• หวานปานน้ำเชื่อมไปเลย สำหรับภาพและข้อความอวยพรวันเกิดสุดสวีตที่คุณสามี "แดน วรเวช ดานุวงศ์" มอบให้คุณภรรยา "แพทตี้ อังศุมาลิน" ในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 34 ปี

    โดย "แดน วรเวช" ได้โพสต์คลิปภาพคู่ภรรยาลงอินสตาแกรมทั้งหอมแก้มสุดหวาน และนำพวงมาลัยมามองให้ พร้อมเขียนข้อความว่า "ตลอดไปของความรัก อาจยาวนานเป็นร้อยพันหมื่นล้านคืนวัน หรือจะสั้นแค่เพียงพรุ่งนี้เท่านั้น ไม่มีใครเลยที่จะรู้ รู้แค่จะรักเธอให้มากกว่ารักของเมื่อวาน.. ให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย สุขสันต์วันเกิดนะคะที่รัก @pattieung"

    งานนี้ทำเอาแฟนๆ เขินตัวบิดไปกับความรักหวานๆ ของทั้งคู่ พร้อมเข้ามากดไลก์และร่วมอวยพรวันเกิดสาวแพตตี้กันเป็นจำนวนมาก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000066064

    #Thaitimes #MGROnline #แดนวรเวช #แพทตี้อังศุมาลิน
    หวานปานน้ำเชื่อมไปเลย สำหรับภาพและข้อความอวยพรวันเกิดสุดสวีตที่คุณสามี "แดน วรเวช ดานุวงศ์" มอบให้คุณภรรยา "แพทตี้ อังศุมาลิน" ในวันคล้ายวันเกิดอายุครบ 34 ปี • โดย "แดน วรเวช" ได้โพสต์คลิปภาพคู่ภรรยาลงอินสตาแกรมทั้งหอมแก้มสุดหวาน และนำพวงมาลัยมามองให้ พร้อมเขียนข้อความว่า "ตลอดไปของความรัก อาจยาวนานเป็นร้อยพันหมื่นล้านคืนวัน หรือจะสั้นแค่เพียงพรุ่งนี้เท่านั้น ไม่มีใครเลยที่จะรู้ รู้แค่จะรักเธอให้มากกว่ารักของเมื่อวาน.. ให้เหมือนเป็นวันสุดท้าย สุขสันต์วันเกิดนะคะที่รัก @pattieung" • งานนี้ทำเอาแฟนๆ เขินตัวบิดไปกับความรักหวานๆ ของทั้งคู่ พร้อมเข้ามากดไลก์และร่วมอวยพรวันเกิดสาวแพตตี้กันเป็นจำนวนมาก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000066064 • #Thaitimes #MGROnline #แดนวรเวช #แพทตี้อังศุมาลิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตัวแทนทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ ที่สวมหมวกอีกใบเป็นเลขาฯ ครม.เขมร ประกาศจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ค.ในกรุงพนมเปญ แสดงพลังต่อต้านการรุกรานของไทย ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า อ้างไทยคือศัตรูผู้บุกรุก ชายแดนไม่สงบลงง่ายๆ เขมรต้องสามัคคีกันปกป้องอธิปไตย

    วันนี้(12 ก.ค.) เฟซบุ๊กของ Kampuchea Thmey Daily ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแถลงข่าวของนายกุช เวงสรุน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา และตัวแทนของทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงรุกรานดินแดนกัมพูชา ดังนั้นประชาชนกัมพูชาจึงต้องปลูกฝังความรักชาติ ปกป้องชาติและดินแดนของเราด้วย

    นายกุช กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่การแข่งขันฟุตบอลก็คือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติอยู่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะไม่จบลงง่ายๆ ศัตรูของเรายังคงตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเราต่อไป หากเราไม่พร้อม นั่นหมายความว่า เรายังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังไม่มีสันติภาพที่แท้จริงร่วมกันบริเวณชายแดนทั้งสองฝั่ง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000065595

    #Thaitimes #MGROnline #ฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ #กัมพูชา #กรุงพนมเปญ #ม็อบใหญ่
    ตัวแทนทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ ที่สวมหมวกอีกใบเป็นเลขาฯ ครม.เขมร ประกาศจัดม็อบใหญ่ 19 ก.ค.ในกรุงพนมเปญ แสดงพลังต่อต้านการรุกรานของไทย ส่งกำลังใจให้ทหารแนวหน้า อ้างไทยคือศัตรูผู้บุกรุก ชายแดนไม่สงบลงง่ายๆ เขมรต้องสามัคคีกันปกป้องอธิปไตย • วันนี้(12 ก.ค.) เฟซบุ๊กของ Kampuchea Thmey Daily ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการแถลงข่าวของนายกุช เวงสรุน เลขาธิการคณะรัฐมนตรีกัมพูชา และตัวแทนของทีมฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ โดยกล่าวว่า ขณะนี้ประเทศไทยยังคงรุกรานดินแดนกัมพูชา ดังนั้นประชาชนกัมพูชาจึงต้องปลูกฝังความรักชาติ ปกป้องชาติและดินแดนของเราด้วย • นายกุช กล่าวว่า สิ่งที่ยิ่งใหญ่การแข่งขันฟุตบอลก็คือจิตวิญญาณแห่งความรักชาติอยู่ เพราะเราต่างรู้ดีว่าความขัดแย้งระหว่างกัมพูชาและไทยจะไม่จบลงง่ายๆ ศัตรูของเรายังคงตั้งใจจะรุกรานดินแดนของเราต่อไป หากเราไม่พร้อม นั่นหมายความว่า เรายังไม่มีความเป็นหนึ่งเดียวกัน และยังไม่มีสันติภาพที่แท้จริงร่วมกันบริเวณชายแดนทั้งสองฝั่ง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000065595 • #Thaitimes #MGROnline #ฟุตบอลกัมพูชาออลสตาร์ #กัมพูชา #กรุงพนมเปญ #ม็อบใหญ่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาปกิณณกทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 312
    ชื่อบทธรรม :- ปกิณณกทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูลและตัณหาเป็นเหตุแห่งความโศก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=312
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ปกิณณกทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูล
    --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงธรรม (เป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์) ที่มี (กาม) ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง.
    เก้าอย่าง อย่างไรเล่า ?
    ๑--เพราะอาศัยตัณหา จึงมีการแสวงหา (ปริเยสนา) ;
    ๒--เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมีการได้ (ลาโภ) ;
    ๓--เพราะอาศัยการได้ จึงมีความปลงใจรัก (วินิจฺฉโย) ;
    ๔--เพราะอาศัยความปลงใจรัก จึงมีความกำหนัดด้วยความพอใจ (ฉนฺทราโค) ;
    ๕--เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยความพอใจ จึงมีความสยบมัวเมา (อชฺโฌสานํ) ;
    ๖--เพราะอาศัยความสยบมัวเมา จึงมีความจับอกจับใจ (ปริคฺคโห) ;
    ๗--เพราะอาศัยความจับอกจับใจ จึงมีความตระหนี่ (มจฺฉริยํ) ;
    ๘--เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมีการหวงกั้น (อารกฺโข) ;
    ๙--เพราะอาศัยการหวงกั้น จึงมีเรื่องราวอันเกิดจากการหวงกั้น (อารกฺขาธิกรณํ) ;
    http://etipitaka.com/read/pali/23/413/?keywords=อารกฺขาธิกร
    กล่าวคือ การใช้อาวุธไม่มีคม การใช้อาวุธมีคม
    การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท
    การกล่าวคำหยาบว่า “มึง ! มึง !” การพูดคำส่อเสียด
    และการพูดเท็จทั้งหลาย : ธรรมอันเป็นบาปอกุศลเป็นอเนก ย่อมเกิดขึ้นพร้อม.

    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่าธรรม (เป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์) ที่มี (กาม) ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง.
    *อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก -- นวก. อํ. ๒๓/๔๑๓/๒๒๗;
    http://etipitaka.com/read/pali/23/413/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%97
    (สอบทานด้วย - มหา. ที. ๑๐/๖๙/๕๙).
    http://etipitaka.com/read/pali/10/69/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%99

    --ตัณหาเป็นเหตุแห่งความโศก
    --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ สิ่งอันเป็นที่รัก,
    ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่สิ่งอันเป็นที่รัก ;
    เมื่อพ้นแล้วจากสิ่งเป็นที่รัก, ความโศก ย่อมไม่มี แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.
    --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ความรัก,
    ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ความรัก ;
    เมื่อพ้นแล้วจา ความรัก, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.
    --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ความยินดี,
    ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ความยินดี ;
    เมื่อพ้นแล้วจากความยินดี, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.
    --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ความใคร่,
    ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ความใคร่ ;
    เมื่อพ้นแล้วจากความใคร่, ความโศกย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.
    --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ตัณหา,
    ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ตัณหา ;
    เมื่อพ้นแล้วตัณหา, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจ​สี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/43/26.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/30/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๔๓/๒๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/43/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=312
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21&id=312
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21
    ลำดับสาธยายธรรม : 21 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_21.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาปกิณณกทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 312 ชื่อบทธรรม :- ปกิณณกทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูลและตัณหาเป็นเหตุแห่งความโศก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=312 เนื้อความทั้งหมด :- --ปกิณณกทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูล --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงธรรม (เป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์) ที่มี (กาม) ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง. เก้าอย่าง อย่างไรเล่า ? ๑--เพราะอาศัยตัณหา จึงมีการแสวงหา (ปริเยสนา) ; ๒--เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมีการได้ (ลาโภ) ; ๓--เพราะอาศัยการได้ จึงมีความปลงใจรัก (วินิจฺฉโย) ; ๔--เพราะอาศัยความปลงใจรัก จึงมีความกำหนัดด้วยความพอใจ (ฉนฺทราโค) ; ๕--เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยความพอใจ จึงมีความสยบมัวเมา (อชฺโฌสานํ) ; ๖--เพราะอาศัยความสยบมัวเมา จึงมีความจับอกจับใจ (ปริคฺคโห) ; ๗--เพราะอาศัยความจับอกจับใจ จึงมีความตระหนี่ (มจฺฉริยํ) ; ๘--เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมีการหวงกั้น (อารกฺโข) ; ๙--เพราะอาศัยการหวงกั้น จึงมีเรื่องราวอันเกิดจากการหวงกั้น (อารกฺขาธิกรณํ) ; http://etipitaka.com/read/pali/23/413/?keywords=อารกฺขาธิกร กล่าวคือ การใช้อาวุธไม่มีคม การใช้อาวุธมีคม การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท การกล่าวคำหยาบว่า “มึง ! มึง !” การพูดคำส่อเสียด และการพูดเท็จทั้งหลาย : ธรรมอันเป็นบาปอกุศลเป็นอเนก ย่อมเกิดขึ้นพร้อม. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่าธรรม (เป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์) ที่มี (กาม) ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง. *อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก -- นวก. อํ. ๒๓/๔๑๓/๒๒๗; http://etipitaka.com/read/pali/23/413/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%97 (สอบทานด้วย - มหา. ที. ๑๐/๖๙/๕๙). http://etipitaka.com/read/pali/10/69/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%99 --ตัณหาเป็นเหตุแห่งความโศก --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ สิ่งอันเป็นที่รัก, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่สิ่งอันเป็นที่รัก ; เมื่อพ้นแล้วจากสิ่งเป็นที่รัก, ความโศก ย่อมไม่มี แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ความรัก, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ความรัก ; เมื่อพ้นแล้วจา ความรัก, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ความยินดี, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ความยินดี ; เมื่อพ้นแล้วจากความยินดี, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ความใคร่, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ความใคร่ ; เมื่อพ้นแล้วจากความใคร่, ความโศกย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. --ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ ตัณหา, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ ตัณหา ; เมื่อพ้นแล้วตัณหา, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจ​สี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/43/26. http://etipitaka.com/read/thai/25/30/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๔๓/๒๖. http://etipitaka.com/read/pali/25/43/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=312 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21&id=312 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=21 ลำดับสาธยายธรรม : 21 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_21.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ปกิณณกทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูล
    -ปกิณณกทุกข์ ที่มีกามตัณหาเป็นมูล ภิกษุ ท. ! เราจักแสดงธรรม (เป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์) ที่มี (กาม) ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง. เก้าอย่าง อย่างไรเล่า ? เพราะอาศัยตัณหา จึงมีการแสวงหา (ปริเยสนา) ; เพราะอาศัยการแสวงหา จึงมีการได้ (ลาโภ) ; เพราะอาศัยการได้ จึงมีความปลงใจรัก (วินิจฺฉโย) ; เพราะอาศัยความปลงใจรัก จึงมีความกำหนัดด้วยความพอใจ (ฉนฺทราโค) ; เพราะอาศัยความกำหนัดด้วยความพอใจ จึงมีความสยบมัวเมา (อชฺโฌสานํ) ; เพราะอาศัยความสยบมัวเมา จึงมีความจับอกจับใจ (ปริคฺคโห) ; เพราะอาศัยความจับอกจับใจ จึงมีความตระหนี่ (มจฺฉริยํ) ; เพราะอาศัยความตระหนี่ จึงมีการหวงกั้น (อารกฺโข) ; เพราะอาศัยการหวงกั้น จึงมีเรื่องราวอันเกิดจากการหวงกั้น (อารกฺขาธิกรณํ) ; กล่าวคือ การใช้อาวุธไม่มีคม การใช้อาวุธมีคม การทะเลาะ การแก่งแย่ง การวิวาท การกล่าวคำหยาบว่า “มึง ! มึง !” การพูดคำส่อเสียด และการพูดเท็จทั้งหลาย : ธรรมอันเป็นบาปอกุศลเป็นอเนก ย่อมเกิดขึ้นพร้อม. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล ชื่อว่าธรรม (เป็นฝักฝ่ายแห่งทุกข์) ที่มี (กาม) ตัณหาเป็นมูล ๙ อย่าง. นวก. อํ. ๒๓/๔๑๓/๒๒๗; (สอบทานด้วย - มหา. ที. ๑๐/๖๙/๕๙). ตัณหาเป็นเหตุแห่งความโศก ความโศก ย่อมเกิดมาแต่สิ่งอันเป็นที่รัก, ความกลัวย่อมเกิดมาแต่สิ่งอันเป็นที่รัก ; เมื่อพ้นแล้วจากสิ่งเป็นที่รัก, ความโศก ย่อมไม่มี แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ความรัก, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ความรัก ; เมื่อพ้นแล้วจา ความรัก, ความโศกย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ความยินดี, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ความยินดี ; เมื่อพ้นแล้วจากความยินดี, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ความใคร่, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ความใคร่ ; เมื่อพ้นแล้วจากความใคร่, ความโศกย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า. ความโศก ย่อมเกิดมาแต่ตัณหา, ความกลัว ย่อมเกิดมาแต่ตัณหา ; เมื่อพ้นแล้วตัณหา, ความโศก ย่อมไม่มี, แล้วความกลัว จะมีมาแต่ไหนเล่า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • สลามเมืองไทย EP24 | เมล็ดพันธุ์ของพ่อ วิถีพอเพียง ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส

    ในตอนนี้ อนุชา แฮมเมอร์ จะพาผู้ชมไปร่วมสัมผัสกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านกึ่งวิถีมุสลิมแห่งแรก ที่นำแนวคิด “เมล็ดพันธุ์ของพ่อ” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คน

    จากอดีตผู้ต้องขัง สู่ผู้มีอาชีพมั่นคง มีคุณค่า และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข ที่นี่ไม่ได้เพียงปลูกพืช แต่ยังปลูกคนให้กลับมาเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี

    ชุมชนกาแลตาแปคือตัวอย่างของการให้โอกาสและการฟื้นฟูสังคมด้วยความรัก ความเข้าใจ และหลักคิดที่ยึดโยงกับคำสอนของทั้งศาสนาและในหลวงรัชกาลที่ 9

    ติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อเรียนรู้ว่าการให้อภัยและการให้โอกาส สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและสังคมได้จริง

