• ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ

    WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง

    ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    ลิงก์นี้ลงในเฟสบุ๊กไม่ได้ครับ WHO กลับคำหลัง trump มา เคยประกาศเข้ม เรื่องต้องฉีดวัคซีนและต้องมีวัคซีนพาสปอร์ตจนกระทั่งถึงมีข้อมูลวัคซีนประจำตัวที่เป็นดิจิทัลไม่ใช่นั้นจะประสบปัญหา หลังtrump ขึ้น เปลี่ยนคำทันที การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส ทุจริต เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกา รวม CDC FDA ที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการกับบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี -เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้ง บริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วน หาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการ และไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำไม่นานมานี้ สนับสนุนสหภาพยุโรป ที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนแต่ต้น ของ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน มีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ https://youtu.be/XMTYBPqIM-I?si=jztZCg1I4k3_eLLR
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 9 0 รีวิว
  • คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง (12/11/67) #news1 #คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง #อุ๊งอิ๊งgetout
    คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง (12/11/67) #news1 #คนไทยในแอลเอถือป้ายไล่อุ๊งอิ๊ง #อุ๊งอิ๊งgetout
    Like
    Haha
    Love
    16
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 384 มุมมอง 336 1 รีวิว
  • ความอร่อยระดับตำนานที่อยู่คู่คนไทยเชื้อสายจีนมานานกว่า 40 ปี รื่นรสภัตตาคารเป็นอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วโบราณ ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยาก มีตั้งแต่เมนูแรกอย่าง แพะตุ๋นยาจีน กับหูฉลามน้ำแดง ผัดโหงวก้วย ข้าวผัดคะน้าปลาแห้ง เป็นต้น บอกเลยว่ารสชาติดีไม่เหมือนใคร ตอนนี้ทางร้านจัดเซตเดลิเวอรี่สำหรับครอบครัวไว้ด้วย ตามไปสั่งกันได้

    สั่งเดลิเวอรี่ 🛵 : LINE : @ruenros1976 / Line Man
    โทร : 06-44040-222, 09-7160-0004
    ร้านเปิดบริการ : 11.00-14.30 น. / 17.00-22.00 น.

    #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ความอร่อยระดับตำนานที่อยู่คู่คนไทยเชื้อสายจีนมานานกว่า 40 ปี รื่นรสภัตตาคารเป็นอาหารจีนสไตล์แต้จิ๋วโบราณ ซึ่งปัจจุบันหาทานได้ยาก มีตั้งแต่เมนูแรกอย่าง แพะตุ๋นยาจีน กับหูฉลามน้ำแดง ผัดโหงวก้วย ข้าวผัดคะน้าปลาแห้ง เป็นต้น บอกเลยว่ารสชาติดีไม่เหมือนใคร ตอนนี้ทางร้านจัดเซตเดลิเวอรี่สำหรับครอบครัวไว้ด้วย ตามไปสั่งกันได้ สั่งเดลิเวอรี่ 🛵 : LINE : @ruenros1976 / Line Man โทร : 06-44040-222, 09-7160-0004 ร้านเปิดบริการ : 11.00-14.30 น. / 17.00-22.00 น. #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 109 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์

    อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง

    ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน

    คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป

    แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา

    ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย

    ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ

    ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย

    แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร

    ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน

    แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย

    ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์"

    ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา

    Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น

    โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย

    พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง

    ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ

    ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม)

    ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน)

    กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น

    แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร

    ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา

    แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก

    ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย

    ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด

    สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย

    หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า

    "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน

    จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ"

    แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น

    หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด"

    บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better
    ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok

    ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA

    #Thaitimes
    เรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์เป็นตอนหนึ่งในประวัติศาสตร์ที่ถูกทำเป็น 'วัฒนธรรมป๊อป' มากที่สุดตอนหนึ่ง มีทั้งนิยาย ภาพยนต์ และล่าสุดคือละครหรือซีรีส์ อาจเป็นเพราะเรื่องของท้าวศรีสุดาจันทร์ให้อารมณ์หวาบหวิวจากการแอบลอบคบชู้กับพันบุตรศรีเทพ (ขุนวรวงศาธิราช) ทำให้มีการขยายความตอนนี้เป็นพิเศษ ทั้งๆ ประวัติศาสตร์ก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักเรื่องนี้เพียง ในเวลาต่อมาคอนเทนท์บันเทิงบางยุคเริ่มมีการใช้คำว่า 'แม่หยัว' เรียกท้าวศรีสุดาจันทร์ ทำให้คนเข้าใจผิดไม่น้อยว่า 'แม่หยัว' น่าจะหมายถึงอาการยั่วยวนเรื่องกามราคะ แต่ความจริง 'แม่หยัว' หมายถึง 'แม่อยู่หัว' ที่หมายถึงมเหสีของพระเจ้าแผ่นดิน คำว่าแม่อยู่หัวนั้นในบันทึกโบราณเรียกเพี้ยนเป็น แม่อยัว แม่หญัว แม่อยั่ว ฯลฯ แต่พอตอนนี้ของประวัติศาสตร์ถูกวัฒนธรรมป๊อปปั้นภาพลักษณ์ยั่วยวนของท้าวศรีสุดาจันทร์ขึ้นมา ทำให้คนเข้าใจคำว่า 'แม่หยัว' ผิดไป แต่นั้นมาคำว่า 'แม่หยัว' ก็กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์ เพียงแต่มันเกิดจากภาพจำผิดๆ ที่ 'นิยายอิงประวัติศาสตร์' สร้างขึ้นมา ย้ำอีกครั้งว่าเรื่องท้าวศรีสุดาจันทร์นั้นมีเนื้อหาไม่มากนักในทางประวัติศาสตร์ ดังนั้นถ้าจะทำเป็นคอนเทนต์บันเทิง จึงหลีกกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้อง "มโนเอาเอง" กันบ้าง เรื่องนี้เกิดขึ้นกับการสร้างคอนเทนต์บันเทิงกับบุคคลทางประวัติศาสตร์บางคนด้วย ที่เขียนมาทั้งหมดนี้เพื่อจะเท้าความ 'กรณีพิพาท' ระหว่างที่คนคิดว่าการทำละครอิงประวัติศาสตร์แบบเรื่อง 'แม่หยัว' ไม่เห็นจะต้องทำให้ตรงประวัติศาสตร์เป๊ะๆ กับฝ่ายที่ย้ำว่าไม่ควรที่จะมโนกันเกินไป ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าการทำ Historical fiction เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนถกเถียงกันมาโดยตลอดว่า มันมี "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" (Historically Accurate) แค่ไหน? เพราะนิยายอิงประวัติศาสตร์จะต้องอาศัยการมโนในสัดส่วนที่มากพอสมควร เพื่อปลุกเร้าอารมณ์ผู้เสพ ในกรณีของแม่หยัว อย่าไปถามเรื่อง "ความถูกต้องตามประวัติศาสตร์" เพราะเนื้อหาในประวัติศาสตร์มีนิดเดียว ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้จินตนาการได้มากมาย แต่การมโนก็ต้องดูสภาพแวดล้อมของทางประวัติศาสตร์ด้วย ไม่อย่างนั้นมันจะไม่เนียน เช่น ท้างศรีสุดาจันทร์เป็นเหตุการณ์สมัยอยุธยาตอนกลาง แต่ถ้าไปจับแม่อยู่หัวไปสวมมงกุฏสมัยละโว้มันก็หาได้เนียนไม่ เพราะเมื่อถึงยุค 'แม่หยัว' เขาเลิกใส่เครื่องหัวแบบนั้นกันแล้ว แล้วยังมีกฎมณเฑียรบาลที่ตราไว้ในสมัยอยุธยาตอนนั้นระบุการแต่งกายของแม่อยู่หัวเอาไว้แล้ว และยังมีภาพเขียนในสมุดภาพไตรภูมิสมัยอยุธยา (ที่ผมเชื่อว่าคัดมาจากต้นฉบับสมัยอยุธยาตอนต้น) ชี้ทางเอาไว้แล้วว่าสตรีชั้นสูงยุคนั้นแต่งตัวอย่างไร ความไม่เนียนแบบนี้เองที่จะทำให้ Historical fiction กลายเป็น Historical fantasy ซึ่งมีความเป็นประวัติศาสตร์อย่างเดียวคือฉากย้อนยุค ส่วนเรื่องอื่นๆ มโนตามใจฉัน แต่ในเมืองไทยเรื่องความเนียนไม่เนียนทางประวัติศาสตร์ยังไม่เรื่องใหญ่ระดับชาติ เพราะประวัติศาสร์บ้านเรากระท่อนกระแท่นและคนไทยแคร์ประวัติศาสตร์มากเท่ากับคนในประเทศเอเชียตะวันออก เช่น จีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ประเทศพวกนี้นอกจากต้องทำละครให้เนียนแบบ Historically Accurate แล้ว ยังต้องทำให้ถูกต้องในแบบ Politically correct ด้วย ผมจะยกตัวอย่างการสังเกตส่วนตัวจากกรณีของเกาหลีใต้ที่สร้างซีรีส์ย้อนยุคอยู่บ่อยๆ และมักเกิดกรณี "ซีรีส์เรื่องนี้บิดเบือนประวัติศาสตร์" ตัวอย่างเช่นซีรีส์เรื่อง Queen Seondeok ในปี 2009 ซึ่งสร้างจากยุคที่บันทึกประวัติศาสตร์ไม่ละเอียดมากนัก แต่สามารถยืดออกได้มากถึง 62 ตอน ในแง่ของความถูกต้องทางประวัติศาสตร์มีน้อย แถมคอสตูมยังไม่ถูกต้อง เรื่องนี้ถูกตำหนิในเกาหลีว่า "มโนประวัติศาสตร์" มากเกินไป และยังอ้างบันทึกประวัติศาสตร์ที่ถูกกล่าวหาว่าถูกปลอมขึ้นมา Queen Seondeok ถูกผู้มีความรู้ทางประวัติศาสตร์ตำหนิอย่างมาก เพราะแม้ว่าบันทึกสมัยชิลลาจะมีไม่มาก แต่มันก็เป็นบันทึกที่เที่ยงแท้ในทางประวัติศาสร์ การจะบิดเบือนความสัมพันธ์ของ 'ตัวละคร' หรือพฤติกรรมที่ถูกบันทึกไว้จริงๆ จึงไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มันก็เกิดขึ้น ความจริงแล้ว Queen Seondeok ควรจะเดินตามเส้นตรงของประวัติศาสตร์ เพราะโอกาสที่จะออกนอกประวัติศาสตร์มีแต่บทสนทนาเท่านั้น โปรดสังเกตว่าเรื่องนี้สร้างก่อนยุคโซเชียลจะแพร่หลาย พอโซเชียลมีเดียทรงพลังขึ้นมา การโจมตีซีรีส์อิงประวัติศาสตร์เริ่มจะสะเปะสะปะขึ้นทุกวัน เพราะแทนที่จะโจมตีความถูกต้อง กลับไปโจมตีเรื่องการเมือง ตัวอย่างเช่น Joseon Exorcist เมื่อปี 2021 ที่ฉายได้แค่ 2 ตอนก็แท้งซะก่อน เพราะถูกตำหนิว่าใช้ฉากประกอบที่อ้างว่าไม่ตรงกับความจริงทางประวัติศาสตร์ เช่น ใช้ อุปกรณ์ของจีนในเกาหลีโบราณ ในปี 2022 เกิดกรณี Under the Queen's Umbrella ถูกตำหนิว่า บิดเบือนประวัติศาสตร์ เพราะใช้ตัวอักษรจีนแบบตัวย่อ (ที่เพิ่งประดิษฐ์ขึ้นในยุคสมัยใหม่ ส่วนเกาหลีใช้อักษรจีนตัวเต็ม) ในปี 2024 มีกรณี Queen Woo ถูกตำหนิว่าเครื่องแต่งกายของตัวละครมีความเป็นจีนมากเกินไป ไม่น่าจะสอดคล้องกับคนเกาหลีในยุคโคกูรยอ (ทั้งที่โคกูรยอก็รับวัฒนธรรมจากจีน) กรณีเหล่านี้มีอะไรเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ 'กระแสต่อต้านจีน' ในเกาหลีใต้ ทั้งๆ ที่เกาหลีเป็นเขตอิทธิพลของวัฒนธรรมจีนมาแต่โบราณ แค่เรื่องนี้เป็น 'อคติ' ของผู้ชมเกาหลีใต้เองที่เกลียด เหยียด และกลัวจีนมากขึ้น แต่ในแง่เนื้อหาทางประวัติศาสตร์ กรณีพวกนี้เหมือนกันอย่างหนึ่ง คือ เกิดขึ้นในยุคโชซอน ซึ่งมีการบันทึกประวัติศาสตร์ทางการอย่างละเอียด กระทั่งบันทึกไว้ว่ากษัตริย์ตรัสถ้อยคำไว้อย่างไร ในยุคสมัยที่บันทึกละเอียดแบบนี้การมโนจึงทำไม่ได้ เพราะไม่มีพื้นที่ว่างให้จินตนาการได้อีก ตรงกันข้ามกับเรื่อง Queen Woo ซึ่งเกิดในยุคโคกูรยอ ซึ่งมีประวัติศาสตร์บันทึกกระท่อนกระแท่นเหมือนประวัติศาสตร์ไทย ดังนั้นจึงมีพื้นที่ให้มโนได้มากตามใจปรารถนา แต่ถึงจะมโนได้มาก แต่อารมณ์ชาตินิยมที่รุนแรงในเกาหลีใต้ไม่อนุญาตให้มโนได้ตามใจชอบอีก ไม่ใช่เพราะผู้สร้างบิดเบือนประวัติศาสตร์ แต่ทำงานออกมาไม่ถูกใจพวกชาตินิยมสุดโต่งต่างหาก ดังนั้น ในโลกของนิยายอิงประวัติศาสตร์ จึงไม่มีคำว่าถูกต้องเป๊ะๆ ยิ่งในปัจจุบันมีแต่คำว่า "ถูกใจคนดูหรือไม่" โดยที่ความถูกใจของคนดูไม่ใช่ถูกใจเพราะดาราแสดงดี หรือเครื่องแต่งกายสวย แต่ยังต้องคล้องจองกับ 'วาระทางการเมือง' ของคนดูด้วย ยกตัวอย่างจีน ซึ่งบางคนยังเชื่อว่าจีนทำซีรีส์พีเรียดมากมายเพราะอนุญาตให้มโนได้ ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด สังคมจีนและสถาบันรัฐจีน (ที่ชาตินิยมขึ้นทุกวัน) ไม่ได้อนุญาตให้มโนประวัติศาสตร์ได้ สิ่งที่คนไทยเห็นว่าจีนจินตนาการประวัติศาสตร์นั้น คือ สิ่งที่เรียกว่า Historical fantasy คือใช้ฉากย้อนยุคที่กำกวม ใช้คอสตูมที่อาจจะอยู่ในยุคที่คาดเดาได้ แต่ไม่มีเหตุการณ์นั้นจริงๆ เช่นเรื่อง Nirvana In Fire เมื่อปี 2015 ที่ทำให้เชื่อว่าอยู่ในยุคหนานเป่ยเฉา แต่เอาจริงๆ มันไม่มีสถานการณ์จริงและตัวบุคคลจริงอยู่เลย หากมีซีรีส์ที่ทำเนื้อหาจริงๆ ทางประวัติศาสตร์ หากเลินเล่อเกินไปก็จะถูกโจมตีอย่างหนัก เช่น Legend of Miyue ที่อิงประวัติศาสตร์ยุคจ้านกั๋ว แต่ถูกวิจารณ์เรื่องข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ เรื่องนี้มีความเห็นที่น่าสนใจจาก หลีเสี่ยวเหว่ย บรรณาธิการบริหารของ "จงกั๋วชิงเหนียนหว่าง" (中国青年网) ของทางการจีน ตอนที่ซีรีส์เรื่องนี้ถูกตำหนิ เขากล่าวว่า "จักรพรรดินีองค์แรกของจีนในเรื่อง "Legend of Miyue" ซีรีส์ทางทีวีใช้ตัวละครและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่ถูกต้อง แต่ไม่ได้ติดตามข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์พื้นฐาน และถึงกับแต่งเรื่องขึ้นมาด้วยซ้ำ ปรากฏการณ์นี้ช่างน่าเป็นห่วง ประการแรก มันจะนำพาผู้คนให้เข้าใจผิดเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และก่อให้เกิดข่าวลือ ประการที่สอง นี่คือทิศทางที่ผิดปกติของการพัฒนาละครประวัติศาสตร์ ซึ่งจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" ในเรื่องนี้ทางเกาหลีก็เห็นด้วยกับจีน จากกรณีของ Queen Seondeok อีจองโฮ ผู้สื่อข่าวของ "ยอนเซ ชุนชู" (연세춘추) สื่อของมหาวิทยาลัยยอนเซ ถึงกับบอกว่า "Queen Seondeok คือเรื่องโกหก" และได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญซึ่งชี้แนะว่า"ตามที่ศาสตราจารย์ ชาฮเยวอน (ภาควิชาศิลปศาสตร์ ประวัติศาสตร์ราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ชิงของจีน) กล่าวไว้ ละครประวัติศาสตร์จีนมักจะมีความเที่ยงตรงต่อข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งแตกต่างจากละครประวัติศาสตร์เกาหลี ความจริงของละครประวัติศาสตร์เกาหลีคือความจริงทางประวัติศาสตร์ถูกละเลยเพื่อความบันเทิงและเรตติ้งผู้ชม เพื่อแก้ปัญหานี้ จำเป็นต้องมีการไตร่ตรองภายในอุตสาหกรรมการออกอากาศ" แม้ว่าประเทศไทยจะมีประวัติศาสตร์ที่เบาบางต่างจากจีนและเกาหลี แต่เราสามารถใช้มาตรฐานแบบนี้ได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องเป๊ะคือแกนหลักในประวัติศาสตร์ อย่าตีความมากเกินไปเพราะต้องเคารพ "ผู้ที่ตายไปแล้วซึ่งไม่มีโอกาสร้องอุทรณ์แก้ต่างให้ตัวเอง" ด้วย ส่วนสิ่งที่จินตนาการได้ก็ควรทำให้ตรงกับบริบทแวดล้อมของยุคนั้น หากทำเอาสนุกอย่างเดียว ก็ "จะนำไปสู่ความเสื่อมถอยของละครประวัติศาสตร์ในที่สุด" บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better ภาพโปสเตอร์โปรโมทซีรีส์เรื่อง แม่หยัว และ Queen Seondeok ที่มา https://www.thebetter.co.th/news/world/23351?fbclid=IwZXh0bgNhZW0CMTEAAR3w6ch-KVjjFiWzTmp8gh2-HSMqAh7UX0lxC3jm2_5RD0J97vIDxYCrljo_aem_wMoYw4S-NqnmnAfELQfeSA #Thaitimes
    WWW.THEBETTER.CO.TH
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    ความไม่เนียนของ'ซีรีส์อิงประวัติศาสตร์' ต้องเป๊ะประวัติศาสตร์แค่ไหน?
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 162 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแสดงความยินดีกับคนไทย…🌷🌷
    ถ้าชาติล่มจมก็เป็นเพราะคนไทยเลือกทางเดินเอง👏🏻👏🏻👏🏻🇹🇭
    และขอขอบคุณสามป.ที่อุตส่าห์หาวิธีให้ทักษิณกลับมาครอบงำชาติไทยจนเละเทะไปหมด👍🏼👏🏻
    คงมีความสุขสบายกันดีตลอดไปนะครับ😰🇹🇭
    ขอแสดงความยินดีกับคนไทย…🌷🌷 ถ้าชาติล่มจมก็เป็นเพราะคนไทยเลือกทางเดินเอง👏🏻👏🏻👏🏻🇹🇭 และขอขอบคุณสามป.ที่อุตส่าห์หาวิธีให้ทักษิณกลับมาครอบงำชาติไทยจนเละเทะไปหมด👍🏼👏🏻 คงมีความสุขสบายกันดีตลอดไปนะครับ😰🇹🇭
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 16 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยังมีหน้าว่าคนไทย...พวกคลั่งชาติ
    ยังมีหน้าว่าคนไทย...พวกคลั่งชาติ
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง
    ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส

    เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกาที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ

    เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน

    เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด

    เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้

    ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้งบริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วนหาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้

    ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ
    เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง
    รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการและไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน

    องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต
    ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำ สนับสนุนสหภาพยุโรปที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนที่ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนมีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน

    แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ

    น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ
    ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว

    ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้

    ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    การขึ้นรัฐบาลใหม่ของสหรัฐที่มีการประกาศชัดเจนถึงเรื่อง ยกเลิกการสนับสนุนให้เงินองค์การอนามัยโลกเพราะไม่โปร่งใส เรื่องรื้อองค์กรทางสาธารณสุขของประเทศอเมริกาที่มีความสัมพันธ์แนบแน่นกับบริษัทยาและวัคซีนรวมทั้งเชื่อมโยงไปถึงนักวิชาการ เรื่องเลิกบังคับการฉีดวัคซีน เรื่องจัดการบริษัทที่เลิกจ้างพนักงานหรือกองทัพที่ปลดทหาร ที่ไม่ยอมฉีดวัคซีน เรื่องจัดการด็อกเตอร์เฟาซี เกทส์ ที่เป็นตัวการในการส่งเสริมให้ทุนการสร้างไวรัสใหม่ที่ร้ายแรงกว่าเดิมจะได้ปล่อยวัคซีนออกมา รวมทั้งกลบเกลื่อนร่องรอย โควิดหลุดออกมาจากห้องแลป โดยที่มีพิมพ์เขียวของตัวไวรัสอยู่แล้วก่อนหน้าที่จะมีการระบาดของโควิด เรื่องความไม่ปกติของวัคซีนที่ปล่อยออกมาทั้งสิ่งที่ปนเปื้อนและความสามารถที่จะก่อให้เกิดผลแทรกซ้อนต่างๆได้ ทั้งนี้หลังจากที่ประกาศชนะการเลือกตั้งบริษัทยาและวัคซีนยักษ์ใหญ่มีการประชุมด่วนหาทางบรรเทาภัยพิบัติหายนะที่จะเกิดขึ้น เพราะ จะต้องมีการเรียกชดเชยเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ ในประเทศไทยเอง ลักษณะเป็นเช่นกัน ที่มีเส้นสายโยงไย และจะเป็นลูกกระป๋องให้องค์การต่างๆ เหล่านี้ทำต่อไม่ได้แล้ว เพราะถูกเปิดโปง รวมทั้งองค์การอนามัยโลกเช่นกัน ที่ถูกต่อต้านเรื่องบังคับให้ประเทศในโลกลงนามในสนธิสัญญาที่ต้องทำตามโดยไม่บิดพลิ้วในเรื่องการประกาศโรคระบาด ต้องใช้วัคซีนต้องใช้ยาตามที่องค์การอนามัยโลกสั่งทุกทุกประการและไม่สามารถใช้สิ่งที่หาได้ในประเทศของตนเอง และสหรัฐต่อต้านสนธิสัญญานี้และจะออกจาก องค์การอนามัยโลกรวมทั้งเลิกให้ทุน องค์การอนามัยโลกในระยะแรก สั่งให้ทำทุกอย่างเข้มงวด สั่งให้ฉีดวัคซีน สั่งให้มีวัคซีนพาสปอร์ต ไม่เช่นนั้นเดินทางไม่ได้และมิหนำซ้ำ สนับสนุนสหภาพยุโรปที่จะให้มีการทำข้อมูลดิจิตอลของประชาชนและจะขยายครอบคลุมไปทั้งโลกให้คนทั้งโลกต้องฉีดวัคซีนตามสั่งไม่เช่นนั้นไม่สามารถทำอะไรได้ รวมทั้งเดินทาง ซึ่งเป็นแผนที่ เฟาซี ได้กล่าวให้การในสภาของเกรสว่า ต้องทำให้ประชาชนที่ไม่ยอมฉีดวัคซีนมีชีวิตด้วยความยากลำบากไม่สามารถออกไปซื้อหาอาหาร ไม่สามารถเดินทาง ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และต้องถูกออกจากงาน แต่หลังจากที่เปลี่ยนรัฐบาลองค์การอนามัยโลกกลับคำ ว่าไม่ได้สั่งเช่นนั้นเป็นเรื่องของแต่ละประเทศเองที่ทำเอง ดังนั้นเป็นการโยนของเหลวสกปรกกลับให้แต่ละประเทศ น่าคิดที่กระทรวงทบวงกรมสถาบันสมาคม ยังมีการสนับสนุนวัคซีนเทคโนโลยีเหล่านี้ โดยไม่แยแสต่อ ผลกระทบร้ายแรงทั้งเฉียบพลันและระยะยาว ในสหรัฐ ที่ล่าสุดมีการให้ข้อมูลต่อคณะรัฐบาลใหม่ในเรื่องของความผิดปกติของวัคซีนซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และบิดเบือนไม่ได้ ความจริงมีหนึ่งเดียวไม่สามารถบิดเบือนได้ และใครที่ทำให้เกิดความสูญเสียของชีวิตคนไทยต้องถูกชดใช้และต้องรับผิดชอบ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 70 0 รีวิว
  • 11-11-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.44 ชื่อตอนว่า "AMERICAN SURVIVE 2(จบ)" ต่อกันเลยไม่เสียเวลาชง!

    6.อำนาจ 2 ขั้ว กองทัพ 2 เหล่า จะวัดกำลังกัน แนวร่วมที่อีทรัมปป์ดึงมาสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าอินเดียนแดง 6 ล้าน คนดำที่เคยอาฆาตกรณีตำรวจฆ่าคนดำ หรือแม้แต่แรงงานต่างถิ่นที่เป็นพลเมืองไปแล้ว คะแนนที่มาแลนด์สไลด์ เพราะพลังเงียบที่ทนไม่ไหว ออกมานั่นเอง นี่ต่างหากที่อีทรัมปป์ล่ออีลาตายคาที่ ไม่ใช่แค่คะแนนจัดตั้งเหมือนที่ผ่านมา แล้วไปวัดกันที่ SWING STATE แบบนี้มันเคยโกงกูมาแล้ว ถึงได้แพ้อีเอ๋อไงล่ะ บทเรียนสอน ต้องดึงคะแนนเงียบออกมาให้เกลี้ยง ที่มาว่าทำไม ประกาศท้ารบ DEEP STATE ปลดแอกอินเดียนแดง ไล่แรงงานเถื่อน ผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ซึ่งส่วนใหญ่คือเด็กเหี้ย C ที่ทำงานระยำบัดซบทั่วโลก แล้วหนีเข้ามาซุกหัวในอเมริกา ดอกนี้ เป็นล้านน่ะจ๊ะ มันคือหัวคะแนนอีพรรคลาด้วยเช่นกัน จากนี้ คือการล้างบางทุกนโยบายที่อีเอ๋อ เคยทำมา เขี่ยลงถังขยะหมด เค้าเรียกล้างป่าช้า อีทรัมปป์มางวดนี้ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งสภาสูง สภาล่าง แค่สั่ง ชีวิตเปลี่ยนทันที ไม่ต้องรอใครอนุมัติ ไม่ต้องกลัวใครจะมาขัดขาได้อีก? การปะทะของ 2 ฝ่าย ทั้งหน้าฉาก หลังฉาก จะรุนแรงขึ้นจนเปิดศึกใหญ่ในที่สุด

    7.ศัตรูทรัมปป์ จะสู้กับอเมริกาทั้งแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อเมริกาไม่พร้อมจะรบกับรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง ตอนนี้ หมายังรู้? แก้เกี้ยว ซื้อเวลา ขอจัดระเบียบภายในบ้านก่อน กล่าวคือกำจัดอีลาก่อน แล้วค่อยแตกแผ่นดิน เมื่ออเมริกาแตก ก็ไม่ใช่ศัตรูรัสเซีย จีน อีกต่อไป แผ่นดินที่เหลือกูตั้งรัฐยิวใหม่ได้ ตั้ง TRUMP LAND ได้ ทั้งหมด เพื่อ "หนีหนี้" ไม่มีอเมริกา แล้วมรึงจะไปทวงเงินกับใครล่ะ? แต่เจ้าหนี้ก็ไม่โง่ เงินไม่มี จ่ายมาเป็นแผ่นดินสิจ๊ะ รูปแบบจะเป็นสัญญาเช่าก็ดี ซื้อขาดก็ดี เข้าไป TAKE OVER หนี้ รัฐยากจนเป็นเจ้าหนี้รายใหม่แทนก็ดี สุดท้าย อเมริกาก็ต้องแตก ไม่มีทางเลือกอื่น คำถามคือ อีลา จะทำยังไง เพื่อจะเอาอีทรัมปป์ลงจากอำนาจให้ได้ CIVIL WAR จะเกิดได้จริง ต้องเป็นเรื่องแยกดินแดน เมื่อ 50 รัฐ ไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาลกลาง ภาพที่เห็นคือ "ปฎิวัติอเมริกา" อีลาดึงประชากรลา อีช้างดึงประชากรช้าง แยกกันอยู่ไปเลย อย่าลืมว่า อียิวยังมีทางเลือก อีแคนจะรับอุ้มอียิวแบบหมดหน้าตัก อเมริกาจะถูกย่อส่วน เพื่อเปิดทางให้เกิดรัฐยิวใหม่ อีกทางเลือกคือ ส่วนที่ไม่มีใครเอา อีแคนอาจจะผนวกแผ่นดินเข้าร่วมกัน โดยเฉพาะแผนดินที่ใกล้ ทั้งซีแอตเติล DC ไม่มีใครรู้ดอกว่า อียิวมันจะทำอะไรต่อ หลังย้ายจากเยรูซาเล็ม แต่ตะวันออกกลางจะเปลี่ยนโฉมหน้าทันที สงครามจะหายไป การค้าจะเฟื่องฟู ปาเลสไตน์จะกลายเป็นฮับ เชื่อมั้ยล่ะ?

    8.อเมริกาในมือทรัมปป์จะเป็นอย่างไร กับรัสเซีย จีน? ยุติสงคราม ไม่ได้เกิดเพราะทรัมปป์ชัวร์ สงครามจะจบหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่กำหนด? จำคีย์นี้ไว้ให้ดีดี ผู้ชนะ จะเป็นผู้กำหนดกติกาใหม่ทุกอย่าง แล้วอีทรัมปป์จะทำยังไงต่อ ฉากหน้าคือถอย ฉากหลังคือเติมอาวุธ ขายอาวุธ ส่งให้พวกเสี้ยนสงคราม นั่นคือ "อีโง่ยุโรป" นี่คือที่มาว่า ทำไม EU ถึงยังมีมติส่งอาวุธให้ยูเครนต่อ เพราะกลัวถูกรัสเซียกลืน ซึ่งมรึงโดนอยู่แล้ว ไม่รอด! ทำไมกูต้องส่งทหารไปตายเปล่าอีกล่ะ ในเมื่อมีไอ้โง่อยู่ทั้งฝูง หลอกให้ไปตายห่าแทน แถมขายอาวุธส่ง ทำกำไร 2 ต่อ มันคืออีกหนทางรอดของทรัมปป์ หากหักดิบมากเกินไป อาจบีบให้ DEEP STATE ซึ่งเป็นพ่อค้าอาวุธ หันมาโฟกัสฆ่ามรึงชัวร์ แต่หากยังมีผลประโยชน์ร่วม กูยังจะไม่หักมรึงซะทีเดียว ทุกอย่างคือ "ละคร" สรุปคือ ยุติสงครามในความหมายของทรัมปป์คือ อเมริกาไม่ต้องรบ ให้ยุโรปไปรบ ตายห่าแทน ขายอาวุธต่อ เสี้ยมต่อ ดอกนี้ ปูติน รู้ทัน แต่ขณะเดียวกัน อีทรัมปป์ก็ไม่โง่ ยืมมือรัสเซีย จีน ช่วยกำจัด DEEP STATE ไปด้วย โชว์สื่อโทรหาปูติน เรียกเรตติ้ง ว่ากูเดินหน้าจริง สรุปคือ อีทรัมปป์ควบทั้งเก่าและใหม่ ขอแค่กูยังอยู่ในอำนาจพอ หล่อเลี้ยงท่อน้ำเลี้ยงไม่ให้ขาด ทุกอย่างจะตามน้ำเอง ใครยังขัดขืน จ่ายหนัก เปลี่ยนทันที ทุกอย่างพูดด้วยเงิน ทุนนิยมไม่มีอะไรมากกว่า เอาเงินฟาดหัว?

    9.ภาพชัดเจน ท่าทีของขั้วใหม่ นับจากนี้ จีนจะเดินเกมส์การค้าสุดขั้ว ชนซึ่งหน้าสหรัฐ แน่นอนว่า อีทรัมปป์คลั่ง เล่นแร่แปรวิญญาน เพื่อเรียกแรงงานกลับบ้าน ที่ผ่านมา คนตกงานเยอะ แล้วอะไรจะสร้างงานล่ะ ก็ดันธุรกิจอเมริกันก่อนไงล่ะ ฟื้นฟู ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ให้มีคู่แข่ง หรือผูกขาดนั่นเอง ดอกนี้ จะเป็นต้นเหตุให้ WTO ตัดหางอเมริกา แล้วหันไปจูบปากจีนแทน อีทรัมปป์ไม่สนดอก แค่เอาคนในชาติรอด แค่อเมริกาฟื้น เรื่องอื่นเรื่องเล็ก ที่มันทำทั้งหมด ไม่ได้รักอเมริกา หรือภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด ชงต่อตั้ง TRUMP LAND ในอนาคต ตั้งตนเป็น KING หรือประมุขรัฐใหม่ พูดง่ายๆ สาวกทรัมปป์ทั่วโลก เชิญมาอยู่รวมกับกูที่นี่นั่นเอง มันคืออเมริกาใหม่ที่มีแต่ทรัมปป์ไงล่ะ? จีน รัสเซีย ไม่แคร์ดอกว่าทรัมปป์จะทำอะไร เพราะแผนพิมพ์เขียวเค้ามีรอนานแล้ว เดินหน้าต่อ ยิ่งทรัมปป์มา รัสเซีย จีน ยิ่งชอบ เพราะปากพาจน! มันง่ายที่จะคุย มันควบคุมเกมส์ง่ายขึ้น อย่าลืมน่ะว่า สิ่งที่รัสเซียจะทำจากนี้ มันคือ "สยบทั้งยุโรป" และนั่นคือสิ่งที่ทรัมปป์ต้องการเช่นกัน ศัตรูของทรัมปป์มีแต่จีน ที่ยังหาแดร๊กเก่งกว่า นี่คือจุดเปราะบาง ทำให้เกิดสงครามการค้าครั้งใหญ่ ที่แบ่งโลกกันไปเลย ลูกค้าเอเซีย ลูกค้าอเมริกา เอาให้ชัด สุดติ่ง สุดขั้ว กันไปเลย?

    10.จะใช้เวลานานแค่ไหน? อีทรัมปป์จะรอด หรืออยู่ยาว ทั้งหมด อยู่ที่หมากที่เดินอยู่ หากเดินพลาด ขั้วใหม่ขยี้ทันที โลกรองรับ อีลาพร้อมซ้ำ ดังนั้น อีทรัมปป์ต้องยึดแนวทางที่คะแนนเสียงให้มาก่อน อย่าเพิ่งรีบหักดิบกับกลุ่มผลประโยชน์มากเกินไป คราวก่อนที่มา พูดอย่าง ทำอีกอย่าง สร้างกำแพงกั้นผู้อพยพ งวดนี้ อเมริกาจะกลายเป็นคุกขนาดใหญ่ของโลก มรึงคอยดูสิ? ทรัมปป์ต้องรักษาสมดุลของอำนาจกับฝ่ายความมั่นคง กองกำลังตัวเองต้องมี และบอกเลยว่า จะค่อยๆ ดูดแสนยานุภาพกองทัพ เข้ากองทัพ(ทรัมปป์)ตัวเอง เพราะเตรียมการแตกอเมริกา มันต้องใช้อะไรล่ะ? กองทัพอีตาเพน รัฐบาลกลาง มีไม่พอ ที่จะสู้กับทั้ง 22 รัฐ ที่อีช้างครอบงำอยู่ เพราะมีสปอนเซอร์จากต่างประเทศเข้ามาไงล่ะ รัฐทำเงิน จะเกิดการแย่งชิงจากทั้ง 2 ฝ่าย รัฐยากจน คนดำ ภาคโรงงาน จะถูกทิ้ง แต่อาหรับ จีน รัสเซีย จะเข้ามาอุ้มต่อ ทำไม อีแคน ที่คิดจะเขมือบรวมแผ่นดินอยู่แล้ว ไม่เข้ามาอุ้มทั้งหมดไปเลยล่ะ เพราะมีอียิวเป็นนายทุนอยู่แล้ว สันดานยิว อะไรเสื่อม อะไรเจ๊ง ต้องฟื้นฟู มันไม่ทำ มันจะเอาท่าเดียว จ่ายไม่เอา ลงทุนไม่คุ้ม พลเมืองชั้น 3 ใครจะอยากรับไว้ CIVIL WAR จะเกิดได้เร็ว หากมีอุบัติเหตุการเมือง และนั่นคือสิ่งที่อยู่ในแผน อียิวเหี้ยไซออนนิสต์ มันเอาแน่! และขั้วใหม่ก็รออยู่เช่นกัน

    ปล.จับตาดู วงการทนาย วงการบันเทิง วงการสีกากี วงการแพทย์ วงการกรมคุก วงการสื่อ วงการพลังงาน วงการหวย วงการรับเหมา วงการอสังหาริมทรัพย์ และอีกหลายวงการ จะถูกชำแหละในไม่ช้านี้ ทุกองคาพยพที่หลอกแดร๊กคนไทยในทุกเรื่อง จะถูกเปิดออกหมดสิ้นด้วยพลังแห่งแสง ความจริง ความถูกต้อง ชอบธรรม ขบวนการต่างๆ ที่บั่นทอนชาติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่ ไส้ศึก ไอ้อีขายชาติ จะดาหน้ากันโผล่ออกมาจนหมด เสนอหน้าแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว สัญญานคือ "ปลายกลียุค" เชื้อชั่วทั้งหลายจะต้องทิ้งทวนก่อนจะกลับขุมนรก รอดูอะไรดีดีอีกเยอะ ไอ้อีที่มรึงคิดว่าดี ที่เคยบูชา ที่เคยหลงใหล หางจะโผล่หมด นี่คืออิทธิฤทธิ์แห่งแสง คนดีจริง ไม่กลัวไฟ เรื่องของบ้านทรายทอง มันถึงเวลาต้องสังคายนากันใหม่ทั้งหมด ทำลายทิ้งแล้วเริ่มสร้างกันใหม่ สังคมใหม่ที่ไม่บูชาเงินเป็นพระเจ้า คนรวยเว่อร์จะหดหาย กลัวหัวหด ไม่กล้าอวดรวยกันอีกนาน เพราะสรรพากร ฟอกเงิน ปปง. ตามสืบมรึงแน่ ทุกอย่างที่มรึงเคยบ่นกัน บทเวลาจะไป มันเหมือนคลื่นสึนามิ กวาดทุกอย่างลงทะเลหมด ไปเร็วมาก จนมรึงดีใจยังไม่ทันจะหายปลื้ม ไปหมดล่ะ? ปล่อยวางซะ มรึงไม่ใช่เจ้าของจักรวาล ปล่อยให้วิถีแห่งกรรม ทำงานของมันไปเหอะ มรึงแค่รับรู้ รับทราบ และระมัดระวังตัว อย่าทำชั่วก็พอ แค่นี้ ก็ช่วยยกแผ่นดินสูงขึ้นได้แล้ว เรื่องของโลก ปล่อยให้โลกเค้าจัดการไป เรื่องของไทย ปล่อยสวรรค์เค้าจัดการเอง แค่มรึงตั้งสติ อานิสงค์แห่งบุญจะก่อเกิด จิตขุ่นเพราะไปเสพอาจม ใจฟู เพราะไปเสพธรรมะ สัจธรรม ทุกอย่างมันมีทางของมันเอง ไม่ต้องกังวลอะไรมาก มันเดินมาถูกทางแล้ว

    หมี CNN(การเปลี่ยนแปลงมาแล้ว แค่ดูอย่างตั้งสติ ไม่มีอะไรตายตัว ทุกอย่างอยู่ที่พลังแห่งกรรม โลกเค้าเปลี่ยนไปแล้ว ไทยเราก็ต้องเปลี่ยนตามเค้า ไม่มีใครต้านพลังแห่งแสงได้ดอก เหี้ยยังไง เลวแค่ไหน? ก็เปลี่ยนได้หมด สงครามแค่เปลือก อำนาจแค่แย่งชิง แต่ใครที่ทำให้โลกอุ่นใจ สบายใจ ปลอดภัย จะเป็นเป้าหมายของผู้แสวงหาความสุขเอง ไทยเรามีดีในตัว เดี๋ยวโลกจะแห่กันมาขออยู่เป็นเพื่อนมรึงเอง อียิวก็ขอย้ายมาด้วยน่ะ ไม่เป็นไร กูชี้เป้าให้เพ่น้องมุสลิมเอง ปักหมุดให้เสร็จ มาสิจ๊ะ มุสลิมปาร์ตี้รออยู่)
    11 พฤศจิกายน 67
    09.55 น.

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    https://www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**
    https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    11-11-67/01 : หมี CNN / คัมภีร์หมี วิชัยยุทธ" EP.44 ชื่อตอนว่า "AMERICAN SURVIVE 2(จบ)" ต่อกันเลยไม่เสียเวลาชง! 6.อำนาจ 2 ขั้ว กองทัพ 2 เหล่า จะวัดกำลังกัน แนวร่วมที่อีทรัมปป์ดึงมาสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็นชนเผ่าอินเดียนแดง 6 ล้าน คนดำที่เคยอาฆาตกรณีตำรวจฆ่าคนดำ หรือแม้แต่แรงงานต่างถิ่นที่เป็นพลเมืองไปแล้ว คะแนนที่มาแลนด์สไลด์ เพราะพลังเงียบที่ทนไม่ไหว ออกมานั่นเอง นี่ต่างหากที่อีทรัมปป์ล่ออีลาตายคาที่ ไม่ใช่แค่คะแนนจัดตั้งเหมือนที่ผ่านมา แล้วไปวัดกันที่ SWING STATE แบบนี้มันเคยโกงกูมาแล้ว ถึงได้แพ้อีเอ๋อไงล่ะ บทเรียนสอน ต้องดึงคะแนนเงียบออกมาให้เกลี้ยง ที่มาว่าทำไม ประกาศท้ารบ DEEP STATE ปลดแอกอินเดียนแดง ไล่แรงงานเถื่อน ผู้อพยพ ผู้ลี้ภัย ซึ่งส่วนใหญ่คือเด็กเหี้ย C ที่ทำงานระยำบัดซบทั่วโลก แล้วหนีเข้ามาซุกหัวในอเมริกา ดอกนี้ เป็นล้านน่ะจ๊ะ มันคือหัวคะแนนอีพรรคลาด้วยเช่นกัน จากนี้ คือการล้างบางทุกนโยบายที่อีเอ๋อ เคยทำมา เขี่ยลงถังขยะหมด เค้าเรียกล้างป่าช้า อีทรัมปป์มางวดนี้ เบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งสภาสูง สภาล่าง แค่สั่ง ชีวิตเปลี่ยนทันที ไม่ต้องรอใครอนุมัติ ไม่ต้องกลัวใครจะมาขัดขาได้อีก? การปะทะของ 2 ฝ่าย ทั้งหน้าฉาก หลังฉาก จะรุนแรงขึ้นจนเปิดศึกใหญ่ในที่สุด 7.ศัตรูทรัมปป์ จะสู้กับอเมริกาทั้งแผ่นดิน ตีโจทย์ให้แตก อเมริกาไม่พร้อมจะรบกับรัสเซีย จีน อิหร่าน โสมแดง ตอนนี้ หมายังรู้? แก้เกี้ยว ซื้อเวลา ขอจัดระเบียบภายในบ้านก่อน กล่าวคือกำจัดอีลาก่อน แล้วค่อยแตกแผ่นดิน เมื่ออเมริกาแตก ก็ไม่ใช่ศัตรูรัสเซีย จีน อีกต่อไป แผ่นดินที่เหลือกูตั้งรัฐยิวใหม่ได้ ตั้ง TRUMP LAND ได้ ทั้งหมด เพื่อ "หนีหนี้" ไม่มีอเมริกา แล้วมรึงจะไปทวงเงินกับใครล่ะ? แต่เจ้าหนี้ก็ไม่โง่ เงินไม่มี จ่ายมาเป็นแผ่นดินสิจ๊ะ รูปแบบจะเป็นสัญญาเช่าก็ดี ซื้อขาดก็ดี เข้าไป TAKE OVER หนี้ รัฐยากจนเป็นเจ้าหนี้รายใหม่แทนก็ดี สุดท้าย อเมริกาก็ต้องแตก ไม่มีทางเลือกอื่น คำถามคือ อีลา จะทำยังไง เพื่อจะเอาอีทรัมปป์ลงจากอำนาจให้ได้ CIVIL WAR จะเกิดได้จริง ต้องเป็นเรื่องแยกดินแดน เมื่อ 50 รัฐ ไม่ยอมรับอำนาจรัฐบาลกลาง ภาพที่เห็นคือ "ปฎิวัติอเมริกา" อีลาดึงประชากรลา อีช้างดึงประชากรช้าง แยกกันอยู่ไปเลย อย่าลืมว่า อียิวยังมีทางเลือก อีแคนจะรับอุ้มอียิวแบบหมดหน้าตัก อเมริกาจะถูกย่อส่วน เพื่อเปิดทางให้เกิดรัฐยิวใหม่ อีกทางเลือกคือ ส่วนที่ไม่มีใครเอา อีแคนอาจจะผนวกแผ่นดินเข้าร่วมกัน โดยเฉพาะแผนดินที่ใกล้ ทั้งซีแอตเติล DC ไม่มีใครรู้ดอกว่า อียิวมันจะทำอะไรต่อ หลังย้ายจากเยรูซาเล็ม แต่ตะวันออกกลางจะเปลี่ยนโฉมหน้าทันที สงครามจะหายไป การค้าจะเฟื่องฟู ปาเลสไตน์จะกลายเป็นฮับ เชื่อมั้ยล่ะ? 8.อเมริกาในมือทรัมปป์จะเป็นอย่างไร กับรัสเซีย จีน? ยุติสงคราม ไม่ได้เกิดเพราะทรัมปป์ชัวร์ สงครามจะจบหรือไม่ อยู่ที่ขั้วใหม่กำหนด? จำคีย์นี้ไว้ให้ดีดี ผู้ชนะ จะเป็นผู้กำหนดกติกาใหม่ทุกอย่าง แล้วอีทรัมปป์จะทำยังไงต่อ ฉากหน้าคือถอย ฉากหลังคือเติมอาวุธ ขายอาวุธ ส่งให้พวกเสี้ยนสงคราม นั่นคือ "อีโง่ยุโรป" นี่คือที่มาว่า ทำไม EU ถึงยังมีมติส่งอาวุธให้ยูเครนต่อ เพราะกลัวถูกรัสเซียกลืน ซึ่งมรึงโดนอยู่แล้ว ไม่รอด! ทำไมกูต้องส่งทหารไปตายเปล่าอีกล่ะ ในเมื่อมีไอ้โง่อยู่ทั้งฝูง หลอกให้ไปตายห่าแทน แถมขายอาวุธส่ง ทำกำไร 2 ต่อ มันคืออีกหนทางรอดของทรัมปป์ หากหักดิบมากเกินไป อาจบีบให้ DEEP STATE ซึ่งเป็นพ่อค้าอาวุธ หันมาโฟกัสฆ่ามรึงชัวร์ แต่หากยังมีผลประโยชน์ร่วม กูยังจะไม่หักมรึงซะทีเดียว ทุกอย่างคือ "ละคร" สรุปคือ ยุติสงครามในความหมายของทรัมปป์คือ อเมริกาไม่ต้องรบ ให้ยุโรปไปรบ ตายห่าแทน ขายอาวุธต่อ เสี้ยมต่อ ดอกนี้ ปูติน รู้ทัน แต่ขณะเดียวกัน อีทรัมปป์ก็ไม่โง่ ยืมมือรัสเซีย จีน ช่วยกำจัด DEEP STATE ไปด้วย โชว์สื่อโทรหาปูติน เรียกเรตติ้ง ว่ากูเดินหน้าจริง สรุปคือ อีทรัมปป์ควบทั้งเก่าและใหม่ ขอแค่กูยังอยู่ในอำนาจพอ หล่อเลี้ยงท่อน้ำเลี้ยงไม่ให้ขาด ทุกอย่างจะตามน้ำเอง ใครยังขัดขืน จ่ายหนัก เปลี่ยนทันที ทุกอย่างพูดด้วยเงิน ทุนนิยมไม่มีอะไรมากกว่า เอาเงินฟาดหัว? 9.ภาพชัดเจน ท่าทีของขั้วใหม่ นับจากนี้ จีนจะเดินเกมส์การค้าสุดขั้ว ชนซึ่งหน้าสหรัฐ แน่นอนว่า อีทรัมปป์คลั่ง เล่นแร่แปรวิญญาน เพื่อเรียกแรงงานกลับบ้าน ที่ผ่านมา คนตกงานเยอะ แล้วอะไรจะสร้างงานล่ะ ก็ดันธุรกิจอเมริกันก่อนไงล่ะ ฟื้นฟู ภาคอุตสาหกรรมใหญ่ ไม่ให้มีคู่แข่ง หรือผูกขาดนั่นเอง ดอกนี้ จะเป็นต้นเหตุให้ WTO ตัดหางอเมริกา แล้วหันไปจูบปากจีนแทน อีทรัมปป์ไม่สนดอก แค่เอาคนในชาติรอด แค่อเมริกาฟื้น เรื่องอื่นเรื่องเล็ก ที่มันทำทั้งหมด ไม่ได้รักอเมริกา หรือภาคภูมิใจในแผ่นดินเกิด ชงต่อตั้ง TRUMP LAND ในอนาคต ตั้งตนเป็น KING หรือประมุขรัฐใหม่ พูดง่ายๆ สาวกทรัมปป์ทั่วโลก เชิญมาอยู่รวมกับกูที่นี่นั่นเอง มันคืออเมริกาใหม่ที่มีแต่ทรัมปป์ไงล่ะ? จีน รัสเซีย ไม่แคร์ดอกว่าทรัมปป์จะทำอะไร เพราะแผนพิมพ์เขียวเค้ามีรอนานแล้ว เดินหน้าต่อ ยิ่งทรัมปป์มา รัสเซีย จีน ยิ่งชอบ เพราะปากพาจน! มันง่ายที่จะคุย มันควบคุมเกมส์ง่ายขึ้น อย่าลืมน่ะว่า สิ่งที่รัสเซียจะทำจากนี้ มันคือ "สยบทั้งยุโรป" และนั่นคือสิ่งที่ทรัมปป์ต้องการเช่นกัน ศัตรูของทรัมปป์มีแต่จีน ที่ยังหาแดร๊กเก่งกว่า นี่คือจุดเปราะบาง ทำให้เกิดสงครามการค้าครั้งใหญ่ ที่แบ่งโลกกันไปเลย ลูกค้าเอเซีย ลูกค้าอเมริกา เอาให้ชัด สุดติ่ง สุดขั้ว กันไปเลย? 10.จะใช้เวลานานแค่ไหน? อีทรัมปป์จะรอด หรืออยู่ยาว ทั้งหมด อยู่ที่หมากที่เดินอยู่ หากเดินพลาด ขั้วใหม่ขยี้ทันที โลกรองรับ อีลาพร้อมซ้ำ ดังนั้น อีทรัมปป์ต้องยึดแนวทางที่คะแนนเสียงให้มาก่อน อย่าเพิ่งรีบหักดิบกับกลุ่มผลประโยชน์มากเกินไป คราวก่อนที่มา พูดอย่าง ทำอีกอย่าง สร้างกำแพงกั้นผู้อพยพ งวดนี้ อเมริกาจะกลายเป็นคุกขนาดใหญ่ของโลก มรึงคอยดูสิ? ทรัมปป์ต้องรักษาสมดุลของอำนาจกับฝ่ายความมั่นคง กองกำลังตัวเองต้องมี และบอกเลยว่า จะค่อยๆ ดูดแสนยานุภาพกองทัพ เข้ากองทัพ(ทรัมปป์)ตัวเอง เพราะเตรียมการแตกอเมริกา มันต้องใช้อะไรล่ะ? กองทัพอีตาเพน รัฐบาลกลาง มีไม่พอ ที่จะสู้กับทั้ง 22 รัฐ ที่อีช้างครอบงำอยู่ เพราะมีสปอนเซอร์จากต่างประเทศเข้ามาไงล่ะ รัฐทำเงิน จะเกิดการแย่งชิงจากทั้ง 2 ฝ่าย รัฐยากจน คนดำ ภาคโรงงาน จะถูกทิ้ง แต่อาหรับ จีน รัสเซีย จะเข้ามาอุ้มต่อ ทำไม อีแคน ที่คิดจะเขมือบรวมแผ่นดินอยู่แล้ว ไม่เข้ามาอุ้มทั้งหมดไปเลยล่ะ เพราะมีอียิวเป็นนายทุนอยู่แล้ว สันดานยิว อะไรเสื่อม อะไรเจ๊ง ต้องฟื้นฟู มันไม่ทำ มันจะเอาท่าเดียว จ่ายไม่เอา ลงทุนไม่คุ้ม พลเมืองชั้น 3 ใครจะอยากรับไว้ CIVIL WAR จะเกิดได้เร็ว หากมีอุบัติเหตุการเมือง และนั่นคือสิ่งที่อยู่ในแผน อียิวเหี้ยไซออนนิสต์ มันเอาแน่! และขั้วใหม่ก็รออยู่เช่นกัน ปล.จับตาดู วงการทนาย วงการบันเทิง วงการสีกากี วงการแพทย์ วงการกรมคุก วงการสื่อ วงการพลังงาน วงการหวย วงการรับเหมา วงการอสังหาริมทรัพย์ และอีกหลายวงการ จะถูกชำแหละในไม่ช้านี้ ทุกองคาพยพที่หลอกแดร๊กคนไทยในทุกเรื่อง จะถูกเปิดออกหมดสิ้นด้วยพลังแห่งแสง ความจริง ความถูกต้อง ชอบธรรม ขบวนการต่างๆ ที่บั่นทอนชาติ เจ้าหน้าที่รัฐไม่ทำหน้าที่ ไส้ศึก ไอ้อีขายชาติ จะดาหน้ากันโผล่ออกมาจนหมด เสนอหน้าแบบที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน ทุกอย่างมันถูกกำหนดไว้แล้ว สัญญานคือ "ปลายกลียุค" เชื้อชั่วทั้งหลายจะต้องทิ้งทวนก่อนจะกลับขุมนรก รอดูอะไรดีดีอีกเยอะ ไอ้อีที่มรึงคิดว่าดี ที่เคยบูชา ที่เคยหลงใหล หางจะโผล่หมด นี่คืออิทธิฤทธิ์แห่งแสง คนดีจริง ไม่กลัวไฟ เรื่องของบ้านทรายทอง มันถึงเวลาต้องสังคายนากันใหม่ทั้งหมด ทำลายทิ้งแล้วเริ่มสร้างกันใหม่ สังคมใหม่ที่ไม่บูชาเงินเป็นพระเจ้า คนรวยเว่อร์จะหดหาย กลัวหัวหด ไม่กล้าอวดรวยกันอีกนาน เพราะสรรพากร ฟอกเงิน ปปง. ตามสืบมรึงแน่ ทุกอย่างที่มรึงเคยบ่นกัน บทเวลาจะไป มันเหมือนคลื่นสึนามิ กวาดทุกอย่างลงทะเลหมด ไปเร็วมาก จนมรึงดีใจยังไม่ทันจะหายปลื้ม ไปหมดล่ะ? ปล่อยวางซะ มรึงไม่ใช่เจ้าของจักรวาล ปล่อยให้วิถีแห่งกรรม ทำงานของมันไปเหอะ มรึงแค่รับรู้ รับทราบ และระมัดระวังตัว อย่าทำชั่วก็พอ แค่นี้ ก็ช่วยยกแผ่นดินสูงขึ้นได้แล้ว เรื่องของโลก ปล่อยให้โลกเค้าจัดการไป เรื่องของไทย ปล่อยสวรรค์เค้าจัดการเอง แค่มรึงตั้งสติ อานิสงค์แห่งบุญจะก่อเกิด จิตขุ่นเพราะไปเสพอาจม ใจฟู เพราะไปเสพธรรมะ สัจธรรม ทุกอย่างมันมีทางของมันเอง ไม่ต้องกังวลอะไรมาก มันเดินมาถูกทางแล้ว หมี CNN(การเปลี่ยนแปลงมาแล้ว แค่ดูอย่างตั้งสติ ไม่มีอะไรตายตัว ทุกอย่างอยู่ที่พลังแห่งกรรม โลกเค้าเปลี่ยนไปแล้ว ไทยเราก็ต้องเปลี่ยนตามเค้า ไม่มีใครต้านพลังแห่งแสงได้ดอก เหี้ยยังไง เลวแค่ไหน? ก็เปลี่ยนได้หมด สงครามแค่เปลือก อำนาจแค่แย่งชิง แต่ใครที่ทำให้โลกอุ่นใจ สบายใจ ปลอดภัย จะเป็นเป้าหมายของผู้แสวงหาความสุขเอง ไทยเรามีดีในตัว เดี๋ยวโลกจะแห่กันมาขออยู่เป็นเพื่อนมรึงเอง อียิวก็ขอย้ายมาด้วยน่ะ ไม่เป็นไร กูชี้เป้าให้เพ่น้องมุสลิมเอง ปักหมุดให้เสร็จ มาสิจ๊ะ มุสลิมปาร์ตี้รออยู่) 11 พฤศจิกายน 67 09.55 น. ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnn หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT https://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** https://www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** https://twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!** https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • การประเมินและพัฒนาทักษะแห่งอนาค

    การประเมินและพัฒนาทักษะแห่งอนาคตเป็น 1 ในการได้เครดิตของเวลากลับคืนมาจากความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น (โดยไม่เกิดประโยชน์อะไร) ทั้งในระดับองค์กร ทีม และระดับบุคคล

    เดชฤทธิ์ กรุ๊ป โดย 10X Consulting และ Life Alignmentor ผู้ให้บริการที่บูรณาการวิธีคิด กระบวนการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตด้วยเครื่องมือที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เรามุ่งมั่น ยกระดับแบรนด์คนไทยไประดับโลก เราช่วยให้คุณเชี่ยวชาญที่เป็นเลิศด้วยระบบและกระบวนการ #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด
    การประเมินและพัฒนาทักษะแห่งอนาค การประเมินและพัฒนาทักษะแห่งอนาคตเป็น 1 ในการได้เครดิตของเวลากลับคืนมาจากความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น (โดยไม่เกิดประโยชน์อะไร) ทั้งในระดับองค์กร ทีม และระดับบุคคล เดชฤทธิ์ กรุ๊ป โดย 10X Consulting และ Life Alignmentor ผู้ให้บริการที่บูรณาการวิธีคิด กระบวนการพัฒนาทักษะแห่งอนาคตด้วยเครื่องมือที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เรามุ่งมั่น ยกระดับแบรนด์คนไทยไประดับโลก เราช่วยให้คุณเชี่ยวชาญที่เป็นเลิศด้วยระบบและกระบวนการ #พัฒนาคนให้เก่ง #สร้างทีมแกร่ง #กระบวนการเยี่ยม #ผลลัพธ์ยอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 53 มุมมอง 11 0 รีวิว
  • ผลัดแป้ง #ทานาคา✨ ให้เข้ากับบรรยากาศและสถานที่ #ตลาดโอ๊ะป่อย 🛖ที่นี่เป็นแหล่งชุมชน #คนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 👫ร้านขายของเป็นคนในชุมชนนำมาขาย มีของกิน🥙ให้เลือกหลายร้านทั้งของคาว🍗ของหวาน 🌮 และที่สำคัญราคาดีงาม🥰 #รอยยิ้มบริการ
    ผลัดแป้ง #ทานาคา✨ ให้เข้ากับบรรยากาศและสถานที่ #ตลาดโอ๊ะป่อย 🛖ที่นี่เป็นแหล่งชุมชน #คนไทยเชื้อสายกะเหรี่ยง เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 👫ร้านขายของเป็นคนในชุมชนนำมาขาย มีของกิน🥙ให้เลือกหลายร้านทั้งของคาว🍗ของหวาน 🌮 และที่สำคัญราคาดีงาม🥰 #รอยยิ้มบริการ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 28 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ความแสบของไอ่ตั้มที่แม้แต่โจ๊กก็เพิ่งรู้
    เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศได้เห็นรถพอชคาเยนคันงาม มูลค่าเกือบ10M
    1 ในคอลเล็คชั่นของความทะเยอทะยานของตั้มโหยแสงนักพราก นักตบ
    พี่คิงส์จะเล่าที่มาที่ไปของคันนี้ แล้วแฟนเพจจะอึ้งกิมกี่
    มีลูกคววามอยู่รายหนึ่ง เป็นหญิงสาวหน้าตาดี
    มาขอปรึกษและขอให้ไอ่ตั้มช่วยเรื่องคคคดดดี
    ตั้มบอกว่าต้องคุยกับนาย ซึ่งคือโจ๊ก เป็นรอง ผบตร. ณเวลานั้น
    และวันต่อมา ไอ่ตั้มก็ติดต่อสาวดังกล่าว โดยให้ข้อมูลว่า
    นายเรียก 10M นายเอา 8 ให้ตั้ม 2 M
    ด้านสาวนักธุรกิจก็ยินยอม เพื่อให้ตนเองได้รับความเป็นธรรม
    แต่อย่างว่า เงินมันร้อน วันต่อมาไอ่ตั้มก็ไอถอยพอช คาเยน
    สนนราคาก็ 9.xx M ซึ่งสาวนักธุรกิจก็ร้องเฮี้ย เสียงดังมาก
    โดยสาวเชื่อว่า นั่นน่ะ เงินตรู ไอ่ฉัดเอ๊ย
    แล้วก็ไม่ได้ช่วยห่านอะไรสาวนักธุรกิจได้เลย
    หยิบอะไร เป็นได้มาโดยมิชอบหมด
    ไอ่ตั้มเอ๊ย ไอ่ซั่วววววว
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ความแสบของไอ่ตั้มที่แม้แต่โจ๊กก็เพิ่งรู้ เชื่อว่าคนไทยทั้งประเทศได้เห็นรถพอชคาเยนคันงาม มูลค่าเกือบ10M 1 ในคอลเล็คชั่นของความทะเยอทะยานของตั้มโหยแสงนักพราก นักตบ พี่คิงส์จะเล่าที่มาที่ไปของคันนี้ แล้วแฟนเพจจะอึ้งกิมกี่ มีลูกคววามอยู่รายหนึ่ง เป็นหญิงสาวหน้าตาดี มาขอปรึกษและขอให้ไอ่ตั้มช่วยเรื่องคคคดดดี ตั้มบอกว่าต้องคุยกับนาย ซึ่งคือโจ๊ก เป็นรอง ผบตร. ณเวลานั้น และวันต่อมา ไอ่ตั้มก็ติดต่อสาวดังกล่าว โดยให้ข้อมูลว่า นายเรียก 10M นายเอา 8 ให้ตั้ม 2 M ด้านสาวนักธุรกิจก็ยินยอม เพื่อให้ตนเองได้รับความเป็นธรรม แต่อย่างว่า เงินมันร้อน วันต่อมาไอ่ตั้มก็ไอถอยพอช คาเยน สนนราคาก็ 9.xx M ซึ่งสาวนักธุรกิจก็ร้องเฮี้ย เสียงดังมาก โดยสาวเชื่อว่า นั่นน่ะ เงินตรู ไอ่ฉัดเอ๊ย แล้วก็ไม่ได้ช่วยห่านอะไรสาวนักธุรกิจได้เลย หยิบอะไร เป็นได้มาโดยมิชอบหมด ไอ่ตั้มเอ๊ย ไอ่ซั่วววววว ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Love
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 177 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เด็กรุ่นใหม่หลายคนยังไม่รู้จักบอสณวัฒน์ดีเท่าที่ควร
    พี่คิงส์บอกเลยว่า ผู้ชายคนนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ควรไปมีปัญหากับเค้า
    ถ้าเคยได้ยินว่า มีปัญหากับใครในวงการบันเทิงได้แต่อย่างมีกับ
    หนุ่ม กรรชัย พี่คิงส์ก็จะบอกว่า นอกจากพี่หนุ่ม บอส ณวัฒน์ เป็นอีกหนึ่งคน
    ที่ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรที่จะไปมีปัญหากับเค้า
    - บอส ณวัฒน์ เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการทำทุกอย่าง จนสามารถนำบริษัทเข้าสู่มหาชนได้ ผ่านร้อน ผ่านหนาว มายาวนาน
    แม้กระทั่งที่บอส มีข่าวครึกโครม จนต้องออกจากรายการไตรภพ ครัวคุณต๋อย และสภาวะนั้นทุกคนมองว่า ณวัฒน์ น่าจะจบแล้วกับเส้นทางบันเทิง
    เพราะ ณวัฒน์ เล่นหมดไม่สนรุ่น ไม่สนค่าย ไม่สนใคร
    แต่ด้วยความพยายามและความสม่ำเสมอ ทำให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา
    และความชาญฉลาดที่ดันอิงฟ้า ขึ้นแท่นกลายเป็นขวัญใจประชาชนคนไทย
    ที่มีแฟนคลับ มากกว่าสาวเกามหาศาล จนกลายเป็นแบรนดิ้ง
    กลายเป็นองค์กร เป็นสถาบัน
    ดังนั้น บอส ณวัฒน์ ชื่อเสียงนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
    เพราะไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ถ้ากล้ามาลองดีกับบอส
    คนนี้ไม่มีคำว่าอ่อนข้อ เหมือนกับคำที่นิยมใช้กันว่า
    "แรงมาแรงกว่ากลับไม่โกก" บอสณวัฒน์ จะตอบแทนกลับไป
    เป็นสิบ เป็นร้อยเท่า
    ตอนที่พี่คิงส์ เห็นข่าวว่า ทางสาวเกา จะมีปัญหากับบอส
    พี่คิงส์ยังคิดลึกๆว่า ป้า จ. น่าจะรู้จักชื่อเสียงของบอส ณวัฒน์
    เรื่องความเป็นคนสู้คนแบบกัดไม่ปล่อย คงจะไม่ยุ่งกับบอส
    แต่ที่ไหนได้ แฟนคลับสาวเกาที่อยู่ในโลกใบแคบๆ
    คิดว่าทั้งหมดคือจักรวาลสาวเกา หารู้ไม่ว่าเป็นเพียงชนกลุ่มเล็กๆ
    ที่คลั่้งไคล้นาง ซึ่งถ้าเทียบกับอิงฟ้าของบอสณวัฒน์
    ยังห่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า
    แล้วสาวเกาจะเข้าใจคำไทยที่ว่า ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรม และไม่จบง่ายๆของจริงเป็นยังไง เดี๋ยวจะได้รู้กัน
    พี่คิงส์ หนาวแทนเลย
    อิฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เด็กรุ่นใหม่หลายคนยังไม่รู้จักบอสณวัฒน์ดีเท่าที่ควร พี่คิงส์บอกเลยว่า ผู้ชายคนนี้ เป็นอีกหนึ่งคนที่ไม่ควรไปมีปัญหากับเค้า ถ้าเคยได้ยินว่า มีปัญหากับใครในวงการบันเทิงได้แต่อย่างมีกับ หนุ่ม กรรชัย พี่คิงส์ก็จะบอกว่า นอกจากพี่หนุ่ม บอส ณวัฒน์ เป็นอีกหนึ่งคน ที่ไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรที่จะไปมีปัญหากับเค้า - บอส ณวัฒน์ เป็นคนที่มีความมุ่งมั่นในการทำทุกอย่าง จนสามารถนำบริษัทเข้าสู่มหาชนได้ ผ่านร้อน ผ่านหนาว มายาวนาน แม้กระทั่งที่บอส มีข่าวครึกโครม จนต้องออกจากรายการไตรภพ ครัวคุณต๋อย และสภาวะนั้นทุกคนมองว่า ณวัฒน์ น่าจะจบแล้วกับเส้นทางบันเทิง เพราะ ณวัฒน์ เล่นหมดไม่สนรุ่น ไม่สนค่าย ไม่สนใคร แต่ด้วยความพยายามและความสม่ำเสมอ ทำให้ความเชื่อมั่นกลับคืนมา และความชาญฉลาดที่ดันอิงฟ้า ขึ้นแท่นกลายเป็นขวัญใจประชาชนคนไทย ที่มีแฟนคลับ มากกว่าสาวเกามหาศาล จนกลายเป็นแบรนดิ้ง กลายเป็นองค์กร เป็นสถาบัน ดังนั้น บอส ณวัฒน์ ชื่อเสียงนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย เพราะไม่ว่าคนคนนั้นจะเป็นใคร ถ้ากล้ามาลองดีกับบอส คนนี้ไม่มีคำว่าอ่อนข้อ เหมือนกับคำที่นิยมใช้กันว่า "แรงมาแรงกว่ากลับไม่โกก" บอสณวัฒน์ จะตอบแทนกลับไป เป็นสิบ เป็นร้อยเท่า ตอนที่พี่คิงส์ เห็นข่าวว่า ทางสาวเกา จะมีปัญหากับบอส พี่คิงส์ยังคิดลึกๆว่า ป้า จ. น่าจะรู้จักชื่อเสียงของบอส ณวัฒน์ เรื่องความเป็นคนสู้คนแบบกัดไม่ปล่อย คงจะไม่ยุ่งกับบอส แต่ที่ไหนได้ แฟนคลับสาวเกาที่อยู่ในโลกใบแคบๆ คิดว่าทั้งหมดคือจักรวาลสาวเกา หารู้ไม่ว่าเป็นเพียงชนกลุ่มเล็กๆ ที่คลั่้งไคล้นาง ซึ่งถ้าเทียบกับอิงฟ้าของบอสณวัฒน์ ยังห่างกันเป็นสิบเป็นร้อยเท่า แล้วสาวเกาจะเข้าใจคำไทยที่ว่า ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรม และไม่จบง่ายๆของจริงเป็นยังไง เดี๋ยวจะได้รู้กัน พี่คิงส์ หนาวแทนเลย อิฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ประชาชนเฝ้ารอวันดับ
    เดชา หรือทะนายจุ๊กกรู้ ที่มีลีลาซ้ำซาก
    ด้วยการทำตัวเหมือนเรือขวางคลอง
    ทุกครั้ง ที่มีผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ
    เด จะไปอยู่กับฝ่ายคนผิดเสมอ จนเป็นที่ชินตาของผู้คน
    เมื่อได้แสงแบบไม่กลัวโดนทัวร์ สร้างชื่อเสียงโดยไม่สนใจว่า
    คนจะรู้จักตัวเอง ในสภาพไหน ได้อยู่ในสื่อนั่นคือความสำเร็จของเด
    แต่พอมีทีท่าว่า ผู้กระทำหรือจำเเลย น่าจะไปไม่รอด
    ก็จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองขอถอนตัว
    และเชื่อว่า คนไทยขี้ลืม เดี๋ยวสร้างภาพชุบตัวใหม่
    คนก็ลืม เอาไว้ไปอยู่ฝั่งคนในประแสบ้าง เดี๋ยวคนก็ยกยอเหมือนเดิม
    พี่เด สุมาเต๊อะ "ไอ่ฉัด" เล่นกับความรู้สึกของประชาชนมาตลอด
    เรื่องสาวเกา โดนปั่นว่าจะได้เป็นทนายฝั่งเกา ก็พร่ามในคลิป
    ว่าด่าาเยอะๆ ทนายทั่วประเทศจะได้มีงานทำ
    อ้างทนายแปดหมื่นคนทั่วประเทศจะร่วมวงกับตัวเองเพื่อจัดการคนไทยด้วยกัน
    แต่กระแสตีกลับ เพราะทนายและสภาไม่เล่นด้วย พร้อมออกมาตำหนิการกระทำ จนนายเดชาต้องกลับลำ อ้างว่าไม่ได้พูด แต่ดิจิตอลฟรุ๊ตปริ๊น ก็หาได้ง่ายว่าเป็นคำพูดของเดชาล้วนๆ
    และล่าสุด ด้วยความสนิทกับว่าที่นช ตั้ม และมีความเป็นไปได้สูง
    ที่ต้องมีความรู้จักกับโจ๊ก สุรเชษฐ์ ไม่มากก็น้อย
    ส่วนจะได้ความสนิท เป็นใบเทาเป็นปึกๆด้วยรึเปล่านั้น
    เราไม่อาจระบุได้ แต่เดชา ก็ออกตัวเต็มที่ รับข้อมูลจากตั้ม
    ก็รีบมาพ่น และเชื่อว่าตั้มบริสุทธิ์ โดยไม่ได้หาข้อมูลจากผสห.เลย
    จึงถูกตำหนิ จากผู้สื่อข่าวระดับตำนาน สนธิ ลิ้มทองกุล
    ในเวอร์ชั่นแรก เดชายังดูอ่อนน้อม บอกว่าไม่มีปัญหากับสนธิ
    และจะได้แรงกดดัน หรือแรงอัดฉีดจากตั้มหรือโจ๊กหรือไม่อย่างไร
    ก็ไม่ทราบได้ มีการเปลี่ยนท่าที ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ
    ท้าทาย สนธิ อย่างน่าแปลกใจกับสายตาของประชาชน
    ซึ่งล่าสุด ออกมาโพส ว่าใครมีข้อมูลสนธิ (ลักษณะที่จะเอาความได้)
    ให้ส่งมาที่ตน นั่นคือากรชักธงรบบ อย่างเต็มรูปแบบ
    ทั้งๆที่ ทั้งพี่โจ๊ก และน้องรักอย่างตั้ม ต่างก็ผ่านการเปิดเผยความจริง
    ให้กับสังคม จนมีจุดจบอย่างทุกวันนี้ แต่เดชา กลับมีความฮึกเหิมจนเกินตัว
    ซึ่งยุคนี้ เป็นยุคล้างบางคนซั่ว บางที เดชา อาจมีปัญหาทางสายตา
    มองเสือเป็นแค่แมว อยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งซ้งทรีน หาเสี้ยนได้ดีจริงๆ
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่ประชาชนเฝ้ารอวันดับ เดชา หรือทะนายจุ๊กกรู้ ที่มีลีลาซ้ำซาก ด้วยการทำตัวเหมือนเรือขวางคลอง ทุกครั้ง ที่มีผู้กระทำ กับผู้ถูกกระทำ เด จะไปอยู่กับฝ่ายคนผิดเสมอ จนเป็นที่ชินตาของผู้คน เมื่อได้แสงแบบไม่กลัวโดนทัวร์ สร้างชื่อเสียงโดยไม่สนใจว่า คนจะรู้จักตัวเอง ในสภาพไหน ได้อยู่ในสื่อนั่นคือความสำเร็จของเด แต่พอมีทีท่าว่า ผู้กระทำหรือจำเเลย น่าจะไปไม่รอด ก็จะสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองขอถอนตัว และเชื่อว่า คนไทยขี้ลืม เดี๋ยวสร้างภาพชุบตัวใหม่ คนก็ลืม เอาไว้ไปอยู่ฝั่งคนในประแสบ้าง เดี๋ยวคนก็ยกยอเหมือนเดิม พี่เด สุมาเต๊อะ "ไอ่ฉัด" เล่นกับความรู้สึกของประชาชนมาตลอด เรื่องสาวเกา โดนปั่นว่าจะได้เป็นทนายฝั่งเกา ก็พร่ามในคลิป ว่าด่าาเยอะๆ ทนายทั่วประเทศจะได้มีงานทำ อ้างทนายแปดหมื่นคนทั่วประเทศจะร่วมวงกับตัวเองเพื่อจัดการคนไทยด้วยกัน แต่กระแสตีกลับ เพราะทนายและสภาไม่เล่นด้วย พร้อมออกมาตำหนิการกระทำ จนนายเดชาต้องกลับลำ อ้างว่าไม่ได้พูด แต่ดิจิตอลฟรุ๊ตปริ๊น ก็หาได้ง่ายว่าเป็นคำพูดของเดชาล้วนๆ และล่าสุด ด้วยความสนิทกับว่าที่นช ตั้ม และมีความเป็นไปได้สูง ที่ต้องมีความรู้จักกับโจ๊ก สุรเชษฐ์ ไม่มากก็น้อย ส่วนจะได้ความสนิท เป็นใบเทาเป็นปึกๆด้วยรึเปล่านั้น เราไม่อาจระบุได้ แต่เดชา ก็ออกตัวเต็มที่ รับข้อมูลจากตั้ม ก็รีบมาพ่น และเชื่อว่าตั้มบริสุทธิ์ โดยไม่ได้หาข้อมูลจากผสห.เลย จึงถูกตำหนิ จากผู้สื่อข่าวระดับตำนาน สนธิ ลิ้มทองกุล ในเวอร์ชั่นแรก เดชายังดูอ่อนน้อม บอกว่าไม่มีปัญหากับสนธิ และจะได้แรงกดดัน หรือแรงอัดฉีดจากตั้มหรือโจ๊กหรือไม่อย่างไร ก็ไม่ทราบได้ มีการเปลี่ยนท่าที ที่แข็งกร้าวขึ้นเรื่อยๆ ท้าทาย สนธิ อย่างน่าแปลกใจกับสายตาของประชาชน ซึ่งล่าสุด ออกมาโพส ว่าใครมีข้อมูลสนธิ (ลักษณะที่จะเอาความได้) ให้ส่งมาที่ตน นั่นคือากรชักธงรบบ อย่างเต็มรูปแบบ ทั้งๆที่ ทั้งพี่โจ๊ก และน้องรักอย่างตั้ม ต่างก็ผ่านการเปิดเผยความจริง ให้กับสังคม จนมีจุดจบอย่างทุกวันนี้ แต่เดชา กลับมีความฮึกเหิมจนเกินตัว ซึ่งยุคนี้ เป็นยุคล้างบางคนซั่ว บางที เดชา อาจมีปัญหาทางสายตา มองเสือเป็นแค่แมว อยู่ดีไม่ว่าดี แกว่งซ้งทรีน หาเสี้ยนได้ดีจริงๆ ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • แกนนำไทยภักดี ง้างปาก “ภูมิธรรม” ทำไมจึงยอมให้กัมพูชากำหนดพื้นทางทะเล ด้วยการเล็งมาที่ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด? ยกคำพูด “ทักษิณ” สวน “นายกฯ อิ๊งค์” mou44 ยกเลิกไม่ได้ก็ไม่จริง ดักยังดื้อจะเป็นพรรคเพื่อเขมรแทนเพื่อไทย

    วันนี้ (10 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่

    คุณภูมิธรรม มาลงพื้นที่เกาะกูด เพื่อมายืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมาเยี่ยมกำลังพลที่ดูแลพื้นที่

    ผมยังยืนยันนะครับว่า วันนี้ประชาชนไทย หรือแม้แต่ประชาชนเกาะกูด ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย ย้ำนะครับว่า ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย เพราะเกาะกูดเป็นของไทยวันยังค่ำ

    ในเมื่อเกาะกูดเป็นของไทย พื้นที่ทางทะเลโดยรอบเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ทั้งน้ำทะล กุ้งหอยปูปลา ผิวดินใต้ทะเล รวมทั้งพื้นดินใต้ผิวดินใต้ทะเล แหล่งพลังงาน ต้องเป็นของไทยด้วย ไม่ใช่เป็นของไทยแค่ตัวเกาะ

    สิ่งที่คนไทยกังวลใจกันมากๆ ก็คือ เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ไทยเราไปยอมรับเส้นอาณาเขตทางทะเล (ไหล่ทวีป) ของกัมพูชา ที่เล็งผ่านยอดเขาที่สูงสุดของเกาะกูด ออกไปอ่าวไทย ได้อย่างไร มันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนมหาศาล

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/politics/detail/9670000108138

    #MGROnline #เกาะกูด #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่
    แกนนำไทยภักดี ง้างปาก “ภูมิธรรม” ทำไมจึงยอมให้กัมพูชากำหนดพื้นทางทะเล ด้วยการเล็งมาที่ยอดเขาสูงสุดของเกาะกูด? ยกคำพูด “ทักษิณ” สวน “นายกฯ อิ๊งค์” mou44 ยกเลิกไม่ได้ก็ไม่จริง ดักยังดื้อจะเป็นพรรคเพื่อเขมรแทนเพื่อไทย • วันนี้ (10 พ.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กว่า #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่ • คุณภูมิธรรม มาลงพื้นที่เกาะกูด เพื่อมายืนยันว่า เกาะกูดเป็นของไทย เกาะกูดมีธรรมชาติที่สวยงาม พร้อมกับมาเยี่ยมกำลังพลที่ดูแลพื้นที่ • ผมยังยืนยันนะครับว่า วันนี้ประชาชนไทย หรือแม้แต่ประชาชนเกาะกูด ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย ย้ำนะครับว่า ไม่ได้กังวลใจว่า เกาะกูดไม่ได้เป็นของไทย เพราะเกาะกูดเป็นของไทยวันยังค่ำ • ในเมื่อเกาะกูดเป็นของไทย พื้นที่ทางทะเลโดยรอบเกาะกูด 200 ไมล์ทะเล (370 กม.) ทั้งน้ำทะล กุ้งหอยปูปลา ผิวดินใต้ทะเล รวมทั้งพื้นดินใต้ผิวดินใต้ทะเล แหล่งพลังงาน ต้องเป็นของไทยด้วย ไม่ใช่เป็นของไทยแค่ตัวเกาะ • สิ่งที่คนไทยกังวลใจกันมากๆ ก็คือ เมื่อเกาะกูดเป็นของไทย ไทยเราไปยอมรับเส้นอาณาเขตทางทะเล (ไหล่ทวีป) ของกัมพูชา ที่เล็งผ่านยอดเขาที่สูงสุดของเกาะกูด ออกไปอ่าวไทย ได้อย่างไร มันจึงเกิดพื้นที่ทับซ้อนมหาศาล • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/politics/detail/9670000108138 • #MGROnline #เกาะกูด #ภูมิธรรมไปเกาะกูดไม่มีอะไรใหม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1
    ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย
    ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ
    ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า
    ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป
    ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป
    ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว
    ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    "มหากาพย์ไมดาน จุดเริ่มต้นของสงครามตัวแทนและ Hybrid War" ตอนที่ 1 ล้างแค้น 30 ปีก็ไม่สาย ลูกผู้ชายชื่อปูตินตั้งสัจจะเอาไว้ว่าตราบใดที่รัสเซียยังไม่กินอิ่มนอนอุ่น ตราบนั้นโลกตะวันตกจงอย่าได้ย่างกรายมาเพ่นพ่านแถวขอบรั้วรัสเซีย ***เนื้อหานำเสนออีกด้านหนึ่งของข้อมูล ส่วนจะเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่นั้น? โปรดพิจารณาเอาเอง สมองใครสมองมัน ไม่ต้องมาเถียงกับผม ผมไม่มีเวลาเถียงด้วย จะเชื่อหรือไม่เชื่อเงินในบัญชีผมก็เท่าเดิม คือร้อยกว่าบาท 555 ฉะนั้นผมไม่แคร์ว่าจะมีใครเชื่อ ***เนื้อหาทั้งหมดผมแคปมาจากสารคดีซึ่งผลิตโดยช่องข่าว RT ของรัสเซีย และช่อง RUPTLY ซึ่งผมไม่มีส่วนได้เสียในการสร้าง การนำเสนอ นอกจากชี้ให้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และขอให้คนไทยเรียนรู้และปรับใช้เพื่อเอาชาติให้รอด ใครชังชาติ...จะปล่อยชาติล่มจมก็ไม่ควรอ่าน เสียเวลาคุณ คุณควรเอาเวลาไปบ่อนทำลายชาติจะตรงจุดประสงค์คุณมากกว่า ***เนื้อหาเรียงลำดับตามที่ปรากฏในสารคดี ซึ่งเมื่อลดทอนเป็นเพียงภาพบางช่วง อาจจะไม่สามารถเล่าเรื่องทั้งหมด หรือเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกได้ ต้องขออภัยไว้ก่อน หากทาง RT อนุญาต ผมจะนำ VDO ชุดนี้มาเผยแพร่ต่อไป ***การรับชม คลิกที่รูปภาพ เนื้อหาอยู่ในคำบรรยายแต่ละภาพเรียงลำดับกันไป ผมไม่อยากบอกว่า "ขอให้สนุก" เพราะเนื้อหามันสะเทือนใจและตรงกับความจริงหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์ไทยที่คนไทยถูกยุแยงให้แตกแยกทางความคิด เราเชื่อกันคนละอย่างและนำไปสู่ความเกลียดชังสุดขั้ว ไทยเรากำลังอยู่บนปากเหวอย่างเช่นที่อูเครนเคยอยู่มาก่อน...เชื่อผมเถอะ!
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 45 มุมมอง 0 รีวิว
  • คัดค้านการให้สัญชาติคนต่างด้าว #ไทยไม่ทน #คนไทย a2
    คัดค้านการให้สัญชาติคนต่างด้าว #ไทยไม่ทน #คนไทย a2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 10 0 รีวิว
  • สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก

    ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก

    รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม
    อย่าง บิดพริ้วไม่ได้

    ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย
    ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ
    อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม

    รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข
    ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น

    และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ

    และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล

    ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ

    และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ
    ในตำราแพทย์ไทยนั้น

    ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ

    ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67
    https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU

    ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย
    ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้
    และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น
    1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน
    2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้
    3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์
    4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่
    5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ
    6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง
    ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง

    ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้

    สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด

    โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า
    ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย
    โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง
    เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก
    ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท

    สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้

    วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน

    นสพ มติชน ฉบับพิมพ์
    ท็อล์กออฟเดอะทาวน์
    10 พย 2567

    กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์

    รวบรวมข้อมูลโดย
    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา
    ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก
    มหาวิทยาลัยรังสิต
    สนธิสัญญาองค์การอนามัยโลก ประเทศไทยควรต้องสนใจกับข้อกำหนดสนธิสัญญากับองค์การอนามัยโลก รายชื่อคัดค้าน และรายละเอียด สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกที่ เมื่อตกลง ต้องทำตาม อย่าง บิดพริ้วไม่ได้ ปัจจุบันมีการลงขื่อ 60,000 ราย และ รวมทั้ง มีการคัดค้านจาก สมาพันธ์เครือข่ายชาวนาแห่งประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นประชาชนรากหญ้าและได้รับผลกระทบ อย่างสูงเมื่อการดำรงชีวิต การเข้าถึงยาและสมุนไพรวิถีไทยจะถูกห้าม รายละเอียดเหล่านี้ ส่งถึง ท่าน รมต ประธานสภา และ กระทรวง สาธารณสุข ตั้งแต่พฤษภาคม 2567 จนถึงปัจจุบันนี้ คนไทยยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น และทางการ และรัฐบาล ควร ต้องชี้แจงให้คนไทยทุกคนทราบ และ รัฐบาล ทราบหรือไม่ว่า ควรต้องทำอะไร ทั้งๆที่ประเทศต่างๆทั่วโลกกังวล ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่าประเทศไทยมีทรัพยากรสมุนไพรธรรมชาติที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว แต่ถูกด้อยค่าไปตามลำดับ และต้องตระหนักว่าสมุนไพรเหล่านี้ปัจจุบันมีการศึกษาวิจัยเพื่อพัฒนาเป็นยาและส่งกลับมาขาย ทั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร และตัวอื่นๆ โดยศึกษาในขั้นโมเลกุลและผลตรงกับที่บรรพบุรุษไทยได้จารึกสรรพคุณไว้ตั้งแต่สมัยต้นรัชกาล ด้วยซ้ำ ในตำราแพทย์ไทยนั้น ยกตัวอย่างเช่นรูปลักษณะของฝีดาษได้บรรยายไว้ 12 ชนิด ซึ่งตรงกับ 12 ไวรัสในตระกูลฝีดาษที่เราทราบกันในปัจจุบัน และมีการระบุสมุนไพรแต่ละประเภทตามความรุนแรงของชนิดฝีดาษ ข้อมูลรายละเอียดของการคัดค้าน WHO 24 พค.67 https://drive.google.com/drive/folders/1GyWC2OcVnUkglL7YUtFRum8S_TqZvmIU ความสำคัญของ สนธิสัญญาขององค์การอนามัยโลกต่อภาคีเครือข่ายรวมกระทั่งถึงประเทศไทย ถ้าอยู่ภายใต้ สนธิสัญญานี้ จะบิดพริ้วมิได้ และจะเกิด ผลกระทบติดตามมากมาย หลายเรื่อง เช่น 1- องค์การอนามัยโลกสามารถประกาศโรคระบาดใดให้เป็น สถานการณ์โรค ระบาดทั้งโลกได้ โดยไม่ต้องฟัง ข้อมูลรายละเอียดจากพื้นที่ให้ครบทุกด้าน 2- เมื่อประกาศแล้วเราต้องทำตามทุกอย่าง และไม่สามารถทำอะไรที่ควรจะทำได้ 3- วัคซีนต้องฉีดตามองค์การอนามัยโลกสั่ง โดย องค์การอนามัยโลก ไม่ต้อง มีความรับผิดชอบ ถ้าเกิดมีผลข้างเคียง ไม่ว่าจะรุนแรงเท่าใด เพราะถือว่า ได้รับสิทธิ์และถืออำนาจสั่งการได้อย่างสมบูรณ์ 4-ยา ต้องใช้ตามที่สั่งโดยไม่บิดพลิ้ว นั่นคือยาต้องสั่งจากต่างประเทศอย่างเดียว และยาที่ผลิตจากวัตถุดิบจากประเทศในเอเชียจะถูกมองว่าไม่มีประสิทธิภาพไม่ได้มาตรฐานและมีอันตรายทันที หรือไม่ 5- สมุนไพรที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีการใช้และจะมีการออกประกาศโดยกระทรวงทบวงกรมสถาบันโรงเรียนแพทย์โดยถือว่าเป็นคำสั่งหรือข้อแนะนำจากองค์การอนามัยโลกและผ่านมาทาง อย สหรัฐ ศูนย์ควบคุมป้องกันโรคของสหรัฐ 6- สามารถที่จะเซ็นเซอร์ทุกอย่างได้ที่เกี่ยวกับข้อมูลที่ควรจะเป็น ไม่ว่าเป็นผลข้างเคียงผลแทรกซ้อนของวัคซีนและยาที่องค์การอนามัยโลกสั่ง ประชาชนไม่สามารถสื่อสารการใช้ยาที่คนไทยใช้อยู่แล้วในพื้นที่ และมีหน่วยงานที่เซ็นเซอร์โดยจัดให้เป็นข้อมูลเท็จ misinformation ผ่านทางหน่วยงานของรัฐ จากองค์กร และสู่ประชาชนทั้งประเทศให้เชื่อฟัง ทั้งนี้จะมีหน่วยงานที่สอดส่องโดยใช้ปัญญาประดิษฐ์และทำการถอดถอนข้อมูล ดิสเครดิต ผู้ที่ให้ข้อมูลทันที มีหน่วยงานลักษณะนี้ รวมทั้งกระทรวงของรัฐที่ทำตามกระบวนการนี้ สิ่งที่กล่าวนี้เกิดขึ้นแล้ว ในช่วงโควิด และเป็นที่ประจักษ์ในเรื่องของผลกระทบผลข้างเคียง ของสิ่งที่ฉีด โดยที่ทางการของประเทศ ไทยเองประกาศทั่วประเทศเมื่อต้นปี 2567 ว่า ผลกระทบร้ายแรงและถึงแก่ชีวิตทั้งประเทศมีเพียงห้าราย โดยที่ตัวเลขห้ารายนี้ จะเทียบกับหนึ่งในล้าน ซึ่ง เป็นตัวเลขที่ยอมรับได้ตามประกาศขององค์การอนามัยโลก ทั้งๆที่รายอื่นเป็น 10,000 เป็น 100,000 ถูกปัดว่าไม่มีความเกี่ยวข้อง และถึงกระทั่งให้หาข้อพิสูจน์มา เอง โดยที่การพิสูจน์ หรือชันสูตรศพ ทาง วิทยาศาสตร์นั้นต้องการทุนไม่ต่ำกว่า 500,000 บาท สิ่งเหล่านี้ปรากฏขึ้นแล้วและจะรุนแรงขึ้นอีกหลายเท่าถ้าตกอยู่ในสนธิสัญญานี้ วัคซีนในปัจจุบันและต่อจากนี้ในมนุษย์และสัตว์ใช้เทคโนโลยี ที่ใช้กับโควิด ทั้งนี้โดยอ้างว่า ได้ใช้กับประชาชนทั่วโลกแล้วและผลกระทบไม่ได้เกิดจากวัคซีน นสพ มติชน ฉบับพิมพ์ ท็อล์กออฟเดอะทาวน์ 10 พย 2567 กระบวนการรวบรวมรายชื่อคัดค้านและนำส่งทางการของประเทศไทยโดยกลุ่มแพทย์และประชาชนไทยพิทักษ์สิทธิ์ รวบรวมข้อมูลโดย ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 281 มุมมอง 0 รีวิว
  • พวกมันจะขายชาติที่บรรพบุรุษแลกมาด้วยชีวิตเลือดเนื้อและคราบน้ำตา🥺❤🇹🇭❤"เราคนไทยแท้ๆไม่ยอม✌
    พวกมันจะขายชาติที่บรรพบุรุษแลกมาด้วยชีวิตเลือดเนื้อและคราบน้ำตา🥺❤🇹🇭❤"เราคนไทยแท้ๆไม่ยอม✌
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 59 มุมมอง 37 0 รีวิว
  • นักการเมืองไทยชอบ
    “กินมาม่า” !!!
    แต่พวกเราคนไทย คงต้อง
    “กินหญ้า”
    กันต่อไป ???
    นักการเมืองไทยชอบ “กินมาม่า” !!! แต่พวกเราคนไทย คงต้อง “กินหญ้า” กันต่อไป ???
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอ 100,000 รายชื่อ ของคนไทยที่ ”คลั่งชาติ-รักษ์ชาติ“ ร่วมลงชื่อเรียกร้องรัฐบาลยกเลิก MOU-44 เพื่อพิทักษ์ปกป้องอธิปไตย-เขตแดนทางทะเล (เกาะกูด) และ ทรัพยากรทางทะเล อันเป็นสมบัติของชาติ

    สามารถคลิกลงชื่อตามลิงค์ด้านล่างนี้
    https://nationalist.onrender.com
    ขอ 100,000 รายชื่อ ของคนไทยที่ ”คลั่งชาติ-รักษ์ชาติ“ ร่วมลงชื่อเรียกร้องรัฐบาลยกเลิก MOU-44 เพื่อพิทักษ์ปกป้องอธิปไตย-เขตแดนทางทะเล (เกาะกูด) และ ทรัพยากรทางทะเล อันเป็นสมบัติของชาติ สามารถคลิกลงชื่อตามลิงค์ด้านล่างนี้ https://nationalist.onrender.com
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฉมหน้าเจ้าตัวร้าย
    “กฤษฎีกากัมพูชา 1972”
    รุกล้ำอธิปไตยเกาะ/น่านน้ำไทย !
    ________
    .
    ใครที่บอกว่ากัมพูชาไม่เคย ”พูด“ อ้างกรรมสิทธิเหนือเกาะกูด และบรรดาคนไทยที่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นคือพวกคลั่งชาติ ลองพิจารณาอ่านเรื่องนี้สักนิด…
    .
    กัมพูชาอาจจะไม่เคย ”พูด“ อย่างเป็นทางการในนามรัฐบาล ไม่ว่าในยุคไหนระบอบอะไร แต่กัมพูชาลงมือ “ทำ” เลยอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อ 52 ปีก่อนในช่วงสั้น ๆ ของรัฐบาลระบอบสาธารณรัฐ
    .
    และ “ผลแห่งการกระทำ” นั้นยังคงอยู่ !
    .
    “กฤษฎีกาที่ 439/72/PRK กำหนดเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย ค.ศ. 1972”
    .
    วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1972
    .
    จอมพลลอนนอลลงนามในฐานะประธานาธิบดีสาธารณรัฐกัมพูชา หลังรัฐประหารโค่นล้มระบอบกษัตริย์ 2 ปี และก่อนพนมเปญแตกพ่ายแพ้ต่อคอมมิวนิสต์เขมรแดง 3 ปี
    .
    สารัตถะสำคัญอยู่ในมาตราแรก (Article Premier) ผมสรุปมาจากที่ดร.ประจิตต์ โรจนพฤกษ์เขียนไว้ในบทความของท่านเมื่อปี 2554 รวมทั้งการเสวนาที่สยามสมาคมในปีเดียวกันนั้น
    .
    วรรคแรกเป็นการอ้างฐานทางกฎหมาย
    .
    (1) อนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีปลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958
    .
    (2) สนธิสัญญาสยามฝรั่งเศสลงวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1907 และ…
    .
    (3) บันทึกการปักปันเขตแดนสยามฝรั่งเศสลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1908 รวมทั้ง…
    .
    (4) แผนที่เดินเรือของฝรั่งเศส 1972 มาตราส่วน 1:1,096,000
    .
    กฤษฎีกา 1972 ระบุพิกัดของเขตไหล่ทวีปตามจุดอ้างอิงที่เกี่ยวกับ “เกาะกูด” รวมทั้ง “ทะเลอาณาเขต(ของไทย)“ โดยตรง
    .
    โดยในวรรคสอง (ย่อหน้าล่างสุดของกฤษฎีกาหน้าแรก) กล่าวว่าได้มีการปักปันเขตไหล่ทวีประหว่างไทยกับฝรั่งเศสแล้ว โดยทางทิศเหนือ ใช้เส้นตรงเชื่อมจุดชายแดนแผ่นดินที่จุด “A” (ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นที่ตั้งหลักเขตที่ 73) มายังจุดสูงสุดบนเกาะกูดที่เรียกว่าจุด “S” (ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการอ้างอิงจากหนังสือแนบท้ายสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 ข้อ 1) และลากต่อออกทะเลไปยังกึ่งกลางอ่าวไทยที่เรียกว่าจุด “P”
    .
    โดยในตารางท้ายมาตราแรก (อยู่ตอนต้นของกฤษฎีกาหน้า 2) ได้กำหนดรายละเอียดของจุด “A“ และ “P” ไว้
    .
    จุด ”A” คือจุดใต้สุดของการแบ่งเขตแดนทางบกตามสนธิสัญญาค.ศ. 1907 ก็คือหลักเขตที่ 73 นั่นเอง
    .
    จุด “P” กึ่งกลางอ่าวไทยนั้น กฤษฎีการะบุว่าเป็นจุดมัธยะ (หรือกึ่งกลาง) ระหว่างไหล่ทวีปของกัมพูชากับไทย
    .
    มาตราแรกโดยเฉพาะวรรคสองนี่แหละ “เท็จ” โดยสิ้นเชิง
    .
    เพราะไม่เคยมีการปักปันเขตแดนทางทะเลระหว่างสยามกับอินโดจีนของฝรั่งเศสกันมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงค.ศ. 1907 หรือ 1908 ไม่เคยมีสนธิสัญญาเกี่ยวกับการนี้ ประวัติศาสตร์ฉบับไหนก็ไม่เคยระบุ กฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอาณาเขตทางทะเลที่นานาชาติยึดถือกันเมื่อ 127 ปีก่อนก็ต่างกับปัจจุบัน ยุคนั้นยังไม่มีสิ่งที่นานาชาติกำหนดอาณาเขตทางทะเลขึ้นมาให้รัฐชายฝั่งมีสิทธิอธิปไตยเหนือแล้วเรียกว่า “ไหล่ทวีป” เสียด้วยซ้ำ ไม่มีเขตต่อเนื่อง ไม่มีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ มีแค่ทะเลอาณาเขตระยะ 3 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง พ้นออกมาเป็นเขตทะเลหลวงที่เป็นเขตทะเลเสรีไม่มีประเทศใดมีสิทธิถือครองเป็นเจ้าของได้
    .
    แต่สมมติแม้จะยึดกฎเกณฑ์ในยุคสมัยค.ศ. 1907 หากจะปักปันเขตแดนทางทะเลกัน การขีดเส้นแนว “A-S-P” เป็นอาณาเขตทางทะเลของอินโดจีนฝรั่งเศสก็ไม่ถูกและไม่มีกฎเกณฑ์ใดรองรับอยู่ดี เพราะระยะทางจากชายฝั่งถึงเกาะกูดประมาณ 19 ไมล์ทะเล เกิน 3 ไมล์ทะเลตั้งเยอะ อินโดจีนฝรั่งเศสจะไปถือสิทธิครอบครองเขตทะเลหลวงได้อย่างไร
    .
    การจงใจระบุพิกัดเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อค.ศ. 1972 เช่นนี้คือการกระทำที่ละเมิดอธิปไตยไทยเหนือเกาะกูด ทั้งตัวเกาะ และทะเลอาณาเขต
    .
    ดร.ประจิตต์ โรจนพฤกษ์ กล่าวไว้ในงานเขียนของท่านว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการแบ่งเขตไหล่ทวีปโดยเส้นผ่าเกาะกูดซึ่งเป็นดินแดนทางบก เพราะไหล่ทวีปหมายถึงพื้นดินใต้ทะเลและใต้พื้นดินใต้ทะเล
    .
    ดังนั้น โอกาสที่แนว “A-S-P” จะถูกต้องมีอยู่เงื่อนไขเดียวเท่านั้น…
    .
    คือตัวเกาะกูดต้องเป็นของกัมพูชาครึ่งหนึ่ง !
    .
    ขอย้ำอีกครั้งว่า แนว “A-S-P” อันเป็นเส้นเขตไหล่ทวีปด้านเหนือของกัมพูชาตามกฤษฎีกา 1972 จะถูกต้องก็ต่อเมื่อตัวเกาะกูดเป็นของกัมพูชาครึ่งหนึ่งเท่านั้น !!
    .
    แล้วประเทศไทยผู้ถูกรุกล้ำอธิปไตยจะ “ยอมรับ” ได้อย่างไร ?
    .
    แม้จะไม่ใช่การยอมรับใน “ความถูกต้อง” แค่ยอมรับ “การมีอยู่”, “การคงอยู่” เพื่อเป็นเพียง “กรอบ” ในการ “เจรจาเรื่องอื่น” ก็เถอะ !!
    .
    ตรงนี้จำเป็นต้องมีการพูดถึงแผนที่หรือแผนผัง 2 (+1) ฉบับที่นำมาลงเป็นภาพประกอบไว้
    .
    ฉบับที่ 1 คือแผนที่เดินเรือฝรั่งเศสที่ใช้แนบท้ายกฤษฎีกา 1972 ไม่ได้มีการเขียนลากเส้นบนแผนที่พาดผ่านตัวเกาะกูดโดยตรง หากแต่ลากเป็นเส้นตรงออกมาจากชายฝั่งทะเลจังหวัดตราดสุดเขตแดนทางบกของไทยกับกัมพูชามาหยุดที่ตัวเกาะกูดด้านทิศตะวันออก แล้วลากเส้นตรงใหม่จากตัวเกาะกูดด้านทิศตะวันตกตรงไปกลางอ่าวไทย แผนที่ทำนองนี้โดยทั่วไปเป็นแผนที่ใช้สำหรับกิจการในกองทัพเรือรวมถึงการเดินเรือไม่ใช่แผนที่แสดงเขตแดนใด ๆ ทั้งสิ้น เส้นตรงที่ลากผ่านเกาะกูดไปยังกลางอ่าวไทยในแผนที่นี้ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นเส้นอะไร แต่กระนั้นตรงชื่อเกาะกูด (Koh Kut) ก็ยังมีวงเล็บต่อท้ายว่า “(Siam)” อย่างที่พอเห็นได้ จึงแสดงให้เห็นว่าในปีค.ศ. 1907 จนกระทั่งถึงวันคืนเอกราชให้ 3 ประเทศอินโดจีน ฝรั่งเศสไม่ได้มีความพยายาม “เคลม” กรรมสิทธิ์เหนือเกาะกูดแต่ประการใด เพราะในสนธิสัญญา 1907 ข้อ 2 อันเป็นสัญญาหลัก ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าเขายกให้เรา แลกกับ 3 มณฑลใหญ่ของกัมพูชาดังที่ทราบกันดี
    .
    ฉบับที่ 2 เป็นแผนที่ที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาจัดทำขึ้นแจกแก่ผู้สื่อข่าวเพื่อชี้แจงกฤษฎีกา 1972 ให้ชัดเจนขึ้น คราวนี้นอกจากตัดรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อขับเน้นเฉพาะเส้นที่เสกสรรค์ปั้นแต่งว่าเป็นเขตไหล่ทวีปของตนแล้ว ยังเขียนเส้นพาดผ่านผ่ากลางแบ่งครึ่งเกาะกูดโดยตรง
    .
    แผนที่ฉบับหลังนี้เข้าใจว่าเมื่อกระทรวงการต่างประเทศไทยได้รับ ก็นำมาทำใหม่เพื่อประกอบการศึกษาภายใน มีภาษาไทยกำกับ ยังคงแสดงเส้นพาดผ่านผ่ากลางแบ่งครึ่งเกาะกูดโดยตรงตามเจตนาของต้นฉบับที่ฝ่ายกันพูชาจัดทำ
    .
    เช่นนี้แล้ว ใครที่ออกตัวรับรองว่ากัมพูชาไม่เคย “พูด” ไม่เคยอ้างสิทธิเหนือเกาะกูดน่ะจะว่าอย่างไร ?
    .
    เพราะการที่กัมพูชาลงมือ “ทำ” โดยกฤษฎีกา 1972 ตามที่เล่ามานี้มันยิ่งกว่า “พูด” เสียอีก !
    .
    ไม่เคยได้ยินภาษิตที่ว่า “การกระทำดังกว่าคำพูด” หรือ ?!!
    .
    ณ ปีค.ศ. 1907 มีแต่การปักปันเขตแดนทางบกระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส
    .
    แต่แน่ละ มีการกล่าวถึงเกาะกูดไว้ในหนังสือติดท้ายสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 ข้อ 1 จริง แต่ก็เพียงเพื่อใช้เป็นจุดเล็งไปยังจุดใดจุดหนึ่งบนแผ่นดินชายหาดที่จะกำหนดให้ป็นหลักเขตที่ 73 เพราะบนแผ่นดินชายหาดบริเวณนั้นไม่มีภูมิประเทศใดที่ยั่งยืนพอให้เป็นที่สังเกตได้
    .
    “เขตแดนในระหว่างกรุงสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศสนั้น ตั้งแต่ชายทะเลที่ตรงข้ามกับยอดเขาสูงที่สุดของเกาะกูดเป็นหลักแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไปทางตะวันออกเฉียงเหนือถึงสันเขาพนมกระวาน….“
    .
    แค่ข้อความที่ระบุว่า “ตั้งแต่ชายทะเล…” วิญญูชนย่อมเข้าใจได้ว่าหมายถึงแผ่นดิน-ไม่ใช่ทะเล แต่กัมพูชาในยุคจอมพลลอนนอลในปีค.ศ. 1972 ไปตีขลุมว่ามีการปักปันเขตแดนทางทะเลแล้วในอดีต แล้วก็ตีเส้นตามอำเภอใจ เพื่อตีกินพื้นที่ทรัพยากรในอ่าวไทย
    .
    โดยในอีกทางหนึ่งก็ไปหยิบเอา ”เส้นประ“ (- - - - - - -) ระหว่างเกาะกูดกับแผ่นดินชายหาดจังหวัดตราดในแผนที่ประกอบหนังสือติดท้ายสนธิสัญญาค.ศ. 1907 มาเป็นประเด็นอธิบายการแถระดับโลกของตัวเอง
    .
    หากดูภาพสุดท้ายจะพบมีเส้น ++++++ อันเป็นสัญลักษณ์สากลของเส้นแบ่งเขตแดน (boundary line) ตลอดแนวเขตแดนทางบกไทยกัมพูชา ขณะที่เส้นประ (dotted line) - - - - - - มีอยู่เพียงสั้น ๆ ระหว่างเกาะกูดกับแผ่นดินชายทะเลจังหวัดตราดเท่านั้น ซึ่งเมื่อดูในบริบทของสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 วิญญูชนก็ย่อมเข้าใจได้ไม่ยากอีกเช่นกันว่าเป็นการแสดงจุดเล็งไปยังแผ่นดินเพื่อหาจุดที่ตั้งหลักเขตที่ 73
    .
    การแถดังกล่าวกลายเป็นกรณีศึกษาทางวิชาการกันพอสมควรหลังปีค.ศ. 1972 และก็มีการยืนยันในข้อเท็จจริงแล้วอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากบุคคลระดับชนชั้นนำของกัมพูชาเอง
    .
    ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่ากฤษฎีกา 1972 ของกัมพูชานี้ยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน ในฐานะที่เป็นประกาศของประมุขแห่งรัฐ
    .
    การที่แผนผังแนบท้าย MOU 2544 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คือเส้นแนว “A-S-P” กำหนดเขตไหล่ทวีปด้านบนของกัมพูชาไม่ได้เขียนแบบลากพาดผ่าน หรือเขียนแบบหยุดเว้นตัวเกาะ แต่เขียนประชิดติดตัวเกาะเว้าเป็นรูปตัว ”U” ทางทิศใต้แล้วก็ตาม นั่นหาเป็นผลแปรเปลี่ยนใด ๆ ไม่ เพราะด้านหนึ่งตัวกฤษฎีกา 1972 ยังคงอยู่ อีกด้านหนึ่งแนวเส้น “A-S-P” ยังคงอยู่ การละเมิดอธิปไตยเหนือตัวเกาะกูดและทะเลอาณาเขตของไทยยังคงอยู่
    .
    มีหนำซ้ำเนื้อหาใน MOU 2544 ข้อ 5 ก็ระบุไว้ว่าการตกลงใด ๆ หากจะมีขึ้นไม่กระทบกระเทือนการอ้างสิทธิของแต่ละฝ่าย
    .
    พระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทยจังหวัดจันทบุรีและตราดในองค์พระปิยมหาราชเจ้าช่วงวิกฤตกับฝรั่งเศสระหว่าง ร.ศ. 112 - 125 ทำให้ประเทศไทย ณ วันนี้มีฝั่งทะเลตะวันออกด้านอ่าวไทยยาวเหยียดจนแทบจะโอบล้อมแหล่งทรัพยากรไว้ได้ทั้งหมด - คนไทยต้องรักษาไว้
    .
    ประกาศพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ของล้นเกล้าฯในหลวงรัชกาลที่ 9 สืบทอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยกา - คนไทยต้องรักษาไว้
    .
    .
    คำนูณ สิทธิสมาน
    4 พฤศจิกายน 2567

    ที่มา https://www.facebook.com/share/p/15CSsZXGkk/?mibextid=CTbP7E

    #Thaitimes
    โฉมหน้าเจ้าตัวร้าย “กฤษฎีกากัมพูชา 1972” รุกล้ำอธิปไตยเกาะ/น่านน้ำไทย ! ________ . ใครที่บอกว่ากัมพูชาไม่เคย ”พูด“ อ้างกรรมสิทธิเหนือเกาะกูด และบรรดาคนไทยที่นำเรื่องนี้มาเป็นประเด็นคือพวกคลั่งชาติ ลองพิจารณาอ่านเรื่องนี้สักนิด… . กัมพูชาอาจจะไม่เคย ”พูด“ อย่างเป็นทางการในนามรัฐบาล ไม่ว่าในยุคไหนระบอบอะไร แต่กัมพูชาลงมือ “ทำ” เลยอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยเมื่อ 52 ปีก่อนในช่วงสั้น ๆ ของรัฐบาลระบอบสาธารณรัฐ . และ “ผลแห่งการกระทำ” นั้นยังคงอยู่ ! . “กฤษฎีกาที่ 439/72/PRK กำหนดเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย ค.ศ. 1972” . วันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 1972 . จอมพลลอนนอลลงนามในฐานะประธานาธิบดีสาธารณรัฐกัมพูชา หลังรัฐประหารโค่นล้มระบอบกษัตริย์ 2 ปี และก่อนพนมเปญแตกพ่ายแพ้ต่อคอมมิวนิสต์เขมรแดง 3 ปี . สารัตถะสำคัญอยู่ในมาตราแรก (Article Premier) ผมสรุปมาจากที่ดร.ประจิตต์ โรจนพฤกษ์เขียนไว้ในบทความของท่านเมื่อปี 2554 รวมทั้งการเสวนาที่สยามสมาคมในปีเดียวกันนั้น . วรรคแรกเป็นการอ้างฐานทางกฎหมาย . (1) อนุสัญญาเจนีวาว่าด้วยไหล่ทวีปลงวันที่ 29 เมษายน ค.ศ. 1958 . (2) สนธิสัญญาสยามฝรั่งเศสลงวันที่ 23 มีนาคม ค.ศ. 1907 และ… . (3) บันทึกการปักปันเขตแดนสยามฝรั่งเศสลงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1908 รวมทั้ง… . (4) แผนที่เดินเรือของฝรั่งเศส 1972 มาตราส่วน 1:1,096,000 . กฤษฎีกา 1972 ระบุพิกัดของเขตไหล่ทวีปตามจุดอ้างอิงที่เกี่ยวกับ “เกาะกูด” รวมทั้ง “ทะเลอาณาเขต(ของไทย)“ โดยตรง . โดยในวรรคสอง (ย่อหน้าล่างสุดของกฤษฎีกาหน้าแรก) กล่าวว่าได้มีการปักปันเขตไหล่ทวีประหว่างไทยกับฝรั่งเศสแล้ว โดยทางทิศเหนือ ใช้เส้นตรงเชื่อมจุดชายแดนแผ่นดินที่จุด “A” (ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นที่ตั้งหลักเขตที่ 73) มายังจุดสูงสุดบนเกาะกูดที่เรียกว่าจุด “S” (ทำให้เข้าใจได้ว่าเป็นการอ้างอิงจากหนังสือแนบท้ายสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 ข้อ 1) และลากต่อออกทะเลไปยังกึ่งกลางอ่าวไทยที่เรียกว่าจุด “P” . โดยในตารางท้ายมาตราแรก (อยู่ตอนต้นของกฤษฎีกาหน้า 2) ได้กำหนดรายละเอียดของจุด “A“ และ “P” ไว้ . จุด ”A” คือจุดใต้สุดของการแบ่งเขตแดนทางบกตามสนธิสัญญาค.ศ. 1907 ก็คือหลักเขตที่ 73 นั่นเอง . จุด “P” กึ่งกลางอ่าวไทยนั้น กฤษฎีการะบุว่าเป็นจุดมัธยะ (หรือกึ่งกลาง) ระหว่างไหล่ทวีปของกัมพูชากับไทย . มาตราแรกโดยเฉพาะวรรคสองนี่แหละ “เท็จ” โดยสิ้นเชิง . เพราะไม่เคยมีการปักปันเขตแดนทางทะเลระหว่างสยามกับอินโดจีนของฝรั่งเศสกันมาก่อน โดยเฉพาะในช่วงค.ศ. 1907 หรือ 1908 ไม่เคยมีสนธิสัญญาเกี่ยวกับการนี้ ประวัติศาสตร์ฉบับไหนก็ไม่เคยระบุ กฎหมายระหว่างประเทศหรือกฎเกณฑ์เกี่ยวกับอาณาเขตทางทะเลที่นานาชาติยึดถือกันเมื่อ 127 ปีก่อนก็ต่างกับปัจจุบัน ยุคนั้นยังไม่มีสิ่งที่นานาชาติกำหนดอาณาเขตทางทะเลขึ้นมาให้รัฐชายฝั่งมีสิทธิอธิปไตยเหนือแล้วเรียกว่า “ไหล่ทวีป” เสียด้วยซ้ำ ไม่มีเขตต่อเนื่อง ไม่มีเขตเศรษฐกิจจำเพาะ มีแค่ทะเลอาณาเขตระยะ 3 ไมล์ทะเลจากชายฝั่ง พ้นออกมาเป็นเขตทะเลหลวงที่เป็นเขตทะเลเสรีไม่มีประเทศใดมีสิทธิถือครองเป็นเจ้าของได้ . แต่สมมติแม้จะยึดกฎเกณฑ์ในยุคสมัยค.ศ. 1907 หากจะปักปันเขตแดนทางทะเลกัน การขีดเส้นแนว “A-S-P” เป็นอาณาเขตทางทะเลของอินโดจีนฝรั่งเศสก็ไม่ถูกและไม่มีกฎเกณฑ์ใดรองรับอยู่ดี เพราะระยะทางจากชายฝั่งถึงเกาะกูดประมาณ 19 ไมล์ทะเล เกิน 3 ไมล์ทะเลตั้งเยอะ อินโดจีนฝรั่งเศสจะไปถือสิทธิครอบครองเขตทะเลหลวงได้อย่างไร . การจงใจระบุพิกัดเส้นเขตไหล่ทวีปของกัมพูชาเมื่อค.ศ. 1972 เช่นนี้คือการกระทำที่ละเมิดอธิปไตยไทยเหนือเกาะกูด ทั้งตัวเกาะ และทะเลอาณาเขต . ดร.ประจิตต์ โรจนพฤกษ์ กล่าวไว้ในงานเขียนของท่านว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีการแบ่งเขตไหล่ทวีปโดยเส้นผ่าเกาะกูดซึ่งเป็นดินแดนทางบก เพราะไหล่ทวีปหมายถึงพื้นดินใต้ทะเลและใต้พื้นดินใต้ทะเล . ดังนั้น โอกาสที่แนว “A-S-P” จะถูกต้องมีอยู่เงื่อนไขเดียวเท่านั้น… . คือตัวเกาะกูดต้องเป็นของกัมพูชาครึ่งหนึ่ง ! . ขอย้ำอีกครั้งว่า แนว “A-S-P” อันเป็นเส้นเขตไหล่ทวีปด้านเหนือของกัมพูชาตามกฤษฎีกา 1972 จะถูกต้องก็ต่อเมื่อตัวเกาะกูดเป็นของกัมพูชาครึ่งหนึ่งเท่านั้น !! . แล้วประเทศไทยผู้ถูกรุกล้ำอธิปไตยจะ “ยอมรับ” ได้อย่างไร ? . แม้จะไม่ใช่การยอมรับใน “ความถูกต้อง” แค่ยอมรับ “การมีอยู่”, “การคงอยู่” เพื่อเป็นเพียง “กรอบ” ในการ “เจรจาเรื่องอื่น” ก็เถอะ !! . ตรงนี้จำเป็นต้องมีการพูดถึงแผนที่หรือแผนผัง 2 (+1) ฉบับที่นำมาลงเป็นภาพประกอบไว้ . ฉบับที่ 1 คือแผนที่เดินเรือฝรั่งเศสที่ใช้แนบท้ายกฤษฎีกา 1972 ไม่ได้มีการเขียนลากเส้นบนแผนที่พาดผ่านตัวเกาะกูดโดยตรง หากแต่ลากเป็นเส้นตรงออกมาจากชายฝั่งทะเลจังหวัดตราดสุดเขตแดนทางบกของไทยกับกัมพูชามาหยุดที่ตัวเกาะกูดด้านทิศตะวันออก แล้วลากเส้นตรงใหม่จากตัวเกาะกูดด้านทิศตะวันตกตรงไปกลางอ่าวไทย แผนที่ทำนองนี้โดยทั่วไปเป็นแผนที่ใช้สำหรับกิจการในกองทัพเรือรวมถึงการเดินเรือไม่ใช่แผนที่แสดงเขตแดนใด ๆ ทั้งสิ้น เส้นตรงที่ลากผ่านเกาะกูดไปยังกลางอ่าวไทยในแผนที่นี้ก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นเส้นอะไร แต่กระนั้นตรงชื่อเกาะกูด (Koh Kut) ก็ยังมีวงเล็บต่อท้ายว่า “(Siam)” อย่างที่พอเห็นได้ จึงแสดงให้เห็นว่าในปีค.ศ. 1907 จนกระทั่งถึงวันคืนเอกราชให้ 3 ประเทศอินโดจีน ฝรั่งเศสไม่ได้มีความพยายาม “เคลม” กรรมสิทธิ์เหนือเกาะกูดแต่ประการใด เพราะในสนธิสัญญา 1907 ข้อ 2 อันเป็นสัญญาหลัก ระบุไว้ชัดเจนแล้วว่าเขายกให้เรา แลกกับ 3 มณฑลใหญ่ของกัมพูชาดังที่ทราบกันดี . ฉบับที่ 2 เป็นแผนที่ที่กระทรวงการต่างประเทศกัมพูชาจัดทำขึ้นแจกแก่ผู้สื่อข่าวเพื่อชี้แจงกฤษฎีกา 1972 ให้ชัดเจนขึ้น คราวนี้นอกจากตัดรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อขับเน้นเฉพาะเส้นที่เสกสรรค์ปั้นแต่งว่าเป็นเขตไหล่ทวีปของตนแล้ว ยังเขียนเส้นพาดผ่านผ่ากลางแบ่งครึ่งเกาะกูดโดยตรง . แผนที่ฉบับหลังนี้เข้าใจว่าเมื่อกระทรวงการต่างประเทศไทยได้รับ ก็นำมาทำใหม่เพื่อประกอบการศึกษาภายใน มีภาษาไทยกำกับ ยังคงแสดงเส้นพาดผ่านผ่ากลางแบ่งครึ่งเกาะกูดโดยตรงตามเจตนาของต้นฉบับที่ฝ่ายกันพูชาจัดทำ . เช่นนี้แล้ว ใครที่ออกตัวรับรองว่ากัมพูชาไม่เคย “พูด” ไม่เคยอ้างสิทธิเหนือเกาะกูดน่ะจะว่าอย่างไร ? . เพราะการที่กัมพูชาลงมือ “ทำ” โดยกฤษฎีกา 1972 ตามที่เล่ามานี้มันยิ่งกว่า “พูด” เสียอีก ! . ไม่เคยได้ยินภาษิตที่ว่า “การกระทำดังกว่าคำพูด” หรือ ?!! . ณ ปีค.ศ. 1907 มีแต่การปักปันเขตแดนทางบกระหว่างสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศส . แต่แน่ละ มีการกล่าวถึงเกาะกูดไว้ในหนังสือติดท้ายสนธิสัญญา ค.ศ. 1907 ข้อ 1 จริง แต่ก็เพียงเพื่อใช้เป็นจุดเล็งไปยังจุดใดจุดหนึ่งบนแผ่นดินชายหาดที่จะกำหนดให้ป็นหลักเขตที่ 73 เพราะบนแผ่นดินชายหาดบริเวณนั้นไม่มีภูมิประเทศใดที่ยั่งยืนพอให้เป็นที่สังเกตได้ . “เขตแดนในระหว่างกรุงสยามกับอินโดจีนฝรั่งเศสนั้น ตั้งแต่ชายทะเลที่ตรงข้ามกับยอดเขาสูงที่สุดของเกาะกูดเป็นหลักแล้ว ตั้งแต่นี้ต่อไปทางตะวันออกเฉียงเหนือถึงสันเขาพนมกระวาน….“ . แค่ข้อความที่ระบุว่า “ตั้งแต่ชายทะเล…” วิญญูชนย่อมเข้าใจได้ว่าหมายถึงแผ่นดิน-ไม่ใช่ทะเล แต่กัมพูชาในยุคจอมพลลอนนอลในปีค.ศ. 1972 ไปตีขลุมว่ามีการปักปันเขตแดนทางทะเลแล้วในอดีต แล้วก็ตีเส้นตามอำเภอใจ เพื่อตีกินพื้นที่ทรัพยากรในอ่าวไทย . โดยในอีกทางหนึ่งก็ไปหยิบเอา ”เส้นประ“ (- - - - - - -) ระหว่างเกาะกูดกับแผ่นดินชายหาดจังหวัดตราดในแผนที่ประกอบหนังสือติดท้ายสนธิสัญญาค.ศ. 1907 มาเป็นประเด็นอธิบายการแถระดับโลกของตัวเอง . หากดูภาพสุดท้ายจะพบมีเส้น ++++++ อันเป็นสัญลักษณ์สากลของเส้นแบ่งเขตแดน (boundary line) ตลอดแนวเขตแดนทางบกไทยกัมพูชา ขณะที่เส้นประ (dotted line) - - - - - - มีอยู่เพียงสั้น ๆ ระหว่างเกาะกูดกับแผ่นดินชายทะเลจังหวัดตราดเท่านั้น ซึ่งเมื่อดูในบริบทของสนธิสัญญาสยามฝรั่งเศส ค.ศ. 1907 วิญญูชนก็ย่อมเข้าใจได้ไม่ยากอีกเช่นกันว่าเป็นการแสดงจุดเล็งไปยังแผ่นดินเพื่อหาจุดที่ตั้งหลักเขตที่ 73 . การแถดังกล่าวกลายเป็นกรณีศึกษาทางวิชาการกันพอสมควรหลังปีค.ศ. 1972 และก็มีการยืนยันในข้อเท็จจริงแล้วอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะจากบุคคลระดับชนชั้นนำของกัมพูชาเอง . ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่ากฤษฎีกา 1972 ของกัมพูชานี้ยังคงดำรงอยู่จนถึงปัจจุบัน ในฐานะที่เป็นประกาศของประมุขแห่งรัฐ . การที่แผนผังแนบท้าย MOU 2544 มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ คือเส้นแนว “A-S-P” กำหนดเขตไหล่ทวีปด้านบนของกัมพูชาไม่ได้เขียนแบบลากพาดผ่าน หรือเขียนแบบหยุดเว้นตัวเกาะ แต่เขียนประชิดติดตัวเกาะเว้าเป็นรูปตัว ”U” ทางทิศใต้แล้วก็ตาม นั่นหาเป็นผลแปรเปลี่ยนใด ๆ ไม่ เพราะด้านหนึ่งตัวกฤษฎีกา 1972 ยังคงอยู่ อีกด้านหนึ่งแนวเส้น “A-S-P” ยังคงอยู่ การละเมิดอธิปไตยเหนือตัวเกาะกูดและทะเลอาณาเขตของไทยยังคงอยู่ . มีหนำซ้ำเนื้อหาใน MOU 2544 ข้อ 5 ก็ระบุไว้ว่าการตกลงใด ๆ หากจะมีขึ้นไม่กระทบกระเทือนการอ้างสิทธิของแต่ละฝ่าย . พระอัจฉริยภาพและพระมหากรุณาธิคุณต่อคนไทยจังหวัดจันทบุรีและตราดในองค์พระปิยมหาราชเจ้าช่วงวิกฤตกับฝรั่งเศสระหว่าง ร.ศ. 112 - 125 ทำให้ประเทศไทย ณ วันนี้มีฝั่งทะเลตะวันออกด้านอ่าวไทยยาวเหยียดจนแทบจะโอบล้อมแหล่งทรัพยากรไว้ได้ทั้งหมด - คนไทยต้องรักษาไว้ . ประกาศพระบรมราชโองการกำหนดเขตไหล่ทวีปด้านอ่าวไทย 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2516 ของล้นเกล้าฯในหลวงรัชกาลที่ 9 สืบทอดพระราชปณิธานของสมเด็จพระอัยกา - คนไทยต้องรักษาไว้ . . คำนูณ สิทธิสมาน 4 พฤศจิกายน 2567 ที่มา https://www.facebook.com/share/p/15CSsZXGkk/?mibextid=CTbP7E #Thaitimes
    Like
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 774 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เมียตั้มพูดเองตั้มเคยบอกให้หนี
    เมื่อย้อนไปดูเทปเก่าขณะที่สองผัวเมียนักฟอก
    กำลังชื่นมื่นเพราะตบตาประชาชน หาแสงจนเป็นที่รักของคนไทย
    มีรายการหลายรายการได้เชิญไปออกอากาศ
    และในรายการหนึ่ง ผู้ดำเนินรายการถามว่า
    เคยมั๊ย ที่ตั้มให้หนี เมียตั้มตอบว่าเคย
    นั่นหมายความว่า การหนีรอบนี้ ไม่ใช่รอบแรก
    แต่รอบแรกนั้น มีสุรเชษฐ์ คอยเคลียให้ทุกเรื่อง
    ช่วยกันมา ช่วยกันไป ฟอกกันมาฟอกกันไป
    สุดท้าย อิ๊บอ๋ายดูโอ้
    ล่าสุด ตร ก็ออกมาให้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว
    ว่าทั้งสองผัวเมีย มีความตั้งใจที่จะหนี
    ไปทางฝั่งสระแก้ว และการรวบรอบนี้
    ไม่ใช่โดยละม่อม แต่เป็นการไล่ตาม
    และบังคับให้จอด เพราะที่ตั้มเอาพอชคันนี้มาใช้
    เนื่องจากเป็นรถที่มีความเร็วสูง ทางเจ้าหน้าาที่ยังบอกอีกว่า
    ถ้าไปไกลกว่านี้ ศักยภาพรถของตร ก็จะตามไม่ทัน
    พี่คิงส์เคยเปิดเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว แต่ที่ผ่านมา
    สุรเชษฐ์ถือว่ามีอำนาจ มีสายบังคับบัญชา
    ที่ทำให้เรื่องฟอก มันไปไม่ถึงกฏหมาย
    และพี่คิงส์เปิดหัวใหม่ไว้เลยว่า
    เส้นทางการฟอก ของสุรเชษฐ์ และตั้ม
    มีทั้งบนดินและใต้ดิน บนดินอยู่ที่ภูเก็ต
    เป็นโรงแรมที่มีชั้นใต้ดิน รวมถึงกิจการที่ถือโดยม้าที่อยู่รอบโรงแรม
    ล่าสุด ก็มีการถ่ายเททรัพย์สินแถวภูเก็ตที่มีความเกี่ยวข้องกับตั้มและโจ๊ก
    เป็นการอึกทึกครึกโครม จากนี้เมื่อมีการตรวจสอบสายเงิน
    รับรอง วิ่งเข้าโยงกับสุรเชษฐ์ แน่นอน ฟันธง
    ไอ่ฉัด
    #เมียตั้มพูดเองตั้มเคยบอกให้หนี เมื่อย้อนไปดูเทปเก่าขณะที่สองผัวเมียนักฟอก กำลังชื่นมื่นเพราะตบตาประชาชน หาแสงจนเป็นที่รักของคนไทย มีรายการหลายรายการได้เชิญไปออกอากาศ และในรายการหนึ่ง ผู้ดำเนินรายการถามว่า เคยมั๊ย ที่ตั้มให้หนี เมียตั้มตอบว่าเคย นั่นหมายความว่า การหนีรอบนี้ ไม่ใช่รอบแรก แต่รอบแรกนั้น มีสุรเชษฐ์ คอยเคลียให้ทุกเรื่อง ช่วยกันมา ช่วยกันไป ฟอกกันมาฟอกกันไป สุดท้าย อิ๊บอ๋ายดูโอ้ ล่าสุด ตร ก็ออกมาให้ข้อมูลที่แน่ชัดแล้ว ว่าทั้งสองผัวเมีย มีความตั้งใจที่จะหนี ไปทางฝั่งสระแก้ว และการรวบรอบนี้ ไม่ใช่โดยละม่อม แต่เป็นการไล่ตาม และบังคับให้จอด เพราะที่ตั้มเอาพอชคันนี้มาใช้ เนื่องจากเป็นรถที่มีความเร็วสูง ทางเจ้าหน้าาที่ยังบอกอีกว่า ถ้าไปไกลกว่านี้ ศักยภาพรถของตร ก็จะตามไม่ทัน พี่คิงส์เคยเปิดเรื่องนี้มาปีกว่าแล้ว แต่ที่ผ่านมา สุรเชษฐ์ถือว่ามีอำนาจ มีสายบังคับบัญชา ที่ทำให้เรื่องฟอก มันไปไม่ถึงกฏหมาย และพี่คิงส์เปิดหัวใหม่ไว้เลยว่า เส้นทางการฟอก ของสุรเชษฐ์ และตั้ม มีทั้งบนดินและใต้ดิน บนดินอยู่ที่ภูเก็ต เป็นโรงแรมที่มีชั้นใต้ดิน รวมถึงกิจการที่ถือโดยม้าที่อยู่รอบโรงแรม ล่าสุด ก็มีการถ่ายเททรัพย์สินแถวภูเก็ตที่มีความเกี่ยวข้องกับตั้มและโจ๊ก เป็นการอึกทึกครึกโครม จากนี้เมื่อมีการตรวจสอบสายเงิน รับรอง วิ่งเข้าโยงกับสุรเชษฐ์ แน่นอน ฟันธง ไอ่ฉัด
    Like
    Love
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 392 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ปีนเสาเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา
    #แดรกหมูกระทะมื้อเย็นได้
    #เถียงได้ทุกดอกด้วยปัญญาอันอ่อนด้อย
    #ไม่เว้นปีนเกรียวแม้กระทั่งพระพยอม
    #จำเค้ามาถามกลางโหนกระแสอยู่นั่นแหละธรรมะคืออะไร
    พี่คิงส์ขอบตอบให้เป็นตัวแทนคนไทยทั้งชาติเลยนะ
    ธรรมะนั่นคือ สิ่งที่เมิงไม่มี
    ไอ่ฉัด
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #ปีนเสาเพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา #แดรกหมูกระทะมื้อเย็นได้ #เถียงได้ทุกดอกด้วยปัญญาอันอ่อนด้อย #ไม่เว้นปีนเกรียวแม้กระทั่งพระพยอม #จำเค้ามาถามกลางโหนกระแสอยู่นั่นแหละธรรมะคืออะไร พี่คิงส์ขอบตอบให้เป็นตัวแทนคนไทยทั้งชาติเลยนะ ธรรมะนั่นคือ สิ่งที่เมิงไม่มี ไอ่ฉัด #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    Like
    Haha
    Love
    Yay
    10
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 591 มุมมอง 0 รีวิว
  • ดีใจกับแอพคนไทยเอง
    ดีใจกับแอพคนไทยเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 12 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย
    .
    ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ
    .
    ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก
    .
    ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้
    ..............
    Sondhi X
    'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย . ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ . ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก . ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 599 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts