• นายกฯลุกแจงฝ่ายค้าน ฟุ้งแก้แก๊งคอลฯจน"สีจิ้นผิง" ชม ย้ำกิจการครอบครัวถูกต้องตามกม. แจกเงินหมื่นตรงปกตรงเป้า ย้อนอย่าสร้างความสับสนปมชั้น 14 ไร้อำนาจสั่งการ พ้อบอกอะไรคงไม่เชื่อ รอผลแพทย์สภาเร็วๆนี้ อ้างพ่อเป็น 1 ในท็อปไม่ได้รับความยุติธรรม โอดไม่สามารถลาออกจากลูกหรือความเป็นแม่ได้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028469
    นายกฯลุกแจงฝ่ายค้าน ฟุ้งแก้แก๊งคอลฯจน"สีจิ้นผิง" ชม ย้ำกิจการครอบครัวถูกต้องตามกม. แจกเงินหมื่นตรงปกตรงเป้า ย้อนอย่าสร้างความสับสนปมชั้น 14 ไร้อำนาจสั่งการ พ้อบอกอะไรคงไม่เชื่อ รอผลแพทย์สภาเร็วๆนี้ อ้างพ่อเป็น 1 ในท็อปไม่ได้รับความยุติธรรม โอดไม่สามารถลาออกจากลูกหรือความเป็นแม่ได้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028469
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 1 รีวิว
  • 👨‍👩‍👧‍👦 การตีไม่ใช่การสอน: เจาะลึก พ.ร.บ.ใหม่ ห้ามทารุณกรรมบุตร พ.ศ. 2568
    เมื่อกฎหมายบอกว่า "พ่อแม่ตีลูกไม่ได้": ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของครอบครัวไทย

    📌 เจาะลึกถึงกฎหมายใหม่ห้ามตีลูก พ.ศ. 2568 ซึ่งระบุชัดเจนว่า การทำโทษต้องไม่เป็นการทารุณกรรม หรือรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แนวทางการปรับทัศนคติพ่อแม่ สู่การเลี้ยงดูเชิงบวก

    ✨ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ในสังคมไทยที่ผ่านมา คำว่า "ไม้เรียวคือรัก" หรือ "ตีเพราะรัก" เป็นสิ่งที่หลายครอบครัว เติบโตมาพร้อมกับแนวคิดนี้ แต่ปัจจุบัน เมื่อสังคมเปลี่ยน โลกเปลี่ยน และองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาเด็ก พัฒนาไปมากขึ้น ก็เริ่มมีคำถามว่า...

    👉 “การตีลูก = การอบรมจริงหรือ?”

    และแล้ว... คำตอบจากรัฐ ก็มาในรูปแบบของ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป 🗓️

    📖 พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 (2) ซึ่งแต่เดิมเคยระบุว่า ผู้ใช้อำนาจปกครอง พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง สามารถทำโทษบุตร เพื่ออบรมสั่งสอนได้ตามสมควร

    แต่ในฉบับใหม่ ปี 2568 นี้ ระบุเพิ่มเติมไว้อย่างชัดเจนว่า 👇

    “ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน หรือปรับพฤติกรรม โดยต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรม หรือทำร้ายด้วยความรุนแรงต่อร่างกาย หรือจิตใจ หรือกระทำโดยมิชอบ”

    📌 สรุปคือ พ่อแม่ ยังสามารถอบรมลูกได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง หรือการกระทำที่เป็นอันตราย ทั้งทางกายและจิตใจ

    ❓ ทำไมถึงต้องออกกฎหมายนี้? สาเหตุหลัก ๆ ของการออกกฎหมายนี้ มาจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น

    📉 ผลกระทบทางจิตใจ เด็กที่ถูกตีบ่อย มีแนวโน้มจะขาดความมั่นใจ เกิดบาดแผลทางใจเรื้อรัง

    😢 การใช้ความรุนแรง แฝงรูปแบบการทารุณกรรม ที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่า "การสั่งสอน"

    🤝 ความรับผิดชอบของรัฐไทย ในฐานะภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (UNCRC) ที่ต้องปกป้องสิทธิเด็ กจากความรุนแรงทุกรูปแบบ

    🔄 การพัฒนาแนวทางเลี้ยงดูเชิงบวก (Positive Parenting) ที่เริ่มเป็นมาตรฐานสากล

    ⚖️ หัวใจสำคัญของกฎหมาย “ตีลูกไม่ได้” หมายถึงอะไร หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า กฎหมายนี้ ห้ามไม่ให้พ่อแม่อบรมลูกเลย ❌ แต่ในความจริงแล้ว...

    👉 "การสั่งสอนลูกยังทำได้" แต่ต้องเป็นการสั่งสอน ที่ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ดูถูก หรือทำให้ลูกเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ

    ตัวอย่างของพฤติกรรมที่ “ผิด” ตามกฎหมายใหม่
    - ตีด้วยของแข็ง เช่น ไม้แข็ง, สายไฟ
    - ดุด่าด้วยคำรุนแรง หรือดูถูก
    - บังคับให้ลูกกลัว หรือรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า
    - ทำโทษด้วยวิธีที่ขัดกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

    💔 ทัศนคติแบบเดิม ความเข้าใจผิดที่ส่งผลเสีย “ลูกโดนตีตอนเด็ก โตขึ้นมาถึงรู้จักผิดชอบชั่วดี” ประโยคนี้คือความเข้าใจผิด ที่ฝังรากลึกในหลายครอบครัว 😓

    แต่ข้อมูลจากจิตแพทย์เด็ก และองค์กรเพื่อสิทธิเด็กทั่วโลก ชี้ว่า... เด็กที่เติบโตในครอบครัว ที่ใช้ความรุนแรง มักจะมีแนวโน้ม ถ่ายทอดความรุนแรงนั้นต่อไป

    นั่นคือวงจรของ “ความรุนแรงในครอบครัว” ที่ไม่เคยสิ้นสุด 💢 กฎหมายใหม่นี้จึงไม่ได้มาเพื่อ "ลงโทษพ่อแม่" แต่เพื่อหยุดวงจรของความรุนแรงตั้งแต่ต้นทาง

    🌈 การเลี้ยงลูกเชิงบวก แนวคิดนี้เรียกว่า Positive Discipline หรือ Positive Parenting
    เป็นการสั่งสอนลูกโดยใช้ความเข้าใจ ความรัก และเหตุผล มากกว่าความกลัวหรือการบังคับ

    หลักการสำคัญ มีดังนี้
    - สร้างวินัยด้วยข้อตกลง ไม่ใช่การขู่เข็ญ
    - สอนให้ลูกรับผิดชอบ ไม่ใช่รู้สึกผิด
    - ใช้ “ผลลัพธ์ตามธรรมชาติ” แทน “การลงโทษ”

    ตัวอย่าง แทนที่จะตีลูกที่ไม่ยอมทำการบ้าน → อธิบายผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เช่น คะแนนไม่ดี หรือไม่มีเวลาเล่น

    🛠️ วิธีอบรมลูกโดยไม่ใช้ความรุนแรง
    - ใช้เวลาฟังลูกมากขึ้น 👂 ให้ลูกพูดสิ่งที่รู้สึกหรือคิด โดยไม่ตัดสิน
    - สร้างกฎร่วมกันในบ้าน 📜 เด็กจะเชื่อฟังมากขึ้น ถ้ารู้สึกว่าเขามีส่วนร่วม
    - สอนด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ 💬 เวลาลูกทำผิด ให้ถาม-ตอบ ชวนคิดถึงผลกระทบ
    - เสริมแรงทางบวก 🌟 ชมลูกเมื่อทำสิ่งที่ดี แทนที่จะเน้นเฉพาะเวลาทำผิด
    - เป็นแบบอย่างที่ดี 👨‍👩‍👧 เด็กเรียนรู้พฤติกรรม จากการสังเกตพ่อแม่

    📣 เสียงสะท้อนจากสังคมไทย หลังการประกาศกฎหมายฉบับนี้ มีทั้งเสียงเห็นด้วย และเสียงที่ยัง “ไม่เข้าใจ”

    เสียงเห็นด้วย “กฎหมายนี้ช่วยให้พ่อแม่ หันมาสนใจพัฒนาวิธีสื่อสารกับลูกมากขึ้น ไม่ใช้แต่กำลัง” 🙌

    เสียงคัดค้าน “กลัวว่าเด็กจะไม่กลัว ไม่เชื่อฟัง ถ้าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ทำโทษ”

    สิ่งสำคัญคือ การสร้างความเข้าใจใหม่ว่า 👉 การสร้างวินัย ไม่เท่ากับการใช้กำลัง

    🧠 พ่อแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร?
    - เรียนรู้เรื่อง จิตวิทยาพัฒนาการเด็ก
    - เข้าอบรมเรื่อง การเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่หลายหน่วยงานจัดขึ้น
    - พูดคุยแลกเปลี่ยนกับครอบครัวอื่น ๆ เพื่อหาแนวทางใหม่
    - ตระหนักว่า “ความรุนแรง” ไม่ได้ช่วยให้ลูกดีขึ้น แต่ ทำให้ห่างกันมากขึ้น

    ❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    Q1 ถ้าแค่ตีเบา ๆ ยังผิดกฎหมายไหม?
    A ถ้าการตีทำให้เด็กเจ็บทั้งกายหรือใจ หรือทำด้วยอารมณ์ ไม่ถือว่าเบา และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย

    Q2 แล้วจะอบรมลูกที่ดื้อยังไงดี?
    A ใช้หลักการ "พูด-ฟัง-เข้าใจ" และเสริมแรงทางบวก เช่น ให้รางวัลเมื่อทำดี

    Q3 ถ้าลูกก้าวร้าวก่อน พ่อแม่ต้องทำยังไง?
    A หลีกเลี่ยงการตอบโต้ ใช้วิธีตั้งสติ พูดคุยหลังเหตุการณ์สงบลง

    Q4 จะรู้ได้ยังไง ว่าเราทำผิดตามกฎหมายหรือไม่?
    A หากมีการทำโทษที่รุนแรง หรือทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่า อาจเข้าข่ายผิด

    Q5 กฎหมายนี้ใช้กับครู หรือเฉพาะพ่อแม่?
    A แม้จะเน้นที่ผู้ปกครอง แต่หลักการเดียวกัน ควรใช้กับผู้ใหญ่ทุกคนที่ดูแลเด็ก

    Q6 ถ้ารู้ว่ามีคนใช้ความรุนแรงกับเด็ก จะทำอย่างไร?
    A แจ้งสำนักงานพัฒนาสังคม หรือมูลนิธิเพื่อเด็ก เช่น มูลนิธิเด็ก หรือสายด่วน 1300

    📌 การเลี้ยงลูกในยุคใหม่ ต้องอาศัยทั้งความรัก ความเข้าใจ และการเรียนรู้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ได้มาเพื่อควบคุมพ่อแม่ แต่มาเพื่อปกป้องเด็ก

    การตี ไม่ใช่การสอนอีกต่อไป... และลูกก็สมควรได้รับการอบรม อย่างมีศักดิ์ศรี ❤️

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252012 มี.ค. 2568

    📲 #ห้ามตีลูก #กฎหมายใหม่2568 #การเลี้ยงลูกเชิงบวก #สิทธิเด็กไทย #ราชกิจจานุเบกษา #ครอบครัวไทย #ตีไม่ใช่สอน #เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #จิตวิทยาเด็ก #พ่อแม่ยุคใหม่
    👨‍👩‍👧‍👦 การตีไม่ใช่การสอน: เจาะลึก พ.ร.บ.ใหม่ ห้ามทารุณกรรมบุตร พ.ศ. 2568 เมื่อกฎหมายบอกว่า "พ่อแม่ตีลูกไม่ได้": ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของครอบครัวไทย 📌 เจาะลึกถึงกฎหมายใหม่ห้ามตีลูก พ.ศ. 2568 ซึ่งระบุชัดเจนว่า การทำโทษต้องไม่เป็นการทารุณกรรม หรือรุนแรงทั้งร่างกายและจิตใจ แนวทางการปรับทัศนคติพ่อแม่ สู่การเลี้ยงดูเชิงบวก ✨ จุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง ในสังคมไทยที่ผ่านมา คำว่า "ไม้เรียวคือรัก" หรือ "ตีเพราะรัก" เป็นสิ่งที่หลายครอบครัว เติบโตมาพร้อมกับแนวคิดนี้ แต่ปัจจุบัน เมื่อสังคมเปลี่ยน โลกเปลี่ยน และองค์ความรู้ด้านจิตวิทยาเด็ก พัฒนาไปมากขึ้น ก็เริ่มมีคำถามว่า... 👉 “การตีลูก = การอบรมจริงหรือ?” และแล้ว... คำตอบจากรัฐ ก็มาในรูปแบบของ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป 🗓️ 📖 พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือการแก้ไขเพิ่มเติม ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1567 (2) ซึ่งแต่เดิมเคยระบุว่า ผู้ใช้อำนาจปกครอง พ่อแม่ หรือผู้ปกครอง สามารถทำโทษบุตร เพื่ออบรมสั่งสอนได้ตามสมควร แต่ในฉบับใหม่ ปี 2568 นี้ ระบุเพิ่มเติมไว้อย่างชัดเจนว่า 👇 “ทำโทษบุตรเพื่อว่ากล่าวสั่งสอน หรือปรับพฤติกรรม โดยต้องไม่เป็นการกระทำทารุณกรรม หรือทำร้ายด้วยความรุนแรงต่อร่างกาย หรือจิตใจ หรือกระทำโดยมิชอบ” 📌 สรุปคือ พ่อแม่ ยังสามารถอบรมลูกได้ แต่ต้องไม่ใช้ความรุนแรง หรือการกระทำที่เป็นอันตราย ทั้งทางกายและจิตใจ ❓ ทำไมถึงต้องออกกฎหมายนี้? สาเหตุหลัก ๆ ของการออกกฎหมายนี้ มาจากหลายปัจจัยรวมกัน เช่น 📉 ผลกระทบทางจิตใจ เด็กที่ถูกตีบ่อย มีแนวโน้มจะขาดความมั่นใจ เกิดบาดแผลทางใจเรื้อรัง 😢 การใช้ความรุนแรง แฝงรูปแบบการทารุณกรรม ที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำว่า "การสั่งสอน" 🤝 ความรับผิดชอบของรัฐไทย ในฐานะภาคีของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก (UNCRC) ที่ต้องปกป้องสิทธิเด็ กจากความรุนแรงทุกรูปแบบ 🔄 การพัฒนาแนวทางเลี้ยงดูเชิงบวก (Positive Parenting) ที่เริ่มเป็นมาตรฐานสากล ⚖️ หัวใจสำคัญของกฎหมาย “ตีลูกไม่ได้” หมายถึงอะไร หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า กฎหมายนี้ ห้ามไม่ให้พ่อแม่อบรมลูกเลย ❌ แต่ในความจริงแล้ว... 👉 "การสั่งสอนลูกยังทำได้" แต่ต้องเป็นการสั่งสอน ที่ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ดูถูก หรือทำให้ลูกเจ็บปวดทั้งร่างกายและจิตใจ ตัวอย่างของพฤติกรรมที่ “ผิด” ตามกฎหมายใหม่ - ตีด้วยของแข็ง เช่น ไม้แข็ง, สายไฟ - ดุด่าด้วยคำรุนแรง หรือดูถูก - บังคับให้ลูกกลัว หรือรู้สึกว่าตนเองไร้ค่า - ทำโทษด้วยวิธีที่ขัดกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 💔 ทัศนคติแบบเดิม ความเข้าใจผิดที่ส่งผลเสีย “ลูกโดนตีตอนเด็ก โตขึ้นมาถึงรู้จักผิดชอบชั่วดี” ประโยคนี้คือความเข้าใจผิด ที่ฝังรากลึกในหลายครอบครัว 😓 แต่ข้อมูลจากจิตแพทย์เด็ก และองค์กรเพื่อสิทธิเด็กทั่วโลก ชี้ว่า... เด็กที่เติบโตในครอบครัว ที่ใช้ความรุนแรง มักจะมีแนวโน้ม ถ่ายทอดความรุนแรงนั้นต่อไป นั่นคือวงจรของ “ความรุนแรงในครอบครัว” ที่ไม่เคยสิ้นสุด 💢 กฎหมายใหม่นี้จึงไม่ได้มาเพื่อ "ลงโทษพ่อแม่" แต่เพื่อหยุดวงจรของความรุนแรงตั้งแต่ต้นทาง 🌈 การเลี้ยงลูกเชิงบวก แนวคิดนี้เรียกว่า Positive Discipline หรือ Positive Parenting เป็นการสั่งสอนลูกโดยใช้ความเข้าใจ ความรัก และเหตุผล มากกว่าความกลัวหรือการบังคับ หลักการสำคัญ มีดังนี้ - สร้างวินัยด้วยข้อตกลง ไม่ใช่การขู่เข็ญ - สอนให้ลูกรับผิดชอบ ไม่ใช่รู้สึกผิด - ใช้ “ผลลัพธ์ตามธรรมชาติ” แทน “การลงโทษ” ตัวอย่าง แทนที่จะตีลูกที่ไม่ยอมทำการบ้าน → อธิบายผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้น เช่น คะแนนไม่ดี หรือไม่มีเวลาเล่น 🛠️ วิธีอบรมลูกโดยไม่ใช้ความรุนแรง - ใช้เวลาฟังลูกมากขึ้น 👂 ให้ลูกพูดสิ่งที่รู้สึกหรือคิด โดยไม่ตัดสิน - สร้างกฎร่วมกันในบ้าน 📜 เด็กจะเชื่อฟังมากขึ้น ถ้ารู้สึกว่าเขามีส่วนร่วม - สอนด้วยเหตุผล ไม่ใช่อารมณ์ 💬 เวลาลูกทำผิด ให้ถาม-ตอบ ชวนคิดถึงผลกระทบ - เสริมแรงทางบวก 🌟 ชมลูกเมื่อทำสิ่งที่ดี แทนที่จะเน้นเฉพาะเวลาทำผิด - เป็นแบบอย่างที่ดี 👨‍👩‍👧 เด็กเรียนรู้พฤติกรรม จากการสังเกตพ่อแม่ 📣 เสียงสะท้อนจากสังคมไทย หลังการประกาศกฎหมายฉบับนี้ มีทั้งเสียงเห็นด้วย และเสียงที่ยัง “ไม่เข้าใจ” เสียงเห็นด้วย “กฎหมายนี้ช่วยให้พ่อแม่ หันมาสนใจพัฒนาวิธีสื่อสารกับลูกมากขึ้น ไม่ใช้แต่กำลัง” 🙌 เสียงคัดค้าน “กลัวว่าเด็กจะไม่กลัว ไม่เชื่อฟัง ถ้าพ่อแม่ไม่มีสิทธิ์ทำโทษ” สิ่งสำคัญคือ การสร้างความเข้าใจใหม่ว่า 👉 การสร้างวินัย ไม่เท่ากับการใช้กำลัง 🧠 พ่อแม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร? - เรียนรู้เรื่อง จิตวิทยาพัฒนาการเด็ก - เข้าอบรมเรื่อง การเลี้ยงลูกเชิงบวก ที่หลายหน่วยงานจัดขึ้น - พูดคุยแลกเปลี่ยนกับครอบครัวอื่น ๆ เพื่อหาแนวทางใหม่ - ตระหนักว่า “ความรุนแรง” ไม่ได้ช่วยให้ลูกดีขึ้น แต่ ทำให้ห่างกันมากขึ้น ❓ คำถามที่พบบ่อย (FAQs) Q1 ถ้าแค่ตีเบา ๆ ยังผิดกฎหมายไหม? A ถ้าการตีทำให้เด็กเจ็บทั้งกายหรือใจ หรือทำด้วยอารมณ์ ไม่ถือว่าเบา และอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย Q2 แล้วจะอบรมลูกที่ดื้อยังไงดี? A ใช้หลักการ "พูด-ฟัง-เข้าใจ" และเสริมแรงทางบวก เช่น ให้รางวัลเมื่อทำดี Q3 ถ้าลูกก้าวร้าวก่อน พ่อแม่ต้องทำยังไง? A หลีกเลี่ยงการตอบโต้ ใช้วิธีตั้งสติ พูดคุยหลังเหตุการณ์สงบลง Q4 จะรู้ได้ยังไง ว่าเราทำผิดตามกฎหมายหรือไม่? A หากมีการทำโทษที่รุนแรง หรือทำให้เด็กรู้สึกด้อยค่า อาจเข้าข่ายผิด Q5 กฎหมายนี้ใช้กับครู หรือเฉพาะพ่อแม่? A แม้จะเน้นที่ผู้ปกครอง แต่หลักการเดียวกัน ควรใช้กับผู้ใหญ่ทุกคนที่ดูแลเด็ก Q6 ถ้ารู้ว่ามีคนใช้ความรุนแรงกับเด็ก จะทำอย่างไร? A แจ้งสำนักงานพัฒนาสังคม หรือมูลนิธิเพื่อเด็ก เช่น มูลนิธิเด็ก หรือสายด่วน 1300 📌 การเลี้ยงลูกในยุคใหม่ ต้องอาศัยทั้งความรัก ความเข้าใจ และการเรียนรู้ พระราชบัญญัติฉบับนี้ ไม่ได้มาเพื่อควบคุมพ่อแม่ แต่มาเพื่อปกป้องเด็ก การตี ไม่ใช่การสอนอีกต่อไป... และลูกก็สมควรได้รับการอบรม อย่างมีศักดิ์ศรี ❤️ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 252012 มี.ค. 2568 📲 #ห้ามตีลูก #กฎหมายใหม่2568 #การเลี้ยงลูกเชิงบวก #สิทธิเด็กไทย #ราชกิจจานุเบกษา #ครอบครัวไทย #ตีไม่ใช่สอน #เลี้ยงลูกอย่างเข้าใจ #จิตวิทยาเด็ก #พ่อแม่ยุคใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้าแด่เทพเทวดา ผู้เป็นสักขีพยานในการรักษาทรัพย์ ตั้งแต่อดีตชาติจวบจนปัจจุบัน บุญกุศลใดก็ตาม ทรัพย์ใดก็ตามที่ ข้าพเจ้าพึงสั่งสมมา ให้ข้าพเจ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในดินแดนสุวรรณภูมิ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าได้พบบวรพระพุทธศาสนา ได้พบพระศรีคเณศ ได้พบพญานาคราชหรือทวยเทพเทวดาพระองค์ใดที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอใช้เวลาที่มีอยู่ในภพชาตินี้ในการทำนุบำรุงประเทศชาติบ้านเมืองและศาสนา ขอการดูแลบำรุงอุดหนุนตนเองครอบครัววงศ์ตระกูลให้มีอิสรภาพให้สำเร็จสะดวกสบาย ทรัพย์ใดมีอยู่จริงทั้งที่ดิน ทั้งใต้น้ำ ทั้งที่อากาศ ขอให้หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า จะมาในรูปแบบใดก็ดี ขอให้มาอย่างถูกต้อง ขอให้มาเป็นภูมิปัญญาอันเป็นประเสริฐขอให้มาเป็นภูมิปัญญาอันประเสริฐ เป็นบ่อเกิดแห่งความดีทั้งปวง
    #พลัมเฮร่า
    #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์

    น้อมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เชียง ปัณณวิชญ์
    ค่ะ...
    ข้าแด่เทพเทวดา ผู้เป็นสักขีพยานในการรักษาทรัพย์ ตั้งแต่อดีตชาติจวบจนปัจจุบัน บุญกุศลใดก็ตาม ทรัพย์ใดก็ตามที่ ข้าพเจ้าพึงสั่งสมมา ให้ข้าพเจ้าได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในดินแดนสุวรรณภูมิ ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าได้พบบวรพระพุทธศาสนา ได้พบพระศรีคเณศ ได้พบพญานาคราชหรือทวยเทพเทวดาพระองค์ใดที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอใช้เวลาที่มีอยู่ในภพชาตินี้ในการทำนุบำรุงประเทศชาติบ้านเมืองและศาสนา ขอการดูแลบำรุงอุดหนุนตนเองครอบครัววงศ์ตระกูลให้มีอิสรภาพให้สำเร็จสะดวกสบาย ทรัพย์ใดมีอยู่จริงทั้งที่ดิน ทั้งใต้น้ำ ทั้งที่อากาศ ขอให้หลั่งไหลเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้า จะมาในรูปแบบใดก็ดี ขอให้มาอย่างถูกต้อง ขอให้มาเป็นภูมิปัญญาอันเป็นประเสริฐขอให้มาเป็นภูมิปัญญาอันประเสริฐ เป็นบ่อเกิดแห่งความดีทั้งปวง #พลัมเฮร่า #เรือนเทพพฤกษารื่นรมย์ น้อมกราบขอบพระคุณท่านอาจารย์เชียง ปัณณวิชญ์ ค่ะ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม่บ้านลูกๆชวนคุณย่า ป๋ามาพัก เลือกช่วงมีผู้คนน้อย เปิด3ห้อง วันนี้แขกมีครอบครัวเดียว เงียบสงบ ชอบนะแบบนี้ มีสระน้ำเกลือ ชอบมาก
    แม่บ้านลูกๆชวนคุณย่า ป๋ามาพัก เลือกช่วงมีผู้คนน้อย เปิด3ห้อง วันนี้แขกมีครอบครัวเดียว เงียบสงบ ชอบนะแบบนี้ มีสระน้ำเกลือ ชอบมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • “จุลพงษ์” ซัด “นายกฯ” สมคบคิดคนในครอบครัวใช้อำนาจหวังฮุบที่ดินอัลไพน์ เล่นละครแบ่งผลประโยชน์ “ภท.”
    https://www.thai-tai.tv/news/17790/
    “จุลพงษ์” ซัด “นายกฯ” สมคบคิดคนในครอบครัวใช้อำนาจหวังฮุบที่ดินอัลไพน์ เล่นละครแบ่งผลประโยชน์ “ภท.” https://www.thai-tai.tv/news/17790/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
  • โมฮัมหมัด มานซูร์ นักข่าวและผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ปาเลสไตน์ทูเดย์ เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่บ้านพนร้อมกับครอบครัวเขาในเมืองคาน ยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา

    ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 นักข่าวมากกว่า 210 ราย ถูกอิสราเอลสังหารในกาซา ยังไม่นับรวมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากหน่วยงานสหประชาชาติ และองค์กรสากลอื่นๆอีกหลายสิบราย
    โมฮัมหมัด มานซูร์ นักข่าวและผู้สื่อข่าวของสถานีโทรทัศน์ปาเลสไตน์ทูเดย์ เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลที่บ้านพนร้อมกับครอบครัวเขาในเมืองคาน ยูนิส ทางตอนใต้ของกาซา ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2023 นักข่าวมากกว่า 210 ราย ถูกอิสราเอลสังหารในกาซา ยังไม่นับรวมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครจากหน่วยงานสหประชาชาติ และองค์กรสากลอื่นๆอีกหลายสิบราย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดือด! “เพื่อไทย” ดาหน้าป้อง “ครอบครัวชินวัตร” หลัง “วิโรจน์” ถามหาศักดิ์ศรี “สส.พท.” เปรียบเป็นบริวาร
    https://www.thai-tai.tv/news/17788/
    เดือด! “เพื่อไทย” ดาหน้าป้อง “ครอบครัวชินวัตร” หลัง “วิโรจน์” ถามหาศักดิ์ศรี “สส.พท.” เปรียบเป็นบริวาร https://www.thai-tai.tv/news/17788/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรมที่ดิน โต้ทันควันยืนยัน "แพทองธาร" ไม่ได้แทรกแซงเพิกถอนที่ดินธรณีสงฆ์ ปมถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ป้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

    วันนี้ (24 มี.ค. 68) หลังจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายไม่วางไว้ใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยหนึ่งในประเด็นที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นประเด็น นายกฯ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำนิติกรรมอำพราง ยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จเพื่อเลี่ยงภาษี อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยังไม่นับการถือหุ้นอัลไพน์กอล์ฟ ทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ ไม่ควรแสวงประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้น ปล่อยปละให้บุคคลในครอบครัวมากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่

    ล่าสุด กรมที่ดิน ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดิน ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจง! นายกฯ ไม่ได้แทรกแซงเกี่ยวกับการเพิกถอนที่ดินธรณีสงฆ์ตามที่มีการอภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับการถือหุ้นของนายกรัฐมนตรีในบริษัท อัลไพน์ฯ ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเป็นการขาดความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ เนื่องจากมีการถือครองที่ดินที่เป็นที่ธรณีสงฆ์นั้น กรมที่ดินขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้

    “การถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ฯ นายกรัฐมนตรีได้รับโอนหุ้นของบริษัท อัลไพน์ฯ มาจากผู้ถือหุ้นเดิมก่อนเข้ารับตำแหน่ง โดยการโอนดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินแต่อย่างใดซึ่งสถานะทางกฎหมายของที่ดิน ณ ขณะนั้นเมื่อมีการรับโอนหุ้นดังกล่าว สถานะของที่ดินที่เป็นประเด็นยังไม่ถูกเพิกถอน และยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย การเพิกถอนที่ดินให้กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์หลังจากนายกรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่ง มิได้มีการสั่งการหรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการแทรกแซงหรือชะลอการเพิกถอนที่ดินดังกล่าว ตรงกันข้าม กระบวนการเพิกถอนที่ดินให้กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วภายใต้การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ”

    #MGROnline #กรมที่ดิน
    กรมที่ดิน โต้ทันควันยืนยัน "แพทองธาร" ไม่ได้แทรกแซงเพิกถอนที่ดินธรณีสงฆ์ ปมถือหุ้นสนามกอล์ฟอัลไพน์ ป้องดำเนินการถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ • วันนี้ (24 มี.ค. 68) หลังจาก พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อภิปรายไม่วางไว้ใจ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โดยหนึ่งในประเด็นที่ พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ อภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นประเด็น นายกฯ ขาดคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) ไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ทำนิติกรรมอำพราง ยื่นบัญชีทรัพย์สินเป็นเท็จเพื่อเลี่ยงภาษี อันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ยังไม่นับการถือหุ้นอัลไพน์กอล์ฟ ทั้งที่รู้ว่าเป็นที่ดินธรณีสงฆ์ ไม่ควรแสวงประโยชน์ในทางที่ผิด นอกจากนั้น ปล่อยปละให้บุคคลในครอบครัวมากระทำให้เกิดผลกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่ • ล่าสุด กรมที่ดิน ได้โพสต์ชี้แจงผ่านเฟซบุ๊กว่า กระทรวงมหาดไทย โดยกรมที่ดิน ในฐานะหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชี้แจง! นายกฯ ไม่ได้แทรกแซงเกี่ยวกับการเพิกถอนที่ดินธรณีสงฆ์ตามที่มีการอภิปรายในประเด็นเกี่ยวกับการถือหุ้นของนายกรัฐมนตรีในบริษัท อัลไพน์ฯ ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่าเป็นการขาดความสุจริตเป็นที่ประจักษ์ เนื่องจากมีการถือครองที่ดินที่เป็นที่ธรณีสงฆ์นั้น กรมที่ดินขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้ • “การถือหุ้นในบริษัท อัลไพน์ฯ นายกรัฐมนตรีได้รับโอนหุ้นของบริษัท อัลไพน์ฯ มาจากผู้ถือหุ้นเดิมก่อนเข้ารับตำแหน่ง โดยการโอนดังกล่าวเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดินแต่อย่างใดซึ่งสถานะทางกฎหมายของที่ดิน ณ ขณะนั้นเมื่อมีการรับโอนหุ้นดังกล่าว สถานะของที่ดินที่เป็นประเด็นยังไม่ถูกเพิกถอน และยังอยู่ในกระบวนการพิจารณาทางกฎหมาย การเพิกถอนที่ดินให้กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์หลังจากนายกรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่ง มิได้มีการสั่งการหรือกระทำการใด ๆ ที่เป็นการแทรกแซงหรือชะลอการเพิกถอนที่ดินดังกล่าว ตรงกันข้าม กระบวนการเพิกถอนที่ดินให้กลับเป็นที่ธรณีสงฆ์ได้ดำเนินการอย่างรวดเร็วภายใต้การดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี แสดงให้เห็นว่าการดำเนินการเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมายและไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ” • #MGROnline #กรมที่ดิน
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นครั้งแรก โดยใช้เวลา 10 นาที โดยอภิปรายน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไป โดยประเด็นแรก ชี้ให้เห็นความล้มเหลวในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขตามที่รัฐบาลเคยให้คำมั่น หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงถึง 104% การตัดงบประมาณนับแสนล้านบาทที่ควรอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่กลับนำไปแจกเงินหมื่น เรื่อง MOU 44 ที่พาประเทศชาติสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน การผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีช่องให้เกิดทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ส่วนตน ปล่อยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค เป็นการครอบงำ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง ระบุว่า สิ่งที่สมาชิกอาวุโสพูดไม่เป็นความจริง


    พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นครั้งแรก โดยใช้เวลา 10 นาที โดยอภิปรายน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้มีพฤติการณ์อันไม่อาจไว้วางใจให้บริหารราชการแผ่นดินในฐานะนายกรัฐมนตรีได้ต่อไป โดยประเด็นแรก ชี้ให้เห็นความล้มเหลวในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ส่งผลให้ประชาชนเดือดร้อน ปัญหาปากท้องไม่ได้รับการแก้ไขตามที่รัฐบาลเคยให้คำมั่น หนี้ครัวเรือนพุ่งสูงถึง 104% การตัดงบประมาณนับแสนล้านบาทที่ควรอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ แต่กลับนำไปแจกเงินหมื่น เรื่อง MOU 44 ที่พาประเทศชาติสู่ความเสี่ยงต่อการสูญเสียดินแดน การผลักดันเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ มีช่องให้เกิดทุจริตเชิงนโยบาย เอื้อประโยชน์ส่วนตน ปล่อยให้บุคคลในครอบครัวเป็นผู้มีอิทธิพลเหนือพรรค เป็นการครอบงำ ขณะที่นายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจง ระบุว่า สิ่งที่สมาชิกอาวุโสพูดไม่เป็นความจริง
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 523 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • นายกฯ ลุกแจงข้อหาหลบเลี่ยงภาษี-โอนหนี้-ที่ดินอัลไพน์ ยันตั๋วพีเอ็นติดอากรแสตมป์ถูกต้อง ยังไม่เสียภาษีเพราะยังยังไม่ชำระเงิน ครอบครัวซื้อที่ดินมีโฉนดออกโดยรัฐทุกแปลง ลั่นทรัพย์สินของครอบครัวถูกตรวจสอบเข้มตั้งแต่โดนปฏิวัติปี 49 เหน็บแม้อายุน้อยแต่จ่ายภาษีมากกว่าคนอภิปรายแน่นอน ซัดคนมีวุฒิภาวะไม่ควรพูดสร้างความเกลียดชังทำแตกแยก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028043
    นายกฯ ลุกแจงข้อหาหลบเลี่ยงภาษี-โอนหนี้-ที่ดินอัลไพน์ ยันตั๋วพีเอ็นติดอากรแสตมป์ถูกต้อง ยังไม่เสียภาษีเพราะยังยังไม่ชำระเงิน ครอบครัวซื้อที่ดินมีโฉนดออกโดยรัฐทุกแปลง ลั่นทรัพย์สินของครอบครัวถูกตรวจสอบเข้มตั้งแต่โดนปฏิวัติปี 49 เหน็บแม้อายุน้อยแต่จ่ายภาษีมากกว่าคนอภิปรายแน่นอน ซัดคนมีวุฒิภาวะไม่ควรพูดสร้างความเกลียดชังทำแตกแยก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000028043
    Angry
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ภาพชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเริ่มอพยพอีกครั้ง จากคำสั่งของอิสราเอล โดยที่พวกเขาไม่รู้จะหลุดพ้นบ่วงกรรมจากการละเมิดความเป็นมนุษย์จากการกระทำที่ป่าเถื่อนของอิสราเอลเมื่อไหร่

    การอพยพกำลังดำเนินไปท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเขตเทลอัลซุลตัน (เขตเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา) และเบตฮานูน (ทางเหนือของกาซา) ขณะเดียวกันกองกำลังอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินไปพร้อมๆกัน

    ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายสิบครอบครัวยังคงติดอยู่ในเมืองราฟาห์ มีรายงานระบุว่าทหารอิสราเอลขัดขวางไม่ให้มีการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต โดยปล่อยให้ศพกระจัดกระจายอยู่ตามถนนทั่วเมือง

    ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเล่าถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่กองทหารอิสราเอลประหารชีวิตพลเรือนอย่างพวกเขา หลังจากบุกโจมตีเทลอัลซุลตัน มีการตั้งจุดตรวจ และผู้คนหลายพันคนถูกกักตัวไว้ขณะที่ระเบิดตกลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ราย

    ชายคนเดิมยังเล่าอีกว่า เขาพบลูกชายของเขาถูกยิงเสียชีวิตหลังจากที่อิสราเอลทิ้งแผ่นพับที่เป็นคำสั่งอพยพทางตะวันตกของเมืองราฟาห์
    3/ ภาพชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเริ่มอพยพอีกครั้ง จากคำสั่งของอิสราเอล โดยที่พวกเขาไม่รู้จะหลุดพ้นบ่วงกรรมจากการละเมิดความเป็นมนุษย์จากการกระทำที่ป่าเถื่อนของอิสราเอลเมื่อไหร่ การอพยพกำลังดำเนินไปท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเขตเทลอัลซุลตัน (เขตเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา) และเบตฮานูน (ทางเหนือของกาซา) ขณะเดียวกันกองกำลังอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินไปพร้อมๆกัน ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายสิบครอบครัวยังคงติดอยู่ในเมืองราฟาห์ มีรายงานระบุว่าทหารอิสราเอลขัดขวางไม่ให้มีการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต โดยปล่อยให้ศพกระจัดกระจายอยู่ตามถนนทั่วเมือง ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเล่าถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่กองทหารอิสราเอลประหารชีวิตพลเรือนอย่างพวกเขา หลังจากบุกโจมตีเทลอัลซุลตัน มีการตั้งจุดตรวจ และผู้คนหลายพันคนถูกกักตัวไว้ขณะที่ระเบิดตกลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ราย ชายคนเดิมยังเล่าอีกว่า เขาพบลูกชายของเขาถูกยิงเสียชีวิตหลังจากที่อิสราเอลทิ้งแผ่นพับที่เป็นคำสั่งอพยพทางตะวันตกของเมืองราฟาห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 275 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • 2/
    ภาพชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเริ่มอพยพอีกครั้ง จากคำสั่งของอิสราเอล โดยที่พวกเขาไม่รู้จะหลุดพ้นบ่วงกรรมจากการละเมิดความเป็นมนุษย์จากการกระทำที่ป่าเถื่อนของอิสราเอลเมื่อไหร่

    การอพยพกำลังดำเนินไปท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเขตเทลอัลซุลตัน (เขตเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา) และเบตฮานูน (ทางเหนือของกาซา) ขณะเดียวกันกองกำลังอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินไปพร้อมๆกัน

    ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายสิบครอบครัวยังคงติดอยู่ในเมืองราฟาห์ มีรายงานระบุว่าทหารอิสราเอลขัดขวางไม่ให้มีการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต โดยปล่อยให้ศพกระจัดกระจายอยู่ตามถนนทั่วเมือง

    ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเล่าถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่กองทหารอิสราเอลประหารชีวิตพลเรือนอย่างพวกเขา หลังจากบุกโจมตีเทลอัลซุลตัน มีการตั้งจุดตรวจ และผู้คนหลายพันคนถูกกักตัวไว้ขณะที่ระเบิดตกลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ราย

    ชายคนเดิมยังเล่าอีกว่า เขาพบลูกชายของเขาถูกยิงเสียชีวิตหลังจากที่อิสราเอลทิ้งแผ่นพับที่เป็นคำสั่งอพยพทางตะวันตกของเมืองราฟาห์
    2/ ภาพชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเริ่มอพยพอีกครั้ง จากคำสั่งของอิสราเอล โดยที่พวกเขาไม่รู้จะหลุดพ้นบ่วงกรรมจากการละเมิดความเป็นมนุษย์จากการกระทำที่ป่าเถื่อนของอิสราเอลเมื่อไหร่ การอพยพกำลังดำเนินไปท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเขตเทลอัลซุลตัน (เขตเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา) และเบตฮานูน (ทางเหนือของกาซา) ขณะเดียวกันกองกำลังอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินไปพร้อมๆกัน ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายสิบครอบครัวยังคงติดอยู่ในเมืองราฟาห์ มีรายงานระบุว่าทหารอิสราเอลขัดขวางไม่ให้มีการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต โดยปล่อยให้ศพกระจัดกระจายอยู่ตามถนนทั่วเมือง ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเล่าถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่กองทหารอิสราเอลประหารชีวิตพลเรือนอย่างพวกเขา หลังจากบุกโจมตีเทลอัลซุลตัน มีการตั้งจุดตรวจ และผู้คนหลายพันคนถูกกักตัวไว้ขณะที่ระเบิดตกลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ราย ชายคนเดิมยังเล่าอีกว่า เขาพบลูกชายของเขาถูกยิงเสียชีวิตหลังจากที่อิสราเอลทิ้งแผ่นพับที่เป็นคำสั่งอพยพทางตะวันตกของเมืองราฟาห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • 1/
    ภาพชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเริ่มอพยพอีกครั้ง จากคำสั่งของอิสราเอล โดยที่พวกเขาไม่รู้จะหลุดพ้นบ่วงกรรมจากการละเมิดความเป็นมนุษย์จากการกระทำที่ป่าเถื่อนของอิสราเอลเมื่อไหร่

    การอพยพกำลังดำเนินไปท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเขตเทลอัลซุลตัน (เขตเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา) และเบตฮานูน (ทางเหนือของกาซา) ขณะเดียวกันกองกำลังอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินไปพร้อมๆกัน

    ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายสิบครอบครัวยังคงติดอยู่ในเมืองราฟาห์ มีรายงานระบุว่าทหารอิสราเอลขัดขวางไม่ให้มีการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต โดยปล่อยให้ศพกระจัดกระจายอยู่ตามถนนทั่วเมือง

    ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเล่าถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่กองทหารอิสราเอลประหารชีวิตพลเรือนอย่างพวกเขา หลังจากบุกโจมตีเทลอัลซุลตัน มีการตั้งจุดตรวจ และผู้คนหลายพันคนถูกกักตัวไว้ขณะที่ระเบิดตกลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ราย

    ชายคนเดิมยังเล่าอีกว่า เขาพบลูกชายของเขาถูกยิงเสียชีวิตหลังจากที่อิสราเอลทิ้งแผ่นพับที่เป็นคำสั่งอพยพทางตะวันตกของเมืองราฟาห์
    1/ ภาพชาวปาเลสไตน์ที่กำลังเริ่มอพยพอีกครั้ง จากคำสั่งของอิสราเอล โดยที่พวกเขาไม่รู้จะหลุดพ้นบ่วงกรรมจากการละเมิดความเป็นมนุษย์จากการกระทำที่ป่าเถื่อนของอิสราเอลเมื่อไหร่ การอพยพกำลังดำเนินไปท่ามกลางการโจมตีทางอากาศอย่างหนักในเขตเทลอัลซุลตัน (เขตเมืองราฟาห์ ทางใต้ของกาซา) และเบตฮานูน (ทางเหนือของกาซา) ขณะเดียวกันกองกำลังอิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีภาคพื้นดินไปพร้อมๆกัน ครอบครัวชาวปาเลสไตน์ผู้บริสุทธิ์หลายสิบครอบครัวยังคงติดอยู่ในเมืองราฟาห์ มีรายงานระบุว่าทหารอิสราเอลขัดขวางไม่ให้มีการเก็บกู้ศพผู้เสียชีวิต โดยปล่อยให้ศพกระจัดกระจายอยู่ตามถนนทั่วเมือง ชาวปาเลสไตน์รายหนึ่งเล่าถึงช่วงเวลาเลวร้ายที่กองทหารอิสราเอลประหารชีวิตพลเรือนอย่างพวกเขา หลังจากบุกโจมตีเทลอัลซุลตัน มีการตั้งจุดตรวจ และผู้คนหลายพันคนถูกกักตัวไว้ขณะที่ระเบิดตกลงมาทำให้มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 55 ราย ชายคนเดิมยังเล่าอีกว่า เขาพบลูกชายของเขาถูกยิงเสียชีวิตหลังจากที่อิสราเอลทิ้งแผ่นพับที่เป็นคำสั่งอพยพทางตะวันตกของเมืองราฟาห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • หลังครองรักกันมายาวนาน 18 ปี และได้จูงมือจดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ม.ค. 68) พิธีกรคนเก่ง “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ก็ได้ควงหวานใจ “โอ๊ต อัครพล จับจิตรใจดล” จัดพิธีฉลองมงคลสมรสสุดโรแมนติกและอลังการ โดยเนรมิตพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ให้หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นไอรัก ภายใต้คอนเซปต์ WANDOLAND OF LOVE ที่ได้แรงบัลดาลมาจาก ดินแดนมหัศจรรย์แห่งความสุข เพื่อชวนทุกคนเดินทางเข้าสู่โลกแห่งเรื่องราวความรักของทั้งคู่

    ซึ่งงานนี้ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ให้เกียรติเป็นประธานในงานมงคลสมรส พร้อมด้วยครอบครัว และแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงเพื่อนพ้องศิลปินดารา ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานกันอย่างคับคั่ง ด้วยลุคแฟชั่นแบบจัดเต็ม อาทิ มดดํา คชาภา , แต้ว ณฐพร, มิว นิษฐา , วิน-เมธวิน , ลูกเกด-เมทินี , เป้ย ปานวาด , ต่อ-ธนภพ , นาย ณภัทร , เจเจ กฤษณภูมิ , ต้าเหนิง กัญญาวีร์ , เอมี่ กลิ่นประทุม , ซี ศิวัฒน์ , ต้นหอม ศกุนตลา , วุ้นเส้น วิริฒิพา , คริส หอวัง , แพนเค้ก เขมนิจ , ก้อย รัชวิน , ตูน อาทิวราห์ , เฌอปราง อารีย์กุล , รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ฯลฯ

    โดยบรรยากาศภายในงาน เต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน ก่อนปิดท้ายด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้สุดว้าว ที่โชว์แสง สี เสียง สุดตระการตา จากเหล่าศิลปินในวงการที่มาร่วมสร้างสีสันบันเทิง ได้แก่ ตู่ ภพธร, ติ๊นา-คริสติน่า อากีล่าร์, ดา เอ็นโดรฟิน, มาช่า วัฒนพานิช, ทาทา ยัง, รัดเกล้า อามระดิษ, จิ๋ว ปิยนุช , กระแต อาร์สยาม พร้อมด้วยดีเจทั้งไทยและต่างประเทศ อย่าง DJ Wukong และ DJ Bomber Selecta ที่หมุนเวียนมาโชว์แบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าอิ่มเอมหัวใจ สนุกครบรส

    #MGROnline #วู้ดดี้วุฒิธร #โอ๊ตอัครพล
    หลังครองรักกันมายาวนาน 18 ปี และได้จูงมือจดทะเบียนสมรสกันไปเมื่อวันที่ 27 มกราคม ที่ผ่านมา ล่าสุดเมื่อวานนี้ (22 ม.ค. 68) พิธีกรคนเก่ง “วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา” ก็ได้ควงหวานใจ “โอ๊ต อัครพล จับจิตรใจดล” จัดพิธีฉลองมงคลสมรสสุดโรแมนติกและอลังการ โดยเนรมิตพารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ให้หอมอบอวนไปด้วยกลิ่นไอรัก ภายใต้คอนเซปต์ WANDOLAND OF LOVE ที่ได้แรงบัลดาลมาจาก ดินแดนมหัศจรรย์แห่งความสุข เพื่อชวนทุกคนเดินทางเข้าสู่โลกแห่งเรื่องราวความรักของทั้งคู่ • ซึ่งงานนี้ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ได้ให้เกียรติเป็นประธานในงานมงคลสมรส พร้อมด้วยครอบครัว และแขกผู้มีเกียรติ รวมถึงเพื่อนพ้องศิลปินดารา ที่มาร่วมเป็นสักขีพยานกันอย่างคับคั่ง ด้วยลุคแฟชั่นแบบจัดเต็ม อาทิ มดดํา คชาภา , แต้ว ณฐพร, มิว นิษฐา , วิน-เมธวิน , ลูกเกด-เมทินี , เป้ย ปานวาด , ต่อ-ธนภพ , นาย ณภัทร , เจเจ กฤษณภูมิ , ต้าเหนิง กัญญาวีร์ , เอมี่ กลิ่นประทุม , ซี ศิวัฒน์ , ต้นหอม ศกุนตลา , วุ้นเส้น วิริฒิพา , คริส หอวัง , แพนเค้ก เขมนิจ , ก้อย รัชวิน , ตูน อาทิวราห์ , เฌอปราง อารีย์กุล , รัศมีแข ฟ้าเกื้อล้น ฯลฯ • โดยบรรยากาศภายในงาน เต็มไปด้วยความสุขและความสนุกสนาน ก่อนปิดท้ายด้วยอาฟเตอร์ปาร์ตี้สุดว้าว ที่โชว์แสง สี เสียง สุดตระการตา จากเหล่าศิลปินในวงการที่มาร่วมสร้างสีสันบันเทิง ได้แก่ ตู่ ภพธร, ติ๊นา-คริสติน่า อากีล่าร์, ดา เอ็นโดรฟิน, มาช่า วัฒนพานิช, ทาทา ยัง, รัดเกล้า อามระดิษ, จิ๋ว ปิยนุช , กระแต อาร์สยาม พร้อมด้วยดีเจทั้งไทยและต่างประเทศ อย่าง DJ Wukong และ DJ Bomber Selecta ที่หมุนเวียนมาโชว์แบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าอิ่มเอมหัวใจ สนุกครบรส • #MGROnline #วู้ดดี้วุฒิธร #โอ๊ตอัครพล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดโพยบัญชีม้า BNKMASTER ถึง “โจ๊ก” และเครือข่ายกว่า 10 ล้าน จ่ายค่ากรมธรรม์-ค่ากฐิน ยันค่าทางด่วน
    .
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ออกคำสั่งที่ 159/2568 ลงโทษไล่ออกจากราชการข้าราชการตำรวจ 5 นาย รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ BNKMASTER และมีการรับเงินจากบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเว็บดังกล่าวเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว โดยมีหลักฐานการทำธุรกรรมที่ชัดเจน เช่น การชำระค่าประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่าคอนโด ค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าแม่บ้าน ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทำบุญ และค่าผ่านทางพิเศษ รวมมูลค่าหลายล้านบาท จากพยานหลักฐานทั้งหมด คณะกรรมการสอบสวนวินัยจึงมีมติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027625
    เปิดโพยบัญชีม้า BNKMASTER ถึง “โจ๊ก” และเครือข่ายกว่า 10 ล้าน จ่ายค่ากรมธรรม์-ค่ากฐิน ยันค่าทางด่วน . สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้ออกคำสั่งที่ 159/2568 ลงโทษไล่ออกจากราชการข้าราชการตำรวจ 5 นาย รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. เนื่องจากพบว่ามีความเชื่อมโยงกับเว็บพนันออนไลน์ BNKMASTER และมีการรับเงินจากบัญชีที่เกี่ยวข้องกับเว็บดังกล่าวเพื่อใช้จ่ายส่วนตัวและครอบครัว โดยมีหลักฐานการทำธุรกรรมที่ชัดเจน เช่น การชำระค่าประกันชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ค่าคอนโด ค่าน้ำไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าแม่บ้าน ค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทำบุญ และค่าผ่านทางพิเศษ รวมมูลค่าหลายล้านบาท จากพยานหลักฐานทั้งหมด คณะกรรมการสอบสวนวินัยจึงมีมติให้ลงโทษไล่ออกจากราชการ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000027625
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 617 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน (ตอนที่ 1)
    .
    การทำงานคือหน้าที่ของทุกคนตามธรรมชาติ การดิ้นรนเก็บของป่า ล่าสัตว์ หาอาหารใส่ปากใส่ท้องเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ของครอบครัว และของสังคมมนุษย์แต่ดึกดำบรรพ์ ก็คือการทำงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วไม่ต่างไปจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือการเป็นลูกจ้างของรัฐหรือเอกชนในปัจจุบัน เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารยังชีวิต และซื้อหาความสุขสบายต่างๆ
    .
    ถ้าบุคคลหนึ่งไม่ทำหน้าที่นี้ เพื่อเลี้ยงตนเอง บุคคลอื่นในครอบครัวและในสังคมก็ต้องแบกรับภาระแทน ดังนั้น การทำงานจึงเป็นสิ่งที่มีเกียรติเพราะเป็นการดูแลตนเอง และช่วยมิให้คนอื่นต้งเดือดร้อนแบกรับภาระอุ้มชูตนโดยไม่จำเป็น หรือพูดอีกอย่างว่า การทำงานช่วยให้ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วย
    .
    เมื่อทำงาน ก็มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย สำหรับผู้ที่มีความรู้และพยายามเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีความบากบั่นมานะ ขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริต และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ก็จะมีรายได้สูง และมีช่วงเวลาในการทำงานหารายได้ยาวนาน สร้างความสุขกายและใจ และความมั่นคงในชีวิตให้แก่ตนเอง และครอบครัวได้ยาวนานไปด้วย
    .
    อย่างไรก็ดี การทำงานหาเงินแต่ละบาทนั้น มิใช่เรื่องง่าย หากเป็นลูกจ้าง การที่นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างให้นั้น ลูกจ้างต้องทำงานให้ได้อย่างคุ้มค่ากับการจ้าง และหากเป็นผู้ประกอบธุรกิจ การมีรายได้จากกำไรก็ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการที่มีผู้ต้องการซื้อ ยิ่งไปกว่านั้น รายรับจากการขายจะต้องสูงกว่าต้นทุนอีกด้วย
    .
    การทำให้ตนเองสามารถทำงานได้อย่างคุ้มค่า หรือขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในราคาอันเป็นที่ยอมรับได้ และมีกำไรอีกด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ยากพอควร ดังนั้น การหาเงินจึงมิใช่เรื่องง่ายๆ ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความรู้ ความสามารถ ด้วยเหตุนี้ เราทุกคนจึงจำเป็นต้องไขว่คว้าหาความรู้ และพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อเตรียมพร้อม
    .
    เงินนั้นมิได้ "งอกบนต้นไม้" ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้หามาด้วยความเหนื่อยยากลำบากกายและใจ การหวังพึ่งความเมตตาของคนอื่นเพื่อให้ได้เงินมานั้น คือการอาศัยจมูกคนอื่นหายใจโดยแท้ เป็นสิ่งที่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี และอยู่บนความประมาทอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ให้เปลี่ยนใจ เงินจะขาดมีอย่างฉับพลัน
    .
    เมื่อเงินหามาได้ยากเย็นและด้วยต้นทุนที่สูงเช่นนี้ เงินจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า การใช้จ่ายทุกบาทจึงควรเป็นไปอย่างรอบคอบ และให้ได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับแรงงานที่เสียไป
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน (ตอนที่ 1) . การทำงานคือหน้าที่ของทุกคนตามธรรมชาติ การดิ้นรนเก็บของป่า ล่าสัตว์ หาอาหารใส่ปากใส่ท้องเพื่อความอยู่รอดของตนเอง ของครอบครัว และของสังคมมนุษย์แต่ดึกดำบรรพ์ ก็คือการทำงานรูปแบบหนึ่ง ซึ่งโดยแท้จริงแล้วไม่ต่างไปจากการประกอบธุรกิจส่วนตัว หรือการเป็นลูกจ้างของรัฐหรือเอกชนในปัจจุบัน เพื่อหาเงินมาซื้ออาหารยังชีวิต และซื้อหาความสุขสบายต่างๆ . ถ้าบุคคลหนึ่งไม่ทำหน้าที่นี้ เพื่อเลี้ยงตนเอง บุคคลอื่นในครอบครัวและในสังคมก็ต้องแบกรับภาระแทน ดังนั้น การทำงานจึงเป็นสิ่งที่มีเกียรติเพราะเป็นการดูแลตนเอง และช่วยมิให้คนอื่นต้งเดือดร้อนแบกรับภาระอุ้มชูตนโดยไม่จำเป็น หรือพูดอีกอย่างว่า การทำงานช่วยให้ไม่เบียดเบียนผู้อื่นอีกด้วย . เมื่อทำงาน ก็มีรายได้มาจับจ่ายใช้สอย สำหรับผู้ที่มีความรู้และพยายามเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง มีความบากบั่นมานะ ขยันหมั่นเพียร ซื่อสัตย์สุจริต และดูแลสุขภาพให้แข็งแรง ก็จะมีรายได้สูง และมีช่วงเวลาในการทำงานหารายได้ยาวนาน สร้างความสุขกายและใจ และความมั่นคงในชีวิตให้แก่ตนเอง และครอบครัวได้ยาวนานไปด้วย . อย่างไรก็ดี การทำงานหาเงินแต่ละบาทนั้น มิใช่เรื่องง่าย หากเป็นลูกจ้าง การที่นายจ้างจะจ่ายค่าจ้างให้นั้น ลูกจ้างต้องทำงานให้ได้อย่างคุ้มค่ากับการจ้าง และหากเป็นผู้ประกอบธุรกิจ การมีรายได้จากกำไรก็ต้องมาจากการขายสินค้าหรือบริการที่มีผู้ต้องการซื้อ ยิ่งไปกว่านั้น รายรับจากการขายจะต้องสูงกว่าต้นทุนอีกด้วย . การทำให้ตนเองสามารถทำงานได้อย่างคุ้มค่า หรือขายสินค้าที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคในราคาอันเป็นที่ยอมรับได้ และมีกำไรอีกด้วยนั้น เป็นเรื่องที่ยากพอควร ดังนั้น การหาเงินจึงมิใช่เรื่องง่ายๆ ที่เกิดขึ้นโดยปราศจากความรู้ ความสามารถ ด้วยเหตุนี้ เราทุกคนจึงจำเป็นต้องไขว่คว้าหาความรู้ และพัฒนาความรู้ความสามารถของตนเอง เพื่อเตรียมพร้อม . เงินนั้นมิได้ "งอกบนต้นไม้" ทุกคนต้องดิ้นรนต่อสู้หามาด้วยความเหนื่อยยากลำบากกายและใจ การหวังพึ่งความเมตตาของคนอื่นเพื่อให้ได้เงินมานั้น คือการอาศัยจมูกคนอื่นหายใจโดยแท้ เป็นสิ่งที่ไร้เกียรติ ไร้ศักดิ์ศรี และอยู่บนความประมาทอย่างยิ่ง เพราะหากผู้ให้เปลี่ยนใจ เงินจะขาดมีอย่างฉับพลัน . เมื่อเงินหามาได้ยากเย็นและด้วยต้นทุนที่สูงเช่นนี้ เงินจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่า การใช้จ่ายทุกบาทจึงควรเป็นไปอย่างรอบคอบ และให้ได้รับประโยชน์คุ้มค่ากับแรงงานที่เสียไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 124 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป

    จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน

    สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน

    1. อาหารและโภชนาการ

    อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ

    การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง

    2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต

    สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน

    การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน

    3. การแพทย์และสาธารณสุข

    ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง"

    มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง

    แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต

    ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น

    การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย

    การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ

    การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ

    จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ

    ที่มา: VGraps
    ประเทศไทยติดอันดับ 5 ของโลกในจำนวนประชากรอายุ 100 ปีขึ้นไป จากข้อมูลปี 2024 ประเทศไทยมีประชากรที่มีอายุ 100 ปีขึ้นไปถึง 42,845 คน ติดอันดับที่ 5 ของโลก แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างชัดเจน สาเหตุที่ทำให้คนไทยอายุยืน 1. อาหารและโภชนาการ อาหารไทยอุดมไปด้วยสมุนไพร เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ การบริโภคผักและผลไม้สด รวมถึงอาหารที่มีไขมันต่ำ เช่น ปลาและข้าวกล้อง 2. วัฒนธรรมและวิถีชีวิต สังคมไทยให้ความสำคัญกับครอบครัว ทำให้ผู้สูงอายุมีการดูแลและได้รับความรักจากลูกหลาน การทำบุญและปฏิบัติธรรมช่วยให้จิตใจสงบ ลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญของอายุยืน 3. การแพทย์และสาธารณสุข ระบบสาธารณสุขของไทยเข้าถึงได้ง่าย โดยเฉพาะโครงการ "หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า" หรือ "บัตรทอง" มีแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนปัจจุบันที่ทำงานร่วมกัน ช่วยส่งเสริมสุขภาพให้แข็งแรง แนวโน้มของประเทศไทยในอนาคต ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ สังคมผู้สูงวัยอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) ซึ่งหมายความว่าประชากรที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไปจะมากกว่า 20% ของประชากรทั้งหมด ส่งผลให้ต้องมีการปรับตัวในหลายด้าน เช่น การพัฒนาระบบสาธารณสุขให้รองรับผู้สูงวัย การออกแบบเมืองให้เป็นมิตรกับผู้สูงอายุ การสนับสนุนให้ผู้สูงวัยสามารถทำงานหรือมีกิจกรรมที่เสริมสร้างสุขภาพ จากสถิตินี้ทำให้เห็นว่า ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคนอายุยืนมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นทั้งโอกาสและความท้าทายในการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับอนาคตของประเทศ ที่มา: VGraps
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้โดนบ่นโดนด่าจากทางบ้านหลายรอบแล้ว แต่ก็พยายามจะทำแหละ แต่ไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหนผมคงต้องจัดการ บางช่วงลืมทำงานบ้านเพราะผมรู้สึกเบลอๆเพลียๆ แต่ดูถูกผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งต้องไปสู่จุดที่ผมคิดว่าปลอดภัยและท้าทายเหมาะสมให้มากขึ้น ผมเองก็ไม่ชอบทำอาชีพงานหนักเงินน้อยไปตลอดชีวิตเพราะทำแทบตุย ทำแทบไม่ได้นอน ก็ได้แค่นี้ แต่เวลานั้นก็ไม่มีเวลามาพัฒนาความรู้ตัวเองด้วยซ้ำ บางทีก็เวลาเรียนรู้โคตรน้อย บางทีก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเป็นเดือนๆ ผมนี่อัดอั้นกับคนรอบข้างนานมากแล้ว แต่บางทีคนรอบข้างไม่น่าเชื่อถือ ก่อนหน้านี้ผมเชื่อถือจนหลง ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นโดนตีกรอบจำกัดเป้าหมายและอนาคต จนอนาคตเพื่อนๆคนอื่นยังเดินรุดหน้าผมไปตั้ง 10000ๆ ลี้ ผมยอมรับตรงๆว่าผมไม่ถูกกับทั้งหมดในครอบครัวนานแล้ว
    วันนี้โดนบ่นโดนด่าจากทางบ้านหลายรอบแล้ว แต่ก็พยายามจะทำแหละ แต่ไม่รู้ว่ามันยากแค่ไหนผมคงต้องจัดการ บางช่วงลืมทำงานบ้านเพราะผมรู้สึกเบลอๆเพลียๆ แต่ดูถูกผมมากเท่าไหร่ ผมยิ่งต้องไปสู่จุดที่ผมคิดว่าปลอดภัยและท้าทายเหมาะสมให้มากขึ้น ผมเองก็ไม่ชอบทำอาชีพงานหนักเงินน้อยไปตลอดชีวิตเพราะทำแทบตุย ทำแทบไม่ได้นอน ก็ได้แค่นี้ แต่เวลานั้นก็ไม่มีเวลามาพัฒนาความรู้ตัวเองด้วยซ้ำ บางทีก็เวลาเรียนรู้โคตรน้อย บางทีก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเป็นเดือนๆ ผมนี่อัดอั้นกับคนรอบข้างนานมากแล้ว แต่บางทีคนรอบข้างไม่น่าเชื่อถือ ก่อนหน้านี้ผมเชื่อถือจนหลง ที่ไหนได้ กลับกลายเป็นโดนตีกรอบจำกัดเป้าหมายและอนาคต จนอนาคตเพื่อนๆคนอื่นยังเดินรุดหน้าผมไปตั้ง 10000ๆ ลี้ ผมยอมรับตรงๆว่าผมไม่ถูกกับทั้งหมดในครอบครัวนานแล้ว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • “รมว.ยุติธรรม” ป้อง “ครอบครัวชินวัตร” ยันไม่มีดีลแลกผลประโยชน์ประเทศ
    https://www.thai-tai.tv/news/17765/
    “รมว.ยุติธรรม” ป้อง “ครอบครัวชินวัตร” ยันไม่มีดีลแลกผลประโยชน์ประเทศ https://www.thai-tai.tv/news/17765/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง
    .
    ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้
    .
    แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย
    .
    ---------------
    ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก"
    ---------------
    .
    อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป...
    .
    ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ
    .
    ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ
    .
    อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี)
    .
    เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย
    .
    เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้...
    .
    ------------------------
    กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง
    ------------------------
    .
    อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551
    .
    ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ
    .
    ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล
    .
    ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่
    .
    หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664
    .
    แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน
    .
    ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค
    .
    ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง
    .
    และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี
    .
    ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด
    ---------------------------------
    แหล่งข้อมูล
    - https://www.git.or.th/g20130410.html
    - http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3585&read=true&count=true
    - https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1591058431203175?
    - https://www.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2367376280183185/?type=3&theater
    - https://th.wikipedia.org/wiki/เพชรโฮป
    - https://www.facebook.com/726502237386172/posts/3507440415958993/
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    แม้วันเวลาจะผ่านไปกว่า 32 ปีแล้วก็ตาม แต่คดี เพชรซาอุฯ ก็ยังถูกกลับเอามาเล่าขานกันอีกครั้ง . ตำนานเครื่องเพชรที่ถูกพูดถึงมากเรื่องหนึ่งในสังคมไทยโดย คดี เพชรซาอุฯ นั้นเกิดขึ้นครั้งแรกเกิดปี พ.ศ. 2532 นายเกรียงไกร เตชะโม่ง คนงานทำความสะอาดในพระราชวังของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด ได้โจรกรรมเพชร ทอง และอัญมณี ที่ถูกวางไว้อย่างไม่เป็นที่เป็นทาง จากพระราชวัง โดยอาศัยช่วงเวลาที่เจ้าชายแปรพระราชฐานไปต่างประเทศ แอบนำถุงกระสอบขนาดใหญ่เข้าไปในพระราชวัง ซ่อนตัวอยู่ภายในพระราชวังจนถึงเวลากลางคืน แล้วจึงทำการขโมยเครื่องเพชรใส่ถุงกระสอบแล้วโยนถุงกระสอบลงมาออกนอกกำแพงพระราชวัง จากนั้นนำส่งประเทศไทยโดยการส่งปะปนมากับเสื้อผ้าเครื่องใช้ส่วนตัว ทำให้ ยากจะตรวจสอบได้ . แต่สุดท้าย นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ได้ถูก ตำรวจจับกุมได้ในเวลาต่อมา โดย ชุดจับกุมของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ และยอมรับสารภาพทุกข้อกล่าวหา พร้อมช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ในการตามเพชรทั้งหมดกลับคืนอีกด้วย . --------------- ไม่เคยมี "เพชรสีน้ำเงินมาแต่แรก" --------------- . อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มมี "คดีเพชรซาอุ" มีการพูดถึง เครื่องเพชร ชุดหนึ่ง คือ "เพชรสีน้ำเงิน"( เครื่องเพชรบลูไดมอนด์) ซึ่งแท้จริงแล้วมีปรากฎแต่ในการนำเสนอข่าวภายในประเทศไทยเท่านั้น ที่แม้แต่ พล.ต.ท.วรรณรัตน์ คชรัตน์ ผช.อตร. เจ้าของคดี ยังถามถามสื่อมวลชนเองว่า "ไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน ตนไม่เคยได้ยิน หรือเห็นมาก่อนเลย" จากนั้นก็มีการไปเอารูปภริยาอธิบดีกรมตำรวจในขณะนั้น พล.ต.อ. แสวง ธีระสวัสดิ์ ภาพใน น.ส.พ. ฉบับหนึ่ง ผู้หญิงสวมสร้อยคอที่มีจี้เป็นอัญมณีสีน้ำเงินล้อมเพชรและทอง ปรากฏตัวในงานเลี้ยงงานหนึ่ง ใช้ชื่อ "งานเลี้ยงบลูไดมอนด์" แล้วก็ลือกันตามมาว่าเป็นเพชรบลูไดมอนด์ของเจ้าฟ้าชายไฟซาล เรื่องราวนี้ดังไปถึงหู ทางการของประเทศซาอุฯ เลยส่งสายสืบลับของซาอุฯมาตรวจสอบเพิ่มเติม จนพบว่า ในความเป็นจริงแล้วเพชรบลูไดมอนด์ ในข่าวเป็นเพียง วัตถุที่ทำด้วยผ้ากำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มที่นำมาประดิษฐ์เข้าคู่กับเพชรและทอง เท่านั้น คดีเพชรบลูไดมอนด์จึงจบไป... . ส่วน นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยได้สารภาพว่า ได้แบ่งเครื่องเพชรให้กับเพื่อนที่มีส่วนรู้เห็นโดยไม่ได้แยกแยะ ชนิดสี ประเภทใดๆก่อนที่จะเดินทางกลับประเทศไทย โดยแยกทองและหินออกจากกัน เนื่องจาก นาย เกรียงไกร ทราบมูลค่าของทองดีแต่ไม่ทราบมูลของเพชรพลอยที่ประดับ หินบางส่วนถูกทุบให้แตกเพื่อแยกประเภทคร่าวๆตามความเข้าใจว่าเพชรเป็นของแข็ง หากไม่แตกก็จะเก็บเอาไว้ขายนั้นเอง จากนั้นจึงนำไปขายให้พ่อค้าเพชรและทองตามลำดับ . ในช่วงเวลาระหว่างการดำเนินคดี นายเกรียงไกร เตชะโม่ง จำเลยในคดีลักเพชรของเจ้าชายไฟซาล บิน ฟาฮัด อธิบดีกรมตำรวจ พลตำรวจเอกประทิน สันติประภพ มอบหมายให้ผู้รับผิดชอบคือ (สิงเหนือ ) พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ ออกติดตามเครื่องเพชรคืนให้แก่รัฐบาลซาอุดิอาระเบีย โดยตามหาและส่งคืนกลับไปทั้งหมด ผลงานของ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศในครั้งนั้นสร้างชื่อเสียงมากจนได้รับการยกย่องจากประเทศซาอุดิอาระเบีย ให้เป็นแขกพิเศษ . อย่างไรก็ตามมีประเด็นต่อมา คือการส่งคืนเครื่องเพชรจำนวนมากในครั้งนั้นกลับไม่ครบ-และบางส่วนปลอม เลยมีการรื้อคดีกลับมาตรวจสอบอีกครั้ง จากคำให้การของนายเกรียงไกร ที่บอกว่า ได้โจรกรรมเครื่องเพชรของเจ้าชายไฟซาล แล้วนำเข้ามาขายในประเทศไทย โดยขายให้ นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ จึงพุ่งเป้าไปที่ นายสันติ เพื่อตามทวงคืน เครื่องเพชรส่วนที่เหลือ แต่นายสันติ ได้ปฎิเสธ พล.ต.ท.ชลอจึงจับลูกและภารยาของนายสันติ เป็นตัวประกันเพื่อบีบบังคับให้ นายสันติบอกที่ซ่อนของเพชรที่เหลือ แต่ก็ไม่เป็นผล ...ประจวบกับเหตุการณ์เวลานั้นมีการคุกคามตัวประกัน จึงมีการสังหารตัวประกันแล้วจัดฉากให้เป็นอุบัติเหตุ แต่ในภายหลัง พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศถูกจับกุมในคดี สังหาร ครอบครัว ศรีธนะขัณฑ์ เลยได้รับโทษประหารชีวิต ...(ซึ่งปัจจุบัน ได้รับการปล่อยตัวหลังจากที่จำคุกมาได้ 19ปี) . เมื่อมีการพยายามพูดถึง เพชรบลูไดมอนด์และเพชรที่เหลือจากซาอุฯ อีกครั้ง มีการตรวจสอบ ย้อนกลับซ้ำอีกครั้ง จึงพบว่า ทางซาอุฯไม่สามารถระบุรูปลักษณ์ของ เพชรบลูไดมอนด์ และไม่มีใครทั้ง นายเกรียงไกร เตชะโม่ง ,นายสันติ ศรีธนะขัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ทางการไทย ต่างไม่เคยพบเห็นเพชรบลูไดมอนด์ เลยจึงได้ข้อสรุปว่าเพชรบลูไดมอนด์ ไม่เคยอยู่ในประเทศไทย . เรื่องราว เพชรซาอุฯ มีข้อเท็จจริงแต่เพียงเท่านี้... . ------------------------ กำเนิดข่าวลือเพชรซาอุรอบที่สอง ------------------------ . อย่างไรก็ตาม ในปี2551 ในการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มคนเสื้อแดง มีการยกเรื่อง เพชรสีน้ำเงิน เอาขึ้นมาอีกครั้ง บนเวทีสนามหลวง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2551 . ทั้งบนเวที และ ในลักษณะข่าวลือ โดยบนเวทีชุมนุมนั้นจะปรากฎ ภาพ แหวนเพชรสีน้ำเงินถูกสวมอยู่ในอุ้งเท้าไดโนเสาร์ ซึ่งในการชุมนุมครั้งนั้น มี หนึ่งในผู้ปราศรัย คือ(เสือใต้) พล.ต.อ สล้าง บุนนาค นายตำรวจยุคเดียวกับ (สิงเหนือ)พล.ต.ท.ชลอ เกิดเทศ . ส่วนข่าวลือและภาพที่ถูกแชร์กันใส่สังคมออนไลน์ในช่วงปี 2553 คือภาพ เพชรสีน้ำเงิน หน้าต่างๆกันออกไปทั้งแบบที่เป็นแหวนเพชร และ สร้อยคอ โดยมีการระบุในข่าวลือว่าเป็น เพชรบลูไดมอนด์จากคดีเพชรซาอุฯ โดยมีการนำเอาภาพของสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่9 ทรงพระศอประดับอัญมณีสีฟ้าในการแชร์พร้อมเรื่องราวข่าวเท็จเกี่ยวกับการขโมยเพชรสีน้ำเงินจากราชวงศ์ซาอุฯ จนกลายเป็นข่าวลือให้ร้ายสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแยบยล . ในความเป็นจริงแล้วไม่เคยมีใครเคยเห็น เพชรบลูไดมอนด์ ว่าอยู่ในสภาพแหวนหรือสอยคอ และมีจำนวนกี่เม็ดกันแน่ . หากพิจารณาภาพเพชรสีน้ำเงินที่เผยแพร่ในช่วงนี้ก็จะพบว่าเป็นเพียงการนำภาพ เครื่องเพชรที่มีลักษณะใกล้เคียงมาตัดต่อพร้อมประกอบกับเรื่องราวข่าวลือเท่านั้น โดยภาพที่ปรากฏประจำคือ Hope Diamond ของฝรั่งเศส ทั้งนี้ Hope Diamond มีประวัติน่าสนใจมาก เพราะ เป็นเพชรสีน้ำเงินที่ถูกตัดออกมาจาก เพชรเม็ดยักของ ราชวงศ์ฝรั่งเศส ที่ชื่อว่า French Blue (Le bleu de France) ตั้งแต่สมัยปฎิวัติฝรั่งเศส โดยแหล่งกำเนิดของ French Blue (Le bleu de France) นั้นมาจากเหมืองในเมืองกอลคอนดา (Golconda) ในประเทศอินเดีย ตั้งแต่ ปี 1664 . แต่ด้วยประวัติของผู้ครอบครองเพชรสีน้ำเงิน ที่ล้วนเป็นคนใหญ่คนโต และเสียชีวิตฉับพลันจึงทำให้กลายเป็นตำนานเพชรต้องสาป ซึ่งปัจจุบัน เพชรเม็ดนี้ อยู่ในพิพิธภัณฑ์สมิธโซเนียน . ส่วนอีกภาพที่นิยมแชร์พร้อมกับข่าวลือคำสาปเพชรซาอุฯ คือภาพของ "Heart of the Ocean" หรือในภาษาฝรั่งเศสเรียกว่า "Le Cœur de la Mer" เพชรสีน้ำเงินรูปทรงหัวใจ เป็นเครืองประดับที่สวยงามมาก แต่น่าเสียดายว่า แท้จริงแล้ว"Heart of the Ocean"เป็นเพชรที่เกิดมาจาก การจินตนาการของผู้กำกับภาพยนต์ ไททานิค โดย "Heart of the Ocean" นั้นถูกจินตนาการขึ้นโดยอ้างอิง ประวัติ Hope Diamond ของฝรั่งเศส และถูกจินตนาการไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งของสาเหตุการจมเรือในภาพยนตร์ไททานิค . ส่วนภาพสำคัญและมักถูกตกเป็นเป้าโจมตีของข่าวเท็จก็คือภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน(ไม่ใช่เพชร) เป็นภาพตั้งแต่ ปี 2500 ขณะทรงเยือนสหรัฐอเมริกา ซึ่งพระศอไพลินสีน้ำเงินนั้นเป็นมรดกตกทอดมาจากสมเด็จพระพันปีหลวง . และ แน่นอนว่า ภาพของ สมเด็จพระราชินีนาถในรัชกาลที่ 9 ทรง พระศอไพลินสีน้ำเงิน เป็นภาพที่เกิดขึ้นก่อน คดีเพชรซาอุฯ ถึง 32 ปี . ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ ที่ เพชรบลูไดมอนด์ จากคดีเพชรซาอุฯปี 2532 จะย้อน เวลาไปปรากฎในปี 2500 ได้โดยเด็ดขาด --------------------------------- แหล่งข้อมูล - https://www.git.or.th/g20130410.html - http://www.tpa.or.th/writer/read_this_book_topic.php?bookID=3585&read=true&count=true - https://www.facebook.com/siamgreatwarriors/posts/1591058431203175? - https://www.facebook.com/boraannaanma/photos/a.1721168658137287/2367376280183185/?type=3&theater - https://th.wikipedia.org/wiki/เพชรโฮป - https://www.facebook.com/726502237386172/posts/3507440415958993/ ------------------------------- ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่ Website : http://www.thailandvision.co Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 408 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีการเปิดเผยหน้าตาของ อาบู ฮัมซา โฆษกกองพลอัลกุฎส์ของฮามาส ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อสองวันก่อน รวมถึงครอบครัวและลูกๆของเขาด้วย

    หลายคนคงคาดหวังว่าเขาจะมีหนวดเครายาว และมีรอยสักตามตัวที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า “ความตายจงมีแด่พวกนอกศาสนา”

    เปล่าเลย! เขาเป็นเพียงชาวปาเลสไตน์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชนของเขาจากการถูกยึดครองโดยอิสราเอล
    มีการเปิดเผยหน้าตาของ อาบู ฮัมซา โฆษกกองพลอัลกุฎส์ของฮามาส ที่เสียชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลเมื่อสองวันก่อน รวมถึงครอบครัวและลูกๆของเขาด้วย หลายคนคงคาดหวังว่าเขาจะมีหนวดเครายาว และมีรอยสักตามตัวที่ใช้ถ้อยคำรุนแรงว่า “ความตายจงมีแด่พวกนอกศาสนา” เปล่าเลย! เขาเป็นเพียงชาวปาเลสไตน์ธรรมดาๆ คนหนึ่งที่ต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชนของเขาจากการถูกยึดครองโดยอิสราเอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทนายธรรมราช พร้อมครอบครัวเชื่อมจิตพบตำรวจ สน.ทองหล่อ ติดตามความคืบหน้าคดีแจ้งความเอาผิด “หนุ่มกรรชัย-ต้นอ้อ” หมิ่นประมาทฯ-ข่มขู่คุกคาม

    วันนี้ (20 มี.ค.) นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความพร้อมครอบครัวเชื่อมจิต และผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับดาราและพิธีกรรายการดัง

    ทนายธรรมราช กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวของแม่นก เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ได้แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.67 โดยเป็นการแจ้งความกับพิธีกรดังอย่างคุณหนุ่มกรรชัย และคุณต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง เนื่องจากมีพฤติกรรมก่อความวุ่นวายและคุกคามจนทำให้น้องเกิดความตกใจ หวาดกลัว จึงได้แจ้งความไว้ ในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ข่มขู่คุกคาม ก่อความวุ่นวายในสถานที่ราชการ และทารุณกรรมจิตใจเด็ก ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000026824

    #MGROnline #ทนายธรรมราช #ครอบครัวเชื่อมจิต
    ทนายธรรมราช พร้อมครอบครัวเชื่อมจิตพบตำรวจ สน.ทองหล่อ ติดตามความคืบหน้าคดีแจ้งความเอาผิด “หนุ่มกรรชัย-ต้นอ้อ” หมิ่นประมาทฯ-ข่มขู่คุกคาม • วันนี้ (20 มี.ค.) นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความพร้อมครอบครัวเชื่อมจิต และผู้ติดตามจำนวนหนึ่ง เดินทางมาที่ สน.ทองหล่อ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีกับดาราและพิธีกรรายการดัง • ทนายธรรมราช กล่าวว่า ในวันนี้ได้เดินทางมาพร้อมกับครอบครัวของแม่นก เพื่อติดตามความคืบหน้าทางคดี ที่ได้แจ้งความไว้ตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย.67 โดยเป็นการแจ้งความกับพิธีกรดังอย่างคุณหนุ่มกรรชัย และคุณต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง เนื่องจากมีพฤติกรรมก่อความวุ่นวายและคุกคามจนทำให้น้องเกิดความตกใจ หวาดกลัว จึงได้แจ้งความไว้ ในข้อหา หมิ่นประมาทโดยการโฆษณา ข่มขู่คุกคาม ก่อความวุ่นวายในสถานที่ราชการ และทารุณกรรมจิตใจเด็ก ตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9680000026824 • #MGROnline #ทนายธรรมราช #ครอบครัวเชื่อมจิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 276 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่าที่สิ้นหวัง ได้รับความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายจากโครงการอาหารโลกเมื่อวันพุธ (19) เนื่องจากหน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนนับล้านในประเทศแห่งนี้เพราะขาดแคลนเงินทุน

    การตัดงบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้โครงการอาหารโลกขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในพม่า ที่อยู่ในสถานการณ์สงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 4 ปี

    “ฉันภาวนาทุกคืนขอให้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง” บยาร์ มี ที่ได้รับความช่วยเหลือรายเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเธอใช้เลี้ยงดูครอบครัว 5 คน กล่าว

    “ฉันภาวนาต่อพระเจ้าให้ผู้บริจาคได้รับพรและให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้อีกครั้ง ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา สงสารเราด้วย” บยาร์ มี กล่าวกับเอเอฟพี จากค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองมิตจีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

    นับตั้งแต่กองทัพพม่าเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 ประเทศเผชิญกับความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น และทำให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น 50%

    เนื่องจากการตัดความช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือได้เพียง 35,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอาหารในแต่ละวันของตนเองได้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000026719

    #MGROnline #ผู้ลี้ภัย #ค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่า #โครงการอาหารโลก #สหประชาชาติ
    เอเอฟพี - ผู้ลี้ภัยในค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่าที่สิ้นหวัง ได้รับความช่วยเหลือครั้งสุดท้ายจากโครงการอาหารโลกเมื่อวันพุธ (19) เนื่องจากหน่วยงานของสหประชาชาติเริ่มหยุดให้ความช่วยเหลือแก่ผู้คนนับล้านในประเทศแห่งนี้เพราะขาดแคลนเงินทุน • การตัดงบประมาณความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ส่งผลให้โครงการอาหารโลกขาดแคลนเงินทุนอย่างรุนแรง ส่งผลให้ต้องตัดงบประมาณครั้งใหญ่ในพม่า ที่อยู่ในสถานการณ์สงครามกลางเมืองมาเป็นเวลา 4 ปี • “ฉันภาวนาทุกคืนขอให้ข่าวนี้ไม่เป็นความจริง” บยาร์ มี ที่ได้รับความช่วยเหลือรายเดือนครั้งสุดท้ายเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ที่มีมูลค่าประมาณ 50 ดอลลาร์ ซึ่งเธอใช้เลี้ยงดูครอบครัว 5 คน กล่าว • “ฉันภาวนาต่อพระเจ้าให้ผู้บริจาคได้รับพรและให้พวกเขาสามารถช่วยเหลือพวกเราได้อีกครั้ง ได้โปรดช่วยเหลือพวกเรา สงสารเราด้วย” บยาร์ มี กล่าวกับเอเอฟพี จากค่ายแห่งหนึ่งนอกเมืองมิตจีนา ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ • นับตั้งแต่กองทัพพม่าเข้าโค่นล้มรัฐบาลพลเรือนในปี 2564 ประเทศเผชิญกับความขัดแย้งที่คร่าชีวิตผู้คนไปหลายพันคน และทำให้ผู้คนหลายล้านต้องพลัดถิ่น และทำให้อัตราความยากจนเพิ่มขึ้น 50% • เนื่องจากการตัดความช่วยเหลือ โครงการอาหารโลกระบุว่าจะให้ความช่วยเหลือได้เพียง 35,000 คนในเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นเพียงเศษเสี้ยวของ 15 ล้านคน ที่ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านอาหารในแต่ละวันของตนเองได้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/indochina/detail/9680000026719 • #MGROnline #ผู้ลี้ภัย #ค่ายบรรเทาทุกข์ของพม่า #โครงการอาหารโลก #สหประชาชาติ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ก่อความไม่สงบยิ่งได้ใจ หลังสส.รอมฎอน - กัณวีร์ ให้ท้าย ขว้างไปป์บอมบ์ใส่ฐานตรวจสายบุรี ชาวบ้านโดนลูกหลงบาดเจ็บทั้งครอบครัว 5คน รวมทั้งเด็กเล็ก รอมฎอนว่าไงเมิง
    #คิงส์โพธิ์แดง
    ผู้ก่อความไม่สงบยิ่งได้ใจ หลังสส.รอมฎอน - กัณวีร์ ให้ท้าย ขว้างไปป์บอมบ์ใส่ฐานตรวจสายบุรี ชาวบ้านโดนลูกหลงบาดเจ็บทั้งครอบครัว 5คน รวมทั้งเด็กเล็ก รอมฎอนว่าไงเมิง #คิงส์โพธิ์แดง
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปจีนเพื่อติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับ เพื่อให้ประชาชนสบายใจ มั่นใจอธิบายให้ประเทศอื่นที่เห็นต่างให้เข้าใจได้ ไม่สนใจดราม่าการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่กลับพาลูกๆ มาเดินเล่น ที่หน้าสนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า อย่างอารมณ์ดี ต้องเข้าใจชีวิตมนุษย์ที่ทำงาน การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ทุกมนุษย์สามารถมีครอบครัว มีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง ส่วนรู้สึกอย่างไรกับกระแสดรามาดังกล่าว ถ้าไม่มีก็อาจคิดถึง ต้องขอบคุณมาก
    น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เผยกรณี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางไปจีนเพื่อติดตามความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ ที่ถูกส่งตัวกลับ เพื่อให้ประชาชนสบายใจ มั่นใจอธิบายให้ประเทศอื่นที่เห็นต่างให้เข้าใจได้ ไม่สนใจดราม่าการแก้ปัญหาปลาหมอคางดำของกลุ่มผู้ชุมนุมที่มาประท้วงเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาล แต่กลับพาลูกๆ มาเดินเล่น ที่หน้าสนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้า อย่างอารมณ์ดี ต้องเข้าใจชีวิตมนุษย์ที่ทำงาน การจัดสรรเวลาเป็นสิ่งสำคัญ ทุกมนุษย์สามารถมีครอบครัว มีชีวิตที่มีความสุขของตัวเอง ส่วนรู้สึกอย่างไรกับกระแสดรามาดังกล่าว ถ้าไม่มีก็อาจคิดถึง ต้องขอบคุณมาก
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 905 มุมมอง 40 0 รีวิว
Pages Boosts