• “เตีย บัญ” ออกคลิปแจง ยันข่าวเตรียมทำรัฐประหารในกัมพูชาไม่เป็นความจริง ก๊อปคำพูด “ฮุนเซน” จวกไทยรุกรานเขมรตลอด แต่เขมรรักสันติหลีกเลี่ยงความตึงเครียด จึงพึ่งศาลโลกแก้ปัญหา แต่ไทยไม่ทำตาม
    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065643

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “เตีย บัญ” ออกคลิปแจง ยันข่าวเตรียมทำรัฐประหารในกัมพูชาไม่เป็นความจริง ก๊อปคำพูด “ฮุนเซน” จวกไทยรุกรานเขมรตลอด แต่เขมรรักสันติหลีกเลี่ยงความตึงเครียด จึงพึ่งศาลโลกแก้ปัญหา แต่ไทยไม่ทำตาม อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000065643 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • เดือด! "คนโคราชไม่เอานายกฯ ขายชาติ" ปะทะ "กลุ่มหนุน" กลางเมืองโคราช ต้อนรับ "แพทองธาร" เปิดงานแห่เทียนพรรษา
    https://www.thai-tai.tv/news/20216/
    .
    #แพทองธารชินวัตร #นครราชสีมา #โคราช #แห่เทียนพรรษา #การเมืองไทย #ชุมนุมขับไล่ #ให้กำลังใจนายก #ความตึงเครียดทางการเมือง #นายกขายชาติ #คลิปเสียงหลุด
    เดือด! "คนโคราชไม่เอานายกฯ ขายชาติ" ปะทะ "กลุ่มหนุน" กลางเมืองโคราช ต้อนรับ "แพทองธาร" เปิดงานแห่เทียนพรรษา https://www.thai-tai.tv/news/20216/ . #แพทองธารชินวัตร #นครราชสีมา #โคราช #แห่เทียนพรรษา #การเมืองไทย #ชุมนุมขับไล่ #ให้กำลังใจนายก #ความตึงเครียดทางการเมือง #นายกขายชาติ #คลิปเสียงหลุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน ชี้ "ฮุน เซน" หนุนหลัง
    https://www.thai-tai.tv/news/20214/
    .
    #สมรังสี #กัมพูชา #แรงงานทาส #ค้ามนุษย์ #แอมเนสตี้ #ฮุนเซน #มาเฟียจีน #อาชญากรรมข้ามชาติ #ไทยกัมพูชา #ความตึงเครียดชายแดน
    ‘สม รังสี’แฉเหยื่อกว่า 120,000 คนในกัมพูชา ถูกขังใน 53 ตึก โดนบังคับใช้เป็นทาสมาเฟียจีน ชี้ "ฮุน เซน" หนุนหลัง https://www.thai-tai.tv/news/20214/ . #สมรังสี #กัมพูชา #แรงงานทาส #ค้ามนุษย์ #แอมเนสตี้ #ฮุนเซน #มาเฟียจีน #อาชญากรรมข้ามชาติ #ไทยกัมพูชา #ความตึงเครียดชายแดน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 63 มุมมอง 0 รีวิว
  • เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ความว่า

    “ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีพระอริยสงฆ์ ครบถ้วนพร้อมเป็น“พระรัตนตรัย” ซึ่งเป็นสรณะนำทางชีวิตของพุทธบริษัท ให้มุ่งหน้าดำเนินไปสู่หนทางดับเพลิงทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง

    “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เป็นปฐมเทศนานั้น คือวิถีทางดับทุกข์ด้วยมรรคมีองค์ ๘ หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ท่ามกลางสถานการณ์ทางเทคโนโลยีการสื่อสารอันรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ความสงบสุขในโลกกลับถดถอยเสื่อมทรามลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกคนต้องจำทนอยู่ในวังวนแห่งความรู้สึกชิงชัง ก้าวร้าว และตึงเครียด โดยเหตุที่เสพคุ้นกับข้อมูลเท็จ การส่อเสียด คำหยาบคาย และความเพ้อเจ้อ จนกระทบกระเทือนสุขภาพจิต ท่านทั้งหลายจึงควรคิดหันมาศึกษาพิจารณาอริยมรรค แล้วมุ่งมั่นดำเนินจริยาไปบนหนทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุประการหนึ่ง กล่าวคือ การปลูกฝังสั่งสมให้ตนเอง และบรรดาสมาชิกในสังคม มีค่านิยมในการครอง “สัมมาวาจา” ซึ่งหมายถึง “การเจรจาชอบ” ไว้ให้ได้อย่างมั่นคง ขอให้ช่วยกันเพิ่มพูนสติยับยั้งการสื่อสารของตนและคนรอบข้าง อย่าพลั้งเผลอหรือสนุกคะนองในการใช้มิจฉาวาจา ขอจงรักษาคำจริงและความจริงไว้ทุกเมื่อ ขอให้สำนึกไว้เสมอว่า เมื่อใดที่บุคคลใดพูดหรือเขียนคำเท็จ คำส่อเสียด คำหยาบคาย และคำเพ้อเจ้อ ไม่ว่าในช่องทางใด หรือวาระโอกาสใด เมื่อนั้นคือการอวดความทรุดโทรมต่ำช้าที่หยั่งรากอยู่ในความสืบเนื่องแห่งอุปนิสัยของบุคคลนั้น อันนับว่าน่าอับอาย มากกว่าที่น่าจะนำมาอวดแสดงกัน

    วันอาสาฬหบูชา นอกจากจะเตือนใจให้รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อันเป็นสรณะสูงสุดของพุทธบริษัทแล้ว ยังอาจเตือนใจให้ทุกท่าน ตระหนักแน่วแน่ในอริยมรรคข้อ “สัมมาวาจา” เพราะฉะนั้น หากท่านประสงค์ให้สังคมไทยร่มเย็นเป็นสุข จงหมั่นเพียรศึกษาอบรมและปฏิบัติธรรมะ มีน้ำใจกล้าหาญที่จะละทิ้งมิจฉาวาจา เพื่อให้ทุกครอบครัว และทุกชุมชน เป็นสถานที่ปลอดจากการหลอกลวง การวิวาทบาดหมาง และความตึงเครียด นับเป็นการเกื้อกูลตนเอง และสรรพชีวิตทั่วหน้า ให้สามารถพ้นจากภยันตรายได้สมตามความมุ่งมาดปรารถนาอย่างแท้จริง อนึ่ง ขอความเจริญงอกงามในพระสัทธรรม จงพลันบังเกิดมีแด่สาธุชนผู้มีวาจาชอบ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    เจ้าพระคุณ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ประทานพระคติธรรม เนื่องในวันอาสาฬหบูชา วันพฤหัสบดี ที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๘ ความว่า “ดิถีอาสาฬหบูชาได้เวียนมาบรรจบอีกคำรบหนึ่งแล้ว ควรที่สาธุชนจักได้น้อมรำลึกถึงเหตุการณ์ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงแสดงปฐมเทศนาโปรดปัญจวัคคีย์ ณ อิสิปตนมฤคทายวัน อันเป็นการเริ่มประกาศพระศาสนา กระทั่งบังเกิดมีพระอริยสงฆ์ ครบถ้วนพร้อมเป็น“พระรัตนตรัย” ซึ่งเป็นสรณะนำทางชีวิตของพุทธบริษัท ให้มุ่งหน้าดำเนินไปสู่หนทางดับเพลิงทุกข์ได้อย่างสิ้นเชิง “ธัมมจักกัปปวัตตนสูตร” ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงไว้เป็นปฐมเทศนานั้น คือวิถีทางดับทุกข์ด้วยมรรคมีองค์ ๘ หรือการลงมือปฏิบัติเพื่อให้พ้นจากทุกข์ ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ท่ามกลางสถานการณ์ทางเทคโนโลยีการสื่อสารอันรุดหน้าอย่างรวดเร็ว ความสงบสุขในโลกกลับถดถอยเสื่อมทรามลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะทุกคนต้องจำทนอยู่ในวังวนแห่งความรู้สึกชิงชัง ก้าวร้าว และตึงเครียด โดยเหตุที่เสพคุ้นกับข้อมูลเท็จ การส่อเสียด คำหยาบคาย และความเพ้อเจ้อ จนกระทบกระเทือนสุขภาพจิต ท่านทั้งหลายจึงควรคิดหันมาศึกษาพิจารณาอริยมรรค แล้วมุ่งมั่นดำเนินจริยาไปบนหนทางแก้ไขปัญหาที่ต้นเหตุประการหนึ่ง กล่าวคือ การปลูกฝังสั่งสมให้ตนเอง และบรรดาสมาชิกในสังคม มีค่านิยมในการครอง “สัมมาวาจา” ซึ่งหมายถึง “การเจรจาชอบ” ไว้ให้ได้อย่างมั่นคง ขอให้ช่วยกันเพิ่มพูนสติยับยั้งการสื่อสารของตนและคนรอบข้าง อย่าพลั้งเผลอหรือสนุกคะนองในการใช้มิจฉาวาจา ขอจงรักษาคำจริงและความจริงไว้ทุกเมื่อ ขอให้สำนึกไว้เสมอว่า เมื่อใดที่บุคคลใดพูดหรือเขียนคำเท็จ คำส่อเสียด คำหยาบคาย และคำเพ้อเจ้อ ไม่ว่าในช่องทางใด หรือวาระโอกาสใด เมื่อนั้นคือการอวดความทรุดโทรมต่ำช้าที่หยั่งรากอยู่ในความสืบเนื่องแห่งอุปนิสัยของบุคคลนั้น อันนับว่าน่าอับอาย มากกว่าที่น่าจะนำมาอวดแสดงกัน วันอาสาฬหบูชา นอกจากจะเตือนใจให้รำลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อันเป็นสรณะสูงสุดของพุทธบริษัทแล้ว ยังอาจเตือนใจให้ทุกท่าน ตระหนักแน่วแน่ในอริยมรรคข้อ “สัมมาวาจา” เพราะฉะนั้น หากท่านประสงค์ให้สังคมไทยร่มเย็นเป็นสุข จงหมั่นเพียรศึกษาอบรมและปฏิบัติธรรมะ มีน้ำใจกล้าหาญที่จะละทิ้งมิจฉาวาจา เพื่อให้ทุกครอบครัว และทุกชุมชน เป็นสถานที่ปลอดจากการหลอกลวง การวิวาทบาดหมาง และความตึงเครียด นับเป็นการเกื้อกูลตนเอง และสรรพชีวิตทั่วหน้า ให้สามารถพ้นจากภยันตรายได้สมตามความมุ่งมาดปรารถนาอย่างแท้จริง อนึ่ง ขอความเจริญงอกงามในพระสัทธรรม จงพลันบังเกิดมีแด่สาธุชนผู้มีวาจาชอบ โดยทั่วหน้ากัน เทอญ.”
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 79 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทอินเดียมากกว่า 20 แห่ง หลังจากพบว่าพยายามแอบลักลอบส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ต่อไปยังสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ

    คาดว่า หลังจากนี้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักและการเพิ่มขึ้นของราคาสำหรับผู้ผลิตทั่วโลกที่พึ่งพาแร่หายากสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน

    การกระทำของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก (Rare Earth) เนื่องจากจีนควบคุมการขุดและแปรรูปแร่หายากของโลกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จีนเป็น "ผู้เล่นหลัก" ในห่วงโซ่อุปทานโลกสำหรับแร่สำคัญเหล่านี้

    "แร่หายาก" เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ทางการทหาร และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน

    ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาจึงมองจีนว่าใช้แร่หายากเป็นช่องทางในการสร้างอิทธิพลของตนเองต่อข้อพิพาททางการค้าและเพื่อกดดันประเทศต่างๆ
    จีนขึ้นบัญชีดำบริษัทอินเดียมากกว่า 20 แห่ง หลังจากพบว่าพยายามแอบลักลอบส่งออกแร่หายาก (Rare Earth) ต่อไปยังสหรัฐอเมริกาและชาติตะวันตกอื่นๆ คาดว่า หลังจากนี้จะก่อให้เกิดการหยุดชะงักและการเพิ่มขึ้นของราคาสำหรับผู้ผลิตทั่วโลกที่พึ่งพาแร่หายากสำหรับผลิตภัณฑ์ของตน การกระทำของจีนครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับแร่หายาก (Rare Earth) เนื่องจากจีนควบคุมการขุดและแปรรูปแร่หายากของโลกเป็นส่วนใหญ่ ทำให้จีนเป็น "ผู้เล่นหลัก" ในห่วงโซ่อุปทานโลกสำหรับแร่สำคัญเหล่านี้ "แร่หายาก" เป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์ไฮเทคหลากหลายประเภท เช่น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า ฮาร์ดแวร์ทางการทหาร และเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียน ด้วยเหตุนี้ สหรัฐอเมริกาจึงมองจีนว่าใช้แร่หายากเป็นช่องทางในการสร้างอิทธิพลของตนเองต่อข้อพิพาททางการค้าและเพื่อกดดันประเทศต่างๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนเซน” ถือโอกาส รมช.ต่างประเทศอินเดียเข้าพบ หยิบปัญหาชายแดนกับไทยขึ้นมาพูดคุย อ้างสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยอ้างอิงแผนที่ที่เขียนขึ้นฝ่ายเดียวแล้วข้ามแดนไปยิงทหารเขมรตาย หลังจากนั้นก็ปิดพรมแดน ทำสถานการณ์ตึงเครียด เขมรไม่อยากทำสงครามจึงนำเรื่องขึ้นศาลโลก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063939

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    “ฮุนเซน” ถือโอกาส รมช.ต่างประเทศอินเดียเข้าพบ หยิบปัญหาชายแดนกับไทยขึ้นมาพูดคุย อ้างสาเหตุเป็นเพราะฝ่ายไทยอ้างอิงแผนที่ที่เขียนขึ้นฝ่ายเดียวแล้วข้ามแดนไปยิงทหารเขมรตาย หลังจากนั้นก็ปิดพรมแดน ทำสถานการณ์ตึงเครียด เขมรไม่อยากทำสงครามจึงนำเรื่องขึ้นศาลโลก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063939 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC

    หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597

    #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    กต.ไทยแถลงโต้กัมพูชา จี้ทำตาม MOU43 ที่ระบุให้ใช้กลไกทวิภาคีแก้ปัญหาเขตแดน ไม่มีตรงไหนที่ให้ใช้กลไกอื่นรวมทั้งศาลโลก ยัน JBC ใช้ได้ผล ไทยปักปันเขตแดนกับมาเลเซีย-ลาว สำเร็จแล้วกว่า 90% และเขมรเองก็ใช้กลไกนี้กับเพื่อนบ้านอื่น วอนกัมพูชาเคารพพันธกรณีที่มีร่วมกัน นำ 4 พื้นที่กลับมาเจราในที่ประชุม JBC • หลังจากที่วานนี้ กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน 8 ข้อ เกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ประณามฝ่ายไทยว่าเป็นฝ่ายก่อปัญหาจากการที่ทหารไทยรุกล้ำอธิปไตยบริเวณสามเหลี่ยมมรกต (ช่องบก) เข้าไปยิงทหารกัมพูชาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 68 ทำให้สถานการณ์ตึงเครียดขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนกัมพูชาต้องตัดสินใจนำข้อพิพาทกับไทย 4 พื้นที่ไปฟ้องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) พร้อมเรียกร้องให้ฝ่ายไทยยอมรับขอบเขตอำนาจของ ICJ เพื่อหาทางยุติปัญหาโดยใช้กฎหมายระหว่างประเทศนั้น ล่าสุด วันนี้ (6 ก.ค.) กระทรวงการต่างประเทศได้ออกคำชี้แจงข้อมูล ข้อคิดเห็นและท่าทีเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000063597 • #Thaitimes #MGROnline #กัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 232 มุมมอง 0 รีวิว
  • กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ 8 ข้อย้ำจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ซัดไทยก่อปัญหาบุกรุกเขตแดนเข้าไปยิงทหารเขมรตายเมื่อ 28 พ.ค.68 หลังจากนั้นก็ทำสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จนเขมรต้องพึ่งศาลโลกเพื่อจบปัญหาด้วยแนวทางสันติ อ้าง 4 จุดพิพาทอยู่ในเขตเขมรทั้งหมด ตามแผนที่ในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ MOU43 รับรอง จี้ไทยยอมรับอำนาจศาลโลก แสดงความสุจริตใจ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063372

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    กระทรวงต่างประเทศกัมพูชาออกแถลงการณ์ 8 ข้อย้ำจุดยืนเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดน ซัดไทยก่อปัญหาบุกรุกเขตแดนเข้าไปยิงทหารเขมรตายเมื่อ 28 พ.ค.68 หลังจากนั้นก็ทำสถานการณ์ตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ จนเขมรต้องพึ่งศาลโลกเพื่อจบปัญหาด้วยแนวทางสันติ อ้าง 4 จุดพิพาทอยู่ในเขตเขมรทั้งหมด ตามแผนที่ในสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ที่ MOU43 รับรอง จี้ไทยยอมรับอำนาจศาลโลก แสดงความสุจริตใจ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063372 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    Angry
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 478 มุมมอง 0 รีวิว
  • รมช.กลาโหม เผยทหารเขมรพร้อมอาวุธหนัก ยังประชิดชายแดนเคลื่อนย้ายกำลังไปมา เสี่ยงเกิดความไม่เข้าใจกัน เตือนหากปะทะจะรุนแรง สูญเสียหนักกว่าปี 54 เพราะต่างมีอาวุธร้ายแรงกว่าเดิม ยอมรับคลิปสนทนา “ฮุนเซน” รัฐบาลเสียรู้ ย้ำความตึงเครียด เกิดจากส่วนบุคคล ต้องไม่ขยายไปถึงประชาชน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063182

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    รมช.กลาโหม เผยทหารเขมรพร้อมอาวุธหนัก ยังประชิดชายแดนเคลื่อนย้ายกำลังไปมา เสี่ยงเกิดความไม่เข้าใจกัน เตือนหากปะทะจะรุนแรง สูญเสียหนักกว่าปี 54 เพราะต่างมีอาวุธร้ายแรงกว่าเดิม ยอมรับคลิปสนทนา “ฮุนเซน” รัฐบาลเสียรู้ ย้ำความตึงเครียด เกิดจากส่วนบุคคล ต้องไม่ขยายไปถึงประชาชน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000063182 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 558 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ฮุนมาเนต” เข้าพบ “พระสุจย์” หวังให้ช่วยสั่งสอนชาวกัมพูชาตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ด้านสื่อเขมรบิดประเด็น อ้างอยู่ไทยไม่ได้เพราะไปพูดว่าคนสุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษมีบรรพบุรุษเป็นเขมรแล้วคนไทยโกรธแค้นและห้ามเข้าประเทศ

    สำนักข่าว Fresh news สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.) นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เข้าพบพระสุจย์ พระสงฆ์จากประเทศไทยที่ถูกคนไทยต่อต้านอย่างหนักและขอมาอยู่อาศัยในกัมพูชา

    สำนักข่าว Fresh news อ้างว่า พระสุจย์ เกิดในประเทศไทยซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมรโบราณ ซึ่งทั้งตัวพระสุจย์และชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "เขมรเหลื่อม" (เขมรบน) สามารถพูดภาษาเขมรได้คล่อง

    Fresh news อ้างอีกว่า ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย พระสุจย์กล่าวถึงบรรพบุรุษชาวเขมรผู้อยู่อาศัยจำนวนมากในภูมิภาคนี้ โดยเน้นย้ำว่าชาวไทยจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ล้วนมีเชื้อสายเขมร ความจริงทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้จุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นดินแดนของกัมพูชา ส่งผลให้พวกเขาเลือกปฏิบัติต่อพระภิกษุรูปนี้และห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000063150

    #Thaitimes #MGROnline #พระสุจย์ #ฮุนมาเนต
    “ฮุนมาเนต” เข้าพบ “พระสุจย์” หวังให้ช่วยสั่งสอนชาวกัมพูชาตามแนวทางของพระพุทธเจ้า ด้านสื่อเขมรบิดประเด็น อ้างอยู่ไทยไม่ได้เพราะไปพูดว่าคนสุรินทร์-บุรีรัมย์-ศรีสะเกษมีบรรพบุรุษเป็นเขมรแล้วคนไทยโกรธแค้นและห้ามเข้าประเทศ • สำนักข่าว Fresh news สื่อมวลชนกัมพูชารายงานว่า วันนี้ (4 ก.ค.) นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้เข้าพบพระสุจย์ พระสงฆ์จากประเทศไทยที่ถูกคนไทยต่อต้านอย่างหนักและขอมาอยู่อาศัยในกัมพูชา • สำนักข่าว Fresh news อ้างว่า พระสุจย์ เกิดในประเทศไทยซึ่งในอดีตเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรเขมรโบราณ ซึ่งทั้งตัวพระสุจย์และชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้นถูกเรียกว่า "เขมรเหลื่อม" (เขมรบน) สามารถพูดภาษาเขมรได้คล่อง • Fresh news อ้างอีกว่า ในช่วงที่เกิดความตึงเครียดบริเวณชายแดนระหว่างกัมพูชาและไทย พระสุจย์กล่าวถึงบรรพบุรุษชาวเขมรผู้อยู่อาศัยจำนวนมากในภูมิภาคนี้ โดยเน้นย้ำว่าชาวไทยจำนวนมากในจังหวัดสุรินทร์ บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ ล้วนมีเชื้อสายเขมร ความจริงทางประวัติศาสตร์ดังกล่าวได้จุดชนวนความโกรธแค้นในหมู่ชาวไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่เคยเป็นดินแดนของกัมพูชา ส่งผลให้พวกเขาเลือกปฏิบัติต่อพระภิกษุรูปนี้และห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในประเทศไทยอีก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000063150 • #Thaitimes #MGROnline #พระสุจย์ #ฮุนมาเนต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • “บิ๊กเล็ก” เผยเขมรยังเคลื่อนอาวุธหนักประชิดชายแดน เสี่ยงปะทะ ยอมรับไทยเสียเปรียบเพราะเสียรู้ปมคลิปเสียง
    https://www.thai-tai.tv/news/20021/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตึงเครียด #อาวุธหนัก #พลอณัฐพล #ฮุนเซน #เขาพระวิหาร #อธิปไตยไทย #คลิปเสียงหลุด #การเมืองระหว่างประเทศ #ทหารเขมร
    “บิ๊กเล็ก” เผยเขมรยังเคลื่อนอาวุธหนักประชิดชายแดน เสี่ยงปะทะ ยอมรับไทยเสียเปรียบเพราะเสียรู้ปมคลิปเสียง https://www.thai-tai.tv/news/20021/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #ตึงเครียด #อาวุธหนัก #พลอณัฐพล #ฮุนเซน #เขาพระวิหาร #อธิปไตยไทย #คลิปเสียงหลุด #การเมืองระหว่างประเทศ #ทหารเขมร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานที่ "ไม่ได้รับการยืนยัน" ว่า จีน อิหร่าน รัสเซีย และปากีสถาน จัดการประชุมลับระดับหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA (National Security Agency) ช่วงระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งจัดขึ้นที่จีน

    โดยที่การประชุมลับครั้งนี้ ไม่มีอินเดียเข้าร่วมด้วย

    แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ รายงานว่า การที่อินเดียถูกกีดกันออกจากการประชุมอาจเกิดจากจุดยืนที่แตกต่างกันในประเด็นตะวันออกกลาง ซึ่งอินเดียไม่ได้ร่วมลงนามการประณามการกระทำของอิสราเอล รวมทั้งความตึงเครียดกับจีนและปากีสถาน
    มีรายงานที่ "ไม่ได้รับการยืนยัน" ว่า จีน อิหร่าน รัสเซีย และปากีสถาน จัดการประชุมลับระดับหน่วยงานความมั่นคงแห่งชาติ หรือ NSA (National Security Agency) ช่วงระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมในองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ซึ่งจัดขึ้นที่จีน โดยที่การประชุมลับครั้งนี้ ไม่มีอินเดียเข้าร่วมด้วย แหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือ รายงานว่า การที่อินเดียถูกกีดกันออกจากการประชุมอาจเกิดจากจุดยืนที่แตกต่างกันในประเด็นตะวันออกกลาง ซึ่งอินเดียไม่ได้ร่วมลงนามการประณามการกระทำของอิสราเอล รวมทั้งความตึงเครียดกับจีนและปากีสถาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้:

    ---

    ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):**
    1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:**
    - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา)
    - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้

    2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:**
    - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา)
    - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา

    3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:**
    - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ

    ---

    ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):**
    1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:**
    - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย

    2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:**
    - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย

    3. **ภัยคุกคามทางทะเล:**
    - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน

    4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:**
    - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง

    ---

    ### **สรุป:**
    อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน:
    - การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
    - ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย
    - การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ

    ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    **อ่าวไทย** มีทั้งผลกระทบทางบวกและลบต่อ**ประเทศจีน** โดยขึ้นอยู่กับมุมมองทางเศรษฐกิจ การเมือง และยุทธศาสตร์ ดังนี้: --- ### **ผลกระทบทางบวก (ประโยชน์ต่อจีน):** 1. **เส้นทางขนส่งทางทะเลที่สำคัญ:** - อ่าวไทยเป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางเดินเรือระหว่างมหาสมุทรแปซิฟิกและอินเดีย ซึ่งจีนพึ่งพาเพื่อการค้าและนำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง/แอฟริกา (กว่า 80% ของน้ำมันดิบของจีนขนส่งทางทะเลผ่านช่องแคบมะละกา) - โครงการพัฒนาคลองกระ (Kra Canal) ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต (แม้ยังไม่มีความชัดเจน) อาจช่วยลดระยะทางขนส่งและลด "กับดักช่องแคบมะละกา" ซึ่งเป็นจุดอ่อนยุทธศาสตร์ของจีนได้ 2. **ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ:** - จีนลงทุนมหาศาลในประเทศรอบอ่าวไทย (ไทย, กัมพูชา, เวียดนาม) ผ่านโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) เช่น ท่าเรือน้ำลึกศรีราชา (ไทย) เขตเศรษฐกิจพิเศษเสียมราฐ (กัมพูชา) - อ่าวไทยเป็นแหล่งประมงและพลังงาน (ก๊าซธรรมชาติ) ที่สำคัญ ซึ่งจีนมีส่วนร่วมในการสำรวจและพัฒนา 3. **ความมั่นคงในภูมิภาค:** - จีนร่วมมือกับกองทัพเรือไทย/กัมพูชา ผ่านการฝึกรบร่วมและการสนับสนุนด้านเทคนิค เพื่อรักษาเสถียรภาพในอ่าวไทย ซึ่งส่งผลดีต่อความปลอดภัยของเส้นทางเดินเรือ --- ### **ผลกระทบทางลบ (ความท้าทายต่อจีน):** 1. **ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้:** - แม้อ่าวไทยไม่ใช่พื้นที่พิพาทโดยตรง แต่ความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ (โดยเฉพาะกับเวียดนาม) ส่งผลต่อความสัมพันธ์ในภูมิภาค ซึ่งอาจกระทบต่อเสถียรภาพของอ่าวไทย 2. **อิทธิพลของสหรัฐฯ:** - ไทยเป็นพันธมิตรทางทหารกับสหรัฐฯ การมีฐานทัพเรืออู่ตะเภาและการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) อาจทำให้จีนกังวลเรื่องการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในอ่าวไทย 3. **ภัยคุกคามทางทะเล:** - การโจรกรรมทางทะเล การค้ามนุษย์ และการลักลอบทำประมงผิดกฎหมายในอ่าวไทยอาจกระทบต่อเรือสินค้าของจีน 4. **ปัญหาสิ่งแวดล้อม:** - มลภาวะและการกัดเซาะชายฝั่งในอ่าวไทยอาจส่งผลต่อระบบนิเวศที่จีนมีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากจีนลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานชายฝั่ง --- ### **สรุป:** อ่าวไทยมี**ผลดีต่อจีน**ในด้านเศรษฐกิจและการขนส่งทางทะเล แต่ก็มี**ความเสี่ยง**ด้านความมั่นคงและภูมิรัฐศาสตร์ โดยจีนพยายามสร้างสมดุลผ่าน: - ✅ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน - ✅ ความร่วมมือทางทหารกับประเทศอ่าวไทย - ✅ การส่งเสริม BRI เพื่อขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ผลกระทบที่แท้จริงขึ้นอยู่กับ**นโยบายของจีน** และ**สถานการณ์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้** โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับไทย เวียดนาม และกัมพูชา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไต้หวันโดยกระทรวงเศรษฐกิจอัปเดตรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออก “สินค้าหรือเทคโนโลยีสำคัญ” เพิ่มอีก 601 แห่ง โดยมีเป้าหมายใหญ่คือพวกที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึง Huawei และ SMIC ซึ่งเคยซื้อชิปจาก TSMC มาก่อน

