• ศูนย์เอราวัณ สรุปพบผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ บาดเจ็บรวม 33 ราย
    https://www.thai-tai.tv/news/17958/
    ศูนย์เอราวัณ สรุปพบผู้เสียชีวิตแล้ว 19 ศพ บาดเจ็บรวม 33 ราย https://www.thai-tai.tv/news/17958/
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ตามหาความจริง ตึกถล่มจตุจักร

    แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนึ่งในนั้นคือโครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก

    สังคมตั้งข้อสงสัยไปที่การก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้คุณภาพ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ส่วนผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด งบประมาณ 74.653 ล้านบาท

    มีการตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างอย่างไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) พบความผิดปกติตรงที่เมื่อปี 2567 ได้โพสต์ภาพและข่าวการเฉลิมฉลองปิดงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า ในบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ นำเสนอว่าใช้ระบบโครงสร้างแบบแกนกลางรับแรง และพื้นไร้คาน พอเกิดเหตุได้ลบบทความทิ้ง ไม่นับรวมการตรวจสอบที่ตั้งบริษัท พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดาในซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ

    ขณะที่ สตง.เจ้าของโครงการ ชี้แจงว่าได้ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยีนว่ากระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการแก้แบบโครงสร้างให้เล็กลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะออกแบบให้เสาสี่เหลี่ยมด้านหน้าอาคารสูงสามชั้นมีขนาด 1.40 x 1.40 เมตร ส่วนชั้น 29 ถึงดาดฟ้า เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เพื่อรองรับหลังคาตึก เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ไม่มีการแก้ไข

    กระทรวงอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไปตรวจสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐานมาจากบริษัทที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน

    ถึงบัดนี้นอกจากความรับผิดชอบของผู้รับจ้างแล้ว การค้นหาความจริงถึงสาเหตุตึกถล่มมาจากภัยธรรมชาติหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานยังคงดำเนินต่อไป ตามที่ รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ซึ่งให้เวลาสืบสวนภายใน 7 วัน

    #Newskit
    ตามหาความจริง ตึกถล่มจตุจักร แผ่นดินไหวขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร บริเวณเมืองลอยกอ ใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันศุกร์ที่ 28 มี.ค. สั่นสะเทือนมาถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑล หนึ่งในนั้นคือโครงการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ สูง 30 ชั้น บนถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร พังถล่มลงมา ข้อมูล ณ วันที่ 31 มี.ค.มีผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย บาดเจ็บ 18 ราย สูญหายอีกจำนวนมาก สังคมตั้งข้อสงสัยไปที่การก่อสร้างอาคารที่ไม่ได้คุณภาพ โครงการนี้ใช้งบประมาณ 2,136 ล้านบาท ผู้รับจ้างคือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จํากัด ส่วนผู้ควบคุมงานก่อสร้างคือ กิจการร่วมค้าพีเคดับเบิลยู บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จํากัด, บริษัท ว.และสหาย คอนซัลแตนส์ จํากัด และ บริษัท เคพี คอนซัลแทนส์ แอนด์ แมเนจเม้น จํากัด งบประมาณ 74.653 ล้านบาท มีการตรวจสอบบริษัทผู้รับจ้างอย่างไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) พบความผิดปกติตรงที่เมื่อปี 2567 ได้โพสต์ภาพและข่าวการเฉลิมฉลองปิดงานก่อสร้างชั้นดาดฟ้า ในบัญชีโซเชียลมีเดียของบริษัทฯ นำเสนอว่าใช้ระบบโครงสร้างแบบแกนกลางรับแรง และพื้นไร้คาน พอเกิดเหตุได้ลบบทความทิ้ง ไม่นับรวมการตรวจสอบที่ตั้งบริษัท พบว่าเป็นตึกแถวธรรมดาในซอยพุทธบูชา 44 แยก 11 เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ขณะที่ สตง.เจ้าของโครงการ ชี้แจงว่าได้ประสานงานให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย และเร่งตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ยืนยีนว่ากระบวนการดำเนินโครงการฯ เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย ส่วนการแก้แบบโครงสร้างให้เล็กลงเป็นข้อมูลที่คลาดเคลื่อน เพราะออกแบบให้เสาสี่เหลี่ยมด้านหน้าอาคารสูงสามชั้นมีขนาด 1.40 x 1.40 เมตร ส่วนชั้น 29 ถึงดาดฟ้า เป็นเสากลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.80 เมตร เพื่อรองรับหลังคาตึก เป็นไปตามที่ผู้ออกแบบกำหนดไว้ไม่มีการแก้ไข กระทรวงอุตสาหกรรมได้เก็บตัวอย่างเหล็กที่ใช้ในการก่อสร้างไปตรวจสอบที่สถาบันเหล็กและเหล็กกล้าแห่งประเทศไทย พบว่ามีเหล็กบางส่วนไม่ได้มาตรฐานมาจากบริษัทที่สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) สั่งปิดไปเมื่อเดือน ธ.ค.2567 เนื่องจากจำหน่ายเหล็กไม่ได้ตามมาตรฐาน ถึงบัดนี้นอกจากความรับผิดชอบของผู้รับจ้างแล้ว การค้นหาความจริงถึงสาเหตุตึกถล่มมาจากภัยธรรมชาติหรือการก่อสร้างไม่ได้มาตรฐานยังคงดำเนินต่อไป ตามที่ รมว.มหาดไทยตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่มีวิศวกรใหญ่กรมโยธาธิการและผังเมืองเป็นประธาน ซึ่งให้เวลาสืบสวนภายใน 7 วัน #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 129 Views 0 Reviews
  • ศูนย์เอราวัณรายงานผลกระทบแผ่นดินไหวในพื้นที่ กทม.พบเสียชีวิตแล้ว 19 ราย จากตึก สตง.ถล่ม 12 ราย ไซต์งานและคอนโดฯ หลายแห่งอีก 7 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บรวมทุกเหตุการณ์ 33 ราย

    เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (31 มี.ค.) ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบด้านชีวิตและร่างกายจากเหตุแผ่นดินไหวตามจุดต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่

    1. อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และอาคารใกล้เคียงที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม มีผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 9 คน กลับบ้านแล้ว 9 คน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย รวมเสียชีวิต 12 ราย

    2. เครนก่อสร้างถล่มที่แยกบางโพ มีผู้เสียชีวิต 1 รายในที่เกิดเหตุ บาดเจ็บ 4 ราย ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 ราย กลับบ้านแล้ว 3 ราย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030705

    #MGROnline #ศูนย์เอราวัณ #แผ่นดินไหว
    ศูนย์เอราวัณรายงานผลกระทบแผ่นดินไหวในพื้นที่ กทม.พบเสียชีวิตแล้ว 19 ราย จากตึก สตง.ถล่ม 12 ราย ไซต์งานและคอนโดฯ หลายแห่งอีก 7 ราย ส่วนผู้บาดเจ็บรวมทุกเหตุการณ์ 33 ราย • เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (31 มี.ค.) ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร รายงานตัวเลขผู้ได้รับผลกระทบด้านชีวิตและร่างกายจากเหตุแผ่นดินไหวตามจุดต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ • 1. อาคารที่ทำการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และอาคารใกล้เคียงที่อยู่ระหว่างก่อสร้างถล่ม มีผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวในโรงพยาบาล 9 คน กลับบ้านแล้ว 9 คน เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 11 ราย เสียชีวิตที่โรงพยาบาล 1 ราย รวมเสียชีวิต 12 ราย 2. เครนก่อสร้างถล่มที่แยกบางโพ มีผู้เสียชีวิต 1 รายในที่เกิดเหตุ บาดเจ็บ 4 ราย ยังนอนรักษาตัวในโรงพยาบาล 1 ราย กลับบ้านแล้ว 3 ราย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030705 • #MGROnline #ศูนย์เอราวัณ #แผ่นดินไหว
    0 Comments 0 Shares 111 Views 0 Reviews
  • ปฏิบัติบัติการกู้ชีพใต้ซากตึก สตง.ใหม่ถล่ม ล่าสุดพบร่างเพศหญิงอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 12 ราย อยู่ระหว่างการติดตามอีก 75 ราย