    #สลามเมืองไทย #EP24 #เมล็ดพันธุ์ของพ่อ #วิถีพอเพียง #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #บ้านกึ่งวิถีมุสลิม #คืนคนดีสู่สังคม #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    สลามเมืองไทย EP24 | เมล็ดพันธุ์ของพ่อ วิถีพอเพียง ชุมชนกาแลตาแป จ.นราธิวาส ในตอนนี้ อนุชา แฮมเมอร์ จะพาผู้ชมไปร่วมสัมผัสกับเรื่องราวอันแสนอบอุ่นของชุมชนกาแลตาแป จังหวัดนราธิวาส พื้นที่ที่ได้ชื่อว่าเป็นบ้านกึ่งวิถีมุสลิมแห่งแรก ที่นำแนวคิด “เมล็ดพันธุ์ของพ่อ” และ “เศรษฐกิจพอเพียง” มาเป็นหลักในการสร้างชีวิตใหม่ให้กับผู้คน จากอดีตผู้ต้องขัง สู่ผู้มีอาชีพมั่นคง มีคุณค่า และสามารถอยู่ร่วมกับสังคมได้อย่างสงบสุข ที่นี่ไม่ได้เพียงปลูกพืช แต่ยังปลูกคนให้กลับมาเติบโตอย่างมีศักดิ์ศรี ชุมชนกาแลตาแปคือตัวอย่างของการให้โอกาสและการฟื้นฟูสังคมด้วยความรัก ความเข้าใจ และหลักคิดที่ยึดโยงกับคำสอนของทั้งศาสนาและในหลวงรัชกาลที่ 9 ติดตามการเดินทางที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจ เพื่อเรียนรู้ว่าการให้อภัยและการให้โอกาส สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและสังคมได้จริง #สลามเมืองไทย #EP24 #เมล็ดพันธุ์ของพ่อ #วิถีพอเพียง #ชุมชนกาแลตาแป #นราธิวาส #บ้านกึ่งวิถีมุสลิม #คืนคนดีสู่สังคม #ThaiMuslimCommunity #ThaiTimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้

    เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ จึงควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุ ให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยก ควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นข้ามคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบ ระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจัง อย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่ง ที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจ แต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จ พรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ จึงควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุ ให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยก ควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นข้ามคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบ ระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจัง อย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่ง ที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจ แต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จ พรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • วลีรักจาก <จันทราอัสดง>

    สวัสดีย้อนหลังวันวาเลนไทน์ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับวลีบอกรักจากบทกวีจีนโบราณที่กล่าวถึงสองสัตว์ที่นับเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก

    วลีบอกรักนี้ เราเห็นในเรื่อง <จันทราอัสดง> ในฉากที่เยี่ยปิงส่างป่วยเพราะโดนปีศาจจับตัวไป พอฟื้นขึ้นมาเห็นองค์ชายเซียวหลิ่นเฝ้าอยู่ก็ร่ำไห้เอ่ยปากวลีสองวรรค หลังจากนั้นจึงได้หมั้นหมายกัน วลีที่ว่านี้คือ “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” (得成比目何辞死,愿作鸳鸯不羡仙) (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า)

    ‘ยวนยาง’ คือนกเป็ดน้ำแมนดารินที่เพื่อนเพจคงคุ้นเคยเพราะมีการกล่าวถึงในหลายนิยายซีรีส์และละครว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ทั้งนี้ เพราะมันมักจะอยู่เป็นคู่ จึงถูกนำมาเปรียบเป็นคู่สามีภรรยาแต่โบราณโดยแรกปรากฏในบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ตอนจีบจั๋วเหวินจวิน (ย้อนอ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ในบทความเก่า https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid02KgmDKe2nCXSPkUDKWTYDNCXpfyP1PzzBqQCkdVtEw46Y7ZMkeZSwoVYxGFR9QHjhl)

    แล้ว ‘ปี่มู่’ ล่ะคืออะไร?

    ปี่มู่เป็นปลาในสายพันธ์ปลาลิ้นหมา (ดูรูปประกอบ 2) เอกลักษณ์ของมันคือ ตาทั้งคู่อยู่ใกล้กันบนตัวปลาด้านเดียวกัน ในสมัยจีนโบราณถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักอันล้ำลึกของคู่รักที่อยู่เคียงข้างกัน ไปไหนไปด้วยกัน

    “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” วลีนี้ความหมายก็คือยอมตายก็อยากอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องมีความสุขพ้นทุกข์อย่างเซียนก็ได้

    เชื่อว่าเพื่อนเพจคงนึกว่ามันเป็นวลีที่มาจากกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วหลายวลีรักจีนโบราณอันกินใจที่ Storyฯ เคยเขียนถึงนั้น ถ้าไม่ใช่บทกวีที่เกี่ยวกับการจากพราก ก็มาจากเรื่องราวอื่น วลีนี้ก็เช่นกัน ที่มาของมันคือบทกวีที่ชื่อว่า ‘ฉางอันกู่อี้’ (长安古意 แปลได้ประมาณว่า หวนรำลึกฉางอัน) ของหลูจ้าวหลิน กวีชื่อดังในสมัยองค์ถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง ในสมัยถังตอนต้นนั้น เขาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ยอดกวีแห่งยุค เป็นบทกวีในสไตล์โบราณที่ Storyฯ ขอเรียกว่ากลอนเจ็ด กล่าวคือในหนึ่งวรรคมีเจ็ดอักษร บทกวีนี้มีทั้งสิ้น 34 ประโยค รวม 68 วรรค เรียกได้ว่าเป็นบทกวีที่ยาวมากและเป็นถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของงานประพันธ์แห่งยุคสมัยนั้น

    หลูจ้าวหลินถูกเติ้งหวางหลี่หยวนอวี้รับเป็นคนสนิท เป็นขุนนางผู้ดูแลจวนอ๋อง ต่อมาติดตามเติ้งหวางออกจากเมืองฉางอัน และเมื่อเลิกทำงานกับเติ้งหวางแล้วก็ปักหลักอยู่ลั่วหยาง บทกวีนี้หลูจ้าวหลินแต่งขึ้นในช่วงเวลาที่ลั่วหยางนั่นเอง ต่อมาเขาถูกจับกุมขังด้วยบทกวีนี้ เพราะถูกเข้าใจว่าเขียนตำหนิหนึ่งในผู้มีอำนาจทางการเมืองในสมัยนั้น สุดท้ายแม้จะรอดชีวิตพ้นคุกมาได้ แต่ก็ป่วยจนสุดท้ายต้องจบชีวิตตนเอง

    เนื้อหาของ ‘ฉางอันกู่อี้’ กล่าวถึงความเรืองรองแห่งนครฉางอัน ความเจริญรุ่งเรืองถูกสะท้อนออกมาด้วยคำบรรยายความโอ่อ่าของอาคารบ้านเรือน ความตระการตาของนางรำที่เริงระบำดุจบุปผาและผีเสื้อที่ละลานตา บรรยากาศยามค่ำคืนอันคึกคักโดยมีหอนางโลมเป็นฉากหลัก สอดแทรกด้วยอารมณ์ที่ถูกเร้าขึ้นด้วยคำบรรยายแสงสีเสียง สื่อออกมาเป็นความรู้สึกต่างๆ ที่ยากจะอดกลั้นภายใต้บรรยากาศนี้ อย่างเช่นความรักความลุ่มหลง บทกวีเล่าถึงการมีชีวิตอยู่ในด้านมืดอย่างเช่นนางคณิกานางรำและคนที่มีอาชีพกลางคืน การแสดงอำนาจของชนชั้นสูง การแก่งแย่งชิงดีและการเกิดดับของอำนาจ สุดท้ายจบลงด้วยการบรรยายถึงบรรยากาศเงียบเหงาภายในเรือนเดี่ยว มีเพียงกลีบดอกไม้ที่ปลิวผ่านตามสายลมยามที่กุ้ยฮวา (หอมหมื่นลี้) บาน เป็นสไตล์การเขียนที่นิยมในสมัยนั้นคือจบลงด้วยวรรคที่ขัดแย้งกับเนื้อหาก่อนหน้าเพื่อให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างสมดุลให้แก่บทกวี

    วรรค “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” นี้ปรากฏในท่อนแรกๆ ที่กล่าวถึงความตระการตาของนางรำผู้เลอโฉม ชวนให้พร่ำเพ้อถึงความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้ จะเห็นได้ว่า แม้วลีนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในวลีรักที่โด่งดังผ่านยุคสมัย แต่ต้นตอของมันจริงแล้วเป็นบทกวีที่บรรยายถึงชีวิตในนครฉางอัน สะท้อนถึงสุขและทุกข์ของความทรงจำในด้านต่างๆ ที่กวีมีต่อนครฉางอันอันเรืองรอง

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20230511A04T9O00
    https://so.gushiwen.cn/shiwenv_ac6684b5da86.aspx
    https://baike.baidu.com/item/长安古意/4804
    https://www.baike.com/wikiid/422703280303982502
    http://m.qulishi.com/article/202106/521082.html
    https://www.621seo.cn/a/83.html

    #จันทราอัสดง #ยวนยาง #ปี่มู่ #กวีถัง #ฉางอัน #หลูจ้าวหลิน
    วลีรักจาก <จันทราอัสดง> สวัสดีย้อนหลังวันวาเลนไทน์ วันนี้มาคุยเกี่ยวกับวลีบอกรักจากบทกวีจีนโบราณที่กล่าวถึงสองสัตว์ที่นับเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก วลีบอกรักนี้ เราเห็นในเรื่อง <จันทราอัสดง> ในฉากที่เยี่ยปิงส่างป่วยเพราะโดนปีศาจจับตัวไป พอฟื้นขึ้นมาเห็นองค์ชายเซียวหลิ่นเฝ้าอยู่ก็ร่ำไห้เอ่ยปากวลีสองวรรค หลังจากนั้นจึงได้หมั้นหมายกัน วลีที่ว่านี้คือ “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” (得成比目何辞死,愿作鸳鸯不羡仙) (หมายเหตุ Storyฯ แปลเองจ้า) ‘ยวนยาง’ คือนกเป็ดน้ำแมนดารินที่เพื่อนเพจคงคุ้นเคยเพราะมีการกล่าวถึงในหลายนิยายซีรีส์และละครว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ทั้งนี้ เพราะมันมักจะอยู่เป็นคู่ จึงถูกนำมาเปรียบเป็นคู่สามีภรรยาแต่โบราณโดยแรกปรากฏในบทประพันธ์ของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ตอนจีบจั๋วเหวินจวิน (ย้อนอ่านเรื่องราวความรักของทั้งคู่ได้ในบทความเก่า https://www.facebook.com/StoryfromStory/posts/pfbid02KgmDKe2nCXSPkUDKWTYDNCXpfyP1PzzBqQCkdVtEw46Y7ZMkeZSwoVYxGFR9QHjhl) แล้ว ‘ปี่มู่’ ล่ะคืออะไร? ปี่มู่เป็นปลาในสายพันธ์ปลาลิ้นหมา (ดูรูปประกอบ 2) เอกลักษณ์ของมันคือ ตาทั้งคู่อยู่ใกล้กันบนตัวปลาด้านเดียวกัน ในสมัยจีนโบราณถูกใช้เปรียบเปรยถึงความรักอันล้ำลึกของคู่รักที่อยู่เคียงข้างกัน ไปไหนไปด้วยกัน “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” วลีนี้ความหมายก็คือยอมตายก็อยากอยู่ด้วยกัน ไม่ต้องมีความสุขพ้นทุกข์อย่างเซียนก็ได้ เชื่อว่าเพื่อนเพจคงนึกว่ามันเป็นวลีที่มาจากกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วหลายวลีรักจีนโบราณอันกินใจที่ Storyฯ เคยเขียนถึงนั้น ถ้าไม่ใช่บทกวีที่เกี่ยวกับการจากพราก ก็มาจากเรื่องราวอื่น วลีนี้ก็เช่นกัน ที่มาของมันคือบทกวีที่ชื่อว่า ‘ฉางอันกู่อี้’ (长安古意 แปลได้ประมาณว่า หวนรำลึกฉางอัน) ของหลูจ้าวหลิน กวีชื่อดังในสมัยองค์ถังไท่จงแห่งราชวงศ์ถัง ในสมัยถังตอนต้นนั้น เขาถูกยกย่องเป็นหนึ่งในสี่ยอดกวีแห่งยุค เป็นบทกวีในสไตล์โบราณที่ Storyฯ ขอเรียกว่ากลอนเจ็ด กล่าวคือในหนึ่งวรรคมีเจ็ดอักษร บทกวีนี้มีทั้งสิ้น 34 ประโยค รวม 68 วรรค เรียกได้ว่าเป็นบทกวีที่ยาวมากและเป็นถูกยกย่องให้เป็นต้นแบบของงานประพันธ์แห่งยุคสมัยนั้น หลูจ้าวหลินถูกเติ้งหวางหลี่หยวนอวี้รับเป็นคนสนิท เป็นขุนนางผู้ดูแลจวนอ๋อง ต่อมาติดตามเติ้งหวางออกจากเมืองฉางอัน และเมื่อเลิกทำงานกับเติ้งหวางแล้วก็ปักหลักอยู่ลั่วหยาง บทกวีนี้หลูจ้าวหลินแต่งขึ้นในช่วงเวลาที่ลั่วหยางนั่นเอง ต่อมาเขาถูกจับกุมขังด้วยบทกวีนี้ เพราะถูกเข้าใจว่าเขียนตำหนิหนึ่งในผู้มีอำนาจทางการเมืองในสมัยนั้น สุดท้ายแม้จะรอดชีวิตพ้นคุกมาได้ แต่ก็ป่วยจนสุดท้ายต้องจบชีวิตตนเอง เนื้อหาของ ‘ฉางอันกู่อี้’ กล่าวถึงความเรืองรองแห่งนครฉางอัน ความเจริญรุ่งเรืองถูกสะท้อนออกมาด้วยคำบรรยายความโอ่อ่าของอาคารบ้านเรือน ความตระการตาของนางรำที่เริงระบำดุจบุปผาและผีเสื้อที่ละลานตา บรรยากาศยามค่ำคืนอันคึกคักโดยมีหอนางโลมเป็นฉากหลัก สอดแทรกด้วยอารมณ์ที่ถูกเร้าขึ้นด้วยคำบรรยายแสงสีเสียง สื่อออกมาเป็นความรู้สึกต่างๆ ที่ยากจะอดกลั้นภายใต้บรรยากาศนี้ อย่างเช่นความรักความลุ่มหลง บทกวีเล่าถึงการมีชีวิตอยู่ในด้านมืดอย่างเช่นนางคณิกานางรำและคนที่มีอาชีพกลางคืน การแสดงอำนาจของชนชั้นสูง การแก่งแย่งชิงดีและการเกิดดับของอำนาจ สุดท้ายจบลงด้วยการบรรยายถึงบรรยากาศเงียบเหงาภายในเรือนเดี่ยว มีเพียงกลีบดอกไม้ที่ปลิวผ่านตามสายลมยามที่กุ้ยฮวา (หอมหมื่นลี้) บาน เป็นสไตล์การเขียนที่นิยมในสมัยนั้นคือจบลงด้วยวรรคที่ขัดแย้งกับเนื้อหาก่อนหน้าเพื่อให้ความรู้สึกที่แตกต่าง สร้างสมดุลให้แก่บทกวี วรรค “หากได้เป็นดั่งปี่มู่ไม่เกรงกลัวตาย ยอมเป็นยวนยางไม่อิจฉาเซียน” นี้ปรากฏในท่อนแรกๆ ที่กล่าวถึงความตระการตาของนางรำผู้เลอโฉม ชวนให้พร่ำเพ้อถึงความรักที่ไม่อาจเป็นไปได้ จะเห็นได้ว่า แม้วลีนี้จะกลายมาเป็นหนึ่งในวลีรักที่โด่งดังผ่านยุคสมัย แต่ต้นตอของมันจริงแล้วเป็นบทกวีที่บรรยายถึงชีวิตในนครฉางอัน สะท้อนถึงสุขและทุกข์ของความทรงจำในด้านต่างๆ ที่กวีมีต่อนครฉางอันอันเรืองรอง (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพและข้อมูลรวบรวมจาก: https://new.qq.com/rain/a/20230511A04T9O00 https://so.gushiwen.cn/shiwenv_ac6684b5da86.aspx https://baike.baidu.com/item/长安古意/4804 https://www.baike.com/wikiid/422703280303982502 http://m.qulishi.com/article/202106/521082.html https://www.621seo.cn/a/83.html #จันทราอัสดง #ยวนยาง #ปี่มู่ #กวีถัง #ฉางอัน #หลูจ้าวหลิน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญหลวงพ่อเดิมหลังเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร วัดสามัคคีสุนทร ปี2553
    เหรียญหลวงพ่อเดิมหลังเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร วัดสามัคคีสุนทร ปี2553 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่โดยมีเกจิคณาจารย์ชั้นนำหลายรูปร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณ ขอพรการงาน เมตตามหานิยม เชื่อว่าการบูชาเสด็จเตี่ยจะทำให้เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป และได้รับความเมตตาจากผู้คน มีโชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย การงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก >>

    ** หลวงพ่อเดิม และ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในประเทศไทย หลวงพ่อเดิม เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการยกย่องในด้านพุทธาคมและวัตถุมงคล เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือที่รู้จักกันในนาม "องค์บิดาแห่งทหารเรือไทย" ทรงเป็นที่เคารพในฐานะผู้มีคุณูปการต่อกองทัพเรือ และเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาโรคและโชคลาภ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญหลวงพ่อเดิมหลังเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร วัดสามัคคีสุนทร ปี2553 เหรียญหลวงพ่อเดิมหลังเสด็จเตี่ยกรมหลวงชุมพร วัดสามัคคีสุนทร ปี2553 //พระดีพิธีใหญ่ พิธีพุทธาภิเษกอย่างยิ่งใหญ่โดยมีเกจิคณาจารย์ชั้นนำหลายรูปร่วมปลุกเสก // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณ ขอพรการงาน เมตตามหานิยม เชื่อว่าการบูชาเสด็จเตี่ยจะทำให้เป็นที่รักใคร่ของคนทั่วไป และได้รับความเมตตาจากผู้คน มีโชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย การงาน การเงิน สุขภาพ และความรัก >> ** หลวงพ่อเดิม และ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ เป็นบุคคลที่ได้รับความเคารพนับถืออย่างสูงในประเทศไทย หลวงพ่อเดิม เป็นพระเกจิอาจารย์ที่ได้รับการยกย่องในด้านพุทธาคมและวัตถุมงคล เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หรือที่รู้จักกันในนาม "องค์บิดาแห่งทหารเรือไทย" ทรงเป็นที่เคารพในฐานะผู้มีคุณูปการต่อกองทัพเรือ และเป็นที่พึ่งทางใจของประชาชนทั่วไป โดยเฉพาะในเรื่องของการรักษาโรคและโชคลาภ >> ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 305
    ชื่อบทธรรม : - อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305
    เนื้อความทั้งหมด : -
    --อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์
    --ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้
    เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง.
    ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู
    และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น)
    ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน.
    ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู
    แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ;
    --ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด
    มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย,
    มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย,
    คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย,
    การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้
    เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้.
    --ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น
    ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก
    ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=มาตา+นว+วา+ทส+วา

    --ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน,
    มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ;
    ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง.
    --ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า
    คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึง น้ำนมของมารดา.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/488/?keywords=โลหิเตน

    --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก
    เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง
    เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ(เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้)​
    เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้
    เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ.
    --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว
    เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่
    : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส,
    และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ,
    +--ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก
    เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ
    และ #เป็นที่ตั้งแห่งความรัก.
    ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว
    ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก,
    ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ;
    ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล
    ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ
    อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย.
    กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว,
    เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม,
    เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ.
    เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น,
    +--#ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น.
    http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=นนฺทิ

    ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่,
    ความเพลินอันนั้น เป็นอุปาทาน.
    เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ;
    เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ;
    เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส
    และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม.
    #ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้
    http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=ทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา+สมฺภวนฺติ
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/342-343/452-453
    http://etipitaka.com/read/thai/12/342/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๘๗-๔๘๙/๔๕๒-๔๕๓
    http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=305
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20
    ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาว่า อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 305 ชื่อบทธรรม : - อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305 เนื้อความทั้งหมด : - --อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ --ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้ เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น) ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ; --ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย, มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย, คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้ เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง. http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=มาตา+นว+วา+ทส+วา --ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน, มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ; ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง. --ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึง น้ำนมของมารดา. http://etipitaka.com/read/pali/12/488/?keywords=โลหิเตน --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ(เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้)​ เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้ เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ. --ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่ : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส, และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ, +--ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ และ #เป็นที่ตั้งแห่งความรัก. ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก, ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ; ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย. กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว, เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม, เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ. เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น, +--#ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น. http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=นนฺทิ ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่, ความเพลินอันนั้น เป็นอุปาทาน. เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. #ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ด้วยอาการอย่างนี้ http://etipitaka.com/read/pali/12/489/?keywords=ทุกฺขโทมนสฺสุปายาสา+สมฺภวนฺติ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/342-343/452-453 http://etipitaka.com/read/thai/12/342/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๔๘๗-๔๘๙/๔๕๒-๔๕๓ http://etipitaka.com/read/pali/12/487/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=305 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20&id=305 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=20 ลำดับสาธยายธรรม : 20 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_20.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - (ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ตามพระบาลีนี้ อาสวะทำหน้าที่อย่างเดียวกับตัณหา คือสร้างภพใหม่ หรือเป็นเหตุให้เกิดทุกข์)
    -(ผู้ศึกษาพึงสังเกตให้เห็นว่า ตามพระบาลีนี้ อาสวะทำหน้าที่อย่างเดียวกับตัณหา คือสร้างภพใหม่ หรือเป็นเหตุให้เกิดทุกข์) อาการที่สัตว์เกิดตัณหาและเกิดทุกข์ ภิกษุ ท. ! การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมมีได้ เพราะการประชุมพร้อมของสิ่ง ๓ อย่าง. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน แต่มารดายังไม่ผ่านการมีระดู และคันธัพพะ (สัตว์ที่จะเข้าไปปฏิสนธิในครรภ์นั้น) ก็ยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ก็ยังมีขึ้นไม่ได้ก่อน. ในสัตว์โลกนี้ แม้มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกัน และมารดาก็ผ่านการมีระดู แต่คันธัพพะยังไม่เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะ, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ก็ยังมีขึ้นไม่ได้นั่นเอง ; ภิกษุ ท. ! แต่เมื่อใด มารดาและบิดาเป็นผู้อยู่ร่วมกันด้วย, มารดาก็ผ่านการมีระดูด้วย คันธัพพะก็เข้าไปตั้งอยู่โดยเฉพาะด้วย, การปฏิสนธิของสัตว์ในครรภ์ ย่อมสำเร็จได้ เพราะการประชุมพร้อมกัน ของสิ่ง ๓ อย่าง ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! มารดา ย่อมบริหารสัตว์ที่เกิดในครรภ์นั้น ด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ตลอดเวลาเก้าเดือนบ้าง สิบเดือนบ้าง. ภิกษุ ท. ! เมื่อล่วงไปเก้าเดือนหรือสิบเดือน, มารดา ย่อมคลอดบุตรนั้นด้วยความเป็นห่วงอย่างใหญ่หลวง เป็นภาระหนัก ; ได้เลี้ยงซึ่งบุตรอันเกิดแล้วนั้น ด้วยโลหิตของตนเอง. ภิกษุ ท. ! ในวินัยของพระอริยเจ้า คำว่า “โลหิต” นี้ หมายถึงน้ำนมของมารดา. ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น เจริญวัยขึ้น มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้วเล่นของเล่นสำหรับเด็ก เช่น เล่นไถน้อย ๆ เล่นหม้อข้าวหม้อแกง เล่นของเล่นชื่อโมกขจิกะ๑ เล่นกังหันลมน้อย ๆ เล่นตวงของด้วยเครื่องตวงที่ทำด้วยใบไม้ เล่นรถน้อย ๆ เล่นธนูน้อย ๆ. ภิกษุ ท. ! ทารกนั้น ครั้นเจริญวัยขึ้นแล้ว มีอินทรีย์อันเจริญเต็มที่แล้ว เป็นผู้เอิบอิ่มเพียบพร้อมด้วยกามคุณห้า ให้เขาบำเรออยู่ : ทางตาด้วยรูป, ทางหูด้วยเสียง, ทางจมูกด้วยกลิ่น, ทางลิ้นด้วยรส, และทางกายด้วยโผฏฐัพพะ, ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ ที่ยวนตายวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ และเป็นที่ตั้งแห่งความรัก. ทารกนั้น ครั้นเห็นรูปด้วยจักษุ เป็นต้นแล้ว ย่อมกำหนัดยินดี ในรูป เป็นต้น ที่ยั่วยวนให้เกิดความรัก, ย่อมขัดใจในรูป เป็นต้น ที่ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความรัก ; ไม่เป็นผู้ตั้งไว้ซึ่งสติอันเป็น ๑. โมกขจิกะ เป็นของเล่นสำหรับเด็กชนิดหนึ่ง ที่ตอนบนหมุนได้. ไปในกาย มีใจเป็นอกุศล ไม่รู้ตามที่เป็นจริง ซึ่งเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันเป็นที่ดับไม่เหลือแห่งธรรมอันเป็นบาปอกุศลทั้งหลาย. กุมารน้อยนั้น เมื่อประกอบด้วย ความยินดีและความยินร้ายอยู่เช่นนี้แล้ว, เสวยเฉพาะซึ่งเวทนาใด ๆ เป็นสุขก็ตาม ทุกข์ก็ตาม ไม่ใช่ทุกข์ไม่ใช่สุขก็ตาม, เขาย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งเวทนานั้น ๆ. เมื่อเป็นอยู่เช่นนั้น, ความเพลิน (นันทิ) ย่อมบังเกิดขึ้น. ความเพลินใด ในเวทนาทั้งหลาย มีอยู่, ความเพลินอันนั้นเป็นอุปาทาน. เพราะอุปาทานของเขานั้นเป็นปัจจัย จึงเกิดมีภพ ; เพราะภพเป็นปัจจัย จึงเกิดมีชาติ ; เพราะชาติเป็นปัจจัย, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงเกิดมีพร้อม. ความก่อขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อนเพจเคยสงสัยหรือไม่ ทำไมในนิยาย/หนังจีนโบราณหลายเรื่องยกให้ฉากพระเอกวาดคิ้วให้นางเอกเป็นหนึ่งในฉากโรแมนติกสุดซึ้ง?

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ชู่ว์.. ใกล้เสร็จแล้ว อย่าขยับ” เขามองเทียบซ้ายขวาอยู่พักใหญ่ วาดเติมอีกหลายครา
    เสวียนจีเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ยิ้มกล่าว “มีอยู่ครั้งหนึ่งข้าไปหาท่านพ่อท่านแม่แต่เช้า เห็นท่านพ่อกำลังวาดคิ้วให้ท่านแม่อยู่! แต่พ่อไม่ช่ำชองเท่าท่าน”
    การวาดคิ้วแต่ไหนแต่ไรเป็นเรื่องในห้องหอของสามีภรรยา มิพึงเล่าให้ใครฟัง แต่เสวียนจีไม่รู้เรื่องพวกนี้ จึงเล่าอย่างไร้เดียงสา...
    - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง
    (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้)

    ในสมัยโบราณเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ต้องปรนนิบัติสามี การที่สามี ‘ปรนนิบัติ’ ภรรยาด้วยการวาดคิ้วจึงเป็นการทำด้วยใจรักและไม่ใช่หน้าที่ ก็พอจะนึกออกว่ามันเป็นเรื่องน่าประทับใจ

    แต่ก่อนจะไปคุยกันลงลึกเรื่องวัฒนธรรมการเขียนคิ้ว มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ทำให้ Storyฯ รู้สึกว่า ‘อย่างนี้ก็มีด้วย’ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเหตุการณ์เรื่องราวของสามีที่วาดคิ้วให้ภรรยาที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์จริง

    เป็นเรื่องราวของจางฉ่าง ผู้ว่าราชการเมืองฉางอันผู้มีผลงานมากมายในยุคสมัยของจักรพรรดิเซวียนแห่งราชวงศ์ฮั่น (ปี 91-48 ก่อนคริสตกาล) เขาไม่ค่อยวางตนอยู่ในกรอบเหมือนขุนนางอื่น หนึ่งในตัวอย่างก็คือเขาวาดคิ้วให้ภรรยาทุกวัน จนเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วเมืองว่าภรรยาของเขาคิ้วงามสะดุดตาสะดุดใจ อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่ถึงกับมีขุนนางเข้าชื่อกันเอาเรื่องนี้กราบบังคมทูลร้องเรียนฮ่องเต้! ประมาณว่าเป็นข้าราชการที่วางตนไม่เหมาะสม (Storyฯ แอบคิดว่าพวกขุนนางเหล่านี้คงว่างมากเกินไป)

    เมื่อโดนฮ่องเต้ทรงซักถาม เขาก็ทูลตอบว่า “พฤติกรรมอันแนบชิดระหว่างสามีภรรยาในห้องหอ เกรงว่ามีมากกว่าการวาดคิ้วเสียอีกพ่ะย่ะค่ะ” เป็นคำตอบที่ฟังดูช่างมันฉันไม่แคร์ ว่ากันว่าองค์ฮ่องเต้ทรงเห็นแก่ความสามารถของจางฉ่างจึงมิได้ทำโทษวาจาสามหาวนั้น

    จึงเป็นที่เล่าขานกันต่อมาว่าการวาดคิ้วให้สตรีนั้นเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักความใกล้ชิดอย่างลึกซึ้งของบุรุษต่อสตรี

    สัปดาห์นี้พอหอมปากหอมคอ สัปดาห์หน้าเรามาคุยเรื่องวัฒนธรรมการวาดคิ้วกันต่อ อย่าลืมติดตามนะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://daydaynews.cc/zh-hans/entertainment/805334.html
    https://xw.qq.com/cmsid/20200806A07DNK00
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://zhidao.baidu.com

    #ปลดผนึกหัวใจ #วาดคิ้ว #ประเพณีจีน #จางฉ่าง #StoryfromStory
    เพื่อนเพจเคยสงสัยหรือไม่ ทำไมในนิยาย/หนังจีนโบราณหลายเรื่องยกให้ฉากพระเอกวาดคิ้วให้นางเอกเป็นหนึ่งในฉากโรแมนติกสุดซึ้ง? ความมีอยู่ว่า ... “ชู่ว์.. ใกล้เสร็จแล้ว อย่าขยับ” เขามองเทียบซ้ายขวาอยู่พักใหญ่ วาดเติมอีกหลายครา เสวียนจีเพิ่งนึกอะไรขึ้นได้ ยิ้มกล่าว “มีอยู่ครั้งหนึ่งข้าไปหาท่านพ่อท่านแม่แต่เช้า เห็นท่านพ่อกำลังวาดคิ้วให้ท่านแม่อยู่! แต่พ่อไม่ช่ำชองเท่าท่าน” การวาดคิ้วแต่ไหนแต่ไรเป็นเรื่องในห้องหอของสามีภรรยา มิพึงเล่าให้ใครฟัง แต่เสวียนจีไม่รู้เรื่องพวกนี้ จึงเล่าอย่างไร้เดียงสา... - จากเรื่อง <ปลดผนึกหัวใจ> ผู้แต่ง สือซื่อหลาง (หมายเหตุ ชื่อตามชื่อไทยของละครที่ดัดแปลงมาจากนิยายเรื่องนี้) ในสมัยโบราณเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ต้องปรนนิบัติสามี การที่สามี ‘ปรนนิบัติ’ ภรรยาด้วยการวาดคิ้วจึงเป็นการทำด้วยใจรักและไม่ใช่หน้าที่ ก็พอจะนึกออกว่ามันเป็นเรื่องน่าประทับใจ แต่ก่อนจะไปคุยกันลงลึกเรื่องวัฒนธรรมการเขียนคิ้ว มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่ทำให้ Storyฯ รู้สึกว่า ‘อย่างนี้ก็มีด้วย’ มาเล่าสู่กันฟัง เป็นเหตุการณ์เรื่องราวของสามีที่วาดคิ้วให้ภรรยาที่ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์จริง เป็นเรื่องราวของจางฉ่าง ผู้ว่าราชการเมืองฉางอันผู้มีผลงานมากมายในยุคสมัยของจักรพรรดิเซวียนแห่งราชวงศ์ฮั่น (ปี 91-48 ก่อนคริสตกาล) เขาไม่ค่อยวางตนอยู่ในกรอบเหมือนขุนนางอื่น หนึ่งในตัวอย่างก็คือเขาวาดคิ้วให้ภรรยาทุกวัน จนเป็นที่กล่าวขานกันไปทั่วเมืองว่าภรรยาของเขาคิ้วงามสะดุดตาสะดุดใจ อาจจะฟังดูไร้สาระ แต่ถึงกับมีขุนนางเข้าชื่อกันเอาเรื่องนี้กราบบังคมทูลร้องเรียนฮ่องเต้! ประมาณว่าเป็นข้าราชการที่วางตนไม่เหมาะสม (Storyฯ แอบคิดว่าพวกขุนนางเหล่านี้คงว่างมากเกินไป) เมื่อโดนฮ่องเต้ทรงซักถาม เขาก็ทูลตอบว่า “พฤติกรรมอันแนบชิดระหว่างสามีภรรยาในห้องหอ เกรงว่ามีมากกว่าการวาดคิ้วเสียอีกพ่ะย่ะค่ะ” เป็นคำตอบที่ฟังดูช่างมันฉันไม่แคร์ ว่ากันว่าองค์ฮ่องเต้ทรงเห็นแก่ความสามารถของจางฉ่างจึงมิได้ทำโทษวาจาสามหาวนั้น จึงเป็นที่เล่าขานกันต่อมาว่าการวาดคิ้วให้สตรีนั้นเป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึงความรักความใกล้ชิดอย่างลึกซึ้งของบุรุษต่อสตรี สัปดาห์นี้พอหอมปากหอมคอ สัปดาห์หน้าเรามาคุยเรื่องวัฒนธรรมการวาดคิ้วกันต่อ อย่าลืมติดตามนะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://daydaynews.cc/zh-hans/entertainment/805334.html https://xw.qq.com/cmsid/20200806A07DNK00 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://zhidao.baidu.com #ปลดผนึกหัวใจ #วาดคิ้ว #ประเพณีจีน #จางฉ่าง #StoryfromStory
    DAYDAYNEWS.CC
    琉璃:司凤给璇玑画眉只画左边,不是编剧要求,而是暗示了他们的结局 - 天天要闻
    相信大多数小伙伴们最喜欢的就是司凤与璇玑之间的爱情了,不知道大家有没有发现司凤每次给璇玑画眉都是只画左边
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฉ "ฮุนเซน" หาเงิน 4 แสนล้านบาทต่อปี จากหลอกลวงออนไลน์
    .
    ฮุนเซน สมเด็จจากนรก เปิดศึกสาวไส้ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และแพทองธาร ชินวัตร เพราะอะไร? คนที่ออกมาวิเคราะห์ ประสาคู่ปรับตัวฉกาจ รู้เช่นเห็นชาติ ฮุนเซนเป็นอย่างดี ก็คือนาย สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ของกัมพูชา
    .
    นายสม รังสี ออกแถลงการณ์ ล่าสุดมาจากประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งเขาลี้ภัยอำนาจเถื่อน ของฮุนเซน ระบุว่า การกระทำของฮุน เซน ไม่ได้มาจากความรักชาติอะไรเลย แต่เป็นเรื่องส่วนตัวและหวังผลทางการเมือง

