• "กูไม่กลัวมึง!"

    ปักกิ่งตอบโต้การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐ โดยการประกาศขึ้นภาษี
    - น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร และยานยนต์ 10%
    - ถ่านหิน และก๊าซ LNG 15%

    โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์

    การตอบโต้ของจีนครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่จีนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ WTO และให้คำมั่นว่าจะ "ปกป้องสิทธิของตนอย่างแข็งขัน"
    "กูไม่กลัวมึง!" ปักกิ่งตอบโต้การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าส่งออกสำคัญของสหรัฐ โดยการประกาศขึ้นภาษี - น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลการเกษตร และยานยนต์ 10% - ถ่านหิน และก๊าซ LNG 15% โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ การตอบโต้ของจีนครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจากที่จีนยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ WTO และให้คำมั่นว่าจะ "ปกป้องสิทธิของตนอย่างแข็งขัน"
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จีน ขึ้น ภาษีนำเข้า น้ำมัน_US 10%
    และ ขี้นภาษีนำเข้า #ถ่านหิน และ
    #ก๊าซธรรมชาติ เป็น 15% กลัวซะที่ไหน

    China to impose 10% tariff on U.S. Oil; 15% tariff on coals and LNG
    #จีน ขึ้น ภาษีนำเข้า น้ำมัน_US 10% และ ขี้นภาษีนำเข้า #ถ่านหิน และ #ก๊าซธรรมชาติ เป็น 15% กลัวซะที่ไหน China to impose 10% tariff on U.S. Oil; 15% tariff on coals and LNG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 25 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จีน ขึ้น #ภาษีนำเข้า #สินค้า_US 10%
    และ ขี้น #ภาษีนำเข้า #ถ่านหิน และ
    #ก๊าซธรรมชาติ เป็น 15% กลัวซะที่ไหน

    China to impose 10% tariff on U.S. Oil; 15% tariff on coals and LNG
    #จีน ขึ้น #ภาษีนำเข้า #สินค้า_US 10% และ ขี้น #ภาษีนำเข้า #ถ่านหิน และ #ก๊าซธรรมชาติ เป็น 15% กลัวซะที่ไหน China to impose 10% tariff on U.S. Oil; 15% tariff on coals and LNG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • #จีน ขึ้น #ภาษีนำเข้า #สินค้า_US 10%
    และ ขี้น #ภาษีนำเข้า #ถ่านหิน และ
    #ก๊าซธรรมชาติ เป็น 15% กลัวซะที่ไหน
    China to impose 10% tariff on U.S. Oil; 15% tariff on coals and LNG
    #จีน ขึ้น #ภาษีนำเข้า #สินค้า_US 10% และ ขี้น #ภาษีนำเข้า #ถ่านหิน และ #ก๊าซธรรมชาติ เป็น 15% กลัวซะที่ไหน China to impose 10% tariff on U.S. Oil; 15% tariff on coals and LNG
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ออก executive order จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ( sovereign wealth fund --U.S. government-owned investment fund) ระบุ กองทุนนี้จะเข้าลงทุนใน TikTok และสินทรัพย์อื่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเงินกองทุนจะมาจากการเก็บภาษีนำเข้า คาร์บอนเครดิต รายได้รัฐบาล
    *ทรัมป์ต้องการที่จะให้สหรัฐถือหุ้นใน tiktok 50% (เบื้องต้นยังไม่ระบุว่าจะให้ใครเข้าไปซื้ออย่างชัดเจน)
    **แต่อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านสภาก่อน สหรัฐไม่เคยมีกองทุนความมั่งคั่งมาก่อน

    sovereign wealth fund เป็นกองทุนการลงทุนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทำหน้าที่บริหารเงินของประเทศ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเงินรายได้ของประเทศที่มีในระดับสูง อยู่ในภาวะเกินดุล กองทุนฯ จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร อสังหาฯ บริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนและสนับสุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพื่อหาเงินทุนให้กับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ประเทศที่มี SWF เช่น สวีเดน นอร์เวย์
    ..........................
    พลังงาน
    นโยบายทรัมป์ที่จะหนุนการขุดเจาะน้ำมันในประเทศ
    บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและทางซาอุฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มกำลังการผลิต
    บริษัทขุดเจาะสหรัฐ มุ่งความสนใจไปที่การลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมากกว่าจะลงทุนเพิ่ม
    ทรัมป์ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง (จากซัพพลายที่เพิ่ม) จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลาย ๆ ประเทศ
    ทรัมป์ออก executive order จัดตั้งกองทุนความมั่งคั่ง ( sovereign wealth fund --U.S. government-owned investment fund) ระบุ กองทุนนี้จะเข้าลงทุนใน TikTok และสินทรัพย์อื่นที่มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนได้ดี โดยเงินกองทุนจะมาจากการเก็บภาษีนำเข้า คาร์บอนเครดิต รายได้รัฐบาล *ทรัมป์ต้องการที่จะให้สหรัฐถือหุ้นใน tiktok 50% (เบื้องต้นยังไม่ระบุว่าจะให้ใครเข้าไปซื้ออย่างชัดเจน) **แต่อย่างไรก็ตามยังต้องผ่านสภาก่อน สหรัฐไม่เคยมีกองทุนความมั่งคั่งมาก่อน sovereign wealth fund เป็นกองทุนการลงทุนที่รัฐบาลเป็นเจ้าของทำหน้าที่บริหารเงินของประเทศ ส่วนใหญ่จะเกิดจากเงินรายได้ของประเทศที่มีในระดับสูง อยู่ในภาวะเกินดุล กองทุนฯ จะนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น ตลาดหุ้น พันธบัตร อสังหาฯ บริษัทต่าง ๆ เพื่อสร้างผลตอบแทนและสนับสุนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ สร้างความมั่นคงให้กับเศรษฐกิจ หรืออาจจะเพื่อหาเงินทุนให้กับโครงการต่าง ๆ ของรัฐบาล ประเทศที่มี SWF เช่น สวีเดน นอร์เวย์ .......................... พลังงาน นโยบายทรัมป์ที่จะหนุนการขุดเจาะน้ำมันในประเทศ บริษัทขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐและทางซาอุฯ ปฏิเสธที่จะเพิ่มกำลังการผลิต บริษัทขุดเจาะสหรัฐ มุ่งความสนใจไปที่การลดต้นทุนและสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมากกว่าจะลงทุนเพิ่ม ทรัมป์ระบุว่า ราคาน้ำมันที่ลดต่ำลง (จากซัพพลายที่เพิ่ม) จะช่วยแก้ปัญหาให้กับหลาย ๆ ประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • "กูไม่กลัวมึง!"
    เม็กซิโกและแคนาดาประกาศตอบโต้มาตรกาภาษีนำเข้า 25% ของทรัมป์ ส่วนจีนขอใช้วิธีฟ้องไปที่ WTO แทน

    นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศตอบโต้มาตรการจัดเก็บภาษีของทรัมป์ โดยแคนาดาจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 25% กับสินค้านำเข้าเกือบทุกประเภท ซึ่งรวมถึงสินค้าในกลุ่มพลังงานด้วย

    รัฐบาลแคนานาจะดำเนินการเพิ่มภาษี 25% สำหรับนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าราว 1.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.23 ล้านล้านบาท) โดยราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ล้านล้านบาท) จะเกิดขึ้นหลังจากมาตรการนี้มีผลบังคับใช้ในวันอังคารนี้ และอีก 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.22 ล้านล้านบาท) จะมีผลในอีก 21 วัน

    ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Sheinbaum แห่งเม็กซิโก สั่งการให้รัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจให้ตอบโต้ด้วยมาตรการทั้งในรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษี ซึ่งคาดว่าในจำนวนนั้นจะมีมาตรการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 25%

    สำหรับทางการ "จีน" ที่โดนมาตรการภาษีจากทรัมป์ 10% ออกแถลงการณ์ล่าสุด ประกาศจะตอบโต้กลับสหรัฐ แต่ยังไม่ถึงขั้นตอบโต้ด้านภาษีศุลกากรโดยตรง โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศยื่นฟ้องสหรัฐต่อองค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมประณามการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนว่าเป็น “การละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง” และปักกิ่งจะ “ใช้มาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองอย่างมั่นคง” ทว่ายังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
    "กูไม่กลัวมึง!" เม็กซิโกและแคนาดาประกาศตอบโต้มาตรกาภาษีนำเข้า 25% ของทรัมป์ ส่วนจีนขอใช้วิธีฟ้องไปที่ WTO แทน นายกรัฐมนตรีจัสติน ทรูโด ประกาศตอบโต้มาตรการจัดเก็บภาษีของทรัมป์ โดยแคนาดาจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 25% กับสินค้านำเข้าเกือบทุกประเภท ซึ่งรวมถึงสินค้าในกลุ่มพลังงานด้วย รัฐบาลแคนานาจะดำเนินการเพิ่มภาษี 25% สำหรับนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ที่มีมูลค่าราว 1.55 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (5.23 ล้านล้านบาท) โดยราว 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (1 ล้านล้านบาท) จะเกิดขึ้นหลังจากมาตรการนี้มีผลบังคับใช้ในวันอังคารนี้ และอีก 1.25 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (4.22 ล้านล้านบาท) จะมีผลในอีก 21 วัน ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดี Sheinbaum แห่งเม็กซิโก สั่งการให้รัฐมนตรีที่ดูแลงานด้านเศรษฐกิจให้ตอบโต้ด้วยมาตรการทั้งในรูปแบบภาษีและไม่ใช่ภาษี ซึ่งคาดว่าในจำนวนนั้นจะมีมาตรการตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 25% สำหรับทางการ "จีน" ที่โดนมาตรการภาษีจากทรัมป์ 10% ออกแถลงการณ์ล่าสุด ประกาศจะตอบโต้กลับสหรัฐ แต่ยังไม่ถึงขั้นตอบโต้ด้านภาษีศุลกากรโดยตรง โดยกระทรวงพาณิชย์ของจีนประกาศยื่นฟ้องสหรัฐต่อองค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมประณามการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนว่าเป็น “การละเมิดกฎการค้าระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง” และปักกิ่งจะ “ใช้มาตรการตอบโต้เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองอย่างมั่นคง” ทว่ายังไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ขู่ประเทศกลุ่ม BRICS ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์หากเลิกใช้ดอลลาร์

    รัสเซียเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม BRICS ที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ที่มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ซึ่งไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่

    แต่ประเทศอื่นๆ ที่ยังคงพึ่งพาตลาดส่งออกสู่สหรัฐจะมีความเสี่ยงกว่า
    ทรัมป์ขู่ประเทศกลุ่ม BRICS ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้า 100 เปอร์เซ็นต์หากเลิกใช้ดอลลาร์ รัสเซียเป็นประเทศเดียวในกลุ่ม BRICS ที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐ ที่มีมูลค่าเพียงเล็กน้อยตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา ซึ่งไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากเท่าไหร่ แต่ประเทศอื่นๆ ที่ยังคงพึ่งพาตลาดส่งออกสู่สหรัฐจะมีความเสี่ยงกว่า
    Angry
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • "หมาป่ากับลูกแกะ"

