• **มหากาพย์ข้ามภพ: สายธารแห่งธรรม*

    ---

    ### **บทที่ 5: เงาสะท้อนจากกาลเวลา**

    ราเชศยืนอยู่หน้าห้องเก็บของเก่า มือสั่นเทาขณะเปิดสมุดโบราณที่เพิ่งค้นพบ
    "บันทึกของสุทัตตะ...?"

    ตัวอักษรจารึกบนใบลานเริ่มเลือนราง แต่ความรู้สึกกลับชัดเจนราวกับมีใครมาเขียนเพิ่มในใจเขา:

    _"วันนี้ นันทาเถียงเรื่องฉันให้ผ้าแม่ชีจนร้านขาดทุน...
    แต่ในสายตาเธอ ฉันเห็นความกลัวว่าเราจะจนเหมือนตอนเด็ก"_

    นันดินีที่แอบมองอยู่สะดุ้ง
    "นั่น...นั่นคือความคิดของฉันตอนเห็นแม่ป่วยเพราะไม่มีเงินรักษาตัว!"

    แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างโบสถ์เก่า
    ร่างเงาของทั้งคู่บนพื้น ปรากฏเป็นภาพ **สุทัตตะกับนันทาในชุดโบราณ**

    ---

    ### **บทที่ 6: ศิษย์ลึกลับแห่งเวฬุวัน**

    **อาจารย์ปกรณ์** นักประวัติศาสตร์พุทธศาสนา ผู้ตามหาตำราสูญหาย
    เปิดเผยความลับให้ทั้งคู่ฟัง:

    "ผ้าผืนนั้นทอโดยพระนางพิมพา (พระมารดาของราหุล)
    มีอักขระธารณีปักไว้ด้วยเส้นผมของพระพุทธเจ้า..."

    แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือ
    **ลายมือในสมุดบันทึกของสุทัตตะ กับของราเชศ...เหมือนกันทุกเส้น!**

    นันดินีจับมือราเชศไว้แน่น
    "นี่ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ...เราถูกชักนำให้มาพบกัน"

    ---

    ### **บทที่ 7: ปริศนาธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์**

    กลางดึก ทั้งคู่หลับไปใต้ต้นโพธิ์หลังวัด
    และพบกับ **สุทัตตะกับนันทาในยุคปัจจุบัน**

    **นันทา (ในร่างนักธุรกิจหญิง):**
    "ชาติก่อนเราทะเลาะกันเพราะต่างไม่เข้าใจ...
    แต่ชาตินี้ ฉันเรียนรู้ที่จะฟังก่อนพูด"

    **สุทัตตะ (ในร่างอาจารย์มหาวิทยาลัย):**
    "ความเงียบของฉันไม่ใช่การหนีปัญหา...
    แต่คือการรอให้เธอพร้อมจะรับฟัง"

    ปรากฏการณ์ **"การพบกันของ 4 จิตวิญญาณ"**
    ทำให้ต้นโพธิ์โบราณผลิดอกออกช่อ
    ทั้งที่ควรจะเหี่ยวแห้งไปนานแล้ว

    ---

    ### **บทที่ 8: สายน้ำสามสายรวมเป็นหนึ่ง**

    ในพิธีมอบผ้าไหมให้พิพิธภัณฑ์
    **เส้นด้ายทั้งสามเริ่มแยกจากกัน:**

    1. สายทอง (ความทรงจำ) → กลายเป็นแสงส่องทาง
    2. สายแดง (กรรมเก่า) → ละลายเป็นน้ำมนต์
    3. สายขาว (การเริ่มใหม่) → ห่อหุ้มหัวใจทั้งสอง

    ราเชศเขียนจดหมายถึงนันดินี:
    _"ไม่สำคัญว่าเราเคยเป็นใคร...
    สำคัญว่าเราจะใช้บทเรียนนี้สร้างอะไร"_

    นันดินีตอบกลับด้วยการวาดภาพ
    **ร้านขายผ้าเก่า ที่มีเด็กๆ นั่งฟังธรรมใต้ต้นไม้ใหญ่**

    ---

    ### **บทส่งท้าย: ดวงประทีปแห่งสาวัตถี**

    ปีต่อมา บนถนนสายเก่าในสาวัตถี
    มี **ศูนย์การเรียนรู้ "สามสายธาร"**

    - **ห้องสมุดจิตวิทยาพุทธศาสตร์** โดยราเชศ
    - **สตูดิโอศิลปะบำบัด** ของนันดินี
    - **ร้านชาสมุนไพร** ของอาจารย์ปกรณ์

    ทุกเย็นวันพระ ทั้งสามจะนั่งร่วมวงเสวนา
    ใต้ต้นโพธิ์ที่ผลิใบใหม่...
    **มหากาพย์ข้ามภพ: สายธารแห่งธรรม* --- ### **บทที่ 5: เงาสะท้อนจากกาลเวลา** ราเชศยืนอยู่หน้าห้องเก็บของเก่า มือสั่นเทาขณะเปิดสมุดโบราณที่เพิ่งค้นพบ "บันทึกของสุทัตตะ...?" ตัวอักษรจารึกบนใบลานเริ่มเลือนราง แต่ความรู้สึกกลับชัดเจนราวกับมีใครมาเขียนเพิ่มในใจเขา: _"วันนี้ นันทาเถียงเรื่องฉันให้ผ้าแม่ชีจนร้านขาดทุน... แต่ในสายตาเธอ ฉันเห็นความกลัวว่าเราจะจนเหมือนตอนเด็ก"_ นันดินีที่แอบมองอยู่สะดุ้ง "นั่น...นั่นคือความคิดของฉันตอนเห็นแม่ป่วยเพราะไม่มีเงินรักษาตัว!" แสงแดดยามเช้าส่องผ่านหน้าต่างโบสถ์เก่า ร่างเงาของทั้งคู่บนพื้น ปรากฏเป็นภาพ **สุทัตตะกับนันทาในชุดโบราณ** --- ### **บทที่ 6: ศิษย์ลึกลับแห่งเวฬุวัน** **อาจารย์ปกรณ์** นักประวัติศาสตร์พุทธศาสนา ผู้ตามหาตำราสูญหาย เปิดเผยความลับให้ทั้งคู่ฟัง: "ผ้าผืนนั้นทอโดยพระนางพิมพา (พระมารดาของราหุล) มีอักขระธารณีปักไว้ด้วยเส้นผมของพระพุทธเจ้า..." แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตะลึงคือ **ลายมือในสมุดบันทึกของสุทัตตะ กับของราเชศ...เหมือนกันทุกเส้น!** นันดินีจับมือราเชศไว้แน่น "นี่ไม่ใช่แค่ความบังเอิญ...เราถูกชักนำให้มาพบกัน" --- ### **บทที่ 7: ปริศนาธรรมใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์** กลางดึก ทั้งคู่หลับไปใต้ต้นโพธิ์หลังวัด และพบกับ **สุทัตตะกับนันทาในยุคปัจจุบัน** **นันทา (ในร่างนักธุรกิจหญิง):** "ชาติก่อนเราทะเลาะกันเพราะต่างไม่เข้าใจ... แต่ชาตินี้ ฉันเรียนรู้ที่จะฟังก่อนพูด" **สุทัตตะ (ในร่างอาจารย์มหาวิทยาลัย):** "ความเงียบของฉันไม่ใช่การหนีปัญหา... แต่คือการรอให้เธอพร้อมจะรับฟัง" ปรากฏการณ์ **"การพบกันของ 4 จิตวิญญาณ"** ทำให้ต้นโพธิ์โบราณผลิดอกออกช่อ ทั้งที่ควรจะเหี่ยวแห้งไปนานแล้ว --- ### **บทที่ 8: สายน้ำสามสายรวมเป็นหนึ่ง** ในพิธีมอบผ้าไหมให้พิพิธภัณฑ์ **เส้นด้ายทั้งสามเริ่มแยกจากกัน:** 1. สายทอง (ความทรงจำ) → กลายเป็นแสงส่องทาง 2. สายแดง (กรรมเก่า) → ละลายเป็นน้ำมนต์ 3. สายขาว (การเริ่มใหม่) → ห่อหุ้มหัวใจทั้งสอง ราเชศเขียนจดหมายถึงนันดินี: _"ไม่สำคัญว่าเราเคยเป็นใคร... สำคัญว่าเราจะใช้บทเรียนนี้สร้างอะไร"_ นันดินีตอบกลับด้วยการวาดภาพ **ร้านขายผ้าเก่า ที่มีเด็กๆ นั่งฟังธรรมใต้ต้นไม้ใหญ่** --- ### **บทส่งท้าย: ดวงประทีปแห่งสาวัตถี** ปีต่อมา บนถนนสายเก่าในสาวัตถี มี **ศูนย์การเรียนรู้ "สามสายธาร"** - **ห้องสมุดจิตวิทยาพุทธศาสตร์** โดยราเชศ - **สตูดิโอศิลปะบำบัด** ของนันดินี - **ร้านชาสมุนไพร** ของอาจารย์ปกรณ์ ทุกเย็นวันพระ ทั้งสามจะนั่งร่วมวงเสวนา ใต้ต้นโพธิ์ที่ผลิใบใหม่...
    0 Comments 0 Shares 1 Views 0 Reviews
  • "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง ถูกตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร นำตัวส่งอัยการเพื่อสั่งฟ้อง ในคดีฉ้อโกง น.ส.วิไลลักษณ์ ไชยชาญ (ซ้อลักษณ์) จากกรณีหลอกขายวุฒิการศึกษาปลอม เหตุเกิดตั้งแต่เดือน ก.ค. 2567 แม้ต้นอ้อมีภาพลักษณ์ดี เป็นอินฟลูเอนเซอร์สายช่วยเหลือสังคม แต่ตำรวจมีหลักฐานชัดเจนถึงพฤติกรรมผิดกฎหมาย นอกจากนี้ ยังมีประเด็นกล่าวหาขายตำแหน่งในสภา และบัตรผ่านเข้าออกทำเนียบรัฐบาล แม้ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าศาลจะตัดสิน แต่สังคมเริ่มตั้งคำถามถึงบทบาทของอินฟลูเอนเซอร์ที่มีเบื้องหลังไม่โปร่งใส อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000039381 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 17 Views 0 Reviews
  • การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้:

    ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน**
    - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า
    - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน

    ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ**
    - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย
    - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น

    ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา**
    - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล
    - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล

    ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์**
    - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ
    - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม

    ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ**
    - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง
    - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม

    ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล
    - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่
    - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์
    - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่
    - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

    ### แนทางแก้ไข
    - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล
    - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล
    - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย
    - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน

    ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    การเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงระบบดิจิทัล (Digital Divide) เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงในประเทศไทย โดยความเหลื่อมล้ำนี้สามารถแบ่งออกได้หลายมิติ ดังนี้: ### 1. **ความเหลื่อมล้ำด้านโครงสร้างพื้นฐาน** - **พื้นที่เมือง vs. ชนบท**: ในเขตเมืองมักมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่ดีกว่า ในขณะที่พื้นที่ห่างไกลหรือชนบทอาจขาดแคลนสัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้า - **ความเร็วและความเสถียร**: แม้ในพื้นที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ความเร็วและความเสถียรอาจไม่เท่ากัน ทำให้การใช้งานมีประสิทธิภาพต่างกัน ### 2. **ความเหลื่อมล้ำด้านเศรษฐกิจ** - **ค่าใช้จ่าย**: การเข้าถึงอุปกรณ์ดิจิทัล (เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์) และค่าบริการอินเทอร์เน็ตอาจเป็นภาระสำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย - **รายได้และโอกาส**: กลุ่มที่มีรายได้สูงมักมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลได้ดีกว่า ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางเศรษฐกิจมากขึ้น ### 3. **ความเหลื่อมล้ำด้านทักษะและการศึกษา** - **ทักษะดิจิทัล**: กลุ่มผู้สูงอายุหรือผู้ที่ขาดโอกาสในการเรียนรู้อาจไม่มีความรู้เพียงพอในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล - **การศึกษา**: โรงเรียนในเมืองอาจมีทรัพยากรด้านดิจิทัล (เช่น อุปกรณ์การเรียนออนไลน์) ดีกว่าโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกล ### 4. **ความเหลื่อมล้ำด้านสังคมและประชากรศาสตร์** - **วัย**: คนรุ่นใหม่อาจปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่าผู้สูงอายุ - **เพศ**: ในบางสังคม ผู้หญิงอาจมีโอกาสเข้าถึงเทคโนโลยีน้อยกว่าผู้ชายเนื่องจากอคติทางวัฒนธรรม ### 5. **นโยบายและการสนับสนุนจากรัฐ** - **การกระจายทรัพยากร**: นโยบายของรัฐอาจไม่ทั่วถึง ทำให้บางพื้นที่หรือกลุ่มคนถูกทิ้งไว้ข้างหลัง - **การส่งเสริมทักษะดิจิทัล**: โครงการฝึกอบรมอาจไม่เพียงพอหรือไม่ครอบคลุมทุกกลุ่ม ### ผลกระทบของความเหลื่อมล้ำดิจิทัล - **เศรษฐกิจ**: กลุ่มที่ขาดแคลนโอกาสดิจิทัลอาจถูกกีดกันจากตลาดงานสมัยใหม่ - **การศึกษา**: นักเรียนในพื้นที่ห่างไกลอาจเสียเปรียบเนื่องจากขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนออนไลน์ - **สุขภาพ**: การเข้าถึงบริการสุขภาพดิจิทัล (Telemedicine) อาจจำกัดในบางพื้นที่ - **สังคม**: ความเหลื่อมล้ำอาจทำให้เกิดช่องว่างทางสังคมระหว่างกลุ่มคนที่เข้าถึงเทคโนโลยีและกลุ่มที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ### แนทางแก้ไข - **พัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน** โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล - **ลดค่าใช้จ่าย** ในการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ดิจิทัล - **ส่งเสริมการศึกษาและฝึกทักษะดิจิทัล** ให้กับทุกกลุ่มวัย - **ออกนโยบายที่ครอบคลุม** เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เช่น โครงการอินเทอร์เน็ตหมู่บ้านหรือแจกแท็บเล็ตสำหรับนักเรียน ความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะในยุคที่เทคโนโลยีเป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีวิต การเข้าถึงดิจิทัลอย่างเท่าเทียมจะช่วยลดความไม่เสมอภาคทางสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
    0 Comments 0 Shares 7 Views 0 Reviews
  • AMD กำลังเตรียมเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ Radeon PRO W9000 ที่ออกแบบมาสำหรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการพัฒนา AI โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในงานจริง แม้จะมีหน่วยความจำเพียง 32GB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า Radeon PRO W7900 ที่มี 48GB แต่ AMD เน้นการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า

    GPU รุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Navi 48 XTW ที่มีขนาด 356mm² และมีการปรับแต่งเพื่อรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ โดยมีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

    อย่างไรก็ตาม RDNA 4 ยังไม่มีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม ROCm ของ AMD ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI และ Machine Learning

    ✅ การออกแบบและสถาปัตยกรรม
    - ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 และ Navi 48 XTW
    - ขนาด die 356mm² พร้อมการปรับแต่งสำหรับงานระดับมืออาชีพ

    ✅ เป้าหมายของ AMD
    - เน้นประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า
    - ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่

    ✅ การใช้งานในงานระดับมืออาชีพ
    - รองรับงาน CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์
    - มีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน

    ✅ การเปิดตัวและการจัดแสดง
    - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 และงาน “Advancing AI” ของ AMD

    https://www.techradar.com/pro/amd-set-to-launch-new-radeon-pro-w9000-workstation-gpu-to-take-on-nvidias-formidable-rtx-pro-6000-blackwell-workstation-edition
    AMD กำลังเตรียมเปิดตัว GPU รุ่นใหม่ Radeon PRO W9000 ที่ออกแบบมาสำหรับงานระดับมืออาชีพ เช่น การตัดต่อวิดีโอ การเรนเดอร์ 3D และการพัฒนา AI โดยใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 ซึ่งมีการปรับปรุงประสิทธิภาพในงานจริง แม้จะมีหน่วยความจำเพียง 32GB ซึ่งน้อยกว่ารุ่นก่อนหน้า Radeon PRO W7900 ที่มี 48GB แต่ AMD เน้นการให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า GPU รุ่นนี้ใช้สถาปัตยกรรม Navi 48 XTW ที่มีขนาด 356mm² และมีการปรับแต่งเพื่อรองรับงานระดับมืออาชีพ เช่น CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ โดยมีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม RDNA 4 ยังไม่มีการรวมเข้ากับแพลตฟอร์ม ROCm ของ AMD ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักพัฒนา AI และ Machine Learning ✅ การออกแบบและสถาปัตยกรรม - ใช้สถาปัตยกรรม RDNA 4 และ Navi 48 XTW - ขนาด die 356mm² พร้อมการปรับแต่งสำหรับงานระดับมืออาชีพ ✅ เป้าหมายของ AMD - เน้นประสิทธิภาพต่อราคาและความคุ้มค่า - ออกแบบมาเพื่อมืออาชีพที่ไม่ต้องการหน่วยความจำขนาดใหญ่ ✅ การใช้งานในงานระดับมืออาชีพ - รองรับงาน CAD, CGI rendering และการจำลองแบบเรียลไทม์ - มีรุ่นย่อย XL, XT และ XTX เพื่อตอบสนองความต้องการที่แตกต่างกัน ✅ การเปิดตัวและการจัดแสดง - คาดว่าจะเปิดตัวในงาน Computex 2025 และงาน “Advancing AI” ของ AMD https://www.techradar.com/pro/amd-set-to-launch-new-radeon-pro-w9000-workstation-gpu-to-take-on-nvidias-formidable-rtx-pro-6000-blackwell-workstation-edition
    0 Comments 0 Shares 15 Views 0 Reviews
  • YKK บริษัทผู้ผลิตซิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวต้นแบบซิปอัตโนมัติที่สามารถรูดขึ้นและลงได้เองด้วยมอเตอร์และรีโมตควบคุมแบบมีสาย โดยซิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น การเชื่อมผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ในระดับความสูงที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย

    ต้นแบบซิปอัตโนมัตินี้สามารถรูดซิปขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตร ภายในเวลาเพียง 40 วินาที และยังสามารถเชื่อมต่อเต็นท์ที่มีความสูง 2.5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ได้ในเวลาเพียง 50 วินาที อย่างไรก็ตาม ซิปนี้ยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้พลังงานจากตัวควบคุมที่มีสาย ทำให้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในตลาดผู้บริโภคทั่วไป

    YKK ยังได้พัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซิปแม่เหล็กที่สามารถเชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย รวมถึงคลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม

    ✅ การออกแบบและการใช้งาน
    - ซิปอัตโนมัติสามารถรูดขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตรในเวลา 40 วินาที
    - ใช้รีโมตควบคุมแบบมีสายและมอเตอร์ในการทำงาน

    ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม
    - เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก
    - ช่วยลดความเสี่ยงในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง

    ✅ นวัตกรรมอื่นๆ ของ YKK
    - ซิปแม่เหล็กที่เชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย
    - คลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง

    ✅ เป้าหมายของ YKK
    - มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม

    https://www.techspot.com/news/107692-self-propelled-zippers-have-arrived-but-theyre-not.html
    YKK บริษัทผู้ผลิตซิปที่ใหญ่ที่สุดในโลก ได้เปิดตัวต้นแบบซิปอัตโนมัติที่สามารถรูดขึ้นและลงได้เองด้วยมอเตอร์และรีโมตควบคุมแบบมีสาย โดยซิปนี้ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก เช่น การเชื่อมผ้าหรือวัสดุอื่นๆ ในระดับความสูงที่อาจเสี่ยงต่อความปลอดภัย ต้นแบบซิปอัตโนมัตินี้สามารถรูดซิปขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตร ภายในเวลาเพียง 40 วินาที และยังสามารถเชื่อมต่อเต็นท์ที่มีความสูง 2.5 เมตร และกว้าง 4 เมตร ได้ในเวลาเพียง 50 วินาที อย่างไรก็ตาม ซิปนี้ยังคงมีขนาดใหญ่และต้องใช้พลังงานจากตัวควบคุมที่มีสาย ทำให้ยังไม่เหมาะสำหรับการใช้งานในตลาดผู้บริโภคทั่วไป YKK ยังได้พัฒนานวัตกรรมอื่นๆ เช่น ซิปแม่เหล็กที่สามารถเชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย รวมถึงคลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานในหลากหลายอุตสาหกรรม ✅ การออกแบบและการใช้งาน - ซิปอัตโนมัติสามารถรูดขึ้นไปได้สูงถึง 5 เมตรในเวลา 40 วินาที - ใช้รีโมตควบคุมแบบมีสายและมอเตอร์ในการทำงาน ✅ การใช้งานในอุตสาหกรรม - เหมาะสำหรับการเชื่อมต่อวัสดุในพื้นที่ที่เข้าถึงยาก - ช่วยลดความเสี่ยงในงานที่ต้องการความปลอดภัยสูง ✅ นวัตกรรมอื่นๆ ของ YKK - ซิปแม่เหล็กที่เชื่อมต่อและถอดออกได้ง่าย - คลิปแม่เหล็กที่ใช้แทนกระดุมในกางเกง ✅ เป้าหมายของ YKK - มุ่งเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองความต้องการในหลากหลายอุตสาหกรรม https://www.techspot.com/news/107692-self-propelled-zippers-have-arrived-but-theyre-not.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    World's largest zipper maker YKK shows off self-fastening zippers powered by motors and remote controls
    Japanese manufacturer YKK recently announced successful testing results for a prototype automatic zipper. The company suggests that it could help people fasten objects in difficult-to-reach areas.
    0 Comments 0 Shares 12 Views 0 Reviews
  • TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks

    TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด

    ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่
    - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm²
    - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks

    ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่
    - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4

    ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X)
    - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors

    ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน
    - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว

    https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    TSMC ได้เปิดเผยแผนการพัฒนาเทคโนโลยีชิป AI รุ่นใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับความต้องการการประมวลผลที่เพิ่มขึ้นในยุค AI และการคำนวณประสิทธิภาพสูง โดยในงาน North American Technology Symposium บริษัทได้แนะนำเทคโนโลยี CoWoS-L (Chip-on-Wafer-on-Substrate) รุ่นใหม่ ซึ่งสามารถรองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² และรองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลได้มากกว่า 3.5 เท่าเมื่อเทียบกับชิปที่มีอยู่ในปัจจุบัน และยังมีแผนพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ขึ้นถึง 7,885 mm² ซึ่งสามารถรองรับระบบ 3D-stacked และหน่วยความจำ HBM4 ได้ถึง 12 stacks TSMC ยังได้พัฒนาเทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) ที่สามารถรวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียว ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานใน AI processors ที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด ✅ เทคโนโลยี CoWoS-L รุ่นใหม่ - รองรับ interposers ขนาดใหญ่ถึง 4,719 mm² - รองรับหน่วยความจำ HBM ได้ถึง 12 stacks ✅ การพัฒนา interposers ขนาดใหญ่ - ขนาดใหญ่ถึง 7,885 mm² รองรับระบบ 3D-stacked และ HBM4 ✅ เทคโนโลยี System-on-Wafer (SoW-X) - รวมทั้ง wafer เข้าเป็นชิปเดียวสำหรับ AI processors ✅ การจัดการพลังงานและความร้อน - ใช้วงจรจัดการพลังงานขั้นสูงและระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว https://www.techspot.com/news/107695-tsmc-unveils-plans-giant-ai-chips-meet-surging.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    TSMC unveils plans for giant AI chips to meet surging compute demands
    Today's high-end processors, especially those powering data centers and AI workloads, already rely on multi-chiplet designs to meet soaring demands for performance and memory bandwidth. TSMC's current...
    0 Comments 0 Shares 10 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ Matt Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Proofpoint เน้นว่าการโจมตีไซเบอร์มักเริ่มต้นจากการที่บุคคลในองค์กรถูกโจมตี และการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้

    Cooke ยังชี้ให้เห็นว่าการจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ และเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ หยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม นอกจากนี้ เขาแนะนำให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบุคคลในองค์กร เช่น การตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย

    ✅ การให้ความรู้แก่เยาวชน
    - เน้นการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน
    - สอนให้พนักงานรู้จักการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม

    ✅ การหยุดการจ่ายค่าไถ่
    - การจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่
    - เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรหยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม

    ✅ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง
    - ใช้ AI ในการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย
    - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์

    ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาล
    - รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองพูดถึงภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/teach-young-people-about-ransomware-risks-before-they-enter-work
    บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์แก่เยาวชนก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน โดยเฉพาะการรับมือกับภัยคุกคามจากแรนซัมแวร์ Matt Cooke ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยไซเบอร์จาก Proofpoint เน้นว่าการโจมตีไซเบอร์มักเริ่มต้นจากการที่บุคคลในองค์กรถูกโจมตี และการให้ความรู้แก่พนักงานเกี่ยวกับการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม จะช่วยลดความเสี่ยงได้ Cooke ยังชี้ให้เห็นว่าการจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ และเรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรต่างๆ หยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม นอกจากนี้ เขาแนะนำให้ใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงของบุคคลในองค์กร เช่น การตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย ✅ การให้ความรู้แก่เยาวชน - เน้นการให้ความรู้ด้านความปลอดภัยไซเบอร์ก่อนเข้าสู่ตลาดแรงงาน - สอนให้พนักงานรู้จักการสื่อสารที่ผิดปกติ เช่น การส่งข้อความในเวลาที่ไม่เหมาะสม ✅ การหยุดการจ่ายค่าไถ่ - การจ่ายค่าไถ่ในกรณีแรนซัมแวร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การโจมตียังคงมีอยู่ - เรียกร้องให้รัฐบาลและองค์กรหยุดการจ่ายเงินเพื่อไม่ให้สนับสนุนเศรษฐกิจอาชญากรรม ✅ การใช้ AI ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง - ใช้ AI ในการตรวจสอบพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การคลิกลิงก์ที่เป็นอันตราย - AI ช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันภัยคุกคามไซเบอร์ ✅ การสนับสนุนจากรัฐบาล - รัฐบาลและหน่วยงานข่าวกรองพูดถึงภัยคุกคามไซเบอร์มากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/teach-young-people-about-ransomware-risks-before-they-enter-work
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Teach young people about ransomware risks before they enter work
    Organisations out there can do a much better job of defining what normal communications look like for their employees – for example, 'Is it normal for somebody to be sending me a Teams message at four o'clock in the morning?'
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

    ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก

    Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้

    ✅ การลงทุนในบราซิล
    - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล
    - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ

    ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos
    - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล
    - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์

    ✅ ความสำคัญของ Pecem
    - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน

    ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล
    - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok กำลังพิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในประเทศบราซิล โดยมีเป้าหมายเพื่อใช้พลังงานลมที่มีอยู่มากมายในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ การลงทุนนี้จะช่วยให้บราซิลกลายเป็นศูนย์กลางระดับโลกสำหรับอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos ผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียน เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูลในพื้นที่ท่าเรือ Pecem รัฐ Ceara โดยโครงการนี้มีแผนเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ในระยะที่สอง ซึ่งจะทำให้บราซิลเป็นฐานสำคัญสำหรับการดำเนินงานของ ByteDance ในซีกโลกตะวันตก Casa dos Ventos ได้ขอเชื่อมต่อโครงข่ายไฟฟ้าสำหรับโครงการศูนย์ข้อมูลใน Pecem แต่ถูกปฏิเสธในเบื้องต้นเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับเสถียรภาพของโครงข่ายไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานของบราซิลกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อรองรับโครงการนี้ ✅ การลงทุนในบราซิล - ByteDance พิจารณาลงทุนในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ในบราซิล - ใช้พลังงานลมในพื้นที่ชายฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ ✅ การเจรจากับ Casa dos Ventos - ByteDance อยู่ในระหว่างการเจรจากับ Casa dos Ventos เพื่อพัฒนาศูนย์ข้อมูล - โครงการเริ่มต้นที่ 300 เมกะวัตต์ และอาจขยายเป็น 900 เมกะวัตต์ ✅ ความสำคัญของ Pecem - Pecem เป็นพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับศูนย์ข้อมูลเนื่องจากมีสถานีเชื่อมต่อสายเคเบิลใต้น้ำและพลังงานหมุนเวียน ✅ การตอบสนองของรัฐบาลบราซิล - กระทรวงเหมืองแร่และพลังงานกำลังพิจารณาเพิ่มความสามารถของโครงข่ายไฟฟ้า https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/26/exclusive-tiktok-owner-weighs-data-center-project-in-brazil-sources-say
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Exclusive-TikTok owner weighs data center project in Brazil, sources say
    SAO PAULO/BRASILIA (Reuters) -ByteDance, the Chinese parent company of TikTok, is weighing a major investment in a data center in Brazil, three people familiar with the matter told Reuters, tapping abundant wind energy on the country's northeast coast.
    0 Comments 0 Shares 14 Views 0 Reviews
  • ดูเหมือนเซเลนสกีเดินทางไปอิตาลี โดยมีเป้าหมายเพียงเพื่อความต้องการของตนเอง มากกว่าการเข้าร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสอย่สงจริงใจ

    เซเลนสกีโพสต์ข้อความลงโซเชียล หลังการพบกับมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยเรียกร้องขอขีปนาวุธป้เองกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม:

    "เราได้หารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข และความจำเป็นในการกดดันรัสเซียเพื่อให้เกิดการหยุดยิงดังกล่าว

    ผมได้สรุปผลที่ตามมาของการโจมตีของรัสเซียที่ครีวีรีห์(Kryvyi Rih) ซูมี (Sumy) และเคียฟ เพื่อปกป้องชีวิตของชาวยูเครน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างการป้องกันทางอากาศของเรา เราหวังพึ่งการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา

    ผมขอขอบคุณเอ็มมานูเอลสำหรับการสนับสนุนยูเครนอย่างมั่นคง และสำหรับความพยายามทั้งหมดที่ช่วยให้ประชาชนของเราคงอยู่และนำสันติภาพมาใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
    ดูเหมือนเซเลนสกีเดินทางไปอิตาลี โดยมีเป้าหมายเพียงเพื่อความต้องการของตนเอง มากกว่าการเข้าร่วมพิธีศพของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสอย่สงจริงใจ เซเลนสกีโพสต์ข้อความลงโซเชียล หลังการพบกับมาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส โดยเรียกร้องขอขีปนาวุธป้เองกันภัยทางอากาศเพิ่มเติม: "เราได้หารือกันถึงแนวทางที่จะนำไปสู่การหยุดยิงอย่างเต็มรูปแบบและไม่มีเงื่อนไข และความจำเป็นในการกดดันรัสเซียเพื่อให้เกิดการหยุดยิงดังกล่าว ผมได้สรุปผลที่ตามมาของการโจมตีของรัสเซียที่ครีวีรีห์(Kryvyi Rih) ซูมี (Sumy) และเคียฟ เพื่อปกป้องชีวิตของชาวยูเครน มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเสริมสร้างการป้องกันทางอากาศของเรา เราหวังพึ่งการสนับสนุนจากพันธมิตรของเรา ผมขอขอบคุณเอ็มมานูเอลสำหรับการสนับสนุนยูเครนอย่างมั่นคง และสำหรับความพยายามทั้งหมดที่ช่วยให้ประชาชนของเราคงอยู่และนำสันติภาพมาใกล้ชิดยิ่งขึ้น"
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 20 Views 5 0 Reviews
  • สนามบินพาโร ภูฏาน ปัจจุบันมีเพียงนักบิน 50 คนทั่วโลกที่ได้รับการฝึกอบรมและได้ใบอนุญาตพิเศษให้นักบินสามารถ landing และ take off

    สนามบินพาโร (Paro International Airport
    เป็นสนามบินนานาชาติแห่งเดียวของประเทศภูฏาน อยู่ห่างจากตัวเมืองพาโรประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงทิมพูประมาณ 54 กิโลเมตร
    สนามบินนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกริมแม่น้ำพาโรชู (Paro Chhu) ที่ระดับความสูงประมาณ 7,332 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล หรือเกือบเท่ากับดอยอินทนนท์ที่สูง 8,415 ฟุต และมีความยาวเพียง 7,431 ฟุตเท่านั้น (สนามบินดอนเมืองมีรันเวย์ยาว 12,139 ฟุต)

    สนามบินพาโรได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่ท้าทายและอันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากล้อมรอบด้วยภูเขาสูงถึง 5,500 เมตร (18,000 ฟุต) ลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อนและการไม่มีระบบนำร่องอัตโนมัติ (Instrument Landing System, ILS) ทำให้การบินขึ้นและลงต้องอาศัยการบินด้วยสายตา (Visual Flight Rules, VFR) เท่านั้น นักบินที่สามารถลงที่สนามบินนี้ได้ต้องผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางและได้รับใบอนุญาตพิเศษ โดยในปี 2024 มีนักบินเพียง 50 คนทั่วโลกที่ได้รับการรับรองให้ทำการบินลงที่สนามบินพาโร

    การบินเข้าสู่สนามบินพาโรเป็นความท้าทายสำหรับนักบินและเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างที่สุดของผู้โดยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเที่ยวบินประวัติศาสตร์นี้ นับว่าเป็นพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งทางด้านการบินของทั้งสองพระองค์ และนับว่าเป็นโอกาสที่สำคัญและพิเศษที่สุดในชีวิตของผู้โดยสารเกียรติยศในครั้งนี้ครับ

    พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร
    ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย

    เครดิตคลิปวิดีโอจากเพจ เชียร์ลุง2
    https://web.facebook.com/share/v/1EKtinGXmz/
    สนามบินพาโร ภูฏาน ปัจจุบันมีเพียงนักบิน 50 คนทั่วโลกที่ได้รับการฝึกอบรมและได้ใบอนุญาตพิเศษให้นักบินสามารถ landing และ take off สนามบินพาโร (Paro International Airport เป็นสนามบินนานาชาติแห่งเดียวของประเทศภูฏาน อยู่ห่างจากตัวเมืองพาโรประมาณ 6 กิโลเมตร และห่างจากเมืองหลวงทิมพูประมาณ 54 กิโลเมตร สนามบินนี้ตั้งอยู่ในหุบเขาลึกริมแม่น้ำพาโรชู (Paro Chhu) ที่ระดับความสูงประมาณ 7,332 ฟุตเหนือระดับน้ำทะเล หรือเกือบเท่ากับดอยอินทนนท์ที่สูง 8,415 ฟุต และมีความยาวเพียง 7,431 ฟุตเท่านั้น (สนามบินดอนเมืองมีรันเวย์ยาว 12,139 ฟุต) สนามบินพาโรได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสนามบินที่ท้าทายและอันตรายที่สุดในโลก เนื่องจากล้อมรอบด้วยภูเขาสูงถึง 5,500 เมตร (18,000 ฟุต) ลักษณะภูมิประเทศที่ซับซ้อนและการไม่มีระบบนำร่องอัตโนมัติ (Instrument Landing System, ILS) ทำให้การบินขึ้นและลงต้องอาศัยการบินด้วยสายตา (Visual Flight Rules, VFR) เท่านั้น นักบินที่สามารถลงที่สนามบินนี้ได้ต้องผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทางและได้รับใบอนุญาตพิเศษ โดยในปี 2024 มีนักบินเพียง 50 คนทั่วโลกที่ได้รับการรับรองให้ทำการบินลงที่สนามบินพาโร การบินเข้าสู่สนามบินพาโรเป็นความท้าทายสำหรับนักบินและเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำอย่างที่สุดของผู้โดยสาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเที่ยวบินประวัติศาสตร์นี้ นับว่าเป็นพระปรีชาสามารถอย่างยิ่งทางด้านการบินของทั้งสองพระองค์ และนับว่าเป็นโอกาสที่สำคัญและพิเศษที่สุดในชีวิตของผู้โดยสารเกียรติยศในครั้งนี้ครับ พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เครดิตคลิปวิดีโอจากเพจ เชียร์ลุง2 https://web.facebook.com/share/v/1EKtinGXmz/
    Love
    1
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • 'ทักษิณ' ลุ้นระทึกศาลฎีกา ยิ้มสู้ปล่อยวางทุกอย่าง ให้กระบวนการทำงาน
    .
    วันที่ 30 เมษายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง มาฟังคำสั่งในคำร้องที่ก่อนหน้านี้นายชาญชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม2568 เพื่อขอให้ศาลฎีกาฯไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาฯ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039314

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    'ทักษิณ' ลุ้นระทึกศาลฎีกา ยิ้มสู้ปล่อยวางทุกอย่าง ให้กระบวนการทำงาน . วันที่ 30 เมษายน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง สนามหลวง นัดนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ผู้ร้อง มาฟังคำสั่งในคำร้องที่ก่อนหน้านี้นายชาญชัยได้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เมื่อวันที่ 10 มกราคม2568 เพื่อขอให้ศาลฎีกาฯไต่สวนกรณีที่กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม อนุญาตให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกศาลฎีกาฯพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ได้รับการลดโทษเหลือจำคุก 1 ปี ได้เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศาลฎีกาฯ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000039314 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • กฎแห่งกรรม ก่อน หลังลมไม่เข้า
    กฎแห่งกรรม ก่อน หลังลมไม่เข้า
    0 Comments 0 Shares 18 Views 0 0 Reviews
  • เรื่อง “การชอบคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ก้ำกึ่งระหว่างความรู้สึกธรรมดาในใจคน กับการเสี่ยงต่อการก่อกรรมที่ร้ายแรงหากไม่รู้เท่าทัน

    ---

    1. คำถาม "ผิดไหม" อาจไม่ใช่คำถามที่ดีที่สุด

    > "การตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง คือถามว่า ‘มันล่อแหลมต่อการผิดหรือเปล่า?’"

    เพราะบางอย่าง แม้ยังไม่ผิดตอนนี้ แต่ เปิดทางให้กิเลสโต และนำไปสู่การผิดศีลได้ในที่สุด

    ที่สำคัญมากคือ กิเลสโดยเฉพาะ ราคะ มีลักษณะไหลลึก ลื่นไถล และตบตาจิตใจให้ประมาทง่ายกว่ากิเลสอื่นๆ

    > ธรรมะสำคัญ:
    "อย่าใช้แค่กฎเกณฑ์ภายนอกตัดสิน ให้ดูแรงไหลของใจด้วย"

    ---

    2. รักหรือชอบที่ยังไม่ผิด แต่ "ล่อแหลม" คือภัยเงียบ

    ความชอบในใจแม้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่หากปล่อยให้ พูดบ่อย คุยบ่อย คิดบ่อย จิตจะตกลงไปในห้วงหลงโดยไม่รู้ตัว

    จุดที่หลายคนพลาดคือ การอนุโลมเล็กๆ ที่สะสมเป็นไฟเผาใจในที่สุด

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ต้นทางที่คิดว่าไม่ผิด คือกับดักที่เปิดทางสู่ความผิดในอนาคต"

    ---

    3. วิธีปฏิบัติที่ชัดเจน: ห้ามกาย ห้ามวาจา แม้ใจยังไม่ห้ามได้

    > “แม้ห้ามใจไม่ได้ ก็ต้องห้ามกายกับปากให้ได้ก่อน”

    ทางกาย: ไม่แตะต้อง ไม่หาข้ออ้างไปพบปะ

    ทางวาจา: ไม่พูด หรือไม่สื่อสารด้วยถ้อยคำที่เหนี่ยวนำให้ผูกพัน

    การห้ามกายห้ามวาจาคือ การถือศีลเบื้องต้น ที่หยุดไม่ให้กิเลสระบาดออกนอก

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ห้ามกายวาจาได้ คือป้องกันจิตจากการแตกพ่ายหนักขึ้น"

    ---

    4. วิธีทำให้จิตฉลาดขึ้น: หมั่นถามตัวเองด้วยคำถามสั้นๆ

    > “ความรู้สึกผิด เป็นสุขหรือเป็นทุกข์?”

    การถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เช่น

    ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ใจโปร่งเบา หรือหน่วงหนัก?

    ถ้าเดินต่อ จะได้บุญหรือได้บาป?

    จิตจะค่อยๆ คิดเป็นเองได้ และรู้ทันตัวเองเร็วขึ้น

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ตั้งคำถามถูก จิตจะตอบตัวเองได้โดยไม่ต้องบังคับ"

    ---

    5. เคล็ดสำคัญ: ต้อง “หักดิบ” ตั้งแต่ต้นลม

    > “ศีลข้อ ๓ ต้องหักดิบตั้งแต่ยังไม่สาย”

    ถ้าปล่อยให้มีเยื่อใยแม้นิดเดียว จิตจะสร้างเรื่องขยายกิเลสให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ

    ผู้ที่รอดปลอดภัยจากกรรมหนัก คือผู้ที่ “ใจเด็ด” ไม่ปล่อยให้กิเลสมีโอกาสโตตั้งแต่ต้น

    > ธรรมะสำคัญ:
    "ปล่อยต้นลมไม่ได้ ถ้าไม่อยากตกเหวตอนปลายทาง"

    ---

    สรุปใจกลางธรรมะ

    อย่าแค่ถามว่า "ผิดไหม" แต่ถามว่า "ล่อแหลมหรือไม่?"

    ความชอบที่ไม่ดูแล จะกลายเป็นไฟเผาตัว

    แม้ห้ามใจไม่ได้ แต่ต้องห้ามกายกับวาจาให้ได้

    ฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น ด้วยการถามหาความสุขแท้จริงในใจ

    การหักดิบตั้งแต่ต้น คือเกราะป้องกันกรรมหนักได้ดีที่สุด

    ---

    ธรรมะสั้นใช้ต่อยอดได้ทันที

    "รักเขาไม่ผิด แต่หลงเขาเกินขอบเขต คือทางสู่กรรม"

    "ต้นลมที่ไม่ห้าม คือพายุใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า"

    "ห้ามกาย วาจา คือป้องกันใจได้ในวันข้างหน้า"

    "ถามใจเสมอ: สิ่งนี้พาใจไปเบาหรือไปหนัก?"

    "หักดิบความล่อแหลมวันนี้ เพื่อไม่ต้องร้องไห้ในวันพรุ่งนี้"

    ---
    เรื่อง “การชอบคนอื่นที่ไม่ใช่แฟน” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ก้ำกึ่งระหว่างความรู้สึกธรรมดาในใจคน กับการเสี่ยงต่อการก่อกรรมที่ร้ายแรงหากไม่รู้เท่าทัน --- 1. คำถาม "ผิดไหม" อาจไม่ใช่คำถามที่ดีที่สุด > "การตั้งโจทย์ที่ถูกต้อง คือถามว่า ‘มันล่อแหลมต่อการผิดหรือเปล่า?’" เพราะบางอย่าง แม้ยังไม่ผิดตอนนี้ แต่ เปิดทางให้กิเลสโต และนำไปสู่การผิดศีลได้ในที่สุด ที่สำคัญมากคือ กิเลสโดยเฉพาะ ราคะ มีลักษณะไหลลึก ลื่นไถล และตบตาจิตใจให้ประมาทง่ายกว่ากิเลสอื่นๆ > ธรรมะสำคัญ: "อย่าใช้แค่กฎเกณฑ์ภายนอกตัดสิน ให้ดูแรงไหลของใจด้วย" --- 2. รักหรือชอบที่ยังไม่ผิด แต่ "ล่อแหลม" คือภัยเงียบ ความชอบในใจแม้เป็นธรรมชาติของมนุษย์ แต่หากปล่อยให้ พูดบ่อย คุยบ่อย คิดบ่อย จิตจะตกลงไปในห้วงหลงโดยไม่รู้ตัว จุดที่หลายคนพลาดคือ การอนุโลมเล็กๆ ที่สะสมเป็นไฟเผาใจในที่สุด > ธรรมะสำคัญ: "ต้นทางที่คิดว่าไม่ผิด คือกับดักที่เปิดทางสู่ความผิดในอนาคต" --- 3. วิธีปฏิบัติที่ชัดเจน: ห้ามกาย ห้ามวาจา แม้ใจยังไม่ห้ามได้ > “แม้ห้ามใจไม่ได้ ก็ต้องห้ามกายกับปากให้ได้ก่อน” ทางกาย: ไม่แตะต้อง ไม่หาข้ออ้างไปพบปะ ทางวาจา: ไม่พูด หรือไม่สื่อสารด้วยถ้อยคำที่เหนี่ยวนำให้ผูกพัน การห้ามกายห้ามวาจาคือ การถือศีลเบื้องต้น ที่หยุดไม่ให้กิเลสระบาดออกนอก > ธรรมะสำคัญ: "ห้ามกายวาจาได้ คือป้องกันจิตจากการแตกพ่ายหนักขึ้น" --- 4. วิธีทำให้จิตฉลาดขึ้น: หมั่นถามตัวเองด้วยคำถามสั้นๆ > “ความรู้สึกผิด เป็นสุขหรือเป็นทุกข์?” การถามตัวเองอย่างตรงไปตรงมา เช่น ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ใจโปร่งเบา หรือหน่วงหนัก? ถ้าเดินต่อ จะได้บุญหรือได้บาป? จิตจะค่อยๆ คิดเป็นเองได้ และรู้ทันตัวเองเร็วขึ้น > ธรรมะสำคัญ: "ตั้งคำถามถูก จิตจะตอบตัวเองได้โดยไม่ต้องบังคับ" --- 5. เคล็ดสำคัญ: ต้อง “หักดิบ” ตั้งแต่ต้นลม > “ศีลข้อ ๓ ต้องหักดิบตั้งแต่ยังไม่สาย” ถ้าปล่อยให้มีเยื่อใยแม้นิดเดียว จิตจะสร้างเรื่องขยายกิเลสให้ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผู้ที่รอดปลอดภัยจากกรรมหนัก คือผู้ที่ “ใจเด็ด” ไม่ปล่อยให้กิเลสมีโอกาสโตตั้งแต่ต้น > ธรรมะสำคัญ: "ปล่อยต้นลมไม่ได้ ถ้าไม่อยากตกเหวตอนปลายทาง" --- สรุปใจกลางธรรมะ อย่าแค่ถามว่า "ผิดไหม" แต่ถามว่า "ล่อแหลมหรือไม่?" ความชอบที่ไม่ดูแล จะกลายเป็นไฟเผาตัว แม้ห้ามใจไม่ได้ แต่ต้องห้ามกายกับวาจาให้ได้ ฝึกจิตให้ฉลาดขึ้น ด้วยการถามหาความสุขแท้จริงในใจ การหักดิบตั้งแต่ต้น คือเกราะป้องกันกรรมหนักได้ดีที่สุด --- ธรรมะสั้นใช้ต่อยอดได้ทันที "รักเขาไม่ผิด แต่หลงเขาเกินขอบเขต คือทางสู่กรรม" "ต้นลมที่ไม่ห้าม คือพายุใหญ่ที่รออยู่ข้างหน้า" "ห้ามกาย วาจา คือป้องกันใจได้ในวันข้างหน้า" "ถามใจเสมอ: สิ่งนี้พาใจไปเบาหรือไปหนัก?" "หักดิบความล่อแหลมวันนี้ เพื่อไม่ต้องร้องไห้ในวันพรุ่งนี้" ---
    0 Comments 0 Shares 31 Views 0 Reviews
  • เทศน์อบรมพระ วันเข้าพรรษา "ศาสนาของท่านผู้วิเศษ" 30-07-2550
    เทศน์อบรมพระ วันเข้าพรรษา "ศาสนาของท่านผู้วิเศษ" 30-07-2550
    1 Comments 0 Shares 22 Views 0 0 Reviews
  • กับข้าวบ้านๆ สุข สดชื่นนะคะ #ทำกับข้าวกินเอง
    กับข้าวบ้านๆ สุข สดชื่นนะคะ #ทำกับข้าวกินเอง
    0 Comments 0 Shares 16 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ลักษณะแห่งสิกขาสามอันได้แก่สีลขันธ์ สมาธิขันธ์และปัญญาขันธ์
    สัทธรรมลำดับที่ : 973
    ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด

    ๑. สีลขันธ์ โดยละเอียด
    --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสีลขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า
    http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=อริโย+สีลกฺขนฺโธ
    ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้
    ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?”
    --มาณพ !
    ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเอง
    สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก
    เป็นสารถีผึกคนควรฝึกไม่มีใครยิ่งไปกว่า
    เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้ว จำแนกธรรมออกสอนสัตว์.
    ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้ กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์
    พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว
    สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม.
    ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด,
    ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะและพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.
    +--คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือผู้เกิดในตระกูลใดตระกูลหนึ่งในภายหลังก็ดี
    ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดศรัทธาในตถาคต.
    เขาผู้ประกอบด้วยศรัทธรย่อมพิจารณาเห็น ว่า
    “ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี, บรรพชาเป็นโอกาส (คือที่โปร่งโล่ง) อันยิ่ง;
    การที่คนอยู่ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียว
    เหมือนสังข์ที่เขาขัดแล้วนั้น ไม่ทำได้โดยง่าย.
    ถ้ากระไรเราจะปลงผมและหนวด ครองผ้ากาสายะ
    ออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด”,
    ดังนี้.
    +--โดยสมัยอื่นต่อมา เขาละกองสมบัติน้อยใหญ่
    และวงศ์ญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด
    ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว.
    +--กุลบุตรนั้น ครั้นบวชแล้วอย่างนี้
    เป็นผู้สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์อยู่
    ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
    ประกอบด้วย กายกรรม วจีกรรมอันเป็นกุศล มีอาชีวะบริสุทธิ์ &​ถึงพร้อมด้วยศีล
    ....
    --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า ?
    --มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว
    มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่
    ....ฯลฯ ....
    (ข้อความต่อจากที่กล่าวนี้ ตั้งแต่ คำว่า
    เป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน
    .... ไปจนถึงคำว่า
    .... (จบอริยสีลขันธ์)
    ....
    ).