    อ่ารต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061078

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แฉ "ฮุนเซน" หาเงิน 4 แสนล้านบาทต่อปี จากหลอกลวงออนไลน์ . ฮุนเซน สมเด็จจากนรก เปิดศึกสาวไส้ ทักษิณ ยิ่งลักษณ์ และแพทองธาร ชินวัตร เพราะอะไร? คนที่ออกมาวิเคราะห์ ประสาคู่ปรับตัวฉกาจ รู้เช่นเห็นชาติ ฮุนเซนเป็นอย่างดี ก็คือนาย สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้าน ของกัมพูชา . นายสม รังสี ออกแถลงการณ์ ล่าสุดมาจากประเทศฝรั่งเศส ที่ซึ่งเขาลี้ภัยอำนาจเถื่อน ของฮุนเซน ระบุว่า การกระทำของฮุน เซน ไม่ได้มาจากความรักชาติอะไรเลย แต่เป็นเรื่องส่วนตัวและหวังผลทางการเมือง อ่ารต่อ..https://news1live.com/detail/9680000061078 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 635 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สิ่งที่เขาแบกไว้บนบ่า คือ ครอบครัว สิ่งที่เขากุมไว้ในมือ คือ อนาคต” คอมเมนต์สุดประทับใจจากชาวเน็ตที่มีต่อภาพของสองพ่อลูกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ก่อนที่ภาพของพวกเขาจะกลับมาเป็นไวรัลอีกครั้ง หลังมีการโพสต์ภาพอัพเดตชีวิตของพวกเขาในช่วงวันพ่อของจีน (15 มิ.ย.ที่ผ่านมา)

    "พ่อครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ผมหวังว่า ผมจะสามารถแบ่งเบาภาระของพ่อได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม" หรานจวิ้นเชา นักศึกษาวัย 18 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของหรานกวางฮุยกล่าว โดยเขายังซื้อนาฬิกาและเสื้อโค้ทให้พ่อเป็นของขวัญอีกด้วย

    ย้อนกลับไปในปี 2010 ช่างภาพคนหนึ่งจากสำนักข่าวซินหัว ได้ถ่ายภาพของหรานกวางฮุย ที่กำลังทำหน้าที่เป็นลูกหาบ ใช้มือซ้ายจับถุงที่หนักกว่าร้อยกิโลกรัมแบกไว้ไม่ให้ตกจากหลัง ขณะที่มืออีกข้างจับมือหรานจวิ้นเชา วัย 3 ขวบ เดินลงบันได

    ภาพดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงของชาวเน็ต โดยพวกเขาต่างประทับใจในความรักที่หรานกวางฮุยมีต่อลูกชาย รวมทั้งความรับผิดชอบของเขาต่อครอบครัว

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000060472

    #Thaitimes #MGROnline #หรานกวางฮุย #หรานจวิ้นเชา #ลูกหาบ
    “สิ่งที่เขาแบกไว้บนบ่า คือ ครอบครัว สิ่งที่เขากุมไว้ในมือ คือ อนาคต” คอมเมนต์สุดประทับใจจากชาวเน็ตที่มีต่อภาพของสองพ่อลูกเมื่อ 15 ปีที่แล้ว ก่อนที่ภาพของพวกเขาจะกลับมาเป็นไวรัลอีกครั้ง หลังมีการโพสต์ภาพอัพเดตชีวิตของพวกเขาในช่วงวันพ่อของจีน (15 มิ.ย.ที่ผ่านมา) • "พ่อครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ผมหวังว่า ผมจะสามารถแบ่งเบาภาระของพ่อได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตาม" หรานจวิ้นเชา นักศึกษาวัย 18 ปี ซึ่งเป็นลูกชายคนเล็กของหรานกวางฮุยกล่าว โดยเขายังซื้อนาฬิกาและเสื้อโค้ทให้พ่อเป็นของขวัญอีกด้วย • ย้อนกลับไปในปี 2010 ช่างภาพคนหนึ่งจากสำนักข่าวซินหัว ได้ถ่ายภาพของหรานกวางฮุย ที่กำลังทำหน้าที่เป็นลูกหาบ ใช้มือซ้ายจับถุงที่หนักกว่าร้อยกิโลกรัมแบกไว้ไม่ให้ตกจากหลัง ขณะที่มืออีกข้างจับมือหรานจวิ้นเชา วัย 3 ขวบ เดินลงบันได • ภาพดังกล่าวกลายเป็นที่พูดถึงของชาวเน็ต โดยพวกเขาต่างประทับใจในความรักที่หรานกวางฮุยมีต่อลูกชาย รวมทั้งความรับผิดชอบของเขาต่อครอบครัว • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000060472 • #Thaitimes #MGROnline #หรานกวางฮุย #หรานจวิ้นเชา #ลูกหาบ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย.68 จากการสำรวจกระแสโซเชียลในโพสที่เชิญชวนคนร่วมแสดงความรักชาติ จึงมีกลุ่มที่เป็น io สร้างกระแส พิมพ์ชักชูง ไม่ให้คนออกไปในวันนี้ 28 เป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนทางกับความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่

    ดังนั้น อยากให้เราถามหัวใจตนเอง ว่ารักผืนแผ่นดินนี้ไหม หากเรารัก แล้วเรากล้าหาญพอไหมที่จะแสดงความรักนั้นออกมา ในรูปแบบที่หัวใจของเราเรียกร้องให้ทำ โดยไม่ต้องฟังเสียง หรืออ่านข้อความจากใคร แต่ทำเพราะหัวใจท่านสั่งให้ทำ

    โลกโซเชียล มีทั้งจริงและหลอก โดยเฉพาะคนไทยที่กำลังต่อสู้กับประเทศคอลเซ็นเตอร์ โซเชียลจึงอาจเป็นทั้งอาวุธปกป้องเราและทำลายเรา หากเราเชื่อทุกอย่างโดยไม่ยึดแผ่นดินสำคัญเป็นที่สุด
    ไทยส่วนใหญ่ไม่ต้องการให้เกิดการชุมนุมในวันที่ 28 มิ.ย.68 จากการสำรวจกระแสโซเชียลในโพสที่เชิญชวนคนร่วมแสดงความรักชาติ จึงมีกลุ่มที่เป็น io สร้างกระแส พิมพ์ชักชูง ไม่ให้คนออกไปในวันนี้ 28 เป็นจำนวนมาก ซึ่งสวนทางกับความรู้สึกของคนไทยส่วนใหญ่ ดังนั้น อยากให้เราถามหัวใจตนเอง ว่ารักผืนแผ่นดินนี้ไหม หากเรารัก แล้วเรากล้าหาญพอไหมที่จะแสดงความรักนั้นออกมา ในรูปแบบที่หัวใจของเราเรียกร้องให้ทำ โดยไม่ต้องฟังเสียง หรืออ่านข้อความจากใคร แต่ทำเพราะหัวใจท่านสั่งให้ทำ โลกโซเชียล มีทั้งจริงและหลอก โดยเฉพาะคนไทยที่กำลังต่อสู้กับประเทศคอลเซ็นเตอร์ โซเชียลจึงอาจเป็นทั้งอาวุธปกป้องเราและทำลายเรา หากเราเชื่อทุกอย่างโดยไม่ยึดแผ่นดินสำคัญเป็นที่สุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 98 มุมมอง 0 รีวิว
  • แค่เห็นหน้าก็รัก...แต่รู้ว่ารักไม่ได้

    หลายคนไม่สบายใจกับการ “แอบรักใครบางคน”
    ทั้งที่ตัวเองไม่ได้พูด ไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดร้อน
    แค่ใจมันรู้สึก…ก็รู้สึกผิดแล้ว
    กลัวว่า “รักแบบนี้” จะเป็นบาป
    กลัวว่า “คิดแบบนี้” จะทำลายศีล
    กลัวว่า “รู้สึกแบบนี้” จะทำให้เป็นคนไม่ดี

    แต่ในทางธรรม…
    พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ปฏิเสธความรู้สึก
    ท่านสอนให้ รู้เท่าทันมัน

    ราคะไม่ได้ผิดโดยตัวมันเอง
    ความรู้สึกอยากได้ อยากครอบครอง อยากใกล้ชิด
    เป็นเพียงกระแสธรรมชาติของใจมนุษย์
    เราไม่ต้องไปเกลียดมัน ไม่ต้องไปรีบตัดทิ้ง
    แค่ให้ “รู้ว่าเกิด” “รู้ว่ามี” “รู้ว่าเป็นไป”

    เหมือนลมผ่าน
    ไม่ต้องจับ ไม่ต้องผลัก
    ไม่ต้องเอา ไม่ต้องต้าน
    รู้เฉยๆ ว่ามันพัดผ่าน

    เมื่อ “ราคะเกิดขึ้น” ก็แค่รู้ว่าราคะเกิด
    เมื่อ “ราคะหายไป” ก็รู้ว่าราคะหาย
    เมื่อเห็นบ่อยๆ ว่ามันมาแล้วก็ไป
    ใจจะเริ่มเบาลง
    ไม่ใช่เพราะเรา บังคับตัวเองให้ตัดใจได้
    แต่เพราะเรา ไม่ยึด กับมันอีกต่อไป

    เจริญสติในจิตตานุปัสสนา
    คือการเฝ้าดู “ความรู้สึก” ที่เกิดในใจ
    อย่างไม่ตัดสิน ไม่สรุปว่าเลวหรือดี
    ไม่ต้องรู้สึกผิดที่รักใคร
    ไม่ต้องรู้สึกดีที่รักใคร
    ให้รู้ทัน...แล้ววางลง

    แต่ถ้าใจเรายังอยากตัดใจ
    ยังอยากเลิกรู้สึก
    ยังคิดว่า “รักเขาไม่ได้ ต้องเลิกรักให้ได้”
    นั่นแหละ...คือการยึดรูปแบบใหม่
    ยึดในฐานะของ “คนผิด”
    ยึดในฐานะของ “ความรู้สึกไม่เหมาะสม”
    เป็นการลงโทษตัวเองซ้ำๆ
    แทนที่จะ “รู้แล้ววาง”

    แต่ถ้าใจเราเป็นกลางได้เมื่อไหร่
    ใจจะคลายได้เอง
    ไม่จำเป็นต้องตัด
    ไม่จำเป็นต้องบังคับ
    แค่รู้ว่าราคะมา ก็รู้
    ราคะหาย ก็รู้
    ในที่สุดใจจะ ไม่แคร์ว่ามันจะมาอีกไหม

    นี่คือการฝึกปล่อยวางอย่างแท้จริง
    ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องอาลัย
    ไม่ต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่ใจรู้สึก

    เพราะเมื่อสติสว่าง
    ใจจะเห็นเองว่า
    ความรักแบบนี้...ก็แค่ผ่านมา และจะผ่านไป
    เหมือนทุกสิ่งในโลกนี้

    #รักได้แต่ไม่ต้องทุกข์
    #ธรรมะเยียวยาหัวใจ
    #เจริญสติอย่างไม่ตัดสิน
    #ความรักกับการปล่อยวาง
    #เห็นราคะเป็นธรรมดา
    #DhammaHealing
    🌱 แค่เห็นหน้าก็รัก...แต่รู้ว่ารักไม่ได้ หลายคนไม่สบายใจกับการ “แอบรักใครบางคน” ทั้งที่ตัวเองไม่ได้พูด ไม่ได้ทำอะไรให้เขาเดือดร้อน แค่ใจมันรู้สึก…ก็รู้สึกผิดแล้ว กลัวว่า “รักแบบนี้” จะเป็นบาป กลัวว่า “คิดแบบนี้” จะทำลายศีล กลัวว่า “รู้สึกแบบนี้” จะทำให้เป็นคนไม่ดี แต่ในทางธรรม… พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ปฏิเสธความรู้สึก ท่านสอนให้ รู้เท่าทันมัน 💔 ราคะไม่ได้ผิดโดยตัวมันเอง ความรู้สึกอยากได้ อยากครอบครอง อยากใกล้ชิด เป็นเพียงกระแสธรรมชาติของใจมนุษย์ เราไม่ต้องไปเกลียดมัน ไม่ต้องไปรีบตัดทิ้ง แค่ให้ “รู้ว่าเกิด” “รู้ว่ามี” “รู้ว่าเป็นไป” 🌬️ เหมือนลมผ่าน ไม่ต้องจับ ไม่ต้องผลัก ไม่ต้องเอา ไม่ต้องต้าน รู้เฉยๆ ว่ามันพัดผ่าน เมื่อ “ราคะเกิดขึ้น” ก็แค่รู้ว่าราคะเกิด เมื่อ “ราคะหายไป” ก็รู้ว่าราคะหาย เมื่อเห็นบ่อยๆ ว่ามันมาแล้วก็ไป ใจจะเริ่มเบาลง ไม่ใช่เพราะเรา บังคับตัวเองให้ตัดใจได้ แต่เพราะเรา ไม่ยึด กับมันอีกต่อไป ☸️ เจริญสติในจิตตานุปัสสนา คือการเฝ้าดู “ความรู้สึก” ที่เกิดในใจ อย่างไม่ตัดสิน ไม่สรุปว่าเลวหรือดี ไม่ต้องรู้สึกผิดที่รักใคร ไม่ต้องรู้สึกดีที่รักใคร ให้รู้ทัน...แล้ววางลง 🔥 แต่ถ้าใจเรายังอยากตัดใจ ยังอยากเลิกรู้สึก ยังคิดว่า “รักเขาไม่ได้ ต้องเลิกรักให้ได้” นั่นแหละ...คือการยึดรูปแบบใหม่ ยึดในฐานะของ “คนผิด” ยึดในฐานะของ “ความรู้สึกไม่เหมาะสม” เป็นการลงโทษตัวเองซ้ำๆ แทนที่จะ “รู้แล้ววาง” 🍃 แต่ถ้าใจเราเป็นกลางได้เมื่อไหร่ ใจจะคลายได้เอง ไม่จำเป็นต้องตัด ไม่จำเป็นต้องบังคับ แค่รู้ว่าราคะมา ก็รู้ ราคะหาย ก็รู้ ในที่สุดใจจะ ไม่แคร์ว่ามันจะมาอีกไหม 💡 นี่คือการฝึกปล่อยวางอย่างแท้จริง ไม่ต้องฝืน ไม่ต้องอาลัย ไม่ต้องรู้สึกผิดกับสิ่งที่ใจรู้สึก เพราะเมื่อสติสว่าง ใจจะเห็นเองว่า ความรักแบบนี้...ก็แค่ผ่านมา และจะผ่านไป เหมือนทุกสิ่งในโลกนี้ #รักได้แต่ไม่ต้องทุกข์ #ธรรมะเยียวยาหัวใจ #เจริญสติอย่างไม่ตัดสิน #ความรักกับการปล่อยวาง #เห็นราคะเป็นธรรมดา #DhammaHealing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่มีประเด็นดราม่าก็หายหน้าหายตาจากโซเชียลไปเลย สำหรับ "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเคลื่อนไหวไอจีอีกครั้ง โดยระบุว่า เตรียมไลฟ์ผ่านติ๊กตอกพรุ่งนี้ (25 มิ.ย. 2568)

    โดย "ดิว อริสรา" ได้โพสต์ข้อความลงใน IG สอตรี่ เผยว่า "เจอกันวันพุธนี้ครั้งแรกของดิว TikTok Live เวลา 20:00น. พร้อมกัน reminder I am allowed to rest. I deserve to be loved. It will always work out for me. Ilove my body & everything it does for me. I love my creativity.I am enough. Doing things I love is an act of self care.I am grateful for every opportunity in my life.ขอบคณสำหรับทกโอกาสขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ขอบคุณสำหรับความรัก และ ขอโทษจากใจอีกครั้งสำหรับทุกอย่าง"

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000059530

    #Thaitimes #MGROnline #ดิวอริสรา
    หลังจากที่มีประเด็นดราม่าก็หายหน้าหายตาจากโซเชียลไปเลย สำหรับ "ดิว อริสรา ทองบริสุทธิ์" ล่าสุดเจ้าตัวก็ออกมาเคลื่อนไหวไอจีอีกครั้ง โดยระบุว่า เตรียมไลฟ์ผ่านติ๊กตอกพรุ่งนี้ (25 มิ.ย. 2568) • โดย "ดิว อริสรา" ได้โพสต์ข้อความลงใน IG สอตรี่ เผยว่า "เจอกันวันพุธนี้ครั้งแรกของดิว TikTok Live เวลา 20:00น. พร้อมกัน reminder I am allowed to rest. I deserve to be loved. It will always work out for me. Ilove my body & everything it does for me. I love my creativity.I am enough. Doing things I love is an act of self care.I am grateful for every opportunity in my life.ขอบคณสำหรับทกโอกาสขอบคุณสำหรับทุกกำลังใจ ขอบคุณสำหรับความรัก และ ขอโทษจากใจอีกครั้งสำหรับทุกอย่าง" • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000059530 • #Thaitimes #MGROnline #ดิวอริสรา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ แถลงความคืบหน้า การจัดกิจกรรม “ความรักชาติไทย” #28มิถุนามาแน่ : คนเคาะข่าว 24-06-68
    : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน
    : จตุพร พรหมพันธุ์
    : พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย
    : ประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.)
    : แก้วสรร อติโพธิ
    : พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
    กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯ แถลงความคืบหน้า การจัดกิจกรรม “ความรักชาติไทย” #28มิถุนามาแน่ : คนเคาะข่าว 24-06-68 : ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน : จตุพร พรหมพันธุ์ : พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย : ประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) : แก้วสรร อติโพธิ : พิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.)
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 316 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • วันนี้คุยกันเรื่องสำนวนจีน พร้อมกับลงรูปรวมฮิตนางร้าย/นางรองในหลายละครจีนที่มีฝีไม้ลายมือประทับใจ Storyฯ เพราะเราจะคุยกันเรื่องวลีที่บรรยายถึงความอกหักรักคุด เป็นวลียอดนิยมในนิยายจีนที่อาจไม่มีการแปลตรงตัวออกมาเป็นบทพูดในละครนัก

    “ลั่วฮวาโหย่วอี้ หลิวสุ่ยอู๋ฉิง / 落花有意 流水无情” เพื่อนเพจแฟนนิยายจีนอาจเคยอ่านคำแปลหลากหลาย แต่ Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงเองว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี” วลีนี้มีความหมายว่าหลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่เขายังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า

    เป็นประโยคที่นิยมใช้ในนิยายจีนมากมาย เพียงหลับตาก็เห็นภาพทิวทัศน์ แต่เพื่อนเพจรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงวรรคย่อของบทประพันธ์โดยกวีเอกสมัยราชวงศ์หมิงนามว่าเฝิงเมิ่งหลง (ค.ศ. 1574-1646) โดยมีวรรคเต็มแปลได้ว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจติดตามวารี สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรีเมินรักบุษบา” (落花有意随流水,流水无情恋落花)

    ด้วยคำบรรยายกล่าวถึงดอกไม้พยายามเข้าหาสายน้ำ ฟังดูได้อารมณ์ฝ่ายหญิงอกหักจากการหลงรักชายฝ่ายเดียว แล้วถ้าเป็นฝ่ายชายหลงรักฝ่ายหญิงแต่ข้างเดียวล่ะ? จริงๆ แล้วใช้วลีนี้ก็ไม่ผิดและใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่แฟนนิยายจีนทั้งหลายทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกวลีที่มีใจความคล้ายคลึงแต่ฟังดู “แมน” มากกว่า?

    เป็นวลีจากบทกวีจากสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยกวีเอกเกาหมิง ใจความว่า “อั๋วเปิ่นเจียงซินเซี่ยงหมิงเยวี่ย ไน่เหอหมิงเยวี่ยเจ้าโกวฉวี / 我本将心向明月,奈何明月照沟渠" แปลได้ว่า “เดิมข้าฝากใจใฝ่จันทรา แต่จนใจจันทิราทอแสงส่องคูน้ำ” ความเดิมหมายถึงความรักความใส่ใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแต่ลูกไม่ใยดี แต่กาลเวลาผ่านไปวลีนี้กลับถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์หลากหลายจนกลายเป็นคำบรรยายถึงชายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่ตนรัก แต่หญิงกลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ

    แต่ไม่ว่าจะเป็นวลีใด Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณมีความโรแมนติกเพราะมักอาศัยคำบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามมาเปรียบเปรย ทีแรกที่อ่านถึงสองวลีนี้ ก็นึกถึงบทกลอนของบ้านเราที่ว่า “รักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก ต้องนอนกลิ้งนอนเกลือกจนเหงือกแห้ง...” แต่ก็รู้สึกว่าเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้เพราะมันคนละอรรถรสกันเลย เพื่อนเพจว่าไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://kknews.cc/culture/5ab4ezk.html
    http://en.linkeddb.com/movie/59f3095d198c38001385e9ef/
    https://dramapearls.com/2019/03/23/princess-agents-chinese-drama-review-episode-guide/
    https://dramapanda.com/2016/12/character-posters-for-three-lives-three.html
    Credit ข้อมูลจาก:
    https://zhidao.baidu.com/question/539564315.html
    https://www.guwenxuexi.com/classical/21912.html
    https://www.163.com/dy/article/EEQV7LO70544511W.html
    วันนี้คุยกันเรื่องสำนวนจีน พร้อมกับลงรูปรวมฮิตนางร้าย/นางรองในหลายละครจีนที่มีฝีไม้ลายมือประทับใจ Storyฯ เพราะเราจะคุยกันเรื่องวลีที่บรรยายถึงความอกหักรักคุด เป็นวลียอดนิยมในนิยายจีนที่อาจไม่มีการแปลตรงตัวออกมาเป็นบทพูดในละครนัก “ลั่วฮวาโหย่วอี้ หลิวสุ่ยอู๋ฉิง / 落花有意 流水无情” เพื่อนเพจแฟนนิยายจีนอาจเคยอ่านคำแปลหลากหลาย แต่ Storyฯ ขอแปลและเรียบเรียงเองว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจ สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรี” วลีนี้มีความหมายว่าหลงรักเขาข้างเดียว ทอดสะพานให้ก็แล้ว ทำทุกสิ่งอย่างเพื่อเขาก็แล้ว แต่เขายังไม่เหลียวแลไม่เห็นคุณค่า เป็นประโยคที่นิยมใช้ในนิยายจีนมากมาย เพียงหลับตาก็เห็นภาพทิวทัศน์ แต่เพื่อนเพจรู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วมันเป็นเพียงวรรคย่อของบทประพันธ์โดยกวีเอกสมัยราชวงศ์หมิงนามว่าเฝิงเมิ่งหลง (ค.ศ. 1574-1646) โดยมีวรรคเต็มแปลได้ว่า “บุปผาโปรยร่วงด้วยมีใจติดตามวารี สายนทีไหลผ่านไร้ไมตรีเมินรักบุษบา” (落花有意随流水,流水无情恋落花) ด้วยคำบรรยายกล่าวถึงดอกไม้พยายามเข้าหาสายน้ำ ฟังดูได้อารมณ์ฝ่ายหญิงอกหักจากการหลงรักชายฝ่ายเดียว แล้วถ้าเป็นฝ่ายชายหลงรักฝ่ายหญิงแต่ข้างเดียวล่ะ? จริงๆ แล้วใช้วลีนี้ก็ไม่ผิดและใช้กันค่อนข้างแพร่หลาย แต่แฟนนิยายจีนทั้งหลายทราบหรือไม่ว่ายังมีอีกวลีที่มีใจความคล้ายคลึงแต่ฟังดู “แมน” มากกว่า? เป็นวลีจากบทกวีจากสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-1368) โดยกวีเอกเกาหมิง ใจความว่า “อั๋วเปิ่นเจียงซินเซี่ยงหมิงเยวี่ย ไน่เหอหมิงเยวี่ยเจ้าโกวฉวี / 我本将心向明月,奈何明月照沟渠" แปลได้ว่า “เดิมข้าฝากใจใฝ่จันทรา แต่จนใจจันทิราทอแสงส่องคูน้ำ” ความเดิมหมายถึงความรักความใส่ใจของพ่อแม่ที่มีต่อลูกแต่ลูกไม่ใยดี แต่กาลเวลาผ่านไปวลีนี้กลับถูกนำมาใช้ในบทประพันธ์หลากหลายจนกลายเป็นคำบรรยายถึงชายที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อหญิงที่ตนรัก แต่หญิงกลับเพิกเฉยไม่ใส่ใจ แต่ไม่ว่าจะเป็นวลีใด Storyฯ รู้สึกว่า บทกวีจีนโบราณมีความโรแมนติกเพราะมักอาศัยคำบรรยายถึงทิวทัศน์ธรรมชาติอันงดงามมาเปรียบเปรย ทีแรกที่อ่านถึงสองวลีนี้ ก็นึกถึงบทกลอนของบ้านเราที่ว่า “รักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก ต้องนอนกลิ้งนอนเกลือกจนเหงือกแห้ง...” แต่ก็รู้สึกว่าเปรียบเทียบกันตรงๆ ไม่ได้เพราะมันคนละอรรถรสกันเลย เพื่อนเพจว่าไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ) Credit รูปภาพจาก: https://kknews.cc/culture/5ab4ezk.html http://en.linkeddb.com/movie/59f3095d198c38001385e9ef/ https://dramapearls.com/2019/03/23/princess-agents-chinese-drama-review-episode-guide/ https://dramapanda.com/2016/12/character-posters-for-three-lives-three.html Credit ข้อมูลจาก: https://zhidao.baidu.com/question/539564315.html https://www.guwenxuexi.com/classical/21912.html https://www.163.com/dy/article/EEQV7LO70544511W.html
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 325 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..นี้ล่ะจึงสมควรมีครูอย่างน้อย2คนประจำห้องเพื่อป้องกันการกระทำชั่วเลวของครูบางคนต่อเด็ก,เพราะครู2คนจะชั่วเลวพร้อมกันยากกว่า,สมคบคิดกันโทษหนักสองเท่าแน่.
    ..อย่าลืมว่าครูอาจเป็นโรคจิตโรคประสาทง่ายๆเช่นกันหลังรับวัคซีนโควิดmRNAนั้นและครูไม่มีจิตสำนึกรักเด็กแบบศิษย์แบบครูอาจารย์อะไร,บ่อนทำลายการศึกษาไทยหรือมีกระบวนการทำลายการศึกษาของเด็กไทยก็มีมานานเช่นกัน อาทิ ถอดวิชาศีลธรรมจริยธรรมเด็กออก,ถอดวิชาหน้าที่พลเมืองไทยออก.และหรืออื่นๆอีกตรึมโดยเฉพาะความรักชาติไทยตน.



    https://youtube.com/shorts/aApEUp8lvZo?si=9XE5vJiaPF9Vr0GW
    ..นี้ล่ะจึงสมควรมีครูอย่างน้อย2คนประจำห้องเพื่อป้องกันการกระทำชั่วเลวของครูบางคนต่อเด็ก,เพราะครู2คนจะชั่วเลวพร้อมกันยากกว่า,สมคบคิดกันโทษหนักสองเท่าแน่. ..อย่าลืมว่าครูอาจเป็นโรคจิตโรคประสาทง่ายๆเช่นกันหลังรับวัคซีนโควิดmRNAนั้นและครูไม่มีจิตสำนึกรักเด็กแบบศิษย์แบบครูอาจารย์อะไร,บ่อนทำลายการศึกษาไทยหรือมีกระบวนการทำลายการศึกษาของเด็กไทยก็มีมานานเช่นกัน อาทิ ถอดวิชาศีลธรรมจริยธรรมเด็กออก,ถอดวิชาหน้าที่พลเมืองไทยออก.และหรืออื่นๆอีกตรึมโดยเฉพาะความรักชาติไทยตน. https://youtube.com/shorts/aApEUp8lvZo?si=9XE5vJiaPF9Vr0GW
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วพูดถึงปิ่นปักมงกฎครอบผมของนักพรตเต๋า Storyฯ เลยนึกขึ้นได้ว่าในภาษาจีนมีชื่อเรียกปิ่นสามแบบหลักด้วยกันคือ ‘จ๊าน’ (簪) ‘ไช้’ (钗) และ ‘ปู้เหยา’(步摇) ไม่แน่ใจว่าในนิยายจีนแปลไทยจะมีจำแนกประเภทตามนี้ด้วยหรือไม่ แต่ในละครแปลไทยเราจะได้ยินการเรียกทั้งสามชนิดว่า ปิ่น ปิ่น และปิ่น

    วันนี้เลยมาเล่าให้เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนฟังคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างปิ่นสามแบบนี้ ซึ่งทั้งสามแบบมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ถัง

    ปิ่นที่เห็นส่วนใหญ่เป็นปิ่นก้านเดียว ซึ่งปิ่นลักษณะนี้เรียกว่า ‘จ๊าน’ เดิมเรียกว่า ‘จี’ (笄) อันเป็นที่มาของคำว่า ‘จีหลี่’ ซึ่งก็คือพิธีปักปิ่นของสตรีเมื่ออายุครบสิบห้า เป็นสัญลักษณ์ว่านางโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนแล้ว ซึ่งปิ่นจ๊านเป็นปิ่นหลักที่ใช้ยึดมวยผมให้เข้าที่ (แบบที่เห็นนางเอกปิ่นหลุดที ผมก็สยายให้พระเอกตะลึงมองดั่งต้องมนต์) สำหรับผู้ชายจะมีแต่ปิ่นจ๊านอย่างเดียวเท่านั้น

    ‘ไช้’ เป็นปิ่นที่มีสองก้าน (ดูในรูปกลาง) พัฒนามาจากปิ่นจ๊าน แต่จะเห็นว่าก้านสั้นกว่าปิ่นจ๊านมาก เอาไว้ใช้ติดประดับเพิ่มเติม หรือบางทีก้านเล็กละเอียด เอาไว้ช่วยยึดทรงผมที่ซับซ้อนหรือยึดหมวก (คล้ายๆ กิ๊บผมแบบเสียบที่เราใช้กันในปัจจุบัน) เป็นปิ่นที่มีแต่สตรีใช้เท่านั้น

    ส่วน ‘ปู้เหยา’ นั้น แปลตรงตัวว่า ก้าวเดิน + แกว่งไสว ซึ่งก็คือปิ่นที่มีอะไรห้อยตุ้งติ้งหรือเป็นระย้านั่นเอง อาจเป็นแบบก้านเดียวหรือสองก้านก็ได้ มีการบรรยายแฟชั่นจีนโบราณตามค่านิยมไว้ว่า สุภาพสตรียามก้าวย่างชดช้อย มีระย้าปิ่นปู้เหยาแกว่งไกวดึงดูดสายตา ส่วนสุภาพบุรุษยามก้าวย่างเนิบนาบ มีชายพู่ยาวของหยกห้อยเอวแกว่งไกว

    แล้วนัยของการมอบปิ่นล่ะ มีความหมายแตกต่างกันหรือไม่?

    เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยอ่านเจอว่า ฝ่ายหญิงเอาปิ่นของตัวเองหักเป็นครึ่ง ครึ่งหนึ่งให้ฝ่ายชายเก็บไว้ดูต่างหน้ายามต้องร้างลาจากกันไปไกล อีกครึ่งหนึ่งฝ่ายหญิงเก็บไว้เอง ซึ่งการเอาปิ่นมาหักครึ่งมันจะต้องเป็นปิ่นไช้เท่านั้น การหักครึ่งคือหักเหลือข้างละหนึ่งก้านแยกกันเก็บ เป็นนัยว่าปิ่นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง (ไม่ใช่หักก้านเหลือครึ่งท่อน อย่างนั้นความหมายไม่ดี เป็นการแตกหัก)

    ซึ่งกรณีการมอบปิ่นไช้ในลักษณะข้างต้นนั้น เป็นการให้กันระหว่างคู่รักหรือสามีภรรยา และเป็นกรณีเดียวที่การมอบปิ่นไช้เป็นการสื่อถึงความรัก (แต่มันก็จะเศร้าๆ เพราะเป็นการให้ยามต้องพรากจากกัน)

    แต่หากยังไม่ได้เป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน การมอบปิ่นจ๊านระหว่างชายหญิงไม่ได้ให้กันทั่วไป แต่เป็นการบอกรัก เป็นนัยว่าฉันต้องการแต่งงานกับเธอนะ (เป็นที่มาว่าทำไมในละครหลายเรื่องที่นางเอกยังเด็กไม่ประสีประสา ได้รับปิ่นมาไม่คิดอะไร แต่คนรอบข้างรู้หมดว่าฝ่ายชายบอกรัก) ฝ่ายที่ได้รับปิ่นจ๊านแล้ว หากนำมาเสียบใช้ ก็แสดงว่าเธอ/เขาพึงพอใจอีกฝ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ตอนหมั้นหมายกัน ฝ่ายหญิงอาจให้ปิ่นจ๊านเป็นของแทนใจ เมื่อเข้าหอแล้วเจ้าบ่าวจึงจะนำมาคืนให้เจ้าสาว

    เพื่อนเพจท่านใดที่ยังจำได้ถึงฉากใดในละครหรือหนังสือที่มีการมอบปิ่น ปักปิ่น หักปิ่น ที่ดูจะสื่อความหมายลึกซึ้ง มาเม้นท์แชร์กันได้เลยค่ะ Storyฯ นึกขึ้นได้หลายเรื่องเลย

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.tspweb.com/key/清朝花钿头饰.html
    https://www.chinadaily.com.cn/entertainment/2013-06/25/content_16655730_3.htm
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://m.bala.iask.sina.com.cn/p/302GbyenIWN
    https://www.kpfans.com/article/dVWMM3wpW1.html
    https://www.chinafetching.com/tradition-of-china-hair-ornament

    #ปิ่นปักผมจีน #เครื่องประดับจีน #การแต่งกายจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    สัปดาห์ที่แล้วพูดถึงปิ่นปักมงกฎครอบผมของนักพรตเต๋า Storyฯ เลยนึกขึ้นได้ว่าในภาษาจีนมีชื่อเรียกปิ่นสามแบบหลักด้วยกันคือ ‘จ๊าน’ (簪) ‘ไช้’ (钗) และ ‘ปู้เหยา’(步摇) ไม่แน่ใจว่าในนิยายจีนแปลไทยจะมีจำแนกประเภทตามนี้ด้วยหรือไม่ แต่ในละครแปลไทยเราจะได้ยินการเรียกทั้งสามชนิดว่า ปิ่น ปิ่น และปิ่น วันนี้เลยมาเล่าให้เพื่อนเพจที่ไม่ทราบภาษาจีนฟังคร่าวๆ ถึงความแตกต่างระหว่างปิ่นสามแบบนี้ ซึ่งทั้งสามแบบมีมาตั้งแต่ก่อนสมัยราชวงศ์ถัง ปิ่นที่เห็นส่วนใหญ่เป็นปิ่นก้านเดียว ซึ่งปิ่นลักษณะนี้เรียกว่า ‘จ๊าน’ เดิมเรียกว่า ‘จี’ (笄) อันเป็นที่มาของคำว่า ‘จีหลี่’ ซึ่งก็คือพิธีปักปิ่นของสตรีเมื่ออายุครบสิบห้า เป็นสัญลักษณ์ว่านางโตเป็นผู้ใหญ่พร้อมที่จะแต่งงานออกเรือนแล้ว ซึ่งปิ่นจ๊านเป็นปิ่นหลักที่ใช้ยึดมวยผมให้เข้าที่ (แบบที่เห็นนางเอกปิ่นหลุดที ผมก็สยายให้พระเอกตะลึงมองดั่งต้องมนต์) สำหรับผู้ชายจะมีแต่ปิ่นจ๊านอย่างเดียวเท่านั้น ‘ไช้’ เป็นปิ่นที่มีสองก้าน (ดูในรูปกลาง) พัฒนามาจากปิ่นจ๊าน แต่จะเห็นว่าก้านสั้นกว่าปิ่นจ๊านมาก เอาไว้ใช้ติดประดับเพิ่มเติม หรือบางทีก้านเล็กละเอียด เอาไว้ช่วยยึดทรงผมที่ซับซ้อนหรือยึดหมวก (คล้ายๆ กิ๊บผมแบบเสียบที่เราใช้กันในปัจจุบัน) เป็นปิ่นที่มีแต่สตรีใช้เท่านั้น ส่วน ‘ปู้เหยา’ นั้น แปลตรงตัวว่า ก้าวเดิน + แกว่งไสว ซึ่งก็คือปิ่นที่มีอะไรห้อยตุ้งติ้งหรือเป็นระย้านั่นเอง อาจเป็นแบบก้านเดียวหรือสองก้านก็ได้ มีการบรรยายแฟชั่นจีนโบราณตามค่านิยมไว้ว่า สุภาพสตรียามก้าวย่างชดช้อย มีระย้าปิ่นปู้เหยาแกว่งไกวดึงดูดสายตา ส่วนสุภาพบุรุษยามก้าวย่างเนิบนาบ มีชายพู่ยาวของหยกห้อยเอวแกว่งไกว แล้วนัยของการมอบปิ่นล่ะ มีความหมายแตกต่างกันหรือไม่? เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยอ่านเจอว่า ฝ่ายหญิงเอาปิ่นของตัวเองหักเป็นครึ่ง ครึ่งหนึ่งให้ฝ่ายชายเก็บไว้ดูต่างหน้ายามต้องร้างลาจากกันไปไกล อีกครึ่งหนึ่งฝ่ายหญิงเก็บไว้เอง ซึ่งการเอาปิ่นมาหักครึ่งมันจะต้องเป็นปิ่นไช้เท่านั้น การหักครึ่งคือหักเหลือข้างละหนึ่งก้านแยกกันเก็บ เป็นนัยว่าปิ่นจะสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อได้กลับมาพบเจอกันอีกครั้ง (ไม่ใช่หักก้านเหลือครึ่งท่อน อย่างนั้นความหมายไม่ดี เป็นการแตกหัก) ซึ่งกรณีการมอบปิ่นไช้ในลักษณะข้างต้นนั้น เป็นการให้กันระหว่างคู่รักหรือสามีภรรยา และเป็นกรณีเดียวที่การมอบปิ่นไช้เป็นการสื่อถึงความรัก (แต่มันก็จะเศร้าๆ เพราะเป็นการให้ยามต้องพรากจากกัน) แต่หากยังไม่ได้เป็นคู่รักหรือสามีภรรยากัน การมอบปิ่นจ๊านระหว่างชายหญิงไม่ได้ให้กันทั่วไป แต่เป็นการบอกรัก เป็นนัยว่าฉันต้องการแต่งงานกับเธอนะ (เป็นที่มาว่าทำไมในละครหลายเรื่องที่นางเอกยังเด็กไม่ประสีประสา ได้รับปิ่นมาไม่คิดอะไร แต่คนรอบข้างรู้หมดว่าฝ่ายชายบอกรัก) ฝ่ายที่ได้รับปิ่นจ๊านแล้ว หากนำมาเสียบใช้ ก็แสดงว่าเธอ/เขาพึงพอใจอีกฝ่ายเช่นกัน นอกจากนี้ ตอนหมั้นหมายกัน ฝ่ายหญิงอาจให้ปิ่นจ๊านเป็นของแทนใจ เมื่อเข้าหอแล้วเจ้าบ่าวจึงจะนำมาคืนให้เจ้าสาว เพื่อนเพจท่านใดที่ยังจำได้ถึงฉากใดในละครหรือหนังสือที่มีการมอบปิ่น ปักปิ่น หักปิ่น ที่ดูจะสื่อความหมายลึกซึ้ง มาเม้นท์แชร์กันได้เลยค่ะ Storyฯ นึกขึ้นได้หลายเรื่องเลย (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.tspweb.com/key/清朝花钿头饰.html https://www.chinadaily.com.cn/entertainment/2013-06/25/content_16655730_3.htm Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://m.bala.iask.sina.com.cn/p/302GbyenIWN https://www.kpfans.com/article/dVWMM3wpW1.html https://www.chinafetching.com/tradition-of-china-hair-ornament #ปิ่นปักผมจีน #เครื่องประดับจีน #การแต่งกายจีนโบราณ #วัฒนธรรมจีนโบราณ StoryfromStory
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 432 มุมมอง 0 รีวิว
  • พร้อมหรือยัง? ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและความเข้าใจ... ไพ่พรหมญาณไม่ใช่แค่การทำนาย แต่เป็นการเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งโอกาสและอุปสรรค!

    ไพ่ตัวแทนทั้ง 12 ตำแหน่ง เล่าถึงเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในดวงชะตาของคุณ!

    วาสนา: รู้ชะตาชีวิต... เตรียมรับโชคและระวังภัย!
    o ไพ่วาสนาเผยเส้นทางชีวิตของคุณ! ด้านดี: จะนำทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงอุปสรรคที่อาจขัดขวาง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไข!

    ทรัพย์สิน: ร่ำรวยชาญฉลาด... อย่าประมาทในการลงทุน!
    o เปิดประตูสู่ความมั่งคั่ง! ด้านดี: ชี้ช่องทางสู่โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ การลงทุนที่ชาญฉลาด! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพื่อให้คุณรอบคอบในการบริหารจัดการเงินทอง!

    บ้านช่อง: สวรรค์ในบ้าน... อย่าปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์!
    o สร้างความสุขในครอบครัว! ด้านดี: เสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความห่างเหินที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้!

    ญาติมิตร: เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... อย่าไว้ใจคนผิด!
    o เครือข่ายที่แข็งแกร่ง! ด้านดี: ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนแท้และพันธมิตร! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงคนที่อาจเข้ามาหลอกลวง หรือทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อให้คุณเลือกคบคนอย่างระมัดระวัง!

    บุตรบริวาร: บริหารคนอย่างเข้าใจ... อย่าละเลยการดูแล!
    o ทีมงานที่แข็งแกร่ง! ด้านดี: ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากลูกน้อง! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น การขาดความสามัคคี เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลและสร้างความเข้าใจในทีม!

    ศัตรู: รู้เขารู้เรา... อย่าประมาทคู่แข่ง!
    o เตรียมพร้อมรับมืออุปสรรค! ด้านดี: รู้ทันกลอุบายของศัตรู! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงภัยที่มองไม่เห็น การถูกแทงข้างหลัง เพื่อให้คุณป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงปัญหา!

    คู่ครอง: รักแท้ต้องดูแล... อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์จืดจาง!
    o สร้างรักที่ยั่งยืน! ด้านดี: มีความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความห่างเหิน เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลความสัมพันธ์และเติมความรักให้กันเสมอ!

    โรคภัย: ดูแลสุขภาพ... อย่าละเลยสัญญาณเตือน!
    o สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญ! ด้านดี: ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงต่อโรคภัย การเจ็บป่วย เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลสุขภาพและป้องกันไว้ก่อน!

    ความสุข: เติมเต็มชีวิต... อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ!
    o ค้นพบความสุขที่แท้จริง! ด้านดี: มีความสงบ ความพึงพอใจ ความรัก! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อให้คุณมองโลกในแง่ดีและหาความสุขจากสิ่งรอบตัว!

    การงาน: สร้างความสุขในที่ทำงาน... อย่าปล่อยให้ความเครียดครอบงำ!
    o รักงานที่ทำ! ด้านดี: พบความสำเร็จและความพึงพอใจในอาชีพ! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเครียด ความกดดัน ความขัดแย้ง เพื่อให้คุณหาทางผ่อนคลายและรักษาสมดุลในชีวิต!

    ลาภยศ: โอกาสมาแล้ว... อย่าปล่อยให้หลุดมือ!
    o ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน! ด้านดี: ได้รับโอกาสในการเติบโต ชื่อเสียง และการยอมรับ! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ!

    ไพ่สรุป: ภาพรวมชีวิต... ทั้งดีและร้าย!
    o ไขรหัสชีวิตของคุณ! ไพ่สรุปจะรวบรวมทุกข้อมูล! ด้านดี: ชี้ให้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่รออยู่! ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม!

    พร้อมหรือยังที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ชีวิต? มาดูดวงกับเรา! เราพร้อมให้คำปรึกษาและนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จและความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิต! ติดต่อเราเลย! ส่งข้อความมาได้เลย!
    พร้อมหรือยัง? ที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งปัญญาและความเข้าใจ... ไพ่พรหมญาณไม่ใช่แค่การทำนาย แต่เป็นการเปิดเผยความจริงที่ซ่อนอยู่ 🔑 เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือกับทุกสิ่งที่กำลังจะมาถึง ทั้งโอกาสและอุปสรรค! 🎁 ไพ่ตัวแทนทั้ง 12 ตำแหน่ง เล่าถึงเรื่องราวที่อาจจะเกิดขึ้นในดวงชะตาของคุณ! 🔮 วาสนา: รู้ชะตาชีวิต... เตรียมรับโชคและระวังภัย! 🍀 o ไพ่วาสนาเผยเส้นทางชีวิตของคุณ! ด้านดี: จะนำทางสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ 🏆 โอกาสที่คุณไม่ควรพลาด! ✨ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงอุปสรรคที่อาจขัดขวาง เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมรับมือและแก้ไข! 🚧 ทรัพย์สิน: ร่ำรวยชาญฉลาด... อย่าประมาทในการลงทุน! 💰 o เปิดประตูสู่ความมั่งคั่ง! 🗝️ ด้านดี: ชี้ช่องทางสู่โอกาสทางการเงินที่น่าสนใจ การลงทุนที่ชาญฉลาด! 📈 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น การตัดสินใจที่ผิดพลาด เพื่อให้คุณรอบคอบในการบริหารจัดการเงินทอง! ⚠️ บ้านช่อง: สวรรค์ในบ้าน... อย่าปล่อยปละละเลยความสัมพันธ์! 🏡 o สร้างความสุขในครอบครัว! 🥰 ด้านดี: เสริมสร้างความรัก ความเข้าใจ ความอบอุ่น! ❤️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น ความห่างเหินที่ต้องแก้ไข เพื่อให้คุณรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้! 🫂 ญาติมิตร: เพื่อนดีมีชัยไปกว่าครึ่ง... อย่าไว้ใจคนผิด! 🤝 o เครือข่ายที่แข็งแกร่ง! 💪 ด้านดี: ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนแท้และพันธมิตร! 🤗 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงคนที่อาจเข้ามาหลอกลวง หรือทำให้คุณเดือดร้อน เพื่อให้คุณเลือกคบคนอย่างระมัดระวัง! 🙅‍♀️ บุตรบริวาร: บริหารคนอย่างเข้าใจ... อย่าละเลยการดูแล! 👨‍👩‍👧‍👦 o ทีมงานที่แข็งแกร่ง! 🧑‍🤝‍🧑 ด้านดี: ได้รับความร่วมมือและสนับสนุนจากลูกน้อง! 🙌 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้งที่อาจเกิดขึ้น การขาดความสามัคคี เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลและสร้างความเข้าใจในทีม! 🗣️ ศัตรู: รู้เขารู้เรา... อย่าประมาทคู่แข่ง! 😈 o เตรียมพร้อมรับมืออุปสรรค! 🛡️ ด้านดี: รู้ทันกลอุบายของศัตรู! 🕵️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงภัยที่มองไม่เห็น การถูกแทงข้างหลัง เพื่อให้คุณป้องกันตัวเองและหลีกเลี่ยงปัญหา! 🔪 คู่ครอง: รักแท้ต้องดูแล... อย่าปล่อยให้ความสัมพันธ์จืดจาง! 💖 o สร้างรักที่ยั่งยืน! ♾️ ด้านดี: มีความรัก ความเข้าใจ ความผูกพัน! 🥰 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจ ความห่างเหิน เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลความสัมพันธ์และเติมความรักให้กันเสมอ! 💔 โรคภัย: ดูแลสุขภาพ... อย่าละเลยสัญญาณเตือน! 🩺 o สุขภาพดีคือสิ่งสำคัญ! 💪 ด้านดี: ร่างกายแข็งแรง จิตใจแจ่มใส! ☀️ ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเสี่ยงต่อโรคภัย การเจ็บป่วย เพื่อให้คุณใส่ใจดูแลสุขภาพและป้องกันไว้ก่อน! 🤕 ความสุข: เติมเต็มชีวิต... อย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆ น้อยๆ! 😄 o ค้นพบความสุขที่แท้จริง! 😇 ด้านดี: มีความสงบ ความพึงพอใจ ความรัก! 💕 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความทุกข์ ความเศร้า ความผิดหวัง เพื่อให้คุณมองโลกในแง่ดีและหาความสุขจากสิ่งรอบตัว! 😔 การงาน: สร้างความสุขในที่ทำงาน... อย่าปล่อยให้ความเครียดครอบงำ! 🏢 o รักงานที่ทำ! 🥰 ด้านดี: พบความสำเร็จและความพึงพอใจในอาชีพ! 🏆 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความเครียด ความกดดัน ความขัดแย้ง เพื่อให้คุณหาทางผ่อนคลายและรักษาสมดุลในชีวิต! 😩 ลาภยศ: โอกาสมาแล้ว... อย่าปล่อยให้หลุดมือ! 👑 o ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน! 🚀 ด้านดี: ได้รับโอกาสในการเติบโต ชื่อเสียง และการยอมรับ! 👍 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงความท้าทายที่ต้องเผชิญ การแข่งขันที่สูงขึ้น เพื่อให้คุณเตรียมพร้อมและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ! 🏋️ ไพ่สรุป: ภาพรวมชีวิต... ทั้งดีและร้าย! 🖼️ o ไขรหัสชีวิตของคุณ! 🧩 ไพ่สรุปจะรวบรวมทุกข้อมูล! ด้านดี: ชี้ให้เห็นโอกาสและความสำเร็จที่รออยู่! 🌟 ด้านที่ต้องระวัง: เตือนถึงปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เพื่อให้คุณวางแผนรับมือได้อย่างเหมาะสม! 💡 🌟 พร้อมหรือยังที่จะเปิดมุมมองใหม่ๆ ให้ชีวิต? มาดูดวงกับเรา! 🔮 เราพร้อมให้คำปรึกษาและนำทางคุณไปสู่ความสำเร็จและความสุขในทุกๆ ด้านของชีวิต! ✨ ติดต่อเราเลย! ส่งข้อความมาได้เลย! ✉️
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 402 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง

    บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต
    แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว

    เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว
    แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล

    1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ
    เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย
    ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้

    2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง
    ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี
    ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต
    เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้”

    3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต
    บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย
    แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้
    บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง”

    4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง
    เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ”
    ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต
    ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน

    5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม
    คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้”
    แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน”
    ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน

    6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก”
    คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า
    สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์”
    ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด
    บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว

    7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง
    ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก
    แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต
    ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ

    8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม
    ยังไม่ได้รัก
    ยังไม่ได้ขอโทษ
    ยังไม่ได้ให้อภัย
    ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง
    เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป

    9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย
    เงินแค่เครื่องมือ
    แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต
    ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า…
    "เราตื่นมาเพื่ออะไร"

    ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง
    อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ
    ลองหยุดเพื่อทบทวน
    และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป

    #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้
    #ธรรมะเข้าใจง่าย
    #บทเรียนจากความตาย
    #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก
    #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    ⚫️ 9 บทเรียนจาก “ความตาย” ที่เปลี่ยนชีวิตได้จริง บางคนต้อง “ตายจริง” ถึงจะเข้าใจชีวิต แต่บางคนแค่ “กล้าฟัง” ก็เริ่มเปลี่ยนได้แล้ว เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่คือบทเรียนที่อาจเปลี่ยน “วิธีอยู่” ของคุณไปตลอดกาล 1. ความตายไม่ใช่จุดจบ...แค่เปลี่ยนสถานะ เหมือนเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ใช่การสูญหาย ชีวิตหลังตายยังมีอยู่ เพียงแค่ไม่ใช่ในร่างนี้ 2. เราไม่ได้ถูกส่งมา...เราเลือกมาเอง ทุกข์ที่เจอ พ่อแม่ที่ได้ บาดแผลที่เคยมี ล้วนเป็น “บทเรียนที่วิญญาณเลือก” เพื่อเติบโต เพราะ “วิญญาณไม่ได้เกิดมาเพื่อสบาย แต่มาเพื่อเรียนรู้” 3. โรคบางโรค...มาจากความรู้สึกในอดีต บางคนเจ็บป่วยเพราะใจไม่เคยหาย แผลที่ไม่เยียวยาในชาติก่อน กลายเป็นความป่วยในชาตินี้ บางที...สิ่งที่เราต้องรักษา อาจไม่ใช่ร่างกาย แต่คือ “ใจที่ให้อภัยตัวเอง” 4. คนที่ทำให้เจ็บ...อาจคือคนที่เคยรักที่สุดในอีกภพหนึ่ง เขาอาจคือ “คู่สัญญาทางวิญญาณ” ที่ตกลงกันไว้ว่า เราจะเจ็บ เพื่อเราจะโต ไม่ใช่ทุกความเจ็บที่ไร้ค่า ถ้าเรามองเห็นบทเรียน 5. ทุกเรื่องในชีวิต...ไม่เคยเกิดแบบสุ่ม คนที่มาเจอ เหตุการณ์ที่เจอ ล้วนเป็น “แผนการเรียนรู้” แทนที่จะถามว่า “ทำไมต้องเกิดกับฉัน” ลองถามว่า “ฉันควรเรียนรู้อะไรจากมัน” แทน 6. โลกหลังความตาย...ไม่มีอะไรนอกจาก “ความรัก” คนที่ผ่านประสบการณ์เฉียดตายบอกตรงกันว่า สิ่งที่ชัดที่สุด คือ “ความรักบริสุทธิ์” ไม่มีโกรธ ไม่มีเกลียด บางทีเราอาจเริ่มใช้ “คุณภาพของโลกหน้า” มาเติมเต็มโลกนี้ได้แล้ว 7. การให้อภัย...คือการปลดปล่อยจิตตัวเอง ไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายถูก แต่เพราะเราพอแล้วกับการจองจำตัวเองไว้กับอดีต ถ้าไม่ให้อภัย เราจะต้องแบก “ปม” ไปข้ามภพข้ามชาติ 8. คนที่กลัวตาย...มักเป็นคนที่ยังไม่ได้ใช้ชีวิตให้คุ้ม ยังไม่ได้รัก ยังไม่ได้ขอโทษ ยังไม่ได้ให้อภัย ยังไม่ได้เป็นตัวเองอย่างแท้จริง เมื่อเรา “ใช้ชีวิตจนเต็ม” ความตายจะไม่น่ากลัวอีกต่อไป 9. เราไม่ได้เกิดมาเพื่อหาเงิน...แต่เพื่อหาความหมาย เงินแค่เครื่องมือ แต่สิ่งที่วิญญาณตามหา คือ “ความหมาย” ของการมีชีวิต ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่เราตื่นขึ้นมาทุกวันแล้วรู้ว่า… "เราตื่นมาเพื่ออะไร" 🖤 ถ้าโพสต์นี้ทำให้คุณรู้สึกบางอย่าง อย่าเพิ่งเลื่อนผ่านแบบเดิม ๆ ลองหยุดเพื่อทบทวน และ “เลือกอยู่” อย่างคนที่เข้าใจการจากไป #อ่านไปเรื่อยๆสรุปให้ #ธรรมะเข้าใจง่าย #บทเรียนจากความตาย #อยู่ให้คุ้มก่อนจาก #โพสต์ธรรมะแบบมีชีวิต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 277 มุมมอง 0 รีวิว
  • ความมีอยู่ว่า
    ...กว่าโจวเซิงเฉินจะกลับมาถึง สองผนังของหออักษรก็ถูกนางเขียนจนเต็ม... โจวเซิงเฉินเดินหาทั่วจวนหวาง จนกระทั่งเดินถึงชั้นบนของหออักษร จึงเห็นดรุณีที่ก่อนหน้านี้ยกน้ำชาอย่างเรียบร้อยเพื่อกราบตนเป็นอาจารย์ บัดนี้กลับเขียนบท “ซ่างหลินฟู่” ของซือหม่าเซียงหรูอยู่บนผนัง
    ชัดเจนต่อเนื่อง ไม่ตกหล่นแม้เพียงอักษรเดียว
    เพียงแต่ชะงักหยุดตรงวรรคที่เกี่ยวกับความรักหญิงชาย: คิ้วยาวเรียวงาม เบาบางดุจฝ้าย...
    ...เขายิ้มเอ่ย “วรรคต่อคือ: นัยน์ตาสื่อรัก ใจประสานใจ”...
    - จากเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า
    (หมายเหตุ บทความ Storyฯ แปลเอง ยกเว้นวรรคสุดท้ายยกมาจากซับไทยในละครจ้า)

    เพื่อนเพจที่ได้ดูละคร/อ่านนิยาย <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> จะคุ้นตากับบทประพันธ์ชื่อว่า “ซ่างหลินฟู่” ที่ดูจะมีบทบาทช่วยเดินเรื่อง เคยมีคนเขียนเกี่ยวกับบทประพันธ์นี้ไปบ้างแล้ว แต่ Storyฯ ยังหวังว่าบทความนี้จะให้ความรู้ได้ในอีกแง่มุม

    “ซ่างหลินฟู่” (上林赋) เป็นบทประพันธ์โดยซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่”

    “ซ่างหลินฟู่” เป็นหนึ่งในสองวรรณกรรมที่ถูกยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของซือหม่าเซียงหรูและเป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษามาตลอดทุกยุคสมัย ตั้งแต่ฮั่น ผ่านถัง ซ่ง หมิง ฯลฯ จวบจนปัจจุบัน จัดเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่อ่านยากที่สุดของจีน ยาวประมาณสี่พันอักษร (ภาพประกอบเป็นฉบับแปลเป็นภาษาปัจจุบันแล้ว)

    ทีแรก Storyฯ เข้าใจจากเนื้อเรื่องละครว่า “ซ่างหลินฟู่” คงเป็นกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ

    “ซ่างหลินฟู่” เป็นเรื่องราวประพาสล่าสัตว์ของฮ่องเต้และบรรยายถึงความอลังการของอุทยานซ่างหลิน (ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนครฉางอัน) เล่าผ่านเรื่องราวและตัวละครที่ไม่มีตัวตนจริงเช่น กษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ เป็นบทความที่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงขอและซือหม่าเซียงหรูใช้เวลา 10 ปีกว่าจะนำบทประพันธ์นี้ถวาย

    เพราะอะไรจึงเป็นบทประพันธ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษา? Storyฯ สรุปสั้นๆ ได้ดังนี้ค่ะ
    1. รูปแบบ - “ฟู่” เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ ซ่างหลินฟู่เป็นต้นแบบของวรรณกรรมจีนโบราณที่โด่งดังอีกหลายบทในรูปแบบ “ฟู่” นี้
    2. ภาษา - ดีกรีความ ‘เข้มข้น’ สูงมาก ไพเราะสละสลวย วรรคสั้นแต่มีนัยแฝงลึกซึ้ง ใช้คำที่แปลก (คำหลายคำไม่มีในพจนานุกรมจีนปัจจุบันแล้ว) Storyฯ เห็นในเพจต่างๆ ต้องมีการตีความและอธิบายความหมายจากจีนเป็นจีนเกือบทุกวรรค (วรรคละ3-4 อักษร) เพื่อนๆ ลองนึกภาพเอาแล้วกันว่ายากแค่ไหน
    3. สาระ - สอดแทรกปรัชญาและคุณธรรมการปกครองบ้านเมืองผ่านบทสนทนาโต้ตอบกันของตัวละครในเรื่อง ชนรุ่นหลังถึงกับมีคนวิเคราะห์ว่าเป็นการเสียดสีการปกครองในเวลานั้นหรือไม่

    ประโยคที่กล่าวถึงความรักลึกซึ้งในข้อความที่ยกมาจากนิยายนั้น จริงๆ แล้วเป็นวรรคที่ยกมาจากตอนที่กล่าวเตือนใจให้ผู้ที่ปกครองบ้านเมืองอย่ามัวเมาในเรื่องของหญิงชายจนลืมกิจการบ้านเมือง (ขออภัยหากข้อมูลนี้ทำให้ลดทอนความโรแมนติคของละคร/นิยายเรื่องนี้ไป)

    ทำให้ Storyฯ อดรู้สึกไม่ได้ว่า ละครเรื่องนี้ไม่เพียงเล่าถึงความรักลึกซึ้งระหว่างพระนาง แต่ยังสอดแทรกความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อประเทศชาติที่สะท้อนผ่านปรัชญาชีวิตของตัวละครเอกโจวเซิงเฉิน เพื่อนเพจที่เคยดู/อ่านเรื่องนี้ คิดเหมือนกันบ้างไหม?

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก:
    https://www.163.com/dy/article/GIB87TR80524M8IF.html
    https://m.cngwzj.com/gushitp/LiangHan/68357/
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.jianshu.com/p/4437a2086012
    https://www.liuxue86.com/a/3552681.html
    https://www.kekeshici.com/shiciwenzhang/shicirumen/2093.html

    #ทุกชาติภพกระดูกงดงาม #สืออี๋ #โจวเซินเฉิน #กวีจีน #ซ่างหลินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู
    ความมีอยู่ว่า ...กว่าโจวเซิงเฉินจะกลับมาถึง สองผนังของหออักษรก็ถูกนางเขียนจนเต็ม... โจวเซิงเฉินเดินหาทั่วจวนหวาง จนกระทั่งเดินถึงชั้นบนของหออักษร จึงเห็นดรุณีที่ก่อนหน้านี้ยกน้ำชาอย่างเรียบร้อยเพื่อกราบตนเป็นอาจารย์ บัดนี้กลับเขียนบท “ซ่างหลินฟู่” ของซือหม่าเซียงหรูอยู่บนผนัง ชัดเจนต่อเนื่อง ไม่ตกหล่นแม้เพียงอักษรเดียว เพียงแต่ชะงักหยุดตรงวรรคที่เกี่ยวกับความรักหญิงชาย: คิ้วยาวเรียวงาม เบาบางดุจฝ้าย... ...เขายิ้มเอ่ย “วรรคต่อคือ: นัยน์ตาสื่อรัก ใจประสานใจ”... - จากเรื่อง <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> ผู้แต่ง โม่เป่าเฟยเป่า (หมายเหตุ บทความ Storyฯ แปลเอง ยกเว้นวรรคสุดท้ายยกมาจากซับไทยในละครจ้า) เพื่อนเพจที่ได้ดูละคร/อ่านนิยาย <ทุกชาติภพ กระดูกงดงาม> จะคุ้นตากับบทประพันธ์ชื่อว่า “ซ่างหลินฟู่” ที่ดูจะมีบทบาทช่วยเดินเรื่อง เคยมีคนเขียนเกี่ยวกับบทประพันธ์นี้ไปบ้างแล้ว แต่ Storyฯ ยังหวังว่าบทความนี้จะให้ความรู้ได้ในอีกแง่มุม “ซ่างหลินฟู่” (上林赋) เป็นบทประพันธ์โดยซือหม่าเซียงหรู (779 – 117 ปีก่อนคริสตกาล) ศิลปินเอกในยุคสมัยองค์ฮั่นอู่ตี้แห่งราชวงศ์ฮั่น ที่เรียกเขาว่า ‘ศิลปิน’ เพราะเชี่ยวชาญทั้งด้านอักษรและการดนตรี เพื่อนเพจบางท่านอาจเคยได้ยินชื่อของเขาจากเรื่องราวเกี่ยวกับเพลงพิณ “หงส์ตามหาคู่” “ซ่างหลินฟู่” เป็นหนึ่งในสองวรรณกรรมที่ถูกยกย่องว่าเป็น ‘ที่สุด’ ของซือหม่าเซียงหรูและเป็นหนึ่งในบทประพันธ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษามาตลอดทุกยุคสมัย ตั้งแต่ฮั่น ผ่านถัง ซ่ง หมิง ฯลฯ จวบจนปัจจุบัน จัดเป็นหนึ่งในวรรณกรรมที่อ่านยากที่สุดของจีน ยาวประมาณสี่พันอักษร (ภาพประกอบเป็นฉบับแปลเป็นภาษาปัจจุบันแล้ว) ทีแรก Storyฯ เข้าใจจากเนื้อเรื่องละครว่า “ซ่างหลินฟู่” คงเป็นกลอนรัก แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ค่ะ “ซ่างหลินฟู่” เป็นเรื่องราวประพาสล่าสัตว์ของฮ่องเต้และบรรยายถึงความอลังการของอุทยานซ่างหลิน (ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของนครฉางอัน) เล่าผ่านเรื่องราวและตัวละครที่ไม่มีตัวตนจริงเช่น กษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ เป็นบทความที่องค์ฮั่นอู่ตี้ทรงขอและซือหม่าเซียงหรูใช้เวลา 10 ปีกว่าจะนำบทประพันธ์นี้ถวาย เพราะอะไรจึงเป็นบทประพันธ์ที่มีคุณค่าทางการศึกษา? Storyฯ สรุปสั้นๆ ได้ดังนี้ค่ะ 1. รูปแบบ - “ฟู่” เป็นวรรณกรรมซึ่งไม่มีรูปแบบตายตัวเหมือนโคลงกลอน ลักษณะเหมือนการเขียนเรื่องสั้น หากแต่ภาษาสวยงามผสมผสานคำคล้องจองลงไปเป็นช่วงๆ ซ่างหลินฟู่เป็นต้นแบบของวรรณกรรมจีนโบราณที่โด่งดังอีกหลายบทในรูปแบบ “ฟู่” นี้ 2. ภาษา - ดีกรีความ ‘เข้มข้น’ สูงมาก ไพเราะสละสลวย วรรคสั้นแต่มีนัยแฝงลึกซึ้ง ใช้คำที่แปลก (คำหลายคำไม่มีในพจนานุกรมจีนปัจจุบันแล้ว) Storyฯ เห็นในเพจต่างๆ ต้องมีการตีความและอธิบายความหมายจากจีนเป็นจีนเกือบทุกวรรค (วรรคละ3-4 อักษร) เพื่อนๆ ลองนึกภาพเอาแล้วกันว่ายากแค่ไหน 3. สาระ - สอดแทรกปรัชญาและคุณธรรมการปกครองบ้านเมืองผ่านบทสนทนาโต้ตอบกันของตัวละครในเรื่อง ชนรุ่นหลังถึงกับมีคนวิเคราะห์ว่าเป็นการเสียดสีการปกครองในเวลานั้นหรือไม่ ประโยคที่กล่าวถึงความรักลึกซึ้งในข้อความที่ยกมาจากนิยายนั้น จริงๆ แล้วเป็นวรรคที่ยกมาจากตอนที่กล่าวเตือนใจให้ผู้ที่ปกครองบ้านเมืองอย่ามัวเมาในเรื่องของหญิงชายจนลืมกิจการบ้านเมือง (ขออภัยหากข้อมูลนี้ทำให้ลดทอนความโรแมนติคของละคร/นิยายเรื่องนี้ไป) ทำให้ Storyฯ อดรู้สึกไม่ได้ว่า ละครเรื่องนี้ไม่เพียงเล่าถึงความรักลึกซึ้งระหว่างพระนาง แต่ยังสอดแทรกความรักอันยิ่งใหญ่ที่มีต่อประเทศชาติที่สะท้อนผ่านปรัชญาชีวิตของตัวละครเอกโจวเซิงเฉิน เพื่อนเพจที่เคยดู/อ่านเรื่องนี้ คิดเหมือนกันบ้างไหม? (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: https://www.163.com/dy/article/GIB87TR80524M8IF.html https://m.cngwzj.com/gushitp/LiangHan/68357/ Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.jianshu.com/p/4437a2086012 https://www.liuxue86.com/a/3552681.html https://www.kekeshici.com/shiciwenzhang/shicirumen/2093.html #ทุกชาติภพกระดูกงดงาม #สืออี๋ #โจวเซินเฉิน #กวีจีน #ซ่างหลินฟู่ #ซือหม่าเซียงหรู
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 448 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ

    เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ ควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยกควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นค่ำคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจังอย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่งที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจแต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จพรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ เดือนนี้ เป็นหนี้เป็นสินใครจะถูกฟ้องร้องตัดสินไปในทางลบ ควรใส่ใจสุขภาพร่างกายเพราะอาจจะเป็นสาเหตุให้เจ็บป่วย ทั้งกระเพาะ ระบบย่อย นิ้วมือ นิ้วเท้า แขน ขา ลำไส้ หรือแม้แต่ประจำเดือน อาจจะพบสิ่งผิดปกติได้ ครอบครัวควรหลีกเลี่ยงคำพูดคำจาที่พร้อมจะทำให้เกิดการขัดแย้งแตกแยกควรปรองดองถนอมน้ำใจให้มากๆ ดึกดื่นค่ำคืนควรตรวจตราภายในบ้านให้ละเอียดรอบคอบระวังภัยโจรปล้นขโมยเพราะมีโอกาสจะขึ้นบ้าน เลี้ยงสุนัขควรดูแลเอาใจใส่ให้ความรักอย่างจริงจังอย่าปล่อยทิ้งๆขว้างๆจนประสาทเครียดให้ระแวงแว้งกัดได้ ทำธุรกิจการงานแม้จะมีศัตรูคู่แข่งที่คอยสร้างแต่ปัญหาให้หนักอกหนักใจแต่ก็จะเอาชนะผ่านพ้นไปได้ โดยเฉพาะธุรกิจที่ดินจะพบประสบกับความสำเร็จพรั่งพร้อมทั้งตำแหน่ง อำนาจ บารมี อีกทั้งความมั่งคั่ง มั่งมี ร่ำรวย มีเงินออมเก็บสะสมไว้ในวันหน้า ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีวิถีภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    สัทธรรมลำดับที่ : 650
    ชื่อบทธรรม :- ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    “ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา
    เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ.
    +--ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ
    ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
    +--ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงเป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า
    เถิดพระเจ้าข้า !”
    http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=มาลุกฺยปุตฺต
    --มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ
    รูปทั้งหลาย อันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น
    ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว
    ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ?
    “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !”

    (ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ
    ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือ
    ในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู
    ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก
    ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น
    ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ
    ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน
    ).
    --มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น :
    +--ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ;
    +--ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ;
    +--ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ;
    +--ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง.
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ
    สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น,
    สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน,
    สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก,
    สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง,
    ดังนี้แล้ว ;
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ;
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ;
    --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ,
    เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง
    : นั่นแหละ #คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้.

    +--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
    อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร
    ดังต่อไปนี้ :-
    +--เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว
    เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น.
    เวทนาอันเกิดจากรูป เป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น.
    อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา.
    เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน.
    (ในกรณีแห่ง
    การฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
    รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
    ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
    ).
    +--บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ
    มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น.
    เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น
    เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้.
    เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน.
    (ในกรณีแห่งการ
    ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย
    รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ
    ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน
    ).
    +--ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต
    อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !”

    +--พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง.
    ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร
    ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/95/?keywords=มาลุกฺยปุตฺโต+อรหตํ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/23-28/132-139.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/23/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๙๐-๙๕/๑๓๒-๑๓๙.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม…
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=650
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44
    ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่ามีวิถีภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก สัทธรรมลำดับที่ : 650 ชื่อบทธรรม :- ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650 เนื้อความทั้งหมด :- --ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก “ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ. +--ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า +--ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงเป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า เถิดพระเจ้าข้า !” http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=มาลุกฺยปุตฺต --มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ รูปทั้งหลาย อันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” (ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือ ในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน ). --มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น : +--ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ; +--ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ; +--ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ; +--ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง. --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น, สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน, สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก, สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง, ดังนี้แล้ว ; --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ; --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ; --มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง : นั่นแหละ #คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้. +--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร ดังต่อไปนี้ :- +--เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น. เวทนาอันเกิดจากรูป เป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น. อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา. เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน. (ในกรณีแห่ง การฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน ). +--บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูปทั้งหลาย เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น. เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้. เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน. (ในกรณีแห่งการ ฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน ). +--ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิต อันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !” +--พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง. ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.- http://etipitaka.com/read/pali/18/95/?keywords=มาลุกฺยปุตฺโต+อรหตํ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/23-28/132-139. http://etipitaka.com/read/thai/18/23/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๙๐-๙๕/๑๓๒-๑๓๙. http://etipitaka.com/read/pali/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม… https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=650 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44&id=650 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=44 ลำดับสาธยายธรรม : 44 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_44.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก
    -ภาวะแห่งความสิ้นตัวตนและสิ้นโลก “ข้าแต่พระองค์เจริญ ! ข้าพระองค์เป็นคนชรา เป็นคนแก่คนเฒ่ามานาน ผ่านวัยมาตามลำดับ. ขอพระผู้มีพระภาคทรงแสดงธรรมโดยย่อ ขอพระสุคตจงทรงแสดงธรรมโดยย่อ ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึงรู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า ในลักษณะที่ข้าพระองค์จะพึง เป็นทายาทแห่งภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้า เถิดพระเจ้าข้า !” มาลุงก๎ยบุตร ! ท่านจะสำคัญความข้อนี้ว่าอย่างไร คือ รูปทั้งหลายอันรู้สึกกันได้ทางตา เป็นรูปที่ท่านไม่ได้เห็น ไม่เคยเห็น ที่ท่านกำลังเห็นอยู่ก็ไม่มี ที่ท่านคิดว่าท่านควรจะได้เห็นก็ไม่มี ดังนี้แล้ว ความพอใจก็ดี ความกำหนัดก็ดี ความรักก็ดี ในรูปเหล่านั้น ย่อมมีแก่ท่านหรือ ? “ข้อนั้นหามิได้ พระเจ้าข้า !” (ต่อไปนี้ ได้มีการตรัสถาม และการทูลตอบ ในทำนองเดียวกันนี้ทุกตัวอักษรผิดกันแต่ชื่อของสิ่งที่นำมากล่าว คือในกรณีแห่ง เสียงอันรู้สึกกันได้ทางหู ในกรณีแห่ง กลิ่นอันรู้สึกกันได้ทางจมูก ในกรณีแห่ง รสอันรู้สึกกันได้ทางลิ้น ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะอันรู้สึกกันได้ทางผิวกาย และ ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์อันรู้สึกกันได้ทางมโน). มาลุงก๎ยบุตร ! ในบรรดาสิ่งที่ท่าน พึงเห็น พึงฟัง พึงรู้สึก พึงรู้แจ้ง เหล่านั้น : ใน สิ่งที่ท่านเห็นแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าเห็น ; ใน สิ่งที่ท่านฟังแล้ว จักเป็นแต่เพียงสักว่าได้ยิน ; ใน สิ่งที่ท่านรู้สึกแล้ว (ทางจมูก, ลิ้น, กาย) จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้สึก ; ใน สิ่งที่ท่านรู้แจ้งแล้ว (ทางวิญญาณ) ก็จักเป็นแต่เพียงสักว่ารู้แจ้ง. มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดแล ในบรรดาธรรมเหล่านั้น : เมื่อ สิ่งที่เห็นแล้วสักว่าเห็น, สิ่งที่ฟังแล้วสักว่าได้ยิน, สิ่งที่รู้สึกแล้วสักว่ารู้สึก, สิ่งที่รู้แจ้งแล้วสักว่ารู้แจ้ง, ดังนี้แล้ว ; มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อนั้น ตัวท่านย่อมไม่มี เพราะเหตุนั้น ; มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีเพราะเหตุนั้น, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในที่นั้น ๆ ; มาลุงก๎ยบุตร ! เมื่อใดตัวท่านไม่มีในที่นั้น ๆ, เมื่อนั้นตัวท่านก็ไม่มีในโลกนี้ ไม่มีในโลกอื่น ไม่มีในระหว่างโลกทั้งสอง : นั่นแหละ คือที่สุดแห่งความทุกข์ ดังนี้. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตอันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดาร ดังต่อไปนี้ : เห็นรูปแล้วสติหลงลืม ทำในใจซึ่งรูปนิมิตว่าน่ารัก มีจิตกำหนัดแก่กล้าแล้ว เสวยอารมณ์นั้นอยู่ ความสยบมัวเมาย่อมครอบงำบุคคลนั้น. เวทนาอันเกิดจากรูปเป็นอเนกประการ ย่อมเจริญแก่เขานั้น. อภิชฌาและวิหิงสา ย่อมเข้าไปกลุ้มรุมจิตของเขา. เมื่อสะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่ายังไกลจากนิพพาน. (ในกรณีแห่งการฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน). บุคคลนั้นไม่กำหนัดในรูป ท. เห็นรูปแล้ว มีสติเฉพาะ มีจิตไม่กำหนัดเสวยอารมณ์อยู่ ความสยบมัวเมาย่อมไม่ครอบงำบุคคลนั้น. เมื่อเขาเห็นอยู่ซึ่งรูปตามที่เป็นจริง เสวยเวทนาอยู่ ทุกข์ก็สิ้นไป ๆ ไม่เพิ่มพูนขึ้น เขามีสติประพฤติอยู่ด้วยอาการอย่างนี้. เมื่อไม่สะสมทุกข์อยู่อย่างนี้ ท่านกล่าวว่าอยู่ใกล้ต่อนิพพาน. (ในกรณีแห่งการฟังเสียง ดมกลิ่น ลิ้มรส ถูกต้องโผฏฐัพพะด้วยกาย รู้สึกธรรมารมณ์ด้วยใจ ก็มีข้อความที่กล่าวไว้อย่างเดียวกัน). ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์รู้ทั่วถึงเนื้อความแห่งภาษิตอันพระผู้มีพระภาคตรัสแล้ว โดยย่อนี้ ได้โดยพิสดารอย่างนี้ พระเจ้าข้า !” พระผู้มีพระภาค ทรงรับรองความข้อนั้น ว่าเป็นการถูกต้อง. ท่านมาลุงก๎ยบุตรหลีกออกสู่ที่สงัดกระทำความเพียร ได้เป็นอรหันต์องค์หนึ่งในศาสนานี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทอดพระเนตรการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 51 “SEA OF LOVE” ทะเลที่ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิ อันเกิดมาจากความกล้าหาญของลูกทะเลแห่งราชนาวีไทย ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000054528

    #MGROnline #Thaitimes #SEAOFLOVE #กาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่51
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนิน ไปทอดพระเนตรการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต ครั้งที่ 51 “SEA OF LOVE” ทะเลที่ทำให้เกิดความรัก ความสามัคคี และความภาคภูมิ อันเกิดมาจากความกล้าหาญของลูกทะเลแห่งราชนาวีไทย ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000054528 • #MGROnline #Thaitimes #SEAOFLOVE #กาชาดคอนเสิร์ตครั้งที่51
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 250 มุมมอง 0 รีวิว
  • เหรียญ 25 พุทธศตวรรษ หลังหลวงพ่อทุ่งคา วัดตะเคียนทอง จ.ปัตตานี ปี2500
    เหรียญ 25 พุทธศตวรรษ หลังหลวงพ่อทุ่งคา เนื้ออาปาก้า (นิยม หายาก) วัดตะเคียนทอง จ.ปัตตานี ปี2500 // พระดีพิธีใหญ่ เกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก อาทิ อาจารย์ทิม วัดช้างให้, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว, หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา นราธิวาส หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์, หลวงพ่อบุญ วัดสาระวัน ฯลฯ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเข้มขลัง มีประสบการณ์ เรื่องเมตตามหานิยม การทำมาค้าขาย ความเจริญก้าวหน้า จะทำให้มีความเจริญก้าวหน้าทุกอย่าง การงาน การเงิน การเรียน ความรัก ธุรกิจ ค้าขาย กิจการคุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งปวงได้ แคล้วคลาดจากเหตุร้ายต่างๆ >>

    ** พระดีพิธีใหญ่ เกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อดำ วัดตุยง ปัตตานี พ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน, พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว, หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา นราธิวาส หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์, หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคา หลวงพ่อสอนวัดปิยาราม หลวงพ่อบุญ วัดปิยาราม สร้างน้อยหายากมากครับ..เกจิเก่งๆในยุคนั้นปลุกเสกมากครับ >>

    ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    เหรียญ 25 พุทธศตวรรษ หลังหลวงพ่อทุ่งคา วัดตะเคียนทอง จ.ปัตตานี ปี2500 เหรียญ 25 พุทธศตวรรษ หลังหลวงพ่อทุ่งคา เนื้ออาปาก้า (นิยม หายาก) วัดตะเคียนทอง จ.ปัตตานี ปี2500 // พระดีพิธีใหญ่ เกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก อาทิ อาจารย์ทิม วัดช้างให้, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว, หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา นราธิวาส หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์, หลวงพ่อบุญ วัดสาระวัน ฯลฯ // พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเข้มขลัง มีประสบการณ์ เรื่องเมตตามหานิยม การทำมาค้าขาย ความเจริญก้าวหน้า จะทำให้มีความเจริญก้าวหน้าทุกอย่าง การงาน การเงิน การเรียน ความรัก ธุรกิจ ค้าขาย กิจการคุ้มครองป้องกันภยันตรายทั้งปวงได้ แคล้วคลาดจากเหตุร้ายต่างๆ >> ** พระดีพิธีใหญ่ เกจิอาจารย์สายหลวงพ่อทวด-สายเขาอ้อ ร่วมปลุกเสก อาทิ หลวงพ่อดำ วัดตุยง ปัตตานี พ่อท่านคล้ายวัดสวนขัน, พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พระอาจารย์นอง วัดทรายขาว, หลวงพ่อแดง วัดเชิงเขา นราธิวาส หลวงพ่อแดง วัดศรีมหาโพธิ์, หลวงพ่อแดง วัดทุ่งคา หลวงพ่อสอนวัดปิยาราม หลวงพ่อบุญ วัดปิยาราม สร้างน้อยหายากมากครับ..เกจิเก่งๆในยุคนั้นปลุกเสกมากครับ >> ** พระสถาพสวย ผิวหิ้ง พระสถาพสมบูรณ์ หายากกครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts