• 🇷🇺🇺🇸 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ยืนยันความพร้อมที่จะเริ่มการเจรจากับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่
    .
    JUST IN: 🇷🇺🇺🇸 Russian President Putin confirms his readiness to begin negotiations with US President-elect Donald Trump.
    .
    4:52 PM · Nov 6, 2024 · 1.9M Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1854099428807749706
    🇷🇺🇺🇸 ประธานาธิบดีรัสเซีย ปูติน ยืนยันความพร้อมที่จะเริ่มการเจรจากับโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ . JUST IN: 🇷🇺🇺🇸 Russian President Putin confirms his readiness to begin negotiations with US President-elect Donald Trump. . 4:52 PM · Nov 6, 2024 · 1.9M Views https://x.com/BRICSinfo/status/1854099428807749706
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 5 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอปเปิ้ลสู้กลับ ลงทุนโรงงานในอินโดฯ

    หลังกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ไม่อนุญาตให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ หลังไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% ตามใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ หรือ TKDN ซึ่งพบว่าแอปเปิ้ลเลือกก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม แต่เม็ดเงินลงทุนเพียงแค่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้ากับแอปเปิ้ล คิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท

    ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิ้ลเตรียมเสนอการลงทุนในอินโดนีเซีย ด้วยการลงทุนเกือบ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าลงทุนโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตา ร่วมกับซัพพลายเออร์รายหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้สามารถจำหน่ายไอโฟน 16 ในประเทศได้ โดยจะผลิตสินค้า เช่น อุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนประกอบของอุปกรณ์แอปเปิ้ล โดยแอปเปิ้ลได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอ แต่ทั้งแอปเปิ้ลและกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว

    ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย สั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ทโฟน กูเกิล พิกเซล (Google Pixel) ที่ผลิตโดย กูเกิล บริษัทลูกของอัลฟาเบต (Alphabet) ด้วยเหตุผลเดียวกับแอปเปิ้ล คือ ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการลงทุนในประเทศ โฆษกกระทรวงฯ ยืนยันว่า รัฐบาลผลักดันระเบียบนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุนทุกคนในอินโดนีเซีย ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จึงไม่สามารถจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ แต่ผู้บริโภคสามารถซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจากต่างประเทศได้ หากชำระภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งในปี 2567 มีสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวนำเข้ามาแล้ว 22,000 เครื่อง

    อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ที่ผ่านมารัฐบาลปราโบโว สุเบียนโต กดดันให้บริษัทต่างชาติเร่งรัดการผลิตในประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ต้องดูว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้

    #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    แอปเปิ้ลสู้กลับ ลงทุนโรงงานในอินโดฯ หลังกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ไม่อนุญาตให้บริษัทแอปเปิ้ล (Apple Inc.) ของสหรัฐอเมริกา จำหน่ายโทรศัพท์มือถือไอโฟน 16 (iPhone 16) ในประเทศ หลังไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดการใช้ชิ้นส่วนภายในประเทศ (Local Content) ให้ได้ 40% ตามใบรับรองผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในประเทศ หรือ TKDN ซึ่งพบว่าแอปเปิ้ลเลือกก่อตั้งสถาบัน Apple Academies ที่เมืองทังเกอรัง เมืองซิโดอาร์โจ และเมืองบาตัม แต่เม็ดเงินลงทุนเพียงแค่ 1.48 ล้านล้านรูเปียห์ ต่ำกว่ายอดการลงทุนทั้งหมดที่กำหนดไว้ 1.71 ล้านล้านรูเปียห์ ทำให้อินโดนีเซียขาดดุลทางการค้ากับแอปเปิ้ล คิดเป็นเงินไทยเกือบ 500 ล้านบาท ล่าสุด สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า แอปเปิ้ลเตรียมเสนอการลงทุนในอินโดนีเซีย ด้วยการลงทุนเกือบ 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เข้าลงทุนโรงงานแห่งหนึ่งในเมืองบันดุง จังหวัดชวาตะวันตก ทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงจาการ์ตา ร่วมกับซัพพลายเออร์รายหนึ่ง เพื่อเปิดทางให้สามารถจำหน่ายไอโฟน 16 ในประเทศได้ โดยจะผลิตสินค้า เช่น อุปกรณ์เสริมและชิ้นส่วนประกอบของอุปกรณ์แอปเปิ้ล โดยแอปเปิ้ลได้ยื่นข้อเสนอต่อกระทรวงอุตสาหกรรมของอินโดนีเซียแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาข้อเสนอ แต่ทั้งแอปเปิ้ลและกระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย ปฎิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าว ก่อนหน้านี้ กระทรวงอุตสาหกรรมอินโดนีเซีย สั่งห้ามจำหน่ายสมาร์ทโฟน กูเกิล พิกเซล (Google Pixel) ที่ผลิตโดย กูเกิล บริษัทลูกของอัลฟาเบต (Alphabet) ด้วยเหตุผลเดียวกับแอปเปิ้ล คือ ไม่ได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดการลงทุนในประเทศ โฆษกกระทรวงฯ ยืนยันว่า รัฐบาลผลักดันระเบียบนี้เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่นักลงทุนทุกคนในอินโดนีเซีย ผลิตภัณฑ์ของกูเกิลไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ จึงไม่สามารถจำหน่ายในอินโดนีเซียได้ แต่ผู้บริโภคสามารถซื้อสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวจากต่างประเทศได้ หากชำระภาษีอย่างถูกต้อง ซึ่งในปี 2567 มีสมาร์ทโฟนรุ่นดังกล่าวนำเข้ามาแล้ว 22,000 เครื่อง อินโดนีเซียเป็นตลาดที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานอยู่ประมาณ 350 ล้านเครื่อง มากกว่าจำนวนประชากรราว 270 ล้านคน ที่ผ่านมารัฐบาลปราโบโว สุเบียนโต กดดันให้บริษัทต่างชาติเร่งรัดการผลิตในประเทศ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมในประเทศ หลังนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกครั้ง ท่ามกลางความกังวลว่าอาจมีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว ต้องดูว่ารัฐบาลอินโดนีเซียจะมีท่าทีอย่างไรกับเรื่องนี้ #Newskit #iPhone16 #Indonesia
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักข่าว CNN รายงานล่าสุดให้อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสายรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 25 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจียซึ่งเป็น 2 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้งแล้ว 246 คน ขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 14 รัฐ และเขต D.C. ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 187 คน ทว่ายังต้องรอจับตาผลการนับคะแนนในอีก 5 รัฐสมรภูมิสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้

    https://mgronline.com/around/detail/9670000106900

    #Thaitimes
    สำนักข่าว CNN รายงานล่าสุดให้อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสายรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 25 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนา และจอร์เจียซึ่งเป็น 2 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้งแล้ว 246 คน ขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 14 รัฐ และเขต D.C. ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 187 คน ทว่ายังต้องรอจับตาผลการนับคะแนนในอีก 5 รัฐสมรภูมิสำคัญที่คาดว่าจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้ https://mgronline.com/around/detail/9670000106900 #Thaitimes
    MGRONLINE.COM
    ใกล้เส้นชัย! CNN ชี้ ‘ทรัมป์’ กวาด 2 รัฐสมรภูมิ ‘จอร์เจีย-นอร์ทแคโรไลนา’ ได้ผู้แทนเลือกตั้ง 246 คน
    สำนักข่าว CNN รายงานล่าสุดให้อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสายรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 25 รัฐ รวมถึงนอร์ทแคโรไลนาและจอร์เจียซึ่งเป็น 2 ใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้งแล้ว 246 คน ข
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราจะทรัมป์ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน

    แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะ หลังคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมีมากกว่า 270 เสียง เกินกึ่งหนึ่้งจากทั้งหมด 538 คน ทิ้งห่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 แพ้ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 306 ต่อ 232 เสียง

    นายทรัมป์ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระบุว่า การได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองจะนำไปสู่ยุคทองของอเมริกา (Golden Age of America) โดยย้ำนโยบายหาเสียงเน้นไปที่การกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะล้มเหลว ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งนายทรัมป์สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาพรมแดน และแก้ไขทุกอย่างที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ

    “หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อนาคตของอเมริกาจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น กล้าหาญขึ้น ร่ำรวยขึ้น ปลอดภัยขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” นายทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุน

    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ พร้อมทำงานร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พร้อมดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ได้วางเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจแล้ว

    ประเทศในอาเซียน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเติบโตเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป และยกระดับความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้สูงขึ้นไปอีก ส่วนนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานาธิบดีมาเลเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของมาเลเซีย พร้อมก้าวไปข้างหน้าและทำงานร่วมกัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีนักลงทุนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์และยูเครน

    ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ หลังเกิดความกังวลว่าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว

    #Newskit #USElection2024 #DonaldTrump
    เราจะทรัมป์ตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน แม้ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ปี 2024 ยังไม่เสร็จสิ้น แต่อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนจากพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะ หลังคะแนนคณะผู้เลือกตั้งมีมากกว่า 270 เสียง เกินกึ่งหนึ่้งจากทั้งหมด 538 คน ทิ้งห่างนางกมลา แฮร์ริส ตัวแทนจากพรรคเดโมแครต นับเป็นการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สองของนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 แพ้ให้กับนายโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต 306 ต่อ 232 เสียง นายทรัมป์ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา ระบุว่า การได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดีสมัยที่สองจะนำไปสู่ยุคทองของอเมริกา (Golden Age of America) โดยย้ำนโยบายหาเสียงเน้นไปที่การกวาดล้างผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมาย และการพลิกฟื้นเศรษฐกิจที่คาดว่าจะล้มเหลว ภายใต้การนำของนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ซึ่งนายทรัมป์สัญญาว่าจะแก้ไขปัญหาพรมแดน และแก้ไขทุกอย่างที่เกี่ยวกับสหรัฐฯ “หากร่วมมือกัน เราจะสามารถทำให้สหรัฐอเมริกายิ่งใหญ่ขึ้นอีกครั้ง สำหรับชาวอเมริกันทุกคน ผมจะไม่ทำให้คุณผิดหวัง อนาคตของอเมริกาจะยิ่งใหญ่ขึ้น ดีขึ้น กล้าหาญขึ้น ร่ำรวยขึ้น ปลอดภัยขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นกว่าที่เคยเป็นมา” นายทรัมป์กล่าวกับผู้สนับสนุน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีต่อนายทรัมป์ พร้อมทำงานร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ ที่มีมาอย่างยาวนานให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ด้านนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า พร้อมดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ร่วมมือกับกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ส่วนผลกระทบทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์นั้น ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลใหม่ แต่ได้วางเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและการทำธุรกิจแล้ว ประเทศในอาเซียน นายลอว์เรนซ์ หว่อง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ มั่นใจว่าสหรัฐฯ จะเติบโตเป็นผู้นำในระดับโลกต่อไป และยกระดับความร่วมมือกับสิงคโปร์ให้สูงขึ้นไปอีก ส่วนนายอันวาร์ อิบราฮิม ประธานาธิบดีมาเลเซีย แสดงความยินดีกับนายทรัมป์ จะนำมาซึ่งโอกาสใหม่ๆ ของมาเลเซีย พร้อมก้าวไปข้างหน้าและทำงานร่วมกัน เนื่องจากสหรัฐฯ เป็นชาติที่มีนักลงทุนใหญ่ที่สุดในมาเลเซีย พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ ช่วยยุติความรุนแรงในปาเลสไตน์และยูเครน ด้านธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) พร้อมรักษาเสถียรภาพของค่าเงินรูเปียห์ หลังเกิดความกังวลว่าหากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง จะหนุนให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น อาจส่งผลให้มีการเรียกเก็บภาษีที่สูงขึ้น และการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัว #Newskit #USElection2024 #DonaldTrump
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดประวัติ “ทรัมป์” ปธน.คนที่ 47 ของสหรัฐฯ (06/11/67) #news1 #โดนัลด์ทรัมป์ #ปธน.คนที่47ของสหรัฐฯ
    เปิดประวัติ “ทรัมป์” ปธน.คนที่ 47 ของสหรัฐฯ (06/11/67) #news1 #โดนัลด์ทรัมป์ #ปธน.คนที่47ของสหรัฐฯ
    Like
    6
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 245 มุมมอง 193 0 รีวิว
  • ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000106962

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000106962 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Yay
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 342 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้
    .
    เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(6 พ.ย)ว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฎตัวบนเวทีประกาศชัยชนะพร้อมสมาชิกครอบครัวและว่าที่คู่ชิง เจดี แวนซ์ ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา
    .
    เสียงปรบมือกระหึ่มเมื่อเขาเดินเข้าไปและอยู่บนเวที ตัวแทนพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะเกิดขึ้นในขณะที่เขาได้คะแนนคณะเลือกตั้งสหรัฐฯ (electoral vote) ที่ 266 คะแนน และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตได้ไป 195 คะแนนอ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ
    .
    ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะนำยุคทองกลับมายังสหรัฐอเมริกาและจะซ่อมแซมทุกสิ่ง
    .
    “และเหตุผลที่พวกเราได้สร้างประวัติศาสตร์ในคืนนี้ และเหตุผลคือพวกเราได้ฝ่าขวากหนามที่ไม่มีใครคิดว่าทำได้ และเวลานี้เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเราได้ประสบความสำเร็จทางการเมืองสูงสุดอย่างไม่น่าเชื่อ”
    .
    และอดีตผู้นำสหรัฐฯยังกล่าวชมเชยไปถึงเจ้าของเทสลาและแพลตฟอร์ม X ที่ทุ่มหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้สามารถเอาชนะรัฐเพนซิลเวเนียที่ถือเป็นรัฐสวิงสเตท
    .
    “เขามีบุคลิก เขาเป็นคนพิเศษ เขามันซุปเปอร์จีเนียส” ทรัมป์ประกาศ พร้อมเสริมว่า “พวกเราต้องปกป้องพวกคนอัจฉริยะเหล่านี้ของพวกเราไว้ เราไม่ได้มีมากเท่าใด พวกเราต้องปกป้องบรรดาซุปเปอร์จีเนียส”
    .
    พร้อมกันนี้ทรัมป์ยังประกาศอีกครั้งว่า จะกวาดล้างพวกผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งหลาย
    ขณะเดียวกัน คู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ กล่าวว่า “พวกเราเป็นประจักษ์พยานการกลับมาทางการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาตร์ของสหรัฐฯ”
    .
    ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง แสดงความยินดีต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเขากล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน
    .
    และตามมาด้วยนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้แสดงความบิยดีต่อทรัมป์ด้วยการทวีตภาพ เนทันยาฮูและภรรยา ซารา (Sara) ที่ถ่ายภาพร่วมทรัมป์
    .
    เอบีซีของสหรัฐฯรายงานว่า อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส จะไม่ขึ้นปรากฎตัวคืนเลือกตั้งเพื่อกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุน แต่จะเลื่อนไปตอนเช้าวันพุธ(6)แทน
    โดยทีมหาเสียงชี้ว่า ต้องการรอระหว่างผลคะแนนยังคงกำลังนับและอีกทั้งในวันเลือกตั้งนี้ยังไม่มีการสรุปชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชนะ
    .
    ภาพแสดงให้เห็นบรรดาผู้สนับสนุนแฮร์ริสรวมตัวที่มหาวิทยาลัยโฮวาร์ด (Howard University)นั้นอยู่ในอาการที่เศร้าเนื่องมาจากผลคะแนนที่ไล่ตามคู่แข่งได้เดินออกไปจากสถานที่จัดงานปาร์ตี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106994
    .........
    Sondhi X
    ตัวแทนพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นเวทีครั้งแรกที่เมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา แถลงสร้างประวัติศาสตร์ จะเอายุครุ่งเรืองสหรัฐฯกลับคืนมา กล่าวชื่นชมมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ เป็นซุปเปอร์จีเนียสช่วยให้ชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ส่งสารแสดงความยินดีต่อทรัมป์ ส่วนคู่แข่ง กมลา แฮร์ริส ไม่ปรากฎตัวบนเวทีหลังคะแนนไม่ขึ้นรอลุ้นต่อถึงพรุ่งนี้ . เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันนี้(6 พ.ย)ว่า อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ปรากฎตัวบนเวทีประกาศชัยชนะพร้อมสมาชิกครอบครัวและว่าที่คู่ชิง เจดี แวนซ์ ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา . เสียงปรบมือกระหึ่มเมื่อเขาเดินเข้าไปและอยู่บนเวที ตัวแทนพรรครีพับลิกันประกาศชัยชนะเกิดขึ้นในขณะที่เขาได้คะแนนคณะเลือกตั้งสหรัฐฯ (electoral vote) ที่ 266 คะแนน และกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครตได้ไป 195 คะแนนอ้างอิงจาก CNN ของสหรัฐฯ . ทรัมป์ยืนยันว่า เขาจะนำยุคทองกลับมายังสหรัฐอเมริกาและจะซ่อมแซมทุกสิ่ง . “และเหตุผลที่พวกเราได้สร้างประวัติศาสตร์ในคืนนี้ และเหตุผลคือพวกเราได้ฝ่าขวากหนามที่ไม่มีใครคิดว่าทำได้ และเวลานี้เป็นที่แน่ชัดว่าพวกเราได้ประสบความสำเร็จทางการเมืองสูงสุดอย่างไม่น่าเชื่อ” . และอดีตผู้นำสหรัฐฯยังกล่าวชมเชยไปถึงเจ้าของเทสลาและแพลตฟอร์ม X ที่ทุ่มหลายร้อยล้านดอลลาร์เพื่อช่วยให้สามารถเอาชนะรัฐเพนซิลเวเนียที่ถือเป็นรัฐสวิงสเตท . “เขามีบุคลิก เขาเป็นคนพิเศษ เขามันซุปเปอร์จีเนียส” ทรัมป์ประกาศ พร้อมเสริมว่า “พวกเราต้องปกป้องพวกคนอัจฉริยะเหล่านี้ของพวกเราไว้ เราไม่ได้มีมากเท่าใด พวกเราต้องปกป้องบรรดาซุปเปอร์จีเนียส” . พร้อมกันนี้ทรัมป์ยังประกาศอีกครั้งว่า จะกวาดล้างพวกผู้อพยพเข้าเมืองผิดกฎหมายทั้งหลาย ขณะเดียวกัน คู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เจดี แวนซ์ กล่าวว่า “พวกเราเป็นประจักษ์พยานการกลับมาทางการเมืองอย่างยิ่งใหญ่ในประวัติศาตร์ของสหรัฐฯ” . ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง แสดงความยินดีต่ออดีตประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีแนวโน้มจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเขากล่าวว่า พร้อมที่จะทำงานร่วมกัน . และตามมาด้วยนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้แสดงความบิยดีต่อทรัมป์ด้วยการทวีตภาพ เนทันยาฮูและภรรยา ซารา (Sara) ที่ถ่ายภาพร่วมทรัมป์ . เอบีซีของสหรัฐฯรายงานว่า อย่างไรก็ตามเป็นที่ชัดเจนแล้วว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส จะไม่ขึ้นปรากฎตัวคืนเลือกตั้งเพื่อกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุน แต่จะเลื่อนไปตอนเช้าวันพุธ(6)แทน โดยทีมหาเสียงชี้ว่า ต้องการรอระหว่างผลคะแนนยังคงกำลังนับและอีกทั้งในวันเลือกตั้งนี้ยังไม่มีการสรุปชัดเจนว่าใครเป็นผู้ชนะ . ภาพแสดงให้เห็นบรรดาผู้สนับสนุนแฮร์ริสรวมตัวที่มหาวิทยาลัยโฮวาร์ด (Howard University)นั้นอยู่ในอาการที่เศร้าเนื่องมาจากผลคะแนนที่ไล่ตามคู่แข่งได้เดินออกไปจากสถานที่จัดงานปาร์ตี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106994 ......... Sondhi X
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี โพสต์ข้อความแสดงความยินดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เพียงประโยคเดียว ส่วนที่เหลือคือการขอความช่วยเหลือจากอเมริกา

    ขอแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับชัยชนะการเลือกตั้งที่น่าประทับใจของเขา!

    ผมยังจำภาพการพบปะที่ยอดเยี่ยมกับประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อเดือนกันยายนได้อย่วงดี เราสองคนได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ มีการพูดคุยกันถึง "แผนชัยชนะ" และแนวทางในการยุติการบุกยูเครนของรัสเซีย

    ผมชื่นชมความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อแนวทาง "สันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง" ในกิจการระดับโลก นี่คือหลักการที่ชัดเจนสำหรับการนำสันติภาพที่ยุติธรรมมาสู่ยูเครนได้ในทางปฏิบัติ ผมหวังว่าเราจะนำหลักการนี้ไปปฏิบัติร่วมกัน

    เรามุ่งหวังที่จะเป็นยุคที่สหรัฐอเมริกาเข้มแข็งภายใต้การนำที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีทรัมป์ เราพึ่งพาการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งสองพรรคการเมืองที่มีต่อยูเครนในสหรัฐอเมริกา

    เราสนใจที่จะพัฒนาความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศของเรา ยูเครนในฐานะประเทศที่มีกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและความมั่นคงในระยะยาวในยุโรปและชุมชนทรานส์แอตแลนติกด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา

    ผมตั้งตารอที่จะแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการส่วนตัว และหารือถึงแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ของยูเครนกับสหรัฐอเมริกา
    เซเลนสกี โพสต์ข้อความแสดงความยินดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เพียงประโยคเดียว ส่วนที่เหลือคือการขอความช่วยเหลือจากอเมริกา ขอแสดงความยินดีกับ โดนัลด์ ทรัมป์ สำหรับชัยชนะการเลือกตั้งที่น่าประทับใจของเขา! ผมยังจำภาพการพบปะที่ยอดเยี่ยมกับประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อเดือนกันยายนได้อย่วงดี เราสองคนได้หารือกันอย่างละเอียดเกี่ยวกับความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างยูเครนและสหรัฐฯ มีการพูดคุยกันถึง "แผนชัยชนะ" และแนวทางในการยุติการบุกยูเครนของรัสเซีย ผมชื่นชมความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีทรัมป์ที่มีต่อแนวทาง "สันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง" ในกิจการระดับโลก นี่คือหลักการที่ชัดเจนสำหรับการนำสันติภาพที่ยุติธรรมมาสู่ยูเครนได้ในทางปฏิบัติ ผมหวังว่าเราจะนำหลักการนี้ไปปฏิบัติร่วมกัน เรามุ่งหวังที่จะเป็นยุคที่สหรัฐอเมริกาเข้มแข็งภายใต้การนำที่เด็ดขาดของประธานาธิบดีทรัมป์ เราพึ่งพาการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากทั้งสองพรรคการเมืองที่มีต่อยูเครนในสหรัฐอเมริกา เราสนใจที่จะพัฒนาความร่วมมือทางการเมืองและเศรษฐกิจที่เป็นประโยชน์ร่วมกันซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศของเรา ยูเครนในฐานะประเทศที่มีกำลังทหารที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป มุ่งมั่นที่จะสร้างสันติภาพและความมั่นคงในระยะยาวในยุโรปและชุมชนทรานส์แอตแลนติกด้วยการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา ผมตั้งตารอที่จะแสดงความยินดีกับประธานาธิบดีทรัมป์เป็นการส่วนตัว และหารือถึงแนวทางในการเสริมสร้างความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ของยูเครนกับสหรัฐอเมริกา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนทันยาฮู โพสต์ข้อความแสดงความยินดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ

    "ขอแสดงความยินดีกับโดนัลด์และเมลาเนีย ทรัมป์ ที่กลับมาได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์!

    การกลับมาสู่ทำเนียบขาวครั้งประวัติศาสตร์ของคุณถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับอเมริกา และเป็นการกลับมาอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งของพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ระหว่างอิสราเอลและอเมริกา"
    เนทันยาฮู โพสต์ข้อความแสดงความยินดีต่อโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ "ขอแสดงความยินดีกับโดนัลด์และเมลาเนีย ทรัมป์ ที่กลับมาได้ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์! การกลับมาสู่ทำเนียบขาวครั้งประวัติศาสตร์ของคุณถือเป็นจุดเริ่มต้นใหม่สำหรับอเมริกา และเป็นการกลับมาอย่างแข็งแกร่งอีกครั้งของพันธมิตรที่ยิ่งใหญ่ระหว่างอิสราเอลและอเมริกา"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 8 มุมมอง 0 รีวิว
  • จ่อคว้าชัย เลือกตั้งสหรัฐฯ 06/11/67 #โดนัลด์ ทรัมป์ #เลือกตั้งสหรัฐฯ #ประธานาธิบดีสหรัฐ
    จ่อคว้าชัย เลือกตั้งสหรัฐฯ 06/11/67 #โดนัลด์ ทรัมป์ #เลือกตั้งสหรัฐฯ #ประธานาธิบดีสหรัฐ
    Like
    Haha
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 321 มุมมอง 162 0 รีวิว
  • นอกจากการลุ้นผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ยังต้องลุ้นผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) หรือสภาล่าง จำนวน 435 ที่นั่ง

    และสมาชิกสภาซีเนต (Senate) หรือวุฒิสภา (สภาสูง) มี 100 ที่นั่ง เป็นตัวแทนของ 50 รัฐ รัฐละสองคน แต่ละคนจะอยู่ในตำแหน่ง 6 ปี ทุกสองปีจะมีการเลือกตั้งราว 1 ใน 3 ของเก้าอี้ทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้สภาสูงจะเลือกตั้งเพื่อชิงที่นั่งกัน 34 ที่นั่ง

    ผลล่าสุดบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าเสียงข้างมากทั้งในสภาล่าง และสภาสูง
    นอกจากการลุ้นผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐแล้ว ยังต้องลุ้นผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (House of Representatives) หรือสภาล่าง จำนวน 435 ที่นั่ง และสมาชิกสภาซีเนต (Senate) หรือวุฒิสภา (สภาสูง) มี 100 ที่นั่ง เป็นตัวแทนของ 50 รัฐ รัฐละสองคน แต่ละคนจะอยู่ในตำแหน่ง 6 ปี ทุกสองปีจะมีการเลือกตั้งราว 1 ใน 3 ของเก้าอี้ทั้งหมด ซึ่งครั้งนี้สภาสูงจะเลือกตั้งเพื่อชิงที่นั่งกัน 34 ที่นั่ง ผลล่าสุดบ่งชี้ว่าพรรครีพับลิกันของโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าเสียงข้างมากทั้งในสภาล่าง และสภาสูง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • ค่อนข้างชัดเจนว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ

    จีน - อาจจะต้องวิตกกังวลเพิ่มขึ้น
    ไต้หวัน - จะกร่างน้อยลง
    ยูเครน - มันจบไปตั้งนานแล้ว
    อิหร่าน - ความวิตกกังวลจะมีมากกว่าจีนหลายเท่า
    อิสราเอล - จะแสดงบทบาทของสหรัฐในตะวันออกกลางอย่างชัดเจน
    รัสเซีย - เริ่มภารกิจใหม่กับอิหร่านในตะวันออกกลาง
    เกาหลีเหนือ - จะยิงจรวดของเล่นของเขาน้อยลง
    ค่อนข้างชัดเจนว่า "โดนัลด์ ทรัมป์" จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการ จีน - อาจจะต้องวิตกกังวลเพิ่มขึ้น ไต้หวัน - จะกร่างน้อยลง ยูเครน - มันจบไปตั้งนานแล้ว อิหร่าน - ความวิตกกังวลจะมีมากกว่าจีนหลายเท่า อิสราเอล - จะแสดงบทบาทของสหรัฐในตะวันออกกลางอย่างชัดเจน รัสเซีย - เริ่มภารกิจใหม่กับอิหร่านในตะวันออกกลาง เกาหลีเหนือ - จะยิงจรวดของเล่นของเขาน้อยลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเสียงปรบมือที่คฤหาสน์ของเขาใน "มาร์ อะ ลาโก" ในฟลอริดา ซึ่งมีผู้คนรอฉลองชัยชนะของเขา

    ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในจอร์เจียได้อีก
    ใครถึง 270 ก่อน คนนั้นชนะ
    🔴 TRUMP 246
    🔵 HARRIS 210
    โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเสียงปรบมือที่คฤหาสน์ของเขาใน "มาร์ อะ ลาโก" ในฟลอริดา ซึ่งมีผู้คนรอฉลองชัยชนะของเขา ล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในจอร์เจียได้อีก ใครถึง 270 ก่อน คนนั้นชนะ 🔴 TRUMP 246 🔵 HARRIS 210
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลโพลของสำนักข่าว CNN คาดการผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 14 รัฐ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง 154 คน ขณะที่ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 8 รัฐ ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 81 คน แต่ยังต้องรอลุ้นผลการนับคะแนนใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญซึ่งจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้

    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000106782

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผลโพลของสำนักข่าว CNN คาดการผลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ล่าสุดให้ โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากรีพับลิกัน เก็บชัยชนะไปแล้วอย่างน้อย 14 รัฐ คว้าจำนวนผู้แทนเลือกตั้ง 154 คน ขณะที่ กมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต มีแนวโน้มคว้าชัยแล้วใน 8 รัฐ ได้คณะผู้แทนเลือกตั้ง 81 คน แต่ยังต้องรอลุ้นผลการนับคะแนนใน 7 รัฐสมรภูมิสำคัญซึ่งจะเป็นตัวตัดสินชี้ขาดผลเลือกตั้งในครั้งนี้ อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9670000106782 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 569 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา
    .
    ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8%
    .
    ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง
    .
    ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน
    .
    เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้"
    .
    ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้
    .
    ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ จากรีพับลิกัน คว้าชัยในรัฐอินดีแอนา, รัฐเคนทักกี และรัฐเวสต์เวอร์จิเนีย ในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯในวันอังคาร(5พ.ย.) ขณะที่ กมลา แฮร์ริส คว้าชัยได้ที่เวอร์มอนต์ จากการคาดการณ์ของสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ขณะที่หน่วยเลือกตั้งต่างๆทยอยปิดหีบไปแล้ว 9 รัฐ ในนั้นรวมถึงรัฐสมรภูมิสำคัญอย่างจอร์เจียและนอร์ทแคโรไลนา . ทั้งนี้ในรัฐจอร์เจียนั้น หลังการนับคะแนนผ่านพ้นไปราวๆ 21.7% ทางสถาบันเอดิสัน รีเสิร์ช ระบุว่า ทรัมป์ ได้คะแนนเสียงไป 59.8% ทิ้งห่าง แฮร์ริส ที่ได้ไป 39.8% . ผลการเลือกตั้งเบื้องต้นของรัฐดังกล่าวข้างต้นที่ไม่ใช่รัฐสมรภูมิถือว่าเป็นไปตามความคาดหมาย ดังนั้นศึกชิงชัยครั้งนี้จึงน่าจะไปตัดสินกันที่รัฐสมรภูมิ 7 รัฐ อันประกอบด้วยจอร์เจีย, นอร์ทโคไรนา, แอริโซนา, มิชิแกน, เนวาดา, เพนซิลเวเนียและวิสคอนซิน ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆก่อนหน้านี้ เผยให้เห็นว่าทั้งคู่มีคะแนนนิยมแบบหายใจรดต้นคอจนถึงวันเลือกตั้ง . ไม่กี่ชั่วโมงก่อนปิดหีบ ทรัมป์กล่าวอ้างบนแพลตฟอร์มทรัสต์ โซเชียล โดยไม่ให้หลักฐานใดๆ ว่า "มีการพูดกันอย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในฟิลาเดลเฟีย" หลังจากเขาเคยกล่าวอ้างแบบเดียวกันนี้เมื่อปี 2020 ในเมืองที่ชาวเดโมแครตเป็นกลุ่มใหญ่ ทั้งนี้ในโพสต์ต่อมา ทรัมป์ อ้างอีกว่ามีการโกงในดีทรอยต์เช่นกัน . เซธ บลูสเตน คณะกรรมการการเลือกตั้งเมืองฟิลาเดลเฟีย ตอบโต้บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่า "ข้อกล่าวหานี้ไม่เป็นความจริงแม้แต่น้อย มันเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบิดเบือนข้อมูล การโหวตในฟิลาเดลเฟียเป็นไปอย่างปลอดภัยและเชื่อถือได้" . ทีมหาเสียงของทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจประกาศชัยชนะในคืนวันเลือกตั้ง แม้ว่าบัตรเลือกตั้งหลายล้านใบยังไม่ถูกนับ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำเมื่อ 4 ปีก่อน อย่างไรก็ตามคาดหมายว่าอาจต้องใช้เวลาหลายวันกว่าจะทราบว่าใครเป็นฝ่ายชนะ หากว่าระยะห่างของคะแนนในบรรดารัฐสมรภูมินั้นออกมาฉิวเฉียดอย่างที่คาดหมายไว้ . ทรัมป์ มีแผนรับชมผลการเลือกตั้งที่บ้านพักตากอากาศในมาร์อาโก ก่อนปราศรัยกับบรรดาผู้สนับสนุน ณ ศูนย์ประชุมที่อยู่ใกล้เคียง ส่วน กมลา แฮร์ริส คู่แข่งของทรัมป์ มีรายงานว่าเธอจะอยู่ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และให้สัมภาษณ์ทางวิทยุ จากนั้นจะไปร่วมติดตามการนับคะแนนที่มหาวิทยาลัยฮาวเวิร์ด ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เธอเคยเรียน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106770 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด
    .
    ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้
    .
    ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้
    .
    นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020
    .
    ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้
    .
    ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้
    .
    แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ
    .
    ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
    .
    ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน
    .
    อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น
    .
    การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร
    .
    ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง
    .
    ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม”
    .
    ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา
    .
    ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
    .
    สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น
    .
    ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า
    .
    ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น
    .
    ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ
    .
    รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742
    ..............
    Sondhi X
    การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด . ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่ . หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ . ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้ . นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020 . ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้ . ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้ . แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ . ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน . อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ . ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน . อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น . การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร . ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง . ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม” . ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา . ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง . สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น . ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า . ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น . ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ . รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸 โอกาสที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐.๕% เหนือกมลา แฮร์ริส ในขณะที่วันเลือกตั้งดำเนินต่อไป
    .
    JUST IN: 🇺🇸 Donald Trump's election odds rise to 60.5% over Kamala Harris as Election Day continues.
    .
    6:31 AM · Nov 6, 2024 · 90.3K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1853943193181581716
    🇺🇸 โอกาสที่ โดนัลด์ ทรัมป์ จะชนะการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น ๖๐.๕% เหนือกมลา แฮร์ริส ในขณะที่วันเลือกตั้งดำเนินต่อไป . JUST IN: 🇺🇸 Donald Trump's election odds rise to 60.5% over Kamala Harris as Election Day continues. . 6:31 AM · Nov 6, 2024 · 90.3K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1853943193181581716
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚡️หน่วยเลือกตั้งแรกปิดทำการในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี ๒๐๒๔

    หน่วยเลือกตั้งแรกๆในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มปิดทำการในเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก (๒๓.๐๐ น. GMT) ขณะที่ประเทศกำลังเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป

    หน่วยเลือกตั้งของรัฐแรกที่จะปิดทำการนั้นอยู่ในเขตทางตะวันออกของรัฐอินเดียนาและรัฐเคนตักกี้, ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งของรัฐสุดท้ายจะปิดทำการในฮาวาย (เที่ยงคืน) และอลาสก้า (เที่ยงคืน-๐๑.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก)

    รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน, กมลา แฮร์ริส, ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต, และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน, กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยคาดว่าการแข่งขันที่สูสีนี้จะลงเอยที่รัฐที่เป็นสมรภูมิรบไม่กี่รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, แอริโซนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา

    ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๔๓๕ ที่นั่ง และวุฒิสภา ๓๔ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่ง จะมีการเลือกตั้งในวันที่ ๕ พฤศจิกายนเช่นกัน
    .
    ⚡️FIRST POLLING STATIONS CLOSE IN 2024 US ELECTION

    The first polling stations start closing in the United States at 6:00 p.m. Eastern time (23:00 GMT) as the country is electing its next president.

    The first state polls to close are located in the eastern counties of Indiana and Kentucky, while the final state polls are set to close in Hawaii (midnight) and Alaska (midnight-01:00 a.m. ET).

    The incumbent vice president, Kamala Harris, a Democrat, and former President Donald Trump, a Republican, are vying for the country's top job. The close race is expected to come down to a handful of battleground states - Pennsylvania, North Carolina, Georgia, Michigan, Arizona, Wisconsin, and Nevada.

    All 435 seats in the House of Representatives and 34 of the 100 seats in the Senate are also up for election on November 5.
    .
    6:05 AM · Nov 6, 2024 · 2,090 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1853936673781923945
    ⚡️หน่วยเลือกตั้งแรกปิดทำการในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี ๒๐๒๔ หน่วยเลือกตั้งแรกๆในสหรัฐอเมริกาจะเริ่มปิดทำการในเวลา ๑๘.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก (๒๓.๐๐ น. GMT) ขณะที่ประเทศกำลังเลือกประธานาธิบดีคนต่อไป หน่วยเลือกตั้งของรัฐแรกที่จะปิดทำการนั้นอยู่ในเขตทางตะวันออกของรัฐอินเดียนาและรัฐเคนตักกี้, ในขณะที่หน่วยเลือกตั้งของรัฐสุดท้ายจะปิดทำการในฮาวาย (เที่ยงคืน) และอลาสก้า (เที่ยงคืน-๐๑.๐๐ น. ตามเวลาตะวันออก) รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน, กมลา แฮร์ริส, ซึ่งเป็นพรรคเดโมแครต, และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งเป็นพรรครีพับลิกัน, กำลังแข่งขันกันเพื่อชิงตำแหน่งสูงสุดของประเทศ โดยคาดว่าการแข่งขันที่สูสีนี้จะลงเอยที่รัฐที่เป็นสมรภูมิรบไม่กี่รัฐ ได้แก่ เพนซิลเวเนีย, นอร์ทแคโรไลนา, จอร์เจีย, มิชิแกน, แอริโซนา, วิสคอนซิน, และเนวาดา ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรทั้ง ๔๓๕ ที่นั่ง และวุฒิสภา ๓๔ ที่นั่งจากทั้งหมด ๑๐๐ ที่นั่ง จะมีการเลือกตั้งในวันที่ ๕ พฤศจิกายนเช่นกัน . ⚡️FIRST POLLING STATIONS CLOSE IN 2024 US ELECTION The first polling stations start closing in the United States at 6:00 p.m. Eastern time (23:00 GMT) as the country is electing its next president. The first state polls to close are located in the eastern counties of Indiana and Kentucky, while the final state polls are set to close in Hawaii (midnight) and Alaska (midnight-01:00 a.m. ET). The incumbent vice president, Kamala Harris, a Democrat, and former President Donald Trump, a Republican, are vying for the country's top job. The close race is expected to come down to a handful of battleground states - Pennsylvania, North Carolina, Georgia, Michigan, Arizona, Wisconsin, and Nevada. All 435 seats in the House of Representatives and 34 of the 100 seats in the Senate are also up for election on November 5. . 6:05 AM · Nov 6, 2024 · 2,090 Views https://x.com/SputnikInt/status/1853936673781923945
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์-แฮร์ริส ตระเวนปราศรัยตามรัฐสมรภูมิ ในวันสุดท้ายของการหาเสียงศึกชิงทำเนียบขาวที่เต็มไปด้วยดรามา ตั้งแต่การที่ทรัมป์ถูกตัดสินทำผิดอุกฉกรรจ์และถูกลอบสังหารสองครั้งสองหน จนถึงการที่ประธานาธิบดีในตำแหน่งอย่างไบเดนถูกกดดันจนต้องถอนตัวจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ แฮร์ริส เน้นชูประเด็นสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง ขณะที่ทรัมป์ยังปลุกกระแสว่าถูกโกงเลือกตั้งครั้งที่แล้วและอาจถูกโกงอีกในคราวนี้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความมั่นใจว่า ตนเองจะเป็นผู้ชนะ
    .
    รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต วางแผนใช้เวลาทั้งวันจันทร์ (4 พ.ย.) ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral votes) 19 เสียง มากที่สุดในบรรดา 7 รัฐซึ่งเรียกกันว่าเป็นรัฐสมรภูมิ ที่หมายถึงรัฐที่ยังไม่มีความแน่นอนชัดเจนว่าจะโหวตให้ผู้สมัครคนไหน และดังนั้นจึงกลายเป็นตัวตัดสินทำให้ผู้ชนะมีโอกาสได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งจนเกินครึ่งหนึ่ง หรือ 270 คะแนนจากทั้งประเทศ 538 คะแนน ที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่าผู้สมัครคนไหนจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป
    .
    สำหรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันนั้น มีกำหนดตระเวนหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และมิชิแกน
    .
    รายงานข่าวระบุว่า มีคนอเมริกันราว 77 ล้านคนแล้วที่ไปลงคะแนนล่วงหน้า แต่แฮร์ริสและทรัมป์ยังคงพยายามผลักดันผู้สนับสนุนอีกหลายล้านคนไปใช้สิทธิในวันอังคาร (5 ) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ทั้งสิ้น
    .
    กล่าวคือหากทรัมป์ชนะจะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกฟ้องร้องและถูกศาลตัดสินว่าทำผิดอุกฉกรรจ์ในคดีอาญาจากกรณีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่าในนิวยอร์ก โดยที่การได้กลับสู่ทำเนียบขาวจะทำให้เขามีอำนาจในการยุติการสอบสวนตนเองอีกหลายคดี นอกจากนั้นทรัมป์ยังจะเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งสองสมัยติดกัน โดยคนก่อนหน้านี้คือ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19
    .
    ส่วนแฮร์ริสจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงผิวดำที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกของอเมริกา
    .
    แฮร์ริสจับพลัดจับผลูได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกชิงทำเนียบขาวครั้งนี้ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน โชว์ผลงานการดีเบตสุดเลวร้ายเมื่อเดือนมิถุนายนจนถูกกดดันหนักและตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้ง
    .
    ทางฝั่งทรัมป์รอดหวุดหวิดจากการถูกลอบยิงระหว่างหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ต่อมาในเดือนกันยายน เจ้าหน้าที่กรมกิจการลับก็สกัดความพยายามลอบสังหารครั้งที่ 2 โดยมือปืนคนหนึ่งที่แอบซุ่มเตรียมปืนไรเฟิลในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งของทรัมป์ในฟลอริดาขณะที่เจ้าตัวกำลังตีกอล์ฟ
    .
    ในส่วนการหาเสียงนั้น แฮร์ริสประกาศตัวเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยเน้นย้ำการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง หลังจากศาลสูงสุดได้ตัดสินยกเลิกสิทธิในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2022 เธอยังตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดเกี่ยวกับบทบาทของทรัมป์ในเหตุการณ์ม็อบบุกโจมตีอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. 2021
    .
    รองประธานาธิบดีผู้นี้ยังโจมตีทรัมป์ว่า เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย และไม่นานมานี้ถึงขั้นเรียกทรัมป์ว่า เป็นพวกเผด็จการฟาสซิสต์
    .
    อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันสุดท้ายของการหาเสียง แฮร์ริสแทบจะหยุดโจมตีทรัมป์โดยสิ้นเชิง และหันมาให้สัญญาว่า จะแก้ไขปัญหาต่างๆ และหาทางประนีประนอม
    .
    ด้านทรัมป์ปัดฝุ่นสโลแกนยอดฮิตของตัวเอง “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” และ “อเมริกาต้องมาก่อน” รวมทั้งยังประกาศจุดยืนแข็งกร้าวในประเด็นคนเข้าเมือง พร้อมโจมตีเดโมแครตเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และให้คำมั่นฟื้นยุคทองทางเศรษฐกิจ ยุติวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และปิดพรมแดนทางใต้ของอเมริกา
    .
    อย่างไรก็ดี บ่อยครั้งที่ทรัมป์ออกนอกสคริปต์ไปคร่ำครวญเรื่องที่ตัวเองถูกฟ้องหลังจากพยายามล้มล้างชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดนเมื่อปี 2020 และด้อยค่าอเมริกาว่าเป็น “ประเทศที่ล้มเหลว”
    .
    ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ทรัมป์กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานอีกครั้งว่า ระบบการเลือกตั้งของอเมริกากำลังคดโกงตัวเขา และบอกว่า ไม่น่ายอมขนของออกจากทำเนียบขาวหลังการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนโอ้อวดว่า ครั้งนี้จะชนะถล่มทลายจนโกงไม่ได้
    .
    เรื่องที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีมีแนวโน้มชี้ขาดกันในการโหวตที่ 7 รัฐสมรภูมินั้น สามารถสาวย้อนกลับไปในปี 2016 ซึ่งทรัมป์ชนะได้เป็นประธานาธิบดี ภายหลังมีชัยในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน แต่ในปี 2020 เมื่อเขาเสียทั้ง 3 รัฐนี้ให้ไบเดน เขาก็ตกเป็นฝ่ายแพ้ ทั้งนี้อีก 4 รัฐสมรภูมิที่เหลือ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา
    .
    ทรัมป์นั้นเคยชนะในนอร์ทแคโรไลนา 2 ครั้ง และแพ้ในเนวาดา 2 ครั้ง เขาชนะในแอริโซนาและจอร์เจียในปี 2016 แต่แพ้ไบเดนในอีก 4 ปีต่อมา
    .
    ทางด้านทีมหาเสียงของแฮร์ริสแสดงความมั่นใจในระยะไม่กี่วันหลังๆ นี้ โดยชี้ไปที่ข้อมูลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งผู้ออกเสียงหญิงมาใช้สิทธิในจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ออกเสียงชายค่อนข้างมาก ตลอดจนผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจมีความโน้มเอียงเลือกแฮร์ริส กระนั้น บรรดาผู้ช่วยของเธออยากให้มองว่า แฮร์ริสยังคงเป็นมวยรอง
    .
    ส่วนทีมหาเสียงของทรัมป์แสดงความมั่นใจไม่แพ้กัน โดยอ้างว่า แนวทางประชานิยมของทรัมป์สามารถดึงดูดหนุ่มสาวและชนชั้นแรงงานจากทุกชาติพันธุ์และสีผิว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106360
    ..............
    Sondhi X
    ทรัมป์-แฮร์ริส ตระเวนปราศรัยตามรัฐสมรภูมิ ในวันสุดท้ายของการหาเสียงศึกชิงทำเนียบขาวที่เต็มไปด้วยดรามา ตั้งแต่การที่ทรัมป์ถูกตัดสินทำผิดอุกฉกรรจ์และถูกลอบสังหารสองครั้งสองหน จนถึงการที่ประธานาธิบดีในตำแหน่งอย่างไบเดนถูกกดดันจนต้องถอนตัวจากการเลือกตั้ง ทั้งนี้ แฮร์ริส เน้นชูประเด็นสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง ขณะที่ทรัมป์ยังปลุกกระแสว่าถูกโกงเลือกตั้งครั้งที่แล้วและอาจถูกโกงอีกในคราวนี้ โดยทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความมั่นใจว่า ตนเองจะเป็นผู้ชนะ . รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต วางแผนใช้เวลาทั้งวันจันทร์ (4 พ.ย.) ในรัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีคะแนนคณะผู้เลือกตั้ง (electoral votes) 19 เสียง มากที่สุดในบรรดา 7 รัฐซึ่งเรียกกันว่าเป็นรัฐสมรภูมิ ที่หมายถึงรัฐที่ยังไม่มีความแน่นอนชัดเจนว่าจะโหวตให้ผู้สมัครคนไหน และดังนั้นจึงกลายเป็นตัวตัดสินทำให้ผู้ชนะมีโอกาสได้คะแนนคณะผู้เลือกตั้งจนเกินครึ่งหนึ่ง หรือ 270 คะแนนจากทั้งประเทศ 538 คะแนน ที่จะเป็นตัวชี้ขาดว่าผู้สมัครคนไหนจะได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อไป . สำหรับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนของพรรครีพับลิกันนั้น มีกำหนดตระเวนหาเสียงใน 3 รัฐสมรภูมิ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา เพนซิลเวเนีย และมิชิแกน . รายงานข่าวระบุว่า มีคนอเมริกันราว 77 ล้านคนแล้วที่ไปลงคะแนนล่วงหน้า แต่แฮร์ริสและทรัมป์ยังคงพยายามผลักดันผู้สนับสนุนอีกหลายล้านคนไปใช้สิทธิในวันอังคาร (5 ) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง และไม่ว่าผลจะออกมาอย่างไรก็จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ทั้งสิ้น . กล่าวคือหากทรัมป์ชนะจะทำให้เขาเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกฟ้องร้องและถูกศาลตัดสินว่าทำผิดอุกฉกรรจ์ในคดีอาญาจากกรณีจ่ายเงินปิดปากดาราหนังปลุกใจเสือป่าในนิวยอร์ก โดยที่การได้กลับสู่ทำเนียบขาวจะทำให้เขามีอำนาจในการยุติการสอบสวนตนเองอีกหลายคดี นอกจากนั้นทรัมป์ยังจะเป็นประธานาธิบดีคนที่สองในประวัติศาสตร์ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งสองสมัยติดกัน โดยคนก่อนหน้านี้คือ โกรเวอร์ คลีฟแลนด์ ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 . ส่วนแฮร์ริสจะได้เป็นประธานาธิบดีหญิงผิวดำที่มีเชื้อสายเอเชียใต้คนแรกของอเมริกา . แฮร์ริสจับพลัดจับผลูได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครตลงศึกชิงทำเนียบขาวครั้งนี้ หลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดน โชว์ผลงานการดีเบตสุดเลวร้ายเมื่อเดือนมิถุนายนจนถูกกดดันหนักและตัดสินใจถอนตัวจากการเลือกตั้ง . ทางฝั่งทรัมป์รอดหวุดหวิดจากการถูกลอบยิงระหว่างหาเสียงที่เมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย เมื่อกลางเดือนกรกฎาคม ต่อมาในเดือนกันยายน เจ้าหน้าที่กรมกิจการลับก็สกัดความพยายามลอบสังหารครั้งที่ 2 โดยมือปืนคนหนึ่งที่แอบซุ่มเตรียมปืนไรเฟิลในสนามกอล์ฟแห่งหนึ่งของทรัมป์ในฟลอริดาขณะที่เจ้าตัวกำลังตีกอล์ฟ . ในส่วนการหาเสียงนั้น แฮร์ริสประกาศตัวเป็นผู้สร้างการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัย โดยเน้นย้ำการสนับสนุนสิทธิในการทำแท้ง หลังจากศาลสูงสุดได้ตัดสินยกเลิกสิทธิในการทำแท้งตามรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2022 เธอยังตั้งข้อสังเกตมาโดยตลอดเกี่ยวกับบทบาทของทรัมป์ในเหตุการณ์ม็อบบุกโจมตีอาคารรัฐสภาในวันที่ 6 ม.ค. 2021 . รองประธานาธิบดีผู้นี้ยังโจมตีทรัมป์ว่า เป็นภัยคุกคามต่อประชาธิปไตย และไม่นานมานี้ถึงขั้นเรียกทรัมป์ว่า เป็นพวกเผด็จการฟาสซิสต์ . อย่างไรก็ตาม ในช่วงสองวันสุดท้ายของการหาเสียง แฮร์ริสแทบจะหยุดโจมตีทรัมป์โดยสิ้นเชิง และหันมาให้สัญญาว่า จะแก้ไขปัญหาต่างๆ และหาทางประนีประนอม . ด้านทรัมป์ปัดฝุ่นสโลแกนยอดฮิตของตัวเอง “ทำให้อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง” และ “อเมริกาต้องมาก่อน” รวมทั้งยังประกาศจุดยืนแข็งกร้าวในประเด็นคนเข้าเมือง พร้อมโจมตีเดโมแครตเกี่ยวกับปัญหาเงินเฟ้อ และให้คำมั่นฟื้นยุคทองทางเศรษฐกิจ ยุติวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ และปิดพรมแดนทางใต้ของอเมริกา . อย่างไรก็ดี บ่อยครั้งที่ทรัมป์ออกนอกสคริปต์ไปคร่ำครวญเรื่องที่ตัวเองถูกฟ้องหลังจากพยายามล้มล้างชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดนเมื่อปี 2020 และด้อยค่าอเมริกาว่าเป็น “ประเทศที่ล้มเหลว” . ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ทรัมป์กล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานอีกครั้งว่า ระบบการเลือกตั้งของอเมริกากำลังคดโกงตัวเขา และบอกว่า ไม่น่ายอมขนของออกจากทำเนียบขาวหลังการเลือกตั้งเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ก่อนโอ้อวดว่า ครั้งนี้จะชนะถล่มทลายจนโกงไม่ได้ . เรื่องที่ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีมีแนวโน้มชี้ขาดกันในการโหวตที่ 7 รัฐสมรภูมินั้น สามารถสาวย้อนกลับไปในปี 2016 ซึ่งทรัมป์ชนะได้เป็นประธานาธิบดี ภายหลังมีชัยในรัฐเพนซิลเวเนีย มิชิแกน และวิสคอนซิน แต่ในปี 2020 เมื่อเขาเสียทั้ง 3 รัฐนี้ให้ไบเดน เขาก็ตกเป็นฝ่ายแพ้ ทั้งนี้อีก 4 รัฐสมรภูมิที่เหลือ ได้แก่ นอร์ทแคโรไลนา จอร์เจีย แอริโซนา และเนวาดา . ทรัมป์นั้นเคยชนะในนอร์ทแคโรไลนา 2 ครั้ง และแพ้ในเนวาดา 2 ครั้ง เขาชนะในแอริโซนาและจอร์เจียในปี 2016 แต่แพ้ไบเดนในอีก 4 ปีต่อมา . ทางด้านทีมหาเสียงของแฮร์ริสแสดงความมั่นใจในระยะไม่กี่วันหลังๆ นี้ โดยชี้ไปที่ข้อมูลการลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า ซึ่งผู้ออกเสียงหญิงมาใช้สิทธิในจำนวนเปอร์เซ็นต์สูงกว่าผู้ออกเสียงชายค่อนข้างมาก ตลอดจนผลการวิจัยที่แสดงให้เห็นว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ยังไม่ตัดสินใจมีความโน้มเอียงเลือกแฮร์ริส กระนั้น บรรดาผู้ช่วยของเธออยากให้มองว่า แฮร์ริสยังคงเป็นมวยรอง . ส่วนทีมหาเสียงของทรัมป์แสดงความมั่นใจไม่แพ้กัน โดยอ้างว่า แนวทางประชานิยมของทรัมป์สามารถดึงดูดหนุ่มสาวและชนชั้นแรงงานจากทุกชาติพันธุ์และสีผิว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106360 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 485 มุมมอง 0 รีวิว
  • หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพยายามยุติความขัดแย้งยูเครนอย่างเร็วที่สุด เขาอาจพบจุดจบในชะตากรรมเดียวกับ จอห์น เอฟ.เคนเนดี จากความเห็นของ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย
    .
    ขณะเดียวกัน เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโก จะยังคงตึงเครียดในระดับสูงลิ่วต่อไป ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคาร (5 พ.ย.)
    .
    ระหว่างการหาเสียง ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ประกาศซ้ำๆ ว่าจะยุติสถานการณ์นองเลือดในยูเครนในเวลาอันสั้น หากได้รับเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเจาะจงใดๆ ในขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต คู่แข่งของเขา เชื่อว่า ทรัมป์ อาจบีบให้ เคียฟ ยอมจำนน
    .
    ในเรื่องนี้ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินก็แสดงความเคลือบแคลงสงสัยเช่นกันเกี่ยวกับความสามารถของทรัมป์ ในการหยุดความขัดแย้งในชั่วข้ามคืน พร้อมเชื่อว่าไม่มีไม้กายสิทธิ์ใดๆ ในปัจจุบันที่เขาจะทำเช่นนั้นได้
    .
    เมดเวเดฟ โพสต์ข้อความลงบนช่องเทเลแกรมเมื่อวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ระบุว่ามอสโกไม่ได้คาดหวังใดๆ เกี่ยวกับผลลัพธ์ของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมอ้างว่า "สำหรับรัสเซียแล้ว การเลือกตั้งจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร เนื่องจากจุดยืนของผู้สมัครทั้ง 2 สะท้อนออกมาโดยสิ้นเชิงอย่างเป็นเอกฉันท์ทั้ง 2 ฝ่าย ว่าจำเป็นต้องเอาชนะประเทศของเรา"
    .
    ข้อความของเมดเวเดฟ เขียนต่อว่า แม้ในระหว่างหาเสียง ทรัมป์ พูดจากน่าเบื่อต่างๆ เกี่ยวกับโอกาสสันติภาพในยูเครน และอ้างว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาผู้นำโลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากได้รับเลือกตั้ง ตัวแทนจากรีพับลิกันรายนี้ "จะบังคับให้ทุกคนทำตามระบบกฎเกณฑ์ทั้งหมดทั้งมวล และจะไม่สามารถหยุดสงครามได้ ไม่ใช่แค่ภายในวันเดียว ใน 3 วัน หรือใน 3 เดือน"
    .
    "และถ้าหากเขาพยายามยุติความขัดแย้งยูเครน เขาจะกลายเป็นจอห์น เอฟ.เคนเนดี รายต่อไป" อดีตประธานาธิบดีรัสเซียเตือน อ้างถึง จอห์น เอฟ.เคนเนดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ถูกลอบสังหารในปี 1963
    .
    ในส่วนของแฮร์ริส เจ้าหน้าที่รัสเซียมองว่าเธอเป็น "คนโง่ ไร้ประสบการณ์ และอยู่ภายใต้การควบคุม" ขณะที่ เมดเวเดฟ ชี้ว่าหากเธอได้รัยชัยชนะ เธอจะเป็นแค่หุ่นเชิด ปล่อยให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ และสมาชิกในบริวารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา คอยกุมบังเหียน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..
    ..............
    Sondhi X
    หาก โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพยายามยุติความขัดแย้งยูเครนอย่างเร็วที่สุด เขาอาจพบจุดจบในชะตากรรมเดียวกับ จอห์น เอฟ.เคนเนดี จากความเห็นของ ดมิทรี เมดเวเดฟ อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย . ขณะเดียวกัน เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันกับมอสโก จะยังคงตึงเครียดในระดับสูงลิ่วต่อไป ไม่ว่าใครจะเป็นผู้ได้รับชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันอังคาร (5 พ.ย.) . ระหว่างการหาเสียง ทรัมป์ ตัวแทนจากรีพับลิกัน ประกาศซ้ำๆ ว่าจะยุติสถานการณ์นองเลือดในยูเครนในเวลาอันสั้น หากได้รับเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดอย่างเจาะจงใดๆ ในขณะที่รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต คู่แข่งของเขา เชื่อว่า ทรัมป์ อาจบีบให้ เคียฟ ยอมจำนน . ในเรื่องนี้ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินก็แสดงความเคลือบแคลงสงสัยเช่นกันเกี่ยวกับความสามารถของทรัมป์ ในการหยุดความขัดแย้งในชั่วข้ามคืน พร้อมเชื่อว่าไม่มีไม้กายสิทธิ์ใดๆ ในปัจจุบันที่เขาจะทำเช่นนั้นได้ . เมดเวเดฟ โพสต์ข้อความลงบนช่องเทเลแกรมเมื่อวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) ระบุว่ามอสโกไม่ได้คาดหวังใดๆ เกี่ยวกับผลลัพธ์ของศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ พร้อมอ้างว่า "สำหรับรัสเซียแล้ว การเลือกตั้งจะไม่เปลี่ยนแปลงอะไร เนื่องจากจุดยืนของผู้สมัครทั้ง 2 สะท้อนออกมาโดยสิ้นเชิงอย่างเป็นเอกฉันท์ทั้ง 2 ฝ่าย ว่าจำเป็นต้องเอาชนะประเทศของเรา" . ข้อความของเมดเวเดฟ เขียนต่อว่า แม้ในระหว่างหาเสียง ทรัมป์ พูดจากน่าเบื่อต่างๆ เกี่ยวกับโอกาสสันติภาพในยูเครน และอ้างว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับบรรดาผู้นำโลก แต่ในความเป็นจริงแล้ว หากได้รับเลือกตั้ง ตัวแทนจากรีพับลิกันรายนี้ "จะบังคับให้ทุกคนทำตามระบบกฎเกณฑ์ทั้งหมดทั้งมวล และจะไม่สามารถหยุดสงครามได้ ไม่ใช่แค่ภายในวันเดียว ใน 3 วัน หรือใน 3 เดือน" . "และถ้าหากเขาพยายามยุติความขัดแย้งยูเครน เขาจะกลายเป็นจอห์น เอฟ.เคนเนดี รายต่อไป" อดีตประธานาธิบดีรัสเซียเตือน อ้างถึง จอห์น เอฟ.เคนเนดี ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ถูกลอบสังหารในปี 1963 . ในส่วนของแฮร์ริส เจ้าหน้าที่รัสเซียมองว่าเธอเป็น "คนโง่ ไร้ประสบการณ์ และอยู่ภายใต้การควบคุม" ขณะที่ เมดเวเดฟ ชี้ว่าหากเธอได้รัยชัยชนะ เธอจะเป็นแค่หุ่นเชิด ปล่อยให้เจ้าหน้าที่คนอื่นๆ และสมาชิกในบริวารของอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา คอยกุมบังเหียน . อ่านเพิ่มเติม.. .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทรัมป์ vs.กมลา” ละครปาหี่เลือกตั้งอเมริกา
    .
    วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 จะมีการเลือกตั้งที่สหรัฐอเมริกา การต่อสู้ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และ นางกมลา แฮร์ริส กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย ทั่วโลกกำลังจับตาดูอยู่มาก เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงผู้นำของประเทศๆ หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของอเมริกานั้น สำคัญที่สุด จะส่งผลต่อโลกทั้งใบได้
    .
    ไม่ว่าใครจะชนะ นโยบายอเมริกาไม่เปลี่ยนแปลง เพราะการขับเคลื่อนประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดี แต่ถูกบงการโดยรัฐพันลึกที่เขาเรียกว่า Deep State คือกลุ่มทุน กลุ่มผลประโยชน์อุตสาหกรรมอาวุธ อุตสาหกรรมพลังงาน ล็อบบี้ยิสต์ ไปจนถึงเครือข่ายในองค์กรอย่าง CIA, FBI รวมทั้งสื่อมวลชนกระแสหลัก ไม่ว่าจะเป็น CNBC, CBS, CNN, New York Times ซึ่งล้วนแล้วแต่ถือหางเลือกสองข้างพรรคการเมืองใหญ่เท่านั้นเอง
    .
    ทั้งพรรคเดโมแครต หรือรีพับลิกัน ล้วนยึดนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนทั้งนั้น และนโยบายหลายเรื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลง สนับสนุนอิสราเอลให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อไป ต่อต้านจีน บ่อนเซาะรัสเซีย และรักษาสถานภาพมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกเอาไว้ด้วยวิธีการต่างๆ สร้างข่าวปลอม การคว่ำบาตร การทำสงคราม ทั้งสงครามอาวุธและสงครามข้อมูลข่าวสาร
    .
    อำนาจของสหรัฐฯ เสื่อมโทรม ทรุดถอยลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ มีปัญหาในประเทศอย่างหนักหนาสาหัส เพราะเกิดจากระบบทุนนิยมสามัญของตัวเองที่รังแกประชาชนของตัวเอง และใช้วิธีโยนปัญหาให้ประเทศอื่น เหมือนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยหลายครั้งจนทำให้เศรษฐกิจของประเทศอื่นปั่นป่วนไปด้วย แต่พอแข่งขันไม่ได้ สู้ไม่ได้ ก็ตั้งกำแพงภาษีกีดกันสินค้านำเข้าจากจีน ก่อสงครามเทคโนโลยี ส่งผลให้หคนอเมริกาเองต้องใช้สินค้าราคาแพงด้วย
    .
    นักวิเคราะห์การเมืองทั่วโลกจึงเห็นตรงกันว่า ไม่ว่าใครชนะการเลือกตั้ง นโยบายหลายๆ อย่างไม่เปลี่ยนแปลง โดยเปลี่ยนแต่รูปแบบเท่านั้น โดยเปรียบเทียบให้เห็นว่า นางกมลา แฮร์ริส จะใช้มีดผ่าตัด จัดการแบบเชือดนิ่มๆ กับประเทศที่ทำให้สหรัฐฯ เสียผลประโยชน์ ส่วนนายทรัมป์จะใช้ค้อนทุบประเทศคู่แข่งที่เขาบอกว่าเอาเปรียบสหรัฐฯ
    .
    ในการประชุม BRICS ที่ประเทศรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชงโก ประธานาธิบดีเบลารุส ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ไว้อย่างน่าสนใจ เขาบอกว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นละครปาหี่ทางการเมืองที่ห่วยแตกและงี่เง่าที่สุด พรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกัน ทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่กลับไม่มีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย
    “ทรัมป์ vs.กมลา” ละครปาหี่เลือกตั้งอเมริกา . วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 จะมีการเลือกตั้งที่สหรัฐอเมริกา การต่อสู้ระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และ นางกมลา แฮร์ริส กำลังเข้าสู่โค้งสุดท้าย ทั่วโลกกำลังจับตาดูอยู่มาก เพราะว่าการเปลี่ยนแปลงผู้นำของประเทศๆ หนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งของอเมริกานั้น สำคัญที่สุด จะส่งผลต่อโลกทั้งใบได้ . ไม่ว่าใครจะชนะ นโยบายอเมริกาไม่เปลี่ยนแปลง เพราะการขับเคลื่อนประเทศสหรัฐฯ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับประธานาธิบดี แต่ถูกบงการโดยรัฐพันลึกที่เขาเรียกว่า Deep State คือกลุ่มทุน กลุ่มผลประโยชน์อุตสาหกรรมอาวุธ อุตสาหกรรมพลังงาน ล็อบบี้ยิสต์ ไปจนถึงเครือข่ายในองค์กรอย่าง CIA, FBI รวมทั้งสื่อมวลชนกระแสหลัก ไม่ว่าจะเป็น CNBC, CBS, CNN, New York Times ซึ่งล้วนแล้วแต่ถือหางเลือกสองข้างพรรคการเมืองใหญ่เท่านั้นเอง . ทั้งพรรคเดโมแครต หรือรีพับลิกัน ล้วนยึดนโยบายอเมริกาต้องมาก่อนทั้งนั้น และนโยบายหลายเรื่องไม่มีการเปลี่ยนแปลง สนับสนุนอิสราเอลให้ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อไป ต่อต้านจีน บ่อนเซาะรัสเซีย และรักษาสถานภาพมหาอำนาจเบอร์หนึ่งของโลกเอาไว้ด้วยวิธีการต่างๆ สร้างข่าวปลอม การคว่ำบาตร การทำสงคราม ทั้งสงครามอาวุธและสงครามข้อมูลข่าวสาร . อำนาจของสหรัฐฯ เสื่อมโทรม ทรุดถอยลง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะสหรัฐฯ มีปัญหาในประเทศอย่างหนักหนาสาหัส เพราะเกิดจากระบบทุนนิยมสามัญของตัวเองที่รังแกประชาชนของตัวเอง และใช้วิธีโยนปัญหาให้ประเทศอื่น เหมือนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ลดดอกเบี้ยหลายครั้งจนทำให้เศรษฐกิจของประเทศอื่นปั่นป่วนไปด้วย แต่พอแข่งขันไม่ได้ สู้ไม่ได้ ก็ตั้งกำแพงภาษีกีดกันสินค้านำเข้าจากจีน ก่อสงครามเทคโนโลยี ส่งผลให้หคนอเมริกาเองต้องใช้สินค้าราคาแพงด้วย . นักวิเคราะห์การเมืองทั่วโลกจึงเห็นตรงกันว่า ไม่ว่าใครชนะการเลือกตั้ง นโยบายหลายๆ อย่างไม่เปลี่ยนแปลง โดยเปลี่ยนแต่รูปแบบเท่านั้น โดยเปรียบเทียบให้เห็นว่า นางกมลา แฮร์ริส จะใช้มีดผ่าตัด จัดการแบบเชือดนิ่มๆ กับประเทศที่ทำให้สหรัฐฯ เสียผลประโยชน์ ส่วนนายทรัมป์จะใช้ค้อนทุบประเทศคู่แข่งที่เขาบอกว่าเอาเปรียบสหรัฐฯ . ในการประชุม BRICS ที่ประเทศรัสเซีย นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชงโก ประธานาธิบดีเบลารุส ได้กล่าวถึงการเลือกตั้งสหรัฐฯ ไว้อย่างน่าสนใจ เขาบอกว่า การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นละครปาหี่ทางการเมืองที่ห่วยแตกและงี่เง่าที่สุด พรรคเดโมแครต และพรรครีพับลิกัน ทุ่มเงินหลายร้อยล้านดอลลาร์ในการหาเสียงเลือกตั้ง แต่กลับไม่มีนโยบายอะไรที่เป็นรูปธรรมเลย
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีคนร่ำรวยจำนวนมากสุดเท่าที่เคยมีมา ที่คิดย้ายออกจากสหรัฐฯหลงศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยไม่สนว่าใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ ท่ามกลางความคาดหมายภาวะไร้เสถียรภาพทั้งทางการเมืองและสังคม ตามรายงานของซีเอ็นบีซี
    .
    สำนักข่าวแห่งนี้ เผยว่าบรรดาทนายความและที่ปรึกษาด้านคนเข้าเมือง สังเกตเห็นจำนวนลูกค้าลูกสุดเป็นประวัติการณ์ ที่อยากได้พาสปอร์ตประเทศที่ 2 หรือไม่ก็อยากไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน
    .
    แม้บางส่วนยังคงแค่พูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายไปอยู่ประเทศอื่นหลังการเลือกตั้ง แต่คนมั่งมีจำนวนมากได้เริ่มดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    "ในปีนี้ มีคนร่ำรวยชาวอเมริกา มีแผนออกนอกประเทศ มากกว่าปีที่แล้ว อย่างน้อยๆ 30%" อ้างอิงข้อมูลจาก โดมินิค โวเลก หัวหน้าดูแลกลุ่มลูกค้าเอกชนของบริษัทเฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ส ซึ่งรับให้คำปรึกษาบุคคลมีรายได้สูงในด้านการโยกย้ายถิ่นฐานข้ามชาติ
    .
    เขาบอกกับซีเอ็นบีซีว่าเวลานี้ชาวอเมริกาคือฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดของบริษัท คิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อย 20% ในธุรกิจของพวกเขา ถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับลูกค้าชาติอื่นๆ
    .
    เดลิด เลสเพแรนซ์ หุ้นส่วนของ เลสเพแรนซ์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ บริษัทด้านภาษีข้ามชาติและคนเข้าเมือง เปิดเผยว่ามีจำนวนชาวอเมริกันขอคำแนะนำจากเขาเกี่ยวกับการโยกย้ายไปต่างแดน เพิ่มขึ้นราวๆ 3 เท่าเมื่อปีที่แล้ว
    .
    ข้อมูลจากเฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ส พบว่านับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 มีจำนวนคนร่ำรวยสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆที่พิจารณาโยกย้ายไปยังต่างแดน และศึกเลือกตั้งที่กำลังมาถึง ยิ่งทำให้ความสนใจดังกล่าวของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยส่วนใหญ่แล้วกำลังมองหาประเทศต่างๆในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตุเกส, มอลตา, กรีซ, สเปน และอิตาลี
    .
    ผลสำรวจที่จัดทำเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน โดยอาร์ทอน แคปิตอล บริษัทให้คำปรึกษาคนรวยในด้านโครงการอพยพ พบว่ามีมหาเศรษฐกิจอเมริกันถึง 53% ที่บอกว่ามีแนวโน้มอยากออกจากสหรัฐฯหลังเสร็จศึกเลือกตั้ง โดยไม่สนว่าใครจะเป็นผู้ชนะ นอกจากแล้วยังพบว่าพวกเศรษฐีที่มีอายุน้อย มีแนวโน้มอยากหลบหนีออกจากอเมริกามากกว่า โดย 64% ของคนมั่งมีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี บอกว่าพวกเขาสนใจมากๆที่จะได้ในสิ่งที่เรียกว่าวีซ่าทอง "โกลเดน วีซ่า" ที่อนุญาตให้นักลงทุนมีสิทธิ์ใช้ชีวิตในประเทศยุโรปบางชาติ
    .
    อาร์หมัด อาร์ทอน ผู้ก่อตั้งอาร์ทอน แคปิตอล ระบุในถ้อยแถลงว่า ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกาจำนวนมากรู้สึกเบื่อหน่ายกับความแตกแยกทางการเมืองในบ้านเกิดเมืองนอน "ตอนนี้ผู้คนมากมายกำลังหาทางลดความเสี่ยง และใช้แผนบี พำนักอาศัยในต่างแดน โดยไม่สนว่าผลเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน" เขากล่าว
    .
    ทั้งนี้ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันก็จะถึงการเลือกตั้ง ผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆพบว่าการชิงชัยนั้นคู่คี่มากกว่าศึกเลือกตั้งครั้งไหนๆในอดีตที่ผ่านมา
    .
    ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ความรุงแรงหลังเลือกตั้ง ซ้ำรอยเมื่อ 4 ปีก่อน กองเชียร์ผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมาก ปักธงผลเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันอังคาร (5 พ.ย.) นี้ กันแล้วว่าอดีตประธานาธิบดีคนโปรดของพวกเขาจะต้องคว้าชัยแบบถล่มทลาย ไม่เช่นนั้นก็คือถูกโกงซ้ำสอง และคนเหล่านี้พร้อมแล้วที่จะคัดค้านผลการนับคะแนน ถ้าแคนดิเดตจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ไม่ได้เป็นผู้ชนะ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106000
    ..............
    Sondhi X
    มีคนร่ำรวยจำนวนมากสุดเท่าที่เคยมีมา ที่คิดย้ายออกจากสหรัฐฯหลงศึกเลือกตั้งวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยไม่สนว่าใครจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ ท่ามกลางความคาดหมายภาวะไร้เสถียรภาพทั้งทางการเมืองและสังคม ตามรายงานของซีเอ็นบีซี . สำนักข่าวแห่งนี้ เผยว่าบรรดาทนายความและที่ปรึกษาด้านคนเข้าเมือง สังเกตเห็นจำนวนลูกค้าลูกสุดเป็นประวัติการณ์ ที่อยากได้พาสปอร์ตประเทศที่ 2 หรือไม่ก็อยากไปใช้ชีวิตอยู่ในต่างแดน . แม้บางส่วนยังคงแค่พูดเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการย้ายไปอยู่ประเทศอื่นหลังการเลือกตั้ง แต่คนมั่งมีจำนวนมากได้เริ่มดำเนินการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . "ในปีนี้ มีคนร่ำรวยชาวอเมริกา มีแผนออกนอกประเทศ มากกว่าปีที่แล้ว อย่างน้อยๆ 30%" อ้างอิงข้อมูลจาก โดมินิค โวเลก หัวหน้าดูแลกลุ่มลูกค้าเอกชนของบริษัทเฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ส ซึ่งรับให้คำปรึกษาบุคคลมีรายได้สูงในด้านการโยกย้ายถิ่นฐานข้ามชาติ . เขาบอกกับซีเอ็นบีซีว่าเวลานี้ชาวอเมริกาคือฐานลูกค้าใหญ่ที่สุดของบริษัท คิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อย 20% ในธุรกิจของพวกเขา ถือว่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับลูกค้าชาติอื่นๆ . เดลิด เลสเพแรนซ์ หุ้นส่วนของ เลสเพแรนซ์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ บริษัทด้านภาษีข้ามชาติและคนเข้าเมือง เปิดเผยว่ามีจำนวนชาวอเมริกันขอคำแนะนำจากเขาเกี่ยวกับการโยกย้ายไปต่างแดน เพิ่มขึ้นราวๆ 3 เท่าเมื่อปีที่แล้ว . ข้อมูลจากเฮนลีย์แอนด์พาร์ทเนอร์ส พบว่านับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 มีจำนวนคนร่ำรวยสหรัฐฯเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆที่พิจารณาโยกย้ายไปยังต่างแดน และศึกเลือกตั้งที่กำลังมาถึง ยิ่งทำให้ความสนใจดังกล่าวของพวกเขาเพิ่มมากขึ้นไปอีก โดยส่วนใหญ่แล้วกำลังมองหาประเทศต่างๆในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งโปรตุเกส, มอลตา, กรีซ, สเปน และอิตาลี . ผลสำรวจที่จัดทำเมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน โดยอาร์ทอน แคปิตอล บริษัทให้คำปรึกษาคนรวยในด้านโครงการอพยพ พบว่ามีมหาเศรษฐกิจอเมริกันถึง 53% ที่บอกว่ามีแนวโน้มอยากออกจากสหรัฐฯหลังเสร็จศึกเลือกตั้ง โดยไม่สนว่าใครจะเป็นผู้ชนะ นอกจากแล้วยังพบว่าพวกเศรษฐีที่มีอายุน้อย มีแนวโน้มอยากหลบหนีออกจากอเมริกามากกว่า โดย 64% ของคนมั่งมีอายุระหว่าง 18 ถึง 29 ปี บอกว่าพวกเขาสนใจมากๆที่จะได้ในสิ่งที่เรียกว่าวีซ่าทอง "โกลเดน วีซ่า" ที่อนุญาตให้นักลงทุนมีสิทธิ์ใช้ชีวิตในประเทศยุโรปบางชาติ . อาร์หมัด อาร์ทอน ผู้ก่อตั้งอาร์ทอน แคปิตอล ระบุในถ้อยแถลงว่า ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าชาวอเมริกาจำนวนมากรู้สึกเบื่อหน่ายกับความแตกแยกทางการเมืองในบ้านเกิดเมืองนอน "ตอนนี้ผู้คนมากมายกำลังหาทางลดความเสี่ยง และใช้แผนบี พำนักอาศัยในต่างแดน โดยไม่สนว่าผลเลือกตั้งจะออกมาแบบไหน" เขากล่าว . ทั้งนี้ในขณะที่เหลือเวลาอีกเพียง 2 วันก็จะถึงการเลือกตั้ง ผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆพบว่าการชิงชัยนั้นคู่คี่มากกว่าศึกเลือกตั้งครั้งไหนๆในอดีตที่ผ่านมา . ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ความรุงแรงหลังเลือกตั้ง ซ้ำรอยเมื่อ 4 ปีก่อน กองเชียร์ผู้สนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์ จำนวนมาก ปักธงผลเลือกตั้งที่จะมีขึ้นวันอังคาร (5 พ.ย.) นี้ กันแล้วว่าอดีตประธานาธิบดีคนโปรดของพวกเขาจะต้องคว้าชัยแบบถล่มทลาย ไม่เช่นนั้นก็คือถูกโกงซ้ำสอง และคนเหล่านี้พร้อมแล้วที่จะคัดค้านผลการนับคะแนน ถ้าแคนดิเดตจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ไม่ได้เป็นผู้ชนะ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106000 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 649 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) เน้นย้ำคำกล่าวอ้างของเขาเกี่ยวกับการโกงคะแนนโหวตในรัฐสมรภูมิต่างๆ ในขณะที่เขาและคู่แข่งอย่าง กมลา แฮร์ริส จากเดโมแครต ใช้ช่วงเวลา 48 ชั่วโมงสุดท้าย ของการรณรงค์หาเสียง ระดมเสียงสนับสนุนในเป้าหมายคว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่คู่คี่สูสีที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์
    .
    คาดหมายว่าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสูสีมากๆ โดยผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่าจนถึง ณ ขณะนี้มีอยู่หลายรัฐที่คะแนนนิยมของทั้งคู่ยังคงใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา
    .
    ขณะเดียวกัน พบว่าจนถึงตอนนี้มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 77.3 ล้านคน ก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันอังคาร (5 พ.ย.) มากกว่าครึ่งของจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในปี 2020
    .
    ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงวันเลือกตั้ง เป็นอีกครั้งที่ ทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และใช้วาทกรรมเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม และสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าแม้ไม่มีหลักฐานสำคัญใดๆ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในสหรัฐฯ แต่ ทรัมป์ อ้างว่าพวกเดโมแครตในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิ กำลังทำงานอย่างหนักในการขโมยผลการเลือกตั้ง
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังแสดงความขุ่นเคืองบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายที่มักรายงานในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ข่าวปลอม" เล่นงานเขาเป็นประจำ โดย ทรัมป์ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า จะไม่ว่าอะไรหากมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถูกยิงบ้าง
    .
    ระหว่างการปราศรัยหาเสียงเป็นเวลา 90 นาที ทรัมป์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่เขาเกือบเสียชีวิตในเหตุลอบสังหารเมื่อเดือนกรกฎาคม พร้อมระบุว่าสำหรับเขาแล้ว หากถูกยิงอีกรอบ คราวนี้กระสุนควรจะพุ่งผ่านกลุ่มสื่อมวลชน "สำหรับผม หากมีใครถูกยิงจากการนำเสนอข่าวปลอม ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมไม่แคร์ด้วย" เขาพูดไปหัวเราะไป
    .
    ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แฮร์ริส ได้ไปร่วมพิธีที่โบสถ์แห่งหน่ง ที่มีชาวผิวสีเป็นชนกลุ่มใหญ่ ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน และใช้โอกาสนี้เรียกร้องอเมริกันชน ก้าวข้าม ทรัมป์ "ขอพวกเราจงก้าวไปข้างหน้า และเขียนบทตอนถัดไปในประวัติศาสตร์ของเรา" รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุ "ขณะที่เรารู้ดีว่ามีคนที่กำลังหาทางสร้างความแตกแยกหนักหน่วงขึ้น หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง และก่อความวุ่นวาย ในช่วงเวลาที่ประเทศของเราเต็มไปด้วยการเมืองที่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากมายเหลือเกิน"
    .
    แฮร์ริส เรียกคำกล่าวหาของทรัมป์ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งว่าเป็นความพยายามทำให้ผู้คนรู้สึกว่าคะแนนโหวตของพวกเขานั้นไม่มีความสำคัญ "ระบบต่างๆ ที่ใช้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ในปี 2024 มีความซื่อตรง" เธอกล่าว "และประชาชนจะเป็นคนตัดสินผลการเลือกตั้ง"
    .
    เหมือนกับเพนซิลเวเนีย ในรัฐมิชิแกน อีกรัฐสมรภูมิก็ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทรัมป์ เคยพลิกเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ในป้อมปราการของเดโมแครตแห่งนี้ ในศึกเลือกตั้งปี 2016 แต่ ไบเดน นำพารัฐแห่งนี้กลับมาเป็นป้อมปราการของเดโมแครตอีกรอบในปี 2020 ได้แรงหนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงแรงงานสหภาพและคนผิวสี
    .
    อย่างไรก็ตาม คราวนี้ แฮร์ริส กำลังเสี่ยงสูญเสียแรงสนับสนุนจากชุมชนอเมริกันเชื้อสายอาหรับที่มีอยู่กว่า 200,000 คน ที่ประณามแนวทางของไบเดน ในการจัดการสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในกาซา
    .
    สถานการณ์การเลือกตั้งเวลานี้ มีรายงานระบุว่า ชาวอเมริกัน 75 ล้านคนไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของรีลเคลียร์โพลิติกส์จนถึงค่ำวันเสาร์ระบุว่า ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสไม่มีใครนำใครเกิน 3 จุดในรัฐหนึ่งรัฐใดใน 7 รัฐสมรภูมิที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้ง
    .
    บรรดาผู้สนับสนุนรีพับลิกันให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า พร้อมโยนความสงสัยเกี่ยวกับระบบการเลือกตั้งทิ้งทันที ถ้าทรัมป์ชนะแบบแลนด์สไลด์
    .
    เชิร์ล วัย 39 ปีที่ทำงานในองค์กรไม่หวังผลกำไรแห่งหนึ่งบอกว่า เธอคง “สงสัย” ถ้าผลเลือกตั้งออกมาว่า แฮร์ริสชนะ แต่จะ “มั่นใจมาก” ถ้าผลออกมาว่า ทรัมป์ชนะ
    .
    “เพราะพระเจ้าลิขิตมาแล้วให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี พวกเราแค่รอเท่านั้น”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000105983
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) เน้นย้ำคำกล่าวอ้างของเขาเกี่ยวกับการโกงคะแนนโหวตในรัฐสมรภูมิต่างๆ ในขณะที่เขาและคู่แข่งอย่าง กมลา แฮร์ริส จากเดโมแครต ใช้ช่วงเวลา 48 ชั่วโมงสุดท้าย ของการรณรงค์หาเสียง ระดมเสียงสนับสนุนในเป้าหมายคว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่คู่คี่สูสีที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์ . คาดหมายว่าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสูสีมากๆ โดยผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่าจนถึง ณ ขณะนี้มีอยู่หลายรัฐที่คะแนนนิยมของทั้งคู่ยังคงใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา . ขณะเดียวกัน พบว่าจนถึงตอนนี้มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 77.3 ล้านคน ก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันอังคาร (5 พ.ย.) มากกว่าครึ่งของจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในปี 2020 . ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงวันเลือกตั้ง เป็นอีกครั้งที่ ทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และใช้วาทกรรมเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม และสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าแม้ไม่มีหลักฐานสำคัญใดๆ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในสหรัฐฯ แต่ ทรัมป์ อ้างว่าพวกเดโมแครตในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิ กำลังทำงานอย่างหนักในการขโมยผลการเลือกตั้ง . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังแสดงความขุ่นเคืองบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายที่มักรายงานในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ข่าวปลอม" เล่นงานเขาเป็นประจำ โดย ทรัมป์ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า จะไม่ว่าอะไรหากมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถูกยิงบ้าง . ระหว่างการปราศรัยหาเสียงเป็นเวลา 90 นาที ทรัมป์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่เขาเกือบเสียชีวิตในเหตุลอบสังหารเมื่อเดือนกรกฎาคม พร้อมระบุว่าสำหรับเขาแล้ว หากถูกยิงอีกรอบ คราวนี้กระสุนควรจะพุ่งผ่านกลุ่มสื่อมวลชน "สำหรับผม หากมีใครถูกยิงจากการนำเสนอข่าวปลอม ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมไม่แคร์ด้วย" เขาพูดไปหัวเราะไป . ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แฮร์ริส ได้ไปร่วมพิธีที่โบสถ์แห่งหน่ง ที่มีชาวผิวสีเป็นชนกลุ่มใหญ่ ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน และใช้โอกาสนี้เรียกร้องอเมริกันชน ก้าวข้าม ทรัมป์ "ขอพวกเราจงก้าวไปข้างหน้า และเขียนบทตอนถัดไปในประวัติศาสตร์ของเรา" รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุ "ขณะที่เรารู้ดีว่ามีคนที่กำลังหาทางสร้างความแตกแยกหนักหน่วงขึ้น หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง และก่อความวุ่นวาย ในช่วงเวลาที่ประเทศของเราเต็มไปด้วยการเมืองที่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากมายเหลือเกิน" . แฮร์ริส เรียกคำกล่าวหาของทรัมป์ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งว่าเป็นความพยายามทำให้ผู้คนรู้สึกว่าคะแนนโหวตของพวกเขานั้นไม่มีความสำคัญ "ระบบต่างๆ ที่ใช้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ในปี 2024 มีความซื่อตรง" เธอกล่าว "และประชาชนจะเป็นคนตัดสินผลการเลือกตั้ง" . เหมือนกับเพนซิลเวเนีย ในรัฐมิชิแกน อีกรัฐสมรภูมิก็ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทรัมป์ เคยพลิกเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ในป้อมปราการของเดโมแครตแห่งนี้ ในศึกเลือกตั้งปี 2016 แต่ ไบเดน นำพารัฐแห่งนี้กลับมาเป็นป้อมปราการของเดโมแครตอีกรอบในปี 2020 ได้แรงหนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงแรงงานสหภาพและคนผิวสี . อย่างไรก็ตาม คราวนี้ แฮร์ริส กำลังเสี่ยงสูญเสียแรงสนับสนุนจากชุมชนอเมริกันเชื้อสายอาหรับที่มีอยู่กว่า 200,000 คน ที่ประณามแนวทางของไบเดน ในการจัดการสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในกาซา . สถานการณ์การเลือกตั้งเวลานี้ มีรายงานระบุว่า ชาวอเมริกัน 75 ล้านคนไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของรีลเคลียร์โพลิติกส์จนถึงค่ำวันเสาร์ระบุว่า ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสไม่มีใครนำใครเกิน 3 จุดในรัฐหนึ่งรัฐใดใน 7 รัฐสมรภูมิที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้ง . บรรดาผู้สนับสนุนรีพับลิกันให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า พร้อมโยนความสงสัยเกี่ยวกับระบบการเลือกตั้งทิ้งทันที ถ้าทรัมป์ชนะแบบแลนด์สไลด์ . เชิร์ล วัย 39 ปีที่ทำงานในองค์กรไม่หวังผลกำไรแห่งหนึ่งบอกว่า เธอคง “สงสัย” ถ้าผลเลือกตั้งออกมาว่า แฮร์ริสชนะ แต่จะ “มั่นใจมาก” ถ้าผลออกมาว่า ทรัมป์ชนะ . “เพราะพระเจ้าลิขิตมาแล้วให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี พวกเราแค่รอเท่านั้น” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000105983 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 642 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็น Bug แหละเนอะ 😅

    เครื่องลงคะแนนเสียงของรัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมิรกา ไม่ยอมให้ผู้ลงคะแนนเลือกชื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ จะให้เลือก "คามามลา แฮร์ริส" อย่างเดียวเลย
    เป็น Bug แหละเนอะ 😅 เครื่องลงคะแนนเสียงของรัฐเคนตักกี้ สหรัฐอเมิรกา ไม่ยอมให้ผู้ลงคะแนนเลือกชื่อของโดนัลด์ ทรัมป์ จะให้เลือก "คามามลา แฮร์ริส" อย่างเดียวเลย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ จากทั้ง 2 พรรค ต่างคาดหมายว่าอเมริกาอาจต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความโกลาหล หลังศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน และหวั่นวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองทั่วประเทศ ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวก็ตาม ตามรายงานของ Axios เว็บไซต์ข่าวของสหรัฐฯในวันพุธ(30ต.ค.) อ้างอิงความเห็นของสมาชิกรัฐสภาหลายคน
    .
    "เหล่าสมาชิกเดโมแครตมีความกังวลอย่างยิ่งว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะคัดค้านผลการเลือกตั้ง หากเขาพ่ายแพ้ต่อรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ซ้ำรอยเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อปี 2021" รายงานข่าวระบุ
    .
    รายงานข่าวอ้างความเห็นของ เจสัน โครว์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรคเดโมแครต ในโคโรลาโด กล่าวว่า "เราแน่ใจว่า ที่นี่ มีสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงระดับสูง ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องนี้เลย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องระแวดระวังมัน และสร้างความแน่ใจว่า เรามีมาตรการป้องกันไว้ก่อนแล้ว"
    .
    พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ กำลังยกระดับดูแลด้านความมั่นคงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในนั้นรวมการจัดตั้งแนวรั้วรอบๆอาคารรัฐสภา ก่อนหน้าการประชุมลงมติรับรองประธานาธิบดี ในวันที่ 6 มกราคม ตามรายงานของ Axios อ้างอิงเจ้าหน้าที่หน่วยงานลับ
    .
    "ถ้าทรัมป์ชนะ เขาและพวกผู้สนับสนุนที่ใช้ความรุนแรงของเขา จะฮึกเหิม แต่ถ้าเขาแพ้ ฉันกังวลว่ามันจะเลวร้ายกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน" เดเลีย รามิเรซ ส.ส.เดโมแครต จากอิลลินอยส์ ให้ความเห็นกับ Axios
    .
    อย่างไรก็ตามสมาชิกรีพับลิกันก็แสดงความกังวลแบบเดียวกัน เตือนว่าพวกเดโมแครตจะประท้วงการคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ และลงมือใช้ความรุนแรง หาก ทรัมป์ ชนะศึกเลือกตั้ง
    .
    ทรอย์ เนห์ลส สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรีพับลิกันจากเทกซัส กล่าวว่า "กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิควรพร้อมสำหรับการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในช่วงเวลาสั้นๆ ในการเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และพวกเขาควรปิดตายอาคารรัฐสภาให้ดีกว่าเดิม ในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง"
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นของ Scripps News/Ipsos ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าอเมริกันชนส่วนใหญ่ก็มีความกังวลแบบเดียวกัน และคาดหมายว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงหลังวันเลือกตั้ง โดยผลสำรวจพบว่ามีคนสหรัฐฯมากถึง 62% ที่เชื่อว่าแนวโน้มความยุ่งเหยิงหลังการเลือกตั้งนั้น "ค่อนข้างจะเป็นไปได้หรือมีความเป็นไปได้อย่างมาก"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104817
    ..............
    Sondhi X
    บรรดาสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ จากทั้ง 2 พรรค ต่างคาดหมายว่าอเมริกาอาจต้องเผชิญกับช่วงเวลาแห่งความโกลาหล หลังศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีวันที่ 5 พฤศจิกายน และหวั่นวิตกเกี่ยวกับความรุนแรงทางการเมืองทั่วประเทศ ไม่ว่าใครจะได้รับชัยชนะก้าวเข้าสู่ทำเนียบขาวก็ตาม ตามรายงานของ Axios เว็บไซต์ข่าวของสหรัฐฯในวันพุธ(30ต.ค.) อ้างอิงความเห็นของสมาชิกรัฐสภาหลายคน . "เหล่าสมาชิกเดโมแครตมีความกังวลอย่างยิ่งว่า อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะคัดค้านผลการเลือกตั้ง หากเขาพ่ายแพ้ต่อรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส และเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ซ้ำรอยเหตุจลาจลบุกอาคารรัฐสภาสหรัฐฯเมื่อปี 2021" รายงานข่าวระบุ . รายงานข่าวอ้างความเห็นของ เจสัน โครว์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรจากพรรคเดโมแครต ในโคโรลาโด กล่าวว่า "เราแน่ใจว่า ที่นี่ มีสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงระดับสูง ไม่มีข้อสงสัยในเรื่องนี้เลย ดังนั้นเราจึงจำเป็นต้องระแวดระวังมัน และสร้างความแน่ใจว่า เรามีมาตรการป้องกันไว้ก่อนแล้ว" . พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ กำลังยกระดับดูแลด้านความมั่นคงในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในนั้นรวมการจัดตั้งแนวรั้วรอบๆอาคารรัฐสภา ก่อนหน้าการประชุมลงมติรับรองประธานาธิบดี ในวันที่ 6 มกราคม ตามรายงานของ Axios อ้างอิงเจ้าหน้าที่หน่วยงานลับ . "ถ้าทรัมป์ชนะ เขาและพวกผู้สนับสนุนที่ใช้ความรุนแรงของเขา จะฮึกเหิม แต่ถ้าเขาแพ้ ฉันกังวลว่ามันจะเลวร้ายกว่าเมื่อ 4 ปีก่อน" เดเลีย รามิเรซ ส.ส.เดโมแครต จากอิลลินอยส์ ให้ความเห็นกับ Axios . อย่างไรก็ตามสมาชิกรีพับลิกันก็แสดงความกังวลแบบเดียวกัน เตือนว่าพวกเดโมแครตจะประท้วงการคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ และลงมือใช้ความรุนแรง หาก ทรัมป์ ชนะศึกเลือกตั้ง . ทรอย์ เนห์ลส สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรีพับลิกันจากเทกซัส กล่าวว่า "กองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิควรพร้อมสำหรับการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าในช่วงเวลาสั้นๆ ในการเข้าควบคุมสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อยรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง และพวกเขาควรปิดตายอาคารรัฐสภาให้ดีกว่าเดิม ในวันสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง" . ผลสำรวจความคิดเห็นของ Scripps News/Ipsos ที่เผยแพร่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าอเมริกันชนส่วนใหญ่ก็มีความกังวลแบบเดียวกัน และคาดหมายว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงหลังวันเลือกตั้ง โดยผลสำรวจพบว่ามีคนสหรัฐฯมากถึง 62% ที่เชื่อว่าแนวโน้มความยุ่งเหยิงหลังการเลือกตั้งนั้น "ค่อนข้างจะเป็นไปได้หรือมีความเป็นไปได้อย่างมาก" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104817 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1370 มุมมอง 0 รีวิว
  • บัตรเลือกตั้งสหรัฐฯหลายร้อยใบถูกทำลาย หลังกล่องหย่อนบัตร 2 ใบ ในรัฐออริกอนและรัฐวอชิงตัน ได้เกิดไฟลุกไหม้ ใน 2 เหตุการณ์ที่ทางพวกเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกัน
    .
    หีบบัตรเลือกตั้งหนึ่ง ในเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน ถูกเล่นงานในตอนเช้าวันจันทร์(28ต.ค.) และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หีบเลือกตั้งอีกหีบ ได้ถูกเล่นงานในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐวอชิงตัน
    .
    เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า มีความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ลอบวางเพลิง 2 ครั้งนี้เกี่ยวข้องกัน และในขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งยานพาหนะที่ต้องสงสัยในรัฐออริกอนได้แล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป้าประสงค์ของคนร้ายในการก่อเหตุนั้นคืออะไร แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำโดยตั้งใจ
    .
    เอฟบีไอถูกเรียกเข้าช่วยเหลือสืบสวนคดีนี้แล้ว "มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ใจสลาย" เกรก คิมซีย์ เจ้าหน้าที่เลือกตั้งในคลาร์ก เคาน์ตี รัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองแวนคูเตอร์ กล่าว "มันเป็นการโจมตีใส่ประชาธิปไตยโดยตรง"
    .
    คิมซีย์ เผยว่าหีบหย่อนบัตรลงคะแนนทั้ง 2 หีบ มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ แต่หีบในแวนคูเวอร์ดูเหมือนว่าระบบจะทำงานขัดข้อง ไม่สามารถช่วยบัตรเลือกตั้งหลายร้อยใบให้รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายได้
    .
    ระหว่างแถลงข่าวในเมืองพอร์ทแลนด์ พวกเจ้าหน้าที่ระบุว่าวัตถุต่างๆที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ที่พวกเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ไฟไหม้หีบบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์(28ต.ค.) มีความเกี่ยวข้องกัน อย่างไรก็ตามในพอร์ทแลนด์ เชื่อว่ามีบัตรลงคะแนนได้รับความเสียหายเพียง 3 ใบ
    .
    นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังเชื่อว่าทั้ง 2 เหตุการณ์เชื่อมโยงกับอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม โดยคราวนั้นพบวัตถุที่ใช้ในการก่อเหตุ ถูกติดตั้ง ณ หีบหย่อนบัตรลงคะแนนอีกอัน ในแวนคูเวอร์ อย่างไรก็ตามไม่ได้บัตรเลือกตั้งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว
    .
    เหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 10 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งมันโหมกระพือความกังวลแก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก และหลายคนหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก
    .
    ที่ผ่านมา หีบหย่อนบัตรเลือกตั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพวกรีพับลิกันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และมันกลายเป็นแก่นกลางของทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนานา ที่เชื่อมโยงกับคำอ้างของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าเขาถูกโกงเลือกตั้งในปี 2020
    .
    กล่องหย่อนบัตรเลือกตั้ง ถูกออกแบบมาไม่ให้งัดแงะได้ และบ่อยครั้งมันถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านนอกสถานที่ต่างๆอย่างเช่นสำนักงานเลือกตั้ง ห้องสมุดและอาคารรัฐบาลอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนใช้หย่อนบัตรลงคะแนน
    .
    ทั้งนี้กล่องหย่อนบัตรเลือกตั้งนั้นเป็นหนึ่งในช่องทางโหวตเลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยประชาชนที่ได้รับบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์จะสามารถเลือกได้ว่าจะส่งคะแนนกลับทางไปรษณีย์เหมือนเดิม หรือจะนำมาหย่อนในตู้หย่อนก็ได้
    .
    รัฐต่างๆ 6 แห่ง ที่อยู่ภายใต้การบริหารของรีพับลิกัน ได้แก่อาร์คันซอ, มิสซิสซิปปี, มิสซูรี, นอร์ทแคโรไลนา, เซาท์แคโรโลนา และ เซาท์ดาโคตา ต่างแบนการใช้หีบหย่อนบัตรเลือกตั้งนี้
    .
    รายงานเเกี่ยวกับเหตุการณ์ทำลายกล่องรับบัตรคะแนนเลือกตั้งในสหรัฐฯ มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงออกคำเตือนแก่ประชาชนให้ระวังภัยการก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งโดยฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104419
    ..............
    Sondhi X
    บัตรเลือกตั้งสหรัฐฯหลายร้อยใบถูกทำลาย หลังกล่องหย่อนบัตร 2 ใบ ในรัฐออริกอนและรัฐวอชิงตัน ได้เกิดไฟลุกไหม้ ใน 2 เหตุการณ์ที่ทางพวกเจ้าหน้าที่เชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกัน . หีบบัตรเลือกตั้งหนึ่ง ในเมืองพอร์ทแลนด์ รัฐออริกอน ถูกเล่นงานในตอนเช้าวันจันทร์(28ต.ค.) และอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา หีบเลือกตั้งอีกหีบ ได้ถูกเล่นงานในเมืองแวนคูเวอร์ รัฐวอชิงตัน . เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า มีความเป็นไปได้ว่าเหตุการณ์ลอบวางเพลิง 2 ครั้งนี้เกี่ยวข้องกัน และในขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถระบุตำแหน่งยานพาหนะที่ต้องสงสัยในรัฐออริกอนได้แล้ว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป้าประสงค์ของคนร้ายในการก่อเหตุนั้นคืออะไร แต่ยืนยันว่าเรื่องนี้เป็นการกระทำโดยตั้งใจ . เอฟบีไอถูกเรียกเข้าช่วยเหลือสืบสวนคดีนี้แล้ว "มันเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ใจสลาย" เกรก คิมซีย์ เจ้าหน้าที่เลือกตั้งในคลาร์ก เคาน์ตี รัฐวอชิงตัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองแวนคูเตอร์ กล่าว "มันเป็นการโจมตีใส่ประชาธิปไตยโดยตรง" . คิมซีย์ เผยว่าหีบหย่อนบัตรลงคะแนนทั้ง 2 หีบ มีระบบดับเพลิงอัตโนมัติ แต่หีบในแวนคูเวอร์ดูเหมือนว่าระบบจะทำงานขัดข้อง ไม่สามารถช่วยบัตรเลือกตั้งหลายร้อยใบให้รอดพ้นจากการถูกเผาทำลายได้ . ระหว่างแถลงข่าวในเมืองพอร์ทแลนด์ พวกเจ้าหน้าที่ระบุว่าวัตถุต่างๆที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุ ที่พวกเจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ได้ แสดงให้เห็นว่าเหตุการณ์ไฟไหม้หีบบัตรเลือกตั้งทั้ง 2 เหตุการณ์เมื่อวันจันทร์(28ต.ค.) มีความเกี่ยวข้องกัน อย่างไรก็ตามในพอร์ทแลนด์ เชื่อว่ามีบัตรลงคะแนนได้รับความเสียหายเพียง 3 ใบ . นอกจากนี้แล้ว พวกเขายังเชื่อว่าทั้ง 2 เหตุการณ์เชื่อมโยงกับอีกเหตุการณ์หนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม โดยคราวนั้นพบวัตถุที่ใช้ในการก่อเหตุ ถูกติดตั้ง ณ หีบหย่อนบัตรลงคะแนนอีกอัน ในแวนคูเวอร์ อย่างไรก็ตามไม่ได้บัตรเลือกตั้งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์ดังกล่าว . เหตุการณ์ล่าสุดนี้เกิดขึ้นไม่ถึง 10 วันก่อนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งมันโหมกระพือความกังวลแก่ผู้คนเป็นจำนวนมาก และหลายคนหวังว่ามันจะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยอีก . ที่ผ่านมา หีบหย่อนบัตรเลือกตั้งถูกวิพากษ์วิจารณ์จากพวกรีพับลิกันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ และมันกลายเป็นแก่นกลางของทฤษฎีสมคบคิดต่างๆนานา ที่เชื่อมโยงกับคำอ้างของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่าเขาถูกโกงเลือกตั้งในปี 2020 . กล่องหย่อนบัตรเลือกตั้ง ถูกออกแบบมาไม่ให้งัดแงะได้ และบ่อยครั้งมันถูกติดตั้งอยู่บริเวณด้านนอกสถานที่ต่างๆอย่างเช่นสำนักงานเลือกตั้ง ห้องสมุดและอาคารรัฐบาลอื่นๆ เพื่อให้ประชาชนใช้หย่อนบัตรลงคะแนน . ทั้งนี้กล่องหย่อนบัตรเลือกตั้งนั้นเป็นหนึ่งในช่องทางโหวตเลือกประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยประชาชนที่ได้รับบัตรลงคะแนนเสียงเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์จะสามารถเลือกได้ว่าจะส่งคะแนนกลับทางไปรษณีย์เหมือนเดิม หรือจะนำมาหย่อนในตู้หย่อนก็ได้ . รัฐต่างๆ 6 แห่ง ที่อยู่ภายใต้การบริหารของรีพับลิกัน ได้แก่อาร์คันซอ, มิสซิสซิปปี, มิสซูรี, นอร์ทแคโรไลนา, เซาท์แคโรโลนา และ เซาท์ดาโคตา ต่างแบนการใช้หีบหย่อนบัตรเลือกตั้งนี้ . รายงานเเกี่ยวกับเหตุการณ์ทำลายกล่องรับบัตรคะแนนเลือกตั้งในสหรัฐฯ มีขึ้นหลังเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงออกคำเตือนแก่ประชาชนให้ระวังภัยการก่อเหตุรุนแรงที่เกี่ยวเนื่องกับการเลือกตั้งโดยฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000104419 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1285 มุมมอง 0 รีวิว
  • เงาร้ายของอเมริกา!!!
    เนทันยาฮูอ้างอิหร่านสะสมระเบิดนิวเคลียร์ มุ่งมั่นทำลายล้างอิสราเอล
    หลังจากการการปราศรัยกลางสภาของเนทันยาฮู ที่ใช้เวลายาวนานกว่าครึ่งชั่วโมง ค่อนข้างชัดเจนว่า เป้าหมายต่อไปของอิสราเอล คือ "อิหร่าน!" โดยการยกคำขู่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้ประชาคมโลกเกิดความวิตกกังวล

    คำกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับสหรัฐโดยตรง เนื่องจากกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และค่อนข้างชัดเจนว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง และจากคำพูดที่ผ่านมาของทรัมป์ ที่มุ่งเป้าโจมตีอิหร่านตลอดเวลา หรือแม้แต่การสั่งสังหารผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ในยุคสมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีครั้งแรก ว่าการทำลายอิหร่าน แท้จริงแล้วคือความต้องการของสหรัฐ

    การใช้ข้ออ้างเรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อโจมตีอีหร่าน จึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง เพียงแต่ครั้งนี้สหรัฐจะไม่ยอมออกหน้าเอง เนื่องจากต้องการลดกระแสต่อต้านจากทั่วโลกจนส่งผลถึงอิทธิพลของสหรัฐ ทำให้หน้าที่นี้ตกเป็นของอิสราเอลในการทำลายอิหร่าน โดยมีสหรัฐเป็น "เงาร้าย" อยู่เบื้องหลัง ที่คอยสนับสนุนอาวุธให้อิสราเอลทุกอย่างตามที่ต้องการ

    เงาร้ายของอเมริกา!!! เนทันยาฮูอ้างอิหร่านสะสมระเบิดนิวเคลียร์ มุ่งมั่นทำลายล้างอิสราเอล หลังจากการการปราศรัยกลางสภาของเนทันยาฮู ที่ใช้เวลายาวนานกว่าครึ่งชั่วโมง ค่อนข้างชัดเจนว่า เป้าหมายต่อไปของอิสราเอล คือ "อิหร่าน!" โดยการยกคำขู่เรื่องอาวุธนิวเคลียร์มาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้ประชาคมโลกเกิดความวิตกกังวล คำกล่าวนี้เกี่ยวข้องกับสหรัฐโดยตรง เนื่องจากกำลังจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ และค่อนข้างชัดเจนว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาเป็นประธานาธิบดีสมัยที่สอง และจากคำพูดที่ผ่านมาของทรัมป์ ที่มุ่งเป้าโจมตีอิหร่านตลอดเวลา หรือแม้แต่การสั่งสังหารผู้บัญชาการกองกำลังคุดส์ ในยุคสมัยที่ทรัมป์เป็นประธานาธิบดีครั้งแรก ว่าการทำลายอิหร่าน แท้จริงแล้วคือความต้องการของสหรัฐ การใช้ข้ออ้างเรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อโจมตีอีหร่าน จึงไม่ใช่เรื่องไกลเกินจริง เพียงแต่ครั้งนี้สหรัฐจะไม่ยอมออกหน้าเอง เนื่องจากต้องการลดกระแสต่อต้านจากทั่วโลกจนส่งผลถึงอิทธิพลของสหรัฐ ทำให้หน้าที่นี้ตกเป็นของอิสราเอลในการทำลายอิหร่าน โดยมีสหรัฐเป็น "เงาร้าย" อยู่เบื้องหลัง ที่คอยสนับสนุนอาวุธให้อิสราเอลทุกอย่างตามที่ต้องการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸🇷🇺 เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซีย และไม่ควรแสวงหาสงครามกับรัสเซีย

    "ฉันไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซียของ วลาดิมีร์ ปูติน"
    .
    JUST IN: 🇺🇸🇷🇺 Donald Trump's VP JD Vance says the United States is not at war with Russia and should not seek one.

