• แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “คิมซูฮยอน” นักแสดงสุดฉาว ที่ออกมาบีบน้ำตา ร้องไห้ยอมรับผิดว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด หนีปัญหา และโกหกทุกคน จนสร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้ “คิมแซรน” หลับไม่สงบ

    คิมซูฮยอน ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน โดยยังยืนยันว่าพวกเขาคบหากันมาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว

    ในวันที่ 31 มี.ค. คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านซังกัมดง เขตมาโป กรุงโซล โดยมีตัวแทนทางกฎหมายของเขา ทนายความ คิมจองบก จาก LKB&Partners ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในรอบ 21 วัน หลังครอบครัวของ คิมแซรน กล่าวหาว่าเขาพูดเท็จ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ยืนยันว่า คิมซูฮยอน กับ คิมแซรนมีความสัมพันธ์กันมานาน 6 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เธอยังเป็นวัยเยาว์

    ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ประกาศไว้ว่านักแสดงจะไม่ตอบคำถามใดๆ นอกเหนือไปจากคำแถลงที่เตรียมไว้

    ในงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขา คิมซูฮยอน เขาได้เผยว่า

    “ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษ เพราะผมคนเดียว จึงมีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้ ผมถือว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่จดจ่อกับการปกป้องสิ่งที่ผมมี ผมไม่สามารถให้ความไว้วางใจแม้แต่ความเมตตาที่ได้รับ ผมกลัวตลอดเวลาว่าจะสูญเสียบางสิ่งหรือได้รับอันตราย ซ้ำยังวิ่งหนี และปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้

    หากผมเผชิญเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนๆ ที่รักผม ทีมงานบริษัทที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่องานแถลงข่าวครั้งนี้ และทุกๆ คนก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้

    ทุกครั้งที่ชีวิตส่วนตัวของเราถูกเปิดเผย ผมคิดว่า 'พรุ่งนี้ผมจะออกมาพูด ผมจะจบสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ด้วยตัวผมเอง' แต่ทุกครั้ง ผมลังเล ผมกังวลว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลต่อคนรอบข้าง และจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงสำหรับทุกคนหรือเปล่า

    ตอนที่ คิมแซรน ผู้ล่วงลับโพสต์รูปผมระหว่างซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศ ผมได้ปฏิเสธ จริงๆเราคบกันมาประมาณ 1 ปี เป็นเวลา 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศคือคบกัน 5 ปีก่อน ผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงวิจารณ์การที่ผมเลือกโกหกในตอนนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ผมก็เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของผมที่จะพูดอย่างเปิดเผยแบบนี้”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030637

    #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #KimSaeron #kimsoohyun
    แถลงข่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ “คิมซูฮยอน” นักแสดงสุดฉาว ที่ออกมาบีบน้ำตา ร้องไห้ยอมรับผิดว่าตนเองเป็นคนขี้ขลาด หนีปัญหา และโกหกทุกคน จนสร้างความเสียหาย รวมถึงทำให้ “คิมแซรน” หลับไม่สงบ • คิมซูฮยอน ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อถึงข้อกล่าวหาที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเขากับนักแสดงสาวผู้ล่วงลับ คิมแซรน โดยยังยืนยันว่าพวกเขาคบหากันมาเป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว • ในวันที่ 31 มี.ค. คิมซูฮยอน ได้จัดงานแถลงข่าวที่โรงแรมแห่งหนึ่งในย่านซังกัมดง เขตมาโป กรุงโซล โดยมีตัวแทนทางกฎหมายของเขา ทนายความ คิมจองบก จาก LKB&Partners ร่วมด้วย ซึ่งถือเป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเขาในรอบ 21 วัน หลังครอบครัวของ คิมแซรน กล่าวหาว่าเขาพูดเท็จ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 10 มี.ค. ยืนยันว่า คิมซูฮยอน กับ คิมแซรนมีความสัมพันธ์กันมานาน 6 ปี ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในช่วงที่เธอยังเป็นวัยเยาว์ • ก่อนหน้านี้ ต้นสังกัดของ คิมซูฮยอน อย่าง Gold Medalist ได้ประกาศไว้ว่านักแสดงจะไม่ตอบคำถามใดๆ นอกเหนือไปจากคำแถลงที่เตรียมไว้ • ในงานแถลงข่าวที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเขา คิมซูฮยอน เขาได้เผยว่า • “ก่อนอื่น ผมต้องขอโทษ เพราะผมคนเดียว จึงมีผู้คนมากมายที่ต้องทนทุกข์ทรมาน ผมเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ผู้เสียชีวิตไม่สามารถพักผ่อนอย่างสงบได้ ผมถือว่าตัวเองเป็นคนขี้ขลาด ผมมัวแต่จดจ่อกับการปกป้องสิ่งที่ผมมี ผมไม่สามารถให้ความไว้วางใจแม้แต่ความเมตตาที่ได้รับ ผมกลัวตลอดเวลาว่าจะสูญเสียบางสิ่งหรือได้รับอันตราย ซ้ำยังวิ่งหนี และปฏิเสธทุกสิ่งทุกอย่าง นั่นคือเหตุผลว่าทำไมผมถึงใช้เวลานานมากในการมายืนอยู่ที่นี่ในวันนี้ • หากผมเผชิญเรื่องนี้ตั้งแต่แรก แฟนๆ ที่รักผม ทีมงานบริษัทที่ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่องานแถลงข่าวครั้งนี้ และทุกๆ คนก็คงไม่ต้องทนทุกข์ทรมานมากขนาดนี้ • ทุกครั้งที่ชีวิตส่วนตัวของเราถูกเปิดเผย ผมคิดว่า 'พรุ่งนี้ผมจะออกมาพูด ผมจะจบสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ด้วยตัวผมเอง' แต่ทุกครั้ง ผมลังเล ผมกังวลว่าการตัดสินใจของผมจะส่งผลต่อคนรอบข้าง และจะทำให้ทุกอย่างแย่ลงสำหรับทุกคนหรือเปล่า • ตอนที่ คิมแซรน ผู้ล่วงลับโพสต์รูปผมระหว่างซีรีส์ Queen of Tears ออกอากาศ ผมได้ปฏิเสธ จริงๆเราคบกันมาประมาณ 1 ปี เป็นเวลา 4 ปีก่อนที่ซีรีส์ Queen of Tears จะออกอากาศคือคบกัน 5 ปีก่อน ผมเข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงวิจารณ์การที่ผมเลือกโกหกในตอนนั้น แม้ว่าคุณจะไม่เชื่อในสิ่งที่ผมพูดตอนนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเรา ผมก็เข้าใจ แต่ผมเชื่อว่านี่เป็นโอกาสเดียวของผมที่จะพูดอย่างเปิดเผยแบบนี้” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000030637 • #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน #KimSaeron #kimsoohyun
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท

    วันนี้ ( 31 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ความว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ

    บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอที่ดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    บริษัทได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป

    ในการนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัท หากมีความคืบหน้าบริษัทจะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030527

    #MGROnline #อิตาเลียนไทย #ตลาดหลักทรัพย์ #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.#แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    อิตาเลียนไทย แจ้งตลาดหลักทรัพย์ แสดงความเสียใจต่อผู้สูญเสียจากเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมให้ความช่วยเหลือ และชดเชยเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต-บาดเจ็บ มั่นใจไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างอื่นๆ ของบริษัท • วันนี้ ( 31 มี.ค.) บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ส่งเอกสารชี้แจงถึงกรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 31 มีนาคม 2568 ความว่า สืบเนื่องจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่อยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างถล่มเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บ • บริษัทฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจการร่วมค้า ไอที่ดี-ซีอาร์อีซี ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว • บริษัทได้ดำเนินการจัดทีมวิศวกร เครื่องจักรกลต่างๆ ร่วมสนับสนุนกับหน่วยงานราชการในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลังความสามารถ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนกับทุกภาคส่วน จะดำเนินการแก้ไขในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อให้สถานการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว และจะเร่งให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการชดเชยเยียวยาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตและการรักษาพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บต่อไป • ในการนี้ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) มั่นใจว่าเหตุการณ์นี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อโครงการก่อสร้างโครงการอื่นๆ ของบริษัท หากมีความคืบหน้าบริษัทจะเรียนชี้แจงให้ทราบเป็นระยะต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030527 • #MGROnline #อิตาเลียนไทย #ตลาดหลักทรัพย์ #สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน #สตง.#แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) คู่สัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 30 มีนาคม 2568 ชี้แจงกรณีอาคารถล่มหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีใจความดังนี้

    เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ประเทศพม่า ส่งแรงสะเทือนสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และเวลา 13.20 น. ได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดผลกระทบวงกว้าง และทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น

    กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) เป็นผู้ได้รับประมูลตามสัญญาก่อสร้างอาคาร สตง.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030505

    #MGROnline #ไอทีดี #ซีอาร์อีซี #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) คู่สัญญาก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน(สตง.)แห่งใหม่ ออกแถลงการณ์ลงวันที่ 30 มีนาคม 2568 ชี้แจงกรณีอาคารถล่มหลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว มีใจความดังนี้ • เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ตามเวลาประเทศไทย ได้เกิดแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่ประเทศพม่า ส่งแรงสะเทือนสร้างความเสียหายในหลายพื้นที่ของประเทศไทย และเวลา 13.20 น. ได้เกิดขึ้นที่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดผลกระทบวงกว้าง และทำให้โครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ผู้สูญหาย และผู้บาดเจ็บเกิดขึ้น • กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซีนัมเบอร์เทน (ไทย) เป็นผู้ได้รับประมูลตามสัญญาก่อสร้างอาคาร สตง.ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวผู้สูญเสีย ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030505 • #MGROnline #ไอทีดี #ซีอาร์อีซี #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 51 มุมมอง 0 รีวิว
  • แพทย์พยายามช่วยชีวิตเด็กชาวปาเลสไตน์หลังการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา

    เป็นประเพณีที่เด็กๆ จะต้องสวมชุดใหม่ในวันอีด ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน... แต่ชุดของเด็กๆ เหล่านี้กลับเปื้อนเลือด

    มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายตั้งแต่รุ่งสางของวันนี้ในสตริป

    สนับสนุนเราได้ที่นี่ @IntelRepublic
    แพทย์พยายามช่วยชีวิตเด็กชาวปาเลสไตน์หลังการโจมตีของอิสราเอลในฉนวนกาซา เป็นประเพณีที่เด็กๆ จะต้องสวมชุดใหม่ในวันอีด ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดเดือนรอมฎอน... แต่ชุดของเด็กๆ เหล่านี้กลับเปื้อนเลือด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 20 รายตั้งแต่รุ่งสางของวันนี้ในสตริป สนับสนุนเราได้ที่นี่ @IntelRepublic
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran ที่โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟ

    โรงพยาบาลแห่งนี้ถูกใช้เพื่อรักษาทหารรับจ้างของฝ่ายยูเครน และยังใช้เป็นที่สะสมกองกำลังเพื่อใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซีย

    รายงานว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย
    ภาพการโจมตีด้วยโดรน Geran ที่โรงพยาบาลทหารแห่งหนึ่งในเมืองคาร์คิฟ โรงพยาบาลแห่งนี้ถูกใช้เพื่อรักษาทหารรับจ้างของฝ่ายยูเครน และยังใช้เป็นที่สะสมกองกำลังเพื่อใช้ในการโจมตีดินแดนรัสเซีย รายงานว่าผู้เสียชีวิตมากกว่า 30 ราย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 รีวิว
  • 35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️

    🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️

    🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน

    ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨

    แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย…

    📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง

    🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦

    มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended

    เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น

    🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์
    โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว

    👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา…

    💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก

    🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก

    อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️

    💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน

    📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90%

    ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕

    🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า…

    ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย"

    ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎

    🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้

    “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย

    ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜

    🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต…

    🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม
    ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568

    🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️ 🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️ 🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨 แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย… 📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง 🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦 มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น 🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์ โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว 👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา… 💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก 🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️ 💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน 📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90% ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕 🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า… ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย" ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎 🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้ “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜 🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต… 🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568 🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 142 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่องข้อมูลบริษัทจีน ร่วมสร้างตึก สตง.บอกเลยไม่ธรรมดา
    .
    โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่ถล่มจากแผ่นดินไหวกำลังถูกตรวจสอบ โดยเฉพาะบริษัท China Railway No.10 Engineering Group ที่ร่วมงานกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ฯ พบว่านายโสภณ มีชัย ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจีน แต่ไม่มีประวัติเกี่ยวกับธุรกิจก่อสร้างโดยตรง อาจเป็นเพียง “นอมินี” นอกจากนี้ ในปี 2566 พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา เสียชีวิตภายในสำนักงานของบริษัทนำเข้าและส่งออกยางรถยนต์ที่เชื่อมโยงกับโครงการดังกล่าว ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของโครงการและการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030200
    ส่องข้อมูลบริษัทจีน ร่วมสร้างตึก สตง.บอกเลยไม่ธรรมดา . โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินที่ถล่มจากแผ่นดินไหวกำลังถูกตรวจสอบ โดยเฉพาะบริษัท China Railway No.10 Engineering Group ที่ร่วมงานกับบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ฯ พบว่านายโสภณ มีชัย ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทจีน แต่ไม่มีประวัติเกี่ยวกับธุรกิจก่อสร้างโดยตรง อาจเป็นเพียง “นอมินี” นอกจากนี้ ในปี 2566 พล.อ.ภัสสร อิศรางกูร ณ อยุธยา เสียชีวิตภายในสำนักงานของบริษัทนำเข้าและส่งออกยางรถยนต์ที่เชื่อมโยงกับโครงการดังกล่าว ทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับความโปร่งใสของโครงการและการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030200
    Like
    Love
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 689 มุมมอง 0 รีวิว
  • รถลีมูซีน Aurus ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนรถประจำตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระเบิดกลางถนนในมอสโก เพียงไม่กี่ช่วงตึกจากสำนักงานใหญ่ FSB



    เพียงสามวันหลังจากเซเลนสกีพูดจาข่มขู่ว่าปูตินจะเสียชีวิตในเร็วๆ นี้ รถลีมูซีนของประธานาธิบดีรัสเซียก็ระเบิดหน้าสำนักงานใหญ่ของ FSB

    ยังไม่ชัดเจนว่านี่เป็นความพยายามลอบสังหารปูติน หรือเกิดจากอุบัติเหตุ

    "ซึ่งหากนี่เป็นความพยายามลอบสังหาร ผลที่ตามมาจะเป็นระดับโลกที่เลวร้ายมาก"
    รถลีมูซีน Aurus ซึ่งเป็นหนึ่งในขบวนรถประจำตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ระเบิดกลางถนนในมอสโก เพียงไม่กี่ช่วงตึกจากสำนักงานใหญ่ FSB เพียงสามวันหลังจากเซเลนสกีพูดจาข่มขู่ว่าปูตินจะเสียชีวิตในเร็วๆ นี้ รถลีมูซีนของประธานาธิบดีรัสเซียก็ระเบิดหน้าสำนักงานใหญ่ของ FSB ยังไม่ชัดเจนว่านี่เป็นความพยายามลอบสังหารปูติน หรือเกิดจากอุบัติเหตุ "ซึ่งหากนี่เป็นความพยายามลอบสังหาร ผลที่ตามมาจะเป็นระดับโลกที่เลวร้ายมาก"
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 132 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่หนุ่มขับเครนตึกถล่ม เผยลางสังหรณ์ฝันลูกชายติดคุกคืนก่อนเกิดเหตุ ครอบครัวเศร้าเพิ่งเสียพ่อไปเมื่อปีที่ผ่านมา คนตายบอกสงกรานต์นี้ จะกลับมาบวชให้ แต่บุญไม่ถึงต้องมาเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่พม่าเสียก่อน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030083
    แม่หนุ่มขับเครนตึกถล่ม เผยลางสังหรณ์ฝันลูกชายติดคุกคืนก่อนเกิดเหตุ ครอบครัวเศร้าเพิ่งเสียพ่อไปเมื่อปีที่ผ่านมา คนตายบอกสงกรานต์นี้ จะกลับมาบวชให้ แต่บุญไม่ถึงต้องมาเสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่พม่าเสียก่อน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000030083
    Sad
    Like
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 510 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปฏิบัติการค้นหาและกู้ซากรถกู้ภัยหุ้มเกราะ M88A2 “Hercules” ของกองทัพสหรัฐฯ ที่จมโคลนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ 4 นาย ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว ยังคงดำเนินต่อไปในลิทัวเนีย

