• ฟรีดริช เมิร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจากพรรค CDU ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลการสำรวจมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่า "จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลทั้งหมด" หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง

    ในสุนทรพจน์ที่มูลนิธิ Koerber ในกรุงเบอร์ลิน เมิร์ซได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU/CSU) โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความมั่นคงของอิสราเอล

    “รัฐบาลที่นำโดยผมจะทำให้ความสัมพันธ์กับอิสราเอลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผมจะยุติการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของรัฐบาลปัจจุบันทันที” เมิร์ซกล่าวโดยพาดพิงไปถึงโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีจากพรรค SPD

    ขณะเดียวกัน เมิร์ซไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาและการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายพันคน และยังวิพากษ์วิจารณ์หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อีกด้วย และยังกล่าวอีกว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อหาทางยกเลิกการบังคับใช้หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ

    นอกจากนี้ เมิร์ซยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่า จะหารือกับฝรั่งเศสและอังกฤษ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนยูเครน ท่ามกลางท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐที่มีต่อยุโรป

    ปัจจุบัน เมิร์ซมีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อลิซ ไวเดล ผู้สมัครจากพรรค AfD ในการสำรวจความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยพรรค CDU ของเขาได้รับการสนับสนุน 28%
    ฟรีดริช เมิร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจากพรรค CDU ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลการสำรวจมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่า "จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลทั้งหมด" หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง ในสุนทรพจน์ที่มูลนิธิ Koerber ในกรุงเบอร์ลิน เมิร์ซได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU/CSU) โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความมั่นคงของอิสราเอล “รัฐบาลที่นำโดยผมจะทำให้ความสัมพันธ์กับอิสราเอลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผมจะยุติการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของรัฐบาลปัจจุบันทันที” เมิร์ซกล่าวโดยพาดพิงไปถึงโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีจากพรรค SPD ขณะเดียวกัน เมิร์ซไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาและการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายพันคน และยังวิพากษ์วิจารณ์หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อีกด้วย และยังกล่าวอีกว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อหาทางยกเลิกการบังคับใช้หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เมิร์ซยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่า จะหารือกับฝรั่งเศสและอังกฤษ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนยูเครน ท่ามกลางท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐที่มีต่อยุโรป ปัจจุบัน เมิร์ซมีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อลิซ ไวเดล ผู้สมัครจากพรรค AfD ในการสำรวจความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยพรรค CDU ของเขาได้รับการสนับสนุน 28%
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญครบรอบ 3 ปี "แตงโม"เสียชีวิต 22/02/68 #ทำบุญครบรอบ 3 ปี #แตงโม นิดา #คดีแตงโม
    ทำบุญครบรอบ 3 ปี "แตงโม"เสียชีวิต 22/02/68 #ทำบุญครบรอบ 3 ปี #แตงโม นิดา #คดีแตงโม
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 284 มุมมอง 24 0 รีวิว
  • 54 ปี ลอบสังหาร “ครูโกมล คีมทอง” คอมมิวนิสต์เข้าใจผิด! คิดว่าเป็น… สายลับรัฐบาลไทย

    ย้อนรอยโศกนาฏกรรม ครูหนุ่มผู้มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาในชนบท แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความเข้าใจผิด ในยุคสมัย ที่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ร้อนระอุ

    📌 เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นปริศนา ย้อนไปเมื่อ 54 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 เสียงปืนดังขึ้นที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 4 ตำบลสินเจริญ กิ่งอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ครูหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย

    "โกมล คีมทอง ครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์แรงกล้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการศึกษา ที่เหมาะสมกับชุมชน ทว่า… ด้วยความเข้าใจผิด ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ถูกตราหน้าว่า เป็นสายลับของรัฐบาลไทย และนำไปสู่การสังหารอันน่าเศร้า

    เรื่องราวของครูโกมล เต็มไปด้วยความซับซ้อน เป็นเหยื่อของสงครามอุดมการณ์ ที่ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายคอมมิวนิสต์ ต่างก็เพ่งเล็งและไม่ไว้ใจ จนกระทั่งความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ได้คร่าชีวิตพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกสองคน

    📖 ครูโกมล คีมทอง จากเด็กหนุ่มหัวใจนักสู้ สู่ครูผู้เสียสละ
    👦🏻 "ครูโกมล คีมทอง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่ให้ความสำคัญ กับการศึกษา

    จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ และเข้าศึกษาต่อ ที่คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู

    🎓 เส้นทางสู่อาชีพครู และอุดมการณ์ที่แรงกล้า
    ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โกมลเป็นนิสิตที่กระตือรือร้น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา และค่ายพัฒนาชนบทเป็นประจำ ทำให้เห็นถึงความลำบากของเด็ก ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจแน่วแน่ว่า "ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการศึกษาในชนบท"

    ในปีสุดท้ายของการเรียน ครูโกมลได้รับโอกาสเข้าร่วม “ค่ายพัฒนากำลังคน เหมืองห้วยในเขา” ซึ่งจัดขึ้นที่เหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่เอง ที่โกมลได้เห็นปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ "สร้างโรงเรียนชุมชน"

    🏫 โรงเรียนชุมชนที่เหมืองห้วยในเขา อุดมการณ์ที่เป็นภัย
    🎯 จุดมุ่งหมายของครูโกมล โรงเรียนที่ครูโกมลตั้งใจสร้าง ไม่ใช่แค่สถานศึกษาแบบทั่วไป แต่เป็นโรงเรียนที่ออกแบบมา ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน

    ✔️ หลักสูตรพิเศษ เน้นวิชาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ และงานช่าง
    ✔️ วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และนิทานพื้นบ้าน
    ✔️ ชุมชนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ไม่ใช่รัฐ

    แนวคิดเช่นนี้ ทำให้ทั้งรัฐบาล และพรรคคอมมิวนิสต์จับตามอง ด้วยความสงสัยว่า "แท้จริงแล้ว ครูโกมลทำงานให้ฝ่ายใด?"

    🔥 สงครามอุดมการณ์ จุดเริ่มต้นของความหวาดระแวง
    🏴 ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ครูโกมลเป็น "แนวร่วมคอมมิวนิสต์"
    รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเห็นว่า แนวคิดของครูโกมล อาจสนับสนุนอุดมการณ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โรงเรียนของครูโกมล ไม่ได้ใช้หลักสูตร จากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นศูนย์กลาง ของขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ

    🚩 ฝ่ายคอมมิวนิสต์มองว่า "สายลับรัฐบาล"
    ขณะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กำลังทำสงครามกองโจร กับรัฐบาลไทย การที่ครูโกมล เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ถ่ายภาพ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ทำให้พคท.เข้าใจว่ากำลังสอดแนม อีกทั้งการที่ครูโกมล ได้รับเงินสนับสนุนจาก "มูลนิธิเอเชีย" ซึ่งเป็นองค์กรต่างชาติ ยิ่งทำให้พคท.เชื่อว่า กำลังทำงานให้รัฐบาลไทย สุดท้าย... ความเข้าใจผิดนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม ที่ไม่มีวันย้อนคืน

    ☠️ โศกนาฏกรรม คืนสังหารที่ไม่มีวันลืม
    22 กุมภาพันธ์ 2514 📍 บ้านเหนือคลอง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี
    ครูโกมล คีมทอง, รัตนา สกุลไทย บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเสรี ปรีชา หมอเร่ขายยา ถูกกลุ่มกองกำลัง พรรคคอมมิวนิสต จับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด

    หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยได้โปรยใบปลิวปฏิเสธว่า "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร" ขณะที่ พคท. ออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่า "เป็นผู้ลงมือสังหาร เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า ครูโกมลเป็นสายลับรัฐบาลไทย"

    🏛️ แม้ว่า "ครูโกมล คีมทอง" จะจากไป แต่สิ่งที่ได้ทำไว้ ยังคงเป็นที่จดจำ
    ✔️ การเสียสละทำให้เกิด “มูลนิธิโกมล คีมทอง” ในปี พ.ศ. 2514
    ✔️ สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นหลังอุทิศตน เพื่อพัฒนาสังคม
    ✔️ หลักสูตรการศึกษา ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง ยังคงเป็นแนวคิด ที่นำมาใช้ในการศึกษายุคใหม่

    🎭 ครูโกมลถูกฆ่าโดยใคร?
    👉 ฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคคอมมิวนิสต์?
    👉 เป็นเพียงครูธรรมดา หรือมีบทบาทที่ลึกซึ้งกว่านั้น?
    👉 ถ้าไม่มีการสังหารในวันนั้น ครูโกมลจะสามารถเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ได้มากแค่ไหน?

    แม้ข้อเท็จจริง จะได้รับการเปิดเผยไปแล้ว แต่คำถามเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมา จนถึงทุกวันนี้...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221245 ก.พ. 2568

    #️⃣ #ครูโกมลคีมทอง #54ปีลอบสังหาร #โกมลคีมทอง #ประวัติศาสตร์ไทย #คอมมิวนิสต์ไทย #การศึกษาชนบท #ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ #มูลนิธิโกมลคีมทอง #ครูผู้เสียสละ #ประวัติศาสตร์ต้องรู้
    54 ปี ลอบสังหาร “ครูโกมล คีมทอง” คอมมิวนิสต์เข้าใจผิด! คิดว่าเป็น… สายลับรัฐบาลไทย ย้อนรอยโศกนาฏกรรม ครูหนุ่มผู้มุ่งมั่นเพื่อการศึกษาในชนบท แต่ต้องจบชีวิตอย่างน่าเศร้า ท่ามกลางความเข้าใจผิด ในยุคสมัย ที่ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ ร้อนระอุ 📌 เหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ยังเป็นปริศนา ย้อนไปเมื่อ 54 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514 เสียงปืนดังขึ้นที่บ้านเหนือคลอง หมู่ที่ 4 ตำบลสินเจริญ กิ่งอำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ทำให้ครูหนุ่มวัยเพียง 24 ปี ต้องจบชีวิตลงอย่างโหดร้าย "โกมล คีมทอง ครูหนุ่มที่มีอุดมการณ์แรงกล้า มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเยาวชน ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านระบบการศึกษา ที่เหมาะสมกับชุมชน ทว่า… ด้วยความเข้าใจผิด ของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ทำให้ถูกตราหน้าว่า เป็นสายลับของรัฐบาลไทย และนำไปสู่การสังหารอันน่าเศร้า เรื่องราวของครูโกมล เต็มไปด้วยความซับซ้อน เป็นเหยื่อของสงครามอุดมการณ์ ที่ทั้งฝ่ายรัฐ และฝ่ายคอมมิวนิสต์ ต่างก็เพ่งเล็งและไม่ไว้ใจ จนกระทั่งความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ ได้คร่าชีวิตพร้อมเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกสองคน 📖 ครูโกมล คีมทอง จากเด็กหนุ่มหัวใจนักสู้ สู่ครูผู้เสียสละ 👦🏻 "ครูโกมล คีมทอง" เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2489 ที่ จังหวัดสุโขทัย เติบโตขึ้นมาในครอบครัว ที่ให้ความสำคัญ กับการศึกษา จบชั้นประถมศึกษา จากโรงเรียนบ้านหมี่ จังหวัดลพบุรี สำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ และเข้าศึกษาต่อ ที่คณะคุรุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นครู 🎓 เส้นทางสู่อาชีพครู และอุดมการณ์ที่แรงกล้า ระหว่างเรียนมหาวิทยาลัย โกมลเป็นนิสิตที่กระตือรือร้น เข้าร่วมกิจกรรมจิตอาสา และค่ายพัฒนาชนบทเป็นประจำ ทำให้เห็นถึงความลำบากของเด็ก ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจแน่วแน่ว่า "ชีวิตนี้จะอุทิศให้กับการศึกษาในชนบท" ในปีสุดท้ายของการเรียน ครูโกมลได้รับโอกาสเข้าร่วม “ค่ายพัฒนากำลังคน เหมืองห้วยในเขา” ซึ่งจัดขึ้นที่เหมืองแร่แห่งหนึ่ง ในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่นี่เอง ที่โกมลได้เห็นปัญหาการศึกษาของเด็กๆ ในพื้นที่ห่างไกล และตัดสินใจที่จะทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ นั่นคือ "สร้างโรงเรียนชุมชน" 🏫 โรงเรียนชุมชนที่เหมืองห้วยในเขา อุดมการณ์ที่เป็นภัย 🎯 จุดมุ่งหมายของครูโกมล โรงเรียนที่ครูโกมลตั้งใจสร้าง ไม่ใช่แค่สถานศึกษาแบบทั่วไป แต่เป็นโรงเรียนที่ออกแบบมา ให้เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวบ้าน ✔️ หลักสูตรพิเศษ เน้นวิชาที่สอดคล้องกับการดำรงชีวิต เช่น การเกษตร ปศุสัตว์ และงานช่าง ✔️ วัฒนธรรมท้องถิ่น ส่งเสริมมรดกทางวัฒนธรรม เช่น หนังตะลุง มโนราห์ และนิทานพื้นบ้าน ✔️ ชุมชนเป็นศูนย์กลาง โรงเรียนได้รับการสนับสนุนจากชาวบ้าน ไม่ใช่รัฐ แนวคิดเช่นนี้ ทำให้ทั้งรัฐบาล และพรรคคอมมิวนิสต์จับตามอง ด้วยความสงสัยว่า "แท้จริงแล้ว ครูโกมลทำงานให้ฝ่ายใด?" 🔥 สงครามอุดมการณ์ จุดเริ่มต้นของความหวาดระแวง 🏴 ฝ่ายรัฐบาลมองว่า ครูโกมลเป็น "แนวร่วมคอมมิวนิสต์" รัฐบาลไทยในขณะนั้น มีนโยบายต่อต้านคอมมิวนิสต์ อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐบางคนเห็นว่า แนวคิดของครูโกมล อาจสนับสนุนอุดมการณ์ ของพรรคคอมมิวนิสต์ โรงเรียนของครูโกมล ไม่ได้ใช้หลักสูตร จากกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า อาจเป็นศูนย์กลาง ของขบวนการล้มล้างอำนาจรัฐ 🚩 ฝ่ายคอมมิวนิสต์มองว่า "สายลับรัฐบาล" ขณะนั้น พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) กำลังทำสงครามกองโจร กับรัฐบาลไทย การที่ครูโกมล เดินทางไปพบปะชาวบ้าน ถ่ายภาพ และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวัฒนธรรม ทำให้พคท.เข้าใจว่ากำลังสอดแนม อีกทั้งการที่ครูโกมล ได้รับเงินสนับสนุนจาก "มูลนิธิเอเชีย" ซึ่งเป็นองค์กรต่างชาติ ยิ่งทำให้พคท.เชื่อว่า กำลังทำงานให้รัฐบาลไทย สุดท้าย... ความเข้าใจผิดนี้ นำไปสู่โศกนาฏกรรม ที่ไม่มีวันย้อนคืน ☠️ โศกนาฏกรรม คืนสังหารที่ไม่มีวันลืม 22 กุมภาพันธ์ 2514 📍 บ้านเหนือคลอง อำเภอพระแสง จังหวัดสุราษฎร์ธานี ครูโกมล คีมทอง, รัตนา สกุลไทย บัณฑิตอักษรศาสตร์ จุฬาฯ และเสรี ปรีชา หมอเร่ขายยา ถูกกลุ่มกองกำลัง พรรคคอมมิวนิสต จับตัวไป และถูกยิงเสียชีวิตในที่สุด หลังจากเหตุการณ์นี้ รัฐบาลไทยได้โปรยใบปลิวปฏิเสธว่า "ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหาร" ขณะที่ พคท. ออกมายอมรับในเวลาต่อมาว่า "เป็นผู้ลงมือสังหาร เนื่องจากเข้าใจผิดคิดว่า ครูโกมลเป็นสายลับรัฐบาลไทย" 🏛️ แม้ว่า "ครูโกมล คีมทอง" จะจากไป แต่สิ่งที่ได้ทำไว้ ยังคงเป็นที่จดจำ ✔️ การเสียสละทำให้เกิด “มูลนิธิโกมล คีมทอง” ในปี พ.ศ. 2514 ✔️ สร้างแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นหลังอุทิศตน เพื่อพัฒนาสังคม ✔️ หลักสูตรการศึกษา ที่เน้นชุมชนเป็นศูนย์กลาง ยังคงเป็นแนวคิด ที่นำมาใช้ในการศึกษายุคใหม่ 🎭 ครูโกมลถูกฆ่าโดยใคร? 👉 ฝ่ายรัฐบาล หรือ พรรคคอมมิวนิสต์? 👉 เป็นเพียงครูธรรมดา หรือมีบทบาทที่ลึกซึ้งกว่านั้น? 👉 ถ้าไม่มีการสังหารในวันนั้น ครูโกมลจะสามารถเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทย ได้มากแค่ไหน? แม้ข้อเท็จจริง จะได้รับการเปิดเผยไปแล้ว แต่คำถามเหล่านี้ ยังคงเป็นที่ถกเถียงกันมา จนถึงทุกวันนี้... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221245 ก.พ. 2568 #️⃣ #ครูโกมลคีมทอง #54ปีลอบสังหาร #โกมลคีมทอง #ประวัติศาสตร์ไทย #คอมมิวนิสต์ไทย #การศึกษาชนบท #ความขัดแย้งทางอุดมการณ์ #มูลนิธิโกมลคีมทอง #ครูผู้เสียสละ #ประวัติศาสตร์ต้องรู้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 282 มุมมอง 0 รีวิว
  • คุ้มเจ้าหลวงนครเชียงใหม่

    เป็นบ้านไม้สักสามชั้นริมน้ำปิง
    เจ้าหลวงอินทวิชยานนท์ องค์ที่ ๗
    พระราชทานที่ดินให้หมอชีค
    ต่อมาได้ตกเป็นสมบัติของนายหลุยส์ โดโนแวน
    คู่หูหมอชีค หลังจากที่หมอชีคเสียชีวิต ในปี ๒๔๓๘
    ต่อมานายหลุยส์ ได้นำไปใช้หนี้
    แทนเงิน ๒๕,๖๙๖ รูปี ให้กับเจ้าดารารัศมี
    เจ้าดารารัศมี ได้ประทานบ้านหลังนี้
    ให้กับ เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้เป็นพี่ชาย
    ภายหลังเจ้าแก้วนวรัฐได้รับสถาปนา
    เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๙
    บ้านหลังนี้จึงกลายเป็น คุ้มหลวง
    แห่งแรกที่อยู่นอกกำแพงเมือง
    ----------------------
    ปัจจุบัน เป็น กาดหลวง และ เป็น ห้างทองอั้วจินเฮง
    คุ้มเจ้าหลวงนครเชียงใหม่ เป็นบ้านไม้สักสามชั้นริมน้ำปิง เจ้าหลวงอินทวิชยานนท์ องค์ที่ ๗ พระราชทานที่ดินให้หมอชีค ต่อมาได้ตกเป็นสมบัติของนายหลุยส์ โดโนแวน คู่หูหมอชีค หลังจากที่หมอชีคเสียชีวิต ในปี ๒๔๓๘ ต่อมานายหลุยส์ ได้นำไปใช้หนี้ แทนเงิน ๒๕,๖๙๖ รูปี ให้กับเจ้าดารารัศมี เจ้าดารารัศมี ได้ประทานบ้านหลังนี้ ให้กับ เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้เป็นพี่ชาย ภายหลังเจ้าแก้วนวรัฐได้รับสถาปนา เป็นเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่องค์ที่ ๙ บ้านหลังนี้จึงกลายเป็น คุ้มหลวง แห่งแรกที่อยู่นอกกำแพงเมือง ---------------------- ปัจจุบัน เป็น กาดหลวง และ เป็น ห้างทองอั้วจินเฮง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • อิสราเอลยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องในเขตเวสต์แบงก์เมื่อคืนนี้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ตามรายงานของ Wafa และสำนักข่าวท้องถิ่นอื่นๆ
    อิสราเอลยังคงโจมตีอย่างต่อเนื่องในเขตเวสต์แบงก์เมื่อคืนนี้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย ตามรายงานของ Wafa และสำนักข่าวท้องถิ่นอื่นๆ
    Like
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    4/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    3/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 401 มุมมอง 18 1 รีวิว
  • 2/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก

    2/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 390 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • 1/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก

    1/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • 20/2/68

    า ~รอยมือพ่อบนผนัง~

    พ่อของผมอายุมากแล้วและต้องเกาะกำแพงเวลาเดิน เพื่อพยุงตัว
    เป็นผลให้ผนังที่เขาจับ เปลี่ยนสีและมีรอยนิ้วมือของเขาถูกทิ้งไว้บนผนัง

    ภรรยาของผมสังเกตเห็นสิ่งนี้และมักจะบ่นว่าผนังดูสกปรก
    วันหนึ่งพ่อของผมปวดหัวจึงทาน้ำมันนวดบนศีรษะ
    จึงมีคราบน้ำมันติดอยู่ที่มือ และไปติดผนังเวลาเดิน

    ภรรยาของผมตะโกนใส่ผมเมื่อเธอเห็นสิ่งนี้ และผมก็ตะโกนใส่พ่อของผม และบอกเขาว่าอย่าแตะกำแพงเมื่อเขาเดิน
    เขาดูเจ็บปวด และผมรู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมของผมในภายหลัง แต่ผมไม่ได้ขอโทษเขา

    หลังจากนั้นพ่อของผมก็หยุดจับกำแพงเพื่อพยุงตัวเวลาเดิน
    แล้ววันหนึ่ง พ่อผมก็ล้มลงโดยไม่ตั้งใจ

    เขาล้มป่วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน
    ผมรู้สึกผิดมากจนไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้

    สักพักเราก็อยากจะทาสีบ้านใหม่
    เมื่อช่างทาสีมา ลูกชายของผมเขาชื่นชอบปู่ของเขา ไม่ยอมให้ช่างทาสีลบรอยนิ้วมือของพ่อผมออกหรือทาสีบริเวณนั้น
    ช่างทาสีให้คำมั่นกับเด็กๆ ว่าจะไม่ลบลายนิ้วมือ/รอยมือออกจากผนัง แต่จะวาดลวดลายรอบๆ ให้อย่างสวยงาม ช่างทาสีเขาเก่งและมีความคิดสร้างสรรค์มาก

    หลังจากทาสีเสร็จ ลายมือของพ่อผม ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านของเรา และทุกคนที่มาเยี่ยมบ้านก็ชื่นชมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์นี้

    เมื่อเวลาผ่านไป ผมอายุมากขึ้น ตอนนี้ผมก็ต้องการกำแพงเพื่อพยุงตัวช่วยเดินด้วย

    วันหนึ่งขณะเดิน จู่ๆ ผมก็นึกถึงคำพูดที่พูดกับพ่อว่า “อย่าแตะกำแพงเวลาเดิน” และผมพยายามเดินโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ

    เมื่อลูกชายเห็นดังนั้น เขาก็เข้ามาหาผมทันทีและขอให้ผมเกาะกำแพงไว้ เพราะเขากังวลว่าถ้าผมไม่จับจะล้มลง
    ลูกสาวคนโตของผมก้าวไปข้างหน้าทันทีและให้ผมวางมือบนไหล่ของเธอ

    ผมเกือบจะเริ่มร้องไห้เงียบๆ
    ถ้าผมได้ทำสิ่งเดียวกันกับพ่อของผม เขาจะอายุยืนยาวขึ้นอย่างแน่นอน

    วันหนึ่งหลานสาวช่วยพยุงผมเดินด้วยกันในห้องนั่งเล่นแล้วขอให้ผมนั่งบนโซฟา เธอหยิบภาพที่วาดออกมาให้ผมดู
    ครูของเธอชื่นชมภาพวาดของเธอและเข้าใจความหมายของภาพวาดเหล่านั้น และให้คะแนนเธอสูงมาก
    ภาพวาดของเธอคือ "รอยมือของพ่อผม" บนผนัง

    ความเห็นของอาจารย์:
    “ฉันหวังว่าเด็กทุกคนจะรักผู้ใหญ่เหมือนกัน”

    ผมกลับไปที่ห้องและเริ่มร้องไห้เพื่อขอการให้อภัยจากพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว
    -
    วันหนึ่งเราในฐานะเด็กก็จะโตขึ้นเมื่อเราโตขึ้น
    อย่าลืมดูแลพ่อแม่ของเราอย่างอ่อนโยนและด้วยความรักเมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น และสอนลูกๆ ของเราเช่นเดียวกัน
    ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~
    รูปภาพ และข้อความ โดย หวัง หลิงหลิง
    20/2/68 า ~รอยมือพ่อบนผนัง~ พ่อของผมอายุมากแล้วและต้องเกาะกำแพงเวลาเดิน เพื่อพยุงตัว เป็นผลให้ผนังที่เขาจับ เปลี่ยนสีและมีรอยนิ้วมือของเขาถูกทิ้งไว้บนผนัง ภรรยาของผมสังเกตเห็นสิ่งนี้และมักจะบ่นว่าผนังดูสกปรก วันหนึ่งพ่อของผมปวดหัวจึงทาน้ำมันนวดบนศีรษะ จึงมีคราบน้ำมันติดอยู่ที่มือ และไปติดผนังเวลาเดิน ภรรยาของผมตะโกนใส่ผมเมื่อเธอเห็นสิ่งนี้ และผมก็ตะโกนใส่พ่อของผม และบอกเขาว่าอย่าแตะกำแพงเมื่อเขาเดิน เขาดูเจ็บปวด และผมรู้สึกละอายใจกับพฤติกรรมของผมในภายหลัง แต่ผมไม่ได้ขอโทษเขา หลังจากนั้นพ่อของผมก็หยุดจับกำแพงเพื่อพยุงตัวเวลาเดิน แล้ววันหนึ่ง พ่อผมก็ล้มลงโดยไม่ตั้งใจ เขาล้มป่วยตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและเสียชีวิตหลังจากนั้นไม่นาน ผมรู้สึกผิดมากจนไม่สามารถให้อภัยตัวเองได้ สักพักเราก็อยากจะทาสีบ้านใหม่ เมื่อช่างทาสีมา ลูกชายของผมเขาชื่นชอบปู่ของเขา ไม่ยอมให้ช่างทาสีลบรอยนิ้วมือของพ่อผมออกหรือทาสีบริเวณนั้น ช่างทาสีให้คำมั่นกับเด็กๆ ว่าจะไม่ลบลายนิ้วมือ/รอยมือออกจากผนัง แต่จะวาดลวดลายรอบๆ ให้อย่างสวยงาม ช่างทาสีเขาเก่งและมีความคิดสร้างสรรค์มาก หลังจากทาสีเสร็จ ลายมือของพ่อผม ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของบ้านของเรา และทุกคนที่มาเยี่ยมบ้านก็ชื่นชมการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์นี้ เมื่อเวลาผ่านไป ผมอายุมากขึ้น ตอนนี้ผมก็ต้องการกำแพงเพื่อพยุงตัวช่วยเดินด้วย วันหนึ่งขณะเดิน จู่ๆ ผมก็นึกถึงคำพูดที่พูดกับพ่อว่า “อย่าแตะกำแพงเวลาเดิน” และผมพยายามเดินโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือ เมื่อลูกชายเห็นดังนั้น เขาก็เข้ามาหาผมทันทีและขอให้ผมเกาะกำแพงไว้ เพราะเขากังวลว่าถ้าผมไม่จับจะล้มลง ลูกสาวคนโตของผมก้าวไปข้างหน้าทันทีและให้ผมวางมือบนไหล่ของเธอ ผมเกือบจะเริ่มร้องไห้เงียบๆ ถ้าผมได้ทำสิ่งเดียวกันกับพ่อของผม เขาจะอายุยืนยาวขึ้นอย่างแน่นอน วันหนึ่งหลานสาวช่วยพยุงผมเดินด้วยกันในห้องนั่งเล่นแล้วขอให้ผมนั่งบนโซฟา เธอหยิบภาพที่วาดออกมาให้ผมดู ครูของเธอชื่นชมภาพวาดของเธอและเข้าใจความหมายของภาพวาดเหล่านั้น และให้คะแนนเธอสูงมาก ภาพวาดของเธอคือ "รอยมือของพ่อผม" บนผนัง ความเห็นของอาจารย์: “ฉันหวังว่าเด็กทุกคนจะรักผู้ใหญ่เหมือนกัน” ผมกลับไปที่ห้องและเริ่มร้องไห้เพื่อขอการให้อภัยจากพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว - วันหนึ่งเราในฐานะเด็กก็จะโตขึ้นเมื่อเราโตขึ้น อย่าลืมดูแลพ่อแม่ของเราอย่างอ่อนโยนและด้วยความรักเมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น และสอนลูกๆ ของเราเช่นเดียวกัน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~ รูปภาพ และข้อความ โดย หวัง หลิงหลิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความอาลัยและสดุดี 2 ตำรวจกล้า สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.กำชับดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ เสนอปูนบำเหน็จ 7 ขั้น เลื่อนยศเป็น "พ.ต.อ.-ร.ต.อ"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017089

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แสดงความอาลัยและสดุดี 2 ตำรวจกล้า สภ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ ผบ.ตร.กำชับดูแลสิทธิประโยชน์เต็มที่ เสนอปูนบำเหน็จ 7 ขั้น เลื่อนยศเป็น "พ.ต.อ.-ร.ต.อ" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000017089 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Sad
    13
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1150 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อลิส" นำโทรศัพท์ไอโฟน 11 มอบดีเอสไอ พิสูจน์ข้อเท็จจริง ยืนยันเป็นคนถ่ายคลิปเองในซอยจรัญฯ 92 แต่ถูกบังแจ็คอ้างกู้มาได้ในมือถือ "แตงโม" จนได้รับผลกระทบ

    วันนี้ (20 ก.พ.) เวลาประมาณ 11.00 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายนิวัฒน์ เกิดพุ่มนาค หรือ "อลิส" นำหลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถือ iphone 11 (ไอโฟน 11) เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อยืนยันถ่ายคลิปวิดีโอ 3 คลิป ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เป็นของตัวเองถ่ายไว้จริง เมื่อ 3 ปีก่อน หลังคลิปดังกล่าวได้ไปอยู่ในมือถือแตงโม จนมีผลกระทบต่อครอบครัว

    นายนิวัฒน์ กล่าวว่า ตนติดต่อดีเอสไอมาเองเพราะอยากให้ข้อมูล โดยนำคลิปต้นฉบับทั้งหมดและแชทที่เคยคุยกับบังแจ็คมามอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ยืนยันต้นฉบับเป็นของตนล้านเปอร์เซ็นต์และเคยลงในสตอรี่ IG ของตัวเองก่อนที่จะเริ่มคุยกับบังแจ็ค

    นายนิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ตนเริ่มถ่ายคลิปส่งให้บังแจ็คในตอนนั้นเพราะทราบจากข่าวว่าคุณแม่ส่ง มือถือแตงโมให้บังแจ็คแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตนจึงทักข้อความหาบังแจ็ค 6 มิ.ย.65 ในเพจชื่อ "Bung Jack FC V2" และมีการขอไอดีไลน์เพื่อพูดคุยกัน ตนบอกว่าอาศัยอยู่แถวซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ซึ่งมีอู่เรือที่เจอร่างแตงโมคนแรก จึงช่วยถ่ายคลิปเพื่อหาความเชื่อมโยงในรูปคดี ยืนยันมีเจตนาดี

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000016895

    #MGROnline #อลิส #ดีเอสไอ #มือถือ #แตงโม
    "อลิส" นำโทรศัพท์ไอโฟน 11 มอบดีเอสไอ พิสูจน์ข้อเท็จจริง ยืนยันเป็นคนถ่ายคลิปเองในซอยจรัญฯ 92 แต่ถูกบังแจ็คอ้างกู้มาได้ในมือถือ "แตงโม" จนได้รับผลกระทบ • วันนี้ (20 ก.พ.) เวลาประมาณ 11.00 น. ห้องประชุม ชั้น 2 กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ศูนย์ราชการฯ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายนิวัฒน์ เกิดพุ่มนาค หรือ "อลิส" นำหลักฐานเป็นโทรศัพท์มือถือ iphone 11 (ไอโฟน 11) เดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ดีเอสไอ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อยืนยันถ่ายคลิปวิดีโอ 3 คลิป ในซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เป็นของตัวเองถ่ายไว้จริง เมื่อ 3 ปีก่อน หลังคลิปดังกล่าวได้ไปอยู่ในมือถือแตงโม จนมีผลกระทบต่อครอบครัว • นายนิวัฒน์ กล่าวว่า ตนติดต่อดีเอสไอมาเองเพราะอยากให้ข้อมูล โดยนำคลิปต้นฉบับทั้งหมดและแชทที่เคยคุยกับบังแจ็คมามอบให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ยืนยันต้นฉบับเป็นของตนล้านเปอร์เซ็นต์และเคยลงในสตอรี่ IG ของตัวเองก่อนที่จะเริ่มคุยกับบังแจ็ค • นายนิวัฒน์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่ตนเริ่มถ่ายคลิปส่งให้บังแจ็คในตอนนั้นเพราะทราบจากข่าวว่าคุณแม่ส่ง มือถือแตงโมให้บังแจ็คแล้วที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตนจึงทักข้อความหาบังแจ็ค 6 มิ.ย.65 ในเพจชื่อ "Bung Jack FC V2" และมีการขอไอดีไลน์เพื่อพูดคุยกัน ตนบอกว่าอาศัยอยู่แถวซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ซึ่งมีอู่เรือที่เจอร่างแตงโมคนแรก จึงช่วยถ่ายคลิปเพื่อหาความเชื่อมโยงในรูปคดี ยืนยันมีเจตนาดี • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000016895 • #MGROnline #อลิส #ดีเอสไอ #มือถือ #แตงโม
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจโมเดลลิ่งส่งเด็ก เอนฯ ออนไลน์ อยู่ในยุคเฟื่องฟู กรณีนี้ก็คือ แอดมินนางสาวปณิตา วัยเพียง 18 ปี แต่กลับมีเด็กเอนฯอยู่ใน controlมากถึง 1,000 คน

    #เด็กเอนโดนบังคับอัพยาจนเสียชีวิต #เด็กเอนฯยุคออนไลน์ #แม่เล้าวัย18 #อลิน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    ปรากฏการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจโมเดลลิ่งส่งเด็ก เอนฯ ออนไลน์ อยู่ในยุคเฟื่องฟู กรณีนี้ก็คือ แอดมินนางสาวปณิตา วัยเพียง 18 ปี แต่กลับมีเด็กเอนฯอยู่ใน controlมากถึง 1,000 คน #เด็กเอนโดนบังคับอัพยาจนเสียชีวิต #เด็กเอนฯยุคออนไลน์ #แม่เล้าวัย18 #อลิน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Sad
    17
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1776 มุมมอง 73 0 รีวิว
  • ภาพ-คลิปเครื่องจริงเพิ่ม สอดไส้ไอคลาวด์แตงโม : [NEWS UPDATE]
    พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะพยานใน 2 ประเด็น คือผ้าขาวและโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่ได้จากบังแจ็ค มอบเอกสารให้ดีเอสไอเกี่ยวกับเส้นทางของผ้า แชทข้อมูลการติดต่อผ่าน LINE คลิปวิดีโอคอลพูดคุยระหว่างผู้ส่งกับบังแจ็คก่อนส่งผ้า มีคนชื่อเป็นผลไม้ชนิด ติดต่อหาบังแจ็คผ่าน LINE พูดถึงหลักฐานและขอที่อยู่เพื่อจัดส่งผ้าให้ จากนั้นมีคนทักบังแจ็คถามว่าผ้าถึงแล้วหรือ ขอให้ไลฟ์สดร่วมกัน โดยมีทนายมาร่วมพูดคุย ส่วนโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ของแตงโม ยืนยัน เครื่องที่ได้รับจากบังแจ็คเป็นเครื่องโคลนนิ่งจากเครื่องจริง เมื่อกู้ข้อมูลจาก iCloud พบ มีภาพและวีดีโอเพิ่มจากเครื่องจริงจำนวนมาก ส่วนโทรศัพท์มือถือเครื่องจริงอยู่ที่ไหน ไม่ทราบ อาจอยู่ที่ผู้ร้าย คนดีๆ ที่ไหนจะเปลี่ยนสลับเครื่องมาให้ ต้องกลับไปดูไทม์ไลน์ว่าโคลนนิ่งช่วงไหน



    กันคนไทยหมกมุ่นพนัน

    ห้ามออกหมายจับสส.เพื่อใคร

    สะกิดแบงก์ชาติดึงจีดีพี

    รับมืออากาศแปรปรวน
    ภาพ-คลิปเครื่องจริงเพิ่ม สอดไส้ไอคลาวด์แตงโม : [NEWS UPDATE] พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะพยานใน 2 ประเด็น คือผ้าขาวและโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่ได้จากบังแจ็ค มอบเอกสารให้ดีเอสไอเกี่ยวกับเส้นทางของผ้า แชทข้อมูลการติดต่อผ่าน LINE คลิปวิดีโอคอลพูดคุยระหว่างผู้ส่งกับบังแจ็คก่อนส่งผ้า มีคนชื่อเป็นผลไม้ชนิด ติดต่อหาบังแจ็คผ่าน LINE พูดถึงหลักฐานและขอที่อยู่เพื่อจัดส่งผ้าให้ จากนั้นมีคนทักบังแจ็คถามว่าผ้าถึงแล้วหรือ ขอให้ไลฟ์สดร่วมกัน โดยมีทนายมาร่วมพูดคุย ส่วนโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ของแตงโม ยืนยัน เครื่องที่ได้รับจากบังแจ็คเป็นเครื่องโคลนนิ่งจากเครื่องจริง เมื่อกู้ข้อมูลจาก iCloud พบ มีภาพและวีดีโอเพิ่มจากเครื่องจริงจำนวนมาก ส่วนโทรศัพท์มือถือเครื่องจริงอยู่ที่ไหน ไม่ทราบ อาจอยู่ที่ผู้ร้าย คนดีๆ ที่ไหนจะเปลี่ยนสลับเครื่องมาให้ ต้องกลับไปดูไทม์ไลน์ว่าโคลนนิ่งช่วงไหน กันคนไทยหมกมุ่นพนัน ห้ามออกหมายจับสส.เพื่อใคร สะกิดแบงก์ชาติดึงจีดีพี รับมืออากาศแปรปรวน
    Like
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 732 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 19-2-68 (ภาคต่อ)
    .
    วันนี้รายการกลับมา Live อีกครั้ง หลังจากที่วันจันทร์คุณสนธิต้องตรากตรำเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในคดีความหมิ่นประมาทเกี่ยวกับการทุจริตใน ปตท. วันนี้คุณสนธิจึงจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางไปขึ้นเหนือ ไปขึ้นศาลครั้งนี้ให้ฟัง นอกจากนี้ยังมีทัศนะของคุณสนธิเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่าง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" กับ "ท่านวันนอร์" ประธานรัฐสภา ที่เป็นกรณีร้ายแรง รวมถึงถ้ามีเวลาเหลือคุณสนธิจะสรุปภาพรวมของความคืบหน้าในคดีการค้นหาความจริงกับการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดาให้ฟังด้วย ... จะสนุกสนานแค่ไหนโปรดติดตาม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=RsnclcCP9iE
    .
    #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    สนธิเล่าเรื่อง 19-2-68 (ภาคต่อ) . วันนี้รายการกลับมา Live อีกครั้ง หลังจากที่วันจันทร์คุณสนธิต้องตรากตรำเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในคดีความหมิ่นประมาทเกี่ยวกับการทุจริตใน ปตท. วันนี้คุณสนธิจึงจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางไปขึ้นเหนือ ไปขึ้นศาลครั้งนี้ให้ฟัง นอกจากนี้ยังมีทัศนะของคุณสนธิเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่าง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" กับ "ท่านวันนอร์" ประธานรัฐสภา ที่เป็นกรณีร้ายแรง รวมถึงถ้ามีเวลาเหลือคุณสนธิจะสรุปภาพรวมของความคืบหน้าในคดีการค้นหาความจริงกับการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดาให้ฟังด้วย ... จะสนุกสนานแค่ไหนโปรดติดตาม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=RsnclcCP9iE . #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 242 มุมมอง 0 รีวิว
  • 37 ปี ไทย-ลาว ประกาศหยุดยิง ยุติสมรภูมิบ้านร่มเกล้า สงครามบ่อแตน จุดพิพาทเนิน 1428

    📅 ย้อนไปเมื่อ 37 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2531 นับเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย-ลาว เมื่อทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลง ประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการ ในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า หลังจากการสู้รบที่ยืดเยื้อ มาอย่างยาวนานถึง 19 วัน สาเหตุหลักมาจาก ข้อพิพาทเรื่องเขตแดน ที่นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะบริเวณ นิน 1428 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ

    สงครามครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งทหารและพลเรือน การเจรจาหยุดยิง นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจน แม้เวลาจะผ่านไป 37 ปี แต่ปัญหาเรื่อง พรมแดนไทย-ลาว บริเวณนี้ ก็ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศต้องจับตาดู

    🔥 จุดเริ่มต้นของสงครามบ้านร่มเกล้า ข้อพิพาทเขตแดนไทย-ลาว 🎯
    ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-ลาว มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาปักปันเขตแดนไทย-ฝรั่งเศส เมื่อปี 2450 (ค.ศ. 1907) ซึ่งกำหนดให้ใช้ "แม่น้ำเหือง" เป็นเส้นแบ่งพรมแดน ระหว่างไทยกับลาว ในขณะนั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ แม่น้ำเหืองมีสองสาย ได้แก่

    - แม่น้ำเหืองป่าหมัน มีต้นกำเนิดจากภูสอยดาว
    - แม่น้ำเหืองงา มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง

    ฝ่ายลาวยืนยันว่า "แม่น้ำเหืองป่าหมัน" ควรเป็นเส้นแบ่งพรมแดน แต่ฝ่ายไทยแย้งว่า สนธิสัญญากำหนดให้ใช้แม่น้ำ ที่มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ซึ่งหมายถึง "แม่น้ำเหืองงา" ทำให้พื้นที่บ้านร่มเกล้า กลายเป็นพื้นที่พิพาทที่ ไทย-ลาว ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ครอบครอง

    🏕️ บ้านร่มเกล้า จากหมู่บ้านม้ง สู่สมรภูมิรบ
    "บ้านร่มเกล้า" ตั้งอยู่บนแนวชายแดนไทย-ลาว ในเขตหมู่ที่ 8 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวม้ง ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาชาติไทย ตามนโยบาย 66/23 ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์

    ต่อมารัฐบาลไทย ให้สัมปทานป่าไม้ ในพื้นที่บ้านร่มเกล้า ทำให้ฝ่ายลาวมองว่า ไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของตน และเป็นการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย จึงเกิดเหตุปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารพรานไทย กับกองกำลังลาว

    ⚔️ การสู้รบในสมรภูมิร่มเกล้า ปะทะครั้งใหญ่ 31 พฤษภาคม 2530 📌
    ทหารลาวเข้าโจมตีแคมป์คนงานไทย ที่ทำสัมปทานป่าไม้ คนงานไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายคน
    กองร้อยทหารพรานที่ 3405 เข้าช่วยเหลือ ทำให้เกิดการปะทะ หลังจากนั้น สถานการณ์เริ่มตึงเครียด กองทัพภาคที่ 3 ของไทย จึงส่งกำลังเสริม เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ

    🚀 ยุทธการสอยดาว 01 และ 02 ช่วงปลายปี 2530
    กองทัพไทยเปิดปฏิบัติการทางทหาร เต็มรูปแบบ ใช้ทหารราบ ทหารม้า ปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ เป้าหมายหลักคือ "เนิน 1428" ที่ทหารลาวยึดครอง อย่างไรก็ตาม เนิน 1428 อยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ ทำให้ไทยไม่สามารถบุกยึด ได้อย่างเด็ดขาด

    ✈️ รบหนักสุด 1-19 กุมภาพันธ์ 2531
    กองทัพไทยระดมกำลังบุกเนิน 1428 โดยกองทัพอากาศไทย ส่งเครื่องบิน เอฟ-5 อี และโอวี-10 โจมตี
    แต่สูญเสียเครื่องบิน 2 ลำ ที่ถูกยิงตกโดยปืนต่อต้านอากาศยา นและจรวดแซม การรบยืดเยื้อนานถึง 19 วัน ทั้งสองฝ่ายสูญเสียหนัก

    🕊️ เจรจาหยุดยิง
    💬 11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรหมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาว ส่งสาส์นถึง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย ขอให้หยุดยิง และตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน

    🤝 16-17 กุมภาพันธ์ 2531 ไทยและลาวเจรจากัน ที่กองบัญชาการ กองทัพอากาศไทย

    ✍️ 19 กุมภาพันธ์ 2531 ไทย-ลาว ลงนามข้อตกลงหยุดยิง และตกลงให้ถอยจากแนวปะทะ ฝ่ายละ 3 กิโลเมตร

    📉 ผลกระทบจากสงคราม
    💀 จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ
    - ฝ่ายไทยเสียชีวิต 147 นาย บาดเจ็บกว่า 700 นาย
    - ฝ่ายลาวคาดว่าเสียชีวิต 300-400 นาย บาดเจ็บ 200-300 นาย

    💰 งบประมาณทางทหาร
    ไทยใช้งบประมาณในสงครามนี้กว่า 3,000 ล้านบาท

    🌍 ความสัมพันธ์ไทย-ลาว
    การรบทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ตกต่ำที่สุดในยุคนั้น แม้จะหยุดยิง แต่ปัญหาพรมแดน ยังคงไม่ได้ข้อยุติ จนถึงปัจจุบัน

    🏛️ สมรภูมิบ้านร่มเกล้า เป็นหนึ่งในสงคราม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อน ของปัญหาพรมแดน ที่มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาทางประวัติศาสตร์ และความแตกต่างในการตีความแผนที่

    แม้สงครามจะจบลงแล้ว แต่ประเด็นเรื่องพรมแดนไทย-ลาว ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศ ต้องหารือร่วมกันต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซ้ำรอยอีกในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190937 ก.พ. 2568

    🔗#ไทยลาว #สงครามบ้านร่มเกล้า #สงครามบ่อแตน #พรมแดนไทยลาว #เนิน1428 #หยุดยิง #ความสัมพันธ์ไทยลาว #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามเย็น #สมรภูมิร่มเกล้า 🎖️
    37 ปี ไทย-ลาว ประกาศหยุดยิง ยุติสมรภูมิบ้านร่มเกล้า สงครามบ่อแตน จุดพิพาทเนิน 1428 📅 ย้อนไปเมื่อ 37 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2531 นับเป็นวันสำคัญในประวัติศาสตร์ไทย-ลาว เมื่อทั้งสองประเทศบรรลุข้อตกลง ประกาศหยุดยิงอย่างเป็นทางการ ในสมรภูมิบ้านร่มเกล้า หลังจากการสู้รบที่ยืดเยื้อ มาอย่างยาวนานถึง 19 วัน สาเหตุหลักมาจาก ข้อพิพาทเรื่องเขตแดน ที่นำไปสู่การปะทะกันอย่างรุนแรง ระหว่างกองทัพทั้งสองฝ่าย โดยเฉพาะบริเวณ นิน 1428 ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สงครามครั้งนี้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งทหารและพลเรือน การเจรจาหยุดยิง นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน เพื่อหาข้อยุติที่ชัดเจน แม้เวลาจะผ่านไป 37 ปี แต่ปัญหาเรื่อง พรมแดนไทย-ลาว บริเวณนี้ ก็ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศต้องจับตาดู 🔥 จุดเริ่มต้นของสงครามบ้านร่มเกล้า ข้อพิพาทเขตแดนไทย-ลาว 🎯 ความขัดแย้งเรื่องเขตแดนไทย-ลาว มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาปักปันเขตแดนไทย-ฝรั่งเศส เมื่อปี 2450 (ค.ศ. 1907) ซึ่งกำหนดให้ใช้ "แม่น้ำเหือง" เป็นเส้นแบ่งพรมแดน ระหว่างไทยกับลาว ในขณะนั้นเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส อย่างไรก็ตาม ปัญหาคือ แม่น้ำเหืองมีสองสาย ได้แก่ - แม่น้ำเหืองป่าหมัน มีต้นกำเนิดจากภูสอยดาว - แม่น้ำเหืองงา มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ฝ่ายลาวยืนยันว่า "แม่น้ำเหืองป่าหมัน" ควรเป็นเส้นแบ่งพรมแดน แต่ฝ่ายไทยแย้งว่า สนธิสัญญากำหนดให้ใช้แม่น้ำ ที่มีต้นกำเนิดจากภูเมี่ยง ซึ่งหมายถึง "แม่น้ำเหืองงา" ทำให้พื้นที่บ้านร่มเกล้า กลายเป็นพื้นที่พิพาทที่ ไทย-ลาว ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิ์ครอบครอง 🏕️ บ้านร่มเกล้า จากหมู่บ้านม้ง สู่สมรภูมิรบ "บ้านร่มเกล้า" ตั้งอยู่บนแนวชายแดนไทย-ลาว ในเขตหมู่ที่ 8 ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เดิมเป็นที่อยู่อาศัยของชาวม้ง ที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาชาติไทย ตามนโยบาย 66/23 ของรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ต่อมารัฐบาลไทย ให้สัมปทานป่าไม้ ในพื้นที่บ้านร่มเกล้า ทำให้ฝ่ายลาวมองว่า ไทยรุกล้ำเข้าไปในดินแดนของตน และเป็นการลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมาย จึงเกิดเหตุปะทะกันหลายครั้ง ระหว่างทหารพรานไทย กับกองกำลังลาว ⚔️ การสู้รบในสมรภูมิร่มเกล้า ปะทะครั้งใหญ่ 31 พฤษภาคม 2530 📌 ทหารลาวเข้าโจมตีแคมป์คนงานไทย ที่ทำสัมปทานป่าไม้ คนงานไทยเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายคน กองร้อยทหารพรานที่ 3405 เข้าช่วยเหลือ ทำให้เกิดการปะทะ หลังจากนั้น สถานการณ์เริ่มตึงเครียด กองทัพภาคที่ 3 ของไทย จึงส่งกำลังเสริม เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ 🚀 ยุทธการสอยดาว 01 และ 02 ช่วงปลายปี 2530 กองทัพไทยเปิดปฏิบัติการทางทหาร เต็มรูปแบบ ใช้ทหารราบ ทหารม้า ปืนใหญ่ และการโจมตีทางอากาศ เป้าหมายหลักคือ "เนิน 1428" ที่ทหารลาวยึดครอง อย่างไรก็ตาม เนิน 1428 อยู่ในตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่ได้เปรียบ ทำให้ไทยไม่สามารถบุกยึด ได้อย่างเด็ดขาด ✈️ รบหนักสุด 1-19 กุมภาพันธ์ 2531 กองทัพไทยระดมกำลังบุกเนิน 1428 โดยกองทัพอากาศไทย ส่งเครื่องบิน เอฟ-5 อี และโอวี-10 โจมตี แต่สูญเสียเครื่องบิน 2 ลำ ที่ถูกยิงตกโดยปืนต่อต้านอากาศยา นและจรวดแซม การรบยืดเยื้อนานถึง 19 วัน ทั้งสองฝ่ายสูญเสียหนัก 🕊️ เจรจาหยุดยิง 💬 11 กุมภาพันธ์ 2531 นายไกรสอน พรหมวิหาร นายกรัฐมนตรีลาว ส่งสาส์นถึง พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ นายกรัฐมนตรีไทย ขอให้หยุดยิง และตั้งคณะกรรมการพิสูจน์เขตแดน 🤝 16-17 กุมภาพันธ์ 2531 ไทยและลาวเจรจากัน ที่กองบัญชาการ กองทัพอากาศไทย ✍️ 19 กุมภาพันธ์ 2531 ไทย-ลาว ลงนามข้อตกลงหยุดยิง และตกลงให้ถอยจากแนวปะทะ ฝ่ายละ 3 กิโลเมตร 📉 ผลกระทบจากสงคราม 💀 จำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ - ฝ่ายไทยเสียชีวิต 147 นาย บาดเจ็บกว่า 700 นาย - ฝ่ายลาวคาดว่าเสียชีวิต 300-400 นาย บาดเจ็บ 200-300 นาย 💰 งบประมาณทางทหาร ไทยใช้งบประมาณในสงครามนี้กว่า 3,000 ล้านบาท 🌍 ความสัมพันธ์ไทย-ลาว การรบทำให้ความสัมพันธ์ไทย-ลาว ตกต่ำที่สุดในยุคนั้น แม้จะหยุดยิง แต่ปัญหาพรมแดน ยังคงไม่ได้ข้อยุติ จนถึงปัจจุบัน 🏛️ สมรภูมิบ้านร่มเกล้า เป็นหนึ่งในสงคราม ที่สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อน ของปัญหาพรมแดน ที่มีรากเหง้ามาจาก สนธิสัญญาทางประวัติศาสตร์ และความแตกต่างในการตีความแผนที่ แม้สงครามจะจบลงแล้ว แต่ประเด็นเรื่องพรมแดนไทย-ลาว ยังคงเป็นประเด็นละเอียดอ่อน ที่ทั้งสองประเทศ ต้องหารือร่วมกันต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้ง ซ้ำรอยอีกในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 190937 ก.พ. 2568 🔗#ไทยลาว #สงครามบ้านร่มเกล้า #สงครามบ่อแตน #พรมแดนไทยลาว #เนิน1428 #หยุดยิง #ความสัมพันธ์ไทยลาว #ประวัติศาสตร์ไทย #สงครามเย็น #สมรภูมิร่มเกล้า 🎖️
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 19-2-68
    วันนี้คุณสนธิจึงจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางไปขึ้นเหนือ ไปขึ้นศาลครั้งนี้ให้ฟัง นอกจากนี้ยังมีทัศนะของคุณสนธิเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่าง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" กับ "ท่านวันนอร์" รวมถึงถ้ามีเวลาเหลือคุณสนธิจะสรุปภาพรวมของความคืบหน้าในคดีการค้นหาความจริงกับการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดาให้ฟังด้วย ... จะสนุกสนานแค่ไหนโปรดติดตาม
    https://www.youtube.com/watch?v=Ccgt-pD7Ql0

    #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    สนธิเล่าเรื่อง 19-2-68 วันนี้คุณสนธิจึงจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางไปขึ้นเหนือ ไปขึ้นศาลครั้งนี้ให้ฟัง นอกจากนี้ยังมีทัศนะของคุณสนธิเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่าง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" กับ "ท่านวันนอร์" รวมถึงถ้ามีเวลาเหลือคุณสนธิจะสรุปภาพรวมของความคืบหน้าในคดีการค้นหาความจริงกับการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดาให้ฟังด้วย ... จะสนุกสนานแค่ไหนโปรดติดตาม https://www.youtube.com/watch?v=Ccgt-pD7Ql0 #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    Like
    Love
    Haha
    55
    6 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 2491 มุมมอง 4 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 19-2-68
    .
    วันนี้รายการกลับมา Live อีกครั้ง หลังจากที่วันจันทร์คุณสนธิต้องตรากตรำเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในคดีความหมิ่นประมาทเกี่ยวกับการทุจริตใน ปตท. วันนี้คุณสนธิจึงจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางไปขึ้นเหนือ ไปขึ้นศาลครั้งนี้ให้ฟัง นอกจากนี้ยังมีทัศนะของคุณสนธิเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่าง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" กับ "ท่านวันนอร์" ประธานรัฐสภา ที่เป็นกรณีร้ายแรง รวมถึงถ้ามีเวลาเหลือคุณสนธิจะสรุปภาพรวมของความคืบหน้าในคดีการค้นหาความจริงกับการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดาให้ฟังด้วย ... จะสนุกสนานแค่ไหนโปรดติดตาม
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Ccgt-pD7Ql0
    .
    #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    สนธิเล่าเรื่อง 19-2-68 . วันนี้รายการกลับมา Live อีกครั้ง หลังจากที่วันจันทร์คุณสนธิต้องตรากตรำเดินทางไปขึ้นศาลจังหวัดแม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ในคดีความหมิ่นประมาทเกี่ยวกับการทุจริตใน ปตท. วันนี้คุณสนธิจึงจะมาถ่ายทอดประสบการณ์เดินทางไปขึ้นเหนือ ไปขึ้นศาลครั้งนี้ให้ฟัง นอกจากนี้ยังมีทัศนะของคุณสนธิเกี่ยวกับกรณีพิพาทระหว่าง "โจ๊ก สุรเชชษฐ์" กับ "ท่านวันนอร์" ประธานรัฐสภา ที่เป็นกรณีร้ายแรง รวมถึงถ้ามีเวลาเหลือคุณสนธิจะสรุปภาพรวมของความคืบหน้าในคดีการค้นหาความจริงกับการเสียชีวิตของน้องแตงโม ภัทรธิดาให้ฟังด้วย ... จะสนุกสนานแค่ไหนโปรดติดตาม . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=Ccgt-pD7Ql0 . #SondhiTalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง
    Love
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไพ่อยากบอกอะไร? 17-23 ก.พ.68

    #วิธีเสริมดวงทั้ง 7 วัน...ให้ดูแลผู้มีพระคุณให้ดี ใครที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ให้ไปขอขมาเพราะมีส่วนทำให้ชีวิตติดขัด พยายามรักษาศีล 5 มีโอกาสพลาดทำผิดศีลข้อที่ 3 แล้วจะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด ให้สวดมนต์ทุกวัน บทที่แนะนำ บทพระมหาจักรพรรดิ/มหาสมัยสูตร/มหาเมตตาใหญ่

    #คนเกิดวันจันทร์...ดวงเดินทางเด่น/ระวังจะทะเลาะขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน หรือคนใกล้ตัวใกล้ชิด/ไม่ควรลงทุนธุรกิจใดๆในช่วงนี้เพราะมีโอกาสขาดทุน หรือทะเลาะแตกแยกจากหุ้นส่วน /การเงินต้องบริหารให้ดีเพราะมีโอกาสที่จะติดขัดได้/เลขนำโชค 2/9 /สุขภาพให้ระวังอันตรายจากสัตว์ ระวังกระดูก ข้อเข่า โรคอ้วนถ้าเจ็บป่วยอยู่ต้องรีบไปหาหมอเพราะมีโอกาสที่จะเป็นหนัก

    #คนเกิดวันอังคาร...จะมีผู้หลักผู้ใหญ่อุปถัมภ์ช่วยเหลือเรื่องงานหรือเรื่องเงิน/จะเป็นช่วงที่มีเสน่ห์ หากมีแฟนอยู่แล้ว ระวังจะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม ทำให้ความรักมีปัญหาอุปสรรค มีโอกาสที่จะเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับคนที่มีเจ้าของแล้ว/มีเรื่องเสียเงินเกี่ยวกับรถ/เลขนำโชค4/8/ให้ระวังเกี่ยวกับโรคในช่องท้อง

    #คนเกิดวันพุธ...มีโอกาสได้โชคได้เงิน ให้เสี่ยงโชคติดไว้บ้าง/อาจได้ซื้อของชิ้นใหญ่ หรือของราคาแพงๆ/คนโสดมีโอกาสพบคนถูกใจ หรือจะได้แฟน/เลขนำโชค 9/7/3/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับระบบประสาท ขี้หลงขี้ลืม

    #คนเกิดวันพฤหัสบดี...ใครที่มีเรื่องติดค้างกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องรีบไปแก้ไข เพราะมีส่วนที่จะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด/หากทะเลาะกับคนรักมีโอกาสที่จะได้คืนดีกันหรือปรับความเข้าใจ/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับสายตาปวดตา สายตาไม่ดี/มีโอกาสได้ไปกินเลี้ยงพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือถ้านัดเดทกับใครไว้มีโอกาสที่จะได้ไป/เลขนำโชค 5/6/8

    #คนเกิดวันศุกร์...ใครมีเรื่องติดกรรมเกี่ยวกับวิญญาณเด็ก ต้องพยายามสวดมนต์แผ่เมตตาและรักษาศีล 5 ถึงจะรอดพ้น เพราะชีวิตจะติดขัดเป็นอย่างมาก/เรื่องความรักมีโอกาสจะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือถ้าใครมีแอบคบคุยซ้อนจะถูกจับได้ /สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับปวดขา ข้อเข่าโรคอ้วน หรือเจ็บป่วยจากอาหารการกิน/ให้ระวังเรื่องคำพูดคำจาเพราะอาจจะมีศัตรูเกิดขึ้นได้/เลขนำโชค5/4/9

    #คนเกิดวันเสาร์...ระวังของหายข้าวของเสียหาย/ระวังโรคในช่องท้อง หรือเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์/มีโอกาสได้โชคลาภ แต่อาจจะมาแบบทุกขลาภ เช่นจะต้องมีเรื่องเสียเงินหรือเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก่อนแล้วจะได้รับโชคตามมาในภายหลัง/เลขนำโชค8/3

    #คนเกิดวันอาทิตย์...ใครที่ช่วงนี้ฝันร้าย นอนไม่ค่อยหลับ ฝันถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้ว มีโอกาสว่าอาจจะถูกรบกวนกับสิ่งที่มองไม่เห็น ควรจะต้องปั่นสวดมนต์แผ่เมตตาและทำบุญทำทาน/การเงินมีรายจ่ายมาก จะหมดกับหนี้สินถ้าติดเงินใครไว้ต้องรีบใช้คืนเพราะอาจจะเป็นปัญหาบานปลายใหญ่โต หรืออาจถูกทวงถาม/เป็นช่วงที่มีเสน่ห์จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม แล้วจะทำให้มีปัญหาในชีวิตคู่ได้/สุขภาพพักผ่อนไม่เพียงพอ ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น/เลขนำโชค 4/9
    ------
    #หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    ไพ่อยากบอกอะไร? 17-23 ก.พ.68 #วิธีเสริมดวงทั้ง 7 วัน...ให้ดูแลผู้มีพระคุณให้ดี ใครที่ทำให้พ่อแม่เสียใจ ให้ไปขอขมาเพราะมีส่วนทำให้ชีวิตติดขัด พยายามรักษาศีล 5 มีโอกาสพลาดทำผิดศีลข้อที่ 3 แล้วจะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด ให้สวดมนต์ทุกวัน บทที่แนะนำ บทพระมหาจักรพรรดิ/มหาสมัยสูตร/มหาเมตตาใหญ่ #คนเกิดวันจันทร์...ดวงเดินทางเด่น/ระวังจะทะเลาะขัดแย้งกับผู้ร่วมงาน หรือคนใกล้ตัวใกล้ชิด/ไม่ควรลงทุนธุรกิจใดๆในช่วงนี้เพราะมีโอกาสขาดทุน หรือทะเลาะแตกแยกจากหุ้นส่วน /การเงินต้องบริหารให้ดีเพราะมีโอกาสที่จะติดขัดได้/เลขนำโชค 2/9 /สุขภาพให้ระวังอันตรายจากสัตว์ ระวังกระดูก ข้อเข่า โรคอ้วนถ้าเจ็บป่วยอยู่ต้องรีบไปหาหมอเพราะมีโอกาสที่จะเป็นหนัก #คนเกิดวันอังคาร...จะมีผู้หลักผู้ใหญ่อุปถัมภ์ช่วยเหลือเรื่องงานหรือเรื่องเงิน/จะเป็นช่วงที่มีเสน่ห์ หากมีแฟนอยู่แล้ว ระวังจะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม ทำให้ความรักมีปัญหาอุปสรรค มีโอกาสที่จะเข้าไปพัวพันเกี่ยวข้องกับคนที่มีเจ้าของแล้ว/มีเรื่องเสียเงินเกี่ยวกับรถ/เลขนำโชค4/8/ให้ระวังเกี่ยวกับโรคในช่องท้อง #คนเกิดวันพุธ...มีโอกาสได้โชคได้เงิน ให้เสี่ยงโชคติดไว้บ้าง/อาจได้ซื้อของชิ้นใหญ่ หรือของราคาแพงๆ/คนโสดมีโอกาสพบคนถูกใจ หรือจะได้แฟน/เลขนำโชค 9/7/3/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับระบบประสาท ขี้หลงขี้ลืม #คนเกิดวันพฤหัสบดี...ใครที่มีเรื่องติดค้างกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต้องรีบไปแก้ไข เพราะมีส่วนที่จะทำให้ดวงชะตามีความติดขัด/หากทะเลาะกับคนรักมีโอกาสที่จะได้คืนดีกันหรือปรับความเข้าใจ/สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับสายตาปวดตา สายตาไม่ดี/มีโอกาสได้ไปกินเลี้ยงพบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือถ้านัดเดทกับใครไว้มีโอกาสที่จะได้ไป/เลขนำโชค 5/6/8 #คนเกิดวันศุกร์...ใครมีเรื่องติดกรรมเกี่ยวกับวิญญาณเด็ก ต้องพยายามสวดมนต์แผ่เมตตาและรักษาศีล 5 ถึงจะรอดพ้น เพราะชีวิตจะติดขัดเป็นอย่างมาก/เรื่องความรักมีโอกาสจะมีปัญหาเรื่องมือที่สาม หรือถ้าใครมีแอบคบคุยซ้อนจะถูกจับได้ /สุขภาพต้องระวังเกี่ยวกับปวดขา ข้อเข่าโรคอ้วน หรือเจ็บป่วยจากอาหารการกิน/ให้ระวังเรื่องคำพูดคำจาเพราะอาจจะมีศัตรูเกิดขึ้นได้/เลขนำโชค5/4/9 #คนเกิดวันเสาร์...ระวังของหายข้าวของเสียหาย/ระวังโรคในช่องท้อง หรือเกี่ยวกับระบบสืบพันธุ์/มีโอกาสได้โชคลาภ แต่อาจจะมาแบบทุกขลาภ เช่นจะต้องมีเรื่องเสียเงินหรือเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นก่อนแล้วจะได้รับโชคตามมาในภายหลัง/เลขนำโชค8/3 #คนเกิดวันอาทิตย์...ใครที่ช่วงนี้ฝันร้าย นอนไม่ค่อยหลับ ฝันถึงคนที่เสียชีวิตไปแล้ว มีโอกาสว่าอาจจะถูกรบกวนกับสิ่งที่มองไม่เห็น ควรจะต้องปั่นสวดมนต์แผ่เมตตาและทำบุญทำทาน/การเงินมีรายจ่ายมาก จะหมดกับหนี้สินถ้าติดเงินใครไว้ต้องรีบใช้คืนเพราะอาจจะเป็นปัญหาบานปลายใหญ่โต หรืออาจถูกทวงถาม/เป็นช่วงที่มีเสน่ห์จะมีคนเข้ามาชอบเข้ามาจีบเพิ่มเติม แล้วจะทำให้มีปัญหาในชีวิตคู่ได้/สุขภาพพักผ่อนไม่เพียงพอ ปวดเมื่อยข้อมือเส้นเอ็น/เลขนำโชค 4/9 ------ #หมอฝนยิปซี #อาจารย์เจdomino #ดูดวงทางแชท #หมอดูแม่นๆ #ดูดวงความรัก #ดูดวงเนื้อคู่
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 292 มุมมอง 0 รีวิว
  • พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะพยานใน 2 ประเด็น คือผ้าขาวและโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่ได้จากบังแจ็ค มอบเอกสารให้ดีเอสไอเกี่ยวกับเส้นทางของผ้า แชทข้อมูลการติดต่อผ่าน LINE คลิปวิดีโอคอลพูดคุยระหว่างผู้ส่งกับบังแจ็คก่อนส่งผ้า มีคนชื่อเป็นผลไม้ชนิด ติดต่อหาบังแจ็คผ่าน LINE พูดถึงหลักฐานและขอที่อยู่เพื่อจัดส่งผ้าให้ จากนั้นมีคนทักบังแจ็คถามว่าผ้าถึงแล้วหรือ ขอให้ไลฟ์สดร่วมกัน โดยมีทนายมาร่วมพูดคุย ส่วนโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ของแตงโม ยืนยัน เครื่องที่ได้รับจากบังแจ็คเป็นเครื่องโคลนนิ่งจากเครื่องจริง เมื่อกู้ข้อมูลจาก iCloud พบ มีภาพและวีดีโอเพิ่มจากเครื่องจริงจำนวนมาก ส่วนโทรศัพท์มือถือเครื่องจริงอยู่ที่ไหน ไม่ทราบ อาจอยู่ที่ผู้ร้าย คนดีๆ ที่ไหนจะเปลี่ยนสลับเครื่องมาให้ ต้องกลับไปดูไทม์ไลน์ว่าโคลนนิ่งช่วงไหน
    พ.อ.นพ. ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ในฐานะพยานใน 2 ประเด็น คือผ้าขาวและโทรศัพท์มือถือของแตงโมที่ได้จากบังแจ็ค มอบเอกสารให้ดีเอสไอเกี่ยวกับเส้นทางของผ้า แชทข้อมูลการติดต่อผ่าน LINE คลิปวิดีโอคอลพูดคุยระหว่างผู้ส่งกับบังแจ็คก่อนส่งผ้า มีคนชื่อเป็นผลไม้ชนิด ติดต่อหาบังแจ็คผ่าน LINE พูดถึงหลักฐานและขอที่อยู่เพื่อจัดส่งผ้าให้ จากนั้นมีคนทักบังแจ็คถามว่าผ้าถึงแล้วหรือ ขอให้ไลฟ์สดร่วมกัน โดยมีทนายมาร่วมพูดคุย ส่วนโทรศัพท์มือถือ iPhone 13 Pro ของแตงโม ยืนยัน เครื่องที่ได้รับจากบังแจ็คเป็นเครื่องโคลนนิ่งจากเครื่องจริง เมื่อกู้ข้อมูลจาก iCloud พบ มีภาพและวีดีโอเพิ่มจากเครื่องจริงจำนวนมาก ส่วนโทรศัพท์มือถือเครื่องจริงอยู่ที่ไหน ไม่ทราบ อาจอยู่ที่ผู้ร้าย คนดีๆ ที่ไหนจะเปลี่ยนสลับเครื่องมาให้ ต้องกลับไปดูไทม์ไลน์ว่าโคลนนิ่งช่วงไหน
    Like
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 837 มุมมอง 26 0 รีวิว
  • "อู๊ด" ยันไม่ได้แก้ GPS พิกัดต่างเป็นการเดินเรือ : [NEWS UPDATE]

    นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนำหลักฐานเอกสารใบรับรองว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ การติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันตนไม่ได้เปลี่ยนแปลง GPS เรือ โดยเป็นหลักฐานเดียวกับที่เคยยื่นไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าวันเกิดเหตุเรือเดินทางไปในทิศทางใด สามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ อยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือ โดยการตรวจสอบได้ทำงานร่วมกับบริษัท แนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GPS ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก ส่วนกรณีเซ็นเซอร์ใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างจะทำงานทำให้เรือหยุด ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้



    ถอนป่วยทิพย์ข้อมูลไม่พอ

    ซัดเพื่อไทยเลี่ยงตรวจสอบ

    รวบแก๊งฟอกเงินอาชญากร

    ครม.สงขลาผ่านงบ 300 ล้าน
    "อู๊ด" ยันไม่ได้แก้ GPS พิกัดต่างเป็นการเดินเรือ : [NEWS UPDATE] นายกิตติภัฎ ธนาสนธิราช หรือ อู๊ด ผู้เชี่ยวชาญด้านเรือ เข้าให้ข้อมูลกับหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ แตงโม นิดา กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) และนำหลักฐานเอกสารใบรับรองว่ามีความเชี่ยวชาญด้าน GPS เรือนานกว่า 30 ปี มายืนยันข้อมูลการเดินเรือ การติดตั้ง GPS เรือในวันที่เกิดเหตุ ยืนยันตนไม่ได้เปลี่ยนแปลง GPS เรือ โดยเป็นหลักฐานเดียวกับที่เคยยื่นไว้กับตำรวจ สภ.เมืองนนทบุรี เมื่อ 3 ปีก่อน ซึ่งจะทำให้รู้ว่าวันเกิดเหตุเรือเดินทางไปในทิศทางใด สามารถดูพิกัดได้ว่าหัวเรือหันไปในทิศทางใด จอดหยุดนิ่งตรงจุดไหนในแม่น้ำ อยู่ที่ความลึกของแม่น้ำเท่าไหร่ เวลาไหน รวมถึงความเร็วในการแล่นเรือ โดยการตรวจสอบได้ทำงานร่วมกับบริษัท แนฟเกียร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทนำเข้าเกี่ยวกับระบบ GPS เรือ อย่างไรก็ตาม ข้อมูล GPS ต่างกับข้อมูล GPS ของนายเอกราช นามโภคิน โปรแกรมเมอร์ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และวิเคราะห์ระบบ GPS เนื่องจากข้อมูลของตัวเองเป็น GPS การเดินเรือ แต่ข้อมูลของนายเอกราช เป็น GPS การเดินทางบนบก ส่วนกรณีเซ็นเซอร์ใบพัดเรือหากโดนวัตถุบางอย่างจะทำงานทำให้เรือหยุด ได้ให้ข้อมูลไปแล้ว อยู่ในสำนวนคดีไม่สามารถเปิดเผยได้ ถอนป่วยทิพย์ข้อมูลไม่พอ ซัดเพื่อไทยเลี่ยงตรวจสอบ รวบแก๊งฟอกเงินอาชญากร ครม.สงขลาผ่านงบ 300 ล้าน
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 747 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • 25 ปี "โคบอลต์-60" รั่วไหล สมุทรปราการผวา รังสีที่คร่าชีวิต 3 ศพ เจ็บ 7 ราย หายนะร้านรับซื้อของเก่า

    📅 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็นวันที่สร้างความตื่นตระหนก ให้กับประเทศไทย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรังสีรั่วไหล จากสารโคบอลต์-60 ที่สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 7 ราย หลายคนได้รับผลกระทบ จากรังสีแกมมาที่ร้ายแรงที่สุด ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ

    แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมา 25 ปี แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการจัดเก็บ และกำจัดสารกัมมันตรังสี 🛑

    🔥 จุดเริ่มต้นของหายนะ สารรังสีหลุดจากการควบคุม
    เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด ได้รับซื้อเครื่องฉายรังสี "โคบอลต์-60" ที่หมดอายุ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อปี 2537 โดยเก็บไว้ที่โกดังของบริษัท

    ต่อมาในปี 2542 บริษัทได้เคลื่อนย้ายเครื่องฉายรังสี ไปยังลานจอดรถร้าง ย่านซอยอ่อนนุช กรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการ รักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ 😱

    นี่กลายเป็นช่องโหว่สำคัญ ที่ทำให้มีคนลักลอบ นำเครื่องฉายรังสีไปขายเป็นเศษเหล็ก โดยไม่รู้ว่าภายในนั้นมี "โคบอลต์-60" ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ในระดับอันตราย 🚨

    🚨 เส้นทางของสารกัมมันตรังสี จากซาเล้งสู่ร้านรับซื้อของเก่า
    🛒 24 มกราคม 2543 นายจิตรเสน จันทร์สาขา ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่า ได้รับซื้อเศษเหล็กปริศนา มาจากกลุ่มที่ลักลอบนำไปขาย

    📍 1 กุมภาพันธ์ 2543 นายจิตรเสนนำชิ้นส่วนโลหะ ไปขายให้ ร้านรับซื้อของเก่า "สมจิตร" ในซอยวัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ

    🔧 ขณะที่พยายามตัดแยกชิ้นส่วน ลูกจ้าง 2 คนของร้านรับซื้อของเก่า ใช้เครื่องตัดเหล็กแบบแก๊ส ผ่าออก พบแท่งโลหะ 2 ชิ้น และมีควันสีเหลือง ที่มีกลิ่นเหม็นออกมา โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือ สารกัมมันตรังสี ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต! ☢️

    ☢️ ผลกระทบจากรังสี โรครังสีเฉียบพลัน
    🔬 15-17 กุมภาพันธ์ 2543 ผู้ที่สัมผัสรังสีเริ่มมีอาการรุนแรง เช่น
    ✅ อ่อนเพลีย
    ✅ มือบวมพอง
    ✅ แผลไหม้พุพอง
    ✅ เม็ดเลือดขาวต่ำ
    ✅ ผมร่วง

    18 กุมภาพันธ์ 2543 เมื่อแพทย์พบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการคล้ายกัน จึงสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากการได้รับรังสีรุนแรง และแจ้งไปยัง สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.)

    🏥 การเสียชีวิตจากรังสีแกมมา
    📅 9 มีนาคม 2543 นายนิพนธ์ พันธุ์ขันธ์ ลูกจ้างร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายแรก จากการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากเม็ดเลือดขาว ถูกทำลายจากรังสี

    📅 18 มีนาคม 2543 นายสุดใจ ใจเร็ว ลูกจ้างอีกคน เสียชีวิตจากภาวะเดียวกัน

    📅 24 มีนาคม 2543 สามีของนางสมจิตร เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายที่ 3

    📌 แม้นายจิตรเสน จะรอดชีวิตมาได้ แต่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในไอซียู และถูกตัดนิ้วมือ ที่ได้รับรังสีสูง

    นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งที่ได้รับรังสี ต้องทำแท้ง เนื่องจากความเสี่ยงที่รังสี จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์

    ⚖️ คดีความ
    ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้รวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากรัฐและเอกชน

    📌 คดีศาลปกครอง ศาลสูงสุดพิพากษา ให้สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) จ่ายค่าสินไหมทดแทน 5.2 ล้านบาท

    📌 คดีศาลแพ่ง ศาลฎีกาพิพากษาให้ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด จ่ายค่าเสียหาย 529,276 บาท

    แต่ท้ายที่สุด บริษัทไม่ได้รับผิดชอบต่อประชาชน ตามที่กล่าวอ้าง

    ❗ บทเรียนจากโศกนาฏกรรม
    🔹 การขาดมาตรการจัดเก็บที่ปลอดภัย ทำให้สารกัมมันตรังสี รั่วไหลออกจากการควบคุม

    🔹 การขาดความรู้ของประชาชน ทำให้มีคนสัมผัสสารรังสีโดยไม่รู้ตัว

    🔹 ความล่าช้าในการจัดการของรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง

    แม้ว่าประเทศไทยจะมี สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นหน่วยงานกำกับดูแล แต่การขาดการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น

    📌 เหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก
    25 ปีผ่านไป เหตุการณ์ โคบอลต์-60 รั่วไหล ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า ความประมาท และการละเลยมาตรฐานความปลอดภัย ด้านกัมมันตรังสี อาจนำไปสู่หายนะร้ายแรง

    📢 มาตรการป้องกันที่ควรมี
    ✅ การจัดเก็บสารกัมมันตรังสี ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล
    ✅ การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ ที่เคร่งครัด
    ✅ การให้ความรู้เกี่ยวกับ อันตรายของสารรังสีแก่ประชาชน
    ✅ การจัดการกากกัมมันตรังสีที่ถูกต้อง

    หากไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ อุบัติเหตุจากรังสี อาจเกิดขึ้นซ้ำได้ทุกเมื่อ ☢️

    📢 คำถามที่พบบ่อย (FAQs)
    1. โคบอลต์-60 คืออะไร?
    โคบอลต์-60 เป็นสารกัมมันตรังสี ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรม แต่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์

    2. รังสีแกมมา ทำอันตรายต่อร่างกายอย่างไร?
    รังสีแกมมา สามารถทำลายเซลล์ในร่างกาย ส่งผลให้เกิดมะเร็ง ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ผิวหนังไหม้ และอวัยวะล้มเหลว

    3. เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบ ต่อกฎหมายไทยอย่างไร?
    เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การปรับปรุง มาตรการควบคุมสารกัมมันตรังสี ให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ยังมีข้อบกพร่อง ในการบังคับใช้

    4. ประเทศไทยมีมาตรการป้องกัน อุบัติเหตุรังสีหรือไม่?
    มีสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) กำกับดูแล แต่การบังคับใช้กฎหมาย ยังขาดความเข้มงวด

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181220 ก.พ. 2568

    #️⃣ #โคบอลต์60 #สมุทรปราการ #รังสีรั่วไหล #ภัยรังสี #ความปลอดภัย #พลังงานปรมาณู #อันตรายจากรังสี #รังสีแกมมา #ข่าวดัง #บทเรียนจากอดีต 🚨
    25 ปี "โคบอลต์-60" รั่วไหล สมุทรปราการผวา รังสีที่คร่าชีวิต 3 ศพ เจ็บ 7 ราย หายนะร้านรับซื้อของเก่า 📅 วันที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2543 เป็นวันที่สร้างความตื่นตระหนก ให้กับประเทศไทย เมื่อเกิดอุบัติเหตุรังสีรั่วไหล จากสารโคบอลต์-60 ที่สมุทรปราการ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บอีก 7 ราย หลายคนได้รับผลกระทบ จากรังสีแกมมาที่ร้ายแรงที่สุด ครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศ แม้เหตุการณ์นี้จะผ่านมา 25 ปี แต่ยังเป็นบทเรียนสำคัญ เกี่ยวกับความปลอดภัยในการจัดเก็บ และกำจัดสารกัมมันตรังสี 🛑 🔥 จุดเริ่มต้นของหายนะ สารรังสีหลุดจากการควบคุม เหตุการณ์เริ่มต้นจากการที่ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด ได้รับซื้อเครื่องฉายรังสี "โคบอลต์-60" ที่หมดอายุ จากโรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อปี 2537 โดยเก็บไว้ที่โกดังของบริษัท ต่อมาในปี 2542 บริษัทได้เคลื่อนย้ายเครื่องฉายรังสี ไปยังลานจอดรถร้าง ย่านซอยอ่อนนุช กรุงเทพฯ โดยไม่มีมาตรการ รักษาความปลอดภัยอย่างเพียงพอ 😱 นี่กลายเป็นช่องโหว่สำคัญ ที่ทำให้มีคนลักลอบ นำเครื่องฉายรังสีไปขายเป็นเศษเหล็ก โดยไม่รู้ว่าภายในนั้นมี "โคบอลต์-60" ซึ่งเป็นสารกัมมันตรังสี ที่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ในระดับอันตราย 🚨 🚨 เส้นทางของสารกัมมันตรังสี จากซาเล้งสู่ร้านรับซื้อของเก่า 🛒 24 มกราคม 2543 นายจิตรเสน จันทร์สาขา ซึ่งมีอาชีพเก็บของเก่า ได้รับซื้อเศษเหล็กปริศนา มาจากกลุ่มที่ลักลอบนำไปขาย 📍 1 กุมภาพันธ์ 2543 นายจิตรเสนนำชิ้นส่วนโลหะ ไปขายให้ ร้านรับซื้อของเก่า "สมจิตร" ในซอยวัดมหาวงษ์ ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง สมุทรปราการ 🔧 ขณะที่พยายามตัดแยกชิ้นส่วน ลูกจ้าง 2 คนของร้านรับซื้อของเก่า ใช้เครื่องตัดเหล็กแบบแก๊ส ผ่าออก พบแท่งโลหะ 2 ชิ้น และมีควันสีเหลือง ที่มีกลิ่นเหม็นออกมา โดยไม่รู้เลยว่านั่นคือ สารกัมมันตรังสี ที่เป็นอันตรายถึงชีวิต! ☢️ ☢️ ผลกระทบจากรังสี โรครังสีเฉียบพลัน 🔬 15-17 กุมภาพันธ์ 2543 ผู้ที่สัมผัสรังสีเริ่มมีอาการรุนแรง เช่น ✅ อ่อนเพลีย ✅ มือบวมพอง ✅ แผลไหม้พุพอง ✅ เม็ดเลือดขาวต่ำ ✅ ผมร่วง 18 กุมภาพันธ์ 2543 เมื่อแพทย์พบว่า ผู้ป่วยทั้งหมดมีอาการคล้ายกัน จึงสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากการได้รับรังสีรุนแรง และแจ้งไปยัง สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) 🏥 การเสียชีวิตจากรังสีแกมมา 📅 9 มีนาคม 2543 นายนิพนธ์ พันธุ์ขันธ์ ลูกจ้างร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายแรก จากการติดเชื้อในกระแสเลือด เนื่องจากเม็ดเลือดขาว ถูกทำลายจากรังสี 📅 18 มีนาคม 2543 นายสุดใจ ใจเร็ว ลูกจ้างอีกคน เสียชีวิตจากภาวะเดียวกัน 📅 24 มีนาคม 2543 สามีของนางสมจิตร เจ้าของร้านรับซื้อของเก่า เสียชีวิตเป็นรายที่ 3 📌 แม้นายจิตรเสน จะรอดชีวิตมาได้ แต่ต้องเข้ารับการรักษาตัวในไอซียู และถูกตัดนิ้วมือ ที่ได้รับรังสีสูง นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์รายหนึ่งที่ได้รับรังสี ต้องทำแท้ง เนื่องจากความเสี่ยงที่รังสี จะส่งผลกระทบต่อทารกในครรภ์ ⚖️ คดีความ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ได้รวมตัวกันฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย จากรัฐและเอกชน 📌 คดีศาลปกครอง ศาลสูงสุดพิพากษา ให้สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) จ่ายค่าสินไหมทดแทน 5.2 ล้านบาท 📌 คดีศาลแพ่ง ศาลฎีกาพิพากษาให้ บริษัทกมลสุโกศล อิเล็คทริค จำกัด จ่ายค่าเสียหาย 529,276 บาท แต่ท้ายที่สุด บริษัทไม่ได้รับผิดชอบต่อประชาชน ตามที่กล่าวอ้าง ❗ บทเรียนจากโศกนาฏกรรม 🔹 การขาดมาตรการจัดเก็บที่ปลอดภัย ทำให้สารกัมมันตรังสี รั่วไหลออกจากการควบคุม 🔹 การขาดความรู้ของประชาชน ทำให้มีคนสัมผัสสารรังสีโดยไม่รู้ตัว 🔹 ความล่าช้าในการจัดการของรัฐ ทำให้เกิดผลกระทบรุนแรง แม้ว่าประเทศไทยจะมี สำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ เป็นหน่วยงานกำกับดูแล แต่การขาดการบังคับใช้กฎหมาย อย่างเคร่งครัด ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น 📌 เหตุการณ์ที่ไม่ควรเกิดขึ้นอีก 25 ปีผ่านไป เหตุการณ์ โคบอลต์-60 รั่วไหล ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ที่แสดงให้เห็นว่า ความประมาท และการละเลยมาตรฐานความปลอดภัย ด้านกัมมันตรังสี อาจนำไปสู่หายนะร้ายแรง 📢 มาตรการป้องกันที่ควรมี ✅ การจัดเก็บสารกัมมันตรังสี ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ✅ การตรวจสอบของหน่วยงานรัฐ ที่เคร่งครัด ✅ การให้ความรู้เกี่ยวกับ อันตรายของสารรังสีแก่ประชาชน ✅ การจัดการกากกัมมันตรังสีที่ถูกต้อง หากไม่มีการปฏิบัติตามมาตรการเหล่านี้ อุบัติเหตุจากรังสี อาจเกิดขึ้นซ้ำได้ทุกเมื่อ ☢️ 📢 คำถามที่พบบ่อย (FAQs) 1. โคบอลต์-60 คืออะไร? โคบอลต์-60 เป็นสารกัมมันตรังสี ที่ใช้ในทางการแพทย์ และอุตสาหกรรม แต่สามารถปล่อยรังสีแกมมา ที่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ 2. รังสีแกมมา ทำอันตรายต่อร่างกายอย่างไร? รังสีแกมมา สามารถทำลายเซลล์ในร่างกาย ส่งผลให้เกิดมะเร็ง ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ผิวหนังไหม้ และอวัยวะล้มเหลว 3. เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบ ต่อกฎหมายไทยอย่างไร? เหตุการณ์นี้ นำไปสู่การปรับปรุง มาตรการควบคุมสารกัมมันตรังสี ให้เข้มงวดมากขึ้น แต่ยังมีข้อบกพร่อง ในการบังคับใช้ 4. ประเทศไทยมีมาตรการป้องกัน อุบัติเหตุรังสีหรือไม่? มีสำนักงานพลังงานปรมาณูเพื่อสันติ (พปส.) กำกับดูแล แต่การบังคับใช้กฎหมาย ยังขาดความเข้มงวด ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 181220 ก.พ. 2568 #️⃣ #โคบอลต์60 #สมุทรปราการ #รังสีรั่วไหล #ภัยรังสี #ความปลอดภัย #พลังงานปรมาณู #อันตรายจากรังสี #รังสีแกมมา #ข่าวดัง #บทเรียนจากอดีต 🚨
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 247 มุมมอง 0 รีวิว
  • เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ส พลิกหงายท้องหลังลงจอดกระแทกที่สนามบินโทรอนโต เพียร์สัน ในแคนาดา ท่ามกลางลมแรง สืบเนื่องจากพายุหิมะ ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย จากทั้งหมด 80 คนบนเครื่องบิน ตามการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่
    .
    ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอยู่ 3 รายที่อาการสาหัส ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน
    .
    สายการบินเดลตา เปิดเผยว่าเครื่องบิน CRJ900 ที่ปฏิบัติการโดยสายการบินลูก "เอ็นเดเวอร์แอร์" เป็นเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุ โดยมันบรรทุกผู้โดยสาร 76 คนและลูกเรือ 4 คน ทั้งนี้ CRJ900 ผลิตโดยบริษัทบอมบาร์เดียร์ของแคนาดา บรรทุกได้สูงสุด 90 คน
    .
    สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ผู้ใช้บนสื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งโพสต์วิดีโอหลังเกิดเหตุ เป็นภาพรถดับเพลิงกำลังฉีดน้ำเข้าใส่เครื่องบิน ที่พลิกหงายท้องอยู่บนรันเวย์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ
    .
    "เราอยู่ในโทรอนโต เราเพิ่งลงจอด เครื่องบินของเรากระแทกและมันพลิกหงายท้อง หน่วยดับเพลิงอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว แม้พลิกหงายท้อง แต่ทุกๆ คน ผู้คนเกือบทั้งหมดปลอดภัยดี เรากำลังออกไป มีควันคลุ้งออกมาบ้าง" จอห์น เบลสัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งบรรยายภาพในวิดีโอ
    .
    ท่าอากาศยานเพียร์สัน บอกก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่ากำลังรับมือกับลมแรงและอุณหภูมิเย็นยะเยือก ส่วนสายการบินต่างๆ ก็พยายามบริหารจัดการกับเที่ยวบินต่างๆ ที่ต้องยกเลิก หลังจากพายุหิมะในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เทหิมะลงมาหนาถึง 22 เซนติเมตร บริเวณสนามบิน
    .
    ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย มีอยู่ 2 คนที่ถูกลำเลียงทางอากาศไปยังศูนย์อุบัติเหตุ ส่วนเด็กถูกพาไปยังโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง ขณะที่อีก 12 ที่เหลือ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล "เราไม่มีผู้เสียชีวิต และเราพบตัวลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว" หัวหน้าหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินระบุ
    .
    สนามบินโทรอนโต ต้องปิดทำการเป็นเวลา 90 นาที ก่อนกลับมาเปิดปฏิบัติการทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มันทำให้หลายเที่ยวบินต้องเบี่ยงไปลงจอดที่ท่าอากาศยานอื่นๆ และก่อปัญหาดีเลย์ตามสนามบินนั้นๆ ในนั้นรวมถึงสนามบินทรูโด ในมอนทรีออล ที่เผยว่ากำลังเตรียมพร้อมรองรับอีกหลายเที่ยวบินที่ต้องเบี่ยงมาลงจอด ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจก่อปัญหาล่าช้าเพิ่มเติม
    .
    คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา (TSB) เผยว่ากำลังส่งคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวน ส่วนคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่าทีมสืบสวนของพวกเขาจะเข้าข่วยเหลือทีมงานของ TSB ด้วยเช่นกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015977
    ..............
    Sondhi X
    เครื่องบินโดยสารลำหนึ่งของสายการบินเดลตา แอร์ไลน์ส พลิกหงายท้องหลังลงจอดกระแทกที่สนามบินโทรอนโต เพียร์สัน ในแคนาดา ท่ามกลางลมแรง สืบเนื่องจากพายุหิมะ ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย จากทั้งหมด 80 คนบนเครื่องบิน ตามการเปิดเผยของพวกเจ้าหน้าที่ . ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บนั้น มีอยู่ 3 รายที่อาการสาหัส ในนั้นมีเด็กรวมอยู่ด้วย 1 คน . สายการบินเดลตา เปิดเผยว่าเครื่องบิน CRJ900 ที่ปฏิบัติการโดยสายการบินลูก "เอ็นเดเวอร์แอร์" เป็นเครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุ โดยมันบรรทุกผู้โดยสาร 76 คนและลูกเรือ 4 คน ทั้งนี้ CRJ900 ผลิตโดยบริษัทบอมบาร์เดียร์ของแคนาดา บรรทุกได้สูงสุด 90 คน . สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัด แต่ผู้ใช้บนสื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งโพสต์วิดีโอหลังเกิดเหตุ เป็นภาพรถดับเพลิงกำลังฉีดน้ำเข้าใส่เครื่องบิน ที่พลิกหงายท้องอยู่บนรันเวย์ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ . "เราอยู่ในโทรอนโต เราเพิ่งลงจอด เครื่องบินของเรากระแทกและมันพลิกหงายท้อง หน่วยดับเพลิงอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว แม้พลิกหงายท้อง แต่ทุกๆ คน ผู้คนเกือบทั้งหมดปลอดภัยดี เรากำลังออกไป มีควันคลุ้งออกมาบ้าง" จอห์น เบลสัน ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งบรรยายภาพในวิดีโอ . ท่าอากาศยานเพียร์สัน บอกก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ (17 ก.พ.) ว่ากำลังรับมือกับลมแรงและอุณหภูมิเย็นยะเยือก ส่วนสายการบินต่างๆ ก็พยายามบริหารจัดการกับเที่ยวบินต่างๆ ที่ต้องยกเลิก หลังจากพายุหิมะในช่วงสุดสัปดาห์ ที่เทหิมะลงมาหนาถึง 22 เซนติเมตร บริเวณสนามบิน . ในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บ 15 ราย มีอยู่ 2 คนที่ถูกลำเลียงทางอากาศไปยังศูนย์อุบัติเหตุ ส่วนเด็กถูกพาไปยังโรงพยาบาลเด็กแห่งหนึ่ง ขณะที่อีก 12 ที่เหลือ ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล "เราไม่มีผู้เสียชีวิต และเราพบตัวลูกเรือและผู้โดยสารทั้งหมดแล้ว" หัวหน้าหน่วยการแพทย์ฉุกเฉินระบุ . สนามบินโทรอนโต ต้องปิดทำการเป็นเวลา 90 นาที ก่อนกลับมาเปิดปฏิบัติการทั้งเที่ยวบินขาเข้าและขาออกหลังจากนั้น อย่างไรก็ตาม มันทำให้หลายเที่ยวบินต้องเบี่ยงไปลงจอดที่ท่าอากาศยานอื่นๆ และก่อปัญหาดีเลย์ตามสนามบินนั้นๆ ในนั้นรวมถึงสนามบินทรูโด ในมอนทรีออล ที่เผยว่ากำลังเตรียมพร้อมรองรับอีกหลายเที่ยวบินที่ต้องเบี่ยงมาลงจอด ซึ่งแน่นอนว่ามันอาจก่อปัญหาล่าช้าเพิ่มเติม . คณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งของแคนาดา (TSB) เผยว่ากำลังส่งคณะทำงานลงพื้นที่เพื่อทำการสืบสวน ส่วนคณะกรรมการความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งชาติสหรัฐฯ เผยว่าทีมสืบสวนของพวกเขาจะเข้าข่วยเหลือทีมงานของ TSB ด้วยเช่นกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000015977 .............. Sondhi X
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1746 มุมมอง 1 รีวิว
  • ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน”

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ

    จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

    แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป

    เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน” เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง

    วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ

    โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ

    จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736

    #MGROnline #ดีเอสไอ
    “ดีเอสไอ” ใช้เครื่องเลเซอร์สแกนนิ่ง สแกน ภูมิประเทศบริเวณวัดค้างคาวนำไปประมวลผลเป็นภาพ 3 มิติเทียบเคียงข้อมูลจำลองเหตุการณ์วันเกิดเหตุ เทียบ GPS เรือ-โทรศัพท์ พบจอดเรือ บริเวณวัดค้างคาว กว่า 1 ชั่วโมง • วันนี้ (17 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 9.30 น. พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม พร้อมคณะพนักงานสอบสวน พาตัวแทนสื่อมวลชนลงเรือสปีดโบ๊ท โดยวันนี้ได้มีการเตรียมเรือ ที่จะใช้ในการตรวจสอบจุดต่างๆ ตลอดลำน้ำเจ้าพระยาทั้งหมด 5 ลำ • โดยเรือทั้งหมดเคลื่อนตัวออกจากท่าเรือบ้านเรือเล็ก มุ่งหน้าทางทิศใต้ ลอดใต้สะพานมหาเจษฎาบดินทรนุสรณ์ ผ่านสะพานพระราม 5 มุ่งหน้าไปจุดแรกที่เจ้าหน้าที่จะเริ่มทำการสแกนพื้นที่ คือ บริเวณท่าทรายใกล้เคียงกับ บริษัท พูนพิพัฒน์ จำกัด โดยจุดนี้ได้นำโดรนบินสำรวจสแกนเหนือลำน้ำเจ้าพระยา เพื่อนำภาพมุมสูงไปประกอบประมวลเป็นภาพสามมิติเส้นทางที่เรือลำเกิดเหตุแล่น ตามข้อมูล GPS เรือ • จากนั้นเรือได้และมุ่งหน้าต่อไปทางทิศใต้ลอดใต้สะพาน พระราม 7 มาจอดบริเวณกลางลำน้ำเจ้าพระยา บริเวณซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 ตรงข้ามกับหน้าอาคารรัฐสภา โดยบริเวณจุดนี้เจ้าหน้าที่ได้จอดให้คณะพนักงานสอบสวนและสื่อมวลชนบันทึกภาพและใช้เครื่องมือสแกนบริเวณโดยรอบพื้นที่รวมถึงสแกนหาวัตถุใต้ผิวแม่น้ำเจ้าพระยา โดยบริเวณจุดนี้เรือชะลอความเร็วเพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้เครื่องมือที่เตรียมมาสแกน ทั้งทางอากาศและทางน้ำ รวมถึงมาจำลองตามคำกล่าวอ้างที่มีภาพถ่ายปรากฏอยู่ในโทรศัพท์ของแตงโม (นิดา) โดยบริเวณจุดที่ตรงกับปากซอยจรัญสนิทวงศ์ 92 เรือลำของนายแพทย์ธวัชชัยให้ความสนใจ และใช้เวลาลอยลำอยู่ตรงจุดนี้ประมาณ 15 นาที ส่วนทางคณะพนักงานสอบสวนกลุ่มสอบสวนคดีพิเศษได้นำเรือลอยลำสำรวจตามจุดต่างๆ ล่วงหน้า ทั้งหมด 8 จุดตามที่แจ้งกับสื่อมวลชนไว้ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000015736 • #MGROnline #ดีเอสไอ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts