• 31 มกราคม 2568-รายงานข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ระบุว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและจำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังศาลนัดไต่สวนพิจารณาคำร้องขออนุญาตออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ โดยได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ฟังคำสั่งของศาลแทนในช่วงบ่าย
    .
    กระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.55 น. มีรายงานข่าวว่า ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณออกนอกราชอาณาจักรได้ โดยวางหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า จากการพิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยหรือนายทักษิณอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเบิกความสนับสนุน พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2568
    .
    เห็นว่าช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้างเป็นประโยชน์ต่อประเทศและเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ โดยวางหลักประกันตามที่เสนอและให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยการแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบด้วย
    .
    ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้
    31 มกราคม 2568-รายงานข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ระบุว่า หลังจากที่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและจำเลยในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ได้เดินทางมาที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก หลังศาลนัดไต่สวนพิจารณาคำร้องขออนุญาตออกนอกราชอาณาจักรของนายทักษิณ โดยได้มอบหมายให้ทนายความเป็นผู้ฟังคำสั่งของศาลแทนในช่วงบ่าย . กระทั่งเมื่อช่วงเวลาประมาณ 14.55 น. มีรายงานข่าวว่า ศาลอาญามีคำสั่งอนุญาตให้นายทักษิณออกนอกราชอาณาจักรได้ โดยวางหลักทรัพย์ 5 ล้านบาท ซึ่งศาลได้ทำการไต่สวนแล้วมีคำสั่งว่า จากการพิเคราะห์ข้อเท็จจริงในทางไต่สวนแล้ว จำเลยหรือนายทักษิณอ้างตนเองเป็นพยาน โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเบิกความสนับสนุน พร้อมพยานเอกสารยืนยันให้เห็นถึงเหตุผลและความจำเป็นที่ต้องเดินทางออกนอกราชอาณาจักรในระหว่างวันที่ 2-3 กุมภาพันธ์ 2568 . เห็นว่าช่วงเวลาที่จำเลยขออนุญาตเดินทางออกนอกราชอาณาจักรไม่กระทบต่อวันนัดพิจารณาคดี เหตุผลและความจำเป็นที่จำเลยอ้างเป็นประโยชน์ต่อประเทศและเพื่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐ กรณีมีเหตุสมควร จึงอนุญาตให้จำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักรได้ตามที่ขอ โดยวางหลักประกันตามที่เสนอและให้มารายงานตัวภายใน 3 วันนับแต่วันที่จำเลยเดินทางกลับประเทศไทย ด้วยการแจ้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองทราบด้วย . ที่มา เรื่องเล่าเช้านี้
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง
    ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด
    แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต
    แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก
    หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
    พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง
    ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    ศึกชิงนายก อบจ. ดุเดือดจนทักษิณยังหนาวหลัง ทักษิณ ชินวัตร ออกปากยอมรับ สนามเลือกตั้งนายกอบจ ศรีสะเกษ ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับ บ้านใหญ่ไตรสรณกุล สูสีกัน ทักษิณยอมรับความจริง เพราะแม้พื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ พรรคเพื่อไทยจะกวาด สส. เกือบค่อนจังหวัด แต่เมื่อเจาะลงไปในสนามท้องถิ่นบ้านใหญ่ ไตรสรณกุล ได้ตําแหน่งมาหลายปีสร้างผลงานเอาไว้มากมาย ในขณะที่ผู้สมัครนายกอบจของพรรคเพื่อไทยอย่างเสี่ยปู๊วิวัฒน์ชัย เป็นพวกกระดูกคนละเบอร์กับแชมป์เก่าอย่างนายกส้มเกลี้ยง เทียบกันให้ชัดชัดสนามเลือกตั้งส.ส.ศรีสะเกษที่เพิ่งผ่านมา พรรคเพื่อไทยหอบส.ส.เข้าสภาเกือบจะยกจังหวัดตกอยู่ไม่กี่เขต แต่หนึ่งในนั้นมีเสี่ยปู๊รวมอยู่ด้วย กระแสพรรคเพื่อไทยในศรีสะเกษเมื่อก่อนมีมาก โดยเฉพาะแคมเปญไล่หนูตีงูเห่า ที่เล่นเอาภาคภูมิใจไทยช็อตปั่นแต้มไม่ขึ้นพรรคเพื่อไทยแทบไม่ต้องออกแรงมาก นักการเมืองที่นั่นพาเหรดกันเข้าวิน แต่เสี่ยปู๊ดันตกขบวนทั้งที่ทําตัวเป็นหัวโจกค่ายสีแดงในจังหวัดถึงขั้นต้องพิจารณากันว่าต้องไม่เอาอ่าวขนาดไหน ขนาดกระแสพรรคเพื่อไทยดีขนาดนี้แต่ดันสอบตก หลังการเลือกตั้งเสี่ยปู๊ เข้ามาสังกัดก๊ก สุริยะจึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีคมนาคม ท่อน้ําเลี้ยงนัมเบอร์วันของพรรคเพื่อไทยก่อนจะได้รับการปลอบใจให้มีตําแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พอได้อยู่กับท่อน้ําเลี้ยงแล้วคึกมีความหวัง กระแสไม่ได้ หันไปพึ่งกระสุนขอลงชิงชัยเก้าอี้นายก อบจ ศรีสะเกษ ดูสักตั้ง กระแสส่วนตัวในจังหวัดเป็นรองแต่ขอพึ่งบารมีทักษิณและสุริยะ เพื่อเข้าไปบริหารการเมืองท้องถิ่นดินแดนทุเรียนภูเขาไฟก็ยัง ยอมรับตรงๆว่าคะแนนสูสี ทั้งที่ความเป็นจริง ความนิยมในจังหวัดแชมป์เก่าเหนือกว่าหลายขุม ขณะที่นายกส้มเกลี้ยง เหนือกว่า เสี่ยปู๊ที่เสียงลือเสียงเล่าอ้างว่าพื้นเพเป็นคนอุบลราชธานีด้วยซ้ํา ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 211 มุมมอง 0 รีวิว
  • เนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 นางสาวแพทองธาร นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ผู้อยู่กินฉันสามีภริยาตามที่ ป.ป.ช. กำหนด และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 4,441,159,711 บาท 
    มีการระบุสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง ได้แก่ 1. สิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London 2. สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London
    โดยรายการสิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London มีการระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2550 สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. 3537 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 987 ปี มูลค่าอยู่ที่ 111,612,250 บาท
    ส่วนสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2560 สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. 3552 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 992 ปี มูลค่าอยู่ที่ 208,342,867 บาท  

    ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบรายละเอียดสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง เพิ่มเติม พบว่า สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London มีการแนบเอกสารเกี่ยวกับสิทธิในการเช่า จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2560 ระบุรายละเอียดคร่าวๆว่ามีเงื่อนไขการเช่า 999 ปี ถึงวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 3009
    มีคู่สัญญา (Parties) สองฝ่าย ได้แก่ 1.Tropic Offshore Holdings Inc และ 2. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร
    ในส่วนทะเบียนกรรมสิทธิ์ระบุว่า มีผู้เป็นเจ้าของหรือProprietor ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร 
    โดยราคานอกเหนือจากค่าเช่าที่ระบุไว้ว่าได้จ่ายจากการให้สัญญาเช่าคือ 1 ปอนด์ (The Price, other than rents,  stated to have been paid on the grant of the lease was 1 Pound)
    สำหรับรายละเอียด บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ปรากฏข้อมูลจากเอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ซึ่งเป็นการตีแผ่ข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักกฎหมายชื่อ มอสแซค ฟอนเซก้า (Mossack Fonceka) ที่เป็นบริษัทรับจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปานามา และมีสาขาอยู่ใน 42 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลเรื่องการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตกถึงมือของสื่อมวลชน โดยมีขนาดความจุ 2.6 เทราไบต์ มีเอกสารทั้งหมด 11.5 ล้านชิ้น ประกอบไปด้วยข้อมูลของบริษัทนอกอาณาเขตทั้งหมด 214,000 บริษัท โดยการขุดคุ้ยและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของเอกสารที่ให้ชื่อว่า “ปานามาลีก” (Panama Leak) นี้เป็นความร่วมมือกันของผู้สื่อข่าวจำนวน 370 คนจาก 78 ประเทศ) 
    เอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ระบุว่า เมื่อปี 2549 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรม ของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ได้ดำเนินการเข้าซื้อและจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 2550

    ข้อมูลบริคณห์สนธิบริษัทฯ ระบุว่า บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ถูกจัดตั้งโดยบริษัทในสิงคโปร์ชื่อว่าบริษัท UBS AG สิงคโปร์ โดยการจัดตั้งบริษัทนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2549 และมีการขายบริษัทไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2549 และบริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็น 1,681,675 บาท ตามค่าเงินปัจจุบัน)

    โดยผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัทในปัจจุบัน คือ บริษัท NWT Directors Limited ซึ่งเข้ามาเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2550
    สำหรับที่อยู่ปัจจุบันของบริษัทฯ อยู่ที่ One Raffles Quay#50-01 North TowerSINGAPORE 048583

    ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 

    ที่มา https://www.isranews.org/article/isranews/135213-isranews-Panamaaart.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2nLggEACbFIpzdcfGrZHzXUZThT8iizlgvTwRRYpTn4EOauqjWa9YuLWk_aem_NcAfeRGv0VtwZQuV8JHOxA#a76xjgtso0awrd0kdad0xn25e74459qj
    เนื่องจากสำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) ติดตามตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกการแจ้งบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กรณีเข้ารับตำแหน่ง เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567 นางสาวแพทองธาร นายปิฎก สุขสวัสดิ์ ผู้อยู่กินฉันสามีภริยาตามที่ ป.ป.ช. กำหนด และบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ แจ้งมีทรัพย์สินทั้งสิ้น 13,993,826,903 บาท หนี้สินทั้งสิ้น 4,441,159,711 บาท  มีการระบุสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง ได้แก่ 1. สิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London 2. สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London โดยรายการสิทธิในการเช่าที่ Flat 11 Knaresborough Place London มีการระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2550 สิ้นสุดวันที่ 24 ธ.ค. 3537 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 987 ปี มูลค่าอยู่ที่ 111,612,250 บาท ส่วนสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ระบุว่า ได้สิทธินี้มาตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ.2560 สิ้นสุดวันที่ 24 ม.ค. 3552 หรือก็คือระยะเวลาเช่าสิทธินาน ถึง 992 ปี มูลค่าอยู่ที่ 208,342,867 บาท   ล่าสุด ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ย้อนกลับไปตรวจสอบรายละเอียดสิทธิในการเช่าที่อยู่ที่อังกฤษ 2 แห่ง เพิ่มเติม พบว่า สิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London มีการแนบเอกสารเกี่ยวกับสิทธิในการเช่า จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 26 ก.ค.2560 ระบุรายละเอียดคร่าวๆว่ามีเงื่อนไขการเช่า 999 ปี ถึงวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 3009 มีคู่สัญญา (Parties) สองฝ่าย ได้แก่ 1.Tropic Offshore Holdings Inc และ 2. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร ในส่วนทะเบียนกรรมสิทธิ์ระบุว่า มีผู้เป็นเจ้าของหรือProprietor ได้แก่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร,นายพานทองแท้ ชินวัตร และ น.ส.พินทองทา ชินวัตร  โดยราคานอกเหนือจากค่าเช่าที่ระบุไว้ว่าได้จ่ายจากการให้สัญญาเช่าคือ 1 ปอนด์ (The Price, other than rents,  stated to have been paid on the grant of the lease was 1 Pound) สำหรับรายละเอียด บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ปรากฏข้อมูลจากเอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ซึ่งเป็นการตีแผ่ข้อมูลการถือครองบริษัทนอกอาณาเขต (offshore company) ที่อยู่ในฐานข้อมูลของสำนักกฎหมายชื่อ มอสแซค ฟอนเซก้า (Mossack Fonceka) ที่เป็นบริษัทรับจดทะเบียนก่อตั้งบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลก มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่ปานามา และมีสาขาอยู่ใน 42 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ฐานข้อมูลดังกล่าวเป็นฐานข้อมูลเรื่องการถือครองบริษัทนอกอาณาเขตที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ตกถึงมือของสื่อมวลชน โดยมีขนาดความจุ 2.6 เทราไบต์ มีเอกสารทั้งหมด 11.5 ล้านชิ้น ประกอบไปด้วยข้อมูลของบริษัทนอกอาณาเขตทั้งหมด 214,000 บริษัท โดยการขุดคุ้ยและวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดของเอกสารที่ให้ชื่อว่า “ปานามาลีก” (Panama Leak) นี้เป็นความร่วมมือกันของผู้สื่อข่าวจำนวน 370 คนจาก 78 ประเทศ)  เอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ระบุว่า เมื่อปี 2549 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด (มหาชน) พี่ชายบุญธรรม ของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ได้ดำเนินการเข้าซื้อและจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 2550 ข้อมูลบริคณห์สนธิบริษัทฯ ระบุว่า บริษัท Tropic Offshore Holdings Inc ถูกจัดตั้งโดยบริษัทในสิงคโปร์ชื่อว่าบริษัท UBS AG สิงคโปร์ โดยการจัดตั้งบริษัทนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2549 และมีการขายบริษัทไปเมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2549 และบริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 5 หมื่นดอลลาร์สหรัฐฯ (คิดเป็น 1,681,675 บาท ตามค่าเงินปัจจุบัน) โดยผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการบริษัทในปัจจุบัน คือ บริษัท NWT Directors Limited ซึ่งเข้ามาเป็นทั้งผู้ถือหุ้นและผู้อำนวยการเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 2550 สำหรับที่อยู่ปัจจุบันของบริษัทฯ อยู่ที่ One Raffles Quay#50-01 North TowerSINGAPORE 048583 ทั้งหมดนี้ คือ ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับบริษัทที่เป็นคู่สัญญาที่เกี่ยวข้องกับสิทธิในการเช่าที่ Flat 6, 14 Montpelier street London ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ที่มีการแจ้งบัญชีทรัพย์และหนี้สิน ต่อ ป.ป.ช. กรณีเข้ารับตำแหน่ง นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 6 ก.ย. 2567  ที่มา https://www.isranews.org/article/isranews/135213-isranews-Panamaaart.html?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR2nLggEACbFIpzdcfGrZHzXUZThT8iizlgvTwRRYpTn4EOauqjWa9YuLWk_aem_NcAfeRGv0VtwZQuV8JHOxA#a76xjgtso0awrd0kdad0xn25e74459qj
    WWW.ISRANEWS.ORG
    เปิดตัวบริษัทในเอกสารปานามา คู่สัญญานายกฯได้กรรมสิทธิ์เช่าอะพาร์ตเมนต์ลอนดอน เฉียดพันปี
    เอกสารข่าวปานามาเปเปอร์ส ระบุว่า เมื่อปี 2549 นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ ประธานกรรมการบริษัท โรงพยาบาลพระราม 9 จำกัด (มหาชน) พี่ชายคนโตของคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ได้ดำเนินการเข้าซื้อและจดทะเบียนเป็นเจ้าของผู้รับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ชื่อเจ้าของผู้รับผลประโยชน์ได้เปลี่ยนจากนายบรรณพจน์เป็นนาย กาลิด โมฮัมหมัด กาดฟอร์ อัลเมไฮรี (Khalid Mohamad Kadfoor Almehairi) ในปี 2550
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 311 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22 ปี จากจลาจลกัมพูชา สู่ปฏิบัติการโปเชนตง เบื้องหลังความขัดแย้ง ปฏิบัติการที่โลกต้องจดจำ

    ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2546 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงพนมเปญ
    ประเทศกัมพูชา ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสีย ทางกายภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เหตุจลาจลครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นจากบทความ ในหนังสือพิมพ์กัมพูชา"รัศมี อังกอร์" ที่พาดพิงถึงนักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" ว่าได้กล่าวหากัมพูชาเรื่องนครวัด จนนำไปสู่ความโกรธแค้น และความรุนแรง ที่ลุกลามไปถึงการเผาสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ

    จากบทความหนังสือพิมพ์ สู่ความโกลาหล
    ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2546 หนังสือพิมพ์ "รัศมี อังกอร์" ของกัมพูชา ได้ตีพิทพ์เผยแพร่บทความ ที่กล่าวอ้างว่า นักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" พูดว่านครวัดเป็นของไทย และกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ "ขโมย" นครวัดไป ข้อความนี้แพร่กระจาย ออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสความโกรธเคือง ในหมู่ชาวกัมพูชา แม้ว่ากบ-สุวนันท์ จะออกมาปฏิเสธว่า เธอไม่เคยพูดเช่นนั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง กระแสความไม่พอใจได้

    การตอบสนองของฮุนเซ็น
    นายกรัฐมนตรีกัมพูชา "ฮุนเซ็น" ได้กล่าวสนับสนุนข้อความ ในบทความดังกล่าว โดยเปรียบเทียบว่า นักแสดงชาวไทยคนนี้ "ไม่มีค่าเทียบเท่าใบหญ้า ที่ขึ้นใกล้นครวัด" พร้อมทั้งสั่งให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชา หยุดการเผยแพร่ละครไทยทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปลุกระดม ให้ประชาชนกัมพูชา ระลึกถึงรากเหง้าของตนเอง ซึ่งยิ่งกระพือความไม่พอใจ ในวงกว้าง

    จากชุมนุมสู่เหตุการณ์จลาจล เริ่มต้นที่สถานทูตไทย
    เช้าวันที่ 29 มกราคม 2546 กลุ่มชาวกัมพูชาหลายร้อยคน เริ่มรวมตัวกัน ที่หน้าสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ การประท้วงเริ่มจาก การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น เผาธงชาติไทย และป้ายของสถานทูต ก่อนที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบุกเข้าไป ในบริเวณสถานทูต

    อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต
    เอกอัครราชทูตไทย ประจำกัมพูชาในขณะนั้น "ชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ" ตัดสินใจสั่งการ ให้เจ้าหน้าที่สถานทูต อพยพออกจากอาคาร โดยปีนรั้วด้านหลังของสถานทูต ไปยังแม่น้ำบาสัก และบางส่วนหลบหนีไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ที่อยู่ติดกัน การตัดสินใจที่เด็ดขาดนี้ ช่วยรักษาชีวิตของทุกคน ไว้ได้อย่างปลอดภัย

    ทำลายสถานทูตไทย
    ในช่วงเวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผา และปล้นสดมสถานทูตไทย รวมถึงทำลายทรัพย์สิ นของธุรกิจไทยในกรุงพนมเปญ เช่น โรงแรม สำนักงาน และร้านค้าต่าง ๆ เหตุการณ์นี้ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อมีข่าวลือว่า คนกัมพูชาถูกทำร้ายในประเทศไทย ซึ่งทำให้การจลาจลในพนมเปญ รุนแรงขึ้นไปอีก

    ปฏิบัติการโปเชนตง ความช่วยเหลือจากฟากฟ้า
    หลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจล รัฐบาลไทยภายใต้การนำ ของนายกรัฐมนตรี "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ได้ตัดสินใจเปิดปฏิบัติการ "โปเชนตง" เพื่ออพยพคนไทยออกจากกัมพูชา โดยใช้สนามบินเก่า "โปเชนตง" ในกรุงพนมเปญ เป็นจุดรับส่ง โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชา ที่เริ่มเปลี่ยนท่าที และยินยอมให้เครื่องบินทหารไทยเข้าประเทศ

    รายละเอียดของปฏิบัติการ
    วันที่ 30 มกราคม 2546 เวลา 05.15 น. เครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H และ G-222 พร้อมหน่วยรบพิเศษ ได้บินจากฐานทัพดอนเมือง ไปยังสนามบินโปเชนตง เพื่ออพยพคนไทยกว่า 700 คน การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด โดยสามารถนำคนไทย กลับมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ในวันเดียว

    ผลกระทบที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา
    เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เลวร้ายลงอย่างมาก ไทยตัดสินใจ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และปิดชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภูมิภาค

    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ของการสื่อสารระหว่างประเทศ และการป้องกันการปลุกระดม ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง การตอบสนองที่รวดเร็ว และเด็ดขาดของรัฐบาลไทยในครั้งนั้น ยังเป็นตัวอย่างของการจัดการวิกฤต ที่มีประสิทธิภาพ

    22 ปี หลังเหตุการณ์จลาจลในพนมเปญ และปฏิบัติการโปเชนตง ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทยและกัมพูชา ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการจัดการวิกฤตระดับชาติ เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของความร่วมมือ ความเข้าใจ และการสื่อสารที่ถูกต้อง ระหว่างประชาชน และผู้นำของทั้งสองประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 290850 ม.ค. 2568

    #จลาจลกัมพูชา #ปฏิบัติการโปเชนตง #ไทยกัมพูชา #สถานทูตไทย #ประวัติศาสตร์ไทย #การเมืองระหว่างประเทศ #บทเรียนความขัดแย้ง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #เหตุการณ์ในอดีต







    22 ปี จากจลาจลกัมพูชา สู่ปฏิบัติการโปเชนตง เบื้องหลังความขัดแย้ง ปฏิบัติการที่โลกต้องจดจำ ย้อนกลับไปเมื่อ 22 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2546 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ไม่เพียงแต่สร้างความสูญเสีย ทางกายภาพ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ในความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เหตุจลาจลครั้งนี้ มีจุดเริ่มต้นจากบทความ ในหนังสือพิมพ์กัมพูชา"รัศมี อังกอร์" ที่พาดพิงถึงนักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" ว่าได้กล่าวหากัมพูชาเรื่องนครวัด จนนำไปสู่ความโกรธแค้น และความรุนแรง ที่ลุกลามไปถึงการเผาสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ จากบทความหนังสือพิมพ์ สู่ความโกลาหล ในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2546 หนังสือพิมพ์ "รัศมี อังกอร์" ของกัมพูชา ได้ตีพิทพ์เผยแพร่บทความ ที่กล่าวอ้างว่า นักแสดงหญิงชาวไทย "กบ-สุวนันท์ คงยิ่ง" พูดว่านครวัดเป็นของไทย และกัมพูชาเป็นฝ่ายที่ "ขโมย" นครวัดไป ข้อความนี้แพร่กระจาย ออกไปอย่างรวดเร็ว สร้างกระแสความโกรธเคือง ในหมู่ชาวกัมพูชา แม้ว่ากบ-สุวนันท์ จะออกมาปฏิเสธว่า เธอไม่เคยพูดเช่นนั้น แต่ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง กระแสความไม่พอใจได้ การตอบสนองของฮุนเซ็น นายกรัฐมนตรีกัมพูชา "ฮุนเซ็น" ได้กล่าวสนับสนุนข้อความ ในบทความดังกล่าว โดยเปรียบเทียบว่า นักแสดงชาวไทยคนนี้ "ไม่มีค่าเทียบเท่าใบหญ้า ที่ขึ้นใกล้นครวัด" พร้อมทั้งสั่งให้สถานีโทรทัศน์กัมพูชา หยุดการเผยแพร่ละครไทยทั้งหมด นอกจากนี้ยังมีการปลุกระดม ให้ประชาชนกัมพูชา ระลึกถึงรากเหง้าของตนเอง ซึ่งยิ่งกระพือความไม่พอใจ ในวงกว้าง จากชุมนุมสู่เหตุการณ์จลาจล เริ่มต้นที่สถานทูตไทย เช้าวันที่ 29 มกราคม 2546 กลุ่มชาวกัมพูชาหลายร้อยคน เริ่มรวมตัวกัน ที่หน้าสถานทูตไทย ในกรุงพนมเปญ การประท้วงเริ่มจาก การแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น เผาธงชาติไทย และป้ายของสถานทูต ก่อนที่จะบานปลายไปสู่ความรุนแรง เมื่อกลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มบุกเข้าไป ในบริเวณสถานทูต อพยพเจ้าหน้าที่สถานทูต เอกอัครราชทูตไทย ประจำกัมพูชาในขณะนั้น "ชัชเวทย์ ชาติสุวรรณ" ตัดสินใจสั่งการ ให้เจ้าหน้าที่สถานทูต อพยพออกจากอาคาร โดยปีนรั้วด้านหลังของสถานทูต ไปยังแม่น้ำบาสัก และบางส่วนหลบหนีไปยังสถานทูตญี่ปุ่น ที่อยู่ติดกัน การตัดสินใจที่เด็ดขาดนี้ ช่วยรักษาชีวิตของทุกคน ไว้ได้อย่างปลอดภัย ทำลายสถานทูตไทย ในช่วงเวลาต่อมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้เผา และปล้นสดมสถานทูตไทย รวมถึงทำลายทรัพย์สิ นของธุรกิจไทยในกรุงพนมเปญ เช่น โรงแรม สำนักงาน และร้านค้าต่าง ๆ เหตุการณ์นี้ยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อมีข่าวลือว่า คนกัมพูชาถูกทำร้ายในประเทศไทย ซึ่งทำให้การจลาจลในพนมเปญ รุนแรงขึ้นไปอีก ปฏิบัติการโปเชนตง ความช่วยเหลือจากฟากฟ้า หลังจากเกิดเหตุการณ์จลาจล รัฐบาลไทยภายใต้การนำ ของนายกรัฐมนตรี "ดร.ทักษิณ ชินวัตร" ได้ตัดสินใจเปิดปฏิบัติการ "โปเชนตง" เพื่ออพยพคนไทยออกจากกัมพูชา โดยใช้สนามบินเก่า "โปเชนตง" ในกรุงพนมเปญ เป็นจุดรับส่ง โดยได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชา ที่เริ่มเปลี่ยนท่าที และยินยอมให้เครื่องบินทหารไทยเข้าประเทศ รายละเอียดของปฏิบัติการ วันที่ 30 มกราคม 2546 เวลา 05.15 น. เครื่องบินลำเลียงแบบ C-130H และ G-222 พร้อมหน่วยรบพิเศษ ได้บินจากฐานทัพดอนเมือง ไปยังสนามบินโปเชนตง เพื่ออพยพคนไทยกว่า 700 คน การดำเนินงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว และมีการคุ้มกันอย่างเข้มงวด โดยสามารถนำคนไทย กลับมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ในวันเดียว ผลกระทบที่เกิดขึ้น ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและกัมพูชา เหตุการณ์ครั้งนี้ ส่งผลให้ความสัมพันธ์ ระหว่างไทยและกัมพูชา เลวร้ายลงอย่างมาก ไทยตัดสินใจ ลดระดับความสัมพันธ์ทางการทูต และปิดชายแดนระหว่างสองประเทศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวในภูมิภาค เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญ ของการสื่อสารระหว่างประเทศ และการป้องกันการปลุกระดม ที่อาจนำไปสู่ความรุนแรง การตอบสนองที่รวดเร็ว และเด็ดขาดของรัฐบาลไทยในครั้งนั้น ยังเป็นตัวอย่างของการจัดการวิกฤต ที่มีประสิทธิภาพ 22 ปี หลังเหตุการณ์จลาจลในพนมเปญ และปฏิบัติการโปเชนตง ยังคงเป็นบทเรียนสำคัญ ในประวัติศาสตร์ไทยและกัมพูชา ทั้งในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และการจัดการวิกฤตระดับชาติ เหตุการณ์นี้เน้นย้ำถึง ความสำคัญของความร่วมมือ ความเข้าใจ และการสื่อสารที่ถูกต้อง ระหว่างประชาชน และผู้นำของทั้งสองประเทศ เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งในอนาคต ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 290850 ม.ค. 2568 #จลาจลกัมพูชา #ปฏิบัติการโปเชนตง #ไทยกัมพูชา #สถานทูตไทย #ประวัติศาสตร์ไทย #การเมืองระหว่างประเทศ #บทเรียนความขัดแย้ง #ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ #เหตุการณ์ในอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาล ยังไม่ไต่สวนทักษิณ 'เพื่อไทย' ล็อคคอ 'วิษณุ' ยันป่วยทิพย์ชั้น14 ไร้มลทิน
    .
    ปมประเด็นชั้น 14 ป่วยทิพย์ของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ไต่สวนกรณี กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไม่จัดการให้เป็นไปตามหมายจำคุกคดีถึงที่สุดของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
    .
    ล่าสุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลื่อนฟังคำสั่งคำร้องของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่ร้องขอให้ไต่สวน นำตัวนักโทษเทวดากลับเข้าคุก โดยจะแจ้งคำสั่งให้ทราบในภายหลัง และห้ามเผยแพร่คำร้องต่อสาธารณชน เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน
    .
    ขณะที่ แกนนำของพรรคเพื่อไทยได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีโดยยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เพราะผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯมาแล้ว
    .
    นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่มีนักร้องที่จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการพิสูจน์เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน การพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่เกิดในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกรัฐมนตรี และมีนายวิษณุ เครืองาม ที่ดำรงตำแหน่งรองนายกฯขณะนั้น ทำหน้าที่ส่งไป และเป็นไปตามขั้นตอน ไม่น่าหนักใจอะไร
    .
    “นายวิษณุ ในฐานะมือกฎหมายคงจะพิจารณารายละเอียดเป็นอย่างดี การตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเรียนนั้นเป็นไปตามกระบวนการการพิสูจน์ของกระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้สบายใจได้ ไม่มีเขย่าขวัญรัฐบาล เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นนายกฯ” นายวิสุทธิ์ กล่าว
    .............
    Sondhi X
    ศาล ยังไม่ไต่สวนทักษิณ 'เพื่อไทย' ล็อคคอ 'วิษณุ' ยันป่วยทิพย์ชั้น14 ไร้มลทิน . ปมประเด็นชั้น 14 ป่วยทิพย์ของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นประเด็นหนึ่งที่มีความเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีตรองประธานอนุกรรมาธิการ ด้านกลไกการปราบปรามการทุจริต คณะกรรมาธิการวิสามัญป้องกันและปราบปรามการทุจริต สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ไต่สวนกรณี กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม ไม่จัดการให้เป็นไปตามหมายจำคุกคดีถึงที่สุดของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง . ล่าสุด ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เลื่อนฟังคำสั่งคำร้องของ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ ที่ร้องขอให้ไต่สวน นำตัวนักโทษเทวดากลับเข้าคุก โดยจะแจ้งคำสั่งให้ทราบในภายหลัง และห้ามเผยแพร่คำร้องต่อสาธารณชน เพื่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน . ขณะที่ แกนนำของพรรคเพื่อไทยได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในกรณีโดยยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย เพราะผ่านการพิจารณาตรวจสอบจากนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯมาแล้ว . นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่มีนักร้องที่จะตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ซึ่งทราบว่ามีผู้ร้องเรียนเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการพิสูจน์เป็นไปตามกระบวนการขั้นตอน การพักรักษาตัวของนายทักษิณ ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ไม่ได้เกิดขึ้นในสมัยที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่เกิดในช่วงที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังเป็นนายกรัฐมนตรี และมีนายวิษณุ เครืองาม ที่ดำรงตำแหน่งรองนายกฯขณะนั้น ทำหน้าที่ส่งไป และเป็นไปตามขั้นตอน ไม่น่าหนักใจอะไร . “นายวิษณุ ในฐานะมือกฎหมายคงจะพิจารณารายละเอียดเป็นอย่างดี การตรวจสอบตามที่มีผู้ร้องเรียนนั้นเป็นไปตามกระบวนการการพิสูจน์ของกระบวนการยุติธรรม เรื่องนี้สบายใจได้ ไม่มีเขย่าขวัญรัฐบาล เพราะนายทักษิณไม่ได้เป็นนายกฯ” นายวิสุทธิ์ กล่าว ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    Angry
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 935 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดธาตุแท้อุ๊งอิ๊ง เห็นเงินดีกว่าชีวิตประชาชน
    สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นพิษ PM 2.5 ในประเทศไทยระยะนี้ถือว่าหนักหน่วงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 24 มกราคม กลายเป็นวันหนึ่งที่มีค่ามลพิษสูงมากและเป็นสีม่วงหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ซึ่งมีค่าฝุ่นไม่ต่ำกว่า 300
    จากตัวเลขที่ปรากฏออกมาทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่อาจอยู่เฉยๆ และพูดปลอบใจผ่านสื่อมวลชนไปวันๆ ได้อีกแล้ว ถึงขนาดที่ 'แพทองธาร ชินวัตร' ต้องประชุมทางไกลมอบหมายงานให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเต็มที่
    ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้พรรคการเมืองใดขึ้นมาเป็นรัฐบาล ย่อมต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแก้ไขปัญหาไม่ต่างกัน แต่เสียงวิจารณ์ที่กระหน่ำหนักมาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเพราะไม่ปรากฏรูปธรรมในการทำงาน ในสถานการณ์นี้นายกฯแพทองธารมีแต้มตามหลังคู่แข่งทางการเมืองทั้งภายในและภายนอกรัฐบาล
    โดยเฉพาะกับ 'เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เข้มงวดกับโรงงานน้ำตาลที่รับซื้ออ้อยเผา เกินกว่าที่ภาครัฐกำหนด แม้การสั่งปิดโรงงานบางแห่งอาจไม่ได้มาจากเหตุผลเรื่องการรับซื้ออ้อยเผา แต่อย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
    ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความเด็ดขาด เรียกได้ว่ายามนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเมาหมัดอย่างหนัก
    แสดงให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลได้ แต่บริหารงานให้มีประสิทธิภาพไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาคนเพื่อไทย ขาดความกล้าในการถอนรากถอนโคนต้นตอของปัญหาให้เด็ดขาด โดยเฉพาะการไม่กล้าประกาศเขตมลพิษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่อยากให้กระทบต่อการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การใช้มาตรการที่เข้มงวดกับการทำกิจกรรมทางการเกษตร พรรคเพื่อไทยเองก็ทำแบบชักเข้าชักออก เพราะการไปเข้มงวดมากเท่าไหร่
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดธาตุแท้อุ๊งอิ๊ง เห็นเงินดีกว่าชีวิตประชาชน สถานการณ์หมอกควันและฝุ่นพิษ PM 2.5 ในประเทศไทยระยะนี้ถือว่าหนักหน่วงและส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนทั้งประเทศ เมื่อวันที่ 24 มกราคม กลายเป็นวันหนึ่งที่มีค่ามลพิษสูงมากและเป็นสีม่วงหลายพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็น สมุทรสาคร ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา นครปฐม นนทบุรี ซึ่งมีค่าฝุ่นไม่ต่ำกว่า 300 จากตัวเลขที่ปรากฏออกมาทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่อาจอยู่เฉยๆ และพูดปลอบใจผ่านสื่อมวลชนไปวันๆ ได้อีกแล้ว ถึงขนาดที่ 'แพทองธาร ชินวัตร' ต้องประชุมทางไกลมอบหมายงานให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องดำเนินการอย่างเต็มที่ ต้องยอมรับว่าสถานการณ์แบบนี้พรรคการเมืองใดขึ้นมาเป็นรัฐบาล ย่อมต้องเจอเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการแก้ไขปัญหาไม่ต่างกัน แต่เสียงวิจารณ์ที่กระหน่ำหนักมาที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเป็นเพราะไม่ปรากฏรูปธรรมในการทำงาน ในสถานการณ์นี้นายกฯแพทองธารมีแต้มตามหลังคู่แข่งทางการเมืองทั้งภายในและภายนอกรัฐบาล โดยเฉพาะกับ 'เอกนัฏ พร้อมพันธุ์' รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ที่เข้มงวดกับโรงงานน้ำตาลที่รับซื้ออ้อยเผา เกินกว่าที่ภาครัฐกำหนด แม้การสั่งปิดโรงงานบางแห่งอาจไม่ได้มาจากเหตุผลเรื่องการรับซื้ออ้อยเผา แต่อย่างน้อยก็เป็นการแสดงให้เห็นว่ากระทรวงอุตสาหกรรมพร้อมบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น ทั้งๆ ที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลเกือบ 2 ปีแล้ว แต่ยังไม่มีความเด็ดขาด เรียกได้ว่ายามนี้พรรคเพื่อไทยกำลังเมาหมัดอย่างหนัก แสดงให้เห็นว่าเป็นรัฐบาลได้ แต่บริหารงานให้มีประสิทธิภาพไม่ได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะบรรดาคนเพื่อไทย ขาดความกล้าในการถอนรากถอนโคนต้นตอของปัญหาให้เด็ดขาด โดยเฉพาะการไม่กล้าประกาศเขตมลพิษ เพื่อให้เจ้าหน้าที่มีอำนาจในการดำเนินการอย่างเต็มที่ เนื่องจากไม่อยากให้กระทบต่อการท่องเที่ยว หรือแม้แต่การใช้มาตรการที่เข้มงวดกับการทำกิจกรรมทางการเกษตร พรรคเพื่อไทยเองก็ทำแบบชักเข้าชักออก เพราะการไปเข้มงวดมากเท่าไหร่ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Angry
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ประชาชน' โวมีของเพียบ พร้อมเปิดศึกซักฟอก อัดรัฐบาลไม่ตรงปก
    .
    สถานการณ์ทางการเมืองหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น คาดว่าสปอตไลท์น่าจะจับมาที่พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวมีข้อมูลเตรียมไว้ 3-4 เรื่อง กําลังปรึกษาทางพรรคว่าจะพูดเองในเรื่องใด หรือมอบหมายเรื่องใดให้คนอื่นพูด ซึ่งข้อมูลแต่ละด้าน เรารวบรวมจากข้าราชการภายในที่ส่งต่อมาให้ และจากประชาชนทั่วไป
    .
    นายณัฐชา กล่าวว่า ส่วนเนื้อหาจะเป็นเรื่องใดนั้น ภาพรวมจะมีครบทุกอย่าง เป็นการบริหารตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 รัฐบาลทําให้ประชาชนผิดหวัง ในส่วนรัฐมนตรีบางคน มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต และการใช้อํานาจหน้าที่ในทางที่ผิด
    .
    ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า นายพิธา กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน ยังไม่ตรงปกเหมือนตอนที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ตอนนั้นที่อภิปรายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดชัดเจนจนได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ตอนนี้ไม่ได้ตรงกับตอนนั้น หรือแม้กระทั่งการขึ้นเวทีดีเบตที่ช่อง 3 นางสาวแพทองธาร ก็มีการพูดเกี่ยวกับผู้นำอาเซียน ตอนนั้นก็ยังตอบได้ดี แต่พอมาบริหารจัดการเอง ก็น่าเสียดาย ที่ไม่ตรงกับการอภิปรายและหาเสียงไว้ หากทำตามที่เคยพูดไว้ก็น่าจะทุเลาลงได้
    ..............
    Sondhi X
    'ประชาชน' โวมีของเพียบ พร้อมเปิดศึกซักฟอก อัดรัฐบาลไม่ตรงปก . สถานการณ์ทางการเมืองหลังจากผ่านพ้นการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น คาดว่าสปอตไลท์น่าจะจับมาที่พรรคประชาชนในฐานะฝ่ายค้านที่เตรียมยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร โดยนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคประชาชน เปิดเผยว่า สำหรับการเตรียมความพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่า ส่วนตัวมีข้อมูลเตรียมไว้ 3-4 เรื่อง กําลังปรึกษาทางพรรคว่าจะพูดเองในเรื่องใด หรือมอบหมายเรื่องใดให้คนอื่นพูด ซึ่งข้อมูลแต่ละด้าน เรารวบรวมจากข้าราชการภายในที่ส่งต่อมาให้ และจากประชาชนทั่วไป . นายณัฐชา กล่าวว่า ส่วนเนื้อหาจะเป็นเรื่องใดนั้น ภาพรวมจะมีครบทุกอย่าง เป็นการบริหารตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน ซึ่งทั้ง 2 รัฐบาลทําให้ประชาชนผิดหวัง ในส่วนรัฐมนตรีบางคน มีเรื่องเกี่ยวกับการทุจริต และการใช้อํานาจหน้าที่ในทางที่ผิด . ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่า นายพิธา กล่าวว่า รัฐบาลชุดปัจจุบัน ยังไม่ตรงปกเหมือนตอนที่เป็นฝ่ายค้านด้วยกัน ตอนนั้นที่อภิปรายรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดชัดเจนจนได้เป็นประธานคณะกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.อากาศสะอาด แต่ตอนนี้ไม่ได้ตรงกับตอนนั้น หรือแม้กระทั่งการขึ้นเวทีดีเบตที่ช่อง 3 นางสาวแพทองธาร ก็มีการพูดเกี่ยวกับผู้นำอาเซียน ตอนนั้นก็ยังตอบได้ดี แต่พอมาบริหารจัดการเอง ก็น่าเสียดาย ที่ไม่ตรงกับการอภิปรายและหาเสียงไว้ หากทำตามที่เคยพูดไว้ก็น่าจะทุเลาลงได้ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Sad
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1063 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'นฤมล' เตรียมตั้งศูนย์ C4IR ยกระดับการเกษตรในไทย หวังเป็นโอกาสเพิ่มศักยภาพ
    .
    การเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ของตัวแทนรัฐบาลไทยในครั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่ยังมีรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจและที่เกี่ยวข้องร่วมคณะไปด้วย โดยเฉพาะ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    .
    ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล ได้ร่วมประชุมในเวที Multilateral Meeting: Centre for the Fourth Industrial Revolution (C4IR) ในประเทศไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ CEO ภาคเอกชนไทย และผู้แทนของ World Economic Forum  ถึงแนวทางในการจัดตั้งศูนย์C4IR ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการปฏิรูประบบอาหารและภาคการเกษตรเพื่อรับมือและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยี ขับเคลื่อนการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้
    .
    ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยถึงการหารือว่า ประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ C4IR เพราะถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้ภาคเกษตรมีภูมิคุ้มกันตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงอาหาร อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือของภาคเอกชนไทย และหารือในกระบวนการภายในประเทศต่อไป
    .
    “การจัดตั้งศูนย์ C4IR ที่ประเทศไทย จะเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้หน่วยงานของไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และบทเรียนที่ผ่านมาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร รวมถึงการพัฒนาภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน ร่วมกับเครือข่าย C4IR ของประเทศอื่น แน่นอนว่า ภาคการเกษตรเป็นภาคที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรไปสู่ความยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยกระดับภาคการเกษตรไทย”   ศ.ดร.นฤมล กล่าว
    .............
    Sondhi X
    'นฤมล' เตรียมตั้งศูนย์ C4IR ยกระดับการเกษตรในไทย หวังเป็นโอกาสเพิ่มศักยภาพ . การเดินทางไปร่วมประชุม World Economic Forum ประจำปี 2568 (WEF Annual Meeting 2025: WEF AM25) ของตัวแทนรัฐบาลไทยในครั้งนี้ไม่ได้มีเฉพาะนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เท่านั้น แต่ยังมีรัฐมนตรีในกระทรวงเศรษฐกิจและที่เกี่ยวข้องร่วมคณะไปด้วย โดยเฉพาะ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ . ทั้งนี้ ศ.ดร.นฤมล ได้ร่วมประชุมในเวที Multilateral Meeting: Centre for the Fourth Industrial Revolution (C4IR) ในประเทศไทย ร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ CEO ภาคเอกชนไทย และผู้แทนของ World Economic Forum  ถึงแนวทางในการจัดตั้งศูนย์C4IR ในประเทศไทยเพื่อส่งเสริมการปฏิรูประบบอาหารและภาคการเกษตรเพื่อรับมือและตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการเปลี่ยนแปลงทาง เทคโนโลยี ขับเคลื่อนการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีทางการเกษตรมาใช้ . ศ.ดร.นฤมล เปิดเผยถึงการหารือว่า ประเทศไทยยินดีให้การสนับสนุนการจัดตั้งศูนย์ C4IR เพราะถือเป็นโอกาสในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางวิชาการสมัยใหม่ การปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การปรับใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่และนวัตกรรม เพื่อส่งเสริมให้ภาคเกษตรมีภูมิคุ้มกันตลอดจนสนับสนุนให้เกิดความมั่นคงอาหาร อย่างไรก็ตาม การจัดตั้งศูนย์ฯ ต้องอาศัยความร่วมมือของภาคเอกชนไทย และหารือในกระบวนการภายในประเทศต่อไป . “การจัดตั้งศูนย์ C4IR ที่ประเทศไทย จะเป็นการเปิดโอกาสสำคัญให้หน่วยงานของไทย ทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ประสบการณ์ แนวปฏิบัติ และบทเรียนที่ผ่านมาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในภาคเกษตร รวมถึงการพัฒนาภาคการเกษตรสู่ความยั่งยืน ร่วมกับเครือข่าย C4IR ของประเทศอื่น แน่นอนว่า ภาคการเกษตรเป็นภาคที่สำคัญในการช่วยขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจประเทศ ดังนั้น การพัฒนาภาคเกษตรไปสู่ความยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศและยกระดับภาคการเกษตรไทย”   ศ.ดร.นฤมล กล่าว ............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    17
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1440 มุมมอง 0 รีวิว
  • สทร.ทักษิณ ชินวัตร เปิดทางให้อบายมุข(เหตุแห่งความฉิมหาย)ถูกกฎหมาย เพราะความไม่รู้ธรรมของตน..

    ประไทยจะพินาศฉิบหาย หากปล่อยให้เปรตมีอำนาจบริหารบ้านเมือง
    สทร.ทักษิณ ชินวัตร เปิดทางให้อบายมุข(เหตุแห่งความฉิมหาย)ถูกกฎหมาย เพราะความไม่รู้ธรรมของตน.. ประไทยจะพินาศฉิบหาย หากปล่อยให้เปรตมีอำนาจบริหารบ้านเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • กาสิโนเสร็จเมื่อไหร่ ทักษิณคงจะตุยได้อย่างสบายใจ
    นายทักษิณ ชินวัตร ทําท่าว่าชีวิตนี้จะตายตาหลับ หากเข็นเมืองไทยให้มีบ่อนถูกกฎหมาย หรือกาสิโนได้สําเร็จสมใจเสียที เป็นโครงการที่ผลักดันมาตั้งแต่ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปีมะโว้จนมาถึงตอนนี้กลับมาเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ก็ยังคงแสดงอาการงุ่นง่าน อยากผุดกาสิโนให้ได้
    ร่างกฎหมายกาสิโนถูกเขียนออกมาเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป้าทุกอย่างต้องเรียบร้อย ภายในปี 2568 แต่ว่าทักษิณก็คือทักษิณคนเดิมสนุกกับอํานาจ จนออกลูกโฉงฉางไม่ต่างจากที่เคยทําพลาดในอดีตหลายต่อหลายเรื่องร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย
    แต่จากการที่ได้อ่าน ก็พบข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนมากมายเดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้ฟัง เรื่องแรก ไม่ใช้ระบบประมูลเสนอราคาแข่งขันกันแต่ใช้ระบบออกใบอนุญาต
    การไม่ใช้ระบบประมูลเปิดช่องให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น งาบกันแบบหวานคอแร้งเพราะสามารถรับเงินใต้โต๊ะ ปิดห้องเจรจาต่อรองใครให้ผลประโยชน์ผู้มีอํานาจมากที่สุดคนนั้นก็ได้ไป ขนาดการประมูลงานราชการที่ว่าพยายามให้เกิดความโปร่งใสแล้วก็ยังมีการทุจริตล็อคสเปคกันโครมโครมมาตลอด แล้วระบบออกใบอนุญาตไม่ต้องยื่นซองประกวดราคาจากไปเหลืออะไร
    ไม่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะเปิดกาสิโนนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อเสนอ ที่ทางกรรมาธิการของสภาเคยเสนอไว้
    เมื่อนายทักษิณมองข้ามหัวประชาชนในพื้นที่ จะทําให้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนอาจเกิดแรงต้านจากประชาชนกลุ่มที่ไม่ต้องการให้มีกาสิโนผุดขึ้นในจังหวัดของเขา
    แต่ก็นั่นแหละ ทักษิณคงคิดว่า โปรเจคนี้ อยากทำมานาน ถ้าไม่ได้ทำคงตุยตาไม่หลับ ก็คงซู้ซี้ทำๆไป ให้มันเสร็จ แบบเส้นทางเป็นอย่างไรช่างแม่มัน ผลลัพท์สำเร็จก็พอ ประชาชนช่างแม่ง ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    กาสิโนเสร็จเมื่อไหร่ ทักษิณคงจะตุยได้อย่างสบายใจ นายทักษิณ ชินวัตร ทําท่าว่าชีวิตนี้จะตายตาหลับ หากเข็นเมืองไทยให้มีบ่อนถูกกฎหมาย หรือกาสิโนได้สําเร็จสมใจเสียที เป็นโครงการที่ผลักดันมาตั้งแต่ตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรีเมื่อปีมะโว้จนมาถึงตอนนี้กลับมาเป็นพ่อนายกรัฐมนตรี ก็ยังคงแสดงอาการงุ่นง่าน อยากผุดกาสิโนให้ได้ ร่างกฎหมายกาสิโนถูกเขียนออกมาเรียบร้อยแล้ว ตั้งเป้าทุกอย่างต้องเรียบร้อย ภายในปี 2568 แต่ว่าทักษิณก็คือทักษิณคนเดิมสนุกกับอํานาจ จนออกลูกโฉงฉางไม่ต่างจากที่เคยทําพลาดในอดีตหลายต่อหลายเรื่องร่างพระราชบัญญัติธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร ซึ่งมีกาสิโนรวมอยู่ด้วย แต่จากการที่ได้อ่าน ก็พบข้อบกพร่องหรือจุดอ่อนมากมายเดี๋ยวจะยกตัวอย่างให้ฟัง เรื่องแรก ไม่ใช้ระบบประมูลเสนอราคาแข่งขันกันแต่ใช้ระบบออกใบอนุญาต การไม่ใช้ระบบประมูลเปิดช่องให้เกิดการทุจริตคอรัปชั่น งาบกันแบบหวานคอแร้งเพราะสามารถรับเงินใต้โต๊ะ ปิดห้องเจรจาต่อรองใครให้ผลประโยชน์ผู้มีอํานาจมากที่สุดคนนั้นก็ได้ไป ขนาดการประมูลงานราชการที่ว่าพยายามให้เกิดความโปร่งใสแล้วก็ยังมีการทุจริตล็อคสเปคกันโครมโครมมาตลอด แล้วระบบออกใบอนุญาตไม่ต้องยื่นซองประกวดราคาจากไปเหลืออะไร ไม่มีการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นประชาชนในพื้นที่ซึ่งจะเปิดกาสิโนนี่ก็เป็นอีกหนึ่งข้อเสนอ ที่ทางกรรมาธิการของสภาเคยเสนอไว้ เมื่อนายทักษิณมองข้ามหัวประชาชนในพื้นที่ จะทําให้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนอาจเกิดแรงต้านจากประชาชนกลุ่มที่ไม่ต้องการให้มีกาสิโนผุดขึ้นในจังหวัดของเขา แต่ก็นั่นแหละ ทักษิณคงคิดว่า โปรเจคนี้ อยากทำมานาน ถ้าไม่ได้ทำคงตุยตาไม่หลับ ก็คงซู้ซี้ทำๆไป ให้มันเสร็จ แบบเส้นทางเป็นอย่างไรช่างแม่มัน ผลลัพท์สำเร็จก็พอ ประชาชนช่างแม่ง ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชี้ช่องจบปัญหา 'อัลไพน์' กฤษฎีกา เสนอสองทาง 'งบเยียวยา-ออกกฎหมาย'
    .
    กรณีพิพาทที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เหมือนจบแต่ไม่จบ เพราะด้านหนึ่งถูกโฟกัสไปในเรื่องทางการเมืองที่ว่าด้วยการเอาคืนพรรคเพื่อไทยของพรรคภูมิใจไทยในฐานะเจ้ากระทรวงมหาดไทย แต่ในแง่มุมของกฎหมายนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญที่กำลังรอการดำเนินการว่าครอบครัวชินวัตรในฐานะเจ้าของที่ดินจะต้องดำเนินการอย่างไร
    .
    นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า มีแนวคำวินิจฉัยการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ของคณะกรรมการกฤษฎีกามาตั้งแต่ปี 2544 และหลักของคำวินิจฉัย คือ ที่ดินที่ได้มาโดยมรดกต้องทำเป็นไปตามที่เจ้าของมรดกกำหนด เมื่อต้องการให้ตกแก่วัดก็ต้องตกแก่วัด ซึ่งการเพิกถอนที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้ไปถามจากกระทรวงมหาดไทยว่าจะหาทางแก้ไขเยียวยาให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งต้องไปว่ากันอีกรอบหนึ่ง
    .
    "ต้องตรวจสอบว่ามีการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอะไรหรือไม่ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องเสียเงินชดเชยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ได้มาโดยสุจริต ต้องไปดูว่าคำสั่งทางปกครองออกมาและถูกยกเลิกไปนั้นชอบหรือไม่ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ"
    .
    นายปกรณ์ ยอมรับว่า งบประมาณที่จะนำมาเยียวยานั้นส่วนตัวไม่ทราบว่าจะต้องนำเงินมาจากส่วนใด แต่หากจำเป็นจะต้องแก้ไขเยียวยาก็สามารถของบประมาณจากรัฐบาลได้ ซึ่งงบปกติน่าจะไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งงบไว้ และไม่มีใครคิดว่าจะเกิด จึงต้องหารือกับสำนักงบประมาณว่ามีแหล่งเงินจากที่ใดบ้าง อย่างไรก็ตาม คิดว่ามีหลายวิธีที่จะแก้ไข ซึ่งต้องรอ รมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมที่ดิน มาแนะนำว่าจะหาทางแก้อย่างไร
    .
    นายปกรณ์ ส่วนประเด็นปัญหาด้านกฎหมายมีเพียงว่า ถ้าคำสั่งทางปกครองไม่ชอบก็เพิกถอนเสีย และหากเพิกถอนคำสั่งทางปกครองไปแล้ว และมีผลกระทบต่อบุคคลที่สุจริตก็ต้องเยียวยากันในทางกฎหมายมีเพียงแค่นั้น ส่วนในทางบริหารก็ไปว่ากัน
    .
    สำหรับข้อเสนอที่ว่าให้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนเป็นที่ดินเอกชนนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า การโอนที่ดินซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ต้องตามเป็นตามกฏหมายอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยว่าจะพิจารณาว่าทางใดเหมาะสมหรือสมควร ควรรอถาม รมว.มหาดไทยจะเหมาะสมกว่า
    .............
    Sondhi X
    ชี้ช่องจบปัญหา 'อัลไพน์' กฤษฎีกา เสนอสองทาง 'งบเยียวยา-ออกกฎหมาย' . กรณีพิพาทที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่เหมือนจบแต่ไม่จบ เพราะด้านหนึ่งถูกโฟกัสไปในเรื่องทางการเมืองที่ว่าด้วยการเอาคืนพรรคเพื่อไทยของพรรคภูมิใจไทยในฐานะเจ้ากระทรวงมหาดไทย แต่ในแง่มุมของกฎหมายนั้นเป็นประเด็นที่สำคัญที่กำลังรอการดำเนินการว่าครอบครัวชินวัตรในฐานะเจ้าของที่ดินจะต้องดำเนินการอย่างไร . นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ระบุว่า มีแนวคำวินิจฉัยการเพิกถอนที่ดินอัลไพน์ของคณะกรรมการกฤษฎีกามาตั้งแต่ปี 2544 และหลักของคำวินิจฉัย คือ ที่ดินที่ได้มาโดยมรดกต้องทำเป็นไปตามที่เจ้าของมรดกกำหนด เมื่อต้องการให้ตกแก่วัดก็ต้องตกแก่วัด ซึ่งการเพิกถอนที่ดินให้เป็นที่ธรณีสงฆ์เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย ส่วนขั้นตอนหลังจากนี้ขอให้ไปถามจากกระทรวงมหาดไทยว่าจะหาทางแก้ไขเยียวยาให้กับประชาชนที่เกี่ยวข้องหรือผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างไร ซึ่งต้องไปว่ากันอีกรอบหนึ่ง . "ต้องตรวจสอบว่ามีการจงใจหรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงอะไรหรือไม่ เพราะว่าจริง ๆ แล้ว เราต้องเสียเงินชดเชยให้กับผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้ได้มาโดยสุจริต ต้องไปดูว่าคำสั่งทางปกครองออกมาและถูกยกเลิกไปนั้นชอบหรือไม่ และประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งผู้เกี่ยวข้องเป็นผู้รับผิดชอบ" . นายปกรณ์ ยอมรับว่า งบประมาณที่จะนำมาเยียวยานั้นส่วนตัวไม่ทราบว่าจะต้องนำเงินมาจากส่วนใด แต่หากจำเป็นจะต้องแก้ไขเยียวยาก็สามารถของบประมาณจากรัฐบาลได้ ซึ่งงบปกติน่าจะไม่มี เพราะเป็นเรื่องที่ไม่ได้ตั้งงบไว้ และไม่มีใครคิดว่าจะเกิด จึงต้องหารือกับสำนักงบประมาณว่ามีแหล่งเงินจากที่ใดบ้าง อย่างไรก็ตาม คิดว่ามีหลายวิธีที่จะแก้ไข ซึ่งต้องรอ รมว.มหาดไทย และอธิบดีกรมที่ดิน มาแนะนำว่าจะหาทางแก้อย่างไร . นายปกรณ์ ส่วนประเด็นปัญหาด้านกฎหมายมีเพียงว่า ถ้าคำสั่งทางปกครองไม่ชอบก็เพิกถอนเสีย และหากเพิกถอนคำสั่งทางปกครองไปแล้ว และมีผลกระทบต่อบุคคลที่สุจริตก็ต้องเยียวยากันในทางกฎหมายมีเพียงแค่นั้น ส่วนในทางบริหารก็ไปว่ากัน . สำหรับข้อเสนอที่ว่าให้ออกเป็นพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โอนเป็นที่ดินเอกชนนั้น นายปกรณ์ กล่าวว่า การโอนที่ดินซึ่งเป็นที่ธรณีสงฆ์ต้องตามเป็นตามกฏหมายอยู่แล้ว ไม่ได้มีอะไร ซึ่งก็แล้วแต่รัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยว่าจะพิจารณาว่าทางใดเหมาะสมหรือสมควร ควรรอถาม รมว.มหาดไทยจะเหมาะสมกว่า ............. Sondhi X
    Like
    Love
    Haha
    12
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1371 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกฯ เผย อาหารไทยเป็นที่ต้องการของโลก ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ดาวอส เมืองเล็กๆของสวิสยังมีขาย ชี้เป็นโอกาสของไทย รัฐพร้อมส่งเสริม ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้ทั่วโลกได้ลิ้มรส

    วันนี้ (21 ม.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า มีโอกาสมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตกับทีมไทยแลนด์ เพื่อสำรวจตลาดและมองหาโอกาสของสินค้าไทยในตลาดสวิสเซอร์แลนด์ เจอผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารไทยสำเร็จรูป ซึ่งแปลว่าอาหารไทยได้รับความนิยมในต่างประเทศจริงๆ

