• บทความกฎหมาย EP.47

    คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต

    กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล

    บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    บทความกฎหมาย EP.47 คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นองค์กรที่มีสถานะทางกฎหมายระหว่างประเทศที่โดดเด่นและมีอำนาจหน้าที่สูงสุดในเชิงการบังคับใช้กฎหมายเพื่อธำรงไว้ซึ่งสันติภาพและความมั่นคงมวลมนุษยชาติภายใต้อาณัติของกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งเปรียบเสมือนธรรมนูญสูงสุดของประชาคมโลก ความแตกต่างที่สำคัญประการหนึ่งซึ่งทำให้องค์กรนี้มีความพิเศษกว่าองค์กรอื่นในระบบสหประชาชาติคืออำนาจในการออกข้อมติที่มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐสมาชิกทั้งหมดตามมาตรายี่สิบห้าแห่งกฎบัตรสหประชาชาติซึ่งระบุให้รัฐสมาชิกตกลงยอมรับและปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของคณะมนตรีความมั่นคง อันเป็นการโอนอ่อนอำนาจอธิปไตยบางส่วนในเชิงความมั่นคงมาไว้ที่การตัดสินใจร่วมกันในระดับพหุภาคีเพื่อป้องกันมิให้เกิดความขัดแย้งลุกลามจนกลายเป็นสงครามวงกว้าง โดยโครงสร้างทางกฎหมายนี้ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสมดุลระหว่างอำนาจของรัฐมหาอำนาจที่มีสถานะเป็นสมาชิกถาวรห้าประเทศกับสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งอีกสิบประเทศ แม้ว่าในเชิงนิติศาสตร์มักมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เท่าเทียมจากสิทธิยับยั้งหรือวีโต้ที่สมาชิกถาวรครอบครองอยู่แต่ในอีกมุมหนึ่งโครงสร้างนี้คือกลไกเชิงประจักษ์ที่รักษาเสถียรภาพระหว่างมหาอำนาจเพื่อไม่ให้ระบบกฎหมายโลกพังทลายลงเหมือนเช่นในอดีต กระบวนการบังคับใช้กฎหมายของคณะมนตรีความมั่นคงนั้นดำเนินไปตามลำดับขั้นตอนที่ระบุไว้ในหมวดที่หกและหมวดที่เจ็ดของกฎบัตรสหประชาชาติโดยเริ่มต้นจากการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีผ่านการสืบสวนและการประนีประนอมแต่หากสถานการณ์บานปลายจนกลายเป็นการคุกคามต่อสันติภาพหรือการกระทำอันเป็นการรุกรานคณะมนตรีความมั่นคงมีอำนาจตามหมวดที่เจ็ดในการใช้มาตรการบังคับซึ่งรวมถึงมาตรการที่มิใช่การใช้กำลังทางทหารเช่นการตัดความสัมพันธ์ทางการทูตการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจและการจำกัดการคมนาคมขนส่งไปจนถึงมาตรการขั้นสูงสุดคือการอนุญาตให้ใช้กำลังทางทหารเพื่อรักษาสันติภาพกลับคืนมาการตัดสินใจเหล่านี้ต้องผ่านกระบวนการตีความกฎหมายและการประเมินข้อเท็จจริงอย่างถี่ถ้วนเนื่องจากมีผลกระทบต่อสิทธิและหน้าที่ของรัฐอธิปไตยอย่างรุนแรงอำนาจหน้าที่เชิงนิติบัญญัติและนิติบริหารของคณะมนตรีความมั่นคงจึงถือเป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญในการกำหนดทิศทางของกฎหมายระหว่างประเทศสมัยใหม่ซึ่งรวมไปถึงการกำหนดนิยามของการก่อการร้ายและการละเมิดสิทธิมนุษยชนในระดับร้ายแรงที่ถือเป็นภัยต่อความมั่นคงสากล บทสรุปของบทบาทคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในมิติทางกฎหมายจึงมิได้เป็นเพียงแค่เวทีสำหรับการเจรจาต่อรองทางการเมืองเท่านั้นแต่คือเสาหลักของการบังคับใช้ระเบียบโลกที่อาศัยหลักนิติธรรมเป็นเครื่องนำทางท่ามกลางความผันผวนของภูมิรัฐศาสตร์โลกในปัจจุบันแม้ว่าความท้าทายใหม่ๆเช่นอาชญากรรมทางไซเบอร์หรือความขัดแย้งในรูปแบบพันทางจะขยายขอบเขตออกไปเกินกว่าที่ผู้ร่างกฎบัตรเมื่อแปดสิบปีก่อนจะคาดคิดแต่คณะมนตรีความมั่นคงยังคงต้องปรับตัวและตีความกฎหมายที่มีอยู่ให้สอดรับกับพลวัตของโลกเพื่อให้มั่นใจว่าเจตนารมณ์สูงสุดในการพิทักษ์สันติภาพจะยังคงศักดิ์สิทธิ์และมีผลในทางปฏิบัติอย่างยั่งยืนสืบไปความสำเร็จขององค์กรนี้จึงขึ้นอยู่กับความร่วมมือของรัฐสมาชิกในการปฏิบัติตามพันธกรณีทางกฎหมายและการเคารพในมติที่ออกมาเพื่อประโยชน์สุขส่วนรวมของมวลมนุษยชาติมากกว่าผลประโยชน์เฉพาะหน้าของรัฐใดรัฐหนึ่งเพียงลำพังอันจะเป็นรากฐานสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขในเวทีโลกอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews
  • Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา

    บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน.

    Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ.

    ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า.

    ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์.

    ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง.

    สรุปเป็นหัวข้อ
    แนวคิด Thin vs Thick Desires
    Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต
    Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย

    ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires
    โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง
    Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง

    ผลกระทบต่อสังคม
    ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น
    โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน

    แนวทางต่อต้าน Thin Desires
    อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน
    เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics
    สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน

    คำเตือน
    การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย
    หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน

    https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    📱 Thin Desires กำลังกัดกินชีวิตเรา บทความ Thin Desires Are Eating Your Life ของ Joan Westenberg วิเคราะห์ว่าโลกยุคดิจิทัลกำลังทำให้เราติดอยู่กับ “thin desires” หรือความปรารถนาที่ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิตจริง เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพโซเชียลมีเดีย แทนที่จะลงทุนใน “thick desires” ที่สร้างการเปลี่ยนแปลงและความหมาย เช่น การเรียนรู้ทักษะใหม่หรือการสร้างชุมชน. Westenberg อธิบายว่า thin desires คือความปรารถนาที่ให้ความพึงพอใจชั่วคราวแต่ไม่เปลี่ยนแปลงตัวตน เช่น การเช็กแจ้งเตือนหรือเสพคอนเทนต์ออนไลน์ ในทางตรงกันข้าม thick desires อย่างการเรียนรู้คณิตศาสตร์ การฝึกฝนงานฝีมือ หรือการสร้างความสัมพันธ์จริง จะเปลี่ยนแปลงผู้คนในระยะยาว ทำให้พวกเขามีความสามารถและมุมมองใหม่ ๆ. ธุรกิจเทคโนโลยีจำนวนมากใช้โมเดลที่ “แยกชิ้นส่วน” ความปรารถนาแบบหนา แล้วส่งมอบเฉพาะส่วนที่ให้รางวัลทางสมอง เช่น โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง, สื่อลามกให้ความพึงพอใจทางเพศโดยไม่ต้องมีความสัมพันธ์, แอป productivity ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง สิ่งเหล่านี้ง่ายต่อการทำซ้ำ ขยาย และทำเงิน แต่กลับทำให้ผู้ใช้ติดอยู่กับวงจรความว่างเปล่า. ผลลัพธ์คือสังคมที่เต็มไปด้วยความเหงา ความวิตกกังวล และภาวะซึมเศร้า แม้เราจะ “เชื่อมต่อ” กันมากกว่าที่เคย แต่กลับรู้สึกขาดความหมาย Westenberg ชี้ว่า thick desires ไม่สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทันที ต้องใช้เวลา ความพยายาม และการมีส่วนร่วมกับชุมชน แต่สิ่งเหล่านี้กลับถูกทำลายลงเรื่อย ๆ เช่น การหายไปของเวิร์กช็อป การลดลงของการฝึกงาน และการแทนที่พื้นที่สาธารณะด้วยการใช้ชีวิตคนเดียวกับอุปกรณ์. ผู้เขียนเสนอแนวทางเล็ก ๆ ในการต่อต้าน เช่น การอบขนมปังที่ไม่สามารถเร่งเวลาได้, การเขียนจดหมายด้วยมือที่ไม่สามารถแก้ไขหรือ unsend ได้, หรือการสร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อนหนึ่งคน สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถ scale หรือ monetize ได้ แต่ช่วยให้เรากลับมาสัมผัสกับความอดทน ความหมาย และความสัมพันธ์ที่แท้จริง. 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ แนวคิด Thin vs Thick Desires ➡️ Thin = ความพึงพอใจชั่วคราว ไม่เปลี่ยนแปลงชีวิต ➡️ Thick = ความปรารถนาที่เปลี่ยนแปลงตัวตนและสร้างความหมาย ✅ ธุรกิจเทคโนโลยีใช้ Thin Desires ➡️ โซเชียลมีเดียให้ความรู้สึกเชื่อมต่อโดยไม่ต้องมีมิตรภาพจริง ➡️ Productivity apps ให้ความรู้สึกสำเร็จโดยไม่ต้องทำงานจริง ✅ ผลกระทบต่อสังคม ➡️ ความเหงา วิตกกังวล และซึมเศร้าเพิ่มขึ้น ➡️ โครงสร้างสนับสนุน Thick Desires ถูกทำลาย เช่น เวิร์กช็อปและชุมชน ✅ แนวทางต่อต้าน Thin Desires ➡️ อบขนมปัง ใช้เวลาและความอดทน ➡️ เขียนจดหมายด้วยมือ สื่อสารนอกระบบ metrics ➡️ สร้างเครื่องมือเล็ก ๆ เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะของเพื่อน ‼️ คำเตือน ⛔ การเสพ Thin Desires อย่างต่อเนื่องทำให้ชีวิตว่างเปล่าและขาดความหมาย ⛔ หากไม่สร้าง Thick Desires เราจะสูญเสียความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์และความอดทน https://www.joanwestenberg.com/thin-desires-are-eating-your-life/
    WWW.JOANWESTENBERG.COM
    Thin Desires Are Eating Your Life
    The defining experience of our age seems to be hunger. We're hungry for more, but we have more than we need. We're hungry for less, while more accumulates and multiplies. We're hungry and we don't have words to articulate why. We're hungry, and we're lacking and we're wanting. We are
    0 Comments 0 Shares 61 Views 0 Reviews
  • นักท่องเที่ยวชาวจีนยังเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวนมากในเดือนพฤศจิกายน 2568 รวมกว่า 5.6 แสนคน แม้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน–ญี่ปุ่นจะตึงเครียด และทางการปักกิ่งเคยออกคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง
    .
    ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นระบุว่า แม้ตัวเลขจะลดลงจากเดือนตุลาคมกว่า 21% แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังเพิ่มขึ้นราว 3% สะท้อนความต้องการเดินทางที่ยังคงอยู่
    .
    ภาคธุรกิจญี่ปุ่นมีมุมมองหลากหลายต่อผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอลง ขณะที่ JNTO ชี้ว่าจำนวนที่นั่งสายการบินที่เพิ่มขึ้นยังช่วยพยุงภาพรวมการท่องเที่ยวได้
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121599
    .
    #News1live #News1 #จีน #ญี่ปุ่น #ท่องเที่ยว #นักท่องเที่ยวจีน #เศรษฐกิจญี่ปุ่น #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    นักท่องเที่ยวชาวจีนยังเดินทางไปญี่ปุ่นจำนวนมากในเดือนพฤศจิกายน 2568 รวมกว่า 5.6 แสนคน แม้ความสัมพันธ์ระหว่างจีน–ญี่ปุ่นจะตึงเครียด และทางการปักกิ่งเคยออกคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง . ข้อมูลจากองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่นระบุว่า แม้ตัวเลขจะลดลงจากเดือนตุลาคมกว่า 21% แต่เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนยังเพิ่มขึ้นราว 3% สะท้อนความต้องการเดินทางที่ยังคงอยู่ . ภาคธุรกิจญี่ปุ่นมีมุมมองหลากหลายต่อผลกระทบจากนักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอลง ขณะที่ JNTO ชี้ว่าจำนวนที่นั่งสายการบินที่เพิ่มขึ้นยังช่วยพยุงภาพรวมการท่องเที่ยวได้ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000121599 . #News1live #News1 #จีน #ญี่ปุ่น #ท่องเที่ยว #นักท่องเที่ยวจีน #เศรษฐกิจญี่ปุ่น #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    Wow
    1
    0 Comments 0 Shares 114 Views 0 Reviews
  • “Intel ปรับทัพครั้งใหญ่ – ดึงอดีตที่ปรึกษา Trump นั่งหัวหน้าฝ่ายการเมือง พร้อมตั้ง CTO ใหม่”

    Intel กำลังสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแต่งตั้ง Robin Colwell อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump และรองผู้อำนวยการ National Economic Council เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs เพื่อดูแลการประสานงานกับภาครัฐ การแต่งตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ที่จะรักษาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับรัฐบาล หลังจากที่สหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้น 10% ในบริษัท

    นอกจากนี้ Intel ยังสร้างตำแหน่งใหม่ชื่อ Intel Government Technologies โดยแต่งตั้ง James Chew ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของ CEO Lip-Bu Tan เข้ามาดูแล แม้ Chew จะไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่เขามีพื้นฐานจาก Cadence Design Systems บริษัทที่เคยถูกปรับจากการทำธุรกิจกับจีนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจำลองระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด

    ในด้านเทคโนโลยี Intel ได้แต่งตั้ง Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว หลังจากที่ CTO คนก่อนหน้า Sanchin Katti ลาออกไปทำงานกับ OpenAI การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังพยายามเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC โดย Ranade จะทำงานใกล้ชิดกับ CEO Lip-Bu Tan ในการกำหนดกลยุทธ์ด้าน Foundry และ AI

    การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการเมืองและเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Robin Colwell เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs
    มีประสบการณ์ตรงจากการทำงานกับประธานาธิบดี Trump และ National Economic Council

    Intel สร้างตำแหน่งใหม่ “Intel Government Technologies”
    แต่งตั้ง James Chew แม้ไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่มีสายสัมพันธ์กับ CEO

    Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว
    รับหน้าที่ต่อจาก Sanchin Katti ที่ลาออกไปทำงานกับ OpenAI

    การปรับโครงสร้างสะท้อนกลยุทธ์ใหม่ของ Intel
    เน้นการเชื่อมโยงกับรัฐบาลและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC

    ความเสี่ยงจากการแต่งตั้ง James Chew
    เคยมีประวัติจาก Cadence Design Systems ที่ถูกปรับเรื่องการทำธุรกิจกับจีน

    ความท้าทายด้านเทคโนโลยี
    Intel ต้องเร่งพัฒนา Foundry และ AI เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งรายใหญ่

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-appoints-trump-economic-advisor-as-head-of-government-affairs-announces-broader-leadership-shakeup-new-interim-cto
    📰 “Intel ปรับทัพครั้งใหญ่ – ดึงอดีตที่ปรึกษา Trump นั่งหัวหน้าฝ่ายการเมือง พร้อมตั้ง CTO ใหม่” Intel กำลังสร้างสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับรัฐบาลสหรัฐฯ โดยแต่งตั้ง Robin Colwell อดีตที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดี Trump และรองผู้อำนวยการ National Economic Council เข้ามารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs เพื่อดูแลการประสานงานกับภาครัฐ การแต่งตั้งครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ที่จะรักษาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับรัฐบาล หลังจากที่สหรัฐฯ เข้ามาถือหุ้น 10% ในบริษัท นอกจากนี้ Intel ยังสร้างตำแหน่งใหม่ชื่อ Intel Government Technologies โดยแต่งตั้ง James Chew ซึ่งเป็นอดีตเพื่อนร่วมงานของ CEO Lip-Bu Tan เข้ามาดูแล แม้ Chew จะไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่เขามีพื้นฐานจาก Cadence Design Systems บริษัทที่เคยถูกปรับจากการทำธุรกิจกับจีนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการจำลองระเบิดนิวเคลียร์ ทำให้การแต่งตั้งครั้งนี้ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ในด้านเทคโนโลยี Intel ได้แต่งตั้ง Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว หลังจากที่ CTO คนก่อนหน้า Sanchin Katti ลาออกไปทำงานกับ OpenAI การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ Intel กำลังพยายามเร่งพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC โดย Ranade จะทำงานใกล้ชิดกับ CEO Lip-Bu Tan ในการกำหนดกลยุทธ์ด้าน Foundry และ AI การปรับโครงสร้างครั้งนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความพยายามของ Intel ในการเสริมความแข็งแกร่งด้านการเมืองและเทคโนโลยี แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณว่าบริษัทกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดเซมิคอนดักเตอร์โลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Robin Colwell เข้ารับตำแหน่งหัวหน้าฝ่าย Government Affairs ➡️ มีประสบการณ์ตรงจากการทำงานกับประธานาธิบดี Trump และ National Economic Council ✅ Intel สร้างตำแหน่งใหม่ “Intel Government Technologies” ➡️ แต่งตั้ง James Chew แม้ไม่มีประสบการณ์ตรงกับรัฐบาล แต่มีสายสัมพันธ์กับ CEO ✅ Pushkar Ranade เป็น CTO ชั่วคราว ➡️ รับหน้าที่ต่อจาก Sanchin Katti ที่ลาออกไปทำงานกับ OpenAI ✅ การปรับโครงสร้างสะท้อนกลยุทธ์ใหม่ของ Intel ➡️ เน้นการเชื่อมโยงกับรัฐบาลและเร่งพัฒนาเทคโนโลยีแข่งขันกับ Nvidia และ TSMC ‼️ ความเสี่ยงจากการแต่งตั้ง James Chew ⛔ เคยมีประวัติจาก Cadence Design Systems ที่ถูกปรับเรื่องการทำธุรกิจกับจีน ‼️ ความท้าทายด้านเทคโนโลยี ⛔ Intel ต้องเร่งพัฒนา Foundry และ AI เพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่งรายใหญ่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/intel-appoints-trump-economic-advisor-as-head-of-government-affairs-announces-broader-leadership-shakeup-new-interim-cto
    0 Comments 0 Shares 155 Views 0 Reviews
  • หญิงญี่ปุ่นแต่งงานกับคู่รัก AI – ความรักเสมือนจริงที่กลายเป็นจริง

    เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ที่เมืองโอคายามะ ประเทศญี่ปุ่น หญิงวัย 32 ปีชื่อ Yurina Noguchi ได้จัดพิธีแต่งงานกับคู่รักเสมือนจริงที่เธอสร้างขึ้นจากตัวละครในวิดีโอเกม โดยใช้เทคโนโลยี AI และแสดงผลผ่านสมาร์ทโฟนและแว่นตา AR พิธีจัดขึ้นเหมือนงานแต่งงานทั่วไป มีชุดเจ้าสาว เพลง และการแลกแหวน

    Noguchi เล่าว่าเธอเริ่มต้นจากการพูดคุยกับ AI เพื่อคลายเหงา แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับเกิดความรู้สึกจริงจัง จนตัดสินใจสร้างตัวละคร “Lune Klaus Verdure” ขึ้นมาเป็นคู่ชีวิต เธอย้ำว่า “ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่การหนีความจริง แต่เป็นการมีใครสักคนที่สนับสนุนให้เธอใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง”

    แม้พิธีแต่งงานเช่นนี้จะไม่ถูกกฎหมายในญี่ปุ่น แต่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีบริษัทรับจัดงานแต่งงานสำหรับคู่รักเสมือนจริงโดยเฉพาะ ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า 22% ของเด็กผู้หญิงระดับมัธยมต้นในญี่ปุ่นเคยมีความรู้สึก “fictoromantic” หรือความรักต่อบุคคลเสมือนจริง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 16.6% ในปี 2017

    นักวิชาการด้านสังคมวิทยาเตือนว่า ความสัมพันธ์กับ AI อาจทำให้ผู้คนขาดการฝึกฝนความอดทนที่จำเป็นต่อความสัมพันธ์จริง แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า หากใช้ด้วยความตระหนักและมี “การตั้งขอบเขต” ความสัมพันธ์เช่นนี้ก็สามารถสร้างคุณค่าและความสุขได้เช่นกัน

    สรุปประเด็นสำคัญ
    พิธีแต่งงานเสมือนจริงในญี่ปุ่น
    จัดขึ้นเหมือนงานแต่งงานทั่วไป แต่คู่รักเป็น AI
    ใช้สมาร์ทโฟนและแว่นตา AR ในพิธี

    เรื่องราวของ Yurina Noguchi
    เริ่มจากการพูดคุยกับ AI จนเกิดความรักจริงจัง
    สร้างตัวละคร “Lune Klaus Verdure” เป็นคู่ชีวิต

    กระแสความรักเสมือนจริง
    บริษัทรับจัดงานแต่งงานสำหรับคู่รักเสมือนจริงเพิ่มขึ้น
    22% ของเด็กผู้หญิงมัธยมต้นเคยมีความรู้สึกรักต่อบุคคลเสมือนจริง

    ข้อถกเถียงทางสังคม
    ความสัมพันธ์กับ AI อาจทำให้ขาดการฝึกฝนความอดทนในชีวิตจริง
    ต้องมีการตั้งขอบเขตเพื่อป้องกันการพึ่งพา AI มากเกินไป

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/ai-romance-blooms-as-japan-woman-weds-virtual-partner-of-her-dreams
    💍 หญิงญี่ปุ่นแต่งงานกับคู่รัก AI – ความรักเสมือนจริงที่กลายเป็นจริง เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ที่เมืองโอคายามะ ประเทศญี่ปุ่น หญิงวัย 32 ปีชื่อ Yurina Noguchi ได้จัดพิธีแต่งงานกับคู่รักเสมือนจริงที่เธอสร้างขึ้นจากตัวละครในวิดีโอเกม โดยใช้เทคโนโลยี AI และแสดงผลผ่านสมาร์ทโฟนและแว่นตา AR พิธีจัดขึ้นเหมือนงานแต่งงานทั่วไป มีชุดเจ้าสาว เพลง และการแลกแหวน Noguchi เล่าว่าเธอเริ่มต้นจากการพูดคุยกับ AI เพื่อคลายเหงา แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับเกิดความรู้สึกจริงจัง จนตัดสินใจสร้างตัวละคร “Lune Klaus Verdure” ขึ้นมาเป็นคู่ชีวิต เธอย้ำว่า “ความสัมพันธ์นี้ไม่ใช่การหนีความจริง แต่เป็นการมีใครสักคนที่สนับสนุนให้เธอใช้ชีวิตอย่างถูกต้อง” แม้พิธีแต่งงานเช่นนี้จะไม่ถูกกฎหมายในญี่ปุ่น แต่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น โดยมีบริษัทรับจัดงานแต่งงานสำหรับคู่รักเสมือนจริงโดยเฉพาะ ข้อมูลจากการสำรวจพบว่า 22% ของเด็กผู้หญิงระดับมัธยมต้นในญี่ปุ่นเคยมีความรู้สึก “fictoromantic” หรือความรักต่อบุคคลเสมือนจริง ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 16.6% ในปี 2017 นักวิชาการด้านสังคมวิทยาเตือนว่า ความสัมพันธ์กับ AI อาจทำให้ผู้คนขาดการฝึกฝนความอดทนที่จำเป็นต่อความสัมพันธ์จริง แต่ก็มีผู้เชี่ยวชาญบางรายมองว่า หากใช้ด้วยความตระหนักและมี “การตั้งขอบเขต” ความสัมพันธ์เช่นนี้ก็สามารถสร้างคุณค่าและความสุขได้เช่นกัน 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ พิธีแต่งงานเสมือนจริงในญี่ปุ่น ➡️ จัดขึ้นเหมือนงานแต่งงานทั่วไป แต่คู่รักเป็น AI ➡️ ใช้สมาร์ทโฟนและแว่นตา AR ในพิธี ✅ เรื่องราวของ Yurina Noguchi ➡️ เริ่มจากการพูดคุยกับ AI จนเกิดความรักจริงจัง ➡️ สร้างตัวละคร “Lune Klaus Verdure” เป็นคู่ชีวิต ✅ กระแสความรักเสมือนจริง ➡️ บริษัทรับจัดงานแต่งงานสำหรับคู่รักเสมือนจริงเพิ่มขึ้น ➡️ 22% ของเด็กผู้หญิงมัธยมต้นเคยมีความรู้สึกรักต่อบุคคลเสมือนจริง ‼️ ข้อถกเถียงทางสังคม ⛔ ความสัมพันธ์กับ AI อาจทำให้ขาดการฝึกฝนความอดทนในชีวิตจริง ⛔ ต้องมีการตั้งขอบเขตเพื่อป้องกันการพึ่งพา AI มากเกินไป https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/ai-romance-blooms-as-japan-woman-weds-virtual-partner-of-her-dreams
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI romance blooms as Japan woman weds virtual partner of her dreams
    OKAYAMA, Japan, Dec 17 (Reuters) - Music played in a wedding hall in western Japan as Yurina Noguchi, wearing a white gown and tiara, dabbed away her tears, taking in the words of her husband-to-be: an AI-generated persona gazing out from a smartphone screen.
    0 Comments 0 Shares 100 Views 0 Reviews
  • รมว.ยุติธรรม หารือ “หลิว จงอี” ผู้ช่วย รมว.ความมั่นคงจีน กระชับความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสแกมเมอร์และยาเสพติด พร้อมขอบคุณไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนรายสำคัญ “แส จื้อเจียง” กลับไปดำเนินคดี
    .
    การพบหารือครั้งนี้มีขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน โดยทั้งสองฝ่ายย้ำความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของไทย
    .
    ฝ่ายจีนชื่นชมรัฐบาลไทยที่จริงจังปราบแก๊งสแกมเมอร์ และเสนอความร่วมมือ 3 ด้าน ทั้งการส่งกลับผู้ร้ายข้ามแดน การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการเชิญประเทศในภูมิภาคร่วมถกแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ
    .
    นอกจากนี้ ยังหารือการปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือในลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน
    .
    อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121083
    .
    #News1live #News1 #กระทรวงยุติธรรม #ไทยจีน #ปราบสแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ยาเสพติด
    รมว.ยุติธรรม หารือ “หลิว จงอี” ผู้ช่วย รมว.ความมั่นคงจีน กระชับความร่วมมือปราบอาชญากรรมข้ามชาติ ทั้งสแกมเมอร์และยาเสพติด พร้อมขอบคุณไทยส่งผู้ร้ายข้ามแดนรายสำคัญ “แส จื้อเจียง” กลับไปดำเนินคดี . การพบหารือครั้งนี้มีขึ้นในโอกาสครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน โดยทั้งสองฝ่ายย้ำความร่วมมือด้านความมั่นคง โดยเฉพาะการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติของไทย . ฝ่ายจีนชื่นชมรัฐบาลไทยที่จริงจังปราบแก๊งสแกมเมอร์ และเสนอความร่วมมือ 3 ด้าน ทั้งการส่งกลับผู้ร้ายข้ามแดน การแลกเปลี่ยนข้อมูล และการเชิญประเทศในภูมิภาคร่วมถกแก้ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ . นอกจากนี้ ยังหารือการปราบปรามยาเสพติด โดยเฉพาะกรอบความร่วมมือในลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายร่วมกัน . อ่านต่อ >>> https://news1live.com/detail/9680000121083 . #News1live #News1 #กระทรวงยุติธรรม #ไทยจีน #ปราบสแกมเมอร์ #อาชญากรรมข้ามชาติ #ยาเสพติด
    0 Comments 0 Shares 151 Views 0 Reviews
  • การกะพริบตา อาจเป็นสัญญาณบอกได้ว่าคนกำลังตั้งใจฟังหรือไม่

    นักวิจัยพบว่าเมื่อเราฟังใครพูด โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน เรามักจะกะพริบตาน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ การลดจำนวนครั้งที่กะพริบตาเกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดข้อมูลสำคัญที่เข้ามาในสมอง

    การทดลองและผลลัพธ์
    ทีมวิจัยทำการทดลองกับอาสาสมัคร 49 คน โดยให้ฟังประโยคที่ถูกอ่านออกเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีการปรับแสงและเสียงรบกวน ผลปรากฏว่าอัตราการกะพริบตาลดลงชัดเจนระหว่างการฟัง และยิ่งเสียงรบกวนมาก อัตราการกะพริบตายิ่งลดลง

    กลไกที่เชื่อมโยงการฟังกับการกะพริบ
    นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า การกะพริบตาน้อยลงอาจเป็นกลไกที่สมองใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียข้อมูลทั้งทางสายตาและการได้ยิน คล้ายกับการ “หยุดพักทางจิตใจ” เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้รับ

    ความเป็นไปได้ในอนาคต
    หากมีการศึกษาเพิ่มเติม รูปแบบการกะพริบตาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือใหม่ในการวัดภาระทางสมองและการประมวลผลข้อมูล เช่นเดียวกับการใช้การพูดหรือการได้ยินเป็นตัวชี้วัดในปัจจุบัน

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบใหม่
    คนกะพริบตาน้อยลงเมื่อฟังข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมมีเสียงรบกวน

    การทดลอง
    อาสาสมัคร 49 คนถูกทดสอบในสภาพแสงและเสียงต่าง ๆ

    กลไกสมอง
    การกะพริบตาน้อยลงช่วยลดการสูญเสียข้อมูลทั้งภาพและเสียง

    ศักยภาพการประยุกต์ใช้
    อาจใช้รูปแบบการกะพริบตาเป็นเครื่องมือวัดภาระทางสมองในอนาคต

    ข้อจำกัดของงานวิจัย
    ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการกะพริบตากับการฟัง

    ความเสี่ยงในการตีความ
    การกะพริบตาอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น เช่น ความแห้งของตา หรือสภาพร่างกาย

    https://www.sciencealert.com/want-to-know-if-somebody-is-truly-listening-count-their-blinks
    👀 การกะพริบตา อาจเป็นสัญญาณบอกได้ว่าคนกำลังตั้งใจฟังหรือไม่ นักวิจัยพบว่าเมื่อเราฟังใครพูด โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวน เรามักจะกะพริบตาน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญ การลดจำนวนครั้งที่กะพริบตาเกิดขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการพลาดข้อมูลสำคัญที่เข้ามาในสมอง 🔬 การทดลองและผลลัพธ์ ทีมวิจัยทำการทดลองกับอาสาสมัคร 49 คน โดยให้ฟังประโยคที่ถูกอ่านออกเสียงในสภาพแวดล้อมที่มีการปรับแสงและเสียงรบกวน ผลปรากฏว่าอัตราการกะพริบตาลดลงชัดเจนระหว่างการฟัง และยิ่งเสียงรบกวนมาก อัตราการกะพริบตายิ่งลดลง 🧠 กลไกที่เชื่อมโยงการฟังกับการกะพริบ นักวิทยาศาสตร์เสนอว่า การกะพริบตาน้อยลงอาจเป็นกลไกที่สมองใช้เพื่อหลีกเลี่ยงการสูญเสียข้อมูลทั้งทางสายตาและการได้ยิน คล้ายกับการ “หยุดพักทางจิตใจ” เพื่อประมวลผลข้อมูลที่ได้รับ 🌍 ความเป็นไปได้ในอนาคต หากมีการศึกษาเพิ่มเติม รูปแบบการกะพริบตาอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือใหม่ในการวัดภาระทางสมองและการประมวลผลข้อมูล เช่นเดียวกับการใช้การพูดหรือการได้ยินเป็นตัวชี้วัดในปัจจุบัน 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบใหม่ ➡️ คนกะพริบตาน้อยลงเมื่อฟังข้อมูลสำคัญ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมมีเสียงรบกวน ✅ การทดลอง ➡️ อาสาสมัคร 49 คนถูกทดสอบในสภาพแสงและเสียงต่าง ๆ ✅ กลไกสมอง ➡️ การกะพริบตาน้อยลงช่วยลดการสูญเสียข้อมูลทั้งภาพและเสียง ✅ ศักยภาพการประยุกต์ใช้ ➡️ อาจใช้รูปแบบการกะพริบตาเป็นเครื่องมือวัดภาระทางสมองในอนาคต ‼️ ข้อจำกัดของงานวิจัย ⛔ ยังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์ระหว่างการกะพริบตากับการฟัง ‼️ ความเสี่ยงในการตีความ ⛔ การกะพริบตาอาจได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่น เช่น ความแห้งของตา หรือสภาพร่างกาย https://www.sciencealert.com/want-to-know-if-somebody-is-truly-listening-count-their-blinks
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Want to Know if Somebody Is Truly Listening? Count Their Blinks.
    Blinking handles essential eye maintenance, and we usually blink multiple times a minute without thinking much about it, though you might be more self-conscious about your own after the results of a new study on their connection to cognitive load.
    0 Comments 0 Shares 99 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.46