    บริษัทเหล่านี้ต้องขอใบอนุญาตจากรัฐก่อนถึงจะนำเข้าเทคโนโลยีชิปจากบริษัทไต้หวันได้ — ถ้าไม่มีใบอนุญาต ด่านศุลกากรจะสกัดทันที

    แม้ไม่ได้บอกว่า “ห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง” แต่ก็นับว่าเป็นการ “บล็อกกลาย ๆ” และเป็นการเดินเกมตามแนวทางของสหรัฐฯ ที่ต้องการจำกัดเทคโนโลยีจีนในระดับโลก

    จีนไม่พอใจทันที — โดยโฆษกของสภารัฐกิจของจีนใช้คำว่า “ต่ำช้า” และเตือนว่าจะมีการตอบโต้เพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ”

    มาตรการโต้กลับที่เป็นไปได้มีตั้งแต่:
    - จำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ non-tech จากไต้หวัน
    - ห้ามบริษัทไต้หวันในจีนทำธุรกิจ
    - บล็อกการใช้แรร์เอิร์ธหรือวัตถุดิบสำคัญสำหรับไต้หวัน
    - เร่งผลิตชิปราคาถูก (mature node) มาทำลายราคาตลาดชิป

    และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความตึงเครียดระหว่างช่องแคบไต้หวันอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ

    ไต้หวันเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออกเป็น 601 ราย  
    • รวมถึง Huawei และ SMIC ผู้เล่นหลักของวงการชิปจีน  
    • ต้องขอใบอนุญาตก่อนนำเข้าสินค้า/บริการจากไต้หวัน

    เป้าหมายคือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของจีน  
    • เดินเกมสอดคล้องกับนโยบายสหรัฐและชาติพันธมิตร

    จีนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง โดยระบุว่าเป็นการละเมิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฟากฝั่ง  
    • เรียกการกระทำว่า “น่ารังเกียจและน่าประณามที่สุด”

    โฆษกสภารัฐกิจจีนระบุว่าจะใช้ “มาตรการที่รุนแรง” เพื่อตอบโต้และปกป้องห่วงโซ่การผลิตเทคโนโลยีของตัวเอง

    จุดเริ่มต้นของการจำกัดนี้มาจากการที่ Huawei ลักลอบสั่งซื้อชิป TSMC ผ่านช่องทางที่แหกกฎของสหรัฐ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-vows-to-retaliate-against-taiwan-for-blacklisting-huawei-smic-from-chip-tech-such-despicable-acts-are-utterly-contemptible-says-china-spokesperson
    ไต้หวันโดยกระทรวงเศรษฐกิจอัปเดตรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออก “สินค้าหรือเทคโนโลยีสำคัญ” เพิ่มอีก 601 แห่ง โดยมีเป้าหมายใหญ่คือพวกที่เกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ รวมถึง Huawei และ SMIC ซึ่งเคยซื้อชิปจาก TSMC มาก่อน บริษัทเหล่านี้ต้องขอใบอนุญาตจากรัฐก่อนถึงจะนำเข้าเทคโนโลยีชิปจากบริษัทไต้หวันได้ — ถ้าไม่มีใบอนุญาต ด่านศุลกากรจะสกัดทันที แม้ไม่ได้บอกว่า “ห้ามส่งออกโดยสิ้นเชิง” แต่ก็นับว่าเป็นการ “บล็อกกลาย ๆ” และเป็นการเดินเกมตามแนวทางของสหรัฐฯ ที่ต้องการจำกัดเทคโนโลยีจีนในระดับโลก จีนไม่พอใจทันที — โดยโฆษกของสภารัฐกิจของจีนใช้คำว่า “ต่ำช้า” และเตือนว่าจะมีการตอบโต้เพื่อ “ปกป้องผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยีของประเทศ” มาตรการโต้กลับที่เป็นไปได้มีตั้งแต่: - จำกัดการนำเข้าผลิตภัณฑ์ non-tech จากไต้หวัน - ห้ามบริษัทไต้หวันในจีนทำธุรกิจ - บล็อกการใช้แรร์เอิร์ธหรือวัตถุดิบสำคัญสำหรับไต้หวัน - เร่งผลิตชิปราคาถูก (mature node) มาทำลายราคาตลาดชิป และที่น่ากังวลกว่านั้นคือความตึงเครียดระหว่างช่องแคบไต้หวันอาจถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองเชิงกลยุทธ์มากขึ้นเรื่อย ๆ ✅ ไต้หวันเพิ่มรายชื่อบริษัทจีนที่ถูกจำกัดการส่งออกเป็น 601 ราย   • รวมถึง Huawei และ SMIC ผู้เล่นหลักของวงการชิปจีน   • ต้องขอใบอนุญาตก่อนนำเข้าสินค้า/บริการจากไต้หวัน ✅ เป้าหมายคือการจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงของจีน   • เดินเกมสอดคล้องกับนโยบายสหรัฐและชาติพันธมิตร ✅ จีนแสดงความไม่พอใจอย่างรุนแรง โดยระบุว่าเป็นการละเมิดความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองฟากฝั่ง   • เรียกการกระทำว่า “น่ารังเกียจและน่าประณามที่สุด” ✅ โฆษกสภารัฐกิจจีนระบุว่าจะใช้ “มาตรการที่รุนแรง” เพื่อตอบโต้และปกป้องห่วงโซ่การผลิตเทคโนโลยีของตัวเอง ✅ จุดเริ่มต้นของการจำกัดนี้มาจากการที่ Huawei ลักลอบสั่งซื้อชิป TSMC ผ่านช่องทางที่แหกกฎของสหรัฐ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-vows-to-retaliate-against-taiwan-for-blacklisting-huawei-smic-from-chip-tech-such-despicable-acts-are-utterly-contemptible-says-china-spokesperson
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปปี 2019 Microsoft ลงเงิน $1,000 ล้านเพื่อหนุน OpenAI และให้บริการบน Azure — จนกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้

    แต่ล่าสุดมีรายงานจาก The Information ว่าในสัญญาระหว่างสองฝ่าย มีข้อกำหนดหนึ่งที่เริ่ม “ขัดกันอย่างแรง” — ข้อกำหนดนั้นคือ:

    > “เมื่อ OpenAI สร้าง AGI ได้ Microsoft จะ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป”

    ใช่ครับ…ต่อให้ Microsoft เป็นผู้ลงทุนใหญ่ และใช้ GPT ในบริการทั่วโลก พวกเขาก็จะถูก “ตัดสิทธิ์” เมื่อ AGI เกิดขึ้นจริง

    แน่นอนว่า Microsoft ไม่พอใจ จึงพยายามเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไข แต่ฝั่ง OpenAI ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนแปลง — ความตึงเครียดเลยเกิดขึ้นกลางความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้น

    เรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับการที่ OpenAI กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจาก Microsoft — แต่ก็ยังตกลงรายละเอียดกันไม่ได้ แม้จะคุยกันมาหลายเดือนแล้วก็ตาม

    OpenAI และ Microsoft กำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง “สิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยี AGI” ตามข้อตกลงเดิม  
    • เมื่อ OpenAI พัฒนา AGI ได้ Microsoft จะหมดสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีนั้น  
    • Microsoft ต้องการเปลี่ยนเงื่อนไข แต่ OpenAI ไม่ยอม

    ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมว่า “ความร่วมมือยังต่อเนื่องอยู่” และ “กำลังพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์”  
    • แต่รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เริ่ม “มีรอยร้าว” ชัดเจน

    OpenAI ต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น Public-Benefit Corporation  
    • กระบวนการนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้

    Microsoft ลงทุนใน OpenAI มาตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเงิน $1 พันล้าน + ให้บริการผ่าน Azure AI  
    • ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของกันและกัน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/microsoft-and-openai-dueling-over-artificial-general-intelligence-the-information-reports
    ย้อนกลับไปปี 2019 Microsoft ลงเงิน $1,000 ล้านเพื่อหนุน OpenAI และให้บริการบน Azure — จนกลายเป็นหุ้นส่วนหลักของกันและกันมาจนถึงทุกวันนี้ แต่ล่าสุดมีรายงานจาก The Information ว่าในสัญญาระหว่างสองฝ่าย มีข้อกำหนดหนึ่งที่เริ่ม “ขัดกันอย่างแรง” — ข้อกำหนดนั้นคือ: > “เมื่อ OpenAI สร้าง AGI ได้ Microsoft จะ ไม่มีสิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยีนั้นอีกต่อไป” ใช่ครับ…ต่อให้ Microsoft เป็นผู้ลงทุนใหญ่ และใช้ GPT ในบริการทั่วโลก พวกเขาก็จะถูก “ตัดสิทธิ์” เมื่อ AGI เกิดขึ้นจริง แน่นอนว่า Microsoft ไม่พอใจ จึงพยายามเจรจาขอแก้ไขเงื่อนไข แต่ฝั่ง OpenAI ยังยืนกรานไม่ยอมเปลี่ยนแปลง — ความตึงเครียดเลยเกิดขึ้นกลางความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้น เรื่องนี้ยังเชื่อมโยงกับการที่ OpenAI กำลังจะเปลี่ยนสถานะเป็น “Public-Benefit Corporation” ซึ่งต้องอาศัยความเห็นชอบจาก Microsoft — แต่ก็ยังตกลงรายละเอียดกันไม่ได้ แม้จะคุยกันมาหลายเดือนแล้วก็ตาม ✅ OpenAI และ Microsoft กำลังมีข้อขัดแย้งเรื่อง “สิทธิ์เข้าถึงเทคโนโลยี AGI” ตามข้อตกลงเดิม   • เมื่อ OpenAI พัฒนา AGI ได้ Microsoft จะหมดสิทธิ์ใช้เทคโนโลยีนั้น   • Microsoft ต้องการเปลี่ยนเงื่อนไข แต่ OpenAI ไม่ยอม ✅ ทั้งสองฝ่ายออกแถลงการณ์ร่วมว่า “ความร่วมมือยังต่อเนื่องอยู่” และ “กำลังพูดคุยกันอย่างสร้างสรรค์”   • แต่รายงานระบุว่าความสัมพันธ์เริ่ม “มีรอยร้าว” ชัดเจน ✅ OpenAI ต้องการเปลี่ยนสถานะเป็น Public-Benefit Corporation   • กระบวนการนี้ต้องได้รับความเห็นชอบจาก Microsoft ซึ่งยังตกลงกันไม่ได้ ✅ Microsoft ลงทุนใน OpenAI มาตั้งแต่ปี 2019 ด้วยเงิน $1 พันล้าน + ให้บริการผ่าน Azure AI   • ถือเป็นพันธมิตรที่สำคัญที่สุดของกันและกัน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/06/26/microsoft-and-openai-dueling-over-artificial-general-intelligence-the-information-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft and OpenAI dueling over artificial general intelligence, The Information reports
    (Reuters) -Microsoft and OpenAI are at odds over a contractual provision related to artificial general intelligence, The Information reported on Wednesday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้นำกลาโหมอิหร่านเดินทางถึงจีน...ไม่กี่วันหลังการหยุดยิง

    เพียง 48 ชั่วโมงหลังการหยุดยิง รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน อาซิส นาซีร์ซาเดห์ เดินทางถึงชิงเต่าเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านกลาโหมขององค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO)

    ท่ามกลางชาติตะวันตกที่เฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด ขณะที่อิหร่านส่งสัญญาณเข้าร่วมจีน

    อิหร่านกำลังกระชับความสัมพันธ์กับจีนและกลุ่มประเทศในภูมิภาค ขณะที่ความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์ยังคงคุกรุ่นและความร่วมมือของ IAEA กำลังสั่นคลอน
    ผู้นำกลาโหมอิหร่านเดินทางถึงจีน...ไม่กี่วันหลังการหยุดยิง เพียง 48 ชั่วโมงหลังการหยุดยิง รัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน อาซิส นาซีร์ซาเดห์ เดินทางถึงชิงเต่าเพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดด้านกลาโหมขององค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) ท่ามกลางชาติตะวันตกที่เฝ้าจับตามองอย่างใกล้ชิด ขณะที่อิหร่านส่งสัญญาณเข้าร่วมจีน อิหร่านกำลังกระชับความสัมพันธ์กับจีนและกลุ่มประเทศในภูมิภาค ขณะที่ความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์ยังคงคุกรุ่นและความร่วมมือของ IAEA กำลังสั่นคลอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • ศบ.ทก.แถลงยันทุกด่านไทย-กัมพูชายังเปิดทำการ ไมได้ปิด แต่จำกัดการผ่านแดนเข้มงวดขึ้น เพื่อดูแลความปลอดภัยหลังประเมินสถานการณ์ ย้ำไม่มีนโยบายห้ามการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ฝ่ายกัมพูชาตัดสินใจทำเอง ฝ่ายไทยมีจุดยืนไม่ดึงประชาชนมารับภาระจากปัญหาระหว่างรัฐ ชี้โซเชียลเขมรว่ากล่าวเชิงลบเป็นสิทธิ ขอคนไทยอย่าตอบโต้สุดโต่งสร้างความตึงเครียด

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000059465

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ศบ.ทก.แถลงยันทุกด่านไทย-กัมพูชายังเปิดทำการ ไมได้ปิด แต่จำกัดการผ่านแดนเข้มงวดขึ้น เพื่อดูแลความปลอดภัยหลังประเมินสถานการณ์ ย้ำไม่มีนโยบายห้ามการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเทอร์เน็ต แต่ฝ่ายกัมพูชาตัดสินใจทำเอง ฝ่ายไทยมีจุดยืนไม่ดึงประชาชนมารับภาระจากปัญหาระหว่างรัฐ ชี้โซเชียลเขมรว่ากล่าวเชิงลบเป็นสิทธิ ขอคนไทยอย่าตอบโต้สุดโต่งสร้างความตึงเครียด อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000059465 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 440 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายแดนตึงเครียด เขมรลำบากเพราะผู้นำ : [NEWS UPDATE]

    พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ รองโฆษกกองทัพไทย มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากกำลังทหารกัมพูชาและการกระทำของบุคคลบางกลุ่มล่วงล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยไทย​ ทั้งการลาดตระเวน ติดอาวุธ ดัดแปลงที่มั่นทางทหาร พยายามยั่วยุ โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปิดจุดผ่านแดนฝ่ายเดียวโดยไม่หารือล่วงหน้า ชัดเจนว่าพฤติกรรมที่สร้างความตึงเครียดเป็นผลจากนโยบาย หรือคำสั่งของผู้นำระดับสูงบางคนของกัมพูชา เสี่ยงต่อการกระทบกระทั่งจนบานปลาย รัฐบาลไทยจึงตัดสินใจใช้มาตรการควบคุมเพิ่มบางพื้นที่ ส่วนการที่กัมพูชางดซื้อน้ำมันจากไทยนั้น ไทยไม่มีนโยบายห้ามขายน้ำมัน ความเดือดร้อนที่ชาวกัมพูชาประสบอยู่ เป็นผลจากการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชา

    -ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง

    -ลุ้นนายกอิ๊งค์หยุดปฏิบัติหน้าที่

    -ครม.ใหม่ไม่มีความหวัง

    -ไทยวางตัวเป็นกลาง
    ชายแดนตึงเครียด เขมรลำบากเพราะผู้นำ : [NEWS UPDATE] พล.ร.ต.สุรสันต์ คงศิริ รองโฆษกกองทัพไทย มองสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ตึงเครียดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากกำลังทหารกัมพูชาและการกระทำของบุคคลบางกลุ่มล่วงล้ำเข้ามาในเขตอธิปไตยไทย​ ทั้งการลาดตระเวน ติดอาวุธ ดัดแปลงที่มั่นทางทหาร พยายามยั่วยุ โดยเฉพาะบริเวณปราสาทตาควาย ปิดจุดผ่านแดนฝ่ายเดียวโดยไม่หารือล่วงหน้า ชัดเจนว่าพฤติกรรมที่สร้างความตึงเครียดเป็นผลจากนโยบาย หรือคำสั่งของผู้นำระดับสูงบางคนของกัมพูชา เสี่ยงต่อการกระทบกระทั่งจนบานปลาย รัฐบาลไทยจึงตัดสินใจใช้มาตรการควบคุมเพิ่มบางพื้นที่ ส่วนการที่กัมพูชางดซื้อน้ำมันจากไทยนั้น ไทยไม่มีนโยบายห้ามขายน้ำมัน ความเดือดร้อนที่ชาวกัมพูชาประสบอยู่ เป็นผลจากการตัดสินใจของรัฐบาลกัมพูชา -ป.ป.ช.รับสอบคลิปเสียง -ลุ้นนายกอิ๊งค์หยุดปฏิบัติหน้าที่ -ครม.ใหม่ไม่มีความหวัง -ไทยวางตัวเป็นกลาง
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 35 0 รีวิว
  • ศบ.ทก. แจงเหตุตึงเครียดชายแดน คนเขมรเดือดร้อนมาจากคำสั่งผู้นำระดับสูงกัมพูชา
    https://www.thai-tai.tv/news/19685/
    ศบ.ทก. แจงเหตุตึงเครียดชายแดน คนเขมรเดือดร้อนมาจากคำสั่งผู้นำระดับสูงกัมพูชา https://www.thai-tai.tv/news/19685/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผบ.ทบ.ควง มทภ.2 บินด่วนลงพื้นที่สุรินทร์ ให้กำลังใจทหาร–ถกแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ท่ามกลางความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000059071

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    ผบ.ทบ.ควง มทภ.2 บินด่วนลงพื้นที่สุรินทร์ ให้กำลังใจทหาร–ถกแผนรับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน ท่ามกลางความตึงเครียดตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000059071 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..ผีบ้าไปโจมตีทำร้ายเขาก่อน,คนบริสุทธิ์ในอิสราเอลซวยทั้งประเทศ,อนาคตอิหร่านยังมีอีกตรึม,ไม่รวมที่จีน รัสเชียสนับสนุนอีก,นี้คือความพ่ายแพ้ของdeep stateที่มุกทรัมป์และพันธมิตรทรัมป์วางสนุ๊ครอไว้.,แต่คนบริสุทธิ์ไม่สมควรต้องโดนกระทำด้วย,ประชาชนชาวอิสราเอลต้องออกมาจัดการถามหาความรับผิดชอบของผู้นำตัวเอง,ตัวเองแค่ประเทศเล็กๆเสือกจะไปทำสงครามกับประเทศอิหร่านที่มีพื้นที่ใหญ่กว่าตนเองบวกมีจีนมีรัสเชียช่วยทางลับอีก,deep stateโลกกำลังล่มสลายบวกสมุนขี้ข้ารับใช้ต่างๆทั่วโลกด้วย,หาแดกหากินดิ้นรนเอาเองเพราะกูเองฝ่ายแสงก็ยึดทรัพย์สินเงินทองกูไปแล้วไม่น้อย จะโอนตังมาให้มรึงทั่วโลกแบบเดิมๆคงยากแล้ว.
    ..
    ..ช็อกและโทษกันเองในเทลอาวีฟ: หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอลยอมรับว่าประเมินขีปนาวุธของอิหร่านต่ำเกินไป

    วิดีโอที่รั่วไหลเผยให้เห็นการสนทนาที่ตึงเครียดระหว่างอิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของอิสราเอล และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอล ท่ามกลางซากปรักหักพังของย่านเทลอาวีฟที่ถูกขีปนาวุธโจมตีเมื่อไม่นานนี้

    หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอลยอมรับด้วยท่าทีหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดว่าอิหร่านมีเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นนี้ “ศักยภาพขีปนาวุธของอิหร่านทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจ ฉันไม่นึกว่าพวกเขามีเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นนี้”

    เบน-กวีร์โกรธจัดกับความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงโจมตีว่า “ใครให้สิทธิ์คุณยั่วยุอิหร่านและทำให้ประเทศต้องประสบกับการโจมตีเช่นนี้ เป็นความผิดของคุณที่อิหร่านโจมตีเทลอาวีฟ!”

    วิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นไม่เพียงแต่ความเสียหายเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นระดับการคำนวณที่ผิดพลาดอย่างน่าตกใจของหน่วยข่าวกรองอิสราเอลระดับสูงอีกด้วย.
    ..ผีบ้าไปโจมตีทำร้ายเขาก่อน,คนบริสุทธิ์ในอิสราเอลซวยทั้งประเทศ,อนาคตอิหร่านยังมีอีกตรึม,ไม่รวมที่จีน รัสเชียสนับสนุนอีก,นี้คือความพ่ายแพ้ของdeep stateที่มุกทรัมป์และพันธมิตรทรัมป์วางสนุ๊ครอไว้.,แต่คนบริสุทธิ์ไม่สมควรต้องโดนกระทำด้วย,ประชาชนชาวอิสราเอลต้องออกมาจัดการถามหาความรับผิดชอบของผู้นำตัวเอง,ตัวเองแค่ประเทศเล็กๆเสือกจะไปทำสงครามกับประเทศอิหร่านที่มีพื้นที่ใหญ่กว่าตนเองบวกมีจีนมีรัสเชียช่วยทางลับอีก,deep stateโลกกำลังล่มสลายบวกสมุนขี้ข้ารับใช้ต่างๆทั่วโลกด้วย,หาแดกหากินดิ้นรนเอาเองเพราะกูเองฝ่ายแสงก็ยึดทรัพย์สินเงินทองกูไปแล้วไม่น้อย จะโอนตังมาให้มรึงทั่วโลกแบบเดิมๆคงยากแล้ว. .. ..ช็อกและโทษกันเองในเทลอาวีฟ: หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอลยอมรับว่าประเมินขีปนาวุธของอิหร่านต่ำเกินไป วิดีโอที่รั่วไหลเผยให้เห็นการสนทนาที่ตึงเครียดระหว่างอิตามาร์ เบน-กวีร์ รัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของอิสราเอล และหัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอล ท่ามกลางซากปรักหักพังของย่านเทลอาวีฟที่ถูกขีปนาวุธโจมตีเมื่อไม่นานนี้ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองอิสราเอลยอมรับด้วยท่าทีหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดว่าอิหร่านมีเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นนี้ “ศักยภาพขีปนาวุธของอิหร่านทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจ ฉันไม่นึกว่าพวกเขามีเทคโนโลยีขั้นสูงเช่นนี้” เบน-กวีร์โกรธจัดกับความเสียหายที่เกิดขึ้น จึงโจมตีว่า “ใครให้สิทธิ์คุณยั่วยุอิหร่านและทำให้ประเทศต้องประสบกับการโจมตีเช่นนี้ เป็นความผิดของคุณที่อิหร่านโจมตีเทลอาวีฟ!” วิดีโอดังกล่าวเผยให้เห็นไม่เพียงแต่ความเสียหายเท่านั้น แต่ยังเผยให้เห็นระดับการคำนวณที่ผิดพลาดอย่างน่าตกใจของหน่วยข่าวกรองอิสราเอลระดับสูงอีกด้วย.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 130 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • มาร์โก รูบิโอ เรียกร้องให้ "จีน" กดดันอิหร่านไม่ให้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ และเตือนว่าการตัดสินใจของอิหร่านในการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะนำไปสู่สถานการณ์ตึงเครียดครั้งใหญ่ และถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ซึ่งเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายทางเศรษฐกิจของอิหร่าน และอาจจะกระตุ้นให้สหรัฐฯต้องใช้มาตรการตอบโต้
    มาร์โก รูบิโอ เรียกร้องให้ "จีน" กดดันอิหร่านไม่ให้ปิดช่องแคบฮอร์มุซ และเตือนว่าการตัดสินใจของอิหร่านในการปิดช่องแคบฮอร์มุซจะนำไปสู่สถานการณ์ตึงเครียดครั้งใหญ่ และถือเป็นความผิดพลาดร้ายแรง ซึ่งเท่ากับเป็นการฆ่าตัวตายทางเศรษฐกิจของอิหร่าน และอาจจะกระตุ้นให้สหรัฐฯต้องใช้มาตรการตอบโต้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • "ฝรั่งเศสจะไม่ยุ่ง"

    ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ปารีสไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการโจมตีของสหรัฐฯ ต่อสถานที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดระดับความรุนแรงลง

    "เราไม่ได้มีส่วนร่วมในการโจมตีเหล่านี้หรือการวางแผนการโจมตีเหล่านี้

    เราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น

    สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัยของพลเมืองฝรั่งเศสและผลประโยชน์ในภูมิภาค

    เราคัดค้านอย่างหนักแน่นไม่ให้อิหร่านจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ และสนับสนุนการเจรจาหาทางออกภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์"
    "ฝรั่งเศสจะไม่ยุ่ง" ฌอง-โนเอล บาร์โรต์ รัฐมนตรีต่างประเทศฝรั่งเศส กล่าวว่า ปารีสไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการโจมตีของสหรัฐฯ ต่อสถานที่ผลิตอาวุธนิวเคลียร์ของอิหร่าน และเรียกร้องให้ทุกฝ่ายลดระดับความรุนแรงลง "เราไม่ได้มีส่วนร่วมในการโจมตีเหล่านี้หรือการวางแผนการโจมตีเหล่านี้ เราเรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจและป้องกันไม่ให้สถานการณ์ตึงเครียดมากขึ้น สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกคือความปลอดภัยของพลเมืองฝรั่งเศสและผลประโยชน์ในภูมิภาค เราคัดค้านอย่างหนักแน่นไม่ให้อิหร่านจัดหาอาวุธนิวเคลียร์ และสนับสนุนการเจรจาหาทางออกภายใต้สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์"
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประณามสหรัฐอย่างรุนแรงต่อการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านภายใต้การคุ้มครองของ IAEA

    การกระทำของสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น

    จีนเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง โดยเฉพาะอิสราเอล บรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด รับรองความปลอดภัยของพลเรือน และเริ่มการเจรจา

    จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศเพื่อรวมความพยายามร่วมกันและรักษาความยุติธรรม และทำงานเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    จีนประณามสหรัฐอย่างรุนแรงต่อการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านภายใต้การคุ้มครองของ IAEA การกระทำของสหรัฐฯ ถือเป็นการละเมิดวัตถุประสงค์และหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง และทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางทวีความรุนแรงขึ้น จีนเรียกร้องให้ฝ่ายต่างๆ ในความขัดแย้ง โดยเฉพาะอิสราเอล บรรลุข้อตกลงหยุดยิงโดยเร็วที่สุด รับรองความปลอดภัยของพลเรือน และเริ่มการเจรจา จีนพร้อมที่จะร่วมมือกับชุมชนระหว่างประเทศเพื่อรวมความพยายามร่วมกันและรักษาความยุติธรรม และทำงานเพื่อฟื้นฟูสันติภาพและเสถียรภาพในตะวันออกกลาง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 315 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts