• เรื่อง กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง
    “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง”

    (1)

    คนรักจากลา ตอนชะตาของพี่ตกต่ำ… เรื่องอย่างนี้ใครไม่เคยเจอ คงไม่รู้ว่ามันชอกช้ำขนาดไหน ผมได้ยินเสียงร้องแบบนี้เป็นภาษาตุรกี หลายเดือนมาแล้ว แต่ไม่นึกว่า ใครจะทิ้งนักไต่ลวด จอมเล่นเกมเสียวของผมได้ลงคอ โดยเฉพาะ ไอ้พวกที่หลอกใช้นักไต่ลวดมากว่า 60 ปีอย่างอเมริกา นึกว่าเขาแค่งอนกัน ชั่วครั้งชั่วคราว ก็เห็น ตาโอ ยังกอดคอเล่าเรื่องตลกให้ลุงเออ Erdogan ท่านประธานาธิบดี ของตุรกี หัวร่อกันงอหาย อยู่ทุกครั้งที่เจอกัน ตอนน้ำต้มผักยังหวาน

    แต่เมื่อต้นปี หลังฉลองปีใหม่ไปไม่ถึงเดือน ทางวอชิงตันก็มีการทบทวนความสัมพันธ์ กับนักไต่ลวด ที่นับวันจะแตกต่าง ห่างกันออกไปเรื่อยๆ

    นาย Michael Werz นักวิเคราะห์อาวุโส ของถังขยะความคิด Center for American Progress ให้สัมภาษณ์ถึงสัมพันธ์ของนักล่ากับนักไต่ลวดว่า

    ” มันก็เหมือนคู่แต่งงาน ที่อยู่กันมานานแล้วน่ะนะ ไม่มีอะไรให้หวือหวา ซู่ซ่า เหมือนเดิม มีแต่เรื่องบ่นใส่กัน ที่แย่คือ เอาเรื่องในที่ลับมาเล่าในที่แจ้ง โพนทะนา ให้คนนอกฟังนั่นแหละ” ฮั่นแน่ แสดงว่ามีเรื่องไม่เอาไหน บ่มิไก๋ ปิดไว้แยะล่ะซีท่า

    อเมริกาไม่พอใจที่ตุรกีไม่เล่นบทผู้นำในการปราบพวก ISIL ไม่พอใจที่ตุรกี ปฏิบัติตัวไม่ได้ตามมาตรฐานของสมาชิกนาโต้ แต่ที่อเมริกาไม่พอใจที่สุด คือ ที่เข้าไปใช้ฐานทัพที่ Incirlik ไม่ได้ตามต้องการ Incirlik เป็นฐานทัพที่อเมริกาอ้างว่าเป็นของตน แต่ฐานทัพนี้อยู่ในตุรกีนะครับ สมันน้อยอ่านแล้ว ก็คิดถึงเรื่อง อู่ตะเภา ตาคลี ฯลฯ เอาไว้บ้าง อยู่ในบ้านเราแท้ๆ หวังว่าเขาไม่คิดว่าเป็นของเขา นึกจะใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แล้วเราก็ดันยอม….

    “ความเชื่อใจที่มีต่อกัน กำลังจางหายลงไปทุกวัน ” ถังความคิดพล่ามต่อ ” เราจึงต้องประเมินความสัมพันธ์ ระหว่างเรากับตุรกีใหม่ แม้ว่าเราจะนับเป็นพวกเดียวกัน แต่ตอนนี้มันต้องแยกเป็นเรื่องๆ แล้ว”

    เป็นการพล่ามที่ได้ผลมาก หลังจากฟังอเมริกา ให้ถังขยะ ด่าลอยลมมาในเดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ นักไต่ลวดจอมเล่นเกมเสียว ก็เลยเล่นเสียวกลับ
    จำได้ไหมครับ ผมเคยเล่าให้ฟังว่าตุรกี คิดจะมีระบบป้องกันการยิงจรวดวิถี ไกล (long range air and missile defense system) ซึ่งอเมริกาค้านนักหนา ว่าเอามาทำไม นาโต้ก็มีอยู่แล้ว แต่ตุรกีไม่ชอบใช้จมูกคนอื่นหายใจ จึงเปิดให้มีการประมูล ตั้งแต่ปี 2009 ปรากฏว่าระบบของจีนเข้าสเป็คที่สุด กะจะประกาศผลตั้งแต่ ปี 2013 แต่ตุรกี ก็ทั้งชลอ ทั้งเลื่อนการประกาศผล ไปเรื่อยๆ การประกาศจะเลือกระบบของจีน แต่ชลอการประกาศไปเรื่อยๆ นับเป็นความสุดเก๋า ของนักไต่ลวด ที่มีวิธีลองใจแฟน

    ก็ได้ผลอย่างที่อยากลอง ถูกเขาด่า ทั้งใส่หน้า และลอยลมมาตลอดว่า จะไม่เข้ากับระบบของนาโต้ และจะทำให้ความลับของนาโต้รั่วไหลไปถึงจีน (เป็นไปตามแผน แต่ไม่รู้แผนใคร ! )

    ล่าสุด ตุรกีว่าจะประกาศเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เงียบไป คงยังตัดใจไม่ได้ ว่าจะเอาไงดีกับแฟน 60 ปี สงสัย เจอถังขยะลอยมาใส่เข้า เลยตัดใจได้

    ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ รัฐมนตรีกลาโหมของตุรกี Ismet Yilmaz ทำหนังสือแจ้งไปยังสภาว่า ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย(นานแล้ว)คร้าบ ของจีนเหมาะที่สุดคร้าบ

    ข่าวว่า มีคนเอาหน้าไปแจ้ง อาเฮีย อาเฮียได้แต่หัวร่อฮาๆ สั่งเด็กให้ไปซื้อยาล้างตาเตรียมไว้ล่วงหน้า ก่อนจะได้ดูนาโต้แก้ผ้า แถมซื้อเผื่อคุณพี่ปูของผมด้วย เพราะจะได้ดูด้วยกัน ซานุกดีเนอะ

    (2)

    นึกว่านักไต่ลวดจะมีฤทธิ์เพียงเท่านี้หรือ รู้จักนักไต่ลวดน้อยไปซะแล้ว ล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคม คุณลุงเออโดวาน Erdogan ประธานาธิบดีตุรกี ก็แวะไปเยี่ยมกษัตริย์ซาลมาน Salman แห่งซาอุดิอารเบีย ซึ่งไม่ใช่ไปเยี่ยมด้วยความรักใคร่ แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันไปบ้าง เยี่ยมเสร็จ สื่อตีข่าวกันใหญ่ว่า สัมพันธ์ระหว่าง ตุรกี กับ ซาอุดิ กำลังขึ้นหน้าใหม่ Turkey – Saudi relations turn ‘a new page’

    ตุรกีกับซาอุดิ มีเรื่องคาใจค้างกันอยู่ เกี่ยวกับเรื่องอียิปต์ ตุรกีนั้น หนุนอดีตประธานาธิบดี Morsi ของ Muslim Brotherhood ที่เพิ่งถูกปลด ส่วนซาอุดิหนุน Fattah el-Sisi ที่ขึ้นมาเป็นแทน ซาอุดิไม่ชอบกลุ่ม Muslim Brotherhood แต่ระยะหลังเริ่มเสียงอ่อน

    ประเด็นใหญ่ของการไปเยี่ยม ข่าวบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องอียิปต์ กับ “เรื่องอื่นๆ” ที่ 2 ประเทศจะแลกเปลี่ยนความคิดกัน

    เรื่องอื่นๆ หมายถึงเรื่องอะไร

    ตะวันออกกลาง ร้อนระอุไม่หยุด และน่าจะร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ

    สิ้นเดือนนี้ หรืออย่างช้า กลางเดือนเมษายน การเจรจาเรื่องอิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์จะต้องจบ อิหร่านเป็นหนามตำใจ ซาอุดิที่สุด ซาอุดิกำลังคิดว่า อเมริกาจะกลับไปคืนดีกับอิหร่าน แฟนเก่า และทอดทิ้งซาอุดิให้สู้รบ กับผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางอย่างเดียวดาย ( เอะ น่าจะเปลี่ยนชื่อ นิทานตอนนี้ ว่า ชมรมคนถูกแฟนทิ้ง อาจจะเหมาะกว่า )
    ฉะนั้น ไม่มีโอกาสไหนจะดีไปกว่าตอนนี้ ที่ตุรกีนักไต่ลวด ผู้ชอบเล่นเกมเสียว จะไปคุยกับซาอุดิเรื่องอิหร่าน ตุรกีอาจจะไปบี้ให้ซาอุดิให้เจ็บหนักขึ้น หรือจะไปชวนให้ซาอุดิถีบแฟนทิ้ง เหมือนอย่างที่ตุรกีกำลัง (คิด) ทำอยู่

    แค่ตุรกีไม่ให้ความร่วมมือกับอเมริกา ไม่ให้อเมริกาไปซ่าอยู่ที่ฐานทัพ Incirlik อเมริกาก็เหนื่อยพอแล้ว แต่ถ้าตุรกีไม่หยุดแค่นั้น ถ้าตุรกีหันมาอยู่ฝ่ายรัสเซีย จีนเต็มตัว อเมริกาจะเป็นอย่างไร!?

    และถ้าสิ้นเดือนนี้ การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่านล้มเหลว ภายในกลางเดือนเมษายนรัฐสภาอเมริกัน จะต้องลงมติว่าจะคว่ำบาตรอิหร่านต่อหรือไม่ ถ้าคว่ำกันต่ออีก รับรองได้เห็นอิหร่านยืนเรียงแถวอยู่ฟากเดียวกับรัสเซีย จีน แน่นอน และถ้าเป็นอย่างนั้น ตุรกีตัดใจเลิกเล่นเสียวกับอเมริกาแน่นอน และมายืนจับมือกับอิหร่านแทน

    สัมพันธ์พิเศษระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และตุรกี เป็นเรื่องที่อเมริกาจับตามองอยู่ตลอดเวลา อเมริกาพยายามทุกอย่าง ที่จะให้ทั้ง 3 ประเทศจับมือกันไม่ติด เพราะถ้าจับกันติดเมื่อไหร่ หมายถึงประตูเข้าไปในตะวันออกกลางของอเมริกา น่าจะถูกปิดตาย

    และถ้าเป็นอย่างนั้น ซาอุดิจะย่อมร้อนระอุ รอเวลาอเมริกา(ไม่) มาอุ้ม หรือ อยากจะเปลี่ยน มาอยู่ทีมไต่ลวดกับเขาบ้าง แหม แค่คิดก็กลุ้มแทน จะเล่นเป็นหรือ พวกเสี่ยน้ำมัน เท้าไม่แตะดิน!

    ท่านผู้อ่านนิทานก็เหมือนกันนะครับ อย่ามัวแต่อ่านอย่างเดียว ตามดูสถานการณ์กันบ้าง ถ้ามันพลิกไปทางที่ผม “ถ้า” เอาไว้ ก็เตรียมตัวกันบ้างแล้วกัน

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    19 มีค. 2558
    เรื่อง กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง “กระเป๋าแบนแฟนทิ้ง” (1) คนรักจากลา ตอนชะตาของพี่ตกต่ำ… เรื่องอย่างนี้ใครไม่เคยเจอ คงไม่รู้ว่ามันชอกช้ำขนาดไหน ผมได้ยินเสียงร้องแบบนี้เป็นภาษาตุรกี หลายเดือนมาแล้ว แต่ไม่นึกว่า ใครจะทิ้งนักไต่ลวด จอมเล่นเกมเสียวของผมได้ลงคอ โดยเฉพาะ ไอ้พวกที่หลอกใช้นักไต่ลวดมากว่า 60 ปีอย่างอเมริกา นึกว่าเขาแค่งอนกัน ชั่วครั้งชั่วคราว ก็เห็น ตาโอ ยังกอดคอเล่าเรื่องตลกให้ลุงเออ Erdogan ท่านประธานาธิบดี ของตุรกี หัวร่อกันงอหาย อยู่ทุกครั้งที่เจอกัน ตอนน้ำต้มผักยังหวาน แต่เมื่อต้นปี หลังฉลองปีใหม่ไปไม่ถึงเดือน ทางวอชิงตันก็มีการทบทวนความสัมพันธ์ กับนักไต่ลวด ที่นับวันจะแตกต่าง ห่างกันออกไปเรื่อยๆ นาย Michael Werz นักวิเคราะห์อาวุโส ของถังขยะความคิด Center for American Progress ให้สัมภาษณ์ถึงสัมพันธ์ของนักล่ากับนักไต่ลวดว่า ” มันก็เหมือนคู่แต่งงาน ที่อยู่กันมานานแล้วน่ะนะ ไม่มีอะไรให้หวือหวา ซู่ซ่า เหมือนเดิม มีแต่เรื่องบ่นใส่กัน ที่แย่คือ เอาเรื่องในที่ลับมาเล่าในที่แจ้ง โพนทะนา ให้คนนอกฟังนั่นแหละ” ฮั่นแน่ แสดงว่ามีเรื่องไม่เอาไหน บ่มิไก๋ ปิดไว้แยะล่ะซีท่า อเมริกาไม่พอใจที่ตุรกีไม่เล่นบทผู้นำในการปราบพวก ISIL ไม่พอใจที่ตุรกี ปฏิบัติตัวไม่ได้ตามมาตรฐานของสมาชิกนาโต้ แต่ที่อเมริกาไม่พอใจที่สุด คือ ที่เข้าไปใช้ฐานทัพที่ Incirlik ไม่ได้ตามต้องการ Incirlik เป็นฐานทัพที่อเมริกาอ้างว่าเป็นของตน แต่ฐานทัพนี้อยู่ในตุรกีนะครับ สมันน้อยอ่านแล้ว ก็คิดถึงเรื่อง อู่ตะเภา ตาคลี ฯลฯ เอาไว้บ้าง อยู่ในบ้านเราแท้ๆ หวังว่าเขาไม่คิดว่าเป็นของเขา นึกจะใช้เมื่อไหร่ก็ได้ แล้วเราก็ดันยอม…. “ความเชื่อใจที่มีต่อกัน กำลังจางหายลงไปทุกวัน ” ถังความคิดพล่ามต่อ ” เราจึงต้องประเมินความสัมพันธ์ ระหว่างเรากับตุรกีใหม่ แม้ว่าเราจะนับเป็นพวกเดียวกัน แต่ตอนนี้มันต้องแยกเป็นเรื่องๆ แล้ว” เป็นการพล่ามที่ได้ผลมาก หลังจากฟังอเมริกา ให้ถังขยะ ด่าลอยลมมาในเดือนมกราคม เดือนกุมภาพันธ์ นักไต่ลวดจอมเล่นเกมเสียว ก็เลยเล่นเสียวกลับ จำได้ไหมครับ ผมเคยเล่าให้ฟังว่าตุรกี คิดจะมีระบบป้องกันการยิงจรวดวิถี ไกล (long range air and missile defense system) ซึ่งอเมริกาค้านนักหนา ว่าเอามาทำไม นาโต้ก็มีอยู่แล้ว แต่ตุรกีไม่ชอบใช้จมูกคนอื่นหายใจ จึงเปิดให้มีการประมูล ตั้งแต่ปี 2009 ปรากฏว่าระบบของจีนเข้าสเป็คที่สุด กะจะประกาศผลตั้งแต่ ปี 2013 แต่ตุรกี ก็ทั้งชลอ ทั้งเลื่อนการประกาศผล ไปเรื่อยๆ การประกาศจะเลือกระบบของจีน แต่ชลอการประกาศไปเรื่อยๆ นับเป็นความสุดเก๋า ของนักไต่ลวด ที่มีวิธีลองใจแฟน ก็ได้ผลอย่างที่อยากลอง ถูกเขาด่า ทั้งใส่หน้า และลอยลมมาตลอดว่า จะไม่เข้ากับระบบของนาโต้ และจะทำให้ความลับของนาโต้รั่วไหลไปถึงจีน (เป็นไปตามแผน แต่ไม่รู้แผนใคร ! ) ล่าสุด ตุรกีว่าจะประกาศเมื่อปลายปีที่แล้ว ก็เงียบไป คงยังตัดใจไม่ได้ ว่าจะเอาไงดีกับแฟน 60 ปี สงสัย เจอถังขยะลอยมาใส่เข้า เลยตัดใจได้ ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์ รัฐมนตรีกลาโหมของตุรกี Ismet Yilmaz ทำหนังสือแจ้งไปยังสภาว่า ตรวจสอบเสร็จเรียบร้อย(นานแล้ว)คร้าบ ของจีนเหมาะที่สุดคร้าบ ข่าวว่า มีคนเอาหน้าไปแจ้ง อาเฮีย อาเฮียได้แต่หัวร่อฮาๆ สั่งเด็กให้ไปซื้อยาล้างตาเตรียมไว้ล่วงหน้า ก่อนจะได้ดูนาโต้แก้ผ้า แถมซื้อเผื่อคุณพี่ปูของผมด้วย เพราะจะได้ดูด้วยกัน ซานุกดีเนอะ (2) นึกว่านักไต่ลวดจะมีฤทธิ์เพียงเท่านี้หรือ รู้จักนักไต่ลวดน้อยไปซะแล้ว ล่าสุด เมื่อต้นเดือนมีนาคม คุณลุงเออโดวาน Erdogan ประธานาธิบดีตุรกี ก็แวะไปเยี่ยมกษัตริย์ซาลมาน Salman แห่งซาอุดิอารเบีย ซึ่งไม่ใช่ไปเยี่ยมด้วยความรักใคร่ แต่ไม่รู้ว่าคุยอะไรกันไปบ้าง เยี่ยมเสร็จ สื่อตีข่าวกันใหญ่ว่า สัมพันธ์ระหว่าง ตุรกี กับ ซาอุดิ กำลังขึ้นหน้าใหม่ Turkey – Saudi relations turn ‘a new page’ ตุรกีกับซาอุดิ มีเรื่องคาใจค้างกันอยู่ เกี่ยวกับเรื่องอียิปต์ ตุรกีนั้น หนุนอดีตประธานาธิบดี Morsi ของ Muslim Brotherhood ที่เพิ่งถูกปลด ส่วนซาอุดิหนุน Fattah el-Sisi ที่ขึ้นมาเป็นแทน ซาอุดิไม่ชอบกลุ่ม Muslim Brotherhood แต่ระยะหลังเริ่มเสียงอ่อน ประเด็นใหญ่ของการไปเยี่ยม ข่าวบอกว่าน่าจะเป็นเรื่องอียิปต์ กับ “เรื่องอื่นๆ” ที่ 2 ประเทศจะแลกเปลี่ยนความคิดกัน เรื่องอื่นๆ หมายถึงเรื่องอะไร ตะวันออกกลาง ร้อนระอุไม่หยุด และน่าจะร้อนขึ้นไปเรื่อยๆ สิ้นเดือนนี้ หรืออย่างช้า กลางเดือนเมษายน การเจรจาเรื่องอิหร่านผลิตอาวุธนิวเคลียร์จะต้องจบ อิหร่านเป็นหนามตำใจ ซาอุดิที่สุด ซาอุดิกำลังคิดว่า อเมริกาจะกลับไปคืนดีกับอิหร่าน แฟนเก่า และทอดทิ้งซาอุดิให้สู้รบ กับผู้ก่อการร้ายในตะวันออกกลางอย่างเดียวดาย ( เอะ น่าจะเปลี่ยนชื่อ นิทานตอนนี้ ว่า ชมรมคนถูกแฟนทิ้ง อาจจะเหมาะกว่า ) ฉะนั้น ไม่มีโอกาสไหนจะดีไปกว่าตอนนี้ ที่ตุรกีนักไต่ลวด ผู้ชอบเล่นเกมเสียว จะไปคุยกับซาอุดิเรื่องอิหร่าน ตุรกีอาจจะไปบี้ให้ซาอุดิให้เจ็บหนักขึ้น หรือจะไปชวนให้ซาอุดิถีบแฟนทิ้ง เหมือนอย่างที่ตุรกีกำลัง (คิด) ทำอยู่ แค่ตุรกีไม่ให้ความร่วมมือกับอเมริกา ไม่ให้อเมริกาไปซ่าอยู่ที่ฐานทัพ Incirlik อเมริกาก็เหนื่อยพอแล้ว แต่ถ้าตุรกีไม่หยุดแค่นั้น ถ้าตุรกีหันมาอยู่ฝ่ายรัสเซีย จีนเต็มตัว อเมริกาจะเป็นอย่างไร!? และถ้าสิ้นเดือนนี้ การเจรจาเรื่องนิวเคลียร์กับอิหร่านล้มเหลว ภายในกลางเดือนเมษายนรัฐสภาอเมริกัน จะต้องลงมติว่าจะคว่ำบาตรอิหร่านต่อหรือไม่ ถ้าคว่ำกันต่ออีก รับรองได้เห็นอิหร่านยืนเรียงแถวอยู่ฟากเดียวกับรัสเซีย จีน แน่นอน และถ้าเป็นอย่างนั้น ตุรกีตัดใจเลิกเล่นเสียวกับอเมริกาแน่นอน และมายืนจับมือกับอิหร่านแทน สัมพันธ์พิเศษระหว่างรัสเซีย อิหร่าน และตุรกี เป็นเรื่องที่อเมริกาจับตามองอยู่ตลอดเวลา อเมริกาพยายามทุกอย่าง ที่จะให้ทั้ง 3 ประเทศจับมือกันไม่ติด เพราะถ้าจับกันติดเมื่อไหร่ หมายถึงประตูเข้าไปในตะวันออกกลางของอเมริกา น่าจะถูกปิดตาย และถ้าเป็นอย่างนั้น ซาอุดิจะย่อมร้อนระอุ รอเวลาอเมริกา(ไม่) มาอุ้ม หรือ อยากจะเปลี่ยน มาอยู่ทีมไต่ลวดกับเขาบ้าง แหม แค่คิดก็กลุ้มแทน จะเล่นเป็นหรือ พวกเสี่ยน้ำมัน เท้าไม่แตะดิน! ท่านผู้อ่านนิทานก็เหมือนกันนะครับ อย่ามัวแต่อ่านอย่างเดียว ตามดูสถานการณ์กันบ้าง ถ้ามันพลิกไปทางที่ผม “ถ้า” เอาไว้ ก็เตรียมตัวกันบ้างแล้วกัน สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 19 มีค. 2558
    0 Comments 0 Shares 106 Views 0 Reviews
  • เพลงที่ทำให้ Evangelion เป็นมากกว่าอนิเมะ: เปิดตำนาน A Cruel Angel’s Thesis

    เพลง “A Cruel Angel’s Thesis” หรือที่รู้จักในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “Zankoku na Tenshi no Tēze” ถือเป็นหนึ่งในเพลงประกอบอนิเมะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นและทั่วโลก เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงเปิดของอนิเมะ Neon Genesis Evangelion ที่ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 1995 ทางสถานี TV Tokyo เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงยุคทองของอนิเมะในทศวรรษ 1990s ซึ่งผสมผสานธีมปรัชญา จิตวิทยา และแอ็กชันได้อย่างลงตัว บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติการสร้าง ผลงาน และความโด่งดังของเพลงนี้อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เห็นภาพรวมการเดินทางจากเพลงประกอบอนิเมะธรรมดาสู่ไอคอนระดับโลก

    ต้นกำเนิดและแรงบันดาลใจของเพลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่อนิเมะ Neon Genesis Evangelion กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต โดยผู้กำกับ Hideaki Anno จากสตูดิโอ Gainax เดิมที Anno ต้องการใช้เพลงคลาสสิกจากโอเปร่ารัสเซียเรื่อง Prince Igor ชื่อ “Polovtsian Dances” ของ Alexander Borodin เป็นเพลงเปิด เพื่อสร้างความแปลกใหม่และทดลอง แต่สถานีโทรทัศน์ปฏิเสธเพราะเห็นว่าเพลงนั้น “ก้าวหน้าจนเกินไป” สำหรับอนิเมะที่ออกอากาศช่วงดึก จึงเปลี่ยนมาใช้เพลง J-Pop ซึ่งเป็นแนวเพลงยอดนิยมในญี่ปุ่นในเวลานั้น

    คำร้องของเพลงเขียนโดย Neko Oikawa ที่ได้รับมอบหมายให้สร้างเนื้อหาที่ “ยากและปรัชญา” เพื่อสะท้อนธีมของอนิเมะที่เกี่ยวกับการต่อสู้ภายในจิตใจมนุษย์ ชะตากรรม และการเติบโต แม้ว่า Oikawa จะมีข้อมูลจำกัด เธอเพียงแค่ได้อ่านแผนเสนอโครงการและดูตอนแรกๆ ของอนิเมะแบบเร่งความเร็ว ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงในการเขียนคำร้องทั้งหมด โดยมองผ่านมุมมองของ “แม่” ที่ไม่อยากให้ลูกเติบโตและออกจากรัง แต่ต้องยอมรับชะตากรรม ชื่อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากมังงะ “A Cruel God Reigns” (Zankoku na Kami ga Shihai Suru) ของ Moto Hagio ซึ่งมีเนื้อหามืดมนเกี่ยวกับเด็กชายวัย 15 ปีที่เผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความผิด การใช้ยาเสพติด และการค้าประเวณี แต่ Oikawa เลือกเน้นธีม “แม่และลูก” แทนโดยไม่ใช้ส่วนที่มืดมนเหล่านั้น

    ทำนองเพลงแต่งโดย Hidetoshi Sato และจัดโดย Toshiyuki Omori โดยการผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นแยกจากทีมอนิเมะเพื่อรักษาความเป็นอิสระและความสดใหม่ เพลงนี้มีส่วน instrumental ที่น่าสนใจ เช่น คอรัสในภาษาที่ไม่สามารถแปลได้ ซึ่งบางคนเชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาโบราณหรือ Dead Sea Scrolls นอกจากนี้ Anno ยังขอปรับคำร้องบางส่วน เช่น เปลี่ยนจาก “กลายเป็นอาวุธ” เป็น “กลายเป็นตำนาน” เพื่อเน้นความรักของแม่มากขึ้น และตัดคอรัสชายออกไป

    Yoko Takahashi นักร้องนำ ได้รับเลือกแบบสุ่มและบันทึกเสียงโดยไม่ทราบรายละเอียดของอนิเมะมากนัก เธอพบกับ Anno ครั้งแรกในวันบันทึกเสียง และได้ยินเพลงเปิดตัวพร้อมเสียงของตัวเองครั้งแรกตอนออกอากาศทางทีวี เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 11 ของเธอ และปล่อยออกมาในวันที่ 25 ตุลาคม 1995 ภายใต้ catalog KIDA-116 พร้อมเพลง “Fly Me to the Moon” ซึ่งเป็นเพลงปิดเรื่อง

    กระบวนการผลิตเพลงเกิดขึ้นก่อนที่อนิเมะจะเสร็จสิ้น โดย Toshimichi Otsuki จาก King Records เป็นผู้ดูแลทีมดนตรีแยกต่างหากจาก Anno เพื่อหลีกเลี่ยงการแทรกแซง แม้กระบวนการจะเร่งรีบ เพลงกลับเข้ากับภาพเปิดเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเวอร์ชัน instrumental สองเวอร์ชันในตอนจบของอนิเมะ ได้แก่ “The Heady Feeling of Freedom” ซึ่งเป็นชิ้นเศร้าๆ สำหรับเครื่องสายและกีตาร์ และ “Good, or Don’t Be” ที่เล่นด้วยเปียโนและกีตาร์เบาๆ เวอร์ชันคล้ายกันยังปรากฏในภาพยนตร์ Evangelion: Death and Rebirth

    ตลอดหลายปี เพลงนี้มีเวอร์ชันรีมิกซ์และ cover มากมาย รวมถึงเวอร์ชัน Director’s Edit และเวอร์ชันในภาพยนตร์ Rebuild of Evangelion Takahashi ยังคงฝึกซ้อมร้องเพลงนี้ทุกวัน สูงสุด 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะส่วน a cappella ที่ยาก เพื่อให้การแสดงสดยังคงความสดใหม่เหมือนเดิม ในปี 2021 เธอออกหนังสือสอนร้องเพลงนี้และ “Soul’s Refrain” โดยแนะนำให้เริ่มจาก tempo ช้าๆ และฝึก melody ก่อน

    ความสำเร็จของเพลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังปล่อยออกมา เพลงขึ้นอันดับ 17 ในชาร์ต Oricon และอยู่ในชาร์ตนานถึง 61 สัปดาห์ กลายเป็นเพลงอนิเมะที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น โดยติดอันดับต้นๆ ในโพล anisong และคาราโอเกะอย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 เพลงนี้ยังติดอันดับ 4 ในชาร์ตคาราโอเกะ JOYSOUND สำหรับครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนแม้ผ่านไปเกือบ 30 ปี ตามข้อมูลจาก Japanese Society for Rights of Authors, Composers and Publishers เพลงนี้ยังคงเป็นเพลงที่สร้างรายได้จากลิขสิทธิ์สูงสุดในญี่ปุ่น

    ในระดับสากล เพลงนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเพลงเปิดอนิเมะที่จดจำได้มากที่สุด แม้แต่คนที่ไม่เคยดูอนิเมะก็รู้จัก มันกลายเป็น meme บนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในวิดีโอ YouTube และ Reddit ที่นำไป remix หรือ parody นอกจากนี้ยังถูกนำไป sample ในเพลงฮิปฮอป เช่น ในเพลง “Evangelica” ของศิลปินอเมริกัน Albe Back ในปี 2022 ความนิยมยังขยายไปสู่การแสดงสด โดย Takahashi แสดงเพลงนี้ในงานใหญ่ๆ เช่น Anime NYC 2025 ที่เธอชักชวนแฟนๆ ร้องตามทั้งฮอลล์, AnimagiC 2025 ในเยอรมนี และแม้แต่ในรายการปีใหม่ของสถานีโทรทัศน์ตุรกีในปี 2024

    กว่าเกือบสามทศวรรษที่ผ่านมา “A Cruel Angel’s Thesis” ไม่ได้เป็นเพียงเพลงเปิดของ Neon Genesis Evangelion เท่านั้น แต่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอนิเมะญี่ปุ่นที่หลอมรวมปรัชญา ดนตรี และอารมณ์ของยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม เสียงร้องของ Yoko Takahashi ไม่ได้เพียงปลุกผู้ชมให้ตื่นขึ้นในตอนต้นของทุกตอน แต่ยังปลุกให้คนทั้งรุ่นหันกลับมามอง “ตัวตน” และ “ความหมายของการเติบโต” ที่ Evangelion ต้องการสื่อ

    ทุกครั้งที่เสียงอินโทรแรกดังขึ้น ความทรงจำของแฟน ๆ ทั่วโลกก็ยังคงถ่ายทอดต่อกันเหมือนเทวทูตที่ไม่เคยหลับใหล เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดนตรี” สามารถสร้างพลังให้ภาพยนตร์หรืออนิเมะกลายเป็นตำนานได้จริง และแม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด ท่วงทำนองแห่งเทวทูตผู้โหดร้ายนี้…ก็จะยังคงก้องอยู่ในใจผู้คนตราบนานเท่านาน

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/y5wkebBCwAE
    🎶 เพลงที่ทำให้ Evangelion เป็นมากกว่าอนิเมะ: เปิดตำนาน A Cruel Angel’s Thesis ▶️ เพลง “A Cruel Angel’s Thesis” หรือที่รู้จักในชื่อภาษาญี่ปุ่นว่า “Zankoku na Tenshi no Tēze” ถือเป็นหนึ่งในเพลงประกอบอนิเมะที่ทรงอิทธิพลที่สุดในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมป๊อปของญี่ปุ่นและทั่วโลก เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงเปิดของอนิเมะ Neon Genesis Evangelion ที่ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 1995 ทางสถานี TV Tokyo เท่านั้น แต่ยังกลายเป็นสัญลักษณ์ที่สะท้อนถึงยุคทองของอนิเมะในทศวรรษ 1990s ซึ่งผสมผสานธีมปรัชญา จิตวิทยา และแอ็กชันได้อย่างลงตัว บทความนี้จะพาไปสำรวจประวัติการสร้าง ผลงาน และความโด่งดังของเพลงนี้อย่างละเอียด โดยอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้เห็นภาพรวมการเดินทางจากเพลงประกอบอนิเมะธรรมดาสู่ไอคอนระดับโลก 🎂 ต้นกำเนิดและแรงบันดาลใจของเพลงนี้เกิดขึ้นในช่วงที่อนิเมะ Neon Genesis Evangelion กำลังอยู่ในขั้นตอนการผลิต โดยผู้กำกับ Hideaki Anno จากสตูดิโอ Gainax เดิมที Anno ต้องการใช้เพลงคลาสสิกจากโอเปร่ารัสเซียเรื่อง Prince Igor ชื่อ “Polovtsian Dances” ของ Alexander Borodin เป็นเพลงเปิด เพื่อสร้างความแปลกใหม่และทดลอง แต่สถานีโทรทัศน์ปฏิเสธเพราะเห็นว่าเพลงนั้น “ก้าวหน้าจนเกินไป” สำหรับอนิเมะที่ออกอากาศช่วงดึก จึงเปลี่ยนมาใช้เพลง J-Pop ซึ่งเป็นแนวเพลงยอดนิยมในญี่ปุ่นในเวลานั้น ✍️ คำร้องของเพลงเขียนโดย Neko Oikawa ที่ได้รับมอบหมายให้สร้างเนื้อหาที่ “ยากและปรัชญา” เพื่อสะท้อนธีมของอนิเมะที่เกี่ยวกับการต่อสู้ภายในจิตใจมนุษย์ ชะตากรรม และการเติบโต แม้ว่า Oikawa จะมีข้อมูลจำกัด เธอเพียงแค่ได้อ่านแผนเสนอโครงการและดูตอนแรกๆ ของอนิเมะแบบเร่งความเร็ว ใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมงในการเขียนคำร้องทั้งหมด โดยมองผ่านมุมมองของ “แม่” ที่ไม่อยากให้ลูกเติบโตและออกจากรัง แต่ต้องยอมรับชะตากรรม ชื่อเพลงได้รับแรงบันดาลใจจากมังงะ “A Cruel God Reigns” (Zankoku na Kami ga Shihai Suru) ของ Moto Hagio ซึ่งมีเนื้อหามืดมนเกี่ยวกับเด็กชายวัย 15 ปีที่เผชิญกับความทุกข์ทรมานจากความผิด การใช้ยาเสพติด และการค้าประเวณี แต่ Oikawa เลือกเน้นธีม “แม่และลูก” แทนโดยไม่ใช้ส่วนที่มืดมนเหล่านั้น 🎼 ทำนองเพลงแต่งโดย Hidetoshi Sato และจัดโดย Toshiyuki Omori โดยการผลิตทั้งหมดเกิดขึ้นแยกจากทีมอนิเมะเพื่อรักษาความเป็นอิสระและความสดใหม่ เพลงนี้มีส่วน instrumental ที่น่าสนใจ เช่น คอรัสในภาษาที่ไม่สามารถแปลได้ ซึ่งบางคนเชื่อว่าได้รับแรงบันดาลใจจากภาษาโบราณหรือ Dead Sea Scrolls นอกจากนี้ Anno ยังขอปรับคำร้องบางส่วน เช่น เปลี่ยนจาก “กลายเป็นอาวุธ” เป็น “กลายเป็นตำนาน” เพื่อเน้นความรักของแม่มากขึ้น และตัดคอรัสชายออกไป 🎤 Yoko Takahashi นักร้องนำ ได้รับเลือกแบบสุ่มและบันทึกเสียงโดยไม่ทราบรายละเอียดของอนิเมะมากนัก เธอพบกับ Anno ครั้งแรกในวันบันทึกเสียง และได้ยินเพลงเปิดตัวพร้อมเสียงของตัวเองครั้งแรกตอนออกอากาศทางทีวี เพลงนี้เป็นซิงเกิลที่ 11 ของเธอ และปล่อยออกมาในวันที่ 25 ตุลาคม 1995 ภายใต้ catalog KIDA-116 พร้อมเพลง “Fly Me to the Moon” ซึ่งเป็นเพลงปิดเรื่อง 💿 กระบวนการผลิตเพลงเกิดขึ้นก่อนที่อนิเมะจะเสร็จสิ้น โดย Toshimichi Otsuki จาก King Records เป็นผู้ดูแลทีมดนตรีแยกต่างหากจาก Anno เพื่อหลีกเลี่ยงการแทรกแซง แม้กระบวนการจะเร่งรีบ เพลงกลับเข้ากับภาพเปิดเรื่องได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีเวอร์ชัน instrumental สองเวอร์ชันในตอนจบของอนิเมะ ได้แก่ “The Heady Feeling of Freedom” ซึ่งเป็นชิ้นเศร้าๆ สำหรับเครื่องสายและกีตาร์ และ “Good, or Don’t Be” ที่เล่นด้วยเปียโนและกีตาร์เบาๆ เวอร์ชันคล้ายกันยังปรากฏในภาพยนตร์ Evangelion: Death and Rebirth 🎗️ตลอดหลายปี เพลงนี้มีเวอร์ชันรีมิกซ์และ cover มากมาย รวมถึงเวอร์ชัน Director’s Edit และเวอร์ชันในภาพยนตร์ Rebuild of Evangelion Takahashi ยังคงฝึกซ้อมร้องเพลงนี้ทุกวัน สูงสุด 2 ชั่วโมง โดยเฉพาะส่วน a cappella ที่ยาก เพื่อให้การแสดงสดยังคงความสดใหม่เหมือนเดิม ในปี 2021 เธอออกหนังสือสอนร้องเพลงนี้และ “Soul’s Refrain” โดยแนะนำให้เริ่มจาก tempo ช้าๆ และฝึก melody ก่อน 🏆 ความสำเร็จของเพลงนี้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังปล่อยออกมา เพลงขึ้นอันดับ 17 ในชาร์ต Oricon และอยู่ในชาร์ตนานถึง 61 สัปดาห์ กลายเป็นเพลงอนิเมะที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น โดยติดอันดับต้นๆ ในโพล anisong และคาราโอเกะอย่างต่อเนื่อง ในปี 2025 เพลงนี้ยังติดอันดับ 4 ในชาร์ตคาราโอเกะ JOYSOUND สำหรับครึ่งปีแรก แสดงให้เห็นถึงความยั่งยืนแม้ผ่านไปเกือบ 30 ปี ตามข้อมูลจาก Japanese Society for Rights of Authors, Composers and Publishers เพลงนี้ยังคงเป็นเพลงที่สร้างรายได้จากลิขสิทธิ์สูงสุดในญี่ปุ่น 🌏 ในระดับสากล เพลงนี้ได้รับการยอมรับว่าเป็นเพลงเปิดอนิเมะที่จดจำได้มากที่สุด แม้แต่คนที่ไม่เคยดูอนิเมะก็รู้จัก มันกลายเป็น meme บนอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในวิดีโอ YouTube และ Reddit ที่นำไป remix หรือ parody นอกจากนี้ยังถูกนำไป sample ในเพลงฮิปฮอป เช่น ในเพลง “Evangelica” ของศิลปินอเมริกัน Albe Back ในปี 2022 ความนิยมยังขยายไปสู่การแสดงสด โดย Takahashi แสดงเพลงนี้ในงานใหญ่ๆ เช่น Anime NYC 2025 ที่เธอชักชวนแฟนๆ ร้องตามทั้งฮอลล์, AnimagiC 2025 ในเยอรมนี และแม้แต่ในรายการปีใหม่ของสถานีโทรทัศน์ตุรกีในปี 2024 ⌛ กว่าเกือบสามทศวรรษที่ผ่านมา “A Cruel Angel’s Thesis” ไม่ได้เป็นเพียงเพลงเปิดของ Neon Genesis Evangelion เท่านั้น แต่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมอนิเมะญี่ปุ่นที่หลอมรวมปรัชญา ดนตรี และอารมณ์ของยุคสมัยเข้าไว้ด้วยกันอย่างงดงาม เสียงร้องของ Yoko Takahashi ไม่ได้เพียงปลุกผู้ชมให้ตื่นขึ้นในตอนต้นของทุกตอน แต่ยังปลุกให้คนทั้งรุ่นหันกลับมามอง “ตัวตน” และ “ความหมายของการเติบโต” ที่ Evangelion ต้องการสื่อ 📻 ทุกครั้งที่เสียงอินโทรแรกดังขึ้น ความทรงจำของแฟน ๆ ทั่วโลกก็ยังคงถ่ายทอดต่อกันเหมือนเทวทูตที่ไม่เคยหลับใหล เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า “ดนตรี” สามารถสร้างพลังให้ภาพยนตร์หรืออนิเมะกลายเป็นตำนานได้จริง และแม้โลกจะเปลี่ยนไปเพียงใด ท่วงทำนองแห่งเทวทูตผู้โหดร้ายนี้…ก็จะยังคงก้องอยู่ในใจผู้คนตราบนานเท่านาน 💫 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/y5wkebBCwAE
    0 Comments 0 Shares 127 Views 0 Reviews
  • เรื่อง สันดาน
    “สันดาน”

    (1)

    ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล

    ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้!

    ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน…

    ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ

    แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ

    ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น

    ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”)

    รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ
    เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี

    ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า

    คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง

    คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู

    (2)

    เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา
    ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง

    คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก

    ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน

    ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง

    เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋

    อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ

    แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ)

    เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ
    เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย)

    คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ:

    “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ”

    ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ

    สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน

    ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ

    แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง

    1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล

    คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ

    2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว
    สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า

    3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย

    ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง

    4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา

    รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง

    5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด

    วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน

    เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ

    สวัสดีครับ
    คนเล่านิทาน
    26 กพ. 2558

    ####################
    เอกสารประกอบ
    FRUS
    https://www.dropbox.com/s/
    เรื่อง สันดาน “สันดาน” (1) ผมหายไปจากหน้าจอหลายวันมาก เพราะขี้เกียจดูข่าวและเขียนถึงไอ้นักล่าตอนนี้ บทมันซ้ำจนน่าเบื่อ แถมสะอิดสะเอียน เวลาดูมันพูด เล่นบทเป็นวีรบุรุษ ผู้เสียสละ จำเป็นต้องรักษาสันติสุขของมนุษยชาติ ฯลฯ ขืนดูต่อ ยาแก้คลื่นไส้ก็เอาไม่อยู่ ผมเลยไปค้นหาหนังสือเก่าๆมาอ่านประเทืองปัญญา ดีกว่าดูไอ้นักล่าตอแหล ปรากฏว่า อาการผมหนักกว่าคลื่นไส้! ผมไปเจอเอกสารเก่า เกือบ 100 ปี “The American and Russian Missions” ปี ค.ศ.1917 เป็นเอกสารของกระทรวงการต่างประเทศ อเมริกัน ที่เรียกว่า Foreign Relations of the United States (FRUS) ทนไม่ไหว ต้องเอามาเล่าสู่กันฟัง ถ้าไม่บอกว่า คนเขียนเอกสาร เขียนเมื่อไหร่ ท่านผู้อ่านอาจนึกว่าเป็นเรื่องในสมัยปัจจุบัน ผ่านมาเกือบ 100 ปี มันก็ยังใช้วิธีเดิมๆ ตามสันดาน… ปี ค.ศ.1917 ตามวิชาประวัติศาสตร์สากล สมัยที่ผมยังเรียนหนังสืออยู่ชั้นมัธยม เขาบอกว่า มีการปฏิวัติเกิดขึ้นในรัสเซีย คือการปฏิวัติอันโด่งดังของพวกบอลเชวิก (Bolsheviks) ที่โค่นพระเจ้าซาร์นิโคลัส ที่ 2 นั่นแหละ แต่ความจริง ในปี ค.ศ.1917 รัสเซีย มีการปฏิวัติ 2 ครั้ง ครั้งแรก ในเดือนมีนาคม ผู้นำการปฏิวัติ คือ นาย Aleksandr Kerensky ซึ่งยึดอำนาจจากพระเจ้าซาร์ ทำให้พระเจ้าซาร์ประกาศสละบัลลังก์ แต่ต่อมาพวกปฏิวัติก็จับท่านและราชวงค์ไปกักขัง ส่วนพวก Bolsheviks มาทำการปฏิวัติซ้ำในพฤศจิกายน ค.ศ.1917 ไล่คณะ นาย Kerensky ออกไป แล้วพวก Bolsheviks ก็ปกครองรัสเซียต่อ ในตอนที่ นาย Kerensky ทำการปฏิวัตินั้น สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่เริ่มขึ้นตั้งแต่ ปี ค.ศ.1914 กำลังโซ้ยกันอย่างดุเดือด สงครามโลกครั้งที่ 1 นี้ ความจริงเริ่มมาจากชาวเกาะใหญ่ เท่าปลายนิ้วก้อยของเท้าซ้าย เป็นฝ่ายกระสัน อยากจะทำสงครามนะครับ เพราะอังกฤษหมั่นไส้ ปนปอดแหกว่า เยอรมันกำลังจะโตใหญ่เกินหน้า ส่วนเรื่องอาชดยุกค์เฟอร์ดินานด์ แห่งปรัสเซียถูกยิง นั่นมันสาเหตุของสงครามโลก ตามประวัติศาสตร์หลักสูตรกระทรวงศึกษาฯ ลองไปหาประวัติศาสตร์นอกหลักสูตรมาอ่านกันบ้าง จะได้เห็นโลกกว้าง และลึกขึ้น ประมาณปี คศ 1899 เยอรมันส้มหล่นใส่ ไปได้สัมปทานจากออตโตมาน ให้สร้างทางรถไฟสาย Berlin Bagdad ยาวประมาณ 2,500 ไมล์ ภาพรางรถไฟวิ่งยาวจาก Berlin ผ่านไปกลางตะวันออกกลาง ที่เต็มไปด้วยแหล่งน้ำมันไปจนถึง Bagdad เลยไปอีกหน่อย ก็ถึงอ่าวเปอร์เซีย ที่อังกฤษตีตั๋วจองไว้ ภาพนี้มันทำให้ชาวเกาะใหญ่ฯนอนฝันร้าย ที่นอนเปียกชุ่มทุกคืน ตั้งแต่รู้ข่าว ชาวเกาะฯทนไม่ไหว ลุกขึ้นมาวางแผนเตะตัดขาเยอรมัน ด้วยการไปชวนพรรคพวกมาร่วมรายการถล่มนักสร้างราง แต่ถ้ามีแค่พวกขาประจำอย่างฝรั่งเศส อืตาลีร่วม ชาวเกาะไม่แน่ใจว่า จะถีบนักสร้างรางให้ตกรางได้ ชาวเกาะเลยไปหลอกรัสเซีย ถึงจะอยู่ใกลหน่อย แต่ข่าวว่ากองทัพอึด ให้มาร่วมรายการถล่มนักสร้างรางด้วยกัน (รายละเอียดอยู่ในนิทาน เรื่อง “ลูกครึ่ง หรือนก 2 หัว” และ นิทานชุด “เหยื่อ”) รัสเซีย จริงๆไม่มีเรื่องชังหน้ากับเยอรมันซักหน่อย แต่พออังกฤษเอาของขวัญมาล่อว่า ถ้าถีบมันตกรางได้ เอาไปเลย อาณาจักรออโตมาน เรายกให้ท่าน ไม่รู้รัสเซียกำลังมึนอะไร เดินหล่นพลั่กลงหลุม ที่ชาวเกาะขุดล่อ ออโตมานก็ไม่ใช่ของชาวเกาะใหญ่ฯ ซะหน่อย เขาเอาของคนอื่นมาล่อ ไปตกลงกับเขาได้ยังไง เนี่ย เหมือนเวลาคนดวงไม่ดี มีดาวประเภท เสาร์ ราหู ทับลัคน์อะไรทำนองนั้น เวลาดาวแรงอย่างนี้ทับลัคน์ อย่าไปเชื่ออะไรใครเขาง่ายๆนะครับ เมื่อ นาย Kerensky ทำปฏิวัติรัสเซีย สงครามเล่นไปแล้ว 3 ปี แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลิก คนจัดรายการ ออกตั๋วเสริมมาขายเพิ่มอยู่เรื่อย แม้บ้านช่องจะพังพินาศฉิบหายกันเป็นแถบๆ แต่ชาวเกาะก็บอกให้สู้ต่อ ก็บทมันเขียนไว้อย่างนั้น ทีนี้ รัสเซียแนวร่วม ดันมีปฏิวัติ รัฐบาลใหม่จะเล่นสงครามต่อหรือ เปล่า ชาวเกาะชักเหงื่อแตก อเมริกาเด็กเรา (ตอนนั้น ไอ้นักล่ายังเป็นเด็ก อยู่ในอาณัติของอังกฤษ เรื่องมัน 100 ปีมาแล้วนะครับ แต่ผมก็ไม่แน่ใจ ตอนนี้ ถึงไม่ใช่เด็กแล้ว แต่ก็อาจจะยังอยู่ ในอาณัติกันเหมือนเดิม) ก็ดันประกาศอยู่นั่นว่า เราเป็นกลาง (ยัง) ไม่เข้ามาช่วยรบ จำเราต้องใช้มันไปสืบความว่า รัสเซียหลังปฏิวัตินี่ จะสู้ต่อ หรือจะฝ่อหนี ประธานาธิบดี Woodlow Wilson ไม้หลักปักเลน จึงจัดคณะละครเร่ ไปเจริญสัมพันธไมตรี ชื่อ The Roots Mission ให้ไปดูลาดเลารัสเซีย หลังปฏิวัติครั้งแรก ว่าหน้าตาเป็นยังไง หล่อเหลา หรือเหลาเหย่ คณะละครเร่เจริญสัมพันธไมตรีที่นำโดย นาย Elihu Roots ซึ่งมีตำแหน่งเป็นอดีตทูต อดีตรัฐมนตรี อดีตอะไรเยอะแยะไปหมด ไปเปิดดูกูเกิลเอาแล้วกันนะครับ น่าเชื่อถือดี แต่คราวนี้ดูเหมือนจะไปทำหน้าที่เล่นละคร และทำหน้าที่นักสืบมากกว่า คณะนาย Roots มีด้วยกันกว่าสิบคน มีทั้ง นักการทูต นักธุรกิจ วิศวกร นักหนังสือพิมพ์ นักกิจกรรมสังคม (YMCA) นายทหารบก นายทหารเรือ เบิ้มๆทั้งนั้น มันเป็นคณะที่ต้องไปแสดงละครจริงๆ พวกเขาไปถึง เมือง Petrograd ของรัสเซีย เดือนพฤษภาคม 1917 ใช้เวลาเจริญสัมพันธไมตรีกับคณะปฏิวัติ Kerensky ประมาณ 4 เดือน ไปมันทั่วรัสเซียอันกว้างใหญ่ไพศาล ไปจนถึงไซบีเรียโน่น ต้องยอมรับว่า คณะนี้เขาเล่นละครเก่ง คงสงสัยกัน พวก YMCA ( Young Men’s Christain Association) นี่คณะละคร เอาไปทำอะไร ในสมัยนั้น (และสมัยนี้ ?!) เขาใช้ YMCA ทำหน้าที่เหมือน CIA ในคราบทูตวัฒนธรรม ใช้ศาสนา การกีฬา การบรรเทิง บังหน้า เข้าไปคลุกคลี กับชาวบ้าน ชาวเมือง และนักเรียนนักศึกษา มีทั้ง YMCA และ YWCA ของฝ่ายหญิง การจะเอาเจ้าหน้าที่ หน่วยงานราชการทหาร ไปคลุกกับชาวบ้านนี่ บางทีไม่ได้ผล ชาวบ้านไม่เปิดใจ ก็ใช้กิจกรรมนำโดยกลุ่มแบบนี้ สมัยนี้ ก็คงไม่ใช้ YMCA แล้ว เขามาในรูปแบบของกลุ่มอะไร ลองเดาดู (2) เดือนสิงหาคม คณะละครเร่ แสดงเสร็จ ก็ทำรายงานยาวเหยียด ส่งให้รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ นาย Robert Lansing พิจารณา ผมจะขอยกมาเฉพาะบางส่วน ที่น่าสนใจ แต่จะเอาฉบับเต็มลงให้อ่านกันด้วย เผื่อท่านใดอยากจะตั้งคณะละคร จะได้ใช้เป็นตัวอย่าง คณะละครได้ไปพบทั้งพวกทำปฏิวัติ ทหารฝ่ายเก่า ฝ่ายใหม่ ชาวบ้าน ชาววัด ครู นักเรียน พ่อค้า นักธุรกิจ สายลับ ฯลฯ พบมันหมด ไปคุย ไปถาม ไปเสือก ก็เหมือนที่ไอ้บ้าอะไรที่เพิ่ง มาเสือกที่บ้านเรา เมื่อต้นเดือนนี้ละครับ มันคงมาจากคณะละครเดียวกัน รูปแบบ การเจรจา ถึงได้ทำนองเดียวกัน เล่นกันแบบนี้มา 100 ปีแล้ว ยังไม่เลิก ข้อสรุปที่คณะละคร ได้จากการสำรวจ คือ ชาวรัสเซีย ถอดใจไม่อยากเล่นสงครามแล้ว ขนมปังก็จะไม่มีกิน บ้านก็พัง จนแทบไม่เหลือที่ให้ซุกหัว จะไปรบทำไมอีก คณะละครอ้างว่า เพราะฝ่ายเยอรมันขนสายลับเข้ามา เต็มเมืองรัสเซีย มากรอกหูชาวรัสเซีย และทหารรัสเซียว่า จะไปรบทำไม คนอยากรบน่ะ คือพระเจ้าซาร์ ตอนนี้ท่านก็ไปแล้ว พี่น้องก็ไม่ต้องไปรบแล้ว กลับบ้านไปทำไร่ทำนาต่อแล้วกัน ฝ่ายคณะละครได้ยินเข้าก็ลมแทบใส่ นี่ใกล้จะถึงคิวเราเข้าฉากไปรบต่อ ถ้าไม่มีรัสเซียอยู่แถวหน้าตายก่อน พวกเราก็ ฉ. ห. ละซิ เพราะฉนั้น สิ่งที่ฝ่ายเราต้องทำด่วน (ที่เปิดเผยได้) มี 2 เรื่อง เรื่องที่ 1 เราต้องเอาทีมอเมริกัน เข้ามาดูแลเรื่องถนนหนทาง รางรถไฟ ในรัสเซีย เพราะขณะนี้ อาวุธยุทธภัณท์ ที่ฝ่ายเราขนมาให้ ยังกองค้างอยูที่เมืองท่า Vladivostok ประมาณ 700,000 ตัน จะขนผ่านข้ามไป Moscow ยังไม่ได้ เพราะทั้งถนน ทั้งทางรถไฟ รับน้ำหนักไม่ไหว แล้วเมื่อเราจะเข้าทำสงคราม ของมันจะต้องขนมาอีกมากมาย เราจะทำยังไง ต้องแก้ไขเรื่องนี้ด่วนจี๋ อืม คณะละครนี่ ไม่ใช่ย่อย ไม่ใช่มารำเฉิบๆ อย่างเดียว เขาไปสำรวจหมด ระยะทางรถไฟจาก Vladivostok ถึง Moscow น่ะ ประมาณ 5 ถึง 6,000 ไมล์ เชียวนะ รำไป สำรวจไปนี่ไม่ใช่งานเล็กๆ แล้วจำกันได้ไหมครับ เมื่อเขาจะรบกับเวียตนาม เขาใช้บ้านเราเป็นฐานทัพ แต่ก่อนจะยกโขยงกองทัพกันเข้ามา เขาส่งคณะละครเร่แบบนี้ มาสำรวจบ้านเราไม่รู้กี่คณะ สำรวจอะไรไปบ้างก็ไม่รู้ แล้วเขาก็สร้างถนน จากสระบุรี กว้างขวางยาวเรียบไปถึงโคราช ให้เราชาวบ้านดีใจ แหม อเมริกาใจดีจัง ถนนเลยมีชื่อว่า มิตรภาพ เปล่าหรอกครับ เขาเตรียมไว้ขนส่ง อาวุธ ยุทธภัณท์ ที่เขาจะขนมาทางเรือ แต่กลัวมากองเป็นภูเขา อยู่แถวท่าเรือคลองเตย แบบ Vladivostock! มันก็เลย ต้องสร้างถนน สร้างสนามบิน ให้ประเทศไทย ฯลฯ (รายละเอียดมีอยู่ในนิทานเรื่อง “จิกโก๋ปากซอย” ถ้าอยากอ่านประวัติศาสตร์ นอกหลักสูตร กระทรวงศึกษาฯ) เรื่องที่ 2 ที่คณะละคร บอกสำคัญอย่างยิ่ง คือ เราต้องย้อมความคิค ย้อมสมองคนรัสเซียให้ “อยากทำสงคราม” ไม่ให้เชื่อฟังเยอรมัน อเมริกาจะทำได้อย่างไร รัสเซียไม่ใช่สมันน้อยนะ คณะละครบอกไม่มีปัญหา คนรัสเซีย ก็เหมือนเด็ก ที่ตัวโตนั่นแหละ เอ้า เจ้าหน้าที่รัสเซียที่ตามอ่านนิทาน ช่วยขีดเส้นใต้ 2 เส้น แล้วรายงานส่งคุณพี่ปูตินของผมด้วยนะครับ ว่าอเมริกาพูดแบบนี้ แปลว่าเห็นคนรัสเซียเป็นยังไง (เสี้ยม ซะหน่อย) คณะละครเร่ เขียนแผนการฟอกย้อมให้เสร็จ เขาระบุว่า เป้าหมายของแผนคือ: “To influence the attitude of the people of Russia for the prosecution of war as the only way of perpetuating their democracy ” ใครแปลเก่งๆ ลองแปลดูครับ สำหรับผม ผมเข้าใจความว่า เพื่อเป็นการย้อมความคิดของคนรัสเซีย ให้เชื่อว่า การเข้าทำสงคราม เป็นทางเดียวที่จะทำให้ประชาธิปไตยของเขาอยู่อย่างยั่งยืน ผมเขียนปูพื้น เล่ามาเสียยืดยาว เพื่อจะให้อ่านประโยคนี้กัน อ่านแล้วโปรดพิเคราะห์กันให้ดีๆ จะได้เห็น “สันดาน” อันอำมหิต ของอเมริกา (และของอังกฤษ) ที่ผ่านมาแล้วเกือบ 100 ปี แล้วก็ยังไม่เปลี่ยน และอีกกี่ร้อยปี ก็คงไม่มีวันเปลี่ยนความอำมหิต นี้ โดยใช้ความตอแหล แบบหน้าด้านๆ อ้างเรื่องประชาธิปไตย แบบตะหวักตะบวย เพื่อประโยชน์ของมัน หรือพวกมันเท่านั้น ใครจะเจ็บ ใครจะตาย ใครจะฉิบหาย ใครจะวิบัติ ขนาดไหน มันไม่สนใจ เลวถึงขนาดนี้ อำมหิต อย่างนี้ ยังมีคนอยากให้อเมริกา ครอบหัวสี่เหลี่ยมต่อไปอีกหรือครับ แผนการฟอกย้อม จะใช้วิธีหลักๆ อยู่ 5 อย่าง 1. จัดกระบวนการ “สร้าง และย้อมข่าว” แล้วกระจายข่าว ที่สร้างและย้อมแล้ว ไปทั่วรัสเซีย โดยจะเอาทีมงานมาจากอเมริกา ทั้งด้านการเขียน และการแปล คือเอาช่างชำนาญการย้อมของอเมริกา มาตั้งโรงงานที่รัสเซีย เหมือนที่มีอยู่เกลื่อนในบ้านสมันน้อย ซื้อมันทุกช่อง ครอบมันทุกฉบับ 2. การใช้เอกสารประเภทแผ่นพับ และใบปลิว เพื่อง่ายแก่การเสพข่าว สมัยนี้ก็คงเปลี่ยนเป็น เครื่องมือ ไอ้ป๊อด ไอ้แป้ด ไอ้โฟน โดยเฉพาะ พวกเล่นไลน์นี่เหยื่อชั้นดี ส่งข่าวย้อมอะไรเข้าไปแพลบเดียว กระจายทั่ว เรื่องโกหกทั้งนั้น เสพกันได้แยะและเร็วกว่า 3. สร้างหนังประเภทต่างๆ เพื่อให้ชาวรัสเซียเสพ เช่น หนังเกี่ยวกับสงคราม หนังชีวิตคนอเมริกันในชนบท ในเมือง หนังเกี่ยวกับการทำอุตสาหกรรม การค้า หนังตลก และที่สำคัญ หนังที่แสดงถึงความรักชาติและการแสวงหาประชาธิปไตย ฮอลลีวู้ดรับไป เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นโรงย้อมที่สำคัญหมายเลขหนึ่ง 4. การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ โดยเฉพาะทำเป็นแผ่นโปสเตอร์สีสวยสดุดตา สื่อหัวข้อที่เหมาะสมกับรัสเซีย โดยให้สำนักงานประชาสัมพันธ์ ฝีมือเยี่ยมของอเมริกา รู้ไหมครับ พวกประชาสัมพันธ์เก่งๆ เขาย้อมโลกใบนี้มานานเท่าไหร่แล้ว เขาเอาอะไรมาใส่หัวสมันน้อยบ้าง 5. วิธีการที่แนบเนียนและใช้แพร่หลาย คือการพูด ซึ่งจำเป็นต้องใช้ นักพูด นักประชาสัมพันธ์ และครู เป็นจำนวนมาก โดยอเมริกาอาจจะเลือกอย่างเหมาะสม จากชาวรัสเซียก็ได้ นักพูดและครูนี้ ถือว่าเป็นเครื่องมือย้อมที่เยี่ยมที่สุด วิธีการนี้ บ้านสมันน้อยใช้แยะมาก ยิ่งตอนนี้ซึ่งเป็นช่วงสำคัญของบ้านเมือง ช่างย้อมถูกจ้างมาทำหน้าที่เพิ่มขึ้นอีกมาก มาในสาระพัดคราบ หัดสังเกตกันบ้าง ใครของจริง ใครของปลอม ใครช่างย้อมฝีมือเนียน เป็นไงครับ 5 วิธีการหลัก ยังอยู่ครบในศตวรรษนี้ แค่เปลี่ยน เสื้อผ้า หน้าผม ถ้อยคำ ท่าทาง ให้เข้ากับสมัย ละครฉากเดิมๆก็ยังใช้ได้ เครื่องมือย้อมก็ยังใช้อยู่ แค่เปลี่ยนรุ่นใหม่ไปเรื่อยๆ เท่านั้น นี่ตกลงเราจะให้เขาเล่นแบบนี้ ไปเรื่อยๆ อีก 100 ปีหรือไงครับ สวัสดีครับ คนเล่านิทาน 26 กพ. 2558 #################### เอกสารประกอบ FRUS https://www.dropbox.com/s/
    0 Comments 0 Shares 216 Views 0 Reviews
  • ขุนแผนนางเคียง หลวงพ่อเขียว โคราช ปี2542
    ขุนแผนนางเคียง เนื้อผงยา หลวงพ่อเขียว วัดระเว โคราช ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! วัตถุสายเสน่ห์ และดึงดูดความรัก ของแรงจริง เมตตาสุดๆ สายตรงตามเก็บตลอด //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณด้านาช่วยเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม และดึงดูดความรัก สตรีพ่าย มหาเสน่ห์รุนแรงมากๆ มหานิยม เสริมเรื่องความรัก การทำงาน ทำมาหากิน ค้าขาย เรียกลูกค้า หนังเหนียวคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย อันตรายใดไม่อาจกล้ำกลาย **

    ** “หลวงพ่อเขียว อินทโชโต เป็นพระเกจิอาจารย์ “สายเสน่ห์” ที่หาตัวจับได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้ ท่านเก่งมากในเรื่องการลง “นะ หน้าทอง มหาเสน่ห์” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ จอมขมังเวทย์ แห่งเมืองโคราช ปัจจุบันหลวงปู่เขียว วัดระเว ท่านลาสิกขาเพศออกไปแล้วครับ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ และทางลูกหลานของท่านต้องการรับไปดูแล เพราะตอนนี้ท่านแก่ชรามากแล้ว **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    ขุนแผนนางเคียง หลวงพ่อเขียว โคราช ปี2542 ขุนแผนนางเคียง เนื้อผงยา หลวงพ่อเขียว วัดระเว โคราช ปี2542 // พระดีพิธีขลัง !! วัตถุสายเสน่ห์ และดึงดูดความรัก ของแรงจริง เมตตาสุดๆ สายตรงตามเก็บตลอด //พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณด้านาช่วยเสริมเสน่ห์ เมตตามหานิยม และดึงดูดความรัก สตรีพ่าย มหาเสน่ห์รุนแรงมากๆ มหานิยม เสริมเรื่องความรัก การทำงาน ทำมาหากิน ค้าขาย เรียกลูกค้า หนังเหนียวคงกระพัน แคล้วคลาดปลอดภัย อันตรายใดไม่อาจกล้ำกลาย ** ** “หลวงพ่อเขียว อินทโชโต เป็นพระเกจิอาจารย์ “สายเสน่ห์” ที่หาตัวจับได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้ ท่านเก่งมากในเรื่องการลง “นะ หน้าทอง มหาเสน่ห์” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ จอมขมังเวทย์ แห่งเมืองโคราช ปัจจุบันหลวงปู่เขียว วัดระเว ท่านลาสิกขาเพศออกไปแล้วครับ เนื่องจากมีปัญหาทางด้านสุขภาพ และทางลูกหลานของท่านต้องการรับไปดูแล เพราะตอนนี้ท่านแก่ชรามากแล้ว ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • "รักออนไลน์หรือหลอกลวง? วิธีสังเกตและป้องกันภัยจาก Romance Scam"

    ในยุคที่แอปหาคู่กลายเป็นช่องทางยอดนิยมในการพบปะผู้คนใหม่ ๆ เช่น Tinder, Hinge, OkCupid, Grindr และ Bumble ก็มีภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่—Romance Scam หรือการหลอกลวงทางความรักออนไลน์ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพใช้เทคนิคการสร้างความสัมพันธ์เพื่อหลอกเอาเงินหรือข้อมูลส่วนตัวจากเหยื่อ

    มิจฉาชีพเหล่านี้มักเริ่มต้นด้วยการพูดคุยอย่างจริงใจ สร้างความไว้ใจ แล้วค่อย ๆ ขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือเสนอ “โอกาสลงทุน” ที่ดูดีเกินจริง พวกเขาอาจใช้ภาพปลอม โปรไฟล์โซเชียลที่ดูไม่สมจริง หรือแม้แต่เล่าเรื่องเศร้าเพื่อเรียกความสงสาร

    ในปี 2023 มีรายงานการหลอกลวงแบบนี้กว่า 64,000 เคส รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ โดยเหยื่อแต่ละรายสูญเงินเฉลี่ยถึง $2,000 ซึ่งมากกว่าการหลอกลวงรูปแบบอื่น ๆ

    รูปแบบของ Romance Scam
    เริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ผ่านแอปหาคู่
    ค่อย ๆ ขอเงินหรือข้อมูลส่วนตัว
    ใช้เรื่องเศร้า เช่น ป่วย, ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย, หรือเหตุฉุกเฉิน เพื่อเรียกความสงสาร

    สัญญาณเตือนที่ควรระวัง
    นัดเจอแต่ยกเลิกทุกครั้ง
    พยายามให้คุณห่างจากเพื่อนหรือครอบครัว
    โปรไฟล์โซเชียลดูไม่สมจริง หรือมีการโต้ตอบน้อย
    แสดงความรักเร็วเกินไป หรือสร้างความเร่งรีบทางอารมณ์
    อ้างว่าอยู่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการพบตัวจริง

    คำเตือนจาก FBI
    มิจฉาชีพมักอ้างว่าอยู่ต่างประเทศชั่วคราว
    ใช้ข้ออ้างเรื่องค่ารักษา, ค่าธรรมเนียม, หรือวิกฤตส่วนตัวเพื่อขอเงิน
    ปฏิเสธการพบตัวจริงทุกครั้ง

    วิธีป้องกันตัว
    อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า
    ใช้เครื่องมือ reverse image search เพื่อตรวจสอบภาพโปรไฟล์
    อย่าส่งเงินหรือของขวัญให้คนที่คุณไม่เคยเจอตัวจริง
    เล่าเรื่องความสัมพันธ์ให้คนใกล้ตัวฟัง เพื่อให้มองเห็นมุมที่คุณอาจมองไม่ออก
    หากสงสัยว่าโดนหลอก ให้หยุดติดต่อทันที และแจ้งตำรวจหรือ FBI

    สาระเพิ่มเติมจากภายนอก:

    ความเข้าใจเรื่อง Catfishing
    คือการสร้างตัวตนปลอมเพื่อหลอกลวงทางอารมณ์หรือการเงิน
    มักใช้ภาพคนอื่นและเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ

    การป้องกันในเชิงจิตวิทยา
    อย่าปล่อยให้ความเหงาทำให้คุณลดการใช้วิจารณญาณ
    ความรักที่แท้จริงไม่ควรเริ่มต้นด้วยการขอเงิน

    https://www.slashgear.com/1996880/things-need-know-avoid-online-dating-romance-scams-catfish/
    💔 "รักออนไลน์หรือหลอกลวง? วิธีสังเกตและป้องกันภัยจาก Romance Scam" ในยุคที่แอปหาคู่กลายเป็นช่องทางยอดนิยมในการพบปะผู้คนใหม่ ๆ เช่น Tinder, Hinge, OkCupid, Grindr และ Bumble ก็มีภัยเงียบที่แฝงตัวอยู่—Romance Scam หรือการหลอกลวงทางความรักออนไลน์ ซึ่งกลุ่มมิจฉาชีพใช้เทคนิคการสร้างความสัมพันธ์เพื่อหลอกเอาเงินหรือข้อมูลส่วนตัวจากเหยื่อ มิจฉาชีพเหล่านี้มักเริ่มต้นด้วยการพูดคุยอย่างจริงใจ สร้างความไว้ใจ แล้วค่อย ๆ ขอความช่วยเหลือทางการเงิน หรือเสนอ “โอกาสลงทุน” ที่ดูดีเกินจริง พวกเขาอาจใช้ภาพปลอม โปรไฟล์โซเชียลที่ดูไม่สมจริง หรือแม้แต่เล่าเรื่องเศร้าเพื่อเรียกความสงสาร ในปี 2023 มีรายงานการหลอกลวงแบบนี้กว่า 64,000 เคส รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1.14 พันล้านดอลลาร์ โดยเหยื่อแต่ละรายสูญเงินเฉลี่ยถึง $2,000 ซึ่งมากกว่าการหลอกลวงรูปแบบอื่น ๆ ✅ รูปแบบของ Romance Scam ➡️ เริ่มจากการสร้างความสัมพันธ์ผ่านแอปหาคู่ ➡️ ค่อย ๆ ขอเงินหรือข้อมูลส่วนตัว ➡️ ใช้เรื่องเศร้า เช่น ป่วย, ค่าธรรมเนียมทางกฎหมาย, หรือเหตุฉุกเฉิน เพื่อเรียกความสงสาร ✅ สัญญาณเตือนที่ควรระวัง ➡️ นัดเจอแต่ยกเลิกทุกครั้ง ➡️ พยายามให้คุณห่างจากเพื่อนหรือครอบครัว ➡️ โปรไฟล์โซเชียลดูไม่สมจริง หรือมีการโต้ตอบน้อย ➡️ แสดงความรักเร็วเกินไป หรือสร้างความเร่งรีบทางอารมณ์ ➡️ อ้างว่าอยู่ต่างประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการพบตัวจริง ‼️ คำเตือนจาก FBI ⛔ มิจฉาชีพมักอ้างว่าอยู่ต่างประเทศชั่วคราว ⛔ ใช้ข้ออ้างเรื่องค่ารักษา, ค่าธรรมเนียม, หรือวิกฤตส่วนตัวเพื่อขอเงิน ⛔ ปฏิเสธการพบตัวจริงทุกครั้ง ✅ วิธีป้องกันตัว ➡️ อย่าให้ข้อมูลส่วนตัวกับคนแปลกหน้า ➡️ ใช้เครื่องมือ reverse image search เพื่อตรวจสอบภาพโปรไฟล์ ➡️ อย่าส่งเงินหรือของขวัญให้คนที่คุณไม่เคยเจอตัวจริง ➡️ เล่าเรื่องความสัมพันธ์ให้คนใกล้ตัวฟัง เพื่อให้มองเห็นมุมที่คุณอาจมองไม่ออก ➡️ หากสงสัยว่าโดนหลอก ให้หยุดติดต่อทันที และแจ้งตำรวจหรือ FBI 📎 สาระเพิ่มเติมจากภายนอก: ✅ ความเข้าใจเรื่อง Catfishing ➡️ คือการสร้างตัวตนปลอมเพื่อหลอกลวงทางอารมณ์หรือการเงิน ➡️ มักใช้ภาพคนอื่นและเรื่องราวที่แต่งขึ้นเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ✅ การป้องกันในเชิงจิตวิทยา ➡️ อย่าปล่อยให้ความเหงาทำให้คุณลดการใช้วิจารณญาณ ➡️ ความรักที่แท้จริงไม่ควรเริ่มต้นด้วยการขอเงิน https://www.slashgear.com/1996880/things-need-know-avoid-online-dating-romance-scams-catfish/
    WWW.SLASHGEAR.COM
    Things You Should Remember To Avoid Getting Scammed When Dating Online - SlashGear
    The internet can be a dangerous place, even when playing the game of love. But there are a few things you can keep in mind to avoid online scams.
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • หลวงพ่อน่วมหลังพระอานนท์ รุ่นแรก วัดหลวงครู จ.นครศรีธรรมราช ปี2505
    หลวงพ่อน่วมหลังพระอานนท์ รุ่นแรก เนื้อชันโรง วัดหลวงครู อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ปี2505 // พระดีพิธีใหญ่ เจ้าตำหรับ สาริกา ที่สุดแห่งเมตตาแดนใต้ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณเด่นเมตตามหานิยม สุดๆ มหาเสน่ห์ ค้าขาย ดีเลิศ เจราจาและโชคลาภ เรื่องความรัก การงาน ชัยเหนือคู่แข่ง ธุรกิจก้าวหน้า.และ ทางคงกระพัน มหาอุด ชนิดที่รียกได้ว่ายิงไม่ออก ฟันกับมีดไม่เข้า >>

    ** หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู ได้รับมอบตำราการสร้างมาจาก 'ท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช' ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ของสำนักเขาอ้อที่ตกทอดสืบต่อกันมา พุทธคุณเด่นทางด้านใด เช่นเดียวกับเครื่องรางทุกชนิดที่ปลุกเสกด้วยคุณพระ ไม่ว่าจะเป็น นางกวัก, เขี้ยวเสือ, หรือตะกรุดต่างๆ เป็นต้น ด้วยพุทธคุณที่เด่นชัดในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ และงานต่างๆที่ต้องใช้ปากเจรจา หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู สุดยอดต้นตำเนื้อชันโรงสูตรโบราณของชาวใต้ หนึ่งใน พระเกจิ อาคมขลัง ผู้ทรงวิทยาคุณ แดนทักษิณ พระเกจิที่รอบรู้เชียวชาญในด้านเวท เป็นที่เคารพนับถือของชาวนครศรีธรรมราชและสาธุชนทั่วภาคใต้ >>

    ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ

    ช่องทางติดต่อ
    LINE 0881915131
    โทรศัพท์ 0881915131
    หลวงพ่อน่วมหลังพระอานนท์ รุ่นแรก วัดหลวงครู จ.นครศรีธรรมราช ปี2505 หลวงพ่อน่วมหลังพระอานนท์ รุ่นแรก เนื้อชันโรง วัดหลวงครู อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ปี2505 // พระดีพิธีใหญ่ เจ้าตำหรับ สาริกา ที่สุดแห่งเมตตาแดนใต้ // พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณเด่นเมตตามหานิยม สุดๆ มหาเสน่ห์ ค้าขาย ดีเลิศ เจราจาและโชคลาภ เรื่องความรัก การงาน ชัยเหนือคู่แข่ง ธุรกิจก้าวหน้า.และ ทางคงกระพัน มหาอุด ชนิดที่รียกได้ว่ายิงไม่ออก ฟันกับมีดไม่เข้า >> ** หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู ได้รับมอบตำราการสร้างมาจาก 'ท่านขุนพันธ์รักษ์ราชเดช' ซึ่งเป็นตำราเก่าแก่ของสำนักเขาอ้อที่ตกทอดสืบต่อกันมา พุทธคุณเด่นทางด้านใด เช่นเดียวกับเครื่องรางทุกชนิดที่ปลุกเสกด้วยคุณพระ ไม่ว่าจะเป็น นางกวัก, เขี้ยวเสือ, หรือตะกรุดต่างๆ เป็นต้น ด้วยพุทธคุณที่เด่นชัดในเรื่องเมตตา มหาเสน่ห์ โชคลาภ ค้าขาย เข้าหาผู้หลักผู้ใหญ่ และงานต่างๆที่ต้องใช้ปากเจรจา หลวงพ่อน่วม วัดหลวงครู สุดยอดต้นตำเนื้อชันโรงสูตรโบราณของชาวใต้ หนึ่งใน พระเกจิ อาคมขลัง ผู้ทรงวิทยาคุณ แดนทักษิณ พระเกจิที่รอบรู้เชียวชาญในด้านเวท เป็นที่เคารพนับถือของชาวนครศรีธรรมราชและสาธุชนทั่วภาคใต้ >> ** พระสถาพสวยมาก พระดูง่าย พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ ช่องทางติดต่อ LINE 0881915131 โทรศัพท์ 0881915131
    0 Comments 0 Shares 206 Views 0 Reviews
  • เมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค.เฟซบุ๊กเพจ Army Military Force ได้โพสต์ภาพของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาขณะนั่งอยู่ในรถยนต์พร้อมกับชายคนหนึ่งซึ่งหน้าตาคล้ายคนจีนตัดผมเกรียน โดยระบุข้อความว่า “คืนที่ 16 ต.ค. - ชาวเน็ตเขมรแชร์ภาพ พลโทหญิงมาลี โสเจียตา เซลฟี่กับหนุ่มธุรกิจชาวจีน ระบุ ทั้งสองกำลังไปดินเนอร์ ความรักกำลังเบ่งบานและราบรื่นไปด้วยดี”

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099221

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    เมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค.เฟซบุ๊กเพจ Army Military Force ได้โพสต์ภาพของ พล.ท.หญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาขณะนั่งอยู่ในรถยนต์พร้อมกับชายคนหนึ่งซึ่งหน้าตาคล้ายคนจีนตัดผมเกรียน โดยระบุข้อความว่า “คืนที่ 16 ต.ค. - ชาวเน็ตเขมรแชร์ภาพ พลโทหญิงมาลี โสเจียตา เซลฟี่กับหนุ่มธุรกิจชาวจีน ระบุ ทั้งสองกำลังไปดินเนอร์ ความรักกำลังเบ่งบานและราบรื่นไปด้วยดี” อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000099221 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire #เขมรลักลอบวางระเบิด
    0 Comments 0 Shares 389 Views 0 Reviews
  • พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว
    พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม
    พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก
    พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น
    พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง
    พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว
    พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน
    พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา
    พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย
    พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน
    พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้
    พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า
    พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย
    พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน
    พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง
    พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง
    พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย
    พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ
    พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย
    พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก
    พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง
    พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้
    พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ
    พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย
    พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น

    มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!
    พ่อสู้เรื่องระบบน้ำชลประทาน ให้น้ำหมุนเวียนไปทั่ว พ่อสู้เรื่องเขื่อน เพื่อกักเก็บน้ำไว้ใช้ยามแล้ง ยามท่วม พ่อสู้เรื่องฝนเทียม ให้ชาวนา ชาวไร่ มีน้ำใช้ยามแล้งหนัก พ่อสู้เรื่องความยากจน กระจายรายได้ โครงการท้องถิ่น พ่อสู้เรื่องเศรษฐกิจพอเพียง พึ่งพาตนเอง สอนช่วยตัวเอง พ่อสู้เรื่องความช่วยเหลือ อุทกภัย วาตภัย แผ่นดินไหว พ่อสู้เรื่องการเกษตร การใช้พื้นที่ การพัฒนายั่งยืน พ่อสู้เรื่องความเท่าเทียม แบ่งปัน และยกระดับการศึกษา พ่อสู้เรื่องการดนตรี ศิลปะ รากเหง้า อนุรักษ์ประเพณีไทย พ่อสู้เรื่องแนวคิด ปรัชญา สติ ปัญญา เหตุและผล สั่งสอน พ่อสู้เรื่องความประหยัด อดออมคุ้มค่า รีไซเคิล กลับมาใช้ พ่อสู้เรื่องป่าไม้ สัตว์ป่า สมดุลธรรมชาติ พันธุ์ไทย ปลูกป่า พ่อสู้เรื่องสินค้าไทย แปรรูป อาหาร ทะเล ผ้าไหม ผ้าฝ้าย พ่อสู้เรื่องความสามัคคี ปองครอง ยุติความขัดแย้งภายใน พ่อสู้เรื่องความเป็นชาตินิยม ภูมิใจความเป็นไทย ชื่อเสียง พ่อปกป้องแผ่นดินไทย การรุกรานจากต่างชาติ และมั่นคง พ่อเสียสละตนเอง เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนไทย พ่อเตือนสติ ให้ปัญญา พระบรมราโชวาททุกปี ตื่นคิด มีสติ พ่อแบ่งปันความรัก ความรู้ ไปยังเพื่อนบ้านรอบข้างด้วย พ่อสร้างมิตร เป็นที่รักชื่นชอบของทุกราชวงศ์ทั่วโลก พ่อไม่เคยโอ้อวดตนเอง และไม่ใช้อำนาจที่มี เพื่อแสดง พ่อทำนุบำรุงทุกศาสนาในชาติ อยู่ร่วมกันอย่างสันติได้ พ่อเยี่ยมเยียนชาวบ้านทุกพื้นที่ทั้งแผ่นดิน ไปเยี่ยมเสมอ พ่อยึดถือทศพิษราชธรรมได้อย่างสมบูรณ์ จนวันสุดท้าย พ่อรู้ทุกอย่าง เข้าใจ เข้าถึง แก้ปัญหา พระบารมีเปี่ยมล้น มีอีกมากมายมหาศาล จนระลึกถึงน้ำพระคุณได้ไม่หมดสิ้น เป็นบุญของปวงชนชาวไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ที่หัวใจหล่อมว๊ากที่สุดใน 3 โลก ไม่มีพ่อ ก็คงไม่มีวันนี้ ไม่มีบรรพกษัตริย์ไทย ก็คงไม่มีวันนี้เช่นกัน "ราชวงศ์จักรี" จงเจริญยิ่งยืนนาน ตราบชั่วฟ้าดินสลาย!
    0 Comments 0 Shares 263 Views 0 Reviews
  • lปิdจอJ พร้อมเลี่ยมน้ำมัuมหาlสน่ห์
    พระllม่ลักษมี เทวีแห่งความมั่Jคั่J
    🙏🏻🙏🏻🙏🏻 #หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวนาราม บุรีรัมย์ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻

    SาคๅจoJ 199 บๅn
    ขนาด กว้าง 3.5 ซม. สูง 5 ซม.
    เนื้oทอJเหลืoงอินเดีย เลี่Eมน้ำมัuมหาlสน่ห์ โรยกลีบดอกไม้
    สร้าง 599 องค์
    มีเลขโค๊ตกำกับทุกองค์

    #พระแม่ลักษมี เทวีแห่งความมั่vคั่J ประทาuWรได้หลายเรื่อง โดยเฉพาะด้าน ความมั่vคั่J ร่ำSวย โชkลๅภ ความสำlร็จในหน้าที่การงาu และ ความรักที่สมหวัv  ขอwรเรื่องความรักให้สมหวัv พบเนื้oคู่ที่ดี หรือ ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่มั่uคงยิ่งขึ้น ขอwรเรื่องโชkลๅภ lงิuทoJ ความอุดมสมบูsณ์ และ ความร่ำSวย ขอwรให้ประสบความสำlร็จในเรื่องงาu ค้าขาEเจริญรุ่vเรือJ จึงเป็นที่เคารพบูชๅของลูกศิษย์และผู้ศรัnธาเป็นอย่างมาก ในครั้งนี้ได้จัดสร้างรูปแบบขuาดห้oEคoบูชๅ เป็นงานทoJเหลืoงจาก ... ประเทศอินเดีย นำมาเลี่Eมน้ำมัuมหาlสน่ห์ โรยกลีบดoกไม้ อธิษฐานจิตโดย ... #หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ วัดจะเนียงวนาราม จ.บุรีรัมย์ พระlกจิอาจารย์ดินแดนอีสานใต้ เชี่ยวชาญในพระเวnย์โบราณ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 เป็นที่ศรัnธาของลูกศิษย์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ท่านที่ชื่นชอบและศรัnธาใน องค์ #พระแม่ลักษมี รุ่นนี้นับว่าน่าสนใจและน่าบูชๅอย่างยิ่ง


    รับวัตถุมvคล : พฤศจิกายน 2568
    🎇👩‍❤️‍💋‍👨🎇 lปิdจอJ พร้อมเลี่ยมน้ำมัuมหาlสน่ห์ 🎇👩‍❤️‍💋‍👨🎇 🕉️🕉️🕉️พระllม่ลักษมี เทวีแห่งความมั่Jคั่J🕉️🕉️🕉️ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 #หลวงพ่อเมียน วัดจะเนียงวนาราม บุรีรัมย์ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 💲SาคๅจoJ 199 บๅn💲 🎊ขนาด กว้าง 3.5 ซม. สูง 5 ซม.🎊 🔥เนื้oทอJเหลืoงอินเดีย เลี่Eมน้ำมัuมหาlสน่ห์ โรยกลีบดอกไม้🔥 ⭐สร้าง 599 องค์⭐ ✅มีเลขโค๊ตกำกับทุกองค์✅ 🕉️🕉️ #พระแม่ลักษมี เทวีแห่งความมั่vคั่J ประทาuWรได้หลายเรื่อง 🕉️🕉️ โดยเฉพาะด้าน ความมั่vคั่J ร่ำSวย โชkลๅภ ความสำlร็จในหน้าที่การงาu และ ความรักที่สมหวัv 👩‍❤️‍💋‍👨♥️👩‍❤️‍💋‍👨 ขอwรเรื่องความรักให้สมหวัv พบเนื้oคู่ที่ดี หรือ ทำให้ความสัมพันธ์ที่มีอยู่มั่uคงยิ่งขึ้น 👩‍❤️‍👨‼️ขอwรเรื่องโชkลๅภ lงิuทoJ ความอุดมสมบูsณ์ และ ความร่ำSวย ขอwรให้ประสบความสำlร็จในเรื่องงาu ค้าขาEเจริญรุ่vเรือJ 🕉️🕉️ จึงเป็นที่เคารพบูชๅของลูกศิษย์และผู้ศรัnธาเป็นอย่างมาก ในครั้งนี้ได้จัดสร้างรูปแบบขuาดห้oEคoบูชๅ เป็นงานทoJเหลืoงจาก ... ประเทศอินเดีย 🕉️🕉️ นำมาเลี่Eมน้ำมัuมหาlสน่ห์ โรยกลีบดoกไม้ อธิษฐานจิตโดย ... #หลวงพ่อเมียน กัลยาโณ วัดจะเนียงวนาราม จ.บุรีรัมย์ พระlกจิอาจารย์ดินแดนอีสานใต้ เชี่ยวชาญในพระเวnย์โบราณ 🙏🏻🙏🏻🙏🏻 เป็นที่ศรัnธาของลูกศิษย์ทั้งในไทยและต่างประเทศ ท่านที่ชื่นชอบและศรัnธาใน 🕉️🕉️ องค์ #พระแม่ลักษมี รุ่นนี้นับว่าน่าสนใจและน่าบูชๅอย่างยิ่ง 🕉️🕉️🕉️🕉️🕉️🕉️🕉️🕉️🕉️ 🚩รับวัตถุมvคล : พฤศจิกายน 2568
    0 Comments 0 Shares 160 Views 0 Reviews
  • เหรียญพระอาจารย์สมศักดิ์ รุ่น1 สำนักปฎิบัติธรรมพุทธชาติ จ.นครราชสีมา
    เหรียญพระอาจารย์สมศักดิ์ รุ่น1 สำนักปฎิบัติธรรมพุทธชาติ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา // พระดีพิธีขลัง !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >>

    ** พุทธคุณโดดเด่นด้าน เมตตามหานิยม ความรัก โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ทำให้การทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง และ การป้องกันอาถรรพ์ ช่วยให้มีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนรอบข้าง ทำให้การเจรจาการค้าประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งความมั่งคั่ง และคุ้มครองป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจได้ **

    ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก น่าเก็บ พระไม่ถูกใช้ครับ

    โทรศัพท์ 0881915131
    LINE 0881915131
    เหรียญพระอาจารย์สมศักดิ์ รุ่น1 สำนักปฎิบัติธรรมพุทธชาติ จ.นครราชสีมา เหรียญพระอาจารย์สมศักดิ์ รุ่น1 สำนักปฎิบัติธรรมพุทธชาติ ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา // พระดีพิธีขลัง !! // พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก พระไม่ถูกใช้ครับ //#รับประกันพระแท้ตลอดชีพครับ >> ** พุทธคุณโดดเด่นด้าน เมตตามหานิยม ความรัก โชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา ทำให้การทำมาค้าขายเจริญรุ่งเรือง และ การป้องกันอาถรรพ์ ช่วยให้มีเสน่ห์ เป็นที่รักของคนรอบข้าง ทำให้การเจรจาการค้าประสบความสำเร็จ นำมาซึ่งความมั่งคั่ง และคุ้มครองป้องกันคุณไสย ภูตผีปีศาจได้ ** ** พระสถาพสวยมาก พระสถาพสมบูรณ์ หายากก น่าเก็บ พระไม่ถูกใช้ครับ โทรศัพท์ 0881915131 LINE 0881915131
    0 Comments 0 Shares 196 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันตก

    เดือนนี้ ภายในบ้านที่อยู่อาศัยควรขจัดสิ่งรกร้างเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เพราะมีโอกาสจะต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่เกี่ยวข้องกับตับ ถุงน้ำดี สะโพก ไขข้อ หอบ ลม ตลอดจนผิวหนังเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของการเดินทางไกลควรระมัดระวัง ภัยทางอากาศควรตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทาง จะมีเหตุวุ่นวายให้คิดไม่ตกหาทางออกได้ยากจนเกิดเป็นความเครียด สาเหตุเพราะเพศหญิงจะทำให้การเงินเสียหายเดือดร้อน เรื่องของความรักยังคงไม่สดใส ทั้งลูกหลานจะไม่อยู่ในโอวาทไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงตักเตือนแต่อย่างใด ส่วนงานสร้างสรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์จะไม่ก้าวหน้าพัฒนาเดินถดถอย ธุรกิจการงานจะมีอุปสรรคปัญหาให้ไม่ราบรื่น จะค้าจะขายทุนหายกำไรหดขาดทุนส่งผลให้เงินทองติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นจนเกิดปรากฏการณ์เช็คปลิวว่อนเด้งติดสปริง

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันตก เดือนนี้ ภายในบ้านที่อยู่อาศัยควรขจัดสิ่งรกร้างเพื่อป้องกันภัยจากสัตว์มีพิษงูเงี้ยวเขี้ยวขอ เพราะมีโอกาสจะต้องเข้ารับการรักษาพยาบาล อีกทั้งควรใส่ใจดูแลสุขภาพร่างกายที่เกี่ยวข้องกับตับ ถุงน้ำดี สะโพก ไขข้อ หอบ ลม ตลอดจนผิวหนังเป็นกรณีพิเศษ ส่วนเรื่องของการเดินทางไกลควรระมัดระวัง ภัยทางอากาศควรตรวจสภาพภูมิอากาศก่อนการเดินทาง จะมีเหตุวุ่นวายให้คิดไม่ตกหาทางออกได้ยากจนเกิดเป็นความเครียด สาเหตุเพราะเพศหญิงจะทำให้การเงินเสียหายเดือดร้อน เรื่องของความรักยังคงไม่สดใส ทั้งลูกหลานจะไม่อยู่ในโอวาทไม่ยอมรับฟังคำทักท้วงตักเตือนแต่อย่างใด ส่วนงานสร้างสรรค์ที่เคยรุ่งโรจน์จะไม่ก้าวหน้าพัฒนาเดินถดถอย ธุรกิจการงานจะมีอุปสรรคปัญหาให้ไม่ราบรื่น จะค้าจะขายทุนหายกำไรหดขาดทุนส่งผลให้เงินทองติดๆขัดๆไม่ไหลลื่นจนเกิดปรากฏการณ์เช็คปลิวว่อนเด้งติดสปริง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 245 Views 0 Reviews
  • ประตูเปิดทางทิศตะวันออก

    เดือนนี้ เหตุเพราะเจ้าที่ช่วยส่งเสริมเป็นคุณต่อเจ้าชะตา ทำให้สมาชิกในบ้านภายในครอบครัวมีความรักใคร่ปรองดองต่อกันและกัน ถึงแม้บางครั้งจะมีข้อขัดแย้งระหว่างชายและหญิงจากมุมมองความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างไรก็จะสามารถหาข้อยุติที่ดีได้อย่างลงตัวเสมอ ส่วนเรื่องสุขภาพร่างกายควรดูแลใส่ใจระบบเลือด หัวใจ และดวงตา จะได้ไม่ต้องเจ็บป่วยให้ต้องรักษาพยาบาล การงานจะโชคดีประสบความสำเร็จราบรื่น เจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองได้ผลกำไรงาม โดยเฉพาะธุรกิจค้าที่ดินอสังหาริมทรัพย์จะมีความสุขสมหวังสำเร็จตามความปรารถนา ทั้งการเงินจะมั่งมี ร่ำรวย มั่งคั่ง

    ___________________________________
    FengshuiBizDesigner
    ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    ประตูเปิดทางทิศตะวันออก เดือนนี้ เหตุเพราะเจ้าที่ช่วยส่งเสริมเป็นคุณต่อเจ้าชะตา ทำให้สมาชิกในบ้านภายในครอบครัวมีความรักใคร่ปรองดองต่อกันและกัน ถึงแม้บางครั้งจะมีข้อขัดแย้งระหว่างชายและหญิงจากมุมมองความคิดเห็นที่แตกต่างไม่ตรงกัน แต่ถึงอย่างไรก็จะสามารถหาข้อยุติที่ดีได้อย่างลงตัวเสมอ ส่วนเรื่องสุขภาพร่างกายควรดูแลใส่ใจระบบเลือด หัวใจ และดวงตา จะได้ไม่ต้องเจ็บป่วยให้ต้องรักษาพยาบาล การงานจะโชคดีประสบความสำเร็จราบรื่น เจริญก้าวหน้ารุ่งเรืองได้ผลกำไรงาม โดยเฉพาะธุรกิจค้าที่ดินอสังหาริมทรัพย์จะมีความสุขสมหวังสำเร็จตามความปรารถนา ทั้งการเงินจะมั่งมี ร่ำรวย มั่งคั่ง ___________________________________ FengshuiBizDesigner ฮวงจุ้ย...ออกแบบได้
    0 Comments 0 Shares 194 Views 0 Reviews
  • ตามที่มีคลิปแก่ลงออกมา,แก่มีความรู้ดีมากเหมือนรู้ไส้รู้พุงเขมรอย่างดี,มีบอกว่า อย่าเกลียดประชาชนผู้บริสุทธิ์ของเขมรเลย,คือให้คนไทยยอมรับให้พากันรักคนเขมรแน่ๆ ทหารเขมรก็คนเขมรนั้นล่ะที่ฮุนเซนฮุนมาเนตมันเกณฑ์มาเป็นทหารทั้งฝังหัวใส่สมองชาวเขมรตั้งแต่โรงเรียนประถมเขมรแล้วให้เกลียดคนไทย ไทยคือโจรมันว่า ผลงานคนเขมรที่แสดงความรักต่อคนไทย แสดงความรักต่อประเทศไทยคือเหยียบธงชาติไทยเต็มๆเผารูป ร.10ด้วย น่ารักน่าเอ็นดูมั้ยประชาชนคนเขมร เชียร์ทำสงครามฆ่าไทยด้วย จึงยิวระเบิดใส่เด็กๆเรา ครอบครัวคนไทยผู้บริสุทธิ์เรานอกเขตสงครามปะทะตายเกือบหมดครอบครัว,นี้คือคนเขมรที่ ชี้นำให้รักคนเขมรนะ,เจรจาเปิดด่านมาค้าขายสร้างสัมพันธ์เปิดบ่อนคาสิโนกันเถอะ.

    ..อาสนธิและพันธมิตรหลายๆท่านสู้กันมานาน mou43,44ก็แฉมานานว่าผลงานมาจากชวนล่ะ,มันเป็นขบวนการเป็นแผนการของciaไซออนิสต์ก็ด้วย.,แก่บิดเบือนจริงๆ กลัวเสียเปรียบอะไรของแก่มิรู้ พื้นที่โบราณสถานว่าไปโน้น,แก่นแท้คือเราเสียแผ่นดินไทยทันทีที่1:150,000หากยังกอดmou43ที่ใช้1:200,000นี้ ขณะที่ในหลวง ร.9เราใช้1:50,000หรือ1:1เสาเขตแดนปักหมุดตกลงชัดเจนกับฝรั่งเศสทั้งสันปันน้ำด้วยแล้วประกอบกันหมด,ดาวเทียมไทยเราปัจจุบันอีก ชัดเจนโคตรๆขนาดไหน บวกลบ0.01มิลลิเมตรด้วยซ้ำ.
    ..สรุปมากันเป็นแก๊ง ประเทศไทยเราต้องกวาดล้างไส้ศึกคนทรยศชาติ มองศัตรูของไทยตนว่าดีกว่าแผ่นดินอธิปไตยไทยตนเองจริงๆ,เรามีคนลักษณะนี้มากไป เป็นภัยของชาติมาก ชี้นำสังคมประชาชนในทางที่ผิด,เจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อแผ่นดินไทยตนเอง.,นี้คือแผ่นดินไทย มีสิ่งศักดิ์สิทธิดูแลปกป้องรักษา,มันผู้ใดทรยศชาติทรยศแผ่นดิน วิญญาณบรรพบุรุษเราไม่เก็บพวกมันไว้นานหรอก.

    https://youtube.com/shorts/-BXNsyfT2e0?si=xOlggvutsany6RWP
    ตามที่มีคลิปแก่ลงออกมา,แก่มีความรู้ดีมากเหมือนรู้ไส้รู้พุงเขมรอย่างดี,มีบอกว่า อย่าเกลียดประชาชนผู้บริสุทธิ์ของเขมรเลย,คือให้คนไทยยอมรับให้พากันรักคนเขมรแน่ๆ ทหารเขมรก็คนเขมรนั้นล่ะที่ฮุนเซนฮุนมาเนตมันเกณฑ์มาเป็นทหารทั้งฝังหัวใส่สมองชาวเขมรตั้งแต่โรงเรียนประถมเขมรแล้วให้เกลียดคนไทย ไทยคือโจรมันว่า ผลงานคนเขมรที่แสดงความรักต่อคนไทย แสดงความรักต่อประเทศไทยคือเหยียบธงชาติไทยเต็มๆเผารูป ร.10ด้วย น่ารักน่าเอ็นดูมั้ยประชาชนคนเขมร เชียร์ทำสงครามฆ่าไทยด้วย จึงยิวระเบิดใส่เด็กๆเรา ครอบครัวคนไทยผู้บริสุทธิ์เรานอกเขตสงครามปะทะตายเกือบหมดครอบครัว,นี้คือคนเขมรที่ ชี้นำให้รักคนเขมรนะ,เจรจาเปิดด่านมาค้าขายสร้างสัมพันธ์เปิดบ่อนคาสิโนกันเถอะ. ..อาสนธิและพันธมิตรหลายๆท่านสู้กันมานาน mou43,44ก็แฉมานานว่าผลงานมาจากชวนล่ะ,มันเป็นขบวนการเป็นแผนการของciaไซออนิสต์ก็ด้วย.,แก่บิดเบือนจริงๆ กลัวเสียเปรียบอะไรของแก่มิรู้ พื้นที่โบราณสถานว่าไปโน้น,แก่นแท้คือเราเสียแผ่นดินไทยทันทีที่1:150,000หากยังกอดmou43ที่ใช้1:200,000นี้ ขณะที่ในหลวง ร.9เราใช้1:50,000หรือ1:1เสาเขตแดนปักหมุดตกลงชัดเจนกับฝรั่งเศสทั้งสันปันน้ำด้วยแล้วประกอบกันหมด,ดาวเทียมไทยเราปัจจุบันอีก ชัดเจนโคตรๆขนาดไหน บวกลบ0.01มิลลิเมตรด้วยซ้ำ. ..สรุปมากันเป็นแก๊ง ประเทศไทยเราต้องกวาดล้างไส้ศึกคนทรยศชาติ มองศัตรูของไทยตนว่าดีกว่าแผ่นดินอธิปไตยไทยตนเองจริงๆ,เรามีคนลักษณะนี้มากไป เป็นภัยของชาติมาก ชี้นำสังคมประชาชนในทางที่ผิด,เจตนาไม่บริสุทธิ์ต่อแผ่นดินไทยตนเอง.,นี้คือแผ่นดินไทย มีสิ่งศักดิ์สิทธิดูแลปกป้องรักษา,มันผู้ใดทรยศชาติทรยศแผ่นดิน วิญญาณบรรพบุรุษเราไม่เก็บพวกมันไว้นานหรอก. https://youtube.com/shorts/-BXNsyfT2e0?si=xOlggvutsany6RWP
    0 Comments 0 Shares 415 Views 0 Reviews
  • ทัวร์เวียดนาม ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลล์ 7,997

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    บานาฮิลล์
    สะพานมือยักษ์
    สะพานมังกร
    สะพานแห่งความรัก
    นั่งเรือกระด้ง
    เมืองโบราณฮอยอัน
    วัดหลินอึ๋ง
    ร้านกาแฟ Son Tra Marina

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    ทัวร์เวียดนาม ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลล์ 😍🎡 7,997 🔥🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 บานาฮิลล์ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 สะพานมังกร 📍 สะพานแห่งความรัก 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 เมืองโบราณฮอยอัน 📍 วัดหลินอึ๋ง 📍 ร้านกาแฟ Son Tra Marina รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 420 Views 0 0 Reviews
  • ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง

    คณะดอกไม้ป่า ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว

    สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่

    ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้

    คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง

    การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้

    วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก

    ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง

    "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s

    แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น

    การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง
    1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง

    2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia)

    ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท

    ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง

    วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง

    นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม

    คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ

    ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท

    กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง

    การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป)

    นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น

    ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย

    ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น

    ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด

    การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด

    มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้

    สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า
    คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง

    บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว

    มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    🌼 ดอกไม้ป่า—ร่องรอยแห่งชนบทในสำเนียงเมือง คณะดอกไม้ป่า 🌸 ก้าวเข้ามาสู่ฉากดนตรีไทยในช่วงต้นทศวรรษ 2520 (ค.ศ. 1980s) ซึ่งถือเป็น 🔄 ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของรสนิยมและการผลิตดนตรีในประเทศไทย พวกเขาไม่ได้เป็นเพียงกลุ่มนักร้องที่รวมตัวกันตามธรรมชาติ แต่เป็นโครงการทางดนตรีที่ถูกกำหนดและออกแบบอย่างพิถีพิถันจากผู้บุกเบิกในอุตสาหกรรมเพลงมืออาชีพ เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อตลาดชนชั้นกลางในเมืองที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ทำให้วงนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งคือความสามารถในการนำ "แก่นเรื่องแบบลูกทุ่ง" 🧬🌾 มาผสมผสานกับการเรียบเรียงและคุณภาพการผลิตแบบ "ดนตรีสตริงหรือป๊อป" 🎧 อันนำไปสู่การก่อกำเนิดของแนวทางใหม่ที่เรียกว่า "ลูกทุ่งประยุกต์" ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานให้กับรูปแบบดนตรีป๊อปที่ครองตลาดในทศวรรษต่อมา ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จอย่างโดดเด่นในช่วงปี พ.ศ. 2525–2526 🌟 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่ยุคแห่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมหลังเหตุการณ์ทางการเมืองในทศวรรษก่อนหน้า วงนี้ถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้เป็นนักร้องคู่ดูโอหญิงที่เน้นทักษะการประสานเสียง (Harmonizing Duo) พวกเขาสามารถดึงดูดผู้ฟังได้อย่างกว้างขวางด้วยการรักษาความรู้สึกและแก่นเรื่องของความเป็นไทยไว้ ในขณะที่นำเสนอผ่านสำเนียงป๊อปสมัยใหม่ ในเชิงสังคมวิทยา ความสำเร็จของวงมีความสัมพันธ์กับการถอยห่างจากเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองที่รุนแรงของยุค 1970s ดนตรีป๊อปที่ได้รับความนิยมในช่วงนี้มักหลีกเลี่ยงสารทางการเมือง และหันไปให้ความสำคัญกับเรื่องราวส่วนตัว ความรัก ❤️ และการมอบความบันเทิง ดอกไม้ป่าได้ปรับใช้แก่นเรื่องลูกทุ่งให้มีความอ่อนโยนและโรแมนติกในรูปแบบป๊อป ซึ่งทำให้บทเพลงของพวกเขากลายเป็นผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรมที่ผู้บริโภคในเมืองสามารถยอมรับและเพลิดเพลินได้ คณะดอกไม้ป่าถือกำเนิดขึ้นจากแนวคิดทางธุรกิจที่ชัดเจน 💡 โดยไม่ได้เกิดจากการรวมตัวกันของนักดนตรีตามธรรมชาติ การก่อตั้งมีรากฐานมาจากความต้องการขยายตลาดและรูปแบบความสำเร็จที่เคยมีมาก่อน โดยผู้ริเริ่มแนวคิดต้องการที่จะสรรหานักร้องหญิงคู่ประสานเสียงเป็นคู่ที่สอง เพื่อต่อยอดความสำเร็จที่เกิดขึ้นกับวง The Hot Pepper Singers การตัดสินใจนี้สะท้อนให้เห็นว่า รูปแบบของ "นักร้องคู่ประสานเสียง" 🎤🤝 ที่มีภาพลักษณ์สุภาพและเน้นทักษะการร้องถือเป็นกลยุทธ์เชิงพาณิชย์ที่มีศักยภาพสูง การเน้นที่ "นักร้องคู่ประสานเสียง" แสดงให้เห็นว่าคุณภาพเสียงและการจัดวางเสียงประสานถูกกำหนดให้เป็นหัวใจหลักของแบรนด์ตั้งแต่เริ่มต้น แนวคิดนี้เป็นความพยายามที่จะยกระดับรูปแบบการร้องเพลงให้แตกต่างจากดนตรีลูกทุ่งทั่วไป การประสานเสียงที่ซับซ้อนนี้ถูกมองว่าเป็นคุณสมบัติของดนตรีแนวลูกกรุงและป๊อปที่มีความประณีตและมีรสนิยมสูง ซึ่งสามารถดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคในเมืองได้ วงดอกไม้ป่าประกอบด้วยนักร้องดูโอหญิงสองคน: โชติมา ช่วงวิทย์ (ตุ้ม) และ ปัทมา มนต์รังสี (อ้อม) คุณโชติมาถือเป็นสมาชิกหลักที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเธอเป็นบุตรสาวของ ชวลีย์ ช่วงวิทย์ นักร้องชื่อดังของวงสุนทราภรณ์ 👑 สายเลือดจากสุนทราภรณ์นี้มอบความน่าเชื่อถือทางวัฒนธรรมและ "ความเป็นลูกกรุง" ให้กับวงโดยอัตโนมัติ ทำให้ดอกไม้ป่าสามารถวางตำแหน่งตัวเองอยู่กึ่งกลางระหว่างความเป็นลูกทุ่งและความเป็นลูกกรุง/คลาสสิก ในช่วงเวลาที่ดนตรีลูกทุ่งกำลังถูกกลุ่มรสนิยมใหม่ของคนเมืองมองว่าเป็น "ดนตรีบ้านนอก" การมีโชติมาได้ทำหน้าที่เป็น "การสร้างแบรนด์ทางวัฒนธรรม" ที่สำคัญยิ่ง การเชื่อมโยงนี้รับประกันว่าเพลงของดอกไม้ป่า แม้จะมีกลิ่นอายของลูกทุ่ง แต่ก็มีความสุภาพและมีคุณค่าในเชิงศิลปะแบบลูกกรุงสูง "ดอกไม้ป่าซาวด์" คือการผสมผสานทางดนตรี 🔥 ที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจในการนำองค์ประกอบทางทำนองเพลงพื้นบ้านหรือลูกทุ่ง มารวมเข้ากับการเรียบเรียงดนตรีและเครื่องดนตรีสมัยใหม่ตามแบบฉบับดนตรีสตริง/ป๊อปในยุค 80s แก่นเรื่องแบบลูกทุ่งยังคงเป็นหัวใจหลักในการเล่าเรื่อง ตัวอย่างเช่น เพลง "ทุยใจดำ" 💔 ที่สื่อถึงคนรักที่ไม่ซื่อสัตย์ และเพลง "สาวชนบท" 🏡 ที่หยิบยกเรื่องราวความรักและชีวิตในท้องถิ่นมานำเสนอ แต่สิ่งที่ทำให้ดนตรีมีความแตกต่างคือการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ การใช้เครื่องดนตรีที่ซับซ้อน เช่น เปียโน กีตาร์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้เครื่องเป่า (Brass Section) 🎺🎷 ที่สร้างความหนาแน่นและพลังเสียงที่ทันสมัย นอกจากนี้ยังมีการนำจังหวะที่ได้รับอิทธิพลจากดนตรีตะวันตกมาใช้ เช่น จังหวะช่าช่าช่า หรือฟังก์กี้ดิสโก้ในเพลงสนุกสนานอย่าง "ระบำยอดหญ้า" 💃 ทั้งหมดนี้ถูกขับร้องด้วยการประสานเสียงที่ไพเราะและสะอาดตา ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่สำคัญของดนตรีป๊อปในช่วงนั้น การวิเคราะห์เนื้อหาและแก่นหลักของบทเพลง 1️⃣ ความรักที่ถูกทรยศในบริบทกึ่งชนบท: เพลงอย่าง "ทุยใจดำ" และ "ช้ำ" นำเสนอความผิดหวังในความรักจากมุมมองของผู้หญิง เมื่อเนื้อหาเหล่านี้ถูกขับร้องด้วยคุณภาพเสียงที่สะอาดและการเรียบเรียงแบบป๊อปสมัยใหม่ ความดิบหรือความรู้สึกที่เชื่อมโยงกับความยากจนในเพลงลูกทุ่งแบบดั้งเดิมก็ถูกลดทอนลง เนื้อหาจึงถูก "ทำให้สะอาด" ให้เหลือเพียงความเศร้าแบบโรแมนติกที่เข้ากับมาตรฐานของเพลงป๊อปในเมือง 2️⃣ ความปรารถนาในชีวิตชนบทและความหวนคิดถึง: เพลง "สาวชนบท" และ "ระบำยอดหญ้า" นำเสนอภาพความสดใสและรื่นเริงของชีวิตในท้องถิ่น ผู้ฟังในเขตเมืองหลายคนซึ่งส่วนใหญ่อพยพมาจากชนบท ต่างให้การตอบรับต่อเพลงเหล่านี้อย่างดีเยี่ยม ดอกไม้ป่าจึงทำหน้าที่เป็นตัวแทนของ "การหวนคิดถึงอย่างมีรสนิยม" (Aesthetic Nostalgia) 💖 ความสำเร็จอย่างสูงในตลาดเพลงสตริง/ป๊อป แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จในการ "เชื่อมรอยแยกทางวัฒนธรรม" 🔗 ระหว่างรสนิยมของคนเมือง (ที่แสวงหาความทันสมัย) กับความผูกพันของกลุ่มผู้ฟังต่อชนบท ปี พ.ศ. 2525 เป็นปีแห่งความรุ่งโรจน์ของคณะดอกไม้ป่าจากการเปิดตัวอัลบั้ม ทุยใจดำ 💿 ซึ่งได้กำหนดทิศทางและลักษณะเฉพาะของวงอย่างชัดเจน เพลงเอก "ทุยใจดำ" เป็นตัวอย่างชั้นยอดของการผสมผสานระหว่าง Luk Thung และ Pop ผนวกกับการเรียบเรียงที่ใช้เครื่องดนตรีครบวงและจังหวะที่เร้าใจ ทำให้เพลงนี้กลายเป็นเพลงเต้นรำที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง วงยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องและรวดเร็วในปี พ.ศ. 2526 โดยมีผลงานเพลงจากชุดต่อมา เช่น "สาวชนบท," "หนาวลมขมรัก," และ "รักทรมาน" การออกผลงานหลายชุดภายในเวลาอันสั้น เป็นเครื่องยืนยันถึงความเชื่อมั่นของค่ายเพลงในศักยภาพเชิงพาณิชย์และกระแสความนิยมที่แข็งแกร่งในช่วงเวลานั้น การที่เพลงของพวกเขาถูกรวมอยู่ในอัลบั้มรวมเพลงฮิตเงินล้าน 💰 ร่วมกับศิลปินใหญ่แห่งยุค แสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นวงชั้นนำในตลาดเพลงเทปคาสเซ็ตต์อย่างแท้จริง นอกจากคุณภาพทางดนตรีแล้ว ภาพลักษณ์ของคณะดอกไม้ป่ามีความสำคัญต่อการตลาดไม่น้อยไปกว่ากัน ภาพลักษณ์ที่ถูกนำเสนอมีความเป็นมืออาชีพสูงและสอดคล้องกับแฟชั่นยุค 80s การปรากฏตัวทั้งในสตูดิโอและภาพคอนเสิร์ต 🎙️ แสดงให้เห็นถึงการลงทุนในการผลิต และการแต่งกายที่ดูทันสมัยและสะอาดตา ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนจากภาพลักษณ์ลูกทุ่งแบบดั้งเดิม คณะดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมที่สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่สำคัญสองประการในต้นทศวรรษ 1980s นั่นคือพลวัตของการอพยพย้ายถิ่นฐาน 🚚 และการเปลี่ยนแปลงของบทบาททางเพศ ในช่วงหลังปี 2520 สังคมไทยเข้าสู่ยุคของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ทำให้เกิดการขยายตัวของชนชั้นกลางในเขตเมืองอย่างชัดเจน ผู้คนจำนวนมากอพยพจากชนบทเข้าสู่กรุงเทพฯ 🏙️ ทำให้เกิดความตึงเครียดทางวัฒนธรรมระหว่างวิถีชีวิตแบบเมืองกับรากเหง้าที่ยังคงผูกพันกับชนบท กลุ่มผู้ฟังที่ย้ายถิ่นฐานเหล่านี้ยังคงมีความผูกพันทางอารมณ์กับเนื้อหาและทำนองแบบลูกทุ่ง แต่รสนิยมทางเสียงของพวกเขาได้ถูกหล่อหลอมด้วยดนตรีป๊อปและสตริงที่ทันสมัย ดอกไม้ป่าจึงเข้ามาตอบโจทย์นี้ด้วยการนำเสนอ "ลูกทุ่งในแพ็คเกจป๊อป" เพลงที่มีธีมเกี่ยวกับ "สาวชนบท" ซึ่งถูกถ่ายทอดโดยนักร้องที่ดูทันสมัยในบริบทเมือง จึงสามารถสร้างความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับผู้ฟังกลุ่มย้ายถิ่นฐานได้อย่างลึกซึ้ง บทเพลงของดอกไม้ป่าเปรียบเสมือน "ซาวด์แทร็กของการปรับตัว" ของคนชนบทเข้าสู่สังคมเมือง การที่คณะดอกไม้ป่าเป็นนักร้องดูโอหญิงในแนว Pop/Fusion แสดงถึงการเปลี่ยนแปลงบทบาททางเพศในสื่อและสังคมในช่วงเวลานั้น ภาพลักษณ์ของ โชติมา และ ปัทมา เป็นตัวแทนของ ผู้หญิงในยุคสมัยใหม่ 👩‍🎤 ที่สามารถเป็นทั้งผู้รักษามรดกทางวัฒนธรรมและเป็นผู้หญิงที่มีความทันสมัย (ผ่านสไตล์การแต่งกายและการนำเสนอแบบป๊อป) นอกจากนี้ เพลงที่กล้าแสดงออกถึงความผิดหวังในความรักและความช้ำ 💔 เป็นการเปิดพื้นที่ให้ผู้หญิงสามารถแสดงออกถึงความรู้สึกส่วนตัวในที่สาธารณะได้มากขึ้น โดยที่ยังคงรักษาภาพลักษณ์ที่ดูดีและไม่ฉีกกรอบทางสังคมมากนัก ซึ่งสอดคล้องกับยุคสมัยที่บทบาทของผู้หญิงเริ่มมีความหลากหลายมากขึ้น ในช่วงปี พ.ศ. 2525 ซึ่งเป็นช่วงที่สังคมกำลังฟื้นตัวหลังความขัดแย้งทางการเมืองครั้งใหญ่ ดนตรีที่ได้รับความนิยมสูงมักจะไม่มีวาระทางการเมืองที่ชัดเจน คณะดอกไม้ป่าเองก็เน้นที่ความบันเทิงและเรื่องราวส่วนตัว การหลีกเลี่ยงข้อความที่อาจสร้างความขัดแย้งทางการเมืองในบทเพลง ส่งผลให้ดอกไม้ป่าสามารถเข้าถึงผู้ชมหลักได้อย่างง่ายดาย ดอกไม้ป่าประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์อย่างสูงในช่วงยุครุ่งเรือง 💵💶💷 ดังที่ปรากฏหลักฐานจากการออกอัลบั้ม Longplay เต็มรูปแบบหลายชุด และการมีอัลบั้มรวมเพลงฮิต การที่เพลงของวงถูกนำไปรวมอยู่ในอัลบั้มที่ทำยอดขายสูงร่วมกับศิลปินสำคัญแห่งยุค ตอกย้ำสถานะของพวกเขาในฐานะวงชั้นนำของตลาดเทปคาสเซ็ตต์ 📼 ซึ่งเป็นรูปแบบการบริโภคหลักในยุคนั้น ดอกไม้ป่าไม่ได้เป็นเพียงวงดนตรีที่ขายดี แต่ยังได้สร้างต้นแบบ 🏗️ ให้กับแนวเพลงผสมผสานที่ทรงอิทธิพล พวกเขาเป็นตัวอย่างสำคัญที่พิสูจน์ให้เห็นว่าดนตรีที่มีรากฐานลูกทุ่งสามารถนำเสนอในรูปแบบป๊อปสตริงที่มีคุณภาพสูงและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์ การเปิดทางนี้มีอิทธิพลต่อศิลปินรุ่นหลังจำนวนมากที่พยายามนำเสนอ "ลูกทุ่งสมัยใหม่" ซึ่งช่วยยืดอายุและปรับโฉมให้ดนตรีลูกทุ่งยังคงอยู่รอดในยุคที่ดนตรี String ครองตลาด การที่ดอกไม้ป่าสามารถนำเอาองค์ประกอบของลูกทุ่งและป๊อปมาผสมผสานกันได้อย่างลงตัวและได้รับความนิยมอย่างสูง ทำให้ผู้ผลิตเพลงเห็นว่า "สูตรผสม" นี้เป็นช่องทางที่มั่นคงในการขยายตลาดไปยังผู้ฟังที่มีรสนิยมหลากหลาย ถือเป็นการเร่งกระบวนการที่ทำให้ดนตรีสตริงได้ครอบครองความโดดเด่นในที่สุด มรดกทางดนตรีของดอกไม้ป่ายังคงยืนยง ⏳ เพลงของพวกเขายังคงถูกค้นหาและรับฟังในปัจจุบันผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความทนทานของทำนองและเนื้อหาที่เข้าถึงง่าย การปรับตัวสู่ยุคดิจิทัลยังเห็นได้จากการที่สมาชิกหลักของวงยังคงมีความเคลื่อนไหวในการกลับมาทำเพลงใหม่ในนามดอกไม้ป่า ("พลังรัก") และมีการสร้างช่องทาง YouTube เฉพาะ 🎥 การเคลื่อนไหวนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าศิลปินยุคบุกเบิกสามารถใช้แพลตฟอร์มสมัยใหม่เพื่อรักษาและขยายฐานแฟนคลับให้เข้าถึงผู้ฟังรุ่นใหม่ได้ ✨ ✅✅ สรุป: มรดกของดอกไม้ป่า ✅✅ คณะดอกไม้ป่าจัดเป็นปรากฏการณ์ทางดนตรีและวัฒนธรรมที่มีความซับซ้อนในช่วงรอยต่อของสังคมไทย พวกเขาประสบความสำเร็จในการสร้างความสมดุลระหว่างมรดกทางดนตรีคลาสสิก (ผ่านสายเลือดสุนทราภรณ์) กับความต้องการของตลาดป๊อปที่เน้นความทันสมัยและคุณภาพการผลิตสูง บทเพลงของดอกไม้ป่าทำหน้าที่เป็นกลไกทางวัฒนธรรมที่ช่วยบรรเทาความตึงเครียดทางสังคมภายหลังวิกฤตการณ์ทางการเมือง ด้วยการนำเสนอความบันเทิงที่ปลอดภัยและเป็นทางออกทางวัฒนธรรมสำหรับกลุ่มผู้ย้ายถิ่นฐานที่ต้องการรักษาความเชื่อมโยงทางอารมณ์กับชนบท ในขณะที่ปรับตัวเข้าสู่ความเป็นเมืองอย่างเต็มตัว มรดกที่สำคัญที่สุดของคณะดอกไม้ป่าคือการเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกที่แข็งแกร่งที่สุดของ "ดนตรีลูกทุ่งประยุกต์" 🎶 พวกเขาพิสูจน์ให้เห็นว่าความทันสมัยทางดนตรีไม่จำเป็นต้องตัดขาดจากรากฐานทางวัฒนธรรมดั้งเดิม และเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยกำหนดทิศทางของอุตสาหกรรมเพลงป๊อปไทยในทศวรรษต่อมาให้ยอมรับและผสมผสานแนวเพลงที่มีรากฐานมาจาก Luk Thung เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเพลงกระแสหลักได้อย่างลงตัว 💯 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/NnrS7BYpRRc
    0 Comments 0 Shares 480 Views 0 Reviews
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข
    2/10/68
     ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้
     ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ
     ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป
     ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป
     การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)
     การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด

    1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน
    - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร
    -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร

     ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ :
    1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว
    ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน
    # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ
    # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่
    *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่!

    2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน)

    *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น
    - ธุรกิจอสังหาฯ
    - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน
    -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์
    -ธุรกิจปล่อยกู้
    -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่)
    -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง
    • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น)
    2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้
    พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน

    หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป
    - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น
    - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย
    - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน!
    - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม
    - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม
    - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม
    -
    อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้

    การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570}
    ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ

    A---------------------------------------------
    (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย
    ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง
    เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย

    จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน
    เจ้าของประเทศ

    a--------------------------------------
    พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง
    จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ
    จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ”
    เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย
    การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง)
    การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง

    การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน
    คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป



    a------------------------------------

    ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี
    ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล
    จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย
    สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี










    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 2-10-68 …ภายใต้ระบอบพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข 2/10/68  ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ - หมดปัญหาคนยากไร้  ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ  ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป  ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป  การเรียน เรียนที่ใจชอบ ที่ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วให้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบความชอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล รู้ชัดแล้วแววชอบและทักษะไปทางใหนก็เสริมวิชาไปทางนั้น จัดให้เลย)  การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด 1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ สร้างภาวะหมุนเวียน - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครื่องมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ กรณีเกษตร ควรเป็นคณะ-ควรเป็นชุมชน ที่ดินจะได้ผืนใหญ่ ง่ายต่อเครื่องจักรใหญ่ การเป็นชุมชนการแปรพืชผลเกตรได้หลากหลาย (อาจต้องเสริมผู้จบหลักสูตรทำอาหารและชนม) ซึ่งนำโดยผู้นำและผู้บริหาร -สนองเครื่องเทคโนโลยี-ไฮเทค หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร  ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ : 1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมดแล้ว ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ นั้น คือ ภาระหน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ (เพื่อรัฐจะได้ช่วยด้านต่างๆได้มากขึ้น) กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามรายได้-ตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลเวียนสู่การคลังได้ทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่ *คำขวัญ คือ ช่วยชาติ ช่วยรัฐ ช่วยคนรุ่นใหม่- สิ่งเกิดใหม่! 2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” จะต้องไม่ให้มี ในประเทศไทย (อย่าเหมือนจีนที่ประสพปัญหาเช่น วิกฤติอสังหาฯ และการศึกษาเอกชน(การเรียนแข่งกันสูงและแพง) เป็นภาระค่าใช้จ่ายสูงมาก ทำให้คนหนุ่มสาวไม่ยอมแต่งงาน ถ้าจะแต่งก็ไม่ยอมมีลูก เป็นผลให้ประชากรประเทศลดลง (ไม่สน ที่รัฐบาลมี นโยบายให้มีลูกสามคน – จากหนึ่งคน) *ประเทศไทย ต้องไม่มี ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” เช่น - ธุรกิจอสังหาฯ - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ -ธุรกิจปล่อยกู้ -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่) -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น) 2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้ พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียง ”รูปแบบโครงสร้างสังคมตัวอย่าง” จึงต้อง ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพื่อเป็นเข็มทิศรูปธรรมแก่สังคม เป็นเป้าหมายให้มุ่งไป - ซึ่งการเคลื่อนไหวนั้น - ต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเพื่อเป็นเป้าหมายนำพา และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย - คือต้อง “มีสามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน! - 1.พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) สิ่งที่1นี้พร้อม - 2.เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (รูปแบบโครงสร้างสังคมยุคใหม่ที่ตกผลึกกันแล้ว) สิ่งที่2นี้พร้อม - 3. โฉมหน้า “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่นี้” ตั้งพรรคสำเร็จ คือ สิ่งที่3นี้พร้อม - อาวุธวิเศษสามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้ – การเลือกตั้งปี70ครั้งนี้(ช่วง28มิย.2570} ต้องตั้ง “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่”เกิดขึ้นและ ชนะเลือกตั้ง ให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ A--------------------------------------------- (คำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ : ที่สำคัญ “การเลือกตั้ง”เป็นกระบวนการสำคัญในการปกครองระบอบประชาธิปไตยทางผู้แทน เพื่อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อใช้อำนาจอธิปไตยแทนประชาชนที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตย อาจกล่าวได้ว่าหากการปกครองใดไม่มีการเลือกตั้งย่อมไม่ใช่การปกครองระบอบประชาธิปไตย ประเทศไทยจึงเกิดภาวการณ์ ส.ส.และ นักการเมืองใช้หลากกลวิธีสกปรกแย่งชิงกันเพื่อเอาชนะเลือกตั้ง เพื่อมีสิทธิ์เข้าไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อยึดอำนาจอธิปไตยที่ประชาชนเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยตามวิถีทางแห่งประชาธิปไตยของบ้านเมือง เพื่อยึดอำนาจ เพื่อเข้ากอบโกย จึงเป็นกติกาประเทศ ผู้ใดพรรคใดชนะเลือกตั้งก็มีสิทธ์มีอำนาจปกครองประเทศแทนประชาชน เจ้าของประเทศ a-------------------------------------- พอดีช่วง28มิย.2570 จะมีการเลือกตั้ง จึงเป็นช่วงจังหวะที่ดีที่กระแสเหล่าพรรคการเมืองตกต่ำ จึงเป็นโอกาสตั้งพรรคการเมืองของเรา ซึ่งไม่ใช่ความต้องการส่วนตัว “อยากดัง” เลิกมองแบบนี้ได้เลย คำๆนี้ เป็นคำ”บอนไซ อนาคตประเทศ” เราต้องการเปลี่ยนแปลงประเทศ ต้องมีพรรค “เป็นกองหน้า” พรรคหนึ่งชื่อว่า พรรคการเมืองใหม่หรือพรรคการเมืองยุคใหม่ โดยมีนโยบายรูปธรรมเป็นเป้าหมาย การลงสมัครพรรคการเมือง (จึงมีสิทธิ์ลงเลือกตั้ง) การลงเลือกตั้ง(จีงจะมีสิทธิคว้าอำนาจทางการเมืองมันเป็นกติกาของบ้านเมือง) ความคิดจึงจะเป็นจริง การเคลื่อนไหว “ (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร )สร้างความตื่นตัวของประชาชน คือ รูปการที่1 ส่วน (การตั้งพรรคการเมือง) เพื่อมุ่งสู่ยึดอำนาจรัฐ ด้วยรูปแบบตามกติกา “เลือกตั้ง”คือรูปการที่2 ทั้งสองรูปการต้องเดินคู่ขนานกันไป a------------------------------------ ประเทศเนปาล ปัญหาเปราะบางของเขา คือ มีความเหลื่อมล้ำสูง จากการคอรัปชั่นของนักการเมือง คือการลงถนน 20 กว่าปี ของเขาต้องการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกก็คือ “กษัตริย์” ที่ปกครองอยู่ ลงถนนกดดันขับไล่ จนกษัตริย์ลาออก ฝูงชนดีใจร้องรำทำเพลงกันเต็มท้องถนนที่จะได้ “ระบอบประชาธิปไตย”กันแล้ว จึงได้ “นักการเมือง -ส.ส.” มา ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าครองอำนาจ ใช้ชีวิตอย่างฟุ่มเฟือย ก็แก้ความเหลื่อมล้ำไม่ได้ ด้วยเนปาลพื้นที่ทำเกษตรเป็นป่าเขาเยอะจึงดึงพรรคคอมมิวนิสต์เข้ามา ทั้งเหมาอีดส์ และมาร์กซ์ ทำสงครามรบ ร่วม10ปี มีตายและบาดเจ็บ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นลงจับมือกับหัวหน้าพรรคฯออกกฎหมาย “พรรคคอมมิวต์ถูกต้องตามกฎหมาย สมัครเป็นพรรคการเมืองได้ จึงทำให้ประชาชนพากันผิดหวังกันไป ซึ่งปัญหาความเหลื่อมล้ำก็ไม่ได้รับการแก้ไข ขณะเดียวกันก็อัญเชิญกษัตรย์องค์เดิมมาปกครองต่อ อีกทั้งเห็นลูกหลานนักการเมืองใช้ชีวิตหรูหราใส่ชุดแบนด์หรู ออกสื่อโชว์ความสุขสำราญของพวกเขา ประจวบกับเหล่านักการเมืองในสภาผ่านเพิ่มเงินเดือนให้กันเอง ออกภาพสื่อร้องรำเต้นด้วยความดีใจกัน มีการคุมวัยเจนชีไม่ให้เข้าถึง แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ เท่านั้นแหละ การเคลื่อนไหวลงถนนลุกลามไปใหญ่ ถึงแม้ ประกดาศยกเลิกการห้ามดูเน็ตก็เอาไม่อยู่ มีการเผาสภา เผาสถานที่ราชการ เผาบ้านนายกรัฐมนตรี ต่างๆ ไล่ทำร้ายรัฐมนตรีคลัง หนีลงน้ำยังถูกตามไล่ทำร้าย จนทหารออกมาระงับสถานการณ์ แต่เอาไม่อยู่ จนนายพลทับบกต้องออกมาเอง ขอคุยกับผู้นำกลุ่มเจนซี ตกลงจะมอบให้“สุศิลา คาร์กี”อดีตประธานศาลฎีกาเนปาล เป็นนายกรัฐมนตรีรักษาการของเนปาล จัดให้การเลือกตั้งภายใน 6 เดือน (หลังเลือกตั้งเนปาลก็ยังคงเหมือนเดิม) พรรคการเมืองใหญ่8พรรคยังคงอยู่ : พรรคการเมืองหลัก 8 พรรคของเนปาล รวมถึง พรรคคองเกรสเนปาล (Nepali Congress) พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (รวมลัทธิมาร์กซ์-เลนินิสต์) (CPN-UML) และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล (ลัทธิเหมา) เนปาลจะไม่มีทางเปลี่ยนโฉมได้เลย สาเหตุเพราะ ขาดพรรคนำ ขาดเข็มทิศโครงสร้างสังคมเป็นเป้าหมาย ขาดพลังมวลชนที่ตื่นตัวทางทฤษฎี
    0 Comments 0 Shares 508 Views 0 Reviews
  • “เมื่อความพยายามกลายเป็นเรื่องง่าย — เราจะยังรู้สึกมีคุณค่าอยู่ไหม?”

    บทความ “Our efforts, in part, define us” จากเว็บไซต์ Weakty ได้ตั้งคำถามที่สะเทือนใจคนทำงานยุค AI อย่างลึกซึ้ง: เมื่อสิ่งที่เคยต้องใช้ความพยายามกลายเป็นเรื่องง่าย เราจะยังรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอยู่หรือไม่?

    ผู้เขียนเล่าถึงความรู้สึกส่วนตัวที่เกิดขึ้นเมื่อการเขียนโค้ด ซึ่งเคยเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ กลับถูกแทนที่ด้วย AI ที่สามารถสร้างโค้ดได้ในพริบตา แม้จะมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่ก็ทำให้เขารู้สึกว่า “ความพยายาม” ที่เคยเป็นแก่นของงาน กลับถูกลดทอนลงอย่างน่าหดหู่

    เขายกตัวอย่างเพื่อนคนหนึ่งที่เคยถ่ายภาพฟิล์มด้วยความรักและพิถีพิถัน แต่เมื่อสมาร์ตโฟนทำให้การถ่ายภาพกลายเป็นเรื่องง่าย ความหมายของงานนั้นก็เริ่มจางหายไป ความพยายามที่เคยเป็นรากฐานของตัวตน กลับถูกแทนที่ด้วยความสะดวก และนั่นทำให้เกิดคำถามว่า “เรายังเป็นใครอยู่” เมื่อสิ่งที่เคยนิยามเรากลายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้

    บทความยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในองค์กร ที่เริ่มผลักดันให้พนักงานใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนที่เคยใช้ทักษะและประสบการณ์เป็นเครื่องมือหลักในการทำงาน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้คนรู้สึกสูญเสียคุณค่าในสิ่งที่เคยเป็น “งานของตน”

    แม้ผู้เขียนจะยอมรับว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ และไม่ต้องการให้คนถูกกีดกันจากความสะดวก แต่เขาก็ยังรู้สึกถึง “ความเศร้าแปลก ๆ” ที่เกิดจากการที่ความพยายามกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป

    ข้อมูลสำคัญจากบทความ
    ผู้เขียนตั้งคำถามว่า เมื่อสิ่งที่เคยใช้ความพยายามกลายเป็นเรื่องง่าย เราจะยังรู้สึกมีคุณค่าอยู่ไหม
    ยกตัวอย่างการถ่ายภาพฟิล์มที่เคยเป็นงานศิลป์ แต่ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ตโฟน
    การเขียนโค้ดที่เคยเป็นงานหลักของผู้เขียน ถูกแทนที่ด้วย AI ที่สร้างโค้ดได้อย่างรวดเร็ว
    ความพยายามเคยเป็นสิ่งที่นิยามตัวตน แต่เมื่อมันหายไป ความหมายของงานก็เปลี่ยนไป
    องค์กรเริ่มผลักดันให้พนักงานใช้ AI โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางจิตใจ
    ผู้เขียนรู้สึกว่าการใช้ความสามารถเพื่อแลกเงินเคยมีคุณค่า เพราะมันต้องใช้ความพยายาม
    การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “เรายังเป็นใครอยู่” ในโลกที่ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่าย

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    งานวิจัยจาก Wharton และ McKinsey ระบุว่า AI ไม่ได้แทนที่งาน แต่เปลี่ยนรูปแบบของงานและคุณค่าที่คนได้รับจากงานนั้น
    คนมักยอมรับการใช้ AI ในงานที่น่าเบื่อ แต่ต่อต้านเมื่อ AI เข้ามาแทนที่ทักษะที่นิยามตัวตนของพวกเขา
    การใช้ AI อย่างมีสติควรเน้นการเสริมทักษะ ไม่ใช่แทนที่ความสามารถของมนุษย์
    องค์กรที่ใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพมักลงทุนในการฝึกอบรมและปรับโครงสร้างงานใหม่เพื่อรักษาคุณค่าของพนักงาน
    ความพยายามยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้ในการสร้างความหมาย ไม่ว่าจะในงานหรือชีวิตส่วนตัว



    https://weakty.com/posts/efforts/
    🧠 “เมื่อความพยายามกลายเป็นเรื่องง่าย — เราจะยังรู้สึกมีคุณค่าอยู่ไหม?” บทความ “Our efforts, in part, define us” จากเว็บไซต์ Weakty ได้ตั้งคำถามที่สะเทือนใจคนทำงานยุค AI อย่างลึกซึ้ง: เมื่อสิ่งที่เคยต้องใช้ความพยายามกลายเป็นเรื่องง่าย เราจะยังรู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าอยู่หรือไม่? ผู้เขียนเล่าถึงความรู้สึกส่วนตัวที่เกิดขึ้นเมื่อการเขียนโค้ด ซึ่งเคยเป็นงานที่ต้องใช้ทักษะและประสบการณ์ กลับถูกแทนที่ด้วย AI ที่สามารถสร้างโค้ดได้ในพริบตา แม้จะมีข้อผิดพลาดบ้าง แต่ก็ทำให้เขารู้สึกว่า “ความพยายาม” ที่เคยเป็นแก่นของงาน กลับถูกลดทอนลงอย่างน่าหดหู่ เขายกตัวอย่างเพื่อนคนหนึ่งที่เคยถ่ายภาพฟิล์มด้วยความรักและพิถีพิถัน แต่เมื่อสมาร์ตโฟนทำให้การถ่ายภาพกลายเป็นเรื่องง่าย ความหมายของงานนั้นก็เริ่มจางหายไป ความพยายามที่เคยเป็นรากฐานของตัวตน กลับถูกแทนที่ด้วยความสะดวก และนั่นทำให้เกิดคำถามว่า “เรายังเป็นใครอยู่” เมื่อสิ่งที่เคยนิยามเรากลายเป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำได้ บทความยังสะท้อนถึงความเปลี่ยนแปลงในองค์กร ที่เริ่มผลักดันให้พนักงานใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยไม่ได้คำนึงถึงความรู้สึกของคนที่เคยใช้ทักษะและประสบการณ์เป็นเครื่องมือหลักในการทำงาน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจทำให้คนรู้สึกสูญเสียคุณค่าในสิ่งที่เคยเป็น “งานของตน” แม้ผู้เขียนจะยอมรับว่า AI เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ และไม่ต้องการให้คนถูกกีดกันจากความสะดวก แต่เขาก็ยังรู้สึกถึง “ความเศร้าแปลก ๆ” ที่เกิดจากการที่ความพยายามกลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกต่อไป ✅ ข้อมูลสำคัญจากบทความ ➡️ ผู้เขียนตั้งคำถามว่า เมื่อสิ่งที่เคยใช้ความพยายามกลายเป็นเรื่องง่าย เราจะยังรู้สึกมีคุณค่าอยู่ไหม ➡️ ยกตัวอย่างการถ่ายภาพฟิล์มที่เคยเป็นงานศิลป์ แต่ถูกแทนที่ด้วยสมาร์ตโฟน ➡️ การเขียนโค้ดที่เคยเป็นงานหลักของผู้เขียน ถูกแทนที่ด้วย AI ที่สร้างโค้ดได้อย่างรวดเร็ว ➡️ ความพยายามเคยเป็นสิ่งที่นิยามตัวตน แต่เมื่อมันหายไป ความหมายของงานก็เปลี่ยนไป ➡️ องค์กรเริ่มผลักดันให้พนักงานใช้ AI โดยไม่คำนึงถึงผลกระทบทางจิตใจ ➡️ ผู้เขียนรู้สึกว่าการใช้ความสามารถเพื่อแลกเงินเคยมีคุณค่า เพราะมันต้องใช้ความพยายาม ➡️ การเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้เกิดคำถามว่า “เรายังเป็นใครอยู่” ในโลกที่ทุกอย่างกลายเป็นเรื่องง่าย ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ งานวิจัยจาก Wharton และ McKinsey ระบุว่า AI ไม่ได้แทนที่งาน แต่เปลี่ยนรูปแบบของงานและคุณค่าที่คนได้รับจากงานนั้น ➡️ คนมักยอมรับการใช้ AI ในงานที่น่าเบื่อ แต่ต่อต้านเมื่อ AI เข้ามาแทนที่ทักษะที่นิยามตัวตนของพวกเขา ➡️ การใช้ AI อย่างมีสติควรเน้นการเสริมทักษะ ไม่ใช่แทนที่ความสามารถของมนุษย์ ➡️ องค์กรที่ใช้ AI อย่างมีประสิทธิภาพมักลงทุนในการฝึกอบรมและปรับโครงสร้างงานใหม่เพื่อรักษาคุณค่าของพนักงาน ➡️ ความพยายามยังคงเป็นสิ่งที่มนุษย์ใช้ในการสร้างความหมาย ไม่ว่าจะในงานหรือชีวิตส่วนตัว https://weakty.com/posts/efforts/
    0 Comments 0 Shares 238 Views 0 Reviews
  • “Jane Goodall เสียชีวิตในวัย 91 — นักวิทยาศาสตร์ผู้เปลี่ยนความเข้าใจของมนุษย์ต่อสัตว์โลก”

    Jane Goodall นักธรรมชาติวิทยาและนักอนุรักษ์ชื่อดังระดับโลก ได้เสียชีวิตอย่างสงบในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 ขณะอยู่ระหว่างการเดินสายบรรยายในสหรัฐฯ เธอจากไปในวัย 91 ปี โดยสถาบัน Jane Goodall Institute ได้ประกาศข่าวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย พร้อมยกย่องว่า “การค้นพบของเธอได้พลิกโฉมวิทยาศาสตร์ และการอุทิศตนเพื่อธรรมชาติคือแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก”

    Goodall เริ่มต้นเส้นทางวิทยาศาสตร์โดยไม่มีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความหลงใหลในสัตว์และธรรมชาติ เธอเดินทางไปเคนยาในปี 1957 และได้พบกับนักมานุษยวิทยาชื่อดัง Louis Leakey ซึ่งส่งเธอไปศึกษาชิมแปนซีในป่า Gombe ประเทศแทนซาเนีย

    ในปี 1960 เธอค้นพบว่า ชิมแปนซีสามารถใช้และสร้างเครื่องมือได้ เช่น การใช้ใบหญ้าเพื่อจับปลวก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เคยเชื่อว่าเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์เท่านั้น การค้นพบนี้ทำให้โลกต้อง “นิยามมนุษย์ใหม่” และเปิดประตูสู่การศึกษาพฤติกรรมสัตว์ในมิติที่ลึกซึ้งขึ้น

    Goodall ยังเป็นผู้บุกเบิกการตั้งชื่อให้กับชิมแปนซีแต่ละตัว เช่น David Greybeard, Flo และ Flint แทนการใช้หมายเลข ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในยุคนั้น แต่ต่อมากลับกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการวิทยาศาสตร์สัตว์

    เธอพบว่าชิมแปนซีมีอารมณ์ ความรัก ความเศร้า และแม้แต่ความรุนแรงที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ “สงครามสี่ปี” ที่กลุ่มชิมแปนซี Kasakela โจมตีและทำลายกลุ่มเพื่อนบ้านอย่างเป็นระบบ ซึ่งเปลี่ยนมุมมองของ Goodall ต่อธรรมชาติของสัตว์อย่างสิ้นเชิง

    นอกจากงานวิจัย เธอยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิสัตว์ โดยก่อตั้ง Jane Goodall Institute ในปี 1977 และโครงการ Roots & Shoots เพื่อส่งเสริมเยาวชนในกว่า 130 ประเทศให้ร่วมอนุรักษ์โลก เธอได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย รวมถึงเหรียญ Presidential Medal of Freedom จากสหรัฐฯ และตำแหน่ง Messenger of Peace จากสหประชาชาติ

    https://www.latimes.com/obituaries/story/2025-10-01/jane-goodall-chimpanzees-dead
    🌿 “Jane Goodall เสียชีวิตในวัย 91 — นักวิทยาศาสตร์ผู้เปลี่ยนความเข้าใจของมนุษย์ต่อสัตว์โลก” Jane Goodall นักธรรมชาติวิทยาและนักอนุรักษ์ชื่อดังระดับโลก ได้เสียชีวิตอย่างสงบในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2025 ขณะอยู่ระหว่างการเดินสายบรรยายในสหรัฐฯ เธอจากไปในวัย 91 ปี โดยสถาบัน Jane Goodall Institute ได้ประกาศข่าวผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย พร้อมยกย่องว่า “การค้นพบของเธอได้พลิกโฉมวิทยาศาสตร์ และการอุทิศตนเพื่อธรรมชาติคือแรงบันดาลใจให้คนทั่วโลก” Goodall เริ่มต้นเส้นทางวิทยาศาสตร์โดยไม่มีวุฒิการศึกษาระดับมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความหลงใหลในสัตว์และธรรมชาติ เธอเดินทางไปเคนยาในปี 1957 และได้พบกับนักมานุษยวิทยาชื่อดัง Louis Leakey ซึ่งส่งเธอไปศึกษาชิมแปนซีในป่า Gombe ประเทศแทนซาเนีย ในปี 1960 เธอค้นพบว่า ชิมแปนซีสามารถใช้และสร้างเครื่องมือได้ เช่น การใช้ใบหญ้าเพื่อจับปลวก ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เคยเชื่อว่าเป็นเอกลักษณ์ของมนุษย์เท่านั้น การค้นพบนี้ทำให้โลกต้อง “นิยามมนุษย์ใหม่” และเปิดประตูสู่การศึกษาพฤติกรรมสัตว์ในมิติที่ลึกซึ้งขึ้น Goodall ยังเป็นผู้บุกเบิกการตั้งชื่อให้กับชิมแปนซีแต่ละตัว เช่น David Greybeard, Flo และ Flint แทนการใช้หมายเลข ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในยุคนั้น แต่ต่อมากลับกลายเป็นมาตรฐานใหม่ในวงการวิทยาศาสตร์สัตว์ เธอพบว่าชิมแปนซีมีอารมณ์ ความรัก ความเศร้า และแม้แต่ความรุนแรงที่คล้ายคลึงกับมนุษย์ โดยเฉพาะเหตุการณ์ “สงครามสี่ปี” ที่กลุ่มชิมแปนซี Kasakela โจมตีและทำลายกลุ่มเพื่อนบ้านอย่างเป็นระบบ ซึ่งเปลี่ยนมุมมองของ Goodall ต่อธรรมชาติของสัตว์อย่างสิ้นเชิง นอกจากงานวิจัย เธอยังเป็นนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมและสิทธิสัตว์ โดยก่อตั้ง Jane Goodall Institute ในปี 1977 และโครงการ Roots & Shoots เพื่อส่งเสริมเยาวชนในกว่า 130 ประเทศให้ร่วมอนุรักษ์โลก เธอได้รับรางวัลระดับโลกมากมาย รวมถึงเหรียญ Presidential Medal of Freedom จากสหรัฐฯ และตำแหน่ง Messenger of Peace จากสหประชาชาติ https://www.latimes.com/obituaries/story/2025-10-01/jane-goodall-chimpanzees-dead
    WWW.LATIMES.COM
    Jane Goodall, trailblazing naturalist whose intimate observations of chimpanzees transformed our understanding of humankind, has died
    Jane Goodall, the trailblazing naturalist whose intimate observations of chimpanzees in the African wild produced powerful insights that transformed basic conceptions of humankind, has died. She was 91.
    0 Comments 0 Shares 317 Views 0 Reviews
  • เวียดนามกลาง 3 วัน 2 คืน
    ลดทันที 2,000 บาท เหลือเพียง 11,919.-
    เดินทางโดย : FD – แอร์เอเชีย

    วันที่เดินทาง

    * 17–19 ต.ค. 68
    * 23–25 ต.ค. 68

    โปรแกรมทัวร์ไฮไลท์เวียดนามกลาง

    * กระเช้าบานาฮิลล์ และ นั่งรถราง
    * ล่องเรือกระด้ง
    * เมืองโบราณฮอยอัน และ ล่องเรือยามเย็น
    * สะพานมือ และ สะพานแห่งความรัก
    * สะพานมังกร
    * ตลาดฮาน
    * เจ้าแม่กวนอิม วัดหลินอึ๋ง
    * Son Tra Marina Cafe


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e7a9b5

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #VietnamCentral #HoiAn #BaNaHills #ล่องเรือกระด้ง #สะพานมือ #สะพานแห่งความรัก #สะพานมังกร #ตลาดฮาน #เที่ยวเวียดนาม #โปรไฟไหม้ #eTravelWay
    🌴✈️ เวียดนามกลาง 3 วัน 2 คืน 💸 ลดทันที 2,000 บาท เหลือเพียง 11,919.- 🛫 เดินทางโดย : FD – แอร์เอเชีย 📅 วันที่เดินทาง * 17–19 ต.ค. 68 * 23–25 ต.ค. 68 🌟 โปรแกรมทัวร์ไฮไลท์เวียดนามกลาง 🌟 * 🚡 กระเช้าบานาฮิลล์ และ นั่งรถราง * 🚤 ล่องเรือกระด้ง * 🏛️ เมืองโบราณฮอยอัน และ ล่องเรือยามเย็น * 🌉 สะพานมือ และ สะพานแห่งความรัก * 🐉 สะพานมังกร * 🛍️ ตลาดฮาน * 🙏 เจ้าแม่กวนอิม วัดหลินอึ๋ง * ☕ Son Tra Marina Cafe ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e7a9b5 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #VietnamCentral #HoiAn #BaNaHills #ล่องเรือกระด้ง #สะพานมือ #สะพานแห่งความรัก #สะพานมังกร #ตลาดฮาน #เที่ยวเวียดนาม #โปรไฟไหม้ #eTravelWay
    0 Comments 0 Shares 436 Views 0 Reviews
  • “Jonathan Clements จากไปอย่างสงบ — นักเขียนผู้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาด้วยคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความหมาย’”

    Jonathan Clements ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HumbleDollar และอดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังของ The Wall Street Journal ได้เขียนข้อความอำลาครั้งสุดท้ายไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของเว็บไซต์ ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี

    เขาเริ่มต้นข้อความว่า “ถ้าคุณเห็นโพสต์นี้ แปลว่าผมจากไปแล้ว” พร้อมขอให้ผู้อ่านไม่เศร้า เพราะเขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีในอาชีพ เขาหวังว่าใต้ต้นไม้หน้าบ้านในฟิลาเดลเฟีย ภรรยาของเขา Elaine จะวางแผ่นหินจารึกชื่อของเขา พร้อมคำว่า “Family • Readers • Words” ซึ่งเป็นสามสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต

    Jonathan เล่าถึงชีวิตตั้งแต่เกิดในลอนดอน ย้ายไปอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank และต้องเผชิญกับชีวิตในโรงเรียนประจำที่โหดร้ายในอังกฤษ ก่อนจะสอบเข้า Cambridge และเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวที่ Forbes และ The Wall Street Journal ซึ่งเขาเขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน

    เขาเป็นผู้ผลักดันแนวคิดการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่เป็นที่นิยม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีเป้าหมาย เขาเคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และคว้าอันดับหนึ่งในฮาล์ฟมาราธอนบนเรือกลางทะเลแอนตาร์กติกา

    แม้ชีวิตคู่จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาพบรักครั้งสุดท้ายกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 เพียงห้าวันหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย

    เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายจัดการชีวิต เตรียมเว็บไซต์ HumbleDollar ให้ดำเนินต่อได้ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตายอย่างมีสติ จนได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง เช่น The New York Times, WSJ และ AARP

    Jonathan ไม่เพียงเป็นนักเขียนด้านการเงิน แต่เป็นนักคิดที่ใช้ “คำ” เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจชีวิต เขาจากไปอย่างสงบ แต่ทิ้งไว้ซึ่งบทเรียนเรื่องเงิน ความรัก และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Jonathan Clements เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี
    เขาเขียนข้อความอำลาไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของ HumbleDollar
    ขอให้ภรรยาวางแผ่นหินจารึกคำว่า “Family • Readers • Words” ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน
    เกิดในลอนดอน ย้ายมาอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank
    เรียนที่ Cambridge และเริ่มงานที่ Forbes ก่อนย้ายไป The Wall Street Journal
    เขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน และผลักดันแนวคิด index fund
    เคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และชนะการแข่งขันหลายรายการ
    พบรักกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 หลังรู้ว่าเป็นมะเร็ง
    เตรียม HumbleDollar ให้ดำเนินต่อ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตาย
    ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายแห่ง เช่น NYT, WSJ, AARP

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Jonathan เป็นหนึ่งในนักเขียนด้านการเงินที่ผลักดัน index fund สู่กระแสหลัก
    หนังสือ “How to Think About Money” เป็นผลงานที่ขายดีที่สุดของเขา
    เขาเคยทำงานกับ Citigroup และ Creative Planning ในบทบาทด้านการศึกษาการเงิน
    HumbleDollar เปิดให้ผู้เขียนสมัครเล่นร่วมเขียนบทความ โดยเขาเป็นผู้แก้ไขด้วยตัวเอง
    เขาเชื่อว่าความสุขมาจากการใช้เงินเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ

    https://humbledollar.com/forum/farewell-friends/
    🕊️ “Jonathan Clements จากไปอย่างสงบ — นักเขียนผู้เปลี่ยนชีวิตคนธรรมดาด้วยคำว่า ‘เงิน’ และ ‘ความหมาย’” Jonathan Clements ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ HumbleDollar และอดีตคอลัมนิสต์ชื่อดังของ The Wall Street Journal ได้เขียนข้อความอำลาครั้งสุดท้ายไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของเว็บไซต์ ก่อนจากไปด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี เขาเริ่มต้นข้อความว่า “ถ้าคุณเห็นโพสต์นี้ แปลว่าผมจากไปแล้ว” พร้อมขอให้ผู้อ่านไม่เศร้า เพราะเขามีชีวิตที่เต็มไปด้วยความรัก ประสบการณ์ และโอกาสที่ดีในอาชีพ เขาหวังว่าใต้ต้นไม้หน้าบ้านในฟิลาเดลเฟีย ภรรยาของเขา Elaine จะวางแผ่นหินจารึกชื่อของเขา พร้อมคำว่า “Family • Readers • Words” ซึ่งเป็นสามสิ่งที่เขายึดถือมาตลอดชีวิต Jonathan เล่าถึงชีวิตตั้งแต่เกิดในลอนดอน ย้ายไปอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank และต้องเผชิญกับชีวิตในโรงเรียนประจำที่โหดร้ายในอังกฤษ ก่อนจะสอบเข้า Cambridge และเริ่มต้นเส้นทางนักข่าวที่ Forbes และ The Wall Street Journal ซึ่งเขาเขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน เขาเป็นผู้ผลักดันแนวคิดการลงทุนในกองทุนดัชนี (index fund) ตั้งแต่ยุคที่ยังไม่เป็นที่นิยม และใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแต่มีเป้าหมาย เขาเคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และคว้าอันดับหนึ่งในฮาล์ฟมาราธอนบนเรือกลางทะเลแอนตาร์กติกา แม้ชีวิตคู่จะไม่ราบรื่นนัก แต่เขาพบรักครั้งสุดท้ายกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 เพียงห้าวันหลังได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย เขาใช้เวลาช่วงสุดท้ายจัดการชีวิต เตรียมเว็บไซต์ HumbleDollar ให้ดำเนินต่อได้ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตายอย่างมีสติ จนได้รับความสนใจจากสื่อหลายแห่ง เช่น The New York Times, WSJ และ AARP Jonathan ไม่เพียงเป็นนักเขียนด้านการเงิน แต่เป็นนักคิดที่ใช้ “คำ” เป็นเครื่องมือสร้างความเข้าใจชีวิต เขาจากไปอย่างสงบ แต่ทิ้งไว้ซึ่งบทเรียนเรื่องเงิน ความรัก และการใช้ชีวิตอย่างมีความหมาย ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Jonathan Clements เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2025 ด้วยวัย 62 ปี ➡️ เขาเขียนข้อความอำลาไว้ล่วงหน้าในฟอรัมของ HumbleDollar ➡️ ขอให้ภรรยาวางแผ่นหินจารึกคำว่า “Family • Readers • Words” ใต้ต้นไม้หน้าบ้าน ➡️ เกิดในลอนดอน ย้ายมาอเมริกาเมื่อพ่อได้งานที่ World Bank ➡️ เรียนที่ Cambridge และเริ่มงานที่ Forbes ก่อนย้ายไป The Wall Street Journal ➡️ เขียนคอลัมน์ “Getting Going” กว่า 1,000 ตอน และผลักดันแนวคิด index fund ➡️ เคยวิ่งมาราธอนใต้สามชั่วโมง และชนะการแข่งขันหลายรายการ ➡️ พบรักกับ Elaine ในปี 2020 และแต่งงานกันในปี 2024 หลังรู้ว่าเป็นมะเร็ง ➡️ เตรียม HumbleDollar ให้ดำเนินต่อ และเขียนบทความเกี่ยวกับการเผชิญความตาย ➡️ ได้รับการยกย่องจากสื่อหลายแห่ง เช่น NYT, WSJ, AARP ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Jonathan เป็นหนึ่งในนักเขียนด้านการเงินที่ผลักดัน index fund สู่กระแสหลัก ➡️ หนังสือ “How to Think About Money” เป็นผลงานที่ขายดีที่สุดของเขา ➡️ เขาเคยทำงานกับ Citigroup และ Creative Planning ในบทบาทด้านการศึกษาการเงิน ➡️ HumbleDollar เปิดให้ผู้เขียนสมัครเล่นร่วมเขียนบทความ โดยเขาเป็นผู้แก้ไขด้วยตัวเอง ➡️ เขาเชื่อว่าความสุขมาจากการใช้เงินเพื่อประสบการณ์ ไม่ใช่สิ่งของ https://humbledollar.com/forum/farewell-friends/
    HUMBLEDOLLAR.COM
    Farewell Friends - HumbleDollar
    If this post is appearing, it means I’ve succumbed to cancer or one of its side effects. Please don’t feel sad for me. I’ve had a life filled with love, great experiences and wonderful career opportunities. Despite my demise at a relatively young age, I consider myself beyond fortunate. I’m hoping that, under the tree in front of our little Philadelphia rowhome, my wife Elaine will place a stone tablet inscribed with my name, and the year I was born and died.
    0 Comments 0 Shares 342 Views 0 Reviews
  • บทเพลงแห่งความขัดแย้งที่กลายเป็นอมตะ: เรื่องราวเบื้องหลังเพลง 'I Can't Tell You Why' โดย Eagles

    ในช่วงปลายยุค 70 วงดนตรีร็อกชื่อดังอย่าง Eagles ได้ก้าวสู่จุดสูงสุดของความสำเร็จระดับโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจากอัลบั้มยอดเยี่ยม Hotel California (1976) อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้กลับนำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลและความขัดแย้งที่ร้าวลึกภายในวง โดยเฉพาะระหว่างแกนนำอย่าง Don Henley และ Glenn Frey

    ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดนี้ การบันทึกเสียงอัลบั้มถัดมา The Long Run (1979) จึงเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบาก ทีมงานของค่ายเพลงถึงกับเรียกมันว่า “The Long One” หรือ “สิ่งที่ยาวนาน” ซึ่ง Don Henley เองก็ยอมรับในภายหลังว่าอัลบั้มนี้โดยรวมแล้ว “ไม่ใช่แผ่นเสียงที่ดีนัก” เพราะสมาชิกวงต่าง “หมดไฟ” และ “ตึงเครียด” จนเกินไป

    แต่ท่ามกลางความวุ่นวายดังกล่าว บทเพลงบัลลาดสุดคลาสสิกอย่าง “I Can't Tell You Why” ได้ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นข้อยกเว้นที่โดดเด่น เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่วงสามารถบันทึกเสร็จสมบูรณ์สำหรับอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันสั้นที่ Eagles สามารถกลับมาร่วมงานกันได้อย่างสร้างสรรค์ ก่อนที่ความขัดแย้งภายในจะกลับมาอีกครั้งและนำไปสู่การยุบวงในที่สุด เพลงนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามารถอันน่าทึ่งของวงในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามและลงตัวจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะพังทลาย

    เรื่องราวเริ่มขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ที่แทน Randy Meisner ในปี 1977 Schmit ได้นำไอเดียเพลงจากประสบการณ์ส่วนตัวมาเสนอ และร่วมแต่งกับ Frey และ Henley ภายในไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า

    เรื่องราวของเพลงนี้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ผู้มากประสบการณ์จากวง Poco ที่เข้ามาแทน Randy Meisner ซึ่งลาออกไปในปี 1977 Schmit เข้ามาในฐานะคนวงนอก ผู้ที่ตั้งใจ “ทำทุกอย่างเพื่อรักษาสันติภาพ” และช่วยให้สถานการณ์ภายในวงดีขึ้น เขาได้นำไอเดียตั้งต้นของเพลงที่เขาบอกว่า “อิงจากประสบการณ์ส่วนตัว” มาเสนอต่อ Frey และ Henley เพื่อเป็นเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเขาใน Eagles ทั้งสามคนได้ร่วมกันแต่งเพลงนี้อย่างรวดเร็วในช่วง “ไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า” จนได้ผลงานที่สมบูรณ์ Don Henley และ Glenn Frey ต้องการนำเสนอ Timothy B. Schmit ด้วยเสียงที่แตกต่างจากดนตรีคันทรี่ร็อกที่เขาเคยทำ โดย Frey ที่มี “รากฐานลึกซึ้งในดนตรีโซล” ได้แนะนำ Schmit อย่างชัดเจนว่า “คุณสามารถร้องเพลงแบบ Smokey Robinson ได้” และให้เปลี่ยนมาทำ “เพลงแนว R&B” แทน ขณะที่ Henley ก็กล่าวเสริมว่าเพลงนี้มีสไตล์แบบ “Al Green ชัดๆ”

    ในด้านองค์ประกอบทางดนตรี Frey ยังมีบทบาทสำคัญในการเรียบเรียง โดย Timothy B. Schmit ถึงกับเรียกเขาว่า "The Lone Arranger" (ผู้เรียบเรียงเพียงหนึ่งเดียว) เนื่องจากความสามารถในการจัดการพาร์ทดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะท่อนโซโล่กีตาร์ที่ไพเราะและโดดเด่นในเพลงนี้ที่ Frey เป็นผู้บรรเลงเอง นอกจากนี้ Joe Walsh ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศของเพลงด้วยการเล่นคีย์บอร์ดทั้งหมด ทั้ง Hammond organ, Fender Rhodes electric piano และ ARP String Synthesizer ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมกันเป็นงานบัลลาดที่แตกต่างจากเพลงร็อกและคันทรี่-ร็อกที่แข็งกร้าวของวง 7 และได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่ “มีจิตวิญญาณมากที่สุด” ของ Eagles

    เนื้อเพลงของ “I Can't Tell You Why” สะท้อนถึงความรู้สึกที่สับสนและเจ็บปวดในความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้ง มันเล่าเรื่องราวของคนที่ต้องการจะเดินจากไปแต่กลับถูกดึงดูดให้กลับมาเสมอ และไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แม้จะอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Schmit แต่เขาก็ยืนยันว่ามันถ่ายทอด “แก่นสากลของความรัก, ความไม่แน่นอน และการสื่อสารที่ล้มเหลว” ได้อย่างครอบคลุม ด้านเสียงร้องนำโดย Timothy B. Schmit ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็นเสียง “ใสกังวาน” และ “เสียงสูงแบบเจ็บปวด” ได้เพิ่มมิติที่ลึกซึ้งและคุณภาพที่น่าจดจำให้กับเพลง เพลงนี้ถือเป็นเพลงแรกที่ Eagles ให้ Schmit ร้องนำอย่างเต็มตัว ซึ่งทำให้เขาได้สร้างเอกลักษณ์ทางเสียงของตนเองได้อย่างชัดเจนและเป็นที่จดจำในฐานะนักร้องนำอีกคนหนึ่งของวง

    หลังจากที่ถูกปล่อยออกมาในฐานะซิงเกิลที่สามในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1980 เพลง “I Can't Tell You Why” ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยขึ้นไปถึงอันดับ 8 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ในเดือนเมษายน 1980 และขึ้นไปถึงอันดับ 3 บนชาร์ต Adult Contemporary ความสำเร็จนี้ทำให้เป็นเพลงท็อป 10 เพลงที่สามติดต่อกันจากอัลบั้ม The Long Run และที่สำคัญที่สุด มันยังกลายเป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของ Eagles บนชาร์ต Billboard Hot 100 ก่อนที่พวกเขาจะประกาศยุบวงในเวลาต่อมา แม้จะไม่ได้เป็นเพลงที่ทำยอดขายสูงสุดเท่ากับเพลงยอดนิยมอื่นๆ แต่ “I Can't Tell You Why” ได้กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ และเป็น “ช่วงเวลาไฮไลต์” สำหรับ Timothy B. Schmit ในการแสดงสด เพลงนี้อยู่ในอันดับที่ 9 ของเพลงที่ถูกเล่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวง นอกจากนี้ เพลงยังได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ โดย

    Billboard จัดให้เพลงนี้อยู่ในอันดับ 6 ของผลงาน Eagles ที่ดีที่สุด (2017) และ Rolling Stone ให้อันดับ 11 (2019)

    ความสำคัญของเพลงนี้ยังคงดำเนินต่อไปผ่านเพลงคัฟเวอร์จำนวนมากที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางดนตรี ตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่

    วง R&B อย่าง Brownstone ที่นำเพลงนี้มาทำใหม่ในรูปแบบอาร์แอนด์บีร่วมสมัยในปี 1995 ซึ่งเวอร์ชันของพวกเขาขึ้นถึงอันดับ 54 บน Billboard Hot 100 และอันดับ 22 บนชาร์ต Hot R&B ศิลปินเพลงคันทรี่

    ศิลปินเพลงคันทรี่ Vince Gill ก็เคยนำเพลงนี้ไปคัฟเวอร์ในปี 1993 โดยมี Timothy B. Schmit มาร่วมร้องประสานให้ด้วย ซึ่งเวอร์ชันนี้สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 42 บนชาร์ต Hot Country Songs

    นอกจากนี้ ศิลปินแจ๊สอย่าง Diana Krall ก็ได้นำเพลงนี้ไปตีความใหม่ในแนวแจ๊สอันนุ่มนวลสำหรับอัลบั้ม Wallflower ของเธอในปี 2015 ซึ่งเวอร์ชันนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 10 บนชาร์ต Billboard Smooth Jazz การที่เพลงสามารถถูกนำไปคัฟเวอร์ในหลากหลายแนวเพลง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเนื้อหาและโครงสร้างทางดนตรีของเพลงต้นฉบับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นเพลงที่โดดเด่นและมีอิทธิพลเหนือกาลเวลา

    “I Can't Tell You Why” จึงเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของบทเพลงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงแต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสมานฉันท์และการสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงฮิตที่ประสบความสำเร็จทางพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเพลงที่เชื่อมโยง Eagles เข้ากับยุคใหม่ ด้วยการแนะนำสมาชิกใหม่และสำรวจแนวเพลงที่ไม่เคยทำมาก่อน และในขณะเดียวกัน ก็เป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของวงในยุคนั้น ท้ายที่สุด “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นหนึ่งในบัลลาดที่สำคัญและได้รับความนิยมสูงสุดของ Eagles เพราะเรื่องราวที่ซับซ้อนและย้อนแย้งที่อยู่เบื้องหลังการกำเนิดของมัน เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด Eagles ก็ยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ไร้กาลเวลาซึ่งยังคงดึงดูดและสะท้อนความรู้สึกของผู้ฟังมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์

    #ลุงเล่าหลานฟัง

    https://youtu.be/Odcn6qk94bs
    🎶 บทเพลงแห่งความขัดแย้งที่กลายเป็นอมตะ: เรื่องราวเบื้องหลังเพลง 'I Can't Tell You Why' โดย Eagles ✨ ในช่วงปลายยุค 70 วงดนตรีร็อกชื่อดังอย่าง Eagles ได้ก้าวสู่จุดสูงสุดของความสำเร็จระดับโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนจากอัลบั้มยอดเยี่ยม Hotel California (1976) อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่นี้กลับนำมาซึ่งแรงกดดันมหาศาลและความขัดแย้งที่ร้าวลึกภายในวง โดยเฉพาะระหว่างแกนนำอย่าง Don Henley และ Glenn Frey 💿 ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดนี้ การบันทึกเสียงอัลบั้มถัดมา The Long Run (1979) จึงเป็นกระบวนการที่ยาวนานและยากลำบาก ทีมงานของค่ายเพลงถึงกับเรียกมันว่า “The Long One” หรือ “สิ่งที่ยาวนาน” ซึ่ง Don Henley เองก็ยอมรับในภายหลังว่าอัลบั้มนี้โดยรวมแล้ว “ไม่ใช่แผ่นเสียงที่ดีนัก” เพราะสมาชิกวงต่าง “หมดไฟ” และ “ตึงเครียด” จนเกินไป ❤️ แต่ท่ามกลางความวุ่นวายดังกล่าว บทเพลงบัลลาดสุดคลาสสิกอย่าง “I Can't Tell You Why” ได้ถือกำเนิดขึ้นและกลายเป็นข้อยกเว้นที่โดดเด่น เพลงนี้เป็นเพลงแรกที่วงสามารถบันทึกเสร็จสมบูรณ์สำหรับอัลบั้มนี้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาอันสั้นที่ Eagles สามารถกลับมาร่วมงานกันได้อย่างสร้างสรรค์ ก่อนที่ความขัดแย้งภายในจะกลับมาอีกครั้งและนำไปสู่การยุบวงในที่สุด เพลงนี้จึงไม่ได้เป็นเพียงเพลงฮิต แต่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความสามารถอันน่าทึ่งของวงในการสร้างสรรค์งานศิลปะที่สวยงามและลงตัวจากสถานการณ์ที่ดูเหมือนจะพังทลาย 👤 เรื่องราวเริ่มขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ที่แทน Randy Meisner ในปี 1977 Schmit ได้นำไอเดียเพลงจากประสบการณ์ส่วนตัวมาเสนอ และร่วมแต่งกับ Frey และ Henley ภายในไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า 🎤 เรื่องราวของเพลงนี้เริ่มต้นขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของ Timothy B. Schmit มือเบสคนใหม่ผู้มากประสบการณ์จากวง Poco ที่เข้ามาแทน Randy Meisner ซึ่งลาออกไปในปี 1977 Schmit เข้ามาในฐานะคนวงนอก ผู้ที่ตั้งใจ “ทำทุกอย่างเพื่อรักษาสันติภาพ” และช่วยให้สถานการณ์ภายในวงดีขึ้น เขาได้นำไอเดียตั้งต้นของเพลงที่เขาบอกว่า “อิงจากประสบการณ์ส่วนตัว” มาเสนอต่อ Frey และ Henley เพื่อเป็นเพลงเดี่ยวเพลงแรกของเขาใน Eagles ทั้งสามคนได้ร่วมกันแต่งเพลงนี้อย่างรวดเร็วในช่วง “ไม่กี่คืนที่ทำงานกันยันเช้า” จนได้ผลงานที่สมบูรณ์ Don Henley และ Glenn Frey ต้องการนำเสนอ Timothy B. Schmit ด้วยเสียงที่แตกต่างจากดนตรีคันทรี่ร็อกที่เขาเคยทำ โดย Frey ที่มี “รากฐานลึกซึ้งในดนตรีโซล” ได้แนะนำ Schmit อย่างชัดเจนว่า “คุณสามารถร้องเพลงแบบ Smokey Robinson ได้” และให้เปลี่ยนมาทำ “เพลงแนว R&B” แทน ขณะที่ Henley ก็กล่าวเสริมว่าเพลงนี้มีสไตล์แบบ “Al Green ชัดๆ” 🎸 ในด้านองค์ประกอบทางดนตรี Frey ยังมีบทบาทสำคัญในการเรียบเรียง โดย Timothy B. Schmit ถึงกับเรียกเขาว่า "The Lone Arranger" (ผู้เรียบเรียงเพียงหนึ่งเดียว) เนื่องจากความสามารถในการจัดการพาร์ทดนตรีต่างๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะท่อนโซโล่กีตาร์ที่ไพเราะและโดดเด่นในเพลงนี้ที่ Frey เป็นผู้บรรเลงเอง นอกจากนี้ Joe Walsh ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างบรรยากาศของเพลงด้วยการเล่นคีย์บอร์ดทั้งหมด ทั้ง Hammond organ, Fender Rhodes electric piano และ ARP String Synthesizer ทั้งหมดนี้ได้หลอมรวมกันเป็นงานบัลลาดที่แตกต่างจากเพลงร็อกและคันทรี่-ร็อกที่แข็งกร้าวของวง 7 และได้รับการยกย่องว่าเป็นเพลงที่ “มีจิตวิญญาณมากที่สุด” ของ Eagles 💔 เนื้อเพลงของ “I Can't Tell You Why” สะท้อนถึงความรู้สึกที่สับสนและเจ็บปวดในความสัมพันธ์ได้อย่างลึกซึ้ง มันเล่าเรื่องราวของคนที่ต้องการจะเดินจากไปแต่กลับถูกดึงดูดให้กลับมาเสมอ และไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น แม้จะอิงจากประสบการณ์ส่วนตัวของ Schmit แต่เขาก็ยืนยันว่ามันถ่ายทอด “แก่นสากลของความรัก, ความไม่แน่นอน และการสื่อสารที่ล้มเหลว” ได้อย่างครอบคลุม ด้านเสียงร้องนำโดย Timothy B. Schmit ซึ่งถูกบรรยายว่าเป็นเสียง “ใสกังวาน” และ “เสียงสูงแบบเจ็บปวด” ได้เพิ่มมิติที่ลึกซึ้งและคุณภาพที่น่าจดจำให้กับเพลง เพลงนี้ถือเป็นเพลงแรกที่ Eagles ให้ Schmit ร้องนำอย่างเต็มตัว ซึ่งทำให้เขาได้สร้างเอกลักษณ์ทางเสียงของตนเองได้อย่างชัดเจนและเป็นที่จดจำในฐานะนักร้องนำอีกคนหนึ่งของวง 📀 หลังจากที่ถูกปล่อยออกมาในฐานะซิงเกิลที่สามในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 1980 เพลง “I Can't Tell You Why” ก็ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว โดยขึ้นไปถึงอันดับ 8 บนชาร์ต Billboard Hot 100 ในเดือนเมษายน 1980 และขึ้นไปถึงอันดับ 3 บนชาร์ต Adult Contemporary ความสำเร็จนี้ทำให้เป็นเพลงท็อป 10 เพลงที่สามติดต่อกันจากอัลบั้ม The Long Run และที่สำคัญที่สุด มันยังกลายเป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของ Eagles บนชาร์ต Billboard Hot 100 ก่อนที่พวกเขาจะประกาศยุบวงในเวลาต่อมา แม้จะไม่ได้เป็นเพลงที่ทำยอดขายสูงสุดเท่ากับเพลงยอดนิยมอื่นๆ แต่ “I Can't Tell You Why” ได้กลายเป็นเพลงโปรดของแฟนๆ และเป็น “ช่วงเวลาไฮไลต์” สำหรับ Timothy B. Schmit ในการแสดงสด เพลงนี้อยู่ในอันดับที่ 9 ของเพลงที่ถูกเล่นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของวง นอกจากนี้ เพลงยังได้รับคำชื่นชมจากนักวิจารณ์ โดย 🏆 Billboard จัดให้เพลงนี้อยู่ในอันดับ 6 ของผลงาน Eagles ที่ดีที่สุด (2017) และ Rolling Stone ให้อันดับ 11 (2019) 🎵 ความสำคัญของเพลงนี้ยังคงดำเนินต่อไปผ่านเพลงคัฟเวอร์จำนวนมากที่สะท้อนถึงความหลากหลายทางดนตรี ตัวอย่างที่โดดเด่น ได้แก่ 🎤 วง R&B อย่าง Brownstone ที่นำเพลงนี้มาทำใหม่ในรูปแบบอาร์แอนด์บีร่วมสมัยในปี 1995 ซึ่งเวอร์ชันของพวกเขาขึ้นถึงอันดับ 54 บน Billboard Hot 100 และอันดับ 22 บนชาร์ต Hot R&B ศิลปินเพลงคันทรี่ 🎧 🎤 ศิลปินเพลงคันทรี่ Vince Gill ก็เคยนำเพลงนี้ไปคัฟเวอร์ในปี 1993 โดยมี Timothy B. Schmit มาร่วมร้องประสานให้ด้วย ซึ่งเวอร์ชันนี้สามารถไต่ขึ้นไปถึงอันดับ 42 บนชาร์ต Hot Country Songs 🤠 🎤 นอกจากนี้ ศิลปินแจ๊สอย่าง Diana Krall ก็ได้นำเพลงนี้ไปตีความใหม่ในแนวแจ๊สอันนุ่มนวลสำหรับอัลบั้ม Wallflower ของเธอในปี 2015 ซึ่งเวอร์ชันนี้ขึ้นไปถึงอันดับ 10 บนชาร์ต Billboard Smooth Jazz การที่เพลงสามารถถูกนำไปคัฟเวอร์ในหลากหลายแนวเพลง แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเนื้อหาและโครงสร้างทางดนตรีของเพลงต้นฉบับ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นเพลงที่โดดเด่นและมีอิทธิพลเหนือกาลเวลา 🎹 ⌛ 🌟 “I Can't Tell You Why” จึงเป็นตัวอย่างที่หาได้ยากของบทเพลงที่เกิดขึ้นจากความขัดแย้งอย่างรุนแรงแต่กลับกลายเป็นสัญลักษณ์ของความสมานฉันท์และการสร้างสรรค์อันยอดเยี่ยม เพลงนี้ไม่เพียงแต่เป็นเพลงฮิตที่ประสบความสำเร็จทางพาณิชย์เท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นเพลงที่เชื่อมโยง Eagles เข้ากับยุคใหม่ ด้วยการแนะนำสมาชิกใหม่และสำรวจแนวเพลงที่ไม่เคยทำมาก่อน และในขณะเดียวกัน ก็เป็นเพลงท็อป 10 เพลงสุดท้ายของวงในยุคนั้น ท้ายที่สุด “I Can't Tell You Why” ยังคงเป็นหนึ่งในบัลลาดที่สำคัญและได้รับความนิยมสูงสุดของ Eagles เพราะเรื่องราวที่ซับซ้อนและย้อนแย้งที่อยู่เบื้องหลังการกำเนิดของมัน เพลงนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า แม้จะอยู่ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด Eagles ก็ยังสามารถสร้างสรรค์ผลงานที่ไร้กาลเวลาซึ่งยังคงดึงดูดและสะท้อนความรู้สึกของผู้ฟังมาจนถึงทุกวันนี้ได้อย่างน่าอัศจรรย์ 🌈 #ลุงเล่าหลานฟัง https://youtu.be/Odcn6qk94bs
    0 Comments 0 Shares 395 Views 0 Reviews
  • “Stan Lee กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ AI Hologram — เทคโนโลยีปลุกตำนานสู่ชีวิตใหม่ที่ L.A. Comic Con”

    ในงาน L.A. Comic Con ปี 2025 ที่จัดขึ้น ณ Los Angeles Convention Center ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ “Stan Lee Experience” — การปรากฏตัวของ Stan Lee ผู้สร้างฮีโร่ระดับตำนานอย่าง Spider-Man, Iron Man, Hulk และ Thor ในรูปแบบ AI hologram ที่สามารถพูดคุยและตอบคำถามแฟน ๆ ได้แบบเรียลไทม์

    แม้ Stan Lee จะเสียชีวิตไปในปี 2018 ด้วยวัย 95 ปี แต่ด้วยความร่วมมือระหว่าง Proto Hologram และ Hyperreal ทีมงานสามารถสร้าง “Holo Stan” ขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และภาพจากการปรากฏตัวของเขาในงานต่าง ๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้คำพูดและบุคลิกของเขายังคง “เป็นตัวเขา” อย่างแท้จริง

    ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าไปในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุตเพื่อพูดคุยกับ Holo Stan ได้โดยตรง เช่น ถามว่า “คุณคิดอย่างไรกับ X-Men ที่เชื่อมโยงกับขบวนการสิทธิพลเมือง?” หรือ “ถ้าเลือกฮีโร่หนึ่งคนมาช่วยโลกวันนี้ คุณจะเลือกใคร?” ซึ่งคำตอบของเขาคือ Spider-Man พร้อมคำพูดที่อบอุ่นว่า “ฮีโร่ที่แท้จริงคือพวกคุณ — แฟน ๆ ที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่”

    แม้หลายคนจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้พบ Stan Lee อีกครั้งในรูปแบบใหม่ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากบางกลุ่มที่มองว่าเป็นการ “ไม่ให้เขาได้พักผ่อน” และตั้งคำถามถึงขอบเขตของการใช้ AI กับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว

    ข้อมูลสำคัญจากข่าว
    Stan Lee ปรากฏตัวในรูปแบบ AI hologram ที่ L.A. Comic Con ปี 2025
    ใช้เทคโนโลยีจาก Proto Hologram และ Hyperreal ในการสร้าง “Holo Stan”
    Hologram ถูกฝึกจากภาพและเสียงของ Stan Lee ตลอดชีวิตการทำงาน
    ผู้เข้าร่วมสามารถพูดคุยกับ Holo Stan ได้แบบเรียลไทม์ในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุต
    คำพูดของ Holo Stan ถูกควบคุมให้ไม่ออกนอกบริบทจากสิ่งที่ Stan เคยพูดจริง
    โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจาก Stan Lee Universe และอดีตผู้บริหาร Marvel
    Holo Stan กล่าวถึงความรักที่มีต่อแฟน ๆ และความหวังในโลกผ่านฮีโร่
    มีการใช้เทคโนโลยี “guardrails” เพื่อป้องกันไม่ให้ AI พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสม
    ผู้ชมสามารถถ่ายภาพและพูดคุยกับ Holo Stan ได้เหมือนพบตัวจริง

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Proto Hologram เคยใช้เทคโนโลยีนี้โปรโมตภาพยนตร์ เช่น The Conjuring และ Minecraft Movie
    Hyperreal เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสร้าง digital humans ด้วย AI
    Stan Lee เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์ Marvel ทุกเรื่องก่อนเสียชีวิต
    การใช้ AI hologram เริ่มแพร่หลายในวงการบันเทิง เช่น Elvis, Whitney Houston และ ABBA
    การสร้าง “digital legacy” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในการอนุรักษ์บุคคลสำคัญ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/27/ai-hologram-of-spider-man-creator-stan-lee-debuts-at-la-comic-con
    🕹️ “Stan Lee กลับมาอีกครั้งในรูปแบบ AI Hologram — เทคโนโลยีปลุกตำนานสู่ชีวิตใหม่ที่ L.A. Comic Con” ในงาน L.A. Comic Con ปี 2025 ที่จัดขึ้น ณ Los Angeles Convention Center ผู้เข้าร่วมงานได้สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษกับ “Stan Lee Experience” — การปรากฏตัวของ Stan Lee ผู้สร้างฮีโร่ระดับตำนานอย่าง Spider-Man, Iron Man, Hulk และ Thor ในรูปแบบ AI hologram ที่สามารถพูดคุยและตอบคำถามแฟน ๆ ได้แบบเรียลไทม์ แม้ Stan Lee จะเสียชีวิตไปในปี 2018 ด้วยวัย 95 ปี แต่ด้วยความร่วมมือระหว่าง Proto Hologram และ Hyperreal ทีมงานสามารถสร้าง “Holo Stan” ขึ้นมาโดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และภาพจากการปรากฏตัวของเขาในงานต่าง ๆ ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา เพื่อให้คำพูดและบุคลิกของเขายังคง “เป็นตัวเขา” อย่างแท้จริง ผู้เข้าร่วมงานสามารถเข้าไปในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุตเพื่อพูดคุยกับ Holo Stan ได้โดยตรง เช่น ถามว่า “คุณคิดอย่างไรกับ X-Men ที่เชื่อมโยงกับขบวนการสิทธิพลเมือง?” หรือ “ถ้าเลือกฮีโร่หนึ่งคนมาช่วยโลกวันนี้ คุณจะเลือกใคร?” ซึ่งคำตอบของเขาคือ Spider-Man พร้อมคำพูดที่อบอุ่นว่า “ฮีโร่ที่แท้จริงคือพวกคุณ — แฟน ๆ ที่ทำให้เรื่องราวเหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่” แม้หลายคนจะรู้สึกตื่นเต้นกับการได้พบ Stan Lee อีกครั้งในรูปแบบใหม่ แต่ก็มีเสียงวิจารณ์จากบางกลุ่มที่มองว่าเป็นการ “ไม่ให้เขาได้พักผ่อน” และตั้งคำถามถึงขอบเขตของการใช้ AI กับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ✅ ข้อมูลสำคัญจากข่าว ➡️ Stan Lee ปรากฏตัวในรูปแบบ AI hologram ที่ L.A. Comic Con ปี 2025 ➡️ ใช้เทคโนโลยีจาก Proto Hologram และ Hyperreal ในการสร้าง “Holo Stan” ➡️ Hologram ถูกฝึกจากภาพและเสียงของ Stan Lee ตลอดชีวิตการทำงาน ➡️ ผู้เข้าร่วมสามารถพูดคุยกับ Holo Stan ได้แบบเรียลไทม์ในบูธขนาด 1,500 ตารางฟุต ➡️ คำพูดของ Holo Stan ถูกควบคุมให้ไม่ออกนอกบริบทจากสิ่งที่ Stan เคยพูดจริง ➡️ โครงการนี้ได้รับการอนุมัติจาก Stan Lee Universe และอดีตผู้บริหาร Marvel ➡️ Holo Stan กล่าวถึงความรักที่มีต่อแฟน ๆ และความหวังในโลกผ่านฮีโร่ ➡️ มีการใช้เทคโนโลยี “guardrails” เพื่อป้องกันไม่ให้ AI พูดสิ่งที่ไม่เหมาะสม ➡️ ผู้ชมสามารถถ่ายภาพและพูดคุยกับ Holo Stan ได้เหมือนพบตัวจริง ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Proto Hologram เคยใช้เทคโนโลยีนี้โปรโมตภาพยนตร์ เช่น The Conjuring และ Minecraft Movie ➡️ Hyperreal เป็นบริษัทที่เชี่ยวชาญด้านการสร้าง digital humans ด้วย AI ➡️ Stan Lee เคยปรากฏตัวในภาพยนตร์ Marvel ทุกเรื่องก่อนเสียชีวิต ➡️ การใช้ AI hologram เริ่มแพร่หลายในวงการบันเทิง เช่น Elvis, Whitney Houston และ ABBA ➡️ การสร้าง “digital legacy” กำลังกลายเป็นเทรนด์ใหม่ในการอนุรักษ์บุคคลสำคัญ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/09/27/ai-hologram-of-spider-man-creator-stan-lee-debuts-at-la-comic-con
    WWW.THESTAR.COM.MY
    AI hologram of Spider-Man creator Stan Lee debuts at L.A. Comic Con
    LOS ANGELES (Reuters) -Wearing a green sweater and tan pants against a bright blue screen, Marvel comic book superhero creator Stan Lee will return to L.A. Comic Con in holographic form to meet fans of his characters including Spider-Man, Hulk, Iron Man and Thor.
    0 Comments 0 Shares 279 Views 0 Reviews
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 26-9 ..
    26/9/68
     ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ-หมดปัญหาคนยากไร้
     ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ
     ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป
     ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป
     การเรียน เรียนที่ใจชอบ ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วได้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล ส่วนโตแล้วตอนมีความพร้อมและชอบอะไร จัดให้เลย)
     การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด
    1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ เกิดภาวะหมุนเวียน
    - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครืองมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ
    -สนองเครื่องเทคโนโลยี หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร

     ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ :
    1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมด
    ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ คือ หน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลสู่การคลังทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน
    # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ
    # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่

    2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” ไม่ให้มีในประเทศไทย เช่น
    - ธุรกิจอสังหา
    - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน
    -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์
    -ธุรกิจปล่อยกู้
    -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่)
    -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง
    • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น)
    2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้
    พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน

    หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
    - โครงสร้างฯเขียนยังไม่ใช่ หรือยังไม่สมบูรณ์
    - เขียนสร้างใหม่ได้เลย
    - การเคลื่อนไหวต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเป็นเป้าหมาย และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย
    - เมื่อ “สามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน!
    - พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) 1สิ่งพร้อม เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (โครงสร้างสังคมยุคใหม่ตกผลึกกันแล้ว) 2สิ่งพร้อม พรรคการเมืองยุคใหม่
    ตั้งสำเร็จ คือ สิ่งที่3พร้อม
    สามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้
    - การเลือกตั้งครั้งนี้ ควรตั้ง “พรรคการเมืองยุคใหม่” ตั้งให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ
    a----------------------------------------------
    พรรคการเมืองเก่านอกจากฟาดฟันกันเอง และบ้านใหญ่บ้านโตเป็นพลังหนุน มีกำลังจำกัด
    ส่วน “พลังของประชาชน” เรา มีมากกว่าเขา “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่” ชนะแน่นอน

    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 26-9 .. 26/9/68  ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ-หมดปัญหาคนยากไร้  ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ  ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป  ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป  การเรียน เรียนที่ใจชอบ ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วได้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล ส่วนโตแล้วตอนมีความพร้อมและชอบอะไร จัดให้เลย)  การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด 1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ เกิดภาวะหมุนเวียน - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครืองมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ -สนองเครื่องเทคโนโลยี หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร  ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ : 1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมด ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ คือ หน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลสู่การคลังทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่ 2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” ไม่ให้มีในประเทศไทย เช่น - ธุรกิจอสังหา - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ -ธุรกิจปล่อยกู้ -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่) -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น) 2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้ พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น - โครงสร้างฯเขียนยังไม่ใช่ หรือยังไม่สมบูรณ์ - เขียนสร้างใหม่ได้เลย - การเคลื่อนไหวต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเป็นเป้าหมาย และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย - เมื่อ “สามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน! - พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) 1สิ่งพร้อม เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (โครงสร้างสังคมยุคใหม่ตกผลึกกันแล้ว) 2สิ่งพร้อม พรรคการเมืองยุคใหม่ ตั้งสำเร็จ คือ สิ่งที่3พร้อม สามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้ - การเลือกตั้งครั้งนี้ ควรตั้ง “พรรคการเมืองยุคใหม่” ตั้งให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ a---------------------------------------------- พรรคการเมืองเก่านอกจากฟาดฟันกันเอง และบ้านใหญ่บ้านโตเป็นพลังหนุน มีกำลังจำกัด ส่วน “พลังของประชาชน” เรา มีมากกว่าเขา “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่” ชนะแน่นอน
    0 Comments 0 Shares 372 Views 0 Reviews
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 26-9 ..
    26/9/68
     ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ-หมดปัญหาคนยากไร้
     ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ
     ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป
     ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป
     การเรียน เรียนที่ใจชอบ ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วได้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล ส่วนโตแล้วตอนมีความพร้อมและชอบอะไร จัดให้เลย)
     การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด
    1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ เกิดภาวะหมุนเวียน
    - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล
    - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครืองมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ
    -สนองเครื่องเทคโนโลยี หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร

     ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ :
    1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมด
    ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ คือ หน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลสู่การคลังทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน
    # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ
    # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่

    2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” ไม่ให้มีในประเทศไทย เช่น
    - ธุรกิจอสังหา
    - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน
    -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์
    -ธุรกิจปล่อยกู้
    -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่)
    -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง
    • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น)
    2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้
    พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน

    หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
    - โครงสร้างฯเขียนยังไม่ใช่ หรือยังไม่สมบูรณ์
    - เขียนสร้างใหม่ได้เลย
    - การเคลื่อนไหวต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเป็นเป้าหมาย และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย
    - เมื่อ “สามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน!
    - พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) 1สิ่งพร้อม เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (โครงสร้างสังคมยุคใหม่ตกผลึกกันแล้ว) 2สิ่งพร้อม พรรคการเมืองยุคใหม่
    ตั้งสำเร็จ คือ สิ่งที่3พร้อม
    สามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้
    - การเลือกตั้งครั้งนี้ ควรตั้ง “พรรคการเมืองยุคใหม่” ตั้งให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ
    a----------------------------------------------
    พรรคการเมืองเก่านอกจากฟาดฟันกันเอง และบ้านใหญ่บ้านโตเป็นพลังหนุน มีกำลังจำกัด
    ส่วน “พลังของประชาชน” เรา มีมากกว่าเขา “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่” ชนะแน่นอน






    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ 26-9 .. 26/9/68  ภาระหน้าที่ของรัฐ : หนุนช่วยภาคประชาชนและสร้างอาชีพให้กับประชาชน หมดปัญหาความเหลื่อมล้ำ-หมดปัญหาคนยากไร้  ทั้งนี้เพื่อไม่เกิดปัญหาสังคมที่ครอบครัวแย่งชิงทรัพย์สมบัติกันเมื่อลูกหลานเติบโตขึ้น สายใยความรักแห่งครอบครัวและเครือญาติก็จะมั่นคงยั่งยืนและสุขใจ  ปัญหาความขัดแย้งลูกจ้าง-นายจ้างก็จะหมดไป  ปัญหาความโลภความเห็นแก่ตัวของนักการเมืองและส.ส.ก็จะสลายไป  การเรียน เรียนที่ใจชอบ ไม่ชอบไม่ต้องเสียเวลาเรียน จบแล้วได้อาชีพทำเลย (มีระบบทดสอบตั้งแต่เตรียมอนุบาล ส่วนโตแล้วตอนมีความพร้อมและชอบอะไร จัดให้เลย)  การค้ายาเสบติด และ คอร์รัปชั่น โทษติดคุกและถึงขั้นประหารชีวิต ต้องเฉียบขาด 1. ก่อนอื่น ลดค่าครองชีพประชาชน สร้างกำลังซื้อ เกิดภาวะหมุนเวียน - บ้านพักฟรี สถานที่ประกอบอาชีพฟรี การศึกษาฟรี - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เป็นรายบุคคล - สนองเครื่องประกอบอาชีพฟรี เครืองมือพัฒนาจัดให้เลย เป็นคณะ นำโดยผู้นำ -สนองเครื่องเทคโนโลยี หุ้นส่วน+ภาครัฐ นำโดยผู้นำและผู้บริหาร  ภาคประชาชน หนุนช่วยรัฐ : 1.เมื่อปัจจัยพื้นฐานต่างๆในการประกอบอาชีพ ภาครัฐนั้นสนองให้ทั้งหมด ส่วนภาคประชาชน การหนุนช่วยต่อภาครัฐ คือ หน้าที่ เสียภาษีแก่รัฐ กิจการเล็ก-ใหญ่ล้วนต้องเสียภาษีตามยอดขาย โดยผ่านระบบคิวอาร์โค้ต เพื่อให้เงินภาษีไหลสู่การคลังทันที เพื่อให้ภาครัฐมีกำลังเงินคล่องตัวหมุนเวียน # อุทิศเพื่อสังคม : หนุนช่วยภาครัฐในด้านต่างๆ # สนับสนุนหนุนช่วยต่อชนรุ่นใหม่ อาชีพเกิดใหม่ 2.ธุรกิจประเภท “เก็งกำไร” ไม่ให้มีในประเทศไทย เช่น - ธุรกิจอสังหา - ธุรกิจซื้อขายที่ดิน -ธุรกิจตลาดหลักทรัพย์ -ธุรกิจปล่อยกู้ -ธุรกิจการธนาคารเอกชน (ยกเว้นภาครัฐ่) -ธุรกิจการศึกษาเอกชนทั้งปวง • นับตั้งแต่ชั้นอนุบาลถึงมหาวิทยาลัยเอกชน อีกทั้ง มหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐ: รวมทั้งสอนพิเศษ (เป็นหน้าที่โดยรัฐ่เท่านั้น) 2.1 ธุรกิจอสังหา ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจปล่อยกู้ พักหนี้ทั้งหมด 3 ปี ภาครัฐจะชดเชยให้แทน หมายเหตุ โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ที่เขียนมานี้ เป็นเพียงตัวอย่างเท่านั้น ช่วยกันคิด ช่วยกันเขียนให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น - โครงสร้างฯเขียนยังไม่ใช่ หรือยังไม่สมบูรณ์ - เขียนสร้างใหม่ได้เลย - การเคลื่อนไหวต้องมีเข็มทิศรูปธรรมเป็นเป้าหมาย และเป็นเป้าหมายของการตั้งพรรคของเราด้วย - เมื่อ “สามสิ่งนี้พร้อม!” ประเทศไทยเปลี่ยน! - พลังของประชาชน (หมอเขียว คปท. คณะรวมพลังแผ่นดิน พันธมิตร=ต่างมีความพร้อม) 1สิ่งพร้อม เข็มทิศเป้าหมายรูปธรรม (โครงสร้างสังคมยุคใหม่ตกผลึกกันแล้ว) 2สิ่งพร้อม พรรคการเมืองยุคใหม่ ตั้งสำเร็จ คือ สิ่งที่3พร้อม สามสิ่งนี้ จะขาด จะหย่อนสิ่งใดไม่ได้ - การเลือกตั้งครั้งนี้ ควรตั้ง “พรรคการเมืองยุคใหม่” ตั้งให้มีทุกจังหวัด ทุกอำเภอ a---------------------------------------------- พรรคการเมืองเก่านอกจากฟาดฟันกันเอง และบ้านใหญ่บ้านโตเป็นพลังหนุน มีกำลังจำกัด ส่วน “พลังของประชาชน” เรา มีมากกว่าเขา “พรรคการเมืองใหม่หรือยุคใหม่” ชนะแน่นอน
    0 Comments 0 Shares 379 Views 0 Reviews
  • เที่ยวเวียดนาม ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลล์ เริ่ม 5,995

    🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน
    ✈ EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์
    พักโรงแรม

    บานาฮิลล์
    สะพานมือยักษ์
    สะพานมังกร
    สะพานแห่งความรัก
    นั่งเรือกระด้ง
    เมืองโบราณฮอยอัน
    วัดหลินอึ๋ง
    ร้านกาแฟ Son Tra Marina

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี ">https://eTravelWay.com
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    : 021166395

    #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยวเวียดนาม ดานัง ฮอยอัน บานาฮิลล์ 😍 เริ่ม 5,995 🔥 🗓 จำนวนวัน 3วัน 2คืน ✈ EK-เอมิเรตส์แอร์ไลน์ 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 บานาฮิลล์ 📍 สะพานมือยักษ์ 📍 สะพานมังกร 📍 สะพานแห่งความรัก 📍 นั่งเรือกระด้ง 📍 เมืองโบราณฮอยอัน 📍 วัดหลินอึ๋ง 📍 ร้านกาแฟ Son Tra Marina รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์เวียดนาม #vietnam #ทัวร์บานาฮิลล์ #banahills #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 Comments 0 Shares 473 Views 0 0 Reviews
More Results