• 🔍 ไต้หวันแบนการส่งออกชิปให้ Huawei และ SMIC
    รัฐบาลไต้หวันได้เพิ่ม Huawei และ SMIC เข้าไปในรายชื่อบริษัทที่ถูกควบคุมการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มงวดขึ้นหลังจากพบว่า Huaweiใช้บริษัทตัวกลางเพื่อหลอกให้ TSMC ผลิตชิป AI จำนวน 2 ล้านตัว แม้จะถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรไปแล้ว

    ✅ รายละเอียดมาตรการแบน
    - Huawei และ SMIC ต้อง ขอใบอนุญาตส่งออก จากบริษัทไต้หวันก่อนรับสินค้า
    - รายชื่อบริษัทที่ถูกแบนของไต้หวันรวมถึง Taliban, al-Qaeda, อิหร่าน, รัสเซีย, อัฟกานิสถาน และเกาหลีเหนือ
    - การแบนนี้เกิดขึ้นหลังจาก TSMC ถูกปรับเงินจำนวนมาก เนื่องจากผลิตชิปให้ Huawei โดยไม่ได้ตั้งใจ
    - บริษัทอื่นๆ เช่น UMC, ASE, SPIL และ Nanya ก็ต้องปฏิบัติตามข้อจำกัดใหม่

    ‼️ ข้อควรระวัง
    - Huawei อาจหาทางเลี่ยงมาตรการแบน โดยใช้บริษัทตัวกลางอื่นๆ
    - การแบนอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ทำให้ต้องพึ่งพาการผลิตภายในประเทศมากขึ้น
    - อาจเกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก

    🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์
    ✅ แนวโน้มตลาดชิป
    - สหรัฐฯ ได้ขอให้ TSMC หยุดส่งออกชิปขั้นสูงให้จีน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
    - มีการคาดการณ์ว่า จีนอาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีชิปของตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ
    - บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวันอาจได้รับผลกระทบ จากการลดคำสั่งซื้อจากจีน

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับตลาดชิป
    - การควบคุมการส่งออกอาจทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าชิป ผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการ
    - จีนอาจตอบโต้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ เช่น การจำกัดการส่งออกแร่หายากที่ใช้ผลิตชิป
    - ต้องจับตาดูการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน ว่าจะสามารถแข่งขันกับไต้หวันและสหรัฐฯ ได้หรือไม่

    🛡️ แนวทางการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง
    ✅ มาตรการของสหรัฐฯ และไต้หวัน
    - สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการ ห้ามใช้ชิป Huawei Ascend ในหลายประเทศ
    - ไต้หวันกำลังพิจารณา เพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูง
    - มีการคาดการณ์ว่า มาตรการแบนอาจขยายไปถึงบริษัทอื่นๆ ในจีน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI

    ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี
    - อาจเกิดการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่รุนแรงขึ้น ระหว่างจีนและตะวันตก
    - การควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีแบบปิดกั้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม
    - ต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อให้การควบคุมเทคโนโลยีเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-bans-chip-exports-to-huawei-smic-ban-comes-after-huawei-tricked-tsmc-into-making-one-million-ai-processors-despite-us-restrictions
    🔍 ไต้หวันแบนการส่งออกชิปให้ Huawei และ SMIC รัฐบาลไต้หวันได้เพิ่ม Huawei และ SMIC เข้าไปในรายชื่อบริษัทที่ถูกควบคุมการส่งออกสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มงวดขึ้นหลังจากพบว่า Huaweiใช้บริษัทตัวกลางเพื่อหลอกให้ TSMC ผลิตชิป AI จำนวน 2 ล้านตัว แม้จะถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรไปแล้ว ✅ รายละเอียดมาตรการแบน - Huawei และ SMIC ต้อง ขอใบอนุญาตส่งออก จากบริษัทไต้หวันก่อนรับสินค้า - รายชื่อบริษัทที่ถูกแบนของไต้หวันรวมถึง Taliban, al-Qaeda, อิหร่าน, รัสเซีย, อัฟกานิสถาน และเกาหลีเหนือ - การแบนนี้เกิดขึ้นหลังจาก TSMC ถูกปรับเงินจำนวนมาก เนื่องจากผลิตชิปให้ Huawei โดยไม่ได้ตั้งใจ - บริษัทอื่นๆ เช่น UMC, ASE, SPIL และ Nanya ก็ต้องปฏิบัติตามข้อจำกัดใหม่ ‼️ ข้อควรระวัง - Huawei อาจหาทางเลี่ยงมาตรการแบน โดยใช้บริษัทตัวกลางอื่นๆ - การแบนอาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีน ทำให้ต้องพึ่งพาการผลิตภายในประเทศมากขึ้น - อาจเกิดความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและไต้หวัน ซึ่งอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโลก 🌍 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ ✅ แนวโน้มตลาดชิป - สหรัฐฯ ได้ขอให้ TSMC หยุดส่งออกชิปขั้นสูงให้จีน ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา - มีการคาดการณ์ว่า จีนอาจเร่งพัฒนาเทคโนโลยีชิปของตนเอง เพื่อลดการพึ่งพาต่างประเทศ - บริษัทเซมิคอนดักเตอร์ในไต้หวันอาจได้รับผลกระทบ จากการลดคำสั่งซื้อจากจีน ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับตลาดชิป - การควบคุมการส่งออกอาจทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าชิป ผ่านช่องทางที่ไม่เป็นทางการ - จีนอาจตอบโต้ด้วยมาตรการทางเศรษฐกิจ เช่น การจำกัดการส่งออกแร่หายากที่ใช้ผลิตชิป - ต้องจับตาดูการพัฒนาเทคโนโลยีของจีน ว่าจะสามารถแข่งขันกับไต้หวันและสหรัฐฯ ได้หรือไม่ 🛡️ แนวทางการควบคุมเทคโนโลยีขั้นสูง ✅ มาตรการของสหรัฐฯ และไต้หวัน - สหรัฐฯ ได้ออกมาตรการ ห้ามใช้ชิป Huawei Ascend ในหลายประเทศ - ไต้หวันกำลังพิจารณา เพิ่มข้อจำกัดในการส่งออกเทคโนโลยีการผลิตชิปขั้นสูง - มีการคาดการณ์ว่า มาตรการแบนอาจขยายไปถึงบริษัทอื่นๆ ในจีน ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา AI ‼️ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการควบคุมเทคโนโลยี - อาจเกิดการแข่งขันด้านเทคโนโลยีที่รุนแรงขึ้น ระหว่างจีนและตะวันตก - การควบคุมที่เข้มงวดอาจทำให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีแบบปิดกั้น ซึ่งอาจส่งผลต่อการเติบโตของอุตสาหกรรม - ต้องมีการกำหนดมาตรฐานที่ชัดเจน เพื่อให้การควบคุมเทคโนโลยีเป็นไปอย่างโปร่งใสและยุติธรรม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/taiwan-bans-chip-exports-to-huawei-smic-ban-comes-after-huawei-tricked-tsmc-into-making-one-million-ai-processors-despite-us-restrictions
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • เบื้องหลังความสำเร็จเจรจาภาษีสหรัฐ-จีน : คนเคาะข่าว 12-06-68
    อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร
    #คนเคาะข่าว #เจรจาภาษีสหรัฐจีน #สงครามการค้า #ความสำเร็จการเจรจา #Geopolitics #เศรษฐกิจโลก #การค้าโลก #ข่าวต่างประเทศ #thaitimes #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #สหรัฐจีน #การเมืองโลก #นโยบายการค้า #วิเคราะห์การเมือง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    เบื้องหลังความสำเร็จเจรจาภาษีสหรัฐ-จีน : คนเคาะข่าว 12-06-68 อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร #คนเคาะข่าว #เจรจาภาษีสหรัฐจีน #สงครามการค้า #ความสำเร็จการเจรจา #Geopolitics #เศรษฐกิจโลก #การค้าโลก #ข่าวต่างประเทศ #thaitimes #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #สหรัฐจีน #การเมืองโลก #นโยบายการค้า #วิเคราะห์การเมือง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 204 Views 9 0 Reviews
  • ความหายนะของประเทศได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว​เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนัก โดยตอนนี้ได้ก่อให้เกิดอาการช็อคขึ้นมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำเหลือเติบโตได้แค่ 2.5 % ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ คือตั้งแต่ปีนี้ไปจนปี 2027 ซึ่งโลกจะเจอกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดใน 65 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960​ที่กล่าวข้างต้นนี้ไม่ใช่เป็นข่าวโซเชียลธรรมดา แต่เป็นรายงานของธนาคารโลกที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025 นี้ โดยรองประธานอาวุโสและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ (Senior Vice President and Chief Economist) ของธนาคารโลก ชื่อว่า Indermit Gill รายงานฉบับนี้ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับต่ำสุดๆเช่นนี้เป็นผลมาจากสงครามภาษี และความเสี่ยงที่สูงของเศรษฐกิจโลกนั่นเอง​ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจในครั้งนี้ ตามรายงานบอกไว้ชัดว่าประเทศที่ยากจนมากจะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดแน่ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย (เช่นไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น) จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายสุดๆ​แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศที่ช่วงเดือนเมษายนนี้ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 1.6 % และปี 2026 จะขยายตัวได้เพียง 1.8 % ประเทศที่ถูกเพื่อนต่างชาติมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักสุดในเอเชีย ประเทศที่ทางด้านเศรษฐกิจทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมการเมืองก็สุดจะเลวร้ายซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ทำการเมืองแบบแย่งชิงทั้งอำนาจและเงินตราอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีสำนึกและยางอายให้ประชาชนเห็น จะดูมิติไหนก็ไม่มีดีสักอย่าง ซ้ำร้ายกว่านั้น ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่มีนายกรัฐมนตรีกำลังฝึกงานอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ได้ส่งผลให้ภาวะด้านสังคมที่เละเทะอยู่แล้วในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้คนทุกประเภท การทุจริตการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก การเผยแพร่ที่ไม่หยุดยั้งของยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนันและหวยออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชนระดับล่างทั้งประเทศ การประกอบธุรกิจสีเทาทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องเลวร้ายของไทยเหล่านี้ได้ขยายตัวออกไปทั่วประเทศจนยากที่จะแก้ไขให้กลับสู่สังคมที่น่าอยู่ของคนไทยในอดีตได้อีกแล้ว​ภาพที่น่ากลัว น่าเป็นห่วงของการคาดการณ์ของเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ Chief Economist ของธนาคารโลก ต้องการชี้ให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้แน่ๆในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอะไรบ้าง และจะกระทบต่อประเทศไหนรุนแรงแค่ไหน​รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ให้ประเทศต่างๆ ถึง 3 ประการ ประการแรก ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับความสัมพันธ์ทางการค้าเสียใหม่ (rebuild trade relation) โดยให้คำนึงถึงรากฐานทางการค้าที่แท้จริงที่ต้องมีต่อกัน เป็นต้นประการที่สอง ทุกประเทศต้องพยายามรักษาและปรับปรุงกฎเกณฑ์ของการคลังภาครัฐ (reform fiscal order) โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ต่ำที่ถูกกดดันบีบคั้น ทั้งจากงบประมาณที่มีน้อยและการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ลดลง รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินไปในเรื่องค่าดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะที่สูงจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในเรื่องการลงทุนที่จำเป็น หรือการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งรายงานได้แนะนำไว้ชัดว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นต้องหันมาสนใจเรื่องการขยายฐานภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรายได้จากภาษีอย่างจริงจังให้มากขึ้นประการที่สาม เร่งรัดการมีงานทำ (accelerate job creation) ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลของประเทศที่ยากจนจำต้องทำอย่างจริงจัง รวมถึงการยกระดับความรู้และความสามารถให้ผู้ใช้แรงงาน และการดูแลตลาดแรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผมเห็นว่าสมควรที่คนไทยต้องรับรู้ไว้เพราะเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประจำ ควรพิจารณาตนเองให้หนักและควรพลิกผันความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ทำการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติด้วยใจ เพื่อเชิดชูประเทศชาติ สถาบันของชาติ และพลเมืองของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดที่สวยงามลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
    ความหายนะของประเทศได้ย่างกรายเข้ามาแล้ว​เศรษฐกิจโลกจะถดถอยหนัก โดยตอนนี้ได้ก่อให้เกิดอาการช็อคขึ้นมาแล้วว่าเศรษฐกิจโลกจะตกต่ำเหลือเติบโตได้แค่ 2.5 % ในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้ คือตั้งแต่ปีนี้ไปจนปี 2027 ซึ่งโลกจะเจอกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ที่สุดใน 65 ปี นับตั้งแต่ทศวรรษ 1960​ที่กล่าวข้างต้นนี้ไม่ใช่เป็นข่าวโซเชียลธรรมดา แต่เป็นรายงานของธนาคารโลกที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาเมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2025 นี้ โดยรองประธานอาวุโสและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ (Senior Vice President and Chief Economist) ของธนาคารโลก ชื่อว่า Indermit Gill รายงานฉบับนี้ระบุชัดว่าสาเหตุที่ต้องปรับลดการคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงสู่ระดับต่ำสุดๆเช่นนี้เป็นผลมาจากสงครามภาษี และความเสี่ยงที่สูงของเศรษฐกิจโลกนั่นเอง​ประเทศที่จะได้รับผลกระทบจากการต่อสู้ทางเศรษฐกิจของชาติมหาอำนาจในครั้งนี้ ตามรายงานบอกไว้ชัดว่าประเทศที่ยากจนมากจะได้รับผลกระทบที่เจ็บปวดแน่ แต่ประเทศที่กำลังพัฒนาทั้งหลาย (เช่นไทย เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เป็นต้น) จะได้รับผลกระทบที่เลวร้ายสุดๆ​แล้วอะไรจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ประเทศที่ช่วงเดือนเมษายนนี้ธนาคารโลกได้คาดการณ์ว่าปีนี้เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้แค่ 1.6 % และปี 2026 จะขยายตัวได้เพียง 1.8 % ประเทศที่ถูกเพื่อนต่างชาติมองว่าเป็นผู้ป่วยหนักสุดในเอเชีย ประเทศที่ทางด้านเศรษฐกิจทำอย่างไรก็ไม่ดีขึ้น แถมการเมืองก็สุดจะเลวร้ายซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องต่างก็ทำการเมืองแบบแย่งชิงทั้งอำนาจและเงินตราอย่างถึงพริกถึงขิง ไม่มีสำนึกและยางอายให้ประชาชนเห็น จะดูมิติไหนก็ไม่มีดีสักอย่าง ซ้ำร้ายกว่านั้น ประเทศนี้เป็นประเทศเดียวที่มีนายกรัฐมนตรีกำลังฝึกงานอยู่ ด้วยสถานการณ์ที่เลวร้ายทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ได้ส่งผลให้ภาวะด้านสังคมที่เละเทะอยู่แล้วในทุกภาคส่วน นับตั้งแต่พฤติกรรมฉ้อโกงของผู้คนทุกประเภท การทุจริตการคอร์รัปชั่นที่ฝังรากลึก การเผยแพร่ที่ไม่หยุดยั้งของยาเสพติด การค้ามนุษย์ การพนันและหวยออนไลน์ที่เข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของชนระดับล่างทั้งประเทศ การประกอบธุรกิจสีเทาทั้งคนไทยและต่างชาติ เรื่องเลวร้ายของไทยเหล่านี้ได้ขยายตัวออกไปทั่วประเทศจนยากที่จะแก้ไขให้กลับสู่สังคมที่น่าอยู่ของคนไทยในอดีตได้อีกแล้ว​ภาพที่น่ากลัว น่าเป็นห่วงของการคาดการณ์ของเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกครั้งนี้ไม่ใช่เป็นการข่มขู่แต่อย่างใด แต่ Chief Economist ของธนาคารโลก ต้องการชี้ให้เห็นว่าสิ่งเลวร้ายด้านเศรษฐกิจที่จะต้องเกิดขึ้นในโลกใบนี้แน่ๆในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้มีอะไรบ้าง และจะกระทบต่อประเทศไหนรุนแรงแค่ไหน​รายงานของธนาคารโลกฉบับนี้ยังได้เสนอแนะแนวทางแก้ไขไว้ให้ประเทศต่างๆ ถึง 3 ประการ ประการแรก ประเทศที่เกี่ยวข้องจะต้องปรับความสัมพันธ์ทางการค้าเสียใหม่ (rebuild trade relation) โดยให้คำนึงถึงรากฐานทางการค้าที่แท้จริงที่ต้องมีต่อกัน เป็นต้นประการที่สอง ทุกประเทศต้องพยายามรักษาและปรับปรุงกฎเกณฑ์ของการคลังภาครัฐ (reform fiscal order) โดยเฉพาะประเทศที่รายได้ต่ำที่ถูกกดดันบีบคั้น ทั้งจากงบประมาณที่มีน้อยและการช่วยเหลือจากต่างชาติที่ลดลง รวมทั้งการที่ต้องจ่ายเงินไปในเรื่องค่าดอกเบี้ยของหนี้สาธารณะที่สูงจากงบประมาณที่มีอยู่อย่างจำกัด เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาและอุปสรรคที่สำคัญต่อการเร่งการเติบโตทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าในเรื่องการลงทุนที่จำเป็น หรือการกระตุ้นการบริโภค ซึ่งรายงานได้แนะนำไว้ชัดว่าประเทศที่กำลังพัฒนาจำเป็นต้องหันมาสนใจเรื่องการขยายฐานภาษีและเพิ่มประสิทธิภาพการเก็บรายได้จากภาษีอย่างจริงจังให้มากขึ้นประการที่สาม เร่งรัดการมีงานทำ (accelerate job creation) ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลของประเทศที่ยากจนจำต้องทำอย่างจริงจัง รวมถึงการยกระดับความรู้และความสามารถให้ผู้ใช้แรงงาน และการดูแลตลาดแรงงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นผมเห็นว่าสมควรที่คนไทยต้องรับรู้ไว้เพราะเรากำลังประสบกับภาวะวิกฤตหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่รับผิดชอบในการบริหารประเทศ ทั้งที่เป็นนักการเมืองและข้าราชการประจำ ควรพิจารณาตนเองให้หนักและควรพลิกผันความรู้สึกนึกคิดของตนเองให้ทำการแก้ไขปัญหาของประเทศชาติด้วยใจ เพื่อเชิดชูประเทศชาติ สถาบันของชาติ และพลเมืองของชาติไว้เหนือสิ่งอื่นใดด้วยความจริงใจ ไม่ใช่แค่ด้วยคำพูดที่สวยงามลมๆแล้งๆ อีกต่อไป
    0 Comments 0 Shares 217 Views 0 Reviews
  • ♣ เมื่อเวทีนานาชาติ กลายเป็นนานาชั่ว ให้พื้นที่ผู้นำประเทศที่เป็นศูนย์กลางการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ทั้งที่มันอยู่เบื้องหลังสนับสนุนการบ่อนทำลายเศรษฐกิจโลก และการค้ามนุษย์ แถมรับทรัพย์จากอาชญากรไซเบอร์
    #7ดอกจิก
    ♣ เมื่อเวทีนานาชาติ กลายเป็นนานาชั่ว ให้พื้นที่ผู้นำประเทศที่เป็นศูนย์กลางการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งคอลเซ็นเตอร์ และสแกมเมอร์ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ ทั้งที่มันอยู่เบื้องหลังสนับสนุนการบ่อนทำลายเศรษฐกิจโลก และการค้ามนุษย์ แถมรับทรัพย์จากอาชญากรไซเบอร์ #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 122 Views 0 Reviews
  • การคาดการณ์ว่าประเทศใดในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามโลกครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย **แต่ต้องย้ำว่า สงครามโลกไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และประชาคมโลกต่างมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก**

    อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันและความเปราะบางในภูมิภาค ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อม **หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่**:

    1. **คาบสมุทรเกาหลี**:
    - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้: อยู่ในแนวหน้าความตึงเครียด โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งใหญ่
    - ฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้อาจเป็นเป้าหมาย

    2. **ไต้หวันและพื้นที่ใกล้เคียง**:
    - ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันอาจขยายตัว หากเกิดวิกฤตระหว่างจีนและสหรัฐฯ
    - ญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเกาะทางใต้เช่น โอกินาวา) และฟิลิปปินส์ อาจถูก波及เนื่องจากพันธมิตรทางทหาร

    3. **ประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐฯ**:
    - ญี่ปุ่น (ฐานทัพในโอกินาวา/โยโกสุกะ)
    - เกาหลีใต้
    - อาจรวมถึงฟิลิปปินส์ (ภายใต้ข้อตกลง EDCA)

    4. **จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล**:
    - ประเทศควบคุมช่องแคบสำคัญ เช่น มะละกา (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย) หรือช่องแคบฮอร์มุซ (ไม่ใช่เอเชียแต่ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสู่เอเชีย)
    - หากการขนส่งทางทะเลถูกขัดขวาง ประเทศพึ่งพาการนำเข้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง

    5. **พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้**:
    - เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อาจถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งหากเกิดการปะทะ

    6. **ประเทศที่พึ่งพาการค้าทางทะเลอย่างหนัก**:
    - สิงคโปร์: ศูนย์กลางการค้าโลก
    - ญี่ปุ่น เกาหลีใต้: พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบ

    7. **ประเทศใกล้รัสเซีย**:
    - ญี่ปุ่น (พิพาทหมู่เกาะคูริล) และมองโกเลีย อาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งขยายสู่ไซบีเรีย

    ### ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง:
    - **การแข่งขันสหรัฐฯ-จีน**: การเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ/การทหารอาจลุกลาม
    - **อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค**: ปากีสถาน อินเดีย เกาหลีเหนือ จีน
    - **ความไม่มั่นคงภายใน**: ความขัดแย้งในเมียนมา กลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน/อัฟกานิสถาน

    ### ข้อควรจำ:
    - **การทูตคือทางออก**: องค์กรเช่น ASEAN และ UN ทำงานเพื่อระงับความขัดแย้ง
    - **ผลกระทบจะไม่จำกัดเฉพาะสมรภูมิ**: เศรษฐกิจโลก ระบบขนส่ง และเสบียงอาหารจะสั่นคลาย
    - **ไม่มีผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์**: ทุกฝ่ายจะสูญเสียอย่างมหาศาล

