• ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น

    -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น
    -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล
    -นี่หรือเมืองพุทธ
    -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือพิมพ์ South China Morning Post (SCMP) รายงานว่า ทางการจีนตรวจพบไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับโควิด-19 ในค้างคาว โดยไวรัสดังกล่าวจัดอยู่ในสายพันธุ์ใหม่ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ HKU5 ซึ่งถูกระบุในฮ่องกงในค้างคาวสายพันธุ์ Japanese pigistrelle โดยนักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยเบื้องต้นบ่งชี้ว่า ไวรัสเมอร์เบโคในค้างคาวมีความเสี่ยงสูงที่จะแพร่กระจายสู่มนุษย์ ไม่ว่าจะเป็นผ่านการถ่ายทอดโดยตรงหรือผ่านโฮสต์ตัวกลาง อย่างไรก็ตาม แม้ขณะนี้ไวรัสยังไม่ถือว่ากำลังแพร่ระบาด แต่นักวิจัยได้ย้ำถึงความจำเป็นในการวิจัยอย่างละเอียดถี่ถ้วนมากขึ้น -ชาวนาขอประกัน 1.2 หมื่น -ภาระสูงหยุดจับแก๊งคอล -นี่หรือเมืองพุทธ -ค้านทรัมป์ยึดฉนวนกาซา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 5 0 รีวิว
  • - #คิดถึงหนังเก่า -

    ในปี 1989 เลสลี จาง ประกาศอำลาวงการเพลง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังวางแผนจะหยุดพักหลังจากถ่ายทำ Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า) ของ หว่องกาไว เสร็จ โชคดีที่ ผู้กำกับหวัง ใช้เวลาในการถ่ายทำอย่างมาก และเขาก็ถ่ายทำ Days of Being Wild เสร็จในปี 1990

    เมื่อ จอห์น วู ตั้งใจจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" และเขียนเนื้อเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเป็นหลัก แต่เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ทำให้การถ่ายทำไม่ได้เริ่มต้นขึ้น

    หลังจากเข้าร่วม Milestone Films จอห์น วู ก็ดึงโครงการที่จะถ่ายทำ "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" เจ้าของบริษัท Golden Princess Film Company อนุมัติ และต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่กำหนดให้เนื้อเรื่องต้องมีความสนุก

    กู่เหวยลี่ (ลินดา คุค) โปรดิวเซอร์ของหนัง ได้ขอให้ "โจวเหวินฟะ" มารับบทนำโดยเฉพาะ ในปี 1990 โจวเหวินฟะรู้สึกเหนื่อยมากและต้องการพักผ่อนยาวๆ แต่เมื่อได้ยินว่าผู้กำกับคือ "จอห์น วู" เขาก็ตกลงทันที

    เช่นเดียวกับ เลสลี่ จาง ที่กำลังจะหยุดพัก หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Days of Being Wild ก็ตอบตกลงอย่างเต็มใจ และยังได้ จงฉู่หง มาแสดงร่วมกับ โจวเหวินฟะ ด้วย

    “Once a Thief (ตีแสกตะวัน)” ออกฉายในปี 1991 ด้วยต้นทุนเพียง 1 ล้านเหรียญฮ่องกง ถ่ายทำนานสองเดือนครึ่ง เข้าฉายนาน 33 วัน กวาดรายได้ที่บ็อกซ์ออฟฟิศไปได้ถึง 33.39 ล้านเหรียญฮ่องกง ในปีนี้ เลสลี่จาง ยังได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 10 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Days of Being Wild อีกด้วย
    - #คิดถึงหนังเก่า - ในปี 1989 เลสลี จาง ประกาศอำลาวงการเพลง ไม่เพียงเท่านั้น เขายังวางแผนจะหยุดพักหลังจากถ่ายทำ Days of Being Wild (วันที่หัวใจรักกล้าตัดขอบฟ้า) ของ หว่องกาไว เสร็จ โชคดีที่ ผู้กำกับหวัง ใช้เวลาในการถ่ายทำอย่างมาก และเขาก็ถ่ายทำ Days of Being Wild เสร็จในปี 1990 เมื่อ จอห์น วู ตั้งใจจะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" และเขียนเนื้อเรื่องที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับโศกนาฏกรรมเป็นหลัก แต่เนื่องจากปัจจัยหลายประการ ทำให้การถ่ายทำไม่ได้เริ่มต้นขึ้น หลังจากเข้าร่วม Milestone Films จอห์น วู ก็ดึงโครงการที่จะถ่ายทำ "Once a Thief (ตีแสกตะวัน)" เจ้าของบริษัท Golden Princess Film Company อนุมัติ และต้องการให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายในช่วงเทศกาลตรุษจีน แต่กำหนดให้เนื้อเรื่องต้องมีความสนุก กู่เหวยลี่ (ลินดา คุค) โปรดิวเซอร์ของหนัง ได้ขอให้ "โจวเหวินฟะ" มารับบทนำโดยเฉพาะ ในปี 1990 โจวเหวินฟะรู้สึกเหนื่อยมากและต้องการพักผ่อนยาวๆ แต่เมื่อได้ยินว่าผู้กำกับคือ "จอห์น วู" เขาก็ตกลงทันที เช่นเดียวกับ เลสลี่ จาง ที่กำลังจะหยุดพัก หลังจากเสร็จสิ้นการถ่ายทำ Days of Being Wild ก็ตอบตกลงอย่างเต็มใจ และยังได้ จงฉู่หง มาแสดงร่วมกับ โจวเหวินฟะ ด้วย “Once a Thief (ตีแสกตะวัน)” ออกฉายในปี 1991 ด้วยต้นทุนเพียง 1 ล้านเหรียญฮ่องกง ถ่ายทำนานสองเดือนครึ่ง เข้าฉายนาน 33 วัน กวาดรายได้ที่บ็อกซ์ออฟฟิศไปได้ถึง 33.39 ล้านเหรียญฮ่องกง ในปีนี้ เลสลี่จาง ยังได้รับรางวัล Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 10 สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง Days of Being Wild อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนได้พบปะกับบรรดาผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศ รวมถึงแจ็ค หม่า แห่งอาลีบาบา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ปักกิ่งกำลังพยายามฟื้นฟูธุรกิจเอกชนและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    สีจิ้นผิงได้กล่าว "สุนทรพจน์สำคัญ" ในงานประชุมที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของจีน หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนธุรกิจ ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐ

    หม่าได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูงร่วมกับโรบิน เจิ้ง ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำ และหวาง ซิง หัวหน้าบริษัท Meituan ซึ่งสื่อของรัฐรายงานนั้นว่าเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท Huawei และเล่ย จุน หัวหน้าบริษัท Xiaomi ได้กล่าวปราศรัยต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูง

    โพนี่ หม่า หัวหน้าบริษัท Tencent และหวาง ชวนฟู่ ประธานบริษัท BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และหวาง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทหุ่นยนต์ Unitree เข้าร่วมงานด้วย

    ปักกิ่งได้พยายามปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในจีนและเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังจากดำเนินแคมเปญมาหลายปีเพื่อควบคุมอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจ

    หม่าเป็นเหยื่อรายสำคัญที่สุดในการปราบปรามเทคโนโลยีของปักกิ่ง และส่วนใหญ่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาแทรกแซงอย่างดุเดือดในช่วงปลายปี 2020 เพื่อยกเลิกการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกของ Ant Financial Group ตามแผน

    การที่หม่าเข้าร่วมการประชุมเมื่อวันจันทร์ถือเป็นการแสดงสัญลักษณ์จากปักกิ่งเพื่อยืนยันทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นต่อภาคเอกชน นักวิเคราะห์กล่าว

    จาง เซียวหยาน ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยชิงหัวกล่าวในการประชุมที่สมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินแห่งเอเชียในฮ่องกง

    เธอเสริมว่ารัฐบาลต้องการ "สร้างความเชื่อมั่น" ให้กับบริษัทจีน

    การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีนส่งผลกระทบต่อธุรกิจเอกชน ขณะที่ผู้บริหารต้องเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการทุจริตที่ถูกกล่าวหาและการกักขังหลายครั้งโดยหน่วยงานท้องถิ่น
    ในอดีต สี จิ้นผิงเคยใช้การประชุมกับผู้นำธุรกิจเพื่อสัญญาว่าจะลดหย่อนภาษีและให้โอกาสกับรัฐวิสาหกิจอย่างเท่าเทียมกัน

    การเกิดขึ้นของโมเดลปัญญาประดิษฐ์อันล้ำสมัยจากสตาร์ทอัพ DeepSeek ช่วยกระตุ้นความสนใจในเทคโนโลยีของจีนอีกครั้ง และจุดประกายให้ตลาดกระทิงเป็นดัชนีอ้างอิงหลักของหุ้นเทคโนโลยีของประเทศ

    ดัชนี Hang Seng Tech ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 30 แห่งที่จดทะเบียนในฮ่องกง เพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากนักลงทุนตอบรับต่อความก้าวหน้าของ DeepSeek และข้อความเชิงบวกของปักกิ่งต่อภาคเทคโนโลยี

    https://www.ft.com/content/ac8da614-6bd4-4328-a522-a1712986d73f
    ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนได้พบปะกับบรรดาผู้ประกอบการชั้นนำของประเทศ รวมถึงแจ็ค หม่า แห่งอาลีบาบา เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ขณะที่ปักกิ่งกำลังพยายามฟื้นฟูธุรกิจเอกชนและขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น สีจิ้นผิงได้กล่าว "สุนทรพจน์สำคัญ" ในงานประชุมที่จัดขึ้นในเมืองหลวงของจีน หลังจากรับฟังความคิดเห็นจากชุมชนธุรกิจ ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์ CCTV ของรัฐ หม่าได้เข้าร่วมการประชุมระดับสูงร่วมกับโรบิน เจิ้ง ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัท CATL ผู้ผลิตแบตเตอรี่ชั้นนำ และหวาง ซิง หัวหน้าบริษัท Meituan ซึ่งสื่อของรัฐรายงานนั้นว่าเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งบริษัท Huawei และเล่ย จุน หัวหน้าบริษัท Xiaomi ได้กล่าวปราศรัยต่อเจ้าหน้าที่ระดับสูง โพนี่ หม่า หัวหน้าบริษัท Tencent และหวาง ชวนฟู่ ประธานบริษัท BYD ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และหวาง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งกลุ่มบริษัทหุ่นยนต์ Unitree เข้าร่วมงานด้วย ปักกิ่งได้พยายามปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในจีนและเสริมสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลังจากดำเนินแคมเปญมาหลายปีเพื่อควบคุมอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นทางธุรกิจ หม่าเป็นเหยื่อรายสำคัญที่สุดในการปราบปรามเทคโนโลยีของปักกิ่ง และส่วนใหญ่ไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนหลังจากที่หน่วยงานกำกับดูแลเข้ามาแทรกแซงอย่างดุเดือดในช่วงปลายปี 2020 เพื่อยกเลิกการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกของ Ant Financial Group ตามแผน การที่หม่าเข้าร่วมการประชุมเมื่อวันจันทร์ถือเป็นการแสดงสัญลักษณ์จากปักกิ่งเพื่อยืนยันทัศนคติเชิงบวกมากขึ้นต่อภาคเอกชน นักวิเคราะห์กล่าว จาง เซียวหยาน ศาสตราจารย์ด้านการเงินจากมหาวิทยาลัยชิงหัวกล่าวในการประชุมที่สมาคมอุตสาหกรรมหลักทรัพย์และตลาดการเงินแห่งเอเชียในฮ่องกง เธอเสริมว่ารัฐบาลต้องการ "สร้างความเชื่อมั่น" ให้กับบริษัทจีน การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวของจีนส่งผลกระทบต่อธุรกิจเอกชน ขณะที่ผู้บริหารต้องเผชิญกับการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับการทุจริตที่ถูกกล่าวหาและการกักขังหลายครั้งโดยหน่วยงานท้องถิ่น ในอดีต สี จิ้นผิงเคยใช้การประชุมกับผู้นำธุรกิจเพื่อสัญญาว่าจะลดหย่อนภาษีและให้โอกาสกับรัฐวิสาหกิจอย่างเท่าเทียมกัน การเกิดขึ้นของโมเดลปัญญาประดิษฐ์อันล้ำสมัยจากสตาร์ทอัพ DeepSeek ช่วยกระตุ้นความสนใจในเทคโนโลยีของจีนอีกครั้ง และจุดประกายให้ตลาดกระทิงเป็นดัชนีอ้างอิงหลักของหุ้นเทคโนโลยีของประเทศ ดัชนี Hang Seng Tech ซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ 30 แห่งที่จดทะเบียนในฮ่องกง เพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่ต้นปี เนื่องจากนักลงทุนตอบรับต่อความก้าวหน้าของ DeepSeek และข้อความเชิงบวกของปักกิ่งต่อภาคเทคโนโลยี https://www.ft.com/content/ac8da614-6bd4-4328-a522-a1712986d73f
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญกลมเล็กหลวงพ่อจำเนียรหลังถุงเงิน วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่
    เหรียญกลมเล็ก หลวงพ่อจำเนียรหลังถุงเงิน ๙๙๙๙๙ มั่งมี ศรีสุข ลาภผล พูนทวี วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ //เหรียญมีขนาดเล็ก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พระขนาดเล็ก ไม่ค่อยเจอแล้วครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามาก จะไว้บูชาเอง หรือให้ลูกหลานคล้องคอบูชาก็ดีเยี่ยมครับ !! เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ ..

    ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >>

    ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >>


    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131

    เหรียญกลมเล็กหลวงพ่อจำเนียรหลังถุงเงิน วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ เหรียญกลมเล็ก หลวงพ่อจำเนียรหลังถุงเงิน ๙๙๙๙๙ มั่งมี ศรีสุข ลาภผล พูนทวี วัดถ้ำเสือ จ.กระบี่ //เหรียญมีขนาดเล็ก // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พระขนาดเล็ก ไม่ค่อยเจอแล้วครับ เป็นอีกรุ่นที่น่าบูชามาก จะไว้บูชาเอง หรือให้ลูกหลานคล้องคอบูชาก็ดีเยี่ยมครับ !! เหมาะสำหรับ ท่านที่นิยม พระขนาดเล็ก นำไปใส่กรอบทอง สำหรับสุภาพสตรีและเด็กๆ ไว้เป็นพระเครื่องมงคลประจำตัว ลูกๆ หลานๆ .. ** พุทธคุณ โภคทรัพย์ เมตตามหานิยม โชคลาภ และเสี่ยงโชค ช่วยให้ค้าขายดี มีโชค ช่วยให้ทรัพย์ที่ได้มางอกเงยและรักษาทรัพย์ได้นาน เจริญรุ่งเรือง ไม่ฝืดเคืองขัดสน ค้าขาย ร่ำรวย เรียกทรัพย์หนุนดวง อุดมสมบูรณ์ ทำมาหากินคล่อง เจริญในหน้าที่การงานคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายทั้งปวง >> ** พระอาจารย์จำเนียร ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบองค์หนึ่งประจําภาคใต้ ปฏิปทาในองค์ท่านงดงามนุ่มนวล ถือ เคร่งครัดในการปฏิบัติพระธรรม วินัยมากที่สุด เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศ และแถบประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ อินเดีย ฮ่องกง เป็นต้น ด้วยเหตุที่วัตรปฎิบัติบัตรอันงดงาม และความศักดิ์สิทธิ์ของตัวหลวงพ่อจำเนียรเอง >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว

  • ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงจะจัดประชุมสัมมนาสุดยอดผู้นำเทคโนโลยีของจีน งานนี้เชิญแจ๊ก หม่ากลับคืนเวที ถือเป็นกลยุทธ์การระดมความรู้และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทนำการพัฒนาจีนเป็นผู้นำโลกยุคใหม่

    แหล่งข่าวเผยว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เตรียมจัดการประชุมสัมมนาเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นภาคเอกชนในสัปดาห์หน้า โดยมีผู้นำธุรกิจของประเทศเข้าร่วมด้วย รวมถึงแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัทอาลีบาบา

    ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แทบไม่เคยจัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับภาคเอกชนเลย และงานดังกล่าวตอกย้ำความท้าทายมากมายที่บริษัทจีนต้องเผชิญ ตั้งแต่ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปจนถึงการเติบโตที่ชะงักงันของเศรษฐกิจภายในประเทศ

    ผู้ประกอบการจำนวนมากจะเป็นผู้ประกอบการจากภาคเทคโนโลยี และคาดว่าสี จิ้นผิง จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น แหล่งข่าว 2 รายระบุ

    การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะมีขึ้นในวันจันทร์หน้า แหล่งข่าวระบุ ข่าวการประชุมดังกล่าวรายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์เป็นครั้งแรก
    โพนี่ หม่า ซีอีโอของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Tencent มีกำหนดที่จะเข้าร่วม แหล่งข่าวสองรายระบุว่า เล่ย จุน ซีอีโอของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Xiaomi รวมถึงหวัง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งบริษัทหุ่นยนต์ Yushu Technology ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมเช่นกัน แหล่งข่าวหนึ่งกล่าว

    นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Technologies ยังคาดว่าจะเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek จะเข้าร่วมด้วย เพราะบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลกเทคโนโลยีด้วยโมเดลที่บริษัทอ้างว่าพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเดียวของคู่แข่งจากตะวันตก

    สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ติดต่อกับบุคคลสำคัญทั้ง 5 รายที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อ 

    สำนักงานข้อมูลของคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่ตอบคำถามสื่อในนามของผู้นำประเทศ ไม่ได้ตอบคำถามของสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในทันที

    อาลีบาบา เทนเซนต์ เสี่ยวหมี่ หัวเว่ย ยู่ชู่ และดีพซีค ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้

    ปรากฏว่าหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของอาลีบาบา เทนเซนต์ และเสี่ยวหมี่ พุ่งขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงบ่ายตามข่าว โดยเสี่ยวหมี่ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 7% นอกจากนี้ เทนเซนต์ยังปิดตลาดสูงขึ้น 7% ในขณะที่อาลีบาบาปิดตลาดที่ระดับ 6%

    ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น
    สีจิ้นผิงเป็นประธานการประชุมสัมมนาระดับสูงสำหรับภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเป็นเวลา 6 ปีหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่ง ในเวลานั้น เขาให้คำมั่นว่าจะลดหย่อนภาษีและสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทเอกชนจะสามารถเข้าถึงการสนับสนุนทางการเงินได้

    การเข้าร่วมการประชุมสัมมนาที่วางแผนไว้ของแจ็ค หม่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังได้ถอนตัวออกจากชีวิตสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่ Ant บริษัทฟินเทคของเขาถูกทางการสั่งระงับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากคำปราศรัยของเขาในปีนั้นที่วิจารณ์ระบบการกำกับดูแลของจีน

    อาณาจักรธุรกิจของเขาและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นก็ตกเป็นเป้าหมายของการปราบปรามทางการ โดยช่วงเวลาที่เขาอยู่ห่างจากจุดสนใจเป็นสัญลักษณ์ของการพลิกผันของโชคชะตาสำหรับภาคเอกชนของจีน

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สีได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของจีนในการบรรลุ "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" โดยกล่าวว่าบริษัทเอกชนควร "ร่ำรวยและเปี่ยมด้วยความรัก" เช่นเดียวกับ "รักชาติ" และแบ่งปันผลจากการเติบโตของตนกับพนักงานอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น

    คำพูดของเขาถูกมองว่าเป็นการขัดขวางความเกินพอดีในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นเบรกในการลงทุนที่มีความเสี่ยง

    การเข้าร่วมของผู้ก่อตั้ง DeepSeek อย่าง Liang จะช่วยเสริมสถานะใหม่ที่เพิ่งค้นพบของบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้ให้กลายเป็นผู้พลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม AI ระดับโลก เมื่อเดือนที่แล้ว เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัมมนาแบบปิดที่จัดโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เชียง

    ประธานาธิบดีสีเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จีนต้องบรรลุความพอเพียงในตัวเองในด้านเซมิคอนดักเตอร์มาเป็นเวลานาน และต้องการให้ประเทศใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ

    แต่ความพยายามของจีนถูกขัดขวางโดยมาตรการควบคุมการส่งออกชิปที่บังคับใช้โดยวอชิงตัน ซึ่งกังวลว่าปักกิ่งอาจใช้เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร

    ที่มา Xi to chair symposium attended by Jack Ma and other Chinese business leaders, sources say - https://www.reuters.com/world/china/xi-chair-symposium-attended-by-jack-ma-other-chinese-business-leaders-sources-2025-02-14/
    ประธานาธิบดี สีจิ้นผิงจะจัดประชุมสัมมนาสุดยอดผู้นำเทคโนโลยีของจีน งานนี้เชิญแจ๊ก หม่ากลับคืนเวที ถือเป็นกลยุทธ์การระดมความรู้และความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนที่มีบทบาทนำการพัฒนาจีนเป็นผู้นำโลกยุคใหม่ แหล่งข่าวเผยว่า สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน เตรียมจัดการประชุมสัมมนาเพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นภาคเอกชนในสัปดาห์หน้า โดยมีผู้นำธุรกิจของประเทศเข้าร่วมด้วย รวมถึงแจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งร่วมของบริษัทอาลีบาบา ที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน แทบไม่เคยจัดการประชุมสัมมนาเกี่ยวกับภาคเอกชนเลย และงานดังกล่าวตอกย้ำความท้าทายมากมายที่บริษัทจีนต้องเผชิญ ตั้งแต่ความตึงเครียดที่ทวีความรุนแรงขึ้นกับสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไปจนถึงการเติบโตที่ชะงักงันของเศรษฐกิจภายในประเทศ ผู้ประกอบการจำนวนมากจะเป็นผู้ประกอบการจากภาคเทคโนโลยี และคาดว่าสี จิ้นผิง จะสนับสนุนให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ขยายธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ ท่ามกลางสงครามเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้น แหล่งข่าว 2 รายระบุ การประชุมสัมมนาครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะมีขึ้นในวันจันทร์หน้า แหล่งข่าวระบุ ข่าวการประชุมดังกล่าวรายงานโดยสำนักข่าวรอยเตอร์เป็นครั้งแรก โพนี่ หม่า ซีอีโอของยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง Tencent มีกำหนดที่จะเข้าร่วม แหล่งข่าวสองรายระบุว่า เล่ย จุน ซีอีโอของผู้ผลิตสมาร์ทโฟนและรถยนต์ไฟฟ้าอย่าง Xiaomi รวมถึงหวัง ซิงซิง ผู้ก่อตั้งบริษัทหุ่นยนต์ Yushu Technology ก็มีแนวโน้มที่จะเข้าร่วมเช่นกัน แหล่งข่าวหนึ่งกล่าว นอกจากนี้ ผู้บริหารระดับสูงของ Huawei Technologies ยังคาดว่าจะเข้าร่วมด้วย นอกจากนี้สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหลียง เหวินเฟิง ผู้ก่อตั้ง DeepSeek จะเข้าร่วมด้วย เพราะบริษัทสตาร์ทอัพด้านปัญญาประดิษฐ์แห่งนี้ได้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับโลกเทคโนโลยีด้วยโมเดลที่บริษัทอ้างว่าพัฒนาขึ้นด้วยต้นทุนเพียงเศษเสี้ยวเดียวของคู่แข่งจากตะวันตก สำนักข่าวรอยเตอร์ได้ติดต่อกับบุคคลสำคัญทั้ง 5 รายที่ทราบเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว ซึ่งทั้งหมดขอสงวนนามเนื่องจากไม่ได้รับอนุญาตให้พูดคุยกับสื่อ  สำนักงานข้อมูลของคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำหน้าที่ตอบคำถามสื่อในนามของผู้นำประเทศ ไม่ได้ตอบคำถามของสำนักข่าวรอยเตอร์เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวในทันที อาลีบาบา เทนเซนต์ เสี่ยวหมี่ หัวเว่ย ยู่ชู่ และดีพซีค ยังไม่ได้แสดงความคิดเห็นเรื่องนี้ ปรากฏว่าหุ้นที่จดทะเบียนในฮ่องกงของอาลีบาบา เทนเซนต์ และเสี่ยวหมี่ พุ่งขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงบ่ายตามข่าว โดยเสี่ยวหมี่ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเพิ่มขึ้น 7% นอกจากนี้ เทนเซนต์ยังปิดตลาดสูงขึ้น 7% ในขณะที่อาลีบาบาปิดตลาดที่ระดับ 6% ความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น สีจิ้นผิงเป็นประธานการประชุมสัมมนาระดับสูงสำหรับภาคเอกชนเป็นครั้งแรกในช่วงปลายปี 2561 ซึ่งเป็นเวลา 6 ปีหลังจากที่เขาดำรงตำแหน่ง ในเวลานั้น เขาให้คำมั่นว่าจะลดหย่อนภาษีและสร้างสนามแข่งขันที่เท่าเทียมกัน พร้อมทั้งยืนยันว่าบริษัทเอกชนจะสามารถเข้าถึงการสนับสนุนทางการเงินได้ การเข้าร่วมการประชุมสัมมนาที่วางแผนไว้ของแจ็ค หม่า มีแนวโน้มที่จะเพิ่มความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ผู้ประกอบการที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อเสียงโด่งดังได้ถอนตัวออกจากชีวิตสาธารณะเป็นส่วนใหญ่ หลังจากที่ Ant บริษัทฟินเทคของเขาถูกทางการสั่งระงับการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกในปี 2020 ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดจากคำปราศรัยของเขาในปีนั้นที่วิจารณ์ระบบการกำกับดูแลของจีน อาณาจักรธุรกิจของเขาและอุตสาหกรรมเทคโนโลยีที่กว้างขึ้นก็ตกเป็นเป้าหมายของการปราบปรามทางการ โดยช่วงเวลาที่เขาอยู่ห่างจากจุดสนใจเป็นสัญลักษณ์ของการพลิกผันของโชคชะตาสำหรับภาคเอกชนของจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา สีได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นของจีนในการบรรลุ "ความเจริญรุ่งเรืองร่วมกัน" โดยกล่าวว่าบริษัทเอกชนควร "ร่ำรวยและเปี่ยมด้วยความรัก" เช่นเดียวกับ "รักชาติ" และแบ่งปันผลจากการเติบโตของตนกับพนักงานอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น คำพูดของเขาถูกมองว่าเป็นการขัดขวางความเกินพอดีในอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่ง และทำหน้าที่เป็นเบรกในการลงทุนที่มีความเสี่ยง การเข้าร่วมของผู้ก่อตั้ง DeepSeek อย่าง Liang จะช่วยเสริมสถานะใหม่ที่เพิ่งค้นพบของบริษัทสตาร์ทอัพแห่งนี้ให้กลายเป็นผู้พลิกผันครั้งใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรม AI ระดับโลก เมื่อเดือนที่แล้ว เขาได้กล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมสัมมนาแบบปิดที่จัดโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เชียง ประธานาธิบดีสีเน้นย้ำถึงความจำเป็นที่จีนต้องบรรลุความพอเพียงในตัวเองในด้านเซมิคอนดักเตอร์มาเป็นเวลานาน และต้องการให้ประเทศใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ แต่ความพยายามของจีนถูกขัดขวางโดยมาตรการควบคุมการส่งออกชิปที่บังคับใช้โดยวอชิงตัน ซึ่งกังวลว่าปักกิ่งอาจใช้เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถทางทหาร ที่มา Xi to chair symposium attended by Jack Ma and other Chinese business leaders, sources say - https://www.reuters.com/world/china/xi-chair-symposium-attended-by-jack-ma-other-chinese-business-leaders-sources-2025-02-14/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 295 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขย่าวงการรถยนต์ไฟฟ้าจนร้อนไปทั่วเมื่อหุ้น BYD พุ่งทะยานวันพุธ (12) หลังค่ายรถอีวีชื่อดังจีน BYD ประกาศจับมือบริษัท AI จีนชื่อดัง DeepSeek ให้เอาสมองกล AI ใส่ในรถ BYD ส่วนผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ไม่เดินทางร่วมการประชุม AI Summit ที่กรุงปารีสซึ่งมีการประชุม 2 วันถึงแม้จะได้รับเชิญ หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิ่งไชนาโพสต์ชี้ ไม่จำเป็นเพราะจีนได้ปักธงเป็นผู้ชนะสมรภูมิรบปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกไปแล้วเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังวุ่นวายประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์ที่แล้วสั่งระงับชั่วคราวโครงการสถานีชาร์เจอร์ของรถอีวีทั่วสหรัฐฯ 5 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลากำลังยุ่งกับการยกเลิกหน่วยงานรัฐไล่เจ้าหน้าที่รัฐออก
    .
    ยูโรนิวส์รายงานวันพุธ (12 ก.พ.) ว่า หุ้น BYD พุ่งทะยานสูงสุดวันพุธ (12) หลังค่าย BYD ยักษ์ใหญ่อีวีของจีนประกาศจับมือร่วมกันกับบริษัท DeepSeek เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้
    .
    BYD คู่แข่งสำคัญของค่ายเทสลาจากสหรัฐฯ แถลงว่า จะติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติในรถทุกรุ่นของตัวเอง ตั้งแต่รุ่นที่ราคาต่ำสู่รุ่นระดับเอ็กซ์คลูซีฟ
    .
    ผู้ก่อตั้ง BYD Wang Chuanfu กล่าวในวันจันทร์ (10) ว่า บริษัท BYD ตั้งใจจะทำให้การขับขี่อัตโนมัติมีความหรูหราน้อยลงและฟีเจอร์ความปลอดภัยมากขึ้น
    .
    เทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ถูกเรียกว่า “ดวงตาแห่งพระเจ้า” (God's Eye) จะได้รับการติดตั้งในรถที่มีราคาต่ำสุดตั้งแต่ 69,800 หยวน หรือ ราว 325,712.21 บาท อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันพุธ (12)
    .
    BYD เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะติดตั้งซอฟต์แวร์ AI ของ DeepSeek เข้าไปในบางรุ่นของระบบการขับขี่ของตัวเอง
    .
    ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาชี้ว่า DeepSeek จะทำให้ระบบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของ BYD มีความชาญฉลาดมากขึ้นทางด้านระบบเสียงสั่งการ และเพิ่มความสามารถการขับขี่อัตโนมัติ
    .
    การประกาศจับมือร่วมกันของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ชื่อดังจากแดนมังกรทำเอาเทสลาของอีลอน มัสก์ตกที่นั่งลำบาก สื่อ city.am ของอังกฤษออกมาชี้ว่า ผลการประกาศจับมือร่วมกันระหว่าง BYD และ DeepSeek ส่งผลสะเทือนต่อหุ้นเทสลาในวันพุธ (12) ที่ตกลง 5 วันติดต่อกัน
    .
    เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักลงทุนต่างเริ่มวิตกถึงซีอีโอใหญ่ อีลอน มัสก์ ในการใช้เวลาของเขา แมตต์ บริตซแมน (Matt Britzman) จาก Hargreaves Lansdown
    .
    นอกเหนือจากที่เขาต้องวุ่นกับแพลตฟอร์ม X ที่ปรากฏการทวีตของมัสก์บนแพลตฟอร์มบ่อยครั้ง มัสก์ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE และยังเปิดข้อเสนอ 97 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ OpenAI ของ แซม อัลต์แมน ทำให้วิตกว่า อีลอน จะไม่สนใจบริหาร Tesla อย่างมีประสิทธิภาพ
    .
    “แบรนด์ Tesla ตอนนี้พังแล้ว” รอส เกอร์เบอร์ (Ross Gerber) ซีอีโอบริหารประจำ Gerber Kawasaki แถลง
    .
    ขณะที่ผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) มีรายงานไม่บินเข้าร่วมการประชุม AI โลก 2 วันจัดขึ้นที่กรุงปารีส ถึงแม้จะถูกเชิญก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานวานนี้ (11) แสดงความเห็นว่า จากการที่จีนกลายเป็นแชมป์ด้าน AI ในระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
    .
    หนังสือฮ่องกงรายงานว่า แต่ทว่ามีปรากฏภาพซีอีโอบริษัท OpenAI ของสหรัฐฯ แซม อัลต์แมน เข้าร่วมงานในการประชุมนอกรอบในวันอังคาร (11)
    .
    งานซัมมิต AI โลกนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนวันจันทร์ (10) ได้ออกมาประกาศว่า “หากเป็นเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI แล้วขอให้เลือกยุโรปและฝรั่งเศส”
    .
    ฝรั่งเศสและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จับมือร่วมกันตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ AI 1 กิกะวัตต์ของบริษัท Mistral AI ที่ฝรั่งเศสมูลค่าถึง 50 พันล้านยูโร
    .
    ทั้งนี้ Mistral AI SAS เป็นสตาร์ทอัปด้านปัญญาประดิษฐ์จากฝรั่งเศส มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส มีความเชี่ยวชาญในโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบเปิดน้ำหนัก ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2023 โดยวิศวกรที่เคยทำงานโดย Google DeepMind และ Meta Platforms
    .
    ขณะเดียวกันในสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งรถไฟฟ้าและเทคโนโลยี AI เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันศุกร์ (7) เป็นที่น่าตกตะลึงเมื่อ รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ที่มี “อีลอน มัสก์” ทำงานร่วม ออกคำสั่งภายในวันพฤหัสบดี (6) ให้บรรดาผู้อำนวยการคมนาคมมลรัฐ และสำนักงานบริหารทางหลวงสหรัฐฯ FHWA
    .
    ห้ามมลรัฐต่างๆ ใช้เงินใดๆที่ส่งไปให้ภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จเจอร์อีวี NEVI ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ต้องการขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รถอีวีให้ครอบคลุมทั่วประเทศอันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมของไบเดน
    .
    เดอะการ์เดียนชี้ว่า ปัจจุบันในสหรัฐฯ พบว่า 14 มลรัฐทั่วอเมริกามีสถานีชาร์จเจอร์ไม่ต่ำกว่า 1 แห่งเปิดบริการ และมาจนถึงพฤศจิกายนล่าสุด มีจุดชาร์จไฟสาธารณะร่วม 126 เปิดทั่วสถานีชาร์จเจอร์รัฐ NEVI 31 แห่งใน 9 รัฐ เพิ่มขึ้น 83% ในการเปิดนับตั้งแต่ไตรมาสที่แล้ว
    .
    ทรัมป์เคยออกมาประณามการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของไบเดนว่าจะเป็นการนำความหายนะมาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014306
    ..............
    Sondhi X
    เขย่าวงการรถยนต์ไฟฟ้าจนร้อนไปทั่วเมื่อหุ้น BYD พุ่งทะยานวันพุธ (12) หลังค่ายรถอีวีชื่อดังจีน BYD ประกาศจับมือบริษัท AI จีนชื่อดัง DeepSeek ให้เอาสมองกล AI ใส่ในรถ BYD ส่วนผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) ไม่เดินทางร่วมการประชุม AI Summit ที่กรุงปารีสซึ่งมีการประชุม 2 วันถึงแม้จะได้รับเชิญ หนังสือพิมพ์เซาท์มอร์นิ่งไชนาโพสต์ชี้ ไม่จำเป็นเพราะจีนได้ปักธงเป็นผู้ชนะสมรภูมิรบปัญญาประดิษฐ์ระดับโลกไปแล้วเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สหรัฐฯ กำลังวุ่นวายประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ สัปดาห์ที่แล้วสั่งระงับชั่วคราวโครงการสถานีชาร์เจอร์ของรถอีวีทั่วสหรัฐฯ 5 พันล้านดอลลาร์ระหว่าง อีลอน มัสก์ เจ้าของเทสลากำลังยุ่งกับการยกเลิกหน่วยงานรัฐไล่เจ้าหน้าที่รัฐออก . ยูโรนิวส์รายงานวันพุธ (12 ก.พ.) ว่า หุ้น BYD พุ่งทะยานสูงสุดวันพุธ (12) หลังค่าย BYD ยักษ์ใหญ่อีวีของจีนประกาศจับมือร่วมกันกับบริษัท DeepSeek เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์จีนเมื่อต้นสัปดาห์นี้ . BYD คู่แข่งสำคัญของค่ายเทสลาจากสหรัฐฯ แถลงว่า จะติดตั้งระบบขับขี่อัตโนมัติในรถทุกรุ่นของตัวเอง ตั้งแต่รุ่นที่ราคาต่ำสู่รุ่นระดับเอ็กซ์คลูซีฟ . ผู้ก่อตั้ง BYD Wang Chuanfu กล่าวในวันจันทร์ (10) ว่า บริษัท BYD ตั้งใจจะทำให้การขับขี่อัตโนมัติมีความหรูหราน้อยลงและฟีเจอร์ความปลอดภัยมากขึ้น . เทคโนโลยีใหม่ที่ว่านี้ถูกเรียกว่า “ดวงตาแห่งพระเจ้า” (God's Eye) จะได้รับการติดตั้งในรถที่มีราคาต่ำสุดตั้งแต่ 69,800 หยวน หรือ ราว 325,712.21 บาท อ้างอิงจากอัตราแลกเปลี่ยนประจำวันพุธ (12) . BYD เปิดเผยว่า ทางบริษัทจะติดตั้งซอฟต์แวร์ AI ของ DeepSeek เข้าไปในบางรุ่นของระบบการขับขี่ของตัวเอง . ผู้เชี่ยวชาญต่างออกมาชี้ว่า DeepSeek จะทำให้ระบบเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของ BYD มีความชาญฉลาดมากขึ้นทางด้านระบบเสียงสั่งการ และเพิ่มความสามารถการขับขี่อัตโนมัติ . การประกาศจับมือร่วมกันของ 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ชื่อดังจากแดนมังกรทำเอาเทสลาของอีลอน มัสก์ตกที่นั่งลำบาก สื่อ city.am ของอังกฤษออกมาชี้ว่า ผลการประกาศจับมือร่วมกันระหว่าง BYD และ DeepSeek ส่งผลสะเทือนต่อหุ้นเทสลาในวันพุธ (12) ที่ตกลง 5 วันติดต่อกัน . เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่นักลงทุนต่างเริ่มวิตกถึงซีอีโอใหญ่ อีลอน มัสก์ ในการใช้เวลาของเขา แมตต์ บริตซแมน (Matt Britzman) จาก Hargreaves Lansdown . นอกเหนือจากที่เขาต้องวุ่นกับแพลตฟอร์ม X ที่ปรากฏการทวีตของมัสก์บนแพลตฟอร์มบ่อยครั้ง มัสก์ล่าสุดได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เป็นผู้นำสำนักงานประสิทธิภาพรัฐ DOGE และยังเปิดข้อเสนอ 97 พันล้านดอลลาร์เพื่อซื้อ OpenAI ของ แซม อัลต์แมน ทำให้วิตกว่า อีลอน จะไม่สนใจบริหาร Tesla อย่างมีประสิทธิภาพ . “แบรนด์ Tesla ตอนนี้พังแล้ว” รอส เกอร์เบอร์ (Ross Gerber) ซีอีโอบริหารประจำ Gerber Kawasaki แถลง . ขณะที่ผู้ก่อตั้ง DeepSeek เหลียง เหวินเฟิง (Liang Wenfeng) มีรายงานไม่บินเข้าร่วมการประชุม AI โลก 2 วันจัดขึ้นที่กรุงปารีส ถึงแม้จะถูกเชิญก็ตาม หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์รายงานวานนี้ (11) แสดงความเห็นว่า จากการที่จีนกลายเป็นแชมป์ด้าน AI ในระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว . หนังสือฮ่องกงรายงานว่า แต่ทว่ามีปรากฏภาพซีอีโอบริษัท OpenAI ของสหรัฐฯ แซม อัลต์แมน เข้าร่วมงานในการประชุมนอกรอบในวันอังคาร (11) . งานซัมมิต AI โลกนี้ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เอ็มมานุเอล มาครง อ้างอิงจากเดอะการ์เดียนวันจันทร์ (10) ได้ออกมาประกาศว่า “หากเป็นเรื่องเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ AI แล้วขอให้เลือกยุโรปและฝรั่งเศส” . ฝรั่งเศสและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จับมือร่วมกันตั้งศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ AI 1 กิกะวัตต์ของบริษัท Mistral AI ที่ฝรั่งเศสมูลค่าถึง 50 พันล้านยูโร . ทั้งนี้ Mistral AI SAS เป็นสตาร์ทอัปด้านปัญญาประดิษฐ์จากฝรั่งเศส มีสำนักงานใหญ่ในกรุงปารีส มีความเชี่ยวชาญในโมเดลภาษาขนาดใหญ่แบบเปิดน้ำหนัก ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2023 โดยวิศวกรที่เคยทำงานโดย Google DeepMind และ Meta Platforms . ขณะเดียวกันในสหรัฐฯ ประเทศที่เป็นจุดเริ่มต้นทั้งรถไฟฟ้าและเทคโนโลยี AI เดอะการ์เดียนของอังกฤษรายงานวันศุกร์ (7) เป็นที่น่าตกตะลึงเมื่อ รัฐบาลประธานาธิบดีทรัมป์ที่มี “อีลอน มัสก์” ทำงานร่วม ออกคำสั่งภายในวันพฤหัสบดี (6) ให้บรรดาผู้อำนวยการคมนาคมมลรัฐ และสำนักงานบริหารทางหลวงสหรัฐฯ FHWA . ห้ามมลรัฐต่างๆ ใช้เงินใดๆที่ส่งไปให้ภายใต้โครงการโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จเจอร์อีวี NEVI ของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ที่ต้องการขยายสถานีซูเปอร์ชาร์จเจอร์รถอีวีให้ครอบคลุมทั่วประเทศอันเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมของไบเดน . เดอะการ์เดียนชี้ว่า ปัจจุบันในสหรัฐฯ พบว่า 14 มลรัฐทั่วอเมริกามีสถานีชาร์จเจอร์ไม่ต่ำกว่า 1 แห่งเปิดบริการ และมาจนถึงพฤศจิกายนล่าสุด มีจุดชาร์จไฟสาธารณะร่วม 126 เปิดทั่วสถานีชาร์จเจอร์รัฐ NEVI 31 แห่งใน 9 รัฐ เพิ่มขึ้น 83% ในการเปิดนับตั้งแต่ไตรมาสที่แล้ว . ทรัมป์เคยออกมาประณามการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้าของไบเดนว่าจะเป็นการนำความหายนะมาสู่อุตสาหกรรมรถยนต์สหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000014306 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2060 มุมมอง 0 รีวิว
  • พังพระกาฬ ..ปลายปี 66 กระแสกำลังขยับขึ้น...รุ่นแรกปี 32 เล่นกันทะลุล้าน...รุ่นอื่นท่ไม่เกิน ปี 50 ขยับขึ้นตาม...เพราะต่างชาติ มาเล สิงคโปร์ ฮ่องกง เล่น พอหลังพอหลังจากนั้น มีความเปลี่ยนแปลง......เศรษญกิจในประเทศถดถอย ..ก็สาละวันเตี้ยลง..มาเรื่อยๆ..
    พังพระกาฬ ..ปลายปี 66 กระแสกำลังขยับขึ้น...รุ่นแรกปี 32 เล่นกันทะลุล้าน...รุ่นอื่นท่ไม่เกิน ปี 50 ขยับขึ้นตาม...เพราะต่างชาติ มาเล สิงคโปร์ ฮ่องกง เล่น พอหลังพอหลังจากนั้น มีความเปลี่ยนแปลง......เศรษญกิจในประเทศถดถอย ..ก็สาละวันเตี้ยลง..มาเรื่อยๆ..
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงได้ออกแบบและทดสอบหุ่นยนต์ทางอากาศ (Drone) ล้ำสมัยที่มีความสามารถในการนำทางในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 20 เมตรต่อวินาที ในขณะที่ยังคงความแม่นยำในการควบคุมอยู่ ชื่อของหุ่นยนต์นี้คือ SUPER ซึ่งเป็นโดรนแบบควอดคอปเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี LiDAR ขั้นสูงในการตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางแม้จะเป็นเส้นลวดบาง ๆ ที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5 มิลลิเมตร

    ทีมวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ SUPER ในการค้นหาและกู้ภัย รวมถึงการใช้งานในงานบังคับใช้กฎหมายและการลาดตระเวนทางทหาร ด้วยความสามารถในการทำงานโดยอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จัก และการสร้างแผนที่พื้นที่แบบเรียลไทม์โดยใช้ระบบ LiDAR ที่มีระยะการตรวจจับสูงสุดถึง 70 เมตร ทำให้ SUPER สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาวะแสงน้อย

    การทดสอบกับโดรนเชิงพาณิชย์ DJI Mavic 3 พบว่า SUPER สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นลวดบาง ๆ ในขณะที่ DJI Mavic 3 หลีกเลี่ยงได้เพียงสิ่งกีดขวางที่มีขนาดใหญ่

    สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือการที่ LiDAR เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องพึ่งพากล้องและเซ็นเซอร์ธรรมดา ทำให้ SUPER สามารถสร้างแผนที่และประมวลผลข้อมูลพื้นที่แบบสามมิติได้ในเวลาจริง ทำให้มันสามารถบินผ่านป่าหนาแน่นและติดตามเป้าหมายเคลื่อนไหวได้โดยไม่ชนต้นไม้หรือกิ่งไม้

    ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สูงของหุ่นยนต์ทางอากาศในอนาคตที่สามารถช่วยเหลือในงานค้นหาและกู้ภัย ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย และการสำรวจพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง

    https://www.techradar.com/pro/superb-chinese-researchers-just-designed-and-built-a-flying-robot-that-looks-like-a-precursor-to-matrixs-laser-focused-sentinels
    นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฮ่องกงได้ออกแบบและทดสอบหุ่นยนต์ทางอากาศ (Drone) ล้ำสมัยที่มีความสามารถในการนำทางในสภาพแวดล้อมที่ซับซ้อนได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 20 เมตรต่อวินาที ในขณะที่ยังคงความแม่นยำในการควบคุมอยู่ ชื่อของหุ่นยนต์นี้คือ SUPER ซึ่งเป็นโดรนแบบควอดคอปเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยี LiDAR ขั้นสูงในการตรวจจับและหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางแม้จะเป็นเส้นลวดบาง ๆ ที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5 มิลลิเมตร ทีมวิจัยยังชี้ให้เห็นถึงการประยุกต์ใช้ SUPER ในการค้นหาและกู้ภัย รวมถึงการใช้งานในงานบังคับใช้กฎหมายและการลาดตระเวนทางทหาร ด้วยความสามารถในการทำงานโดยอัตโนมัติในสภาพแวดล้อมที่ไม่รู้จัก และการสร้างแผนที่พื้นที่แบบเรียลไทม์โดยใช้ระบบ LiDAR ที่มีระยะการตรวจจับสูงสุดถึง 70 เมตร ทำให้ SUPER สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแม้ในสภาวะแสงน้อย การทดสอบกับโดรนเชิงพาณิชย์ DJI Mavic 3 พบว่า SUPER สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางได้ดีกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเส้นลวดบาง ๆ ในขณะที่ DJI Mavic 3 หลีกเลี่ยงได้เพียงสิ่งกีดขวางที่มีขนาดใหญ่ สิ่งที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือการที่ LiDAR เป็นเทคโนโลยีที่ไม่ต้องพึ่งพากล้องและเซ็นเซอร์ธรรมดา ทำให้ SUPER สามารถสร้างแผนที่และประมวลผลข้อมูลพื้นที่แบบสามมิติได้ในเวลาจริง ทำให้มันสามารถบินผ่านป่าหนาแน่นและติดตามเป้าหมายเคลื่อนไหวได้โดยไม่ชนต้นไม้หรือกิ่งไม้ ความสำเร็จนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่สูงของหุ่นยนต์ทางอากาศในอนาคตที่สามารถช่วยเหลือในงานค้นหาและกู้ภัย ตลอดจนการบังคับใช้กฎหมาย และการสำรวจพื้นที่ที่ยากต่อการเข้าถึง https://www.techradar.com/pro/superb-chinese-researchers-just-designed-and-built-a-flying-robot-that-looks-like-a-precursor-to-matrixs-laser-focused-sentinels
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไปรษณีย์สหรัฐ (USPS) ประกาศหยุดรับพัสดุจากจีนและฮ่องกงเมื่อช่วงปลายวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่มขึ้นกับจีนและประเทศอื่น ๆ รวมถึงการยกเลิก 'de minimis exemption' ซึ่งหมายความว่าพัสดุที่มีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ จะไม่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าและการตรวจสอบอีกต่อไป

    การยกเลิกนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชิ้นส่วนพีซีราคาถูกจากจีนและฮ่องกง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการสร้างสถานีทำงานและชุดเล่นเกมต้องจ่ายมากขึ้น รวมถึงระยะเวลาการส่งของที่นานขึ้นเนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบจากศุลกากร

    ผู้ใช้ทั่วไปในอเมริกาจะต้องจ่ายแพงขึ้นและใช้เวลารอนานขึ้นสำหรับสินค้าเทคโนโลยีจากจีน นอกจากนี้ การที่ USPS กลับมารับพัสดุอีกครั้งไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหายไป เพราะยังต้องรอให้มีการพัฒนาระบบการเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/usps-had-ceased-accepting-parcels-from-china-and-hong-kong-late-tuesday-potentially-affecting-numerous-pc-parts-service-was-restored-by-early-wednesday
    ไปรษณีย์สหรัฐ (USPS) ประกาศหยุดรับพัสดุจากจีนและฮ่องกงเมื่อช่วงปลายวันอังคารที่ 4 กุมภาพันธ์ 2024 เนื่องจากผลกระทบจากภาษีใหม่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่เพิ่มขึ้นกับจีนและประเทศอื่น ๆ รวมถึงการยกเลิก 'de minimis exemption' ซึ่งหมายความว่าพัสดุที่มีมูลค่าน้อยกว่า 800 ดอลลาร์สหรัฐ จะไม่ได้รับการยกเว้นจากภาษีนำเข้าและการตรวจสอบอีกต่อไป การยกเลิกนี้คาดว่าจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อชิ้นส่วนพีซีราคาถูกจากจีนและฮ่องกง ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ต้องการสร้างสถานีทำงานและชุดเล่นเกมต้องจ่ายมากขึ้น รวมถึงระยะเวลาการส่งของที่นานขึ้นเนื่องจากต้องผ่านการตรวจสอบจากศุลกากร ผู้ใช้ทั่วไปในอเมริกาจะต้องจ่ายแพงขึ้นและใช้เวลารอนานขึ้นสำหรับสินค้าเทคโนโลยีจากจีน นอกจากนี้ การที่ USPS กลับมารับพัสดุอีกครั้งไม่ได้หมายความว่าปัญหาจะหายไป เพราะยังต้องรอให้มีการพัฒนาระบบการเก็บภาษีที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น https://www.tomshardware.com/tech-industry/usps-had-ceased-accepting-parcels-from-china-and-hong-kong-late-tuesday-potentially-affecting-numerous-pc-parts-service-was-restored-by-early-wednesday
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนแถลงวันพุธ (5 ก.พ.) ยืนกรานคัดค้านสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้าเข้าแดนมังกร พร้อมเรียกร้องเปิดเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า ทว่า ทำเนียบขาวระบุทรัมป์ยังไม่รีบร้อนหารือสี จิ้นผิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์จากจีนและฮ่องกง ซึ่งคาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีนอย่าง “ชีอิน” และ “เทมู” โดยที่ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า วอชิงตันกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำยักษ์ใหญ่แดนมังกรทั้งสองเจ้านี้ว่าเป็นบริษัทที่มีการบังคับใช้แรงงาน
    .
    ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่หน่วยราชการของจีนเปิดทำการหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านถึงที่สุดต่อมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกา และเรียกร้องให้เปิดการเจรจาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ก่อนทิ้งท้ายว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษีศุลกากร
    .
    ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นคือเมื่อวันอังคาร (4) จีนประกาศตอบโต้อเมริกา โดยจะขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากสหรัฐฯสูงขึ้น 15% จากน้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ.
    .
    นอกจากนั้น จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา
    .
    เวลาเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์
    .
    การประกาศมาตรการตอบโต้ของจีนเช่นนี้ เกิดขึ้นแทบจะทันที หลังจากการมีผลบังคับใช้ของมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของฝ่ายอเมริกา ซึ่งเป็นการบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรจัดเก็บจากสินค้านำเข้าจีนทุกรายการขึ้นอีก 10% โดยที่ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า ทรัมป์จะมีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ในตอนบ่ายวันอังคาร (4) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับบอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ไม่รีบร้อนที่จะคุยกับผู้นำจีน
    .
    แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงในวันเดียวกันว่า การหารือระหว่างทรัมป์กับสีที่ถูกมองว่า เป็นกุญแจสำคัญที่อาจผ่อนปรนหรือชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรนั้น จำเป็นต้องมีการตกลงกันเรื่องตารางเวลา ทว่า ขณะนี้ผู้นำจีนยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด
    .
    นอกจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแล้ว เมื่อวันอังคาร สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ (ยูเอสพีเอส) ได้ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์ที่ส่งจากจีนและฮ่องกง หลังจากทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บภาษีอากรกับพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ ที่เรียกกันว่า ข้อยกเว้น de minimis
    .
    ยูเอสพีเอสยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่กระทบจดหมายและจดหมายขนาดใหญ่ (ความยาวไม่เกิน 38 ซม. หรือหนาไม่เกิน 1.9 ซม.) จากจีนและฮ่องกง แต่ไม่ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับการยกเลิกข้อยกเว้น de minimis หรือไม่
    .
    ตามรายงานของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ระบุว่าพัสดุภัณฑ์เกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งภายใต้ข้อยกเว้น de minimis นั้นส่งมาจากจีน
    .
    รายงานดังกล่าวยังระบุว่า “ชีอิน” แพลตฟอร์มฟาสต์แฟชั่น และ “เทมู” แพลตฟอร์มขายสินค้าราคาถูก ซึ่งต่างก็เป็นของจีนและขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นจนถึงสมาร์ทโฟนนั้น เติบโตเร็วมากในอเมริกา ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อยกเว้น de minimis โดยทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มเป็นเจ้าของพัสดุกว่า 30% ที่จัดส่งไปยังอเมริกาในแต่ละวันภายใต้ข้อยกเว้นดังกล่าว
    .
    แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า การยกเลิกข้อยกเว้น de minimis อาจทำให้สินค้าบนแพลตฟอร์มชีอินและเทมูแพงขึ้น แต่ไม่มีแนวโน้มว่า จะทำให้ยอดจัดส่งของทั้งสองบริษัทลดลงแต่อย่างใด
    .
    กระนั้น แพลตฟอร์มทั้งสองแห่งอาจหนีไม่พ้นการเล่นงานเพิ่มเติมของคณะบริหารทรัมป์ โดยเมื่อวันอังคาร เว็บไซต์เซมาฟอร์รายงานว่า อเมริกากำลังพิจารณาขึ้นบัญชีเทมูและชีอินในรายชื่อบริษัทที่บังคับใช้แรงงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011929
    ..............
    Sondhi X
    จีนแถลงวันพุธ (5 ก.พ.) ยืนกรานคัดค้านสหรัฐฯ ประกาศมาตรการรีดภาษีศุลกากรจากสินค้าเข้าแดนมังกร พร้อมเรียกร้องเปิดเจรจาเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งทางการค้า ทว่า ทำเนียบขาวระบุทรัมป์ยังไม่รีบร้อนหารือสี จิ้นผิง ขณะที่ในอีกด้านหนึ่ง สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์จากจีนและฮ่องกง ซึ่งคาดหมายกันว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยมของจีนอย่าง “ชีอิน” และ “เทมู” โดยที่ยังมีรายงานข่าวด้วยว่า วอชิงตันกำลังพิจารณาขึ้นบัญชีดำยักษ์ใหญ่แดนมังกรทั้งสองเจ้านี้ว่าเป็นบริษัทที่มีการบังคับใช้แรงงาน . ในวันพุธ ซึ่งเป็นวันแรกที่หน่วยราชการของจีนเปิดทำการหลังหยุดยาวช่วงเทศกาลตรุษจีน หลิน เจี้ยน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศออกมาแถลงว่า จีนไม่พอใจอย่างมากและคัดค้านถึงที่สุดต่อมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของอเมริกา และเรียกร้องให้เปิดการเจรจาอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม ก่อนทิ้งท้ายว่า ไม่มีผู้ชนะในสงครามการค้าหรือสงครามภาษีศุลกากร . ทั้งนี้ ก่อนหน้านั้นคือเมื่อวันอังคาร (4) จีนประกาศตอบโต้อเมริกา โดยจะขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากสินค้าถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากสหรัฐฯสูงขึ้น 15% จากน้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. . นอกจากนั้น จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา . เวลาเดียวกัน กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ . การประกาศมาตรการตอบโต้ของจีนเช่นนี้ เกิดขึ้นแทบจะทันที หลังจากการมีผลบังคับใช้ของมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของฝ่ายอเมริกา ซึ่งเป็นการบังคับให้เป็นไปตามคำสั่งฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้เพิ่มอัตราภาษีศุลกากรจัดเก็บจากสินค้านำเข้าจีนทุกรายการขึ้นอีก 10% โดยที่ทรัมป์ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา . ก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (3) ทำเนียบขาวส่งสัญญาณว่า ทรัมป์จะมีการหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ภายในสัปดาห์นี้ อย่างไรก็ดี ในตอนบ่ายวันอังคาร (4) ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กลับบอกกับพวกผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า ไม่รีบร้อนที่จะคุยกับผู้นำจีน . แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงในวันเดียวกันว่า การหารือระหว่างทรัมป์กับสีที่ถูกมองว่า เป็นกุญแจสำคัญที่อาจผ่อนปรนหรือชะลอการบังคับใช้ภาษีศุลกากรนั้น จำเป็นต้องมีการตกลงกันเรื่องตารางเวลา ทว่า ขณะนี้ผู้นำจีนยังไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด . นอกจากไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาแล้ว เมื่อวันอังคาร สำนักงานไปรษณีย์สหรัฐฯ (ยูเอสพีเอส) ได้ประกาศระงับการรับพัสดุภัณฑ์ที่ส่งจากจีนและฮ่องกง หลังจากทรัมป์ออกคำสั่งยกเลิกข้อยกเว้นการเก็บภาษีอากรกับพัสดุที่มีมูลค่าไม่เกิน 800 ดอลลาร์ ที่เรียกกันว่า ข้อยกเว้น de minimis . ยูเอสพีเอสยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงนี้จะไม่กระทบจดหมายและจดหมายขนาดใหญ่ (ความยาวไม่เกิน 38 ซม. หรือหนาไม่เกิน 1.9 ซม.) จากจีนและฮ่องกง แต่ไม่ได้ระบุว่า การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับการยกเลิกข้อยกเว้น de minimis หรือไม่ . ตามรายงานของคณะกรรมาธิการรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายน 2023 ระบุว่าพัสดุภัณฑ์เกือบครึ่งหนึ่งที่จัดส่งภายใต้ข้อยกเว้น de minimis นั้นส่งมาจากจีน . รายงานดังกล่าวยังระบุว่า “ชีอิน” แพลตฟอร์มฟาสต์แฟชั่น และ “เทมู” แพลตฟอร์มขายสินค้าราคาถูก ซึ่งต่างก็เป็นของจีนและขายสินค้าทุกอย่างตั้งแต่ของเล่นจนถึงสมาร์ทโฟนนั้น เติบโตเร็วมากในอเมริกา ส่วนหนึ่งเนื่องจากข้อยกเว้น de minimis โดยทั้งสองบริษัทมีแนวโน้มเป็นเจ้าของพัสดุกว่า 30% ที่จัดส่งไปยังอเมริกาในแต่ละวันภายใต้ข้อยกเว้นดังกล่าว . แม้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนระบุว่า การยกเลิกข้อยกเว้น de minimis อาจทำให้สินค้าบนแพลตฟอร์มชีอินและเทมูแพงขึ้น แต่ไม่มีแนวโน้มว่า จะทำให้ยอดจัดส่งของทั้งสองบริษัทลดลงแต่อย่างใด . กระนั้น แพลตฟอร์มทั้งสองแห่งอาจหนีไม่พ้นการเล่นงานเพิ่มเติมของคณะบริหารทรัมป์ โดยเมื่อวันอังคาร เว็บไซต์เซมาฟอร์รายงานว่า อเมริกากำลังพิจารณาขึ้นบัญชีเทมูและชีอินในรายชื่อบริษัทที่บังคับใช้แรงงานของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011929 .............. Sondhi X
    Like
    Angry
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2130 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงครามการค้าระดับมหาอำนาจระอุ จีนประกาศตอบโต้มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ทันควัน สั่งเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางรายการจากอเมริกา รวมทั้งเปิดสอบสวนกูเกิลกรณีผูกขาดตลาด และขึ้นบัญชีบริษัทอเมริกันอีก 2 แห่งในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชัน ทั้งนี้หลังจากเมื่อวันจันทร์ (3) ผู้นำสหรัฐฯ ผ่อนผันหยุดพักการเล่นงานแคนาดากับเม็กซิโกเอาไว้ก่อน ทำให้ 3 ชาติที่ถูกวอชิงตันหมายหัวในตอนแรก เหลือเพียงปักกิ่งเท่านั้นซึ่งเกิดการต่อกรกันอย่างจริงจัง
    .
    อเมริกาเริ่มเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนทุกรายการเพิ่มขึ้น 10% รวด ตามคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ มีผลเมื่อเวลา 00.01 น. วันอังคาร (4 ก.พ.) ตามเวลาในวอชิงตัน หรือ 12.01 น.ตามเวลาเมืองไทย โดยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา
    .
    จากนั้นภายในไม่กี่นาทีต่อมา กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากอเมริกา สูงขึ้น 15% จาก น้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% โดยที่การเรียกเก็บภาษี 10% สำหรับรถกระบะไฟฟ้าที่นำเข้าจากอเมริกานั้น อาจบังคับใช้กับไซเบอร์ทรัค “เทสลา” ของอีลอน มัสก์ในอนาคต
    .
    จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา
    .
    นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์
    .
    มาตรการภาษีศุลกากรใหม่ของจีนเหล่านี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ซึ่งดูจะเพื่อเปิดโอกาสให้วอชิงตันและปักกิ่งได้ใช้ความพยายามและบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า โดยที่โฆษกทำเนียบขาวก็ระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ทรัมป์มีแผนหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ปลายสัปดาห์นี้
    .
    ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ก็ได้เริ่มสงครามการค้าอันโหดร้ายกับจีนในปี 2018 โดยอ้างเหตุจากกรณีที่ปักกิ่งเกินดุลการค้าอเมริกามหาศาล จากนั้นทั้งสองฝ่ายมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กันไปมาซึ่งครอบคลุมสินค้ามูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักงัน และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก
    .
    สำหรับคราวนี้ บริษัทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ออกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ ได้ลดการคาดการณ์อัตราเติบโตของจีนลง พร้อมกับชี้ว่า สงครามการค้าอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยมีแนวโน้มจะมีการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้กันอีก
    .
    ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร 3 ฉบับ เรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้น 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกทั้งหมด และกับสินค้านำเข้าจากแคนดา ยกเว้นสินค้าบางชนิดอย่างเช่นน้ำมัน เก็บเพิ่ม 10% และเรียกเก็บเพิ่ม 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด โดยที่เขาให้เหตุผลว่า เพื่อบีบบังคับให้ 3 ประเทศนี้ซึ่งต่างเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายอาศัยดินแดนของเม็กซิโกและแคนาดา หลบหนีเข้าสหรัฐฯ ตลอดจนให้เม็กซิโก แคนาดา และจีนเร่งความกวดขันไม่ให้มีการแอบจัดส่งสารเสพติดเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ
    .
    อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ ทรัมป์ได้มีการพูดจาทางโทรศัพท์แยกต่างหากกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา และประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามของเม็กซิโก หลังจากนั้น เขาก็สั่งชะลอการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 30 วันในนาทีสุดท้าย โดยระบุว่าทั้งผู้นำของแคนาดาและเม็กซิโก ตกลงยกระดับการควบคุมชายแดนตามที่เขาเรียกร้อง เพื่อปราบปรามการลักลอบส่งยาเสพติดและการลักลอบจัดส่งผู้อพยพเข้าอเมริกา
    .
    ทั้งนี้ แคนาดาตกลงใช้เทคโนโลยีใหม่และเจ้าหน้าที่ประจำการบริเวณชายแดนติดกับอเมริกา รวมทั้งร่วมมือกับอเมริกาต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรม การลักลอบส่งเฟนทานิล และการฟอกเงิน
    .
    ส่วนเม็กซิโกตกลงส่งสมาชิกกองกำลังป้องกันประเทศ 10,000 นายประจำการบริเวณชายแดนด้านเหนือที่ติดต่อกับสหรัฐฯ เพื่อสกัดผู้ลักลอบข้ามแดนและการส่งยาเสพติดเข้าไปในอเมริกา
    .
    สำหรับกรณีของจีนนั้น ผู้นำของ 2 ประเทศไม่ได้มีการติดต่อพูดโทรศัพท์กัน โดยที่ทำเนียบขาวระบุว่า สี กับ ทรัมป์ จะหารือกันในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ ดังนั้น จึงหมายความว่า เหลือเพียงจีนประเทศเดียว ที่จะถูกสหรัฐฯ เล่นงานขึ้นภาษีตั้งแต่วันอังคาร
    .
    ทรัมป์ยังเตือนว่า อาจขึ้นภาษีศุลกากรจีนรอบใหม่อีก ยกเว้นจีนจะลงมือสกัดการลักลอบส่งเฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา
    .
    ทว่า จีนตอบโต้ว่า เฟนทานิลเป็นปัญหาของอเมริกาเอง และเตรียมร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WHO) รวมทั้งใช้มาตรการตอบโต้อื่นๆ ถึงแม้ปักกิ่งบอกด้วยว่า พร้อมเจรจากับอเมริกา
    .
    แกรี อึง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเนติซิสในฮ่องกง ชี้ว่า การตกลงระหว่างอเมริกากับจีนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางเศรษฐกิจและการเมืองของทรัมป์จะยากกว่ากรณีแคนาดาและเม็กซิโก และถึงแม้ตกลงกันได้ในบางประเด็น แต่เป็นไปได้ว่า ภาษีศุลกากรจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกดดันในประเด็นอื่นๆ อีก และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดการเงินผันผวนในปีนี้
    .
    ก่อนหน้านั้นทรัมป์ยอมรับว่า มาตรการภาษีศุลกากรอาจส่งผลลบระยะสั้นต่อผู้บริโภคอเมริกัน แต่ก็อ้างว่าเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ
    .
    ไม่เพียงพุ่งเป้าไปที่ 3 ประเทศดังกล่าวข้างหน้า ในการแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (2) ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า สหภาพยุโรป อาจเป็นเป้าหมายต่อไป
    .
    ต่อมาในวันจันทร์ บรรดาผู้นำอียูที่ร่วมประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการในบรัสเซลส์ได้ประกาศว่า ยุโรปพร้อมตอบโต้ หากอเมริกาเรียกเก็บภาษีศุลกากร แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องขอเจรจากับวอชิงตัน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนใหญ่ที่สุด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011540
    ..............
    Sondhi X
    สงครามการค้าระดับมหาอำนาจระอุ จีนประกาศตอบโต้มาตรการภาษีศุลกากรของทรัมป์ทันควัน สั่งเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าบางรายการจากอเมริกา รวมทั้งเปิดสอบสวนกูเกิลกรณีผูกขาดตลาด และขึ้นบัญชีบริษัทอเมริกันอีก 2 แห่งในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชัน ทั้งนี้หลังจากเมื่อวันจันทร์ (3) ผู้นำสหรัฐฯ ผ่อนผันหยุดพักการเล่นงานแคนาดากับเม็กซิโกเอาไว้ก่อน ทำให้ 3 ชาติที่ถูกวอชิงตันหมายหัวในตอนแรก เหลือเพียงปักกิ่งเท่านั้นซึ่งเกิดการต่อกรกันอย่างจริงจัง . อเมริกาเริ่มเก็บภาษีศุลกากรสินค้านำเข้าจากจีนทุกรายการเพิ่มขึ้น 10% รวด ตามคำสั่งฝ่ายบริหารของทรัมป์ มีผลเมื่อเวลา 00.01 น. วันอังคาร (4 ก.พ.) ตามเวลาในวอชิงตัน หรือ 12.01 น.ตามเวลาเมืองไทย โดยที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ย้ำข้อกล่าวหาของเขาที่ว่า ปักกิ่งไม่พยายามมากพอในการสกัดการลักลอบขนยาเสพติดแฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา . จากนั้นภายในไม่กี่นาทีต่อมา กระทรวงพาณิชย์จีนประกาศขึ้นภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บจากถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ซึ่งส่งมาจากอเมริกา สูงขึ้น 15% จาก น้ำมันดิบ อุปกรณ์เกษตรกรรม รถบรรทุก รถซีดาน 10% โดยที่การเรียกเก็บภาษี 10% สำหรับรถกระบะไฟฟ้าที่นำเข้าจากอเมริกานั้น อาจบังคับใช้กับไซเบอร์ทรัค “เทสลา” ของอีลอน มัสก์ในอนาคต . จีนยังประกาศเริ่มการสอบสวนที่มุ่งต่อต้านพฤติการณ์การผูกขาดของกูเกิล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของอัลฟาเบต รวมทั้งขึ้นบัญชีพีวีเอช คอร์ป บริษัทโฮลดิ้งเจ้าของแบรนด์แคลวิน ไคลน์ และบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพ อิลลูมินา เอาไว้ในรายชื่อบริษัทที่อาจถูกแซงก์ชันในจีน โดยบริษัทเหล่านี้ล้วนเป็นกิจการของอเมริกา . นอกจากนั้น กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานศุลกากรจีนยังสั่งควบคุมการส่งออกโลหะบางรายการที่จำเป็นสำหรับการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อุปกรณ์ทางทหาร และแผงพลังงานแสงอาทิตย์ . มาตรการภาษีศุลกากรใหม่ของจีนเหล่านี้ จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 ก.พ. ซึ่งดูจะเพื่อเปิดโอกาสให้วอชิงตันและปักกิ่งได้ใช้ความพยายามและบรรลุข้อตกลงเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้า โดยที่โฆษกทำเนียบขาวก็ระบุเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า ทรัมป์มีแผนหารือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ปลายสัปดาห์นี้ . ระหว่างดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรก ทรัมป์ก็ได้เริ่มสงครามการค้าอันโหดร้ายกับจีนในปี 2018 โดยอ้างเหตุจากกรณีที่ปักกิ่งเกินดุลการค้าอเมริกามหาศาล จากนั้นทั้งสองฝ่ายมีการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้กันไปมาซึ่งครอบคลุมสินค้ามูลค่าหลายแสนล้านดอลลาร์ ส่งผลให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักงัน และสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลก . สำหรับคราวนี้ บริษัทวิเคราะห์เศรษฐกิจ ออกซ์ฟอร์ด อิโคโนมิกส์ ได้ลดการคาดการณ์อัตราเติบโตของจีนลง พร้อมกับชี้ว่า สงครามการค้าอยู่ในช่วงเริ่มต้น โดยมีแนวโน้มจะมีการขึ้นภาษีศุลกากรตอบโต้กันอีก . ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ ทรัมป์ได้ออกคำสั่งฝ่ายบริหาร 3 ฉบับ เรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มขึ้น 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกทั้งหมด และกับสินค้านำเข้าจากแคนดา ยกเว้นสินค้าบางชนิดอย่างเช่นน้ำมัน เก็บเพิ่ม 10% และเรียกเก็บเพิ่ม 10% กับสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด โดยที่เขาให้เหตุผลว่า เพื่อบีบบังคับให้ 3 ประเทศนี้ซึ่งต่างเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ต้องเพิ่มมาตรการแก้ไขปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายอาศัยดินแดนของเม็กซิโกและแคนาดา หลบหนีเข้าสหรัฐฯ ตลอดจนให้เม็กซิโก แคนาดา และจีนเร่งความกวดขันไม่ให้มีการแอบจัดส่งสารเสพติดเฟนทานิลเข้าสู่สหรัฐฯ . อย่างไรก็ดี ในวันจันทร์ ทรัมป์ได้มีการพูดจาทางโทรศัพท์แยกต่างหากกับนายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโดของแคนาดา และประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามของเม็กซิโก หลังจากนั้น เขาก็สั่งชะลอการเรียกเก็บภาษีศุลกากร 25% กับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาออกไปอีก 30 วันในนาทีสุดท้าย โดยระบุว่าทั้งผู้นำของแคนาดาและเม็กซิโก ตกลงยกระดับการควบคุมชายแดนตามที่เขาเรียกร้อง เพื่อปราบปรามการลักลอบส่งยาเสพติดและการลักลอบจัดส่งผู้อพยพเข้าอเมริกา . ทั้งนี้ แคนาดาตกลงใช้เทคโนโลยีใหม่และเจ้าหน้าที่ประจำการบริเวณชายแดนติดกับอเมริกา รวมทั้งร่วมมือกับอเมริกาต่อสู้กับแก๊งอาชญากรรม การลักลอบส่งเฟนทานิล และการฟอกเงิน . ส่วนเม็กซิโกตกลงส่งสมาชิกกองกำลังป้องกันประเทศ 10,000 นายประจำการบริเวณชายแดนด้านเหนือที่ติดต่อกับสหรัฐฯ เพื่อสกัดผู้ลักลอบข้ามแดนและการส่งยาเสพติดเข้าไปในอเมริกา . สำหรับกรณีของจีนนั้น ผู้นำของ 2 ประเทศไม่ได้มีการติดต่อพูดโทรศัพท์กัน โดยที่ทำเนียบขาวระบุว่า สี กับ ทรัมป์ จะหารือกันในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้ ดังนั้น จึงหมายความว่า เหลือเพียงจีนประเทศเดียว ที่จะถูกสหรัฐฯ เล่นงานขึ้นภาษีตั้งแต่วันอังคาร . ทรัมป์ยังเตือนว่า อาจขึ้นภาษีศุลกากรจีนรอบใหม่อีก ยกเว้นจีนจะลงมือสกัดการลักลอบส่งเฟนทานิลเข้าสู่อเมริกา . ทว่า จีนตอบโต้ว่า เฟนทานิลเป็นปัญหาของอเมริกาเอง และเตรียมร้องเรียนต่อองค์การการค้าโลก (WHO) รวมทั้งใช้มาตรการตอบโต้อื่นๆ ถึงแม้ปักกิ่งบอกด้วยว่า พร้อมเจรจากับอเมริกา . แกรี อึง นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของเนติซิสในฮ่องกง ชี้ว่า การตกลงระหว่างอเมริกากับจีนเกี่ยวกับข้อเรียกร้องทางเศรษฐกิจและการเมืองของทรัมป์จะยากกว่ากรณีแคนาดาและเม็กซิโก และถึงแม้ตกลงกันได้ในบางประเด็น แต่เป็นไปได้ว่า ภาษีศุลกากรจะถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือกดดันในประเด็นอื่นๆ อีก และเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดการเงินผันผวนในปีนี้ . ก่อนหน้านั้นทรัมป์ยอมรับว่า มาตรการภาษีศุลกากรอาจส่งผลลบระยะสั้นต่อผู้บริโภคอเมริกัน แต่ก็อ้างว่าเป็นเรื่องจำเป็นต้องทำ . ไม่เพียงพุ่งเป้าไปที่ 3 ประเทศดังกล่าวข้างหน้า ในการแถลงเมื่อวันอาทิตย์ (2) ทรัมป์ยังส่งสัญญาณว่า สหภาพยุโรป อาจเป็นเป้าหมายต่อไป . ต่อมาในวันจันทร์ บรรดาผู้นำอียูที่ร่วมประชุมสุดยอดอย่างไม่เป็นทางการในบรัสเซลส์ได้ประกาศว่า ยุโรปพร้อมตอบโต้ หากอเมริกาเรียกเก็บภาษีศุลกากร แต่ขณะเดียวกันก็เรียกร้องขอเจรจากับวอชิงตัน ซึ่งเป็นหุ้นส่วนการค้าและการลงทุนใหญ่ที่สุด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011540 .............. Sondhi X
    Like
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2087 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยื่นคำขาด ประกาศอเมริกาจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น ถ้าปานามาไม่ลงมือยุติอิทธิพลและการควบคุมของจีนเหนือคลองปานามาทันที ด้านประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโน ส่งสัญญาณภายหลังพบหารือกับรัฐมนตรีอเมริกันผู้นี้ในกรุงปานามาซิตีเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่า อาจทบทวนข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับจีนและธุรกิจของจีน ขณะที่ปักกิ่งยืนยันไม่เคยเข้าร่วมดำเนินการหรือแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามาตามที่คณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามกล่าวหา
    .
    แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า รูบิโอซึ่งเดินทางไปเยือนปานามา ได้นำข้อความจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาถ่ายทอดให้ผู้นำปานามาทราบ โดยมุ่งเตือนเรื่องที่จีนปรากฏตัวที่คลองปานามา ผ่านทางบริษัทฮ่องกงแห่งหนึ่งที่เข้าบริหารท่าเรือ 2 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ ทั้งนี้ ทรัมป์บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อเส้นทางเดินเรือนี้ อีกทั้งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างอเมริกากับปานามาว่าด้วยคลองแห่งนี้ด้วย และแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อเมริกาไม่ยอมรับให้คงสถานะเดิมเช่นนี้ต่อไป และหากไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทันที อเมริกาอาจต้องดำเนินการมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนภายใต้สนธิสัญญา
    .
    อย่างไรก็ตาม รูบิโอไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯต้องการให้ปานามาทำอย่างไร หรืออเมริกาจะตอบโต้อย่างไร
    .
    ทั้งนี้ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯออกมาว่าเขาเป็นผู้ชนะได้กลับเข้าทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ทรัมป์ได้พูดข่มขู่คุกคามหลายครั้งว่า จะเข้ายึดคืนคลองปานามาที่เป็นเส้นทางลัดทำให้สามารถเข้าออกระหว่างฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกกับฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องเดินเรืออ้อมทวีปอเมริกาใต้ อเมริกาคือผู้ขุดคลองนี้สำเร็จเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และได้ส่งมอบอธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ให้ปานามาในปี 1999
    .
    ทรัมป์กล่าวอ้างลอยๆ ว่า เส้นทางเดินเรือทางยุทธศาสตร์นี้เวลานี้ถูกควบคุมโดยทหารจีน นอกจากนั้นเรือของอเมริกายังถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าเรือของชาติอื่น
    .
    นอกจากนั้น ทรัมป์ยังบอกว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลองปานามากลับมาอยู่ในความควบคุมของสหรัฐฯอีกครั้ง ทำให้ถูกวิจารณ์รุนแรงจากทั้งมิตรและศัตรูในละตินอเมริกา ถึงแม้เมื่อวันอาทิตย์ (1) เขาบอกว่า คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง กระนั้นก็ยังยืนยันว่า ปานามาละเมิดสนธิสัญญาที่ทำไว้กับสหรัฐฯ และอเมริกาจะยึดคลองปานามาคืน
    .
    สำหรับตัวรูบิโอเอง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีแนวคิดเกี่ยวกับจีนแบบสายเหยี่ยวแข็งกร้าวมานาน ยังให้สัมภาษณ์ในรายการเมกิน เคลลี ของวิทยุดาวเทียมซีเรียส เอ็กซ์เอ็ม ในสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนอาจใช้ท่าเรือที่บริษัทฮ่องกงเป็นผู้ดำเนินการ ในการปิดคลองปานานากรณีที่เกิดข้อพิพาทระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีมูลิโน กล่าวถึงการพบหารือกับรูบิโอคราวนี้ว่า เป็นไปด้วยดี และเสริมว่า พร้อมทบทวนธุรกิจบางอย่างของจีนในปานามา ซึ่งรวมถึงการให้สัมปทานบริหารท่าเรือ 2 แห่งจากจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ 5 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองปานามาทั้งสองด้านเป็นเวลานาน 25 ปี โดยคู่สัญญาที่ได้รับสัมปทานคือ บริษัทซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง ทั้งนี้เพิ่งมีการต่ออายุสัมปทานเมื่อปี 2021 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
    .
    พวกสมาชิกรัฐสภาและคณะบริหารสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้มีความโน้มเอียงต่อต้านจีนอย่างแข็งกร้าว กล่าวหาว่า สัญญาดังกล่าวคือตัวอย่างการขยายอิทธิพลของจีนในปานามา ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาความเป็นกลางที่ปานามาและอเมริกาลงนามร่วมกันในปี 1977
    .
    ทว่า รัฐบาลปานามาและผู้เชี่ยวชาญหลายคนคัดค้านการกล่าวอ้างของวอชิงตัน โดยชี้ว่าท่าเรือเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารคลองปานามาที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารจัดการคลองปานามา ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลปานามา
    .
    มูลิโนสำทับด้วยว่า เขาจะไม่ต่ออายุข้อตกลงเข้าร่วมในแผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของจีน ที่ลงนามโดยคณะบริการชุดก่อนหน้านี้ และเสริมว่า เขาไม่คิดว่า มีภัยคุกคามที่แท้จริงต่อความเป็นกลางและความถูกต้องของสนธิสัญญาที่ทำกับอเมริกา รวมทั้งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้สนธิสัญญาด้วยกำลังทหาร อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า จำเป็นต้องมีการหารือแบบตัวต่อตัวกับทรัมป์
    .
    ทางด้านจีนนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงในวันจันทร์ (3) ยืนยันว่า ปักกิ่งไม่มีส่วนร่วมกับการดำเนินการ รวมทั้งไม่เคยเข้าแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามา อีกทั้งยังยอมรับคลองปานามาในฐานะเป็นเส้นทางเดินเรือสากลที่เป็นกลางโดยถาวร
    .
    เห็นกันว่า รูบิโอที่อยู่ระหว่างการทัวร์อเมริกากลางและแคริบเบียน โดยถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งนี้ กำลังพยายามปรับโฟกัสแนวทางการทูตของอเมริกาต่อซีกโลกตะวันตก (หมายถึงอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้) ส่วนหนึ่งก็เพื่อระดมให้ชาติละตินอเมริกาเข้าร่วมการสกัดกั้นพวกผู้อพยพที่พยายามลักลอบเข้าสหรัฐฯโดยผ่านชายแดนทางใต้ของอเมริกา
    .
    นอกจากนั้น การเยือนครั้งนี้ยังสะท้อนเป้าหมายของอเมริกาในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งมั่นต่อต้านการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของจีนในละตินอเมริกา ซึ่งสหรัฐฯถือเป็นเขตหลังบ้านของตน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011133
    ..............
    Sondhi X
    มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยื่นคำขาด ประกาศอเมริกาจะดำเนินมาตรการที่จำเป็น ถ้าปานามาไม่ลงมือยุติอิทธิพลและการควบคุมของจีนเหนือคลองปานามาทันที ด้านประธานาธิบดีโฮเซ ราอูล มูลิโน ส่งสัญญาณภายหลังพบหารือกับรัฐมนตรีอเมริกันผู้นี้ในกรุงปานามาซิตีเมื่อวันอาทิตย์ (2 ก.พ.) ว่า อาจทบทวนข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับจีนและธุรกิจของจีน ขณะที่ปักกิ่งยืนยันไม่เคยเข้าร่วมดำเนินการหรือแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามาตามที่คณะบริหารโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพยายามกล่าวหา . แทมมี บรูซ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงว่า รูบิโอซึ่งเดินทางไปเยือนปานามา ได้นำข้อความจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มาถ่ายทอดให้ผู้นำปานามาทราบ โดยมุ่งเตือนเรื่องที่จีนปรากฏตัวที่คลองปานามา ผ่านทางบริษัทฮ่องกงแห่งหนึ่งที่เข้าบริหารท่าเรือ 2 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ ทั้งนี้ ทรัมป์บอกว่าเรื่องนี้ถือเป็นภัยคุกคามต่อเส้นทางเดินเรือนี้ อีกทั้งเป็นการละเมิดสนธิสัญญาระหว่างอเมริกากับปานามาว่าด้วยคลองแห่งนี้ด้วย และแสดงออกอย่างชัดเจนว่า อเมริกาไม่ยอมรับให้คงสถานะเดิมเช่นนี้ต่อไป และหากไม่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงทันที อเมริกาอาจต้องดำเนินการมาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนภายใต้สนธิสัญญา . อย่างไรก็ตาม รูบิโอไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า สหรัฐฯต้องการให้ปานามาทำอย่างไร หรืออเมริกาจะตอบโต้อย่างไร . ทั้งนี้ หลังผลการเลือกตั้งสหรัฐฯออกมาว่าเขาเป็นผู้ชนะได้กลับเข้าทำเนียบขาวเป็นสมัยที่ 2 ทรัมป์ได้พูดข่มขู่คุกคามหลายครั้งว่า จะเข้ายึดคืนคลองปานามาที่เป็นเส้นทางลัดทำให้สามารถเข้าออกระหว่างฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกกับฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกได้โดยไม่ต้องเดินเรืออ้อมทวีปอเมริกาใต้ อเมริกาคือผู้ขุดคลองนี้สำเร็จเมื่อต้นศตวรรษที่ 20 และได้ส่งมอบอธิปไตยเหนือคลองแห่งนี้ให้ปานามาในปี 1999 . ทรัมป์กล่าวอ้างลอยๆ ว่า เส้นทางเดินเรือทางยุทธศาสตร์นี้เวลานี้ถูกควบคุมโดยทหารจีน นอกจากนั้นเรือของอเมริกายังถูกเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสูงกว่าเรือของชาติอื่น . นอกจากนั้น ทรัมป์ยังบอกว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังทหารเข้ายึดคลองปานามากลับมาอยู่ในความควบคุมของสหรัฐฯอีกครั้ง ทำให้ถูกวิจารณ์รุนแรงจากทั้งมิตรและศัตรูในละตินอเมริกา ถึงแม้เมื่อวันอาทิตย์ (1) เขาบอกว่า คิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้กำลัง กระนั้นก็ยังยืนยันว่า ปานามาละเมิดสนธิสัญญาที่ทำไว้กับสหรัฐฯ และอเมริกาจะยึดคลองปานามาคืน . สำหรับตัวรูบิโอเอง ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องมีแนวคิดเกี่ยวกับจีนแบบสายเหยี่ยวแข็งกร้าวมานาน ยังให้สัมภาษณ์ในรายการเมกิน เคลลี ของวิทยุดาวเทียมซีเรียส เอ็กซ์เอ็ม ในสัปดาห์ที่แล้วว่า จีนอาจใช้ท่าเรือที่บริษัทฮ่องกงเป็นผู้ดำเนินการ ในการปิดคลองปานานากรณีที่เกิดข้อพิพาทระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน . ในอีกด้านหนึ่ง ประธานาธิบดีมูลิโน กล่าวถึงการพบหารือกับรูบิโอคราวนี้ว่า เป็นไปด้วยดี และเสริมว่า พร้อมทบทวนธุรกิจบางอย่างของจีนในปานามา ซึ่งรวมถึงการให้สัมปทานบริหารท่าเรือ 2 แห่งจากจำนวนทั้งหมดที่มีอยู่ 5 แห่ง ตรงทางเข้าออกคลองปานามาทั้งสองด้านเป็นเวลานาน 25 ปี โดยคู่สัญญาที่ได้รับสัมปทานคือ บริษัทซีเค ฮัทชิสัน โฮลดิ้งส์ ที่ตั้งอยู่ในฮ่องกง ทั้งนี้เพิ่งมีการต่ออายุสัมปทานเมื่อปี 2021 และอยู่ระหว่างการตรวจสอบ . พวกสมาชิกรัฐสภาและคณะบริหารสหรัฐฯ ซึ่งเวลานี้มีความโน้มเอียงต่อต้านจีนอย่างแข็งกร้าว กล่าวหาว่า สัญญาดังกล่าวคือตัวอย่างการขยายอิทธิพลของจีนในปานามา ซึ่งขัดต่อสนธิสัญญาความเป็นกลางที่ปานามาและอเมริกาลงนามร่วมกันในปี 1977 . ทว่า รัฐบาลปานามาและผู้เชี่ยวชาญหลายคนคัดค้านการกล่าวอ้างของวอชิงตัน โดยชี้ว่าท่าเรือเหล่านี้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารคลองปานามาที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารจัดการคลองปานามา ซึ่งเป็นหน่วยงานอิสระที่กำกับดูแลโดยรัฐบาลปานามา . มูลิโนสำทับด้วยว่า เขาจะไม่ต่ออายุข้อตกลงเข้าร่วมในแผนการริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (บีอาร์ไอ) ของจีน ที่ลงนามโดยคณะบริการชุดก่อนหน้านี้ และเสริมว่า เขาไม่คิดว่า มีภัยคุกคามที่แท้จริงต่อความเป็นกลางและความถูกต้องของสนธิสัญญาที่ทำกับอเมริกา รวมทั้งไม่มีความจำเป็นที่จะต้องบังคับใช้สนธิสัญญาด้วยกำลังทหาร อย่างไรก็ดี เขาย้ำว่า จำเป็นต้องมีการหารือแบบตัวต่อตัวกับทรัมป์ . ทางด้านจีนนั้น เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงในวันจันทร์ (3) ยืนยันว่า ปักกิ่งไม่มีส่วนร่วมกับการดำเนินการ รวมทั้งไม่เคยเข้าแทรกแซงการดำเนินการคลองปานามา อีกทั้งยังยอมรับคลองปานามาในฐานะเป็นเส้นทางเดินเรือสากลที่เป็นกลางโดยถาวร . เห็นกันว่า รูบิโอที่อยู่ระหว่างการทัวร์อเมริกากลางและแคริบเบียน โดยถือเป็นการเดินทางเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่งนี้ กำลังพยายามปรับโฟกัสแนวทางการทูตของอเมริกาต่อซีกโลกตะวันตก (หมายถึงอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้) ส่วนหนึ่งก็เพื่อระดมให้ชาติละตินอเมริกาเข้าร่วมการสกัดกั้นพวกผู้อพยพที่พยายามลักลอบเข้าสหรัฐฯโดยผ่านชายแดนทางใต้ของอเมริกา . นอกจากนั้น การเยือนครั้งนี้ยังสะท้อนเป้าหมายของอเมริกาในยุคโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มุ่งมั่นต่อต้านการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจและการเมืองของจีนในละตินอเมริกา ซึ่งสหรัฐฯถือเป็นเขตหลังบ้านของตน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000011133 .............. Sondhi X
    Angry
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1194 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวช็อกวงการบันเทิง "ต้าเอส" หนึ่งในนักแสดงหนังชุดไต้หวันสุดดัง #F4 "รักใสใส หัวใจสี่ดวง" เสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่น ในวัย 48 ปี

    มีรายงานข่าวจากสื่อบันเทิงหลายหัวใน ฮ่องกง ไต้หวัน จีน และ ญี่ปุ่น
    โดยน้องสาว "เสี่ยวเอส" และครอบครัวของ "ต้าเอส" ได้แจ้งข่าวยืนยันการเสียชีวิต
    "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง! ช่วงปีใหม่ ครอบครัวเรามาญี่ปุ่นกันทั้งครอบครัว พี่สาวที่รักและใจดีของฉันเธอตื่นเต้นมาก แต่น่าเสียดาย พี่สาวจากพวกเราไปเพราะไข้หวัดและปอดบวม ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นพี่น้องกันในชาตินี้ ได้ดูแลกันและกัน อยู่เคียงข้างกัน ฉันขอบคุณและจะคิดถึงพี่สาวของฉันเสมอ!

    ขอให้การเดินทางครั้งนี้ พบแต่ความสุขครับ
    RIP. ต้าเอส
    ข่าวช็อกวงการบันเทิง "ต้าเอส" หนึ่งในนักแสดงหนังชุดไต้หวันสุดดัง #F4 "รักใสใส หัวใจสี่ดวง" เสียชีวิตในประเทศญี่ปุ่น ในวัย 48 ปี มีรายงานข่าวจากสื่อบันเทิงหลายหัวใน ฮ่องกง ไต้หวัน จีน และ ญี่ปุ่น โดยน้องสาว "เสี่ยวเอส" และครอบครัวของ "ต้าเอส" ได้แจ้งข่าวยืนยันการเสียชีวิต "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วง! ช่วงปีใหม่ ครอบครัวเรามาญี่ปุ่นกันทั้งครอบครัว พี่สาวที่รักและใจดีของฉันเธอตื่นเต้นมาก แต่น่าเสียดาย พี่สาวจากพวกเราไปเพราะไข้หวัดและปอดบวม ฉันรู้สึกขอบคุณที่ได้เกิดมาเป็นพี่น้องกันในชาตินี้ ได้ดูแลกันและกัน อยู่เคียงข้างกัน ฉันขอบคุณและจะคิดถึงพี่สาวของฉันเสมอ! ขอให้การเดินทางครั้งนี้ พบแต่ความสุขครับ RIP. ต้าเอส
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 286 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทบ.ร่วม สตช. ประสานความร่วมมือเมียนมา ช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวฮ่องกงได้ 1 รายจาก 12 ราย หลังติดต่อขอความช่วยเหลือ ผ่าน ป.ป.ส.พบฐานสำคัญแก๊งจีนเทาอยู่ทางตอนใต้เมืองเมียววดีในพื้นที่ฐานที่มันของทหาร กะเหรี่ยง DKBA

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010656

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ทบ.ร่วม สตช. ประสานความร่วมมือเมียนมา ช่วยเหลือเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวฮ่องกงได้ 1 รายจาก 12 ราย หลังติดต่อขอความช่วยเหลือ ผ่าน ป.ป.ส.พบฐานสำคัญแก๊งจีนเทาอยู่ทางตอนใต้เมืองเมียววดีในพื้นที่ฐานที่มันของทหาร กะเหรี่ยง DKBA อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000010656 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 826 มุมมอง 0 รีวิว
  • มังกรจีน เขียนได้..หลายสิบแบบ

    เขียนแบบ(ตัวเต็ม) 龍 ใช้ในไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย
    แบบ(ตัวย่อ)龙 ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่

    สำหรับการการเขียนอักษรจีน มาจากการเขียนภาพ
    ซึ่งมีวิวัฒนาการ 6 รูปแบบ คือ
    1. แบบ Oracle bone script.
    2. แบบ Bronze script
    3. แบบ Seal script
    4. แบบตัวเต็ม Traditional script
    5. แบบญี่ปุ่น Japanese
    6. แบบตัวย่อ Simplified
    มังกรจีน เขียนได้..หลายสิบแบบ เขียนแบบ(ตัวเต็ม) 龍 ใช้ในไต้หวัน ฮ่องกง มาเลเซีย แบบ(ตัวย่อ)龙 ใช้ในจีนแผ่นดินใหญ่ สำหรับการการเขียนอักษรจีน มาจากการเขียนภาพ ซึ่งมีวิวัฒนาการ 6 รูปแบบ คือ 1. แบบ Oracle bone script. 2. แบบ Bronze script 3. แบบ Seal script 4. แบบตัวเต็ม Traditional script 5. แบบญี่ปุ่น Japanese 6. แบบตัวย่อ Simplified
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้บล็อกแอปพลิเคชัน Android ที่มีความเสี่ยงจำนวน 2.36 ล้านแอปจาก Play Store ในปี 2024 เนื่องจากการละเมิดนโยบายที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีการแบนบัญชีนักพัฒนาจำนวน 158,000 บัญชีที่พยายามเผยแพร่แอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เช่น มัลแวร์และสปายแวร์บน Play Store

    การบล็อกแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยงในปี 2024 มีจำนวนมากกว่าปี 2023 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 2.28 ล้านแอป และปี 2022 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 1.5 ล้านแอป การเพิ่มขึ้นของจำนวนแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกในปี 2024 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้ AI ในการช่วยตรวจสอบแอปพลิเคชัน ซึ่งใช้ใน 92% ของกรณีที่มีการละเมิด

    Google รายงานว่าได้ป้องกันแอปพลิเคชันจำนวน 1.3 ล้านแอปจากการขอสิทธิ์ที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ Google Play Protect ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยในตัวของ Android ได้รับการอัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 เพื่อเพิ่มการป้องกันแบบเรียลไทม์ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย การหลอกลวง และการฉ้อโกง แม้กระทั่งแอปพลิเคชันที่ติดตั้งจากนอก Play Store

    ในปี 2024 การสแกนแอปพลิเคชันของ Google Play Protect ได้ตรวจพบแอปพลิเคชันมัลแวร์ใหม่มากกว่า 13 ล้านแอปที่มาจากนอก Play Store นอกจากนี้ นักพัฒนายังได้รับเครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันของตนจาก SDK ที่เป็นอันตรายและการละเมิด

    สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ ระบบการบล็อกการติดตั้ง APK ที่ไม่น่าเชื่อถือของ Google ซึ่งเปิดตัวเป็นการทดลองในสิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้ขยายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล ฮ่องกง อินเดีย เคนยา ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ ไทย และเวียดนาม ความสำเร็จของระบบนี้ในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายจำนวน 36 ล้านครั้งจากแอปพลิเคชันที่ไม่ซ้ำกัน 200,000 แอปในอุปกรณ์ Android จำนวน 10 ล้านเครื่อง

    การป้องกันของ Google ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีช่องโหว่ในด้านความปลอดภัย ผู้ใช้ควรระมัดระวังและเชื่อถือเฉพาะผู้เผยแพร่ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น รวมถึงตรวจสอบและยกเลิกสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยง และให้แน่ใจว่า Google Play Protect ทำงานอยู่ตลอดเวลา

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-blocked-236-million-risky-android-apps-from-play-store-in-2024/
    Google ได้บล็อกแอปพลิเคชัน Android ที่มีความเสี่ยงจำนวน 2.36 ล้านแอปจาก Play Store ในปี 2024 เนื่องจากการละเมิดนโยบายที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้ นอกจากนี้ยังมีการแบนบัญชีนักพัฒนาจำนวน 158,000 บัญชีที่พยายามเผยแพร่แอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย เช่น มัลแวร์และสปายแวร์บน Play Store การบล็อกแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยงในปี 2024 มีจำนวนมากกว่าปี 2023 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 2.28 ล้านแอป และปี 2022 ที่บล็อกแอปพลิเคชันจำนวน 1.5 ล้านแอป การเพิ่มขึ้นของจำนวนแอปพลิเคชันที่ถูกบล็อกในปี 2024 ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการใช้ AI ในการช่วยตรวจสอบแอปพลิเคชัน ซึ่งใช้ใน 92% ของกรณีที่มีการละเมิด Google รายงานว่าได้ป้องกันแอปพลิเคชันจำนวน 1.3 ล้านแอปจากการขอสิทธิ์ที่เกินความจำเป็น ซึ่งอาจทำให้แอปพลิเคชันเหล่านี้เข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของผู้ใช้โดยไม่จำเป็น นอกจากนี้ Google Play Protect ซึ่งเป็นระบบความปลอดภัยในตัวของ Android ได้รับการอัปเกรดอย่างมีนัยสำคัญในปี 2024 เพื่อเพิ่มการป้องกันแบบเรียลไทม์ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตราย การหลอกลวง และการฉ้อโกง แม้กระทั่งแอปพลิเคชันที่ติดตั้งจากนอก Play Store ในปี 2024 การสแกนแอปพลิเคชันของ Google Play Protect ได้ตรวจพบแอปพลิเคชันมัลแวร์ใหม่มากกว่า 13 ล้านแอปที่มาจากนอก Play Store นอกจากนี้ นักพัฒนายังได้รับเครื่องมือใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับแอปพลิเคชันของตนจาก SDK ที่เป็นอันตรายและการละเมิด สาระที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ ระบบการบล็อกการติดตั้ง APK ที่ไม่น่าเชื่อถือของ Google ซึ่งเปิดตัวเป็นการทดลองในสิงคโปร์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 ได้ขยายไปยังประเทศอื่นๆ เช่น บราซิล ฮ่องกง อินเดีย เคนยา ไนจีเรีย ฟิลิปปินส์ แอฟริกาใต้ ไทย และเวียดนาม ความสำเร็จของระบบนี้ในปี 2024 แสดงให้เห็นถึงการหยุดการติดตั้งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายจำนวน 36 ล้านครั้งจากแอปพลิเคชันที่ไม่ซ้ำกัน 200,000 แอปในอุปกรณ์ Android จำนวน 10 ล้านเครื่อง การป้องกันของ Google ต่อแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีช่องโหว่ในด้านความปลอดภัย ผู้ใช้ควรระมัดระวังและเชื่อถือเฉพาะผู้เผยแพร่ที่มีชื่อเสียงเท่านั้น รวมถึงตรวจสอบและยกเลิกสิทธิ์การใช้งานแอปพลิเคชันที่มีความเสี่ยง และให้แน่ใจว่า Google Play Protect ทำงานอยู่ตลอดเวลา https://www.bleepingcomputer.com/news/security/google-blocked-236-million-risky-android-apps-from-play-store-in-2024/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    Google blocked 2.36 million risky Android apps from Play Store in 2024
    Google blocked 2.3 million Android app submissions to the Play Store in 2024 due to violations of its policies that made them potentially risky for users.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 272 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท
    .
    วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60
    .
    สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้
    .
    1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60, 
    .
    2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60  
    .
    3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,        
    .
    4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265 
    .
    5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738
    .........
    Sondhi X
    รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยสำนักงานคดีพิเศษ สั่งฟ้องทนายตั้ม ฉ้อโกง-ฟอกเงิน ทั้งสำนวนทำผิดในประเทศและนอกประเทศ รวมทั้งภรรยา พี่สาว และพวก รวมทั้งพนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย พร้อมขอศาลสั่งให้กลุ่มผู้ต้องหาชดใช้เงินคุณอ้อย ทั้งแอปฯ หวยออนไลน์ ส่วนต่างรถเบนซ์ และสแกมเมอร์ทิพย์ รวม 111 ล้านบาท . วันนี้ (30 ม.ค.) นายกุญช์ฐาน์ ทัดทูน รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยว่า ตามที่สำนักงานคดีพิเศษ สำนักงานอัยการสูงสุด ได้รับสำนวนการสอบสวนคดีนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม จากพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จำนวน 2 สำนวน เมื่อวันที่ 20 ม.ค. 2568 และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานร่วมกันพิจารณา บัดนี้ สำนักงานคดีพิเศษ ได้พิจารณาสำนวนดังกล่าวและมีคำสั่ง ได้แก่ สำนวนที่ 1 (สำนวนที่กระทำความผิดในราชอาณาจักร กรณีการออกแบบโรงแรม) ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐีชาว อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และ พ.ต.ต.สันติชัย ศรีสวัสดิ์ สารวัตร กก.3 บก.ป. ผู้กล่าวหา กับนายษิทรา และ น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือดาว พี่สาวภรรยานายษิทรา พนักงานอัยการสั่งฟ้อง นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 341 และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 และสั่งฟ้อง น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 2 ฐานร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 และ และ พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 มาตรา 3 (18), 5, 9 วรรคสอง และมาตรา 60 . สำนวนที่ 2 น.ส.จตุพร กับพวกรวม 4 คน ผู้กล่าวหา นายษิทรา, นางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยานายษิทรา, นายนุวัฒน์ ยงยุทธ กับ น.ส.สารินี นุชนารถ สองสามีภรรยากรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ, น.ส.ปิณฑิรา พี่สาวภรรยานายษิทรา, น.ส.แก้วสวรรค์ สุขผล และ น.ส.วมนันพัทธ์ รามธีรพัฒน์ พนักงานโชว์รูมรถยนต์ รวมผู้ต้องหา 7 ราย เหตุเกิดระหว่างวันที่ 16 ก.พ. 2566 ถึงวันที่ 6 ก.พ. 2567 ในหลายท้องที่ในราชอาณาจักร เขตบริหารพิเศษฮ่องกง ประเทศจีน และประเทศฝรั่งเศส เกี่ยวพันกัน สำนวนคดีนี้เป็นความผิดที่กระทำนอกราชอาณาจักรไทย ซึ่งกฎหมายกำหนดให้เป็นอำนาจการสอบสวนของอัยการสูงสุด โดยอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้พนักงานอัยการสำนักงานการสอบสวน ทำการสอบสวนร่วมกับพนักงานสืบสวนสอบสวนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งอัยการสูงสุด มีคำสั่งดังนี้ . 1. สั่งฟ้องนายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 ฐานฉ้อโกง (กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์) ฉ้อโกงโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นปลอมเอกสารสิทธิ และใช้เอกสารสิทธิปลอม (กรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400) ร่วมกันฉ้อโกง, โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 3, 83, 84, 91, 137, 173, 264, 265, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,  . 2. สั่งฟ้องนางปทิตตา ผู้ต้องหาที่ 2 และ น.ส.ปิณฑิรา ผู้ต้องหาที่ 5 ฐานสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60   . 3. สั่งฟ้องนายนุวัฒน์ ผู้ต้องหาที่ 3 และ น.ส.สารินี ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันฉ้อโกง โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง, ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงาน ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหาย, รู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น ร่วมกันแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้มีการกระทำความผิด, ร่วมกันแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐานโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น, ร่วมกันใช้หรืออ้างเอกสารอันเกิดจากการแจ้งให้เจ้าพนักงานผู้กระทำการตามหน้าที่จดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการ ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำหรับใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น (กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ), สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน (ในความผิดมูลฐานฉ้อโกงตามประมวลกฎหมายอาญาอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ) ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 137, 173, 267, 268, 341, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (1), พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 มาตรา 3 (18), 5, 6, 9, 60,         . 4. สั่งฟ้อง น.ส.แก้วสวรรค์ ผู้ต้องหาที่ 6 และ น.ส.มนันพัทธ์ ผู้ต้องหาที่ 7 ฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 264, 265  . 5. ขอศาลสั่งให้นายษิทรา ผู้ต้องหาที่ 1 คืนหรือชดใช้เงิน จำนวน 72,597,764.70 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีหลอกให้ลงทุนทำแอปพลิเคชันซื้อขายสลากกินแบ่งรัฐบาลออนไลน์ และกรณีหลอกลวงเพื่อให้ได้รับค่าส่วนต่างในการซื้อรถยนต์ ยี่ห้อเบนซ์ รุ่น จี 400 และขอศาลสั่งให้ผู้ต้องหาที่ 1, ที่ 3 และที่ 4 ร่วมกันคืนหรือชดใช้เงินอีก จำนวน 39,000,000 บาท แก่ผู้เสียหาย กรณีร่วมกันหลอกลวงว่ากระเป๋าเงินดิจิทัลถูกระงับ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009738 ......... Sondhi X
    Like
    Love
    Yay
    41
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2478 มุมมอง 2 รีวิว
  • #รีวิวสั้น หลังดู #TheLastDance

    กรีดลึกในความรู้สึก มากด้วยข้อคิดของคนต่างวัย ต่างอาชีพ สะท้อนปัญหาครอบครัวคนจีนที่ยึดติดกับระบบเดิมๆอันส่งผลต่อลูกหลาน การยอมขบถต่อระบบนั้น ทำให้เห็นทางออก ในขณะที่ก็สอนให้เห็นว่าแม้จะไม่เข้าใจกัน แต่สายสัมพันธ์ครอบครัวนั้นแนบแน่นกว่าสิ่งใด ไม่แปลกใจแล้ว ที่เห็นรีแอคชั่นคนฮ่องกงมีน้ำตากัน เราก็ไม่รอด อาจเพราะผ่านประสบการณ์ร่วมอย่างในหนังหลายๆเหตุการณ์ มนุษย์ต่างเกิดมาเพื่อเรียนรู้กันและกัน เรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลง แก้ไข และยอมรับในความต่าง ซึ่งมันอาจจะต่างแค่20 แต่สอดคล้องกันอยู่80 ก็เป็นได้
    อยากให้ไปดูกัน โดยเฉพาะ คนไทยเชื้อสายจีน คุณจะเข้าใจในบริบทและเรื่องราวที่หนังสื่อ

    #แด่ลมหายใจสุดท้าย
    สั้นๆไปก่อน
    มีซ้ำอีกรอบแน่นอน
    #รีวิวสั้น หลังดู #TheLastDance กรีดลึกในความรู้สึก มากด้วยข้อคิดของคนต่างวัย ต่างอาชีพ สะท้อนปัญหาครอบครัวคนจีนที่ยึดติดกับระบบเดิมๆอันส่งผลต่อลูกหลาน การยอมขบถต่อระบบนั้น ทำให้เห็นทางออก ในขณะที่ก็สอนให้เห็นว่าแม้จะไม่เข้าใจกัน แต่สายสัมพันธ์ครอบครัวนั้นแนบแน่นกว่าสิ่งใด ไม่แปลกใจแล้ว ที่เห็นรีแอคชั่นคนฮ่องกงมีน้ำตากัน เราก็ไม่รอด อาจเพราะผ่านประสบการณ์ร่วมอย่างในหนังหลายๆเหตุการณ์ มนุษย์ต่างเกิดมาเพื่อเรียนรู้กันและกัน เรียนรู้เพื่อเปลี่ยนแปลง แก้ไข และยอมรับในความต่าง ซึ่งมันอาจจะต่างแค่20 แต่สอดคล้องกันอยู่80 ก็เป็นได้ อยากให้ไปดูกัน โดยเฉพาะ คนไทยเชื้อสายจีน คุณจะเข้าใจในบริบทและเรื่องราวที่หนังสื่อ #แด่ลมหายใจสุดท้าย สั้นๆไปก่อน มีซ้ำอีกรอบแน่นอน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อมูลคืบหน้าล่าสุดเหตุเครื่องบิน แอร์บัส A321-200 แอร์ปูซาน เที่ยวบิน BX391 เกิดเพลิงไหม้ขณะกำลังจะออกเดินทางสู่ฮ่องกง

    สาเหตุอย่างเป็นทางการยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน แต่ข้อมูลจากแหล่งข่าวแจ้งว่าไฟไหม้มาจากที่เก็บสัมภาระด้านท้ายของเครื่องบิน อาจมาจากแบตเตอรี่สำรอง หรือ บุหรีไฟฟ้า ในกระเป๋าผู้โดยสาร แต่ยังเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น

    ผู้โดยสาร 169 คน และลูกเรือ 7 คน ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการดับไฟ

    ข้อมูลคืบหน้าล่าสุดเหตุเครื่องบิน แอร์บัส A321-200 แอร์ปูซาน เที่ยวบิน BX391 เกิดเพลิงไหม้ขณะกำลังจะออกเดินทางสู่ฮ่องกง สาเหตุอย่างเป็นทางการยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน แต่ข้อมูลจากแหล่งข่าวแจ้งว่าไฟไหม้มาจากที่เก็บสัมภาระด้านท้ายของเครื่องบิน อาจมาจากแบตเตอรี่สำรอง หรือ บุหรีไฟฟ้า ในกระเป๋าผู้โดยสาร แต่ยังเป็นเพียงการคาดเดาเท่านั้น ผู้โดยสาร 169 คน และลูกเรือ 7 คน ได้รับบาดเจ็บ 10 ราย เจ้าหน้าที่จากหน่วยดับเพลิงใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงในการดับไฟ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของสายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ขณะกำลังตรียมเดินทางไปยังฮ่องกงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารทั้ง 169 คนและลูกเรืออีก 7 คนถูกอพยพได้ทัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน
    .
    สำนักงานดับเพลิงปูซานได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นภายในลำตัวเครื่องบินเมื่อเวลาราว 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าต้นเพลิงเกิดที่ส่วนหางของเครื่อง
    .
    คลิปเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ YTN เผยแพร่ทำให้เห็นว่ามีการใช้สไลด์อพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งจัดการกับควันและไฟที่ไหม้เครื่องบิน
    .
    ต่อมาสำนักข่าวยอนฮัปได้เผยแพร่คลิปแนวหลังคาห้องโดยสารที่เป็นรูโหว่อันเกิดจากการถูกไฟไหม้
    .
    เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากที่เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานครประสบอุบัติเหตุลื่นไถลหลุดรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังลงจอดในสภาพล้อไม่กาง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 179 คน และมีลูกเรือที่นั่งอยู่บริเวณส่วนหางรอดมาได้เพียง 2 คน
    .
    สำหรับแอร์ปูซานเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือเอเชียนาแอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ซึ่งเพิ่งจะถูกควบกิจการโดยโคเรียนแอร์ (Korean Air) เมื่อเดือน ธ.ค.
    .
    แอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผู้ผลิตเครื่องบินยืนยันว่าได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางแอร์ปูซาน
    .
    เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นแอร์บัส A321 neo หมายเลขท้ายเครื่อง HL7763 ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 17 ปี ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009127
    ..............
    Sondhi X
    เครื่องบินโดยสารแอร์บัสของสายการบินแอร์ปูซาน (Air Busan) ของเกาหลีใต้เกิดเพลิงลุกไหม้ที่ท่าอากาศยานนานาชาติกิมแฮทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ ขณะกำลังตรียมเดินทางไปยังฮ่องกงเมื่อค่ำวานนี้ (28 ม.ค.) แต่โชคดีที่ผู้โดยสารทั้ง 169 คนและลูกเรืออีก 7 คนถูกอพยพได้ทัน และมีผู้บาดเจ็บเล็กน้อยเพียง 3 คน . สำนักงานดับเพลิงปูซานได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ซึ่งปะทุขึ้นภายในลำตัวเครื่องบินเมื่อเวลาราว 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ขณะที่สำนักข่าวยอนฮัปรายงานว่าต้นเพลิงเกิดที่ส่วนหางของเครื่อง . คลิปเหตุการณ์ที่สถานีโทรทัศน์ YTN เผยแพร่ทำให้เห็นว่ามีการใช้สไลด์อพยพผู้โดยสารลงจากเครื่องบินทั้ง 2 ฝั่ง ขณะที่หน่วยกู้ภัยเร่งจัดการกับควันและไฟที่ไหม้เครื่องบิน . ต่อมาสำนักข่าวยอนฮัปได้เผยแพร่คลิปแนวหลังคาห้องโดยสารที่เป็นรูโหว่อันเกิดจากการถูกไฟไหม้ . เหตุระทึกครั้งนี้เกิดขึ้นเพียง 1 เดือนหลังจากที่เครื่องบินโบอิ้งของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) ซึ่งเดินทางจากกรุงเทพมหานครประสบอุบัติเหตุลื่นไถลหลุดรันเวย์ที่สนามบินนานาชาติมูอัน หลังลงจอดในสภาพล้อไม่กาง ซึ่งทำให้ผู้โดยสารและลูกเรือเสียชีวิตรวม 179 คน และมีลูกเรือที่นั่งอยู่บริเวณส่วนหางรอดมาได้เพียง 2 คน . สำหรับแอร์ปูซานเป็นสายการบินต้นทุนต่ำในเครือเอเชียนาแอร์ไลน์ส (Asiana Airlines) ซึ่งเพิ่งจะถูกควบกิจการโดยโคเรียนแอร์ (Korean Air) เมื่อเดือน ธ.ค. . แอร์บัสซึ่งเป็นผู้ผู้ผลิตเครื่องบินยืนยันว่าได้รับรายงานอุบัติเหตุดังกล่าวแล้ว และอยู่ระหว่างประสานงานกับทางแอร์ปูซาน . เครื่องบินลำเกิดเหตุเป็นแอร์บัส A321 neo หมายเลขท้ายเครื่อง HL7763 ซึ่งผ่านการใช้งานมาแล้ว 17 ปี ตามข้อมูลจาก Aviation Safety Network . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000009127 .............. Sondhi X
    Like
    Sad
    Love
    Wow
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2121 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    4/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    3/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • 2/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    2/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 1/
    ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ

    เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง

    มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ

    เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    1/ ด่วน! เมื่อเวลาประมาณ 22.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 28 มกราคม 2568 เครื่องบินแอร์บัส A321 ของแอร์ปูซาน (AIR BUSAN) เกิดเพลิงไหม้ที่ส่วนท้ายของเครื่องหลังจากนั้นลุกลามไปทั่วทั้งลำ เหตุการณ์เกิดขึ้นที่สนามบินนานาชาติกิมแฮ (PUS) ขณะกำลังจะบินไปปลายทางที่ฮ่องกง มีรายงานว่าผู้โดยสารและลูกเรือรวมทั้งหมด 170 คน (ผู้โดยสาร 169 ราย ลูกเรือ 7 ราย) ได้รับการอพยพโดยใช้สไลด์อพยพฉุกเฉิน และไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงกำลังลงพื้นที่เพื่อทำการดับไฟ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวมาเลย์ฯ เที่ยวไทย กลายเป็นผู้สูญหาย

    เมื่อสัปดาห์ก่อน สื่อมวลชนประเทศมาเลเซีย รายงานว่า แอนดี้ จี ยัง คิท (Andy Jee Yung Kit) อายุ 30 ปี ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน สูง 170 เซนติเมตร ผิวคล้ำ และรูปร่างท้วม ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอกูชิง รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว แต่ทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ได้สูญหายและขาดการติดต่อ หลังจากไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. แต่เพื่อนร่วมงานได้แจ้งให้ครอบครัวทราบว่าหายตัวไป หลังจากไม่มาทำงานติดต่อกันสองวันหลังจากวันลาหยุด ทำให้ครอบครัวต้องเร่งค้นหาอย่างเร่งด่วน

    โดยลูกพี่ลูกน้องของนายแอนดี้ ได้ประกาศตามหาผ่านแพลตฟอร์มเสี่ยวหงซู (Xiao Hong Shu) เป็นภาษาจีน ระบุว่า นายแอนดี้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปท่องเที่ยว ต้องเดินทางกลับประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 15 ม.ค. กระทั่งเพื่อนร่วมงานแจ้งกับญาติว่า นายแอนดี้ไม่ได้มาทำงานหลังจากวันหยุด จึงทราบว่าหายตัวไปราวสองสามวันแล้ว โทรศัพท์ของเขาถูกตัดการติดต่อ และไม่มีข่าวคราวใดๆ ก่อนหน้านี้นายแอนดี้บอกญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงานแต่เพียงว่า จะไปประเทศไทยด้วยกันกับเพื่อนเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเพื่อนของเขาคือใคร

    ล่าสุด ครอบครัวของนายแอนดี้เดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศสิงคโปร์ ตรวจสอบว่านายแอนดี้กลับเข้าประเทศหรือไม่ แต่หากไม่พบเบาะแสใดๆ ครอบครัวกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อตามหานายแอนดี้อีกทางหนึ่ง

    ประเทศไทยตกเป็นข่าวว่าเป็นทางผ่านของขบวนการสแกมเมอร์ ต้นเดือนที่ผ่านมา หวาง ซิง (Wang Xing) นักแสดงชาวจีนวัย 22 ปี ได้รับความช่วยเหลือออกจากเครือข่ายค้ามนุษย์ หลังจากถูกหลอกให้ไปถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย มีรายงานว่าเขาถูกบังคับให้ฝึกอบรมเป็นสแกมเมอร์ในประเทศเมียนมา

    ก่อนหน้านี้ แจ็กเกอลีน เชิง (Jacquelin Ch'ng) นักแสดงสาวชาวมาเลเซียวัย 44 ปี ที่อาศัยและทำงานวงการบันเทิงกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) ในฮ่องกง ออกมาเปิดเผยข้อความต้องสงสัยที่เชื่อว่าอาจมีการหลอกลวงเกิดขึ้น เพราะได้รับข้อตกลงการจ้างงานเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าเป็นภาษาจีน ที่ได้รับจากเอเจนซีโฆษณาแห่งหนึ่งในประเทศไทย ระบุว่า แบรนด์ชุดว่ายน้ำแบรนด์หนึ่งสนใจที่จะร่วมงาน โดยระบุจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำชุดว่ายน้ำ พร้อมกับขอเสนอสิทธิ์ใช้ภาพเป็นเวลา 6 เดือน ลูกค้ามีงบประมาณ 6 หลักในการถ่ายทำ จึงขอเชิญร่วมงาน ซึ่งข้อความที่คลุมเครือดังกล่าวทำให้เชิงเริ่มสงสัย และแสดงความกังวลว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรว่างานโฆษณาที่ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นของจริงหรือของปลอม

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    ชาวมาเลย์ฯ เที่ยวไทย กลายเป็นผู้สูญหาย เมื่อสัปดาห์ก่อน สื่อมวลชนประเทศมาเลเซีย รายงานว่า แอนดี้ จี ยัง คิท (Andy Jee Yung Kit) อายุ 30 ปี ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน สูง 170 เซนติเมตร ผิวคล้ำ และรูปร่างท้วม ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอกูชิง รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว แต่ทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ได้สูญหายและขาดการติดต่อ หลังจากไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. แต่เพื่อนร่วมงานได้แจ้งให้ครอบครัวทราบว่าหายตัวไป หลังจากไม่มาทำงานติดต่อกันสองวันหลังจากวันลาหยุด ทำให้ครอบครัวต้องเร่งค้นหาอย่างเร่งด่วน โดยลูกพี่ลูกน้องของนายแอนดี้ ได้ประกาศตามหาผ่านแพลตฟอร์มเสี่ยวหงซู (Xiao Hong Shu) เป็นภาษาจีน ระบุว่า นายแอนดี้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปท่องเที่ยว ต้องเดินทางกลับประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 15 ม.ค. กระทั่งเพื่อนร่วมงานแจ้งกับญาติว่า นายแอนดี้ไม่ได้มาทำงานหลังจากวันหยุด จึงทราบว่าหายตัวไปราวสองสามวันแล้ว โทรศัพท์ของเขาถูกตัดการติดต่อ และไม่มีข่าวคราวใดๆ ก่อนหน้านี้นายแอนดี้บอกญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงานแต่เพียงว่า จะไปประเทศไทยด้วยกันกับเพื่อนเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเพื่อนของเขาคือใคร ล่าสุด ครอบครัวของนายแอนดี้เดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศสิงคโปร์ ตรวจสอบว่านายแอนดี้กลับเข้าประเทศหรือไม่ แต่หากไม่พบเบาะแสใดๆ ครอบครัวกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อตามหานายแอนดี้อีกทางหนึ่ง ประเทศไทยตกเป็นข่าวว่าเป็นทางผ่านของขบวนการสแกมเมอร์ ต้นเดือนที่ผ่านมา หวาง ซิง (Wang Xing) นักแสดงชาวจีนวัย 22 ปี ได้รับความช่วยเหลือออกจากเครือข่ายค้ามนุษย์ หลังจากถูกหลอกให้ไปถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย มีรายงานว่าเขาถูกบังคับให้ฝึกอบรมเป็นสแกมเมอร์ในประเทศเมียนมา ก่อนหน้านี้ แจ็กเกอลีน เชิง (Jacquelin Ch'ng) นักแสดงสาวชาวมาเลเซียวัย 44 ปี ที่อาศัยและทำงานวงการบันเทิงกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) ในฮ่องกง ออกมาเปิดเผยข้อความต้องสงสัยที่เชื่อว่าอาจมีการหลอกลวงเกิดขึ้น เพราะได้รับข้อตกลงการจ้างงานเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าเป็นภาษาจีน ที่ได้รับจากเอเจนซีโฆษณาแห่งหนึ่งในประเทศไทย ระบุว่า แบรนด์ชุดว่ายน้ำแบรนด์หนึ่งสนใจที่จะร่วมงาน โดยระบุจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำชุดว่ายน้ำ พร้อมกับขอเสนอสิทธิ์ใช้ภาพเป็นเวลา 6 เดือน ลูกค้ามีงบประมาณ 6 หลักในการถ่ายทำ จึงขอเชิญร่วมงาน ซึ่งข้อความที่คลุมเครือดังกล่าวทำให้เชิงเริ่มสงสัย และแสดงความกังวลว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรว่างานโฆษณาที่ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นของจริงหรือของปลอม #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 557 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts