใต้ดินของตระกูลหลง ที่แขนขวาถูกติดตั้งท่อส่งเลือดสีม่วงเชื่อมกับ **หลงเจี้ยน**

    **"เลือดของฉันมีพิษ...พี่จะตายเพราะช่วยฉัน!"** เหมยพยายามดึงสายยางออก
    เจี้ยนจับมือเธอไว้แน่น : **"นี่คือคำขอโทษ...สำหรับเรื่องที่พี่ทำกับหยวนเยี่ยน"**

    บนจอคอมพิวเตอร์ ภาพแผนที่ 7 ทิศเริ่มเชื่อมโยงกัน แสดงตำแหน่ง **"ผอบศิลาทิศเหนือ"** ซ่อนอยู่ใน **ห้องอ่านหนังสือต้องห้าม** ของพระราชวังโบราณ แต่แล้วสัญญาณก็ถูกขัดจังหวะด้วยข้อความจาก **อสรพิษดำ*(blakeMemba)
    *"ม้ามืดคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...และเธอไว้ใจเขา!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 2 : ดาบสลักรักที่เกียวโต**
    **สถานที่ : ปราสาทนินจาลับ, เกียวโต**
    **เวลา : ฤดูร้อนคืนจันทร์เสี้ยว**

    **ทาเคดะ ฮารุโตะ** ฝึกดาบกับเงาสีแดงที่ปรากฏในกระจก ทุกครั้งที่ฟันถูกต้อง เงาจะกลายเป็นภาพ **ซากุระ** น้องสาวตัวเองที่ถูกแทงกลางใจ

    **"หยุดเล่นละครเสียที!"** ซากุระกระโจนเข้ามาหยุดพี่ชาย พร้อมชูสมุดภาพวาดโบราณที่เพิ่งขโมยมาได้ : **"ดูสิ...ราชปุตกับทาเคดะเคยเป็นพันธมิตร!"**

    ภาพในสมุดแสดงพิธี **"สละสายเลือด"** เมื่อ 500 ปีก่อน หญิงชาวอินเดียในชุดกิโมโนกำลังตัดเส้นเลือดบนแขนสองเด็กชาย—ฮารุโตะจำได้ทันทีว่านั้นคือแม่ของเขา!

    ทันใดนั้น กระจกทุกบานในห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ **วีร ราชปุต** ปรากฏตัวพร้อมปืนจ่อมาที่หัวฮารุโตะ :
    *"ยอมแพ้...หรืออยากรู้ความจริงว่าทำไมเลือดเราจึงดึงดูดกัน?"*

    ---

    ### **ตอนที่ 3 : ไฟใต้ธุลีวงเวียน**
    **สถานที่ : ตลาดเครื่องเทศมุมไบ, อินเดีย**
    **เวลา : ตอนเที่ยงวันที่แดดร้อนแรงที่สุด**

    **เดีย วิชายา** ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกเครื่องเทศ ตามหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง **อานยา** น้องสาวกับองค์กรอสรพิษดำ(blakeMemba) เธอใช้กล้องส่องเห็น **อานยา** กำลังเจาะห้องนิรภัยในตึกระฟ้า

    **"นั่นไม่ใช่น้องฉัน..."** เดียกระซิบด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นอานยาฉีดสารสีดำเข้าหลอดเลือดตัวเอง ก่อนที่ร่างเธอจะบิดเบี้ยวเหมือนงูยักษ์

    เดียรีบส่งข้อมูลให้ **อาริ** พี่ชายในบาหลี แต่กลับถูกจับกุมโดย **เหงียนล็อง** สถาปนิกหนุ่มผู้ถือพิมพ์เขียวประหลาด :
    *"คุณคือตัวเชื่อม...แผนที่ทุกอันชี้มาที่คุณ!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 4 : ศึกสายฟ้าในสายฝน**
    **สถานที่ : เกาะภูเขาไฟบาหลี, อินโดนีเซีย**
    **เวลา : ขณะภูเขาไฟเริ่มคำรามปะทุ**

    **อาริ วิชายา** ต่อสู้กับปีศาจุตนุคลายเต่าตัวขนาดใหญ่มีเกล็ดแขงปกคลุมทั่วตัวที่หลุดมาจากพิธีกรรมโบราณ เขาใช้มีดกรีดแขนตัวเองให้เลือดไหลลงลาวา :
    *"กินฉันไป...แต่ปล่อยน้องสาวฉันด้วย!"*

    ปีศาจตนุหัวเราะคราง : *"มนุษย์จอมปลอม...เจ้าคือลูกหลานของข้าเอง!"*
    ภาพหลอนแสดงให้อาริเห็นว่า เขาคือทายาทรุ่นที่ 100 ของการผสมพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ

    ท่ามกลางความสับสน **เหงียนลาน** ปรากฏตัวพร้อมกระทะไฟ :
    *"ช่วยกันทำอาหารปราบปีศาจศักดิ์สิทธิ์ไหม? สูตรนี้ต้องใช้เลือดคนรักแท้...ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มี!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 5 : เพลงคำสาปในวงวัตธจักรโคจร**
    **สถานที่ : ห้องสตูดิโอใต้ดินโซล, เกาหลีใต้**
    **เวลา : ตอนเที่ยงคืนตรง**

    **คิมจีอู** กำลังอัดเพลงลับ *"Starlight Requiem"** ในห้องซาวด์พรูฟที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ **แทฮยอน** นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ็กข้อมูลจากดาวเทียม

    **"Oppa...ฉันได้ยินเสียงแม่ในไมโครโฟน"** จีอูสะอื้นขณะเสียงประสานหลอนเริ่มดังขึ้น
    แทฮยอนสแกนคลื่นเสียงแล้วตกใจ : **"นี่ไม่ใช่เสียงแม่...มันเป็นคำสาปจากผลึกดวงแก้ว!"**

    จอคอมพิวเตอร์ระเบิดเป็นไฟสีคราม **อสรพิษดำ**(bmb) บุกเข้ามาพร้อมประกาศ :
    *"เราจะใช้เพลงนี้เปิดประตูมิติ...และนางจะตายในวันที่เสียงเพลงจบลง!"*

    ---

    ### **ตอนที่ 6 : ระบำไฟแห่งอาถรรพณ์**
    **สถานที่ : เรือนแพกลางแม่น้ำเจ้าพระยา, ไทย**
    **เวลา : งานสงกรานต์**

    **ณัฐ ศรีสุวรรณ** ต่อสู้กับนักมวยปริศนาบนสะพานเรือ ทุกหมัดที่ต่อยโดนทำให้เขามองเห็นภาพ **พิมพ์ลดา** น้องสาวกำลังเต้นระบำหน้ากากกลางไฟ

    **"นี่ไม่ใช่การต่อสู้...แต่เป็นการเซ่นสังเวย!"** ณัฐตะโกนขณะรอยสักนาคราชลุกเป็นไฟ
    เขาใช้หมัดสุดท้ายทุบแท่นบูชา จนชิ้นแก้วทิศใต้หลุดออกมา—แต่กลับพบศพ **เดีย วิชายา** ถูกมัดไว้ใต้แท่น!

    พิมพ์ลดาปรากฏตัวในร่างเทพธิดา :
    *"เลือกเถิด...ระหว่างชีวิตนาง กับพลังปราบอสรพิษ?"*

    ---

    ### **ตอนที่ 7 : จุดชนวนอรุณกรรม**
    **สถานที่ : ยอดเขาหลวงพระบาง**
    **เวลา : รุ่งสางวันที่ดวงอาทิตย์อ่อนแสง

    ทุกตระกูลมาบรรจบกันที่ปล่องไฟโบราณ **เหงียนล็อง** ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นผลึกแก้วจนสมบูรณ์ แต่กลับพบว่าต้องการ **"เลือดบริสุทธิ์ 7 หยดจากผู้มีรักแท้"**

    - **เจี้ยนกับหยวนเยี่ยน** : แม้เป็นศัตรูแต่เลือดกลับเข้ากัน
    - **ฮารุโตะกับวีร** : พี่น้องต่างมารดาที่เกลียดชังกัน
    - **จีอูกับแทฮยอน** : ความรักพี่น้องที่เกินขอบเขต
    - **ณัฐกับพิมพ์ลดา** : รักที่ถูกสาปให้เป็นสายเลือด
    - **ล็องกับลาน** : ผู้เห็นความฝันร้ายของกันและกัน

    เมื่อเลือดหยดสุดท้ายถูกเติมเต็ม **ประตูมิติวิญญาณ** เปิดออก เผยให้เห็น **หยวนเยี่ยนตัวจริง** ที่ถูกกักขังมานับพันปี :
    *"ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันได้ตายอย่างมนุษย์คนหนึ่งเสียที*