    กองกำลังพิเศษที่ประกอบด้วยทหาร 50 นายและยุทโธปกรณ์หนักจากกองทัพโปแลนด์รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ ของ NATO ยังคงทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อกู้รถหุ้มเกราะพร้อมด้วยร่างของทหารอเมริกัน 4 นายซึ่งจมลงไปในหนองน้ำระดับความลึก 5 เมตร นานกว่า 1 วัน ระหว่างการซ้อมรบร่วมเมื่อวันอังคารในลิทัวเนียตะวันออกห่างจากชายแดนเพียงไม่กี่ไมล์

    คาดว่าการกู้ซากอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการระบายน้ำออก และขุดลงไปในโคลนลึกซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ
    ปฏิบัติการค้นหาและกู้ซากรถกู้ภัยหุ้มเกราะ M88A2 “Hercules” ของกองทัพสหรัฐฯ ที่จมโคลนพร้อมกับเจ้าหน้าที่ 4 นาย ซึ่งคาดว่าเสียชีวิตแล้ว ยังคงดำเนินต่อไปในลิทัวเนีย กองกำลังพิเศษที่ประกอบด้วยทหาร 50 นายและยุทโธปกรณ์หนักจากกองทัพโปแลนด์รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหารอื่นๆ ของ NATO ยังคงทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อกู้รถหุ้มเกราะพร้อมด้วยร่างของทหารอเมริกัน 4 นายซึ่งจมลงไปในหนองน้ำระดับความลึก 5 เมตร นานกว่า 1 วัน ระหว่างการซ้อมรบร่วมเมื่อวันอังคารในลิทัวเนียตะวันออกห่างจากชายแดนเพียงไม่กี่ไมล์ คาดว่าการกู้ซากอาจต้องใช้เวลาหลายวันในการระบายน้ำออก และขุดลงไปในโคลนลึกซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 143 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม เตรียมใช้เครื่องมือหนักเร่งช่วยผู้รอดชีวิต เผยยังพบสัญญาณชีพผู้สูญหายในซากตึก

    วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตึกถล่มย่านจตุจักรและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก่อนออกให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก มีซากชิ้นส่วนงานใหญ่ต้องเอาเครื่องมือหนักทยอยออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งต้องหาเครนมาขนเอาชิ้นส่วนโครงสร้างตึกออกไป ขณะนี้สถานการณ์คิดว่าต้องทำทุกอย่างขนานกันไป เช่น ประเมินอาคาร เตรียมหารถเครนว่าสามารถยกโครงสร้างได้กี่ตัน จะต้องหารถบรรทุกมาขนชิ้นส่วนออก ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการทันที

    นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานน้อยใจเพราะได้รับมอบหมายช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่นั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นคนบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด หากใครต้องการเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถแจ้งกับผู้อำนวยการได้ ว่าสามารถสนับสนุนส่วนใดได้บ้าง แต่ขณะเดียวกันหากเป็นจุดที่อันตรายทางเจ้าหน้าที่ก็คงไม่สามารถให้เข้าไปช่วยงานได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029924

    #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    "ชัชชาติ" ลงพื้นที่ตรวจสอบอาคาร สตง. ถล่ม เตรียมใช้เครื่องมือหนักเร่งช่วยผู้รอดชีวิต เผยยังพบสัญญาณชีพผู้สูญหายในซากตึก • วันนี้ (29 มี.ค.) เวลา 06.30 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตึกถล่มย่านจตุจักรและได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ ก่อนออกให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีผู้ติดค้างจำนวนมาก มีซากชิ้นส่วนงานใหญ่ต้องเอาเครื่องมือหนักทยอยออก เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิต รวมถึงร่างผู้เสียชีวิตด้วย ซึ่งต้องหาเครนมาขนเอาชิ้นส่วนโครงสร้างตึกออกไป ขณะนี้สถานการณ์คิดว่าต้องทำทุกอย่างขนานกันไป เช่น ประเมินอาคาร เตรียมหารถเครนว่าสามารถยกโครงสร้างได้กี่ตัน จะต้องหารถบรรทุกมาขนชิ้นส่วนออก ถ้าเตรียมทุกอย่างพร้อมก็จะเข้าไปดำเนินการทันที • นายชัชชาติ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีบางหน่วยงานน้อยใจเพราะได้รับมอบหมายช่วยเหลือแต่ไม่ได้รับมอบหมายหน้าที่นั้น ผู้บัญชาการเหตุการณ์ได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเป็นคนบริหารจัดการพื้นที่ทั้งหมด หากใครต้องการเข้ามาช่วยเหลือก็สามารถแจ้งกับผู้อำนวยการได้ ว่าสามารถสนับสนุนส่วนใดได้บ้าง แต่ขณะเดียวกันหากเป็นจุดที่อันตรายทางเจ้าหน้าที่ก็คงไม่สามารถให้เข้าไปช่วยงานได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000029924 • #MGROnline #แผ่นดินไหว #ไทยแผ่นดินไหว #แผ่นดินไหวไทย #กรุงเทพแผ่นดินไหว #กรุงเทพมหานคร #ประเทศไทย #เมียนมา #bkkearthquake #BangkokEarthquake #ThailandEarthquake
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐ (USGS) คาดการณ์ว่า เหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในเมียนมาวันนี้ จะทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 10,000-100,000 ราย และจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 70% ของตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของเมียนมาทั้งนี้ ดร.โรเจอร์ มัสซัน กล่าวว่า ตัวเลขคาดการณ์ดังกล่าวอิงอยู่บนข้อมูลแผ่นดินไหวในอดีต และอยู่บนขนาดและที่ตั้งของเมียนมา และความพร้อมโดยรวมในการรับมือแผ่นดินไหวดร.มัสซันกล่าวว่า การที่แผ่นดินไหวดังกล่าวมีความลึกเพียง 6.2 ไมล์ ได้ทำให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรง เนื่องจากคลื่นแผ่นดินไหวไม่มีการกระจายตัวเมื่อเดินทางจากศูนย์กลางขึ้นสู่พื้นดิน ส่งผลให้อาคารต่าง ๆ ได้รับแรงกระทบอย่างเต็มที่นอกจากนี้ การที่อาคารบ้านเรือนของเมียนมาไม่ได้สร้างขึ้นมาให้รองรับแผ่นดินไหวที่มีความรุนแรงเท่ากับในวันนี้ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากพลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา กล่าวว่า มีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในวันนี้อย่างน้อย 144 ราย และบาดเจ็บ 730 ราย"เราคาดว่าจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นอีก" พลเอกอาวุโส มิน อ่อง หล่าย กล่าวผ่านสถานีโทรทัศน์ของเมียนมาUSGS รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง 7.7 แมกนิจูดใกล้กับเมืองมัณฑะเลย์ของเมียนมาในวันนี้ และตามมาด้วยอาฟเตอร์ช็อก 6.4 แมกนิจูดเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ระดับความลึกเพียง 10 กิโลเมตร และใกล้กับรอยเลื่อนสะกาย ซึ่งเป็นรอยเลื่อนที่ยังคงมีพลัง และทอดยาวผ่านตอนกลางของเมียนมานอกจากนี้ แผ่นดินไหวดังกล่าวยังรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้ถึงกรุงเทพฯ เวียดนาม และมณฑลยูนนานของจีนรัฐบาลทหารของเมียนมาได้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากต่างประเทศในวันนี้ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนัก และคาดว่าจะมีผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก"เราต้องการให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้" พลตรีซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลเมียนมา กล่าวต่อผู้สื่อข่าว AFPพลตรีซอ มิน ตุนกล่าวเสริมว่า เมียนมาต้องการได้รับการบริจาคโลหิตสำหรับผู้ที่บาดเจ็บซึ่งเข้ารับการรักษาตัวในมัณฑะเลย์ เนปิดอว์ และสะกายทั้งนี้ การเรียกร้องความช่วยเหลือจากต่างชาติถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลทหารของเมียนมาแทบไม่เคยทำมาก่อน ซึ่งบ่งชี้ถึงผลกระทบที่รุนแรงจากเหตุแผ่นดินไหวดังกล่าว ขณะที่รัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินในเขตสะกาย มัณฑะเลย์ เนปืดอว์ พะโค มะเกวย์ และรัฐฉานโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ อินโฟเควสต์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อทวดหลังพ่อจ่าดำ กองทัพภาคที่4 ปี2542
    เหรียญหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดหลังพ่อจ่าดำ เนื้อกะไหล่ทอง กองทัพภาคที่4 ปี2542 //พระดี พิธีใหญ๋ สร้างเฉลิมพระเกียรติ พระชนมายุ ๗๒ พรรษา //พระสภาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ปกป้อง คุ้มครอง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >>

    ** อนุสาวรีย์วีรไทย หรือที่ชาวเมืองนครฯ เรียกกันว่า พ่อจ่าดำ หรือ เจ้าพ่อดำ ตั้งอยู่ภายในใจกลางของค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ ๔ นครศรีธรรมราช สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ของทหารไทยในภาคใต้ที่เสียชีวิต ในการปะทะกับทหารญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบรูพา เพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่าบรรดาทหารหาญที่พลีชีพ ต่อสู้ข้าศึก เพื่อปกป้องมาตุภูมิ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อทวดหลังพ่อจ่าดำ กองทัพภาคที่4 ปี2542 เหรียญหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดหลังพ่อจ่าดำ เนื้อกะไหล่ทอง กองทัพภาคที่4 ปี2542 //พระดี พิธีใหญ๋ สร้างเฉลิมพระเกียรติ พระชนมายุ ๗๒ พรรษา //พระสภาพสวยมาก พระสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ปกป้อง คุ้มครอง เจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่ง การเงิน โชคลาภค้าขาย เรียกทรัพย์ เมตตามหานิยม แคล้วคลาดปลอดภัย มหาอุด รวมทั้งไล่ภูตผี และใช้กันเสนียดจัญไรได้อีกด้วย >> ** อนุสาวรีย์วีรไทย หรือที่ชาวเมืองนครฯ เรียกกันว่า พ่อจ่าดำ หรือ เจ้าพ่อดำ ตั้งอยู่ภายในใจกลางของค่ายวชิราวุธ กองทัพภาคที่ ๔ นครศรีธรรมราช สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์ของทหารไทยในภาคใต้ที่เสียชีวิต ในการปะทะกับทหารญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบรูพา เพื่อเป็นการรำลึกถึงวีรกรรมของเหล่าบรรดาทหารหาญที่พลีชีพ ต่อสู้ข้าศึก เพื่อปกป้องมาตุภูมิ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • #แผ่นดินไหว "สพฉ." เผยเหตุแผ่นดินไหวเสียหาย 13 จังหวัด "เสียชีวิต" 9 ราย "เจ็บ" 9 ราย และ"สูญหาย" 101 ราย
    https://www.thai-tai.tv/news/17911/
    #แผ่นดินไหว "สพฉ." เผยเหตุแผ่นดินไหวเสียหาย 13 จังหวัด "เสียชีวิต" 9 ราย "เจ็บ" 9 ราย และ"สูญหาย" 101 ราย https://www.thai-tai.tv/news/17911/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุติค้นหา ตึกใหม่ สตง. ถล่ม! ยืนยันตาย 7 ศพ สูญหาย 47 คน เปิดเบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ชิมลางสร้างตึกสูงในไทย แห่งแรกในต่างแดน ที่จบไม่สวย

    📌 เหตุการณ์สั่นสะเทือนวงการก่อสร้างไทย-จีน ที่สะท้อนความเสี่ยงระดับชาติ

    🏗️ แผ่นดินไหวแรงสะเทือนถึงใจ ตึกใหม่ สตง. ถล่มกลางกรุง! ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น... อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลมาถึงกรุงเทพฯ

    เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 7 ศพ สูญหาย 47 คน และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 30 คน แต่ยังเป็น จุดจบของความหวังทางยุทธศาสตร์ ที่จะให้บริษัทจีนเข้ามาชิมลาง สร้างอาคารสูงพิเศษในไทย เป็นครั้งแรกในต่างแดน 🇹🇭🇨🇳

    📌 เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีศูนย์กลางลึกใต้ดินกว่า 90 กม. แม้จะห่างจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 🌀

    จุดพังถล่มคือ อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเพิ่งสร้างโครงสร้างเสร็จไปได้เพียง 30% ของแผนงาน

    แม้อาคารจะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ในขณะนั้นมีวิศวกร ช่างเทคนิค และคนงานกว่า 100 ชีวิต อยู่ภายใน เนื่องจากกำลังเร่งติดตั้งระบบภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และระบบอาคารอัจฉริยะต่างๆ

    ⛑️ ทันทีหลังจากเหตุการณ์ถล่ม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายทีม ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมอุปกรณ์ค้นหา และกู้ภัยทันสมัย เช่น กล้องจับความร้อน, โดรน, เครื่องตรวจจับเสียง ฯลฯ

    📉 ภาพรวมความเสียหาย และภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต
    🚨 สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 29 มีนาคม เวลา 05.00 น.
    - เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ นำออกมาได้แล้ว 5 ศพ
    - ผู้รอดชีวิต 9 คน บาดเจ็บหลากหลายระดับ
    - ผู้ติดใต้ซาก 30 คน มีสัญญาณชีพ 15 คน
    - ผู้สูญหาย 47 คน
    - ยืนยันตัวตนแล้ว 85 คน

    การค้นหาแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ A, B, C, D
    📍โซน A พบผู้มีสัญญาณชีพ 10 ราย
    📍โซน B พบผู้มีสัญญาณชีพ 2 ราย
    📍โซน D พบผู้มีสัญญาณชีพ 3 ราย

    การค้นหาต้องหยุดชั่วคราว เพื่อประเมินแผนใหม่ เนื่องจากโครงสร้างบางจุดยังไม่เสถียร เสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ค้นหาเองด้วย

    💬 “เรากำลังแข่งกับเวลา และแข่งกับซากปูนที่อาจถล่มซ้ำอีกทุกวินาที” หนึ่งในทีมกู้ภัยกล่าว

    🏢 โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป้าหมายสู่อนาคตรัฐ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ถูกวางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์กลางการเงิน และการควบคุมงบประมาณของรัฐ โดยมีโครงสร้าง 30 ชั้น ความสูงรวม 137 เมตร รวมพื้นที่ก่อสร้างกว่า 96,000 ตารางเมตร

    👉 อาคารนี้ประกอบด้วย อาคารสำนักงานหลัก อาคารประชุม และอาคารจอดรถอัตโนมัติ

    โครงการเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2563 ด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี และควบคุมงานโดยกลุ่มวิศวกร PKW โดยมีการลงนาม Integrity Pact กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง

    🏗️ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" บริษัทยักษ์จากจีนผู้หวังปักหมุดในไทย “China Railway No.10 Engineering Group” หรือ CRCC เป็นบริษัทลูกของกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีน ที่มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐาน

    โครงการ สตง. คือ โครงการอาคารสูงพิเศษแห่งแรกในต่างแดน ของบริษัทนี้ นำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากจีนเข้ามาใช้เต็มที่ เช่น
    - ระบบ “แกนกลางรับแรง + พื้นไร้คาน”
    - เทคนิคแบบสไลด์คอนกรีต (Slip Form)
    - ระบบนั่งร้านปีนไต่อัตโนมัติ
    - ระบบติดตั้งไฟฟ้า แบบไม่ให้ท่อชนกันแม้แต่นิดเดียว

    👷 ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านวิศวกรรม และความหวังจะก้าวเข้าตลาดอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นวิกฤตแห่งความเชื่อมั่น...

    🔍 ความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ตึกถล่ม แต่คือภาพลักษณ์ล่มสลาย ผลกระทบหลัก 3 ด้าน
    - ชีวิตคนงาน การสูญเสียชีวิต7 ศพ และผู้ติดอยู่ใต้ซากหลายสิบคน คือความสูญเสียที่ไม่มีเม็ดเงินใดทดแทนได้

    - ความเชื่อมั่นในบริษัทจีน โครงการนี้เคยเป็นความหวังว่าจะเป็น “โชว์เคสระดับอาเซียน” กลายเป็น “บทเรียนราคาแพง”

    - ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน โครงการยุทธศาสตร์ไทย-จีนในอนาคตอาจถูกชะลอ ตรวจสอบมากขึ้น และถูกตั้งคำถามมากขึ้น

    🧑‍💼 การตอบสนองของหน่วยงานรัฐ เดินหน้าแก้ไข เร่งค้นหาความจริง
    – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรกว่า 100 คน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว

    – นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคุณภาพโครงการ และประเมินความเสียหาย พร้อมยืนยัน จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส

    – นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กทม. รายงานสถานการณ์ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งโซนและใช้เทคโนโลยี ช่วยระบุตำแหน่งผู้ติดใต้ซาก

    ✅ จุดจบที่ไม่ควรเกิด กับความหวังที่ดับไปกลางซากอาคาร โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเตือนที่สะเทือนใจว่า การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่อาจวัดด้วยเทคโนโลยี หรือเงินทุนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัย มาตรฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใสระดับสูงสุด

    หากสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป... แม้จะเป็นโครงการที่ดูดีแค่ไหน ก็พร้อมจะพังถล่มลงมาในพริบตา 🕯️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291100 มี.ค. 2568

    🔖#ตึกสตงถล่ม #CRCCไทย #ไชน่าเรลเวย์10 #ข่าวด่วน #แผ่นดินไหว #อาคารสูงพิเศษ #ก่อสร้างไทยจีน #ข่าวโศกนาฏกรรม #ตึกถล่ม #ไทยจีน
    ยุติค้นหา ตึกใหม่ สตง. ถล่ม! ยืนยันตาย 7 ศพ สูญหาย 47 คน เปิดเบื้องหลังบริษัทยักษ์ใหญ่จีน ชิมลางสร้างตึกสูงในไทย แห่งแรกในต่างแดน ที่จบไม่สวย 📌 เหตุการณ์สั่นสะเทือนวงการก่อสร้างไทย-จีน ที่สะท้อนความเสี่ยงระดับชาติ 🏗️ แผ่นดินไหวแรงสะเทือนถึงใจ ตึกใหม่ สตง. ถล่มกลางกรุง! ในช่วงบ่ายวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เหตุการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิดก็เกิดขึ้น... อาคารสำนักงานแห่งใหม่ของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่กำลังก่อสร้างอยู่ในย่านจตุจักร กรุงเทพฯ พังถล่มลงมาอย่างรุนแรง หลังเกิดแผ่นดินไหวขนาด 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งแรงสั่นสะเทือนส่งผลมาถึงกรุงเทพฯ เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะเทือนชีวิตผู้คน มีผู้เสียชีวิตยืนยันแล้ว 7 ศพ สูญหาย 47 คน และมีผู้ติดอยู่ใต้ซากอาคาร 30 คน แต่ยังเป็น จุดจบของความหวังทางยุทธศาสตร์ ที่จะให้บริษัทจีนเข้ามาชิมลาง สร้างอาคารสูงพิเศษในไทย เป็นครั้งแรกในต่างแดน 🇹🇭🇨🇳 📌 เมื่อช่วงบ่ายของวันศุกร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2568 เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ 8.2 แมกนิจูด ในประเทศเมียนมา ซึ่งมีศูนย์กลางลึกใต้ดินกว่า 90 กม. แม้จะห่างจากกรุงเทพฯ หลายร้อยกิโลเมตร แต่แรงสั่นสะเทือน สามารถรับรู้ได้ถึงกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล 🌀 จุดพังถล่มคือ อาคารสำนักงาน สตง. แห่งใหม่ บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และเพิ่งสร้างโครงสร้างเสร็จไปได้เพียง 30% ของแผนงาน แม้อาคารจะยังไม่เปิดใช้งาน แต่ในขณะนั้นมีวิศวกร ช่างเทคนิค และคนงานกว่า 100 ชีวิต อยู่ภายใน เนื่องจากกำลังเร่งติดตั้งระบบภายใน เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำ และระบบอาคารอัจฉริยะต่างๆ ⛑️ ทันทีหลังจากเหตุการณ์ถล่ม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยหลายทีม ได้เข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน พร้อมอุปกรณ์ค้นหา และกู้ภัยทันสมัย เช่น กล้องจับความร้อน, โดรน, เครื่องตรวจจับเสียง ฯลฯ 📉 ภาพรวมความเสียหาย และภารกิจค้นหาผู้รอดชีวิต 🚨 สรุปสถานการณ์ ณ วันที่ 29 มีนาคม เวลา 05.00 น. - เสียชีวิตแล้ว 7 ศพ นำออกมาได้แล้ว 5 ศพ - ผู้รอดชีวิต 9 คน บาดเจ็บหลากหลายระดับ - ผู้ติดใต้ซาก 30 คน มีสัญญาณชีพ 15 คน - ผู้สูญหาย 47 คน - ยืนยันตัวตนแล้ว 85 คน การค้นหาแบ่งออกเป็น 4 โซน ได้แก่ A, B, C, D 📍โซน A พบผู้มีสัญญาณชีพ 10 ราย 📍โซน B พบผู้มีสัญญาณชีพ 2 ราย 📍โซน D พบผู้มีสัญญาณชีพ 3 ราย การค้นหาต้องหยุดชั่วคราว เพื่อประเมินแผนใหม่ เนื่องจากโครงสร้างบางจุดยังไม่เสถียร เสี่ยงต่อเจ้าหน้าที่ค้นหาเองด้วย 💬 “เรากำลังแข่งกับเวลา และแข่งกับซากปูนที่อาจถล่มซ้ำอีกทุกวินาที” หนึ่งในทีมกู้ภัยกล่าว 🏢 โครงการก่อสร้างอาคาร สตง. เป้าหมายสู่อนาคตรัฐ อาคารสำนักงานแห่งใหม่นี้ ถูกวางเป้าหมายให้เป็น ศูนย์กลางการเงิน และการควบคุมงบประมาณของรัฐ โดยมีโครงสร้าง 30 ชั้น ความสูงรวม 137 เมตร รวมพื้นที่ก่อสร้างกว่า 96,000 ตารางเมตร 👉 อาคารนี้ประกอบด้วย อาคารสำนักงานหลัก อาคารประชุม และอาคารจอดรถอัตโนมัติ โครงการเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2563 ด้วยงบประมาณ 2,136 ล้านบาท โดยผู้รับเหมาก่อสร้างหลัก คือ กิจการร่วมค้า ไอทีดี-ซีอาร์อีซี และควบคุมงานโดยกลุ่มวิศวกร PKW โดยมีการลงนาม Integrity Pact กับองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เพื่อความโปร่งใสในการจัดจ้าง 🏗️ "ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10" บริษัทยักษ์จากจีนผู้หวังปักหมุดในไทย “China Railway No.10 Engineering Group” หรือ CRCC เป็นบริษัทลูกของกลุ่มรัฐวิสาหกิจจีน ที่มีชื่อเสียงด้านโครงสร้างพื้นฐาน โครงการ สตง. คือ โครงการอาคารสูงพิเศษแห่งแรกในต่างแดน ของบริษัทนี้ นำเทคโนโลยีล้ำสมัยจากจีนเข้ามาใช้เต็มที่ เช่น - ระบบ “แกนกลางรับแรง + พื้นไร้คาน” - เทคนิคแบบสไลด์คอนกรีต (Slip Form) - ระบบนั่งร้านปีนไต่อัตโนมัติ - ระบบติดตั้งไฟฟ้า แบบไม่ให้ท่อชนกันแม้แต่นิดเดียว 👷 ทั้งหมดนี้แสดงถึงความพร้อมด้านวิศวกรรม และความหวังจะก้าวเข้าตลาดอาเซียนอย่างยิ่งใหญ่ แต่ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น กลับกลายเป็นวิกฤตแห่งความเชื่อมั่น... 🔍 ความเสียหายเชิงยุทธศาสตร์ ไม่ใช่แค่ตึกถล่ม แต่คือภาพลักษณ์ล่มสลาย ผลกระทบหลัก 3 ด้าน - ชีวิตคนงาน การสูญเสียชีวิต7 ศพ และผู้ติดอยู่ใต้ซากหลายสิบคน คือความสูญเสียที่ไม่มีเม็ดเงินใดทดแทนได้ - ความเชื่อมั่นในบริษัทจีน โครงการนี้เคยเป็นความหวังว่าจะเป็น “โชว์เคสระดับอาเซียน” กลายเป็น “บทเรียนราคาแพง” - ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ไทย-จีน โครงการยุทธศาสตร์ไทย-จีนในอนาคตอาจถูกชะลอ ตรวจสอบมากขึ้น และถูกตั้งคำถามมากขึ้น 🧑‍💼 การตอบสนองของหน่วยงานรัฐ เดินหน้าแก้ไข เร่งค้นหาความจริง – นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่พร้อมทีมวิศวกรกว่า 100 คน เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของอาคารทั่วกรุงเทพฯ ที่อาจได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหว – นายสุทธิพงษ์ บุญนิธิ รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ในฐานะโฆษกสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เร่งตรวจสอบคุณภาพโครงการ และประเมินความเสียหาย พร้อมยืนยัน จะเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส – นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กทม. รายงานสถานการณ์ค้นหาอย่างต่อเนื่อง พร้อมแบ่งโซนและใช้เทคโนโลยี ช่วยระบุตำแหน่งผู้ติดใต้ซาก ✅ จุดจบที่ไม่ควรเกิด กับความหวังที่ดับไปกลางซากอาคาร โศกนาฏกรรมครั้งนี้ เป็นจุดเตือนที่สะเทือนใจว่า การลงทุนเชิงยุทธศาสตร์ และความร่วมมือระหว่างประเทศ ไม่อาจวัดด้วยเทคโนโลยี หรือเงินทุนเพียงอย่างเดียว ต้องอาศัย มาตรฐาน ความปลอดภัย และความโปร่งใสระดับสูงสุด หากสิ่งเหล่านี้ขาดหายไป... แม้จะเป็นโครงการที่ดูดีแค่ไหน ก็พร้อมจะพังถล่มลงมาในพริบตา 🕯️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 291100 มี.ค. 2568 🔖#ตึกสตงถล่ม #CRCCไทย #ไชน่าเรลเวย์10 #ข่าวด่วน #แผ่นดินไหว #อาคารสูงพิเศษ #ก่อสร้างไทยจีน #ข่าวโศกนาฏกรรม #ตึกถล่ม #ไทยจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 305 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อที่เกี่ยวข้องกับอเมริกาในเยเมนรายงานว่า พลเอกอับดุลคาลิก อัล ฮูซี ซึ่งเป็นพี่ชายของอับดุลมาลิก อัลฮูซี ผู้นำกลุ่มฮูซี และยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาการณ์ของรัฐและหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายหน่วยในกระทรวงกลาโหมของกลุ่มฮูซี ถูกสังหารจากการโจมตีของสหรัฐฯ

    นอกจากนี้ พลตรีมูฮัมหมัด อับดุล คาริม อัลกามารี หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารของกลุ่มฮูซี และผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนในกระทรวงกลาโหมของกลุ่มฮูซีก็เสียชีวิตในครั้งเดียวกันด้วย
    สื่อที่เกี่ยวข้องกับอเมริกาในเยเมนรายงานว่า พลเอกอับดุลคาลิก อัล ฮูซี ซึ่งเป็นพี่ชายของอับดุลมาลิก อัลฮูซี ผู้นำกลุ่มฮูซี และยังเป็นผู้บัญชาการกองกำลังรักษาการณ์ของรัฐและหน่วยงานอื่นๆ อีกหลายหน่วยในกระทรวงกลาโหมของกลุ่มฮูซี ถูกสังหารจากการโจมตีของสหรัฐฯ นอกจากนี้ พลตรีมูฮัมหมัด อับดุล คาริม อัลกามารี หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารของกลุ่มฮูซี และผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคนในกระทรวงกลาโหมของกลุ่มฮูซีก็เสียชีวิตในครั้งเดียวกันด้วย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ (CENTCOM) เผยแพร่คลิปวิดีโอการโจมตีเยเมนเมื่อคืนวานนี้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย
    กองบัญชาการกลางของสหรัฐฯ (CENTCOM) เผยแพร่คลิปวิดีโอการโจมตีเยเมนเมื่อคืนวานนี้ ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • กองทัพสหรัฐกำลังระดมโจมตีทางอากาศถล่มทั้วทั้งเยเมน ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของอับดุลมาลิก อัลฮูซี (Abdul-Malik al-Houthi) ผู้นำกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวปลอมว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วจากการโจมตีของอเมริกา

    แหล่งข่าวในเยเมนรายงานว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศอย่างน้อย 14 ครั้งในเมืองหลวงซานา ร่วมกับอีก 18 ครั้งในจังหวัดซาอาดา ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงที่อับดุลมาลิก อัลฮูซี ผู้นำกลุ่มฮูซี กล่าวสุนทรพจน์ผ่านโทรทัศน์

    จนถึงขณะนี้การโจมตีทางอากาศของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป
    กองทัพสหรัฐกำลังระดมโจมตีทางอากาศถล่มทั้วทั้งเยเมน ระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ของอับดุลมาลิก อัลฮูซี (Abdul-Malik al-Houthi) ผู้นำกลุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้มีการปล่อยข่าวปลอมว่าเขาเสียชีวิตไปแล้วจากการโจมตีของอเมริกา แหล่งข่าวในเยเมนรายงานว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ ได้โจมตีทางอากาศอย่างน้อย 14 ครั้งในเมืองหลวงซานา ร่วมกับอีก 18 ครั้งในจังหวัดซาอาดา ซึ่งทั้งหมดเกิดขึ้นในช่วงที่อับดุลมาลิก อัลฮูซี ผู้นำกลุ่มฮูซี กล่าวสุนทรพจน์ผ่านโทรทัศน์ จนถึงขณะนี้การโจมตีทางอากาศของสหรัฐยังคงดำเนินต่อไป
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่หลายครั้งในเขตประเทศเลบานอนตอนใต้ และยังมีคำสั่งบังคับให้อพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ฮาดาธของเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงขึ้นอีกครั้งโดยที่เจ้าของประเทศไม่มีความสามารถในการต่อต้าน

    การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายในเมืองโยมอร์ นับตั้งแต่อิสราเอลทำข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีผู้เสียชีวิตจากการที่อิสราเอลละเมิดข้อตกลงไปแล้ว 106 ราย
    อิสราเอลเปิดฉากโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่หลายครั้งในเขตประเทศเลบานอนตอนใต้ และยังมีคำสั่งบังคับให้อพยพพลเรือนออกจากพื้นที่ฮาดาธของเบรุต ซึ่งถือเป็นการยกระดับความรุนแรงขึ้นอีกครั้งโดยที่เจ้าของประเทศไม่มีความสามารถในการต่อต้าน การโจมตีทางอากาศครั้งนี้มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ 6 ราย รวมถึงเด็ก 3 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1 รายในเมืองโยมอร์ นับตั้งแต่อิสราเอลทำข้อตกลงหยุดยิงกับฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน มีผู้เสียชีวิตจากการที่อิสราเอลละเมิดข้อตกลงไปแล้ว 106 ราย
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนร่างทหารที่เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย
    -> อัตราส่วนศพยูเครน 21 ศพต่อศพรัสเซีย 1 ศพ!
    ทหารรัสเซียที่เสียชีวิต 43 นาย
    ทหารยูเครนที่เสียชีวิต 909 นาย

    ที่ผ่านมาเคยมีการแลกเปลี่ยนร่างทหารที่เสียชีวิตมาแล้ว:
    14 ก.พ. - 45 ต่อ 757 - ยูเครน 16 นายต่อรัสเซีย 1 นาย
    24 ม.ค. - 42 ต่อ 503 - ยูเครน 12 นายต่อรัสเซีย 1 นาย
    20 ธ.ค. - 42 ต่อ 508 - ยูเครน 12 นายต่อรัสเซีย 1 นาย
    29 พ.ย. - 48 ต่อ 502 - ยูเครน 10 นายต่อรัสเซีย 1 นาย
    8 พ.ย. - 37 ต่อ 563 - ยูเครน 15 นายต่อรัสเซีย 1 นาย

    อัตราส่วนเหล่านี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงจำนวนทหารยูเครนที่เสียชีวิตจำนวนมาก
    รัสเซียและยูเครนบรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนร่างทหารที่เสียชีวิตทั้งสองฝ่าย -> อัตราส่วนศพยูเครน 21 ศพต่อศพรัสเซีย 1 ศพ! ทหารรัสเซียที่เสียชีวิต 43 นาย ทหารยูเครนที่เสียชีวิต 909 นาย ที่ผ่านมาเคยมีการแลกเปลี่ยนร่างทหารที่เสียชีวิตมาแล้ว: 14 ก.พ. - 45 ต่อ 757 - ยูเครน 16 นายต่อรัสเซีย 1 นาย 24 ม.ค. - 42 ต่อ 503 - ยูเครน 12 นายต่อรัสเซีย 1 นาย 20 ธ.ค. - 42 ต่อ 508 - ยูเครน 12 นายต่อรัสเซีย 1 นาย 29 พ.ย. - 48 ต่อ 502 - ยูเครน 10 นายต่อรัสเซีย 1 นาย 8 พ.ย. - 37 ต่อ 563 - ยูเครน 15 นายต่อรัสเซีย 1 นาย อัตราส่วนเหล่านี้ยืนยันได้เป็นอย่างดีถึงจำนวนทหารยูเครนที่เสียชีวิตจำนวนมาก
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด”

    ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย

    🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566

    เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌

    🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน

    📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ

    🔫 เหยื่อ
    - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์
    - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย

    การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢

    🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣

    🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว
    🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล
    🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน
    📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม"

    หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่

    🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566

    👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹

    🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท

    👉 ความผิดตามกฎหมาย
    - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
    - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
    - ยิงปืนในที่ชุมชน
    - สมคบก่ออาชญากรรม

    🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣

    พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม”

    “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨
    มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง

    🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน
    วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น

    🧠 คำถามที่ต้องถามคือ...

    👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ?

    🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า…

    🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ”
    🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ
    🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568

    📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    จุดจบวัฒนธรรมพิการ ศาลสั่งประหาร! “อั้ม-อนาวิน แก้วเก็บ” มือยิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ✍️ จากวัฒนธรรมรับน้องผิดเพี้ยน สู่บทสรุปคดีสะเทือนขวัญ วัยรุ่นไทยควรได้บทเรียนอะไร จากโศกนาฏกรรมนี้? ศาลสั่งประหาร “อั้ม-อนาวิน” คดียิง “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” สะเทือนใจทั้งประเทศ จุดจบวัฒนธรรมพิการต้องจบที่รุ่นเรา เหยื่อบริสุทธิ์จากวัฒนธรรมรับน้องผิดๆ จุดเริ่มต้นของการล้มล้างความรุนแรง แฝงในระบบการศึกษาไทย 🔵 ความสูญเสียที่ต้องไม่สูญเปล่า วันที่ 28 มีนาคม 2568 กลายเป็นวันที่หลายคนจดจำ เมื่อศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาชั้นต้นให้ “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” หรือที่รู้จักกันในชื่อ “อั้ม” มือยิงผู้บริสุทธิ์สองราย ได้แก่ “ครูเจี๊ยบ” และ “น้องหยอด” จากเหตุการณ์เมื่อ 11 พฤศจิกายน 2566 เหตุการณ์นี้ไม่ใช่แค่ “คดีฆาตกรรม” แต่สะท้อนปัญหาฝังลึกในสังคม คือ “วัฒนธรรมรับน้องอันรุนแรง” ที่ปลูกฝังความเชื่อผิดๆ และส่งต่อกันมาโดยไร้การตรวจสอบ ❌ 🔴 “ครูเจี๊ยบ-น้องหยอด” ผู้บริสุทธิ์ที่ไม่มีวันกลับมา คดีเริ่มต้นจากความตั้งใจของกลุ่มอดีตเด็กช่าง ที่ต้องการ “สร้างผลงาน” เพื่อไปอวดในวันรับน้องของสถาบันแห่งหนึ่ง โดยนายอนาวิน วางแผนมาก่อนแล้วว่า จะก่อเหตุในวันที่ 11 พ.ย. 2566 ซึ่งเป็นวันก่อนวันรับน้อง 1 วัน 📍 สถานที่เกิดเหตุ หน้าธนาคาร TTB สาขาคลองเตย ใจกลางกรุงเทพฯ 🔫 เหยื่อ - นางสาวศิรดา สินประเสริฐ หรือครูเจี๊ยบ อายุ 45 ปี ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนเวนต์ - นายธนสรณ์ ห้องสวัสดิ์ หรือน้องหยอด อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย การยิงเกิดจาก “กระสุนพลาดเป้า” ซึ่งเดิมทีตั้งใจจะยิงน้องหยอด แต่กลับทำให้ครูเจี๊ยบเสียชีวิตทันที 😢 🟠 บทเรียนจากการล่า 24 ผู้ต้องหา ปฏิบัติการ “ปิดเมือง” หลังเกิดเหตุ ตำรวจเปิดปฏิบัติการครั้งใหญ่ “ปิดเมืองล่ามือยิง” ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ใช้เวลากว่า 1 เดือน กว่าจะจับตัวผู้ต้องหาทั้งหมด 24 คนจาก 26 หมายจับ 💣 🔍 ตรวจสอบกล้องวงจรกว่า 1,000 ตัว 🚔 ปิดล้อม 14 จุดทั่วกรุงและปริมณฑล 🔫 ตรวจสอบกลุ่มแชตลับ 103 คน มีแผนฆ่า มีระบบดูแลคนใน 📱 ใช้ไลน์กลุ่มลับ 84 คน วางแผนคล้าย "องค์กรอาชญากรรม" หนึ่งในตำรวจสืบสวนเล่าว่า การไล่ล่าครั้งนี้ “ยิ่งกว่านิยายไล่ล่าตี๋ใหญ่” เพราะผู้ต้องหาหนีอย่างแนบเนียน เปลี่ยนสีรถ, เปลี่ยนทะเบียน, เปลี่ยนเสื้อผ้า, วางจุดลวงสับสนเจ้าหน้าที่ 🟡 จุดแตกหัก จับกุม “อั้ม-อนาวิน” บนดอยปุย 🎯 หลังไล่ล่าจากกรุงเทพฯ ไปเชียงใหม่ ตำรวจไล่ติดตามจนกระทั่งพบตัว “อนาวิน” พร้อม “กฤติ” เพื่อนร่วมขบวนการ ที่กำลังนอนอยู่ในเต็นท์บนดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงเช้าของวันที่ 19 ธันวาคม 2566 👮‍♂️ ตำรวจคุกเข่าร้องไห้ด้วยความดีใจ หลังจากตามล่ามา 1 เดือนเต็ม 🥹 🟢 ศาลตัดสิน “ประหารชีวิต” เพื่อยุติวัฏจักร วันที่ 28 มีนาคม 2568 ศาลอาญากรุงเทพใต้พิพากษา “ประหารชีวิตนายอนาวิน แก้วเก็บ” พร้อมสั่งให้ชดใช้ค่าเสียหาย แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต 6 ล้านบาท 👉 ความผิดตามกฎหมาย - ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน - มีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต - ยิงปืนในที่ชุมชน - สมคบก่ออาชญากรรม 🔵 วัฒนธรรมรับน้อง = จุดเริ่มของโศกนาฏกรรม จากการสอบปากคำ “อั้ม-อนาวิน” ยอมรับว่า ต้องการสร้าง “ผลงาน” เพื่อเอาไปโชว์ในวันรับน้อง ซึ่งมาจากการปลูกฝังของรุ่นพี่ 💣 พร้อมมีการพูดคุยผ่านไลน์กลุ่มลับว่า “ใครฆ่าอริได้ จะเป็นฮีโร่ของกลุ่ม” “ขอแสดงความยินดีกับน้อง ช.ก... ที่พาน้องไปเกิดได้อย่างสมศักดิ์ศรีช่างกล” นี่คือคำพูดในแชตลับที่ชวนให้ขนลุก 😨 มันไม่ใช่แค่ “การแกล้ง” หรือ “กิจกรรมรุ่นพี่-รุ่นน้อง” อีกต่อไป แต่เป็นการหล่อหลอมความรุนแรง 🔴 จุดจบของ “วัฒนธรรมพิการ” ต้องจบที่รุ่นเรา คดีนี้เป็น ภาพสะท้อนของปัญหาสังคมไทย ที่สั่งสมมานาน วัฒนธรรมรับน้องที่ขาดจรรยาบรรณ สร้างเงื่อนไขของการยอมรับผ่านความรุนแรง อวดอำนาจเหนือผู้อื่น 🧠 คำถามที่ต้องถามคือ... 👉 วัฒนธรรมที่ต้องมีคนตาย ถึงจะได้รับการยอมรับ เราจะยังเรียกมันว่า “วัฒนธรรม” ได้อีกหรือ? 🟣 บทสรุป ความยุติธรรม และภารกิจต่อไปของสังคม คดีนี้ไม่เพียงปิดฉากด้วย “คำสั่งประหารชีวิต” แต่มันคือเสียงร้องของสังคมที่ว่า… 🔊 ถึงเวลา “ล้มล้างวัฒนธรรมพิการ” 🔊 ถึงเวลาทบทวนระบบสถาบัน ที่หล่อหลอมความรุนแรงให้เป็นเรื่องปกติ 🔊 ถึงเวลาสร้างสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 281803 มี.ค. 2568 📢 #จุดจบวัฒนธรรมพิการ #คดีครูเจี๊ยบ #น้องหยอดอุเทน #อนาวินแก้วเก็บ #ประหารชีวิต #อาชญากรรมไทย #ยิงกลางกรุง #รับน้องผิดๆ #ยุติธรรมไทย #ตำรวจไทยไล่ล่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยเหตุความคืบหน้า ตึกสตง.ถล่ม เครื่องมือช่วยเหลือขนาดใหญ่ เข้าไม่ได้ ระดมกำลังผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วย พบยอดสูญหาย 81 เสียชีวิต 3 ช่วยได้แล้ว 1 ราย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029674
    รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยเหตุความคืบหน้า ตึกสตง.ถล่ม เครื่องมือช่วยเหลือขนาดใหญ่ เข้าไม่ได้ ระดมกำลังผู้เชี่ยวชาญเข้าช่วย พบยอดสูญหาย 81 เสียชีวิต 3 ช่วยได้แล้ว 1 ราย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000029674
    Love
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 533 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 16.20 น.
    .
    จากสถานการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว สพฉ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้างานก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่า มีคนงานก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหายจำนวน 70 คน ยังมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟท์ 20 คน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
    รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) เวลา 16.20 น. . จากสถานการณ์อาคารที่อยู่ระหว่างก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินถล่มจากเหตุแผ่นดินไหว สพฉ. ได้รับแจ้งจากหัวหน้างานก่อสร้างอาคารดังกล่าวว่า มีคนงานก่อสร้างจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 320 คน ขณะนี้สูญหายจำนวน 70 คน ยังมีคนงานติดอยู่ในช่องลิฟท์ 20 คน สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่ทราบจำนวนที่แน่ชัด
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 106 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15.04 น.
    รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
    🚨Update!! เหตุการณ์ตึกถล่มบริเวณจตุจักร
    ▪️ผู้บาดเจ็บ 50 ราย นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นที่เรียบร้อย
    ▪️ติดอยู่ในซากตึก 1 ราย
    ▪️เสียชีวิต 1 ราย
    ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669
    15.04 น. รายงานจากศูนย์นเรนทร สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) 🚨Update!! เหตุการณ์ตึกถล่มบริเวณจตุจักร ▪️ผู้บาดเจ็บ 50 ราย นำส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงเป็นที่เรียบร้อย ▪️ติดอยู่ในซากตึก 1 ราย ▪️เสียชีวิต 1 ราย ที่มา สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ -สพฉ.1669
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผลจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบอเมริกันประมาณ 30 ครั้งทั่วเยเมน รวมถึงโจมตีเมืองหลวงซานาและท่าอากาศยานนานาชาติหลายครั้ง

    มีรายงานว่าพลเรือนหลายคนได้รับบาดเจ็บ และมีรายงานผู้เสียชีวิตร่วมด้วย และมีรายงานความเสียหายต่อบ้านเรือนและร้านค้าในซานา

    นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าทีมบริหารของทรัมป์ตัดสินใจยกระดับการโจมตี โดยจะเพิ่มเป้าหมายเมืองต่างๆ รวมทั้งเป้าหมายบุคคลสำคัญของกลุ่มฮูตี ซึ่งอิสราเอลจะช่วยในด้านข้อมูลข่าวกรอง
    ผลจากการโจมตีทางอากาศโดยเครื่องบินรบอเมริกันประมาณ 30 ครั้งทั่วเยเมน รวมถึงโจมตีเมืองหลวงซานาและท่าอากาศยานนานาชาติหลายครั้ง มีรายงานว่าพลเรือนหลายคนได้รับบาดเจ็บ และมีรายงานผู้เสียชีวิตร่วมด้วย และมีรายงานความเสียหายต่อบ้านเรือนและร้านค้าในซานา นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่าทีมบริหารของทรัมป์ตัดสินใจยกระดับการโจมตี โดยจะเพิ่มเป้าหมายเมืองต่างๆ รวมทั้งเป้าหมายบุคคลสำคัญของกลุ่มฮูตี ซึ่งอิสราเอลจะช่วยในด้านข้อมูลข่าวกรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 22 0 รีวิว
Pages Boosts