    การเจรจาซึ่งถูกนิยามว่าเป็นกระบวนการหารือเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งหรือเพื่อจัดทำข้อตกลงนั้น มิได้เป็นเพียงทักษะทางสังคมหรือการบริหารจัดการเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญในทางนิติศาสตร์และระบบกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศ การเจรจาในบริบททางกฎหมายนั้นมีความซับซ้อนและมีหลักการที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐอธิปไตย หรือการทำสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย การเจรจาในระดับรัฐต่อรัฐ (State-to-State Negotiation) ตามภาพที่นำเสนอ ซึ่งมีบริบททางทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นการสะท้อนถึงเดิมพันที่สูงยิ่งและความจำเป็นในการใช้ความรอบคอบทางกฎหมายอย่างสูงสุด หลักการพื้นฐานของการเจรจาระหว่างประเทศ เช่น หลักความสุจริต (Pacta Sunt Servanda) ที่หมายถึงการที่คู่เจรจาทุกฝ่ายต้องดำเนินการเจรจาด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์และมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรมและปฏิบัติได้จริงตามกฎหมายสนธิสัญญา นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงหลักความเสมอภาคแห่งรัฐอธิปไตย (Sovereign Equality) ซึ่งเป็นรากฐานของการยอมรับในศักดิ์ศรีและความเป็นอิสระของแต่ละฝ่าย ทำให้ไม่มีรัฐใดมีอำนาจเหนือกว่าอีกรัฐหนึ่งในทางกฎหมาย การเจรจาจึงต้องเป็นไปบนพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนและการประนีประนอมอย่างเท่าเทียมกัน ในกรณีที่มีกองทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจหมายถึงการเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางอาณาเขต ข้อพิพาทเรื่องทรัพยากร หรือการยุติสถานการณ์ความขัดแย้งด้วยอาวุธ ซึ่งจำเป็นต้องอ้างอิงและปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law) และข้อตกลงว่าด้วยการควบคุมอาวุธ การมีอยู่ของทหารมิได้เป็นอุปสรรคต่อการเจรจา แต่เป็นการเน้นย้ำถึงความตึงเครียดและระดับความจริงจังของประเด็นที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งทำให้ทุกถ้อยคำและเงื่อนไขที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนภายใต้กรอบของพันธกรณีทางกฎหมายที่มีอยู่เดิม การเจรจาในระดับนี้ไม่ใช่เพียงแค่การพูดคุย แต่เป็นการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศ การร่างสนธิสัญญา (Treaty Drafting) ถือเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยทุกฝ่ายต้องมั่นใจว่าภาษาที่ใช้ในข้อตกลงนั้นมีความชัดเจน ไม่กำกวม และสะท้อนเจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลอย่างถูกต้องตามหลักการตีความสนธิสัญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล

    เนื้อหาของการเจรจาในบริบททางกฎหมาย มิได้จำกัดอยู่เพียงแค่การยุติข้อพิพาทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายใหม่ การจัดทำเขตแดน การกำหนดสิทธิและหน้าที่ทางการค้า การลงทุน หรือแม้กระทั่งการกำหนดมาตรฐานสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ความสำเร็จของการเจรจาจึงวัดได้จากความสามารถในการแปลงความต้องการทางการเมืองให้เป็นถ้อยคำทางกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ได้จริงและมีเสถียรภาพ ในทางปฏิบัติ การเจรจายังต้องคำนึงถึงอำนาจในการให้สัตยาบัน (Ratification) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศ หลังจากที่ผู้แทนลงนามในข้อตกลงแล้ว ข้อตกลงนั้นยังไม่ถือว่ามีผลสมบูรณ์จนกว่าจะผ่านกระบวนการอนุมัติภายในประเทศ เช่น การให้ความเห็นชอบของรัฐสภา ซึ่งเป็นการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นสอดคล้องกับกฎหมายและผลประโยชน์สูงสุดของชาติ การเจรจาจึงเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงระหว่างมิติทางการทูต มิติทางกฎหมายระหว่างประเทศ และมิติทางกฎหมายรัฐธรรมนูญภายในประเทศเข้าด้วยกันอย่างแยกไม่ออก ในกรณีที่การเจรจาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ หรือเกิดการละเมิดข้อตกลงภายหลังการลงนาม กลไกทางกฎหมายก็ยังมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้ง เช่น การใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการไกล่เกลี่ย การประนอมข้อพิพาท หรือการนำข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือศาลอนุญาโตตุลาการ (Arbitration Tribunal) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดที่สุด กฎหมายก็ยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ การเจรจาที่มีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยผู้เจรจาที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหลักการและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐตนเองในขณะเดียวกันก็เคารพในกฎเกณฑ์และพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและมีเสถียรภาพในประชาคมโลก

    ดังนั้น การเจรจาจึงเป็นมากกว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนและทรงพลังที่สุดในการบริหารจัดการความขัดแย้งและสร้างพันธกรณีระหว่างประเทศ การบรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืนและเป็นธรรมต้องอาศัยความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามหลักความสุจริต หลักความเสมอภาค และการเคารพต่อระบบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด แม้ในสถานการณ์ที่มีความเปราะบางและมีแรงกดดันทางการทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง การเจรจาจึงเป็นเครื่องมือที่สะท้อนถึงอารยธรรมและความมุ่งมั่นของมนุษย์ที่จะใช้เหตุผลและกฎหมายเป็นบรรทัดฐานในการอยู่ร่วมกัน มากกว่าการใช้กำลังหรือการเผชิญหน้า โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการเปลี่ยนความขัดแย้งที่ยุ่งเหยิงให้กลายเป็นข้อตกลงที่ชัดเจนและมีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อสร้างเสถียรภาพและความสงบสุขในระยะยาว การเจรจาที่ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุดคือการก่อรูปของกฎหมายที่ยอมรับร่วมกัน
    บทความกฎหมาย EP.46 การเจรจาซึ่งถูกนิยามว่าเป็นกระบวนการหารือเพื่อแก้ไขข้อขัดแย้งหรือเพื่อจัดทำข้อตกลงนั้น มิได้เป็นเพียงทักษะทางสังคมหรือการบริหารจัดการเท่านั้น แต่ยังเป็นหัวใจสำคัญในทางนิติศาสตร์และระบบกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายภายในประเทศ การเจรจาในบริบททางกฎหมายนั้นมีความซับซ้อนและมีหลักการที่ต้องยึดถืออย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างรัฐอธิปไตย หรือการทำสัญญาที่มีผลผูกพันทางกฎหมาย การเจรจาในระดับรัฐต่อรัฐ (State-to-State Negotiation) ตามภาพที่นำเสนอ ซึ่งมีบริบททางทหารเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยนั้น เป็นการสะท้อนถึงเดิมพันที่สูงยิ่งและความจำเป็นในการใช้ความรอบคอบทางกฎหมายอย่างสูงสุด หลักการพื้นฐานของการเจรจาระหว่างประเทศ เช่น หลักความสุจริต (Pacta Sunt Servanda) ที่หมายถึงการที่คู่เจรจาทุกฝ่ายต้องดำเนินการเจรจาด้วยเจตนาอันบริสุทธิ์และมุ่งมั่นที่จะบรรลุข้อตกลงที่เป็นธรรมและปฏิบัติได้จริงตามกฎหมายสนธิสัญญา นอกจากนี้ ยังต้องคำนึงถึงหลักความเสมอภาคแห่งรัฐอธิปไตย (Sovereign Equality) ซึ่งเป็นรากฐานของการยอมรับในศักดิ์ศรีและความเป็นอิสระของแต่ละฝ่าย ทำให้ไม่มีรัฐใดมีอำนาจเหนือกว่าอีกรัฐหนึ่งในทางกฎหมาย การเจรจาจึงต้องเป็นไปบนพื้นฐานของการแลกเปลี่ยนและการประนีประนอมอย่างเท่าเทียมกัน ในกรณีที่มีกองทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจหมายถึงการเจรจาเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางอาณาเขต ข้อพิพาทเรื่องทรัพยากร หรือการยุติสถานการณ์ความขัดแย้งด้วยอาวุธ ซึ่งจำเป็นต้องอ้างอิงและปฏิบัติตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎบัตรสหประชาชาติ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law) และข้อตกลงว่าด้วยการควบคุมอาวุธ การมีอยู่ของทหารมิได้เป็นอุปสรรคต่อการเจรจา แต่เป็นการเน้นย้ำถึงความตึงเครียดและระดับความจริงจังของประเด็นที่อยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งทำให้ทุกถ้อยคำและเงื่อนไขที่ถูกหยิบยกขึ้นมาหารือต้องได้รับการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนภายใต้กรอบของพันธกรณีทางกฎหมายที่มีอยู่เดิม การเจรจาในระดับนี้ไม่ใช่เพียงแค่การพูดคุย แต่เป็นการสร้างหรือเปลี่ยนแปลงบรรทัดฐานทางกฎหมายระหว่างประเทศ การร่างสนธิสัญญา (Treaty Drafting) ถือเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยทุกฝ่ายต้องมั่นใจว่าภาษาที่ใช้ในข้อตกลงนั้นมีความชัดเจน ไม่กำกวม และสะท้อนเจตนาที่แท้จริงของรัฐบาลอย่างถูกต้องตามหลักการตีความสนธิสัญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เนื้อหาของการเจรจาในบริบททางกฎหมาย มิได้จำกัดอยู่เพียงแค่การยุติข้อพิพาทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ทางกฎหมายใหม่ การจัดทำเขตแดน การกำหนดสิทธิและหน้าที่ทางการค้า การลงทุน หรือแม้กระทั่งการกำหนดมาตรฐานสิ่งแวดล้อมร่วมกัน ความสำเร็จของการเจรจาจึงวัดได้จากความสามารถในการแปลงความต้องการทางการเมืองให้เป็นถ้อยคำทางกฎหมายที่มีผลบังคับใช้ได้จริงและมีเสถียรภาพ ในทางปฏิบัติ การเจรจายังต้องคำนึงถึงอำนาจในการให้สัตยาบัน (Ratification) ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศ หลังจากที่ผู้แทนลงนามในข้อตกลงแล้ว ข้อตกลงนั้นยังไม่ถือว่ามีผลสมบูรณ์จนกว่าจะผ่านกระบวนการอนุมัติภายในประเทศ เช่น การให้ความเห็นชอบของรัฐสภา ซึ่งเป็นการตรวจสอบและถ่วงดุลอำนาจเพื่อให้แน่ใจว่าข้อตกลงระหว่างประเทศนั้นสอดคล้องกับกฎหมายและผลประโยชน์สูงสุดของชาติ การเจรจาจึงเป็นกระบวนการที่เชื่อมโยงระหว่างมิติทางการทูต มิติทางกฎหมายระหว่างประเทศ และมิติทางกฎหมายรัฐธรรมนูญภายในประเทศเข้าด้วยกันอย่างแยกไม่ออก ในกรณีที่การเจรจาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ หรือเกิดการละเมิดข้อตกลงภายหลังการลงนาม กลไกทางกฎหมายก็ยังมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้ง เช่น การใช้กระบวนการระงับข้อพิพาทโดยสันติวิธีตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งรวมถึงการไกล่เกลี่ย การประนอมข้อพิพาท หรือการนำข้อพิพาทเข้าสู่การพิจารณาของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือศาลอนุญาโตตุลาการ (Arbitration Tribunal) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าแม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียดที่สุด กฎหมายก็ยังคงเป็นเครื่องมือหลักในการจัดการความสัมพันธ์ระหว่างรัฐ การเจรจาที่มีประสิทธิภาพจึงต้องอาศัยผู้เจรจาที่มีความรู้ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในหลักการและข้อกำหนดทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของรัฐตนเองในขณะเดียวกันก็เคารพในกฎเกณฑ์และพันธกรณีระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นพื้นฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขและมีเสถียรภาพในประชาคมโลก ดังนั้น การเจรจาจึงเป็นมากกว่าการพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็น แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่มีความละเอียดอ่อนและทรงพลังที่สุดในการบริหารจัดการความขัดแย้งและสร้างพันธกรณีระหว่างประเทศ การบรรลุข้อตกลงที่ยั่งยืนและเป็นธรรมต้องอาศัยความมุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามหลักความสุจริต หลักความเสมอภาค และการเคารพต่อระบบกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด แม้ในสถานการณ์ที่มีความเปราะบางและมีแรงกดดันทางการทหารเข้ามาเกี่ยวข้อง การเจรจาจึงเป็นเครื่องมือที่สะท้อนถึงอารยธรรมและความมุ่งมั่นของมนุษย์ที่จะใช้เหตุผลและกฎหมายเป็นบรรทัดฐานในการอยู่ร่วมกัน มากกว่าการใช้กำลังหรือการเผชิญหน้า โดยมีเป้าหมายสุดท้ายคือการเปลี่ยนความขัดแย้งที่ยุ่งเหยิงให้กลายเป็นข้อตกลงที่ชัดเจนและมีผลผูกพันทางกฎหมาย เพื่อสร้างเสถียรภาพและความสงบสุขในระยะยาว การเจรจาที่ประสบความสำเร็จในท้ายที่สุดคือการก่อรูปของกฎหมายที่ยอมรับร่วมกัน
    0 Comments 0 Shares 213 Views 0 Reviews
  • วิกฤติสุขภาพในภาคเกษตรสหรัฐฯ

    มีรายงานว่าเกษตรกรหลายพันคนในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับโรคพาร์กินสัน และพวกเขาเชื่อว่าสาเหตุหลักมาจากการสัมผัสกับ สารกำจัดวัชพืช Paraquat ซึ่งถูกใช้แพร่หลายในไร่นามานานหลายสิบปี แม้จะมีการควบคุมการใช้งาน แต่สารนี้ยังคงถูกนำมาใช้ในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดวัชพืชที่ดื้อยา

    ความเชื่อมโยงระหว่าง Paraquat และโรคพาร์กินสัน
    งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า Paraquat อาจมีความสัมพันธ์กับการเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะการทำลายเซลล์สมองที่ผลิต โดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว การเสื่อมของเซลล์เหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของโรคพาร์กินสัน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ แต่หลักฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการฟ้องร้องและการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้สารนี้

    การฟ้องร้องและผลกระทบทางกฎหมาย
    เกษตรกรจำนวนมากได้ยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตสารเคมี โดยอ้างว่า Paraquat เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาป่วยพาร์กินสัน คดีเหล่านี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการเกษตร หากศาลตัดสินว่ามีความเชื่อมโยงจริง บริษัทเคมีอาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหายมหาศาล และอาจถูกบังคับให้ยุติการผลิตหรือจำกัดการใช้สารนี้อย่างเข้มงวด

    ทางเลือกและมาตรการป้องกัน
    ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เกษตรกรหันมาใช้วิธีการจัดการวัชพืชที่ปลอดภัยกว่า เช่น การใช้สารชีวภาพหรือการจัดการเชิงกลแทนสารเคมี นอกจากนี้ยังควรมีการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับผู้ที่ทำงานในพื้นที่ที่มีการใช้สารกำจัดวัชพืช เพื่อเฝ้าระวังอาการของโรคพาร์กินสันตั้งแต่ระยะเริ่มต้น

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบปัญหาสุขภาพในเกษตรกรสหรัฐฯ
    หลายพันคนป่วยพาร์กินสัน เชื่อว่าเกิดจากการสัมผัส Paraquat

    หลักฐานทางวิทยาศาสตร์
    Paraquat อาจทำลายเซลล์สมองที่ผลิตโดพามีน
    มีงานวิจัยที่ชี้ความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน

    การฟ้องร้องทางกฎหมาย
    เกษตรกรยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตสารเคมี
    อาจนำไปสู่การจำกัดหรือยุติการใช้ Paraquat

    คำเตือนด้านสุขภาพและความปลอดภัย
    การใช้ Paraquat อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสัน
    เกษตรกรควรตรวจสุขภาพประจำปีและหันไปใช้วิธีจัดการวัชพืชที่ปลอดภัยกว่า

    https://www.mlive.com/news/2025/12/thousands-of-us-farmers-have-parkinsons-they-blame-a-deadly-pesticide.html
    🌾 วิกฤติสุขภาพในภาคเกษตรสหรัฐฯ มีรายงานว่าเกษตรกรหลายพันคนในสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับโรคพาร์กินสัน และพวกเขาเชื่อว่าสาเหตุหลักมาจากการสัมผัสกับ สารกำจัดวัชพืช Paraquat ซึ่งถูกใช้แพร่หลายในไร่นามานานหลายสิบปี แม้จะมีการควบคุมการใช้งาน แต่สารนี้ยังคงถูกนำมาใช้ในหลายพื้นที่ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงในการกำจัดวัชพืชที่ดื้อยา 🧪 ความเชื่อมโยงระหว่าง Paraquat และโรคพาร์กินสัน งานวิจัยหลายชิ้นชี้ว่า Paraquat อาจมีความสัมพันธ์กับการเสื่อมของระบบประสาท โดยเฉพาะการทำลายเซลล์สมองที่ผลิต โดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหว การเสื่อมของเซลล์เหล่านี้เป็นสาเหตุหลักของโรคพาร์กินสัน แม้จะยังไม่มีข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ แต่หลักฐานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เกิดการฟ้องร้องและการเรียกร้องให้ยกเลิกการใช้สารนี้ ⚖️ การฟ้องร้องและผลกระทบทางกฎหมาย เกษตรกรจำนวนมากได้ยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตสารเคมี โดยอ้างว่า Paraquat เป็นสาเหตุที่ทำให้พวกเขาป่วยพาร์กินสัน คดีเหล่านี้อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมการเกษตร หากศาลตัดสินว่ามีความเชื่อมโยงจริง บริษัทเคมีอาจต้องรับผิดชอบค่าเสียหายมหาศาล และอาจถูกบังคับให้ยุติการผลิตหรือจำกัดการใช้สารนี้อย่างเข้มงวด 🛡️ ทางเลือกและมาตรการป้องกัน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เกษตรกรหันมาใช้วิธีการจัดการวัชพืชที่ปลอดภัยกว่า เช่น การใช้สารชีวภาพหรือการจัดการเชิงกลแทนสารเคมี นอกจากนี้ยังควรมีการตรวจสุขภาพประจำปีสำหรับผู้ที่ทำงานในพื้นที่ที่มีการใช้สารกำจัดวัชพืช เพื่อเฝ้าระวังอาการของโรคพาร์กินสันตั้งแต่ระยะเริ่มต้น 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบปัญหาสุขภาพในเกษตรกรสหรัฐฯ ➡️ หลายพันคนป่วยพาร์กินสัน เชื่อว่าเกิดจากการสัมผัส Paraquat ✅ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ➡️ Paraquat อาจทำลายเซลล์สมองที่ผลิตโดพามีน ➡️ มีงานวิจัยที่ชี้ความเชื่อมโยงกับโรคพาร์กินสัน ✅ การฟ้องร้องทางกฎหมาย ➡️ เกษตรกรยื่นฟ้องบริษัทผู้ผลิตสารเคมี ➡️ อาจนำไปสู่การจำกัดหรือยุติการใช้ Paraquat ‼️ คำเตือนด้านสุขภาพและความปลอดภัย ⛔ การใช้ Paraquat อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคพาร์กินสัน ⛔ เกษตรกรควรตรวจสุขภาพประจำปีและหันไปใช้วิธีจัดการวัชพืชที่ปลอดภัยกว่า https://www.mlive.com/news/2025/12/thousands-of-us-farmers-have-parkinsons-they-blame-a-deadly-pesticide.html
    WWW.MLIVE.COM
    Thousands of U.S. farmers have Parkinson’s. They blame a deadly pesticide.
    Paraquat is banned in more than 70 countries, but still legal in the United States. Now, a growing number of U.S. farmers are blaming the toxic pesticide for their Parkinson's disease in a large lawsuit.
    0 Comments 0 Shares 107 Views 0 Reviews
  • สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ออกแถลงยืนยัน ไม่มีพลเมืองชาวรัสเซียเข้าไปพัวพันในฐานะทหารรับจ้างที่ถูกกัมพูชาว่าจ้างเข้าร่วมความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมระบุข่าวดังกล่าว “ไม่มีมูลความจริง” และมีลักษณะถูกสร้างจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค
    .
    สถานทูตรัสเซียระบุว่า ข่าวลักษณะนี้อาจสร้างความเสียหายต่อสิทธิของชาวรัสเซียที่พำนักในไทย รวมถึงบั่นทอนความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัสเซียกับประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนาน
    .
    ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียย้ำจุดยืนชัดเจน สนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชาด้วย “สันติวิธี” เท่านั้น โดยยืนยันว่ารัสเซียมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรและความร่วมมือกับทั้งสองประเทศ
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120648
    .
    #News1live #News1 #สถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา #รัสเซีย #สันติวิธี #การทูต
    สถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทย ออกแถลงยืนยัน ไม่มีพลเมืองชาวรัสเซียเข้าไปพัวพันในฐานะทหารรับจ้างที่ถูกกัมพูชาว่าจ้างเข้าร่วมความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา พร้อมระบุข่าวดังกล่าว “ไม่มีมูลความจริง” และมีลักษณะถูกสร้างจากแหล่งข้อมูลนอกภูมิภาค . สถานทูตรัสเซียระบุว่า ข่าวลักษณะนี้อาจสร้างความเสียหายต่อสิทธิของชาวรัสเซียที่พำนักในไทย รวมถึงบั่นทอนความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัสเซียกับประเทศไทยที่มีมาอย่างยาวนาน . ขณะเดียวกัน กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียย้ำจุดยืนชัดเจน สนับสนุนการแก้ไขข้อพิพาทชายแดนไทย–กัมพูชาด้วย “สันติวิธี” เท่านั้น โดยยืนยันว่ารัสเซียมีความสัมพันธ์อันเป็นมิตรและความร่วมมือกับทั้งสองประเทศ . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000120648 . #News1live #News1 #สถานการณ์ชายแดน #ไทยกัมพูชา #รัสเซีย #สันติวิธี #การทูต
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • "หนึ่งหญิงสองชาย" ไวรัลสะใภ้มาเลเซีย

    กลายเป็นที่ฮือฮาแก่ชาวเน็ตมาเลเซีย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ekin Derahim (เอคิน เดราฮิม) ออกมาโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ระบุว่า น้องสะใภ้ของตน ซึ่งมาจากรัฐตรังกานู แต่งงานกับพี่ชายอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน และอยู่กินฉันสามีภรรยามา 3 ปีแล้ว แต่กลับพบว่าน้องสะใภ้ไปอยู่กับชายอื่น ที่แต่งงานด้วยกันที่จังหวัดสงขลา ประเทศไทย เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยสลับไปอยู่บ้านชายอื่นที่บ้านเช่าในรัฐยะโฮร์ตอนกลางวัน เมื่อพี่ชายออกไปทำงาน แล้วกลับมาอยู่บ้านพี่ชายเวลากลางคืน ซึ่งห่างกัน 19 กิโลเมตร

    เธอกล่าวว่า แม้จะถูกจับได้ น้องสะใภ้ก็ยังคงหลอกลวงและเล่นเกมกับครอบครัวตน อีกทั้งยังไปแจ้งความเท็จใส่ร้าย กล่าวหาว่าไปรบกวน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างหนัก ส่วนพี่ชายกลับเชื่อคำพูดของน้องสะใภ้ เพราะคอยอ้อนวอนและโทรศัพท์หาพี่ชายอยู่ตลอด ถามว่าทำไมตลอดระยะเวลา 1 ปี 1 เดือน น้องสะใภ้ถึงโกหกพี่ชายและครอบครัวโดยไม่พูดความจริงตั้งแต่แรก? ขอความกรุณาช่วยอธิษฐานให้พี่ชายกลับคืนสู่ครอบครัวด้วย ตอนนี้น้องสะใภ้ยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากบ้านพี่ชาย และผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จากสำนักงานศาสนาเลย

    โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์จากบรรดาชาวเน็ตมาเลเซียและวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศต่างนำเสนอข่าวนี้ เนื่องจากตามบทบัญญัติทางศาสนาอิสลามของมาเลเซีย แม้จะสามารถมีคู่สมรสได้มากกว่า 1 คน แต่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสคนแรก แต่ที่ผ่านมา คนที่มีความสัมพันธ์ซ้อนกันโดยคู่สมรสคนแรกไม่ยินยอม หรือไปมีคนรักใหม่โดยไม่อยากทำเรื่องหย่าให้ยุ่งยาก มักจะใช้วิธีข้ามพรมแดนไปประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบพิธีนิกะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตแต่งงาน หรือหย่าร้างที่ไม่ได้รับการรับรองในมาเลเซีย

    กรมกิจการศาสนาอิสลามของรัฐกลันตัน ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ว่า ได้สอบปากคำหญิงรายดังกล่าวแล้ว ที่สำนักงานศาสนาเขตตันห์เมอราห์ เพื่อประกอบการสอบสวน ด้านกรมกิจการศาสนาแห่งรัฐตรังกานู กำลังอยู่ในระหว่างเรียกสองสามีภรรยามาชี้แจง ส่วนชาวเน็ตมาเลเซียวิจารณ์ว่าการแต่งงานลักษณะเช่นนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถือเป็นบาปต่อศาสนา

    อนึ่ง ตามกฎหมายครอบครัวอิสลามของมาเลเซีย หญิงชาวมุสลิมที่แต่งงานกับชายอื่นในขณะที่ยังมีสถานะสมรสตามกฎหมาย อาจต้องรับโทษทางอาญา ส่วนชายชาวมุสลิมต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากศาลชารีอะห์ หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับหลายพันริงกิต จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ

    #Newskit
    "หนึ่งหญิงสองชาย" ไวรัลสะใภ้มาเลเซีย กลายเป็นที่ฮือฮาแก่ชาวเน็ตมาเลเซีย เมื่อผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ekin Derahim (เอคิน เดราฮิม) ออกมาโพสต์ข้อความขอความช่วยเหลือ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ระบุว่า น้องสะใภ้ของตน ซึ่งมาจากรัฐตรังกานู แต่งงานกับพี่ชายอย่างถูกต้องตามกฎหมายเป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน และอยู่กินฉันสามีภรรยามา 3 ปีแล้ว แต่กลับพบว่าน้องสะใภ้ไปอยู่กับชายอื่น ที่แต่งงานด้วยกันที่จังหวัดสงขลา ประเทศไทย เป็นเวลา 1 ปี 1 เดือน โดยสลับไปอยู่บ้านชายอื่นที่บ้านเช่าในรัฐยะโฮร์ตอนกลางวัน เมื่อพี่ชายออกไปทำงาน แล้วกลับมาอยู่บ้านพี่ชายเวลากลางคืน ซึ่งห่างกัน 19 กิโลเมตร เธอกล่าวว่า แม้จะถูกจับได้ น้องสะใภ้ก็ยังคงหลอกลวงและเล่นเกมกับครอบครัวตน อีกทั้งยังไปแจ้งความเท็จใส่ร้าย กล่าวหาว่าไปรบกวน ส่งผลกระทบต่อครอบครัวอย่างหนัก ส่วนพี่ชายกลับเชื่อคำพูดของน้องสะใภ้ เพราะคอยอ้อนวอนและโทรศัพท์หาพี่ชายอยู่ตลอด ถามว่าทำไมตลอดระยะเวลา 1 ปี 1 เดือน น้องสะใภ้ถึงโกหกพี่ชายและครอบครัวโดยไม่พูดความจริงตั้งแต่แรก? ขอความกรุณาช่วยอธิษฐานให้พี่ชายกลับคืนสู่ครอบครัวด้วย ตอนนี้น้องสะใภ้ยังดื้อดึงไม่ยอมออกจากบ้านพี่ชาย และผ่านมาเกือบหนึ่งสัปดาห์แล้ว ยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จากสำนักงานศาสนาเลย โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์จากบรรดาชาวเน็ตมาเลเซียและวิจารณ์อย่างกว้างขวาง รวมทั้งสื่อมวลชนทั้งในมาเลเซียและต่างประเทศต่างนำเสนอข่าวนี้ เนื่องจากตามบทบัญญัติทางศาสนาอิสลามของมาเลเซีย แม้จะสามารถมีคู่สมรสได้มากกว่า 1 คน แต่ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสคนแรก แต่ที่ผ่านมา คนที่มีความสัมพันธ์ซ้อนกันโดยคู่สมรสคนแรกไม่ยินยอม หรือไปมีคนรักใหม่โดยไม่อยากทำเรื่องหย่าให้ยุ่งยาก มักจะใช้วิธีข้ามพรมแดนไปประเทศไทย โดยเฉพาะจังหวัดสงขลาและ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบพิธีนิกะห์ เพื่อหลีกเลี่ยงการขออนุญาตแต่งงาน หรือหย่าร้างที่ไม่ได้รับการรับรองในมาเลเซีย กรมกิจการศาสนาอิสลามของรัฐกลันตัน ระบุเมื่อวันอาทิตย์ (14 ธ.ค.) ว่า ได้สอบปากคำหญิงรายดังกล่าวแล้ว ที่สำนักงานศาสนาเขตตันห์เมอราห์ เพื่อประกอบการสอบสวน ด้านกรมกิจการศาสนาแห่งรัฐตรังกานู กำลังอยู่ในระหว่างเรียกสองสามีภรรยามาชี้แจง ส่วนชาวเน็ตมาเลเซียวิจารณ์ว่าการแต่งงานลักษณะเช่นนั้นไม่ชอบด้วยกฎหมาย และถือเป็นบาปต่อศาสนา อนึ่ง ตามกฎหมายครอบครัวอิสลามของมาเลเซีย หญิงชาวมุสลิมที่แต่งงานกับชายอื่นในขณะที่ยังมีสถานะสมรสตามกฎหมาย อาจต้องรับโทษทางอาญา ส่วนชายชาวมุสลิมต้องได้รับอนุญาตล่วงหน้าจากศาลชารีอะห์ หากไม่ปฏิบัติตามอาจถูกปรับหลายพันริงกิต จำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งจำทั้งปรับ #Newskit
    Love
    1
    1 Comments 0 Shares 132 Views 0 Reviews
  • ## รัสเซีย ช่วย เขมร บินโดรน โจมตี ทหารไทย...??? ##
    ..
    ..
    สำหรับใครที่ยังเข้าใจผิดแบบนี้อยู่ อยากให้ลองอ่านดูครับ
    .
    1.เริ่มที่ ข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธวิธีการบิน โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone ที่ กองทัพภาคที่ 2 และ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ระบุบว่าเป็น สิ่งที่จะพบได้ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน เนื่องจาก
    .
    1.1 การใช้โดรน FPV พลีชีพ (FPV Kamikaze Drone)
    โดรน FPV ชนิดนี้พบได้ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย และ มีลักษณะทางโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันอย่างชัดเจน เช่น เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์, แบตเตอรี่ LiPo และรูปแบบการติดตั้งหัวรบ
    .
    1.2 ความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม
    ด้านความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม กองทัพไทยตั้งข้อสังเกตว่า ความแม่นยำ ในการโจมตี และ พฤติกรรมการบิน สะท้อนว่าผู้ควบคุมโดรนมีประสบการณ์สูงและอาจไม่ใช่กำลังพลกัมพูชาที่เพิ่งฝึกใช้โดรนเป็นครั้งแรก

    1.3 การใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์
    ยุทธวิธีรวมถึงการเลือกใช้พื้นที่สูง เช่น เนิน 745 ในการปล่อยโดรน เพื่อให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และใช้หุบเขาและป่าทึบในการอำพรางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อควบคุมโดรน ทำให้ฝ่ายไทยตรวจจับได้ยาก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่ (ไม่ใช่สิ่งที่ ทหารเขมรจะทำได้ด้วยตนเอง)
    ....
    ....
    และที่สำคัญ มีการตรวจพบหลักฐานว่า มีสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL และ มีคำสั่งเป็น ภาษาอังกฤษ ลงท้ายประโยคว่า "Finished" ในการสื่อสาร
    .
    ซึ่งเป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้เชื่อว่าอาจมีบุคคลภายนอกประเทศ หรือ "นักรบรับจ้าง" ที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วร่วมมือกับกัมพูชาในการโจมตีทหารไทย
    ....
    ....
    สงครามยูเครน คือ สงครามตัวแทน ระหว่าง 2 ฝั่งคือ อเมริกา NATO และ รัสเซีย
    .
    แล้วใครกันหล่ะที่ใช้ คำสั่งเสียง ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "finished" ในการสื่อสาร...???
    .
    รัสเซีย...???
    .
    ไม่ใช่ครับ...!!!
    .
    ดังนั้นประเด็นนี้ ข้อมูลมันชี้ไปที่ ทหารรับจ้างในที่มีประสบการณ์ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จากฝั่ง อเมริกา และ NATO ครับ
    .....
    .....
    2.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร (นักวิชาการด้านความมั่นคง) ได้ชี้ว่าศักยภาพโดรนรบของกัมพูชา "สูงขึ้น" และอาจมี "ทหารรับจ้างอเมริกัน" เข้ามาคุมระบบ เหมือนที่ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซีย
    .
    3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เขมร-ยูเครน-รัสเซีย
    .
    3.1 สัมพันธ์ เขมร กับ ยูเครน
    .
    มีการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดจาก เขมร ส่งไปฝึกยัง ยูเครน เพื่อเก็บกู้กับระเบิด และ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวยูเครน เกี่ยวกับเทคนิคการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) โดยเฉพาะการเก็บกู้ระเบิดต่อต้านบุคคล (เช่น PMN2) ซึ่งถูกใช้ในสงครามยูเครน
    .
    เขมร ได้รับการยกย่อง จาก ยูเครน ว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยธรรม
    .
    3.2 สัมพันธ์ เขมร กับ รัสเซีย
    .
    จะเห็นได้ชัดจาก จุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศใน UN
    .
    เขมร แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ทำการรุกราน ยูเครน ซึ่ง ฮุนเซน เคยออกมาประณามด้วยตนเอง
    .
    และ ฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2565 ได้พยายามผลักดันให้อาเซียนออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวและมีเนื้อหาในเชิงคัดค้าน และ ประณามการรุกราน ของ รัสเซีย อย่างชัดเจน
    .
    การโหวตในสมัชชาใหญ่ UN กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ โหวตเห็นชอบมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้ รัสเซีย ถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องทางการเมืองกับฝ่ายตะวันตกและยูเครน
    ....
    ....
    ดังนั้น...
    .
    ความขัดแย้งทางจุดยืน และ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ยูเครน และ การประณาม รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้โอกาสที่ เขมร จะจ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นพันธมิตรหลักของ รัสเซีย อย่าง "กลุ่มวากเนอร์" จึงเป็นไปได้ยากมาก
    .
    และการที่ รัสเซีย จะปล่อยให้ "กลุ่มวากเนอร์" เข้าไปมีบทบาทในการปะทะระหว่าง เขมร กับ ไทย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศไทย (ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน)
    .
    และมองแล้วเป็นการ "ได้ไม่คุ้มเสีย" สำหรับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียในภูมิภาคนี้ (ที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพิ่งจะได้ไปเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ รัสเซีย เพิ่มขึ้น)
    .....
    .....
    ดังนั้น จากข้อเท็จจริงทางการเมืองและความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างกัมพูชาและยูเครน ประกอบกับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษที่ตรวจพบ ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับการสันนิษฐานที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบรับจ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone โจมตีทหารฝ่ายไทยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มที่เคยปฏิบัติการร่วม หรือ มีความใกล้ชิดกับกองกำลัง ฝ่ายยูเครน เช่น อเมริกา และ NATO มากกว่าฝ่าย รัสเซีย ครับ
    .....
    .....
    https://www.thairath.co.th/news/local/2901381
    ## รัสเซีย ช่วย เขมร บินโดรน โจมตี ทหารไทย...??? ## .. .. สำหรับใครที่ยังเข้าใจผิดแบบนี้อยู่ อยากให้ลองอ่านดูครับ . 1.เริ่มที่ ข้อสังเกตเกี่ยวกับยุทธวิธีการบิน โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone ที่ กองทัพภาคที่ 2 และ นักวิเคราะห์รายอื่นๆ ระบุบว่าเป็น สิ่งที่จะพบได้ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน เนื่องจาก . 1.1 การใช้โดรน FPV พลีชีพ (FPV Kamikaze Drone) โดรน FPV ชนิดนี้พบได้ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย และ มีลักษณะทางโครงสร้างและอุปกรณ์ที่ใกล้เคียงกันอย่างชัดเจน เช่น เฟรมคาร์บอนไฟเบอร์, แบตเตอรี่ LiPo และรูปแบบการติดตั้งหัวรบ . 1.2 ความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม ด้านความคล้ายคลึงทางยุทธวิธีและผู้ควบคุม กองทัพไทยตั้งข้อสังเกตว่า ความแม่นยำ ในการโจมตี และ พฤติกรรมการบิน สะท้อนว่าผู้ควบคุมโดรนมีประสบการณ์สูงและอาจไม่ใช่กำลังพลกัมพูชาที่เพิ่งฝึกใช้โดรนเป็นครั้งแรก 1.3 การใช้ภูมิประเทศให้เป็นประโยชน์ ยุทธวิธีรวมถึงการเลือกใช้พื้นที่สูง เช่น เนิน 745 ในการปล่อยโดรน เพื่อให้ได้เปรียบทางยุทธศาสตร์ และใช้หุบเขาและป่าทึบในการอำพรางสายไฟเบอร์ออปติกเพื่อควบคุมโดรน ทำให้ฝ่ายไทยตรวจจับได้ยาก ซึ่งเป็นยุทธวิธีที่นักวิเคราะห์ชี้ว่ามีประสิทธิภาพสูงในสงครามสมัยใหม่ (ไม่ใช่สิ่งที่ ทหารเขมรจะทำได้ด้วยตนเอง) .... .... และที่สำคัญ มีการตรวจพบหลักฐานว่า มีสัญญาณวิทยุทางทหารโหมด CRL และ มีคำสั่งเป็น ภาษาอังกฤษ ลงท้ายประโยคว่า "Finished" ในการสื่อสาร . ซึ่งเป็นสำนวนที่พบในการสื่อสารของนักบิน FPV ใน สงครามยูเครน-รัสเซีย ทำให้เชื่อว่าอาจมีบุคคลภายนอกประเทศ หรือ "นักรบรับจ้าง" ที่ผ่านสมรภูมิจริงมาแล้วร่วมมือกับกัมพูชาในการโจมตีทหารไทย .... .... สงครามยูเครน คือ สงครามตัวแทน ระหว่าง 2 ฝั่งคือ อเมริกา NATO และ รัสเซีย . แล้วใครกันหล่ะที่ใช้ คำสั่งเสียง ภาษาอังกฤษ เช่นคำว่า "finished" ในการสื่อสาร...??? . รัสเซีย...??? . ไม่ใช่ครับ...!!! . ดังนั้นประเด็นนี้ ข้อมูลมันชี้ไปที่ ทหารรับจ้างในที่มีประสบการณ์ในสงคราม รัสเซีย-ยูเครน จากฝั่ง อเมริกา และ NATO ครับ ..... ..... 2.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร (นักวิชาการด้านความมั่นคง) ได้ชี้ว่าศักยภาพโดรนรบของกัมพูชา "สูงขึ้น" และอาจมี "ทหารรับจ้างอเมริกัน" เข้ามาคุมระบบ เหมือนที่ช่วยเหลือยูเครนรบกับรัสเซีย . 3.ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ เขมร-ยูเครน-รัสเซีย . 3.1 สัมพันธ์ เขมร กับ ยูเครน . มีการนำเข้าผู้เชี่ยวชาญด้านกับระเบิดจาก เขมร ส่งไปฝึกยัง ยูเครน เพื่อเก็บกู้กับระเบิด และ ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญชาวยูเครน เกี่ยวกับเทคนิคการเก็บกู้ทุ่นระเบิดและวัตถุระเบิดที่ยังไม่ระเบิด (UXO) โดยเฉพาะการเก็บกู้ระเบิดต่อต้านบุคคล (เช่น PMN2) ซึ่งถูกใช้ในสงครามยูเครน . เขมร ได้รับการยกย่อง จาก ยูเครน ว่าเป็นความร่วมมือที่สำคัญและเป็นประโยชน์ต่อมนุษยธรรม . 3.2 สัมพันธ์ เขมร กับ รัสเซีย . จะเห็นได้ชัดจาก จุดยืนทางการเมืองระหว่างประเทศใน UN . เขมร แสดงจุดยืนที่ชัดเจนในการกล่าวหาว่า รัสเซีย ได้ทำการรุกราน ยูเครน ซึ่ง ฮุนเซน เคยออกมาประณามด้วยตนเอง . และ ฮุนเซน ในฐานะประธานอาเซียนในปี 2565 ได้พยายามผลักดันให้อาเซียนออกแถลงการณ์ที่แข็งกร้าวและมีเนื้อหาในเชิงคัดค้าน และ ประณามการรุกราน ของ รัสเซีย อย่างชัดเจน . การโหวตในสมัชชาใหญ่ UN กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่ โหวตเห็นชอบมติของสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UN General Assembly) ที่ประณามการรุกรานและเรียกร้องให้ รัสเซีย ถอนกำลังทหารออกจากยูเครน ซึ่งแสดงถึงความสอดคล้องทางการเมืองกับฝ่ายตะวันตกและยูเครน .... .... ดังนั้น... . ความขัดแย้งทางจุดยืน และ ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับ ยูเครน และ การประณาม รัสเซีย อย่างต่อเนื่อง ทุกครั้งที่มีโอกาส ทำให้โอกาสที่ เขมร จะจ้างกลุ่มทหารรับจ้างที่เป็นพันธมิตรหลักของ รัสเซีย อย่าง "กลุ่มวากเนอร์" จึงเป็นไปได้ยากมาก . และการที่ รัสเซีย จะปล่อยให้ "กลุ่มวากเนอร์" เข้าไปมีบทบาทในการปะทะระหว่าง เขมร กับ ไทย จะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ระหว่าง ประเทศรัสเซีย และ ประเทศไทย (ซึ่งมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน) . และมองแล้วเป็นการ "ได้ไม่คุ้มเสีย" สำหรับผลประโยชน์ทางการทูตและเศรษฐกิจของรัสเซียในภูมิภาคนี้ (ที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ คุณ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ เพิ่งจะได้ไปเจรจาเปิดตลาดการค้ากับ รัสเซีย เพิ่มขึ้น) ..... ..... ดังนั้น จากข้อเท็จจริงทางการเมืองและความร่วมมือที่ชัดเจนระหว่างกัมพูชาและยูเครน ประกอบกับคำสั่งเสียงภาษาอังกฤษที่ตรวจพบ ยิ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับการสันนิษฐานที่ว่า ผู้เชี่ยวชาญหรือนักรบรับจ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับการใช้โดรนพลีชีพ หรือ FPV Kamikaze Drone โจมตีทหารฝ่ายไทยนั้น น่าจะมาจากกลุ่มที่เคยปฏิบัติการร่วม หรือ มีความใกล้ชิดกับกองกำลัง ฝ่ายยูเครน เช่น อเมริกา และ NATO มากกว่าฝ่าย รัสเซีย ครับ ..... ..... https://www.thairath.co.th/news/local/2901381
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    เฉลยแล้วทำไมโดรนกัมพูชารุกหนัก 5 วันติด พบเทคนิคเดียวกับสมรภูมิยูเครน–รัสเซีย
    เฉลยแล้วทำไมโดรนกัมพูชารุกหนัก 5 วันติด ใช้เนิน 745, 677 พื้นที่สูง และใช้ระบบไฟเบอร์ออปติก ป้องกันเจมเมอร์ไทย ซากโดรนชี้ร่องรอยต่างชาติคุมโจมตีไทย พบเทคนิคเดียวกับสมรภูมิยูเครน–รัสเซีย
    0 Comments 0 Shares 244 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251215 #TechRadar

    iPadOS 26.2: อัปเดตใหม่ที่ทำให้การทำงานหลายแอปง่ายขึ้น
    Apple ปล่อย iPadOS 26.2 ให้ผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว จุดเด่นคือการปรับปรุงระบบ multitasking ที่เคยถูกถอดออกไปในเวอร์ชันก่อน ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง คุณสามารถลากไอคอนแอปจาก Dock หรือ Spotlight ไปเปิดในโหมด Split View หรือ Slide Over ได้สะดวกขึ้น ทำให้การทำงานหลายแอปบนหน้าจอเดียวเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การปรับแต่ง Liquid Glass บนหน้าล็อกสกรีน, ระบบแจ้งเตือนเร่งด่วนใน Reminders, การรองรับตารางใน Freeform, การสร้าง chapter ด้วย AI ใน Podcasts และเนื้อเพลงแบบออฟไลน์ใน Apple Music รวมถึงการปรับปรุงการค้นหาเกมใน Apple Games และดีไซน์ใหม่ใน Apple News เรียกได้ว่าเป็นการอัปเดตที่ยกระดับประสบการณ์ใช้งาน iPad ให้ครบเครื่องมากขึ้น
    https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26-2-is-rolling-out-now-and-it-makes-multitasking-much-easier-heres-whats-new

    Biwin Mini SSD: สตอเรจจิ๋วที่เร็วแรง แต่อนาคตยังไม่แน่ชัด
    Biwin เปิดตัว Mini SSD รุ่น CL100 ที่มีขนาดเล็กมากเพียง 15 x 17 x 1.4 มม. น้ำหนักแค่ 1 กรัม แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 3700MB/s และเขียน 3400MB/s พร้อมความทนทานกันน้ำ กันฝุ่น และกันตกจากความสูง 3 เมตร ใช้ถอดเปลี่ยนแบบถาด SIM ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในอุปกรณ์พกพา นอกจากนี้ยังมี RD510 Enclosure ที่แปลง Mini SSD ให้เป็นฮาร์ดดิสก์พกพาแบบ USB4 ความเร็วสูง จุดแข็งคือเล็ก ทน และเร็ว แต่ปัญหาคือยังไม่มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมมาตรฐานนี้ ทำให้อนาคตของ Mini SSD อาจซ้ำรอยกับฟอร์แมตเฉพาะที่เคยหายไปในอดีต หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัท
    https://www.techradar.com/pro/is-this-the-next-minidisc-exciting-mini-ssd-format-could-suffer-fate-of-sonys-data-format-if-it-doesnt-get-further-backing

    AMD FSR Redstone: เทคโนโลยีอัปสเกลใหม่ที่ยังทำให้หลายคนงง
    AMD เปิดตัว FSR Redstone ที่รวม 4 เทคโนโลยี ได้แก่ FSR Upscaling, Frame Generation, Ray Regeneration และ Radiance Caching แต่การสื่อสารกลับทำให้ผู้ใช้สับสน เพราะบางฟีเจอร์เป็นของเดิมที่เปลี่ยนชื่อ บางฟีเจอร์ยังไม่พร้อมใช้งานจริง เช่น Radiance Caching ที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง จุดที่น่าสนใจคือ Frame Generation แบบใหม่ใช้ AI สร้างเฟรมเสริม ทำให้ภาพลื่นขึ้นและคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งหมดนี้รองรับเฉพาะการ์ดจอ RDNA 4 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้รุ่นเก่าอดใช้ แม้จะลงทุนซื้อการ์ดจอราคาแพงไปแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้จึงถูกมองว่าขาดความชัดเจน แต่ก็ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ AMD ไล่ทันคู่แข่งอย่าง Nvidia
    https://www.techradar.com/computing/gpu/confused-about-amds-fsr-redstone-update-youre-not-alone-heres-what-it-all-means-for-pc-gamers

    Affinity & Canva: ปฏิวัติวงการด้วยซอฟต์แวร์ดีไซน์ฟรี
    Ash Hewson ซีอีโอของ Affinity ประกาศว่าแพลตฟอร์มดีไซน์ระดับโปรจะเปิดให้ใช้ฟรีทั้งหมด โดยร่วมมือกับ Canva เพื่อผลักดันแนวคิดว่า “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ควรถูกจำกัดด้วยราคา” การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในวงการที่เคยถูกครอบงำด้วยซอฟต์แวร์แบบสมัครสมาชิกแพง ๆ Affinity รุ่นใหม่รวมเครื่องมือเวกเตอร์ การแต่งภาพ และการจัดเลย์เอาต์ไว้ในที่เดียว ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำโดยไม่ลดทอนคุณภาพ จุดยืนคือไม่มีการซ่อนเงื่อนไข ไม่มีการเก็บข้อมูลลับ และไม่มีการบังคับใช้ AI ที่ไม่โปร่งใส นี่คือการยืนยันว่าซอฟต์แวร์ดีไซน์สามารถเป็น “สาธารณประโยชน์” ที่ทุกคนเข้าถึงได้ฟรีตลอดไป
    https://www.techradar.com/pro/software-services/affinity-ceo-reveals-why-canva-and-affinity-made-pro-design-software-free-and-what-that-means-for-creativity

    Amadeus: ซีรีส์ใหม่ที่เล่า rivalry ของ Mozart และ Salieri
    Sky เปิดตัวซีรีส์ Amadeus ที่หยิบเรื่องราวการแข่งขันและความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่าง Mozart และ Salieri มาถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบดราม่าเข้มข้น ซีรีส์นี้ผสมผสานความบันเทิงและความดราม่าได้อย่างลงตัว แม้บางตอนจะมีจังหวะช้าลง แต่การแสดงของ Will Sharpe และ Paul Bettany ถูกยกให้เป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของพวกเขา จุดเด่นคือการตีความใหม่ที่ไม่ซ้ำกับเวอร์ชันภาพยนตร์ปี 1984 และยังเพิ่มมิติใหม่ด้วยการเล่าเรื่องการสร้างบทละครของ Peter Shaffer เอง ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าความขัดแย้ง แต่ยังสะท้อนพลังของดนตรีคลาสสิกที่ยังคงมีอิทธิพลต่อผู้ชมยุคใหม่
    https://www.techradar.com/streaming/entertainment/amadeus-review-sky

    Toshiba เดินหน้าสู่ยุค HDD ความจุ 55TB
    Toshiba กำลังวางแผนพัฒนา HDD ที่มีความจุสูงถึง 55TB ภายในปี 2030 โดยเริ่มจากรุ่น 40TB ที่จะเปิดตัวในปี 2026–2027 ความก้าวหน้าครั้งนี้เกิดจากการเพิ่มจำนวนแผ่นจาน (platters) และการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง MAMR และ HAMR ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลได้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม เส้นทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก HDD รุ่น 10TB ในปี 2017 มาจนถึง 24TB ในปัจจุบัน และกำลังจะก้าวไปสู่ระดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาด การเปลี่ยนจากแผ่นอลูมิเนียมเป็นแก้วก็ช่วยให้ทนทานและบางลง ทำให้สามารถซ้อนแผ่นได้มากขึ้น ถือเป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของการจัดเก็บข้อมูลขนาดมหึมา
    https://www.techradar.com/pro/toshiba-wants-to-launch-a-55tb-hard-drive-by-2030-40tb-model-set-to-appear-in-2026-new-slides-show

    Android 17 เตรียมเพิ่ม Motion Cues ลดอาการเมารถ
    Google กำลังพัฒนา Motion Cues ฟีเจอร์ใหม่ใน Android 17 ที่ช่วยลดอาการเวียนหัวหรือเมารถเวลามองหน้าจอมือถือระหว่างการเดินทาง ฟีเจอร์นี้จะสร้างจุดเคลื่อนไหวบนหน้าจอให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวจริงของโทรศัพท์ ทำให้สมองไม่สับสนระหว่างภาพที่เห็นกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย แนวคิดนี้คล้ายกับ Vehicle Motion Cues ที่ Apple เปิดตัวใน iOS 18 แต่การนำมาใช้ใน Android ต้องปรับระบบความปลอดภัยเพื่อให้สามารถแสดงผลทับบนหน้าจอได้เต็มรูปแบบ หากการทดสอบผ่านไปด้วยดี เราอาจได้เห็น Motion Cues เปิดตัวพร้อม Android 17 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
    https://www.techradar.com/phones/android/android-17-could-finally-introduce-motion-cues-to-combat-motion-sickness-matching-the-same-feature-in-ios

    AI โจมตี SaaS ผ่านการปลอมแปลงตัวตน
    ภัยคุกคามใหม่ในโลกไซเบอร์ไม่ได้เริ่มจากมัลแวร์อีกต่อไป แต่เริ่มจาก “ตัวตน” ที่ถูกขโมยหรือสร้างขึ้นมาอย่างแนบเนียนด้วย AI แฮกเกอร์ใช้เทคโนโลยีสร้างอีเมลปลอมที่เหมือนจริง สร้างภาพถ่ายหรือบุคคลเสมือนเพื่อหลอกลวง และแม้กระทั่งใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีที่ถูกขโมยเพื่อหาบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงสูงสุด เมื่อได้ตัวตนที่น่าเชื่อถือแล้ว พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในระบบ SaaS ได้โดยตรงโดยไม่ถูกตรวจจับ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ “ตัวตน” กลายเป็นแนวรบหลักของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI
    https://www.techradar.com/pro/inside-the-ai-powered-assault-on-saas-why-identity-is-the-weakest-link

    สมาร์ทโฟนปี 2026 ที่จะทำให้คุณตื่นเต้นอีกครั้ง
    แม้หลายคนจะรู้สึกเบื่อกับสมาร์ทโฟนที่ดูคล้ายกันไปหมด แต่ปี 2026 จะมีรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ เช่น Xiaomi 17 Pro Max ที่มีหน้าจอด้านหลังและแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 7,500mAh, Samsung Galaxy Z TriFold ที่พับได้สามตอนกลายเป็นแท็บเล็ต 10 นิ้ว, iPhone Fold ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม iPhone 18 และอาจเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีรอยพับให้เห็น รวมถึง OnePlus 16 ที่สืบต่อความแรงจากรุ่นก่อน และ Ayaneo Pocket Play ที่รวมมือถือกับเครื่องเล่นเกมพกพาในเครื่องเดียว ทั้งหมดนี้คือการกลับมาของความตื่นเต้นในโลกสมาร์ทโฟน
    https://www.techradar.com/phones/bored-with-smartphones-these-5-upcoming-flagships-could-change-your-mind-in-2026

    รีวิว Ring Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัย 4K
    Ring เปิดตัว Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมความละเอียด 4K และซูมได้ถึง 10 เท่า ทำให้ภาพคมชัดกว่ารุ่นก่อนมาก กล้องนี้ต้องใช้ไฟบ้านเท่านั้น แต่ข้อดีคือสามารถบันทึกวิดีโอ 24/7 ได้เต็มรูปแบบ หากสมัครแพ็กเกจ Premium ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฟีเจอร์เด่นคือ Smart Video Search ที่ใช้ AI ค้นหาภาพจากคำ เช่น “คนใส่เสื้อสีแดง” และยังมีเสียงไซเรน 85dB รวมถึงระบบเสียงสองทางเพื่อสื่อสารกับผู้ที่อยู่หน้ากล้อง แม้ราคาจะสูงและต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก แต่คุณภาพของภาพและความสามารถขั้นสูงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่จริงจังสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง
    ​​​​​​​ https://www.techradar.com/home/home-security/ring-outdoor-cam-pro-review
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251215 #TechRadar 📱 iPadOS 26.2: อัปเดตใหม่ที่ทำให้การทำงานหลายแอปง่ายขึ้น Apple ปล่อย iPadOS 26.2 ให้ผู้ใช้ทั่วโลกแล้ว จุดเด่นคือการปรับปรุงระบบ multitasking ที่เคยถูกถอดออกไปในเวอร์ชันก่อน ตอนนี้กลับมาอีกครั้ง คุณสามารถลากไอคอนแอปจาก Dock หรือ Spotlight ไปเปิดในโหมด Split View หรือ Slide Over ได้สะดวกขึ้น ทำให้การทำงานหลายแอปบนหน้าจอเดียวเป็นเรื่องง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ใหม่ ๆ เช่น การปรับแต่ง Liquid Glass บนหน้าล็อกสกรีน, ระบบแจ้งเตือนเร่งด่วนใน Reminders, การรองรับตารางใน Freeform, การสร้าง chapter ด้วย AI ใน Podcasts และเนื้อเพลงแบบออฟไลน์ใน Apple Music รวมถึงการปรับปรุงการค้นหาเกมใน Apple Games และดีไซน์ใหม่ใน Apple News เรียกได้ว่าเป็นการอัปเดตที่ยกระดับประสบการณ์ใช้งาน iPad ให้ครบเครื่องมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/tablets/ipad/ipados-26-2-is-rolling-out-now-and-it-makes-multitasking-much-easier-heres-whats-new 💾 Biwin Mini SSD: สตอเรจจิ๋วที่เร็วแรง แต่อนาคตยังไม่แน่ชัด Biwin เปิดตัว Mini SSD รุ่น CL100 ที่มีขนาดเล็กมากเพียง 15 x 17 x 1.4 มม. น้ำหนักแค่ 1 กรัม แต่ให้ความเร็วอ่านสูงสุด 3700MB/s และเขียน 3400MB/s พร้อมความทนทานกันน้ำ กันฝุ่น และกันตกจากความสูง 3 เมตร ใช้ถอดเปลี่ยนแบบถาด SIM ทำให้สะดวกต่อการใช้งานในอุปกรณ์พกพา นอกจากนี้ยังมี RD510 Enclosure ที่แปลง Mini SSD ให้เป็นฮาร์ดดิสก์พกพาแบบ USB4 ความเร็วสูง จุดแข็งคือเล็ก ทน และเร็ว แต่ปัญหาคือยังไม่มีผู้ผลิตรายอื่นเข้ามาร่วมมาตรฐานนี้ ทำให้อนาคตของ Mini SSD อาจซ้ำรอยกับฟอร์แมตเฉพาะที่เคยหายไปในอดีต หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากหลายบริษัท 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-this-the-next-minidisc-exciting-mini-ssd-format-could-suffer-fate-of-sonys-data-format-if-it-doesnt-get-further-backing 🎮 AMD FSR Redstone: เทคโนโลยีอัปสเกลใหม่ที่ยังทำให้หลายคนงง AMD เปิดตัว FSR Redstone ที่รวม 4 เทคโนโลยี ได้แก่ FSR Upscaling, Frame Generation, Ray Regeneration และ Radiance Caching แต่การสื่อสารกลับทำให้ผู้ใช้สับสน เพราะบางฟีเจอร์เป็นของเดิมที่เปลี่ยนชื่อ บางฟีเจอร์ยังไม่พร้อมใช้งานจริง เช่น Radiance Caching ที่ยังอยู่ในขั้นทดลอง จุดที่น่าสนใจคือ Frame Generation แบบใหม่ใช้ AI สร้างเฟรมเสริม ทำให้ภาพลื่นขึ้นและคุณภาพดีขึ้น แต่ทั้งหมดนี้รองรับเฉพาะการ์ดจอ RDNA 4 เท่านั้น ทำให้ผู้ใช้รุ่นเก่าอดใช้ แม้จะลงทุนซื้อการ์ดจอราคาแพงไปแล้ว การเปิดตัวครั้งนี้จึงถูกมองว่าขาดความชัดเจน แต่ก็ยังเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ AMD ไล่ทันคู่แข่งอย่าง Nvidia 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/confused-about-amds-fsr-redstone-update-youre-not-alone-heres-what-it-all-means-for-pc-gamers 🎨 Affinity & Canva: ปฏิวัติวงการด้วยซอฟต์แวร์ดีไซน์ฟรี Ash Hewson ซีอีโอของ Affinity ประกาศว่าแพลตฟอร์มดีไซน์ระดับโปรจะเปิดให้ใช้ฟรีทั้งหมด โดยร่วมมือกับ Canva เพื่อผลักดันแนวคิดว่า “ความคิดสร้างสรรค์ไม่ควรถูกจำกัดด้วยราคา” การเปลี่ยนแปลงนี้สร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ในวงการที่เคยถูกครอบงำด้วยซอฟต์แวร์แบบสมัครสมาชิกแพง ๆ Affinity รุ่นใหม่รวมเครื่องมือเวกเตอร์ การแต่งภาพ และการจัดเลย์เอาต์ไว้ในที่เดียว ทำงานได้รวดเร็วและแม่นยำโดยไม่ลดทอนคุณภาพ จุดยืนคือไม่มีการซ่อนเงื่อนไข ไม่มีการเก็บข้อมูลลับ และไม่มีการบังคับใช้ AI ที่ไม่โปร่งใส นี่คือการยืนยันว่าซอฟต์แวร์ดีไซน์สามารถเป็น “สาธารณประโยชน์” ที่ทุกคนเข้าถึงได้ฟรีตลอดไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/affinity-ceo-reveals-why-canva-and-affinity-made-pro-design-software-free-and-what-that-means-for-creativity 🎼 Amadeus: ซีรีส์ใหม่ที่เล่า rivalry ของ Mozart และ Salieri Sky เปิดตัวซีรีส์ Amadeus ที่หยิบเรื่องราวการแข่งขันและความสัมพันธ์ซับซ้อนระหว่าง Mozart และ Salieri มาถ่ายทอดใหม่ในรูปแบบดราม่าเข้มข้น ซีรีส์นี้ผสมผสานความบันเทิงและความดราม่าได้อย่างลงตัว แม้บางตอนจะมีจังหวะช้าลง แต่การแสดงของ Will Sharpe และ Paul Bettany ถูกยกให้เป็นผลงานที่ดีที่สุดในชีวิตการแสดงของพวกเขา จุดเด่นคือการตีความใหม่ที่ไม่ซ้ำกับเวอร์ชันภาพยนตร์ปี 1984 และยังเพิ่มมิติใหม่ด้วยการเล่าเรื่องการสร้างบทละครของ Peter Shaffer เอง ซีรีส์นี้ไม่เพียงแต่เล่าความขัดแย้ง แต่ยังสะท้อนพลังของดนตรีคลาสสิกที่ยังคงมีอิทธิพลต่อผู้ชมยุคใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/streaming/entertainment/amadeus-review-sky 🖥️ Toshiba เดินหน้าสู่ยุค HDD ความจุ 55TB Toshiba กำลังวางแผนพัฒนา HDD ที่มีความจุสูงถึง 55TB ภายในปี 2030 โดยเริ่มจากรุ่น 40TB ที่จะเปิดตัวในปี 2026–2027 ความก้าวหน้าครั้งนี้เกิดจากการเพิ่มจำนวนแผ่นจาน (platters) และการใช้เทคโนโลยีใหม่อย่าง MAMR และ HAMR ซึ่งช่วยให้สามารถบันทึกข้อมูลได้หนาแน่นขึ้นกว่าเดิม เส้นทางนี้สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาอย่างต่อเนื่องจาก HDD รุ่น 10TB ในปี 2017 มาจนถึง 24TB ในปัจจุบัน และกำลังจะก้าวไปสู่ระดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาด การเปลี่ยนจากแผ่นอลูมิเนียมเป็นแก้วก็ช่วยให้ทนทานและบางลง ทำให้สามารถซ้อนแผ่นได้มากขึ้น ถือเป็นการปูทางสู่ยุคใหม่ของการจัดเก็บข้อมูลขนาดมหึมา 🔗 https://www.techradar.com/pro/toshiba-wants-to-launch-a-55tb-hard-drive-by-2030-40tb-model-set-to-appear-in-2026-new-slides-show 📱 Android 17 เตรียมเพิ่ม Motion Cues ลดอาการเมารถ Google กำลังพัฒนา Motion Cues ฟีเจอร์ใหม่ใน Android 17 ที่ช่วยลดอาการเวียนหัวหรือเมารถเวลามองหน้าจอมือถือระหว่างการเดินทาง ฟีเจอร์นี้จะสร้างจุดเคลื่อนไหวบนหน้าจอให้สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวจริงของโทรศัพท์ ทำให้สมองไม่สับสนระหว่างภาพที่เห็นกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย แนวคิดนี้คล้ายกับ Vehicle Motion Cues ที่ Apple เปิดตัวใน iOS 18 แต่การนำมาใช้ใน Android ต้องปรับระบบความปลอดภัยเพื่อให้สามารถแสดงผลทับบนหน้าจอได้เต็มรูปแบบ หากการทดสอบผ่านไปด้วยดี เราอาจได้เห็น Motion Cues เปิดตัวพร้อม Android 17 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 🔗 https://www.techradar.com/phones/android/android-17-could-finally-introduce-motion-cues-to-combat-motion-sickness-matching-the-same-feature-in-ios 🔒 AI โจมตี SaaS ผ่านการปลอมแปลงตัวตน ภัยคุกคามใหม่ในโลกไซเบอร์ไม่ได้เริ่มจากมัลแวร์อีกต่อไป แต่เริ่มจาก “ตัวตน” ที่ถูกขโมยหรือสร้างขึ้นมาอย่างแนบเนียนด้วย AI แฮกเกอร์ใช้เทคโนโลยีสร้างอีเมลปลอมที่เหมือนจริง สร้างภาพถ่ายหรือบุคคลเสมือนเพื่อหลอกลวง และแม้กระทั่งใช้ AI ในการวิเคราะห์ข้อมูลบัญชีที่ถูกขโมยเพื่อหาบัญชีที่มีสิทธิ์เข้าถึงสูงสุด เมื่อได้ตัวตนที่น่าเชื่อถือแล้ว พวกเขาสามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญในระบบ SaaS ได้โดยตรงโดยไม่ถูกตรวจจับ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ “ตัวตน” กลายเป็นแนวรบหลักของการรักษาความปลอดภัยในยุค AI 🔗 https://www.techradar.com/pro/inside-the-ai-powered-assault-on-saas-why-identity-is-the-weakest-link 📲 สมาร์ทโฟนปี 2026 ที่จะทำให้คุณตื่นเต้นอีกครั้ง แม้หลายคนจะรู้สึกเบื่อกับสมาร์ทโฟนที่ดูคล้ายกันไปหมด แต่ปี 2026 จะมีรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ เช่น Xiaomi 17 Pro Max ที่มีหน้าจอด้านหลังและแบตเตอรี่ใหญ่ถึง 7,500mAh, Samsung Galaxy Z TriFold ที่พับได้สามตอนกลายเป็นแท็บเล็ต 10 นิ้ว, iPhone Fold ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อม iPhone 18 และอาจเป็นรุ่นแรกที่ไม่มีรอยพับให้เห็น รวมถึง OnePlus 16 ที่สืบต่อความแรงจากรุ่นก่อน และ Ayaneo Pocket Play ที่รวมมือถือกับเครื่องเล่นเกมพกพาในเครื่องเดียว ทั้งหมดนี้คือการกลับมาของความตื่นเต้นในโลกสมาร์ทโฟน 🔗 https://www.techradar.com/phones/bored-with-smartphones-these-5-upcoming-flagships-could-change-your-mind-in-2026 🏡 รีวิว Ring Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัย 4K Ring เปิดตัว Outdoor Cam Pro กล้องรักษาความปลอดภัยที่มาพร้อมความละเอียด 4K และซูมได้ถึง 10 เท่า ทำให้ภาพคมชัดกว่ารุ่นก่อนมาก กล้องนี้ต้องใช้ไฟบ้านเท่านั้น แต่ข้อดีคือสามารถบันทึกวิดีโอ 24/7 ได้เต็มรูปแบบ หากสมัครแพ็กเกจ Premium ที่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ฟีเจอร์เด่นคือ Smart Video Search ที่ใช้ AI ค้นหาภาพจากคำ เช่น “คนใส่เสื้อสีแดง” และยังมีเสียงไซเรน 85dB รวมถึงระบบเสียงสองทางเพื่อสื่อสารกับผู้ที่อยู่หน้ากล้อง แม้ราคาจะสูงและต้องพึ่งพาการสมัครสมาชิก แต่คุณภาพของภาพและความสามารถขั้นสูงทำให้มันเป็นตัวเลือกที่จริงจังสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัยระดับสูง ​​​​​​​🔗 https://www.techradar.com/home/home-security/ring-outdoor-cam-pro-review
    0 Comments 0 Shares 439 Views 0 Reviews
  • บทความกฎหมาย EP.45

    ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม

    ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค

    โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    บทความกฎหมาย EP.45 ข้อพิพาทชายแดนอันเป็นความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกระหว่างรัฐอธิปไตยอย่างน้อยสองรัฐเกี่ยวกับการกำหนดเส้นเขตแดน การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดน หรือการควบคุมพื้นที่ในบริเวณใกล้เคียงนั้น ถือเป็นประเด็นที่ซับซ้อนและละเอียดอ่อนอย่างยิ่งในเวทีความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาในมิติทางกฎหมาย ข้อพิพาทเหล่านี้มักไม่ได้มีสาเหตุเพียงเพราะความคลุมเครือทางภูมิศาสตร์หรือความแตกต่างทางชาติพันธุ์เท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วเป็นผลพวงโดยตรงจากความไม่ชัดเจนหรือการตีความที่แตกต่างกันของเครื่องมือทางกฎหมายระหว่างประเทศ อันได้แก่ สนธิสัญญาเก่าแก่ ข้อตกลงเขตแดน หรือแม้กระทั่งหลักการทางกฎหมายจารีตประเพณี การวิเคราะห์เชิงกฎหมายถือเป็นหัวใจสำคัญในการคลี่คลายความขัดแย้งเหล่านี้ เนื่องจากการกำหนดเขตแดนระหว่างประเทศนั้นเป็นเรื่องของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งผูกพันอยู่กับหลักการพื้นฐานเรื่องอำนาจอธิปไตยเหนือดินแดน (Territorial Sovereignty) และหลักการความศักดิ์สิทธิ์ของเขตแดน (Principle of Utis Possidetis Juris) กล่าวคือเมื่อมีการกำหนดเขตแดนโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว เขตแดนนั้นย่อมได้รับการยอมรับและไม่สามารถถูกละเมิดได้โดยง่าย หลักกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยสนธิสัญญาถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการพิจารณาข้อพิพาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งสนธิสัญญาและพิธีสารที่เกี่ยวข้องกับการปักปันเขตแดนในอดีต ซึ่งบางครั้งอาจขาดความชัดเจนทางเทคนิค หรือถูกเขียนขึ้นในบริบททางประวัติศาสตร์ที่แตกต่างจากปัจจุบัน ทำให้เกิดช่องว่างในการตีความตามหลักกฎหมายปัจจุบัน นอกจากนี้ บทบาทของแผนที่ที่มีการอ้างอิงถึงในสนธิสัญญา แต่มีความแตกต่างหรือขัดแย้งกันเอง ก็นับเป็นแหล่งที่มาของปัญหาทางกฎหมายที่ต้องมีการวินิจฉัยอย่างถี่ถ้วนตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์และเจตจำนงร่วมของคู่สัญญาในขณะทำสนธิสัญญา นอกเหนือจากสนธิสัญญาแล้ว การอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนยังเกี่ยวข้องกับการใช้หลักการเข้าถือครองดินแดน (Acquisition of Territory) ซึ่งรวมถึงการเข้าถือครองอย่างสันติและต่อเนื่อง (Effective Occupation) ในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีการกำหนดเขตแดนที่ชัดเจน การแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยของรัฐ (Effectivités) อย่างเป็นทางการและต่อเนื่อง เช่น การบริหารราชการ การเก็บภาษี การบังคับใช้กฎหมาย หรือการดูแลความสงบเรียบร้อยในพื้นที่พิพาท จึงอาจถูกนำมาเป็นหลักฐานสำคัญในการสนับสนุนการอ้างสิทธิ์ทางกฎหมาย การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (International Court of Justice) หรือคณะอนุญาโตตุลาการในคดีพิพาทชายแดนในอดีต ได้สร้างบรรทัดฐานทางกฎหมายที่สำคัญหลายประการ ซึ่งเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์ หลักฐานทางภูมิศาสตร์ และความสมเหตุสมผลในการใช้ชีวิตของประชากรในพื้นที่เป็นองค์ประกอบเสริมในการตีความเครื่องมือทางกฎหมาย การแก้ไขข้อพิพาทชายแดนจึงเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยการประยุกต์ใช้หลักกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัดและเป็นกลาง โดยเริ่มต้นจากการเจรจาทางการทูต การใช้กระบวนการไกล่เกลี่ย หรือการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อหาข้อยุติที่อยู่บนพื้นฐานของความชอบด้วยกฎหมายและความเป็นธรรม ในทางปฏิบัติ ข้อพิพาทชายแดนเป็นมากกว่าเรื่องของการตีความเส้นบนแผนที่ แต่เป็นประเด็นที่ผูกโยงกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ของชาติอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่า เช่น แหล่งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ หรือการเข้าถึงเส้นทางการเดินเรือที่สำคัญ ผลประโยชน์เหล่านี้มักเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้อพิพาททวีความรุนแรงขึ้นและซับซ้อนยิ่งกว่าเดิม หลักกฎหมายระหว่างประเทศจึงต้องเข้ามามีบทบาทในการสร้างกรอบการแก้ไขปัญหาที่ไม่ใช่เพียงการกำหนดเส้นเขตแดน แต่ต้องรวมถึงการจัดการทรัพยากรข้ามพรมแดนอย่างยั่งยืนและเป็นธรรมผ่านข้อตกลงความร่วมมือ หรือการจัดตั้งเขตพัฒนาร่วม (Joint Development Zone) ซึ่งเป็นการแยกการจัดการผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจออกจากการอ้างสิทธิ์เหนืออำนาจอธิปไตย เพื่อลดความตึงเครียดและส่งเสริมสันติภาพในระยะยาว ข้อพิพาทเขตแดนจึงมีความท้าทายในทางกฎหมายที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญในการตีความเอกสารทางกฎหมายและหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่มีความซับซ้อนสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การตีความตามตัวอักษรของสนธิสัญญาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่เป็นธรรมหรือขัดแย้งกับหลักการเข้าถือครองดินแดนที่มีมายาวนาน ดังนั้น การตัดสินใจทางกฎหมายจึงมักจะต้องพิจารณาหลักความเท่าเทียม (Equity) และความเป็นธรรมในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการประยุกต์ใช้กฎหมายระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้ข้อยุติที่เป็นที่ยอมรับของทั้งสองฝ่ายและนำไปสู่ความมั่นคงในภูมิภาค โดยสรุปแล้ว ข้อพิพาทชายแดนเป็นปรากฏการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ที่ถูกควบคุมและกำหนดทิศทางโดยกฎหมายระหว่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ความขัดแย้งเหล่านี้ไม่ใช่เพียงการปะทะกันทางทหารหรือทางการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการต่อสู้ทางกฎหมายที่มุ่งเน้นการพิสูจน์ความชอบธรรมของการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนบนพื้นฐานของสนธิสัญญา หลักกฎหมายจารีตประเพณี และการแสดงออกซึ่งอำนาจอธิปไตยอย่างมีประสิทธิภาพ การแก้ไขอย่างสันติและยั่งยืนจึงต้องยึดมั่นในหลักนิติธรรมระหว่างประเทศ โดยการนำเครื่องมือทางกฎหมายมาใช้ในการตีความเอกสารที่คลุมเครือ การพิจารณาหลักฐานทางประวัติศาสตร์อย่างรอบด้าน และการใช้กลไกการระงับข้อพิพาทระหว่างประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการทูต หรือการพึ่งพาอำนาจศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เพื่อให้เกิดความชัดเจนทางกฎหมายที่นำไปสู่การเคารพซึ่งกันและกันในอำนาจอธิปไตยเหนือพรมแดน และเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการอยู่ร่วมกันอย่างสันติและมั่นคงในประชาคมโลก
    0 Comments 0 Shares 268 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline

    #รวมข่าวIT #20251215 #securityonline

    NANOREMOTE: มัลแวร์ใหม่ที่ซ่อนตัวผ่าน Google Drive
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ Elastic Security Labs ที่เจอม้าโทรจันตัวใหม่ชื่อว่า NANOREMOTE ซึ่งทำงานบน Windows และใช้ Google Drive API เป็นช่องทางสื่อสารลับกับผู้โจมตี ทำให้การขโมยข้อมูลและสั่งงานแฝงตัวไปกับทราฟฟิกปกติได้อย่างแนบเนียน จุดเด่นคือมันสามารถใช้ OAuth 2.0 token เพื่อสร้างช่องทางลับในการส่งข้อมูล โดยมีตัวโหลดชื่อ WMLOADER ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมของ Bitdefender แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวนำมัลแวร์เข้าสู่ระบบ จากนั้นจะถอดรหัสไฟล์ที่ซ่อนอยู่และปล่อยตัว NANOREMOTE ทำงานในหน่วยความจำโดยตรง นักวิจัยยังพบหลักฐานว่ามีการใช้โค้ดและคีย์เข้ารหัสเดียวกันกับมัลแวร์ตระกูล FINALDRAFT ซึ่งบ่งชี้ว่ามีรากฐานการพัฒนาร่วมกัน
    https://securityonline.info/new-nanoremote-backdoor-uses-google-drive-api-for-covert-c2-and-links-to-finaldraft-espionage-group

    SHADOW-VOID-042: แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น Trend Micro
    กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกเรียกว่า SHADOW-VOID-042 ใช้ชื่อเสียงของ Trend Micro มาหลอกเหยื่อ โดยส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนเป็นประกาศเตือนด้านความปลอดภัย เหยื่อที่เชื่อจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบสไตล์ของ Trend Micro และถูกติดตั้ง payload แบบเจาะจงเป้าหมาย การโจมตีนี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละเหยื่อ และมีการใช้ทั้งเทคนิคเก่าและใหม่ เช่น exploit ช่องโหว่ Chrome ปี 2018 รวมถึงการใช้ zero-day ที่ใหม่กว่าสำหรับเป้าหมายสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเชื่อมโยงกับ Void Rabisu ซึ่งมีประวัติทำงานใกล้ชิดกับผลประโยชน์รัสเซีย
    https://securityonline.info/shadow-void-042-impersonates-trend-micro-in-phishing-campaign-to-breach-critical-infrastructure

    ช่องโหว่ร้ายแรงใน Plesk (CVE-2025-66430)
    แพลตฟอร์ม Plesk ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฮสต์เว็บไซต์ ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น root ได้ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟีเจอร์ Password-Protected Directories ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ฉีดข้อมูลเข้าไปใน Apache configuration ได้โดยตรง ผลคือสามารถสั่งรันคำสั่งใด ๆ ในระดับสูงสุดบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทั้งระบบ Plesk ได้ออก micro-update เร่งด่วนเพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที
    https://securityonline.info/critical-plesk-flaw-cve-2025-66430-risks-full-server-takeover-via-lpe-and-apache-config-injection

    Ashen Lepus: กลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับ Hamas เปิดตัว AshTag Malware
    ในขณะที่สงครามกาซายังคงดำเนินอยู่ กลุ่มแฮกเกอร์ Ashen Lepus หรือ WIRTE ที่เชื่อมโยงกับ Hamas ยังคงทำงานด้านไซเบอร์สอดแนมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AshTag ซึ่งเป็นชุดมัลแวร์แบบโมดูลาร์ที่ซ่อนตัวเก่งมาก ใช้ไฟล์ PDF หลอกเหยื่อให้เปิดเอกสารทางการทูตปลอม แล้วโหลด DLL อันตรายเข้ามา จากนั้น payload จะถูกดึงจาก HTML ที่ซ่อนอยู่และทำงานในหน่วยความจำโดยไม่แตะดิสก์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก กลุ่มนี้ยังขยายเป้าหมายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ เช่น โอมานและโมร็อกโก โดยมุ่งเน้นข้อมูลทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    https://securityonline.info/hamas-affiliated-apt-ashen-lepus-unveils-ashtag-malware-suite-for-wider-cyber-espionage

    ช่องโหว่ RasMan บน Windows ที่ยังไม่ได้แพตช์
    นักวิจัยจาก 0patch พบช่องโหว่ใหม่ในบริการ Remote Access Connection Manager (RasMan) ของ Windows ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ Microsoft จะเพิ่งแพตช์ช่องโหว่อื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พบว่ามีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำให้บริการ RasMan crash ได้ และใช้ช่องทางนี้เพื่อยึดสิทธิ์ Local System ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ linked list ที่ผิดพลาด ทำให้เกิด NULL pointer และ crash ทันที 0patch ได้ออก micropatch ชั่วคราวเพื่อแก้ไข แต่ Microsoft ยังต้องออกแพตช์อย่างเป็นทางการในอนาคต
    https://securityonline.info/unpatched-windows-rasman-flaw-allows-unprivileged-crash-enabling-local-system-privilege-escalation-exploit

    ImageMagick พบช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลหน่วยความจำ
    เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใน ImageMagick ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์รูปแบบ PSX TIM ที่มาจากยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก แต่กลับสร้างความเสี่ยงในระบบ 32-bit ปัจจุบัน เนื่องจากการคำนวณขนาดภาพโดยไม่ตรวจสอบการ overflow ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ที่บิดเบือนค่าและนำไปสู่การอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้ ข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์สำคัญต่าง ๆ ทีมพัฒนาได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.1.2-10 และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที
    ​​​​​​​ https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems

    GOLD SALEM ใช้เครื่องมือ Velociraptor เป็นตัวช่วยโจมตี ransomware กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ GOLD SALEM ถูกพบว่ามีการนำเครื่องมือด้านดิจิทัลฟอเรนสิกอย่าง Velociraptor ซึ่งปกติใช้สำหรับการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ มาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมการโจมตี ransomware โดยพวกเขาใช้วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากโดเมนที่ควบคุมเอง และนำไปใช้สร้างช่องทางควบคุมระบบ รวมถึงการเจาะช่องโหว่ใน SharePoint ที่เรียกว่า ToolShell เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเงิน แต่ยังรวมถึงองค์กรในด้านโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีนัยยะด้านการสอดแนมด้วย
    https://securityonline.info/gold-salem-abuses-velociraptor-dfir-tool-as-ransomware-precursor-following-sharepoint-toolshell-exploitation

    Apache StreamPark พบการใช้ key แบบ hard-coded และโหมดเข้ารหัสที่ล้าสมัย
    แพลตฟอร์ม Apache StreamPark ซึ่งใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง ถูกพบว่ามีการใช้คีย์เข้ารหัสที่ถูกฝังตายตัวในซอฟต์แวร์ และยังใช้โหมด AES ECB ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงโทเคนและถอดรหัสข้อมูลได้ง่าย ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 2.1.7 และอาจส่งผลต่อระบบคลาวด์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง
    https://securityonline.info/apache-streampark-flaw-risks-data-decryption-token-forgery-via-hard-coded-key-and-aes-ecb-mode

    Storm-0249 ใช้ DLL sideloading แฝงตัวในกระบวนการ EDR เพื่อเปิดทาง ransomware
    กลุ่ม Storm-0249 ซึ่งเป็น initial access broker ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการส่งฟิชชิ่งทั่วไปมาเป็นการโจมตีแบบเจาะจง โดยใช้ DLL sideloading กับโปรเซสของ SentinelOne ที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเปิดทางให้มัลแวร์เข้ามาได้ พวกเขายังใช้เทคนิค “living off the land” เช่นการใช้ curl.exe และ PowerShell เพื่อรันโค้ดโดยไม่ทิ้งร่องรอยในดิสก์ เป้าหมายคือการขายสิทธิ์เข้าถึงให้กับกลุ่ม ransomware อย่าง LockBit และ ALPHV
    https://securityonline.info/storm-0249-abuses-edr-process-via-dll-sideloading-to-cloak-ransomware-access

    VS Code Marketplace ถูกโจมตี supply chain ผ่าน 19 extensions ปลอม
    นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยส่วนขยาย VS Code ที่แฝงมัลแวร์จำนวน 19 ตัว โดยใช้เทคนิค typosquatting และ steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ dependency ภายใน node_modules รวมถึงการปลอมไฟล์ภาพ banner.png ที่จริงเป็น archive บรรจุ binary อันตราย เมื่อส่วนขยายถูกใช้งาน มัลแวร์จะถูกโหลดขึ้นมาและใช้เครื่องมือของ Windows อย่าง cmstp.exe เพื่อรันโค้ดโดยเลี่ยงการตรวจจับ หนึ่งใน payload เป็น Rust trojan ที่ซับซ้อนและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาต้องระวัง
    https://securityonline.info/vs-code-supply-chain-attack-19-extensions-used-typosquatting-steganography-to-deploy-rust-trojan



    📌🔐🟡 รวมข่าวจากเวบ SecurityOnline 🟡🔐📌 #รวมข่าวIT #20251215 #securityonline 🖥️ NANOREMOTE: มัลแวร์ใหม่ที่ซ่อนตัวผ่าน Google Drive เรื่องนี้เป็นการค้นพบของ Elastic Security Labs ที่เจอม้าโทรจันตัวใหม่ชื่อว่า NANOREMOTE ซึ่งทำงานบน Windows และใช้ Google Drive API เป็นช่องทางสื่อสารลับกับผู้โจมตี ทำให้การขโมยข้อมูลและสั่งงานแฝงตัวไปกับทราฟฟิกปกติได้อย่างแนบเนียน จุดเด่นคือมันสามารถใช้ OAuth 2.0 token เพื่อสร้างช่องทางลับในการส่งข้อมูล โดยมีตัวโหลดชื่อ WMLOADER ที่ปลอมตัวเป็นโปรแกรมของ Bitdefender แต่จริง ๆ แล้วเป็นตัวนำมัลแวร์เข้าสู่ระบบ จากนั้นจะถอดรหัสไฟล์ที่ซ่อนอยู่และปล่อยตัว NANOREMOTE ทำงานในหน่วยความจำโดยตรง นักวิจัยยังพบหลักฐานว่ามีการใช้โค้ดและคีย์เข้ารหัสเดียวกันกับมัลแวร์ตระกูล FINALDRAFT ซึ่งบ่งชี้ว่ามีรากฐานการพัฒนาร่วมกัน 🔗 https://securityonline.info/new-nanoremote-backdoor-uses-google-drive-api-for-covert-c2-and-links-to-finaldraft-espionage-group 📧 SHADOW-VOID-042: แฮกเกอร์ปลอมตัวเป็น Trend Micro กลุ่มผู้โจมตีที่ถูกเรียกว่า SHADOW-VOID-042 ใช้ชื่อเสียงของ Trend Micro มาหลอกเหยื่อ โดยส่งอีเมลฟิชชิ่งที่ดูเหมือนเป็นประกาศเตือนด้านความปลอดภัย เหยื่อที่เชื่อจะถูกพาไปยังเว็บไซต์ปลอมที่เลียนแบบสไตล์ของ Trend Micro และถูกติดตั้ง payload แบบเจาะจงเป้าหมาย การโจมตีนี้ไม่ใช่การสุ่ม แต่ถูกปรับแต่งให้เหมาะกับแต่ละเหยื่อ และมีการใช้ทั้งเทคนิคเก่าและใหม่ เช่น exploit ช่องโหว่ Chrome ปี 2018 รวมถึงการใช้ zero-day ที่ใหม่กว่าสำหรับเป้าหมายสำคัญ นักวิจัยเชื่อว่ากลุ่มนี้อาจเชื่อมโยงกับ Void Rabisu ซึ่งมีประวัติทำงานใกล้ชิดกับผลประโยชน์รัสเซีย 🔗 https://securityonline.info/shadow-void-042-impersonates-trend-micro-in-phishing-campaign-to-breach-critical-infrastructure ⚠️ ช่องโหว่ร้ายแรงใน Plesk (CVE-2025-66430) แพลตฟอร์ม Plesk ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการโฮสต์เว็บไซต์ ถูกพบช่องโหว่ร้ายแรงที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถยกระดับสิทธิ์ขึ้นเป็น root ได้ ช่องโหว่นี้อยู่ในฟีเจอร์ Password-Protected Directories ที่อนุญาตให้ผู้ใช้ฉีดข้อมูลเข้าไปใน Apache configuration ได้โดยตรง ผลคือสามารถสั่งรันคำสั่งใด ๆ ในระดับสูงสุดบนเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกยึดครองทั้งระบบ Plesk ได้ออก micro-update เร่งด่วนเพื่อแก้ไข และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที 🔗 https://securityonline.info/critical-plesk-flaw-cve-2025-66430-risks-full-server-takeover-via-lpe-and-apache-config-injection 🌐 Ashen Lepus: กลุ่ม APT ที่เชื่อมโยงกับ Hamas เปิดตัว AshTag Malware ในขณะที่สงครามกาซายังคงดำเนินอยู่ กลุ่มแฮกเกอร์ Ashen Lepus หรือ WIRTE ที่เชื่อมโยงกับ Hamas ยังคงทำงานด้านไซเบอร์สอดแนมอย่างต่อเนื่อง และได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ชื่อว่า AshTag ซึ่งเป็นชุดมัลแวร์แบบโมดูลาร์ที่ซ่อนตัวเก่งมาก ใช้ไฟล์ PDF หลอกเหยื่อให้เปิดเอกสารทางการทูตปลอม แล้วโหลด DLL อันตรายเข้ามา จากนั้น payload จะถูกดึงจาก HTML ที่ซ่อนอยู่และทำงานในหน่วยความจำโดยไม่แตะดิสก์ ทำให้ตรวจจับได้ยาก กลุ่มนี้ยังขยายเป้าหมายไปยังประเทศอาหรับอื่น ๆ เช่น โอมานและโมร็อกโก โดยมุ่งเน้นข้อมูลทางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ 🔗 https://securityonline.info/hamas-affiliated-apt-ashen-lepus-unveils-ashtag-malware-suite-for-wider-cyber-espionage 🛠️ ช่องโหว่ RasMan บน Windows ที่ยังไม่ได้แพตช์ นักวิจัยจาก 0patch พบช่องโหว่ใหม่ในบริการ Remote Access Connection Manager (RasMan) ของ Windows ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข แม้ Microsoft จะเพิ่งแพตช์ช่องโหว่อื่นที่เกี่ยวข้องไปแล้ว แต่พบว่ามีบั๊กที่ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถทำให้บริการ RasMan crash ได้ และใช้ช่องทางนี้เพื่อยึดสิทธิ์ Local System ได้ ช่องโหว่นี้เกิดจากการจัดการ linked list ที่ผิดพลาด ทำให้เกิด NULL pointer และ crash ทันที 0patch ได้ออก micropatch ชั่วคราวเพื่อแก้ไข แต่ Microsoft ยังต้องออกแพตช์อย่างเป็นทางการในอนาคต 🔗 https://securityonline.info/unpatched-windows-rasman-flaw-allows-unprivileged-crash-enabling-local-system-privilege-escalation-exploit 🖼️ ImageMagick พบช่องโหว่ร้ายแรง เสี่ยงเปิดเผยข้อมูลหน่วยความจำ เรื่องนี้เป็นการค้นพบช่องโหว่ใน ImageMagick ซึ่งเป็นเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการประมวลผลภาพ ช่องโหว่นี้เกิดขึ้นจากการจัดการไฟล์รูปแบบ PSX TIM ที่มาจากยุคเครื่อง PlayStation รุ่นแรก แต่กลับสร้างความเสี่ยงในระบบ 32-bit ปัจจุบัน เนื่องจากการคำนวณขนาดภาพโดยไม่ตรวจสอบการ overflow ทำให้ผู้โจมตีสามารถสร้างไฟล์ที่บิดเบือนค่าและนำไปสู่การอ่านข้อมูลหน่วยความจำที่ไม่ควรเข้าถึงได้ ข้อมูลที่รั่วไหลอาจรวมถึงรหัสผ่านหรือคีย์สำคัญต่าง ๆ ทีมพัฒนาได้แก้ไขแล้วในเวอร์ชัน 7.1.2-10 และแนะนำให้ผู้ดูแลระบบรีบอัปเดตทันที ​​​​​​​🔗 https://securityonline.info/imagemagick-flaw-risks-arbitrary-memory-disclosure-via-psx-tim-file-integer-overflow-on-32-bit-systems 🕵️ GOLD SALEM ใช้เครื่องมือ Velociraptor เป็นตัวช่วยโจมตี ransomware กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ที่ชื่อ GOLD SALEM ถูกพบว่ามีการนำเครื่องมือด้านดิจิทัลฟอเรนสิกอย่าง Velociraptor ซึ่งปกติใช้สำหรับการตรวจสอบและตอบสนองเหตุการณ์ มาใช้เป็นเครื่องมือเตรียมการโจมตี ransomware โดยพวกเขาใช้วิธีดาวน์โหลดตัวติดตั้งจากโดเมนที่ควบคุมเอง และนำไปใช้สร้างช่องทางควบคุมระบบ รวมถึงการเจาะช่องโหว่ใน SharePoint ที่เรียกว่า ToolShell เพื่อเข้าถึงระบบองค์กร เป้าหมายของพวกเขาไม่ใช่แค่การเงิน แต่ยังรวมถึงองค์กรในด้านโทรคมนาคม พลังงานนิวเคลียร์ และอุตสาหกรรมการบิน ซึ่งมีนัยยะด้านการสอดแนมด้วย 🔗 https://securityonline.info/gold-salem-abuses-velociraptor-dfir-tool-as-ransomware-precursor-following-sharepoint-toolshell-exploitation 🔐 Apache StreamPark พบการใช้ key แบบ hard-coded และโหมดเข้ารหัสที่ล้าสมัย แพลตฟอร์ม Apache StreamPark ซึ่งใช้สำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันสตรีมมิ่ง ถูกพบว่ามีการใช้คีย์เข้ารหัสที่ถูกฝังตายตัวในซอฟต์แวร์ และยังใช้โหมด AES ECB ที่ไม่ปลอดภัย ทำให้ผู้โจมตีสามารถปลอมแปลงโทเคนและถอดรหัสข้อมูลได้ง่าย ช่องโหว่นี้กระทบตั้งแต่เวอร์ชัน 2.0.0 ถึง 2.1.7 และอาจส่งผลต่อระบบคลาวด์ที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ ผู้ดูแลระบบถูกแนะนำให้อัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อป้องกันความเสี่ยง 🔗 https://securityonline.info/apache-streampark-flaw-risks-data-decryption-token-forgery-via-hard-coded-key-and-aes-ecb-mode ⚔️ Storm-0249 ใช้ DLL sideloading แฝงตัวในกระบวนการ EDR เพื่อเปิดทาง ransomware กลุ่ม Storm-0249 ซึ่งเป็น initial access broker ได้เปลี่ยนกลยุทธ์จากการส่งฟิชชิ่งทั่วไปมาเป็นการโจมตีแบบเจาะจง โดยใช้ DLL sideloading กับโปรเซสของ SentinelOne ที่เป็นเครื่องมือรักษาความปลอดภัย ทำให้ดูเหมือนเป็นการทำงานปกติของระบบ แต่จริง ๆ แล้วเป็นการเปิดทางให้มัลแวร์เข้ามาได้ พวกเขายังใช้เทคนิค “living off the land” เช่นการใช้ curl.exe และ PowerShell เพื่อรันโค้ดโดยไม่ทิ้งร่องรอยในดิสก์ เป้าหมายคือการขายสิทธิ์เข้าถึงให้กับกลุ่ม ransomware อย่าง LockBit และ ALPHV 🔗 https://securityonline.info/storm-0249-abuses-edr-process-via-dll-sideloading-to-cloak-ransomware-access 💻 VS Code Marketplace ถูกโจมตี supply chain ผ่าน 19 extensions ปลอม นักวิจัยพบว่ามีการปล่อยส่วนขยาย VS Code ที่แฝงมัลแวร์จำนวน 19 ตัว โดยใช้เทคนิค typosquatting และ steganography ซ่อนโค้ดอันตรายในไฟล์ dependency ภายใน node_modules รวมถึงการปลอมไฟล์ภาพ banner.png ที่จริงเป็น archive บรรจุ binary อันตราย เมื่อส่วนขยายถูกใช้งาน มัลแวร์จะถูกโหลดขึ้นมาและใช้เครื่องมือของ Windows อย่าง cmstp.exe เพื่อรันโค้ดโดยเลี่ยงการตรวจจับ หนึ่งใน payload เป็น Rust trojan ที่ซับซ้อนและยังอยู่ระหว่างการวิเคราะห์ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความเสี่ยงในห่วงโซ่อุปทานซอฟต์แวร์ที่นักพัฒนาต้องระวัง 🔗 https://securityonline.info/vs-code-supply-chain-attack-19-extensions-used-typosquatting-steganography-to-deploy-rust-trojan
    0 Comments 0 Shares 346 Views 0 Reviews
  • การค้นพบหลุมศพไวกิ้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน

    นักโบราณคดีในแคว้น Trøndelag ประเทศนอร์เวย์ ได้ค้นพบหลุมศพสมัยไวกิ้งที่มีลักษณะพิเศษไม่เคยพบมาก่อน โดยพบร่างหญิงสาวที่ถูกฝังพร้อม เปลือกหอยสแกลลอปสองชิ้นวางไว้ที่ปาก ซึ่งไม่เคยมีบันทึกในพิธีฝังศพไวกิ้งก่อนคริสต์ศาสนามาก่อน

    ความหมายเชิงสัญลักษณ์
    นักวิจัยยังไม่สามารถอธิบายความหมายของเปลือกหอยได้ชัดเจน แต่ในประวัติศาสตร์โลก หอยสแกลลอปเคยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และการเดินทางทางจิตวิญญาณในยุคกรีก–โรมัน และต่อมาในคริสต์ศาสนาเป็นสัญลักษณ์ของการแสวงบุญ อย่างไรก็ตาม การฝังศพนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 9 ซึ่งก่อนที่ความหมายเหล่านั้นจะแพร่เข้ามาในสแกนดิเนเวีย

    หลักฐานอื่นในหลุมศพ
    นอกจากเปลือกหอยแล้ว ยังพบเครื่องประดับสตรี เช่น เข็มกลัดรูปวงรีสองชิ้น และ หัวเข็มขัดวงแหวน ซึ่งบ่งบอกว่าเธอเป็นหญิงอิสระและน่าจะเป็นเจ้าของฟาร์ม อีกทั้งยังพบกระดูกนกที่จัดเรียงอย่างระมัดระวัง ซึ่งอาจมีความหมายเชิงสัญลักษณ์คล้ายกับการฝังศพโบราณในเดนมาร์กที่ใช้ปีกหงส์วางใต้ทารก

    ความสำคัญทางวิชาการ
    การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีกรรมฝังศพไวกิ้ง แต่ยังสะท้อนถึงการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่ใช้เปลือกหอยในพิธีกรรม นักวิจัยกำลังวิเคราะห์ DNA และทำการเปรียบเทียบกับหลุมศพอื่นในพื้นที่เพื่อหาความสัมพันธ์ทางสายเลือดและความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แท้จริง

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบหลุมศพไวกิ้ง
    พบหญิงสาวถูกฝังพร้อมเปลือกหอยสแกลลอปที่ปาก
    มีเครื่องประดับและหลักฐานว่าเป็นหญิงอิสระ

    ความหมายเชิงสัญลักษณ์
    หอยสแกลลอปเคยเป็นสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์และการแสวงบุญ
    กระดูกนกอาจสื่อถึงพิธีกรรมเชิงวิญญาณ

    ความสำคัญทางวิชาการ
    เพิ่มความเข้าใจพิธีฝังศพไวกิ้ง
    นักวิจัยกำลังวิเคราะห์ DNA และเปรียบเทียบกับหลุมศพอื่น

    ข้อจำกัด
    ยังไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของเปลือกหอย
    ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม

    https://www.sciencealert.com/viking-age-grave-reveals-a-burial-unlike-anything-seen-before
    ⚔️ การค้นพบหลุมศพไวกิ้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน นักโบราณคดีในแคว้น Trøndelag ประเทศนอร์เวย์ ได้ค้นพบหลุมศพสมัยไวกิ้งที่มีลักษณะพิเศษไม่เคยพบมาก่อน โดยพบร่างหญิงสาวที่ถูกฝังพร้อม เปลือกหอยสแกลลอปสองชิ้นวางไว้ที่ปาก ซึ่งไม่เคยมีบันทึกในพิธีฝังศพไวกิ้งก่อนคริสต์ศาสนามาก่อน 🐚 ความหมายเชิงสัญลักษณ์ นักวิจัยยังไม่สามารถอธิบายความหมายของเปลือกหอยได้ชัดเจน แต่ในประวัติศาสตร์โลก หอยสแกลลอปเคยถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และการเดินทางทางจิตวิญญาณในยุคกรีก–โรมัน และต่อมาในคริสต์ศาสนาเป็นสัญลักษณ์ของการแสวงบุญ อย่างไรก็ตาม การฝังศพนี้เกิดขึ้นในศตวรรษที่ 9 ซึ่งก่อนที่ความหมายเหล่านั้นจะแพร่เข้ามาในสแกนดิเนเวีย 🕊️ หลักฐานอื่นในหลุมศพ นอกจากเปลือกหอยแล้ว ยังพบเครื่องประดับสตรี เช่น เข็มกลัดรูปวงรีสองชิ้น และ หัวเข็มขัดวงแหวน ซึ่งบ่งบอกว่าเธอเป็นหญิงอิสระและน่าจะเป็นเจ้าของฟาร์ม อีกทั้งยังพบกระดูกนกที่จัดเรียงอย่างระมัดระวัง ซึ่งอาจมีความหมายเชิงสัญลักษณ์คล้ายกับการฝังศพโบราณในเดนมาร์กที่ใช้ปีกหงส์วางใต้ทารก 🔬 ความสำคัญทางวิชาการ การค้นพบนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความเข้าใจเกี่ยวกับพิธีกรรมฝังศพไวกิ้ง แต่ยังสะท้อนถึงการเชื่อมโยงกับวัฒนธรรมอื่น ๆ ที่ใช้เปลือกหอยในพิธีกรรม นักวิจัยกำลังวิเคราะห์ DNA และทำการเปรียบเทียบกับหลุมศพอื่นในพื้นที่เพื่อหาความสัมพันธ์ทางสายเลือดและความหมายเชิงสัญลักษณ์ที่แท้จริง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบหลุมศพไวกิ้ง ➡️ พบหญิงสาวถูกฝังพร้อมเปลือกหอยสแกลลอปที่ปาก ➡️ มีเครื่องประดับและหลักฐานว่าเป็นหญิงอิสระ ✅ ความหมายเชิงสัญลักษณ์ ➡️ หอยสแกลลอปเคยเป็นสัญลักษณ์ความอุดมสมบูรณ์และการแสวงบุญ ➡️ กระดูกนกอาจสื่อถึงพิธีกรรมเชิงวิญญาณ ✅ ความสำคัญทางวิชาการ ➡️ เพิ่มความเข้าใจพิธีฝังศพไวกิ้ง ➡️ นักวิจัยกำลังวิเคราะห์ DNA และเปรียบเทียบกับหลุมศพอื่น ‼️ ข้อจำกัด ⛔ ยังไม่ทราบความหมายที่แท้จริงของเปลือกหอย ⛔ ต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรม https://www.sciencealert.com/viking-age-grave-reveals-a-burial-unlike-anything-seen-before
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Viking-Age Grave Reveals a Burial Unlike Anything Seen Before
    The discovery of a Viking-age burial in Trøndelag, Norway, has presented archaeologists with a historical mystery.
    0 Comments 0 Shares 138 Views 0 Reviews
  • ลองเชิง ตอนที่ 10

    “ลองเชิง”
    ตอน 10
    เวลาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายรุนแรง นานเป็นปีๆ แถมตัวละครเข้าฉาก ก็หลากหลาย อย่างเรื่องซีเรีย นี่ มันก็น่าให้งง ตกลงใครเป็นคนเริ่ม ใครเป็นตัวชั่ว ใครเป็นตัวช่วย ใครเป็นตัวซวย แล้วจะแก้กันอย่างไร หรือจะจบอย่างไร ยิ่งตอนนี้ แบ่งค่ายแบ่งข้างกันค่อนข้างชัด แต่ก็ไม่แน่ว่า จะทำให้รู้เรื่องขึ้น
    มันดูยาก เพราะเขาวางแผนมาให้เป็นอย่างนั้น
    แน่นอน ฉากซีเรีย อเมริกาเกี่ยวข้องด้วยเต็มร้อย แม้จะไม่ได้ลงมือเองทั้งหมด แต่ที่น่าสงสัยคือ กลุ่มสิบเอ็ด มาเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย แล้วที่น่าสงสัยมากกว่า น่าจะเป็นการจับมือกัน ระหว่างซาอุดิอารเบีย กาตาร์ ตุรกี และอิสราเอล เพื่อถล่มอัสซาดให้พ้นไปจากซีเรียนั่นแหละ จะบอกว่าทั้งหมด เป็นลูกกระเป๋ง ลูกขุนพลอยพยัก หรือลูกหาบของอเมริกา มันก็ใช่ทั้งนั้น แต่มันคงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์เท่านั้น มันคงมีอะไรมากกว่านั้น
    แก๊สธรรมชาติ ได้กลายเป็นสมบัติมีค่า อีกรายการหนึ่งในตะวันออกกลาง ไม่น่าเชื่อว่า สามล้อจะ
    ฟลุ๊กถูกหวย รางวัลใหญ่ ได้มากกว่า 1 ครั้ง แก๊ส ไม่ได้มีความหมายเฉพาะกับ เจ้าของแหล่งเท่านั้น แต่ยังมีความหมายกับอียู ยูเรเซีย รวมทั้งรัสเซีย ที่เป็นผู้ส่งออกแก๊ส และจีนผู้นำเข้าแก๊สอีกด้วย
    แก๊สธรรมชาติ เป็นพลังงานสะอาด ที่กำลังพุ่งแรง แซงพลังงานถ่านหิน นิวเคลียร์ และพลังไฟฟ้า ในยุโรป โดยเฉพาะที่เยอรมัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ฟูกูชิมะของญี่ปุ่น และกำลังเป็นตัวเลือก ที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเตรียมเอามาช่วยพยุงสิ่งแวดล้อมของโลก แปลว่า ยุโรป จะเป็นตลาดนำเข้าแก๊สที่ใหญ่มาก อีกตลาดหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องมีการเบียด การแซงกันหน่อย
    การค้นพบแหล่งแก๊สในอิหร่าน กาตาร์ ซีเรีย และอิสราเอล มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ฉากซีเรีย ถูกเร่งสร้างขึ้นมา
    ในเดือนกรฏาคม ค.ศ.2011 ขณะที่พวกลูกหาบนานาชาติ และกลุ่มเสี่ยปั๊มใหญ่ปั๊มเล็กในตะวันออกกลาง กำลังสวิงกันเต็มที่อยู่ในซีเรีย เพื่อหวดให้อัสซาดหล่นแท่นให้ได้ รัฐบาลของซีเรีย อิหร่านและอิรัค ก็กำลังลงนามในสัญญาสร้างท่อส่งแก๊ส โดยรอดสายตาอันแสนคมของสื่อตะวันตก ที่มัวแต่ทำข่าวการไล่หวดอัสซาด
    ท่อส่งแก๊สรายการนี้ คาดว่าจะต้องใช้ทุนถึง 1 หมื่นล้านเหรียญ และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ท่อส่งนี้ จะเริ่มจากท่าเรือ อาซาลลูเย Assalouyeh ของอิหร่าน ซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งแก๊สเซาท์พาส์ South Pars ของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ท่อส่งจะยาวไปถึงเมืองดามัสกัสของซีเรีย โดยผ่านเข้ามาในเขตแดนของอิรัค นอกจากนี้ อิหร่านยังมีแผน ที่จะขยายเส้นทางท่อส่งนี้ ไปถึงท่าเรือของเลบานอน ที่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย จะได้ส่งแก๊สให้ถึงหน้าบ้านของพวกอียู ทั้งซีเรียและอิรัค ตกลงทำสัญญา จะซื้อแก๊สของอิหร่านล่วงหน้าแล้วด้วย
    เซาท์พาส์ South Pars ซึ่งเป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติ ที่เชื่อกันว่า เป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ ที่ค้นพบ อยู่ในอ่าวเปอร์เซีย และมีเจ้าของ 2 ราย แบ่งกันตามเขตแดน รายหนึ่งคือ อิหร่าน อีกรายคือ กาตาร์
    เริ่มเห็นสาเหตุจริง ของความวุ่นวายในซีเรียรางๆ แล้วใช่ไหมครับ
    เส้นทางท่อส่งแก๊สของอิหร่าน จึงถูกมอง และประทับตราว่า มันเป็นท่อส่งของพวกชีอะอิหร่าน ผ่านชีอะอิรัค ไปถึงเพื่อนชีอะ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย และบางทีก็เรียกเส้นทางท่อส่งนี้ว่า เส้นทางท่อส่งอิสลาม Islamic Pipeline
    กาตาร์นั้น เหมือนเป็นสาขาต่างประเทศในตะวันออกกลาง ของเพนตากอน Pentagon หน่วยงานด้านความมั่นคงของอเมริกา มีตั้งแต่สำนักงานใหญ่ของ Air Forces Central, หน่วยประจำการรบทางอากาศที่ 83 และหน่วยที่ 379 ของกองทัพอากาศ อยู่ที่กาตาร์ และกาตาร์ยังมีสัมพันธ์ชนิดแน่น แบบแกะแทบไม่ออก กับอีกหลายหน่วยงานของอเมริกา และอังกฤษ รวมทั้งเป็นเจ้าของกิจการโทรทัศน์ อัลจาซีรา ที่กำลังทำรายการ ด่าอัสซาดอย่างรุนแรงทุกวัน อ้อ กาตาร์ยังสนิทกับนาโต้ที่อยู่แถวอ่าวเปอร์เซียอีกด้วย เอาเป็นว่าแนบแน่น กับฝั่งตะวันตกอย่างยิ่งแล้วกัน
    ถ้าเปรียบกาตาร์เป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก แต่ในชาม คงจะมีแต่เส้นใหญ่ล้นชาม
    และกาตาร์ก็มีแผนของตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊สธรรมชาติเหมือนกัน
    กาตาร์บอกว่า ไม่สนใจจะไปมีส่วนร่วม ในท่อส่งแก๊สชีอะนี้เลย ตรงกันข้าม
    กาตาร์พร้อมที่จะทำทุกอย่าง ที่จะให้แผนท่อส่งของอิหร่านซีเรีย ย่อยยับไปกับมือ
    รวย แล้วยังตอแหล ไม่รู้เอานิสัยใครมา
    เมื่อปี ค.ศ.2009 Emir ผู้ครองนคร ของกาตาร์ ลงทุนบินไปเจรจากับอัสซาด ด้วยตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊ส ส่วนของกาตาร์ ที่เรียกว่า นอร์ทโดม North Dome ที่อยู่ติดกับเซาท์พาส์ของอิหร่าน
    กาตาร์เอง ก็เป็นผู้ผลิตแก๊สรายใหญ่ ส่งขายทางเอเซียอยู่เหมือนกัน เมื่อมี นอร์ทโดมหล่นใส่ตัก จึงต้องการจะขยายตลาดไปทางอียู บ้าง แต่เดิม กาตาร์คิดจะสร้างท่อส่ง เส้นทางกาตาร์ ตุรกี ผ่านซาอุดิอารเบียทางใต้ ไปออกเมดิเตอร์เรเนียน ที่ซีเรีย แต่อัสซาดดันปฏิเสธหน้าตาเฉย บอกว่าเขามีไมตรีใกล้ชิดกับรัสเซีย เราทำแบบนี้กับเพื่อนไม่ได้หรอก
    Emir แห่งกาตาร์ ควันออกหู พกเอาความแค้นขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ปีกขลิบทอง บินกลับบ้าน
    อัสซาดไม่เป็นนักการทูตเอาเลย แต่อัสซาดก็ไม่ได้โกหก หลังจากซีเรียทำสัญญาสร้างท่อส่งแก๊สกับอิหร่านในเดือนกรกฎาคม เดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ซีเรียเอง ก็ค้นพบแหล่งแก๊สธรรมชาติของตัว บ้าง ที่เมืองคารา Qara ใกล้กับเขตแดนด้านเลบานอน และใกล้กับท่าเรือทาร์ทัส Tartus ของรัสเซีย ที่เช่ามาจากซีเรีย อยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซีเรียตกลงว่า ไม่ว่าแก๊สจะมาจากอิหร่าน หรือเป็นของซีเรียเอง เวลาขนส่งไปอียู ก็ต้องมาขนกันที่ท่าเรือของรัสเซียนี้แหละ
    และจริงๆ ซีเรียก็ขี้เกียจจะพูด แก๊สของกาตาร์น่ะ ไม่ได้เศษของที่ซีเรียเพิ่งค้นพบ
    Asia Times ลงข่าวในช่วงนั้นว่า … กาตาร์เอง ก็มีแผนที่ส่งแก๊สของตน ออกไปทางอ่าว อคาบา Aqaba ของจอร์แดน ซึ่งพวกมุสลิม บราเธอร์ฮูด Muslim Brotherhood กำลังพยายามกระตุกหนวดกษัตริย์จอร์แดนอยู่ กาตาร์แสบขึ้นชั้น ไปตกลงกับพวกมุสลิมบราเธอร์ฮูด ด้วยข้อแลกเปลี่ยนว่า พวกคุณไปซ่าที่อื่นนอกบ้านกาตาร์นะ แล้วผมจะสนับสนุนพวกคุณเต็มที่….
    …..มุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่กระจายอยู่เต็ม จอร์แดนและซีเรีย ซึ่งสนับสนุนโดยกาตาร์ อาจสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเกมการเมือง เกี่ยวกับแก๊สที่เล่นกันอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้ การเดินหมากของ
    กาตาร์นี้ ถ้าสำเร็จ นอกจากจะทำให้ฝั่งของรัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน อิรัค เสียเปรียบแล้ว ยังอาจมีผล
    กระทบต่อจีน จนขาลากอีกด้วย…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    9 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 10 “ลองเชิง” ตอน 10 เวลาเกิดเหตุการณ์วุ่นวายรุนแรง นานเป็นปีๆ แถมตัวละครเข้าฉาก ก็หลากหลาย อย่างเรื่องซีเรีย นี่ มันก็น่าให้งง ตกลงใครเป็นคนเริ่ม ใครเป็นตัวชั่ว ใครเป็นตัวช่วย ใครเป็นตัวซวย แล้วจะแก้กันอย่างไร หรือจะจบอย่างไร ยิ่งตอนนี้ แบ่งค่ายแบ่งข้างกันค่อนข้างชัด แต่ก็ไม่แน่ว่า จะทำให้รู้เรื่องขึ้น มันดูยาก เพราะเขาวางแผนมาให้เป็นอย่างนั้น แน่นอน ฉากซีเรีย อเมริกาเกี่ยวข้องด้วยเต็มร้อย แม้จะไม่ได้ลงมือเองทั้งหมด แต่ที่น่าสงสัยคือ กลุ่มสิบเอ็ด มาเกี่ยวอะไรกับเขาด้วย แล้วที่น่าสงสัยมากกว่า น่าจะเป็นการจับมือกัน ระหว่างซาอุดิอารเบีย กาตาร์ ตุรกี และอิสราเอล เพื่อถล่มอัสซาดให้พ้นไปจากซีเรียนั่นแหละ จะบอกว่าทั้งหมด เป็นลูกกระเป๋ง ลูกขุนพลอยพยัก หรือลูกหาบของอเมริกา มันก็ใช่ทั้งนั้น แต่มันคงไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์เท่านั้น มันคงมีอะไรมากกว่านั้น แก๊สธรรมชาติ ได้กลายเป็นสมบัติมีค่า อีกรายการหนึ่งในตะวันออกกลาง ไม่น่าเชื่อว่า สามล้อจะ ฟลุ๊กถูกหวย รางวัลใหญ่ ได้มากกว่า 1 ครั้ง แก๊ส ไม่ได้มีความหมายเฉพาะกับ เจ้าของแหล่งเท่านั้น แต่ยังมีความหมายกับอียู ยูเรเซีย รวมทั้งรัสเซีย ที่เป็นผู้ส่งออกแก๊ส และจีนผู้นำเข้าแก๊สอีกด้วย แก๊สธรรมชาติ เป็นพลังงานสะอาด ที่กำลังพุ่งแรง แซงพลังงานถ่านหิน นิวเคลียร์ และพลังไฟฟ้า ในยุโรป โดยเฉพาะที่เยอรมัน หลังจากเกิดเหตุการณ์ฟูกูชิมะของญี่ปุ่น และกำลังเป็นตัวเลือก ที่หลายประเทศในยุโรปกำลังเตรียมเอามาช่วยพยุงสิ่งแวดล้อมของโลก แปลว่า ยุโรป จะเป็นตลาดนำเข้าแก๊สที่ใหญ่มาก อีกตลาดหนึ่ง อย่างนี้ก็ต้องมีการเบียด การแซงกันหน่อย การค้นพบแหล่งแก๊สในอิหร่าน กาตาร์ ซีเรีย และอิสราเอล มีส่วนอย่างยิ่งที่ทำให้ฉากซีเรีย ถูกเร่งสร้างขึ้นมา ในเดือนกรฏาคม ค.ศ.2011 ขณะที่พวกลูกหาบนานาชาติ และกลุ่มเสี่ยปั๊มใหญ่ปั๊มเล็กในตะวันออกกลาง กำลังสวิงกันเต็มที่อยู่ในซีเรีย เพื่อหวดให้อัสซาดหล่นแท่นให้ได้ รัฐบาลของซีเรีย อิหร่านและอิรัค ก็กำลังลงนามในสัญญาสร้างท่อส่งแก๊ส โดยรอดสายตาอันแสนคมของสื่อตะวันตก ที่มัวแต่ทำข่าวการไล่หวดอัสซาด ท่อส่งแก๊สรายการนี้ คาดว่าจะต้องใช้ทุนถึง 1 หมื่นล้านเหรียญ และใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ท่อส่งนี้ จะเริ่มจากท่าเรือ อาซาลลูเย Assalouyeh ของอิหร่าน ซึ่งอยู่ใกล้กับแหล่งแก๊สเซาท์พาส์ South Pars ของอิหร่านในอ่าวเปอร์เซีย ท่อส่งจะยาวไปถึงเมืองดามัสกัสของซีเรีย โดยผ่านเข้ามาในเขตแดนของอิรัค นอกจากนี้ อิหร่านยังมีแผน ที่จะขยายเส้นทางท่อส่งนี้ ไปถึงท่าเรือของเลบานอน ที่ริมทะเลเมดิเตอร์เรเนียนด้วย จะได้ส่งแก๊สให้ถึงหน้าบ้านของพวกอียู ทั้งซีเรียและอิรัค ตกลงทำสัญญา จะซื้อแก๊สของอิหร่านล่วงหน้าแล้วด้วย เซาท์พาส์ South Pars ซึ่งเป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติ ที่เชื่อกันว่า เป็นแหล่งแก๊สธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลกตอนนี้ ที่ค้นพบ อยู่ในอ่าวเปอร์เซีย และมีเจ้าของ 2 ราย แบ่งกันตามเขตแดน รายหนึ่งคือ อิหร่าน อีกรายคือ กาตาร์ เริ่มเห็นสาเหตุจริง ของความวุ่นวายในซีเรียรางๆ แล้วใช่ไหมครับ เส้นทางท่อส่งแก๊สของอิหร่าน จึงถูกมอง และประทับตราว่า มันเป็นท่อส่งของพวกชีอะอิหร่าน ผ่านชีอะอิรัค ไปถึงเพื่อนชีอะ อัล อัสซาดแห่งซีเรีย และบางทีก็เรียกเส้นทางท่อส่งนี้ว่า เส้นทางท่อส่งอิสลาม Islamic Pipeline กาตาร์นั้น เหมือนเป็นสาขาต่างประเทศในตะวันออกกลาง ของเพนตากอน Pentagon หน่วยงานด้านความมั่นคงของอเมริกา มีตั้งแต่สำนักงานใหญ่ของ Air Forces Central, หน่วยประจำการรบทางอากาศที่ 83 และหน่วยที่ 379 ของกองทัพอากาศ อยู่ที่กาตาร์ และกาตาร์ยังมีสัมพันธ์ชนิดแน่น แบบแกะแทบไม่ออก กับอีกหลายหน่วยงานของอเมริกา และอังกฤษ รวมทั้งเป็นเจ้าของกิจการโทรทัศน์ อัลจาซีรา ที่กำลังทำรายการ ด่าอัสซาดอย่างรุนแรงทุกวัน อ้อ กาตาร์ยังสนิทกับนาโต้ที่อยู่แถวอ่าวเปอร์เซียอีกด้วย เอาเป็นว่าแนบแน่น กับฝั่งตะวันตกอย่างยิ่งแล้วกัน ถ้าเปรียบกาตาร์เป็นเหมือนก๋วยเตี๋ยวชามเล็ก แต่ในชาม คงจะมีแต่เส้นใหญ่ล้นชาม และกาตาร์ก็มีแผนของตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊สธรรมชาติเหมือนกัน กาตาร์บอกว่า ไม่สนใจจะไปมีส่วนร่วม ในท่อส่งแก๊สชีอะนี้เลย ตรงกันข้าม กาตาร์พร้อมที่จะทำทุกอย่าง ที่จะให้แผนท่อส่งของอิหร่านซีเรีย ย่อยยับไปกับมือ รวย แล้วยังตอแหล ไม่รู้เอานิสัยใครมา เมื่อปี ค.ศ.2009 Emir ผู้ครองนคร ของกาตาร์ ลงทุนบินไปเจรจากับอัสซาด ด้วยตัวเอง เกี่ยวกับแหล่งแก๊ส ส่วนของกาตาร์ ที่เรียกว่า นอร์ทโดม North Dome ที่อยู่ติดกับเซาท์พาส์ของอิหร่าน กาตาร์เอง ก็เป็นผู้ผลิตแก๊สรายใหญ่ ส่งขายทางเอเซียอยู่เหมือนกัน เมื่อมี นอร์ทโดมหล่นใส่ตัก จึงต้องการจะขยายตลาดไปทางอียู บ้าง แต่เดิม กาตาร์คิดจะสร้างท่อส่ง เส้นทางกาตาร์ ตุรกี ผ่านซาอุดิอารเบียทางใต้ ไปออกเมดิเตอร์เรเนียน ที่ซีเรีย แต่อัสซาดดันปฏิเสธหน้าตาเฉย บอกว่าเขามีไมตรีใกล้ชิดกับรัสเซีย เราทำแบบนี้กับเพื่อนไม่ได้หรอก Emir แห่งกาตาร์ ควันออกหู พกเอาความแค้นขึ้นเครื่องบินส่วนตัว ปีกขลิบทอง บินกลับบ้าน อัสซาดไม่เป็นนักการทูตเอาเลย แต่อัสซาดก็ไม่ได้โกหก หลังจากซีเรียทำสัญญาสร้างท่อส่งแก๊สกับอิหร่านในเดือนกรกฎาคม เดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ซีเรียเอง ก็ค้นพบแหล่งแก๊สธรรมชาติของตัว บ้าง ที่เมืองคารา Qara ใกล้กับเขตแดนด้านเลบานอน และใกล้กับท่าเรือทาร์ทัส Tartus ของรัสเซีย ที่เช่ามาจากซีเรีย อยู่ริมฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ซีเรียตกลงว่า ไม่ว่าแก๊สจะมาจากอิหร่าน หรือเป็นของซีเรียเอง เวลาขนส่งไปอียู ก็ต้องมาขนกันที่ท่าเรือของรัสเซียนี้แหละ และจริงๆ ซีเรียก็ขี้เกียจจะพูด แก๊สของกาตาร์น่ะ ไม่ได้เศษของที่ซีเรียเพิ่งค้นพบ Asia Times ลงข่าวในช่วงนั้นว่า … กาตาร์เอง ก็มีแผนที่ส่งแก๊สของตน ออกไปทางอ่าว อคาบา Aqaba ของจอร์แดน ซึ่งพวกมุสลิม บราเธอร์ฮูด Muslim Brotherhood กำลังพยายามกระตุกหนวดกษัตริย์จอร์แดนอยู่ กาตาร์แสบขึ้นชั้น ไปตกลงกับพวกมุสลิมบราเธอร์ฮูด ด้วยข้อแลกเปลี่ยนว่า พวกคุณไปซ่าที่อื่นนอกบ้านกาตาร์นะ แล้วผมจะสนับสนุนพวกคุณเต็มที่…. …..มุสลิมบราเธอร์ฮูด ที่กระจายอยู่เต็ม จอร์แดนและซีเรีย ซึ่งสนับสนุนโดยกาตาร์ อาจสามารถเปลี่ยนหน้าตาของเกมการเมือง เกี่ยวกับแก๊สที่เล่นกันอยู่ในภูมิภาคนี้ก็ได้ การเดินหมากของ กาตาร์นี้ ถ้าสำเร็จ นอกจากจะทำให้ฝั่งของรัสเซีย ซีเรีย อิหร่าน อิรัค เสียเปรียบแล้ว ยังอาจมีผล กระทบต่อจีน จนขาลากอีกด้วย… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 9 ต.ค. 2558
    0 Comments 0 Shares 328 Views 0 Reviews
  • Roxette ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีป๊อปร็อกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากสวีเดนในยุค 80s-90s โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ที่เมืองฮาล์มสตัด ประเทศสวีเดน วงประกอบด้วยสมาชิกหลักสองคนคือ Marie Fredriksson นักร้องนำหญิงที่มีน้ำเสียงอันทรงพลังและเคยมีอาชีพเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จในสวีเดนตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 และ Per Gessle นักร้อง นักแต่งเพลง และมือกีตาร์ที่เคยโด่งดังกับวง Gyllene Tider ซึ่งเป็นวงร็อกสวีเดนที่ฮิตมากในประเทศบ้านเกิดตั้งแต่ปี 1979

    การรวมตัวของทั้งคู่เริ่มต้นจากความร่วมมือในโปรเจกต์เดี่ยวของ Marie ที่ Per เข้ามาช่วยแต่งเพลง “Neverending Love” ซึ่งกลายเป็นฮิตในสวีเดนปี 1986 และนำไปสู่การก่อตั้ง Roxette อย่างเป็นทางการ ชื่อวงได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง “Roxette” ของวงร็อกอังกฤษ Dr. Feelgood ซึ่ง Per ชื่นชอบเป็นพิเศษ。 ในช่วงแรก Roxette มุ่งเน้นตลาดสวีเดนและยุโรป โดยอัลบั้มแรก Pearls of Passion (1986) ประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาค แต่ความก้าวหน้าครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาขยายสู่ตลาดนานาชาติด้วยอัลบั้ม Look Sharp! ในปี 1988 ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง “The Look” ที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาในปี 1989 และทำให้ Roxette กลายเป็นศิลปินสวีเดนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนับตั้งแต่ ABBA 。 วงออกอัลบั้มต่อเนื่องอย่าง Joyride (1991) ซึ่งมีเพลงฮิตอันดับ 1 อีกเพลงอย่าง “Joyride” และ “It Must Have Been Love” ที่ใช้ในภาพยนตร์ Pretty Woman ทำให้ยอดขายทะลุ 11 ล้านชุดทั่วโลก 。 Roxette มีช่วงหยุดพักในปี 2002 หลังจาก Marie ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง แต่พวกเขากลับมาร่วมงานกันในปี 2010 กับอัลบั้ม Charm School และทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก จนกระทั่ง Marie เสียชีวิตในปี 2019 ด้วยวัย 61 ปีจากโรคแทรกซ้อน。 หลังจากนั้น Per ได้ดำเนินโครงการต่อในชื่อ PG Roxette ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อรำลึกถึง Marie และรักษามรดกของวงไว้。 โดยรวม Roxette ขายอัลบั้มได้กว่า 75 ล้านชุดทั่วโลกและมีเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐถึง 4 เพลง ซึ่งเป็นสถิติที่หาได้ยากสำหรับศิลปินที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ 。

    เพลง “Listen To Your Heart” เป็นหนึ่งในผลงานที่กำหนดเอกลักษณ์ของ Roxette โดยถูกเขียนขึ้นในปี 1988 และออกครั้งแรกในสวีเดนเดือนกันยายน 1988 ในฐานะซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม Look Sharp! ซึ่งผลิตโดย Clarence Öfwerman 。 Per Gessle ผู้แต่งเนื้อร้องและทำนองหลัก ร่วมกับ Mats Persson มือกีตาร์จาก Gyllene Tider ได้รับแรงบันดาลใจจากบทสนทนายามดึกกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กำลังเผชิญความรักที่ยุ่งยากและเจ็บปวด โดยเพื่อนคนนั้นถูกกดดันจากสังคมให้เลิกกับคนรัก 。 เพลงนี้มีโครงสร้างแบบบัลลาดป๊อปร็อก เริ่มต้นด้วยเปียโนช้า ๆ ก่อนเข้าสู่ส่วนกีตาร์และเสียงร้องอันไพเราะของ Marie ที่เพิ่มความเข้มข้นในท่อนคอรัส。 ในเวอร์ชันแรก เพลงนี้ได้รับความนิยมในสวีเดนและยุโรปเหนือ แต่การปรับแต่งสำหรับตลาดสหรัฐโดย Tom Keane ทำให้มันมีเวอร์ชันที่ยาวขึ้นและเน้นเสียงซินธ์มากกว่า。 น่าสนใจว่ามีการเปรียบเทียบกับเพลง “Alone” ของ Heart ในปี 1987 ซึ่งมีทำนองคล้ายกัน จน Roxette ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์บางส่วนให้ Heart แม้ Per จะยืนยันว่าเป็นเรื่องบังเอิญ。 เพลงนี้ถูกบันทึกที่สตูดิโอ EMI ในสตอกโฮล์ม และกลายเป็นส่วนสำคัญของอัลบั้ม Look Sharp! ที่มียอดขายกว่า 9 ล้านชุด。

    ในแง่ความหมาย เพลง “Listen To Your Heart” สื่อสารข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจตัวเองในเรื่องความรัก โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ถูกท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเห็นจากสังคม เพื่อนฝูง หรืออุปสรรคอื่น ๆ ที่อาจทำให้คู่รักต้องแยกทาง 。 เนื้อเพลงอย่าง “I know there’s something in the wake of your smile / I get a notion from the look in your eyes” แสดงถึงการสังเกตสัญญาณความรักที่แท้จริง ก่อนที่จะเตือนว่า “Listen to your heart when he’s calling for you / Listen to your heart, there’s nothing else you can do”。 มันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจให้เชื่อมั่นในความรู้สึกภายใน แม้จะเจ็บปวดหรือสับสน และบางครั้งถูกตีความว่าเป็นการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอกในความรักที่บริสุทธิ์。 ในบริบทกว้างขึ้น เพลงนี้ยังถูกนำไปประยุกต์กับธีมอื่น ๆ เช่น การต่อสู้กับโรคหัวใจหรือปัญหาสุขภาพส่วนตัวในยุคปัจจุบัน โดยบางคนมองว่ามันเป็นเพลงที่ให้แรงบันดาลใจในการ “ฟังหัวใจ” ในความหมายตามตัวอักษร 。 ความหมายนี้ทำให้เพลงคงความนิยมข้ามกาลเวลา และถูกนำไปใช้ในสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา และรายการทีวี。

    ความสำเร็จระดับโลกของ “Listen To Your Heart” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ Roxette โดยเพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดของปี 1989 ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1989 และครองตำแหน่งนั้น 1 สัปดาห์ รวมถึงขึ้นอันดับ 1 ในแคนาดาและติดชาร์ตสูงในยุโรป 。 มันเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 เพลงที่สองของ Roxette ในสหรัฐ ต่อจาก “The Look” และช่วยให้วงมีเพลงอันดับ 1 รวม 4 เพลงใน Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นสถิติที่ ABBA ยังไม่เคยทำได้ 。 ในออสเตรเลีย เพลงนี้ขึ้นอันดับ 10 ในชาร์ต ARIA เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1989 และเป็นส่วนหนึ่งของเพลงฮิตจากอัลบั้ม Look Sharp! ที่รวม “Dressed For Success” (อันดับ 3) และ “Dangerous” (อันดับ 9)。 ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากนักศึกษาชาวอเมริกันจากมินนิโซตาที่ศึกษาอยู่ในสวีเดนและนำเทปเพลงกลับไปโปรโมตในสถานีวิทยุท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่การเซ็นสัญญากับ EMI ในสหรัฐและการบุกตลาดโลก 。 เพลงนี้ยังได้รับการรับรองแพลตตินัมในหลายประเทศและถูก cover โดยศิลปินอื่น ๆ เช่น เวอร์ชันแดนซ์ของ D.H.T. ในปี 2005 ที่ขึ้นอันดับ 8 ใน Billboard Hot 100 。 มรดกของเพลงนี้ยังคงอยู่ โดยถูกนำไปใช้ในวัฒนธรรมป๊อปและได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงคลาสสิกยุค 80s ที่ช่วยกำหนดภาพลักษณ์ของ Roxette ในฐานะศิลปินสวีเดนที่บุกตลาดโลกได้สำเร็จ。

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://www.youtube.com/watch?v=dpfbKWoBpRw
    😇 Roxette ถือเป็นหนึ่งในวงดนตรีป๊อปร็อกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดจากสวีเดนในยุค 80s-90s โดยก่อตั้งขึ้นในปี 1986 ที่เมืองฮาล์มสตัด ประเทศสวีเดน วงประกอบด้วยสมาชิกหลักสองคนคือ Marie Fredriksson นักร้องนำหญิงที่มีน้ำเสียงอันทรงพลังและเคยมีอาชีพเดี่ยวที่ประสบความสำเร็จในสวีเดนตั้งแต่ช่วงต้นทศวรรษ 1980 และ Per Gessle นักร้อง นักแต่งเพลง และมือกีตาร์ที่เคยโด่งดังกับวง Gyllene Tider ซึ่งเป็นวงร็อกสวีเดนที่ฮิตมากในประเทศบ้านเกิดตั้งแต่ปี 1979 🎸 การรวมตัวของทั้งคู่เริ่มต้นจากความร่วมมือในโปรเจกต์เดี่ยวของ Marie ที่ Per เข้ามาช่วยแต่งเพลง “Neverending Love” ซึ่งกลายเป็นฮิตในสวีเดนปี 1986 และนำไปสู่การก่อตั้ง Roxette อย่างเป็นทางการ ชื่อวงได้รับแรงบันดาลใจจากเพลง “Roxette” ของวงร็อกอังกฤษ Dr. Feelgood ซึ่ง Per ชื่นชอบเป็นพิเศษ。 ในช่วงแรก Roxette มุ่งเน้นตลาดสวีเดนและยุโรป โดยอัลบั้มแรก Pearls of Passion (1986) ประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาค แต่ความก้าวหน้าครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อพวกเขาขยายสู่ตลาดนานาชาติด้วยอัลบั้ม Look Sharp! ในปี 1988 ซึ่งมีเพลงฮิตอย่าง “The Look” ที่ขึ้นอันดับ 1 ในสหรัฐอเมริกาในปี 1989 และทำให้ Roxette กลายเป็นศิลปินสวีเดนที่ประสบความสำเร็จระดับโลกนับตั้งแต่ ABBA 。 วงออกอัลบั้มต่อเนื่องอย่าง Joyride (1991) ซึ่งมีเพลงฮิตอันดับ 1 อีกเพลงอย่าง “Joyride” และ “It Must Have Been Love” ที่ใช้ในภาพยนตร์ Pretty Woman ทำให้ยอดขายทะลุ 11 ล้านชุดทั่วโลก 。 Roxette มีช่วงหยุดพักในปี 2002 หลังจาก Marie ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งสมอง แต่พวกเขากลับมาร่วมงานกันในปี 2010 กับอัลบั้ม Charm School และทัวร์คอนเสิร์ตทั่วโลก จนกระทั่ง Marie เสียชีวิตในปี 2019 ด้วยวัย 61 ปีจากโรคแทรกซ้อน。 หลังจากนั้น Per ได้ดำเนินโครงการต่อในชื่อ PG Roxette ตั้งแต่ปี 2022 เพื่อรำลึกถึง Marie และรักษามรดกของวงไว้。 โดยรวม Roxette ขายอัลบั้มได้กว่า 75 ล้านชุดทั่วโลกและมีเพลงฮิตอันดับ 1 ในสหรัฐถึง 4 เพลง ซึ่งเป็นสถิติที่หาได้ยากสำหรับศิลปินที่ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ 。 🎶 เพลง “Listen To Your Heart” เป็นหนึ่งในผลงานที่กำหนดเอกลักษณ์ของ Roxette โดยถูกเขียนขึ้นในปี 1988 และออกครั้งแรกในสวีเดนเดือนกันยายน 1988 ในฐานะซิงเกิลที่สองจากอัลบั้ม Look Sharp! ซึ่งผลิตโดย Clarence Öfwerman 。 Per Gessle ผู้แต่งเนื้อร้องและทำนองหลัก ร่วมกับ Mats Persson มือกีตาร์จาก Gyllene Tider ได้รับแรงบันดาลใจจากบทสนทนายามดึกกับเพื่อนสนิทคนหนึ่งที่กำลังเผชิญความรักที่ยุ่งยากและเจ็บปวด โดยเพื่อนคนนั้นถูกกดดันจากสังคมให้เลิกกับคนรัก 。 เพลงนี้มีโครงสร้างแบบบัลลาดป๊อปร็อก เริ่มต้นด้วยเปียโนช้า ๆ ก่อนเข้าสู่ส่วนกีตาร์และเสียงร้องอันไพเราะของ Marie ที่เพิ่มความเข้มข้นในท่อนคอรัส。 ในเวอร์ชันแรก เพลงนี้ได้รับความนิยมในสวีเดนและยุโรปเหนือ แต่การปรับแต่งสำหรับตลาดสหรัฐโดย Tom Keane ทำให้มันมีเวอร์ชันที่ยาวขึ้นและเน้นเสียงซินธ์มากกว่า。 น่าสนใจว่ามีการเปรียบเทียบกับเพลง “Alone” ของ Heart ในปี 1987 ซึ่งมีทำนองคล้ายกัน จน Roxette ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์บางส่วนให้ Heart แม้ Per จะยืนยันว่าเป็นเรื่องบังเอิญ。 เพลงนี้ถูกบันทึกที่สตูดิโอ EMI ในสตอกโฮล์ม และกลายเป็นส่วนสำคัญของอัลบั้ม Look Sharp! ที่มียอดขายกว่า 9 ล้านชุด。 💖 ในแง่ความหมาย เพลง “Listen To Your Heart” สื่อสารข้อความที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับการฟังเสียงหัวใจตัวเองในเรื่องความรัก โดยเฉพาะเมื่อความสัมพันธ์ถูกท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเห็นจากสังคม เพื่อนฝูง หรืออุปสรรคอื่น ๆ ที่อาจทำให้คู่รักต้องแยกทาง 。 เนื้อเพลงอย่าง “I know there’s something in the wake of your smile / I get a notion from the look in your eyes” แสดงถึงการสังเกตสัญญาณความรักที่แท้จริง ก่อนที่จะเตือนว่า “Listen to your heart when he’s calling for you / Listen to your heart, there’s nothing else you can do”。 มันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจให้เชื่อมั่นในความรู้สึกภายใน แม้จะเจ็บปวดหรือสับสน และบางครั้งถูกตีความว่าเป็นการต่อต้านการแทรกแซงจากภายนอกในความรักที่บริสุทธิ์。 ในบริบทกว้างขึ้น เพลงนี้ยังถูกนำไปประยุกต์กับธีมอื่น ๆ เช่น การต่อสู้กับโรคหัวใจหรือปัญหาสุขภาพส่วนตัวในยุคปัจจุบัน โดยบางคนมองว่ามันเป็นเพลงที่ให้แรงบันดาลใจในการ “ฟังหัวใจ” ในความหมายตามตัวอักษร 。 ความหมายนี้ทำให้เพลงคงความนิยมข้ามกาลเวลา และถูกนำไปใช้ในสื่อต่าง ๆ เช่น ภาพยนตร์ โฆษณา และรายการทีวี。 🌍 ความสำเร็จระดับโลกของ “Listen To Your Heart” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับ Roxette โดยเพลงนี้กลายเป็นหนึ่งในซิงเกิลที่ขายดีที่สุดของปี 1989 ขึ้นอันดับ 1 ในชาร์ต Billboard Hot 100 ของสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 1989 และครองตำแหน่งนั้น 1 สัปดาห์ รวมถึงขึ้นอันดับ 1 ในแคนาดาและติดชาร์ตสูงในยุโรป 。 มันเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 เพลงที่สองของ Roxette ในสหรัฐ ต่อจาก “The Look” และช่วยให้วงมีเพลงอันดับ 1 รวม 4 เพลงใน Billboard Hot 100 ซึ่งเป็นสถิติที่ ABBA ยังไม่เคยทำได้ 。 ในออสเตรเลีย เพลงนี้ขึ้นอันดับ 10 ในชาร์ต ARIA เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1989 และเป็นส่วนหนึ่งของเพลงฮิตจากอัลบั้ม Look Sharp! ที่รวม “Dressed For Success” (อันดับ 3) และ “Dangerous” (อันดับ 9)。 ความสำเร็จนี้ส่วนหนึ่งมาจากนักศึกษาชาวอเมริกันจากมินนิโซตาที่ศึกษาอยู่ในสวีเดนและนำเทปเพลงกลับไปโปรโมตในสถานีวิทยุท้องถิ่น ซึ่งนำไปสู่การเซ็นสัญญากับ EMI ในสหรัฐและการบุกตลาดโลก 。 เพลงนี้ยังได้รับการรับรองแพลตตินัมในหลายประเทศและถูก cover โดยศิลปินอื่น ๆ เช่น เวอร์ชันแดนซ์ของ D.H.T. ในปี 2005 ที่ขึ้นอันดับ 8 ใน Billboard Hot 100 。 มรดกของเพลงนี้ยังคงอยู่ โดยถูกนำไปใช้ในวัฒนธรรมป๊อปและได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงคลาสสิกยุค 80s ที่ช่วยกำหนดภาพลักษณ์ของ Roxette ในฐานะศิลปินสวีเดนที่บุกตลาดโลกได้สำเร็จ。 #ลุงเล่าหลานฟัง https://www.youtube.com/watch?v=dpfbKWoBpRw
    0 Comments 0 Shares 351 Views 0 Reviews
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar

    นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่”
    เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้
    https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears

    “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time
    ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why

    สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN
    ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children

    อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน
    รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data

    หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน
    งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที
    https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions

    Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่
    สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา
    https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform

    กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง
    กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม
    https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware

    วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ
    ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี
    https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time

    รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด
    รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech

    Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11
    ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store

    Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย
    เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง
    https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia

    Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย
    แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที
    https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams

    EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware
    สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน
    https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition

    Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่
    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm

    พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ
    https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools

    iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ
    Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย
    https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone

    AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต
    บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it

    YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย
    Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น
    https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades

    Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด
    Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง
    https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia

    แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้
    มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง
    https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data

    AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก
    AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp

    Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว
    Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง
    https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition

    อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์
    ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ
    https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud

    สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI
    รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ
    https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china

    ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด
    OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is

    AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน
    รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย
    https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims

    ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง”
    OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    📌📡🟣 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟣📡📌 #รวมข่าวIT #20251213 #TechRadar 📰 นักลงทุนไต้หวันยังคงทุ่มกับ AI แม้มีเสียงเตือนเรื่อง “ฟองสบู่” เรื่องราวนี้เล่าถึงบรรยากาศการลงทุนในไต้หวันที่ยังคงคึกคัก แม้หลายฝ่ายกังวลว่า AI อาจกำลังสร้างฟองสบู่ทางเศรษฐกิจ แต่ตลาดหุ้นไต้หวันกลับพุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยดัชนี TWII มีแนวโน้มแตะ 30,000 จุดในปี 2026 ขณะที่หุ้น TSMC ก็ยังเติบโตแข็งแรงกว่า 39% ในปีนี้ จุดสำคัญคือไต้หวันถือไพ่เหนือกว่า เพราะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนหลักของสถาปัตยกรรม AI ไม่ว่าจะเป็นชิปจาก Nvidia, Google หรือเจ้าอื่น ๆ ทำให้ไม่ว่าตลาดจะเอนเอียงไปทางไหน ไต้หวันก็ยังได้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าพอร์ตลงทุนในเอเชียยังพึ่งพา AI มากเกินไป หากเกิดการแกว่งตัวแรงก็อาจกระทบหนักได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/investors-still-doubling-down-on-ai-in-taiwan-despite-bubble-fears 👥 “สถาปนิกแห่ง AI” ได้รับเลือกเป็นบุคคลแห่งปีของ Time ปีนี้นิตยสาร Time ไม่ได้เลือกผู้นำประเทศหรือดารา แต่ยกตำแหน่งบุคคลแห่งปีให้กับกลุ่มผู้สร้าง AI ที่เปลี่ยนโลก ทั้ง Sam Altman จาก OpenAI, Jensen Huang จาก Nvidia และทีมงานจาก Google, Meta, Anthropic พวกเขาไม่เพียงสร้างเทคโนโลยี แต่ยังทำให้มันเข้าถึงได้และกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ตั้งแต่ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ ไปจนถึง Copilot ของ Microsoft และ Gemini ของ Google ผลงานเหล่านี้ไม่ใช่แค่ธุรกิจ แต่ยังกลายเป็นอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองระดับโลก เพราะชิปและโมเดล AI ถูกมองเป็นทรัพยากรเชิงยุทธศาสตร์ที่ประเทศต่าง ๆ ต้องแข่งขันกัน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/the-architects-of-ai-are-times-person-of-the-year-heres-why 🔒 สภาขุนนางอังกฤษเสนอห้ามเด็กใช้ VPN ในสหราชอาณาจักร กลุ่มสมาชิกสภาขุนนางได้เสนอแก้ไขกฎหมาย Children’s Wellbeing and Schools Bill โดยต้องการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีใช้ VPN หากผ่านการพิจารณา ผู้ให้บริการ VPN จะต้องตรวจสอบอายุผู้ใช้ด้วยวิธีที่ “มีประสิทธิภาพสูง” เช่น การยืนยันด้วยบัตรประชาชนหรือการสแกนใบหน้า ซึ่งแน่นอนว่าก่อให้เกิดข้อถกเถียง เพราะ VPN ถูกออกแบบมาเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว การบังคับตรวจสอบเช่นนี้อาจทำลายหลักการพื้นฐานของมันได้ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-lords-propose-ban-on-vpns-for-children 🇮🇳 อินเดียสั่ง VPN บล็อกเว็บไซต์ที่เปิดเผยข้อมูลประชาชน รัฐบาลอินเดีย โดยกระทรวงอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีสารสนเทศ (MeitY) ได้ออกคำสั่งให้ผู้ให้บริการ VPN ต้องบล็อกเว็บไซต์ที่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของประชาชน เช่น ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทร และอีเมล โดยอ้างว่าเป็นภัยต่อความปลอดภัยของผู้ใช้ แม้เจตนาจะเพื่อปกป้องข้อมูล แต่ก็ขัดกับหลักการของ VPN ที่ไม่เก็บบันทึกการใช้งานและเน้นความเป็นส่วนตัว หลายบริษัท VPN เคยถอนเซิร์ฟเวอร์ออกจากอินเดียมาแล้วตั้งแต่ปี 2022 เพราะไม่เห็นด้วยกับข้อกำหนดให้เก็บข้อมูลผู้ใช้ การสั่งการครั้งนี้จึงอาจทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างการคุ้มครองข้อมูลกับสิทธิความเป็นส่วนตัวอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/india-orders-vpns-to-block-access-to-websites-that-unlawfully-expose-citizens-data ⚠️ หลอกลวงงานออนไลน์ “Task Scam” ทำเหยื่อสูญเงินนับล้าน งานวิจัยใหม่เผยว่ามีการหลอกลวงรูปแบบใหม่ที่เรียกว่า “Task Scam” หรือ “Gamified Job Scam” เพิ่มขึ้นถึง 485% ในปี 2025 วิธีการคือหลอกให้ผู้หางานทำกิจกรรมง่าย ๆ เช่น กดไลก์หรือรีวิวสินค้า แล้วจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ จากนั้นจะชักชวนให้โอนเงินหรือฝากคริปโตเพื่อทำงานต่อ แต่สุดท้ายไม่สามารถถอนเงินได้ เหยื่อถูกหลอกให้ฝากเพิ่มเรื่อย ๆ จนสูญเงินรวมกว่า 6.8 ล้านดอลลาร์ในปีเดียว ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าหากงานใดขอให้คุณจ่ายเงินเพื่อเข้าถึงรายได้ นั่นคือสัญญาณอันตรายที่ควรหยุดทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/task-scams-are-tricking-thousands-costing-jobseekers-millions 🛡️ Pentagon เปิดตัวแพลตฟอร์ม AI ใหม่ สหรัฐฯ กำลังนำเทคโนโลยี AI ขั้นสูงเข้ามาใช้ในกองทัพ โดยเปิดตัวแพลตฟอร์มชื่อ GenAI.mil ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่กว่า 3 ล้านคนทั้งทหารและพลเรือนสามารถเข้าถึงโมเดล Gemini ที่ถูกออกแบบมาเฉพาะสำหรับรัฐบาลได้ จุดประสงค์คือเพื่อให้ทุกคนมีเครื่องมือ AI ที่ทรงพลังไว้ใช้งาน แต่ก็มีเสียงกังวลจากผู้เชี่ยวชาญว่าระบบอาจเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้วยเทคนิค prompt injection ซึ่งอาจนำไปสู่การจารกรรมข้อมูล ขณะเดียวกันพนักงาน Google ก็ยังคงเงียบ แม้ในอดีตเคยออกมาประท้วงการใช้เทคโนโลยีของบริษัทในงานด้านการทหารมาแล้วหลายครั้ง เรื่องนี้จึงเป็นทั้งความก้าวหน้าและความท้าทายที่ต้องจับตา 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/pentagon-launches-new-gemini-based-ai-platform 💻 กลุ่มแฮ็กเกอร์รัสเซีย CyberVolk กลับมาอีกครั้ง กลุ่ม CyberVolk ที่เคยหายไปจากวงการไซเบอร์ช่วงหนึ่ง ได้กลับมาเปิดบริการ ransomware-as-a-service ให้กับผู้สนใจผ่าน Telegram แต่การกลับมาครั้งนี้กลับไม่สมบูรณ์นัก เพราะเครื่องมือเข้ารหัสที่ใช้มีช่องโหว่ใหญ่ คือคีย์เข้ารหัสถูกฝังไว้ตายตัว ทำให้เหยื่อสามารถถอดรหัสไฟล์ได้ฟรีโดยไม่ต้องจ่ายค่าไถ่ นักวิจัยเชื่อว่านี่อาจเป็นความผิดพลาดของผู้พัฒนาเอง จึงทำให้การกลับมาครั้งนี้ดูไม่ค่อยน่ากลัวเท่าไร แม้กลุ่มยังคงพยายามผสมผสานการโจมตีแบบ hacktivism กับการหาเงินจาก ransomware ก็ตาม 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/notorious-russian-cybercriminals-return-with-new-ransomware 💾 วิกฤต Flash Memory ที่ยืดเยื้อ ตลาดแฟลชเมมโมรีกำลังเผชิญวิกฤตครั้งใหญ่ ราคาพุ่งสูงและขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง ต่างจากฮาร์ดดิสก์ที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตได้ง่ายกว่า เพราะแฟลชต้องใช้โรงงานเซมิคอนดักเตอร์ที่ลงทุนสูงและใช้เวลาสร้างหลายปี ทำให้ไม่สามารถปรับตัวได้เร็ว แม้ดอกเบี้ยต่ำจะช่วยเรื่องเงินลงทุน แต่ก็ไม่สามารถแก้ปัญหาในระยะสั้นได้ นักวิเคราะห์มองว่านี่ไม่ใช่แค่รอบขึ้นลงตามปกติ แต่เป็นปัญหาเชิงโครงสร้างที่อาจทำให้ราคาสูงต่อเนื่องไปอีกหลายปี 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-the-flash-crisis-will-last-much-longer-this-time 🌐 รัสเซียขู่บล็อกบริการ Google ทั้งหมด รัฐบาลรัสเซียกำลังพิจารณาบล็อกบริการของ Google แบบเต็มรูปแบบ โดยให้เหตุผลว่าการเก็บข้อมูลผู้ใช้ไว้นอกประเทศเป็นภัยต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ การเคลื่อนไหวนี้เป็นส่วนหนึ่งของการ “บีบอ่อน” เพื่อผลักเทคโนโลยีสหรัฐออกจากรัสเซีย ก่อนหน้านี้ก็มีการบล็อกแพลตฟอร์มตะวันตกหลายแห่ง เช่น Roblox, FaceTime และ Snapchat รวมถึงการกดดันให้ใช้ VPN ยากขึ้นด้วย แนวทางนี้กำลังสร้างสิ่งที่หลายคนเรียกว่า “ม่านเหล็กดิจิทัล” ที่แยกรัสเซียออกจากโลกออนไลน์เสรี 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russia-threatens-to-block-all-google-services-in-a-soft-squeeze-of-us-tech 🎨 Microsoft แจกธีมฟรีสำหรับ Windows 11 ใครที่เบื่อหน้าจอ Windows 11 ตอนนี้ Microsoft ได้เปิดโซนใหม่ใน Microsoft Store ที่รวมธีมกว่า 400 แบบมาให้เลือก ทั้งธีมเกมดัง ธรรมชาติ ไปจนถึงงานศิลป์ โดยมีธีมใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 35 แบบ จุดประสงค์คือทำให้ผู้ใช้ปรับแต่งเครื่องได้ง่ายและสนุกขึ้น เพียงคลิกเดียวก็เปลี่ยนบรรยากาศหน้าจอได้ทันที ถือเป็นการจัดระเบียบครั้งใหญ่ เพราะก่อนหน้านี้การหาธีมใน Store ค่อนข้างยุ่งยาก การอัปเดตนี้จึงช่วยให้การปรับแต่งเครื่องเป็นเรื่องง่ายและน่าสนใจมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/bored-with-your-windows-11-desktop-microsoft-is-offering-a-free-upgrade-of-handpicked-themes-from-its-store 📰 Intel, AMD และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่า “เมินเฉยโดยเจตนา” ปล่อยชิปไปถึงรัสเซีย เรื่องนี้เริ่มจากกลุ่มพลเรือนชาวยูเครนที่ยื่นฟ้องบริษัทเทคโนโลยีสหรัฐฯ อย่าง Intel, AMD และ Texas Instruments โดยกล่าวหาว่าชิปที่บริษัทเหล่านี้ผลิตถูกนำไปใช้ในอาวุธของรัสเซียผ่านตัวแทนจำหน่ายรายอื่น ซึ่งนำไปสู่การโจมตีที่คร่าชีวิตพลเรือนหลายสิบคน ฝ่ายโจทก์มองว่าบริษัทเหล่านี้เลือกที่จะ “หลับตา” ไม่สนใจเส้นทางการขายต่อ ขณะที่บริษัททั้งหมดออกมาปฏิเสธ โดยยืนยันว่าหยุดการขายให้รัสเซียตั้งแต่สงครามเริ่ม และปฏิบัติตามกฎหมายการส่งออกอย่างเคร่งครัด เรื่องนี้จึงกลายเป็นคดีใหญ่ที่ต้องพิสูจน์กันในศาลว่าใครควรรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/intel-amd-accused-of-willful-ignorance-in-allowing-chips-to-get-to-russia 🤖 Workbooks เพิ่ม AI ในระบบ CRM เพื่อเสริมพลังทีมขาย แพลตฟอร์ม CRM ชื่อ Workbooks ได้ประกาศเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้าไปในระบบ โดยมีทั้งเครื่องมือถอดเสียงการประชุมอัตโนมัติ (Scribe), ระบบโค้ชการขาย (Sales Coach), ระบบทำความสะอาดข้อมูล (Sales Hygiene) และตัวช่วยวิจัยลูกค้า (Research Agent) จุดประสงค์คือช่วยลดงานซ้ำซาก เพิ่มความแม่นยำของข้อมูล และทำให้ทีมขายมีเวลาสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้ามากขึ้น แม้ปัจจุบันมีเพียง 16% ของบริษัทในสหราชอาณาจักรที่ใช้ AI ใน CRM แต่คาดว่าปี 2026 จะมีการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมาก ซึ่งใครที่เริ่มก่อนก็จะได้เปรียบในการแข่งขันทันที 🔗 https://www.techradar.com/pro/software-services/workbooks-integrates-ai-promises-empowered-sales-teams ⚖️ EU ถูกวิจารณ์ว่ามองข้ามความเสี่ยงในการอนุมัติ Broadcom ซื้อ VMware สมาคมผู้ให้บริการคลาวด์ CISPE ได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมาธิการยุโรป หลังจากที่ EU อนุมัติการเข้าซื้อกิจการ VMware โดย Broadcom พวกเขามองว่าการตัดสินใจครั้งนี้ละเลยสัญญาณเตือนที่ชัดเจน เช่น การขึ้นราคาที่รุนแรง การบังคับซื้อแบบแพ็กเกจ และการผูกขาดลูกค้า ซึ่งตอนนี้ผลกระทบก็เริ่มปรากฏแล้ว ทั้งราคาที่สูงขึ้นและสัญญาระยะยาวที่บังคับใช้กับหลายองค์กรในยุโรป หากศาลตัดสินให้เพิกถอนการอนุมัติ EU จะต้องกลับมาทบทวนดีลนี้ใหม่ภายใต้สภาพตลาดปัจจุบัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/eu-accused-of-ignoring-warning-signs-in-broadcoms-vmware-acquisition 💵 Salesforce ชี้โมเดลคิดค่าบริการ AI แบบ “ต่อผู้ใช้” จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce อธิบายว่าบริษัทกำลังกลับไปใช้การคิดค่าบริการแบบ “ต่อที่นั่ง” สำหรับ AI หลังจากเคยทดลองโมเดลคิดตามการใช้งานหรือจำนวนบทสนทนา เหตุผลคือ ลูกค้าต้องการความแน่นอนและความยืดหยุ่นในการคำนวณค่าใช้จ่าย Salesforce เชื่อว่าบริการ AI สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้มากถึง 3–10 เท่า จึงสามารถปรับราคาสูงขึ้นได้โดยยังสมเหตุสมผล แม้บางบริษัทจะใช้ AI เพื่อเสริมกำลังคนแทนที่จะลดจำนวนพนักงาน ทำให้การคิดค่าบริการต่อผู้ใช้ยังคงเป็นแนวทางที่เหมาะสมในสายตาของ Salesforce 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-says-per-user-pricing-will-be-new-ai-norm 🛡️ พบมัลแวร์ใหม่บน MacOS ใช้ AI และเครื่องมือค้นหาเป็นช่องทางแพร่กระจาย นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Huntress เปิดเผยว่าแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังมัลแวร์ AMOS ใช้เทคนิคใหม่ โดยสร้างบทสนทนาใน ChatGPT และ Grok ที่แฝงคำสั่งปลอมเกี่ยวกับการเคลียร์พื้นที่ดิสก์บน MacOS จากนั้นซื้อโฆษณาบน Google เพื่อดันบทสนทนาเหล่านี้ขึ้นมาเป็นผลการค้นหา เมื่อผู้ใช้ทำตามคำแนะนำก็จะติดตั้งมัลแวร์โดยไม่รู้ตัว AMOS สามารถขโมยข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านและกระเป๋าเงินคริปโต ทำให้การโจมตีครั้งนี้อันตรายยิ่งขึ้นเพราะอาศัยความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้ไว้วางใจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/new-macos-malware-exploits-trusted-ai-and-search-tools 📱 iOS 26.2 อัปเดตใหม่กับ 7 ฟีเจอร์สำคัญ Apple ปล่อย iOS 26.2 ให้ผู้ใช้ iPhone ได้อัปเดตกันแล้ว รอบนี้แม้จะเป็นการปรับปรุงเล็ก ๆ แต่หลายอย่างช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น เช่น การตั้ง Reminder ที่มาพร้อมเสียงปลุกกันลืม, AirDrop ที่แชร์กับคนไม่อยู่ในรายชื่อได้สะดวกขึ้นผ่านโค้ด, ปรับแต่ง Liquid Glass ให้หน้าจอดูโปร่งใสตามใจ, Podcasts ที่สร้าง chapter ให้อัตโนมัติ, Sleep Score ที่ปรับเกณฑ์ใหม่ให้ตรงกับความรู้สึกจริง ๆ, Freeform ที่เพิ่มการทำตาราง และ Apple News ที่มี shortcut เข้าส่วนต่าง ๆ ได้เร็วขึ้น ทั้งหมดนี้ยังมาพร้อมการแก้บั๊กและปรับปรุงความปลอดภัยด้วย 🔗 https://www.techradar.com/phones/ios/ios-26-2-has-landed-here-are-the-7-biggest-new-features-for-your-iphone 🤖 AI Regulation: บทเรียนจากยุคอินเทอร์เน็ต บทความนี้เล่าย้อนกลับไปถึงยุคแรกของอินเทอร์เน็ตที่แทบไม่มีการควบคุม จนกฎหมาย Telecom Act ปี 1996 เข้ามาจัดระเบียบ แต่ก็ยังไม่แตะเนื้อหาบนเว็บจริง ๆ ปัจจุบัน AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และสหรัฐฯ กำลังถกเถียงกันว่าจะควบคุมอย่างไร ระหว่างรัฐบาลกลางที่อยากให้เบา ๆ เพื่อแข่งขันกับจีน กับรัฐต่าง ๆ ที่อยากปกป้องประชาชนจากอคติและข้อมูลผิด ๆ บทความชี้ว่าหากไม่หาทางออกที่สมดุล อนาคต AI อาจอันตรายไม่ต่างจากพลังงานนิวเคลียร์ที่ไร้การควบคุม 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/everyone-is-wrong-about-ai-regulation-and-the-history-of-the-internet-proves-it 📺 YouTube TV ได้อัปเดตใหม่กับ 5 ฟีเจอร์ที่รอคอย Google ปรับปรุงหน้าจอการดูวิดีโอบน YouTube สำหรับทีวีให้ใช้งานง่ายขึ้น ควบคุมต่าง ๆ ถูกจัดใหม่เป็นสามส่วนชัดเจน มีปุ่ม Description ให้ดูข้อมูลวิดีโอแทนการกดชื่อเรื่อง, ปุ่ม Subscribe ที่เห็นชัดตลอดเวลา, การย้ายตำแหน่งชื่อวิดีโอไปด้านบนซ้าย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่สำหรับการดู Live Sports อย่าง Multiview รวมถึง Display Mode สำหรับผู้ใช้ Music และ Premium ทั้งหมดนี้ทำให้ประสบการณ์ดู YouTube บนทีวีใกล้เคียงกับมือถือมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/televisions/youtube-finally-gets-the-tv-update-weve-been-waiting-for-and-there-are-5-handy-upgrades 💻 Intel เร่งซื้อ SambaNova สู้ศึกชิป AI ในโลกชิป AI ที่ AMD และ Nvidia ครองตลาด Intel กำลังพิจารณาซื้อ SambaNova Systems เพื่อเร่งตามให้ทัน โดย SambaNova เพิ่งโชว์ศักยภาพด้วยการรันโมเดล DeepSeek-R1 ได้เร็วและใช้ทรัพยากรน้อยกว่าปกติ การเข้าซื้อครั้งนี้อาจช่วยให้ Intel มีทางเลือกใหม่ในการแข่งขัน แต่ดีลยังอยู่ในขั้นต้นและไม่ผูกมัด ขณะเดียวกันก็มีข่าวว่าผู้เล่นรายอื่นสนใจเช่นกัน ทำให้การแย่งชิงครั้งนี้น่าจับตามอง 🔗 https://www.techradar.com/pro/intel-set-to-buy-ai-chip-specialist-as-it-scrambles-to-catch-up-with-amd-nvidia 🛡️ แฮกเกอร์ปลอมเป็นตำรวจ หลอก Big Tech ขอข้อมูลผู้ใช้ มีรายงานว่าอาชญากรไซเบอร์ใช้วิธีปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่งคำขอข้อมูลไปยังบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ ๆ อย่าง Apple หรือ Google โดยใช้เทคนิค typosquatting สร้างอีเมลที่คล้ายของจริง หรือเจาะเข้าบัญชีอีเมลของเจ้าหน้าที่จริงเพื่อส่งคำขอ ทำให้บริษัทบางแห่งหลงเชื่อและส่งข้อมูลผู้ใช้ไปโดยไม่รู้ตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันบริษัทใหญ่เริ่มใช้ระบบตรวจสอบคำขอเข้มงวดขึ้นเพื่อลดความเสี่ยง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/hackers-posing-as-law-enforcement-are-tricking-big-tech-to-get-access-to-private-data 🖥️ AMD เปิดตัว Radeon AI PRO R9700S การ์ดจอเงียบทรงพลังสำหรับงาน AI หนัก AMD กำลังสร้างความฮือฮาในวงการด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ Radeon AI PRO R9700S ที่มาพร้อมหน่วยความจำ 32GB GDDR6 และระบบระบายความร้อนแบบ passive cooling ทำให้สามารถทำงานได้อย่างเงียบในสภาพแวดล้อมที่มีการ์ดหลายตัวติดตั้งอยู่ใน rack แน่น ๆ จุดเด่นคือพลังการประมวลผลสูงถึง 47.8 TFLOPS และรองรับ PCIe 5.0 x16 เพื่อการสื่อสารข้อมูลที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงาน AI ขนาดใหญ่ เช่นการฝึกโมเดลภาษาหรือการประมวลผลเชิงสร้างสรรค์ จุดที่น่าสนใจคือแม้จะไม่มีพัดลม แต่ยังคงใช้พลังงานสูงถึง 300W ซึ่งองค์กรที่นำไปใช้ต้องวางแผนการจัดการความร้อนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/did-amd-just-launch-the-fastest-silent-video-cards-ever-passively-cooled-32gb-ddr6-radeon-ai-pro-r9700s-debuts-with-ginormous-300w-tdp 💻 Zotac เปิดตัว Mini PC เล็กแต่แรง บรรจุ RTX 5060 Ti เต็มตัว Zotac สร้างความประหลาดใจด้วยการเปิดตัว ZBOX MAGNUS EN275060TC ที่สามารถบรรจุการ์ดจอระดับ desktop อย่าง RTX 5060 Ti ขนาด 16GB ลงไปในเครื่องเล็กเพียง 2.65 ลิตรได้สำเร็จ โดยใช้เทคนิคการส่งพลังงานผ่าน PCIe แบบ hybrid ทำให้ไม่ต้องใช้สายต่อพลังงานภายนอก ผลการทดสอบชี้ว่าประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ RTX 5070 Ti รุ่น laptop และยังคุ้มค่าด้านราคาเมื่อเทียบกับพลังที่ได้ แม้จะมีข้อกังวลเรื่องความร้อน แต่ถือเป็นการยกระดับ mini PC ให้สามารถแข่งขันกับเครื่องใหญ่ได้อย่างน่าทึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-zotac-mini-pc-has-the-most-powerful-gpu-ever-bundled-in-a-pc-of-this-size-16gb-geforce-rtx-5060-ti-is-competitive-with-5070-ti-laptop-edition ⚖️ อดีตพนักงาน Accenture ถูก DoJ ตั้งข้อหาฉ้อโกงด้านความปลอดภัยระบบคลาวด์ ข่าวใหญ่ในสายความปลอดภัยไซเบอร์ เมื่อกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ตั้งข้อหาอดีตผู้จัดการผลิตภัณฑ์ของ Accenture ที่ถูกกล่าวหาว่าให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับมาตรการความปลอดภัยของระบบคลาวด์เพื่อให้ได้สัญญากับรัฐบาล ทั้งที่จริงแล้วแพลตฟอร์มไม่ได้ผ่านมาตรฐาน FedRAMP ตามที่กำหนด การกระทำนี้ถูกตีความว่าเป็นการหลอกลวงและมีการส่งเอกสารปลอมเพื่อรักษาสัญญา หากถูกตัดสินว่ามีความผิด เขาอาจต้องโทษจำคุกสูงสุดถึง 20 ปีในข้อหาฉ้อโกงและการขัดขวางการตรวจสอบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/former-accenture-employee-charged-by-doj-for-cloud-security-fraud 🌐 สหรัฐฯ ยกเลิกการแบน Nvidia H200 หลัง Huawei Ascend 910C แรงจนท้าทายอำนาจโลก AI รัฐบาลสหรัฐฯ ตัดสินใจอนุญาตให้ส่งออกชิป Nvidia H200 ไปยังจีน โดยมีการเก็บค่าธรรมเนียม 25% ต่อการส่งออก หลังจากพบว่า Huawei กำลังพัฒนา Ascend 910C ที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยระบบ CloudMatrix 384 ของ Huawei สามารถทำงานได้ถึง 300 petaflops และมีหน่วยความจำรวมมากกว่า Nvidia GB200 NVL72 แม้จะใช้พลังงานมากกว่า แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่อาจท้าทายความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ การตัดสินใจครั้งนี้จึงถูกมองว่าเป็นการรักษาสมดุลระหว่างความมั่นคงและเศรษฐกิจ 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-the-us-afraid-of-huawei-reports-hint-at-the-ascend-910c-accelerator-performance-to-justify-the-surprising-reversal-of-nvidias-h200-ai-gpu-ban-on-china 🤖 ChatGPT เตรียมเปิดโหมดผู้ใหญ่ แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด OpenAI ประกาศว่าจะเปิดตัว “adult mode” สำหรับ ChatGPT ในปี 2026 โดยจะใช้ AI ตรวจจับอายุผู้ใช้จากพฤติกรรมการสนทนาเพื่อให้เข้าถึงเนื้อหาที่เป็นผู้ใหญ่ได้ จุดสำคัญคือไม่ได้หมายถึงการเปิดให้เข้าถึงเนื้อหาโจ่งแจ้งเพียงอย่างเดียว แต่ยังรวมถึงการพูดคุยในหัวข้อที่ปัจจุบันถูกจำกัด เช่นเรื่องความสัมพันธ์ สุขภาพจิต หรือประเด็นที่ไม่เหมาะสำหรับเด็ก การพัฒนานี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างความยืดหยุ่นและตอบสนองผู้ใช้ที่ต้องการประสบการณ์ AI ที่สมจริงและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่ก็ยังต้องรอการทดสอบระบบทำนายอายุให้แม่นยำก่อน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/chatgpts-adult-mode-is-coming-and-it-might-not-be-what-you-think-it-is 🧑‍💻 AI Chatbots ก้าวสู่ชีวิตประจำวัน รายงานล่าสุดจาก Microsoft เผยให้เห็นว่า Copilot และ AI chatbot ไม่ได้ถูกใช้แค่ในงานเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของผู้คนแล้ว พวกเขาวิเคราะห์จากการสนทนากว่า 37.5 ล้านครั้ง พบว่าการใช้งานบนเดสก์ท็อปมักจะเกี่ยวข้องกับงานระหว่าง 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ส่วนการใช้งานบนมือถือกลับเน้นเรื่องส่วนตัว เช่น สุขภาพและการใช้ชีวิต และเกิดขึ้นตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานที่น่าสนใจ เช่น การเขียนโปรแกรมที่พุ่งสูงในวันทำงาน การเล่นเกมที่มากขึ้นในวันหยุด และคำถามเชิงปรัชญาที่มักจะเกิดขึ้นในช่วงกลางคืน สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า AI ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือทำงาน แต่ยังถูกใช้เพื่อช่วยให้ผู้คนเข้าใจและจัดการกับชีวิตประจำวันของตนเองด้วย 🔗 https://www.techradar.com/pro/ai-chatbots-are-now-integrated-into-the-full-texture-of-human-life-microsoft-study-claims 🤖 ChatGPT 5.2 ถูกวิจารณ์ว่า “ถอยหลัง” OpenAI เปิดตัว ChatGPT 5.2 โดยประกาศว่าเป็นโมเดลที่ฉลาดที่สุดที่เปิดให้ใช้งานทั่วไป แต่เสียงตอบรับจากผู้ใช้กลับไม่ค่อยดีนัก หลายคนใน Reddit บอกว่ามัน “น่าเบื่อ” และ “เป็นทางการเกินไป” จนรู้สึกเหมือนหุ่นยนต์ที่ไม่มีชีวิตชีวา บางคนถึงกับบอกว่ามันแย่กว่าเวอร์ชัน 5.1 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสิน เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ลองใช้งานอย่างจริงจัง และอาจเป็นเพียงเสียงจากกลุ่มเล็กที่ไม่พอใจ การเปิดตัวครั้งนี้ยังสะท้อนการแข่งขันที่ดุเดือดระหว่าง OpenAI และ Google Gemini ซึ่งทำให้หลายคนสงสัยว่า OpenAI รีบปล่อยเวอร์ชันใหม่ออกมาเร็วเกินไปหรือไม่ 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/openai/chatgpt-5-2-branded-a-step-backwards-by-disappointed-early-users-heres-why
    0 Comments 0 Shares 813 Views 0 Reviews
  • Intel ทดสอบเครื่องมือจาก ACM Research

    Intel กำลังประเมินเครื่องมือ wet etch จาก ACM Research สำหรับใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2027 เครื่องมือประเภทนี้ใช้สารเคมีในการกัดกร่อนวัสดุเพื่อสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตชิป แม้การทดสอบเครื่องมือจากหลายบริษัทเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีนี้ถูกจับตามากเพราะ ACM มีฐานการดำเนินงานใหญ่ในจีน

    ความกังวลด้านความมั่นคง
    ACM Research มีบางหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC, CXMT และ YMTC การที่ Intel ทดสอบเครื่องมือจากบริษัทที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ จึงถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้มงวดต่อการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน

    ความเชื่อมโยงกับ Lip-Bu Tan
    Lip-Bu Tan ซึ่งเพิ่งขึ้นเป็น CEO ของ Intel เคยลงทุนใน ACM Research ผ่านกองทุน Walden International และ Walden CEL Global Fund I แม้จะเป็นการลงทุนทางอ้อมและไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก ACM

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    การทดสอบนี้สะท้อนถึงความท้าทายของ Intel ในการหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งการผลิตชิปขั้นสูง หาก Intel เลือกใช้เครื่องมือจาก ACM จริง อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Intel ทดสอบเครื่องมือใหม่
    เครื่องมือ wet etch จาก ACM Research
    ใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ปี 2027

    ความเชื่อมโยงกับผู้บริหาร
    Lip-Bu Tan เคยลงทุนใน ACM ผ่าน Walden International
    แม้ไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่สร้างข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์

    ความเสี่ยงด้านความมั่นคง
    ACM มีหน่วยงานถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ
    ความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC และ YMTC

    ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม
    Intel ต้องหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งผลิตชิปขั้นสูง
    จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก

    คำเตือนและข้อจำกัด
    การใช้เครื่องมือจาก ACM อาจสร้างแรงกดดันทางการเมือง
    ความเสี่ยงต่อความมั่นคงหากมีการพึ่งพาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-tests-chipmaking-tools-from-sanctioned-china-focused-tool-maker-report-claims-move-could-raise-political-and-national-security-concerns-firm-was-backed-by-ceo-lip-bu-tans-investment-firm
    🏭 Intel ทดสอบเครื่องมือจาก ACM Research Intel กำลังประเมินเครื่องมือ wet etch จาก ACM Research สำหรับใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ที่มีแผนเปิดตัวในปี 2027 เครื่องมือประเภทนี้ใช้สารเคมีในการกัดกร่อนวัสดุเพื่อสร้างลวดลายบนเวเฟอร์ ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญในกระบวนการผลิตชิป แม้การทดสอบเครื่องมือจากหลายบริษัทเป็นเรื่องปกติ แต่กรณีนี้ถูกจับตามากเพราะ ACM มีฐานการดำเนินงานใหญ่ในจีน ⚠️ ความกังวลด้านความมั่นคง ACM Research มีบางหน่วยงานที่ถูกสหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำเนื่องจากความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC, CXMT และ YMTC การที่ Intel ทดสอบเครื่องมือจากบริษัทที่มีความเสี่ยงเช่นนี้ จึงถูกมองว่าอาจสร้างปัญหาด้านความมั่นคงและการเมือง โดยเฉพาะเมื่อสหรัฐฯ กำลังเข้มงวดต่อการส่งออกเทคโนโลยีไปยังจีน 👔 ความเชื่อมโยงกับ Lip-Bu Tan Lip-Bu Tan ซึ่งเพิ่งขึ้นเป็น CEO ของ Intel เคยลงทุนใน ACM Research ผ่านกองทุน Walden International และ Walden CEL Global Fund I แม้จะเป็นการลงทุนทางอ้อมและไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่ก็ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า Intel อาจมีผลประโยชน์ทับซ้อนหากตัดสินใจใช้เครื่องมือจาก ACM 🌐 ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม การทดสอบนี้สะท้อนถึงความท้าทายของ Intel ในการหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งการผลิตชิปขั้นสูง หาก Intel เลือกใช้เครื่องมือจาก ACM จริง อาจทำให้เกิดแรงกดดันจากรัฐบาลสหรัฐฯ และพันธมิตร แต่ในอีกด้านหนึ่งก็แสดงให้เห็นว่า จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Intel ทดสอบเครื่องมือใหม่ ➡️ เครื่องมือ wet etch จาก ACM Research ➡️ ใช้ในกระบวนการผลิต 14A node ปี 2027 ✅ ความเชื่อมโยงกับผู้บริหาร ➡️ Lip-Bu Tan เคยลงทุนใน ACM ผ่าน Walden International ➡️ แม้ไม่ใช่การถือหุ้นใหญ่ แต่สร้างข้อสงสัยเรื่องผลประโยชน์ ✅ ความเสี่ยงด้านความมั่นคง ➡️ ACM มีหน่วยงานถูกคว่ำบาตรจากสหรัฐฯ ➡️ ความสัมพันธ์กับบริษัทจีน เช่น SMIC และ YMTC ✅ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม ➡️ Intel ต้องหาซัพพลายเออร์ที่เหมาะสมเพื่อเร่งผลิตชิปขั้นสูง ➡️ จีนยังคงมีบทบาทสำคัญในห่วงโซ่อุปทานโลก ‼️ คำเตือนและข้อจำกัด ⛔ การใช้เครื่องมือจาก ACM อาจสร้างแรงกดดันทางการเมือง ⛔ ความเสี่ยงต่อความมั่นคงหากมีการพึ่งพาบริษัทที่ถูกคว่ำบาตร https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-tests-chipmaking-tools-from-sanctioned-china-focused-tool-maker-report-claims-move-could-raise-political-and-national-security-concerns-firm-was-backed-by-ceo-lip-bu-tans-investment-firm
    0 Comments 0 Shares 250 Views 0 Reviews
  • ด้านมืดของ Nintendo

    บทความจาก SlashGear เปิดเผยด้านมืดของ Nintendo ที่มักถูกมองว่าเป็นบริษัทเกมครอบครัว แต่เบื้องหลังมีหลายกรณีที่เป็นข้อถกเถียง เช่น การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s, การฟ้องร้องคู่แข่ง, การโฆษณาที่แปลกและก้าวร้าวในยุค 90s, ปัญหา Joy-Con Drift ของ Switch, ไปจนถึงการจัดการที่เข้มงวดกับแฟน ๆ และนักพัฒนา.

    Nintendo: เบื้องหลังภาพลักษณ์ครอบครัว
    แม้ Nintendo จะสร้างชื่อเสียงจากเกมอมตะอย่าง Mario และ Zelda และรักษาภาพลักษณ์ครอบครัวมาตลอด แต่ในความเป็นจริงบริษัทก็มีพฤติกรรมเชิงธุรกิจที่เข้มงวดและบางครั้งก่อให้เกิดข้อถกเถียงรุนแรงในวงการเกม.

    การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s
    หลังจากวิกฤตเกมปี 1983 Nintendo ใช้ระบบ 10NES lockout chip บังคับให้ผู้พัฒนาต้องผ่านการอนุญาตและจ่ายค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการออกเกมเพียง 5 เกมต่อปี ส่งผลให้บริษัทครองตลาดกว่า 65% ในปี 1987 และทำให้คู่แข่งอย่าง Atari และ Sega ตกต่ำลง.

    กรณี Donkey Kong และการฟ้องร้อง
    เกม Donkey Kong ถูกพัฒนาโดยบริษัท Ikegami Tsushinki แต่ Nintendo สร้าง PCB เพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาใช้โค้ดที่ reverse-engineer ใน Donkey Kong Jr. จนถูกฟ้องร้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 1983.

    โฆษณาและกลยุทธ์ก้าวร้าว
    ยุค 90s Nintendo ใช้โฆษณาแนว gross-out เช่น Super Mario World 2 ที่มีภาพผู้ชายกินจนท้องแตก รวมถึงการใช้ข้อความอ้างถึงพระเจ้าในโฆษณา N64 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม.

    ปัญหา Joy-Con Drift และการฟ้องร้อง
    Nintendo Switch แม้จะขายได้กว่า 140 ล้านเครื่อง แต่ก็มีปัญหา Joy-Con Drift ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวผิดพลาด จนบริษัทต้องออกมาขอโทษและเผชิญคดีฟ้องร้องแบบ class action.

    ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา
    Nintendo มีชื่อเสียงด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด เช่น การฟ้อง PocketPair เรื่อง Palworld ที่คล้าย Pokémon, การปิด emulator Yuzu และ Ryujinx, รวมถึงการลบวิดีโอ YouTube ของแฟน ๆ ที่ใช้เนื้อหาเกมของบริษัท.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s
    ใช้ 10NES lockout chip และจำกัดการออกเกม

    กรณีละเมิดลิขสิทธิ์ Donkey Kong
    ฟ้องร้องกับ Ikegami Tsushinki

    กลยุทธ์โฆษณาและการตลาด
    โฆษณา gross-out และข้อความก้าวร้าว

    ปัญหาฮาร์ดแวร์และการฟ้องร้อง
    Joy-Con Drift และ class action lawsuits

    ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา
    ฟ้อง PocketPair, ปิด emulator, ลบคอนเทนต์แฟน ๆ

    คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักพัฒนา
    Nintendo ปกป้อง IP อย่างเข้มงวด อาจกระทบต่อแฟน ๆ และคอมมูนิตี้
    ปัญหาฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจสร้างความไม่พอใจต่อผู้ใช้

    https://www.slashgear.com/1725390/nintendo-shady-side-hidden-controversy-incidents-business-practice-explained/
    🎮 ด้านมืดของ Nintendo บทความจาก SlashGear เปิดเผยด้านมืดของ Nintendo ที่มักถูกมองว่าเป็นบริษัทเกมครอบครัว แต่เบื้องหลังมีหลายกรณีที่เป็นข้อถกเถียง เช่น การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s, การฟ้องร้องคู่แข่ง, การโฆษณาที่แปลกและก้าวร้าวในยุค 90s, ปัญหา Joy-Con Drift ของ Switch, ไปจนถึงการจัดการที่เข้มงวดกับแฟน ๆ และนักพัฒนา. 🎮 Nintendo: เบื้องหลังภาพลักษณ์ครอบครัว แม้ Nintendo จะสร้างชื่อเสียงจากเกมอมตะอย่าง Mario และ Zelda และรักษาภาพลักษณ์ครอบครัวมาตลอด แต่ในความเป็นจริงบริษัทก็มีพฤติกรรมเชิงธุรกิจที่เข้มงวดและบางครั้งก่อให้เกิดข้อถกเถียงรุนแรงในวงการเกม. 🏆 การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s หลังจากวิกฤตเกมปี 1983 Nintendo ใช้ระบบ 10NES lockout chip บังคับให้ผู้พัฒนาต้องผ่านการอนุญาตและจ่ายค่าลิขสิทธิ์ จำกัดการออกเกมเพียง 5 เกมต่อปี ส่งผลให้บริษัทครองตลาดกว่า 65% ในปี 1987 และทำให้คู่แข่งอย่าง Atari และ Sega ตกต่ำลง. 🧩 กรณี Donkey Kong และการฟ้องร้อง เกม Donkey Kong ถูกพัฒนาโดยบริษัท Ikegami Tsushinki แต่ Nintendo สร้าง PCB เพิ่มโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาใช้โค้ดที่ reverse-engineer ใน Donkey Kong Jr. จนถูกฟ้องร้องเรื่องละเมิดลิขสิทธิ์ในปี 1983. 📺 โฆษณาและกลยุทธ์ก้าวร้าว ยุค 90s Nintendo ใช้โฆษณาแนว gross-out เช่น Super Mario World 2 ที่มีภาพผู้ชายกินจนท้องแตก รวมถึงการใช้ข้อความอ้างถึงพระเจ้าในโฆษณา N64 ซึ่งถูกวิจารณ์ว่าไม่เหมาะสม. 🎮 ปัญหา Joy-Con Drift และการฟ้องร้อง Nintendo Switch แม้จะขายได้กว่า 140 ล้านเครื่อง แต่ก็มีปัญหา Joy-Con Drift ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหวผิดพลาด จนบริษัทต้องออกมาขอโทษและเผชิญคดีฟ้องร้องแบบ class action. 👥 ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา Nintendo มีชื่อเสียงด้านการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาอย่างเข้มงวด เช่น การฟ้อง PocketPair เรื่อง Palworld ที่คล้าย Pokémon, การปิด emulator Yuzu และ Ryujinx, รวมถึงการลบวิดีโอ YouTube ของแฟน ๆ ที่ใช้เนื้อหาเกมของบริษัท. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การผูกขาดตลาดเกมยุค 80s ➡️ ใช้ 10NES lockout chip และจำกัดการออกเกม ✅ กรณีละเมิดลิขสิทธิ์ Donkey Kong ➡️ ฟ้องร้องกับ Ikegami Tsushinki ✅ กลยุทธ์โฆษณาและการตลาด ➡️ โฆษณา gross-out และข้อความก้าวร้าว ✅ ปัญหาฮาร์ดแวร์และการฟ้องร้อง ➡️ Joy-Con Drift และ class action lawsuits ✅ ความสัมพันธ์กับแฟน ๆ และนักพัฒนา ➡️ ฟ้อง PocketPair, ปิด emulator, ลบคอนเทนต์แฟน ๆ ‼️ คำเตือนสำหรับผู้ใช้งานและนักพัฒนา ⛔ Nintendo ปกป้อง IP อย่างเข้มงวด อาจกระทบต่อแฟน ๆ และคอมมูนิตี้ ⛔ ปัญหาฮาร์ดแวร์ที่ไม่ได้รับการแก้ไขอาจสร้างความไม่พอใจต่อผู้ใช้ https://www.slashgear.com/1725390/nintendo-shady-side-hidden-controversy-incidents-business-practice-explained/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    The Shady Side Of Nintendo: Hidden Controversies & Questionable Incidents - SlashGear
    With mascots like Mario and Link, Nintendo has cultivated one of the most family-friendly reputations in gaming. But the company also has a dark side too.
    0 Comments 0 Shares 199 Views 0 Reviews
  • มนุษย์โบราณกับการค้นพบการสร้างไฟ

    นักโบราณคดีจาก British Museum ได้ค้นพบหลักฐานใหม่ที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ โดยพบเศษไพไรต์ที่ถูกออกซิไดซ์และหินเหล็กไฟแตกจากความร้อนในพื้นที่ Barnham ประเทศอังกฤษ ซึ่งบ่งชี้ว่ามนุษย์โบราณมีความสามารถในการ “สร้างไฟ” ได้ตั้งแต่กว่า 400,000 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เพียง 50,000 ปีตามหลักฐานเดิม.

    การสร้างไฟไม่ใช่เพียงการให้ความอบอุ่น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้มนุษย์สามารถปรุงอาหาร ลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร ส่งผลให้สมองเติบโตและพัฒนาความคิดเชิงนามธรรมได้มากขึ้น นักวิจัยเชื่อว่าการใช้ไฟยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้นขึ้น เพราะการรวมกลุ่มรอบกองไฟเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นการสื่อสารและการร่วมมือกัน.

    นอกจากนี้ ไฟยังเปิดโอกาสให้มนุษย์โบราณพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น การสร้างกาวจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อใช้ประกอบเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น รวมถึงการขยายขอบเขตอาหารไปสู่รากไม้และเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ซึ่งช่วยลดพลังงานที่ร่างกายต้องใช้ในการย่อยอาหาร และเพิ่มโปรตีนที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมอง.

    จากการค้นพบนี้ นักวิชาการยังชี้ว่า Neanderthal ซึ่งมักถูกมองว่าล้าหลังกว่ามนุษย์สมัยใหม่ อาจมีความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและพัฒนาเทคโนโลยีได้ไม่แพ้กัน การสร้างไฟจึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือเอาตัวรอด แต่เป็น “ตัวเร่งวิวัฒนาการทางสังคมและปัญญา” ของมนุษย์โบราณ.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การค้นพบหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการสร้างไฟ
    เศษไพไรต์และหินเหล็กไฟแตกจากความร้อนใน Barnham, อังกฤษ
    ยืนยันว่ามนุษย์โบราณสามารถสร้างไฟได้กว่า 400,000 ปีที่แล้ว

    ผลกระทบต่อวิวัฒนาการมนุษย์
    ไฟช่วยให้ปรุงอาหาร ลดเชื้อโรค และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ
    ส่งผลให้สมองเติบโตและพัฒนาความคิดเชิงนามธรรม

    บทบาททางสังคมและเทคโนโลยี
    การรวมกลุ่มรอบกองไฟสร้างความสัมพันธ์และการสื่อสาร
    ไฟเปิดโอกาสให้สร้างกาวและเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น

    ความสามารถของ Neanderthal
    หลักฐานชี้ว่า Neanderthal มีความคิดเชิงนามธรรมและพัฒนาเทคโนโลยีได้

    ข้อควรระวังในการตีความข้อมูล
    หลักฐานยังคงต้องการการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความแม่นยำ
    การสรุปว่า Neanderthal มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์สมัยใหม่ยังเป็นข้อถกเถียงทางวิชาการ

    https://www.sciencealert.com/archaeologists-discover-earliest-evidence-of-humans-using-tools-to-make-fire
    🔥 มนุษย์โบราณกับการค้นพบการสร้างไฟ นักโบราณคดีจาก British Museum ได้ค้นพบหลักฐานใหม่ที่พลิกความเข้าใจเดิมเกี่ยวกับวิวัฒนาการของมนุษย์ โดยพบเศษไพไรต์ที่ถูกออกซิไดซ์และหินเหล็กไฟแตกจากความร้อนในพื้นที่ Barnham ประเทศอังกฤษ ซึ่งบ่งชี้ว่ามนุษย์โบราณมีความสามารถในการ “สร้างไฟ” ได้ตั้งแต่กว่า 400,000 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เพียง 50,000 ปีตามหลักฐานเดิม. การสร้างไฟไม่ใช่เพียงการให้ความอบอุ่น แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้มนุษย์สามารถปรุงอาหาร ลดความเสี่ยงจากเชื้อโรค และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการของอาหาร ส่งผลให้สมองเติบโตและพัฒนาความคิดเชิงนามธรรมได้มากขึ้น นักวิจัยเชื่อว่าการใช้ไฟยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ทางสังคมที่แน่นแฟ้นขึ้น เพราะการรวมกลุ่มรอบกองไฟเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นการสื่อสารและการร่วมมือกัน. นอกจากนี้ ไฟยังเปิดโอกาสให้มนุษย์โบราณพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ เช่น การสร้างกาวจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อใช้ประกอบเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น รวมถึงการขยายขอบเขตอาหารไปสู่รากไม้และเนื้อสัตว์ที่ย่อยยาก ซึ่งช่วยลดพลังงานที่ร่างกายต้องใช้ในการย่อยอาหาร และเพิ่มโปรตีนที่จำเป็นต่อการพัฒนาสมอง. จากการค้นพบนี้ นักวิชาการยังชี้ว่า Neanderthal ซึ่งมักถูกมองว่าล้าหลังกว่ามนุษย์สมัยใหม่ อาจมีความสามารถในการคิดเชิงนามธรรมและพัฒนาเทคโนโลยีได้ไม่แพ้กัน การสร้างไฟจึงไม่ใช่เพียงเครื่องมือเอาตัวรอด แต่เป็น “ตัวเร่งวิวัฒนาการทางสังคมและปัญญา” ของมนุษย์โบราณ. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การค้นพบหลักฐานใหม่เกี่ยวกับการสร้างไฟ ➡️ เศษไพไรต์และหินเหล็กไฟแตกจากความร้อนใน Barnham, อังกฤษ ➡️ ยืนยันว่ามนุษย์โบราณสามารถสร้างไฟได้กว่า 400,000 ปีที่แล้ว ✅ ผลกระทบต่อวิวัฒนาการมนุษย์ ➡️ ไฟช่วยให้ปรุงอาหาร ลดเชื้อโรค และเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ➡️ ส่งผลให้สมองเติบโตและพัฒนาความคิดเชิงนามธรรม ✅ บทบาททางสังคมและเทคโนโลยี ➡️ การรวมกลุ่มรอบกองไฟสร้างความสัมพันธ์และการสื่อสาร ➡️ ไฟเปิดโอกาสให้สร้างกาวและเครื่องมือที่ซับซ้อนขึ้น ✅ ความสามารถของ Neanderthal ➡️ หลักฐานชี้ว่า Neanderthal มีความคิดเชิงนามธรรมและพัฒนาเทคโนโลยีได้ ‼️ ข้อควรระวังในการตีความข้อมูล ⛔ หลักฐานยังคงต้องการการตรวจสอบเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความแม่นยำ ⛔ การสรุปว่า Neanderthal มีความสามารถเทียบเท่ามนุษย์สมัยใหม่ยังเป็นข้อถกเถียงทางวิชาการ https://www.sciencealert.com/archaeologists-discover-earliest-evidence-of-humans-using-tools-to-make-fire
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Archaeologists Discover Earliest Evidence of Humans Using Tools to Make Fire
    The taming of fire is credited with sparking humanity's evolutionary journey towards our modern levels of intelligence.
    0 Comments 0 Shares 149 Views 0 Reviews
  • แมวร้องมากกว่าที่คิด

    งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ

    ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน

    ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า
    นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง

    พฤติกรรมที่สังเกตได้
    นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์

    ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์
    การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง

    สรุปสาระสำคัญ
    ผลการวิจัย
    แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที
    แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง

    เหตุผลที่เป็นไปได้
    ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า
    ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น

    พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้
    การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว
    แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ

    ข้อควรระวังในการตีความ
    งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี
    ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ

    https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    🐱 แมวร้องมากกว่าที่คิด งานวิจัยใหม่พบว่าแมวจะส่งเสียงร้อง (meow, purr, chirp) ต่อผู้ชายมากกว่าผู้หญิงกว่า สองเท่า และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นเพราะผู้ชายมักตอบสนองต่อแมวน้อยกว่า ทำให้แมวต้องใช้เสียงมากขึ้นเพื่อดึงดูดความสนใจ ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยอังการา ประเทศตุรกี ได้บันทึกวิดีโอจากเจ้าของแมว 31 คน เพื่อศึกษาพฤติกรรมการทักทายเมื่อเจ้าของกลับบ้าน ผลปรากฏว่าแมวที่มีเจ้าของเป็นผู้ชายส่งเสียงร้องเฉลี่ย 4.3 ครั้งใน 100 วินาทีแรก ขณะที่แมวที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิงส่งเสียงเพียง 1.8 ครั้ง ซึ่งถือเป็นความแตกต่างที่ชัดเจน 👨‍🦰 ทำไมแมวถึงร้องใส่ผู้ชายมากกว่า นักวิจัยเสนอว่า ผู้หญิงมักจะให้ความสนใจแมวมากกว่า สามารถอ่านอารมณ์แมวได้ดีกว่า และบางครั้งยังเลียนเสียงแมวกลับไป ทำให้แมวไม่จำเป็นต้องร้องบ่อย ในทางตรงกันข้าม ผู้ชายมักจะมีท่าที “นิ่งเฉย” ต่อแมว จึงทำให้แมวต้องใช้เสียงร้องมากขึ้นเพื่อให้ได้รับการตอบสนอง 🧪 พฤติกรรมที่สังเกตได้ นอกจากเสียงร้องแล้ว นักวิจัยยังบันทึกพฤติกรรมอื่น ๆ เช่น การยกหางขึ้น การถูตัวกับเจ้าของ หรือการสั่นตัว ซึ่งจัดเป็นพฤติกรรมทางสังคมและการเบี่ยงเบน แต่สิ่งที่แตกต่างชัดเจนระหว่างเพศเจ้าของคือ เสียงร้องเท่านั้น แสดงให้เห็นว่าแมวใช้เสียงเป็นเครื่องมือสื่อสารเฉพาะเจาะจงกับมนุษย์ 🌍 ความหมายต่อการสื่อสารคน-สัตว์ การค้นพบนี้สะท้อนว่าแมวมีความสามารถในการปรับพฤติกรรมตามบุคลิกของเจ้าของ และอาจช่วยให้เราเข้าใจวิธีที่สัตว์เลี้ยงใช้สัญญาณหลายรูปแบบเพื่อสื่อสารกับมนุษย์มากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคนกับสัตว์เลี้ยง 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ผลการวิจัย ➡️ แมวร้องใส่ผู้ชายเฉลี่ย 4.3 ครั้งต่อ 100 วินาที ➡️ แมวร้องใส่ผู้หญิงเฉลี่ย 1.8 ครั้ง ✅ เหตุผลที่เป็นไปได้ ➡️ ผู้หญิงตอบสนองต่อแมวมากกว่า ➡️ ผู้ชายมักนิ่งเฉย ทำให้แมวต้องร้องมากขึ้น ✅ พฤติกรรมอื่น ๆ ที่สังเกตได้ ➡️ การยกหาง การถูตัว การสั่นตัว ➡️ แต่ไม่มีความแตกต่างระหว่างเพศเจ้าของ ‼️ ข้อควรระวังในการตีความ ⛔ งานวิจัยมีผู้เข้าร่วมเพียง 31 คน อาจไม่ครอบคลุมทุกกรณี ⛔ ผลลัพธ์อาจแตกต่างไปตามวัฒนธรรมและวิธีเลี้ยงแมวในแต่ละประเทศ https://www.sciencealert.com/cats-meow-more-than-twice-as-much-at-men-and-we-can-only-guess-why
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    Cats Meow More Than Twice as Much at Men, And We Can Only Guess Why
    Cats meow more at owners who are men than women, new research has found, possibly because men tend to be more aloof when it comes to giving their pets attention.
    0 Comments 0 Shares 179 Views 0 Reviews
  • ลองเชิง ตอนที่ 3

    “ลองเชิง”
    ตอน 3
    ซีเรีย ทำท่าจะกลายเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ผู้กำกับมากันเพียบ ผู้อำนวยการสร้างก็จากหลายแหล่ง ตอนนี้ดูเหมือนกำลังซุบซิบ กั้นเขตหรือกินเขตกันอยู่ ไม่รู้ตกลงใครจะสร้างโรงถ่ายตรงไหน ส่วนไหนของตะวันออกกลาง ไม่ใช่แค่บริเวณซีเรีย ซี่งคงจะกลายเป็นสนามประลองยุทธ์ที่น่าติดตาม ดาราใหญ่จะเข้าฉากเล่นเอง หรือให้ดาราเล็กๆ เล่นกันไปก่อนยังไม่แน่ บางค่ายราคาคุยแยะ ส่งแต่สตั้นท์แมนรับจ้างมาเข้าฉาก เขาจะเล่น กันขนาดไหนยังไม่รู้ แต่อย่างน้อย เราควรรู้กันไว้บ้างว่า ใครเป็นใคร ใครเป็นพวกกับใคร ใครน่าจะรับบทไหน จะได้ดูหนังเรื่องซีเรีย ตะวันออกกลางรู้เรื่อง เดี๋ยวจะชวนกันออกอ่าวสนุกสนาน อย่าออกอ่าวไปไกลนักครับ เดี๋ยวกลับไม่ถูก ผมจะขอเอาเรือรบรัสเซีย เรือรบจีนไปรับ เขาก็บอกว่าไม่ว่าง ตอนนี้ต่างก็ติดภาระกิจยุ่งกันทั้งนั้น 555
    เพื่อความเข้าใจ สถานะและความสัมพันธ์ของตัวละคร เกี่ยวกับตะวันออกกลาง ผมขอย้อนหลังไปหน่อย
    หลังเหตุการณ์ 9/11 การถล่มตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ เมื่อปี ค.ศ.2001 อเมริกาถือโอกาสใช้เป็นข้ออ้างเข้าไปแทรกแซงในตะวันออกกลางอย่างเต็มสูบ ในช่วง ค.ศ.2003 และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศในแถบตะวันออกกลางและภูมิภาคใกล้เคียงแตกแยกชัดเจน แบ่งเป็น 2 ค่าย กับอีก 3 เสี้ยว
    ค่ายหนึ่งคือ ค่ายที่เอาอเมริกา นำโดยเสี่ยปั้มใหญ่ ซาอุดิอารเบียกับพวกเสี่ยปั้มหนุ่มสำอางค์ทั้งหลายแถบอ่าว ไล่มาตั้งแต่ คูเวต บาห์เรน การต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน เดิมมีอิรัคด้วย แต่ปัจจุบัน อิรัคน่าจะย้ายค่ายไปอยู่ฝั่งไม่เอาอเมริกาไปแล้ว เสี่ยปั้มใหญ่คงกลัวเสียหน้า ลูกน้องหนี เลยเอาจอร์แดนมารวมด้วย แต่ก็รวมอย่างเขินๆ เพราะจอร์แดนถือว่าตัวเองควรเป็นเจ้าของตะวันออกกลางทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ เพราะถูกอังกฤษหลอกต้มเอาไว้อย่างนั้น มาอยู่ใต้ปีกเสี่ยปั้มนี่ ออกจะเสียหน้า แต่คงพอทนเพราะมีค่าทนชดเชย (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอังกฤษต้มตะวันออกกลาง ได้ในนิทานเรื่อง “เหยื่อ” ครับ ตามลิงค์นี้ https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf)
    อีกค่ายหนึ่ง เป็นค่ายที่ไม่เอาอเมริกา ค่ายนี้ ไม่ใช่แค่ไม่เอาเฉยๆ เขาต่อต้านอเมริกาอย่างเปิดเผย และไม่หยุดยั้งด้วย มีตัวยืนโรงตัวใหญ่ คืออิหร่าน ซีเรีย เลบานอน (กลุ่มเฮซบอลเล์าะ) ปาเลสไตน์( กลุ่มกองกำลังปาเลสไตน์ คือ พวกฮามาส) และเยเมนส่วนใต้
    สำหรับชาวโลกทั่วไป ฟังจากข่าวฟอกย้อมของตะวันตก คงมองค่ายหลังนี้ เป็นตัวร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือฆาตกรไปแล้ว
    อีกเสี้ยวหนึ่ง คือ อิสราเอล อยู่ในตะวันออกกลาง แต่ไม่ถือว่าตนเองเป็นคนตะวันอ อกกลาง ไม่รักซาอุ เกลียดอิหร่าน และไม่ชอบใครเลย ชอบแต่ยิวด้วยกัน ประเทศที่มียิวไปอยู่แยะ ก็ใช่ว่าจะชอบ แค่หลอกใช้ อิสราเอลคือต้นไม้พิษ ที่อังกฤษเอาไปปลูกไว้ในตะวันออกกลาง แต่ให้อเมริกาเลี้ยงให้ การเอาอิสราเอลไปอยู่ตรงนั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ สุดยอด (ชั่ว) ของอังกฤษเลยทีเดียว
    เสี้ยวที่ 2 คือ ตุรกี ที่ก็ไม่นับว่าตนเองเป็นพวกตะวันออกกลาง แบบพวกเสี่ยปั้มทั้งหลาย ตุรกี ดูเหมือนทำตัวเป็นขี้ข้าอเมริกามาตลอด แต่จริงๆ ตุรกีเป็นนกหลายหัว และนกพันธุ์แสบไม่ธรรมดา ลูกเล่นแยะมาก แต่ล่าสุด ดูเหมือนจะเลือกค่ายแล้ว
    เสี้ยวที่ 3 คือ อียิปต์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในตะวันออกกลาง แต่โดยภูมิศาสตร์ อียิปต์อยู่ติดกับอิสราเอล และที่สำคัญ เป็นเจ้าของคลองสุเอซ ที่เป็นเส้นทางใหญ่ที่บรรดาเสี่ยปั้มใช้ขนส่งน้ำมันไปทางเมดิเตอร์เรเนียน อียิปต์จึงถูกล็อกคอ มาอยู่ในมืออเมริกา เพื่อกันไว้ไม่ให้ใครมายุ่งกับน้ำมันของพวกเสี่ยปั้ม ที่อเมริกาคุมอีกต่อ
    ค่ายใหญ่ 2 ค่าย มักมีเรื่องขัดแย้ง ขัดคอ แข่งขันกันอยู่เสมอ ทั้งในทางการเมือง และทางสื่อ เพื่อชิงความเป็นผู้นำในภูมิภาค โดยบริวณขัดแย้ง มักอยู่ที่ เลบานอน อิรัค และปาเลสไตน์
    และที่สำคัญ หัวหน้าค่ายใหญ่ของทั้ง 2 ค่าย คือ อิหร่าน และซาอุดิอารเบีย ไม่เคยถูกกันเลย ไม่เคยรักกัน และไม่มีวันจะรักกัน ซาอุดิอารเบีย แสดงอาการไม่ชอบใจ ไม่ไว้ใจ บ่น ด่า ซ้ำซาก ถึงอิหร่านอยู่ตลอดเวลา ว่า อิหร่านกำลังข่มขู่ชาวตะวันออกกลาง ด้วยการสร้างนิวเคลียร์ และ พยายามทำตัวเป็นพี่เบิ้มของตะวันออกกลาง เพราะฉนั้น ที่คิดว่า ซาอุ จะมาฝากผีฝากไข้ไว้กับรัสเซีย คิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปได้หรือครับ ซาอุอาจจะมาพูดกับรัสเซีย รัสเซียก็คงฟัง เหมือนวันที่รัสเซียกำลังพูดกับอิสราเอล แล้วเรือรบจีน ไปจอดอยู่หน้าบ้านอิสราเอล ไม่กี่วันต่อมา ฟังทำนองนั้นแหละ ครับ
    รัสเซีย จีน อิหร่าน กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาลงเรือลำเดียวกัน ฝ่าดงหนาม ดงตีน ที่อเมริกา อียู และพวกลูกกระเป๋ง ประเคนมาให้เท่าไหร่ เชื่อว่าไม่มีใครโดดหนีกลางทาง และไม่น่าจะรับผู้โดยสารระหว่างทาง ที่เพื่อนรังเกียจ หรือรังเกียจเพื่อน ขึ้นเรือมาด้วย ถึงที่หมายแล้ว ค่อยว่ากันอีกที แต่เป็นทีแบบไหน ก็ดูกันต่อไป
    ส่วนอิสราเอล ไม่สังกัด ไม่เข้าค่ายใด เพราะถือตัวว่าเป็นเส้นใหญ่สายตรงของอเมริกา ก็ไม่ชอบ ทั้งซาอุดิอารเบียและอิหร่าน แต่รู้สึกอิหร่านจะได้รับคำเอ่ยถึงในทางลบมากกว่า
    ส่วนอิหร่านก็ดูถูกซาอุดิว่า มีดีแค่รวยอย่างเดียว อยู่ทะเลทรายเสียเปล่า แต่ดันชอบเป็นชาวเกาะ เกาะอเมริกาเหมือนตัวเป็นลูกอ่อน และอิหร่านก็เห็นอิสราเอลเป็นคนนอก ที่เข้ามาแย่งที่ แถมข่มขู่คนในที่เป็นเจ้าของของเดิม แบบนี้ ก็คงไม่ได้แปลว่าอิหร่านพอใจอิสราเอล
    แต่หลังจากที่อเมริกา (อีกนั่นแหละ) จัดเทศกาลอาหรับสปริง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2011 ตะวันออกกลาง ก็มีความมีความเปลี่ยนแปลงอีกรอบหนึ่ง และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ของ การประลองยุทธ ที่กำลังดำเนินอยู่ในซีเรีย ตอนนี้
    หลังอาหรับสปริง ประเทศที่อยู่แถวหน้า เช่น ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน และอิสราเอล ต่างได้รับผลกระทบ มีทั้งบวก ทั้งลบ แล้วแต่สถานการณ์จะสร้างผู้กล้า หรือสร้างผู้ขลาด ส่วนประเทศที่เคยยืนอยู่แถวหลังในภูมิภาค อย่างตุรกี และการ์ต้า กลับใช้โอกาส เพิ่มรัศมี เพิ่มอิทธิพล
    ส่วนประเทศใหญ่อีก 2 ประเทศ อิยิปต์ หรือซีเรีย กลับเซระเนระนาด จากความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นในประเทศของตน และทำท่าจะยืดเยื้อลากยาว กระทบความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ ไปอีกนาน
    ผลที่ตามมา คือ 2 ค่ายในตะวันออกกลาง และทุกเสี้ยวที่กล่าวมาข้างต้น เกิดการแข่งขัน ขัดแย้ง รุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านการเมือง ความมั่นคง และความแตกต่างทางนิกายศาสนา ที่อาหรับสปริง เพาะเชื้อไว้ อย่างแนบเนียน…
    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    2 ต.ค. 2558
    ลองเชิง ตอนที่ 3 “ลองเชิง” ตอน 3 ซีเรีย ทำท่าจะกลายเป็นหนังฟอร์มใหญ่ ผู้กำกับมากันเพียบ ผู้อำนวยการสร้างก็จากหลายแหล่ง ตอนนี้ดูเหมือนกำลังซุบซิบ กั้นเขตหรือกินเขตกันอยู่ ไม่รู้ตกลงใครจะสร้างโรงถ่ายตรงไหน ส่วนไหนของตะวันออกกลาง ไม่ใช่แค่บริเวณซีเรีย ซี่งคงจะกลายเป็นสนามประลองยุทธ์ที่น่าติดตาม ดาราใหญ่จะเข้าฉากเล่นเอง หรือให้ดาราเล็กๆ เล่นกันไปก่อนยังไม่แน่ บางค่ายราคาคุยแยะ ส่งแต่สตั้นท์แมนรับจ้างมาเข้าฉาก เขาจะเล่น กันขนาดไหนยังไม่รู้ แต่อย่างน้อย เราควรรู้กันไว้บ้างว่า ใครเป็นใคร ใครเป็นพวกกับใคร ใครน่าจะรับบทไหน จะได้ดูหนังเรื่องซีเรีย ตะวันออกกลางรู้เรื่อง เดี๋ยวจะชวนกันออกอ่าวสนุกสนาน อย่าออกอ่าวไปไกลนักครับ เดี๋ยวกลับไม่ถูก ผมจะขอเอาเรือรบรัสเซีย เรือรบจีนไปรับ เขาก็บอกว่าไม่ว่าง ตอนนี้ต่างก็ติดภาระกิจยุ่งกันทั้งนั้น 555 เพื่อความเข้าใจ สถานะและความสัมพันธ์ของตัวละคร เกี่ยวกับตะวันออกกลาง ผมขอย้อนหลังไปหน่อย หลังเหตุการณ์ 9/11 การถล่มตึกเวิลด์เทรดเซนเตอร์ เมื่อปี ค.ศ.2001 อเมริกาถือโอกาสใช้เป็นข้ออ้างเข้าไปแทรกแซงในตะวันออกกลางอย่างเต็มสูบ ในช่วง ค.ศ.2003 และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ประเทศในแถบตะวันออกกลางและภูมิภาคใกล้เคียงแตกแยกชัดเจน แบ่งเป็น 2 ค่าย กับอีก 3 เสี้ยว ค่ายหนึ่งคือ ค่ายที่เอาอเมริกา นำโดยเสี่ยปั้มใหญ่ ซาอุดิอารเบียกับพวกเสี่ยปั้มหนุ่มสำอางค์ทั้งหลายแถบอ่าว ไล่มาตั้งแต่ คูเวต บาห์เรน การต้า สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โอมาน เดิมมีอิรัคด้วย แต่ปัจจุบัน อิรัคน่าจะย้ายค่ายไปอยู่ฝั่งไม่เอาอเมริกาไปแล้ว เสี่ยปั้มใหญ่คงกลัวเสียหน้า ลูกน้องหนี เลยเอาจอร์แดนมารวมด้วย แต่ก็รวมอย่างเขินๆ เพราะจอร์แดนถือว่าตัวเองควรเป็นเจ้าของตะวันออกกลางทั้งหมดเสียด้วยซ้ำ เพราะถูกอังกฤษหลอกต้มเอาไว้อย่างนั้น มาอยู่ใต้ปีกเสี่ยปั้มนี่ ออกจะเสียหน้า แต่คงพอทนเพราะมีค่าทนชดเชย (อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องอังกฤษต้มตะวันออกกลาง ได้ในนิทานเรื่อง “เหยื่อ” ครับ ตามลิงค์นี้ https://www.dropbox.com/s/i3psv6qf7v9iqew/victim.pdf) อีกค่ายหนึ่ง เป็นค่ายที่ไม่เอาอเมริกา ค่ายนี้ ไม่ใช่แค่ไม่เอาเฉยๆ เขาต่อต้านอเมริกาอย่างเปิดเผย และไม่หยุดยั้งด้วย มีตัวยืนโรงตัวใหญ่ คืออิหร่าน ซีเรีย เลบานอน (กลุ่มเฮซบอลเล์าะ) ปาเลสไตน์( กลุ่มกองกำลังปาเลสไตน์ คือ พวกฮามาส) และเยเมนส่วนใต้ สำหรับชาวโลกทั่วไป ฟังจากข่าวฟอกย้อมของตะวันตก คงมองค่ายหลังนี้ เป็นตัวร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือฆาตกรไปแล้ว อีกเสี้ยวหนึ่ง คือ อิสราเอล อยู่ในตะวันออกกลาง แต่ไม่ถือว่าตนเองเป็นคนตะวันอ อกกลาง ไม่รักซาอุ เกลียดอิหร่าน และไม่ชอบใครเลย ชอบแต่ยิวด้วยกัน ประเทศที่มียิวไปอยู่แยะ ก็ใช่ว่าจะชอบ แค่หลอกใช้ อิสราเอลคือต้นไม้พิษ ที่อังกฤษเอาไปปลูกไว้ในตะวันออกกลาง แต่ให้อเมริกาเลี้ยงให้ การเอาอิสราเอลไปอยู่ตรงนั้น ถือเป็นยุทธศาสตร์ สุดยอด (ชั่ว) ของอังกฤษเลยทีเดียว เสี้ยวที่ 2 คือ ตุรกี ที่ก็ไม่นับว่าตนเองเป็นพวกตะวันออกกลาง แบบพวกเสี่ยปั้มทั้งหลาย ตุรกี ดูเหมือนทำตัวเป็นขี้ข้าอเมริกามาตลอด แต่จริงๆ ตุรกีเป็นนกหลายหัว และนกพันธุ์แสบไม่ธรรมดา ลูกเล่นแยะมาก แต่ล่าสุด ดูเหมือนจะเลือกค่ายแล้ว เสี้ยวที่ 3 คือ อียิปต์ ที่แม้จะไม่ได้อยู่ในตะวันออกกลาง แต่โดยภูมิศาสตร์ อียิปต์อยู่ติดกับอิสราเอล และที่สำคัญ เป็นเจ้าของคลองสุเอซ ที่เป็นเส้นทางใหญ่ที่บรรดาเสี่ยปั้มใช้ขนส่งน้ำมันไปทางเมดิเตอร์เรเนียน อียิปต์จึงถูกล็อกคอ มาอยู่ในมืออเมริกา เพื่อกันไว้ไม่ให้ใครมายุ่งกับน้ำมันของพวกเสี่ยปั้ม ที่อเมริกาคุมอีกต่อ ค่ายใหญ่ 2 ค่าย มักมีเรื่องขัดแย้ง ขัดคอ แข่งขันกันอยู่เสมอ ทั้งในทางการเมือง และทางสื่อ เพื่อชิงความเป็นผู้นำในภูมิภาค โดยบริวณขัดแย้ง มักอยู่ที่ เลบานอน อิรัค และปาเลสไตน์ และที่สำคัญ หัวหน้าค่ายใหญ่ของทั้ง 2 ค่าย คือ อิหร่าน และซาอุดิอารเบีย ไม่เคยถูกกันเลย ไม่เคยรักกัน และไม่มีวันจะรักกัน ซาอุดิอารเบีย แสดงอาการไม่ชอบใจ ไม่ไว้ใจ บ่น ด่า ซ้ำซาก ถึงอิหร่านอยู่ตลอดเวลา ว่า อิหร่านกำลังข่มขู่ชาวตะวันออกกลาง ด้วยการสร้างนิวเคลียร์ และ พยายามทำตัวเป็นพี่เบิ้มของตะวันออกกลาง เพราะฉนั้น ที่คิดว่า ซาอุ จะมาฝากผีฝากไข้ไว้กับรัสเซีย คิดว่าเป็นเรื่องเป็นไปได้หรือครับ ซาอุอาจจะมาพูดกับรัสเซีย รัสเซียก็คงฟัง เหมือนวันที่รัสเซียกำลังพูดกับอิสราเอล แล้วเรือรบจีน ไปจอดอยู่หน้าบ้านอิสราเอล ไม่กี่วันต่อมา ฟังทำนองนั้นแหละ ครับ รัสเซีย จีน อิหร่าน กว่าจะมาถึงวันนี้ เขาลงเรือลำเดียวกัน ฝ่าดงหนาม ดงตีน ที่อเมริกา อียู และพวกลูกกระเป๋ง ประเคนมาให้เท่าไหร่ เชื่อว่าไม่มีใครโดดหนีกลางทาง และไม่น่าจะรับผู้โดยสารระหว่างทาง ที่เพื่อนรังเกียจ หรือรังเกียจเพื่อน ขึ้นเรือมาด้วย ถึงที่หมายแล้ว ค่อยว่ากันอีกที แต่เป็นทีแบบไหน ก็ดูกันต่อไป ส่วนอิสราเอล ไม่สังกัด ไม่เข้าค่ายใด เพราะถือตัวว่าเป็นเส้นใหญ่สายตรงของอเมริกา ก็ไม่ชอบ ทั้งซาอุดิอารเบียและอิหร่าน แต่รู้สึกอิหร่านจะได้รับคำเอ่ยถึงในทางลบมากกว่า ส่วนอิหร่านก็ดูถูกซาอุดิว่า มีดีแค่รวยอย่างเดียว อยู่ทะเลทรายเสียเปล่า แต่ดันชอบเป็นชาวเกาะ เกาะอเมริกาเหมือนตัวเป็นลูกอ่อน และอิหร่านก็เห็นอิสราเอลเป็นคนนอก ที่เข้ามาแย่งที่ แถมข่มขู่คนในที่เป็นเจ้าของของเดิม แบบนี้ ก็คงไม่ได้แปลว่าอิหร่านพอใจอิสราเอล แต่หลังจากที่อเมริกา (อีกนั่นแหละ) จัดเทศกาลอาหรับสปริง ตั้งแต่ช่วงปี ค.ศ.2011 ตะวันออกกลาง ก็มีความมีความเปลี่ยนแปลงอีกรอบหนึ่ง และเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ ที่อาจเป็นสาเหตุหนึ่ง ของ การประลองยุทธ ที่กำลังดำเนินอยู่ในซีเรีย ตอนนี้ หลังอาหรับสปริง ประเทศที่อยู่แถวหน้า เช่น ซาอุดิอารเบีย อิหร่าน และอิสราเอล ต่างได้รับผลกระทบ มีทั้งบวก ทั้งลบ แล้วแต่สถานการณ์จะสร้างผู้กล้า หรือสร้างผู้ขลาด ส่วนประเทศที่เคยยืนอยู่แถวหลังในภูมิภาค อย่างตุรกี และการ์ต้า กลับใช้โอกาส เพิ่มรัศมี เพิ่มอิทธิพล ส่วนประเทศใหญ่อีก 2 ประเทศ อิยิปต์ หรือซีเรีย กลับเซระเนระนาด จากความไม่สงบ ที่เกิดขึ้นในประเทศของตน และทำท่าจะยืดเยื้อลากยาว กระทบความมั่นคงของทั้ง 2 ประเทศ ไปอีกนาน ผลที่ตามมา คือ 2 ค่ายในตะวันออกกลาง และทุกเสี้ยวที่กล่าวมาข้างต้น เกิดการแข่งขัน ขัดแย้ง รุนแรงเพิ่มขึ้น ทั้งทางด้านการเมือง ความมั่นคง และความแตกต่างทางนิกายศาสนา ที่อาหรับสปริง เพาะเชื้อไว้ อย่างแนบเนียน… สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 2 ต.ค. 2558
    WWW.DROPBOX.COM
    victim.pdf
    Shared with Dropbox
    0 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • "Brainquake" การค้นพบใหม่ที่อาจเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องโรคจิตเภท

    นักวิจัยจากศูนย์ TReNDS (Translational Research in Neuroimaging and Data Science) เมืองแอตแลนตา พบสิ่งที่เรียกว่า “Brainquake” หรือการสั่นสะเทือนของเครือข่ายสมอง ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในผู้ที่มีโรคจิตเภทและไบโพลาร์มากกว่าคนทั่วไป การสั่นนี้เปรียบเสมือนภูเขาไฟที่ปะทุเป็นระยะ ๆ ทำให้การเชื่อมต่อของสมองไม่เสถียร

    กลไกที่อยู่เบื้องหลัง
    Brainquake เกิดจากความไม่สมดุลระหว่าง redundancy (การประมวลผลข้อมูลซ้ำเพื่อความทนทาน) และ synergy (การประมวลผลข้อมูลเสริมเพื่อความซับซ้อน) ในสมองของผู้ป่วย พบว่ามีการเชื่อมต่อที่สุ่มและไม่เป็นระบบมากกว่าในคนปกติ ส่งผลต่อการทำงานของสมองในด้านอารมณ์ ความจำ และการรับรู้

    หลักฐานจากการศึกษา
    การทดลองใช้การสแกนสมองของผู้เข้าร่วมกว่า 1,100 คน รวมถึงผู้ป่วยจิตเภท 288 คน และไบโพลาร์ 183 คน พบว่า Brainquake ปรากฏชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วย แม้ในช่วงที่พวกเขาอยู่ในสภาวะจิตใจคงที่และไม่ได้มีอาการกำเริบก็ตาม

    ความหมายต่ออนาคต
    แม้ยังไม่ชัดเจนว่า Brainquake เป็นสาเหตุหรือผลลัพธ์ของโรคจิตเภท แต่การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างสมองที่ผิดปกติได้ดีขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีตรวจจับความเสี่ยง รวมถึงแนวทางการรักษาที่แม่นยำและมีผลข้างเคียงน้อยลงในอนาคต

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Brainquake คือการสั่นสะเทือนของเครือข่ายสมอง
    พบมากในผู้ป่วยโรคจิตเภทและไบโพลาร์

    เกิดจากความไม่สมดุลของ redundancy และ synergy
    ทำให้การเชื่อมต่อสมองสุ่มและไม่เป็นระบบ

    การสแกนสมองกว่า 1,100 คนยืนยันการมีอยู่ของ Brainquake
    แม้ในช่วงที่ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะจิตใจคงที่

    ยังไม่ชัดเจนว่า Brainquake เป็นสาเหตุหรือผลลัพธ์ของโรคจิตเภท
    ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์และผลกระทบต่อการทำงานของสมอง

    https://www.sciencealert.com/brainquake-discovery-could-change-what-we-know-about-schizophrenia
    🧠 "Brainquake" การค้นพบใหม่ที่อาจเปลี่ยนความเข้าใจเรื่องโรคจิตเภท นักวิจัยจากศูนย์ TReNDS (Translational Research in Neuroimaging and Data Science) เมืองแอตแลนตา พบสิ่งที่เรียกว่า “Brainquake” หรือการสั่นสะเทือนของเครือข่ายสมอง ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยในผู้ที่มีโรคจิตเภทและไบโพลาร์มากกว่าคนทั่วไป การสั่นนี้เปรียบเสมือนภูเขาไฟที่ปะทุเป็นระยะ ๆ ทำให้การเชื่อมต่อของสมองไม่เสถียร 🔬 กลไกที่อยู่เบื้องหลัง Brainquake เกิดจากความไม่สมดุลระหว่าง redundancy (การประมวลผลข้อมูลซ้ำเพื่อความทนทาน) และ synergy (การประมวลผลข้อมูลเสริมเพื่อความซับซ้อน) ในสมองของผู้ป่วย พบว่ามีการเชื่อมต่อที่สุ่มและไม่เป็นระบบมากกว่าในคนปกติ ส่งผลต่อการทำงานของสมองในด้านอารมณ์ ความจำ และการรับรู้ 📊 หลักฐานจากการศึกษา การทดลองใช้การสแกนสมองของผู้เข้าร่วมกว่า 1,100 คน รวมถึงผู้ป่วยจิตเภท 288 คน และไบโพลาร์ 183 คน พบว่า Brainquake ปรากฏชัดเจนในกลุ่มผู้ป่วย แม้ในช่วงที่พวกเขาอยู่ในสภาวะจิตใจคงที่และไม่ได้มีอาการกำเริบก็ตาม 🌍 ความหมายต่ออนาคต แม้ยังไม่ชัดเจนว่า Brainquake เป็นสาเหตุหรือผลลัพธ์ของโรคจิตเภท แต่การค้นพบนี้ช่วยให้เข้าใจโครงสร้างสมองที่ผิดปกติได้ดีขึ้น และอาจนำไปสู่การพัฒนาวิธีตรวจจับความเสี่ยง รวมถึงแนวทางการรักษาที่แม่นยำและมีผลข้างเคียงน้อยลงในอนาคต 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Brainquake คือการสั่นสะเทือนของเครือข่ายสมอง ➡️ พบมากในผู้ป่วยโรคจิตเภทและไบโพลาร์ ✅ เกิดจากความไม่สมดุลของ redundancy และ synergy ➡️ ทำให้การเชื่อมต่อสมองสุ่มและไม่เป็นระบบ ✅ การสแกนสมองกว่า 1,100 คนยืนยันการมีอยู่ของ Brainquake ➡️ แม้ในช่วงที่ผู้ป่วยอยู่ในสภาวะจิตใจคงที่ ‼️ ยังไม่ชัดเจนว่า Brainquake เป็นสาเหตุหรือผลลัพธ์ของโรคจิตเภท ⛔ ต้องการการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันความสัมพันธ์และผลกระทบต่อการทำงานของสมอง https://www.sciencealert.com/brainquake-discovery-could-change-what-we-know-about-schizophrenia
    WWW.SCIENCEALERT.COM
    'Brainquake' Discovery Could Change What We Know About Schizophrenia
    When the brain's typical wiring patterns shift from the norm, it leads to psychotic disorders such as schizophrenia and bipolar disorder.
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
More Results