    - สหรัฐส่งผู้อพยพผิดกฎหมายชาวโคลอมเบียกลับประเทศด้วยเครื่องบินขนส่งทหาร C- 17 จำนวน 2 ลำ แต่ละลำมีผู้อพยพประมาณ 80 คนต่อลำ แต่ถูกประธานาธิบดีกุสตาโว เปตรอฟแห่งโคลัมเบียปฏิเสธการลงจอด ทำให้ต้องบินกลับสหรัฐ

    - เปตรอฟอ้างเหตุผลว่า ผู้อพยพเหล่านั้นไม่ควรถูกปฏิบัติเยี่ยงอาชญากรรุนแรง ที่ต้องใส่กุญแจมือ บางรายถึงกับตีตรวนที่ขา และการใช้เครื่องบินทหารไม่มีประเทศไหนทำกัน การส่งผู้อพยพกลับควรเป็นไปในช่องทางการทูต

    - โดนัลด์ ทรัมป์ โกรธจัด และถือว่านี่เป็นการท้าทายอำนาจสหรัฐ ประกาศภาษีนำเข้า 25% จะถูกปรับขึ้นเป็น 50% ใน 1 สัปดาห์

    - มีคำสั่งปิดแผนกวีซ่าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในเมืองหลวงของโคลอมเบีย เพื่อยกเลิกการเดินทางเข้าสหรัฐ

    - เปโตรตอบโต้ทรัมป์ ด้วยการโพสต์ท้าทายบน "X" โดยขู่ว่าจะตอบโต้ภาษีของทรัมป์ในลักษณะเดียวกัน “ผมรับแจ้งว่าคุณกำลังกำหนดภาษี เป็น 50% และผมจะทำเช่นเดียวกัน”

    - แม้ว่าเปโตรจะออกแถลงการณ์ตอบโต้ทรัมป์ ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลโคลอมเบียกำลังเร่งเจรจากับสหรัฐอย่างจริงจังเพื่อหาข้อตกลงในการรับผู้อพยพกลับโคลอมเบีย

    - หลังการเจรจาสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีโคลอมเบีย "ยอมจำนน" โดยประกาศส่งเครื่องบินจำนวน 2 ลำไปรับผู้อพยพทั้งหมด และทำเนียบขาวยืนยันโคลอมเบียตกลงตามเงื่อนไขทั้งหมดของทรัมป์

    - และไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีกุสตาโว เปตรอฟแห่งโคลัมเบียยอมจำนนต่อภาษีศุลกากรและข้อจำกัดด้านวีซ่าของทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ภาพตัวเองสวมหมวกคาวบอยลงโซเชียล (รูป-1)

    "หมาป่ากับลูกแกะ" - สหรัฐส่งผู้อพยพผิดกฎหมายชาวโคลอมเบียกลับประเทศด้วยเครื่องบินขนส่งทหาร C- 17 จำนวน 2 ลำ แต่ละลำมีผู้อพยพประมาณ 80 คนต่อลำ แต่ถูกประธานาธิบดีกุสตาโว เปตรอฟแห่งโคลัมเบียปฏิเสธการลงจอด ทำให้ต้องบินกลับสหรัฐ - เปตรอฟอ้างเหตุผลว่า ผู้อพยพเหล่านั้นไม่ควรถูกปฏิบัติเยี่ยงอาชญากรรุนแรง ที่ต้องใส่กุญแจมือ บางรายถึงกับตีตรวนที่ขา และการใช้เครื่องบินทหารไม่มีประเทศไหนทำกัน การส่งผู้อพยพกลับควรเป็นไปในช่องทางการทูต - โดนัลด์ ทรัมป์ โกรธจัด และถือว่านี่เป็นการท้าทายอำนาจสหรัฐ ประกาศภาษีนำเข้า 25% จะถูกปรับขึ้นเป็น 50% ใน 1 สัปดาห์ - มีคำสั่งปิดแผนกวีซ่าที่สถานทูตสหรัฐฯ ในเมืองหลวงของโคลอมเบีย เพื่อยกเลิกการเดินทางเข้าสหรัฐ - เปโตรตอบโต้ทรัมป์ ด้วยการโพสต์ท้าทายบน "X" โดยขู่ว่าจะตอบโต้ภาษีของทรัมป์ในลักษณะเดียวกัน “ผมรับแจ้งว่าคุณกำลังกำหนดภาษี เป็น 50% และผมจะทำเช่นเดียวกัน” - แม้ว่าเปโตรจะออกแถลงการณ์ตอบโต้ทรัมป์ ในอีกด้านหนึ่ง รัฐบาลโคลอมเบียกำลังเร่งเจรจากับสหรัฐอย่างจริงจังเพื่อหาข้อตกลงในการรับผู้อพยพกลับโคลอมเบีย - หลังการเจรจาสิ้นสุดลง ประธานาธิบดีโคลอมเบีย "ยอมจำนน" โดยประกาศส่งเครื่องบินจำนวน 2 ลำไปรับผู้อพยพทั้งหมด และทำเนียบขาวยืนยันโคลอมเบียตกลงตามเงื่อนไขทั้งหมดของทรัมป์ - และไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงหลังจากที่ประธานาธิบดีกุสตาโว เปตรอฟแห่งโคลัมเบียยอมจำนนต่อภาษีศุลกากรและข้อจำกัดด้านวีซ่าของทรัมป์ ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โพสต์ภาพตัวเองสวมหมวกคาวบอยลงโซเชียล (รูป-1)
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐ
    ทรัมป์ขู่ปูตินให้รีบยุติสงครามกับยูเครน ถ้าไม่ยุติจะคว่ำบาตรครั้งใหม่
    ทรัมป์ 1.0 ไม่มีสงครามสู้รบ มีแต่ trade war ครั้งนี้มองว่าอาจจะเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการเดินเกมเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้สหรัฐเพิ่ม เช่น ความต้องการพื้นที่ greenland คลองปานามา

    Elon แฉ stargate Masayoshi Son (ที่จะเป็นประธานโครงการ) ไม่มีเงินลงทุนสูงตามที่โครงการต้องการ (หุ้นเทสล่า -2% เมื่อคืน สวนกับหุ้นอื่นในกลุ่ม MEG 7 อาจจะเกิดจากนโยบายทรัมป์ที่ยกเลิกคำสั่งใช้รถยนต์ไฟฟ้าของไบเดน และอาจจะประเด็นการออกมาแฉครั้งนี้)

    เจมี่ ไดมอน ผู้บริหาร JP Morgan: มองราคาหุ้นสหรัฐสูงเกิน แม้พื้นฐานหุ้นจะยังดี ความเสี่ยงเงินเฟ้อ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังอยู่ เตือนว่าท้ายสุดราคาหุ้นอาจจะกลับไปสะท้อนมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริง (หุ้นตก)
    *ก่อนหน้านี้ เซียน Howard Mask, วอร์เรน ผ่าน เบิร์คไชน์ เตือนภาวะฟองสบู่

    ค่าเงินดอลลาร์ อ่อนค่า

    ทอง ราคาเพิ่มต่อ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ความเสี่ยงการเมืองของโลก ทองทะลุ $2720 มีโอกาสทดสอบ $2780, $2800 ถ้าผ่านเป้าทดสอบถัดไปคือ $3022/oz. แต่ต้องระวังปัจจัยความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์อาจจะลดลงจากนโยบายทรัมป์ที่ต้องการลดความร้อนแรงความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้นปัจจัยสำคัญกับราคาทองคำจะโฟกัสที่การแข็งค่า-อ่อนค่าของดอลลาร์เป็นหลัก
    ทองไทย เพิ่มได้ไม่แรงเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า รับ: 44,150, 44,000 บาท << 2 แนว, ต้าน: 44,450, 44,650 บาท << 2 แนว

    น้ำมัน ราคาลดลง รับแรงกดดันจากนโยบายทรัมป์ที่จะขยายการผลิตเพิ่มในสหรัฐ

    อัตราผลตอบแทน
    ...................................
    วันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุม ลุ้นนโยบายดอกเบี้ย (ปีที่แล้วจขึ้นดอกเบี้ย เกิด black monday) อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ จากค่าแรงงานขึ้นในทุกภาคส่วน
    .........................................................
    จีน ตลาดเงิน ตลาดทุน หยุดตรุษจีน 28 มค. - 4 กพ.
    ช่วงก่อนเข้าวันหยุดยาว PBoC (ธนาคารกลางจีน) จะอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อดูแลสภาพคล่อง เนื่องจาก

    1. ความต้องการเงินสดเพิ่ม คนจีนจะถอนเงินสดเพื่อใช้ในการเดินทาง ท่องเที่ยว ของขวัญ (อั่งเปา) (红包, hóngbāo)
    2. ความต้องการเงินทุนจากบริษัทต่าง ๆ ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่บริษัทจ่ายโบนัสให้กับพนักงานก่อนวันหยุดยาว และอาจจะต้องจ่ายคืนเงินกู้ (ล่วงหน้า) ก่อนจะหยุดยาวด้วย
    3. สภาพคล่องธนาคารที่ตึง จากการถอนเงินสดที่เร่งตัวและการใช้จ่ายจากบริษัทเอกชน ทำให้สภาพคล่องของธนาคารมีภาวะตึง ทำให้ต้องการเงินทุนระยะสั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของการดำเนินการและการให้กู้ยืม
    4. ป้องกันความผันผวนในตลาดเงิน เนื่องจากถ้าเกิดภาวะสภาพคล่องหายไปจากระบบ อัตรากู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน (เช่น SHIBOR) อาจจะพุ่งแรงกระทบเสถียรภาพของตลาดเงิน
    5. สนับสุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ตรุษจีนเป็นเทศกาลหลักที่มียอดใช้จ่ายสูงและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเยอะ
    การดูแลภาพรวมสภาพคล่องของตลาดเงินจะช่วยสนับสนุนโมเมนตัมของเศรษฐกิจโดยรวม

    PBoC เตรียมวงเงินให้บริษัทกู้ยืมเพื่อซื้อหุ้นคืน ตอนนี้มีบริษัทตอบรับร่วมโครงการมากกว่า 300 แห่ง มาร์เก็ตแคปรวมกว่า 10 พันล้านหยวน อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมโครงการนี้ ~2%
    ................................
    ไทย
    คาดส่งออกเดือนธ.ค. $24,000 ล้าน +7.4% y/y (พย. ~$25,000 ล้าน) ส่วนส่งออกปี 2568 ถ้านโยบายทรัมป์ไม่กระทบแรงมาก มองส่งออกยังไปได้
    สหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของสินค้าไทย (~18% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ปี 67 ไทยส่งออกไปสหรัฐ $54,956.2 ล้าน // นำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็นอันดับ 4 (6% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) $19,528.6 ล้าน ไทยเป็นฝ่าย “เกินดุล” การค้ากับสหรัฐ $35,427.6 ล้าน ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐต่อเนื่อง ~5 ปี (2561-2566)
    - สินค้าไทยที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงจนทำให้สหรัฐตกเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับไทย และมีความเสี่ยงถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้า ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, โทรศัพท์มือถือ, ไดโอด-ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำแบบไวแสง (โซลาร์เซลส์), ยางนอกชนิดอัดลมที่เป็นของใหม่,
    เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าชนิดคงที่, เครื่องพิมพ์ป้อนกระดาษเป็นม้วน, หม้อแปลงไฟฟ้า, เครื่องส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์, เครื่องปรับอากาศ, แผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์, เพชร พลอย และรูปพรรณพร้อมส่วนประกอบ, เครื่องจักรไฟฟ้า, ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง, เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์จากไม้, ขนมหวานที่ไม่มีส่วนผสมของโกโก้ และสินค้าเกษตร/แปรรูป
    #เศรษฐกิจ

    สหรัฐ ทรัมป์ขู่ปูตินให้รีบยุติสงครามกับยูเครน ถ้าไม่ยุติจะคว่ำบาตรครั้งใหม่ ทรัมป์ 1.0 ไม่มีสงครามสู้รบ มีแต่ trade war ครั้งนี้มองว่าอาจจะเหมือนเดิม แต่อาจจะมีการเดินเกมเพื่อสร้างอำนาจต่อรองให้สหรัฐเพิ่ม เช่น ความต้องการพื้นที่ greenland คลองปานามา Elon แฉ stargate Masayoshi Son (ที่จะเป็นประธานโครงการ) ไม่มีเงินลงทุนสูงตามที่โครงการต้องการ (หุ้นเทสล่า -2% เมื่อคืน สวนกับหุ้นอื่นในกลุ่ม MEG 7 อาจจะเกิดจากนโยบายทรัมป์ที่ยกเลิกคำสั่งใช้รถยนต์ไฟฟ้าของไบเดน และอาจจะประเด็นการออกมาแฉครั้งนี้) เจมี่ ไดมอน ผู้บริหาร JP Morgan: มองราคาหุ้นสหรัฐสูงเกิน แม้พื้นฐานหุ้นจะยังดี ความเสี่ยงเงินเฟ้อ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ยังอยู่ เตือนว่าท้ายสุดราคาหุ้นอาจจะกลับไปสะท้อนมูลค่าพื้นฐานที่แท้จริง (หุ้นตก) *ก่อนหน้านี้ เซียน Howard Mask, วอร์เรน ผ่าน เบิร์คไชน์ เตือนภาวะฟองสบู่ ค่าเงินดอลลาร์ อ่อนค่า ทอง ราคาเพิ่มต่อ จากค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ความเสี่ยงการเมืองของโลก ทองทะลุ $2720 มีโอกาสทดสอบ $2780, $2800 ถ้าผ่านเป้าทดสอบถัดไปคือ $3022/oz. แต่ต้องระวังปัจจัยความเสี่ยงทางภูมิศาสตร์อาจจะลดลงจากนโยบายทรัมป์ที่ต้องการลดความร้อนแรงความขัดแย้งระหว่างประเทศ ดังนั้นปัจจัยสำคัญกับราคาทองคำจะโฟกัสที่การแข็งค่า-อ่อนค่าของดอลลาร์เป็นหลัก ทองไทย เพิ่มได้ไม่แรงเนื่องจากเงินบาทแข็งค่า รับ: 44,150, 44,000 บาท << 2 แนว, ต้าน: 44,450, 44,650 บาท << 2 แนว น้ำมัน ราคาลดลง รับแรงกดดันจากนโยบายทรัมป์ที่จะขยายการผลิตเพิ่มในสหรัฐ อัตราผลตอบแทน ................................... วันนี้ ธนาคารกลางญี่ปุ่นประชุม ลุ้นนโยบายดอกเบี้ย (ปีที่แล้วจขึ้นดอกเบี้ย เกิด black monday) อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์มองว่า มีโอกาสจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ จากค่าแรงงานขึ้นในทุกภาคส่วน ......................................................... จีน ตลาดเงิน ตลาดทุน หยุดตรุษจีน 28 มค. - 4 กพ. ช่วงก่อนเข้าวันหยุดยาว PBoC (ธนาคารกลางจีน) จะอัดฉีดเงินเข้าระบบ เพื่อดูแลสภาพคล่อง เนื่องจาก 1. ความต้องการเงินสดเพิ่ม คนจีนจะถอนเงินสดเพื่อใช้ในการเดินทาง ท่องเที่ยว ของขวัญ (อั่งเปา) (红包, hóngbāo) 2. ความต้องการเงินทุนจากบริษัทต่าง ๆ ช่วงตรุษจีนเป็นช่วงที่บริษัทจ่ายโบนัสให้กับพนักงานก่อนวันหยุดยาว และอาจจะต้องจ่ายคืนเงินกู้ (ล่วงหน้า) ก่อนจะหยุดยาวด้วย 3. สภาพคล่องธนาคารที่ตึง จากการถอนเงินสดที่เร่งตัวและการใช้จ่ายจากบริษัทเอกชน ทำให้สภาพคล่องของธนาคารมีภาวะตึง ทำให้ต้องการเงินทุนระยะสั้นเพื่อรักษาเสถียรภาพของการดำเนินการและการให้กู้ยืม 4. ป้องกันความผันผวนในตลาดเงิน เนื่องจากถ้าเกิดภาวะสภาพคล่องหายไปจากระบบ อัตรากู้ยืมระหว่างสถาบันการเงิน (เช่น SHIBOR) อาจจะพุ่งแรงกระทบเสถียรภาพของตลาดเงิน 5. สนับสุนการเติบโตทางเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น ตรุษจีนเป็นเทศกาลหลักที่มียอดใช้จ่ายสูงและมีกิจกรรมทางเศรษฐกิจเยอะ การดูแลภาพรวมสภาพคล่องของตลาดเงินจะช่วยสนับสนุนโมเมนตัมของเศรษฐกิจโดยรวม PBoC เตรียมวงเงินให้บริษัทกู้ยืมเพื่อซื้อหุ้นคืน ตอนนี้มีบริษัทตอบรับร่วมโครงการมากกว่า 300 แห่ง มาร์เก็ตแคปรวมกว่า 10 พันล้านหยวน อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมโครงการนี้ ~2% ................................ ไทย คาดส่งออกเดือนธ.ค. $24,000 ล้าน +7.4% y/y (พย. ~$25,000 ล้าน) ส่วนส่งออกปี 2568 ถ้านโยบายทรัมป์ไม่กระทบแรงมาก มองส่งออกยังไปได้ สหรัฐเป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของสินค้าไทย (~18% ของมูลค่าการส่งออกทั้งหมด) ปี 67 ไทยส่งออกไปสหรัฐ $54,956.2 ล้าน // นำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็นอันดับ 4 (6% ของมูลค่าการนำเข้าทั้งหมด) $19,528.6 ล้าน ไทยเป็นฝ่าย “เกินดุล” การค้ากับสหรัฐ $35,427.6 ล้าน ไทยเกินดุลการค้าสหรัฐต่อเนื่อง ~5 ปี (2561-2566) - สินค้าไทยที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงจนทำให้สหรัฐตกเป็นฝ่ายขาดดุลการค้ากับไทย และมีความเสี่ยงถูกปรับขึ้นภาษีนำเข้า ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ, โทรศัพท์มือถือ, ไดโอด-ทรานซิสเตอร์/อุปกรณ์กึ่งตัวนำแบบไวแสง (โซลาร์เซลส์), ยางนอกชนิดอัดลมที่เป็นของใหม่, เครื่องเปลี่ยนไฟฟ้าชนิดคงที่, เครื่องพิมพ์ป้อนกระดาษเป็นม้วน, หม้อแปลงไฟฟ้า, เครื่องส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์, เครื่องปรับอากาศ, แผงวงจรรวมอิเล็กทรอนิกส์, เพชร พลอย และรูปพรรณพร้อมส่วนประกอบ, เครื่องจักรไฟฟ้า, ตู้เย็น/ตู้แช่แข็ง, เฟอร์นิเจอร์, ผลิตภัณฑ์จากไม้, ขนมหวานที่ไม่มีส่วนผสมของโกโก้ และสินค้าเกษตร/แปรรูป #เศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 370 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามยกเลิกคำสั่งไบเดนแล้ว 78 ฉบับ เผยเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก 1 กุมภาพันธ์นี้

    บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหววันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า ทรัมป์ยังดำเนินแผนการอันทะเยอทะยานของเขาต่อไป โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก

    บลูมเบิร์กระบุว่า ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นเป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ถึง 78 ฉบับ ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่สนามกีฬาแคปิตอลวัน (Capital One Arena)

    บรรดาคำสั่งที่ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งของไบเดนนั้น รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement), คำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ, การดำเนินการเรียกพนักงานของรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน และคำสั่งคืนเสรีภาพในการพูดและป้องกันไม่ให้รัฐบาลเซ็นเซอร์เสรีภาพในการพูดในอนาคต

    ต่อจากนั้นทรัมป์ย้ายไปที่ห้องทำงานรูปไข่ (The Oval Office) ในทำเนียบขาว แล้วลงนามคำสั่งต่อไป ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกที่ทรัมป์ลงนามในห้องทำงานรูปไข่ คือการอภัยโทษให้กับผู้คนจำนวน 1,500 คน ที่ได้รับโทษจากการปิดล้อมอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021

    จากนั้นในเวลาประมาณ 19.50 น. บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเรื่องภาษีศุลกากรว่า “เราคิดอัตราภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะอยู่ที่ 25% ผมคิดว่าเราจะดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์”

    ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงจีนว่า จะประชุมและโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน

    นอกจากนั้น ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องใช้จ่ายงบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับการป้องกันประเทศ

    ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ทำเนียบขาว (The White House) หรือสำนักงานประธานาธิบดีสหหรัฐ พบว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น

    -ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations)

    -ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร

    -ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ

    -ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป

    -เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ

    -ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่

    ​ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ลงนามยกเลิกคำสั่งไบเดนแล้ว 78 ฉบับ เผยเริ่มเก็บภาษีสินค้านำเข้าแคนาดา-เม็กซิโก 1 กุมภาพันธ์นี้ บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานความเคลื่อนไหววันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) หลังเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มกราคม 2025 ว่า ทรัมป์ยังดำเนินแผนการอันทะเยอทะยานของเขาต่อไป โดยลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก บลูมเบิร์กระบุว่า ณ เวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมาก ซึ่งส่วนหนึ่งในนั้นเป็นการเพิกถอนคำสั่งหรือแผนริเริ่มต่าง ๆ ในยุคของประธานาธิบดี โจ ไบเดน (Joe Biden) ถึง 78 ฉบับ ต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากที่สนามกีฬาแคปิตอลวัน (Capital One Arena) บรรดาคำสั่งที่ทรัมป์ยกเลิกคำสั่งของไบเดนนั้น รวมถึงการถอนตัวจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Paris Agreement), คำสั่งให้ทุกกระทรวงจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ, การดำเนินการเรียกพนักงานของรัฐบาลกลางกลับเข้าทำงาน และคำสั่งคืนเสรีภาพในการพูดและป้องกันไม่ให้รัฐบาลเซ็นเซอร์เสรีภาพในการพูดในอนาคต ต่อจากนั้นทรัมป์ย้ายไปที่ห้องทำงานรูปไข่ (The Oval Office) ในทำเนียบขาว แล้วลงนามคำสั่งต่อไป ซึ่งคำสั่งฝ่ายบริหารฉบับแรกที่ทรัมป์ลงนามในห้องทำงานรูปไข่ คือการอภัยโทษให้กับผู้คนจำนวน 1,500 คน ที่ได้รับโทษจากการปิดล้อมอาคารรัฐสภาสหรัฐเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 จากนั้นในเวลาประมาณ 19.50 น. บลูมเบิร์กรายงานว่า ทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ถามถึงเรื่องภาษีศุลกากรว่า “เราคิดอัตราภาษีนำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาจะอยู่ที่ 25% ผมคิดว่าเราจะดำเนินการในวันที่ 1 กุมภาพันธ์” ในเวลาเดียวกัน ทรัมป์กล่าวถึงจีนว่า จะประชุมและโทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง (Xi Jinping) ของจีน นอกจากนั้น ทรัมป์กล่าวว่าประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) ต้องใช้จ่ายงบประมาณ 5% ของจีดีพี สำหรับการป้องกันประเทศ ผู้สื่อข่าวประชาชาติธุรกิจรายงานเพิ่มเติมว่า จากการสืบค้นข้อมูลในเว็บไซต์ทำเนียบขาว (The White House) หรือสำนักงานประธานาธิบดีสหหรัฐ พบว่า ทรัมป์ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารจำนวนมากที่จะส่งผลกระทบต่อต่างประเทศ ยกตัวอย่างเช่น -ถอนสหรัฐออกจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ยุติรายจ่ายที่เป็นภาระและไม่เป็นธรรมต่อสหรัฐอเมริกา ยกเลิกการเจรจาข้อตกลงว่าด้วยโรคระบาด (Pandemic Agreement) และการแปรญัตติกฎอนามัยระหว่างประเทศ (International Health Regulations) -ประกาศใช้นโยบายการค้าที่ให้ความสำคัญกับอเมริกาเป็นอันดับแรก (America First Trade Policy) หน่วยงานเกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบายการค้าที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศ แก้ไขการค้าที่ไม่เป็นธรรมและไม่สมดุล โดยใช้มาตรการที่เหมาะสม อย่างเช่น ภาษีศุลกากร -ปรับโครงสร้างโครงการรับผู้ลี้ภัยของสหรัฐ (USRAP) ใหม่ และระงับการรับผู้ลี้ภัยผ่าน USRAP จนกว่าจะพิสูจน์ได้ว่าการเข้าสู่สหรัฐอเมริกาของผู้ลี้ภัยจะสอดคล้องกับผลประโยชน์ของสหรัฐ -ยกเลิกการให้สถานะพลเมืองอเมริกันโดยกำเนิด เด็กที่เกิดในสหรัฐอเมริกาแต่เกิดจากพ่อและแม่ที่ไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน จะไม่ได้สถานะพลเมืองโดยกำเนิดอีกต่อไป -เพิ่มการรักษาความปลอดภัยชายแดน โดยสร้างกำแพงและสิ่งกีดขวางต่าง ๆ ที่มีการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่และการใช้เทคโนโลยี เพื่อขัดขวางและป้องกันการเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย และดำเนินการเนรเทศผู้ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยมีกระบวนการคุมขังระหว่างรอส่งตัวออกจากประเทศ -ลดการให้ความช่วยเหลือต่างประเทศ โดยจะหยุดให้ความช่วยเหลือต่างประเทศที่ไม่สอดคล้องกับนโยบายต่างประเทศของประธานาธิบดีสหรัฐ 90 วันเพื่อประเมินประสิทธิภาพโครงการและความสอดคล้องกับนโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐว่าควรได้รับการช่วยเหลือต่อไปหรือไม่ ​ที่มา : ประชาชาติธุรกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าว BYD ผลิตเรือบรรทุกรถยนต์ได้ 9,200 คัน สำหรับส่งออก แล้วเค้ามีหุ่นยนต์แบบมนุษย์ทำงานสายการผลิต
    ประเทศไทยใกล้ๆ ก็อาจใช้วิธีนำเข้าก็ได้ หากค่าแรงแพง รวมๆ การผลิตแบบแมว คุ้มก็ว่า ยอมเสียภาษีนำเข้า อะไรจะเกิดขึ้น
    ข่าว BYD ผลิตเรือบรรทุกรถยนต์ได้ 9,200 คัน สำหรับส่งออก แล้วเค้ามีหุ่นยนต์แบบมนุษย์ทำงานสายการผลิต ประเทศไทยใกล้ๆ ก็อาจใช้วิธีนำเข้าก็ได้ หากค่าแรงแพง รวมๆ การผลิตแบบแมว คุ้มก็ว่า ยอมเสียภาษีนำเข้า อะไรจะเกิดขึ้น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 154 มุมมอง 0 รีวิว
  • * สัปดาห์นี้ ธนาคารกลาง 4 แห่งการเงินประชุม

    Bank of Japan (BoJ): ประชุม 23-24 มค. คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย

    Federal Reserve (Fed): ธ.กลางสหรัฐ ประชุม 28-29 คาดคงดอกเบี้ย

    European Central Bank (ECB): ประชุม 30 มค. คาดลดดอกเบี้ย

    Bank of Canada (BoC): ธ.กลางแคนาดา ประชุม 29 มค. คาดลดดอกเบี้ย
    .........................
    วานนี้ทรัมป์เข้าสาบานตนรับตำแหน่ง เบื้องต้นยังไม่การออก executive orders ที่เกี่ยวกับมาตรการภาษี ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง (กระทบราคาทองคำไม่ดึดตัว เงินไหลเข้าตลาดเงิน ตลาดทุน)

    - งดเพิ่มจำนวนข้าราชการ ยกเว้นด้านความมั่นคง (ทหาร)
    - งด work from home ของข้าราชการ
    - ถอนตัวจาก Paris Climate Treaty
    - ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า เม็กซิโก แคนาดา สูงสุดแตะ 50% ส่วนจีนรอดูดีล tiktok ถ้าล้มอาจจะมีมาตรการภาษีออกมา (คาดเดาจากนวค.ว่า ทรัมป์ที่โทรหาสี จิ้นผิง อาจจะมีบางดีลที่รออยู่)
    * Tiktok ถูกแบนในสหรัฐ แต่ทรัมป์ยืดเวลาให้ใช้ต่อได้ 75 วัน แต่ต่อรองให้ tiktok ขายหุ้น 50% ให้สหรัฐ แต่ยังไม่ระบุว่าให้ขายให้ใคร ระบุเป็น Joint Venture
    - ยกเลิกคำสั่งและเมมโมฯขอไบเดน 78 ฉบับ (ในนั้นรวม LGBTQ)
    - เพิกถอนคำสั่งไบเดนที่ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ EB 50% ภายในปี 2030
    - ประกาศภาวะฉุกเฉินชายแดนตอนใต้ เนรเทศผู้เข้าเมืองไม่ถูกกฏหมาย
    - นิรโทษกรรมผู้ต้องหา 1500 คนที่บุกรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อน (ตอนทรัมป์แพ้เลือกตั้งให้ไบเดน)
    - ขุดเจาะน้ำมันดิบ กระทบราคาน้ำมันดิบจากคาดการณ์ซัพพลายในตลาดจะเพิ่ม
    - ถอนตัวจาก WHO
    - กดดัน EU ต้องการลดระดับการขาดดุลการค้า ขู่ใช้มาตรการภาษี หรือ EU ต้องนำเข้าน้ำมันและแก๊สจากสหรัฐ
    - สหรัฐจะไปปักธงที่ดาวอังคาร

    DXY ดัชนีดอลลาร์ คาดค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะสั้นจาก
    1. จำนวนการเปิดสัญญา "Long" ค่าเงินดอลลาร์สูงสุดนับจากปี 2019
    2. ประเด็นกำแพงภาษีน่าจะไม่แรงเหมือนตอนหาเสียง
    3. การกระตุ้นผ่านมาตรการการคลังไม่น่าจะสูงเหมือนตอนที่หาเสียง

    ............................................
    จีน ราคาบ้านน่าจะเจอจุดต่ำสุดแล้ว ราคาบ้านเริ่มกระตุก จำนวนธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาฯ ในเมืองใหญ่เริ่มเพิ่มขึ้น
    ................................
    ทอง โทนเงินเฟ้อจากนโยบายภาษีทรัมป์ไม่แรงอย่างที่หาเสียง ไม่กดดัน เฟดอาจจะดำเนินนโยบายการเงินได้ตามภาวะตลาดไม่ผันผวน + มุมมองดอลลาร์อ่อนค่า เทคนิคที่เบรคกรอบสามเหลี่ยม
    #เศรษฐกิจ
    * สัปดาห์นี้ ธนาคารกลาง 4 แห่งการเงินประชุม Bank of Japan (BoJ): ประชุม 23-24 มค. คาดว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ย Federal Reserve (Fed): ธ.กลางสหรัฐ ประชุม 28-29 คาดคงดอกเบี้ย European Central Bank (ECB): ประชุม 30 มค. คาดลดดอกเบี้ย Bank of Canada (BoC): ธ.กลางแคนาดา ประชุม 29 มค. คาดลดดอกเบี้ย ......................... วานนี้ทรัมป์เข้าสาบานตนรับตำแหน่ง เบื้องต้นยังไม่การออก executive orders ที่เกี่ยวกับมาตรการภาษี ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง (กระทบราคาทองคำไม่ดึดตัว เงินไหลเข้าตลาดเงิน ตลาดทุน) - งดเพิ่มจำนวนข้าราชการ ยกเว้นด้านความมั่นคง (ทหาร) - งด work from home ของข้าราชการ - ถอนตัวจาก Paris Climate Treaty - ขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า เม็กซิโก แคนาดา สูงสุดแตะ 50% ส่วนจีนรอดูดีล tiktok ถ้าล้มอาจจะมีมาตรการภาษีออกมา (คาดเดาจากนวค.ว่า ทรัมป์ที่โทรหาสี จิ้นผิง อาจจะมีบางดีลที่รออยู่) * Tiktok ถูกแบนในสหรัฐ แต่ทรัมป์ยืดเวลาให้ใช้ต่อได้ 75 วัน แต่ต่อรองให้ tiktok ขายหุ้น 50% ให้สหรัฐ แต่ยังไม่ระบุว่าให้ขายให้ใคร ระบุเป็น Joint Venture - ยกเลิกคำสั่งและเมมโมฯขอไบเดน 78 ฉบับ (ในนั้นรวม LGBTQ) - เพิกถอนคำสั่งไบเดนที่ตั้งเป้ายอดขายรถยนต์ EB 50% ภายในปี 2030 - ประกาศภาวะฉุกเฉินชายแดนตอนใต้ เนรเทศผู้เข้าเมืองไม่ถูกกฏหมาย - นิรโทษกรรมผู้ต้องหา 1500 คนที่บุกรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อน (ตอนทรัมป์แพ้เลือกตั้งให้ไบเดน) - ขุดเจาะน้ำมันดิบ กระทบราคาน้ำมันดิบจากคาดการณ์ซัพพลายในตลาดจะเพิ่ม - ถอนตัวจาก WHO - กดดัน EU ต้องการลดระดับการขาดดุลการค้า ขู่ใช้มาตรการภาษี หรือ EU ต้องนำเข้าน้ำมันและแก๊สจากสหรัฐ - สหรัฐจะไปปักธงที่ดาวอังคาร DXY ดัชนีดอลลาร์ คาดค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงในระยะสั้นจาก 1. จำนวนการเปิดสัญญา "Long" ค่าเงินดอลลาร์สูงสุดนับจากปี 2019 2. ประเด็นกำแพงภาษีน่าจะไม่แรงเหมือนตอนหาเสียง 3. การกระตุ้นผ่านมาตรการการคลังไม่น่าจะสูงเหมือนตอนที่หาเสียง ............................................ จีน ราคาบ้านน่าจะเจอจุดต่ำสุดแล้ว ราคาบ้านเริ่มกระตุก จำนวนธุรกรรมเกี่ยวกับอสังหาฯ ในเมืองใหญ่เริ่มเพิ่มขึ้น ................................ ทอง โทนเงินเฟ้อจากนโยบายภาษีทรัมป์ไม่แรงอย่างที่หาเสียง ไม่กดดัน เฟดอาจจะดำเนินนโยบายการเงินได้ตามภาวะตลาดไม่ผันผวน + มุมมองดอลลาร์อ่อนค่า เทคนิคที่เบรคกรอบสามเหลี่ยม #เศรษฐกิจ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนปฏิเสธคำเชิญของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ในการเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เนื่องจากไม่มีผู้นำจีนคนใดเคยเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาก่อน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการตัดสินใจของสีจิ้นผิงอาจได้รับอิทธิพลจากความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น และจากลักษณะที่ไม่ธรรมดาของผู้นำต่างชาติที่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสหรัฐฯ นอกจากนี้ คำเชิญดังกล่าวยังเกิดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดเป็นพิเศษ โดยทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวของทรัมป์อาจถือเป็นความพยายามเปิดการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม แต่การปฏิเสธของสีจิ้นผิงอาจตอกย้ำถึงความซับซ้อนที่ยังคงมีอยู่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี
    รายงานข่าวล่าสุดระบุว่า ประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนปฏิเสธคำเชิญของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนใหม่ในการเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เนื่องจากไม่มีผู้นำจีนคนใดเคยเข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาก่อน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าการตัดสินใจของสีจิ้นผิงอาจได้รับอิทธิพลจากความเสี่ยงทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้น และจากลักษณะที่ไม่ธรรมดาของผู้นำต่างชาติที่เข้าร่วมพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งของสหรัฐฯ นอกจากนี้ คำเชิญดังกล่าวยังเกิดขึ้นในช่วงที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนตึงเครียดเป็นพิเศษ โดยทรัมป์ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนจำนวนมาก การกระทำดังกล่าวของทรัมป์อาจถือเป็นความพยายามเปิดการเจรจากับฝ่ายตรงข้าม แต่การปฏิเสธของสีจิ้นผิงอาจตอกย้ำถึงความซับซ้อนที่ยังคงมีอยู่ในความสัมพันธ์ทวิภาคี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 278 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนประกาศยุติการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา

    จีนประกาศวันนี้ว่าจะห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหาร

    กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศดังกล่าว หลังจากที่วอชิงตันขยายรายชื่อคว่ำบาตรบริษัทจีนในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งชิปดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานขั้นสูง

    ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยีที่ปะทุขึ้นรุนแรงขึ้น

    จีนคือประเทศที่จัดหาจัดส่งและดำเนินการผลิตพลวง (แอนติโมนี) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยที่สารกึ่งโลหะนี้ถูกใช้ในการผลิตพวกขีปนาวุธอินฟราเรด, อาวุธนิวเคลียร์, และกล้องส่องกลางคืน, ตลอดจนเป็นสารทำให้พวกลูกปืนและรถถังมีความแข็งมากขึ้น

    สำหรับแกลเลียม-เจอร์เมเนียม ธาตุทั้งสองชนิดนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และจอแสดงผล แกลเลียมและเจอร์เมเนียมมีบทบาทในการผลิตสารกึ่งตัวนำแบบผสมจำนวนมาก ซึ่งรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    จีนประกาศยุติการส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกา จีนประกาศวันนี้ว่าจะห้ามส่งออกแกลเลียม เจอร์เมเนียม แอนติโมนี และวัสดุไฮเทคสำคัญอื่นๆ ไปยังสหรัฐอเมริกาซึ่งอาจนำไปใช้ทางการทหาร กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกประกาศดังกล่าว หลังจากที่วอชิงตันขยายรายชื่อคว่ำบาตรบริษัทจีนในการควบคุมการส่งออกอุปกรณ์ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ ซึ่งชิปดังกล่าวมีความจำเป็นสำหรับการใช้งานขั้นสูง ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนและประเทศอื่นๆ อย่างรุนแรง ซึ่งอาจทำให้ความตึงเครียดเกี่ยวกับการค้าและเทคโนโลยีที่ปะทุขึ้นรุนแรงขึ้น จีนคือประเทศที่จัดหาจัดส่งและดำเนินการผลิตพลวง (แอนติโมนี) รายใหญ่ที่สุดของโลก โดยที่สารกึ่งโลหะนี้ถูกใช้ในการผลิตพวกขีปนาวุธอินฟราเรด, อาวุธนิวเคลียร์, และกล้องส่องกลางคืน, ตลอดจนเป็นสารทำให้พวกลูกปืนและรถถังมีความแข็งมากขึ้น สำหรับแกลเลียม-เจอร์เมเนียม ธาตุทั้งสองชนิดนิยมนำไปใช้ในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศ และจอแสดงผล แกลเลียมและเจอร์เมเนียมมีบทบาทในการผลิตสารกึ่งตัวนำแบบผสมจำนวนมาก ซึ่งรวมองค์ประกอบหลายอย่างเข้าด้วยกัน เพื่อปรับปรุงความเร็วและประสิทธิภาพการส่งข้อมูล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 261 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (1 ธ.ค.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเองโดยระบุถึงสถานการณ์ทีประเทศในกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่นำโดย จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ พยายามลดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าขาย โดยทรัมป์ระบุว่าจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มประเทศเหล่านี้."จากแนวคิดของกลุ่มประเทศ BRICS ที่กำลังมีความพยายามในการเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น สหรัฐฯ จะไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เราต้องการคำมั่นสัญญาจากประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ขึ้นมาใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อมาแทนที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกรียงไกร (mighty dollar) มิฉะนั้น พวกเขาจะต้องเผชิญภาษีนำเข้า 100%" ทรัมป์ระบุ.นอกจากนี้ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2568 ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้หากยังดื้อดึงประเทศเหล่านี้ จะต้องโบกมือลาการขายสินค้าให้กับเศรษฐกิจอันยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ โดยพวกเขาสามารถไปหา "พวกห่วยแตก (sucker)" รายอื่นแทนได้ แต่ไม่มีโอกาสที่เงินสกุล BRICS จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าระหว่างประเทศ และประเทศใดก็ตามที่พยายามทำอย่างนั้นก็ควรโบกมือลาสหรัฐอเมริกาไปเสีย.ทั้งนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ในการประชุม BRICS Summit 2024 จัดขึ้นที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการออกแถลงการณ์ที่ชื่อว่า “ปฏิญญาคาซาน” (Kazan Declaration) โดย แถลงการณ์ดังกล่าวมีมติรับ “พันธมิตรหุ้นส่วน (Partner Countries)” จำนวน 13 ประเทศ แม้ว่ายังไม่ได้เป็นสมาชิกเต็มตัว แต่จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดวางตำแหน่งทางการเมือง ประกอบด้วยอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงแอลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา คาซัคสถาน ไนจีเรีย ทูร์เคีย ยูกันดา และอุซเบกิสถานด้วย.คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000115463......Sondhi X
    วันนี้ (1 ธ.ค.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเองโดยระบุถึงสถานการณ์ทีประเทศในกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่นำโดย จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ พยายามลดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าขาย โดยทรัมป์ระบุว่าจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มประเทศเหล่านี้."จากแนวคิดของกลุ่มประเทศ BRICS ที่กำลังมีความพยายามในการเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น สหรัฐฯ จะไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เราต้องการคำมั่นสัญญาจากประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ขึ้นมาใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อมาแทนที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกรียงไกร (mighty dollar) มิฉะนั้น พวกเขาจะต้องเผชิญภาษีนำเข้า 100%" ทรัมป์ระบุ.นอกจากนี้ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2568 ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้หากยังดื้อดึงประเทศเหล่านี้ จะต้องโบกมือลาการขายสินค้าให้กับเศรษฐกิจอันยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ โดยพวกเขาสามารถไปหา "พวกห่วยแตก (sucker)" รายอื่นแทนได้ แต่ไม่มีโอกาสที่เงินสกุล BRICS จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าระหว่างประเทศ และประเทศใดก็ตามที่พยายามทำอย่างนั้นก็ควรโบกมือลาสหรัฐอเมริกาไปเสีย.ทั้งนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ในการประชุม BRICS Summit 2024 จัดขึ้นที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการออกแถลงการณ์ที่ชื่อว่า “ปฏิญญาคาซาน” (Kazan Declaration) โดย แถลงการณ์ดังกล่าวมีมติรับ “พันธมิตรหุ้นส่วน (Partner Countries)” จำนวน 13 ประเทศ แม้ว่ายังไม่ได้เป็นสมาชิกเต็มตัว แต่จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดวางตำแหน่งทางการเมือง ประกอบด้วยอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงแอลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา คาซัคสถาน ไนจีเรีย ทูร์เคีย ยูกันดา และอุซเบกิสถานด้วย.คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000115463......Sondhi X
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 399 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขู่ BRICS! "ทรัมป์" ลั่นใครทิ้งดอลลาร์ เจอขึ้นภาษี 100%
    .
    วันนี้ (1 ธ.ค.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเองโดยระบุถึงสถานการณ์ทีประเทศในกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่นำโดย จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ พยายามลดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าขาย โดยทรัมป์ระบุว่าจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มประเทศเหล่านี้
    .
    "จากแนวคิดของกลุ่มประเทศ BRICS ที่กำลังมีความพยายามในการเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น สหรัฐฯ จะไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เราต้องการคำมั่นสัญญาจากประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ขึ้นมาใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อมาแทนที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกรียงไกร (mighty dollar) มิฉะนั้น พวกเขาจะต้องเผชิญภาษีนำเข้า 100%" ทรัมป์ระบุ
    .
    นอกจากนี้ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2568 ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้หากยังดื้อดึงประเทศเหล่านี้ จะต้องโบกมือลาการขายสินค้าให้กับเศรษฐกิจอันยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ โดยพวกเขาสามารถไปหา "พวกห่วยแตก (sucker)" รายอื่นแทนได้ แต่ไม่มีโอกาสที่เงินสกุล BRICS จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าระหว่างประเทศ และประเทศใดก็ตามที่พยายามทำอย่างนั้นก็ควรโบกมือลาสหรัฐอเมริกาไปเสีย
    .
    ทั้งนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ในการประชุม BRICS Summit 2024 จัดขึ้นที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการออกแถลงการณ์ที่ชื่อว่า “ปฏิญญาคาซาน” (Kazan Declaration) โดย แถลงการณ์ดังกล่าวมีมติรับ “พันธมิตรหุ้นส่วน (Partner Countries)” จำนวน 13 ประเทศ แม้ว่ายังไม่ได้เป็นสมาชิกเต็มตัว แต่จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดวางตำแหน่งทางการเมือง ประกอบด้วยอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงแอลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา คาซัคสถาน ไนจีเรีย ทูร์เคีย ยูกันดา และอุซเบกิสถานด้วย
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000115463
    ขู่ BRICS! "ทรัมป์" ลั่นใครทิ้งดอลลาร์ เจอขึ้นภาษี 100% . วันนี้ (1 ธ.ค.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเองโดยระบุถึงสถานการณ์ทีประเทศในกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่นำโดย จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ พยายามลดการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าขาย โดยทรัมป์ระบุว่าจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดต่อกลุ่มประเทศเหล่านี้ . "จากแนวคิดของกลุ่มประเทศ BRICS ที่กำลังมีความพยายามในการเลิกใช้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้น สหรัฐฯ จะไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป เราต้องการคำมั่นสัญญาจากประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ขึ้นมาใหม่ หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อมาแทนที่ ดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เกรียงไกร (mighty dollar) มิฉะนั้น พวกเขาจะต้องเผชิญภาษีนำเข้า 100%" ทรัมป์ระบุ . นอกจากนี้ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในเดือนมกราคม 2568 ยังระบุด้วยว่า นอกจากนี้หากยังดื้อดึงประเทศเหล่านี้ จะต้องโบกมือลาการขายสินค้าให้กับเศรษฐกิจอันยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ โดยพวกเขาสามารถไปหา "พวกห่วยแตก (sucker)" รายอื่นแทนได้ แต่ไม่มีโอกาสที่เงินสกุล BRICS จะมาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ ในการค้าระหว่างประเทศ และประเทศใดก็ตามที่พยายามทำอย่างนั้นก็ควรโบกมือลาสหรัฐอเมริกาไปเสีย . ทั้งนี้เมื่อเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ในการประชุม BRICS Summit 2024 จัดขึ้นที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย มีการออกแถลงการณ์ที่ชื่อว่า “ปฏิญญาคาซาน” (Kazan Declaration) โดย แถลงการณ์ดังกล่าวมีมติรับ “พันธมิตรหุ้นส่วน (Partner Countries)” จำนวน 13 ประเทศ แม้ว่ายังไม่ได้เป็นสมาชิกเต็มตัว แต่จะเปิดโอกาสให้เกิดความร่วมมือที่มากขึ้นในด้านต่าง ๆ เช่น การค้า การลงทุน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการจัดวางตำแหน่งทางการเมือง ประกอบด้วยอาเซียน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซียและเวียดนาม รวมถึงแอลจีเรีย เบลารุส โบลิเวีย คิวบา คาซัคสถาน ไนจีเรีย ทูร์เคีย ยูกันดา และอุซเบกิสถานด้วย . คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9670000115463
    SONDHITALK.COM
    ขู่ BRICS! "ทรัมป์" ใครทิ้งดอลลาร์ เจอขึ้นภาษี 100%
    วันนี้ (1 ธ.ค.) นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางโซเชียลมีเดียของตัวเองโดยระบุถึงสถานการณ์ทีประเทศในกลุ่มบริกส์ (BRICS) ที่นำโดย จีน รัสเซีย บราซิล อินเดีย และแอฟริกาใต้ พยายามลดการใช้เงินดอลลาร์สหร
    Like
    Angry
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 547 มุมมอง 1 รีวิว
  • 🤣ทรัมป์ขู่ประเทศกลุ่มบริกส์ด้วย “ภาษีนำเข้า ๑๐๐%” เว้นแต่ว่าพวกเขาจะล้มเลิกแผนแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ🤣

    💬 “แนวคิดที่ว่าประเทศ BRICS กำลังพยายามเลิกใช้เงินดอลลาร์ ในขณะที่เรายืนดูเฉยๆ นั้นสิ้นสุดลงแล้ว 🤣เราต้องการคำมั่นสัญญาจากประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ใหม่หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯที่ยิ่งใหญ่ มิฉะนั้น, พวกเขาจะต้องเผชิญภาษีนำเข้า ๑๐๐% และควรคาดหวังว่าจะต้องบอกลาการขายให้กับเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ🤣 พวกเขาสามารถไปหา 'เหยื่อรายใหม่!' ได้” ทรัมป์กล่าวในรายการ Truth Social

    ทรัมป์กล่าวเสริมว่า ประเทศใดก็ตามที่พยายามแทนที่ดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศจะ "โบกมือลาอเมริกา"

    ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการสร้างสกุลเงินร่วมของกลุ่ม BRICS, และขณะนี้ยังไม่มีเป้าหมายดังกล่าว ปูตินอธิบายว่าการสร้างสกุลเงินร่วมนั้นต้องอาศัยการบูรณาการเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก BRICS และความคล้ายคลึงกันในเชิงโครงสร้างมากขึ้น ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวอีกว่ามูลค่าการค้าของรัสเซียสองในสามดำเนินการด้วยสกุลเงินของประเทศ — และสำหรับประเทศ BRICS ตัวเลขดังกล่าวจะสูงถึง ๘๘%
    .
    TRUMP THREATENS BRICS COUNTRIES WITH '100% TARIFFS' UNLESS THEY ABANDON PLANS TO REPLACE THE US DOLLAR

    💬 “The idea that the BRICS Countries are trying to move away from the Dollar while we stand by and watch is OVER. We require a commitment from these Countries that they will neither create a new BRICS Currency nor back any other Currency to replace the mighty U.S. Dollar or, they will face 100% Tariffs and should expect to say goodbye to selling into the wonderful U.S. Economy. They can go find another 'sucker!'” Trump said on Truth Social.

    Trump added that any country that attempts to replace the US dollar in international trade will "wave goodbye to America."

    Russian President Vladimir Putin previously stated that it is too early to talk about the creation of a common BRICS currency, and that there is no such goal at the moment. Putin explained that creating a common currency requires greater integration of the economies of the BRICS member countries and their structural similarity. The Russian president also noted that two-thirds of Russia's trade turnover is conducted in national currencies — and with BRICS countries, that figure reaches 88%.
    .
    3:09 AM · Dec 1, 2024 · 3,583 Views
    https://x.com/SputnikInt/status/1862952170913497486
    🤣ทรัมป์ขู่ประเทศกลุ่มบริกส์ด้วย “ภาษีนำเข้า ๑๐๐%” เว้นแต่ว่าพวกเขาจะล้มเลิกแผนแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯ🤣 💬 “แนวคิดที่ว่าประเทศ BRICS กำลังพยายามเลิกใช้เงินดอลลาร์ ในขณะที่เรายืนดูเฉยๆ นั้นสิ้นสุดลงแล้ว 🤣เราต้องการคำมั่นสัญญาจากประเทศเหล่านี้ว่าพวกเขาจะไม่สร้างสกุลเงิน BRICS ใหม่หรือสนับสนุนสกุลเงินอื่นใดเพื่อแทนที่ดอลลาร์สหรัฐฯที่ยิ่งใหญ่ มิฉะนั้น, พวกเขาจะต้องเผชิญภาษีนำเข้า ๑๐๐% และควรคาดหวังว่าจะต้องบอกลาการขายให้กับเศรษฐกิจที่ยอดเยี่ยมของสหรัฐฯ🤣 พวกเขาสามารถไปหา 'เหยื่อรายใหม่!' ได้” ทรัมป์กล่าวในรายการ Truth Social ทรัมป์กล่าวเสริมว่า ประเทศใดก็ตามที่พยายามแทนที่ดอลลาร์สหรัฐในการค้าระหว่างประเทศจะ "โบกมือลาอเมริกา" ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน เคยกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ว่า ยังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงการสร้างสกุลเงินร่วมของกลุ่ม BRICS, และขณะนี้ยังไม่มีเป้าหมายดังกล่าว ปูตินอธิบายว่าการสร้างสกุลเงินร่วมนั้นต้องอาศัยการบูรณาการเศรษฐกิจของประเทศสมาชิก BRICS และความคล้ายคลึงกันในเชิงโครงสร้างมากขึ้น ประธานาธิบดีรัสเซียยังกล่าวอีกว่ามูลค่าการค้าของรัสเซียสองในสามดำเนินการด้วยสกุลเงินของประเทศ — และสำหรับประเทศ BRICS ตัวเลขดังกล่าวจะสูงถึง ๘๘% . TRUMP THREATENS BRICS COUNTRIES WITH '100% TARIFFS' UNLESS THEY ABANDON PLANS TO REPLACE THE US DOLLAR 💬 “The idea that the BRICS Countries are trying to move away from the Dollar while we stand by and watch is OVER. We require a commitment from these Countries that they will neither create a new BRICS Currency nor back any other Currency to replace the mighty U.S. Dollar or, they will face 100% Tariffs and should expect to say goodbye to selling into the wonderful U.S. Economy. They can go find another 'sucker!'” Trump said on Truth Social. Trump added that any country that attempts to replace the US dollar in international trade will "wave goodbye to America." Russian President Vladimir Putin previously stated that it is too early to talk about the creation of a common BRICS currency, and that there is no such goal at the moment. Putin explained that creating a common currency requires greater integration of the economies of the BRICS member countries and their structural similarity. The Russian president also noted that two-thirds of Russia's trade turnover is conducted in national currencies — and with BRICS countries, that figure reaches 88%. . 3:09 AM · Dec 1, 2024 · 3,583 Views https://x.com/SputnikInt/status/1862952170913497486
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 389 มุมมอง 0 รีวิว
  • "สงครามการค้าเริ่มขึ้นอีกครั้ง!"
    ทรัมป์ ประกาศว่าในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เขาจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากจีนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 จากเดิมที่มาตรการคว่ำบาตรและอัตราภาษีนำเข้าอื่นๆ ทั้งหมดกำหนดใช้กับจีนไว้แล้ว
    โดยอ้างว่าว่าเพื่อกดดันให้จีนปราบปรามการค้ายาเสพติดที่ไหลเข้ามาในสหรัฐผ่านทางเม็กซิโก
    "สงครามการค้าเริ่มขึ้นอีกครั้ง!" ทรัมป์ ประกาศว่าในวันแรกที่เข้ารับตำแหน่ง เขาจะลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อกำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าทุกประเภทจากจีนเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 10 จากเดิมที่มาตรการคว่ำบาตรและอัตราภาษีนำเข้าอื่นๆ ทั้งหมดกำหนดใช้กับจีนไว้แล้ว โดยอ้างว่าว่าเพื่อกดดันให้จีนปราบปรามการค้ายาเสพติดที่ไหลเข้ามาในสหรัฐผ่านทางเม็กซิโก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ราคาหุ้นฟิวเจอร์สร่วงลงทั่วกระดาน หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน, เม็กซิโก, และแคนาดา

    ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีนำเข้าจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าประเทศต่างๆจะจัดการกับปัญหาการอพยพเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติด

    ภาษีนำเข้าเหล่านี้จะถูกเพิ่มทับบนภาษีนำเข้าที่มีอยู่
    .
    BREAKING: Stock futures fall across the board after Donald Trump threatens tariffs on China, Mexico, and Canada.

    Trump says the tariffs will remain in effect until the counties address illegal immigration and drug trade.

    These tariffs will be added on top of existing tariffs.
    .
    7:28 AM · Nov 26, 2024 · 34.8K Views
    https://x.com/KobeissiLetter/status/1861205250440327184
    ราคาหุ้นฟิวเจอร์สร่วงลงทั่วกระดาน หลังจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าจากจีน, เม็กซิโก, และแคนาดา ทรัมป์กล่าวว่า ภาษีนำเข้าจะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป จนกว่าประเทศต่างๆจะจัดการกับปัญหาการอพยพเข้าเมืองที่ผิดกฎหมายและการค้ายาเสพติด ภาษีนำเข้าเหล่านี้จะถูกเพิ่มทับบนภาษีนำเข้าที่มีอยู่ . BREAKING: Stock futures fall across the board after Donald Trump threatens tariffs on China, Mexico, and Canada. Trump says the tariffs will remain in effect until the counties address illegal immigration and drug trade. These tariffs will be added on top of existing tariffs. . 7:28 AM · Nov 26, 2024 · 34.8K Views https://x.com/KobeissiLetter/status/1861205250440327184
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 337 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🇺🇸 ประธานาธิบดีคนใหม่ทรัมป์ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ๒๕%, โดยอ้างเหตุผลเรื่องพรมแดนเปิด, การค้ายาเสพติด, และการเข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย
    .
    JUST IN: 🇺🇸 President-elect Trump to impose 25% tariffs on all goods from Canada and Mexico, citing open borders, drug trafficking, and illegal immigration.
    .
    7:24 AM · Nov 26, 2024 · 22.2K Views
    https://x.com/BRICSinfo/status/1861204231992004756
    🇺🇸 ประธานาธิบดีคนใหม่ทรัมป์ เตรียมเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ๒๕%, โดยอ้างเหตุผลเรื่องพรมแดนเปิด, การค้ายาเสพติด, และการเข้าเมืองที่ผิดกฎหมาย . JUST IN: 🇺🇸 President-elect Trump to impose 25% tariffs on all goods from Canada and Mexico, citing open borders, drug trafficking, and illegal immigration. . 7:24 AM · Nov 26, 2024 · 22.2K Views https://x.com/BRICSinfo/status/1861204231992004756
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.94 : ไทยแลนด์ ในยุค “ทรัมป์ 2”
    .
    การหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ ฝ่าย เพราะว่า ในการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เขาได้เปิดฉากสงครามการค้า-สงครามเทคโนโลยี และในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ นายทรัมป์ก็ยังประกาศด้วยว่า เมื่อเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะขึ้น “ภาษีนำเข้า” กับสินค้าจากทุกประเทศ และ “จัดการ” กับประเทศต่าง ๆ ที่ได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ ...
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=Z_mTElGWr6Y

    #Thaitimes
    บูรพาไม่แพ้ Ep.94 : ไทยแลนด์ ในยุค “ทรัมป์ 2” . การหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ ฝ่าย เพราะว่า ในการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เขาได้เปิดฉากสงครามการค้า-สงครามเทคโนโลยี และในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ นายทรัมป์ก็ยังประกาศด้วยว่า เมื่อเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะขึ้น “ภาษีนำเข้า” กับสินค้าจากทุกประเทศ และ “จัดการ” กับประเทศต่าง ๆ ที่ได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ ... . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=Z_mTElGWr6Y #Thaitimes
    บูรพาไม่แพ้ Ep.94 : ไทยแลนด์ ในยุค “ทรัมป์ 2”
    .
    การหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ ฝ่าย เพราะว่า ในการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เขาได้เปิดฉากสงครามการค้า-สงครามเทคโนโลยี และในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ นายทรัมป์ก็ยังประกาศด้วยว่า เมื่อเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะขึ้น “ภาษีนำเข้า” กับสินค้าจากทุกประเทศ และ “จัดการ” กับประเทศต่าง ๆ ที่ได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ ...
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=Z_mTElGWr6Y
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 712 มุมมอง 0 รีวิว
  • บูรพาไม่แพ้ Ep.94 : ไทยแลนด์ ในยุค “ทรัมป์ 2”
    .
    การหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ ฝ่าย เพราะว่า ในการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เขาได้เปิดฉากสงครามการค้า-สงครามเทคโนโลยี และในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ นายทรัมป์ก็ยังประกาศด้วยว่า เมื่อเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะขึ้น “ภาษีนำเข้า” กับสินค้าจากทุกประเทศ และ “จัดการ” กับประเทศต่าง ๆ ที่ได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ ...
    .
    คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=Z_mTElGWr6Y
    บูรพาไม่แพ้ Ep.94 : ไทยแลนด์ ในยุค “ทรัมป์ 2” . การหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างความกังวลให้กับหลาย ๆ ฝ่าย เพราะว่า ในการดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯสมัยแรก ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เขาได้เปิดฉากสงครามการค้า-สงครามเทคโนโลยี และในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ นายทรัมป์ก็ยังประกาศด้วยว่า เมื่อเขาได้เป็นประธานาธิบดี จะขึ้น “ภาษีนำเข้า” กับสินค้าจากทุกประเทศ และ “จัดการ” กับประเทศต่าง ๆ ที่ได้เปรียบทางการค้ากับสหรัฐฯ ... . คลิก >> https://www.youtube.com/watch?v=Z_mTElGWr6Y
    Like
    9
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 953 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สหภาพยุโรปก็แย่พอๆกับจีนนั่นแหละ พวกเขาไม่ซื้อรถของเรา ฉันจะขึ้นภาษีนำเข้า ๑๐๐% หรือ ๒๐๐%” — ทรัมป์ 😆

    ตอนนี้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ผลิตยานยนต์ทั่วไปมากนักแล้ว มีแต่ SUV และรถกระบะเท่านั้น, ซึ่งไม่เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวยุโรป
    .
    “EU is as bad as China. They don’t buy our cars. I will put 100% or 200% tariffs” — Trump. 😆

    The US doesn’t even manufacture a lot of regular cars anymore. It’s all SUV and pickup trucks, which are unsuitable for European lifestyle.
    .
    8:32 AM · Nov 4, 2024 · 17K Views
    https://x.com/Kanthan2030/status/1853248900968427849
    “สหภาพยุโรปก็แย่พอๆกับจีนนั่นแหละ พวกเขาไม่ซื้อรถของเรา ฉันจะขึ้นภาษีนำเข้า ๑๐๐% หรือ ๒๐๐%” — ทรัมป์ 😆 ตอนนี้สหรัฐอเมริกาไม่ได้ผลิตยานยนต์ทั่วไปมากนักแล้ว มีแต่ SUV และรถกระบะเท่านั้น, ซึ่งไม่เหมาะกับวิถีชีวิตของชาวยุโรป . “EU is as bad as China. They don’t buy our cars. I will put 100% or 200% tariffs” — Trump. 😆 The US doesn’t even manufacture a lot of regular cars anymore. It’s all SUV and pickup trucks, which are unsuitable for European lifestyle. . 8:32 AM · Nov 4, 2024 · 17K Views https://x.com/Kanthan2030/status/1853248900968427849
    Haha
    Yay
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 283 มุมมอง 33 0 รีวิว
  • ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก Printed Circuit Board (PCB) หรือแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบ AI และ Data Centers

    ล่าสุด ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีศักยภาพสูงสุดในการผลิต PCB ของอาเซียน และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนและการสร้างรากฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า

    🔶PCB คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

    PCB (Printed Circuit Board) คือ ส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ชิปหรือเซนเซอร์ ที่พบได้ในอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์การแพทย์ แผงวงจรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้ระบบทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    การทำงานของ PCB สามารถอธิบายได้เหมือนกับ "ทางเดิน" ที่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของวงจร ซึ่งลายวงจรไฟฟ้านี้จะถูกสลักลงบนแผ่นทองแดงที่ยึดอยู่บนวัสดุแข็ง เช่น ไฟเบอร์กลาส วัสดุนี้เป็นตัวรองรับแผงวงจรและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดตั้งและทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นรากฐานที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปได้

    1. หัวใจของนวัตกรรมในทุกภาคส่วน : PCB มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคลไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และการบิน การที่อุตสาหกรรม PCB เติบโต หมายถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น

    2. ตอบโจทย์การออกแบบขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยี PCB รุ่นใหม่ เช่น High-Density Interconnect (HDI) และ Flexible PCB ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น ขณะเดียวกันยังคงความสามารถในการประมวลผลและการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น ในสมาร์ทโฟน รวมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์

    3. ความยืดหยุ่นและความทนทานที่เพิ่มขึ้น : PCB แบบ Rigid-Flex เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผสมผสานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับแรงกระแทก เช่น อุตสาหกรรมการบินและยานยนต์

    🔶ทำไมประเทศไทยถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนใน PCB

    ข้อมูลจากบีโอไอ สะท้อนว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากปี 2561 ถึงกลางปี 2567 มีการลงทุนรวมเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่มีการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนเพิ่มอีก 39,732 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและทิศทางของไทยที่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ในระดับโลก

    1. การเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนจากต่างประเทศ : นักลงทุนจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอื่นๆ และการมองเห็นศักยภาพในความเสถียรทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย

    2. ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : ไทยมี แรงงานที่พร้อมพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ ห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วน การเคลือบ การเจาะ การทดสอบทางไฟฟ้า รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง ทำให้สามารถรองรับการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและเทคโนโลยีสูงได้อย่างเต็มที่

    3. การสนับสนุนจากบีโอไอ : ที่มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุนผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านการจัดโครงการ Job matching และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม PCB โดยเฉพาะ

    🔶การเติบโตสู่ระดับโลก : เป้าหมายของไทยใน 5 ปีข้างหน้า

    ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคและการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง

    ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม PCB ระดับโลกภายใน 5 ปี ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    1. การพัฒนาบุคลากร : บีโอไอ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรและจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรม PCB

    2. การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน : นอกจากการผลิต PCB แล้ว ไทยยังสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเคลือบ การเจาะ การเชื่อมวงจร และการผลิตชิ้นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ผ่านงานจับคู่ธุรกิจอย่าง Subcon Thailand และ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA)

    3. การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก จึงมีการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดผ่านโครงการ Utility Green Tariff (UGT) และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การผลิตมีความยั่งยืนและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ต้องการพลังงานและน้ำในปริมาณมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินโครงการ Utility Green Tariff (UGT) ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่ามีแหล่งพลังงานสะอาดเพียงพอ รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการผลิตยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

    ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨
    #บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน
    📱 0 2553 8111
    📧 head@boi.go.th
    🌐 www.boi.go.th
    🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ

    #PCB #SupplyChain #ThailandTechHub #PCBInnovation #TopPCBThailand
    ทุกวันนี้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจโลก Printed Circuit Board (PCB) หรือแผ่นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นหัวใจหลักที่ช่วยให้การพัฒนาเทคโนโลยีเกิดขึ้นได้ ตั้งแต่อุปกรณ์สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ ไปจนถึงระบบ AI และ Data Centers ล่าสุด ประเทศไทยได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำที่มีศักยภาพสูงสุดในการผลิต PCB ของอาเซียน และกำลังมุ่งหน้าสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำระดับโลก ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่มุ่งเน้นการดึงดูดการลงทุนและการสร้างรากฐานสำหรับอุตสาหกรรมที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลกภายใน 5 ปีข้างหน้า 🔶PCB คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ PCB (Printed Circuit Board) คือ ส่วนประกอบสำคัญในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อและควบคุมการทำงานของชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น ชิปหรือเซนเซอร์ ที่พบได้ในอุปกรณ์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สมาร์ทโฟน ยานยนต์ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์การแพทย์ แผงวงจรเหล่านี้ทำหน้าที่เป็นตัวส่งสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชิ้นส่วนต่างๆ ทำให้ระบบทั้งหมดสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การทำงานของ PCB สามารถอธิบายได้เหมือนกับ "ทางเดิน" ที่เชื่อมต่อพลังงานไฟฟ้าให้ไหลไปยังส่วนต่างๆ ของวงจร ซึ่งลายวงจรไฟฟ้านี้จะถูกสลักลงบนแผ่นทองแดงที่ยึดอยู่บนวัสดุแข็ง เช่น ไฟเบอร์กลาส วัสดุนี้เป็นตัวรองรับแผงวงจรและทำให้ชิ้นส่วนต่างๆ สามารถติดตั้งและทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพ และเป็นรากฐานที่ทำให้การพัฒนานวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นไปได้ 1. หัวใจของนวัตกรรมในทุกภาคส่วน : PCB มีบทบาทสำคัญในทุกอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยี ตั้งแต่อุปกรณ์ส่วนบุคคลไปจนถึงอุตสาหกรรมยานยนต์ อุปกรณ์การแพทย์ และการบิน การที่อุตสาหกรรม PCB เติบโต หมายถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่สูงขึ้น 2. ตอบโจทย์การออกแบบขนาดเล็กและประสิทธิภาพสูง : เทคโนโลยี PCB รุ่นใหม่ เช่น High-Density Interconnect (HDI) และ Flexible PCB ช่วยให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มีขนาดเล็กลงและเบาขึ้น ขณะเดียวกันยังคงความสามารถในการประมวลผลและการใช้งานที่ซับซ้อน เช่น ในสมาร์ทโฟน รวมทั้งตอบโจทย์การใช้งานในอุปกรณ์สวมใส่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ 3. ความยืดหยุ่นและความทนทานที่เพิ่มขึ้น : PCB แบบ Rigid-Flex เป็นอีกนวัตกรรมหนึ่งที่ผสมผสานความแข็งแรงและความยืดหยุ่นในแผ่นเดียวกัน ซึ่งเหมาะสำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการความทนทานและความสามารถในการรับแรงกระแทก เช่น อุตสาหกรรมการบินและยานยนต์ 🔶ทำไมประเทศไทยถึงกลายเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของการลงทุนใน PCB ข้อมูลจากบีโอไอ สะท้อนว่าการลงทุนในอุตสาหกรรม PCB ของประเทศไทยมีการเติบโตอย่างน่าสนใจ จากปี 2561 ถึงกลางปี 2567 มีการลงทุนรวมเกือบ 200,000 ล้านบาท โดยเฉพาะในปี 2566 ที่มีการลงทุนสูงกว่า 100,000 ล้านบาท และในครึ่งปีแรกของปี 2567 การลงทุนเพิ่มอีก 39,732 ล้านบาท ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมและทิศทางของไทยที่กำลังก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการผลิต PCB ในระดับโลก 1. การเติบโตอย่างรวดเร็วของการลงทุนจากต่างประเทศ : นักลงทุนจาก จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น เข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น เนื่องจากความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคอื่นๆ และการมองเห็นศักยภาพในความเสถียรทางเศรษฐกิจและโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย 2. ข้อได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ : ไทยมี แรงงานที่พร้อมพัฒนาทักษะ โครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และ ห่วงโซ่อุปทานที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วน การเคลือบ การเจาะ การทดสอบทางไฟฟ้า รวมถึงการประกอบชิ้นส่วนขั้นสูง ทำให้สามารถรองรับการผลิตที่ต้องการความแม่นยำและเทคโนโลยีสูงได้อย่างเต็มที่ 3. การสนับสนุนจากบีโอไอ : ที่มีบทบาทสำคัญในการดึงดูดการลงทุนผ่านการมอบสิทธิประโยชน์ต่างๆ ทั้งการยกเว้นภาษี การยกเว้นภาษีนำเข้าวัตถุดิบ และการสนับสนุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน พร้อมทั้งยังเน้นการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะสูง ผ่านการจัดโครงการ Job matching และการฝึกอบรมบุคลากรเพื่อรองรับอุตสาหกรรม PCB โดยเฉพาะ 🔶การเติบโตสู่ระดับโลก : เป้าหมายของไทยใน 5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยตั้งเป้าที่จะก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 5 ประเทศผู้ผลิต PCB ชั้นนำของโลก ภายใน 5 ปีข้างหน้า การเป็นศูนย์กลางการผลิตในภูมิภาคและการเชื่อมโยงกับห่วงโซ่อุปทานระดับโลก ทำให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ต้องการขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง ประเทศไทยกำลังมุ่งหน้าไปสู่การเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรม PCB ระดับโลกภายใน 5 ปี ด้วยการสนับสนุนจากบีโอไอ ที่เน้น 3 ด้านหลัก คือ การพัฒนาบุคลากร การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) และ สนับสนุนการใช้พลังงานสะอาด เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน 1. การพัฒนาบุคลากร : บีโอไอ ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยและภาคเอกชนในการฝึกอบรมบุคลากรและจับคู่ธุรกิจ เพื่อสร้างแรงงานที่มีทักษะสูงสำหรับอุตสาหกรรม PCB 2. การเสริมสร้างห่วงโซ่อุปทาน : นอกจากการผลิต PCB แล้ว ไทยยังสนับสนุนกิจกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น การเคลือบ การเจาะ การเชื่อมวงจร และการผลิตชิ้นส่วนที่สนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานภายในประเทศ ผ่านงานจับคู่ธุรกิจอย่าง Subcon Thailand และ Thailand Electronics Circuit Asia (THECA) 3. การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ใช้พลังงานและน้ำจำนวนมาก จึงมีการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดผ่านโครงการ Utility Green Tariff (UGT) และการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้การผลิตมีความยั่งยืนและไม่กระทบต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงานสะอาด : การผลิต PCB ต้องการพลังงานและน้ำในปริมาณมาก ปัจจุบันกระทรวงพลังงานกำลังดำเนินโครงการ Utility Green Tariff (UGT) ซึ่งเป็นอัตราค่าไฟฟ้าที่ใช้พลังงานสะอาดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม เพื่อสนับสนุนการใช้พลังงานสีเขียวในภาคอุตสาหกรรม ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ลงทุนมั่นใจว่ามีแหล่งพลังงานสะอาดเพียงพอ รวมถึงการจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้กระบวนการผลิตยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨✨ #บีโอไอส่งเสริมการลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติทุกขนาดการลงทุน 📱 0 2553 8111 📧 head@boi.go.th 🌐 www.boi.go.th 🔰ไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดต่อ #PCB #SupplyChain #ThailandTechHub #PCBInnovation #TopPCBThailand
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 520 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🔥🔥สงครามการกีดกันการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน
    มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เมื่อล่าสุดสหรัฐฯได้เพิ่มภาษีนำเข้า
    สินค้าจากจีนหลายรายการ เช่น

    🚩เพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า เป็น 100%
    🚩เพิ่มภาษีนำเข้าแผ่นโซลาร์เซลล์ เป็น 50%
    🚩เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็ก อะลูมิเนียม แบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า
    และแร่ธาตุสำคัญ เป็น 25%

    ⚡มีผลบังคับใช้ 27 กันยายน 2567 นี้

    ที่มา: Reuters
    #หุ้นติดดอย #การลงทุน #สงรามการค้าสหรัฐจีน
    #thaitimes
    🔥🔥สงครามการกีดกันการค้าระหว่าง สหรัฐอเมริกา และ จีน มีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น เมื่อล่าสุดสหรัฐฯได้เพิ่มภาษีนำเข้า สินค้าจากจีนหลายรายการ เช่น 🚩เพิ่มภาษีนำเข้ารถยนต์ไฟฟ้า เป็น 100% 🚩เพิ่มภาษีนำเข้าแผ่นโซลาร์เซลล์ เป็น 50% 🚩เพิ่มภาษีนำเข้าเหล็ก อะลูมิเนียม แบตเตอรีรถยนต์ไฟฟ้า และแร่ธาตุสำคัญ เป็น 25% ⚡มีผลบังคับใช้ 27 กันยายน 2567 นี้ ที่มา: Reuters #หุ้นติดดอย #การลงทุน #สงรามการค้าสหรัฐจีน #thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1125 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts