ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ
WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต
เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ
เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน
เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน
เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด
เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้
ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้
ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน
องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง
ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน
แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ
น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว
ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้
ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต
เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ
เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน
เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน
เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด
เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้
ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้
ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน
องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง
ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน
แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ
น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว
ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้
ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ
WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต
เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ
เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน
เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน
เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด
เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้
ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้
ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน
องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง
ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน
แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ
น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว
ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้
ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
1 ความคิดเห็น
0 การแบ่งปัน
71 มุมมอง
9
0 รีวิว