• รอง ผบช.น. แถลงจับกุมเครือข่าย “หมอบุญ” ได้แล้ว 6 ราย ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน สร้าง 5 โปรเจกต์หลอกชวนเหยื่อ 247 ราย ร่วมลงทุน เสียหายกว่า 7.5 พันล้านบาท เผย "หมอบุญ" โอนที่ดิน 21 แปลงให้คนในครอบครัวหมดแล้ว รถ 19 คันหายไป ก่อนหลบหนีไปฮ่องกงตั้งแต่ 29 ก.ย.ล่าสุดหนีเข้าจีน เตรียมประสานตำรวจสากลล่าตัว

    วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม เครือข่ายนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ อายุ 86 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67

    ทั้งนี้ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น และพวกอีก 8 รายประกอบด้วย

    1. น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา 3.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ 4.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และนางจารุวรรณ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ 5.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน 6.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน 7.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี เป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน และ 8.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี เป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน โดยทั้ง 8 ราย ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000112706

    #MGROnline #หมอบุญ #ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน #ร่วมลงทุน
    รอง ผบช.น. แถลงจับกุมเครือข่าย “หมอบุญ” ได้แล้ว 6 ราย ฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน สร้าง 5 โปรเจกต์หลอกชวนเหยื่อ 247 ราย ร่วมลงทุน เสียหายกว่า 7.5 พันล้านบาท เผย "หมอบุญ" โอนที่ดิน 21 แปลงให้คนในครอบครัวหมดแล้ว รถ 19 คันหายไป ก่อนหลบหนีไปฮ่องกงตั้งแต่ 29 ก.ย.ล่าสุดหนีเข้าจีน เตรียมประสานตำรวจสากลล่าตัว • วันนี้ (23 พ.ย.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ พ.ต.อ.ศักยะ แสงวรรณ รอง ผบก.น.1 ร่วมกันแถลงผลการจับกุม เครือข่ายนายแพทย์บุญ วนาสิน หรือ หมอบุญ อายุ 86 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย. 67 • ทั้งนี้ ข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น และพวกอีก 8 รายประกอบด้วย • 1. น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา 3.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของนายแพทย์บุญ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ 4.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และนางจารุวรรณ เป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ 5.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน 6.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน 7.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี เป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน และ 8.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี เป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน โดยทั้ง 8 ราย ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000112706 • #MGROnline #หมอบุญ #ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน #ร่วมลงทุน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 314 มุมมอง 0 รีวิว
  • จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    จากกรณีที่เมื่อวันจันทร์ที่ 18 พ.ย. ที่ผ่านมา นายสนธิ ลิ้มทองกุล ได้ออกรายการสนธิเล่าเรื่อง เพื่อเปิดโปงพฤติกรรมของ นายแพทย์บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้เพื่อกู้เงินผ่านเอเย่นต์ จนได้รับความเสียหายกว่า 8,000 ล้านบาท รวมถึงมีการตั้งข้อสังเกตว่า น่าจะมีผู้เสียหายที่ถูกนายแพทย์คนดัง ฉ้อโกงฯ เงิน ผ่านกลโกงการทำธุรกรรม ชักชวนลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์อีกหลายราย จนอาจทำให้เกิดความเสียหายในวงกว้างนับหมื่นล้าน กระทั่งมีรายงานด้วยว่าขณะนี้ นายแพทย์บุญ วนาสิน น่าจะหลบหนีคดีไปยังต่างประเทศแล้ว.ความคืบหน้าเมื่อเวลา 21.00 น.วันที่ 22 พ.ย. พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 และ คณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ตามคำสั่ง บก.น.1 ที่ 285/2567 ลงวันที่ 11 พ.ย.67 ไปขออนุมัติหมายจับจากศาลอาญา จนสามารถนำมาสู่การออกหมายจับ นายแพทย์บุญ วนาสิน รวมถึงผู้ต้องหาที่ร่วมขบวนการ และมีพฤติการณ์ เกี่ยวข้องกับคดีนี้ ได้ 9 คน ได้แก่.1.นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5645/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ, สมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงินและได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินเพราะเหตุที่ได้มีการสมคบกัน และร่วมกันฟอกเงิน, ออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็ค และธนาคารปฏิเสธไม่ให้ใช้เงินตามเช็คนั้น.2.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี เลขาส่วนตัว นายแพทย์บุญ ซี่งเป็นผู้จัดการเรื่องการเงิน และการบัญชีสัญญากู้เงินทั้งหมด ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5646/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.3.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี ซึ่งเป็นผู้จัดการเกี่ยวกับเอกสาร สัญญาต่างๆ และจัดการด้านการเงิน ตามคำสั่ง น.ส.จิดาภา อาทิ การจ่ายเงินให้กับผู้เสียหาย เป็นผู้จ่ายเช็ค พร้อมทั้งติดต่อตัวแทนต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5647/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.4.นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค เป็นผู้ถือหุ้น THG ซึ่งนำมาค้ำประกันในสัญญากู้ต่างๆ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5648/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.5.น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ และ นางจารุวรรณ ซึ่งเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นผู้ค้ำประกันในสัญญาต่างๆ และ เป็นผู้ลงลายมือชื่ออาวัลในเช็ค ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5649/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.6.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด เป็นผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน และมอบหมายให้คนนำสัญญากู้ยืม ทำสัญญาค้ำประกัน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5650/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.7.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ บริษัทหลักทรัพย์ คิงฟอร์ด ร่วมกับนางอัจจิมา เป็นผู้ประสานงานให้คำปรึกษา ชักชวนลงทุน ผู้ชักชวนให้ร่วมลงทุน ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5651/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.8.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี ซึ่งเป็นนายหน้า และผู้ชักชวนแนะนำการลงทุน เป็นผู้จัดทำเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ยืมเงิน สัญญาค้ำประกัน หนังสือส่งมอบเช็ค สัญญาซื้อและขายหุ้นคืนและหนังสือชำระหนี้ ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5652/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.9.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นตัวแทนติดต่อชักชวนผู้เสียหาย เป็นผู้จัดทำสัญญา ลงลายมือชื่อเป็นพยานในสัญญากู้ สัญญาค้ำประกัน และเป็นผู้นำสัญญามามอบให้ผู้เสียหาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 5653/2567 ลงวันที่ 22 พ.ย.67 ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ ร่วมกันให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน.การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เนื่องจากก่อนหน้านี้ ในห้วงวันที่ 2-4 ก.พ.66 นายแพทย์บุญ ได้สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง โดยออกสื่อสารธารณะแพร่ข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์สาธารณะ โดยกล่าวอ้างการลงทุนที่น่าสนใจ จำนวน 5 โครงการ ได้แก่ .1.โครงการสร้างศูนย์มะเร็ง ย่านปิ่นเกล้า พื้นที่ 7 ไร่ งบลงทุน 4,๐๐๐ ล้านบาท (ทันสมัยที่สุดในเอเชีย) 2.โครงการเวสเนสเซ็นเตอร์ ย่านพระราม 3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ 5 ไร่เศษ งบลงทุนประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท (อาคารที่พักสูง 52 ชั้น รองรับผู้สูงวัย 400 ห้อง).3.โครงการสร้างโรงพยาบาลใน สปป.ลาว จำนวน 3 แห่ง (ในเวียงจันทร์ 2 แห่ง, จำปาสัก 1 แห่ง) 4.โครงการเข้าร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลในเวียดนาม โดยใช้งบลงทุน ประมาณ 4,๐๐๐ – 5,๐๐๐ ล้านบาท และ 5.โครงการสร้างเมดิคอล อินเทลลิเจน (Medical Intelligen) ซึ่งทำหน้าที่ด้านไอที ใช้งบประมาณ 1๐๐ ล้านบาท โดยหากมีการร่วมลงทุน ในปี 66 อ้างว่าจะได้กำไร 7๐๐ ล้านบาท และในปี 67 อ้างว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นเป็น  1,000 ล้านบาท.จากนั้นจึงมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจชั้นนำระดับประเทศ และบุคลากรวงการแพทย์ หลายร้อยราย หลงเชื่อเพราะ นายแพทย์บุญ และครอบครัว มีบริษัทหลักทรัพย์ที่จดทะเบียนอย่างถูกต้องกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหลายแห่ง จึงเข้าร่วมลงทุน ผ่านการติดต่อจากตัวแทน (โบรกเกอร์) บริษัทหลักทรัพย์ เป็นตัวแทนการระดมเงินลงทุน ให้นายแพทย์บุญ และครอบครัว.ตลอดจนการลงทุนในลักษณะโครงการที่เสนอให้ลงทุนในรูปแบบที่ นายแพทย์บุญ ทำสัญญากู้ยืมเงินโดยให้ดอกเบี้ยกับผู้เสียหาย และได้จ่ายเช็คให้ผู้เสียหายเพื่อชำระหนี้เงินกู้ พร้อมทั้งเช็คเพื่อชำระค่าดอกเบี้ยล่วงหน้า ในชื่อนายแพทย์บุญ วนาสิน พร้อมทั้งมี นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน บุคคลในครอบครัวเป็น ผู้ค้ำประกันตามสัญญา.นอกจากนี้ นางจารุวรรณ วนาสิน และนางณวรา วนาสิน ทั้งสองคนยังเซ็นต์สลักหลังในเช็คทุกใบของนายแพทย์บุญ วนาสิน มอบให้แก่ผู้ให้กู้ โดยในช่วงแรกมีการให้ดอกเบี้ย แต่ต่อมาไม่มีการชำระแต่อย่างใด ในส่วนเช็คที่ออกไว้ เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินตามวันเวลาที่สั่งจ่าย ปรากฎว่าธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน จนกระทั่งต่อมาจากการตรวจสอบพบว่า นายแพทย์บุญ ได้เดินทางออกไปจากประเทศไทย ในวันที่ 29 ก.ย.67 เวลา 14.25 น. โดยสายการบินคาร์เธฯออกไปประเทศจีน โดยมีพฤติการณ์หลบหนี.ซึ่งในกรณี ตั้งแต่ช่วงเดือน ธ.ค.66 – ต.ค.67 มีกลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2534 แล้วจำนวน 527 ราย รวมมูลค่าความเสียหาย กว่า 7,564,433,637 บาท (เจ็ดพันห้าร้อยหกสิบสี่ล้านสี่แสนสามหมื่นสามพันหกร้อยสามสิบเจ็ดบาท) โดยในทันทีที่ศาลอนุมติหมายจับ ผู้ต้องหาทั้ง 9 ราย เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบัญชาการตำรวจนครบาล และ กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 จึงได้เร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหา เอาไว้ได้แล้ว จำนวน 6 ราย  คือ.1.น.ส.จิดาภา พุ่มพุฒ อายุ 53 ปี 2.น.ส.ศิวิมล จาดเมือง อายุ 38 ปี 3.นางอัจจิมา พาณิชเกรียงไกร อายุ 49 ปี 4.นายภาคย์ วัฒนาพร อายุ 36 ปี 5.นางภัทรานิษฐ์ ณ สงขลา อายุ 55 ปี และ 6.นายธนภูมิ ชนประเสริฐ อายุ 36 ปี ยังเหลือที่ยังหลบหนีไปได้อีก 3 ราย คือ นายแพทย์บุญ วนาสิน อายุ 86 ปี นางจารุวรรณ วนาสิน อายุ 79 ปี ภรรยาของ นายแพทย์บุญ และ น.ส.นลิน วนาสิน อายุ 51 ปี บุตรสาวของนายแพทย์บุญ กับ นางจารุวรรณ ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งกองบัญชาการตำรวจนครบาลเห็นควรอนุมัติให้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีดังกล่าวนี้ไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ DSI เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามอำนาจหน้าที่ โดยจะแถลงความคืบหน้าให้ทราบอย่างเป็นทางการต่อไป (จบ 3/3)......Sondhi X
    Like
    Yay
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • "เอก สายไหมต้องรอด" มอบตัว หลังศาลออกหมายจับ โพสต์ข้อมูลเท็จคดีดิไอคอนฯ
    .
    "เอกภพ เหลืองประเสริฐ" ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้ามอบตัวกับตำรวจ บก.ปอท. หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อมูลเท็จเงินดิจิตอล ที่เกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ป
    .
    วันนี้ (22 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอก สายไหมต้องรอด นักการเมืองเขตสายไหม กรุงเทพฯ และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อมูลเท็จในระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเงินดิจิตอล ที่เกี่ยวข้องกับคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และศาลได้อนุมัติหมายจับในเวลาต่อมา
    .
    ทันทีที่มีการออกหมายจับ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางนายเอกภพ เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบเรื่องหมายจับ และขณะนี้กำลังเดินทางมาเพื่อให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำเชิญในเวลา 15.00 น.
    .
    ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า คดีนายเอกภพนั้น ทางชุดสืบสวนมีการนัดนายเอกภพมาให้ถ้อยคำในวันนี้ ช่วงเวลา 15.00 น. เนื่องจากชุดสืบสวนยังต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเรียกนายเอกภพมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 พ.ย. และวันอังคารที่ 19 พ.ย. ผ่านมา แต่นายเอกภพอ้างว่าติดธุระ เดี๋ยวจะมาพร้อมกับทนายความ ซึ่งกรณีนายเอกภพก็จะเข้าข่ายความผิดเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
    .
    ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. นายเอกภพได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ บก.ปอท.แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวผู้ต้องหาเข้ามายัง บก.ปอท. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    "เอก สายไหมต้องรอด" มอบตัว หลังศาลออกหมายจับ โพสต์ข้อมูลเท็จคดีดิไอคอนฯ . "เอกภพ เหลืองประเสริฐ" ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เข้ามอบตัวกับตำรวจ บก.ปอท. หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ข้อหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อมูลเท็จเงินดิจิตอล ที่เกี่ยวข้องกับคดีดิไอคอนกรุ๊ป . วันนี้ (22 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ได้ขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอก สายไหมต้องรอด นักการเมืองเขตสายไหม กรุงเทพฯ และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ในความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์ข้อมูลเท็จในระบบคอมพิวเตอร์เกี่ยวกับเงินดิจิตอล ที่เกี่ยวข้องกับคดีบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด และศาลได้อนุมัติหมายจับในเวลาต่อมา . ทันทีที่มีการออกหมายจับ ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปทางนายเอกภพ เจ้าตัวได้เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบเรื่องหมายจับ และขณะนี้กำลังเดินทางมาเพื่อให้ถ้อยคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตามคำเชิญในเวลา 15.00 น. . ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า คดีนายเอกภพนั้น ทางชุดสืบสวนมีการนัดนายเอกภพมาให้ถ้อยคำในวันนี้ ช่วงเวลา 15.00 น. เนื่องจากชุดสืบสวนยังต้องแสวงหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอยู่ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่พยายามที่จะเรียกนายเอกภพมาตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 พ.ย. และวันอังคารที่ 19 พ.ย. ผ่านมา แต่นายเอกภพอ้างว่าติดธุระ เดี๋ยวจะมาพร้อมกับทนายความ ซึ่งกรณีนายเอกภพก็จะเข้าข่ายความผิดเรื่อง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ . ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. นายเอกภพได้เข้ามอบตัวกับตำรวจ บก.ปอท.แล้ว เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังนำตัวผู้ต้องหาเข้ามายัง บก.ปอท. เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1043 มุมมอง 1 รีวิว
  • ทุกข์สัจจะมี มีนิโรธจริง มีจริงทุกสิ่ง จริงเหตุล้วนมี มรรคสัจจะ สมาธิดี ประเสริฐทางมี ดีสัจจะธรรม
    ทุกข์สัจจะมี มีนิโรธจริง มีจริงทุกสิ่ง จริงเหตุล้วนมี มรรคสัจจะ สมาธิดี ประเสริฐทางมี ดีสัจจะธรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 40 มุมมอง 0 รีวิว
  • #เรื่องหลวงพ่อฤาษีขึ้นไปบนนิพพาน #ฟังพระพุทธองค์ทรงสอนบารมี๑๐ทัศ..." วันนี้ต้องสอนบรรดาท่านพุทธบริษัท เรียกว่าเอากันเฉือนขั้นสุดท้ายเลย เรียกว่าทิ้งทวนหรือทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และพุ่งทวนเล่มใหญ่ท้ายสุดที่มีอยู่..🌸นั่นคือคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมครู ที่เรียกว่า.. บารมี ๑๐ ทัศ* วันนั้นสอนบารมี ๑๐ ทัศ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายจะมีความเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใด อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะสอนไม่ค่อยตรงเป้าหมาย..🌸 เมื่อสอนเสร็จ เวลาผ่านไปก็ดับไฟ สั่งให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพากันเจริญพระกรรมฐาน ทรงสติสัมปชัญญะ คือว่า.. ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนา หรือพิจารณาตามอัธยาศัย เพราะการภาวนาก็ดี พิจารณาก็ดี นี่ อาตมาไม่ขัดใจใคร ใครเคยทำแบบไหนคล่องมาแล้ว ให้ทำอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอะไร..🌼 เพราะว่า.. การภาวนาหรือพิจารณาที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็ไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะแบบปฏิบัติมีมากด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ จึงจะถูก ทำอย่างไรก็ตาม ถ้าปรารภจิตเป็นสมาธิระงับจากนิวรณ์ หรือปรารภจิตเป็นปฏิปักษ์กับขันธ์ ๕ ใช้ได้หมด ถ้าตรงกับแนวคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมสุคตแล้ว อาตมาไม่ปฏิเสธการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน..* เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่า.. ร่างกายไม่ดีแบบนี้ เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา.* ฉะนั้น จึงไปได้เสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้.. ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง.🌼 แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีเด่นอะไรนัก การไปได้ มาได้ ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์* นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่า.. พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขา บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน.🌸 เมื่อพบแล้ว ก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมา..🌸 พระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า : " สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม.?"🌸 ก็กราบทูลพระองค์ท่านว่า : " ใช่พระพุทธเจ้าข้า "🌸 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า : " สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร.? ”* ตอนนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ขอได้โปรดทราบว่า.. ถ้าอาตมาสอนถูก พระองค์จะไม่ตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า.. การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี..🌼 นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท การสอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตร มีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้น อาตมาก็ทราบ..🌼 จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนัก พระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่า บารมี แปลว่า เต็ม "🌼 พระพุทธองค์ จึงตรัสถามว่า : " อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่า เธอจะปฏิบัติในทานบารมี.. ทำยังไง ทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่า จะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน.. ถ้าเราไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม "🌼 แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่า ท่านที่เป็นนักปราชญ์ ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ ว่า.. อาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่ง หรือไม่แค่หางอึ่ง เพราะความโง่มันมาก..🌼 เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสแบบนั้น..🌼 ก็ทูลถามพระองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า "🌺 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้ เธอสอนท่านบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า.. คำว่า บารมี มันแปลว่า เต็ม แต่อะไรมันเต็ม ตถาคตจะบอกให้ว่า.. บารมีนี่ควรจะแปลว่า "กำลังใจเต็ม "* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า.. คำว่า บารมี ก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม..🌺 ตอนนี้ซิ ชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่า เรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก🌺 กำลังใจเต็ม ตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า..๑. ทานบารมี๒. ศีลบารมี๓. เนกขัมมบารมี๔. ปัญญาบารมี๕. วิริยบารมี๖. ขันติบารมี๗. สัจจบารมี๘. อธิษฐานบารมี๙. เมตตาบารมี๑๐. อุเบกขาบารมี* องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษีถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่องคือ..๑. จิตของเรา พร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ.๒. จิตพร้อมในการทรงศีล..🌻 นี่ซิ บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป..๓. จิตพร้อมในการทรง เนกขัมมะ เป็นปกติ..🌻 เนกขัมมะ ก็แปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น..๔. จิตพร้อมที่จะใช้ ปัญญา เป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป..๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ..๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์..๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับเรา ในด้านของการทำความดี..๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะพระนิพพาน๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตน เสมอด้วยบุคคลอื่น๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้..💎 อุเบกขาบารมี ตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า : ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า " ช่างมัน " ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกัน ใช้คำว่า " ช่างมัน " ตรงตัวดี..* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า " บารมี " เสียก่อน เพื่อที่จะให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า.. บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือ สร้างกำลังใจ ปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์.. 💎 ไม่ใช่ว่า เราจะมานั่งคิด จะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊..! บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้..* ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า.. เราจะสามารถะสร้างบารมีได้ ด้วยอาศัยกำลังใจ 💎 ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถทำมันให้ดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า.." มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา "" ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ " 💎 นี่ความจริง เรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วท่านบรรดาพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ ทำไมมันถึงลืมก็ไม่ทราบ..💎 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน คงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมี แปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้..💎 ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย..* ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการ มากล่าวในตอนนี้ ก็เพราะว่า.. ในตอนต้น พูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า.. แหม.. มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบัน มันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์..* ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ.* ศีล เราก็ตัดความโกรธ* เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ* ปัญญา ตัดความโง่* วิริยะ ตัดความขี้เกียจ* ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน* สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก* อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์* เมตตา สร้างความเยือกเย็นของจิตใจ* อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกาย เราไม่ปรารภ🌺 เท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า.. พระโสดาบัน นั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท..🌼 ทำไมจึงว่าอย่างนั้น.. ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า "พระโสดาบัน" แล้ว ท่านเรียกว่าอะไร.. ท่านเรียกว่า "พระขีณาสพ" แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า "พระอรหัตผล" เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุด เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้..🌸 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้..🌷 ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี..."( จากหนังสือ *บารมี ๑๐* โดย พระราชพรหมยานฯ หน้าที่ ๘-๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี) #ที่มานิพพานังปรมังสุขัง.
    #เรื่องหลวงพ่อฤาษีขึ้นไปบนนิพพาน #ฟังพระพุทธองค์ทรงสอนบารมี๑๐ทัศ..." วันนี้ต้องสอนบรรดาท่านพุทธบริษัท เรียกว่าเอากันเฉือนขั้นสุดท้ายเลย เรียกว่าทิ้งทวนหรือทิ้งไพ่ใบสุดท้าย และพุ่งทวนเล่มใหญ่ท้ายสุดที่มีอยู่..🌸นั่นคือคำแนะนำขององค์สมเด็จพระบรมครู ที่เรียกว่า.. บารมี ๑๐ ทัศ* วันนั้นสอนบารมี ๑๐ ทัศ แก่บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านทั้งหลายจะมีความเข้าใจหรือไม่เข้าใจเพียงใด อาตมาก็ไม่ทราบ เพราะสอนไม่ค่อยตรงเป้าหมาย..🌸 เมื่อสอนเสร็จ เวลาผ่านไปก็ดับไฟ สั่งให้บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายพากันเจริญพระกรรมฐาน ทรงสติสัมปชัญญะ คือว่า.. ตั้งกายให้ตรง ดำรงสติให้มั่น กำหนดรู้ลมหายใจเข้าออก ใช้คำภาวนา หรือพิจารณาตามอัธยาศัย เพราะการภาวนาก็ดี พิจารณาก็ดี นี่ อาตมาไม่ขัดใจใคร ใครเคยทำแบบไหนคล่องมาแล้ว ให้ทำอย่างนั้นไม่เปลี่ยนแปลง เพราะอะไร..🌼 เพราะว่า.. การภาวนาหรือพิจารณาที่ทำมาแล้ว ถ้าไม่ผิดก็ไม่ควรจะเปลี่ยน เพราะแบบปฏิบัติมีมากด้วยกัน ไม่จำเป็นว่าจะต้องทำอย่างนั้นทำอย่างนี้ จึงจะถูก ทำอย่างไรก็ตาม ถ้าปรารภจิตเป็นสมาธิระงับจากนิวรณ์ หรือปรารภจิตเป็นปฏิปักษ์กับขันธ์ ๕ ใช้ได้หมด ถ้าตรงกับแนวคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมสุคตแล้ว อาตมาไม่ปฏิเสธการปฏิบัติของบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน..* เมื่อบรรดาท่านพุทธบริษัทเริ่มปฏิบัติ อาตมาก็คิดในใจว่า.. ร่างกายไม่ดีแบบนี้ เราจะทนมันอยู่ทำไม ไปเสียจากร่างกายดีกว่า ปล่อยให้มันนั่งอยู่ตรงนี้ พอสัญญาณบอกเวลาปรากฏเราจึงจะกลับมา.* ฉะนั้น จึงไปได้เสียจากกาย ไปไหว้พระ จะไปแบบไหนอันนี้บรรดาท่านพุทธบริษัท อาตมาไม่บอก บอกไม่ได้.. ไปอย่างไร ไปโดยวิธีไหน อยากรู้ก็ปฏิบัติกันเอาเอง.🌼 แต่ความจริงมันก็ไม่ใช่ของดีเด่นอะไรนัก การไปได้ มาได้ ถ้าใจเหลิงเกินไปก็ลงนรกได้ ไม่ใช่ของพิเศษ เมื่อออกไปแล้วก็พบองค์สมเด็จพระบรมโลกเชษฐ์* นี่ขวางกับชาวบ้านเขาแล้ว เขาบอกว่า.. พระพุทธเจ้านิพพานไปแล้ว จะพบได้ยังไง นั่นมันเรื่องของเขา บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย นี่มันเรื่องของอาตมา อาตมาพบกันได้ก็แล้วกัน.🌸 เมื่อพบแล้ว ก็เข้าไปนมัสการองค์สมเด็จพระประทีปแก้ว พอเงยหน้าขึ้นมา..🌸 พระองค์ก็ทรงตรัสถามว่า : " สัมพเกษี วันนี้เธอสอนบารมี ๑๐ ทัศใช่ไหม.?"🌸 ก็กราบทูลพระองค์ท่านว่า : " ใช่พระพุทธเจ้าข้า "🌸 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสถามว่า : " สัมพเกษี บารมีแปลว่าอะไร.? ”* ตอนนี้ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ขอได้โปรดทราบว่า.. ถ้าอาตมาสอนถูก พระองค์จะไม่ตรัสแบบนั้น อาตมารู้ทันรู้เท่าเข้าใจทันทีว่า.. การสอนวันนี้ผิดพุทธพจน์บทพระบาลี..🌼 นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท การสอนนี้ ไม่ใช่ว่ามันจะถูกเสมอไป มันก็ผิดได้เหมือนกัน เมื่อองค์สมเด็จพระจอมไตร มีพระพุทธฎีกาตรัสถามแบบนั้น อาตมาก็ทราบ..🌼 จึงได้กราบทูลพระพุทธองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้าไม่แน่ใจนัก พระพุทธเจ้าข้า แต่ที่เรียนกันมา ครูสอนว่า บารมี แปลว่า เต็ม "🌼 พระพุทธองค์ จึงตรัสถามว่า : " อะไรมันเต็ม และมันเต็มแบบไหน สมมุติว่า เธอจะปฏิบัติในทานบารมี.. ทำยังไง ทานบารมีมันถึงจะเต็ม ถ้าหากว่า จะนำของมาให้เต็มโลก เธอจะไปขนมาจากไหน.. ถ้าเราไม่นำของมาให้ ทำยังไงทานบารมีมันจึงจะเต็ม "🌼 แบบนี้มันก็อยู่ด้วยกันทั้งนั้นแหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้าคนอย่างอาตมา ถ้าหากว่า ท่านที่เป็นนักปราชญ์ ดีกว่าอาตมาก็ไม่เป็นไร ท่านไปได้ เพราะท่านมีความเข้าใจ ท่านมีความฉลาด อาตมาบอกแล้วนี่ ว่า.. อาตมามีความรู้ไม่เท่าหางอึ่ง คือยาวไม่เท่าหางอึ่ง หรือไม่แค่หางอึ่ง เพราะความโง่มันมาก..🌼 เมื่อองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคตรัสแบบนั้น..🌼 ก็ทูลถามพระองค์ว่า : " ข้าพระพุทธเจ้า ไม่เข้าใจในบารมีพระพุทธเจ้าข้า "🌺 พระองค์จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษี เธอเข้าใจ ไม่ใช่ไม่เข้าใจ แต่ว่าเธอดีแต่เฉพาะบริโภคเองเท่านั้น แต่การที่จะแบ่งปันให้บุคคลอื่นน่ะ เธอไม่มีความฉลาด การที่เธอตั้งกำลังใจในบารมี ๑๐ ทัศ เป็น ๓๐ ทัศ ด้วยกัน ๓ ชั้น เธอทำได้ แต่ว่าวันนี้ เธอสอนท่านบรรดาพุทธบริษัททั้งหลาย เธอทำไม่ถูก เธอจงมีความเข้าใจเสียใหม่ว่า.. คำว่า บารมี มันแปลว่า เต็ม แต่อะไรมันเต็ม ตถาคตจะบอกให้ว่า.. บารมีนี่ควรจะแปลว่า "กำลังใจเต็ม "* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท จำไว้ให้ดีว่า.. คำว่า บารมี ก็คือกำลังใจ ทำกำลังใจให้เต็ม..🌺 ตอนนี้ซิ ชักจะฉลาดขึ้นมาทันที มานึกในใจว่า เรานี่มันแสนจะโง่เสียมาก🌺 กำลังใจเต็ม ตอนไหน บรรดาท่านพุทธบริษัท ท่านก็ทรงให้ทวนเรื่องบารมี ๑๐ ทัศ ว่ามีอะไรบ้าง อาตมาก็ถวายคำตอบแก่พระองค์ว่า..๑. ทานบารมี๒. ศีลบารมี๓. เนกขัมมบารมี๔. ปัญญาบารมี๕. วิริยบารมี๖. ขันติบารมี๗. สัจจบารมี๘. อธิษฐานบารมี๙. เมตตาบารมี๑๐. อุเบกขาบารมี* องค์สมเด็จพระชินสีห์ จึงได้มีพระพุทธฎีกาตรัสว่า : " สัมพเกษีถูกแล้ว บารมีทั้งหมดนี้ใช้กำลังใจ สร้างกำลังใจให้มันทรงอยู่ในใจทั้งหมด ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ ไม่มีอะไรบกพร่องคือ..๑. จิตของเรา พร้อมที่จะให้ทานเป็นปกติ.๒. จิตพร้อมในการทรงศีล..🌻 นี่ซิ บรรดาท่านพุทธบริษัท พร้อมในการทรงศีลเป็นปกติ ไม่ใช่ปล่อยให้ศีลมันหล่นหายไป..๓. จิตพร้อมในการทรง เนกขัมมะ เป็นปกติ..🌻 เนกขัมมะ ก็แปลว่า การถือบวช บวชผมยาว บวชผมสั้น บวชโกนหัว ไม่โกนหัวได้ทั้งนั้น..๔. จิตพร้อมที่จะใช้ ปัญญา เป็นเครื่องประหัตประหารอุปาทานให้พินาศไป..๕. วิริยะ มีความเพียรทุกขณะ ควบคุมใจไว้เสมอ..๖. ขันติ มีทั้งอดทั้งทน อดกลั้นต่อสิ่งที่เป็นปฏิปักษ์..๗. สัจจะ ทรงตัวไว้ตลอดเวลาว่า เราจะจริงทุกอย่าง ไม่มีอะไรในคำว่าไม่จริงสำหรับเรา ในด้านของการทำความดี..๘. อธิษฐานบารมี ตั้งใจไว้ให้ตรงโดยเฉพาะพระนิพพาน๙. เมตตาบารมี สร้างอารมณ์ความดี ไม่เป็นศัตรูกับใคร มีความรักตน เสมอด้วยบุคคลอื่น๑๐. อุเบกขาบารมี วางเฉยเข้าไว้ ในเมื่อร่างกายมันไม่ทรงตัว อย่างที่เธอเป็นในวันนี้..💎 อุเบกขาบารมี ตัวนี้ พระองค์ทรงตรัสว่า : ตรงกับภาษาไทยที่ใช้กันเป็นปกติว่า " ช่างมัน " ขันติบารมีนี่ก็เหมือนกัน ใช้คำว่า " ช่างมัน " ตรงตัวดี..* นี่แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ทั้งหลายโดยถ้วนหน้า วันนี้ยังไม่สอนอะไรบรรดาท่านพุทธบริษัท เรามาคุยกันในคำว่า " บารมี " เสียก่อน เพื่อที่จะให้บรรดาพระโยคาวจรทั้งหลาย ได้ทราบชัดว่า.. บารมีที่องค์สมเด็จพระทรงสวัสดิโสภาคย์ ให้เราสร้างให้มันเต็มนั้น ก็คือ สร้างกำลังใจ ปลูกฝังกำลังใจ ให้มันเต็มครบถ้วนบริบูรณ์สมบูรณ์.. 💎 ไม่ใช่ว่า เราจะมานั่งคิด จะมานอนคิด เราจะมาทรงจิตว่า เอ๊..! บารมีของเรามันไม่มีนี่ ชาติก่อนบารมีของเรามันไม่พอ บารมีของเรายังไม่เต็ม เราจะเป็นพระโสดาบัน สกิทาคา อนาคา อรหันต์ ยังไงได้..* ถ้าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย มีความเข้าใจตามนี้ พอยังจะรู้รึยังว่า.. เราจะสามารถะสร้างบารมีได้ ด้วยอาศัยกำลังใจ 💎 ความดีของบรรดาท่านพุทธบริษัท มีกำลังใจอย่างเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถทำมันให้ดีหรือไม่ดี อันนี้ก็ตรงกับพระบาลีที่องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสไว้ในเรื่อง พระจักขุบาล ว่า.." มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา "" ธรรมทั้งหลาย มีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จด้วยใจ " 💎 นี่ความจริง เรื่องนี้ก็เรียนกันมาแล้วท่านบรรดาพุทธบริษัท แต่เวลาปฏิบัติจริง ๆ ทำไมมันถึงลืมก็ไม่ทราบ..💎 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย หวังว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททุกท่าน คงจะเข้าใจคำว่า บารมี แล้วอย่าลืม บารมี แปลว่าเต็ม แต่ส่วนที่เราจะทำให้เต็มนั้นก็คือ กำลังใจ ให้กำลังใจมันพร้อม พร้อมที่จะทรงความดีในด้านบารมีไว้..💎 ถ้ากำลังใจของเราพร้อมทรงบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ครบถ้วนเพียงใด บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ความเป็นพระอริยเจ้าเป็นของง่าย..* ที่นำบารมีทั้ง ๑๐ ประการ มากล่าวในตอนนี้ ก็เพราะว่า.. ในตอนต้น พูดเรื่องพระโสดาบันเข้าไว้ เห็นว่าบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลายอาจจะคิดว่า.. แหม.. มันยากเกินไป ถ้ากำลังใจในการสร้างตนเป็นพระโสดาบัน มันยังครบถ้วนไม่ได้ ก็หันมาจัดการกับบารมีทั้ง ๑๐ ประการ ให้มันครบถ้วนบริบูรณ์..* ทาน การให้ เป็นการตัดความโลภ.* ศีล เราก็ตัดความโกรธ* เนกขัมมะ ตัดอารมณ์ของกามคุณ* ปัญญา ตัดความโง่* วิริยะ ตัดความขี้เกียจ* ขันติ ตัดความไม่รู้จักการอดทน* สัจจะ ตัดความไม่จริงใจ มีอารมณ์ใจกลับกลอก* อธิษฐาน ทรงกำลังไว้ให้สมบูรณ์บริบูรณ์* เมตตา สร้างความเยือกเย็นของจิตใจ* อุเบกขา วางเฉยเข้าไว้ในเรื่องของกาย เราไม่ปรารภ🌺 เท่านี้แหละ บรรดาท่านพุทธบริษัท ถ้ากำลังใจของบรรดาท่านพุทธบริษัทสมบูรณ์เพียงใด คำว่า.. พระโสดาบัน นั้น บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย จะรู้สึกว่าง่ายเกินไปสำหรับบรรดาท่านพุทธบริษัท..🌼 ทำไมจึงว่าอย่างนั้น.. ก็เพราะว่า คนที่มีบารมีเต็มครบถ้วนบริบูรณ์ มีกำลังใจเต็มทุกอย่างใน ๑๐ ประการนี้ องค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่เรียกว่า "พระโสดาบัน" แล้ว ท่านเรียกว่าอะไร.. ท่านเรียกว่า "พระขีณาสพ" แปลว่า ผู้มีอาสวะอันสิ้นไปแล้ว หรือเรียกว่า "พระอรหัตผล" เป็นพระอริยบุคคลในพระพุทธศาสนาอันดับสูงสุด เข้าถึงซึ่งพระนิพพานได้..🌸 เอาละ บรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย วันนี้ก็ขอยุติไว้แต่เพียงเท่านี้..🌷 ขอความสุขสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสมบูรณ์พูนผล จงมีแด่บรรดาท่านพุทธศาสนิกชนทุกท่าน สวัสดี..."( จากหนังสือ *บารมี ๑๐* โดย พระราชพรหมยานฯ หน้าที่ ๘-๑๖ ของวัดท่าซุง จ.อุทัยธานี) #ที่มานิพพานังปรมังสุขัง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 624 มุมมอง 0 รีวิว
  • MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล.

    วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที

    นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

    นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>
    https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215

    #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    MGR Online - ทนายวิฑูรย์ เผยมาเข้าเยี่ยม "บอสพอล" ในเรือนจำฯ เซ็นมอบอำนาจดำเนินคดี "เจ๊พัช-ฟิล์ม" ข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง เรียกรับเงิน 20 ล. • วันนี้ (19 พ.ย.) เวลา 11.00 น. บริเวณด้านหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ "บอสพอล" เปิดเผยก่อนเข้าเยี่ยมลูกความ ว่า วันนี้มีทีมทนายได้นำหนังสือมอบอำนาจเข้าไปให้กับบอสพอลเซ็นเอกสารมอบอำนาจในการดำเนินคดีกับ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ "เจ๊พัช" และ นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ หรือ "ฟิล์ม" หลังปรากฏคลิปเสียงจ่ายเงิน 20 ล้านบาท ออกรายการดัง หากเอกสารเสร็จสิ้นทันวันนี้จะเดินทางไปกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ทันที • นายวิฑูรย์ กล่าวว่า ส่วนข้อหากำลังพิจารณา คือ พยายามกรรโชกทรัพย์ และพยายามฉ้อโกง แต่ทีมทนายมีความเห็นว่าน่าจะเข้าข่ายข้อหาพยายามฉ้อโกงมากกว่า แต่ทางตำรวจชี้แจงว่าข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ เพราะมีหลักฐานการข่มขู่ว่าถ้าไม่จ่ายเงินจะมีปัญหา และอ้างว่าหนุ่ม กรรชัย จะเขียนสคริปต์โจมตีบริษัทฯ ตามในไฟล์คลิปเสียง โดยทาง บอสปัน พูดคุยกับ น.ส.กฤษอนงค์ ในนาม บริษัท ดิไอคอน ที่เป็นผู้เสียหาย นอกจากนี้ ในส่วนคดีหมิ่นประมาทของ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นอีกคดีหนึ่ง แต่ใช้พยานชุดเดียวกัน ทั้งนี้ จะออกหมายเรียกหรือหมายจับ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ตำรวจ • นายวิฑูรย์ กล่าวอีกว่า กรณี นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ทีมทนายความเข้าแจ้งความพร้อมให้ปากคำครบแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสอนว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับ มีการแจ้งข้อหา หมิ่นประมาณ , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และร่วมกันให้การเท็จ ส่วนประเด็น น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ส่งทนายแจ้งความ น.ส.กฤษอนงค์ หลังแอบอ้างชื่อก็แยกเป็นอีกเรื่อง ช่วงเกิดระหว่าง มิ.ย.-ก.ค. คนละเหตุการณ์กับรายการข่าวดัง • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/crime/detail/9670000111215 • #MGROnline #กฤษอนงค์ #ฟิล์มรัฐภูมิ #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 391 มุมมอง 0 รีวิว
  • 17-11-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.9รัวมาเป็นชุด อีเด สายเหลือง โดนถุงดำ เจาะลึก คุกรออยู่ ไปต่อได้อีก ยังไม่จบง่ายๆ ศพไม่สวยไม่ใช่ลุงสนธิ เยเมนคลั่ง สั่งสอนไอ้กระจอกเหี้ยมะกัน เรือพิฆาตเละเป็นโจ๊ก เรือบรรทุกเครื่องบินร้องไห้หาแม่? กระจอกกว่านี้มีอีกมุย? ทะเลแดงเดือด กองเรือเหี้ยหายวับ สื่อเหี้ยเงียบกริบ ไม่แจ้งตายห่าเท่าไหร่? กลัวอายหมารึจ๊ะ? อยู่กลางทะเลเป้านิ่ง ควายกว่านี้มีอีกมั้ย? F-35 ยังหมาไม่เลิก ห้าวเป้งตอนออก เผ่นหางจุกตูดตอนเจอ จะมาเพื่อ? EV จีนคลั่ง อียุ่นปี่ช็อค! ตีตลาดรถญี่ปุ่นถึงถิ่น ตอบสนองถล่มทลาย ถูกดี ไฮเทค สวย คุ้มค่าเหี้ยๆ ไหนว่าใครเจาะไม่ได้ อเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ไอ้ที่ว่าแน่ ถูก EV จีน เจาะเกลี้ยง มีที่ไหน แค่ 500000 ทำเอากะบะดัดแปลงหลอกควายมาหลายทศวรรษ 1.7 ล้าน หมาไปเลย? อีโต อีมาส ทุ่มสุดตัว กู้ชื่อ? ฉิบหายแล้ว! อีทรัมปป์เอาแน่ ขึ้นรับสาบานตนปุ๊บ จะยุติศึกยูเครน ภายใน 24 ชม. มรึงจะทำได้จริง ก็เมื่อปูตินเห็นด้วยเท่านั้น แปลว่า มรึงจะบีบให้อีเสี้ยนยาตายสิน่ะ? รัสเซียจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ ดอกนี้ อีทรัมปป์ต้องการเครดิต NATO จะไม่รบกับรัสเซีย เพราะรู้ดี ตายยกโคตร NATO แน่ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน รู้ตัวแล้วว่า ปูตินเตรียมหันปากกระบอกปืนขึ้นเหนือยุโรปแล้ว ไม่รีบโยนบาป หาแพะก่อน ได้เป็นเมืองขึ้นเครมลินแน่! แผนปูตินดึงอดีตชาติโซเวียตเดิมกลับบ้าน เมื่อกลับมาหมด อำนาจต่อรองจะมากขึ้น เพราะมีทั้งประชากรเพิ่ม อาณาเขตเพิ่ม มรึงคิดว่า เหี้ยลอนดอน และขี้ข้าหางแถว จะสกัดอิทธิพลได้อยู่อีกเหรอ? ปูตินไม่รีบ 5 ปี ดูดกลับบ้าน 10 ปี ยึดทั้งทวีปยุโรป ระดับโลกเข้ามีแผนระยะยาว ไม่รีบเร่งจนเสียขบวน เมื่อยูเครนต้องถอย แผน NATO จะล้มกระดานตามเหี้ยยิว ก็แห้วแดร๊ก! ขั้วใหม่ อ่านเกมส์ขาดทะลุ ที่มาว่าใช้ BRICS เปลี่ยนแกนโลกใหม่ ดอลล่าร์ขายไม่ออก ใครจะนำมรึงพ้นปากเหวนรกนี้ได้กันล่ะ? จะหนีกรรมพ้นเหรอ? อีฟิล์มโกดัก ดิ้นรนพอทน แต่อกตัญญูเนี่ยสิ? กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง ผู้มีพระคุณมรึงแค่ทางผ่านสิน่ะ? แล้วสวรรค์ใยต้องปราณีมรึง คุณสมบัติคนดี ไม่ต้องรวย ต่อให้จน มรึงก็ขึ้นสวรรค์ได้ แค่รู้คุณ ศีลธรรมนำหน้า ไม่โลภ ไม่โกง ไม่ขายชาติ ขายแผ่นดินแดร๊ก ปลายกลียุค คือเชื้อชั่ว เสนียดจัญไรแผ่นดินทั้งหลาย จะผุดออกมาหมดเหมือนดอกเห็ด เพื่อการชำระล้างครั้งใหญ่ ทั้งครม. รัฐบาลเถื่อน ขบวนการขายชาติ ไอ้อีเหลือบเกาะกินหน่วยงานแผ่นดิน ถูกลากไส้ออกมาหมด นี่คือการทำงานของแสง ความจริง ความถูกต้อง ความชอบธรรม จะปรากฎทั่วแผ่นดินทอง จำเอาไว้ว่า มรึงไม่ต้องรวยล้นฟ้า มรึงก็มีความสุขได้ ไม่ต้องมีมากจนเหลิง ไม่ต้องอวดรวยหิวแสง คุณค่าอยู่ที่ "ทำตัว" เห็นภาพชัดยัง? กรมตำหนวด กรมคุก สภาแพทย์ กสทช อัยกวย ถูกลากไส้หมด โลกเปลี่ยน ปรับสมดุลใหม่แล้ว!3 ฮอ เฮซบอเลาะห์ ฮามาส ฮูตี ล่อจุดตายยิว ฐานบัญชาการ ฐานกำลังสำรอง ฐานดาวเทียม ฐานปฎิบัติการลับ โดนหมด ไม่มีรอด? อีมอดสาดว่าแน่ ยังแอบมีไส้ศึกแฝงตัวภายในเพี๊ยบ ขั้วใหม่รู้หมด มรึงจะทำอะไรล่วงหน้า เค้านำมรึงไป 2 ก้าวเสมอ ภาพดาวเทียม ขนย้ายกำลัง ขนส่งอาวุธ อยู่ในดวงตาสวรรค์ เห็นหมดเกลี้ยง แม้แต่โยกย้ายใต้ดิน ยังรู้ ใครส่งซิกมาล่ะ? อาวุธขั้วเก่ามันล้าหลังกว่าเค้ามาก ลำพังเพิ่งแค่ดาวเทียม หากดาวเทียมตาบอดคือจบ แต่อาวุธขั้วใหม่ ถูกผนวก AI เข้าไป ตัดสินใจเองได้ เพื่อภาระกิจเดียวคือเป้าหมายถูกทำลาย แม้จะไร้ดาวเทียมนำร่อง เพราะ DATA ประมวลผลเองได้ วิ่งตามเส้นพิกัดเดิม ดาวเทียมจิ๋วของอิหร่าน มีไว้เพื่อการณ์นี้ มรึงจะไปดับดาวเทียมจิ๋วอิหร่านยังไง มีเป็น 100 ดวง อยู่บนหัวมรึงทุกไอ้อี ยิงถูกมั้ยล่ะ?ไม่ลับอีกต่อไป มหาเทพจิ๋นซี สีจิ้นผิง เตรียมต้อนรับสงครามการค้ากับอีทรัมปป์อย่างใจเย็น มรึงจะเอาเหี้ยอะไรสู้กู ไม่ว่ามรึงจะคว่ำบาตรเหี้ยอะไรใครก็ตาม จีนจะเข้าไปอุ้ม ไปช้อนให้หมด ขี้ข้าเหี้ยถึงชอบจีนไงล่ะ? แท้จริง อเมริกาโดยทรัมปป์ไม่ได้จะทำสงครามการค้ากับจีนดอกน่ะ ไอ้ที่ประกาศมาเนี่ย ก็เพื่อจะสลัดภาระทั้งหมดที่มี ที่ต้องอุ้มขี้ข้าทั้งหลายให้พ้นออกจากตัวไปก่อน เอาแต่อเมริการอดตัวเดียวพอ เพราะรู้ดีว่า ค่าใช้จ่าย ค่าปฎิกรรมสงครามที่ผ่านมา ทำให้อเมริกาเป็นหนี้ไม่สิ้นสุด แผนแตกอเมริกา แตกยังไงให้อีทรัมป์์รอดเป็น KING ได้ นี่ต่างหากที่ต้องบอก? จับตา 7 รัฐ ที่อีทรัมปป์คั่วอยู่ จะฟื้นคืนชีพ ทิ้งรัฐยากจน ไร้ประโยชน์ เพื่อรอการแยกดินแดนในเวลาต่อมา มางวดนี้ ไม่ใช่แค่อำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ใบสั่งที่รับมาคือต้องแตกอเมริกาให้จงได้! ปูติน สีจิ้นผิง รู้ดีว่า อีทรัมปป์กำลังจะทำอะไร ถึงไม่ห้าม? เอาให้สุดซอยเลย! เพราะยังไง มรึงต้องยกอลาสก้า ฮาวาย ให้กูอยู่ดี นี่ไงล่ะ? กลียุค กูล่ะชอบฉิงๆ พ่อแม่ติดคุก ลูกยังมีหน้าโพสโชว์ อ้างเคว้งคว้าง ล่องเรือยอร์ชหรู ตกปลาซะงั้น? สิ่งโสมม อาจม มันฝังอยู่ในกมลสันดานคน คนมันต่ำ หรือแผ่นดินมันสูงเกินไปกันแน่ ครอบครัวคือพื้นฐานหลักของความมั่นคงชาติ เลี้ยงลูกยังไง? มรึงก็ได้แบบนั้น คนรุ่นก่อน เลี้ยงลูกปากกัดตรีนถีบ สมัยนี้ ลูกแทบจะแตะต้องไม่ได้ "มรึงกลับฆ่าลูกด้วยตัวมรึงเอง" วัคซีนต้านภัยเหี้ยไม่มี มีแต่เสพอาจม หลงในลาภ ยศ เงินทอง อย่าหวังจะเห็นอนาคต ยิ่งรวย ยิ่งโง่ เพราะสะสมแต่สิ่งที่ช่วยมรึงไม่ได้ หลังวิญญานออกจากร่าง มรึงจะกลายเป็นวิญญานสัมภเวสี ร่างเปลือยเปล่า หาคนทำบุญส่งผลบุญให้มรึงหามีไม่ ตอนยังอยู่ มรึงทำอะไรอยู่ล่ะ? นรกกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนอย่างพวกมรึงไปแล้ว เพราะสติไม่มี เพราะยึดติด จะหาความสงบได้อย่างไร? ไม่ต้องดีเลิศประเสริฐศรี แค่หยุดการเบียดเบียนก็พอ กินเท่าที่มี อยู่เท่าที่ได้ ขยันเท่าที่ไหว แบ่งปันเท่าที่ยังอยู่ เมตตาเท่าที่ทำได้ ชีวิตเรียบง่าย คือชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องมีรถหรู บ้านใหญ่ มรึงก็สุขใจได้เพราะคนที่มรึงรักอยู่พร้อมหน้า ไม่ต้องกลัวใครมาฆ่า ใครมาแย่งสมบัติ นี่คือสิ่งที่คนรวย ยังหาไม่มี?ปล.ปปช.ยุคใหม่ ไร้คนอุ้มโจ๊ก! ทำไม อีโจ๊กคนอร์ มันถึงได้กร่างจนสุดขั้ว เพราะมันทำงานรับใช้ ผู้ใหญ่เหี้ยทั้งแผ่นดิน ทุกภาคส่วน รู้ตื้นลึกหนาบาง วงการการเมืองดี ยามนี้ แสงทำงาน ล้างบางหน่วยงานขี้ข้ารับใช้เหี้ย ไอ้อีขี้ข้าเหี้ย ข้าราชการขายชาติ ขายแผ่นดิน มรึงถูกไล่เช็คบิลหมด หัวมาใหม่ เด็ดขาด หางกระดิกตามทันที ใครสั่ง? เบื้องบนสั่ง ทหารปฎิบัติตาม ลงมาล้างป่าช้าเองกับมือ งานถึงเดิน เรื่องถึงขยายผลได้เร็ว ปาหี่ "ละครลิง" อียิวออกสื่อ ยึดหมู่บ้านเบดูอิน สร้างรัฐยิวใหม่ พื้นที่จิ๋ว ประชากรแค่ 400 มรึงยังกล้ามาโชว์อีก ถามคำเดียว อียิวกำลังจะถูกฆ่าล้างโคตร ขับไล่ออกจากไปแผ่นดินคานาอัน มันจะมาสนใจสร้างรัฐใหม่ ยึดหมู่บ้านชาวเบดูอินทำไม? ทั้งหมดเพื่อสร้างภาพขยาย บอกอิทธิพลกูยังอยู่ พื้นที่ตรงนั้น ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายหลัก 3 ฮอ ไงล่ะ ขยันสร้างอีเว้นต์ ปั่นกระแสจริงน่ะมรึง ไม่ตอแหล ไม่ใช่อียิว? สื่อยิวไม่เคยรายงานเลยว่า สัปดาห์นี้ มรึงถูกล่อ ยึดพื้นที่ไปเท่าไหร่แล้ว เหนือไปหมดแล้ว ใต้ก็ไม่รอด เหลือแต่กลางที่ถูกบีบอัดอยู่ มรึงยังจะเหลือใครให้ตายอีก? เกณฑ์ทหารรอบที่ 20 ได้แล้วมั้ง แล้วมีมั้ยล่ะ? ทหารนาโต้ ทหารรับจ้างตายห่าเกลื่อน ไม่เกิน 48 ชม. ที่เหยียบพื้นที่ ตายห่าทันที เชิญมรึงไปตอแหลต่อในขุมนรกเฮอะ? ไอ้สัส! มาตามนัด! ปชต.ตอแหลดับวูบ อีกีวี โชว์ตบหน้าสื่อโลก หลังสภาอีกีวี จะออกมติ ลดสิทธิชาวเมารี คนพื้นเมืองนิวซีแลนด์ สส.เมารี ไม่รีรอ ประท้วงทั้งสภา ด้วยการเต้นระบำพื้นเมืองเผ่ามารี ช็อคแดร๊กไปทั้งสภา นี่ไง ปชต.โคตรพ่อง คนอยู่แผ่นดินเดียวกัน มีสิทธิเหี้ยอะไร อำนวยคนขาว ลดทอนสิทธิคนพื้นเมือง กูบอกเลยว่า DRAMA นี้ มีคนชง แล้วมีคนตบ ส่งสัญญานเปลี่ยนรัฐบาลใหม่เหรอจ๊ะ จะปลดแอกเหี้ยสิน่ะ เล่นตามเป็นบทละครกันไปเลย? กีวี เริ่มเผยธาตุแท้ เป็นขี้ข้าอีเรปทีเรี่ยนมายาวนาน กูอยากจะไปขั้วใหม่กับเค้าแล้ว! ใครยังหิวโหย ปชต.ตอแหลไม่เลิก เชิญมรึงย้ายบ้านไปอยู่กับพ่อมรึงซะน่ะ เพราะไอ้ที่ไปก่อนหน้ามรึง เค้ากำลังจะถูกเหี้ยมันถีบส่งอยู่ หนักแผ่นดินมัน หมดประโยชน์ก็แค่หมาตัวนึง! คนหรือควาย เป็นพลเมืองชั้น 1 อยู่ดีดี อยากจะไปเป็นขี้ข้าทาส พลเมืองชั้น 8 เศษตรีนฝรั่งตาน้ำข้าว สิ้นสติแบบนี้ ไม่ใช่ลูกพ่อกู ไปตายห่าแล้วเกิดใหม่เป็นเดรัจฉานซะน่ะ คุณค่าที่มรึงคู่ควร!