• กู้ไฟล์กล้องรถแตงโม โป๊ะ! โกหกไม่เนียน : [THE MESSAGE]
    พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เผยคดีการเสียชีวิตของแตงโมมีการสับขาหลอกและปล่อยข่าวเยอะ คนใกล้ชิดและตำรวจไม่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง การตรวจสอบของภาคประชาชนถูกดิสเครดิต ตนเองเคยไปที่บ้านแอนนาเพื่อพูดคุยกัน ซึ่งก็มีหลายคนร่วมด้วย ขณะนั้นแอนนาบอกว่า "จะจัดการ" มดดำก็บอกว่า "ฝ่ายโน้นมีเงินเยอะ เรามีเป็นพันล้านหมื่นล้านเหมือนเขาหรือเปล่า" คนที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็คิดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ อยากให้ทุกคนกล้าออกมาพูด ส่วนคนรักของแตงโมก็ไม่ออกมาให้ข่าวเลย กลัวพิกุลจะร่วงหรืออย่างไร คนที่ช่วยค้นหาความจริงควรได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็กลับไม่ได้ เกิดความสับสน มีการให้ข่าวผิด พูดความจริงยังไงฟ้าก็ไม่ผ่า ถ้าไม่มีดีเอสไอเราคงยังไม่ตาสว่าง ส่วนข้อมูลในกล้องหน้ารถของแตงโมได้มีการกู้คืน ทำให้รู้ว่าการโกหกแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน แสดงถึงความไม่ตรงไปตรงมาของคนบนเรือและข้าราชการ
    กู้ไฟล์กล้องรถแตงโม โป๊ะ! โกหกไม่เนียน : [THE MESSAGE] พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตศัลยแพทย์โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เผยคดีการเสียชีวิตของแตงโมมีการสับขาหลอกและปล่อยข่าวเยอะ คนใกล้ชิดและตำรวจไม่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง การตรวจสอบของภาคประชาชนถูกดิสเครดิต ตนเองเคยไปที่บ้านแอนนาเพื่อพูดคุยกัน ซึ่งก็มีหลายคนร่วมด้วย ขณะนั้นแอนนาบอกว่า "จะจัดการ" มดดำก็บอกว่า "ฝ่ายโน้นมีเงินเยอะ เรามีเป็นพันล้านหมื่นล้านเหมือนเขาหรือเปล่า" คนที่นั่งฟังอยู่ด้วยก็คิดว่าไม่ใช่อุบัติเหตุ อยากให้ทุกคนกล้าออกมาพูด ส่วนคนรักของแตงโมก็ไม่ออกมาให้ข่าวเลย กลัวพิกุลจะร่วงหรืออย่างไร คนที่ช่วยค้นหาความจริงควรได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ก็กลับไม่ได้ เกิดความสับสน มีการให้ข่าวผิด พูดความจริงยังไงฟ้าก็ไม่ผ่า ถ้าไม่มีดีเอสไอเราคงยังไม่ตาสว่าง ส่วนข้อมูลในกล้องหน้ารถของแตงโมได้มีการกู้คืน ทำให้รู้ว่าการโกหกแต่ละครั้งไม่เหมือนกัน แสดงถึงความไม่ตรงไปตรงมาของคนบนเรือและข้าราชการ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในมอสโกว่า รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอกลับมาให้ทางสหรัฐอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่ปูตินจะเห็นด้วยกับข้อตกลงหยุดยิงหากไม่ได้มีการรับประกันใดๆ

    ไม่ชัดเจนว่า รายละเอียดของข้อเสนอที่ปูตินยื่นมานั้นมีเนื้อหาอะไรบ้าง แต่แหล่งข่าวระบุว่า "เป็นเงื่อนไขที่คล้ายคลึงกับเงื่อนไขที่รัสเซียเคยเสนอให้เคียฟ สหรัฐฯ และนาโตทราบก่อนหน้านี้มาตลอด"

    เงื่อนไขกว้างๆเหล่านั้นที่รัสเซียเคยยื่นข้อเสนอมีอะไรบ้าง?
    👉ยอมรับภูมิภาคใหม่ทั้ง 4 แห่ง และไครเมีย ว่าเป็นดินแดนของรัสเซีย
    👉ยูเครนไม่เป็นสมาชิกนาโต
    👉ไม่มี "กองกำลังรักษาสันติภาพ" ของนาโตประจำการในยูเครน
    👉ยูเครนต้องเป็นกลางทางทหาร และถูกจำกัดด้านอาวุธและกองกำลังทหาร

    ทั้งหมดนี้แลกกับการยุติการสู้รบทั้งหมด รวมทั้งสันติภาพและเสถียรภาพสำหรับยูเครน

    เน้นย้ำว่านี่คือข้อเสนอเบื้องต้นที่ปูตินเรียกร้องมาตลอด และหากครั้งนี้ปูตินยังคงยืนยันเช่นเดิมตามที่สื่อนำเสนอ นั่นหมายความว่า ปูติน"ไม่ยอมรับ" ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว ซึ่งสอดคล้องกับที่เขาบอกมาตลอดว่า มีแต่การยุติสงครามอย่างถาวรเท่านั้นที่นำพาความสงบกลับคืนสู่ยูเครน
    สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวในมอสโกว่า รัสเซียได้ยื่นข้อเสนอกลับมาให้ทางสหรัฐอีกครั้ง เนื่องจากเป็นเรื่องยากที่ปูตินจะเห็นด้วยกับข้อตกลงหยุดยิงหากไม่ได้มีการรับประกันใดๆ ไม่ชัดเจนว่า รายละเอียดของข้อเสนอที่ปูตินยื่นมานั้นมีเนื้อหาอะไรบ้าง แต่แหล่งข่าวระบุว่า "เป็นเงื่อนไขที่คล้ายคลึงกับเงื่อนไขที่รัสเซียเคยเสนอให้เคียฟ สหรัฐฯ และนาโตทราบก่อนหน้านี้มาตลอด" เงื่อนไขกว้างๆเหล่านั้นที่รัสเซียเคยยื่นข้อเสนอมีอะไรบ้าง? 👉ยอมรับภูมิภาคใหม่ทั้ง 4 แห่ง และไครเมีย ว่าเป็นดินแดนของรัสเซีย 👉ยูเครนไม่เป็นสมาชิกนาโต 👉ไม่มี "กองกำลังรักษาสันติภาพ" ของนาโตประจำการในยูเครน 👉ยูเครนต้องเป็นกลางทางทหาร และถูกจำกัดด้านอาวุธและกองกำลังทหาร ทั้งหมดนี้แลกกับการยุติการสู้รบทั้งหมด รวมทั้งสันติภาพและเสถียรภาพสำหรับยูเครน เน้นย้ำว่านี่คือข้อเสนอเบื้องต้นที่ปูตินเรียกร้องมาตลอด และหากครั้งนี้ปูตินยังคงยืนยันเช่นเดิมตามที่สื่อนำเสนอ นั่นหมายความว่า ปูติน"ไม่ยอมรับ" ข้อตกลงหยุดยิงชั่วคราว ซึ่งสอดคล้องกับที่เขาบอกมาตลอดว่า มีแต่การยุติสงครามอย่างถาวรเท่านั้นที่นำพาความสงบกลับคืนสู่ยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 50 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ สุนัย Human rights watch สุนัขรับใช้ชาติตะวันตก ประโคมข่าว รัฐสภาอียู ขู่กดดันไทยให้ยกเลิกมาตรา 112 และหยุดเนรเทศอุยกูร์ ไม่งั้นจะเล่นงานทางการค้า FTA ไทย-อียู
    #7ดอกจิก
    ♣ สุนัย Human rights watch สุนัขรับใช้ชาติตะวันตก ประโคมข่าว รัฐสภาอียู ขู่กดดันไทยให้ยกเลิกมาตรา 112 และหยุดเนรเทศอุยกูร์ ไม่งั้นจะเล่นงานทางการค้า FTA ไทย-อียู #7ดอกจิก
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 48 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักแสดงสาวสวยจาก Harry Potter ประกาศเข้าวงการ OnlyFans : [News story]

    นักแสดงสาวสวยจาก Harry Potter ประกาศเข้าวงการ OnlyFans หาเงินซ่อมบ้าน-ปลดหนี้
    นักแสดงสาวสวยจาก Harry Potter ประกาศเข้าวงการ OnlyFans : [News story] นักแสดงสาวสวยจาก Harry Potter ประกาศเข้าวงการ OnlyFans หาเงินซ่อมบ้าน-ปลดหนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • 🙏วันนี้วันพระถวายสังฆทาน ณ วัดป่าเจริญธรรม ( 2 ชุด) อ.โคกสำโรง ลพบุรี ให้กับ
    ✅ คุณพรภินันท์(อุ๊) เสรีมโนพัฒน์ Ca, USA.
    👉 ข้าว ต้มจืดผักกาดดองกับกระดูกหมู 1 ชุด
    👉 น้ำดื่ม ดอกไม้ ธูปเทียน
    🙏🙏🙏ขอเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะครับ#padthaiinter#รับถวายสังฆทานออนไลน์
    🙏วันนี้วันพระถวายสังฆทาน ณ วัดป่าเจริญธรรม ( 2 ชุด) อ.โคกสำโรง ลพบุรี ให้กับ ✅ คุณพรภินันท์(อุ๊) เสรีมโนพัฒน์ Ca, USA. 👉 ข้าว ต้มจืดผักกาดดองกับกระดูกหมู 1 ชุด 👉 น้ำดื่ม ดอกไม้ ธูปเทียน 🙏🙏🙏ขอเชิญกัลยาณมิตรทุกท่านโมทนาบุญร่วมกันนะครับ#padthaiinter#รับถวายสังฆทานออนไลน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 67 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค

    ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง

    เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨

    ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️

    👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย

    ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉

    ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷

    - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น
    - Southampton Technical College
    - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
    - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton
    - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷

    ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️

    เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า

    เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄

    ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸

    ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️

    ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟

    ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞

    ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼
    - บริษัท CTO. Lines
    - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล
    - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน
    - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์
    - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป

    💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548

    ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568

    #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    20 ปี สิ้น “สาวสองพันปี” เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ ✨ เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น 🟣 ผู้นำเทรนด์ม่วงหัวจรดเท้า สาวเปรี้ยวแห่งยุค ย้อนตำนานเจ้าแม่ตัดริบบิ้น เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ หญิงสาวผู้เปลี่ยนทุกเวที ให้กลายเป็นรันเวย์แฟชั่นสีม่วง ตลอด 69 ปีเต็มของชีวิต ตัวแทนความเปรี้ยว และกล้าฉีกกฎยุคสมัยอย่างแท้จริง เสน่ห์ที่ไม่มีวันลบเลือน วงสังคมไฮโซไทย 🌟 ถ้าจะกล่าวถึงผู้หญิง ที่ไม่เคยปล่อยให้ตัวเองจางหาย จากความสนใจของผู้คน ชื่อของ “เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่” หรือที่เรียกขานกันว่า "เจ้าป้า" ต้องโผล่มาในใจคนรุ่นเก่าและใหม่เสมอ 🟣 เจ้าป้าคือ "สาวสองพันปี" ตำนานแฟชั่นม่วง ที่กลายเป็นไอคอนของความเปรี้ยว ความมั่นใจ และความโดดเด่นเหนือใคร ✨ ตลอด 69 ปีของชีวิต เจ้ากอแก้วได้สร้างตำนานในหลายบท ทั้งในฐานะลูกหลานเจ้านายฝ่ายเหนือแห่งเชียงใหม่ 🏯 นักเรียนที่มีการศึกษาระดับสากล 📚 ผู้นำแฟชั่นที่ไม่กลัวคำครหา 👜 และ "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ ที่ไม่เคยปล่อยให้เวทีไหนเงียบเหงา ❤️ 👑 เชื้อสายเจ้านายฝ่ายเหนือ อดีตผู้ครองนครเชียงใหม่ เจ้ากอแก้วประกายกาวิล ณ เชียงใหม่ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2478 ในตระกูล "ณ เชียงใหม่" อันทรงเกียรติ เป็นธิดาคนสุดท้องของเจ้ากาวิละวงศ์ กับเจ้าศิริประกาย ณ เชียงใหม่ 🌸 เป็นหลานสาวของเจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่องค์สุดท้าย ชื่อที่มีความหมาย และเรื่องราวที่น่าจดจำ เมื่อแรกเกิด ได้รับพระราชทานชื่อ "ประกายกาวิล" จากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัฐกาลที่ 7 ต่อมาเมื่อหม่อมกอบแก้ว อาภากร ณ อยุธยา ขอเป็นแม่อุปถัมภ์ ได้ไปที่เชียงใหม่ และไปเฝ้าเจ้าตาขอให้ตั้งชื่อหลานสาวว่า “กอบแก้ว” แต่ตัว บ.ใบไม้หายไป จึงกลายเป็น “กอแก้ว” 🎉 ✈️ เจ้ากอแก้วได้รับการศึกษาระดับประถมศึกษา ที่โรงเรียนเรยีนาเชลีวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมาแตร์เดอีวิทยาลัย กรุงเทพฯ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อ ที่ประเทศอังกฤษ 🇬🇧 และฝรั่งเศส 🇫🇷 - Raven's Croft ในอีสต์บอร์น - Southampton Technical College - เรียนพิมพ์ดีดและเลขานุการที่ Pitman College กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ - ฝึกมารยาทและการเข้าสังคมที่ Lucy Clayton - เรียนภาษาและมารยาททางสังคมที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส🇫🇷 ภายหลัง เจ้ากอแก้วสามารถใช้ภาษาอังกฤษ และฝรั่งเศสได้อย่างคล่องแคล่ว ✍️ เจ้ากอแก้ว เจ้าแม่แฟชั่นแห่งยุคที่ไม่เคยตกเทรนด์ 💄👠 สีม่วง เอกลักษณ์ที่กลายเป็นตำนาน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ทศวรรษ สีม่วงก็ยังเป็นสีประจำตัวของเจ้าป้าคนนี้ 🔮 เจ้าป้าย้อมผมเป็นสีม่วงเข้ม ฟูฟ่องตั้งแต่รากจรดปลาย และเลือกเครื่องแต่งกายทุกชิ้น ตั้งแต่หมวก 🧢 เสื้อผ้า 👗 กระเป๋า 👜 รองเท้า 👠 ไปจนถึงต่างหู 💎 ให้เป็นสีม่วงตั้งแต่หัวจรดเท้า เจ้าป้าเคยกล่าวขำๆ ว่า... “ทีแรกเลย ป้าต้องการสีเปลือกมังคุด แต่ไม่รู้ว่าช่างเขาผสมยังไง ผสมไปผสมมามันก็กลายเป็นสีนี้ไปได้ พอออกมาอย่างนี้เราก็เออ สวยดีแฮะ ก็เลยเอาสีนี้ก็สีนี้แหละชอบ” 😄 ตำนานการตัดริบบิ้นที่ไม่มีใครเทียบ เจ้าป้าได้รับฉายา "เจ้าแม่แห่งการตัดริบบิ้น" ✂️ เพราะการปรากฏตัวที่งานเปิดตัวต่างๆ มักนำมาซึ่งโชคลาภ และความสำเร็จแก่เจ้าของกิจการ 🏢 เคยสร้างสถิติตัดริบบิ้น 8 งานในวันเดียว! เจ้าป้ามีเทคนิคเฉพาะในการ "จรดกรรไกร" ให้นักข่าวถ่ายภาพได้มุมเป๊ะทุกครั้ง 📸 ความเปรี้ยวที่เหนือกาลเวลา 🕶 เจ้ากอแก้วเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุ 14 ปี 🚬 ใส่เสื้อเกาะอกตั้งแต่อายุ 20 ปี 👗 และชอบดื่มไวน์ 🍷 พร้อมแต่งหน้าเข้ม ตั้งแต่ยุคที่ผู้หญิงไทยยังนิยมเรียบร้อย เจ้าป้าไม่เคยกลัวคำวิจารณ์ แต่กลับเห็นว่าเป็นสีสันของชีวิต 🖌️ ถ้อยคำอมตะของสาวสองพันปี "คนมอง ก็อยากมองเอง ช่วยอะไรไม่ได้ เราบังคับเขาไม่ได้ แม้ว่าเขาจะเห็นเราตลก เอาเราไปล้อเลียนก็เถอะ แต่เราถือว่าเขาให้เกียรติเรา" 🌟 ❤️ เจ้ากอแก้วสมรสครั้งแรกกับ พลตำรวจโท ทิพย์ อัศวรักษ์ มีบุตรชาย 1 คน คือ ทินกร อัศวรักษ์ หรือกุ๊กกี้ ต่อมาหย่าขาดกัน และใช้ชีวิตคู่กับเรืออากาศเอก พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวรานนท์ธวัช อีก 6 ปี ก่อนลงเอยกับเอดิลเบอร์โต้ โรเมโร ชาวฟิลิปปินส์ แม้ไม่มีบุตรร่วมกัน แต่ก็มีช่วงเวลาคู่ชีวิตที่มีค่า 💞 ผลงานและหน้าที่การงานที่น่าประทับใจ 💼 - บริษัท CTO. Lines - เลขานุการและมัคคุเทศก์ บริษัทซีต้า แทรเวล - ประชาสัมพันธ์โรงแรมชวลิต หรือแอมบาสซาเดอร์ในปัจจุบัน - ประชาสัมพันธ์ ศูนย์บริหารร่างกายโจแอนดรูว์ - ที่ปรึกษาการตลาด บริษัทเดอะมอลล์กรุ๊ป 💐 เจ้ากอแก้วประกายกาวิลเสียชีวิต เมื่อช่วงสายวันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 เวลา 10.30 น. ด้วยวัย 69 ปี สิ้นสุดตำนาน "สาวสองพันปี" ณ โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 พระราชทานหีบทองทึบ และรับพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ ที่วัดธาตุทอง ✨ พิธีพระราชทานเพลิงศพ จัดขึ้นเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 ตำนานที่ยังคงอยู่ในใจผู้คน 🕊️ 20 ปีผ่านไป ชื่อของเจ้ากอแก้วประกายกาวิล ยังไม่จางหาย เจ้าป้าคือแรงบันดาลใจ ให้คนรุ่นใหม่ที่กล้าคิด กล้าทำ กล้าแสดงออก และกล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง 💜 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131110 มี.ค. 2568 #เจ้ากอแก้วประกายกาวิล #สาวสองพันปี #เจ้าแม่ตัดริบบิ้น #แฟชั่นสีม่วง #ไฮโซเชียงใหม่ #ตำนานสังคมไทย #สาวเปรี้ยวแห่งยุค #กอแก้วประกายกาวิล #ChiangMaiLegend #PurpleIcon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หมดแล้ว! ไม่เหลือแล้ว! ไม่มีอีกแล้ว!"
    สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 12 มีนาคมว่ายูเครนไม่มีระบบขีปนาวุธยุทธวิธีระยะไกลของกองทัพ (ATACMS) ในคลังอาวุธอีกต่อไปแล้ว

    เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรวมทั้งสมาชิกรัฐสภายูเครนที่ไม่เปิดเผยชื่อ ยืนยันกับสำนักข่าวเอพีว่า ปัจจุบันยูเครนไม่มีขีปนาวุธ ATACMS เหลืออยู่อีกแล้ว โดยขีปนาวุธเหล่านี้หมดไปตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม
    "หมดแล้ว! ไม่เหลือแล้ว! ไม่มีอีกแล้ว!" สำนักข่าวเอพีรายงานเมื่อวันที่ 12 มีนาคมว่ายูเครนไม่มีระบบขีปนาวุธยุทธวิธีระยะไกลของกองทัพ (ATACMS) ในคลังอาวุธอีกต่อไปแล้ว เจ้าหน้าที่สหรัฐฯรวมทั้งสมาชิกรัฐสภายูเครนที่ไม่เปิดเผยชื่อ ยืนยันกับสำนักข่าวเอพีว่า ปัจจุบันยูเครนไม่มีขีปนาวุธ ATACMS เหลืออยู่อีกแล้ว โดยขีปนาวุธเหล่านี้หมดไปตั้งแต่ช่วงเดือนมกราคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ตำรวจยังตั้งแนวทางการสอบสวน 2 ประเด็น คือ 1.ฆ่าตัวตาย และ 2.ถูกทำให้ตาย โดยพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่าง ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับ ผกก.โจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องสอบปากคำเพราะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย แต่ก็จะทำงานควบคู่กัน สำหรับภาพกล้องวงจรปิดในแดน 5 ที่ ผกก.โจ้ ถูกคุมขัง ตำรวจรับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่ สำหรับประเด็นที่มีหยดเลือดในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนู อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน

    -3 เดือนรู้ผลคดีฮั้วเลือก สว.
    -แสลงใจล้มเหลวดับไฟใต้
    -ตรวจรุกป่าปลูกทุเรียน
    -เข็นเศรษฐกิจไทยโต 3.5%
    ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสอบสวนการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับ สภ.นครสวรรค์ หรือ ผู้กำกับโจ้ ตำรวจยังตั้งแนวทางการสอบสวน 2 ประเด็น คือ 1.ฆ่าตัวตาย และ 2.ถูกทำให้ตาย โดยพนักงานสอบสวน สน.ประชาชื่น ได้สอบปากคำพยาบาลเรือนจำที่เข้าไปตรวจสอบร่าง ส่วนอดีตผู้คุมแดน 7 ที่มีข้อพิพาทกับ ผกก.โจ้ ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ต้องสอบปากคำเพราะเป็นคดีทำร้ายร่างกาย แต่ก็จะทำงานควบคู่กัน สำหรับภาพกล้องวงจรปิดในแดน 5 ที่ ผกก.โจ้ ถูกคุมขัง ตำรวจรับเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดแล้ว ซึ่งได้ส่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบรายละเอียดว่าถูกตัดต่อหรือไม่ สำหรับประเด็นที่มีหยดเลือดในที่เกิดเหตุและผ้าขนหนู อยู่ระหว่างรอผลตรวจจากพิสูจน์หลักฐาน คาดใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน -3 เดือนรู้ผลคดีฮั้วเลือก สว. -แสลงใจล้มเหลวดับไฟใต้ -ตรวจรุกป่าปลูกทุเรียน -เข็นเศรษฐกิจไทยโต 3.5%
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 268 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายโจมตีองค์กรด้านการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี และโทรคมนาคมในสหรัฐฯ และเอเชีย ผ่าน เราเตอร์ของ Juniper Networks โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนชื่อว่า UNC3886

    UNC3886 ถูกจับตามองโดยทีม Mandiant ซึ่งเผยว่ากลุ่มนี้มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเราเตอร์ Juniper พวกเขาใช้มัลแวร์ชนิด TINYSHELL ซึ่งเป็น backdoor ที่มีหลากหลายความสามารถ โดยเจาะผ่านระบบป้องกัน Veriexec ซึ่งปกติจะตรวจจับและป้องกันการรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต

    กลุ่มแฮกเกอร์นี้สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันได้ผ่านการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในหน่วยความจำของกระบวนการที่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

    คำแนะนำจาก Mandiant
    - อัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีมาตรการป้องกันและลายเซ็นใหม่สำหรับเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ของ Juniper
    - ใช้ Juniper Malware Removal Tool (JMRT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการอัปเดต
    - สแกนและตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า UNC3886 มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนอื่น ๆ อย่าง Salt Typhoon หรือ Volt Typhoon แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-targeting-juniper-networks-routers-so-patch-now
    ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายโจมตีองค์กรด้านการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี และโทรคมนาคมในสหรัฐฯ และเอเชีย ผ่าน เราเตอร์ของ Juniper Networks โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนชื่อว่า UNC3886 UNC3886 ถูกจับตามองโดยทีม Mandiant ซึ่งเผยว่ากลุ่มนี้มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเราเตอร์ Juniper พวกเขาใช้มัลแวร์ชนิด TINYSHELL ซึ่งเป็น backdoor ที่มีหลากหลายความสามารถ โดยเจาะผ่านระบบป้องกัน Veriexec ซึ่งปกติจะตรวจจับและป้องกันการรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต กลุ่มแฮกเกอร์นี้สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันได้ผ่านการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในหน่วยความจำของกระบวนการที่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกตรวจจับ คำแนะนำจาก Mandiant - อัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีมาตรการป้องกันและลายเซ็นใหม่สำหรับเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ของ Juniper - ใช้ Juniper Malware Removal Tool (JMRT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการอัปเดต - สแกนและตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า UNC3886 มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนอื่น ๆ อย่าง Salt Typhoon หรือ Volt Typhoon แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-targeting-juniper-networks-routers-so-patch-now
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chinese hackers targeting Juniper Networks routers, so patch now
    Defense, technology, and telecommunications organizations are being targeted with backdoors.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้พูดถึงการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่ม Medusa ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา กฎหมาย เทคโนโลยี และการผลิต โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การใช้ข้อมูลที่ขโมยมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องค่าไถ่

    Medusa ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะแรนซัมแวร์ประเภทปิด ที่พัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มเดียว แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งอนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรร่วมดำเนินการโจมตี โดยมีการเปิดตัว Medusa Blog สำหรับเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายเงิน

    Medusa ใช้วิธีการจ้างบุคคลที่เรียกว่า Initial Access Brokers (IABs) ผ่านฟอรัมในโลกไซเบอร์เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อ โดยมีการเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ $100 ถึง $1 ล้าน เพื่อล่อลวงผู้ร่วมมือ การโจมตีครั้งสำคัญของ Medusa รวมถึงโรงเรียนในเมืองมินนิอาโปลิสและ Toyota Financial Services ซึ่งเสียหายหลายล้านดอลลาร์จากการปฏิเสธจ่ายค่าไถ่

    มาตรการป้องกันที่แนะนำ CISA, FBI และ MS-ISAC แนะนำให้ทุกองค์กรดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น:
    - อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยเสมอ
    - แยกเครือข่ายเพื่อลดการแพร่กระจายของการโจมตีภายในองค์กร
    - กรองการเชื่อมต่อเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ

    ความท้าทายใหม่ ข่าวยังเน้นถึงความสับสนเกี่ยวกับชื่อ "Medusa" เนื่องจากมีกลุ่มมัลแวร์หลายกลุ่มใช้ชื่อนี้ เช่น Botnet และมัลแวร์ Android ในอดีต ซึ่งอาจทำให้มีการรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับตัวตนของแรนซัมแวร์นี้

    https://www.bleepingcomputer.com/news/security/cisa-medusa-ransomware-hit-over-300-critical-infrastructure-orgs/
    ข่าวนี้พูดถึงการโจมตีของแรนซัมแวร์กลุ่ม Medusa ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อองค์กรกว่า 300 แห่งในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในภาคส่วนโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เช่น การแพทย์ การศึกษา กฎหมาย เทคโนโลยี และการผลิต โดยการโจมตีเหล่านี้มุ่งเป้าไปที่การใช้ข้อมูลที่ขโมยมาเป็นตัวประกันเพื่อเรียกร้องค่าไถ่ Medusa ปรากฏตัวครั้งแรกในปี 2021 ในฐานะแรนซัมแวร์ประเภทปิด ที่พัฒนาและดำเนินการโดยกลุ่มเดียว แต่หลังจากนั้นได้เปลี่ยนเป็นรูปแบบ Ransomware-as-a-Service (RaaS) ซึ่งอนุญาตให้เครือข่ายพันธมิตรร่วมดำเนินการโจมตี โดยมีการเปิดตัว Medusa Blog สำหรับเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกขโมยเพื่อกดดันเหยื่อให้จ่ายเงิน Medusa ใช้วิธีการจ้างบุคคลที่เรียกว่า Initial Access Brokers (IABs) ผ่านฟอรัมในโลกไซเบอร์เพื่อหาช่องทางเข้าถึงเครือข่ายของเหยื่อ โดยมีการเสนอค่าตอบแทนตั้งแต่ $100 ถึง $1 ล้าน เพื่อล่อลวงผู้ร่วมมือ การโจมตีครั้งสำคัญของ Medusa รวมถึงโรงเรียนในเมืองมินนิอาโปลิสและ Toyota Financial Services ซึ่งเสียหายหลายล้านดอลลาร์จากการปฏิเสธจ่ายค่าไถ่ มาตรการป้องกันที่แนะนำ CISA, FBI และ MS-ISAC แนะนำให้ทุกองค์กรดำเนินมาตรการป้องกัน เช่น: - อัปเดตระบบปฏิบัติการและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัยเสมอ - แยกเครือข่ายเพื่อลดการแพร่กระจายของการโจมตีภายในองค์กร - กรองการเชื่อมต่อเครือข่ายจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ ความท้าทายใหม่ ข่าวยังเน้นถึงความสับสนเกี่ยวกับชื่อ "Medusa" เนื่องจากมีกลุ่มมัลแวร์หลายกลุ่มใช้ชื่อนี้ เช่น Botnet และมัลแวร์ Android ในอดีต ซึ่งอาจทำให้มีการรายงานที่ผิดพลาดเกี่ยวกับตัวตนของแรนซัมแวร์นี้ https://www.bleepingcomputer.com/news/security/cisa-medusa-ransomware-hit-over-300-critical-infrastructure-orgs/
    WWW.BLEEPINGCOMPUTER.COM
    CISA: Medusa ransomware hit over 300 critical infrastructure orgs
    CISA says the Medusa ransomware operation has impacted over 300 organizations in critical infrastructure sectors in the United States until last month.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ทำเนียบขาว โดยหวังว่ารัสเซียจะยอมรับข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งขณะนี้เขาส่งทีมงานมาถึงรัสเซียเพื่อเริ่มการเจรจา เกี่ยวกับรายละเอียดแล้ว

    “ตอนนี้เราต้องไปถามรัสเซียและหวังว่าประธานาธิบดีปูตินจะตกลงด้วย”

    ▪️ ทางด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ กล่าวเสริมว่า “พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่พิเศษ” “จะรอดูว่ารัสเซียจะตกลงได้หรือไม่”
    ทรัมป์ให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ทำเนียบขาว โดยหวังว่ารัสเซียจะยอมรับข้อตกลงหยุดยิง ซึ่งขณะนี้เขาส่งทีมงานมาถึงรัสเซียเพื่อเริ่มการเจรจา เกี่ยวกับรายละเอียดแล้ว “ตอนนี้เราต้องไปถามรัสเซียและหวังว่าประธานาธิบดีปูตินจะตกลงด้วย” ▪️ ทางด้านรองประธานาธิบดีแวนซ์ กล่าวเสริมว่า “พวกเรากำลังอยู่ในช่วงเวลาที่พิเศษ” “จะรอดูว่ารัสเซียจะตกลงได้หรือไม่”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 20 0 รีวิว
  • อเมริกายุติการระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ หลังคณะเจรจายูเครนรับข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน รวมทั้งตกลงเจรจากับรัสเซียเพื่อยุติสงครามทันที อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในรัสเซียหลายคนฟันธง ปูตินไม่มีแนวโน้มยอมรับข้อเสนอนี้

    อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000024100
    อเมริกายุติการระงับความช่วยเหลือทางทหารแก่เคียฟ หลังคณะเจรจายูเครนรับข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน รวมทั้งตกลงเจรจากับรัสเซียเพื่อยุติสงครามทันที อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในรัสเซียหลายคนฟันธง ปูตินไม่มีแนวโน้มยอมรับข้อเสนอนี้ อ่านต่อ..https://sondhitalk.com/detail/9680000024100
    Like
    Love
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปรับ 2.5 แสนริงกิตคลื่น ERA ปมคลิปดีเจล้อเลียนฮินดู

    ความคืบหน้ากรณีที่ ปาก อาซาด (Pak Azad) หรือ อาซาด จัสมิน จอห์น หลุยส์ เจฟฟรี่ (Azad Jazmin John Louis Jeffri) ดีเจสถานีวิทยุอีรา (ERA) คลื่นเพลงชื่อดังในมาเลเซีย ไปล้อเลียนการเต้นรำกาวาดี (Kavadi) ของศาสนาฮินดู แล้วมีคลิปในบัญชีโซเชียลมีเดียทางการของสถานี ทำให้ชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย และผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูไม่พอใจ กระทั่งบริษัทแอสโตรสั่งให้พักงานดีเจสามคนที่จัดรายการร่วมกัน และพนักงานสถานีอีก 2 คนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่ดีเจทั้งสามคนขอโทษทั้งผ่านคลิปวีดีโอ รวมทั้งไปขอโทษต่อชุมชนชาวอินเดียที่วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) ก่อนหน้านี้

    ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 11 มี.ค. คณะกรรมการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) สั่งปรับ 250,000 ริงกิต (1,925,000 บาท) แก่บริษัทเมสตร้า บอร์ดคาสต์ (Maestra Broadcast) บริษัทย่อยของ แอสโตร มาเลเซีย โฮลดิ้งส์ (Astro Malaysia Holdings) ผู้ผลิตสื่อบันเทิงในมาเลเซีย โดยพิจารณาจากวีดีโอคลิปอัปโหลดลงในติ๊กต็อกที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ แต่ไม่ระงับใบอนุญาตสถานีวิทยุ เนื่องจากบริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาพร้อมกับขอโทษ อีกทั้งเกรงถึงผลกระทบกับคลื่นเพลงภาษาจีน Melody และคลื่นเพลงสากล Mix FM ภายใต้ใบอนุญาตเดียวกันด้วย

    อย่างไรก็ตาม มีการเปรียบเทียบและโจมตี MCMC โดยเทียบกับกรณีละเมิดกฎ "3R" ได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา และราชวงศ์ (Race, Religion and Royalty) ทำนองว่าลำเอียงเมื่อเทียบกับคดีอื่นๆ ทำให้นายฟาห์มี ฟาดซิล รมว.การสื่อสาร และโฆษกรัฐบาลอันวาร์ อิบราฮิม อธิบายว่าแตกต่างกัน เพราะกรณีถุงเท้าในร้าน KK Mart เป็นคดีอาญา ศาลกำหนดค่าปรับ 60,000 ริงกิต (462,000 บาท) ส่วนกรณีนักแสดง ฮาริธ อิสกันเดอร์ (Harith Iskander) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย Cecelia Yap ที่อัปโหลดเนื้อหาพาดพิงศาสนาอิสลาม ถูกดำเนินคดีในนามบุคคล ไม่ใช่บริษัท และอัยการให้ปรับ 10,000 ริงกิต (77,000 บาท) โดยไม่ได้นำคดีขึ้นสู่ศาลแต่อย่างใด

    ตุนกู นาซรุล อาไบดาห์ โฆษกอาวุโสของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ระบุว่า นายกฯ เรียกร้องให้ชาวมาเลเซียทุกคนร่วมมือกันเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความสามัคคี และช่วยเหลือรัฐบาลรวมพลังชาวมาเลเซียทุกคนที่มีศาสนา เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ที่แตกต่างเข้าด้วยกัน โดยนายกฯ ได้พบกับดีเจที่เป็นข่าว ในงานเลี้ยงอาหารค่ำอิฟตาร์กับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มี.ค.โดยแนะว่าให้นำสารแห่งความสามัคคีไปใช้ในชีวิตประจำวัน และหวังว่าชาวมาเลเซียจะก้าวข้ามเรื่องนี้ไปข้างหน้าเพื่อสร้างสันติภาพและความสามัคคีในประเทศ โดยเคารพซึ่งกันและกัน

    #Newskit
    ปรับ 2.5 แสนริงกิตคลื่น ERA ปมคลิปดีเจล้อเลียนฮินดู ความคืบหน้ากรณีที่ ปาก อาซาด (Pak Azad) หรือ อาซาด จัสมิน จอห์น หลุยส์ เจฟฟรี่ (Azad Jazmin John Louis Jeffri) ดีเจสถานีวิทยุอีรา (ERA) คลื่นเพลงชื่อดังในมาเลเซีย ไปล้อเลียนการเต้นรำกาวาดี (Kavadi) ของศาสนาฮินดู แล้วมีคลิปในบัญชีโซเชียลมีเดียทางการของสถานี ทำให้ชาวมาเลเซียเชื้อสายอินเดีย และผู้ที่นับถือศาสนาฮินดูไม่พอใจ กระทั่งบริษัทแอสโตรสั่งให้พักงานดีเจสามคนที่จัดรายการร่วมกัน และพนักงานสถานีอีก 2 คนอย่างไม่มีกำหนด ขณะที่ดีเจทั้งสามคนขอโทษทั้งผ่านคลิปวีดีโอ รวมทั้งไปขอโทษต่อชุมชนชาวอินเดียที่วัดถ้ำบาตู (Batu Caves) ก่อนหน้านี้ ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 11 มี.ค. คณะกรรมการสื่อสารและมัลติมีเดียแห่งมาเลเซีย (MCMC) สั่งปรับ 250,000 ริงกิต (1,925,000 บาท) แก่บริษัทเมสตร้า บอร์ดคาสต์ (Maestra Broadcast) บริษัทย่อยของ แอสโตร มาเลเซีย โฮลดิ้งส์ (Astro Malaysia Holdings) ผู้ผลิตสื่อบันเทิงในมาเลเซีย โดยพิจารณาจากวีดีโอคลิปอัปโหลดลงในติ๊กต็อกที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของ แต่ไม่ระงับใบอนุญาตสถานีวิทยุ เนื่องจากบริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาพร้อมกับขอโทษ อีกทั้งเกรงถึงผลกระทบกับคลื่นเพลงภาษาจีน Melody และคลื่นเพลงสากล Mix FM ภายใต้ใบอนุญาตเดียวกันด้วย อย่างไรก็ตาม มีการเปรียบเทียบและโจมตี MCMC โดยเทียบกับกรณีละเมิดกฎ "3R" ได้แก่ เชื้อชาติ ศาสนา และราชวงศ์ (Race, Religion and Royalty) ทำนองว่าลำเอียงเมื่อเทียบกับคดีอื่นๆ ทำให้นายฟาห์มี ฟาดซิล รมว.การสื่อสาร และโฆษกรัฐบาลอันวาร์ อิบราฮิม อธิบายว่าแตกต่างกัน เพราะกรณีถุงเท้าในร้าน KK Mart เป็นคดีอาญา ศาลกำหนดค่าปรับ 60,000 ริงกิต (462,000 บาท) ส่วนกรณีนักแสดง ฮาริธ อิสกันเดอร์ (Harith Iskander) และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย Cecelia Yap ที่อัปโหลดเนื้อหาพาดพิงศาสนาอิสลาม ถูกดำเนินคดีในนามบุคคล ไม่ใช่บริษัท และอัยการให้ปรับ 10,000 ริงกิต (77,000 บาท) โดยไม่ได้นำคดีขึ้นสู่ศาลแต่อย่างใด ตุนกู นาซรุล อาไบดาห์ โฆษกอาวุโสของนายกรัฐมนตรีอันวาร์ ระบุว่า นายกฯ เรียกร้องให้ชาวมาเลเซียทุกคนร่วมมือกันเพื่อเป็นตัวแทนแห่งความสามัคคี และช่วยเหลือรัฐบาลรวมพลังชาวมาเลเซียทุกคนที่มีศาสนา เชื้อชาติ และชาติพันธุ์ที่แตกต่างเข้าด้วยกัน โดยนายกฯ ได้พบกับดีเจที่เป็นข่าว ในงานเลี้ยงอาหารค่ำอิฟตาร์กับผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชนเมื่อวันที่ 11 มี.ค.โดยแนะว่าให้นำสารแห่งความสามัคคีไปใช้ในชีวิตประจำวัน และหวังว่าชาวมาเลเซียจะก้าวข้ามเรื่องนี้ไปข้างหน้าเพื่อสร้างสันติภาพและความสามัคคีในประเทศ โดยเคารพซึ่งกันและกัน #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ไม่ค่อยว่างเลย ติดเสพอย่างอื่น เบื่อข่าวสมยศ vs มาดามแป้ง มากๆเลย ส่วนตัวผมไม่อยากจะสนใจข่าวนี้ด้วยซ้ำ เสียเวลา เสียพลังงาน แต่หันมาฝึกทำโจทย์แคลคูลัสที่ขาดหายไป และเรียนรู้ส่วนที่ขาดหายไปจากการเรียน ป.ตรี แต่ก็พยายามเรียนรู้ ไม่ใช่เพื่อเงิน แต่เพื่อสร้างตัวตนใหม่ที่ดีกว่า ข่าวนึงที่เบื่ออีกก็เบื่อข่าว ส้ม vs สปส. ไม่อยากอินกับข่าวนี้ ไม่รู้คนอวยส้มไม่พอ อวยไอ้โทนาฟอีก อยากให้ไทยภักดีออกมาพูดเรื่องปฏิรูปประกันสังคม จัดการทุจริตประกันสังคมบ้างก็ได้ เพราะส้มได้หน้าแล้ว ถ้าปราบโกงประกันสังคมจริง ต้องเลือกไทยภักดี
    วันนี้ไม่ค่อยว่างเลย ติดเสพอย่างอื่น เบื่อข่าวสมยศ vs มาดามแป้ง มากๆเลย ส่วนตัวผมไม่อยากจะสนใจข่าวนี้ด้วยซ้ำ เสียเวลา เสียพลังงาน แต่หันมาฝึกทำโจทย์แคลคูลัสที่ขาดหายไป และเรียนรู้ส่วนที่ขาดหายไปจากการเรียน ป.ตรี แต่ก็พยายามเรียนรู้ ไม่ใช่เพื่อเงิน แต่เพื่อสร้างตัวตนใหม่ที่ดีกว่า ข่าวนึงที่เบื่ออีกก็เบื่อข่าว ส้ม vs สปส. ไม่อยากอินกับข่าวนี้ ไม่รู้คนอวยส้มไม่พอ อวยไอ้โทนาฟอีก อยากให้ไทยภักดีออกมาพูดเรื่องปฏิรูปประกันสังคม จัดการทุจริตประกันสังคมบ้างก็ได้ เพราะส้มได้หน้าแล้ว ถ้าปราบโกงประกันสังคมจริง ต้องเลือกไทยภักดี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถอดบทเรียนผู้กำกับโจ้ สะท้อนกระบวนการยุติธรรม : คนเคาะข่าว 12-03-68
    : จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์

    #ผู้กำกับโจ้ #กระบวนการยุติธรรม #ปฏิรูปตำรวจ #คนเคาะข่าว #จตุพรพรหมพันธุ์ #สิทธิประชาชน #ความยุติธรรมไทย #คดีดัง #อำนาจรัฐ #ไทยTimes #วิเคราะห์สังคม #กฎหมายไทย #หลอมรวมประชาชน #ตำรวจไทย #กระบวนการยุติธรรมไทย
    ถอดบทเรียนผู้กำกับโจ้ สะท้อนกระบวนการยุติธรรม : คนเคาะข่าว 12-03-68 : จตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #ผู้กำกับโจ้ #กระบวนการยุติธรรม #ปฏิรูปตำรวจ #คนเคาะข่าว #จตุพรพรหมพันธุ์ #สิทธิประชาชน #ความยุติธรรมไทย #คดีดัง #อำนาจรัฐ #ไทยTimes #วิเคราะห์สังคม #กฎหมายไทย #หลอมรวมประชาชน #ตำรวจไทย #กระบวนการยุติธรรมไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 8 0 รีวิว
  • แหล่งข่าววงในของรัสเซียอ้างว่าปูตินจะไม่ตกลงตามข้อตกลง "ในรูปแบบปัจจุบัน" โดยไม่มีหลักประกันใด เนื่องจากขณะนี้รัสเซียอยู่ในสถานะที่เหนือกว่ายูเครนจากการควบคุมพื้นที่ของยูเครนเกือบหนึ่งในห้า และยูเครนมีสูญเสียการควบคุมลงไปเรื่อยๆ

    ขณะที่เครมลินกล่าวว่าจะไม่พิจารณาข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน จนกว่าสหรัฐฯ จะแจ้งรายละเอียดให้รัสเซียทราบอย่างเป็นทางการ

    ที่มา: Reuters
    แหล่งข่าววงในของรัสเซียอ้างว่าปูตินจะไม่ตกลงตามข้อตกลง "ในรูปแบบปัจจุบัน" โดยไม่มีหลักประกันใด เนื่องจากขณะนี้รัสเซียอยู่ในสถานะที่เหนือกว่ายูเครนจากการควบคุมพื้นที่ของยูเครนเกือบหนึ่งในห้า และยูเครนมีสูญเสียการควบคุมลงไปเรื่อยๆ ขณะที่เครมลินกล่าวว่าจะไม่พิจารณาข้อเสนอหยุดยิง 30 วัน จนกว่าสหรัฐฯ จะแจ้งรายละเอียดให้รัสเซียทราบอย่างเป็นทางการ ที่มา: Reuters
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 117 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน"

    เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568

    ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม

    อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว

    ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP

    ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง

    #Newskit
    "เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน" เรียกเสียงวิจารณ์ในสังคม ถึงมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท กระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 3 ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย คราวนี้เป็นคิวของผู้ที่มีอายุ 16-20 ปี จำนวน 2.7 ล้านคน โดยอ้างว่ามีความพร้อมรู้ทางเทคโนโลยี ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจเมื่อวันที่ 10 มี.ค. เห็นชอบหลักการดังกล่าว ซึ่งครั้งนี้แจกเงินผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล วอลเล็ต บนแอปพลิเคชันทางรัฐ คาดว่าจะดำเนินการในช่วงปลายไตรมาส 2 ควบไตรมาส 3 ของปี 2568 ส่วนกลุ่มอายุ 21-59 ปี ที่ยังไม่ได้รับเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลได้กันเงินไว้ 150,000 ล้านบาท มีกระสุนไว้เพียงพอ มีไว้เยอะ รัฐบาลใช้เงินทุกบาททุกสตางค์อย่างคุ้มค่า ยืนยันว่าการเลือกแจกกลุ่มนี้ เป็นกลุ่มที่ตื่นรู้ทางเทคโนโลยีสูง มีความสามารถในการใช้จ่ายในแบบนี้ ด้วยจำนวนเงินช่วงเวลาที่เหมาะสม อย่างไรก็ตาม การแจกเงินหมื่นเฟสนี้กลายเป็นที่สับสนแก่สังคม เพราะทีแรกแถลงข่าวว่า สามารถจ่ายค่าเทอมได้ แต่วันต่อมา กลับกล่าวว่าไม่ได้ เพราะค่าเทอม ค่าโทรศัพท์มือถือ และค่าบริการต่างๆ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ถือว่าเป็นค่าบริการ ไม่รวมอยู่ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลังก็อ้างว่าสื่อถามเร็วไปหน่อย ประจัญหน้าไปหน่อย คราวหน้าส่งคำถามมาก่อน อย่างไรก็ตาม ยังคงสามารถนำเงินไปใช้ซื้อสินค้าประเภทอื่นได้อยู่แล้ว ไม่นับรวมเสียงวิจารณ์จากสังคม โดยเฉพาะกลุ่มวัยทำงานที่รอรัฐบาลแจกเงินแล้วยังไม่ได้ และผลพิสูจน์โครงการแจกเงิน 2 เฟสที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและผู้พิการ 14.5 ล้านคน และผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 3.02 ล้านคน รวม 17.5 ล้านคน แม้จะเป็นการโอนเงินสดเข้าบัญชีธนาคาร ผ่านระบบพร้อมเพย์เลขที่บัตรประชาชนก็ตาม ก็ไม่ได้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลกล่าวอ้าง ธนาคารโลก (World Bank) ยังระบุว่ากระตุ้น GDP ได้เพียง 0.3% แต่มีต้นทุนทางการคลังสูงถึง 145,000 ล้านบาท หรือ 0.8% ของ GDP ขณะที่ชาวเน็ตยังคงแชร์ดิจิทัลฟุตปรินต์ แล้ววิจารณ์อย่างสนุกสนาน หนึ่งในนั้นเป็นคำพูดของนายทักษิณ ชินวัตร กล่าวในรายการ CARE Talk เมื่อวันที่ 15 มี.ค. 2565 ระบุว่า "เติมเศรษฐกิจให้แข็งแรง ทำอะไรกระตุ้นเศรษฐกิจ เอาเงินไปแจกผมว่าปัญญาอ่อน ถ้ามีปัญญาเขาไม่แจก เขาใช้เงินไปสร้างเศรษฐกิจ ให้เศรษฐกิจแข็งแรง ทำเรื่องง่าย หรือยังขายวัคซีนไม่จบ" ซึ่งเป็นการแซะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น แต่กลายเป็นว่าพอพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล และลูกสาวเป็นนายกรัฐมนตรี กลับทำเสียเอง #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีแนวโน้มว่า "อาหมัด อัลชารา" ผู้นำซีเรียจะตอบรับคำเชิญของสหภาพยุโรปในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งนับเป็นการเยือนยุโรปครั้งแรกของเขา

    "จากอดีตผู้ก่อการร้ายที่มีค่าตัวสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้เขากำลังได้รับการเชิดชูและโอบอุ้มโดยชาวยุโรป ท่ามกลางข่าวการสังหารหมู่ชาวซีเรียเกือบหนึ่งพันรายในขณะที่เขาอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างจากเมื่อก่อนที่เขาอยู่ในสถานะผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS สักนิดเดียว"
    มีแนวโน้มว่า "อาหมัด อัลชารา" ผู้นำซีเรียจะตอบรับคำเชิญของสหภาพยุโรปในการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยี่ยม ช่วงกลางเดือนมีนาคมนี้ ซึ่งนับเป็นการเยือนยุโรปครั้งแรกของเขา "จากอดีตผู้ก่อการร้ายที่มีค่าตัวสิบล้านดอลลาร์สหรัฐ ตอนนี้เขากำลังได้รับการเชิดชูและโอบอุ้มโดยชาวยุโรป ท่ามกลางข่าวการสังหารหมู่ชาวซีเรียเกือบหนึ่งพันรายในขณะที่เขาอยู่ในตำแหน่งผู้นำ ซึ่งไม่ได้มีความแตกต่างจากเมื่อก่อนที่เขาอยู่ในสถานะผู้นำกลุ่มก่อการร้าย HTS สักนิดเดียว"
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลังจากที่ครอบครัวของ “คิมแซรน” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับออกมาเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์ของนักแสดงสาวกับพระ้อกหนุ่ม “คิมซูฮยอน” ว่าเคยคบหากัน ก่อนจะตัดสัมพันธ์หลังเหตุเมาแล้วขับจนเป็นหนี้ก้อนโต ล่าสุดมีข่าวลือว่า “วอนบิน” พระเอกชื่อดังเคยเสนอช่วยจ่ายหนี้แทนแต่ก็โดนทาง Gold Medalist ปฏิเสธรับเงิน

    หลังเหตุการณ์แฉจากฝั่งครอบครัวของ คิมแซรน ผ่านทางรายการ Garo Sero Research Institute (Garo Sero) ช่อง YouTube ได้มีความคิดเห็นของชาวเน็ตมาแสดงไว้ใต้วิดีโอโดยระบุว่า วอนบิน เคยเสนอช่วยจ่ายหนี้แทน กลายเป็นความคิดเห็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

    คิมแซรน ได้รับหนังสือทวงหนี้จากทาง Gold Medalist เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านวอน หรือประมาณ 16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2024 หลังจากที่ทางบริษัทได้ออกเงินดังกล่าวเพื่อชดเชยค่าเสียหายและค่าละเมิดสัญญาจากทางแบรนด์ต่างๆ สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมาแล้วขับ

    ทาง คิมแซรน เคยตั้งใจจะชดใช้ด้วยการหักค่าแรงจากการทำงานในอนาคตหลังเธอเริ่มกลับมารับงานแสดงและงานในวงการบันเทิงบ้างแล้ว แต่หลังจากถูกเร่งรัดบีบให้จ่ายเงินก้อน เธอจึงหมดหนทางแม้จะพยายามติดต่อไปยัง คิมซูฮยอน เพื่อขอเคลียร์และขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยการไม่รับสาย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000023850

    #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน
    หลังจากที่ครอบครัวของ “คิมแซรน” นักแสดงสาวผู้ล่วงลับออกมาเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังความสัมพันธ์ของนักแสดงสาวกับพระ้อกหนุ่ม “คิมซูฮยอน” ว่าเคยคบหากัน ก่อนจะตัดสัมพันธ์หลังเหตุเมาแล้วขับจนเป็นหนี้ก้อนโต ล่าสุดมีข่าวลือว่า “วอนบิน” พระเอกชื่อดังเคยเสนอช่วยจ่ายหนี้แทนแต่ก็โดนทาง Gold Medalist ปฏิเสธรับเงิน • หลังเหตุการณ์แฉจากฝั่งครอบครัวของ คิมแซรน ผ่านทางรายการ Garo Sero Research Institute (Garo Sero) ช่อง YouTube ได้มีความคิดเห็นของชาวเน็ตมาแสดงไว้ใต้วิดีโอโดยระบุว่า วอนบิน เคยเสนอช่วยจ่ายหนี้แทน กลายเป็นความคิดเห็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก • คิมแซรน ได้รับหนังสือทวงหนี้จากทาง Gold Medalist เป็นจำนวนเงิน 700 ล้านวอน หรือประมาณ 16 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มี.ค. 2024 หลังจากที่ทางบริษัทได้ออกเงินดังกล่าวเพื่อชดเชยค่าเสียหายและค่าละเมิดสัญญาจากทางแบรนด์ต่างๆ สืบเนื่องจากเหตุการณ์เมาแล้วขับ • ทาง คิมแซรน เคยตั้งใจจะชดใช้ด้วยการหักค่าแรงจากการทำงานในอนาคตหลังเธอเริ่มกลับมารับงานแสดงและงานในวงการบันเทิงบ้างแล้ว แต่หลังจากถูกเร่งรัดบีบให้จ่ายเงินก้อน เธอจึงหมดหนทางแม้จะพยายามติดต่อไปยัง คิมซูฮยอน เพื่อขอเคลียร์และขอความช่วยเหลือ แต่ก็ถูกปฏิเสธโดยการไม่รับสาย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/entertainment/detail/9680000023850 • #MGROnline #คิมแซรน #คิมซูฮยอน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว

  • “จรยุทธ” ร่อนคำขอโทษ กรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ทำประชาชนไม่สบายใจ ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ สร้างบรรทัดฐานที่ดี บอกเข้าใจ-ซาบซึ้งทุกความเห็นที่คาดหวัง

    วันนี้ (12 มี.ค.) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ว่า จากกระแสข่าวที่มีการเผยแพร่ออกมา ผมทราบดีว่าทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความกังวลและมีข้อสงสัย ผมจึงอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ ผมเข้าใจถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมีต่อตัวผมในฐานะผู้แทนและผมเองก็ซาบซึ้งกับทุกความคิดเห็นที่ส่งมา

    ผมให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทางรัฐสภา เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของการเป็นผู้แทนราษฎร

    สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า ผมยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023904

    #MGROnline #พรรคประชาชน #สูบบุหรี่ไฟฟ้า #อาคารรัฐสภา
    “จรยุทธ” ร่อนคำขอโทษ กรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ทำประชาชนไม่สบายใจ ยันพร้อมเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบ สร้างบรรทัดฐานที่ดี บอกเข้าใจ-ซาบซึ้งทุกความเห็นที่คาดหวัง • วันนี้ (12 มี.ค.) นายจรยุทธ จตุรพรประสิทธิ์ สส.กทม. พรรคประชาชน โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก ถึงกรณีสูบบุหรี่ไฟฟ้าในอาคารรัฐสภา ว่า จากกระแสข่าวที่มีการเผยแพร่ออกมา ผมทราบดีว่าทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความกังวลและมีข้อสงสัย ผมจึงอยากขอโทษจากใจจริงที่ทำให้พี่น้องประชาชนไม่สบายใจ ผมเข้าใจถึงความคาดหวังที่พี่น้องประชาชนมีต่อตัวผมในฐานะผู้แทนและผมเองก็ซาบซึ้งกับทุกความคิดเห็นที่ส่งมา • ผมให้ความสำคัญกับบทบาทหน้าที่ของตัวเองในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ในขณะเดียวกัน ผมพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบจากทางรัฐสภา เพื่อเป็นการสร้างบรรทัดฐานที่ดีของการเป็นผู้แทนราษฎร • สุดท้ายนี้ ผมขอขอบคุณทุกเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชน และขอยืนยันว่า ผมยังคงมุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023904 • #MGROnline #พรรคประชาชน #สูบบุหรี่ไฟฟ้า #อาคารรัฐสภา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗

    เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด!

    🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨

    🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล!

    ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱

    🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨

    3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ?
    - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์
    - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์
    - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์

    รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸

    การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน

    🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง...

    นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨

    🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก
    - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม
    - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี
    - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์
    - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู

    ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ!

    ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡

    🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้

    ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️

    4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊
    1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี
    2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี
    3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี
    4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี

    ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"!

    🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้!

    คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย

    คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท

    ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้

    นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน

    จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง

    บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้

    มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568

    🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    พันตำรวจโท "หัวโจก!" จัดฉากอุบัติเหตุ ฆาตกรรมอำพราง ชนซ้ำ 3 คัน 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้าน 💰🚗 เจาะลึกคดีสะเทือนขวัญ! พันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ จัดฉากอุบัติเหตุชนซ้ำ 3 คัน สะสม 22 กรมธรรม์ หวังเงินประกัน 14 ล้านบาท เรื่องจริงที่ซับซ้อนกว่าที่คิด! 🔥 เปิดโปงแผนฆาตกรรมอำพราง! พันตำรวจโท หัวโจก จัดฉากอุบัติเหตุหวังเงินประกัน 14 ล้าน 🚨 🚓 คดีสะเทือนวงการ! วันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 วงการประกันภัยต้องสะเทือน เมื่อบริษัทประกันภัยหลากหลายแห่ง รวมตัวกันเดินทางไปยัง ภ.จว.สกลนคร เพื่อร้องขอให้ตรวจสอบอุบัติเหตุรถชนซ้ำถึง 3 คัน เมื่อกลางดึกวันจันทร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งทำให้นายวิเชียร จิตเย็น อายุ 32 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ความผิดปกติที่ปรากฏ ทำให้หลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยว่า นี่อาจไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็น "ฆาตกรรมอำพราง" ที่มีการวางแผนอย่างแยบยล! ประเด็นร้อน คือมีการทำประกันภัยรถยนต์ถึง 22 กรมธรรม์ คาดว่าจะได้รับเงินประกันรวมสูงถึง 14 ล้านบาท! แต่ที่น่าสะพรึงยิ่งกว่าคือ การพบว่าเบื้องหลังขบวนการนี้ มีชื่อของ "พันตำรวจโท" เข้ามาเกี่ยวข้อง ในฐานะหัวหน้าแก๊ง! 😱 🤔 คดีฆาตกรรมอำพราง หรือ อุบัติเหตุธรรมดา? เหตุการณ์ในคืนสยองขวัญ วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 21.10 น. ตำรวจโรงพักวานรนิวาส จังหวัดสกลนคร ได้รับแจ้งเหตุรถชน บริเวณถนนระหว่างบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กม.ที่ 15 ตำบลธาตุ พบผู้เสียชีวิตคาที่คือนายวิเชียร จิตเย็น จากข้อมูลเบื้องต้น เหมือนจะเป็นอุบัติเหตุ แต่ความจริง กลับซับซ้อนเกินกว่าจะจินตนาการ! 😨 3 คัน 22 กรมธรรม์... แค่บังเอิญจริงหรือ? - รถคันแรก ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน กพ 2576 สกลนคร ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 12 กรมธรรม์ - รถคันที่สอง ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ สีขาว หมายเลขทะเบียน บษ 1720 กาฬสินธุ์ ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ - รถคันที่สาม ปิกอัพอีซูซุ ดีแมกซ์ 4 ประตู สีขาว หมายเลขทะเบียน ผผ 2872 อุดรธานี ทำประกัน พ.ร.บ. ภาคบังคับ 5 กรมธรรม์ รวมทั้งสิ้น 22 กรมธรรม์!!! คิดเป็นวงเงินประกันกว่า 14 ล้านบาท 💸 การทำประกันหลายฉบับในเวลาสั้น ๆ ทำให้บริษัทประกันภัยต่างสงสัยว่า คดีนี้ไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา แต่เป็นแผนฆาตกรรมอำพราง ที่ถูกจัดฉากขึ้นอย่างแนบเนียน 🕵️‍♀️ ปมเบื้องหลัง และพี่สาวผู้ตายกับเบาะแสชิ้นสำคัญ คำพูดที่กลายเป็นชนวนโศกนาฏกรรม นางสาวบัวเรียน อายุ 33 ปี พี่สาวของผู้ตายเผยว่า ก่อนหน้านี้เคยระบายความในใจว่า อยากให้นายวิเชียร “ไปตายเสียที่ไหนก็ได้” เพราะทนพฤติกรรมไม่ไหว แต่คำพูดนั้นกลับถูกนายสกล ญาติคนสนิท นำไปตีความและจัดการ “สั่งสอน” ในแบบของตัวเอง... นายสกล... คนใกล้ตัวที่กลายเป็นฆาตกรเลือดเย็น หลังจากที่นายสกลรับปากว่า จะพานายวิเชียรไปสั่งสอน กลับกลายเป็น การวางแผนฆาตกรรมอำพรางที่ซับซ้อน ร่วมกับนายตำรวจระดับสูงยศ "พันตำรวจโท"และพรรคพวก 😨 🔪 เผยแผนจัดฉากอุบัติเหตุสุดโหด! การเดินทางที่เต็มไปด้วยกับดัก - จุดเริ่มต้น โรงบรรจุน้ำอ่อนสุระทุม - จุดรับเหยื่อ บ้านสุวรรณคีรี - จุดตัดผมและซื้อเสื้อผ้า อ.เจริญศิลป์ - จุดดื่มสุรา ร้านบัวชมพู ทุกอย่างดูปกติ... แต่แท้จริงแล้วคือ แผนหลอกล่อเหยื่อให้ติดกับ! ฉากจบที่กิโลเมตรที่ 15... ถนนสายบ้านนาบัว-เจริญศิลป์ กับความตายที่ถูกจัดฉาก นายวิเชียรซึ่งอยู่ในอากาศเมามายอย่างหนัก ครองสติตัวเองไม่ได้ ถูกหลอกให้ลงจากหลังกระบะรถ ลากร่างนอนคว่ำหน้ากลางถนนลาดยาง ก่อนจะถูกขับรถเหยียบทับซ้ำ! จากนั้นก็พากันขับรถกลับไปจอด ที่โรงน้ำเพื่ออำพรางความผิด...😡 🕴️ พันตำรวจโท... หัวโจกผู้บงการเบื้องหลัง! บทบาทของนายตำรวจในคดีนี้ ในระหว่างการวางแผน มีรถตราโล่ในราชการตำรว จจอดหลบอยู่ในลานริมถนน ใกล้ที่กเกิดเหตุ และมีนายตำรวจระดับสารวัตรสอบสวน โรงพักที่เกิดเหตุ แต่งเครื่องแบบพันตำรวจโทเต็มยศ ยืนอยู่หน้ารถโล่ แม้ว่าตำรวจนายนี้จะไม่ได้ลงมือโดยตรง แต่การมีตัวตนในเหตุการณ์ สะท้อนถึงการพัวพันคดี อย่างไม่อาจปฏิเสธได้ ตำรวจสืบสวนเชื่อว่า พันตำรวจโทนายนี้คือ "หัวโจกตัวจริง!" เป็นคนวางแผน ประสานงาน และกำกับการฆาตกรรมอำพรางในครั้งนี้ อย่างแยบยล 👮‍♂️ 4 ผู้ต้องหา ถูกจับกุมและเปิดโปงความจริง! 👊 1. นายสมศักดิ์ หรือแอะ โวเบ้า อายุ 56 ปี 2. นายพีรพัฒน์ หรือป้อม รักกุศล อายุ 30 ปี 3. นายสกล สอนแก้ว อายุ 38 ปี 4. นายพรชนก หรือเก่ง อ่อนสุระทุม อายุ 41 ปี ทุกคนถูกแจ้งข้อหา "ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน"! 🚔 บทสรุป: เรื่องจริงที่ยังไม่จบ! ตำรวจยังเดินหน้าสืบสวน เพื่อรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม และขยายผลไปยังผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะพันตำรวจโทผู้บงการใหญ่ ที่กำลังตกเป็นเป้าหมายหลัก ในการดำเนินคดีครั้งนี้! คดีนี้ไม่ใช่แค่เรื่องเงินประกัน 14 ล้านบาท... แต่เป็นบทเรียนสำคัญ ที่เตือนให้สังคมเห็นถึง อันตรายของความโลภ และอิทธิพลที่แอบแฝง อยู่ในเงามืดของกฎหมาย คดีนี้เป็นเป็นการจัดฉากอุบัติเหตุ ที่มีแผนวางไว้ล่วงหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อเรียกเงินประกันภัย จาก 22 กรมธรรม์ รวมวงเงิน 14 ล้านบาท ผู้บงการหลักในคดีนี้ คือนายตำรวจยศพันตำรวจโท ที่ถูกระบุว่าเป็นหัวโจกใหญ่ ที่มีบทบาทสำคัญในขบวนการนี้ นายวิเชียรถูกเลือกเป็นเหยื่อ เพราะพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับในครอบครัว และคำพูดของพี่สาว ที่ถูกตีความผิด ทำให้ถูกวางแผนฆ่าทิ้ง เพื่อหวังเงินประกัน จากข้อมูลที่ได้รับ มีการตกลงชดใช้เงินให้พี่สาวผู้ตายจำนวน 150,000 บาท เพื่อปิดปาก แต่ความจริงก็ถูกเปิดเผยในภายหลัง บริษัทประกันภัยตรวจพบความผิดปกติ ในการทำประกันภัยจำนวนมาก จึงได้ร้องเรียน และร่วมมือกับตำรวจ ในการเปิดโปงคดีนี้ มีแนวโน้มสูง! ที่จะมีผู้ต้องหารายอื่นถูกจับเพิ่มอีก เนื่องจากการสืบสวนพบว่า มีขบวนการที่กว้างขวาง และอาจมีเจ้าหน้าที่รัฐคนอื่นเกี่ยวข้องด้วย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 121544 มี.ค. 2568 🔖 #ฆาตกรรมอำพราง #จัดฉากอุบัติเหตุ #โกงประกัน #พันตำรวจโท #คดีดังสกลนคร #รถชนซ้ำ #14ล้านประกัน #ข่าวเด่นวันนี้ #คดีอาชญากรรม #เปิดโปงขบวนการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 223 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศึกหนัก 'ประกันสังคม' กองทุนสั่นคลอน ผู้ประกันเสื่อมศรัทธา : ข่าวลึกปมลับ 12/03/68
    ศึกหนัก 'ประกันสังคม' กองทุนสั่นคลอน ผู้ประกันเสื่อมศรัทธา : ข่าวลึกปมลับ 12/03/68
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 203 มุมมอง 12 0 รีวิว
  • ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ป.ป.ท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหาย 2.8 ล้าน

    วันนี้ (12 มี.ค. ) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการสืบสวนกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ปฏิบัติการจับกุมเจ้าหน้าที่สังกัดกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถโดยสารเป็นเท็จ มูลค่าความเสียหาย 2,790,928 บาท จำนวน 7 ราย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023832

    #MGROnline #จับกุมเจ้าหน้าที่ #สังกัดกองการกีฬา #สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว #กรุงเทพมหานคร
    ป.ป.ช. สนธิกำลังปฏิบัติการร่วม ป.ป.ท. และ ป.ป.ป. จับกุม 7 เจ้าหน้าที่สังกัดสำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถบัสทิพย์ เสียหาย 2.8 ล้าน • วันนี้ (12 มี.ค. ) นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มอบหมายให้ นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ และ นายไพโรจน์ นิยมเดชา ผู้อำนวยการสืบสวนกลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (สำนักงาน ป.ป.ท.) และกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ปฏิบัติการจับกุมเจ้าหน้าที่สังกัดกองการกีฬา สำนักวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร จัดจ้างซ่อมรถโดยสารเป็นเท็จ มูลค่าความเสียหาย 2,790,928 บาท จำนวน 7 ราย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000023832 • #MGROnline #จับกุมเจ้าหน้าที่ #สังกัดกองการกีฬา #สำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว #กรุงเทพมหานคร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 113 มุมมอง 0 รีวิว
  • จำข้อยได้บ่ สุพจน์ จดจำ (12/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #นักเต๊ะกองหน้า
    จำข้อยได้บ่ สุพจน์ จดจำ (12/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #นักเต๊ะกองหน้า
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 473 มุมมอง 38 0 รีวิว
  • กรรมของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (12/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สมาคมฟุตบอล #มาดามแป้ง #หนี้สมาคมฟุตบอล
    กรรมของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย (12/03/68) #news1 #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สมาคมฟุตบอล #มาดามแป้ง #หนี้สมาคมฟุตบอล
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 508 มุมมอง 41 0 รีวิว
Pages Boosts