• ตำรวจสืบนครบาลขยายผลจับกุม “ชาคิต” คนขับกระบะมารับ “จ่าเอ็ม” มือยิงอดีต สส.กัมพูชา พาหลบหนีไปส่งยังจุดข้ามแดน

    วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ร่วมกันจับกุมตัว นายชาคิต หรือชำนาญ อายุ 47 ปี ภูมิลำเนา ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหากระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี

    โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ผบช.น.สั่งขยายผลเพิ่มผู้สนับสนุนนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม มือปืนรับจ้างวานฆ่าอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธีรเดช พบพยานหลักฐานถึงผู้สนับสนุนดังกล่าวรายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.45 น. ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004046

    #MGROnline #ชาคิต #คนขับกระบะมา #จ่าเอ็ม
    ตำรวจสืบนครบาลขยายผลจับกุม “ชาคิต” คนขับกระบะมารับ “จ่าเอ็ม” มือยิงอดีต สส.กัมพูชา พาหลบหนีไปส่งยังจุดข้ามแดน • วันนี้ (14 ม.ค.) พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. พล.ต.ต.วสันต์ เตชะอัครเกษม รอง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต.อัฎธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 พ.ต.อ.วิชัย แดงประดับ รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.ชนะสงคราม พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชัย สนสกุล ผกก.สส.บก.น.1 และเจ้าหน้าที่ บก.สส.บช.น.ร่วมกันจับกุมตัว นายชาคิต หรือชำนาญ อายุ 47 ปี ภูมิลำเนา ต.ทับช้าง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.168/2568 ลงวันที่ 13 ม.ค. 68 ข้อหากระทำด้วยประการใดๆอันเป็นการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดก่อนหรือขณะกระทำความผิดแม้ผู้กระทำความผิดจะมิได้รู้ถึงการช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกนั้นก็ตามผู้นั้นเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดในฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน สามารถจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้านน็อคดาวน์ไม่มีเลขที่ ม.10 ต.เขาคันทรง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี • โดยพฤติการณ์กล่าวคือ ผบช.น.สั่งขยายผลเพิ่มผู้สนับสนุนนายเอกลักษณ์ แพน้อย หรือจ่าเอ็ม มือปืนรับจ้างวานฆ่าอดีต สส.ฝ่ายค้านกัมพูชา ซึ่งทาง พล.ต.ต.ธีรเดช พบพยานหลักฐานถึงผู้สนับสนุนดังกล่าวรายหนึ่ง ซึ่งมีหลักฐานบ่งชี้ไปถึงการวางแผนกับจ่าเอ็มตั้งแต่ก่อนเกิดเหตุ ไปจนถึงหลังเกิดเหตุยังได้เป็นผู้ขับขี่รถกระบะ โตโยต้า 4 ประตูสีเทา พาจ่าเอ็มหลบหนีไปยังจุดข้ามแดนทางช่องทางธรรมชาติชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านเขาดิน ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 23.45 น. ซึ่งจากการขยายผลทราบว่าผู้สนับสนุนรายนี้คือ นายชาคิต • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000004046 • #MGROnline #ชาคิต #คนขับกระบะมา #จ่าเอ็ม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 202 มุมมอง 0 รีวิว
  • "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย
    จากมุมมองของ Nikkei Asia
    .
    ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76%
    .
    แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้
    .
    "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า
    .
    "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์"
    .
    นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง
    .
    "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ
    .
    จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน
    .
    การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก
    .
    ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว!
    .
    นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า
    .
    "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง"
    .
    นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน
    .
    "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก
    .
    ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%)
    .
    ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น
    .
    ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า
    .
    ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์
    .
    อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้
    .
    สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง
    .
    แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้?
    .
    เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳
    .
    .
    อ้างอิง :
    NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand
    https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    "อวสาน" รถญี่ปุ่นในไทย จากมุมมองของ Nikkei Asia . ในวาระส่งท้ายปีเก่า 2567 ต้อนรับปีใหม่ 2568 สื่อยักษ์ใหญ่ชื่อดังของญี่ปุ่นคือ นิคเคอิ เอเชีย (Nikkei Asia) ได้เผยแพร่สารคดีข่าว NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand (นิคเคอิ ฟิล์ม : เสียงของเครื่องยนต์ที่กำลังหายไปจากประเทศไทย) ถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับสถานการณ์ของบรรดารถยนต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่ครั้งหนึ่งเคยครอบครองตลาดรถยนต์ในประเทศไทยมากกว่า 90% แต่ในห้วงระยะเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้นกลับถูกรถยนต์ไฟฟ้าจากจีนรุกไล่ ทำให้ในปี 2567 เหลือส่วนแบ่งยอดขายรถยนต์ในตลาดรถใหม่เพียง 76% . แม้ว่าในปัจจุบันรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นจะยังคงสามารถครอบครองตลาดรถใหม่ในประเทศไทยได้มากกว่า 3 ใน 4 แต่เมื่อพิจารณาปัจจัยจากรอบด้านแล้วไม่ว่าจะเป็น แนวโน้มความต้องการของผู้บริโภค พลวัตรของเหล่าดีลเลอร์ผู้ขายรถยนต์ทั่วประเทศไทย การทยอยปิดโรงงาน การไหลออกของบุคลากร-พนักงาน-ผู้บริหารจากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นไปสู่ค่ายรถจีน รวมไปถึงการคาดการณ์ตลาดรถยนต์ในอนาคตแล้วรถยนต์ญี่ปุ่นหนีไม่พ้นอาจต้องสูญพันธุ์จากประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ หากไม่เร่งปรับตัวให้เร็วกว่านี้ . "ผมเพิ่งซื้อรถยนต์บีวายดีรุ่นใหม่ล่าสุด แล้วผมก็เปรียบเทียบรถอีวี กับ รถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์แบบดั้งเดิมเพื่อศึกษาความแตกต่าง ... ฟังก์ชันในรถอีวีของจีนนั้นครบครันมาก อัตราการเร่งก็ฉับไวมาก" คุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ให้สัมภาษณ์กับนิคเคอิเป็นภาษาญี่ปุ่นอันคล่องแคล่ว และเปรียบเทียบต่อว่า . "ผมมองญี่ปุ่นจากหลาย ๆ มุม ด้วยความที่สำเร็จมาตั้งแต่ในยุคอะนาล็อก ญี่ปุ่นกลับไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล เทียบกับจีนที่ไม่ได้มีความสำเร็จมากนักในยุคของอะนาล็อก แต่พอยุคสมัยของเทคโนโลยีดิจิทัลมาถึง จีนจึงพยายามอย่างมากที่จะดิสรัปอุตสาหกรรมรถยนต์" . นิคเคอิอธิบายว่า ประเทศไทยซึ่งมีประชากรราว 66 ล้านคน และเป็นระบบเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของอาเซียน นั้นได้ชื่อเล่นว่าเป็น "ดีทรอยต์แห่งเอเชีย (Detroit of Asia)" ด้วยบรรดาบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่เข้ามาตั้งฐานการผลิตในประเทศก่อนหน้านี้นานหลายทศวรรษ แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นในปี 2566 ที่บริษัทรถยนต์จากจีนรุกเข้่ามาทำตลาด และย้ายฐานการผลิตมายังประเทศไทยอย่างจริงจัง . "เกือบครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา รถยนต์ญี่ปุ่นสามารถครอบครองยอดขายรถยนต์ใหม่ในประเทศไทยได้มากเกือบ 90% แต่จุดเปลี่ยนเกิดขึ้นเมื่อ รถอีวีจากจีนบุกตลาดประเทศไทยในปี 2566 ส่งผลให้ยอดขายรถใหม่ในประเทศไทยของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 80% (เหลือ 77.8% ในปี 2566 และ เหลือ 76.2% ในปี 2567)" นิคเคอิระบุ . จากนั้นจึงกล่าวกว่า บีวายดี (BYD) คือ หัวหอกของบริษัทรถยนต์จีนที่เข้ามาแย่งชิงตลาดในประเทศไทยจากบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น โดยนิคเคอิได้ดำเนินการสำรวจการขยายตัวของจำนวนดีลเลอร์รถบีวายดีในไทยพบว่า เกือบ 50% ของดีลเลอร์รถบีวายดีนั้นก่อนหน้านั้นเคยเป็นดีลเลอร์ของรถยนต์ค่ายญี่ปุ่น โดยบีวายดีขยายสาขาไปทั่วประเทศ โดยไม่เพียงกวาดดีลเลอร์จากค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้เข้ามาซุกใต้ปีก แต่รวมถึงค่ายรถยนต์จากตะวันตกด้วยเช่นกัน . การรุกไล่ของค่ายรถยนต์จากจีนไม่หยุดอยู่แค่ในระดับการส่งรถยนต์จากจีนมาขายยังเมืองไทย แต่ยังมีการขยายโรงงานผลิตมายังประเทศไทยอย่างต่อเนื่องด้วย ยกตัวอย่างเช่น บีวายดีที่เพิ่งเริ่มเดินสายพานโรงงานผลิตรถยนต์แบบเต็มระบบแห่งแรกในต่างแดนที่ จ.ระยอง เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ทำให้บุคลากรในแวดวงรถยนต์คนไทยที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับฝ่ายผลิต จนถึงผู้บริหารที่เคยสังกัดอยู่กับค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ไหลไปอยู่กับบริษัทรถยนต์จีนจำนวนมาก . ด้วยแรงจูงใจสำคัญเป็นค่าตอบแทนที่มากกว่าเดิม 30% 50% 80% หรือกระทั่งเพิ่มขึ้นเท่าตัว! . นายสื่อ ชิงเคอ (史青科) หรือ Parker Shi ประธานของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล เจ้าของแบรนด์รถยนต์จีน GWM ให้สัมภาษณ์กับสื่อถึงคู่แข่งค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น และการดึงตัวผู้บริหารระดับสูงจากโตโยต้ามาทำงานกับเกรทวอลล์ฯ โดยระบุว่า . "ด้วยความสัตย์จริง และความเคารพต่อโตโยต้า และรถแบรนด์จากใจ เพราะพวกเขานั้นยอดเยี่ยมจริง ๆ (excellent) คุณวุฒิกร (สุริยะฉันทนานนท์) นั้นเคยทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมที่โตโยต้า และนี่คือเหตุผลที่เขามาอยู่กับเรา" และกล่าวต่อว่า "ถ้าหากคุณไม่มีความกล้าหาญที่จะสู้ ที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเอง คุณก็ตาย ถ้าหากคุณไม่มีอาวุธที่ดีพอ ผลิตภัณฑ์ที่ดี รูปแบบธุรกิจที่ดี กลยุทธ์ที่ดี คุณก็ตาย ถ้าคุณไม่มีทีมเวิร์คที่ดี คุณก็ตาย ... มันไม่มีคนอยู่รอดหรอก เพราะที่กำลังเป็นอยู่นี้คือคือสงคราม ที่เกิดขึ้นในตลาดที่แข่งขันกันอย่างรุนแรง" . นิคเคอิ เอเชียยังมีโอกาสได้สัมภาษณ์ผู้บริหารบริษัทรถยนต์ชาวญี่ปุ่นในไทยที่ไม่ยอมเปิดเผยชื่อเสียงเรียงนาม โดยผู้บริหารชาวญี่ปุ่นคนนี้ยอมรับว่า บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นละเลยความต้องการของผู้บริโภคไทยไปมาก รวมถึงนำเสนอสินค้าที่เทคโนโลยีล้าหลังไปแล้วให้กับตลาดในประเทศกำลังพัฒนาอย่างไทย ซึ่งแตกต่างจากค่ายรถจากจีน . "มันเป็นความจริงที่ว่าแบรนด์รถญี่ปุ่นนั้นมัวแต่มุ่งเน้นไปที่ตลาดใหญ่ ๆ อย่างในยุโรป สหรัฐฯ และญี่ปุ่น โดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับตลาดนั้น ๆ นอกจากนี้สิ่งที่เราตัดสินใจผิดพลาดมากที่สุดก็คือ ความรวดเร็วของการเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า . "และมันเป็นเรื่องจริงที่ค่ายรถญี่ปุ่นนำเสนอสินค้าที่ใช้เทคโนโลยีค่อนข้างล้าหลัง ซึ่งวางขายอยู่แล้วในประเทศกำลังพัฒนามาขายให้ (ตลาดไทย) ผมคิดว่า นี่เองเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยไม่พอใจ และความไม่พอใจนั้นยิ่งนานวันก็สะสมเพิ่มขึ้น ๆ" ผู้บริหารค่ายรถญี่ปุ่นในไทยกล่าวเปิดอก . ทั้งนี้จากข้อมูลการสำรวจของ LiB Consulting ระบุว่า ภายในปี 2578 (ค.ศ.2035) หรืออีก 10 ปีข้างหน้า ยอดขายรถใหม่ในเมืองไทยจะเปลี่ยนโฉมไปอย่างสิ้นเชิง โดยรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะลดปริมาณลงจากปัจจุบันที่ราว 78.5% เหลือเพียง 15% โดยรถอีวี และรถยนต์พลังงานใหม่จะกินส่วนแบ่งการตลาดที่เหลือ จะถูกแบ่งให้รถอีวี (50.7%) และ รถยนต์เทคโนโลยีไฮบริด-อื่นๆ (34.3%) . ด้วยสถานการณ์และแนวโน้มเช่นนี้ทำให้ ณ ปัจจุบันถือเป็นโอกาสสุดท้ายของค่ายรถยนต์จากญี่ปุ่นในการขยับขับเคลื่อนเพื่อไล่ตามรถอีวีจากจีนให้ทัน และกอบกู้สถานการณ์ด้วยการอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง และตัดสินใจให้เร็ว และฉับไวมากขึ้น . ทั้งนี้ทั้งนั้น ในเรื่องนี้คุณบุณยสิทธิ์ ประธานเครือสหพัฒน์วัย 87 ที่คร่ำหวอดทั้งในตลาดสินค้าอุปโภคบริโภค แวดวงอุตสาหกรรม และมีสายสัมพันธ์อันล้ำลึกกับแวดวงอุตสาหกรรมไทย ญี่ปุ่น และจีน กล่าวทิ้งท้ายสารคดีข่าวชิ้นนี้เป็นคำแนะนำให้กับบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นที่กำลังเพลี่ยงพล้ำในประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า . ในมุมของคุณบุญยสิทธิ์ เดิมทีประธานบริษัทญี่ปุ่นเกือบทั้งหมดนั้นเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท โดยคนเหล่านี้มีจิตวิญญาณของการบุกเบิกและก่อตั้ง แต่เมื่อมาถึงวันนี้ที่ประธานบริษัทกลายเป็นคนรุ่นใหม่ ๆ ที่เติบโตมาภายในกรอบของบริษัท คนเหล่านี้เวลาตัดสินใจอะไรจึงกระทำด้วยความระมัดระวังอย่างยิ่ง ซึ่งหากผู้บริหารรุ่นใหม่เล่านี้ไม่ได้ตัดสินใจเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยตัวเอง การตัดสินใจก็จะล่าช้า ไม่ทันการณ์ . อย่างไรก็ตาม ประธานเครือสหพัฒน์ยังกล่าวให้ความหวังด้วยว่า ในสายตาของชาวไทยแบรนด์ญี่ปุ่นยังได้รับความน่าเชื่อถืออย่างสูงอยู่ คนไทยยังมีความเชื่อว่ารถญี่ปุ่นนั้นดีกว่ารถจีน รถยนต์จีนนั้นมีดีเฉพาะเรื่องของแบตเตอรี่ และรถอีวี ซึ่งเมื่อไหร่ที่ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นเปิดตัวรถที่เป็นรถยนต์อีวีบ้าง ตนก็เชื่อว่าคนไทยจะกลับมานิยมรถยนต์ญี่ปุ่นเหมือนเดิม ซึ่งตนก็คาดหวังว่าบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นจะสามารถแข่งขันกับบริษัทรถยนต์จากจีนได้ . สารคดีข่าวชิ้นนี้ของนิคเคอิ สื่อธุรกิจยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นทิ้งท้ายเอาไว้ว่า ด้วยการรุกคืบอย่างไม่หยุดหย่อนของค่ายรถยนต์จีน เวลาของค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นในไทยนั้นคงเหลือน้อยลงทุกที พร้อมกับทิ้งฉากหลังเป็นภาพพระปรางค์วัดอรุณยามดวงอาทิตย์อัสดง . แล้วท่านผู้อ่านบูรพาไม่แพ้ละครับ มองว่า ค่ายรถญี่ปุ่นใกล้ถึงคราอวสานจากตลาดไทยหรือยัง? หรือ คิดว่าค่ายรถญี่ปุ่นยังมีโอกาสที่จะกู้สถานการณ์ ช่วงชิงตลาดรถยนต์ไทยกลับคืนมาได้ หากมีการปรับเปลี่ยนวิธีคิด และวิธีทำดังที่นิคเคอิ เอเชียรายงานเอาไว้? . เนื่องวาระดิถีขึ้นปีใหม่ ๒๕๖๘ ทีมงานเพจบูรพาไม่แพ้ขอให้ท่านผู้อ่านทุกท่าน และครอบครัวมีความสุข สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ สวัสดีปีใหม่ครับ 😄 🙏 🎊 🇹🇭 🇯🇵 🇨🇳 . . อ้างอิง : NIKKEI Film : The sound of engines vanishing in Thailand https://www.youtube.com/watch?v=w7ldtHt6Mn4
    Like
    7
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 578 มุมมอง 1 รีวิว
  • ฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ ยืนยันว่ากำลังเจรจาควบรวมกิจการ

    การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวกันของยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ญี่ปุ่น โดยฮอนด้าและนิสสันได้ตกลงที่จะ "เริ่มพิจารณาการรวมธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน" ส่วนมิตซูบิชิจะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ การรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของญี่ปุ่น รวมถึงมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมที่กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า

    หากการรวมกิจการสำเร็จ จะทำให้เกิดผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยยอดขายรวมต่อปีประมาณ 46,000 ล้านปอนด์ เป็นรองเพียงโตโยต้าและโฟล์กสวาเกนเท่านั้น ในขณะที่โตโยต้ายังคงรักษาฐานะทางการเงินไว้ได้ค่อนข้างดีเนื่องจากความได้เปรียบในตลาดยานยนต์ไฮบริด แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับความยากลำบากในการระดมทุนเพื่อลงทุนในการเปลี่ยนผ่านจาก Internal Combustion Engine ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    ฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิ ยืนยันว่ากำลังเจรจาควบรวมกิจการ การเคลื่อนไหวครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวกันของยักษ์ใหญ่แห่งวงการยานยนต์ญี่ปุ่น โดยฮอนด้าและนิสสันได้ตกลงที่จะ "เริ่มพิจารณาการรวมธุรกิจผ่านการจัดตั้งบริษัทโฮลดิ้งร่วมกัน" ส่วนมิตซูบิชิจะตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่ภายในสิ้นเดือนมกราคมนี้ การรวมกิจการครั้งนี้จะเป็นการรวมตัวของผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 2 และ 3 ของญี่ปุ่น รวมถึงมิตซูบิชิ ซึ่งเป็นการผนึกกำลังเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรมที่กำลังมุ่งหน้าสู่ยุคของรถยนต์ไฟฟ้า หากการรวมกิจการสำเร็จ จะทำให้เกิดผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับ 3 ของโลก ด้วยยอดขายรวมต่อปีประมาณ 46,000 ล้านปอนด์ เป็นรองเพียงโตโยต้าและโฟล์กสวาเกนเท่านั้น ในขณะที่โตโยต้ายังคงรักษาฐานะทางการเงินไว้ได้ค่อนข้างดีเนื่องจากความได้เปรียบในตลาดยานยนต์ไฮบริด แต่ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ ของญี่ปุ่นกลับต้องเผชิญกับความยากลำบากในการระดมทุนเพื่อลงทุนในการเปลี่ยนผ่านจาก Internal Combustion Engine ไปสู่รถยนต์ไฟฟ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 169 มุมมอง 0 รีวิว
  • เชียงราย – 2 เดือนเต็มไม่มีเยียวยา..แฟนสาว-ครอบครัว “ป๊อป-แชมป์กาแฟไทยปี 66” เหยื่อฟอร์จูนเนอร์ “ผอ.โรงเรียน พื้นที่เชียงแสน” พุ่งชนขณะปั่นจักรยานออกกำลัง ทุกข์สาหัส-ร้องต้นสังกัดคู่กรณี

    กรณีเกิดเหตุรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มคนที่ปั่นรถจักรยานออกกำลังกายกันระหว่างสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา จนทำให้นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี หรือ "ป๊อป" หนุ่มเจ้าของร้าน “ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai” ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ท่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล

    ส่วนคนขับหลบหนีไปขณะเกิดเหตุ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ในวันถัดมา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยนั้น

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000118771

    #MGROnline #เชียงราย #แชมป์กาแฟไทย
    เชียงราย – 2 เดือนเต็มไม่มีเยียวยา..แฟนสาว-ครอบครัว “ป๊อป-แชมป์กาแฟไทยปี 66” เหยื่อฟอร์จูนเนอร์ “ผอ.โรงเรียน พื้นที่เชียงแสน” พุ่งชนขณะปั่นจักรยานออกกำลัง ทุกข์สาหัส-ร้องต้นสังกัดคู่กรณี • กรณีเกิดเหตุรถโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ พุ่งชนท้ายกลุ่มคนที่ปั่นรถจักรยานออกกำลังกายกันระหว่างสี่แยกหนองบัวแดง-ถนนพหลโยธิน ต.ท่าสุด อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา จนทำให้นายยศธพล ไชยเบ้า อายุ 33 ปี หรือ "ป๊อป" หนุ่มเจ้าของร้าน “ก๋างโต่งคาเฟ่ Kang tong Cafe - Coffee & roaster Chiang Rai” ตั้งอยู่หมู่ 10 ต.ท่าสุด ซึ่งเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ปี 2564 ได้เสียชีวิตลงขณะนำส่งโรงพยาบาล • ส่วนคนขับหลบหนีไปขณะเกิดเหตุ ก่อนเข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย ในวันถัดมา ซึ่งต่อมาพบว่าเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ด้วยนั้น • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000118771 • #MGROnline #เชียงราย #แชมป์กาแฟไทย
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง

    เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน

    กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567

    ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน

    มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย

    สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที

    พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน

    #Newskit
    CIB RUN 2024 งานวิ่งรวมตำรวจขาแรง เป็นงานวิ่งที่ถูกพูดถึงอย่างมาก สำหรับกิจกรรมวิ่งเฉลิมพระเกียรติฯ CIB RUN 2024 เคียงข้างประชาชน ซีซัน 2 โดยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ที่สนามลู่ปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2567 โดยได้รับการอนุญาตเป็นกรณีพิเศษจาก บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้ใช้สถานที่จัดการแข่งขัน กิจกรรมนี้ได้ บริษัท ไตรลีก (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเคยจัดงานระดับนานาชาติทั้ง Amazing Thailand Marathon, พัทยามาราธอน, ไตรกีฬาโตโยต้าไอรอนแมน ฯลฯ ปีที่แล้วเปิดให้สมัครฟรีปรากฎว่าเจอซื้อ-ขายเบอร์แข่งขัน ซึ่งคณะกรรมการฯ ไม่ต้องการแบบนั้น จึงกำหนดให้มีค่าสมัครทุกระยะ แต่คิดแบบไม่หวังผลกำไร 23 กิโลเมตร (กม.) ค่าสมัคร 350 บาท 10 กม. 300 บาท และ 3 กม. 250 บาท เปิดระบบรับสมัครเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 พ.ย. 2567 ผลก็คือมีนักวิ่งสนใจลงสมัครล้นหลามจนเว็บล่ม ก่อนเต็มจำนวนเพียงไม่กี่ชั่วโมง รวม 8,223 คน แบ่งเป็น 23 กม. 3,205 คน, 10 กม. 4,312 คน และ 3 กม. 706 คน มาถึงการจัดงาน เปิดสนามตั้งแต่เวลา 03.00 น. ก่อนปล่อยตัวนักวิ่ง 23 กม. เวลา 05.00 น. โดยมี พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นประธาน พร้อมด้วย นายอาทิวราห์ คงมาลัย หรือตูน บอดี้แสลม นักร้องชื่อดังมาให้กำลังใจนักวิ่งอีกด้วย ส่วนนักวิ่ง 10 กม. ปล่อยตัวที่ กม.14 ของสนามลู่ปั่น (ทางเข้าสนามบินฯ ด้านถนนบางนา-ตราด) เวลา 05.03 น. โดยพบว่านอกจากประชาชนทั่วไปแล้ว ยังมีข้าราชการตำรวจ ที่ถือโอกาสเจอเพื่อนร่วมรุ่นที่ไม่ได้พบกันมานานไปในตัว นอกจากนี้ ยังมีหน่วยปฏิบัติการพิเศษหนุมาน กองปราบปราม แต่งกายเต็มยศให้กำลังใจก่อนเข้าเส้นชัยอีกด้วย สำหรับผู้ชนะเลิศประเภทบุคคลทั่วไปชาย 23 กม. ได้แก่ ร.ต.อ.ปฏิการ เพชรศรีชา ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 24 นาที ส่วนประเภทบุคคลทั่วไปหญิง 23 กม. ได้แก่ น.ส.อรอนงค์ วงศร ด้วยเวลา 1 ชั่วโมง 35 นาที พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันฯ และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระราชทานรางวัลชนะเลิศแก่นักวิ่ง ขอขอบคุณประชาชนที่เข้าร่วมสมัครในปีนี้อย่างล้นหลาม หลายคนรอคอยมาตั้งแต่ปีที่แล้ว เชื่อว่าการออกกำลังทุกประเภทส่งผลดีต่อร่างกาย ทำให้ร่างกายแข็งแรง ผ่อนคลายจากความเครียด ความเหนื่อยล้าจากการทำงานหรือสิ่งที่พบเจอในแต่ละวันได้ และขอขอบคุณที่ให้ตำรวจสอบสวนกลางเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สนับสนุนการออกกำลังกายให้กับพี่น้องคนไทยทุกคน #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 620 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลำปาง – เกิดอุบัติเหตุหมู่สุดสลด..คาดคนขับหลบใน รถตู้เสียหลักชนต้นไม้ร่องกลางถนนลำปาง-งาว จนพังเละทั้งคัน คนขับ-คนโดยสาร ดับแล้ว 3 เจ็บอีก 10 ราย เป็นทหารค่ายขุนเจืองฯกลับจากแข่งเรือปทุมธานี 8 นาย พลเรือน 2 คาดเป็นแม่-ลูก

    วันนี้(6 ธ.ค.) พ.ต.ท.อรัณทรี สูติสงกรานต์ พงส.เวร สภ.งาว จ.ลำปาง ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ตู้เสียหลักหลักพุงชนต้นไม้ร่องกลางถนน มีคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.ท.มนตรี แก้วสุริยะ รอง ผกก.(สอบสวน)หน.งานสอบสวน

    ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน นค 1291 เชียงราย ที่พุ่งชนกับต้นไม้ที่ร้องกลางถนน ได้รับความเสียหายทั้งคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุหลายราย โดยมีรถกู้ภัย และรถโรงพยาบาลงาว ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล

    เบื้องต้น ทราบว่ารถยนต์คันที่เกิดเหตุผู้โดยสารส่วนมากเป็นข้าราชการทหาร สังกัดค่ายขุนเจืองธรรมมิกราช จ.พะเยา ซึ่งเดินทางกลับมาจากกการไปแข่งขันเรือที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายอภิชัย อินต๊ะวิชัย เป็นคนขับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งเล็กน้อย คนขับอาจจะหลับใน ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้กลางถนน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000117372

    #MGROnline #ลำปาง #อุบัติเหตุ #ทหารค่ายขุนเจืองฯ #แข่งเรือ #ปทุมธานี
    ลำปาง – เกิดอุบัติเหตุหมู่สุดสลด..คาดคนขับหลบใน รถตู้เสียหลักชนต้นไม้ร่องกลางถนนลำปาง-งาว จนพังเละทั้งคัน คนขับ-คนโดยสาร ดับแล้ว 3 เจ็บอีก 10 ราย เป็นทหารค่ายขุนเจืองฯกลับจากแข่งเรือปทุมธานี 8 นาย พลเรือน 2 คาดเป็นแม่-ลูก • วันนี้(6 ธ.ค.) พ.ต.ท.อรัณทรี สูติสงกรานต์ พงส.เวร สภ.งาว จ.ลำปาง ได้รับแจ้งมีเหตุรถยนต์ตู้เสียหลักหลักพุงชนต้นไม้ร่องกลางถนน มีคนเสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายคน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกับ พ.ต.ท.มนตรี แก้วสุริยะ รอง ผกก.(สอบสวน)หน.งานสอบสวน • ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ตู้ ยี่ห้อ โตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน นค 1291 เชียงราย ที่พุ่งชนกับต้นไม้ที่ร้องกลางถนน ได้รับความเสียหายทั้งคัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถึงแก่ความตายในที่เกิดเหตุหลายราย โดยมีรถกู้ภัย และรถโรงพยาบาลงาว ได้ลำเลียงผู้บาดเจ็บ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล • เบื้องต้น ทราบว่ารถยนต์คันที่เกิดเหตุผู้โดยสารส่วนมากเป็นข้าราชการทหาร สังกัดค่ายขุนเจืองธรรมมิกราช จ.พะเยา ซึ่งเดินทางกลับมาจากกการไปแข่งขันเรือที่จังหวัดปทุมธานี โดยมีนายอภิชัย อินต๊ะวิชัย เป็นคนขับ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นทางโค้งเล็กน้อย คนขับอาจจะหลับใน ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้กลางถนน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000117372 • #MGROnline #ลำปาง #อุบัติเหตุ #ทหารค่ายขุนเจืองฯ #แข่งเรือ #ปทุมธานี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • นครปฐม - หลวงพี่น้ำฝน แจงคลิปชายกระโดดถีบพระปีนเสา รับเป็นลูกศิษย์จริงแต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของวัด สั่งการให้ติดตามตัวเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. บางเขนแล้ว ย้ำชัดลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ขอโทษช่อง 8 หลังลูกศิษย์ไปก่อเหตุไม่เหมาะสม

    วันนี้( 23 พ.ย.) ที่วิหารหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ชายสวมหมวกสีแดงกระโดดถีบ พระครูปลัดธีรธนัช เมตตฺตธมฺโม หรือพระครูปลัดธีระฯ ซึ่งมีชื่อเรียกติดปากว่า "พระปีนเสา" ที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานบริษัทอาร์เอส จำกัด(มหาชน) หลังจากไปออกรายการที่ช่อง 8 และกำลังจะลงมาขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรอรับ

    ต่อมาภาพกล้องวงจรปิดสามารถจับชายที่ก่อเหตุ ซึ่งได้เดินออกไปจากหน้าอาคาร และรถกระบะสี่ประตูสีบรอนซ์เงิน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 1777 นครปฐม ซึ่งมีภาพชายคนขับรถ ทราบชื่อต่อมาคือเฮียยุทธ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพี่น้ำฝน ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/local/detail/9670000112746

    #MGROnline #นครปฐม #หลวงพี่น้ำฝน
    นครปฐม - หลวงพี่น้ำฝน แจงคลิปชายกระโดดถีบพระปีนเสา รับเป็นลูกศิษย์จริงแต่ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของวัด สั่งการให้ติดตามตัวเข้าไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน. บางเขนแล้ว ย้ำชัดลูกผู้ชายกล้าทำก็ต้องกล้ารับ ขอโทษช่อง 8 หลังลูกศิษย์ไปก่อเหตุไม่เหมาะสม • วันนี้( 23 พ.ย.) ที่วิหารหลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ชายสวมหมวกสีแดงกระโดดถีบ พระครูปลัดธีรธนัช เมตตฺตธมฺโม หรือพระครูปลัดธีระฯ ซึ่งมีชื่อเรียกติดปากว่า "พระปีนเสา" ที่บริเวณหน้าอาคารสำนักงานบริษัทอาร์เอส จำกัด(มหาชน) หลังจากไปออกรายการที่ช่อง 8 และกำลังจะลงมาขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดรอรับ • ต่อมาภาพกล้องวงจรปิดสามารถจับชายที่ก่อเหตุ ซึ่งได้เดินออกไปจากหน้าอาคาร และรถกระบะสี่ประตูสีบรอนซ์เงิน ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 1777 นครปฐม ซึ่งมีภาพชายคนขับรถ ทราบชื่อต่อมาคือเฮียยุทธ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของหลวงพี่น้ำฝน ที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/local/detail/9670000112746 • #MGROnline #นครปฐม #หลวงพี่น้ำฝน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • โตโยต้าอัสติสปี2014 "ที่ไหนถูกซื้อมาครับ" ทางร้านยินดีรับติดตั้ง
    #ที่นี่พีสตู
    โตโยต้าอัสติสปี2014 "ที่ไหนถูกซื้อมาครับ" ทางร้านยินดีรับติดตั้ง #ที่นี่พีสตู
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปราชญ์ 3สี

    วิเคราะห์: ทำไมโตโยต้าถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เหตุเพราะแนวคิด Woke?

    ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Woke ได้กลายเป็นกระแสที่มีอิทธิพลมากในด้านสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการบันเทิงและการจัดกิจกรรมระดับโลก เช่น โอลิมปิก แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียม และการยุติการเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แนวคิด Woke กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมอย่างแท้จริง หากแต่ใช้เพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองและคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วย

    เหตุการณ์โอลิมปิกและการถอนตัวของโตโยต้า

    ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2024 โตโยต้าได้ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโอลิมปิกที่จัดขึ้นในฝรั่งเศส โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิธีเปิดโอลิมปิกได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke ซึ่งการแสดงออกในพิธีนั้นมีลักษณะที่ไปกระทบความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมองว่าการแสดงออกบางส่วนไม่เคารพค่านิยมทางศาสนาและสร้างความไม่พอใจอย่างมาก การที่โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกทำให้บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนและลูกค้ากลุ่มศาสนจักรที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว

    โตโยต้าจึงตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการปกป้องค่านิยมของบริษัท แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก

    แนวคิด Woke และการคุกคามทางการเมือง

    โตโยต้าไม่ได้หยุดเพียงแค่การถอนตัวจากโอลิมปิกเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคม 2024 บริษัทได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า จะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด Woke อีกต่อไป การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามองว่าแนวคิด Woke ไม่ได้มีเป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นการใช้การข่มขู่และบังคับให้สังคมยอมรับความเชื่อและอุดมการณ์ของพวกเขา

    แนวคิด Woke ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน แต่เน้นไปที่การกดดันให้ทุกคนต้องเห็นด้วยกับแนวทางเดียวเท่านั้น ใครที่มีความเห็นต่างหรือไม่ยอมรับในแนวคิดนี้ มักจะถูกโจมตี ถูกข่มขู่ หรือแม้กระทั่งถูกทำลายชื่อเสียงผ่านสื่อสังคม นอกจากนี้ แนวคิด Woke ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลบประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำให้สังคมต้องปรับตัวตามอุดมการณ์ที่พวกเขาต้องการ โดยไม่มีการให้พื้นที่แก่ความเห็นที่ต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของความกลัวและการคุกคามทางความคิด

    ผลกระทบของ Woke ต่อสังคม

    แนวคิด Woke ไม่ได้มีเพียงผลกระทบเชิงบวกตามที่กลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แนวคิด Woke ในการบังคับผู้อื่นให้ยอมรับวิถีชีวิตและอุดมการณ์ที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศาสนา หรือค่านิยมดั้งเดิมของผู้อื่น เป็นการสร้างความไม่สมานฉันท์ในระดับสากล ตัวอย่างของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงการพยายามบังคับให้ทุกคนยอมรับแนวคิดนี้ผ่านทางการแสดงออกทางวัฒนธรรม ซึ่งกลับส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โตโยต้าเลือกที่จะถอนตัวออกจากกิจกรรมดังกล่าว

    การตัดสินใจของโตโยต้า: บทเรียนที่สำคัญ

    การตัดสินใจของโตโยต้าที่ถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิกและประกาศยุติการสนับสนุนแนวคิด Woke เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่มีความขัดแย้งสูง อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ การตัดสินใจของโตโยต้าแสดงให้เห็นว่าการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมและความเชื่อของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ และการหลีกเลี่ยงการสนับสนุนแนวคิดที่สร้างความขัดแย้งสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการถูกวิจารณ์ในทางลบ

    สุดท้ายนี้ แนวคิด Woke ที่เคยมีเจตนาดีในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกและการควบคุมสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมในระยะยาว

    #โตโยต้า #ลัทธิWoke #ยกเลิกสนับสนุนโอลิมปิก #ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม #ผลกระทบทางการเมือง #การเคลื่อนไหวทางสังคม #วิพากษ์Woke #ปกป้องคุณค่าดั้งเดิม #ความแตกแยกในสังคม
    ปราชญ์ 3สี วิเคราะห์: ทำไมโตโยต้าถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เหตุเพราะแนวคิด Woke? ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แนวคิด Woke ได้กลายเป็นกระแสที่มีอิทธิพลมากในด้านสังคมและวัฒนธรรมทั่วโลก โดยเฉพาะในวงการบันเทิงและการจัดกิจกรรมระดับโลก เช่น โอลิมปิก แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ ความเท่าเทียม และการยุติการเลือกปฏิบัติ แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง แนวคิด Woke กลับถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าไม่ได้ส่งเสริมความเท่าเทียมอย่างแท้จริง หากแต่ใช้เพื่อแสวงหาอำนาจทางการเมืองและคุกคามผู้ที่ไม่เห็นด้วย เหตุการณ์โอลิมปิกและการถอนตัวของโตโยต้า ย้อนกลับไปในช่วงกลางปี 2024 โตโยต้าได้ตัดสินใจยกเลิกการสนับสนุนโอลิมปิกที่จัดขึ้นในฝรั่งเศส โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจากที่พิธีเปิดโอลิมปิกได้รับอิทธิพลจากกลุ่ม Woke ซึ่งการแสดงออกในพิธีนั้นมีลักษณะที่ไปกระทบความเชื่อทางศาสนา โดยเฉพาะในหมู่ผู้ศรัทธาในศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก ซึ่งมองว่าการแสดงออกบางส่วนไม่เคารพค่านิยมทางศาสนาและสร้างความไม่พอใจอย่างมาก การที่โตโยต้าเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโอลิมปิกทำให้บริษัทต้องเผชิญกับแรงกดดันจากสาธารณชนและลูกค้ากลุ่มศาสนจักรที่ไม่พอใจกับการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว โตโยต้าจึงตัดสินใจถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิก เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ในระยะยาว การตัดสินใจนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงการปกป้องค่านิยมของบริษัท แต่ยังชี้ให้เห็นถึงความรอบคอบในการรับมือกับสถานการณ์ที่อาจทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มลูกค้าทั่วโลก แนวคิด Woke และการคุกคามทางการเมือง โตโยต้าไม่ได้หยุดเพียงแค่การถอนตัวจากโอลิมปิกเท่านั้น แต่ในเดือนตุลาคม 2024 บริษัทได้ออกแถลงการณ์เพิ่มเติมว่า จะไม่สนับสนุนกลุ่มหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด Woke อีกต่อไป การตัดสินใจนี้แสดงให้เห็นว่าโตโยต้ามองว่าแนวคิด Woke ไม่ได้มีเป้าหมายในการส่งเสริมสิทธิมนุษยชนอย่างแท้จริง แต่กลับกลายเป็นการใช้การข่มขู่และบังคับให้สังคมยอมรับความเชื่อและอุดมการณ์ของพวกเขา แนวคิด Woke ถูกวิจารณ์ว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเคารพสิทธิเสรีภาพของทุกคน แต่เน้นไปที่การกดดันให้ทุกคนต้องเห็นด้วยกับแนวทางเดียวเท่านั้น ใครที่มีความเห็นต่างหรือไม่ยอมรับในแนวคิดนี้ มักจะถูกโจมตี ถูกข่มขู่ หรือแม้กระทั่งถูกทำลายชื่อเสียงผ่านสื่อสังคม นอกจากนี้ แนวคิด Woke ยังถูกใช้เป็นเครื่องมือในการลบประวัติศาสตร์หรือบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อทำให้สังคมต้องปรับตัวตามอุดมการณ์ที่พวกเขาต้องการ โดยไม่มีการให้พื้นที่แก่ความเห็นที่ต่างกัน ซึ่งนำไปสู่การสร้างบรรยากาศของความกลัวและการคุกคามทางความคิด ผลกระทบของ Woke ต่อสังคม แนวคิด Woke ไม่ได้มีเพียงผลกระทบเชิงบวกตามที่กลุ่มผู้สนับสนุนกล่าวอ้าง แต่กลับกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมมากขึ้นเรื่อย ๆ การใช้แนวคิด Woke ในการบังคับผู้อื่นให้ยอมรับวิถีชีวิตและอุดมการณ์ที่พวกเขาเชื่อว่าถูกต้อง โดยไม่คำนึงถึงวัฒนธรรม ศาสนา หรือค่านิยมดั้งเดิมของผู้อื่น เป็นการสร้างความไม่สมานฉันท์ในระดับสากล ตัวอย่างของพิธีเปิดโอลิมปิกที่ฝรั่งเศสแสดงให้เห็นถึงการพยายามบังคับให้ทุกคนยอมรับแนวคิดนี้ผ่านทางการแสดงออกทางวัฒนธรรม ซึ่งกลับส่งผลให้เกิดความไม่พอใจอย่างรุนแรง และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้โตโยต้าเลือกที่จะถอนตัวออกจากกิจกรรมดังกล่าว การตัดสินใจของโตโยต้า: บทเรียนที่สำคัญ การตัดสินใจของโตโยต้าที่ถอนตัวจากการสนับสนุนโอลิมปิกและประกาศยุติการสนับสนุนแนวคิด Woke เป็นบทเรียนที่สำคัญสำหรับองค์กรทั่วโลก ว่าการสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดทางการเมืองและสังคมที่มีความขัดแย้งสูง อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือขององค์กรได้ การตัดสินใจของโตโยต้าแสดงให้เห็นว่าการปกป้องค่านิยมดั้งเดิมและความเชื่อของลูกค้าเป็นสิ่งที่สำคัญ และการหลีกเลี่ยงการสนับสนุนแนวคิดที่สร้างความขัดแย้งสามารถช่วยปกป้ององค์กรจากการถูกวิจารณ์ในทางลบ สุดท้ายนี้ แนวคิด Woke ที่เคยมีเจตนาดีในการส่งเสริมสิทธิและความเสมอภาค กลับถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกแยกและการควบคุมสังคม ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมในระยะยาว #โตโยต้า #ลัทธิWoke #ยกเลิกสนับสนุนโอลิมปิก #ความขัดแย้งทางวัฒนธรรม #ผลกระทบทางการเมือง #การเคลื่อนไหวทางสังคม #วิพากษ์Woke #ปกป้องคุณค่าดั้งเดิม #ความแตกแยกในสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 381 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์จากญี่ปุ่น
    เตรียมชะลอ และลดกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
    ลงเหลือ 30% ในปี 2569

    🚩โดยโตโยต้า มอเตอร์ วางแผนที่จะชะลอการผลิต
    ยานยนต์ไฟฟ้า โดยปรับลดการผลิต จากการคาดการณ์
    ยอดขายทั่วโลก สำหรับปี 2569 ลงเหลือ 1 ล้านคัน
    ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ยอดขายสำหรับปีเดียวกัน
    ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 30%
    ที่มา : Nikkeiasia

    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Toyota #โตโยต้า
    #thaitimes
    🔥🔥บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ยักษ์ใหญ่ด้านรถยนต์จากญี่ปุ่น เตรียมชะลอ และลดกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ลงเหลือ 30% ในปี 2569 🚩โดยโตโยต้า มอเตอร์ วางแผนที่จะชะลอการผลิต ยานยนต์ไฟฟ้า โดยปรับลดการผลิต จากการคาดการณ์ ยอดขายทั่วโลก สำหรับปี 2569 ลงเหลือ 1 ล้านคัน ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ยอดขายสำหรับปีเดียวกัน ที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ประมาณ 30% ที่มา : Nikkeiasia #หุ้นติดดอย #การลงทุน #Toyota #โตโยต้า #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1109 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥🔥 ราคาโปรโมชั่น 777,000.- 🔥🔥🔥
    🚗 รถผู้บริหารใช้งาน ไมล์น้อย 78,675 km
    🚗 TOYOTA CAMRY 2.0 G ออโต้ 2019 (สีดำ)
    🚗 ราคา 777,000.-

    ✅ วารันตรี 12 เดือน
    ✅ บัตรเติมน้ำมัน
    ✅ แถมฟรีคูปองแพคเกจจาก MMS BOSCH💥
    ✅เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
    ✅ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
    ✅เติมลมยางไนโตรเจน
    ✅ตรวจเช็คฟรี 24 รายการ
    ✔ การันตีเลขไมล์แท้ทุกคัน ไม่มีชนหนัก
    ✔ รถทุกคันผ่านมาตรฐานการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด ตรวจเช็คผ่านมาตรฐานศูนย์ 210 รายการ

    🚗🚗สนใจรถยนต์ ออกรถง่ายนิดเดียว ให้ปอดูแลค่ะ🙏🙏🙏
    ☎️ 094-9655944 ปอค่ะ
    LineID : @6767ryapt มี@นำหน้า
    👉 คลิ๊ก http://nav.cx/fLfKl8m
    แฟนเพจ : https://www.facebook.com/usecarbypor0808/
    Youtube : https://youtube.com/@por0808?si=Drau8n8dZ8MEWPtG
    TikTok : https://www.tiktok.com/@porsaowapha?_t=8n0EQYIWI1g&_r=1

    #toyota #camry #แคมรี่มือสอง #โตโยต้าแคมรี่
    #รถมือสองราคาถูก #ซื้อขายรถมือสอง
    #เก๋งมือสอง #รถมือสองสภาพนางฟ้า
    #รถมือสอง #รถมือสองคุณภาพ #รถบ้านราคาถูก
    #เต๊นท์รถมือสอง #รถมือสองสภาพดี
    #รถมือสองเกรดA #รถมือสองคุณภาพดี
    #รถมือสองอุบลราชธานี #รถมือสองสภาพป้ายแดง
    #รถครอบครัว #รถตู้ #รถกระบะ #รถเก๋ง #กะบะมือสองอุบล
    🔥🔥🔥 ราคาโปรโมชั่น 777,000.- 🔥🔥🔥 🚗 รถผู้บริหารใช้งาน ไมล์น้อย 78,675 km 🚗 TOYOTA CAMRY 2.0 G ออโต้ 2019 (สีดำ) 🚗 ราคา 777,000.- ✅ วารันตรี 12 เดือน ✅ บัตรเติมน้ำมัน ✅ แถมฟรีคูปองแพคเกจจาก MMS BOSCH💥 ✅เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ✅ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ✅เติมลมยางไนโตรเจน ✅ตรวจเช็คฟรี 24 รายการ ✔ การันตีเลขไมล์แท้ทุกคัน ไม่มีชนหนัก ✔ รถทุกคันผ่านมาตรฐานการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด ตรวจเช็คผ่านมาตรฐานศูนย์ 210 รายการ 🚗🚗สนใจรถยนต์ ออกรถง่ายนิดเดียว ให้ปอดูแลค่ะ🙏🙏🙏 ☎️ 094-9655944 ปอค่ะ LineID : @6767ryapt มี@นำหน้า 👉 คลิ๊ก http://nav.cx/fLfKl8m แฟนเพจ : https://www.facebook.com/usecarbypor0808/ Youtube : https://youtube.com/@por0808?si=Drau8n8dZ8MEWPtG TikTok : https://www.tiktok.com/@porsaowapha?_t=8n0EQYIWI1g&_r=1 #toyota #camry #แคมรี่มือสอง #โตโยต้าแคมรี่ #รถมือสองราคาถูก #ซื้อขายรถมือสอง #เก๋งมือสอง #รถมือสองสภาพนางฟ้า #รถมือสอง #รถมือสองคุณภาพ #รถบ้านราคาถูก #เต๊นท์รถมือสอง #รถมือสองสภาพดี #รถมือสองเกรดA #รถมือสองคุณภาพดี #รถมือสองอุบลราชธานี #รถมือสองสภาพป้ายแดง #รถครอบครัว #รถตู้ #รถกระบะ #รถเก๋ง #กะบะมือสองอุบล
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1659 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💁🏼‍♀️ ปอขอนำเสนอ PPV ยอดนิยม ไมล์น้อย
    🚗 FORTUNER 2.4 V (2wd) 2018
    💵 ราคา 855,000.-
    🚗 ฟรีดาวน์ ✅ ผ่อน 84 งวด = 14,581.-
    ✅ วารันตรี 12 เดือน
    ✅ บัตรเติมน้ำมัน
    ✅ แถมฟรีคูปองแพคเกจจาก MMS BOSCH ในระยะต่อไปมูลค่า บาท
    ✅เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
    ✅ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
    ✅เติมลมยางไนโตรเจน
    ✅ตรวจเช็คฟรี 24 รายการ
    ✔ การันตีเลขไมล์แท้ทุกคัน ไม่มีชนหนัก
    ✔ รถทุกคันผ่านมาตรฐานการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด ตรวจเช็คผ่านมาตรฐานศูนย์ 210 รายการ

    🚗🚗สนใจรถยนต์ ออกรถง่ายนิดเดียว ให้ปอดูแลค่ะ🙏🙏🙏
    ☎️ 094-9655944 หรือ 06-1451-5199 ปอค่ะ
    LineID : @6767ryapt มี@นำหน้า
    👉 คลิ๊ก http://nav.cx/fLfKl8m
    Page : https://www.facebook.com/usecarbypor0808/

    #toyota #fortuner #fortunerlegender #โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ #ฟอร์จูนทดลองขับ
    #รถมือสองราคาถูก #ซื้อขายรถมือสอง
    #เก๋งมือสอง #รถมือสองสภาพนางฟ้า
    #รถมือสอง #รถมือสองคุณภาพ #รถบ้านราคาถูก
    #เต๊นท์รถมือสอง #รถมือสองสภาพดี
    #รถมือสองเกรดA #รถมือสองคุณภาพดี
    #รถมือสองอุบลราชธานี #รถมือสองสภาพป้ายแดง
    #รถครอบครัว #รถตู้
    💁🏼‍♀️ ปอขอนำเสนอ PPV ยอดนิยม ไมล์น้อย 🚗 FORTUNER 2.4 V (2wd) 2018 💵 ราคา 855,000.- 🚗 ฟรีดาวน์ ✅ ผ่อน 84 งวด = 14,581.- ✅ วารันตรี 12 เดือน ✅ บัตรเติมน้ำมัน ✅ แถมฟรีคูปองแพคเกจจาก MMS BOSCH ในระยะต่อไปมูลค่า บาท ✅เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ✅ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ✅เติมลมยางไนโตรเจน ✅ตรวจเช็คฟรี 24 รายการ ✔ การันตีเลขไมล์แท้ทุกคัน ไม่มีชนหนัก ✔ รถทุกคันผ่านมาตรฐานการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด ตรวจเช็คผ่านมาตรฐานศูนย์ 210 รายการ 🚗🚗สนใจรถยนต์ ออกรถง่ายนิดเดียว ให้ปอดูแลค่ะ🙏🙏🙏 ☎️ 094-9655944 หรือ 06-1451-5199 ปอค่ะ LineID : @6767ryapt มี@นำหน้า 👉 คลิ๊ก http://nav.cx/fLfKl8m Page : https://www.facebook.com/usecarbypor0808/ #toyota #fortuner #fortunerlegender #โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ #ฟอร์จูนทดลองขับ #รถมือสองราคาถูก #ซื้อขายรถมือสอง #เก๋งมือสอง #รถมือสองสภาพนางฟ้า #รถมือสอง #รถมือสองคุณภาพ #รถบ้านราคาถูก #เต๊นท์รถมือสอง #รถมือสองสภาพดี #รถมือสองเกรดA #รถมือสองคุณภาพดี #รถมือสองอุบลราชธานี #รถมือสองสภาพป้ายแดง #รถครอบครัว #รถตู้
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1547 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💁🏼‍♀️ ปอขอนำเสนอ PPV ยอดนิยม ไมล์น้อย 75,042 km
    🚗 FORTUNER 2.4 V (2wd) 2019
    💵 ราคา 865,000.-
    🚗 ฟรีดาวน์ ✅ ผ่อน 84 งวด = 14,751.-

    ✅ วารันตรี 12 เดือน
    ✅ บัตรเติมน้ำมัน
    ✅ แถมฟรีคูปองแพคเกจจาก MMS BOSCH ในระยะต่อไปมูลค่า บาท
    ✅เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
    ✅ไส้กรองน้ำมันเครื่อง
    ✅เติมลมยางไนโตรเจน
    ✅ตรวจเช็คฟรี 24 รายการ
    ✔ การันตีเลขไมล์แท้ทุกคัน ไม่มีชนหนัก
    ✔ รถทุกคันผ่านมาตรฐานการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด ตรวจเช็คผ่านมาตรฐานศูนย์ 210 รายการ

    🚗🚗สนใจรถยนต์ ออกรถง่ายนิดเดียว ให้ปอดูแลค่ะ🙏🙏🙏
    ☎️ 094-9655944 หรือ 06-1451-5199 ปอค่ะ
    LineID : @6767ryapt มี@นำหน้า
    👉 คลิ๊ก http://nav.cx/fLfKl8m
    Page : https://www.facebook.com/usecarbypor0808/

    #toyota #fortuner #fortunerlegender #โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ #ฟอร์จูนทดลองขับ
    #รถมือสองราคาถูก #ซื้อขายรถมือสอง
    #เก๋งมือสอง #รถมือสองสภาพนางฟ้า
    #รถมือสอง #รถมือสองคุณภาพ #รถบ้านราคาถูก
    #เต๊นท์รถมือสอง #รถมือสองสภาพดี
    #รถมือสองเกรดA #รถมือสองคุณภาพดี
    #รถมือสองอุบลราชธานี #รถมือสองสภาพป้ายแดง
    #รถครอบครัว #รถตู้
    💁🏼‍♀️ ปอขอนำเสนอ PPV ยอดนิยม ไมล์น้อย 75,042 km 🚗 FORTUNER 2.4 V (2wd) 2019 💵 ราคา 865,000.- 🚗 ฟรีดาวน์ ✅ ผ่อน 84 งวด = 14,751.- ✅ วารันตรี 12 เดือน ✅ บัตรเติมน้ำมัน ✅ แถมฟรีคูปองแพคเกจจาก MMS BOSCH ในระยะต่อไปมูลค่า บาท ✅เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ✅ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ✅เติมลมยางไนโตรเจน ✅ตรวจเช็คฟรี 24 รายการ ✔ การันตีเลขไมล์แท้ทุกคัน ไม่มีชนหนัก ✔ รถทุกคันผ่านมาตรฐานการตรวจสอบสภาพอย่างละเอียด ตรวจเช็คผ่านมาตรฐานศูนย์ 210 รายการ 🚗🚗สนใจรถยนต์ ออกรถง่ายนิดเดียว ให้ปอดูแลค่ะ🙏🙏🙏 ☎️ 094-9655944 หรือ 06-1451-5199 ปอค่ะ LineID : @6767ryapt มี@นำหน้า 👉 คลิ๊ก http://nav.cx/fLfKl8m Page : https://www.facebook.com/usecarbypor0808/ #toyota #fortuner #fortunerlegender #โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ #ฟอร์จูนทดลองขับ #รถมือสองราคาถูก #ซื้อขายรถมือสอง #เก๋งมือสอง #รถมือสองสภาพนางฟ้า #รถมือสอง #รถมือสองคุณภาพ #รถบ้านราคาถูก #เต๊นท์รถมือสอง #รถมือสองสภาพดี #รถมือสองเกรดA #รถมือสองคุณภาพดี #รถมือสองอุบลราชธานี #รถมือสองสภาพป้ายแดง #รถครอบครัว #รถตู้
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1543 มุมมอง 0 รีวิว
  • คดีดังที่มาเลเซีย ฆ่าสาวทิ้งสวนปาล์ม

    ที่ประเทศมาเลเซีย มีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญอยู่คดีหนึ่งที่เป็นข่าวดังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเสียชีวิตของ นางสาวนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี อับดุลลาห์ อายุ 25 ปี ซึ่งพบศพภายในสวนปาล์มน้ำมัน ที่บ้านกัมปุง ศรี เกเลดัง เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา

    ก่อนหน้านี้ตำรวจรับแจ้งจากพนักงานของบริษัทให้เช่ารถในเมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก ว่า นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี หายตัวไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังจากที่เธอส่งรถเช่าให้กับลูกค้า กระทั่งผ่านมา 5 วัน จึงได้พบศพของเธอดังกล่าว

    นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 7 คน บ้านเกิดของเธออยู่ที่เมืองมิริ รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยศึกษาศาสตร์สุลต่านไอดริส (UPSI) เมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก สาขาการศึกษา (มัลติมีเดีย) เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ต้องการกลับบ้านเกิด ต้องการอยู่ทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว

    วันต่อมา ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังคือ สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี อายุ 26 ปี อาชีพรับราชการตำรวจ ยศสิบเอก ประจำสถานีตำรวจสลิมริเวอร์ ในรัฐเปรัก ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี และถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วันเพื่อสอบสวนตามกฎหมายมาเลเซีย ก่อนที่จะขยายต่อไปอีก 7 วัน ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567

    การค้นหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากพบสมาร์ทโฟนลงท่อระบายน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน ต่อมาพบกระเป๋าถือของนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 นาที การตรวจค้นและสอบสวนคนงานไร่มันสำปะหลัง ที่ผู้ต้องสงสัยทำไร่มันนอกเวลางาน รวมทั้งตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีแดง และตรวจวิเคราะห์ซิมการ์ดของผู้ต้องสงสัย

    นอกจากนี้ หน่วยสืบสวนนิติเวช ยังค้นหาสิ่งของบนแม่น้ำสลิม ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่ผู้ต้องสงสัยทิ้งสิ่งของจากสะพานเหล็กลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก พบกุญแจรถยนต์ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร และพบกระเป๋าสตางค์ห่างออกไปอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ละหมาด กระเป๋าถือ และสายชาร์จโทรศัพท์อีกด้วย

    ดาตุ๊ก ฮุสเซน โอมาร์ ข่าน หัวหน้าตำรวจรัฐสลังงอร์ เชื่อว่าแรงจูงใจในการฆาตกรรมเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องความสัมพันธ์ โดยหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องสงสัย อาศัยหลักฐานที่พบในหลายสถานที่ทั้งภายในรัฐสลังงอร์ และรัฐเปรัก

    26 กรกฎาคม 2567 ตำรวจควบคุมตัว สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี ไปที่ศาลแขวงกัวลากูบูบารู ที่เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ โดยตั้งข้อหาฆาตกรรม ซึ่งหากตัดสินว่ามีความผิด โทษสูงสุดประหารชีวิต ซึ่งศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 30 สิงหาคม 2567

    สำหรับร่างของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ถูกฝังไว้เมื่อเวลา 17.02 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่สุสานกัมปง นยีอูร์ มานิส เมืองเปกัน รัฐปะหัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาพี่ชาย หลังเสร็จสิ้นการชันสูตรที่โรงพยาบาลสุไหงบูเลาะห์ รัฐสลังงอร์ ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 2-3 วัน

    #Newskit #อาชญากรรม #มาเลเซีย
    คดีดังที่มาเลเซีย ฆ่าสาวทิ้งสวนปาล์ม ที่ประเทศมาเลเซีย มีคดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญอยู่คดีหนึ่งที่เป็นข่าวดังตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา คือการเสียชีวิตของ นางสาวนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี อับดุลลาห์ อายุ 25 ปี ซึ่งพบศพภายในสวนปาล์มน้ำมัน ที่บ้านกัมปุง ศรี เกเลดัง เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ เมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเย็นวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้ตำรวจรับแจ้งจากพนักงานของบริษัทให้เช่ารถในเมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก ว่า นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี หายตัวไปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 หลังจากที่เธอส่งรถเช่าให้กับลูกค้า กระทั่งผ่านมา 5 วัน จึงได้พบศพของเธอดังกล่าว นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี เป็นลูกสาวคนสุดท้องจากพี่น้องทั้งหมด 7 คน บ้านเกิดของเธออยู่ที่เมืองมิริ รัฐซาราวัก บนเกาะบอร์เนียว สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยศึกษาศาสตร์สุลต่านไอดริส (UPSI) เมืองตันจุงมาลิม รัฐเปรัก สาขาการศึกษา (มัลติมีเดีย) เมื่อปีที่แล้ว แต่ไม่ต้องการกลับบ้านเกิด ต้องการอยู่ทำงานเพื่อช่วยเหลือครอบครัว วันต่อมา ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อภายหลังคือ สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี อายุ 26 ปี อาชีพรับราชการตำรวจ ยศสิบเอก ประจำสถานีตำรวจสลิมริเวอร์ ในรัฐเปรัก ซึ่งเป็นแฟนหนุ่มของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี และถูกควบคุมตัวเป็นเวลา 7 วันเพื่อสอบสวนตามกฎหมายมาเลเซีย ก่อนที่จะขยายต่อไปอีก 7 วัน ถึงวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 การค้นหาหลักฐานเพื่อคลี่คลายคดีดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากพบสมาร์ทโฟนลงท่อระบายน้ำในสวนปาล์มน้ำมัน ต่อมาพบกระเป๋าถือของนูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 20 นาที การตรวจค้นและสอบสวนคนงานไร่มันสำปะหลัง ที่ผู้ต้องสงสัยทำไร่มันนอกเวลางาน รวมทั้งตรวจสอบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีแดง และตรวจวิเคราะห์ซิมการ์ดของผู้ต้องสงสัย นอกจากนี้ หน่วยสืบสวนนิติเวช ยังค้นหาสิ่งของบนแม่น้ำสลิม ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดที่ผู้ต้องสงสัยทิ้งสิ่งของจากสะพานเหล็กลงไปในแม่น้ำ ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก พบกุญแจรถยนต์ห่างออกไปประมาณ 50 เมตร และพบกระเป๋าสตางค์ห่างออกไปอีกเล็กน้อย นอกจากนี้ยังพบข้าวของเครื่องใช้ อุปกรณ์ละหมาด กระเป๋าถือ และสายชาร์จโทรศัพท์อีกด้วย ดาตุ๊ก ฮุสเซน โอมาร์ ข่าน หัวหน้าตำรวจรัฐสลังงอร์ เชื่อว่าแรงจูงใจในการฆาตกรรมเกี่ยวข้องกับข้อพิพาทเรื่องความสัมพันธ์ โดยหลักฐานเพียงพอที่จะตั้งข้อกล่าวหาผู้ต้องสงสัย อาศัยหลักฐานที่พบในหลายสถานที่ทั้งภายในรัฐสลังงอร์ และรัฐเปรัก 26 กรกฎาคม 2567 ตำรวจควบคุมตัว สิบตำรวจเอก มูฮัมหมัด อาลิฟ มอนจานี ไปที่ศาลแขวงกัวลากูบูบารู ที่เมืองฮูลู สลังงอร์ รัฐสลังงอร์ โดยตั้งข้อหาฆาตกรรม ซึ่งหากตัดสินว่ามีความผิด โทษสูงสุดประหารชีวิต ซึ่งศาลนัดอีกครั้งในวันที่ 30 สิงหาคม 2567 สำหรับร่างของ นูร์ ฟาราห์ การ์ตินี ถูกฝังไว้เมื่อเวลา 17.02 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม 2567 ที่สุสานกัมปง นยีอูร์ มานิส เมืองเปกัน รัฐปะหัง ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาพี่ชาย หลังเสร็จสิ้นการชันสูตรที่โรงพยาบาลสุไหงบูเลาะห์ รัฐสลังงอร์ ซึ่งใช้เวลานานประมาณ 2-3 วัน #Newskit #อาชญากรรม #มาเลเซีย
    Sad
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 816 มุมมอง 0 รีวิว