    ---

    ### **Epilogue: สายลมใหม่แห่งเอเชีย**
    **1 ปีต่อมา**
    - **เจี้ยน** เปิดโรงเรียนสอนแพทย์แผนโบราณที่ปักกิ่ง โดยมี **เหมย** เป็นผู้ช่วย
    - **ฮารุโตะกับวีร** ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตระกูลที่เกียวโต
    - **จีอู** กลายเป็นครูสอนดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส โดยมี **แทฮยอน** คอยปกป้อง
    - **ณัฐ** สร้างคณะระบำหน้ากากที่ใช้การเต้นรักษาคำสาป
    - **ล็องกับลาน** ค้นพบสูตรอาหารที่ช่วยลบความฝันร้าย

    บนยอดเขาหลวงพระบาง **ดวงแก้วจตุรภุช** ถูกแปรสภาพเป็นอนุสาวรีย์แก้วสีรุ้ง ที่ฐานเขียนไว้ว่า :
    *"ชะตากรรมไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้...แต่คือสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อ"*

    ---

    **Preview ตอนต่อไป :**
    - ความลับสุดท้ายของ "ม้ามืด" ที่แฝงตัวใน 7 ตระกูล
    - การกลับมาของพลังปีศาจตนุในร่างใหม่
    - ความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพิมพ์ลดากับจีอูข้ามชาติภพ...
    **นิยายเรื่อง *The Seven Heirs: Bonds of the Compass* ### **Prologue: เงามรณะบนพิธีกรรม **สถานที่ : วิหารลับใต้ภูเขาหลวงพระบาง, ลาว** **เวลา : 1632 ปีก่อน** หมอกควันพิษสีม่วงคลุ้งรอบแท่นบูชาหิน บรรพบุรุษแห่ง 7 ตระกูลยืนเป็นวงกลมรอบ **"ดวงแก้วจตุรภุช"** แสงแก้วสะท้อนภาพหญิงสาวในชุดขาวถูกมัดไว้กลางแท่น—เธอคือ **หยวนเยี่ยน** หญิงร่างวิญญาณอมตะ **"เลือดบริสุทธิ์ของเธอจะผนึกคำสาปให้เราชั่วนิรันดร์!"** หัวหน้าตระกูลหลงร้องประกาศ แต่แล้วดวงแก้วก็ระเบิดเป็นแสงวาบวับ ภาพสุดท้ายที่ทุกคนเห็นคือหยวนเยี่ยนยิ้มอย่างเศร้าสร้อย ก่อนวิญญาณทั้งหมดถูกดูดเข้าไปในประตูมิติ... --- ### **ตอนที่ 1 : เสี้ยวผลึกแก้วแห่งโชคชะตา** **สถานที่ : ปักกิ่ง, จีน** **เวลา : ปัจจุบัน - 3 วันหลังพิธีล่มสลาย** **หลงเหมย** ฝันเห็นแม่ตาบอดส่งเสียงร้องในความมืด เธอตื่นขึ้นมาในห้องแล็บใต้ดินของตระกูลหลง ที่แขนขวาถูกติดตั้งท่อส่งเลือดสีม่วงเชื่อมกับ **หลงเจี้ยน** **"เลือดของฉันมีพิษ...พี่จะตายเพราะช่วยฉัน!"** เหมยพยายามดึงสายยางออก เจี้ยนจับมือเธอไว้แน่น : **"นี่คือคำขอโทษ...สำหรับเรื่องที่พี่ทำกับหยวนเยี่ยน"** บนจอคอมพิวเตอร์ ภาพแผนที่ 7 ทิศเริ่มเชื่อมโยงกัน แสดงตำแหน่ง **"ผอบศิลาทิศเหนือ"** ซ่อนอยู่ใน **ห้องอ่านหนังสือต้องห้าม** ของพระราชวังโบราณ แต่แล้วสัญญาณก็ถูกขัดจังหวะด้วยข้อความจาก **อสรพิษดำ*(blakeMemba) *"ม้ามืดคือผู้อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง...และเธอไว้ใจเขา!"* --- ### **ตอนที่ 2 : ดาบสลักรักที่เกียวโต** **สถานที่ : ปราสาทนินจาลับ, เกียวโต** **เวลา : ฤดูร้อนคืนจันทร์เสี้ยว** **ทาเคดะ ฮารุโตะ** ฝึกดาบกับเงาสีแดงที่ปรากฏในกระจก ทุกครั้งที่ฟันถูกต้อง เงาจะกลายเป็นภาพ **ซากุระ** น้องสาวตัวเองที่ถูกแทงกลางใจ **"หยุดเล่นละครเสียที!"** ซากุระกระโจนเข้ามาหยุดพี่ชาย พร้อมชูสมุดภาพวาดโบราณที่เพิ่งขโมยมาได้ : **"ดูสิ...ราชปุตกับทาเคดะเคยเป็นพันธมิตร!"** ภาพในสมุดแสดงพิธี **"สละสายเลือด"** เมื่อ 500 ปีก่อน หญิงชาวอินเดียในชุดกิโมโนกำลังตัดเส้นเลือดบนแขนสองเด็กชาย—ฮารุโตะจำได้ทันทีว่านั้นคือแม่ของเขา! ทันใดนั้น กระจกทุกบานในห้องแตกเป็นเสี่ยงๆ **วีร ราชปุต** ปรากฏตัวพร้อมปืนจ่อมาที่หัวฮารุโตะ : *"ยอมแพ้...หรืออยากรู้ความจริงว่าทำไมเลือดเราจึงดึงดูดกัน?"* --- ### **ตอนที่ 3 : ไฟใต้ธุลีวงเวียน** **สถานที่ : ตลาดเครื่องเทศมุมไบ, อินเดีย** **เวลา : ตอนเที่ยงวันที่แดดร้อนแรงที่สุด** **เดีย วิชายา** ซ่อนตัวอยู่หลังรถบรรทุกเครื่องเทศ ตามหาพยานหลักฐานที่เชื่อมโยง **อานยา** น้องสาวกับองค์กรอสรพิษดำ(blakeMemba) เธอใช้กล้องส่องเห็น **อานยา** กำลังเจาะห้องนิรภัยในตึกระฟ้า **"นั่นไม่ใช่น้องฉัน..."** เดียกระซิบด้วยความหวาดหวั่นเมื่อเห็นอานยาฉีดสารสีดำเข้าหลอดเลือดตัวเอง ก่อนที่ร่างเธอจะบิดเบี้ยวเหมือนงูยักษ์ เดียรีบส่งข้อมูลให้ **อาริ** พี่ชายในบาหลี แต่กลับถูกจับกุมโดย **เหงียนล็อง** สถาปนิกหนุ่มผู้ถือพิมพ์เขียวประหลาด : *"คุณคือตัวเชื่อม...แผนที่ทุกอันชี้มาที่คุณ!"* --- ### **ตอนที่ 4 : ศึกสายฟ้าในสายฝน** **สถานที่ : เกาะภูเขาไฟบาหลี, อินโดนีเซีย** **เวลา : ขณะภูเขาไฟเริ่มคำรามปะทุ** **อาริ วิชายา** ต่อสู้กับปีศาจุตนุคลายเต่าตัวขนาดใหญ่มีเกล็ดแขงปกคลุมทั่วตัวที่หลุดมาจากพิธีกรรมโบราณ เขาใช้มีดกรีดแขนตัวเองให้เลือดไหลลงลาวา : *"กินฉันไป...แต่ปล่อยน้องสาวฉันด้วย!"* ปีศาจตนุหัวเราะคราง : *"มนุษย์จอมปลอม...เจ้าคือลูกหลานของข้าเอง!"* ภาพหลอนแสดงให้อาริเห็นว่า เขาคือทายาทรุ่นที่ 100 ของการผสมพันธุ์ระหว่างมนุษย์กับปีศาจ ท่ามกลางความสับสน **เหงียนลาน** ปรากฏตัวพร้อมกระทะไฟ : *"ช่วยกันทำอาหารปราบปีศาจศักดิ์สิทธิ์ไหม? สูตรนี้ต้องใช้เลือดคนรักแท้...ซึ่งเราทั้งคู่ไม่มี!"* --- ### **ตอนที่ 5 : เพลงคำสาปในวงวัตธจักรโคจร** **สถานที่ : ห้องสตูดิโอใต้ดินโซล, เกาหลีใต้** **เวลา : ตอนเที่ยงคืนตรง** **คิมจีอู** กำลังอัดเพลงลับ *"Starlight Requiem"** ในห้องซาวด์พรูฟที่เต็มไปด้วยเครื่องมือแพทย์ **แทฮยอน** นั่งเฝ้าอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่แฮ็กข้อมูลจากดาวเทียม **"Oppa...ฉันได้ยินเสียงแม่ในไมโครโฟน"** จีอูสะอื้นขณะเสียงประสานหลอนเริ่มดังขึ้น แทฮยอนสแกนคลื่นเสียงแล้วตกใจ : **"นี่ไม่ใช่เสียงแม่...มันเป็นคำสาปจากผลึกดวงแก้ว!"** จอคอมพิวเตอร์ระเบิดเป็นไฟสีคราม **อสรพิษดำ**(bmb) บุกเข้ามาพร้อมประกาศ : *"เราจะใช้เพลงนี้เปิดประตูมิติ...และนางจะตายในวันที่เสียงเพลงจบลง!"* --- ### **ตอนที่ 6 : ระบำไฟแห่งอาถรรพณ์** **สถานที่ : เรือนแพกลางแม่น้ำเจ้าพระยา, ไทย** **เวลา : งานสงกรานต์** **ณัฐ ศรีสุวรรณ** ต่อสู้กับนักมวยปริศนาบนสะพานเรือ ทุกหมัดที่ต่อยโดนทำให้เขามองเห็นภาพ **พิมพ์ลดา** น้องสาวกำลังเต้นระบำหน้ากากกลางไฟ **"นี่ไม่ใช่การต่อสู้...แต่เป็นการเซ่นสังเวย!"** ณัฐตะโกนขณะรอยสักนาคราชลุกเป็นไฟ เขาใช้หมัดสุดท้ายทุบแท่นบูชา จนชิ้นแก้วทิศใต้หลุดออกมา—แต่กลับพบศพ **เดีย วิชายา** ถูกมัดไว้ใต้แท่น! พิมพ์ลดาปรากฏตัวในร่างเทพธิดา : *"เลือกเถิด...ระหว่างชีวิตนาง กับพลังปราบอสรพิษ?"* --- ### **ตอนที่ 7 : จุดชนวนอรุณกรรม** **สถานที่ : ยอดเขาหลวงพระบาง** **เวลา : รุ่งสางวันที่ดวงอาทิตย์อ่อนแสง ทุกตระกูลมาบรรจบกันที่ปล่องไฟโบราณ **เหงียนล็อง** ต่อจิ๊กซอว์ชิ้นผลึกแก้วจนสมบูรณ์ แต่กลับพบว่าต้องการ **"เลือดบริสุทธิ์ 7 หยดจากผู้มีรักแท้"** - **เจี้ยนกับหยวนเยี่ยน** : แม้เป็นศัตรูแต่เลือดกลับเข้ากัน - **ฮารุโตะกับวีร** : พี่น้องต่างมารดาที่เกลียดชังกัน - **จีอูกับแทฮยอน** : ความรักพี่น้องที่เกินขอบเขต - **ณัฐกับพิมพ์ลดา** : รักที่ถูกสาปให้เป็นสายเลือด - **ล็องกับลาน** : ผู้เห็นความฝันร้ายของกันและกัน เมื่อเลือดหยดสุดท้ายถูกเติมเต็ม **ประตูมิติวิญญาณ** เปิดออก เผยให้เห็น **หยวนเยี่ยนตัวจริง** ที่ถูกกักขังมานับพันปี : *"ขอบคุณ...ที่ทำให้ฉันได้ตายอย่างมนุษย์คนหนึ่งเสียที* --- ### **Epilogue: สายลมใหม่แห่งเอเชีย** **1 ปีต่อมา** - **เจี้ยน** เปิดโรงเรียนสอนแพทย์แผนโบราณที่ปักกิ่ง โดยมี **เหมย** เป็นผู้ช่วย - **ฮารุโตะกับวีร** ร่วมกันสร้างพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ตระกูลที่เกียวโต - **จีอู** กลายเป็นครูสอนดนตรีให้เด็กด้อยโอกาส โดยมี **แทฮยอน** คอยปกป้อง - **ณัฐ** สร้างคณะระบำหน้ากากที่ใช้การเต้นรักษาคำสาป - **ล็องกับลาน** ค้นพบสูตรอาหารที่ช่วยลบความฝันร้าย บนยอดเขาหลวงพระบาง **ดวงแก้วจตุรภุช** ถูกแปรสภาพเป็นอนุสาวรีย์แก้วสีรุ้ง ที่ฐานเขียนไว้ว่า : *"ชะตากรรมไม่ใช่สิ่งที่กำหนดไว้...แต่คือสิ่งที่เราเลือกจะเชื่อ"* --- **Preview ตอนต่อไป :** - ความลับสุดท้ายของ "ม้ามืด" ที่แฝงตัวใน 7 ตระกูล - การกลับมาของพลังปีศาจตนุในร่างใหม่ - ความสัมพันธ์ลึกลับระหว่างพิมพ์ลดากับจีอูข้ามชาติภพ...
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • แบคโฮยักษ์จอมมารบู ความหวังค้นหาผู้สูญหาย : [NEWS UPDATE]

    นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เผยแผนรื้อซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จะเอาแผ่นปูนเศษปูนโซน E ซึ่งอยู่ยอดบนลงให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ขนย้ายแล้ว 26,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้รถบรรทุกนำออก 21 คัน คาดปลายเดือน เม.ย. จะเคลียร์ด้านบนออกได้ ส่วนพื้นที่ B3 และ C2 ได้ใช้เครื่องจักรเปิดหน้างาน เนื่องจากเป็นโถงสำหรับคนงานรับประทานอาหาร และเก็บของใช้ส่วนตัว ประเมินว่าขณะเกิดเหตุคนงานอาจกลับไปเก็บของใช้ส่วนตัว ขณะที่รถแบคโฮ รุ่น SK1000 ขนาด 120 ตัน ใหญ่ที่สุดในไทย ได้มาถึงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาผู้สูญหายแล้ว

    -โทษเกมการเมืองบิดกาสิโน

    -สว.โชว์ผลงานปีแรก

    -คิดไม่ทันเลยไม่ได้เตรียม

    -จีนขึ้นภาษีทุบสหรัฐ
    แบคโฮยักษ์จอมมารบู ความหวังค้นหาผู้สูญหาย : [NEWS UPDATE] นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ เผยแผนรื้อซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม จะเอาแผ่นปูนเศษปูนโซน E ซึ่งอยู่ยอดบนลงให้ได้มากที่สุด ตอนนี้ขนย้ายแล้ว 26,000 ลูกบาศก์เมตร ใช้รถบรรทุกนำออก 21 คัน คาดปลายเดือน เม.ย. จะเคลียร์ด้านบนออกได้ ส่วนพื้นที่ B3 และ C2 ได้ใช้เครื่องจักรเปิดหน้างาน เนื่องจากเป็นโถงสำหรับคนงานรับประทานอาหาร และเก็บของใช้ส่วนตัว ประเมินว่าขณะเกิดเหตุคนงานอาจกลับไปเก็บของใช้ส่วนตัว ขณะที่รถแบคโฮ รุ่น SK1000 ขนาด 120 ตัน ใหญ่ที่สุดในไทย ได้มาถึงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อสนับสนุนภารกิจค้นหาผู้สูญหายแล้ว -โทษเกมการเมืองบิดกาสิโน -สว.โชว์ผลงานปีแรก -คิดไม่ทันเลยไม่ได้เตรียม -จีนขึ้นภาษีทุบสหรัฐ
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 808 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • “กทม.” ไม่หยุด! เดินหน้าขนซากตึกสตง.ถล่มแล้ว 21 คันรถบรรทุก “ชัชชาติ” บอกยังหวังมีผู้รอดชีวิต
    https://www.thai-tai.tv/news/18111/
    “กทม.” ไม่หยุด! เดินหน้าขนซากตึกสตง.ถล่มแล้ว 21 คันรถบรรทุก “ชัชชาติ” บอกยังหวังมีผู้รอดชีวิต https://www.thai-tai.tv/news/18111/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4 ปี ทุ่งสังหาร “พะโค” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หงสาวดี 82 ศพ แสงไฟฉายจากมือถือ ฤาจะสู้เปลวไฟจากไรเฟิล บทบาทของโลกที่เงียบงัน

    ✍️ เหตุการณ์ที่พะโคเมื่อ 9 เมษายน 2564 คือหนึ่งในความรุนแรง หลังรัฐประหารเมียนมา ที่โลกไม่ควรลืม กับการสังหารหมู่พลเรือน 82 ราย ภายใต้เงียบสงัดของประชาคมโลก และการประท้วงด้วยแสงไฟจากมือถือ ที่ไม่อาจสู้เปลวไฟจากปืนไรเฟิลได้ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 🔥

    🧭 เสียงเงียบที่กลบเสียงปืน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 ประชาชนในเมืองพะโค ประเทศเมียนมา ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น 🚨 ไม่นานจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กองทัพพม่าเริ่มปฏิบัติการ กวาดล้างการต่อต้านอย่างรุนแรง เหตุการณ์ที่เมืองพะโคในวันนั้น กลายเป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงหลังรัฐประหาร ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 82 ศพ ในวันเดียว 😢

    แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากระสุน คือ “ความเงียบ” ของโลก 🌍 ที่ไม่มีเสียงเรียกร้องความยุติธรรมที่เพียงพอ

    🏞️ "พะโค" (Bago) หรือหงสาวดี เป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของเมียนมา ห่างจากย่างกุ้งเพียง 91 กิโลเมตร 🌏 เคยเป็นเมืองหลวง ของอาณาจักรมอญและตองอู ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สำคัญ อยู่ใกล้เส้นทางยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพ

    จุดยุทธศาสตร์นี้เอง ทำให้พะโคกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ประชาชนใช้ประท้วง และกองทัพใช้เพื่อ “แสดงพลัง” 💣

    🔫 เหตุการณ์ 9 เมษายน 2564 วันที่ไฟจากไรเฟิลกลืนชีวิต

    ⏰ เวลาเริ่มต้น ตี 4 กองทัพเมียนมาส่งทหาร 250 นาย เข้าบุกบ้านเรือนในย่านชินสอบู, นันตอว์ยา, มอว์กัน และปนนาซู ใกล้พระราชวังกัมโพชธานี

    ⚔️ เวลา 05.00 น. ทหาร 5 หน่วย เริ่มกราดยิงผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกหน้า ใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนสู้กลับด้วยระเบิดปิงปอง และขว้างสิ่งของ ✊

    เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วง 10.00 น.

    🩸 ผลที่ตามมา มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 82 ราย บุคลากรแพทย์ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ บางศพถูกกองรวมไว้ในเจดีย์เสยะมุนี บางศพถูกเผาทิ้ง...เพื่อปิดบังหลักฐาน

    📈 ลำดับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์
    9 เม.ย. 64 ช่วงเช้า ทหารบุกบ้านเรือน ยิงสดประชาชน
    9 เม.ย. 64 ช่วงสาย นำศพมากองรวมในเจดีย์ ปิดล้อมพื้นที่
    10 เม.ย. 64 เอเอพีพีรายงานยอดเสียชีวิต 82 ราย
    11 เม.ย. 64 UN เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทันที

    💣 อาวุธที่ใช้: ปืนไรเฟิล, ระเบิดแรงสูง, ยิงใส่ผู้ชุมนุมแบบสุ่ม

    📷 วิดีโอจาก AFP แสดงให้เห็นผู้ชุมนุม ใช้กระสอบทรายเป็นเกราะกำบัง

    💡 บทบาทของชาวพะโค และการต่อต้านด้วย “แสงไฟ” เมื่ออาวุธหนักเป็นของทหาร... แต่ประชาชนมีเพียงโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเลือกใช้ แสงไฟแฟลช 📱 เป็นเครื่องมือแห่งการต่อต้าน ✨ Flash Strike หรือ “การชุมนุมเงียบ” ในช่วงค่ำคืน

    คนเมียนมาเปิดไฟฉายมือถือ ร้องเพลงต้านรัฐประหาร เป็นสัญลักษณ์ของ “แสงแห่งเสรีภาพ” ที่สู้กับ “เปลวไฟจากกระสุน” แม้รู้ว่าจะโดนยิง...แต่ยังคงยืนหยัด

    🧯 การตอบสนองของรัฐบาลทหาร ปฏิเสธข้อเท็จจริง

    📺 ทางการเมียนมารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง “1 ราย” ในเหตุการณ์พะโค

    📵 อินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ข้อมูลถูกปิดกั้น

    ⛔ ความจริงที่พยายามลบล้าง ขัดขวางไม่ให้หน่วยแพทย์เข้าถึงพื้นที่ ขนศพขึ้นรถบรรทุกไปซ่อน เผาศพทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นี่คือการบิดเบือนความจริง อย่างเป็นระบบ 🧠

    🧊 ความเงียบของประชาคมโลก = การสมรู้ร่วมคิด? แม้มีหลักฐานจำนวนมากจากคลิปวิดีโอ 📹 และรายงานจาก NGOs แต่… ประชาคมโลกกลับเลือก “นิ่งเงียบ” 🫥

    🌐 คำถามที่คาใจ
    ทำไมไม่มีการแทรกแซงจาก UN?
    การเรียกร้องความช่วยเหลือถูกละเลยหรือไม่?
    การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพียงพอหรือเปล่า?

    เสียงจากคนตาย...อาจเงียบ แต่ “ความเงียบของโลก” ดังกว่า

    🌍 องค์กรสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการเปิดโปงความจริง องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น AAPP หรือสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง, Myanmar Now, AFP, BBC Burmese, Amnesty International 📣 ได้รายงานเหตุการณ์นี้ให้โลกได้รับรู้ แต่ยังขาด “กลไกที่มีผลบังคับ” ในการดำเนินคดี ต่อผู้นำกองทัพเมียนมา

    🕯️ พะโคในความทรงจำของชาวเมียนมา “แสงจากมือถือ...อาจไม่ชนะไฟจากปืน แต่แสงนั้นจะไม่มีวันดับในใจเรา” ผู้ประท้วงนิรนามในพะโค

    พะโคกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการเสียสละ” เป็นคำเตือนว่า เสรีภาพไม่ได้ได้มาโดยง่าย และไม่ควรถูกลืม

    ✅ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 4 ปีผ่านไป...ความยุติธรรมยังไม่มา 🕰️ แต่ความหวังยังอยู่ในแสงแฟลชของประชาชน

    พะโคไม่ใช่แค่ “เหตุการณ์” แต่คือ “หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ต้องเขียนด้วยความจริง”

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090953 เม.ย. 2568

    📱 #พะโค #เมียนมา #FlashStrike #รัฐประหารเมียนมา #สังหารหมู่ #สิทธิมนุษยชน #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #UN #SaveMyanmar #BagoMassacre
    4 ปี ทุ่งสังหาร “พะโค” ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์หงสาวดี 82 ศพ แสงไฟฉายจากมือถือ ฤาจะสู้เปลวไฟจากไรเฟิล บทบาทของโลกที่เงียบงัน ✍️ เหตุการณ์ที่พะโคเมื่อ 9 เมษายน 2564 คือหนึ่งในความรุนแรง หลังรัฐประหารเมียนมา ที่โลกไม่ควรลืม กับการสังหารหมู่พลเรือน 82 ราย ภายใต้เงียบสงัดของประชาคมโลก และการประท้วงด้วยแสงไฟจากมือถือ ที่ไม่อาจสู้เปลวไฟจากปืนไรเฟิลได้ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 🔥 🧭 เสียงเงียบที่กลบเสียงปืน เมื่อเช้าวันศุกร์ที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2564 ประชาชนในเมืองพะโค ประเทศเมียนมา ตื่นขึ้นมาท่ามกลางเสียงปืนดังสนั่น 🚨 ไม่นานจากเหตุการณ์รัฐประหารในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ กองทัพพม่าเริ่มปฏิบัติการ กวาดล้างการต่อต้านอย่างรุนแรง เหตุการณ์ที่เมืองพะโคในวันนั้น กลายเป็นการสังหารหมู่ที่ร้ายแรงที่สุดในช่วงหลังรัฐประหาร ด้วยจำนวนผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 82 ศพ ในวันเดียว 😢 แต่สิ่งที่เจ็บปวดยิ่งกว่ากระสุน คือ “ความเงียบ” ของโลก 🌍 ที่ไม่มีเสียงเรียกร้องความยุติธรรมที่เพียงพอ 🏞️ "พะโค" (Bago) หรือหงสาวดี เป็นเมืองสำคัญทางภาคใต้ของเมียนมา ห่างจากย่างกุ้งเพียง 91 กิโลเมตร 🌏 เคยเป็นเมืองหลวง ของอาณาจักรมอญและตองอู ปัจจุบันเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ และวัฒนธรรมที่สำคัญ อยู่ใกล้เส้นทางยุทธศาสตร์ และง่ายต่อการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพ จุดยุทธศาสตร์นี้เอง ทำให้พะโคกลายเป็นพื้นที่สำคัญ ที่ประชาชนใช้ประท้วง และกองทัพใช้เพื่อ “แสดงพลัง” 💣 🔫 เหตุการณ์ 9 เมษายน 2564 วันที่ไฟจากไรเฟิลกลืนชีวิต ⏰ เวลาเริ่มต้น ตี 4 กองทัพเมียนมาส่งทหาร 250 นาย เข้าบุกบ้านเรือนในย่านชินสอบู, นันตอว์ยา, มอว์กัน และปนนาซู ใกล้พระราชวังกัมโพชธานี ⚔️ เวลา 05.00 น. ทหาร 5 หน่วย เริ่มกราดยิงผู้ชุมนุมโดยไม่เลือกหน้า ใช้อาวุธสงครามเต็มรูปแบบ ประชาชนสู้กลับด้วยระเบิดปิงปอง และขว้างสิ่งของ ✊ เจ้าหน้าที่ทหาร เข้าควบคุมสถานการณ์ได้ในช่วง 10.00 น. 🩸 ผลที่ตามมา มีพลเรือนเสียชีวิตอย่างน้อย 82 ราย บุคลากรแพทย์ถูกขัดขวาง ไม่ให้เข้าช่วยเหลือ บางศพถูกกองรวมไว้ในเจดีย์เสยะมุนี บางศพถูกเผาทิ้ง...เพื่อปิดบังหลักฐาน 📈 ลำดับเหตุการณ์การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 9 เม.ย. 64 ช่วงเช้า ทหารบุกบ้านเรือน ยิงสดประชาชน 9 เม.ย. 64 ช่วงสาย นำศพมากองรวมในเจดีย์ ปิดล้อมพื้นที่ 10 เม.ย. 64 เอเอพีพีรายงานยอดเสียชีวิต 82 ราย 11 เม.ย. 64 UN เรียกร้องให้ยุติความรุนแรงทันที 💣 อาวุธที่ใช้: ปืนไรเฟิล, ระเบิดแรงสูง, ยิงใส่ผู้ชุมนุมแบบสุ่ม 📷 วิดีโอจาก AFP แสดงให้เห็นผู้ชุมนุม ใช้กระสอบทรายเป็นเกราะกำบัง 💡 บทบาทของชาวพะโค และการต่อต้านด้วย “แสงไฟ” เมื่ออาวุธหนักเป็นของทหาร... แต่ประชาชนมีเพียงโทรศัพท์มือถือ พวกเขาเลือกใช้ แสงไฟแฟลช 📱 เป็นเครื่องมือแห่งการต่อต้าน ✨ Flash Strike หรือ “การชุมนุมเงียบ” ในช่วงค่ำคืน คนเมียนมาเปิดไฟฉายมือถือ ร้องเพลงต้านรัฐประหาร เป็นสัญลักษณ์ของ “แสงแห่งเสรีภาพ” ที่สู้กับ “เปลวไฟจากกระสุน” แม้รู้ว่าจะโดนยิง...แต่ยังคงยืนหยัด 🧯 การตอบสนองของรัฐบาลทหาร ปฏิเสธข้อเท็จจริง 📺 ทางการเมียนมารายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเพียง “1 ราย” ในเหตุการณ์พะโค 📵 อินเทอร์เน็ตถูกตัดขาด ข้อมูลถูกปิดกั้น ⛔ ความจริงที่พยายามลบล้าง ขัดขวางไม่ให้หน่วยแพทย์เข้าถึงพื้นที่ ขนศพขึ้นรถบรรทุกไปซ่อน เผาศพทิ้งเพื่อทำลายหลักฐาน นี่คือการบิดเบือนความจริง อย่างเป็นระบบ 🧠 🧊 ความเงียบของประชาคมโลก = การสมรู้ร่วมคิด? แม้มีหลักฐานจำนวนมากจากคลิปวิดีโอ 📹 และรายงานจาก NGOs แต่… ประชาคมโลกกลับเลือก “นิ่งเงียบ” 🫥 🌐 คำถามที่คาใจ ทำไมไม่มีการแทรกแซงจาก UN? การเรียกร้องความช่วยเหลือถูกละเลยหรือไม่? การคว่ำบาตรเศรษฐกิจเพียงพอหรือเปล่า? เสียงจากคนตาย...อาจเงียบ แต่ “ความเงียบของโลก” ดังกว่า 🌍 องค์กรสิทธิมนุษยชน และความพยายามในการเปิดโปงความจริง องค์กรที่เกี่ยวข้อง เช่น AAPP หรือสมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมือง, Myanmar Now, AFP, BBC Burmese, Amnesty International 📣 ได้รายงานเหตุการณ์นี้ให้โลกได้รับรู้ แต่ยังขาด “กลไกที่มีผลบังคับ” ในการดำเนินคดี ต่อผู้นำกองทัพเมียนมา 🕯️ พะโคในความทรงจำของชาวเมียนมา “แสงจากมือถือ...อาจไม่ชนะไฟจากปืน แต่แสงนั้นจะไม่มีวันดับในใจเรา” ผู้ประท้วงนิรนามในพะโค พะโคกลายเป็น “สัญลักษณ์แห่งการเสียสละ” เป็นคำเตือนว่า เสรีภาพไม่ได้ได้มาโดยง่าย และไม่ควรถูกลืม ✅ พะโคต้องไม่ใช่แค่บทเรียนที่ถูกลืม 4 ปีผ่านไป...ความยุติธรรมยังไม่มา 🕰️ แต่ความหวังยังอยู่ในแสงแฟลชของประชาชน พะโคไม่ใช่แค่ “เหตุการณ์” แต่คือ “หน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ ที่ต้องเขียนด้วยความจริง” ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 090953 เม.ย. 2568 📱 #พะโค #เมียนมา #FlashStrike #รัฐประหารเมียนมา #สังหารหมู่ #สิทธิมนุษยชน #ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ #UN #SaveMyanmar #BagoMassacre
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
  • อึ้ง!เหล็กตึกสตง. มาจากโรงงานถูกสั่งปิด : [THE-MESSAGE]

    นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจสอบพบมีเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซซ์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล เตรียมเข้าพื้นที่พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าให้ครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ยอมรับอึ้งเพราะโรงงานที่ผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่ไปตรวจและสั่งปิด โดยการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ พบรถบรรทุกขนฝุ่นแดง อาจลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่
    อึ้ง!เหล็กตึกสตง. มาจากโรงงานถูกสั่งปิด : [THE-MESSAGE] นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รมว.อุตสาหกรรม เผยถึงการนำทีมเข้าตรวจวัสดุก่อสร้างในจุดที่อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.) ถล่ม เก็บตัวอย่าง 6 ประเภท ทั้งเหล็กกลม เหล็กข้ออ้อย 3 ยี่ห้อ ตรวจสอบพบมีเหล็ก 2 ขนาด ไม่ได้มาตรฐานคือไซซ์ 20 และ 32 มาจากยี่ห้อเดียวกัน เป็นผู้ผลิตที่สั่งหยุดโรงงานเมื่อเดือน ธ.ค. 2567 จะตั้งคณะกรรมการสอบสวนขยายผล เตรียมเข้าพื้นที่พร้อมคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เก็บตัวอย่างอีกครั้ง โดยจะเก็บแบบชี้เป้าให้ครบทุกประเภท และเก็บในจุดที่สันนิษฐานว่าทำให้ตึกถล่ม ยอมรับอึ้งเพราะโรงงานที่ผลิตเหล็กไม่ได้มาตรฐาน เป็นโรงงานที่ไปตรวจและสั่งปิด โดยการตรวจเหล็กจะตรวจ 2 ส่วน คือคุณสมบัติด้านการกล และคุณสมบัติทางเคมี ครั้งแรกที่ตรวจตกทางเคมี ล่าสุดที่ตรวจตกทางกล ได้ข่าวมีความพยายามวิ่งเต้น ข่มขู่เจ้าหน้าที่ เตรียมลงพื้นที่ตรวจโรงงาน ซินเคอหยวน ต.หนองละลอก จ.ระยอง ที่สั่งปิด หลังพบโรงงานยังมีความเคลื่อนไหว​ พบรถบรรทุกขนฝุ่นแดง อาจลักลอบผลิตเหล็กอยู่หรือไม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 711 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • "ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม เตรียมใช้เครื่องมือหนักเร่งช่วยผู้รอดชีวิต เผยยังพบสัญญาณชีพผู้สูญหายในซากตึก

    วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตึกถล่มย่านจตุจักรและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก่อนออกให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก มีซากชิ้นส่วนงานใหญ่ต้องเอาเครื่องมือหนักทยอยออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งต้องหาเครนมาขนเอาชิ้นส่วนโครงสร้างตึกออกไป ขณะนี้สถานการณ์คิดว่าต้องทำทุกอย่างขนานกันไป เช่น ประเมินอาคาร เตรียมหารถเครนว่าสามารถยกโครงสร้างได้กี่ตัน จะต้องหารถบรรทุกมาขนชิ้นส่วนออก ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการทันที

    นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานน้อยใจเพราะได้รับมอบหมายช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่นั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นคนบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด หากใครต้องการเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถแจ้งกับผู้อำนวยการได้ ว่าสามารถสนับสนุนส่วนใดได้บ้าง แต่ขณะเดียวกันหากเป็นจุดที่อันตรายทางเจ้าหน้าที่ก็คงไม่สามารถให้เข้าไปช่วยงานได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029924

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    "ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม เตรียมใช้เครื่องมือหนักเร่งช่วยผู้รอดชีวิต เผยยังพบสัญญาณชีพผู้สูญหายในซากตึก • วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตึกถล่มย่านจตุจักรและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก่อนออกให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก มีซากชิ้นส่วนงานใหญ่ต้องเอาเครื่องมือหนักทยอยออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งต้องหาเครนมาขนเอาชิ้นส่วนโครงสร้างตึกออกไป ขณะนี้สถานการณ์คิดว่าต้องทำทุกอย่างขนานกันไป เช่น ประเมินอาคาร เตรียมหารถเครนว่าสามารถยกโครงสร้างได้กี่ตัน จะต้องหารถบรรทุกมาขนชิ้นส่วนออก ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการทันที • นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานน้อยใจเพราะได้รับมอบหมายช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่นั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นคนบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด หากใครต้องการเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถแจ้งกับผู้อำนวยการได้ ว่าสามารถสนับสนุนส่วนใดได้บ้าง แต่ขณะเดียวกันหากเป็นจุดที่อันตรายทางเจ้าหน้าที่ก็คงไม่สามารถให้เข้าไปช่วยงานได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029924 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 474 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนซุ่มพัฒนาเครื่องบินขับไล่ J-36 แข่งกับ F-47 ของสหรัฐฯ
    .
    เมื่อปลายปีที่แล้ว วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน มีผู้คนพบเห็นและสามารถถ่ายคลิปวีดิโอของเครื่องบินขับไล่รูปทรงคล้ายสามเหลี่ยม บ้างก็ว่าคล้ายใบของต้นแปะก๊วยกำลังบินทดสอบอยู่กลางอากาศ
    .
    จากภาพเครื่องบินที่ปรากฎ ก็มีการตั้งข้อสังเกต และคาดการณ์กันว่า J-36 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่เจนฯ ที่ 6 ที่จีนพัฒนาขึ้นนั้น ไม่มี "แพนหางดิ่ง" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเร็วในบิน และการล่องหน, นอกจากนี้น่าจะสามารถบรรทุกอาวุธหนักอย่างขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ เพื่อโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 4 มัค โดยเชื่อว่า J-36 จะเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งในสงครามที่เน้นเครือข่ายของอาวุธที่หลากหลายการโจมตี
    .
    https://vt.tiktok.com/ZSrNnLbDo/
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #J36 #เครื่องบินขับไล่รุ่นที่6 #J36FighterJet #เครื่องบินขับไล่จีน
    จีนซุ่มพัฒนาเครื่องบินขับไล่ J-36 แข่งกับ F-47 ของสหรัฐฯ . เมื่อปลายปีที่แล้ว วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน มีผู้คนพบเห็นและสามารถถ่ายคลิปวีดิโอของเครื่องบินขับไล่รูปทรงคล้ายสามเหลี่ยม บ้างก็ว่าคล้ายใบของต้นแปะก๊วยกำลังบินทดสอบอยู่กลางอากาศ . จากภาพเครื่องบินที่ปรากฎ ก็มีการตั้งข้อสังเกต และคาดการณ์กันว่า J-36 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่เจนฯ ที่ 6 ที่จีนพัฒนาขึ้นนั้น ไม่มี "แพนหางดิ่ง" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเร็วในบิน และการล่องหน, นอกจากนี้น่าจะสามารถบรรทุกอาวุธหนักอย่างขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ เพื่อโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 4 มัค โดยเชื่อว่า J-36 จะเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งในสงครามที่เน้นเครือข่ายของอาวุธที่หลากหลายการโจมตี . https://vt.tiktok.com/ZSrNnLbDo/ . #บูรพาไม่แพ้ #J36 #เครื่องบินขับไล่รุ่นที่6 #J36FighterJet #เครื่องบินขับไล่จีน
    @thedongfangbubai

    จีนซุ่มพัฒนาเครื่องบินขับไล่ J-36 แข่งกับ F-47 ของสหรัฐฯ . เมื่อปลายปีที่แล้ว วันที่ 26 ธันวาคม 2567 ที่เมืองเฉิงตู มณฑลเสฉวน มีผู้คนพบเห็นและสามารถถ่ายคลิปวีดิโอของเครื่องบินขับไล่รูปทรงคล้ายสามเหลี่ยม บ้างก็ว่าคล้ายใบของต้นแปะก๊วยกำลังบินทดสอบอยู่กลางอากาศ . จากภาพเครื่องบินที่ปรากฎ ก็มีการตั้งข้อสังเกต และคาดการณ์กันว่า J-36 ซึ่งเป็นเครื่องบินขับไล่เจนฯ ที่ 6 ที่จีนพัฒนาขึ้นนั้น ไม่มี "แพนหางดิ่ง" เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความเร็วในบิน และการล่องหน, นอกจากนี้น่าจะสามารถบรรทุกอาวุธหนักอย่างขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ เพื่อโจมตีเป้าหมายได้ไกลถึง 400 กิโลเมตร ด้วยความเร็ว 4 มัค โดยเชื่อว่า J-36 จะเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งในสงครามที่เน้นเครือข่ายของอาวุธที่หลากหลายการโจมตี . #บูรพาไม่แพ้ #J36 #เครื่องบินขับไล่รุ่นที่6 #J36FighterJet #เครื่องบินขับไล่จีน

    ♬ original sound - บูรพาไม่แพ้ - บูรพาไม่แพ้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 643 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🍂🍂BMW G20 330e M Sport Plug-in Hybrid 2022 เครื่องยนต์ Twin Power Turbo แรงม้า292" ไมล์20,579🍂🍂💥💥ราคา1,390,000 บาท💥💥🌼🌼เกียร์Steptronic 8 Speed Airbag Abs Paddelshift Sunroof CruiseControl Multifuntion Navigator Mode Sport จอMonitor 10.25 Lanechange Blindspot Wirelesscharge Applecarplay เบาะไฟฟ้าmemory package สุดยอดรถ Premium technology ล้ำมาก ฝาท้ายไฟฟ้าไมล์แท้ตรวจสอบได้ ประวัติชัดเจน เข้าศูนย์ตรง BSI ถึง16/12/69🌼🌼#รับประกันคุณภาพ#บริการด้วยใจ#รถมือเดียวทุกคัน #รับซื้อรถ #รับซื้อรถยนต์ #รับซื้อรถบรรทุก #รับซื้อรถบรรทุก4ล้อ#รับซื้อรถยรรทุก6ล้อ#รับซื้อรถมือสอง#รับซื้อรถบ้านสนใจ ซื้อ-ขาย รถยนต์ โทร 084-730-7777 คุณฝ้าย084-999-7797 คุณฝนID Line : @impresscarFacebook : @impresscarwww.impressautocar.com
    🍂🍂BMW G20 330e M Sport Plug-in Hybrid 2022 เครื่องยนต์ Twin Power Turbo แรงม้า292" ไมล์20,579🍂🍂💥💥ราคา1,390,000 บาท💥💥🌼🌼เกียร์Steptronic 8 Speed Airbag Abs Paddelshift Sunroof CruiseControl Multifuntion Navigator Mode Sport จอMonitor 10.25 Lanechange Blindspot Wirelesscharge Applecarplay เบาะไฟฟ้าmemory package สุดยอดรถ Premium technology ล้ำมาก ฝาท้ายไฟฟ้าไมล์แท้ตรวจสอบได้ ประวัติชัดเจน เข้าศูนย์ตรง BSI ถึง16/12/69🌼🌼#รับประกันคุณภาพ#บริการด้วยใจ#รถมือเดียวทุกคัน #รับซื้อรถ #รับซื้อรถยนต์ #รับซื้อรถบรรทุก #รับซื้อรถบรรทุก4ล้อ#รับซื้อรถยรรทุก6ล้อ#รับซื้อรถมือสอง#รับซื้อรถบ้านสนใจ ซื้อ-ขาย รถยนต์ โทร 084-730-7777 คุณฝ้าย084-999-7797 คุณฝนID Line : @impresscarFacebook : @impresscarwww.impressautocar.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 644 มุมมอง 2 0 รีวิว
  • พระราม 2 อีกแล้วเหรอ? ได้ยินคำนี้รู้เลยว่าต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าปกติถนนพระราม 2 หรือทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) นั้นมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นประจำ เพราะถือเป็นถนนสายหลักลงสู่ภาคใต้ จึงมีทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถบรรทุกใช้กันอย่างหนาแน่นหรืออาจจะมากที่สุดในประเทศไทยเลย จากข้อมูลเมื่อปี 2566 พบว่าปริมาณจราจร ช่วงดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอก เฉลี่ยจำนวน 256,000 คัน/วัน ส่วนช่วงบางขุนเทียน-สมุทรสงครามมีเฉลี่ย 130,000 คัน/วัน และช่วงสมุทรสาคร-วังมะนาว มีเฉลี่ย 80,000 คัน/วัน ขณะที่ เสาร์-อาทิตย์มีสูงถึงเกือบ 400,000 คัน/วัน

    ทำให้ที่ผ่านมากรมทางหลวงมีโครงการก่อสร้างปรับปรุง ซ่อมแซม รวมถึงขยายช่องจราจรเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกว่ามีการตั้งงบประมาณทุกปีสำหรับขยายถนนพระราม 2

    จนได้รับฉายาว่าถนนเจ็ดชั่วโคตรเพราะก่อสร้างไม่เสร็จเสียที ขณะที่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีการก่อสร้าง 2 โครงการขนาดใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท คือ ทางยกระดับพระราม 2 หรือโครงการก่อสร้างบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (บางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว) ระยะทาง 24.6 กม. มูลค่า 30,200 ล้านบาท ของกรมทางหลวง และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3- ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มูลค่า 30,000 ล้านบาท

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000025274

    #MGROnline #คานสะพานหล่น #สะพานถล่ม #พระราม2 #ถนนพระราม2
    พระราม 2 อีกแล้วเหรอ? ได้ยินคำนี้รู้เลยว่าต้องมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่าปกติถนนพระราม 2 หรือทางหลวงหมายเลข 35 (ธนบุรี-ปากท่อ) นั้นมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นเป็นประจำ เพราะถือเป็นถนนสายหลักลงสู่ภาคใต้ จึงมีทั้งรถยนต์ส่วนตัว รถบรรทุกใช้กันอย่างหนาแน่นหรืออาจจะมากที่สุดในประเทศไทยเลย จากข้อมูลเมื่อปี 2566 พบว่าปริมาณจราจร ช่วงดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอก เฉลี่ยจำนวน 256,000 คัน/วัน ส่วนช่วงบางขุนเทียน-สมุทรสงครามมีเฉลี่ย 130,000 คัน/วัน และช่วงสมุทรสาคร-วังมะนาว มีเฉลี่ย 80,000 คัน/วัน ขณะที่ เสาร์-อาทิตย์มีสูงถึงเกือบ 400,000 คัน/วัน • ทำให้ที่ผ่านมากรมทางหลวงมีโครงการก่อสร้างปรับปรุง ซ่อมแซม รวมถึงขยายช่องจราจรเพื่อรองรับปริมาณการจราจรที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เรียกว่ามีการตั้งงบประมาณทุกปีสำหรับขยายถนนพระราม 2 • จนได้รับฉายาว่าถนนเจ็ดชั่วโคตรเพราะก่อสร้างไม่เสร็จเสียที ขณะที่ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมามีการก่อสร้าง 2 โครงการขนาดใหญ่ มูลค่ารวมกว่า 6 หมื่นล้านบาท คือ ทางยกระดับพระราม 2 หรือโครงการก่อสร้างบนทางหลวงพิเศษหมายเลข 82 (บางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว) ระยะทาง 24.6 กม. มูลค่า 30,200 ล้านบาท ของกรมทางหลวง และโครงการทางพิเศษสายพระราม 3- ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มูลค่า 30,000 ล้านบาท • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/business/detail/9680000025274 • #MGROnline #คานสะพานหล่น #สะพานถล่ม #พระราม2 #ถนนพระราม2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 721 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจนครปฐม ระดมกำลังไล่ล่ารถบรรทุกพ่วงแหกด่านวิ่งเข้าตัวเมือง ชาวบ้านแตกกระเจิงขับรถหนีตายเหมือนในหนังสุดท้ายไปไม่รอดถูกจับได้กลางเมือง พบคนขับสารภาพทั้งดื่มของมึนเมา ทั้งเสพยา มาเจอด่านกลัวความผิดวิ่งหนีไม่คิดชีวิตแต่ไปไม่รอด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024983
    ตำรวจนครปฐม ระดมกำลังไล่ล่ารถบรรทุกพ่วงแหกด่านวิ่งเข้าตัวเมือง ชาวบ้านแตกกระเจิงขับรถหนีตายเหมือนในหนังสุดท้ายไปไม่รอดถูกจับได้กลางเมือง พบคนขับสารภาพทั้งดื่มของมึนเมา ทั้งเสพยา มาเจอด่านกลัวความผิดวิ่งหนีไม่คิดชีวิตแต่ไปไม่รอด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000024983
    Like
    Sad
    Angry
    Love
    Haha
    19
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1585 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย - ผ่าอาณาจักร “เสี่ยจิว” หนุ่มลูกครึ่งจีน-ชาติพันธุ์ลาหู่ จากดอยแม่สลอง-ป่าตึง แม่จัน..ชื่อโผล่เป็นพ่อค้ายาแถวหน้ามา 3 ปี พบพฤติกรรมชอบสวมเสื้อซาฟารี-อ้างติดยศ “พันตรี” คุมอดีตสิบเอกรบพิเศษ พร้อมลูกน้องค้ายา-ขนไอซ์ ซุกอำพรางรถดัดแปลงเป็นรถทหาร ค้นรังเจอทั้งปืน-เครื่องกระสุน-ระเบิด ฯลฯ เหมือนคลังแสงขนาดย่อม แถมมีเครื่องแบบทหารปักชื่อพร้อมสรรพ

    กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย บก.สส.ภ.5 ร่วมกับทั้ง สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ยึดไอซ์ประมาณ 1,500 กิโลกรัม ซุกซ่อนในถัง 200 ลิตรที่เก็บไว้บนรถบรรทุก 6 ล้อดัดแปลงคล้ายรถขนส่งทหารติดทะเบียนกงจักร และจับผู้ต้องหาได้ 7 คน โดย 2 คนที่ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บเป็นอดีตทหารรบพิเศษยศสิบเอกที่ถูกปลดออกจากราชการแล้ว เหตุเกิดวันที่ 7-8 มี.ค. 2568 นั้น

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 ระบุว่าเครือข่ายนี้เป็นของ "เสี่ยจิว" นายชุติธัญญ์ อายุ 40 ปี เป็นลูกครึ่งจีนและลาหู่ มีพื้นเพเดิมอยู่บนดอยแม่สลอง-ป่าตึง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งตัวจริง ส่วนคนอื่นๆ เป็นเพียงลูกน้อง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000023064

    #MGROnline #เชียงราย #เสี่ยจิว #ดอยแม่สลอง #พ่อค้ายา #พันตรี #อดีตสิบเอกรบพิเศษ #รถดัดแปลง #รถทหาร
    เชียงราย - ผ่าอาณาจักร “เสี่ยจิว” หนุ่มลูกครึ่งจีน-ชาติพันธุ์ลาหู่ จากดอยแม่สลอง-ป่าตึง แม่จัน..ชื่อโผล่เป็นพ่อค้ายาแถวหน้ามา 3 ปี พบพฤติกรรมชอบสวมเสื้อซาฟารี-อ้างติดยศ “พันตรี” คุมอดีตสิบเอกรบพิเศษ พร้อมลูกน้องค้ายา-ขนไอซ์ ซุกอำพรางรถดัดแปลงเป็นรถทหาร ค้นรังเจอทั้งปืน-เครื่องกระสุน-ระเบิด ฯลฯ เหมือนคลังแสงขนาดย่อม แถมมีเครื่องแบบทหารปักชื่อพร้อมสรรพ • กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.ภ.จว.เชียงราย บก.สส.ภ.5 ร่วมกับทั้ง สภ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย และ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย ยึดไอซ์ประมาณ 1,500 กิโลกรัม ซุกซ่อนในถัง 200 ลิตรที่เก็บไว้บนรถบรรทุก 6 ล้อดัดแปลงคล้ายรถขนส่งทหารติดทะเบียนกงจักร และจับผู้ต้องหาได้ 7 คน โดย 2 คนที่ยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่จนได้รับบาดเจ็บเป็นอดีตทหารรบพิเศษยศสิบเอกที่ถูกปลดออกจากราชการแล้ว เหตุเกิดวันที่ 7-8 มี.ค. 2568 นั้น • เจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.5 ระบุว่าเครือข่ายนี้เป็นของ "เสี่ยจิว" นายชุติธัญญ์ อายุ 40 ปี เป็นลูกครึ่งจีนและลาหู่ มีพื้นเพเดิมอยู่บนดอยแม่สลอง-ป่าตึง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งตัวจริง ส่วนคนอื่นๆ เป็นเพียงลูกน้อง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000023064 • #MGROnline #เชียงราย #เสี่ยจิว #ดอยแม่สลอง #พ่อค้ายา #พันตรี #อดีตสิบเอกรบพิเศษ #รถดัดแปลง #รถทหาร
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 696 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครสวรรค์ - เกิดอุบัติเหตุหมู่สุดสลดอีก..รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย มุ่งหน้าไปวัดสาขาพื้นที่เพชรบูรณ์ ถึงท่าตะโก คาดคนขับหลับใน-ฝนตกพรำๆ รถพุ่งชนท้ายรถพ่วงชะลอเข้าข้างทางตูมสนั่น จนหลังคารถตู้ฉีกพังยับ ดับคาที่ 4 เป็นพระ 1 เจ็บอีก 5

    วันนี้(26 ก.พ.) พ.ต.ท.พิศลย์ ผาสุก ร้อยเวร สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 สายไดตาล-น้ำสาดเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 84+801 พื้นที่บ้านคอกควายใหญ่ ม.16 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยกู้ชีพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย

    เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 82-8552 นครสวรรค์ จอดอยู่ข้างทาง สภาพด้านท้ายตัวพ่วงถูกชนได้รับความเสียหาย

    ใกล้กันพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮย-1066 นครสวรรค์ จอดอยู่กลางถนน ในสภาพรถพังยับเยิน หลังคารถหายไปทั้งแถบ โดยมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่กับซากรถตู้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระภิกษุสงฆ์ รวมอยู่ด้วย 1 รูป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://m.mgronline.com/local/detail/9680000018985

    #MGROnline #รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย #นครสวรรค์ #เพชรบูรณ์
    นครสวรรค์ - เกิดอุบัติเหตุหมู่สุดสลดอีก..รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย มุ่งหน้าไปวัดสาขาพื้นที่เพชรบูรณ์ ถึงท่าตะโก คาดคนขับหลับใน-ฝนตกพรำๆ รถพุ่งชนท้ายรถพ่วงชะลอเข้าข้างทางตูมสนั่น จนหลังคารถตู้ฉีกพังยับ ดับคาที่ 4 เป็นพระ 1 เจ็บอีก 5 • วันนี้(26 ก.พ.) พ.ต.ท.พิศลย์ ผาสุก ร้อยเวร สภ.ท่าตะโก ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถตู้ชนท้ายรถบรรทุกพ่วง มีผู้เสียชีวิต และมีผู้บาดเจ็บหลายราย บนถนนทางหลวงหมายเลข 11 สายไดตาล-น้ำสาดเหนือ ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 84+801 พื้นที่บ้านคอกควายใหญ่ ม.16 ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมกับหน่วยกู้ชีพ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย • เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ หมายเลขทะเบียน 82-8552 นครสวรรค์ จอดอยู่ข้างทาง สภาพด้านท้ายตัวพ่วงถูกชนได้รับความเสียหาย • ใกล้กันพบรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน ฮย-1066 นครสวรรค์ จอดอยู่กลางถนน ในสภาพรถพังยับเยิน หลังคารถหายไปทั้งแถบ โดยมีผู้เสียชีวิตติดคาอยู่กับซากรถตู้ทั้งหมด 4 ราย เป็นชาย 2 ราย หญิง 2 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมีพระภิกษุสงฆ์ รวมอยู่ด้วย 1 รูป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://m.mgronline.com/local/detail/9680000018985 • #MGROnline #รถตู้สายบุญวัดธรรมกาย #นครสวรรค์ #เพชรบูรณ์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 498 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทักษิณขออภัยกรณีตากใบ อ้างทำงานผิดพลาด

    นับเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบประมาณ 20 ปี สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายทักษิณพร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และคณะ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส

    ช่วงหนึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคณะครูและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขออภัยต่อความผิดพลาดในเหตุการณ์ตากใบ แล้วต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย"

    สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก

    สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป แต่ต่อมาในปี 2567 มีครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องคดีด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส. กระทั่งคดีขาดอายุความ หลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกรณีตากใบ ระบุว่า พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากนายทักษิณ และทวงถามความยุติธรรม แม้คดีขาดอายุความไปแล้ว

    #Newskit
    ทักษิณขออภัยกรณีตากใบ อ้างทำงานผิดพลาด นับเป็นการลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ในรอบประมาณ 20 ปี สำหรับนายทักษิณ ชินวัตร ที่ปรึกษานายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2568 นายทักษิณพร้อมด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) และคณะ เดินทางมายังโรงเรียนสัมพันธ์วิทยา อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ช่วงหนึ่งนายทักษิณได้กล่าวกับคณะครูและประชาชนที่มาต้อนรับว่า ขออภัยต่อความผิดพลาดในเหตุการณ์ตากใบ แล้วต่อมานายทักษิณให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า "เรื่องตากใบ ตอนผมเป็นนายกฯ ผมมีความตั้งใจห่วงใยพี่น้อง 100% แต่การทำงานมีความผิดพลาดได้บ้าง ถ้าผมมีอะไรผิดพลาด ที่ไม่เป็นที่พอใจ ก็ขออภัยด้วย เพื่อเราจะได้หันกลับมาช่วยกันแก้ปัญหาด้วยกัน พี่น้องมุสลิมมีสิ่งที่สำคัญมาก ถูกสอนมาว่า ความเข้าใจ เกรงใจ รักสันติสุข การให้อภัย เพราะฉะนั้นเมื่อเราขออภัยในสิ่งที่ผมอาจจะทำสิ่งที่ไม่ถูกใจหรือผิดพลาดบ้าง ผมต้องขออภัยด้วย" สำหรับเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ จ.นราธิวาส เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2547 ชาวบ้านกว่า 2,000 คน รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้ปล่อยตัวชาวมุสลิม 6 คน ที่ถูกควบคุมตัวโดยกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ปล้นปืนและก่อความไม่สงบ ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะสลายการชุมนุม ผู้ชุมนุมเสียชีวิตทันที 5 คน ที่เหลือนอนทับซ้อนกันในรถบรรทุกทหารไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ห่างออกไป 150 กิโลเมตร มีผู้ชุมนุมขาดอากาศหายใจ เสียชีวิต 78 คน บาดเจ็บและพิการอีกมาก สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีการตั้ง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก เป็นคณะกรรมการเยียวยาฯ และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. จ่ายเงินเยียวยากว่า 641 ล้านบาท ผู้เสียชีวิตจ่ายรายละ 7.5 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บ ผู้พิการได้รับลดหลั่นกันไป แต่ต่อมาในปี 2567 มีครอบครัวผู้เสียชีวิต 48 รายพร้อมญาติยื่นฟ้องคดีด้วยเอง ศาลประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 และออกหมายจับผู้ต้องหา 7 คน พบว่าแต่ละคนหลบหนี โดยเฉพาะ พล.อ.พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ที่ยื่นใบลาออกจาก สส. กระทั่งคดีขาดอายุความ หลังเที่ยงคืนวันที่ 26 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส ไปสัมภาษณ์ครอบครัวผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บกรณีตากใบ ระบุว่า พวกเขาต้องการได้ยินคำขอโทษจากนายทักษิณ และทวงถามความยุติธรรม แม้คดีขาดอายุความไปแล้ว #Newskit
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 923 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts