Anna’s Archive ถอดรหัส Spotify: โปรเจกต์อนุรักษ์เพลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดิจิทัล

การประกาศของ Anna’s Archive ว่าสามารถ “แบ็กอัป Spotify” ได้สำเร็จ ถือเป็นเหตุการณ์ที่เขย่าวงการข้อมูลดิจิทัลอย่างแท้จริง เพราะนี่ไม่ใช่แค่การเก็บเพลง แต่เป็นการสร้าง คลังอนุรักษ์วัฒนธรรมดนตรีมนุษย์ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยข้อมูลกว่า 256 ล้านแทร็ก, 186 ล้าน ISRC, และไฟล์เพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ รวมขนาดราว 300TB ทั้งหมดถูกจัดเรียงตามความนิยมและเผยแพร่ผ่านทอร์เรนต์แบบเปิดให้ทุกคนสามารถมิเรอร์ได้อย่างอิสระ

โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากความเชื่อว่าดนตรีคือส่วนหนึ่งของมรดกมนุษยชาติที่ไม่ควรถูกผูกขาดโดยแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง แม้ Spotify จะเป็นบริการสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น เพลงที่ถูกลบเพราะลิขสิทธิ์หมดอายุ การเปลี่ยนแปลงแคตตาล็อก หรือการที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ต้นฉบับได้จริง Anna’s Archive จึงมองว่าการเก็บข้อมูลเหล่านี้คือการ “กันไว้ก่อนที่จะหายไป” คล้ายกับที่พวกเขาทำกับหนังสือและงานวิชาการมาก่อน

สิ่งที่น่าสนใจคือ วิธีการเก็บข้อมูลไม่ได้เน้นคุณภาพสูงสุดแบบนักออดิโอไฟล์ แต่เน้น ความครอบคลุมของวัฒนธรรม โดยใช้ไฟล์ OGG Vorbis 160kbps สำหรับเพลงยอดนิยม และ OGG Opus 75kbps สำหรับเพลงที่ไม่มีคนฟังมากนัก เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากที่สุดในพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีการสร้างฐานข้อมูล SQLite ที่เก็บ metadata แบบเกือบไร้การสูญเสีย ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มเพลง ความนิยม ศิลปิน และข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ได้ในระดับที่ Spotify เองยังไม่เปิดเผยทั้งหมด

โปรเจกต์นี้ยังเผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจ เช่น มากกว่า 70% ของเพลงบน Spotify มีคนฟังน้อยกว่า 1,000 ครั้ง, เพลงยอดนิยมเพียงไม่กี่เพลงมีจำนวนสตรีมรวมกันมากกว่าหลายสิบล้านเพลงท้ายแถว และจำนวนเพลงที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้นจนเริ่มกลบเนื้อหาที่มนุษย์สร้างจริงๆ นี่คือภาพสะท้อนของอุตสาหกรรมดนตรีสมัยใหม่ที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และการเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้คือการเก็บ “หลักฐานทางวัฒนธรรม” ของยุคสตรีมมิงไว้ให้คนรุ่นหลัง

สรุปประเด็นสำคัญ
โปรเจกต์อนุรักษ์ Spotify ของ Anna’s Archive
เก็บ metadata ครอบคลุม 99.9% ของแทร็กทั้งหมด
เก็บไฟล์เพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็น 99.6% ของการฟังทั้งหมด
ขนาดรวมราว 300TB และเผยแพร่ผ่านทอร์เรนต์แบบเปิด

เหตุผลและความสำคัญ
ป้องกันการสูญหายของเพลงจากลิขสิทธิ์หมดอายุหรือการลบออกจากแพลตฟอร์ม
สร้างฐานข้อมูลวัฒนธรรมดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
เปิดให้ทุกคนสามารถมิเรอร์และศึกษาข้อมูลได้

วิธีการและเทคนิคที่ใช้
จัดลำดับการเก็บตาม “ความนิยม” ของ Spotify
ใช้ OGG Vorbis 160kbps สำหรับเพลงยอดนิยม และ Opus 75kbps สำหรับเพลงท้ายแถว
สร้างฐานข้อมูล SQLite ที่เก็บ metadata แบบเกือบไร้การสูญเสีย

ข้อมูลเชิงลึกที่ค้นพบ
มากกว่า 70% ของเพลงมีคนฟังน้อยกว่า 1,000 ครั้ง
เพลงยอดนิยม 3 เพลงมีจำนวนสตรีมรวมกันมากกว่าหลายสิบล้านเพลงท้ายแถว
ปริมาณเพลงที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้นจนเริ่มกลบเพลงมนุษย์

ประเด็นที่ต้องระวัง
ข้อมูลบางส่วนอาจไม่สมบูรณ์หลังเดือนกรกฎาคม 2025
เพลงที่มี popularity = 0 มี error bar สูงและอาจไม่แม่นยำ
การเผยแพร่ไฟล์จำนวนมากอาจถูกมองว่าเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ในบางประเทศ

https://annas-archive.li/blog/backing-up-spotify.html
🎵 Anna’s Archive ถอดรหัส Spotify: โปรเจกต์อนุรักษ์เพลงครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ดิจิทัล การประกาศของ Anna’s Archive ว่าสามารถ “แบ็กอัป Spotify” ได้สำเร็จ ถือเป็นเหตุการณ์ที่เขย่าวงการข้อมูลดิจิทัลอย่างแท้จริง เพราะนี่ไม่ใช่แค่การเก็บเพลง แต่เป็นการสร้าง คลังอนุรักษ์วัฒนธรรมดนตรีมนุษย์ ที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ด้วยข้อมูลกว่า 256 ล้านแทร็ก, 186 ล้าน ISRC, และไฟล์เพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ รวมขนาดราว 300TB ทั้งหมดถูกจัดเรียงตามความนิยมและเผยแพร่ผ่านทอร์เรนต์แบบเปิดให้ทุกคนสามารถมิเรอร์ได้อย่างอิสระ โปรเจกต์นี้เกิดขึ้นจากความเชื่อว่าดนตรีคือส่วนหนึ่งของมรดกมนุษยชาติที่ไม่ควรถูกผูกขาดโดยแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่ง แม้ Spotify จะเป็นบริการสตรีมมิงที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็มีข้อจำกัด เช่น เพลงที่ถูกลบเพราะลิขสิทธิ์หมดอายุ การเปลี่ยนแปลงแคตตาล็อก หรือการที่ผู้ใช้ไม่สามารถเข้าถึงไฟล์ต้นฉบับได้จริง Anna’s Archive จึงมองว่าการเก็บข้อมูลเหล่านี้คือการ “กันไว้ก่อนที่จะหายไป” คล้ายกับที่พวกเขาทำกับหนังสือและงานวิชาการมาก่อน สิ่งที่น่าสนใจคือ วิธีการเก็บข้อมูลไม่ได้เน้นคุณภาพสูงสุดแบบนักออดิโอไฟล์ แต่เน้น ความครอบคลุมของวัฒนธรรม โดยใช้ไฟล์ OGG Vorbis 160kbps สำหรับเพลงยอดนิยม และ OGG Opus 75kbps สำหรับเพลงที่ไม่มีคนฟังมากนัก เพื่อให้สามารถเก็บข้อมูลได้มากที่สุดในพื้นที่จำกัด นอกจากนี้ยังมีการสร้างฐานข้อมูล SQLite ที่เก็บ metadata แบบเกือบไร้การสูญเสีย ทำให้สามารถวิเคราะห์แนวโน้มเพลง ความนิยม ศิลปิน และข้อมูลเชิงลึกอื่นๆ ได้ในระดับที่ Spotify เองยังไม่เปิดเผยทั้งหมด โปรเจกต์นี้ยังเผยให้เห็นความจริงที่น่าตกใจ เช่น มากกว่า 70% ของเพลงบน Spotify มีคนฟังน้อยกว่า 1,000 ครั้ง, เพลงยอดนิยมเพียงไม่กี่เพลงมีจำนวนสตรีมรวมกันมากกว่าหลายสิบล้านเพลงท้ายแถว และจำนวนเพลงที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้นจนเริ่มกลบเนื้อหาที่มนุษย์สร้างจริงๆ นี่คือภาพสะท้อนของอุตสาหกรรมดนตรีสมัยใหม่ที่กำลังเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว และการเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้คือการเก็บ “หลักฐานทางวัฒนธรรม” ของยุคสตรีมมิงไว้ให้คนรุ่นหลัง 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ โปรเจกต์อนุรักษ์ Spotify ของ Anna’s Archive ➡️ เก็บ metadata ครอบคลุม 99.9% ของแทร็กทั้งหมด ➡️ เก็บไฟล์เพลงกว่า 86 ล้านไฟล์ คิดเป็น 99.6% ของการฟังทั้งหมด ➡️ ขนาดรวมราว 300TB และเผยแพร่ผ่านทอร์เรนต์แบบเปิด ✅ เหตุผลและความสำคัญ ➡️ ป้องกันการสูญหายของเพลงจากลิขสิทธิ์หมดอายุหรือการลบออกจากแพลตฟอร์ม ➡️ สร้างฐานข้อมูลวัฒนธรรมดนตรีที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ ➡️ เปิดให้ทุกคนสามารถมิเรอร์และศึกษาข้อมูลได้ ✅ วิธีการและเทคนิคที่ใช้ ➡️ จัดลำดับการเก็บตาม “ความนิยม” ของ Spotify ➡️ ใช้ OGG Vorbis 160kbps สำหรับเพลงยอดนิยม และ Opus 75kbps สำหรับเพลงท้ายแถว ➡️ สร้างฐานข้อมูล SQLite ที่เก็บ metadata แบบเกือบไร้การสูญเสีย ✅ ข้อมูลเชิงลึกที่ค้นพบ ➡️ มากกว่า 70% ของเพลงมีคนฟังน้อยกว่า 1,000 ครั้ง ➡️ เพลงยอดนิยม 3 เพลงมีจำนวนสตรีมรวมกันมากกว่าหลายสิบล้านเพลงท้ายแถว ➡️ ปริมาณเพลงที่สร้างโดย AI เพิ่มขึ้นจนเริ่มกลบเพลงมนุษย์ ‼️ ประเด็นที่ต้องระวัง ⛔ ข้อมูลบางส่วนอาจไม่สมบูรณ์หลังเดือนกรกฎาคม 2025 ⛔ เพลงที่มี popularity = 0 มี error bar สูงและอาจไม่แม่นยำ ⛔ การเผยแพร่ไฟล์จำนวนมากอาจถูกมองว่าเสี่ยงด้านลิขสิทธิ์ในบางประเทศ https://annas-archive.li/blog/backing-up-spotify.html
ANNAS-ARCHIVE.LI
Backing up Spotify
We backed up Spotify (metadata and music files). It’s distributed in bulk torrents (~300TB). It’s the world’s first “preservation archive” for music which is fully open (meaning it can easily be mirrored by anyone with enough disk space), with 86 million music files, representing around 99.6% of listens.
0 Comments 0 Shares 63 Views 0 Reviews