• ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศมีการป้องกันพรมแดนที่แน่นหนาและมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่สำหรับประเทศในยุโรปกลับมีการแบ่งพรมแดนที่ชิลกว่านั้นมาก

    และเหนือไปกว่านั้นก็คือ พรมแดนระหว่างเมือง Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์และเมือง Baarle-Hertog ของเบลเยียมที่ได้ชื่อว่ามี "พรมแดนสลับซับซ้อนที่สุดในโลก"

    • ความซับซ้อนในมุมนักท่องเที่ยว

    เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ คุณจะเห็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรูปเครื่องหมายบวกหรือกากบาทบนพื้น พาดไปพาดมาตามท้องถนนทั่วทั้งเมือง

    ดังนั้น คุณสามารถก้าวข้ามประเทศกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา และอาจเดินข้ามประเทศไปมาแบบไม่รู้ตัว

    • ความซับซ้อนในมุมผู้อยู่อาศัย

    แน่นอนว่าย่อมปวดหัวกว่านักท่องเที่ยวมากนัก เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน การจัดการบริหารต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งระบบไปรษณีย์ ระบบขนส่งสาธารณะ

    ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกผ่ากลางด้วยเส้นแบ่งพรมแดนจะต้องดูว่า ประตูบ้านหลังนั้นอยู่บนพื้นที่ประเทศไหน แล้วจึงใช้กฎหมายของประเทศนั้น

    เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่เจ้าของบ้านขออนุมัติซ่อมแซมบ้าน แต่ทางการเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติสักที เขาจึงสร้างประตูหน้าบ้านเพิ่มอีกบานให้ตรงกับเส้นแบ่งพรมแดน (ภาพที่ 2) เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายฝั่งเบลเยียมได้ จากนั้นเขาจึงขอขออนุมัติกับทางการเบลเยียมแทน ซึ่งก็ได้ผล

    ยังมีบ้านอีกหลัง (ภาพที่ 1) ที่ถูกเส้นแบ่งพรมแดนผ่ากลางประตูเป๊ะ ๆ บ้านหลังนี้จึงเป็นของทั้งสองประเทศ และมีบ้านเลขที่ที่แตกต่างกันสำหรับสองประเทศ

    สิ่งที่พีกไปกว่านั้นก็คือ...

    มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นที่ทำการทางทหารของเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนย้ายเข้ามาเขาไม่รู้ว่าห้องทำงานดันไปอยู่ฝั่งเบลเยียม และปัญหาคือเขาไม่มีใบอนุญาตทำงานในเบลเยียม

    ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายห้องทำงานไปยังฝั่งเนเธอร์แลนด์ และย้ายห้องนอนไปฝั่งเบลเยียมแทน
    ข้อมูลและรูปอ้างอิงจากเฟซบุ๊คเพจ เพชร
    มายา
    ในขณะที่หลาย ๆ ประเทศมีการป้องกันพรมแดนที่แน่นหนาและมีการตรวจตราที่เข้มงวด แต่สำหรับประเทศในยุโรปกลับมีการแบ่งพรมแดนที่ชิลกว่านั้นมาก และเหนือไปกว่านั้นก็คือ พรมแดนระหว่างเมือง Baarle-Nassau ของเนเธอร์แลนด์และเมือง Baarle-Hertog ของเบลเยียมที่ได้ชื่อว่ามี "พรมแดนสลับซับซ้อนที่สุดในโลก" • ความซับซ้อนในมุมนักท่องเที่ยว เมื่อคุณก้าวเข้าไปในพื้นที่แห่งนี้ คุณจะเห็นเส้นแบ่งเขตแดนที่เป็นรูปเครื่องหมายบวกหรือกากบาทบนพื้น พาดไปพาดมาตามท้องถนนทั่วทั้งเมือง ดังนั้น คุณสามารถก้าวข้ามประเทศกลับไปกลับมาได้ตลอดเวลา และอาจเดินข้ามประเทศไปมาแบบไม่รู้ตัว • ความซับซ้อนในมุมผู้อยู่อาศัย แน่นอนว่าย่อมปวดหัวกว่านักท่องเที่ยวมากนัก เพราะทั้งสองประเทศมีกฎหมายควบคุมที่แตกต่างกัน การจัดการบริหารต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน ทั้งระบบไปรษณีย์ ระบบขนส่งสาธารณะ ส่วนบ้านบางหลังที่ถูกผ่ากลางด้วยเส้นแบ่งพรมแดนจะต้องดูว่า ประตูบ้านหลังนั้นอยู่บนพื้นที่ประเทศไหน แล้วจึงใช้กฎหมายของประเทศนั้น เคยมีอยู่กรณีหนึ่งที่เจ้าของบ้านขออนุมัติซ่อมแซมบ้าน แต่ทางการเนเธอร์แลนด์ไม่อนุมัติสักที เขาจึงสร้างประตูหน้าบ้านเพิ่มอีกบานให้ตรงกับเส้นแบ่งพรมแดน (ภาพที่ 2) เพื่อให้สามารถใช้กฎหมายฝั่งเบลเยียมได้ จากนั้นเขาจึงขอขออนุมัติกับทางการเบลเยียมแทน ซึ่งก็ได้ผล ยังมีบ้านอีกหลัง (ภาพที่ 1) ที่ถูกเส้นแบ่งพรมแดนผ่ากลางประตูเป๊ะ ๆ บ้านหลังนี้จึงเป็นของทั้งสองประเทศ และมีบ้านเลขที่ที่แตกต่างกันสำหรับสองประเทศ สิ่งที่พีกไปกว่านั้นก็คือ... มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอดีตเจ้าของบ้านหลังนี้ที่ถูกใช้เป็นที่ทำการทางทหารของเนเธอร์แลนด์ แต่ตอนย้ายเข้ามาเขาไม่รู้ว่าห้องทำงานดันไปอยู่ฝั่งเบลเยียม และปัญหาคือเขาไม่มีใบอนุญาตทำงานในเบลเยียม ดังนั้นเขาจึงต้องย้ายห้องทำงานไปยังฝั่งเนเธอร์แลนด์ และย้ายห้องนอนไปฝั่งเบลเยียมแทน ข้อมูลและรูปอ้างอิงจากเฟซบุ๊คเพจ เพชร มายา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา

    “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา”
    .

    เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ"

    เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง

    ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน

    เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก

    ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ

    ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz)

    รายละเอียดเพิ่มเติม
    https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o

    ประธานาธิบดีทรัมป์สั่งเปิดเรือนจำอัลคาทราซอีกครั้งเพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดเหี้ยมและรุนแรงที่สุดในอเมริกา “วันนี้ ผมกำลังสั่งการให้กรมราชทัณฑ์ ร่วมกับกระทรวงยุติธรรม เอฟบีไอ และกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ เปิดเรือนจำอัลคาทราซที่ขยายใหญ่ขึ้นและสร้างขึ้นใหม่ เพื่อใช้คุมขังผู้กระทำความผิดที่โหดร้ายและรุนแรงที่สุดในอเมริกา” . เกี่ยวกับ "อัลคาทราซ" เรือนจำอัลคาทราซ เป็นอดีตเรือนจำซึ่งตั้งอยู่บนเกาะนอกชายฝั่งซานฟรานซิสโก ที่ปิดมานานกว่า 60 ปี โดยปิดตัวลงตั้งแต่ปี 2506 และได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ในปี 1962 นักโทษชายสามคนประสบผลสำเร็จในการหลบหนีออกจากเรือนจำ “อัลคาทราซ” (Alcatraz) สถานที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนาที่สุดของสหรัฐ ประกอบไปด้วย แฟรงก์ มอร์ริส และสองพี่น้องตระกูลแอนกลิน เริ่มต้นนั้น "อัลคาทราซ" คือป้อมปืนของกองทัพเรือ ซึ่งใช้ป้องกันศัตรูไม่ให้ล่วงล้ำเข้ามาในน่านน้ำของอ่าวซานฟรานซิสโก ต่อมาในช่วงสงครามกลางเมืองของสหรัฐ ถูกดัดแปลงใช้เป็นที่คุมขังนักโทษที่เป็นฝ่ายสมาพันธรัฐ เนื่องจากเป็นเกาะที่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวและมีหน้าผาสูงชัน ทั้งยังมีกระแสน้ำเย็นยะเยือกที่ไหลเชี่ยวล้อมรอบ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 มีการปรับปรุงป้อมปราการเก่าให้กลายเป็นเรือนจำทหาร และต่อมาในช่วงทศวรรษ 1930 ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ พยายามจัดการกับบรรดาแก๊งอาชญากรรมที่ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพราะนโยบายห้ามผลิตและค้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (Prohibition) กระทรวงยุติธรรมได้เข้าควบคุมเรือนจำอัลคาทราซ และเริ่มโยกย้ายนักโทษตัวอันตรายที่อยู่ในระบบเรือนจำของรัฐบาลกลางมาที่นั่น ในจำนวนนี้มีอาชญากรชื่อดังอย่างเจ้าพ่ออัลคาโปน, มิกกี โคเฮน, จอร์จ เคลลี เจ้าของฉายา “ปืนกล”, และฆาตกรตัวฉกาจอย่างโรเบิร์ต สตราวด์ ซึ่งต่อมาเป็นที่รู้จักกันดีในฉายา “คนเลี้ยงนกแห่งอัลคาทราซ” (Birdman of Alcatraz) รายละเอียดเพิ่มเติม https://www.bbc.com/thai/articles/cv225351q59o
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • มิสไซล์วิถีโค้งของกบฎฮูตีสามารถทะลุทะลวงปราการป้องกันโล่ขีปนาวุธทั้งระบบแอร์โรว์ของกองทัพอิสราเอลและระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯได้อย่างไม่คาดฝันในเช้าวันอาทิตย์(4 พ.ค)ส่งผลทำให้มิสไซล์ผ่านทะลุเข้าไปถึงพื้นที่สนามบินนานาชาติเบนกูเรียนได้สำเร็จ มีผู้บาดเจ็บไป 6 คน ส่งผลทำให้ทั้งสายการบินชื่อดังของเยอรมัน ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินสวิส รวมสายการบินยุโรปอื่นๆประกาศยกเลิกเที่ยวบินตลอดทั้งวันนี้ ด้านกบฎฮูตีประกาศความรับผิดชอบการโจมตีพร้อมข่มขู่เตือนสายการบินดังทั้งหลายให้หยุดบินเข้าอิสราเอล ไม่รับรองความปลอดภัยทางอากาศทั้งนั้น
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041815

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    มิสไซล์วิถีโค้งของกบฎฮูตีสามารถทะลุทะลวงปราการป้องกันโล่ขีปนาวุธทั้งระบบแอร์โรว์ของกองทัพอิสราเอลและระบบป้องกันขีปนาวุธ THAAD ของสหรัฐฯได้อย่างไม่คาดฝันในเช้าวันอาทิตย์(4 พ.ค)ส่งผลทำให้มิสไซล์ผ่านทะลุเข้าไปถึงพื้นที่สนามบินนานาชาติเบนกูเรียนได้สำเร็จ มีผู้บาดเจ็บไป 6 คน ส่งผลทำให้ทั้งสายการบินชื่อดังของเยอรมัน ลุฟท์ฮันซ่า สายการบินสวิส รวมสายการบินยุโรปอื่นๆประกาศยกเลิกเที่ยวบินตลอดทั้งวันนี้ ด้านกบฎฮูตีประกาศความรับผิดชอบการโจมตีพร้อมข่มขู่เตือนสายการบินดังทั้งหลายให้หยุดบินเข้าอิสราเอล ไม่รับรองความปลอดภัยทางอากาศทั้งนั้น . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000041815 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    7
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 262 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปิดฉากการแข่งขันว่ายน้ำ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” สานฝันอนาคตนักกีฬาเยาวชนไทย ก้าวไกลสู่การแข่งขันใหญ่ระดับประเทศ
     
    บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันว่ายน้ำครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนระดับประเทศ ตามหลักกฏกติกามาตรฐาน ของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA)                 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งานจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-4 พฤษภาคม 2568 ณ สระว่ายน้ำ Champions Pool สวนน้ำ แฟนตาเซีย ลากูน ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช

    วันที่ 3 พ.ค.2568 เวลา 09.00น. นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาให้เกียรติร่วมงานและให้กำลังใจนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมด้วย น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา ดร.สิทธิชัย เป้งคำภา ผู้ช่วยผู้แทนฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารสโมสรกีฬาทางน้ำภาค และผู้ฝึกสอน นักกีฬาเข้าร่วมงาน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ

    วันที่ 4 พ.ค.2568 เวลา 17.00น. นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดพร้อมด้วย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายจุมภฏ อินทรนัฏ กรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรกีฬาทางน้ำภาค 3 ร่วมมอบรางวัลให้สโมสรและนักกีฬาว่ายน้ำที่เข้าแข่งขัน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ

    การแข่งขันว่ายน้ำรายการ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” ใช้กติกาการแข่งขันของ FINA ฉบับล่าสุด โดยมีสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยรับรองผลการแข่งขัน มีวัตถุประสงค์การแข่งขัน ดังนี้ 1.เพื่อพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนกีฬาว่ายน้ำ ระดับยุวชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายรวมถึงการฝึกซ้อมและว่ายน้ำอย่างถูกวิธี 3.เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการเล่นกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษไม่หันไปพึ่งพาสารเสพติด 4.เพื่อช่วยพัฒนาและร่วมผลักดัน วงการกีฬาว่ายน้ำให้ก้าวหน้าและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ 5.เพื่อร่วมส่งเสริมนโยบายและวัตถุประสงค์ของสโมสรกีฬาว่ายน้ำจังหวัดนครราชสีมา และ สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา

    โดยมีรูปแแบบการแข่งขันเป็นการแข่งขันว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ Champions Pool ขนาด 50 เมตร จำนวนแข่ง 8 ลู่ เป็นการแข่งขันรอบเดียว ไม่มีรอบคัดเลือก โดยแบ่งประเภทเยาวชนชาย – หญิง อายุระหว่าง 7-14 ปี และบุคคลทั่วไป ในระยะทาง 50 เมตร, 100 เมตร และ 200 เมตร  โดยใช้ 4 ท่าว่ายสากลตามกติกาของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) และสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย
    ซึ่งแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้ 1.รางวัลประเภทบุคคล 2.รางวัลประเภทสโมสร

    บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ต้องขอแสดงความยินดีสำหรับ 
    🏆สโมสร ชูสวิมคลับ ได้รางวัลคะแนนรวมสโมสรยอดเยี่ยม คว้าถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง
    รองชนะเลิศอับดับ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
    รองชนะเลิศอันดับ 2 มารีย์รักษ์ นครราชสีมา 
    รองชนะเลิศอันดับ 3 SAT 3 Swimming
    รองชนะเลิศอันดับ 4 ที เอส สวิมมิ่ง
    รองชนะเลิศอันดับ 5 โรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา
    รองชนะเลิศอันดับ 6 Phuket Country Home Swimming

    ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจทุกๆ ท่านที่ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ แล้วพบกันในรอบถัดไป ที่สวนน้ำแฟนตาเซียลากูน
    ปิดฉากการแข่งขันว่ายน้ำ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” สานฝันอนาคตนักกีฬาเยาวชนไทย ก้าวไกลสู่การแข่งขันใหญ่ระดับประเทศ   บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย จัดการแข่งขันว่ายน้ำครั้งยิ่งใหญ่ ในงาน “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” การแข่งขันว่ายน้ำเยาวชนระดับประเทศ ตามหลักกฏกติกามาตรฐาน ของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA)                 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี งานจัดขึ้นระหว่างวันที่  3-4 พฤษภาคม 2568 ณ สระว่ายน้ำ Champions Pool สวนน้ำ แฟนตาเซีย ลากูน ชั้น 1 เดอะมอลล์ โคราช วันที่ 3 พ.ค.2568 เวลา 09.00น. นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมาให้เกียรติร่วมงานและให้กำลังใจนักกีฬาว่ายน้ำ พร้อมด้วย น.ส.ธีรารัตน์ ร่มรื่น ผู้อำนวยการสำนักงานการกีฬาแห่งประเทศไทยจังหวัดนครราชสีมา ดร.สิทธิชัย เป้งคำภา ผู้ช่วยผู้แทนฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และกรรมการบริหารสโมสรกีฬาทางน้ำภาค และผู้ฝึกสอน นักกีฬาเข้าร่วมงาน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ วันที่ 4 พ.ค.2568 เวลา 17.00น. นายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีปิดพร้อมด้วย นายชนม์บันลือ วรรธนพันธุ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายจุมภฏ อินทรนัฏ กรรมการบริหารสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทย และประธานสโมสรกีฬาทางน้ำภาค 3 ร่วมมอบรางวัลให้สโมสรและนักกีฬาว่ายน้ำที่เข้าแข่งขัน โดยมีนายปรีชา ลิ้มอั่ว ผู้จัดการทั่วไปปฏิบัติการ บริษัท เดอะมอลล์ราชสีมา จำกัด ให้การต้อนรับ การแข่งขันว่ายน้ำรายการ “28th THE MALL KORAT SWIMMING CUP 2025” ใช้กติกาการแข่งขันของ FINA ฉบับล่าสุด โดยมีสมาคมกีฬาทางน้ำแห่งประเทศไทยรับรองผลการแข่งขัน มีวัตถุประสงค์การแข่งขัน ดังนี้ 1.เพื่อพิจารณาคัดเลือกนักกีฬาว่ายน้ำเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาว่ายน้ำเยาวชนชิงชนะเลิศ แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 2.เพื่อส่งเสริมสนับสนุนกีฬาว่ายน้ำ ระดับยุวชน เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไป ให้เป็นที่นิยมแพร่หลายรวมถึงการฝึกซ้อมและว่ายน้ำอย่างถูกวิธี 3.เพื่อปลูกฝังและสร้างจิตสำนึกให้แก่ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชน ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการสร้างเสริมสุขภาพด้วยการเล่นกีฬาว่ายน้ำ รวมถึงการเลือกบริโภคอาหารที่ปลอดจากสารพิษไม่หันไปพึ่งพาสารเสพติด 4.เพื่อช่วยพัฒนาและร่วมผลักดัน วงการกีฬาว่ายน้ำให้ก้าวหน้าและเป็นที่รู้จักแพร่หลาย ในระดับจังหวัด ระดับภาคและระดับประเทศ 5.เพื่อร่วมส่งเสริมนโยบายและวัตถุประสงค์ของสโมสรกีฬาว่ายน้ำจังหวัดนครราชสีมา และ สมาคมกีฬาจังหวัดนครราชสีมา โดยมีรูปแแบบการแข่งขันเป็นการแข่งขันว่ายน้ำในสระว่ายน้ำ Champions Pool ขนาด 50 เมตร จำนวนแข่ง 8 ลู่ เป็นการแข่งขันรอบเดียว ไม่มีรอบคัดเลือก โดยแบ่งประเภทเยาวชนชาย – หญิง อายุระหว่าง 7-14 ปี และบุคคลทั่วไป ในระยะทาง 50 เมตร, 100 เมตร และ 200 เมตร  โดยใช้ 4 ท่าว่ายสากลตามกติกาของสหพันธ์ว่ายน้ำนานาชาติ (FINA) และสมาคมว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ซึ่งแบ่งประเภทรางวัล ดังนี้ 1.รางวัลประเภทบุคคล 2.รางวัลประเภทสโมสร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป ต้องขอแสดงความยินดีสำหรับ  🏆สโมสร ชูสวิมคลับ ได้รางวัลคะแนนรวมสโมสรยอดเยี่ยม คว้าถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครอง รองชนะเลิศอับดับ 1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน รองชนะเลิศอันดับ 2 มารีย์รักษ์ นครราชสีมา  รองชนะเลิศอันดับ 3 SAT 3 Swimming รองชนะเลิศอันดับ 4 ที เอส สวิมมิ่ง รองชนะเลิศอันดับ 5 โรงเรียนเทพสัมฤทธิ์วิทยา รองชนะเลิศอันดับ 6 Phuket Country Home Swimming ขอแสดงความยินดีกับนักกีฬาที่ได้รับรางวัลในครั้งนี้ และขอเป็นกำลังใจทุกๆ ท่านที่ร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ แล้วพบกันในรอบถัดไป ที่สวนน้ำแฟนตาเซียลากูน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google กำลังขยายธุรกิจ รถแท็กซี่ไร้คนขับ อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันให้บริการ มากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า

    Waymo ได้เปิดตัวบริการบน แพลตฟอร์ม Uber ในเมือง Austin และขยายการดำเนินงานจาก ซานฟรานซิสโกไปยัง Silicon Valley นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำรถไร้คนขับไปให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า

    Sundar Pichai CEO ของ Google เปิดเผยว่า Waymo อาจพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ในอนาคต โดยเน้นไปที่การสร้าง "คนขับที่ดีที่สุดในโลก"

    ✅ Waymo ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์
    - เพิ่มขึ้นจาก 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์
    - ขยายบริการไปยัง Austin และ Silicon Valley

    ✅ แผนการขยายตัวในอนาคต
    - เตรียมเปิดให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า
    - อาจพัฒนา เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว

    ✅ การแข่งขันกับ Tesla และ Volkswagen
    - Volkswagen วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับผ่าน Uber ในปี 2026
    - Elon Musk ประกาศว่า Tesla จะเปิดบริการ robotaxi ใน Austin ภายในเดือนมิถุนายน

    ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในรถไร้คนขับ
    - Waymo ใช้ LIDAR ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ากล้องของ Tesla
    - Tesla พึ่งพา กล้องและ AI แต่ยังต้องการให้คนขับพร้อมควบคุมรถ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/waymo039s-robotaxis-now-beyond-250000-driverless-rides-every-week
    Waymo ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Google กำลังขยายธุรกิจ รถแท็กซี่ไร้คนขับ อย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันให้บริการ มากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีกในปีหน้า Waymo ได้เปิดตัวบริการบน แพลตฟอร์ม Uber ในเมือง Austin และขยายการดำเนินงานจาก ซานฟรานซิสโกไปยัง Silicon Valley นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะนำรถไร้คนขับไปให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า Sundar Pichai CEO ของ Google เปิดเผยว่า Waymo อาจพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ในอนาคต โดยเน้นไปที่การสร้าง "คนขับที่ดีที่สุดในโลก" ✅ Waymo ให้บริการรถแท็กซี่ไร้คนขับมากกว่า 250,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ - เพิ่มขึ้นจาก 200,000 เที่ยวต่อสัปดาห์ในเดือนกุมภาพันธ์ - ขยายบริการไปยัง Austin และ Silicon Valley ✅ แผนการขยายตัวในอนาคต - เตรียมเปิดให้บริการใน Washington, D.C. ในปีหน้า - อาจพัฒนา เทคโนโลยีสำหรับรถยนต์ส่วนตัว ✅ การแข่งขันกับ Tesla และ Volkswagen - Volkswagen วางแผนเปิดตัวรถไร้คนขับผ่าน Uber ในปี 2026 - Elon Musk ประกาศว่า Tesla จะเปิดบริการ robotaxi ใน Austin ภายในเดือนมิถุนายน ✅ เทคโนโลยีที่ใช้ในรถไร้คนขับ - Waymo ใช้ LIDAR ซึ่งให้ข้อมูลที่แม่นยำกว่ากล้องของ Tesla - Tesla พึ่งพา กล้องและ AI แต่ยังต้องการให้คนขับพร้อมควบคุมรถ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/04/waymo039s-robotaxis-now-beyond-250000-driverless-rides-every-week
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Waymo's robotaxis now beyond 250,000 driverless rides every week
    Google's sister company Waymo is rapidly expanding its robotaxi business ahead of potential arrival of new competitors, notably Elon Musk's Tesla.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 49 มุมมอง 0 รีวิว
  • Micro-credential: อาวุธลับอัปสกิล เพิ่มแต้มต่อให้คนทำงานยุคดิจิทัล
    รายงานล่าสุดจาก Coursera Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand)

    ในโลกการทำงานปัจจุบันที่หมุนเร็วตามเทคโนโลยีดิจิทัล การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง คนทำงานอย่างเราๆ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ "Micro-credential" หรือ "หน่วยกิตย่อย" ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณอัปเดตทักษะได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพิ่มโอกาสให้คุณโดดเด่นในตลาดแรงงาน

    Micro-credential คืออะไร? (ฉบับคนทำงาน)
    ลองนึกภาพการเข้าคอร์สออนไลน์สั้นๆ หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือแม้แต่ทักษะเฉพาะทางอย่าง Generative AI (GenAI) เมื่อเรียนจบและผ่านการวัดผล คุณจะได้รับใบรับรองหรือสัญลักษณ์ดิจิทัล (Badge) ที่ใช้ยืนยันกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทใหม่ได้ว่า "ฉันมีทักษะนี้จริง" นี่แหละครับคือ Micro-credential – หลักสูตรเข้มข้น ยืดหยุ่น ใช้เวลาไม่นาน และเน้นทักษะที่เอาไปใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนทำงานที่มีเวลาน้อยแต่อยากพัฒนาตัวเอง

    ทำไม Micro-credential ถึงสำคัญต่อเส้นทางอาชีพของคุณ?
    -ทันโลก ทันเกม:
    ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของคุณ ทำให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กร
    -ปิดจุดอ่อน เติมจุดแข็ง:
    รู้สึกว่าตัวเองขาดทักษะไหน หรืออยากเสริมความเชี่ยวชาญด้านใด ก็เลือกเรียนเพิ่มเติมได้ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลากับหลักสูตรยาวๆ
    -สร้างความคล่องตัว (Career Agility):
    เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้นในอนาคต
    -แสดงความมุ่งมั่น:
    การมี Micro-credential บ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างมองหา

    มุมมองจากฝั่งนายจ้าง: ทำไมบริษัทถึงมองหาคนที่มี Micro-credential?
    การเข้าใจว่านายจ้างคิดอย่างไรจะช่วยให้คุณวางแผนพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น รายงานล่าสุดจาก Coursera (Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ:
    -โปรไฟล์โดดเด่น:
    นายจ้างไทยถึง 98% มองว่า Micro-credential ทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
    -ตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น:
    95% ของนายจ้างมีการจ้างงานคนที่มี Micro-credential อย่างน้อยหนึ่งใบในปีที่ผ่านมา
    -ต่อรองเงินเดือนได้เปรียบ:
    97% ยินดีเสนอเงินเดือนเริ่มต้นสูงขึ้นให้คนที่มี Micro-credential โดยเฉพาะสาย GenAI หรือหน่วยกิตที่เทียบโอนได้ (Credit-bearing)

    ทักษะเฉพาะทางคือแต้มต่อสำคัญ:
    นายจ้าง 98% มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีทักษะ GenAI มากกว่าคนที่ไม่มี
    ถึงขั้นที่ 95% อาจยอมเลือกคนประสบการณ์น้อยกว่าแต่มีใบรับรอง GenAI มากกว่าคนเก๋าเกมแต่ขาดทักษะนี้!
    และ
    98% ก็มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีหน่วยกิตเทียบโอนได้ มากกว่าคนที่ไม่มีเช่นกัน
    -ลดเวลา (และต้นทุน) สอนงาน:
    นายจ้าง 92% พบว่าพนักงานใหม่ที่มี Micro-credential ตรงสายงาน จะเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนการฝึกอบรมภายใน
    -ทักษะการสื่อสารยังคงสำคัญ:
    นอกจากทักษะเฉพาะทาง นายจ้างไทยยังเน้น "การสื่อสารทางธุรกิจ" ที่ดี เพราะต่อให้เก่งเทคโนโลยีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง งานก็เดินต่อลำบาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว

    ประโยชน์โดยตรงต่อคนทำงานอย่างคุณ
    -เพิ่มโอกาสได้งานและเงินเดือน:
    ชัดเจนจากข้อมูลว่า Micro-credential ช่วยให้คุณได้เปรียบทั้งตอนสมัครงานและตอนต่อรองเงินเดือน
    -พัฒนาทักษะแบบเร่งรัด ตรงเป้า:
    เลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ หรือสิ่งที่จำเป็นต่องานในปัจจุบัน/อนาคต ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย
    -เรียนรู้ได้ตามสไตล์คุณ:
    ไม่ว่าจะเป็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ หรือตอนพักเที่ยง ก็สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้เอง
    -สร้างความมั่นใจ:
    การมีใบรับรองทักษะใหม่ๆ เพิ่มความมั่นใจในการทำงานและการนำเสนอตัวเอง
    -เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่:
    อยากลองเปลี่ยนสายงาน? Micro-credential ช่วยปูพื้นฐานทักษะที่จำเป็นให้คุณได้

    Micro-credential: เครื่องมือจัดการเส้นทางอาชีพเชิงรุก
    ในฐานะคนทำงาน การมองหา Micro-credential ไม่ใช่แค่การเรียนเพิ่ม แต่คือการ "บริหารจัดการเส้นทางอาชีพ" ของคุณในเชิงรุก:
    -รักษาความสดใหม่:
    ทำให้โปรไฟล์ของคุณทันสมัย ไม่ตกยุค
    -สร้างความแตกต่าง:
    ในสนามการแข่งขันที่รุนแรง ทักษะเฉพาะทางคือสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร
    -ลงทุนในตัวเอง:
    เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อโอกาสและความก้าวหน้าในระยะยาว

    สถิติยืนยัน Micro-credential คือ Game Changer ของคนทำงาน
    ข้อมูลเชิงลึกจาก Coursera ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Micro-credential ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนายจ้างในประเทศไทย สถิติที่น่าทึ่ง เช่น 98% ของนายจ้างมองว่าช่วยเสริมแกร่งใบสมัคร, 97% ยินดีจ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีหน่วยกิตนี้, และความต้องการที่พุ่งสูงถึง 95-98% สำหรับผู้มีทักษะ GenAI หรือหน่วยกิตเทียบโอนได้ ล้วนชี้ให้เห็นว่า การมี Micro-credential สามารถสร้างความได้เปรียบที่จับต้องได้ทั้งในแง่โอกาสการจ้างงานและผลตอบแทน

    การมุ่งมั่นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดการทำงานยุคใหม่ที่ต้องกล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนทำงานที่ต้องการเสริมสร้างทัศนคติแบบ "ล้มให้เร็ว สำเร็จให้ไวขึ้น" เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพ การศึกษาแนวคิดเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อย่างหนังสือ "Fail Fast Succeed More: ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" โดย 10X Consulting ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองได้อย่างน่าสนใจครับ

    www.10-xconsulting.com
    Micro-credential: อาวุธลับอัปสกิล เพิ่มแต้มต่อให้คนทำงานยุคดิจิทัล รายงานล่าสุดจาก Coursera Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ในโลกการทำงานปัจจุบันที่หมุนเร็วตามเทคโนโลยีดิจิทัล การหยุดนิ่งอยู่กับที่เท่ากับถอยหลัง คนทำงานอย่างเราๆ ต่างต้องเผชิญกับความท้าทายในการรักษาความสามารถในการแข่งขันและสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงนี้ "Micro-credential" หรือ "หน่วยกิตย่อย" ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คุณอัปเดตทักษะได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด เพิ่มโอกาสให้คุณโดดเด่นในตลาดแรงงาน Micro-credential คืออะไร? (ฉบับคนทำงาน) ลองนึกภาพการเข้าคอร์สออนไลน์สั้นๆ หลังเลิกงาน หรือในวันหยุดสุดสัปดาห์ เพื่อเรียนรู้ทักษะใหม่ที่กำลังเป็นที่ต้องการ เช่น การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) การตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) หรือแม้แต่ทักษะเฉพาะทางอย่าง Generative AI (GenAI) เมื่อเรียนจบและผ่านการวัดผล คุณจะได้รับใบรับรองหรือสัญลักษณ์ดิจิทัล (Badge) ที่ใช้ยืนยันกับหัวหน้า เพื่อนร่วมงาน หรือบริษัทใหม่ได้ว่า "ฉันมีทักษะนี้จริง" นี่แหละครับคือ Micro-credential – หลักสูตรเข้มข้น ยืดหยุ่น ใช้เวลาไม่นาน และเน้นทักษะที่เอาไปใช้งานได้ทันที ตอบโจทย์คนทำงานที่มีเวลาน้อยแต่อยากพัฒนาตัวเอง ทำไม Micro-credential ถึงสำคัญต่อเส้นทางอาชีพของคุณ? -ทันโลก ทันเกม: ช่วยให้คุณตามทันเทรนด์และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงลักษณะงานของคุณ ทำให้คุณยังคงเป็นที่ต้องการขององค์กร -ปิดจุดอ่อน เติมจุดแข็ง: รู้สึกว่าตัวเองขาดทักษะไหน หรืออยากเสริมความเชี่ยวชาญด้านใด ก็เลือกเรียนเพิ่มเติมได้ตรงประเด็น ไม่ต้องเสียเวลากับหลักสูตรยาวๆ -สร้างความคล่องตัว (Career Agility): เพิ่มทางเลือกให้คุณสามารถปรับเปลี่ยนบทบาทหน้าที่ หรือแม้กระทั่งเปลี่ยนสายงานได้ง่ายขึ้นในอนาคต -แสดงความมุ่งมั่น: การมี Micro-credential บ่งบอกว่าคุณเป็นคนที่ไม่หยุดเรียนรู้และกระตือรือร้นที่จะพัฒนาตัวเอง ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่นายจ้างมองหา มุมมองจากฝั่งนายจ้าง: ทำไมบริษัทถึงมองหาคนที่มี Micro-credential? การเข้าใจว่านายจ้างคิดอย่างไรจะช่วยให้คุณวางแผนพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้น รายงานล่าสุดจาก Coursera (Micro-Credentials Impact Report 2025 - Thailand) ให้ข้อมูลที่น่าสนใจมากครับ: -โปรไฟล์โดดเด่น: นายจ้างไทยถึง 98% มองว่า Micro-credential ทำให้เรซูเม่ของคุณน่าสนใจขึ้นอย่างเห็นได้ชัด -ตัดสินใจจ้างง่ายขึ้น: 95% ของนายจ้างมีการจ้างงานคนที่มี Micro-credential อย่างน้อยหนึ่งใบในปีที่ผ่านมา -ต่อรองเงินเดือนได้เปรียบ: 97% ยินดีเสนอเงินเดือนเริ่มต้นสูงขึ้นให้คนที่มี Micro-credential โดยเฉพาะสาย GenAI หรือหน่วยกิตที่เทียบโอนได้ (Credit-bearing) ทักษะเฉพาะทางคือแต้มต่อสำคัญ: นายจ้าง 98% มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีทักษะ GenAI มากกว่าคนที่ไม่มี ถึงขั้นที่ 95% อาจยอมเลือกคนประสบการณ์น้อยกว่าแต่มีใบรับรอง GenAI มากกว่าคนเก๋าเกมแต่ขาดทักษะนี้! และ 98% ก็มีแนวโน้มจะเลือกคนที่มีหน่วยกิตเทียบโอนได้ มากกว่าคนที่ไม่มีเช่นกัน -ลดเวลา (และต้นทุน) สอนงาน: นายจ้าง 92% พบว่าพนักงานใหม่ที่มี Micro-credential ตรงสายงาน จะเรียนรู้งานได้เร็วขึ้น ช่วยประหยัดต้นทุนการฝึกอบรมภายใน -ทักษะการสื่อสารยังคงสำคัญ: นอกจากทักษะเฉพาะทาง นายจ้างไทยยังเน้น "การสื่อสารทางธุรกิจ" ที่ดี เพราะต่อให้เก่งเทคโนโลยีแค่ไหน ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่อง งานก็เดินต่อลำบาก โดยเฉพาะในธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว ประโยชน์โดยตรงต่อคนทำงานอย่างคุณ -เพิ่มโอกาสได้งานและเงินเดือน: ชัดเจนจากข้อมูลว่า Micro-credential ช่วยให้คุณได้เปรียบทั้งตอนสมัครงานและตอนต่อรองเงินเดือน -พัฒนาทักษะแบบเร่งรัด ตรงเป้า: เลือกเรียนเฉพาะสิ่งที่คุณต้องการ หรือสิ่งที่จำเป็นต่องานในปัจจุบัน/อนาคต ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย -เรียนรู้ได้ตามสไตล์คุณ: ไม่ว่าจะเป็นหลังเลิกงาน เสาร์อาทิตย์ หรือตอนพักเที่ยง ก็สามารถจัดสรรเวลาเรียนได้เอง -สร้างความมั่นใจ: การมีใบรับรองทักษะใหม่ๆ เพิ่มความมั่นใจในการทำงานและการนำเสนอตัวเอง -เป็นใบเบิกทางสู่บทบาทใหม่: อยากลองเปลี่ยนสายงาน? Micro-credential ช่วยปูพื้นฐานทักษะที่จำเป็นให้คุณได้ Micro-credential: เครื่องมือจัดการเส้นทางอาชีพเชิงรุก ในฐานะคนทำงาน การมองหา Micro-credential ไม่ใช่แค่การเรียนเพิ่ม แต่คือการ "บริหารจัดการเส้นทางอาชีพ" ของคุณในเชิงรุก: -รักษาความสดใหม่: ทำให้โปรไฟล์ของคุณทันสมัย ไม่ตกยุค -สร้างความแตกต่าง: ในสนามการแข่งขันที่รุนแรง ทักษะเฉพาะทางคือสิ่งที่ทำให้คุณไม่เหมือนใคร -ลงทุนในตัวเอง: เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อโอกาสและความก้าวหน้าในระยะยาว สถิติยืนยัน Micro-credential คือ Game Changer ของคนทำงาน ข้อมูลเชิงลึกจาก Coursera ตอกย้ำอย่างชัดเจนว่า Micro-credential ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนายจ้างในประเทศไทย สถิติที่น่าทึ่ง เช่น 98% ของนายจ้างมองว่าช่วยเสริมแกร่งใบสมัคร, 97% ยินดีจ่ายสูงขึ้นสำหรับผู้มีหน่วยกิตนี้, และความต้องการที่พุ่งสูงถึง 95-98% สำหรับผู้มีทักษะ GenAI หรือหน่วยกิตเทียบโอนได้ ล้วนชี้ให้เห็นว่า การมี Micro-credential สามารถสร้างความได้เปรียบที่จับต้องได้ทั้งในแง่โอกาสการจ้างงานและผลตอบแทน การมุ่งมั่นพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องเช่นนี้ สอดคล้องกับแนวคิดการทำงานยุคใหม่ที่ต้องกล้าลอง กล้าเผชิญความท้าทาย และเรียนรู้จากประสบการณ์อย่างรวดเร็ว สำหรับคนทำงานที่ต้องการเสริมสร้างทัศนคติแบบ "ล้มให้เร็ว สำเร็จให้ไวขึ้น" เพื่อขับเคลื่อนเส้นทางอาชีพ การศึกษาแนวคิดเพิ่มเติมจากแหล่งความรู้อย่างหนังสือ "Fail Fast Succeed More: ล้มให้เร็ว สำเร็จให้สุด" โดย 10X Consulting ก็อาจเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเปิดมุมมองและสร้างแรงบันดาลใจในการพัฒนาตนเองได้อย่างน่าสนใจครับ www.10-xconsulting.com
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 83 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging Choawalit Chotwattanaphong หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ Choawalit Chotwattanaphong https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/
    จากนักวิจัย AI ไทยที่ MIT ถึงบอร์ด AI เเห่งชาติ:ในฐานะที่พีพีเป็นนักวิจัย AI จากประเทศไทยที่ทำวิจัยใน frontier ของ Human-AI Interaction ที่ MIT เเละมีโอกาสร่วมมือกับบริษัทเเละสถาบัน AI ชั้นนำหลายๆที่ พีพีคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์ที่จะนำประสบการณ์เเละสิ่งที่ตัวเองได้เรียนรู้เขียนออกมาเป็นไอเดียเผื่อจะเป็นประโยชน์กับบอร์ด AI เเห่งชาติ การที่รัฐบาลที่เล็งเห็นความสำคัญของ AI ในประเทศไทยเเละได้ตั้งบอร์ด AI เเห่งชาติ ซึ่งเป็นก้าวเเรกที่สำคัญมากๆ พีพีเลยอยากเเชร์มุมมองของ AI ในอนาคตจากในฝั่งงานวิจัย การศึกษา เเละชวนให้เห็นถึงคนไทยเก่งๆ ที่น่าจะช่วยกันสร้างอนาคตได้ครับ1) เราควรมอง AI อย่างไรในอนาคต?โดยส่วนตัวมองว่าพลังของ AI ไม่ใช่ตัวมันเองเเต่คือการที่ AI ไปเชื่อมกับสิ่งต่างๆ เเบบเดียวกับที่ internet หรือ social media กลายไปเป็น platform ที่อยู่ตรงกลางระหว่างมนุษย์กับ reality AI จะมีบทบาทอยู่เบื้องหลังอาหารที่เรากิน คนที่เราคบ สิ่งที่เราเสพ ความเชื่อที่เราเชื่อ ดังนั้นเราต้องตั้งคำถามว่าเราจะออกเเบบ AI ที่เป็นตัวบงการประสบการณ์ของมนุษย์เเบบไหน? เราต้องมอง AI ไม่ใช่เเค่โครงสร้างพื้นฐานอย่าง server หรือ data center เเต่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของประสบการณ์ความเป็นมนุษย์ การมองเเบบนี้ทำให้เราต้องตั้งคำถามกับ AI ในมิติที่มากกว่าเเค่ “Artificial Intelligence” เเต่รวมไปถึง: AI ในฐานะ "Augmented Intuition” หรือ สัญชาติญาณใหม่ของมนุษย์ ที่อาจจะทำให้มนุษย์คิดได้ไกลขึ้นหรือเเคบลงขึ้นอยู่กับการออกเเบบวิธีการที่มนุษย์สัมพันกับ AI ตัวอย่าง เช่น งานวิจัยที่พีพีทำที่ MIT ใน project “Wearable Reasoner” ซึ่งเป็น AI ที่กระตุ้น critical thinking ของคนเวลาเจอข้อมูลต่างๆ ผ่านกระบวนการ nudging [1] หรือ AI ในฐานะ "Addictive Intelligence” หรือสิ่งเสพติดที่รู้จักมนุษย์คนนั้นดีกว่าตัวเค้าเอง เช่น AI companion ที่ถูกออกเเบบมาเเทนที่ความสัมพันธ์มนุษย์ เป็น romance scammer เเบบใหม่ที่อันตรายมาก [2] ซึ่งเป็นหัวข้อที่ทั่วโลกให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ โดยล่าสุด OpenAI ได้ทำวิจัยร่วมกับ MIT ในการศึกษาผลกระทบของเทคโนโลยีนี้ในวงกว้าง [3]เเละ AI ในฐานะ “Algorithmic Inequality” หรือตัวเร่งความเหลื่อมล้ำในสังคม งานวิจัยของ ดร Nattavudh Powdthavee โชว์ให้เห็นว่าในไทย AI คัดเลือกคนเข้าทำงานจากนามสกุลเเทนที่จะเป็นความสามารถซึ่งจะทำให้ช่องว่างระหว่างชนชั้นกว้างขึ้นเรื่อยๆ [4]ดังนั้นเวลาเรามอง AI เราต้องมองให้ไกลว่าเทคโนโลยี หรือ ธุรกิจเเต่มองให้เห็นผลกระทบต่อประสบการณ์ของมนุษย์ในหลายๆมิติ โดยเฉพาะมิติทางการศึกษาที่จะเป็นรากฐานของประเทศ2) เราควรออกเเบบการศึกษาในยุค AI อย่างไร?การที่หลายประเทศเข้าถึง internet ได้เเต่ไม่ได้ทำให้ทุกประเทศพัฒนาเท่ากัน ส่วนนึงเป็นเพราะผลลัพธ์ของเทคโนโลยีขึ้นกับวิธีที่คนใช้ด้วย ดังนั้น AI จะทำให้คนมีศักยภาพมากขึ้นหรือน้อยลงขึ้นกับ HI หรือ Human Intelligence ด้วย การศึกษาในยุค AI ควรมองไปไกลกว่าเเค่การใช้เป็น หรือ การสร้างคนเข้าสู่อุตสาหกรรม เพราะเครื่องมือเหล่านี้จะเปลี่ยนเร็วขึ้นเรื่อยๆ เเละอุตสาหกรรมวันนี้จะไม่ใช่อุตสาหกรรมในวันข้างหน้า Steve Jobs เคยกล่าวว่า technology is a bicycle for the mind ทุกๆเครื่องมือคือสิ่งที่สมองขับเคลื่อนไปเร็วขึ้น สิ่งที่เราต้องช่วยให้เด็กๆได้ขบคิดคือเค้าจะจะขับ AI ไปไหน เเละขับอย่างไรไม่ให้ชน การศึกษาในอนาคตในยุคที่ AI ทำให้เด็กๆเป็น “Cyborg Generation” คือคนที่ความคิดเชื่อมต่อกับเทคโนโลยีตลอดเวลา เราควร focus ที่การทำให้เด็กๆมีความเป็นมนุษย์ รู้จักตัวเองมี meta-cognitive thinking คือคิดเกี่ยวกับการคิดได้ลึกซึ้งขึ้น เข้าใจว่าสิ่งภายนอกส่งผลกับความรู้สึกภายในอย่างไร เเละมีความกล้าที่จะนำความคิดนั้นออกมาเเสดงออกอย่างสร้างสรรค์ สิ่งนี้เเทบจะไม่เกี่ยวกับ AI เลยเเต่จะเป็นพื้นฐานให้เค้ารับมือกับโลกที่เปลี่ยนไปได้ เมื่อโตขึ้นเราควรส่งเสริมให้เด็กๆ มองเห็นศักยภาพตัวเองกับโจทย์ที่ท้าทาย ซึ่งโจทย์เหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น climate change, ความเหลื่อมล้ำ, ปัญหาต่างๆจะไม่เเก้ตัวเอง เเละ AI ก็จะไม่เเก้สิ่งนี้ด้วยตัวมันเอง เราไม่ควรให้เด็กมองตัวเองผ่านอาชีพเเคบๆ ว่าเป็นหมอ วิศวะ หรืออะไรก็เเล้วเเต่ เเต่มองเป็นคนที่มีศักยภาพที่สามารถจะใช้เครื่องมือขยายศักยภาพตัวเองไปเเก้ปัญหาใหญ่ๆ เเละสร้างสิ่งที่มีคุณค่าได้ สิ่งสุดท้ายเลยคือเราต้องช่วยให้เด็กๆ ไม่ติดกับดักใหม่ๆที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสพติด AI ที่ถูกออกเเบบมาให้มีความเสพติดมากขึ้น หรือ การรู้สึกหมดพลังเพราะเก่งไม่เท่ากับ AI เราต้องสร้าง narrative ใหม่ที่ช่วยให้เด็กรู้ทันกับความท้าทายในวันข้างหน้า3) ทิศทางของ AI ในอนาคต เเละไทย?เมื่อมองภาพใหญ่กว่านั้นว่าสิ่งที่จะเป็น next frontier ของ AI คืออะไร หลายๆคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องของ agent หรือ physical AI เเต่โดยส่วนตัวคิดว่าทั้ง agent หรือ physical AI เป็นปลายทาง สิ่งที่พื้นฐานที่สุดคือเรื่องของ mechanistic interpretability [5] หรือการพยายามเข้าใจ AI ลงไปในระดับกลไกผ่านการศึกษา cluster ของ neural networks ใน large models ซึ่งพีพีคิดว่าสิ่งนี้สำคัญเพราะไม่ใช่เเค่เราจะเข้าใจ model มากขึ้นเเต่จะทำให้เราควบคุมโมเดลได้ดีขึ้นด้วย เช่น ถ้าเรารู้ว่า cluster ทำหน้าทีอะไร เราก็จะเช็คได้ว่ามี cluster ของ neurons ไม่พึงประสงค์ทำงานรึเปล่า (อาจจะลด hallucination ได้) หรือ เราสามารถปิด neuron cluster ในส่วนที่ไม่จำเป็นออกได้จะทำให้ลดทรัพยากรณ์เเละนำมาสู่ model ขนาดเล็กที่เป็นมิตรกับสิ่งเเวดล้อมขึ้นได้ นี่คือเหตุผลว่าตอนนี้ยักใหญ่ในวงการ AI หลายๆที่เเข่งกันทำ interpretability เพราะมันจะลด lost, เพิ่ม trust, เเละ robutness ได้ อย่างที่ CEO ของ Anthropic ประกาศว่าจะต้องเปิด blackbox ของ AI ให้ได้ภายในปี 2027 [6]ในไทยการวิจัยด้านนี้อาจจะทำได้ยากเพราะต้องการ compute มหาศาล เเละโจทย์นี้เป็นโจทย์ใหญ่ของระดับโลก ดังนั้นสิ่งที่เราควรสนใจอาจจะเป็นเรื่องของ research เเละ innovation ที่ connect AI เพื่อเข้ามา enhance อุตสาหกรรมไทยให้มีมูลค่าสูงขึ้นผ่าน network ของ AI services ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการท่องเที่ยว หรือ อาหาร วัฒนธรรม เเละ creative industry โดยสิ่งที่เราต้องทำคือต้องคิดเเตกต่างเเละไม่ยึดกับ AI เเบบเดิมๆที่เป็นมาพีพีได้รับเชิญจากทั้งรัฐบาลเเละเอกชนให้ไปเเชร์งานวิจัยเกี่ยวกับ Human-AI Interaction ที่เกาหลี 3 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งมีความตื่นตัวเรื่อง AI กับ creative industry มาก ครั้งเเรกเป็นงานของรัฐบาลที่ focus เรื่อง AI & cultural innovation เเละอีกสองครั้งเป็นงานของ Busan International Fim Festival เเละ Busan AI Fim Festival ซึ่งทำให้เห็นว่าเกาหลีมองเรื่องของ AI ในฐานะ creative medium เเบบใหม่ที่จะสร้างงานสร้างสรรค์เเบบที่เราไม่เคยเห็นมาก่อน (ไม่ใช่เเค่การเอา AI มาเเทนที่สื่อเเบบเดิม) เช่นการสร้าง interactive cinema ที่ทำให้ character ในภาพยนต์หรือ series ออกมาอยู่ในโลกจริงร่วมกับคนดูได้ เเถมยังกลายเป็น interfaces ที่ช่วยขายสินค้าเเละวัฒนธรรมเกาหลีได้อีก นี่เป็นตัวอย่างของการมอง AI เเละ network ของ AI เป็น infrastructure ที่ connect กับวัฒนธรรมเเละ soft power ได้ครับในไทยเองก็มีโปรเจคที่พีพีเกี่ยวข้องอยู่อย่าง Cyber Subin กับพี่ Pichet Klunchun [7] ที่พยายามใช้ AI ถอดรหัสวัฒนธรรมไทยออกมาซึ่งถูกเชิญไปนำเสนอเเละโชว์ทั่วโลกในฐานะงาน AI ที่เชื่อมโยงกับการสร้างศิลปะเเละวัฒนธรรมเเบบใหม่ ดังนั้นพีพีโดยส่วนตัวค่อนข้าง optimistic ว่าไทยสามารถมีบทบาทต่อวงการ AI โลกเเละสร้างมูลค่าให้เกิดขึ้นได้ในประเทศได้ถ้าได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้อง เพราะไทยมีคนไทยเก่งๆ อีกมากมายที่อยู่เบื้องหลังวงการ AI ระดับโลกอย่าง ดร Supasorn Aek Suwajanakorn ที่เป็น pioneer ของ generative AI คนเเรกๆของโลก มี TED talk ที่คนดูเป็นล้าน [8] หรือ วีระ บุญจริง ที่เป็นคนอยู่เบื้องหลัง Siri ที่กลายมาเป็น conversational AI ที่มีคนใช้ทั่วโลกอย่าง Apple [9] ล่าสุดพีพีไปงานประชุม Human-Computer Interaction ที่สำคัญที่สุดในสาขาเจอคนไทยเก่งๆ หลายคนที่อยู่ทั่วโลก หรือ ในภาคเอกชนก็คนเก่งๆ มากมายอย่างพี่ผลักดันวงการ AI ใน industry ของไทย ดังนั้นก็อยากฝากไปถึงบอร์ด AI เเห่งชาตินะครับว่าประเทศไทยจะมีอนาคตทางด้าน AI ได้เเน่ๆ ถ้าเรามอง AI ให้ครบทุกมิติ ออกเเบบการศึกษาในยุค AI เเบบ all of education เเละ education for all เเละรวมพลังเอาคนเก่งๆ มาช่วยกันครับ คิดว่าสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำถ้าตั้งใจให้เกิด impact จริงๆ เชื่อว่าจะพลิกประเทศไทยได้ครับ เพราะคำว่า Th[AI]land จะขาด AI ไปไม่ได้ครับ เป็นกำลังใจให้ครับ [1] https://www.media.mit.edu/projects/wearable-reasoner/overview/[2] https://mit-serc.pubpub.org/pub/iopjyxcx/release/2[3] https://openai.com/index/affective-use-study/[4] https://ui.adsabs.harvard.edu/abs/2025arXiv250119407P/abstract[5] https://www.neelnanda.io/mechanistic-interpretability/glossary[6] https://techsauce.co/news/anthropic-aims-to-unlock-ai-black-box-by-2027[7] https://cybersubin.media.mit.edu/[8] https://www.ted.com/speakers/supasorn_suwajanakorn[9] https://www.salika.co/2018/10/16/siri-artificial-intelligence-thai-owned/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โคราช ติดตามแผนพัฒนาจังหวัดและการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล
    .
    วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ปัญหาภัยแล้ง และการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา และการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีม โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รายงานโครงการที่จังหวัดนครราชสีมา เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี
    .
    ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 4 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 27,803,425 บาท ประกอบด้วย
    1.โครงการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตถนนสาย แยก ทล.2-บ้านซัยตะเคียน ม.13 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 13,520,000 บาท
    2.โครงการผันน้ำผิวดินจากอ่างขุนนิยมเข้าบ่อกักเก็บน้ำหมู่บ้านภายในตำบลหนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,400,000 บาท
    3.โครงการ 1 ตำบล 1 แปลง ต้นแบบการบริหารจัดการโรคใบด่างมันสำปะหลัง จ.นครราชสีมา วงเงิน 6,883,425 บาท และ
    4.โครงการปรับปรุงถนนซ่อมสร้างผิวแอสฟัลต์คอนกรีต สายบ้านหนองม่วง ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระยะทาง 0.725 กม. วงเงิน 3,000,000 บาท
    .
    นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานแผนงานตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าในการดำเนินงาน KORAT MICE CITY และมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572 ความคืบหน้าการดำเนินงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ความคืบหน้าการพัฒนา ท่าเรือบกโคราช การบริหารจัดการท่าอากาศยานนครราชสีมา และความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้าง SKY WALK เพื่อส่งเสริมให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรรมชาติ ต่อไป
    รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่โคราช ติดตามแผนพัฒนาจังหวัดและการดำเนินงานตามนโยบายของรัฐบาล . วันนี้ (3 พฤษภาคม 2568) ณ ห้องประชุม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นประธานในการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำ ปัญหาภัยแล้ง และการดำเนินงานตามแผนพัฒนาจังหวัดนครราชสีมา และการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่จังหวัดนครราชสีม โดยมีนายสมเกียรติ วิริยะกุลนันท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา รายงานโครงการที่จังหวัดนครราชสีมา เสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ 2568 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นของรองนายกรัฐมนตรี . ซึ่งจังหวัดนครราชสีมา มีโครงการขอรับการสนับสนุนงบประมาณ ทั้งสิ้น จำนวน 4 โครงการ งบประมาณทั้งสิ้น 27,803,425 บาท ประกอบด้วย 1.โครงการปรับปรุงซ่อมแซมสร้างผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีตถนนสาย แยก ทล.2-บ้านซัยตะเคียน ม.13 ต.ลาดบัวขาว อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 13,520,000 บาท 2.โครงการผันน้ำผิวดินจากอ่างขุนนิยมเข้าบ่อกักเก็บน้ำหมู่บ้านภายในตำบลหนองน้ำใส อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา วงเงิน 4,400,000 บาท 3.โครงการ 1 ตำบล 1 แปลง ต้นแบบการบริหารจัดการโรคใบด่างมันสำปะหลัง จ.นครราชสีมา วงเงิน 6,883,425 บาท และ 4.โครงการปรับปรุงถนนซ่อมสร้างผิวแอสฟัลต์คอนกรีต สายบ้านหนองม่วง ต.มะเกลือเก่า อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ระยะทาง 0.725 กม. วงเงิน 3,000,000 บาท . นอกจากนี้ยังได้มีการรายงานแผนงานตามนโยบายของรัฐบาลไม่ว่าจะเป็นความคืบหน้าในการดำเนินงาน KORAT MICE CITY และมหกรรมพืชสวนโลก นครราชสีมา 2572 ความคืบหน้าการดำเนินงานการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ความคืบหน้าการพัฒนา ท่าเรือบกโคราช การบริหารจัดการท่าอากาศยานนครราชสีมา และความคืบหน้าการดำเนินการก่อสร้าง SKY WALK เพื่อส่งเสริมให้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและธรรมชาติ ต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.119 : สัญญาณอันตราย “ท่องเที่ยวไทย” กำลังแพ้ “เวียดนาม” ?
    .
    การท่องเที่ยวของประเทศไทยเรา กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเมืองไทยลดลงถึง 17% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จนทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องปรับลดเป้าหมาย รายได้รวมจากการท่องเที่ยวในปีนี้เหลือ 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวคนไทย 1 ล้านล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 3.5 ล้านล้านบาท
    .
    หลายคนอาจจะมองว่า สาเหตุที่ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ลดลง เป็นเพราะบรรยากาศทางเศรษฐกิจ ที่มีแนวโน้มไม่ดีนักจาก “สงครามการค้า” ทำให้ผู้คนระมัดระวังในการใช้จ่าย ซึ่งก็เป็นความจริงแค่เพียงส่วนจึงเท่านั้นครับ เพราะว่าขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาบ้านเราลดน้อยอย่างมากนั้น แต่ประเทศอื่น ๆ กลับมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยประเทศที่กำลังเป็นดาวรุ่งก็คือ เพื่อนบ้านอาเซียนของเราอย่าง “ประเทศเวียดนาม” ...
    .
    คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=ELYWSJ8Qegs
    .
    #บูรพาไม่แพ้ #การท่องเที่ยวไทย #การท่องเที่ยวเวียดนาม #เวียดนาม
    บูรพาไม่แพ้ Ep.119 : สัญญาณอันตราย “ท่องเที่ยวไทย” กำลังแพ้ “เวียดนาม” ? . การท่องเที่ยวของประเทศไทยเรา กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งสำคัญ จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเมืองไทยลดลงถึง 17% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว จนทำให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ต้องปรับลดเป้าหมาย รายได้รวมจากการท่องเที่ยวในปีนี้เหลือ 3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 2 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวคนไทย 1 ล้านล้านบาท ลดลงจากเป้าหมายเดิมที่เคยตั้งไว้ที่ 3.5 ล้านล้านบาท . หลายคนอาจจะมองว่า สาเหตุที่ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ลดลง เป็นเพราะบรรยากาศทางเศรษฐกิจ ที่มีแนวโน้มไม่ดีนักจาก “สงครามการค้า” ทำให้ผู้คนระมัดระวังในการใช้จ่าย ซึ่งก็เป็นความจริงแค่เพียงส่วนจึงเท่านั้นครับ เพราะว่าขณะที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาบ้านเราลดน้อยอย่างมากนั้น แต่ประเทศอื่น ๆ กลับมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น โดยประเทศที่กำลังเป็นดาวรุ่งก็คือ เพื่อนบ้านอาเซียนของเราอย่าง “ประเทศเวียดนาม” ... . คลิกฟัง >> https://www.youtube.com/watch?v=ELYWSJ8Qegs . #บูรพาไม่แพ้ #การท่องเที่ยวไทย #การท่องเที่ยวเวียดนาม #เวียดนาม
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามนำเข้าสินค้าที่ผลิตหรือขนส่งผ่านปากีสถาน ท่ามกลางความสัมพันธ์การทูตระหว่าง 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์เพื่อนบ้านที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรงจากเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในดินแดนแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย

    กรมการค้าต่างประเทศของอินเดีย (Directorate General of Foreign Trade – DGFT) ระบุในคำประกาศว่า มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ในทันที

    “ข้อจำกัดนี้ถูกบังคับใช้เพื่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติและนโยบายสาธารณะ” DGFT ระบุ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/around/detail/9680000041498

    #MGROnline #รัฐบาลอินเดีย
    รัฐบาลอินเดียประกาศห้ามนำเข้าสินค้าที่ผลิตหรือขนส่งผ่านปากีสถาน ท่ามกลางความสัมพันธ์การทูตระหว่าง 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์เพื่อนบ้านที่ตกต่ำลงอย่างรุนแรงจากเหตุกราดยิงนักท่องเที่ยวในดินแดนแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย • กรมการค้าต่างประเทศของอินเดีย (Directorate General of Foreign Trade – DGFT) ระบุในคำประกาศว่า มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ในทันที • “ข้อจำกัดนี้ถูกบังคับใช้เพื่อผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของชาติและนโยบายสาธารณะ” DGFT ระบุ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/around/detail/9680000041498 • #MGROnline #รัฐบาลอินเดีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.119 : สัญญาณอันตราย “ท่องเที่ยวไทย” กำลังแพ้ “เวียดนาม” ?

    https://www.youtube.com/watch?v=ELYWSJ8Qegs
    บูรพาไม่แพ้ Ep.119 : สัญญาณอันตราย “ท่องเที่ยวไทย” กำลังแพ้ “เวียดนาม” ? https://www.youtube.com/watch?v=ELYWSJ8Qegs
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • สัปดาห์ที่แล้วเปรียบเทียบสิทธิของภรรยาเอกและอนุภรรยาโดยยกตัวอย่างจากละคร <ร้อยรักปักดวงใจ> วันนี้มาคุยกันต่อว่าจีนโบราณแบ่งแยกเมียหลวงและเมียน้อยเป็นกี่ประเภท

    ก่อนอื่น พูดกันถึงภรรยาเอก ตามที่ Storyฯ เล่าไปสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนสมัยราชวงศ์ชิงนั้น กฎหมายกำหนดให้มีภรรยาเอกได้คนเดียว และจำนวนอนุภรรยานั้นเป็นไปตามบรรดาศักดิ์ของผู้ชาย ภรรยาเอกนี้มีชื่อเรียกหลายอย่างเช่น เจิ้งชี (ภรรยาหลัก) เจี๋ยฟ่าชี (ภรรยาผูกปมผม) หยวนเพ่ยชี (ภรรยาดั้งเดิม) เจิ้งฝาง (ห้องหลัก) ฯลฯ หากภรรยาเอกเสียชีวิตไปแล้วจึงจะสามารถแต่งภรรยาเอกเข้ามาใหม่ได้อีกคน ภรรยาทดแทนคนนี้เรียกว่า ‘จี้ซื่อ’ (继室 แปลตรงตัวว่า สืบทอด+ห้อง) ตามธรรมเนียมแล้ว คนที่กราบไหว้ฟ้าดินด้วยกันมีเพียงภรรยาเอกเท่านั้น

    ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงมีธรรมเนียมที่ว่า หากบ้านใดไม่มีบุตรชายสืบสกุล สามารถให้หลาน (ลูกของลุงหรือน้า สกุลเดียวกัน) มาเป็นทายาทสืบสกุลตามกฎหมายได้ ดังนั้นเขามีหน้าที่สืบสกุลให้กับสองบ้านและสามารถแต่งภรรยาเอกได้สองคน เรียกว่า ‘เจี๊ยนเที้ยว’ (兼祧) และภรรยาเอกทั้งสองคนจะมีสิทธิเท่าเทียมกัน

    นอกจากกรณีข้างต้นแล้ว เมียอื่นๆ จัดเป็นเมียน้อยหมด และจัดกลุ่มได้ตามนี้
    1. กลุ่มที่หนึ่งเป็นญาติพี่น้องของภรรยาเอกที่ถูกเลือกให้ติดตามไปกับเจ้าสาวตอนแต่งเข้าไปเรือนฝ่ายชาย (หมายเหตุ คนที่ตามเจ้าสาวมาอยู่บ้านฝ่ายชายทั้งหมดเรียกว่า เผยเจี้ย /陪嫁 ซึ่งรวมถึงบ่าวไพร่) แต่เป็นกรณีที่เจ้าสาวมาจากตระกูลสูงศักดิ์ ดังนั้นอนุภรรยากลุ่มนี้จะมีสถานะสูงกว่าอนุภรรยาอื่นๆ สามารถเข้าร่วมรับประทานอาหารหรืองานเลี้ยงกับสามีได้ และอาจถูกบันทึกชื่อเข้าไปในหนังสือตระกูลของฝ่ายชายได้เพราะนางมาจากตระกูลที่สูงศักดิ์มากเช่นกัน และโดยปกติฝ่ายชายมักยกระดับขึ้นเป็นภรรยาเอกได้เมื่อภรรยาเอกคนเดิมเสียชีวิตไป ในกลุ่มนี้จำแนกได้เป็นอีกสี่แบบ (เรียงจากสูงศักดิ์ที่สุดไปต่ำ) คือ
    a. อิ้ง (媵) หรือ อิ้งเฉี้ย – เป็นพี่สาวหรือน้องสาวที่เกิดจากพ่อคนเดียวกันกับเจ้าสาว แต่เจ้าสาวมีแม่เป็นภรรยาเอกในขณะที่พี่หรือน้องสาวที่แต่งตามไปจะเกิดจากอนุภรรยาของพ่อ
    b. เช่อซึ (侧室 แปลตรงตัวว่าห้องข้าง) แตกต่างจากอิ้งเฉี้ยตรงที่ว่า เช่อซึ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสาว ไม่ใช่เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่เป็นลูกของพี่น้องของพ่อ (ถือนามสกุลเดียวกันกับเจ้าสาว)
    c. ฟู่ซึ (副室 แปลตรงตัวว่าห้องรอง) แตกต่างจากอิ้งเฉี้ยตรงที่ว่า ฟู่ซึ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสาว ไม่ใช่เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่เป็นลูกของพี่น้องของแม่ (ถือนามสกุลเดิมของแม่เจ้าสาว)
    d. เพียนซึ (偏室 แปลตรงตัวว่าห้องเบี่ยง) แตกต่างจากอิ้งเฉี้ยตรงที่ว่า เพียนซึ เป็นลูกจากอนุภรรยาในตระกูลเดิมของแม่ ใช้นามสกุลเดียวกับแม่ มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าสาวแต่จริงๆ แล้วไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับเจ้าสาวเลย
    2. กลุ่มที่สองคือ เฉี้ย (妾) หรือ เพียนฝาง (偏房) คืออนุภรรยาทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับภรรยาเอก แบ่งเป็นระดับได้อีก คือ
    a. กุ้ยเฉี้ย (贵妾) เป็นอนุที่มาจากตระกูลใหญ่หรือตระกูลขุนนางแต่อาจเป็นลูกที่เกิดจากอนุภรรยาในตระกูลนั้นๆ หากฝ่ายชายเป็นบุตรจากภรรยาเอกในตระกูลสูงศักดิ์ โดยปกตินางผู้เป็นลูกอนุจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะนั่งตำแหน่งภรรยาเอกของเขาได้
    b. เหลียงเฉี้ย (良妾) เป็นอนุที่มาจากครอบครัวชาวบ้านทั่วไป เช่น ครอบครัวค้าขายหรือชาวไร่ชาวสวน ระดับความรู้การศึกษาก็จะแตกต่างกันไป
    c. เจี้ยนเฉี้ย (贱妾) เป็นอนุที่มีชาติตระกูลหรือสถานะที่ต่ำต้อยมาก เช่น นางรำ นางคณิกา นักแสดงละคร ฯลฯ พวกนี้ส่วนใหญ่อ่านเขียนได้และมีวิชาศิลปะติดตัว
    d. เผยฝาง (陪房) หมายถึงสาวใช้ของภรรยาเอกที่ติดตามมาเป็นเผยเจี้ยและช่วยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงให้ฝ่ายชายตามคำสั่งของภรรยาเอก โดยปกติชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างดีเพราะภรรยาเอกจะส่งเสริมเพื่อให้ช่วยมัดใจสามีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีพิษมีภัยเพราะเอกสารสำหรับสัญญาซื้อขายสาวใช้คนนี้จะอยู่ในมือของภรรยาเอกเอง
    e. ซื่อเฉี้ย (侍妾) หมายถึงสาวใช้ในบ้านฝ่ายชายที่ได้เคยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแล้วถูกยกขึ้นเป็นอนุ
    f. ปี้เฉี้ย (婢妾) หมายถึงลูกของนักโทษทางการที่ถูกซื้อเข้ามาเป็นทาสในบ้านและยกขึ้นเป็นอนุ
    3. กลุ่มสุดท้ายไม่นับเป็นอนุภรรยา เป็นช่องทางที่ฝ่ายชายใช้ระบายความใคร่ได้อย่างไม่ต้องกลัวผิดกฎหมายว่าด้วยเรื่องจำนวนอนุภรรยา แบ่งได้อีกเป็น
    a. ทงฝาง (通房) คือสาวใช้ในเรือนที่ได้เคยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแต่ไม่ได้รับการยกขึ้นเป็นอนุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาวใช้ที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อ ‘เปิดประสบการณ์’ ให้แก่คุณชายในตระกูลใหญ่ที่กำลังโตขึ้นเป็นหนุ่ม
    b. ไว่ซึ (外室) หมายถึงเมียเก็บนอกบ้าน ชีวิตความเป็นอยู่อาจจะดีเพราะฝ่ายชายอาจซื้อบ้านให้อยู่มีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องมาคอยปรนนิบัติแม่สามีหรือเมียหลวง และไม่โดนโขกสับ แต่ก็คือไม่ได้ถูกรับรองเป็นอนุภรรยา บุตรที่เกิดมาก็ไม่ถูกยอมรับว่าเป็นลูกหลานของตระกูลฝ่ายชาย

    เป็นอย่างไรคะ? ซับซ้อนและแบ่งแยกไว้ละเอียดกว่าที่คิดใช่ไหม? ทีนี้เพื่อนเพจคงเข้าใจในบริบทแล้วว่า ทำไมเป็นอนุภรรยาเหมือนกันยังสามารถข่มกันได้ และทำไมการยกอนุภรรยาขึ้นเป็นภรรยาเอกหลังจากคนเดิมเสียไปจึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไม่ใช่อนุภรรยาทุกประเภทมีความพร้อมทางชาติตระกูลและการศึกษาที่จะมาปกครองเป็นนายหญิงของบ้านได้

    Storyฯ ก็ไม่แน่ใจว่าละครหรือนิยายแปลมีการแบ่งแยกในรายละเอียดหรือไม่ หากมีใครเคยผ่านหูผ่านตาก็บอกกล่าวกันได้นะคะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://www.popdaily.com.tw/forum/entertainment/935802
    https://kknews.cc/zh-cn/entertainment/x48b2bg.html
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://new.qq.com/rain/a/20200223A0A37000
    http://m.qulishi.com//article/201905/335331.html
    https://www.sohu.com/a/251827031_100152441

    #ร้อยรักปักดวงใจ #อนุภรรยา #ภรรยาเอก #หยวนเพ่ย #ภรรยาผูกปมผม #เจิ้งฝาง #จี้ซื่อ #จี้สื้อ #เชี่ยซื่อ #เชี่ยสื้อ #เฉี้ย #อิ้งเฉี้ย #เช่อซึ #ฟู่ซึ #เพียนซึ #เพียนฝาง #กุ้ยเฉี้ย #เหลียงเฉี้ย #เจี้ยนเฉี้ย #ปี้เฉี้ย #ทงฝาง #ไว่ซึ
    สัปดาห์ที่แล้วเปรียบเทียบสิทธิของภรรยาเอกและอนุภรรยาโดยยกตัวอย่างจากละคร <ร้อยรักปักดวงใจ> วันนี้มาคุยกันต่อว่าจีนโบราณแบ่งแยกเมียหลวงและเมียน้อยเป็นกี่ประเภท ก่อนอื่น พูดกันถึงภรรยาเอก ตามที่ Storyฯ เล่าไปสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนสมัยราชวงศ์ชิงนั้น กฎหมายกำหนดให้มีภรรยาเอกได้คนเดียว และจำนวนอนุภรรยานั้นเป็นไปตามบรรดาศักดิ์ของผู้ชาย ภรรยาเอกนี้มีชื่อเรียกหลายอย่างเช่น เจิ้งชี (ภรรยาหลัก) เจี๋ยฟ่าชี (ภรรยาผูกปมผม) หยวนเพ่ยชี (ภรรยาดั้งเดิม) เจิ้งฝาง (ห้องหลัก) ฯลฯ หากภรรยาเอกเสียชีวิตไปแล้วจึงจะสามารถแต่งภรรยาเอกเข้ามาใหม่ได้อีกคน ภรรยาทดแทนคนนี้เรียกว่า ‘จี้ซื่อ’ (继室 แปลตรงตัวว่า สืบทอด+ห้อง) ตามธรรมเนียมแล้ว คนที่กราบไหว้ฟ้าดินด้วยกันมีเพียงภรรยาเอกเท่านั้น ต่อมาในสมัยราชวงศ์ชิงมีธรรมเนียมที่ว่า หากบ้านใดไม่มีบุตรชายสืบสกุล สามารถให้หลาน (ลูกของลุงหรือน้า สกุลเดียวกัน) มาเป็นทายาทสืบสกุลตามกฎหมายได้ ดังนั้นเขามีหน้าที่สืบสกุลให้กับสองบ้านและสามารถแต่งภรรยาเอกได้สองคน เรียกว่า ‘เจี๊ยนเที้ยว’ (兼祧) และภรรยาเอกทั้งสองคนจะมีสิทธิเท่าเทียมกัน นอกจากกรณีข้างต้นแล้ว เมียอื่นๆ จัดเป็นเมียน้อยหมด และจัดกลุ่มได้ตามนี้ 1. กลุ่มที่หนึ่งเป็นญาติพี่น้องของภรรยาเอกที่ถูกเลือกให้ติดตามไปกับเจ้าสาวตอนแต่งเข้าไปเรือนฝ่ายชาย (หมายเหตุ คนที่ตามเจ้าสาวมาอยู่บ้านฝ่ายชายทั้งหมดเรียกว่า เผยเจี้ย /陪嫁 ซึ่งรวมถึงบ่าวไพร่) แต่เป็นกรณีที่เจ้าสาวมาจากตระกูลสูงศักดิ์ ดังนั้นอนุภรรยากลุ่มนี้จะมีสถานะสูงกว่าอนุภรรยาอื่นๆ สามารถเข้าร่วมรับประทานอาหารหรืองานเลี้ยงกับสามีได้ และอาจถูกบันทึกชื่อเข้าไปในหนังสือตระกูลของฝ่ายชายได้เพราะนางมาจากตระกูลที่สูงศักดิ์มากเช่นกัน และโดยปกติฝ่ายชายมักยกระดับขึ้นเป็นภรรยาเอกได้เมื่อภรรยาเอกคนเดิมเสียชีวิตไป ในกลุ่มนี้จำแนกได้เป็นอีกสี่แบบ (เรียงจากสูงศักดิ์ที่สุดไปต่ำ) คือ a. อิ้ง (媵) หรือ อิ้งเฉี้ย – เป็นพี่สาวหรือน้องสาวที่เกิดจากพ่อคนเดียวกันกับเจ้าสาว แต่เจ้าสาวมีแม่เป็นภรรยาเอกในขณะที่พี่หรือน้องสาวที่แต่งตามไปจะเกิดจากอนุภรรยาของพ่อ b. เช่อซึ (侧室 แปลตรงตัวว่าห้องข้าง) แตกต่างจากอิ้งเฉี้ยตรงที่ว่า เช่อซึ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสาว ไม่ใช่เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่เป็นลูกของพี่น้องของพ่อ (ถือนามสกุลเดียวกันกับเจ้าสาว) c. ฟู่ซึ (副室 แปลตรงตัวว่าห้องรอง) แตกต่างจากอิ้งเฉี้ยตรงที่ว่า ฟู่ซึ เป็นลูกพี่ลูกน้องของเจ้าสาว ไม่ใช่เป็นพี่น้องแท้ๆ แต่เป็นลูกของพี่น้องของแม่ (ถือนามสกุลเดิมของแม่เจ้าสาว) d. เพียนซึ (偏室 แปลตรงตัวว่าห้องเบี่ยง) แตกต่างจากอิ้งเฉี้ยตรงที่ว่า เพียนซึ เป็นลูกจากอนุภรรยาในตระกูลเดิมของแม่ ใช้นามสกุลเดียวกับแม่ มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับเจ้าสาวแต่จริงๆ แล้วไม่มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับเจ้าสาวเลย 2. กลุ่มที่สองคือ เฉี้ย (妾) หรือ เพียนฝาง (偏房) คืออนุภรรยาทั่วไปที่ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับภรรยาเอก แบ่งเป็นระดับได้อีก คือ a. กุ้ยเฉี้ย (贵妾) เป็นอนุที่มาจากตระกูลใหญ่หรือตระกูลขุนนางแต่อาจเป็นลูกที่เกิดจากอนุภรรยาในตระกูลนั้นๆ หากฝ่ายชายเป็นบุตรจากภรรยาเอกในตระกูลสูงศักดิ์ โดยปกตินางผู้เป็นลูกอนุจะไม่มีคุณสมบัติพอที่จะนั่งตำแหน่งภรรยาเอกของเขาได้ b. เหลียงเฉี้ย (良妾) เป็นอนุที่มาจากครอบครัวชาวบ้านทั่วไป เช่น ครอบครัวค้าขายหรือชาวไร่ชาวสวน ระดับความรู้การศึกษาก็จะแตกต่างกันไป c. เจี้ยนเฉี้ย (贱妾) เป็นอนุที่มีชาติตระกูลหรือสถานะที่ต่ำต้อยมาก เช่น นางรำ นางคณิกา นักแสดงละคร ฯลฯ พวกนี้ส่วนใหญ่อ่านเขียนได้และมีวิชาศิลปะติดตัว d. เผยฝาง (陪房) หมายถึงสาวใช้ของภรรยาเอกที่ติดตามมาเป็นเผยเจี้ยและช่วยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงให้ฝ่ายชายตามคำสั่งของภรรยาเอก โดยปกติชีวิตความเป็นอยู่ค่อนข้างดีเพราะภรรยาเอกจะส่งเสริมเพื่อให้ช่วยมัดใจสามีโดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีพิษมีภัยเพราะเอกสารสำหรับสัญญาซื้อขายสาวใช้คนนี้จะอยู่ในมือของภรรยาเอกเอง e. ซื่อเฉี้ย (侍妾) หมายถึงสาวใช้ในบ้านฝ่ายชายที่ได้เคยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแล้วถูกยกขึ้นเป็นอนุ f. ปี้เฉี้ย (婢妾) หมายถึงลูกของนักโทษทางการที่ถูกซื้อเข้ามาเป็นทาสในบ้านและยกขึ้นเป็นอนุ 3. กลุ่มสุดท้ายไม่นับเป็นอนุภรรยา เป็นช่องทางที่ฝ่ายชายใช้ระบายความใคร่ได้อย่างไม่ต้องกลัวผิดกฎหมายว่าด้วยเรื่องจำนวนอนุภรรยา แบ่งได้อีกเป็น a. ทงฝาง (通房) คือสาวใช้ในเรือนที่ได้เคยปรนนิบัติเรื่องบนเตียงแต่ไม่ได้รับการยกขึ้นเป็นอนุ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสาวใช้ที่ถูกคัดเลือกมาเพื่อ ‘เปิดประสบการณ์’ ให้แก่คุณชายในตระกูลใหญ่ที่กำลังโตขึ้นเป็นหนุ่ม b. ไว่ซึ (外室) หมายถึงเมียเก็บนอกบ้าน ชีวิตความเป็นอยู่อาจจะดีเพราะฝ่ายชายอาจซื้อบ้านให้อยู่มีคนคอยรับใช้ ไม่ต้องมาคอยปรนนิบัติแม่สามีหรือเมียหลวง และไม่โดนโขกสับ แต่ก็คือไม่ได้ถูกรับรองเป็นอนุภรรยา บุตรที่เกิดมาก็ไม่ถูกยอมรับว่าเป็นลูกหลานของตระกูลฝ่ายชาย เป็นอย่างไรคะ? ซับซ้อนและแบ่งแยกไว้ละเอียดกว่าที่คิดใช่ไหม? ทีนี้เพื่อนเพจคงเข้าใจในบริบทแล้วว่า ทำไมเป็นอนุภรรยาเหมือนกันยังสามารถข่มกันได้ และทำไมการยกอนุภรรยาขึ้นเป็นภรรยาเอกหลังจากคนเดิมเสียไปจึงเป็นเรื่องที่ยาก เพราะไม่ใช่อนุภรรยาทุกประเภทมีความพร้อมทางชาติตระกูลและการศึกษาที่จะมาปกครองเป็นนายหญิงของบ้านได้ Storyฯ ก็ไม่แน่ใจว่าละครหรือนิยายแปลมีการแบ่งแยกในรายละเอียดหรือไม่ หากมีใครเคยผ่านหูผ่านตาก็บอกกล่าวกันได้นะคะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กดติดตามกันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.popdaily.com.tw/forum/entertainment/935802 https://kknews.cc/zh-cn/entertainment/x48b2bg.html Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://new.qq.com/rain/a/20200223A0A37000 http://m.qulishi.com//article/201905/335331.html https://www.sohu.com/a/251827031_100152441 #ร้อยรักปักดวงใจ #อนุภรรยา #ภรรยาเอก #หยวนเพ่ย #ภรรยาผูกปมผม #เจิ้งฝาง #จี้ซื่อ #จี้สื้อ #เชี่ยซื่อ #เชี่ยสื้อ #เฉี้ย #อิ้งเฉี้ย #เช่อซึ #ฟู่ซึ #เพียนซึ #เพียนฝาง #กุ้ยเฉี้ย #เหลียงเฉี้ย #เจี้ยนเฉี้ย #ปี้เฉี้ย #ทงฝาง #ไว่ซึ
    WWW.POPDAILY.COM.TW
    《錦心似玉》鍾漢良、譚松韵先婚後愛!2021最甜寵的宅鬥古裝劇 | PopDaily 波波黛莉
    受封2021最甜寵宅鬥古裝劇的《錦心似玉》,改編自作者吱吱的原著小說《庶女攻略》,鍾漢良飾演的永平侯徐令宜娶了於徐家有恩的羅家嫡女羅元娘為妻,後因羅元娘死前所託續弦娶了譚松韵飾演的羅家庶女羅十一娘,自此展開一段本不相愛,因被迫成婚而先婚後愛的宅鬥古裝偶像劇。
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 254 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สมคิด" ยัน "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์" เป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร ไม่ใช่บ่อนพนัน ซัดฝ่ายค้านสร้างวาทกรรมมอมเมาประชาชน
    https://www.thai-tai.tv/news/18469/
    "สมคิด" ยัน "เอ็นเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์" เป็นแหล่งท่องเที่ยวครบวงจร ไม่ใช่บ่อนพนัน ซัดฝ่ายค้านสร้างวาทกรรมมอมเมาประชาชน https://www.thai-tai.tv/news/18469/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยว #จีน 7,555 ถูกจะล่าแบ้ 😱
    #กุ้ยหลิน ฟินฟิน 🔥

    🗓 จำนวนวัน 5 วัน 4 คืน
    ✈ GX-จีเอ็กซ์แอร์ไลน์ส
    🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐

    📍 เมืองโบราณเหยาปู่
    📍 ตึกเซียวเหยา
    📍 ถนนสามสายและสองซอย
    📍 สวนหลงถาน
    📍 เขางวงช้าง

    รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a
    ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8

    LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f
    Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663
    Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626
    Tiktok : https://78s.me/903597
    ☎️: 021166395

    #ทัวร์จีน #กุ้ยหลิน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้
    #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1
    #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    เที่ยว #จีน 7,555 ถูกจะล่าแบ้ 😱 #กุ้ยหลิน ฟินฟิน 🔥 🗓 จำนวนวัน 5 วัน 4 คืน ✈ GX-จีเอ็กซ์แอร์ไลน์ส 🏨 พักโรงแรม ⭐⭐⭐ 📍 เมืองโบราณเหยาปู่ 📍 ตึกเซียวเหยา 📍 ถนนสามสายและสองซอย 📍 สวนหลงถาน 📍 เขางวงช้าง รวมทัวร์ไฟไหม้ ทัวร์หลุดจอง โปรพักเดี่ยว ลดเยอะสุด by 21 ปี https://eTravelWay.com🔥 ⭕️ เข้ากลุ่มลับ Facebook โปรเพียบบบบ : https://78s.me/e86e1a ⭕️ เข้ากลุ่มลับ LINE openchat ทัวร์ที่หลุด คลิก https://78s.me/501ad8 LINE ID: @etravelway.fire https://78s.me/e58a3f Facebook: etravelway.fire https://78s.me/317663 Instagram: etravelway.fire https://78s.me/d43626 Tiktok : https://78s.me/903597 ☎️: 021166395 #ทัวร์จีน #กุ้ยหลิน #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 243 มุมมอง 1 0 รีวิว
  • ..มองดีๆถ้าไม่ประท้วงความซวยมาแน่นอนแก้คนทำงาน,เรียนในสถาบันรัฐแท้ๆนะ อบรมก็จบเรื่อง ใครทำงานปกติก็เทียบโอนอัตโนมัตในรุ่นยุคปัจจุบันสามารถทำงานต่อเนื่องได้เลย ตำแหน่งอัพเกรด เงินเดือนสวัสดิการอัพออโตช่วยเขา แล้วส่งเข้าฝึกอบรมฟรีๆสิโดยหน่วยงานรัฐออกค่าใช้จ่ายเพราะรัฐบาลออกการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเองโดยกระทรวงทบวงกรมตนเองด้วย,เวลาจะออกจะตีตราบังคับใช้ทำไมไม่ลงมติเห็นชอบโดยผู้ปฏิบัติงานเดิมยินยอมในร่างกฎหมายนั้นมั้ย เขียนกันเองในห้องแอร์ไม่กี่คน.
    ..กฎหมายมากมายไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ถูกเขียนออกมาเลอะเทอะมากเพื่อควบคุมคนไทยเรา,จนบ้าใบอนุญาตเพื่อเก็บตังอย่างหลากหลายใบอนุญาต,จึงจะทำอาชีพสร้างรายได้ให้ตนเองได้ ส่วนใครมีครอบครัวก็ต้องบวกการเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัวใครมันเขาอีก,แลกกับตังเงินทองในกระเป๋าตนประชาชนเพื่อให้ได้ใบอนุญาตทำตังจากรัฐบาล อนาคตคงออกใบอนาคตการมีชีวิตล่ะ,ดูคาร์บอนเครดิตสิกำลังจะใช้ควบคุมกลไกคนไทยทางชีวิตอีกตัว ,นำไปกู้ตังค้ำประกันเงินกู้ก็อ้างคาร์บอนเครดิต,ขายข้าวโดยชาวนาจะขายให้รัฐให้นายทุนก็อ้างค่าคาร์บอนเครดิต,จะทำนาต้องซื้อสิทธิคาร์บอนเครดิตเพื่อทำนาทำสวนทำไร่นะคุณท่านเธอมรึงปล่อยคาร์บอนมากน้อยเท่าไรมีเกรดตั้งประมาณรอให้แล้วต้องจ่ายเท่าไรอีก,ซื้ออะไร ทำอะไร บวกจ่ายค่าคาร์บอนเครดิตล่ะ,ไปท่องเที่ยวกี่กม.จ่ายคาร์เครดิตเท่านีัเท่านั้นนะมีเวลาเท่านี้ตามจำนวนเครดิตคาร์บอนที่มี,แบบเมือง15นาทีหรือเมืองอัจฉริยะในอนาคต ต้องออกไปเท่านั้นเท่านี้ตามคาร์บอนเครดิตที่ซื้อนะ,คาร์บอนเครดิตจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นตังแทนตังกระดาษปัจจุบัน แบบพักห้องโรงแรมนี้นั้นจ่ายค่าห้องนั่นล่ะ จ่ายเท่านี้มีสิทธิอยู่ได้กี่วัน,คาร์บอนเครดิตก็มีเวลาการใช้ของมันเพื่อทำกิจกรรมนั้นๆแบบตังดิจิดัลช่วงแลกๆมันให้ใช้ภายในรัศมีกี่กม.นั้นล่ะ จริงๆนี้ล่ะคือของจริงในการสร้างปูทางจำกัดชีวิตจำกัดขอบเขตการใช้ชีวิตจริงของคนไทย เขารับนโยบายมาจริงกะทดลองจริงในไทย ถ้าทำสำเร็จอื่นๆจะง่ายเลย กฎหมายมากมายจะลักไก่ออกมาควบคุมคนไทยอย่างบ้าคลั่ง แบบอ้างpm.2.5ห้ามชาวนาเผาทุ่งนารอทำนาในช่วงเวลาที่มันทดลองควบคุม,ผิดจับ ปรับทันที,มันทำเป็นขบวนการธรรมดาที่ไหน,วางหมากนานวางระยะยาวไว้รอและพร้อมปรับแผนเพราะคนจะคิดทัน เสียแผนและถูกเปิดโปง จริงๆต้องแถมด้วยว่า ต้องถูกกำจัดด้วย เพราะพวกมันจะมาทวนกระแสสร้างชั่วเลวไม่รู้จบแบบปัจจุบันนี้ล่ะ,จึงตัดปัญหาตัดตอนด้วยการจำกัดเลยจึงเหมาะควรมาก,เดี๋ยวสร้างโกลาหลวุ่นวายเรื่องนั้นเรื่องนี้รอบทิศทางทำลายความสงบทำลายความสุขประชาชนคนไทยเหมือนเดิมแบบเวลายุคนี้ล่ะ,นี้ชัดเจนว่าdeep stateโลกควบคุมการปกครองของไทยได้ระดับหนึ่งจากผู้นำการเลือกตั้งและพวกยกมือในสภานั้นเองโดยยึดครองหมากจากการเลือกตั้งได้.ใครจะมามันควบคุมได้หมดหรือเป็นคนของมันหมด.
    https://youtube.com/watch?v=ij09MQDAhIM&si=xEsJa4q4sbIlrnyf
    ..มองดีๆถ้าไม่ประท้วงความซวยมาแน่นอนแก้คนทำงาน,เรียนในสถาบันรัฐแท้ๆนะ อบรมก็จบเรื่อง ใครทำงานปกติก็เทียบโอนอัตโนมัตในรุ่นยุคปัจจุบันสามารถทำงานต่อเนื่องได้เลย ตำแหน่งอัพเกรด เงินเดือนสวัสดิการอัพออโตช่วยเขา แล้วส่งเข้าฝึกอบรมฟรีๆสิโดยหน่วยงานรัฐออกค่าใช้จ่ายเพราะรัฐบาลออกการเปลี่ยนแปลงกฎหมายเองโดยกระทรวงทบวงกรมตนเองด้วย,เวลาจะออกจะตีตราบังคับใช้ทำไมไม่ลงมติเห็นชอบโดยผู้ปฏิบัติงานเดิมยินยอมในร่างกฎหมายนั้นมั้ย เขียนกันเองในห้องแอร์ไม่กี่คน. ..กฎหมายมากมายไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ถูกเขียนออกมาเลอะเทอะมากเพื่อควบคุมคนไทยเรา,จนบ้าใบอนุญาตเพื่อเก็บตังอย่างหลากหลายใบอนุญาต,จึงจะทำอาชีพสร้างรายได้ให้ตนเองได้ ส่วนใครมีครอบครัวก็ต้องบวกการเลี้ยงดูคนทั้งครอบครัวใครมันเขาอีก,แลกกับตังเงินทองในกระเป๋าตนประชาชนเพื่อให้ได้ใบอนุญาตทำตังจากรัฐบาล อนาคตคงออกใบอนาคตการมีชีวิตล่ะ,ดูคาร์บอนเครดิตสิกำลังจะใช้ควบคุมกลไกคนไทยทางชีวิตอีกตัว ,นำไปกู้ตังค้ำประกันเงินกู้ก็อ้างคาร์บอนเครดิต,ขายข้าวโดยชาวนาจะขายให้รัฐให้นายทุนก็อ้างค่าคาร์บอนเครดิต,จะทำนาต้องซื้อสิทธิคาร์บอนเครดิตเพื่อทำนาทำสวนทำไร่นะคุณท่านเธอมรึงปล่อยคาร์บอนมากน้อยเท่าไรมีเกรดตั้งประมาณรอให้แล้วต้องจ่ายเท่าไรอีก,ซื้ออะไร ทำอะไร บวกจ่ายค่าคาร์บอนเครดิตล่ะ,ไปท่องเที่ยวกี่กม.จ่ายคาร์เครดิตเท่านีัเท่านั้นนะมีเวลาเท่านี้ตามจำนวนเครดิตคาร์บอนที่มี,แบบเมือง15นาทีหรือเมืองอัจฉริยะในอนาคต ต้องออกไปเท่านั้นเท่านี้ตามคาร์บอนเครดิตที่ซื้อนะ,คาร์บอนเครดิตจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นตังแทนตังกระดาษปัจจุบัน แบบพักห้องโรงแรมนี้นั้นจ่ายค่าห้องนั่นล่ะ จ่ายเท่านี้มีสิทธิอยู่ได้กี่วัน,คาร์บอนเครดิตก็มีเวลาการใช้ของมันเพื่อทำกิจกรรมนั้นๆแบบตังดิจิดัลช่วงแลกๆมันให้ใช้ภายในรัศมีกี่กม.นั้นล่ะ จริงๆนี้ล่ะคือของจริงในการสร้างปูทางจำกัดชีวิตจำกัดขอบเขตการใช้ชีวิตจริงของคนไทย เขารับนโยบายมาจริงกะทดลองจริงในไทย ถ้าทำสำเร็จอื่นๆจะง่ายเลย กฎหมายมากมายจะลักไก่ออกมาควบคุมคนไทยอย่างบ้าคลั่ง แบบอ้างpm.2.5ห้ามชาวนาเผาทุ่งนารอทำนาในช่วงเวลาที่มันทดลองควบคุม,ผิดจับ ปรับทันที,มันทำเป็นขบวนการธรรมดาที่ไหน,วางหมากนานวางระยะยาวไว้รอและพร้อมปรับแผนเพราะคนจะคิดทัน เสียแผนและถูกเปิดโปง จริงๆต้องแถมด้วยว่า ต้องถูกกำจัดด้วย เพราะพวกมันจะมาทวนกระแสสร้างชั่วเลวไม่รู้จบแบบปัจจุบันนี้ล่ะ,จึงตัดปัญหาตัดตอนด้วยการจำกัดเลยจึงเหมาะควรมาก,เดี๋ยวสร้างโกลาหลวุ่นวายเรื่องนั้นเรื่องนี้รอบทิศทางทำลายความสงบทำลายความสุขประชาชนคนไทยเหมือนเดิมแบบเวลายุคนี้ล่ะ,นี้ชัดเจนว่าdeep stateโลกควบคุมการปกครองของไทยได้ระดับหนึ่งจากผู้นำการเลือกตั้งและพวกยกมือในสภานั้นเองโดยยึดครองหมากจากการเลือกตั้งได้.ใครจะมามันควบคุมได้หมดหรือเป็นคนของมันหมด. https://youtube.com/watch?v=ij09MQDAhIM&si=xEsJa4q4sbIlrnyf
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง

    สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

    โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43%

    ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24%

    ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37%

    ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน

    #Newskit
    สงกรานต์ปี 68 ต่างชาติเที่ยวไทยลดลง สถาบันข้อมูลขนาดใหญ่ (องค์การมหาชน) หรือ BDI เปิดเผยสถิติการเดินทางเข้าออกประเทศ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568 เทียบกับปี 2567 โดยใช้ข้อมูลจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ระหว่างวันที่ 1-20 เม.ย. พบว่าชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยลดลงกว่าปีก่อน ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวจีนลดลงกว่า 43% อีกด้านหนึ่ง คนไทยเดินทางออกนอกประเทศมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โดยชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทย มีจำนวนประมาณ 2.1 ล้านคน ลดลง 4.5% จากปี 2567 สัญชาติที่เข้าประเทศไทยมากที่สุด คือ มาเลเซีย ประมาณ 306,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.53% อันดับสอง จีน ประมาณ 225,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 43.06% อันดับสาม ลาว ประมาณ 189,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 7.02% อันดับสี่ อินเดีย ประมาณ 141,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 23.43% และอันดับห้า รัสเซีย ประมาณ 118,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 15.43% ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ชาวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศมากที่สุด อันดับ 1 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 897,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 3.18% อันดับสอง ท่าอากาศยานภูเก็ต ประมาณ 299,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.73% อันดับสาม ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 224,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 18.63% อันดับสี่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จ.สงขลา ประมาณ 122,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 6.43% และอันดับห้า จุดตรวจสะพานมิตรภาพแห่งที่ 1 จ.หนองคาย ประมาณ 74,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 11.27% ส่วนเที่ยวบินขาเข้าจากต่างประเทศ มีประมาณ 12,000 เที่ยวบิน ลดลงจากปีที่แล้ว 5.24% ส่วนคนไทยที่เดินทางออกนอกประเทศ มีประมาณ 702,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10.92% โดยพบว่าผ่านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมากที่สุด ประมาณ 196,000 คน ลดลงจากปีที่แล้ว 0.67% จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก จ.สระแก้ว ประมาณ 97,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 20.02% ท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) ประมาณ 82,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 58.62% ด่านตรวจคนเข้าเมืองปาดังเบซาร์ จ.สงขลา ประมาณ 57,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 64.15% และ จุดตรวจสะพานข้ามแม่น้ำสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ประมาณ 54,000 คน เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 19.37% ก่อนหน้านี้ กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ถึง 20 เม.ย. 2568 พบว่ามีจำนวน 11,272,379 คน จำนวนนักท่องเที่ยวสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน 1,524,697 คน มาเลเซีย 1,401,169 คน รัสเซีย 835,385 คน อินเดีย 677,793 คน และเกาหลีใต้ 549,982 คน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้าEntertainment Complex หมายถึง
    1. World Class Theme Park
    2. Convention Hall ขนาด 10000 ที่นั่ง
    3. Indoor Stadium สำหรับ กีฬาในร่ม
    4. ลาน สเก๊ต ขนาดใหญ่
    5. Mega shopping Mall
    6. พิพิทธภัณฑ์ไทย
    7. Theaters โรงละคร ระดับ World class 4D
    8.Auditorium ขนาดใหญ่

    โดยกลุ่ม ลูกค้า 60% Donestic และ 40% นักท่องเที่ยวต่างชาติ

    ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมี คาสิโน แค่แก้กฏหมายเดิมเพื่อส่งเสริมการลงทุน
    8.
    ถ้าEntertainment Complex หมายถึง 1. World Class Theme Park 2. Convention Hall ขนาด 10000 ที่นั่ง 3. Indoor Stadium สำหรับ กีฬาในร่ม 4. ลาน สเก๊ต ขนาดใหญ่ 5. Mega shopping Mall 6. พิพิทธภัณฑ์ไทย 7. Theaters โรงละคร ระดับ World class 4D 8.Auditorium ขนาดใหญ่ โดยกลุ่ม ลูกค้า 60% Donestic และ 40% นักท่องเที่ยวต่างชาติ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องมี คาสิโน แค่แก้กฏหมายเดิมเพื่อส่งเสริมการลงทุน 8.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปากีสถานประกาศพร้อมตอบโต้ อ้างข่าวกรองชี้อินเดียเตรียมเปิดปฏิบัติการทางทหารเล่นงานตนภายในเวลา 24-36 ชั่วโมง ขณะสื่อแดนภารตะระบุนายกรัฐมนตรีโมดี ไฟเขียวกองทัพเลือกรูปแบบ เป้าหมาย และเวลาในการดำเนินการตอบโต้ จากกรณีที่กลุ่มติดอาวุธซึ่งนิวเดลีเชื่อว่าอิสลามาบัดให้การสนับสนุน ก่อเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000040748

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปากีสถานประกาศพร้อมตอบโต้ อ้างข่าวกรองชี้อินเดียเตรียมเปิดปฏิบัติการทางทหารเล่นงานตนภายในเวลา 24-36 ชั่วโมง ขณะสื่อแดนภารตะระบุนายกรัฐมนตรีโมดี ไฟเขียวกองทัพเลือกรูปแบบ เป้าหมาย และเวลาในการดำเนินการตอบโต้ จากกรณีที่กลุ่มติดอาวุธซึ่งนิวเดลีเชื่อว่าอิสลามาบัดให้การสนับสนุน ก่อเหตุโจมตีนักท่องเที่ยวในแคว้นแคชเมียร์ จนมีผู้เสียชีวิต 26 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000040748 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1192 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที่ พร้อมปรับลด เพราะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินเชื่อหดตัว เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าหากมีความรุ่นแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้จีดีพีไทยปี 2668 หดเหลือ1.3 %จากที่ประเมินไว้ 2 %

    นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน 2568

    คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000040531

    #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติมีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที่ พร้อมปรับลด เพราะความเสี่ยงจากนโยบายการค้าโลกและจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง สินเชื่อหดตัว เศรษฐกิจยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงจะพิจารณาปรับนโยบายการเงินให้เหมาะสมกับแนวโน้มและความเสี่ยงของเศรษฐกิจและเงินเฟ้อในระยะข้างหน้าหากมีความรุ่นแรงกว่าที่คาด ส่งผลให้จีดีพีไทยปี 2668 หดเหลือ1.3 %จากที่ประเมินไว้ 2 % • นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แถลงผลการประชุม กนง. ในวันที่ 30 เมษายน 2568 • คณะกรรมการฯ มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25 จากร้อยละ 2.00 เป็นร้อยละ 1.75 ต่อปี โดยให้มีผลทันที ทั้งนี้ 2 เสียง เห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม https://mgronline.com/stockmarket/detail/9680000040531 • #MGROnline #คณะกรรมการนโยบายการเงิน #ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 173 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹
    #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน

    ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR)
    📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68
    💸 ราคาเพียง 109,900.-

    🌍 เส้นทางไฮไลต์:
    🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน
    🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย
    🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก
    🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค
    🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย

    📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ!


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e45146

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹 #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR) 📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68 💸 ราคาเพียง 109,900.- 🌍 เส้นทางไฮไลต์: 🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน 🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย 🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก 🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค 🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย 📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e45146 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹
    #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน

    ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR)
    📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68
    💸 ราคาเพียง 109,900.-

    🌍 เส้นทางไฮไลต์:
    🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน
    🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย
    🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก
    🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค
    🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย

    📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ!


    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e45146

    ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/7e5d16

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    🎉 เที่ยวโรมาเนีย-บัลแกเรีย กับเทศกาลกุหลาบสุดโรแมนติก 🌹 #ROSEFestival 11 วัน 8 คืน ✈️ โดยสายการบิน Qatar Airways (QR) 📅 เดินทาง 3-13 มิ.ย. 68 💸 ราคาเพียง 109,900.- 🌍 เส้นทางไฮไลต์: 🏰 ปราสาทเปเลส & ปราสาทบราน 🌆 เที่ยวเมืองโบราณซิบิว บราซอฟ และโซเฟีย 🕌 ชมอารามรีล่า มรดกโลกยูเนสโก 🌹 ร่วมงานเทศกาลดอกกุหลาบที่คาซานลัค 🏛️ พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบัลแกเรีย 📌 ครบทั้งธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และเทศกาลสุดพิเศษ! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e45146 ดูทัวร์ยุโรปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/7e5d16 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ยุโรป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #บัลแกเรีย #โรมาเนีย #เทศกาลดอกกุหลาบ #RoseFestival2025 #เที่ยวกับเรา #QRสายการบินหรู #ทัวร์ยุโรปตะวันออก #เที่ยวหน้าร้อน #SummerTrip #รีล่าอาราม #PelesCastle #BranCastle 🌷
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • การดูแสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่แถบ สแกนดิเนเวีย (โดยเฉพาะ นอร์เวย์,สวีเดน, และ ฟินแลนด์) ควรไปในช่วง:

    🗓️ เดือนกันยายน - มีนาคม
    โดยเฉพาะช่วง พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ที่จะมีโอกาสเห็นแสงเหนือได้ชัดเจนที่สุด เพราะ...

    ✨ กลางคืนยาวนาน (มืดเร็วและนาน)
    ☁️ ท้องฟ้าเปิดมากกว่า
    🌌 ความมืดของฤดูหนาวทำให้เห็นแสงเหนือชัดเจนขึ้น

    📍จุดแนะนำ:
    - นอร์เวย์: Tromsø, Alta
    - สวีเดน: Abisko (ที่นี่ได้ชื่อว่าเห็นแสงเหนือได้บ่อยที่สุดแห่งหนึ่ง)
    - ฟินแลนด์: Rovaniemi, Ivalo

    #แสงเหนือ #Aurora #สแกนดิเนเวีย #เที่ยวฟินแลนด์ #เที่ยวนอร์เวย์ #เที่ยวสวีเดน #ล่าแสงเหนือ #ดูแสงเหนือ

    ดูทัวร์สแกนดิเนเวียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/c15f96

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395
    การดูแสงเหนือ (Aurora Borealis) ที่แถบ สแกนดิเนเวีย (โดยเฉพาะ นอร์เวย์,สวีเดน, และ ฟินแลนด์) ควรไปในช่วง: 🗓️ เดือนกันยายน - มีนาคม โดยเฉพาะช่วง พฤศจิกายน - กุมภาพันธ์ ที่จะมีโอกาสเห็นแสงเหนือได้ชัดเจนที่สุด เพราะ... ✨ กลางคืนยาวนาน (มืดเร็วและนาน) ☁️ ท้องฟ้าเปิดมากกว่า 🌌 ความมืดของฤดูหนาวทำให้เห็นแสงเหนือชัดเจนขึ้น 📍จุดแนะนำ: - นอร์เวย์: Tromsø, Alta - สวีเดน: Abisko (ที่นี่ได้ชื่อว่าเห็นแสงเหนือได้บ่อยที่สุดแห่งหนึ่ง) - ฟินแลนด์: Rovaniemi, Ivalo #แสงเหนือ #Aurora #สแกนดิเนเวีย #เที่ยวฟินแลนด์ #เที่ยวนอร์เวย์ #เที่ยวสวีเดน #ล่าแสงเหนือ #ดูแสงเหนือ ดูทัวร์สแกนดิเนเวียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/c15f96 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 185 มุมมอง 0 รีวิว
  • พิษข่าวฉาว-แผ่นดินไหวซ้ำเติม! ท่องเที่ยวพัทยาทรุดหนัก จีน-เกาหลี หายกว่า 30% แห่ซบเวียดนาม นายกสมาคมฯ จี้รัฐทำ FAM Trip กู้ศรัทธา
    https://www.thai-tai.tv/news/18411/
    พิษข่าวฉาว-แผ่นดินไหวซ้ำเติม! ท่องเที่ยวพัทยาทรุดหนัก จีน-เกาหลี หายกว่า 30% แห่ซบเวียดนาม นายกสมาคมฯ จี้รัฐทำ FAM Trip กู้ศรัทธา https://www.thai-tai.tv/news/18411/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • พาเที่ยวเรือ Star Voyager 🚢💦
    ขึ้นจริง เล่นจริง เรือดีจริง ⚓

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway 78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395

    #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก
    #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    พาเที่ยวเรือ Star Voyager 🚢💦 ขึ้นจริง เล่นจริง เรือดีจริง ⚓ LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์เรือสำราญ #starvoyager #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ทัวร์ไฟไหม้ #ทัวร์ลดราคา #ทัวร์ราคาถูก #etravelwayfire #thaitimes #News1 #คิงส์โพธิ์แดง #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • เหลือก io เจ้าพ่อเฟคนิวส์ เที่ยวนี้ไปไกลกว่าเดิม ถึงขั้น BEYOND FAKE NEWS ปั่นกระแสต้าน ม.112 จนทะลุมิติเฟคนิวส์ พยายามปั่นให้ ม.112 เป็นคดีการเมืองยังไม่พอ ปั่นให้ ม.112 เป็นปัญหาเศรษฐกิจได้อีก
    #คิงส์โพธิ์แดง
    เหลือก io เจ้าพ่อเฟคนิวส์ เที่ยวนี้ไปไกลกว่าเดิม ถึงขั้น BEYOND FAKE NEWS ปั่นกระแสต้าน ม.112 จนทะลุมิติเฟคนิวส์ พยายามปั่นให้ ม.112 เป็นคดีการเมืองยังไม่พอ ปั่นให้ ม.112 เป็นปัญหาเศรษฐกิจได้อีก #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 69 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts