• เปิดเอกสาร “กฟภ.” เคยร่อนหนังสือถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “ป.ป.ส. - ป.ป.ง. - สตช. - ดีเอสไอ - กต.” ปมตัดการขายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา หากพบว่ามีการส่งไฟฟ้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่บัดนี้ ยังไม่มีหน่วยงานไหนให้ความเห็นกลับมา

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009687

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    เปิดเอกสาร “กฟภ.” เคยร่อนหนังสือถามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง “ป.ป.ส. - ป.ป.ง. - สตช. - ดีเอสไอ - กต.” ปมตัดการขายไฟฟ้าไปยังประเทศเมียนมา หากพบว่ามีการส่งไฟฟ้าให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่บัดนี้ ยังไม่มีหน่วยงานไหนให้ความเห็นกลับมา อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009687 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    Haha
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 593 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ สป.จีน ลงพื้นที่ชายแดนตาก ส่องกาสิโน-โครงการลงทุนจีนเทาชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา ก่อนหารือแนวทางช่วย 160 ชาวจีนถูกหลอก-ฉ้อโกงในเมียวดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009371

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงฯ สป.จีน ลงพื้นที่ชายแดนตาก ส่องกาสิโน-โครงการลงทุนจีนเทาชเวโก๊กโก่ ฝั่งเมียนมา ก่อนหารือแนวทางช่วย 160 ชาวจีนถูกหลอก-ฉ้อโกงในเมียวดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009371 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    Angry
    13
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 782 มุมมอง 0 รีวิว
  • อึ้ง ตร.เกาะพะงัน สนธิกำลัง ฝ่ายปกครอง ตร.ท่องเที่ยว ตม บุก จับโรงเรียนเถื่อน เมียนมากลางเกาะพะงัน พบเด็ก นร.เป็นชาวเมียนมา กว่า 100 คน เก็บค่าหัววันละ 150-300 บาท ยึดหนังสืออุปกรณ์ ตำราเรียนเมียนมาอื้อ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009381

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    อึ้ง ตร.เกาะพะงัน สนธิกำลัง ฝ่ายปกครอง ตร.ท่องเที่ยว ตม บุก จับโรงเรียนเถื่อน เมียนมากลางเกาะพะงัน พบเด็ก นร.เป็นชาวเมียนมา กว่า 100 คน เก็บค่าหัววันละ 150-300 บาท ยึดหนังสืออุปกรณ์ ตำราเรียนเมียนมาอื้อ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000009381 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Sad
    Love
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีของนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีน ที่ถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทยแต่ได้ข้ามไปยังชายแดนเมียนมา สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญ คือ มีการขยายผลจับกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมขบวนการหลอกดาราดังรายนี้แล้ว

    #ล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หวังซิง #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    กรณีของนายหวัง ซิง นักแสดงชาวจีน ที่ถูกหลอกให้มาทำงานในประเทศไทยแต่ได้ข้ามไปยังชายแดนเมียนมา สุดท้ายได้รับการช่วยเหลือกลับมาอย่างปลอดภัย ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวสำคัญ คือ มีการขยายผลจับกลุ่มมิจฉาชีพที่ร่วมขบวนการหลอกดาราดังรายนี้แล้ว #ล่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ #หวังซิง #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #กระทรวงความมั่นคงสาธารณะจีน #Sondhix #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิฯ
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1107 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • รื้อฟื้น ตม.6 ออนไลน์ ต่างชาติเข้าไทยต้องกรอก

    ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า TM6 หรือ ตม.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าว หลังการขยายเวลายกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวทั้งด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่จะถึงนี้

    แบบฟอร์ม ตม.6 (TM6) คือแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามคนต่างด้าว และรักษาความมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกบัตรขาออกและบัตรขาเข้า มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ลดความล่าช้าในการเข้าออกเมือง เพราะข้อมูลคนไทยตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว

    กระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565 โดยเริ่มจากทางอากาศก่อน ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. 2567 ขยายเพิ่มอีก 12 จุดทั้งทางบกและทางน้ำ เฉพาะที่เดินทางมากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) และปัจจุบันขยายเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 ได้แก่ ด่านทางบก 8 ด่าน และด่านทางน้ำ 8 ด่าน

    น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า แบบฟอร์ม ตม.6 ออนไลน์ จะช่วยติดตามนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทย เพิ่มความมั่นใจต่อความปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 31 ม.ค. จะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและช่วยประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าวให้ชาวต่างชาติทราบอีกด้วย

    อนึ่ง บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีมาตรการให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มขาเข้าดิจิทัลก่อนเข้าประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ของสิงคโปร์, eTravel ของฟิลิปปินส์, E-Arrival Card ของบรูไน, Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ของมาเลเซีย และ Cambodia e-Arrival ของกัมพูชา (เฉพาะสนามบินพนมเปญและเสียมราฐ) ส่วนอินโดนีเซียกรอกแบบฟอร์มสำแดงต่อศุลกากร Indonesian Customs Declaration (e-CD) และใบอนุญาตสุขภาพ SATUSEHAT (SSHP) ขณะที่เวียดนาม ลาว และเมียนมา ยังคงใช้แบบฟอร์มบัตรขาเข้าเมืองกระดาษ

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    รื้อฟื้น ตม.6 ออนไลน์ ต่างชาติเข้าไทยต้องกรอก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 2568 เป็นต้นไป ชาวต่างชาติทุกคนที่เดินทางเข้ามายังประเทศไทย จะต้องกรอกแบบฟอร์มที่เรียกว่า TM6 หรือ ตม.6 ผ่านช่องทางออนไลน์ก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเตรียมประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าว หลังการขยายเวลายกเว้นการยื่นแบบ ตม. 6 ที่บริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองเป็นการชั่วคราวทั้งด่านทางบกและทางน้ำ รวม 16 ด่าน จะสิ้นสุดลงในวันที่ 30 เม.ย. 2568 ที่จะถึงนี้ แบบฟอร์ม ตม.6 (TM6) คือแบบรายการของคนต่างด้าวซึ่งเดินทางเข้ามาในหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบและติดตามคนต่างด้าว และรักษาความมั่นคงของประเทศ ที่ผ่านมาคนไทยได้รับการยกเว้นไม่ต้องกรอกบัตรขาออกและบัตรขาเข้า มาตั้งแต่วันที่ 16 ก.ย. 2560 ตามประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เพื่อแก้ปัญหาคอขวด ลดความล่าช้าในการเข้าออกเมือง เพราะข้อมูลคนไทยตรวจสอบได้จากทะเบียนราษฎรอยู่แล้ว กระทั่งกระทรวงมหาดไทยได้ยกเว้นการยื่นแบบ ตม.6 สำหรับชาวต่างชาติมาตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค. 2565 โดยเริ่มจากทางอากาศก่อน ต่อมาวันที่ 1 พ.ย. 2566 ได้ยกเว้นที่ด่านพรมแดนสะเดา จ.สงขลา ซึ่งตรงกับช่วงฤดูการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย กระทั่งวันที่ 15 เม.ย. 2567 ขยายเพิ่มอีก 12 จุดทั้งทางบกและทางน้ำ เฉพาะที่เดินทางมากับเรือสำราญและกีฬา (เรือยอร์ช) และปัจจุบันขยายเวลาถึงวันที่ 30 เม.ย. 2568 ได้แก่ ด่านทางบก 8 ด่าน และด่านทางน้ำ 8 ด่าน น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ว่า แบบฟอร์ม ตม.6 ออนไลน์ จะช่วยติดตามนักท่องเที่ยวขณะอยู่ในประเทศไทย เพิ่มความมั่นใจต่อความปลอดภัย ซึ่งในวันที่ 31 ม.ค. จะประชุมร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงการต่างประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สายการบิน โรงแรม และบริษัทนำเที่ยว เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมและช่วยประชาสัมพันธ์ขั้นตอนดังกล่าวให้ชาวต่างชาติทราบอีกด้วย อนึ่ง บางประเทศในภูมิภาคอาเซียน มีมาตรการให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่กรอกแบบฟอร์มขาเข้าดิจิทัลก่อนเข้าประเทศ เช่น SG Arrival Card (SGAC) ของสิงคโปร์, eTravel ของฟิลิปปินส์, E-Arrival Card ของบรูไน, Malaysia Digital Arrival Card (MDAC) ของมาเลเซีย และ Cambodia e-Arrival ของกัมพูชา (เฉพาะสนามบินพนมเปญและเสียมราฐ) ส่วนอินโดนีเซียกรอกแบบฟอร์มสำแดงต่อศุลกากร Indonesian Customs Declaration (e-CD) และใบอนุญาตสุขภาพ SATUSEHAT (SSHP) ขณะที่เวียดนาม ลาว และเมียนมา ยังคงใช้แบบฟอร์มบัตรขาเข้าเมืองกระดาษ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 269 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาวมาเลย์ฯ เที่ยวไทย กลายเป็นผู้สูญหาย

    เมื่อสัปดาห์ก่อน สื่อมวลชนประเทศมาเลเซีย รายงานว่า แอนดี้ จี ยัง คิท (Andy Jee Yung Kit) อายุ 30 ปี ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน สูง 170 เซนติเมตร ผิวคล้ำ และรูปร่างท้วม ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอกูชิง รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว แต่ทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ได้สูญหายและขาดการติดต่อ หลังจากไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. แต่เพื่อนร่วมงานได้แจ้งให้ครอบครัวทราบว่าหายตัวไป หลังจากไม่มาทำงานติดต่อกันสองวันหลังจากวันลาหยุด ทำให้ครอบครัวต้องเร่งค้นหาอย่างเร่งด่วน

    โดยลูกพี่ลูกน้องของนายแอนดี้ ได้ประกาศตามหาผ่านแพลตฟอร์มเสี่ยวหงซู (Xiao Hong Shu) เป็นภาษาจีน ระบุว่า นายแอนดี้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปท่องเที่ยว ต้องเดินทางกลับประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 15 ม.ค. กระทั่งเพื่อนร่วมงานแจ้งกับญาติว่า นายแอนดี้ไม่ได้มาทำงานหลังจากวันหยุด จึงทราบว่าหายตัวไปราวสองสามวันแล้ว โทรศัพท์ของเขาถูกตัดการติดต่อ และไม่มีข่าวคราวใดๆ ก่อนหน้านี้นายแอนดี้บอกญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงานแต่เพียงว่า จะไปประเทศไทยด้วยกันกับเพื่อนเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเพื่อนของเขาคือใคร

    ล่าสุด ครอบครัวของนายแอนดี้เดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศสิงคโปร์ ตรวจสอบว่านายแอนดี้กลับเข้าประเทศหรือไม่ แต่หากไม่พบเบาะแสใดๆ ครอบครัวกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อตามหานายแอนดี้อีกทางหนึ่ง

    ประเทศไทยตกเป็นข่าวว่าเป็นทางผ่านของขบวนการสแกมเมอร์ ต้นเดือนที่ผ่านมา หวาง ซิง (Wang Xing) นักแสดงชาวจีนวัย 22 ปี ได้รับความช่วยเหลือออกจากเครือข่ายค้ามนุษย์ หลังจากถูกหลอกให้ไปถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย มีรายงานว่าเขาถูกบังคับให้ฝึกอบรมเป็นสแกมเมอร์ในประเทศเมียนมา

    ก่อนหน้านี้ แจ็กเกอลีน เชิง (Jacquelin Ch'ng) นักแสดงสาวชาวมาเลเซียวัย 44 ปี ที่อาศัยและทำงานวงการบันเทิงกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) ในฮ่องกง ออกมาเปิดเผยข้อความต้องสงสัยที่เชื่อว่าอาจมีการหลอกลวงเกิดขึ้น เพราะได้รับข้อตกลงการจ้างงานเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าเป็นภาษาจีน ที่ได้รับจากเอเจนซีโฆษณาแห่งหนึ่งในประเทศไทย ระบุว่า แบรนด์ชุดว่ายน้ำแบรนด์หนึ่งสนใจที่จะร่วมงาน โดยระบุจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำชุดว่ายน้ำ พร้อมกับขอเสนอสิทธิ์ใช้ภาพเป็นเวลา 6 เดือน ลูกค้ามีงบประมาณ 6 หลักในการถ่ายทำ จึงขอเชิญร่วมงาน ซึ่งข้อความที่คลุมเครือดังกล่าวทำให้เชิงเริ่มสงสัย และแสดงความกังวลว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรว่างานโฆษณาที่ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นของจริงหรือของปลอม

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    ชาวมาเลย์ฯ เที่ยวไทย กลายเป็นผู้สูญหาย เมื่อสัปดาห์ก่อน สื่อมวลชนประเทศมาเลเซีย รายงานว่า แอนดี้ จี ยัง คิท (Andy Jee Yung Kit) อายุ 30 ปี ชาวมาเลเซียเชื้อสายจีน สูง 170 เซนติเมตร ผิวคล้ำ และรูปร่างท้วม ภูมิลำเนาอยู่ที่อำเภอกูชิง รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว แต่ทำงานที่ประเทศสิงคโปร์ ได้สูญหายและขาดการติดต่อ หลังจากไปเที่ยวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 8 ม.ค. แต่เพื่อนร่วมงานได้แจ้งให้ครอบครัวทราบว่าหายตัวไป หลังจากไม่มาทำงานติดต่อกันสองวันหลังจากวันลาหยุด ทำให้ครอบครัวต้องเร่งค้นหาอย่างเร่งด่วน โดยลูกพี่ลูกน้องของนายแอนดี้ ได้ประกาศตามหาผ่านแพลตฟอร์มเสี่ยวหงซู (Xiao Hong Shu) เป็นภาษาจีน ระบุว่า นายแอนดี้เดินทางไปกรุงเทพฯ เพื่อไปท่องเที่ยว ต้องเดินทางกลับประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 15 ม.ค. กระทั่งเพื่อนร่วมงานแจ้งกับญาติว่า นายแอนดี้ไม่ได้มาทำงานหลังจากวันหยุด จึงทราบว่าหายตัวไปราวสองสามวันแล้ว โทรศัพท์ของเขาถูกตัดการติดต่อ และไม่มีข่าวคราวใดๆ ก่อนหน้านี้นายแอนดี้บอกญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงานแต่เพียงว่า จะไปประเทศไทยด้วยกันกับเพื่อนเท่านั้น ไม่มีใครรู้ว่าเพื่อนของเขาคือใคร ล่าสุด ครอบครัวของนายแอนดี้เดินทางมาที่ประเทศสิงคโปร์ เพื่อขอความช่วยเหลือจากสถานทูตมาเลเซียประจำประเทศสิงคโปร์ ตรวจสอบว่านายแอนดี้กลับเข้าประเทศหรือไม่ แต่หากไม่พบเบาะแสใดๆ ครอบครัวกำลังวางแผนที่จะเดินทางไปยังกรุงเทพฯ เพื่อตามหานายแอนดี้อีกทางหนึ่ง ประเทศไทยตกเป็นข่าวว่าเป็นทางผ่านของขบวนการสแกมเมอร์ ต้นเดือนที่ผ่านมา หวาง ซิง (Wang Xing) นักแสดงชาวจีนวัย 22 ปี ได้รับความช่วยเหลือออกจากเครือข่ายค้ามนุษย์ หลังจากถูกหลอกให้ไปถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย มีรายงานว่าเขาถูกบังคับให้ฝึกอบรมเป็นสแกมเมอร์ในประเทศเมียนมา ก่อนหน้านี้ แจ็กเกอลีน เชิง (Jacquelin Ch'ng) นักแสดงสาวชาวมาเลเซียวัย 44 ปี ที่อาศัยและทำงานวงการบันเทิงกับสถานีโทรทัศน์ทีวีบี (TVB) ในฮ่องกง ออกมาเปิดเผยข้อความต้องสงสัยที่เชื่อว่าอาจมีการหลอกลวงเกิดขึ้น เพราะได้รับข้อตกลงการจ้างงานเพื่อสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าเป็นภาษาจีน ที่ได้รับจากเอเจนซีโฆษณาแห่งหนึ่งในประเทศไทย ระบุว่า แบรนด์ชุดว่ายน้ำแบรนด์หนึ่งสนใจที่จะร่วมงาน โดยระบุจังหวัดภูเก็ตและเมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี เป็นสถานที่ถ่ายทำชุดว่ายน้ำ พร้อมกับขอเสนอสิทธิ์ใช้ภาพเป็นเวลา 6 เดือน ลูกค้ามีงบประมาณ 6 หลักในการถ่ายทำ จึงขอเชิญร่วมงาน ซึ่งข้อความที่คลุมเครือดังกล่าวทำให้เชิงเริ่มสงสัย และแสดงความกังวลว่าจะตรวจสอบได้อย่างไรว่างานโฆษณาที่ถ่ายทำในประเทศไทยเป็นของจริงหรือของปลอม #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล้างบางจีนเทาที่เมียวดี เมืองคนบาป
    .
    ถ้าใครสงสัยว่าทำไม ซิงซิง ถูกแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปที่เมียวดี ประเทศพม่า มีอะไรดีที่เมียวดี คำตอบคือว่า ณ เวลานี้ เมียวดีกำลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชำนาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติ คือหลอกคนจีนด้วยกัน และชาติอื่นๆ มาทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในเมืองเมียวดี
    .
    ที่น่าตื่นตะลึงก็คือว่า ความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดี จากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดี ที่กลับไม่ใช่รัฐบาลพม่า หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง คือชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและเพียบพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้
    .
    เจ้าพ่อตัวจริงของเมืองเมียวดีวันนี้ คือ พันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA มีคฤหาสน์หรูหรา ส่งลูกหลานไปเรียนถึงประเทศสิงคโปร์ รายได้สีเทานำมาจัดซื้ออาวุธทันสมัย เสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังกะเหรี่ยงของเขา ต้นปี 2567 เขานำกองทัพ DKBA ของเขาแยกตัวออกมาจาก BGF ไม่ยอมขึ้นกับเมียนมาอีก แล้วตั้งชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNA
    .
    นอกจากนี้ยังมี พลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) หรือ โกซาย ผู้นำหมายเลข 3 ของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีอิทธิพลอยู่เขตไท่ฉาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ดาราจีนซิงซิงถูกล่อลวงไปในเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ตรงข้ามกับตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากร แก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉาน และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา
    .
    16 มกราคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกโรงในเรื่องนี้ โดยพบปะทูต 10 ชาติอาเซียน หารือปราบขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์ โดยนายหวัง อี้ ย้ำว่า ประเทศที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ จัดการถอนรากถอนโคน เพราะคดีหลอกลวงและการพนันออนไลน์ที่ชายแดนไทย-พม่า เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้ายแรงมาก ทำร้ายชาวจีนและพลเมืองของประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด
    .
    ถ้าเราอ่านความระหว่างบรรทัดของนายหวัง อี้ เราจะตีความได้ว่า หนึ่ง เหตุการณ์ที่คุกคามความปลอดภัยของชาวจีนและประชาชนของประเทศต่างๆ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด สอง ประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทย-พม่า ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีประเทศใดบ้าง เรารู้กันดี สาม ประเทศจีนจะมีการปฏิบัติการร่วมกับชาติอาเซียนเพื่อปราบปรามขบวนการผิดกฎหมาย คุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน และพิทักษ์ความสงบสุขระหว่างประเทศ นี่คือวิธีปฏิบัติของจีนที่เรียกว่า ใช้มารยาทก่อนใช้กำลัง
    .
    ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลไทยจะต้องเจรจากับรัฐบาลจีน ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งผมรู้จักมักคุ้นสนิทสนมเป็นอย่างดีมาก ท่านเคยพูดกับผมตรงๆ ว่า คุณสนธิ ประเทศจีนไม่พอใจจีนเทามาก พวกนี้เป็นพวกมีปัญหากับสังคมจีน ด้วยเหตุนี้ถึงหนีมาประเทศไทย ท่านใช้ลิ้นการทูตพูด ท่านไม่พูดตรงๆ แต่ท่านบอกว่า พวกนี้อยู่ประเทศไทยสบายกว่าอยู่ประเทศจีน อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ทั้งตำรวจ ทั้งทุกคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น จีนเทามั่นใจว่าซื้อได้
    .
    จีนเทากลัวถูกส่งตัวกลับจีน ถ้าเราส่งตัวจีนเทาพร้อมข้อหาความผิดที่สืบสวนได้ส่งกลับให้จีนจัดการ คนพวกนี้จะกลัวมาก กลัวจริงๆ ที่จะถูกส่งกลับ เพราะจีนเขาจัดการขั้นเด็ดขาด หวัง อี้ ประกาศกร้าวไว้แล้ว ดังที่ผมเล่าให้ฟัง
    .
    ทำไมจีนเทาในประเทศไทยถึงเยอะ ท่านผู้ชมรู้ไหม ? จีนเทาในประเทศไทยมันจะมีขาใหญ่ มันจะชวนพรรคพวกที่สีเทาด้วยกัน มาๆๆ มาเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ กูจัดการเอง ตำรวจไทยหมู เรียกเงินกันทั้งนั้น เอาเงินเข้าไปตัวอ่อน เนื้ออ่อนเลย ตำรวจไทยอายบ้างหรือเปล่า
    .
    ปัญหาอยู่ตรงไหน น่าจะรู้แล้วตอนนี้ ไฟฟ้าก็แอบใช้ของไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็ใช้ของไทย ก็สั่งของกินของใช้ให้คนนับพันที่อำเภอแม่สอดและที่อำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การบริหารงานของผู้บัญชาการภาค 6 เด็กเส้นใหญ่ แต่ทำงานไม่เป็น
    .
    แล้วตำรวจ พวกคุณทำอะไรอยู่? ผมชี้แหล่ง วิธีการสืบสวนสอบสวนให้พวกคุณ แต่พวกคุณก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่า คุณจ่ายเงินผมเท่าไร แล้วพวกเราจะทำอย่างไร จะทำอย่างไรกับพวกตำรวจไทย
    ล้างบางจีนเทาที่เมียวดี เมืองคนบาป . ถ้าใครสงสัยว่าทำไม ซิงซิง ถูกแก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ล่อลวงไปที่เมียวดี ประเทศพม่า มีอะไรดีที่เมียวดี คำตอบคือว่า ณ เวลานี้ เมียวดีกำลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชำนาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติ คือหลอกคนจีนด้วยกัน และชาติอื่นๆ มาทำงานเยี่ยงทาสอยู่ในเมืองเมียวดี . ที่น่าตื่นตะลึงก็คือว่า ความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดี จากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดี ที่กลับไม่ใช่รัฐบาลพม่า หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง คือชนกลุ่มน้อยกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและเพียบพร้อมด้วยกองกำลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้ . เจ้าพ่อตัวจริงของเมืองเมียวดีวันนี้ คือ พันเอก ซอว์ ชิต ตู (Saw Chit Thu) ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือ KNA มีคฤหาสน์หรูหรา ส่งลูกหลานไปเรียนถึงประเทศสิงคโปร์ รายได้สีเทานำมาจัดซื้ออาวุธทันสมัย เสริมเขี้ยวเล็บให้กองกำลังกะเหรี่ยงของเขา ต้นปี 2567 เขานำกองทัพ DKBA ของเขาแยกตัวออกมาจาก BGF ไม่ยอมขึ้นกับเมียนมาอีก แล้วตั้งชื่อเป็น กองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง หรือที่เรียกว่า KNA . นอกจากนี้ยังมี พลจัตวา ซาย จอ หล่า (Sai Kyaw Hla) หรือ โกซาย ผู้นำหมายเลข 3 ของกะเหรี่ยงพุทธ DKBA มีอิทธิพลอยู่เขตไท่ฉาง ซึ่งเป็นบริเวณที่ดาราจีนซิงซิงถูกล่อลวงไปในเมืองสแกมเมอร์แห่งใหม่ ตรงข้ามกับตำบลช่องแคบ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากร แก๊งสแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉาน และสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา . 16 มกราคม ที่ผ่านมา นายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน ออกโรงในเรื่องนี้ โดยพบปะทูต 10 ชาติอาเซียน หารือปราบขบวนการหลอกลวงและพนันออนไลน์ โดยนายหวัง อี้ ย้ำว่า ประเทศที่เกี่ยวข้องต้องรับผิดชอบ จัดการถอนรากถอนโคน เพราะคดีหลอกลวงและการพนันออนไลน์ที่ชายแดนไทย-พม่า เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ร้ายแรงมาก ทำร้ายชาวจีนและพลเมืองของประเทศต่างๆ เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวด . ถ้าเราอ่านความระหว่างบรรทัดของนายหวัง อี้ เราจะตีความได้ว่า หนึ่ง เหตุการณ์ที่คุกคามความปลอดภัยของชาวจีนและประชาชนของประเทศต่างๆ จะยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้ ต้องจัดการอย่างเด็ดขาด สอง ประเทศที่เกี่ยวข้อง ไทย-พม่า ต้องรับผิดชอบ แต่จะมีประเทศใดบ้าง เรารู้กันดี สาม ประเทศจีนจะมีการปฏิบัติการร่วมกับชาติอาเซียนเพื่อปราบปรามขบวนการผิดกฎหมาย คุ้มครองความปลอดภัยให้ประชาชน และพิทักษ์ความสงบสุขระหว่างประเทศ นี่คือวิธีปฏิบัติของจีนที่เรียกว่า ใช้มารยาทก่อนใช้กำลัง . ท่านผู้ชมครับ รัฐบาลไทยจะต้องเจรจากับรัฐบาลจีน ท่านทูตหาน จื้อเฉียง ท่านทูตจีนประจำประเทศไทย ซึ่งผมรู้จักมักคุ้นสนิทสนมเป็นอย่างดีมาก ท่านเคยพูดกับผมตรงๆ ว่า คุณสนธิ ประเทศจีนไม่พอใจจีนเทามาก พวกนี้เป็นพวกมีปัญหากับสังคมจีน ด้วยเหตุนี้ถึงหนีมาประเทศไทย ท่านใช้ลิ้นการทูตพูด ท่านไม่พูดตรงๆ แต่ท่านบอกว่า พวกนี้อยู่ประเทศไทยสบายกว่าอยู่ประเทศจีน อีกนัยหนึ่งก็คือว่า ทั้งตำรวจ ทั้งทุกคนที่อยู่ในกระบวนการยุติธรรมของไทยนั้น จีนเทามั่นใจว่าซื้อได้ . จีนเทากลัวถูกส่งตัวกลับจีน ถ้าเราส่งตัวจีนเทาพร้อมข้อหาความผิดที่สืบสวนได้ส่งกลับให้จีนจัดการ คนพวกนี้จะกลัวมาก กลัวจริงๆ ที่จะถูกส่งกลับ เพราะจีนเขาจัดการขั้นเด็ดขาด หวัง อี้ ประกาศกร้าวไว้แล้ว ดังที่ผมเล่าให้ฟัง . ทำไมจีนเทาในประเทศไทยถึงเยอะ ท่านผู้ชมรู้ไหม ? จีนเทาในประเทศไทยมันจะมีขาใหญ่ มันจะชวนพรรคพวกที่สีเทาด้วยกัน มาๆๆ มาเมืองไทย ไม่ต้องกังวลเรื่องตำรวจ กูจัดการเอง ตำรวจไทยหมู เรียกเงินกันทั้งนั้น เอาเงินเข้าไปตัวอ่อน เนื้ออ่อนเลย ตำรวจไทยอายบ้างหรือเปล่า . ปัญหาอยู่ตรงไหน น่าจะรู้แล้วตอนนี้ ไฟฟ้าก็แอบใช้ของไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทำอย่างไร อินเทอร์เน็ตก็ใช้ของไทย ก็สั่งของกินของใช้ให้คนนับพันที่อำเภอแม่สอดและที่อำเภอพบพระ ซึ่งอยู่ในกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 ภายใต้การบริหารงานของผู้บัญชาการภาค 6 เด็กเส้นใหญ่ แต่ทำงานไม่เป็น . แล้วตำรวจ พวกคุณทำอะไรอยู่? ผมชี้แหล่ง วิธีการสืบสวนสอบสวนให้พวกคุณ แต่พวกคุณก็ไม่สนใจ สนใจอย่างเดียวว่า คุณจ่ายเงินผมเท่าไร แล้วพวกเราจะทำอย่างไร จะทำอย่างไรกับพวกตำรวจไทย
    Like
    Love
    Haha
    Sad
    24
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภูมิธรรม เผย ตัดไฟชายแดนแล้ว 2 จุด หลังสื่อเมียนมาแฉไทยจ่ายไฟให้คอลเซ็นเตอร์ 24/01/68 #ภูมิธรรม #เมียนมา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ตัดไฟชายแดน
    ภูมิธรรม เผย ตัดไฟชายแดนแล้ว 2 จุด หลังสื่อเมียนมาแฉไทยจ่ายไฟให้คอลเซ็นเตอร์ 24/01/68 #ภูมิธรรม #เมียนมา #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #ตัดไฟชายแดน
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 791 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • รัฐบาลทหารพม่าเผยวันนี้ (21) ว่าได้เนรเทศผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์กลับจีนไปแล้วมากกว่า 50,000 คน นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 ขณะที่รัฐบาลทหารพม่าได้ร้องขอให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้าแทรกแซงในเรื่องนี้

    ขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทั่วบริเวณพื้นที่ชายแดนของพม่า และมีชาวต่างชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ส่วนใหญ่มักถูกค้ามนุษย์หรือถูกบังคับให้ทำงานหลอกเพื่อนร่วมชาติของพวกเขา ในอุตสาหกรรมที่นักวิเคราะห์กล่าวว่ามีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์

    บทบรรณาธิการที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ฉบับวันอังคาร (21) ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขอบเขตของกิจกรรมทางอาชญากรรม ที่รวมถึงการหลอกลวงออนไลน์และการพนัน ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก

    รายงานระบุว่ารัฐบาลทหารได้จับกุมและส่งตัวชาวต่างชาติกว่า 55,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงชายแดนกลับประเทศบ้านเกิดตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 โดยกว่า 53,000 คน ถูกส่งไปจีน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000006509

    #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า
    รัฐบาลทหารพม่าเผยวันนี้ (21) ว่าได้เนรเทศผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปฏิบัติการหลอกลวงทางออนไลน์กลับจีนไปแล้วมากกว่า 50,000 คน นับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 ขณะที่รัฐบาลทหารพม่าได้ร้องขอให้ประเทศเพื่อนบ้านเข้าแทรกแซงในเรื่องนี้ • ขบวนการหลอกลวงทางออนไลน์ผุดขึ้นราวดอกเห็ดทั่วบริเวณพื้นที่ชายแดนของพม่า และมีชาวต่างชาติทำงานอยู่เป็นจำนวนมาก ที่ส่วนใหญ่มักถูกค้ามนุษย์หรือถูกบังคับให้ทำงานหลอกเพื่อนร่วมชาติของพวกเขา ในอุตสาหกรรมที่นักวิเคราะห์กล่าวว่ามีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ • บทบรรณาธิการที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โกลบอล นิว ไลท์ ออฟ เมียนมาร์ ฉบับวันอังคาร (21) ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับขอบเขตของกิจกรรมทางอาชญากรรม ที่รวมถึงการหลอกลวงออนไลน์และการพนัน ต่อสาธารณะเป็นครั้งแรก • รายงานระบุว่ารัฐบาลทหารได้จับกุมและส่งตัวชาวต่างชาติกว่า 55,000 คน ที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวงชายแดนกลับประเทศบ้านเกิดตั้งแต่เดือนต.ค. 2566 โดยกว่า 53,000 คน ถูกส่งไปจีน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000006509 • #MGROnline #รัฐบาลทหารพม่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 188 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนีตาย 'เมียวดี' ถูกหลอกทำงาน เผ่นข้ามฝั่งไทย
    .
    ปัญหาการหลอกลวงคนไปทำงานจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง โดยนอกกจากคนไทยที่ถูกหลอกแล้ว ยังมีคนชาติอื่นที่โดนกระทำไม่แพ้กัน ถึงขนาดที่ต้องหนีตามช่องทางธรรมชาติข้ามมาฝั่งไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตาก และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ร่วมกันปฏิบัติการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตามเส้นทางแนวชายแดน มาถึงบริเวณบ้านวังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พบกลุ่มบุคคลสัญชาติอินโดนีเซีย กำลังเดินลัดเลาะลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งเมียนมาเข้ามาฝั่งไทย 32 ราย แบ่งเป็นชาย 30 คน หญิง 2 คน จึงควบคุมตัวไว้
    .
    โดยสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 32 ราย ให้การตรงกันว่า ทำงานอยู่ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และไม่อยากจะทำงานต่อ จึงแอบลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเดินทางกลับประเทศของตน โดยไม่มีพาสปอร์ตเลยสักราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจเช็กในระบบไบโอเมตริกซ์ ไม่พบการเดินทางเข้าประเทศไทยก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.ชัยพงษ์ พาขุนทด รอง สว.สอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
    .
    สำหรับปัจจุบันตลอดแนวริมแม่น้ำเมยฝั่งเมืองเมียวดี เต็มไปด้วยอาคารสิ่งก่อสร้างซึ่งเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากหน่วยข่าวทางทหารในพื้นที่ เปิดเผยว่า การหลบหนีของกลุ่มคนชาวอินโดนีเซียดังกล่าวเกิดมาจากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำ กกล.BGF และ DKBA ได้เรียกประชุมด่วน ผู้ประกอบธุรกิจชาวจีน เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวง และการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ในประเทศเมียนมา จึงทำให้ผู้ที่เข้าไปทำงานผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าวรวมตัวกันหลบนายกมาเพราะอาจถูกกดดันดังกล่าว
    ..............
    Sondhi X
    หนีตาย 'เมียวดี' ถูกหลอกทำงาน เผ่นข้ามฝั่งไทย . ปัญหาการหลอกลวงคนไปทำงานจังหวัดเมียวดี ประเทศเมียนมา ยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง โดยนอกกจากคนไทยที่ถูกหลอกแล้ว ยังมีคนชาติอื่นที่โดนกระทำไม่แพ้กัน ถึงขนาดที่ต้องหนีตามช่องทางธรรมชาติข้ามมาฝั่งไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองกำลังนเรศวร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองตาก และฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอด ร่วมกันปฏิบัติการลาดตระเวนและเฝ้าตรวจตามเส้นทางแนวชายแดน มาถึงบริเวณบ้านวังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก พบกลุ่มบุคคลสัญชาติอินโดนีเซีย กำลังเดินลัดเลาะลักลอบข้ามชายแดนจากฝั่งเมียนมาเข้ามาฝั่งไทย 32 ราย แบ่งเป็นชาย 30 คน หญิง 2 คน จึงควบคุมตัวไว้ . โดยสอบสวนเบื้องต้นทั้ง 32 ราย ให้การตรงกันว่า ทำงานอยู่ใน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และไม่อยากจะทำงานต่อ จึงแอบลักลอบข้ามมายังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติ เพื่อเดินทางกลับประเทศของตน โดยไม่มีพาสปอร์ตเลยสักราย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจเช็กในระบบไบโอเมตริกซ์ ไม่พบการเดินทางเข้าประเทศไทยก่อนหน้านี้ จากนั้นจึงควบคุมตัวส่ง ร.ต.อ.ชัยพงษ์ พาขุนทด รอง สว.สอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป . สำหรับปัจจุบันตลอดแนวริมแม่น้ำเมยฝั่งเมืองเมียวดี เต็มไปด้วยอาคารสิ่งก่อสร้างซึ่งเป็นที่ตั้งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันมีรายงานข่าวจากหน่วยข่าวทางทหารในพื้นที่ เปิดเผยว่า การหลบหนีของกลุ่มคนชาวอินโดนีเซียดังกล่าวเกิดมาจากกรณีที่เมื่อวันที่ 15 ม.ค.2568 ที่ผ่านมา กลุ่มผู้นำ กกล.BGF และ DKBA ได้เรียกประชุมด่วน ผู้ประกอบธุรกิจชาวจีน เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ การหลอกลวง และการค้ามนุษย์ ในพื้นที่ จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ในประเทศเมียนมา จึงทำให้ผู้ที่เข้าไปทำงานผิดกฎหมายในพื้นที่ดังกล่าวรวมตัวกันหลบนายกมาเพราะอาจถูกกดดันดังกล่าว .............. Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 868 มุมมอง 0 รีวิว
  • 19/1/68

    บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ

    ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร?

    การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง

    และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน

    เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม

    หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้

    จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์

    แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ...

    ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม"

    ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก

    รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ

    พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง

    แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ

    มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน

    ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน

    แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้

    ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์

    ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง

    ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม"

    เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย

    ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ
    .
    ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    19/1/68 บ่อนคาสิโน : ขอคารวะดร.เอ้ที่กล้าชี้แนะ ในวันที่ลำบากที่สุด ทำไม ลีกวนยู รัฐบุรุษแห่งสิงคโปร์ เลือกพัฒนา "คุณภาพคน" และ "คุณภาพราชการ" ก่อนเปิดกาสิโน เราเรียนรู้อะไร? การอ้างเศรษฐกิจจะดี จะสร้างรายได้จาก "กาสิโนเสรี" ในชื่อแอบแฝง "Entertainmant Complex" ชวนน่าสงสัย อันตรายยิ่ง และการนำเรื่องกาสิโน ไปเปรียบกับสิงคโปร์ แต่ไม่ไปเปรียบกับเมียนมาร์ และกัมพูชา ยิ่งสะท้อน ความวิบัติในตรรกะ เช่นกัน เพราะการมีกาสิโนในประเทศข้างบ้าน สะท้อนความจริงว่า "ชาวบ้านไม่ได้อะไร" ยังคงยากจน ข้นแค้น แต่คนได้ คือ "นายทุน" กับ "ผู้นำการเมือง" ผู้อยู่เบื้องหลัง ที่มั่งคั่ง บนความเหลื่อมล้ำของสังคม หรือท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมวันที่สิงค์โปร์แยกตัวจากมาเลเซีย ไม่มีทรัพยากรใด ลำบากยากจน หมดหวัง แม้แต่ "ลีกวนยู" นายกรัฐมนตรี ถึงกับร้องไห้ จนทำให้ หลายคนรอบตัวลีกวนยู บอก "นายครับ เราเปิดกาสิโน แบบมาเก๊า เอาเงินเข้าประเทศกันเถอะครับ" จะเป็นทางรอดของสิงคโปร์ แต่ ลีกวนยู ปฏิเสธ... ไม่มีประเทศไหน ไม่อยากได้เงินบริหารประเทศ ลีกวนยู ผู้ที่พ่อเคยติดการพนัน รู้ซึ้งถึง "อันตรายจากการพนัน" ในวันที่สังคมสิงคโปร์ ยังไม่พร้อม ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฏหมาย การจัดระเบียบราชการ และที่สำคัญที่สุด คือ การศึกษาสร้างภูมิคุ้มกันของคนสิงคโปร์ ที่ยัง "ไม่พร้อม" ลีกวนยู นายกรัฐมนตรี จึงประกาศ "มุ่งสร้างคนคุณภาพ ด้วยการศึกษาที่ดีที่สุด" และ "มุ่งสร้างระบบราชการ ที่ปราศจากการคอรัปชั่น" เป็นอันดับแรก จนสิงค์โปร์ได้ชื่อว่า มีการพัฒนาคน และพัฒนาระบบราชการโปร่งใส อันดับท็อปของโลก รายได้ประชาชาติ หรือจีดีพีต่อคนของสิงค์โปร์ จึงเติบโตจาก 400 ดอลลาร์ต่อคน ในปี 1960 จนมากว่า 80,000 ดอลลาร์ต่อคน ในปัจจุบัน หรือโตกว่า 200 เท่า ตั้งแต่ลีกวนยูเริ่มบริหารประเทศ พิสูจน์วิสัยทัศน์ของ ลีกวนยู "การสร้างคน เพื่อไปสร้างชาติ ไปสร้างเศรษฐกิจ" คือ สิ่งที่ถูกต้องที่สุด ดีกว่าทุกสิ่งอย่าง แต่ทั้งนี้ "การศึกษาอย่างละเอียด เรื่องบ่อนกาสิโน" จากที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญระดับโลก ยังคงเริ่มมาตั้งแต่สมัยของลีกวนยู นายกรัฐมนตรีคนที่หนึ่ง 32 ปี และต่อเนื่องมาจนสมัยของ โก๊ะ จ๊กตง นายกรัฐมนตรีคนที่สอง 14 ปี รอจนสิงค์โปร์ประสบความสำเร็จในการสร้าง "รากฐานของประเทศ" และสร้างความเข้มแข็งด้านเศรษฐกิจ มาถึง ลีเซียนลุง นายกรัฐมนตรีคนที่สาม ภายใต้ "ข้อจำกัดด้านการท่องเที่ยว" ของเกาะสิงคโปร์ ที่ไม่มีทรัพยากรธรรมชาติ ไม่มีชายหาดที่สวยงาม ไม่มีประวัติศาสตร์ทางวัฒนธรรม ไม่มี "สีสัน" ดึงดูดนักท่องเที่ยว เมื่อเปรียบเทียบกับประเทศไทย ที่มีทั้งสถาปัตยกรรม วัฒนธรรม อาหาร และธรรมชาติ ที่เหนือกว่าสิงคโปร์ทุกด้าน ลีเซียนลุง จึงประกาศให้มีกาสิโน ด้วยการเตรียมความพร้อมทุกด้าน ทั้งด้านการบังคับใช้กฏหมาย ด้านภูมิคุ้มกันประชาชน และด้านการเยียวยาผลกระทบ จากการศึกษามายาวนาน แต่ที่น่าสนใจ เราแทบไม่เคยได้ยินว่า ลีเซียนลุง แสดงความภาคภูมิใจกับผลงานนี้ของรัฐบาลเขาเลย และยังมีหลายคนพูดว่า หากสิงคโปร์ย้อนเวลากลับไปได้ อาจไม่ทำเรื่องกาสิโน ก็เป็นได้ ผมจึงเพียงสงสัย อย่างไร้อคติว่า ผู้นำไทยเรียนรู้อะไรบ้าง จากผู้นำสิงคโปร์ ทำไมผู้นำไทย จึงเร่งร้อน เลือกทางกาสิโนเสรี ก่อนเตรียมความพร้อมด้านการพัฒนาคน และด้านการบังคับใช้กฏหมาย ผมจึงประหลาดใจยิ่ง ผมขอให้ ผู้นำไทย มีความเป็น Stateman หรือรัฐบุรุษ คิดถึงอนาคตชาติ อนาคตเด็กไทย สักนิดก็ยังดี ก่อนบุ่มบ่าม เปิดบ่อนกาสิโน ภายใต้ความ "ไม่พร้อม" เพราะหากผลกระทบที่ตามมา ไม่ใช่อย่างพูด คนไทยนอกจากไม่ได้มีรายได้เพิ่มอย่างเท่าเทียม ลูกหลานติดการพนัน เสียคน บ่อนนอกพื้นที่อนุญาต เกิดขึ้นใหม่อย่างไร้การควบคุม รากฐานสังคมถูกทำลาย ถึงวันนั้น ขอโทษ เสียใจ คงไม่พอ . ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ (ดร.เอ้)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 352 มุมมอง 0 รีวิว
  • จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน

    วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว

    ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ

    ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป

    #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยความคืบหน้ากรณีนายแบบจีนหายตัว ล่าสุดพบตัวแล้ว ส่งกลับบ้านเกิดอย่างปลอดภัย จับมือสถานทูตแก้ปัญหาคนจีนถูกหลอกไปทำงานประเทศเพื่อนบ้าน • วันนี้ (17 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.00 น.ที่อ.แม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (จตช./ผอ.ศพดส.ตร.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีนายหยาง เจ๋ออฉี นายแบบชาวจีนที่ทางครอบครัวเดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือจากพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา ว่า จากการตรวจสอบล่าสุดกับทางสถานทูตจีน ได้รับการยืนยันว่าขณะนี้นายแบบคนดังกล่าวกลับประเทศจีนโดยปลอดภัยแล้ว • ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่มีการแจ้งความว่าหายตัวไปหรือติดต่อไม่ได้นั้น พล.ต.อ.ธัชชัย กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมีการสืบสวนขยายผลทุกกรณี ในกรณีชาวจีนเช่นกัน ได้มีการพูดคุยกับทางสถานทูตจีนโดยเสนอว่าเมื่อพบนักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ไทยเราจะมีการประสานกับไปทางสถานทูต เพื่อให้สถานทูตช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งแนวทางนี้ทางสถานทูตก็เห็นด้วย อย่างไรก็ตาม โดยปกติแล้วตำรวจไทยมีการประสานทํางานร่วมกับสถานทูตต่าง ๆ อยู่แล้ว ในการช่วยเหลือติดตามในกรณีที่เกี่ยวข้องกับคนของชาตินั้น ๆ • ด้านนายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ กล่าวว่า ล่าสุดได้รับการยืนยันจากทางครอบครัวของนายหยาง เจ๋อ ฉี เช่นเดียวกันว่า นายแบบคนดังกล่าวได้รับการช่วยเหลือกลับประเทศปลอดภัยแล้วจริง โดยทางครอบครัวจะทำหนังสือขอบคุณทางสถานทูตจีนและทางการไทยต่อไป • #MGROnline #หยางเจ๋อฉี #นายแบบ #จีน #เมียนมา #ชายแดนไทย #ชายแดนเมียนมา #ชายแดนไทยเมียนมา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • แหล่งกบดานใหม่ ของจีนเทา อยู่แค่ปลายจมูก
    กรณีนักแสดงซิงซิงถูกสแกมเมอร์ล่อลวงไปจังหวัดเมียวดีประเทศเมียนมา
    หากใครสงสัยทําไมซิงซิงต้องไปเมียวดีมีอะไรดีที่เมียวดี คําตอบก็คือ เวลานี้เมียวดีกําลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชํานาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติพอพอกับเชี่ยวชาญในการค้ามนุษย์คือหลอกคนให้มาทํางานเยี่ยงทาสอยู่ในเมียวดี
    ที่น่าตื่นตะลึงก็คือความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดีมาจากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดีซึ่งไม่ยักใช่รัฐบาลเมียนมา หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง
    ภาพลักษณ์ของ กะเหรี่ยง ตามที่คนไทยรับรู้มาตลอดใช้ไม่ได้กับกะเหรี่ยงในเมียวดีซึ่งจับมือทํามาหากินร่วมกับจีนเทา ในการหลอกลวงต้มตุ๋นจนกลายเป็นกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและมั่นคงด้วยกองกําลังติดอาวุธ
    เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้เจ้าพ่อตัวจริงของเมียวดี ณ เวลานี้คือพันเอกซอชิตตู่ ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง เขาจับมือกับแก๊งจีนเทาสร้างเมืองสแกมเมอร์ขึ้นมาหลายแห่ง อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ชเวโกโกและ เคเคพาร์ค โดยมีกองกําลังทหารป้องกันดินแดนนับหมื่นนาย
    โดยในการสร้างเมืองสแกมเมอร์ใหม่ก็มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากรแก๊งสแกมเมอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉานและสีหนุวิลล์ประเทศกัมพูชา
    ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อตัวการก่อความเดือดร้อนให้คนไทยปีละมหาศาลไปไปมามากลายเป็นแก๊งกะเหรี่ยงเทาพวกนี้ที่ร่วมมือกับจีนเทาการกระทําล่อลวงซิงซิง
    แม้จะคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วแต่ผลกระทบของมันกลับตกมาที่ประเทศไทยนักท่องเที่ยวพากันผวาเมืองไทยมองว่าเป็นประเทศไม่ปลอดภัย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    แหล่งกบดานใหม่ ของจีนเทา อยู่แค่ปลายจมูก กรณีนักแสดงซิงซิงถูกสแกมเมอร์ล่อลวงไปจังหวัดเมียวดีประเทศเมียนมา หากใครสงสัยทําไมซิงซิงต้องไปเมียวดีมีอะไรดีที่เมียวดี คําตอบก็คือ เวลานี้เมียวดีกําลังเป็นเมืองหลวงของแก๊งสแกมเมอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก เป็นแหล่งซ่องสุมของบอสจีนเทาที่ชํานาญการหลอกลวงออนไลน์เหยื่อข้ามชาติพอพอกับเชี่ยวชาญในการค้ามนุษย์คือหลอกคนให้มาทํางานเยี่ยงทาสอยู่ในเมียวดี ที่น่าตื่นตะลึงก็คือความแข็งแกร่งของจีนเทาในเมียวดีมาจากการสนับสนุนของผู้ปกครองเมียวดีซึ่งไม่ยักใช่รัฐบาลเมียนมา หากแต่เป็นชาวกะเหรี่ยง ภาพลักษณ์ของ กะเหรี่ยง ตามที่คนไทยรับรู้มาตลอดใช้ไม่ได้กับกะเหรี่ยงในเมียวดีซึ่งจับมือทํามาหากินร่วมกับจีนเทา ในการหลอกลวงต้มตุ๋นจนกลายเป็นกะเหรี่ยงเทาผู้มั่งคั่งด้วยเงินทองและมั่นคงด้วยกองกําลังติดอาวุธ เป็นเหมือนรัฐอิสระของคนนอกกฎหมายอันอู้ฟู่ยากที่รัฐบาลเมียนมาจะปราบปรามได้เจ้าพ่อตัวจริงของเมียวดี ณ เวลานี้คือพันเอกซอชิตตู่ ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง เขาจับมือกับแก๊งจีนเทาสร้างเมืองสแกมเมอร์ขึ้นมาหลายแห่ง อย่างเขตเศรษฐกิจพิเศษ ชเวโกโกและ เคเคพาร์ค โดยมีกองกําลังทหารป้องกันดินแดนนับหมื่นนาย โดยในการสร้างเมืองสแกมเมอร์ใหม่ก็มีวัตถุประสงค์ไว้รองรับอาชญากรแก๊งสแกมเมอร์ ที่แตกหนีมาจากรัฐฉานและสีหนุวิลล์ประเทศกัมพูชา ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อตัวการก่อความเดือดร้อนให้คนไทยปีละมหาศาลไปไปมามากลายเป็นแก๊งกะเหรี่ยงเทาพวกนี้ที่ร่วมมือกับจีนเทาการกระทําล่อลวงซิงซิง แม้จะคลี่คลายลงได้อย่างรวดเร็วแต่ผลกระทบของมันกลับตกมาที่ประเทศไทยนักท่องเที่ยวพากันผวาเมืองไทยมองว่าเป็นประเทศไม่ปลอดภัย ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • 718 ปี แห่งประวัติศาสตร์ ลอบปลงพระชนม์ "พระเจ้าฟ้ารั่ว" จากเด็กเลี้ยงช้าง สู่ปฐมกษัตริย์แห่งรัฐมอญ

    วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 1850 หรือเมื่อ 718 ปี ที่ผ่านมา โลกได้จารึกเหตุการณ์สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ ที่ยังคงถูกกล่าวถึง จนถึงปัจจุบัน นั่นคือ การลอบปลงพระชนม์ "พระเจ้าฟ้ารั่ว" หรือที่รู้จักในพระนาม "พระเจ้าวาเรรุ" กษัตริย์ผู้รวบรวมแผ่นดินมอญ ให้เป็นหนึ่งเดียว เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุด แห่งยุคของพระองค์ แต่ยังสะท้อนถึง การเปลี่ยนผ่านของอำนาจ ในยุคที่แผ่นดินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังเต็มไปด้วย การช่วงชิงราชบัลลังก์

    พระเจ้าฟ้ารั่ว หรือที่ชาวมอญเรียกพระองค์ว่า “พระเจ้าวาเรรุ” ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ แห่งเมืองเมาะตะมะ (ปัจจุบันคือเมืองในประเทศเมียนมา) และทรงเป็นผู้นำ ที่รวบรวมชนชาติมอญ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ในยุคที่อาณาจักรพุกาม กำลังล่มสลาย พระองค์ทรงครองราชย์ ระหว่างปี พ.ศ. 1830 - 1850 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และอำนาจในภูมิภาค

    พระเจ้าฟ้ารั่ว ประสูติเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 1796 ภายใต้ชื่อ มะกะโท (แมะกะตู) พระองค์เป็นบุตรของบิดาชาวไทยใหญ่ และมารดาชาวมอญ ณ เมืองสะโตง (บริเวณตอนล่างของพม่า ในปัจจุบัน) การเดินทางของพระองค์ เริ่มต้นเมื่ออายุ 19 พรรษา เมื่อมะกะโท เดินทางไปยังอาณาจักรสุโขทัย เพื่อค้าขาย ก่อนจะเริ่มชีวิตใหม่ ในราชสำนักสุโขทัย

    จากเด็กเลี้ยงช้าง สู่ตำแหน่งขุนวังแห่งสุโขทัย
    เมื่อมะกะโทเดินทางมายังสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนบานเมือง (พ.ศ. 1815) พระองค์เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยการเข้ารับราชการ ในตำแหน่งควาญช้าง ด้วยความขยันและเฉลียวฉลาด มะกะโทสามารถสร้างความประทับใจ แก่พระเจ้าแผ่นดิน และในที่สุด ได้รับตำแหน่งขุนวัง ในรัชสมัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