    จากกรณีปฏิบัติการภารกิจกู้ชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างได้พังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย รวมถึงคนงานที่ยังสูญหาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างช่วยกันระดมค้นหานั้น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (31 มี.ค.) มีรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเพศหญิง และได้นำร่างลงมาเพื่อที่จะนำร่างไปที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์

    ขณะที่รายงานสรุปความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ประสบเหตุ 96 ราย เสียชีวิต 12 ราย (ชาย 8,หญิง 4) ผู้บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างการติดตามอีก 75 ราย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000030694

    #MGROnline #สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน #สตง. #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    ปฏิบัติบัติการกู้ชีพใต้ซากตึก สตง.ใหม่ถล่ม ล่าสุดพบร่างเพศหญิงอีก 1 ราย รวมเสียชีวิตแล้ว 12 ราย อยู่ระหว่างการติดตามอีก 75 ราย • จากกรณีปฏิบัติการภารกิจกู้ชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ส่งผลให้อาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ที่กำลังก่อสร้างได้พังถล่มลงมา ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย รวมถึงคนงานที่ยังสูญหาย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างช่วยกันระดมค้นหานั้น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (31 มี.ค.) มีรายงานว่า เมื่อเวลา 14.30 น. มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้พบร่างผู้เสียชีวิตเป็นเพศหญิง และได้นำร่างลงมาเพื่อที่จะนำร่างไปที่สถาบันนิติเวช เพื่อตรวจสอบอัตลักษณ์ • ขณะที่รายงานสรุปความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น.ที่ผ่านมา ผู้ประสบเหตุ 96 ราย เสียชีวิต 12 ราย (ชาย 8,หญิง 4) ผู้บาดเจ็บ 9 ราย อยู่ระหว่างการติดตามอีก 75 ราย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000030694 • #MGROnline #สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน #สตง. #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Sad
    1
    0 Comments 1 Shares 132 Views 0 Reviews
  • แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “คิมซูฮยอน” นักแสดงสุดฉาว ที่ออกมาบีบน้ำตา ร้องไห้ยอมรับผิดว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด หนีปัญหา และโกหกทุกคน จนสร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้ “คิมแซรน” หลับไม่สงบ

    คิมซูฮยอน ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน โดยยังยืนยันว่าพวกเขาคบหากันมาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    ในวันที่ 31 มี.ค. คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านซังกัมดง เขตมาโป กรุงโซล โดยมีตัวแทนทางกฎหมายของเขา ทนายความ คิมจองบก จาก LKB&Partners ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในรอบ 21 วัน หลังครอบครัวของ คิมแซรน กล่าวหาว่าเขาพูดเท็จ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ยืนยันว่า คิมซูฮยอน กับ คิมแซรนมีความสัมพันธ์กันมานาน 6 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เธอยังเป็นวัยเยาว์

    ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ประกาศไว้ว่านักแสดงจะไม่ตอบคำถามใดๆ นอกเหนือไปจากคำแถลงที่เตรียมไว้

    ในงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขา คิมซูฮยอน เขาได้เผยว่า

    “ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษ เพราะผมคนเดียว จึงมีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้ ผมถือว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่จดจ่อกับการปกป้องสิ่งที่ผมมี ผมไม่สามารถให้ความไว้วางใจแม้แต่ความเมตตาที่ได้รับ ผมกลัวตลอดเวลาว่าจะสูญเสียบางสิ่งหรือได้รับอันตราย ซ้ำยังวิ่งหนี และปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้

    หากผมเผชิญเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนๆ ที่รักผม ทีมงานบริษัทที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่องานแถลงข่าวครั้งนี้ และทุกๆ คนก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้

    ทุกครั้งที่ชีวิตส่วนตัวของเราถูกเปิดเผย ผมคิดว่า 'พรุ่งนี้ผมจะออกมาพูด ผมจะจบสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ด้วยตัวผมเอง' แต่ทุกครั้ง ผมลังเล ผมกังวลว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลต่อคนรอบข้าง และจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงสำหรับทุกคนหรือเปล่า

    ตอนที่ คิมแซรน ผู้ล่วงลับโพสต์รูปผมระหว่างซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศ ผมได้ปฏิเสธ จริงๆเราคบกันมาประมาณ 1 ปี เป็นเวลา 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศคือคบกัน 5 ปีก่อน ผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงวิจารณ์การที่ผมเลือกโกหกในตอนนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ผมก็เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของผมที่จะพูดอย่างเปิดเผยแบบนี้”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030637

    #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #KimSaeron #kimsoohyun
    แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “คิมซูฮยอน” นักแสดงสุดฉาว ที่ออกมาบีบน้ำตา ร้องไห้ยอมรับผิดว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด หนีปัญหา และโกหกทุกคน จนสร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้ “คิมแซรน” หลับไม่สงบ • คิมซูฮยอน ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน โดยยังยืนยันว่าพวกเขาคบหากันมาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว • ในวันที่ 31 มี.ค. คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านซังกัมดง เขตมาโป กรุงโซล โดยมีตัวแทนทางกฎหมายของเขา ทนายความ คิมจองบก จาก LKB&Partners ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในรอบ 21 วัน หลังครอบครัวของ คิมแซรน กล่าวหาว่าเขาพูดเท็จ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ยืนยันว่า คิมซูฮยอน กับ คิมแซรนมีความสัมพันธ์กันมานาน 6 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เธอยังเป็นวัยเยาว์ • ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ประกาศไว้ว่านักแสดงจะไม่ตอบคำถามใดๆ นอกเหนือไปจากคำแถลงที่เตรียมไว้ • ในงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขา คิมซูฮยอน เขาได้เผยว่า • “ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษ เพราะผมคนเดียว จึงมีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้ ผมถือว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่จดจ่อกับการปกป้องสิ่งที่ผมมี ผมไม่สามารถให้ความไว้วางใจแม้แต่ความเมตตาที่ได้รับ ผมกลัวตลอดเวลาว่าจะสูญเสียบางสิ่งหรือได้รับอันตราย ซ้ำยังวิ่งหนี และปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ • หากผมเผชิญเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนๆ ที่รักผม ทีมงานบริษัทที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่องานแถลงข่าวครั้งนี้ และทุกๆ คนก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้ • ทุกครั้งที่ชีวิตส่วนตัวของเราถูกเปิดเผย ผมคิดว่า 'พรุ่งนี้ผมจะออกมาพูด ผมจะจบสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ด้วยตัวผมเอง' แต่ทุกครั้ง ผมลังเล ผมกังวลว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลต่อคนรอบข้าง และจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงสำหรับทุกคนหรือเปล่า • ตอนที่ คิมแซรน ผู้ล่วงลับโพสต์รูปผมระหว่างซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศ ผมได้ปฏิเสธ จริงๆเราคบกันมาประมาณ 1 ปี เป็นเวลา 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศคือคบกัน 5 ปีก่อน ผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงวิจารณ์การที่ผมเลือกโกหกในตอนนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ผมก็เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของผมที่จะพูดอย่างเปิดเผยแบบนี้” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030637 • #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #KimSaeron #kimsoohyun
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • อิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท

    วันนี้ ( 31 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ความว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ

    บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอที่ดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    บริษัทได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป

    ในการนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัท หากมีความคืบหน้าบริษัทจะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030527

    #MGROnline #อิตาเลียนไทย #ตลาดหลักทรัพย์ #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.#แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    อิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท • วันนี้ ( 31 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ความว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ • บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอที่ดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว • บริษัทได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป • ในการนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัท หากมีความคืบหน้าบริษัทจะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030527 • #MGROnline #อิตาเลียนไทย #ตลาดหลักทรัพย์ #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.#แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) คู่สัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 30 มีนาคม 2568 ชี้แจงกรณีอาคารถล่มหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีใจความดังนี้

    เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ประเทศพม่า ส่งแรงสะเทือนสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และเวลา 13.20 น. ได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดผลกระทบวงกว้าง และทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น

    กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) เป็นผู้ได้รับประมูลตามสัญญาก่อสร้างอาคาร สตง.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030505

    #MGROnline #ไอทีดี #ซีอาร์อีซี #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) คู่สัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 30 มีนาคม 2568 ชี้แจงกรณีอาคารถล่มหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีใจความดังนี้ • เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ประเทศพม่า ส่งแรงสะเทือนสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และเวลา 13.20 น. ได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดผลกระทบวงกว้าง และทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น • กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) เป็นผู้ได้รับประมูลตามสัญญาก่อสร้างอาคาร สตง.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030505 • #MGROnline #ไอทีดี #ซีอาร์อีซี #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 Comments 0 Shares 125 Views 0 Reviews
  • แพทย์พยายามช่วยชีวิตเด็กชาวปาเลสไตน์หลังการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา

    เป็นประเพณีที่เด็กๆ จะต้องสวมชุดใหม่ในวันอีด ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน... แต่ชุดของเด็กๆ เหล่านี้กลับเปื้อนเลือด

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายตั้งแต่รุ่งสางของวันนี้ในสตริป

    สนับสนุนเราได้ที่นี่ @IntelRepublic
    แพทย์พยายามช่วยชีวิตเด็กชาวปาเลสไตน์หลังการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา เป็นประเพณีที่เด็กๆ จะต้องสวมชุดใหม่ในวันอีด ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน... แต่ชุดของเด็กๆ เหล่านี้กลับเปื้อนเลือด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายตั้งแต่รุ่งสางของวันนี้ในสตริป สนับสนุนเราได้ที่นี่ @IntelRepublic
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 0 Reviews
  • ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran ที่โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟ

    โรงพยาบาลแห่งนี้ถูกใช้เพื่อรักษาทหารรับจ้างของฝ่ายยูเครน และยังใช้เป็นที่สะสมกองกำลังเพื่อใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซีย

    รายงานว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย
    ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran ที่โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟ โรงพยาบาลแห่งนี้ถูกใช้เพื่อรักษาทหารรับจ้างของฝ่ายยูเครน และยังใช้เป็นที่สะสมกองกำลังเพื่อใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซีย รายงานว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • "ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม เตรียมใช้เครื่องมือหนักเร่งช่วยผู้รอดชีวิต เผยยังพบสัญญาณชีพผู้สูญหายในซากตึก

    วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตึกถล่มย่านจตุจักรและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก่อนออกให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก มีซากชิ้นส่วนงานใหญ่ต้องเอาเครื่องมือหนักทยอยออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งต้องหาเครนมาขนเอาชิ้นส่วนโครงสร้างตึกออกไป ขณะนี้สถานการณ์คิดว่าต้องทำทุกอย่างขนานกันไป เช่น ประเมินอาคาร เตรียมหารถเครนว่าสามารถยกโครงสร้างได้กี่ตัน จะต้องหารถบรรทุกมาขนชิ้นส่วนออก ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการทันที

    นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานน้อยใจเพราะได้รับมอบหมายช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่นั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นคนบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด หากใครต้องการเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถแจ้งกับผู้อำนวยการได้ ว่าสามารถสนับสนุนส่วนใดได้บ้าง แต่ขณะเดียวกันหากเป็นจุดที่อันตรายทางเจ้าหน้าที่ก็คงไม่สามารถให้เข้าไปช่วยงานได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029924

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    "ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม เตรียมใช้เครื่องมือหนักเร่งช่วยผู้รอดชีวิต เผยยังพบสัญญาณชีพผู้สูญหายในซากตึก • วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตึกถล่มย่านจตุจักรและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก่อนออกให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก มีซากชิ้นส่วนงานใหญ่ต้องเอาเครื่องมือหนักทยอยออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งต้องหาเครนมาขนเอาชิ้นส่วนโครงสร้างตึกออกไป ขณะนี้สถานการณ์คิดว่าต้องทำทุกอย่างขนานกันไป เช่น ประเมินอาคาร เตรียมหารถเครนว่าสามารถยกโครงสร้างได้กี่ตัน จะต้องหารถบรรทุกมาขนชิ้นส่วนออก ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการทันที • นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานน้อยใจเพราะได้รับมอบหมายช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่นั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นคนบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด หากใครต้องการเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถแจ้งกับผู้อำนวยการได้ ว่าสามารถสนับสนุนส่วนใดได้บ้าง แต่ขณะเดียวกันหากเป็นจุดที่อันตรายทางเจ้าหน้าที่ก็คงไม่สามารถให้เข้าไปช่วยงานได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029924 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • ยุติค้นหา ตึกใหม่ สตง. ถล่ม! ยืนยันตาย 7 ศพ สูญหาย 47 คน เปิดเบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ชิมลางสร้างตึกสูงในไทย แห่งแรกในต่างแดน ที่จบไม่สวย

    📌 เหตุการณ์สั่นสะเทือนวงการก่อสร้างไทย-จีน ที่สะท้อนความเสี่ยงระดับชาติ

    🏗️ แผ่นดินไหวแรงสะเทือนถึงใจ ตึกใหม่ สตง. ถล่มกลางกรุง! ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น... อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลมาถึงกรุงเทพฯ

    เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 7 ศพ สูญหาย 47 คน และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 30 คน แต่ยังเป็น จุดจบของความหวังทางยุทธศาสตร์ ที่จะให้บริษัทจีนเข้ามาชิมลาง สร้างอาคารสูงพิเศษในไทย เป็นครั้งแรกในต่างแดน 🇹🇭🇨🇳

    📌 เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีศูนย์กลางลึกใต้ดินกว่า 90 กม. แม้จะห่างจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 🌀

    จุดพังถล่มคือ อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเพิ่งสร้างโครงสร้างเสร็จไปได้เพียง 30% ของแผนงาน

    แม้อาคารจะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ในขณะนั้นมีวิศวกร ช่างเทคนิค และคนงานกว่า 100 ชีวิต อยู่ภายใน เนื่องจากกำลังเร่งติดตั้งระบบภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และระบบอาคารอัจฉริยะต่างๆ

    ⛑️ ทันทีหลังจากเหตุการณ์ถล่ม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายทีม ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมอุปกรณ์ค้นหา และกู้ภัยทันสมัย เช่น กล้องจับความร้อน, โดรน, เครื่องตรวจจับเสียง ฯลฯ

    📉 ภาพรวมความเสียหาย และภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต
    🚨 สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 29 มีนาคม เวลา 05.00 น.
    - เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ นำออกมาได้แล้ว 5 ศพ
    - ผู้รอดชีวิต 9 คน บาดเจ็บหลากหลายระดับ
    - ผู้ติดใต้ซาก 30 คน มีสัญญาณชีพ 15 คน
    - ผู้สูญหาย 47 คน
    - ยืนยันตัวตนแล้ว 85 คน

    การค้นหาแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ A, B, C, D
    📍โซน A พบผู้มีสัญญาณชีพ 10 ราย
    📍โซน B พบผู้มีสัญญาณชีพ 2 ราย
    📍โซน D พบผู้มีสัญญาณชีพ 3 ราย

    การค้นหาต้องหยุดชั่วคราว เพื่อประเมินแผนใหม่ เนื่องจากโครงสร้างบางจุดยังไม่เสถียร เสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ค้นหาเองด้วย

    💬 “เรากำลังแข่งกับเวลา และแข่งกับซากปูนที่อาจถล่มซ้ำอีกทุกวินาที” หนึ่งในทีมกู้ภัยกล่าว

    🏢 โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป้าหมายสู่อนาคตรัฐ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ถูกวางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์กลางการเงิน และการควบคุมงบประมาณของรัฐ โดยมีโครงสร้าง 30 ชั้น ความสูงรวม 137 เมตร รวมพื้นที่ก่อสร้างกว่า 96,000 ตารางเมตร

    👉 อาคารนี้ประกอบด้วย อาคารสำนักงานหลัก อาคารประชุม และอาคารจอดรถอัตโนมัติ

    โครงการเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2563 ด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี และควบคุมงานโดยกลุ่มวิศวกร PKW โดยมีการลงนาม Integrity Pact กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง

    🏗️ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" บริษัทยักษ์จากจีนผู้หวังปักหมุดในไทย “China Railway No.10 Engineering Group” หรือ CRCC เป็นบริษัทลูกของกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีน ที่มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐาน

    โครงการ สตง. คือ โครงการอาคารสูงพิเศษแห่งแรกในต่างแดน ของบริษัทนี้ นำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากจีนเข้ามาใช้เต็มที่ เช่น
    - ระบบ “แกนกลางรับแรง + พื้นไร้คาน”
    - เทคนิคแบบสไลด์คอนกรีต (Slip Form)
    - ระบบนั่งร้านปีนไต่อัตโนมัติ
    - ระบบติดตั้งไฟฟ้า แบบไม่ให้ท่อชนกันแม้แต่นิดเดียว

    👷 ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านวิศวกรรม และความหวังจะก้าวเข้าตลาดอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นวิกฤตแห่งความเชื่อมั่น...

    🔍 ความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ตึกถล่ม แต่คือภาพลักษณ์ล่มสลาย ผลกระทบหลัก 3 ด้าน
    - ชีวิตคนงาน การสูญเสียชีวิต7 ศพ และผู้ติดอยู่ใต้ซากหลายสิบคน คือความสูญเสียที่ไม่มีเม็ดเงินใดทดแทนได้

    - ความเชื่อมั่นในบริษัทจีน โครงการนี้เคยเป็นความหวังว่าจะเป็น “โชว์เคสระดับอาเซียน” กลายเป็น “บทเรียนราคาแพง”

    - ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน โครงการยุทธศาสตร์ไทย-จีนในอนาคตอาจถูกชะลอ ตรวจสอบมากขึ้น และถูกตั้งคำถามมากขึ้น

    🧑‍💼 การตอบสนองของหน่วยงานรัฐ เดินหน้าแก้ไข เร่งค้นหาความจริง
    – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรกว่า 100 คน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

    – นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคุณภาพโครงการ และประเมินความเสียหาย พร้อมยืนยัน จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

    – นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กทม. รายงานสถานการณ์ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งโซนและใช้เทคโนโลยี ช่วยระบุตำแหน่งผู้ติดใต้ซาก

    ✅ จุดจบที่ไม่ควรเกิด กับความหวังที่ดับไปกลางซากอาคาร โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเตือนที่สะเทือนใจว่า การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่อาจวัดด้วยเทคโนโลยี หรือเงินทุนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัย มาตรฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใสระดับสูงสุด

    หากสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป... แม้จะเป็นโครงการที่ดูดีแค่ไหน ก็พร้อมจะพังถล่มลงมาในพริบตา 🕯️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291100 มี.ค. 2568

    🔖#ตึกสตงถล่ม #CRCCไทย #ไชน่าเรลเวย์10 #ข่าวด่วน #แผ่นดินไหว #อาคารสูงพิเศษ #ก่อสร้างไทยจีน #ข่าวโศกนาฏกรรม #ตึกถล่ม #ไทยจีน
    ยุติค้นหา ตึกใหม่ สตง. ถล่ม! ยืนยันตาย 7 ศพ สูญหาย 47 คน เปิดเบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ชิมลางสร้างตึกสูงในไทย แห่งแรกในต่างแดน ที่จบไม่สวย 📌 เหตุการณ์สั่นสะเทือนวงการก่อสร้างไทย-จีน ที่สะท้อนความเสี่ยงระดับชาติ 🏗️ แผ่นดินไหวแรงสะเทือนถึงใจ ตึกใหม่ สตง. ถล่มกลางกรุง! ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น... อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลมาถึงกรุงเทพฯ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 7 ศพ สูญหาย 47 คน และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 30 คน แต่ยังเป็น จุดจบของความหวังทางยุทธศาสตร์ ที่จะให้บริษัทจีนเข้ามาชิมลาง สร้างอาคารสูงพิเศษในไทย เป็นครั้งแรกในต่างแดน 🇹🇭🇨🇳 📌 เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีศูนย์กลางลึกใต้ดินกว่า 90 กม. แม้จะห่างจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 🌀 จุดพังถล่มคือ อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเพิ่งสร้างโครงสร้างเสร็จไปได้เพียง 30% ของแผนงาน แม้อาคารจะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ในขณะนั้นมีวิศวกร ช่างเทคนิค และคนงานกว่า 100 ชีวิต อยู่ภายใน เนื่องจากกำลังเร่งติดตั้งระบบภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และระบบอาคารอัจฉริยะต่างๆ ⛑️ ทันทีหลังจากเหตุการณ์ถล่ม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายทีม ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมอุปกรณ์ค้นหา และกู้ภัยทันสมัย เช่น กล้องจับความร้อน, โดรน, เครื่องตรวจจับเสียง ฯลฯ 📉 ภาพรวมความเสียหาย และภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต 🚨 สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 29 มีนาคม เวลา 05.00 น. - เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ นำออกมาได้แล้ว 5 ศพ - ผู้รอดชีวิต 9 คน บาดเจ็บหลากหลายระดับ - ผู้ติดใต้ซาก 30 คน มีสัญญาณชีพ 15 คน - ผู้สูญหาย 47 คน - ยืนยันตัวตนแล้ว 85 คน การค้นหาแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ A, B, C, D 📍โซน A พบผู้มีสัญญาณชีพ 10 ราย 📍โซน B พบผู้มีสัญญาณชีพ 2 ราย 📍โซน D พบผู้มีสัญญาณชีพ 3 ราย การค้นหาต้องหยุดชั่วคราว เพื่อประเมินแผนใหม่ เนื่องจากโครงสร้างบางจุดยังไม่เสถียร เสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ค้นหาเองด้วย 💬 “เรากำลังแข่งกับเวลา และแข่งกับซากปูนที่อาจถล่มซ้ำอีกทุกวินาที” หนึ่งในทีมกู้ภัยกล่าว 🏢 โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป้าหมายสู่อนาคตรัฐ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ถูกวางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์กลางการเงิน และการควบคุมงบประมาณของรัฐ โดยมีโครงสร้าง 30 ชั้น ความสูงรวม 137 เมตร รวมพื้นที่ก่อสร้างกว่า 96,000 ตารางเมตร 👉 อาคารนี้ประกอบด้วย อาคารสำนักงานหลัก อาคารประชุม และอาคารจอดรถอัตโนมัติ โครงการเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2563 ด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี และควบคุมงานโดยกลุ่มวิศวกร PKW โดยมีการลงนาม Integrity Pact กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง 🏗️ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" บริษัทยักษ์จากจีนผู้หวังปักหมุดในไทย “China Railway No.10 Engineering Group” หรือ CRCC เป็นบริษัทลูกของกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีน ที่มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการ สตง. คือ โครงการอาคารสูงพิเศษแห่งแรกในต่างแดน ของบริษัทนี้ นำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากจีนเข้ามาใช้เต็มที่ เช่น - ระบบ “แกนกลางรับแรง + พื้นไร้คาน” - เทคนิคแบบสไลด์คอนกรีต (Slip Form) - ระบบนั่งร้านปีนไต่อัตโนมัติ - ระบบติดตั้งไฟฟ้า แบบไม่ให้ท่อชนกันแม้แต่นิดเดียว 👷 ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านวิศวกรรม และความหวังจะก้าวเข้าตลาดอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นวิกฤตแห่งความเชื่อมั่น... 🔍 ความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ตึกถล่ม แต่คือภาพลักษณ์ล่มสลาย ผลกระทบหลัก 3 ด้าน - ชีวิตคนงาน การสูญเสียชีวิต7 ศพ และผู้ติดอยู่ใต้ซากหลายสิบคน คือความสูญเสียที่ไม่มีเม็ดเงินใดทดแทนได้ - ความเชื่อมั่นในบริษัทจีน โครงการนี้เคยเป็นความหวังว่าจะเป็น “โชว์เคสระดับอาเซียน” กลายเป็น “บทเรียนราคาแพง” - ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน โครงการยุทธศาสตร์ไทย-จีนในอนาคตอาจถูกชะลอ ตรวจสอบมากขึ้น และถูกตั้งคำถามมากขึ้น 🧑‍💼 การตอบสนองของหน่วยงานรัฐ เดินหน้าแก้ไข เร่งค้นหาความจริง – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรกว่า 100 คน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว – นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคุณภาพโครงการ และประเมินความเสียหาย พร้อมยืนยัน จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส – นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กทม. รายงานสถานการณ์ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งโซนและใช้เทคโนโลยี ช่วยระบุตำแหน่งผู้ติดใต้ซาก ✅ จุดจบที่ไม่ควรเกิด กับความหวังที่ดับไปกลางซากอาคาร โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเตือนที่สะเทือนใจว่า การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่อาจวัดด้วยเทคโนโลยี หรือเงินทุนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัย มาตรฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใสระดับสูงสุด หากสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป... แม้จะเป็นโครงการที่ดูดีแค่ไหน ก็พร้อมจะพังถล่มลงมาในพริบตา 🕯️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291100 มี.ค. 2568 🔖#ตึกสตงถล่ม #CRCCไทย #ไชน่าเรลเวย์10 #ข่าวด่วน #แผ่นดินไหว #อาคารสูงพิเศษ #ก่อสร้างไทยจีน #ข่าวโศกนาฏกรรม #ตึกถล่ม #ไทยจีน
    0 Comments 0 Shares 393 Views 0 Reviews
  • อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่หลายครั้งในเขตประเทศเลบานอนตอนใต้ และยังมีคำสั่งบังคับให้อพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ฮาดาธของเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงขึ้นอีกครั้งโดยที่เจ้าของประเทศไม่มีความสามารถในการต่อต้าน

    การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายในเมืองโยมอร์ นับตั้งแต่อิสราเอลทำข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีผู้เสียชีวิตจากการที่อิสราเอลละเมิดข้อตกลงไปแล้ว 106 ราย
    อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่หลายครั้งในเขตประเทศเลบานอนตอนใต้ และยังมีคำสั่งบังคับให้อพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ฮาดาธของเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงขึ้นอีกครั้งโดยที่เจ้าของประเทศไม่มีความสามารถในการต่อต้าน การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายในเมืองโยมอร์ นับตั้งแต่อิสราเอลทำข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีผู้เสียชีวิตจากการที่อิสราเอลละเมิดข้อตกลงไปแล้ว 106 ราย
    Like
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 184 Views 12 0 Reviews
  • จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด”

    ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย

    🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌

    🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน

    📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ

    🔫 เหยื่อ
    - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์
    - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย

    การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢

    🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣

    🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว
    🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล
    🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน
    📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม"

    หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่

    🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566

    👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹

    🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท

    👉 ความผิดตามกฎหมาย
    - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
    - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ยิงปืนในที่ชุมชน
    - สมคบก่ออาชญากรรม

    🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣

    พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม”

    “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨
    มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง

    🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน
    วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น

    🧠 คำถามที่ต้องถามคือ...

    👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ?

    🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า…

    🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ”
    🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ
    🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568

    📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย 🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌ 🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน 📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ 🔫 เหยื่อ - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์ - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢 🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣 🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว 🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล 🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน 📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม" หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่ 🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566 👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹 🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท 👉 ความผิดตามกฎหมาย - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต - ยิงปืนในที่ชุมชน - สมคบก่ออาชญากรรม 🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣 พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม” “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨 มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง 🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น 🧠 คำถามที่ต้องถามคือ... 👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ? 🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า… 🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ” 🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ 🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568 📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    0 Comments 0 Shares 350 Views 0 Reviews
  • รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 16.20 น.
    .
    จากสถานการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว สพฉ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้างานก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่า มีคนงานก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหายจำนวน 70 คน ยังมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟท์ 20 คน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
    รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 16.20 น. . จากสถานการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว สพฉ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้างานก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่า มีคนงานก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหายจำนวน 70 คน ยังมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟท์ 20 คน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
    Sad
    1
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • ผลจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบอเมริกันประมาณ 30 ครั้งทั่วเยเมน รวมถึงโจมตีเมืองหลวงซานาและท่าอากาศยานนานาชาติหลายครั้ง

    มีรายงานว่าพลเรือนหลายคนได้รับบาดเจ็บ และมีรายงานผู้เสียชีวิตร่วมด้วย และมีรายงานความเสียหายต่อบ้านเรือนและร้านค้าในซานา

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าทีมบริหารของทรัมป์ตัดสินใจยกระดับการโจมตี โดยจะเพิ่มเป้าหมายเมืองต่างๆ รวมทั้งเป้าหมายบุคคลสำคัญของกลุ่มฮูตี ซึ่งอิสราเอลจะช่วยในด้านข้อมูลข่าวกรอง
    ผลจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบอเมริกันประมาณ 30 ครั้งทั่วเยเมน รวมถึงโจมตีเมืองหลวงซานาและท่าอากาศยานนานาชาติหลายครั้ง มีรายงานว่าพลเรือนหลายคนได้รับบาดเจ็บ และมีรายงานผู้เสียชีวิตร่วมด้วย และมีรายงานความเสียหายต่อบ้านเรือนและร้านค้าในซานา นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าทีมบริหารของทรัมป์ตัดสินใจยกระดับการโจมตี โดยจะเพิ่มเป้าหมายเมืองต่างๆ รวมทั้งเป้าหมายบุคคลสำคัญของกลุ่มฮูตี ซึ่งอิสราเอลจะช่วยในด้านข้อมูลข่าวกรอง
    0 Comments 0 Shares 169 Views 22 0 Reviews
  • วันที่ 27 มีนาคม เวลา 13.30 น. ตามเวลาเกาหลี ทนายความ พูจีซอก จากสำนักงานกฎหมาย Buyou ได้จัดแถลงข่าว ณ Space Share ใกล้สถานีคังนัม ย่านซอโชดง กรุงโซล ในนามของครอบครัวผู้ล่วงลับ คิมแซรน นักแสดงสาวที่จากไปก่อนวัยอันควร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อขอความเห็นใจจากสังคม และชี้แจงข้อเท็จจริงที่ทำให้ครอบครัวต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างแสนสาหัส

    “ช่วงหลังมานี้ มีการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรนอย่างไม่ยั้งคิดบนโลกออนไลน์แทบทุกวัน นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์และการคาดเดาอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจต่อครอบครัวของผู้ล่วงลับ” ทนายพูเปิดเผย

    เขาระบุว่าจุดประสงค์ของการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อเปิดเผยสาเหตุการตัดสินใจจบชีวิตของคิมแซรน แต่เพื่อขอให้สังคมหยุดโจมตีครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมย้ำว่าทางครอบครัวไม่ต้องการยืดเยื้อหรือโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงในสื่ออีกต่อไป

    ทนายพูยังเปิดเผยว่า ครอบครัวจำเป็นต้องเปิดเผยว่า คิมซูฮยอน นักแสดงหนุ่มชื่อดัง เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคิมแซรนตั้งแต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยเหตุที่จำต้องเปิดเผยเรื่องนี้ เนื่องจากครอบครัวกำลังเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับยูทูบเบอร์ อีจินโฮ ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลเท็จและดูหมิ่นผู้ล่วงลับจนทำให้เธอทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างหนัก

    อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคิมซูฮยอนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยคบหากับคิมแซรน ก่อนที่จะมีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ และถึงแม้จะมีหลักฐานดังกล่าวแล้ว เขาก็ยังไม่เคยออกมาขอโทษใดๆ และยืนกรานว่าเริ่มคบกันหลังคิมแซรนเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    ทนายยังกล่าวหาร่วมว่าอีจินโฮและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จงใจขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรน พร้อมใส่ความโดยไร้หลักฐานอย่างต่อเนื่อง

    ล่าสุดในงานแถลง ทนายพูได้เปิดเผยภาพข้อความแชต KakaoTalk ระหว่างคิมแซรนและคิมซูฮยอนลงวันที่ 24 มิถุนายน 2559 (ขณะคิมแซรนอายุเพียง 17 ปี) ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าความเป็นพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงาน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000029159

    #MGROnline #คิมซูฮยอน #คิมแซรน #คิมแซรอน #KimSooHyun #KimSaeron
    วันที่ 27 มีนาคม เวลา 13.30 น. ตามเวลาเกาหลี ทนายความ พูจีซอก จากสำนักงานกฎหมาย Buyou ได้จัดแถลงข่าว ณ Space Share ใกล้สถานีคังนัม ย่านซอโชดง กรุงโซล ในนามของครอบครัวผู้ล่วงลับ คิมแซรน นักแสดงสาวที่จากไปก่อนวัยอันควร โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อขอความเห็นใจจากสังคม และชี้แจงข้อเท็จจริงที่ทำให้ครอบครัวต้องเผชิญกับความทุกข์อย่างแสนสาหัส • “ช่วงหลังมานี้ มีการเปิดเผยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรนอย่างไม่ยั้งคิดบนโลกออนไลน์แทบทุกวัน นำมาซึ่งคำวิพากษ์วิจารณ์และการคาดเดาอย่างไม่สิ้นสุด ซึ่งได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงทั้งด้านร่างกายและจิตใจต่อครอบครัวของผู้ล่วงลับ” ทนายพูเปิดเผย • เขาระบุว่าจุดประสงค์ของการแถลงข่าวครั้งนี้ ไม่ใช่เพื่อเปิดเผยสาเหตุการตัดสินใจจบชีวิตของคิมแซรน แต่เพื่อขอให้สังคมหยุดโจมตีครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมย้ำว่าทางครอบครัวไม่ต้องการยืดเยื้อหรือโต้แย้งเรื่องข้อเท็จจริงในสื่ออีกต่อไป • ทนายพูยังเปิดเผยว่า ครอบครัวจำเป็นต้องเปิดเผยว่า คิมซูฮยอน นักแสดงหนุ่มชื่อดัง เคยมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับคิมแซรนตั้งแต่เธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ โดยเหตุที่จำต้องเปิดเผยเรื่องนี้ เนื่องจากครอบครัวกำลังเตรียมดำเนินคดีทางกฎหมายกับยูทูบเบอร์ อีจินโฮ ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลเท็จและดูหมิ่นผู้ล่วงลับจนทำให้เธอทุกข์ทรมานทางจิตใจอย่างหนัก • อย่างไรก็ตาม ฝ่ายคิมซูฮยอนกลับปฏิเสธว่าไม่เคยคบหากับคิมแซรน ก่อนที่จะมีหลักฐานยืนยันความสัมพันธ์ และถึงแม้จะมีหลักฐานดังกล่าวแล้ว เขาก็ยังไม่เคยออกมาขอโทษใดๆ และยืนกรานว่าเริ่มคบกันหลังคิมแซรนเป็นผู้ใหญ่แล้ว • ทนายยังกล่าวหาร่วมว่าอีจินโฮและบุคคลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง จงใจขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของคิมแซรน พร้อมใส่ความโดยไร้หลักฐานอย่างต่อเนื่อง • ล่าสุดในงานแถลง ทนายพูได้เปิดเผยภาพข้อความแชต KakaoTalk ระหว่างคิมแซรนและคิมซูฮยอนลงวันที่ 24 มิถุนายน 2559 (ขณะคิมแซรนอายุเพียง 17 ปี) ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เกินกว่าความเป็นพี่น้องหรือเพื่อนร่วมงาน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000029159 • #MGROnline #คิมซูฮยอน #คิมแซรน #คิมแซรอน #KimSooHyun #KimSaeron
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • “รองนพศิลป์” ติดตามความคืบหน้า การเสียชีวิตของสาวในคอนโดหรู เร่งล่าสุดแฟนหนุ่มต้องสงสัย หลังพบว่าขับรถมุ่งหน้าไปชายแดนเชียงราย

    เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีพบศพ นางสาวพราวพิลาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.ขอนแก่นเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท ที่ สน.ทองหล่อ และพบว่าผู้ต้องสงสัยคือ นายเดเนียล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวสิงคโปร์ แฟนหนุ่ม

    พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานช่วงประมาณ 18.00 น. สน. ทองหล่อได้รับแจ้งจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่าไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็มาแจ้งความและไปที่พักที่คอนโด เพื่อขอความร่วมมือจากทางนิติบุคคล ขึ้นไปตรวจสอบที่ห้องชั้น 22 ปรากฏว่าห้องยังเปิดแอร์ ประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเข้าไปภายในห้องไปเจอกับผู้เสียชีวิต นอนอยู่ในห้องน้ำ ลักษณะถูกนำเอาผ้าสีฟ้าและสีขาวคลุมไว้ และพบกองเลือดในห้องน้ำ จึงได้แจ้งให้กับตำรวจนิติเวช และพนักงานสอบสวนตรวจสอบซึ่งเพื่อยืนยันว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตจริง ๆ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029145

    #MGROnline #สนทองหล่อ #ผู้เสียชีวิต #ทรัพย์สินแบรนด์เนม

    “รองนพศิลป์” ติดตามความคืบหน้า การเสียชีวิตของสาวในคอนโดหรู เร่งล่าสุดแฟนหนุ่มต้องสงสัย หลังพบว่าขับรถมุ่งหน้าไปชายแดนเชียงราย • เมื่อเวลา 11.50 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่ สน.ทองหล่อ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต. โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.รัฐธนนท์ เอกฐิติกุลพัทธ์ ผกก.สน.ทองหล่อ เดินทางมาติดตามความคืบหน้าคดีพบศพ นางสาวพราวพิลาศ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ชาว จ.ขอนแก่นเสียชีวิตภายในคอนโดมิเนียมหรูย่านสุขุมวิท ที่ สน.ทองหล่อ และพบว่าผู้ต้องสงสัยคือ นายเดเนียล (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี ชาวสิงคโปร์ แฟนหนุ่ม • พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า เมื่อวานช่วงประมาณ 18.00 น. สน. ทองหล่อได้รับแจ้งจากเพื่อนของผู้เสียชีวิต บอกว่าไม่สามารถติดต่อเพื่อนได้ ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคมที่ผ่านมา จากนั้นก็มาแจ้งความและไปที่พักที่คอนโด เพื่อขอความร่วมมือจากทางนิติบุคคล ขึ้นไปตรวจสอบที่ห้องชั้น 22 ปรากฏว่าห้องยังเปิดแอร์ ประตูไม่ได้ล็อก เมื่อเข้าไปภายในห้องไปเจอกับผู้เสียชีวิต นอนอยู่ในห้องน้ำ ลักษณะถูกนำเอาผ้าสีฟ้าและสีขาวคลุมไว้ และพบกองเลือดในห้องน้ำ จึงได้แจ้งให้กับตำรวจนิติเวช และพนักงานสอบสวนตรวจสอบซึ่งเพื่อยืนยันว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนของผู้เสียชีวิตจริง ๆ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029145 • #MGROnline #สนทองหล่อ #ผู้เสียชีวิต #ทรัพย์สินแบรนด์เนม
    0 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • 48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก

    🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน

    ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน

    ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴

    เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก

    🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨
    - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน
    - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน

    หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ

    🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am

    ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที

    📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน

    ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน!

    สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡

    📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า

    “We are now at takeoff.”

    ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า

    “OK, stand by for takeoff, I will call you.”

    แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ

    🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น

    ผลลัพธ์คือ ❌

    ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง

    💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที

    - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0)
    - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน)

    😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍
    ปัจจัยมนุษย์ (Human Error)
    - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒
    - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻
    - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️

    ปัจจัยสิ่งแวดล้อม
    - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌
    - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️
    - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫

    📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง
    ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology)
    ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน
    ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ
    ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก

    😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬
    เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️
    - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน
    - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน

    เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱

    🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠

    แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568

    📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    48 ปี โศกนาฏกรรมกลางรันเวย์ “โบอิง 747” ชนกันที่เตเนริเฟ 🇪🇸✈️ สำเนียงสเปนพ่นพิษ นักบินสื่อสารผิดพลาด 583 ศพ บทเรียนราคาแพงจากท่าอากาศยาน ท่ามกลางหมอกหนา ความเครียด และสำเนียงที่ฟังยาก 🌫️ โศกนาฏกรรมแห่งเตเนริเฟ 🔥 ย้อนไปเมื่อ 48 ปี ที่ผ่านมา ช่วงเย็นวันอาทิตย์ที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 เป็นวันที่โลกต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์การบิน เมื่อเครื่องบินโดยสารขนาดยักษ์ โบอิง 747 ของสายการบิน KLM และ Pan Am ชนกันกลางรันเวย์ที่สนามบินโลสโรเดโอส ปัจจุบันคือท่าอากาศยานเตเนริเฟนอร์เต เกาะเตเนริเฟ ประเทศสเปน ผลที่ตามมาคือ ผู้เสียชีวิต 583 ราย และบาดเจ็บ 61 คน เป็นอุบัติเหตุทางอากาศ ที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดในโลก เหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่ได้เกิดจากเทคโนโลยีขัดข้อง หากแต่เป็นผลพวงจากปัจจัยมนุษย์ (Human Error) และการสื่อสารที่ผิดพลาด ท่ามกลางความกดดัน ✈️💥 บริบทก่อนเกิดเหตุ ในช่วงบ่ายของวันที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2520 "สนามบินกรันกานาเรีย" ซึ่งเป็นสนามบินหลักของหมู่เกาะคานารี ถูกขู่วางระเบิด ทำให้ต้องปิดการใช้งานชั่วคราว ✋🔴 เครื่องบินหลายลำ รวมถึงเที่ยวบิน KLM 4805 และ Pan Am 1736 จำเป็นต้องลงจอดที่สนามบินสำรองอย่าง “โลสโรเดโอส” ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็ก ที่ไม่มีความพร้อมรองรับ เครื่องบินลำใหญ่จำนวนมาก 🕰️ จุดเริ่มต้นของหายนะ 🧨 - KLM 4805 เดินทางจากอัมสเตอร์ดัม พร้อมผู้โดยสาร 234 คน และลูกเรือ 14 คน - Pan Am 1736:เดินทางจากลอสแอนเจลิส แวะนิวยอร์ก มุ่งหน้ากรุงมาดริด พร้อมผู้โดยสาร 380 คน และลูกเรือ 16 คน หลังจากเครื่องบินหลายลำลงจอด และจอดเรียงรายกันในพื้นที่จำกัด เจ้าหน้าที่ต้องบริหารพื้นที่ อย่างเร่งด่วน ก่อให้เกิดความเครียด ทั้งในหอบังคับการบินและลูกเรือ 🚧 จุดเปลี่ยนสำคัญคือ กัปตันของ KLM ตัดสินใจเติมน้ำมันให้เต็มถัง เพื่อเลี่ยงเติมที่สนามบินปลายทางเ พราะราคาถูกกว่า ทำให้ต้องจอดนานกว่าเดิม และขัดขวางการเคลื่อนตัวของ Pan Am ☁️ หมอกและความสับสน ภัยเงียบแห่งรันเวย์ 🗣️ เมื่อสนามบินกรันกานาเรียเปิดใช้งานอีกครั้ง การจราจรทางอากาศในโลสโรเดโอส วุ่นวายทันที 📻 หอบังคับการบิน ต้องจัดการเครื่องบินหลายลำ แต่ขาดเรดาร์ภาคพื้นดิน ทำให้พวกเขามองไม่เห็นตำแหน่งเครื่องบิน ต้องอาศัยการสื่อสารวิทยุแทน ✋ จุดวิกฤตเกิดขึ้นเมื่อ KLM เข้าใจผิดว่า สามารถนำเครื่องขึ้นได้ทันที ขณะที่ Pan Am ยังอยู่บนรันเวย์เดียวกัน! สำเนียงสเปน กับความคลุมเครือของคำว่า “Takeoff” 😓📡 📌 ขณะที่ KLM กำลังเตรียมนำเครื่องขึ้น นักบินผู้ช่วยพูดว่า “We are now at takeoff.” ซึ่งไม่ใช่ประโยคขออนุญาตขึ้นบินโดยตรง แต่เป็นการสื่อสารที่ทำให้เข้าใจคลุมเครือ หอบังคับการบินตอบกลับว่า “OK, stand by for takeoff, I will call you.” แต่...❗เสียงตอบกลับนั้น ถูกกลืนหายไปกับคลื่นรบกวน ทำให้นักบิน KLM ไม่ได้ยินคำสั่งเต็ม ๆ 🔥 การชนที่ไม่ควรเกิดขึ้น 💔 KLM เร่งนำเครื่องขึ้น โดยเข้าใจว่าได้รับอนุญาต ขณะที่ Pan Am กำลังเคลื่อนผ่านทางแยก วิ่งบนรันเวย์เดียวกัน หมอกหนาทำให้มองไม่เห็น ผลลัพธ์คือ ❌ ✈️ เครื่องบิน KLM ชนเข้ากลางลำ Pan Am อย่างรุนแรง 💥 ไฟลุกท่วมเครื่องบินทั้งสองลำในทันที - เสียชีวิตจาก KLM 248 ศพ (รอด = 0) - เสียชีวิตจาก Pan Am 335 ศพ (รอด = 61 คน) 😢 บทวิเคราะห์: สาเหตุแห่งหายนะ 🔍 ปัจจัยมนุษย์ (Human Error) - ความเครียดของกัปตัน KLM ที่ต้องรับแรงกดดัน จากบริษัทห้ามดีเลย์ 🕒 - ขาดการสื่อสารชัดเจน ระหว่างนักบินกับหอบังคับการบิน 📻 - สำเนียงสเปน ทำให้สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ชัดเจน 🗣️ ปัจจัยสิ่งแวดล้อม - สนามบินโลสโรเดโอส ไม่มีเรดาร์พื้นดิน ❌ - หมอกลงจัด มองไม่เห็นปลายรันเวย์ 🌫️ - พื้นที่สนามบิน ไม่พร้อมรองรับเครื่องบินขนาดใหญ่หลายลำ 🚫 📚🛫 หลังเหตุการณ์นี้ อุตสาหกรรมการบินทั่วโลก ได้ปรับปรุงมาตรการอย่างจริงจัง ✅ การสื่อสารต้องใช้ภาษามาตรฐาน และชัดเจนมากขึ้น (Standard Phraseology) ✅ ห้ามนักบินตีความเอง โดยไม่มีการอนุญาตชัดเจน ✅ มีการพัฒนา Cockpit Resource Management (CRM) เพื่อเน้นการทำงานเป็นทีมระหว่างลูกเรือ ✅ ระบบเรดาร์พื้นดิน (Ground Radar) ถูกติดตั้งในสนามบินใหญ่ ๆ ทั่วโลก 😨 เหตุการณ์ที่เกือบซ้ำรอยในปี 2542 🛬 เมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2542 ที่สนามบินโอแฮร์ สหรัฐอเมริกา ✈️ - Korean Air เที่ยวบิน 36 Boeing 747 พร้อมผู้โดยสาร 340 คน - China Airlines เที่ยวบิน 9018 Boeing 747 เช่นกัน เกือบชนกันกลางรันเวย์ เนื่องจากความเข้าใจผิด ในการจราจรทางอากาศ แต่โชคดีที่หลีกเลี่ยงได้ทันโดยเครื่องบินอยู่ห่างกันเพียง 75 ฟุตเท่านั้น 😱 🕯️ 583 ชีวิต กับบทเรียนที่ไม่มีวันลืม ✈️ “โศกนาฏกรรมเตเนริเฟ” เป็นบทเรียนราคาแพงที่สุดครั้งหนึ่งของมนุษยชาติ ที่สอนเราให้ระมัดระวังในการสื่อสาร การจัดการความเสี่ยง และให้ความสำคัญ กับมาตรฐานความปลอดภัยการบิน ✈️🧠 แม้เวลาจะผ่านไป 48 ปี... แต่ความสูญเสีย และบทเรียนจากเหตุการณ์นี้ ยังคงส่องแสงเป็นคำเตือน ถึงทุกคนในวงการการบินเสมอ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 271250 มี.ค. 2568 📲 #TenerifeDisaster #Boeing747 #PlaneCrashHistory #AirlineSafety #KLM4805 #PanAm1736 #AirCrashInvestigation #อุบัติเหตุทางการบิน #โบอิง747ชนกัน #บทเรียนการบิน
    0 Comments 0 Shares 394 Views 0 Reviews
  • นี่ไม่ใช่เมืองฮิโรชิม่า แต่นี่คือกาซ่า

    กาซ่ามีขนาดเล็กกว่าเมืองฮิโรชิม่าเกือบ 3 เท่า สิ่งที่อิสราเอลทำต่อกาซาคือ ทิ้งระเบิดที่เทียบได้กับปรมาณู 6 ลูกใส่กาซ่า

    เฉพาะวันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 62 คน รวมทั้งเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลในฉนวนกาซา
    นี่ไม่ใช่เมืองฮิโรชิม่า แต่นี่คือกาซ่า กาซ่ามีขนาดเล็กกว่าเมืองฮิโรชิม่าเกือบ 3 เท่า สิ่งที่อิสราเอลทำต่อกาซาคือ ทิ้งระเบิดที่เทียบได้กับปรมาณู 6 ลูกใส่กาซ่า เฉพาะวันนี้มีรายงานผู้เสียชีวิตชาวปาเลสไตน์อย่างน้อย 62 คน รวมทั้งเด็ก ๆ ที่เสียชีวิตจากการทิ้งระเบิดของอิสราเอลในฉนวนกาซา
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • ภาพมุมสูง หลังผ่านไป 17 ชม. จากเหตุถนนทรุดตัวที่มยองอิล เขตคังดง กรุงโซลเมื่อวานนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือชายที่ขี่มอเตอร์ไซต์

    ช่วงหลังเกิดเหตุความกว้างของหลุมมีเพียงถนนสองเลน แต่ตอนนี้กินพื้นที่ไปถึงสามเลนแล้ว

    คลิปจากโพสต์แรก
    https://thaitimes.co/posts/199558
    ภาพมุมสูง หลังผ่านไป 17 ชม. จากเหตุถนนทรุดตัวที่มยองอิล เขตคังดง กรุงโซลเมื่อวานนี้ ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 1 ราย คือชายที่ขี่มอเตอร์ไซต์ ช่วงหลังเกิดเหตุความกว้างของหลุมมีเพียงถนนสองเลน แต่ตอนนี้กินพื้นที่ไปถึงสามเลนแล้ว คลิปจากโพสต์แรก https://thaitimes.co/posts/199558
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • 2/
    ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงในภูมิภาคซูมีของยูเครน ในพื้นที่อาณาเขตของศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ตามรายงานระบุว่าถูกดัดแปลงเป็นคลังเก็บกระสุนชั่วคราวของกองทัพยูเครน


    ▪️ ฝ่ายยูเครนรายงานว่า ผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
    2/ ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงในภูมิภาคซูมีของยูเครน ในพื้นที่อาณาเขตของศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ตามรายงานระบุว่าถูกดัดแปลงเป็นคลังเก็บกระสุนชั่วคราวของกองทัพยูเครน ▪️ ฝ่ายยูเครนรายงานว่า ผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
    0 Comments 0 Shares 296 Views 20 0 Reviews
  • 1/
    ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงในภูมิภาคซูมีของยูเครน ในพื้นที่อาณาเขตของศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ตามรายงานระบุว่าถูกดัดแปลงเป็นคลังเก็บกระสุนชั่วคราวของกองทัพยูเครน


    ▪️ ฝ่ายยูเครนรายงานว่า ผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
    1/ ภาพการระเบิดอย่างรุนแรงในภูมิภาคซูมีของยูเครน ในพื้นที่อาณาเขตของศูนย์วิทยาศาสตร์แห่งหนึ่ง ตามรายงานระบุว่าถูกดัดแปลงเป็นคลังเก็บกระสุนชั่วคราวของกองทัพยูเครน ▪️ ฝ่ายยูเครนรายงานว่า ผู้เสียชีวิตหลายสิบราย
    0 Comments 0 Shares 215 Views 0 Reviews
  • วิดีโอมุมใหม่ความยาวกว่าเดิมของการกำจัดนักเคลื่อนไหวชาตินิยมหัวรุนแรง "เดเมียน กานูล" (Demyan Ganul) ในโอเดสซา

    คลิปเดิม
    https://thaitimes.co/posts/194376

    กานูล เป็นแกนนำของขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงของยูเครนที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม โดยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายความมั่นคงของกลุ่ม "Right Sector" นอกจากนี้ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2014 ซึ่งคือการวางเพลิงอาคารสหภาพแรงงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 ราย

    นอกเหนือจากบทบาทของเขาในการสังหารหมู่ที่โอเดสซาแล้ว กานูลยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชาตินิยมต่างๆ เช่น:
    - การทำลายอนุสรณ์สถาน และสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย
    - การก่อกวนการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชาวรัสเซียและการทำร้ายประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย
    - สนับสนุนความพยายามระดมพลของยูเครนอย่างแข็งขันหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย รวมถึงการ เข้าร่วมกองกำลังใต้ดินที่คอย "ปราบปราม" ฝ่ายต่อต้านการระดมพลของยูเครน
    - เขายังมีหมายจับจากทางรัสเซียอีกด้วย

    การสังหารกานูลครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เนื่องจากใกล้กับวันครบรอบ 11 ปีของเหตุเพลิงไหม้และการสังหารหมู่ที่ Odessa
    วิดีโอมุมใหม่ความยาวกว่าเดิมของการกำจัดนักเคลื่อนไหวชาตินิยมหัวรุนแรง "เดเมียน กานูล" (Demyan Ganul) ในโอเดสซา คลิปเดิม https://thaitimes.co/posts/194376 กานูล เป็นแกนนำของขบวนการชาตินิยมหัวรุนแรงของยูเครนที่มีชื่อเสียงเรื่องความโหดเหี้ยม โดยดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายความมั่นคงของกลุ่ม "Right Sector" นอกจากนี้ เขายังมีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงในเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2014 ซึ่งคือการวางเพลิงอาคารสหภาพแรงงาน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 50 ราย นอกเหนือจากบทบาทของเขาในการสังหารหมู่ที่โอเดสซาแล้ว กานูลยังมีส่วนร่วมในกิจกรรมชาตินิยมต่างๆ เช่น: - การทำลายอนุสรณ์สถาน และสัญลักษณ์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับรัสเซีย - การก่อกวนการแสดงคอนเสิร์ตของศิลปินชาวรัสเซียและการทำร้ายประชาชนที่พูดภาษารัสเซีย - สนับสนุนความพยายามระดมพลของยูเครนอย่างแข็งขันหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซีย รวมถึงการ เข้าร่วมกองกำลังใต้ดินที่คอย "ปราบปราม" ฝ่ายต่อต้านการระดมพลของยูเครน - เขายังมีหมายจับจากทางรัสเซียอีกด้วย การสังหารกานูลครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างน่าสงสัย เนื่องจากใกล้กับวันครบรอบ 11 ปีของเหตุเพลิงไหม้และการสังหารหมู่ที่ Odessa
    0 Comments 0 Shares 769 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเกิดไฟป่าลุกลามหลายสิบจุดทางตอนใต้ของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังมีชาวบ้านที่ต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตายอีกกว่า 1,500 คน

    เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเทศมณฑลซันชอง (Sancheong) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมแรง รวมไปถึงไฟป่าจุดอื่นๆ ในอีกอย่างน้อย 3 ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ

    สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 4 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 นาย และลูกจ้างรัฐอีก 1 คน

    ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 9,000 คน และเฮลิคอปเตอร์อีก 105 ลำเพื่อช่วยควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามไปแล้วหลายแห่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000027783

    #MGROnline #รัฐบาลเกาหลีใต้ #สถานการณ์ฉุกเฉิน #ไฟป่า
    รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังเกิดไฟป่าลุกลามหลายสิบจุดทางตอนใต้ของประเทศ โดยล่าสุดมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 4 ราย และยังมีชาวบ้านที่ต้องทิ้งบ้านเรือนอพยพหนีตายอีกกว่า 1,500 คน • เมื่อวานนี้ (23 มี.ค.) เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ยังคงต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการควบคุมไฟป่าที่ปะทุขึ้นในเทศมณฑลซันชอง (Sancheong) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. ท่ามกลางสภาพอากาศที่มีลมแรง รวมไปถึงไฟป่าจุดอื่นๆ ในอีกอย่างน้อย 3 ภูมิภาคทางตอนใต้ของประเทศ • สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตจากไฟป่าแล้วอย่างน้อย 4 ราย โดยเป็นเจ้าหน้าที่ดับเพลิง 3 นาย และลูกจ้างรัฐอีก 1 คน • ทางการได้ระดมเจ้าหน้าที่มากกว่า 9,000 คน และเฮลิคอปเตอร์อีก 105 ลำเพื่อช่วยควบคุมไฟป่าที่เผาผลาญบ้านเรือนประชาชนและวัดวาอารามไปแล้วหลายแห่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/around/detail/9680000027783 • #MGROnline #รัฐบาลเกาหลีใต้ #สถานการณ์ฉุกเฉิน #ไฟป่า
    0 Comments 0 Shares 262 Views 0 Reviews
More Results