    "I don't want to be at war with Vladimir Putin's Russia."
    .
    12:59 AM · Oct 29, 2024 · 134.5K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1850960676786745549
    🇺🇸🇷🇺 เจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า สหรัฐฯไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซีย และไม่ควรแสวงหาสงครามกับรัสเซีย "ฉันไม่ต้องการทำสงครามกับรัสเซียของ วลาดิมีร์ ปูติน" . JUST IN: 🇺🇸🇷🇺 Donald Trump's VP JD Vance says the United States is not at war with Russia and should not seek one. "I don't want to be at war with Vladimir Putin's Russia." . 12:59 AM · Oct 29, 2024 · 134.5K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1850960676786745549
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • วิกฤตสมองไหลจากสหรัฐ หัวกะทิหนีไปจีนต่อยอดความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์จีน
    .
    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ สถาบันการศึกษาชั้นนำในอเมริกากำลังเผชิญปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรับรู้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวขณะนี้มีความรุนแรงขึ้นทุกทีๆและนี่คือปัญหาใหญ่ที่คนอเมริกันไม่รู้ คือวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ชั้นนำทางด้านวิจัยกำลังล่มสลาย
    .
    รัฐบาลอเมริกาในยุคนายโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่อยมาจนถึงยุคโจ ไบเดน มีมุมมองและทัศนคติเชิงลบต่อนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยชาวจีนที่มาเรียนหนังสือและมาทำงานที่อเมริกา รวมไปถึงนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง กลัวว่าจะเป็นสายลับจารกรรมส่งข้อมูลสำคัญให้จีน ถึงกับสั่งให้หน่วยสืบราชการลับอย่าง FBI ติดตามสอบสวน ข่มขู่ และดำเนินคดีนับพันราย บางรายตายอย่างมีเงื่อนงำ
    .
    ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยเทคโนโลยีเชื้อสายจีน หวาดผวาภัยคุกคาม ไม่กล้ารับทุนวิจัยของสหรัฐ และมีอยู่จำนวนมากอพยพหนีไปอยู่ต่างประเทศ และไปที่จีนมากที่สุด นี่ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เป็นการอพยพหนีอเมริกาครั้งใหญ่เลยของนักวิจัยที่มีความสามารถในสาขาที่สำคัญ
    .
    ปัญหาสมองไหลนี้ หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานระบุรายชื่อนักวิจัยชั้นนำหลายคนที่ลาออก ย้ายจากสหรัฐฯ ไปจีน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ชีวะ เคมี วิทยาศาสตร์ความเร็วเหนือเสียง วิทยาศาสตร์สุขภาพ การวิจัยสมอง ชีววิทยาโครงสร้าง ข้อมูลทางทะเล พลังงานใหม่ และวิทยาศาสตร์ข้อมูลของนาซา
    .
    ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญสำหรับสหรัฐฯ แต่กลับกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจีนที่ได้สุดยอดนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เป็นกำลังสำคัญในการบุกเบิกพัฒนาสถาบันเทคโนโลยีก้าวหน้าและนวัตกรรมต่างๆ ของจีนต่อไป
    วิกฤตสมองไหลจากสหรัฐ หัวกะทิหนีไปจีนต่อยอดความสำเร็จทางวิทยาศาสตร์จีน . ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ สถาบันการศึกษาชั้นนำในอเมริกากำลังเผชิญปัญหาที่คนส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยรับรู้ แต่สถานการณ์ดังกล่าวขณะนี้มีความรุนแรงขึ้นทุกทีๆและนี่คือปัญหาใหญ่ที่คนอเมริกันไม่รู้ คือวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ชั้นนำทางด้านวิจัยกำลังล่มสลาย . รัฐบาลอเมริกาในยุคนายโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่อยมาจนถึงยุคโจ ไบเดน มีมุมมองและทัศนคติเชิงลบต่อนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยชาวจีนที่มาเรียนหนังสือและมาทำงานที่อเมริกา รวมไปถึงนักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนว่าเป็นภัยต่อความมั่นคง กลัวว่าจะเป็นสายลับจารกรรมส่งข้อมูลสำคัญให้จีน ถึงกับสั่งให้หน่วยสืบราชการลับอย่าง FBI ติดตามสอบสวน ข่มขู่ และดำเนินคดีนับพันราย บางรายตายอย่างมีเงื่อนงำ . ส่งผลให้นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัยเทคโนโลยีเชื้อสายจีน หวาดผวาภัยคุกคาม ไม่กล้ารับทุนวิจัยของสหรัฐ และมีอยู่จำนวนมากอพยพหนีไปอยู่ต่างประเทศ และไปที่จีนมากที่สุด นี่ไม่ใช่เป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่เป็นการอพยพหนีอเมริกาครั้งใหญ่เลยของนักวิจัยที่มีความสามารถในสาขาที่สำคัญ . ปัญหาสมองไหลนี้ หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ รายงานระบุรายชื่อนักวิจัยชั้นนำหลายคนที่ลาออก ย้ายจากสหรัฐฯ ไปจีน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ ชีวะ เคมี วิทยาศาสตร์ความเร็วเหนือเสียง วิทยาศาสตร์สุขภาพ การวิจัยสมอง ชีววิทยาโครงสร้าง ข้อมูลทางทะเล พลังงานใหม่ และวิทยาศาสตร์ข้อมูลของนาซา . ถือเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญสำหรับสหรัฐฯ แต่กลับกลายเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของประเทศจีนที่ได้สุดยอดนักวิทยาศาสตร์เหล่านี้เป็นกำลังสำคัญในการบุกเบิกพัฒนาสถาบันเทคโนโลยีก้าวหน้าและนวัตกรรมต่างๆ ของจีนต่อไป
    Like
    Love
    Angry
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ประกาศกร้าวว่าไม่เชื่อถือใดๆ ในโพลต่างๆ และมั่นใจว่าตนจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    ระหว่างพูดคุยผ่านรายการ Joe Rogan Experience podcast อดีตประธานาธิบดีรายนี้กล่าวว่า ชัยชนะเมื่อปี 2016 สอนให้เขารู้ว่าโพลต่างๆ นั้นเชื่อถือไม่ได้ หลังจากคาดการณ์ว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ้ายแพ้อย่างขาดลอย
    .
    ทรัมป์ ร่วมพูดคุยในรายการ podcast ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในช่วง 2 ชั่วโมงแรกของรายการที่มีการออกอากาศสดในช่วงค่ำวันศุกร์ (25 ต.ค.) มันสามารถดึงดูดผู้ชมได้เกือบ 1 ล้านวิว
    .
    ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมหายใจรดต้นคอกับรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากเดโมแครต ในขณะที่เหลือเวลาอีกแค่ 11 วัน ศึกเลือกตั้งก็จะมาถึง
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกกับ โจ โรแกน ว่า "คอยดูแล้วกันว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมคิดว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะ ผมคิดว่านำหน้าอยู่ในตอนนี้ ผมคิดว่าเรานำหน้าอยู่"
    .
    เขาบอกต่อว่า "คุณก็รู้ถึงวิธีการทำโพล โอ้ ผมไม่อยากนำพาตัวเองเข้าสู่ปัญหา แต่ผมไม่ค่อยเชื่อโพลเหล่านั้นเท่าไหร่ ในปี 2016 ได้สอนบทเรียนแก่ผู้คนมากมายเกี่ยวกับการใช้โพลชี้นำที่ไม่ได้ผล"
    .
    ในศึกเลือกตั้งคราวนั้น โพลต่างๆ ยกให้ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของ ทรัมป์ มีโอกาสคว้าชัยชนะราว 70% ถึง 99% เลยทีเดียว แต่สุดท้ายแล้ว ทรัมป์ กลับเป็นฝ่ายได้รับเลือกตั้งไปอย่างพลิกความคาดหมาย
    .
    ตัวแทนจากรีพับลิกันรายนี้อ้างว่าเขารู้ดีว่าการคาดการณ์ดังกล่าวนั้นผิดพลาด เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยหาเสียงของเขามากถึง 40,000 คนในแต่ละเวที ผิดกลับ ฮิลลารี คลินตัน ที่ดึงดูดผู้ฟังได้แค่ 500 คน ตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์ "และพวกเขาบอกกับผมว่า ผมกำลังพ่ายแพ้" ทรัมป์ระบุ ตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณภาพของการทำโพลในตอนนั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103354
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ลงชิงเก้าอี้ทำเนียบขาว ประกาศกร้าวว่าไม่เชื่อถือใดๆ ในโพลต่างๆ และมั่นใจว่าตนจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ . ระหว่างพูดคุยผ่านรายการ Joe Rogan Experience podcast อดีตประธานาธิบดีรายนี้กล่าวว่า ชัยชนะเมื่อปี 2016 สอนให้เขารู้ว่าโพลต่างๆ นั้นเชื่อถือไม่ได้ หลังจากคาดการณ์ว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ้ายแพ้อย่างขาดลอย . ทรัมป์ ร่วมพูดคุยในรายการ podcast ซึ่งได้รับความนิยมมากที่สุดในอเมริกา เป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยในช่วง 2 ชั่วโมงแรกของรายการที่มีการออกอากาศสดในช่วงค่ำวันศุกร์ (25 ต.ค.) มันสามารถดึงดูดผู้ชมได้เกือบ 1 ล้านวิว . ผลสำรวจความคิดเห็นของสำนักโพลต่างๆ พบว่า ทรัมป์ มีคะแนนนิยมหายใจรดต้นคอกับรองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากเดโมแครต ในขณะที่เหลือเวลาอีกแค่ 11 วัน ศึกเลือกตั้งก็จะมาถึง . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ บอกกับ โจ โรแกน ว่า "คอยดูแล้วกันว่าผลจะออกมาอย่างไร ผมคิดว่าเราจะเป็นฝ่ายชนะ ผมคิดว่านำหน้าอยู่ในตอนนี้ ผมคิดว่าเรานำหน้าอยู่" . เขาบอกต่อว่า "คุณก็รู้ถึงวิธีการทำโพล โอ้ ผมไม่อยากนำพาตัวเองเข้าสู่ปัญหา แต่ผมไม่ค่อยเชื่อโพลเหล่านั้นเท่าไหร่ ในปี 2016 ได้สอนบทเรียนแก่ผู้คนมากมายเกี่ยวกับการใช้โพลชี้นำที่ไม่ได้ผล" . ในศึกเลือกตั้งคราวนั้น โพลต่างๆ ยกให้ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งของ ทรัมป์ มีโอกาสคว้าชัยชนะราว 70% ถึง 99% เลยทีเดียว แต่สุดท้ายแล้ว ทรัมป์ กลับเป็นฝ่ายได้รับเลือกตั้งไปอย่างพลิกความคาดหมาย . ตัวแทนจากรีพับลิกันรายนี้อ้างว่าเขารู้ดีว่าการคาดการณ์ดังกล่าวนั้นผิดพลาด เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมรับฟังการปราศรัยหาเสียงของเขามากถึง 40,000 คนในแต่ละเวที ผิดกลับ ฮิลลารี คลินตัน ที่ดึงดูดผู้ฟังได้แค่ 500 คน ตามคำกล่าวอ้างของทรัมป์ "และพวกเขาบอกกับผมว่า ผมกำลังพ่ายแพ้" ทรัมป์ระบุ ตั้งคำถามเกี่ยวกับคุณภาพของการทำโพลในตอนนั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000103354 .............. Sondhi X
    Like
    Yay
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1335 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ว่าแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังมีอาสาสมัครบางส่วนเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กมลา แฮร์ริส
    .
    แคมป์หาเสียงของผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางในวอชิงตัน เรียกร้องให้ทำการสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างผิดกฎหมายจากพรรคเลเบอร์ที่มอบแก่ทีมหาเสียงของแฮร์ริส
    .
    รอยเตอร์อ้างว่าเป็นเวลานานแล้วที่บรรดาอาสาสมัครทางการเมืองสหราชอาณาจักร จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคเลเบอร์ พรรคซ้ายกลาง ปกติแล้วมักให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต ส่วนพรรคคอนเซอร์เวทีฟ จะให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกัน
    .
    พวกเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ ยอมรับว่าที่ปรึกษาระดับสูงบางส่วนของพรรคเลเบอร์ เดินทางไปพบกับเหล่านักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคม
    .
    นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับทรัมป์ หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้คว้าชัยชนะอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างว่าบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเลเบอร์สมัครใจช่วยแฮร์ริส หาเสียงนอกเวลางาน
    .
    "พวกเขาทำมันในเวลาว่าง พวกเขาทำมันโดยสมัครใจ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่นั่น พร้อมกับอาสมัครคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก"
    .
    เกรก สเวนสัน ประธาน Republicans Overseas UK องค์กรการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกาที่โหวตเลือกรีพับลิกัน ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร บอกว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับสตาร์เมอร์
    .
    "ทรัมป์มักทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้เป็นประเด็นพิพาทส่วนตัวส่งผลกระทบกับเขา" สเวนสันกล่าวกับรอยเตอร์ "แต่ผมคิดว่าทรัมป์จะมองข้ามเรื่องนี้ เรื่องนี้อาจก่อรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ หรืออาจจะไม่ก่อบาดแผลใดๆ เลยก็ได้"
    .
    อ้างอิงกฎระเบียบในสหรัฐฯ ชาวต่างชาติสามารถสมัครใจเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง แต่ไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงิน
    .
    คำร้องเรียนจากทีมหาเสียงของทรัมปื อ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนและข้อความหนึ่งบน LinkedIn ที่โพสต์โดย โซเฟีย พาเทล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของพรรคเลเบอร์สหราชอาณาจักร ที่เขียนว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคเลเบอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบ 100 คน ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง
    .
    ในคำร้องเรียนเขียนว่า "ข้าพเจ้าในนามของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในทันทีต่อการแทรกแซงโดยต่างชาติอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือตั้งประธานาธิบดี 2024 ในรูปแบบที่เหมือนเป็นการสนับสนุนอย่างผิดกฎหมายโดยต่างประเทศ"
    .
    "การค้นหาว่ามีต่างชาติแทรกแซงศึกเลือกตั้งของเราหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมองไม่ไกลนอกเหนือจากโพสต์บน LinkedIn เลย มองด้วยสายตาเปล่าก็รู้ว่าการแทรกแซงกำลังเกิดขึ้น"
    .
    ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า "สหราชอาณาจักรกำลังมา" ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายซ้าย" เป็นแรงบันดาลใจในนโยบายเสรีนิยมและวาทกรรมที่เป็นอันตรายของกมลา แฮร์ริส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102310
    ..............
    Sondhi X
    ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ว่าแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังมีอาสาสมัครบางส่วนเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กมลา แฮร์ริส . แคมป์หาเสียงของผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางในวอชิงตัน เรียกร้องให้ทำการสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างผิดกฎหมายจากพรรคเลเบอร์ที่มอบแก่ทีมหาเสียงของแฮร์ริส . รอยเตอร์อ้างว่าเป็นเวลานานแล้วที่บรรดาอาสาสมัครทางการเมืองสหราชอาณาจักร จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคเลเบอร์ พรรคซ้ายกลาง ปกติแล้วมักให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต ส่วนพรรคคอนเซอร์เวทีฟ จะให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกัน . พวกเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ ยอมรับว่าที่ปรึกษาระดับสูงบางส่วนของพรรคเลเบอร์ เดินทางไปพบกับเหล่านักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคม . นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับทรัมป์ หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้คว้าชัยชนะอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างว่าบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเลเบอร์สมัครใจช่วยแฮร์ริส หาเสียงนอกเวลางาน . "พวกเขาทำมันในเวลาว่าง พวกเขาทำมันโดยสมัครใจ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่นั่น พร้อมกับอาสมัครคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก" . เกรก สเวนสัน ประธาน Republicans Overseas UK องค์กรการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกาที่โหวตเลือกรีพับลิกัน ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร บอกว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับสตาร์เมอร์ . "ทรัมป์มักทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้เป็นประเด็นพิพาทส่วนตัวส่งผลกระทบกับเขา" สเวนสันกล่าวกับรอยเตอร์ "แต่ผมคิดว่าทรัมป์จะมองข้ามเรื่องนี้ เรื่องนี้อาจก่อรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ หรืออาจจะไม่ก่อบาดแผลใดๆ เลยก็ได้" . อ้างอิงกฎระเบียบในสหรัฐฯ ชาวต่างชาติสามารถสมัครใจเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง แต่ไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงิน . คำร้องเรียนจากทีมหาเสียงของทรัมปื อ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนและข้อความหนึ่งบน LinkedIn ที่โพสต์โดย โซเฟีย พาเทล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของพรรคเลเบอร์สหราชอาณาจักร ที่เขียนว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคเลเบอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบ 100 คน ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง . ในคำร้องเรียนเขียนว่า "ข้าพเจ้าในนามของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในทันทีต่อการแทรกแซงโดยต่างชาติอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือตั้งประธานาธิบดี 2024 ในรูปแบบที่เหมือนเป็นการสนับสนุนอย่างผิดกฎหมายโดยต่างประเทศ" . "การค้นหาว่ามีต่างชาติแทรกแซงศึกเลือกตั้งของเราหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมองไม่ไกลนอกเหนือจากโพสต์บน LinkedIn เลย มองด้วยสายตาเปล่าก็รู้ว่าการแทรกแซงกำลังเกิดขึ้น" . ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า "สหราชอาณาจักรกำลังมา" ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายซ้าย" เป็นแรงบันดาลใจในนโยบายเสรีนิยมและวาทกรรมที่เป็นอันตรายของกมลา แฮร์ริส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102310 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1760 มุมมอง 0 รีวิว
  • แมคโดนัลด์ ดิ้นรนจำกัดความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ที่เชื่อมโยงกับแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ซึ่งแผ่ลามไปทั่วสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้บริโภคแล้ว 1 ราย และล้มป่วยอีกเกือบ 50 คน ในขณะที่พวกเขาตัดสินใจถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ในหลายสิบรัฐ
    .
    การระบาดทำให้ผู้คนล้มป่วยทั่วภูมิภาคทางตะวันตก และตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ โดยในบรรดาผู้ป่วยเกือบ 50 คนนั้น มีอยู่ 10 รายที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล สืบเนื่องจากอาการแทรกซ้อนรุนแรง อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนการแพร่ระบาด ขณะที่โฆษกของแมคโดนัลด์ ยืนยันว่าการแพร่ระบาดจำกัดวงอยู่เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น
    .
    ในบรรดาผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น รวมไปถึงเด็กรายหนึ่งที่มีอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (hemolytic uremic syndrome) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดขนาดเล็กในไตได้รับความเสียหาย หรือเกิดการอักเสบจนอาจเป็นเหตุให้เกิดลิ่มเลือดภายในเส้นเลือด
    .
    "เราคาดหมายว่าจะพบเห็นเคสผู้ป่วยเพิ่มเติม" ทอม สคินเนอร์ โฆษกของซีดีซีระบุ "แมคโดนัลด์ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการเข้าจัดการ และหวังว่ามันจะช่วยป้องกันเคสต่างๆ ได้มากมายเท่าที่จะเป็นไปได้"
    .
    เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขแห่งนี้ออกคำแนะนำว่าบุคคลใดที่รับประทานแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ และมีอาการต่างๆ ของพิษเชื้ออีโคไล เช่น ท้องเสียง มีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส และอาเจียนให้รีบไปพบแพทย์ในทันที
    .
    ปกติแล้วอาการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มขึ้น 3 ถึง 4 วันหลังจากติดเชื้อ และคนส่วนใหญ่จะฟื้นไข้ได้เองภายใน 5 ถึง 7 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษาใดๆ อย่างไรก็ตาม มีบางเคสที่อาจมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล
    .
    ก่อนหน้านี้ การแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ณ บรรดาเครือข่ายอาหารฟาสต์ฟูดใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ เคยเป็นเหตุให้ผู้บริโภคหมางเมินเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดเหล่านั้นเป็นเวลาหลายเดือน ในเรื่องนี้ทาง โจ เออร์ลินเกอร์ ประธานภูมิภาคอเมริกา ของแมคโดนัลด์ ยอมรับในวันพุธ (23 ต.ค.) ว่าพวกเขาจำเป็นต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน หลังถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 5 จากทั้งหมด 14,000 สาขา
    .
    บริษัทถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากสาขาต่างๆ ของแมคโดนัลด์ ในรัฐโคโลราโด แคนซัส ยูทาห์ และไวโอมิง และในบางพื้นที่ในไอดาโฮ ไอโอวา มิสซูรี มอนแทนา เนบราสกา เนวาดา นิวเม็กซิโกและโอคลาโฮมา
    .
    ซีดีซี และแมคโดนัลด์กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นบรรดาซัปพลายเออร์ทั้งหลายของบริษัท ที่เป็นผู้ป้อนหัวหอมหั่นและเนื้อบด ในความพยายามสรุปถึงสาเหตุของการแพร่ระบาด
    .
    เชื้ออีโคไลสายพันธุ์ O157:H7 ที่นำมาซึ่งการแพร่ระบาดในแมคโดนัลด์ เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดแจ็คอินเดอะบ็อกซ์เมื่อปี 1993 ที่คราวนั้นคร่าชีวิตเด็กไป 4 ราย มันสามารถก่อการติดเชื้ออาการรุนแรงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชรา เด็กและบุคคลที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ
    .
    โฆษกของแมคโดนัลด์ อ้างว่าบรรดาซัปพลายเออร์ของแมคโดนัลด์ ได้มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนเองบ่อยครั้ง และในนั้นรวมถึงในตอนที่ทางซีดีซีระบุว่าเป็นช่วงเวลาของการแพร่ระบาด และไม่พบเชื้ออีโคไลในผลิตภันฑ์เหล่านั้นแต่อย่างใด
    .
    ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันพุธ (23 ต.ค.) เออร์ลินเกอร์ เน้นย้ำว่าทางบริษัทได้ใช้มาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วในการถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากเมนู ในพื้่นที่ต่างๆ ที่การแพร่ระบาดเกิดขึ้น "สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลำดับความสำคัญของเราคือเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคอเมริกา"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102309
    ..............
    Sondhi X
    แมคโดนัลด์ ดิ้นรนจำกัดความเสียหายจากการแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ที่เชื่อมโยงกับแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ซึ่งแผ่ลามไปทั่วสหรัฐฯ คร่าชีวิตผู้บริโภคแล้ว 1 ราย และล้มป่วยอีกเกือบ 50 คน ในขณะที่พวกเขาตัดสินใจถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ในหลายสิบรัฐ . การระบาดทำให้ผู้คนล้มป่วยทั่วภูมิภาคทางตะวันตก และตะวันตกตอนกลางของสหรัฐฯ โดยในบรรดาผู้ป่วยเกือบ 50 คนนั้น มีอยู่ 10 รายที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล สืบเนื่องจากอาการแทรกซ้อนรุนแรง อ้างอิงข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบสวนการแพร่ระบาด ขณะที่โฆษกของแมคโดนัลด์ ยืนยันว่าการแพร่ระบาดจำกัดวงอยู่เฉพาะในอเมริกาเท่านั้น . ในบรรดาผู้ที่รักษาตัวในโรงพยาบาลนั้น รวมไปถึงเด็กรายหนึ่งที่มีอาการฮีโมไลติกยูรีมิก (hemolytic uremic syndrome) เป็นความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดขนาดเล็กในไตได้รับความเสียหาย หรือเกิดการอักเสบจนอาจเป็นเหตุให้เกิดลิ่มเลือดภายในเส้นเลือด . "เราคาดหมายว่าจะพบเห็นเคสผู้ป่วยเพิ่มเติม" ทอม สคินเนอร์ โฆษกของซีดีซีระบุ "แมคโดนัลด์ เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในการเข้าจัดการ และหวังว่ามันจะช่วยป้องกันเคสต่างๆ ได้มากมายเท่าที่จะเป็นไปได้" . เมื่อวันอังคาร (22 ต.ค.) หน่วยงานสาธารณสุขแห่งนี้ออกคำแนะนำว่าบุคคลใดที่รับประทานแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ และมีอาการต่างๆ ของพิษเชื้ออีโคไล เช่น ท้องเสียง มีไข้สูงกว่า 38.9 องศาเซลเซียส และอาเจียนให้รีบไปพบแพทย์ในทันที . ปกติแล้วอาการต่างๆ เหล่านี้จะเริ่มขึ้น 3 ถึง 4 วันหลังจากติดเชื้อ และคนส่วนใหญ่จะฟื้นไข้ได้เองภายใน 5 ถึง 7 วัน โดยไม่ต้องรับการรักษาใดๆ อย่างไรก็ตาม มีบางเคสที่อาจมีอาการรุนแรงและจำเป็นต้องเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล . ก่อนหน้านี้ การแพร่ระบาดของเชื้ออีโคไล ณ บรรดาเครือข่ายอาหารฟาสต์ฟูดใหญ่ๆ ในสหรัฐฯ เคยเป็นเหตุให้ผู้บริโภคหมางเมินเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดเหล่านั้นเป็นเวลาหลายเดือน ในเรื่องนี้ทาง โจ เออร์ลินเกอร์ ประธานภูมิภาคอเมริกา ของแมคโดนัลด์ ยอมรับในวันพุธ (23 ต.ค.) ว่าพวกเขาจำเป็นต้องฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชน หลังถอดเมนูดังกล่าวออกจากสาขาต่างๆ ทั่วสหรัฐฯ ประมาณ 1 ใน 5 จากทั้งหมด 14,000 สาขา . บริษัทถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากสาขาต่างๆ ของแมคโดนัลด์ ในรัฐโคโลราโด แคนซัส ยูทาห์ และไวโอมิง และในบางพื้นที่ในไอดาโฮ ไอโอวา มิสซูรี มอนแทนา เนบราสกา เนวาดา นิวเม็กซิโกและโอคลาโฮมา . ซีดีซี และแมคโดนัลด์กำลังดำเนินการตรวจสอบอย่างเข้มข้นบรรดาซัปพลายเออร์ทั้งหลายของบริษัท ที่เป็นผู้ป้อนหัวหอมหั่นและเนื้อบด ในความพยายามสรุปถึงสาเหตุของการแพร่ระบาด . เชื้ออีโคไลสายพันธุ์ O157:H7 ที่นำมาซึ่งการแพร่ระบาดในแมคโดนัลด์ เป็นสายพันธุ์เดียวกับที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเครือข่ายร้านฟาสต์ฟูดแจ็คอินเดอะบ็อกซ์เมื่อปี 1993 ที่คราวนั้นคร่าชีวิตเด็กไป 4 ราย มันสามารถก่อการติดเชื้ออาการรุนแรงมากๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนชรา เด็กและบุคคลที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายผิดปกติ . โฆษกของแมคโดนัลด์ อ้างว่าบรรดาซัปพลายเออร์ของแมคโดนัลด์ ได้มีการทดสอบผลิตภัณฑ์ของตนเองบ่อยครั้ง และในนั้นรวมถึงในตอนที่ทางซีดีซีระบุว่าเป็นช่วงเวลาของการแพร่ระบาด และไม่พบเชื้ออีโคไลในผลิตภันฑ์เหล่านั้นแต่อย่างใด . ระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวเอ็นบีซีในวันพุธ (23 ต.ค.) เออร์ลินเกอร์ เน้นย้ำว่าทางบริษัทได้ใช้มาตรการต่างๆ อย่างรวดเร็วในการถอดแฮมเบอร์เกอร์ควอเตอร์ พาวน์เดอร์ ออกจากเมนู ในพื้่นที่ต่างๆ ที่การแพร่ระบาดเกิดขึ้น "สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมื่อเร็วๆ นี้ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ลำดับความสำคัญของเราคือเสริมสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคอเมริกา" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102309 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1754 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซีย จีน และอิหร่านมีความตั้งใจโหมกระพือเรื่องเล่าต่างๆ สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวอเมริกา ก่อนถึงศึกเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน และอาจพิจารณาปลุกปั่นความรุนแรง หลังบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิกันแล้ว จากคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ในวันอังคาร (22 ต.ค.)
    .
    พวกเจ้าหน้าที่ที่ทำการบรรยายสรุปแก่บรรดาผู้สื่อข่าวในด้านความปลอดภัยของการเลือกตั้ง ระบุว่าเหล่าตัวละครต่างชาติอาจเล็งเป้าคุกคามทางกายภาพและปลุกปั่นความรุนแรง และมีความเป็นไปได้ที่จะลงมือปฏิบัติการบิดเบือนข้อมูล ก่อความไม่แน่นอน และบ่อนทำลายกระบวนการเลือกตั้ง
    .
    "พวกตัวละครต่างชาติ โดยเฉพาะรัสเซีย อิหร่าน และจีน ยังคงมีเจตนาโหมกระพือเรื่องเล่า สร้างความแตกแยกแก่ชาวอเมริกาและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของอเมริกันชนที่มีต่อระบบประชาธิปไตยสหรัฐฯ ในความเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ พวกตัวละครได้ดำเนินการต่างๆ ที่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขามองว่าจะเป็นประโยชน์ของพวกเขา ในขณะที่กลยุทธ์ของพวกเขาเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งจากสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (ODNI)
    .
    เจ้าหน้าที่บอกต่อว่าเหล่าตัวละครทรงอิทธิพลทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรัสเซีย อิหร่าน และจีน เรียนรู้จากศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ผ่านๆ มา และเตรียมพร้อมดีกว่าเดิมในการฉวยโอกาสโหมกระพือความไม่สงบ
    .
    ตัวละครเหล่านี้อาจอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือแบบเดียวกับที่พวกเขาเคยใช้ในช่วงก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารและไซเบอร์ และอาจเล็งข่มขู่คุกคามทางกายภาพและโหมกระพือความรุนแรง จากคำกล่าวอ้างของ เจ้าหน้าที่จาก ODNI ระบุ
    .
    อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ไม่พบเห็นการร่วมมือกันระหว่างรัสเซีย จีน และอิหร่าน ในความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่หวังก่ออิทธิพลเหนือการเลือกตั้ง พร้อมชี้ว่าแม้พวกตัวละครต่างชาติอาจก่อความปั่นป่วนแก่กระบวนการต่างๆ ในวันเลือกตั้ง ปลุกปั่นความไม่พอใจ แต่ระบบการเลือกตั้งมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะทำให้ความพยายามของพวกเขานั้นไม่อาจเปลี่ยนผลการเลือกตั้งได้
    .
    "ตัวละครต่างชาติบางส่วนมีความสามารถในการโหมกระพือการประท้วงและความรุนแรงในช่วงเวลาหลังการเลือกตั้ง" เจ้าหน้าที่ ODNI กล่าว "โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่านและรัสเซีย ที่อย่างน้อยๆ บางทีอาจกำลังพิจารณากลยุทธ์ต่างๆ ที่จะสามารถยุยงความรุนแรงดังกล่าว"
    .
    บันทึกช่วยจำที่ไม่เป็นชั้นความลับฉบับหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ออกมาตามหลังการบรรยายสรุปของสภาข่าวกรองแห่งชาติ (NIC ) หน่วยงานวิเคราะห์ข่าวกรองสูงสุดของสหรัฐฯ ได้เตือนว่าเกือบเป็นที่แน่นอนว่า หน่วยปฏิบัติการของต่างชาติจะโหมกระพือคำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดปกติต่างๆ ของการเลือกตั้งหลังการลงคะแนน
    .
    นอกจากนี้ NIC ยังเชื่อว่าตัวละครต่างชาติอาจใช้การโจมตีทางไซเบอร์และการจารกรรม ก่อความปั่นปั่วนหรือดัดแปลงข่าวสารและเว็บไซต์ต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อจุดชนวนความสับสนเกี่ยวกับผลเลือกตั้ง รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับกระบวนการนับคะแนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐต่างๆ ที่คู่คี่สูสียากจะคาดเดา
    .
    โฆษกสถานทูตจีนออกมาตอบโต้คำกล่าวหาดังกล่าวผ่านอีเมล โดยบอกว่าปักกิ่งไม่มีความตั้งใจแทรกแซงการเลือกตั้ง และหวังว่าใครก็ตามที่เป็นฝ่ายชนะ จะมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ที่เติบโตและมีเสถียรภาพระหว่างจีนกับสหรัฐฯ"
    .
    ส่วนสถานทูตรัสเซียและคณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ เคยออกมาปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อคำกล่าวหาแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ
    .
    เจ้าหน้าที่ของ ODNI อ้างว่าตัวละครต่างชาติใช้สื่อสังคมออนไลน์และปฏิบัติการทางออนไลน์อื่นๆ ในความพยายามก่ออิทธิพลเหนือศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีและสภาคองเกรสสหรัฐฯ เพื่อใส้ร้ายป้ายสีผู้สมัครบางคนและสนับสนุนผู้สมัครรายอื่น
    .
    บรรดาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินมานานหลายเดือนแล้วว่า รัสเซีย อยากเห็น ทรัมป์ กลับมาครองเก้าอี้ทำเนียบขาวอีกสมัย
    .
    ระหว่างแถลงสรุปกับพวกผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (22 ต.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง คาดหมายว่ารัสเซียโหมกระพือขยายวงการประท้วง หากว่า แฮร์ริส ชนะศึกเลือกตั้ง "รัสเซียอยากเห็นอดีตประธานาธิบดีชนะ และพวกเขาจะหาทางดำเนินการในเชิงรุกกว่าเดิม ในการบ่อนทำลายการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของว่าที่ประธานาธิบดีแฮร์ริส ณ ขณะนั้น" เจ้าหน้าที่ ODNI กล่าว
    .
    อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งทาง NIC กลับมองว่าตัวละครอิหร่าน อาจพยายามเผยแพร่เนื้อหาทางออนไลน์ ที่ทำให้ชื่อเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งของแฮร์ริส แปดเปื้อน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102038
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซีย จีน และอิหร่านมีความตั้งใจโหมกระพือเรื่องเล่าต่างๆ สร้างความแตกแยกในหมู่ชาวอเมริกา ก่อนถึงศึกเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน และอาจพิจารณาปลุกปั่นความรุนแรง หลังบรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งออกไปใช้สิทธิกันแล้ว จากคำกล่าวอ้างของเจ้าหน้าที่ข่าวกรองสหรัฐฯ ในวันอังคาร (22 ต.ค.) . พวกเจ้าหน้าที่ที่ทำการบรรยายสรุปแก่บรรดาผู้สื่อข่าวในด้านความปลอดภัยของการเลือกตั้ง ระบุว่าเหล่าตัวละครต่างชาติอาจเล็งเป้าคุกคามทางกายภาพและปลุกปั่นความรุนแรง และมีความเป็นไปได้ที่จะลงมือปฏิบัติการบิดเบือนข้อมูล ก่อความไม่แน่นอน และบ่อนทำลายกระบวนการเลือกตั้ง . "พวกตัวละครต่างชาติ โดยเฉพาะรัสเซีย อิหร่าน และจีน ยังคงมีเจตนาโหมกระพือเรื่องเล่า สร้างความแตกแยกแก่ชาวอเมริกาและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นของอเมริกันชนที่มีต่อระบบประชาธิปไตยสหรัฐฯ ในความเคลื่อนไหวต่างๆ เหล่านี้ พวกตัวละครได้ดำเนินการต่างๆ ที่สอดคล้องกับสิ่งที่พวกเขามองว่าจะเป็นประโยชน์ของพวกเขา ในขณะที่กลยุทธ์ของพวกเขาเริ่มปรากฏให้เห็นอย่างต่อเนื่อง" เจ้าหน้าที่รายหนึ่งจากสำนักงานผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐฯ (ODNI) . เจ้าหน้าที่บอกต่อว่าเหล่าตัวละครทรงอิทธิพลทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากรัสเซีย อิหร่าน และจีน เรียนรู้จากศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่ผ่านๆ มา และเตรียมพร้อมดีกว่าเดิมในการฉวยโอกาสโหมกระพือความไม่สงบ . ตัวละครเหล่านี้อาจอาศัยเครื่องไม้เครื่องมือแบบเดียวกับที่พวกเขาเคยใช้ในช่วงก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปฏิบัติการข้อมูลข่าวสารและไซเบอร์ และอาจเล็งข่มขู่คุกคามทางกายภาพและโหมกระพือความรุนแรง จากคำกล่าวอ้างของ เจ้าหน้าที่จาก ODNI ระบุ . อย่างไรก็ตาม หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ไม่พบเห็นการร่วมมือกันระหว่างรัสเซีย จีน และอิหร่าน ในความเคลื่อนไหวต่างๆ ที่หวังก่ออิทธิพลเหนือการเลือกตั้ง พร้อมชี้ว่าแม้พวกตัวละครต่างชาติอาจก่อความปั่นป่วนแก่กระบวนการต่างๆ ในวันเลือกตั้ง ปลุกปั่นความไม่พอใจ แต่ระบบการเลือกตั้งมีความปลอดภัยเพียงพอที่จะทำให้ความพยายามของพวกเขานั้นไม่อาจเปลี่ยนผลการเลือกตั้งได้ . "ตัวละครต่างชาติบางส่วนมีความสามารถในการโหมกระพือการประท้วงและความรุนแรงในช่วงเวลาหลังการเลือกตั้ง" เจ้าหน้าที่ ODNI กล่าว "โดยเฉพาะอย่างยิ่งอิหร่านและรัสเซีย ที่อย่างน้อยๆ บางทีอาจกำลังพิจารณากลยุทธ์ต่างๆ ที่จะสามารถยุยงความรุนแรงดังกล่าว" . บันทึกช่วยจำที่ไม่เป็นชั้นความลับฉบับหนึ่งที่ถูกเผยแพร่ออกมาตามหลังการบรรยายสรุปของสภาข่าวกรองแห่งชาติ (NIC ) หน่วยงานวิเคราะห์ข่าวกรองสูงสุดของสหรัฐฯ ได้เตือนว่าเกือบเป็นที่แน่นอนว่า หน่วยปฏิบัติการของต่างชาติจะโหมกระพือคำกล่าวอ้างอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดปกติต่างๆ ของการเลือกตั้งหลังการลงคะแนน . นอกจากนี้ NIC ยังเชื่อว่าตัวละครต่างชาติอาจใช้การโจมตีทางไซเบอร์และการจารกรรม ก่อความปั่นปั่วนหรือดัดแปลงข่าวสารและเว็บไซต์ต่างๆ ของรัฐบาล เพื่อจุดชนวนความสับสนเกี่ยวกับผลเลือกตั้ง รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนเกี่ยวกับกระบวนการนับคะแนน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐต่างๆ ที่คู่คี่สูสียากจะคาดเดา . โฆษกสถานทูตจีนออกมาตอบโต้คำกล่าวหาดังกล่าวผ่านอีเมล โดยบอกว่าปักกิ่งไม่มีความตั้งใจแทรกแซงการเลือกตั้ง และหวังว่าใครก็ตามที่เป็นฝ่ายชนะ จะมุ่งมั่นในความสัมพันธ์ที่เติบโตและมีเสถียรภาพระหว่างจีนกับสหรัฐฯ" . ส่วนสถานทูตรัสเซียและคณะผู้แทนอิหร่านประจำสหประชาชาติ ยังไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ในขณะที่ทั้ง 2 ชาติ เคยออกมาปฏิเสธซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อคำกล่าวหาแทรกแซงศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ . เจ้าหน้าที่ของ ODNI อ้างว่าตัวละครต่างชาติใช้สื่อสังคมออนไลน์และปฏิบัติการทางออนไลน์อื่นๆ ในความพยายามก่ออิทธิพลเหนือศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีและสภาคองเกรสสหรัฐฯ เพื่อใส้ร้ายป้ายสีผู้สมัครบางคนและสนับสนุนผู้สมัครรายอื่น . บรรดาหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ ประเมินมานานหลายเดือนแล้วว่า รัสเซีย อยากเห็น ทรัมป์ กลับมาครองเก้าอี้ทำเนียบขาวอีกสมัย . ระหว่างแถลงสรุปกับพวกผู้สื่อข่าวในวันอังคาร (22 ต.ค.) เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรอง คาดหมายว่ารัสเซียโหมกระพือขยายวงการประท้วง หากว่า แฮร์ริส ชนะศึกเลือกตั้ง "รัสเซียอยากเห็นอดีตประธานาธิบดีชนะ และพวกเขาจะหาทางดำเนินการในเชิงรุกกว่าเดิม ในการบ่อนทำลายการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของว่าที่ประธานาธิบดีแฮร์ริส ณ ขณะนั้น" เจ้าหน้าที่ ODNI กล่าว . อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งทาง NIC กลับมองว่าตัวละครอิหร่าน อาจพยายามเผยแพร่เนื้อหาทางออนไลน์ ที่ทำให้ชื่อเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งของแฮร์ริส แปดเปื้อน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102038 .............. Sondhi X
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1219 มุมมอง 0 รีวิว
  • อภิมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ประกาศแจกเงินวันละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ให้คนที่ลงชื่อในคำร้องออนไลน์ของเขา เกี่ยวกับการสนับสนุนรัฐธรรมนูญอเมริกา แต่ด้วยพิธีมอบรางวัลเป็นครั้งแรกจัดขึ้นที่กิจกรรมของพีเอซี องค์กรความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ มันจึงก่อคำถามต่างๆ เกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายของการแจกเงินดังกล่าว
    .
    มัสก์ มอบเช็คมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้เข้าร่วมงานรายหนึ่ง ในกิจกรรมของพีเอซี ในเมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีเป้าหมายระดมเสียงสนับสนับสนุนหนุนหลัง ทรัมป์ และผู้คว้าเงินดังกล่าวมีชื่อว่านายจอห์น เดรเฮอร์ อ้างอิงของเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดงาน "ว่าแต่ คุณจอห์นไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ" มัสก์พูดติดตลกขณะยื่นเช็คให้เดรเฮอร์
    .
    สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เงินก้อนนี้เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่ามัสก์กำลังใช้ความมั่งคั่งมหาศาลของเขาเพื่อชี้นำการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังเป็นไปอย่างดุเดือด ระหว่างทรัมป์ กับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต
    .
    มัสก์ ได้ก่อตั้งกลุ่ม America PAC ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของทรัมป์ หน้าที่หลักๆ ขององค์กรนี้คือการระดมคนไปลงทะเบียนเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ ซึ่งหมายถึงรัฐที่ผลการเลือกตั้งคาดเดาได้ยากว่าจะเทไปทางพรรคใด อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณต่างๆ บ่งชี้ว่าพวกเขากำลังประสบปัญหาในการทำให้ได้ตามเป้าหมาย
    .
    จอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย ให้สัมภาษณ์กับรายการ "มีท เดอะ เกรส" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ในวันอาทิตย์ (20 ต.ค.) ว่าแผนของมัสก์ ในการมอบเงินแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงในเพนซิลเวเนีย "ก่อความกังวลใหญ่หลวง" และ "มันเป็นอะไรบางอย่างที่พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอาจทำการตรวจสอบ"
    .
    ข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายของการจ่ายเงินดังกล่าว ผุดขึ้นมาไม่หยุดในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ในขณะที่พวกเชี่ยวชาญทางกฎหมายชี้ว่ามีหลายมาตราของกฎหมายรัฐบาลกลางที่ห้ามจ่ายเงินแก่ผู้มีสิทธิออกเสียง
    .
    การจ่ายเงินผู้คนโดยมีเจตนาชักนำหรือให้รางวัลแก่บุคคลนั้นๆ สำหรับลงคะแนนโหวตและลงทะเบียยโหวต ถือเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายรัฐบาลกลาง และมีบทลงโทษถึงขั้นจำคุก โดยข้อห้ามนั้นไม่ใช่ครอบคลุมเฉพาะการจ่ายเงินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งของมีค่าอื่นๆ อย่างเช่นสุราหรือลอตเตอรี่
    .
    กิจกรรมในเมืองแฮร์ริสเบิร์ก ถือเป็นวันที่ 3 ในรอบหลายวันที่จัดขึ้นในเพนซิลเวเนีย รัฐที่ทาง มัสก์ กำลังวาดภาพศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน ว่าเป็นศึกครั้งสำคัญ และกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงชักชวนคนอื่นๆ ให้ทำแบบเดียวกัน
    .
    เขาบอกในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ว่า ถ้า แฮร์ริส เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ มันจะเป็นศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ
    .
    มัสก์ ยังกล่าวด้วยว่า การที่มีคนพยายามลอบสังหารทรัมป์ถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นว่าทรัมป์เป็นผู้นำที่กล้าท้าทายและเปลี่ยนแปลงระบบเดิมๆ ในแบบที่แฮร์ริสไม่มีวันทำได้ และการที่ไม่มีใครคิดจะลอบสังหารแฮร์ริสนั้น ก็เพราะเธอเป็นแค่หุ่นเชิด
    .
    ในคำร้องทางออนไลน์ที่มัสก์ขอให้ประชาชนร่วมลงชื่อ มีใจความว่า "การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ครั้งที่ 1 และ 2 รับรองเสรีภาพในการพูดและสิทธิในการครอบครองอาวุธ ด้วยการลงชื่อด้านล่างนี้หมายความว่าข้าพเจ้าประกาศสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ครั้งที่ 1 และ 2"
    .
    บรรดาผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันเสาร์ (19 ต.ค.) จำเป็นต้องลงนามในคำร้องดังกล่าว ซึ่งเปิดทางให้ทาง America PAC รวบรวมรายละเอียดการติดต่อของบรรดาผู้สิทธิเลือกตั้งที่มีแนวโน้มสนับสนุนทรัมป์ เพื่อใช้ข้อมูลการติดต่อนี้สำหรับโน้มน้าวและกระตุ้นให้พวกเขาออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้ทรัมป์
    .
    สำหรับ มัสก์ ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปัจจุบัน จนถึงตอนนี้ได้มอบทุนแก่ทาง America PAC ไปแล้วอย่างน้อย 75 ล้านดอลลาร์ ทำให้ทางกลุ่มเป็นส่วนสำคัญยิ่งในความพยายามของทรัมป์ ในการกลับสู่ทำเนียบขาวอีกสมัย
    .
    มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ได้ยกระดับสนับสนุนพรรครีพับลิกันมากขึ้นเรื่อยๆ และในปีนี้ถึงขั้นกลายมาเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผย
    .
    ในทางกลับกัน ทางฝั่งทรัมป์ก็รับปากว่า ถ้าได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย เขาจะแต่งตั้งมัสก์ให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101221
    ..............
    Sondhi X
    อภิมหาเศรษฐี อีลอน มัสก์ ประกาศแจกเงินวันละ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไปจนถึงศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนพฤศจิกายน ให้คนที่ลงชื่อในคำร้องออนไลน์ของเขา เกี่ยวกับการสนับสนุนรัฐธรรมนูญอเมริกา แต่ด้วยพิธีมอบรางวัลเป็นครั้งแรกจัดขึ้นที่กิจกรรมของพีเอซี องค์กรความเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ มันจึงก่อคำถามต่างๆ เกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายของการแจกเงินดังกล่าว . มัสก์ มอบเช็คมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ แก่ผู้เข้าร่วมงานรายหนึ่ง ในกิจกรรมของพีเอซี ในเมืองแฮร์ริสเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ซึ่งมีเป้าหมายระดมเสียงสนับสนับสนุนหนุนหลัง ทรัมป์ และผู้คว้าเงินดังกล่าวมีชื่อว่านายจอห์น เดรเฮอร์ อ้างอิงของเจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดงาน "ว่าแต่ คุณจอห์นไม่รู้เรื่องนี้มาก่อนเลย ยังไงก็ยินดีด้วยนะครับ" มัสก์พูดติดตลกขณะยื่นเช็คให้เดรเฮอร์ . สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า เงินก้อนนี้เป็นตัวอย่างล่าสุดที่แสดงให้เห็นว่ามัสก์กำลังใช้ความมั่งคั่งมหาศาลของเขาเพื่อชี้นำการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่กำลังเป็นไปอย่างดุเดือด ระหว่างทรัมป์ กับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต . มัสก์ ได้ก่อตั้งกลุ่ม America PAC ซึ่งเป็นองค์กรเคลื่อนไหวทางการเมืองที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของทรัมป์ หน้าที่หลักๆ ขององค์กรนี้คือการระดมคนไปลงทะเบียนเลือกตั้งในรัฐสมรภูมิ ซึ่งหมายถึงรัฐที่ผลการเลือกตั้งคาดเดาได้ยากว่าจะเทไปทางพรรคใด อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณต่างๆ บ่งชี้ว่าพวกเขากำลังประสบปัญหาในการทำให้ได้ตามเป้าหมาย . จอช ชาปิโร ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย ให้สัมภาษณ์กับรายการ "มีท เดอะ เกรส" ทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีซี ในวันอาทิตย์ (20 ต.ค.) ว่าแผนของมัสก์ ในการมอบเงินแก่ผู้มีสิทธิออกเสียงในเพนซิลเวเนีย "ก่อความกังวลใหญ่หลวง" และ "มันเป็นอะไรบางอย่างที่พวกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายอาจทำการตรวจสอบ" . ข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับความชอบธรรมทางกฎหมายของการจ่ายเงินดังกล่าว ผุดขึ้นมาไม่หยุดในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ในขณะที่พวกเชี่ยวชาญทางกฎหมายชี้ว่ามีหลายมาตราของกฎหมายรัฐบาลกลางที่ห้ามจ่ายเงินแก่ผู้มีสิทธิออกเสียง . การจ่ายเงินผู้คนโดยมีเจตนาชักนำหรือให้รางวัลแก่บุคคลนั้นๆ สำหรับลงคะแนนโหวตและลงทะเบียยโหวต ถือเป็นความผิดทางอาญาตามกฎหมายรัฐบาลกลาง และมีบทลงโทษถึงขั้นจำคุก โดยข้อห้ามนั้นไม่ใช่ครอบคลุมเฉพาะการจ่ายเงินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งของมีค่าอื่นๆ อย่างเช่นสุราหรือลอตเตอรี่ . กิจกรรมในเมืองแฮร์ริสเบิร์ก ถือเป็นวันที่ 3 ในรอบหลายวันที่จัดขึ้นในเพนซิลเวเนีย รัฐที่ทาง มัสก์ กำลังวาดภาพศึกเลือกตั้งเดือนพฤศจิกายน ว่าเป็นศึกครั้งสำคัญ และกระตุ้นให้ผู้สนับสนุนไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้า รวมถึงชักชวนคนอื่นๆ ให้ทำแบบเดียวกัน . เขาบอกในวันเสาร์ (19 ต.ค.) ว่า ถ้า แฮร์ริส เป็นฝ่ายคว้าชัยชนะ มันจะเป็นศึกเลือกตั้งครั้งสุดท้ายในประวัติศาสตร์ของสหรัฐฯ . มัสก์ ยังกล่าวด้วยว่า การที่มีคนพยายามลอบสังหารทรัมป์ถึงสองครั้ง แสดงให้เห็นว่าทรัมป์เป็นผู้นำที่กล้าท้าทายและเปลี่ยนแปลงระบบเดิมๆ ในแบบที่แฮร์ริสไม่มีวันทำได้ และการที่ไม่มีใครคิดจะลอบสังหารแฮร์ริสนั้น ก็เพราะเธอเป็นแค่หุ่นเชิด . ในคำร้องทางออนไลน์ที่มัสก์ขอให้ประชาชนร่วมลงชื่อ มีใจความว่า "การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ครั้งที่ 1 และ 2 รับรองเสรีภาพในการพูดและสิทธิในการครอบครองอาวุธ ด้วยการลงชื่อด้านล่างนี้หมายความว่าข้าพเจ้าประกาศสนับสนุนการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ครั้งที่ 1 และ 2" . บรรดาผู้เข้าร่วมกิจกรรมในวันเสาร์ (19 ต.ค.) จำเป็นต้องลงนามในคำร้องดังกล่าว ซึ่งเปิดทางให้ทาง America PAC รวบรวมรายละเอียดการติดต่อของบรรดาผู้สิทธิเลือกตั้งที่มีแนวโน้มสนับสนุนทรัมป์ เพื่อใช้ข้อมูลการติดต่อนี้สำหรับโน้มน้าวและกระตุ้นให้พวกเขาออกไปใช้สิทธิเลือกตั้ง ลงคะแนนให้ทรัมป์ . สำหรับ มัสก์ ซึ่งได้รับการจัดอันดับจากนิตยสารฟอร์บส์ ให้เป็นอภิมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในปัจจุบัน จนถึงตอนนี้ได้มอบทุนแก่ทาง America PAC ไปแล้วอย่างน้อย 75 ล้านดอลลาร์ ทำให้ทางกลุ่มเป็นส่วนสำคัญยิ่งในความพยายามของทรัมป์ ในการกลับสู่ทำเนียบขาวอีกสมัย . มัสก์ ผู้ก่อตั้งเทสลาและสเปซเอ็กซ์ ได้ยกระดับสนับสนุนพรรครีพับลิกันมากขึ้นเรื่อยๆ และในปีนี้ถึงขั้นกลายมาเป็นผู้สนับสนุนทรัมป์อย่างเปิดเผย . ในทางกลับกัน ทางฝั่งทรัมป์ก็รับปากว่า ถ้าได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอีกสมัย เขาจะแต่งตั้งมัสก์ให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการด้านการเพิ่มประสิทธิภาพภาครัฐ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101221 .............. Sondhi X
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 782 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฮร์ริส-ทรัมป์ขนเซเลบขึ้นเวทีช่วยหาเสียง โดยต่างฝ่ายโจมตีกันเรื่องความอึด และเรียกร้องผู้ลงคะแนนล่วงหน้าในรัฐสมรภูมิโหวตให้ตนเองในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สูสีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
    .
    ในการหาเสียงที่ดีทรอยต์ และแอตแลนตา รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ชวนป็อปสตาร์ ลิซโซ และอัชเชอร์ขึ้นเวทีอุ่นเครื่องให้ฝูงชน พร้อมโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งในศึกชิงทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกันว่า อ่อนระโหยโรยแรงและไร้สติ
    .
    อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ท้าทายคำกล่าวหาดังกล่าวด้วยการปราศรัยมาราธอนในเพนซิลเวเนีย ขณะที่อีลอน มัสก์ นักธุรกิจชื่อดัง ช่วยหาเสียงให้ทรัมป์ในเมืองอื่นในรัฐเดียวกัน
    .
    แคนดิเดตทั้งคู่ต่อสู้กันดุเดือดในทุกด้านเพื่อแย่งชิงการสนับสนุนในการแข่งขันที่โพลบ่งชี้ว่า คู่คี่สูสีกันมากขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้ง
    .
    แฮร์ริสประกาศกับผู้มีสิทธิออกเสียงในดีทรอยต์ว่า แคมเปญหาเสียงของทรัมป์ทำลายตัวเอง พร้อมย้ำว่า จะลงทุนในชนชั้นแรงงานและชนชั้นกลาง และเสริมว่า สิ่งที่วัดความแข็งแกร่งของผู้นำที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราพยายามเอาชนะใคร แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครที่เราจะสนับสนุน
    .
    ต่อมาระหว่างหาเสียงที่แอตแลนตา แฮร์ริสกล่าวหาทรัมป์ วัย 78 ปี หนีการดีเบตและยกเลิกการให้สัมภาษณ์เพราะหมดแรง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เวลาที่ต้องตอบคำถามหรือปราศรัยในการหาเสียง ทรัมป์มักพูดเรื่อยเปื่อยนอกสคริปต์ ซึ่งไม่ใช่เป็นการร้อยเรียงข้อความอย่างที่เจ้าตัวพยายามแก้ต่าง แต่เป็นการพูดจาเลื่อนเปื้อนไร้สาระ
    .
    ลิซโซที่ไปขึ้นเวทีสนับสนุนแฮร์ริส กล่าวกับฝูงชนว่า ทุกคนสมควรมีประธานาธิบดีที่รับฟัง เคารพสิทธิในการประท้วง และเข้าใจว่า งานของตัวเองคือการรับใช้ประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แฮร์ริสนำเสนอ ก่อนทิ้งท้ายว่า อเมริกายิ่งกว่าพร้อมที่จะมีประธานาธิบดีหญิง
    .
    ขณะที่อัชเชอร์ หนึ่งในศิลปินแถวหน้าของเมืองแอตแลนตา ประกาศฝากความหวังกับฝูงชนในการนำแฮร์ริสเข้าสู่เส้นชัยในรัฐจอร์เจีย
    .
    ทางด้านทรัมป์เริ่มการหาเสียงด้วยการปราศรัยยาวเหยียดนานกว่า 90 นาที ซึ่งเริ่มต้นด้วยการพูดคนเดียวเกี่ยวกับอาร์โนลด์ ปาล์มเมอร์ นักกอล์ฟที่ถูกนำชื่อมาตั้งเป็นชื่อสนามบินในเมืองลาโทรบ รัฐเพนซิเวเนีย ที่ตัวเขากำลังหาเสียงอยู่
    .
    หลังจากนั้นทรัมป์จึงเริ่มพฤติกรรมเดิมคือพูดไปเรื่อยที่รวมถึงการโจมตีผู้อพยพ การใส่ร้ายแฮร์ริส และการกล่าวอ้างเท็จซ้ำๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 นอกจากนั้น ทรัมป์ยังพยายามดึงดูดชนชั้นกลางด้วยการนำพนักงานโรงงานเหล็กกล้าหลายคนขึ้นเวที
    .
    อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ยังย้ำความสำคัญของตัวแทนคณะผู้เลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนียที่มีต่อการเลือกตั้งทั้งหมดโดยประกาศว่า ถ้าชนะที่เพนซิลเวเนียก็จะชนะการเลือกตั้งทั้งประเทศ
    .
    สำหรับมัสก์ที่ออกมารับรองทรัมป์เมื่อเดือนกรกฎาคม ประกาศที่เมืองแฮร์ริสเบิร์ก ว่าจะสุ่มแจกเงินสดวันละ 1 ล้านดอลลาร์จนถึงวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงชื่อสนับสนุนคำร้องออนไลน์สนับสนุนรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ของอเมริกา พีเอซี ซึ่งเป็นองค์กรการเมืองที่เขาตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของทรัมป์
    .
    ทั้งแฮร์ริส และทรัมป์ยังใช้เวลาในรัฐสมรภูมิสำคัญที่เริ่มการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว แฮร์ริสนั้นเห็นสัญญาณแง่บวกในการผลักดันผู้สนับสนุนให้ลงคะแนนล่วงหน้าโดยเร็วที่สุดที่เป็นไปได้ เพื่อเป็นปราการป้องกันความได้เปรียบของรีพับลิกันในบรรดาผู้ลงคะแนนในวันเลือกตั้ง
    .
    จากข้อมูลของห้องปฏิบัติการการเลือกตั้งมหาวิทยาลัยฟลอริดา มีผู้กาบัตรเลือกตั้งเกือบ 12 ล้านคนในวันศุกร์ (18 ต.ค.) หรือประมาณ 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิออกเสียงใน 7 รัฐสมรภูมิที่คาดว่า จะชี้ขาดการเลือกตั้ง
    .
    ข้อมูลยังระบุว่า รัฐจอร์เจียทำลายสถิติ ขณะที่นอร์ธแคโรไลนารายงานว่า จำนวนผู้กาบัตรในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันแรก มากกว่าเมื่อปี 2020 ที่การระบาดของโควิดทำให้ประชาชนพากันไปเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มขึ้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101217
    ..............
    Sondhi X
    แฮร์ริส-ทรัมป์ขนเซเลบขึ้นเวทีช่วยหาเสียง โดยต่างฝ่ายโจมตีกันเรื่องความอึด และเรียกร้องผู้ลงคะแนนล่วงหน้าในรัฐสมรภูมิโหวตให้ตนเองในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่สูสีที่สุดเท่าที่เคยมีมา . ในการหาเสียงที่ดีทรอยต์ และแอตแลนตา รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ชวนป็อปสตาร์ ลิซโซ และอัชเชอร์ขึ้นเวทีอุ่นเครื่องให้ฝูงชน พร้อมโจมตีโดนัลด์ ทรัมป์ คู่แข่งในศึกชิงทำเนียบขาวจากพรรครีพับลิกันว่า อ่อนระโหยโรยแรงและไร้สติ . อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ท้าทายคำกล่าวหาดังกล่าวด้วยการปราศรัยมาราธอนในเพนซิลเวเนีย ขณะที่อีลอน มัสก์ นักธุรกิจชื่อดัง ช่วยหาเสียงให้ทรัมป์ในเมืองอื่นในรัฐเดียวกัน . แคนดิเดตทั้งคู่ต่อสู้กันดุเดือดในทุกด้านเพื่อแย่งชิงการสนับสนุนในการแข่งขันที่โพลบ่งชี้ว่า คู่คี่สูสีกันมากขณะที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์จะถึงวันเลือกตั้ง . แฮร์ริสประกาศกับผู้มีสิทธิออกเสียงในดีทรอยต์ว่า แคมเปญหาเสียงของทรัมป์ทำลายตัวเอง พร้อมย้ำว่า จะลงทุนในชนชั้นแรงงานและชนชั้นกลาง และเสริมว่า สิ่งที่วัดความแข็งแกร่งของผู้นำที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าเราพยายามเอาชนะใคร แต่ขึ้นอยู่กับว่าใครที่เราจะสนับสนุน . ต่อมาระหว่างหาเสียงที่แอตแลนตา แฮร์ริสกล่าวหาทรัมป์ วัย 78 ปี หนีการดีเบตและยกเลิกการให้สัมภาษณ์เพราะหมดแรง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า เวลาที่ต้องตอบคำถามหรือปราศรัยในการหาเสียง ทรัมป์มักพูดเรื่อยเปื่อยนอกสคริปต์ ซึ่งไม่ใช่เป็นการร้อยเรียงข้อความอย่างที่เจ้าตัวพยายามแก้ต่าง แต่เป็นการพูดจาเลื่อนเปื้อนไร้สาระ . ลิซโซที่ไปขึ้นเวทีสนับสนุนแฮร์ริส กล่าวกับฝูงชนว่า ทุกคนสมควรมีประธานาธิบดีที่รับฟัง เคารพสิทธิในการประท้วง และเข้าใจว่า งานของตัวเองคือการรับใช้ประชาชน ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่แฮร์ริสนำเสนอ ก่อนทิ้งท้ายว่า อเมริกายิ่งกว่าพร้อมที่จะมีประธานาธิบดีหญิง . ขณะที่อัชเชอร์ หนึ่งในศิลปินแถวหน้าของเมืองแอตแลนตา ประกาศฝากความหวังกับฝูงชนในการนำแฮร์ริสเข้าสู่เส้นชัยในรัฐจอร์เจีย . ทางด้านทรัมป์เริ่มการหาเสียงด้วยการปราศรัยยาวเหยียดนานกว่า 90 นาที ซึ่งเริ่มต้นด้วยการพูดคนเดียวเกี่ยวกับอาร์โนลด์ ปาล์มเมอร์ นักกอล์ฟที่ถูกนำชื่อมาตั้งเป็นชื่อสนามบินในเมืองลาโทรบ รัฐเพนซิเวเนีย ที่ตัวเขากำลังหาเสียงอยู่ . หลังจากนั้นทรัมป์จึงเริ่มพฤติกรรมเดิมคือพูดไปเรื่อยที่รวมถึงการโจมตีผู้อพยพ การใส่ร้ายแฮร์ริส และการกล่าวอ้างเท็จซ้ำๆ เกี่ยวกับการเลือกตั้งเมื่อปี 2020 นอกจากนั้น ทรัมป์ยังพยายามดึงดูดชนชั้นกลางด้วยการนำพนักงานโรงงานเหล็กกล้าหลายคนขึ้นเวที . อดีตประธานาธิบดีผู้นี้ยังย้ำความสำคัญของตัวแทนคณะผู้เลือกตั้งในรัฐเพนซิลเวเนียที่มีต่อการเลือกตั้งทั้งหมดโดยประกาศว่า ถ้าชนะที่เพนซิลเวเนียก็จะชนะการเลือกตั้งทั้งประเทศ . สำหรับมัสก์ที่ออกมารับรองทรัมป์เมื่อเดือนกรกฎาคม ประกาศที่เมืองแฮร์ริสเบิร์ก ว่าจะสุ่มแจกเงินสดวันละ 1 ล้านดอลลาร์จนถึงวันที่ 5 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง ให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ลงชื่อสนับสนุนคำร้องออนไลน์สนับสนุนรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ ของอเมริกา พีเอซี ซึ่งเป็นองค์กรการเมืองที่เขาตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการหาเสียงของทรัมป์ . ทั้งแฮร์ริส และทรัมป์ยังใช้เวลาในรัฐสมรภูมิสำคัญที่เริ่มการเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว แฮร์ริสนั้นเห็นสัญญาณแง่บวกในการผลักดันผู้สนับสนุนให้ลงคะแนนล่วงหน้าโดยเร็วที่สุดที่เป็นไปได้ เพื่อเป็นปราการป้องกันความได้เปรียบของรีพับลิกันในบรรดาผู้ลงคะแนนในวันเลือกตั้ง . จากข้อมูลของห้องปฏิบัติการการเลือกตั้งมหาวิทยาลัยฟลอริดา มีผู้กาบัตรเลือกตั้งเกือบ 12 ล้านคนในวันศุกร์ (18 ต.ค.) หรือประมาณ 1 ใน 3 ของผู้มีสิทธิออกเสียงใน 7 รัฐสมรภูมิที่คาดว่า จะชี้ขาดการเลือกตั้ง . ข้อมูลยังระบุว่า รัฐจอร์เจียทำลายสถิติ ขณะที่นอร์ธแคโรไลนารายงานว่า จำนวนผู้กาบัตรในวันพฤหัสบดี (17 ต.ค.) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งล่วงหน้าวันแรก มากกว่าเมื่อปี 2020 ที่การระบาดของโควิดทำให้ประชาชนพากันไปเลือกตั้งล่วงหน้าเพิ่มขึ้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000101217 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 764 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวภูเก็ตด้วยรถเมล์