    แทนที่จะจินตนาการถึงสงคราม สิ่งที่สำคัญกว่าคือสนับสนุนกลไกสันติภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นอีก
    การคาดการณ์ว่าประเทศใดในเอเชียจะได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงจากสงครามโลกครั้งต่อไปเป็นเรื่องที่ซับซ้อนและขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย **แต่ต้องย้ำว่า สงครามโลกไม่ใช่เรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และประชาคมโลกต่างมุ่งมั่นที่จะป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นอีก** อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบันและความเปราะบางในภูมิภาค ประเทศหรือพื้นที่ต่อไปนี้อาจมีความเสี่ยงสูงที่จะได้รับผลกระทบทางตรงหรือทางอ้อม **หากเกิดความขัดแย้งขนาดใหญ่**: 1. **คาบสมุทรเกาหลี**: - เกาหลีเหนือและเกาหลีใต้: อยู่ในแนวหน้าความตึงเครียด โดยเฉพาะหากเกาหลีเหนือมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งใหญ่ - ฐานทัพสหรัฐฯ ในเกาหลีใต้อาจเป็นเป้าหมาย 2. **ไต้หวันและพื้นที่ใกล้เคียง**: - ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันอาจขยายตัว หากเกิดวิกฤตระหว่างจีนและสหรัฐฯ - ญี่ปุ่น (โดยเฉพาะเกาะทางใต้เช่น โอกินาวา) และฟิลิปปินส์ อาจถูก波及เนื่องจากพันธมิตรทางทหาร 3. **ประเทศที่มีฐานทัพสหรัฐฯ**: - ญี่ปุ่น (ฐานทัพในโอกินาวา/โยโกสุกะ) - เกาหลีใต้ - อาจรวมถึงฟิลิปปินส์ (ภายใต้ข้อตกลง EDCA) 4. **จุดยุทธศาสตร์ทางทะเล**: - ประเทศควบคุมช่องแคบสำคัญ เช่น มะละกา (สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย) หรือช่องแคบฮอร์มุซ (ไม่ใช่เอเชียแต่ส่งผลต่อการขนส่งน้ำมันสู่เอเชีย) - หากการขนส่งทางทะเลถูกขัดขวาง ประเทศพึ่งพาการนำเข้า เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ จะได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจรุนแรง 5. **พื้นที่พิพาทในทะเลจีนใต้**: - เวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย บรูไน อาจถูกดึงเข้าไปในความขัดแย้งหากเกิดการปะทะ 6. **ประเทศที่พึ่งพาการค้าทางทะเลอย่างหนัก**: - สิงคโปร์: ศูนย์กลางการค้าโลก - ญี่ปุ่น เกาหลีใต้: พึ่งพาการนำเข้าพลังงานและวัตถุดิบ 7. **ประเทศใกล้รัสเซีย**: - ญี่ปุ่น (พิพาทหมู่เกาะคูริล) และมองโกเลีย อาจได้รับผลกระทบหากความขัดแย้งขยายสู่ไซบีเรีย ### ปัจจัยเพิ่มความเสี่ยง: - **การแข่งขันสหรัฐฯ-จีน**: การเผชิญหน้าทางเศรษฐกิจ/การทหารอาจลุกลาม - **อาวุธนิวเคลียร์ในภูมิภาค**: ปากีสถาน อินเดีย เกาหลีเหนือ จีน - **ความไม่มั่นคงภายใน**: ความขัดแย้งในเมียนมา กลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน/อัฟกานิสถาน ### ข้อควรจำ: - **การทูตคือทางออก**: องค์กรเช่น ASEAN และ UN ทำงานเพื่อระงับความขัดแย้ง - **ผลกระทบจะไม่จำกัดเฉพาะสมรภูมิ**: เศรษฐกิจโลก ระบบขนส่ง และเสบียงอาหารจะสั่นคลาย - **ไม่มีผู้ชนะในสงครามนิวเคลียร์**: ทุกฝ่ายจะสูญเสียอย่างมหาศาล แทนที่จะจินตนาการถึงสงคราม สิ่งที่สำคัญกว่าคือสนับสนุนกลไกสันติภาพ ความร่วมมือระหว่างประเทศ และการแก้ไขความขัดแย้งโดยสันติวิธี เพื่อไม่ให้โศกนาฏกรรมในอดีตเกิดขึ้นอีก
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์หันหลังการค้าโลก เพื่อสกัดระบบชำระเงินดิจิทัลหยวน : คนเคาะข่าว 03-06-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    เทปบันทึกภาพ ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568 วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2568
    #คนเคาะข่าว #ทรัมป์ #หยวนดิจิทัล #DigitalYuan #สงครามการเงิน #การค้าโลก #Geopolitics #สหรัฐจีน #สกุลเงินดิจิทัล #CBDC #ทนงขันทอง #ความจริงมีหนึ่งเดียว #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #ระบบการเงินใหม่ #thaitimes #การชำระเงินระหว่างประเทศ
    ทรัมป์หันหลังการค้าโลก เพื่อสกัดระบบชำระเงินดิจิทัลหยวน : คนเคาะข่าว 03-06-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ เทปบันทึกภาพ ความจริงมีหนึ่งเดียว ครั้งที่ 2/2568 วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม 2568 #คนเคาะข่าว #ทรัมป์ #หยวนดิจิทัล #DigitalYuan #สงครามการเงิน #การค้าโลก #Geopolitics #สหรัฐจีน #สกุลเงินดิจิทัล #CBDC #ทนงขันทอง #ความจริงมีหนึ่งเดียว #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #ระบบการเงินใหม่ #thaitimes #การชำระเงินระหว่างประเทศ
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 267 Views 2 0 Reviews
  • พายุลูกใหญ่..ผู้ว่า ธปท.เตือนรับมือภาษีทรัมป์กระทบไทย : คนเคาะข่าว 02-06-68
    : เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
    ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68 วันที่ 9 พ.ค.2568
    #คนเคาะข่าว #ภาษีทรัมป์ #ผลกระทบเศรษฐกิจไทย #ธปท #เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นโยบายการเงิน #MeetThePress #เศรษฐกิจโลก #ข่าวเศรษฐกิจ #สงครามการค้า #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #thaitimes #การเงินไทย #พายุเศรษฐกิจ
    พายุลูกใหญ่..ผู้ว่า ธปท.เตือนรับมือภาษีทรัมป์กระทบไทย : คนเคาะข่าว 02-06-68 : เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้ว่าการพบสื่อมวลชน (Meet the Press) ครั้งที่ 1/68 วันที่ 9 พ.ค.2568 #คนเคาะข่าว #ภาษีทรัมป์ #ผลกระทบเศรษฐกิจไทย #ธปท #เศรษฐพุฒิสุทธิวาทนฤพุฒิ #ธนาคารแห่งประเทศไทย #นโยบายการเงิน #MeetThePress #เศรษฐกิจโลก #ข่าวเศรษฐกิจ #สงครามการค้า #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #thaitimes #การเงินไทย #พายุเศรษฐกิจ
    Like
    3
    0 Comments 1 Shares 463 Views 1 0 Reviews
  • ทรัมป์อุทธรณ์สู้! หลังศาลการค้าขวางมาตรการภาษีตอบโต้ : คนเคาะข่าว 29-05-2025
    ดำเนินรายการโดย อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร
    #คนเคาะข่าว #ทรัมป์อุทธรณ์ #ศาลการค้า #มาตรการภาษี #สงครามการค้า #Geopolitics #เศรษฐกิจโลก #นโยบายทรัมป์ #ข่าวต่างประเทศ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #วิเคราะห์การเมืองโลก #thaitimes #การค้าระหว่างประเทศ #ภาษีสหรัฐ
    ทรัมป์อุทธรณ์สู้! หลังศาลการค้าขวางมาตรการภาษีตอบโต้ : คนเคาะข่าว 29-05-2025 ดำเนินรายการโดย อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร #คนเคาะข่าว #ทรัมป์อุทธรณ์ #ศาลการค้า #มาตรการภาษี #สงครามการค้า #Geopolitics #เศรษฐกิจโลก #นโยบายทรัมป์ #ข่าวต่างประเทศ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #วิเคราะห์การเมืองโลก #thaitimes #การค้าระหว่างประเทศ #ภาษีสหรัฐ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 372 Views 3 0 Reviews
  • สหรัฐถูกหั่นเรตติ้งทำเกิดปรากฎการณ์ “sell us” : คนเคาะข่าว 22-06-68
    อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร
    #คนเคาะข่าว #สหรัฐถูกลดเรตติ้ง #SellUS #เศรษฐกิจสหรัฐ #วิกฤตการเงิน #ข่าวเศรษฐกิจโลก #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #Geopolitics #thaitimes #เครดิตเรทติ้ง #ตลาดทุนสหรัฐ #การเงินโลก #นโยบายการเงินสหรัฐ
    สหรัฐถูกหั่นเรตติ้งทำเกิดปรากฎการณ์ “sell us” : คนเคาะข่าว 22-06-68 อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร #คนเคาะข่าว #สหรัฐถูกลดเรตติ้ง #SellUS #เศรษฐกิจสหรัฐ #วิกฤตการเงิน #ข่าวเศรษฐกิจโลก #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #Geopolitics #thaitimes #เครดิตเรทติ้ง #ตลาดทุนสหรัฐ #การเงินโลก #นโยบายการเงินสหรัฐ
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 424 Views 5 0 Reviews
  • 🌑⭐️🪐ดาวตรีเทพย้ายในเดือนพฤษภาคม2568..
    ดาวราหูย้ายเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568
    ดาวพฤหัสย้ายเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2568 และดาวสุดท้าย ดาวเสาร์ 7 โคจรอยู่ในราศีกุมภ์จนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 ย้ายมาอยู่ในราศีมีน ทำมุมจตุโกณฑ์กับอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองและดาวมฤตยู ๐ จรในราศีพฤษภ เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองได้กล่าวถึงการที่ดาวเสาร์ 7 และดาวมฤตยู ๐ มีสัมพันธ์ร้ายต่อกันไว้ว่า จะนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและผู้มีอำนาจปกครองประเทศ การเมืองของประเทศจะถูกรบกวนและเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความผันแปรและมีอุปสรรคขัดขวางการทำงานของผู้มีอำนาจ รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนซึ่งอาจทำให้สูญเสียความนิยมหรือพ่ายแพ้ เกิดการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี อาจมีการตายหรือลาออก การแตกแยกภายในพรรคการเมือง มีการเลือกตั้งทั่วไปหรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ยังผลถึงรัฐสภา

    ดาวเสาร์ 7 โคจรในราศีกุมภ์ทำมุมจตุโกณฑ์กับดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ซึ่งจะยังความอับโชคมาสู่รัฐบาล เกิดความยุ่งยากภายในประเทศ ความไม่พอใจของประชาชน เกิดความวุ่นวาย อาชญากรรม ฆาตกรรม รัฐบาลอาจถึงกับเสื่อมเสียความนิยมหรือการสนับสนุน คนสำคัญบางคนอาจถึงแก่ความตายหรือถูกลอบปองร้ายชีวิต ความไม่พอใจอาจพาดพิงมาถึงกองทัพ และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารขึ้นได้

    ดาวมฤตยู (๐) โคจรในราศีพฤษภ ภพกดุมภะ เรือนของดาวศุกร์ ขณะที่ราหู 8 โคจรในภพวินาศของดวงเมืองจนถึงวันที่ 5 พ.ค. 68และสัมพันธ์ถึงดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนกดุมภะ ในพื้นดวงเมือง จะก่อให้เกิดความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ การค้าขายเกิดภาวะฝืดเคือง เจ้าของกิจการ ห้างร้าน บริษัท โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัวลง เนื่องมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ประสบภาวะขาดทุนเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และเกิดภาวะว่างงานเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่รายได้จากภาษีอากรไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล

    รัฐบาลจะออกพันธบัตรขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป รวมถึงการกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในกิจการของรัฐ ขณะที่หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินของชาติต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อดูแลระบบการเงินให้มีเสถียรภาพ มีการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอาจมีการเพิ่มภาษีบางอย่าง ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการของรัฐและเงินบำเหน็จบำนาญให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ มีการติดต่อเจรจาค้าขายรวมถึงการใช้สกุลเงินของประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์มากขึ้นและสกุลเงินเหล่านี้จะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการค้าโลกซึ่งได้ปรากฎให้เห็นมาแล้วเป็นระยะ

    ที่มา..ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว 2568 (ตอนที่ 1) โดย พล พยากรณ์
    🌑⭐️🪐ดาวตรีเทพย้ายในเดือนพฤษภาคม2568.. ดาวราหูย้ายเมื่อวันที่ 5 พ.ค. 2568 ดาวพฤหัสย้ายเมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2568 และดาวสุดท้าย ดาวเสาร์ 7 โคจรอยู่ในราศีกุมภ์จนถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 ย้ายมาอยู่ในราศีมีน ทำมุมจตุโกณฑ์กับอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองและดาวมฤตยู ๐ จรในราศีพฤษภ เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ในโหราศาสตร์ชะตาบ้านเมืองได้กล่าวถึงการที่ดาวเสาร์ 7 และดาวมฤตยู ๐ มีสัมพันธ์ร้ายต่อกันไว้ว่า จะนำความยุ่งยากมาสู่รัฐบาลและผู้มีอำนาจปกครองประเทศ การเมืองของประเทศจะถูกรบกวนและเกิดการเปลี่ยนแปลง มีความผันแปรและมีอุปสรรคขัดขวางการทำงานของผู้มีอำนาจ รัฐบาลต้องเผชิญหน้ากับความปั่นป่วนซึ่งอาจทำให้สูญเสียความนิยมหรือพ่ายแพ้ เกิดการเปลี่ยนแปลงในคณะรัฐมนตรี อาจมีการตายหรือลาออก การแตกแยกภายในพรรคการเมือง มีการเลือกตั้งทั่วไปหรือการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ที่ยังผลถึงรัฐสภา ดาวเสาร์ 7 โคจรในราศีกุมภ์ทำมุมจตุโกณฑ์กับดาวอังคาร ๓ ตนุลัคน์ของเมืองถึงวันที่ 19 พ.ค. 2568 เป็นระยะเชิงมุมที่มีสัมพันธ์ร้ายต่อกัน ซึ่งจะยังความอับโชคมาสู่รัฐบาล เกิดความยุ่งยากภายในประเทศ ความไม่พอใจของประชาชน เกิดความวุ่นวาย อาชญากรรม ฆาตกรรม รัฐบาลอาจถึงกับเสื่อมเสียความนิยมหรือการสนับสนุน คนสำคัญบางคนอาจถึงแก่ความตายหรือถูกลอบปองร้ายชีวิต ความไม่พอใจอาจพาดพิงมาถึงกองทัพ และอาจเกิดการปฏิวัติ รัฐประหารขึ้นได้ ดาวมฤตยู (๐) โคจรในราศีพฤษภ ภพกดุมภะ เรือนของดาวศุกร์ ขณะที่ราหู 8 โคจรในภพวินาศของดวงเมืองจนถึงวันที่ 5 พ.ค. 68และสัมพันธ์ถึงดาวศุกร์ (๖) เจ้าเรือนกดุมภะ ในพื้นดวงเมือง จะก่อให้เกิดความผันผวนทางด้านเศรษฐกิจภายในประเทศ อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากเศรษฐกิจโลก ธุรกิจ การค้าขายเกิดภาวะฝืดเคือง เจ้าของกิจการ ห้างร้าน บริษัท โรงงานอุตสาหกรรมหลายแห่งปิดตัวลง เนื่องมาจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้นมาก ประสบภาวะขาดทุนเพราะประชาชนไม่มีกำลังซื้อ และเกิดภาวะว่างงานเป็นจำนวนมาก ทำให้รัฐบาลต้องเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือประชาชนและเพื่อพยุงเศรษฐกิจ ขณะที่รายได้จากภาษีอากรไม่สอดคล้องกับภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล รัฐบาลจะออกพันธบัตรขายให้แก่นักลงทุนและประชาชนทั่วไป รวมถึงการกู้เงินเพื่อมาใช้จ่ายในกิจการของรัฐ ขณะที่หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับความมั่นคงทางการเงินและการจัดการเกี่ยวกับระบบการเงินของชาติต้องทำงานกันอย่างหนัก เพื่อดูแลระบบการเงินให้มีเสถียรภาพ มีการปรับปรุงระบบการจัดเก็บภาษีอากรให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และอาจมีการเพิ่มภาษีบางอย่าง ปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับสวัสดิการของรัฐและเงินบำเหน็จบำนาญให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ มีการติดต่อเจรจาค้าขายรวมถึงการใช้สกุลเงินของประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์มากขึ้นและสกุลเงินเหล่านี้จะมีบทบาทมากขึ้นในเวทีการค้าโลกซึ่งได้ปรากฎให้เห็นมาแล้วเป็นระยะ ที่มา..ส่องดวงเมืองผ่านดวงดาว 2568 (ตอนที่ 1) โดย พล พยากรณ์
    0 Comments 0 Shares 266 Views 0 Reviews
  • Rio Reset BRICS Summit ที่บราซิล ชี้ชะตาระบบการเงินโลก : คนเคาะข่าว 20-05-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว #RioReset #BRICSSummit #ระบบการเงินโลก #BRICS #บราซิล #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #การเงินระหว่างประเทศ #thaitimes #โลกหลายขั้ว #นโยบายการเงินโลก
    Rio Reset BRICS Summit ที่บราซิล ชี้ชะตาระบบการเงินโลก : คนเคาะข่าว 20-05-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #RioReset #BRICSSummit #ระบบการเงินโลก #BRICS #บราซิล #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #การเงินระหว่างประเทศ #thaitimes #โลกหลายขั้ว #นโยบายการเงินโลก
    Like
    2
    0 Comments 1 Shares 436 Views 9 0 Reviews
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท ได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก จำเป็นต้องเร่งปรับนโยบาย เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตระยะยาว โดยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุด ตอนหาเสียงประเมินแล้วว่าทำได้ ซึ่งทำไปแล้วสองเฟส แต่ตอนนี้มีเรื่องภาษีของสหรัฐ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญการใช้เงิน ไม่ห่วงกระทบเสียงพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด

    -ขยาดติดบ่วง ม.157
    -สว.อินเตอร์
    -นักท่องเที่ยวต่ำสุดในรอบปี
    -แค่หยดน้ำในมหาสมุทร
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยถึงแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจวงเงิน 157,000 ล้านบาท ได้รับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากหลายฝ่าย ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่ขอให้รัฐบาลทบทวนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของเศรษฐกิจโลก จำเป็นต้องเร่งปรับนโยบาย เพื่อสร้างรากฐานการเติบโตระยะยาว โดยลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการแจกเงินหมื่นดิจิทัลวอลเล็ตไม่ใช่ตัวกระตุ้นที่ดีที่สุด ตอนหาเสียงประเมินแล้วว่าทำได้ ซึ่งทำไปแล้วสองเฟส แต่ตอนนี้มีเรื่องภาษีของสหรัฐ จึงต้องจัดลำดับความสำคัญการใช้เงิน ไม่ห่วงกระทบเสียงพรรคเพื่อไทย เพราะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครคาดคิด -ขยาดติดบ่วง ม.157 -สว.อินเตอร์ -นักท่องเที่ยวต่ำสุดในรอบปี -แค่หยดน้ำในมหาสมุทร
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 641 Views 29 0 Reviews
  • มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐคือพายุที่หนักกว่าภาษีทรัมป์ : คนเคาะข่าว 19-05-68
    : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว #มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐ #วิกฤตการเงินสหรัฐ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจโลก #เครดิตเรทติ้ง #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #thaitimes #การคลัง #สหรัฐอเมริกา #วิกฤตหนี้ #ความเสี่ยงการลงทุน
    มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐคือพายุที่หนักกว่าภาษีทรัมป์ : คนเคาะข่าว 19-05-68 : ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #มูดี้ส์ลดเครดิตสหรัฐ #วิกฤตการเงินสหรัฐ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจโลก #เครดิตเรทติ้ง #ธีระชัยภูวนาถนรานุบาล #ข่าวเศรษฐกิจ #นงวดีถนิมมาลย์ #วิเคราะห์เศรษฐกิจโลก #thaitimes #การคลัง #สหรัฐอเมริกา #วิกฤตหนี้ #ความเสี่ยงการลงทุน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 494 Views 1 0 Reviews
  • รมว.ท่องเที่ยวฯ เชื่อรัฐบาลชลอเงินหมื่นดิจิทัล เพื่อไทยสามารถอธิบายกับประชาชนได้ เพราะเป็นแค่การปรับแผนจากปัญหาเศรษฐกิจโลกรุมเร้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046817

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รมว.ท่องเที่ยวฯ เชื่อรัฐบาลชลอเงินหมื่นดิจิทัล เพื่อไทยสามารถอธิบายกับประชาชนได้ เพราะเป็นแค่การปรับแผนจากปัญหาเศรษฐกิจโลกรุมเร้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046817 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 499 Views 0 Reviews
  • นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม คกก.นโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือเศรษฐกิจโลก ย้ำรอบคอบยึดตามกฎหมาย ฟื้นเศรษฐกิจไทยระยะยาว เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท มอบหมายกระทรวงคลังเสนอแผนกฯ ต่อ ครม.โดยเร็ว

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046763

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุม คกก.นโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ทบทวนโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจรับมือเศรษฐกิจโลก ย้ำรอบคอบยึดตามกฎหมาย ฟื้นเศรษฐกิจไทยระยะยาว เห็นชอบแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในกรอบวงเงิน 157,000 ล้านบาท มอบหมายกระทรวงคลังเสนอแผนกฯ ต่อ ครม.โดยเร็ว อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000046763 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    0 Comments 0 Shares 603 Views 0 Reviews
  • ..การรั่วไหลใหม่เปิดเผย SkyNet 2.0 และการควบคุมสภาพอากาศ: วิศวกรรมธรณีวิทยาที่ใช้เคมีเทรล อะลูมิเนียม แบเรียม อนุภาคนาโน และอาวุธพลังงานกำกับเพื่อวางยาพิษบนท้องฟ้าของเรา!

    ความจริงเบื้องหลังการจัดการสภาพอากาศนั้นชั่วร้ายยิ่งกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด พวกผู้มีอำนาจกำลังทำสงครามกับมนุษยชาติโดยใช้ท้องฟ้าเป็นสนามรบ มันไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่มันเป็นเรื่องของการควบคุมทั้งหมด ควบคุมสภาพแวดล้อม ทรัพยากร และตัวคุณเอง

    สารเคมีอันตรายและสเปรย์พิษ สารเคมีอันตราย (อะลูมิเนียม แบเรียม สตรอนเซียม) จะถูกฉีดพ่นทุกวัน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เส้นทางที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อวางยาพิษในอากาศ น้ำและดิน สูตรใหม่มีอนุภาคนาโนอันตรายที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เปลี่ยนแปลง DNA และก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาท นี่คือสงครามชีวภาพในระดับโลก

    การควบคุมผ่านการจัดการสภาพอากาศ ไม่ได้มีเพียงการฉีดพ่นเท่านั้น มันคือการควบคุมสภาพอากาศทั้งหมด พายุเฮอริเคน ไฟป่า แผ่นดินไหว ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความวุ่นวายและทำให้ประเทศชาติไม่มั่นคง เอกสารที่รั่วไหลเมื่อไม่นานมานี้ยืนยันว่าอาวุธพลังงานกำกับทิศทาง (DEW) ที่ใช้ในการกำกับพายุและก่อให้เกิดภัยพิบัติ อยู่เบื้องหลังไฟป่าในแคนาดาเมื่อปี 2024 และแผ่นดินไหวในตุรกี สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมชาติ

    ระบบ HAARP ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในคลังอาวุธนี้ จะปรับเปลี่ยนสภาพอากาศทั่วโลก โดยเลือกภูมิภาคที่จะทำให้เกิดภัยแล้ง ขาดแคลนอาหาร และน้ำท่วม เป้าหมายของพวกเขาคือครอบงำสิ่งแวดล้อมโดยสิ้นเชิง ทำลายพืชผล ทำให้ประชากรอ่อนแอลง และบังคับให้รัฐบาลต้องพึ่งพาพวกเขา

    นาโนเทคโนโลยีและการจัดการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ชนชั้นนำได้ยกระดับเกมของพวกเขาขึ้น ในปี 2024 ผู้แจ้งเบาะแสได้เปิดโปง “ฝุ่นอัจฉริยะ” (ขับเคลื่อนด้วย 5G) ที่ถูกพ่นด้วยสารเคมีเทรล เทคโนโลยีนี้จะบุกรุกร่างกายของคุณ ทำให้สามารถควบคุมความคิด อารมณ์ และแม้แต่สุขภาพร่างกายได้ผ่านทางสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เมืองต่างๆ กำลังถูกน้ำท่วมด้วยฝุ่นละออง ทำให้ประชากรต้องกลายเป็นผู้รับสัญญาณ 5G ที่ควบคุมได้

    วิกฤตสุขภาพจิต การระบาดของความรุนแรง และโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่? มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นี่เป็นการโจมตีมนุษยชาติโดยเจตนา

    การสมรู้ร่วมคิดระดับโลกและการครอบงำขององค์กร นี่คือการดำเนินการประสานงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สหประชาชาติและฟอรัมเศรษฐกิจโลกต่างก็มีส่วนรู้เห็นในวาระการประชุมนี้ บริษัทต่างๆ เช่น BlackRock และ Vanguard กำลังซื้อที่ดินทำการเกษตรและสิทธิการใช้น้ำทั่วโลก ซึ่งเป็นการสร้างเวทีสำหรับการควบคุมอุปทานอาหารโดยสมบูรณ์

    Bill Gates ได้ให้เงินทุนสนับสนุนโครงการวิศวกรรมภูมิอากาศเหล่านี้มาหลายปี โดยผูกขาดอุตสาหกรรมการเกษตรระดับโลกและผลักดันให้เกษตรกรอิสระสูญพันธุ์ เนื้อสังเคราะห์และอาหารที่ปลูกในห้องแล็ปของคุณ? ออกแบบมาเพื่อให้ประชากรต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เทียมที่ควบคุมโดยบริษัทต่างๆ

    SkyNet 2.0: วิศวกรรมธรณีศาสตร์จากอวกาศปี 2024 ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารได้รั่วไหลรายละเอียดของ SkyNet 2.0 ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมระดับความลับที่สามารถควบคุมสภาพอากาศในระดับดาวเคราะห์ได้ ระบบบนอวกาศเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในสงครามลับเพื่อสร้างความไม่มั่นคงให้กับประเทศ เป้าหมายชัดเจน: บังคับให้ทุกประเทศยอมอยู่ภายใต้การควบคุมของชนชั้นนำระดับโลก ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา

    การลดจำนวนประชากรและผลลัพธ์ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุม แต่มันคือเรื่องของการลดจำนวนประชากร การประชุมของกลุ่มโลกาภิวัตน์เปิดเผยเป้าหมายของพวกเขา นั่นคือการลดจำนวนประชากรลงร้อยละ 90 ภายในปี 2050 ผู้รอดชีวิตจะได้ใช้ชีวิตในโลกอนาคตที่เลวร้าย ซึ่งทุกแง่มุมของชีวิตจะถูกควบคุมโดยชนชั้นสูง ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว? มนุษยนิยมแบบทรานส์ฮิวแมนิสม์ กลุ่มชนชั้นนำจินตนาการถึงการรวมตัวกับเครื่องจักร ในขณะที่มนุษยชาติที่เหลือจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกไป
    ..การรั่วไหลใหม่เปิดเผย SkyNet 2.0 และการควบคุมสภาพอากาศ: วิศวกรรมธรณีวิทยาที่ใช้เคมีเทรล อะลูมิเนียม แบเรียม อนุภาคนาโน และอาวุธพลังงานกำกับเพื่อวางยาพิษบนท้องฟ้าของเรา! ความจริงเบื้องหลังการจัดการสภาพอากาศนั้นชั่วร้ายยิ่งกว่าที่คนส่วนใหญ่คิด พวกผู้มีอำนาจกำลังทำสงครามกับมนุษยชาติโดยใช้ท้องฟ้าเป็นสนามรบ มันไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ แต่มันเป็นเรื่องของการควบคุมทั้งหมด ควบคุมสภาพแวดล้อม ทรัพยากร และตัวคุณเอง สารเคมีอันตรายและสเปรย์พิษ สารเคมีอันตราย (อะลูมิเนียม แบเรียม สตรอนเซียม) จะถูกฉีดพ่นทุกวัน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เส้นทางที่ไม่เป็นอันตราย แต่เป็นอาวุธที่ออกแบบมาเพื่อวางยาพิษในอากาศ น้ำและดิน สูตรใหม่มีอนุภาคนาโนอันตรายที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด เปลี่ยนแปลง DNA และก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาท นี่คือสงครามชีวภาพในระดับโลก การควบคุมผ่านการจัดการสภาพอากาศ ไม่ได้มีเพียงการฉีดพ่นเท่านั้น มันคือการควบคุมสภาพอากาศทั้งหมด พายุเฮอริเคน ไฟป่า แผ่นดินไหว ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความวุ่นวายและทำให้ประเทศชาติไม่มั่นคง เอกสารที่รั่วไหลเมื่อไม่นานมานี้ยืนยันว่าอาวุธพลังงานกำกับทิศทาง (DEW) ที่ใช้ในการกำกับพายุและก่อให้เกิดภัยพิบัติ อยู่เบื้องหลังไฟป่าในแคนาดาเมื่อปี 2024 และแผ่นดินไหวในตุรกี สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่เหตุการณ์ธรรมชาติ ระบบ HAARP ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือในคลังอาวุธนี้ จะปรับเปลี่ยนสภาพอากาศทั่วโลก โดยเลือกภูมิภาคที่จะทำให้เกิดภัยแล้ง ขาดแคลนอาหาร และน้ำท่วม เป้าหมายของพวกเขาคือครอบงำสิ่งแวดล้อมโดยสิ้นเชิง ทำลายพืชผล ทำให้ประชากรอ่อนแอลง และบังคับให้รัฐบาลต้องพึ่งพาพวกเขา นาโนเทคโนโลยีและการจัดการสนามแม่เหล็กไฟฟ้า ชนชั้นนำได้ยกระดับเกมของพวกเขาขึ้น ในปี 2024 ผู้แจ้งเบาะแสได้เปิดโปง “ฝุ่นอัจฉริยะ” (ขับเคลื่อนด้วย 5G) ที่ถูกพ่นด้วยสารเคมีเทรล เทคโนโลยีนี้จะบุกรุกร่างกายของคุณ ทำให้สามารถควบคุมความคิด อารมณ์ และแม้แต่สุขภาพร่างกายได้ผ่านทางสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เมืองต่างๆ กำลังถูกน้ำท่วมด้วยฝุ่นละออง ทำให้ประชากรต้องกลายเป็นผู้รับสัญญาณ 5G ที่ควบคุมได้ วิกฤตสุขภาพจิต การระบาดของความรุนแรง และโรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นในเมืองใหญ่? มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ นี่เป็นการโจมตีมนุษยชาติโดยเจตนา การสมรู้ร่วมคิดระดับโลกและการครอบงำขององค์กร นี่คือการดำเนินการประสานงานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรและรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก สหประชาชาติและฟอรัมเศรษฐกิจโลกต่างก็มีส่วนรู้เห็นในวาระการประชุมนี้ บริษัทต่างๆ เช่น BlackRock และ Vanguard กำลังซื้อที่ดินทำการเกษตรและสิทธิการใช้น้ำทั่วโลก ซึ่งเป็นการสร้างเวทีสำหรับการควบคุมอุปทานอาหารโดยสมบูรณ์ Bill Gates ได้ให้เงินทุนสนับสนุนโครงการวิศวกรรมภูมิอากาศเหล่านี้มาหลายปี โดยผูกขาดอุตสาหกรรมการเกษตรระดับโลกและผลักดันให้เกษตรกรอิสระสูญพันธุ์ เนื้อสังเคราะห์และอาหารที่ปลูกในห้องแล็ปของคุณ? ออกแบบมาเพื่อให้ประชากรต้องพึ่งพาผลิตภัณฑ์เทียมที่ควบคุมโดยบริษัทต่างๆ SkyNet 2.0: วิศวกรรมธรณีศาสตร์จากอวกาศปี 2024 ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารได้รั่วไหลรายละเอียดของ SkyNet 2.0 ซึ่งเป็นเครือข่ายดาวเทียมระดับความลับที่สามารถควบคุมสภาพอากาศในระดับดาวเคราะห์ได้ ระบบบนอวกาศเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในสงครามลับเพื่อสร้างความไม่มั่นคงให้กับประเทศ เป้าหมายชัดเจน: บังคับให้ทุกประเทศยอมอยู่ภายใต้การควบคุมของชนชั้นนำระดับโลก ไม่เช่นนั้นจะต้องเผชิญกับผลที่ตามมา การลดจำนวนประชากรและผลลัพธ์ มันไม่ใช่แค่เรื่องของการควบคุม แต่มันคือเรื่องของการลดจำนวนประชากร การประชุมของกลุ่มโลกาภิวัตน์เปิดเผยเป้าหมายของพวกเขา นั่นคือการลดจำนวนประชากรลงร้อยละ 90 ภายในปี 2050 ผู้รอดชีวิตจะได้ใช้ชีวิตในโลกอนาคตที่เลวร้าย ซึ่งทุกแง่มุมของชีวิตจะถูกควบคุมโดยชนชั้นสูง ขั้นตอนสุดท้ายแล้ว? มนุษยนิยมแบบทรานส์ฮิวแมนิสม์ กลุ่มชนชั้นนำจินตนาการถึงการรวมตัวกับเครื่องจักร ในขณะที่มนุษยชาติที่เหลือจะค่อย ๆ ถูกกำจัดออกไป
    0 Comments 0 Shares 453 Views 0 Reviews
  • สีจิ้นผิงชนะทรัมป์ในสงครามการค้ายกแรก : คนเคาะข่าว 13-05-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์

    #คนเคาะข่าว #สีจิ้นผิง #ทรัมป์ #สงครามการค้า #จีนสหรัฐ #Geopolitics #วิเคราะห์การเมืองโลก #ข่าวต่างประเทศ #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #การค้าโลก #เศรษฐกิจโลก #นโยบายทรัมป์ #thaitimes #การเมืองระหว่างประเทศ
    สีจิ้นผิงชนะทรัมป์ในสงครามการค้ายกแรก : คนเคาะข่าว 13-05-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #สีจิ้นผิง #ทรัมป์ #สงครามการค้า #จีนสหรัฐ #Geopolitics #วิเคราะห์การเมืองโลก #ข่าวต่างประเทศ #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #การค้าโลก #เศรษฐกิจโลก #นโยบายทรัมป์ #thaitimes #การเมืองระหว่างประเทศ
    Like
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 488 Views 7 1 Reviews
  • ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “New World Order รับมือระเบียบโลกใหม่” : คนเคาะข่าว 12-05-68
    : ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNTCTAD) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO)

    #คนเคาะข่าว #NewWorldOrder #ระเบียบโลกใหม่ #ดรศุภชัยพานิชภักดิ์ #WTO #UNCTAD #การค้าโลก #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #การเปลี่ยนแปลงโลก #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์โลกอนาคต #thaitimes #ปาฐกถาพิเศษ #การค้าระหว่างประเทศ
    ปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “New World Order รับมือระเบียบโลกใหม่” : คนเคาะข่าว 12-05-68 : ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNTCTAD) และอดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) #คนเคาะข่าว #NewWorldOrder #ระเบียบโลกใหม่ #ดรศุภชัยพานิชภักดิ์ #WTO #UNCTAD #การค้าโลก #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #การเปลี่ยนแปลงโลก #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์โลกอนาคต #thaitimes #ปาฐกถาพิเศษ #การค้าระหว่างประเทศ
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 428 Views 7 0 Reviews
  • จีนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ก่อนเจรจาสหรัฐที่สวิตฯ : คนเคาะข่าว 08-05-68
    ดำเนินรายการโดย อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร

    #คนเคาะข่าว #จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ #เจรจาสหรัฐจีน #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #ข่าวต่างประเทศ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #การเมืองโลก #thaitimes #นโยบายจีน #การเจรจาระหว่างประเทศ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #การเมืองระหว่างประเทศ
    จีนกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ก่อนเจรจาสหรัฐที่สวิตฯ : คนเคาะข่าว 08-05-68 ดำเนินรายการโดย อุษณีย์ เอกอุษณีย์ / อ.สุดาทิพย์ จารุจินดา อินทร #คนเคาะข่าว #จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ #เจรจาสหรัฐจีน #เศรษฐกิจโลก #Geopolitics #ข่าวต่างประเทศ #สุดาทิพย์จารุจินดา #อุษณีย์เอกอุษณีย์ #การเมืองโลก #thaitimes #นโยบายจีน #การเจรจาระหว่างประเทศ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #การเมืองระหว่างประเทศ
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 592 Views 6 0 Reviews
  • ภาษี ไม่จบ! ทรัมป์ จบ! 08/05/68 #กะเทาะหุ้น #ภาษีสหรัฐ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจโลก #การค้าโลก
    ภาษี ไม่จบ! ทรัมป์ จบ! 08/05/68 #กะเทาะหุ้น #ภาษีสหรัฐ #ภาษีทรัมป์ #เศรษฐกิจโลก #การค้าโลก
    0 Comments 0 Shares 609 Views 22 0 Reviews
  • ภาษีทรัมป์ ทำการค้าโลก ปั่นป่วน! : [Biz Talk]

    เศรษฐกิจโลกเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงนโยบายภาษีสหรัฐ ภาคเอกชน ประเมินหากไทย ถูกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ 10% จีดีพีปี68โตลดลงเหลือ 2-2.2% แต่หากถูกเรียกเก็บภาษี 36% จีดีพีไทยปีนี้ โตเพียง 0.7-1.4% มูลค่าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ อาจหายไป 1.4 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปี
    ภาษีทรัมป์ ทำการค้าโลก ปั่นป่วน! : [Biz Talk] เศรษฐกิจโลกเปราะบาง ท่ามกลางความเสี่ยงนโยบายภาษีสหรัฐ ภาคเอกชน ประเมินหากไทย ถูกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ที่ 10% จีดีพีปี68โตลดลงเหลือ 2-2.2% แต่หากถูกเรียกเก็บภาษี 36% จีดีพีไทยปีนี้ โตเพียง 0.7-1.4% มูลค่าส่งออกไทยไปสหรัฐฯ อาจหายไป 1.4 ล้านล้านบาท ภายใน 10 ปี
    0 Comments 0 Shares 630 Views 23 0 Reviews
  • กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงKey Highlights:กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกKrungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย
    กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงKey Highlights:กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกKrungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย
    0 Comments 0 Shares 294 Views 0 Reviews
  • Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีนอย่างหนัก แม้ว่าจะมีความพยายามในการกระจายฐานการผลิตไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย แต่กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน

    ก่อนที่ Donald Trump จะเข้าสู่การเมือง Apple และพันธมิตรได้สร้างโรงงานขนาดใหญ่ทั่วจีนเพื่อประกอบ iPhones ซึ่ง Trump เคยหาเสียงโดยสัญญาว่าจะบังคับให้ Apple ย้ายการผลิตกลับไปยังสหรัฐฯ แต่จนถึงปัจจุบัน Apple ยังคงพึ่งพาจีนเป็นหลัก

    แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนของการผลิตไปยัง อินเดียและเวียดนาม แต่ Apple ยังคงต้องพึ่งพา ซัพพลายเชนของจีน ซึ่งมีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง

    ✅ Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีน
    - กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน
    - แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย

    ✅ ความพยายามในการกระจายฐานการผลิต
    - Apple ได้เริ่มผลิต iPhones ใน อินเดีย มากขึ้น
    - มีการลงทุนใน โรงงานผลิตชิ้นส่วนในเวียดนามและไทย

    ✅ บทบาทของจีนในซัพพลายเชนของ Apple
    - จีนมี เครือข่ายซัพพลายเออร์ที่มีประสิทธิภาพสูง
    - Apple ยังคงต้องพึ่งพา แรงงานและเทคโนโลยีของจีน

    ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    - การพึ่งพาจีนอาจส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - หาก Apple ลดการผลิตในจีน อาจส่งผลต่อ เศรษฐกิจจีนและตลาดแรงงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/could-apple-exist-without-its-ties-to-china-probably-not
    Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีนอย่างหนัก แม้ว่าจะมีความพยายามในการกระจายฐานการผลิตไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย แต่กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน ก่อนที่ Donald Trump จะเข้าสู่การเมือง Apple และพันธมิตรได้สร้างโรงงานขนาดใหญ่ทั่วจีนเพื่อประกอบ iPhones ซึ่ง Trump เคยหาเสียงโดยสัญญาว่าจะบังคับให้ Apple ย้ายการผลิตกลับไปยังสหรัฐฯ แต่จนถึงปัจจุบัน Apple ยังคงพึ่งพาจีนเป็นหลัก แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนของการผลิตไปยัง อินเดียและเวียดนาม แต่ Apple ยังคงต้องพึ่งพา ซัพพลายเชนของจีน ซึ่งมีความซับซ้อนและมีประสิทธิภาพสูง ✅ Apple ยังคงพึ่งพาการผลิตในจีน - กว่า 80% ของ iPhones ยังคงผลิตในจีน - แม้ว่าจะมีการย้ายบางส่วนไปยัง อินเดีย, เวียดนาม และไทย ✅ ความพยายามในการกระจายฐานการผลิต - Apple ได้เริ่มผลิต iPhones ใน อินเดีย มากขึ้น - มีการลงทุนใน โรงงานผลิตชิ้นส่วนในเวียดนามและไทย ✅ บทบาทของจีนในซัพพลายเชนของ Apple - จีนมี เครือข่ายซัพพลายเออร์ที่มีประสิทธิภาพสูง - Apple ยังคงต้องพึ่งพา แรงงานและเทคโนโลยีของจีน ✅ ผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก - การพึ่งพาจีนอาจส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน - หาก Apple ลดการผลิตในจีน อาจส่งผลต่อ เศรษฐกิจจีนและตลาดแรงงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/03/could-apple-exist-without-its-ties-to-china-probably-not
    0 Comments 0 Shares 312 Views 0 Reviews
  • Samsung Electronics รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าธุรกิจชิป AI จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยอดขายสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า

    บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.68 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว โดยธุรกิจชิปมีกำไรลดลงถึง 42% แต่ธุรกิจอุปกรณ์มือถือและเครือข่ายกลับมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน

    Samsung ยังไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้า

    ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก
    - กำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว
    - รายได้รวม 79.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 10%

    ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจชิปและมือถือ
    - ธุรกิจชิปมีกำไรลดลง 42% เหลือ 1.1 ล้านล้านวอน
    - ธุรกิจมือถือและเครือข่ายมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน

    ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย
    - ลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า
    - ความต้องการสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น

    ✅ ความไม่แน่นอนในอนาคต
    - Samsung ไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป
    - ความตึงเครียดทางการค้าและเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/samsung-electronics-operating-profit-rises-slightly-in-q1
    Samsung Electronics รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 โดยมีกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แม้ว่าธุรกิจชิป AI จะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย แต่ยอดขายสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน (ประมาณ 4.68 พันล้านดอลลาร์) เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว โดยธุรกิจชิปมีกำไรลดลงถึง 42% แต่ธุรกิจอุปกรณ์มือถือและเครือข่ายกลับมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน Samsung ยังไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความตึงเครียดทางการค้า ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก - กำไรจากการดำเนินงาน 6.7 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 1.2% จากปีที่แล้ว - รายได้รวม 79.1 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 10% ✅ ผลกระทบต่อธุรกิจชิปและมือถือ - ธุรกิจชิปมีกำไรลดลง 42% เหลือ 1.1 ล้านล้านวอน - ธุรกิจมือถือและเครือข่ายมีกำไรเพิ่มขึ้น 23% เป็น 4.3 ล้านล้านวอน ✅ ปัจจัยที่ส่งผลต่อยอดขาย - ลูกค้ากังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ และเร่งซื้อสินค้าล่วงหน้า - ความต้องการสมาร์ทโฟนและชิปสินค้าโภคภัณฑ์เพิ่มขึ้น ✅ ความไม่แน่นอนในอนาคต - Samsung ไม่ได้ให้แนวโน้มรายได้สำหรับไตรมาสถัดไป - ความตึงเครียดทางการค้าและเศรษฐกิจโลกยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/30/samsung-electronics-operating-profit-rises-slightly-in-q1
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Samsung Electronics operating profit rises slightly in Q1
    SEOUL (Reuters) -Samsung Electronics reported on Wednesday a small rise in first-quarter operating profit as customers concerned about U.S. tariffs rushed to purchase smartphones and commodity chips, mitigating the impact of its underperforming artificial intelligence chip business.
    0 Comments 0 Shares 163 Views 0 Reviews
  • PayPal ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งสามารถทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยบริษัทยังคงคาดการณ์กำไรทั้งปีไว้ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น

    แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน แต่ PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก CEO Alex Chriss ระบุว่าบริษัทกำลังมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด

    นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบริการ Branded Checkout เช่น PayPal และ Venmo ซึ่งเผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google อย่างไรก็ตาม PayPal ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด

    ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก
    - กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.33 สูงกว่าคาดการณ์ที่ $1.16
    - คาดการณ์กำไรทั้งปีอยู่ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น

    ✅ แนวโน้มเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค
    - การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน
    - PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก

    ✅ กลยุทธ์ของบริษัท
    - มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด
    - เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout

    ✅ การแข่งขันในตลาด
    - บริการ Branded Checkout เผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google
    - PayPal ตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตของ Branded Checkout เป็น 8-10% ภายในปี 2027

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/paypal-beats-profit-targets-maintains-annual-earnings-forecast-amid-us-trade-uncertainty
    PayPal ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2025 ซึ่งสามารถทำกำไรได้สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ แม้ว่าจะมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจจากนโยบายภาษีของสหรัฐฯ โดยบริษัทยังคงคาดการณ์กำไรทั้งปีไว้ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น แม้ว่าการใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน แต่ PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก CEO Alex Chriss ระบุว่าบริษัทกำลังมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด นักลงทุนยังคงกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของบริการ Branded Checkout เช่น PayPal และ Venmo ซึ่งเผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google อย่างไรก็ตาม PayPal ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout เพื่อรักษาตำแหน่งในตลาด ✅ ผลประกอบการไตรมาสแรก - กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.33 สูงกว่าคาดการณ์ที่ $1.16 - คาดการณ์กำไรทั้งปีอยู่ที่ $4.95 - $5.10 ต่อหุ้น ✅ แนวโน้มเศรษฐกิจและการใช้จ่ายของผู้บริโภค - การใช้จ่ายของผู้บริโภคในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในเดือนเมษายน - PayPal ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ✅ กลยุทธ์ของบริษัท - มุ่งเน้นธุรกิจที่มีอัตรากำไรสูง แทนที่จะเน้นการเติบโตแบบก้าวกระโดด - เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น Fastlane Guest Checkout ✅ การแข่งขันในตลาด - บริการ Branded Checkout เผชิญกับการแข่งขันจาก Apple และ Google - PayPal ตั้งเป้าเพิ่มการเติบโตของ Branded Checkout เป็น 8-10% ภายในปี 2027 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/paypal-beats-profit-targets-maintains-annual-earnings-forecast-amid-us-trade-uncertainty
    WWW.THESTAR.COM.MY
    PayPal beats profit targets, flags spending pull forward amid economic uncertainty
    (Reuters) - PayPal beat Wall Street estimates for first-quarter earnings and stuck to its annual profit forecast on Tuesday, even at a time when U.S. President Donald Trump's tariffs have fueled economic uncertainty.
    0 Comments 0 Shares 236 Views 0 Reviews
More Results