หมี CNN(จะเอาอะไรกับโลกใบนี้ อีกไม่นานก็ต้องแยกย้ายตามสังขาร ทำดีไม่ได้ยากเลย แค่หยุด ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ตั้งสติ และเดินตามธรรมชาติ แค่นั้น ชีวิตเป็นสุข ไร้ทุกข์ หมดกังวล เรื่องบ้านเมือง ก็มีคนดูแลอยู่เสมอ เรื่องชาติ ก็มีผู้ภักดี จัดการไม่ขาดสาย ไม่มีใครทำอะไรแผ่นดินทองนี้ได้ พูดกันไป ลือกันไป แค่ข่าวปล่อย สื่อปั่น แค่ตื่น มรึงจะรู้ดีว่า ใครคือผู้มีอำนาจแท้จริง ตัวจริง ของจริง ไม่ต้องออกสื่อ ของจริง ไม่พูดเยอะ ทำอย่างเดียว)17 พฤศจิกายน 6715.00 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    17-11-67/01 : หมี CNN / "3 แยกปากหมา" EP.9รัวมาเป็นชุด อีเด สายเหลือง โดนถุงดำ เจาะลึก คุกรออยู่ ไปต่อได้อีก ยังไม่จบง่ายๆ ศพไม่สวยไม่ใช่ลุงสนธิ เยเมนคลั่ง สั่งสอนไอ้กระจอกเหี้ยมะกัน เรือพิฆาตเละเป็นโจ๊ก เรือบรรทุกเครื่องบินร้องไห้หาแม่? กระจอกกว่านี้มีอีกมุย? ทะเลแดงเดือด กองเรือเหี้ยหายวับ สื่อเหี้ยเงียบกริบ ไม่แจ้งตายห่าเท่าไหร่? กลัวอายหมารึจ๊ะ? อยู่กลางทะเลเป้านิ่ง ควายกว่านี้มีอีกมั้ย? F-35 ยังหมาไม่เลิก ห้าวเป้งตอนออก เผ่นหางจุกตูดตอนเจอ จะมาเพื่อ? EV จีนคลั่ง อียุ่นปี่ช็อค! ตีตลาดรถญี่ปุ่นถึงถิ่น ตอบสนองถล่มทลาย ถูกดี ไฮเทค สวย คุ้มค่าเหี้ยๆ ไหนว่าใครเจาะไม่ได้ อเมริกา ญี่ปุ่น เยอรมนี ไอ้ที่ว่าแน่ ถูก EV จีน เจาะเกลี้ยง มีที่ไหน แค่ 500000 ทำเอากะบะดัดแปลงหลอกควายมาหลายทศวรรษ 1.7 ล้าน หมาไปเลย? อีโต อีมาส ทุ่มสุดตัว กู้ชื่อ? ฉิบหายแล้ว! อีทรัมปป์เอาแน่ ขึ้นรับสาบานตนปุ๊บ จะยุติศึกยูเครน ภายใน 24 ชม. มรึงจะทำได้จริง ก็เมื่อปูตินเห็นด้วยเท่านั้น แปลว่า มรึงจะบีบให้อีเสี้ยนยาตายสิน่ะ? รัสเซียจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ ดอกนี้ อีทรัมปป์ต้องการเครดิต NATO จะไม่รบกับรัสเซีย เพราะรู้ดี ตายยกโคตร NATO แน่ อีฟินน์ อีสวิงกิ้ง อีลอนดอน รู้ตัวแล้วว่า ปูตินเตรียมหันปากกระบอกปืนขึ้นเหนือยุโรปแล้ว ไม่รีบโยนบาป หาแพะก่อน ได้เป็นเมืองขึ้นเครมลินแน่! แผนปูตินดึงอดีตชาติโซเวียตเดิมกลับบ้าน เมื่อกลับมาหมด อำนาจต่อรองจะมากขึ้น เพราะมีทั้งประชากรเพิ่ม อาณาเขตเพิ่ม มรึงคิดว่า เหี้ยลอนดอน และขี้ข้าหางแถว จะสกัดอิทธิพลได้อยู่อีกเหรอ? ปูตินไม่รีบ 5 ปี ดูดกลับบ้าน 10 ปี ยึดทั้งทวีปยุโรป ระดับโลกเข้ามีแผนระยะยาว ไม่รีบเร่งจนเสียขบวน เมื่อยูเครนต้องถอย แผน NATO จะล้มกระดานตามเหี้ยยิว ก็แห้วแดร๊ก! ขั้วใหม่ อ่านเกมส์ขาดทะลุ ที่มาว่าใช้ BRICS เปลี่ยนแกนโลกใหม่ ดอลล่าร์ขายไม่ออก ใครจะนำมรึงพ้นปากเหวนรกนี้ได้กันล่ะ? จะหนีกรรมพ้นเหรอ? อีฟิล์มโกดัก ดิ้นรนพอทน แต่อกตัญญูเนี่ยสิ? กินอยู่กับปาก อยากอยู่กับท้อง ผู้มีพระคุณมรึงแค่ทางผ่านสิน่ะ? แล้วสวรรค์ใยต้องปราณีมรึง คุณสมบัติคนดี ไม่ต้องรวย ต่อให้จน มรึงก็ขึ้นสวรรค์ได้ แค่รู้คุณ ศีลธรรมนำหน้า ไม่โลภ ไม่โกง ไม่ขายชาติ ขายแผ่นดินแดร๊ก ปลายกลียุค คือเชื้อชั่ว เสนียดจัญไรแผ่นดินทั้งหลาย จะผุดออกมาหมดเหมือนดอกเห็ด เพื่อการชำระล้างครั้งใหญ่ ทั้งครม. รัฐบาลเถื่อน ขบวนการขายชาติ ไอ้อีเหลือบเกาะกินหน่วยงานแผ่นดิน ถูกลากไส้ออกมาหมด นี่คือการทำงานของแสง ความจริง ความถูกต้อง ความชอบธรรม จะปรากฎทั่วแผ่นดินทอง จำเอาไว้ว่า มรึงไม่ต้องรวยล้นฟ้า มรึงก็มีความสุขได้ ไม่ต้องมีมากจนเหลิง ไม่ต้องอวดรวยหิวแสง คุณค่าอยู่ที่ "ทำตัว" เห็นภาพชัดยัง? กรมตำหนวด กรมคุก สภาแพทย์ กสทช อัยกวย ถูกลากไส้หมด โลกเปลี่ยน ปรับสมดุลใหม่แล้ว!3 ฮอ เฮซบอเลาะห์ ฮามาส ฮูตี ล่อจุดตายยิว ฐานบัญชาการ ฐานกำลังสำรอง ฐานดาวเทียม ฐานปฎิบัติการลับ โดนหมด ไม่มีรอด? อีมอดสาดว่าแน่ ยังแอบมีไส้ศึกแฝงตัวภายในเพี๊ยบ ขั้วใหม่รู้หมด มรึงจะทำอะไรล่วงหน้า เค้านำมรึงไป 2 ก้าวเสมอ ภาพดาวเทียม ขนย้ายกำลัง ขนส่งอาวุธ อยู่ในดวงตาสวรรค์ เห็นหมดเกลี้ยง แม้แต่โยกย้ายใต้ดิน ยังรู้ ใครส่งซิกมาล่ะ? อาวุธขั้วเก่ามันล้าหลังกว่าเค้ามาก ลำพังเพิ่งแค่ดาวเทียม หากดาวเทียมตาบอดคือจบ แต่อาวุธขั้วใหม่ ถูกผนวก AI เข้าไป ตัดสินใจเองได้ เพื่อภาระกิจเดียวคือเป้าหมายถูกทำลาย แม้จะไร้ดาวเทียมนำร่อง เพราะ DATA ประมวลผลเองได้ วิ่งตามเส้นพิกัดเดิม ดาวเทียมจิ๋วของอิหร่าน มีไว้เพื่อการณ์นี้ มรึงจะไปดับดาวเทียมจิ๋วอิหร่านยังไง มีเป็น 100 ดวง อยู่บนหัวมรึงทุกไอ้อี ยิงถูกมั้ยล่ะ?ไม่ลับอีกต่อไป มหาเทพจิ๋นซี สีจิ้นผิง เตรียมต้อนรับสงครามการค้ากับอีทรัมปป์อย่างใจเย็น มรึงจะเอาเหี้ยอะไรสู้กู ไม่ว่ามรึงจะคว่ำบาตรเหี้ยอะไรใครก็ตาม จีนจะเข้าไปอุ้ม ไปช้อนให้หมด ขี้ข้าเหี้ยถึงชอบจีนไงล่ะ? แท้จริง อเมริกาโดยทรัมปป์ไม่ได้จะทำสงครามการค้ากับจีนดอกน่ะ ไอ้ที่ประกาศมาเนี่ย ก็เพื่อจะสลัดภาระทั้งหมดที่มี ที่ต้องอุ้มขี้ข้าทั้งหลายให้พ้นออกจากตัวไปก่อน เอาแต่อเมริการอดตัวเดียวพอ เพราะรู้ดีว่า ค่าใช้จ่าย ค่าปฎิกรรมสงครามที่ผ่านมา ทำให้อเมริกาเป็นหนี้ไม่สิ้นสุด แผนแตกอเมริกา แตกยังไงให้อีทรัมป์์รอดเป็น KING ได้ นี่ต่างหากที่ต้องบอก? จับตา 7 รัฐ ที่อีทรัมปป์คั่วอยู่ จะฟื้นคืนชีพ ทิ้งรัฐยากจน ไร้ประโยชน์ เพื่อรอการแยกดินแดนในเวลาต่อมา มางวดนี้ ไม่ใช่แค่อำนาจเบ็ดเสร็จ แต่ใบสั่งที่รับมาคือต้องแตกอเมริกาให้จงได้! ปูติน สีจิ้นผิง รู้ดีว่า อีทรัมปป์กำลังจะทำอะไร ถึงไม่ห้าม? เอาให้สุดซอยเลย! เพราะยังไง มรึงต้องยกอลาสก้า ฮาวาย ให้กูอยู่ดี นี่ไงล่ะ? กลียุค กูล่ะชอบฉิงๆ พ่อแม่ติดคุก ลูกยังมีหน้าโพสโชว์ อ้างเคว้งคว้าง ล่องเรือยอร์ชหรู ตกปลาซะงั้น? สิ่งโสมม อาจม มันฝังอยู่ในกมลสันดานคน คนมันต่ำ หรือแผ่นดินมันสูงเกินไปกันแน่ ครอบครัวคือพื้นฐานหลักของความมั่นคงชาติ เลี้ยงลูกยังไง? มรึงก็ได้แบบนั้น คนรุ่นก่อน เลี้ยงลูกปากกัดตรีนถีบ สมัยนี้ ลูกแทบจะแตะต้องไม่ได้ "มรึงกลับฆ่าลูกด้วยตัวมรึงเอง" วัคซีนต้านภัยเหี้ยไม่มี มีแต่เสพอาจม หลงในลาภ ยศ เงินทอง อย่าหวังจะเห็นอนาคต ยิ่งรวย ยิ่งโง่ เพราะสะสมแต่สิ่งที่ช่วยมรึงไม่ได้ หลังวิญญานออกจากร่าง มรึงจะกลายเป็นวิญญานสัมภเวสี ร่างเปลือยเปล่า หาคนทำบุญส่งผลบุญให้มรึงหามีไม่ ตอนยังอยู่ มรึงทำอะไรอยู่ล่ะ? นรกกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับคนอย่างพวกมรึงไปแล้ว เพราะสติไม่มี เพราะยึดติด จะหาความสงบได้อย่างไร? ไม่ต้องดีเลิศประเสริฐศรี แค่หยุดการเบียดเบียนก็พอ กินเท่าที่มี อยู่เท่าที่ได้ ขยันเท่าที่ไหว แบ่งปันเท่าที่ยังอยู่ เมตตาเท่าที่ทำได้ ชีวิตเรียบง่าย คือชีวิตที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ต้องมีรถหรู บ้านใหญ่ มรึงก็สุขใจได้เพราะคนที่มรึงรักอยู่พร้อมหน้า ไม่ต้องกลัวใครมาฆ่า ใครมาแย่งสมบัติ นี่คือสิ่งที่คนรวย ยังหาไม่มี?ปล.ปปช.ยุคใหม่ ไร้คนอุ้มโจ๊ก! ทำไม อีโจ๊กคนอร์ มันถึงได้กร่างจนสุดขั้ว เพราะมันทำงานรับใช้ ผู้ใหญ่เหี้ยทั้งแผ่นดิน ทุกภาคส่วน รู้ตื้นลึกหนาบาง วงการการเมืองดี ยามนี้ แสงทำงาน ล้างบางหน่วยงานขี้ข้ารับใช้เหี้ย ไอ้อีขี้ข้าเหี้ย ข้าราชการขายชาติ ขายแผ่นดิน มรึงถูกไล่เช็คบิลหมด หัวมาใหม่ เด็ดขาด หางกระดิกตามทันที ใครสั่ง? เบื้องบนสั่ง ทหารปฎิบัติตาม ลงมาล้างป่าช้าเองกับมือ งานถึงเดิน เรื่องถึงขยายผลได้เร็ว ปาหี่ "ละครลิง" อียิวออกสื่อ ยึดหมู่บ้านเบดูอิน สร้างรัฐยิวใหม่ พื้นที่จิ๋ว ประชากรแค่ 400 มรึงยังกล้ามาโชว์อีก ถามคำเดียว อียิวกำลังจะถูกฆ่าล้างโคตร ขับไล่ออกจากไปแผ่นดินคานาอัน มันจะมาสนใจสร้างรัฐใหม่ ยึดหมู่บ้านชาวเบดูอินทำไม? ทั้งหมดเพื่อสร้างภาพขยาย บอกอิทธิพลกูยังอยู่ พื้นที่ตรงนั้น ไม่ได้อยู่ในเป้าหมายหลัก 3 ฮอ ไงล่ะ ขยันสร้างอีเว้นต์ ปั่นกระแสจริงน่ะมรึง ไม่ตอแหล ไม่ใช่อียิว? สื่อยิวไม่เคยรายงานเลยว่า สัปดาห์นี้ มรึงถูกล่อ ยึดพื้นที่ไปเท่าไหร่แล้ว เหนือไปหมดแล้ว ใต้ก็ไม่รอด เหลือแต่กลางที่ถูกบีบอัดอยู่ มรึงยังจะเหลือใครให้ตายอีก? เกณฑ์ทหารรอบที่ 20 ได้แล้วมั้ง แล้วมีมั้ยล่ะ? ทหารนาโต้ ทหารรับจ้างตายห่าเกลื่อน ไม่เกิน 48 ชม. ที่เหยียบพื้นที่ ตายห่าทันที เชิญมรึงไปตอแหลต่อในขุมนรกเฮอะ? ไอ้สัส! มาตามนัด! ปชต.ตอแหลดับวูบ อีกีวี โชว์ตบหน้าสื่อโลก หลังสภาอีกีวี จะออกมติ ลดสิทธิชาวเมารี คนพื้นเมืองนิวซีแลนด์ สส.เมารี ไม่รีรอ ประท้วงทั้งสภา ด้วยการเต้นระบำพื้นเมืองเผ่ามารี ช็อคแดร๊กไปทั้งสภา นี่ไง ปชต.โคตรพ่อง คนอยู่แผ่นดินเดียวกัน มีสิทธิเหี้ยอะไร อำนวยคนขาว ลดทอนสิทธิคนพื้นเมือง กูบอกเลยว่า DRAMA นี้ มีคนชง แล้วมีคนตบ ส่งสัญญานเปลี่ยนรัฐบาลใหม่เหรอจ๊ะ จะปลดแอกเหี้ยสิน่ะ เล่นตามเป็นบทละครกันไปเลย? กีวี เริ่มเผยธาตุแท้ เป็นขี้ข้าอีเรปทีเรี่ยนมายาวนาน กูอยากจะไปขั้วใหม่กับเค้าแล้ว! ใครยังหิวโหย ปชต.ตอแหลไม่เลิก เชิญมรึงย้ายบ้านไปอยู่กับพ่อมรึงซะน่ะ เพราะไอ้ที่ไปก่อนหน้ามรึง เค้ากำลังจะถูกเหี้ยมันถีบส่งอยู่ หนักแผ่นดินมัน หมดประโยชน์ก็แค่หมาตัวนึง! คนหรือควาย เป็นพลเมืองชั้น 1 อยู่ดีดี อยากจะไปเป็นขี้ข้าทาส พลเมืองชั้น 8 เศษตรีนฝรั่งตาน้ำข้าว สิ้นสติแบบนี้ ไม่ใช่ลูกพ่อกู ไปตายห่าแล้วเกิดใหม่เป็นเดรัจฉานซะน่ะ คุณค่าที่มรึงคู่ควร!หมี CNN(จะเอาอะไรกับโลกใบนี้ อีกไม่นานก็ต้องแยกย้ายตามสังขาร ทำดีไม่ได้ยากเลย แค่หยุด ลด ละ เลิก ปล่อยวาง ตั้งสติ และเดินตามธรรมชาติ แค่นั้น ชีวิตเป็นสุข ไร้ทุกข์ หมดกังวล เรื่องบ้านเมือง ก็มีคนดูแลอยู่เสมอ เรื่องชาติ ก็มีผู้ภักดี จัดการไม่ขาดสาย ไม่มีใครทำอะไรแผ่นดินทองนี้ได้ พูดกันไป ลือกันไป แค่ข่าวปล่อย สื่อปั่น แค่ตื่น มรึงจะรู้ดีว่า ใครคือผู้มีอำนาจแท้จริง ตัวจริง ของจริง ไม่ต้องออกสื่อ ของจริง ไม่พูดเยอะ ทำอย่างเดียว)17 พฤศจิกายน 6715.00 น.------------------------------------------------------------------------—เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : https://line.me/R/ti/p/@mheecnnหรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNThttps://voom-studio.line.biz/account/@hfs0310u/voom หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u**เพจหลักของหมี CNN คือ**https://www.minds.com/mheecnn2/เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnnwww.vk.com/id448335733**เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**https://twitter.com/CnnMhee**เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด!**https://www.facebook.com/chatchai.sathitsit.77
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 656 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย
    .
    ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ
    .
    ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก
    .
    ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้
    ..............
    Sondhi X
    'อุดรธานี' จ่อไฟลุก 'พิธา' พร้อมชน 'ทักษิณ' ชิงดำเก้าอี้นายกอบจ.โค้งสุดท้าย . ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันหย่อนบัตรเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ถือว่ามีความเข้มข้นและดุเดือดอย่างยิ่ง ภายหลังรุ่นใหญ่พรรคเพื่อไทยและรุ่นใหม่พรรคประชาชนเตรียมวัดพลังกันครั้งสำคัญ โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า เตรียมลงพื้นที่ระหว่างวันที่ 13-14 พฤศจิกายน เพื่อช่วยนายศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครของพรรคเพื่อไทยหาเสียงพร้อมกับพบปะประชาชนในหลายอำเภอ . ขณะที่ พรรคประชาชน 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล จะบินกลับมาจากสหรัฐอเมริกา มาลงพื้นที่ช่วยนายคณิศร ขุริรัง ผู้สมัครของพรรคหาเสียงระหว่างวันที่ 15-17 พฤศจิกายน หลังจากก่อนหน้านี้มีนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค, น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรค, นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร รองหัวหน้าพรรค, นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า มาร่วมขบวนหาเสียงด้วย เพื่อหวังว่าจังหวัดอุดรธานีจะเป็นจังหวัดแรกที่จะสามารถปักธงส้มในพื้นที่สีแดงให้ได้เป็นครั้งแรก . ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงรอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย เชื่อว่า ผลงานของนายทักษิณในอดีต ยังอยู่ในใจพี่น้องประชาชน การเดินทางไปแต่ละที่ประชาชนยังพูดถึงความสำเร็จของท่านในอดีตอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นการเดินทางไปจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดอื่นๆของนายทักษิณ ถือเป็นเรื่องปกติเพราะท่านเป็นคนไทยคนหนึ่งจะเดินทางไปไหนก็ได้ .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 898 มุมมอง 0 รีวิว
  • 7/11/67