    แม้จังหวัดภูเก็ตได้ชื่อว่ารถสาธารณะราคาแพง แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถประจำทางเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ยกตัวอย่างดังนี้

    • แอร์พอร์ตบัสภูเก็ต สายสนามบินภูเก็ต-บขส.1 ค่าโดยสาร 30 ถึง 100 บาท จอดป้ายในยาง ถลาง อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร เกาะแก้ว บายพาส เซ็นทรัลภูเก็ต สนามสุระกุล เขารัง ที่ว่าการอำเภอ ซอยรมณีย์ บขส.1 ให้บริการจากสนามบินภูเก็ตเที่ยวแรก 08.30 น. เที่ยวสุดท้าย 21.30 น. จาก บขส.1 เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. โทร.0804655666

    • ภูเก็ตสมาร์ทบัส สายสนามบินภูเก็ต-ราไวย์ ค่าโดยสาร 100 บาทตลอดสาย จอดป้ายสาธารณสุขถลาง บ้านเคียน โรงเรียนเชิงทะเล ลากูน่า โลตัสเชิงทะเล หาดสุรินทร์ กุโบร์กมลา ภูเก็ตแฟนตาซี บิ๊กซีกมลา การไฟฟ้าป่าตอง วงเวียนกะรน สนามกีฬากะรน กะตะไนท์พลาซ่า กะตะปาล์ม ใสยวน หาดราไวย์ (มีรถไปแหลมพรหมเทพรอบ 14.00 15.00 และ 16.00 น.) ให้บริการจากสนามบินภูเก็ตเที่ยวแรก 08.15 น. เที่ยวสุดท้าย 22.40 น. (เที่ยว 23.30 น.หมดระยะกะตะปาล์ม) จากหาดราไวย์เที่ยวแรก 06.45 น. เที่ยวสุดท้าย 19.30 น. โทร.0863061257

    • ภูเก็ตสมาร์ทบัส สาย บขส.1-ป่าตอง ค่าโดยสาร 50 บาทตลอดสาย จอดป้ายสนามชัย โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนวิทยาสาธิต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ตลาดนัดชิลวา โลตัสภูเก็ต สวนน้ำอันดามันดา ตลาดสดกะทู้ ปตท.กะทู้ สี่กอ สถานีตำรวจภูธรกะทู้ ไทเกอร์คิงด้อม แม็คโครป่าตอง มาลินพลาซ่า จุดจอดรถโดยสารหาดป่าตอง (เยื้องโรงแรมซีเพิร์ล บีช รีสอร์ต) เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 20.00 น. โทร.0863061257

    • ภูเก็ตซิตี้อีวีบัส (วงกลม) ให้บริการฟรี จากลานจอด PKCD ถนนหลวงพ่อ จอดป้ายลานมังกร แยกเมืองเก่า โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต ร้านแมคโดนัลด์ วงเวียนสุรินทร์ ลานจอดเทศบาล (แดงพลาซ่า) ธนาคารกรุงศรี ธนาคารอิสลาม พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทหัว ถนนดีบุก วัดมงคลนิมิต ไลม์ไลท์ เที่ยวแรก 10.00 น. เที่ยวสุดท้าย 21.00 น. รถออกทุก 15 นาที โทร.0863061257

    • ภูเก็ตบัสเอ็กซ์เพรส สายสนามบินภูเก็ต-กะรน ค่าโดยสาร 100 บาทตลอดสาย ผ่านป้อมเมืองใหม่ โรงเรียนเมืองถลาง วัดพระทอง ที่ว่าการอำเภอถลาง โลตัสถลาง แม็คโครถลาง โฮมโปรถลาง โรบินสันไลฟ์สไตล์ถลาง อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร โบ๊ทลากูน พรีเมียมเอาท์เล็ท สยามนิรมิต โลตัสสามกอง อันดามันด้าวอเตอร์ปาร์ค สี่แยกกะทู้ ป่าตอง กะตะ-กะรน ให้บริการจากสนามบินภูเก็ตเที่ยวแรก 08.45 น. เที่ยวสุดท้าย 20.45 น. โทร.0840652122

    #Newskit #PhuketBus #รถเมล์ภูเก็ต
    เที่ยวภูเก็ตด้วยรถเมล์ แม้จังหวัดภูเก็ตได้ชื่อว่ารถสาธารณะราคาแพง แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการรถประจำทางเพื่อเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ยกตัวอย่างดังนี้ • แอร์พอร์ตบัสภูเก็ต สายสนามบินภูเก็ต-บขส.1 ค่าโดยสาร 30 ถึง 100 บาท จอดป้ายในยาง ถลาง อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร เกาะแก้ว บายพาส เซ็นทรัลภูเก็ต สนามสุระกุล เขารัง ที่ว่าการอำเภอ ซอยรมณีย์ บขส.1 ให้บริการจากสนามบินภูเก็ตเที่ยวแรก 08.30 น. เที่ยวสุดท้าย 21.30 น. จาก บขส.1 เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. โทร.0804655666 • ภูเก็ตสมาร์ทบัส สายสนามบินภูเก็ต-ราไวย์ ค่าโดยสาร 100 บาทตลอดสาย จอดป้ายสาธารณสุขถลาง บ้านเคียน โรงเรียนเชิงทะเล ลากูน่า โลตัสเชิงทะเล หาดสุรินทร์ กุโบร์กมลา ภูเก็ตแฟนตาซี บิ๊กซีกมลา การไฟฟ้าป่าตอง วงเวียนกะรน สนามกีฬากะรน กะตะไนท์พลาซ่า กะตะปาล์ม ใสยวน หาดราไวย์ (มีรถไปแหลมพรหมเทพรอบ 14.00 15.00 และ 16.00 น.) ให้บริการจากสนามบินภูเก็ตเที่ยวแรก 08.15 น. เที่ยวสุดท้าย 22.40 น. (เที่ยว 23.30 น.หมดระยะกะตะปาล์ม) จากหาดราไวย์เที่ยวแรก 06.45 น. เที่ยวสุดท้าย 19.30 น. โทร.0863061257 • ภูเก็ตสมาร์ทบัส สาย บขส.1-ป่าตอง ค่าโดยสาร 50 บาทตลอดสาย จอดป้ายสนามชัย โรงเรียนสตรีภูเก็ต โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย โรงเรียนวิทยาสาธิต โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต ตลาดนัดชิลวา โลตัสภูเก็ต สวนน้ำอันดามันดา ตลาดสดกะทู้ ปตท.กะทู้ สี่กอ สถานีตำรวจภูธรกะทู้ ไทเกอร์คิงด้อม แม็คโครป่าตอง มาลินพลาซ่า จุดจอดรถโดยสารหาดป่าตอง (เยื้องโรงแรมซีเพิร์ล บีช รีสอร์ต) เที่ยวแรก 06.00 น. เที่ยวสุดท้าย 20.00 น. โทร.0863061257 • ภูเก็ตซิตี้อีวีบัส (วงกลม) ให้บริการฟรี จากลานจอด PKCD ถนนหลวงพ่อ จอดป้ายลานมังกร แยกเมืองเก่า โรงแรมรอยัลภูเก็ตซิตี้ โรงแรมเพิร์ลภูเก็ต ร้านแมคโดนัลด์ วงเวียนสุรินทร์ ลานจอดเทศบาล (แดงพลาซ่า) ธนาคารกรุงศรี ธนาคารอิสลาม พิพิธภัณฑ์ภูเก็ตไทหัว ถนนดีบุก วัดมงคลนิมิต ไลม์ไลท์ เที่ยวแรก 10.00 น. เที่ยวสุดท้าย 21.00 น. รถออกทุก 15 นาที โทร.0863061257 • ภูเก็ตบัสเอ็กซ์เพรส สายสนามบินภูเก็ต-กะรน ค่าโดยสาร 100 บาทตลอดสาย ผ่านป้อมเมืองใหม่ โรงเรียนเมืองถลาง วัดพระทอง ที่ว่าการอำเภอถลาง โลตัสถลาง แม็คโครถลาง โฮมโปรถลาง โรบินสันไลฟ์สไตล์ถลาง อนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรี-ท้าวศรีสุนทร โบ๊ทลากูน พรีเมียมเอาท์เล็ท สยามนิรมิต โลตัสสามกอง อันดามันด้าวอเตอร์ปาร์ค สี่แยกกะทู้ ป่าตอง กะตะ-กะรน ให้บริการจากสนามบินภูเก็ตเที่ยวแรก 08.45 น. เที่ยวสุดท้าย 20.45 น. โทร.0840652122 #Newskit #PhuketBus #รถเมล์ภูเก็ต
    Like
    Yay
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 343 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากพายุเฮอริเคนเฮเลนและมิลตัน และการตอบสนองที่ล่าช้าอย่างมากของทางการสหรัฐฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐมิชิแกนและจอร์เจียหันมาสนับสนุนทรัมป์ และวันนี้ ตามผลสำรวจล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาเป็นเต็งหนึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งต่อไป
    หลังจากพายุเฮอริเคนเฮเลนและมิลตัน และการตอบสนองที่ล่าช้าอย่างมากของทางการสหรัฐฯ ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในรัฐมิชิแกนและจอร์เจียหันมาสนับสนุนทรัมป์ และวันนี้ ตามผลสำรวจล่าสุด โดนัลด์ ทรัมป์กลับมาเป็นเต็งหนึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลควรลงมือโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน แก้แค้นกรณีที่เตหะรานยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่รัฐยิวเมื่อเร็วๆ นี้ จากเสียงกระตุ้นของโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
    .
    เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธราว 180 ลูกเข้าใส่อิสาเอล แก้แค้นเหตุลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาส และฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเตหะราน ทั้งนี้กองทัพอิสราเอลยอมรับว่าขีปนาวุธบางส่วนเล็ดลอดระบบป้องกันภัยทางอากาศพุ่งโดนฐานทัพอากาศของพวกเขา
    .
    การโจมตีของอิหร่านมีขึ้นตามหลังในสิ่งที่อิสราเอลเรียกว่า "ปฏิบัติการทางภาคพื้นอย่างจำกัด" ในภาคใต้ของเลบานอน เล็งเป้างานฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของเตหะราน
    .
    ระหว่างปราศรัยหาเสียงในนอร์ทแคโรไลนา ในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วต่อจุดยืนสาวเหยี่ยวของเขาในประเด็นอิหร่าน ไม่เห็นด้วยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ก่อนหน้านี้ออกมาปฏิเสธสนับสนุนอิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของเตหะราน
    .
    "พวกเขาถามเขา คุณคิดอย่างไรกับอิหร่าน คุณจะเล่นงานอิหร่านไหม? แล้วเขาก็พูดไปเรื่อย ตราบใดที่พวกเขาไม่โจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการโจมตีใช่หรือเปล่า? เมื่อนั้นเราต้องเจอกับความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุด นั่นคืออาวุธนิวเคลียร์" ทรัมป์ระบุ
    .
    "เมื่อพวกเขาถามเขาในคำถามดังกล่าว คำตอบที่ควรจะเป็นคือ โจมตีนิวเคลียร์ก่อน แล้วค่อยกังวลในเรื่องที่เหลือในภายหลัง" ทรัมป์ระบุ
    .
    ในปี 2018 ในฐานะประธานาธิบดีอเมริกา ทรัมป์เป็นหัวหอกในการถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่านเมื่อปี 2015 ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อิหร่านยอมจำกัดโครงการนิวเคลียร์แลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้น ทรัมป์ อ้างว่าข้อตกลงแทบไม่ช่วยใดๆ ในการป้องกันอย่างถาวร ไม่ให้เตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
    .
    ตามหลังอิหร่านโจมตีอิสราเอล สำนักข่าว Axios รายงานว่ารัฐยิวกำลังหาทางแก้แค้นอย่างหนักหน่วงต่อห่าขีปนาวุธ และทุกทางเลือกยังคงวางอยู่บนโต๊ะพิจารณา ในนั้นรวมถึงโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่วนเป้าหมายอื่นๆ ที่เป็นไปได้นั้น อาจรวมถึงแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน หรือระบบป้องกันภัยทางอากาศ เช่นเดียวกับลงมือลอบสังหารอย่างเจาะจง
    .
    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า อิหร่านได้แจ้งเตือนผ่านไปยังสหรัฐฯ ว่าการโจมตีใดๆ ของอิสราเอลจะเจอกับการตอบโต้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
    .
    ท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในตะวันออกกลาง เว็บไซต์ข่าวโพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานว่า ไบเดน มีความผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการกระทำของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงเหตุโจมตีเล่นงานฮิซบอลเลาะห์เมื่อเร็วๆ นี้ และสงครามในกาซา ขณะที่ทำเนียบขาวยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่้พวกเขาอาจไม่สามารถป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายสู่ "สงครามภูมิภาคเต็มรูปแบบ" ได้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095171
    ..............
    Sondhi X
    อิสราเอลควรลงมือโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน แก้แค้นกรณีที่เตหะรานยิงห่าขีปนาวุธเข้าใส่รัฐยิวเมื่อเร็วๆ นี้ จากเสียงกระตุ้นของโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแแทนพรรครีพับลิกันลงชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ . เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่แล้ว อิหร่านรัวยิงขีปนาวุธราว 180 ลูกเข้าใส่อิสาเอล แก้แค้นเหตุลอบสังหาร อิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำทางการเมืองของฮามาส และฮัสซัน นัสรัลเลาะห์ ผู้นำของฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งทั้ง 2 คนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเตหะราน ทั้งนี้กองทัพอิสราเอลยอมรับว่าขีปนาวุธบางส่วนเล็ดลอดระบบป้องกันภัยทางอากาศพุ่งโดนฐานทัพอากาศของพวกเขา . การโจมตีของอิหร่านมีขึ้นตามหลังในสิ่งที่อิสราเอลเรียกว่า "ปฏิบัติการทางภาคพื้นอย่างจำกัด" ในภาคใต้ของเลบานอน เล็งเป้างานฮิซบอลเลาะห์ พันธมิตรของเตหะราน . ระหว่างปราศรัยหาเสียงในนอร์ทแคโรไลนา ในวันศุกร์ (4 ต.ค.) ทรัมป์ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วต่อจุดยืนสาวเหยี่ยวของเขาในประเด็นอิหร่าน ไม่เห็นด้วยกับประธานาธิบดีโจ ไบเดน ที่ก่อนหน้านี้ออกมาปฏิเสธสนับสนุนอิสราเอลโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของเตหะราน . "พวกเขาถามเขา คุณคิดอย่างไรกับอิหร่าน คุณจะเล่นงานอิหร่านไหม? แล้วเขาก็พูดไปเรื่อย ตราบใดที่พวกเขาไม่โจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการโจมตีใช่หรือเปล่า? เมื่อนั้นเราต้องเจอกับความเสี่ยงใหญ่หลวงที่สุด นั่นคืออาวุธนิวเคลียร์" ทรัมป์ระบุ . "เมื่อพวกเขาถามเขาในคำถามดังกล่าว คำตอบที่ควรจะเป็นคือ โจมตีนิวเคลียร์ก่อน แล้วค่อยกังวลในเรื่องที่เหลือในภายหลัง" ทรัมป์ระบุ . ในปี 2018 ในฐานะประธานาธิบดีอเมริกา ทรัมป์เป็นหัวหอกในการถอนสหรัฐฯ ออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์ที่ทำไว้กับอิหร่านเมื่อปี 2015 ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว อิหร่านยอมจำกัดโครงการนิวเคลียร์แลกกับการยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ณ เวลานั้น ทรัมป์ อ้างว่าข้อตกลงแทบไม่ช่วยใดๆ ในการป้องกันอย่างถาวร ไม่ให้เตหะรานจากการมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง . ตามหลังอิหร่านโจมตีอิสราเอล สำนักข่าว Axios รายงานว่ารัฐยิวกำลังหาทางแก้แค้นอย่างหนักหน่วงต่อห่าขีปนาวุธ และทุกทางเลือกยังคงวางอยู่บนโต๊ะพิจารณา ในนั้นรวมถึงโจมตีที่ตั้งนิวเคลียร์ของอิหร่าน ส่วนเป้าหมายอื่นๆ ที่เป็นไปได้นั้น อาจรวมถึงแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติและน้ำมัน หรือระบบป้องกันภัยทางอากาศ เช่นเดียวกับลงมือลอบสังหารอย่างเจาะจง . ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอัลจาซีราห์ รายงานว่า อิหร่านได้แจ้งเตือนผ่านไปยังสหรัฐฯ ว่าการโจมตีใดๆ ของอิสราเอลจะเจอกับการตอบโต้อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน . ท่ามกลางความตึงเครียดที่พุ่งสูงขึ้นในตะวันออกกลาง เว็บไซต์ข่าวโพลิติโกของสหรัฐฯ รายงานว่า ไบเดน มีความผิดหวังมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อการกระทำของอิสราเอล ในนั้นรวมถึงเหตุโจมตีเล่นงานฮิซบอลเลาะห์เมื่อเร็วๆ นี้ และสงครามในกาซา ขณะที่ทำเนียบขาวยอมรับว่ามีความเป็นไปได้ที่้พวกเขาอาจไม่สามารถป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายสู่ "สงครามภูมิภาคเต็มรูปแบบ" ได้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000095171 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Angry
    Yay
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1202 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇮🇱🇮🇷 โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า อิสราเอลควรโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
    .
    JUST IN: 🇮🇱🇮🇷 Donald Trump says Israel should strike Iran's nuclear facilities.
    .
    6:46 AM · Oct 5, 2024 · 751K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1842350572457840728
    🇮🇱🇮🇷 โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า อิสราเอลควรโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน . JUST IN: 🇮🇱🇮🇷 Donald Trump says Israel should strike Iran's nuclear facilities. . 6:46 AM · Oct 5, 2024 · 751K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1842350572457840728
    Wow
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • IF IT'S BOEING, I'M NOT GOING

    ในอดีต..บริษัทโบอิ้ง เน้นความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม+ความปลอดภัย

    หลังจาก ปี1997 โบอิ้ง ได้ซื้อ บริษัท แม๊คโดนัลด์ ดักกลาส เพื่อ ขยายความยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็น "หายนะ" ของวงการบินทั่วโลก เนื่องจาก วัฒนธรรมองค์กรของโบอิ้ง เปลี่ยนไปเป็น "แสวงหากำไรสูงที่สุด"

    การลดต้นทุนผลิต จึงเป้นสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้งตก 2ลำผู้โดยสาร(ตายเรียบ) ล้อหลุด และล่าสุด..เมื่อต้นปีนี้ ประตูฉุกเฉินหลุด ล้อหน้าไม่กาง ไถลออกนอกรันเวย์

    ........................................
    กลับสหรัฐฯรอบนี้ จึงเน้นเลือกบินด้วยเครื่องที่ผลิตจาก AIRBUS รุ่น A321neo และ A350 เท่านั้น

    ปัจจุบัน ดิฉันจึงเป็นแฟนประจำของสายการบิน STARLUX Airlines ที่ใช้แต่เครื่อง Airbus ใหม่ๆ ราคาไม่แพง และ ต่อเครื่องที่ ที่ เถาหยวน..แปร๊บ เดียว

    อ้างอิง :
    1. วิบากกรรม Boeing l Valor Podcast
    https://www.youtube.com/watch?v=aKivL9rRwxo
    2. ระทึก! กลางเวหา ประตูเครื่องบินหลุดกลางอากาศ
    https://www.youtube.com/watch?v=nIig4y_5ZDY&t=97s
    3. เรื่องเล่า Boeing
    https://www.youtube.com/watch?v=69wciKAtzxI
    4. Boeing ฉาวไม่พัก แผงประตูหลุด ล้อระเบิด ตกวูบกลางอากาศ
    https://www.youtube.com/watch?v=WdZxnv1smd4
    5. ขาลงแบบดิ่งสุด! เรื่องอื้อฉาวของโบอิ้งยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุด
    https://www.youtube.com/watch?v=xQkbXulhv5k
    6. วิกฤต “โบอิ้ง” กระทบชิ่ง “การบินไทย” : คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    https://www.youtube.com/watch?v=DEnlVZdqD6Q
    7. ทำไม Boeing ฉาวซ้ำซาก ความผิดใคร | Executive Espresso
    https://www.youtube.com/watch?v=MjfU8yxjBks&t=180s
    8. โบอิ้งตกต่ำขาดทุน 18,000 ล้าน | พนักงานไม่กล้านั่ง เครื่องบินที่ตัวเองผลิต
    https://www.youtube.com/watch?v=iAZ5Y01j7c0&t=721s
    9. โบอิ้งสูญเสียตลาดจีน จีนเลือกซื้อแอร์บัส 300 ลำ
    https://www.youtube.com/watch?v=R0goHw-7LnU
    10. Boeing 787 Deramliner กาตาร์แอร์เวย์สตกหลุมอากาศ 28 พค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=_fZgoPcQNBM
    11. 777-300ER ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ SQ321 "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU
    12. ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67
    https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU
    13. วิกฤตความเชื่อมั่น โหมกระหน่ำ Boeing ?
    https://www.youtube.com/watch?v=dfzeEFBHvzc
    14. ทำไมถึงมีคนตายเพราะเครื่องบิน Boeing บ่อย?! #ดาร์คไดอะรี I แค่อยากเล่า...◄1692►
    https://www.youtube.com/watch?v=e1ZXQTW7xEU
    IF IT'S BOEING, I'M NOT GOING ในอดีต..บริษัทโบอิ้ง เน้นความเป็นเลิศทางด้านวิศวกรรม+ความปลอดภัย หลังจาก ปี1997 โบอิ้ง ได้ซื้อ บริษัท แม๊คโดนัลด์ ดักกลาส เพื่อ ขยายความยิ่งใหญ่ กลับกลายเป็น "หายนะ" ของวงการบินทั่วโลก เนื่องจาก วัฒนธรรมองค์กรของโบอิ้ง เปลี่ยนไปเป็น "แสวงหากำไรสูงที่สุด" การลดต้นทุนผลิต จึงเป้นสาเหตุของเครื่องบินโบอิ้งตก 2ลำผู้โดยสาร(ตายเรียบ) ล้อหลุด และล่าสุด..เมื่อต้นปีนี้ ประตูฉุกเฉินหลุด ล้อหน้าไม่กาง ไถลออกนอกรันเวย์ ........................................ กลับสหรัฐฯรอบนี้ จึงเน้นเลือกบินด้วยเครื่องที่ผลิตจาก AIRBUS รุ่น A321neo และ A350 เท่านั้น ปัจจุบัน ดิฉันจึงเป็นแฟนประจำของสายการบิน STARLUX Airlines ที่ใช้แต่เครื่อง Airbus ใหม่ๆ ราคาไม่แพง และ ต่อเครื่องที่ ที่ เถาหยวน..แปร๊บ เดียว อ้างอิง : 1. วิบากกรรม Boeing l Valor Podcast https://www.youtube.com/watch?v=aKivL9rRwxo 2. ระทึก! กลางเวหา ประตูเครื่องบินหลุดกลางอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=nIig4y_5ZDY&t=97s 3. เรื่องเล่า Boeing https://www.youtube.com/watch?v=69wciKAtzxI 4. Boeing ฉาวไม่พัก แผงประตูหลุด ล้อระเบิด ตกวูบกลางอากาศ https://www.youtube.com/watch?v=WdZxnv1smd4 5. ขาลงแบบดิ่งสุด! เรื่องอื้อฉาวของโบอิ้งยิ่งขุดยิ่งเจอเรื่องที่เลวร้ายที่สุด https://www.youtube.com/watch?v=xQkbXulhv5k 6. วิกฤต “โบอิ้ง” กระทบชิ่ง “การบินไทย” : คุยทุกเรื่องกับสนธิ https://www.youtube.com/watch?v=DEnlVZdqD6Q 7. ทำไม Boeing ฉาวซ้ำซาก ความผิดใคร | Executive Espresso https://www.youtube.com/watch?v=MjfU8yxjBks&t=180s 8. โบอิ้งตกต่ำขาดทุน 18,000 ล้าน | พนักงานไม่กล้านั่ง เครื่องบินที่ตัวเองผลิต https://www.youtube.com/watch?v=iAZ5Y01j7c0&t=721s 9. โบอิ้งสูญเสียตลาดจีน จีนเลือกซื้อแอร์บัส 300 ลำ https://www.youtube.com/watch?v=R0goHw-7LnU 10. Boeing 787 Deramliner กาตาร์แอร์เวย์สตกหลุมอากาศ 28 พค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=_fZgoPcQNBM 11. 777-300ER ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ SQ321 "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU 12. ตกหลุมอากาศ! สิงคโปร์แอร์ "ตาย2 -เจ็บนับสิบ" | 21 พ.ค. 67 https://www.youtube.com/watch?v=vdMWbSUmuDU 13. วิกฤตความเชื่อมั่น โหมกระหน่ำ Boeing ? https://www.youtube.com/watch?v=dfzeEFBHvzc 14. ทำไมถึงมีคนตายเพราะเครื่องบิน Boeing บ่อย?! #ดาร์คไดอะรี I แค่อยากเล่า...◄1692► https://www.youtube.com/watch?v=e1ZXQTW7xEU
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 730 มุมมอง 0 รีวิว
  • เซเลนสกี้รับสถานการณ์ในแนวรบทุกๆ ส่วนที่เผชิญหน้ากับรัสเซีย เวลานี้ อยู่ในภาวะ“ยากลำบากมากๆ ” พร้อมกับกระตุ้นกองกำลังของฝ่ายยูเครนให้สู้เต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง นอกจากนั้นมอสโกยังเผยร่างงบประมาณสำหรับปีหน้าที่จะมีการเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเกือบ 30%
    .
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวในระหว่างการปราศรัยผ่านวิดีโอที่ทำเป็นประจำทุกคืน เมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่า ระหว่างประชุมกับพวกผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูง เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละส่วนของแนวหน้าที่ยูเครนเผชิญหน้ากับรัสเซีย รวมทั้งสมรรถนะของยูเครนเวลานี้ ตลอดจนสมรรถนะในอนาคต และภารกิจพิเศษตางๆ ของยูเครน ซึ่งเขาพบว่าสถานการณ์อยู่ในความยากลำบากมากๆ
    .
    “ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำได้ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย” เขากล่าว
    .
    ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ที่เซเลนสกี้อ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องกระทำการอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ในแง่ของการปฏิบัติการทางทหาร
    .
    ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนแสดงความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับปฏิบัติการทางทหารอย่างรวดเร็วภายหลังพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27) และในเวลาต่อมาเขาให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ทรัมป์ยืนยันว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง จะให้การสนับสนุนเคียฟ
    .
    ทั้งนี้ เซเลนสกี้ ซึ่งได้พบกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเดินทางมาสหรัฐฯเที่ยวนี้ด้วย ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนจากแฮร์ริสว่า จะยังคงสนับสนุนการทำสงครามสู้รัสเซียของยูเครนอย่างแน่วแน่ แต่ในกรณีของทรัมป์นั้น กลับเป็นที่สงสัยข้องใจกัน เนื่องจากทรัมป์เองไม่เคยแถลงเช่นนี้ นอกจากนั้นหลังพบหารือกับประธานาธิบดียูเครนแล้ว ในการไปปราศรัยหาเสียงของเขาตอนค่ำวันศุกร์ (27) นั้นเอง ทรัมป์ยังคงประกาศนโยบายเดิมของเขา นั่นคือ หากได้รับเลือกตั้ง ก็จะเร่งให้ เซเลนสกี้ กับ ปูติน เจรจาเพื่อสงบศึกในยูเครน
    .
    ระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา พงกบล็อกเกอร์สายทหารของยูเครนรายงานว่า กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบหน้าในเมืองวูห์เลดาร์ ที่ตั้งอยู่บนเขาทางตอนใต้ของแคว้นโดเนตสก์ เมืองนี้ยังคงอยู่ใต้การควบคุมของกองกำลังฝ่ายยูเครนตลอดช่วงเวลากว่า 2 ปีนับจากเกิดสงคราม
    .
    “ดีปสเตท”ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ยอดนิยมระบุโดยอ้างอิงรายงานของรัสเซียว่า กองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองดังกล่าว และทหารราบรัสเซียเคลื่อนเข้าไปในเมือง พร้อมกับชักธงรัสเซียบนตึกสูงบางแห่งทางด้านตะวันตกของเมืองนี้
    .
    นอกจากเมืองวูห์เลดาร์ กองทัพรัสเซียยังรุกคืบไปทางด้านเหนืออย่างช้าๆ มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยมีเป้าหมายยึดภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ เอาไว้ทั้งหมด
    .
    ในวันจันทร์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า สามารถเข้ายึดหมู่บ้านเนลิพิฟกาทางใต้ของเมืองโทเรตสก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขาในบริเวณดังกล่าว
    .
    ทว่า กองเสนาธิการทหารยูเครนไม่ยอมรับว่าเสียหมู่บ้านแห่งนี้ แม้ระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีบริเวณดังกล่าว 10 ระลอก
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง รัสเซียได้เปิดเผยร่างงบประมาณที่ระบุว่า งบประมาณการทหารสำหรับปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เป็น 13.5 ล้านล้านรูเบิล (145,000 ล้านดอลลาร์)
    .
    อย่างไรก็ดี ตัวเลขนี้ไม่รวมทรัพยากรอื่นๆ บางส่วนที่จัดสรรให้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรง เช่น การใช้จ่ายที่รัสเซียระบุว่าเป็น “ความมั่นคงภายใน” และการใช้จ่ายบางรายการที่ระบุเป็นความลับสุดยอด
    .
    นอกจากนั้น หากรวมการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงจะคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลที่คาดการณ์ไว้ที่ 41.5 ล้านล้านรูเบิลในปี 2025
    .
    ระยะหลังมานี้รัสเซียเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับจากยุคสหภาพโซเวียต โดยอัดฉีดให้กับขีปนาวุธและโดรนที่ใช้ทำสงครามในยูเครน และการจ่ายเงินเดือนอย่างงามให้ทหารนับแสนนายที่สู้รบในแนวหน้า
    .
    ทางด้านยูเครนถูกบีบให้ต้องเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารโดยปริยายเพื่อรับมือการรุกรานของรัสเซีย โดยในปีหน้าเคียฟเล็งจัดสรรงบประมาณกว่า 60% สำหรับการใช้จ่ายในการป้องกันประเทศและความมั่นคง คิดเป็นมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังห่างไกลมากจากงบประมาณการทหารของรัสเซียที่ 145,000 ล้านดอลลาร์
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092777
    ..................
    Sondhi X
    เซเลนสกี้รับสถานการณ์ในแนวรบทุกๆ ส่วนที่เผชิญหน้ากับรัสเซีย เวลานี้ อยู่ในภาวะ“ยากลำบากมากๆ ” พร้อมกับกระตุ้นกองกำลังของฝ่ายยูเครนให้สู้เต็มที่ในช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้ ด้านกระทรวงกลาโหมรัสเซียอ้างยึดหมู่บ้านทางตะวันออกของยูเครนได้อีกแห่ง นอกจากนั้นมอสโกยังเผยร่างงบประมาณสำหรับปีหน้าที่จะมีการเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารเกือบ 30% . ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ ของยูเครน กล่าวในระหว่างการปราศรัยผ่านวิดีโอที่ทำเป็นประจำทุกคืน เมื่อคืนวันจันทร์ (30 ก.ย.) ว่า ระหว่างประชุมกับพวกผู้บังคับบัญชาทหารระดับสูง เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมงครึ่ง เขาได้รับรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ในแต่ละส่วนของแนวหน้าที่ยูเครนเผชิญหน้ากับรัสเซีย รวมทั้งสมรรถนะของยูเครนเวลานี้ ตลอดจนสมรรถนะในอนาคต และภารกิจพิเศษตางๆ ของยูเครน ซึ่งเขาพบว่าสถานการณ์อยู่ในความยากลำบากมากๆ . “ทุกสิ่งทุกอย่างที่สามารถทำได้ในฤดูใบไม้ร่วงนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราสามารถบรรลุเป้าหมายได้ จะต้องทำให้บรรลุเป้าหมาย” เขากล่าว . ครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สองแล้วในระยะเวลาไม่ถึง 1 สัปดาห์ ที่เซเลนสกี้อ้างถึงความจำเป็นที่จะต้องกระทำการอย่างรวดเร็วในช่วงเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ในแง่ของการปฏิบัติการทางทหาร . ก่อนหน้านี้ผู้นำยูเครนแสดงความเห็นเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับปฏิบัติการทางทหารอย่างรวดเร็วภายหลังพบกับโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ที่นิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (27) และในเวลาต่อมาเขาให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์นิวส์ว่า ทรัมป์ยืนยันว่าถ้าชนะการเลือกตั้ง จะให้การสนับสนุนเคียฟ . ทั้งนี้ เซเลนสกี้ ซึ่งได้พบกับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ในการเดินทางมาสหรัฐฯเที่ยวนี้ด้วย ได้รับคำยืนยันอย่างชัดเจนจากแฮร์ริสว่า จะยังคงสนับสนุนการทำสงครามสู้รัสเซียของยูเครนอย่างแน่วแน่ แต่ในกรณีของทรัมป์นั้น กลับเป็นที่สงสัยข้องใจกัน เนื่องจากทรัมป์เองไม่เคยแถลงเช่นนี้ นอกจากนั้นหลังพบหารือกับประธานาธิบดียูเครนแล้ว ในการไปปราศรัยหาเสียงของเขาตอนค่ำวันศุกร์ (27) นั้นเอง ทรัมป์ยังคงประกาศนโยบายเดิมของเขา นั่นคือ หากได้รับเลือกตั้ง ก็จะเร่งให้ เซเลนสกี้ กับ ปูติน เจรจาเพื่อสงบศึกในยูเครน . ระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา พงกบล็อกเกอร์สายทหารของยูเครนรายงานว่า กองกำลังรัสเซียกำลังรุกคืบหน้าในเมืองวูห์เลดาร์ ที่ตั้งอยู่บนเขาทางตอนใต้ของแคว้นโดเนตสก์ เมืองนี้ยังคงอยู่ใต้การควบคุมของกองกำลังฝ่ายยูเครนตลอดช่วงเวลากว่า 2 ปีนับจากเกิดสงคราม . “ดีปสเตท”ซึ่งเป็นบล็อกเกอร์ยอดนิยมระบุโดยอ้างอิงรายงานของรัสเซียว่า กองกำลังรัสเซียยิงปืนใหญ่ถล่มเมืองดังกล่าว และทหารราบรัสเซียเคลื่อนเข้าไปในเมือง พร้อมกับชักธงรัสเซียบนตึกสูงบางแห่งทางด้านตะวันตกของเมืองนี้ . นอกจากเมืองวูห์เลดาร์ กองทัพรัสเซียยังรุกคืบไปทางด้านเหนืออย่างช้าๆ มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยมีเป้าหมายยึดภูมิภาคดอนบาส ซึ่งประกอบด้วยแคว้นโดเนตสก์และแคว้นลูฮันสก์ เอาไว้ทั้งหมด . ในวันจันทร์ กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศว่า สามารถเข้ายึดหมู่บ้านเนลิพิฟกาทางใต้ของเมืองโทเรตสก์ ซึ่งเป็นหนึ่งในเป้าหมายของพวกเขาในบริเวณดังกล่าว . ทว่า กองเสนาธิการทหารยูเครนไม่ยอมรับว่าเสียหมู่บ้านแห่งนี้ แม้ระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีบริเวณดังกล่าว 10 ระลอก . ในอีกด้านหนึ่ง รัสเซียได้เปิดเผยร่างงบประมาณที่ระบุว่า งบประมาณการทหารสำหรับปี 2025 จะเพิ่มขึ้นเกือบ 30% เป็น 13.5 ล้านล้านรูเบิล (145,000 ล้านดอลลาร์) . อย่างไรก็ดี ตัวเลขนี้ไม่รวมทรัพยากรอื่นๆ บางส่วนที่จัดสรรให้ปฏิบัติการทางทหารโดยตรง เช่น การใช้จ่ายที่รัสเซียระบุว่าเป็น “ความมั่นคงภายใน” และการใช้จ่ายบางรายการที่ระบุเป็นความลับสุดยอด . นอกจากนั้น หากรวมการใช้จ่ายด้านการป้องกันประเทศและความมั่นคงจะคิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการใช้จ่ายทั้งหมดของรัฐบาลที่คาดการณ์ไว้ที่ 41.5 ล้านล้านรูเบิลในปี 2025 . ระยะหลังมานี้รัสเซียเพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายทางทหารถึงระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนนับจากยุคสหภาพโซเวียต โดยอัดฉีดให้กับขีปนาวุธและโดรนที่ใช้ทำสงครามในยูเครน และการจ่ายเงินเดือนอย่างงามให้ทหารนับแสนนายที่สู้รบในแนวหน้า . ทางด้านยูเครนถูกบีบให้ต้องเพิ่มการใช้จ่ายทางทหารโดยปริยายเพื่อรับมือการรุกรานของรัสเซีย โดยในปีหน้าเคียฟเล็งจัดสรรงบประมาณกว่า 60% สำหรับการใช้จ่ายในการป้องกันประเทศและความมั่นคง คิดเป็นมูลค่า 54,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งยังห่างไกลมากจากงบประมาณการทหารของรัสเซียที่ 145,000 ล้านดอลลาร์ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000092777 .................. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1015 มุมมอง 0 รีวิว
  • Thaitimes แอปฯ "โซเชียลมีเดีย" ของคนไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ
    .
    วันนี้ (29 ก.ย.) คุณสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวบนเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ณ หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ ว่า หลังการเปิดให้ทดลองใช้แอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ไทยไทม์ (Thaitimes) เป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว มีผู้สมัครเข้าใช้แอปฯ นี้แล้วมากกว่า 2 หมื่นคน
    .
    "จุดเด่นของแอปพลิเคชันไทยไทม์คือมีความเป็นสากล และมีความเป็นท้องถิ่นอยู่ในตัวเอง ซึ่งโซเชียลมีเดียของต่างชาติขาดไป คือ ใช้มาตรฐานเดียวกันหมดทั่วโลก ทั้ง ๆ ที่ทั่วโลกต้งอการความหลากหลาย เหมือนกับแมคโดนัลด์หรือเคเอฟซี ที่เข้ามาในเมืองไทยก็มีเมนูกะเพราขาย" นายสนธิระบุ และระบุว่า สิ่งที่สำคัญคือ โซเชียลมีเดียต่างชาตินั้นรับงานรัฐบาลของตัวเองปิดกั้นข้อมูลข้อเท็จจริง ที่คนไทยหรือคนทั่วโลกควรรับรู้อย่างเช่น เรื่องโควิด-19 วัคซีน ผลกระทบของวัคซีน ซึ่งเป็นเรื่องความเป็นความตายของผู้คนทั่วโลก
    .
    ต่อมา คุณสนธิได้เชิญคุณอาทิตย์ เซกาล และคุณกฤษณะ ผู้อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ขึ้นมาโชว์ตัวบนเวทีด้วย โดยทุกคนมั่นใจว่าแอปฯ นี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยในยุคที่แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่างประเทศเซ็นเซอร์ ปิดกั้นข้อมูลข้อเท็จจริง และแสวงหากำไรเกินควร
    .
    ทั้งนี้คุณสนธิคาดการณ์ว่าหลังการเปิดตัวแล้ว แอปฯ Thaitimes ในวันนี้แล้ว ภายในสิ้นปี 2567 จะมีผู้ใช้มากกว่า 5 หมื่นคน ส่วนในปีหน้า 2568 จะแตะหลักแสนคน และอาจจะถึงหลักล้านคนก็เป็นได้
    .
    #Thaitimes
    Thaitimes แอปฯ "โซเชียลมีเดีย" ของคนไทย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ . วันนี้ (29 ก.ย.) คุณสนธิ ลิ้มทองกุล กล่าวบนเวทีความจริงมีหนึ่งเดียว ณ หอประชุมเล็กมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ กรุงเทพฯ ว่า หลังการเปิดให้ทดลองใช้แอปพลิเคชันสื่อสังคมออนไลน์ไทยไทม์ (Thaitimes) เป็นครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปลายเดือนสิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ถึงปัจจุบันเป็นเวลาประมาณหนึ่งเดือนแล้ว มีผู้สมัครเข้าใช้แอปฯ นี้แล้วมากกว่า 2 หมื่นคน . "จุดเด่นของแอปพลิเคชันไทยไทม์คือมีความเป็นสากล และมีความเป็นท้องถิ่นอยู่ในตัวเอง ซึ่งโซเชียลมีเดียของต่างชาติขาดไป คือ ใช้มาตรฐานเดียวกันหมดทั่วโลก ทั้ง ๆ ที่ทั่วโลกต้งอการความหลากหลาย เหมือนกับแมคโดนัลด์หรือเคเอฟซี ที่เข้ามาในเมืองไทยก็มีเมนูกะเพราขาย" นายสนธิระบุ และระบุว่า สิ่งที่สำคัญคือ โซเชียลมีเดียต่างชาตินั้นรับงานรัฐบาลของตัวเองปิดกั้นข้อมูลข้อเท็จจริง ที่คนไทยหรือคนทั่วโลกควรรับรู้อย่างเช่น เรื่องโควิด-19 วัคซีน ผลกระทบของวัคซีน ซึ่งเป็นเรื่องความเป็นความตายของผู้คนทั่วโลก . ต่อมา คุณสนธิได้เชิญคุณอาทิตย์ เซกาล และคุณกฤษณะ ผู้อยู่เบื้องหลังในการพัฒนาแอปพลิเคชัน ขึ้นมาโชว์ตัวบนเวทีด้วย โดยทุกคนมั่นใจว่าแอปฯ นี้จะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยในยุคที่แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ต่างประเทศเซ็นเซอร์ ปิดกั้นข้อมูลข้อเท็จจริง และแสวงหากำไรเกินควร . ทั้งนี้คุณสนธิคาดการณ์ว่าหลังการเปิดตัวแล้ว แอปฯ Thaitimes ในวันนี้แล้ว ภายในสิ้นปี 2567 จะมีผู้ใช้มากกว่า 5 หมื่นคน ส่วนในปีหน้า 2568 จะแตะหลักแสนคน และอาจจะถึงหลักล้านคนก็เป็นได้ . #Thaitimes
    Like
    Love
    Yay
    97
    5 ความคิดเห็น 7 การแบ่งปัน 3790 มุมมอง 1 รีวิว
  • ผู้สนับสนุนนาโต้ของยูเครนรายงานว่า กลัวว่าจะไม่มีเงินเหลือพอที่จะเติมเชื้อเพลิงให้กับสงครามตัวแทนต่อต้านรัสเซียจนถึงปี ๒๐๒๕

    การส่งอาวุธให้ยูเครนอย่างต่อเนื่องนั้นมีความเสี่ยง เนื่องจากผู้สนับสนุนนาโต้รายใหญ่ของระบอบเซเลนสกีขาดเงินทุนอย่างเร่งด่วน, แหล่งข่าววงในนโยบายบอกกับบลูมเบิร์ก

    สิ่งที่เป็นเดิมพันคือข้อตกลงเงินกู้มูลค่า ๕ หมื่นล้านดอลลาร์ ที่สร้างความขัดแย้งขึ้นจากกำไรของสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ในธนาคารตะวันตก, ซึ่งรายงานระบุว่าวอชิงตันกลัวว่าฮังการีอาจปิดกั้นหรือลดจำนวนลง แม้แต่จำนวนเงินนั้นก็เพียงพอที่จะให้เคียฟมีเสบียงสำหรับสงครามได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น

    นั่นยังไม่นับรวมสถานการณ์เศรษฐกิจของเคียฟ, ซึ่งรวมถึงช่องว่างที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ๓๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ในงบประมาณปี ๒๐๒๕, ซึ่งอีกประมาณ ๑๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ยังไม่สามารถนำมาคำนวณได้ หลังจากใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและสหภาพยุโรป การขาดดุลดังกล่าวอาจผลักดันให้เคียฟเข้าสู่การเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ‘จากจุดยืนที่อ่อนแอ’, แหล่งข่าวของ Bloomberg ระบุ

    ดูเหมือนว่าเคียฟจะประสบปัญหาในการโน้มน้าวใจผู้สนับสนุนให้ยังคงควักเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้ออาวุธสำหรับความขัดแย้ง เนื่องจากการผลิตอาวุธของรัสเซียที่เพิ่มขึ้น "เกินหน้า" ผลผลิตรวมของชาติตะวันตก

    จากนั้นยังมีแรงกดดันต่อเซเลนสกีว่า คาดว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะต้องใช้มาตรการนี้, หากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี, 🤣และสถานะที่ขัดสนเงินสดของเยอรมนี, ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่เป็นอันดับสองของยูเครน รองจากสหรัฐอเมริกา, ซึ่งข้อจำกัดด้านหนี้ตามรัฐธรรมนูญได้ส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนไปแล้ว ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจกำลังแผ่กระจายไปทั่วฝรั่งเศส, อิตาลี, และสหราชอาณาจักร, ประเทศเหล่านี้อาจลดความช่วยเหลือลงเช่นกัน, แม้ว่ารัฐบาลสตาร์เมอร์จะให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเคียฟอย่างเต็มที่ต่อไป แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในด้านงบประมาณภายในประเทศก็ตาม🤣

    วิกฤตการณ์ด้านความช่วยเหลือเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่โอกาสในสนามรบของเคียฟต้องเผชิญความท้าทายจากความลังเลใจของผู้สนับสนุนที่จะควักเงินเพิ่ม ในเดือนเมษายน, สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ผ่านแพ็คเกจความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยมูลค่า ๔๘,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน หลังจากเกิดความขัดแย้งกันนาน ๖ เดือน จากวิกฤตที่ชายแดนทางใต้ของสหรัฐฯ
    .
    Ukraine’s NATO patrons reportedly fear running out of money to fuel anti-Russia proxy war into 2025

    The continued delivery of weaponry to Ukraine is at risk due to a pressing lack of funds among the Zelensky regime’s top NATO sponsors, policy insiders have told Bloomberg.

    At stake is a controversial $50 billion loan agreement generated by the profits of Russian Central Bank assets frozen in Western banks, which Washington reportedly fears could be blocked by Hungary or whittled down. Even that sum would be enough to keep Kiev stocked up on war materiel for only half the year.

    That’s not counting Kiev’s economic situation, including a projected $35 billion gap in the 2025 budget, about $15 billion of which has yet to be accounted for after IMF and EU subsidies are applied. The shortfall could push Kiev into peace talks with Russia ‘from a position of weakness’, Bloomberg’s sources indicated.

    Kiev is apparently also having a hard time convincing patrons to continue shelling out tens of billions of dollars worth of arms for the conflict as ramped-up Russian production “outpaces” the combined output of the collective West.

    Then there is the pressure on Zelensky that Donald Trump is expected to apply, should he win the White House, and the cash-poor position of Germany, Ukraine’s second-largest sponsor after the US, whose constitutional debt restrictions have already affected support. As economic troubles sweep over France, Italy, and the UK, these countries may similarly reduce assistance, although the Starmer government has vowed to continue backing Kiev up to the hilt despite hard budgetary choices to make at home.

    The aid crunch is the second time this year that Kiev’s battlefield prospects have been challenged by its patrons’ reluctance to fork over more cash. In April, the Republican-held House of Representatives passed a $48 billion package of security aid for Ukraine after a six-month deadlock connected to the crisis at the US’s southern border.
    .
    11:29 PM · Sep 27, 2024 · 1,960 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1839703912816783372
    ผู้สนับสนุนนาโต้ของยูเครนรายงานว่า กลัวว่าจะไม่มีเงินเหลือพอที่จะเติมเชื้อเพลิงให้กับสงครามตัวแทนต่อต้านรัสเซียจนถึงปี ๒๐๒๕ การส่งอาวุธให้ยูเครนอย่างต่อเนื่องนั้นมีความเสี่ยง เนื่องจากผู้สนับสนุนนาโต้รายใหญ่ของระบอบเซเลนสกีขาดเงินทุนอย่างเร่งด่วน, แหล่งข่าววงในนโยบายบอกกับบลูมเบิร์ก สิ่งที่เป็นเดิมพันคือข้อตกลงเงินกู้มูลค่า ๕ หมื่นล้านดอลลาร์ ที่สร้างความขัดแย้งขึ้นจากกำไรของสินทรัพย์ของธนาคารกลางรัสเซียที่ถูกอายัดไว้ในธนาคารตะวันตก, ซึ่งรายงานระบุว่าวอชิงตันกลัวว่าฮังการีอาจปิดกั้นหรือลดจำนวนลง แม้แต่จำนวนเงินนั้นก็เพียงพอที่จะให้เคียฟมีเสบียงสำหรับสงครามได้เพียงครึ่งปีเท่านั้น นั่นยังไม่นับรวมสถานการณ์เศรษฐกิจของเคียฟ, ซึ่งรวมถึงช่องว่างที่คาดว่าจะเกิดขึ้น ๓๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ในงบประมาณปี ๒๐๒๕, ซึ่งอีกประมาณ ๑๕,๐๐๐ ล้านดอลลาร์ยังไม่สามารถนำมาคำนวณได้ หลังจากใช้เงินอุดหนุนจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและสหภาพยุโรป การขาดดุลดังกล่าวอาจผลักดันให้เคียฟเข้าสู่การเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย ‘จากจุดยืนที่อ่อนแอ’, แหล่งข่าวของ Bloomberg ระบุ ดูเหมือนว่าเคียฟจะประสบปัญหาในการโน้มน้าวใจผู้สนับสนุนให้ยังคงควักเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์เพื่อซื้ออาวุธสำหรับความขัดแย้ง เนื่องจากการผลิตอาวุธของรัสเซียที่เพิ่มขึ้น "เกินหน้า" ผลผลิตรวมของชาติตะวันตก จากนั้นยังมีแรงกดดันต่อเซเลนสกีว่า คาดว่า โดนัลด์ ทรัมป์ จะต้องใช้มาตรการนี้, หากเขาชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี, 🤣และสถานะที่ขัดสนเงินสดของเยอรมนี, ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่เป็นอันดับสองของยูเครน รองจากสหรัฐอเมริกา, ซึ่งข้อจำกัดด้านหนี้ตามรัฐธรรมนูญได้ส่งผลกระทบต่อการสนับสนุนไปแล้ว ในขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจกำลังแผ่กระจายไปทั่วฝรั่งเศส, อิตาลี, และสหราชอาณาจักร, ประเทศเหล่านี้อาจลดความช่วยเหลือลงเช่นกัน, แม้ว่ารัฐบาลสตาร์เมอร์จะให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเคียฟอย่างเต็มที่ต่อไป แม้ว่าจะต้องเผชิญกับการตัดสินใจที่ยากลำบากในด้านงบประมาณภายในประเทศก็ตาม🤣 วิกฤตการณ์ด้านความช่วยเหลือเป็นครั้งที่สองในปีนี้ที่โอกาสในสนามรบของเคียฟต้องเผชิญความท้าทายจากความลังเลใจของผู้สนับสนุนที่จะควักเงินเพิ่ม ในเดือนเมษายน, สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากได้ผ่านแพ็คเกจความช่วยเหลือด้านความปลอดภัยมูลค่า ๔๘,๐๐๐ ล้านดอลลาร์สำหรับยูเครน หลังจากเกิดความขัดแย้งกันนาน ๖ เดือน จากวิกฤตที่ชายแดนทางใต้ของสหรัฐฯ . Ukraine’s NATO patrons reportedly fear running out of money to fuel anti-Russia proxy war into 2025 The continued delivery of weaponry to Ukraine is at risk due to a pressing lack of funds among the Zelensky regime’s top NATO sponsors, policy insiders have told Bloomberg. At stake is a controversial $50 billion loan agreement generated by the profits of Russian Central Bank assets frozen in Western banks, which Washington reportedly fears could be blocked by Hungary or whittled down. Even that sum would be enough to keep Kiev stocked up on war materiel for only half the year. That’s not counting Kiev’s economic situation, including a projected $35 billion gap in the 2025 budget, about $15 billion of which has yet to be accounted for after IMF and EU subsidies are applied. The shortfall could push Kiev into peace talks with Russia ‘from a position of weakness’, Bloomberg’s sources indicated. Kiev is apparently also having a hard time convincing patrons to continue shelling out tens of billions of dollars worth of arms for the conflict as ramped-up Russian production “outpaces” the combined output of the collective West. Then there is the pressure on Zelensky that Donald Trump is expected to apply, should he win the White House, and the cash-poor position of Germany, Ukraine’s second-largest sponsor after the US, whose constitutional debt restrictions have already affected support. As economic troubles sweep over France, Italy, and the UK, these countries may similarly reduce assistance, although the Starmer government has vowed to continue backing Kiev up to the hilt despite hard budgetary choices to make at home. The aid crunch is the second time this year that Kiev’s battlefield prospects have been challenged by its patrons’ reluctance to fork over more cash. In April, the Republican-held House of Representatives passed a $48 billion package of security aid for Ukraine after a six-month deadlock connected to the crisis at the US’s southern border. . 11:29 PM · Sep 27, 2024 · 1,960 Views https://x.com/SputnikInt/status/1839703912816783372
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • (ว่าที่) เซ็นทรัล บางรัก โรบินสันในตำนาน

    เมื่อวันก่อนร้านแมคโดนัลด์ ภายในอาคารโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาโฉมใหม่ใช้ชื่อว่า สาขาเซ็นทรัล บางรัก ออกแบบดีไซน์ ‘Geometry’ พร้อมเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK- Self Ordering Kiosk), บริการชำระเงินแบบไร้เงินสด, พนักงานต้อนรับ (GEL – Guest Experience Leader), บริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ (Table Service) และ บริการฟรี Wifi เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เมนูอาหารเช้าเริ่มจำหน่ายเวลา 05.00-11.00 น. และเมนูไก่ทอดแมคเริ่มจำหน่ายเวลา 11.00-05.00 น.

    เหตุผลที่แมคโดนัลด์ใช้คำว่าสาขาเซ็นทรัล บางรัก เพราะอีกไม่นาน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก ที่มีอายุประมาณ 32 ปี จะเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางรัก ตามกลยุทธ์ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ทยอยเปลี่ยนห้างโรบินสันบางสาขาเป็นห้างเซ็นทรัล มาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้เข้ากับสภาพตลาดและทำเล เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เริ่มจากสาขาแรกเมกาบางนา ตามมาด้วยสาขาอุดรธานี ขอนแก่น และแฟชั่นไอส์แลนด์

    ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2535 เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าขนาด 5 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ที่ผ่านมาได้ทยอยปรับปรุงพื้นที่มาตั้งแต่กลางปี 2567 โดยใช้อัตลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) ของห้างเซ็นทรัลแทน เป็นสาขาในกลุ่ม Black Tier ระดับเดียวกับสาขาลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เป็นรองก็แค่สาขาชิดลมที่้เป็นระดับ Rose Gold Tier ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ A+ ขึ้นไปและลูกค้าชาวต่างชาติ

    การปรับโฉมครั้งนี้ทำให้ห้างโรบินสัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เหลือสาขาพระราม 9 สุขุมวิท ลาดกระบัง รังสิต ศรีสมาน ราชพฤกษ์ และสมุทรปราการ ซึ่งก่อนหน้านี้ปิดสาขาศรีนครินทร์ เพราะไม่ต่อสัญญาเช่ากับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถึงกระนั้นห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน ยังคงจัดโปรโมชันร่วมกัน มีบริการผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว (Personal Shopper) โทร. 1425 การจำหน่ายสินค้าผ่านเซ็นทรัลออนไลน์ และ Central App

    ทำเลห้างโรบินสัน บางรักในปัจจุบัน อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือสาทร ใกล้แหล่งอาคารสำนักงานย่านสีลมและสาทร ใกล้โรงแรมหรูอย่างโรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ ใกล้สถานศึกษาอย่างโรงเรียนอัสสัมชัญ รวมทั้งฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังมีศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่มีเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือสาทร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่กลุ่มเซ็นทรัลไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆ

    #Newskit #CentralBangrak #RobinsonBangrak
    (ว่าที่) เซ็นทรัล บางรัก โรบินสันในตำนาน เมื่อวันก่อนร้านแมคโดนัลด์ ภายในอาคารโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาโฉมใหม่ใช้ชื่อว่า สาขาเซ็นทรัล บางรัก ออกแบบดีไซน์ ‘Geometry’ พร้อมเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ (SOK- Self Ordering Kiosk), บริการชำระเงินแบบไร้เงินสด, พนักงานต้อนรับ (GEL – Guest Experience Leader), บริการเสิร์ฟอาหารที่โต๊ะ (Table Service) และ บริการฟรี Wifi เปิดบริการทุกวัน ตลอด 24 ชั่วโมง เมนูอาหารเช้าเริ่มจำหน่ายเวลา 05.00-11.00 น. และเมนูไก่ทอดแมคเริ่มจำหน่ายเวลา 11.00-05.00 น. เหตุผลที่แมคโดนัลด์ใช้คำว่าสาขาเซ็นทรัล บางรัก เพราะอีกไม่นาน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก ที่มีอายุประมาณ 32 ปี จะเปลี่ยนเป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล บางรัก ตามกลยุทธ์ของกลุ่มเซ็นทรัล ที่ทยอยเปลี่ยนห้างโรบินสันบางสาขาเป็นห้างเซ็นทรัล มาตั้งแต่ปี 2563 เพื่อให้เข้ากับสภาพตลาดและทำเล เน้นไปที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยทำงานมีกำลังซื้อค่อนข้างสูง เริ่มจากสาขาแรกเมกาบางนา ตามมาด้วยสาขาอุดรธานี ขอนแก่น และแฟชั่นไอส์แลนด์ ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน บางรัก เปิดสาขาเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2535 เป็นอาคารห้างสรรพสินค้าขนาด 5 ชั้น (รวมชั้นใต้ดิน) ตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ที่ผ่านมาได้ทยอยปรับปรุงพื้นที่มาตั้งแต่กลางปี 2567 โดยใช้อัตลักษณ์องค์กร (Corporate Identity) ของห้างเซ็นทรัลแทน เป็นสาขาในกลุ่ม Black Tier ระดับเดียวกับสาขาลาดพร้าว ปิ่นเกล้า บางนา จับกลุ่มลูกค้าระดับไฮเอนด์ เป็นรองก็แค่สาขาชิดลมที่้เป็นระดับ Rose Gold Tier ที่เจาะกลุ่มลูกค้าระดับ A+ ขึ้นไปและลูกค้าชาวต่างชาติ การปรับโฉมครั้งนี้ทำให้ห้างโรบินสัน ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล เหลือสาขาพระราม 9 สุขุมวิท ลาดกระบัง รังสิต ศรีสมาน ราชพฤกษ์ และสมุทรปราการ ซึ่งก่อนหน้านี้ปิดสาขาศรีนครินทร์ เพราะไม่ต่อสัญญาเช่ากับศูนย์การค้าซีคอนสแควร์ ถึงกระนั้นห้างเซ็นทรัลและโรบินสัน ยังคงจัดโปรโมชันร่วมกัน มีบริการผู้ช่วยช้อปปิ้งส่วนตัว (Personal Shopper) โทร. 1425 การจำหน่ายสินค้าผ่านเซ็นทรัลออนไลน์ และ Central App ทำเลห้างโรบินสัน บางรักในปัจจุบัน อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สะพานตากสิน และท่าเรือสาทร ใกล้แหล่งอาคารสำนักงานย่านสีลมและสาทร ใกล้โรงแรมหรูอย่างโรงแรมแชงกรีล่า โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล โรงแรมเลอบัว แอท สเตททาวเวอร์ ใกล้สถานศึกษาอย่างโรงเรียนอัสสัมชัญ รวมทั้งฝั่งตรงข้ามแม่น้ำเจ้าพระยายังมีศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่มีเรือเฟอร์รี่จากท่าเรือสาทร ถือเป็นอีกหนึ่งทำเลที่กลุ่มเซ็นทรัลไม่ปล่อยให้หลุดมือง่ายๆ #Newskit #CentralBangrak #RobinsonBangrak
    Like
    Wow
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 831 มุมมอง 0 รีวิว
  • มี5ทีมพยายามลอบสังหารทรัมป์ในเวลานี้ 21/9/2024

    เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แมตต์ เกตซ์ ผู้แทนราษฎรจากรัฐฟลอริดา อ้างว่า “ทีมลอบสังหาร” 5 ทีมกำลังพยายามสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ

    เกตซ์ให้สัมภาษณ์กับ Breitbart News ว่าการพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น “โศกนาฏกรรม” และ “หลีกเลี่ยงได้” โดยอ้างว่าไม่มีการรักษาความปลอดภัยรอบด้านเพียงพอสำหรับอดีตประธานาธิบดีที่จะปกป้องเขาจากอันตราย

    เกตซ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ซึ่งบอกกับเขาว่า “มีทีมลอบสังหารอย่างน้อย 5 ทีมในประเทศที่พร้อมจะสังหารทรัมป์”

    “เรารู้ว่ามี 3 ทีมที่มีลักษณะเป็นชาวต่างชาติ และ 2 ทีมที่มีลักษณะเป็นภายในประเทศ ซึ่งต้องใช้กำลังคุ้มกัน ซึ่งเราไม่มีกองกำลังคุ้มกันอดีตประธานาธิบดีในขณะนี้” เกตซ์กล่าวต่อ โดยตั้งข้อสังเกตว่าทีมลอบสังหารต่างประเทศมีความเชื่อมโยงกับยูเครน อิหร่าน และปากีสถาน

    Gaetz อ้างว่าทีมเหล่านี้สามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระในสหรัฐอเมริกา เพราะว่า “ไม่มีการตรวจสอบอย่างเพียงพอที่จะหยุดพวกเขาจากการทำเช่นนั้น"

    ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์รอดชีวิตจากการลอบสังหาร 2 ครั้ง อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันรอดตายอย่างหวุดหวิดในการชุมนุมหาเสียงที่เพนซิลเวเนียเมื่อเดือนกรกฎาคม เมื่อกระสุนปืนถูกยิงจากระยะห่างประมาณ 150 เมตรเฉียดหูของเขา มือปืนยิงจากบนหลังคาที่เจ้าหน้าที่อารักขาไม่ได้ปกป้องอย่างอธิบายไม่ถูก สังหารผู้เข้าร่วมการชุมนุมได้ 1 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน ก่อนที่เขาจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต

    การลอบสังหารครั้งที่สองเกิดขึ้นที่สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวันอาทิตย์ มือปืนที่เล็งปืนไปที่ทรัมป์จากด้านหลังพุ่มไม้ ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตกใจและถูกจับกุมหลังจากที่เขาหลบหนี ผู้ต้องสงสัยซึ่งระบุตัวตนได้คือไรอัน เวสลีย์ รูธ เขาพยายามเข้าร่วมกองทัพยูเครนในปี 2022 แต่ไม่สำเร็จ และหลังจากนั้นก็เริ่มแผนการเพื่อคัดเลือกอดีตหน่วยคอมมานโดอัฟกานิสถานให้มาสู้รบเพื่อเคียฟ

    เจ้าหน้าที่ศุลกากรและตรวจชายแดนสหรัฐฯ (CBP) สอบปากคำ Routh เมื่อเขากลับมาถึงสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนั้น ตามคำบอกเล่าของ Gaetz เจ้าหน้าที่ "คิดว่าเรื่องราวของเขาน่าสงสัยมาก เขาจึงกำลังเกณฑ์นักสู้เพื่ออิสรภาพจากทั่วโลกไปสู้รบในยูเครน และเมื่อพวกเขาถามว่าเขาหาเงินมาจ่ายอย่างไร เขาก็ตอบว่า 'ไม่เป็นไร ภรรยาผมเป็นคนจ่าย'”

    CBP แนะนำให้ Routh ไปที่หน่วยสอบสวนของ DHS ซึ่ง "ปฏิเสธที่จะดำเนินการสอบสวนด้วยซ้ำ" Gaetz กล่าวต่อ "พวกเขาไม่ทำอะไรต่อแล้วปล่อยให้ชายคนนี้เข้ามาในประเทศ และเรามีคำถามมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้"

    เกตซ์กล่าวว่าด้วยนักฆ่าสองคนที่สามารถเข้ามาใกล้ระยะยิงของทรัมป์ได้ เพื่อนร่วมงานรีพับลิกันบางคนของเขา “ยังไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่อาจมีสายลับในหน่วยข่าวกรองที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจุดอ่อน”

    “ผมไม่เห็นหลักฐานของเรื่องนั้น” นักการเมืองรีพับลิกันจากฟลอริดาชี้แจง “แต่เพื่อนร่วมงานของผมฉลาดมากในเรื่องนี้บอกว่าพวกเขาไม่สามารถตัดทิ้งเรื่องนั้นได้ เนื่องจากมีความผิดปกติบางอย่างและรูปแบบข้อเท็จจริงที่นี่”


    ที่มา RT
    มี5ทีมพยายามลอบสังหารทรัมป์ในเวลานี้ 21/9/2024 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แมตต์ เกตซ์ ผู้แทนราษฎรจากรัฐฟลอริดา อ้างว่า “ทีมลอบสังหาร” 5 ทีมกำลังพยายามสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยอ้างแหล่งข่าวจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เกตซ์ให้สัมภาษณ์กับ Breitbart News ว่าการพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็น “โศกนาฏกรรม” และ “หลีกเลี่ยงได้” โดยอ้างว่าไม่มีการรักษาความปลอดภัยรอบด้านเพียงพอสำหรับอดีตประธานาธิบดีที่จะปกป้องเขาจากอันตราย เกตซ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อไม่นานมานี้ เขาได้พบกับเจ้าหน้าที่จากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ (DHS) ซึ่งบอกกับเขาว่า “มีทีมลอบสังหารอย่างน้อย 5 ทีมในประเทศที่พร้อมจะสังหารทรัมป์” “เรารู้ว่ามี 3 ทีมที่มีลักษณะเป็นชาวต่างชาติ และ 2 ทีมที่มีลักษณะเป็นภายในประเทศ ซึ่งต้องใช้กำลังคุ้มกัน ซึ่งเราไม่มีกองกำลังคุ้มกันอดีตประธานาธิบดีในขณะนี้” เกตซ์กล่าวต่อ โดยตั้งข้อสังเกตว่าทีมลอบสังหารต่างประเทศมีความเชื่อมโยงกับยูเครน อิหร่าน และปากีสถาน Gaetz อ้างว่าทีมเหล่านี้สามารถเดินไปมาได้อย่างอิสระในสหรัฐอเมริกา เพราะว่า “ไม่มีการตรวจสอบอย่างเพียงพอที่จะหยุดพวกเขาจากการทำเช่นนั้น" ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ทรัมป์รอดชีวิตจากการลอบสังหาร 2 ครั้ง อดีตประธานาธิบดีและผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันรอดตายอย่างหวุดหวิดในการชุมนุมหาเสียงที่เพนซิลเวเนียเมื่อเดือนกรกฎาคม เมื่อกระสุนปืนถูกยิงจากระยะห่างประมาณ 150 เมตรเฉียดหูของเขา มือปืนยิงจากบนหลังคาที่เจ้าหน้าที่อารักขาไม่ได้ปกป้องอย่างอธิบายไม่ถูก สังหารผู้เข้าร่วมการชุมนุมได้ 1 คน และบาดเจ็บอีก 2 คน ก่อนที่เขาจะถูกเจ้าหน้าที่ยิงเสียชีวิต การลอบสังหารครั้งที่สองเกิดขึ้นที่สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวันอาทิตย์ มือปืนที่เล็งปืนไปที่ทรัมป์จากด้านหลังพุ่มไม้ ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองตกใจและถูกจับกุมหลังจากที่เขาหลบหนี ผู้ต้องสงสัยซึ่งระบุตัวตนได้คือไรอัน เวสลีย์ รูธ เขาพยายามเข้าร่วมกองทัพยูเครนในปี 2022 แต่ไม่สำเร็จ และหลังจากนั้นก็เริ่มแผนการเพื่อคัดเลือกอดีตหน่วยคอมมานโดอัฟกานิสถานให้มาสู้รบเพื่อเคียฟ เจ้าหน้าที่ศุลกากรและตรวจชายแดนสหรัฐฯ (CBP) สอบปากคำ Routh เมื่อเขากลับมาถึงสหรัฐฯ ในช่วงปลายปีนั้น ตามคำบอกเล่าของ Gaetz เจ้าหน้าที่ "คิดว่าเรื่องราวของเขาน่าสงสัยมาก เขาจึงกำลังเกณฑ์นักสู้เพื่ออิสรภาพจากทั่วโลกไปสู้รบในยูเครน และเมื่อพวกเขาถามว่าเขาหาเงินมาจ่ายอย่างไร เขาก็ตอบว่า 'ไม่เป็นไร ภรรยาผมเป็นคนจ่าย'” CBP แนะนำให้ Routh ไปที่หน่วยสอบสวนของ DHS ซึ่ง "ปฏิเสธที่จะดำเนินการสอบสวนด้วยซ้ำ" Gaetz กล่าวต่อ "พวกเขาไม่ทำอะไรต่อแล้วปล่อยให้ชายคนนี้เข้ามาในประเทศ และเรามีคำถามมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้" เกตซ์กล่าวว่าด้วยนักฆ่าสองคนที่สามารถเข้ามาใกล้ระยะยิงของทรัมป์ได้ เพื่อนร่วมงานรีพับลิกันบางคนของเขา “ยังไม่ตัดทิ้งความเป็นไปได้ที่อาจมีสายลับในหน่วยข่าวกรองที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจุดอ่อน” “ผมไม่เห็นหลักฐานของเรื่องนั้น” นักการเมืองรีพับลิกันจากฟลอริดาชี้แจง “แต่เพื่อนร่วมงานของผมฉลาดมากในเรื่องนี้บอกว่าพวกเขาไม่สามารถตัดทิ้งเรื่องนั้นได้ เนื่องจากมีความผิดปกติบางอย่างและรูปแบบข้อเท็จจริงที่นี่” ที่มา RT
    Like
    Haha
    Wow
    Yay
    32
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1145 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027

    Martin Armstrong นักการเงิน และนักวิเคราะห์ชื่อดังให้สัมภาษณ์กับFinancial Senseว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 ซึ่งจะเป็นช่วงไซเกิ้ลของสงครามโลกคร้ังที่ 3ที่จะเกิดขึ้นพอดี

    การผิดนัดชำระหนี้หมายถึงการที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกพันธะบัตรแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะว่าไม่มั่นใจกับปริมาณหนี้มหาศาลที่สหรัฐแบกรับอยู่ และนโยบายแซงชั่นของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง ค่าเงินดอลล่าร์จะด้อยค่า จนท้ายที่สุดไม่มีใครต้องการถือครองทรัพย์สินดอลล่าร์อีกต่อไป

    หรืออีกวิธีหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้คือการก่อสงคราม แล้วหยุดจ่ายหนี้ หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย

    อาร์มสตรองบอกว่า ความจริงพันธะบัตรสหรัฐมีปัญหาอยู่แล้ว อันเห็นได้จากการที่เจเน็ต เยลเลน รมว คลังสหรัฐบินไปปักกิ่งหลายคร้ังในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขอร้องให้รัฐบาลจีนไม่ให้ขายพันธบัตรสหรัฐ หรือให้ซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ แต่ถูกทางจีนปฏิเสธ

    ตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่$35.2ล้านล้าน เทียบกับขนาดของจีดีพีที่$28ล้านล้าน ในขณะที่มีหนี้นอกงบประมาณที่$70ล้านล้าน ซึ่งเป็นพันธะด้านสวัสดิการสังคมต่างๆที่ต้องจ่ายในอนาคต ลำพังแค่ต้องจ่ายเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยด้วยการออกพัน
    ธะบัตรมารีไฟแนนซ์ รัฐบาลสหรัฐมีภาระต้องจ่าย$1ล้านล้านต่อปี ซึ่งเป็นการใช้จ่ายที่สูงสุดในงบประมาณ สูงกว่างบของกระทรวงกลาโหมที่800,000กว่าล้านเสียอีก หนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นสหรัฐไม่คิดที่จะจ่ายคืนอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังขาดดุลงบประมาณปีละ2ล้านล้าน

    หนี้สินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 313 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 55% ของการเพิ่มขึ้นนี้มาจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่คือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี หนี้สินที่ไม่ได้รับการจัดสรร (unfunded liabilities)ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 72 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 300% ของ GDP ซึ่งอาจดูสูงเกินไปจนกว่าจะหันไปดูสเปนที่มีหนี้ต่อ GDPที่ 500% ฝรั่งเศสที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 400% หรือเยอรมนีที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 350%

    งบดุลของประเทศแบบนี้ถือว่าล้มละลายแล้ว หนี้ของประเทศในยุโรปท้ังในงบดุลและนอกงบดุลก็ประสบวิกฤตคล้ายๆกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐและยุโรปจับมือกันก่อสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนยูเครนเพื่อหาทางเบี้ยวหนี้ หรือรีเซ็ตระบบการเงินใหม่เพื่อรักษาสถานภาพเดิมทางอำนาจทางการเงิน

    การยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียโดยสหรัฐและยุโรปทำให้หลายประเทศทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ และหันไปถือครองทองคำแทน เพราะเกรงว่าจะถูกยึดเหมือนรัสเซียถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ถูกใจวอชิงตัน ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำ2,574เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว

    ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาตุนทองคำ โดยขายพันธะบัตรสหรัฐออกไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การซื้อทองคำของธนาคารกลาง1,136ตันในปี 2022 และ1,037ตันในปี 2023 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ปี2024น่าจะเป็นอีกปีของการสร้างสถิติการซื้อทองคำของธนาคารกลาง

    กลุ่มBRICSมีนโยบายออกจากดอลล่าร์ (de-dollarization) ด้วยการค้าการกันเองผ่านเงินสกุลประจำชาติ และไม่ใช้ดอลล่าร์ รวมท้ังการวางโครงการที่จะเอาทองคำมาหนุนหลังค่าเงินของเงินสกุลร่วมBRICS ที่เรียกกันว่า the Unit โดยใช้ทองคำ40%หนุนหลัง และอีก60%หนุนหลังค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเงินกระดาษเปล่าๆที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง

    อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษี100%สำหรับประเทศใดก็ตามที่หันหลังให้กับดอลล่าร์ เพื่อที่จะปกป้องดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป ท่าทีของทรัมป์แม้ว่าจะเป็นการพูดหาเสียงแต่ก็สะท้อนความเข้าใจของทรัมป์ว่าเงินดอลล่าร์กำลังหมดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ อาราเบียได้ออกมาให้ข่าวว่าจะขายน้ำมันแลกเงินหยวนของจีน ซึ่งถือว่าเป็นการออกจากเปโตรดอลล่าร์ที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ำประกันมาตั้งแต่ปี1974

    สหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 Martin Armstrong นักการเงิน และนักวิเคราะห์ชื่อดังให้สัมภาษณ์กับFinancial Senseว่าสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ในปี2026/2027 ซึ่งจะเป็นช่วงไซเกิ้ลของสงครามโลกคร้ังที่ 3ที่จะเกิดขึ้นพอดี การผิดนัดชำระหนี้หมายถึงการที่กระทรวงการคลังสหรัฐออกพันธะบัตรแล้วไม่มีคนซื้อ เพราะว่าไม่มั่นใจกับปริมาณหนี้มหาศาลที่สหรัฐแบกรับอยู่ และนโยบายแซงชั่นของรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ดอกเบี้ยจะพุ่งสูง ค่าเงินดอลล่าร์จะด้อยค่า จนท้ายที่สุดไม่มีใครต้องการถือครองทรัพย์สินดอลล่าร์อีกต่อไป หรืออีกวิธีหนึ่งของการผิดนัดชำระหนี้คือการก่อสงคราม แล้วหยุดจ่ายหนี้ หรือเบี้ยวหนี้ไปเลย อาร์มสตรองบอกว่า ความจริงพันธะบัตรสหรัฐมีปัญหาอยู่แล้ว อันเห็นได้จากการที่เจเน็ต เยลเลน รมว คลังสหรัฐบินไปปักกิ่งหลายคร้ังในช่วงที่ผ่านมา เพื่อขอร้องให้รัฐบาลจีนไม่ให้ขายพันธบัตรสหรัฐ หรือให้ซื้อพันธบัตรล็อตใหม่ แต่ถูกทางจีนปฏิเสธ ตัวเลขหนี้สาธารณะล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐอยู่ที่$35.2ล้านล้าน เทียบกับขนาดของจีดีพีที่$28ล้านล้าน ในขณะที่มีหนี้นอกงบประมาณที่$70ล้านล้าน ซึ่งเป็นพันธะด้านสวัสดิการสังคมต่างๆที่ต้องจ่ายในอนาคต ลำพังแค่ต้องจ่ายเฉพาะส่วนที่เป็นดอกเบี้ยด้วยการออกพัน ธะบัตรมารีไฟแนนซ์ รัฐบาลสหรัฐมีภาระต้องจ่าย$1ล้านล้านต่อปี ซึ่งเป็นการใช้จ่ายที่สูงสุดในงบประมาณ สูงกว่างบของกระทรวงกลาโหมที่800,000กว่าล้านเสียอีก หนี้ส่วนที่เป็นเงินต้นสหรัฐไม่คิดที่จะจ่ายคืนอยู่แล้ว นอกจากนี้รัฐบาลสหรัฐยังขาดดุลงบประมาณปีละ2ล้านล้าน หนี้สินทั่วโลกพุ่งสูงขึ้นกว่า 15 ล้านล้านดอลลาร์ในปี 2023 สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใหม่ที่ 313 ล้านล้านดอลลาร์ โดยประมาณ 55% ของการเพิ่มขึ้นนี้มาจากเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว โดยส่วนใหญ่คือสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส และเยอรมนี หนี้สินที่ไม่ได้รับการจัดสรร (unfunded liabilities)ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่า 72 ล้านล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 300% ของ GDP ซึ่งอาจดูสูงเกินไปจนกว่าจะหันไปดูสเปนที่มีหนี้ต่อ GDPที่ 500% ฝรั่งเศสที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 400% หรือเยอรมนีที่มีหนี้ต่อ GDP เกือบ 350% งบดุลของประเทศแบบนี้ถือว่าล้มละลายแล้ว หนี้ของประเทศในยุโรปท้ังในงบดุลและนอกงบดุลก็ประสบวิกฤตคล้ายๆกับสหรัฐ ทำให้สหรัฐและยุโรปจับมือกันก่อสงครามกับรัสเซียผ่านตัวแทนยูเครนเพื่อหาทางเบี้ยวหนี้ หรือรีเซ็ตระบบการเงินใหม่เพื่อรักษาสถานภาพเดิมทางอำนาจทางการเงิน การยึดเงินทุนสำรองระหว่างประเทศของรัสเซียโดยสหรัฐและยุโรปทำให้หลายประเทศทิ้งทรัพย์สินดอลล่าร์ และหันไปถือครองทองคำแทน เพราะเกรงว่าจะถูกยึดเหมือนรัสเซียถ้าดำเนินนโยบายต่างประเทศที่ไม่ถูกใจวอชิงตัน ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วงที่ผ่านมา ล่าสุดราคาทองคำ2,574เหรียญต่อออนซ์ ส่วนราคาทองคำฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมพุ่งทะลุระดับ2,600เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว ธนาคารกลางทั่วโลกก็หันมาตุนทองคำ โดยขายพันธะบัตรสหรัฐออกไปเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงทางการเงินท่ามกลางความเสี่ยงทางด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น การซื้อทองคำของธนาคารกลาง1,136ตันในปี 2022 และ1,037ตันในปี 2023 เป็นปัจจัยที่สำคัญที่มีน้ำหนักมากที่สุดที่ทำให้ราคาทองคำพุ่งสูงในช่วงที่ผ่านมา ปี2024น่าจะเป็นอีกปีของการสร้างสถิติการซื้อทองคำของธนาคารกลาง กลุ่มBRICSมีนโยบายออกจากดอลล่าร์ (de-dollarization) ด้วยการค้าการกันเองผ่านเงินสกุลประจำชาติ และไม่ใช้ดอลล่าร์ รวมท้ังการวางโครงการที่จะเอาทองคำมาหนุนหลังค่าเงินของเงินสกุลร่วมBRICS ที่เรียกกันว่า the Unit โดยใช้ทองคำ40%หนุนหลัง และอีก60%หนุนหลังค่าเงินก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเห็นจุดเริ่มต้นของจุดจบของความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์ที่โดยเนื้อแท้แล้วเป็นเงินกระดาษเปล่าๆที่ไม่มีทรัพย์สินอะไรหนุนหลัง อย่างไรก็ดี โดนัลด์ ทรัมป์ประกาศว่าเขาจะเก็บภาษี100%สำหรับประเทศใดก็ตามที่หันหลังให้กับดอลล่าร์ เพื่อที่จะปกป้องดอลล่าร์ให้เป็นเงินสกุลหลักของโลกต่อไป ท่าทีของทรัมป์แม้ว่าจะเป็นการพูดหาเสียงแต่ก็สะท้อนความเข้าใจของทรัมป์ว่าเงินดอลล่าร์กำลังหมดความน่าเชื่อถือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งซาอุดิ อาราเบียได้ออกมาให้ข่าวว่าจะขายน้ำมันแลกเงินหยวนของจีน ซึ่งถือว่าเป็นการออกจากเปโตรดอลล่าร์ที่ซาอุฯเป็นผู้ค้ำประกันมาตั้งแต่ปี1974
    Like
    30
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1431 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐจะเข้ากันได้ดีกับรัสเซียและจีนถ้าทรัมป์ชนะเลือกตั้ง

    อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง วอชิงตันจะเข้ากับมอสโกและปักกิ่งได้ดี

    “ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรู ผมคิดว่าเราจะเข้ากันได้ดีกับจีน ผมคิดว่าเราจะเข้ากันได้ดีกับรัสเซีย ผมอยากให้รัสเซียจัดการเรื่องยูเครน” ทรัมป์กล่าวในการสัมภาษณ์กับบล็อกเกอร์ ฟารุก ซาร์มาด ซึ่งออกอากาศทางช่อง X
    สหรัฐจะเข้ากันได้ดีกับรัสเซียและจีนถ้าทรัมป์ชนะเลือกตั้ง อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า หากเขาชนะการเลือกตั้ง วอชิงตันจะเข้ากับมอสโกและปักกิ่งได้ดี “ผมไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นศัตรู ผมคิดว่าเราจะเข้ากันได้ดีกับจีน ผมคิดว่าเราจะเข้ากันได้ดีกับรัสเซีย ผมอยากให้รัสเซียจัดการเรื่องยูเครน” ทรัมป์กล่าวในการสัมภาษณ์กับบล็อกเกอร์ ฟารุก ซาร์มาด ซึ่งออกอากาศทางช่อง X
    Like
    Love
    23
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1083 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸🇺🇦 ไรอัน เวสลีย์ รูธ, ผู้พยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งที่ ๒, มีความสัมพันธ์กับยูเครน และได้รับคัดเลือกเป็นนักรบเพื่อทำสงครามกับรัสเซียในยูเครน
    .
    JUST IN: 🇺🇸🇺🇦 Ryan Wesley Routh, the second attempted assassin of Donald Trump, has ties to Ukraine and recruited fighters for Ukraine's war with Russia.
    .
    8:01 AM · Sep 16, 2024 · 51.9K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1835484031216914573
    🇺🇸🇺🇦 ไรอัน เวสลีย์ รูธ, ผู้พยายามลอบสังหาร โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นครั้งที่ ๒, มีความสัมพันธ์กับยูเครน และได้รับคัดเลือกเป็นนักรบเพื่อทำสงครามกับรัสเซียในยูเครน . JUST IN: 🇺🇸🇺🇦 Ryan Wesley Routh, the second attempted assassin of Donald Trump, has ties to Ukraine and recruited fighters for Ukraine's war with Russia. . 8:01 AM · Sep 16, 2024 · 51.9K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1835484031216914573
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลอบสังหาร"ทรัมป์" ครั้งที่สอง แต่ทรัมป์ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงครั้งใหม่, FBI เชื่อคนร้ายจ้องลอบสังหาร

    15 กันยายน2567- รายงานข่าวอินโฟเควสระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เผชิญกับเหตุการณ์ระทักขวัญรอบใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งยิงปืนใกล้สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เชื่อว่า มือปืนรายนี้มีเป้าหมายที่จะลอบสังหารทรัมป์

    มือปืนที่ก่อเหตุได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) หรือ USSS ยิงและถูกรวบตัวเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ และจุดที่ทรัมป์เล่นกอล์ฟนั้น อยู่ห่างจากมือปืนในรัศมี 300-500 หลา

    ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย USSS ได้นำตัวทรัมป์ไปยังที่ที่ปลอดภัยทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น และขบวนรถของหน่วย USSS ใช้เวลาไม่นานในการพาทรัมป์เดินทางถึงบ้านพักของเขาที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโก ในปาล์มบีช

    สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ส่งข้อความของทรัมป์ผ่านทางอีเมลที่ตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุน โดยมีใจความว่า "เกิดเหตุการณ์ยิงในพื้นที่ของผม แต่ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปจนไม่อาจควบคุมได้นั้น ผมต้องการให้ท่านฟังทางนี้ว่า 'ผมปลอดภัยและผมสบายดี' ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมช้าลงได้ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้"

    ริค แบรดชอร์ นายอำเภอเขตปาล์มบีช เคาตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเสียงปืนดังขึ้นไม่นาน พยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากพุ่มไม้ และจากนั้นได้กระโดดเข้าไปในรถยนต์นิสสันสีดำคันหนึ่ง

    นอกจากนี้ แบรดชอร์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจได้พบปืนไรเฟิลรุ่น AK-47 พร้อมกล้องส่องทางไกลใกล้กับพุ่มไม้ และยังพบกระเป๋าเป้สองใบที่มีกระเบื้องเซรามิกอยู่ข้างใน และพบกล้อง GoPro ที่ผูกยึดติดกับรั้ว

    ทั้งนี้ ทรัมป์เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที

    #Thaitimes
    ลอบสังหาร"ทรัมป์" ครั้งที่สอง แต่ทรัมป์ปลอดภัยหลังเกิดเหตุยิงครั้งใหม่, FBI เชื่อคนร้ายจ้องลอบสังหาร 15 กันยายน2567- รายงานข่าวอินโฟเควสระบุว่า โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน เผชิญกับเหตุการณ์ระทักขวัญรอบใหม่ โดยมีชายคนหนึ่งยิงปืนใกล้สนามกอล์ฟของทรัมป์ในเมืองเวสต์ปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) อย่างไรก็ดี ทรัมป์ปลอดภัยจากเหตุการณ์ดังกล่าว ขณะที่สำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ (FBI) เชื่อว่า มือปืนรายนี้มีเป้าหมายที่จะลอบสังหารทรัมป์ มือปืนที่ก่อเหตุได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐฯ (US Secret Service) หรือ USSS ยิงและถูกรวบตัวเอาไว้ได้ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ทรัมป์กำลังเล่นกอล์ฟในสนามแห่งนี้ และจุดที่ทรัมป์เล่นกอล์ฟนั้น อยู่ห่างจากมือปืนในรัศมี 300-500 หลา ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ของหน่วย USSS ได้นำตัวทรัมป์ไปยังที่ที่ปลอดภัยทันทีที่เสียงปืนดังขึ้น และขบวนรถของหน่วย USSS ใช้เวลาไม่นานในการพาทรัมป์เดินทางถึงบ้านพักของเขาที่รีสอร์ตมาร์-อะ-ลาโก ในปาล์มบีช สำนักข่าวซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวไม่นาน ทีมหาเสียงของทรัมป์ได้ส่งข้อความของทรัมป์ผ่านทางอีเมลที่ตั้งขึ้นเพื่อการระดมทุน โดยมีใจความว่า "เกิดเหตุการณ์ยิงในพื้นที่ของผม แต่ก่อนที่ข่าวลือจะแพร่สะพัดออกไปจนไม่อาจควบคุมได้นั้น ผมต้องการให้ท่านฟังทางนี้ว่า 'ผมปลอดภัยและผมสบายดี' ไม่มีอะไรที่จะทำให้ผมช้าลงได้ และผมจะไม่มีวันยอมแพ้" ริค แบรดชอร์ นายอำเภอเขตปาล์มบีช เคาตี้ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากเสียงปืนดังขึ้นไม่นาน พยานคนหนึ่งในที่เกิดเหตุได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเขาเห็นชายคนหนึ่งวิ่งออกจากพุ่มไม้ และจากนั้นได้กระโดดเข้าไปในรถยนต์นิสสันสีดำคันหนึ่ง นอกจากนี้ แบรดชอร์เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตรวจได้พบปืนไรเฟิลรุ่น AK-47 พร้อมกล้องส่องทางไกลใกล้กับพุ่มไม้ และยังพบกระเป๋าเป้สองใบที่มีกระเบื้องเซรามิกอยู่ข้างใน และพบกล้อง GoPro ที่ผูกยึดติดกับรั้ว ทั้งนี้ ทรัมป์เผชิญกับเหตุการณ์ระทึกขวัญเป็นครั้งที่ 2 หลังจากเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้ถูกคนร้ายลอบยิงในระหว่างการปราศรัยหาเสียงในเมืองบัตเลอร์ รัฐเพนซิลเวเนีย โดยทรัมป์ถูกยิงที่หูด้านขวาและทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ แต่เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ผู้ที่เข้าร่วมฟังการปราศรัยเสียชีวิต 1 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย ส่วนมือปืนได้ถูกหน่วยอารักขาประธานาธิบดีสหรัฐยิงเสียชีวิตหลังก่อเหตุทันที #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 0 รีวิว
  • เลือกตั้งปี 2024อาจเป็นครี้งสุดท้ายของสหรัฐ
    มาร์ติน อาร์มสตรองแห่ง armstrongeconomics.com คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2024ของสหรัฐอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝ่ายสนับสนุนทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู้การฟ้องร้องในศาลทำให้ไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง
    อาร์มสตรอง บอกว่า ทรัมป์กับแฮร์ริสกำลังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดุเดือดและน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้ประเทศสหรัฐแตกแยกอย่างแน่นอน โดยเสริมว่าสื่อกระแสหลักจะทรยศต่อประเทศและทุกสิ่งที่รัฐธรรมนูญอเมริกันเคยยืนหยัด และพวกเขาจะสนับสนุนคนหลบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและแฮร์รีสทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
    เขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นมุ่งหน้าสู่ปี 2032 ซึ่งจะทำลายสังคมตะวันตกในแง่ของการเป็นเมืองหลวงทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก
    “พวกนีโอคอน (Neocon) กำลังทำลายสังคมตะวันตกเพราะความเกลียดชังรัสเซียและจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดเมืองหลวงทางการเงินของโลกที่สหรัฐอเมริกายึดครองจากลอนดอนในปี 1918 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะสูญเสียสถานภาพนี้ 112 ปีต่อมา เพราะสงครามโลกครั้งที่ 3 และสื่อมวลชนก็ให้กำลังเชียร์ให้เกิด (ครึ่งรอบ 224 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง)
    พรรคเดโมแครตได้ส่งข้อความนี้ออกไปบรรดาผู้สนับสนุน:

    “… เรากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการคุ้มครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อปกป้องทรัมป์และพันธมิตรของเขาที่โจมตีสิทธิในการลงคะแนนเสียงของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราลงทุนหกหลักในโครงการ Democrats Abroad เพื่อลงทะเบียนและรับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่อาศัยและรับใช้ในต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายความพยายามในการจัดงานเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมและระดมอาสาสมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม”
    อาร์มสตรอง กล่าวต่อไปว่า จอร์เจียได้นำกฎใหม่สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐมาใช้ โดยอนุญาตให้สมาชิกชะลอการรับรองการเลือกตั้ง ถ้าหากมีการสอบถามเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน ในรัฐแอริโซนา มิชิแกน และเนวาดา ฝ่ายรีพับรีกันได้ผลักดันให้มีการกำจัดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่พลเมือง พรรครีพับลิกันในเนวาดายื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์หากได้รับหลังวันเลือกตั้ง ถึงกระนั้นพรรคเดโมแครตก็กำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นเช่นกัน
    ในรัฐที่ฐานเสียงแกว่งไปมาอย่างจอร์เจีย แอริโซนา มิชิแกน เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ผลของการลงคะแนนเสียงที่มีการโต้แย้งอาจจบลงที่ศาลฎีกา มีการปล่อยให้ผู้อพยพเข้าไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายโดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้อะไรเลยแก่สังคม เพื่อเป้าหมายของลัทธิเผด็จการที่จะควบคุมประชาชน โดยวางแผนที่จะให้พวกอพยพหลบเข้าเมืองลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต
    ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อนจนอาจจะจบลงที่ศาล จากนั้น หากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน ผู้แพ้ก็จะโต้แย้งว่าการตัดสินดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่มีทางหนีพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เพราะฝ่ายซ้ายรู้ว่าตนกำลังพ่ายแพ้ และแทนที่จะตั้งคำถามกับปรัชญาแนวทางของตน กลับตั้งใจที่จะชนะทุกวิถีทางที่เป็นไปได้
    ที่การประชุมประชาธิปไตย ไบเดนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งหากทรัมป์ชนะ นั่นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขากล่าวว่า “นี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม” ไบเดนบอกกับฝูงชนในสุนทรพจน์ของเขาว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม “เราเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราในฐานะประเทศไป และภัยคุกคามนั้น—นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง—ภัยคุกคามนั้นยังดำรงอยู่”

    IMCT News

    ที่มา https://www.armstrongeconomics.com/international-news/politics/us-2024-may-be-our-last/
    เลือกตั้งปี 2024อาจเป็นครี้งสุดท้ายของสหรัฐ มาร์ติน อาร์มสตรองแห่ง armstrongeconomics.com คาดการณ์ว่าการเลือกตั้งในปี 2024ของสหรัฐอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย เพราะว่าฝ่ายสนับสนุนทั้งโดนัลด์ ทรัมป์ และกมลา แฮร์ริสจะไม่ยอมรับผลการเลือกตั้ง ซึ่งจะนำไปสู้การฟ้องร้องในศาลทำให้ไม่สามารถรับรองผลการเลือกตั้งได้ และในที่สุดอาจจะนำไปสู่สงครามกลางเมือง อาร์มสตรอง บอกว่า ทรัมป์กับแฮร์ริสกำลังกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้ทางกฎหมายที่ดุเดือดและน่ารังเกียจ ซึ่งจะทำให้ประเทศสหรัฐแตกแยกอย่างแน่นอน โดยเสริมว่าสื่อกระแสหลักจะทรยศต่อประเทศและทุกสิ่งที่รัฐธรรมนูญอเมริกันเคยยืนหยัด และพวกเขาจะสนับสนุนคนหลบเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและแฮร์รีสทั้งหมดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เขาบอกว่าการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นมุ่งหน้าสู่ปี 2032 ซึ่งจะทำลายสังคมตะวันตกในแง่ของการเป็นเมืองหลวงทางการเงินที่มีอิทธิพลต่อระบบการเงินโลก “พวกนีโอคอน (Neocon) กำลังทำลายสังคมตะวันตกเพราะความเกลียดชังรัสเซียและจีน ซึ่งส่งผลให้เกิดเมืองหลวงทางการเงินของโลกที่สหรัฐอเมริกายึดครองจากลอนดอนในปี 1918 เนื่องจากสงครามโลกครั้งที่ 1 เราจะสูญเสียสถานภาพนี้ 112 ปีต่อมา เพราะสงครามโลกครั้งที่ 3 และสื่อมวลชนก็ให้กำลังเชียร์ให้เกิด (ครึ่งรอบ 224 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง) พรรคเดโมแครตได้ส่งข้อความนี้ออกไปบรรดาผู้สนับสนุน: “… เรากำลังเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับโครงการคุ้มครองผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา เพื่อปกป้องทรัมป์และพันธมิตรของเขาที่โจมตีสิทธิในการลงคะแนนเสียงของเรา นั่นเป็นสาเหตุที่เราลงทุนหกหลักในโครงการ Democrats Abroad เพื่อลงทะเบียนและรับคะแนนโหวตจากชาวอเมริกันเกือบ 9 ล้านคนที่อาศัยและรับใช้ในต่างประเทศ และนั่นคือเหตุผลที่เราขยายความพยายามในการจัดงานเสมือนจริงที่ประสบความสำเร็จเพื่อมีส่วนร่วมและระดมอาสาสมัครให้ได้มากที่สุด เพื่อให้คุณสามารถมีส่วนร่วมได้ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนก็ตาม” อาร์มสตรอง กล่าวต่อไปว่า จอร์เจียได้นำกฎใหม่สำหรับคณะกรรมการการเลือกตั้งของรัฐมาใช้ โดยอนุญาตให้สมาชิกชะลอการรับรองการเลือกตั้ง ถ้าหากมีการสอบถามเกี่ยวกับความคลาดเคลื่อนของบัตรลงคะแนน ในรัฐแอริโซนา มิชิแกน และเนวาดา ฝ่ายรีพับรีกันได้ผลักดันให้มีการกำจัดรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่ไม่ใช่พลเมือง พรรครีพับลิกันในเนวาดายื่นฟ้องเพื่อป้องกันไม่ให้มีการนับบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์หากได้รับหลังวันเลือกตั้ง ถึงกระนั้นพรรคเดโมแครตก็กำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นเช่นกัน ในรัฐที่ฐานเสียงแกว่งไปมาอย่างจอร์เจีย แอริโซนา มิชิแกน เนวาดา และเพนซิลเวเนีย ผลของการลงคะแนนเสียงที่มีการโต้แย้งอาจจบลงที่ศาลฎีกา มีการปล่อยให้ผู้อพยพเข้าไปในยุโรปและสหรัฐอเมริกาอย่างผิดกฎหมายโดยที่ส่วนใหญ่ไม่ได้ให้อะไรเลยแก่สังคม เพื่อเป้าหมายของลัทธิเผด็จการที่จะควบคุมประชาชน โดยวางแผนที่จะให้พวกอพยพหลบเข้าเมืองลงคะแนนเสียงให้พรรคเดโมแครต ผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะมีการโต้แย้งอย่างเผ็ดร้อนจนอาจจะจบลงที่ศาล จากนั้น หากพรรคเดโมแครตหรือพรรครีพับลิกันแต่งตั้งผู้พิพากษาเป็นผู้ตัดสิน ผู้แพ้ก็จะโต้แย้งว่าการตัดสินดังกล่าวเป็นเรื่องทางการเมือง ไม่มีทางหนีพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เพราะฝ่ายซ้ายรู้ว่าตนกำลังพ่ายแพ้ และแทนที่จะตั้งคำถามกับปรัชญาแนวทางของตน กลับตั้งใจที่จะชนะทุกวิถีทางที่เป็นไปได้ ที่การประชุมประชาธิปไตย ไบเดนราดน้ำมันลงบนกองไฟ ซึ่งหากทรัมป์ชนะ นั่นก็ไม่ใช่ประชาธิปไตย เขากล่าวว่า “นี่จะเป็นการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 6 มกราคม” ไบเดนบอกกับฝูงชนในสุนทรพจน์ของเขาว่าเมื่อวันที่ 6 มกราคม “เราเกือบจะสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างเกี่ยวกับตัวตนของเราในฐานะประเทศไป และภัยคุกคามนั้น—นี่ไม่ใช่คำพูดเกินจริง—ภัยคุกคามนั้นยังดำรงอยู่” IMCT News ที่มา https://www.armstrongeconomics.com/international-news/politics/us-2024-may-be-our-last/
    WWW.ARMSTRONGECONOMICS.COM
    US 2024 May be Our Last
    This year's election is shaping up to be decided in court rather than the ballot box. Both Donald Trump and Kamala Harris are preparing for what will become a
    Like
    Love
    Wow
    Sad
    36
    1 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1830 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts