• เลิกสักทีฟรีวีซ่าเป็นปี ถ้าเหลือแค่ 15 วัน พวกเอล-จีนเทา คงเบาบางลง (26/10/68)

    #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ฟรีวีซ่า #จีนเทา #เอลซัลวาดอร์ #นโยบายท่องเที่ยว #ความมั่นคง #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    เลิกสักทีฟรีวีซ่าเป็นปี ถ้าเหลือแค่ 15 วัน พวกเอล-จีนเทา คงเบาบางลง (26/10/68) #ThaiTimes #News1 #News1short #TruthFromThailand #shorts #ฟรีวีซ่า #จีนเทา #เอลซัลวาดอร์ #นโยบายท่องเที่ยว #ความมั่นคง #ข่าวร้อน #ข่าววันนี้ #newsupdate #ข่าวtiktok
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • #ฮุนเซนฮุนมาเนตคืออาชญากรสงครามชาติใดก็สามารถฟ้องดำเนินคดีมันได้จึงสมควรที่สุด.

    ..ศาลอาญาระหว่างประเทศ

    ศาลซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 เพื่อดำเนินคดีบุคคลในข้อหาอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดภายใต้ธรรมนูญกรุงโรม มีประเทศสมาชิก 125 ประเทศที่ให้สัตยาบันสนธิสัญญาดังกล่าว ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568

    ศาลอาญาระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Criminal Court; ย่อ: ICC) เป็นศาลระหว่างประเทศซึ่งมีที่ทำการอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีเขตอำนาจดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอาญาระหว่างประเทศ 4 ฐาน คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน ก่อตั้งขึ้นโดยประสงค์จะให้เป็นส่วนเสริมของระบบยุติธรรมที่แต่ละประเทศมีอยู่ จึงมีเขตอำนาจเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขเท่านั้น เช่น เมื่อศาลระดับประเทศไม่สามารถหรือไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแล้ว หรือเมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือรัฐหนึ่ง ๆ เสนอคดีมาให้พิจารณา ศาลนี้เริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 อันเป็นวันที่ธรรมนูญกรุงโรมเริ่มใช้บังคับ ธรรมนูญดังกล่าวเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีซึ่งวางรากฐานและกำหนดการบริหารจัดการของศาล รัฐที่เข้าเป็นภาคีแห่งธรรมนูญจะนับเป็นรัฐสมาชิกของศาล ปัจจุบันมีรัฐภาคี 125 รัฐ

    องค์กรหลักของศาลมี 4 องค์กร คือ คณะประธาน แผนกตุลาการ สำนักงานอัยการ และสำนักงานทะเบียน ประธานศาลเป็นตุลาการที่ได้รับเลือกมาจากตุลาการคนอื่นในแผนกตุลาการ สำนักงานอัยการมีอัยการเป็นหัวหน้า ทำหน้าที่สืบสวนคดีและส่งฟ้องต่อแผนกตุลาการ ส่วนสำนักงานทะเบียนมีนายทะเบียนเป็นหัวหน้า รับผิดชอบงานธุรการทั้งปวงของศาล ซึ่งรวมถึงการบริหารสำนักงานใหญ่ของศาล หน่วยขัง และสำนักงานทนายจำเลย


    ประเทศที่เป็นสมาชิกของ ICC

    ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568 มีประเทศต่างๆ 137 ประเทศลงนามในธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งแสดงถึงเจตนาที่จะเข้าร่วม ในขณะที่ 125 ประเทศได้ให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นรัฐสมาชิกเต็มตัวของ ICC

    ประเทศต่างๆ ที่ได้ลงนามหรือให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมแสดงอยู่ในแผนที่ด้านล่าง


    ปี1999
    ฟิจิ กานา อิตาลี ซานมารีโน เซเนกัล ตรินิแดดและโตเบโก

    2000
    ออสเตรีย เบลเยียม บอตสวานา แคนาดา ฝรั่งเศส กาบอง เยอรมนี ไอซ์แลนด์ เลโซโท ลักเซมเบิร์ก มาลี หมู่เกาะมาร์แชลล์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ สเปน ทาจิกิสถาน เวเนซุเอลา

    2001
    อันดอร์รา แอนติกาและบาร์บูดา อาร์เจนตินา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คอสตาริกา โครเอเชีย เดนมาร์ก โดมินิกา ฮังการี ลิกเตนสไตน์ เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ปารากวัย เปรู โปแลนด์ เซอร์เบีย สโลวีเนีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร

    2002
    บาร์เบโดส, เบนิน, โบลิเวีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บราซิล, บัลแกเรีย, กัมพูชา, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, จิบูตี, เอกวาดอร์, เอสโตเนีย, แกมเบีย, กรีซ, ฮอนดูรัส, ไอร์แลนด์, จอร์แดน, ลัตเวีย, มาลาวี, มอลตา, มอริเชียส, มองโกเลีย, นามิเบีย, ไนเจอร์, มาซิโดเนียเหนือ, ปานามา, โปรตุเกส, สาธารณรัฐเกาหลี, โรมาเนีย, เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์, ซามัว, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, แทนซาเนีย, ติมอร์-เลสเต, ยูกันดา, อุรุกวัย, แซมเบีย

    2003
    อัฟกานิสถาน, แอลเบเนีย, จอร์เจีย, กินี, ลิทัวเนีย

    2004
    บูร์กินาฟาโซ กายอานา ไลบีเรีย สาธารณรัฐคองโก

    2005
    สาธารณรัฐโดมินิกัน เคนยา เม็กซิโก

    ปี 2549
    คอโมโรส มอนเตเนโกร เซนต์คิตส์และเนวิส

    2007
    ชาด ประเทศญี่ปุ่น

    2008
    หมู่เกาะคุก มาดากัสการ์ ซูรินาม

    ปี 2009
    ชิลี สาธารณรัฐเช็ก

    2010
    บังกลาเทศ มอลโดวา เซนต์ลูเซีย เซเชลส์

    ปี 2011
    กาบูเวร์ดี, เกรเนดา, มัลดีฟส์, ตูนิเซีย

    2012
    กัวเตมาลา วานูอาตู

    ปี 2013
    ไอวอรีโคสต์

    ปี 2558
    ปาเลสไตน์

    ปี 2559
    เอลซัลวาดอร์

    ปี 2019
    คิริบาติ

    2023
    อาร์เมเนีย

    2024
    ยูเครน




    #ฮุนเซนฮุนมาเนตคืออาชญากรสงครามชาติใดก็สามารถฟ้องดำเนินคดีมันได้จึงสมควรที่สุด. ..ศาลอาญาระหว่างประเทศ ศาลซึ่งจัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2545 เพื่อดำเนินคดีบุคคลในข้อหาอาชญากรรมร้ายแรงที่สุดภายใต้ธรรมนูญกรุงโรม มีประเทศสมาชิก 125 ประเทศที่ให้สัตยาบันสนธิสัญญาดังกล่าว ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ศาลอาญาระหว่างประเทศ (อังกฤษ: International Criminal Court; ย่อ: ICC) เป็นศาลระหว่างประเทศซึ่งมีที่ทำการอยู่ในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ มีเขตอำนาจดำเนินคดีผู้กระทำความผิดอาญาระหว่างประเทศ 4 ฐาน คือ การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ อาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมอันเป็นการรุกราน ก่อตั้งขึ้นโดยประสงค์จะให้เป็นส่วนเสริมของระบบยุติธรรมที่แต่ละประเทศมีอยู่ จึงมีเขตอำนาจเมื่อเป็นไปตามเงื่อนไขเท่านั้น เช่น เมื่อศาลระดับประเทศไม่สามารถหรือไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแล้ว หรือเมื่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือรัฐหนึ่ง ๆ เสนอคดีมาให้พิจารณา ศาลนี้เริ่มปฏิบัติงานในวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2002 อันเป็นวันที่ธรรมนูญกรุงโรมเริ่มใช้บังคับ ธรรมนูญดังกล่าวเป็นสนธิสัญญาพหุภาคีซึ่งวางรากฐานและกำหนดการบริหารจัดการของศาล รัฐที่เข้าเป็นภาคีแห่งธรรมนูญจะนับเป็นรัฐสมาชิกของศาล ปัจจุบันมีรัฐภาคี 125 รัฐ องค์กรหลักของศาลมี 4 องค์กร คือ คณะประธาน แผนกตุลาการ สำนักงานอัยการ และสำนักงานทะเบียน ประธานศาลเป็นตุลาการที่ได้รับเลือกมาจากตุลาการคนอื่นในแผนกตุลาการ สำนักงานอัยการมีอัยการเป็นหัวหน้า ทำหน้าที่สืบสวนคดีและส่งฟ้องต่อแผนกตุลาการ ส่วนสำนักงานทะเบียนมีนายทะเบียนเป็นหัวหน้า รับผิดชอบงานธุรการทั้งปวงของศาล ซึ่งรวมถึงการบริหารสำนักงานใหญ่ของศาล หน่วยขัง และสำนักงานทนายจำเลย ประเทศที่เป็นสมาชิกของ ICC ณ เดือนเมษายน พ.ศ. 2568 มีประเทศต่างๆ 137 ประเทศลงนามในธรรมนูญกรุงโรม ซึ่งแสดงถึงเจตนาที่จะเข้าร่วม ในขณะที่ 125 ประเทศได้ให้สัตยาบันอย่างเป็นทางการ และกลายเป็นรัฐสมาชิกเต็มตัวของ ICC ประเทศต่างๆ ที่ได้ลงนามหรือให้สัตยาบันธรรมนูญกรุงโรมแสดงอยู่ในแผนที่ด้านล่าง ปี1999 ฟิจิ กานา อิตาลี ซานมารีโน เซเนกัล ตรินิแดดและโตเบโก 2000 ออสเตรีย เบลเยียม บอตสวานา แคนาดา ฝรั่งเศส กาบอง เยอรมนี ไอซ์แลนด์ เลโซโท ลักเซมเบิร์ก มาลี หมู่เกาะมาร์แชลล์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ เซียร์ราลีโอน แอฟริกาใต้ สเปน ทาจิกิสถาน เวเนซุเอลา 2001 อันดอร์รา แอนติกาและบาร์บูดา อาร์เจนตินา สาธารณรัฐแอฟริกากลาง คอสตาริกา โครเอเชีย เดนมาร์ก โดมินิกา ฮังการี ลิกเตนสไตน์ เนเธอร์แลนด์ ไนจีเรีย ปารากวัย เปรู โปแลนด์ เซอร์เบีย สโลวีเนีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร 2002 บาร์เบโดส, เบนิน, โบลิเวีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา, บราซิล, บัลแกเรีย, กัมพูชา, โคลอมเบีย, สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก, จิบูตี, เอกวาดอร์, เอสโตเนีย, แกมเบีย, กรีซ, ฮอนดูรัส, ไอร์แลนด์, จอร์แดน, ลัตเวีย, มาลาวี, มอลตา, มอริเชียส, มองโกเลีย, นามิเบีย, ไนเจอร์, มาซิโดเนียเหนือ, ปานามา, โปรตุเกส, สาธารณรัฐเกาหลี, โรมาเนีย, เซนต์วินเซนต์และเกรนาดีนส์, ซามัว, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, แทนซาเนีย, ติมอร์-เลสเต, ยูกันดา, อุรุกวัย, แซมเบีย 2003 อัฟกานิสถาน, แอลเบเนีย, จอร์เจีย, กินี, ลิทัวเนีย 2004 บูร์กินาฟาโซ กายอานา ไลบีเรีย สาธารณรัฐคองโก 2005 สาธารณรัฐโดมินิกัน เคนยา เม็กซิโก ปี 2549 คอโมโรส มอนเตเนโกร เซนต์คิตส์และเนวิส 2007 ชาด ประเทศญี่ปุ่น 2008 หมู่เกาะคุก มาดากัสการ์ ซูรินาม ปี 2009 ชิลี สาธารณรัฐเช็ก 2010 บังกลาเทศ มอลโดวา เซนต์ลูเซีย เซเชลส์ ปี 2011 กาบูเวร์ดี, เกรเนดา, มัลดีฟส์, ตูนิเซีย 2012 กัวเตมาลา วานูอาตู ปี 2013 ไอวอรีโคสต์ ปี 2558 ปาเลสไตน์ ปี 2559 เอลซัลวาดอร์ ปี 2019 คิริบาติ 2023 อาร์เมเนีย 2024 ยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • GlobalX ถูกโจมตีทางไซเบอร์ หลังถูกแฮกโดย Anonymous

    GlobalX ซึ่งเป็นสายการบินที่เกี่ยวข้องกับ การเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ได้รายงานว่า ถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยกลุ่มแฮกติวิสต์ Anonymous เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 บริษัทได้แจ้งเรื่องไปยัง US Securities and Exchange Commission (SEC) และกำลังดำเนินมาตรการป้องกัน

    GlobalX รายงานว่าพบกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตในเครือข่ายของบริษัท
    - ตรวจพบเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 และเริ่มดำเนินมาตรการตอบสนองทันที

    บริษัทได้แจ้งเรื่องไปยัง SEC และนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเข้ามาตรวจสอบ
    - มีการ แยกเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับผลกระทบออกจากระบบหลัก

    GlobalX ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสายการบิน
    - บริษัทระบุว่า ไม่มีผลกระทบทางธุรกิจที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้

    Anonymous อ้างว่าขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินและรายชื่อผู้โดยสาร
    - ข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง รายละเอียดของผู้ถูกเนรเทศ

    แฮกติวิสต์ Anonymous อ้างว่าการโจมตีเป็นการตอบโต้ต่อการเนรเทศที่ผิดกฎหมาย
    - พวกเขาอ้างว่า บางคนที่ถูกส่งกลับไปยังเอลซัลวาดอร์ไม่ควรถูกเนรเทศตามคำสั่งศาล

    https://www.techradar.com/pro/security/globalx-airline-helping-trump-deportations-hit-by-cyberattack
    GlobalX ถูกโจมตีทางไซเบอร์ หลังถูกแฮกโดย Anonymous GlobalX ซึ่งเป็นสายการบินที่เกี่ยวข้องกับ การเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายภายใต้รัฐบาลทรัมป์ ได้รายงานว่า ถูกโจมตีทางไซเบอร์ โดยกลุ่มแฮกติวิสต์ Anonymous เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 บริษัทได้แจ้งเรื่องไปยัง US Securities and Exchange Commission (SEC) และกำลังดำเนินมาตรการป้องกัน ✅ GlobalX รายงานว่าพบกิจกรรมที่ไม่ได้รับอนุญาตในเครือข่ายของบริษัท - ตรวจพบเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2025 และเริ่มดำเนินมาตรการตอบสนองทันที ✅ บริษัทได้แจ้งเรื่องไปยัง SEC และนำผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยเข้ามาตรวจสอบ - มีการ แยกเซิร์ฟเวอร์ที่ได้รับผลกระทบออกจากระบบหลัก ✅ GlobalX ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของสายการบิน - บริษัทระบุว่า ไม่มีผลกระทบทางธุรกิจที่สำคัญจากเหตุการณ์นี้ ✅ Anonymous อ้างว่าขโมยข้อมูลเกี่ยวกับเที่ยวบินและรายชื่อผู้โดยสาร - ข้อมูลที่ถูกขโมยอาจรวมถึง รายละเอียดของผู้ถูกเนรเทศ ✅ แฮกติวิสต์ Anonymous อ้างว่าการโจมตีเป็นการตอบโต้ต่อการเนรเทศที่ผิดกฎหมาย - พวกเขาอ้างว่า บางคนที่ถูกส่งกลับไปยังเอลซัลวาดอร์ไม่ควรถูกเนรเทศตามคำสั่งศาล https://www.techradar.com/pro/security/globalx-airline-helping-trump-deportations-hit-by-cyberattack
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 375 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์เพิ่งโพสต์รูปมือของ Kilmar Armando Abrego Garcia ชาวเอลซัลวาดอร์ ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ โดยระบุว่าเขาเป็นสมาชิกของแก๊งอาชญกรรุนแรง MS-13 ที่มีชื่อเสียงเรื่องการสังหารหมู่ การทรมานที่โหดร้าย ซึ่งไม่ควรปล่อยให้บุคคลอันตรายนี้อยู่ในสหรัฐต่อไป

    แต่ชาวเน็ตส่วนหนึ่งโต้แย้งว่ารูปรอยสักที่นิ้วมือดูแปลกๆ ไม่เหมือนรอยสัก และยังมีการหาภาพอื่นมายืนยันว่าไม่มีการสักตัวอักษร MS-13

    นอกจากนี้ จากหลักฐานเอกสารของตำรวจท้องถิ่นที่เคยจับกุม Kilmar Abrego Garcia เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2019 ก็ไม่ได้ระบุว่า Abrego Garcia มีรอยสักใดๆที่เกี่ยวข้องกับแก้ง MS-13


    เมื่อช่วงต้นเเดือนเมษายน ศาลฎีกาสหรัฐมีมติเอกฉันท์ด้วยมติเสียงเห็นชอบ 9-0 กำหนดให้รัฐบาลทรัมป์ต้อง "อำนวยความสะดวก" (facilitate) ในการนำตัว Kilmar Armando Abrego Garcia ชายชาวแมริแลนด์ กลับมายังสหรัฐฯ หลังจากเนรเทศเขากลับไปยังเอลซัลวาดอร์อย่างผิดกฎหมาย และต้องจัดการคดีของเขาเหมือนกับว่าเขาไม่เคยถูกส่งไปที่นั่น

    สำหรับ Kilmar Armando Abrego Garcia เป็นชาวเอลซัลวาดอร์ อาศัยอยู่ในรัฐแมรี่แลนด์ โดยมี “สถานะผู้อพยพพิเศษ” ได้ถูกจับกุมโดยไม่มีหมายจับและถูกเนรเทศอย่างผิดกฎหมายไปยังเรือนจำในประเทศเอลซัลวาดอร์เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมด้วยผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายอีกราว 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรที่ก่อเหตุรุนแรงและอาจเกี่ยวข้องเป็นสมาชิกแก๊ง Tren de Aragua ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรของเวเนซุเอลาที่ปฏิบัติการอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือไปจนถึงทวีปอเมริกาใต้
    ทรัมป์เพิ่งโพสต์รูปมือของ Kilmar Armando Abrego Garcia ชาวเอลซัลวาดอร์ ที่ถูกส่งตัวกลับประเทศ โดยระบุว่าเขาเป็นสมาชิกของแก๊งอาชญกรรุนแรง MS-13 ที่มีชื่อเสียงเรื่องการสังหารหมู่ การทรมานที่โหดร้าย ซึ่งไม่ควรปล่อยให้บุคคลอันตรายนี้อยู่ในสหรัฐต่อไป แต่ชาวเน็ตส่วนหนึ่งโต้แย้งว่ารูปรอยสักที่นิ้วมือดูแปลกๆ ไม่เหมือนรอยสัก และยังมีการหาภาพอื่นมายืนยันว่าไม่มีการสักตัวอักษร MS-13 นอกจากนี้ จากหลักฐานเอกสารของตำรวจท้องถิ่นที่เคยจับกุม Kilmar Abrego Garcia เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2019 ก็ไม่ได้ระบุว่า Abrego Garcia มีรอยสักใดๆที่เกี่ยวข้องกับแก้ง MS-13 เมื่อช่วงต้นเเดือนเมษายน ศาลฎีกาสหรัฐมีมติเอกฉันท์ด้วยมติเสียงเห็นชอบ 9-0 กำหนดให้รัฐบาลทรัมป์ต้อง "อำนวยความสะดวก" (facilitate) ในการนำตัว Kilmar Armando Abrego Garcia ชายชาวแมริแลนด์ กลับมายังสหรัฐฯ หลังจากเนรเทศเขากลับไปยังเอลซัลวาดอร์อย่างผิดกฎหมาย และต้องจัดการคดีของเขาเหมือนกับว่าเขาไม่เคยถูกส่งไปที่นั่น สำหรับ Kilmar Armando Abrego Garcia เป็นชาวเอลซัลวาดอร์ อาศัยอยู่ในรัฐแมรี่แลนด์ โดยมี “สถานะผู้อพยพพิเศษ” ได้ถูกจับกุมโดยไม่มีหมายจับและถูกเนรเทศอย่างผิดกฎหมายไปยังเรือนจำในประเทศเอลซัลวาดอร์เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมด้วยผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายอีกราว 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรที่ก่อเหตุรุนแรงและอาจเกี่ยวข้องเป็นสมาชิกแก๊ง Tren de Aragua ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรของเวเนซุเอลาที่ปฏิบัติการอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือไปจนถึงทวีปอเมริกาใต้
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 682 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มีใครแสดงความกังวล หรือเฝ้าจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือยัง"

    ศาลฎีกาสหรัฐมีมติเอกฉันท์ด้วยมติเสียงเห็นชอบ 9-0 ยืนตามคำสั่งศาลที่กำหนดให้รัฐบาลทรัมป์ต้อง "อำนวยความสะดวก" (facilitate) ในการนำตัว Kilmar Armando Abrego Garcia ชายชาวแมริแลนด์ กลับมายังสหรัฐฯ หลังจากเนรเทศเขากลับไปยังเอลซัลวาดอร์อย่างผิดกฎหมาย และต้องจัดการคดีของเขาเหมือนกับว่าเขาไม่เคยถูกส่งไปที่นั่น


    สำหรับ Kilmar Armando Abrego Garcia เป็นชาวเอลซัลวาดอร์ อาศัยอยู่ในรัฐแมรี่แลนด์ โดยมี “สถานะผู้อพยพพิเศษ” ได้ถูกจับกุมโดยไม่มีหมายจับและถูกเนรเทศอย่างผิดกฎหมายไปยังเรือนจำในประเทศเอลซัลวาดอร์เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมด้วยผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายอีกราว 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรที่ก่อเหตุรุนแรงและอาจเกี่ยวข้องเป็นสมาชิกแก๊ง Tren de Aragua ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรของเวเนซุเอลาที่ปฏิบัติการอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือไปจนถึงทวีปอเมริกาใต้


    ลิ้งค์ไฟล์เอกสาร
    https://www.documentcloud.org/documents/25894465-24a949-order/
    "มีใครแสดงความกังวล หรือเฝ้าจับตามองสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ในเรื่องละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือยัง" ศาลฎีกาสหรัฐมีมติเอกฉันท์ด้วยมติเสียงเห็นชอบ 9-0 ยืนตามคำสั่งศาลที่กำหนดให้รัฐบาลทรัมป์ต้อง "อำนวยความสะดวก" (facilitate) ในการนำตัว Kilmar Armando Abrego Garcia ชายชาวแมริแลนด์ กลับมายังสหรัฐฯ หลังจากเนรเทศเขากลับไปยังเอลซัลวาดอร์อย่างผิดกฎหมาย และต้องจัดการคดีของเขาเหมือนกับว่าเขาไม่เคยถูกส่งไปที่นั่น สำหรับ Kilmar Armando Abrego Garcia เป็นชาวเอลซัลวาดอร์ อาศัยอยู่ในรัฐแมรี่แลนด์ โดยมี “สถานะผู้อพยพพิเศษ” ได้ถูกจับกุมโดยไม่มีหมายจับและถูกเนรเทศอย่างผิดกฎหมายไปยังเรือนจำในประเทศเอลซัลวาดอร์เมื่อเดือนที่แล้ว พร้อมด้วยผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายอีกราว 100 คน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกล่าวหาว่าเป็นอาชญากรที่ก่อเหตุรุนแรงและอาจเกี่ยวข้องเป็นสมาชิกแก๊ง Tren de Aragua ซึ่งเป็นแก๊งอาชญากรของเวเนซุเอลาที่ปฏิบัติการอยู่ในทวีปอเมริกาเหนือไปจนถึงทวีปอเมริกาใต้ ลิ้งค์ไฟล์เอกสาร https://www.documentcloud.org/documents/25894465-24a949-order/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 667 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติม ทำให้ยอดรวมบิทคอยน์ในกองทุนสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 6,102 เหรียญ สำนักงานบิทคอยน์แห่งชาติได้โพสต์ข้อมูลนี้บนสื่อสังคมออนไลน์

    การประกาศซื้อบิทคอยน์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากคณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อนุมัติโครงการ 40 เดือนกับเอลซัลวาดอร์มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การยอมรับของสาธารณะเกี่ยวกับการใช้บิทคอยน์เป็นเงินตรายังคงเป็นเรื่องสมัครใจ และไม่สามารถใช้ชำระภาษีได้ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเมื่อบิทคอยน์ได้รับสถานะเป็นเงินตราที่ถูกต้องตามกฎหมายในปี 2021

    รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้รับรองกับ IMF ว่าการเพิ่มจำนวนบิทคอยน์ในกองทุนสำรองนั้นสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ และจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในระดับของภาครัฐอย่างเป็นทางการ ตามที่โฆษกของ IMF กล่าวไว้

    การประกาศซื้อบิทคอยน์ทำให้พันธบัตรดอลลาร์ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ลดลงในตลาดในวันพุธ โดยพันธบัตรที่ครบกำหนดในปี 2050 และ 2041 ลดลง 0.75 เซ็นต์ต่อดอลลาร์

    รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีก 12 เหรียญตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเมื่อ IMF อนุมัติข้อตกลงปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลถือบิทคอยน์มูลค่าประมาณ 550 ล้านดอลลาร์

    การซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติมนี้อาจเป็นการพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทุนสำรองของเอลซัลวาดอร์ แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบิทคอยน์ยังคงมีความผันผวนในตลาด การรับรองจาก IMF ว่ารัฐบาลจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในภาครัฐอาจเป็นการพยายามสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินในประเทศ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/06/el-salvador-announces-more-bitcoin-purchases-gives-imf-assurances
    รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ประกาศซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติม ทำให้ยอดรวมบิทคอยน์ในกองทุนสำรองของประเทศเพิ่มขึ้นกว่า 6,102 เหรียญ สำนักงานบิทคอยน์แห่งชาติได้โพสต์ข้อมูลนี้บนสื่อสังคมออนไลน์ การประกาศซื้อบิทคอยน์ครั้งนี้เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจากคณะกรรมการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) อนุมัติโครงการ 40 เดือนกับเอลซัลวาดอร์มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ตาม การยอมรับของสาธารณะเกี่ยวกับการใช้บิทคอยน์เป็นเงินตรายังคงเป็นเรื่องสมัครใจ และไม่สามารถใช้ชำระภาษีได้ ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวังเมื่อบิทคอยน์ได้รับสถานะเป็นเงินตราที่ถูกต้องตามกฎหมายในปี 2021 รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้รับรองกับ IMF ว่าการเพิ่มจำนวนบิทคอยน์ในกองทุนสำรองนั้นสอดคล้องกับเงื่อนไขที่ได้ตกลงกันไว้ และจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในระดับของภาครัฐอย่างเป็นทางการ ตามที่โฆษกของ IMF กล่าวไว้ การประกาศซื้อบิทคอยน์ทำให้พันธบัตรดอลลาร์ของรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ลดลงในตลาดในวันพุธ โดยพันธบัตรที่ครบกำหนดในปี 2050 และ 2041 ลดลง 0.75 เซ็นต์ต่อดอลลาร์ รัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้ซื้อบิทคอยน์เพิ่มอีก 12 เหรียญตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้วเมื่อ IMF อนุมัติข้อตกลงปัจจุบัน ซึ่งรัฐบาลถือบิทคอยน์มูลค่าประมาณ 550 ล้านดอลลาร์ การซื้อบิทคอยน์เพิ่มเติมนี้อาจเป็นการพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับกองทุนสำรองของเอลซัลวาดอร์ แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบิทคอยน์ยังคงมีความผันผวนในตลาด การรับรองจาก IMF ว่ารัฐบาลจะไม่สะสมบิทคอยน์เพิ่มเติมในภาครัฐอาจเป็นการพยายามสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงินในประเทศ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/03/06/el-salvador-announces-more-bitcoin-purchases-gives-imf-assurances
    WWW.THESTAR.COM.MY
    El Salvador announces more bitcoin purchases, gives IMF assurances
    SAN SALVADOR (Reuters) - El Salvador announced on Wednesday the purchase of a bitcoin, which takes the total in the country's strategic reserve to above 6,102 coins, the National Bitcoin Office posted on social media.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 618 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ นายิบ บูเกเล (Nayib Bukele) ออกมาโจมตีเงินช่วยเหลือ USAID อีกราย:

    "เงินจาก USAID เพียง 10% เท่านั้นที่ช่วยเหลือได้จริง ส่วนที่เหลือจากนั้นถูกใช้ในการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้าน การประท้วง และบ่อนทำลายรัฐบาลที่ไม่ใช่โลกาภิวัตน์"

    "แม้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกโฆษณาว่าเป็นเงินสนับสนุนการพัฒนาประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน แต่เงินส่วนใหญ่กลับถูกโอนเข้าไปยังกลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชนที่มีวาระแอบแฝงทางการเมือง และกลุ่มเคลื่อนไหวที่ก่อความไม่สงบภายในประเทศ"

    "การตัดเงินช่วยเหลือส่วนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับส่วนอื่นๆ ของโลกอีกด้วย"

    ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ นายิบ บูเกเล (Nayib Bukele) ออกมาโจมตีเงินช่วยเหลือ USAID อีกราย: "เงินจาก USAID เพียง 10% เท่านั้นที่ช่วยเหลือได้จริง ส่วนที่เหลือจากนั้นถูกใช้ในการกระตุ้นให้เกิดการต่อต้าน การประท้วง และบ่อนทำลายรัฐบาลที่ไม่ใช่โลกาภิวัตน์" "แม้ว่าเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกโฆษณาว่าเป็นเงินสนับสนุนการพัฒนาประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชน แต่เงินส่วนใหญ่กลับถูกโอนเข้าไปยังกลุ่มฝ่ายต่อต้านรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชนที่มีวาระแอบแฝงทางการเมือง และกลุ่มเคลื่อนไหวที่ก่อความไม่สงบภายในประเทศ" "การตัดเงินช่วยเหลือส่วนนี้ ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อสหรัฐอเมริกาเท่านั้น แต่ยังเป็นชัยชนะครั้งใหญ่สำหรับส่วนอื่นๆ ของโลกอีกด้วย"
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 397 มุมมอง 0 รีวิว
  • นี่คือประเทศเอลซัลวาดอร์ เมืองที่เคยเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากจำนวนอาชญากรรมมากมาย
    แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด สำหรับการอยู่อาศัย และท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในโลกไปแล้ว ภายใต้การบริหารประเทศของ "นายิบ บูเคเล" (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์

    เมื่อความปลอดภัยหวนคืนสู่ประเทศ ชาวเอลซัลวาดอร์บอกว่า พวกเขาสามารถเดินบนถนนได้อย่างอิสระ ขณะที่ร้านรวงต่าง ๆ ไม่บ่นเรื่องถูกกรรโชกทรัพย์อีกต่อไป

    “ที่นี่ไม่เคยปลอดภัย จนกระทั่งประธานาธิบดีคนนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และเขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” หญิงสาวรายหนึ่งกล่าวถึงในย่านหนึ่งที่เคยเป็นแหล่งอันตรายที่สุดของเมืองหลวง

    บูเคเล ชนะการเลือกตั้งทั่วไปสมัยแรกในปี 2019 ส่งผลให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วยอายุเพียง 37 ปี จากการชูนโยบายต่อต้านการทุจริตและสัญญาว่าจะปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น (นโยบายใกล้เคียงยูเครนในสมัยที่เซเลนสกีลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งก็คือปราบปรามการทุจริต)

    บูเคเล ถูกมองจากยุโรปและสหรัฐว่าเป็นเผด็จการ รวบอำนาจการปกครองไว้ที่ตนเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญอันดีงามของประเทศ เนื่องจากเขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศมาเกือบ 2 ปี เพื่อปราบปรามแก๊งอาชญากรต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนนักโทษในเรือนจำเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่า 75,000 คน หรือ 3 เท่า “สมาชิกแก๊งมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น” “คุกหรือตาย ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น” บูเคเล กล่าว

    แน่นอนว่ายุโรปและสหรัฐต่อต้านนโยบายเหล่านี้ของบูเคเล ผ่านทางองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวหาว่า บูเคเลละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน และชักชวนให้ประชาชนในพื้นที่ต่อต้านเขา โดยให้ข้อมูลว่ารัฐบาลควบคุมและระงับสิทธิต่างๆที่ประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยควรมี

    หลังจากลดความรุนแรงจากอาชญากรรมได้ บูเคเลนำอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงมาจัดในเอลซัลวาดอร์อีกครั้ง เช่น การประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 72 หรือ มิสยูนิเวิร์ส เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในระดับสากล และนักท่องเที่ยวก็เริ่มแสดงความสนใจ

    องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 หลายคนเป็นนักกระดานโต้คลื่น
    นี่คือประเทศเอลซัลวาดอร์ เมืองที่เคยเป็นพื้นที่ที่อันตรายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก จากจำนวนอาชญากรรมมากมาย แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่ที่ปลอดภัยที่สุด สำหรับการอยู่อาศัย และท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในโลกไปแล้ว ภายใต้การบริหารประเทศของ "นายิบ บูเคเล" (Nayib Bukele) ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์ เมื่อความปลอดภัยหวนคืนสู่ประเทศ ชาวเอลซัลวาดอร์บอกว่า พวกเขาสามารถเดินบนถนนได้อย่างอิสระ ขณะที่ร้านรวงต่าง ๆ ไม่บ่นเรื่องถูกกรรโชกทรัพย์อีกต่อไป “ที่นี่ไม่เคยปลอดภัย จนกระทั่งประธานาธิบดีคนนี้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ฉันคิดว่ามันเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด และเขาเป็นประธานาธิบดีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา” หญิงสาวรายหนึ่งกล่าวถึงในย่านหนึ่งที่เคยเป็นแหล่งอันตรายที่สุดของเมืองหลวง บูเคเล ชนะการเลือกตั้งทั่วไปสมัยแรกในปี 2019 ส่งผลให้เขาเป็นประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศด้วยอายุเพียง 37 ปี จากการชูนโยบายต่อต้านการทุจริตและสัญญาว่าจะปรับปรุงประเทศให้ทันสมัยมากขึ้น (นโยบายใกล้เคียงยูเครนในสมัยที่เซเลนสกีลงสมัครเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดี ซึ่งก็คือปราบปรามการทุจริต) บูเคเล ถูกมองจากยุโรปและสหรัฐว่าเป็นเผด็จการ รวบอำนาจการปกครองไว้ที่ตนเอง ขัดต่อรัฐธรรมนูญอันดีงามของประเทศ เนื่องจากเขาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินภายในประเทศมาเกือบ 2 ปี เพื่อปราบปรามแก๊งอาชญากรต่าง ๆ ส่งผลให้จำนวนนักโทษในเรือนจำเพิ่มขึ้นกว่ามากกว่า 75,000 คน หรือ 3 เท่า “สมาชิกแก๊งมีเพียงสองทางเลือกเท่านั้น” “คุกหรือตาย ไม่มีทางเลือกอย่างอื่น” บูเคเล กล่าว แน่นอนว่ายุโรปและสหรัฐต่อต้านนโยบายเหล่านี้ของบูเคเล ผ่านทางองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนอย่างฮิวแมนไรท์วอทช์และองค์กรพัฒนาเอกชนกล่าวหาว่า บูเคเลละเมิดสิทธิมนุษยชนของประชาชน และชักชวนให้ประชาชนในพื้นที่ต่อต้านเขา โดยให้ข้อมูลว่ารัฐบาลควบคุมและระงับสิทธิต่างๆที่ประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยควรมี หลังจากลดความรุนแรงจากอาชญากรรมได้ บูเคเลนำอีเวนต์ที่มีชื่อเสียงมาจัดในเอลซัลวาดอร์อีกครั้ง เช่น การประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 72 หรือ มิสยูนิเวิร์ส เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์ใหม่ของประเทศในระดับสากล และนักท่องเที่ยวก็เริ่มแสดงความสนใจ องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ระบุว่า ปีที่แล้วมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น 40% เมื่อเทียบกับปี 2019 หลายคนเป็นนักกระดานโต้คลื่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 714 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาล เอลซัลวาดอร์เฉลิมฉลองการนำบิทคอยน์
    มาใช้ครบรอบ 3 ปี พร้อมกำไร 31 ล้านเหรียญสหรัฐ
    หรือ ประมาณ 1,045 ล้านบาท

    ย้อนหลังกลับไป เมื่อ 3 ปีก่อน ในวันที่
    7 กันยายน พ.ศ. 2564 เอลซัลวาดอร์ได้กลายเป็น
    ประเทศแรกของโลกที่นำ บิทคอยน์ มาใช้เป็นเงิน
    ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการเข้าถึง
    บริการทางการเงิน อำนวยความสะดวกในการชำระเงิน
    โอนเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และดึงดูดนวัตกรรม
    ทางการเงิน

    การตัดสินใจของประธานาธิบดี Nayib Bukele ที่จะนำ
    บิทคอยน์มาใช้ ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นผู้บุกเบิก
    สินทรัพย์ดิจิทัลในประวัติศาสตร์

    แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ ทั้งหลาย
    กับมีแนวโน้มที่จะหันเหออก จากการนำบิทคอยน์มาใช้
    เนื่องจากการพึ่งพาความสัมพันธ์กับเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ
    ที่ไม่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว
    ที่มา : cointelegraph

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes #บิทคอยน์
    #Bitcoin #เอลซัลวาดอร์
    🔥🔥รัฐบาล เอลซัลวาดอร์เฉลิมฉลองการนำบิทคอยน์ มาใช้ครบรอบ 3 ปี พร้อมกำไร 31 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณ 1,045 ล้านบาท 🚩ย้อนหลังกลับไป เมื่อ 3 ปีก่อน ในวันที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2564 เอลซัลวาดอร์ได้กลายเป็น ประเทศแรกของโลกที่นำ บิทคอยน์ มาใช้เป็นเงิน ที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อส่งเสริมการเข้าถึง บริการทางการเงิน อำนวยความสะดวกในการชำระเงิน โอนเงินที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และดึงดูดนวัตกรรม ทางการเงิน 🚩การตัดสินใจของประธานาธิบดี Nayib Bukele ที่จะนำ บิทคอยน์มาใช้ ทำให้ประเทศนี้กลายเป็นผู้บุกเบิก สินทรัพย์ดิจิทัลในประวัติศาสตร์ 🚩แต่อย่างไรก็ตาม ประเทศเศรษฐกิจใหญ่ๆ ทั้งหลาย กับมีแนวโน้มที่จะหันเหออก จากการนำบิทคอยน์มาใช้ เนื่องจากการพึ่งพาความสัมพันธ์กับเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ที่ไม่สนับสนุนการกระทำดังกล่าว ที่มา : cointelegraph #หุ้นติดดอย #การลงทุน #thaitimes #บิทคอยน์ #Bitcoin #เอลซัลวาดอร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1028 มุมมอง 0 รีวิว