    “ปริศนาจากพระพุทธรูป"

    คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ
    คือ

    1. พระเศียรแหลม

    มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม

    พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์

    ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว

    ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ

    2. พระกรรณยาน

    หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว

    เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ

    3. พระเนตรมองต่ำ

    พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม

    สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า

    “อตฺตนา โจทยตฺตาน”

    ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า...

    “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด
    ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน
    ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน
    ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย”

    นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง”

    4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง

    ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่

    ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน

    หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง

    5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก

    สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก...

    ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน
    ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง

    ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น

    “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง

    นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน...

    อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ”

    และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า

    “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา”

    ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า
    ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ

    # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    7/11/67 “ปริศนาจากพระพุทธรูป" คงไม่มีใครไม่เคยเห็นพระพุทธรูป แต่คงจะมีน้อยคนที่รู้ว่า ลักษณะของพระพุทธรูปที่เราเห็นกันอยู่บ่อยครั้งนั้น แฝงข้อคิดอันประเสริฐสุดในชีวิตเอาไว้ ถึง 5 ประการ คือ 1. พระเศียรแหลม มีคำถามว่า ทำไมพระพุทธรูปจึงมีพระเศียรแหลมในเมื่อพระพุทธเจ้าของเราก็เป็นมนุษย์ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาสร้างพระพุทธรูปเพื่อให้คิดเป็นปริศนาธรรม พระเศียรแหลมนั้นหมายถึง สติปัญญาที่เฉียบแหลมในการดำเนินชีวิต สอนให้เราใช้ชีวิตและรู้จักแก้ปัญหาต่าง ๆ ด้วยสติปัญญาไม่ใช่ใช้แต่อารมณ์ ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ แก้ ใช้ปัญญาพิจารณาไตร่ตรองให้รอบคอบเสียก่อน แล้วความผิดพลาดจะเกิดขึ้นน้อย หรือแม้มันเกิดขึ้น เราก็จะเรียนรู้จากมันได้อย่างรวดเร็ว ปัญญาคือ ที่สุดแห่งธรรม หากมีปัญญา ชีวิตจะไม่มีปัญหา เพราะทุกสิ่งที่ผ่านเข้ามาจะกลายเป็นเครื่องมือที่สามารถนำไปใช้พัฒนาจิตใจได้เสมอ 2. พระกรรณยาน หูยานเป็นปริศนาธรรมให้ชาวพุทธเป็นคนหูหนัก คือ มีความหนักแน่นมั่นคง ไม่เชื่ออะไรง่าย ๆ แต่หมั่นคิดพิจารณาไตร่ตรองด้วยสติปัญญาอันแยบคาย แล้วจึงเชื่อในหลักฐานและข้อพิสูจน์ที่ตัวเองได้นำไปทดสอบแล้ว เราต้องเชื่อมั่นในหลักเหตุและผล (Cause & Effect) เชื่อว่าบุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น เชื่อว่าสุดท้าย คน ๆเดียวที่จะสามารถทำให้เราสุขหรือทุกข์ ดีหรือเลวได้คือ ตัวเราเอง และ ชีวิตเราจะเสื่อมทรามหรือเจริญรุ่งเรือง ก็ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอำนาจภายนอกหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่ขึ้นอยู่กับความคิด คำพูด และการกระทำของเราเองฉะนั้น ในการใช้ชีวิต ให้มีความสุขุมเยือกเย็น มีสติ และ มีเหตุผลเข้าไว้ อย่าปล่อยใจไปยึดตามสิ่งที่ได้ยิน เชื่อตามคนอื่น หรือตัดสินใจอย่างหุนหันพลันแล่นจนเกินไป ลองพิสูจน์สิ่งต่าง ๆด้วยตัวเองเสียก่อนจะเชื่อ ตามหลัก “กาลามสูตร” เพื่อฝึกฝนการเป็นคนที่มีจิตใจหนักแน่นมั่นคง ดั่งองค์พระพุทธฯ 3. พระเนตรมองต่ำ พระพุทธรูปที่สร้างโดยทั่วไปจะมีพระเนตรมองลงที่พระวรกายของพระองค์ ไม่ได้มองดูหน้าต่าง หรือมองดูประตูพระอุโบสถว่าจะมีใครเข้ามาไหว้บ้าง นี่เป็นปริศนาธรรม สอนให้มองตนเองและพิจารณาตนเองเสมอ ตักเตือนแก้ไขตนเองก่อนจะไปคอยจับผิดผู้อื่น ตามปกติคนเรามักจะมองเห็นแต่ความผิดพลาดของบุคคลอื่น โดยลืมมองข้อบกพร่องของตนเอง มัวแต่เอาเวลาไปนินทาว่าร้ายและจ้องแต่จะคอยวิจารณ์หรือเปลี่ยนแปลงคนรอบข้างอย่างเดียว ทำให้สูญเสียโอกาสในการปรับปรุงพัฒนาตัวเอง ใครเล่าจะตักเตือนตัวเราได้ดีกว่าตัวเราเอง จึงมีพุทธพจน์ตรัสให้เตือนตนเองว่า “อตฺตนา โจทยตฺตาน” ซึ่งแปลเป็นกลอนได้ว่า... “จงเตือนตนของตนให้พ้นผิด ตนเตือนจิตตนได้ใครจะเหมือน ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน ตนแชเชือนรีบเตือนตนให้พ้นภัย” นอกจากนั้น พระเนตรที่มองต่ำคือ การสอนให้ใช้ชีวิตอยู่กับปัจจุบัน ไม่ใช่เหม่อมองฟ้าจนฝันเฟื่องถึงเรื่องที่ยังไม่ได้เกิดขึ้น หรือ มัวหลงล่องลอยอยู่ในอดีตที่ผ่านพ้นไปแล้วและไม่มีวันหวนกลับมา ตาที่มองลงต่ำจะช่วยย้ำเตือนใจเราว่า “กลับมาก่อนเถิด... กลับบ้านมาอยู่กับลมหายใจที่ปลายจมูก... เพราะนั่นคือ ดินแดนแห่งสวรรค์ที่แท้จริง” 4. พระพักตร์อันสงบนิ่ง ไม่ว่าใครจะด่าว่าพระพุทธรูปอย่างไร ท่านก็ยังสงบนิ่ง ไม่ว่าน้ำจะท่วม แผ่นดินจะไหว หรือใครจะเตะ ต่อย นินทา หรือทำร้ายพระพุทธรูปมากแค่ไหน ท่านก็นิ่งสงบรับแรงกระทบต่าง ๆ เหล่านั้นอย่างมั่นคง เบิกบาน และไม่หวั่นไหวไปกับปัญหาทั้งเล็กและใหญ่ ให้ความรู้สึกเย็นสบายต่อผู้พบเห็นอยู่เสมอ ในชีวิตของเรา ไม่ใช่ว่าเราจะต้องยอมคนอยู่เสมอ แต่ถ้าเราสามารถฝึกรับแรงกระแทกทุกรูปแบบด้วยความนิ่งสงบได้ เราก็จะสามารถตอบโต้อย่างสร้างสรรค์และทรงพลังยิ่งกว่าเดิม เพราะคนบ้าจะโต้ตอบแบบหน้ามืด และคนโง่จะตอบโต้ตอนที่ตัวเองกำลังโกรธ ส่งผลให้ตัวเองและคนอื่นตกตายไปตามกัน หากเรารู้จักนิ่งสงบรับแรงกระแทกต่าง ๆ ในชีวิตได้เหมือนพระพุทธรูป ขั้นตอนต่อไปของการตอบโต้จะเกิดจากสติ เกิดจากปัญญา และเกิดจากพลังอันยิ่งใหญ่ที่มาจากใจที่สงบนิ่ง ซึ่งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ไม่สร้างบาดแผลให้กับคนอื่นหรือตัวเอง 5. รอยยิ้มของผู้ที่เข้าใจโลก สุดท้าย คือปริศนาจากพระโอษฐ์ที่แย้มยิ้มอยู่เสมอ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่รักสรรพสิ่ง รักโลก และเข้าใจความจริงของโลก... ความจริงที่ว่า... ทุกสิ่งย่อมเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดาความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรแน่นอน ความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรคงทนถาวรความจริงที่ว่า... ไม่มีอะไรเป็นของเราอย่างแท้จริง ความสุขและความทุกข์ เป็นของคู่กันเสมอ ฉะนั้น “ผู้ที่เข้าใจความจริง” จะสามารถสงบนิ่งอยู่ได้ในธรรมชาติของสรรพสิ่ง ไม่วิ่งตามกระแสโลกจนเหนื่อยเกินไป และสามารถใช้ชีวิตอย่างเบิกบานได้ท่ามกลางพายุที่โหมกระหน่ำ เพราะมีสัจธรรมเป็นที่พักพิง นอกจากนั้นรอยยิ้มของพระพุทธรูป คือ รอยยิ้มของผู้ที่ถ่อมตัว แต่ในขณะเดียวกันก็เข้าใจความยิ่งใหญ่และคุณค่าของความเป็นมนุษย์ รู้ว่าแม้ตัวเองจะเป็นเพียงเศษผงธุลีหนึ่งในจักรวาล แต่ก็เป็นเศษผงธุลีที่สามารถเข้าใจความจริงของจักรวาลได้ จึงทั้งเป็นสิ่งที่พิเศษและไม่พิเศษ ในเวลาเดียวกัน... อย่าลืมนะ ว่า ในจิตใจของพวกเราทุกคน มีความเป็นพุทธะ (ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน) ซ่อนอยู่ โดยไม่มีข้อยกเว้น เพราะหลายคนอาจไม่ทราบว่า แท้จริงคำว่า “พระพุทธเจ้า” (ผู้ตื่นรู้) ไม่ใช่ “ชื่อ” แต่เป็น “คำนำหน้าชื่อ” และในอดีตก็เคยมีพระพุทธเจ้ามาแล้วหลายพระองค์ โดยองค์ปัจจุบันที่เรารู้จักกันดีมีพระนามว่า “โคตมะ” ซึ่งแปลว่า “ผู้ขับไล่ความมืด (อวิชชา) ด้วยแสงสว่างแห่งปัญญา” ดังนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า ไม่ว่าใครก็สามารถไปถึงจุดของความเป็น “พุทธะ” ได้ทั้งนั้น หากคนคนนั้นหมั่นใช้ชีวิตอย่างมีสติและมีปัญญาอยู่เสมอ # ฉะนั้น เมื่อใดที่เราก้มลงกราบพระพุทธรูป นอกจากจะระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้าแล้ว ก็อย่าลืมระลึกถึงปรัชญาที่แฝงไว้ด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 481 มุมมอง 0 รีวิว
  • cr: เพลงผ้า ปรพากย์
    หงส์เหมราช (ขอบันทึกไว้อีกบท)
    ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ )

    ๏ งามเทพขบวนวรบดิน-..ทรปิ่นพระเกศเมือง
    งามเอยพระงามสิริเมลือง..ยุรยาตรสุพรรณ์หงส์

    ๏ พร่างพราวอร่ามชระเสด็จ..ชุติเพชรสุรีย์ทรง
    ชดช้อยสง่าวรอนงค์..พิศะเจ้าพระยาเย็น

    ๏ พวงพู่เศวตวิมลเผย..สิเสวยพระพายเป็น
    ริ้วริ้วพิลาสคณะบำเพ็ญ..อภิรมย์ยะหยาดยวน

    ๏ พรั่งพร้อมระเบียบและวิทยา..พละกล้าอเนกมวล
    เพลงพายขยับจรขบวน..ดุจะปีกวิหงค์กาง

    ๏ เทินทูนประภัสร์นฤปนาถ..สิริชาติมหาปาง
    พร้อมราชินีสิริสุราง-..คเสด็จสุธาธาร

    ๏ ชื่นชมพระแท่นวิหคเหม..อุระเปรมเกษมศานต์
    ต้องมนต์สะกดหทยปาน..ชลนัยจะหลั่งริน

    ๏ เปล่งบารมีสุตะละออง..ก็สนองกระแสสินธุ์
    ทาบกาญจน์ประสิทธิ์สุรประทิน..อภิวาทพระยาตรา

    ๏ ท่ามพราวประภาสอภิประไพ..สิไสวกระจ่างหล้า
    นวลนวลละอองศุภะลดา..ฉลุเล่าเฉลารัตน์

    ๏ งามความประณีตศิลปชา-..ติสง่าบุราณหัตถ์
    กิจจาประเสริฐมหะกษัตริย์..มรดกไผทไทย

    ........เพลงผ้า ปรพากย์
    บันทึกขบวนพยุหยาตราทางชลมารค
    ในหลวง-พระราชินีเสด็จถวายผ้าพระกฐิน
    ณ วัดอรุณ เมื่อ ๒๗ ต.ค ๖๗
    ภาพจากเพจ Atipoj Srisukhon
    cr: เพลงผ้า ปรพากย์ หงส์เหมราช (ขอบันทึกไว้อีกบท) ( วสันตดิลกฉันท์ ๑๔ ) ๏ งามเทพขบวนวรบดิน-..ทรปิ่นพระเกศเมือง งามเอยพระงามสิริเมลือง..ยุรยาตรสุพรรณ์หงส์ ๏ พร่างพราวอร่ามชระเสด็จ..ชุติเพชรสุรีย์ทรง ชดช้อยสง่าวรอนงค์..พิศะเจ้าพระยาเย็น ๏ พวงพู่เศวตวิมลเผย..สิเสวยพระพายเป็น ริ้วริ้วพิลาสคณะบำเพ็ญ..อภิรมย์ยะหยาดยวน ๏ พรั่งพร้อมระเบียบและวิทยา..พละกล้าอเนกมวล เพลงพายขยับจรขบวน..ดุจะปีกวิหงค์กาง ๏ เทินทูนประภัสร์นฤปนาถ..สิริชาติมหาปาง พร้อมราชินีสิริสุราง-..คเสด็จสุธาธาร ๏ ชื่นชมพระแท่นวิหคเหม..อุระเปรมเกษมศานต์ ต้องมนต์สะกดหทยปาน..ชลนัยจะหลั่งริน ๏ เปล่งบารมีสุตะละออง..ก็สนองกระแสสินธุ์ ทาบกาญจน์ประสิทธิ์สุรประทิน..อภิวาทพระยาตรา ๏ ท่ามพราวประภาสอภิประไพ..สิไสวกระจ่างหล้า นวลนวลละอองศุภะลดา..ฉลุเล่าเฉลารัตน์ ๏ งามความประณีตศิลปชา-..ติสง่าบุราณหัตถ์ กิจจาประเสริฐมหะกษัตริย์..มรดกไผทไทย ........เพลงผ้า ปรพากย์ บันทึกขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในหลวง-พระราชินีเสด็จถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณ เมื่อ ๒๗ ต.ค ๖๗ ภาพจากเพจ Atipoj Srisukhon
    Love
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569
    วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดบ้านไร่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. วัดบ้านหลุ่ง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดประเสริฐสุทธาวาส เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดป่าดำรงธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดป่าภาวนาภิวัตร อ.ภูกระดึง จ.เลย
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดป่าเมตตาหลวง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดพุพรหม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดนาลุ่มแร่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 05 พ.ย.67)
    20. วัดลุมพุกอุดมพนาราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดกฐินสามัคคี 06 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569 วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดบ้านไร่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. วัดบ้านหลุ่ง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดประเสริฐสุทธาวาส เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดป่าดำรงธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดป่าภาวนาภิวัตร อ.ภูกระดึง จ.เลย (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดป่าเมตตาหลวง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดพุพรหม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดนาลุ่มแร่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดกฐินสามัคคี 05 พ.ย.67) 20. วัดลุมพุกอุดมพนาราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดกฐินสามัคคี 06 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569
    วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง
    วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024)

    Photo Album Set 2/2
    ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท
    11. วัดบ้านไร่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    12. วัดบ้านหลุ่ง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    13. วัดประเสริฐสุทธาวาส เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    14. วัดป่าดำรงธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    15. วัดป่าภาวนาภิวัตร อ.ภูกระดึง จ.เลย
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    16. วัดป่าเมตตาหลวง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    17. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    18. วัดพุพรหม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67)
    19. วัดนาลุ่มแร่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 05 พ.ย.67)
    20. วัดลุมพุกอุดมพนาราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ
    (ทอดกฐินสามัคคี 06 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,569 วันอังคาร: ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๒ ปีมะโรง วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗ (5 November 2024) Photo Album Set 2/2 ทอดกฐินสามัคคี 20 วัด เป็นเงิน 400 บาท 11. วัดบ้านไร่ อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 12. วัดบ้านหลุ่ง อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 13. วัดประเสริฐสุทธาวาส เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 14. วัดป่าดำรงธรรม อ.เมือง จ.อุดรธานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 15. วัดป่าภาวนาภิวัตร อ.ภูกระดึง จ.เลย (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 16. วัดป่าเมตตาหลวง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 17. วัดปุหรน อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 18. วัดพุพรหม อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 10 พ.ย.67) 19. วัดนาลุ่มแร่ อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี (ทอดกฐินสามัคคี 05 พ.ย.67) 20. วัดลุมพุกอุดมพนาราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ (ทอดกฐินสามัคคี 06 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ คำนวณเวลาที่ยังเหลืออยู่ในชาตินี้ = 26 ปี 99 วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมดเวลาหาแสง สอบสวนกลางห้ามใช้แถลงข่าว

    กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกายระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวโดยเด็ดขาด

    สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะ มาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจสอบส่วนกลางจำนวนมาก หลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้กำลัง ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจึงต้องออกกฎระเบียบดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด 2. หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก

    3. ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และ 4. ห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี

    ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ในตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย นำพยานรายหนึ่ง อ้างว่า 1 ใน 18 บอสคดีดิไอคอน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ปรากฎว่าพยานสารภาพว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง คาดว่าอยากเรียกร้องความสนใจ

    “ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวาย สร้างความไขว้เขว อันนี้ต้องว่ากัน”

    สำหรับศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งอยู่ที่กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหน่วยงานในสังกัด 6 หน่วยงานมารวมกันที่นี่

    #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    หมดเวลาหาแสง สอบสวนกลางห้ามใช้แถลงข่าว กรณีที่นายธรรมราช สาระปัญญา ทนายความ ถูกผู้ก่อเหตุนำโดยนายจารุเวศ พงษ์ฉวี อายุ 28 ปี บุกทำร้ายร่างกายระหว่างแถลงข่าวดำเนินคดีกับ "อาจารย์เบียร์ คนตื่นธรรม" อินฟลูเอนเซอร์ ในข้อหาเหยียดหยามศาสนา ที่หน้าศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 2567 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ให้ออกระเบียบห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวโดยเด็ดขาด สืบเนื่องจากปัจจุบัน มีบุคคลหลายกลุ่มหลายคณะ มาใช้สถานที่ศูนย์แจ้งความร้องทุกข์ของตำรวจสอบส่วนกลางจำนวนมาก หลายครั้งเกิดเหตุการณ์รุนแรง มีการใช้กำลัง ทำให้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของหน่วยงานราชการ เพื่อความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยจึงต้องออกกฎระเบียบดังกล่าว ประกอบด้วย 1. ห้ามบุคคลหรือคณะบุคคลมาใช้สถานที่ในการแถลงข่าวที่หน้าศูนย์แจ้งความตำรวจสอบสวนกลางโดยเด็ดขาด 2. หากเป็นการให้ข่าวหรือให้สัมภาษณ์ ให้ไปใช้สถานที่ด้านนอก 3. ประชาชนที่จะเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์ สามารถเดินทางเข้าร้องเรียนกับพนักงานสอบสวนของตำรวจสอบสวนกลางได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านคนกลางหรือตัวแทน เพื่อป้องกันการถูกหลอกลวงซ้ำซ้อน และ 4. ห้ามมาใช้สถานที่ถ่ายทำไลฟ์สด ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับหน่วยงาน หากจะถ่ายทำให้ขออนุญาตเป็นกรณี ก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงข่าวเมื่อวันที่ 22 ต.ค. 2567 ในตอนหนึ่งกล่าวถึงกรณีที่นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด นักการเมืองพรรคภูมิใจไทย นำพยานรายหนึ่ง อ้างว่า 1 ใน 18 บอสคดีดิไอคอน ยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินไปเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ปรากฎว่าพยานสารภาพว่าข้อมูลมั่ว ไม่มีที่มา เป็นการอุปโลกน์ขึ้นมา โดยอ้างว่าถามจากเพื่อนและเสิร์ชหาทางเว็บไซต์โดยที่ไม่มีข้อเท็จจริง คาดว่าอยากเรียกร้องความสนใจ “ขอบคุณผู้ที่มีจิตอาสาทุกคนที่เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชน แต่ไม่อยากให้เข้ามาเพื่อหาแสง เพราะตอนนี้กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางแสงมันจ้าไปหมด คนถึงเข้ามากัน จึงขอเตือนบางคน ข้อมูลต่างๆ ถ้าคิดว่าจะช่วยเหลือสังคมจะต้องแม่นกฎหมาย ต้องรู้ว่าการกระทำจะไม่หมิ่นเหม่ในข้อกฎหมาย หากเข้ามาแล้วสร้างความวุ่นวาย สร้างความไขว้เขว อันนี้ต้องว่ากัน” สำหรับศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ตั้งอยู่ที่กองปราบปราม ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ เปิดเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2565 ตามนโยบายของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง รวบรวมหน่วยงานในสังกัด 6 หน่วยงานมารวมกันที่นี่ #Newskit #ตำรวจสอบสวนกลาง
    Like
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 678 มุมมอง 0 รีวิว
  • ## สมาชิก EU ขับไล่ เลขาธิการใหญ่ UN ให้ลาออกจากตำแหน่ง ##
    ..
    ..
    โดย กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้อง เช่นนี้มีนั้นมีสาเหตุ...
    .
    ซึ่ง เขาอ้างว่า อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปแล้ว...
    .
    เหตุ เพียงเพราะแค่...!!!
    .
    อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UN ไปเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประชุม BRICS ใน รัสเซีย...
    .
    😑😑😑😑
    .
    ว้าว...!!!
    .
    เพียงเพราะ ไปเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประชุม BRICS ใน รัสเซีย ก็ทำให้ มนุษย์คนนึง ขาดความนาเชื่อถือได้แล้ว...???
    .
    แหม่...
    .
    งั้นการประชุมกับ อเมริกา ซึ่งพยายามจะอ้างว่า ตนเอง ต้องการสันติภาพ และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ใน ฉนวนกาซา
    .
    แต่...ประกาศจะอยู่ข้าง อิสราเอล แบบไม่มีเงื่อนไข...!!!
    .
    แถม เป็นประเทศที่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้ อิสราเอล แบบไม่ขาดสาย โดยที่ อิสราเอล ใช้อาวุธเหล่านั้นในการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวปาเลสไตน์...!!!
    .
    พฤติการแบบนี้กระมัง ถึงจะเป็นคนดีศรีสังคม ที่น่าเชื่อถือ มีเกียรติมีศรี มีสง่า...
    .
    แล้วการที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ไม่เข้าร่วมประชุมสันติภาพ นั้นไม่แปลกเลยครับ...
    .
    ประชุมสันติภาพ ที่มีแค่ ยูเครน อเมริกา และ พวกลูกกะเป๋ง แทนที่จะมีคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย มี รัสเซีย มานั่งเจรจากัน มันจะมีประโยชน์อะไรหล่ะครับ...???
    .
    เขาจะเสียเวลาถ่อเดินทางไปนั่งประชุมหา พระแสงหอกของ้าว ทำไม...???
    .
    เพราะการถกกันคงไม่พ้นเรื่อง เราจะจัดการ รัสเซีย อย่างไร เราจะสนับสนุน ยูเครน ให้สู้กับ รัสเซีย ได้อย่างไร...
    .
    นั่นไม่ใช่การเจรจาเพื่อสันติภาพครับ...
    .
    🤣🤣🤣🤣
    .
    แหม่...
    .
    นี่แหล่ะน้าาาา มนุษย์อุจจาระเหม็น....
    .
    คนฝั่งตรงข้ามล้วนชั่วร้ายเลวทราม มีเพียงตนเองที่ดีเลิศประเสริฐศรี อุจจาระหอม อยู่คนเดียว...
    .
    🤣🤣🤣🤣
    .
    https://news1live.com/detail/9670000103579
    ## สมาชิก EU ขับไล่ เลขาธิการใหญ่ UN ให้ลาออกจากตำแหน่ง ## .. .. โดย กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้อง เช่นนี้มีนั้นมีสาเหตุ... . ซึ่ง เขาอ้างว่า อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ได้สูญเสียความน่าเชื่อถือไปแล้ว... . เหตุ เพียงเพราะแค่...!!! . อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ หรือ UN ไปเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประชุม BRICS ใน รัสเซีย... . 😑😑😑😑 . ว้าว...!!! . เพียงเพราะ ไปเข้าร่วมการประชุมกลุ่มประชุม BRICS ใน รัสเซีย ก็ทำให้ มนุษย์คนนึง ขาดความนาเชื่อถือได้แล้ว...??? . แหม่... . งั้นการประชุมกับ อเมริกา ซึ่งพยายามจะอ้างว่า ตนเอง ต้องการสันติภาพ และ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการ ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ใน ฉนวนกาซา . แต่...ประกาศจะอยู่ข้าง อิสราเอล แบบไม่มีเงื่อนไข...!!! . แถม เป็นประเทศที่ส่งอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ให้ อิสราเอล แบบไม่ขาดสาย โดยที่ อิสราเอล ใช้อาวุธเหล่านั้นในการ "ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" ชาวปาเลสไตน์...!!! . พฤติการแบบนี้กระมัง ถึงจะเป็นคนดีศรีสังคม ที่น่าเชื่อถือ มีเกียรติมีศรี มีสง่า... . แล้วการที่ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส ไม่เข้าร่วมประชุมสันติภาพ นั้นไม่แปลกเลยครับ... . ประชุมสันติภาพ ที่มีแค่ ยูเครน อเมริกา และ พวกลูกกะเป๋ง แทนที่จะมีคู่ขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย มี รัสเซีย มานั่งเจรจากัน มันจะมีประโยชน์อะไรหล่ะครับ...??? . เขาจะเสียเวลาถ่อเดินทางไปนั่งประชุมหา พระแสงหอกของ้าว ทำไม...??? . เพราะการถกกันคงไม่พ้นเรื่อง เราจะจัดการ รัสเซีย อย่างไร เราจะสนับสนุน ยูเครน ให้สู้กับ รัสเซีย ได้อย่างไร... . นั่นไม่ใช่การเจรจาเพื่อสันติภาพครับ... . 🤣🤣🤣🤣 . แหม่... . นี่แหล่ะน้าาาา มนุษย์อุจจาระเหม็น.... . คนฝั่งตรงข้ามล้วนชั่วร้ายเลวทราม มีเพียงตนเองที่ดีเลิศประเสริฐศรี อุจจาระหอม อยู่คนเดียว... . 🤣🤣🤣🤣 . https://news1live.com/detail/9670000103579
    NEWS1LIVE.COM
    ทนดูไม่ได้! สมาชิกอียูตะเพิดเลขาฯ UN พ้นเก้าอี้ ลอยหน้าลอยตาไปร่วมประชุมกลุ่ม BRICS
    กาเบรียลิอุส แลนด์สเบอร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย เรียกร้องให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ ลาออกจากตำแหน่ง อ้างว่าเขาสูญเสียความน่าเชื่อถือ หลังไปเข้าร่วมการประชุมกลุ่ม BRICS ในรัสเซีย เมื่อช่วงปลายสัปด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 428 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลเร่งสอบเทวดาสคบ. ขีดเส้นขอเวลา 30 วัน พร้อมจัดการคนผิด
    .
    ท่ามกลางความสนใจของสังคมที่มีต่อกรณีของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบลืมไปแล้ว คือ กรณีของผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียกรับประโยชน์ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า เทวดาสคบ. ปรากฎว่าในที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการตั้งกระทู้สอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นผู้ตอบคำถาม
    .
    นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ส.ว.ในฐานะผู้เสนอกระทู้ได้อภิปรายและสอบถามว่า ในกรณีดิไอคอน ล่าสุดนี้ มีคำว่าเทวดา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเทวดาตบทรัพย์หรืออย่างไร หรือเป็นซาตาน ผีปอบ สุดท้ายเราไม่รู้ว่าเทวดาจะหนีรอดอีกหรือไม่ มาจนถึงพระ หลอกลงทุนไปที่แชร์แครอท ต้องบอกว่าถึงเวลาที่จริงจังหรือยัง ทำอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้วไปไล่จับ ทุกกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง มีคนมีศักดิ์มีศรีเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลมีวิธีการจัดการอย่างไร เทวดามีจริงหรือไม่ และมีแนวทางการป้องกันก่อนเกิดเหตุอย่างไร
    .
    นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีข้อสั่งการถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยเร่งสางปมคดีที่เกิดขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดให้ทุก สน.รับแจ้งข้อหา ได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ช่วยร่วมสนับสนุนข้อมูลให้สอบสวนโดยเร็ว ส่วนเรื่องเทวดา สคบ.นั้น ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ได้เสนอเรื่องไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลอยู่ ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง
    .
    "ถ้าท่านดูไทม์ไลน์ จะเห็นว่าใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ในการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ซึ่งตามโครงสร้างของคณะกรรมการนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนนอกทั้งหมด เราไม่ได้ให้คนในตรวจกันเอง เราใช้กรรมการจากคนนอกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอาญาเข้ามาอยู่ในโครงสร้าง มีทั้งตัวแทน อัยการ ปปง. ดีเอสไอ ตร. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ระหว่างกรอบเวลาที่จะสืบหาข้อเท็จจริงนี้ 30 วัน และคณะกรรมการก็ประชุมทันที โดยคณะกรรมการชุดนี้ยังตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะในการสืบหาข้อเท็จจริง และคณะที่ศึกษาปัญหาข้อจำกัดในการทำธุรกิจขายตรงหรือแบบตรง ซึ่งจะเข้ามาดูตั้งแต่ขั้นตอนการขอใบอนุญาต ข้อบังคับต่างๆ" นางสาวจิราพร กล่าว
    .......
    Sondhi X
    รัฐบาลเร่งสอบเทวดาสคบ. ขีดเส้นขอเวลา 30 วัน พร้อมจัดการคนผิด . ท่ามกลางความสนใจของสังคมที่มีต่อกรณีของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด มีอีกเรื่องหนึ่งที่เกือบลืมไปแล้ว คือ กรณีของผู้บริหารระดับสูงในสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคเรียกรับประโยชน์ หรือที่เรียกกันสั้นๆว่า เทวดาสคบ. ปรากฎว่าในที่ประชุมวุฒิสภาได้มีการตั้งกระทู้สอบถามถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว โดยมีนางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี มาเป็นผู้ตอบคำถาม . นายสุนทร พฤกษพิพัฒน์ ส.ว.ในฐานะผู้เสนอกระทู้ได้อภิปรายและสอบถามว่า ในกรณีดิไอคอน ล่าสุดนี้ มีคำว่าเทวดา ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเทวดาตบทรัพย์หรืออย่างไร หรือเป็นซาตาน ผีปอบ สุดท้ายเราไม่รู้ว่าเทวดาจะหนีรอดอีกหรือไม่ มาจนถึงพระ หลอกลงทุนไปที่แชร์แครอท ต้องบอกว่าถึงเวลาที่จริงจังหรือยัง ทำอย่างไรไม่ให้เกิดเรื่องเหล่านี้ขึ้นมา ไม่ใช่ปล่อยให้เกิดขึ้นมาแล้วไปไล่จับ ทุกกรณีมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง มีคนมีศักดิ์มีศรีเข้าไปเกี่ยวข้อง รัฐบาลมีวิธีการจัดการอย่างไร เทวดามีจริงหรือไม่ และมีแนวทางการป้องกันก่อนเกิดเหตุอย่างไร . นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า นายกฯ ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยได้มีข้อสั่งการถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกหน่วยงาน เพื่อช่วยเร่งสางปมคดีที่เกิดขึ้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้เปิดศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ ตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา เปิดให้ทุก สน.รับแจ้งข้อหา ได้ระดมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ช่วยร่วมสนับสนุนข้อมูลให้สอบสวนโดยเร็ว ส่วนเรื่องเทวดา สคบ.นั้น ยืนยันว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ โดยมีการเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นว่ามีกรณีนี้เกิดขึ้นจริงหรือไม่ มีการปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือไม่ ได้เสนอเรื่องไปยังนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลอยู่ ซึ่งได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง . "ถ้าท่านดูไทม์ไลน์ จะเห็นว่าใช้ระยะเวลาไม่ถึง 1 อาทิตย์ ในการตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ ซึ่งตามโครงสร้างของคณะกรรมการนี้จะเห็นได้ว่าเป็นคนนอกทั้งหมด เราไม่ได้ให้คนในตรวจกันเอง เราใช้กรรมการจากคนนอกที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมโดยเฉพาะอาญาเข้ามาอยู่ในโครงสร้าง มีทั้งตัวแทน อัยการ ปปง. ดีเอสไอ ตร. เพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายมากที่สุด ระหว่างกรอบเวลาที่จะสืบหาข้อเท็จจริงนี้ 30 วัน และคณะกรรมการก็ประชุมทันที โดยคณะกรรมการชุดนี้ยังตั้งอนุกรรมการขึ้นมา 2 คณะ ได้แก่ คณะในการสืบหาข้อเท็จจริง และคณะที่ศึกษาปัญหาข้อจำกัดในการทำธุรกิจขายตรงหรือแบบตรง ซึ่งจะเข้ามาดูตั้งแต่ขั้นตอนการขอใบอนุญาต ข้อบังคับต่างๆ" นางสาวจิราพร กล่าว ....... Sondhi X
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 905 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทนี้แสดงถึงการมอง "ความทุกข์ทางใจ" ในแง่พุทธศาสนา ซึ่งมองว่า มนุษย์ล้วนมีอาการป่วยทางจิตจากการยึดติดในสิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่สามารถคงอยู่ในสภาพเดิมได้ แต่เรากลับไม่เห็นความจริงนี้อย่างแจ่มชัด จึงตกอยู่ในความทุกข์ที่เกิดจากความเข้าใจผิด หรือที่เรียกว่า "อุปาทาน" ซึ่งเป็นความยึดมั่นในสิ่งที่คิดว่าเป็นตนเองหรือเป็นของเรา

    การรักษา "อาการป่วยทางใจ" นี้ ไม่ใช่แค่การหลีกหนีความทุกข์ชั่วคราว แต่คือการเปลี่ยนแปลงจิตใจอย่างถาวร ด้วยการปฏิบัติธรรมให้จิตสงบ ไม่ยึดติดอยู่กับทุกข์หรือความสุข เมื่อเราฝึกใจให้สว่าง มีสติ และตั้งมั่นในความดี ก็จะไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์เชิงลบ และเห็นความไม่เที่ยงแท้ของทุกสิ่งในชีวิต

    จิตที่สว่างและมั่นคง จะนำมาซึ่งกรรมดี พาชีวิตไปสู่ทางที่ประเสริฐกว่า ขณะที่การปฏิบัติธรรมทุกวันก็เปรียบเสมือนการทำความสะอาดจิตให้ชุ่มชื่นและสงบอยู่เสมอ เมื่อเราฝึกฝนไปเรื่อยๆ วันหนึ่งจิตจะเปิดรับและเข้าใจธรรมะอย่างแท้จริง

    การเข้าถึงความจริงว่า "ทุกสิ่งไม่ใช่ตัวเรา ไม่เที่ยงแท้" เป็นรากของการดับทุกข์ทางใจอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหากจิตใจถึงระดับนั้น ทุกข์ทางใจจะหายไปหมดสิ้น เรียกได้ว่าเป็นการ "หายป่วยทางใจ" อย่างแท้จริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า

    บทนี้แสดงถึงการมอง "ความทุกข์ทางใจ" ในแง่พุทธศาสนา ซึ่งมองว่า มนุษย์ล้วนมีอาการป่วยทางจิตจากการยึดติดในสิ่งที่ไม่เที่ยง ไม่สามารถคงอยู่ในสภาพเดิมได้ แต่เรากลับไม่เห็นความจริงนี้อย่างแจ่มชัด จึงตกอยู่ในความทุกข์ที่เกิดจากความเข้าใจผิด หรือที่เรียกว่า "อุปาทาน" ซึ่งเป็นความยึดมั่นในสิ่งที่คิดว่าเป็นตนเองหรือเป็นของเรา การรักษา "อาการป่วยทางใจ" นี้ ไม่ใช่แค่การหลีกหนีความทุกข์ชั่วคราว แต่คือการเปลี่ยนแปลงจิตใจอย่างถาวร ด้วยการปฏิบัติธรรมให้จิตสงบ ไม่ยึดติดอยู่กับทุกข์หรือความสุข เมื่อเราฝึกใจให้สว่าง มีสติ และตั้งมั่นในความดี ก็จะไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์เชิงลบ และเห็นความไม่เที่ยงแท้ของทุกสิ่งในชีวิต จิตที่สว่างและมั่นคง จะนำมาซึ่งกรรมดี พาชีวิตไปสู่ทางที่ประเสริฐกว่า ขณะที่การปฏิบัติธรรมทุกวันก็เปรียบเสมือนการทำความสะอาดจิตให้ชุ่มชื่นและสงบอยู่เสมอ เมื่อเราฝึกฝนไปเรื่อยๆ วันหนึ่งจิตจะเปิดรับและเข้าใจธรรมะอย่างแท้จริง การเข้าถึงความจริงว่า "ทุกสิ่งไม่ใช่ตัวเรา ไม่เที่ยงแท้" เป็นรากของการดับทุกข์ทางใจอย่างสิ้นเชิง ซึ่งหากจิตใจถึงระดับนั้น ทุกข์ทางใจจะหายไปหมดสิ้น เรียกได้ว่าเป็นการ "หายป่วยทางใจ" อย่างแท้จริงตามคำสอนของพระพุทธเจ้า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2567 ได้พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า นวนิยายเรื่อง กี่บาด ของ ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด เล่าเรื่องของ "แม่ญิง" ช่างทอผ้าแม่แจ่มสามรุ่นที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับการทอซิ่นตีนจก นำเสนอผ่านโครงเรื่องการต่อสู้และการส่งต่อมรดกภูมิปัญญาการทอผ้าในบริบทยุคสมัยที่มีความผันแปร โดยใช้กี่ทอผ้าเป็นเสมือนพื้นที่ของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความหมายอันหลากมิติ ทั้งการต่อรองทางเพศสภาพ การต่อสู้กับอคติของจารีต การเก็บงำความทรงจำทั้งดีและร้าย

    ด้านศิลปะการประพันธ์ กี่บาด มีทั้งขนบวรรณศิลป์แบบดั้งเดิมประสานกับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยใช้ศิลปะการทอผ้าและลวดลาย สื่อความหมายและดำเนินเรื่องอย่างมีเชิงชั้น เต็มไปด้วยสีสันท้องถิ่น นำพาผู้อ่านสู่อารมณ์สะเทือนใจ เห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของมนุษย์ แม้จะต้องเผชิญประสบการณ์หรือความทรงจำอันปวดร้าวเพียงไร ชีวิตก็ต้องเดินไปข้างหน้า และถักทอเรื่องราวอันเป็นวัฒนธรรมเรื่องเล่าของมนุษยชาติต่อไป

    คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ นวนิยายเรื่อง กี่บาด ของ ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2567

    #Thaitimes
    คณะกรรมการตัดสินรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2567 ได้พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า นวนิยายเรื่อง กี่บาด ของ ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด เล่าเรื่องของ "แม่ญิง" ช่างทอผ้าแม่แจ่มสามรุ่นที่มีวิถีชีวิตผูกพันกับการทอซิ่นตีนจก นำเสนอผ่านโครงเรื่องการต่อสู้และการส่งต่อมรดกภูมิปัญญาการทอผ้าในบริบทยุคสมัยที่มีความผันแปร โดยใช้กี่ทอผ้าเป็นเสมือนพื้นที่ของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความหมายอันหลากมิติ ทั้งการต่อรองทางเพศสภาพ การต่อสู้กับอคติของจารีต การเก็บงำความทรงจำทั้งดีและร้าย ด้านศิลปะการประพันธ์ กี่บาด มีทั้งขนบวรรณศิลป์แบบดั้งเดิมประสานกับการสร้างสรรค์ใหม่ โดยใช้ศิลปะการทอผ้าและลวดลาย สื่อความหมายและดำเนินเรื่องอย่างมีเชิงชั้น เต็มไปด้วยสีสันท้องถิ่น นำพาผู้อ่านสู่อารมณ์สะเทือนใจ เห็นอกเห็นใจในชะตากรรมของมนุษย์ แม้จะต้องเผชิญประสบการณ์หรือความทรงจำอันปวดร้าวเพียงไร ชีวิตก็ต้องเดินไปข้างหน้า และถักทอเรื่องราวอันเป็นวัฒนธรรมเรื่องเล่าของมนุษยชาติต่อไป คณะกรรมการตัดสินจึงมีมติให้ นวนิยายเรื่อง กี่บาด ของ ประเสริฐศักดิ์ ปัดมะริด ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ประจำปีพุทธศักราช 2567 #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 646 มุมมอง 0 รีวิว
  • บอสพอล สั่งจากคุก เอาผิด "ทนายตั้ม" กรรโชกทรัพย์ 7 ล้าน
    .
    กรณีที่การตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ถือว่าเป็นโอกาสและวิกฤติของเหล่าบรรดานักร้องเรียนและทนายความชื่อดังในเวลาเดียว แม้ช่วงหนึ่งทั้งนักร้องเรียนและทนายความที่มีแสงจะได้พาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความ แต่ปรากฎว่าต่อเหล่านักร้องเรียนและทนายความต้องกลายมาเป็นผู้ถูกกล่าวหาแทนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
    .
    โดยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินหน้าเอาผิดนักร้องเรียนและทนายความ แยกออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ เรื่องที่ 1.แจ้งความเอาผิดนักร้องสาว ก. กรณีบอสพอลถูกกรรโชกทรัพย์ทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด
    .
    เรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล และนำข้อมูลที่อ้างว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้
    .
    เรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง โดยกล่าวว่าให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน โดยบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด
    .
    ทีมทนายก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง
    .
    ตอนนี้ทนายคนดังกล่าวก็คือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยได้ออกมายอมรับเองแล้ว แต่แถว่าเรียกเงินให้ผู้เสียหาย
    .
    เรื่องที่ 4 จะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด แต่มาแอบอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป
    ..............
    Sondhi X
    บอสพอล สั่งจากคุก เอาผิด "ทนายตั้ม" กรรโชกทรัพย์ 7 ล้าน . กรณีที่การตรวจสอบการทำธุรกิจของบริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป จำกัด ถือว่าเป็นโอกาสและวิกฤติของเหล่าบรรดานักร้องเรียนและทนายความชื่อดังในเวลาเดียว แม้ช่วงหนึ่งทั้งนักร้องเรียนและทนายความที่มีแสงจะได้พาผู้เสียหายเข้าไปแจ้งความ แต่ปรากฎว่าต่อเหล่านักร้องเรียนและทนายความต้องกลายมาเป็นผู้ถูกกล่าวหาแทนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน . โดยนายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ได้เดินหน้าเอาผิดนักร้องเรียนและทนายความ แยกออกเป็น 4 กรณี ได้แก่ เรื่องที่ 1.แจ้งความเอาผิดนักร้องสาว ก. กรณีบอสพอลถูกกรรโชกทรัพย์ทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด . เรื่องที่ 2 อยู่ระหว่างการตรวจสอบและพิจารณาที่จะดำเนินคดีกับทางนานเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับบอสพอล และนำข้อมูลที่อ้างว่าบอสพอลมีการเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้ . เรื่องที่ 3 บอสพอลก็มีการสั่งให้รวบรวมข้อมูล ในการดำเนินคดีกับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เป็นหนึ่งในทนายดรีมทีม ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอสจะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หาทางบอสพอลเพื่อเจรจาต่อรอง โดยกล่าวว่าให้ทางบอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดีกับดิไอคอน โดยบอสพอลยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด . ทีมทนายก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่าจำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ ทั้งนี้เลขาของบอสพอลได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าวจะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง . ตอนนี้ทนายคนดังกล่าวก็คือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด โดยได้ออกมายอมรับเองแล้ว แต่แถว่าเรียกเงินให้ผู้เสียหาย . เรื่องที่ 4 จะรวบรวมรายชื่อแม่ข่ายที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย จากนั้นแม่ข่ายขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอนกรุ๊ปจำกัด แต่มาแอบอ้างว่าเป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป .............. Sondhi X
    Like
    Wow
    17
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1157 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประเสริฐ​ มอง​ พิเชษฐ์ -​ ชลน่าน​ หักกลางสภาฯ​ แค่กระเซ้าเย้าแหย่​ 25/10/67 #ประเสริฐ #พิเชษฐ์ #ชลน่าน #รองประธาน​สภาฯ
    ประเสริฐ​ มอง​ พิเชษฐ์ -​ ชลน่าน​ หักกลางสภาฯ​ แค่กระเซ้าเย้าแหย่​ 25/10/67 #ประเสริฐ #พิเชษฐ์ #ชลน่าน #รองประธาน​สภาฯ
    Like
    Haha
    Wow
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1891 มุมมอง 391 0 รีวิว
  • ปรากฏการณ์มนุษย์กลายเป็นปีศาจ

    ปรากฏการณ์ดังกล่าวประกอบด้วยลักษณะสำคัญร่วมกัน 10 ประการ
    ที่ทำให้เปลี่ยนด้านสว่างของมนุษย์ที่ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐและสมองถูกวิวัฒน์ จนกระทั่งคิดว่าปกครองพัฒนาชีวิต การเป็นอยู่สิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้มนุษย์ด้วยกัน
    กลายเป็นด้านมืดที่สุด ที่กระทำทุกอย่างได้โดยไม่กระพริบตา

    ทั้งนี้รวมถึงการฆ่าฟัน การนำพาสิ่งอันตรายต่างๆ มาให้คน โดยจุดประสงค์แฝงเพื่อประโยชน์มหาศาลรวมทั้งการเกื้อกูลพวกเดียวกันโดย ให้อำนาจ เงิน อามิส สินจ้าง ทั้งนี้ล้างสมองตัวเองก่อนและล้างสมองแพร่ออกเป็นกลุ่มก้อน

    ปรากฏการณ์เกิดปีศาจร้าย ได้มีการรวบรวมและสรุปจากหมอผ่าตัดสมอง Itzhak Fried จาก University of California, Los Angeles ในปี 1997 โดยเรียกว่า Syndrome E และ E มาจาก Evil

    กลุ่มอาการทั้ง 10 ประกอบด้วย การแสดงออกซึ่งอธิบายได้ทางกลไกประสาทวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลทางด้านอารมณ์และพฤติกรรม

    “การประพฤติบ่อย“ นำไปสู่

    “ความอยากทำอีก” โดยเริ่มมีการชำระล้างความชั่วที่ทำ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี

    “ การทำซ้ำๆที่ควบคุมไม่ได้” โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อ อารมณ์และจิตใจ และความประพฤติปฏิบัติ ต่อมา แม้ว่าจะเกิดความเสียหายแม้กระทั่งต่อตนเองก็ตาม

    “ ไร้อารมณ์ความรู้สึก“ เมื่อกระทำชั่ว

    ” ความเร้าใจ” เมื่อกระทำได้สำเร็จ ตัวอย่าง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ยิ่งตายมาก พิการ ทรมานมาก เท่าไหร่ ยิ่งเร้าใจมาก

    “ ยังดูเหมือนเป็นมนุษย์ปกติ” สมองยังคงทำงานได้ ความจำ การสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และอื่นๆ

    “ เกิดการเสพติด” เฉยชา ในความเลวร้าย ที่ตนตนเองทำ

    “ แบ่งส่วนกับครอบครัวตนเองได้” มีชีวิตสุขสบายปกติกับครอบครัวตนเอง ไม่มีใครสำเหนียก

    “ ถูกกระตุ้นได้ง่าย“ เมื่อมีเหตุการณ์ที่มีโอกาศทำ จะรีบนำพาไปสู่ความคิดและการกระทำที่ชั่วร้าย

    “ แพร่เชื้อเหมือนโรคระบาด” มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนผู้อื่นให้กลายเป็นพวกเดียวกันในความคิดและการปฏิบัติเหมือนกัน

    มนุษย์กลายเป็นปีศาจนั้นไม่ใช่ลักษณะเดียวกับ กลุ่มที่ มีจิตและความประพฤติผิดปกติต่อต้านสังคมตั้งแต่ต้น เปรียบเสมือนทหารนาซีที่ สามารถฆ่าได้เป็นล้าน และในปัจจุบันอิสราเอลที่ฆ่าได้เป็นหมื่นเป็นแสน โดยประกาศตั้งเป้าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่นเดียวกับที่เกิดในแอฟริกา

    ปรากฏการณ์ E ตั้งแต่ปี 1997 ทำให้มีการประชุมกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมอง นักจิตวิทยาทางสังคม จิตแพทย์ กลุ่มต่อต้านผู้ก่อการร้าย นักเชี่ยวชาญสรีระวิทยาทางสมอง จนกระทั่งถึงกลุ่มทางกฎหมาย โดยมีการประชุมที่ปารีสสามครั้งระหว่าง 2015 ถึง 2017

    แกนกลางปัจจัยของปรากฏการณ์ E คือ
    ความเฉยชาไร้อารมณ์ ก่อน รวมทั้งในช่วงวางแผน จน ขณะก่อ ความชั่วร้าย และ แม้กระทั่งหลังจากนั้น แม้ถึงกับทำให้คร่าชีวิตคนด้วยกัน แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด รู้ร้อนรู้หนาว แต่กับครอบครัวยังเป็นปกติ

    เมื่อเป็นการล้างสมองอย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ความเห็นใจ ไม่มีความเข้าอกเข้าใจ แต่สามารถแสร้งทำปกติได้อย่างแนบเนียน ตามสถานการณ์ได้อย่างนุ่มนวล

    ในขณะเดียวกันมีความรู้สึกเหมือนถูกบีบบังคับเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ตนเองรู้สึกว่า “น่าทำ”

    ความเข้าอกเข้าใจนั้นเป็นลักษณะสำคัญในการเติบโตของมนุษย์แต่ละคนที่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยเกิดขึ้นในช่วงห้าขวบปีแรก และทำให้ตระหนักว่าการกระทำของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่รับรู้จากคนอื่นด้วย

    ดังนั้น เป็นการสร้างความตระหนักที่ให้เรียนรู้ในสังคม แต่ทำให้มีการแบ่งแยกโดยการสร้างกลุ่มของตนเองและบูลลี่คนเคราะห์ร้าย

    และกลุ่มอาจสร้างค่านิยมให้แบ่งชนชั้น (selective empathy) ดูถูกคนไร้บ้าน คนข้างถนน คนที่ด้อยกว่า ในที่ทำงาน ในธุรกิจ เป็นการกัดกร่อน ความเข้าอกเข้าใจคนด้วยกัน (empathy erosion)
    และในที่สุดจุดประกายกำเนิดความโหดร้าย และเป็นด้านมืดของสังคม ที่เพาะบ่ม เหมือนกับการตีสองหน้า ช่วยพวกเดียวกันเอง ถีบหัวไสส่ง มนุษย์ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง หรือด้อยกว่า

    การปรับเปลี่ยนจนเกิดความเป็นปึกแผ่นของกลุ่มและสังคม อาจมีประโยชน์ในการป้องกันศัตรูที่เข้ามารุกราน

    แต่แล้วที่เห็นในปัจจุบันคือการตีความ “ศัตรู” ให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ประนีประนอมไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นแผ่นดินทรัพยากรรวมกันไม่ได้ และต้องหายไปจากพื้นโลกนี้

    วงจรสมองที่ประกอบขึ้นมาในการเป็นอารมณ์และความเข้าอกเข้าใจกันนั้น มีความซับซ้อนและประกอบด้วย

    สมองส่วน vmPFC หรือ ventromedial Prefrontal cortex OFC หรือ orbito Frontal cortex และ ส่วน ของ amygdala ในระบบ limbic

    ปรากฏการณ์ เฉยชาต่อความเข้าอกเข้าใจ
    จะมีการกระตุ้นผิดปกติของบริเวณสมองส่วนหน้าซึ่งจะยับยั้ง สมองส่วน amygdala และอธิบายได้จนกระทั่งถึงความคิดและการกระทำที่ออกมาเป็นย้ำคิดย้ำทำและอยากฆ่าทำร้าย ยาเสพติด cocaine ก่อให้เกิดลักษณะเช่นนี้ได้

    แต่ถึงแม้จะรู้ระบบวงจรเหล่านี้มานานแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ ถึงปรากฏการณ์ E ซึ่งทำให้มนุษย์กลายเป็นปีศาจได้อย่างหมดจด เพราะมนุษย์ปีศาจนั้น แยกตัวเองจากความรู้สึก จนเป็นความแตกหักของสมองและปัญญาอันประเสริฐ (cognitive fracture)
    ไม่เคยมีความรู้สึกผิดหรือเสียใจใดๆทั้งสิ้น และเกิดได้ทุกเชื้อชาติภาษา เช่นเขมรแดงทรมานและฆ่าทิ้ง

    ความเฉียบคมของสมองของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ยังคงอยู่

    สรรหาวิธีการทรมานที่ทำให้เจ็บปวดที่สุด หาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ที่ทำให้เกิดการสังหารหมู่เป็นกลุ่มก้อน
    แม้กระทั่งมีการใช้ยา บ้า amphetamine ในกลุ่ม ISIS โดยทำให้มีการทำงานของระบบโดปามีน แปรปรวน ลดการทำงานของ serotonin ใน OFC นำไปสู่ พฤติกรรมต่อต้านสังคมฆ่าได้อย่างเฉยชา มีความก้าวร้าวและทำเป็นสันดาน ซึ่งเป็นการก่อการร้ายโดยใช้ยาเสพติดร่วมด้วย (pharmaco-terrorism)

    การกระทำชั่วร้ายของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ก่อให้เกิดอารมณ์ ปิติ ปลาบปลื้ม มีความสุขเป็นรางวัลให้ตัวเอง และต้องทำชั่วไปเพื่อความสุขของตนเอง แม้กระทั่งมีความอิ่มเอมเมื่อเห็นเหยื่อร้องขอชีวิต

    ในขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า ปรากฏการณ์ปีศาจนี้ มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจไปแล้วนั้น จะมีความกระหายอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนรอบข้างเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำนั้น และกลายเป็นปีศาจด้วยกัน และปีศาจตัวหัวหน้าใหญ่ แม้เมื่อตายไปแล้วก็จะมีปีศาจตัวอื่นๆทยอยขึ้นมาแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่ว

    ถึงตรงนี้ เราทุกคนต้องถามตัวเองว่า เราใช้ด้านมืด จนกลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือไม่?

    รวบรวม เรียบเรียงจากบทความใน aeon ของ Naga Arikha associate fellow ของ Warburg Institute (London) และ honorary fellow of the Center for the Politics of Feelings, and a research associate at the Institut Jean Nicod of the Ecole Normale Supérieure (Paris) 30 กรกฎาคม 2018

    ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    ปรากฏการณ์มนุษย์กลายเป็นปีศาจ ปรากฏการณ์ดังกล่าวประกอบด้วยลักษณะสำคัญร่วมกัน 10 ประการ ที่ทำให้เปลี่ยนด้านสว่างของมนุษย์ที่ถือว่าเป็นสัตว์ประเสริฐและสมองถูกวิวัฒน์ จนกระทั่งคิดว่าปกครองพัฒนาชีวิต การเป็นอยู่สิ่งแวดล้อมให้ดีที่สุด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้มนุษย์ด้วยกัน กลายเป็นด้านมืดที่สุด ที่กระทำทุกอย่างได้โดยไม่กระพริบตา ทั้งนี้รวมถึงการฆ่าฟัน การนำพาสิ่งอันตรายต่างๆ มาให้คน โดยจุดประสงค์แฝงเพื่อประโยชน์มหาศาลรวมทั้งการเกื้อกูลพวกเดียวกันโดย ให้อำนาจ เงิน อามิส สินจ้าง ทั้งนี้ล้างสมองตัวเองก่อนและล้างสมองแพร่ออกเป็นกลุ่มก้อน ปรากฏการณ์เกิดปีศาจร้าย ได้มีการรวบรวมและสรุปจากหมอผ่าตัดสมอง Itzhak Fried จาก University of California, Los Angeles ในปี 1997 โดยเรียกว่า Syndrome E และ E มาจาก Evil กลุ่มอาการทั้ง 10 ประกอบด้วย การแสดงออกซึ่งอธิบายได้ทางกลไกประสาทวิทยาศาสตร์ที่ส่งผลทางด้านอารมณ์และพฤติกรรม “การประพฤติบ่อย“ นำไปสู่ “ความอยากทำอีก” โดยเริ่มมีการชำระล้างความชั่วที่ทำ ให้กลายเป็นสิ่งที่ดี “ การทำซ้ำๆที่ควบคุมไม่ได้” โดยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผลกระทบต่อ อารมณ์และจิตใจ และความประพฤติปฏิบัติ ต่อมา แม้ว่าจะเกิดความเสียหายแม้กระทั่งต่อตนเองก็ตาม “ ไร้อารมณ์ความรู้สึก“ เมื่อกระทำชั่ว ” ความเร้าใจ” เมื่อกระทำได้สำเร็จ ตัวอย่าง ถ้าเป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ ยิ่งตายมาก พิการ ทรมานมาก เท่าไหร่ ยิ่งเร้าใจมาก “ ยังดูเหมือนเป็นมนุษย์ปกติ” สมองยังคงทำงานได้ ความจำ การสื่อสาร ความสามารถในการแก้ปัญหา และอื่นๆ “ เกิดการเสพติด” เฉยชา ในความเลวร้าย ที่ตนตนเองทำ “ แบ่งส่วนกับครอบครัวตนเองได้” มีชีวิตสุขสบายปกติกับครอบครัวตนเอง ไม่มีใครสำเหนียก “ ถูกกระตุ้นได้ง่าย“ เมื่อมีเหตุการณ์ที่มีโอกาศทำ จะรีบนำพาไปสู่ความคิดและการกระทำที่ชั่วร้าย “ แพร่เชื้อเหมือนโรคระบาด” มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจมีความต้องการอย่างแรงกล้าที่จะเปลี่ยนผู้อื่นให้กลายเป็นพวกเดียวกันในความคิดและการปฏิบัติเหมือนกัน มนุษย์กลายเป็นปีศาจนั้นไม่ใช่ลักษณะเดียวกับ กลุ่มที่ มีจิตและความประพฤติผิดปกติต่อต้านสังคมตั้งแต่ต้น เปรียบเสมือนทหารนาซีที่ สามารถฆ่าได้เป็นล้าน และในปัจจุบันอิสราเอลที่ฆ่าได้เป็นหมื่นเป็นแสน โดยประกาศตั้งเป้าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เช่นเดียวกับที่เกิดในแอฟริกา ปรากฏการณ์ E ตั้งแต่ปี 1997 ทำให้มีการประชุมกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ทางด้านสมอง นักจิตวิทยาทางสังคม จิตแพทย์ กลุ่มต่อต้านผู้ก่อการร้าย นักเชี่ยวชาญสรีระวิทยาทางสมอง จนกระทั่งถึงกลุ่มทางกฎหมาย โดยมีการประชุมที่ปารีสสามครั้งระหว่าง 2015 ถึง 2017 แกนกลางปัจจัยของปรากฏการณ์ E คือ ความเฉยชาไร้อารมณ์ ก่อน รวมทั้งในช่วงวางแผน จน ขณะก่อ ความชั่วร้าย และ แม้กระทั่งหลังจากนั้น แม้ถึงกับทำให้คร่าชีวิตคนด้วยกัน แต่ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวด รู้ร้อนรู้หนาว แต่กับครอบครัวยังเป็นปกติ เมื่อเป็นการล้างสมองอย่างสมบูรณ์แบบ ไร้ความเห็นใจ ไม่มีความเข้าอกเข้าใจ แต่สามารถแสร้งทำปกติได้อย่างแนบเนียน ตามสถานการณ์ได้อย่างนุ่มนวล ในขณะเดียวกันมีความรู้สึกเหมือนถูกบีบบังคับเมื่อเจอเหตุการณ์ที่ตนเองรู้สึกว่า “น่าทำ” ความเข้าอกเข้าใจนั้นเป็นลักษณะสำคัญในการเติบโตของมนุษย์แต่ละคนที่เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกับคนอื่นโดยเกิดขึ้นในช่วงห้าขวบปีแรก และทำให้ตระหนักว่าการกระทำของตนเองนั้นเป็นสิ่งที่รับรู้จากคนอื่นด้วย ดังนั้น เป็นการสร้างความตระหนักที่ให้เรียนรู้ในสังคม แต่ทำให้มีการแบ่งแยกโดยการสร้างกลุ่มของตนเองและบูลลี่คนเคราะห์ร้าย และกลุ่มอาจสร้างค่านิยมให้แบ่งชนชั้น (selective empathy) ดูถูกคนไร้บ้าน คนข้างถนน คนที่ด้อยกว่า ในที่ทำงาน ในธุรกิจ เป็นการกัดกร่อน ความเข้าอกเข้าใจคนด้วยกัน (empathy erosion) และในที่สุดจุดประกายกำเนิดความโหดร้าย และเป็นด้านมืดของสังคม ที่เพาะบ่ม เหมือนกับการตีสองหน้า ช่วยพวกเดียวกันเอง ถีบหัวไสส่ง มนุษย์ที่ไม่ใช่พวกตัวเอง หรือด้อยกว่า การปรับเปลี่ยนจนเกิดความเป็นปึกแผ่นของกลุ่มและสังคม อาจมีประโยชน์ในการป้องกันศัตรูที่เข้ามารุกราน แต่แล้วที่เห็นในปัจจุบันคือการตีความ “ศัตรู” ให้อยู่ร่วมกันไม่ได้ประนีประนอมไม่ได้ใช้ประโยชน์พื้นแผ่นดินทรัพยากรรวมกันไม่ได้ และต้องหายไปจากพื้นโลกนี้ วงจรสมองที่ประกอบขึ้นมาในการเป็นอารมณ์และความเข้าอกเข้าใจกันนั้น มีความซับซ้อนและประกอบด้วย สมองส่วน vmPFC หรือ ventromedial Prefrontal cortex OFC หรือ orbito Frontal cortex และ ส่วน ของ amygdala ในระบบ limbic ปรากฏการณ์ เฉยชาต่อความเข้าอกเข้าใจ จะมีการกระตุ้นผิดปกติของบริเวณสมองส่วนหน้าซึ่งจะยับยั้ง สมองส่วน amygdala และอธิบายได้จนกระทั่งถึงความคิดและการกระทำที่ออกมาเป็นย้ำคิดย้ำทำและอยากฆ่าทำร้าย ยาเสพติด cocaine ก่อให้เกิดลักษณะเช่นนี้ได้ แต่ถึงแม้จะรู้ระบบวงจรเหล่านี้มานานแล้วก็ตาม แต่ไม่สามารถอธิบายได้อย่างสมบูรณ์ ถึงปรากฏการณ์ E ซึ่งทำให้มนุษย์กลายเป็นปีศาจได้อย่างหมดจด เพราะมนุษย์ปีศาจนั้น แยกตัวเองจากความรู้สึก จนเป็นความแตกหักของสมองและปัญญาอันประเสริฐ (cognitive fracture) ไม่เคยมีความรู้สึกผิดหรือเสียใจใดๆทั้งสิ้น และเกิดได้ทุกเชื้อชาติภาษา เช่นเขมรแดงทรมานและฆ่าทิ้ง ความเฉียบคมของสมองของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ยังคงอยู่ สรรหาวิธีการทรมานที่ทำให้เจ็บปวดที่สุด หาวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด ที่ทำให้เกิดการสังหารหมู่เป็นกลุ่มก้อน แม้กระทั่งมีการใช้ยา บ้า amphetamine ในกลุ่ม ISIS โดยทำให้มีการทำงานของระบบโดปามีน แปรปรวน ลดการทำงานของ serotonin ใน OFC นำไปสู่ พฤติกรรมต่อต้านสังคมฆ่าได้อย่างเฉยชา มีความก้าวร้าวและทำเป็นสันดาน ซึ่งเป็นการก่อการร้ายโดยใช้ยาเสพติดร่วมด้วย (pharmaco-terrorism) การกระทำชั่วร้ายของมนุษย์ปีศาจเหล่านี้ก่อให้เกิดอารมณ์ ปิติ ปลาบปลื้ม มีความสุขเป็นรางวัลให้ตัวเอง และต้องทำชั่วไปเพื่อความสุขของตนเอง แม้กระทั่งมีความอิ่มเอมเมื่อเห็นเหยื่อร้องขอชีวิต ในขณะเดียวกันต้องไม่ลืมว่า ปรากฏการณ์ปีศาจนี้ มนุษย์ที่กลายเป็นปีศาจไปแล้วนั้น จะมีความกระหายอย่างแรงกล้าที่จะทำให้คนรอบข้างเห็นดีเห็นงามไปกับการกระทำนั้น และกลายเป็นปีศาจด้วยกัน และปีศาจตัวหัวหน้าใหญ่ แม้เมื่อตายไปแล้วก็จะมีปีศาจตัวอื่นๆทยอยขึ้นมาแตกกิ่งก้านสาขาไปทั่ว ถึงตรงนี้ เราทุกคนต้องถามตัวเองว่า เราใช้ด้านมืด จนกลายเป็นปีศาจไปแล้วหรือไม่? รวบรวม เรียบเรียงจากบทความใน aeon ของ Naga Arikha associate fellow ของ Warburg Institute (London) และ honorary fellow of the Center for the Politics of Feelings, and a research associate at the Institut Jean Nicod of the Ecole Normale Supérieure (Paris) 30 กรกฎาคม 2018 ศ นพ ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ที่ปรึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต
    Like
    Yay
    Sad
    8
    1 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 597 มุมมอง 0 รีวิว
  • #หนึ่งในร้อย

    ก่อนหน้าละครฉายไม่นาน ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปหนหนึ่ง มาบัดนี้ละครออกอากาศได้ประมาณครึ่งทางแล้วกระมัง อยากพูดถึงอีกครั้งด้วยเป็นนิยายของดอกไม้สดที่เป็นเรื่องในดวงใจมาตั้งแต่เด็ก

    ละครทำออกมาได้ทั้งเป็นที่ต้องใจ และติดใจ ต้องใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่ชื่นชอบ ติดใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่แปลงไปเยอะพอสมควร ที่โดยส่วนตัวอดคิดไม่ได้ว่ามีความจำเป็นเพียงใด จึงต้องเปลี่ยนไปในลักษณะนั้น

    แต่เอาเถิด เข้าใจว่าต้นฉบับเรื่องหนึ่งในร้อยนี้ เป็นนิยายซึ่งยากมากที่จะสร้างขึ้นมาเป็นละคร เพราะโดยความเป็นจริงนั้นถูกเขียนมาเพื่อเหมาะกับเป็นเรื่องสำหรับอ่านมากที่สุด ทว่าแน่นอน คนที่อ่านแล้วชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้ เชื่อว่าโดยมากต้องมีภาพในจินตนาการโลดแล่นอยู่ในหัว ที่เป็นไปได้ก็อยากเห็นภาพเคลื่อนไหวหรือคนที่เป็นตัวตนจริง และรอมาอย่างยาวนานว่าจะมีโอกาสได้เห็นอนงค์และคุณพระอรรถคดี โลดแล่นอยู่ในจอให้ชมในสักวันหนึ่ง(ไม่ได้ดูเวอร์ชันคุณภิญโญ ทองเจือ เพราะยังเด็กเกินที่จะสนใจดูละคร) ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้จัดในข้อนี้ที่เห็นคุณค่าบทประพันธ์ของดอกไม้สด จนนำมาสู่การทำฝันในวัยเยาว์ของผมให้กลายเป็นจริง

    .

    ด้วยความที่ถูกนำมาสร้าง ณ ปี พ.ศ. 2567 แม้นจะยังคงยุคสมัยตามช่วงเวลาในนิยายก็ตาม แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันได้อ่านหนึ่งในร้อยมาก่อนย่อมมีอยู่เป็นจำนวนมาก และคนในรุ่นนี้เองที่เติบโตมากับเทคโนโลยีต่าง ๆ และโลกในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแทบทุกอย่าง ทำให้โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่พวกเขามักไม่ทนกับอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า เนิบ ๆ ดังเช่นความรักของคนในยุคที่นิยายหนึ่งในร้อยถือกำเนิด ด้วยความอดทนอันจำกัดนี้เอง คงเป็นเหตุผลสำคัญที่คนเขียนบทมีโจทย์สำคัญเป็นการบ้านว่าทำอย่างไร จะให้ละครในแต่ละตอนดึงดูดคนดูกลุ่มนี้ ที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญให้ตรึงสายตาไว้กับอนงค์และคุณพระอรรถคดีได้ตลอด ตั้งแต่เริ่มฉายจนจบฉากสุดท้ายในแต่ละตอน โดยไม่เปลี่ยนช่องหรือหันเหความสนใจไปทำอย่างอื่นเสีย จึงปรากฏเป็นหนึ่งในร้อยที่มีอนงค์และคุณพระอรรถซึ่งถูกใส่จริตและเสริมบุคลิกให้มีความเป็นไปได้มากที่สุดเพื่อดึงดูดใจ ให้คนดูหลงรักในตัวละครทั้งสองตั้งแต่ตอนแรก

    .

    หลายเหตุการณ์หลายตัวละครที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งไม่มีในต้นฉบับเดิม หรือแม้นกระทั่งอนงค์ที่ได้รับการปรับให้เก่งกล้าเกินงามในบางสถานการณ์ อีกทั้งมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนเหมือนจะเป็นอนงค์ขั้นสุด ที่ไม่ใช่แค่ขั้นกว่า เรียกว่ามีความเข้มข้นของพลังงานชีวิตเปี่ยมล้นจนแสดงออกมาเกินขีดอยู่บ้าง แต่เพราะเป็นญาญ่าแสดง จึงพอให้อภัยทำเป็นมองข้ามไปไม่ติดใจมาก ด้วยว่าสวมบทอนงค์ได้อย่างน่าเอ็นดูยิ่ง หากเป็นคนอื่นมารับบทนี้ ยังนึกไม่ออกเช่นกันว่าจะรอดหรือไม่ อาจจะได้ภาพของอนงค์ที่น่าเกลียดน่าชังไปเลยก็เป็นได้ และเพราะบทบาทของอนงค์ในนิยายนั้นถูกกล่าวถึงน้อยมาก รายละเอียดของเรื่องส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ตัวของคุณพระฯ ที่เป็นหัวใจหลักของนิยาย ส่วนมากเนื้อหาบอกเล่าประวัติความเป็นมาแต่หนหลังเชื่อมต่อมาถึงปัจจุบัน ที่คุณพระฯ มีความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ในทางไหนอย่างไรบ้าง ส่วนอนงค์เพียงถูกกล่าวถึงแบบโฉบไปเฉี่ยวมา ฉากที่พบกันระหว่างพระนางมีอยู่แค่ไม่กี่หนตลอดทั้งเรื่อง โดยมากอนงค์จะรับรู้เรื่องของคุณพระฯ ผ่านการบอกเล่าของแม่ช้อยมากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เขียนบทจึงต้องทำงานหนักมาก ในการเปลี่ยนให้อนงค์ในนิยายกลายเป็นตัวละครที่ถูกดึงขึ้นมาให้ได้รับบทบาทที่เด่นพอ ๆ กันหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับตัวเอกของเรื่อง ไม่อย่างนั้นคนดูคงจะไม่ติดตามและทิ้งละครไปอย่างรวดเร็วเป็นแน่

    .

    แต่ส่วนที่น่าเสียดายที่ดูเหมือนจะหายไปคือนิสัยรักการจดบันทึกหรือเขียนไดอารีของอนงค์ ที่ต้นฉบับหากรับรู้เรื่องราวใดมาจากปากแม่ช้อย เธอจะรีบนำมาเขียนใส่ไว้ในสมุดบันทึกประจำตัว เพื่อเก็บไว้อ่านคนเดียว ซึ่งคนอ่านก็จะสามารถทราบถึงจิตใจของเธอที่มีต่อคุณพระฯ จากสิ่งที่เธอเขียนนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนที่ดีมากและแทบจะไม่พบเลยในเวอร์ชันละคร นอกจากแค่ตอนที่อนงค์ทำเป็นสมุดเล่มเล็กที่มีภาพและคำแนะนำตัวเองแล้วมอบให้คุณพระฯ ซึ่งออกจะเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อภาพพจน์ที่ถูกมองจากคนอย่างคุณพระฯได้เหมือนกัน

    .

    จากนี้ต่อไปในอีกครึ่งทางที่เหลือนั้น ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นใหม่จะเป็นไปในทิศทางไหน คุณพระฯเองก็ถูกปรับให้คล้ายจะกลายเป็นโฮล์มส์ ที่ขยายการงานให้กว้างออกไปจากในหนังสือเพื่อจะได้มีอะไรให้เล่นกับบทละครมากขึ้น จึงเป็นคุณพระฯ ที่เหมือนอยู่กันคนละโลกกับคุณพระฯในนิยาย ส่วนชัดก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอจนปวกเปียกไม่สมกับที่เป็นทหารสักนิด และเห็นแก่ตัวเองอย่างร้ายกาจจนน่ารังเกียจไปเลย เพราะต้นฉบับนิยายนั้นชัดเปลี่ยนใจจากอนงค์มาหาจันทร ด้วยความที่ไม่ระแคะระคายมาก่อนว่าพี่ชายนั้นรักจันทรอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ขอร้องให้พี่ช่วยไปสู่ขอจันทรแทนแม่

    ส่วนด้านอื่นที่ดีงามนั้นมีคนพูดกันไปมากแล้ว จึงไม่ขอพูดซ้ำ แต่สิ่งที่อยากจะกล่าวถึงอย่างมาก ที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลยก็คือ ความหมายของชื่อเรื่อง "หนึ่งในร้อย"

    .

    หนึ่งในร้อย เป็นคำเปรียบถึงคนอย่างคุณพระฯ เรื่องนี้ชัดเจนแน่นอน ความดีของตัวละครนี้ สำหรับคนที่ดูละครอย่างเดียวอาจเห็นภาพได้ไม่ตรงและใสเท่าในบทประพันธ์ เพราะหนังสือมีเวลาให้ผู้เขียนได้ใส่รายละเอียด และเล่าให้คนอ่านสามารถรู้ชัดเจนถึงที่มาที่ไปแห่งความเป็นคน ซึ่งมีความเป็นสัตบุรุษคือไม่ใช่แค่ดีอย่างทั่วไปหรือดีแบบโลก ๆ เท่านั้น แต่มีความดำรงตนอยู่ในศีลและตั้งตนให้ดำรงมั่นในธรรมะที่เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ให้ใจไม่ไหลไปตามกระแสแห่งความต้องการที่เป็นอำนาจฝ่ายต่ำ จึงไม่ถูกชักจูงโดยง่ายจากแรงเร้าภายนอกที่มากระทบ ด้วยเหตุนี้คุณพระฯ จึงมีคุณธรรมอยู่ประจำใจเสมอ อันจะคอยคัดท้ายไม่ให้หลุดออกนอกเส้นทางดีงาม แม้นมีบางคราวที่ต้องผจญคลื่นลมพายุโหมกระหน่ำจนถึงขั้นแทบอับปาง เกือบจะไม่สามารถนำพานาวาชีวิตล่องฝ่าภัยต่อไปเหนือลำน้ำได้ แต่สุดท้ายก็รอดพ้นจากวิกฤตและได้รับผลแห่งความดีที่ทำมาด้วยความสุขใจในเบื้องปลาย

    .

    ทว่าคุณพระฯ เองก็ยังมีข้อเสียที่เด่นชัดมาก หากจะมองให้ลึกลงไป นั่นคือการที่เขาช่วยคนโดยเน้นไปที่การอนุเคราะห์ เติมเต็มความต้องการทางด้านปัจจัยสี่ให้แก่แม่และน้อง ๆ หรือคนที่รู้จัก และแม้นในคนทั่วไปเท่าที่อาชีพการงานและฐานะแห่งตนจะพอทำได้ แต่ไม่ได้ช่วยด้วยการฝึกให้คนเหล่านั้นรู้จักการช่วยเหลือตนเอง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าถึงคราวที่คุณพระฯ อยู่ในสถานะอันลำบากในทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่อาจจะให้ความช่วยเหลือหรือจำต้องปฏิเสธคำขอร้อง บรรดาคนซึ่งเคยได้รับเป็นประจำจากเขามาโดยตลอด จึงเกิดความไม่พอใจ กลายเป็นความโกรธ จนหลุดแสดงอำนาจและกิเลสในใจตนให้ระเบิดออกมาอย่างกับคนเสียจริต เห็นได้จากแม่และชัดเป็นต้น

    .

    ดังนั้นการช่วยคนที่ประเสริฐเลิศยอดที่สุด ที่จะไม่กลับเป็นภัยย้อนมาทำร้ายตัวของคนซึ่งเป็นผู้ให้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องเน้นช่วยคนด้วยการให้เขารู้จักการช่วยเหลือตัวเองให้อยู่รอดได้ โดยไม่เป็นเพียงผู้ขอร่ำไปตลอดไป นั่นคือสิ่งที่ผมได้ฟังอยู่เสมอจากคำสอนของพระอาจารย์ที่เคารพศรัทธา ด้วยพรหมวิหาร 4 นั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ คือต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แต่ถ้าเมตตาไม่มีประมาณแล้วขาดซึ่งปัญญากำกับ เมตตานั้นจะเป็นเช่นอาวุธที่หันกลับสู่ตนหากไม่ระวัง

    .

    คุณพระฯ เองมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะกับญาติจนถึงขั้นให้ความช่วยเหลือคือความกรุณาดังแสดงออกให้เห็น และมีจิตพลอยยินดีในเมื่อผู้อื่นได้รับความเจริญหรือผลแห่งความสำเร็จ ไม่เกิดอิจฉาริษยาประทุษร้ายกับใครแม้นเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่คุณพระฯ ยังสอบไม่ผ่านในข้ออุเบกขา คือไม่รู้จักที่จะตัดรอบ ช่วยได้เท่าที่ช่วยไหว สัตว์โลกล้วนมีวิบากแห่งตนซึ่งได้สั่งสมมาไม่ว่าทางร้ายหรือดี ไม่ใช่ต้องเอาชีวิตของเขาขึ้นมาแบกหามไว้ราวกับเป็นเรื่องของตนเองไปเสียทั้งหมด คือช่วยแล้วปล่อยวางไม่ลง แม่ก็แล้ว น้อง ๆ หลายคนและครอบครัวของน้องก็อีก จึงต้องตกที่นั่งถูกคนที่ตนให้ความช่วยเหลือนั้นวกกลับมาทำร้ายตนจนสาหัสแทบจะสิ้นลมหายใจ เป็นการเบียดเบียนตนเองซึ่งทางพุทธศาสนาไม่สรรเสริญ

    .

    ดังนั้น คนอย่างคุณพระฯ อาจหาได้ยาก ดังเช่นคำว่า "หนึ่งในร้อย" แต่คนที่หาได้ยากกว่าอาจถึงขั้น "หนึ่งในล้าน" คือคนที่เข้าใจ และเข้าถึง หลักธรรมในหมวด 4 ของพุทธศาสนาอย่างแท้จริงและนำมาปฏิบัติได้คือ เมตตาได้ทุกผู้แม้เป็นศัตรูของตัวเอง ช่วยเหลือได้ทุกคนเท่าที่ช่วยไหวโดยไม่เดือดร้อน มีใจร่วมยินดีเมื่อเห็นว่าเขาได้ดี ปราศจากความคิดมุ่งร้ายอยากทำลาย สุดท้ายคือไม่อนาทรร้อนใจแม้นไม่สามารถช่วยได้ ด้วยเห็นแล้วว่าไม่อาจช่วย หรือช่วยต่อไปจะเป็นโทษต่อเขาและต่อเรามากกว่า ก็ต้องปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างมา

    .

    ตอนล่าสุดเมื่อคืนยังไม่ว่างดูสดแบบเต็ม ๆ เลย แค่ผ่านตาแวบ ๆ บางฉาก แต่ก็พอเดาทิศทางได้เลา ๆ ว่าบทดัดแปลงคงจะพาอนงค์และคุณพระฯ ทะลุมิติท่องไปไกลในดินแดนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละโลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นในนิยาย ถ้าเรียกภาษาคนรุ่นใหม่คงจะใช้คำว่า ตัวละครเดียวกันแต่อยู่คนละมัลติเวิร์ส(ไม่แน่ใจสะกดเช่นนี้หรือไม่)กระมัง

    นี่คือส่วนที่หวั่นใจมาตลอด เพราะในสัปดาห์ก่อนที่เห็นว่าฉากสำคัญที่อยู่ตอนท้ายในนิยาย คือคุณพระล้มเจ็บ ถูกร่นขึ้นมาตั้งแต่กลางเรื่อง อีกทั้งความดราม่าที่ถูกผูกขึ้นใหม่ระหว่างตัวละคร 3-4 ตัว ก็ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่า ต่อจากนี้ไปคงจะเป็นการด้นใส่อะไรต่อมิอะไรเข้ามาอีกมาก และไม่รู้ว่าจะไปจบลงที่ตรงไหน ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ

    .

    ความดีงามของอนงค์ในหนังสือ ที่แม้นเป็นสาวสมัยใหม่ในยุคนั้น แต่ยังมีความรู้รักในเกียรติและศักดิ์ศรีของกุลสตรี ฉลาดและมีเฉลียว อีกทั้งมองคนออกอย่างเลิศ วางตัวเหมาะสมไม่ทำอะไรที่จะไปสะกิดให้คุณพระฯ นึกหยามหรือดูแคลนเอาได้

    จนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกอย่างดำเนินไปจนถึงที่สุด จึงกล้าเผยหัวใจตนให้คนที่แอบเทิดทูนบูชารับรู้ ทั้งที่ทราบอยู่แก่ใจว่าอาจทำให้คุณพระฯ มองเธอไปในแง่ไม่ดี แต่ใจที่นึกเวทนาสงสารบวกความรักที่งอกเงยมานานมันเปี่ยมล้นพ้นใจ เกินกว่าจะเก็บกลั้นไว้ภายใน จึงได้ปลดปล่อยไหลทะลักไปในครานั้น แต่แม้จะหลุดคำพูดฝากรัก หากถ้อยคำที่สื่อสารก็ยังเปี่ยมด้วยมธุรส และงดงามในภาษาที่ช่างสรรคำมาเจรจาอย่างน่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นคงจะไม่อาจคาดหวังว่าจะได้พบเจอเสียแล้ว เพราะได้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นอนงค์ในแบบฉบับที่เหมือนปล่อยให้อำนาจความรัก ชักจูงเธอไปให้คิดและทำในสิ่งซึ่งอนงค์ในนิยายจะไม่มีวันทำเป็นอันขาด

    น่าเสียดาย...

    ภาพประกอบขอยืมจากในเน็ต

    #thaitimes
    #ดอกไม้สด
    #ละคร
    #mycherieamour
    #วิเคราะห์ตัวละคร
    #วิจารณ์ละคร
    #หนึ่งในร้อย ก่อนหน้าละครฉายไม่นาน ผมเคยพูดถึงเรื่องนี้ไปหนหนึ่ง มาบัดนี้ละครออกอากาศได้ประมาณครึ่งทางแล้วกระมัง อยากพูดถึงอีกครั้งด้วยเป็นนิยายของดอกไม้สดที่เป็นเรื่องในดวงใจมาตั้งแต่เด็ก ละครทำออกมาได้ทั้งเป็นที่ต้องใจ และติดใจ ต้องใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่ชื่นชอบ ติดใจในที่นี้หมายถึงมีส่วนที่แปลงไปเยอะพอสมควร ที่โดยส่วนตัวอดคิดไม่ได้ว่ามีความจำเป็นเพียงใด จึงต้องเปลี่ยนไปในลักษณะนั้น แต่เอาเถิด เข้าใจว่าต้นฉบับเรื่องหนึ่งในร้อยนี้ เป็นนิยายซึ่งยากมากที่จะสร้างขึ้นมาเป็นละคร เพราะโดยความเป็นจริงนั้นถูกเขียนมาเพื่อเหมาะกับเป็นเรื่องสำหรับอ่านมากที่สุด ทว่าแน่นอน คนที่อ่านแล้วชื่นชอบในนิยายเรื่องนี้ เชื่อว่าโดยมากต้องมีภาพในจินตนาการโลดแล่นอยู่ในหัว ที่เป็นไปได้ก็อยากเห็นภาพเคลื่อนไหวหรือคนที่เป็นตัวตนจริง และรอมาอย่างยาวนานว่าจะมีโอกาสได้เห็นอนงค์และคุณพระอรรถคดี โลดแล่นอยู่ในจอให้ชมในสักวันหนึ่ง(ไม่ได้ดูเวอร์ชันคุณภิญโญ ทองเจือ เพราะยังเด็กเกินที่จะสนใจดูละคร) ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้จัดในข้อนี้ที่เห็นคุณค่าบทประพันธ์ของดอกไม้สด จนนำมาสู่การทำฝันในวัยเยาว์ของผมให้กลายเป็นจริง . ด้วยความที่ถูกนำมาสร้าง ณ ปี พ.ศ. 2567 แม้นจะยังคงยุคสมัยตามช่วงเวลาในนิยายก็ตาม แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ที่เกิดไม่ทันได้อ่านหนึ่งในร้อยมาก่อนย่อมมีอยู่เป็นจำนวนมาก และคนในรุ่นนี้เองที่เติบโตมากับเทคโนโลยีต่าง ๆ และโลกในชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแทบทุกอย่าง ทำให้โดยพื้นฐานแล้วส่วนใหญ่พวกเขามักไม่ทนกับอะไรที่ค่อยเป็นค่อยไป ดำเนินเรื่องอย่างเชื่องช้า เนิบ ๆ ดังเช่นความรักของคนในยุคที่นิยายหนึ่งในร้อยถือกำเนิด ด้วยความอดทนอันจำกัดนี้เอง คงเป็นเหตุผลสำคัญที่คนเขียนบทมีโจทย์สำคัญเป็นการบ้านว่าทำอย่างไร จะให้ละครในแต่ละตอนดึงดูดคนดูกลุ่มนี้ ที่ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญให้ตรึงสายตาไว้กับอนงค์และคุณพระอรรถคดีได้ตลอด ตั้งแต่เริ่มฉายจนจบฉากสุดท้ายในแต่ละตอน โดยไม่เปลี่ยนช่องหรือหันเหความสนใจไปทำอย่างอื่นเสีย จึงปรากฏเป็นหนึ่งในร้อยที่มีอนงค์และคุณพระอรรถซึ่งถูกใส่จริตและเสริมบุคลิกให้มีความเป็นไปได้มากที่สุดเพื่อดึงดูดใจ ให้คนดูหลงรักในตัวละครทั้งสองตั้งแต่ตอนแรก . หลายเหตุการณ์หลายตัวละครที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ ซึ่งไม่มีในต้นฉบับเดิม หรือแม้นกระทั่งอนงค์ที่ได้รับการปรับให้เก่งกล้าเกินงามในบางสถานการณ์ อีกทั้งมั่นใจในตัวเองสูงมาก จนเหมือนจะเป็นอนงค์ขั้นสุด ที่ไม่ใช่แค่ขั้นกว่า เรียกว่ามีความเข้มข้นของพลังงานชีวิตเปี่ยมล้นจนแสดงออกมาเกินขีดอยู่บ้าง แต่เพราะเป็นญาญ่าแสดง จึงพอให้อภัยทำเป็นมองข้ามไปไม่ติดใจมาก ด้วยว่าสวมบทอนงค์ได้อย่างน่าเอ็นดูยิ่ง หากเป็นคนอื่นมารับบทนี้ ยังนึกไม่ออกเช่นกันว่าจะรอดหรือไม่ อาจจะได้ภาพของอนงค์ที่น่าเกลียดน่าชังไปเลยก็เป็นได้ และเพราะบทบาทของอนงค์ในนิยายนั้นถูกกล่าวถึงน้อยมาก รายละเอียดของเรื่องส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ตัวของคุณพระฯ ที่เป็นหัวใจหลักของนิยาย ส่วนมากเนื้อหาบอกเล่าประวัติความเป็นมาแต่หนหลังเชื่อมต่อมาถึงปัจจุบัน ที่คุณพระฯ มีความสัมพันธ์กับตัวละครอื่น ๆ ในทางไหนอย่างไรบ้าง ส่วนอนงค์เพียงถูกกล่าวถึงแบบโฉบไปเฉี่ยวมา ฉากที่พบกันระหว่างพระนางมีอยู่แค่ไม่กี่หนตลอดทั้งเรื่อง โดยมากอนงค์จะรับรู้เรื่องของคุณพระฯ ผ่านการบอกเล่าของแม่ช้อยมากกว่า ด้วยเหตุนี้จึงเข้าใจได้ว่าทำไมผู้เขียนบทจึงต้องทำงานหนักมาก ในการเปลี่ยนให้อนงค์ในนิยายกลายเป็นตัวละครที่ถูกดึงขึ้นมาให้ได้รับบทบาทที่เด่นพอ ๆ กันหรืออย่างน้อยก็ใกล้เคียงกับตัวเอกของเรื่อง ไม่อย่างนั้นคนดูคงจะไม่ติดตามและทิ้งละครไปอย่างรวดเร็วเป็นแน่ . แต่ส่วนที่น่าเสียดายที่ดูเหมือนจะหายไปคือนิสัยรักการจดบันทึกหรือเขียนไดอารีของอนงค์ ที่ต้นฉบับหากรับรู้เรื่องราวใดมาจากปากแม่ช้อย เธอจะรีบนำมาเขียนใส่ไว้ในสมุดบันทึกประจำตัว เพื่อเก็บไว้อ่านคนเดียว ซึ่งคนอ่านก็จะสามารถทราบถึงจิตใจของเธอที่มีต่อคุณพระฯ จากสิ่งที่เธอเขียนนั่นเอง ซึ่งเป็นส่วนที่ดีมากและแทบจะไม่พบเลยในเวอร์ชันละคร นอกจากแค่ตอนที่อนงค์ทำเป็นสมุดเล่มเล็กที่มีภาพและคำแนะนำตัวเองแล้วมอบให้คุณพระฯ ซึ่งออกจะเป็นการกระทำที่ค่อนข้างเสี่ยงต่อภาพพจน์ที่ถูกมองจากคนอย่างคุณพระฯได้เหมือนกัน . จากนี้ต่อไปในอีกครึ่งทางที่เหลือนั้น ไม่แน่ใจว่าเรื่องราวที่ถูกเขียนขึ้นใหม่จะเป็นไปในทิศทางไหน คุณพระฯเองก็ถูกปรับให้คล้ายจะกลายเป็นโฮล์มส์ ที่ขยายการงานให้กว้างออกไปจากในหนังสือเพื่อจะได้มีอะไรให้เล่นกับบทละครมากขึ้น จึงเป็นคุณพระฯ ที่เหมือนอยู่กันคนละโลกกับคุณพระฯในนิยาย ส่วนชัดก็กลายเป็นคนที่อ่อนแอจนปวกเปียกไม่สมกับที่เป็นทหารสักนิด และเห็นแก่ตัวเองอย่างร้ายกาจจนน่ารังเกียจไปเลย เพราะต้นฉบับนิยายนั้นชัดเปลี่ยนใจจากอนงค์มาหาจันทร ด้วยความที่ไม่ระแคะระคายมาก่อนว่าพี่ชายนั้นรักจันทรอยู่ก่อนแล้ว จึงได้ขอร้องให้พี่ช่วยไปสู่ขอจันทรแทนแม่ ส่วนด้านอื่นที่ดีงามนั้นมีคนพูดกันไปมากแล้ว จึงไม่ขอพูดซ้ำ แต่สิ่งที่อยากจะกล่าวถึงอย่างมาก ที่เป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลยก็คือ ความหมายของชื่อเรื่อง "หนึ่งในร้อย" . หนึ่งในร้อย เป็นคำเปรียบถึงคนอย่างคุณพระฯ เรื่องนี้ชัดเจนแน่นอน ความดีของตัวละครนี้ สำหรับคนที่ดูละครอย่างเดียวอาจเห็นภาพได้ไม่ตรงและใสเท่าในบทประพันธ์ เพราะหนังสือมีเวลาให้ผู้เขียนได้ใส่รายละเอียด และเล่าให้คนอ่านสามารถรู้ชัดเจนถึงที่มาที่ไปแห่งความเป็นคน ซึ่งมีความเป็นสัตบุรุษคือไม่ใช่แค่ดีอย่างทั่วไปหรือดีแบบโลก ๆ เท่านั้น แต่มีความดำรงตนอยู่ในศีลและตั้งตนให้ดำรงมั่นในธรรมะที่เป็นเครื่องหล่อเลี้ยง ให้ใจไม่ไหลไปตามกระแสแห่งความต้องการที่เป็นอำนาจฝ่ายต่ำ จึงไม่ถูกชักจูงโดยง่ายจากแรงเร้าภายนอกที่มากระทบ ด้วยเหตุนี้คุณพระฯ จึงมีคุณธรรมอยู่ประจำใจเสมอ อันจะคอยคัดท้ายไม่ให้หลุดออกนอกเส้นทางดีงาม แม้นมีบางคราวที่ต้องผจญคลื่นลมพายุโหมกระหน่ำจนถึงขั้นแทบอับปาง เกือบจะไม่สามารถนำพานาวาชีวิตล่องฝ่าภัยต่อไปเหนือลำน้ำได้ แต่สุดท้ายก็รอดพ้นจากวิกฤตและได้รับผลแห่งความดีที่ทำมาด้วยความสุขใจในเบื้องปลาย . ทว่าคุณพระฯ เองก็ยังมีข้อเสียที่เด่นชัดมาก หากจะมองให้ลึกลงไป นั่นคือการที่เขาช่วยคนโดยเน้นไปที่การอนุเคราะห์ เติมเต็มความต้องการทางด้านปัจจัยสี่ให้แก่แม่และน้อง ๆ หรือคนที่รู้จัก และแม้นในคนทั่วไปเท่าที่อาชีพการงานและฐานะแห่งตนจะพอทำได้ แต่ไม่ได้ช่วยด้วยการฝึกให้คนเหล่านั้นรู้จักการช่วยเหลือตนเอง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าถึงคราวที่คุณพระฯ อยู่ในสถานะอันลำบากในทางใดทางหนึ่ง ที่ไม่อาจจะให้ความช่วยเหลือหรือจำต้องปฏิเสธคำขอร้อง บรรดาคนซึ่งเคยได้รับเป็นประจำจากเขามาโดยตลอด จึงเกิดความไม่พอใจ กลายเป็นความโกรธ จนหลุดแสดงอำนาจและกิเลสในใจตนให้ระเบิดออกมาอย่างกับคนเสียจริต เห็นได้จากแม่และชัดเป็นต้น . ดังนั้นการช่วยคนที่ประเสริฐเลิศยอดที่สุด ที่จะไม่กลับเป็นภัยย้อนมาทำร้ายตัวของคนซึ่งเป็นผู้ให้นั้น จำเป็นอย่างยิ่งต้องเน้นช่วยคนด้วยการให้เขารู้จักการช่วยเหลือตัวเองให้อยู่รอดได้ โดยไม่เป็นเพียงผู้ขอร่ำไปตลอดไป นั่นคือสิ่งที่ผมได้ฟังอยู่เสมอจากคำสอนของพระอาจารย์ที่เคารพศรัทธา ด้วยพรหมวิหาร 4 นั้นมีความสำคัญอย่างมากสำหรับคนผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ใหญ่ คือต้องมีเมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา แต่ถ้าเมตตาไม่มีประมาณแล้วขาดซึ่งปัญญากำกับ เมตตานั้นจะเป็นเช่นอาวุธที่หันกลับสู่ตนหากไม่ระวัง . คุณพระฯ เองมีเมตตาต่อเพื่อนร่วมโลกเป็นที่ตั้ง โดยเฉพาะกับญาติจนถึงขั้นให้ความช่วยเหลือคือความกรุณาดังแสดงออกให้เห็น และมีจิตพลอยยินดีในเมื่อผู้อื่นได้รับความเจริญหรือผลแห่งความสำเร็จ ไม่เกิดอิจฉาริษยาประทุษร้ายกับใครแม้นเป็นฝ่ายถูกกระทำ แต่คุณพระฯ ยังสอบไม่ผ่านในข้ออุเบกขา คือไม่รู้จักที่จะตัดรอบ ช่วยได้เท่าที่ช่วยไหว สัตว์โลกล้วนมีวิบากแห่งตนซึ่งได้สั่งสมมาไม่ว่าทางร้ายหรือดี ไม่ใช่ต้องเอาชีวิตของเขาขึ้นมาแบกหามไว้ราวกับเป็นเรื่องของตนเองไปเสียทั้งหมด คือช่วยแล้วปล่อยวางไม่ลง แม่ก็แล้ว น้อง ๆ หลายคนและครอบครัวของน้องก็อีก จึงต้องตกที่นั่งถูกคนที่ตนให้ความช่วยเหลือนั้นวกกลับมาทำร้ายตนจนสาหัสแทบจะสิ้นลมหายใจ เป็นการเบียดเบียนตนเองซึ่งทางพุทธศาสนาไม่สรรเสริญ . ดังนั้น คนอย่างคุณพระฯ อาจหาได้ยาก ดังเช่นคำว่า "หนึ่งในร้อย" แต่คนที่หาได้ยากกว่าอาจถึงขั้น "หนึ่งในล้าน" คือคนที่เข้าใจ และเข้าถึง หลักธรรมในหมวด 4 ของพุทธศาสนาอย่างแท้จริงและนำมาปฏิบัติได้คือ เมตตาได้ทุกผู้แม้เป็นศัตรูของตัวเอง ช่วยเหลือได้ทุกคนเท่าที่ช่วยไหวโดยไม่เดือดร้อน มีใจร่วมยินดีเมื่อเห็นว่าเขาได้ดี ปราศจากความคิดมุ่งร้ายอยากทำลาย สุดท้ายคือไม่อนาทรร้อนใจแม้นไม่สามารถช่วยได้ ด้วยเห็นแล้วว่าไม่อาจช่วย หรือช่วยต่อไปจะเป็นโทษต่อเขาและต่อเรามากกว่า ก็ต้องปล่อยเขาไปตามทางที่เขาสร้างมา . ตอนล่าสุดเมื่อคืนยังไม่ว่างดูสดแบบเต็ม ๆ เลย แค่ผ่านตาแวบ ๆ บางฉาก แต่ก็พอเดาทิศทางได้เลา ๆ ว่าบทดัดแปลงคงจะพาอนงค์และคุณพระฯ ทะลุมิติท่องไปไกลในดินแดนอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนละโลกกับเรื่องที่เกิดขึ้นในนิยาย ถ้าเรียกภาษาคนรุ่นใหม่คงจะใช้คำว่า ตัวละครเดียวกันแต่อยู่คนละมัลติเวิร์ส(ไม่แน่ใจสะกดเช่นนี้หรือไม่)กระมัง นี่คือส่วนที่หวั่นใจมาตลอด เพราะในสัปดาห์ก่อนที่เห็นว่าฉากสำคัญที่อยู่ตอนท้ายในนิยาย คือคุณพระล้มเจ็บ ถูกร่นขึ้นมาตั้งแต่กลางเรื่อง อีกทั้งความดราม่าที่ถูกผูกขึ้นใหม่ระหว่างตัวละคร 3-4 ตัว ก็ทำให้พอจะคาดการณ์ได้ว่า ต่อจากนี้ไปคงจะเป็นการด้นใส่อะไรต่อมิอะไรเข้ามาอีกมาก และไม่รู้ว่าจะไปจบลงที่ตรงไหน ก็ได้แต่ละเหี่ยใจ . ความดีงามของอนงค์ในหนังสือ ที่แม้นเป็นสาวสมัยใหม่ในยุคนั้น แต่ยังมีความรู้รักในเกียรติและศักดิ์ศรีของกุลสตรี ฉลาดและมีเฉลียว อีกทั้งมองคนออกอย่างเลิศ วางตัวเหมาะสมไม่ทำอะไรที่จะไปสะกิดให้คุณพระฯ นึกหยามหรือดูแคลนเอาได้ จนกระทั่งถึงเวลาที่ทุกอย่างดำเนินไปจนถึงที่สุด จึงกล้าเผยหัวใจตนให้คนที่แอบเทิดทูนบูชารับรู้ ทั้งที่ทราบอยู่แก่ใจว่าอาจทำให้คุณพระฯ มองเธอไปในแง่ไม่ดี แต่ใจที่นึกเวทนาสงสารบวกความรักที่งอกเงยมานานมันเปี่ยมล้นพ้นใจ เกินกว่าจะเก็บกลั้นไว้ภายใน จึงได้ปลดปล่อยไหลทะลักไปในครานั้น แต่แม้จะหลุดคำพูดฝากรัก หากถ้อยคำที่สื่อสารก็ยังเปี่ยมด้วยมธุรส และงดงามในภาษาที่ช่างสรรคำมาเจรจาอย่างน่าทึ่ง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นคงจะไม่อาจคาดหวังว่าจะได้พบเจอเสียแล้ว เพราะได้ถูกแปรเปลี่ยนไปเป็นอนงค์ในแบบฉบับที่เหมือนปล่อยให้อำนาจความรัก ชักจูงเธอไปให้คิดและทำในสิ่งซึ่งอนงค์ในนิยายจะไม่มีวันทำเป็นอันขาด น่าเสียดาย... ภาพประกอบขอยืมจากในเน็ต #thaitimes #ดอกไม้สด #ละคร #mycherieamour #วิเคราะห์ตัวละคร #วิจารณ์ละคร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 651 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,553
    วันอาทิตย์: แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ (20 October 2024)

    Photo Album 5/5
    ทอดกฐินสามัคคี 50 วัด เป็นเงิน 1,000 บาท
    41. วัดเขาตองเมืองลับแล อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    42 วัดเขาน้ำซับ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    43.. วัดโขดหิน อ.เมือง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    44. วัดเจริญสมณกิจ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    45. วัดชัยมงคล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    46. วัดทุ่งบวกข้าว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    47. วัดบ้านใหม่ทองประเสริฐ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    48. วัดประสานศรัทธา อ.นากลาง จ.หนองบัวลําภู
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    49. วัดป่าดงเจริญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    50. วัดพัฒนาราม อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๕ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,553 วันอาทิตย์: แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ (20 October 2024) Photo Album 5/5 ทอดกฐินสามัคคี 50 วัด เป็นเงิน 1,000 บาท 41. วัดเขาตองเมืองลับแล อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 42 วัดเขาน้ำซับ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 43.. วัดโขดหิน อ.เมือง จ.ระยอง (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 44. วัดเจริญสมณกิจ อ.เมือง จ.ภูเก็ต (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 45. วัดชัยมงคล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 46. วัดทุ่งบวกข้าว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 47. วัดบ้านใหม่ทองประเสริฐ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 48. วัดประสานศรัทธา อ.นากลาง จ.หนองบัวลําภู (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 49. วัดป่าดงเจริญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 50. วัดพัฒนาราม อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๕ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 165 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,553
    วันอาทิตย์: แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ (20 October 2024)

    Photo Album 5/5
    ทอดกฐินสามัคคี 50 วัด เป็นเงิน 1,000 บาท
    41. วัดเขาตองเมืองลับแล อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    42 วัดเขาน้ำซับ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    43.. วัดโขดหิน อ.เมือง จ.ระยอง
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    44. วัดเจริญสมณกิจ อ.เมือง จ.ภูเก็ต
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    45. วัดชัยมงคล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    46. วัดทุ่งบวกข้าว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    47. วัดบ้านใหม่ทองประเสริฐ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    48. วัดประสานศรัทธา อ.นากลาง จ.หนองบัวลําภู
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    49. วัดป่าดงเจริญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    50. วัดพัฒนาราม อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์
    (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๕ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,553 วันอาทิตย์: แรม ๓ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๗ (20 October 2024) Photo Album 5/5 ทอดกฐินสามัคคี 50 วัด เป็นเงิน 1,000 บาท 41. วัดเขาตองเมืองลับแล อ.เมือง จ.กาญจนบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 42 วัดเขาน้ำซับ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 43.. วัดโขดหิน อ.เมือง จ.ระยอง (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 44. วัดเจริญสมณกิจ อ.เมือง จ.ภูเก็ต (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 45. วัดชัยมงคล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 46. วัดทุ่งบวกข้าว อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 47. วัดบ้านใหม่ทองประเสริฐ อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 48. วัดประสานศรัทธา อ.นากลาง จ.หนองบัวลําภู (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 49. วัดป่าดงเจริญ อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) 50. วัดพัฒนาราม อ.ศรีณรงค์ จ.สุรินทร์ (ทอดกฐินสามัคคี 26 ต.ค.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๕ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 160 มุมมอง 0 รีวิว
  • "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน หลังเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหายช่วงมิถุนายน 2561 ชี้ลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทได้รับวัตถุดิบครบถ้วน

    18 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวฐานเศรษฐกิจระบุว่า นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีความอันเนื่องมาจากเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหาย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงมิถุนายน 2561 ตามที่ GGC ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหาร พนักงานและ คู่ค้าที่เกี่ยวข้อง

    ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร GGC 2 ราย และบริษัทคู่ค้า อีก 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ขายวัตถุดิบ กรณีร่วมกันดำเนินการให้บริษัทซื้อวัตถุดิบและจ่ายชำระเงินค่าซื้อเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขายโดยไม่ได้รับวัตถุดิบทั้งหมดหรือได้รับเพียงบางส่วน

    แต่กลับลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทว่าได้รับวัตถุดิบครบถ้วนแล้ว รวมทั้งกรณีส่งมอบวัตถุดิบไปกลั่นโดยไม่ได้มีการกลั่นจริง ทำให้ GGC ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ารวม 2,157 ล้านบาท

    ทั้งนี้ GGC ได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งทางแพ่ง และอาญา ร่วมกับ ก.ล.ต. มาอย่างต่อเนื่อง โดยคดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และมีคดีถึงที่สุดแล้วหลายคดี ดังนี้

    ในส่วนคดีแพ่ง GGC มีการฟ้องร้องคดีแพ่ง 5 คดี และศาลตัดสินแล้วทั้งหมด โดย GGC ชนะทุกคดี และคดีถึงที่สุดแล้ว 4 คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดีตามคำสั่งศาลมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท

    ด้านคดีที่ GGC ถูกฟ้องเป็นจำเลยมี 6 คดี ศาลตัดสินแล้ว 4 คดี โดย GGC ชนะ 3 คดี และอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน

    ขณะที่คดีอาญา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษอดีตผู้บริหารของ GGC และบริษัทคู่ค้า และ GGC ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับอดีตผู้บริหารและบริษัทคู่ค้ารวมทั้งสิ้น 8 คดี โดยมีคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี ซึ่งมีการตัดสินแล้ว 2 คดี

    คดีแรก ในปี 2566 ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหาร 2 ปี และกรรมการของคู่ค้า 1 ปี 4 เดือน และให้อดีตผู้บริหารชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ GGC จำนวนประมาณ 328.87 ล้านบาท ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์

    คดีที่สอง ตัดสินเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลพิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น คดียังไม่ถึงที่สุด และ GGC จะสามารถใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ได้ โดยคดีดังกล่าว มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 72.88 ล้านบาท ซึ่ง GGC ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายของบริษัทคู่ค้าไว้แล้ว

    "GGC ขอยืนยันว่า บริษัทจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงผ่านกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของ GGC และผู้ถือหุ้นทุกคน"

    ที่มา https://www.thansettakij.com/sustainable/energy/609697

    #Thaitimes
    "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน หลังเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหายช่วงมิถุนายน 2561 ชี้ลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทได้รับวัตถุดิบครบถ้วน 18 ตุลาคม 2567-รายงานข่าวฐานเศรษฐกิจระบุว่า นายกฤษฎา ประเสริฐสุโข กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลบอลกรีนเคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ GGC เปิดเผยความคืบหน้าด้านคดีความอันเนื่องมาจากเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหาย ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงมิถุนายน 2561 ตามที่ GGC ได้รายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และแจ้งความดำเนินคดีกับผู้บริหาร พนักงานและ คู่ค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต่อมาสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ได้ กล่าวโทษอดีตผู้บริหาร GGC 2 ราย และบริษัทคู่ค้า อีก 9 ราย ซึ่งเป็นผู้ขายวัตถุดิบ กรณีร่วมกันดำเนินการให้บริษัทซื้อวัตถุดิบและจ่ายชำระเงินค่าซื้อเต็มจำนวนให้แก่ผู้ขายโดยไม่ได้รับวัตถุดิบทั้งหมดหรือได้รับเพียงบางส่วน แต่กลับลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทว่าได้รับวัตถุดิบครบถ้วนแล้ว รวมทั้งกรณีส่งมอบวัตถุดิบไปกลั่นโดยไม่ได้มีการกลั่นจริง ทำให้ GGC ได้รับความเสียหาย คิดเป็นมูลค่ารวม 2,157 ล้านบาท ทั้งนี้ GGC ได้ดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม ทั้งทางแพ่ง และอาญา ร่วมกับ ก.ล.ต. มาอย่างต่อเนื่อง โดยคดีมีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก และมีคดีถึงที่สุดแล้วหลายคดี ดังนี้ ในส่วนคดีแพ่ง GGC มีการฟ้องร้องคดีแพ่ง 5 คดี และศาลตัดสินแล้วทั้งหมด โดย GGC ชนะทุกคดี และคดีถึงที่สุดแล้ว 4 คดี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับคดีตามคำสั่งศาลมูลค่ารวมกว่า 800 ล้านบาท ด้านคดีที่ GGC ถูกฟ้องเป็นจำเลยมี 6 คดี ศาลตัดสินแล้ว 4 คดี โดย GGC ชนะ 3 คดี และอีก 2 คดีอยู่ระหว่างการสืบพยาน ขณะที่คดีอาญา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้กล่าวโทษอดีตผู้บริหารของ GGC และบริษัทคู่ค้า และ GGC ได้แจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีอาญากับอดีตผู้บริหารและบริษัทคู่ค้ารวมทั้งสิ้น 8 คดี โดยมีคดีอยู่ในชั้นพนักงานสอบสวน 4 คดี อยู่ในชั้นพนักงานอัยการ 1 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอีก 3 คดี ซึ่งมีการตัดสินแล้ว 2 คดี คดีแรก ในปี 2566 ศาลพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกง ตามประมวลกฎหมายอาญา และความผิดตามพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 โดยลงโทษจำคุกอดีตผู้บริหาร 2 ปี และกรรมการของคู่ค้า 1 ปี 4 เดือน และให้อดีตผู้บริหารชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ GGC จำนวนประมาณ 328.87 ล้านบาท ปัจจุบันคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ คดีที่สอง ตัดสินเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ศาลพิพากษายกฟ้อง อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาดังกล่าวเป็นคำพิพากษาของศาลชั้นต้นเท่านั้น คดียังไม่ถึงที่สุด และ GGC จะสามารถใช้สิทธิในการยื่นอุทธรณ์ได้ โดยคดีดังกล่าว มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 72.88 ล้านบาท ซึ่ง GGC ได้ยื่นขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายของบริษัทคู่ค้าไว้แล้ว "GGC ขอยืนยันว่า บริษัทจะดำเนินคดีตามพยานหลักฐานและข้อเท็จจริงผ่านกระบวนการยุติธรรมอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เพื่อปกป้องสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของ GGC และผู้ถือหุ้นทุกคน" ที่มา https://www.thansettakij.com/sustainable/energy/609697 #Thaitimes
    WWW.THANSETTAKIJ.COM
    "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน
    "GGC" แจงคืบหน้าคดีอาญาอดีตผู้บริหาร-คู่ค้าทำสต็อกลมเสียหายกว่า 2 พันล้าน หลังเกิดเหตุการณ์วัตถุดิบคงคลังสูญหายช่วงมิถุนายน 2561 ชี้ลงบันทึกในระบบบัญชีของบริษัทได้รับวัตถุดิบครบถ้วน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 421 มุมมอง 0 รีวิว
  • กมธ.สคบ.เชิญ สอบสวนกลาง-สคบ.อัพเดตสถานการณ์ดิไอคอน "บุญยิ่ง" น้ำท่วมปาก ลั่นคลิปเสียงพูดไปจะรู้เลยว่าใคร เดี๋ยวจะกลายเป็นการรังแก ด้าน "ประเสริฐพงษ์" เชื่อวันนี้รู้แน่ ใครเป็นเทวดาคุม สคบ.

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100226

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กมธ.สคบ.เชิญ สอบสวนกลาง-สคบ.อัพเดตสถานการณ์ดิไอคอน "บุญยิ่ง" น้ำท่วมปาก ลั่นคลิปเสียงพูดไปจะรู้เลยว่าใคร เดี๋ยวจะกลายเป็นการรังแก ด้าน "ประเสริฐพงษ์" เชื่อวันนี้รู้แน่ ใครเป็นเทวดาคุม สคบ. อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000100226 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2473 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts