• อุทยานแห่งชาติ ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

    ภาพของขุนเขาสูงตั้งตระหง่านเรียงสลับซับซ้อน ณ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 114 ของประเทศไทย คือสิ่งดึงดูดให้นักเดินทางหลายคนอยากมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง รวมถึงมีจุดชมวิวที่เมื่อมองไปด้านหนึ่งเห็นทิวทัศน์ของขุนเขามากมาย ส่วนอีกด้านมองเห็นทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ สลับกับทิวเขาแทรกเป็นฉากหน้าและฉากหลัง และยังมีจุดกางเต็นท์ในชัยภูมิดีเยี่ยม เพราะล้อมรอบไปด้วยร่มไม้เขียวครึ้ม อากาศเย็นสบาย เป็นที่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้น

    อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก ครอบคลุมพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 700,000 ไร่ หรือ 1,120 ตารางกิโลเมตร โดยทิศเหนือจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทิศใต้จดอุทยานแห่งชาติไทรโยค ทิศตะวันออกจดอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทิศตะวันตกจดเขตแดนไทย - เมียนมา
    พื้นที่ส่วนใหญ่ภายในอุทยานแห่งชาติทองผาจะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน โดยเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ความสูงของพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-1,249 เมตร มี "เขาช้างเผือก" เป็นยอดเขาสูงสุด สูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และด้วยเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตกที่คงความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ทำให้สามารถจำแนกประเภทแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่

    ป่าดิบชื้น มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ตะเคียน ยางขาว ยางยูง ไก่เขียว เคี่ยม กันเกรา จำปาป่า มะหาด เนียง พืชพื้นล่างมีพวก หวาย เฟิน เตย และปาล์ม

    ป่าดิบแล้ง มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ยางขาว ยางแดง ตะเคียน ยมหอม จำปีป่า กระบาก มะม่วงป่า มะแฟน แดงดง มะไฟป่า สมพง พืชพื้นล่างมีพวกปาล์ม ข่า และเฟิร์นต่าง ๆ

    ป่าดิบเขา มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ก่อชนิดต่าง ๆ กำลังเสือโคร่ง มณฑาป่า พระเจ้าห้าพระองค์ กำยาน อบเชย ทะโล้ พืชพื้นล่าง ได้แก่ มอส เฟิร์นต่าง ๆ

    ป่าเบญจพรรณ (พบมากที่สุด) มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ประดู่ แดง ตะแบก เสลา ส้าน มะค่าโมง อินทนิล ตุ้มเต๋น ตะคร้อ ตะคร่ำ กระพี้เขาควาย ขะเจ๊าะ มะเกลือ กาสามปีก สมอพิเภก กระบก มะกอก พืชพื้นล่างมีพวกไผ่ไร่ ไผ่ซาง ไผ่บง ไผ่ข้าวหลาม ไผ่รวก และพืชพวกไม้หนาม เป็นต้น
    นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากป่าเป็นผืนเดียวกันกับประเทศเมียนมา จึงมีการย้ายถิ่นฐานไปมาอยู่เป็นประจำ และเนื่องจากไม่มีราษฎรอยู่ในพื้นที่ป่ามากนัก ทำให้สัตว์ป่าไม่ถูกรบกวน
    อุทยานแห่งชาติ ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี ภาพของขุนเขาสูงตั้งตระหง่านเรียงสลับซับซ้อน ณ อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 114 ของประเทศไทย คือสิ่งดึงดูดให้นักเดินทางหลายคนอยากมาสัมผัสด้วยตัวเองสักครั้ง รวมถึงมีจุดชมวิวที่เมื่อมองไปด้านหนึ่งเห็นทิวทัศน์ของขุนเขามากมาย ส่วนอีกด้านมองเห็นทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ สลับกับทิวเขาแทรกเป็นฉากหน้าและฉากหลัง และยังมีจุดกางเต็นท์ในชัยภูมิดีเยี่ยม เพราะล้อมรอบไปด้วยร่มไม้เขียวครึ้ม อากาศเย็นสบาย เป็นที่อาศัยของสัตว์น้อยใหญ่นานาชนิด วันนี้เราเลยจะพาไปทำความรู้จักกันให้มากขึ้น อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ ตั้งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยเขย่งและป่าเขาช้างเผือก ครอบคลุมพื้นที่อำเภอทองผาภูมิ และอำเภอสังขละบุรี มีเนื้อที่ประมาณ 700,000 ไร่ หรือ 1,120 ตารางกิโลเมตร โดยทิศเหนือจดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ทิศใต้จดอุทยานแห่งชาติไทรโยค ทิศตะวันออกจดอุทยานแห่งชาติเขาแหลม ทิศตะวันตกจดเขตแดนไทย - เมียนมา พื้นที่ส่วนใหญ่ภายในอุทยานแห่งชาติทองผาจะเป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน โดยเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ความสูงของพื้นที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 100-1,249 เมตร มี "เขาช้างเผือก" เป็นยอดเขาสูงสุด สูง 1,249 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง และด้วยเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของผืนป่าตะวันตกที่คงความสมบูรณ์ตามธรรมชาติ ทำให้สามารถจำแนกประเภทแบ่งออกได้เป็น 4 ประเภท ได้แก่ ป่าดิบชื้น มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ตะเคียน ยางขาว ยางยูง ไก่เขียว เคี่ยม กันเกรา จำปาป่า มะหาด เนียง พืชพื้นล่างมีพวก หวาย เฟิน เตย และปาล์ม ป่าดิบแล้ง มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ยางขาว ยางแดง ตะเคียน ยมหอม จำปีป่า กระบาก มะม่วงป่า มะแฟน แดงดง มะไฟป่า สมพง พืชพื้นล่างมีพวกปาล์ม ข่า และเฟิร์นต่าง ๆ ป่าดิบเขา มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ก่อชนิดต่าง ๆ กำลังเสือโคร่ง มณฑาป่า พระเจ้าห้าพระองค์ กำยาน อบเชย ทะโล้ พืชพื้นล่าง ได้แก่ มอส เฟิร์นต่าง ๆ ป่าเบญจพรรณ (พบมากที่สุด) มีพันธุ์ไม้ที่สำคัญ ได้แก่ ประดู่ แดง ตะแบก เสลา ส้าน มะค่าโมง อินทนิล ตุ้มเต๋น ตะคร้อ ตะคร่ำ กระพี้เขาควาย ขะเจ๊าะ มะเกลือ กาสามปีก สมอพิเภก กระบก มะกอก พืชพื้นล่างมีพวกไผ่ไร่ ไผ่ซาง ไผ่บง ไผ่ข้าวหลาม ไผ่รวก และพืชพวกไม้หนาม เป็นต้น นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าเป็นจำนวนมาก เนื่องจากป่าเป็นผืนเดียวกันกับประเทศเมียนมา จึงมีการย้ายถิ่นฐานไปมาอยู่เป็นประจำ และเนื่องจากไม่มีราษฎรอยู่ในพื้นที่ป่ามากนัก ทำให้สัตว์ป่าไม่ถูกรบกวน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ชีวิตคนเรา ยามมีเงิน ก็อย่าได้ดูถูกใคร ยามไร้เงิน ก็อย่าได้ดูแคลนตัวเองไป ยามมีอำนาจ ก็อย่าได้ลำพองใจ ยามไร้อำนาจ ก็ไม่ต้องท้อแท้แต่อย่างใด เพียงจำไว้ ฝนย่อมไม่ตกทั้งเดือน ชีวิตใช่ว่าจะมีแต่อับจนเสมอ ขุนเขาไม่ได้เขียวทุกฤดู ทุกข์แค่ไหน สักวันย่อมสิ้นสุด

    คนฉลาดไม่ประกาศศัตรู มีแต่คนโง่ที่ทำ คนเก่งไม่ใช่คนที่คิดคำด่าได้แสบที่สุด คนเก่งไม่ใช่คนที่เดินไปตบใครก็ได้ แต่คนเก่งจริงๆ คือ คนที่ควบคุมตัวเองได้ และทำงานกับใครก็ได้ วุฒิภาวะต่ำทำงานใหญ่ไม่ได้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีวันสำเร็จ

    เมื่อมุ่งมั่นศรัทธาใจกล้าหาญ คิดทำการสิ่งใดก็ได้ผล
    อุปสรรคขวางหน้าต้องกล้าชน เกิดเป็นคนจงรักศักดิ์ศรีตัว
    ความเจ็บปวดเกินจะกล่าว ล้วนต้องแบกเอง

    อยู่มาวันหนึ่ง คุณพบในทันใดว่า ความดีของคุณ ก็เหมือนลูกกวาดสำหรับคนอื่น กินแล้วก็หมดไป ส่วนความไม่ดีของคุณ จะเหมือนแผลเป็นที่ไม่หาย จะอยู่ตลอดไป นี่คือวิสัยคน

    หากมีใครสักคน ด้วยความดีเล็กน้อยของคุณ ก็ให้อภัยความไม่ดีทั้งหมดของคุณแล้ว ก็จงถนอมรักษาไว้ให้ดี เพราะคนส่วนใหญ่นั้น จะเพียงด้วยความไม่ดีเล็กน้อยของคุณ หลงลืมความดีทั้งหมดของคุณ!

    ใครบ้างเล่าที่ไม่ใช่ บาดเจ็บไปพลาง เติบใหญ่ไปพลาง ใครบ้างเล่าที่ไม่ได้ หลั่งน้ำตาไปพลาง เข้มแข็งไปพลาง ชีวิตคนเรา เมื่อพูดกันถึงที่สุด ร้อยรสชาติล้วนต้องลิ้มเอง ความเจ็บปวดเกินจะกล่าวล้วนต้องแบกเอง ลมฝนที่กระหน่ำใส่ล้วนต้องฝ่าเอง!

    จึงทำงานด้วยใจรัก เป็นคนด้วยใจรู้คุณ หากมีเงิน ทำงานให้ดี หากไม่มีเงิน เป็นคนที่ดี นี่เองคือชีวิต

    หากไม่สะดุดล้ม ไม่รู้หรอกว่าใครจะพยุงคุณให้ลุก ไม่เจอความลำบาก ไม่รู้หรอกว่าใครจะช่วยคุณ ขอคนเหมือนกลืนดาบสามฟุต พึ่งคนเหมือนไต่ฟ้าเก้าชั้น.

    คนกับคน ใช่ว่าเชื่อใจได้ทั้งหมด ใจกับใจ ใช่ว่าล้วนยอมมอบความจริงใจ ส่งถ่านกลางหิมะ ล้ำเลิศกว่า ค่าควรทะนุถนอมกว่าปักดอกไม้บนแพรไหมมาก จึงรู้คุณผู้เคยเดินร่วมทางและเคยช่วยเหลือฉัน.

    ขอบคุณที่มาเจ้าของบทความ/ภาพ
    ปรัชญาคำคม/ปรัชญาชีวิต
    #ชีวิตคนเรา ยามมีเงิน ก็อย่าได้ดูถูกใคร ยามไร้เงิน ก็อย่าได้ดูแคลนตัวเองไป ยามมีอำนาจ ก็อย่าได้ลำพองใจ ยามไร้อำนาจ ก็ไม่ต้องท้อแท้แต่อย่างใด เพียงจำไว้ ฝนย่อมไม่ตกทั้งเดือน ชีวิตใช่ว่าจะมีแต่อับจนเสมอ ขุนเขาไม่ได้เขียวทุกฤดู ทุกข์แค่ไหน สักวันย่อมสิ้นสุด คนฉลาดไม่ประกาศศัตรู มีแต่คนโง่ที่ทำ คนเก่งไม่ใช่คนที่คิดคำด่าได้แสบที่สุด คนเก่งไม่ใช่คนที่เดินไปตบใครก็ได้ แต่คนเก่งจริงๆ คือ คนที่ควบคุมตัวเองได้ และทำงานกับใครก็ได้ วุฒิภาวะต่ำทำงานใหญ่ไม่ได้ ควบคุมตัวเองไม่ได้ ไม่มีวันสำเร็จ เมื่อมุ่งมั่นศรัทธาใจกล้าหาญ คิดทำการสิ่งใดก็ได้ผล อุปสรรคขวางหน้าต้องกล้าชน เกิดเป็นคนจงรักศักดิ์ศรีตัว ความเจ็บปวดเกินจะกล่าว ล้วนต้องแบกเอง อยู่มาวันหนึ่ง คุณพบในทันใดว่า ความดีของคุณ ก็เหมือนลูกกวาดสำหรับคนอื่น กินแล้วก็หมดไป ส่วนความไม่ดีของคุณ จะเหมือนแผลเป็นที่ไม่หาย จะอยู่ตลอดไป นี่คือวิสัยคน หากมีใครสักคน ด้วยความดีเล็กน้อยของคุณ ก็ให้อภัยความไม่ดีทั้งหมดของคุณแล้ว ก็จงถนอมรักษาไว้ให้ดี เพราะคนส่วนใหญ่นั้น จะเพียงด้วยความไม่ดีเล็กน้อยของคุณ หลงลืมความดีทั้งหมดของคุณ! ใครบ้างเล่าที่ไม่ใช่ บาดเจ็บไปพลาง เติบใหญ่ไปพลาง ใครบ้างเล่าที่ไม่ได้ หลั่งน้ำตาไปพลาง เข้มแข็งไปพลาง ชีวิตคนเรา เมื่อพูดกันถึงที่สุด ร้อยรสชาติล้วนต้องลิ้มเอง ความเจ็บปวดเกินจะกล่าวล้วนต้องแบกเอง ลมฝนที่กระหน่ำใส่ล้วนต้องฝ่าเอง! จึงทำงานด้วยใจรัก เป็นคนด้วยใจรู้คุณ หากมีเงิน ทำงานให้ดี หากไม่มีเงิน เป็นคนที่ดี นี่เองคือชีวิต หากไม่สะดุดล้ม ไม่รู้หรอกว่าใครจะพยุงคุณให้ลุก ไม่เจอความลำบาก ไม่รู้หรอกว่าใครจะช่วยคุณ ขอคนเหมือนกลืนดาบสามฟุต พึ่งคนเหมือนไต่ฟ้าเก้าชั้น. คนกับคน ใช่ว่าเชื่อใจได้ทั้งหมด ใจกับใจ ใช่ว่าล้วนยอมมอบความจริงใจ ส่งถ่านกลางหิมะ ล้ำเลิศกว่า ค่าควรทะนุถนอมกว่าปักดอกไม้บนแพรไหมมาก จึงรู้คุณผู้เคยเดินร่วมทางและเคยช่วยเหลือฉัน. ขอบคุณที่มาเจ้าของบทความ/ภาพ ปรัชญาคำคม/ปรัชญาชีวิต
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 127 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน

    ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย
    ปกติแล้ว ทุกๆ ปี ภูกระดึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวได้ในช่วง 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม

    #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #ภูกระดึง #จังหวัดเลย #เที่ยวเขา #เดินป่า #อุทยานแห่งชาติ #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ปกติแล้ว ทุกๆ ปี ภูกระดึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวได้ในช่วง 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #ภูกระดึง #จังหวัดเลย #เที่ยวเขา #เดินป่า #อุทยานแห่งชาติ #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 123 1 รีวิว
  • ชีวิตคนเรา...
    ยามมีเงิน ก็อย่าได้ดูถูกใคร
    ยามไร้เงิน ก็อย่าได้ดูแคลนตัวเองไป
    ยามมีอำนาจ ก็อย่าได้ลำพองใจ
    ยามไร้อำนาจ ก็ไม่ต้องท้อแท้แต่อย่างใด

    เพียงจำไว้...
    ฝนย่อมไม่ตกทั้งเดือน
    ชีวิต ใช่ว่าจะมีแต่อับจนเสมอ
    ขุนเขา ไม่ได้เขียวทุกฤดู
    ทุกข์แค่ไหน สักวันย่อมสิ้นสุด
    ชีวิตคนเรา... ยามมีเงิน ก็อย่าได้ดูถูกใคร ยามไร้เงิน ก็อย่าได้ดูแคลนตัวเองไป ยามมีอำนาจ ก็อย่าได้ลำพองใจ ยามไร้อำนาจ ก็ไม่ต้องท้อแท้แต่อย่างใด เพียงจำไว้... ฝนย่อมไม่ตกทั้งเดือน ชีวิต ใช่ว่าจะมีแต่อับจนเสมอ ขุนเขา ไม่ได้เขียวทุกฤดู ทุกข์แค่ไหน สักวันย่อมสิ้นสุด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 22 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว

    เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก
    ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️

    📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌
    1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์
    06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น.
    2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน
    3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง
    เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ
    4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น)
    5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง
    ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น.
    6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง)

    รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link

    แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️

    ☆ข้อมูลจาก
    อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park
    เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL
    □□□□□□□□□□□
    #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️ 📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌 1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์ 06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น. 2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน 3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ 4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น) 5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น. 6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง) รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️ ☆ข้อมูลจาก อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park เพจ 》》 https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL □□□□□□□□□□□ #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 332 มุมมอง 0 รีวิว
  • หกทักษะของสุภาพบุรุษ ตอน 2 ‘เยวี่ย’

    สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึง ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะที่สุภาพบุรุษในตระกูลสูงศักดิ์พึงมี (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) ซึ่งในบันทึกพิธีการโจวหลี่ระบุไว้ว่าคือ 1. ห้าพิธีการ (หลี่/礼) 2. หกดนตรี (เยวี่ย/乐) 3. ห้าการยิงธนู (เซ่อ/射) 4. ห้าการขับขี่ (อวี้/御) 5. หกอักษร (ซู/书) และ 6. เก้าคำนวณ (ซู่/数)

    สัปดาห์ที่แล้วคุยกันเรื่องทักษะแรกคือห้าพิธีการ วันนี้คุยกันต่อถึงทักษะที่สองคือ ‘เยวี่ย’ เรียกรวมกว่าหกดนตรี ซึ่ง Storyฯ มั่นใจว่าเพื่อนเพจหลายคนคงเข้าใจผิดเหมือน Storyฯ ว่ามันหมายถึงการเล่นดนตรี และภาพที่ลอยมาในหัวคือคุณชายดีดพิณหรือเป่าขลุ่ย

    แต่จริงๆ แล้ว ‘เยวี่ย’ ในบริบทของหกทักษะของสุภาพบุรุษนี้หมายถึงการเต้นรำ

    ใช่ค่ะ สุภาพบุรุษโบราณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นรำ แต่มันไม่ใช่การเต้นรำทั่วไป หากแต่หมายถึงการเต้นรำหมู่ของบุรุษประกอบการบวงสรวงหรืองานสำคัญ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในซีรีส์

    ‘ลิ่วเยวี่ย’ หรือหกดนตรี คือคำเรียกย่อของระบำหกยุคสมัย ‘ลิ่วไต้เยวี่ยอู่’ (六代乐舞) ซึ่งมีมาแต่หกยุคสมัยจีนโบราณบรรพกาล ประกอบด้วย
    (1) ‘อวิ๋นเหมินต้าเจวี้ยน’ (云门大卷/ระบำประตูเมฆ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อวิ๋นเหมิน’ เป็นการงานเฉลิมฉลองร่วมกับประชาชนในสมัยของจักรพรรดิเหลือง (หวงตี้ ประมาณสองพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นการแซ่ซ้องคุณงามความดีและความเรืองรองของรัชสมัย จากรูปวาดโบราณจะเห็นว่าเป็นการเล่นเครื่องดนตรีบางชนิดไปพร้อมกับเดินเต้นไปด้วย ระบำนี้ในยุคสมัยโจวถูกใช้เป็นระบำหลักในการบวงสรวงฟ้าและเทพยดา
    (2) ‘เสียนฉือ’ (咸池) หรือ ‘ต้าเสียน’ (大咸) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิเหยา (ประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งคำว่าเสียนฉือเป็นชื่อเรียกเดิมของทิศพยัคฆ์ขาวหรือทิศตะวันตก ระบำเสียนฉือจึงถูกนำมาใช้เป็นระบำสักการะดินและเทพเจ้าแห่งผืนดิน
    (3) ‘ต้าสาว’ (大韶) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิซุ่น (ประมาณสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่เชิดชูความงดงามของธรรมชาติรอบกาย ผสมผสานบทกลอน ดนตรี และระบำเข้าด้วยกัน กล่าวคือมีคนอ่านกลอนเป็นท่วงทำนอง มีเสียงเครื่องดนตรีนับสิบชนิดบรรเลงประกอบโดยเน้นเสียงขลุ่ยเซียวเป็นหลัก และมีคนสวมหน้ากากแสดงเป็นเหล่าปักษาและนกเฟิ่งหวงฟ้อนรำ ถูกใช้เป็นระบำบวงสรวงสี่ทิศ
    (4) ‘ต้าเซี่ย’ (大夏) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณสองพันปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต้าสู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถูกใช้เป็นระบำสักการะขุนเขาและสายน้ำ เป็นระบำโบราณเดียวที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย(ดูรูปประกอบ)
    (5) ‘ต้าฮู่’ (大濩) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์เซี่ยสำเร็จ ใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษ
    (6) ‘ต้าอู่’ (大武) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์โจว เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์ซางสำเร็จ ถูกใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษเช่นกัน

    ทั้งนี้ ระบำสี่แบบแรกเป็นแบบที่เรียกว่า ‘เหวิน’ (หรือบุ๋น) แต่ระบำสองแบบสุดท้ายเป็นแบบที่เรียกว่า ‘อู่’ (หรือบู๊) ซึ่งเป็นการแสดงออกแนวฮึกเหิม นักแสดงถือโล่และอาวุธเช่นขวาน (แต่ไม่ได้ถอดเสื้อเหมือนใน <กำเนิดเทพเจ้า 1 อาณาจักรแห่งพายุ> นะ) ทั้งหมดนี้มีการกำหนดจัดเรียงแถวอย่างชัดเจน รวมแปดแถว แต่ละแถวแปดคน รวมหกสิบสี่คน และในงานใหญ่อาจมีการจัดการรำหลายแบบพร้อมกันบนลานกว้าง

    นอกจากนี้ ในงานใหญ่ยังมีการรำเสริมโดยเหล่าราชนิกุลชาย โดยกำหนดเป็นการรำอีกหกรูปแบบเรียกเป็น ‘รำเล็ก’ เพราะเป็นการรำเดี่ยวหรือกลุ่มเล็ก แต่ Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียดในชนิดของระบำ ทั้งนี้ ราชนิกุลชายในยุคราชวงศ์โจวเมื่ออายุสิบสามปีก็จะเริ่มเรียน ‘รำเล็ก’ อายุสิบห้าเรียนรำอาวุธ และเมื่ออายุได้ยี่สิบก็เรียน ‘รำใหญ่’ สำหรับพิธีบวงสรวงซึ่งก็คือหกระบำที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง และเมื่อสำเร็จการเรียนรู้ระบำต่างๆ เหล่านี้แล้วจึงเข้ารับราชการบรรจุเป็นขุนนางได้

    ทักษะด้านการรำนี้ ถูกใช้สอนในเรื่องของความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยปรับท่าทางการเดินเหินให้สง่าผึ่งผาย รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับงานสักการะต่างๆ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษต้องเรียนรู้การเล่นดนตรี เพียงแต่มันได้ถูกระบุเป็นหกทักษะของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง

    สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อค่ะ

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก:
    https://app.xinhuanet.com/news/article.html?articleId=1e283da99d5077df8508b27c88bfaeae
    https://chinakongzi.org/zt/2021jikong/yange/202109/t20210922_521023.htm https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://baike.baidu.com/item/六艺/238715
    https://m.jiemian.com/article/1154435.html
    https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083
    https://h.bkzx.cn/knowledge/1733

    #กำเนิดเทพเจ้า #เฟิงเสิน #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    หกทักษะของสุภาพบุรุษ ตอน 2 ‘เยวี่ย’ สวัสดีค่ะ สัปดาห์ที่แล้วเราคุยกันถึง ‘จวินจื่อลิ่วอี้’ (君子六艺) หรือหกทักษะที่สุภาพบุรุษในตระกูลสูงศักดิ์พึงมี (หมายเหตุ อี้ แปลได้ว่าทักษะความสามารถ) ซึ่งในบันทึกพิธีการโจวหลี่ระบุไว้ว่าคือ 1. ห้าพิธีการ (หลี่/礼) 2. หกดนตรี (เยวี่ย/乐) 3. ห้าการยิงธนู (เซ่อ/射) 4. ห้าการขับขี่ (อวี้/御) 5. หกอักษร (ซู/书) และ 6. เก้าคำนวณ (ซู่/数) สัปดาห์ที่แล้วคุยกันเรื่องทักษะแรกคือห้าพิธีการ วันนี้คุยกันต่อถึงทักษะที่สองคือ ‘เยวี่ย’ เรียกรวมกว่าหกดนตรี ซึ่ง Storyฯ มั่นใจว่าเพื่อนเพจหลายคนคงเข้าใจผิดเหมือน Storyฯ ว่ามันหมายถึงการเล่นดนตรี และภาพที่ลอยมาในหัวคือคุณชายดีดพิณหรือเป่าขลุ่ย แต่จริงๆ แล้ว ‘เยวี่ย’ ในบริบทของหกทักษะของสุภาพบุรุษนี้หมายถึงการเต้นรำ ใช่ค่ะ สุภาพบุรุษโบราณต้องเรียนรู้ที่จะเต้นรำ แต่มันไม่ใช่การเต้นรำทั่วไป หากแต่หมายถึงการเต้นรำหมู่ของบุรุษประกอบการบวงสรวงหรืองานสำคัญ ซึ่งเราไม่ค่อยเห็นในซีรีส์ ‘ลิ่วเยวี่ย’ หรือหกดนตรี คือคำเรียกย่อของระบำหกยุคสมัย ‘ลิ่วไต้เยวี่ยอู่’ (六代乐舞) ซึ่งมีมาแต่หกยุคสมัยจีนโบราณบรรพกาล ประกอบด้วย (1) ‘อวิ๋นเหมินต้าเจวี้ยน’ (云门大卷/ระบำประตูเมฆ) หรือเรียกสั้นๆ ว่า ‘อวิ๋นเหมิน’ เป็นการงานเฉลิมฉลองร่วมกับประชาชนในสมัยของจักรพรรดิเหลือง (หวงตี้ ประมาณสองพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเป็นการแซ่ซ้องคุณงามความดีและความเรืองรองของรัชสมัย จากรูปวาดโบราณจะเห็นว่าเป็นการเล่นเครื่องดนตรีบางชนิดไปพร้อมกับเดินเต้นไปด้วย ระบำนี้ในยุคสมัยโจวถูกใช้เป็นระบำหลักในการบวงสรวงฟ้าและเทพยดา (2) ‘เสียนฉือ’ (咸池) หรือ ‘ต้าเสียน’ (大咸) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิเหยา (ประมาณสองพันสามร้อยปีก่อนคริสตกาล) ซึ่งคำว่าเสียนฉือเป็นชื่อเรียกเดิมของทิศพยัคฆ์ขาวหรือทิศตะวันตก ระบำเสียนฉือจึงถูกนำมาใช้เป็นระบำสักการะดินและเทพเจ้าแห่งผืนดิน (3) ‘ต้าสาว’ (大韶) เป็นระบำจากยุคสมัยจักรพรรดิซุ่น (ประมาณสองพันสองร้อยปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่เชิดชูความงดงามของธรรมชาติรอบกาย ผสมผสานบทกลอน ดนตรี และระบำเข้าด้วยกัน กล่าวคือมีคนอ่านกลอนเป็นท่วงทำนอง มีเสียงเครื่องดนตรีนับสิบชนิดบรรเลงประกอบโดยเน้นเสียงขลุ่ยเซียวเป็นหลัก และมีคนสวมหน้ากากแสดงเป็นเหล่าปักษาและนกเฟิ่งหวงฟ้อนรำ ถูกใช้เป็นระบำบวงสรวงสี่ทิศ (4) ‘ต้าเซี่ย’ (大夏) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์เซี่ย (ประมาณสองพันปีก่อนคริสตกาล) เป็นระบำที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเหตุการณ์ต้าสู่แก้ไขปัญหาน้ำท่วม ถูกใช้เป็นระบำสักการะขุนเขาและสายน้ำ เป็นระบำโบราณเดียวที่ยังคงสืบทอดมาจวบจนปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่น้อย(ดูรูปประกอบ) (5) ‘ต้าฮู่’ (大濩) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์ซาง (ประมาณหนึ่งพันหกร้อยปีก่อนคริสตกาล) เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์เซี่ยสำเร็จ ใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษ (6) ‘ต้าอู่’ (大武) เป็นระบำยุคสมัยราชวงศ์โจว เพื่อเฉลิมฉลองการล้มราชวงศ์ซางสำเร็จ ถูกใช้เป็นระบำสักการะบรรพบุรุษเช่นกัน ทั้งนี้ ระบำสี่แบบแรกเป็นแบบที่เรียกว่า ‘เหวิน’ (หรือบุ๋น) แต่ระบำสองแบบสุดท้ายเป็นแบบที่เรียกว่า ‘อู่’ (หรือบู๊) ซึ่งเป็นการแสดงออกแนวฮึกเหิม นักแสดงถือโล่และอาวุธเช่นขวาน (แต่ไม่ได้ถอดเสื้อเหมือนใน <กำเนิดเทพเจ้า 1 อาณาจักรแห่งพายุ> นะ) ทั้งหมดนี้มีการกำหนดจัดเรียงแถวอย่างชัดเจน รวมแปดแถว แต่ละแถวแปดคน รวมหกสิบสี่คน และในงานใหญ่อาจมีการจัดการรำหลายแบบพร้อมกันบนลานกว้าง นอกจากนี้ ในงานใหญ่ยังมีการรำเสริมโดยเหล่าราชนิกุลชาย โดยกำหนดเป็นการรำอีกหกรูปแบบเรียกเป็น ‘รำเล็ก’ เพราะเป็นการรำเดี่ยวหรือกลุ่มเล็ก แต่ Storyฯ ขอไม่ลงรายละเอียดในชนิดของระบำ ทั้งนี้ ราชนิกุลชายในยุคราชวงศ์โจวเมื่ออายุสิบสามปีก็จะเริ่มเรียน ‘รำเล็ก’ อายุสิบห้าเรียนรำอาวุธ และเมื่ออายุได้ยี่สิบก็เรียน ‘รำใหญ่’ สำหรับพิธีบวงสรวงซึ่งก็คือหกระบำที่กล่าวมาข้างต้นนั่นเอง และเมื่อสำเร็จการเรียนรู้ระบำต่างๆ เหล่านี้แล้วจึงเข้ารับราชการบรรจุเป็นขุนนางได้ ทักษะด้านการรำนี้ ถูกใช้สอนในเรื่องของความพร้อมเพรียงเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และช่วยปรับท่าทางการเดินเหินให้สง่าผึ่งผาย รวมถึงเรียนรู้เกี่ยวกับขนบธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับงานสักการะต่างๆ แน่นอนว่าสุภาพบุรุษต้องเรียนรู้การเล่นดนตรี เพียงแต่มันได้ถูกระบุเป็นหกทักษะของสุภาพบุรุษเท่านั้นเอง สัปดาห์หน้ามาคุยกันต่อค่ะ (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://app.xinhuanet.com/news/article.html?articleId=1e283da99d5077df8508b27c88bfaeae https://chinakongzi.org/zt/2021jikong/yange/202109/t20210922_521023.htm https://guoxue.ifeng.com/c/7qhsbaO24FU Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://baike.baidu.com/item/六艺/238715 https://m.jiemian.com/article/1154435.html https://m.thepaper.cn/newsDetail_forward_20109083 https://h.bkzx.cn/knowledge/1733 #กำเนิดเทพเจ้า #เฟิงเสิน #ทักษะสุภาพบุรุษจีน #ศิลปะสุภาพบุรุษจีน #คำสอนขงจื๊อ #จวินจื่อลิ่วอี้ #สาระจีน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 137 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถามว่า "ยุ่งแค่ไหนถึงจะดี"
    คำตอบคือ
    "ยุ่งจนไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน"
    นั่นแหละคือยุ่งกำลังดี!

    -ขุนเขา

    จากหนังสือ |สมองเศรษฐี

    หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #สมองเศรษฐี #ขุนเขา
    ถามว่า "ยุ่งแค่ไหนถึงจะดี" คำตอบคือ "ยุ่งจนไม่มีเวลาไปยุ่งเรื่องชาวบ้าน" นั่นแหละคือยุ่งกำลังดี! -ขุนเขา จากหนังสือ |สมองเศรษฐี หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #การใช้ชีวิต #ทัศนคติ #Thaitimes #สมองเศรษฐี #ขุนเขา
    Like
    Yay
    Love
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพลย์ลิสต์ 12 ตอน
    รายการ สยามโสภา
    》》
    https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_
    《《
    ■■■■■■■■
    EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส)
    》》
    https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc
    《《
    EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง)
    》》
    https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ
    《《
    EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร)
    》》
    https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V-
    《《
    EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย)
    》》
    https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS
    《《
    EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล)
    》》
    https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS
    《《
    EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี)
    》》
    https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc
    《《
    EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี)
    》》
    https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9
    》》
    EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี)
    》》
    https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB
    《《
    EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา)
    》》
    https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty
    《《
    EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา)
    》》
    https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY
    《《
    EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่)
    》》
    https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z
    《《
    EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี)
    》》
    https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46
    《《
    #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    เพลย์ลิสต์ 12 ตอน รายการ สยามโสภา 》》 https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_ 《《 ■■■■■■■■ EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส) 》》 https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc 《《 EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง) 》》 https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ 《《 EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร) 》》 https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V- 《《 EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย) 》》 https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS 《《 EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล) 》》 https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS 《《 EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี) 》》 https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc 《《 EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี) 》》 https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9 》》 EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี) 》》 https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB 《《 EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา) 》》 https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty 《《 EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา) 》》 https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY 《《 EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่) 》》 https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z 《《 EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี) 》》 https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46 《《 #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1122 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน
    ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ โดยคำว่า ภูกระดึง มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาถิ่นของจังหวัดเลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า ระฆังใหญ่
    ●เส้นทางเดินเท้าขึ้นภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดพักแรม เรียกว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกลาง” บริเวณนั้นจะมีให้บริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร
    ■■■■■■■■
    ●ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วแบกเป้ไปพิชิตภูกระดึงกัน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปีนเขา วิวสวย บรรยากาศดี ชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง!
    🗓 เปิดเฉพาะ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี งานนี้ต้องห้ามพลาด!
    ■■■■■■■■
    #ภูกระดึง #ท่องเที่ยวจังหวัดเลย #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    "ภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ โดยคำว่า ภูกระดึง มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาถิ่นของจังหวัดเลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า ระฆังใหญ่ ●เส้นทางเดินเท้าขึ้นภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดพักแรม เรียกว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกลาง” บริเวณนั้นจะมีให้บริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร ■■■■■■■■ ●ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วแบกเป้ไปพิชิตภูกระดึงกัน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปีนเขา วิวสวย บรรยากาศดี ชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง! 🗓 เปิดเฉพาะ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี งานนี้ต้องห้ามพลาด! ■■■■■■■■ #ภูกระดึง #ท่องเที่ยวจังหวัดเลย #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1167 มุมมอง 479 0 รีวิว
  • เพลย์ลิสต์ 12 ตอน
    รายการ สยามโสภา
    》》
    https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_
    《《
    ■■■■■■■■
    EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส)
    》》
    https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc
    《《
    EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง)
    》》
    https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ
    《《
    EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร)
    》》
    https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V-
    《《
    EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย)
    》》
    https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS
    《《
    EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล)
    》》
    https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS
    《《
    EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี)
    》》
    https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc
    《《
    EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี)
    》》
    https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9
    》》
    EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี)
    》》
    https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB
    《《
    EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา)
    》》
    https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty
    《《
    EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา)
    》》
    https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY
    《《
    EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่)
    》》
    https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z
    《《
    EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี)
    》》
    https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46
    《《
    #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    เพลย์ลิสต์ 12 ตอน รายการ สยามโสภา 》》 https://youtube.com/playlist?list=PL41fHrDILF1sPtjXDl3CwzJ8WXakk8fa_&si=1JPuAnEp603ydck_ 《《 ■■■■■■■■ EP.1 นราน่าอยู่ สู่สันติสุข - สุขนิยาม สยามโสภา (นราธิวาส) 》》 https://youtu.be/8iNFe2EtxrU?si=YDmlin4YudVrlRLc 《《 EP.2 เมืองลุงโนรา ล้ำค่าแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (พัทลุง) 》》 https://youtu.be/CqfroF5r8Zg?si=_zBTj-cXAHTS1umJ 《《 EP.3 ยลชุมชนวิถี ของดียโสธร - สุขนิยาม สยามโสภา (ยโสธร) 》》 https://youtu.be/-umeLk4zeI4?si=tMe0hAc5920EJ8V- 《《 EP.4 เล่าเรื่องเมืองเลย เอื้อนเอ่ยวัฒนธรรม - สุขนิยาม สยามโสภา (เลย) 》》 https://youtu.be/KXDGAnX-aAg?si=5SegR0YpRidmhmRS 《《 EP.5 ธรรมชาติเกื้อกูล เมืองสตูลยั่งยืน - สุขนิยาม สยามโสภา (สตูล) 》》 https://youtu.be/k-Fw-c5LjPY?si=EHYEI9eX_g0iMQPS 《《 EP.6 สุขสันต์สราญ ณ ราชบุรี - สุขนิยาม สยามโสภา (ราชบุรี) 》》 https://youtu.be/gtcxqCKa2fM?si=zE-EEvFQCxZuu5wc 《《 EP.7 วิถีสุพรรณ สร้างสรรค์มั่งคง - สุขนิยาม สยามโสภา (สุพรรณบุรี) 》》 https://youtu.be/7ejG-2nRzmo?si=xeiaw8Bq6QFNV_k9 》》 EP.8 ชื่นฉ่ำฤทัย เมืองอุทัยฯที่รัก - สุขนิยาม สยามโสภา (อุทัยธานี) 》》 https://youtu.be/RFMEXgYQH8Y?si=WJAnUQFyfdEXDHNB 《《 EP.9 อารยะสงขลา งามตาเพลินใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (สงขลา) 》》 https://youtu.be/tmXdzQnnO-c?si=lk0r9CftGZPOrAty 《《 EP.10 เบตงรุ่งเรือง เมืองงามแดนใต้ - สุขนิยาม สยามโสภา (อำเภอเบตง ยะลา) 》》 https://youtu.be/x1lDpq-slAs?si=F7YtK-5TlBQEcexY 《《 EP.11 ขุนเขาไฉไล เชียงใหม่ใจฟู - สุขนิยาม สยามโสภา (เชียงใหม่) 》》 https://youtu.be/e7nsSD8Jlrg?si=_1Me1jF6CvUIZV9Z 《《 EP.12 ท่องเที่ยวเบิกบาน เมืองกาญจน์สุขใจ - สุขนิยาม สยามโสภา (กาญจนบุรี) 》》 https://youtu.be/3gadquTBAtU?si=fPttKLwM9Ua98c46 《《 #สยามโสภา #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesสยามโสภา #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesสารคดีข่าวท่องเที่ยวไทย #thaitimesmanowjourney
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1862 มุมมอง 414 0 รีวิว
  • อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว

    ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง

    บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย
    หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย)

    นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ

    ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.)
    ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

    ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก

    นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด

    “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา
    นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

    “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่

    ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907

    #ภูหินร่องกล้า
    #พิษณุโลก
    #ท่องเที่ยว

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย) นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.) ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907 #ภูหินร่องกล้า #พิษณุโลก #ท่องเที่ยว ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷

    สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า

    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี

    ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว

    ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง

    สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย

    #ป่าหินงาม
    #ชัยภูมิ
    #ดอกกระเจียว


    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷 สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย #ป่าหินงาม #ชัยภูมิ #ดอกกระเจียว
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฮมสเตบ้านเปียงซ้อ..ที่พักหลักพันวิวหลักล้าน

    ที่สุดของความอลังการแห่งขุนเขาของเมืองน่าน ต้องยกให้บ้านเปียงซ้อ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอติดชายแดนไทย-ลาว ที่หลายคนไปไม่ถึง ส่วนใหญ่จะหยุดอยู่ที่ บ้านสะปัน บ้านเปียงซ้อ หมู่บ้านที่มีความสวยงามของขุนเขา ที่คนรักธรรมชาติ รักสายหมอก ต้องมาให้ได้สักครั้ง ที่นี่ในปัจจุบันถนนหนทางค่อนข้างสะดวก รถทุกชนิดไปถึงได้ มีที่พักให้บริการหลายแห่ง หนึ่งในนั้น คือ เปียงซ้อ โฮมสเตย์ ที่พักในสไตล์กระท่อมเรียบง่าย ในราคาหลักพัน แต่วิวหน้าบ้าน คือ หลักล้าน ที่เราสามารถมองเห็นวิวของขุนเขาเขียวขจี ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า ได้แบบใกล้ชิด ตื่นเช้ามาสามารถชมทะเลหมอกที่ลอยมาทักทายถึงหน้าบ้าน

    จากบ้านพักสามารถเดินลงไปตามทางเดิน เพื่อไปชมวิวของภูเขาได้แบบใกล้สายตามากขึ้น มีการจัดทำที่นั่ง ไว้ให้นั่งมองวิวอีกด้วย ถ้าใครเดินไหว ลงไปถึงข้างล่างได้เลย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียว และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สำหรับเรา บ้านเปียงซ้อ คือ สถานที่ท่องเที่ยวในน่านที่ยังคงมีความบริสุทธิ์อยู่มาก ไม่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาทำธุรกิจที่พัก เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่ทำกันเอง

    เพื่อนๆท่านใดอยากไปเที่ยวรอช่วงหมดหน้าพายุกันสักนิดนึง เพราะฤดูกาลท่องเที่ยวแห่งนี้จะคึกคักในช่วงปลายฝนต้นหนาว จนถึงหน้าหนาวแบบเต็มตัว ตั้งแต่เดือน ตุลาคม-กุมภาพันธ์ กันเลย ก่อนเดินทางไป เช็คก่อนนะครับว่าเต็มหรือยัง จะได้ไปไปเก้อ และขอให้ทุกคนมีความสุขกับการพักผ่อนนะครับ!!

    #เทพชวนเที่ยว
    #น่าน
    #บ้านเปี่ยงซ้อ
    โฮมสเตบ้านเปียงซ้อ..ที่พักหลักพันวิวหลักล้าน ที่สุดของความอลังการแห่งขุนเขาของเมืองน่าน ต้องยกให้บ้านเปียงซ้อ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอติดชายแดนไทย-ลาว ที่หลายคนไปไม่ถึง ส่วนใหญ่จะหยุดอยู่ที่ บ้านสะปัน บ้านเปียงซ้อ หมู่บ้านที่มีความสวยงามของขุนเขา ที่คนรักธรรมชาติ รักสายหมอก ต้องมาให้ได้สักครั้ง ที่นี่ในปัจจุบันถนนหนทางค่อนข้างสะดวก รถทุกชนิดไปถึงได้ มีที่พักให้บริการหลายแห่ง หนึ่งในนั้น คือ เปียงซ้อ โฮมสเตย์ ที่พักในสไตล์กระท่อมเรียบง่าย ในราคาหลักพัน แต่วิวหน้าบ้าน คือ หลักล้าน ที่เราสามารถมองเห็นวิวของขุนเขาเขียวขจี ที่เรียงรายอยู่ตรงหน้า ได้แบบใกล้ชิด ตื่นเช้ามาสามารถชมทะเลหมอกที่ลอยมาทักทายถึงหน้าบ้าน จากบ้านพักสามารถเดินลงไปตามทางเดิน เพื่อไปชมวิวของภูเขาได้แบบใกล้สายตามากขึ้น มีการจัดทำที่นั่ง ไว้ให้นั่งมองวิวอีกด้วย ถ้าใครเดินไหว ลงไปถึงข้างล่างได้เลย ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ความเขียว และความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ สำหรับเรา บ้านเปียงซ้อ คือ สถานที่ท่องเที่ยวในน่านที่ยังคงมีความบริสุทธิ์อยู่มาก ไม่มีกลุ่มนายทุนเข้ามาทำธุรกิจที่พัก เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านที่ทำกันเอง เพื่อนๆท่านใดอยากไปเที่ยวรอช่วงหมดหน้าพายุกันสักนิดนึง เพราะฤดูกาลท่องเที่ยวแห่งนี้จะคึกคักในช่วงปลายฝนต้นหนาว จนถึงหน้าหนาวแบบเต็มตัว ตั้งแต่เดือน ตุลาคม-กุมภาพันธ์ กันเลย ก่อนเดินทางไป เช็คก่อนนะครับว่าเต็มหรือยัง จะได้ไปไปเก้อ และขอให้ทุกคนมีความสุขกับการพักผ่อนนะครับ!! #เทพชวนเที่ยว #น่าน #บ้านเปี่ยงซ้อ
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • เที่ยวหน้าฝนบนขุนเขาที่เรารัก#ม่อนแจ่ม#เชียงใหม่
    เที่ยวหน้าฝนบนขุนเขาที่เรารัก#ม่อนแจ่ม#เชียงใหม่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 126 0 รีวิว
  • 5.สิ่งที่ดีที่สุด..ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

    “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ ครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก เป็นพื้นที่ผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาเย็นหรือดงพญาไฟในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล มีความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่สำคัญ หายาก และใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด รวมถึงนกมากกว่า 280 ชนิด จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักดูนกจากทั่วโลก

    นอกจากจะเป็นแหล่งธรรมชาติที่สำคัญของไทย ยังมีความสำคัญในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก คือ อุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Park) และ มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site)

    และที่สำคัญยิ่งใกล้ช่วงสิ้นปี หรือประมาณปลายฝนต้นหนาว
    หรือช่วงเดือนปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะเป็นฤดูการท่องเที่ยว ของบรรดาผู้ที่หลงไหลในการเดินป่า
    และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แห่งนี้นี่เอง.😊

    วันนี้เพจเทพชวนเที่ยว จึงขอยก 5. สิ่งที่ดีที่สุด ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาให้รับชมกันจ้า

    1.ได้สัมผัสธรรมชาติและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ที่ไม่ใช่สวนสัตว์อย่างใกล้ชิด🥰
    อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ป่าหลายชนิดสัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยและเป็นที่ดึงดูดใจผู้มาเยือน ได้แก่ ช้างป่า กระทิง หมาใน เก้ง กวางป่า ชะนี นกเงือก และลิงกัง

    2.น้ำตกเหวสุวัติ น้ำตกสวยงาม ชุ่มช่ำหัวใจ😘
    ยิ่งช่วงนี้ฝนตก น้ำตกยิ่งสวยงาม น้ำตกเหวสุวัต อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำตกเหวสุวัตที่มาของชื่อเหวสุวัตินั้น ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีโจรคนหนึ่ง ชื่อสุวัติ หนีอาญาบ้านเมืองมาที่น้ำตกแห่งนี้ และเมื่อจนมุมต่อเจ้าหน้าที่ ก็ตัดสินจบชีวิตตัวเองลงที่น้ำตกแห่งนี้

    3.เสน่ห์อีกอย่างของการมาเที่ยวเขาใหญ่ คือการได้เข้าไปเยือนจุดชมวิวบนหน้าผาที่สวยที่สุดบนเขาใหญ่ นั่นคือ "ผาเดียวดาย" นั่นเองครับ ยิ่งถ้าคุณขึ้นมานอนค้างอ้างแรมที่จุดกางเต็นท์บนเขาใหญ่ล่ะก็ เท่ากับว่าจะได้โอกาสขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาเดียวดายด้วย ตำนาน เรื่องเล่าของผาเดียวดาย เล่าเรื่องของผาเดียวดายสักนิด ที่มาของชื่อผานั้นมีอยู่ว่า นานมาแล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งรักใคร่ชอบพอกับชายหนุ่มหน้าตาดีมีฐานะ แต่เนื่องจากทางบ้านของฝ่ายชายไม่ยอมรับเธอ ทั้งคู่จึงต้องแอบคบหากัน กระทั่งวันหนึ่งฝ่ายหญิงเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เลยคิดจะหนีไปด้วยกันโดยตกลงจะมาพบกันที่ปลายผาที่ซึ่งทั้งสองนัดพบกันบ่อยๆ แต่พอถึงวันนัดชายหนุ่มกลับไม่มา เธอจึงท้อแท้ในชีวิตรัก สุดท้ายจึงกระโดดลงสู่ก้นเหวนั่นเอง😢

    4.ทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่ ป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในอุยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ตรงบริเวณหอดูสัตว์หนองผักชี และเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ถือว่าเป็นจุดพักผ่อนชมวิวมุมสูง พร้อมทุ่งหญ้าสะวันนาไกลสุดตา
    ก่อนหน้านี้มี ปรากฏการณ์ “ทุ่งหญ้าฟีเวอร์” ทำเขาใหญ่แทบแตก หลังนักท่องเที่ยวแห่เช็กอินแน่น ขณะที่นักท่องเที่ยวไร้สำนึกจำนวนหนึ่งไม่สนกฎระเบียบ ลงไปเดินใน “โป่งสัตว์” ทั้งที่มีป้ายห้าม จนเกิดเป็นดราม่าให้คอมเม้นต์กันสนั่นบนโลกโซเชียล
    ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงต้นฤดูฝนของบ้านเรา สำหรับวิวทิวทัศน์ของ “ทุ่งหญ้าเขาใหญ่” หรือ “ทุ่งหญ้าคาที่เขาใหญ่” ซึ่งหลังสายฝนโปรยสายท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่หลาย ๆ จุดในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” จะเติบโตเขียวขจี ก่อนจะออกดอกสีขาวโพลน ยามต้องสายลมจะโบกพลิ้วไสวดูโรแมนติก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปจุดเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก

    5. น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่งจังหวัดนครนายก จากความสูงในแต่ละชั้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 เมตรนั้น ก็พอจะดูออกว่าความสูงโดยรวมของน้ำตกแห่งนี้จะต้องไม่ต่ำกว่า 150 เมตรอย่างแน่นอน ส่วนที่มาของชื่อ น้ำตกเหวนรก มาจากลักษณะของมวลน้ำมหาศาลที่ตกลงมาจากผาสูงปรี๊ด ซ่อนตัวอยู่ในหุบเหว ดูลึกลับซับซ้อน และหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอยากเข้าไปชมความงามของน้ำตกแห่ง
    การเดินทางเพื่อเข้าไปชม น้ำตกเหวนรก ในปัจจุบันนั้นสะดวกขึ้นมาก เพราะถ้าเป็นสมัยก่อน ทุกคนจะต้องใช้เวลาเดินเท้าเพื่อเข้าไปยังตัวน้ำตกถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่หลังจากที่มีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ พวกเราก็สามารถขับรถไปจอดใกล้ตัวน้ำตกได้มากขึ้น เพียงเดินจากลานจอดรถไปแค่ 1 กิโลเมตรก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว

    และนี่ก็เป็นสิ่งที่นักเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและน่ามาชมให้เห็นกับตา🥰
    เพื่อนๆท่านใดอยากให้เพจ เทพชวนเที่ยว หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดมานำเสนอ คอมเม้นไว้ได้เลย
    ทีมงานจะจัดมาให้อีก อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ กันด้วยนะจ๊ะ! ขอบคุณคร้าบ😍
    #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
    #ผาเดียวดาย
    #น้ำตกเหวสุวัต
    #น้ำตกเหวนรก
    #ทุ่งหญ้าเขาใหญ่

    5.สิ่งที่ดีที่สุด..ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ ครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก เป็นพื้นที่ผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาเย็นหรือดงพญาไฟในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล มีความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่สำคัญ หายาก และใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด รวมถึงนกมากกว่า 280 ชนิด จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักดูนกจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นแหล่งธรรมชาติที่สำคัญของไทย ยังมีความสำคัญในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก คือ อุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Park) และ มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site) และที่สำคัญยิ่งใกล้ช่วงสิ้นปี หรือประมาณปลายฝนต้นหนาว หรือช่วงเดือนปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะเป็นฤดูการท่องเที่ยว ของบรรดาผู้ที่หลงไหลในการเดินป่า และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แห่งนี้นี่เอง.😊 วันนี้เพจเทพชวนเที่ยว จึงขอยก 5. สิ่งที่ดีที่สุด ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาให้รับชมกันจ้า 1.ได้สัมผัสธรรมชาติและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ที่ไม่ใช่สวนสัตว์อย่างใกล้ชิด🥰 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ป่าหลายชนิดสัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยและเป็นที่ดึงดูดใจผู้มาเยือน ได้แก่ ช้างป่า กระทิง หมาใน เก้ง กวางป่า ชะนี นกเงือก และลิงกัง 2.น้ำตกเหวสุวัติ น้ำตกสวยงาม ชุ่มช่ำหัวใจ😘 ยิ่งช่วงนี้ฝนตก น้ำตกยิ่งสวยงาม น้ำตกเหวสุวัต อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำตกเหวสุวัตที่มาของชื่อเหวสุวัตินั้น ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีโจรคนหนึ่ง ชื่อสุวัติ หนีอาญาบ้านเมืองมาที่น้ำตกแห่งนี้ และเมื่อจนมุมต่อเจ้าหน้าที่ ก็ตัดสินจบชีวิตตัวเองลงที่น้ำตกแห่งนี้ 3.เสน่ห์อีกอย่างของการมาเที่ยวเขาใหญ่ คือการได้เข้าไปเยือนจุดชมวิวบนหน้าผาที่สวยที่สุดบนเขาใหญ่ นั่นคือ "ผาเดียวดาย" นั่นเองครับ ยิ่งถ้าคุณขึ้นมานอนค้างอ้างแรมที่จุดกางเต็นท์บนเขาใหญ่ล่ะก็ เท่ากับว่าจะได้โอกาสขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาเดียวดายด้วย ตำนาน เรื่องเล่าของผาเดียวดาย เล่าเรื่องของผาเดียวดายสักนิด ที่มาของชื่อผานั้นมีอยู่ว่า นานมาแล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งรักใคร่ชอบพอกับชายหนุ่มหน้าตาดีมีฐานะ แต่เนื่องจากทางบ้านของฝ่ายชายไม่ยอมรับเธอ ทั้งคู่จึงต้องแอบคบหากัน กระทั่งวันหนึ่งฝ่ายหญิงเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เลยคิดจะหนีไปด้วยกันโดยตกลงจะมาพบกันที่ปลายผาที่ซึ่งทั้งสองนัดพบกันบ่อยๆ แต่พอถึงวันนัดชายหนุ่มกลับไม่มา เธอจึงท้อแท้ในชีวิตรัก สุดท้ายจึงกระโดดลงสู่ก้นเหวนั่นเอง😢 4.ทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่ ป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในอุยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ตรงบริเวณหอดูสัตว์หนองผักชี และเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ถือว่าเป็นจุดพักผ่อนชมวิวมุมสูง พร้อมทุ่งหญ้าสะวันนาไกลสุดตา ก่อนหน้านี้มี ปรากฏการณ์ “ทุ่งหญ้าฟีเวอร์” ทำเขาใหญ่แทบแตก หลังนักท่องเที่ยวแห่เช็กอินแน่น ขณะที่นักท่องเที่ยวไร้สำนึกจำนวนหนึ่งไม่สนกฎระเบียบ ลงไปเดินใน “โป่งสัตว์” ทั้งที่มีป้ายห้าม จนเกิดเป็นดราม่าให้คอมเม้นต์กันสนั่นบนโลกโซเชียล ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงต้นฤดูฝนของบ้านเรา สำหรับวิวทิวทัศน์ของ “ทุ่งหญ้าเขาใหญ่” หรือ “ทุ่งหญ้าคาที่เขาใหญ่” ซึ่งหลังสายฝนโปรยสายท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่หลาย ๆ จุดในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” จะเติบโตเขียวขจี ก่อนจะออกดอกสีขาวโพลน ยามต้องสายลมจะโบกพลิ้วไสวดูโรแมนติก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปจุดเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก 5. น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่งจังหวัดนครนายก จากความสูงในแต่ละชั้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 เมตรนั้น ก็พอจะดูออกว่าความสูงโดยรวมของน้ำตกแห่งนี้จะต้องไม่ต่ำกว่า 150 เมตรอย่างแน่นอน ส่วนที่มาของชื่อ น้ำตกเหวนรก มาจากลักษณะของมวลน้ำมหาศาลที่ตกลงมาจากผาสูงปรี๊ด ซ่อนตัวอยู่ในหุบเหว ดูลึกลับซับซ้อน และหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอยากเข้าไปชมความงามของน้ำตกแห่ง การเดินทางเพื่อเข้าไปชม น้ำตกเหวนรก ในปัจจุบันนั้นสะดวกขึ้นมาก เพราะถ้าเป็นสมัยก่อน ทุกคนจะต้องใช้เวลาเดินเท้าเพื่อเข้าไปยังตัวน้ำตกถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่หลังจากที่มีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ พวกเราก็สามารถขับรถไปจอดใกล้ตัวน้ำตกได้มากขึ้น เพียงเดินจากลานจอดรถไปแค่ 1 กิโลเมตรก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว และนี่ก็เป็นสิ่งที่นักเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและน่ามาชมให้เห็นกับตา🥰 เพื่อนๆท่านใดอยากให้เพจ เทพชวนเที่ยว หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดมานำเสนอ คอมเม้นไว้ได้เลย ทีมงานจะจัดมาให้อีก อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ กันด้วยนะจ๊ะ! ขอบคุณคร้าบ😍 #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #ผาเดียวดาย #น้ำตกเหวสุวัต #น้ำตกเหวนรก #ทุ่งหญ้าเขาใหญ่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 706 มุมมอง 0 รีวิว