    ดาวอสเป็นเมืองเล็กๆ ที่ห่างจากซูริก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ในเมืองนี้ก็ยังมีวัตถุดิบอาหารไทยขายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต แปลว่าในเมืองนี้มีความต้องการบริโภคอาหารไทยอยู่จริง นี่คือโอกาสใหญ่ของประเทศไทย รัฐบาลจะส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับอาหาร เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยและเป็นรสชาติไทยแท้ๆ ให้ทั่วโลกได้ลิ้มรสมากขึ้นค่ะ

    และผลิตภัณฑ์ที่ดิฉันหยิบขึ้นมานี้คือ น้ำแกงพร้อมปรุงจาก Blue Elephant ร้านอาหารไทยยุคแรกๆ ที่บุกเบิกอาหารไทยไปให้นานาชาติทั่วโลกได้รู้จักกัน

    #MGROnline #อาหารไทย
    นายกฯ เผย อาหารไทยเป็นที่ต้องการของโลก ในซูเปอร์มาร์เก็ตที่ดาวอส เมืองเล็กๆของสวิสยังมีขาย ชี้เป็นโอกาสของไทย รัฐพร้อมส่งเสริม ส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยให้ทั่วโลกได้ลิ้มรส • วันนี้ (21 ม.ค.) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความระบุว่า มีโอกาสมาเดินซูเปอร์มาร์เก็ตกับทีมไทยแลนด์ เพื่อสำรวจตลาดและมองหาโอกาสของสินค้าไทยในตลาดสวิสเซอร์แลนด์ เจอผลิตภัณฑ์ประกอบอาหารไทยสำเร็จรูป ซึ่งแปลว่าอาหารไทยได้รับความนิยมในต่างประเทศจริงๆ • ดาวอสเป็นเมืองเล็กๆ ที่ห่างจากซูริก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่ประมาณ 2 ชั่วโมง แต่ในเมืองนี้ก็ยังมีวัตถุดิบอาหารไทยขายอยู่ในซูเปอร์มาร์เก็ต แปลว่าในเมืองนี้มีความต้องการบริโภคอาหารไทยอยู่จริง นี่คือโอกาสใหญ่ของประเทศไทย รัฐบาลจะส่งเสริมการพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับอาหาร เพื่อส่งออกผลิตภัณฑ์อาหารไทยและเป็นรสชาติไทยแท้ๆ ให้ทั่วโลกได้ลิ้มรสมากขึ้นค่ะ • และผลิตภัณฑ์ที่ดิฉันหยิบขึ้นมานี้คือ น้ำแกงพร้อมปรุงจาก Blue Elephant ร้านอาหารไทยยุคแรกๆ ที่บุกเบิกอาหารไทยไปให้นานาชาติทั่วโลกได้รู้จักกัน • #MGROnline #อาหารไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฉายาประจำตัวของทุกคนในเรื่องการเมืองในประเทศไทยที่ผมแต่งขึ้นเอง(ชายซัดชาย+หญิงตบหญิง)
    มาดูกันว่าจะมีใครบ้างที่จะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับฉายาติดประจำตัวไปกันนะครับ ผมรับรองว่างานนี้มันส์แน่ๆ ขนมากันเป็นคู่ดาราชายหญิงกันเลยทีเดียว และผมก็ได้เปรียบเทียบแต่ละคนแบบเอาให้เห็นกันจะๆกันเลยนะครับ มาเริ่มกันเลยไม่ต้องลีลา
    สีแดง
    ไอ้หน้าเหลี่ยม ฉายา โคตรโกง โกงทั้งโคตร(ทักษิณ ชินวัตร)
    อี๊ปูแดง ฉายา นกแก้วพกโพย แต่โง่(ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร)
    สีฟ้า
    ไอ้หน้าหล่อ ฉายา กินไม่ได้ แถมชั่ว(อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ)
    อี๊ปองฟ้า ฉายา ปากจัดหนัก มัดปากโวย(อัญชลี ไพรีรักษ์)
    สีเหลือง
    ลุงตั๊บ ฉายา เจ๊กกู้ชาติ กล้าท้าชน(สนธิ ลิ้มทองกุล)
    เจ๊แหม่ม ฉายา เหลืองสวย แต่ไม่โง่(นราวดี อินต๊ะวงค์)
    ของแถมท้ายผมเอง ฉายา แดนบ้ามืด ยิ่งดับยิ่งดิ้น(ไกรวิทย์ จรัสไพรัตน์)
    ฉายาประจำตัวของทุกคนในเรื่องการเมืองในประเทศไทยที่ผมแต่งขึ้นเอง(ชายซัดชาย+หญิงตบหญิง) มาดูกันว่าจะมีใครบ้างที่จะเป็นผู้โชคดีที่ได้รับฉายาติดประจำตัวไปกันนะครับ ผมรับรองว่างานนี้มันส์แน่ๆ ขนมากันเป็นคู่ดาราชายหญิงกันเลยทีเดียว และผมก็ได้เปรียบเทียบแต่ละคนแบบเอาให้เห็นกันจะๆกันเลยนะครับ มาเริ่มกันเลยไม่ต้องลีลา สีแดง ไอ้หน้าเหลี่ยม ฉายา โคตรโกง โกงทั้งโคตร(ทักษิณ ชินวัตร) อี๊ปูแดง ฉายา นกแก้วพกโพย แต่โง่(ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) สีฟ้า ไอ้หน้าหล่อ ฉายา กินไม่ได้ แถมชั่ว(อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) อี๊ปองฟ้า ฉายา ปากจัดหนัก มัดปากโวย(อัญชลี ไพรีรักษ์) สีเหลือง ลุงตั๊บ ฉายา เจ๊กกู้ชาติ กล้าท้าชน(สนธิ ลิ้มทองกุล) เจ๊แหม่ม ฉายา เหลืองสวย แต่ไม่โง่(นราวดี อินต๊ะวงค์) ของแถมท้ายผมเอง ฉายา แดนบ้ามืด ยิ่งดับยิ่งดิ้น(ไกรวิทย์ จรัสไพรัตน์)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สนธิญา" ร้อง กกต.สอบปม “ทักษิณ” จ้อหาเสียงเลือก อบจ.แดนอีสาน อ้างสถาบัน - สัญญาให้ 20 ล้าน ส่งเด็กไทยโกอินเตอร์ ขัดกฎหมาย ย้ำ ข้อมูลมัดแน่น หากเอาผิดไม่ได้ ควรฉีกทิ้งกฎระเบียบ ยุบกกต. พร้อมจี้สอบ นายกอบจ.นครศรีธรรมราชไขก๊อกก่อนหมดวาระ ทำสูญงบกว่า 140 ล้านบาท จัดเลือกตั้ง 2 รอบสร้างความเสียหายหน่วยงานรัฐขาดงบ กระทบบริการประชาชน

    วันนี้(21 ม.ค. ) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบและวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกองค์ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 2 กรณี กรณีแรกเป็นการลาออกก่อนครบวาระของนายกอบจ.นครศรีธรรมราช และกรณีที่สองเป็นการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง มีการอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และสัญญาว่าจะให้เงิน 20 ล้านบาท ต่อนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้สำหรับนำเด็กไทยไปเป็นนางแบบโลก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000006414

    #MGROnline #สนธิญา #ทักษิณ
    "สนธิญา" ร้อง กกต.สอบปม “ทักษิณ” จ้อหาเสียงเลือก อบจ.แดนอีสาน อ้างสถาบัน - สัญญาให้ 20 ล้าน ส่งเด็กไทยโกอินเตอร์ ขัดกฎหมาย ย้ำ ข้อมูลมัดแน่น หากเอาผิดไม่ได้ ควรฉีกทิ้งกฎระเบียบ ยุบกกต. พร้อมจี้สอบ นายกอบจ.นครศรีธรรมราชไขก๊อกก่อนหมดวาระ ทำสูญงบกว่า 140 ล้านบาท จัดเลือกตั้ง 2 รอบสร้างความเสียหายหน่วยงานรัฐขาดงบ กระทบบริการประชาชน • วันนี้(21 ม.ค. ) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง เข้ายื่นคำร้องต่อกกต.ขอให้ตรวจสอบและวินิจฉัยเกี่ยวกับการเลือกสมาชิกองค์ และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 2 กรณี กรณีแรกเป็นการลาออกก่อนครบวาระของนายกอบจ.นครศรีธรรมราช และกรณีที่สองเป็นการปราศรัยหาเสียงของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ช่วยหาเสียง มีการอ้างสถาบันพระมหากษัตริย์ และสัญญาว่าจะให้เงิน 20 ล้านบาท ต่อนพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ปรึกษาด้านนโยบายของนายกรัฐมนตรี เพื่อใช้สำหรับนำเด็กไทยไปเป็นนางแบบโลก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000006414 • #MGROnline #สนธิญา #ทักษิณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • อมนครวัดมาพูดก็คงไม่เชื่อ อ้างคดีลิม กิมยา เป็นเรื่องส่วนตัว
    นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชากำลังดาหน้าออกมาโวยในลักษณะฟ้องโลก ประมาณว่าตำรวจไทยกำลังเป่าคดี เหตุเกิดจาก บิ๊กต่ายไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ว่าปมส่วนตัวที่ว่านั้นมันคืออะไร ยังไง เท่านั้นเอง
    ในกรณีเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า จะกี่ยุคกี่สมัย ผบ.ตร.ที่ถูกกำกับดูแลโดยนักการเมือง ก็ไม่สามารถมีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในสถานการณ์แบบบิ๊กต่าย คงต้องยอมเสียรังวัด ดีกว่าเสี่ยงจะเสียเก้าอี้
    โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ไทย มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนานกับสมเด็จฯ ฮุนเซน พ่อนายกฯ กัมพูชา มีไมตรีเกื้อหนุนกัน จนคนสงสัย “ทักษิณ-ฮุนเซน” จะแยกแยะได้หรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติ
    คำพูดของบิ๊กต่าย ที่ว่าคดีนี้ฆ่ากันด้วยเรื่องส่วนตัว เลยยิ่งฟังไม่มีน้ำหนัก เหมือนว่าตำรวจไทยโดนใบสั่งให้รีบสรุปรวบรัดให้มันจบๆ
    และในเรื่องนี้หมากตัวสำคัญก็คือ คนชี้เป้า ซึ่งนั่งรถบัสตามประกบนายลิม กิมยา จากฝั่งเขมรมาถึงใจกลางกรุง คนชี้เป้าที่แท้เป็นน้องชายของนักการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบัน อาศัยในกรุงพนมเปญ แต่รายนี้ตำรวจไทยและกัมพูชาไม่สามารถตามจับตัวได้
    กลายเป็น “ขอมดำดิน” จนบัดนี้ โดยตำรวจกัมพูชา คลำไม่เจอตัวซะแล้ว ไม่เหมือนตอนตะครุบตัวจ่าเอ็มที่จับได้อย่างไว ขบวนการสังหาร จึงมีคนที่รู้จักนายลิม กิมยา เพียงคนเดียว คือคนชี้เป้า น้องชายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล
    ส่วนจ่าเอ็ม ก็ไม่รู้ว่าเป้าสังหารของตนเป็นใคร รอให้คนชี้เป้าส่งสัญญาณอย่างเดียว ให้ยิงใครก็ยิง ขบวนการใหญ่แบบนี้ หากใครจะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเลือด ต้อง “อมนครวัด” มาพูดกันเลยทีเดียว หากจะให้คนเชื่อ
    ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    อมนครวัดมาพูดก็คงไม่เชื่อ อ้างคดีลิม กิมยา เป็นเรื่องส่วนตัว นักการเมืองฝ่ายค้านของกัมพูชากำลังดาหน้าออกมาโวยในลักษณะฟ้องโลก ประมาณว่าตำรวจไทยกำลังเป่าคดี เหตุเกิดจาก บิ๊กต่ายไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ ว่าปมส่วนตัวที่ว่านั้นมันคืออะไร ยังไง เท่านั้นเอง ในกรณีเช่นนี้ต้องเข้าใจว่า จะกี่ยุคกี่สมัย ผบ.ตร.ที่ถูกกำกับดูแลโดยนักการเมือง ก็ไม่สามารถมีอิสระในการทำงานได้เต็มที่ ไม่ว่าใครก็ตาม หากอยู่ในสถานการณ์แบบบิ๊กต่าย คงต้องยอมเสียรังวัด ดีกว่าเสี่ยงจะเสียเก้าอี้ โดยเฉพาะเมื่อนายทักษิณ ชินวัตร พ่อนายกฯ ไทย มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นยาวนานกับสมเด็จฯ ฮุนเซน พ่อนายกฯ กัมพูชา มีไมตรีเกื้อหนุนกัน จนคนสงสัย “ทักษิณ-ฮุนเซน” จะแยกแยะได้หรือไม่ระหว่างผลประโยชน์ส่วนตัวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติ คำพูดของบิ๊กต่าย ที่ว่าคดีนี้ฆ่ากันด้วยเรื่องส่วนตัว เลยยิ่งฟังไม่มีน้ำหนัก เหมือนว่าตำรวจไทยโดนใบสั่งให้รีบสรุปรวบรัดให้มันจบๆ และในเรื่องนี้หมากตัวสำคัญก็คือ คนชี้เป้า ซึ่งนั่งรถบัสตามประกบนายลิม กิมยา จากฝั่งเขมรมาถึงใจกลางกรุง คนชี้เป้าที่แท้เป็นน้องชายของนักการเมืองซีกรัฐบาลในปัจจุบัน อาศัยในกรุงพนมเปญ แต่รายนี้ตำรวจไทยและกัมพูชาไม่สามารถตามจับตัวได้ กลายเป็น “ขอมดำดิน” จนบัดนี้ โดยตำรวจกัมพูชา คลำไม่เจอตัวซะแล้ว ไม่เหมือนตอนตะครุบตัวจ่าเอ็มที่จับได้อย่างไว ขบวนการสังหาร จึงมีคนที่รู้จักนายลิม กิมยา เพียงคนเดียว คือคนชี้เป้า น้องชายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาล ส่วนจ่าเอ็ม ก็ไม่รู้ว่าเป้าสังหารของตนเป็นใคร รอให้คนชี้เป้าส่งสัญญาณอย่างเดียว ให้ยิงใครก็ยิง ขบวนการใหญ่แบบนี้ หากใครจะนั่งยันนอนยันว่าไม่ใช่เรื่องการเมืองเลือด ต้อง “อมนครวัด” มาพูดกันเลยทีเดียว หากจะให้คนเชื่อ ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 192 มุมมอง 0 รีวิว
  • เผยหลักฐานในอดีต ทักษิณและครอบครัวไม่ได้มีทรัพย์สิน 60,000 ล้านตามที่โม้ไว้ แต่ทั้งครอบครัวมีแค่ 21,069 ล้าน บุญยอด สุขถิ่นไทย ระบุเคยโฟนอินโกหกคนเสื้อแดงมาแล้ว ยังโกหกซ้ำบนเวทีหาเสียง อบจ.อีก

    วันนี้ (21 ม.ค.) กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดมหาสารคามเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า โกงพ่อมึงสิ ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้งๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม้มีเงิน 700 บาท กับลำไพ่วันละ 300 บาทก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุขคือการทำให้บ้านเมือง และพี่น้องพ้นทุกข์

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000006330

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #เวทีปราศรัย #จังหวัดมหาสารคาม #โกงพ่อมึงสิ #ทรัพย์สิน
    เผยหลักฐานในอดีต ทักษิณและครอบครัวไม่ได้มีทรัพย์สิน 60,000 ล้านตามที่โม้ไว้ แต่ทั้งครอบครัวมีแค่ 21,069 ล้าน บุญยอด สุขถิ่นไทย ระบุเคยโฟนอินโกหกคนเสื้อแดงมาแล้ว ยังโกหกซ้ำบนเวทีหาเสียง อบจ.อีก • วันนี้ (21 ม.ค.) กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวบนเวทีปราศรัยที่จังหวัดมหาสารคามเมื่อวานนี้ (20 ม.ค.) ว่า โกงพ่อมึงสิ ผมเข้ามาการเมืองเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ตอนนั้นประกาศทรัพย์สินทั้งที่ ป.ป.ช.ไม่บังคับ ผมประกาศมีทรัพย์สินกว่า 60,000 ล้าน เพราะทำธุรกิจมา สร้างเนื้อสร้างตัวมา วันนี้โดนยึดไป 46,000 ล้าน ยังไม่ร้องสักคำเลย ทั้งๆ ที่เป็นเงินที่ทำมาหากินแท้ๆ คำก็โกง สองคำก็โกง ก็มึงตั้งคณะกรรมการเฮงซวยมาสอบกู ตอนที่กูรวย มึงยังเพิ่งขอตังค์พ่อใช้อยู่เลย วันนี้ผมไม่เดือดร้อน แม้มีเงิน 700 บาท กับลำไพ่วันละ 300 บาทก็ไม่เดือดร้อน เพราะความสุขคือการทำให้บ้านเมือง และพี่น้องพ้นทุกข์ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000006330 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร #อดีตนายกรัฐมนตรี #เวทีปราศรัย #จังหวัดมหาสารคาม #โกงพ่อมึงสิ #ทรัพย์สิน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 297 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายจ้างสวนกลับ 'ทักษิณ' ขึ้นค่าแรงใจไม่แคบ แต่ภาครัฐไร้เยียวยา
    .
    การปราศรัยหาเสียงของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะพูดในเรื่องใดก็ล้วนแต่เป็นประเด็นแทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่เรื่องประเด็นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นจังหวัดหนองคายได้พูดถึงปัญหาการขึ้นค่าแรงตอนหนึ่งว่า “ค่าแรงขอขึ้นไปแล้ว แต่มีคนขวางอยู่ คนพวกนี้ไม่รู้หัวใจทำด้วยอะไร ชอบจ้างคนค่าแรงถูก นายจ้างเฮงซวย แบบนี้ไม่น่ารัก นายจ้างต้องใจกว้างกับลูกจ้าง ลูกจ้างจะได้ทุ่มเททำงาน” ซึ่งจากประเด็นนี้เองทำให้ฝ่ายเอกชนออกมาตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ
    .
    นายอรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (บอร์ดค่าจ้าง) ฝ่ายนายจ้าง อธิบายว่า ฝ่ายนายจ้างไม่ได้ขัดขวางการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแต่อย่างใด แต่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศในบางอาชีพหรือบางกิจการนั้น ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด
    .
    “ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายนายจ้างใจกว้าง หรือใจแคบ ถ้าหากพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย ตัวเลขอาจจะไม่ถึง 400 บาทอยู่แล้ว แต่เราก็ยังให้มีการปรับขึ้นถึง 400 บาทไปในหลายๆจังหวัด แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า ใจแคบอยู่อีกหรือ ทางฝ่ายนายจ้างก็ให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำมาโดยตลอดทุกปี ไม่เคยไม่ให้ปรับ แต่ว่าต้องปรับตามเกณฑ์และสูตรที่กฎหมาย คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 กำหนดเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการปรับตามอำเภอใจ” นายอรรถยุทธ กล่าว
    .
    นายอรรถยุทธ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมาตรการที่ช่วยเหลือนายจ้างสถานประกอบการ จะต้องทวงถามไปถึงฝ่ายรัฐบาล แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นรายละเอียดมาตรการการช่วยเหลือนายจ้างออกมา โดยนายจ้างที่อยู่ในจังหวัดที่มีกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง
    .
    นางสาวศุภานัน ปลอดเหตุ กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ยืนยันว่า ฝ่ายนายจ้างได้มองถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ของคนไทย โดยการประชุมพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้ง มีหน่วยงานหลายส่วนหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นการพิจารณาข้อมูลตัวเลขตามความเหมาะสมและตามกฎหมาย
    .
    “ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้น เราทำเพื่อลูกจ้างและประเทศชาติให้อยู่ได้ ไม่ได้ทำเพื่อนายจ้างฝ่ายเดียว ยังยืนยันว่าฝ่ายนายจ้างไม่ได้มีการขัดขวางแต่อย่างใด ทุกคนสนับสนุนให้ปรับตามสภาพเศรษฐกิจที่เป็นจริง ไม่ใช่ปรับค่าจ้างให้ตัวเลขสูง ลูกจ้างอยู่ได้ชั่วคราว นายจ้างอาจจะต้องปรับตัวหาวิธีการจ้างงานแบบใหม่ๆ หรืออาจจะไม่ใช้กำลังคนเป็นแรงงาน แล้วแรงงานจะอยู่อย่างไร” นางสาวศุภานัน กล่าว
    ..............
    Sondhi X
    นายจ้างสวนกลับ 'ทักษิณ' ขึ้นค่าแรงใจไม่แคบ แต่ภาครัฐไร้เยียวยา . การปราศรัยหาเสียงของ 'ทักษิณ ชินวัตร' อดีตนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะพูดในเรื่องใดก็ล้วนแต่เป็นประเด็นแทบทั้งสิ้น ไม่เว้นแม้แต่เรื่องประเด็นเศรษฐกิจ โดยก่อนหน้านี้ระหว่างหาเสียงเลือกตั้งท้องถิ่นจังหวัดหนองคายได้พูดถึงปัญหาการขึ้นค่าแรงตอนหนึ่งว่า “ค่าแรงขอขึ้นไปแล้ว แต่มีคนขวางอยู่ คนพวกนี้ไม่รู้หัวใจทำด้วยอะไร ชอบจ้างคนค่าแรงถูก นายจ้างเฮงซวย แบบนี้ไม่น่ารัก นายจ้างต้องใจกว้างกับลูกจ้าง ลูกจ้างจะได้ทุ่มเททำงาน” ซึ่งจากประเด็นนี้เองทำให้ฝ่ายเอกชนออกมาตอบโต้ด้วยข้อเท็จจริงที่น่าสนใจ . นายอรรถยุทธ ลียะวณิช กรรมการค่าจ้างชุดที่ 22 (บอร์ดค่าจ้าง) ฝ่ายนายจ้าง อธิบายว่า ฝ่ายนายจ้างไม่ได้ขัดขวางการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำแต่อย่างใด แต่การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศในบางอาชีพหรือบางกิจการนั้น ต้องพิจารณาตามความเหมาะสม และหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด . “ไม่ได้เกี่ยวกับฝ่ายนายจ้างใจกว้าง หรือใจแคบ ถ้าหากพิจารณาขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำตามกฎหมาย ตัวเลขอาจจะไม่ถึง 400 บาทอยู่แล้ว แต่เราก็ยังให้มีการปรับขึ้นถึง 400 บาทไปในหลายๆจังหวัด แล้วอย่างนี้จะเรียกว่า ใจแคบอยู่อีกหรือ ทางฝ่ายนายจ้างก็ให้มีการปรับค่าจ้างขั้นต่ำมาโดยตลอดทุกปี ไม่เคยไม่ให้ปรับ แต่ว่าต้องปรับตามเกณฑ์และสูตรที่กฎหมาย คือ พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 กำหนดเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการปรับตามอำเภอใจ” นายอรรถยุทธ กล่าว . นายอรรถยุทธ กล่าวต่อไปว่า ในส่วนของมาตรการที่ช่วยเหลือนายจ้างสถานประกอบการ จะต้องทวงถามไปถึงฝ่ายรัฐบาล แต่เบื้องต้นยังไม่เห็นรายละเอียดมาตรการการช่วยเหลือนายจ้างออกมา โดยนายจ้างที่อยู่ในจังหวัดที่มีกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท ใน 4 จังหวัด และ 1 อำเภอ ได้แก่ ภูเก็ต ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง และอ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ก็อาจจะได้รับผลกระทบบ้าง . นางสาวศุภานัน ปลอดเหตุ กรรมการค่าจ้าง ฝ่ายนายจ้าง ยืนยันว่า ฝ่ายนายจ้างได้มองถึงภาพรวมภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และความเป็นอยู่ของคนไทย โดยการประชุมพิจารณาการปรับค่าจ้างขั้นต่ำแต่ละครั้ง มีหน่วยงานหลายส่วนหารือกัน ไม่ว่าจะเป็นผู้แทนจากกระทรวงการคลัง ผู้แทนสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นการพิจารณาข้อมูลตัวเลขตามความเหมาะสมและตามกฎหมาย . “ทุกอย่างมีการเปลี่ยนแปลงตามสภาวะเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจริง ณ ขณะนั้น เราทำเพื่อลูกจ้างและประเทศชาติให้อยู่ได้ ไม่ได้ทำเพื่อนายจ้างฝ่ายเดียว ยังยืนยันว่าฝ่ายนายจ้างไม่ได้มีการขัดขวางแต่อย่างใด ทุกคนสนับสนุนให้ปรับตามสภาพเศรษฐกิจที่เป็นจริง ไม่ใช่ปรับค่าจ้างให้ตัวเลขสูง ลูกจ้างอยู่ได้ชั่วคราว นายจ้างอาจจะต้องปรับตัวหาวิธีการจ้างงานแบบใหม่ๆ หรืออาจจะไม่ใช้กำลังคนเป็นแรงงาน แล้วแรงงานจะอยู่อย่างไร” นางสาวศุภานัน กล่าว .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 968 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ทักษิณ" ระทึก มือดีปาขวดน้ำกลางเวทีมหาสารคาม อ้างโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ
    .
    อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เจอมือดีปาขวดน้ำระหว่างการปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม เจ้าตัวเปรยคนไทยต้องให้อภัยกัน เคยโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ
    .
    วันนี้ (20 ม.ค.) ในระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยช่วยนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร น้องชายนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ หาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ปรากฎว่ามีบุคคลนิรนามโยนขวดน้ำขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความตกใจของผู้คนบนเวที แต่ก็มีเสียงเฮตามมา
    .
    ก่อนที่นายทักษิณจะปราศรัยต่อว่า ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ วันนี้คนไทยเราต้องให้อภัยกัน บางทีบางคนก็เก็บกด ไม่มีปัญหา คนเราบางทีมีปัญหาหนี้สินบ้าง บางทีมีปัญหาครอบครัวบ้าง บางทีมีปัญหาทางจิตบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา เราคนไทยด้วยกัน ให้อภัยและพร้อมที่จะดูแลซึ่งกันและกัน ไม่เป็นไร
    .
    "พออายุมากๆ เกิน 70 ไปแล้ว มีคาถาประจำใจ ผมเดินไปไหนคาถาบอกว่า เย็นไว้โยม เย็นอย่างเดียว เย็นไว้โยม ใจเย็นๆ ผมโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ เพราะถึงเวลาก็ไปตามเวลา ไม่ถึงเวลามันก็ไม่ไปตามเวลา ผมโดนลอบฆ่าตอนเป็นนายกฯ 4 หน คนถามว่าผมใส่พระอะไร ผมบอกหลวงพ่อหนังวัดโกยแนบ เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ไม่เป็นไร เรามาเอาเรื่องชีวิตเราดีกว่า" นายทักษิณ กล่าว
    .
    ในตอนท้ายนายทักษิณกล่าวขอบคุณคนที่มาฟังการปราศรัย แม้อากาศร้อนแต่ก็ยังอยู่กันเหนียวแน่น พร้อมขอโทษคนที่ปาขวดน้ำ ไม่รู้เพราะอะไร ช่างมันเถอะ เสียบรรยากาศไปนิดหน่อยแต่ขอโทษแทนแล้วกัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006068
    .........
    Sondhi X
    "ทักษิณ" ระทึก มือดีปาขวดน้ำกลางเวทีมหาสารคาม อ้างโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ . อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร เจอมือดีปาขวดน้ำระหว่างการปราศรัยหาเสียงช่วยผู้สมัครนายก อบจ.มหาสารคาม เจ้าตัวเปรยคนไทยต้องให้อภัยกัน เคยโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ . วันนี้ (20 ม.ค.) ในระหว่างที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยช่วยนายพลพัฒน์ จรัสเสถียร น้องชายนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์ หาเสียงเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม ที่ศูนย์ประสานงานพรรคเพื่อไทย อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม ปรากฎว่ามีบุคคลนิรนามโยนขวดน้ำขึ้นไปบนเวที ท่ามกลางความตกใจของผู้คนบนเวที แต่ก็มีเสียงเฮตามมา . ก่อนที่นายทักษิณจะปราศรัยต่อว่า ไม่เป็นไร ใจเย็นๆ วันนี้คนไทยเราต้องให้อภัยกัน บางทีบางคนก็เก็บกด ไม่มีปัญหา คนเราบางทีมีปัญหาหนี้สินบ้าง บางทีมีปัญหาครอบครัวบ้าง บางทีมีปัญหาทางจิตบ้าง เป็นเรื่องธรรมดา เราคนไทยด้วยกัน ให้อภัยและพร้อมที่จะดูแลซึ่งกันและกัน ไม่เป็นไร . "พออายุมากๆ เกิน 70 ไปแล้ว มีคาถาประจำใจ ผมเดินไปไหนคาถาบอกว่า เย็นไว้โยม เย็นอย่างเดียว เย็นไว้โยม ใจเย็นๆ ผมโดนลอบฆ่ามา 4 หน เฉยๆ เพราะถึงเวลาก็ไปตามเวลา ไม่ถึงเวลามันก็ไม่ไปตามเวลา ผมโดนลอบฆ่าตอนเป็นนายกฯ 4 หน คนถามว่าผมใส่พระอะไร ผมบอกหลวงพ่อหนังวัดโกยแนบ เราตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ไม่เป็นไร เรามาเอาเรื่องชีวิตเราดีกว่า" นายทักษิณ กล่าว . ในตอนท้ายนายทักษิณกล่าวขอบคุณคนที่มาฟังการปราศรัย แม้อากาศร้อนแต่ก็ยังอยู่กันเหนียวแน่น พร้อมขอโทษคนที่ปาขวดน้ำ ไม่รู้เพราะอะไร ช่างมันเถอะ เสียบรรยากาศไปนิดหน่อยแต่ขอโทษแทนแล้วกัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006068 ......... Sondhi X
    Haha
    Like
    Love
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 927 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 20-1-68
    .
    วันนี้จะพูดถึงเรื่อง การอ้างอิงราคาน้ำมันกับสิงคโปร์ที่ นายทักษิณ ชินวัตร นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องการเอาพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน, การผ่านกฎหมายเปิดคาสิโน รวมไปถึงความพยายามในการรื้อคดีน้องแตงโม นิดา ที่วันนี้จะมีการเคลื่อนไหวไปที่ DSI
    https://www.youtube.com/watch?v=YYyMP6Vf45A
    สนธิเล่าเรื่อง 20-1-68 . วันนี้จะพูดถึงเรื่อง การอ้างอิงราคาน้ำมันกับสิงคโปร์ที่ นายทักษิณ ชินวัตร นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องการเอาพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน, การผ่านกฎหมายเปิดคาสิโน รวมไปถึงความพยายามในการรื้อคดีน้องแตงโม นิดา ที่วันนี้จะมีการเคลื่อนไหวไปที่ DSI https://www.youtube.com/watch?v=YYyMP6Vf45A
    Like
    Love
    Wow
    Sad
    Angry
    62
    4 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2374 มุมมอง 2 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 20-1-68
    .
    เช้าวันนี้คุณสนธิจะพูดถึงเรื่อง การอ้างอิงราคาน้ำมันกับสิงคโปร์ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดว่าทำไมต้องอ้างอิงราคาสิงคโปร์ โดยอาจจะลืมไปแล้วว่า คนที่แปรรูป ปตท. เมื่อปี 2544 และทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่นั้นก็คือ รัฐบาลทักษิณ 1 ในยุคพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องการเอาพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน, การผ่านกฎหมายเปิดคาสิโน รวมไปถึงความพยายามในการรื้อคดีน้องแตงโม นิดา ที่วันนี้จะมีการเคลื่อนไหวไปที่ DSI
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=YYyMP6Vf45A
    สนธิเล่าเรื่อง 20-1-68 . เช้าวันนี้คุณสนธิจะพูดถึงเรื่อง การอ้างอิงราคาน้ำมันกับสิงคโปร์ที่ นายทักษิณ ชินวัตร ออกมาพูดว่าทำไมต้องอ้างอิงราคาสิงคโปร์ โดยอาจจะลืมไปแล้วว่า คนที่แปรรูป ปตท. เมื่อปี 2544 และทำให้ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้นอย่างมากนับตั้งแต่นั้นก็คือ รัฐบาลทักษิณ 1 ในยุคพรรคไทยรักไทย นอกจากนี้ยังมีอีกหลาย ๆ เรื่องเกี่ยวกับเรื่องการเอาพนันออนไลน์ขึ้นมาบนดิน, การผ่านกฎหมายเปิดคาสิโน รวมไปถึงความพยายามในการรื้อคดีน้องแตงโม นิดา ที่วันนี้จะมีการเคลื่อนไหวไปที่ DSI . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=YYyMP6Vf45A
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 239 มุมมอง 0 รีวิว
  • ท่องเที่ยวไทยป่นปี้พินาศ จีนหวั่นไม่ปลอดภัย จนท.รัฐเอื้อจีนเทา+อุ๊งอิ๊งค์ปัดสวะข่าวปลอม
    .
    จากกรณีของ นายหวัง ซิง หรือที่เรียกว่า ซิงซิง ดาราจีนที่ถูกหลอกลวง กักขัง โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพม่า ต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ท่านผู้ชมรู้ไหม แทนที่ประเทศไทยจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นกระแสคนจีนหวาดกลัวประเทศไทยไปแล้ว คนจีนยกเลิกทัวร์ช่วงตรุษจีนอย่างมากมาย คนจีนจำนวนมากเชื่อแล้วว่าเจ้าหน้าที่ไทยหลับตาข้างนึงสมคบกับจีนเทา
    .
    นักท่องเที่ยวจีนพากันยกเลิกตั๋วเครื่องบินและแผนการมาเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อยเกือบๆ 30% ของยอดจอง ประเมินว่าประเทศไทยจะสูญเสียรายได้ถึง 5,000 ล้านบาท ยอดการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยในแพลตฟอร์มของจีนลดลงมากกว่า 40%
    .
    แม้ว่านางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการออกจดหมายภาษาจีนเผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อวันเสาร์11ม.ค. โดยใช้วาทะยอดนิยม ไม่เคยเบื่อที่จะใช้ ว่า "จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" แต่ว่าคนจีนเห็นว่า ในแต่ละปีชาวจีนหลายหมื่นคนถูกล่อลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีต้นทาง โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน
    .
    ขณะที่อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับชาวบ้านเขา ไม่เข้าใจปัญหาเชิงระบบ มิหนำซ้ำยังทะลึ่งออกมาบอกว่าเป็นความเข้าใจผิด ข่าวปลอม คือไม่รู้เลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ปัดสวะบอกว่าเป็นข่าวปลอม
    .
    คุณอุ๊งอิ๊งค์ครับ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความเข้าใจผิดหรือข่าวปลอมแต่อย่างใด เพราะเป็นปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุนจีนสีเทาที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และเป็นฐานในการหลอกลวงพวกเดียวกันเอง รวมทั้งคนไทย ชาติไทย ชาติอื่น ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นเส้นทางการค้ามนุษย์ของขบวนการหลอกลวง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คุณอุ๊งอิ๊งค์ นี่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นระบบ ผมเห็นใจท่าน สงสารท่าน และสมนำหน้าท่านด้วย พูดอะไรไม่คิดเลย ถ้าท่านบอกว่าท่านจะลงไปแก้ไขที่ระบบพวกนี้ ยังน่าฟังหน่อย ท่านพูดลอยๆ อีก 6 เดือน จบแน่นอน คอลเซ็นเตอร์
    .
    แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านล้วนใช้อินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า เส้นทางการเงินจากประเทศไทย การปัดสวะให้พ้นตัว อ้างว่าจีนหลอกจีน เหมือนเหตุเรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อปี 2561ที่พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาขอโทษในที่สุด
    .
    ประชาชนชาวจีนยังโยงข่าวที่ประชุม ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ รวมทั้งนายกฯ ตัวจริง ทักษิณ ชินวัตร คุยโวโอ้อวดว่าจะทำให้การท่องเที่ยวเจริญเติบโตมาก และ GDP จะสูงมาก แต่ชาวจีนกลับวิจารณ์ว่า มีบ่อนการพนันถูกกฎหมายจะยิ่งทำให้ประเทศไทยน่ากลัวมากขึ้น
    .
    คุณอุ๊งอิ๊งค์ครับ คุณภูมิธรรมครับ และท่านนายกฯ ตัวจริงครับ ทักษิณ ชินวัตร ท่านหยุดบ้าบอคอแตกเรื่องเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สักพักได้มั้ย ท่านมาสัมผัสความเป็นจริงหน่อย รัฐบาลไทยต้องคุยกับจีน พม่า กองกำลังกะเหรี่ยงที่คุมแถวเมียวดี แม่สอด ฉ่วยก๊กโก ว่าจะปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ เพราะประเทศไทยได้รับความเสียหาย เสียชื่อ
    .
    สรุป ประเทศไทยไม่สามารถจะปัดความรับผิดชอบได้ว่าขบวนการอาชญากรรมอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้อยู่ในบ้านเรา เพราะว่าประเทศไทยและคนไทยก็รับเคราะห์เช่นเดียวกัน การตัดรากถอนโคนปัญหา ถึงจะเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงให้คนไทยได้ดีที่สุด และปกป้องคนไทยเองด้วย
    .
    เวลาคนจีนนั่งเครื่องมาไทยต้องได้รับการแจกใบปลิว 2-3 หน้า ให้ความรู้เรื่องขบวนการจีนเทาหลอกว่าจะได้เงิน อย่าไปเชื่อ เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนไม่ค่อยดีเหมือนแต่ก่อน ทำให้คนมีความหวัง มาขุดทองในภูมิภาคนี้มาก แต่หลายคนกลับเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
    .
    ตำรวจ และ ตม. ต้องจัดการจีนเทาเด็ดขาด จีนเทาอยู่ได้ในประเทศไทยเพราะตำรวจ พวกที่ซื้อบ้านแถวนั้นรอรับแขกแถวชายแดน พวกตำรวจภูธรภาค 6 กับพวกผู้กำกับแม่สอด นั่นล่ะตัวดี
    ท่องเที่ยวไทยป่นปี้พินาศ จีนหวั่นไม่ปลอดภัย จนท.รัฐเอื้อจีนเทา+อุ๊งอิ๊งค์ปัดสวะข่าวปลอม . จากกรณีของ นายหวัง ซิง หรือที่เรียกว่า ซิงซิง ดาราจีนที่ถูกหลอกลวง กักขัง โดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพม่า ต่อมาได้รับการช่วยเหลือจากฝ่ายไทยเมื่อวันที่ 5 มกราคมที่ผ่านมา ท่านผู้ชมรู้ไหม แทนที่ประเทศไทยจะเป็นฮีโร่ที่ช่วยเหลือเหยื่อได้อย่างรวดเร็ว กลับกลายเป็นกระแสคนจีนหวาดกลัวประเทศไทยไปแล้ว คนจีนยกเลิกทัวร์ช่วงตรุษจีนอย่างมากมาย คนจีนจำนวนมากเชื่อแล้วว่าเจ้าหน้าที่ไทยหลับตาข้างนึงสมคบกับจีนเทา . นักท่องเที่ยวจีนพากันยกเลิกตั๋วเครื่องบินและแผนการมาเที่ยวไทยคิดเป็นสัดส่วนอย่างน้อยเกือบๆ 30% ของยอดจอง ประเมินว่าประเทศไทยจะสูญเสียรายได้ถึง 5,000 ล้านบาท ยอดการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยวไทยในแพลตฟอร์มของจีนลดลงมากกว่า 40% . แม้ว่านางฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จะพยายามแก้ไขสถานการณ์ด้วยการออกจดหมายภาษาจีนเผยแพร่ไปในสื่อสังคมออนไลน์จีนเมื่อวันเสาร์11ม.ค. โดยใช้วาทะยอดนิยม ไม่เคยเบื่อที่จะใช้ ว่า "จีน-ไทย ใช่อื่นไกล พี่น้องกัน" แต่ว่าคนจีนเห็นว่า ในแต่ละปีชาวจีนหลายหมื่นคนถูกล่อลวงโดยแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่มีต้นทาง โดยใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน . ขณะที่อุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ชินวัตร ก็ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกับชาวบ้านเขา ไม่เข้าใจปัญหาเชิงระบบ มิหนำซ้ำยังทะลึ่งออกมาบอกว่าเป็นความเข้าใจผิด ข่าวปลอม คือไม่รู้เลยว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ปัดสวะบอกว่าเป็นข่าวปลอม . คุณอุ๊งอิ๊งค์ครับ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหาเรื่องความเข้าใจผิดหรือข่าวปลอมแต่อย่างใด เพราะเป็นปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทุนจีนสีเทาที่ใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน และเป็นฐานในการหลอกลวงพวกเดียวกันเอง รวมทั้งคนไทย ชาติไทย ชาติอื่น ประเทศไทยถูกมองว่าเป็นเส้นทางการค้ามนุษย์ของขบวนการหลอกลวง เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง คุณอุ๊งอิ๊งค์ นี่เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างจริงจัง เป็นระบบ ผมเห็นใจท่าน สงสารท่าน และสมนำหน้าท่านด้วย พูดอะไรไม่คิดเลย ถ้าท่านบอกว่าท่านจะลงไปแก้ไขที่ระบบพวกนี้ ยังน่าฟังหน่อย ท่านพูดลอยๆ อีก 6 เดือน จบแน่นอน คอลเซ็นเตอร์ . แก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้านล้วนใช้อินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า เส้นทางการเงินจากประเทศไทย การปัดสวะให้พ้นตัว อ้างว่าจีนหลอกจีน เหมือนเหตุเรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อปี 2561ที่พล.อ.ประวิตร ต้องออกมาขอโทษในที่สุด . ประชาชนชาวจีนยังโยงข่าวที่ประชุม ครม. อนุมัติร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจบันเทิงครบวงจร หรือที่เรียกว่า เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ รวมทั้งนายกฯ ตัวจริง ทักษิณ ชินวัตร คุยโวโอ้อวดว่าจะทำให้การท่องเที่ยวเจริญเติบโตมาก และ GDP จะสูงมาก แต่ชาวจีนกลับวิจารณ์ว่า มีบ่อนการพนันถูกกฎหมายจะยิ่งทำให้ประเทศไทยน่ากลัวมากขึ้น . คุณอุ๊งอิ๊งค์ครับ คุณภูมิธรรมครับ และท่านนายกฯ ตัวจริงครับ ทักษิณ ชินวัตร ท่านหยุดบ้าบอคอแตกเรื่องเกี่ยวกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์สักพักได้มั้ย ท่านมาสัมผัสความเป็นจริงหน่อย รัฐบาลไทยต้องคุยกับจีน พม่า กองกำลังกะเหรี่ยงที่คุมแถวเมียวดี แม่สอด ฉ่วยก๊กโก ว่าจะปล่อยให้เหตุการณ์ดำเนินต่อไปอย่างนี้ไม่ได้ เพราะประเทศไทยได้รับความเสียหาย เสียชื่อ . สรุป ประเทศไทยไม่สามารถจะปัดความรับผิดชอบได้ว่าขบวนการอาชญากรรมอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ไม่ได้อยู่ในบ้านเรา เพราะว่าประเทศไทยและคนไทยก็รับเคราะห์เช่นเดียวกัน การตัดรากถอนโคนปัญหา ถึงจะเป็นการกอบกู้ชื่อเสียงให้คนไทยได้ดีที่สุด และปกป้องคนไทยเองด้วย . เวลาคนจีนนั่งเครื่องมาไทยต้องได้รับการแจกใบปลิว 2-3 หน้า ให้ความรู้เรื่องขบวนการจีนเทาหลอกว่าจะได้เงิน อย่าไปเชื่อ เพราะในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนไม่ค่อยดีเหมือนแต่ก่อน ทำให้คนมีความหวัง มาขุดทองในภูมิภาคนี้มาก แต่หลายคนกลับเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ . ตำรวจ และ ตม. ต้องจัดการจีนเทาเด็ดขาด จีนเทาอยู่ได้ในประเทศไทยเพราะตำรวจ พวกที่ซื้อบ้านแถวนั้นรอรับแขกแถวชายแดน พวกตำรวจภูธรภาค 6 กับพวกผู้กำกับแม่สอด นั่นล่ะตัวดี
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน
    ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’
    .
    เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน
    .
    มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
    .
    หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง
    .
    คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า
    .
    ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว
    .
    ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน
    .
    เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ
    .
    คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น
    .
    มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย
    .
    คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    “สนธิ”กับ‘วันชัย สอนศิริ ’มาตรฐานต่างกัน ราว “พญาเหยี่ยว”กับ‘นกกระจอก’ . เรื่องของผม สนธิ ลิ้มทองกุลกับคุณวันชัย สอนศิริ ผมกลับมานอนคิดสะระตะแล้ว เฮ้ย! ความผิดอยู่ที่เรานี่หว่า ผมพลาดไปเองที่ใช้มาตรฐานผมเป็นตัวตั้ง แล้วผมก็หวังว่าคุณคงจะมีมาตรฐานเหมือนผม นี่คือข้อผิดพลาดในชีวิตของผม ผมเพิ่งจะรู้ว่ามาตรฐานของคุณกับผมมันห่างกันเหลือเกินเป็นพันๆ ลี้ อุปมาอุปไมยผมเหมือนพญาเหยี่ยวที่บินอยู่บนท้องฟ้า แต่คุณคือนกกระจอก นกกระจิบ ที่บินอยู่ข้างล่าง หากินกับไส้เดือนบนพื้นดิน . มาตรฐานของผมคือ “อะไรที่ถูกต้อง ผมไม่ถอยเลยแม้แต่ก้าวเดียว” จนวันนี้ก็ยังไม่ถอย ตายเป็นตาย เจ๊งเป็นเจ๊ง จากวันนั้นถึงวันนี้ผมไม่เคยเปลี่ยน และผมยึดมั่นในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ . หลักการตรงนี้อยู่ติดตัวผมมานานแล้ว มาจนกระทั่งทุกวันนี้ที่ผมสนับสนุนและส่งเสริมให้อาจารย์ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำเรื่องน้องแตงโมนั้น ก็เพราะว่าหลักการของสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ ให้ประชาชนได้รับรู้อีกด้านหนึ่ง . คุณวันชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าผมสู้มาตั้งแต่ปี 2548 ยี่สิบปีแล้วที่ผมออกมาสู้ มาถึงวันนี้ ฝนตก แดดออก พายุเข้า พอทุกอย่างฟ้าใสแจ้งจางปาง พระอาทิตย์ออก ประชาชนเห็นว่าผมยังคงยืนอยู่ที่เดิม ผมไม่ได้เปลี่ยนอะไรเลย แต่คุณวันชัยต้องยอมรับกับผมนะว่า ประเทศไทยมีคนอยู่ไม่น้อยเลยที่ยอมเสียหลักการของตัวเอง เพื่อเลียคนที่มีอำนาจเพื่อให้ตัวเองได้ผลประโยชน์ ผมไม่ทราบว่าคุณวันชัย เป็นหนึ่งในนั้นด้วยหรือเปล่า . ชีวิตผมอยู่ได้ด้วยความไม่กลัว ความกลัวคือความเสื่อม แล้วอีกอันหนึ่งที่ผมอยู่ได้เพราะ ธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ผมที่คุณดูถูก เยาะเย้ย เหยียดหยามหลวงตามหาบัว ท่านบอกว่า “สนธิ ธรรมชนะอธรรม ชนะอวิชชา ธรรมจะใช้เวลานิดหนึ่ง” เหมือนกับที่ผมต้องใช้เวลาถึง 17 ปี ผมและพันธมิตรฯ ทุกคนถึงได้รับการนิรโทษกรรมทางใจว่าพวกผมสู้มาไม่ผิด แต่ต้องรอตั้ง 17 ปี กว่า "ธรรม" ที่หลวงตามหาบัวสอนผมมาเป็นความจริง พิสูจน์ให้เห็นว่าการใช้ธรรมนำหน้าของผมที่ต่อสู้กับเจ้านายคุณ คือทักษิณ ชินวัตรนั้น เป็นความจริงที่เถียงไม่ออก เพราะนายคุณยอมรับสารภาพในราชกิจจานุเบกษาว่าได้ทำผิดจริง ได้ฉ้อราษฎร์บังหลวงจริง 1..2..3..4.. ถึงโดนโทษจำคุก 8 ปี แต่ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว . ผมเป็นคนเชื่อในหลักนิติธรรม และผมเคารพในหลักนิติธรรม ไม่ยอมปฏิเสธ ไม่หลบหนี มาตรฐานของผมบอกว่า ขนาดผมยังยอมเดินเข้าคุก ไม่หนี ติดคุกอยู่ 2 ปี 11 เดือน 27 วัน แล้วได้รับพระราชทานอภัยโทษออกมา เนื่องในวาระของราชาภิเษก ให้รัชกาลที่ 10 ขึ้นมาเป็นกษัตริย์ตอนนั้น ของผมถูกต้องตามระเบียบทุกประการ ไม่มีอะไรทั้งสิ้น คุณวันชัยครับ เผอิญว่านี่ก็คือมาตรฐานของผมอย่างหนึ่งเช่นกัน ยี่สิบปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยเรียกร้องตำแหน่ง ผมไม่เคยต้องไปเลียรองเท้าของนายพลต่างๆ เพื่อให้นายพลตั้งตัวเองเป็น สว. พอเริ่มรู้ว่าตัวเองจะหมดอำนาจแล้วตั้งแต่สิงหาคม ก็เริ่มเลียการเมือง ผมไม่ได้พูดถึงใครนะครับคุณวันชัย อย่าเดือดร้อน . เพราะฉะนั้นแล้ว คุณจะไปตกลงอะไรกับทักษิณ ชินวัตร คุณตอบผมสักคำได้ไหมว่า นายใหม่คุณ เจ้าของคอกหมา ซึ่งคุณเข้าไปในคอกนั้นเรียบร้อยแล้ว เขาได้ทำอะไรให้บ้างตั้งแต่เขากลับมา นอกจากสร้างความวุ่นวายในเรื่องหลักนิติธรรมให้วุ่นวายทั่วประเทศ วิสัยทัศน์เขามีอะไร นอกจากการพนัน ตั้งบ่อนกาสิโน นอกจากแจกเงิน แล้วคุณอุ๊งอิ๊งค์ แพทองธาร ที่คุณบอกเป็นนารีกู้แผ่นดิน คุณวันชัยครับ ประชาชนเขาหัวเราะขำคำว่า "นารีกู้แผ่นดิน" ของคุณ . คุณวันชัย คุณเป็นทนาย คุณก็รู้ว่าในศาลเขาแพ้ชนะกันที่ประจักษ์พยานไม่ใช่หรือ แล้วคุณจะมาว่าผมสร้างความวุ่นวายได้อย่างไร ตัววุ่นวายคือนายคุณ ที่สร้างความวุ่นวาย แล้วคุณก็เป็นลูกคู่ที่เข้าไปช่วยทำให้ความวุ่นวายนั้นมันวุ่นวายมากขึ้น . มาตรฐานผม ผมไม่เคยถอย คุณบอกคุณเป็นนักเลง นักเลงกล้าได้กล้าเสีย แต่ผมเป็นนักเลงโบราณซึ่งนักเลงทั่วๆไปไม่มี คือผมเป็นคนที่มีสัจจะที่มีคนเชื่อผมเป็นแสนๆเป็นล้านคนทุกวันนี้ คุณไม่ต้องท้าผม ถึงเวลา ถ้าจำเป็น ผมจะลงถนนแน่นอน ผมจะลงถนนแน่นอน ถ้าการกระทำของรัฐบาลนี้ส่อให้เกิดการสูญเสียอธิปไตยของประเทศ ผมพร้อมเสมอ อย่ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ผมเรียกคนไม่ได้ คุณจะลองมั้ย ถึงวันนั้นแล้วคุณอย่าเสียใจนะว่าคุณปากไม่ดี พูดไม่ดี คุณวันชัย อยากจะพล่ามอะไรก็พล่าม เพราะคุณจำเป็นต้องพล่ามให้มากๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นายคุณ ว่าผมทำงานให้แล้วนะ ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลถ้ามี ตั้งผมหน่อย . คุณจำไว้อย่างนะคุณวันชัย ผมไม่เคยเลียแข้งเลียขาใครเพื่อให้ตัวเองได้ตำแหน่ง อย่างเช่นเป็น สว. ไม่เคย ให้ตายสิ พอผมพูดถึงคุณแล้ว เขาหัวเราะกัน ประพันธ์ คูณมีบอกว่า พี่อย่าไปสนใจเลยไอ้คนประเภทนี้ คุณวันชัย เชิญคุณตามสบาย จะยั่วยุอย่างไร ยั่วยุไม่สำเร็จหรอก เพราะคุณกับผมมันคนละมาตรฐานกัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ทักษิณ” ไปโพนพิสัย ปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียง อบจ.หนองคาย วอนเลือกให้ถล่มทลาย ถ้าไม่ชนะ มาคราวหน้าต้องเอาปี๊บคลุมหัว โวยังมีแนวคิดดีๆ ให้ “นายกฯ อิ๊งค์” เลือกเอาไปใช้ พล่ามสูตรเดิม เพื่อไทยกลับมาปี 70 คนไทยเงินเต็มกระเป๋า

    วันนี้(19 ม.ค.) ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยนายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป เราต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น และในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ จะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม

    นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมทุกเดือน ก็คุยกันแต่เรื่องบ้านเมือง เรื่องครอบครัว

    นายทักษิณอ้างว่าหลังจากถูกปฏิวัติไปก็ได้รับการบริหารประเทศแบบไม่บริหารประเทศ อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย ทำให้คนไทยแย่ โอกาสดีๆ ที่ถูกทำลาย วันนี้กลับมาแล้ว หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอกกลับมา นายกฯ อิ๊งค์ จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเรื่อง AI ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่างหนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000005729

    #MGROnline #ทักษิณชินวัตร
    “ทักษิณ” ไปโพนพิสัย ปราศรัยช่วยลูกพรรคหาเสียง อบจ.หนองคาย วอนเลือกให้ถล่มทลาย ถ้าไม่ชนะ มาคราวหน้าต้องเอาปี๊บคลุมหัว โวยังมีแนวคิดดีๆ ให้ “นายกฯ อิ๊งค์” เลือกเอาไปใช้ พล่ามสูตรเดิม เพื่อไทยกลับมาปี 70 คนไทยเงินเต็มกระเป๋า • วันนี้(19 ม.ค.) ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งนายก อบจ.หนองคาย ช่วยนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย โดยนายทักษิณ กล่าวตอนหนึ่งถึงการแก้ไขปัญหาคอลเซนเตอร์ ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ประกาศแล้วว่าปีนี้จะจัดการกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อยู่ประเทศเพื่อนบ้าน ภายในสิ้นปีนี้แก๊งคอลเซ็นเตอร์และยาเสพติดต้องหมดไป เราต้องร่วมมือร่วมใจกันทำให้บ้านเมืองเจริญขึ้น และในปี 70 รัฐบาลเพื่อไทยกลับมาอีกรอบ จะเอามือล้วงกระเป๋าไม่ได้เพราะมีเงินอยู่เต็ม • นายทักษิณ กล่าวต่อว่า ตนไปอยู่เมืองนอก 17 ปี เหงา คิดถึงบ้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ไปเยี่ยมทุกเดือน ก็คุยกันแต่เรื่องบ้านเมือง เรื่องครอบครัว • นายทักษิณอ้างว่าหลังจากถูกปฏิวัติไปก็ได้รับการบริหารประเทศแบบไม่บริหารประเทศ อยู่ไปเรื่อยๆ แบบไม่มีแบบแผน ไม่มีเป้าหมาย ทำให้คนไทยแย่ โอกาสดีๆ ที่ถูกทำลาย วันนี้กลับมาแล้ว หนึ่งทุนหนึ่งอำเภอไปเรียนเมืองนอกกลับมา นายกฯ อิ๊งค์ จะเดินหน้าโครงการซัมเมอร์แคมป์ไปที่ต่างประเทศ จ้างครูจากต่างประเทศมาสอนภาษา มาสอนเรื่อง AI ปีนี้จะเริ่มทำและสร้างโรงเรียนหนึ่งตัวอย่างหนึ่งอำเภอในฝันต่อไป ให้เด็กไทยมีความรู้มากๆ จะได้ฉลาด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000005729 • #MGROnline #ทักษิณชินวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 328 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005725

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000005725 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Angry
    Haha
    Sad
    Like
    Wow
    9
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 756 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนองคาย-นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ

    วันนี้ (19 ม.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ชวยหาเสียงผู้สมัคร นายก อบจ.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, นายอดิษร เพียงเกษ, ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ใน 2 จุด จุดแรก ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย และช่วงบ่าย ลงพื้นที่โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัคร นายก.อบจ.หนองคาย เบอร์ 2 และผู้สมัครสมาชิก อบจ.หนองคาย

    ซึ่งในแต่ละจุดมีประชาชนชาวหนองคายให้ความสนใจมาร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเป็นจำนวนมาก มีการชูป้าย โบกไม้โบกมือ ทักทายกันอย่างคึกคัก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000005725

    #MGROnline #หนองคาย #ทักษิณชินวัตร
    หนองคาย-นายทักษิณ ชินวัตร ตะลอนทัวร์ถึง จ.หนองคาย ช่วยผู้สมัครนายก อบจ. หาเสียง 2 จุดใหญ่ ขอคะแนนชาวหนองคายเลือกคนของพรรคเชื่อมนโยบายรัฐบาลกับท้องถิ่น พล่ามความเดิมปี 70 พรรคเพื่อไทยจะกลับมาอีกรอบ กระเป๋าของประชาชนเต็มไปด้วยเงินในการใช้หนี้ ใช้จับจ่าย ไม่เป็นหนี้สินฯลฯ • วันนี้ (19 ม.ค.68) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้ชวยหาเสียงผู้สมัคร นายก อบจ.พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ นางเยาวภา วงษ์สวัสดิ์, นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ , นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ, นายอดิษร เพียงเกษ, ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่จังหวัดหนองคาย ใน 2 จุด จุดแรก ที่พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย และช่วงบ่าย ลงพื้นที่โรงเรียนท่าบ่อ อ.ท่าบ่อ เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายวุฒิไกร ช่างเหล็ก ผู้สมัคร นายก.อบจ.หนองคาย เบอร์ 2 และผู้สมัครสมาชิก อบจ.หนองคาย • ซึ่งในแต่ละจุดมีประชาชนชาวหนองคายให้ความสนใจมาร่วมฟังการปราศรัยหาเสียงเป็นจำนวนมาก มีการชูป้าย โบกไม้โบกมือ ทักทายกันอย่างคึกคัก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000005725 • #MGROnline #หนองคาย #ทักษิณชินวัตร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts