• 💥 ทัวร์จีน มองโกเลีย อาณาจักรเจงกีสข่าน 8 วัน 7 คืน

    ✈️ บิน : OM-มองโกเลียแอร์ไลน์

    🅿️ 25 ธ.ค. -1 ม.ค. 68 ท่านละ 61,999.-
    🅿️ 19 - 26 ก.พ. 68 ท่านละ 56,999.-

    💥 ไฮไลท์โปรแกรม

    🚨 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกลเลีย
    🚨 ช้อปปิ้ง GOBI CASHMIER
    🚨 เนินทรายมินิโกบี
    🚨 กิจกรรมขี่อูฐบนทะเลทราย (รวมค่ากิจกรรม)
    🚨 คาราโครัม
    🚨 อนุสาวรีย์แผนที่จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่
    🚨 แม่น้ำออร์คอน
    🚨 อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์
    🚨 กิจกรรมขี่ม้าทากิ (รวมค่ากิจกรรม)
    🚨 กิจกรรมสุนัขลากเลื่อน (รวมค่ากิจกรรม)
    🚨 ใส่ชุดพื้นเมืองมองโกลถ่ายภาพเป็นที่ระลึก
    🚨 อุทยานเทอเรลจ์
    🚨 ช้อปปิ้ง STATE DEPARTMENT STORE

    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11767
    🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e0a8aa

    ดูทัวร์มองโกเลียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/19db39

    LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay https://78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway https://78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395 (auto)

    #ทัวร์มองโกเลีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💥 ทัวร์จีน มองโกเลีย อาณาจักรเจงกีสข่าน 8 วัน 7 คืน ✈️ บิน : OM-มองโกเลียแอร์ไลน์ 🅿️ 25 ธ.ค. -1 ม.ค. 68 ท่านละ 61,999.- 🅿️ 19 - 26 ก.พ. 68 ท่านละ 56,999.- 💥 ไฮไลท์โปรแกรม 🚨 พิพิธภัณฑ์แห่งชาติมองโกลเลีย 🚨 ช้อปปิ้ง GOBI CASHMIER 🚨 เนินทรายมินิโกบี 🚨 กิจกรรมขี่อูฐบนทะเลทราย (รวมค่ากิจกรรม) 🚨 คาราโครัม 🚨 อนุสาวรีย์แผนที่จักรพรรดิที่ยิ่งใหญ่ 🚨 แม่น้ำออร์คอน 🚨 อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์ 🚨 กิจกรรมขี่ม้าทากิ (รวมค่ากิจกรรม) 🚨 กิจกรรมสุนัขลากเลื่อน (รวมค่ากิจกรรม) 🚨 ใส่ชุดพื้นเมืองมองโกลถ่ายภาพเป็นที่ระลึก 🚨 อุทยานเทอเรลจ์ 🚨 ช้อปปิ้ง STATE DEPARTMENT STORE 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11767 🏢 โรงแรม : ⭐️⭐️⭐️⭐️ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e0a8aa ดูทัวร์มองโกเลียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/19db39 LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307 Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay https://78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway https://78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 (auto) #ทัวร์มองโกเลีย #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 15 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน

    ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย
    ปกติแล้ว ทุกๆ ปี ภูกระดึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวได้ในช่วง 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม

    #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #ภูกระดึง #จังหวัดเลย #เที่ยวเขา #เดินป่า #อุทยานแห่งชาติ #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    "ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย ปกติแล้ว ทุกๆ ปี ภูกระดึงจะเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวได้ในช่วง 1 ตุลาคม - 31 พฤษภาคม #สุขนิยามสยามโสภา #สยามโสภา #ภูกระดึง #จังหวัดเลย #เที่ยวเขา #เดินป่า #อุทยานแห่งชาติ #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 123 1 รีวิว
  • ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ตรวจเยี่ยมและตรวจติดตามการปฏิบัติงานของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน
    https://www.facebook.com/share/p/yYvDwHZYXWhXe5Hw/
    ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 ตรวจเยี่ยมและตรวจติดตามการปฏิบัติงานของอุทยานแห่งชาติศรีน่าน https://www.facebook.com/share/p/yYvDwHZYXWhXe5Hw/
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥 ทัวร์ไต้หวัน ฉลองปีใหม่ไต้หวัน เคาท์ดาวข้ามปี 5 วัน 4 คืน

    ✈️ เดินทางโดย : SL-ไทยไลอ้อนแอร์

    🅿️ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค. 68 🔥 ท่านล่ะ ฿32,555

    📍 อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (รวมนั่งรถไฟ 1 เที่ยว)
    📍 ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    📍 วัดพระถังซำจั๋ง
    📍 ถนนโบราณจิ่วเฟิ่น
    📍 ถ่ายรูปกับตึกไทเป 101 (ไม่รวมค่าขึ้นตึกชั้น 89)
    📍 ซีเหมินติงไนท์มาร์เก็ต
    📍 เคาท์ดาวน์แถวแม่น้ำตั้นสุ่ย
    📍 วัดหลงซาน
    📍 อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค

    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11635
    🏢 โรงแรม : 4 ดาว

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ecb226

    ดูทัวร์ไทเปทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/ecf125

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/29d56c

    ดูทัวร์เคาท์ดาวน์ ชมพลุไฟทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/eb8753

    LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway https://78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395 (auto)

    #ทัวร์ไต้หวัน #ทัวร์เคาท์ดาวน์ชมพลุไฟ #ทัวร์ไทเป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    💥 ทัวร์ไต้หวัน ฉลองปีใหม่ไต้หวัน เคาท์ดาวข้ามปี 5 วัน 4 คืน ✈️ เดินทางโดย : SL-ไทยไลอ้อนแอร์ 🅿️ 28 ธ.ค. - 1 ม.ค. 68 🔥 ท่านล่ะ ฿32,555 📍 อุทยานแห่งชาติอาลีซาน (รวมนั่งรถไฟ 1 เที่ยว) 📍 ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 📍 วัดพระถังซำจั๋ง 📍 ถนนโบราณจิ่วเฟิ่น 📍 ถ่ายรูปกับตึกไทเป 101 (ไม่รวมค่าขึ้นตึกชั้น 89) 📍 ซีเหมินติงไนท์มาร์เก็ต 📍 เคาท์ดาวน์แถวแม่น้ำตั้นสุ่ย 📍 วัดหลงซาน 📍 อนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11635 🏢 โรงแรม : 4 ดาว ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ecb226 ดูทัวร์ไทเปทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/ecf125 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/29d56c ดูทัวร์เคาท์ดาวน์ ชมพลุไฟทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/eb8753 LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307 Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway https://78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 (auto) #ทัวร์ไต้หวัน #ทัวร์เคาท์ดาวน์ชมพลุไฟ #ทัวร์ไทเป #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 13 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทางขึ้น เขาเขียว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เขียวฉอุ่มโอบล้อมไปด้วยหมอกขาว เย็นสดชื่น มันก็สามารถทำให้ความเครียดจากการทำงานลดลงได้ ความเงียบสงบของป่า ทำให้เรามีเวลากับตัวเองมากขึ้น มีสมาธิกับสื่งที่เราโฟกัสมากขึ้น รักตัวเองให้มากขึ้น มาสูด OZONE ที่นี่ให้เต็มปอด แล้วกลับไปสู้กับโลกปัจจุบันกันต่อ💪💪💪
    ทางขึ้น เขาเขียว อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เขียวฉอุ่มโอบล้อมไปด้วยหมอกขาว เย็นสดชื่น มันก็สามารถทำให้ความเครียดจากการทำงานลดลงได้ ความเงียบสงบของป่า ทำให้เรามีเวลากับตัวเองมากขึ้น มีสมาธิกับสื่งที่เราโฟกัสมากขึ้น รักตัวเองให้มากขึ้น มาสูด OZONE ที่นี่ให้เต็มปอด แล้วกลับไปสู้กับโลกปัจจุบันกันต่อ💪💪💪
    Like
    Love
    2
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 110 0 รีวิว
  • เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฮาลา – บาลา

    พื้นที่อนุรักษ์แห่งใหม่ของประเทศไทย ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย มีพื้นที่ 270,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติจะเป็นพื้นที่ป่าบาลาที่ครอบคลุม อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น ต้นยวน ต้นยูคาลิบตัส ต้นสยา เป็นไม้เด่นของป่าฮาลา-บาลา เพราะเป็นแหล่งทำรังที่สำคัญของนกเงือก ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น ชะนีดำใหญ่ หรือ เซียมัง นอกจากนั้นยังมีกบทูด ซึ่งเป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

    ผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ตู้ ปณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หรือฝ่ายกิจการเขตรักษาพันธุ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร 0-2561-0777 ต่อ 1615 ในวันเวลาราชการ หรือเข้าชมเว็บไซต์ที่ www.dnp.go.th

    การเดินทาง สามารถขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปอำเภอแว้ง จนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่ไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
    เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฮาลา – บาลา พื้นที่อนุรักษ์แห่งใหม่ของประเทศไทย ได้รับการจัดตั้งอย่างเป็นทางการเมื่อ พ.ศ. 2539 เป็นแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย มีพื้นที่ 270,725 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่เขาสันกาลาคีรี ป่าฮาลาและป่าบาลาเป็นผืนป่าดงดิบที่ไม่ต่อเนื่องกัน แต่ได้รับประกาศเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเดียวกัน คือ ป่าฮาลา ในเขตอำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส แต่ส่วนที่เปิดให้ประชาชนเข้าไปศึกษาธรรมชาติจะเป็นพื้นที่ป่าบาลาที่ครอบคลุม อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส มีพันธุ์ไม้ต่างๆ ที่หาชมได้ยาก เช่น ต้นยวน ต้นยูคาลิบตัส ต้นสยา เป็นไม้เด่นของป่าฮาลา-บาลา เพราะเป็นแหล่งทำรังที่สำคัญของนกเงือก ยังมีสัตว์ป่าหายากหลายชนิด เช่น ชะนีดำใหญ่ หรือ เซียมัง นอกจากนั้นยังมีกบทูด ซึ่งเป็นกบขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผู้ที่มีความประสงค์เข้าพื้นที่เพื่อศึกษาธรรมชาติ ต้องทำหนังสือแจ้งความประสงค์ล่วงหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา ตู้ ปณ. 3 อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส หรือฝ่ายกิจการเขตรักษาพันธุ์ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชกรุงเทพฯ โทร 0-2561-0777 ต่อ 1615 ในวันเวลาราชการ หรือเข้าชมเว็บไซต์ที่ www.dnp.go.th การเดินทาง สามารถขับไปตามทางหลวงหมายเลข 4057 มุ่งหน้าไปอำเภอแว้ง จนถึงบ้านบูเก๊ะตา จะมีป้ายบอกทางให้ขับต่ไปทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล

    เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา

    หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด

    ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562

    #ปะการัง7สี
    ปะการังเจ็ดสี Unseen กองหินขาว จ.สตูล เอ่ยถึงจังหวัดสตูล หลายคนมักจะถึงเกาะตะรุเตา เกาะหลีเป๊ะ อาดังราวี แต่รู้หรือไม่ว่า ที่จังหวัดสตูล ยังมีทะเลอีกหนึ่งจุดที่รอนักท่องเที่ยวมาสัมผัสความงามใต้ท้องทะเลลึก ณ กองหินขาว อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา หลายปีที่ผ่านมา ชื่อของกองหินขาว โด่งดังขึ้นมา จากโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา ซึ่งเหล่านักวิชาการ -นักอนุรักษ์มองว่าการก่อสร้างท่าเรือดังกล่าวจะส่งผลกระทบโดยตรงกับกองหินขาว และระบบนิเวศวิทยาทางทะเลที่อยู่ล้อมรอบ ดังนั้นจึงมีการนำภาพนิ่ง - วีดีโอ ต่างๆของท้องทะเลใต้กองหินขาวและบริเวณรอบๆมานำเสนอต่อประชาชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับรู้ ได้เห็นว่าแท้จริงแล้ว ใต้ท้องทะเลแห่งนี้มีของดีล้ำค่าเพียงใด ผลของการออกโรงของนักวิชาการ -นักอนุรักษ์ รวมไปถึงชุมชนที่หวั่นว่าจะได้รับผลกระทบ ส่งผลให้รัฐบาลโดยกรมเจ้าท่า ได้ลงนามร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญายุติโครงการศึกษาทบทวนและสำรวจออกแบบรายละเอียด (EHIA) โครงการท่าเรือน้ำลึกฯ (ปากบารา) เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2562 #ปะการัง7สี
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 21 มุมมอง 0 รีวิว
  • 💥 ทัวร์ออสเตรเลีย ซิดนีย์ - เมลเบิร์น (อิสระชมพลุฉลองปีใหม่ 2025) 7 วัน 5 คืน

    ✈️ บิน : TG-การบินไทย

    🅿️ 27 ธ.ค. - 1 ม.ค. 68 ท่านละ 99,900

    📍 อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์
    📍 สวนสัตว์พื้นเมือง Featherdale Wildlife Park
    📍 ล่องเรือชมอ่าวซิดนีย์
    📍 รถไฟจักรไอน้ำโบราณ - ชิมไวน์
    📍 ชมนกเพนกวินที่เกาะฟิลลิป
    📍 อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย เต็มวัน
    📍 ชมเมืองเมลเบิร์น

    📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน
    📢 รหัสทัวร์ : Z11639
    🏢 โรงแรม : 3.5 ดาว

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ee5af2

    ดูทัวร์เคาท์ดาวน์ ชมพลุไฟทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/eb8753

    ดูทัวร์วันปีใหม่ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e63281

    ดูทัวร์ออสเตรเลียทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/76b8fb

    ดูทัวร์ซิดนีย์ทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/e5caab

    ดูทัวร์เมลเบิร์นทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/eee221

    LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    📷: etravelway https://78s.me/05e8da
    ☎️: 0 2116 6395 (auto)

    #ทัวร์ออสเตรเลีย #ทัวร์เคาท์ดาวน์ชมพลุไฟ #ทัวร์วันปีใหม่ #ทัวร์ซิดนีย์ #ทัวร์เมลเบิร์น #ทัวร์ต่างประเทศ
    💥 ทัวร์ออสเตรเลีย ซิดนีย์ - เมลเบิร์น (อิสระชมพลุฉลองปีใหม่ 2025) 7 วัน 5 คืน ✈️ บิน : TG-การบินไทย 🅿️ 27 ธ.ค. - 1 ม.ค. 68 ท่านละ 99,900 📍 อุทยานแห่งชาติบลูเม้าท์เท่นส์ 📍 สวนสัตว์พื้นเมือง Featherdale Wildlife Park 📍 ล่องเรือชมอ่าวซิดนีย์ 📍 รถไฟจักรไอน้ำโบราณ - ชิมไวน์ 📍 ชมนกเพนกวินที่เกาะฟิลลิป 📍 อิสระท่องเที่ยวตามอัธยาศัย เต็มวัน 📍 ชมเมืองเมลเบิร์น 📢 ระดับทัวร์ : ทัวร์คุณภาพระดับมาตรฐาน 📢 รหัสทัวร์ : Z11639 🏢 โรงแรม : 3.5 ดาว ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ee5af2 ดูทัวร์เคาท์ดาวน์ ชมพลุไฟทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/eb8753 ดูทัวร์วันปีใหม่ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e63281 ดูทัวร์ออสเตรเลียทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/76b8fb ดูทัวร์ซิดนีย์ทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/e5caab ดูทัวร์เมลเบิร์นทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/eee221 LINE ID: @etravelway https://78s.me/d0c307 Facebook: etravelway https://78s.me/8a4061 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway https://78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 (auto) #ทัวร์ออสเตรเลีย #ทัวร์เคาท์ดาวน์ชมพลุไฟ #ทัวร์วันปีใหม่ #ทัวร์ซิดนีย์ #ทัวร์เมลเบิร์น #ทัวร์ต่างประเทศ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 23 มุมมอง 0 รีวิว
  • 22/10/67


    หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล

    เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน?

    หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด

    หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย

    ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม

    ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย
    เหมือนสลิ่ม คละสี

    เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก
    ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้

    ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    22/10/67 หาดห้าสี อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา สตูล # อุทยานธรณีสตูล เป็นหาดเล็กๆ หน้าหาดหันเข้าหาอ่าวละงู ตะวันตกเขาโต๊ะหงาย บนหาดทรายเล็กๆนั้นมีกลุ่มก้อนหินสี อยู่บนชายหาดอย่างละลานตา เป็นหินสีแดง ฟ้า เหลือง ขาว ดำ หินพวกนี้มาจากไหน? หินสีแดง มาจากหินภูเขาโต๊ะหงาย เป็นหินทรายเก่าแก่ในยุคแคมเบรียน อายุ.....๕๔๒- ๔๘๘ ล้านปี ซึ่งภูเขาโต๊ะหงายทางด้านตะวันตกเป็นหินนี้เกือบทั้งหมด หินสีฟ้า เป็นหินปูนยุคออโดวิเชียนอายุ ๔๘๘-๔๔๔ ซึ่งก็ต่อจากยุคแคมแบรียนนั่นเอง หินปูนนี้จะอยู่ฝั่งตะวันออกของเขาโต๊ะหงาย ส่วนสีขาว และดำ น่าจะเป็นเหมือนกรวด สีดำนั้นคล้ายบนหาดหินงาม ทุกก้อนกลม มน คิดว่าคงจะถูกคลื่นพัดพาขัดสีกันจนเป็นลักษณะมน พอมาอยู่รวมกันบนหาด มันเลย เหมือนสลิ่ม คละสี เป็นความมหัศจรรย์ทางธรณีที่น่าสนใจมาก ใครจะถ่ายรูป แนะให้มาตอนเย็น แดดจะเข้าทางตะวันตกพอดี แล้วดูพระอาทิตย์ตกด้วยรูปจะสวยกว่านี้ ## ที่สำคัญ ต้องย้ำกันเลยว่า...อย่าเอาหินพวกนี้ไปนะ...มันเป็นสมบัติของประเทศชาติ อย่าเอาไปครอบครองส่วนตัว เก็บไว้ให้คนอื่นได้ดูและชื่นชมร่วมกัน เก็บเอาไปไว้ที่บ้าน มันจะเป็นแค่ก้อนหินธรรมดา แต่เมื่อมันอยู่บนหาด มันคือหาดห้าสีที่สวยงามของไทย หาไม่ได้ง่ายๆในโลก ควรช่วยกันเก็บรักษา ถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอมา ไม่มีใครว่าอะไร​
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานอ่าวมะนาว -เขาตันหยง จ.นราธิวาส

    ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลกะลุวอเหนือ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว ๔ กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ๆ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
    หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติน่าเที่ยวแห่งจังหวัดนราธิวาส เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งชายทะเล เนินเขาสูง พื้นที่ป่าสงวน ป่าพรุ และมีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้สภาพธรรมชาติมีความสมบูรณ์หลากหลาย มีการพบต้นมะนาวผี ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก รวมถึงสัตว์ป่าหายากหลากชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง

    อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่บ้านบางมะนาว หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อหลายปีก่อน ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น สำนักงานป่าไม้ปัตตานีจึงได้สนองพระราชดำริดังกล่าว โดยทำการสำรวจพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติพิเศษ ป่าเขาตันหยง ในพื้นที่บริเวณนอกเขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยานก่อนในเริ่มแรก มีเนื้อที่ประมาณ 23,278.25 ไร่ แล้วตั้งชื่อว่า วนอุทยานอ่าวมะนาว โดยกรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2536

    การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๔ นราธิวาส-ตากใบ ๓ กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก ๓ กิโลเมตร
    พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางนราจะมีทางเลี้ยวซ้าย เข้าไปเพียง 2.5 ม. ก็จะไปถึงแนวป่าสนร่มรื่นและชายทะเลยาวเหยียด พร้อมทั้งป้ายใหญ่โตชื่อ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง
    ท่านจะพบบริเวณริมหาดที่มีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด (beach forest) ระยะทาง ๑ กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้ง เช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (คล้ายสับปะรด) เป็นต้น และในบริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านพักของเอกชนให้บริการ

    เขาตันหยงนั้นเป็นภูเขาเตี้ยๆ มียอดหลายยอดมีพื้นที่พอประมาณไม่สูงนัก ด้านตะวันออกของภูเขาติดชายทะเลอ่าวไทยติดชายหาด ส่วนด้านตะวันตกติดแนวถนนหมายเลข 4064 ด้านทิศใต้เป็นพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์และด้านทิศเหนือจึงเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว-เขาตันหยงนี่เอง
    ช่วงหน้าน้ำช่วงที่ฝนตกมาหลายวันต่อเนื่องกัน จะมีลำธารน้ำเล็กๆ ตกลงมาจากเขาตันหยงลงสู่ทะเลสองสาย กลายเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ คือน้ำตกธาราสวรรค์ที่ไหลลงชายหาดอ่าวมะนาวแล้วลงสูทะเล กัยน้ำตกริมผา ที่ไหลตกลงจากหน้าผาเล็กๆ ก่อนไหลเข้าหมู่บ้านแล้วออกสู่ชายทะเลด้านทศเหนือ ห่างที่ทำการอุทยานฯไปไม่ไกล

    อุทยานแหงชาติอ่าวมะนาว-ขาตันหยง ยังคงสถานภาพเป็นอุทยานเตรียมการประกาศ แต่ก็ได้รักษาดูแลสถานที่ไว้จนสวยงาม สมกับเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสที่สุด

    มานราคราววหน้า ลองมาเที่ยวเขาตันหยง-อ่าวมะนาว แล้วจะประทับใจเมืองนี้ไปอีกนาน....







    อุทยานอ่าวมะนาว -เขาตันหยง จ.นราธิวาส ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลกะลุวอเหนือ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว ๔ กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ๆ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติน่าเที่ยวแห่งจังหวัดนราธิวาส เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งชายทะเล เนินเขาสูง พื้นที่ป่าสงวน ป่าพรุ และมีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้สภาพธรรมชาติมีความสมบูรณ์หลากหลาย มีการพบต้นมะนาวผี ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก รวมถึงสัตว์ป่าหายากหลากชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่บ้านบางมะนาว หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อหลายปีก่อน ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น สำนักงานป่าไม้ปัตตานีจึงได้สนองพระราชดำริดังกล่าว โดยทำการสำรวจพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติพิเศษ ป่าเขาตันหยง ในพื้นที่บริเวณนอกเขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยานก่อนในเริ่มแรก มีเนื้อที่ประมาณ 23,278.25 ไร่ แล้วตั้งชื่อว่า วนอุทยานอ่าวมะนาว โดยกรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2536 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๔ นราธิวาส-ตากใบ ๓ กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก ๓ กิโลเมตร พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางนราจะมีทางเลี้ยวซ้าย เข้าไปเพียง 2.5 ม. ก็จะไปถึงแนวป่าสนร่มรื่นและชายทะเลยาวเหยียด พร้อมทั้งป้ายใหญ่โตชื่อ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง ท่านจะพบบริเวณริมหาดที่มีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด (beach forest) ระยะทาง ๑ กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้ง เช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (คล้ายสับปะรด) เป็นต้น และในบริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านพักของเอกชนให้บริการ เขาตันหยงนั้นเป็นภูเขาเตี้ยๆ มียอดหลายยอดมีพื้นที่พอประมาณไม่สูงนัก ด้านตะวันออกของภูเขาติดชายทะเลอ่าวไทยติดชายหาด ส่วนด้านตะวันตกติดแนวถนนหมายเลข 4064 ด้านทิศใต้เป็นพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์และด้านทิศเหนือจึงเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว-เขาตันหยงนี่เอง ช่วงหน้าน้ำช่วงที่ฝนตกมาหลายวันต่อเนื่องกัน จะมีลำธารน้ำเล็กๆ ตกลงมาจากเขาตันหยงลงสู่ทะเลสองสาย กลายเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ คือน้ำตกธาราสวรรค์ที่ไหลลงชายหาดอ่าวมะนาวแล้วลงสูทะเล กัยน้ำตกริมผา ที่ไหลตกลงจากหน้าผาเล็กๆ ก่อนไหลเข้าหมู่บ้านแล้วออกสู่ชายทะเลด้านทศเหนือ ห่างที่ทำการอุทยานฯไปไม่ไกล อุทยานแหงชาติอ่าวมะนาว-ขาตันหยง ยังคงสถานภาพเป็นอุทยานเตรียมการประกาศ แต่ก็ได้รักษาดูแลสถานที่ไว้จนสวยงาม สมกับเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสที่สุด มานราคราววหน้า ลองมาเที่ยวเขาตันหยง-อ่าวมะนาว แล้วจะประทับใจเมืองนี้ไปอีกนาน....
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว (ฝนตกห้ามลงน้ำ😂) #จันทบุรี #ท่องเที่ยว #ครอบครัว #สนุกสนาน #travel #thaitimes #kaiaminute
    อุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว (ฝนตกห้ามลงน้ำ😂) #จันทบุรี #ท่องเที่ยว #ครอบครัว #สนุกสนาน #travel #thaitimes #kaiaminute
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 198 มุมมอง 103 0 รีวิว
  • ‘มัลดีฟส์’ เมืองระนอง หมู่เกาะกำ หาดทรายขาวบริสุทธิ์
    “หมู่เกาะกำ” เป็นเกาะที่สวยงาม มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่เกือบรอบเกาะ เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแหลมสน มีเกาะกำใหญ่เป็นเกาะศูนย์กลางและรายล้อมด้วยเกาะกำนุ้ย เกาะกำกลาง เกาะกำตก เกาะค้างคาว เกาะล้าน เกาะกำหนุ่ย

    พื้นที่ของหมู่เกาะส่วนใหญ่อยู่ในแนวน้ำตื้น น้ำทะเลลึกไม่เกิน 7 เมตร มีเพียงเกาะค้างคาวที่อยู่ในแนวน้ำลึก ทะเลรอบเกาะมีความลึกประมาณ 10 เมตร จากหาดบางเบนจะมองเห็นเกาะเรียงจากซ้าย ไปขวาเรียงกันไป เริ่มจากหมู่เกาะกำนุ้ยอยู่ด้านซ้ายสุด ถัดมาเป็นหมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะกำใหญ่อยู่ถัดไป

    อ่าวเขาควาย จะอยู่ในเกาะกำตก ทางเหนือของเกาะกำใหญ่ เป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมคล้ายกับเขาควาย เลยเป็นที่มาของชื่อ อ่าวเขาควาย แต่ก็ยังคงความสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ และไม่ใช่เพียง แค่รูปร่างของหาดที่สวยงามแปลกตาที่ทำให้คนตกหลุมรักที่นี่เท่านั้น แต่บริเวณอ่าวเขาควาย ยังมีชายหาดที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด ประหนึ่งเดินอยู่บนปุยเมฆ น้ำทะเลโดยรอบก็ยังเป็นสีฟ้าและใสมาก สามารถลงไปว่ายน้ำเล่น ดำน้ำ ชมปะการังใต้ท้องทะเลได้ ที่สำคัญเงียบสงบมาก เพราะไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใด ๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างมาก

    #หมูเกาะกำ
    #ระนอง
    ‘มัลดีฟส์’ เมืองระนอง หมู่เกาะกำ หาดทรายขาวบริสุทธิ์ “หมู่เกาะกำ” เป็นเกาะที่สวยงาม มีหาดทรายขาวบริสุทธิ์อยู่เกือบรอบเกาะ เป็นหมู่เกาะที่อยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติแหลมสน มีเกาะกำใหญ่เป็นเกาะศูนย์กลางและรายล้อมด้วยเกาะกำนุ้ย เกาะกำกลาง เกาะกำตก เกาะค้างคาว เกาะล้าน เกาะกำหนุ่ย พื้นที่ของหมู่เกาะส่วนใหญ่อยู่ในแนวน้ำตื้น น้ำทะเลลึกไม่เกิน 7 เมตร มีเพียงเกาะค้างคาวที่อยู่ในแนวน้ำลึก ทะเลรอบเกาะมีความลึกประมาณ 10 เมตร จากหาดบางเบนจะมองเห็นเกาะเรียงจากซ้าย ไปขวาเรียงกันไป เริ่มจากหมู่เกาะกำนุ้ยอยู่ด้านซ้ายสุด ถัดมาเป็นหมู่เกาะญี่ปุ่น หมู่เกาะกำใหญ่อยู่ถัดไป อ่าวเขาควาย จะอยู่ในเกาะกำตก ทางเหนือของเกาะกำใหญ่ เป็นโค้งอ่าวครึ่งวงกลมคล้ายกับเขาควาย เลยเป็นที่มาของชื่อ อ่าวเขาควาย แต่ก็ยังคงความสวยงามแปลกตาไปอีกแบบ และไม่ใช่เพียง แค่รูปร่างของหาดที่สวยงามแปลกตาที่ทำให้คนตกหลุมรักที่นี่เท่านั้น แต่บริเวณอ่าวเขาควาย ยังมีชายหาดที่ขาวสะอาด เนื้อทรายเนียนละเอียด ประหนึ่งเดินอยู่บนปุยเมฆ น้ำทะเลโดยรอบก็ยังเป็นสีฟ้าและใสมาก สามารถลงไปว่ายน้ำเล่น ดำน้ำ ชมปะการังใต้ท้องทะเลได้ ที่สำคัญเงียบสงบมาก เพราะไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และที่พัก หรือสถานบันเทิงใด ๆ ที่นี่จึงเหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนเป็นอย่างมาก #หมูเกาะกำ #ระนอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ตำบลบ้านปิน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบริเวณของบ่อน้ำร้อน ประมาณ 10 ไร่ด้วยกัน โดยมีจำนวนบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 50 บ่อเลยทีเดียว ในแต่ละบ่อก็จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันไป อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-80 องศาเซลเซียสค่ะ จุดไฮไลท์ของที่นี่ คือ น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมา จะสูงที่สุดใน บ่อน้ำพุร้อนฝาง เลยค่ะ โดยจะพุ่งออกมา 30 นาทีต่อครั้ง สูงกว่า 30-50 เมตรเลยทีเดียว และก็เป็นบริเวณที่อุณหภูมิของน้ำจะสูงมากด้วยเช่นกัน

    แน่นอนว่ามีน้ำร้อนแบบนี้ จะให้ชมด้วยตาอย่างเดียวก็คงจะไม่ใช่ ที่นี่มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างด้วยกันเลยค่ะ ทั้ง การต้มไข่ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบ่อน้ำพุร้อน การชมน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ การอบตัว อาบน้ำแร่ การแช่เท้า เป็นต้นค่ะ ต้องบอกว่าว่าเพียบบ กิจกรรมแน่นสุดๆ รวมถึงยังมีจุดกางเต็นท์ บ้านพักของอุทยานฯ ให้บริการอีกด้วย

    โดยน้ำร้อนที่ บ่อน้ำพุร้อนฝาง นี้ เกิดขึ้นมาจากการที่น้ำในชั้นใต้ดิน ไหลผ่านหินร้อนหลอมเหลว หรือ ที่เรียกกันว่า ลาวา นั่นแหละค่ะ ซึ่งจะอยู่ใกล้เปลือกโลก ทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง และเกิดแรงดันไหลผ่านตามรอยแยกใต้พื้้นดินขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นน้ำร้อนไหลพุ่งขึ้นสู่หน้าดิน จนเป็นน้ำพุร้อนอย่างที่เราเห็นกันนั่นเองค่ะ สมแล้วที่เป็นธรรมชาติสวยๆ ใน ภาคเหนือ ถึงได้มีน้ำพุร้อนให้เราได้ชมและแช่กันแบบนี้ งานนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว

    #น้ำพุร้อนฝาง
    #เชียงใหม่

    บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ตำบลบ้านปิน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบริเวณของบ่อน้ำร้อน ประมาณ 10 ไร่ด้วยกัน โดยมีจำนวนบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 50 บ่อเลยทีเดียว ในแต่ละบ่อก็จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันไป อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-80 องศาเซลเซียสค่ะ จุดไฮไลท์ของที่นี่ คือ น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมา จะสูงที่สุดใน บ่อน้ำพุร้อนฝาง เลยค่ะ โดยจะพุ่งออกมา 30 นาทีต่อครั้ง สูงกว่า 30-50 เมตรเลยทีเดียว และก็เป็นบริเวณที่อุณหภูมิของน้ำจะสูงมากด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ามีน้ำร้อนแบบนี้ จะให้ชมด้วยตาอย่างเดียวก็คงจะไม่ใช่ ที่นี่มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างด้วยกันเลยค่ะ ทั้ง การต้มไข่ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบ่อน้ำพุร้อน การชมน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ การอบตัว อาบน้ำแร่ การแช่เท้า เป็นต้นค่ะ ต้องบอกว่าว่าเพียบบ กิจกรรมแน่นสุดๆ รวมถึงยังมีจุดกางเต็นท์ บ้านพักของอุทยานฯ ให้บริการอีกด้วย โดยน้ำร้อนที่ บ่อน้ำพุร้อนฝาง นี้ เกิดขึ้นมาจากการที่น้ำในชั้นใต้ดิน ไหลผ่านหินร้อนหลอมเหลว หรือ ที่เรียกกันว่า ลาวา นั่นแหละค่ะ ซึ่งจะอยู่ใกล้เปลือกโลก ทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง และเกิดแรงดันไหลผ่านตามรอยแยกใต้พื้้นดินขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นน้ำร้อนไหลพุ่งขึ้นสู่หน้าดิน จนเป็นน้ำพุร้อนอย่างที่เราเห็นกันนั่นเองค่ะ สมแล้วที่เป็นธรรมชาติสวยๆ ใน ภาคเหนือ ถึงได้มีน้ำพุร้อนให้เราได้ชมและแช่กันแบบนี้ งานนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว #น้ำพุร้อนฝาง #เชียงใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 19 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ตำบลบ้านปิน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบริเวณของบ่อน้ำร้อน ประมาณ 10 ไร่ด้วยกัน โดยมีจำนวนบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 50 บ่อเลยทีเดียว ในแต่ละบ่อก็จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันไป อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-80 องศาเซลเซียสค่ะ จุดไฮไลท์ของที่นี่ คือ น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมา จะสูงที่สุดใน บ่อน้ำพุร้อนฝาง เลยค่ะ โดยจะพุ่งออกมา 30 นาทีต่อครั้ง สูงกว่า 30-50 เมตรเลยทีเดียว และก็เป็นบริเวณที่อุณหภูมิของน้ำจะสูงมากด้วยเช่นกัน

    แน่นอนว่ามีน้ำร้อนแบบนี้ จะให้ชมด้วยตาอย่างเดียวก็คงจะไม่ใช่ ที่นี่มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างด้วยกันเลยค่ะ ทั้ง การต้มไข่ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบ่อน้ำพุร้อน การชมน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ การอบตัว อาบน้ำแร่ การแช่เท้า เป็นต้นค่ะ ต้องบอกว่าว่าเพียบบ กิจกรรมแน่นสุดๆ รวมถึงยังมีจุดกางเต็นท์ บ้านพักของอุทยานฯ ให้บริการอีกด้วย

    โดยน้ำร้อนที่ บ่อน้ำพุร้อนฝาง นี้ เกิดขึ้นมาจากการที่น้ำในชั้นใต้ดิน ไหลผ่านหินร้อนหลอมเหลว หรือ ที่เรียกกันว่า ลาวา นั่นแหละค่ะ ซึ่งจะอยู่ใกล้เปลือกโลก ทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง และเกิดแรงดันไหลผ่านตามรอยแยกใต้พื้้นดินขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นน้ำร้อนไหลพุ่งขึ้นสู่หน้าดิน จนเป็นน้ำพุร้อนอย่างที่เราเห็นกันนั่นเองค่ะ สมแล้วที่เป็นธรรมชาติสวยๆ ใน ภาคเหนือ ถึงได้มีน้ำพุร้อนให้เราได้ชมและแช่กันแบบนี้ งานนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว

    #น้ำพุร้อนฝาง
    #เชียงใหม่



    บ่อน้ำพุร้อนฝาง ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติดอยฟ้าห่มปก ตำบลบ้านปิน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นบริเวณของบ่อน้ำร้อน ประมาณ 10 ไร่ด้วยกัน โดยมีจำนวนบ่อน้ำพุร้อนมากกว่า 50 บ่อเลยทีเดียว ในแต่ละบ่อก็จะมีอุณหภูมิแตกต่างกันไป อุณหภูมิเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 30-80 องศาเซลเซียสค่ะ จุดไฮไลท์ของที่นี่ คือ น้ำพุร้อนที่พุ่งขึ้นมา จะสูงที่สุดใน บ่อน้ำพุร้อนฝาง เลยค่ะ โดยจะพุ่งออกมา 30 นาทีต่อครั้ง สูงกว่า 30-50 เมตรเลยทีเดียว และก็เป็นบริเวณที่อุณหภูมิของน้ำจะสูงมากด้วยเช่นกัน แน่นอนว่ามีน้ำร้อนแบบนี้ จะให้ชมด้วยตาอย่างเดียวก็คงจะไม่ใช่ ที่นี่มีกิจกรรมมากมายหลายอย่างด้วยกันเลยค่ะ ทั้ง การต้มไข่ เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติบ่อน้ำพุร้อน การชมน้ำพุร้อนขนาดใหญ่ การอบตัว อาบน้ำแร่ การแช่เท้า เป็นต้นค่ะ ต้องบอกว่าว่าเพียบบ กิจกรรมแน่นสุดๆ รวมถึงยังมีจุดกางเต็นท์ บ้านพักของอุทยานฯ ให้บริการอีกด้วย โดยน้ำร้อนที่ บ่อน้ำพุร้อนฝาง นี้ เกิดขึ้นมาจากการที่น้ำในชั้นใต้ดิน ไหลผ่านหินร้อนหลอมเหลว หรือ ที่เรียกกันว่า ลาวา นั่นแหละค่ะ ซึ่งจะอยู่ใกล้เปลือกโลก ทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูง และเกิดแรงดันไหลผ่านตามรอยแยกใต้พื้้นดินขึ้นมา ทำให้เกิดเป็นน้ำร้อนไหลพุ่งขึ้นสู่หน้าดิน จนเป็นน้ำพุร้อนอย่างที่เราเห็นกันนั่นเองค่ะ สมแล้วที่เป็นธรรมชาติสวยๆ ใน ภาคเหนือ ถึงได้มีน้ำพุร้อนให้เราได้ชมและแช่กันแบบนี้ งานนี้ไม่ต้องไปไกลถึงญี่ปุ่นแล้ว #น้ำพุร้อนฝาง #เชียงใหม่
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว

    เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก
    ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️

    📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌
    1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์
    06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น.
    2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน
    3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง
    เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ
    4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น)
    5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง
    ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น.
    6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง)

    รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link

    แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️

    ☆ข้อมูลจาก
    อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park
    เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL
    □□□□□□□□□□□
    #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว เส้นทางดอยหลวง - ดอยหนอก ขุนเขาแห่งศรัทธา 🍀⛰️ 📣เปิดให้จองแล้วว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ขั้นตอนการจองสิทธิ์ 📌 1.เปิดให้จองทางโทรศัพท์ เบอร์ 06-3018-7000 ช่องทางเดียวเท่านั้น ในเวลา 09.00 – 16.00 น. 2.เปิดให้ขึ้น สัปดาห์ละ 3 รอบ คือ รอบที่ 1 ศุกร์ - เสาร์ รอบที่ 2 เสาร์ – อาทิตย์ และรอบที่ 3 อาทิตย์ - จันทร์ โดยจำกัดนักท่องเที่ยวรอบละไม่เกิน 6 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน 3.นักท่องเที่ยวที่โทรมาจองวันขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอกเรียบร้อยแล้ว ให้ส่งรูปบัตรประจำตัวบัตรประชาชนพร้อมทั้งหลักฐานการโอนเงินมัดจำ มาที่ไลน์ ID: @977pyffs ภายในวันที่โทรจอง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการจอง พร้อมทั้งรับการยืนยันการเดินทางก่อนเดินทาง 2 วัน จากเจ้าหน้าที่ หากไม่มีการส่งรูปบัตรประจำตัวประชาชน หลักฐานการโอนเงินมัดจำ และไม่ได้ยืนยันการเดินทาง ทางอุทยานฯจะถือว่าท่านไม่ประสงค์จะเดินป่าศึกษาธรรมชาติดอยหลวง-ดอยหนอก และขอตัดสิทธิ์ในการเดินทางโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า และไม่คืนค่ามัดจำ 4.นักท่องเที่ยวที่จะมาเป็นกลุ่ม/คณะ จำกัดกลุ่มละไม่เกิน 10 คน โดยให้ผู้จองรวบรวมรูปบัตรประจำตัวประชาชนของสมาชิกในกลุ่มให้ครบและส่งไลน์มาในครั้งเดียว เพื่อความสะดวกในการเตรียมเอกสารของเจ้าหน้าที่ (สามารถจองได้ 1 กลุ่ม/คณะ ต่อ 1 ท่าน เท่านั้น) 5.ในวันเดินทางขึ้นดอยหลวง-ดอยหนอก ให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนพร้อมทั้งแสดงบัตรประชาชนตัวจริง ณ สวนสุขภาพบ้านสันเวียงใหม่ ต.บ้านสาง อ.เมืองพะเยา จ.พะเยา แก่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติดอยหลวง สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่ 6.00 – 6.30 น. 6.นักท่องเที่ยวที่ไม่ได้จอง วันเวลา ล่วงหน้า ทางอุทยานแห่งชาติดอยหลวงไม่อนุญาตให้เข้าร่วมกิจกรรมเดินป่าเส้นทางดอยหลวง-ดอยหนอก (ต้องจองล่วงหน้า 3 วันก่อนจะถึงรอบที่ต้องการจอง) รายละเอียด และข้อมูลการจองต่างๆ 👉🏼 https://drive.google.com/drive/folders/1yJO2tNwIOS4VzgcKtmvmOTWys-N1Q1dN?usp=drive_link แล้วมาสัมผัสอากาศหนาว กับสายลมเย็นๆด้วยกันนะคะ 🫶🏼🍃🧗🏻‍♀️🏕️ ☆ข้อมูลจาก อุทยานแห่งชาติดอยหลวง doi-luang national park เพจ 》》 https://www.facebook.com/@doiluang.dnp/?mibextid=ZbWKwL □□□□□□□□□□□ #อุทยานแห่งชาติดอยหลวง #เดินป่า #ดอยหลวงดอยหนอก #ดอยหนอกพะเยา #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 226 มุมมอง 0 รีวิว
  • เล่าเรื่อง TikTok@อุทยานแห่งชาติฯ #อุทยานแห่งชาติกุยบุรี #ช้างป่า #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    เล่าเรื่อง TikTok@อุทยานแห่งชาติฯ #อุทยานแห่งชาติกุยบุรี #ช้างป่า #ว่างว่างก็แวะมา #Thaitimes
    Like
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 137 0 รีวิว
  • ควรค่าแก่การเดินทางชัน 4 กม.
    ขึ้นไปหา เพราะไม่ว่าเวลาไหน ก็สวย
    ☆ผานารายณ์
    อยู่บนยอดเขาหลวง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติรามคำแหง
    ประมาณ 4 กิโลเมตร
    เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย
    ☆พิชิตเขาหลวงสุโขทัย EP.1
    ●ชมวีดีโอ
    》》
    https://youtu.be/gtQGE_vJRqA?si=fmNI6J5Qo4MexV_e
    ☆พิชิตเขาหลวงสุโขทัย EP.2
    ●ชมวีดีโอ
    》》
    https://youtu.be/z0Gr1LC5tDU?si=EZxuvdp3IMkKQTdu
    ☆พิชิตเขาหลวงสุโขทัย EP.3
    ●ชมวีดีโอ
    》》
    https://youtu.be/pqGM-u7fUa4?si=AOnYPH7GlOSpN2i5

    #เขาหลวงสุโขทัย #มะนาวก้าวเดิน #สุโขทัย #พิชิตเขาหลวงสุโขทัย #รีวิวท่องเที่ยวด้วยรถสาธารณะ #manowjourney
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ควรค่าแก่การเดินทางชัน 4 กม. ขึ้นไปหา เพราะไม่ว่าเวลาไหน ก็สวย ☆ผานารายณ์ อยู่บนยอดเขาหลวง ห่างจากที่ทำการอุทยานแห่งชาติรามคำแหง ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสุโขทัย ☆พิชิตเขาหลวงสุโขทัย EP.1 ●ชมวีดีโอ 》》 https://youtu.be/gtQGE_vJRqA?si=fmNI6J5Qo4MexV_e ☆พิชิตเขาหลวงสุโขทัย EP.2 ●ชมวีดีโอ 》》 https://youtu.be/z0Gr1LC5tDU?si=EZxuvdp3IMkKQTdu ☆พิชิตเขาหลวงสุโขทัย EP.3 ●ชมวีดีโอ 》》 https://youtu.be/pqGM-u7fUa4?si=AOnYPH7GlOSpN2i5 #เขาหลวงสุโขทัย #มะนาวก้าวเดิน #สุโขทัย #พิชิตเขาหลวงสุโขทัย #รีวิวท่องเที่ยวด้วยรถสาธารณะ #manowjourney #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 124 0 รีวิว
  • ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ

    กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม

    กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม

    สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน

    โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด

    ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม

    ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน”

    #Thaitimes
    ไวรัลตามล่าลายเซ็นูปฉลามของเจ้าหน้าที่อุทยานฯบนพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ 3 ตุลาคม 2567-เพจประชาสัมพันธ์ กรมอุทยานแห่งชาติฯ เปิดที่มาลายเซ็นรูปฉลามสุดไวรัล ของ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน เจ้าหน้าที่เอราวัณสุดสร้างสรรค์ ที่หลายคนอยากมีไว้ในพาสปอร์ตท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กับการตามล่าลายเซ็นเจ้าหน้าที่บนพาสปอร์ต ซึ่งเป็นลวดลายสุดครีเอทเป็นรูปฉลาม กระแสการออกตามล่าลายเซ็นสุดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่อุทยานนี้ กำลังได้รับความนิยมใน TikTok มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไปเที่ยวตามรอย ตามหาเจ้าหน้าที่ที่มีลายเซ็นเป็นรูปฉลาม สำหรับเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช คนดังกล่าวประจำการอยู่ที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ รับผิดชอบงานด้านการประชาพันธ์และเผยแพร่ ชื่อ นายรชพล เสถียรุจิกานนท์ หรือโฟน โฟนได้ทำคลิปตอบคำถามถึงที่มาของลายเซ็นดังกล่าวว่า ไม่เคยคาดคิดว่าลายเซ็นที่ออกแบบไว้มันจะกลายเป็นไวรัลได้ ตอนแรกตั้งใจอยากจะมีลายเซ็นที่บ่งบอกถึงความเป็นตัวเอง เมื่อก่อนเคยเซ็นเป็นชื่อจริงของตัวเอง คือรชพล แต่เขียน ร.เรือเป็นหัวของฉลามออกมาไม่สวย ก็เลยลองเปลี่ยนเป็นนามสกุล ซึ่งเขียนเป็นภาษาอังกฤษที่ขึ้นต้นด้วยตัว S ซึ่งมันสามารถเขียนวาดเป็นหัวฉลามได้ เริ่มมีการออกแบบมาเรื่อย ๆ เซ็นหมดกระดาษไปหลายแผ่น ตั้งใจให้มันออกมาเป็นรูปฉลามเลย เพราะเป็นสัตว์ทะเลที่ตนเองชอบมากที่สุด ก่อนจะมาเป็นเจ้าหน้าที่ตัวเองเคยเป็นนักดำน้ำมาก่อน ชื่นชอบทะเล มีความรู้สึกผูกพันกับทะเลด้วยความที่เราชอบฉลามเป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วย ก็เลยทำให้อยากออกแบบ Signature ของตัวเอง สิ่งที่มันบ่งบอกความเป็นตัวเรานั่นก็คือลายเซ็น และลายเซ็นที่เซ็นออกมามันจะต้องกลายเป็นรูปฉลามให้ได้ นั่นจึงเป็นที่มาว่าทำไมถึงเซ็นให้เป็นรูปฉลาม ใครอยากได้ลายเซ็นเท่ๆแบบนี้ โฟนจึงเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเที่ยวอุทยานแห่งชาติกันเยอะ ๆ สามารถซื้อพาสปอร์ต และนำมาให้เจ้าหน้าที่ประทับตราและเซ็นชื่อได้เลย เห็นโฉมหน้าหล่อๆ เจ้าของลายเซ็นฉลามแล้ว ไปปักหมุดเที่ยวน้ำตก พร้อมล่าลายเซ็นที่อุทยานแห่งชาติเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี กัน” #Thaitimes
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 648 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง

    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวเชียงใหม่10วัน10คืน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #RusticRiverBoutique #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวเชียงใหม่10วัน10คืน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #RusticRiverBoutique #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 522 มุมมอง 171 0 รีวิว
  • ☆ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง☆

    》》อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
    》》เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้ในช่วงเดือน ตุลาคม จนถึง พฤษภาคม
    》》เนื่องจากหน้าฝน ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้น
    》》เปิดให้เริ่มเดิน 7.00 และห้ามขึ้นลงหลัง 14.00 เนื่องจากอาจจะมืดระหว่างทาง

    ☆ค่าบริการของลูกหาบนั้น 30 บาทต่อกิโล
    ติดต่อฝากกระเป๋าเสร็จก็เริ่มเดินขึ้นได้เลย ระยะทางเดินขึ้นภูกระดึงรวมแล้ว 9 กม. เดินขึ้นเขาประมาณ 5.5 กม. ถึงหลังแป (ป้ายผู้พิชิต) และเดินทางราบต่อไปอีกจนถึงที่กางเต็นท์ 3.9 กม.
    》》โดยมีจุดแวะพักเรื่อยๆ มีร้านค้าอาหารให้ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยตลอดทาง เมื่อถึงหลังแปแล้วจะพบกับป้ายผู้พิชิตเด่นเป็นสง่า แต่ความเหนื่อยยังไม่หมดยังคงต้องเดินหน้าต่อไปยังสถานที่กางเตนท์
    และเมื่อมาถึงต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเช่าที่นอน หมอน ถุงนอน
    《《
    ■■■■■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ครั้งหนึ่งในชีวิต เราคือผู้พิชิตภูกระดึง☆ 》》อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 》》เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าได้ในช่วงเดือน ตุลาคม จนถึง พฤษภาคม 》》เนื่องจากหน้าฝน ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินขึ้น 》》เปิดให้เริ่มเดิน 7.00 และห้ามขึ้นลงหลัง 14.00 เนื่องจากอาจจะมืดระหว่างทาง ☆ค่าบริการของลูกหาบนั้น 30 บาทต่อกิโล ติดต่อฝากกระเป๋าเสร็จก็เริ่มเดินขึ้นได้เลย ระยะทางเดินขึ้นภูกระดึงรวมแล้ว 9 กม. เดินขึ้นเขาประมาณ 5.5 กม. ถึงหลังแป (ป้ายผู้พิชิต) และเดินทางราบต่อไปอีกจนถึงที่กางเต็นท์ 3.9 กม. 》》โดยมีจุดแวะพักเรื่อยๆ มีร้านค้าอาหารให้ช่วยบรรเทาอาการเหนื่อยตลอดทาง เมื่อถึงหลังแปแล้วจะพบกับป้ายผู้พิชิตเด่นเป็นสง่า แต่ความเหนื่อยยังไม่หมดยังคงต้องเดินหน้าต่อไปยังสถานที่กางเตนท์ และเมื่อมาถึงต้องติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเช่าที่นอน หมอน ถุงนอน 《《 ■■■■■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว

    ☆อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/hg5KEHL5MUfdqSAb/?mibextid=qi2Omg
    《《

    🎉1 ตุลาคม เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวและพักแรมบนภูกระดึง

    วันนี้ (วันที่ 1 ตุลาคม 2567) อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้เปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีการท่องเที่ยว พ.ศ. 2568 โดย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มอบหมายให้ นายศุภฤกษ์ น้อยสุวรรณ นายอำเภอภูกระดึง เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ในปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรม จำนวนมากกว่า 300 คน

    ซึ่งรูปแบบของพิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยมีกำหนดการ ดังนี้
    เวลา 05.30 น.
    - ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และมอบของที่ระลึกสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีการท่องเที่ยว 2568
    เวลา 06.00 น.
    - ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน พร้อมกัน ณ บริเวณด่านตรวจ 3 ทางเดินขึ้นเขา
    - ประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณพิธี
    - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเชิญประธานในพิธีจุดธูป-เทียน บูชาพระรัตนตรัย และไหว้ศาลเจ้าปู่ภูกระดึง
    - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวรายงาน
    - ประธานกล่าวเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีการท่องเที่ยว 2568
    - ประธานลั่นระฆังชัยเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง
    เวลา 06.30 น. ปล่อยตัวนักท่องเที่ยว และผู้ร่วมงานเดินทางขึ้นเขา
    และในปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้มอบรางวัลพิเศษ ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 รางวัล โดยแบ่งเป็น

    1. ผู้พิชิตยอดภูกระดึง 10 คนแรก (ประเภทนักวิ่งไป-กลับ)
    2. ผู้พิชิตยอดภูกระดึง 10 คนแรก (ประเภทนักท่องเที่ยวทั่วไป)
    3. ผู้นำขยะลงมาจากยอดภูกระดึง 10 คนแรก ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 โดยต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 1 กิโลกรัม

    อีกทั้งในปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม และความสะอาด โดยขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกท่านงดใช้ขยะพลาสติก โฟม ในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อคงไว้ซึ่งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงสืบไป
    ■■■■■■■■■
    #อุทยานแห่งชาติภูกระดึง #ภูกระดึง #Phukraduengnationalpark #Phukradueng
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว ☆อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/hg5KEHL5MUfdqSAb/?mibextid=qi2Omg 《《 🎉1 ตุลาคม เปิดฤดูกาลท่องเที่ยวและพักแรมบนภูกระดึง วันนี้ (วันที่ 1 ตุลาคม 2567) อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้เปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีการท่องเที่ยว พ.ศ. 2568 โดย นายชัยพจน์ จรูญพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเลย ได้มอบหมายให้ นายศุภฤกษ์ น้อยสุวรรณ นายอำเภอภูกระดึง เดินทางมาเป็นประธานในพิธี ในปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจและเข้าร่วมกิจกรรม จำนวนมากกว่า 300 คน ซึ่งรูปแบบของพิธีการเป็นไปอย่างเรียบง่าย โดยมีกำหนดการ ดังนี้ เวลา 05.30 น. - ลงทะเบียนผู้เข้าร่วมกิจกรรม และมอบของที่ระลึกสำหรับผู้เข้าร่วมกิจกรรมเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีการท่องเที่ยว 2568 เวลา 06.00 น. - ผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน พร้อมกัน ณ บริเวณด่านตรวจ 3 ทางเดินขึ้นเขา - ประธานในพิธีเดินทางมาถึงบริเวณพิธี - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเชิญประธานในพิธีจุดธูป-เทียน บูชาพระรัตนตรัย และไหว้ศาลเจ้าปู่ภูกระดึง - หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูกระดึง กล่าวรายงาน - ประธานกล่าวเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง ประจำปีการท่องเที่ยว 2568 - ประธานลั่นระฆังชัยเปิดการท่องเที่ยวและพักแรมบนยอดภูกระดึง เวลา 06.30 น. ปล่อยตัวนักท่องเที่ยว และผู้ร่วมงานเดินทางขึ้นเขา และในปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ได้มอบรางวัลพิเศษ ให้แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 30 รางวัล โดยแบ่งเป็น 1. ผู้พิชิตยอดภูกระดึง 10 คนแรก (ประเภทนักวิ่งไป-กลับ) 2. ผู้พิชิตยอดภูกระดึง 10 คนแรก (ประเภทนักท่องเที่ยวทั่วไป) 3. ผู้นำขยะลงมาจากยอดภูกระดึง 10 คนแรก ในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 โดยต้องมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 1 กิโลกรัม อีกทั้งในปีนี้อุทยานแห่งชาติภูกระดึงยังให้ความสำคัญในการรักษาสิ่งแวดล้อม และความสะอาด โดยขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวทุกท่านงดใช้ขยะพลาสติก โฟม ในเขตอุทยานแห่งชาติ เพื่อคงไว้ซึ่งแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สวยงาม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงสืบไป ■■■■■■■■■ #อุทยานแห่งชาติภูกระดึง #ภูกระดึง #Phukraduengnationalpark #Phukradueng #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Love
    8
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 491 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว
    》》อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
    ☆เปิดการท่องเที่ยวเขาล่องเรือตาหมื่น 📢
    ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567
    📌จองล่วงหน้า 3 วัน
    ติดต่อสอบถาม 📞
    0887715056 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
    0887564940 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
    ☆เพจ
    》》https://www.facebook.com/share/hcVuS5KkREKQbF1L/?mibextid=qi2Omg
    《《
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว 》》อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ☆เปิดการท่องเที่ยวเขาล่องเรือตาหมื่น 📢 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 📌จองล่วงหน้า 3 วัน ติดต่อสอบถาม 📞 0887715056 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว 0887564940 ที่ทำการอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ☆เพจ 》》https://www.facebook.com/share/hcVuS5KkREKQbF1L/?mibextid=qi2Omg 《《 #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง
    Like
    Love
    5
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 466 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว

    ☆อุทยานแห่งชาติภูเรือ
    ⛺️ลานกางเต็นท์ภูสน เปิดให้บริการ⛺️
    💐💐วันที่ 4 ตุลาคม 2567

    📌สอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว/บ้านพัก/ลานเต็นท์
    ☎️088 509 5299 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/mqBgvbxkDdnb4Tyg/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■■■■■■■■■■■■■■
    #PhuSonCamp
    #ลานกางเต็นท์
    #สายแคมป์ #Camping
    #สุดหนาวในสยาม #ลานกางเต็นท์ภูสน
    #PhuRueaNationalPark
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว ☆อุทยานแห่งชาติภูเรือ ⛺️ลานกางเต็นท์ภูสน เปิดให้บริการ⛺️ 💐💐วันที่ 4 ตุลาคม 2567 📌สอบถามข้อมูลแหล่งท่องเที่ยว/บ้านพัก/ลานเต็นท์ ☎️088 509 5299 ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/mqBgvbxkDdnb4Tyg/?mibextid=qi2Omg 《《 ■■■■■■■■■■■■■■ #PhuSonCamp #ลานกางเต็นท์ #สายแคมป์ #Camping #สุดหนาวในสยาม #ลานกางเต็นท์ภูสน #PhuRueaNationalPark #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 535 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆ครั้งหนึ่งในชีวิต เรา แม่ ลูก คือผู้พิชิตภูกระดึง
    》》
    https://youtu.be/_LjNEGGMrRQ?si=IICAJZNWg22vqaS6
    《《
    ■■■■■■■■
    ☆อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
    》》เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว วันที่ 1 ตุลาคม
    ☆สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : เพจอุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park
    》》
    https://www.facebook.com/share/uQ7kFgCknAPw5cgu/?mibextid=qi2Omg
    《《
    โทร. 042-810833 , 042-810834
    ■■■■■■■■■■■
    #อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
    #ภูกระดึง
    #PhukarduengNationalPark #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ครั้งหนึ่งในชีวิต เรา แม่ ลูก คือผู้พิชิตภูกระดึง 》》 https://youtu.be/_LjNEGGMrRQ?si=IICAJZNWg22vqaS6 《《 ■■■■■■■■ ☆อุทยานแห่งชาติภูกระดึง 》》เปิดฤดูกาลท่องเที่ยว วันที่ 1 ตุลาคม ☆สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : เพจอุทยานแห่งชาติภูกระดึง - Phu Kradueng National Park 》》 https://www.facebook.com/share/uQ7kFgCknAPw5cgu/?mibextid=qi2Omg 《《 โทร. 042-810833 , 042-810834 ■■■■■■■■■■■ #อุทยานแห่งชาติภูกระดึง #ภูกระดึง #PhukarduengNationalPark #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1000 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว
    ☆อุทยานแห่งชาติ ถ้ำ ปลา-น้ำตกผาเสื่อ
    》》
    https://www.facebook.com/share/f5NyWhXj8zSiYnPH/?mibextid=qi2Omg
    《《
    เตรียมตัวให้พร้อม‼️
    วันที่ 1 ตุลาคม 2567
    》》"ปางอุ๋ง" เปิดแล้ว《《
    สามารถจอง พื้นที่ลานกางเต็นท์ และ เต็นท์อุทยานฯตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช

    https://nps.dnp.go.th

    ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ inbox เพจ หรือ โทร 082-191-1746
    ■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว ☆อุทยานแห่งชาติ ถ้ำ ปลา-น้ำตกผาเสื่อ 》》 https://www.facebook.com/share/f5NyWhXj8zSiYnPH/?mibextid=qi2Omg 《《 เตรียมตัวให้พร้อม‼️ วันที่ 1 ตุลาคม 2567 》》"ปางอุ๋ง" เปิดแล้ว《《 สามารถจอง พื้นที่ลานกางเต็นท์ และ เต็นท์อุทยานฯตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช https://nps.dnp.go.th ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ได้ที่ inbox เพจ หรือ โทร 082-191-1746 ■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1284 มุมมอง 0 รีวิว
  • 26 กันยายน 2567-ทัศนะของดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์สาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือว่า

    “ ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้

    1..คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวด
    ล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่ การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่1ธค. 2497หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1

    2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497ข้อ14 (2)กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณ ฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ40เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ ดิน(ได้มาก่อน1ธค.2497)

    3.คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภา คม 2538กำหนดนิยามของ เขา หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35

    4.ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ บทลงโทษ : จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท

    5. จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุก รุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?..สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นในปี2567เพราะทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าปล่อยปะละเลย”

    #Thaitimes
    26 กันยายน 2567-ทัศนะของดร.สนธิ คชวัฒน์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านสิ่งแวดล้อม ชมรมนักวิชาการสิ่งแวดล้อมไทย ได้โพสต์สาเหตุน้ำท่วมภาคเหนือว่า “ ปลูกพืช ทำเกษตรกรรมบนภูเขาทำได้อย่างไร? กฎหมายชัดเจนแต่ปล่อยปะละเลย สาเหตุหลักของการทำให้เกิดน้ำท่วมภาคเหนือรุนแรงในปีนี้ 1..คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2528 เห็นชอบด้วยกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติตามมติของคณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติ กำหนดให้พื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35% ขึ้นไปเป็นพื้นที่ป่าไม้โดยไม่อนุญาตให้มีการออกโฉนดที่ดินหรือหนังสือรับรองการทำประโยชน์ตามประมวลกฎหมายที่ดินในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้เนื่องจากเห็นว่าพื้นที่ที่มีความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไปเป็นพื้นที่ที่มีการชะล้างหน้าดินสูงไม่เหมาะสมแก่ การทำเกษตรกรรม สมควรเป็นพื้นที่ป่าไม้และไม่อนุญาตให้มีการออกหนังสือแสดงสิทธิในที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินซึ่งผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมายตามประมวลกฎหมายที่ดินคือครอบครองมาก่อนอย่างถูกกฎหมายก่อนวันที่1ธค. 2497หรือมีหลักฐานครอบครอง เช่น นส 3 ก หรือ สค.1 2. กฎกระทรวง ฉบับที่ 43 (พ.ศ. 2537) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497ข้อ14 (2)กำหนดให้พื้นที่เขา ที่ภูเขาและปริมณ ฑลรอบที่เขาหรือภูเขาระยะ40เมตร เป็นพื้นที่ต้องห้ามไม่ให้ออกโฉนดที่ดิน แต่ไม่รวมถึงที่ดินที่ผู้ครอบครองมีสิทธิครอบครองโดยชอบตามประมวลกฎหมายที่ ดิน(ได้มาก่อน1ธค.2497) 3.คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 9 พฤษภา คม 2538กำหนดนิยามของ เขา หมายถึง ส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบ ๆ (Surrounding) น้อยกว่า 600 เมตร ปรากฎในแผนที่ว่าเป็นเขา พื้นลาดชันร้อยละ 20- 35และที่ภูเขา หมายถึงส่วนของพื้นที่ที่สูงจากบริเวณรอบๆ (Surrounding) ตั้งแต่ 600 เมตร ขึ้นไปพื้นที่ลาดชันมากกว่าร้อยละ 35 4.ผู้บุกรุกป่าที่ถูกจับในกรณีแผ่วถ้างหรือเผาป่า เพื่อที่จะได้ครอบครองที่ดินนั้นในเขตอุทยานแห่งชาติ หรืออุทยานต่างๆ ของประเทศไทยจะต้องโทษจำคุกไม่เกิน 20 ปี หรือปรับสูงถึง 2 ล้านบาท นอกจากนี้ห้ามยึดถือ/ครอบครอง/ทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย/ก่อสร้าง/แผ้วถาง/เผาป่า/ทำไม้/เก็บหาของป่า หรือทำให้ป่าสงวนแห่งชาติเสื่อมสภาพ บทลงโทษ : จำคุก 1 – 10 ปี และปรับ 20,000 – 200,000 บาท 5. จากกฎหมายดังกล่าว ประชาชนได้บุก รุกภูเขาไปปลูกพืช ทำเกษตรกรรมได้อย่างไร? หน่วยงานภาครัฐที่ดูแลพื้นที่ยินยอมได้อย่างไร?..สุดท้าย ฝนตกหนัก น้ำป่าจากภูเขาไหลเชี่ยวกราก พัดพาดินโคลนจากภูเขามาถล่มเมืองในพื้นที่ราบ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ แพร่ น่าน ลำปาง เป็นต้นในปี2567เพราะทำลายทรัพยากร ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โค่นป่า ปลูกพืชล้มลุกบนภูเขาทำผิดกฎหมายแต่เจ้าหน้าปล่อยปะละเลย” #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1583 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว
    วันที่ 25 ก.ย. 2567
    》》ลุยป่าหน้าฝนชุมฉ่ำหัวใจ
    💚 แก่งสีดา- น้ำตกแซกะอาก ผาชะนะได จ.อุบลราชธานี 🌅🏞️
    by : Imjung Jung
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/Jo4swf3XfagNAwhz/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■แก่งสีดา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าดงนาทาม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เกิดจากน้ำหลายสายที่ไหลมารวมกันก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง
    ■ระยะทางที่เดินก็ประมาณ 5 กิโลนิดๆ ทางเดินไม่ยากมากเป็นทางราบซะเป็นส่วนใหญ่ มีขึ้น-ลง ช่วงท้ายๆ ก่อนถึงแก่ง โดยรวมเดินง่ายครับ
    ■สามารถติดต่อทางอุทยาน
    (ถ้าติดต่อล่วงหน้าได้จะดีมากครับ ทางอุทยานจะได้เตรียม จนท.นำทางไว้ให้) ■จอดรถไว้ที่ทำการอุทยาน ทางอุทยานจะพาเราไปส่งที่จุดเริ่มเดิน

    เบอร์โทรติดต่อ จนท.อุทยาน
    0879611488 (หัวหน้าสกล)
    ■■■■■■■■■■■■■
    #อุทยานแห่งชาติผาแต้ม #ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ
    #แก่งสีดา #น้ำตกแซกะอาก #ผาชะนะได #ผาแต้ม
    #อุบลราชธานี #จุดกางเต็นท์อุบลราชธานี
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว วันที่ 25 ก.ย. 2567 》》ลุยป่าหน้าฝนชุมฉ่ำหัวใจ 💚 แก่งสีดา- น้ำตกแซกะอาก ผาชะนะได จ.อุบลราชธานี 🌅🏞️ by : Imjung Jung ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/Jo4swf3XfagNAwhz/?mibextid=qi2Omg 《《 ■แก่งสีดา ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ป่าดงนาทาม อุทยานแห่งชาติผาแต้ม เกิดจากน้ำหลายสายที่ไหลมารวมกันก่อนจะไหลลงสู่แม่น้ำโขง ■ระยะทางที่เดินก็ประมาณ 5 กิโลนิดๆ ทางเดินไม่ยากมากเป็นทางราบซะเป็นส่วนใหญ่ มีขึ้น-ลง ช่วงท้ายๆ ก่อนถึงแก่ง โดยรวมเดินง่ายครับ ■สามารถติดต่อทางอุทยาน (ถ้าติดต่อล่วงหน้าได้จะดีมากครับ ทางอุทยานจะได้เตรียม จนท.นำทางไว้ให้) ■จอดรถไว้ที่ทำการอุทยาน ทางอุทยานจะพาเราไปส่งที่จุดเริ่มเดิน เบอร์โทรติดต่อ จนท.อุทยาน 0879611488 (หัวหน้าสกล) ■■■■■■■■■■■■■ #อุทยานแห่งชาติผาแต้ม #ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ #แก่งสีดา #น้ำตกแซกะอาก #ผาชะนะได #ผาแต้ม #อุบลราชธานี #จุดกางเต็นท์อุบลราชธานี #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    Love
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1111 มุมมอง 0 รีวิว
  • #thaitimesข่าวท่องเที่ยว
    25 กันยายน 2567
    📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา
    🟢 เปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา 🟢
    ตามประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา ลงวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 เรื่อง ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่
    อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ นั้น

    บัดนี้ สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20
    แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศเปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

    ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand”

    จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน

    ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567
    ■เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/4cSoGfwqu9ZeoLyn/?mibextid=qi2Omg
    ■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #อุทยานแห่งชาติภูลังกา
    #thaitimesข่าวท่องเที่ยว 25 กันยายน 2567 📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา 🟢 เปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา 🟢 ตามประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา ลงวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 เรื่อง ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว เนื่องจากมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ นั้น บัดนี้ สถานการณ์ได้คลี่คลายลงแล้ว อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศเปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ทั้งนี้ นักท่องเที่ยวจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่กำหนด และปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอย่างเคร่งครัด ติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand” จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ประกาศ ณ วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2567 ■เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/4cSoGfwqu9ZeoLyn/?mibextid=qi2Omg ■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #อุทยานแห่งชาติภูลังกา
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1021 มุมมอง 0 รีวิว
  • สิ้นแล้ว! นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้
    24 กันยายน 2567-เพจกรมมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์แสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งถึงแก่กรรม ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดที่อาการกำเริบขึ้น ต่อเนื่องจากการติดเชื้อโควิดจนกระทั่งถึงแก่กรรม

    #Thaitimes
    สิ้นแล้ว! นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ 24 กันยายน 2567-เพจกรมมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้โพสต์แสดงความอาลัยต่อการสูญเสีย นายวิชัย แหลมวิไล อดีตอธิบดีกรมป่าไม้ ซึ่งถึงแก่กรรม ที่ประเทศนิวซีแลนด์ เนื่องจากล้มป่วยด้วยโรคมะเร็งปอดที่อาการกำเริบขึ้น ต่อเนื่องจากการติดเชื้อโควิดจนกระทั่งถึงแก่กรรม #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆ทริปนั่งรถไฟต่อสองแถว ไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย EP.2
    《ช่วงเดินเล่นชมน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ระยะทาง 1.6 กม. นั่งรถสองแถวไปสถานีรถไฟมวกเหล็ก ขึ้นรถไฟกลับ》
    □□□□□□□□□□□□□
    ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.1
    》》
    https://youtu.be/lH0xKNy4POU?si=_OexMAJAklxoEkx8
    《《
    ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.2
    》》
    https://youtu.be/m8-gre9egfU?si=gvUaL5KdtK2_Ljmq
    《《
    □□□□□□□□□□□□□
    ☆ขากลับ
    ●รถไฟขบวน 136
    ขึ้นรถไฟจากสถานีมวกเหล็ก ลงที่ สถานีรถไฟอยุธยาราคา 47 บาท
    ■(ถ้าลงที่สถานี กลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ราคา 60 บาท)
    ●ขากลับขึ้นรถไฟเวลา 14:48 น.
    ถึงอยุธยา 16:36 น.
    ■(ถ้าลงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ถึง 17:55 น.)
    ☆ขึ้นรถสองแถวที่ลานจอดรถน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ไปที่สถานีรถไฟมวกเหล็ก 50 บาท
    》เบอร์โทร ลุงน้อย รถสองแถว รับ+ส่ง สถานีรถไฟมวกเหล็ก-น้ำตกเจ็ดสาวน้อย
    089-238-4839《

    ☆ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 20 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 181 บาท
    >ลงที่สถานีรถไฟอยุธยา<
    >ลงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 191 บาท<

    ■รวมค่าใช้จ่ายขากลับ 47+50+20=117 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●
    ขาไปจ่าย 64 บาท
    ขากลับจ่าย 117 บาท
    รวมค่าใช้จ่ายทริปนี้
    181 บาท《ลงรถไฟอยุธยา》
    191 บาท《สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์》
    ■■■■■■■■■■■■■

    #นั่งรถไฟไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #นั่งรถไฟไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #สระบุรี #รถไฟ #มะนาวก้าวเดิน #รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ทริปนั่งรถไฟต่อสองแถว ไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย EP.2 《ช่วงเดินเล่นชมน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ระยะทาง 1.6 กม. นั่งรถสองแถวไปสถานีรถไฟมวกเหล็ก ขึ้นรถไฟกลับ》 □□□□□□□□□□□□□ ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.1 》》 https://youtu.be/lH0xKNy4POU?si=_OexMAJAklxoEkx8 《《 ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.2 》》 https://youtu.be/m8-gre9egfU?si=gvUaL5KdtK2_Ljmq 《《 □□□□□□□□□□□□□ ☆ขากลับ ●รถไฟขบวน 136 ขึ้นรถไฟจากสถานีมวกเหล็ก ลงที่ สถานีรถไฟอยุธยาราคา 47 บาท ■(ถ้าลงที่สถานี กลางกรุงเทพอภิวัฒน์ ราคา 60 บาท) ●ขากลับขึ้นรถไฟเวลา 14:48 น. ถึงอยุธยา 16:36 น. ■(ถ้าลงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ถึง 17:55 น.) ☆ขึ้นรถสองแถวที่ลานจอดรถน้ำตกเจ็ดสาวน้อย ไปที่สถานีรถไฟมวกเหล็ก 50 บาท 》เบอร์โทร ลุงน้อย รถสองแถว รับ+ส่ง สถานีรถไฟมวกเหล็ก-น้ำตกเจ็ดสาวน้อย 089-238-4839《 ☆ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 20 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 181 บาท >ลงที่สถานีรถไฟอยุธยา< >ลงสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ 191 บาท< ■รวมค่าใช้จ่ายขากลับ 47+50+20=117 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●● ขาไปจ่าย 64 บาท ขากลับจ่าย 117 บาท รวมค่าใช้จ่ายทริปนี้ 181 บาท《ลงรถไฟอยุธยา》 191 บาท《สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์》 ■■■■■■■■■■■■■ #นั่งรถไฟไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #นั่งรถไฟไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #สระบุรี #รถไฟ #มะนาวก้าวเดิน #รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1038 มุมมอง 227 0 รีวิว
  • ☆ทริปนั่งรถไฟต่อสองแถวไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย EP.1
    《ช่วงเดินทาง รถไฟต่อรถสองแถว》
    ○○○○○○○○○○○○○
    ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.1
    》》https://youtu.be/lH0xKNy4POU?si=8ODoFUhbtxjfZROm
    《《
    ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.2
    》》
    https://youtu.be/m8-gre9egfU?si=1KajV1pkhU6YRrV-
    《《
    ○○○○○○○○○○○○○
    ☆ขาไป
    ●รถไฟขบวน 339
    จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง)
    ไปลงที่ สถานีรถไฟสระบุรี
    》ขบวนนี้มีวันจันทร์ถึงวันศุกร์《
    เวลา 5:05 น. ถึง 7:51 น.
    》》ราคา 24 บาท 《《
    ●เดินไปบขส.สระบุรี 750 เมตร
    ●ต่อรถสองแถว(น้ำตกเจ็ดสาวน้อย)ช่องที่ 8 ราคา 40 บาทใช้เวลาเดินทาง 1 ช.ม.ครึ่ง
    ●ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 20 บาท
    □□□□□□□□□□□□□
    ■รวมค่าใช้จ่ายขาไป 24+40= 64 บาท■
    ■■■■■■■■■■■■■
    #นั่งรถไฟไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #นั่งรถไฟไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #สระบุรี #รถไฟ #มะนาวก้าวเดิน #รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ☆ทริปนั่งรถไฟต่อสองแถวไปเที่ยว อุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย EP.1 《ช่วงเดินทาง รถไฟต่อรถสองแถว》 ○○○○○○○○○○○○○ ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.1 》》https://youtu.be/lH0xKNy4POU?si=8ODoFUhbtxjfZROm 《《 ☆ชมวีดีโอการเดินทาง EP.2 》》 https://youtu.be/m8-gre9egfU?si=1KajV1pkhU6YRrV- 《《 ○○○○○○○○○○○○○ ☆ขาไป ●รถไฟขบวน 339 จากสถานีรถไฟกรุงเทพ(หัวลำโพง) ไปลงที่ สถานีรถไฟสระบุรี 》ขบวนนี้มีวันจันทร์ถึงวันศุกร์《 เวลา 5:05 น. ถึง 7:51 น. 》》ราคา 24 บาท 《《 ●เดินไปบขส.สระบุรี 750 เมตร ●ต่อรถสองแถว(น้ำตกเจ็ดสาวน้อย)ช่องที่ 8 ราคา 40 บาทใช้เวลาเดินทาง 1 ช.ม.ครึ่ง ●ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย 20 บาท □□□□□□□□□□□□□ ■รวมค่าใช้จ่ายขาไป 24+40= 64 บาท■ ■■■■■■■■■■■■■ #นั่งรถไฟไปเที่ยวอุทยานแห่งชาติน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #นั่งรถไฟไปเที่ยวน้ำตกเจ็ดสาวน้อย #สระบุรี #รถไฟ #มะนาวก้าวเดิน #รีวิวการเดินทางด้วยรถไฟ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1025 มุมมอง 206 0 รีวิว
  • นอกจากจะนึกถึงธรรมชาติสุดงามตาแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่อยู่คู่ภูกระดึงคือ “ลูกหาบ”

    เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นภูเขาลาดชัน กว่าจะถึงหลังแปต้องใช้เวลาเดินนานหลายชั่วโมง หากเราเป็นคนต่างถิ่นและต้องแบกของไปด้วยแล้วนั้น คงค่อนข้างลำบากและท้าทายไม่น้อย จึงเกิดอาชีพลูกหาบไว้คอยแบ่งเบาสัมภาระของเรานั่นเอง

    โดยค่าใช้จ่ายในการจ้างลูกหาบแบกสัมภาระขึ้นภูกระดึง จะอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับลูกหาบชายแบกได้ไม่เกิน 60-70 กิโลกรัมต่อคน
    ส่วนลูกหาบผู้หญิงแบกได้ไม่เกิน 50 กิโลกรัมต่อคน
    ดังนั้นหากลูกหาบแบกสิ่งของเต็มเกณฑ์ที่กำหนด ลูกหาบจะได้ค่าแรงเที่ยวละ 1,500-2,100 บาท
    ■■■■■■■■■■■■■■
    #ลูกหาบภูกระดึง #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesเที่ยวไทย #ภูกระดึง
    นอกจากจะนึกถึงธรรมชาติสุดงามตาแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่อยู่คู่ภูกระดึงคือ “ลูกหาบ” เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูกระดึงเป็นภูเขาลาดชัน กว่าจะถึงหลังแปต้องใช้เวลาเดินนานหลายชั่วโมง หากเราเป็นคนต่างถิ่นและต้องแบกของไปด้วยแล้วนั้น คงค่อนข้างลำบากและท้าทายไม่น้อย จึงเกิดอาชีพลูกหาบไว้คอยแบ่งเบาสัมภาระของเรานั่นเอง โดยค่าใช้จ่ายในการจ้างลูกหาบแบกสัมภาระขึ้นภูกระดึง จะอยู่ที่ 30 บาทต่อกิโลกรัม สำหรับลูกหาบชายแบกได้ไม่เกิน 60-70 กิโลกรัมต่อคน ส่วนลูกหาบผู้หญิงแบกได้ไม่เกิน 50 กิโลกรัมต่อคน ดังนั้นหากลูกหาบแบกสิ่งของเต็มเกณฑ์ที่กำหนด ลูกหาบจะได้ค่าแรงเที่ยวละ 1,500-2,100 บาท ■■■■■■■■■■■■■■ #ลูกหาบภูกระดึง #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesเที่ยวไทย #ภูกระดึง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 963 มุมมอง 164 0 รีวิว
  • ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567
    📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นคพนม
    ❌ ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว ❌

    ด้วยสถานการณ์ในช่วงปัจจุบันมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่
    อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้

    อุทยานแห่งชาติภูลังกา พิจารณาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20
    แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ

    ทั้งนี้ สามารถติดต่อราชการได้ตามปกติ และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand”

    จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน
    ■■■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesข่าวด่วนท่องเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #ข่าวด่วน #อุทยานแห่งชาติภูลังกา #นครพนม
    ประกาศ ณ วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2567 📢 ประกาศอุทยานแห่งชาติภูลังกา จ.นคพนม ❌ ปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา เป็นการชั่วคราว ❌ ด้วยสถานการณ์ในช่วงปัจจุบันมีฝนตกหนักปริมาณมาก ส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกาเพิ่มขึ้น เกิดน้ำเชี่ยว และดินสไลด์ในบางพื้นที่ อาจส่งผลให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยวได้ อุทยานแห่งชาติภูลังกา พิจารณาแล้ว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่เข้ามาศึกษาธรรมชาติและท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูลังกา จึงอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่งพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ประกอบระเบียบกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและ พันธุ์พืช ว่าด้วยการเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2563 และมาตรา 32 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2545 จึงประกาศปิดการเข้าศึกษาธรรมชาติและการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูลังกา ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้ สามารถติดต่อราชการได้ตามปกติ และสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลหรือข่าวสารเกี่ยวกับอุทยานแห่งชาติภูลังกาได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 4253 0766 และเพจเฟซบุ๊ค “อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดนครพนม – Phulangka National Park Thailand” จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ■■■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesข่าวด่วนท่องเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #ข่าวด่วน #อุทยานแห่งชาติภูลังกา #นครพนม
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1102 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประกาศ จาก อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล - doi khun tan national park
    เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/yutPDXMWgvR6zcdH/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ■■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesข่าวด่วนท่องเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    ประกาศ จาก อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล - doi khun tan national park เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/yutPDXMWgvR6zcdH/?mibextid=qi2Omg 《《 ■■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesข่าวด่วนท่องเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 990 มุมมอง 0 รีวิว
  • บุคคลผู้หนึ่งซึ่งเป็นฆราวาสตื่นธรรม ท่านถามว่าทำไมต้องสร้างวัตถุมงคลเพื่อหาเงินไปสร้างวัดด้วย ? ไปอยู่ป่าก็ได้..! รู้สึกว่าท่านจะตอบแบบมักง่าย และยกตนเองว่าเป็นผู้ใฝ่สันโดษ หรือว่าปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัยอยู่คนเดียว

    ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ประทานพระบรมพุทธานุญาตตามที่พระเทวทัตขอ ว่าให้พระภิกษุทั้งหมดอยู่ป่า ห้ามอยู่ในบ้านในเมือง โดยพระองค์ตรัสว่า ผู้ที่ใคร่จะอยู่ป่าก็จงอยู่ป่า ผู้ที่ใคร่จะอยู่ในเมืองก็จงอยู่ในเมือง

    เนื่องเพราะพระองค์มีวิสัยทัศน์อันยาวไกล หรือว่ามีพระสัพพัญญุตญาณที่รู้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต รู้ดีว่าโลกภายภาคหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน ทำให้พระภิกษุสงฆ์ถ้าหากว่าประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมด้วยการอยู่ป่าอย่างเดียว จะกลายเป็นไม่มีที่อยู่ก็ได้..!

    โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ผืนป่าต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่อยู่ได้นั้นไม่มีเหลืออีกแล้ว ยกเว้นวัดต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาก่อน แล้วยังคงความเป็นวัดป่าอยู่ก็พอที่จะมีพื้นที่ป่าเหลืออยู่บ้าง ไม่ต้องอื่นไกลที่ไหน แค่อำเภอทองผาภูมิที่กระผม/อาตมภาพอยู่นี่แหละ บรรดาพระภิกษุผู้อยู่ป่านับร้อย ๆ ราย โดนเจ้าหน้าที่นิมนต์ออกจากป่ามาทั้งหมด เนื่องเพราะว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นอุทยานแห่งชาติบ้าง เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบ้าง แม้ว่าจะประกาศขึ้นทีหลัง โดยที่พระท่านไปอยู่ก่อนแล้วก็ตาม แต่ก็โดนนิมนต์ออกมาจนเกือบจะหมด ยกเว้นท่านที่ได้รับการตั้งขึ้นเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์อย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น
    ดังนั้น..ท่านที่พูดชุ่ย ๆ ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างวัด ให้พระภิกษุไปอยู่ป่าอย่างเดียว ถ้าอย่างนั้นตั้งแต่โบราณมา เราก็คงไม่มีพระคามวาสีคือฝ่ายที่อยู่วัด และอรัญวาสีคือฝ่ายที่อยู่ป่า ในเมื่อบ้านเรามีการแยกวัดบ้านและวัดป่าอย่างชัดเจนแบบนี้ แล้วท่านยังจะให้ปฏิบัติตามปฏิปทาของพระเทวทัตอยู่อีกหรือ ?

    กระผม/อาตมภาพคาดว่าไม่มีใครอยากเป็นลูกศิษย์พระเทวทัต มีแต่อยากจะเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าเท่านั้น ดังนั้น..สิ่งที่ท่านได้กล่าวมาก็ขอให้กล่าวโดยรอบคอบกว่านี้ ดูบริบทของสังคมเราด้วยว่าเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนแล้ว

    สมัยพุทธกาลมีบรรดาเจ้าพระยามหากษัตริย์หรือว่ามหาเศรษฐี ท่านปวารณาสร้างวัดวาอารามให้ แม้แต่ในยุคสมัยต่อ ๆ มาในประเทศไทยของเราตั้งแต่ปรากฏประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นยุคกรุงสุโขทัย ยุคกรุงศรีอยุธยา ยุคกรุงธนบุรี มาถึงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็มีการสร้างวัดเพื่อบุญกุศลในวิหารทาน ในขณะเดียวกันก็มีคำพูดประเภทว่า บรรดาเจ้าใหญ่นายโตนั้น "สร้างวัดเพื่อให้ลูกหลานได้มีที่สำหรับวิ่งเล่น..!"

    ในเมื่อยุคต่อ ๆ มา บริบทของสังคมเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนได้เข้าสู่ส่วนของการใช้แรงงานต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งไม่มีเวลาที่จะไปช่วยเหลือวัด แม้กระทั่งผู้ที่ร่ำรวยด้วยเงินด้วยทองก็ติดหน้าที่การงานต่าง ๆ จนถึงขนาดไม่มีเวลาให้วัด ยกตัวอย่างบุคคลท่านหนึ่ง นามสกุลของท่านถ้าบอกไปแล้วต้องรู้จักกันทั้งประเทศไทย ท่านปวารณาเอาไว้ว่า กระผม/อาตมภาพจะสร้างหนี้เท่าไรก็ได้ ทุกสิ้นปีให้แจ้งไป ท่านจะจัดการ "เคลียร์หนี้" ให้ แต่เมื่อกระผม/อาตมภาพแจ้งไปแล้ว ปรากฏว่าท่านมักจะติดด้วยงานด้วยการ ไม่สามารถที่จะปลีกตัวได้

    ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพยังรับสังฆทานอยู่ที่บ้านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ท่านมีเวลาแค่โทรศัพท์มาว่าตอนนี้วิ่งมาใกล้จะถึงแล้ว ให้กระผม/อาตมภาพลงไปรอในบริเวณนั้นบริเวณนี้ เมื่อท่านมาถึงแล้วก็เปิดหน้าต่างรถ ส่งเงินให้แล้วก็วิ่งต่อไป กระผม/อาตมภาพเจอแบบนั้นเข้าสองครั้ง ก็ไม่กล้าที่จะรบกวนอีกเลย..!

    ดังนั้น..ต่อให้ปวารณาไว้โดยที่ท่านร่ำรวยขนาดไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็แกล้งลืมเบอร์โทรศัพท์ไม่โทรไปหาอีก เนื่องเพราะเคยได้ยินมาว่าท่านเคยโทรสั่งโบรกเกอร์ช้าไปนาทีเดียว แล้วเสียหุ้นไป ๒๐ ล้านบาทโดยประมาณ..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ใครจะกล้าไปรบกวนเวลาของท่านอีก..!
    ในเมื่อบุคคลที่มีฐานะเพียงพอที่จะช่วยเหลือในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม ส่วนใหญ่ก็ติดด้วยภาระหน้าที่ต่าง ๆ จึงมักจะนำเงินนำทองไปมอบให้กับพระภิกษุ โดยเฉพาะหลวงปู่หลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านได้จัดการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเอง ตรงส่วนนี้จึงทำให้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป วัดที่มีผู้ปวารณาไว้ก็ยังคงต้องทำงานด้วยตนเอง แต่วัดที่ไม่มีผู้ปวารณาไว้ ก็ต้องหาเงินหาทองมาเพื่อบูรณะก็คือทำของเก่าให้ดีขึ้น และปฏิสังขรณ์คือสร้างของใหม่ให้เพียงพอต่อการใช้งาน

    ไม่เช่นนั้นแล้วหลวงปู่หลวงพ่อเจ้าอาวาสนั่นแหละ ที่ท่านเป็นเจ้าพนักงานโดยกฎหมาย จะกลายเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็คือไม่ปกครองสอดส่องฆราวาสก็ยังพอทน แต่การไม่บูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม เพื่อให้มั่นคงแข็งแรงสมกับเป็นอารามในพระพุทธศาสนา ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปบำเพ็ญกุศลโดยสะดวก ก็กลายเป็นว่านอกจากจะผิดทางโลกแล้ว ยังผิดทางธรรมอีกด้วย

    ในทางโลกก็คือผิดกฎหมายในฐานะเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ในทางธรรมก็คือบุคคลที่เว้นจากหน้าที่ซึ่งตนรับผิดชอบนั้น ต้องบอกว่าเป็นผู้ที่ไม่มีหลักธรรมประจำใจ ก็คือขาดไปเสียทุกส่วน ไม่เช่นนั้นแล้วอย่างน้อยก็ต้องทำความสะอาดวัดวาอารามให้น่าอยู่น่าอาศัย

    ประการต่อไปก็คือพุทธศาสนิกชนคนไทยของเรา ซึ่งมีอยู่ ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ ท่านผู้กล่าวว่าให้พระภิกษุสงฆ์ไปอยู่ป่า แล้วจะให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายเหล่านั้นตะเกียกตะกายเข้าป่าไปทำบุญกัน แล้วท่านคิดว่าจะใช่หรือไม่ ?
    ในเรื่องของธรรมะนั้น ไม่ใช่พูดชุ่ย ๆ แบบ "ตีหัวเข้าบ้าน" ปราศจากความรับผิดชอบ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน กำลังใจของคนแต่ละระดับไม่เท่ากัน ใครที่ชอบคำพูดดุเดือดหยาบคาย ไปฟังท่านแล้วชอบใจ ก็ถือว่ามีจริตนิสัยใกล้เคียงกัน ท่านสามารถสอนเขาให้ตื่นรู้ได้ก็สอนไปเถิด

    แต่ว่าบุคคลที่เป็นส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่แค่หยิบมือเดียวอย่างที่ท่านสอนอยู่ จะให้ทุกคนเป็นเหมือนกันย่อมเป็นไปไม่ได้ ท่านทำอาหารรสชาติที่เผ็ดกระโดดจนกระทั่งคนกินไปร้องไห้ไป แล้วท่านจะไปยัดเยียดให้ทุกคนกินอาหารรสชาตินั้นก็ย่อมเป็นไปไม่ได้

    ดังนั้น..ในเรื่องของธรรมะ กระผม/อาตมภาพจึงได้กล่าวเอาไว้ว่า ไม่เคยให้ราคาสำหรับฆราวาสผู้สอนธรรม เนื่องเพราะว่าฆราวาสที่เก่งจริงนั้นตายไปหมดแล้ว..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถ้าบุคคลที่เก่งจริง เข้าถึงธรรมจริง ๆ คุณงามความดีทั้งหลายเหล่านั้นมากเกินกว่าที่จะทรงอยู่ในร่างฆราวาสได้ เพราะว่าอาจจะเป็นทุกข์เป็นโทษให้กับผู้อื่น จึงต้องโดนตัดให้ตายลงไป ในเมื่อท่านยังทรงความเป็นฆราวาสอยู่ได้ ก็แปลว่ายังเข้าไม่ถึงธรรมอย่างแท้จริงนั่นเอง

    ถ้าหากว่าสิ่งที่ว่ากล่าวไปนี้ มีอะไรที่ทำให้ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องถูกใจ ก็สามารถที่จะโต้แย้งได้ แต่ให้โต้แย้งโดยหลักธรรม อย่าได้เอาทิฏฐิหรือว่าโทสะในส่วนความเห็นเฉพาะตนมาโต้แย้ง เพราะว่ามีแต่จะทำให้เสียเวล่ำเวลา ไปนั่งภาวนาเสียยังจะดีกว่า
    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันเสาร์ที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
    __________________
    บุคคลผู้หนึ่งซึ่งเป็นฆราวาสตื่นธรรม ท่านถามว่าทำไมต้องสร้างวัตถุมงคลเพื่อหาเงินไปสร้างวัดด้วย ? ไปอยู่ป่าก็ได้..! รู้สึกว่าท่านจะตอบแบบมักง่าย และยกตนเองว่าเป็นผู้ใฝ่สันโดษ หรือว่าปฏิบัติถูกต้องตามพระธรรมวินัยอยู่คนเดียว ตรงจุดนี้ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็ไม่ประทานพระบรมพุทธานุญาตตามที่พระเทวทัตขอ ว่าให้พระภิกษุทั้งหมดอยู่ป่า ห้ามอยู่ในบ้านในเมือง โดยพระองค์ตรัสว่า ผู้ที่ใคร่จะอยู่ป่าก็จงอยู่ป่า ผู้ที่ใคร่จะอยู่ในเมืองก็จงอยู่ในเมือง เนื่องเพราะพระองค์มีวิสัยทัศน์อันยาวไกล หรือว่ามีพระสัพพัญญุตญาณที่รู้ อดีต ปัจจุบัน และอนาคต รู้ดีว่าโลกภายภาคหน้าจะเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหน ทำให้พระภิกษุสงฆ์ถ้าหากว่าประพฤติวัตรปฏิบัติธรรมด้วยการอยู่ป่าอย่างเดียว จะกลายเป็นไม่มีที่อยู่ก็ได้..! โดยเฉพาะในปัจจุบันนี้ผืนป่าต่าง ๆ ซึ่งเป็นที่อยู่ได้นั้นไม่มีเหลืออีกแล้ว ยกเว้นวัดต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาก่อน แล้วยังคงความเป็นวัดป่าอยู่ก็พอที่จะมีพื้นที่ป่าเหลืออยู่บ้าง ไม่ต้องอื่นไกลที่ไหน แค่อำเภอทองผาภูมิที่กระผม/อาตมภาพอยู่นี่แหละ บรรดาพระภิกษุผู้อยู่ป่านับร้อย ๆ ราย โดนเจ้าหน้าที่นิมนต์ออกจากป่ามาทั้งหมด เนื่องเพราะว่าสถานที่เหล่านั้นเป็นอุทยานแห่งชาติบ้าง เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าบ้าง แม้ว่าจะประกาศขึ้นทีหลัง โดยที่พระท่านไปอยู่ก่อนแล้วก็ตาม แต่ก็โดนนิมนต์ออกมาจนเกือบจะหมด ยกเว้นท่านที่ได้รับการตั้งขึ้นเป็นวัดหรือสำนักสงฆ์อย่างถูกต้องแล้วเท่านั้น ดังนั้น..ท่านที่พูดชุ่ย ๆ ว่าไม่จำเป็นที่จะต้องสร้างวัด ให้พระภิกษุไปอยู่ป่าอย่างเดียว ถ้าอย่างนั้นตั้งแต่โบราณมา เราก็คงไม่มีพระคามวาสีคือฝ่ายที่อยู่วัด และอรัญวาสีคือฝ่ายที่อยู่ป่า ในเมื่อบ้านเรามีการแยกวัดบ้านและวัดป่าอย่างชัดเจนแบบนี้ แล้วท่านยังจะให้ปฏิบัติตามปฏิปทาของพระเทวทัตอยู่อีกหรือ ? กระผม/อาตมภาพคาดว่าไม่มีใครอยากเป็นลูกศิษย์พระเทวทัต มีแต่อยากจะเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้าเท่านั้น ดังนั้น..สิ่งที่ท่านได้กล่าวมาก็ขอให้กล่าวโดยรอบคอบกว่านี้ ดูบริบทของสังคมเราด้วยว่าเปลี่ยนแปลงไปขนาดไหนแล้ว สมัยพุทธกาลมีบรรดาเจ้าพระยามหากษัตริย์หรือว่ามหาเศรษฐี ท่านปวารณาสร้างวัดวาอารามให้ แม้แต่ในยุคสมัยต่อ ๆ มาในประเทศไทยของเราตั้งแต่ปรากฏประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะเป็นยุคกรุงสุโขทัย ยุคกรุงศรีอยุธยา ยุคกรุงธนบุรี มาถึงยุครัตนโกสินทร์ตอนต้น ก็มีการสร้างวัดเพื่อบุญกุศลในวิหารทาน ในขณะเดียวกันก็มีคำพูดประเภทว่า บรรดาเจ้าใหญ่นายโตนั้น "สร้างวัดเพื่อให้ลูกหลานได้มีที่สำหรับวิ่งเล่น..!" ในเมื่อยุคต่อ ๆ มา บริบทของสังคมเปลี่ยนแปลงไป ผู้คนได้เข้าสู่ส่วนของการใช้แรงงานต่าง ๆ มากมาย จนกระทั่งไม่มีเวลาที่จะไปช่วยเหลือวัด แม้กระทั่งผู้ที่ร่ำรวยด้วยเงินด้วยทองก็ติดหน้าที่การงานต่าง ๆ จนถึงขนาดไม่มีเวลาให้วัด ยกตัวอย่างบุคคลท่านหนึ่ง นามสกุลของท่านถ้าบอกไปแล้วต้องรู้จักกันทั้งประเทศไทย ท่านปวารณาเอาไว้ว่า กระผม/อาตมภาพจะสร้างหนี้เท่าไรก็ได้ ทุกสิ้นปีให้แจ้งไป ท่านจะจัดการ "เคลียร์หนี้" ให้ แต่เมื่อกระผม/อาตมภาพแจ้งไปแล้ว ปรากฏว่าท่านมักจะติดด้วยงานด้วยการ ไม่สามารถที่จะปลีกตัวได้ ตอนนั้นกระผม/อาตมภาพยังรับสังฆทานอยู่ที่บ้านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ท่านมีเวลาแค่โทรศัพท์มาว่าตอนนี้วิ่งมาใกล้จะถึงแล้ว ให้กระผม/อาตมภาพลงไปรอในบริเวณนั้นบริเวณนี้ เมื่อท่านมาถึงแล้วก็เปิดหน้าต่างรถ ส่งเงินให้แล้วก็วิ่งต่อไป กระผม/อาตมภาพเจอแบบนั้นเข้าสองครั้ง ก็ไม่กล้าที่จะรบกวนอีกเลย..! ดังนั้น..ต่อให้ปวารณาไว้โดยที่ท่านร่ำรวยขนาดไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพก็แกล้งลืมเบอร์โทรศัพท์ไม่โทรไปหาอีก เนื่องเพราะเคยได้ยินมาว่าท่านเคยโทรสั่งโบรกเกอร์ช้าไปนาทีเดียว แล้วเสียหุ้นไป ๒๐ ล้านบาทโดยประมาณ..! ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ใครจะกล้าไปรบกวนเวลาของท่านอีก..! ในเมื่อบุคคลที่มีฐานะเพียงพอที่จะช่วยเหลือในการบูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม ส่วนใหญ่ก็ติดด้วยภาระหน้าที่ต่าง ๆ จึงมักจะนำเงินนำทองไปมอบให้กับพระภิกษุ โดยเฉพาะหลวงปู่หลวงพ่อเจ้าอาวาส ท่านได้จัดการบูรณปฏิสังขรณ์วัดเอง ตรงส่วนนี้จึงทำให้สภาพสังคมเปลี่ยนแปลงไป วัดที่มีผู้ปวารณาไว้ก็ยังคงต้องทำงานด้วยตนเอง แต่วัดที่ไม่มีผู้ปวารณาไว้ ก็ต้องหาเงินหาทองมาเพื่อบูรณะก็คือทำของเก่าให้ดีขึ้น และปฏิสังขรณ์คือสร้างของใหม่ให้เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่เช่นนั้นแล้วหลวงปู่หลวงพ่อเจ้าอาวาสนั่นแหละ ที่ท่านเป็นเจ้าพนักงานโดยกฎหมาย จะกลายเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ก็คือไม่ปกครองสอดส่องฆราวาสก็ยังพอทน แต่การไม่บูรณปฏิสังขรณ์วัดวาอาราม เพื่อให้มั่นคงแข็งแรงสมกับเป็นอารามในพระพุทธศาสนา ให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าไปบำเพ็ญกุศลโดยสะดวก ก็กลายเป็นว่านอกจากจะผิดทางโลกแล้ว ยังผิดทางธรรมอีกด้วย ในทางโลกก็คือผิดกฎหมายในฐานะเจ้าพนักงานละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ในทางธรรมก็คือบุคคลที่เว้นจากหน้าที่ซึ่งตนรับผิดชอบนั้น ต้องบอกว่าเป็นผู้ที่ไม่มีหลักธรรมประจำใจ ก็คือขาดไปเสียทุกส่วน ไม่เช่นนั้นแล้วอย่างน้อยก็ต้องทำความสะอาดวัดวาอารามให้น่าอยู่น่าอาศัย ประการต่อไปก็คือพุทธศาสนิกชนคนไทยของเรา ซึ่งมีอยู่ ๙๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ ท่านผู้กล่าวว่าให้พระภิกษุสงฆ์ไปอยู่ป่า แล้วจะให้พุทธศาสนิกชนทั้งหลายเหล่านั้นตะเกียกตะกายเข้าป่าไปทำบุญกัน แล้วท่านคิดว่าจะใช่หรือไม่ ? ในเรื่องของธรรมะนั้น ไม่ใช่พูดชุ่ย ๆ แบบ "ตีหัวเข้าบ้าน" ปราศจากความรับผิดชอบ เพราะว่าเรื่องทั้งหลายเหล่านี้นั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน กำลังใจของคนแต่ละระดับไม่เท่ากัน ใครที่ชอบคำพูดดุเดือดหยาบคาย ไปฟังท่านแล้วชอบใจ ก็ถือว่ามีจริตนิสัยใกล้เคียงกัน ท่านสามารถสอนเขาให้ตื่นรู้ได้ก็สอนไปเถิด แต่ว่าบุคคลที่เป็นส่วนใหญ่ของประเทศ ไม่ใช่แค่หยิบมือเดียวอย่างที่ท่านสอนอยู่ จะให้ทุกคนเป็นเหมือนกันย่อมเป็นไปไม่ได้ ท่านทำอาหารรสชาติที่เผ็ดกระโดดจนกระทั่งคนกินไปร้องไห้ไป แล้วท่านจะไปยัดเยียดให้ทุกคนกินอาหารรสชาตินั้นก็ย่อมเป็นไปไม่ได้ ดังนั้น..ในเรื่องของธรรมะ กระผม/อาตมภาพจึงได้กล่าวเอาไว้ว่า ไม่เคยให้ราคาสำหรับฆราวาสผู้สอนธรรม เนื่องเพราะว่าฆราวาสที่เก่งจริงนั้นตายไปหมดแล้ว..! เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าถ้าบุคคลที่เก่งจริง เข้าถึงธรรมจริง ๆ คุณงามความดีทั้งหลายเหล่านั้นมากเกินกว่าที่จะทรงอยู่ในร่างฆราวาสได้ เพราะว่าอาจจะเป็นทุกข์เป็นโทษให้กับผู้อื่น จึงต้องโดนตัดให้ตายลงไป ในเมื่อท่านยังทรงความเป็นฆราวาสอยู่ได้ ก็แปลว่ายังเข้าไม่ถึงธรรมอย่างแท้จริงนั่นเอง ถ้าหากว่าสิ่งที่ว่ากล่าวไปนี้ มีอะไรที่ทำให้ท่านเห็นว่าไม่ถูกต้องถูกใจ ก็สามารถที่จะโต้แย้งได้ แต่ให้โต้แย้งโดยหลักธรรม อย่าได้เอาทิฏฐิหรือว่าโทสะในส่วนความเห็นเฉพาะตนมาโต้แย้ง เพราะว่ามีแต่จะทำให้เสียเวล่ำเวลา ไปนั่งภาวนาเสียยังจะดีกว่า พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันเสาร์ที่ ๒๑ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย) __________________
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆สันหนอกวัว
    ⛰️ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี

    》》3 ตุลาคม 2567 ถึง 9 กุมภาพันธ์ 2568《《

    เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,767 เมตร ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินและพักค้าง 2 วัน 1 คืน โดยที่ยอดบนสุดของเขาลูกนี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับสันนูนบนหลังของวัว ซึ่ง เราจะเรียกกันว่าโหนกหรือหนอก จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกเขาสันหนอกวัว

    》》สอบถามเพิ่มเติม
    034 510 431
    ☆เพจ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี
    》》
    https://www.facebook.com/share/9BnZTv6kAGUkT5GK/?mibextid=qi2Omg
    ■■■■■■■■■■
    #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #สันหนอกวัว #อุทยานแห่งชาติเขาแหลม #จังหวัดกาญจนบุรี
    ☆สันหนอกวัว ⛰️ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี 》》3 ตุลาคม 2567 ถึง 9 กุมภาพันธ์ 2568《《 เขาสันหนอกวัว เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาแหลม อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ประมาณ 1,767 เมตร ระยะทาง 9 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินและพักค้าง 2 วัน 1 คืน โดยที่ยอดบนสุดของเขาลูกนี้มีรูปร่างลักษณะคล้ายกับสันนูนบนหลังของวัว ซึ่ง เราจะเรียกกันว่าโหนกหรือหนอก จึงเป็นที่มาของชื่อเรียกเขาสันหนอกวัว 》》สอบถามเพิ่มเติม 034 510 431 ☆เพจ อุทยานแห่งชาติเขาแหลม จังหวัดกาญจนบุรี 》》 https://www.facebook.com/share/9BnZTv6kAGUkT5GK/?mibextid=qi2Omg ■■■■■■■■■■ #thaitimes #thaitimesเที่ยวไทย #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesmanowjourney #สันหนอกวัว #อุทยานแห่งชาติเขาแหลม #จังหวัดกาญจนบุรี
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 982 มุมมอง 0 รีวิว
  • ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    ☆เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 กม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ
    =200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 15:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《
    ☆10 วัน 10 คืน
    ตาม มะนาวก้าวเดิน
    ไปเที่ยวด้วยกัน
    ■ชมวีดีโอการเดินทาง
    》》
    https://youtube.com/playlist?list=PLaMDzyFkQ3X3KxCmjDqkHmqco-BZhxalm&si=sS2gm9GYu4bBfJ5N
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ☆รถตู้แม่กําปองน้ำพุร้อนสันกําแพง
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/qDct1pgCiApg9wkH/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวเชียงใหม่10วัน10คืน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #RusticRiverBoutique #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว ☆เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 กม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ =200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 15:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆10 วัน 10 คืน ตาม มะนาวก้าวเดิน ไปเที่ยวด้วยกัน ■ชมวีดีโอการเดินทาง 》》 https://youtube.com/playlist?list=PLaMDzyFkQ3X3KxCmjDqkHmqco-BZhxalm&si=sS2gm9GYu4bBfJ5N 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ☆รถตู้แม่กําปองน้ำพุร้อนสันกําแพง 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/qDct1pgCiApg9wkH/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #เที่ยวเชียงใหม่10วัน10คืน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #RusticRiverBoutique #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1099 มุมมอง 203 0 รีวิว
  • โครงการปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง
    กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เกี่ยวกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาของเส้นทางสัญจรช่วง ภูทับเบิก - บ้านนาสะอุ้ง - บ้านหมากแข้ง ที่มีความชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานานทำให้ยากลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว จากบ้านภูทับเบิก �อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไปยังอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 ชั่วโมง

    ในการนี้ ผบ.ทบ. จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกองทัพบกได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก - บ.นาสะอุ้ง - บ.หมากแข้ง ร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา กองทัพบกมอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการส่งทหารช่างพร้อมยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่วัดป่าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ถึง บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน �อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 14.2 กม. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.พ.-พ.ค.67

    การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรและใช้เส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและอื่น ๆ อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นเส้นทางในการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้มีความสะดวกมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของกองทัพบก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพบกและปวงชนซาวไทย

    #สยามโสภา #สื่อมวลชน #ปรับปรุงถนน #บ้านหมากแข้ง #ภูทับเบิก #เลย #กองทัพบก #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    โครงการปรับปรุงถนนเส้นทางภูทับเบิก – บ้านนาสะอุ้ง – บ้านหมากแข้ง กองทัพบกได้รับรายงานจากหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เกี่ยวกับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนในเรื่องปัญหาของเส้นทางสัญจรช่วง ภูทับเบิก - บ้านนาสะอุ้ง - บ้านหมากแข้ง ที่มีความชำรุดเสียหายมาเป็นเวลานานทำให้ยากลำบากในการเดินทาง โดยเฉพาะเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูฝนทำให้เส้นทางดังกล่าวไม่สามารถสัญจรได้ นอกจากนี้ยังเป็นเส้นทางที่ใช้ในการเดินทางท่องเที่ยว จากบ้านภูทับเบิก �อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ไปยังอุทยานเทิดพระเกียรติบ้านหมากแข้ง อ.ด่านซ้าย จ.เลย โดยปัจจุบันต้องใช้เวลาในการเดินทางถึง 2 ชั่วโมง ในการนี้ ผบ.ทบ. จึงมีนโยบายเร่งด่วนในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยกองทัพบกได้ดำเนินโครงการปรับปรุงเส้นทางภูทับเบิก - บ.นาสะอุ้ง - บ.หมากแข้ง ร่วมกับกรมป่าไม้และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และขอรับการสนับสนุนงบประมาณบางส่วนจากภาคเอกชนและประชาชนจิตอาสา กองทัพบกมอบให้กองทัพภาคที่ 3 โดยกองพลพัฒนาที่ 3 ดำเนินการส่งทหารช่างพร้อมยุทโธปกรณ์ ปรับปรุงเส้นทางตั้งแต่วัดป่าภูทับเบิก ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ถึง บ้านหมากแข้ง ต.กกสะทอน �อ.ด่านซ้าย ระยะทาง 14.2 กม. เริ่มดำเนินการตั้งแต่ ก.พ.-พ.ค.67 การดำเนินการโครงการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อเป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการสัญจรและใช้เส้นทางขนส่งผลผลิตทางการเกษตรและอื่น ๆ อำนวยความสะดวกให้กับเจ้าหน้าที่ภาครัฐใช้เป็นเส้นทางในการดูแลรักษาป่าและสิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติ ให้มีความสะดวกมากขึ้นเพื่อเสริมสร้างความเป็นสิริมงคลสร้างขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลของกองทัพบก และผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมทั้งเป็นการแสดงความจงรักภักดีตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อกองทัพบกและปวงชนซาวไทย #สยามโสภา #สื่อมวลชน #ปรับปรุงถนน #บ้านหมากแข้ง #ภูทับเบิก #เลย #กองทัพบก #thaitimes #thaitimesสยามโสภา
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 901 มุมมอง 213 0 รีวิว
  • "ภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน
    ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ โดยคำว่า ภูกระดึง มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาถิ่นของจังหวัดเลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า ระฆังใหญ่
    ●เส้นทางเดินเท้าขึ้นภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดพักแรม เรียกว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกลาง” บริเวณนั้นจะมีให้บริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร
    ■■■■■■■■
    ●ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วแบกเป้ไปพิชิตภูกระดึงกัน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปีนเขา วิวสวย บรรยากาศดี ชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง!
    🗓 เปิดเฉพาะ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี งานนี้ต้องห้ามพลาด!
    ■■■■■■■■
    #ภูกระดึง #ท่องเที่ยวจังหวัดเลย #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    "ภูกระดึง" ขุนเขามหาเสน่ห์แห่งเมืองเลย ที่ดึงดูดให้ผู้คนไปพิชิตสักครั้งในชีวิต และทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า สร้างรายได้ให้ชุมชนโดยรอบอย่างยั่งยืน ภูกระดึง ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 2 ของประเทศไทย มีลักษณะเป็นภูเขาหินทรายยอดตัดรูปหัวใจ โดยคำว่า ภูกระดึง มาจากคำว่า ภู แปลว่า ภูเขา และ กระดึง แปลว่า กระดิ่ง เป็นภาษาถิ่นของจังหวัดเลย ภูกระดึง จึงแปลได้ว่า ระฆังใหญ่ ●เส้นทางเดินเท้าขึ้นภูกระดึง มีระยะทางประมาณ 5.5 กิโลเมตร จากนั้นต้องเดินอีก 3.5 กิโลเมตร เพื่อไปศูนย์บริการนักท่องเที่ยวและจุดพักแรม เรียกว่า “ศูนย์บริการนักท่องเที่ยววังกลาง” บริเวณนั้นจะมีให้บริการทั้งบ้านพัก ลานกางเต็นท์ ร้านค้า ร้านอาหาร ■■■■■■■■ ●ฟิตร่างกายให้พร้อม แล้วแบกเป้ไปพิชิตภูกระดึงกัน แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนชอบปีนเขา วิวสวย บรรยากาศดี ชีวิตนี้ต้องไปสักครั้ง! 🗓 เปิดเฉพาะ 1 ต.ค. – 31 พ.ค. ของทุกปี งานนี้ต้องห้ามพลาด! ■■■■■■■■ #ภูกระดึง #ท่องเที่ยวจังหวัดเลย #มะนาวก้าวเดิน #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    Love
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1129 มุมมอง 479 0 รีวิว
  • ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย
    ■■■■■■■■■■■
    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《

    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■ชมวีดีโอ
    >>>
    https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว 》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย ■■■■■■■■■■■ ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■ชมวีดีโอ >>> https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1670 มุมมอง 466 0 รีวิว
  • ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย
    ■■■■■■■■■■■
    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《

    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■ชมวีดีโอ
    >>>
    https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    ☆เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว 》》เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย ■■■■■■■■■■■ ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■ชมวีดีโอ >>> https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Love
    Wow
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1658 มุมมอง 420 0 รีวิว
  • เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
    ผาดอกเสี้ยว
    เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่
    ■ระยะทาง 3 ก.ม.
    ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง
    ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย

    ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท
    ☆เวลาไป 07:00 น.
    ☆เวลากลับ 14:00 น.
    (จองก่อนล่วงหน้า)
    ■ค่าไกด์ 220 บาท
    ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท
    ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《

    ☆รถตู้ดอยอินทนนท์
    084-222-3478
    ☆เพจ
    》》
    https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg
    《《
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●
    ■ชมวีดีโอ
    >>>
    https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo
    ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●

    #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว
    #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    เส้นทางศึกษาธรรมชาติ ผาดอกเสี้ยว เป็นหนึ่งในเส้นทางศึกษาธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ ■ระยะทาง 3 ก.ม. ■ใช้เวลาเดิน 2 ช.ม. ครึ่ง ☆เดินลงซะส่วนใหญ่ ไม่เหนื่อย ป่าเขียว เย็นสบาย น้ำตกสวยยยยยย ☆ค่ารถตู้ไป + กลับ=200×2=400 บาท ☆เวลาไป 07:00 น. ☆เวลากลับ 14:00 น. (จองก่อนล่วงหน้า) ■ค่าไกด์ 220 บาท ■ค่าเข้าอุทยานฯ 60 บาท ●รวมค่าใช้จ่าย 680 บาท ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● 》》คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ 《《 ☆รถตู้ดอยอินทนนท์ 084-222-3478 ☆เพจ 》》 https://www.facebook.com/share/kaSDUCvuGJpGmisC/?mibextid=qi2Omg 《《 ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● ■ชมวีดีโอ >>> https://youtu.be/tlEaDDtIQFQ?si=LjJ4aHv1RGvDGgWo ●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●●● #คนเดียวก็เที่ยวเชียงใหม่ได้ #มะนาวก้าวเดิน #ทริปเชียงใหม่ #คนเดียวก็เที่ยวได้ #รถไฟ #รถตู้ดอยอินทนนท์ #รถตู้แม่กําปองน้ําพุร้อนสันกําแพง #กิ่วแม่ปาน #เส้นทางศึกษาธรรมชาติผาดอกเสี้ยว #ดอยอินทนนท์ #น้ำตกผาดอกเสี้ยว #thaitimes #thaitimesmanowjourney #thaitimesมะนาวก้าวเดิน #thaitimesเที่ยวไทย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1417 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติเอราวัณ สวยงามดั่งต้องมนต์เมืองสวรรค์

    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ มีเนื้อที่ 343,735 ไร่ หรือ 549.976 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 165-996 เมตร สลับกับพื้นที่ราบ โดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ในแถบตะวันออกและตะวันตกของพื้นที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแนว โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตกเอราวัณจะมีลักษณะเป็นหน้าผา ส่วนบริเวณตอนกลางจะเป็นแนวเขาทอดยาวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยเทือกเขาที่สำคัญ คือ เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน และเขาเกราะแกระ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง

    น้ำตกเอราวัณเดิมเรียกว่าน้ำตกสะด่องม่องล่ายเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทั้งหมด 7 ชั้น ความยาวประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป บริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า“ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อ“อุทยานแห่งชาติเอราวัณ”

    น้ำตกเอราวัณ (Erawan Waterfall)
    เป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี มีระยะทางยาวประมาณ 2,200 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป และมีชื่อของแต่ละชั้น ดังนี้
    ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง
    ชั้นที่ 2 วังมัจฉา
    ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก
    ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ
    ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง
    ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา
    ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ
    ความพิเศษของชั้นนี้คือเมื่อน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียร หรือที่เรียกว่า "ช้างเอราวัณ" จึงเป็นที่มาของ "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ"

    #อุทยานแห่งชาติเอราวัณ
    #น้ำตกเอราวัณ


    อุทยานแห่งชาติเอราวัณ สวยงามดั่งต้องมนต์เมืองสวรรค์ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ตั้งอยู่ที่หมู่ 4 ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 12 ของประเทศ มีเนื้อที่ 343,735 ไร่ หรือ 549.976 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมตำบลไทรโยค ตำบลท่าเสา ตำบลลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน อำเภอศรีสวัสดิ์ และตำบลช่องสะเดา อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี อุทยานแห่งชาติเอราวัณ มีลักษณะพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ 165-996 เมตร สลับกับพื้นที่ราบ โดยภูเขาส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาหินปูน ในแถบตะวันออกและตะวันตกของพื้นที่จะยกตัวสูงขึ้นเป็นแนว โดยเฉพาะบริเวณใกล้น้ำตกเอราวัณจะมีลักษณะเป็นหน้าผา ส่วนบริเวณตอนกลางจะเป็นแนวเขาทอดยาวในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือ-ตะวันออกเฉียงใต้ ประกอบด้วยเทือกเขาที่สำคัญ คือ เขาหนองพุก เขาปลายดินสอ เขาหมอเฒ่า เขาช่องปูน เขาพุรางริน และเขาเกราะแกระ ซึ่งเป็นยอดเขาสูงสุดประมาณ 996 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง น้ำตกเอราวัณเดิมเรียกว่าน้ำตกสะด่องม่องล่ายเป็นน้ำตกที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของจังหวัด มีทั้งหมด 7 ชั้น ความยาวประมาณ 1,500 เมตร แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป บริเวณหน้าผาเหนือน้ำตกชั้นที่ 7 เมื่อมีน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายเศียรช้าง 3 เศียร หรือที่เรียกว่า“ช้างเอราวัณ” จึงเป็นที่มาของชื่อ“อุทยานแห่งชาติเอราวัณ” น้ำตกเอราวัณ (Erawan Waterfall) เป็นน้ำตกหินปูนที่สวยงามและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของกาญจนบุรี มีระยะทางยาวประมาณ 2,200 เมตร แบ่งออกเป็น 7 ชั้น แต่ละชั้นมีความสวยงามแตกต่างกันไป และมีชื่อของแต่ละชั้น ดังนี้ ชั้นที่ 1 ไหลคืนรัง ชั้นที่ 2 วังมัจฉา ชั้นที่ 3 ผาน้ำตก ชั้นที่ 4 อกนางผีเสื้อ ชั้นที่ 5 เบื่อไม่ลง ชั้นที่ 6 ดงพฤกษา ชั้นที่ 7 ภูผาเอราวัณ ความพิเศษของชั้นนี้คือเมื่อน้ำตกไหลบ่าจะมีลักษณะคล้ายช้างสามเศียร หรือที่เรียกว่า "ช้างเอราวัณ" จึงเป็นที่มาของ "อุทยานแห่งชาติเอราวัณ" #อุทยานแห่งชาติเอราวัณ #น้ำตกเอราวัณ
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 234 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถ้ำหลวง - อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน

    สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ - ถ้ำหลวง เป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินเป็นเวลานาน มีขนาดใหญ่และลึกมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีความยาว 10.3 กิโลเมตร มีความสูงโดยเฉลี่ย 779 เมตร และลาดชันมาทางทิศตะวันออก ปากถ้ำเป็นโถงกว้างและสูงกว่าโถงถ้ำแรก ภายในถ้ำมีเกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอกหินย้อย ธารน้ำถ้ำลอด และถ้ำแขนง แนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงถึงวิวัฒนาการของถ้ำจำนวนมาก เช่น รอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่น ระดับพื้นถ้ำเก่า หินถล่มขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก รอยแตกแบบมีแรงดึง รอยระดับน้ำหลุมยุบ โพรงเพดานถ้ำและรอยแตกของผนัง เปิดให้เข้าชมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ปัจจุบันหลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กติดในถ้ำได้งดการเข้าชมถ้ำภายในไว้ก่อน โดยสามารถเข้าชมได้บริเวณปากโถงถ้ำเท่านั้น - ถ้ำพระ เป็นถ้ำขนาดเล็ก

    ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อากาศบริเวณปากถ้ำเย็นสบาย - ถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็ก อยู่ใต้หน้าผาบนภูเขา ภายในถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย สูง 2.5 เมตร อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำ - ถ้ำเลียงผาเป็นถ้ำที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน จึงทำให้เกิดลักษณะที่เป็นเวิ้ง มีหุบเหวล้อมรอบ กว้างประมาณ 80 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร บริเวณถ้ำยังพบฟอสซิลหอยฝาเดียวและหอยสองฝาอายุหลายร้อยล้านปี ในอดีตเลียงผาบนภูเขาจะลงมากินน้ำฝนที่ไหลลงมาขังภายในถ้ำจึงเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำเลียงผา” - ขุนน้ำนางนอน อยู่ห่างจากถ้ำหลวง 2 กิโลเมตร มีธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น มีบึงน้ำจืดขนาดเล็ก บนหน้าผาเหนือบึงน้ำยังเป็นที่ตั้งของถ้ำทรายทอง ซึ่งยังไม่มีการสำรวจภายใน สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โทร. 0 5371 4914 และ 08 0792 5095 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th

    #อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน
    #ท่องเที่ยว
    ถ้ำหลวง - อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน สถานที่ท่องเที่ยวในเขตอุทยานฯ ได้แก่ - ถ้ำหลวง เป็นถ้ำที่เกิดจากการกัดเซาะของน้ำใต้ดินเป็นเวลานาน มีขนาดใหญ่และลึกมากเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศไทย มีความยาว 10.3 กิโลเมตร มีความสูงโดยเฉลี่ย 779 เมตร และลาดชันมาทางทิศตะวันออก ปากถ้ำเป็นโถงกว้างและสูงกว่าโถงถ้ำแรก ภายในถ้ำมีเกล็ดหินสะท้อนแสง หินงอกหินย้อย ธารน้ำถ้ำลอด และถ้ำแขนง แนวโถงถ้ำมีเส้นทางคดเคี้ยว บางช่วงเข้าถึงง่าย บางช่วงมีเพดานต่ำ นอกจากนี้ยังมีหลักฐานที่แสดงถึงวิวัฒนาการของถ้ำจำนวนมาก เช่น รอยการไหลของน้ำเป็นริ้วคลื่น ระดับพื้นถ้ำเก่า หินถล่มขนาดใหญ่และเล็กจำนวนมาก รอยแตกแบบมีแรงดึง รอยระดับน้ำหลุมยุบ โพรงเพดานถ้ำและรอยแตกของผนัง เปิดให้เข้าชมในช่วงเดือนพฤศจิกายน-เมษายน ปัจจุบันหลังจากเกิดเหตุการณ์เด็กติดในถ้ำได้งดการเข้าชมถ้ำภายในไว้ก่อน โดยสามารถเข้าชมได้บริเวณปากโถงถ้ำเท่านั้น - ถ้ำพระ เป็นถ้ำขนาดเล็ก ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ มีหินงอกหินย้อยรูปร่างแปลกตา อากาศบริเวณปากถ้ำเย็นสบาย - ถ้ำพญานาค เป็นถ้ำขนาดเล็ก อยู่ใต้หน้าผาบนภูเขา ภายในถ้ำมีหินงอกขนาดใหญ่คล้ายงูแผ่แม่เบี้ย สูง 2.5 เมตร อยู่ตรงบริเวณปากถ้ำ - ถ้ำเลียงผาเป็นถ้ำที่เกิดจากการยุบตัวของแผ่นดิน จึงทำให้เกิดลักษณะที่เป็นเวิ้ง มีหุบเหวล้อมรอบ กว้างประมาณ 80 เมตร สูงประมาณ 30 เมตร บริเวณถ้ำยังพบฟอสซิลหอยฝาเดียวและหอยสองฝาอายุหลายร้อยล้านปี ในอดีตเลียงผาบนภูเขาจะลงมากินน้ำฝนที่ไหลลงมาขังภายในถ้ำจึงเป็นที่มาของชื่อ “ถ้ำเลียงผา” - ขุนน้ำนางนอน อยู่ห่างจากถ้ำหลวง 2 กิโลเมตร มีธรรมชาติที่สวยงามร่มรื่น มีบึงน้ำจืดขนาดเล็ก บนหน้าผาเหนือบึงน้ำยังเป็นที่ตั้งของถ้ำทรายทอง ซึ่งยังไม่มีการสำรวจภายใน สอบถามข้อมูล อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน โทร. 0 5371 4914 และ 08 0792 5095 กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร. 0 2562 0760 เว็บไซต์ www.dnp.go.th #อุทยานแห่งชาติถ้ำหลวงขุนน้ำนางนอน #ท่องเที่ยว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 263 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว

    ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง

    บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย
    หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย)

    นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ

    ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.)
    ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป

    ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก

    นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด

    “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา
    นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน

    “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่

    ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907

    #ภูหินร่องกล้า
    #พิษณุโลก
    #ท่องเที่ยว

    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    อุทยานฯภูหินร่องกล้า อดีตพื้นที่ "สีแดง" ปัจุบันมีแต่ความงามสีเขียว ในช่วงปี พ.ศ. 2511-2525 “ภูหินร่องกล้า” หรือ “ภูร่องกล้า” นอกจากจะเป็นป่าเขารกชัฏแล้ว ยังถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ "สีแดง" ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตายระหว่างการสู้รบของคน 2 กลุ่ม คือ พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย(พคท.) กับ ฝ่ายความมั่นคง บทสรุปของการสู้รบไม่ปรากฏผลแพ้-ชนะ เพราะสุดท้ายฝ่ายความมั่นคงประกาศนโยบาย 66/2523 และ 65/2525 ที่ใช้การเมืองนำการทหาร เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาประชาชนที่หนีเข้าป่า กลับคืนสู่เมืองมาช่วยกันพัฒนาชาติไทย หลังจากนั้นมาดินแดนภูหินร่องกล้าก็ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็น “อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า” อุทยานแห่งชาติ ลำดับที่ 48 ของประเทศไทย ในวันที่ 26 ก.ค. 2527 มีพื้นที่ประมาณ 191,875 ไร่ ครอบคลุม 3 จังหวัดคือ เลย(อ.ด่านซ้าย) เพชรบูรณ์(อ.หล่มสัก) และ พิษณุโลก(อ.นครไทย) นับแต่นั้นมาอีกไม่นานจากดินแดนที่อบอวลไปด้วยกลิ่นอายแห่งการต่อสู้ ก็กลับกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่งดงามไปด้วยธรรมชาติที่หลากหลาย ทั้ง ป่าไม้ น้ำตก ภูผา หินรูปร่างแปลกตา และรอยอดีตแห่งประวัติศาสตร์ในยุคสมรภูมิเดือด ซึ่งในหน้าฝนอย่างนี้ภูหินร่องกล้าได้แสดงศักยภาพแห่งป่าไพรออกมาอย่างเต็มเปี่ยม ถือเป็นอีกหนึ่งเส้นทางโรแมนติกฉ่ำฝนที่นอกจากจะเต็มไปด้วยทิวทัศน์อันงดงามแล้ว บางวันยังมีสายหมอกฝนขาวโพลนให้เราได้ สัมผัสกันอย่างจุใจ ในพื้นที่ภูหินร่องกล้ายังมี “โครงการพัฒนาป่าไม้ตามแนวพระราชดำริภูหินร่องกล้า” เป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่นี่มีแปลงปลูกไม้ดอก ไม้เมืองหนาว หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกาแฟ สตรอเบอร์รี่ พันธุ์ 80 รสสุดหวานฉ่ำ มีต้นนางพญาเสือโคร่งที่จะออกดอกชมพูสะพรั่งในช่วงราวเดือน ธ.ค.-ม.ค.ของทุกฤดูกาล ส่วนในช่วงเดือน ต.ค.-ก.พ.จะมีทุ่งดอกกระดาษออกดอกสวยงามไปทั่วบริเวณริมผา(ช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดคือ พ.ย.-ม.ค.) ส่วนอีกหนึ่งจุดที่เป็นไฮไลท์ของสถานที่แห่งนี้ก็คือบรรดาหน้าผาชมวิวชื่อสุดกิ๊บเก๋ มีทั้ง “ผาไททานิค”, “ผาพบรัก,“ผาบอกรัก”, “ผาคู่รัก”, “ผารักยืนยง” และ“ผาสลัดรัก” ที่เป็นหน้าผาตั้งไล่เรียงไป มีโขดหินให้เดินไปยืนชมทัศนียภาพอันงดงามของขุนเขาผืนป่าใหญ่ ซึ่งเราสามารถมาเที่ยวชมความงามได้ทั้งปีในบรรยากาศที่แตกต่างกันออกไป ลานหินปุ่ม-ผาชูธง-ซันแครก นอกจากแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์แล้ว ภูหินร่องกล้ายังโดดเด่นไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอันสวยงามหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น “ลานหินแตก” กับลักษณะของธรรมชาติอันแปลกตาของลานหินกว้างมีรอยแตกคล้ายแผ่นดินแยก, “น้ำตกหมันแดง” น้ำตกงาม 13 ชั้น ที่ในช่วงกลางฤดูฝนราวเดือนสิงหาคมจะสวยงามไปด้วย “ดอกลิ้นมังกร” ที่ออกดอกบานสีชมพูสะพรั่งขึ้นกระจายอยู่ตามโขดหินบริเวณธารน้ำตก โดยเฉพาะที่บริเวณโขดหินด้านหน้าของน้ำตกชั้นที่ 5 จะเป็นจุดที่พบดอกลิ้นมังกรบานหนาแน่นมากที่สุด “ลานหินปุ่ม” จุดไฮไลท์สำคัญที่เป็นดังสัญลักษณ์ของภูหินร่องกล้า กับลานหินขนาดย่อมริมหน้าผาที่มีรูปร่างลักษณะอันแปลกประหลาด เป็นลานกว้างแล้วมีหินเป็นลูกกลมมนผุดขึ้นมาเป็นลูกๆปุ่มๆละลานเต็มไปหมด สันนิษฐานว่าลานหินปุ่มเกิดจากการโก่งตัวของเปลือกโลก แล้วเกิดการสึกกร่อนพร้อมถูกลมฝนกระทำขัดเกลา จนเกิดเป็นลานหินปุ่มขึ้นมา นอกจากนี้ลานหินปุ่มยังเป็นจุดชมวิวชั้นดี กับทิวทัศน์เบื้องล่างอันสวยงามกว้างไกล นับเป็นอีกจุดถ่ายรูปอันโดดเด่นกับเอกลักษณะเฉพาะตัวของปุ่มหินประหลาดที่ไมเหมือนใครและไม่มีใครเหมือน “ผาชูธง” หน้าผาสูงที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้อย่างสวยงามกว้างไกล โดยเฉพาะจุดชมพระอาทิตย์ตกยามเย็นที่สวยงามไม่เป็นรองใคร ผาชูธงในอดีตเคยเป็นจุดที่ พคท. เมื่อรบชนะทหารไทยจะขึ้นไปชูธงแดงเพื่อเป็นสัญลักษณ์ ส่วนปัจจุบันบนผามีธงชาติไทยปักอยู่ ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า 0 5535 6607,081-5965977 และสามารถสอบถามข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ร้านอาหาร และการเดินทางในจังหวัด พิษณุโลก-เพชรบูรณ์ เพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) สำนักงานพิษณุโลก(พื้นที่รับผิดชอบ พิษณุโลก,เพชรบูรณ์) โทร.0-5525-2742-3, 0-5525-9907 #ภูหินร่องกล้า #พิษณุโลก #ท่องเที่ยว ขอขอบคุณข้อมูลจาก https://mgronline.com/travel/detail/9600000072287
    Like
    Love
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 437 มุมมอง 0 รีวิว
  • อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷

    สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า

    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี

    ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว

    ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง

    สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย

    #ป่าหินงาม
    #ชัยภูมิ
    #ดอกกระเจียว


    อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม หยิบหมอก หยอกกระเจียว เที่ยวผาสุดแผ่นดิน🌷 สายฝนเริ่มโปรยปรายเราเลยจะชวนทุกคนไปเที่ยวหน้าฝน ชมดอกกระเจียวสวย ๆ กันที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ เพลิดเพลินกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รายล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่ ป่าไม้เขียวขจี อากาศเย็นสบาย ได้สูดออกซิเจนให้เต็มปอด ก่อนจะวางแผนเดินทางไปเที่ยวกัน มารู้จักกับเรื่องน่ารู้ของอุทยานแห่งชาติป่าหินงามก่อนดีกว่า อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ตั้งอยู่บนเทือกเขาพังเหย อยู่ในพื้นที่อำเภอเทพสถิต และอำเภอซับใหญ่ จังหวัดชัยภูมิ มีเนื้อที่ประมาณ 62,437.50 ไร่ หรือ 99.9 ตารางกิโลเมตร ภูมิประเทศเป็นเนินเขาสลับซับซ้อน เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของลุ่มน้ำชีและแม่น้ำป่าสัก มีสภาพป่าสมบูรณ์ ปกคลุมด้วยป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ทำให้มีความหลากหลายของระบบนิเวศ และมีไม้ดอกจำพวกดุสิตา เอนอ้า และกล้วยไม้ ขึ้นอยู่จำนวนมาก รวมถึงมีสัตว์ป่านานาพรรณ ที่สำคัญยังมีจุดเด่นทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่งโดยเฉพาะ “ทุ่งดอกกระเจียว” ซึ่งจะบานสะพรั่งสวยงามในราวเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทุ่งดอกกระเจียว ดอกกระเจียว หรือดอกบัวสวรรค์ ราชินีแห่งมวลไม้ในขุนเขา เป็นพืชล้มลุกประเภทหัว จำพวกขิง-ข่า พบขึ้นกระจายอยู่ทั่วไปตั้งแต่ลานหินงามไปจนถึงจุดชมวิวสุดแผ่นดิน รวมเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกกระเจียวที่เบ่งบานผลิดอกสีชมพูอมม่วงขึ้นเต็มทั่วผืนป่า คือในช่วงฤดูฝนประมาณเดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคม ของทุกปี ทั้งนี้ ดอกกระเจียวที่บานในอุทยานค้นพบทั้งหมด 3 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ปทุมมา สายพันธุ์กระเจียวดิน และสายพันธุ์กระเจียวขาว ลานหินงาม เป็นบริเวณลานหินที่มีโขดหินใหญ่รูปร่างแปลกตากระจายอยู่ในพื้นที่กว่า 10 ไร่ ซึ่งโขดหินดังกล่าวเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ โดยเป็นการกัดเซาะเนื้อดินและหินในส่วนที่จับตัวกันอย่างเบาบางหลุดออกไป นานวันเข้าจึงเกิดโขดหินที่มีรูปลักษณ์แตกต่างกัน สามารถจินตนาการเป็นรูปต่าง ๆ เช่น ตะปู เรด้าร์ แม่ไก่ รูปสัตว์ ปราสาทโบราณ หินรูปถ้วยรางวัลฟุตบอลโลก รูปดอกเห็ด เป็นต้น สำหรับลานหินงามนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของพื้นที่ทำการอุทยานแห่งชาติมีทางรถยนต์เข้าถึง สุดแผ่นดิน หน้าผาสูงชันและจุดสูงสุดของเทือกเขาพังเหย อยู่ทางด้านทิศเหนือห่างจากที่ทำการอุทยาน ประมาณ 2 กิโลเมตร มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 846 เมตร เป็นแนวหน้าผาซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างภาคกลางและภาคอีสาน ที่จุดชมวิวสุดแผ่นดินจะมองเห็นทิวทัศน์สันเขาพังเหยและเขตพื้นที่ป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา และมีสายลมพัดเย็นสบายตลอดวัน จึงเป็นจุดชมวิวสำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมมาดูสายหมอกตอนเช้าและพระอาทิตย์ตกในตอนเย็น รวมถึงแวะมาถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันด้วย #ป่าหินงาม #ชัยภูมิ #ดอกกระเจียว
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 396 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'หมู่บ้านคีรีวงแหล่งโอโซน เมืองนครศรีธรรมราช'
    ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามเปรียบได้กับแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้อย่าง ซอรัคซานอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลำธารและภูเขาเขียวขจีเช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามที่เป็นดั่งมนต์สะกดให้พวกเราหลงใหลไปกับความเงียบของเสียงธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินไปได้อย่างผ่อนคลายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากมาสูดอากาศโอโซนให้เต็มปอดก็ต้องมาที่นี่เลย

    ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในนั้นคือเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีคลองท่าดีเป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านคีรีวงมีวิถีชีวิตแบบชาวสวน อยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี พ.ศ. 2541 รางวัลชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากบ้านคีรีวงมีกลุ่มส่งเสริมอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มทำสบู่จากเปลือกมังคุด กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มมังคุดกวน กลุ่มทำเครื่องประดับลูกปัดโบราณ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว จัดนำเที่ยวเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์ และศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของบ้านคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน

    นอกจากนี้ ตามที่พักต่าง ๆ ในหมู่บ้านคีรีวง ส่วนมากมีจักรยานไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพัก เพื่อปั่นเที่ยวชมบรรยากาศและทัศนียภาพรอบหมู่บ้าน ในหมู่บ้านคีรีวงมีจุดเล่นน้ำหลักอยู่ในบริเวณ “หนานหินท่านาหา” ซึ่งบริเวณนั้นมีสะพานแขวนข้ามลำธารเป็นเอกลักษณ์เด่น ทั้งมีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้าน จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อเดินทางมาถึงบ้านคีรีวง คือ “สะพานบ้านคีรีวง คลองท่าดี” ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดที่มองเห็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านโดยมีทิวเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังสวยงาม
    🤩
    หยุดยาวปีใหม่นี้ เพื่อนอยากชาจแบตร่างกาย สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แนะนนำ หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราชเลยย
    รับรอง กลับมาฟิตกว่าเดิมแน่นอน 😍

    #เทพชวนเที่ยว
    #หมู่บ้านคีรีวง
    #นครศรีธรรมราช

    'หมู่บ้านคีรีวงแหล่งโอโซน เมืองนครศรีธรรมราช' ที่ขึ้นชื่อเป็นอย่างมากในเรื่องของบรรยากาศธรรมชาติอันสวยงามเปรียบได้กับแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังของประเทศเกาหลีใต้อย่าง ซอรัคซานอุทยานแห่งชาติที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยลำธารและภูเขาเขียวขจีเช่นเดียวกับสถานที่แห่งนี้ที่รายล้อมไปด้วยความงดงามที่เป็นดั่งมนต์สะกดให้พวกเราหลงใหลไปกับความเงียบของเสียงธรรมชาติที่ฟังแล้วเพลิดเพลินไปได้อย่างผ่อนคลายเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบความเป็นธรรมชาติและอยากมาสูดอากาศโอโซนให้เต็มปอดก็ต้องมาที่นี่เลย ชุมชนบ้านคีรีวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งอยู่ในตำบลกำโลน อำเภอลานสกา เป็นชุมชนที่โอบล้อมไปด้วยภูเขา หนึ่งในนั้นคือเขาหลวง ซึ่งเป็นภูเขาสูงที่สุดในภาคใต้ เป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ มีคลองท่าดีเป็นคลองสายหลักที่ไหลผ่านหมู่บ้าน บ้านคีรีวงมีวิถีชีวิตแบบชาวสวน อยู่กับธรรมชาติ อาชีพหลักคือการทำสวนผลไม้ผสม เรียกว่า “สวนสมรม” เช่น มังคุด เงาะ ทุเรียน สะตอ เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประจำปี พ.ศ. 2541 รางวัลชุมชนต้นแบบในการจัดการธุรกิจท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทเมืองและชุมชน เนื่องจากบ้านคีรีวงมีกลุ่มส่งเสริมอาชีพหลายกลุ่ม เช่น กลุ่มผ้ามัดย้อม กลุ่มทำสบู่จากเปลือกมังคุด กลุ่มทุเรียนกวน กลุ่มมังคุดกวน กลุ่มทำเครื่องประดับลูกปัดโบราณ และได้พัฒนาการบริการนักท่องเที่ยว จัดนำเที่ยวเดินป่าสู่ยอดเขาหลวง มีลูกหาบ โฮมสเตย์ และศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์บ้านคีรีวง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตของบ้านคีรีวงได้ตลอดปี โดยเฉพาะในฤดูกาลผลไม้ เดือนกรกฎาคม-กันยายน นอกจากนี้ ตามที่พักต่าง ๆ ในหมู่บ้านคีรีวง ส่วนมากมีจักรยานไว้สำหรับบริการนักท่องเที่ยวและผู้เข้าพัก เพื่อปั่นเที่ยวชมบรรยากาศและทัศนียภาพรอบหมู่บ้าน ในหมู่บ้านคีรีวงมีจุดเล่นน้ำหลักอยู่ในบริเวณ “หนานหินท่านาหา” ซึ่งบริเวณนั้นมีสะพานแขวนข้ามลำธารเป็นเอกลักษณ์เด่น ทั้งมีร้านอาหารให้บริการอยู่หลายร้าน จุดที่นักท่องเที่ยวนิยมแวะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกเมื่อเดินทางมาถึงบ้านคีรีวง คือ “สะพานบ้านคีรีวง คลองท่าดี” ซึ่งเป็นสะพานคอนกรีต ตั้งอยู่ในบริเวณทางเข้าหมู่บ้าน เป็นจุดที่มองเห็นลำธารที่ไหลผ่านกลางหมู่บ้านโดยมีทิวเขาน้อยใหญ่เป็นฉากหลังสวยงาม 🤩 หยุดยาวปีใหม่นี้ เพื่อนอยากชาจแบตร่างกาย สูดโอโซนบริสุทธิ์ให้เต็มปอด แนะนนำ หมู่บ้านคีรีวง จ.นครศรีธรรมราชเลยย รับรอง กลับมาฟิตกว่าเดิมแน่นอน 😍 #เทพชวนเที่ยว #หมู่บ้านคีรีวง #นครศรีธรรมราช
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 429 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5.สิ่งที่ดีที่สุด..ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

    “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ ครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก เป็นพื้นที่ผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาเย็นหรือดงพญาไฟในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล มีความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่สำคัญ หายาก และใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด รวมถึงนกมากกว่า 280 ชนิด จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักดูนกจากทั่วโลก

    นอกจากจะเป็นแหล่งธรรมชาติที่สำคัญของไทย ยังมีความสำคัญในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก คือ อุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Park) และ มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site)

    และที่สำคัญยิ่งใกล้ช่วงสิ้นปี หรือประมาณปลายฝนต้นหนาว
    หรือช่วงเดือนปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะเป็นฤดูการท่องเที่ยว ของบรรดาผู้ที่หลงไหลในการเดินป่า
    และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แห่งนี้นี่เอง.😊

    วันนี้เพจเทพชวนเที่ยว จึงขอยก 5. สิ่งที่ดีที่สุด ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาให้รับชมกันจ้า

    1.ได้สัมผัสธรรมชาติและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ที่ไม่ใช่สวนสัตว์อย่างใกล้ชิด🥰
    อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ป่าหลายชนิดสัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยและเป็นที่ดึงดูดใจผู้มาเยือน ได้แก่ ช้างป่า กระทิง หมาใน เก้ง กวางป่า ชะนี นกเงือก และลิงกัง

    2.น้ำตกเหวสุวัติ น้ำตกสวยงาม ชุ่มช่ำหัวใจ😘
    ยิ่งช่วงนี้ฝนตก น้ำตกยิ่งสวยงาม น้ำตกเหวสุวัต อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำตกเหวสุวัตที่มาของชื่อเหวสุวัตินั้น ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีโจรคนหนึ่ง ชื่อสุวัติ หนีอาญาบ้านเมืองมาที่น้ำตกแห่งนี้ และเมื่อจนมุมต่อเจ้าหน้าที่ ก็ตัดสินจบชีวิตตัวเองลงที่น้ำตกแห่งนี้

    3.เสน่ห์อีกอย่างของการมาเที่ยวเขาใหญ่ คือการได้เข้าไปเยือนจุดชมวิวบนหน้าผาที่สวยที่สุดบนเขาใหญ่ นั่นคือ "ผาเดียวดาย" นั่นเองครับ ยิ่งถ้าคุณขึ้นมานอนค้างอ้างแรมที่จุดกางเต็นท์บนเขาใหญ่ล่ะก็ เท่ากับว่าจะได้โอกาสขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาเดียวดายด้วย ตำนาน เรื่องเล่าของผาเดียวดาย เล่าเรื่องของผาเดียวดายสักนิด ที่มาของชื่อผานั้นมีอยู่ว่า นานมาแล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งรักใคร่ชอบพอกับชายหนุ่มหน้าตาดีมีฐานะ แต่เนื่องจากทางบ้านของฝ่ายชายไม่ยอมรับเธอ ทั้งคู่จึงต้องแอบคบหากัน กระทั่งวันหนึ่งฝ่ายหญิงเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เลยคิดจะหนีไปด้วยกันโดยตกลงจะมาพบกันที่ปลายผาที่ซึ่งทั้งสองนัดพบกันบ่อยๆ แต่พอถึงวันนัดชายหนุ่มกลับไม่มา เธอจึงท้อแท้ในชีวิตรัก สุดท้ายจึงกระโดดลงสู่ก้นเหวนั่นเอง😢

    4.ทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่ ป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในอุยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ตรงบริเวณหอดูสัตว์หนองผักชี และเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ถือว่าเป็นจุดพักผ่อนชมวิวมุมสูง พร้อมทุ่งหญ้าสะวันนาไกลสุดตา
    ก่อนหน้านี้มี ปรากฏการณ์ “ทุ่งหญ้าฟีเวอร์” ทำเขาใหญ่แทบแตก หลังนักท่องเที่ยวแห่เช็กอินแน่น ขณะที่นักท่องเที่ยวไร้สำนึกจำนวนหนึ่งไม่สนกฎระเบียบ ลงไปเดินใน “โป่งสัตว์” ทั้งที่มีป้ายห้าม จนเกิดเป็นดราม่าให้คอมเม้นต์กันสนั่นบนโลกโซเชียล
    ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงต้นฤดูฝนของบ้านเรา สำหรับวิวทิวทัศน์ของ “ทุ่งหญ้าเขาใหญ่” หรือ “ทุ่งหญ้าคาที่เขาใหญ่” ซึ่งหลังสายฝนโปรยสายท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่หลาย ๆ จุดในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” จะเติบโตเขียวขจี ก่อนจะออกดอกสีขาวโพลน ยามต้องสายลมจะโบกพลิ้วไสวดูโรแมนติก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปจุดเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก

    5. น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่งจังหวัดนครนายก จากความสูงในแต่ละชั้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 เมตรนั้น ก็พอจะดูออกว่าความสูงโดยรวมของน้ำตกแห่งนี้จะต้องไม่ต่ำกว่า 150 เมตรอย่างแน่นอน ส่วนที่มาของชื่อ น้ำตกเหวนรก มาจากลักษณะของมวลน้ำมหาศาลที่ตกลงมาจากผาสูงปรี๊ด ซ่อนตัวอยู่ในหุบเหว ดูลึกลับซับซ้อน และหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอยากเข้าไปชมความงามของน้ำตกแห่ง
    การเดินทางเพื่อเข้าไปชม น้ำตกเหวนรก ในปัจจุบันนั้นสะดวกขึ้นมาก เพราะถ้าเป็นสมัยก่อน ทุกคนจะต้องใช้เวลาเดินเท้าเพื่อเข้าไปยังตัวน้ำตกถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่หลังจากที่มีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ พวกเราก็สามารถขับรถไปจอดใกล้ตัวน้ำตกได้มากขึ้น เพียงเดินจากลานจอดรถไปแค่ 1 กิโลเมตรก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว

    และนี่ก็เป็นสิ่งที่นักเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและน่ามาชมให้เห็นกับตา🥰
    เพื่อนๆท่านใดอยากให้เพจ เทพชวนเที่ยว หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดมานำเสนอ คอมเม้นไว้ได้เลย
    ทีมงานจะจัดมาให้อีก อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ กันด้วยนะจ๊ะ! ขอบคุณคร้าบ😍
    #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
    #ผาเดียวดาย
    #น้ำตกเหวสุวัต
    #น้ำตกเหวนรก
    #ทุ่งหญ้าเขาใหญ่

    5.สิ่งที่ดีที่สุด..ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย มีพื้นที่ ครอบคลุม 4 จังหวัด ประกอบด้วย สระบุรี นครราชสีมา ปราจีนบุรี และนครนายก เป็นพื้นที่ผืนใหญ่ตั้งอยู่ในเทือกเขาพนมดงรัก ในส่วนหนึ่งของดงพญาเย็นหรือดงพญาไฟในอดีต ประกอบด้วยขุนเขาน้อยใหญ่สลับซับซ้อนหลายลูก เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่สำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำนครนายก และแม่น้ำมูล มีความหลากหลายทางชีวภาพ และเป็นบ้านหลังใหญ่ของสิ่งมีชีวิตที่สำคัญ หายาก และใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด รวมถึงนกมากกว่า 280 ชนิด จึงทำให้เป็นที่นิยมของนักดูนกจากทั่วโลก นอกจากจะเป็นแหล่งธรรมชาติที่สำคัญของไทย ยังมีความสำคัญในระดับภูมิภาคอาเซียนและระดับโลก คือ อุทยานมรดกแห่งอาเซียน (ASEAN Heritage Park) และ มรดกโลกทางธรรมชาติ (World Heritage Site) และที่สำคัญยิ่งใกล้ช่วงสิ้นปี หรือประมาณปลายฝนต้นหนาว หรือช่วงเดือนปลายเดือนกันยายนเป็นต้นไป จะเป็นฤดูการท่องเที่ยว ของบรรดาผู้ที่หลงไหลในการเดินป่า และธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ของ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แห่งนี้นี่เอง.😊 วันนี้เพจเทพชวนเที่ยว จึงขอยก 5. สิ่งที่ดีที่สุด ในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาให้รับชมกันจ้า 1.ได้สัมผัสธรรมชาติและสัตว์ป่าตามธรรมชาติ ที่ไม่ใช่สวนสัตว์อย่างใกล้ชิด🥰 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เป็นพื้นที่อนุรักษ์ที่มีสัตว์ป่าชุกชุมมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นแหล่งอาหารที่เหมาะสมกับสัตว์ป่าหลายชนิดสัตว์ที่พบเห็นได้บ่อยและเป็นที่ดึงดูดใจผู้มาเยือน ได้แก่ ช้างป่า กระทิง หมาใน เก้ง กวางป่า ชะนี นกเงือก และลิงกัง 2.น้ำตกเหวสุวัติ น้ำตกสวยงาม ชุ่มช่ำหัวใจ😘 ยิ่งช่วงนี้ฝนตก น้ำตกยิ่งสวยงาม น้ำตกเหวสุวัต อยู่ที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ น้ำตกเหวสุวัตที่มาของชื่อเหวสุวัตินั้น ถูกเล่าต่อ ๆ กันมาว่า มีโจรคนหนึ่ง ชื่อสุวัติ หนีอาญาบ้านเมืองมาที่น้ำตกแห่งนี้ และเมื่อจนมุมต่อเจ้าหน้าที่ ก็ตัดสินจบชีวิตตัวเองลงที่น้ำตกแห่งนี้ 3.เสน่ห์อีกอย่างของการมาเที่ยวเขาใหญ่ คือการได้เข้าไปเยือนจุดชมวิวบนหน้าผาที่สวยที่สุดบนเขาใหญ่ นั่นคือ "ผาเดียวดาย" นั่นเองครับ ยิ่งถ้าคุณขึ้นมานอนค้างอ้างแรมที่จุดกางเต็นท์บนเขาใหญ่ล่ะก็ เท่ากับว่าจะได้โอกาสขึ้นไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผาเดียวดายด้วย ตำนาน เรื่องเล่าของผาเดียวดาย เล่าเรื่องของผาเดียวดายสักนิด ที่มาของชื่อผานั้นมีอยู่ว่า นานมาแล้วมีหญิงสาวคนหนึ่งรักใคร่ชอบพอกับชายหนุ่มหน้าตาดีมีฐานะ แต่เนื่องจากทางบ้านของฝ่ายชายไม่ยอมรับเธอ ทั้งคู่จึงต้องแอบคบหากัน กระทั่งวันหนึ่งฝ่ายหญิงเกิดตั้งครรภ์ขึ้นมา เลยคิดจะหนีไปด้วยกันโดยตกลงจะมาพบกันที่ปลายผาที่ซึ่งทั้งสองนัดพบกันบ่อยๆ แต่พอถึงวันนัดชายหนุ่มกลับไม่มา เธอจึงท้อแท้ในชีวิตรัก สุดท้ายจึงกระโดดลงสู่ก้นเหวนั่นเอง😢 4.ทุ่งหญ้าที่เขาใหญ่ ป็นหนึ่งในที่เที่ยวที่ตั้งอยู่ภายในอุยานแห่งชาติเขาใหญ่ อยู่ตรงบริเวณหอดูสัตว์หนองผักชี และเป็นไฮไลต์ของที่นี่ ถือว่าเป็นจุดพักผ่อนชมวิวมุมสูง พร้อมทุ่งหญ้าสะวันนาไกลสุดตา ก่อนหน้านี้มี ปรากฏการณ์ “ทุ่งหญ้าฟีเวอร์” ทำเขาใหญ่แทบแตก หลังนักท่องเที่ยวแห่เช็กอินแน่น ขณะที่นักท่องเที่ยวไร้สำนึกจำนวนหนึ่งไม่สนกฎระเบียบ ลงไปเดินใน “โป่งสัตว์” ทั้งที่มีป้ายห้าม จนเกิดเป็นดราม่าให้คอมเม้นต์กันสนั่นบนโลกโซเชียล ถือเป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตในช่วงต้นฤดูฝนของบ้านเรา สำหรับวิวทิวทัศน์ของ “ทุ่งหญ้าเขาใหญ่” หรือ “ทุ่งหญ้าคาที่เขาใหญ่” ซึ่งหลังสายฝนโปรยสายท้องทุ่งหญ้ากว้างใหญ่หลาย ๆ จุดในพื้นที่ “อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่” จะเติบโตเขียวขจี ก่อนจะออกดอกสีขาวโพลน ยามต้องสายลมจะโบกพลิ้วไสวดูโรแมนติก ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางไปถ่ายรูปจุดเช็กอินกันเป็นจำนวนมาก 5. น้ำตกเหวนรก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝั่งจังหวัดนครนายก จากความสูงในแต่ละชั้นที่ไม่ต่ำกว่า 50 เมตรนั้น ก็พอจะดูออกว่าความสูงโดยรวมของน้ำตกแห่งนี้จะต้องไม่ต่ำกว่า 150 เมตรอย่างแน่นอน ส่วนที่มาของชื่อ น้ำตกเหวนรก มาจากลักษณะของมวลน้ำมหาศาลที่ตกลงมาจากผาสูงปรี๊ด ซ่อนตัวอยู่ในหุบเหว ดูลึกลับซับซ้อน และหวาดเสียวในเวลาเดียวกัน แต่ก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้ผู้คนอยากเข้าไปชมความงามของน้ำตกแห่ง การเดินทางเพื่อเข้าไปชม น้ำตกเหวนรก ในปัจจุบันนั้นสะดวกขึ้นมาก เพราะถ้าเป็นสมัยก่อน ทุกคนจะต้องใช้เวลาเดินเท้าเพื่อเข้าไปยังตัวน้ำตกถึง 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว แต่หลังจากที่มีการตัดถนนสายปราจีนบุรี-เขาใหญ่ พวกเราก็สามารถขับรถไปจอดใกล้ตัวน้ำตกได้มากขึ้น เพียงเดินจากลานจอดรถไปแค่ 1 กิโลเมตรก็ถึงตัวน้ำตกแล้ว และนี่ก็เป็นสิ่งที่นักเที่ยวพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นสิ่งที่ดีที่สุดและน่ามาชมให้เห็นกับตา🥰 เพื่อนๆท่านใดอยากให้เพจ เทพชวนเที่ยว หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวที่ใดมานำเสนอ คอมเม้นไว้ได้เลย ทีมงานจะจัดมาให้อีก อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ กันด้วยนะจ๊ะ! ขอบคุณคร้าบ😍 #อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ #ผาเดียวดาย #น้ำตกเหวสุวัต #น้ำตกเหวนรก #ทุ่งหญ้าเขาใหญ่
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 636 มุมมอง 0 รีวิว
  • แปลกแต่จริง ชื่อเกาะสุรินทร์ แต่อยู่ จ.พังงา ที่สุดแห่งป่าปะการังและวิถีชาวเล

    ครั้งพระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต (นามเดิมนกยูง วิเศษกุล) เป็นผู้ค้นพบเกาะและตั้งชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อครั้งที่ท่านมาสำรวจ ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2514 กรมป่าไม้จึงได้ประกาศให้พื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันและอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 88,282 ไร่ หรือ 141.25 ตารางกิโลเมตร 🥰

    ความเป็นมา🤠
    กรมป่าไม้ได้ประกาศป่าหมู่เกาะสุรินทร์ ท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อ 30 ธันวาคม 2514 ต่อมาคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2519 เห็นชอบในหลักการที่จะกำหนดให้หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งกรมป่าไม้ได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งว่า หมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในเขตสัมปทานปิโตรเลี่ยม แปลงที่ ตก. 9 W1 ของบริษัท WEEKS PETROLEUM จึงขอให้ระงับการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไว้ก่อน และบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ยังเคยถูกเสนอให้ใช้เป็นค่ายญวนอพยพ แต่เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและในทะเล ประกอบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เหมาะที่จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้ในด้านธรรมชาติ กรมป่าไม้จึงได้คัดค้านไม่เห็นด้วย
    กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการสำรวจบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า มีทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม มีปะการัง สภาพป่าที่สมบูรณ์ หาดทรายขาวสะอาด และนกนานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 เห็นสมควรกำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ เล่ม 98 ตอนที่ 112 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 30 ของประเทศไทย และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โดยผนวกกองหินริเชลิว ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนที่ 31ก ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2550
    อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน และอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า หมู่เกาะสุรินทร์ ห่างจากชายฝั่งทะเลบริเวณท่าเรือคุระบุรี ประมาณ 60 กิโลเมตร หมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบ ด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี(เกาะสต๊อร์ค) เกาะไข่(เกาะตอรินลา) และเกาะกลาง(เกาะปาจุมบา) หมู่เกาะสุรินทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 135 ตารางกิโลเมตร

    หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามใต้ทะเล ไม่ว่าจะเป็นปะการังนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีปลาทะเลที่สวยงามมากมาย นอกจากนี้ หมู่เกาะสุรินทร์ ยังมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อย่างมาก

    โดยมากประกอบด้วย ป่าใหญ่ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบที่ขึ้นอยู่ทั่วเขา ประเภทที่ 2 คือ ป่าชายหาด ประเภทที่ 3 คือ ป่าชายเลน
    หมู่เกาะสุรินทร์ มีสภาพที่กำบังคลื่นลมทั้งสองฤดู เนื่องจาก หมู่เกาะสุรินทร์ วางตัวอยู่เป็นกลุ่มและมีอ่าวขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแนวปะการังริมฝั่งอยู่รอบเกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ และเกาะบริวาร สภาพแวดล้อมทางสมุทรศาสตร์ของ หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการพัฒนาของแนวปะการัง คือ หมู่เกาะสุรินทร์ มีน้ำใส อุณหภูมิพอเหมาะ และมีการผสมผสานของน้ำที่ได้รับสารอาหารจากมวลน้ำเบื้องล่างที่ปะทะเกาะ ความอุดมสมบูรณ์ของแพลงก์ตอน บนหมู่เกาะสุรินทร์

    เกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ ตั้งอยู่ชิดกันคล้ายเกาะแฝด โดยมีพื้นน้ำตื้นๆ กว้างประมาณ 200 เมตร กั้นอยู่ ในช่วงน้ำลงสามารถข้ามไปยังอีกเกาะได้ เรียกว่า อ่าวช่องขาด ส่วนเกาะขนาดเล็กอีกสามเกาะเป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็นขึ้นอยู่ไม่หนาแน่นนัก พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น เป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย

    หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสถานที่ดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดก็ว่าได้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมมากมาย ใครที่แวะกันมาที่ หมู่เกาะสุรินทร์ จะต้องมีกลับมารอบสองแน่นอน

    #อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ #เทพชวนเที่ยว
    แปลกแต่จริง ชื่อเกาะสุรินทร์ แต่อยู่ จ.พังงา ที่สุดแห่งป่าปะการังและวิถีชาวเล ครั้งพระยาสุรินทราชา เทศาเมืองภูเก็ต (นามเดิมนกยูง วิเศษกุล) เป็นผู้ค้นพบเกาะและตั้งชื่อ หมู่เกาะสุรินทร์ เมื่อครั้งที่ท่านมาสำรวจ ทะเลฝั่งอันดามัน ที่ ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา จนกระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2514 กรมป่าไม้จึงได้ประกาศให้พื้นที่หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นป่าสงวนแห่งชาติ อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามันและอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า ห่างจากฝั่งทะเลด้านตะวันตกของไทยประมาณ 70 กิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี เกาะไข่ และเกาะกลาง อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 88,282 ไร่ หรือ 141.25 ตารางกิโลเมตร 🥰 ความเป็นมา🤠 กรมป่าไม้ได้ประกาศป่าหมู่เกาะสุรินทร์ ท้องที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นป่าสงวนแห่งชาติเมื่อ 30 ธันวาคม 2514 ต่อมาคณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าได้มีมติในที่ประชุมครั้งที่ 1/2519 เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2519 เห็นชอบในหลักการที่จะกำหนดให้หมู่เกาะสุรินทร์เป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ซึ่งกรมป่าไม้ได้ติดต่อประสานงานไปยังกรมทรัพยากรธรณี ได้รับแจ้งว่า หมู่เกาะสุรินทร์อยู่ในเขตสัมปทานปิโตรเลี่ยม แปลงที่ ตก. 9 W1 ของบริษัท WEEKS PETROLEUM จึงขอให้ระงับการประกาศเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าไว้ก่อน และบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ยังเคยถูกเสนอให้ใช้เป็นค่ายญวนอพยพ แต่เนื่องจากความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรทั้งบนบกและในทะเล ประกอบกับทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม เหมาะที่จะจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและศึกษาหาความรู้ในด้านธรรมชาติ กรมป่าไม้จึงได้คัดค้านไม่เห็นด้วย กองอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ ได้ดำเนินการสำรวจบริเวณหมู่เกาะสุรินทร์อีกครั้งหนึ่ง ปรากฏว่า มีทิวทัศน์ทางทะเลที่สวยงาม มีปะการัง สภาพป่าที่สมบูรณ์ หาดทรายขาวสะอาด และนกนานาชนิด กรมป่าไม้จึงได้เสนอคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติซึ่งได้มีมติในคราวประชุมครั้งที่ 2/2523 เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2523 เห็นสมควรกำหนดบริเวณดังกล่าวเป็นอุทยานแห่งชาติทางทะเล โดยได้มีพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินหมู่เกาะสุรินทร์ ในท้องที่ตำบลเกาะพระทอง อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา เป็นอุทยานแห่งชาติซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับพิเศษ เล่ม 98 ตอนที่ 112 ลงวันที่ 9 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 30 ของประเทศไทย และต่อมาได้มีพระราชกฤษฎีกาขยายเขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ โดยผนวกกองหินริเชลิว ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 124 ตอนที่ 31ก ลงวันที่ 6 กรกฎาคม 2550 อุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะสุรินทร์ ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอคุระบุรี จังหวัดพังงา หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นหมู่เกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลอันดามัน และอยู่ติดชายแดนประเทศพม่า หมู่เกาะสุรินทร์ ห่างจากชายฝั่งทะเลบริเวณท่าเรือคุระบุรี ประมาณ 60 กิโลเมตร หมู่เกาะสุรินทร์ ประกอบ ด้วยเกาะ 5 เกาะ คือ เกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ เกาะรี(เกาะสต๊อร์ค) เกาะไข่(เกาะตอรินลา) และเกาะกลาง(เกาะปาจุมบา) หมู่เกาะสุรินทร์ มีเนื้อที่ประมาณ 135 ตารางกิโลเมตร หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่โดดเด่นในเรื่องของความสวยงามใต้ทะเล ไม่ว่าจะเป็นปะการังนานาชนิด นอกจากนี้ยังมีปลาทะเลที่สวยงามมากมาย นอกจากนี้ หมู่เกาะสุรินทร์ ยังมีทรัพยากรป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์อย่างมาก โดยมากประกอบด้วย ป่าใหญ่ 3 ประเภท คือ ป่าดงดิบที่ขึ้นอยู่ทั่วเขา ประเภทที่ 2 คือ ป่าชายหาด ประเภทที่ 3 คือ ป่าชายเลน หมู่เกาะสุรินทร์ มีสภาพที่กำบังคลื่นลมทั้งสองฤดู เนื่องจาก หมู่เกาะสุรินทร์ วางตัวอยู่เป็นกลุ่มและมีอ่าวขนาดใหญ่ ทำให้เกิดแนวปะการังริมฝั่งอยู่รอบเกาะสุรินทร์เหนือ เกาะสุรินทร์ใต้ และเกาะบริวาร สภาพแวดล้อมทางสมุทรศาสตร์ของ หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะต่อการพัฒนาของแนวปะการัง คือ หมู่เกาะสุรินทร์ มีน้ำใส อุณหภูมิพอเหมาะ และมีการผสมผสานของน้ำที่ได้รับสารอาหารจากมวลน้ำเบื้องล่างที่ปะทะเกาะ ความอุดมสมบูรณ์ของแพลงก์ตอน บนหมู่เกาะสุรินทร์ เกาะสุรินทร์เหนือ และเกาะสุรินทร์ใต้ ตั้งอยู่ชิดกันคล้ายเกาะแฝด โดยมีพื้นน้ำตื้นๆ กว้างประมาณ 200 เมตร กั้นอยู่ ในช่วงน้ำลงสามารถข้ามไปยังอีกเกาะได้ เรียกว่า อ่าวช่องขาด ส่วนเกาะขนาดเล็กอีกสามเกาะเป็นเกาะหินที่มีต้นไม้แคระแกร็นขึ้นอยู่ไม่หนาแน่นนัก พืชพรรณที่พบเป็นพืชป่าดิบชื้น เป็นแหล่งกำเนิดของแนวปะการังน้ำตื้นขนาดใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย หมู่เกาะสุรินทร์ เป็นสถานที่ดำน้ำตื้นที่สวยที่สุดก็ว่าได้ ดึงดูดนักท่องเที่ยวมาชมมากมาย ใครที่แวะกันมาที่ หมู่เกาะสุรินทร์ จะต้องมีกลับมารอบสองแน่นอน #อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์ #เทพชวนเที่ยว
    Like
    Love
    3
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 439 มุมมอง 0 รีวิว
  • #saveทับลานสำเร็จ
    พี่คิงส์โพธิ์แดง ขอขอบคุณทุกเสียงจากพี่น้องชาวไทย
    ผู้รักษ์ผืนป่า และผืนแผ่นดินไทย
    ผลความคิดเห็นของประชาชน เรื่องปรับปรุงแนวเขต
    อุทยานแห่งชาติทับลาน ผลออกมาแล้ว
    มีผู้ลงคะแนนทั้งหมด 639,016 คน
    ผลเฉือนกันไม่มาก แต่ผู้ปกป้องผืนป่าชนะ
    โดย มีผู้เห็นด้วยกับการเฉือนผืนป่า
    25,509 คน
    (สองหมื่นห้าพันห้าร้อยเก้าคน)
    เสียงผู้ไม่เห็นด้วยกับการเฉือนผืนป่าเพียง
    613,507 คน
    (หกแสนหนึ่งหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดคน)
    หายใจรดต้นคอจริงๆ
    เป็นบทเรียนครั้งสำคัญให้นักการเมือง นายทุนที่ตั้งใจเฉือนผืนป่า
    เพื่อทุนจีนเทา ต้องไตร่ตรองให้ดี
    เพราะแค่หกแสนกว่าคน ก็ล้านสองกว่าทรีน เท่านั้นเอง
    #saveทับลาน
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #saveทับลานสำเร็จ พี่คิงส์โพธิ์แดง ขอขอบคุณทุกเสียงจากพี่น้องชาวไทย ผู้รักษ์ผืนป่า และผืนแผ่นดินไทย ผลความคิดเห็นของประชาชน เรื่องปรับปรุงแนวเขต อุทยานแห่งชาติทับลาน ผลออกมาแล้ว มีผู้ลงคะแนนทั้งหมด 639,016 คน ผลเฉือนกันไม่มาก แต่ผู้ปกป้องผืนป่าชนะ โดย มีผู้เห็นด้วยกับการเฉือนผืนป่า 25,509 คน (สองหมื่นห้าพันห้าร้อยเก้าคน) เสียงผู้ไม่เห็นด้วยกับการเฉือนผืนป่าเพียง 613,507 คน (หกแสนหนึ่งหมื่นสามพันห้าร้อยเจ็ดคน) หายใจรดต้นคอจริงๆ เป็นบทเรียนครั้งสำคัญให้นักการเมือง นายทุนที่ตั้งใจเฉือนผืนป่า เพื่อทุนจีนเทา ต้องไตร่ตรองให้ดี เพราะแค่หกแสนกว่าคน ก็ล้านสองกว่าทรีน เท่านั้นเอง #saveทับลาน #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 367 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts