• X Corp ฟ้อง Operation Bluebird – ศึกชิงแบรนด์ “Twitter”

    เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 X Corp ได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐเดลาแวร์ หลังจากที่สตาร์ทอัพ Operation Bluebird ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ เพื่อยกเลิกเครื่องหมายการค้า “Twitter” โดยอ้างว่า X Corp ได้ละทิ้งแบรนด์นี้ไปแล้วตั้งแต่การรีแบรนด์เป็น “X”

    X Corp โต้แย้งว่าแบรนด์ Twitter ยังคง “alive and well” และยังถูกใช้งานในหลายรูปแบบ เช่น ผู้ใช้จำนวนมากยังเข้าถึงแพลตฟอร์มผ่าน twitter.com และธุรกิจต่าง ๆ ยังคงเรียกแพลตฟอร์มนี้ว่า Twitter นอกจากนี้ X Corp ยังยืนยันว่าตนยังคงบังคับใช้สิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า Twitter อยู่

    ฝั่ง Operation Bluebird ซึ่งก่อตั้งโดย Michael Peroff และมี Stephen Coates อดีตทนายความด้านเครื่องหมายการค้าของ Twitter เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ระบุว่าต้องการนำ Twitter กลับมาในชื่อใหม่ “twitter.new” และได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Twitter ในชื่อของตนเอง

    X Corp กล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าและจะสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค จึงเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่งที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การฟ้องร้องของ X Corp
    ยื่นฟ้อง Operation Bluebird ต่อศาลรัฐบาลกลางเดลาแวร์
    ยืนยันว่าแบรนด์ Twitter ยังไม่ถูกละทิ้ง

    การกระทำของ Operation Bluebird
    ยื่นคำร้องยกเลิกเครื่องหมายการค้า Twitter
    ต้องการเปิดแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ “twitter.new”

    เหตุผลของ X Corp
    ผู้ใช้ยังเข้าถึงผ่าน twitter.com
    ธุรกิจและผู้คนยังเรียกแพลตฟอร์มว่า Twitter

    ความเสี่ยงและคำเตือน
    หาก Operation Bluebird ใช้ชื่อ Twitter อาจสร้างความสับสนให้ผู้บริโภค
    การฟ้องร้องอาจยืดเยื้อและส่งผลต่อมูลค่าแบรนด์ในระยะยาว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/x-corp-sues-social-media-startup-over-bid-to-claim-039twitter039-brand
    ⚖️ X Corp ฟ้อง Operation Bluebird – ศึกชิงแบรนด์ “Twitter” เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2025 X Corp ได้ยื่นฟ้องต่อศาลรัฐบาลกลางในรัฐเดลาแวร์ หลังจากที่สตาร์ทอัพ Operation Bluebird ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ เพื่อยกเลิกเครื่องหมายการค้า “Twitter” โดยอ้างว่า X Corp ได้ละทิ้งแบรนด์นี้ไปแล้วตั้งแต่การรีแบรนด์เป็น “X” X Corp โต้แย้งว่าแบรนด์ Twitter ยังคง “alive and well” และยังถูกใช้งานในหลายรูปแบบ เช่น ผู้ใช้จำนวนมากยังเข้าถึงแพลตฟอร์มผ่าน twitter.com และธุรกิจต่าง ๆ ยังคงเรียกแพลตฟอร์มนี้ว่า Twitter นอกจากนี้ X Corp ยังยืนยันว่าตนยังคงบังคับใช้สิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า Twitter อยู่ ฝั่ง Operation Bluebird ซึ่งก่อตั้งโดย Michael Peroff และมี Stephen Coates อดีตทนายความด้านเครื่องหมายการค้าของ Twitter เป็นที่ปรึกษากฎหมาย ระบุว่าต้องการนำ Twitter กลับมาในชื่อใหม่ “twitter.new” และได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า Twitter ในชื่อของตนเอง X Corp กล่าวว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการละเมิดสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้าและจะสร้างความสับสนให้กับผู้บริโภค จึงเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินจำนวนหนึ่งที่ยังไม่เปิดเผยต่อสาธารณะ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การฟ้องร้องของ X Corp ➡️ ยื่นฟ้อง Operation Bluebird ต่อศาลรัฐบาลกลางเดลาแวร์ ➡️ ยืนยันว่าแบรนด์ Twitter ยังไม่ถูกละทิ้ง ✅ การกระทำของ Operation Bluebird ➡️ ยื่นคำร้องยกเลิกเครื่องหมายการค้า Twitter ➡️ ต้องการเปิดแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ “twitter.new” ✅ เหตุผลของ X Corp ➡️ ผู้ใช้ยังเข้าถึงผ่าน twitter.com ➡️ ธุรกิจและผู้คนยังเรียกแพลตฟอร์มว่า Twitter ‼️ ความเสี่ยงและคำเตือน ⛔ หาก Operation Bluebird ใช้ชื่อ Twitter อาจสร้างความสับสนให้ผู้บริโภค ⛔ การฟ้องร้องอาจยืดเยื้อและส่งผลต่อมูลค่าแบรนด์ในระยะยาว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/17/x-corp-sues-social-media-startup-over-bid-to-claim-039twitter039-brand
    WWW.THESTAR.COM.MY
    X Corp sues social media startup over bid to claim 'Twitter' brand
    Dec 16 (Reuters) - Elon Musk's X Corp sued a startup on Tuesday after it sought to cancel X's Twitter trademarks so it can "bring Twitter back" as a new social media platform.
    0 Comments 0 Shares 190 Views 0 Reviews
  • สตาร์ทอัพสหรัฐฯ ยื่นขอคืนสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter

    สตาร์ทอัพชื่อ Operation Bluebird จากรัฐเวอร์จิเนีย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) เพื่อขอยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Twitter” และ “tweet” โดยอ้างว่า X Corp ของ Elon Musk ได้ละทิ้งสิทธิ์เหล่านี้ไปแล้ว หลังจากรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023

    บริษัท Operation Bluebird มีแผนจะใช้ชื่อ “twitter.new” สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ และได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Twitter” ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2025 การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ต่อ Musk และ X Corp เพราะหาก USPTO เห็นด้วย อาจทำให้ชื่อ Twitter ถูกนำกลับมาใช้งานโดยบริษัทอื่น

    กรณีนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี การละทิ้งชื่อที่มีมูลค่าทางแบรนด์มหาศาลอย่าง Twitter อาจเปิดช่องให้คู่แข่งเข้ามายึดครองสิทธิ์ทางกฎหมาย และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่อาศัยชื่อเสียงเดิมในการดึงดูดผู้ใช้ ขณะเดียวกันก็เป็นบทเรียนสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องระวังผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ในระดับโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การเคลื่อนไหวของ Operation Bluebird
    ยื่นคำร้องต่อ USPTO เพื่อยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter และ tweet
    มีแผนเปิดแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ “twitter.new”

    สถานการณ์ของ X Corp
    หลังรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023 สิทธิ์เครื่องหมายการค้าอาจถูกมองว่าละทิ้ง
    หากคำร้องสำเร็จ อาจสูญเสียสิทธิ์ในชื่อ Twitter อย่างถาวร

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    เปิดช่องให้คู่แข่งใช้ชื่อ Twitter เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่
    เป็นบทเรียนด้านการจัดการแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา

    คำเตือนและความเสี่ยง
    หาก Musk สูญเสียสิทธิ์ Twitter อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของ X Corp
    การใช้ชื่อ Twitter โดยบริษัทอื่นอาจสร้างความสับสนให้ผู้ใช้ทั่วโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-startup-seeks-to-reclaim-twitter-trademarks-039abandoned039-by-musks-x-
    ⚖️ สตาร์ทอัพสหรัฐฯ ยื่นขอคืนสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter สตาร์ทอัพชื่อ Operation Bluebird จากรัฐเวอร์จิเนีย ได้ยื่นคำร้องต่อสำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) เพื่อขอยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า “Twitter” และ “tweet” โดยอ้างว่า X Corp ของ Elon Musk ได้ละทิ้งสิทธิ์เหล่านี้ไปแล้ว หลังจากรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023 บริษัท Operation Bluebird มีแผนจะใช้ชื่อ “twitter.new” สำหรับแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียใหม่ และได้ยื่นขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า “Twitter” ด้วยตนเองเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2025 การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการท้าทายครั้งใหญ่ต่อ Musk และ X Corp เพราะหาก USPTO เห็นด้วย อาจทำให้ชื่อ Twitter ถูกนำกลับมาใช้งานโดยบริษัทอื่น กรณีนี้สะท้อนถึงความซับซ้อนของการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในโลกเทคโนโลยี การละทิ้งชื่อที่มีมูลค่าทางแบรนด์มหาศาลอย่าง Twitter อาจเปิดช่องให้คู่แข่งเข้ามายึดครองสิทธิ์ทางกฎหมาย และสร้างแพลตฟอร์มใหม่ที่อาศัยชื่อเสียงเดิมในการดึงดูดผู้ใช้ ขณะเดียวกันก็เป็นบทเรียนสำหรับบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องระวังผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงแบรนด์ในระดับโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การเคลื่อนไหวของ Operation Bluebird ➡️ ยื่นคำร้องต่อ USPTO เพื่อยกเลิกสิทธิ์เครื่องหมายการค้า Twitter และ tweet ➡️ มีแผนเปิดแพลตฟอร์มใหม่ชื่อ “twitter.new” ✅ สถานการณ์ของ X Corp ➡️ หลังรีแบรนด์ Twitter เป็น X ตั้งแต่ปี 2023 สิทธิ์เครื่องหมายการค้าอาจถูกมองว่าละทิ้ง ➡️ หากคำร้องสำเร็จ อาจสูญเสียสิทธิ์ในชื่อ Twitter อย่างถาวร ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ เปิดช่องให้คู่แข่งใช้ชื่อ Twitter เพื่อสร้างแพลตฟอร์มใหม่ ➡️ เป็นบทเรียนด้านการจัดการแบรนด์และทรัพย์สินทางปัญญา ‼️ คำเตือนและความเสี่ยง ⛔ หาก Musk สูญเสียสิทธิ์ Twitter อาจกระทบต่อภาพลักษณ์และมูลค่าของ X Corp ⛔ การใช้ชื่อ Twitter โดยบริษัทอื่นอาจสร้างความสับสนให้ผู้ใช้ทั่วโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/09/us-startup-seeks-to-reclaim-twitter-trademarks-039abandoned039-by-musks-x-
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US startup seeks to reclaim Twitter trademarks 'abandoned' by Musk’s X
    WASHINGTON, Dec 8 (Reuters) - A fledgling social media platform has asked the U.S. Patent and Trademark Office to cancel trademarks for Twitter so it can take them for itself, contending that billionaire Elon Musk's X Corp has abandoned them.
    0 Comments 0 Shares 187 Views 0 Reviews
  • Nvidia เปิดตัว Vera Rubin เร็วกว่ากำหนด

    Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม Vera Rubin ซึ่งรวมทั้ง GPU, CPU, DPU และระบบเครือข่าย จะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปี 2026 เร็วกว่าที่เคยประกาศไว้ในครึ่งหลังของปี การเร่งเปิดตัวครั้งนี้เกิดจากความต้องการ AI Compute ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานตลอดเวลาเพื่อเตรียมความพร้อม

    เป้าหมายยอดขายมหาศาล
    Nvidia ตั้งเป้ายอดขาย GPU สำหรับ AI สูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026 โดยไม่รวมตลาดจีน ซึ่งเคยเป็นตลาดใหญ่อันดับสามของบริษัท การเติบโตนี้มาจากการใช้งาน AI ที่แพร่หลายทั้งในภาคธุรกิจ รัฐบาล และสถาบันวิจัย ทำให้ความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    ผลกระทบจากข้อจำกัดจีน
    สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการขาย GPU ขั้นสูงให้จีน ขณะที่รัฐบาลจีนก็ห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ ทำให้ Nvidia ต้องตัดจีนออกจากการคาดการณ์รายได้ Huang ระบุว่า “เราคาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์” แม้จะยอมรับว่าตลาด AI ของจีนมีมูลค่ากว่า 50 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทจะยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ

    สถาปัตยกรรม Vera Rubin
    แพลตฟอร์ม Vera Rubin ประกอบด้วย
    Rubin GPU แบบ dual-chiplet พร้อม HBM4 288GB
    Rubin CPX accelerator พร้อม GDDR7 128GB
    Vera CPU ที่มี 88 คอร์
    BlueField-4 DPU
    NVLink รุ่นที่ 6 และอะแดปเตอร์ Ethernet/InfiniBand รุ่นใหม่

    ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อรองรับการประมวลผล AI และ HPC ในระดับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    Vera Rubin เปิดตัวเร็วกว่ากำหนด
    เปิดตัวไตรมาส 3 ปี 2026
    ทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานพัฒนา

    เป้าหมายยอดขาย
    ตั้งเป้า 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026
    ความต้องการ AI Compute พุ่งสูงทั่วโลก

    ผลกระทบจากจีน
    สหรัฐฯ ห้ามขาย GPU ขั้นสูงให้จีน
    จีนห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ
    Nvidia คาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์

    สถาปัตยกรรม Vera Rubin
    Rubin GPU, CPX accelerator, Vera CPU, BlueField-4 DPU
    NVLink รุ่นที่ 6 และระบบเครือข่ายใหม่

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    การสูญเสียตลาดจีนอาจกระทบต่อการเติบโตระยะยาว
    ความเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีนยังคงอยู่

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-hints-at-early-vera-rubin-launch-on-track-for-usd500-billion-in-gpu-sales-by-late-2026-despite-losing-china
    🚀 Nvidia เปิดตัว Vera Rubin เร็วกว่ากำหนด Jensen Huang ซีอีโอ Nvidia ยืนยันว่าแพลตฟอร์ม Vera Rubin ซึ่งรวมทั้ง GPU, CPU, DPU และระบบเครือข่าย จะเปิดตัวในไตรมาส 3 ปี 2026 เร็วกว่าที่เคยประกาศไว้ในครึ่งหลังของปี การเร่งเปิดตัวครั้งนี้เกิดจากความต้องการ AI Compute ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยมีทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานตลอดเวลาเพื่อเตรียมความพร้อม 💹 เป้าหมายยอดขายมหาศาล Nvidia ตั้งเป้ายอดขาย GPU สำหรับ AI สูงถึง 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026 โดยไม่รวมตลาดจีน ซึ่งเคยเป็นตลาดใหญ่อันดับสามของบริษัท การเติบโตนี้มาจากการใช้งาน AI ที่แพร่หลายทั้งในภาคธุรกิจ รัฐบาล และสถาบันวิจัย ทำให้ความต้องการชิปประสิทธิภาพสูงพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง 🌐 ผลกระทบจากข้อจำกัดจีน สหรัฐฯ ได้สั่งห้ามการขาย GPU ขั้นสูงให้จีน ขณะที่รัฐบาลจีนก็ห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ ทำให้ Nvidia ต้องตัดจีนออกจากการคาดการณ์รายได้ Huang ระบุว่า “เราคาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์” แม้จะยอมรับว่าตลาด AI ของจีนมีมูลค่ากว่า 50 พันล้านดอลลาร์ แต่บริษัทจะยังคงพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ ⚡ สถาปัตยกรรม Vera Rubin แพลตฟอร์ม Vera Rubin ประกอบด้วย 🎗️ Rubin GPU แบบ dual-chiplet พร้อม HBM4 288GB 🎗️ Rubin CPX accelerator พร้อม GDDR7 128GB 🎗️ Vera CPU ที่มี 88 คอร์ 🎗️ BlueField-4 DPU 🎗️ NVLink รุ่นที่ 6 และอะแดปเตอร์ Ethernet/InfiniBand รุ่นใหม่ ทั้งหมดถูกออกแบบเพื่อรองรับการประมวลผล AI และ HPC ในระดับศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ Vera Rubin เปิดตัวเร็วกว่ากำหนด ➡️ เปิดตัวไตรมาส 3 ปี 2026 ➡️ ทีมวิศวกรกว่า 20,000 คนทำงานพัฒนา ✅ เป้าหมายยอดขาย ➡️ ตั้งเป้า 500 พันล้านดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2026 ➡️ ความต้องการ AI Compute พุ่งสูงทั่วโลก ✅ ผลกระทบจากจีน ➡️ สหรัฐฯ ห้ามขาย GPU ขั้นสูงให้จีน ➡️ จีนห้ามหน่วยงานรัฐซื้อฮาร์ดแวร์ต่างประเทศ ➡️ Nvidia คาดการณ์รายได้จากจีนเป็นศูนย์ ✅ สถาปัตยกรรม Vera Rubin ➡️ Rubin GPU, CPX accelerator, Vera CPU, BlueField-4 DPU ➡️ NVLink รุ่นที่ 6 และระบบเครือข่ายใหม่ ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ การสูญเสียตลาดจีนอาจกระทบต่อการเติบโตระยะยาว ⛔ ความเสี่ยงจากสงครามการค้าสหรัฐฯ–จีนยังคงอยู่ https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/nvidia-hints-at-early-vera-rubin-launch-on-track-for-usd500-billion-in-gpu-sales-by-late-2026-despite-losing-china
    0 Comments 0 Shares 378 Views 0 Reviews
  • “Yttrium พุ่ง 1,500% เขย่าโลกชิปเซ็ต”

    ราคาของแร่หายาก Yttrium พุ่งขึ้นกว่า 1,500% ภายใน 12 เดือน จาก $8 เป็น $126 ต่อกิโลกรัม เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก

    ราคาพุ่งทะยาน
    Bloomberg รายงานว่า Yttrium ซึ่งเป็นแร่หายากที่ใช้ในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เช่น thin-film deposition และ wafer polishing มีราคาพุ่งขึ้นจาก $8 เป็น $126 ต่อกิโลกรัมในเวลาไม่ถึงปี ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

    สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน
    ความตึงเครียดเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 145% และจีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่หายาก รวมถึง Yttrium แม้จะมีการเจรจาและพักรบทางภาษี แต่จีนยังคงคุมเข้มการส่งออกบางรายการ ทำให้ซัพพลายยังคงตึงตัว

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก
    มากกว่า 90% ของแร่หายากที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาจากจีน ทำให้การควบคุมการส่งออกส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตชิปทั่วโลก ขณะนี้สหรัฐฯ กำลังพยายามหาทางออก เช่น โครงการ Mountain Pass ในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงการลงทุน $2 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act เพื่อสร้างซัพพลายเชนที่ยั่งยืน ขณะที่ออสเตรเลียและแคนาดาก็เร่งหาทางผลิตแร่หายากจากเหมืองและของเสีย

    แนวโน้มในอนาคต
    แม้จะมีการหาทางออก แต่ราคาของ Yttrium ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง และอาจสร้างแรงกดดันต่อการผลิตชิปในระยะยาว หากประเทศตะวันตกไม่สามารถสร้างซัพพลายเชนใหม่ได้ทันเวลา อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อาจเผชิญความเสี่ยงด้านต้นทุนและการผลิตที่ไม่เสถียร

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ราคาพุ่ง
    Yttrium เพิ่มจาก $8 เป็น $126 ต่อกิโลกรัมใน 12 เดือน

    สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน
    สหรัฐฯ เก็บภาษี 145%
    จีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก

    ผลกระทบต่อซัพพลายเชน
    สหรัฐฯ พึ่งพาจีนกว่า 90%
    โครงการ Mountain Pass และ CHIPS Act ลงทุน $2 พันล้าน
    ออสเตรเลีย–แคนาดาเร่งผลิตแร่หายาก

    คำเตือนสำหรับอนาคต
    ราคายังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง
    ความเสี่ยงต่อการผลิตชิปหากซัพพลายเชนใหม่ไม่ทันเวลา

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/1-500-percent-price-increase-on-some-rare-earth-elements-squeezes-chipmaking-business-yttrium-surge-caused-by-trade-war-between-u-s-and-china
    💸 “Yttrium พุ่ง 1,500% เขย่าโลกชิปเซ็ต” ราคาของแร่หายาก Yttrium พุ่งขึ้นกว่า 1,500% ภายใน 12 เดือน จาก $8 เป็น $126 ต่อกิโลกรัม เนื่องจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลก 📈 ราคาพุ่งทะยาน Bloomberg รายงานว่า Yttrium ซึ่งเป็นแร่หายากที่ใช้ในกระบวนการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เช่น thin-film deposition และ wafer polishing มีราคาพุ่งขึ้นจาก $8 เป็น $126 ต่อกิโลกรัมในเวลาไม่ถึงปี ถือเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ⚖️ สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน ความตึงเครียดเริ่มรุนแรงขึ้นเมื่อสหรัฐฯ ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 145% และจีนตอบโต้ด้วยการจำกัดการส่งออกแร่หายาก รวมถึง Yttrium แม้จะมีการเจรจาและพักรบทางภาษี แต่จีนยังคงคุมเข้มการส่งออกบางรายการ ทำให้ซัพพลายยังคงตึงตัว 🌍 ผลกระทบต่อซัพพลายเชนโลก มากกว่า 90% ของแร่หายากที่สหรัฐฯ ต้องใช้มาจากจีน ทำให้การควบคุมการส่งออกส่งผลกระทบอย่างหนักต่อผู้ผลิตชิปทั่วโลก ขณะนี้สหรัฐฯ กำลังพยายามหาทางออก เช่น โครงการ Mountain Pass ในแคลิฟอร์เนีย รวมถึงการลงทุน $2 พันล้านดอลลาร์จาก CHIPS Act เพื่อสร้างซัพพลายเชนที่ยั่งยืน ขณะที่ออสเตรเลียและแคนาดาก็เร่งหาทางผลิตแร่หายากจากเหมืองและของเสีย 🔮 แนวโน้มในอนาคต แม้จะมีการหาทางออก แต่ราคาของ Yttrium ยังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง และอาจสร้างแรงกดดันต่อการผลิตชิปในระยะยาว หากประเทศตะวันตกไม่สามารถสร้างซัพพลายเชนใหม่ได้ทันเวลา อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์อาจเผชิญความเสี่ยงด้านต้นทุนและการผลิตที่ไม่เสถียร 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ราคาพุ่ง ➡️ Yttrium เพิ่มจาก $8 เป็น $126 ต่อกิโลกรัมใน 12 เดือน ✅ สงครามการค้าสหรัฐฯ–จีน ➡️ สหรัฐฯ เก็บภาษี 145% ➡️ จีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก ✅ ผลกระทบต่อซัพพลายเชน ➡️ สหรัฐฯ พึ่งพาจีนกว่า 90% ➡️ โครงการ Mountain Pass และ CHIPS Act ลงทุน $2 พันล้าน ➡️ ออสเตรเลีย–แคนาดาเร่งผลิตแร่หายาก ‼️ คำเตือนสำหรับอนาคต ⛔ ราคายังคงสูงขึ้นต่อเนื่อง ⛔ ความเสี่ยงต่อการผลิตชิปหากซัพพลายเชนใหม่ไม่ทันเวลา https://www.tomshardware.com/tech-industry/manufacturing/1-500-percent-price-increase-on-some-rare-earth-elements-squeezes-chipmaking-business-yttrium-surge-caused-by-trade-war-between-u-s-and-china
    0 Comments 0 Shares 448 Views 0 Reviews
  • ไทยผิดหวัง สหรัฐฯ ระงับเจรจาภาษีการค้า , เหตุบีบไทยต้องทำตามปฏิญญาสันติภาพกับกัมพูชาก่อน

    โฆษก กต.เผย รองผู้แทนการค้าสหรัฐแจ้งขอ “ระงับเจรจาภาษีชั่วคราว” จนกว่าไทยจะกลับมาปฏิบัติตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ฝ่ายไทยย้ำผิดหวังที่นำประเด็นภาษีมาผูกกับปัญหาความมั่นคง ชี้นายกฯ ได้โทรแจง “ทรัมป์” แล้ว และได้รับความเข้าใจ

    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109255

    #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #สหรัฐอเมริกา #เจรจาการค้า #ภาษีนำเข้า #ความมั่นคงชายแดน #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์ #ASEAN #newsupdate
    ไทยผิดหวัง สหรัฐฯ ระงับเจรจาภาษีการค้า , เหตุบีบไทยต้องทำตามปฏิญญาสันติภาพกับกัมพูชาก่อน • โฆษก กต.เผย รองผู้แทนการค้าสหรัฐแจ้งขอ “ระงับเจรจาภาษีชั่วคราว” จนกว่าไทยจะกลับมาปฏิบัติตามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ ฝ่ายไทยย้ำผิดหวังที่นำประเด็นภาษีมาผูกกับปัญหาความมั่นคง ชี้นายกฯ ได้โทรแจง “ทรัมป์” แล้ว และได้รับความเข้าใจ • อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000109255 • #News1live #News1 #ไทยกัมพูชา #สหรัฐอเมริกา #เจรจาการค้า #ภาษีนำเข้า #ความมั่นคงชายแดน #ปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ #อนุทิน #ทรัมป์ #อันวาร์ #ASEAN #newsupdate
    Like
    Sad
    5
    0 Comments 0 Shares 685 Views 0 Reviews
  • “SIA เตือน! ค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรใหม่อาจกลายเป็นภาษีนวัตกรรม”

    อุตสาหกรรมชิปโต้กลับ! ข้อเสนอเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรรายปีตามมูลค่าอาจเป็น “ภาษีนวัตกรรม” สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) ออกแถลงการณ์คัดค้านข้อเสนอของสำนักงานสิทธิบัตรสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรรายปีตามมูลค่าที่ประเมินไว้ ชี้อาจบั่นทอนนวัตกรรมและทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในเวทีโลก

    สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) กำลังพิจารณาข้อเสนอใหม่ที่จะเปลี่ยนระบบค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรจากแบบคงที่ เป็นแบบ คิดตามมูลค่าที่ประเมินโดยรัฐบาล โดยอัตราอยู่ระหว่าง 1% ถึง 5% ต่อปี ของมูลค่าสิทธิบัตร

    ข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 440 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากค่าธรรมเนียมแบบใหม่

    อย่างไรก็ตาม สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการ USPTO โดยระบุว่า สิทธิบัตรในอุตสาหกรรมชิปมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันสูง ทำให้การประเมินมูลค่าแต่ละสิทธิบัตรเป็นเรื่องยากและไม่แม่นยำ

    SIA เตือนว่า หากข้อเสนอนี้ผ่าน อาจทำให้บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะรายเล็กและนักประดิษฐ์อิสระ ไม่สามารถแบกรับภาระค่าธรรมเนียมได้ และอาจเลือกไม่จดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความโปร่งใสและความร่วมมือด้านเทคโนโลยี

    นักวิเคราะห์บางรายถึงกับเรียกข้อเสนอนี้ว่าเป็น “การเก็บภาษีซ้ำซ้อน” เพราะผู้ถือสิทธิบัตรต้องเสียภาษีจากรายได้ที่เกิดจากสิทธิบัตรอยู่แล้ว

    USPTO เสนอเปลี่ยนค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรเป็นแบบตามมูลค่า
    คิดเป็น 1%–5% ของมูลค่าสิทธิบัตรต่อปี
    คาดว่าจะสร้างรายได้ 440 ล้านดอลลาร์ต่อปี
    แทนที่ระบบค่าธรรมเนียมแบบคงที่ในปัจจุบัน

    SIA คัดค้านอย่างหนัก
    ระบุว่าสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมชิปมีความซับซ้อน
    การประเมินมูลค่าแต่ละสิทธิบัตรทำได้ยาก
    อาจทำให้บริษัทเล็กและนักประดิษฐ์ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้

    ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    ลดแรงจูงใจในการจดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ
    กระทบความร่วมมือและความโปร่งใสด้านเทคโนโลยี
    อาจผลักดันให้การวิจัยและพัฒนาเคลื่อนย้ายไปยังประเทศที่มีกฎสิทธิบัตรเป็นมิตร

    คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ
    ข้อเสนอนี้อาจกลายเป็น “ภาษีนวัตกรรม”
    เสี่ยงต่อการลดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ ในเวทีโลก
    อาจกระทบต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพและนักประดิษฐ์อิสระ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chipmaking-industry-pushes-back-on-u-s-patent-office-considering-imposing-annual-fee-based-on-assessed-value-tax-on-innovation-draws-strong-statement-from-semiconductor-industry-association
    🧾 “SIA เตือน! ค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรใหม่อาจกลายเป็นภาษีนวัตกรรม” อุตสาหกรรมชิปโต้กลับ! ข้อเสนอเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรรายปีตามมูลค่าอาจเป็น “ภาษีนวัตกรรม” สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) ออกแถลงการณ์คัดค้านข้อเสนอของสำนักงานสิทธิบัตรสหรัฐฯ ที่จะเรียกเก็บค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรรายปีตามมูลค่าที่ประเมินไว้ ชี้อาจบั่นทอนนวัตกรรมและทำให้สหรัฐฯ เสียเปรียบในเวทีโลก สำนักงานสิทธิบัตรและเครื่องหมายการค้าสหรัฐฯ (USPTO) กำลังพิจารณาข้อเสนอใหม่ที่จะเปลี่ยนระบบค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรจากแบบคงที่ เป็นแบบ คิดตามมูลค่าที่ประเมินโดยรัฐบาล โดยอัตราอยู่ระหว่าง 1% ถึง 5% ต่อปี ของมูลค่าสิทธิบัตร ข้อเสนอนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสร้างรายได้ราว 440 ล้านดอลลาร์ต่อปี จากค่าธรรมเนียมแบบใหม่ อย่างไรก็ตาม สมาคมอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ (SIA) ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึงผู้อำนวยการ USPTO โดยระบุว่า สิทธิบัตรในอุตสาหกรรมชิปมีความซับซ้อนและเชื่อมโยงกันสูง ทำให้การประเมินมูลค่าแต่ละสิทธิบัตรเป็นเรื่องยากและไม่แม่นยำ SIA เตือนว่า หากข้อเสนอนี้ผ่าน อาจทำให้บริษัทต่างๆ โดยเฉพาะรายเล็กและนักประดิษฐ์อิสระ ไม่สามารถแบกรับภาระค่าธรรมเนียมได้ และอาจเลือกไม่จดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลเสียต่อความโปร่งใสและความร่วมมือด้านเทคโนโลยี นักวิเคราะห์บางรายถึงกับเรียกข้อเสนอนี้ว่าเป็น “การเก็บภาษีซ้ำซ้อน” เพราะผู้ถือสิทธิบัตรต้องเสียภาษีจากรายได้ที่เกิดจากสิทธิบัตรอยู่แล้ว ✅ USPTO เสนอเปลี่ยนค่าธรรมเนียมสิทธิบัตรเป็นแบบตามมูลค่า ➡️ คิดเป็น 1%–5% ของมูลค่าสิทธิบัตรต่อปี ➡️ คาดว่าจะสร้างรายได้ 440 ล้านดอลลาร์ต่อปี ➡️ แทนที่ระบบค่าธรรมเนียมแบบคงที่ในปัจจุบัน ✅ SIA คัดค้านอย่างหนัก ➡️ ระบุว่าสิทธิบัตรในอุตสาหกรรมชิปมีความซับซ้อน ➡️ การประเมินมูลค่าแต่ละสิทธิบัตรทำได้ยาก ➡️ อาจทำให้บริษัทเล็กและนักประดิษฐ์ไม่สามารถจดสิทธิบัตรได้ ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ➡️ ลดแรงจูงใจในการจดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ ➡️ กระทบความร่วมมือและความโปร่งใสด้านเทคโนโลยี ➡️ อาจผลักดันให้การวิจัยและพัฒนาเคลื่อนย้ายไปยังประเทศที่มีกฎสิทธิบัตรเป็นมิตร ‼️ คำเตือนจากผู้เชี่ยวชาญ ⛔ ข้อเสนอนี้อาจกลายเป็น “ภาษีนวัตกรรม” ⛔ เสี่ยงต่อการลดความสามารถในการแข่งขันของสหรัฐฯ ในเวทีโลก ⛔ อาจกระทบต่อการเติบโตของสตาร์ทอัพและนักประดิษฐ์อิสระ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/chipmaking-industry-pushes-back-on-u-s-patent-office-considering-imposing-annual-fee-based-on-assessed-value-tax-on-innovation-draws-strong-statement-from-semiconductor-industry-association
    0 Comments 0 Shares 426 Views 0 Reviews
  • "อนุทิน" เผยไทย-กัมพูชา ลงนามถ้อยแถลงแล้ว กัมพูชายืนยันปฏิบัติตามข้อตกลง ด้านการหารือ ปธน.ทรัมป์ ผลักดันการพิจารณาลดภาษี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมหารือผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ต่อไป

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102251

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    "อนุทิน" เผยไทย-กัมพูชา ลงนามถ้อยแถลงแล้ว กัมพูชายืนยันปฏิบัติตามข้อตกลง ด้านการหารือ ปธน.ทรัมป์ ผลักดันการพิจารณาลดภาษี หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมหารือผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ต่อไป อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000102251 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Haha
    Angry
    2
    0 Comments 0 Shares 435 Views 0 Reviews
  • กัมพูชา-สหรัฐฯ ความท้าทายของไทย : [NEWS UPDATE]
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ป้องกันข่าวปลอม สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลตั้งงบประมาณสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน


    เดินหน้าหารือหยุดยิง

    ไทม์ไลน์รัฐสภาโต้กัมพูชา

    ไฟเขียวซื้อกริพเพน

    กองทัพต้องอยู่ใต้รัฐพลเรือน
    กัมพูชา-สหรัฐฯ ความท้าทายของไทย : [NEWS UPDATE] นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงวาระสำคัญของรัฐบาล "ก้าวผ่านสองวิกฤต เดินหน้าไปด้วยกัน" ระบุ ไทยก้าวผ่านสถานการณ์สำคัญ 2 ประการ ที่ท้าทายส่งผลต่อความมั่นคงและเศรษฐกิจ เราเผชิญความรุนแรงชายแดนไทย-กัมพูชา ตั้งแต่เดือน ก.พ. 2568 รัฐบาลอดทนต่อการยั่วยุ แต่เมื่อสูญเสียประชาชน ด้วยปฏิบัติการที่ไร้มนุษยธรรม รัฐบาลต้องตอบโต้ ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติเงินเยียวยาให้ครอบครัวทหารและข้าราชการที่เสียชีวิต รายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รายละ 8 ล้านบาท ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ ป้องกันข่าวปลอม สถานการณ์สำคัญอีกประการคือ ภาษีการค้าสหรัฐฯ ของไทยอยู่ที่ร้อยละ 19 ทุกประเทศต้องปรับตัว รัฐบาลตั้งงบประมาณสนับสนุนผู้ประกอบการไทย สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร เพื่อให้ทุกคนรับมือการเปลี่ยนแปลงไปด้วยกัน เดินหน้าหารือหยุดยิง ไทม์ไลน์รัฐสภาโต้กัมพูชา ไฟเขียวซื้อกริพเพน กองทัพต้องอยู่ใต้รัฐพลเรือน
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 873 Views 0 0 Reviews
  • ไทย แลกอะไร? กับภาษีทรัมป์ 19% : [Biz Talk]
    ไทย บรรลุภาษีการค้าสหรัฐ ได้ Tariff rate 19% มีผลตั้งแต่ 7 ส.ค.68 แต่ภารกิจทีมไทยแลนด์ ยังไม่จบ ต้องหารือกันต่อเนื่อง ว่า จะเปิดตลาดสินค้าอะไรให้สหรัฐบ้าง ย้ำเป็นสินค้า ที่ไทยต้องการนำเข้าอยู่แล้ว และจะให้ในลักษณะเดียวกับที่ไทยเคยเปิด 0% ให้ประเทศอื่นตามข้อตกลง FTA
    ไทย แลกอะไร? กับภาษีทรัมป์ 19% : [Biz Talk] ไทย บรรลุภาษีการค้าสหรัฐ ได้ Tariff rate 19% มีผลตั้งแต่ 7 ส.ค.68 แต่ภารกิจทีมไทยแลนด์ ยังไม่จบ ต้องหารือกันต่อเนื่อง ว่า จะเปิดตลาดสินค้าอะไรให้สหรัฐบ้าง ย้ำเป็นสินค้า ที่ไทยต้องการนำเข้าอยู่แล้ว และจะให้ในลักษณะเดียวกับที่ไทยเคยเปิด 0% ให้ประเทศอื่นตามข้อตกลง FTA
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 580 Views 0 0 Reviews
  • "จะไม่มีข้อตกลงการค้าถ้ายังรบ!" ทรัมป์ขู่ไทย-กัมพูชา หากไม่ยุติสงครามที่กำลังลุกลาม
    https://www.thai-tai.tv/news/20565/
    .
    #โดนัลด์ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #ยุติสงคราม #การค้าสหรัฐ #สันติภาพ #เจรจา #บทบาทสหรัฐ #ไทยไท
    "จะไม่มีข้อตกลงการค้าถ้ายังรบ!" ทรัมป์ขู่ไทย-กัมพูชา หากไม่ยุติสงครามที่กำลังลุกลาม https://www.thai-tai.tv/news/20565/ . #โดนัลด์ทรัมป์ #ชายแดนไทยกัมพูชา #หยุดยิง #ยุติสงคราม #การค้าสหรัฐ #สันติภาพ #เจรจา #บทบาทสหรัฐ #ไทยไท
    0 Comments 0 Shares 315 Views 0 Reviews
  • ภาษีทรัมป์ 36% ภาษีกูบินอเมริกา-จ้างล็อบบี้ยิสต์

    รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นอกจากโครงการแจกเงิน 10,000 บาทที่ไม่เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจแล้ว สงครามการค้าของสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% มาตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่รัฐบาลกลับสนใจช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร บิดานายกรัฐมนตรี ให้นอนในห้องวีไอพีของโรงพยาบาลโดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว และการเปิดบ่อนกาสิโนภายใต้โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย ประธานาธิบดีทรัมป์ ทำหนังสือถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรักษาราชการนายกรัฐมนตรี (ระบุชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ว่า สหรัฐฯ จะตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป ส่วนจะแก้ไขให้ภาษีขึ้นหรือลง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หลายประเทศในอาเซียนเจออัตราแตกต่างกันไป เช่น ลาวและเมียนมา 40% กัมพูชา 36% เท่ากับไทย อินโดนีเซีย 32% มาเลเซีย 25% ส่วนเวียดนามก่อนหน้านี้ตกลงกันที่ 20-40% แลกกับยอมเปิดทางให้สหรัฐฯ ส่งสินค้าเข้าเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร

    สังคมตั้งคำถามไปยังนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หัวหน้าทีมไทยแลนด์ ที่ยกโขยงไปเจรจาเรื่องภาษีทรัมป์ที่สหรัฐอเมริกา แล้วปรากฎว่าได้พบเพียงแค่ระดับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เท่านั้น ต่างจากเวียดนามที่นอกจากโต เลิม ผู้นำระดับสูงของเวียดนามโทร.คุยกับทรัมป์โดยตรงแล้ว การเจรจายังคุยกันถึงระดับรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ พอประธานาธิบดีทรัมป์ยืนกรานอัตราภาษี 36% นายพิชัยถึงกับช็อก บอกว่ามีตกใจบ้างแต่เลยจุดนี้มาแล้ว อ้างว่ายังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอใหม่ที่ส่งไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ซึ่งจะใช้ระยะเวลาที่เหลือจากนี้เจรจาให้ทันก่อนเดดไลน์

    แม้นายพิชัยอ้างว่าไทยยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ไม่น้อย ลดภาษีนำเข้าให้กับสินค้าสหรัฐฯ กว่า 90% ของสินค้าที่นำเข้ามาไทย แถมบางรายการภาษี 0% แต่มีประมาณ 10% ที่ไทยให้ไม่ได้ เพราะต้องดูแลผู้ประกอบการในประเทศ และไม่ให้กระทบกับสินค้าประเทศอื่นที่ไทยทำ FTA เอาไว้ แต่ไม่ได้บอกสังคมแน่ชัดว่ามีอะไรบ้าง อีกสิ่งหนึ่งที่สังคมตั้งคำถาม ก่อนหน้านี้นายพิชัยและคณะทีมไทยแลนด์เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ใช้งบประมาณมหาศาล อย่างน้อยเครื่องบินชั้นบิสซิเนสคลาส พักที่โรงแรมหรู แถมยังจ้างล็อบบี้ยิสต์ 87.4 ล้านบาท แต่ผลที่ได้กลับบ้านมือเปล่า ถือว่าทำงานคุ้มกับภาษีประชาชนที่จ่ายไปหรือไม่?

    #Newskit
    ภาษีทรัมป์ 36% ภาษีกูบินอเมริกา-จ้างล็อบบี้ยิสต์ รัฐบาลพรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของ อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจไทยล้มเหลวโดยสิ้นเชิง นอกจากโครงการแจกเงิน 10,000 บาทที่ไม่เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจแล้ว สงครามการค้าของสหรัฐอเมริกา นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทย 36% มาตั้งแต่เดือน เม.ย. แต่รัฐบาลกลับสนใจช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร บิดานายกรัฐมนตรี ให้นอนในห้องวีไอพีของโรงพยาบาลโดยไม่ต้องติดคุกแม้แต่วันเดียว และการเปิดบ่อนกาสิโนภายใต้โครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. ตามเวลาในประเทศไทย ประธานาธิบดีทรัมป์ ทำหนังสือถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และรักษาราชการนายกรัฐมนตรี (ระบุชื่อ สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ) ว่า สหรัฐฯ จะตั้งกำแพงภาษีต่อสินค้านำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. เป็นต้นไป ส่วนจะแก้ไขให้ภาษีขึ้นหรือลง ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม หลายประเทศในอาเซียนเจออัตราแตกต่างกันไป เช่น ลาวและเมียนมา 40% กัมพูชา 36% เท่ากับไทย อินโดนีเซีย 32% มาเลเซีย 25% ส่วนเวียดนามก่อนหน้านี้ตกลงกันที่ 20-40% แลกกับยอมเปิดทางให้สหรัฐฯ ส่งสินค้าเข้าเวียดนามโดยไม่ต้องเสียภาษีศุลกากร สังคมตั้งคำถามไปยังนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง หัวหน้าทีมไทยแลนด์ ที่ยกโขยงไปเจรจาเรื่องภาษีทรัมป์ที่สหรัฐอเมริกา แล้วปรากฎว่าได้พบเพียงแค่ระดับผู้แทนการค้าสหรัฐฯ เท่านั้น ต่างจากเวียดนามที่นอกจากโต เลิม ผู้นำระดับสูงของเวียดนามโทร.คุยกับทรัมป์โดยตรงแล้ว การเจรจายังคุยกันถึงระดับรัฐมนตรีพาณิชย์สหรัฐฯ พอประธานาธิบดีทรัมป์ยืนกรานอัตราภาษี 36% นายพิชัยถึงกับช็อก บอกว่ามีตกใจบ้างแต่เลยจุดนี้มาแล้ว อ้างว่ายังไม่ได้พิจารณาข้อเสนอใหม่ที่ส่งไปเมื่อวันที่ 6 ก.ค.ซึ่งจะใช้ระยะเวลาที่เหลือจากนี้เจรจาให้ทันก่อนเดดไลน์ แม้นายพิชัยอ้างว่าไทยยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ไม่น้อย ลดภาษีนำเข้าให้กับสินค้าสหรัฐฯ กว่า 90% ของสินค้าที่นำเข้ามาไทย แถมบางรายการภาษี 0% แต่มีประมาณ 10% ที่ไทยให้ไม่ได้ เพราะต้องดูแลผู้ประกอบการในประเทศ และไม่ให้กระทบกับสินค้าประเทศอื่นที่ไทยทำ FTA เอาไว้ แต่ไม่ได้บอกสังคมแน่ชัดว่ามีอะไรบ้าง อีกสิ่งหนึ่งที่สังคมตั้งคำถาม ก่อนหน้านี้นายพิชัยและคณะทีมไทยแลนด์เดินทางไปสหรัฐอเมริกา ใช้งบประมาณมหาศาล อย่างน้อยเครื่องบินชั้นบิสซิเนสคลาส พักที่โรงแรมหรู แถมยังจ้างล็อบบี้ยิสต์ 87.4 ล้านบาท แต่ผลที่ได้กลับบ้านมือเปล่า ถือว่าทำงานคุ้มกับภาษีประชาชนที่จ่ายไปหรือไม่? #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 1 Shares 1164 Views 0 Reviews
  • สู้แล้ว สู้อยู่ สู้ต่อ ‘ทีมไทยแลนด์’ ไม่ท้อ ลุยเจรจาการค้าสหรัฐ มั่นใจข้อเสนอใหม่ จะทำให้สหรัฐ เปลี่ยนใจ ลดภาษีที่เรียกเก็บจากไทย ให้ต่ำกว่า 36% และทำให้ไทย อยู่ในกลุ่มประเทศที่แข่งขันได้
    สู้แล้ว สู้อยู่ สู้ต่อ ‘ทีมไทยแลนด์’ ไม่ท้อ ลุยเจรจาการค้าสหรัฐ มั่นใจข้อเสนอใหม่ จะทำให้สหรัฐ เปลี่ยนใจ ลดภาษีที่เรียกเก็บจากไทย ให้ต่ำกว่า 36% และทำให้ไทย อยู่ในกลุ่มประเทศที่แข่งขันได้
    Like
    Love
    Haha
    3
    0 Comments 0 Shares 654 Views 0 0 Reviews
  • ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน และ ข่าวเกี่ยวกับซาอุดีอาระเบีย นักวิเคราะห์มองว่า Nvidia เป็นชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเป็นเครื่องมือในการเจรจาทางการค้า ข้อตกลงระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำเข้าชิป Nvidia หลังจากมีการผ่อนปรนกฎเกณฑ์บางอย่างถือเป็นข่าวดี
    ข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน และ ข่าวเกี่ยวกับซาอุดีอาระเบีย นักวิเคราะห์มองว่า Nvidia เป็นชิปประมวลผลกราฟิก (GPU) ที่มีมูลค่ามากที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเป็นเครื่องมือในการเจรจาทางการค้า ข้อตกลงระหว่างซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งได้รับอนุญาตให้นำเข้าชิป Nvidia หลังจากมีการผ่อนปรนกฎเกณฑ์บางอย่างถือเป็นข่าวดี
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 327 Views 2 0 Reviews
  • กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงKey Highlights:กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกKrungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย
    กนง. มีมติลดดอกเบี้ยมาอยู่ที่ 1.75% จากผลกระทบจาก tariff ต่อเศรษฐกิจที่อยู่ในระดับสูงKey Highlights:กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 ให้ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.75% ต่อปี โดยเป็นการลดลงต่อเนื่องจากการประชุมครั้งก่อน จากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มได้รับผลกระทบสูงจากสถานการณ์นโยบายการค้าสหรัฐฯ กนง. ประเมินผลกระทบเป็น 2 scenario โดย Reference Scenario (Lower Tariffs) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2025 จะขยายตัวที่ 2.0% ขณะที่ Alternative Scenario (Higher Tariffs) เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวเพียง 1.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อทั่วไป กนง. มองว่ามีแนวโน้มต่ำกว่าขอบล่างของกรอบเป้าหมาย จากราคาพลังงานที่คาดว่าจะต่ำลงตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลกKrungthai COMPASS ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่ กนง. จะพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติม สู่ระดับ 1.50% ภายในปี 2025 โดยช่วงเวลาของการตัดสินใจจะขึ้นอยู่กับผลของการเจรจากับสหรัฐฯ ในการปรับลดภาษีนำเข้า หลังพ้นกรอบระยะเวลายกเว้นการเก็บภาษี 90 วัน และพัฒนาการโดยรวมของเศรษฐกิจไทย
    0 Comments 0 Shares 650 Views 0 Reviews
  • ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน

    ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า

    การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน

    วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง

    ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย

    คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก

    การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

    วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น

    มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก

    ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน.


    “ลม เปลี่ยนทิศ”

    https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน ผมเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0 ซึ่งโอนเงินได้รวดเร็วกว่าเดิม โดยเชื่อมต่อกับธนาคารใน 16 ประเทศพร้อมกัน ทั้งใน จีน อาเซียน และตะวันออกกลาง เมื่อเช้าตรู่วันที่ 21 เม.ย. CIPS เป็นระบบโอนเงินข้ามชาติแบบเดียวกับ SWIFT ของสหรัฐฯ แต่ CIPS จะโอนเป็นเงินหยวนของจีน ขณะที่ SWIFT จะโอนเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐฯ CIPS ถือเป็นระบบโอนเงินข้ามชาติที่เป็นคู่แข่งสำคัญของสหรัฐฯ CIPS ใช้เวลาโอนเงินข้ามประเทศเร็วมากเพียงไม่กี่วินาที มีต้นทุนการโอนเงินที่ตํ่ามาก เทียบกับ ระบบ SWIFT ของสหรัฐฯที่ต้องใช้เวลาในการโอนเงิน 2–3 วัน มีค่าโอนเงินที่แพงกว่ากันถึง 4 หมื่นกว่าเท่า การเปิดตัวของ ระบบโอนเงินข้ามพรมแดน CIPS 2.0 ของจีนครั้งนี้ จึงเป็นการทลายการผูกขาดโอนเงินข้ามชาติของระบบ SWIFT สหรัฐฯ ที่มีมายาวนาน วันอังคาร 29 เม.ย. คุณพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพได้เพิ่มศักยภาพการทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวน (Chinese Yuan–CNY) ผ่าน ระบบการชำระเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน หรือ CIPS (Cross–Border Interbank Payment System) เป็นธนาคารไทยแห่งแรกที่ใช้รับอนุมัติจากธนาคารกลางจีนให้เป็น Direct Participant สมาชิกตรง ดังนั้น ธนาคารกรุงเทพจึงสามารถทำธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศด้วยสกุลเงินหยวนได้โดยตรงกับระบบ CIPS ซึ่งช่วยลดระยะเวลาทำธุรกรรมให้สั้นลง คู่ค้าได้รับเงินเร็วขึ้น ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจ เป็นการยกระดับประสิทธิภาพธุรกิจให้มีความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น ส่งเสริมให้เกิดการค้าระหว่างประเทศไทยกับจีนในอนาคตเพิ่มมากขึ้นด้วย คุณพิพัฒน์ กล่าวว่า บริการโอนเงิน CIPS เหมาะสำหรับผู้ประกอบการ นำเข้าและส่งออกซึ่งมีธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศกับคู่ค้าในจีน โดยเฉพาะผู้ประกอบการในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการค้าสูง เช่น เครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร เป็นต้น ปี 2567 จีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทยอันดับ 1 มีมูลค่าการค้าระหว่างกันรวมเกือบ 4.1 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปจีนมูลค่าประมาณ 1.2 ล้าน ล้านบาท และการนำเข้าจากจีนมีมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านล้านบาท จึงถือเป็นตลาดที่ใหญ่มาก การเข้าร่วมเป็น Direct Participant ในระบบ CIPS สะท้อนถึงความตั้งใจในการพัฒนาบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น และทำให้ธุรกิจของลูกค้าได้รับประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงของโลกธุรกิจยุคใหม่ ตอกย้ำความเป็น “เพื่อนคู่คิดมิตรคู่บ้าน” เคียงข้างและช่วยให้ธุรกิจของลูกค้าเติบโตได้อย่างเต็มศักยภาพ การพัฒนาบริการดังกล่าวจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างไทยและจีนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น วันนี้การค้าโลกแยกออกเป็น 2 ค่ายชัดเจน จีน กับ สหรัฐฯ เมื่อ ประธานาธิบดีทรัมป์ ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศทั่วโลกเพื่อเอาเปรียบ ตั้งแต่ 2 เม.ย.ทรัมป์ได้ขึ้นภาษีนำเข้าจากทุกประเทศไปแล้ว 10% และ จะขึ้นภาษีตอบโต้อีก 20–245% กับประเทศที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯ จะยึดคลองปานามา จะยึดคลองสุเอซที่เก็บค่าผ่านเรือสหรัฐฯ กลายเป็นอันธพาลระดับโลก ทำให้ทุกชาติ เริ่มถอยห่างจากสหรัฐฯมาใกล้ชิดกับจีนมากขึ้น มาซาโตะ คานดะ ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (ADB) ได้เสนอ ให้ประเทศในเอเชียหันมาค้าขายกันเองให้แข็งแกร่งขึ้น เพื่อปกป้องเศรษฐกิจในภูมิภาคจากแรงกระแทกภายนอก ผมเชื่อว่า ระบบโอนเงินระหว่างธนาคารข้ามพรมแดน CIPS ของจีน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับการค้าในภูมิภาคเอเชียและทั่วโลก “ยกเว้นสหรัฐฯ” ทำให้ ระบบโอนเงิน SWIFT ลดบทบาทลง สหรัฐฯจะได้ “โดดเดี่ยวตัวเอง” สมใจทรัมป์แน่นอน. “ลม เปลี่ยนทิศ” https://www.thairath.co.th/news/local/2855708
    WWW.THAIRATH.CO.TH
    ธนาคารกรุงเทพเชื่อมระบบโอนเงินหยวน
    ผมเพิ่งเขียนเรื่อง “จีนเปิดตัวหยวนดิจิทัลข่ม SWIFT” ไปเมื่อวันเสาร์ โดยจีนได้เปิดตัว “ระบบชำระเงินข้ามพรมแดนระหว่างธนาคาร” (China’s Cross–Border Interbank Payment System) รุ่นใหม่หรือ CIPS รุ่น 2.0
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 902 Views 0 Reviews
  • "ภูมิธรรม" ยันไม่มีดีลคดี "พอล แชมเบอร์ส" แลกเจรจาการค้าสหรัฐฯ ย้ำทุกอย่างตามกฎหมาย
    https://www.thai-tai.tv/news/18402/
    "ภูมิธรรม" ยันไม่มีดีลคดี "พอล แชมเบอร์ส" แลกเจรจาการค้าสหรัฐฯ ย้ำทุกอย่างตามกฎหมาย https://www.thai-tai.tv/news/18402/
    0 Comments 0 Shares 261 Views 0 Reviews
  • สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ไทยไม่เลือกข้างไม่ได้ : คนเคาะข่าว 22-04-68
    : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ
    ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์
    #คนเคาะข่าว #สงครามการค้า #สหรัฐจีน #ไทยในสมรภูมิเศรษฐกิจ #ไม่เลือกข้างไม่ได้ #Geopolitics #การเมืองโลก #เศรษฐกิจโลก #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #thaitimes #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ความมั่นคงเศรษฐกิจไทย #สงครามการค้าโลก
    สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ไทยไม่เลือกข้างไม่ได้ : คนเคาะข่าว 22-04-68 : ทนง ขันทอง ผู้เชี่ยวชาญข่าวต่างประเทศ ดำเนินรายการโดย นงวดี ถนิมมาลย์ #คนเคาะข่าว #สงครามการค้า #สหรัฐจีน #ไทยในสมรภูมิเศรษฐกิจ #ไม่เลือกข้างไม่ได้ #Geopolitics #การเมืองโลก #เศรษฐกิจโลก #ทนงขันทอง #นงวดีถนิมมาลย์ #thaitimes #ข่าวต่างประเทศ #วิเคราะห์เศรษฐกิจ #ความมั่นคงเศรษฐกิจไทย #สงครามการค้าโลก
    Like
    5
    1 Comments 1 Shares 1093 Views 53 0 Reviews
  • ### ราคาทองคำประจำวันที่ 18 เมษายน 2568 (อัพเดตล่าสุด)

    #### 1. **ราคาทองคำแท่ง 96.5% (สมาคมค้าทองคำ)**
    - **รับซื้อ**: 52,350 บาท
    - **ขายออก**: 52,450 บาท
    - ปรับตัว **เพิ่มขึ้น 100 บาท** จากราคาปิดเมื่อวาน (17 เมษายน) โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 52,550 บาท ในช่วงกลางวัน

    #### 2. **ราคาทองรูปพรรณ 96.5%**
    - **รับซื้อ**: 51,407.56 บาท
    - **ขายออก**: 53,250 บาท
    - รวมค่ากำเหน็จเฉลี่ยสำหรับทองรูปพรรณ 1 บาท อยู่ที่ **53,250 บาท** (น้ำหนักทอง 15.16 กรัม)

    #### 3. **ราคาทองต่างประเทศ (Gold Spot)**
    - **ราคาปิดล่าสุด**: 3,326.27 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์
    - **ค่าเงินบาท**: 33.33 บาท/ดอลลาร์ (ส่งผลต่อราคาทองในประเทศ)
    - ปรับตัว **ลดลง 0.46%** จากปัจจัยเทขายทำกำไร แต่ยังอยู่ในระดับสูงจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน

    #### 4. **แนวโน้มราคาทอง**
    - **ในประเทศ**: เปิดตลาดเช้าวันนี้ปรับขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และปัจจัยภายใน
    - **ต่างประเทศ**: คาดการณ์ว่าอาจปรับฐานต่อเนื่องจากความผันผวนของดอลลาร์และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก

    #### 5. **รายละเอียดเพิ่มเติม**
    - **ทองรูปพรรณน้ำหนักอื่น ๆ**
    - ทองครึ่งสลึง: 6,556 บาท (รวมค่ากำเหน็จ 7,356 บาท)
    - ทอง 2 สลึง: 26,225 บาท (รวมค่ากำเหน็จ 27,025 บาท)
    - **ทองคำแท่ง 99.99%**: รับซื้อ 54,280 บาท, ขายออก 54,350 บาท (จาก InterGOLD)

    ---

    ### ปัจจัยกระทบราคาทอง
    - **สงครามการค้า**: ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนส่งผลให้นักลงทุนเทเงินสู่สินทรัพย์ปลอดภัย
    - **ค่าเงินบาท**: อัตราแลกเปลี่ยน 33.33 บาท/ดอลลาร์ ช่วยหนุนราคาทองในประเทศ
    - **แนวโน้มโลก**: ราคาทอง Spot ยังทรงตัวสูงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

    สำหรับการลงทุน ขอแนะนำให้ติดตาม **กราฟราคาทองแบบเรียลไทม์** และเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง เช่น สมาคมค้าทองคำ, InterGOLD หรือเว็บไซต์เฉพาะทาง
    ### ราคาทองคำประจำวันที่ 18 เมษายน 2568 (อัพเดตล่าสุด) #### 1. **ราคาทองคำแท่ง 96.5% (สมาคมค้าทองคำ)** - **รับซื้อ**: 52,350 บาท - **ขายออก**: 52,450 บาท - ปรับตัว **เพิ่มขึ้น 100 บาท** จากราคาปิดเมื่อวาน (17 เมษายน) โดยแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 52,550 บาท ในช่วงกลางวัน #### 2. **ราคาทองรูปพรรณ 96.5%** - **รับซื้อ**: 51,407.56 บาท - **ขายออก**: 53,250 บาท - รวมค่ากำเหน็จเฉลี่ยสำหรับทองรูปพรรณ 1 บาท อยู่ที่ **53,250 บาท** (น้ำหนักทอง 15.16 กรัม) #### 3. **ราคาทองต่างประเทศ (Gold Spot)** - **ราคาปิดล่าสุด**: 3,326.27 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ - **ค่าเงินบาท**: 33.33 บาท/ดอลลาร์ (ส่งผลต่อราคาทองในประเทศ) - ปรับตัว **ลดลง 0.46%** จากปัจจัยเทขายทำกำไร แต่ยังอยู่ในระดับสูงจากความกังวลสงครามการค้าสหรัฐ-จีน #### 4. **แนวโน้มราคาทอง** - **ในประเทศ**: เปิดตลาดเช้าวันนี้ปรับขึ้นต่อเนื่องจากแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย และปัจจัยภายใน - **ต่างประเทศ**: คาดการณ์ว่าอาจปรับฐานต่อเนื่องจากความผันผวนของดอลลาร์และสถานการณ์เศรษฐกิจโลก #### 5. **รายละเอียดเพิ่มเติม** - **ทองรูปพรรณน้ำหนักอื่น ๆ** - ทองครึ่งสลึง: 6,556 บาท (รวมค่ากำเหน็จ 7,356 บาท) - ทอง 2 สลึง: 26,225 บาท (รวมค่ากำเหน็จ 27,025 บาท) - **ทองคำแท่ง 99.99%**: รับซื้อ 54,280 บาท, ขายออก 54,350 บาท (จาก InterGOLD) --- ### ปัจจัยกระทบราคาทอง - **สงครามการค้า**: ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนส่งผลให้นักลงทุนเทเงินสู่สินทรัพย์ปลอดภัย - **ค่าเงินบาท**: อัตราแลกเปลี่ยน 33.33 บาท/ดอลลาร์ ช่วยหนุนราคาทองในประเทศ - **แนวโน้มโลก**: ราคาทอง Spot ยังทรงตัวสูงจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ สำหรับการลงทุน ขอแนะนำให้ติดตาม **กราฟราคาทองแบบเรียลไทม์** และเปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่ง เช่น สมาคมค้าทองคำ, InterGOLD หรือเว็บไซต์เฉพาะทาง
    0 Comments 0 Shares 1082 Views 0 Reviews
  • ภาษีศุลกากรนำเข้าสหรัฐฯอัตรา 104% สำหรับสินค้าจีนมีผลบังคับใช้แล้วในวันพุธ(9 เม.ย)ตามคำสั่งผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดปักกิ่งประกาศตอบโต้สินค้าอเมริกันด้วยอัตราภาษี 84% แต่ผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนมาลงที่การเติบโตเศรษฐกิจเอเชียโดนหั่นไปถึง1 ใน 3 ของ 1% ในปีนี้

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034016

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ภาษีศุลกากรนำเข้าสหรัฐฯอัตรา 104% สำหรับสินค้าจีนมีผลบังคับใช้แล้วในวันพุธ(9 เม.ย)ตามคำสั่งผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ล่าสุดปักกิ่งประกาศตอบโต้สินค้าอเมริกันด้วยอัตราภาษี 84% แต่ผลกระทบสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนมาลงที่การเติบโตเศรษฐกิจเอเชียโดนหั่นไปถึง1 ใน 3 ของ 1% ในปีนี้ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000034016 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Wow
    14
    0 Comments 0 Shares 815 Views 0 Reviews
  • “รมว.นฤมล”ย้ำ ดูแลผลประโยชน์ของเกษตรกร คือจุดยืนกระทรวงเกษตรฯ ลั่น ไม่ยอมเอาไปเข้าแลกดีลการค้าสหรัฐแน่ แนะ การเจรจาต้องดูประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033398

    “รมว.นฤมล”ย้ำ ดูแลผลประโยชน์ของเกษตรกร คือจุดยืนกระทรวงเกษตรฯ ลั่น ไม่ยอมเอาไปเข้าแลกดีลการค้าสหรัฐแน่ แนะ การเจรจาต้องดูประโยชน์ของคนไทยเป็นหลัก อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000033398
    Like
    Sad
    4
    0 Comments 0 Shares 662 Views 0 Reviews
  • ไทยกลายเป็นชาติที่ 2 ในอาเซียน ที่สัญญาว่าจะซื้อสินค้าโภคภัณฑ์พลังงานของสหรัฐฯเพิ่มเติม ในความพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษี ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เวียดนามได้ทำแบบเดียวกัน ท่ามกลางเค้ารางอเมริกาเตรียมรีดภาษีคู่หูทางการค้าทุกรายที่เกินดุลการค้าสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000031648
    ไทยกลายเป็นชาติที่ 2 ในอาเซียน ที่สัญญาว่าจะซื้อสินค้าโภคภัณฑ์พลังงานของสหรัฐฯเพิ่มเติม ในความพยายามหลีกเลี่ยงมาตรการรีดภาษี ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ เวียดนามได้ทำแบบเดียวกัน ท่ามกลางเค้ารางอเมริกาเตรียมรีดภาษีคู่หูทางการค้าทุกรายที่เกินดุลการค้าสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000031648
    Like
    Haha
    8
    0 Comments 0 Shares 1606 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การขึ้น “ภาษีศุลกากรตอบโต้” ที่เขาวางแผนจะนำมาบังคับใช้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะครอบคลุม “ทุกประเทศ” ไม่ใช่เพียงแค่พวกชาติที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯมากที่สุดเท่านั้น ทั้งนี้ไทยคือ 1 ในประเทศซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มหลังนี้
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030832
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวว่า การขึ้น “ภาษีศุลกากรตอบโต้” ที่เขาวางแผนจะนำมาบังคับใช้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ จะครอบคลุม “ทุกประเทศ” ไม่ใช่เพียงแค่พวกชาติที่ได้เปรียบดุลการค้าสหรัฐฯมากที่สุดเท่านั้น ทั้งนี้ไทยคือ 1 ในประเทศซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มหลังนี้ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000030832
    Like
    Haha
    8
    1 Comments 0 Shares 1226 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดับความหวังข้อตกลงจวนเจียนก่อนหมดเวลากับแคนาดาและเม็กซิโก ที่จะช่วยหลีกเลี่ยงรีดภาษี ขณะเดียวกันก็ลงนามในคำสั่งบริหารขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ความเคลื่อนไหวที่ก่อความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือสงครามการค้า
    .
    ทรัมป์ เคยเปิดตัวมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก 2 คู่ค้าหลักอย่างแคนาดาและเม็กซิโกในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาทั้ง 2 ชาติ ล้มเหลวในการสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ก่อนระงับบังคับใช้เป็นการชั่วคราว
    .
    การระงับดังกล่าวมีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคาร(4มี.ค.) และตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างหนัก หลังจาก ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่า "ไม่มีช่องว่าง" สำหรับทั้ง 2 ประเทศ ที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีรอบใหม่
    .
    ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเปิดเผยด้วยว่า ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหาาร เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จากเดิม 10% เป็น 20%
    .
    อย่างไรก็ตามมาตรการรีดภาษีอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะกับแคนาดากับเม็กซิโก ส่อก่อผลกระทบกับห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญๆ อย่างเช่นยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง เสี่ยงทำให้ราคาผู้บริโภคดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งมันจะก่อความยุ่งยากซับซ้อนต่อความพยายามของทรัมป์ ในการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียง ที่รับปากจะหาทางช่วยภาคครัวเรือนลดค่าใช้จ่าย
    .
    ในวันจันทร์(3มี.ค.) ทรัมป์บอกว่าพร้อมแล้วสำหรับการขึ้นภาษีสูงสุด 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก "พูดตรงๆเลย สิ่งที่พวกเขาจะจำเป็นต้องทำคือสร้างโรงงานรถยนต์ของเขาและสิ่งอื่นๆในสหรัฐฯ ซึ่งกรณีนี้พวกเขาจะไม่ถูกรีดภาษี" เขากล่าว
    .
    มาเลนี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา บอกว่าเค้าลางการรีดภาษีของทรัมป์ เป็นตัวแทน "ภัยคุกคามการอยู่รอดของประเทศ" เนื่องจากตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตราตกอยู่ในความเสี่ยง เธอบอกต่อว่าถ้าทรัมป์เดินหน้า "เราก็พร้อมที่จะรีดภาษีตอบโต้"
    .
    นอกเหนือจากเค้าลางการรีดภาษีในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ยังโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าการรีดภาษีสินค้าการเกษตรจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า มาตรการเหล่านี้มีขึ้นภายใต้แผนปัจจุบันของทรัมป์ สำหรับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ปรับให้เหมาะสมกับคู่หูทางการค้าแต่ละชาติ
    .
    "ไม่สงสัยเลยว่ารัฐบาลพยายามคลี่คลายปัญหายาเฟนตานิลและผู้อพยพที่มีมาอย่างยาวนาน และมาตรการรีดภาษีเหล่านี้ มอบอำนาจงัดข้อแก่รัฐบาล" ไรอัน มาเจรัส อดีตเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯให้ความเห็น พร้อมระบุว่าในอีกด้านหนึ่ง วอชิงตันก็กำลังพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้า
    .
    คลอเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ระบุในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าประเทศของเธอมีแผนฉุกเฉินไว้แล้ว ไม่ว่า ทรัมป์ จะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม
    .
    ส่วน จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา อ้างว่าในบรรดายาเฟนตานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯนั้น มีไม่ถึง 1% ที่ลักลอบผ่านชายแดนแคนาดา แต่เขาบอกด้วยว่าแคนาดนา "จะตอบโต้อย่างหนักหน่วง ชัดเจนและอย่างทัดเทียม" ถ้ามาตรการรีดภาษีของอเมริกามีผลบังคับใช้
    .
    ที่ผ่านมา รัฐบาลของทรูโด ได้ดำเนินมาตรการต่างๆในความพยายามจัดการกับความกังวลของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงแผนยกระดับความมั่นคงตามแนวชายแดน ที่ใช้งบประมาณกว่า 901 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังแต่งตั้งซาร์ด้านเฟนตานิล เพื่อประสานความพยายามต่อต้านยาเสพติดชนิดนี้
    .
    ขณะเดียวกัน เม็กซิโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งตัวเจ้าพ่อยาเสพติดชื่อเสียงโด่งดังที่สุดบางส่วน ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ในความพยายามหลีกเลี่ยงถูกรีดภาษี ในนั้นรวมถึงหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมแก๊งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอเมริกามานานหลายทศวรรษ ในข้อหาฆาตกรรมสายลับสหรัฐฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020862
    ..............
    Sondhi X
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ดับความหวังข้อตกลงจวนเจียนก่อนหมดเวลากับแคนาดาและเม็กซิโก ที่จะช่วยหลีกเลี่ยงรีดภาษี ขณะเดียวกันก็ลงนามในคำสั่งบริหารขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน ความเคลื่อนไหวที่ก่อความกังวลว่ามันอาจโหมกระพือสงครามการค้า . ทรัมป์ เคยเปิดตัวมาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจาก 2 คู่ค้าหลักอย่างแคนาดาและเม็กซิโกในเดือนกุมภาพันธ์ โดยกล่าวหาทั้ง 2 ชาติ ล้มเหลวในการสกัดคนเข้าเมืองผิดกฎหมายและขบวนการลักลอบขนยาเสพติด ก่อนระงับบังคับใช้เป็นการชั่วคราว . การระงับดังกล่าวมีกำหนดหมดอายุลงในวันอังคาร(4มี.ค.) และตลาดหุ้นสหรัฐฯดิ่งลงอย่างหนัก หลังจาก ทรัมป์บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่า "ไม่มีช่องว่าง" สำหรับทั้ง 2 ประเทศ ที่จะหลีกเลี่ยงการขึ้นภาษีรอบใหม่ . ขณะเดียวกันทำเนียบขาวเปิดเผยด้วยว่า ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งบริหาาร เพิ่มการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน จากเดิม 10% เป็น 20% . อย่างไรก็ตามมาตรการรีดภาษีอย่างครอบคลุม โดยเฉพาะกับแคนาดากับเม็กซิโก ส่อก่อผลกระทบกับห่วงโซ่อุปทานของภาคอุตสาหกรรมสำคัญๆ อย่างเช่นยานยนต์และวัสดุก่อสร้าง เสี่ยงทำให้ราคาผู้บริโภคดีดตัวสูงขึ้น ซึ่งมันจะก่อความยุ่งยากซับซ้อนต่อความพยายามของทรัมป์ ในการทำตามคำสัญญาระหว่างหาเสียง ที่รับปากจะหาทางช่วยภาคครัวเรือนลดค่าใช้จ่าย . ในวันจันทร์(3มี.ค.) ทรัมป์บอกว่าพร้อมแล้วสำหรับการขึ้นภาษีสูงสุด 25% สินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก "พูดตรงๆเลย สิ่งที่พวกเขาจะจำเป็นต้องทำคือสร้างโรงงานรถยนต์ของเขาและสิ่งอื่นๆในสหรัฐฯ ซึ่งกรณีนี้พวกเขาจะไม่ถูกรีดภาษี" เขากล่าว . มาเลนี โจลี รัฐมนตรีต่างประเทศแคนาดา บอกว่าเค้าลางการรีดภาษีของทรัมป์ เป็นตัวแทน "ภัยคุกคามการอยู่รอดของประเทศ" เนื่องจากตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตราตกอยู่ในความเสี่ยง เธอบอกต่อว่าถ้าทรัมป์เดินหน้า "เราก็พร้อมที่จะรีดภาษีตอบโต้" . นอกเหนือจากเค้าลางการรีดภาษีในสัปดาห์นี้ ทรัมป์ยังโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าการรีดภาษีสินค้าการเกษตรจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 เมษายน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวรายหนึ่งบอกกับเอเอฟพีว่า มาตรการเหล่านี้มีขึ้นภายใต้แผนปัจจุบันของทรัมป์ สำหรับการเรียกเก็บภาษีศุลกากรตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ที่ปรับให้เหมาะสมกับคู่หูทางการค้าแต่ละชาติ . "ไม่สงสัยเลยว่ารัฐบาลพยายามคลี่คลายปัญหายาเฟนตานิลและผู้อพยพที่มีมาอย่างยาวนาน และมาตรการรีดภาษีเหล่านี้ มอบอำนาจงัดข้อแก่รัฐบาล" ไรอัน มาเจรัส อดีตเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯให้ความเห็น พร้อมระบุว่าในอีกด้านหนึ่ง วอชิงตันก็กำลังพยายามรักษาสมดุลความสัมพันธ์ทางการค้า . คลอเดีย ไชน์บาว์ม ประธานาธิบดีเม็กซิโก ระบุในวันจันทร์(3มี.ค.) ว่าประเทศของเธอมีแผนฉุกเฉินไว้แล้ว ไม่ว่า ทรัมป์ จะตัดสินใจอย่างไรก็ตาม . ส่วน จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา อ้างว่าในบรรดายาเฟนตานิลและคนเข้าเมืองผิดกฎหมายที่ไหลบ่าเข้าสู่สหรัฐฯนั้น มีไม่ถึง 1% ที่ลักลอบผ่านชายแดนแคนาดา แต่เขาบอกด้วยว่าแคนาดนา "จะตอบโต้อย่างหนักหน่วง ชัดเจนและอย่างทัดเทียม" ถ้ามาตรการรีดภาษีของอเมริกามีผลบังคับใช้ . ที่ผ่านมา รัฐบาลของทรูโด ได้ดำเนินมาตรการต่างๆในความพยายามจัดการกับความกังวลของทรัมป์ ในนั้นรวมถึงแผนยกระดับความมั่นคงตามแนวชายแดน ที่ใช้งบประมาณกว่า 901 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วพวกเขายังแต่งตั้งซาร์ด้านเฟนตานิล เพื่อประสานความพยายามต่อต้านยาเสพติดชนิดนี้ . ขณะเดียวกัน เม็กซิโก เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ส่งตัวเจ้าพ่อยาเสพติดชื่อเสียงโด่งดังที่สุดบางส่วน ในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปยังสหรัฐฯ ในความพยายามหลีกเลี่ยงถูกรีดภาษี ในนั้นรวมถึงหัวหน้าแก๊งอาชญากรรมแก๊งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่ต้องการตัวของอเมริกามานานหลายทศวรรษ ในข้อหาฆาตกรรมสายลับสหรัฐฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000020862 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Wow
    6
    0 Comments 0 Shares 2001 Views 0 Reviews
  • สหรัฐ
    ทรัมป์ขู่ปูตินให้รีบยุติสงครามกับยูเครน ถ้าไม่ยุติจะคว่ำบาตรครั้งใหม่
    ทรัมป์ 1.0 ไม่มีสงครามสู้รบ มีแต่ trade war ครั้งนี้มองว่าอาจจะเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการเดินเกมเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้สหรัฐเพิ่ม เช่น ความต้องการพื้นที่ greenland คลองปานามา

    Elon แฉ stargate Masayoshi Son (ที่จะเป็นประธานโครงการ) ไม่มีเงินลงทุนสูงตามที่โครงการต้องการ (หุ้นเทสล่า -2% เมื่อคืน สวนกับหุ้นอื่นในกลุ่ม MEG 7 อาจจะเกิดจากนโยบายทรัมป์ที่ยกเลิกคำสั่งใช้รถยนต์ไฟฟ้าของไบเดน และอาจจะประเด็นการออกมาแฉครั้งนี้)

    เจมี่ ไดมอน ผู้บริหาร JP Morgan: มองราคาหุ้นสหรัฐสูงเกิน แม้พื้นฐานหุ้นจะยังดี ความเสี่ยงเงินเฟ้อ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังอยู่ เตือนว่าท้ายสุดราคาหุ้นอาจจะกลับไปสะท้อนมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริง (หุ้นตก)
    *ก่อนหน้านี้ เซียน Howard Mask, วอร์เรน ผ่าน เบิร์คไชน์ เตือนภาวะฟองสบู่

    ค่าเงินดอลลาร์ อ่อนค่า

    ทอง ราคาเพิ่มต่อ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ความเสี่ยงการเมืองของโลก ทองทะลุ $2720 มีโอกาสทดสอบ $2780, $2800 ถ้าผ่านเป้าทดสอบถัดไปคือ $3022/oz. แต่ต้องระวังปัจจัยความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์อาจจะลดลงจากนโยบายทรัมป์ที่ต้องการลดความร้อนแรงความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้นปัจจัยสำคัญกับราคาทองคำจะโฟกัสที่การแข็งค่า-อ่อนค่าของดอลลาร์เป็นหลัก
    ทองไทย เพิ่มได้ไม่แรงเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า รับ: 44,150, 44,000 บาท << 2 แนว, ต้าน: 44,450, 44,650 บาท << 2 แนว

    น้ำมัน ราคาลดลง รับแรงกดดันจากนโยบายทรัมป์ที่จะขยายการผลิตเพิ่มในสหรัฐ

    อัตราผลตอบแทน
    ...................................
    วันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุม ลุ้นนโยบายดอกเบี้ย (ปีที่แล้วจขึ้นดอกเบี้ย เกิด black monday) อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ จากค่าแรงงานขึ้นในทุกภาคส่วน
    .........................................................
    จีน ตลาดเงิน ตลาดทุน หยุดตรุษจีน 28 มค. - 4 กพ.
    ช่วงก่อนเข้าวันหยุดยาว PBoC (ธนาคารกลางจีน) จะอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อดูแลสภาพคล่อง เนื่องจาก

    1. ความต้องการเงินสดเพิ่ม คนจีนจะถอนเงินสดเพื่อใช้ในการเดินทาง ท่องเที่ยว ของขวัญ (อั่งเปา) (红包, hóngbāo)
    2. ความต้องการเงินทุนจากบริษัทต่าง ๆ ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่บริษัทจ่ายโบนัสให้กับพนักงานก่อนวันหยุดยาว และอาจจะต้องจ่ายคืนเงินกู้ (ล่วงหน้า) ก่อนจะหยุดยาวด้วย
    3. สภาพคล่องธนาคารที่ตึง จากการถอนเงินสดที่เร่งตัวและการใช้จ่ายจากบริษัทเอกชน ทำให้สภาพคล่องของธนาคารมีภาวะตึง ทำให้ต้องการเงินทุนระยะสั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของการดำเนินการและการให้กู้ยืม
    4. ป้องกันความผันผวนในตลาดเงิน เนื่องจากถ้าเกิดภาวะสภาพคล่องหายไปจากระบบ อัตรากู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน (เช่น SHIBOR) อาจจะพุ่งแรงกระทบเสถียรภาพของตลาดเงิน
    5. สนับสุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ตรุษจีนเป็นเทศกาลหลักที่มียอดใช้จ่ายสูงและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเยอะ
    การดูแลภาพรวมสภาพคล่องของตลาดเงินจะช่วยสนับสนุนโมเมนตัมของเศรษฐกิจโดยรวม

    PBoC เตรียมวงเงินให้บริษัทกู้ยืมเพื่อซื้อหุ้นคืน ตอนนี้มีบริษัทตอบรับร่วมโครงการมากกว่า 300 แห่ง มาร์เก็ตแคปรวมกว่า 10 พันล้านหยวน อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมโครงการนี้ ~2%
    ................................
    ไทย
    คาดส่งออกเดือนธ.ค. $24,000 ล้าน +7.4% y/y (พย. ~$25,000 ล้าน) ส่วนส่งออกปี 2568 ถ้านโยบายทรัมป์ไม่กระทบแรงมาก มองส่งออกยังไปได้
    สหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของสินค้าไทย (~18% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ปี 67 ไทยส่งออกไปสหรัฐ $54,956.2 ล้าน // นำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็นอันดับ 4 (6% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) $19,528.6 ล้าน ไทยเป็นฝ่าย “เกินดุล” การค้ากับสหรัฐ $35,427.6 ล้าน ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐต่อเนื่อง ~5 ปี (2561-2566)
    - สินค้าไทยที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงจนทำให้สหรัฐตกเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับไทย และมีความเสี่ยงถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้า ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, โทรศัพท์มือถือ, ไดโอด-ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำแบบไวแสง (โซลาร์เซลส์), ยางนอกชนิดอัดลมที่เป็นของใหม่,
    เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าชนิดคงที่, เครื่องพิมพ์ป้อนกระดาษเป็นม้วน, หม้อแปลงไฟฟ้า, เครื่องส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์, เครื่องปรับอากาศ, แผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์, เพชร พลอย และรูปพรรณพร้อมส่วนประกอบ, เครื่องจักรไฟฟ้า, ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง, เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์จากไม้, ขนมหวานที่ไม่มีส่วนผสมของโกโก้ และสินค้าเกษตร/แปรรูป
    #เศรษฐกิจ

    สหรัฐ ทรัมป์ขู่ปูตินให้รีบยุติสงครามกับยูเครน ถ้าไม่ยุติจะคว่ำบาตรครั้งใหม่ ทรัมป์ 1.0 ไม่มีสงครามสู้รบ มีแต่ trade war ครั้งนี้มองว่าอาจจะเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการเดินเกมเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้สหรัฐเพิ่ม เช่น ความต้องการพื้นที่ greenland คลองปานามา Elon แฉ stargate Masayoshi Son (ที่จะเป็นประธานโครงการ) ไม่มีเงินลงทุนสูงตามที่โครงการต้องการ (หุ้นเทสล่า -2% เมื่อคืน สวนกับหุ้นอื่นในกลุ่ม MEG 7 อาจจะเกิดจากนโยบายทรัมป์ที่ยกเลิกคำสั่งใช้รถยนต์ไฟฟ้าของไบเดน และอาจจะประเด็นการออกมาแฉครั้งนี้) เจมี่ ไดมอน ผู้บริหาร JP Morgan: มองราคาหุ้นสหรัฐสูงเกิน แม้พื้นฐานหุ้นจะยังดี ความเสี่ยงเงินเฟ้อ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังอยู่ เตือนว่าท้ายสุดราคาหุ้นอาจจะกลับไปสะท้อนมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริง (หุ้นตก) *ก่อนหน้านี้ เซียน Howard Mask, วอร์เรน ผ่าน เบิร์คไชน์ เตือนภาวะฟองสบู่ ค่าเงินดอลลาร์ อ่อนค่า ทอง ราคาเพิ่มต่อ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ความเสี่ยงการเมืองของโลก ทองทะลุ $2720 มีโอกาสทดสอบ $2780, $2800 ถ้าผ่านเป้าทดสอบถัดไปคือ $3022/oz. แต่ต้องระวังปัจจัยความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์อาจจะลดลงจากนโยบายทรัมป์ที่ต้องการลดความร้อนแรงความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้นปัจจัยสำคัญกับราคาทองคำจะโฟกัสที่การแข็งค่า-อ่อนค่าของดอลลาร์เป็นหลัก ทองไทย เพิ่มได้ไม่แรงเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า รับ: 44,150, 44,000 บาท << 2 แนว, ต้าน: 44,450, 44,650 บาท << 2 แนว น้ำมัน ราคาลดลง รับแรงกดดันจากนโยบายทรัมป์ที่จะขยายการผลิตเพิ่มในสหรัฐ อัตราผลตอบแทน ................................... วันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุม ลุ้นนโยบายดอกเบี้ย (ปีที่แล้วจขึ้นดอกเบี้ย เกิด black monday) อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ จากค่าแรงงานขึ้นในทุกภาคส่วน ......................................................... จีน ตลาดเงิน ตลาดทุน หยุดตรุษจีน 28 มค. - 4 กพ. ช่วงก่อนเข้าวันหยุดยาว PBoC (ธนาคารกลางจีน) จะอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อดูแลสภาพคล่อง เนื่องจาก 1. ความต้องการเงินสดเพิ่ม คนจีนจะถอนเงินสดเพื่อใช้ในการเดินทาง ท่องเที่ยว ของขวัญ (อั่งเปา) (红包, hóngbāo) 2. ความต้องการเงินทุนจากบริษัทต่าง ๆ ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่บริษัทจ่ายโบนัสให้กับพนักงานก่อนวันหยุดยาว และอาจจะต้องจ่ายคืนเงินกู้ (ล่วงหน้า) ก่อนจะหยุดยาวด้วย 3. สภาพคล่องธนาคารที่ตึง จากการถอนเงินสดที่เร่งตัวและการใช้จ่ายจากบริษัทเอกชน ทำให้สภาพคล่องของธนาคารมีภาวะตึง ทำให้ต้องการเงินทุนระยะสั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของการดำเนินการและการให้กู้ยืม 4. ป้องกันความผันผวนในตลาดเงิน เนื่องจากถ้าเกิดภาวะสภาพคล่องหายไปจากระบบ อัตรากู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน (เช่น SHIBOR) อาจจะพุ่งแรงกระทบเสถียรภาพของตลาดเงิน 5. สนับสุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ตรุษจีนเป็นเทศกาลหลักที่มียอดใช้จ่ายสูงและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเยอะ การดูแลภาพรวมสภาพคล่องของตลาดเงินจะช่วยสนับสนุนโมเมนตัมของเศรษฐกิจโดยรวม PBoC เตรียมวงเงินให้บริษัทกู้ยืมเพื่อซื้อหุ้นคืน ตอนนี้มีบริษัทตอบรับร่วมโครงการมากกว่า 300 แห่ง มาร์เก็ตแคปรวมกว่า 10 พันล้านหยวน อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมโครงการนี้ ~2% ................................ ไทย คาดส่งออกเดือนธ.ค. $24,000 ล้าน +7.4% y/y (พย. ~$25,000 ล้าน) ส่วนส่งออกปี 2568 ถ้านโยบายทรัมป์ไม่กระทบแรงมาก มองส่งออกยังไปได้ สหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของสินค้าไทย (~18% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ปี 67 ไทยส่งออกไปสหรัฐ $54,956.2 ล้าน // นำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็นอันดับ 4 (6% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) $19,528.6 ล้าน ไทยเป็นฝ่าย “เกินดุล” การค้ากับสหรัฐ $35,427.6 ล้าน ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐต่อเนื่อง ~5 ปี (2561-2566) - สินค้าไทยที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงจนทำให้สหรัฐตกเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับไทย และมีความเสี่ยงถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้า ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, โทรศัพท์มือถือ, ไดโอด-ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำแบบไวแสง (โซลาร์เซลส์), ยางนอกชนิดอัดลมที่เป็นของใหม่, เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าชนิดคงที่, เครื่องพิมพ์ป้อนกระดาษเป็นม้วน, หม้อแปลงไฟฟ้า, เครื่องส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์, เครื่องปรับอากาศ, แผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์, เพชร พลอย และรูปพรรณพร้อมส่วนประกอบ, เครื่องจักรไฟฟ้า, ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง, เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์จากไม้, ขนมหวานที่ไม่มีส่วนผสมของโกโก้ และสินค้าเกษตร/แปรรูป #เศรษฐกิจ
    0 Comments 0 Shares 1943 Views 0 Reviews
  • โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก
    .
    ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง
    .
    จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา
    .
    ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ
    .
    ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน
    .
    ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต
    .
    ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
    .
    นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
    .
    ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้
    .
    ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
    .
    อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว
    .
    ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา
    .
    ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ สาบานตัวเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยสองอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ (20 ม.ค.) โดยกล่าวปราศรัยประกาศว่า “ยุคทอง” ของอเมริกาเริ่มต้นขึ้นแล้ว จากนั้นก็ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารที่มีเนื้อหาสร้างความแตกแยกจำนวนหลายสิบฉบับ ซึ่งมีทั้งการให้อภัยโทษพวกผู้สนับสนุนเขาที่ใช้ความรุนแรงบุกโจมตีอาคารรัฐสภา ไปจนถึงการออกมาตรการคุมเข้มผู้อพยพ และการยุตินโยบายรับมือปัญหาโลกร้อน และถึงแม้ยังไม่มีการขึ้นภาษีศุลกากรใดๆ ในวันแรกของการครองตำแหน่งคราวนี้ แต่เขาก็ขู่รีดภาษีแคนาดาและเม็กซิโก 25% ตั้งแต่ 1 ก.พ.ขณะที่แสดงท่าทีแปลกกรณีสงครามยูเครน โดยหันมาวิพากษ์วลาดิมีร์ ปูติน ว่ากำลังทำลายรัสเซียจากการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติศึก . ประธานาธิบดีทรัมป์ กล่าวปราศรัยหลังทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งต้องจัดขึ้นภายในอาคารรัฐสภา เนื่องจากอากาศข้างนอกหนาวจัด โดยบอกว่า การตกต่ำของอเมริกายุติลงแล้ว ซึ่งหมายถึงช่วงเวลา 4 ปีภายใต้คณะบริหารของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนจากพรรคเดโมแครต และประกาศการเริ่มต้นยุคทองของอเมริกาซึ่งจะมีความมั่งคั่งรุ่งเรืองและเป็นที่เคารพของทั่วโลกอีกครั้ง . จากนั้น ทรัมป์ซึ่งอยู่ในวัย 78 ปี จึงสร้างประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นประธานาธิบดีที่มีอายุมากที่สุดขณะสาบานตนรับตำแหน่ง ได้เดินทางไปยังที่ชุมนุมของพวกผู้สนับสนุนเขา ณ สนามกีฬาในร่มแห่งหนึ่งในกรุงวอชิงตัน ซึ่งเขาได้กล่าวปราศรัยในสไตล์หาเสียง ก่อนโยนปากกาที่ใช้ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารหลายฉบับในรอบแรกไปแล้วหมาดๆ ให้ฝูงชนที่อัดแน่นคอยต้อนรับเขา . ถัดมา ทรัมป์จึงได้เดินทางกลับไปยังทำเนียบในแบบผู้พิชิต 4 ปีหลังจากที่เขาต้องจากไปด้วยความเสื่อมเสียเกียรติ เป็นการเสร็จสิ้นครบถ้วนการหวนกลับคืนมาได้อย่างโดดเด่นที่สุดในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของสหรัฐฯ . ณ ห้องทำงานรูปไข่ ของทำเนียบขาว ทรัมป์จัดให้มีการแถลงข่าวเป็นเวลาราว 50 นาทีโดยไม่มีการเตรียมการล่วงหน้า พร้อมกับลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารเพิ่ม ซึ่งรวมถึงการอภัยโทษผู้ก่อจลาจลราว 1,500 คนที่บุกอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 ม.ค.2021 เพื่อพยายามขัดขวางการรับรองชัยชนะในการเลือกตั้งของไบเดน . ทรัมป์ยังลงนามคำสั่งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติบริเวณชายแดนติดกับเม็กซิโก และระบุว่า จะส่งทหารไปจัดการการลักลอบเข้าเมือง ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงสำคัญที่ทำให้เขาชนะอดีตรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต . ทรัมป์ยังไฟเขียวให้ขยายการขุดเจาะน้ำมัน รวมทั้งยกเลิกกฎระเบียบที่ต้องการโน้มน้าวให้ผู้ขับขี่เปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า . นอกจากนั้น เขาประกาศนำสหรัฐฯ ถอนตัวออกจากองค์การอนามัยโลก และข้อตกลงปารีสที่นานาประเทศรวมทั้งอเมริกาให้สัญญาระบุเป้าหมายของตนในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ . ประธานาธิบดีจากรีพับลิกันผู้นี้แสดงการเชิดชูลัทธิชาตินิยม ด้วยการประกาศเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกเป็นอ่าวอเมริกา และขู่ยึดคลองปานานาคืนหลังจากยกสิทธิการควบคุมให้ปานามาตั้งแต่ปี 1999 โดยอ้างว่า จีนเป็นผู้ควบคุมคลองปานามาตัวจริง ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ บริษัทที่จดทะเบียนในฮ่องกงซึ่งชนะการประมูล ได้สิทธิเข้าบริหารดำเนินงานคลองสำคัญทางยุทธศาสตร์แห่งนี้ . ทรัมป์ยังประกาศว่าไม่ตัดความเป็นไปได้ในการใช้กำลังเข้ายึดเกาะกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นดินแดนปกครองตนเองของเดนมาร์กที่เป็นสมาชิกนาโตเช่นเดียวกับอเมริกา ขณะที่รัสเซียเข้าไปดำเนินการในบริเวณดังกล่าวมากขึ้นหลังจากน้ำแข็งละลายอันเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ . อย่างไรก็ตาม ทรัมป์ลดความขึงขังเรื่องยูเครนจากที่เคยสัญญาว่า จะผลักดันข้อตกลงสันติภาพให้ลุล่วงก่อนเข้ารับตำแหน่ง และเปลี่ยนท่าทีจากที่เคยชื่นชมก็มาวิจารณ์ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียว่า กำลังทำลายรัสเซียด้วยการไม่ยอมทำข้อตกลงยุติสงครามในยูเครน โดยเขาอ้างอิงสถานะเศรษฐกิจและการสูญเสียในสนามรบของรัสเซีย แต่ยังคงยืนยันว่า จะพบปะหารือกับปูตินโดยเร็ว . ขณะเดียวกัน เมื่อผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบขาวถามว่า จะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทุกประเทศอย่างที่ประกาศเอาไว้หรือไม่ ทรัมป์ตอบว่า อาจจะ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้ และเมื่อถามถึงการขึ้นภาษีศุลกากรจากสินค้าของแคนาดาและเม็กซิโก ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ ตอบว่า เล็งเรียกเก็บภาษีราว 25% ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ. เนื่องจากสองประเทศนี้ปล่อยให้มีผู้อพยพผิดกฎหมายจำนวนมากแอบเดินทางเข้าสหรัฐฯ รวมทั้งปล่อยให้มีการการขนส่งยาเสพติดเฟนทานิล เข้าสู่อเมริกา . ทั้งนี้ ตามรายละเอียดในบันทึกช่วยจำของประธานาธิบดีนั้น ทรัมป์สั่งให้กระทรวงการคลังและพาณิชย์ รวมถึงสำนักงานการค้าสหรัฐฯ ตรวจสอบความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและความมั่นคงแห่งชาติจากการขาดดุลการค้าจำนวนมหาศาล พร้อมเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสม เช่น การเรียกเก็บภาษีศุลกากรทั่วโลกหรือนโยบายอื่นๆ เพื่อแก้ไขการขาดดุลการค้า . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000006612 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    7
    0 Comments 0 Shares 2374 Views 0 Reviews
More Results