    ช่วงเวลานี้เอง ที่พระองค์ได้พบรักกับ "เจ้านางสร้อยดาว" (หรือพระนามในพงศาวดารไทยว่า นางสุวรรณเทวี) ธิดาของพ่อขุนรามคำแหง ทั้งสองแอบมีใจ ผูกสมัครรักใคร่ต่อกัน จนกระทั่งตัดสินใจ
    ลอบหนีออกจากสุโขทัย พร้อมทั้งข้าราชบริพารจำนวนมาก

    การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงชีวิตของมะกะโท แต่ยังส่งผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ ของทั้งอาณาจักรมอญ และสุโขทัย

    ประกาศอิสรภาพจากพุกาม
    หลังจากที่มะกะโท หรือพระเจ้าฟ้ารั่ว กลับมายังเมืองเมาะตะมะ พระองค์ได้เผชิญหน้ากับ "อลิมามาง" เจ้าเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งจากอาณาจักรพุกาม ในปี พ.ศ. 1828 มะกะโทสามารถโค่นล้มอำนาจ ของอลิมามางได้สำเร็จ และในปี พ.ศ. 1830 พระองค์ได้ประกาศอิสรภาพ จากพุกาม พร้อมทั้งสถาปนาตนเองเป็น กษัตริย์แห่งเมืองเมาะตะมะ

    ยุทธศาสตร์บริหารแผ่นดิน
    หลังจากขึ้นครองราชย์ พระเจ้าฟ้ารั่วใช้เวลากว่า 10 ปีในการรวบรวมแผ่นดินมอญ ให้เป็นหนึ่งเดียว โดยทรงจัดการศัตรูทางการเมือง จนหมดสิ้น รวมถึงสร้างพันธมิตรทางการทูต กับราชวงศ์หยวนแห่งจีน เพื่อป้องกันการรุกราน จากมหาอำนาจภายนอก

    พระองค์ยังทรงชำระ "ประมวลกฎหมายวาเรรุ" ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรก ของอาณาจักรมอญ โดยมีเป้าหมาย เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม และปกครองประชาชนอย่างยุติธรรม

    ลอบปลงพระชนม์
    แม้พระเจ้าฟ้ารั่ว จะประสบความสำเร็จ ในการสร้างอาณาจักรมอญ แต่พระองค์ไม่สามารถหลีกเลี่ยง วัฏจักรแห่งการชิงอำนาจได้ ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 1850 พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ โดยพระราชโอรส 2 พระองค์ ของพระเจ้าตะยาพยาแห่งหงสาวดี ซึ่งต้องการแก้แค้นให้กับพระบิดา ที่ถูกพระเจ้าฟ้ารั่วสำเร็จโทษ

    การสิ้นพระชนม์ ของพระเจ้าฟ้ารั่ว นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของอาณาจักรมอญ ซึ่งภายหลัง ต้องเผชิญกับ ความแตกแยกทางการเมือง จนกระทั่งล่มสลาย

    ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าฟ้ารั่วและสุโขทัย
    หนึ่งในเหตุการณ์ ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ระหว่างอาณาจักรมอญ และสุโขทัยคือ การส่งพระราชสาสน์ ของพระเจ้าฟ้ารั่ว ไปยังพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เพื่อขอขมาในสิ่งที่พระองค์ล่วงละเมิด และยอมเป็นประเทศราช พระราชสาสน์ฉบับนี้ ไม่เพียงเป็นการแสดงความเคารพ แต่ยังยืนยันถึงบทบาทของสุโขทัย ในฐานะมหาอำนาจ ที่มีอิทธิพลต่อภูมิภาค

    มรดกพระเจ้าฟ้ารั่ว
    พระเจ้าฟ้ารั่วไม่เพียงเป็น กษัตริย์ผู้สร้างความเป็นหนึ่งเดียว ให้กับแผ่นดินมอญ แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัย ที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบทบาทสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์โลก

    แม้ว่าพระองค์จะจากไป นานกว่า 718 ปี แต่เรื่องราวของพระเจ้าฟ้ารั่ว ยังคงสะท้อนถึงบทเรียน เกี่ยวกับความเป็นผู้นำ ความอดทนต่ออุปสรรค และความสำคัญของการรวมพลัง เพื่อสร้างความมั่นคง ให้แก่แผ่นดิน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 142006 ม.ค. 2568

    #ประวัติศาสตร์มอญ #พระเจ้าฟ้ารั่ว #วาเรรุ #พ่อขุนรามคำแหง #ประวัติศาสตร์ไทย #อาณาจักรพุกาม #การปฏิวัติมอญ #ความสัมพันธ์ไทยมอญ #กษัตริย์มอญ #ย้อนอดีต
    718 ปี แห่งประวัติศาสตร์ ลอบปลงพระชนม์ "พระเจ้าฟ้ารั่ว" จากเด็กเลี้ยงช้าง สู่ปฐมกษัตริย์แห่งรัฐมอญ วันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 1850 หรือเมื่อ 718 ปี ที่ผ่านมา โลกได้จารึกเหตุการณ์สำคัญ ทางประวัติศาสตร์ ที่ยังคงถูกกล่าวถึง จนถึงปัจจุบัน นั่นคือ การลอบปลงพระชนม์ "พระเจ้าฟ้ารั่ว" หรือที่รู้จักในพระนาม "พระเจ้าวาเรรุ" กษัตริย์ผู้รวบรวมแผ่นดินมอญ ให้เป็นหนึ่งเดียว เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงเป็นจุดสิ้นสุด แห่งยุคของพระองค์ แต่ยังสะท้อนถึง การเปลี่ยนผ่านของอำนาจ ในยุคที่แผ่นดินเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังเต็มไปด้วย การช่วงชิงราชบัลลังก์ พระเจ้าฟ้ารั่ว หรือที่ชาวมอญเรียกพระองค์ว่า “พระเจ้าวาเรรุ” ทรงเป็นปฐมกษัตริย์ แห่งเมืองเมาะตะมะ (ปัจจุบันคือเมืองในประเทศเมียนมา) และทรงเป็นผู้นำ ที่รวบรวมชนชาติมอญ ให้กลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง ในยุคที่อาณาจักรพุกาม กำลังล่มสลาย พระองค์ทรงครองราชย์ ระหว่างปี พ.ศ. 1830 - 1850 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง และอำนาจในภูมิภาค พระเจ้าฟ้ารั่ว ประสูติเมื่อวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 1796 ภายใต้ชื่อ มะกะโท (แมะกะตู) พระองค์เป็นบุตรของบิดาชาวไทยใหญ่ และมารดาชาวมอญ ณ เมืองสะโตง (บริเวณตอนล่างของพม่า ในปัจจุบัน) การเดินทางของพระองค์ เริ่มต้นเมื่ออายุ 19 พรรษา เมื่อมะกะโท เดินทางไปยังอาณาจักรสุโขทัย เพื่อค้าขาย ก่อนจะเริ่มชีวิตใหม่ ในราชสำนักสุโขทัย จากเด็กเลี้ยงช้าง สู่ตำแหน่งขุนวังแห่งสุโขทัย เมื่อมะกะโทเดินทางมายังสุโขทัย ในรัชสมัยพ่อขุนบานเมือง (พ.ศ. 1815) พระองค์เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยการเข้ารับราชการ ในตำแหน่งควาญช้าง ด้วยความขยันและเฉลียวฉลาด มะกะโทสามารถสร้างความประทับใจ แก่พระเจ้าแผ่นดิน และในที่สุด ได้รับตำแหน่งขุนวัง ในรัชสมัย พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ช่วงเวลานี้เอง ที่พระองค์ได้พบรักกับ "เจ้านางสร้อยดาว" (หรือพระนามในพงศาวดารไทยว่า นางสุวรรณเทวี) ธิดาของพ่อขุนรามคำแหง ทั้งสองแอบมีใจ ผูกสมัครรักใคร่ต่อกัน จนกระทั่งตัดสินใจ ลอบหนีออกจากสุโขทัย พร้อมทั้งข้าราชบริพารจำนวนมาก การตัดสินใจครั้งนี้ ไม่เพียงเปลี่ยนแปลงชีวิตของมะกะโท แต่ยังส่งผลกระทบต่อประวัติศาสตร์ ของทั้งอาณาจักรมอญ และสุโขทัย ประกาศอิสรภาพจากพุกาม หลังจากที่มะกะโท หรือพระเจ้าฟ้ารั่ว กลับมายังเมืองเมาะตะมะ พระองค์ได้เผชิญหน้ากับ "อลิมามาง" เจ้าเมืองที่ได้รับการแต่งตั้งจากอาณาจักรพุกาม ในปี พ.ศ. 1828 มะกะโทสามารถโค่นล้มอำนาจ ของอลิมามางได้สำเร็จ และในปี พ.ศ. 1830 พระองค์ได้ประกาศอิสรภาพ จากพุกาม พร้อมทั้งสถาปนาตนเองเป็น กษัตริย์แห่งเมืองเมาะตะมะ ยุทธศาสตร์บริหารแผ่นดิน หลังจากขึ้นครองราชย์ พระเจ้าฟ้ารั่วใช้เวลากว่า 10 ปีในการรวบรวมแผ่นดินมอญ ให้เป็นหนึ่งเดียว โดยทรงจัดการศัตรูทางการเมือง จนหมดสิ้น รวมถึงสร้างพันธมิตรทางการทูต กับราชวงศ์หยวนแห่งจีน เพื่อป้องกันการรุกราน จากมหาอำนาจภายนอก พระองค์ยังทรงชำระ "ประมวลกฎหมายวาเรรุ" ซึ่งเป็นกฎหมายฉบับแรก ของอาณาจักรมอญ โดยมีเป้าหมาย เพื่อสร้างความเป็นธรรมในสังคม และปกครองประชาชนอย่างยุติธรรม ลอบปลงพระชนม์ แม้พระเจ้าฟ้ารั่ว จะประสบความสำเร็จ ในการสร้างอาณาจักรมอญ แต่พระองค์ไม่สามารถหลีกเลี่ยง วัฏจักรแห่งการชิงอำนาจได้ ในวันที่ 14 มกราคม พ.ศ. 1850 พระองค์ถูกลอบปลงพระชนม์ โดยพระราชโอรส 2 พระองค์ ของพระเจ้าตะยาพยาแห่งหงสาวดี ซึ่งต้องการแก้แค้นให้กับพระบิดา ที่ถูกพระเจ้าฟ้ารั่วสำเร็จโทษ การสิ้นพระชนม์ ของพระเจ้าฟ้ารั่ว นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ของอาณาจักรมอญ ซึ่งภายหลัง ต้องเผชิญกับ ความแตกแยกทางการเมือง จนกระทั่งล่มสลาย ความสัมพันธ์ระหว่างพระเจ้าฟ้ารั่วและสุโขทัย หนึ่งในเหตุการณ์ ที่สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น ระหว่างอาณาจักรมอญ และสุโขทัยคือ การส่งพระราชสาสน์ ของพระเจ้าฟ้ารั่ว ไปยังพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เพื่อขอขมาในสิ่งที่พระองค์ล่วงละเมิด และยอมเป็นประเทศราช พระราชสาสน์ฉบับนี้ ไม่เพียงเป็นการแสดงความเคารพ แต่ยังยืนยันถึงบทบาทของสุโขทัย ในฐานะมหาอำนาจ ที่มีอิทธิพลต่อภูมิภาค มรดกพระเจ้าฟ้ารั่ว พระเจ้าฟ้ารั่วไม่เพียงเป็น กษัตริย์ผู้สร้างความเป็นหนึ่งเดียว ให้กับแผ่นดินมอญ แต่ยังเป็นตัวแทนของยุคสมัย ที่การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบทบาทสำคัญ ต่อประวัติศาสตร์โลก แม้ว่าพระองค์จะจากไป นานกว่า 718 ปี แต่เรื่องราวของพระเจ้าฟ้ารั่ว ยังคงสะท้อนถึงบทเรียน เกี่ยวกับความเป็นผู้นำ ความอดทนต่ออุปสรรค และความสำคัญของการรวมพลัง เพื่อสร้างความมั่นคง ให้แก่แผ่นดิน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 142006 ม.ค. 2568 #ประวัติศาสตร์มอญ #พระเจ้าฟ้ารั่ว #วาเรรุ #พ่อขุนรามคำแหง #ประวัติศาสตร์ไทย #อาณาจักรพุกาม #การปฏิวัติมอญ #ความสัมพันธ์ไทยมอญ #กษัตริย์มอญ #ย้อนอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 506 มุมมอง 0 รีวิว
  • อันดากู รัตนชาติแห่งพระพุทธศาสนา
    หากกล่าวถึง อันดากู สำหรับสังคมของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธชาวเมียนมาร์ แล้ว หมายถึงองค์ปฏิมากรรมขนาดเล็กซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่คำว่าอันดากู เป็นชื่อของหินสบู่ชนิดหนึ่งที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศเมียนมาร์ แต่ด้วยความยาวนานของอายุศิลปะชนิดนี้ที่มีความต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันทำให้คำว่า อันดากู กลายเป็นสรรพนามของการเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งในพระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมการเรียกอันดากู ที่มีความหมายทั้งชื่อของวัสดุ และศิลปะเพื่อศาสนาพุทธที่เกี่ยวกับปรัชญาทางพุทธประวัติที่ถูกยอมรับโดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะและนักโบราณคดีทั่วโลกในทุกวันนี้
    อันดากูเป็นปฏิมากรรมขนาดเล็กมาก สืบเนื่องมาจากการที่เป็นแผ่นหินธรรมชาติขนาดเล็กทั้งขาดซึ่งเทคโนโลยี่ในการขุดในสมัยนั้น จึงทำให้ขนาดของอันดากูจึงเป็นเอกลักษณ์อีกชนิดหนึ่งของศิลปะชนิดนี้ เพราะโดยปรกติปฏิมากรชาวเมียนมาร์นิยมการและสลักหินขนาดใหญ่อย่างที่เรามักจะพบเห็นพระพุทธรูปที่แกะจากหินชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่มากในเมียนมาร์ที่มีอยู่จำนวนมากตามสถานที่ต่างๆ แต่สำหรับชาวเมียนมาร์แล้ว อันดากูถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่กลับซ่อนความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ไว้ภายใน เหตุเพราะอันดากูถูกรังสรรค์ขึ้นจากปรัชญาที่ลุ่มลึกไม่เหมือนใคร หากผู้ใดเข้าถึงปรัชญาการสร้างนี้แล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องเกิดแรงศรัทธาที่มีต่อปฏิมากรรมชิ้นเล็กเหล่านี้ เพราะคำว่า อันดากู ในสังคมของชาวเมียนมาร์หมายถึงคำศักดิ์สิทธิ์คล้ายกับการเอ่ยพระนามขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    อันดากู รัตนชาติแห่งพระพุทธศาสนา หากกล่าวถึง อันดากู สำหรับสังคมของผู้ที่นับถือศาสนาพุทธชาวเมียนมาร์ แล้ว หมายถึงองค์ปฏิมากรรมขนาดเล็กซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญยิ่งในพระพุทธศาสนา ทั้งๆ ที่คำว่าอันดากู เป็นชื่อของหินสบู่ชนิดหนึ่งที่มีแหล่งกำเนิดอยู่ในประเทศเมียนมาร์ แต่ด้วยความยาวนานของอายุศิลปะชนิดนี้ที่มีความต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบันทำให้คำว่า อันดากู กลายเป็นสรรพนามของการเรียกสิ่งศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งในพระพุทธศาสนา และวัฒนธรรมการเรียกอันดากู ที่มีความหมายทั้งชื่อของวัสดุ และศิลปะเพื่อศาสนาพุทธที่เกี่ยวกับปรัชญาทางพุทธประวัติที่ถูกยอมรับโดยนักประวัติศาสตร์ศิลปะและนักโบราณคดีทั่วโลกในทุกวันนี้ อันดากูเป็นปฏิมากรรมขนาดเล็กมาก สืบเนื่องมาจากการที่เป็นแผ่นหินธรรมชาติขนาดเล็กทั้งขาดซึ่งเทคโนโลยี่ในการขุดในสมัยนั้น จึงทำให้ขนาดของอันดากูจึงเป็นเอกลักษณ์อีกชนิดหนึ่งของศิลปะชนิดนี้ เพราะโดยปรกติปฏิมากรชาวเมียนมาร์นิยมการและสลักหินขนาดใหญ่อย่างที่เรามักจะพบเห็นพระพุทธรูปที่แกะจากหินชนิดอื่นๆ ที่มีขนาดใหญ่มากในเมียนมาร์ที่มีอยู่จำนวนมากตามสถานที่ต่างๆ แต่สำหรับชาวเมียนมาร์แล้ว อันดากูถึงแม้จะมีขนาดเล็กแต่กลับซ่อนความศรัทธาที่ยิ่งใหญ่ไว้ภายใน เหตุเพราะอันดากูถูกรังสรรค์ขึ้นจากปรัชญาที่ลุ่มลึกไม่เหมือนใคร หากผู้ใดเข้าถึงปรัชญาการสร้างนี้แล้ว เป็นธรรมดาที่จะต้องเกิดแรงศรัทธาที่มีต่อปฏิมากรรมชิ้นเล็กเหล่านี้ เพราะคำว่า อันดากู ในสังคมของชาวเมียนมาร์หมายถึงคำศักดิ์สิทธิ์คล้ายกับการเอ่ยพระนามขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • 11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร
    On 2025-01-10
    สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568

    ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568

    และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน

    รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง

    ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว

    แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย

    หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น

    ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว

    ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี

    สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่

    1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน

    ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ

    2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด

    แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน

    สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี

    ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก

    อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก

    สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ

    ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี

    แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย

    นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้

    สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา

    ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย

    อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น

    (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้)

    ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    11 มกราคม 2568-รายงานพิเศษของเว็บไซต์ The Structure เกี่ยวกับประเด็นเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย โดยรศ. ดร.ปณิธาน วัฒนายากร ได้สะท้อนภาพจากเหตุการณ์ลอบสังหาร “ลิม กิมยา”กลางกรุงเทพมหานครว่า เกิดอะไรขึ้น กับประเทศไทย? ‘รศ.ดร.ปณิธาน’ สะท้อนภาพที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ ลอบสังหาร ‘ลิม กินยา’ กลางกรุงเทพมหานคร On 2025-01-10 สืบเนื่องจากกรณีการลอบสังหาร ลิม กิมยา อดีต สส. พรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (Cambodia National Rescue Party) และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ถูกลอบยิงที่บริเวณเกาะกลางถนน วงเวียนสิบสามห้าง ตรงข้ามวัดบวรนิเวศวิหาร ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ม.ค. 2568 ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทย สามารถระบุตัวคนร้ายจนพบว่าเป็นจ่าเอ็ม-เอกลักษณ์ แพน้อย อดีตทหารนาวิกโยธินของไทย ซึ่งถูกให้ออกจากราชการไปตั้งแต่ปี 2566 แล้ว และสามารถตามจับตัวจ่าเอ็มได้ที่จังหวัดพระตะบอง ประเทศกัมพูชา ในช่วงค่ำวันที่ 8 ม.ค. 2568 และในเวลานี้ จ่าเอ็มยังอยู่ในระหว่างการควบคุมตัวเพื่อสอบสวนของทางการกัมพูชา เนื่องจากฝ่ายกัมพูชาจะมีการดำเนินคดีกับจ่าเอ็มในข้อหาลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อน รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง ได้กล่าวว่ากรณีนี้นั้น สะท้อนให้เห็นว่าได้เกิดช่องว่าง หรืออุปสรรค์ในการรักษาความปลอดภัยของฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ตำรวจสันติบาล, ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ, สำนักข่าวกรอง หรือแม้แต่สภาความมั่นคงเอง ที่อาจจะต้องทำงานให้สอดประสานกันเพื่อการกำหนดแนวทางการคุ้มกันบุคคลสำคัญ ซึ่งจริง ๆ แล้วมีการกำหนดหลักปฎิบัติ หรือระเบียบปฎิบัติประจำ (รปจ.) อยู่แล้ว แต่สำหรับกรณีนี้ ถึงแม้ว่าตัวผู้ถูกลอบสังหารจะไม่ได้ทำการร้องขอการคุ้มกันจากฝ่ายไทย จึงทำให้การจัดชุดรักษาความปลอดภัยนั้นอาจจะทำได้ไม่เต็มที่ แต่ในเมื่อพิจารณาดูแล้วว่า ลิม กินยานั้นเป็นเป้าหมายสำคัญที่อาจจะถูกคุกคาม จนมีความไม่ปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความมั่นคง และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของไทย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็สามารถใช้ดุลยพินิจในการตัดสินใจส่งชุดรักษาความปลอดภัยไปดูแลลิม กินยา ตั้งแต่เข้าเมือง หรืออาจจะปฎิเสธการให้เข้าเมืองตั้งแต่แรกเลยก็ทำได้ ถ้าพิจารณาแล้วว่าอาจจะคุ้มครองเขาไม่ได้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องมีการพิจารณาในรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ทางการไทยนั้นมีประสบการณ์ในการให้ความคุ้มครองบุคคลสำคัญจากประเทศเพื่อนบ้านมามากพอสมควร ไม่ว่าจะจากลาว, กัมพูชา, มาเลเซีย และเมียนมา ไทยก็เคยให้การดูแลคุ้มกันมาแล้ว ทางการไทยจะต้องมีการดำเนินการเพื่อการป้องกันเหตุการณ์ที่จะสร้างผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทย ว่าเป็นพื้นที่สังหารบุคคลสำคัญ, ไม่มีความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว หรือมีการซ่องสุมกองกำลังติดอาวุธต่าง ๆ โดยมีการใช้คนไทยเข้ามาเป็นเครือข่ายในการปฏิบัติการหลายอย่าง ซึ่งเรื่องนี้มีความสำคัญที่จะต้องดูแลกันให้ดี สำหรับแนวทางในการนำตัวจ่าเอ็ม ผู้ก่อเหตุกลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 2 แนวทาง ได้แก่ 1 การดำเนินการตามช่องทางปกติ โดยจะต้องมีการดำเนินคดีในฝั่งกัมพูชาก่อนสักระยะหนึ่ง ซึ่งจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร โดยจะมีการพิจารณาลงโทษ-ลดโทษ-อภัยโทษ แล้วส่งคืนมายังไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทั้งนี้ได้มีการตั้งข้อหาเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายแล้ว แต่อาจจะมีการกล่าวโทษในคดีอื่นเพิ่มเช่น พกพาอาวุธ และความมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายอาชญากรรมข้ามแดน ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลานานและสร้างความคลุมเครือ 2 การดำเนินการในช่องทางพิเศษ ด้วยวิธีต่างตอบแทน โดยการแลกตัว หรือร้องขอให้ทางกัมพูชาส่งตัวผู้ก่อเหตุให้มาถูกดำเนินคดีในไทยได้อย่างรวดเร็ว แต่กรณีนี้จะต้องระมัดระวังว่าจะกระทบต่อสิทธิมนุษยชน และต้องพิจารณาความตั้งใจจริงของฝ่ายกัมพูชาด้วย เพราะว่าเรื่องนี้นั้นจะเป็นการสะท้อนถึงระดับความสัมพันธ์ หรือเรื่องราวมีความซับซ้อนมากน้อยเพียงใด แต่ทั้งนี้นั้น ควรจะต้องมีการดำเนินการผ่านกลไกของอาเซียน และตำรวจสากล ที่มีข้อตกลงที่ค่อนข้างชัดเจน และเป็นทางการ แทนการใช้ระบบต่างตอบแทน เพื่อป้องกันข้อครหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดหรือห่างเหินระหว่างผู้นำทั้ง 2 ประเทศในบางสมัย ซึ่งจะต้องมีการเปิดเผยข้อเท็จจริงในเรื่องเหล่านี้ผ่านทางอาเซียน สำหรับคำถามที่ว่า ประเทศไทยมีขีดความสามารถในการคุ้มครองผู้เห็นต่างทางการเมืองจากประเทศอื่นที่เข้ามาลี้ภัยในประเทศไทยหรือไม่ รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่า ในบางช่วงประเทศไทยก็มีขีดความสามารถในการดำเนินการในเรื่องนี้ได้ดี ไทยเคยสามารถจับกุมตัวผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศได้หลายครั้ง อย่างกรณี “ฮัม บาลี” ผู้ก่อเหตุวางระเบิดในอินโดนีเซีย หรือกรณีของ วิกเตอร์ บุช ผู้ค้าอาวุธสงครามชาวรัสเซีย และมีการส่งตัวกลับไปยังประเทศต้นทางได้ และได้รับความชื่นชมจากนานาชาติเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเคยสามารถสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้าประเทศ อย่างเช่นกลุ่มจากประเทศเกาหลีเหนือ และกลุ่มอื่น ๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อกว่า 30 กลุ่ม ซึ่งบางครั้งเราก็ทำได้ดี แต่บางครั้งเราก็มีปัญหา ซึ่งในภาพรวมแล้วเราควรจะปรับปรุงให้ดีขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดกรณีเช่นนี้อีก และกรณีนี้ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก สำหรับกรณีที่พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชากล่าวหาฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชาว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น รศ.ดร. ปณิธานกล่าวว่าเรื่องนี้นั้นถือเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน ที่จะต้องมีการพิสูจน์ทราบกันให้ชัดเจน ก่อนที่จะมีการกระทบในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ แต่ทั้งนี้การที่ฝ่ายรัฐบาล หรือฝ่ายค้านกล่าวหาพุ่งเป้าใส่กัน โดยมีการดึงประเทศไทยเข้าไปเกี่ยวข้องนั้นไม่ใช่เรื่องใหม่เลย อีกทั้งตลอดเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ทางการกัมพูชาได้ทำเรื่องร้องขอให้มีการส่งตัวนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชา เช่น สม รังสี อดีตผู้นำพรรคฝ่ายค้านกัมพูชากลับ ซึ่งก็มีทั้งกรณีที่ทางการไทยส่งตัวกลับ และไม่ส่งตัวกลับ ดังนั้นเรื่องนี้นั้น ไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ และหน่วยงานราชการไทย และฝ่ายความมั่นคงนั้นมีความคุ้นเคยเป็นอย่างดี แต่ทั้งนี้ไทยต้องดำเนินการป้องกันให้มากกว่านี้ เพื่อการป้องกันไม่ให้ไทยถูกดึงเข้าไปอยู่ในวงความขัดแย้ง ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้มีเฉพาะกับกัมพูชาเท่านั้น แต่เกิดขึ้นกับลาว, เมียนมา และมาเลเซียด้วย นอกจากนี้ ทางการไทยเองก็มีการดำเนินการขอตัวแกนนำสั่งการต่าง ๆ ที่อยู่ในมาเลเซีย มาดำเนินคดีในประเทศไทย ซึ่งได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บางกรณีมีการเสียชีวิตในระหว่างทาง ซึ่งเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีการจัดระเบียบกันอย่างจริงจัง ก่อนที่จะเกิดความเสียหายกับประเทศไทยไปมากกว่านี้ สำหรับการสืบสาวหาต้นตอ/ขบวนการ/ผู้จ้างวาน ให้มีการลอบสังหารในครั้งนี้นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากนัก เพราะทราบมาว่าฝ่ายนั้นมีการดำเนินการสื่อสารผ่านระบบสมัยใหม่ ซึ่งทางเราสามารถดักจับ และบันทึกอยู่ในฐานข้อมูลของเรา ดังนั้นการดำเนินการสืบค้นเพื่อเอาหลักฐานเหล่านั้นมาพิสูจน์ในทางนิติวิทยาศาสตร์นั้นก็คงไม่ยากเท่าไรนัก แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับความร่วมมือจากทางกัมพูชาด้วย อย่างไรก็ดี การที่ลิม กินยานั้น เป็นผู้ถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วยนั้น ทำให้ฝรั่งเศส, สหภาพยุโรป และนานาชาติต่างก็จับตาดูกรณีนี้เป็นพิเศษ และก็คงจะมีการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภรรยาของลิม กินยา ซึ่งถือสัญชาติฝรั่งเศสด้วย และอาจจะเข้ามาร่วมประสานงานกับประเทศไทย ซึ่งจะทำให้เรื่องราวมีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้น (ทางการฝรั่งเศสได้ประกาศว่าจะมีการติดตามการสืบสวนของฝ่ายไทยอย่างใกล้ชิด เมื่อวานนี้) ซึ่งเรื่องนี้กระทรวงต่างประเทศจะต้องมีการตั้งชุดทำงานขึ้นมา เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบมากไปกว่านี้ และในขณะนี้เกิดความแปรปรวนขึ้นพอสมควร เนื่องจากเกิดความเชื่อหลายอย่างขึ้นในโลกออนไลน์ ซึ่งก็อาจจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 640 มุมมอง 0 รีวิว
  • จเรตำรวจแห่งชาติ เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ หลังสื่อจีนตีข่าว "หยาง เจ๋อฉี" นายแบบชาวจีนหายตัวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พฤติการณ์คล้ายกับกรณี "ซิงซิง"

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002608

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    จเรตำรวจแห่งชาติ เผยอยู่ระหว่างตรวจสอบ หลังสื่อจีนตีข่าว "หยาง เจ๋อฉี" นายแบบชาวจีนหายตัวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา พฤติการณ์คล้ายกับกรณี "ซิงซิง" อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000002608 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1582 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7 มกราคม 2568-รายงานข่าว จส.100 ระบุว่า การนำตัวหวังซิง นักแสดงชาวจีน กลับเข้าประเทศไทย พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการซักถาม นายหวังซิง ด้วยตัวเอง เบื้องต้นจาการสอบถาม นายหวังซิง ให้การว่าถูกชาวจีนด้วยกันพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันวีแชต ใช้ชื่อเป็นบริษัทบันเทิงชื่อดังของไทยทักมาติดต่อให้ทำงาน จึงหลงเชื่อ ก่อนเดินทางทางยังประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นนั่งรถที่ถูกส่งมารับที่สนามบินพาไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนมารับข้ามแดนทางเรือที่บริเวณชายแดน อ.แม่สอด นายหวังซิง ระบุว่า รู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อถูกพาข้ามแดนแต่ไม่กล้าขัดขืน อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวน ซักถาม และตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

    สำหรับ การดำเนินการช่วยเหลือ นายหวังซิง นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานให้ความช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการร่วมมือช่วยเหลือทางการจีนตามที่ได้ประสานมา หลังจากนี้จะได้เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) หากพบว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ก็จะเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และประสานส่งตัวกลับประเทศตามกระบวนการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และประสานญาติมารับตัว หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดลักษณะใด ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

    ก่อนหน้านี้ นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแถลงว่า ขณะนี้กระทรวงได้ประสานงานกับสถานทูตและสถานกงสุลของจีนในประเทศไทยและเมียนมาแล้ว หลังจากมีข่าวว่า นายหวังซิง หรือ ‘ซิงซิง’ นักแสดงชาวจีน หายตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จังหวัดตาก ที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของแก๊งอาชญากรรมมากมาย

    ด้านแฟนสาวของซิงซิง หลังมีข่าวส่งตัวซิงซิงถึงที่ไทย เพจลุยจีน ได้แปลข้อความเป็นดังนี้ "อัพเดท ขอขอบคุณทุกสื่อและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทุกระดับที่ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกเราได้รับข่าวสารมากมายของซิงซิงจากสื่อทุกข่องทางเมื่อครู่ฉันได้คุยโทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เขาแจ้งว่าทางสถานทูตฯมีการประสานกับการเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อการช่วยเหลือในครั้งนี้อย่างกระตือรือร้น ซึ่งหากมีความคืบหน้าใดๆของการช่วยเหลือซิงซิงจะแจ้งให้ฉันทราบไปพร้อมๆกัน ขอให้อดทนรออีกนิด


    เหตุการณ์ที่ดำเนินมาถึงวันนี้ ฉันในฐานะแฟนสาวของเขาอยากที่จะพบกับเขาโดยเร็วเหลือเกิน ด้านครอบครัวของซิงซิงก็ฝากความหวังไว้ที่ฉันกับน้องชายของซิงซิงในภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้ ฉันคงยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ หากว่ายังไม่ได้พบกับซิงซิงด้วยตัวฉันเอง


    ปล. ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันรักษาความเป็นส่วนตัวของเหยื่อในเหตุการณ์ งดการแชร์ภาพที่อาจทำให้เหยื่อเกิดความสะเทือนใจด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ ขอให้ฉันได้พบกับซิงซิงอย่างราบรื่นด้วยเทอญ"

    ที่มา - Weibo 失眠爹地

    https://www.js100.com/en/site/news/view/147428?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1OgYMKQJxeI-G9DQra2zrStKF1hw4gHhQ830JTrgaaJaJJsl6LG8E0Ld4_aem_pj_6AQUUP1F2piDeHBo5kA#m5mgd9q4ac0l15p5jbo
    7 มกราคม 2568-รายงานข่าว จส.100 ระบุว่า การนำตัวหวังซิง นักแสดงชาวจีน กลับเข้าประเทศไทย พลตำรวจเอกธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากการซักถาม นายหวังซิง ด้วยตัวเอง เบื้องต้นจาการสอบถาม นายหวังซิง ให้การว่าถูกชาวจีนด้วยกันพูดคุยกันผ่านแอปพลิเคชันวีแชต ใช้ชื่อเป็นบริษัทบันเทิงชื่อดังของไทยทักมาติดต่อให้ทำงาน จึงหลงเชื่อ ก่อนเดินทางทางยังประเทศไทยทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จากนั้นนั่งรถที่ถูกส่งมารับที่สนามบินพาไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก ก่อนจะมีคนมารับข้ามแดนทางเรือที่บริเวณชายแดน อ.แม่สอด นายหวังซิง ระบุว่า รู้ตัวว่าถูกหลอกเมื่อถูกพาข้ามแดนแต่ไม่กล้าขัดขืน อย่างไรก็ตาม จะต้องมีการสอบสวน ซักถาม และตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง สำหรับ การดำเนินการช่วยเหลือ นายหวังซิง นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานให้ความช่วยเหลือจนประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นการร่วมมือช่วยเหลือทางการจีนตามที่ได้ประสานมา หลังจากนี้จะได้เข้าสู่กลไกการส่งต่อระดับชาติ (NRM) หากพบว่าเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ก็จะเข้าสู่กระบวนการคุ้มครอง และประสานส่งตัวกลับประเทศตามกระบวนการของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และประสานญาติมารับตัว หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดลักษณะใด ก็จะต้องมีการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ก่อนหน้านี้ นายกัว เจียคุน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ออกมาแถลงว่า ขณะนี้กระทรวงได้ประสานงานกับสถานทูตและสถานกงสุลของจีนในประเทศไทยและเมียนมาแล้ว หลังจากมีข่าวว่า นายหวังซิง หรือ ‘ซิงซิง’ นักแสดงชาวจีน หายตัวไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่จังหวัดตาก ที่มีพรมแดนติดกับเมียนมา ซึ่งเป็นแหล่งกบดานของแก๊งอาชญากรรมมากมาย ด้านแฟนสาวของซิงซิง หลังมีข่าวส่งตัวซิงซิงถึงที่ไทย เพจลุยจีน ได้แปลข้อความเป็นดังนี้ "อัพเดท ขอขอบคุณทุกสื่อและผู้บังคับบัญชาที่เกี่ยวข้องทุกระดับที่ให้ความสำคัญกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ พวกเราได้รับข่าวสารมากมายของซิงซิงจากสื่อทุกข่องทางเมื่อครู่ฉันได้คุยโทรศัพท์กับทางเจ้าหน้าที่สถานทูตจีนประจำประเทศไทย เขาแจ้งว่าทางสถานทูตฯมีการประสานกับการเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อการช่วยเหลือในครั้งนี้อย่างกระตือรือร้น ซึ่งหากมีความคืบหน้าใดๆของการช่วยเหลือซิงซิงจะแจ้งให้ฉันทราบไปพร้อมๆกัน ขอให้อดทนรออีกนิด เหตุการณ์ที่ดำเนินมาถึงวันนี้ ฉันในฐานะแฟนสาวของเขาอยากที่จะพบกับเขาโดยเร็วเหลือเกิน ด้านครอบครัวของซิงซิงก็ฝากความหวังไว้ที่ฉันกับน้องชายของซิงซิงในภารกิจช่วยเหลือครั้งนี้ ฉันคงยังไม่สามารถนิ่งนอนใจได้ หากว่ายังไม่ได้พบกับซิงซิงด้วยตัวฉันเอง ปล. ขอความร่วมมือทุกคนช่วยกันรักษาความเป็นส่วนตัวของเหยื่อในเหตุการณ์ งดการแชร์ภาพที่อาจทำให้เหยื่อเกิดความสะเทือนใจด้วยค่ะ สุดท้ายนี้ ขอให้ฉันได้พบกับซิงซิงอย่างราบรื่นด้วยเทอญ" ที่มา - Weibo 失眠爹地 https://www.js100.com/en/site/news/view/147428?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR1OgYMKQJxeI-G9DQra2zrStKF1hw4gHhQ830JTrgaaJaJJsl6LG8E0Ld4_aem_pj_6AQUUP1F2piDeHBo5kA#m5mgd9q4ac0l15p5jbo
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 442 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาก - จนท.ไทย รับตัว “ซิงซิง หรือหวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนา ข้ามแดนจากฝั่งเมียวดี เข้าสอบถามเครียภายใน สนง.ตม.ตาก แล้ว

    ความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิง สูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ

    ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.วันนี้(7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทย ได้รับตัวนายซิงซิง เดินทางกลับจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา เข้าสอบถามที่ ตม.ตาก แล้ว

    #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    ตาก - จนท.ไทย รับตัว “ซิงซิง หรือหวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนา ข้ามแดนจากฝั่งเมียวดี เข้าสอบถามเครียภายใน สนง.ตม.ตาก แล้ว ความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิง สูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.45 น.วันนี้(7 ม.ค.) เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของไทย ได้รับตัวนายซิงซิง เดินทางกลับจากฝั่งเมียวดี ประเทศเมียนมา เข้าสอบถามที่ ตม.ตาก แล้ว • #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 313 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน หายตัวปริศนาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา
    ล่าสุดส่งตัวกลับไทยแล้ว
    “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน หายตัวปริศนาบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ล่าสุดส่งตัวกลับไทยแล้ว
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1457 มุมมอง 60 0 รีวิว
  • ตาก - เผยสภาพล่าสุด “หวังซิง-ดาราหนุ่มจีน” หลังหายตัวปริศนาผ่านชายแดนแม่สอด ก่อนถูก BGF ค้นหาจนเจอและเข้าควบคุมตัว เจรจาส่งตัวให้ทางการไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1

    เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก

    เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิงสูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ

    ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001792

    #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    ตาก - เผยสภาพล่าสุด “หวังซิง-ดาราหนุ่มจีน” หลังหายตัวปริศนาผ่านชายแดนแม่สอด ก่อนถูก BGF ค้นหาจนเจอและเข้าควบคุมตัว เจรจาส่งตัวให้ทางการไทยผ่านสะพานมิตรภาพไทย-พม่า ข้ามแม่น้ำเมย แห่งที่ 1 • เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ (7 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง ตร. พล.ต.ท.กิติศักดิ์ ดุรงควิบูลย์ ผบช.ภ.6 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท.นำเจ้าหน้าที่เดินทางไปยัง อ.แม่สอด จ.ตาก • เพื่อติดตามความคืบหน้ากรณีดาราชาวจีนคือนายซิงซิง หรือ หวังซิงสูญหายไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และมีกระแสว่ากองกำลังในฝั่งประเทศเพื่อนบ้านเขต จ.เมียวดี ได้พบตัวแล้วและอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อส่งตัวกลับ • ซึ่งจากรายงานของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) เจ้าหน้าที่ได้นำรูปของนักแสดงคนดังกล่าวเข้าตรวจสอบในระบบไบโอเมติกซ์ทำให้ยืนยันได้ว่า นายหวังซิง เดินทางเข้ามาประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.00 น. เป็นการเดินทางจากสนามบินผู่ตง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ซึ่งไม่ได้แจ้งรายละเอียดที่พัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000001792 • #MGROnline #ซิงซิง #XingXing
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาก - กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา (BGF) จ่อส่งตัว “หวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนาชายแดนแม่สอด โผล่รัฐกะเหรียง ข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพฯแม่สอด-เมียวดี แห่งที่ 1

    ความคืบหน้า กรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีนชื่อ "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ขาดการติดต่อและหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และล่าสุดพบว่าไปอยู่ในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันแล้วนั้น

    ล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยด้านจังหวัดตาก ยืนยันว่า ทาง BGF ยืนยันพบตัวหวังซิงแล้ว และจะนำมาส่งข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1 ต่อไป

    สอดคล้องกับรายงานข่าวจากตำรวจสืบสวนจังหวัดตากรับเเจ้งจาก พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการ บีจีเอฟ BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แจ้งทางโทรศัพท์มาล่ามภาษาพม่าของ พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ว่าขณะที่พบตัวนายซิงซิง ดาราจีนที่ถูกนำตัวมายังชายแดนในฝั่งเมียนมาแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้ในฝังไทยช่วงหลังเวลา 12.00 น. ขณะนี้ทางกองกำลังนำตัวมาสอบสวนการเข้าไปในฝั่งเมียนมาอยู่ และการส่งมอบให้ฝังไทยนั้นจะทำการนัดอีกครั้งว่าจะส่งมอบที่ใด

    ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอกกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตากประชุมกับชุดสืบ สภ.แม่สอด ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า พบเบาะแสดาราจีนแล้วข้ามไปยังฝั่งเมียนมาที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน โดยมีพยานซึ่งเป็นคนขับรถชื่อ นายวิชัย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนจีนที่ อ.แม่สอด และมีชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมาเอารถยนต์มารับตัวไปจากแม่สอด จุดนัดที่ห้างแมคโคร และเท่าที่ทราบดาราจีนสมัครใจไปเอง ไม่มีการถูกลักพาตัว และข่มขู่บังคับแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงต้องรอสอบสวนอีกครั้ง

    อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดชิงชิงจึงไปโผล่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาและขาดการติดต่อจนแฟนสาวต้องประกาศตามหาตัว

    #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    ตาก - กองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา (BGF) จ่อส่งตัว “หวังซิง” ดาราหนุ่มจีนหายตัวปริศนาชายแดนแม่สอด โผล่รัฐกะเหรียง ข้ามแดนผ่านสะพานมิตรภาพฯแม่สอด-เมียวดี แห่งที่ 1 • ความคืบหน้า กรณีนักแสดงหนุ่มชาวจีนชื่อ "ซิงซิง" หรือ "หวังซิง" ขาดการติดต่อและหายตัวไปบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สอด และล่าสุดพบว่าไปอยู่ในฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ที่อยู่ติดกันแล้วนั้น • ล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) มีรายงานข่าวจากฝ่ายความมั่นคงไทยด้านจังหวัดตาก ยืนยันว่า ทาง BGF ยืนยันพบตัวหวังซิงแล้ว และจะนำมาส่งข้ามแดนที่สะพานมิตรภาพไทย เมียนมา แห่งที่ 1 ต่อไป • สอดคล้องกับรายงานข่าวจากตำรวจสืบสวนจังหวัดตากรับเเจ้งจาก พ.ต.หม่องวิน รองผู้บัญชาการ บีจีเอฟ BGF หรือกองกำลังพิทักษ์ชายแดน แจ้งทางโทรศัพท์มาล่ามภาษาพม่าของ พ.ต.อ.พิทยากร เพชรรัตน์ ผกก.สภ.แม่สอด ว่าขณะที่พบตัวนายซิงซิง ดาราจีนที่ถูกนำตัวมายังชายแดนในฝั่งเมียนมาแล้ว และเตรียมจะส่งมอบให้ในฝังไทยช่วงหลังเวลา 12.00 น. ขณะนี้ทางกองกำลังนำตัวมาสอบสวนการเข้าไปในฝั่งเมียนมาอยู่ และการส่งมอบให้ฝังไทยนั้นจะทำการนัดอีกครั้งว่าจะส่งมอบที่ใด • ด้าน พล.ต.ต.สัมฤทธิ์ เอกกมล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตากประชุมกับชุดสืบ สภ.แม่สอด ทราบข้อมูลเบื้องต้นว่า พบเบาะแสดาราจีนแล้วข้ามไปยังฝั่งเมียนมาที่บ้านแม่โกนเกน ต.มหาวัน โดยมีพยานซึ่งเป็นคนขับรถชื่อ นายวิชัย ที่เกี่ยวข้องกับการส่งคนจีนที่ อ.แม่สอด และมีชาวกะเหรี่ยงสัญชาติเมียนมาเอารถยนต์มารับตัวไปจากแม่สอด จุดนัดที่ห้างแมคโคร และเท่าที่ทราบดาราจีนสมัครใจไปเอง ไม่มีการถูกลักพาตัว และข่มขู่บังคับแต่อย่างใด ส่วนข้อเท็จจริงต้องรอสอบสวนอีกครั้ง • อย่างไรก็ตามยังไม่มีความชัดเจนว่าเหตุใดชิงชิงจึงไปโผล่อยู่ในฝั่งประเทศเมียนมาและขาดการติดต่อจนแฟนสาวต้องประกาศตามหาตัว • #MGROnline #XingXing #ซิงซิง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 470 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำไมเมียนมายื้อปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย? : คนเคาะข่าว 06-01-68
    : ทูตสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    ทำไมเมียนมายื้อปล่อยตัว 4 ลูกเรือประมงไทย? : คนเคาะข่าว 06-01-68 : ทูตสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 595 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • เชียงราย - ตร.สงสัย 151 คนไทยถูกปล่อยพ้นคุกพม่าวันนี้ บางคนเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ พบบางรายลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ

    วันนี้ (4 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี ตร.เปิดเผยกรณีทางการเมียนมา จะปล่อยตัวคนไทยจำนวน 151 คน เป็นชาย 74 คน หญิง 77 คน เนื่องในวันปลดปล่อยเอกราชหรือวันชาติเมียนมา 4 ม.ค.ของทุกปี

    หลังจากทั้งหมดถูกจับกุมระหว่างเมียนมากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ในท่าขี้เหล็ก และถูกศาลจำคุกที่เชียงตุง

    พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่าตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผบ.ตร.ประเทศเมียนมา ขณะเดินทางไปประชุมที่กรุงเนปิดอร์ เมืองหลวงของเมียนมาและได้ขอให้มีการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 151 คน ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่ได้รับการลดโทษให้เหลือเวลา 10 เดือน กระทั่งได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทาง ผบ.ตร.เมียนมา ด้วย

    ทั้งนี้คนกลุ่มนี้เดิมมีจำนวน 154 คน แต่ได้เสียชีวิตขณะถูกจำคุก 1 คน และได้กลับมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 คน จึงเหลือ 151 คน ทั้งหมดส่วนใหญ่ออกนอกประเทศไทยด้วยการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่มีอยู่จำนวน 4 คนที่ไมได้ทำบัตรผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืงอ (ตม.) แต่ออกไปตามช่องทางธรรมชาติ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000000962

    #MGROnline #เชียงราย #คุกพม่า #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #บ่อนพนันออนไลน์
    เชียงราย - ตร.สงสัย 151 คนไทยถูกปล่อยพ้นคุกพม่าวันนี้ บางคนเอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ พบบางรายลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติ • วันนี้ (4 ม.ค.) พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทางด้านเทคโนโลยี ตร.เปิดเผยกรณีทางการเมียนมา จะปล่อยตัวคนไทยจำนวน 151 คน เป็นชาย 74 คน หญิง 77 คน เนื่องในวันปลดปล่อยเอกราชหรือวันชาติเมียนมา 4 ม.ค.ของทุกปี • หลังจากทั้งหมดถูกจับกุมระหว่างเมียนมากวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์-บ่อนพนันออนไลน์ในท่าขี้เหล็ก และถูกศาลจำคุกที่เชียงตุง • พล.ต.อ.ธัชชัย เปิดเผยว่าตนได้มีโอกาสพูดคุยกับ ผบ.ตร.ประเทศเมียนมา ขณะเดินทางไปประชุมที่กรุงเนปิดอร์ เมืองหลวงของเมียนมาและได้ขอให้มีการช่วยเหลือคนไทยทั้ง 151 คน ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี แต่ได้รับการลดโทษให้เหลือเวลา 10 เดือน กระทั่งได้รับการปล่อยตัวในครั้งนี้ ซึ่งต้องขอบคุณทาง ผบ.ตร.เมียนมา ด้วย • ทั้งนี้คนกลุ่มนี้เดิมมีจำนวน 154 คน แต่ได้เสียชีวิตขณะถูกจำคุก 1 คน และได้กลับมาก่อนหน้านี้แล้ว 2 คน จึงเหลือ 151 คน ทั้งหมดส่วนใหญ่ออกนอกประเทศไทยด้วยการทำบัตรผ่านแดนชั่วคราว แต่มีอยู่จำนวน 4 คนที่ไมได้ทำบัตรผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืงอ (ตม.) แต่ออกไปตามช่องทางธรรมชาติ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000000962 • #MGROnline #เชียงราย #คุกพม่า #แก๊งคอลเซ็นเตอร์ #บ่อนพนันออนไลน์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 409 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ติ่นส่าวิ่นจ่อ"นางแบบเซ็กซี่ชื่อดังของเมียนมา ถูกปล่อยตัวแล้วในวันชาติ 4 มกราคม หลังติดคุกนานกว่า 1 ปี ในข้อหาถ่ายภาพวาบหวิวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์

    วันนี้ (4 ม.ค.) เป็นวันประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของเมียนมา ซึ่งชาวเมียนมาทุกชาติพันธุ์ถือเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษ และทุกปี รัฐบาลเมียนมาจะประกาศให้อภัยโทษแก่นักโทษจำนวนมากที่ถูกจำคุกอยู่ในทุกเรือนจำทั่วประเทศ

    ปีนี้ รัฐบาลทหารของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ได้ให้อภัยโทษแก่นักโทษรวม 5,864 คน และ 1 ในนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระในครั้งนี้ คือ ติ่นส่าวิ่นจ่อ อดีตนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง

    ช่วงบ่ายวันนี้ สื่อหลายแห่งในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพของติ่นส่าวิ่นจ่อสวมเสื้อยืดรัดรูปแขนยาวสีดำ คอกว้าง นุ่งซิ่นลายดอกสีน้ำตาล เดินหิ้วสัมภาระออกจากประตูเรือนจำ โดยมีผู้คุมหญิง 2 คนเดินออกมาส่ง ผู้คุมคนหนึ่งช่วยเธอหิ้วกระเป๋าสีเขียวอ่อน ส่วนอีกหนึ่งคนช่วยถือถุงกระดาษ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000000963

    #MGROnline #ติ่นส่าวิ่นจ่อ #นางแบบเซ็กซี่ #เมียนมา #วันชาติ #ถ่ายภาพวาบหวิว
    "ติ่นส่าวิ่นจ่อ"นางแบบเซ็กซี่ชื่อดังของเมียนมา ถูกปล่อยตัวแล้วในวันชาติ 4 มกราคม หลังติดคุกนานกว่า 1 ปี ในข้อหาถ่ายภาพวาบหวิวเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ • วันนี้ (4 ม.ค.) เป็นวันประกาศอิสรภาพหรือวันชาติของเมียนมา ซึ่งชาวเมียนมาทุกชาติพันธุ์ถือเป็นวันสำคัญ เพราะเป็นวันที่เมียนมาได้รับเอกราชจากอังกฤษ และทุกปี รัฐบาลเมียนมาจะประกาศให้อภัยโทษแก่นักโทษจำนวนมากที่ถูกจำคุกอยู่ในทุกเรือนจำทั่วประเทศ • ปีนี้ รัฐบาลทหารของสภาบริหารแห่งรัฐ (SAC) ได้ให้อภัยโทษแก่นักโทษรวม 5,864 คน และ 1 ในนักโทษที่ได้รับการปล่อยตัวเป็นอิสระในครั้งนี้ คือ ติ่นส่าวิ่นจ่อ อดีตนางแบบเซ็กซี่ชื่อดัง • ช่วงบ่ายวันนี้ สื่อหลายแห่งในเมียนมา ได้เผยแพร่ภาพของติ่นส่าวิ่นจ่อสวมเสื้อยืดรัดรูปแขนยาวสีดำ คอกว้าง นุ่งซิ่นลายดอกสีน้ำตาล เดินหิ้วสัมภาระออกจากประตูเรือนจำ โดยมีผู้คุมหญิง 2 คนเดินออกมาส่ง ผู้คุมคนหนึ่งช่วยเธอหิ้วกระเป๋าสีเขียวอ่อน ส่วนอีกหนึ่งคนช่วยถือถุงกระดาษ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/indochina/detail/9680000000963 • #MGROnline #ติ่นส่าวิ่นจ่อ #นางแบบเซ็กซี่ #เมียนมา #วันชาติ #ถ่ายภาพวาบหวิว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 443 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts