• Starbucks เกาหลีใต้ขอคืนพื้นที่: ห้ามตั้งออฟฟิศในร้านกาแฟ

    ในเกาหลีใต้ การใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนกลายเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายจน Starbucks ต้องออกมาตรการใหม่ทั่วประเทศ โดยติดป้ายประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ในร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ ปลั๊กพ่วงหลายช่อง และฉากกั้นส่วนตัว

    กลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถูกเรียกว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง “คาเฟ่” กับ “กงบู” (เรียน) หมายถึงคนที่ใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนเป็นเวลานาน โดยบางคนถึงขั้นนำเครื่องพิมพ์มาเสียบปลั๊กของร้าน หรือสร้างบูธส่วนตัวด้วยฉากกั้น

    Starbucks ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ร้านสะดวกสำหรับลูกค้าทุกคน และลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือขโมยทรัพย์สิน โดยพนักงานจะคอยแจ้งเตือนลูกค้าที่ใช้พื้นที่เกินความจำเป็น หรือทิ้งของไว้บนโต๊ะนานเกินไป

    ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “คาเฟ่บูม” ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีร้านกาแฟมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การนั่งนานเกินไปอาจทำให้ร้านขาดทุน เพราะกาแฟหนึ่งแก้วครอบคลุมค่าใช้ที่นั่งได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น

    https://www.tomshardware.com/software/social-media/korean-starbucks-bans-desktop-pcs-printers-and-office-partitions-power-strips-also-forbidden-in-crackdown-on-industrious-customers
    ☕🖥️ Starbucks เกาหลีใต้ขอคืนพื้นที่: ห้ามตั้งออฟฟิศในร้านกาแฟ ในเกาหลีใต้ การใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนกลายเป็นวัฒนธรรมที่แพร่หลายจน Starbucks ต้องออกมาตรการใหม่ทั่วประเทศ โดยติดป้ายประกาศห้ามลูกค้านำอุปกรณ์สำนักงานมาใช้ในร้าน เช่น คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เครื่องพิมพ์ ปลั๊กพ่วงหลายช่อง และฉากกั้นส่วนตัว กลุ่มลูกค้าที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ถูกเรียกว่า “คากงจก” (cagongjok) ซึ่งเป็นคำผสมระหว่าง “คาเฟ่” กับ “กงบู” (เรียน) หมายถึงคนที่ใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานหรือเรียนเป็นเวลานาน โดยบางคนถึงขั้นนำเครื่องพิมพ์มาเสียบปลั๊กของร้าน หรือสร้างบูธส่วนตัวด้วยฉากกั้น Starbucks ระบุว่ามาตรการนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ร้านสะดวกสำหรับลูกค้าทุกคน และลดความเสี่ยงจากการสูญหายหรือขโมยทรัพย์สิน โดยพนักงานจะคอยแจ้งเตือนลูกค้าที่ใช้พื้นที่เกินความจำเป็น หรือทิ้งของไว้บนโต๊ะนานเกินไป ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลาง “คาเฟ่บูม” ในเกาหลีใต้ ซึ่งมีร้านกาแฟมากกว่า 100,000 แห่งทั่วประเทศ และการใช้ร้านกาแฟเป็นพื้นที่ทำงานก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่การนั่งนานเกินไปอาจทำให้ร้านขาดทุน เพราะกาแฟหนึ่งแก้วครอบคลุมค่าใช้ที่นั่งได้เพียง 1 ชั่วโมง 42 นาทีเท่านั้น https://www.tomshardware.com/software/social-media/korean-starbucks-bans-desktop-pcs-printers-and-office-partitions-power-strips-also-forbidden-in-crackdown-on-industrious-customers
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Korean Starbucks bans desktop PCs, printers, and office partitions — power strips also forbidden in crackdown on industrious customers
    A new ‘Guide to comfortable use of the store’ asks café visitors to stop bringing in ‘Personal desktops, printers, power strips, partitions, etc.’
    0 Comments 0 Shares 45 Views 0 Reviews
  • เป็นรายงานจากประเทศที่มีสถิติกราดยิงประชาชนด้วยกันเองมากที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่มีเรื่องเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติติดอันดับโลก เช่น คดี "จอร์จ ฟลอยด์"
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยแพร่รายงานว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก ประจำปี 2567 โดยสรุปภาพรวมของไทยว่า สถานการณ์โดยรวมไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แต่ยังคงมีประเด็นน่ากังวลหลายอย่าง...
    เป็นรายงานจากประเทศที่มีสถิติกราดยิงประชาชนด้วยกันเองมากที่สุดในโลก และเป็นประเทศที่มีเรื่องเหยียดผิว เหยียดเชื้อชาติติดอันดับโลก เช่น คดี "จอร์จ ฟลอยด์" . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเผยแพร่รายงานว่าด้วยสถานการณ์สิทธิมนุษยชนทั่วโลก ประจำปี 2567 โดยสรุปภาพรวมของไทยว่า สถานการณ์โดยรวมไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ แต่ยังคงมีประเด็นน่ากังวลหลายอย่าง...
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 58 Views 0 Reviews
  • สื่อต่างประเทศเผยแพร่รายงาน ระบุแรงงานกัมพูชากำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน หลังแห่แหนเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทย บางส่วนถึงขั้นโอดครวญเกี่ยวกับการมีชีวิตรอด หลังต้องสูญเสียรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จากการที่ต้องออกจากการทำงานในไทย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076629

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire


    สื่อต่างประเทศเผยแพร่รายงาน ระบุแรงงานกัมพูชากำลังเผชิญกับอนาคตที่ไม่แน่นอน หลังแห่แหนเดินทางกลับประเทศ ท่ามกลางสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างกัมพูชาและไทย บางส่วนถึงขั้นโอดครวญเกี่ยวกับการมีชีวิตรอด หลังต้องสูญเสียรายได้เลี้ยงดูครอบครัว จากการที่ต้องออกจากการทำงานในไทย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076629 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 258 Views 0 Reviews
  • “เสธ.ต๊อด“ โต้ ”มาลี" ยันหลักฐานประจักษ์ชัดกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ ยังมาอ้างของเก่าสมัยสงคราม ผลตรวจอย่างละเอียดพบเป็นทุ่น PMN-2 ที่เพิ่งลักลอบติดตั้ง เรียกร้องยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ผิดข้อตกลงหยุดยิงข้อ 9 ที่ห้ามแพร่ข่าวปลอม

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076597

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    “เสธ.ต๊อด“ โต้ ”มาลี" ยันหลักฐานประจักษ์ชัดกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ ยังมาอ้างของเก่าสมัยสงคราม ผลตรวจอย่างละเอียดพบเป็นทุ่น PMN-2 ที่เพิ่งลักลอบติดตั้ง เรียกร้องยุติการเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ผิดข้อตกลงหยุดยิงข้อ 9 ที่ห้ามแพร่ข่าวปลอม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076597 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 306 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากจุดตัดของเทคโนโลยีกับความเศร้า: เมื่อ Jim Acosta สัมภาษณ์ AI ของผู้เสียชีวิต

    ในเดือนสิงหาคม 2025 Jim Acosta อดีตผู้สื่อข่าว CNN ได้สร้างกระแสถกเถียงครั้งใหญ่ เมื่อเขาเผยแพร่ “บทสัมภาษณ์” กับ Joaquin Oliver—ไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็น AI avatar ของเด็กชายวัย 17 ปีที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียน Parkland ในปี 2018

    AI ตัวนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อแม่ของ Joaquin เพื่อรักษาความทรงจำของลูกชาย และใช้เป็นเครื่องมือรณรงค์เรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธปืน โดยในวิดีโอ Joaquin AI พูดถึงความจำเป็นของ “กฎหมายควบคุมอาวุธที่เข้มงวดขึ้น การสนับสนุนสุขภาพจิต และการสร้างชุมชนที่ปลอดภัย”

    แม้เจตนาจะดูจริงใจ แต่การใช้ AI เพื่อจำลองผู้เสียชีวิตกลับสร้างคำถามทางจริยธรรมอย่างหนัก หลายคนมองว่าเป็นการ “ใช้ความเศร้าเพื่อผลทางการเมือง” หรือ “ละเมิดความทรงจำของผู้เสียชีวิต” ขณะที่บางคนเห็นว่าเป็นวิธีเยียวยาความเจ็บปวดของครอบครัว

    กรณีนี้ยังสะท้อนแนวโน้มใหม่ที่ผู้คนเริ่มใช้ AI เพื่อสื่อสารกับผู้ที่จากไป เช่น Joshua Barbeau ที่เคยใช้ Project December เพื่อคุยกับ AI ของคู่หมั้นที่เสียชีวิต หรือผู้ใช้ ChatGPT ที่ใช้เป็นเพื่อนหรือแม้แต่คู่รักเสมือน

    คำถามใหญ่จึงไม่ใช่แค่ว่า “ควรหรือไม่” แต่คือ “เรากำลังเชื่อมต่อกันจริง ๆ หรือแค่จำลองความสัมพันธ์?” และ “เรากำลังใช้ AI เพื่อเยียวยา หรือกำลังหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่ควรเผชิญ?”

    Jim Acosta สัมภาษณ์ AI avatar ของ Joaquin Oliver ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง
    สร้างขึ้นโดยพ่อแม่เพื่อรณรงค์เรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธ

    AI ใช้เสียงและบุคลิกที่จำลองจาก Joaquin เพื่อพูดถึงประเด็นสังคม
    เช่น กฎหมายควบคุมอาวุธ, สุขภาพจิต, การมีส่วนร่วมของชุมชน

    Acosta ระบุว่าพ่อของ Joaquin เป็นผู้เสนอให้ทำสัมภาษณ์นี้
    เพื่อรักษาความทรงจำของลูกชาย

    วิดีโอสร้างกระแสถกเถียงอย่างหนักในสื่อและโซเชียล
    มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงวิจารณ์เรื่องจริยธรรม

    กรณีนี้สะท้อนแนวโน้มการใช้ AI เพื่อเยียวยาความเศร้า
    เช่น Project December และ ChatGPT ที่ใช้เป็นเพื่อนหรือคู่รักเสมือน

    ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเตือนว่า AI อาจช่วยเยียวยาได้ชั่วคราว
    แต่เสี่ยงต่อการหลีกเลี่ยงการยอมรับความสูญเสียจริง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/12/opinion-jim-acostas-ai-interview-raises-deeper-questions-about-human-connection
    🧠📺 เรื่องเล่าจากจุดตัดของเทคโนโลยีกับความเศร้า: เมื่อ Jim Acosta สัมภาษณ์ AI ของผู้เสียชีวิต ในเดือนสิงหาคม 2025 Jim Acosta อดีตผู้สื่อข่าว CNN ได้สร้างกระแสถกเถียงครั้งใหญ่ เมื่อเขาเผยแพร่ “บทสัมภาษณ์” กับ Joaquin Oliver—ไม่ใช่ตัวจริง แต่เป็น AI avatar ของเด็กชายวัย 17 ปีที่เสียชีวิตจากเหตุกราดยิงที่โรงเรียน Parkland ในปี 2018 AI ตัวนี้ถูกสร้างขึ้นโดยพ่อแม่ของ Joaquin เพื่อรักษาความทรงจำของลูกชาย และใช้เป็นเครื่องมือรณรงค์เรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธปืน โดยในวิดีโอ Joaquin AI พูดถึงความจำเป็นของ “กฎหมายควบคุมอาวุธที่เข้มงวดขึ้น การสนับสนุนสุขภาพจิต และการสร้างชุมชนที่ปลอดภัย” แม้เจตนาจะดูจริงใจ แต่การใช้ AI เพื่อจำลองผู้เสียชีวิตกลับสร้างคำถามทางจริยธรรมอย่างหนัก หลายคนมองว่าเป็นการ “ใช้ความเศร้าเพื่อผลทางการเมือง” หรือ “ละเมิดความทรงจำของผู้เสียชีวิต” ขณะที่บางคนเห็นว่าเป็นวิธีเยียวยาความเจ็บปวดของครอบครัว กรณีนี้ยังสะท้อนแนวโน้มใหม่ที่ผู้คนเริ่มใช้ AI เพื่อสื่อสารกับผู้ที่จากไป เช่น Joshua Barbeau ที่เคยใช้ Project December เพื่อคุยกับ AI ของคู่หมั้นที่เสียชีวิต หรือผู้ใช้ ChatGPT ที่ใช้เป็นเพื่อนหรือแม้แต่คู่รักเสมือน คำถามใหญ่จึงไม่ใช่แค่ว่า “ควรหรือไม่” แต่คือ “เรากำลังเชื่อมต่อกันจริง ๆ หรือแค่จำลองความสัมพันธ์?” และ “เรากำลังใช้ AI เพื่อเยียวยา หรือกำลังหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดที่ควรเผชิญ?” ✅ Jim Acosta สัมภาษณ์ AI avatar ของ Joaquin Oliver ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง ➡️ สร้างขึ้นโดยพ่อแม่เพื่อรณรงค์เรื่องกฎหมายควบคุมอาวุธ ✅ AI ใช้เสียงและบุคลิกที่จำลองจาก Joaquin เพื่อพูดถึงประเด็นสังคม ➡️ เช่น กฎหมายควบคุมอาวุธ, สุขภาพจิต, การมีส่วนร่วมของชุมชน ✅ Acosta ระบุว่าพ่อของ Joaquin เป็นผู้เสนอให้ทำสัมภาษณ์นี้ ➡️ เพื่อรักษาความทรงจำของลูกชาย ✅ วิดีโอสร้างกระแสถกเถียงอย่างหนักในสื่อและโซเชียล ➡️ มีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงวิจารณ์เรื่องจริยธรรม ✅ กรณีนี้สะท้อนแนวโน้มการใช้ AI เพื่อเยียวยาความเศร้า ➡️ เช่น Project December และ ChatGPT ที่ใช้เป็นเพื่อนหรือคู่รักเสมือน ✅ ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเตือนว่า AI อาจช่วยเยียวยาได้ชั่วคราว ➡️ แต่เสี่ยงต่อการหลีกเลี่ยงการยอมรับความสูญเสียจริง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/12/opinion-jim-acostas-ai-interview-raises-deeper-questions-about-human-connection
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Jim Acosta’s AI interview raises deeper questions about human connection
    The interview sparked backlash and raised ethical concerns over technology's potential role in tarnishing the memory of the dead or changing their viewpoint.
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาเปิดปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กำจัดอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ทางออนไลน์ที่หยั่งรากลึกในประเทศและการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตามล่าสุดชาแนลนิวส์เอเชียเผยแพร่รายงานในวันอาทิตย์(10ก.ย.) ระบุปฏิบัติการดังกล่าวกลับไม่มีการแตะต้องตัวการใหญ่ๆแต่อย่างใด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076355

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลกัมพูชาเปิดปฏิบัติการปราบปรามครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา กำจัดอุตสาหกรรมสแกมเมอร์ทางออนไลน์ที่หยั่งรากลึกในประเทศและการดำเนินงานส่วนใหญ่เป็นไปอย่างเปิดเผย อย่างไรก็ตามล่าสุดชาแนลนิวส์เอเชียเผยแพร่รายงานในวันอาทิตย์(10ก.ย.) ระบุปฏิบัติการดังกล่าวกลับไม่มีการแตะต้องตัวการใหญ่ๆแต่อย่างใด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076355 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 449 Views 0 Reviews
  • วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีปลอดภัยและจำเป็นจริงหรือ?
    ก่อนคิดจะไปรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ควรอ่านข้อมูลต่อไปนี้ก่อน
    การระบาดของไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจาก "วัคซีน" โควิดของแอสตร้าเซนเนก้า
    https://www.naturalnews.com/2022-07-19-hepatitis-children-direct-result-astrazeneca-covid-vaccine.html

    คลิป ดร. มิโคลาจ ราเซก กล่าวว่า ADE อาจทำให้เกิด 'โรคตับอักเสบปริศนา' ในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด
    https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/52986
    ______________________________
    ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี นั่นเป็นเรื่องที่ยาว ฉันจะพูดสั้นๆ โรคตับอักเสบบี คือการติดเชื้อที่แพร่ระบาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้หญิงจำนวนมากเป็นโรคตับอักเสบบี

    มันคือ… มันเป็นสองสถานการณ์ที่แตกต่างกัน

    1) แม่ไม่มีโรคตับอักเสบบี แต่พวกเขา (วงการยา) ต้องการให้วัคซีนแก่ทารก เพราะพวกเขาคิดว่า ทารกจะติดเชื้อจากที่ไหนสักแห่ง นั่นไม่ใช่เรื่องดีที่จะทำ อันที่จริงฉันพูดตั้งแต่วัคซีนออกมาในปี 1991 ฉันพูดว่าถ้าฉันรวย และไม่มีอะไรทำ ฉันจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อพยายามกำจัดวัคซีนตัวนี้ เพราะมันเป็นพิษ มันสร้างความเสียหาย และไม่จำเป็นเลย

    2) ทีนี้ถ้าแม่เป็นโรคตับอักเสบบี มีข้อสันนิษฐานว่า ทารกจะติดเชื่อจากแม่โดยอัตโนมัติ ผ่านรก และทารกจะติดเชื้อตับอักเสบบีออกมา และผลการวิจัยพบว่า นั้นไม่เป็นความจริง อันที่จริง รกจะช่วยปกป้องทารก จากการติดโรคตับอักเสบบี ดังนั้นพวกเขาต้องการให้ลูกน้อยของคุณ เข้ารับการรักษาครั้งใหญ่โดยใช้ แอนติบอดี Hep B Ig (โกลบูลินภูมิคุ้มกันโรคตับอักเสบบี) ซึ่งพวกเขาเรียกว่า (HBIG) [Hep B Ig ( Hepatitis B immune globulin) antibody (HBIG) ] และพวกเขาทำสิ่งต่างๆ มากมายกับเด็กๆ เหล่านั้น

    หากแม่ของพวกเขา ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีล่วงหน้า นั่นเป็นเรื่องยาว ฉันไม่อยากใช้เวลาที่เหลือคุยแต่เรื่องนี้ แต่ถ้าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ‘ไม่เป็น’ ตับอักเสบบี ลูกของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นตับอักเสบบี โรคตับอักเสบบี เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ติดต่อทางอากาศ มันไม่แพร่เชื้อทางน้ำลาย หรือผ่านการใช้แปรงสีฟันร่วมกัน แม้ว่าพวกเขาจะบอกคุณแบบนั้นก็ตาม มันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือ ใช้เข็มที่ปนเปื้อนร่วมกัน และฉันไม่คิดว่าทารกแรกเกิดของคุณ จะทำอะไรพวกนั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่วัคซีนที่จำเป็น

    ดร. เทนเพนนีใช้เวลามากกว่า 24 ปีในการวิจัย บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยท่านแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีนในเด็ก

    อ่านบทสนทนาที่ถอดเสียงและแปลไทยจากคลิปที่นี้ --> https://www.rookon.com/?p=1112
    ______________________________
    โรคตับอักเสบในเด็ก สมมติฐานจนถึงปัจจุบัน:
    1. เด็กได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยา ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าร่วมการทดลองในวัยเด็ก หรือจากการข้ามช่วงอายุอย่างเป็นทางการ
    2. เด็กได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยาของแม่ ซึ่งความเป็นพิษจะถ่ายทอดผ่านน้ำนม
    3. การติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว ครู หรือผู้ดูแล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้น้ำร่วมกัน การหายใจออก ฯลฯ
    4. เด็กได้รับสารให้ความหวานเทียมที่เป็นพิษในปริมาณมาก เช่น แอสปาร์แตม
    5. ตารางการฉีดวัคซีนในวัยเด็กทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาอ่อนแอลง นำไปสู่โรคตับอักเสบ
    6. โรคตับอักเสบเป็นผลมาจากภาวะพร่องออกซิเจนจากการสวมหน้ากากอนามัย (https://t.me/robinmg/19155)

    เราไม่นับรวมเด็กที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และไม่สวมหน้ากากที่อาศัยอยู่และดูแลโดยผู้ที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และในที่นี้เราต้องชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนในวัยเด็กอื่นๆ รวมถึงจำนวนมหาศาลของวัคซีนเหล่านั้น อาจก่อให้เกิดโรคตับอักเสบอันเป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง โอกาสเกิดจะน้อยมาก

    ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนคือโรคตับอักเสบในวัยเด็กในชุมชนที่ไม่ยอมให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนตามตารางการฉีดวัคซีนหรือขั้นตอนการสวมหน้ากากที่เข้มงวด ซึ่งแน่นอนว่าเด็กเหล่านี้มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคตับอักเสบ

    สรุป: เกือบจะแน่นอนว่าเป็น "วัคซีน" แม้ว่าจะมาจากน้ำนมแม่ การหลั่งน้ำนม หรือความเป็นพิษจาก "วัคซีน" อื่นๆ ในวัยเด็กที่ผสมกัน ซึ่งรุนแรงขึ้นจากภาวะขาดออกซิเจนเนื่องจากการสวมหน้ากาก
    https://t.me/robinmg/19154
    ______________________________
    MMR (Measles,Mumps and Rubella) = วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน
    HepB = วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี

    วัคซีนมีความเสี่ยงต่อโรค MMR HepB ที่อาจเชื่อมโยงกับออทิซึม โรคจิต CFS โรคลูปัส...

    ดร. จูดี้ มิโควิทซ์

    "ถ้าพวกเขาให้ MMR กับเด็กผิวสี ที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบ พวกเขาจะมีโอกาสสูงกว่าสี่เท่า ได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นโรคออทิซึม โรคสมาธิสั้น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคทางจิตเวช โรค MECFS โรคลูปัส เป็นโรคในเด็กผู้หญิง และพวกเขาจะเป็นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และ MECFS ก็คือ Myalgic Encephalomyelitis หรือ Chronic Fatigue Syndrome และแน่นอนว่า มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 70 ในช่วงแผนการระบาดของโรคเอดส์ครั้งแรก ปริญญาเอกของดิฉัน ได้รับการปกป้องหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น คือวันที่ 14 พฤศจิกายน 1991 ดิฉันได้ปกป้องปริญญาเอกของดิฉัน ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ที่ GWU ซึ่งระบุว่า HIV ไม่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ หากคุณรักษาระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของคุณไว้
    มี HIV แต่ถูกฉีดเข้าในวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี.."

    รับชมตอนเต็มในรายการ Alpha Warrior:
    https://t.me/dr_judymikovitss
    ______________________________
    เปิดโปง แฉความเชื่อมโยง ระหว่างวัคซีนกับมะเร็ง :

    “วัคซีนรีคอมบิแนนท์ทั้งหมด [Hib (Haemophilus influenzae ชนิด b), ตับอักเสบ B, HPV (Human papillomavirus), ไอกรน (ส่วนหนึ่งของวัคซีนรวม DTaP), โรคปอดบวม, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, โรคงูสวัด] มีสารเสริมฤทธิ์ ที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทน การถ่ายโอนยีน โดยนำ DNA พลาสมิดที่ปนเปื้อน เข้าสู่เซลล์ของผู้รับผลิตภัณฑ์ พลาสมิดที่ถ่ายโอนยีน สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้

    ปัญหาการถ่ายโอน DNA พลาสมิดนี้ เป็นที่รู้จักอย่างน้อยตั้งแต่ปี 1999

    ต้องใช้เวลาถึง 25 ปี โรคระบาดที่ถูกสร้างขึ้น นักข่าวผู้กล้าหาญ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นต่าง และการประชุมสภา ที่อีกฟากหนึ่งของโลก12 เพื่อเปิดเผยเรื่องนี้

    บริษัทเภสัชกรรม ทราบเกี่ยวกับปัญหานี้ และพยายามปราบปราม เช่นเดียวกับหน่วยงานต่างๆ มากมายที่พยายามล้อเลียน ข่มขู่ และ คุกคามนักวิทยาศาสตร์ ที่พยายามส่งสัญญาณเตือน มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา"

    ดร. อาห์ ข่าน ไซเอ็ด

    https://www.arkmedic.info/p/would-you-like-plasmids-with-that
    ______________________________
    RFK Jr. ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 1999 ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ พยายามหาคำตอบว่า "วัคซีนที่มีสารปรอทเป็นส่วนประกอบนั้น ทำให้เกิดโรคออทิซึมหรือไม่ ?"

    เขาเล่าว่า CDC ได้ทำการศึกษาวัคซีนหนึ่งชนิด คือ วัคซีนตับอักเสบบี และพบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยอ้างอิงถึงความเสี่ยงสัมพัทธ์ (relative risk) ว่า การสูบบุหรี่หนึ่งซองต่อวัน เป็นเวลา 20 ปี มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดที่ระดับ 10 แต่ความเสี่ยงจากการได้รับวัคซีนตับอักเสบบี แล้วจะเป็นออทิสติก อยู่ที่ 11.35 ซึ่งสูงกว่าความเสี่ยง ที่บุหรี่ทำให้เกิดมะเร็ง !!

    RFK Jr. กล่าวว่า เมื่อ CDC รู้ข้อมูลนี้ พวกเขาตกใจมาก และจัดการประชุมลับขึ้น โดยมีการเชิญผู้เกี่ยวข้อง 52 คนเข้าร่วม รวมถึงผู้แทนจากบริษัทวัคซีนใหญ่ๆ และผู้แทนหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO), CDC, FDA, NIH, และ HHS การประชุมนี้ใช้เวลาสองวัน

    เขายังเปิดเผยว่า มีการบันทึกการประชุมครั้งนั้นไว้ และเขาได้ คำถอดเทปบันทึกการประชุมดังกล่าว มาในปี 2005 เขาบอกว่าข้อมูลในนั้นน่าสะพรึงกลัว และเปรียบเสมือนฝันร้าย

    RFK Jr. กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแล ความปลอดภัยของวัคซีนเหล่านั้น ซึ่งควรจะทำหน้าที่ปกป้องประชาชน กลับดูข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และบอกว่า "มันชัดเจนแล้ว เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดออทิซึม"

    RFK Jr: In 1999, the CDC wanted to find out "if these mercury vaccines are causing autism".

    "So they looked at one vaccine, the hepatitis B vaccine... and here's what they found: The relative risk of smoking a pack of cigarettes a day for 20 years and lung cancer is 10. This was 11.35. They knew."

    "They pushed the panic button and they had a secret meeting... They had a two day meeting with 52 individuals, including all the major vaccine companies, regulatory agencies that administer vaccines, WHO, CDC, FDA, NIH, HHS."

    "And somebody recorded that meeting... I got a hold of the transcripts in 2005, and it is horrific. It's a nightmare."

    "These regulators who are supposed to be protecting us... they're looking at the science and they are saying: It's bulletproof. We are causing autism."
    https://x.com/wideawake_media/status/1895795237487784385?t=lhpV-aFAn4SXWPzjT6tonA&s=19
    ______________________________
    "#Covidvaccination can elicit a distinct T cell-dominant immune-mediated hepatitis with a unique pathomechanism associated with vaccination induced antigen-specific tissue-resident immunity requiring systemic immunosuppression."
    https://sciencedirect.com/science/article/pii/S0168827822002343
    #วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี #hepatitis
    วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบีปลอดภัยและจำเป็นจริงหรือ? ก่อนคิดจะไปรับวัคซีนไวรัสตับอักเสบบี ควรอ่านข้อมูลต่อไปนี้ก่อน ✍️การระบาดของไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจาก "วัคซีน" โควิดของแอสตร้าเซนเนก้า https://www.naturalnews.com/2022-07-19-hepatitis-children-direct-result-astrazeneca-covid-vaccine.html ✍️ คลิป ดร. มิโคลาจ ราเซก กล่าวว่า ADE อาจทำให้เกิด 'โรคตับอักเสบปริศนา' ในผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด https://t.me/thailand_covid_vaccine_chat/52986 ______________________________ ✍️ดร. เชอร์รี เทนเพนนี : วัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี นั่นเป็นเรื่องที่ยาว ฉันจะพูดสั้นๆ โรคตับอักเสบบี คือการติดเชื้อที่แพร่ระบาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้หญิงจำนวนมากเป็นโรคตับอักเสบบี มันคือ… มันเป็นสองสถานการณ์ที่แตกต่างกัน 1) แม่ไม่มีโรคตับอักเสบบี แต่พวกเขา (วงการยา) ต้องการให้วัคซีนแก่ทารก เพราะพวกเขาคิดว่า ทารกจะติดเชื้อจากที่ไหนสักแห่ง นั่นไม่ใช่เรื่องดีที่จะทำ อันที่จริงฉันพูดตั้งแต่วัคซีนออกมาในปี 1991 ฉันพูดว่าถ้าฉันรวย และไม่มีอะไรทำ ฉันจะใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิต เพื่อพยายามกำจัดวัคซีนตัวนี้ เพราะมันเป็นพิษ มันสร้างความเสียหาย และไม่จำเป็นเลย 2) ทีนี้ถ้าแม่เป็นโรคตับอักเสบบี มีข้อสันนิษฐานว่า ทารกจะติดเชื่อจากแม่โดยอัตโนมัติ ผ่านรก และทารกจะติดเชื้อตับอักเสบบีออกมา และผลการวิจัยพบว่า นั้นไม่เป็นความจริง อันที่จริง รกจะช่วยปกป้องทารก จากการติดโรคตับอักเสบบี ดังนั้นพวกเขาต้องการให้ลูกน้อยของคุณ เข้ารับการรักษาครั้งใหญ่โดยใช้ แอนติบอดี Hep B Ig (โกลบูลินภูมิคุ้มกันโรคตับอักเสบบี) ซึ่งพวกเขาเรียกว่า (HBIG) [Hep B Ig ( Hepatitis B immune globulin) antibody (HBIG) ] และพวกเขาทำสิ่งต่างๆ มากมายกับเด็กๆ เหล่านั้น หากแม่ของพวกเขา ตรวจพบเชื้อไวรัสตับอักเสบบีล่วงหน้า นั่นเป็นเรื่องยาว ฉันไม่อยากใช้เวลาที่เหลือคุยแต่เรื่องนี้ แต่ถ้าพ่อแม่หรือคนในครอบครัวหรือคนใกล้ชิด ‘ไม่เป็น’ ตับอักเสบบี ลูกของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นตับอักเสบบี โรคตับอักเสบบี เป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ได้ติดต่อทางอากาศ มันไม่แพร่เชื้อทางน้ำลาย หรือผ่านการใช้แปรงสีฟันร่วมกัน แม้ว่าพวกเขาจะบอกคุณแบบนั้นก็ตาม มันเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่ติดต่อโดยการมีเพศสัมพันธ์ หรือ ใช้เข็มที่ปนเปื้อนร่วมกัน และฉันไม่คิดว่าทารกแรกเกิดของคุณ จะทำอะไรพวกนั้น ดังนั้น จึงไม่ใช่วัคซีนที่จำเป็น ดร. เทนเพนนีใช้เวลามากกว่า 24 ปีในการวิจัย บันทึก และเปิดเผยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับวัคซีน ท่านเป็นวิทยากรระดับนานาชาติ และเป็นแขกประจำในรายการวิทยุ พอดแคสต์ และรายการทีวี โดยท่านแบ่งปันข้อมูลที่ได้รับการวิจัยอย่างสูงของท่านว่าเหตุใดเราจึงควรปฏิเสธวัคซีนในเด็ก อ่านบทสนทนาที่ถอดเสียงและแปลไทยจากคลิปที่นี้ --> https://www.rookon.com/?p=1112 ______________________________ ✍️โรคตับอักเสบในเด็ก สมมติฐานจนถึงปัจจุบัน: 1. เด็กได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยา ซึ่งอาจเกิดจากการเข้าร่วมการทดลองในวัยเด็ก หรือจากการข้ามช่วงอายุอย่างเป็นทางการ 2. เด็กได้รับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ที่ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่มีพิษ ซึ่งไวรัสตับอักเสบเป็นผลโดยตรงจากการฉีดยาของแม่ ซึ่งความเป็นพิษจะถ่ายทอดผ่านน้ำนม 3. การติดเชื้อจากสมาชิกในครอบครัว ครู หรือผู้ดูแล ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากการใช้น้ำร่วมกัน การหายใจออก ฯลฯ 4. เด็กได้รับสารให้ความหวานเทียมที่เป็นพิษในปริมาณมาก เช่น แอสปาร์แตม 5. ตารางการฉีดวัคซีนในวัยเด็กทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของพวกเขาอ่อนแอลง นำไปสู่โรคตับอักเสบ 6. โรคตับอักเสบเป็นผลมาจากภาวะพร่องออกซิเจนจากการสวมหน้ากากอนามัย (https://t.me/robinmg/19155) เราไม่นับรวมเด็กที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และไม่สวมหน้ากากที่อาศัยอยู่และดูแลโดยผู้ที่ไม่ได้ "ฉีดวัคซีน" และในที่นี้เราต้องชี้ให้เห็นว่าการฉีดวัคซีนในวัยเด็กอื่นๆ รวมถึงจำนวนมหาศาลของวัคซีนเหล่านั้น อาจก่อให้เกิดโรคตับอักเสบอันเป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัสจำนวนมาก ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง โอกาสเกิดจะน้อยมาก ข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนคือโรคตับอักเสบในวัยเด็กในชุมชนที่ไม่ยอมให้บุตรหลานเข้ารับการฉีดวัคซีนตามตารางการฉีดวัคซีนหรือขั้นตอนการสวมหน้ากากที่เข้มงวด ซึ่งแน่นอนว่าเด็กเหล่านี้มีสุขภาพแข็งแรงและไม่มีโรคตับอักเสบ สรุป: เกือบจะแน่นอนว่าเป็น "วัคซีน" แม้ว่าจะมาจากน้ำนมแม่ การหลั่งน้ำนม หรือความเป็นพิษจาก "วัคซีน" อื่นๆ ในวัยเด็กที่ผสมกัน ซึ่งรุนแรงขึ้นจากภาวะขาดออกซิเจนเนื่องจากการสวมหน้ากาก https://t.me/robinmg/19154 ______________________________ ✍️MMR (Measles,Mumps and Rubella) = วัคซีนป้องกันโรคหัด คางทูม หัดเยอรมัน HepB = วัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบ บี วัคซีนมีความเสี่ยงต่อโรค MMR HepB ที่อาจเชื่อมโยงกับออทิซึม โรคจิต CFS โรคลูปัส... ดร. จูดี้ มิโควิทซ์ "ถ้าพวกเขาให้ MMR กับเด็กผิวสี ที่อายุน้อยกว่า 3 ขวบ พวกเขาจะมีโอกาสสูงกว่าสี่เท่า ได้รับการวินิจฉัย ว่าเป็นโรคออทิซึม โรคสมาธิสั้น โรคย้ำคิดย้ำทำ โรคทางจิตเวช โรค MECFS โรคลูปัส เป็นโรคในเด็กผู้หญิง และพวกเขาจะเป็นเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น และ MECFS ก็คือ Myalgic Encephalomyelitis หรือ Chronic Fatigue Syndrome และแน่นอนว่า มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 70 ในช่วงแผนการระบาดของโรคเอดส์ครั้งแรก ปริญญาเอกของดิฉัน ได้รับการปกป้องหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น คือวันที่ 14 พฤศจิกายน 1991 ดิฉันได้ปกป้องปริญญาเอกของดิฉัน ที่วอชิงตัน ดี.ซี. ที่ GWU ซึ่งระบุว่า HIV ไม่ก่อให้เกิดโรคเอดส์ หากคุณรักษาระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดของคุณไว้ มี HIV แต่ถูกฉีดเข้าในวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบบี.." รับชมตอนเต็มในรายการ Alpha Warrior: https://t.me/dr_judymikovitss ______________________________ ✍️เปิดโปง แฉความเชื่อมโยง ระหว่างวัคซีนกับมะเร็ง 😱 : “วัคซีนรีคอมบิแนนท์ทั้งหมด [Hib (Haemophilus influenzae ชนิด b), ตับอักเสบ B, HPV (Human papillomavirus), ไอกรน (ส่วนหนึ่งของวัคซีนรวม DTaP), โรคปอดบวม, โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ, โรคงูสวัด] มีสารเสริมฤทธิ์ ที่สามารถทำหน้าที่เป็นตัวแทน การถ่ายโอนยีน โดยนำ DNA พลาสมิดที่ปนเปื้อน เข้าสู่เซลล์ของผู้รับผลิตภัณฑ์ พลาสมิดที่ถ่ายโอนยีน สามารถก่อให้เกิดมะเร็งได้ 😱 ปัญหาการถ่ายโอน DNA พลาสมิดนี้ เป็นที่รู้จักอย่างน้อยตั้งแต่ปี 1999 ต้องใช้เวลาถึง 25 ปี โรคระบาดที่ถูกสร้างขึ้น นักข่าวผู้กล้าหาญ กลุ่มนักวิทยาศาสตร์ที่เห็นต่าง และการประชุมสภา ที่อีกฟากหนึ่งของโลก12 เพื่อเปิดเผยเรื่องนี้ บริษัทเภสัชกรรม ทราบเกี่ยวกับปัญหานี้ และพยายามปราบปราม เช่นเดียวกับหน่วยงานต่างๆ มากมายที่พยายามล้อเลียน ข่มขู่ และ คุกคามนักวิทยาศาสตร์ ที่พยายามส่งสัญญาณเตือน มาตลอดหลายปีที่ผ่านมา" ดร. อาห์ ข่าน ไซเอ็ด https://www.arkmedic.info/p/would-you-like-plasmids-with-that ______________________________ ✍️RFK Jr. ได้กล่าวถึงเหตุการณ์ในปี 1999 ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐฯ พยายามหาคำตอบว่า "วัคซีนที่มีสารปรอทเป็นส่วนประกอบนั้น ทำให้เกิดโรคออทิซึมหรือไม่ ?" เขาเล่าว่า CDC ได้ทำการศึกษาวัคซีนหนึ่งชนิด คือ วัคซีนตับอักเสบบี และพบข้อมูลที่น่าตกใจ โดยอ้างอิงถึงความเสี่ยงสัมพัทธ์ (relative risk) ว่า การสูบบุหรี่หนึ่งซองต่อวัน เป็นเวลา 20 ปี มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดที่ระดับ 10 แต่ความเสี่ยงจากการได้รับวัคซีนตับอักเสบบี แล้วจะเป็นออทิสติก อยู่ที่ 11.35 ซึ่งสูงกว่าความเสี่ยง ที่บุหรี่ทำให้เกิดมะเร็ง !! RFK Jr. กล่าวว่า เมื่อ CDC รู้ข้อมูลนี้ พวกเขาตกใจมาก และจัดการประชุมลับขึ้น โดยมีการเชิญผู้เกี่ยวข้อง 52 คนเข้าร่วม รวมถึงผู้แทนจากบริษัทวัคซีนใหญ่ๆ และผู้แทนหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้อง เช่น องค์การอนามัยโลก (WHO), CDC, FDA, NIH, และ HHS การประชุมนี้ใช้เวลาสองวัน เขายังเปิดเผยว่า มีการบันทึกการประชุมครั้งนั้นไว้ และเขาได้ คำถอดเทปบันทึกการประชุมดังกล่าว มาในปี 2005 เขาบอกว่าข้อมูลในนั้นน่าสะพรึงกลัว และเปรียบเสมือนฝันร้าย RFK Jr. กล่าวต่อว่า ผู้ที่มีหน้าที่กำกับดูแล ความปลอดภัยของวัคซีนเหล่านั้น ซึ่งควรจะทำหน้าที่ปกป้องประชาชน กลับดูข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ และบอกว่า "มันชัดเจนแล้ว เราเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดออทิซึม" RFK Jr: In 1999, the CDC wanted to find out "if these mercury vaccines are causing autism". "So they looked at one vaccine, the hepatitis B vaccine... and here's what they found: The relative risk of smoking a pack of cigarettes a day for 20 years and lung cancer is 10. This was 11.35. They knew." "They pushed the panic button and they had a secret meeting... They had a two day meeting with 52 individuals, including all the major vaccine companies, regulatory agencies that administer vaccines, WHO, CDC, FDA, NIH, HHS." "And somebody recorded that meeting... I got a hold of the transcripts in 2005, and it is horrific. It's a nightmare." "These regulators who are supposed to be protecting us... they're looking at the science and they are saying: It's bulletproof. We are causing autism." https://x.com/wideawake_media/status/1895795237487784385?t=lhpV-aFAn4SXWPzjT6tonA&s=19 ______________________________ ✍️"#Covidvaccination can elicit a distinct T cell-dominant immune-mediated hepatitis with a unique pathomechanism associated with vaccination induced antigen-specific tissue-resident immunity requiring systemic immunosuppression." https://sciencedirect.com/science/article/pii/S0168827822002343 #วัคซีนไวรัสตับอักเสบบี #hepatitis
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 Reviews
  • สภาทนายความ ยันไม่ตั้งคณะทำงานช่วยคดีเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ปม "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" โพสต์ถอนตัวไม่ว่าความให้"พระอลงกต" อ้างสุขภาพไม่ดี ชี้ไม่ใช่คดีเพื่อประโยชน์สาธารณะ-การถอนตัวของ"ทนายความ" เป็นเรื่องส่วนบุคคล

    กรณีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ทนายเกิดผล แก้วเกิด“ ทนายความคนดัง ที่เคยรับเป็นทนายความของหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ออกมาโพสต์ระบุข้อความว่า “เรียนสื่อมวลชน เนื่องจาก สภาทนายความได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อคลี่คลายคดีของวัดพระบาทน้ำพุ อย่างเป็นทางการในวัน สองวันนี้

    ดังนั้น เพื่อการทำงานของคณะทนายความเป็นเอกภาพในการดำเนินการของคณะทำงาน และเนื่องจากสุขภาพผมไม่แข็งแรง อาจจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางไปร่วมงานและร่วมประชุมกับคณะทำงานของสภาทนายความ

    ล่าสุดวันนี้ (11 ส.ค.) สำนักโฆษกและประชาสัมพันธ์ของสภาทนายความได้ เผยแพร่ประกาศของสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า สภาทนายความขอเรียนชี้แจงว่า ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับทางหลวงพ่ออลงกต (พระอลงกต ติกขปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุได้ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 โดยข้อกำหนดของพระราชบัญญัติดังกล่าวระบุว่า การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจะต้องเป็นไปเพื่อผู้ยากไร้ และไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งกรณีของวัดพระบาทน้ำพุนั้นไม่ถือเป็นคดีที่เข้าข่ายเงื่อนไขดังกล่าว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000076135

    #MGROnline #หลวงพ่ออลงกต #วัดพระบาทน้ำพุ #หมอบี #หมอบีทูตสื่อวิญญาณ
    สภาทนายความ ยันไม่ตั้งคณะทำงานช่วยคดีเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ปม "ทนายเกิดผล แก้วเกิด" โพสต์ถอนตัวไม่ว่าความให้"พระอลงกต" อ้างสุขภาพไม่ดี ชี้ไม่ใช่คดีเพื่อประโยชน์สาธารณะ-การถอนตัวของ"ทนายความ" เป็นเรื่องส่วนบุคคล • กรณีเมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เพจเฟซบุ๊ก “ทนายเกิดผล แก้วเกิด“ ทนายความคนดัง ที่เคยรับเป็นทนายความของหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ได้ออกมาโพสต์ระบุข้อความว่า “เรียนสื่อมวลชน เนื่องจาก สภาทนายความได้มีการตั้งคณะทำงาน เพื่อคลี่คลายคดีของวัดพระบาทน้ำพุ อย่างเป็นทางการในวัน สองวันนี้ • ดังนั้น เพื่อการทำงานของคณะทนายความเป็นเอกภาพในการดำเนินการของคณะทำงาน และเนื่องจากสุขภาพผมไม่แข็งแรง อาจจะเป็นอุปสรรคในการเดินทางไปร่วมงานและร่วมประชุมกับคณะทำงานของสภาทนายความ • ล่าสุดวันนี้ (11 ส.ค.) สำนักโฆษกและประชาสัมพันธ์ของสภาทนายความได้ เผยแพร่ประกาศของสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ว่า สภาทนายความขอเรียนชี้แจงว่า ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายกับทางหลวงพ่ออลงกต (พระอลงกต ติกขปัญโญ) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุได้ เนื่องจากไม่เข้าหลักเกณฑ์การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายตามพระราชบัญญัติทนายความ พ.ศ. 2528 โดยข้อกำหนดของพระราชบัญญัติดังกล่าวระบุว่า การขอความช่วยเหลือทางกฎหมายจะต้องเป็นไปเพื่อผู้ยากไร้ และไม่ได้รับความเป็นธรรมเท่านั้น ซึ่งกรณีของวัดพระบาทน้ำพุนั้นไม่ถือเป็นคดีที่เข้าข่ายเงื่อนไขดังกล่าว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000076135 • #MGROnline #หลวงพ่ออลงกต #วัดพระบาทน้ำพุ #หมอบี #หมอบีทูตสื่อวิญญาณ
    0 Comments 0 Shares 124 Views 0 Reviews
  • กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเ เผยแพร่ถ้อยแถลงประณาม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ประกาศยึดปราสาทตาควายและปิดตายปราสาทตาเมือนธม โวยวายเป็นสัญญาแห่งการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นความพยายามรุกรานดินแดนกัมพูชาโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076039


    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเ เผยแพร่ถ้อยแถลงประณาม พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ที่ประกาศยึดปราสาทตาควายและปิดตายปราสาทตาเมือนธม โวยวายเป็นสัญญาแห่งการยั่วยุอย่างโจ่งแจ้ง และเป็นความพยายามรุกรานดินแดนกัมพูชาโดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000076039 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 430 Views 0 Reviews
  • สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ เป็นคำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับความขัดแย้งทั้งหลายทั่วโลก อวดอ้างความสำเร็จในฐานะผู้สร้างสันติภาพ ในนั้นช่วงหนึ่งได้พาดพิงศึกสู้รบระหว่างกัมพูชาและไทย ที่เขาบอกว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,000 คน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076051

    #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    สื่อต่างประเทศเผยแพร่คลิปวิดีโอหนึ่งเมื่อช่วงปลายสัปดาห์ เป็นคำแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เกี่ยวกับความขัดแย้งทั้งหลายทั่วโลก อวดอ้างความสำเร็จในฐานะผู้สร้างสันติภาพ ในนั้นช่วงหนึ่งได้พาดพิงศึกสู้รบระหว่างกัมพูชาและไทย ที่เขาบอกว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2,000 คน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076051 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #SondhiX #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 551 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากไฟล์บีบอัด: ช่องโหว่ WinRAR ที่เปิดประตูให้ RomCom มัลแวร์รัสเซีย

    ในเดือนสิงหาคม 2025 โลกไซเบอร์ต้องตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในโปรแกรม WinRAR ที่ใช้กันทั่วโลก ช่องโหว่นี้มีชื่อว่า CVE-2025-8088 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ “path traversal” ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถสั่งให้ไฟล์ที่ถูกแตกออกมาไปอยู่ในโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น Startup folder ของ Windows

    เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ RAR ที่ถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงผ่านอีเมลฟิชชิ่ง มัลแวร์ชื่อ RomCom จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติ และทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกอะไรเลย

    RomCom เป็นมัลแวร์ที่มีความสามารถในการขโมยข้อมูล ติดตั้งโปรแกรมอันตรายเพิ่มเติม และเปิดช่องให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องจากระยะไกล กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังถูกระบุว่าเป็นทีมไซเบอร์สอดแนมที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งเคยโจมตีผ่านช่องโหว่ใน Firefox และ Windows มาก่อน โดยใช้เทคนิค “zero-click” ที่ไม่ต้องให้เหยื่อทำอะไรเลย

    โชคดีที่ WinRAR ได้ออกเวอร์ชันใหม่ 7.13 เพื่ออุดช่องโหว่นี้แล้ว แต่ผู้ใช้ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะโปรแกรมไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ

    ช่องโหว่ CVE-2025-8088 ถูกค้นพบใน WinRAR
    เป็นช่องโหว่แบบ path traversal ที่ทำให้ไฟล์ถูกแตกไปยังโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต

    ช่องโหว่นี้ถูกใช้เพื่อแพร่กระจาย RomCom malware
    ผ่านไฟล์ RAR ที่แนบมากับอีเมลฟิชชิ่ง

    RomCom เป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลและติดตั้งโปรแกรมอันตราย
    ทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่โดยไม่ต้องคลิก

    กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังเชื่อมโยงกับรัสเซีย
    เคยใช้ช่องโหว่ใน Firefox และ Windows เพื่อโจมตีแบบ zero-click

    WinRAR ได้ออกเวอร์ชัน 7.13 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้
    ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ

    https://hackread.com/winrar-zero-day-cve-2025-8088-spread-romcom-malware/
    🧨💻 เรื่องเล่าจากไฟล์บีบอัด: ช่องโหว่ WinRAR ที่เปิดประตูให้ RomCom มัลแวร์รัสเซีย ในเดือนสิงหาคม 2025 โลกไซเบอร์ต้องตื่นตัวอีกครั้ง เมื่อมีการค้นพบช่องโหว่ร้ายแรงในโปรแกรม WinRAR ที่ใช้กันทั่วโลก ช่องโหว่นี้มีชื่อว่า CVE-2025-8088 ซึ่งเป็นช่องโหว่แบบ “path traversal” ที่เปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถสั่งให้ไฟล์ที่ถูกแตกออกมาไปอยู่ในโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต เช่น Startup folder ของ Windows เมื่อผู้ใช้เปิดไฟล์ RAR ที่ถูกออกแบบมาอย่างเจาะจงผ่านอีเมลฟิชชิ่ง มัลแวร์ชื่อ RomCom จะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติ และทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่ โดยไม่ต้องให้ผู้ใช้คลิกอะไรเลย RomCom เป็นมัลแวร์ที่มีความสามารถในการขโมยข้อมูล ติดตั้งโปรแกรมอันตรายเพิ่มเติม และเปิดช่องให้แฮกเกอร์ควบคุมเครื่องจากระยะไกล กลุ่มผู้อยู่เบื้องหลังถูกระบุว่าเป็นทีมไซเบอร์สอดแนมที่เชื่อมโยงกับรัสเซีย ซึ่งเคยโจมตีผ่านช่องโหว่ใน Firefox และ Windows มาก่อน โดยใช้เทคนิค “zero-click” ที่ไม่ต้องให้เหยื่อทำอะไรเลย โชคดีที่ WinRAR ได้ออกเวอร์ชันใหม่ 7.13 เพื่ออุดช่องโหว่นี้แล้ว แต่ผู้ใช้ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะโปรแกรมไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-8088 ถูกค้นพบใน WinRAR ➡️ เป็นช่องโหว่แบบ path traversal ที่ทำให้ไฟล์ถูกแตกไปยังโฟลเดอร์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ✅ ช่องโหว่นี้ถูกใช้เพื่อแพร่กระจาย RomCom malware ➡️ ผ่านไฟล์ RAR ที่แนบมากับอีเมลฟิชชิ่ง ✅ RomCom เป็นมัลแวร์ที่สามารถขโมยข้อมูลและติดตั้งโปรแกรมอันตราย ➡️ ทำงานทันทีเมื่อเครื่องเริ่มต้นใหม่โดยไม่ต้องคลิก ✅ กลุ่มแฮกเกอร์ที่อยู่เบื้องหลังเชื่อมโยงกับรัสเซีย ➡️ เคยใช้ช่องโหว่ใน Firefox และ Windows เพื่อโจมตีแบบ zero-click ✅ WinRAR ได้ออกเวอร์ชัน 7.13 เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้ ➡️ ต้องอัปเดตด้วยตนเอง เพราะไม่มีระบบอัปเดตอัตโนมัติ https://hackread.com/winrar-zero-day-cve-2025-8088-spread-romcom-malware/
    HACKREAD.COM
    WinRAR Zero-Day CVE-2025-8088 Exploited to Spread RomCom Malware
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 115 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: GreedyBear กับแผนโจรกรรมคริปโตระดับอุตสาหกรรม

    ในโลกที่คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ล่าสุดมีการเปิดโปงแคมเปญชื่อว่า “GreedyBear” ซึ่งขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีโจมตีแบบสามชั้นที่ซับซ้อนและอันตราย

    กลุ่มนี้เริ่มจากการสร้างส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ โดยปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus และ Rabby Wallet พวกเขาใช้เทคนิค “Extension Hollowing” คืออัปโหลดส่วนขยายที่ดูปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อ ไอคอน และฝังโค้ดอันตรายเข้าไปภายหลัง โดยยังคงรีวิวดี ๆ ไว้เหมือนเดิม

    นอกจากนั้น GreedyBear ยังปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน โดยมีทั้ง credential stealers และ ransomware ที่ล็อกไฟล์และเรียกค่าไถ่เป็นคริปโต และสุดท้ายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือเครื่องมือซ่อมกระเป๋า เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ

    ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว (IP: 185.208.156.66) ซึ่งทำให้การจัดการแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานว่าใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตีและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว

    GreedyBear เป็นแคมเปญอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $1 ล้าน
    ใช้วิธีโจมตีหลายรูปแบบพร้อมกัน

    มีส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ
    ปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus

    ใช้เทคนิค Extension Hollowing เพื่อหลบการตรวจสอบ
    อัปโหลดส่วนขยายปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอันตราย

    ปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน
    มีทั้ง LummaStealer และ Luca Stealer ที่เน้นขโมยข้อมูลคริปโต

    สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือซ่อมกระเป๋า
    หลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase และ private key

    ทุกการโจมตีเชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์เดียว (185.208.156.66)
    ใช้เป็นศูนย์กลางควบคุมและเก็บข้อมูล

    มีการใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตี
    ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้รวดเร็วและหลบหลีกการป้องกัน

    Extension Hollowing เป็นเทคนิคที่เริ่มใช้ในมัลแวร์ระดับองค์กร
    เคยพบในแคมเปญโจมตีของกลุ่ม APT เช่น Lazarus

    Mozilla มีระบบตรวจสอบส่วนขยาย แต่ยังไม่สามารถกันการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้
    ผู้ใช้ต้องตรวจสอบผู้พัฒนาและรีวิวอย่างละเอียด

    การใช้ AI ในการสร้างมัลแวร์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น
    ทำให้การตรวจจับด้วย signature-based antivirus ไม่เพียงพอ

    การโจมตีแบบหลายชั้น (multi-vector attack) เป็นแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์
    เน้นการหลอกลวงจากหลายช่องทางพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ

    https://hackread.com/greedybear-fake-crypto-wallet-extensions-firefox-marketplace/
    🕵️‍♂️💰 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: GreedyBear กับแผนโจรกรรมคริปโตระดับอุตสาหกรรม ในโลกที่คริปโตกลายเป็นสินทรัพย์ยอดนิยม กลุ่มอาชญากรไซเบอร์ก็ไม่พลาดที่จะตามกระแส ล่าสุดมีการเปิดโปงแคมเปญชื่อว่า “GreedyBear” ซึ่งขโมยเงินคริปโตไปแล้วกว่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยใช้วิธีโจมตีแบบสามชั้นที่ซับซ้อนและอันตราย กลุ่มนี้เริ่มจากการสร้างส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ โดยปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus และ Rabby Wallet พวกเขาใช้เทคนิค “Extension Hollowing” คืออัปโหลดส่วนขยายที่ดูปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนชื่อ ไอคอน และฝังโค้ดอันตรายเข้าไปภายหลัง โดยยังคงรีวิวดี ๆ ไว้เหมือนเดิม นอกจากนั้น GreedyBear ยังปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน โดยมีทั้ง credential stealers และ ransomware ที่ล็อกไฟล์และเรียกค่าไถ่เป็นคริปโต และสุดท้ายคือการสร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือเครื่องมือซ่อมกระเป๋า เพื่อหลอกให้ผู้ใช้กรอกข้อมูลสำคัญ ทั้งหมดนี้ถูกควบคุมผ่านเซิร์ฟเวอร์เดียว (IP: 185.208.156.66) ซึ่งทำให้การจัดการแคมเปญเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักฐานว่าใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตีและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้อย่างรวดเร็ว ✅ GreedyBear เป็นแคมเปญอาชญากรรมไซเบอร์ที่ขโมยคริปโตไปแล้วกว่า $1 ล้าน ➡️ ใช้วิธีโจมตีหลายรูปแบบพร้อมกัน ✅ มีส่วนขยายปลอมใน Firefox Marketplace มากกว่า 150 รายการ ➡️ ปลอมเป็นกระเป๋าคริปโตยอดนิยม เช่น MetaMask, TronLink, Exodus ✅ ใช้เทคนิค Extension Hollowing เพื่อหลบการตรวจสอบ ➡️ อัปโหลดส่วนขยายปลอดภัยก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเป็นอันตราย ✅ ปล่อยมัลแวร์กว่า 500 ตัวผ่านเว็บไซต์แจกโปรแกรมเถื่อน ➡️ มีทั้ง LummaStealer และ Luca Stealer ที่เน้นขโมยข้อมูลคริปโต ✅ สร้างเว็บไซต์ปลอมที่ดูเหมือนบริการกระเป๋าคริปโตหรือซ่อมกระเป๋า ➡️ หลอกให้ผู้ใช้กรอก seed phrase และ private key ✅ ทุกการโจมตีเชื่อมโยงกับเซิร์ฟเวอร์เดียว (185.208.156.66) ➡️ ใช้เป็นศูนย์กลางควบคุมและเก็บข้อมูล ✅ มีการใช้โค้ดที่สร้างด้วย AI เพื่อเร่งการโจมตี ➡️ ทำให้ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้รวดเร็วและหลบหลีกการป้องกัน ✅ Extension Hollowing เป็นเทคนิคที่เริ่มใช้ในมัลแวร์ระดับองค์กร ➡️ เคยพบในแคมเปญโจมตีของกลุ่ม APT เช่น Lazarus ✅ Mozilla มีระบบตรวจสอบส่วนขยาย แต่ยังไม่สามารถกันการเปลี่ยนแปลงภายหลังได้ ➡️ ผู้ใช้ต้องตรวจสอบผู้พัฒนาและรีวิวอย่างละเอียด ✅ การใช้ AI ในการสร้างมัลแวร์เริ่มแพร่หลายมากขึ้น ➡️ ทำให้การตรวจจับด้วย signature-based antivirus ไม่เพียงพอ ✅ การโจมตีแบบหลายชั้น (multi-vector attack) เป็นแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมไซเบอร์ ➡️ เน้นการหลอกลวงจากหลายช่องทางพร้อมกันเพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จ https://hackread.com/greedybear-fake-crypto-wallet-extensions-firefox-marketplace/
    HACKREAD.COM
    GreedyBear: 40 Fake Crypto Wallet Extensions Found on Firefox Marketplace
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกฟรีแลนซ์: เมื่อแบรนด์เบื่อ AI และหันกลับมาหามนุษย์ที่มีหัวใจ

    แม้ว่าเครื่องมือ AI จะยังครองพื้นที่ข่าวและถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย แต่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 กลับมีแนวโน้มใหม่ที่น่าสนใจ: ความต้องการจ้างฟรีแลนซ์สายครีเอทีฟกลับมาแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะนักเขียน นักออกแบบ และนักตัดต่อวิดีโอ

    เหตุผลหลักคือ “AI slop fatigue” หรือความเบื่อหน่ายต่อคอนเทนต์ที่ดูเรียบๆ ซ้ำๆ และขาดอารมณ์ ซึ่งเกิดจากการใช้ AI สร้างเนื้อหาแบบอัตโนมัติจนเกินพอดี แบรนด์ต่างๆ เริ่มตระหนักว่าความคิดสร้างสรรค์ที่มีอารมณ์และความลึกซึ้งยังคงเป็นสิ่งที่เครื่องจักรเลียนแบบไม่ได้

    ข้อมูลจาก Freelancer Fast 50 Global Jobs Index พบว่า งานสายคอมมิวนิเคชันโตขึ้นถึง 25.2% โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเข้าใจมนุษย์ เช่น การเขียนสัญญา การแก้ต้นฉบับ และการสร้างเนื้อหาที่ “รู้สึกได้” มากกว่าแค่ “อ่านได้”

    ความต้องการฟรีแลนซ์สายครีเอทีฟเพิ่มขึ้นใน Q2 ปี 2025
    โดยเฉพาะนักเขียน นักออกแบบ และนักตัดต่อวิดีโอ

    งานสายคอมมิวนิเคชันโตขึ้น 25.2%
    เช่น การเขียนสัญญา แก้ต้นฉบับ และสร้างเนื้อหาที่มีอารมณ์

    แบรนด์เริ่มหันกลับมาหาคอนเทนต์ที่มี “ความรู้สึก”
    เพราะ AI ยังไม่สามารถสร้างความลึกซึ้งทางอารมณ์ได้

    งานสายวิดีโอและภาพมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
    เช่น Adobe After Effects, Instagram content และ Unity 3D

    ฟรีแลนซ์ที่มี “สไตล์เฉพาะตัว” ได้รับความนิยมสูง
    เพราะสามารถสร้างการเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ดีกว่า AI

    ฟรีแลนซ์คิดเป็น 46.6% ของแรงงานทั่วโลก
    มีมากกว่า 1.57 พันล้านคนทำงานอิสระ

    เศรษฐกิจฟรีแลนซ์โตเร็วกว่าแรงงานทั่วไปถึง 15 เท่า
    โดยเฉพาะในช่วงปี 2010–2020

    70% ของฟรีแลนซ์หางานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์
    เช่น Upwork, Fiverr และ Toptal

    ฟรีแลนซ์เต็มเวลาทำงานเฉลี่ย 43 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
    ใกล้เคียงกับงานประจำแต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า

    แนวโน้มการทำงานแบบไฮบริดช่วยเปิดโอกาสให้ฟรีแลนซ์
    เพราะองค์กรต้องการความคล่องตัวและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง

    https://www.techradar.com/pro/clients-are-increasingly-looking-for-unique-human-creativity-research-finds-demand-for-creative-freelancers-is-surging-despite-ai-going-mainstream
    🎨🧠 เรื่องเล่าจากโลกฟรีแลนซ์: เมื่อแบรนด์เบื่อ AI และหันกลับมาหามนุษย์ที่มีหัวใจ แม้ว่าเครื่องมือ AI จะยังครองพื้นที่ข่าวและถูกใช้งานอย่างแพร่หลาย แต่ในไตรมาสที่ 2 ปี 2025 กลับมีแนวโน้มใหม่ที่น่าสนใจ: ความต้องการจ้างฟรีแลนซ์สายครีเอทีฟกลับมาแรงอีกครั้ง โดยเฉพาะนักเขียน นักออกแบบ และนักตัดต่อวิดีโอ เหตุผลหลักคือ “AI slop fatigue” หรือความเบื่อหน่ายต่อคอนเทนต์ที่ดูเรียบๆ ซ้ำๆ และขาดอารมณ์ ซึ่งเกิดจากการใช้ AI สร้างเนื้อหาแบบอัตโนมัติจนเกินพอดี แบรนด์ต่างๆ เริ่มตระหนักว่าความคิดสร้างสรรค์ที่มีอารมณ์และความลึกซึ้งยังคงเป็นสิ่งที่เครื่องจักรเลียนแบบไม่ได้ ข้อมูลจาก Freelancer Fast 50 Global Jobs Index พบว่า งานสายคอมมิวนิเคชันโตขึ้นถึง 25.2% โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความเข้าใจมนุษย์ เช่น การเขียนสัญญา การแก้ต้นฉบับ และการสร้างเนื้อหาที่ “รู้สึกได้” มากกว่าแค่ “อ่านได้” ✅ ความต้องการฟรีแลนซ์สายครีเอทีฟเพิ่มขึ้นใน Q2 ปี 2025 ➡️ โดยเฉพาะนักเขียน นักออกแบบ และนักตัดต่อวิดีโอ ✅ งานสายคอมมิวนิเคชันโตขึ้น 25.2% ➡️ เช่น การเขียนสัญญา แก้ต้นฉบับ และสร้างเนื้อหาที่มีอารมณ์ ✅ แบรนด์เริ่มหันกลับมาหาคอนเทนต์ที่มี “ความรู้สึก” ➡️ เพราะ AI ยังไม่สามารถสร้างความลึกซึ้งทางอารมณ์ได้ ✅ งานสายวิดีโอและภาพมีการจ้างงานเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ➡️ เช่น Adobe After Effects, Instagram content และ Unity 3D ✅ ฟรีแลนซ์ที่มี “สไตล์เฉพาะตัว” ได้รับความนิยมสูง ➡️ เพราะสามารถสร้างการเชื่อมโยงกับผู้ชมได้ดีกว่า AI ✅ ฟรีแลนซ์คิดเป็น 46.6% ของแรงงานทั่วโลก ➡️ มีมากกว่า 1.57 พันล้านคนทำงานอิสระ ✅ เศรษฐกิจฟรีแลนซ์โตเร็วกว่าแรงงานทั่วไปถึง 15 เท่า ➡️ โดยเฉพาะในช่วงปี 2010–2020 ✅ 70% ของฟรีแลนซ์หางานผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ➡️ เช่น Upwork, Fiverr และ Toptal ✅ ฟรีแลนซ์เต็มเวลาทำงานเฉลี่ย 43 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ➡️ ใกล้เคียงกับงานประจำแต่มีความยืดหยุ่นมากกว่า ✅ แนวโน้มการทำงานแบบไฮบริดช่วยเปิดโอกาสให้ฟรีแลนซ์ ➡️ เพราะองค์กรต้องการความคล่องตัวและความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง https://www.techradar.com/pro/clients-are-increasingly-looking-for-unique-human-creativity-research-finds-demand-for-creative-freelancers-is-surging-despite-ai-going-mainstream
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • "ดูสนิทกันดีเนอะ!"

    6 สิงหาคม พ.ศ. 2568
    กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่ภาพ "พลเอกเตีย เซ็ยฮา" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมทั้งนายเอ็ดการ์ด คาแกน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำมาเลเซีย เข้าพบพลเรือเอก ซามูเอล ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ (USINDOPACOM) ที่สำนักงานในฮาวาย

    ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการติดตามการดำเนินการที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผล

    และสหรัฐอเมริกายืนยันจะให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และเทคนิคที่สำคัญในการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบอาเซียน (AMT) โดยเร็วที่สุด

    นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังได้สรุปแนวทางการดำเนินการของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งรวมถึงการวางแผนทางทหาร อุปกรณ์ ระบบส่งกำลัง ระบบเฝ้าระวังทางอากาศ และอุปกรณ์ทางเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ

    สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐมีความมุ่งมั่นและความพร้อมอย่างสูงที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคอย่างแท้จริง
    "ดูสนิทกันดีเนอะ!" 6 สิงหาคม พ.ศ. 2568 กระทรวงกลาโหมกัมพูชาเผยแพร่ภาพ "พลเอกเตีย เซ็ยฮา" รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกัมพูชา พร้อมทั้งนายเอ็ดการ์ด คาแกน เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำมาเลเซีย เข้าพบพลเรือเอก ซามูเอล ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิกของสหรัฐฯ (USINDOPACOM) ที่สำนักงานในฮาวาย ผู้นำทั้งสองฝ่ายได้เน้นย้ำถึงการติดตามการดำเนินการที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิดเพื่อให้มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จและมีประสิทธิผล และสหรัฐอเมริกายืนยันจะให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์และเทคนิคที่สำคัญในการจัดตั้งคณะทำงานตรวจสอบอาเซียน (AMT) โดยเร็วที่สุด นอกจากนี้ สหรัฐอเมริกายังได้สรุปแนวทางการดำเนินการของสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งรวมถึงการวางแผนทางทหาร อุปกรณ์ ระบบส่งกำลัง ระบบเฝ้าระวังทางอากาศ และอุปกรณ์ทางเทคนิคขั้นสูงอื่นๆ สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐมีความมุ่งมั่นและความพร้อมอย่างสูงที่จะมีส่วนร่วมในการสร้างสันติภาพในภูมิภาคอย่างแท้จริง
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews

  • ตอน 10
    พอมองออกบ้างหรือยัง เหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ.2516 บ้านเรามันเกิดขึ้นมาเอง โดยขบวนการกดดันตามธรรมชาติ หรือมันมีคนแจกใบสั่ง แล้วลองกลับไปนึกถึงจอมพลคนแปลกดูอีกที มีอำนาจมา 10 ปี อยู่ดีๆ ก็ถูกรัฐประหาร มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของการแย่งชิงอำนาจของนักการเมือง หรือมันเกิดจากความกดดันที่ไม่ใช่ตามธรรมชาติ
    ไทยแลนด์ แดนเนรมิต ที่คนไทยอยู่มาในช่วงปี พ.ศ.2490 จนถึง 14 ตุลา พ.ศ.2516 คนไทยรู้เรื่องและเข้าใจอะไรกันแค่ไหน ว่าของจริงๆ มันเป็นอย่างไร หรือมันเป็นโลกมายา ถูกสร้าง ถูกกำกับมา โดยใครกันบ้าง
    เราอยู่กับสิ่งที่เขายัดเยียดมาให้ตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย เรามองเห็นแต่ความเป็นมิตรที่เขา ฉาบหน้ามาให้ ความนึกคิด ความฉลาด ความเก่ง แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบทุนนิยมเสรี การศึกษา และวัฒนธรรมให้กับเรา จนเราเกือบลืม หรือลืมไปแล้วว่า ความเป็นไทย วิถีไทยเป็นอย่างไร
    คนไทยคนไหนบ้างไม่รู้จักกางเกงยีน เชื่อว่า ถึงไม่มีไม่เคยใส่ ก็ต้องรู้จักทุกคน ทุกชาติทุกภาษาในโลกก็เรียก jean ยีน ยีน ยีน ใครไม่เคยดื่มโค้ก (Coke, Coca-Cola) อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่จำเป็นต้องเขียนถึง อย่างน้อยในชีวิตต้องเคยดื่มสักขวดน่า ปากกาลูกลื่นจำได้ไหม bic ด้ามเหลืองมาจากไหน ที่สำคัญวัฒนธรรมอเมริกันผ่านมากับหนังฮอลลีวู้ดทุกเรื่อง!
    อเมริกา เป็นนักวางแผนตัวพ่อ เมื่อจะใช้ไทยเป็นฐานทางเศรษฐกิจ ผลิตอุตสาหกรรม เผยแพร่ระบบทุนนิยมและใช้เป็นฐานทัพในกรณีจำเป็น เพื่อไม่ให้ไทยแลนด์แปลกหน้ากับอเมริกันชน เขาจึงต้องส่งวัฒนธรรมอเมริกันมาให้เรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นกับดัก สมันน้อยที่สมบูรณ์ที่สุดของนักล่า
    ศัพท์พวกซีไอเอ เขาเรียกว่า soft power ถ้า hard power ก็ตัวใครตัวมันเน้อ ทางตรงอเมริกาส่งวัฒนธรรมของตน ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสำนักข่าว USIS ของรัฐบาลอเมริกัน ที่ทำหน้าที่คล้ายกับหอยม่วงบ้านเราน่ะ แต่ USIS เขามีประสิทธิภาพมากกว่าหอยม่วง หลายเท่า
    ข่าวที่ส่งออกมา ก็มีแต่ข่าวเกี่ยวกับอเมริกา อเมริกา อเมริกา ให้ชาวเรารู้จัก มีการแจกเอกสาร ใบปลิว สารพัด ที่สำคัญ อเมริกา ปลูกต้นไม้การศึกษาแบบ ฝั่งรากลึกให้กับชาวเรา โดยการให้ทุนฟูลไบรท์ ทุนฟอร์ดฯลฯ ถึงระดับปริญญาโท บางรายการถึงปริญญาเอก
    ส่วนวัยรุ่น อเมริกาก็ปลูกฝังผ่านโครงการ AFS (เด็กไทยก่อนจบม.ปลาย อายุประมาณ 18 ปี ให้ไปเรียนต่ออเมริกา 1 ปี กินฟรีอยู่ฟรีกับครอบครัวคนอเมริกัน จะได้กลับมาทำท่าเป็นเด็กอเมริกัน คิดเป็นเด็กอเมริกัน จะเอารายชื่อไหม ใครที่ผ่านทุนนี้ และตอนนี้อยู่ในขบวนรถ good boy good girl ของคุณพ่ออเมริกา) สมัยอเมริกาประกาศให้ทุน AFS ใหม่ๆ ชาวเราเห่อกันเหมือน พี่น้องเห่อโปรแกรม อเคเดมีแฟนตาเซีย เดอะวอยซ์ อะไรทำนองนั้น ลูกผู้ลากมากดี เศรษฐีเก่า เศรษฐีใหม่แห่กันไปสอบเพียบ
    นอกจากนี้อเมริกายังตั้งมูลนิธิ Asia Foundation มูลนิธินี้ให้ทุนอาจารย์ นักศึกษา สื่อฯลฯ ไปทำปริญญาโท เอก ที่อเมริกา แบบไม่มีข้อผูกพัน อาจารย์มหาวิทยาลัยดังๆ ศิษย์เก่าทุนนี้ทั้งนั้น ที่น่าสนใจหลายคน ไม่เอาสถาบัน!
    อเมริกา ยังจัดส่งวัฒนธรรมทางอ้อมมาให้  ด้วยการเอาความคุ้นเคย มาคลุก กับชาวบ้าน ผ่านหน่วย งานPeace Corp.
    พวกนี้หน้าฉากก็เข้าไปคลุกกับชาวบ้าน ช่วยสอนหนังสือ บางคนถึงกับลงทุนอยู่กับชาวไร่ ชาวนา แต่ของจริง ทุกคนมีหน้าที่ทำความรู้จักคนไทย ใส่ความเห็นที่อเมริกาต้องการให้เราเห็น ให้เราคิด เข้าไปในหัวของไทย พร้อมเติมผงชูรสยี่ห้ออเมริกันเข้าไปให้อีกด้วย…. ส่วนใหญ่พวกนี้สังกัด CIA
    เดี๋ยวนี้อดีต Peace Corp. หลายคนก็ยังอยู่ในไทย ฉากหน้าเปิดร้านอาหารบ้าง นักวิเคราะห์หุ้นบ้าง นักธุรกิจบ้าง อยากรู้จัก โน่น เดินเข้าไปใน Sports Club ถามหาพี่เจฟ หรือลุงคลอสเนอร์ แล้วกัน ฮ่า ฮ่า!
    ที่สำคัญ วิถีอเมริกันที่ไทยเราคุ้น ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าหนังฮอลลีวู้ดที่เราเสพติด เขาสร้างให้เรารู้จักเรื่องราวของชนชาวอเมริกันและดารา แล้วเราติดตามข่าวพวกเขายิ่งกว่าข่าวญาติของเรา
    อย่าเข้าใจผิด นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนให้เกลียดอเมริกา แต่อยากให้รู้จักเขาจริงๆ
    คนเราจะคบ จะรัก จะชอบ ต้องรู้จักเขาก่อน ว่าจริง ๆ เขาเป็นอย่างไร และที่สำคัญเขามองเรา อย่างไร ต้องการอะไรจากเรา จริงใจกับเราแค่ไหน จะได้ไม่เพ้อเจ้อเข้าใจผิด
    รู้ว่าควรจะคบเขาแค่ไหน และอย่างไร

    คนเล่านิทาน
     ตอน 10 พอมองออกบ้างหรือยัง เหตุการณ์ 14 ตุลา พ.ศ.2516 บ้านเรามันเกิดขึ้นมาเอง โดยขบวนการกดดันตามธรรมชาติ หรือมันมีคนแจกใบสั่ง แล้วลองกลับไปนึกถึงจอมพลคนแปลกดูอีกที มีอำนาจมา 10 ปี อยู่ดีๆ ก็ถูกรัฐประหาร มันเกิดขึ้นตามธรรมชาติ ของการแย่งชิงอำนาจของนักการเมือง หรือมันเกิดจากความกดดันที่ไม่ใช่ตามธรรมชาติ ไทยแลนด์ แดนเนรมิต ที่คนไทยอยู่มาในช่วงปี พ.ศ.2490 จนถึง 14 ตุลา พ.ศ.2516 คนไทยรู้เรื่องและเข้าใจอะไรกันแค่ไหน ว่าของจริงๆ มันเป็นอย่างไร หรือมันเป็นโลกมายา ถูกสร้าง ถูกกำกับมา โดยใครกันบ้าง เราอยู่กับสิ่งที่เขายัดเยียดมาให้ตลอด จนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคนไทย เรามองเห็นแต่ความเป็นมิตรที่เขา ฉาบหน้ามาให้ ความนึกคิด ความฉลาด ความเก่ง แนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบทุนนิยมเสรี การศึกษา และวัฒนธรรมให้กับเรา จนเราเกือบลืม หรือลืมไปแล้วว่า ความเป็นไทย วิถีไทยเป็นอย่างไร คนไทยคนไหนบ้างไม่รู้จักกางเกงยีน เชื่อว่า ถึงไม่มีไม่เคยใส่ ก็ต้องรู้จักทุกคน ทุกชาติทุกภาษาในโลกก็เรียก jean ยีน ยีน ยีน ใครไม่เคยดื่มโค้ก (Coke, Coca-Cola) อันนี้ไม่ได้ค่าโฆษณาแต่จำเป็นต้องเขียนถึง อย่างน้อยในชีวิตต้องเคยดื่มสักขวดน่า ปากกาลูกลื่นจำได้ไหม bic ด้ามเหลืองมาจากไหน ที่สำคัญวัฒนธรรมอเมริกันผ่านมากับหนังฮอลลีวู้ดทุกเรื่อง! อเมริกา เป็นนักวางแผนตัวพ่อ เมื่อจะใช้ไทยเป็นฐานทางเศรษฐกิจ ผลิตอุตสาหกรรม เผยแพร่ระบบทุนนิยมและใช้เป็นฐานทัพในกรณีจำเป็น เพื่อไม่ให้ไทยแลนด์แปลกหน้ากับอเมริกันชน เขาจึงต้องส่งวัฒนธรรมอเมริกันมาให้เรา ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นกับดัก สมันน้อยที่สมบูรณ์ที่สุดของนักล่า ศัพท์พวกซีไอเอ เขาเรียกว่า soft power ถ้า hard power ก็ตัวใครตัวมันเน้อ ทางตรงอเมริกาส่งวัฒนธรรมของตน ผ่านการประชาสัมพันธ์โดยสำนักข่าว USIS ของรัฐบาลอเมริกัน ที่ทำหน้าที่คล้ายกับหอยม่วงบ้านเราน่ะ แต่ USIS เขามีประสิทธิภาพมากกว่าหอยม่วง หลายเท่า ข่าวที่ส่งออกมา ก็มีแต่ข่าวเกี่ยวกับอเมริกา อเมริกา อเมริกา ให้ชาวเรารู้จัก มีการแจกเอกสาร ใบปลิว สารพัด ที่สำคัญ อเมริกา ปลูกต้นไม้การศึกษาแบบ ฝั่งรากลึกให้กับชาวเรา โดยการให้ทุนฟูลไบรท์ ทุนฟอร์ดฯลฯ ถึงระดับปริญญาโท บางรายการถึงปริญญาเอก ส่วนวัยรุ่น อเมริกาก็ปลูกฝังผ่านโครงการ AFS (เด็กไทยก่อนจบม.ปลาย อายุประมาณ 18 ปี ให้ไปเรียนต่ออเมริกา 1 ปี กินฟรีอยู่ฟรีกับครอบครัวคนอเมริกัน จะได้กลับมาทำท่าเป็นเด็กอเมริกัน คิดเป็นเด็กอเมริกัน จะเอารายชื่อไหม ใครที่ผ่านทุนนี้ และตอนนี้อยู่ในขบวนรถ good boy good girl ของคุณพ่ออเมริกา) สมัยอเมริกาประกาศให้ทุน AFS ใหม่ๆ ชาวเราเห่อกันเหมือน พี่น้องเห่อโปรแกรม อเคเดมีแฟนตาเซีย เดอะวอยซ์ อะไรทำนองนั้น ลูกผู้ลากมากดี เศรษฐีเก่า เศรษฐีใหม่แห่กันไปสอบเพียบ นอกจากนี้อเมริกายังตั้งมูลนิธิ Asia Foundation มูลนิธินี้ให้ทุนอาจารย์ นักศึกษา สื่อฯลฯ ไปทำปริญญาโท เอก ที่อเมริกา แบบไม่มีข้อผูกพัน อาจารย์มหาวิทยาลัยดังๆ ศิษย์เก่าทุนนี้ทั้งนั้น ที่น่าสนใจหลายคน ไม่เอาสถาบัน! อเมริกา ยังจัดส่งวัฒนธรรมทางอ้อมมาให้  ด้วยการเอาความคุ้นเคย มาคลุก กับชาวบ้าน ผ่านหน่วย งานPeace Corp. พวกนี้หน้าฉากก็เข้าไปคลุกกับชาวบ้าน ช่วยสอนหนังสือ บางคนถึงกับลงทุนอยู่กับชาวไร่ ชาวนา แต่ของจริง ทุกคนมีหน้าที่ทำความรู้จักคนไทย ใส่ความเห็นที่อเมริกาต้องการให้เราเห็น ให้เราคิด เข้าไปในหัวของไทย พร้อมเติมผงชูรสยี่ห้ออเมริกันเข้าไปให้อีกด้วย…. ส่วนใหญ่พวกนี้สังกัด CIA เดี๋ยวนี้อดีต Peace Corp. หลายคนก็ยังอยู่ในไทย ฉากหน้าเปิดร้านอาหารบ้าง นักวิเคราะห์หุ้นบ้าง นักธุรกิจบ้าง อยากรู้จัก โน่น เดินเข้าไปใน Sports Club ถามหาพี่เจฟ หรือลุงคลอสเนอร์ แล้วกัน ฮ่า ฮ่า! ที่สำคัญ วิถีอเมริกันที่ไทยเราคุ้น ไม่มีอะไรเหนือไปกว่าหนังฮอลลีวู้ดที่เราเสพติด เขาสร้างให้เรารู้จักเรื่องราวของชนชาวอเมริกันและดารา แล้วเราติดตามข่าวพวกเขายิ่งกว่าข่าวญาติของเรา อย่าเข้าใจผิด นิทานเรื่องนี้ไม่ได้สอนให้เกลียดอเมริกา แต่อยากให้รู้จักเขาจริงๆ คนเราจะคบ จะรัก จะชอบ ต้องรู้จักเขาก่อน ว่าจริง ๆ เขาเป็นอย่างไร และที่สำคัญเขามองเรา อย่างไร ต้องการอะไรจากเรา จริงใจกับเราแค่ไหน จะได้ไม่เพ้อเจ้อเข้าใจผิด รู้ว่าควรจะคบเขาแค่ไหน และอย่างไร คนเล่านิทาน
    3 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • ทหารไทยเราต้องบุกเชิงรุกเลย เอาอะไรก็ได้ไปทิ้งใบปลิวในหมู่บ้านชุมชนมันทั่วเขมร หัวเมืองใหญ่ๆด้วยของเขมรมัน จากที่มันปิดข่าวสาระพัดผ่านเน็ต จะถูกทำลายโดยใบปลิวง่ายๆนี้ทันที ใบปลิวตกมาจากฟ้าก็ว่า ปลิวทั่วเขมร อาทิ ใบปลิวข่าวศพทหารเขมรที่ฮุนเซนฮุนมาเนตเจตนาไม่เก็บศพส่งพี่น้องญาติทหารเขมรที่ตายกว่า5,000ศพ อาจเกิน10,000ศพ,ข่าวฮุนเซนฮุนมาเนตเลือกปฏิบัติดูแลทหารเมืองดีกว่าทหารแนวรบตายไม่เก็บตายไม่จ่ายค่าเยียวยาแต่ทหารบ้านดูแลพิเศษตายจัดงานศพเยียวยาอย่างดี,อยู่บ้านหรูแดกสบาย ประชาชนแดกหญ้าแดกใบไม้แดกต้มผักบุ้ง เป็นต้น ยุทธการทหารไทยเชิงนี้ทางลับต้องเล่นกับเขมรด้วย,ประชาชนเขมรมันจะแตกตื่นไม่พอใจมันฮุนเซนฮุนมาเนตหนักขึ้นไปอีก ทหารเขมรแดงที่โกรธแค้นปกติยิ่งอยากจะฆ่าฮุนเซนแน่นอน เตียบันอีก.ตีภายในด้วยสิ ,แค่ทหารไทยอยากมีมนุษยธรรมช่วยเผยแพร่ความจริงบอกช่วยชาวเขมรแค่นั้นอย่างบริสุทธิ์ใจอยากจะช่วยจึงไปแจกใบปลิวความจริงให้ดู มีรูปถ่ายชัดเจนสภาพศพทหารที่ต่างๆ ตายจริงเน่าจริง อีกาอีแร้งแดกจริง.นี้ทหารไทยต้องช่วยฮุนเซนแบบนี้ มันปกปิดก็ช่วยมันเปิดเล่าความจริงแค่นั้น,รัฐบาลชุดนี้ขัดขวางปฏิบัติการยุทธวิธีทางทหารก็อย่าสนใจหัวมัน,

    https://youtube.com/shorts/wP52B5zkHeE?si=rSyDiQh9-xkyRNHb
    ทหารไทยเราต้องบุกเชิงรุกเลย เอาอะไรก็ได้ไปทิ้งใบปลิวในหมู่บ้านชุมชนมันทั่วเขมร หัวเมืองใหญ่ๆด้วยของเขมรมัน จากที่มันปิดข่าวสาระพัดผ่านเน็ต จะถูกทำลายโดยใบปลิวง่ายๆนี้ทันที ใบปลิวตกมาจากฟ้าก็ว่า ปลิวทั่วเขมร อาทิ ใบปลิวข่าวศพทหารเขมรที่ฮุนเซนฮุนมาเนตเจตนาไม่เก็บศพส่งพี่น้องญาติทหารเขมรที่ตายกว่า5,000ศพ อาจเกิน10,000ศพ,ข่าวฮุนเซนฮุนมาเนตเลือกปฏิบัติดูแลทหารเมืองดีกว่าทหารแนวรบตายไม่เก็บตายไม่จ่ายค่าเยียวยาแต่ทหารบ้านดูแลพิเศษตายจัดงานศพเยียวยาอย่างดี,อยู่บ้านหรูแดกสบาย ประชาชนแดกหญ้าแดกใบไม้แดกต้มผักบุ้ง เป็นต้น ยุทธการทหารไทยเชิงนี้ทางลับต้องเล่นกับเขมรด้วย,ประชาชนเขมรมันจะแตกตื่นไม่พอใจมันฮุนเซนฮุนมาเนตหนักขึ้นไปอีก ทหารเขมรแดงที่โกรธแค้นปกติยิ่งอยากจะฆ่าฮุนเซนแน่นอน เตียบันอีก.ตีภายในด้วยสิ ,แค่ทหารไทยอยากมีมนุษยธรรมช่วยเผยแพร่ความจริงบอกช่วยชาวเขมรแค่นั้นอย่างบริสุทธิ์ใจอยากจะช่วยจึงไปแจกใบปลิวความจริงให้ดู มีรูปถ่ายชัดเจนสภาพศพทหารที่ต่างๆ ตายจริงเน่าจริง อีกาอีแร้งแดกจริง.นี้ทหารไทยต้องช่วยฮุนเซนแบบนี้ มันปกปิดก็ช่วยมันเปิดเล่าความจริงแค่นั้น,รัฐบาลชุดนี้ขัดขวางปฏิบัติการยุทธวิธีทางทหารก็อย่าสนใจหัวมัน, https://youtube.com/shorts/wP52B5zkHeE?si=rSyDiQh9-xkyRNHb
    0 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • ขบวนรถไฟฟ้าธงชาติไทยที่ยาวที่สุด!
    BTS ร่วมแสดงพลังสดุดีเหล่าทหารกล้า วีรบุรุษของแผ่นดินไทย
    ด้วยการ Wrap รถไฟฟ้าเป็น "ผืนธงชาติไทย" ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์!

    🛤 ให้บริการครอบคลุมทั้ง 60 สถานี 3 จังหวัด
    เผยแพร่ภาพธงชาติไทยผ่านสื่อดิจิทัลทั่วประเทศ
    เวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ทุกวัน พร้อมกันทั่วไทย

    ขอเชิญคนไทยทุกคนร่วมภาคภูมิใจในสัญลักษณ์แห่งความกล้า ความเสียสละ และความเป็นไทย

    #BTS60สถานี #BTSธงชาติไทย #ขอบคุณทหารกล้า #ธงชาติไทยที่ยาวที่สุด #รถไฟฟ้าธงชาติไทย #รักประเทศไทย #สามัคคีคือพลัง #สดุดีวีรบุรุษไทย #ภูมิใจในความเป็นไทย
    🇹🇭 ขบวนรถไฟฟ้าธงชาติไทยที่ยาวที่สุด! 🚆✨ BTS ร่วมแสดงพลังสดุดีเหล่าทหารกล้า วีรบุรุษของแผ่นดินไทย ด้วยการ Wrap รถไฟฟ้าเป็น "ผืนธงชาติไทย" ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์! 🛤 ให้บริการครอบคลุมทั้ง 60 สถานี 3 จังหวัด 📺 เผยแพร่ภาพธงชาติไทยผ่านสื่อดิจิทัลทั่วประเทศ 🕗 เวลา 08.00 น. และ 18.00 น. ทุกวัน พร้อมกันทั่วไทย ขอเชิญคนไทยทุกคนร่วมภาคภูมิใจในสัญลักษณ์แห่งความกล้า ความเสียสละ และความเป็นไทย #BTS60สถานี #BTSธงชาติไทย #ขอบคุณทหารกล้า #ธงชาติไทยที่ยาวที่สุด #รถไฟฟ้าธงชาติไทย #รักประเทศไทย #สามัคคีคือพลัง #สดุดีวีรบุรุษไทย #ภูมิใจในความเป็นไทย
    0 Comments 0 Shares 204 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่ออดีตพนักงาน Huawei ถูกตัดสินจำคุกจากคดีลับเทคโนโลยี

    ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด คดีล่าสุดจากประเทศจีนได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei จำนวน 14 คน จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิปไปใช้ในการก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Zunpai Communication Technology

    Zhang Kun อดีตนักวิจัยจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ได้ลาออกในปี 2019 และก่อตั้ง Zunpai ในปี 2021 โดยดึงอดีตเพื่อนร่วมงานมาร่วมทีม พร้อมเสนอเงินเดือนสูงและหุ้นในบริษัท แต่สิ่งที่ตามมาคือข้อกล่าวหาว่า พวกเขาได้คัดลอกข้อมูลลับก่อนลาออก และนำไปใช้ในการพัฒนาชิป Wi-Fi ของ Zunpai

    ในเดือนธันวาคม 2023 ตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน และอายัดทรัพย์สินของ Zunpai มูลค่า 95 ล้านหยวน โดยพบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ใน Zunpai มีความคล้ายคลึงกับของ Huawei ถึง 90% แม้คำตัดสินจะยังไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมโทษปรับ

    คดีนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของจีนในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปที่ถือเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการเตือนว่า “การลอกเลียนเทคโนโลยี” ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป

    ศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei 14 คน
    จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิป

    ผู้ต้องหาก่อตั้งบริษัท Zunpai เพื่อพัฒนาชิป Wi-Fi
    โดยใช้ข้อมูลจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานของ Huawei

    ตำรวจพบว่าเทคโนโลยีของ Zunpai คล้ายกับของ Huawei ถึง 90%
    และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 95 ล้านหยวน

    คำตัดสินยังไม่เผยแพร่ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี
    พร้อมโทษปรับทางการเงิน

    Huawei ยังไม่ออกความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคดีนี้
    แต่ได้ดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่ปี 2023

    จีนมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา
    มีผู้ถูกดำเนินคดีด้าน IP มากกว่า 21,000 คนในปี 2024

    HiSilicon เป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ที่มีบทบาทสำคัญ
    โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา AI และการสื่อสาร

    การลอกเลียนเทคโนโลยีชิปส่งผลต่อการแข่งขันในระดับโลก
    และอาจกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี

    การตั้งบริษัทใหม่โดยอดีตพนักงานเป็นเรื่องปกติในวงการเทคโนโลยี
    แต่ต้องไม่ละเมิดข้อมูลลับของบริษัทเดิม

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/14-ex-huawei-employees-handed-down-prison-sentences-in-china-accused-face-up-to-six-years-for-taking-chip-related-business-secrets-with-them-to-form-startup-zunpai
    🔐⚖️ เรื่องเล่าจากโลกชิป: เมื่ออดีตพนักงาน Huawei ถูกตัดสินจำคุกจากคดีลับเทคโนโลยี ในโลกของเซมิคอนดักเตอร์ที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด คดีล่าสุดจากประเทศจีนได้สร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ เมื่อศาลในเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei จำนวน 14 คน จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิปไปใช้ในการก่อตั้งบริษัทใหม่ชื่อ Zunpai Communication Technology Zhang Kun อดีตนักวิจัยจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ได้ลาออกในปี 2019 และก่อตั้ง Zunpai ในปี 2021 โดยดึงอดีตเพื่อนร่วมงานมาร่วมทีม พร้อมเสนอเงินเดือนสูงและหุ้นในบริษัท แต่สิ่งที่ตามมาคือข้อกล่าวหาว่า พวกเขาได้คัดลอกข้อมูลลับก่อนลาออก และนำไปใช้ในการพัฒนาชิป Wi-Fi ของ Zunpai ในเดือนธันวาคม 2023 ตำรวจเซี่ยงไฮ้ได้จับกุมผู้ต้องสงสัยทั้ง 14 คน และอายัดทรัพย์สินของ Zunpai มูลค่า 95 ล้านหยวน โดยพบว่าเทคโนโลยีที่ใช้ใน Zunpai มีความคล้ายคลึงกับของ Huawei ถึง 90% แม้คำตัดสินจะยังไม่เผยแพร่สู่สาธารณะ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี พร้อมโทษปรับ คดีนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดของจีนในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมชิปที่ถือเป็นหัวใจของเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการเตือนว่า “การลอกเลียนเทคโนโลยี” ไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป ✅ ศาลเซี่ยงไฮ้ตัดสินจำคุกอดีตพนักงาน Huawei 14 คน ➡️ จากข้อหาขโมยข้อมูลลับด้านเทคโนโลยีชิป ✅ ผู้ต้องหาก่อตั้งบริษัท Zunpai เพื่อพัฒนาชิป Wi-Fi ➡️ โดยใช้ข้อมูลจาก HiSilicon ซึ่งเป็นหน่วยงานของ Huawei ✅ ตำรวจพบว่าเทคโนโลยีของ Zunpai คล้ายกับของ Huawei ถึง 90% ➡️ และอายัดทรัพย์สินมูลค่า 95 ล้านหยวน ✅ คำตัดสินยังไม่เผยแพร่ แต่มีรายงานว่าผู้ต้องหาอาจถูกจำคุกสูงสุด 6 ปี ➡️ พร้อมโทษปรับทางการเงิน ✅ Huawei ยังไม่ออกความเห็นอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับคดีนี้ ➡️ แต่ได้ดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่ปี 2023 ✅ จีนมีแนวโน้มเพิ่มความเข้มงวดในการปกป้องทรัพย์สินทางปัญญา ➡️ มีผู้ถูกดำเนินคดีด้าน IP มากกว่า 21,000 คนในปี 2024 ✅ HiSilicon เป็นหน่วยงานพัฒนาชิปของ Huawei ที่มีบทบาทสำคัญ ➡️ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนา AI และการสื่อสาร ✅ การลอกเลียนเทคโนโลยีชิปส่งผลต่อการแข่งขันในระดับโลก ➡️ และอาจกระทบต่อความมั่นคงของห่วงโซ่อุปทานเทคโนโลยี ✅ การตั้งบริษัทใหม่โดยอดีตพนักงานเป็นเรื่องปกติในวงการเทคโนโลยี ➡️ แต่ต้องไม่ละเมิดข้อมูลลับของบริษัทเดิม https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/14-ex-huawei-employees-handed-down-prison-sentences-in-china-accused-face-up-to-six-years-for-taking-chip-related-business-secrets-with-them-to-form-startup-zunpai
    0 Comments 0 Shares 198 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกแรงงาน: เมื่อแรงงานมนุษย์ต้องทำงานเคียงข้างแรงงานดิจิทัล

    ในยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงาน” โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า “digital labour” หรือแรงงานดิจิทัล ซึ่งหมายถึงการที่คอมพิวเตอร์ทำงานแทนมนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อ AI แบบ agentic หรือ AI ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งชัดเจน เริ่มถูกนำมาใช้ในองค์กรจริง

    Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce บอกว่าเขาอาจเป็น “ซีอีโอคนสุดท้ายที่บริหารเฉพาะมนุษย์” เพราะตอนนี้ Salesforce ใช้ AI agent ในงานบริการลูกค้า และลดต้นทุนได้ถึง 17% ภายใน 9 เดือน

    แต่การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี มันกระทบถึงโครงสร้างเศรษฐกิจและจริยธรรม เช่น ถ้าองค์กร A ใช้ AI ที่สร้างโดยบริษัท B แล้วพัฒนาให้เก่งขึ้นด้วยข้อมูลของตัวเอง ใครควรได้รับเครดิตและผลตอบแทน? และถ้า AI ทำงานผิดพลาด ใครควรรับผิดชอบ—ผู้สร้างหรือผู้ใช้งาน?

    แม้จะยังไม่แพร่หลาย แต่บริษัทเทคโนโลยีและการเงินบางแห่งเริ่มใช้ AI แบบอัตโนมัติในการทำงานแทนมนุษย์แล้ว และในอนาคตอาจมีตำแหน่ง “digital labourer” ปรากฏในโครงสร้างองค์กรจริง ๆ

    “Digital labour” หมายถึงคอมพิวเตอร์ทำงานแทนมนุษย์
    โดยเฉพาะ AI แบบ agentic ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง

    Salesforce ใช้ AI agent ในงานบริการลูกค้า
    ลดต้นทุนได้ 17% ภายใน 9 เดือน

    Marc Benioff กล่าวว่าจะเป็นซีอีโอคนสุดท้ายที่บริหารเฉพาะมนุษย์
    สะท้อนแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่แรงงานดิจิทัล

    Harvard ระบุว่า digital labour เปลี่ยนความหมายจากเดิม
    จากเดิมหมายถึง gig workers กลายเป็น AI ที่ทำงานแทนมนุษย์

    มีคำถามเรื่องสิทธิและผลตอบแทนของ AI ที่ถูกพัฒนาโดยองค์กร
    เช่น ใครควรได้รับเครดิตเมื่อ AI ทำงานดีขึ้นจากข้อมูลขององค์กร

    Salesforce ยังมีระบบให้ลูกค้า escalate ไปหาคนจริงได้
    เป็นการตั้ง “human guardrails” เพื่อควบคุมความผิดพลาดของ AI

    ILO รายงานว่าแพลตฟอร์มแรงงานดิจิทัลเติบโต 5 เท่าในทศวรรษที่ผ่านมา
    แต่ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมและความมั่นคงของงาน

    Digital labour platforms มีผลต่อ SDG5 ด้านความเท่าเทียมทางเพศ
    ผู้หญิงมีสัดส่วนต่ำในแพลตฟอร์มขนส่งและมีช่องว่างรายได้

    การใช้ AI ในแรงงานอาจไม่สร้างงานใหม่ แต่เปลี่ยนรูปแบบงานเดิม
    ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและการจ้างงานในระยะยาว

    การพัฒนา AI agent ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบและความโปร่งใส
    เช่น การกำหนดว่าใครรับผิดชอบเมื่อ AI ทำงานผิดพลาด

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/05/where-human-labour-meets-digital-labour
    🤖👷‍♀️ เรื่องเล่าจากโลกแรงงาน: เมื่อแรงงานมนุษย์ต้องทำงานเคียงข้างแรงงานดิจิทัล ในยุคที่ AI ไม่ใช่แค่เครื่องมือ แต่กำลังกลายเป็น “เพื่อนร่วมงาน” โลกกำลังเข้าสู่ยุคใหม่ที่เรียกว่า “digital labour” หรือแรงงานดิจิทัล ซึ่งหมายถึงการที่คอมพิวเตอร์ทำงานแทนมนุษย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะเมื่อ AI แบบ agentic หรือ AI ที่สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องรอคำสั่งชัดเจน เริ่มถูกนำมาใช้ในองค์กรจริง Marc Benioff ซีอีโอของ Salesforce บอกว่าเขาอาจเป็น “ซีอีโอคนสุดท้ายที่บริหารเฉพาะมนุษย์” เพราะตอนนี้ Salesforce ใช้ AI agent ในงานบริการลูกค้า และลดต้นทุนได้ถึง 17% ภายใน 9 เดือน แต่การเปลี่ยนผ่านนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี มันกระทบถึงโครงสร้างเศรษฐกิจและจริยธรรม เช่น ถ้าองค์กร A ใช้ AI ที่สร้างโดยบริษัท B แล้วพัฒนาให้เก่งขึ้นด้วยข้อมูลของตัวเอง ใครควรได้รับเครดิตและผลตอบแทน? และถ้า AI ทำงานผิดพลาด ใครควรรับผิดชอบ—ผู้สร้างหรือผู้ใช้งาน? แม้จะยังไม่แพร่หลาย แต่บริษัทเทคโนโลยีและการเงินบางแห่งเริ่มใช้ AI แบบอัตโนมัติในการทำงานแทนมนุษย์แล้ว และในอนาคตอาจมีตำแหน่ง “digital labourer” ปรากฏในโครงสร้างองค์กรจริง ๆ ✅ “Digital labour” หมายถึงคอมพิวเตอร์ทำงานแทนมนุษย์ ➡️ โดยเฉพาะ AI แบบ agentic ที่ทำงานได้โดยไม่ต้องรอคำสั่ง ✅ Salesforce ใช้ AI agent ในงานบริการลูกค้า ➡️ ลดต้นทุนได้ 17% ภายใน 9 เดือน ✅ Marc Benioff กล่าวว่าจะเป็นซีอีโอคนสุดท้ายที่บริหารเฉพาะมนุษย์ ➡️ สะท้อนแนวโน้มการเปลี่ยนผ่านสู่แรงงานดิจิทัล ✅ Harvard ระบุว่า digital labour เปลี่ยนความหมายจากเดิม ➡️ จากเดิมหมายถึง gig workers กลายเป็น AI ที่ทำงานแทนมนุษย์ ✅ มีคำถามเรื่องสิทธิและผลตอบแทนของ AI ที่ถูกพัฒนาโดยองค์กร ➡️ เช่น ใครควรได้รับเครดิตเมื่อ AI ทำงานดีขึ้นจากข้อมูลขององค์กร ✅ Salesforce ยังมีระบบให้ลูกค้า escalate ไปหาคนจริงได้ ➡️ เป็นการตั้ง “human guardrails” เพื่อควบคุมความผิดพลาดของ AI ✅ ILO รายงานว่าแพลตฟอร์มแรงงานดิจิทัลเติบโต 5 เท่าในทศวรรษที่ผ่านมา ➡️ แต่ยังมีปัญหาเรื่องความไม่เท่าเทียมและความมั่นคงของงาน ✅ Digital labour platforms มีผลต่อ SDG5 ด้านความเท่าเทียมทางเพศ ➡️ ผู้หญิงมีสัดส่วนต่ำในแพลตฟอร์มขนส่งและมีช่องว่างรายได้ ✅ การใช้ AI ในแรงงานอาจไม่สร้างงานใหม่ แต่เปลี่ยนรูปแบบงานเดิม ➡️ ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและการจ้างงานในระยะยาว ✅ การพัฒนา AI agent ต้องคำนึงถึงความรับผิดชอบและความโปร่งใส ➡️ เช่น การกำหนดว่าใครรับผิดชอบเมื่อ AI ทำงานผิดพลาด https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/05/where-human-labour-meets-digital-labour
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Where human labour meets 'digital labour'
    In a still largely speculative vision of the future, A.I. tools would be full employees that work independently, with a bit of management.
    0 Comments 0 Shares 162 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: ช่องโหว่ libxslt ที่ทำให้ GNOME ต้องตั้งรับเอง

    Google Project Zero ซึ่งเป็นทีมค้นหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยระดับโลก ได้เปิดเผยช่องโหว่ใน libxslt ซึ่งเป็นไลบรารีสำคัญของ GNOME ที่ใช้ในการแปลงเอกสาร XML ด้วยภาษา XSLT ไลบรารีนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น GNOME Help, Gnumeric, Doxygen รวมถึงในเว็บที่ใช้ PHP และ Python

    ช่องโหว่นี้เป็นแบบ “use-after-free” (UAF) ซึ่งเกิดจากการจัดการหน่วยความจำของ Result Value Tree (RVT) ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการเข้าถึงหน่วยความจำที่ถูกปล่อยไปแล้ว ส่งผลให้แอปพลิเคชัน crash หรืออาจถูกใช้เป็นช่องทางรันโค้ดอันตรายได้

    Google ได้แจ้ง GNOME ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2025 และให้เวลา 90 วันในการแก้ไข แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว GNOME ยังไม่สามารถออกแพตช์ได้ เพราะการแก้ไขทำให้ส่วนอื่นของระบบเสียหาย และที่สำคัญคือ libxslt ไม่มีผู้ดูแลหลักมานานแล้ว ทำให้การแก้ไขต้องพึ่งชุมชนโอเพ่นซอร์สที่ยังคงพยายามกันอยู่

    ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงเป็น P2/S2 ซึ่งหมายถึงระดับกลางแต่มีผลกระทบสูง และตอนนี้มีโค้ดตัวอย่าง (PoC) ถูกเผยแพร่แล้ว ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถนำไปใช้โจมตีได้ทันที

    Google Project Zero พบช่องโหว่ใน libxslt ไลบรารีของ GNOME
    ใช้ในการแปลง XML ด้วย XSLT และถูกใช้งานในหลายแอปพลิเคชัน

    ช่องโหว่เป็นแบบ use-after-free จากการจัดการ RVT ที่ผิดพลาด
    ทำให้เกิด crash หรือเปิดช่องให้รันโค้ดอันตราย

    แจ้ง GNOME ตั้งแต่ 6 พฤษภาคม 2025 พร้อมเวลา 90 วันในการแก้ไข
    แต่ยังไม่มีแพตช์เพราะการแก้ไขทำให้ระบบอื่นเสียหาย

    GNOME เปิดเผยช่องโหว่ต่อสาธารณะหลังครบกำหนด
    มีโค้ดตัวอย่าง (PoC) ถูกเผยแพร่แล้ว

    libxslt ไม่มีผู้ดูแลหลักมานาน
    ชุมชนต้องช่วยกันแก้ไข downstream กันเอง

    libxslt พัฒนาบนพื้นฐานของ libxml2
    รองรับฟังก์ชัน EXSLT และบางส่วนของ Saxon

    ช่องโหว่ CVE-2025-7425 เกิดจากการจัดการ atype flags ที่ผิดพลาด
    ทำให้เกิด heap corruption และอาจนำไปสู่ arbitrary code execution

    ระบบที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ Red Hat, Debian, SUSE
    มีแพตช์ออกแล้วใน libxslt เวอร์ชัน 1.1.43 ขึ้นไป

    แนวทางป้องกันชั่วคราวคือปิดการใช้งาน XSLT หรือใช้ input validation
    ลดความเสี่ยงจากการประมวลผล XML ที่ไม่ปลอดภัย

    ช่องโหว่เปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายผ่าน XML หรือ XSLT
    อาจถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่อื่น เช่น XXE เพื่อโจมตีแบบ chain

    ไม่มีผู้ดูแลหลักของ libxslt ทำให้การแก้ไขล่าช้า
    ผู้ใช้ต้องพึ่งแพตช์จากระบบปฏิบัติการหรือแก้ไขเอง

    โค้ดตัวอย่าง (PoC) ถูกเผยแพร่แล้ว
    เพิ่มความเสี่ยงที่ช่องโหว่จะถูกนำไปใช้โจมตีจริง

    ระบบที่ยังใช้ libxslt เวอร์ชันเก่าเสี่ยงต่อการถูกโจมตี
    ควรอัปเดตทันทีหรือปิดการใช้งาน XSLT หากไม่จำเป็น

    https://www.neowin.net/news/google-project-zero-exposes-security-flaw-in-libxslt-library-used-in-gnome-applications/
    🧨🧬 เรื่องเล่าจากโลกโอเพ่นซอร์ส: ช่องโหว่ libxslt ที่ทำให้ GNOME ต้องตั้งรับเอง Google Project Zero ซึ่งเป็นทีมค้นหาช่องโหว่ด้านความปลอดภัยระดับโลก ได้เปิดเผยช่องโหว่ใน libxslt ซึ่งเป็นไลบรารีสำคัญของ GNOME ที่ใช้ในการแปลงเอกสาร XML ด้วยภาษา XSLT ไลบรารีนี้ถูกใช้งานอย่างแพร่หลายในแอปพลิเคชันต่าง ๆ เช่น GNOME Help, Gnumeric, Doxygen รวมถึงในเว็บที่ใช้ PHP และ Python ช่องโหว่นี้เป็นแบบ “use-after-free” (UAF) ซึ่งเกิดจากการจัดการหน่วยความจำของ Result Value Tree (RVT) ที่ไม่ถูกต้อง ทำให้เกิดการเข้าถึงหน่วยความจำที่ถูกปล่อยไปแล้ว ส่งผลให้แอปพลิเคชัน crash หรืออาจถูกใช้เป็นช่องทางรันโค้ดอันตรายได้ Google ได้แจ้ง GNOME ตั้งแต่วันที่ 6 พฤษภาคม 2025 และให้เวลา 90 วันในการแก้ไข แต่เมื่อครบกำหนดแล้ว GNOME ยังไม่สามารถออกแพตช์ได้ เพราะการแก้ไขทำให้ส่วนอื่นของระบบเสียหาย และที่สำคัญคือ libxslt ไม่มีผู้ดูแลหลักมานานแล้ว ทำให้การแก้ไขต้องพึ่งชุมชนโอเพ่นซอร์สที่ยังคงพยายามกันอยู่ ช่องโหว่นี้ถูกจัดระดับความรุนแรงเป็น P2/S2 ซึ่งหมายถึงระดับกลางแต่มีผลกระทบสูง และตอนนี้มีโค้ดตัวอย่าง (PoC) ถูกเผยแพร่แล้ว ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถนำไปใช้โจมตีได้ทันที ✅ Google Project Zero พบช่องโหว่ใน libxslt ไลบรารีของ GNOME ➡️ ใช้ในการแปลง XML ด้วย XSLT และถูกใช้งานในหลายแอปพลิเคชัน ✅ ช่องโหว่เป็นแบบ use-after-free จากการจัดการ RVT ที่ผิดพลาด ➡️ ทำให้เกิด crash หรือเปิดช่องให้รันโค้ดอันตราย ✅ แจ้ง GNOME ตั้งแต่ 6 พฤษภาคม 2025 พร้อมเวลา 90 วันในการแก้ไข ➡️ แต่ยังไม่มีแพตช์เพราะการแก้ไขทำให้ระบบอื่นเสียหาย ✅ GNOME เปิดเผยช่องโหว่ต่อสาธารณะหลังครบกำหนด ➡️ มีโค้ดตัวอย่าง (PoC) ถูกเผยแพร่แล้ว ✅ libxslt ไม่มีผู้ดูแลหลักมานาน ➡️ ชุมชนต้องช่วยกันแก้ไข downstream กันเอง ✅ libxslt พัฒนาบนพื้นฐานของ libxml2 ➡️ รองรับฟังก์ชัน EXSLT และบางส่วนของ Saxon ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-7425 เกิดจากการจัดการ atype flags ที่ผิดพลาด ➡️ ทำให้เกิด heap corruption และอาจนำไปสู่ arbitrary code execution ✅ ระบบที่ได้รับผลกระทบ ได้แก่ Red Hat, Debian, SUSE ➡️ มีแพตช์ออกแล้วใน libxslt เวอร์ชัน 1.1.43 ขึ้นไป ✅ แนวทางป้องกันชั่วคราวคือปิดการใช้งาน XSLT หรือใช้ input validation ➡️ ลดความเสี่ยงจากการประมวลผล XML ที่ไม่ปลอดภัย ‼️ ช่องโหว่เปิดทางให้ผู้โจมตีรันโค้ดอันตรายผ่าน XML หรือ XSLT ⛔ อาจถูกใช้ร่วมกับช่องโหว่อื่น เช่น XXE เพื่อโจมตีแบบ chain ‼️ ไม่มีผู้ดูแลหลักของ libxslt ทำให้การแก้ไขล่าช้า ⛔ ผู้ใช้ต้องพึ่งแพตช์จากระบบปฏิบัติการหรือแก้ไขเอง ‼️ โค้ดตัวอย่าง (PoC) ถูกเผยแพร่แล้ว ⛔ เพิ่มความเสี่ยงที่ช่องโหว่จะถูกนำไปใช้โจมตีจริง ‼️ ระบบที่ยังใช้ libxslt เวอร์ชันเก่าเสี่ยงต่อการถูกโจมตี ⛔ ควรอัปเดตทันทีหรือปิดการใช้งาน XSLT หากไม่จำเป็น https://www.neowin.net/news/google-project-zero-exposes-security-flaw-in-libxslt-library-used-in-gnome-applications/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google Project Zero exposes security flaw in libxslt library used in GNOME applications
    Google's Project Zero team has publicly disclosed a UAF flaw in the popular libxslt library following GNOME's inability to fix it within 90 days of private reporting.
    0 Comments 0 Shares 208 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อชิปความปลอดภัยกลายเป็นช่องโหว่ใน Dell กว่าร้อยรุ่น

    ใครจะคิดว่า “ชิปความปลอดภัย” ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านและลายนิ้วมือ จะกลายเป็นจุดอ่อนที่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องได้แบบถาวร ล่าสุด Cisco Talos ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงใน Dell ControlVault3 และ ControlVault3+ ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ในโน้ตบุ๊ค Dell กว่า 100 รุ่น โดยเฉพาะในซีรีส์ Latitude และ Precision ที่นิยมใช้ในองค์กรและหน่วยงานรัฐบาล

    ช่องโหว่เหล่านี้ถูกตั้งชื่อว่า “ReVault” และมีทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่ CVE-2025-24311, CVE-2025-25050, CVE-2025-25215, CVE-2025-24922 และ CVE-2025-24919 ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถ:

    - เข้าถึงเครื่องแบบถาวร แม้จะติดตั้ง Windows ใหม่ก็ยังไม่หาย
    - เจาะระบบผ่านการเข้าถึงทางกายภาพ เช่น เปิดเครื่องแล้วเชื่อมต่อผ่าน USB
    - ปลอมลายนิ้วมือให้ระบบยอมรับได้ทุกนิ้ว

    Dell ได้ออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อแก้ไขช่องโหว่เหล่านี้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที รวมถึงพิจารณาปิดการใช้งาน ControlVault หากไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ลายนิ้วมือหรือ smart card

    นอกจากนี้ Cisco ยังร่วมมือกับ Hugging Face เพื่อสแกนมัลแวร์ในโมเดล AI ที่เผยแพร่สู่สาธารณะ โดยใช้ ClamAV รุ่นพิเศษ ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการป้องกันภัยในห่วงโซ่ซัพพลายของ AI

    Cisco Talos พบช่องโหว่ใน Dell ControlVault3 และ ControlVault3+
    ส่งผลกระทบต่อโน้ตบุ๊ค Dell กว่า 100 รุ่นทั่วโลก

    ช่องโหว่ถูกตั้งชื่อว่า “ReVault” และมีทั้งหมด 5 รายการ CVE
    รวมถึง CVE-2025-24311, 25050, 25215, 24922, 24919

    ช่องโหว่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงเครื่องแบบถาวร
    แม้จะติดตั้ง Windows ใหม่ก็ยังไม่สามารถลบมัลแวร์ได้

    การโจมตีสามารถทำได้ผ่านการเข้าถึงทางกายภาพ
    เช่น เชื่อมต่อผ่าน USB โดยไม่ต้องรู้รหัสผ่านหรือปลดล็อก

    Dell ออกอัปเดตเฟิร์มแวร์และแจ้งลูกค้าเมื่อ 13 มิถุนายน 2025
    แนะนำให้รีบอัปเดตและตรวจสอบ Security Advisory DSA-2025-053

    Cisco ร่วมมือกับ Hugging Face สแกนมัลแวร์ในโมเดล AI
    ใช้ ClamAV รุ่นพิเศษ สแกนไฟล์สาธารณะทั้งหมดฟรี

    ช่องโหว่เกิดจาก Broadcom BCM5820X ที่ใช้ในชิป ControlVault
    พบในโน้ตบุ๊ค Dell รุ่นธุรกิจ เช่น Latitude และ Precision

    ช่องโหว่รวมถึง unsafe-deserialization และ stack overflow
    ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิ์ admin ก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้

    ControlVault เป็น secure enclave สำหรับเก็บข้อมูลลับ
    เช่น รหัสผ่าน ลายนิ้วมือ และรหัสความปลอดภัย

    โน้ตบุ๊ครุ่น Rugged ของ Dell ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน
    ใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น รัฐบาล

    https://hackread.com/dell-laptop-models-vulnerabilities-impacting-millions/
    🧠💻 เรื่องเล่าจากโลกไซเบอร์: เมื่อชิปความปลอดภัยกลายเป็นช่องโหว่ใน Dell กว่าร้อยรุ่น ใครจะคิดว่า “ชิปความปลอดภัย” ที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องข้อมูลสำคัญอย่างรหัสผ่านและลายนิ้วมือ จะกลายเป็นจุดอ่อนที่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าควบคุมเครื่องได้แบบถาวร ล่าสุด Cisco Talos ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรงใน Dell ControlVault3 และ ControlVault3+ ซึ่งเป็นชิปที่ใช้ในโน้ตบุ๊ค Dell กว่า 100 รุ่น โดยเฉพาะในซีรีส์ Latitude และ Precision ที่นิยมใช้ในองค์กรและหน่วยงานรัฐบาล ช่องโหว่เหล่านี้ถูกตั้งชื่อว่า “ReVault” และมีทั้งหมด 5 รายการ ได้แก่ CVE-2025-24311, CVE-2025-25050, CVE-2025-25215, CVE-2025-24922 และ CVE-2025-24919 ซึ่งเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์สามารถ: - เข้าถึงเครื่องแบบถาวร แม้จะติดตั้ง Windows ใหม่ก็ยังไม่หาย - เจาะระบบผ่านการเข้าถึงทางกายภาพ เช่น เปิดเครื่องแล้วเชื่อมต่อผ่าน USB - ปลอมลายนิ้วมือให้ระบบยอมรับได้ทุกนิ้ว Dell ได้ออกอัปเดตเฟิร์มแวร์เพื่อแก้ไขช่องโหว่เหล่านี้ตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน 2025 และแนะนำให้ผู้ใช้รีบอัปเดตทันที รวมถึงพิจารณาปิดการใช้งาน ControlVault หากไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ลายนิ้วมือหรือ smart card นอกจากนี้ Cisco ยังร่วมมือกับ Hugging Face เพื่อสแกนมัลแวร์ในโมเดล AI ที่เผยแพร่สู่สาธารณะ โดยใช้ ClamAV รุ่นพิเศษ ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญในการป้องกันภัยในห่วงโซ่ซัพพลายของ AI ✅ Cisco Talos พบช่องโหว่ใน Dell ControlVault3 และ ControlVault3+ ➡️ ส่งผลกระทบต่อโน้ตบุ๊ค Dell กว่า 100 รุ่นทั่วโลก ✅ ช่องโหว่ถูกตั้งชื่อว่า “ReVault” และมีทั้งหมด 5 รายการ CVE ➡️ รวมถึง CVE-2025-24311, 25050, 25215, 24922, 24919 ✅ ช่องโหว่เปิดทางให้แฮกเกอร์เข้าถึงเครื่องแบบถาวร ➡️ แม้จะติดตั้ง Windows ใหม่ก็ยังไม่สามารถลบมัลแวร์ได้ ✅ การโจมตีสามารถทำได้ผ่านการเข้าถึงทางกายภาพ ➡️ เช่น เชื่อมต่อผ่าน USB โดยไม่ต้องรู้รหัสผ่านหรือปลดล็อก ✅ Dell ออกอัปเดตเฟิร์มแวร์และแจ้งลูกค้าเมื่อ 13 มิถุนายน 2025 ➡️ แนะนำให้รีบอัปเดตและตรวจสอบ Security Advisory DSA-2025-053 ✅ Cisco ร่วมมือกับ Hugging Face สแกนมัลแวร์ในโมเดล AI ➡️ ใช้ ClamAV รุ่นพิเศษ สแกนไฟล์สาธารณะทั้งหมดฟรี ✅ ช่องโหว่เกิดจาก Broadcom BCM5820X ที่ใช้ในชิป ControlVault ➡️ พบในโน้ตบุ๊ค Dell รุ่นธุรกิจ เช่น Latitude และ Precision ✅ ช่องโหว่รวมถึง unsafe-deserialization และ stack overflow ➡️ ทำให้ผู้ใช้ที่ไม่มีสิทธิ์ admin ก็สามารถรันโค้ดอันตรายได้ ✅ ControlVault เป็น secure enclave สำหรับเก็บข้อมูลลับ ➡️ เช่น รหัสผ่าน ลายนิ้วมือ และรหัสความปลอดภัย ✅ โน้ตบุ๊ครุ่น Rugged ของ Dell ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ➡️ ใช้ในอุตสาหกรรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่น รัฐบาล https://hackread.com/dell-laptop-models-vulnerabilities-impacting-millions/
    HACKREAD.COM
    Over 100 Dell Laptop Models Plagued by Vulnerabilities Impacting Millions
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • ทรัมป์ย้ำเส้นตายออกมาตรการแซงก์ชันใหม่ศุกร์นี้ (8 ก.ค.) เว้นแต่รัสเซียยอมดำเนินการเพื่อยุติสงครามในยูเครน ด้านเครมลินคาดหวัง “การเจรจาสำคัญ” กับผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเดินทางเยือนมอสโกกลางสัปดาห์นี้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศยุติการปฏิบัติตามสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (ไอเอ็นเอฟ)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000074342

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    ทรัมป์ย้ำเส้นตายออกมาตรการแซงก์ชันใหม่ศุกร์นี้ (8 ก.ค.) เว้นแต่รัสเซียยอมดำเนินการเพื่อยุติสงครามในยูเครน ด้านเครมลินคาดหวัง “การเจรจาสำคัญ” กับผู้แทนพิเศษของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะเดินทางเยือนมอสโกกลางสัปดาห์นี้ ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียประกาศยุติการปฏิบัติตามสนธิสัญญาไม่แพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์พิสัยกลาง (ไอเอ็นเอฟ) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000074342 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 919 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อต้นแบบมะเร็งถูกส่งขึ้นไปโคจรเพื่อช่วยรักษาคนบนโลก

    ในห้องทดลองที่ลอยอยู่เหนือโลกกว่า 400 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์กำลังทำสิ่งที่ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์—พวกเขากำลังปลูกเนื้อมะเร็งจริงจากผู้ป่วยในสภาวะไร้น้ำหนัก เพื่อศึกษาว่ามะเร็งตอบสนองต่อยาอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ต่างจากโลก

    บริษัท Encapsulate ได้พัฒนาเทคโนโลยี “tumor-on-a-chip” ที่สามารถปลูกเนื้อมะเร็งขนาดเล็กจากตัวอย่างชีวภาพของผู้ป่วยให้เติบโตเป็นสามมิติในอวกาศ ซึ่งช่วยให้เห็นพฤติกรรมของเซลล์มะเร็งได้ชัดเจนขึ้นกว่าการทดลองบนโลก เพราะในอวกาศ เซลล์ไม่ถูกแรงโน้มถ่วงดึงลง ทำให้สามารถรวมตัวกันได้เหมือนในร่างกายมนุษย์จริงๆ

    การทดลองนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีล้ำยุค แต่เป็นก้าวสำคัญของ “การรักษาแบบเฉพาะบุคคล” หรือ personalized medicine ที่จะช่วยให้แพทย์เลือกยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้แม่นยำขึ้น โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก

    และไม่ใช่แค่ในอวกาศ—บนโลกก็มีความก้าวหน้าเช่นกัน เช่น รัสเซียกำลังทดลองวัคซีนมะเร็งแบบ mRNA ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนโดยใช้ AI หรือในเดนมาร์กที่ใช้ AI สร้างโปรตีนขนาดเล็กเพื่อฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้จำแนกและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ

    นักวิทยาศาสตร์ปลูกเนื้อมะเร็งในอวกาศเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อยา
    ใช้เทคโนโลยี tumor-on-a-chip จากบริษัท Encapsulate
    เติบโตในสภาพไร้น้ำหนักเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมในร่างกายมนุษย์

    การทดลองอยู่ภายใต้โครงการ In Space Production Applications ของ NASA
    ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.88 ล้านดอลลาร์จาก NASA และ NSF

    มีการทดลองร่วมกับศูนย์มะเร็งชั้นนำในสหรัฐฯ
    ศึกษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และตับอ่อนกว่า 200 ราย

    ระบบทดลองในอวกาศเป็นแบบอัตโนมัติ
    นักบินอวกาศเพียงแค่เสียบอุปกรณ์เหมือนเครื่องชงกาแฟ

    ผลการทดลองพบว่าเนื้อมะเร็งตอบสนองต่อยาแตกต่างจากบนโลก
    อาจช่วยระบุตัวบ่งชี้ใหม่ในการแพร่กระจายหรือดื้อยา

    https://www.techspot.com/news/108922-scientists-growing-tumors-space-study-how-personalize-cancer.html
    👨‍🚀 เรื่องเล่าจากอวกาศ: เมื่อต้นแบบมะเร็งถูกส่งขึ้นไปโคจรเพื่อช่วยรักษาคนบนโลก ในห้องทดลองที่ลอยอยู่เหนือโลกกว่า 400 กิโลเมตร นักวิทยาศาสตร์กำลังทำสิ่งที่ฟังดูเหมือนนิยายวิทยาศาสตร์—พวกเขากำลังปลูกเนื้อมะเร็งจริงจากผู้ป่วยในสภาวะไร้น้ำหนัก เพื่อศึกษาว่ามะเร็งตอบสนองต่อยาอย่างไรในสภาพแวดล้อมที่ต่างจากโลก บริษัท Encapsulate ได้พัฒนาเทคโนโลยี “tumor-on-a-chip” ที่สามารถปลูกเนื้อมะเร็งขนาดเล็กจากตัวอย่างชีวภาพของผู้ป่วยให้เติบโตเป็นสามมิติในอวกาศ ซึ่งช่วยให้เห็นพฤติกรรมของเซลล์มะเร็งได้ชัดเจนขึ้นกว่าการทดลองบนโลก เพราะในอวกาศ เซลล์ไม่ถูกแรงโน้มถ่วงดึงลง ทำให้สามารถรวมตัวกันได้เหมือนในร่างกายมนุษย์จริงๆ การทดลองนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยีล้ำยุค แต่เป็นก้าวสำคัญของ “การรักษาแบบเฉพาะบุคคล” หรือ personalized medicine ที่จะช่วยให้แพทย์เลือกยาที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละคนได้แม่นยำขึ้น โดยไม่ต้องลองผิดลองถูก และไม่ใช่แค่ในอวกาศ—บนโลกก็มีความก้าวหน้าเช่นกัน เช่น รัสเซียกำลังทดลองวัคซีนมะเร็งแบบ mRNA ที่ออกแบบเฉพาะสำหรับผู้ป่วยแต่ละคนโดยใช้ AI หรือในเดนมาร์กที่ใช้ AI สร้างโปรตีนขนาดเล็กเพื่อฝึกระบบภูมิคุ้มกันให้จำแนกและทำลายเซลล์มะเร็งได้อย่างแม่นยำ ✅ นักวิทยาศาสตร์ปลูกเนื้อมะเร็งในอวกาศเพื่อศึกษาการตอบสนองต่อยา ➡️ ใช้เทคโนโลยี tumor-on-a-chip จากบริษัท Encapsulate ➡️ เติบโตในสภาพไร้น้ำหนักเพื่อเลียนแบบพฤติกรรมในร่างกายมนุษย์ ✅ การทดลองอยู่ภายใต้โครงการ In Space Production Applications ของ NASA ➡️ ได้รับเงินสนับสนุนกว่า 4.88 ล้านดอลลาร์จาก NASA และ NSF ✅ มีการทดลองร่วมกับศูนย์มะเร็งชั้นนำในสหรัฐฯ ➡️ ศึกษาผู้ป่วยมะเร็งลำไส้ใหญ่และตับอ่อนกว่า 200 ราย ✅ ระบบทดลองในอวกาศเป็นแบบอัตโนมัติ ➡️ นักบินอวกาศเพียงแค่เสียบอุปกรณ์เหมือนเครื่องชงกาแฟ ✅ ผลการทดลองพบว่าเนื้อมะเร็งตอบสนองต่อยาแตกต่างจากบนโลก ➡️ อาจช่วยระบุตัวบ่งชี้ใหม่ในการแพร่กระจายหรือดื้อยา https://www.techspot.com/news/108922-scientists-growing-tumors-space-study-how-personalize-cancer.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists are growing tumors in space to study how to personalize cancer treatment
    In a laboratory more than 249 miles above Earth, a new generation of cancer research is unfolding. A biotech startup is harnessing the microgravity environment of the...
    0 Comments 0 Shares 200 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: ChatGPT แตะ 700 ล้านผู้ใช้ต่อสัปดาห์—ก่อนเปิดตัว GPT-5 ที่ “คิดก่อนตอบ”

    OpenAI ประกาศว่า ChatGPT กำลังจะถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม และมากกว่า 4 เท่าจากปีที่แล้ว ความนิยมนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว GPT-5 ซึ่งจะรวมโมเดลสาย o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน โดยมีความสามารถใหม่คือ “คิดก่อนตอบ” หรือการเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกซึ้งกว่า

    GPT-5 จะเปิดให้ใช้งานในทุก tier ของ ChatGPT โดยผู้ใช้ทั่วไปจะได้ใช้เวอร์ชันพื้นฐานแบบไม่จำกัด ส่วนผู้ใช้ Plus และ Pro จะสามารถเข้าถึงระดับความฉลาดที่สูงขึ้นตามลำดับ

    นอกจากนี้ OpenAI ยังเตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่อีกมากในเดือนถัดไป โดยได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก $8.3 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, Andreessen Horowitz และ Fidelity เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐาน

    ChatGPT กำลังจะถึง 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปีที่แล้ว
    เพิ่มจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม 2025
    สะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน

    GPT-5 จะรวมโมเดล o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน
    มีความสามารถ “คิดก่อนตอบ” เพื่อให้คำตอบลึกซึ้งขึ้น
    เป็นการเปลี่ยนแนวทางการออกแบบโมเดลจากเดิมที่เน้นความเร็ว

    ผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถใช้ GPT-5 ได้แบบไม่จำกัดในระดับพื้นฐาน
    Plus tier จะได้ใช้ GPT-5 ที่ฉลาดขึ้น
    Pro tier ($200/เดือน) จะได้ใช้ GPT-5 ในระดับสูงสุด

    OpenAI มีผู้ใช้แบบธุรกิจถึง 5 ล้านราย เพิ่มจาก 3 ล้านในเดือนมิถุนายน
    สะท้อนการนำ AI ไปใช้ในองค์กรอย่างแพร่หลาย
    รวมถึงภาคการศึกษาและการสร้างสรรค์เนื้อหา

    รายได้ประจำต่อปี (ARR) ของ OpenAI พุ่งถึง $13 พันล้าน และคาดว่าจะเกิน $20 พันล้านภายในสิ้นปี
    ได้รับเงินลงทุนใหม่ $8.3 พันล้านจากนักลงทุนชั้นนำ
    เป็นส่วนหนึ่งของรอบการระดมทุน $40 พันล้านที่นำโดย SoftBank

    OpenAI เตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนถัดไป
    เลื่อนจากเดือนก่อนเพื่อทดสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม
    เน้นการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงสูงก่อนเปิดใช้งาน

    “คิดก่อนตอบ” คือแนวคิดใหม่ใน AI ที่ให้โมเดลเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลมากขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกกว่า
    คล้ายกับการ “หยุดคิด” ก่อนพูดของมนุษย์
    ช่วยให้คำตอบมีความละเอียดและมีบริบทมากขึ้น

    การเติบโตของ ChatGPT สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วโลก
    จากเครื่องมือทดลองกลายเป็นส่วนหนึ่งของ workflow จริง
    ใช้ในงานเขียน, การเรียน, การวิเคราะห์ และการสื่อสาร

    การเปิดโมเดลแบบ open-weight เป็นแนวทางที่หลายบริษัท AI เริ่มนำมาใช้ เช่น Meta และ Mistral
    ช่วยให้ชุมชนวิจัยสามารถพัฒนาและตรวจสอบได้
    แต่ต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิด

    https://www.neowin.net/news/openai-chatgpt-on-track-to-reach-700m-weekly-active-users-ahead-of-gpt-5-launch/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: ChatGPT แตะ 700 ล้านผู้ใช้ต่อสัปดาห์—ก่อนเปิดตัว GPT-5 ที่ “คิดก่อนตอบ” OpenAI ประกาศว่า ChatGPT กำลังจะถึงจุดสูงสุดใหม่ที่ 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้นจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม และมากกว่า 4 เท่าจากปีที่แล้ว ความนิยมนี้เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว GPT-5 ซึ่งจะรวมโมเดลสาย o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน โดยมีความสามารถใหม่คือ “คิดก่อนตอบ” หรือการเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลนานขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกซึ้งกว่า GPT-5 จะเปิดให้ใช้งานในทุก tier ของ ChatGPT โดยผู้ใช้ทั่วไปจะได้ใช้เวอร์ชันพื้นฐานแบบไม่จำกัด ส่วนผู้ใช้ Plus และ Pro จะสามารถเข้าถึงระดับความฉลาดที่สูงขึ้นตามลำดับ นอกจากนี้ OpenAI ยังเตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่อีกมากในเดือนถัดไป โดยได้รับเงินลงทุนเพิ่มอีก $8.3 พันล้านดอลลาร์จากนักลงทุนชั้นนำ เช่น Sequoia, Andreessen Horowitz และ Fidelity เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาและขยายโครงสร้างพื้นฐาน ✅ ChatGPT กำลังจะถึง 700 ล้านผู้ใช้งานต่อสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 4 เท่าจากปีที่แล้ว ➡️ เพิ่มจาก 500 ล้านในเดือนมีนาคม 2025 ➡️ สะท้อนการเติบโตอย่างรวดเร็วของการใช้งาน AI ในชีวิตประจำวัน ✅ GPT-5 จะรวมโมเดล o-series และ GPT-series เข้าด้วยกัน ➡️ มีความสามารถ “คิดก่อนตอบ” เพื่อให้คำตอบลึกซึ้งขึ้น ➡️ เป็นการเปลี่ยนแนวทางการออกแบบโมเดลจากเดิมที่เน้นความเร็ว ✅ ผู้ใช้ทั่วไปจะสามารถใช้ GPT-5 ได้แบบไม่จำกัดในระดับพื้นฐาน ➡️ Plus tier จะได้ใช้ GPT-5 ที่ฉลาดขึ้น ➡️ Pro tier ($200/เดือน) จะได้ใช้ GPT-5 ในระดับสูงสุด ✅ OpenAI มีผู้ใช้แบบธุรกิจถึง 5 ล้านราย เพิ่มจาก 3 ล้านในเดือนมิถุนายน ➡️ สะท้อนการนำ AI ไปใช้ในองค์กรอย่างแพร่หลาย ➡️ รวมถึงภาคการศึกษาและการสร้างสรรค์เนื้อหา ✅ รายได้ประจำต่อปี (ARR) ของ OpenAI พุ่งถึง $13 พันล้าน และคาดว่าจะเกิน $20 พันล้านภายในสิ้นปี ➡️ ได้รับเงินลงทุนใหม่ $8.3 พันล้านจากนักลงทุนชั้นนำ ➡️ เป็นส่วนหนึ่งของรอบการระดมทุน $40 พันล้านที่นำโดย SoftBank ✅ OpenAI เตรียมเปิดตัวโมเดลแบบ open-weight และผลิตภัณฑ์ใหม่ในเดือนถัดไป ➡️ เลื่อนจากเดือนก่อนเพื่อทดสอบความปลอดภัยเพิ่มเติม ➡️ เน้นการตรวจสอบพื้นที่เสี่ยงสูงก่อนเปิดใช้งาน ✅ “คิดก่อนตอบ” คือแนวคิดใหม่ใน AI ที่ให้โมเดลเลือกว่าจะใช้เวลาประมวลผลมากขึ้นเพื่อให้ได้คำตอบที่ลึกกว่า ➡️ คล้ายกับการ “หยุดคิด” ก่อนพูดของมนุษย์ ➡️ ช่วยให้คำตอบมีความละเอียดและมีบริบทมากขึ้น ✅ การเติบโตของ ChatGPT สะท้อนการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้ใช้ทั่วโลก ➡️ จากเครื่องมือทดลองกลายเป็นส่วนหนึ่งของ workflow จริง ➡️ ใช้ในงานเขียน, การเรียน, การวิเคราะห์ และการสื่อสาร ✅ การเปิดโมเดลแบบ open-weight เป็นแนวทางที่หลายบริษัท AI เริ่มนำมาใช้ เช่น Meta และ Mistral ➡️ ช่วยให้ชุมชนวิจัยสามารถพัฒนาและตรวจสอบได้ ➡️ แต่ต้องมีการควบคุมเพื่อป้องกันการใช้ในทางที่ผิด https://www.neowin.net/news/openai-chatgpt-on-track-to-reach-700m-weekly-active-users-ahead-of-gpt-5-launch/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI: ChatGPT on track to reach 700M weekly active users ahead of GPT-5 launch
    OpenAI's ChatGPT is set to hit a new milestone of 700 million weekly active users, marking significant growth from last year.
    0 Comments 0 Shares 210 Views 0 Reviews
  • เรื่องเล่าจากข่าว: กล้องวงจรปิด Dahua เสี่ยงถูกแฮก—Bitdefender เตือนให้อัปเดตด่วน!

    Bitdefender บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ชื่อดัง ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง 2 รายการในกล้อง Dahua รุ่น Hero C1 และอีกหลายรุ่นที่ใช้โปรโตคอล ONVIF และระบบจัดการไฟล์แบบ RPC ช่องโหว่เหล่านี้เปิดทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถควบคุมกล้องได้จากระยะไกล โดยไม่ต้องมีสิทธิ์เข้าระบบ

    ช่องโหว่แรก (CVE-2025-31700) เป็นการล้นบัฟเฟอร์บน stack จากการจัดการ HTTP header ที่ผิดพลาดใน ONVIF protocol ส่วนช่องโหว่ที่สอง (CVE-2025-31701) เป็นการล้นหน่วยความจำ .bss จากการจัดการข้อมูลไฟล์อัปโหลดที่ไม่ปลอดภัย

    Bitdefender รายงานช่องโหว่ต่อ Dahua ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 และ Dahua ได้ออกแพตช์แก้ไขเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2025 พร้อมเผยแพร่คำแนะนำสาธารณะในวันที่ 23 กรกฎาคม 2025

    พบช่องโหว่ร้ายแรง 2 รายการในกล้อง Dahua รุ่น Hero C1 และรุ่นอื่น ๆ
    CVE-2025-31700: Stack-based buffer overflow ใน ONVIF protocol
    CVE-2025-31701: .bss segment overflow ใน file upload handler

    ช่องโหว่เปิดทางให้แฮกเกอร์ควบคุมกล้องจากระยะไกลโดยไม่ต้องล็อกอิน
    สามารถรันคำสั่ง, ติดตั้งมัลแวร์, และเข้าถึง root-level ได้
    เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตีหรือสอดแนม

    กล้องที่ได้รับผลกระทบรวมถึง IPC-1XXX, IPC-2XXX, IPC-WX, SD-series และอื่น ๆ
    เฟิร์มแวร์ที่เก่ากว่า 16 เมษายน 2025 ถือว่าเสี่ยง
    ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเวอร์ชันได้จากหน้า Settings → System Information

    Bitdefender และ Dahua ร่วมมือกันในการเปิดเผยช่องโหว่แบบมีความรับผิดชอบ
    รายงานครั้งแรกเมื่อ 28 มีนาคม 2025
    Dahua ออกแพตช์เมื่อ 7 กรกฎาคม และเผยแพร่คำแนะนำเมื่อ 23 กรกฎาคม

    ช่องโหว่สามารถถูกโจมตีผ่านเครือข่ายภายในหรืออินเทอร์เน็ต หากเปิดพอร์ตหรือใช้ UPnP
    การเปิด web interface สู่ภายนอกเพิ่มความเสี่ยง
    UPnP และ port forwarding ควรถูกปิดทันที

    https://hackread.com/bitdefender-update-dahua-cameras-critical-flaws/
    🎙️ เรื่องเล่าจากข่าว: กล้องวงจรปิด Dahua เสี่ยงถูกแฮก—Bitdefender เตือนให้อัปเดตด่วน! Bitdefender บริษัทด้านความปลอดภัยไซเบอร์ชื่อดัง ได้เปิดเผยช่องโหว่ร้ายแรง 2 รายการในกล้อง Dahua รุ่น Hero C1 และอีกหลายรุ่นที่ใช้โปรโตคอล ONVIF และระบบจัดการไฟล์แบบ RPC ช่องโหว่เหล่านี้เปิดทางให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถควบคุมกล้องได้จากระยะไกล โดยไม่ต้องมีสิทธิ์เข้าระบบ ช่องโหว่แรก (CVE-2025-31700) เป็นการล้นบัฟเฟอร์บน stack จากการจัดการ HTTP header ที่ผิดพลาดใน ONVIF protocol ส่วนช่องโหว่ที่สอง (CVE-2025-31701) เป็นการล้นหน่วยความจำ .bss จากการจัดการข้อมูลไฟล์อัปโหลดที่ไม่ปลอดภัย Bitdefender รายงานช่องโหว่ต่อ Dahua ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2025 และ Dahua ได้ออกแพตช์แก้ไขเมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2025 พร้อมเผยแพร่คำแนะนำสาธารณะในวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ✅ พบช่องโหว่ร้ายแรง 2 รายการในกล้อง Dahua รุ่น Hero C1 และรุ่นอื่น ๆ ➡️ CVE-2025-31700: Stack-based buffer overflow ใน ONVIF protocol ➡️ CVE-2025-31701: .bss segment overflow ใน file upload handler ✅ ช่องโหว่เปิดทางให้แฮกเกอร์ควบคุมกล้องจากระยะไกลโดยไม่ต้องล็อกอิน ➡️ สามารถรันคำสั่ง, ติดตั้งมัลแวร์, และเข้าถึง root-level ได้ ➡️ เสี่ยงต่อการถูกใช้เป็นฐานโจมตีหรือสอดแนม ✅ กล้องที่ได้รับผลกระทบรวมถึง IPC-1XXX, IPC-2XXX, IPC-WX, SD-series และอื่น ๆ ➡️ เฟิร์มแวร์ที่เก่ากว่า 16 เมษายน 2025 ถือว่าเสี่ยง ➡️ ผู้ใช้สามารถตรวจสอบเวอร์ชันได้จากหน้า Settings → System Information ✅ Bitdefender และ Dahua ร่วมมือกันในการเปิดเผยช่องโหว่แบบมีความรับผิดชอบ ➡️ รายงานครั้งแรกเมื่อ 28 มีนาคม 2025 ➡️ Dahua ออกแพตช์เมื่อ 7 กรกฎาคม และเผยแพร่คำแนะนำเมื่อ 23 กรกฎาคม ✅ ช่องโหว่สามารถถูกโจมตีผ่านเครือข่ายภายในหรืออินเทอร์เน็ต หากเปิดพอร์ตหรือใช้ UPnP ➡️ การเปิด web interface สู่ภายนอกเพิ่มความเสี่ยง ➡️ UPnP และ port forwarding ควรถูกปิดทันที https://hackread.com/bitdefender-update-dahua-cameras-critical-flaws/
    HACKREAD.COM
    Bitdefender Warns Users to Update Dahua Cameras Over Critical Flaws
    Follow us on Bluesky, Twitter (X), Mastodon and Facebook at @Hackread
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
More Results