• แนวคิดของ lunar economy ที่เคยเป็นเพียงเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังกลายเป็นความจริงที่สามารถจับต้องได้ ประเทศต่าง ๆ และบริษัทเอกชนกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถในการสำรวจอวกาศในอนาคต

    หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้คือ Firefly Aerospace บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 Firefly ได้ทำการปล่อยภารกิจ Blue Ghost 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการส่งมอบจากโลกสู่ดวงจันทร์ ขณะนี้ Blue Ghost กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์และต้องเผชิญกับภารกิจท้าทายหลายอย่าง เช่น การเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ การลงจอดอย่างควบคุมในพื้นที่ Mare Crisium และการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม และการเจาะและสกัดฝุ่นละอองบนดวงจันทร์อย่างอัตโนมัติ

    ภารกิจของ Firefly นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ของ NASA ที่มุ่งใช้ความสร้างสรรค์ของภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาการสำรวจอวกาศ ขณะที่ NASA มุ่งเน้นการส่งนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ผ่านโครงการ Artemis บริษัทเอกชนถูกมอบหมายให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการส่งมอบสิ่งของและการส่งคืนตัวอย่าง

    Blue Ghost lander บรรทุกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ 10 ชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดความต้านทานของวงจรต่อรังสีในอวกาศ และกล้องที่ใช้ศึกษาฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ นอกจากนี้ lander ยังจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ lunar eclipse เพื่อให้มุมมองพิเศษต่อปรากฏการณ์นี้

    ในขณะที่ lunar economy เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความสนใจจึงหันไปที่การใช้ประโยชน์จากวัสดุบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะ Helium-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่มีประโยชน์ในการฟิวชั่นนิวเคลียร์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และการสร้างภาพทางการแพทย์ Helium-3 นั้นหายากบนโลก แต่เชื่อว่ามีการสะสมอยู่ในดวงจันทร์เนื่องจากลมสุริยะ

    บริษัทอย่าง Interlune กำลังวางแผนภารกิจการขุดเพื่อสกัด Helium-3 จากดวงจันทร์ นักวิจัยยังสำรวจการใช้แร่ธาตุและน้ำบนดวงจันทร์เพื่อผลิตออกซิเจนและไฮโดรเจนสำหรับเชื้อเพลิงจรวด ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ เช่น ถนน ทางรถไฟ และสิ่งก่อสร้างจากคอนกรีต

    ในอนาคต ภาพของ lander ที่เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และการสร้างระบบการส่งมอบในอวกาศจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป เปิดฉากยุคใหม่ของการสำรวจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากชั้นบรรยากาศของโลก

    https://www.techspot.com/news/106885-new-space-race-building-sustainable-economy-moon.html
    แนวคิดของ lunar economy ที่เคยเป็นเพียงเรื่องในนิยายวิทยาศาสตร์ กำลังกลายเป็นความจริงที่สามารถจับต้องได้ ประเทศต่าง ๆ และบริษัทเอกชนกำลังแข่งขันกันเพื่อสร้างฐานที่มั่นบนดวงจันทร์และใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่นั่นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และพัฒนาความสามารถในการสำรวจอวกาศในอนาคต หนึ่งในบริษัทที่เข้าร่วมการแข่งขันนี้คือ Firefly Aerospace บริษัทที่ตั้งอยู่ในรัฐเท็กซัส เมื่อวันที่ 15 มกราคม 2025 Firefly ได้ทำการปล่อยภารกิจ Blue Ghost 1 ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบการส่งมอบจากโลกสู่ดวงจันทร์ ขณะนี้ Blue Ghost กำลังมุ่งหน้าสู่พื้นผิวดวงจันทร์และต้องเผชิญกับภารกิจท้าทายหลายอย่าง เช่น การเข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์ การลงจอดอย่างควบคุมในพื้นที่ Mare Crisium และการรับมือกับสภาพแวดล้อมที่รุนแรง การติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ การเก็บข้อมูลสภาพแวดล้อม และการเจาะและสกัดฝุ่นละอองบนดวงจันทร์อย่างอัตโนมัติ ภารกิจของ Firefly นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Commercial Lunar Payload Services (CLPS) ของ NASA ที่มุ่งใช้ความสร้างสรรค์ของภาคเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาการสำรวจอวกาศ ขณะที่ NASA มุ่งเน้นการส่งนักบินอวกาศกลับสู่ดวงจันทร์ผ่านโครงการ Artemis บริษัทเอกชนถูกมอบหมายให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการส่งมอบสิ่งของและการส่งคืนตัวอย่าง Blue Ghost lander บรรทุกอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ 10 ชิ้น รวมถึงคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อตรวจวัดความต้านทานของวงจรต่อรังสีในอวกาศ และกล้องที่ใช้ศึกษาฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ นอกจากนี้ lander ยังจะถ่ายภาพปรากฏการณ์ lunar eclipse เพื่อให้มุมมองพิเศษต่อปรากฏการณ์นี้ ในขณะที่ lunar economy เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง ความสนใจจึงหันไปที่การใช้ประโยชน์จากวัสดุบนดวงจันทร์ โดยเฉพาะ Helium-3 ซึ่งเป็นไอโซโทปหายากที่มีประโยชน์ในการฟิวชั่นนิวเคลียร์ คอมพิวเตอร์ควอนตัม และการสร้างภาพทางการแพทย์ Helium-3 นั้นหายากบนโลก แต่เชื่อว่ามีการสะสมอยู่ในดวงจันทร์เนื่องจากลมสุริยะ บริษัทอย่าง Interlune กำลังวางแผนภารกิจการขุดเพื่อสกัด Helium-3 จากดวงจันทร์ นักวิจัยยังสำรวจการใช้แร่ธาตุและน้ำบนดวงจันทร์เพื่อผลิตออกซิเจนและไฮโดรเจนสำหรับเชื้อเพลิงจรวด ซึ่งอาจเปิดทางให้มีการตั้งถิ่นฐานของมนุษย์บนดวงจันทร์อย่างยั่งยืนในอนาคต รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานบนดวงจันทร์ เช่น ถนน ทางรถไฟ และสิ่งก่อสร้างจากคอนกรีต ในอนาคต ภาพของ lander ที่เข้าสู่วงโคจรของดวงจันทร์และการสร้างระบบการส่งมอบในอวกาศจะเป็นเรื่องปกติทั่วไป เปิดฉากยุคใหม่ของการสำรวจและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่นอกเหนือจากชั้นบรรยากาศของโลก https://www.techspot.com/news/106885-new-space-race-building-sustainable-economy-moon.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    The new space race: building a sustainable economy on the moon
    This modern-day lunar gold rush has attracted diverse participants, from established space agencies to innovative private firms. One such company in this space race is the Texas-based...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 18 มุมมอง 0 รีวิว
  • Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบที่ชาร์จราคาถูกที่มีความสามารถ 600W ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มีพอร์ตถึง 8 พอร์ต โดยมีราคาประมาณ $99 ซึ่งถูกกว่าที่ชาร์จจาก Ugreen Nexode 300W ที่มีราคา $140 อย่างมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาหลายอย่างเมื่อเริ่มใช้งาน

    ปัญหาแรกที่พบคือการชาร์จไม่สม่ำเสมอ พอร์ต USB-C หนึ่งสามารถชาร์จได้ 140W ในขณะที่พอร์ต 140W อีกพอร์ตไม่สามารถชาร์จได้เกิน 65W และหนึ่งในพอร์ต 100W ก็ไม่ทำงานเลย นอกจากนี้ การเสียบหรือถอดอุปกรณ์จากที่ชาร์จยังทำให้ที่ชาร์จต้องรีบูตใหม่อยู่บ่อยครั้ง

    เมื่อตัดสินใจเปิดที่ชาร์จออกมา Kingsley-Hughes พบว่าในนั้นมีวัสดุคล้ายกับสารทึบน้ำ (thermal compound) แต่มีลักษณะและกลิ่นเหมือนกับสารเคลือบหน้าต่าง ที่หนักมากเกินปกติ ทำให้ที่ชาร์จดูหนักกว่าในความเป็นจริง

    นอกจากนี้ ยังพบว่าการแยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างส่วนไฟฟ้าหลักและส่วนแรงดันต่ำในที่ชาร์จไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายด้านความปลอดภัยหากมีการทำงานผิดพลาด ทำให้แรงดันไฟฟ้าหลักถูกส่งออกมา

    เมื่อเปิดที่ชาร์จดู ยังพบว่าการออกแบบภายในไม่ดี และคอนเนกเตอร์ด้านข้างที่ง่ายต่อการเปิดออกมา ทำให้เกิดอันตรายหากที่ชาร์จหล่นจากโต๊ะและทำให้ส่วนแรงดันสูงเผยออกมา

    ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกซื้อที่ชาร์จจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น

    https://www.zdnet.com/article/i-opened-up-a-cheap-600w-charger-to-test-its-build-and-found-goo-inside/
    Adrian Kingsley-Hughes นักเขียนจาก ZDNET ได้ทดสอบที่ชาร์จราคาถูกที่มีความสามารถ 600W ซึ่งถูกมองว่าเป็นที่ชาร์จประสิทธิภาพสูงที่มีพอร์ตถึง 8 พอร์ต โดยมีราคาประมาณ $99 ซึ่งถูกกว่าที่ชาร์จจาก Ugreen Nexode 300W ที่มีราคา $140 อย่างมาก แต่กลับพบว่ามีปัญหาหลายอย่างเมื่อเริ่มใช้งาน ปัญหาแรกที่พบคือการชาร์จไม่สม่ำเสมอ พอร์ต USB-C หนึ่งสามารถชาร์จได้ 140W ในขณะที่พอร์ต 140W อีกพอร์ตไม่สามารถชาร์จได้เกิน 65W และหนึ่งในพอร์ต 100W ก็ไม่ทำงานเลย นอกจากนี้ การเสียบหรือถอดอุปกรณ์จากที่ชาร์จยังทำให้ที่ชาร์จต้องรีบูตใหม่อยู่บ่อยครั้ง เมื่อตัดสินใจเปิดที่ชาร์จออกมา Kingsley-Hughes พบว่าในนั้นมีวัสดุคล้ายกับสารทึบน้ำ (thermal compound) แต่มีลักษณะและกลิ่นเหมือนกับสารเคลือบหน้าต่าง ที่หนักมากเกินปกติ ทำให้ที่ชาร์จดูหนักกว่าในความเป็นจริง นอกจากนี้ ยังพบว่าการแยกแรงดันไฟฟ้าระหว่างส่วนไฟฟ้าหลักและส่วนแรงดันต่ำในที่ชาร์จไม่เพียงพอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายด้านความปลอดภัยหากมีการทำงานผิดพลาด ทำให้แรงดันไฟฟ้าหลักถูกส่งออกมา เมื่อเปิดที่ชาร์จดู ยังพบว่าการออกแบบภายในไม่ดี และคอนเนกเตอร์ด้านข้างที่ง่ายต่อการเปิดออกมา ทำให้เกิดอันตรายหากที่ชาร์จหล่นจากโต๊ะและทำให้ส่วนแรงดันสูงเผยออกมา ข่าวนี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเลือกซื้อที่ชาร์จจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการรับรองความปลอดภัย เพื่อป้องกันปัญหาด้านประสิทธิภาพและความปลอดภัยที่อาจเกิดขึ้น https://www.zdnet.com/article/i-opened-up-a-cheap-600w-charger-to-test-its-build-and-found-goo-inside/
    WWW.ZDNET.COM
    I opened up a cheap 600W charger to test its build, and found 'goo' inside
    Can an off-brand charger compete with the big names? I put it through its paces to find out.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 20 มุมมอง 0 รีวิว
  • Alibaba Cloud ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Group ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ชื่อว่า Animate Anyone 2 โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอนิเมชันตัวละครที่เสมือนจริงจากภาพนิ่งและวิดีโอเพียงหนึ่งคลิปได้อย่างง่ายดาย

    Animate Anyone 2 สามารถประมวลผลสัญญาณการเคลื่อนไหวและสัญญาณสิ่งแวดล้อมจากเนื้อหาที่เป็นแหล่งอ้างอิง เช่น วิดีโอต้นฉบับ เพื่อสร้างคลิปใหม่ที่มีความสมจริงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสร้างแอนิเมชันตัวละครในอดีตที่ใช้เพียงสัญญาณการเคลื่อนไหวเท่านั้น โมเดลนี้ช่วยให้ตัวละครสามารถแสดงการเคลื่อนไหวที่สมจริงและประสานกับสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างไม่มีสะดุด

    โมเดลนี้สร้างขึ้นจากเวอร์ชันแรกของ Animate Anyone ที่ประกาศเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งเน้นการสร้างวิดีโอตัวละครจากภาพนิ่ง หลังจากนั้น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ก็ได้เปิดตัวโมเดล Sora ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ทำให้เกิดการแข่งขันในวงการเทคโนโลยี AI ของบริษัทใหญ่ในจีนและสตาร์ทอัพหลายแห่ง

    นอกจากนี้ Animate Anyone 2 ยังมีความสามารถในการสร้างการโต้ตอบระหว่างตัวละครโดยรักษาความสมเหตุสมผลของการเคลื่อนไหวและความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทีมวิจัยจาก Tongyi Lab ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Alibaba Cloud ได้นำเสนอผลการศึกษานี้ใน arXiv ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบโอเพนซอร์ส

    สิ่งที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลมัลติโมดัลชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถเปลี่ยนภาพและเสียงให้เป็นวิดีโอที่ดูสมจริง การเปิดตัวโมเดลเหล่านี้ทำให้วงการสื่อและโฆษณามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในจีนที่โมเดล Sora ยังไม่สามารถใช้งานได้

    เพื่อทดสอบวิธีการของ Animate Anyone 2 ในหลายสถานการณ์ ทีมวิจัยได้เก็บรวบรวมวิดีโอตัวละคร 100,000 คลิปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหลายประเภทของฉาก การกระทำ และการโต้ตอบระหว่างคนและวัตถุ อย่างไรก็ตาม การใช้โมเดลวีดีโอเจเนอเรชันเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายวิดีโอ deepfake เพิ่มขึ้น

    Liang Haisheng ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาจากปักกิ่งกล่าวว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างวิดีโอเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการทำวิดีโอตัวอย่างเพื่อเสนอไอเดียให้กับลูกค้า แต่พวกมันยังขาดความสามารถในการแสดงอารมณ์และการแสดงหน้าที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/alibaba-cloud-ai-model-animate-anyone-2-simplifies-making-of-lifelike-character-animation
    Alibaba Cloud ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านคลาวด์คอมพิวติ้งของ Alibaba Group ได้เปิดตัวโมเดลปัญญาประดิษฐ์ (AI) รุ่นใหม่ชื่อว่า Animate Anyone 2 โมเดลนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอนิเมชันตัวละครที่เสมือนจริงจากภาพนิ่งและวิดีโอเพียงหนึ่งคลิปได้อย่างง่ายดาย Animate Anyone 2 สามารถประมวลผลสัญญาณการเคลื่อนไหวและสัญญาณสิ่งแวดล้อมจากเนื้อหาที่เป็นแหล่งอ้างอิง เช่น วิดีโอต้นฉบับ เพื่อสร้างคลิปใหม่ที่มีความสมจริงสูง เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการสร้างแอนิเมชันตัวละครในอดีตที่ใช้เพียงสัญญาณการเคลื่อนไหวเท่านั้น โมเดลนี้ช่วยให้ตัวละครสามารถแสดงการเคลื่อนไหวที่สมจริงและประสานกับสิ่งแวดล้อมเดิมได้อย่างไม่มีสะดุด โมเดลนี้สร้างขึ้นจากเวอร์ชันแรกของ Animate Anyone ที่ประกาศเปิดตัวในปลายปี 2023 ซึ่งเน้นการสร้างวิดีโอตัวละครจากภาพนิ่ง หลังจากนั้น OpenAI ผู้สร้าง ChatGPT ก็ได้เปิดตัวโมเดล Sora ที่สามารถสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ทำให้เกิดการแข่งขันในวงการเทคโนโลยี AI ของบริษัทใหญ่ในจีนและสตาร์ทอัพหลายแห่ง นอกจากนี้ Animate Anyone 2 ยังมีความสามารถในการสร้างการโต้ตอบระหว่างตัวละครโดยรักษาความสมเหตุสมผลของการเคลื่อนไหวและความสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อมด้วย ทีมวิจัยจาก Tongyi Lab ซึ่งเป็นหน่วยวิจัยและพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) ของ Alibaba Cloud ได้นำเสนอผลการศึกษานี้ใน arXiv ซึ่งเป็นแหล่งเก็บข้อมูลงานวิจัยแบบโอเพนซอร์ส สิ่งที่น่าสนใจคือ ByteDance บริษัทเจ้าของ TikTok ก็เพิ่งเปิดตัวโมเดลมัลติโมดัลชื่อ OmniHuman-1 ที่สามารถเปลี่ยนภาพและเสียงให้เป็นวิดีโอที่ดูสมจริง การเปิดตัวโมเดลเหล่านี้ทำให้วงการสื่อและโฆษณามีความเปลี่ยนแปลงอย่างมาก โดยเฉพาะในจีนที่โมเดล Sora ยังไม่สามารถใช้งานได้ เพื่อทดสอบวิธีการของ Animate Anyone 2 ในหลายสถานการณ์ ทีมวิจัยได้เก็บรวบรวมวิดีโอตัวละคร 100,000 คลิปจากอินเทอร์เน็ต ซึ่งรวมถึงหลายประเภทของฉาก การกระทำ และการโต้ตอบระหว่างคนและวัตถุ อย่างไรก็ตาม การใช้โมเดลวีดีโอเจเนอเรชันเหล่านี้ยังมีความเสี่ยงที่จะมีการแพร่กระจายวิดีโอ deepfake เพิ่มขึ้น Liang Haisheng ผู้เชี่ยวชาญด้านโฆษณาจากปักกิ่งกล่าวว่า แม้ว่าเครื่องมือสร้างวิดีโอเหล่านี้จะมีประโยชน์ในการทำวิดีโอตัวอย่างเพื่อเสนอไอเดียให้กับลูกค้า แต่พวกมันยังขาดความสามารถในการแสดงอารมณ์และการแสดงหน้าที่ละเอียดอ่อนของมนุษย์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/alibaba-cloud-ai-model-animate-anyone-2-simplifies-making-of-lifelike-character-animation
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Alibaba Cloud AI model Animate Anyone 2 simplifies making of lifelike character animation
    China appears to have upped the ante in this field of generative AI, which is poised to disrupt the entertainment and advertising industries.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวฟลอริดา ชื่อ Jonathan Challinger ขับรถ Tesla Cybertruck ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving) แต่รถกลับชนเข้ากับเสาไฟโดยไม่ได้พยายามชะลอหรือเลี้ยวก่อนชน ขณะที่เขาโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนสื่อสังคม X เขากลับขอบคุณ Tesla ที่สร้างระบบความปลอดภัยระดับโลก เนื่องจากเขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์นี้

    Challinger เล่าในโพสต์ว่า รถ Cybertruck ของเขาทำงานผิดพลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในเลนที่กำลังจะสิ้นสุด ส่งผลให้รถวิ่งข้ามขอบถนนและชนเข้ากับเสาไฟทันที โพสต์นี้ได้รับการรับชมเกือบสองล้านครั้งก่อนที่จะถูกลบออก

    สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า Tesla จะมีฟีเจอร์ขับขี่อัตโนมัติที่สามารถนำรถผ่านทางโค้ง สี่แยก การเลี้ยวซ้ายและขวา วงเวียน และทางหลวงได้ แต่ในคู่มือของ Cybertruck ยังคงระบุว่าผู้ขับขี่จะต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาและต้องมีมือจับพวงมาลัยในขณะที่เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ

    Elon Musk, ซีอีโอของ Tesla เคยประกาศในเดือนมกราคมว่าบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติ (robotaxis) ในเมืองออสตินภายในฤดูร้อนปีนี้ และยังวางแผนที่จะขยายระบบขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องควบคุม (unsupervised Full Self-Driving) ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2025

    แม้ว่าในเหตุการณ์นี้ Challinger จะชี้โทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีความตื่นตัวในการขับขี่อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นข้อเตือนใจให้เห็นว่าระบบขับขี่อัตโนมัติยังไม่สมบูรณ์และยังคงต้องการการเฝ้าระวังจากผู้ขับขี่

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/tesla-is-safest-in-the-world-says-driver-whose-cybertruck-self-drove-into-pole
    ชายชาวฟลอริดา ชื่อ Jonathan Challinger ขับรถ Tesla Cybertruck ที่ใช้ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (self-driving) แต่รถกลับชนเข้ากับเสาไฟโดยไม่ได้พยายามชะลอหรือเลี้ยวก่อนชน ขณะที่เขาโพสต์เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้บนสื่อสังคม X เขากลับขอบคุณ Tesla ที่สร้างระบบความปลอดภัยระดับโลก เนื่องจากเขาไม่บาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยจากเหตุการณ์นี้ Challinger เล่าในโพสต์ว่า รถ Cybertruck ของเขาทำงานผิดพลาด ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการชนขณะที่กำลังวิ่งอยู่ในเลนที่กำลังจะสิ้นสุด ส่งผลให้รถวิ่งข้ามขอบถนนและชนเข้ากับเสาไฟทันที โพสต์นี้ได้รับการรับชมเกือบสองล้านครั้งก่อนที่จะถูกลบออก สิ่งที่น่าสนใจคือแม้ว่า Tesla จะมีฟีเจอร์ขับขี่อัตโนมัติที่สามารถนำรถผ่านทางโค้ง สี่แยก การเลี้ยวซ้ายและขวา วงเวียน และทางหลวงได้ แต่ในคู่มือของ Cybertruck ยังคงระบุว่าผู้ขับขี่จะต้องมีความตื่นตัวตลอดเวลาและต้องมีมือจับพวงมาลัยในขณะที่เปิดใช้งานระบบขับขี่อัตโนมัติ Elon Musk, ซีอีโอของ Tesla เคยประกาศในเดือนมกราคมว่าบริษัทจะเปิดตัวรถแท็กซี่อัตโนมัติ (robotaxis) ในเมืองออสตินภายในฤดูร้อนปีนี้ และยังวางแผนที่จะขยายระบบขับขี่อัตโนมัติโดยไม่ต้องควบคุม (unsupervised Full Self-Driving) ไปยังรัฐแคลิฟอร์เนียและพื้นที่อื่น ๆ ในสหรัฐอเมริกาภายในสิ้นปี 2025 แม้ว่าในเหตุการณ์นี้ Challinger จะชี้โทษตัวเองว่าเป็นฝ่ายผิดและเรียกร้องให้ผู้ขับขี่ทุกคนมีความตื่นตัวในการขับขี่อย่างเต็มที่ แต่ก็ยังเป็นข้อเตือนใจให้เห็นว่าระบบขับขี่อัตโนมัติยังไม่สมบูรณ์และยังคงต้องการการเฝ้าระวังจากผู้ขับขี่ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/tesla-is-safest-in-the-world-says-driver-whose-cybertruck-self-drove-into-pole
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Tesla is safest in the world, says driver whose Cybertruck self-drove into pole
    The car "made no attempt to slow down or turn until it had already hit the curb,"the man said in a the post, which received nearly two million views and was later deleted.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 26 มุมมอง 0 รีวิว
  • Morse Micro เพิ่งเปิดตัวเราเตอร์รุ่นใหม่ MM-HL1-EXT ที่มีเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อระยะไกลได้ถึง 10 ไมล์ ในพื้นที่ชนบท และ 1.86 ไมล์ในพื้นที่เมือง โดยใช้มาตรฐาน IEEE 802.11ah Wi-Fi HaLow เราเตอร์นี้ยังรองรับ Wi-Fi 4 (802.11n) ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 300Mbps ในย่านความถี่ 2.4GHz และ 32Mbps ในย่านความถี่ 900MHz ที่เป็นมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา ทำให้มันเป็นโซลูชันการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างและตอบสนองต่อการใช้งาน IoT และอุตสาหกรรมได้ดี

    เราเตอร์ MM-HL1-EXT ขับเคลื่อนด้วย MediaTek MT7621A ซีพียูแบบดูอัลคอร์ พร้อมกับหน่วยความจำ DRAM ขนาด 256MB และ NAND flash ขนาด 32MB โมดูลวิทยุใช้ชิปเซ็ต MM6108 ของ Morse Micro ควบคู่กับ AzureWave AW-HM593 ที่ส่งพลังงานได้สูงสุดถึง 23 dBm เราเตอร์ยังมีพอร์ต Ethernet แบบกิกะบิต 2 พอร์ต และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Ethernet-over-USB อีกด้วย

    เราเตอร์นี้ยังทำงานบนแพลตฟอร์ม OpenWrt 23.05 ที่เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ รองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ออนไลน์ ทำให้สามารถปรับตัวได้ตามความต้องการในอนาคต

    ถึงแม้ว่าเราเตอร์นี้จะมีความเร็ว Wi-Fi HaLow สูงสุดที่ 32Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 8MHz แต่ด้วยความสามารถในการรองรับ Wi-Fi 4 ที่ความเร็วสูงสุด 300Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 40MHz ทำให้มันมีความหลากหลายและเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีความรุนแรง สองหน่วยของ HaLowLink 1 สามารถใช้เป็นทางเลือกไร้สายแทนการติดตั้งภายนอกและการติดตั้งระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    นอกจากนี้เราเตอร์ MM-HL1-EXT ได้รับการรับรองการใช้งานในอเมริกาเหนือ (FCC), แคนาดา (IC) และออสเตรเลีย (RCM) Morse Micro กำลังดำเนินการเพื่อรับรองการใช้งานใน EMEA (868MHz) และเอเชียด้วย

    ที่น่าสนใจคือ Morse Micro ได้พัฒนาเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow มานานเกือบสิบปี และได้แสดงความสามารถของฮาร์ดแวร์เราเตอร์ที่สามารถครอบคลุมระยะทาง 2 ไมล์ด้วยแบตเตอรี่เหรียญได้ ในการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และเพิ่มระยะทางเป็น 10 ไมล์ในเดือนกันยายน

    ปัจจุบันเราเตอร์ MM-HL1-EXT มีวางจำหน่ายใน Mouser ราคาประมาณ $99 โดยสต็อกยังมีจำกัด แต่คาดว่าจะมีสินค้ามากขึ้นในวันที่ 14 เมษายน 2025 สำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากมีเวลารอจากโรงงานประมาณแปดสัปดาห์

    https://www.techspot.com/news/106889-morse-micro-mm-hl1-ext-router-combines-wi.html
    Morse Micro เพิ่งเปิดตัวเราเตอร์รุ่นใหม่ MM-HL1-EXT ที่มีเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องการเชื่อมต่อระยะไกลได้ถึง 10 ไมล์ ในพื้นที่ชนบท และ 1.86 ไมล์ในพื้นที่เมือง โดยใช้มาตรฐาน IEEE 802.11ah Wi-Fi HaLow เราเตอร์นี้ยังรองรับ Wi-Fi 4 (802.11n) ด้วยความเร็วสูงสุดที่ 300Mbps ในย่านความถี่ 2.4GHz และ 32Mbps ในย่านความถี่ 900MHz ที่เป็นมาตรฐานในสหรัฐอเมริกา ทำให้มันเป็นโซลูชันการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมพื้นที่กว้างและตอบสนองต่อการใช้งาน IoT และอุตสาหกรรมได้ดี เราเตอร์ MM-HL1-EXT ขับเคลื่อนด้วย MediaTek MT7621A ซีพียูแบบดูอัลคอร์ พร้อมกับหน่วยความจำ DRAM ขนาด 256MB และ NAND flash ขนาด 32MB โมดูลวิทยุใช้ชิปเซ็ต MM6108 ของ Morse Micro ควบคู่กับ AzureWave AW-HM593 ที่ส่งพลังงานได้สูงสุดถึง 23 dBm เราเตอร์ยังมีพอร์ต Ethernet แบบกิกะบิต 2 พอร์ต และรองรับการเชื่อมต่อผ่าน Ethernet-over-USB อีกด้วย เราเตอร์นี้ยังทำงานบนแพลตฟอร์ม OpenWrt 23.05 ที่เป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สและสามารถปรับแต่งได้ตามต้องการ รองรับการอัปเดตเฟิร์มแวร์ออนไลน์ ทำให้สามารถปรับตัวได้ตามความต้องการในอนาคต ถึงแม้ว่าเราเตอร์นี้จะมีความเร็ว Wi-Fi HaLow สูงสุดที่ 32Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 8MHz แต่ด้วยความสามารถในการรองรับ Wi-Fi 4 ที่ความเร็วสูงสุด 300Mbps ที่แบนด์วิดธ์ 40MHz ทำให้มันมีความหลากหลายและเหมาะสมสำหรับการใช้งานที่หลากหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรมที่มีความรุนแรง สองหน่วยของ HaLowLink 1 สามารถใช้เป็นทางเลือกไร้สายแทนการติดตั้งภายนอกและการติดตั้งระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เราเตอร์ MM-HL1-EXT ได้รับการรับรองการใช้งานในอเมริกาเหนือ (FCC), แคนาดา (IC) และออสเตรเลีย (RCM) Morse Micro กำลังดำเนินการเพื่อรับรองการใช้งานใน EMEA (868MHz) และเอเชียด้วย ที่น่าสนใจคือ Morse Micro ได้พัฒนาเทคโนโลยี Wi-Fi HaLow มานานเกือบสิบปี และได้แสดงความสามารถของฮาร์ดแวร์เราเตอร์ที่สามารถครอบคลุมระยะทาง 2 ไมล์ด้วยแบตเตอรี่เหรียญได้ ในการทดสอบเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2024 และเพิ่มระยะทางเป็น 10 ไมล์ในเดือนกันยายน ปัจจุบันเราเตอร์ MM-HL1-EXT มีวางจำหน่ายใน Mouser ราคาประมาณ $99 โดยสต็อกยังมีจำกัด แต่คาดว่าจะมีสินค้ามากขึ้นในวันที่ 14 เมษายน 2025 สำหรับการสั่งซื้อจำนวนมากมีเวลารอจากโรงงานประมาณแปดสัปดาห์ https://www.techspot.com/news/106889-morse-micro-mm-hl1-ext-router-combines-wi.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New long-range Wi-Fi HaLow router hits the market for less than $100, up to 10-mile connectivity
    The MM-HL1-EXT sets itself apart from conventional Wi-Fi routers by operating in the 900MHz band in the U.S. while also supporting 2.4GHz Wi-Fi 4 (802.11n). This dual-band...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการซื้อกิจการของบริษัท Seagate ที่มีเป้าหมายจะเข้าซื้อบริษัท Intevac ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) การซื้อกิจการนี้มีความสำคัญเพราะ HAMR ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำฮาร์ดดิสก์ให้มีความจุสูงถึง 100TB หรือมากกว่าในอนาคต

    Seagate ประกาศการซื้อ Intevac ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2025 หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 36TB และประกาศว่าจะมีรุ่น 60TB ตามมาในไม่ช้า ด้วยการเข้าซื้อ Intevac ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตระบบ sputtering สำหรับการเคลือบวัสดุบาง ๆ เช่น โลหะผสมเหล็ก-แพลทินัม (FePt) ลงบนแผ่นฮาร์ดดิสก์ จะช่วยให้ Seagate สามารถผลิตชั้นแม่เหล็กที่มีความสม่ำเสมอสูง มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนที่ดีขึ้น และมีข้อบกพร่องน้อยลง ส่งผลให้การเก็บข้อมูลมีความหนาแน่นมากขึ้น

    เทคโนโลยี HAMR ใช้ความร้อนในการลดความต้านทานแม่เหล็ก ทำให้สามารถเขียนข้อมูลเป็นหน่วยที่เล็กและเสถียรกว่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์

    การซื้อกิจการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของ Intevac แล้ว โดยมีข้อตกลงให้ Seagate ซื้อ Intevac ด้วยเงินสดในราคาหุ้นละ $4 การซื้อขายนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน 2025

    อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการนี้อาจถูกคัดค้านจากคู่แข่งอย่าง Western Digital และ Resonac ซึ่งเป็นลูกค้าของ Toshiba เนื่องจากกังวลว่าการซื้อกิจการจะทำให้การแข่งขันลดลงและอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ของพวกเขา

    Seagate คาดว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ได้หลังจากการซื้อกิจการนี้ แต่การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ Western Digital และ Toshiba ต้องซื้อเครื่องมือ sputtering จาก Seagate ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญ

    https://www.techradar.com/pro/race-to-100tb-hdd-heats-up-as-seagate-pulls-rug-under-western-digital-toshiba-feet-by-acquiring-hamr-specialist
    ข่าวนี้กล่าวถึงการซื้อกิจการของบริษัท Seagate ที่มีเป้าหมายจะเข้าซื้อบริษัท Intevac ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR (Heat-Assisted Magnetic Recording) การซื้อกิจการนี้มีความสำคัญเพราะ HAMR ถูกมองว่าเป็นเทคโนโลยีที่สามารถนำฮาร์ดดิสก์ให้มีความจุสูงถึง 100TB หรือมากกว่าในอนาคต Seagate ประกาศการซื้อ Intevac ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2025 หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวฮาร์ดดิสก์ขนาด 36TB และประกาศว่าจะมีรุ่น 60TB ตามมาในไม่ช้า ด้วยการเข้าซื้อ Intevac ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตระบบ sputtering สำหรับการเคลือบวัสดุบาง ๆ เช่น โลหะผสมเหล็ก-แพลทินัม (FePt) ลงบนแผ่นฮาร์ดดิสก์ จะช่วยให้ Seagate สามารถผลิตชั้นแม่เหล็กที่มีความสม่ำเสมอสูง มีอัตราส่วนสัญญาณต่อเสียงรบกวนที่ดีขึ้น และมีข้อบกพร่องน้อยลง ส่งผลให้การเก็บข้อมูลมีความหนาแน่นมากขึ้น เทคโนโลยี HAMR ใช้ความร้อนในการลดความต้านทานแม่เหล็ก ทำให้สามารถเขียนข้อมูลเป็นหน่วยที่เล็กและเสถียรกว่า ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มความจุของฮาร์ดดิสก์ การซื้อกิจการนี้ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการของ Intevac แล้ว โดยมีข้อตกลงให้ Seagate ซื้อ Intevac ด้วยเงินสดในราคาหุ้นละ $4 การซื้อขายนี้คาดว่าจะเสร็จสิ้นในปลายเดือนมีนาคมหรือต้นเดือนเมษายน 2025 อย่างไรก็ตาม การซื้อกิจการนี้อาจถูกคัดค้านจากคู่แข่งอย่าง Western Digital และ Resonac ซึ่งเป็นลูกค้าของ Toshiba เนื่องจากกังวลว่าการซื้อกิจการจะทำให้การแข่งขันลดลงและอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ของพวกเขา Seagate คาดว่าจะสามารถเพิ่มการผลิตฮาร์ดดิสก์แบบ HAMR ได้หลังจากการซื้อกิจการนี้ แต่การกระทำดังกล่าวอาจทำให้ Western Digital และ Toshiba ต้องซื้อเครื่องมือ sputtering จาก Seagate ซึ่งเป็นคู่แข่งที่สำคัญ https://www.techradar.com/pro/race-to-100tb-hdd-heats-up-as-seagate-pulls-rug-under-western-digital-toshiba-feet-by-acquiring-hamr-specialist
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • Raja Koduri อดีตผู้บริหารของ Intel ที่เคยรับผิดชอบกลุ่มกราฟิกของบริษัท ได้ออกมาพูดถึงปัญหาภายในของ Intel ที่ทำให้นวัตกรรมไม่สามารถก้าวหน้าได้ โดยเขายกตัวอย่างโปรเจ็กต์ Falcon Shores ว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของปัญหานี้

    Koduri อธิบายว่า Intel มีเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาหลายอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงตลาดได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์ปลายทาง หรืออุปกรณ์ส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักคือผู้นำบริษัทที่ไม่สามารถทำให้ Intel ตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมได้ ซึ่งเขากล่าวถึงการตัดสินใจทางการเมืองและกระบวนการที่ทำให้การพัฒนาช้าลง

    ในบทความที่เขาโพสต์ใน X, Koduri กล่าวถึงปัญหาที่เขาเรียกว่า "งูในสเปรดชีตและพาวเวอร์พอยต์" ที่หมายถึงการตัดสินใจที่เกิดขึ้นจากกระบวนการบริหารที่ซับซ้อนและไม่เข้าใจถึงความสำคัญของประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งทำให้ความพยายามในการทดลองนวัตกรรมใหม่ ๆ ต้องหยุดชะงัก

    Koduri ยังกล่าวถึงอดีต CEO Andy Grove ว่าเป็นคนเดียวที่เข้าใจถึงรายละเอียดของทุกชั้นในองค์กรของ Intel และเขาเชื่อว่า Intel ยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันกับ NVIDIA ในระยะยาว แต่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าความคาดหวังเท่านั้น

    ตัวอย่างที่ Koduri ยกขึ้นมาคือโปรเจ็กต์ Rialto Bridge และ Falcon Shores ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดที่มุ่งเน้นการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและ AI หาก Intel เปิดตัว Rialto Bridge ในปี 2024 น่าจะทำให้พวกเขาสามารถแข่งขันกับ NVIDIA Hopper H100 ได้อย่างสบาย แต่พวกเขากลับไม่สามารถจับโอกาสนั้นได้ ทำให้รายได้ในส่วนของ AI ต่ำที่สุดในบรรดาคู่แข่ง

    Koduri ได้เสนอแนะวิธีการที่เขาเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อน Intel ไปข้างหน้าได้และหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรได้ในอนาคตประกอบด้วย

    1) การลดกระบวนการตัดสินใจที่ซับซ้อน: Koduri กล่าวว่ากระบวนการบริหารที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดและความซับซ้อนเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ Intel ไม่สามารถก้าวหน้าได้ เขาแนะนำว่า Intel ควรปรับลดขั้นตอนการตัดสินใจให้น้อยลงและให้ความสำคัญกับผลลัพธ์จริงจังมากขึ้น

    2) การปรับปรุงการวิจัยและพัฒนา: Intel ควรมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเน้นการทดลองนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยไม่กลัวความล้มเหลว Koduri เชื่อว่าการทดลองและนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทก้าวหน้าได้

    3) การนำโครงการที่ถูกยกเลิกกลับมาใช้ใหม่: Koduri กล่าวว่าโครงการบางโครงการที่ถูกยกเลิก เช่น Rialto Bridge และ Falcon Shores นั้นมีศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่ง แต่กลับไม่สามารถเปิดตัวได้เนื่องจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด เขาแนะนำให้พิจารณาการนำโครงการเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่

    4) การเสริมสร้างทีมงานที่มีความสามารถ: Koduri เน้นถึงความสำคัญของการมีทีมงานที่มีความสามารถและมีความรับผิดชอบในทุกชั้นขององค์กร เขาเชื่อว่าการให้ทีมงานมีอิสระในการทำงานและการสนับสนุนที่เพียงพอจะทำให้บริษัทสามารถก้าวข้ามความท้าทายได้

    5) การลดความกลัวในการทดลอง: Koduri กล่าวว่าควรสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทดลองและการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยไม่ต้องกลัวความล้มเหลว การพัฒนานวัตกรรมต้องการความกล้าในการทดลองและการเรียนรู้จากความผิดพลาด

    https://wccftech.com/intel-ex-exec-raja-koduri-says-you-dont-learn-without-shipping/
    Raja Koduri อดีตผู้บริหารของ Intel ที่เคยรับผิดชอบกลุ่มกราฟิกของบริษัท ได้ออกมาพูดถึงปัญหาภายในของ Intel ที่ทำให้นวัตกรรมไม่สามารถก้าวหน้าได้ โดยเขายกตัวอย่างโปรเจ็กต์ Falcon Shores ว่าเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของปัญหานี้ Koduri อธิบายว่า Intel มีเทคโนโลยีและทรัพย์สินทางปัญญาหลายอย่างที่สามารถเปลี่ยนแปลงตลาดได้อย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นในศูนย์ข้อมูล อุปกรณ์ปลายทาง หรืออุปกรณ์ส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม ปัญหาหลักคือผู้นำบริษัทที่ไม่สามารถทำให้ Intel ตัดสินใจอย่างมีประสิทธิภาพและเหมาะสมได้ ซึ่งเขากล่าวถึงการตัดสินใจทางการเมืองและกระบวนการที่ทำให้การพัฒนาช้าลง ในบทความที่เขาโพสต์ใน X, Koduri กล่าวถึงปัญหาที่เขาเรียกว่า "งูในสเปรดชีตและพาวเวอร์พอยต์" ที่หมายถึงการตัดสินใจที่เกิดขึ้นจากกระบวนการบริหารที่ซับซ้อนและไม่เข้าใจถึงความสำคัญของประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งทำให้ความพยายามในการทดลองนวัตกรรมใหม่ ๆ ต้องหยุดชะงัก Koduri ยังกล่าวถึงอดีต CEO Andy Grove ว่าเป็นคนเดียวที่เข้าใจถึงรายละเอียดของทุกชั้นในองค์กรของ Intel และเขาเชื่อว่า Intel ยังคงมีศักยภาพในการแข่งขันกับ NVIDIA ในระยะยาว แต่จำเป็นต้องมีการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าความคาดหวังเท่านั้น ตัวอย่างที่ Koduri ยกขึ้นมาคือโปรเจ็กต์ Rialto Bridge และ Falcon Shores ซึ่งเป็นกราฟิกการ์ดที่มุ่งเน้นการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและ AI หาก Intel เปิดตัว Rialto Bridge ในปี 2024 น่าจะทำให้พวกเขาสามารถแข่งขันกับ NVIDIA Hopper H100 ได้อย่างสบาย แต่พวกเขากลับไม่สามารถจับโอกาสนั้นได้ ทำให้รายได้ในส่วนของ AI ต่ำที่สุดในบรรดาคู่แข่ง Koduri ได้เสนอแนะวิธีการที่เขาเชื่อว่าจะสามารถขับเคลื่อน Intel ไปข้างหน้าได้และหวังว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงองค์กรได้ในอนาคตประกอบด้วย 1) การลดกระบวนการตัดสินใจที่ซับซ้อน: Koduri กล่าวว่ากระบวนการบริหารที่เต็มไปด้วยข้อจำกัดและความซับซ้อนเป็นปัญหาหลักที่ทำให้ Intel ไม่สามารถก้าวหน้าได้ เขาแนะนำว่า Intel ควรปรับลดขั้นตอนการตัดสินใจให้น้อยลงและให้ความสำคัญกับผลลัพธ์จริงจังมากขึ้น 2) การปรับปรุงการวิจัยและพัฒนา: Intel ควรมุ่งเน้นการวิจัยและพัฒนาในเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเน้นการทดลองนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยไม่กลัวความล้มเหลว Koduri เชื่อว่าการทดลองและนวัตกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้บริษัทก้าวหน้าได้ 3) การนำโครงการที่ถูกยกเลิกกลับมาใช้ใหม่: Koduri กล่าวว่าโครงการบางโครงการที่ถูกยกเลิก เช่น Rialto Bridge และ Falcon Shores นั้นมีศักยภาพในการแข่งขันกับคู่แข่ง แต่กลับไม่สามารถเปิดตัวได้เนื่องจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด เขาแนะนำให้พิจารณาการนำโครงการเหล่านี้กลับมาใช้ใหม่ 4) การเสริมสร้างทีมงานที่มีความสามารถ: Koduri เน้นถึงความสำคัญของการมีทีมงานที่มีความสามารถและมีความรับผิดชอบในทุกชั้นขององค์กร เขาเชื่อว่าการให้ทีมงานมีอิสระในการทำงานและการสนับสนุนที่เพียงพอจะทำให้บริษัทสามารถก้าวข้ามความท้าทายได้ 5) การลดความกลัวในการทดลอง: Koduri กล่าวว่าควรสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนการทดลองและการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ โดยไม่ต้องกลัวความล้มเหลว การพัฒนานวัตกรรมต้องการความกล้าในการทดลองและการเรียนรู้จากความผิดพลาด https://wccftech.com/intel-ex-exec-raja-koduri-says-you-dont-learn-without-shipping/
    WCCFTECH.COM
    Intel's Ex-Exec Raja Koduri Says "You Don't Learn Without Shipping"; Gives A Rundown Into What's Wrong With Team Blue & How Intel Is Held Back By Bureaucratic Snakes
    Intel's former executive Raja Koduri has revealed that Team Blue's internal structure "stifles innovation", citing Falcon Shores as example.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนถัดไปของเยอรมนี ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ตั้งข้อสงสัยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะยังอยู่ในรูปแบบในปัจจุบันต่อไปหรือไม่ ในเดือนมิถุนายนนี้ ตามหลังความเห็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมเรียกร้องยุโรปต้องสถาปนาความเป็นเอกราชด้านศักยภาพการป้องกันตนเองอย่างเร่งด่วน รับมืออเมริกาตีตัวออกห่าง
    .
    "ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ผมจะจำเป็นต้องพูดอะไรแบบนี้ในรายการโทรทัศน์หนึ่งๆ แต่หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันชัดเจนว่ารัฐบาลนี้ไม่แคร์อะไรเท่าไหร่เกี่ยวกับชะตากรรมของยุโรป" แมร์ซ บอกับสถานีโทรทัศน์เออาร์ดีของเยอรมนี หลังจากพรรคอนุรักษนิยมของเขาคว้าชัยในศึกเลือกตั้ง
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่บรรดาพันธมิตรยุโรป ด้วยการบอกกับยุโรปว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบความมั่นคงของตนเองและพึ่งพิงสหรัฐฯ น้อยลง ในขณะเดียวกัน แถลงพูดคุยเจรจากับรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยที่ยุโรปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
    .
    พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนบรรดาชาติยุโรปเช่นกัน "ความเป็นจริงทางยุทธศาสตร์" คือตัวขัดขวางสหรัฐฯ จากการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความมั่นคงของยุโรป
    .
    อ้างถึงที่ประชุมซัมมิตนาโต ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ทาง แมร์ซ บอกว่าเขาจะจับตามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ว่า ณ ตอนนั้น เราจะยังคงพูดเกี่ยวกับนาโตในรูปแบบปัจจุบันหรือไม่ หรือเราจะจำเป็นต้องสถาปนาศักยภาพการป้องกันตนเองที่เป็นอิสระขึ้นมา รวดเร็วกว่าเดิมมาก"
    .
    เมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) แมร์ซ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ZDF ว่าเยอรมนีจะต้องพร้อมรับมือกับข้อแม้ต่างๆ ในความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ อาจไม่ยึดถือคำมั่นสัญญาป้องกันตนเองร่วมกันของนาโตอีกต่อไป
    .
    เขาบอกว่านี่อาจหมายความว่าเยอรมนีอาจจำเป็นต้องพึ่งพิงสหรัฐฯ น้อยลงกว่าเดิมในเรื่องเกี่ยวกับร่มนิวเคลียร์ และสนับสนุนให้มีการพูดคุยกับ 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์ยุโรป อย่างฝรั่งเศสและเยอรมนี เกี่ยวกับการขยายขอบเขตการคุ้มครองทางนิวเคลียร์
    .
    รอยเตอร์รายงานว่า แมร์ซ มีความเป็นสายเหยี่ยวในเรื่องรัสเซีย มากกว่า โอลาฟ โชลซ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี เขาเคยชี้บ่งชี้ว่าภายใต้การบริหารงานของเขา เยอรมนีอาจส่งขีปนาวุธพิสัยกลาง "ทอรัส" ไปให้เคียฟ บางอย่างที่ โชลซ์ ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว
    .
    ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) แมร์ซ พูดไปในทิศทางเดียวกับโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รักษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ที่เตือนว่า "เวลานี้ในอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างมากจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา อเมริกาไม่ได้แค่ทิ้งยุโรปไว้เพียงลำพัง แต่ดำเนินการต่างๆ สวนทางกับยุโรปด้วย" ฮาเบ็ค
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018014
    ..............
    Sondhi X
    ฟรีดริช แมร์ซ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนถัดไปของเยอรมนี ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ตั้งข้อสงสัยองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) จะยังอยู่ในรูปแบบในปัจจุบันต่อไปหรือไม่ ในเดือนมิถุนายนนี้ ตามหลังความเห็นของรัฐบาลสหรัฐฯ ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พร้อมเรียกร้องยุโรปต้องสถาปนาความเป็นเอกราชด้านศักยภาพการป้องกันตนเองอย่างเร่งด่วน รับมืออเมริกาตีตัวออกห่าง . "ผมไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ผมจะจำเป็นต้องพูดอะไรแบบนี้ในรายการโทรทัศน์หนึ่งๆ แต่หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มันชัดเจนว่ารัฐบาลนี้ไม่แคร์อะไรเท่าไหร่เกี่ยวกับชะตากรรมของยุโรป" แมร์ซ บอกับสถานีโทรทัศน์เออาร์ดีของเยอรมนี หลังจากพรรคอนุรักษนิยมของเขาคว้าชัยในศึกเลือกตั้ง . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลทรัมป์ สร้างความตกตะลึงแก่บรรดาพันธมิตรยุโรป ด้วยการบอกกับยุโรปว่าพวกเขาต้องรับผิดชอบความมั่นคงของตนเองและพึ่งพิงสหรัฐฯ น้อยลง ในขณะเดียวกัน แถลงพูดคุยเจรจากับรัสเซีย เพื่อยุติสงครามในยูเครน โดยที่ยุโรปไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย . พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เตือนบรรดาชาติยุโรปเช่นกัน "ความเป็นจริงทางยุทธศาสตร์" คือตัวขัดขวางสหรัฐฯ จากการมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับความมั่นคงของยุโรป . อ้างถึงที่ประชุมซัมมิตนาโต ที่มีกำหนดจัดขึ้นในเดือนมิถุนายน ทาง แมร์ซ บอกว่าเขาจะจับตามองด้วยความอยากรู้อยากเห็น "ว่า ณ ตอนนั้น เราจะยังคงพูดเกี่ยวกับนาโตในรูปแบบปัจจุบันหรือไม่ หรือเราจะจำเป็นต้องสถาปนาศักยภาพการป้องกันตนเองที่เป็นอิสระขึ้นมา รวดเร็วกว่าเดิมมาก" . เมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) แมร์ซ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ZDF ว่าเยอรมนีจะต้องพร้อมรับมือกับข้อแม้ต่างๆ ในความเป็นไปได้ที่ ทรัมป์ อาจไม่ยึดถือคำมั่นสัญญาป้องกันตนเองร่วมกันของนาโตอีกต่อไป . เขาบอกว่านี่อาจหมายความว่าเยอรมนีอาจจำเป็นต้องพึ่งพิงสหรัฐฯ น้อยลงกว่าเดิมในเรื่องเกี่ยวกับร่มนิวเคลียร์ และสนับสนุนให้มีการพูดคุยกับ 2 มหาอำนาจนิวเคลียร์ยุโรป อย่างฝรั่งเศสและเยอรมนี เกี่ยวกับการขยายขอบเขตการคุ้มครองทางนิวเคลียร์ . รอยเตอร์รายงานว่า แมร์ซ มีความเป็นสายเหยี่ยวในเรื่องรัสเซีย มากกว่า โอลาฟ โชลซ์ รักษาการนายกรัฐมนตรี เขาเคยชี้บ่งชี้ว่าภายใต้การบริหารงานของเขา เยอรมนีอาจส่งขีปนาวุธพิสัยกลาง "ทอรัส" ไปให้เคียฟ บางอย่างที่ โชลซ์ ปฏิเสธอย่างแข็งกร้าว . ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) แมร์ซ พูดไปในทิศทางเดียวกับโรเบิร์ต ฮาเบ็ค รักษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ ที่เตือนว่า "เวลานี้ในอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างออกไปอย่างมากจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา อเมริกาไม่ได้แค่ทิ้งยุโรปไว้เพียงลำพัง แต่ดำเนินการต่างๆ สวนทางกับยุโรปด้วย" ฮาเบ็ค . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000018014 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 115 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในบันทึกข้อความเมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) สั่งการให้คณะกรรมการว่าด้วยการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ (Committee on Foreign Investment in the United States - CFIUS) จำกัดการลงทุนของจีนในภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว
    .
    เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุว่า บันทึกข้อความด้านความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็มุ่งปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จากภัยคุกคามอันเกิดจากรัฐที่ไม่เป็นมิตรอย่างเช่น จีน เป็นต้น
    .
    คำสั่งของ ทรัมป์ ระบุว่า จีน "ฉวยโอกาสจากเงินลงทุนและความช่างประดิษฐ์คิดค้นของสหรัฐฯ เพื่อเอาไปเป็นทุนสนับสนุนและยกระดับปฏิบัติการกองทัพ ข่าวกรอง และความมั่นคงของพวกเขาให้มีความทันสมัย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ"
    .
    ภายใต้คำสั่งนี้ สหรัฐฯ จะมีการตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ "เพื่อปิดกั้นการแสวงหาประโยชน์จากเงินทุน เทคโนโลยี และองค์ความรู้ของเราโดยศัตรูต่างชาติ เช่น จีน และเพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวอเมริกันเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาต"
    .
    เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยังบอกด้วยว่า รัฐบาล ทรัมป์ กำลังพิจารณาขยายมาตรการจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯในจีนเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เปราะบาง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ ควอนตัม เทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ และอื่นๆ
    .
    ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้มีถ้อยแถลงตอบโต้ในวันเสาร์ (22) โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ เลิกนำเศรษฐกิจมาเป็น "เครื่องมือทางการเมือง" และ "อาวุธ" พร้อมยืนยันว่าจีนจะเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมเพื่อธำรงไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของจีน
    .
    ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ คาดว่าจะยิ่งกระพือความตึงเครียดในด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนเป็นมาตรการแรกๆ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเทอมสองเมื่อเดือน ม.ค.
    .
    CFIUS ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการลงทุนจากต่างชาติในสหรัฐฯ เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคง พบว่ามูลค่าการลงทุนของจีนนั้นลดลงไปมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
    .
    ข้อมูลจาก Rhodium Group พบว่า มูลค่าการลงทุนจากจีนต่อปีลดลงจากระดับ 46,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2016 เหลือไม่ถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2022
    .
    คำสั่งของ ทรัมป์ ยังมีการอ้างถึงองค์กรและบุคคลต่างชาติซึ่งเข้าไปถือครองที่ดินทำการเกษตรในสหรัฐฯ ประมาณ 43 ล้านเอเคอร์ หรือคิดเป็น 2% ของที่ดินทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในจำนวนนี้เป็นที่ดินซึ่งถือครองโดยจีนมากกว่า 350,000 เอเคอร์ใน 27 รัฐ
    .
    ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรผู้ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์และสมาชิกรัฐสภาหลายคนได้แสดงความกังวลในช่วงไม่กี่ปีมานี้ว่า การที่นักลงทุนและรัฐบาลต่างชาติเข้าไปซื้อที่ดินในสหรัฐฯ ทำให้ราคาที่ดินทำการเกษตรพุ่งสูงขึ้น และถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017986
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ลงนามในบันทึกข้อความเมื่อวันศุกร์ (21 ก.พ.) สั่งการให้คณะกรรมการว่าด้วยการลงทุนจากต่างประเทศในสหรัฐฯ (Committee on Foreign Investment in the United States - CFIUS) จำกัดการลงทุนของจีนในภาคส่วนที่มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ ตามข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาว . เจ้าหน้าที่รายนี้ระบุว่า บันทึกข้อความด้านความมั่นคงแห่งชาติฉบับนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ แต่ขณะเดียวกันก็มุ่งปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จากภัยคุกคามอันเกิดจากรัฐที่ไม่เป็นมิตรอย่างเช่น จีน เป็นต้น . คำสั่งของ ทรัมป์ ระบุว่า จีน "ฉวยโอกาสจากเงินลงทุนและความช่างประดิษฐ์คิดค้นของสหรัฐฯ เพื่อเอาไปเป็นทุนสนับสนุนและยกระดับปฏิบัติการกองทัพ ข่าวกรอง และความมั่นคงของพวกเขาให้มีความทันสมัย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามโดยตรงต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ" . ภายใต้คำสั่งนี้ สหรัฐฯ จะมีการตั้งกฎเกณฑ์ใหม่ "เพื่อปิดกั้นการแสวงหาประโยชน์จากเงินทุน เทคโนโลยี และองค์ความรู้ของเราโดยศัตรูต่างชาติ เช่น จีน และเพื่อให้มั่นใจว่าการลงทุนที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อชาวอเมริกันเท่านั้นที่จะได้รับอนุญาต" . เจ้าหน้าที่ผู้นี้ยังบอกด้วยว่า รัฐบาล ทรัมป์ กำลังพิจารณาขยายมาตรการจำกัดการลงทุนของสหรัฐฯในจีนเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่เปราะบาง เช่น เซมิคอนดักเตอร์ ปัญญาประดิษฐ์ ควอนตัม เทคโนโลยีชีวภาพ อุตสาหกรรมการบินและอวกาศ และอื่นๆ . ด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้มีถ้อยแถลงตอบโต้ในวันเสาร์ (22) โดยเรียกร้องให้สหรัฐฯ เลิกนำเศรษฐกิจมาเป็น "เครื่องมือทางการเมือง" และ "อาวุธ" พร้อมยืนยันว่าจีนจะเฝ้าจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และจะมีมาตรการตอบโต้ที่เหมาะสมเพื่อธำรงไว้ซึ่งสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของจีน . ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวของสหรัฐฯ คาดว่าจะยิ่งกระพือความตึงเครียดในด้านเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากที่ ทรัมป์ สั่งขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจีนเป็นมาตรการแรกๆ หลังจากที่เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีเทอมสองเมื่อเดือน ม.ค. . CFIUS ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการลงทุนจากต่างชาติในสหรัฐฯ เพื่อประเมินความเสี่ยงด้านความมั่นคง พบว่ามูลค่าการลงทุนของจีนนั้นลดลงไปมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา . ข้อมูลจาก Rhodium Group พบว่า มูลค่าการลงทุนจากจีนต่อปีลดลงจากระดับ 46,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปี 2016 เหลือไม่ถึง 5,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2022 . คำสั่งของ ทรัมป์ ยังมีการอ้างถึงองค์กรและบุคคลต่างชาติซึ่งเข้าไปถือครองที่ดินทำการเกษตรในสหรัฐฯ ประมาณ 43 ล้านเอเคอร์ หรือคิดเป็น 2% ของที่ดินทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งในจำนวนนี้เป็นที่ดินซึ่งถือครองโดยจีนมากกว่า 350,000 เอเคอร์ใน 27 รัฐ . ทั้งนี้ กลุ่มเกษตรกรผู้ทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์และสมาชิกรัฐสภาหลายคนได้แสดงความกังวลในช่วงไม่กี่ปีมานี้ว่า การที่นักลงทุนและรัฐบาลต่างชาติเข้าไปซื้อที่ดินในสหรัฐฯ ทำให้ราคาที่ดินทำการเกษตรพุ่งสูงขึ้น และถือเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017986 .............. Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก่อนหน้าวาระครบ 3 ปีแห่งการรุกรานของรัสเซีย ระบุเขาพร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน หากมันหมายความว่านาโตจะอ้าแขนรับเคียฟเข้าสู่พันธมิตรทหารแห่งนี้
    .
    เซเลนสกี ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ บอกด้วยว่าเขาต้องการพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีอเมริกา จะมีการประชุมร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย
    .
    ที่ผ่านมา เซเลนสกี เรียกร้องให้ยูเครนได้รับการอนุมัติสถานภาพความเป็นสมาชิกของนาโต ส่วนหนึ่งในข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงคราม แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ที่นำโดยวอชิงตันลังเลที่จะรับปากในเรื่องดังกล่าว "ถ้ามันก่อสันติภาพสำหรับยูเครน ถ้าคุณอยากให้ผมออกจากตำแหน่งของผมจริงๆ ผมก็พร้อม" เซเลสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงเคียฟ "ผมสามารถแลกมันกับนาโต"
    .
    เซเลนสกีและทรัมป์ ทำสงครามน้ำลายกันมาตั้งแต่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียพบปะกันในซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการพูดคุยในระดับสูงเป็นครั้งแรกระหว่าง 2 ชาติในรอบกว่า 3 ปี ความเคลื่อนไหวนี้บ่อนทำลายนโยบายโดดเดี่ยวเครมลินของตะวันตก และก่อความขุ่นเคืองแก่พวกผู้นำยูเครนและยุโรปที่ถูกกีดกันออกจากโต๊ะเจรจา
    .
    ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ ตราหน้า เซเลนสกี ว่าเป็น "เผด็จการ" และกล่าวหายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม และอ้างว่าผู้นำยูเครนไม่เป็นที่นิยมนักในประเทศ
    .
    ประธานาธิบดีเซเลนสกี บอกว่าเขาไม่รู้สึกขุ่นเคืองต่อความเห็นของทรัมป์ และพร้อมทดสอบคะแนนนิยมของเขาในศึกเลือกตั้ง ครั้งที่กฎอัยการศึกสิ้นสุดลงในยูเครน "สิ่งที่ผมต้องการจากทรัมป์ คืออยากทำความเข้าใจกันและกัน" เขากล่าว พร้อมระบุว่า "การรับประกันความมั่นคง" จากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก
    .
    ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องขอประชุมร่วมกับทรัมป์ ก่อนที่ทรัมป์จะพูดคุยเจรจาใดๆ กับปูติน พร้อมอ้างว่ามีความคืบหน้าในข้อตกลงที่จะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรสำคัญๆ ของยูเครน
    .
    ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ดูเหมือนว่าพวกผู้นำยุโรปเริ่มปรับท่าทียอมรับความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางภูมิรัฐศาสตร์ ในนั้นรวมถึง ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ที่คว้าชัยในศึกเลือกตั้งเยอรมนี บอกว่าเขาจะให้ความสำคัญลำดับต้นๆ กับศักยภาพการป้องกันตนเองของยุโรป
    .
    ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่าเขากำลังตั้งตาคอยทำงานร่วมกับ แมร์ซ ในช่วงเวลาสำคัญแห่งความมั่นคงร่วม "มันเป็นเรื่องสำคัญที่ยุโปต้องยกระดับการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง และความเป็นผู้นำของคุณจะเป็นกุญแจสำคัญ"
    .
    ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป
    .
    ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) วังเครมลินยกย่องการเลียบเคียงทางการทูตระหว่างทรัมป์กับปูติน โดยทางโฆษก ดมิทรี เปสคอฟ เรียกการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีทั้ง 2 ว่ามีความหวัง "มันสำคัญที่ต้องไม่มีอะไรขัดขวางเราจากความเป็นจริงแห่งเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำทั้ง 2"
    .
    อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะยอมสละดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ในขณะเดียวกันมอสโกก็ปฏิเสธซ้ำๆ เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประชาชนเหล่านี้ตัดสินใจเข้าร่วมรัสเซียนานแล้ว" อ้างถึงการลงประชามติที่จัดโดยรัสเซีย ในแคว้นต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน ที่ถูกเคียฟ ตะวันตกและพวกนักสังเกตการณ์นานาชาติประณามว่าเป็นประชามติจอมปลอม "ไม่มีใครจะขายดินแดนเหล่านี้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด"
    .
    ในส่วนของปูติน ได้แสดงความคิดเห็นก่อนวาระครบ 3 ปีของปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของเขาในยูเครน บอกว่า "พระเจ้า" อยู่เบื้องหลังภารกิจปกป้องรัสเซีย "ชะตากรรมปรารถนาเช่นนั้น พระเจ้าก็ปรารถนาเช่นนั้น ผมก็อาจปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน มันเป็นภารกิจที่ยากลำบากแต่เป็นภารกิจที่ทรงเกียรติในการปกป้องรัสเซีย มันเป็นภาระที่วางอยู่บนบ่าของเราและพวกคุณร่วมกัน" เขาบอกกับกำลังพลที่สู้รบในยูเครน
    .
    ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียใช้โดรนโจมตียูเครน มากสุดเท่าที่เคยมีมา จำนวน 267 ลำ ในคืนวันเสาร์ (22 ก.พ.) จนถึงวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) จากคำกล่าวอ้างของกองกำลังเคียฟ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วถูกสอยร่วงหรือโดนสกัดไว้ได้ และไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ
    .
    สำนักข่าวทาสส์นิวส์ รายงานว่าคณะผู้แทนทูตสหรัฐฯ และรัสเซีย จะพบปะกันในสัปดาห์หน้า ตามด้วยการเจรจาในกรุงริยาด ระหว่าง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประทศรัสเซีย และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วมีรายงานด้วยว่าเวลานี้ ลาฟรอฟ ได้เดินทางถึงตุรกีแล้ว สำหรับพูดคุยกับ ฮาคาน ไฟซาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีในวันจันทร์ (24 ก.พ.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017983
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ก่อนหน้าวาระครบ 3 ปีแห่งการรุกรานของรัสเซีย ระบุเขาพร้อมลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดียูเครน หากมันหมายความว่านาโตจะอ้าแขนรับเคียฟเข้าสู่พันธมิตรทหารแห่งนี้ . เซเลนสกี ซึ่งถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดจากรัฐบาลใหม่สหรัฐฯ บอกด้วยว่าเขาต้องการพูดคุยกับโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนหน้าที่ประธานาธิบดีอเมริกา จะมีการประชุมร่วมกับประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย . ที่ผ่านมา เซเลนสกี เรียกร้องให้ยูเครนได้รับการอนุมัติสถานภาพความเป็นสมาชิกของนาโต ส่วนหนึ่งในข้อตกลงใดๆ ในการยุติสงคราม แต่พันธมิตรทหารแห่งนี้ที่นำโดยวอชิงตันลังเลที่จะรับปากในเรื่องดังกล่าว "ถ้ามันก่อสันติภาพสำหรับยูเครน ถ้าคุณอยากให้ผมออกจากตำแหน่งของผมจริงๆ ผมก็พร้อม" เซเลสกีกล่าวระหว่างแถลงข่าวในกรุงเคียฟ "ผมสามารถแลกมันกับนาโต" . เซเลนสกีและทรัมป์ ทำสงครามน้ำลายกันมาตั้งแต่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และรัสเซียพบปะกันในซาอุดีอาระเบียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ถือเป็นการพูดคุยในระดับสูงเป็นครั้งแรกระหว่าง 2 ชาติในรอบกว่า 3 ปี ความเคลื่อนไหวนี้บ่อนทำลายนโยบายโดดเดี่ยวเครมลินของตะวันตก และก่อความขุ่นเคืองแก่พวกผู้นำยูเครนและยุโรปที่ถูกกีดกันออกจากโต๊ะเจรจา . ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทรัมป์ ตราหน้า เซเลนสกี ว่าเป็น "เผด็จการ" และกล่าวหายูเครนเป็นคนเริ่มสงคราม และอ้างว่าผู้นำยูเครนไม่เป็นที่นิยมนักในประเทศ . ประธานาธิบดีเซเลนสกี บอกว่าเขาไม่รู้สึกขุ่นเคืองต่อความเห็นของทรัมป์ และพร้อมทดสอบคะแนนนิยมของเขาในศึกเลือกตั้ง ครั้งที่กฎอัยการศึกสิ้นสุดลงในยูเครน "สิ่งที่ผมต้องการจากทรัมป์ คืออยากทำความเข้าใจกันและกัน" เขากล่าว พร้อมระบุว่า "การรับประกันความมั่นคง" จากประธานาธิบดีสหรัฐฯ เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก . ผู้นำยูเครนยังเรียกร้องขอประชุมร่วมกับทรัมป์ ก่อนที่ทรัมป์จะพูดคุยเจรจาใดๆ กับปูติน พร้อมอ้างว่ามีความคืบหน้าในข้อตกลงที่จะเปิดทางให้สหรัฐฯ เข้าถึงทรัพยากรสำคัญๆ ของยูเครน . ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) ดูเหมือนว่าพวกผู้นำยุโรปเริ่มปรับท่าทียอมรับความเป็นจริงที่เปลี่ยนแปลงไปในทางภูมิรัฐศาสตร์ ในนั้นรวมถึง ฟรีดริช แมร์ซ ผู้นำพรรคคอนเซอร์เวทีฟ ที่คว้าชัยในศึกเลือกตั้งเยอรมนี บอกว่าเขาจะให้ความสำคัญลำดับต้นๆ กับศักยภาพการป้องกันตนเองของยุโรป . ส่วน มาร์ค รุตต์ เลขาธิการนาโต โพสต์ข้อความบนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ ระบุว่าเขากำลังตั้งตาคอยทำงานร่วมกับ แมร์ซ ในช่วงเวลาสำคัญแห่งความมั่นคงร่วม "มันเป็นเรื่องสำคัญที่ยุโปต้องยกระดับการใช้จ่ายด้านการป้องกันตนเอง และความเป็นผู้นำของคุณจะเป็นกุญแจสำคัญ" . ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส และ เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร จะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ เพื่อเรียกร้องให้เดินหน้าสนับสนุนยูเครนต่อไป . ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) วังเครมลินยกย่องการเลียบเคียงทางการทูตระหว่างทรัมป์กับปูติน โดยทางโฆษก ดมิทรี เปสคอฟ เรียกการพูดคุยระหว่างประธานาธิบดีทั้ง 2 ว่ามีความหวัง "มันสำคัญที่ต้องไม่มีอะไรขัดขวางเราจากความเป็นจริงแห่งเจตจำนงทางการเมืองของผู้นำทั้ง 2" . อย่างไรก็ตาม เขาปฏิเสธความเป็นไปได้ใดๆ ที่จะยอมสละดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย ในขณะเดียวกันมอสโกก็ปฏิเสธซ้ำๆ เกี่ยวกับการเข้าเป็นสมาชิกนาโตของยูเครน "ประชาชนเหล่านี้ตัดสินใจเข้าร่วมรัสเซียนานแล้ว" อ้างถึงการลงประชามติที่จัดโดยรัสเซีย ในแคว้นต่างๆ ทางตะวันออกของยูเครน ที่ถูกเคียฟ ตะวันตกและพวกนักสังเกตการณ์นานาชาติประณามว่าเป็นประชามติจอมปลอม "ไม่มีใครจะขายดินแดนเหล่านี้ นี่คือสิ่งสำคัญที่สุด" . ในส่วนของปูติน ได้แสดงความคิดเห็นก่อนวาระครบ 3 ปีของปฏิบัติการพิเศษด้านการทหารของเขาในยูเครน บอกว่า "พระเจ้า" อยู่เบื้องหลังภารกิจปกป้องรัสเซีย "ชะตากรรมปรารถนาเช่นนั้น พระเจ้าก็ปรารถนาเช่นนั้น ผมก็อาจปรารถนาเช่นนั้นเหมือนกัน มันเป็นภารกิจที่ยากลำบากแต่เป็นภารกิจที่ทรงเกียรติในการปกป้องรัสเซีย มันเป็นภาระที่วางอยู่บนบ่าของเราและพวกคุณร่วมกัน" เขาบอกกับกำลังพลที่สู้รบในยูเครน . ความเคลื่อนไหวนี้มีขึ้นหลังจากกองทัพรัสเซียใช้โดรนโจมตียูเครน มากสุดเท่าที่เคยมีมา จำนวน 267 ลำ ในคืนวันเสาร์ (22 ก.พ.) จนถึงวันอาทิตย์ (23 ก.พ.) จากคำกล่าวอ้างของกองกำลังเคียฟ อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วถูกสอยร่วงหรือโดนสกัดไว้ได้ และไม่มีรายงานความเสียหายร้ายแรงใดๆ . สำนักข่าวทาสส์นิวส์ รายงานว่าคณะผู้แทนทูตสหรัฐฯ และรัสเซีย จะพบปะกันในสัปดาห์หน้า ตามด้วยการเจรจาในกรุงริยาด ระหว่าง เซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประทศรัสเซีย และ มาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วมีรายงานด้วยว่าเวลานี้ ลาฟรอฟ ได้เดินทางถึงตุรกีแล้ว สำหรับพูดคุยกับ ฮาคาน ไฟซาน รัฐมนตรีต่างประเทศตุรกีในวันจันทร์ (24 ก.พ.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000017983 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • EP 44 move , rotate and radial place component
    วาง เคลื่อนอุปกรณ์แนวรัศมี ใช้วางหลอดไฟแบบกลม
    EP 44 move , rotate and radial place component วาง เคลื่อนอุปกรณ์แนวรัศมี ใช้วางหลอดไฟแบบกลม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 58 มุมมอง 17 0 รีวิว
  • 6วิธีลดรอยแดงรอยดำ #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง #ริ้วรอยตื้นขึ้น #คุมมัน #ลดการเกิดสิว #ลดการระคายเคือง #สารต้านอนุมูลอิสระ #nightcream #nightboosterintensivebrighteningskincream #คุมมัน #ผลัดเซลล์ผิว #กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน #สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ #รีวิวบิ้วตี้ #ดูแลผิว #ความงาม #บำรุงผิว #ดูแลผิวหน้า #เคล็ดลับความงาม # รีวิวสกินแคร์
    6วิธีลดรอยแดงรอยดำ #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง #ริ้วรอยตื้นขึ้น #คุมมัน #ลดการเกิดสิว #ลดการระคายเคือง #สารต้านอนุมูลอิสระ #nightcream #nightboosterintensivebrighteningskincream #คุมมัน #ผลัดเซลล์ผิว #กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน #สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ #รีวิวบิ้วตี้ #ดูแลผิว #ความงาม #บำรุงผิว #ดูแลผิวหน้า #เคล็ดลับความงาม # รีวิวสกินแคร์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 6วิธีลดรอยแดงรอยดำ #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง #ริ้วรอยตื้นขึ้น #คุมมัน #ลดการเกิดสิว #ลดการระคายเคือง #สารต้านอนุมูลอิสระ #nightcream #nightboosterintensivebrighteningskincream #คุมมัน #ผลัดเซลล์ผิว #กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน #สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ #รีวิวบิ้วตี้ #ดูแลผิว #ความงาม #บำรุงผิว #ดูแลผิวหน้า #เคล็ดลับความงาม # รีวิวสกินแคร์ #ช้อปปิ้งออนไลน์
    6วิธีลดรอยแดงรอยดำ #look@me #lookatmebyBP #serum #glow&smootheningantiagingserum #facial #serum #skincare #glow #dayserum #glassskin #ผิวโกลว์ #ผิวชุ่มชื้น #สกินแคร์ #ผิวกระจ่างใส #รูขุมขนกระชับ #รูขุมขนเล็กลง #ริ้วรอยตื้นขึ้น #คุมมัน #ลดการเกิดสิว #ลดการระคายเคือง #สารต้านอนุมูลอิสระ #nightcream #nightboosterintensivebrighteningskincream #คุมมัน #ผลัดเซลล์ผิว #กระตุ้นการสร้างคลอลาเจน #สร้างสารต้านอนุมูลอิสระ #รีวิวบิ้วตี้ #ดูแลผิว #ความงาม #บำรุงผิว #ดูแลผิวหน้า #เคล็ดลับความงาม # รีวิวสกินแคร์ #ช้อปปิ้งออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • รายการการจัดงาน เทศกาล กิจกรรม ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568

    หมายเหตุ:
    * อัปเดทล่าสุด วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 23.27 น.
    * สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่มีแอคเคาท์ Thaitimes จะปรากฏเฉพาะภาพที่โพสต์ในอัลบั้ม ซึ่งเป็นภาพปฏิทิน และจะไม่เห็นภาพโฆษณาการจัดงานในช่องความเห็น (comment) ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวกำหนดการจัดงานล่วงหน้าแบบรายเดือนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Fair Billboard
    รายการการจัดงาน เทศกาล กิจกรรม ระหว่างวันที่ 23 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2568 หมายเหตุ: * อัปเดทล่าสุด วันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เวลา 23.27 น. * สำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่มีแอคเคาท์ Thaitimes จะปรากฏเฉพาะภาพที่โพสต์ในอัลบั้ม ซึ่งเป็นภาพปฏิทิน และจะไม่เห็นภาพโฆษณาการจัดงานในช่องความเห็น (comment) ท่านสามารถติดตามความเคลื่อนไหวกำหนดการจัดงานล่วงหน้าแบบรายเดือนได้ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ Fair Billboard
    Like
    1
    20 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • PETA โดน Community Note จากโพสต์กลุ่มนักเคลื่อนไหวประท้วงไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวหน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

    "ตามข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่าไม่มีลิงสักตัวที่ใช้เก็บมะพร้าวในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ลิงเหล่านี้ในการเก็บมะพร้าวเพราะไม่มีประสิทธิภาพ วิดีโอที่ PETA นำเสนอนั้นมีเพียงลิงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ไม่ใช่ลิงนับพันตัว"

    https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    PETA โดน Community Note จากโพสต์กลุ่มนักเคลื่อนไหวประท้วงไทยใช้ลิงเก็บมะพร้าวหน้าสถานทูตไทยในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ "ตามข้อมูลของกรมวิชาการเกษตร ระบุว่าไม่มีลิงสักตัวที่ใช้เก็บมะพร้าวในประเทศไทย เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้ลิงเหล่านี้ในการเก็บมะพร้าวเพราะไม่มีประสิทธิภาพ วิดีโอที่ PETA นำเสนอนั้นมีเพียงลิงหนึ่งหรือสองตัวเท่านั้น ไม่ใช่ลิงนับพันตัว" https://x.com/peta/status/1892212279749300704
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทิศทาง Kurakhove
    รายงานล่าสุด กองทัพรัสเซียสามารถเข้าควบคุมหมู่บ้าน Andriivka ซึ่งเป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของกองทัพยูเครนได้สำเร็จแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเคลียร์พื้นที่รอบนอกของหมู่บ้าน

    กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าเข้าใกล้เขตแดนของภูมิภาค Dnepropetrovsk
    ทิศทาง Kurakhove รายงานล่าสุด กองทัพรัสเซียสามารถเข้าควบคุมหมู่บ้าน Andriivka ซึ่งเป็นแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของกองทัพยูเครนได้สำเร็จแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเคลียร์พื้นที่รอบนอกของหมู่บ้าน กองทัพรัสเซียยังคงเดินหน้าเข้าใกล้เขตแดนของภูมิภาค Dnepropetrovsk
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผมเองก็พยายามเคลียร์งานสุดท้ายหลังแจ้งยกเลิกงานเมื่อวันศุกร์เนื่องจากงานแบบนั้นลองทำแล้ว คนอื่นเทสไม่ผ่าน บางครั้งทสผ่าน บางครั้งเทสไม่ผ่าน จนผมพยายามจะขอโปรแกรมเมอร์ท่านอื่นช่วย แต่ส่วนมากไม่ว่างมาช่วย ผมเลยตัดสินใจเพราะแรงกดดันจากคนจ้างหน้าเดิมๆ และแรงกดดันจากทางครอบครัวที่อยากให้ผมรับราชการอย่างเดียว แต่ผมไม่ชอบไปทางนั้น แต่ผมได้ปรับปรุงวิธีการโปรโมทงานเพื่อให้โอกาสที่เขาอยากจะจ้างผมมันมีมากขึ้น และวันนี้ก็เพิ่งอดหลับอดนอนจนแทบหลับคาโต๊ะ กนกาแฟก็ไม่ได้ช่วยอะไร เลยเครียดหนักกว่าเก่าครับ
    ผมเองก็พยายามเคลียร์งานสุดท้ายหลังแจ้งยกเลิกงานเมื่อวันศุกร์เนื่องจากงานแบบนั้นลองทำแล้ว คนอื่นเทสไม่ผ่าน บางครั้งทสผ่าน บางครั้งเทสไม่ผ่าน จนผมพยายามจะขอโปรแกรมเมอร์ท่านอื่นช่วย แต่ส่วนมากไม่ว่างมาช่วย ผมเลยตัดสินใจเพราะแรงกดดันจากคนจ้างหน้าเดิมๆ และแรงกดดันจากทางครอบครัวที่อยากให้ผมรับราชการอย่างเดียว แต่ผมไม่ชอบไปทางนั้น แต่ผมได้ปรับปรุงวิธีการโปรโมทงานเพื่อให้โอกาสที่เขาอยากจะจ้างผมมันมีมากขึ้น และวันนี้ก็เพิ่งอดหลับอดนอนจนแทบหลับคาโต๊ะ กนกาแฟก็ไม่ได้ช่วยอะไร เลยเครียดหนักกว่าเก่าครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 62 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา จำนวนงานในสายงาน Software Engineering ได้ลดลงอย่างมาก โดยมีจำนวนงานเปิดรับลดลงถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับห้าปีก่อน นี่เป็นข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Indeed โดย Practical Engineer ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดงานสายนี้ ขณะเดียวกัน ภาพรวมตลาดงานโดยรวมกลับมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนงานถึง 10% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยมีการเติบโตในสายงานการก่อสร้าง (25%), การบัญชี (24%) และวิศวกรรมไฟฟ้า (20%)

    ในช่วงปี 2021-2022 ขณะการระบาดของโรค COVID-19 ตลาดงานสาย Software Engineering ได้พุ่งขึ้นอย่างมากและมีจำนวนงานเปิดรับมากกว่าสายงานอื่น ๆ แต่หลังจากนั้น จำนวนงานเหล่านี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้จำนวนงานเปิดรับน้อยลง 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2022

    หลายปัจจัยที่ส่งผลให้จำนวนงานลดลง ได้แก่ การสิ้นสุดของอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ซึ่งส่งผลกระทบต่อการว่าจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การระดมทุนของบริษัทร่วมทุน และการอยู่รอดของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ไม่สามารถอธิบายการลดจำนวนงานและการเลิกจ้างงานในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Microsoft, Meta, Amazon, และ Google ได้อย่างครอบคลุม

    นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของ Generative AI และ Large Language Models (LLMs) ยังมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตลาดงานสายนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ถึง 75% ใช้เครื่องมือการเขียนโค้ดด้วย AI ในการทำงาน ซึ่งบางคนคาดว่าบริษัทอาจกำลัง "รอดู" การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานจากเครื่องมือเหล่านี้ก่อนที่จะขยายทีมวิศวกรรม

    ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ Salesforce ที่ตัดสินใจคงจำนวนทีมวิศวกรรมซอฟต์แวร์ไว้เท่าเดิม แต่รายงานว่าเครื่องมือ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 30% ขณะเดียวกันยังมีแผนจะว่าจ้างทีมขายเพิ่มขึ้น การเกิดขึ้นของทีมขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงในบริษัทอย่าง Linear และ Bluesky ท้าทายความเชื่อเกี่ยวกับขนาดทีมวิศวกรรมแบบดั้งเดิม บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการขยายฐานผู้ใช้งานและยอมรับผลิตภัณฑ์ได้ด้วยทีมวิศวกรรมที่เล็กลง

    อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Indeed อาจไม่สมบูรณ์ เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้อาจสูญเสียความนิยมในการโพสต์งานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในหมู่สตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Microsoft มีงานสายซอฟต์แวร์มากกว่าที่แสดงในข้อมูลจาก Indeed

    ถึงกระนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดงานสาย Software Engineering กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และยุทธศาสตร์ของบริษัทที่กำลังพัฒนา

    https://www.techspot.com/news/106878-software-engineering-job-openings-plummet-35-five-year.html
    ในช่วงเวลาห้าปีที่ผ่านมา จำนวนงานในสายงาน Software Engineering ได้ลดลงอย่างมาก โดยมีจำนวนงานเปิดรับลดลงถึง 35% เมื่อเปรียบเทียบกับห้าปีก่อน นี่เป็นข้อมูลจากการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Indeed โดย Practical Engineer ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงสำคัญในตลาดงานสายนี้ ขณะเดียวกัน ภาพรวมตลาดงานโดยรวมกลับมีการเพิ่มขึ้นของจำนวนงานถึง 10% ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2020 โดยมีการเติบโตในสายงานการก่อสร้าง (25%), การบัญชี (24%) และวิศวกรรมไฟฟ้า (20%) ในช่วงปี 2021-2022 ขณะการระบาดของโรค COVID-19 ตลาดงานสาย Software Engineering ได้พุ่งขึ้นอย่างมากและมีจำนวนงานเปิดรับมากกว่าสายงานอื่น ๆ แต่หลังจากนั้น จำนวนงานเหล่านี้ก็ลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะนี้จำนวนงานเปิดรับน้อยลง 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงกลางปี 2022 หลายปัจจัยที่ส่งผลให้จำนวนงานลดลง ได้แก่ การสิ้นสุดของอัตราดอกเบี้ยศูนย์เปอร์เซ็นต์ซึ่งส่งผลกระทบต่อการว่าจ้างงานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี การระดมทุนของบริษัทร่วมทุน และการอยู่รอดของสตาร์ทอัพ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยนี้ไม่สามารถอธิบายการลดจำนวนงานและการเลิกจ้างงานในบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่อย่าง Microsoft, Meta, Amazon, และ Google ได้อย่างครอบคลุม นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของ Generative AI และ Large Language Models (LLMs) ยังมีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงตลาดงานสายนี้ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ถึง 75% ใช้เครื่องมือการเขียนโค้ดด้วย AI ในการทำงาน ซึ่งบางคนคาดว่าบริษัทอาจกำลัง "รอดู" การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานจากเครื่องมือเหล่านี้ก่อนที่จะขยายทีมวิศวกรรม ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนคือ Salesforce ที่ตัดสินใจคงจำนวนทีมวิศวกรรมซอฟต์แวร์ไว้เท่าเดิม แต่รายงานว่าเครื่องมือ AI เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้ถึง 30% ขณะเดียวกันยังมีแผนจะว่าจ้างทีมขายเพิ่มขึ้น การเกิดขึ้นของทีมขนาดเล็กที่มีประสิทธิภาพสูงในบริษัทอย่าง Linear และ Bluesky ท้าทายความเชื่อเกี่ยวกับขนาดทีมวิศวกรรมแบบดั้งเดิม บริษัทเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการขยายฐานผู้ใช้งานและยอมรับผลิตภัณฑ์ได้ด้วยทีมวิศวกรรมที่เล็กลง อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก Indeed อาจไม่สมบูรณ์ เนื่องจากแพลตฟอร์มนี้อาจสูญเสียความนิยมในการโพสต์งานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ โดยเฉพาะในหมู่สตาร์ทอัพและบริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ เช่น Microsoft มีงานสายซอฟต์แวร์มากกว่าที่แสดงในข้อมูลจาก Indeed ถึงกระนั้น ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าตลาดงานสาย Software Engineering กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยปัจจัยทางเศรษฐกิจ ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และยุทธศาสตร์ของบริษัทที่กำลังพัฒนา https://www.techspot.com/news/106878-software-engineering-job-openings-plummet-35-five-year.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Software engineering job openings hit 5-year low amid industry shift
    This decline is particularly noteworthy when compared to other sectors. While the overall job market has seen a 10 percent increase in listings since February 2020, software...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว
  • ในช่วงหลังนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับระบบเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking - AEB) ที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งพบว่าระบบ AEB นี้อาจมี "จุดบอด" สำหรับเสื้อผ้าที่มีแถบสะท้อนแสง การศึกษาโดยสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบการชนกันของหุ่นทดสอบกับรถยนต์สามคันที่วิ่งด้วยความเร็ว 40 กม./ชม.: Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester

    ผลการทดสอบพบว่า รถ Honda และ Mazda ชนกับหุ่นทดสอบที่สวมแถบสะท้อนแสง ขณะที่ Honda ไม่ชะลอตัวเมื่อหุ่นสวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับ Subaru ชะลอตัวลงในทุกการทดสอบยกเว้นเมื่อหุ่นทดสอบสวมแถบสะท้อนแสงในสภาพแสงน้อยมาก

    David Harkey ประธาน IIHS กล่าวว่า "ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายต้องปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อการรับรู้ผู้ใช้ถนนที่สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงได้ดีขึ้น" เขายังเสริมว่า "นี่เป็นจุดบอดที่น่ากังวลมาก"

    Mazda ได้แถลงว่า "ความปลอดภัยบนถนนสำหรับทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่รอบๆ รถของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงระบบหลีกเลี่ยงการชนของ Mazda"

    สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางแถบสะท้อนแสงบนข้อต่อและแขนขาของเสื้อผ้าและกางเกงช่วยให้คนขับรับรู้การเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่แถบสะท้อนแสงนี้กลับสร้างความสับสนให้กับเซ็นเซอร์ของระบบเบรกอัตโนมัติ

    การวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาระบบ AEB ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ในเวลากลางคืนที่มีการสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/car-safety-tech-has-blind-spot-for-high-vis-jackets-study-suggests
    ในช่วงหลังนี้มีการวิจัยเกี่ยวกับระบบเบรกอัตโนมัติ (Automatic Emergency Braking - AEB) ที่ถูกติดตั้งในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด ซึ่งพบว่าระบบ AEB นี้อาจมี "จุดบอด" สำหรับเสื้อผ้าที่มีแถบสะท้อนแสง การศึกษาโดยสถาบัน Insurance Institute for Highway Safety (IIHS) ในสหรัฐอเมริกาได้ทดสอบการชนกันของหุ่นทดสอบกับรถยนต์สามคันที่วิ่งด้วยความเร็ว 40 กม./ชม.: Honda CR-V, Mazda CX-5 และ Subaru Forester ผลการทดสอบพบว่า รถ Honda และ Mazda ชนกับหุ่นทดสอบที่สวมแถบสะท้อนแสง ขณะที่ Honda ไม่ชะลอตัวเมื่อหุ่นสวมเสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับ Subaru ชะลอตัวลงในทุกการทดสอบยกเว้นเมื่อหุ่นทดสอบสวมแถบสะท้อนแสงในสภาพแสงน้อยมาก David Harkey ประธาน IIHS กล่าวว่า "ผลการวิจัยนี้ชี้ให้เห็นว่าผู้ผลิตรถยนต์บางรายต้องปรับปรุงระบบเบรกอัตโนมัติเพื่อการรับรู้ผู้ใช้ถนนที่สวมเสื้อผ้าสะท้อนแสงได้ดีขึ้น" เขายังเสริมว่า "นี่เป็นจุดบอดที่น่ากังวลมาก" Mazda ได้แถลงว่า "ความปลอดภัยบนถนนสำหรับทุกคนรวมถึงผู้ที่อยู่รอบๆ รถของเรานั้นเป็นสิ่งสำคัญที่สุด วิศวกรของเรากำลังทำงานอย่างต่อเนื่องในการปรับปรุงระบบหลีกเลี่ยงการชนของ Mazda" สิ่งที่น่าสนใจคือการจัดวางแถบสะท้อนแสงบนข้อต่อและแขนขาของเสื้อผ้าและกางเกงช่วยให้คนขับรับรู้การเคลื่อนไหวได้รวดเร็ว แต่แถบสะท้อนแสงนี้กลับสร้างความสับสนให้กับเซ็นเซอร์ของระบบเบรกอัตโนมัติ การวิจัยนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการพัฒนาระบบ AEB ที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์ที่ซับซ้อน เช่น ในเวลากลางคืนที่มีการสวมเสื้อผ้าสะท้อนแสง https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/22/car-safety-tech-has-blind-spot-for-high-vis-jackets-study-suggests
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Car safety tech has 'blind spot' for high-vis jackets, study suggests
    A study by the US-based Insurance Institute for Highway Safety indicated the systems may have a 'blind spot' for reflective items.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 70 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี

    วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ณ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หล่อประสงค์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัดและอำเภอ คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง กลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ
    นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ มีแผนลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงาน ทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย จุดแรก ตรวจราชการ ผลการดำเนินงาน OTOP ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมแปรง ณ ศูนย์อนุรักษ์ชาติพันธุ์ลาวเวียง ตำบลป่าตาล อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมรับชมชุดการแสดงชาติพันธุ์ลาวเวียง, รับชมการสาธิตการทำขนมต้องบ้อง (ขนมวง), สาธิตการทำขนมข้าวเม่าทอด, สาธิตการทำผ้าย้อมแปรง และสาธิตการทอผ้า
    จุดที่สอง ตรวจราชการ ผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ศาลา SML วัดถนนแค ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ การสาธิตการทำดินสอพอง, สาธิตการทำไข่เค็มดินสอพอง, สาธิตการทำผัดไทไข่เค็ม, และสาธิตการทำข้าวจี่
    จุดที่สาม ตรวจราชการ ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ณ โรงเรียนวัดตองปุ หมู่ที่ 1 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พบปะ ให้คำแนะนำ แนวทางการดำเนินงานฯ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ พบปะเยาวชนนักกีฬาสตรีทฟุตบอล ตลอดจนเยาวชนที่ผ่านการบำบัด และกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา (สกร.) และจุดสุดท้าย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานอนุบาลสัตว์ เทศบาลเมืองลพบุรี ตำบลโพธิ์เก้าต้น เพื่อรับทราบข้อมูลการดำเนินงานภายในสถานอนุบาลลิงโดยนำข้อมูลที่ได้ไปสนับสนุนคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการผลักดันขับเคลื่อนโครงการต่างๆต่อรัฐบาลต่อไป
    รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงานในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. ณ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ในพื้นที่อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี โดยมี นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี พร้อมด้วยนายสิทธิชัย หล่อประสงค์สุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี คณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ผู้นำท้องถิ่น คณะกรรมการเครือข่ายกองทุนแม่ของแผ่นดินระดับจังหวัดและอำเภอ คณะทำงานขับเคลื่อนกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีจังหวัดลพบุรี คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอ กลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง กลุ่มชาติพันธุ์ไทยพวน ประชาชนในพื้นที่ และเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดและอำเภอ ร่วมให้การต้อนรับ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะฯ มีแผนลงพื้นที่ตรวจราชการและเยี่ยมชมผลการดำเนินงาน ทั้งหมด 4 จุด ประกอบด้วย จุดแรก ตรวจราชการ ผลการดำเนินงาน OTOP ผลิตภัณฑ์ผ้าย้อมแปรง ณ ศูนย์อนุรักษ์ชาติพันธุ์ลาวเวียง ตำบลป่าตาล อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมรับชมชุดการแสดงชาติพันธุ์ลาวเวียง, รับชมการสาธิตการทำขนมต้องบ้อง (ขนมวง), สาธิตการทำขนมข้าวเม่าทอด, สาธิตการทำผ้าย้อมแปรง และสาธิตการทอผ้า จุดที่สอง ตรวจราชการ ผลการดำเนินงานกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ณ ศาลา SML วัดถนนแค ตำบลถนนใหญ่ อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ การสาธิตการทำดินสอพอง, สาธิตการทำไข่เค็มดินสอพอง, สาธิตการทำผัดไทไข่เค็ม, และสาธิตการทำข้าวจี่ จุดที่สาม ตรวจราชการ ผลการขับเคลื่อนการดำเนินงานกองทุนแม่ของแผ่นดิน ณ โรงเรียนวัดตองปุ หมู่ที่ 1 ตำบลทะเลชุบศร อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี พบปะ ให้คำแนะนำ แนวทางการดำเนินงานฯ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการ พบปะเยาวชนนักกีฬาสตรีทฟุตบอล ตลอดจนเยาวชนที่ผ่านการบำบัด และกลับเข้าสู่ระบบการศึกษา (สกร.) และจุดสุดท้าย ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานอนุบาลสัตว์ เทศบาลเมืองลพบุรี ตำบลโพธิ์เก้าต้น เพื่อรับทราบข้อมูลการดำเนินงานภายในสถานอนุบาลลิงโดยนำข้อมูลที่ได้ไปสนับสนุนคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องในการผลักดันขับเคลื่อนโครงการต่างๆต่อรัฐบาลต่อไป
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงแร่ธาตุที่สหรัฐยื่นเงื่อนไขให้เซเลนสกีมีความ "เข้มงวด" มากกว่าในครั้งแรก!

    ไม่ใช่ 50% แต่ 100% :
    - เซเลนสกีได้รับข้อเสนอใหม่เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร่างข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ไม่ใช่มีแค่ข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้ำมันและก๊าซ ที่ยูเครนจะต้องโอนรายได้เข้ากองทุนของสหรัฐ 100%

    - ส่วนรายได้จากท่าเรือและโครงสร้างด้านพลังงาน เช่น รายได้จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สหรัฐขอส่วนแบ่งรายได้ 50%

    - นอกจากนี้ สหรัฐยังไม่มีการรับประกันความปลอดภัยในข้อตกลงดังกล่าว และไม่รับภาระผูกพันด้านการลงทุนใดๆในยูเครนอีกด้วย

    อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงยืนกรานว่าต้องการคำมั่นสัญญาด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนท่ามกลางสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญยูเครน ซึ่งทำให้การให้ลงนามข้อตกลงไม่สามารถทำได้ในทันที

    สหรัฐเตือนว่า การปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวของยูเครน จะเป็นอันตรายต่อความช่วยเหลือในอนาคต

    Ruslan Stefanchuk ประธานรัฐสภาของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาจะมีขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์หน้า

    ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ ดูบินสกี สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านของยูเครน กล่าวแสดงความเห็นว่า ควรให้ประธานาธิบดีคนต่อไปของยูเครนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงตามเงื่อนไขของทรัมป์ จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า

    มีรายงานเพิ่มเติมเกี่ยวกับข้อตกลงแร่ธาตุที่สหรัฐยื่นเงื่อนไขให้เซเลนสกีมีความ "เข้มงวด" มากกว่าในครั้งแรก! ไม่ใช่ 50% แต่ 100% : - เซเลนสกีได้รับข้อเสนอใหม่เป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ ร่างข้อตกลงฉบับใหม่นี้ ไม่ใช่มีแค่ข้อตกลงเกี่ยวกับแร่ธาตุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงน้ำมันและก๊าซ ที่ยูเครนจะต้องโอนรายได้เข้ากองทุนของสหรัฐ 100% - ส่วนรายได้จากท่าเรือและโครงสร้างด้านพลังงาน เช่น รายได้จากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ สหรัฐขอส่วนแบ่งรายได้ 50% - นอกจากนี้ สหรัฐยังไม่มีการรับประกันความปลอดภัยในข้อตกลงดังกล่าว และไม่รับภาระผูกพันด้านการลงทุนใดๆในยูเครนอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ยูเครนยังคงยืนกรานว่าต้องการคำมั่นสัญญาด้านความปลอดภัยที่ชัดเจนท่ามกลางสงครามที่ยังคงดำเนินอยู่ และต้องได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญยูเครน ซึ่งทำให้การให้ลงนามข้อตกลงไม่สามารถทำได้ในทันที สหรัฐเตือนว่า การปฏิเสธข้อตกลงดังกล่าวของยูเครน จะเป็นอันตรายต่อความช่วยเหลือในอนาคต Ruslan Stefanchuk ประธานรัฐสภาของยูเครน กล่าวว่า การเจรจาจะมีขึ้นอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ทางด้าน อเล็กซานเดอร์ ดูบินสกี สมาชิกรัฐสภาฝ่ายค้านของยูเครน กล่าวแสดงความเห็นว่า ควรให้ประธานาธิบดีคนต่อไปของยูเครนเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงตามเงื่อนไขของทรัมป์ จะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฎหมายมากกว่า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟรีดริช เมิร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจากพรรค CDU ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลการสำรวจมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่า "จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลทั้งหมด" หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง

    ในสุนทรพจน์ที่มูลนิธิ Koerber ในกรุงเบอร์ลิน เมิร์ซได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU/CSU) โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความมั่นคงของอิสราเอล

    “รัฐบาลที่นำโดยผมจะทำให้ความสัมพันธ์กับอิสราเอลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผมจะยุติการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของรัฐบาลปัจจุบันทันที” เมิร์ซกล่าวโดยพาดพิงไปถึงโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีจากพรรค SPD

    ขณะเดียวกัน เมิร์ซไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาและการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายพันคน และยังวิพากษ์วิจารณ์หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อีกด้วย และยังกล่าวอีกว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อหาทางยกเลิกการบังคับใช้หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ

    นอกจากนี้ เมิร์ซยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่า จะหารือกับฝรั่งเศสและอังกฤษ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนยูเครน ท่ามกลางท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐที่มีต่อยุโรป

    ปัจจุบัน เมิร์ซมีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อลิซ ไวเดล ผู้สมัครจากพรรค AfD ในการสำรวจความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยพรรค CDU ของเขาได้รับการสนับสนุน 28%
    ฟรีดริช เมิร์ซ ผู้สมัครชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีจากพรรค CDU ซึ่งมีคะแนนนิยมจากผลการสำรวจมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ในขณะนี้ ประกาศว่า "จะยกเลิกข้อจำกัดการส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอลทั้งหมด" หากพรรคของเขาชนะการเลือกตั้ง ในสุนทรพจน์ที่มูลนิธิ Koerber ในกรุงเบอร์ลิน เมิร์ซได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ด้านนโยบายต่างประเทศของพรรคคริสเตียนเดโมแครต (CDU/CSU) โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของเยอรมนีต่อความมั่นคงของอิสราเอล “รัฐบาลที่นำโดยผมจะทำให้ความสัมพันธ์กับอิสราเอลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง ผมจะยุติการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของรัฐบาลปัจจุบันทันที” เมิร์ซกล่าวโดยพาดพิงไปถึงโอลาฟ โชลซ์ นายกรัฐมนตรีจากพรรค SPD ขณะเดียวกัน เมิร์ซไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของอิสราเอลในฉนวนกาซาและการเสียชีวิตของชาวปาเลสไตน์หลายพันคน และยังวิพากษ์วิจารณ์หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ที่มีต่อนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู อีกด้วย และยังกล่าวอีกว่า จะทำทุกวิธีการเพื่อหาทางยกเลิกการบังคับใช้หมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ นอกจากนี้ เมิร์ซยังแสดงความเห็นเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ว่า จะหารือกับฝรั่งเศสและอังกฤษ เรื่องอาวุธนิวเคลียร์เพื่อปกป้องดินแดนยูเครน ท่ามกลางท่าทีที่เปลี่ยนไปของสหรัฐที่มีต่อยุโรป ปัจจุบัน เมิร์ซมีคะแนนนิยมนำคู่แข่งคนสำคัญอย่าง อลิซ ไวเดล ผู้สมัครจากพรรค AfD ในการสำรวจความคิดเห็นของนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของเยอรมนี ก่อนการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 กุมภาพันธ์ โดยพรรค CDU ของเขาได้รับการสนับสนุน 28%
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 279 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ

    ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ

    ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้

    นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม

    Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก

    Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้

    https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    นักวิจัยจาก Imperial College London ได้ใช้เวลาราว 10 ปีในการแก้ไขปัญหาซูเปอร์บั๊ก (superbug) แต่เมื่อเร็วๆ นี้ ปัญหานี้ถูกแก้ไขในเวลาเพียง 48 ชั่วโมงด้วยเครื่องมือวิทยาศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นโดย Google เครื่องมือนี้เรียกว่า co-scientist ซึ่งเป็นระบบ AI แบบหลายตัวแทนที่ใช้ Gemini 2.0 ในการทำงาน โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยสร้างสมมติฐานใหม่ ๆ และข้อเสนอวิจัยใหม่ ๆ ซูเปอร์บั๊ก (Superbug) คือเชื้อแบคทีเรียที่ดื้อยาปฏิชีวนะอย่างรุนแรง ทำให้การรักษาโรคติดเชื้อที่เกิดจากเชื้อเหล่านี้ยากขึ้นมาก ปัญหานี้เกิดขึ้นจากการใช้ยาปฏิชีวนะอย่างไม่เหมาะสม เช่น การใช้ยาเกินความจำเป็น การใช้ยาไม่ครบตามที่แพทย์สั่ง หรือการซื้อยามาทานเอง ซึ่งทำให้เชื้อแบคทีเรียพัฒนาความต้านทานต่อยาปฏิชีวนะ ปัญหาที่นักวิจัยให้เครื่องมือนี้แก้ไขคือ ทำไมซูเปอร์บั๊กบางตัวจึงต้านทานยาปฏิชีวนะได้ Professor José R Penadés บอกกับ BBC ว่า co-scientist ได้ข้อสันนิษฐานที่เหมือนกับทีมของเขา คือ ซูเปอร์บั๊กสามารถสร้างหางที่ทำให้พวกมันสามารถเคลื่อนย้ายไปยังชนิดอื่นได้ ซึ่งเปรียบเสมือนกุญแจหลักที่ช่วยให้บั๊กสามารถย้ายที่อยู่ได้ นอกจากการยืนยันสมมติฐานเดิมแล้ว co-scientist ยังได้สร้างสมมติฐานเพิ่มเติมอีก 4 ข้อ ซึ่งทุกข้อเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและหนึ่งในนั้นทีมวิจัยยังไม่เคยพิจารณามาก่อน ซึ่งขณะนี้ทีมวิจัยกำลังศึกษาสมมติฐานใหม่นี้เพิ่มเติม Penadés กล่าวเพิ่มเติมว่า เขาเชื่อว่า AI เครื่องมือนี้จะเปลี่ยนแปลงวงการวิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน โดยเปรียบเสมือนกับการได้เล่นแมตช์ใหญ่ในแชมเปี้ยนส์ลีก Google กล่าวว่า co-scientist ทำงานเป็น "ผู้ร่วมงานวิจัยเสมือน" ที่สามารถช่วยเร่งการค้นพบด้านชีวการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้ องค์กรวิจัยที่สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมโปรแกรมทดสอบได้ https://www.techspot.com/news/106874-ai-accelerates-superbug-solution-completing-two-days-what.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Scientists spent 10 years on a superbug mystery - Google's AI solved it in 48 hours
    Professor José R Penadés told the BBC that Google's tool reached the same hypothesis that his team had – that superbugs can create a tail that allows...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก:

    ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ**
    - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
    - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน

    ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่**
    - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ
    - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง

    ### 3. **ตลาดทองคำ**
    - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง
    - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ

    ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ**
    - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น
    - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง
    - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์
    - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย

    ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก**
    - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก
    - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต

    ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    ทองคำมีบทบาทสำคัญในระบบการเงินโลกมาอย่างยาวนาน และยังคงมีความสำคัญในปัจจุบัน ต่อไปนี้เป็นประเด็นสำคัญเกี่ยวกับทองคำกับการเงินโลก: ### 1. **ประวัติศาสตร์ของทองคำ** - **มาตรฐานทองคำ (Gold Standard)**: ในอดีต หลายประเทศใช้มาตรฐานทองคำ ซึ่งหมายความว่าค่าเงินของประเทศนั้นๆ ผูกติดกับปริมาณทองคำที่ประเทศนั้นถือครอง ระบบนี้ช่วยรักษาเสถียรภาพของอัตราแลกเปลี่ยนและควบคุมอัตราเงินเฟ้อ - **การยกเลิกมาตรฐานทองคำ**: ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 หลายประเทศเริ่มยกเลิกมาตรฐานทองคำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2 สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรฐานทองคำอย่างสมบูรณ์ในปี 1971 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน ### 2. **บทบาทของทองคำในระบบการเงินสมัยใหม่** - **ทุนสำรองระหว่างประเทศ**: ทองคำยังคงเป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศของหลายประเทศ ทองคำช่วยเพิ่มความมั่นใจในเสถียรภาพทางการเงินของประเทศและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ - **การลงทุน**: ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe-Haven Asset) ที่นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในช่วงเวลาที่ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน เช่น ภาวะเศรษฐกิจถดถอย หรือความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ - **เครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ**: ทองคำมักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือป้องกันเงินเฟ้อ เนื่องจากมูลค่าของทองคำมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่อค่าของเงินกระดาษลดลง ### 3. **ตลาดทองคำ** - **ตลาดฟิสิคัล**: ตลาดทองคำฟิสิคัลมีการซื้อขายทองคำในรูปแบบของแท่งทองคำ เหรียญทองคำ และเครื่องประดับ ตลาดสำคัญได้แก่ อินเดีย จีน และตะวันออกกลาง - **ตลาดอนุพันธ์**: ตลาดอนุพันธ์เช่น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Futures) และตัวเลือก (Options) ช่วยให้นักลงทุนสามารถเก็งกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของราคาทองคำ ### 4. **ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำ** - **ภาวะเศรษฐกิจโลก**: ภาวะเศรษฐกิจถดถอยหรือความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น - **อัตราดอกเบี้ย**: อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากต้นทุนการถือครองทองคำลดลง - **ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ**: ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวในทิศทางตรงข้ามกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากทองคำถูกซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ - **ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์**: ความขัดแย้งหรือความตึงเครียดทางการเมืองมักจะส่งผลให้ราคาทองคำเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนมองหาสินทรัพย์ปลอดภัย ### 5. **อนาคตของทองคำในระบบการเงินโลก** - **การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี**: การเกิดขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนอาจส่งผลต่อบทบาทของทองคำในระบบการเงินโลก - **ความยั่งยืน**: การทำเหมืองทองคำและการผลิตทองคำมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจส่งผลต่อความต้องการทองคำในอนาคต ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่มีความสำคัญในระบบการเงินโลก ทั้งในแง่ของการลงทุน การป้องกันความเสี่ยง และการเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศ การเข้าใจบทบาทและปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคำจะช่วยให้นักลงทุนและผู้กำหนดนโยบายสามารถตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 294 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ

    Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม

    Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้

    แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว

    Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน

    หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน

    Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ

    Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม”

    นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    เป็นเรื่องราวของคนหนุ่มที่น่าติดตามมากครับ Wang Xingxing วัย 35 ปี ผู้ก่อตั้งและ CEO ของบริษัท Unitree Robotics บริษัทผู้นำในด้านหุ่นยนต์ของจีน ได้ทำให้เกิดความสนใจอย่างมากเมื่อเขาได้รับเชิญให้นั่งแถวหน้าในงานสัมมนาธุรกิจระดับสูงของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดในปี 1990 Wang เป็นผู้นำที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มผู้บริหารระดับสูงที่ร่วมประชุม Wang กลายเป็นที่สนใจอีกครั้งหลังจากที่หุ่นยนต์ฮิวมานอยด์ของ Unitree ได้แสดงการเต้นฟอร์คแดนซ์ในงานเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ออกอากาศทางโทรทัศน์ CCTV เมื่อเดือนที่แล้ว Wang บอกกับ CCTV ว่าหุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์นั้นกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเขาเชื่อว่าหุ่นยนต์ฮิวมานอยด์จะก้าวขึ้นไปอีกขั้นก่อนสิ้นปีนี้ แม้ว่า Unitree จะยังคงเป็นบริษัทเอกชน แต่นักลงทุนก็หันมาสนใจซัพพลายเออร์ของบริษัทนี้ เช่น หุ้นของ Zhejiang Changsheng Sliding Bearings ที่กระโดดขึ้น 62% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้นกว่า 600% ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่ Ningbo Shuanglin Auto Parts ก็พุ่งขึ้น 575% จากปีที่แล้ว Wang มีความหลงใหลในด้านหุ่นยนต์ตั้งแต่วัยเด็ก เกิดในเมืองหนิงโป จังหวัดเจ้อเจียง เขามักใช้เวลาว่างสร้างแบบจำลองเครื่องบินและทำการทดลองเล็ก ๆ น้อย ๆ ตั้งแต่มัธยมต้น เขาได้สร้างเครื่องยนต์เทอร์โบเจ็ตขนาดเล็ก Wang ศึกษาวิศวกรรมแมคคาทรอนิกส์ที่มหาวิทยาลัย Zhejiang Sci-Tech และสร้างหุ่นยนต์เดินสองขาตัวแรกของเขาด้วยงบประมาณเพียง 200 หยวน หลังจากจบการศึกษาระดับปริญญาตรี เขาได้รับสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ฟีดแบ็กหลายแรง แล้วเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้ และในปี 2016 เขาได้ก่อตั้ง Unitree ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 2 ล้านหยวน Unitree กลายเป็นบริษัทแรกในโลกที่ขายหุ่นยนต์ขาหนาและฮิวมานอยด์ประสิทธิภาพสูงให้กับประชาชนทั่วไป ผลิตภัณฑ์ของพวกเขาได้รับการแสดงในงานใหญ่เช่นการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ที่หางโจวในปี 2023 นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังสนับสนุนอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ในท้องถิ่นด้วยแนวทางและเงินทุนจากรัฐ Wang บอกกับนักศึกษาในงานต้อนรับที่มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เมื่อปีที่แล้วว่า “หาสิ่งที่คุณรัก ทำงานหนัก เรียนรู้ตลอดเวลา และไม่หยุดพัฒนาตัวเอง ตั้งแต่เด็กผมมีแรงบันดาลใจที่จะใช้เทคโนโลยีสร้างสิ่งมีค่าเพื่อพิสูจน์ตัวเองและเปลี่ยนแปลงโลก นั่นเป็นแรงขับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผม” นี่คือเรื่องราวของ Wang Xingxing ที่กลายมาเป็นดาวรุ่งในวงการหุ่นยนต์ของจีน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้คนมากมายในการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยี https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/02/21/meet-wang-xingxing-the-young-chinese-robotics-star-from-unitree-at-xi-jinpings-symposium
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meet Wang Xingxing, the young Chinese robotics star from Unitree at Xi Jinping’s symposium
    Wang, 35, is the founder and CEO of Unitree – one of China's top developers of quadrupedal and humanoid robots.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 274 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts