• ดูแล้วไทยไม่ได้อะไรจากการเจรจาเลย ไทยยอมทุกอย่างเพื่ออะไร เร่งแต่จะเปิดด่าน ทั้งๆที่การปิดด่านเป็นยุทธวิธีการกดดัน "กัมพูชาเพราะถ้าเราปิดไปนานเท่าไหร่เขมรก็จะแตกเร็วเท่านั้นสภาพเศรษฐกิจมันจะพังประชาชนจะก่อการเอง.."ไทยยอมๆทำไม?"กัมพูชามันเริ่มก่อนเราสูญเสียชีวิตทหาร&ประชาชนไปมากมายบ้านเรือนเสียหายไฟไหม้"มันจะชดใช้ยังไงก่อน..#พื้นที่บ้านหนองจานเรายังไปไม่ถึงหลักเขตสยามเลย แล้วทำไม?ต้องให้ไทยคุยกับเขมรอีกมันเป็นพื้นที่ของไทยมีอะไรต้องคุย!!! หรือจะกลับไปเป็นแบบเดิมอีกคนไทยถือโฉลด เขมรยึดครองคนไทยได้แต่เช่าแผ่นดินตัวเองทำกิน เป็นที่พักของเถื่อน ลักรถเปลี่ยนทะเบียน บ่อนฯลฯอเมริกาจะคว่ำบาตรเขมรเราจะซวยไปด้วยไหม กำแพงล้อมรั้วจะทำไหมหรือปล่อยเดินเข้าออกตามสบายเหมือนก่อน อนาถใจประเทศเราจริงๆ "ดูอินโดนีเซีย&เนปาล จะเป็นโดมิโน่มาถึงไทยหรือเปล่ารู้ๆกันอยู่ว่าใครอยู่เบื้องหลังแต่เราต้องไม่นำพาเหตุปัจจัยให้ไปถึงจุดนั้นไม่งั้นพังทั้งประเทศแน่เขาหันมาอาเซียนแล้ว"นักการเมืองไทยยังนึกถึงแต่ผลประโยชน์สืบทอดอำนาจกันตามนามสกุลไม่ต้องสนเรื่องความสามารถ"กอดไว้นะMOU43-44..ระวังจะเป็นชนวนเข้าทางคนที่ต้องการให้ประเทศอ่อนแอแล้วเข้ายึด#ประชาชนเบื่อสุดๆแล้วจริงๆอยากได้เงินอยากขายแผ่นดินกันนักใช่ไหมเอาแบบไม่มีใครได้อะไรเลยเอาไหม"เหนื่อยใจ ท้อแท้มากๆพายเรืออยู่ในอ่างไม่ไปไหนกันล่ะวนลูปอยู่นี่แหละ♾#""ถ้าอนุมัติเปิดด่านคนเขมรจะทะลักเข้าไทยๆรับไม่ไหวนะคนไทยปว่ยยังต้องจ่ายเงินเลย&"แต่คนเขมรรักษาฟรีเรียนฟรีมีประเทศไหนในโลกนี้เขาทำกันล่ะพอทีกับคนประเทศนี้STOP
    ดูแล้วไทยไม่ได้อะไรจากการเจรจาเลย ไทยยอมทุกอย่างเพื่ออะไร เร่งแต่จะเปิดด่าน ทั้งๆที่การปิดด่านเป็นยุทธวิธีการกดดัน "กัมพูชาเพราะถ้าเราปิดไปนานเท่าไหร่เขมรก็จะแตกเร็วเท่านั้นสภาพเศรษฐกิจมันจะพังประชาชนจะก่อการเอง.."ไทยยอมๆทำไม?"กัมพูชามันเริ่มก่อนเราสูญเสียชีวิตทหาร&ประชาชนไปมากมายบ้านเรือนเสียหายไฟไหม้"มันจะชดใช้ยังไงก่อน..🙄#พื้นที่บ้านหนองจานเรายังไปไม่ถึงหลักเขตสยามเลย แล้วทำไม?ต้องให้ไทยคุยกับเขมรอีกมันเป็นพื้นที่ของไทยมีอะไรต้องคุย!!! หรือจะกลับไปเป็นแบบเดิมอีกคนไทยถือโฉลด เขมรยึดครองคนไทยได้แต่เช่าแผ่นดินตัวเองทำกิน เป็นที่พักของเถื่อน ลักรถเปลี่ยนทะเบียน บ่อนฯลฯอเมริกาจะคว่ำบาตรเขมรเราจะซวยไปด้วยไหม กำแพงล้อมรั้วจะทำไหมหรือปล่อยเดินเข้าออกตามสบายเหมือนก่อน อนาถใจประเทศเราจริงๆ "ดูอินโดนีเซีย&เนปาล จะเป็นโดมิโน่มาถึงไทยหรือเปล่ารู้ๆกันอยู่ว่าใครอยู่เบื้องหลังแต่เราต้องไม่นำพาเหตุปัจจัยให้ไปถึงจุดนั้นไม่งั้นพังทั้งประเทศแน่เขาหันมาอาเซียนแล้ว"นักการเมืองไทยยังนึกถึงแต่ผลประโยชน์สืบทอดอำนาจกันตามนามสกุลไม่ต้องสนเรื่องความสามารถ"กอดไว้นะMOU43-44..ระวังจะเป็นชนวนเข้าทางคนที่ต้องการให้ประเทศอ่อนแอแล้วเข้ายึด#ประชาชนเบื่อสุดๆแล้วจริงๆอยากได้เงินอยากขายแผ่นดินกันนักใช่ไหมเอาแบบไม่มีใครได้อะไรเลยเอาไหม"เหนื่อยใจ ท้อแท้มากๆพายเรืออยู่ในอ่างไม่ไปไหนกันล่ะวนลูปอยู่นี่แหละ♾🌑#""ถ้าอนุมัติเปิดด่านคนเขมรจะทะลักเข้าไทยๆรับไม่ไหวนะคนไทยปว่ยยังต้องจ่ายเงินเลย&"แต่คนเขมรรักษาฟรีเรียนฟรีมีประเทศไหนในโลกนี้เขาทำกันล่ะพอทีกับคนประเทศนี้🤚📣STOP
    Angry
    1
    0 Comments 0 Shares 88 Views 0 Reviews
  • แย้มปี 70 โอนข้ามแดนผ่าน Nexus ใช้เบอร์มือถือรับเงินทันที 5 ประเทศ

    สำนักข่าวเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย รายงานว่า นางซาลิฮา มุสตาฟา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เขตปกครองกลาง) กล่าวผ่านเว็บไซต์รัฐสภามาเลเซีย เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ชาวมาเลเซียที่เดินทางไปต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติในมาเลเซีย ได้ทำธุรกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code (Cross-border QR Payment) จำนวน 11.8 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่า 967 ล้านริงกิต หรือประมาณ 7,307.44 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนับสำคัญ เมื่อเทียบกับปี 2567 มีปริมาณธุรกรรม 11.7 ล้านธุรกรรม คิดเป็นมูลค่า 860 ล้านริงกิต หรือประมาณ 6,490 ล้านบาท

    ธุรกรรมดังกล่าวรวมถึงการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ระหว่างมาเลเซีย กับประเทศสมาชิกอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย และครอบคลุมถึงการเชื่อมโยงชำระเงินระหว่างมาเลเซียกับจีน และมาเลเซียกับเกาหลีใต้ ผ่านข้อตกลงเชิงพาณิชย์ระหว่างผู้ให้บริการชำระเงิน ซึ่งธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) กำลังร่วมมือกับธนาคารกลาง 3 ประเทศในอาเซียน และธนาคารกลางอินเดียภายใต้โครงการเน็กซัส (Nexus) เพื่อพัฒนาเครือข่ายการชำระเงินข้ามแดนแบบพหุภาคี โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อระบบการชำระเงินทันทีภายในประเทศทั่วโลกเพียงครั้งเดียว ไปยังแพลตฟอร์มการชำระเงินเน็กซัส คาดว่าจะเปิดให้ทำธุรกรรมโอนเงินทันทีข้ามพรมแดนครั้งแรกในปี 2570

    สำหรับโครงการเน็กซัส เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับธนาคารกลางมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินเดีย ช่วยให้ประชาชนใน 5 ประเทศเอเชีย สามารถโอนเงินถึงกันได้ทันที แก้ปัญหาความซับซ้อนในการเชื่อมต่อแบบทีละประเทศ ซึ่งบางประเทศปริมาณธุรกรรมไม่สูงมากนัก อาจเกิดความไม่คุ้มค่า แต่สำหรับระบบเน็กซัส เน้นการโอนเงินรายย่อยระหว่างประชาชน เชื่อมต่อครั้งเดียวกับทุกประเทศในเครือข่ายด้วยต้นทุนต่ำ โอนเงินได้แบบทันทีโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในไทยจะเชื่อมผ่านระบบพร้อมเพย์ ครอบคลุมประชากรจาก 5 ประเทศที่เข้าร่วมกว่า 1,700 ล้านคน

    ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มแรกของเน็กซัสจัดตั้งองค์กร Nexus Global Payments (NGP) ที่ประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการเครือข่ายการโอนเงินระหว่างประเทศแบบทันที ที่เชื่อมโยงระบบการชำระเงินของประเทศต่างๆ ด้วยมาตรฐานเดียวกัน ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอินโดนีเซีย เป็นผู้สังเกตการณ์พิเศษในช่วงการจัดตั้งองค์กร ซึ่งหากกลุ่มเน็กซัสเปิดรับประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต จะทำให้เครือข่ายนี้ขยายกว้างขึ้น

    #Newskit
    แย้มปี 70 โอนข้ามแดนผ่าน Nexus ใช้เบอร์มือถือรับเงินทันที 5 ประเทศ สำนักข่าวเบอร์นามา (BERNAMA) ของมาเลเซีย รายงานว่า นางซาลิฮา มุสตาฟา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (เขตปกครองกลาง) กล่าวผ่านเว็บไซต์รัฐสภามาเลเซีย เมื่อวันที่ 8 ก.ย. ว่า ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ชาวมาเลเซียที่เดินทางไปต่างประเทศ และนักท่องเที่ยวต่างชาติในมาเลเซีย ได้ทำธุรกรรมชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code (Cross-border QR Payment) จำนวน 11.8 ล้านรายการ คิดเป็นมูลค่า 967 ล้านริงกิต หรือประมาณ 7,307.44 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนับสำคัญ เมื่อเทียบกับปี 2567 มีปริมาณธุรกรรม 11.7 ล้านธุรกรรม คิดเป็นมูลค่า 860 ล้านริงกิต หรือประมาณ 6,490 ล้านบาท ธุรกรรมดังกล่าวรวมถึงการชำระเงินข้ามพรมแดนผ่าน QR Code ระหว่างมาเลเซีย กับประเทศสมาชิกอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ กัมพูชา อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และไทย และครอบคลุมถึงการเชื่อมโยงชำระเงินระหว่างมาเลเซียกับจีน และมาเลเซียกับเกาหลีใต้ ผ่านข้อตกลงเชิงพาณิชย์ระหว่างผู้ให้บริการชำระเงิน ซึ่งธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) กำลังร่วมมือกับธนาคารกลาง 3 ประเทศในอาเซียน และธนาคารกลางอินเดียภายใต้โครงการเน็กซัส (Nexus) เพื่อพัฒนาเครือข่ายการชำระเงินข้ามแดนแบบพหุภาคี โดยมีเป้าหมายเพื่อเชื่อมต่อระบบการชำระเงินทันทีภายในประเทศทั่วโลกเพียงครั้งเดียว ไปยังแพลตฟอร์มการชำระเงินเน็กซัส คาดว่าจะเปิดให้ทำธุรกรรมโอนเงินทันทีข้ามพรมแดนครั้งแรกในปี 2570 สำหรับโครงการเน็กซัส เป็นความร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย ร่วมกับธนาคารกลางมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และอินเดีย ช่วยให้ประชาชนใน 5 ประเทศเอเชีย สามารถโอนเงินถึงกันได้ทันที แก้ปัญหาความซับซ้อนในการเชื่อมต่อแบบทีละประเทศ ซึ่งบางประเทศปริมาณธุรกรรมไม่สูงมากนัก อาจเกิดความไม่คุ้มค่า แต่สำหรับระบบเน็กซัส เน้นการโอนเงินรายย่อยระหว่างประชาชน เชื่อมต่อครั้งเดียวกับทุกประเทศในเครือข่ายด้วยต้นทุนต่ำ โอนเงินได้แบบทันทีโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในไทยจะเชื่อมผ่านระบบพร้อมเพย์ ครอบคลุมประชากรจาก 5 ประเทศที่เข้าร่วมกว่า 1,700 ล้านคน ทั้งนี้ สมาชิกกลุ่มแรกของเน็กซัสจัดตั้งองค์กร Nexus Global Payments (NGP) ที่ประเทศสิงคโปร์อย่างเป็นทางการ เพื่อให้บริการเครือข่ายการโอนเงินระหว่างประเทศแบบทันที ที่เชื่อมโยงระบบการชำระเงินของประเทศต่างๆ ด้วยมาตรฐานเดียวกัน ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป และธนาคารกลางอินโดนีเซีย เป็นผู้สังเกตการณ์พิเศษในช่วงการจัดตั้งองค์กร ซึ่งหากกลุ่มเน็กซัสเปิดรับประเทศอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต จะทำให้เครือข่ายนี้ขยายกว้างขึ้น #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 158 Views 0 Reviews
  • กระทรวงคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรเครือข่ายศูนย์หลอกลวงทั่วอาเซียน ล็อคเป้าหมาย 10 รายในกัมพูชา ซึ่งเป็นเครือข่ายฮุนเซน ที่หลอกลวงเงินคนมะกันในปี 67 ไปมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์
    #คิงส์โพธิ์แดง
    กระทรวงคลังสหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรเครือข่ายศูนย์หลอกลวงทั่วอาเซียน ล็อคเป้าหมาย 10 รายในกัมพูชา ซึ่งเป็นเครือข่ายฮุนเซน ที่หลอกลวงเงินคนมะกันในปี 67 ไปมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ #คิงส์โพธิ์แดง
    Haha
    1
    1 Comments 0 Shares 110 Views 0 Reviews
  • อาเซียนฮีลใจ ปันน้ำใจให้ไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย

    ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างออนไลน์ หรือ โอโจล (Ojol) ในอินโดนีเซีย รวมถึงร้านอาหาร และผู้ค้าอาหารรายย่อย ต่างดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ความไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลและนักการเมือง นำไปสู่การชุมนุมของชาวอินโดนีเซีย

    การแสดงน้ำใจแม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นพลังให้พวกเขายืนหยัดสู้ชีวิตต่อไป ผู้ใช้งาน Grab ในไทย รวมถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ สามารถสั่งออเดอร์อาหารหรือสิ่งของจำเป็น ไปยังไรเดอร์ชาวอินโดนีเซีย เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาในยามที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ

    #BravePinkHeroGreen
    อาเซียนฮีลใจ ปันน้ำใจให้ไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย ผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างออนไลน์ หรือ โอโจล (Ojol) ในอินโดนีเซีย รวมถึงร้านอาหาร และผู้ค้าอาหารรายย่อย ต่างดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด ท่ามกลางเศรษฐกิจตกต่ำ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ความไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลและนักการเมือง นำไปสู่การชุมนุมของชาวอินโดนีเซีย การแสดงน้ำใจแม้เพียงเล็กน้อย ก็เป็นพลังให้พวกเขายืนหยัดสู้ชีวิตต่อไป ผู้ใช้งาน Grab ในไทย รวมถึงมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ และอื่นๆ สามารถสั่งออเดอร์อาหารหรือสิ่งของจำเป็น ไปยังไรเดอร์ชาวอินโดนีเซีย เพื่อเป็นกำลังใจให้พวกเขาในยามที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหาร และร้านค้ารายย่อย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ #BravePinkHeroGreen
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • อาเซียนฮีลใจ สั่งแกร็บเลี้ยงไรเดอร์อินโดฯ

    แม้การชุมนุมในอินโดนีเซียจะนำมาซึ่งความสูญเสีย แต่ก็เกิดธารน้ำใจหลั่งไหลสู่ไรเดอร์ ที่ชาวอินโดนีเซียเรียกว่าโอโจล (Ojol) ในภาวะที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซีย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ และผลจากการบริหารประเทศของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เมื่อผู้ใช้แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ แกร็บ (Grab) และโกเจ็ก (Gojek) ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ สั่งอาหารจากร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซียเพื่อเลี้ยงไรเดอร์

    ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ใช้งานแกร็บและโกเจ็กในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างช่วยเหลือไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย รวมทั้งบางคนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้ไรเดอร์ผ่านบริการ Grabmart ของแกร็บ หรือ GoMart ของโกเจ็ก โดยไรเดอร์ที่ได้รับอาหารต่างขอบคุณและอวยพรกลับมา ทั้งส่งข้อความส่วนตัวในแพลตฟอร์ม หรือโพสต์คลิปลงในแพลตฟอร์มโซเชียลฯ เช่น เอ็กซ์ ติ๊กต็อก เธรด อินสตาแกรม ฯลฯ เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับอาหารแล้ว และขอบคุณในน้ำใจที่มีให้ แสดงให้เห็นว่าน้ำใจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีพรมแดน และกระชับความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมชาติสมาชิกประชาคมอาเซียน

    ผู้ใช้งานแกร็บในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เมียนมา และกัมพูชา สามารถเลือกประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสั่งอาหารช่วยเหลือไรเดอร์ข้ามประเทศได้ โดยชำระผ่านบัตรเครดิต ระบุข้อความถึงร้านอาหาร และข้อความถึงคนขับ เป็นภาษาอินโดนีเซียว่า "Pak/Bu, makanannya untuk abang/kakak driver & teman-teman" (คุณครับ อาหารนี้สำหรับคนขับและเพื่อนๆ ครับ) เพื่อให้ทราบว่าอาหารดังกล่าวสำหรับคนขับไรเดอร์และเพื่อนๆ

    อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายแอนโทนี ตัน (Anthony Tan) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ เดินทางจากสิงคโปร์มายังเมืองมากัสซาร์ จังหวัดซูลาเวซีใต้ เพื่อเยี่ยมครอบครัวของนายรุสดัมเดียนสยาห์ (Rusdamdiansyah) หรือ ดันดี (Dandi) ชายวัย 26 ปี ไรเดอร์แกร็บซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยจะให้การช่วยเหลือทางการเงินและอื่นๆ ในระยะยาว พร้อมกันนี้ยังได้เปิดสายด่วนฉุกเฉินเกอร์เซป (GERCEP หรือ Grab Respon Cepat) และโครงการตรักเตียร์ ไดร์ฟเวอร์ (Traktir Driver) ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้ออาหารให้กับไรเดอร์โดยตรงได้อีกด้วย

    สำหรับผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างน้อย 6 คน นอกจากนายรุสดัมเดียนสยาห์แล้ว ยังมีนายอัฟฟาน คูรเนียวัน (Affan Kurniawan) วัย 21 ปี ผู้ขับขี่แพลตฟอร์มโกเจ็ก ถูกรถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชน (Brimob) พุ่งชนเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 28 ส.ค.ที่ที่กรุงจาการ์ตา

    #Newskit
    อาเซียนฮีลใจ สั่งแกร็บเลี้ยงไรเดอร์อินโดฯ แม้การชุมนุมในอินโดนีเซียจะนำมาซึ่งความสูญเสีย แต่ก็เกิดธารน้ำใจหลั่งไหลสู่ไรเดอร์ ที่ชาวอินโดนีเซียเรียกว่าโอโจล (Ojol) ในภาวะที่ยากลำบาก พร้อมกับช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซีย ที่ยอดขายหายไปจากสภาวะเศรษฐกิจ และผลจากการบริหารประเทศของประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต เมื่อผู้ใช้แพลตฟอร์มสั่งอาหารออนไลน์ แกร็บ (Grab) และโกเจ็ก (Gojek) ในประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย และประเทศอื่นๆ สั่งอาหารจากร้านอาหารขนาดเล็กในอินโดนีเซียเพื่อเลี้ยงไรเดอร์ ที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ใช้งานแกร็บและโกเจ็กในหลายประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ต่างช่วยเหลือไรเดอร์ และร้านอาหารในอินโดนีเซีย รวมทั้งบางคนซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้ไรเดอร์ผ่านบริการ Grabmart ของแกร็บ หรือ GoMart ของโกเจ็ก โดยไรเดอร์ที่ได้รับอาหารต่างขอบคุณและอวยพรกลับมา ทั้งส่งข้อความส่วนตัวในแพลตฟอร์ม หรือโพสต์คลิปลงในแพลตฟอร์มโซเชียลฯ เช่น เอ็กซ์ ติ๊กต็อก เธรด อินสตาแกรม ฯลฯ เพื่อเป็นหลักฐานว่าได้รับอาหารแล้ว และขอบคุณในน้ำใจที่มีให้ แสดงให้เห็นว่าน้ำใจเกิดขึ้นได้โดยไม่มีพรมแดน และกระชับความสัมพันธ์ในฐานะเพื่อนร่วมชาติสมาชิกประชาคมอาเซียน ผู้ใช้งานแกร็บในประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ ไทย เมียนมา และกัมพูชา สามารถเลือกประเทศอินโดนีเซีย เพื่อสั่งอาหารช่วยเหลือไรเดอร์ข้ามประเทศได้ โดยชำระผ่านบัตรเครดิต ระบุข้อความถึงร้านอาหาร และข้อความถึงคนขับ เป็นภาษาอินโดนีเซียว่า "Pak/Bu, makanannya untuk abang/kakak driver & teman-teman" (คุณครับ อาหารนี้สำหรับคนขับและเพื่อนๆ ครับ) เพื่อให้ทราบว่าอาหารดังกล่าวสำหรับคนขับไรเดอร์และเพื่อนๆ อีกด้านหนึ่ง เมื่อวันที่ 1 ก.ย. นายแอนโทนี ตัน (Anthony Tan) ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งแกร็บ เดินทางจากสิงคโปร์มายังเมืองมากัสซาร์ จังหวัดซูลาเวซีใต้ เพื่อเยี่ยมครอบครัวของนายรุสดัมเดียนสยาห์ (Rusdamdiansyah) หรือ ดันดี (Dandi) ชายวัย 26 ปี ไรเดอร์แกร็บซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันที่ 29 ส.ค. โดยจะให้การช่วยเหลือทางการเงินและอื่นๆ ในระยะยาว พร้อมกันนี้ยังได้เปิดสายด่วนฉุกเฉินเกอร์เซป (GERCEP หรือ Grab Respon Cepat) และโครงการตรักเตียร์ ไดร์ฟเวอร์ (Traktir Driver) ให้ผู้ใช้งานสามารถซื้ออาหารให้กับไรเดอร์โดยตรงได้อีกด้วย สำหรับผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมอย่างน้อย 6 คน นอกจากนายรุสดัมเดียนสยาห์แล้ว ยังมีนายอัฟฟาน คูรเนียวัน (Affan Kurniawan) วัย 21 ปี ผู้ขับขี่แพลตฟอร์มโกเจ็ก ถูกรถหุ้มเกราะควบคุมฝูงชน (Brimob) พุ่งชนเสียชีวิตเมื่อค่ำวันที่ 28 ส.ค.ที่ที่กรุงจาการ์ตา #Newskit
    1 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • ก่อนไปลาวหรืออินโดนีเซีย ต้องลงทะเบียนขาเข้าดิจิทัล

    ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2568 กรมตำรวจตรวจคนเข้า-ออกเมือง ประเทศลาว จะเริ่มทดลองลงทะเบียนเดินทางเข้า-ออกประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.immigration.gov.la ใน 4 ด่านสากล ได้แก่ สนามบินวัดไต สนามบินหลวงพระบาง สนามบินปากเซ และด่านสะพานมิตรภาพ 1 ชาวต่างชาติที่ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) จะต้องลงทะเบียนออนไลน์ก่อนภายใน 3 วันก่อนเดินทาง เสร็จแล้วจะได้รับ QR Code เพื่อใช้แจ้งเข้า-ออกกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องกรอกบัตรแจ้งเข้าเมืองและบัตรแจ้งออกเมือง ซึ่งในปี 2569 มีแผนจะใช้กับด่านสากลทั่วประเทศ

    ก่อนหน้านี้ ประเทศอินโดนีเซียประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2568 จะใช้ระบบ All Indonesia ลงทะเบียนตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ควบคุมโรค กักกักสัตว์และพืชไว้ในช่องทางเดียวกัน ชาวต่างชาติที่มาอินโดนีเซียต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ allindonesia.imigrasi.go.id หรือแอปพลิเคชัน All Indonesia ล่วงหน้าไม่เกิน 3 วันก่อนเดินทาง เสร็จแล้วจะได้รับ QR Code ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยจะเริ่มใช้กับสนามบินจาการ์ตา สนามบินสุราบายา และสนามบินเดนปาซาร์ (บาหลี) ก่อนบังคับใช้ทั่วประเทศในวันที่ 1 ต.ค.2568

    ที่ผ่านมาหลายประเทศในอาเซียนเริ่มใช้ระบบบัตรขาเข้าดิจิทัลทดแทนแบบกระดาษ โดยมีรูปแบบไม่ต่างกัน คือ ต้องกรอกแบบฟอร์มล่วงหน้าใน 3 วันก่อนเดินทาง แล้วนำหลักฐาน เช่น QR Code แสดงต่อเจ้าหน้าที่

    • สิงคโปร์ พัฒนา Singapore Arrival Card (SGAC) ในเดือน ส.ค.2562 ก่อนเริ่มใช้เต็มรูปแบบในเดือน มี.ค.2563 โดยเพิ่มการแจ้งข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังได้ผ่อนคลายมาตรการด้านสุขภาพลงเมื่อเดือน ธ.ค.2565 เหลือเฉพาะบางประเทศที่มีโรคระบาดร้ายแรง

    • ฟิลิปปินส์ ใช้ระบบ One Health Pass เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2564 ก่อนเปลี่ยนมาเป็น e-Arrival CARD ในวันที่ 1 ธ.ค.2565 โดยให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ etravel.gov.ph และแอปพลิเคชัน eGovPH

    • มาเลเซีย เริ่มใช้ Malaysia Digital Arrival Card ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 ผ่านเว็บไซต์ imigresen-online.imi.gov.my/mdac/main

    • บรูไน เริ่มใช้ระบบ E-Arrival Card ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.2566 ผ่านเว็บไซต์ www.imm.gov.bn

    • กัมพูชา เริ่มใช้ระบบ Cambodia e-Arrival ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2567 ผ่านเว็บไซต์ arrival.gov.kh เฉพาะผู้ที่ผ่านสนามบินพนมเปญ สนามบินเสียมราฐ และสนามบินสีหนุวิลล์

    สำหรับประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองใช้ระบบ Thailand Digital Arrival Card (TDAC) สำหรับชาวต่างชาติ มาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นมา

    #Newskit
    ก่อนไปลาวหรืออินโดนีเซีย ต้องลงทะเบียนขาเข้าดิจิทัล ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2568 กรมตำรวจตรวจคนเข้า-ออกเมือง ประเทศลาว จะเริ่มทดลองลงทะเบียนเดินทางเข้า-ออกประเทศ ผ่านระบบออนไลน์ที่เว็บไซต์ www.immigration.gov.la ใน 4 ด่านสากล ได้แก่ สนามบินวัดไต สนามบินหลวงพระบาง สนามบินปากเซ และด่านสะพานมิตรภาพ 1 ชาวต่างชาติที่ใช้หนังสือเดินทาง (Passport) จะต้องลงทะเบียนออนไลน์ก่อนภายใน 3 วันก่อนเดินทาง เสร็จแล้วจะได้รับ QR Code เพื่อใช้แจ้งเข้า-ออกกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่จำเป็นต้องกรอกบัตรแจ้งเข้าเมืองและบัตรแจ้งออกเมือง ซึ่งในปี 2569 มีแผนจะใช้กับด่านสากลทั่วประเทศ ก่อนหน้านี้ ประเทศอินโดนีเซียประกาศว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2568 จะใช้ระบบ All Indonesia ลงทะเบียนตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ควบคุมโรค กักกักสัตว์และพืชไว้ในช่องทางเดียวกัน ชาวต่างชาติที่มาอินโดนีเซียต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ allindonesia.imigrasi.go.id หรือแอปพลิเคชัน All Indonesia ล่วงหน้าไม่เกิน 3 วันก่อนเดินทาง เสร็จแล้วจะได้รับ QR Code ใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ โดยจะเริ่มใช้กับสนามบินจาการ์ตา สนามบินสุราบายา และสนามบินเดนปาซาร์ (บาหลี) ก่อนบังคับใช้ทั่วประเทศในวันที่ 1 ต.ค.2568 ที่ผ่านมาหลายประเทศในอาเซียนเริ่มใช้ระบบบัตรขาเข้าดิจิทัลทดแทนแบบกระดาษ โดยมีรูปแบบไม่ต่างกัน คือ ต้องกรอกแบบฟอร์มล่วงหน้าใน 3 วันก่อนเดินทาง แล้วนำหลักฐาน เช่น QR Code แสดงต่อเจ้าหน้าที่ • สิงคโปร์ พัฒนา Singapore Arrival Card (SGAC) ในเดือน ส.ค.2562 ก่อนเริ่มใช้เต็มรูปแบบในเดือน มี.ค.2563 โดยเพิ่มการแจ้งข้อมูลสุขภาพอิเล็กทรอนิกส์ ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ภายหลังได้ผ่อนคลายมาตรการด้านสุขภาพลงเมื่อเดือน ธ.ค.2565 เหลือเฉพาะบางประเทศที่มีโรคระบาดร้ายแรง • ฟิลิปปินส์ ใช้ระบบ One Health Pass เมื่อวันที่ 1 ก.ย.2564 ก่อนเปลี่ยนมาเป็น e-Arrival CARD ในวันที่ 1 ธ.ค.2565 โดยให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ etravel.gov.ph และแอปพลิเคชัน eGovPH • มาเลเซีย เริ่มใช้ Malaysia Digital Arrival Card ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2567 ผ่านเว็บไซต์ imigresen-online.imi.gov.my/mdac/main • บรูไน เริ่มใช้ระบบ E-Arrival Card ตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ.2566 ผ่านเว็บไซต์ www.imm.gov.bn • กัมพูชา เริ่มใช้ระบบ Cambodia e-Arrival ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2567 ผ่านเว็บไซต์ arrival.gov.kh เฉพาะผู้ที่ผ่านสนามบินพนมเปญ สนามบินเสียมราฐ และสนามบินสีหนุวิลล์ สำหรับประเทศไทย สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองใช้ระบบ Thailand Digital Arrival Card (TDAC) สำหรับชาวต่างชาติ มาตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.2568 เป็นต้นมา #Newskit
    1 Comments 0 Shares 309 Views 0 Reviews
  • ผู้ว่าฯ สระแก้ว โอษฐภัย ทำไทยเสียดินแดน?

    ประโยคที่ว่า "บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เป็นพื้นที่ป่า" ของนายปริญญา โพ​ธิ​สัตย์​ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ที่เพิ่งได้รับการต่อวาระราชการอีก 1 ปี ก่อนครบเกษียณอายุในปี 2569 ระหว่างการตอบคำถามสื่อมวลชนต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (IOT) 8 ประเทศ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ก่อให้เกิดความสงสัยแก่คนไทยทั้งประเทศ และสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้แก่ชาวบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ถูกชาวกัมพูชาบุกรุกที่ดินทำกินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมานาน

    ที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้ว่าฯ สระแก้ว จัดให้มีการยื่นเอกสารสิทธิ์ การถือครองที่ดินให้แก่ชาวบ้านหนองจาน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนด พร้อมกับขอโทษประชาชน ที่เคยกล่าวว่าพื้นที่บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เกิดเข้าใจผิด แท้ที่จริงแล้วเฉพาะแปลงสามเหลี่ยมที่กัมพูชาบุกรุก ที่เป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่ใช่ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งทางจังหวัดสระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 กรมป่าไม้ อำเภอโคกสูง และทุกส่วนราชการ รวมทั้งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สัญญาว่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้ได้

    อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ สระแก้ว ถูกนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่เคยถูกกัมพูชาจับกุมที่บ้านหนองจาน เมื่อปี 2553 ตำหนิว่า แถลงข่าวแบบนี้ได้อย่างไร ชาวบ้านเสียใจมาก พร้อมตำหนิที่ดินจังหวัดสระแก้วว่าเล่นลิ้น เพราะชาวบ้านมีเอกสารสิทธิ์ แต่กลับบอกว่าไม่ใช่สิทธิครอบครอง ไปรายงานผู้ว่าฯ เช่นนี้ทำให้เข้าใจผิด นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทหารและข้าราชการไม่ได้ช่วยชาวบ้านหลายสิบปี ทำให้เสียพื้นที่ให้กัมพูชา 40-50 ปี และตนต้องถูกทางการกัมพูชาจับกุม

    อีกด้านหนึ่ง ผลจากการเปิดให้ชาวบ้านหนองจานยื่นเอกสารสิทธิ์ ทำให้นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ยื่นหนังสือประท้วงผู้ว่าฯ สระแก้ว อ้างว่ากระทบต่ออธิปไตยของกัมพูชาและละเมิด MOU43 เพราะคณะกรรมการ JBC ยังไม่ได้กำหนดเขตแดนที่ชัดเจน จึงขอคัดค้านและขอให้ทบทวนเพื่อแสดงความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและหลีกเลี่ยงความตึงเครียด

    ขณะที่สำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily ของนางฮุน มานา ลูกสาวนายฮุน เซน รักษาการประมุขประเทศกัมพูชา ได้ทีนำเสนอข่าวว่า การที่นายปริญญาระบุว่า บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน อนุมานว่าไทยไม่มีสิทธิ์อ้างสิทธิเป็นของตนเอง จึงถือว่าเป็นที่ดินของกัมพูชา แต่เพราะประชาชนไม่พอใจ โกรธแค้น จึงถูกบังคับให้ขอโทษโดยอ้างว่าเข้าใจผิด การกระทำของทหารไทยสร้างความเสียหายต่อความไว้วางใจ เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงทวิภาคีและพันธกรณีอีกครั้ง

    #Newskit
    ผู้ว่าฯ สระแก้ว โอษฐภัย ทำไทยเสียดินแดน? ประโยคที่ว่า "บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ แต่เป็นพื้นที่ป่า" ของนายปริญญา โพ​ธิ​สัตย์​ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ที่เพิ่งได้รับการต่อวาระราชการอีก 1 ปี ก่อนครบเกษียณอายุในปี 2569 ระหว่างการตอบคำถามสื่อมวลชนต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน (IOT) 8 ประเทศ เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ก่อให้เกิดความสงสัยแก่คนไทยทั้งประเทศ และสร้างความเจ็บช้ำน้ำใจให้แก่ชาวบ้านหนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ที่ถูกชาวกัมพูชาบุกรุกที่ดินทำกินมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษมานาน ที่สุดแล้วเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ผู้ว่าฯ สระแก้ว จัดให้มีการยื่นเอกสารสิทธิ์ การถือครองที่ดินให้แก่ชาวบ้านหนองจาน เพื่อคัดกรองเตรียมออกโฉนด พร้อมกับขอโทษประชาชน ที่เคยกล่าวว่าพื้นที่บ้านหนองจานไม่มีเอกสารสิทธิ์ ทำให้เกิดเข้าใจผิด แท้ที่จริงแล้วเฉพาะแปลงสามเหลี่ยมที่กัมพูชาบุกรุก ที่เป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่ใช่ทั้งหมู่บ้าน ซึ่งทางจังหวัดสระแก้ว กองทัพภาคที่ 1 กรมป่าไม้ อำเภอโคกสูง และทุกส่วนราชการ รวมทั้งทางตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สัญญาว่าจะนำพื้นที่ดังกล่าวกลับมาให้ได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าฯ สระแก้ว ถูกนายวีระ สมความคิด นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่เคยถูกกัมพูชาจับกุมที่บ้านหนองจาน เมื่อปี 2553 ตำหนิว่า แถลงข่าวแบบนี้ได้อย่างไร ชาวบ้านเสียใจมาก พร้อมตำหนิที่ดินจังหวัดสระแก้วว่าเล่นลิ้น เพราะชาวบ้านมีเอกสารสิทธิ์ แต่กลับบอกว่าไม่ใช่สิทธิครอบครอง ไปรายงานผู้ว่าฯ เช่นนี้ทำให้เข้าใจผิด นอกจากนี้ ที่ผ่านมาทหารและข้าราชการไม่ได้ช่วยชาวบ้านหลายสิบปี ทำให้เสียพื้นที่ให้กัมพูชา 40-50 ปี และตนต้องถูกทางการกัมพูชาจับกุม อีกด้านหนึ่ง ผลจากการเปิดให้ชาวบ้านหนองจานยื่นเอกสารสิทธิ์ ทำให้นายอุม เรียตรีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดบันเตียเมียนเจย กัมพูชา ยื่นหนังสือประท้วงผู้ว่าฯ สระแก้ว อ้างว่ากระทบต่ออธิปไตยของกัมพูชาและละเมิด MOU43 เพราะคณะกรรมการ JBC ยังไม่ได้กำหนดเขตแดนที่ชัดเจน จึงขอคัดค้านและขอให้ทบทวนเพื่อแสดงความเป็นเพื่อนบ้านที่ดีและหลีกเลี่ยงความตึงเครียด ขณะที่สำนักข่าว Kampuchea Thmey Daily ของนางฮุน มานา ลูกสาวนายฮุน เซน รักษาการประมุขประเทศกัมพูชา ได้ทีนำเสนอข่าวว่า การที่นายปริญญาระบุว่า บ้านหนองจานเป็นพื้นที่ป่าไม้ ไม่มีเอกสารสิทธิที่ดิน อนุมานว่าไทยไม่มีสิทธิ์อ้างสิทธิเป็นของตนเอง จึงถือว่าเป็นที่ดินของกัมพูชา แต่เพราะประชาชนไม่พอใจ โกรธแค้น จึงถูกบังคับให้ขอโทษโดยอ้างว่าเข้าใจผิด การกระทำของทหารไทยสร้างความเสียหายต่อความไว้วางใจ เรียกร้องให้ไทยเคารพข้อตกลงทวิภาคีและพันธกรณีอีกครั้ง #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 323 Views 0 Reviews
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ”
    ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน
    ตอนที่ 15 : เซียนกระเป๋าฉีก
    อังกฤษมีแผนที่จะเข้าไปครอบครองแหล่งน้ำมัน ที่อ่าวเปอร์เซีย (Arabian Gulf) แต่ปิดเงียบไม่บอกใคร ปี ค.ศ. 1917 อังกฤษประกาศสนับสนุนให้ชาวยิวได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน คือ Palestine รัฐบาลอังกฤษไม่ได้คิดเอง แต่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในชนชั้นสูงของอังกฤษ คือ The Royal Institute for International Affairs หรือ Chatham House เป็นมันสมองให้กับรัฐบาลอังกฤษ สนับสนุนให้ชาวยิวกลับไปครอบครอง Palestine แผ่นดินที่ล้อมรอบไปด้วย ประเทศแถบ Balkan และกลุ่มประเทศอาหรับ
    แผนมายากลนี้ เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางระหว่าง ประเทศอาณานิคมของอังกฤษในอาฟริกาใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยเหมืองทองและเพชร ข้ามมายังอียิปต์และคลองสุเอช ผ่านอิรัคและคูเวต มาเปอร์เซีย (อิหร่าน) มาถึงตะวันออกทางอินเดีย ซึ่งรวมถึงปากีสถานและบังคลาเทศ มันเป็นแผนที่ลึกซึ้งมาก ถ้าทำสำเร็จหมายถึง การเข้าไปครอบครองแหล่งน้ำมันที่มีค่ามหาศาล ก่อนที่เจ้าของแหล่งน้ำมันเองจะรู้ตัว
    ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยังไม่เห็นชัดว่าใครจะเป็นแชมป์ครองโลก ระหว่างอังกฤษกับอเมริกา เกมกลยุทธที่ต่างฝ่ายวางกันไว้ ยังไม่ถึงผลสำเร็จ จะครองโลกให้หมดจดต้องใจเย็น ๆ อังกฤษก็มีแก้ว 3 ประการเหมือนกัน ตั้งเข็มทิศไว้ ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ก่อนอเมริกาจะนึกเอาอย่าง
    – ควบคุมเส้นทางเดินเรือทะเล
– ควบคุมการเงินและการธนาคาร
– ต้องมีทรัพยากร ที่เป็นผลต่อยุทธศาสตร์
    (ไอ้พวกคิดจะครองโลก มันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก ท่านผู้อ่านนิทานลองสังเกตดู มันมีกลเล่นไม่กี่แบบหรอก ดูไปแล้วกัน)
    อังกฤษลำพองคิดว่า กำจัดเยอรมันออกไปนอกเส้นทางแล้ว จากเกมที่วางไว้โดยสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่อเมริกายังยืนอยู่ในเส้นทางของน้ำมัน Standard Oil ยังอยู่ดี อังกฤษต้องทำงานหนักขึ้น วางหมากให้ลึกซึ้งขึ้น ในปี ค.ศ. 1921 นาย Winston Churchill เป็นรมต.ว่าการกิจการอาณานิคมของอังกฤษ เขาตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ เพื่อมาดูแลตะวันออกกลางโดยเฉพาะ และเข้าไปควบคุมกิจการของ Anglo Persian Oil ผลคือบริษัทน้ำมันของอเมริกา หมดโอกาสได้สัมปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง นี่ขนาดเป็นลูกรักกันนะ แต่เรื่องน้ำมันนี่ ลูกก็ลูกเถอะ อย่าแหยม !
    แต่อเมริกาไม่ใช่มือใหม่ในเรื่องน้ำมัน เพียงแต่ยังไม่อยากทะเลาะกับลูกพี่อย่างอังกฤษ โดยไม่จำเป็น ว่าแล้วจิกโก๋ก็เปลี่ยนทิศไปทาง Mexico, Latin America (ก็ได้วะ !)
    เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้ยินเสียงคำราม ค.ศ. 1920 อังกฤษประกาศอย่างภาคภูมิว่า รัฐบาลของอังกฤษจะควบคุมและครอบครอง แหล่งน้ำมันทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ! มันกร่างจริง ! ทั้งหมดนี้ใช้มือปฏิบัติการคือ
    – Royal Dutch Shell ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Standard Oil ของพวกโคตรรวย Rockefeller
– Anglo Persian Oil Company ซึ่งตกเป็นของอังกฤษและใช้ชื่อใหม่ว่า British Petroleum (ตัด Persia ทิ้งลงถังขยะไป)
– D’ Arcy Exploitation Company ซึ่งดูแลโดยหน่วยสืบราชการลับต่างประเทศของอังกฤษ
– British Controlled Oilfields (BCO) ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นอย่างไม่เปิดเผย
    อเมริกาชักเริ่มมองหน้าอังกฤษไม่ติด แต่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ไม่ใช่แต่ในเรื่องการเมือง ในเรื่องธุรกิจยิ่งหนักกว่า จำไว้
    รัสเซียมีแหล่งน้ำมันใหญ่ที่ Baku ทั้งอังกฤษและอเมริกาต่างพยายามเข้าไปจีบรัสเซีย แต่อังกฤษได้เปรียบกว่า เพราะสภาพภูมิศาสตร์ แต่อเมริกาก็พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกทาง ที่จะตัดหน้าอังกฤษ แต่แล้วฝันของทั้งอังกฤษและอเมริกาก็สลาย
    หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ก๊วนอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จับมือกัน บี้เยอรมันในฐานะผู้แพ้สงคราม ตามสนธิสัญญา Versailles เยอรมันต้องสูญเสียแคว้น Alsace – Lorraine ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ กองทัพเรือแตก ทางรถไฟถูกยึด ฯลฯ ทั้งหมดเป็นการบดขยี้ให้เยอรมันเหลือแต่ซาก ฝ่ายอังกฤษ ยื่นข้อเสนอให้เยอรมันตอบภายใน 6 วัน แลกเอานะเยอรมันจะจ่ายเงิน จำนวน 132 พันล้านมาร์คทองคำ หรือจะให้พวกเราเข้าไปยึดแคว้น Ruhr ของยู แน่นอนเยอรมันยอมจ่ายเงิน (แล้วทองของเยอรมันก็ย้ายที่ไปอยู่ที่อังกฤษแทน) ผลที่ตามมาคือ หายนะของเศรษฐกิจและระบบการเงินของเยอรมัน
    แต่พอถึงปี ค.ศ. 1922 เยอรมันกับรัสเซียทำเอาเซียนกระเป๋าฉีก วางแผนขยี้เสียอย่างดี รัสเซียเกิดใจดี ยกหนี้ให้เยอรมัน แลกกับเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมของเยอรมัน เยอรมันรอดตาย นอกจากไม่ตายแล้ว ยังฟื้นขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง อย่าประเมินเยอรมันผิด แค้นนี้ต้องชำระ ทำไมรัสเซียถึงเกิดใจดี !?!

    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง “มายากลยุทธ” ภาคสอง ตอน เสกกระดาษเป็นน้ำมัน ตอนที่ 15 : เซียนกระเป๋าฉีก อังกฤษมีแผนที่จะเข้าไปครอบครองแหล่งน้ำมัน ที่อ่าวเปอร์เซีย (Arabian Gulf) แต่ปิดเงียบไม่บอกใคร ปี ค.ศ. 1917 อังกฤษประกาศสนับสนุนให้ชาวยิวได้กลับบ้านเกิดเมืองนอน คือ Palestine รัฐบาลอังกฤษไม่ได้คิดเอง แต่มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลในชนชั้นสูงของอังกฤษ คือ The Royal Institute for International Affairs หรือ Chatham House เป็นมันสมองให้กับรัฐบาลอังกฤษ สนับสนุนให้ชาวยิวกลับไปครอบครอง Palestine แผ่นดินที่ล้อมรอบไปด้วย ประเทศแถบ Balkan และกลุ่มประเทศอาหรับ แผนมายากลนี้ เพื่อเชื่อมโยงเส้นทางระหว่าง ประเทศอาณานิคมของอังกฤษในอาฟริกาใต้ ซึ่งเต็มไปด้วยเหมืองทองและเพชร ข้ามมายังอียิปต์และคลองสุเอช ผ่านอิรัคและคูเวต มาเปอร์เซีย (อิหร่าน) มาถึงตะวันออกทางอินเดีย ซึ่งรวมถึงปากีสถานและบังคลาเทศ มันเป็นแผนที่ลึกซึ้งมาก ถ้าทำสำเร็จหมายถึง การเข้าไปครอบครองแหล่งน้ำมันที่มีค่ามหาศาล ก่อนที่เจ้าของแหล่งน้ำมันเองจะรู้ตัว ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ยังไม่เห็นชัดว่าใครจะเป็นแชมป์ครองโลก ระหว่างอังกฤษกับอเมริกา เกมกลยุทธที่ต่างฝ่ายวางกันไว้ ยังไม่ถึงผลสำเร็จ จะครองโลกให้หมดจดต้องใจเย็น ๆ อังกฤษก็มีแก้ว 3 ประการเหมือนกัน ตั้งเข็มทิศไว้ ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ก่อนอเมริกาจะนึกเอาอย่าง – ควบคุมเส้นทางเดินเรือทะเล
– ควบคุมการเงินและการธนาคาร
– ต้องมีทรัพยากร ที่เป็นผลต่อยุทธศาสตร์ (ไอ้พวกคิดจะครองโลก มันไม่ได้ต่างกันเท่าไหร่หรอก ท่านผู้อ่านนิทานลองสังเกตดู มันมีกลเล่นไม่กี่แบบหรอก ดูไปแล้วกัน) อังกฤษลำพองคิดว่า กำจัดเยอรมันออกไปนอกเส้นทางแล้ว จากเกมที่วางไว้โดยสงครามโลกครั้งที่ 1 แต่อเมริกายังยืนอยู่ในเส้นทางของน้ำมัน Standard Oil ยังอยู่ดี อังกฤษต้องทำงานหนักขึ้น วางหมากให้ลึกซึ้งขึ้น ในปี ค.ศ. 1921 นาย Winston Churchill เป็นรมต.ว่าการกิจการอาณานิคมของอังกฤษ เขาตั้งหน่วยงานขึ้นใหม่ เพื่อมาดูแลตะวันออกกลางโดยเฉพาะ และเข้าไปควบคุมกิจการของ Anglo Persian Oil ผลคือบริษัทน้ำมันของอเมริกา หมดโอกาสได้สัมปทานน้ำมันในตะวันออกกลาง นี่ขนาดเป็นลูกรักกันนะ แต่เรื่องน้ำมันนี่ ลูกก็ลูกเถอะ อย่าแหยม ! แต่อเมริกาไม่ใช่มือใหม่ในเรื่องน้ำมัน เพียงแต่ยังไม่อยากทะเลาะกับลูกพี่อย่างอังกฤษ โดยไม่จำเป็น ว่าแล้วจิกโก๋ก็เปลี่ยนทิศไปทาง Mexico, Latin America (ก็ได้วะ !) เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนได้ยินเสียงคำราม ค.ศ. 1920 อังกฤษประกาศอย่างภาคภูมิว่า รัฐบาลของอังกฤษจะควบคุมและครอบครอง แหล่งน้ำมันทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ! มันกร่างจริง ! ทั้งหมดนี้ใช้มือปฏิบัติการคือ – Royal Dutch Shell ซึ่งเป็นคู่แข่งของ Standard Oil ของพวกโคตรรวย Rockefeller
– Anglo Persian Oil Company ซึ่งตกเป็นของอังกฤษและใช้ชื่อใหม่ว่า British Petroleum (ตัด Persia ทิ้งลงถังขยะไป)
– D’ Arcy Exploitation Company ซึ่งดูแลโดยหน่วยสืบราชการลับต่างประเทศของอังกฤษ
– British Controlled Oilfields (BCO) ซึ่งรัฐบาลอังกฤษถือหุ้นอย่างไม่เปิดเผย อเมริกาชักเริ่มมองหน้าอังกฤษไม่ติด แต่ไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ไม่ใช่แต่ในเรื่องการเมือง ในเรื่องธุรกิจยิ่งหนักกว่า จำไว้ รัสเซียมีแหล่งน้ำมันใหญ่ที่ Baku ทั้งอังกฤษและอเมริกาต่างพยายามเข้าไปจีบรัสเซีย แต่อังกฤษได้เปรียบกว่า เพราะสภาพภูมิศาสตร์ แต่อเมริกาก็พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยมทุกทาง ที่จะตัดหน้าอังกฤษ แต่แล้วฝันของทั้งอังกฤษและอเมริกาก็สลาย หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ก๊วนอังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จับมือกัน บี้เยอรมันในฐานะผู้แพ้สงคราม ตามสนธิสัญญา Versailles เยอรมันต้องสูญเสียแคว้น Alsace – Lorraine ที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุต่าง ๆ กองทัพเรือแตก ทางรถไฟถูกยึด ฯลฯ ทั้งหมดเป็นการบดขยี้ให้เยอรมันเหลือแต่ซาก ฝ่ายอังกฤษ ยื่นข้อเสนอให้เยอรมันตอบภายใน 6 วัน แลกเอานะเยอรมันจะจ่ายเงิน จำนวน 132 พันล้านมาร์คทองคำ หรือจะให้พวกเราเข้าไปยึดแคว้น Ruhr ของยู แน่นอนเยอรมันยอมจ่ายเงิน (แล้วทองของเยอรมันก็ย้ายที่ไปอยู่ที่อังกฤษแทน) ผลที่ตามมาคือ หายนะของเศรษฐกิจและระบบการเงินของเยอรมัน แต่พอถึงปี ค.ศ. 1922 เยอรมันกับรัสเซียทำเอาเซียนกระเป๋าฉีก วางแผนขยี้เสียอย่างดี รัสเซียเกิดใจดี ยกหนี้ให้เยอรมัน แลกกับเทคโนโลยีด้านอุตสาหกรรมของเยอรมัน เยอรมันรอดตาย นอกจากไม่ตายแล้ว ยังฟื้นขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่ง อย่าประเมินเยอรมันผิด แค้นนี้ต้องชำระ ทำไมรัสเซียถึงเกิดใจดี !?! คนเล่านิทาน
    0 Comments 0 Shares 304 Views 0 Reviews
  • Scan to support Newskit

    เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 นำเสนอเรื่องราวแตกต่างจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ทุกเช้าวันจันทร์-พฤหัสบดี ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Thaitimes, Facebook และ Instagram ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร

    ที่ผ่านมามีคนสงสัยว่า เพจ Newskit ทำคนเดียวหรือไม่ เป็นเพจส่วนตัว หรือทำในนามองค์กร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารกับคุณผู้อ่านว่า เป็นเพจส่วนตัวที่ทำคนเดียว หลังเว้นวรรคจากงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่หยุดเขียนไปเมื่อเดือน เม.ย.2567 และได้รับความกรุณาจากทีมงาน Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย ให้ทดสอบระบบและนำเสนอเนื้อหาถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการ One Man Journalism แม้จะมีงานประจำและกิจการของครอบครัว แต่พื้นที่ตรงนี้มีไว้ "ปล่อยของ" ในสิ่งที่งานประจำทำไม่ได้

    การเดินทางของเพจ Newskit ทำเป็นงานอดิเรกด้วยใจล้วนๆ เนื้อหาของเราไม่ได้ทำตามกระแส คนที่เข้ามาอ่านจะต้องรู้จักงานเขียนหรือตัวตนของเราจริงๆ แม้อัลกอริทึมจะปิดกั้นก็ตาม อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาใช้รายได้จากงานประจำเป็นหลัก เราใช้ความคิดและหัวใจ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่พบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน

    ถึงกระนั้น เราเชื่อว่าทั้งในวันนี้และอนาคต อาจมีคนที่อยากสนับสนุนผลงาน อีกทั้งเริ่มเห็นสื่อเอกชน และสื่อมวลชนอิสระหลายราย เริ่มประกาศขอรับการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกโพสต์ของ Newskit จะติด QR Code ของแอปพลิเคชัน K SHOP สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง แม้เราจะไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนักก็ตาม โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" เท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง

    เหตุผลที่ไม่แจ้งบัญชีธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งด้วยฟังก์ชันของ K SHOP ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถเลือกชำระด้วยคะแนนสะสม K Point ได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาท และผู้ใช้แอปพลิเคชัน MaxMe Wallet สามารถเลือกชำระด้วยแต้มในบัตรแมกซ์การ์ด ของปั๊มน้ำมันพีทีได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาทเช่นกัน

    ขอขอบคุณทุกการสแกนเพื่อสนับสนุนเรามา ณ โอกาสนี้

    #Newskit
    Scan to support Newskit เพจ Newskit ในคอนเซปต์ "ข่าวออนไลน์ อารมณ์หนังสือพิมพ์" ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 1 ก.ค.2567 นำเสนอเรื่องราวแตกต่างจากสื่อกระแสหลักและเพจข่าวทั่วไป ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองในประเทศไทย เรื่องราวแปลกใหม่และใกล้ตัวในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับประเทศไทย เผยแพร่ทุกเช้าวันจันทร์-พฤหัสบดี ผ่าน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ Thaitimes, Facebook และ Instagram ในรูปแบบที่สั้น กระชับ สรุปความในโพสต์เดียว ไม่เกิน 2,200 ตัวอักษร ที่ผ่านมามีคนสงสัยว่า เพจ Newskit ทำคนเดียวหรือไม่ เป็นเพจส่วนตัว หรือทำในนามองค์กร ขอใช้พื้นที่ตรงนี้สื่อสารกับคุณผู้อ่านว่า เป็นเพจส่วนตัวที่ทำคนเดียว หลังเว้นวรรคจากงานคอลัมนิสต์ออนไลน์ ที่หยุดเขียนไปเมื่อเดือน เม.ย.2567 และได้รับความกรุณาจากทีมงาน Thaitimes โซเชียลมีเดียของคนไทย ให้ทดสอบระบบและนำเสนอเนื้อหาถึงปัจจุบัน โดยยึดหลักการ One Man Journalism แม้จะมีงานประจำและกิจการของครอบครัว แต่พื้นที่ตรงนี้มีไว้ "ปล่อยของ" ในสิ่งที่งานประจำทำไม่ได้ การเดินทางของเพจ Newskit ทำเป็นงานอดิเรกด้วยใจล้วนๆ เนื้อหาของเราไม่ได้ทำตามกระแส คนที่เข้ามาอ่านจะต้องรู้จักงานเขียนหรือตัวตนของเราจริงๆ แม้อัลกอริทึมจะปิดกั้นก็ตาม อีกทั้งการแสวงหาข้อมูลเพื่อนำมาเขียน โดยเฉพาะการลงพื้นที่ย่อมมีค่าใช้จ่าย ซึ่งที่ผ่านมาใช้รายได้จากงานประจำเป็นหลัก เราใช้ความคิดและหัวใจ ทำหน้าที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่พบเจอและน่าสนใจ จากคำสอนของผู้ใหญ่ ที่ให้เริ่มจากสิ่งที่อยากทำมากกว่ารายได้ แล้วจะมีความสุขในการทำงาน ถึงกระนั้น เราเชื่อว่าทั้งในวันนี้และอนาคต อาจมีคนที่อยากสนับสนุนผลงาน อีกทั้งเริ่มเห็นสื่อเอกชน และสื่อมวลชนอิสระหลายราย เริ่มประกาศขอรับการสนับสนุนหลายรูปแบบ เพราะฉะนั้นตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ทุกโพสต์ของ Newskit จะติด QR Code ของแอปพลิเคชัน K SHOP สำหรับผู้อ่านที่ต้องการสนับสนุนโดยตรง แม้เราจะไม่คาดหวังรายได้จากตรงนี้มากนักก็ตาม โปรดสังเกตชื่อบัญชีปลายทางเป็น "นายกิตตินันท์ นาคทอง" เท่านั้น ระวังมิจฉาชีพแอบอ้าง เหตุผลที่ไม่แจ้งบัญชีธนาคารโดยตรง เพื่อป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และป้องกันมิจฉาชีพ อีกทั้งด้วยฟังก์ชันของ K SHOP ยังอำนวยความสะดวกให้ผู้ถือบัตรเครดิตกสิกรไทย สามารถเลือกชำระด้วยคะแนนสะสม K Point ได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาท และผู้ใช้แอปพลิเคชัน MaxMe Wallet สามารถเลือกชำระด้วยแต้มในบัตรแมกซ์การ์ด ของปั๊มน้ำมันพีทีได้ในอัตรา 10 คะแนนเท่ากับ 1 บาทเช่นกัน ขอขอบคุณทุกการสแกนเพื่อสนับสนุนเรามา ณ โอกาสนี้ #Newskit
    Like
    1
    1 Comments 0 Shares 295 Views 0 Reviews
  • “กองทัพไทย” นำคณะ IOT “อาเซียน” ลงพื้นที่ชายแดน...เปิดหลักฐาน “จรวด-ทุ่นระเบิด” ...ยันโปร่งใส-หวังคลี่คลายสถานการณ์
    https://www.thai-tai.tv/news/21041/
    .
    #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #IOT #ความมั่นคง #อาเซียน #ไทยไท
    “กองทัพไทย” นำคณะ IOT “อาเซียน” ลงพื้นที่ชายแดน...เปิดหลักฐาน “จรวด-ทุ่นระเบิด” ...ยันโปร่งใส-หวังคลี่คลายสถานการณ์ https://www.thai-tai.tv/news/21041/ . #กองทัพไทย #ชายแดนไทยกัมพูชา #IOT #ความมั่นคง #อาเซียน #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 165 Views 0 Reviews
  • ตบหัวแล้วลูบหลัง
    กัมพูชาโทรขอโทษทูตทหารอาเซียน หลังทหารเขมรกร่างใส่ไล่ทูตฯ และคณะสังเกตการณ์ฯ ที่ช่องอานม้า
    #7ดอกจิก
    ตบหัวแล้วลูบหลัง กัมพูชาโทรขอโทษทูตทหารอาเซียน หลังทหารเขมรกร่างใส่ไล่ทูตฯ และคณะสังเกตการณ์ฯ ที่ช่องอานม้า #7ดอกจิก
    0 Comments 0 Shares 102 Views 0 Reviews
  • เพียงเธอชี้นิ้วส่งสัญญาณ ก็เลิกโวยวาย! กลายเป็นที่พูดถึงขึ้นในโซเชียลฯ ทันที เมื่อปรากฏภาพทหารหญิงหนึ่งเดียว ที่กำลังชี้นิ้วไล่ให้ทหารกัมพูชา ให้ถอยกลับไปยังที่ตั้ง หลังโวยวายขณะ กองทัพภาคที่2 นำคณะผู้ช่วยทูตอาเซียน 8 ประเทศ - สื่อ สังเกตการณ์ช่องอานม้า หลังกัมพูชาละเมิดสัญญา
    .
    ภายใต้ใบหน้าที่สวยงาม มาพร้อมกับหุ่นที่สูงโปร่ง สมาร์ต เธอผู้นั้นคือ ผู้กองอะตอม ร้อยเอกหญิง ปวิชญา วลีสุขสันต์ ผู้ช่วยโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งทำหน้าที่ล่าม ในการลงพื้นที่ครั้งนี้
    เพียงเธอชี้นิ้วส่งสัญญาณ ก็เลิกโวยวาย! กลายเป็นที่พูดถึงขึ้นในโซเชียลฯ ทันที เมื่อปรากฏภาพทหารหญิงหนึ่งเดียว ที่กำลังชี้นิ้วไล่ให้ทหารกัมพูชา ให้ถอยกลับไปยังที่ตั้ง หลังโวยวายขณะ กองทัพภาคที่2 นำคณะผู้ช่วยทูตอาเซียน 8 ประเทศ - สื่อ สังเกตการณ์ช่องอานม้า หลังกัมพูชาละเมิดสัญญา . ภายใต้ใบหน้าที่สวยงาม มาพร้อมกับหุ่นที่สูงโปร่ง สมาร์ต เธอผู้นั้นคือ ผู้กองอะตอม ร้อยเอกหญิง ปวิชญา วลีสุขสันต์ ผู้ช่วยโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งทำหน้าที่ล่าม ในการลงพื้นที่ครั้งนี้
    Love
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 220 Views 0 0 Reviews
  • โฉมหน้าทหารเขมร ผู้สวมวิญญาณฮุนเซน โวยวายใส่ทหารไทย ที่พาคนะทูตทหารอาเซียนชมช่องอานม้า หาว่าพามาเยอะเกินไป และไม่แจ้งล่วงหน้า
    #คิงส์โพธิ์แดง
    โฉมหน้าทหารเขมร ผู้สวมวิญญาณฮุนเซน โวยวายใส่ทหารไทย ที่พาคนะทูตทหารอาเซียนชมช่องอานม้า หาว่าพามาเยอะเกินไป และไม่แจ้งล่วงหน้า #คิงส์โพธิ์แดง
    1 Comments 0 Shares 189 Views 0 Reviews
  • เปิดนาทีประจันหน้า! ทหารเขมรไร้มารยาท บุกป่วนคณะผู้สังเกตการณ์ฯของไทย ระหว่างลงพื้นที่ "ช่องอานม้า-อนุสาวรีย์ตาอม"
    .
    #กองทัพภาคที่2 นำคณะผู้ช่วยทูตอาเซียน 8 ประเทศ - สื่อฯ สังเกตการณ์ "ช่องอานม้า"

    โดยระหว่างที่คณะกำลังตรวจเยี่ยมอยู่นั้น มีทหารกัมพูชาคนหนึ่ง เข้ามาโวยวายทหารไทยว่า "จะขึ้นมาทำไมไม่แจ้งก่อน"

    และห้ามสื่อมวลชน เข้าไปที่อนุสาวรีย์ตาอม เพราะผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาไม่อนุญาต อ้างตอนที่กัมพูชานำคณะทูตมาก็ไม่ได้ก้าวข้ามเขตแดน

    และยังขึ้นเสียงดังใส่ทหารไทยว่า ฝ่ายกัมพูชาจะไปประท้วง ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด! จากการเผชิญหน้าระหว่างไทยและกัมพูชา

    จากนั้นไม่นานมี พ.อ.ฉิน ขนา หัวหน้าประสานงานช่องอานม้า-อานแซะ เข้ามาเจรจา พร้อมกล่าวว่าสาเหตุที่ทหารกัมพูชาคนดังกล่าวมีท่าทีโวยวายเนื่องจากว่า มีกองกำลังทหารขึ้นมาอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ตาอม โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่า..ขึ้นมาเพราะอะไร จึงเกิดการไม่เข้าใจ
    แต่ได้อธิบายให้ทราบ และอนุญาตให้คณะผู้ช่วยทูตฯ IOT ที่เดินทางมากับคณะของไทย ได้เข้าพื้นที่เพื่อสำรวจ และสังเกตการณ์ได้
    แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนของไทย เข้าไปใกล้บริเวณอนุสาวรีย์ตาอม

    เครดิตคลิปจาก นรพร พจน์จำเนียน #ช่องวัน31
    เปิดนาทีประจันหน้า! ทหารเขมรไร้มารยาท บุกป่วนคณะผู้สังเกตการณ์ฯของไทย ระหว่างลงพื้นที่ "ช่องอานม้า-อนุสาวรีย์ตาอม" . #กองทัพภาคที่2 นำคณะผู้ช่วยทูตอาเซียน 8 ประเทศ - สื่อฯ สังเกตการณ์ "ช่องอานม้า" โดยระหว่างที่คณะกำลังตรวจเยี่ยมอยู่นั้น มีทหารกัมพูชาคนหนึ่ง เข้ามาโวยวายทหารไทยว่า "จะขึ้นมาทำไมไม่แจ้งก่อน" และห้ามสื่อมวลชน เข้าไปที่อนุสาวรีย์ตาอม เพราะผู้บังคับบัญชาของกัมพูชาไม่อนุญาต อ้างตอนที่กัมพูชานำคณะทูตมาก็ไม่ได้ก้าวข้ามเขตแดน และยังขึ้นเสียงดังใส่ทหารไทยว่า ฝ่ายกัมพูชาจะไปประท้วง ทำให้สถานการณ์เริ่มตึงเครียด! จากการเผชิญหน้าระหว่างไทยและกัมพูชา จากนั้นไม่นานมี พ.อ.ฉิน ขนา หัวหน้าประสานงานช่องอานม้า-อานแซะ เข้ามาเจรจา พร้อมกล่าวว่าสาเหตุที่ทหารกัมพูชาคนดังกล่าวมีท่าทีโวยวายเนื่องจากว่า มีกองกำลังทหารขึ้นมาอยู่บริเวณอนุสาวรีย์ตาอม โดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้าว่า..ขึ้นมาเพราะอะไร จึงเกิดการไม่เข้าใจ แต่ได้อธิบายให้ทราบ และอนุญาตให้คณะผู้ช่วยทูตฯ IOT ที่เดินทางมากับคณะของไทย ได้เข้าพื้นที่เพื่อสำรวจ และสังเกตการณ์ได้ แต่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนของไทย เข้าไปใกล้บริเวณอนุสาวรีย์ตาอม เครดิตคลิปจาก นรพร พจน์จำเนียน #ช่องวัน31
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 355 Views 0 0 Reviews
  • คนเดียวยังกร่างได้
    ทหารเขมรสวมวิญญาณฮุนเซน โวยไทยพาคนะทูตทหารอาเซียนชมช่องอานม้า มาเยอะเกินไป-ไม่แจ้งล่วงหน้า
    #7ดอกจิก
    คนเดียวยังกร่างได้ ทหารเขมรสวมวิญญาณฮุนเซน โวยไทยพาคนะทูตทหารอาเซียนชมช่องอานม้า มาเยอะเกินไป-ไม่แจ้งล่วงหน้า #7ดอกจิก
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 117 Views 0 Reviews
  • จีดีพีไทยโต 2.8% แต่ชะลอตัวลง หวังท่องเที่ยวช่วยดันเศรษฐกิจ แม้ลงทุนพุ่ง ภาคบริการยังไม่ฟื้น สภาพัฒน์ฯปรับคาดการณ์จีดีพีปีนี้เป็น 1.8-2.3% ไทยโตช้าสุดในอาเซียน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078771

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    จีดีพีไทยโต 2.8% แต่ชะลอตัวลง หวังท่องเที่ยวช่วยดันเศรษฐกิจ แม้ลงทุนพุ่ง ภาคบริการยังไม่ฟื้น สภาพัฒน์ฯปรับคาดการณ์จีดีพีปีนี้เป็น 1.8-2.3% ไทยโตช้าสุดในอาเซียน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000078771 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    4
    0 Comments 0 Shares 739 Views 0 Reviews
  • เมื่อคริปโตกลายเป็นเงินจ่ายค่าข้าวมันไก่: ไทยเปิดตัว TouristDigiPay

    รัฐบาลไทยเปิดตัวโครงการนำร่องชื่อ “TouristDigiPay” ที่ให้ชาวต่างชาติสามารถแปลงคริปโตเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศ โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิตจากต่างประเทศ

    โครงการนี้จะดำเนินการในรูปแบบ sandbox เป็นเวลา 18 เดือน โดยมีการกำหนดวงเงินแปลงคริปโตไว้ที่ 550,000 บาทต่อเดือน เพื่อป้องกันการฟอกเงินและควบคุมความเสี่ยง

    นักท่องเที่ยวต้องเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และผู้ให้บริการ e-money ที่อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมผ่านการตรวจสอบ KYC และ AML อย่างเข้มงวด

    หลังแปลงคริปโตเป็นเงินบาท เงินจะถูกเก็บไว้ใน Tourist Wallet ซึ่งสามารถใช้จ่ายผ่าน QR code กับร้านค้าในไทยได้ โดยร้านค้าจะได้รับเป็นเงินบาทเท่านั้น ไม่ใช่คริปโต

    รัฐบาลหวังว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่คุ้นเคยกับคริปโต เช่น นักเดินทางรุ่นใหม่ และผู้ที่ไม่สะดวกใช้บัตรเครดิตข้ามประเทศ

    ข้อมูลจากข่าวหลัก
    โครงการ TouristDigiPay เปิดตัวเมื่อ 18 ส.ค. 2025 เพื่อให้นักท่องเที่ยวแปลงคริปโตเป็นเงินบาท
    ดำเนินการใน sandbox เป็นเวลา 18 เดือน พร้อมกำหนดวงเงินแปลงที่ 550,000 บาทต่อเดือน
    นักท่องเที่ยวต้องเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลและ e-money ที่ได้รับอนุญาต
    ต้องผ่านการตรวจสอบ KYC และ AML ตามมาตรฐานของ AMLO
    เงินที่แปลงจะถูกเก็บใน Tourist Wallet และใช้จ่ายผ่าน QR code
    ร้านค้าจะได้รับเป็นเงินบาทเท่านั้น ไม่ใช่คริปโต
    ไม่อนุญาตให้ถอนเงินสดระหว่างการเข้าร่วมโครงการ
    การใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กจำกัดที่ 50,000 บาทต่อเดือน ส่วนร้านใหญ่ได้ถึง 500,000 บาท
    ห้ามใช้จ่ายกับธุรกิจที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงสูงตามเกณฑ์ของ AMLO
    รัฐบาลหวังเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยว 5,000 บาทต่อคน

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    โครงการนี้ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่ใช้โมเดล “แปลงคริปโตเป็น fiat” สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ
    QR code เป็นช่องทางจ่ายเงินที่นิยมที่สุดในไทย โดยเฉพาะร้านอาหารและร้านค้าขนาดเล็ก
    การใช้ sandbox ช่วยให้รัฐบาลทดสอบเทคโนโลยีใหม่โดยไม่กระทบระบบการเงินหลัก
    การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนยังช้า ทำให้ไทยต้องหาทางดึงนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและอาเซียน
    การใช้คริปโตช่วยลดต้นทุนการแลกเปลี่ยนเงินตราและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต
    หากโครงการสำเร็จ อาจขยายไปสู่การซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินค้าหรูในอนาคต

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/18/thailand-to-launch-crypto-to-baht-conversion-for-foreign-tourists
    🏖️ เมื่อคริปโตกลายเป็นเงินจ่ายค่าข้าวมันไก่: ไทยเปิดตัว TouristDigiPay รัฐบาลไทยเปิดตัวโครงการนำร่องชื่อ “TouristDigiPay” ที่ให้ชาวต่างชาติสามารถแปลงคริปโตเป็นเงินบาทเพื่อใช้จ่ายในประเทศ โดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตรเครดิตจากต่างประเทศ โครงการนี้จะดำเนินการในรูปแบบ sandbox เป็นเวลา 18 เดือน โดยมีการกำหนดวงเงินแปลงคริปโตไว้ที่ 550,000 บาทต่อเดือน เพื่อป้องกันการฟอกเงินและควบคุมความเสี่ยง นักท่องเที่ยวต้องเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตจาก ก.ล.ต. และผู้ให้บริการ e-money ที่อยู่ภายใต้การดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย พร้อมผ่านการตรวจสอบ KYC และ AML อย่างเข้มงวด หลังแปลงคริปโตเป็นเงินบาท เงินจะถูกเก็บไว้ใน Tourist Wallet ซึ่งสามารถใช้จ่ายผ่าน QR code กับร้านค้าในไทยได้ โดยร้านค้าจะได้รับเป็นเงินบาทเท่านั้น ไม่ใช่คริปโต รัฐบาลหวังว่าโครงการนี้จะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มที่คุ้นเคยกับคริปโต เช่น นักเดินทางรุ่นใหม่ และผู้ที่ไม่สะดวกใช้บัตรเครดิตข้ามประเทศ ✅ ข้อมูลจากข่าวหลัก ➡️ โครงการ TouristDigiPay เปิดตัวเมื่อ 18 ส.ค. 2025 เพื่อให้นักท่องเที่ยวแปลงคริปโตเป็นเงินบาท ➡️ ดำเนินการใน sandbox เป็นเวลา 18 เดือน พร้อมกำหนดวงเงินแปลงที่ 550,000 บาทต่อเดือน ➡️ นักท่องเที่ยวต้องเปิดบัญชีกับผู้ให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลและ e-money ที่ได้รับอนุญาต ➡️ ต้องผ่านการตรวจสอบ KYC และ AML ตามมาตรฐานของ AMLO ➡️ เงินที่แปลงจะถูกเก็บใน Tourist Wallet และใช้จ่ายผ่าน QR code ➡️ ร้านค้าจะได้รับเป็นเงินบาทเท่านั้น ไม่ใช่คริปโต ➡️ ไม่อนุญาตให้ถอนเงินสดระหว่างการเข้าร่วมโครงการ ➡️ การใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กจำกัดที่ 50,000 บาทต่อเดือน ส่วนร้านใหญ่ได้ถึง 500,000 บาท ➡️ ห้ามใช้จ่ายกับธุรกิจที่ถูกจัดว่าเป็นความเสี่ยงสูงตามเกณฑ์ของ AMLO ➡️ รัฐบาลหวังเพิ่มการใช้จ่ายเฉลี่ยของนักท่องเที่ยว 5,000 บาทต่อคน ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ โครงการนี้ถือเป็นครั้งแรกในโลกที่ใช้โมเดล “แปลงคริปโตเป็น fiat” สำหรับนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ ➡️ QR code เป็นช่องทางจ่ายเงินที่นิยมที่สุดในไทย โดยเฉพาะร้านอาหารและร้านค้าขนาดเล็ก ➡️ การใช้ sandbox ช่วยให้รัฐบาลทดสอบเทคโนโลยีใหม่โดยไม่กระทบระบบการเงินหลัก ➡️ การฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวจีนยังช้า ทำให้ไทยต้องหาทางดึงนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลางและอาเซียน ➡️ การใช้คริปโตช่วยลดต้นทุนการแลกเปลี่ยนเงินตราและค่าธรรมเนียมบัตรเครดิต ➡️ หากโครงการสำเร็จ อาจขยายไปสู่การซื้ออสังหาริมทรัพย์หรือสินค้าหรูในอนาคต https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/08/18/thailand-to-launch-crypto-to-baht-conversion-for-foreign-tourists
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Thailand to launch crypto-to-baht conversion for foreign tourists
    BANGKOK (Reuters) -Thailand will launch an 18-month pilot programme to allow foreign visitors to convert cryptocurrencies into baht to make payments locally, officials said on Monday, part of efforts to rejuvenate the country's critical tourist sector.
    0 Comments 0 Shares 252 Views 0 Reviews
  • GDPไทยไตรมาส 2/68 โต 2.8 % รวมครึ่งปีแรกโต 3.0% สภาพัฒน์ เพิ่มเป้าGDPทั้งปี 68 จาก 1.3-2.3 เป็น 1.8-2.3% ผลจากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี หลังไทยได้อัตราภาษีสหรัฐ ใกล้เคียงอาเซียน จับตาปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง จากความผันผวนของการค้าโลก ,ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และข้อจำกัดจากปัจจัยภายใน!
    GDPไทยไตรมาส 2/68 โต 2.8 % รวมครึ่งปีแรกโต 3.0% สภาพัฒน์ เพิ่มเป้าGDPทั้งปี 68 จาก 1.3-2.3 เป็น 1.8-2.3% ผลจากการส่งออกที่ยังขยายตัวได้ดี หลังไทยได้อัตราภาษีสหรัฐ ใกล้เคียงอาเซียน จับตาปัจจัยเสี่ยงครึ่งปีหลัง จากความผันผวนของการค้าโลก ,ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ และข้อจำกัดจากปัจจัยภายใน!
    Haha
    Sad
    2
    0 Comments 0 Shares 364 Views 0 0 Reviews
  • กต.พาคณะทูตอาเซียน-รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา องค์กรระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทย-ต่างชาติ ลงพื้นที่ รร.บ้านภูมิซรอล จ.ศรีสะเกษ บรรยายสรุปกัมพูชาวางทุ่นระเบิด เรียกร้องนานาชาติทบทวนความช่วยเหลือ และให้กัมพูชาร่วมมือเก็บกู้ พร้อมพาดูหลักฐานของจริงที่ภูมะเขือ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000078014

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กต.พาคณะทูตอาเซียน-รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา องค์กรระหว่างประเทศ สื่อมวลชนไทย-ต่างชาติ ลงพื้นที่ รร.บ้านภูมิซรอล จ.ศรีสะเกษ บรรยายสรุปกัมพูชาวางทุ่นระเบิด เรียกร้องนานาชาติทบทวนความช่วยเหลือ และให้กัมพูชาร่วมมือเก็บกู้ พร้อมพาดูหลักฐานของจริงที่ภูมะเขือ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000078014 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    8
    0 Comments 0 Shares 500 Views 0 Reviews
  • กต.เชิญคณะทูตอาเซียนและภาคีอนุสัญญาออตตาวา ฟังบรรยายสรุปกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ ย้ำไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เตรียมพาคณะลงอุบลฯ-ศรีสะเกษพรุ่งนี้ เก็บข้อมูลพิจารณาทบทวนให้ความช่วยเหลือเขมรเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งกดดันให้รับผิดชอบ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077695

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    กต.เชิญคณะทูตอาเซียนและภาคีอนุสัญญาออตตาวา ฟังบรรยายสรุปกัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดใหม่ ย้ำไทยมีหลักฐานเชิงประจักษ์ เตรียมพาคณะลงอุบลฯ-ศรีสะเกษพรุ่งนี้ เก็บข้อมูลพิจารณาทบทวนให้ความช่วยเหลือเขมรเก็บกู้ทุ่นระเบิด รวมทั้งกดดันให้รับผิดชอบ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000077695 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Haha
    5
    0 Comments 0 Shares 462 Views 0 Reviews
  • “เขมร” โกหกรายวัน! โยนความผิดให้ไทยเรื่อง “กับระเบิด”...หลังผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่ชายแดน
    https://www.thai-tai.tv/news/20930/
    .
    #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพกัมพูชา #ทุ่นระเบิด #ข่าวความมั่นคง #อาเซียน #ไทยไท
    “เขมร” โกหกรายวัน! โยนความผิดให้ไทยเรื่อง “กับระเบิด”...หลังผู้สังเกตการณ์อาเซียนลงพื้นที่ชายแดน https://www.thai-tai.tv/news/20930/ . #ชายแดนไทยกัมพูชา #กองทัพกัมพูชา #ทุ่นระเบิด #ข่าวความมั่นคง #อาเซียน #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 164 Views 0 Reviews
  • หนุ่มน้อยโชว์เพลงอาเซียน ฟังจบร้องเอ๊ะ!! (14/8/68)
    #TruthFromThailand #อาเซียน #เพลงอาเซียน #news1 #thaitimes #shorts
    หนุ่มน้อยโชว์เพลงอาเซียน ฟังจบร้องเอ๊ะ!! (14/8/68) #TruthFromThailand #อาเซียน #เพลงอาเซียน #news1 #thaitimes #shorts
    0 Comments 0 Shares 225 Views 0 0 Reviews
  • เขมรเล่นใหญ่! เปิดสนามบินใหม่ “Techo International” ใหญ่สุดในประเทศ ทุ่มงบกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์!
    ห่างพนมเปญเพียง 20 กม. เชื่อมต่อถนนหลายเลน-สะพานลอย เดินทางสะดวก
    ✈ ทดสอบบินด้วย Airbus A320 วันที่ 15 ส.ค. เปิดจริง 9 ก.ย.นี้
    ระยะแรก รับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคน/ปี ขยายสูงสุด 30 ล้านในอนาคต
    🏗 ออกแบบโดย Foster + Partners (อังกฤษ) ก่อสร้าง-ระบบโดยทีมงานจากแคนาดา จีน ฮ่องกง ฝรั่งเศส กัมพูชา และเกาหลีใต้
    เป้าหมาย: ดันกัมพูชาเป็นศูนย์กลางการบินอาเซียน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

    #CambodiaAirport #TechoInternational #KTI #สนามบินใหม่ #PhnomPenh #ASEANHub #AirTravelAsia #CambodiaNews#NEW
    🚀🇰🇭 เขมรเล่นใหญ่! เปิดสนามบินใหม่ “Techo International” ใหญ่สุดในประเทศ 💰ทุ่มงบกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์! 📍ห่างพนมเปญเพียง 20 กม. เชื่อมต่อถนนหลายเลน-สะพานลอย เดินทางสะดวก ✈ ทดสอบบินด้วย Airbus A320 วันที่ 15 ส.ค. เปิดจริง 9 ก.ย.นี้ 🛫 ระยะแรก รับผู้โดยสารได้ 13 ล้านคน/ปี ขยายสูงสุด 30 ล้านในอนาคต 🏗 ออกแบบโดย Foster + Partners (อังกฤษ) ก่อสร้าง-ระบบโดยทีมงานจากแคนาดา จีน ฮ่องกง ฝรั่งเศส กัมพูชา และเกาหลีใต้ 🌏 เป้าหมาย: ดันกัมพูชาเป็นศูนย์กลางการบินอาเซียน กระตุ้นเศรษฐกิจ-การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน #CambodiaAirport #TechoInternational #KTI #สนามบินใหม่ #PhnomPenh #ASEANHub #AirTravelAsia #CambodiaNews ✈ #NEW
    0 Comments 0 Shares 367 Views 0 Reviews
  • ลวดหนามต้องใช้ด่วน ปกป้องทหารรอไม่ได้ : [NEWS UPDATE]

    พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่ 2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงและให้ขอกับรัฐบาล ยืนยัน ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่การจัดซื้อใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบอาจมีความผิด ที่สำคัญลวดหนามหีบเพลงสเปคที่ทหารใช้ต้องสั่งผลิต ใช้เวลานานขึ้นไปอีก แต่สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน ใช้เป็นเครื่องกีดขวางเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และในที่สุ่มเสี่ยงลักลอบเข้าออกของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งประชาชนอยากมีส่วนร่วมให้สิ่งของ กองทัพเคยสื่อสารว่า ขอบคุณในน้ำใจ อะไรที่จำเป็นหาในระบบไม่ทันเวลาก็จะแจ้งไป อย่างกรณีลวดหนามหีบเพลงดังกล่าว

    -กลัวเสียหน้ารัฐบาลไม่ได้ขวาง

    -ขออาเซียนกดดันกัมพูชา

    -บี้ตัดงบช่วยการศึกษาเขมร

    -ขานรับลดต้นทุนการเงิน
    ลวดหนามต้องใช้ด่วน ปกป้องทหารรอไม่ได้ : [NEWS UPDATE] พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เผยกรณีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ขอให้กองทัพภาคที่ 2 หยุดรับบริจาคลวดหนามหีบเพลงและให้ขอกับรัฐบาล ยืนยัน ไม่ใช่เรื่องงบประมาณ แต่การจัดซื้อใช้เวลาอย่างน้อย 1 เดือน หากไม่ปฏิบัติตามระเบียบอาจมีความผิด ที่สำคัญลวดหนามหีบเพลงสเปคที่ทหารใช้ต้องสั่งผลิต ใช้เวลานานขึ้นไปอีก แต่สถานการณ์ปัจจุบันจำเป็นต้องใช้ทันที โดยเฉพาะ 4 จังหวัดชายแดน ใช้เป็นเครื่องกีดขวางเพื่อความปลอดภัยของกำลังพล และในที่สุ่มเสี่ยงลักลอบเข้าออกของฝ่ายตรงข้าม ซึ่งประชาชนอยากมีส่วนร่วมให้สิ่งของ กองทัพเคยสื่อสารว่า ขอบคุณในน้ำใจ อะไรที่จำเป็นหาในระบบไม่ทันเวลาก็จะแจ้งไป อย่างกรณีลวดหนามหีบเพลงดังกล่าว -กลัวเสียหน้ารัฐบาลไม่ได้ขวาง -ขออาเซียนกดดันกัมพูชา -บี้ตัดงบช่วยการศึกษาเขมร -ขานรับลดต้นทุนการเงิน
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 444 Views 0 0 Reviews
  • แพ้ เวียดนาม 13/08/68 #ฟุตบอลหญิง #ชิงแชมป์อาเซียน 2025 #ทีมชาติไทย #ฟุตบอลไทย
    แพ้ เวียดนาม 13/08/68 #ฟุตบอลหญิง #ชิงแชมป์อาเซียน 2025 #ทีมชาติไทย #ฟุตบอลไทย
    Like
    Sad
    3
    0 Comments 0 Shares 377 Views 0 0 Reviews
More Results