    ๒. สมาธิขันธ์ โดยละเอียด
    --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสมาธิขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า
    http://etipitaka.com/read/pali/9/255/?keywords=อริโย+สมาธิกฺขนฺโธ
    ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนให้สมาทาน
    ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?”
    (บุรพภาคแห่งการเจริญสมาธิ)
    --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตาแล้ว
    ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวบถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว)
    ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วนๆ ;
    อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัส
    จะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด,
    เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษาอินทรีย์คือตา
    ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา.
    +--(ในกรณีแห่ง
    อินทรีย์คือหู
    อินทรีย์คือจมูก
    อินทรีย์คือลิ้น
    อินทรีย์คือกาย และ
    อินทรีย์คือ ใจ
    ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน).
    ....
    --มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้แล.
    --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบ
    ในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง,
    การแลดู การเหลียวดู,
    การคู้ การเหยียด,
    การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร,
    การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม,
    การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ,
    เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการไป การหยุด,
    การนั่ง การนอน , การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง.
    ....
    +--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
    --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้สันโดษ (ยินดีตามที่มีอยู่)
    ด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย สันโดษด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง
    ภิกษุนั้น จะหลีกไปโดยทิศใดๆ ย่อม ถือเอาบาตรและจีวรนั้นหลักไปได้ โดยทิศนั้นๆ.
    +--มาณพ ! เปรียบเสมือนนกมีปีก จะบินไปโดยทิศใดๆ มีปีกอย่างเดียวเป็นภาระบินไป ฉันใด; ภิกษุก็ฉันนั้น
    : เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง
    ถือเอาแล้วหลีกไปโดยทิศใดๆ ได้.
    ....
    +--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ(สันตุฏฐิ)​ด้วยอาการอย่างนี้แล.
    (การเจริญสมาธิ)
    --ภิกษุนั้น
    ประกอบด้วยอริยสีสขันธ์ (ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น) นี้ด้วย
    ประกอบด้วยอริยอินทรีย์นี้ด้วย
    ประกอบด้วยอริยสติสัมปชัญญะนี้ด้วย
    ประกอบด้วยอริยสันตุฏฐินี้ด้วย แล้ว,
    เธอเสพเสนาสนะอันสงัด คือ
    ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง),
    ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว
    เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า
    ....ฯลฯ....
    (ข้อความตอนต่อจากนี้ ดูได้ที่ภาคผนวก ตั้งแต่คำว่า ละอภิชฌาโลภะแล้ว
    มีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ .... ไปถึงคำว่า ....
    (จบอริยสมาธิขันธ์)
    ...
    )​ .

    ๓. ปัญญาขันธ์ โดยละเอียด
    --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ! #อริยปัญญาขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า
    http://etipitaka.com/read/pali/9/263/?keywords=อริโย+ปญฺญากฺขนฺโธ
    ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ให้สมาทาน
    ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?”
    --ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
    เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว
    เธอชักนำจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ.
    เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบอยู่ด้วยมหาภูตทั้งสี่
    มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด
    ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา,
    แต่วิญญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น;
    (เธอรู้เห็นอย่างชัดเจน) เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว
    แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง,
    ในแก้วนั้นมีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง,
    บุรุษผู้มีตาดี วางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้
    เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว
    สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง.
    ในแก้วนี้มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, ฉันนั้นเหมือนกัน.
    แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.
    ....ฯลฯ....
    (ข้อความตอนต่อจากนี้ไป ตั้งแต่คำว่า
    ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
    เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว
    เธอชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ.
    เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้
    .... ไปจนถึงคำว่า
    .... (จบอริยปัญญาขันธ์)
    ).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/284 - 304/318 - 337.
    http://etipitaka.com/read/thai/9/284/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๒๕๒ - ๒๗๒/๓๑๘ - ๓๓๗.
    http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=973
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
    ลำดับสาธยายธรรม : 83​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3
    อริยสาวก​พึง​ศึกษา​ลักษณะแห่งสิกขาสามอันได้แก่สีลขันธ์ สมาธิขันธ์และปัญญาขันธ์ สัทธรรมลำดับที่ : 973 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด ๑. สีลขันธ์ โดยละเอียด --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสีลขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=อริโย+สีลกฺขนฺโธ ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” --มาณพ ! ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเอง สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีผึกคนควรฝึกไม่มีใครยิ่งไปกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้ว จำแนกธรรมออกสอนสัตว์. ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้ กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม. ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด, ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะและพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง. +--คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือผู้เกิดในตระกูลใดตระกูลหนึ่งในภายหลังก็ดี ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดศรัทธาในตถาคต. เขาผู้ประกอบด้วยศรัทธรย่อมพิจารณาเห็น ว่า “ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี, บรรพชาเป็นโอกาส (คือที่โปร่งโล่ง) อันยิ่ง; การที่คนอยู่ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียว เหมือนสังข์ที่เขาขัดแล้วนั้น ไม่ทำได้โดยง่าย. ถ้ากระไรเราจะปลงผมและหนวด ครองผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด”, ดังนี้. +--โดยสมัยอื่นต่อมา เขาละกองสมบัติน้อยใหญ่ และวงศ์ญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว. +--กุลบุตรนั้น ครั้นบวชแล้วอย่างนี้ เป็นผู้สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์อยู่ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วย กายกรรม วจีกรรมอันเป็นกุศล มีอาชีวะบริสุทธิ์ &​ถึงพร้อมด้วยศีล .... --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า ? --มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่ ....ฯลฯ .... (ข้อความต่อจากที่กล่าวนี้ ตั้งแต่ คำว่า เป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน .... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยสีลขันธ์) .... ). ๒. สมาธิขันธ์ โดยละเอียด --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสมาธิขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า http://etipitaka.com/read/pali/9/255/?keywords=อริโย+สมาธิกฺขนฺโธ ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” (บุรพภาคแห่งการเจริญสมาธิ) --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวบถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว) ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วนๆ ; อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด, เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษาอินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา. +--(ในกรณีแห่ง อินทรีย์คือหู อินทรีย์คือจมูก อินทรีย์คือลิ้น อินทรีย์คือกาย และ อินทรีย์คือ ใจ ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน). .... --มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้แล. --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ? +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบ ในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง, การแลดู การเหลียวดู, การคู้ การเหยียด, การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร, การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม, การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ, เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการไป การหยุด, การนั่ง การนอน , การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง. .... +--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยอาการอย่างนี้ แล. --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ เป็นอย่างไรเล่า ? +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้สันโดษ (ยินดีตามที่มีอยู่) ด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย สันโดษด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ภิกษุนั้น จะหลีกไปโดยทิศใดๆ ย่อม ถือเอาบาตรและจีวรนั้นหลักไปได้ โดยทิศนั้นๆ. +--มาณพ ! เปรียบเสมือนนกมีปีก จะบินไปโดยทิศใดๆ มีปีกอย่างเดียวเป็นภาระบินไป ฉันใด; ภิกษุก็ฉันนั้น : เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ถือเอาแล้วหลีกไปโดยทิศใดๆ ได้. .... +--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ(สันตุฏฐิ)​ด้วยอาการอย่างนี้แล. (การเจริญสมาธิ) --ภิกษุนั้น ประกอบด้วยอริยสีสขันธ์ (ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น) นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยอินทรีย์นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสติสัมปชัญญะนี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสันตุฏฐินี้ด้วย แล้ว, เธอเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง), ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ ดูได้ที่ภาคผนวก ตั้งแต่คำว่า ละอภิชฌาโลภะแล้ว มีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ .... ไปถึงคำว่า .... (จบอริยสมาธิขันธ์) ... )​ . ๓. ปัญญาขันธ์ โดยละเอียด --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ! #อริยปัญญาขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า http://etipitaka.com/read/pali/9/263/?keywords=อริโย+ปญฺญากฺขนฺโธ ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” --ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ. เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบอยู่ด้วยมหาภูตทั้งสี่ มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา, แต่วิญญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น; (เธอรู้เห็นอย่างชัดเจน) เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง, ในแก้วนั้นมีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, บุรุษผู้มีตาดี วางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้ เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง. ในแก้วนี้มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง. ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ไป ตั้งแต่คำว่า ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ. เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้ .... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยปัญญาขันธ์) ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/284 - 304/318 - 337. http://etipitaka.com/read/thai/9/284/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๒๕๒ - ๒๗๒/๓๑๘ - ๓๓๗. http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=973 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด
    -(ข้อความข้างบนนี้ เป็นคำของธัมมทินนาเถรี กล่าวตอบแก่วิสาขอุบาสก ครั้นอุบาสกนำข้อความนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า “วิสาขะ ! ธัมมทินนาภิกษุณีเป็นบัณฑิต มีปัญญามาก; ถ้าเธอถามข้อความนั้นกะเรา เราก็จะพยากรณ์กะเธอเช่นเดียวกับที่ธัมมทินนาภิกษุณีพยากรณ์แล้วแก่เธอ เธอจงทรงจำเนื้อความนั้นไว้.” ดังนั้นเป็นอันว่า ข้อความของธรรมทินนาเถรีมีค่าเท่ากับพระพุทธภาษิต จึงนำมาใส่ไว้ในหนังสือนี้ ในลักษณะเช่นนี้). ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด ๑. สีลขันธ์ โดยละเอียด “ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! อริยสีลขันธ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” มาณพ ! ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเองสมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีผึกคนควรฝึกไม่มีใครยิ่งไปกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้ว จำแนกธรรมออกสอนสัตว์. ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้ กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม. ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด, ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะและพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง. คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือผู้เกิดในตระกูลใดตระกูลหนึ่งในภายหลังก็ดี ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดศรัทธาในตถาคต. เขาผู้ประกอบด้วยศรัทธรย่อมพิจารณาเห็น ว่า “ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี, บรรพชาเป็นโอกาส (คือที่โปร่งโล่ง) อันยิ่ง; การที่คนอยู่ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียวเหมือนสังข์ที่เขาขัดแล้วนั้น ไม่ทำได้โดยง่าย. ถ้ากระไรเราจะปลงผมและหนวด ครองผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด”, ดังนี้. โดยสมัยอื่นต่อมา เขาละกองสมบัติน้อยใหญ่ และวงศ์ญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว. กุลบุตรนั้น ครั้นบวชแล้วอย่างนี้ เป็นผู้สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์อยู่ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้ง หลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วยกายกรรมวจีกรรมอันเป็นกุศล มีอาชีวะบริสุทธิ์ ถึงพร้อมด้วยศีล .... มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่ ....ฯลฯ .... (ข้อความต่อไปนี้ ดูได้ที่ภาคผนวกแห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หน้า ๑๕๔๑ ตั้งแต่ คำว่า เป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน ... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยสีลขันธ์) .... ที่หน้า ๑๕๕๑). ๒. สมาธิขันธ์ โดยละเอียด “ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! อริยสมาธิขันธ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” (บุรพภาคแห่งการเจริญสมาธิ) มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวบถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว) ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วนๆ ; อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด, เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษาอินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา. (ในกรณีแห่งอินทรีย์คือหู อินทรีย์คือจมูก อินทรีย์คือลิ้น อินทรีย์คือกาย และอินทรีย์คือ ใจ ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน). .... มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้แล. มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง, การแลดู การเหลียวดู, การคู้ การเหยียด, การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร, การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม, การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ, เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการไป การหยุด, การนั่ง การนอน , การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง. .... มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยอาการอย่างนี้ แล. มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้สันโดษ (ยินดีตามที่มีอยู่) ด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย สันโดษด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ภิกษุนั้น จะหลีกไปโดยทิศใดๆ ย่อม ถือเอาบาตรและจีวรนั้นหลักไปได้ โดยทิศนั้นๆ. มาณพ ! เปรียบเสมือนนกมีปีก จะบินไปโดยทิศใดๆ มีปีกอย่างเดียวเป็นภาระบินไป ฉันใด; ภิกษุก็ฉันนั้น : เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ถือเอาแล้วหลีกไปโดยทิศใดๆ ได้. .... มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ ด้วยอาการอย่างนี้แล. (การเจริญสมาธิ) ภิกษุนั้น ประกอบด้วยอริยสีสขันธ์ (ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น) นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยอินทรีย์นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสติสัมปชัญญะนี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสันตุฏฐินี้ด้วย แล้ว, เธอเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง), ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ ดูได้ที่ภาคผนวกหน้า ๑๕๕๓ แห่งหนังสือเล่มนี้ ตั้งแต่คำว่า ละอภิชฌาโลภะแล้ว มีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ .... ไปถึงคำว่า .... (จบอริยสมาธิขันธ์) .... ที่หน้า ๑๕๕๘). ๓. ปัญญาขันธ์ โดยละเอียด “ท่านอานนท์ผู้เจริญ! อริยปัญญาขันธ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ. เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบอยู่ด้วยมหาภูตทั้งสี่ มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา, แต่วิญญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น; (เธอรู้เห็นอย่างชัดเจน) เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง, ในแก้วนั้นมีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, บุรุษ ผู้มีตาดี วางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้ เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง. ในแก้วนี้มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง. ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ไป ดูได้ที่ภาคผนวกแห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หน้า ๑๕๕๙ ตั้งแต่คำว่า ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ. เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้ .... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยปัญญาขันธ์)., ที่หน้า ๑๕๖๔).
    0 Comments 0 Shares 55 Views 0 Reviews
  • อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
    สัทธรรมลำดับที่ : 605
    ชื่อบทธรรม :- ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
    --ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้อย่างไร ?
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้
    ย่อม ไม่นำความทุกข์มาทับถมตน ซึ่งไม่มีทุกข์ทับถม
    ไม่ต้องสละความสุขอันประกอบด้วยธรรมที่มีอยู่ด้วย และ
    ก็ไม่มัวเมาอยู่ในความสุขนั้น ด้วย.
    +--ภิกษุนั้นรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า
    “เมื่อเรากำลังตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์อยู่เป็นอารมณ์
    วิราคะก็เกิดมีได้จากการตั้งไว้ ซึ่งความปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ;
    และเมื่อเราเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่
    วิราคะก็เกิดมีได้” ดังนี้.
    +--ภิกษุนั้น เมื่อตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์ใดเป็นอารมณ์อยู่
    วิราคะย่อมมีขึ้นได้เพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ดังนี้แล้ว
    เธอก็ตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งในเหตุแห่งทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ (ยิ่งขึ้นไป) ;
    +--และเมื่อเธอเข้าไปเพ่งซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์ใด ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่
    วิราคะย่อมมีขึ้นได้ ดังนี้แล้ว เธอก็เจริญความเพ่งในเหตุแห่งทุกข์ นั้น (ยิ่งขึ้นไป).
    เมื่อเธอตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ เป็นอารมณ์อยู่
    วิราคะก็มีขึ้นเพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่นั้นเป็นเหตุ ;
    เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป ;
    เมื่อเธอเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ๆ ทำความเพ่งให้เจริญยิ่ง อยู่
    วิราคะก็มีขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=วิราโค

    (นี้คืออาการที่ความบากบั่น ความพากเพียร เกิดมีผล).

    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์
    http://etipitaka.com/read/pali/14/14/?keywords=ปฏิพทฺธจิตฺโต
    พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนหนึ่ง,
    เขาเห็นหญิงนั้นยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น.
    โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่เขาใช่ไหม ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
    เพราะว่าบุรุษ นั้นมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ
    มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนนั้นพระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ท. ! ต่อมาบุรุษคนนั้นคิดว่า
    “โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส เกิดขึ้นแก่เรา
    เพราะเรามีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ
    มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงนั้น ;
    ถ้ากระไร เราจะละฉันทราคะในหญิงนั้นเสีย” ดังนี้ ;
    แล้วเขาก็ละเสีย,
    ต่อมาเขาก็เห็นหญิงคนนั้น ยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น.
    โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่เขาอีกหรือไม่หนอ ?
    “หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ?
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่าบุรุษนั้นไม่มีราคะในหญิงนั้นเสียแล้ว”.
    --ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้
    แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/11/12-13.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๑๓/๑๒-๑๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=605
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41
    ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3
    อริยสาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ สัทธรรมลำดับที่ : 605 ชื่อบทธรรม :- ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605 เนื้อความทั้งหมด :- --ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ --ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้อย่างไร ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อม ไม่นำความทุกข์มาทับถมตน ซึ่งไม่มีทุกข์ทับถม ไม่ต้องสละความสุขอันประกอบด้วยธรรมที่มีอยู่ด้วย และ ก็ไม่มัวเมาอยู่ในความสุขนั้น ด้วย. +--ภิกษุนั้นรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า “เมื่อเรากำลังตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์อยู่เป็นอารมณ์ วิราคะก็เกิดมีได้จากการตั้งไว้ ซึ่งความปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ; และเมื่อเราเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะก็เกิดมีได้” ดังนี้. +--ภิกษุนั้น เมื่อตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์ใดเป็นอารมณ์อยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้เพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ดังนี้แล้ว เธอก็ตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งในเหตุแห่งทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ (ยิ่งขึ้นไป) ; +--และเมื่อเธอเข้าไปเพ่งซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์ใด ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้ ดังนี้แล้ว เธอก็เจริญความเพ่งในเหตุแห่งทุกข์ นั้น (ยิ่งขึ้นไป). เมื่อเธอตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ เป็นอารมณ์อยู่ วิราคะก็มีขึ้นเพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่นั้นเป็นเหตุ ; เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป ; เมื่อเธอเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ๆ ทำความเพ่งให้เจริญยิ่ง อยู่ วิราคะก็มีขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป. http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=วิราโค (นี้คืออาการที่ความบากบั่น ความพากเพียร เกิดมีผล). --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ http://etipitaka.com/read/pali/14/14/?keywords=ปฏิพทฺธจิตฺโต พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนหนึ่ง, เขาเห็นหญิงนั้นยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่เขาใช่ไหม ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่าบุรุษ นั้นมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนนั้นพระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ต่อมาบุรุษคนนั้นคิดว่า “โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส เกิดขึ้นแก่เรา เพราะเรามีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงนั้น ; ถ้ากระไร เราจะละฉันทราคะในหญิงนั้นเสีย” ดังนี้ ; แล้วเขาก็ละเสีย, ต่อมาเขาก็เห็นหญิงคนนั้น ยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่เขาอีกหรือไม่หนอ ? “หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่าบุรุษนั้นไม่มีราคะในหญิงนั้นเสียแล้ว”. --ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/11/12-13. http://etipitaka.com/read/thai/14/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๑๓/๑๒-๑๓. http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=605 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41 ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
    -ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้อย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อม ไม่นำความทุกข์มาทับถมตน ซึ่งไม่มีทุกข์ทับถม ไม่ต้องสละความสุขอันประกอบด้วยธรรมที่มีอยู่ด้วย และก็ไม่มัวเมาอยู่ในความสุขนั้น ด้วย. ภิกษุนั้นรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า “เมื่อเรากำลังตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์อยู่เป็นอารมณ์ วิราคะก็เกิดมีได้จากการตั้งไว้ ซึ่งความปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ; และเมื่อเราเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะก็เกิดมีได้” ดังนี้. ภิกษุนั้น เมื่อตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์ใดเป็นอารมณ์อยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้เพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ดังนี้แล้ว เธอก็ตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งในเหตุแห่งทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ (ยิ่งขึ้นไป) ; และเมื่อเธอเข้าไปเพ่งซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์ใด ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้ ดังนี้แล้ว เธอก็เจริญความเพ่งในเหตุแห่งทุกข์ นั้น (ยิ่งขึ้นไป). เมื่อเธอตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ เป็นอารมณ์อยู่ วิราคะก็มีขึ้นเพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่นั้นเป็นเหตุ ; เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป ; เมื่อเธอเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ๆ ทำความเพ่งให้เจริญยิ่ง อยู่ วิราคะก็มีขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป. (นี้คืออาการที่ความบากบั่น ความพากเพียร เกิดมีผล). ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนหนึ่ง, เขาเห็นหญิงนั้นยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่เขาใช่ไหม ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่าบุรุษ นั้นมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนนั้นพระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! ต่อมาบุรุษคนนั้นคิดว่า “โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส เกิดขึ้นแก่เรา เพราะเรามีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงนั้น ; ถ้ากระไร เราจะละฉันทราคะในหญิงนั้นเสีย” ดังนี้ ; แล้วเขาก็ละเสีย, ต่อมาเขาก็เห็นหญิงคนนั้น ยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่เขาอีกหรือไม่หนอ ? “หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่าบุรุษนั้นไม่มีราคะในหญิงนั้นเสียแล้ว”. .... ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.
    0 Comments 0 Shares 41 Views 0 Reviews
  • "ศศิกานต์" ย้ำ ค่าไฟไม่ได้เพิ่มตามข่าวลือ แต่ ลดลงอย่างต่อเนื่อง
    https://www.thai-tai.tv/news/18354/
    "ศศิกานต์" ย้ำ ค่าไฟไม่ได้เพิ่มตามข่าวลือ แต่ ลดลงอย่างต่อเนื่อง https://www.thai-tai.tv/news/18354/
    0 Comments 0 Shares 25 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีปูตินประกาศการปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์ ดินแดนรัสเซียอย่างสมบูรณ์ จากการรุกรานของยูเครน

    ปธน.ปูติน แสดงความยินดีและขอบคุณทหารและผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียสำหรับการเอาชนะศัตรูอย่างสมบูรณ์ในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์

    “การพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ของศัตรูในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์สร้างเงื่อนไขสำหรับการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จต่อไปของกองกำลังของเราในพื้นที่สำคัญอื่นๆ ของแนวรบ ทำให้ความพ่ายแพ้ของระบอบนีโอนาซีใกล้เข้ามาทุกที”

    ทางด้านพลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารรัสเซียกล่าวว่า กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 76,000 นายในการสู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์

    นอกจากนี้ ยังกล่าวยอมรับอยา่างเป็นทางการครั้งแรก ถึงการมีส่วนร่วมของทหารเกาหลีเหนือ "นักสู้เกาหลีเหนือแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอย่างสูงในการร่วมมือปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์จากกองทัพยูเครน"
    ประธานาธิบดีปูตินประกาศการปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์ ดินแดนรัสเซียอย่างสมบูรณ์ จากการรุกรานของยูเครน ปธน.ปูติน แสดงความยินดีและขอบคุณทหารและผู้บัญชาการกองทัพรัสเซียสำหรับการเอาชนะศัตรูอย่างสมบูรณ์ในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์ “การพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ของศัตรูในพื้นที่ชายแดนเคิร์สก์สร้างเงื่อนไขสำหรับการดำเนินการที่ประสบความสำเร็จต่อไปของกองกำลังของเราในพื้นที่สำคัญอื่นๆ ของแนวรบ ทำให้ความพ่ายแพ้ของระบอบนีโอนาซีใกล้เข้ามาทุกที” ทางด้านพลเอกวาเลรี เกราซิมอฟ หัวหน้าคณะเสนาธิการทหารรัสเซียกล่าวว่า กองทัพยูเครนสูญเสียทหารไปมากกว่า 76,000 นายในการสู้รบในภูมิภาคเคิร์สก์ นอกจากนี้ ยังกล่าวยอมรับอยา่างเป็นทางการครั้งแรก ถึงการมีส่วนร่วมของทหารเกาหลีเหนือ "นักสู้เกาหลีเหนือแสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพอย่างสูงในการร่วมมือปลดปล่อยภูมิภาคเคิร์สก์จากกองทัพยูเครน"
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 87 Views 0 Reviews
  • ..เอาเข้าจริงๆ&ถึงวันจริงๆ รอดหมดเชื่อสิ,ดูแค่สามารถเข้าประเทศได้และไม่ติดคุกเลยก็ด้วย,เลี้ยงหลานแต่สามารถเชื่อมโยงประสานงานด้านการเมืองได้สาระพัดกระทั่งสามารถให้พรรคการเมืองหลายๆพรรคมาหาได้อย่างมืดฟ้าทลายอากาศก็ว่า.
    ..สรุปปาหี่แหกตาประชาชนปั่นกระแสโกลาหลเหมือนเดิม,ลัทธิตาเดียว&deep stateในไทยอุ้มค้ำชูปกติ&รอดนอนพักเดินเล่นอย่างสบายๆ ขนาดเอากลับไทยได้ยังทำได้ เขาเดินเกมส์เหมือนคนไทยกินหญ้าทั้งประเทศไทยล่ะ,ชาวบ้านในสายตาชนชั้นคนปกครองเขามองว่าไร้ค่านะ.,หมากในการขึ้นครองอำนาจนั่งปกครองเท่านั้นหรือทาสขี้ข้าทั้งหมดในสายตาพวกมัน,ดูยึดอำนาจสิ เจ้าสัวร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งตรึม,ยึดอำนาจห่าอะไร ไม่ยึดคืนวัตถุดิบจำเป็นลดต้นทุนชีวิตค่าใช้จ่ายคนไทยทั้งประเทศเลยซึ่งต่างชาติปล้นชิงเอาไปทางกฎหมายที่มิชอบทั้งนั้น.อาทิบ่อน้ำมันล่ะตย.ชัดเจนโคตรๆ.



    https://youtube.com/live/v-Vpu-viKa4?si=fX8Sn64GweBOeVuv
    ..เอาเข้าจริงๆ&ถึงวันจริงๆ รอดหมดเชื่อสิ,ดูแค่สามารถเข้าประเทศได้และไม่ติดคุกเลยก็ด้วย,เลี้ยงหลานแต่สามารถเชื่อมโยงประสานงานด้านการเมืองได้สาระพัดกระทั่งสามารถให้พรรคการเมืองหลายๆพรรคมาหาได้อย่างมืดฟ้าทลายอากาศก็ว่า. ..สรุปปาหี่แหกตาประชาชนปั่นกระแสโกลาหลเหมือนเดิม,ลัทธิตาเดียว&deep stateในไทยอุ้มค้ำชูปกติ&รอดนอนพักเดินเล่นอย่างสบายๆ ขนาดเอากลับไทยได้ยังทำได้ เขาเดินเกมส์เหมือนคนไทยกินหญ้าทั้งประเทศไทยล่ะ,ชาวบ้านในสายตาชนชั้นคนปกครองเขามองว่าไร้ค่านะ.,หมากในการขึ้นครองอำนาจนั่งปกครองเท่านั้นหรือทาสขี้ข้าทั้งหมดในสายตาพวกมัน,ดูยึดอำนาจสิ เจ้าสัวร่ำรวยอย่างบ้าคลั่งตรึม,ยึดอำนาจห่าอะไร ไม่ยึดคืนวัตถุดิบจำเป็นลดต้นทุนชีวิตค่าใช้จ่ายคนไทยทั้งประเทศเลยซึ่งต่างชาติปล้นชิงเอาไปทางกฎหมายที่มิชอบทั้งนั้น.อาทิบ่อน้ำมันล่ะตย.ชัดเจนโคตรๆ. https://youtube.com/live/v-Vpu-viKa4?si=fX8Sn64GweBOeVuv
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 50 Views 0 Reviews
  • เมื่อก่อน ไม่ชอบเลย จนกระทั่งได้ไปทานร้านของรุ่นพี่ พ.พ. ที่อยู่แถววัดไก่เตี้ย ตั้งแต่นั้นมา มีเวลาจะทำหม่ำตลอด ปกติต้องใช้คะน้า แต่ที่บ้าน สว. ทานผักยาก เลยใช้เม็ดข้าวโพด ถั่วลันเตา แครอท แทน

    #ข้าวผัดปลาเค็ม
    #ดึกแล้วโพสต์รูปของกินได้
    เมื่อก่อน ไม่ชอบเลย จนกระทั่งได้ไปทานร้านของรุ่นพี่ พ.พ. ที่อยู่แถววัดไก่เตี้ย ตั้งแต่นั้นมา มีเวลาจะทำหม่ำตลอด ปกติต้องใช้คะน้า แต่ที่บ้าน สว. ทานผักยาก เลยใช้เม็ดข้าวโพด ถั่วลันเตา แครอท แทน #ข้าวผัดปลาเค็ม #ดึกแล้วโพสต์รูปของกินได้
    0 Comments 0 Shares 33 Views 0 Reviews
  • 5/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    5/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 118 Views 17 0 Reviews
  • 4/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    4/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 115 Views 8 0 Reviews
  • 3/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    3/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 120 Views 9 0 Reviews
  • 2/
    ด่วน!!!
    มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย

    เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน

    ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว

    กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

    จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    2/ ด่วน!!! มีรายงานเหตุระเบิดครั้งใหญ่ที่ท่าเรือของอิหร่าน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 47 ราย เหตุระเบิดครั้งใหญ่เกิดขึ้นที่ท่าเรือ Shahid Rajaee ซึ่งเป็นหนึ่งในสองส่วนหลักของท่าเรือ Bandar Abbas ตั้งอยู่ริมฝั่งเหนือของช่องแคบ Hormuz ทางตอนใต้ของอิหร่าน ตามรายงานของสำนักข่าว Mehr พบว่าถังน้ำมันในท่าเรือเกิดระเบิดขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ ขณะนี้ทีมกู้ภัยได้ส่งกำลังไปช่วยเหลือแล้ว กิจกรรมของท่าเรือถูกระงับเพื่อให้กองกำลังรักษาความปลอดภัยและบรรเทาทุกข์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว จำนวนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการระเบิดดังกล่าวยังไม่ยืนยันแน่ชัด เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 47 ราย
    0 Comments 0 Shares 117 Views 10 0 Reviews
More Results