• ฝ่ายค้านยื่นร่างแก้ รธน. เพิ่มหมวดทํารัฐธรรมนูญใหม่ หวังยุบสภาภายใน 4 เดือน!
    https://www.thai-tai.tv/news/21569/
    .
    #ไทยไท #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #พริษฐ์วัชรสินธุ #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ
    ฝ่ายค้านยื่นร่างแก้ รธน. เพิ่มหมวดทํารัฐธรรมนูญใหม่ หวังยุบสภาภายใน 4 เดือน! https://www.thai-tai.tv/news/21569/ . #ไทยไท #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #พริษฐ์วัชรสินธุ #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 71 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เพื่อไทย' จี้ 'ภูมิใจไทย' และ 'ปชน.' เร่งแก้ รธน. ลั่นกลัวไม่ทัน 4 เดือน!
    https://www.thai-tai.tv/news/21559/
    .
    #ไทยไท #พรรคเพื่อไทย #ภูมิใจไทย #พรรคประชาชน #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #แก้ไขรัฐธรรมนูญ
    'เพื่อไทย' จี้ 'ภูมิใจไทย' และ 'ปชน.' เร่งแก้ รธน. ลั่นกลัวไม่ทัน 4 เดือน! https://www.thai-tai.tv/news/21559/ . #ไทยไท #พรรคเพื่อไทย #ภูมิใจไทย #พรรคประชาชน #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้ #แก้ไขรัฐธรรมนูญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 82 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'พีระพันธุ์' ลั่นไม่ร่วมรัฐบาลเบี้ยล่างพรรคส้ม พร้อมนำทัพ รทสช. สู้ศึกเลือกตั้ง

    //////////////////


    รวมไทยสร้างชาติไปต่อ! "พีระพันธุ์" พร้อมเดินหน้านำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง ย้ำทำเต็มที่ เชื่อมั่นพรรคสามารถผ่านทุกอุปสรรคไปได้ เชิญชวนชาวไทยหัวใจรักชาติร่วมทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

    18 กันยายน 2568 - เวลา 19.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงทิศทางการทำงานของพรรคท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่า ในลำดับแรกตนขอยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นแม่ทัพของพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำงานทางการเมืองต่อไป

    สำหรับกระแสข่าวเลือดไหลออกจากพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ในวันนี้ยังไม่มีเลือดไหลออกจากพรรค เพราะทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และยังมีผู้สนใจมาสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน
    นายพีระพันธุ์ยังได้เปิดเผยถึงจุดยืนของตนเกี่ยวกับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า หลังจากที่มีการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ การเมืองของไทยก็มีพัฒนาการทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ประเด็นสำคัญก็คือ มีการพยายามนำพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติได้ประกาศตั้งแต่ต้นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถร่วมมือด้วยได้ เนื่องจากมีอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก และมีการใช้วิธีการให้พรรคการเมืองนั้นมาลงมติสนับสนุนผู้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้เป็นการร่วมรัฐบาล แต่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งสำหรับตนเห็นว่าแนวทางเช่นนี้ไม่ถูกต้องทางการเมือง เพราะจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างทางการเมืองของพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
    นอกจากนี้ตนยังเห็นว่า วิธีการดังกล่าวอาจเป็นการผิดกฎหมายพรรคการเมืองในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ซึ่งจาก 2 เหตุผลข้างต้น ทำให้ตนมีความเห็นว่าไม่สามารถลงคะแนนเสียงสนับสนุนท่านอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในขณะนั้น ทั้งที่โดยส่วนตัวตนเคารพและรักท่านอนุทินมาก และคิดว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่วิธีการในการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบนี้ ไม่ใช่วิธีทางที่ถูกต้อง

    ต่อมาทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการติดต่อในการเพิ่มเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ด้วยแนวทางแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แต่ไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ดังนั้นตนจึงมีความเห็นว่าถ้าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ก็ไม่สามารถสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เลย

    “สำหรับผมคิดว่า นี่เป็นวิธีการทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง และจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองอื่นซึ่งไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งในทางการเมืองเป็นสิ่งที่เกิดไม่น่าจะเกิดขึ้น และผมรับไม่ได้ ” นายพีระพันธุ์กล่าว

    อย่างไรก็ดี ในส่วนการบริหารจัดการพรรคจะต้องมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเบื้องต้นนายพีระพันธุ์ได้มีการหารือกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคว่า หากแนวทางเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองเช่นนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม โดยก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. พรรค นายพีระพันธุ์มองว่าเมื่อการเมืองเดินมาถึงสถานการณ์เช่นนี้น่าจะจบลงด้วยการยุบสภา จึงยังไม่มีมติของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเพียงการหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกันเท่านั้น
    ต่อมาปรากฏว่าการยุบสภาไม่สามารถทำได้ ประกอบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคหลายคนได้สอบถามและแสดงความคิดเห็นว่า กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติควรมีมติที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงมีการเชิญประชุมกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเร่งด่วน ในวันพุธก่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี
    นายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งนั้น กรรมการบริหารพรรค 3 ท่าน เห็นด้วยกับแนวทางของตน มีกรรมการบริหารพรรค 1 ท่าน เห็นว่าหากท่านอนุทินยืนยันว่าจะไม่มีการแตะต้องมาตรา 112 และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และหมวด 2 ควรจะต้องสนับสนุนท่านอนุทิน ส่วนกรรมการบริหารพรรค 2 ท่านเห็นว่าควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วหากมีมติทางใดทางหนึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในพรรคได้ จึงไม่มีการพูดถึงมติของกรรมการบริหารพรรค แต่แจ้งผลความเห็นของกรรมการบริหารพรรคว่ามีความเห็นกี่แนวทาง อย่างไรบ้าง และให้เป็นเอกสิทธิ์ดุลพินิจของ สส. โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ลงมติเลือกท่านอนุทิน 33 เสียง
    ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3 เสียง ซึ่งตนยืนยันว่าในพรรคไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เดินหน้าตามกระบวนการต่อไป

    นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกซื้อ ตนขอยืนยันในส่วนของตนว่าตนไม่มีทางโดนซื้อเด็ดขาด ส่วนกรณีที่มีการโจมตีว่าตนหวังตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีการหารือในการเสนอชื่อของตนในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะหากคิดในทางการเมืองแล้วเมื่อพรรคมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วแต่ไปดึงแคนดิเดตทางการเมืองจากพรรคอื่นมาแทน แบบนี้ในทางการเมืองจะเสียหายเป็นอย่างมาก ตนจึงยืนยันได้ว่าเรื่องที่ว่ามานี้ไม่เป็นความจริง และสำหรับตนถ้าจะได้รับเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องมีศักดิ์ศรี ซึ่งแนวทางนี้ไม่ใช่แนวทางที่มีศักดิ์ศรี
    “พรรคการเมืองก็เหมือนกับชีวิตมนุษย์ ทุกคนเกิดมาก็ต้องมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ไม่มีใครที่ชีวิตราบรื่นมีแต่ความสำเร็จมีแต่ความสุข เพียงแต่ว่าแต่ละคนเมื่อเจอปัญหาแล้วท้อไหม พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่เป็นพรรคแรกที่เพิ่งเกิดและเจอปัญหา แต่พรรครวมไทยสร้างชาติจะผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ ส่วนตัวผมไม่เคยท้อ เพราะว่าความจริงในชีวิตก็เจอปัญหามาเยอะอยู่แล้ว นี่ก็เป็นอีกแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิต แนวทางการทำงานของผมคือทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทำให้เต็มที่ที่เราทำได้ ทำไม่สำเร็จก็ต้องยอมรับว่ามันทำไม่สำเร็จ แต่ว่าทำให้ดีที่สุด ทำให้มากที่สุด ทำให้เต็มที่ ได้เท่านี้ ก็เท่านี้ ผมจะไม่ติดยึดกับคำพูดคนอื่น
    เพราะว่าคนอื่นไม่รู้ดีเท่าตัวเรา ผมติดยึดกับตัวเราเองว่าเราทำดีหรือยัง เราทำถูกต้องไหม เราไม่มีทางทำให้คนทุกคนถูกใจ ไม่มีวันทำให้ทุกคนพอใจ แต่เราทำในสิ่งที่ต้องทำหรือเปล่า ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองกับส่วนรวมหรือเปล่า ผมคิดว่าแนวทางการทำงานของผมแบบนี้ที่ทำให้ผมเดินหน้ามาจนถึงวันนี้ได้” นายพีระพันธุ์กล่าว
    นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปในเรื่องของการแก้ไขเรื่องของพลังงานว่า เรื่องการจัดการกับปัญหาพลังงานของตนนั้นสะท้อนถึงแนวทางการทำงานของตนเป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น ค่าไฟที่เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ค่าไฟอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย แต่ในวันนี้ค่าไฟเหลือเพียง 3.94 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และไม่มีการปรับขึ้นค่าไฟ และค่าแก๊สแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากวิธีการทำงานของตน คือทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ สุดท้ายแล้วได้เท่าไร ได้เท่านั้น และหากเดินหน้าต่อไปจนครบวาระ ตนยืนยันว่าราคาน้ำมันจะ
    สามารถควบคุมได้ และประเทศไทยจะมีคลังน้ำมันสำรองของประเทศ ที่เป็นของรัฐเพื่อความมั่นคงไม่ใช่ของเอกชน

    สำหรับความคืบหน้าของกฎหมายต่าง ๆ นั้น กฎหมายฉบับแรกคือกฎหมายส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้น ตนหวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะเดินหน้าต่อ ในส่วนของกฎหมายควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และกฎหมายคลังน้ำมันนั้น กฎหมายฉบับแรกคือการควบคุมราคาน้ำมันเสร็จเรียบร้อย และกฎหมายคลังน้ำมันนั้นใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้จะต้องเสนอคู่กัน เพื่อปรับโครงสร้างราคาน้ำมันได้ทั้งกระบวนการ โดยนายพีระพันธุ์ยืนยันว่าจะต้องมีการเดินหน้ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ต่อโดยผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร แต่ด้วยเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่จะต้องยุบสภาใน 4 เดือนนี้ คาดว่าไม่น่าจะสำเร็จได้ด้วยสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้
    นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งหลังการยุบสภาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 4 เดือนนี้ว่า เมื่อเป็นพรรคการเมืองจะต้องมีความพร้อมในการลงรับเลือกตั้งตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อมีความชัดเจนเช่นนี้เกิดขึ้น จะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกด้าน โดยเฉพาะผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยทางพรรคพร้อมที่จะหาตัวแทนที่พร้อมจะเดินหน้า สู้ให้ทุกปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน และเรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งในระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมาตนเชื่อว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราพูดแล้วเราทำ และเราเดินหน้าทำงานตลอดเวลา
    “ทุกคนที่สนใจร่วมอุดมการณ์และเดินหน้าทำงานตามแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือพรรคที่มาทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ได้มาเพื่อเล่นการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคของคนทำงาน หากใครมีแนวทางเดียวกันขอเชิญชวนให้มาร่วมทำงานด้วยกันครับ” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวในตอนท้าย
    อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการตั้งคำถามถึงข้อเท็จจริงกรณีปัญหาความขัดแย้งกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ได้ลาออกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนายพีระพันธุ์ไม่ได้ชี้แจงหรือพูดถึงในประเด็นดังกล่าว
    'พีระพันธุ์' ลั่นไม่ร่วมรัฐบาลเบี้ยล่างพรรคส้ม พร้อมนำทัพ รทสช. สู้ศึกเลือกตั้ง ////////////////// รวมไทยสร้างชาติไปต่อ! "พีระพันธุ์" พร้อมเดินหน้านำทัพสู้ศึกเลือกตั้ง ย้ำทำเต็มที่ เชื่อมั่นพรรคสามารถผ่านทุกอุปสรรคไปได้ เชิญชวนชาวไทยหัวใจรักชาติร่วมทำงานเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน 18 กันยายน 2568 - เวลา 19.00 น. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เปิดเผยถึงทิศทางการทำงานของพรรคท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองว่า ในลำดับแรกตนขอยืนยันว่าพร้อมเดินหน้าในการดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรค เพื่อเป็นแม่ทัพของพรรครวมไทยสร้างชาติในการทำงานทางการเมืองต่อไป สำหรับกระแสข่าวเลือดไหลออกจากพรรครวมไทยสร้างชาตินั้น ในวันนี้ยังไม่มีเลือดไหลออกจากพรรค เพราะทุกคนยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และยังมีผู้สนใจมาสมัครสมาชิกพรรคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวัน นายพีระพันธุ์ยังได้เปิดเผยถึงจุดยืนของตนเกี่ยวกับการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีที่ผ่านมาว่า หลังจากที่มีการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ การเมืองของไทยก็มีพัฒนาการทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ประเด็นสำคัญก็คือ มีการพยายามนำพรรคการเมืองบางพรรค ซึ่งพรรครวมไทยสร้างชาติได้ประกาศตั้งแต่ต้นว่าพรรครวมไทยสร้างชาติไม่สามารถร่วมมือด้วยได้ เนื่องจากมีอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวคิดทางการเมืองที่แตกต่างกันเป็นอย่างมาก และมีการใช้วิธีการให้พรรคการเมืองนั้นมาลงมติสนับสนุนผู้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีโดยไม่ได้เป็นการร่วมรัฐบาล แต่เป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ระหว่างกัน ซึ่งสำหรับตนเห็นว่าแนวทางเช่นนี้ไม่ถูกต้องทางการเมือง เพราะจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างทางการเมืองของพรรคการเมืองอื่นที่ไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล นอกจากนี้ตนยังเห็นว่า วิธีการดังกล่าวอาจเป็นการผิดกฎหมายพรรคการเมืองในการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ซึ่งจาก 2 เหตุผลข้างต้น ทำให้ตนมีความเห็นว่าไม่สามารถลงคะแนนเสียงสนับสนุนท่านอนุทินเป็นนายกรัฐมนตรีได้ในขณะนั้น ทั้งที่โดยส่วนตัวตนเคารพและรักท่านอนุทินมาก และคิดว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถ แต่วิธีการในการจัดตั้งรัฐบาลในรูปแบบนี้ ไม่ใช่วิธีทางที่ถูกต้อง ต่อมาทางพรรคเพื่อไทยก็ได้มีการติดต่อในการเพิ่มเสียงสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ด้วยแนวทางแลกเปลี่ยนผลประโยชน์แต่ไม่ร่วมรัฐบาลนั้น ซึ่งตนยืนยันว่าไม่เห็นด้วยกับแนวทางนี้ ดังนั้นตนจึงมีความเห็นว่าถ้าจะมีการจัดตั้งรัฐบาลด้วยการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ ก็ไม่สามารถสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เลย “สำหรับผมคิดว่า นี่เป็นวิธีการทางการเมืองที่ไม่ถูกต้อง และจะทำให้รัฐบาลกลายเป็นเบี้ยล่างของพรรคการเมืองอื่นซึ่งไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งในทางการเมืองเป็นสิ่งที่เกิดไม่น่าจะเกิดขึ้น และผมรับไม่ได้ ” นายพีระพันธุ์กล่าว อย่างไรก็ดี ในส่วนการบริหารจัดการพรรคจะต้องมีการประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเบื้องต้นนายพีระพันธุ์ได้มีการหารือกับผู้บริหารระดับสูงของพรรคว่า หากแนวทางเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ด้วยวิธีการที่ไม่ถูกต้องทางการเมืองเช่นนี้ พรรครวมไทยสร้างชาติก็ไม่สามารถร่วมรัฐบาลได้ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม โดยก่อนการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ สส. พรรค นายพีระพันธุ์มองว่าเมื่อการเมืองเดินมาถึงสถานการณ์เช่นนี้น่าจะจบลงด้วยการยุบสภา จึงยังไม่มีมติของพรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเพียงการหารือแลกเปลี่ยนความเห็นกันเท่านั้น ต่อมาปรากฏว่าการยุบสภาไม่สามารถทำได้ ประกอบกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรคหลายคนได้สอบถามและแสดงความคิดเห็นว่า กรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติควรมีมติที่ชัดเจนเพื่อเป็นแนวทางในการดำเนินการของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรครวมไทยสร้างชาติ จึงมีการเชิญประชุมกรรมการบริหารพรรครวมไทยสร้างชาติอย่างเร่งด่วน ในวันพุธก่อนการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี นายพีระพันธุ์เปิดเผยว่า ในการประชุมกรรมการบริหารพรรคครั้งนั้น กรรมการบริหารพรรค 3 ท่าน เห็นด้วยกับแนวทางของตน มีกรรมการบริหารพรรค 1 ท่าน เห็นว่าหากท่านอนุทินยืนยันว่าจะไม่มีการแตะต้องมาตรา 112 และยืนยันว่าจะไม่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวด 1 และหมวด 2 ควรจะต้องสนับสนุนท่านอนุทิน ส่วนกรรมการบริหารพรรค 2 ท่านเห็นว่าควรให้เป็นเอกสิทธิ์ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเมื่อพิจารณาแล้วหากมีมติทางใดทางหนึ่งจะทำให้เกิดปัญหาในพรรคได้ จึงไม่มีการพูดถึงมติของกรรมการบริหารพรรค แต่แจ้งผลความเห็นของกรรมการบริหารพรรคว่ามีความเห็นกี่แนวทาง อย่างไรบ้าง และให้เป็นเอกสิทธิ์ดุลพินิจของ สส. โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติได้ลงมติเลือกท่านอนุทิน 33 เสียง ไม่ประสงค์ลงคะแนน 3 เสียง ซึ่งตนยืนยันว่าในพรรคไม่มีปัญหาอะไรเกิดขึ้น และทุกอย่างก็เดินหน้าตามกระบวนการต่อไป นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปว่า สำหรับกระแสข่าวว่าพรรครวมไทยสร้างชาติถูกซื้อ ตนขอยืนยันในส่วนของตนว่าตนไม่มีทางโดนซื้อเด็ดขาด ส่วนกรณีที่มีการโจมตีว่าตนหวังตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ตนขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่มีการหารือในการเสนอชื่อของตนในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะหากคิดในทางการเมืองแล้วเมื่อพรรคมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้วแต่ไปดึงแคนดิเดตทางการเมืองจากพรรคอื่นมาแทน แบบนี้ในทางการเมืองจะเสียหายเป็นอย่างมาก ตนจึงยืนยันได้ว่าเรื่องที่ว่ามานี้ไม่เป็นความจริง และสำหรับตนถ้าจะได้รับเลือกนายกรัฐมนตรีจะต้องมีศักดิ์ศรี ซึ่งแนวทางนี้ไม่ใช่แนวทางที่มีศักดิ์ศรี “พรรคการเมืองก็เหมือนกับชีวิตมนุษย์ ทุกคนเกิดมาก็ต้องมีปัญหาอุปสรรคเกิดขึ้น ไม่มีใครที่ชีวิตราบรื่นมีแต่ความสำเร็จมีแต่ความสุข เพียงแต่ว่าแต่ละคนเมื่อเจอปัญหาแล้วท้อไหม พรรครวมไทยสร้างชาติไม่ใช่เป็นพรรคแรกที่เพิ่งเกิดและเจอปัญหา แต่พรรครวมไทยสร้างชาติจะผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ ส่วนตัวผมไม่เคยท้อ เพราะว่าความจริงในชีวิตก็เจอปัญหามาเยอะอยู่แล้ว นี่ก็เป็นอีกแค่เสี้ยวหนึ่งของชีวิต แนวทางการทำงานของผมคือทำทุกอย่างให้ดีที่สุดทำให้เต็มที่ที่เราทำได้ ทำไม่สำเร็จก็ต้องยอมรับว่ามันทำไม่สำเร็จ แต่ว่าทำให้ดีที่สุด ทำให้มากที่สุด ทำให้เต็มที่ ได้เท่านี้ ก็เท่านี้ ผมจะไม่ติดยึดกับคำพูดคนอื่น เพราะว่าคนอื่นไม่รู้ดีเท่าตัวเรา ผมติดยึดกับตัวเราเองว่าเราทำดีหรือยัง เราทำถูกต้องไหม เราไม่มีทางทำให้คนทุกคนถูกใจ ไม่มีวันทำให้ทุกคนพอใจ แต่เราทำในสิ่งที่ต้องทำหรือเปล่า ทำสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับบ้านเมืองกับส่วนรวมหรือเปล่า ผมคิดว่าแนวทางการทำงานของผมแบบนี้ที่ทำให้ผมเดินหน้ามาจนถึงวันนี้ได้” นายพีระพันธุ์กล่าว นายพีระพันธุ์ กล่าวต่อไปในเรื่องของการแก้ไขเรื่องของพลังงานว่า เรื่องการจัดการกับปัญหาพลังงานของตนนั้นสะท้อนถึงแนวทางการทำงานของตนเป็นอย่างดี ยกตัวอย่าง เช่น ค่าไฟที่เมื่อตนเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ค่าไฟอยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย แต่ในวันนี้ค่าไฟเหลือเพียง 3.94 บาทต่อหน่วยเท่านั้น และไม่มีการปรับขึ้นค่าไฟ และค่าแก๊สแม้แต่ครั้งเดียว สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจากวิธีการทำงานของตน คือทำให้ดีที่สุด ทำให้เต็มที่ สุดท้ายแล้วได้เท่าไร ได้เท่านั้น และหากเดินหน้าต่อไปจนครบวาระ ตนยืนยันว่าราคาน้ำมันจะ สามารถควบคุมได้ และประเทศไทยจะมีคลังน้ำมันสำรองของประเทศ ที่เป็นของรัฐเพื่อความมั่นคงไม่ใช่ของเอกชน สำหรับความคืบหน้าของกฎหมายต่าง ๆ นั้น กฎหมายฉบับแรกคือกฎหมายส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์นั้น ตนหวังว่ารัฐบาลชุดต่อไปจะเดินหน้าต่อ ในส่วนของกฎหมายควบคุมราคาน้ำมันเชื้อเพลิง และกฎหมายคลังน้ำมันนั้น กฎหมายฉบับแรกคือการควบคุมราคาน้ำมันเสร็จเรียบร้อย และกฎหมายคลังน้ำมันนั้นใกล้แล้วเสร็จ ซึ่งกฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้จะต้องเสนอคู่กัน เพื่อปรับโครงสร้างราคาน้ำมันได้ทั้งกระบวนการ โดยนายพีระพันธุ์ยืนยันว่าจะต้องมีการเดินหน้ากฎหมายทั้ง 2 ฉบับนี้ต่อโดยผ่านกลไกของสภาผู้แทนราษฎร แต่ด้วยเงื่อนไขการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ที่จะต้องยุบสภาใน 4 เดือนนี้ คาดว่าไม่น่าจะสำเร็จได้ด้วยสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ นายพีระพันธุ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมในการเลือกตั้งหลังการยุบสภาที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วง 4 เดือนนี้ว่า เมื่อเป็นพรรคการเมืองจะต้องมีความพร้อมในการลงรับเลือกตั้งตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อมีความชัดเจนเช่นนี้เกิดขึ้น จะต้องมีการเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ทุกด้าน โดยเฉพาะผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยทางพรรคพร้อมที่จะหาตัวแทนที่พร้อมจะเดินหน้า สู้ให้ทุกปัญหาให้กับพี่น้องประชาชนโดยเฉพาะเรื่องของพลังงาน และเรื่องของความไม่เป็นธรรมในสังคม ซึ่งในระยะเวลาของการทำงานที่ผ่านมาตนเชื่อว่า ทางพรรครวมไทยสร้างชาติได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เราพูดแล้วเราทำ และเราเดินหน้าทำงานตลอดเวลา “ทุกคนที่สนใจร่วมอุดมการณ์และเดินหน้าทำงานตามแนวทางของพรรครวมไทยสร้างชาติ คือพรรคที่มาทำงานการเมืองเพื่อประโยชน์ของชาติ ไม่ได้มาเพื่อเล่นการเมืองเพื่อประโยชน์ส่วนตัว เพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ เพราะพรรครวมไทยสร้างชาติคือพรรคของคนทำงาน หากใครมีแนวทางเดียวกันขอเชิญชวนให้มาร่วมทำงานด้วยกันครับ” นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค กล่าวในตอนท้าย อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีการตั้งคำถามถึงข้อเท็จจริงกรณีปัญหาความขัดแย้งกับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ ที่ได้ลาออกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งนายพีระพันธุ์ไม่ได้ชี้แจงหรือพูดถึงในประเด็นดังกล่าว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • นักการเมืองพร้อมใจ!!! 'พริษฐ์'! เผย 3 พรรคการเมืองเห็นพ้อง! เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในสัปดาห์หน้า
    https://www.thai-tai.tv/news/21433/
    .
    #ไทยไท #พริษฐ์วัชรสินธุ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    นักการเมืองพร้อมใจ!!! 'พริษฐ์'! เผย 3 พรรคการเมืองเห็นพ้อง! เดินหน้าจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ภายในสัปดาห์หน้า https://www.thai-tai.tv/news/21433/ . #ไทยไท #พริษฐ์วัชรสินธุ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘แสวง’ ยัน! พร้อมจัดประชามติร่าง รธน. คู่ขนานเลือกตั้ง สส.!
    https://www.thai-tai.tv/news/21431/
    .
    #ไทยไท #กกต #แสวงบุญมี #ประชามติ #เลือกตั้ง #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘แสวง’ ยัน! พร้อมจัดประชามติร่าง รธน. คู่ขนานเลือกตั้ง สส.! https://www.thai-tai.tv/news/21431/ . #ไทยไท #กกต #แสวงบุญมี #ประชามติ #เลือกตั้ง #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ภูมิธรรม' ย้ำจุดยืนเพื่อไทย! เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น!
    https://www.thai-tai.tv/news/21427/
    .
    #ไทยไท #ภูมิธรรมเวชยชัย #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    'ภูมิธรรม' ย้ำจุดยืนเพื่อไทย! เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยมากขึ้น! https://www.thai-tai.tv/news/21427/ . #ไทยไท #ภูมิธรรมเวชยชัย #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 178 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนเดือดร้อนหนักมาก??? 'เพื่อไทย' ลั่นไม่ท้อ! ลุยผลักดันแก้รธน. จี้ทุกพรรคร่วมหาทางออก เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด!!!
    https://www.thai-tai.tv/news/21424/
    .
    #ไทยไท #พรรคเพื่อไทย #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ประชาชนเดือดร้อนหนักมาก??? 'เพื่อไทย' ลั่นไม่ท้อ! ลุยผลักดันแก้รธน. จี้ทุกพรรคร่วมหาทางออก เพื่อให้ได้รัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยให้มากที่สุด!!! https://www.thai-tai.tv/news/21424/ . #ไทยไท #พรรคเพื่อไทย #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ประชามติ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 183 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘ขัตติยา’ ซัด ‘พรรคประชาชน’! ชี้ไม่รอบคอบทำ MOU แก้ รธน. จนเจอทางตัน!
    https://www.thai-tai.tv/news/21413/
    .
    #ไทยไท #ขัตติยาสวัสดิผล #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #MOU #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ‘ขัตติยา’ ซัด ‘พรรคประชาชน’! ชี้ไม่รอบคอบทำ MOU แก้ รธน. จนเจอทางตัน! https://www.thai-tai.tv/news/21413/ . #ไทยไท #ขัตติยาสวัสดิผล #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #MOU #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 122 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัญหาประชาชนเอาไว้ก่อน??? “ณัฐพงษ์” จี้ "ภท." รวบรวมเสียงเร่งแก้ รธน. หมวด 15 เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาก.ย.นี้
    https://www.thai-tai.tv/news/21403/
    .
    #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    ปัญหาประชาชนเอาไว้ก่อน??? “ณัฐพงษ์” จี้ "ภท." รวบรวมเสียงเร่งแก้ รธน. หมวด 15 เข้าสู่ที่ประชุมรัฐสภาก.ย.นี้ https://www.thai-tai.tv/news/21403/ . #ไทยไท #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • “นิวเม็กซิโกประกาศใช้ ‘Universal Child Care’ เป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ — ดูแลเด็กทุกคนฟรี ไม่จำกัดรายได้!”

    ลองจินตนาการว่าคุณเป็นพ่อแม่ในรัฐนิวเม็กซิโก ที่ต้องจ่ายค่าเนอร์สเซอรี่หรือศูนย์ดูแลเด็กเดือนละหลายร้อยดอลลาร์ — แล้ววันหนึ่งรัฐประกาศว่า “ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้ ทุกครอบครัวจะได้รับสิทธิ์ดูแลเด็กฟรี โดยไม่ต้องสนใจรายได้” นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปี 2025 และถือเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา

    ผู้ว่าการรัฐ Michelle Lujan Grisham ร่วมกับกรมการศึกษาปฐมวัยของรัฐ (ECECD) ประกาศว่า นิวเม็กซิโกจะเป็นรัฐแรกที่ให้บริการดูแลเด็กแบบ “ฟรีถ้วนหน้า” โดยยกเลิกข้อกำหนดด้านรายได้ และยังคงยกเว้นค่า copay สำหรับครอบครัวทั้งหมด

    นโยบายนี้ต่อยอดจากความพยายามตั้งแต่ปี 2019 ที่รัฐเริ่มขยายสิทธิ์ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 400% ของระดับความยากจนของรัฐบาลกลาง และตอนนี้จะครอบคลุมทุกครอบครัวโดยไม่จำกัดรายได้ — คิดเป็นการประหยัดเฉลี่ยปีละ $12,000 ต่อเด็กหนึ่งคน

    นอกจากการให้สิทธิ์ฟรี รัฐยังลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กองทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ $12.7 ล้าน เพื่อสร้างและปรับปรุงศูนย์ดูแลเด็ก และขอเพิ่มงบอีก $20 ล้านในปีงบประมาณ 2027 พร้อมทั้งเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้ดูแลเด็ก โดยกำหนดขั้นต่ำ $18 ต่อชั่วโมง และให้สิทธิพิเศษกับศูนย์ที่เปิดบริการ 10 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์

    เป้าหมายคือการเพิ่มจำนวนบุคลากรอีก 5,000 คนทั่วรัฐ เพื่อรองรับระบบถ้วนหน้าอย่างเต็มรูปแบบ และสร้างระบบที่ยั่งยืนสำหรับเด็กเล็ก ครอบครัว และเศรษฐกิจของรัฐในระยะยาว

    การประกาศใช้นโยบาย Universal Child Care
    เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2025
    ยกเลิกข้อกำหนดด้านรายได้ในการรับสิทธิ์
    ยังคงยกเว้นค่า copay สำหรับทุกครอบครัว
    ประหยัดเฉลี่ย $12,000 ต่อเด็กหนึ่งคนต่อปี

    การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน
    กองทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ $12.7 ล้านสำหรับสร้างและปรับปรุงศูนย์ดูแลเด็ก
    ขอเพิ่มงบอีก $20 ล้านในปีงบประมาณ 2027
    เน้นการขยายบริการสำหรับเด็กเล็ก, ครอบครัวยากจน และเด็กพิเศษ

    การสนับสนุนผู้ให้บริการ
    เพิ่มอัตราการจ่ายให้สะท้อนต้นทุนจริง
    ศูนย์ที่จ่ายขั้นต่ำ $18/ชม. และเปิดบริการ 10 ชม./วัน จะได้รับอัตราส่งเสริม
    เปิดแคมเปญทั่วรัฐเพื่อรับสมัครผู้ให้บริการแบบบ้าน (home providers)

    ผลกระทบต่อครอบครัวและเศรษฐกิจ
    ครอบครัวมีเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น
    มีเวลามากขึ้นในการดูแลลูกและเลือกศูนย์ที่มีคุณภาพ
    ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงาน
    สร้างผลลัพธ์ที่ดีในด้านสุขภาพ การเรียนรู้ และความเป็นอยู่ของเด็ก

    ข้อมูลเสริมจากภายนอก
    Save the Children Action Network ยกย่องนโยบายนี้ว่าเป็นต้นแบบระดับชาติ
    นโยบายนี้ต่อยอดจากการตั้งกองทุน Early Childhood Trust Fund และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
    นักวิชาการชี้ว่าเป็นการลงทุนที่สร้างความเท่าเทียมและความมั่นคงในระยะยาว
    นิวเม็กซิโกเคยเป็นผู้นำด้าน universal preschool และการปรับค่าจ้างครูเด็กเล็ก

    https://www.governor.state.nm.us/2025/09/08/new-mexico-is-first-state-in-nation-to-offer-universal-child-care/
    👶 “นิวเม็กซิโกประกาศใช้ ‘Universal Child Care’ เป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ — ดูแลเด็กทุกคนฟรี ไม่จำกัดรายได้!” ลองจินตนาการว่าคุณเป็นพ่อแม่ในรัฐนิวเม็กซิโก ที่ต้องจ่ายค่าเนอร์สเซอรี่หรือศูนย์ดูแลเด็กเดือนละหลายร้อยดอลลาร์ — แล้ววันหนึ่งรัฐประกาศว่า “ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนนี้ ทุกครอบครัวจะได้รับสิทธิ์ดูแลเด็กฟรี โดยไม่ต้องสนใจรายได้” นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปี 2025 และถือเป็นก้าวประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ผู้ว่าการรัฐ Michelle Lujan Grisham ร่วมกับกรมการศึกษาปฐมวัยของรัฐ (ECECD) ประกาศว่า นิวเม็กซิโกจะเป็นรัฐแรกที่ให้บริการดูแลเด็กแบบ “ฟรีถ้วนหน้า” โดยยกเลิกข้อกำหนดด้านรายได้ และยังคงยกเว้นค่า copay สำหรับครอบครัวทั้งหมด นโยบายนี้ต่อยอดจากความพยายามตั้งแต่ปี 2019 ที่รัฐเริ่มขยายสิทธิ์ให้ครอบครัวที่มีรายได้ไม่เกิน 400% ของระดับความยากจนของรัฐบาลกลาง และตอนนี้จะครอบคลุมทุกครอบครัวโดยไม่จำกัดรายได้ — คิดเป็นการประหยัดเฉลี่ยปีละ $12,000 ต่อเด็กหนึ่งคน นอกจากการให้สิทธิ์ฟรี รัฐยังลงทุนเพิ่มในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น กองทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ $12.7 ล้าน เพื่อสร้างและปรับปรุงศูนย์ดูแลเด็ก และขอเพิ่มงบอีก $20 ล้านในปีงบประมาณ 2027 พร้อมทั้งเพิ่มค่าตอบแทนให้ผู้ดูแลเด็ก โดยกำหนดขั้นต่ำ $18 ต่อชั่วโมง และให้สิทธิพิเศษกับศูนย์ที่เปิดบริการ 10 ชั่วโมงต่อวัน 5 วันต่อสัปดาห์ เป้าหมายคือการเพิ่มจำนวนบุคลากรอีก 5,000 คนทั่วรัฐ เพื่อรองรับระบบถ้วนหน้าอย่างเต็มรูปแบบ และสร้างระบบที่ยั่งยืนสำหรับเด็กเล็ก ครอบครัว และเศรษฐกิจของรัฐในระยะยาว ✅ การประกาศใช้นโยบาย Universal Child Care ➡️ เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ➡️ ยกเลิกข้อกำหนดด้านรายได้ในการรับสิทธิ์ ➡️ ยังคงยกเว้นค่า copay สำหรับทุกครอบครัว ➡️ ประหยัดเฉลี่ย $12,000 ต่อเด็กหนึ่งคนต่อปี ✅ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ➡️ กองทุนเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ $12.7 ล้านสำหรับสร้างและปรับปรุงศูนย์ดูแลเด็ก ➡️ ขอเพิ่มงบอีก $20 ล้านในปีงบประมาณ 2027 ➡️ เน้นการขยายบริการสำหรับเด็กเล็ก, ครอบครัวยากจน และเด็กพิเศษ ✅ การสนับสนุนผู้ให้บริการ ➡️ เพิ่มอัตราการจ่ายให้สะท้อนต้นทุนจริง ➡️ ศูนย์ที่จ่ายขั้นต่ำ $18/ชม. และเปิดบริการ 10 ชม./วัน จะได้รับอัตราส่งเสริม ➡️ เปิดแคมเปญทั่วรัฐเพื่อรับสมัครผู้ให้บริการแบบบ้าน (home providers) ✅ ผลกระทบต่อครอบครัวและเศรษฐกิจ ➡️ ครอบครัวมีเสถียรภาพทางการเงินมากขึ้น ➡️ มีเวลามากขึ้นในการดูแลลูกและเลือกศูนย์ที่มีคุณภาพ ➡️ ส่งเสริมการมีส่วนร่วมในตลาดแรงงาน ➡️ สร้างผลลัพธ์ที่ดีในด้านสุขภาพ การเรียนรู้ และความเป็นอยู่ของเด็ก ✅ ข้อมูลเสริมจากภายนอก ➡️ Save the Children Action Network ยกย่องนโยบายนี้ว่าเป็นต้นแบบระดับชาติ ➡️ นโยบายนี้ต่อยอดจากการตั้งกองทุน Early Childhood Trust Fund และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ➡️ นักวิชาการชี้ว่าเป็นการลงทุนที่สร้างความเท่าเทียมและความมั่นคงในระยะยาว ➡️ นิวเม็กซิโกเคยเป็นผู้นำด้าน universal preschool และการปรับค่าจ้างครูเด็กเล็ก https://www.governor.state.nm.us/2025/09/08/new-mexico-is-first-state-in-nation-to-offer-universal-child-care/
    WWW.GOVERNOR.STATE.NM.US
    New Mexico is first state in nation to offer universal child care - Office of the Governor - Michelle Lujan Grisham
    [et_pb_section fb_built=”1″ fullwidth=”on” _builder_version=”3.19.5″ background_image=”https://www.governor.state.nm.us/wp-content/uploads/2018/12/press-release.jpg” global_module=”236″ saved_tabs=”all” locked=”off” global_colors_info=”{}” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_fullwidth_header title=”PRESS RELEASES” _builder_version=”4.16″ title_font=”|||on|||||” title_font_size=”50px” use_background_color_gradient=”on” background_color_gradient_direction=”90deg” background_color_gradient_stops=”#141a3d 16%|rgba(20,26,61,0) 100%” background_color_gradient_overlays_image=”on” background_color_gradient_start=”#141a3d” background_color_gradient_start_position=”16%” background_color_gradient_end=”rgba(20,26,61,0)” background_image=”https://www.governor.state.nm.us/wp-content/uploads/2018/12/press-release.jpg” custom_margin=”|0px||0px||true” custom_padding=”|0px||0px||true” global_colors_info=”{}” theme_builder_area=”post_content”][/et_pb_fullwidth_header][/et_pb_section][et_pb_section fb_built=”1″ _builder_version=”4.17.4″ width=”100%” custom_margin=”0px|0px|0px|0px|true|true” custom_padding=”0px|0px|0px|0px|true|true” global_module=”200″ locked=”on” global_colors_info=”{}” theme_builder_area=”post_content”][et_pb_row use_custom_gutter=”on” gutter_width=”1″ module_class=” et_pb_row_fullwidth” _builder_version=”4.16″ width=”100%” width_tablet=”100%” width_phone=”” width_last_edited=”on|desktop” max_width=”100%” max_width_tablet=”100%” max_width_phone=”” max_width_last_edited=”on|desktop” custom_margin=”0px|0px|0px|0px|true|true” custom_padding=”0px||0px|0px” make_fullwidth=”on” locked=”on” […]
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68
    .
    สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่เส้นกรอบ โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้ถกเถียงกันในหลายประเด็น หนึ่งคือ กรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีกำหนดจะต้องนัดฟังคำสั่งศาลกรณีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายคนสงสัยว่าคุณทักษิณจะกลับมาประเทศไทยไหม? ถ้ากลับจะเป็นอย่างไร และถ้าไม่กลับจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง? นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของนายกฯ คนใหม่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับรัฐบาลใหม่ และคณะรัฐมนตรีใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเรื่องชายแดน และการยกเลิก MOU43-44
    .
    คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับการเมืองไทย ณ เวลานี้ ต้องติดตาม !
    .
    คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28
    .
    #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ทักษิณ #ชั้น14 #ทักษิณ #รัฐบาล #นายกหนู #อนุทินชาญวีรกูล #คณะรัฐมนตรี #รัฐบาลอนุทิน
    สนธิเล่าเรื่อง 8-9-68 . สวัสดีเช้าวันจันทร์ที่ วันนี้บ้านพระอาทิตย์มีเมนูอาหารเช้าเป็นโกยซีหมี่ไก่เส้นกรอบ โดยหลังจากที่คุณสนธิร่วมประชุม และรับประทานอาหารเช้ากับทีมงานแล้ว ก็ได้ถกเถียงกันในหลายประเด็น หนึ่งคือ กรณีที่คุณทักษิณ ชินวัตร ซึ่งมีกำหนดจะต้องนัดฟังคำสั่งศาลกรณีชั้น 14 ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) ซึ่งหลายคนสงสัยว่าคุณทักษิณจะกลับมาประเทศไทยไหม? ถ้ากลับจะเป็นอย่างไร และถ้าไม่กลับจะส่งผลกระทบอะไรบ้าง? นอกจากนี้ยังมีประเด็นเรื่องของนายกฯ คนใหม่ คุณอนุทิน ชาญวีรกูล กับรัฐบาลใหม่ และคณะรัฐมนตรีใหม่ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัญหาเรื่องชายแดน และการยกเลิก MOU43-44 . คุณสนธิคิดและมองอย่างไรกับการเมืองไทย ณ เวลานี้ ต้องติดตาม ! . คลิกชม >> https://www.youtube.com/watch?v=9tFRd3ycq28 . #สนธิเล่าเรื่อง #SondhiTalk #ทักษิณ #ชั้น14 #ทักษิณ #รัฐบาล #นายกหนู #อนุทินชาญวีรกูล #คณะรัฐมนตรี #รัฐบาลอนุทิน
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 267 มุมมอง 0 รีวิว
  • อนุทินกำจัดจุดอ่อน ฟอร์ม ครม.คนนอก-ฟื้นคนละครึ่ง

    ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สำหรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลังลาออกจากรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไปเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ต้องการเก้าอี้คืน แล้วตกลงกันไม่ได้ กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในที่สุดดีลโหวตเลือกนายกฯ กับพรรคประชาชน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ก็ลงตัว ชนะนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย 311 ต่อ 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ภายใต้เงื่อนไขต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ

    4 ปัญหาบ้านเมืองที่นายอนุทินจะแก้ไข คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาภัยสังคม จึงได้พบเห็นการฟอร์มรัฐมนตรีคนนอก ได้แก่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ จะมาเป็น รมว.คลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอ ปตท. และ โออาร์ จะมาเป็น รมว.พลังงาน และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่า อยากได้คนที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้งานอะไรมาก สร้างความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเดินหน้าได้ และล่าสุด เปิดตัวนายวรภัค ธันยาวงษ์ ประธานที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร อดีต รมว.คลังในรัฐบาลแพทองธาร ที่เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมาเป็น รมช.คลัง

    นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จะฟื้นโครงการคนละครึ่ง สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมา หลังนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เรียกร้องให้สนับสนุนโครงการ Co-payment เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศกว่า 7 แสนราย ที่ต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจและยอดขายตกต่ำ เรียกเสียงฮือฮาจากสังคม เพราะเป็นโครงการในตำนานที่เห็นภาพและจับต้องได้

    อีกทั้งระบบหลังบ้าน ธนาคารกรุงไทยมีประสบการณ์อยู่แล้ว มีฐานผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังกว่า 40 ล้านราย เมื่อเทียบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ต้องเขียนแอปฯ ใหม่ สุดท้ายทำไม่ได้จริง ได้แค่แจกเงินผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางผ่านระบบพร้อมเพย์ แม้จะมีการปลุกกระแสทำให้ผู้ค้าส่วนหนึ่งกลัวถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังก็ตาม แต่การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยปกติหากรายได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว

    #Newskit
    อนุทินกำจัดจุดอ่อน ฟอร์ม ครม.คนนอก-ฟื้นคนละครึ่ง ก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 สำหรับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หลังลาออกจากรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไปเมื่อกลางเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา เพราะนายทักษิณ ชินวัตร เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริง ต้องการเก้าอี้คืน แล้วตกลงกันไม่ได้ กระทั่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ด้วยข้อหาฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรง กรณีคลิปเสียงคุยโทรศัพท์กับนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ในที่สุดดีลโหวตเลือกนายกฯ กับพรรคประชาชน เมื่อวันที่ 5 ก.ย.ก็ลงตัว ชนะนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย 311 ต่อ 152 เสียง งดออกเสียง 27 เสียง ภายใต้เงื่อนไขต้องยุบสภาภายใน 4 เดือน และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ 4 ปัญหาบ้านเมืองที่นายอนุทินจะแก้ไข คือ ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาความมั่นคง ปัญหาภัยธรรมชาติ และปัญหาภัยสังคม จึงได้พบเห็นการฟอร์มรัฐมนตรีคนนอก ได้แก่ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ จะมาเป็น รมว.คลัง นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอ ปตท. และ โออาร์ จะมาเป็น รมว.พลังงาน และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ จะมาเป็น รมว.ต่างประเทศ โดยให้เหตุผลว่า อยากได้คนที่มีความรู้ความสามารถ ทำงานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้งานอะไรมาก สร้างความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเดินหน้าได้ และล่าสุด เปิดตัวนายวรภัค ธันยาวงษ์ ประธานที่ปรึกษา นายพิชัย ชุณหวชิร อดีต รมว.คลังในรัฐบาลแพทองธาร ที่เป็นหนึ่งในทีมเจรจาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ จะมาเป็น รมช.คลัง นอกจากนี้ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยว่า จะฟื้นโครงการคนละครึ่ง สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมา หลังนางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย เรียกร้องให้สนับสนุนโครงการ Co-payment เพื่อช่วยเหลือค่าครองชีพของประชาชน และผู้ประกอบการร้านอาหารทั่วประเทศกว่า 7 แสนราย ที่ต้องเผชิญพิษเศรษฐกิจและยอดขายตกต่ำ เรียกเสียงฮือฮาจากสังคม เพราะเป็นโครงการในตำนานที่เห็นภาพและจับต้องได้ อีกทั้งระบบหลังบ้าน ธนาคารกรุงไทยมีประสบการณ์อยู่แล้ว มีฐานผู้ใช้งานแอปฯ เป๋าตังกว่า 40 ล้านราย เมื่อเทียบกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่ต้องเขียนแอปฯ ใหม่ สุดท้ายทำไม่ได้จริง ได้แค่แจกเงินผู้สูงอายุ ผู้มีรายได้น้อยและกลุ่มเปราะบางผ่านระบบพร้อมเพย์ แม้จะมีการปลุกกระแสทำให้ผู้ค้าส่วนหนึ่งกลัวถูกกรมสรรพากรเรียกเก็บภาษีย้อนหลังก็ตาม แต่การจ่ายภาษีเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยปกติหากรายได้ถึง 1.8 ล้านบาทต่อปี ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอยู่แล้ว #Newskit
    Love
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 376 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพื่อไทยรับข้อเสนอพรรคประชาชนหมดเปลือก ยอมยุบสภาใน 4 เดือนพร้อมเดินหน้าแก้ รธน. หวังโหวต "ชัยเกษม" นั่งนายกฯ
    https://www.thai-tai.tv/news/21230/
    .
    #ไทยไท #ภูมิธรรมเวชยชัย #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #ยุบสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #จัดตั้งรัฐบาล #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้

    เพื่อไทยรับข้อเสนอพรรคประชาชนหมดเปลือก ยอมยุบสภาใน 4 เดือนพร้อมเดินหน้าแก้ รธน. หวังโหวต "ชัยเกษม" นั่งนายกฯ https://www.thai-tai.tv/news/21230/ . #ไทยไท #ภูมิธรรมเวชยชัย #พรรคเพื่อไทย #พรรคประชาชน #ยุบสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #จัดตั้งรัฐบาล #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 129 มุมมอง 0 รีวิว
  • นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ”
    ตอนที่ 3
    กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans
    จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 – 2009
    จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !)
    ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ
    คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น
    – การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ
    – การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 – 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008)
    นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !)
    แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ
    (มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
    และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร
    ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว !


    คนเล่านิทาน
    นิทานเรื่องจริง เรื่อง ” ยุทธการฝูงผึ้ง ” ตอนที่ 3 กลับมาที่ ICG อย่าเข้าใจผิดว่ารับหน้าที่เป็นเพียงนัก lobby ให้แก่หมาไนเท่านั้น แต่ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ สำหรับการล่าเหยื่อให้กับกลุ่มทุนอิทธิพล นักล่าอาณานิคมยุคใหม่ (CFR) ในขณะเดียวกันด้วย ทั้งนี้จับความจากคำบอกเล่าของนาย Gareth Evans ผู้เดินอยู่ในถนนการเมืองของแดนจิงโจ้มากกว่า 20 ปี และระหว่างนั้นก็ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีเสียหลายสมัย เมื่อพ้นจากการเป็นรัฐมนตรี ก็เปลี่ยนแนวเข้ามาสู่วงการที่น่าจะทำให้ชีวิตตื่นเต้นไปกว่าเดิม จากการเป็นรัฐมนตรีอยู่ประเทศเดียว มันคงจะไม่มันเท่ากุมชะตาและชักใยหลายประเทศ คุณ Evans จึงไปนั่งในตำแหน่งประธานกิติมศักดิ์ของ ICG เสียเกือบ 10 ปี ตั้งแต่ ค.ศ. 2000 – 2009 จากการแสดงปาฐกถาของคุณ Evans เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งโฆษณาสรรพคุณ ICG และจากเอกสารขององค์กร ICG เอง ทำให้เข้าใจได้ว่า องค์กรนี้ ตั้งขึ้นมาเพื่อระงับความขัดแย้งอย่างรุนแรงที่เกิดขึ้นในแต่ละประเทศ โดยที่ผู้ขัดแย้งไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธเข้ามา เพื่อแก้ไขความขัดแย้ง (น่าเชื่อถือมาก !) แต่ใช้ วิธีการอื่น (มาแบบนี้อีกแล้ว !) ในการแก้ไขข้อขัดแย้งรุนแรงใด พวกเขาจะทำการวิเคราะห์หาสาเหตุ ทำความเข้าใจ อย่างถี่ถ้วนแล้ว และนำมาสร้างแผน แต่อย่าเข้าใจผิดว่าพวกเขาจะเล่นบทออกหน้า พวกเขาจะอยู่หลังฉาก ดังนั้นการทำงานของพวกเขา คือ การให้คำปรึกษา ดูแลช่วยเหลือ จัดฉาก ชักใย ตามแผนที่สร้างไว้อยู่เบื้องหลัง (behind the scene) ให้แก่ผู้มีบทบาทต้องเล่นหน้าฉาก โดยมีตัวประกอบเป็นนักการเมือง นักการทหาร นัก lobby นักสังคมฯ นักสิทธิมนุษยชน สื่อสารมวลชน นักวิชาการ นักจิตวิทยา และที่สำคัญคือประชาชนของทุกท้องที่ของความขัดแย้งนั่นเอง ดังนั้นข่าวของ ICG ที่เราจะเห็นออกมากับการทำงานของเขา มันคงจะดูยากอยู่ แต่คงไม่ยากเกินการทำความเข้าใจ คุณ Evans เป็นคนช่างเล่าจริง แกบอกว่า ICG สามารถจะอ้างความดีความชอบ ได้ใน หลาย ๆ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในโลกนี้ เช่น – การวิเคราะห์และวางแผน การแก้ไขเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ปากีสถาน, ที่คองโก, ที่ไฮติ – การแก้ไขเหตุการณ์ในเขมร, อาฟริกากลาง,บอลข่าน, อีรัคตอนเหนือ, ขบวนการเคลื่อนไหวของ Jemaah Islamiyah ในเอเซียตะวันออกเฉียงใต้, ที่ Darfur (ค.ศ. 2003 – 2004) ที่ Ethiopia (ค.ศ. 2007) ที่ Kenya (ค.ศ. 2008) นอกจากนี้ยังมีอีกหลายเหตุการณ์ที่คุณ Evans คุยฟุ้งว่าอยู่ในแผนที่กำลังดำเนินการ เช่น แนวคิดที่จะผ่อนคลาย การคว่ำบาตรของอิหร่านและพม่า สำหรับรายการหลังนี้ แกเล่าแบบไม่เหนียมอายว่า โลกฝั่งตะวันตก พยายามอย่างยิ่งที่จะเข้าไปช่วย พม่าเปิดประตูเมือง ยกเลิกการคว่ำบาตร เพื่อแลกกับการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเมืองของพม่า (ต้มตุ๋น ของแท้ !) แล้วสำหรับไทยแลนด์ของสมันน้อยล่ะ สถาบัน ICG นักล่าคิดอย่างไรกับเรา ? เมื่อเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ เมื่อช่วงปี ค.ศ. 2010 ที่พี่น้องเสื้อแดงพากัน พกน้ำมันมาคนละขวดกับไม้ขีดไฟอย่างใจถึง ๆ มาตั้งแคมป์กลางเมืองน่ะ ICG ระบุในรายงานเมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2010 ว่า การเมืองไทยล้มเหลว และไม่อยู่ในสภาพที่จะกู้กลับ สถานการณ์เลวร้าย จะนำไปสูสงครามกลางเมือง ถึงเวลาแล้วที่ Thailand จะต้องคิดขอความช่วยเหลือจากนานาอารยะประเทศ (มาแล้วไง!) สิ่งที่ Thailand ควรทำด่วน คือ ตั้งหน่วยงานเฉพาะกิจประกอบด้วย บุคคลจากนานาชาติ ที่มีความสามารถและมีประสบการณ์เกี่ยวกับประเทศไทย มาทำหน้าที่เป็นคนกลาง ระหว่างรัฐบาล (ปชป) กับกลุ่มเสื้อแดง เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง เช่น ยุติการปฏิบัติงานของทหาร การประท้วงควรเหลือเพียงการทำในเชิงสัญลักษณ์ คณะบุคคลนานาชาตินี้ จะทำหน้าที่จัดการให้มีรัฐบาลชั่วคราวเพื่อเตรียมการเลือกตั้งโดยเร็วที่สุด ผู้นำรัฐบาลควรมาจากรัฐสภา และควรจะประกอบด้วย ผู้ที่เป็นกลางและได้รับความนับถือจากสังคม (ใครหนอ?) และจะต้องมีการสอบสวนถึงกรณีปฏิบัติการ 10 เม.ย ระหว่างทหารกับกลุ่มเสื้อแดงที่มาประท้วงแถวบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และเมื่อทุกอย่างเริ่มเข้ารูปแล้ว สิ่งที่ควรจะรีบดำเนินการ คือแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเดิม ซึ่งร่างขึ้นโดยอิทธิพลของทหาร ท่านผู้อ่านที่มีญาติเป็นทหาร ช่วยเอาไปให้อ่านตอนนี้หน่อยนะครับ เพื่อจะเข้าใจอะไรมากขึ้น และโปรดพิจารณากันเองแล้วกันว่า ข้อเสนอของ ICG มันน่าสรรเสริญเพียงใด และมีฝ่ายใดดำเนินการตามบ้าง มันคงมีการเข้าใจกันผิด ว่าราชอาณาจักรไทยของเรา ตกอยู่ในอาณัติของผู้ใดไปแล้ว ! คนเล่านิทาน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วน! เพื่อไทยรับข้อเสนอพรรคประชาชนหมดเปลือก ยอมยุบสภาใน 4 เดือน พร้อมเพิ่มเงื่อนไขแก้ รธน.-ยกเลิก MOU 43-44
    https://www.thai-tai.tv/news/21222/
    .
    #ไทยไท #เพื่อไทย #พรรคประชาชน #จัดตั้งรัฐบาล #ยุบสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #MOU43 #เขากระโดง #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้

    ด่วน! เพื่อไทยรับข้อเสนอพรรคประชาชนหมดเปลือก ยอมยุบสภาใน 4 เดือน พร้อมเพิ่มเงื่อนไขแก้ รธน.-ยกเลิก MOU 43-44 https://www.thai-tai.tv/news/21222/ . #ไทยไท #เพื่อไทย #พรรคประชาชน #จัดตั้งรัฐบาล #ยุบสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #MOU43 #เขากระโดง #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 150 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ธนาธร” รับคุย “ทักษิณ” ส่วนตัว ย้ำจุดยืนพรรคประชาชนต้องยุบสภา-แก้ รธน. ภายใน 4 เดือน
    https://www.thai-tai.tv/news/21218/
    .
    #ไทยไท #ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ #ทักษิณชินวัตร #พรรคประชาชน #ยุบสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้

    “ธนาธร” รับคุย “ทักษิณ” ส่วนตัว ย้ำจุดยืนพรรคประชาชนต้องยุบสภา-แก้ รธน. ภายใน 4 เดือน https://www.thai-tai.tv/news/21218/ . #ไทยไท #ธนาธรจึงรุ่งเรืองกิจ #ทักษิณชินวัตร #พรรคประชาชน #ยุบสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #การเมืองไทย #ข่าวการเมือง #ข่าววันนี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ธนาธร” ยอมรับ "ทักษิณ" ขอคุยให้ช่วยโหวต "ชัยเกษม" เป็นนายกฯ แต่ได้ยืนยันกลับไปว่าพรรคประชาชนมีเงื่อนไข 2 ข้อชัดเจน คือยุบสภาภายใน 4 เดือนและทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้ายอมรับได้ก็ให้ไปคุยกับหัวหน้า ปชน.ได้เลย ไม่ต้องมาคุยกับตน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000083002

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    “ธนาธร” ยอมรับ "ทักษิณ" ขอคุยให้ช่วยโหวต "ชัยเกษม" เป็นนายกฯ แต่ได้ยืนยันกลับไปว่าพรรคประชาชนมีเงื่อนไข 2 ข้อชัดเจน คือยุบสภาภายใน 4 เดือนและทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถ้ายอมรับได้ก็ให้ไปคุยกับหัวหน้า ปชน.ได้เลย ไม่ต้องมาคุยกับตน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000083002 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Haha
    Like
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 490 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปชน. ยื่นร่างแก้รธน.รายมาตราให้รัฐสภา รื้ออำนาจองค์กรอิสระ เข้าชื่อถอดตุลาการศาลได้
    https://www.thai-tai.tv/news/20099/
    .
    #พรรคประชาชน #ปชน #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ผู้นำฝ่ายค้าน #รัฐสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #องค์กรอิสระ #ศาลรัฐธรรมนูญ #พริษฐ์วัชรสินธุ #สรรหาตุลาการ #ถอดถอนองค์กรอิสระ #ปปช #การเมืองไทย #ปฏิรูปการเมือง #รัฐธรรมนูญ2560 #วิป3ฝ่าย #สส #สว #ระเบิดเวลา #ยึดโยงประชาชน
    ปชน. ยื่นร่างแก้รธน.รายมาตราให้รัฐสภา รื้ออำนาจองค์กรอิสระ เข้าชื่อถอดตุลาการศาลได้ https://www.thai-tai.tv/news/20099/ . #พรรคประชาชน #ปชน #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #ผู้นำฝ่ายค้าน #รัฐสภา #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #องค์กรอิสระ #ศาลรัฐธรรมนูญ #พริษฐ์วัชรสินธุ #สรรหาตุลาการ #ถอดถอนองค์กรอิสระ #ปปช #การเมืองไทย #ปฏิรูปการเมือง #รัฐธรรมนูญ2560 #วิป3ฝ่าย #สส #สว #ระเบิดเวลา #ยึดโยงประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 467 มุมมอง 0 รีวิว
  • ‘อนุสรณ์’ ข้องใจ ‘พรรคส้ม-ภูมิใจไทย’ ไหนบอกยืนหลังตรง แต่ลับลวงพรางกันเอง
    https://www.thai-tai.tv/news/20051/
    .
    #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #อนุทินชาญวีรกูล #ภูมิใจไทย #นายกชั่วคราว #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ทางตันประเทศไทย #อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด #พรรคเพื่อไทย #การเมืองไทย
    ‘อนุสรณ์’ ข้องใจ ‘พรรคส้ม-ภูมิใจไทย’ ไหนบอกยืนหลังตรง แต่ลับลวงพรางกันเอง https://www.thai-tai.tv/news/20051/ . #ณัฐพงษ์เรืองปัญญาวุฒิ #พรรคประชาชน #อนุทินชาญวีรกูล #ภูมิใจไทย #นายกชั่วคราว #แก้ไขรัฐธรรมนูญ #ทางตันประเทศไทย #อนุสรณ์เอี่ยมสะอาด #พรรคเพื่อไทย #การเมืองไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาธิปไตยแบบใด!!?!!

    เอสโตเนียแก้รัฐธรรมนูญห้ามพลเมืองที่ไม่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น

    การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ "จำกัดสิทธิ" ของพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางของรัสเซียและเบลารุส

    เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาเอสโตเนียลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 93 เสียงจาก 101 เสียง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลิดรอนสิทธิของพลเมืองประเทศตนเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติเพื่อเข้าสู่สหภาพยุโรป โดยที่พลเมืองส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบคือพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางรัสเซียและเบลารุส

    ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปรับปรุงดังกล่าว ถูกส่งไปยังประธานาธิบดีเอสโตเนีย อลาร์ คาริส เพื่อลงนามและประกาศใช้ต่อไป


    ตามการแก้ไขเพิ่มเติม เฉพาะพลเมืองที่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น นอกเหนือจากนี้จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม นี้

    ลอรี ลาตส์ นักการเมืองที่ลงคะแนน "ไม่เห็นด้วย" กับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เป็นความผิดพลาด เพราะนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย”

    Toomas Uibo นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยม กล่าวตอบโต้ ลอรี ลาตส์ โดยระบุว่านี่คือประชาธิปไตยอย่างแท้จริง "เพราะพวกเขามีอิสระ นั่นคือการเลือกเป็นพลเมืองเอสโตเนีย"

    ทางด้านคริสเตน มิชัล นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย กล่าวชื่นชมผลการลงคะแนนครั้งนี้ว่าเป็น "ชัยชนะของทุกคน" และเสริมว่า "การตัดสินใจในชีวิตของพวกเราจะต้องไม่ให้พลเมืองของประเทศผู้รุกราน(หมายถึงรัสเซีย) เข้ามามีส่วนร่วม แต่เราจะตัดสินใจด้วยตัวเราเอง"

    จากข้อมูลในปี 2023 เอสโตเนียมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งนับว่ามีประชากรน้อยที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป

    และในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซียที่มีเชื้อสายรัสเซียประมาณ 322,700 คน ซึ่งรวมผู้ที่ยังถือหนังสือเดินทางรัสเซียประมาณ 90,000 คน และเบลารุสอีกจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบหมดสิทธิเลือกตั้ง
    ประชาธิปไตยแบบใด!!?!! เอสโตเนียแก้รัฐธรรมนูญห้ามพลเมืองที่ไม่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียซึ่งเป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งท้องถิ่น การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ "จำกัดสิทธิ" ของพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางของรัสเซียและเบลารุส เมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา รัฐสภาเอสโตเนียลงมติอย่างท่วมท้นด้วยคะแนน 93 เสียงจาก 101 เสียง ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลิดรอนสิทธิของพลเมืองประเทศตนเองที่ไม่ยอมเปลี่ยนสัญชาติเพื่อเข้าสู่สหภาพยุโรป โดยที่พลเมืองส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบคือพลเมืองที่ยังคงใช้หนังสือเดินทางรัสเซียและเบลารุส ร่างรัฐธรรมนูญฉบับปรับปรุงดังกล่าว ถูกส่งไปยังประธานาธิบดีเอสโตเนีย อลาร์ คาริส เพื่อลงนามและประกาศใช้ต่อไป ตามการแก้ไขเพิ่มเติม เฉพาะพลเมืองที่มีหนังสือเดินทางเอสโตเนียเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงในการเลือกตั้งท้องถิ่น นอกเหนือจากนี้จะมีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเป็นครั้งสุดท้ายในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 19 ตุลาคม นี้ ลอรี ลาตส์ นักการเมืองที่ลงคะแนน "ไม่เห็นด้วย" กับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่า “เป็นความผิดพลาด เพราะนี่ไม่ใช่การตัดสินใจที่เป็นประชาธิปไตย” Toomas Uibo นักการเมืองฝ่ายเสรีนิยม กล่าวตอบโต้ ลอรี ลาตส์ โดยระบุว่านี่คือประชาธิปไตยอย่างแท้จริง "เพราะพวกเขามีอิสระ นั่นคือการเลือกเป็นพลเมืองเอสโตเนีย" ทางด้านคริสเตน มิชัล นายกรัฐมนตรีเอสโตเนีย กล่าวชื่นชมผลการลงคะแนนครั้งนี้ว่าเป็น "ชัยชนะของทุกคน" และเสริมว่า "การตัดสินใจในชีวิตของพวกเราจะต้องไม่ให้พลเมืองของประเทศผู้รุกราน(หมายถึงรัสเซีย) เข้ามามีส่วนร่วม แต่เราจะตัดสินใจด้วยตัวเราเอง" จากข้อมูลในปี 2023 เอสโตเนียมีประชากรอยู่ที่ประมาณ 1.3 ล้านคน ซึ่งนับว่ามีประชากรน้อยที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป และในจำนวนนี้เป็นชาวรัสเซียที่มีเชื้อสายรัสเซียประมาณ 322,700 คน ซึ่งรวมผู้ที่ยังถือหนังสือเดินทางรัสเซียประมาณ 90,000 คน และเบลารุสอีกจำนวนหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบหมดสิทธิเลือกตั้ง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 583 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทรัมป์ยืนยันเรื่องโอกาสดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สาม ชี้มี "วิธีการ" หลีกเลี่ยงข้อจำกัดรัฐธรรมนูญที่อนุญาตให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงสองวาระ แม้จะระบุว่ายังเร็วเกินไป

    เมื่อถูกถามถึงสถานการณ์ที่รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ อาจลงสมัครและมอบตำแหน่งให้ ทรัมป์ยืนยันว่าเป็นหนึ่งในหลายสถานการณ์ที่เป็นไปได้

    หนึ่งในวิธีการที่อาจเป็นนไปได้คือ เจดี แวนซ์และประธานาธิบดีทรัมป์อาจสลับการลงเลือกตั้ง โดยเจดี แวนซ์เป็นประธานาธิบดีและทรัมป์เป็นรองประธานาธิบดี (คล้ายคลึงกับกรณีปูตินและเมดเวเดฟ สองคู่หูของรัสเซีย)

    ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน แอนดี้ โอเกลส ได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้ 3 วาระติดต่อกัน ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองสภาด้วยเสียง 2 ใน 3 และได้รับการรับรองจาก 3 ใน 4 ของรัฐทั้งหมด
    ทรัมป์ยืนยันเรื่องโอกาสดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่สาม ชี้มี "วิธีการ" หลีกเลี่ยงข้อจำกัดรัฐธรรมนูญที่อนุญาตให้ดำรงตำแหน่งได้เพียงสองวาระ แม้จะระบุว่ายังเร็วเกินไป เมื่อถูกถามถึงสถานการณ์ที่รองประธานาธิบดี เจ.ดี. แวนซ์ อาจลงสมัครและมอบตำแหน่งให้ ทรัมป์ยืนยันว่าเป็นหนึ่งในหลายสถานการณ์ที่เป็นไปได้ หนึ่งในวิธีการที่อาจเป็นนไปได้คือ เจดี แวนซ์และประธานาธิบดีทรัมป์อาจสลับการลงเลือกตั้ง โดยเจดี แวนซ์เป็นประธานาธิบดีและทรัมป์เป็นรองประธานาธิบดี (คล้ายคลึงกับกรณีปูตินและเมดเวเดฟ สองคู่หูของรัสเซีย) ขณะที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรครีพับลิกัน แอนดี้ โอเกลส ได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ประธานาธิบดีดำรงตำแหน่งได้ 3 วาระติดต่อกัน ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากทั้งสองสภาด้วยเสียง 2 ใน 3 และได้รับการรับรองจาก 3 ใน 4 ของรัฐทั้งหมด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 364 มุมมอง 15 0 รีวิว
  • ลิทัวเนียยกมือ ขอมีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยคน!!

    “หากพันธมิตรของเราเสนอแผนการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ที่สมจริง เราก็พร้อมเช่นกัน แม้ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศก็ตาม”
    - Šakalienė รัฐมนตรีกลาโหมลิทัวเนีย กล่าว

    รัฐธรรมนูญของลิทัวเนีย กำหนดไว้ว่า ห้ามการมีอาวุธทำลายล้างสูง และฐานทัพทหารของประเทศอื่นในลิทัวเนีย
    ลิทัวเนียยกมือ ขอมีอาวุธนิวเคลียร์ด้วยคน!! “หากพันธมิตรของเราเสนอแผนการติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ที่สมจริง เราก็พร้อมเช่นกัน แม้ว่าต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศก็ตาม” - Šakalienė รัฐมนตรีกลาโหมลิทัวเนีย กล่าว รัฐธรรมนูญของลิทัวเนีย กำหนดไว้ว่า ห้ามการมีอาวุธทำลายล้างสูง และฐานทัพทหารของประเทศอื่นในลิทัวเนีย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 534 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประชาชนชาวเนปาลหลายแสนคน (บางแหล่งข่าวระบุมากกว่าล้านคน) มารวมตัวกันเพื่อต้อนรับ "สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทวะ" กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกยุบในปีพ.ศ. 2551 (2008) ขณะพระองค์เสด็จกลับกรุงกาฐมาณฑุ [กาด-มาน-ดุ] เมืองหลวงของเนปาล ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพยายามเรียกร้องให้เนปาลฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์มานานหลายปี

    ผู้ชุมนุมที่มาต้อนรับฯรายหนึ่งบอกว่า เค้าเป็นผู้ที่เคยร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านพระองค์เมื่อปี 2006 แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจต้องการให้มีสถาบันฯ ต้องการให้พระองค์กลับมาครองราช เพราะนักการเมืองคอร์รัปชั่นกันอย่างเลวร้าย เหล่าผู้มีอำนาจไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย

    ตอนนั้นที่เค้าออกมาชุมนุมประท้วงไม่เอาสถาบันกษัตริย์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ประเทศดีขึ้น แต่เค้าคิดผิด ประเทศย่ำแย่หนักกว่าเดิม ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจอยากให้ฟื้นฟูสถาบันฯ

    ในปีพ.ศ. 2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเนปาล ได้มีมติยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตย และสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นการสิ้นสุดระบอบการปกครองของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศกว่า 240 ปี และราชวงศ์ชาห์ซึ่งปกครองแผ่นดินนี้เกือบ 500 ปี
    .
    ก่อนการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาล:
    สรุปคร่าวๆมาจาก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร
    https://www.posttoday.com/columnist/639757
    หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ของราชวงศ์เนปาลในปี 2001 ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พิเรนทรพีรพิกรมศาหเทวะและสมเด็จพระราชินีไอศวรรยาราชยลักษมีเทวีศาหะ เสด็จสวรรคต พร้อมด้วยสมาชิกพระราชวงศ์อีก 7 พระองค์

    ต่อมาเจ้าชายชญาเนนทร พระอนุชาของพระมหากษัตริย์พิเรนทราพระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง โดยที่กษัตริย์ชญาเนนทรพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มที่ โดยอ้างสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารเทศที่ล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งหลาย

    ในปี 2002 กษัตริย์ชญาเนนทรทรงประกาศยุบสภา แต่การเมืองที่วุ่นวาย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จ จนที่สุดพระองค์ตัดสินใจยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2005 ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากพรรคการเมืองต่างๆ

    ในปี 2006 กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองรวมตัวกันต่อต้านการปกครองของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์

    ในที่สุดพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร ทรงยอมให้อำนาจบริหารแก่พรรคการเมืองเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง และพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกำหนดบทบาทในการเมืองของพระมหากษัตริย์

    10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 รัฐสภาเนปาลได้ยกเลิกอำนาจที่สำคัญๆของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย ทำให้บทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทำงานร่วมกับรัฐสภาได้สิ้นสุดลง (King in Parliament) และลดทอนพระมหากษัตริย์เป็นเพียงตรายาง แต่ให้พระองค์ยังทรงทำหน้าที่ประมุขของรัฐในการต้อนรับอาคันตุกะและทูตานุทูตต่อไปได้ และรัฐสภาได้โอนอำนาจที่พระมหากษัตริย์เคยมีไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาตลอด 239 ปีมีอันต้องสิ้นสุดลง

    23 สิงหาคม ค.ศ. 2007 รัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านของเนปาลได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทรที่สืบจากพระเชษฐาของพระองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งพระราชวัง (Narayanhiti Palace) แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์สินที่กษัตริย์ชญาเนนทรครอบครองก่อนขึ้นครองราชย์

    24 ธันวาคม ค.ศ. 2007 รัฐสภารักษาการได้ลงมติว่า อาจจะมีการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุติลงชั่วคราวในปี ค.ศ. 2008 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพกับพวกกบฏเหมาอิสต์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้คือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนเนปาลให้เป็นสาธารณรัฐนั่นเอง

    28 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 สภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศอย่างเป็นทางการว่าในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และเนปาลจะเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีการทำประชามติ กษัตริย์ชญาเนนทรยอมรับการตัดสินดังกล่าว และขอให้รัฐบาลจัดที่พักอาศัยให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ และรัฐบาลได้จัดให้พระองค์พำนักอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง (Nirmal Niwas Palace)

    ประชาชนชาวเนปาลหลายแสนคน (บางแหล่งข่าวระบุมากกว่าล้านคน) มารวมตัวกันเพื่อต้อนรับ "สมเด็จพระราชาธิบดีคยาเนนทรา พีระ พิกรม ชาห์ เทวะ" กษัตริย์พระองค์สุดท้ายของเนปาล หลังจากสถาบันกษัตริย์ถูกยุบในปีพ.ศ. 2551 (2008) ขณะพระองค์เสด็จกลับกรุงกาฐมาณฑุ [กาด-มาน-ดุ] เมืองหลวงของเนปาล ขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศพยายามเรียกร้องให้เนปาลฟื้นฟูสถาบันกษัตริย์มานานหลายปี ผู้ชุมนุมที่มาต้อนรับฯรายหนึ่งบอกว่า เค้าเป็นผู้ที่เคยร่วมชุมนุมประท้วงต่อต้านพระองค์เมื่อปี 2006 แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจต้องการให้มีสถาบันฯ ต้องการให้พระองค์กลับมาครองราช เพราะนักการเมืองคอร์รัปชั่นกันอย่างเลวร้าย เหล่าผู้มีอำนาจไม่ทำอะไรให้ประเทศเลย ตอนนั้นที่เค้าออกมาชุมนุมประท้วงไม่เอาสถาบันกษัตริย์เพราะคิดว่าจะช่วยทำให้ประเทศดีขึ้น แต่เค้าคิดผิด ประเทศย่ำแย่หนักกว่าเดิม ตอนนี้เลยเปลี่ยนใจอยากให้ฟื้นฟูสถาบันฯ ในปีพ.ศ. 2551 สภานิติบัญญัติแห่งชาติของเนปาล ได้มีมติยกเลิกการปกครองระบอบราชาธิปไตย และสถาปนาสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล เป็นการสิ้นสุดระบอบการปกครองของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่ปกครองประเทศกว่า 240 ปี และราชวงศ์ชาห์ซึ่งปกครองแผ่นดินนี้เกือบ 500 ปี . ก่อนการล่มสลายของสถาบันกษัตริย์เนปาล: สรุปคร่าวๆมาจาก ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร https://www.posttoday.com/columnist/639757 หลังเหตุการณ์สังหารหมู่ของราชวงศ์เนปาลในปี 2001 ส่งผลให้พระมหากษัตริย์พิเรนทรพีรพิกรมศาหเทวะและสมเด็จพระราชินีไอศวรรยาราชยลักษมีเทวีศาหะ เสด็จสวรรคต พร้อมด้วยสมาชิกพระราชวงศ์อีก 7 พระองค์ ต่อมาเจ้าชายชญาเนนทร พระอนุชาของพระมหากษัตริย์พิเรนทราพระมหากษัตริย์เสด็จขึ้นครองราชย์เป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่ ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกับฝ่ายการเมืองอย่างรุนแรง โดยที่กษัตริย์ชญาเนนทรพยายามปกป้องสถาบันกษัตริย์อย่างเต็มที่ โดยอ้างสาเหตุจากการทุจริตคอรัปชั่น และการบริหารเทศที่ล้มเหลวของพรรคการเมืองทั้งหลาย ในปี 2002 กษัตริย์ชญาเนนทรทรงประกาศยุบสภา แต่การเมืองที่วุ่นวาย ไม่สามารถจัดการเลือกตั้งได้สำเร็จ จนที่สุดพระองค์ตัดสินใจยึดอำนาจในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2005 ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจจากพรรคการเมืองต่างๆ ในปี 2006 กลุ่มพันธมิตรพรรคการเมืองรวมตัวกันต่อต้านการปกครองของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศ จนนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้ชุมนุมที่ไม่พอใจสถาบันกษัตริย์ ในที่สุดพระมหากษัตริย์ชญาเนนทร ทรงยอมให้อำนาจบริหารแก่พรรคการเมืองเพื่อกลับคืนสู่ประชาธิปไตยอีกครั้ง และพรรคการเมืองต่างเรียกร้องให้จัดตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมาเพื่อกำหนดบทบาทในการเมืองของพระมหากษัตริย์ 10 มิถุนายน ค.ศ. 2006 รัฐสภาเนปาลได้ยกเลิกอำนาจที่สำคัญๆของพระมหากษัตริย์ รวมทั้งอำนาจในการยับยั้งกฎหมาย ทำให้บทบาทของพระมหากษัตริย์ในฐานะที่ทำงานร่วมกับรัฐสภาได้สิ้นสุดลง (King in Parliament) และลดทอนพระมหากษัตริย์เป็นเพียงตรายาง แต่ให้พระองค์ยังทรงทำหน้าที่ประมุขของรัฐในการต้อนรับอาคันตุกะและทูตานุทูตต่อไปได้ และรัฐสภาได้โอนอำนาจที่พระมหากษัตริย์เคยมีไปที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้อำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีมาตลอด 239 ปีมีอันต้องสิ้นสุดลง 23 สิงหาคม ค.ศ. 2007 รัฐบาลในช่วงเปลี่ยนผ่านของเนปาลได้ยึดทรัพย์สินทั้งหมดของพระมหากษัตริย์ชญาเนนทรที่สืบจากพระเชษฐาของพระองค์ให้เป็นสมบัติของชาติ รวมทั้งพระราชวัง (Narayanhiti Palace) แต่ไม่ได้ยึดทรัพย์สินที่กษัตริย์ชญาเนนทรครอบครองก่อนขึ้นครองราชย์ 24 ธันวาคม ค.ศ. 2007 รัฐสภารักษาการได้ลงมติว่า อาจจะมีการให้สถาบันพระมหากษัตริย์ยุติลงชั่วคราวในปี ค.ศ. 2008 อันเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงสันติภาพกับพวกกบฏเหมาอิสต์ ซึ่งข้อเสนอดังกล่าวนี้คือร่างกฎหมายแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเปลี่ยนเนปาลให้เป็นสาธารณรัฐนั่นเอง 28 พฤษภาคม ค.ศ. 2008 สภาร่างรัฐธรรมนูญประกาศอย่างเป็นทางการว่าในรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขจะไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์อีกต่อไป และเนปาลจะเปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ การตัดสินดังกล่าวเกิดขึ้นโดยไม่มีการทำประชามติ กษัตริย์ชญาเนนทรยอมรับการตัดสินดังกล่าว และขอให้รัฐบาลจัดที่พักอาศัยให้พระองค์และพระบรมวงศานุวงศ์ และรัฐบาลได้จัดให้พระองค์พำนักอยู่ที่วังแห่งหนึ่ง (Nirmal Niwas Palace)
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 905 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตาพาหลานข้ามทางม้าลาย โดนรถชน ตาสาหัส หลานดับ กฎหมายที่ต้องเร่งแก้ คือเรื่องนี้ เพิ่มโทษปรับ-จำคุกให้หนัก ไอ้รัฐบาลก็ห่วงแต่กฎหมายกาสิโน ฝ่ายค้านก็ห่วงแต่แก้ไขรัฐธรรมนูญ กับแก้112
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    ตาพาหลานข้ามทางม้าลาย โดนรถชน ตาสาหัส หลานดับ 😡😡😡กฎหมายที่ต้องเร่งแก้ คือเรื่องนี้ เพิ่มโทษปรับ-จำคุกให้หนัก ไอ้รัฐบาลก็ห่วงแต่กฎหมายกาสิโน ฝ่ายค้านก็ห่วงแต่แก้ไขรัฐธรรมนูญ กับแก้112 #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง3
    Like
    Sad
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 477 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับผิดฮั้วเลือก ส.ว.สายสีน้ำเงินขยับ "นันทนา" เชียร์ดีเอสไอ
    .
    ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของส.ว.บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่เข้ามาตรวจสอบกระบวนการเลือกส.ว. ปรากฎว่ายังมีส.ว.อีกส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว.ในกลุ่มอิสระ ซึ่งระบุว่า เดิมทีทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการสืบสวน สอบสวนการทุจริตเลือกตั้งต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 เดือนแล้ว กกต.ยังเงียบอยู่ ทำให้มีประชาชนเริ่มกังขาการทำหน้าที่ของ กกต. และการที่ดีเอสไอแสดงท่าทีว่าจะเข้ามารับทำคดีนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว.ชุดนี้
    .
    "ส่วนกระบวนการที่ดีเอสไอจะดำเนินการสืบสวนนั้น เข้าใจว่าเป็นเรื่องทางคดีอาญาเกี่ยวกับการอั้งยี่ที่แยกออกจากเรื่องคดีเลือกตั้ง ซึ่งหากทางดีเอสไอเข้ามาดำเนินการและสามารถทำให้คลายข้อสงสัยของประชาชนจำนวนมากได้ ก็เห็นด้วย"
    .
    "ส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ตรงนี้มันวิปริตบิดเบี้ยวไปตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ นั่นคือเป็นกระบวนการที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะเป็นคนที่สมัคร จ่ายเงิน และเข้ามาเลือกกันเอง ฉะนั้น หากกระบวนการไปถึงขั้นตอนที่พบว่ามีความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล และต้องมีการล้มกระดาน คิดว่าก่อนที่จะมีการล้มกระดานควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่อเปลี่ยนกติกาก่อน เพราะหากมีการล้มกระดานจริง แต่ยังใช้กติกาเดิม มันก็เหมือนเดิม ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร" ส.ว.นันทนา ระบุ
    .
    ขณะเดียวกัน มีรายงานจากวุฒิสภาว่า นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภาหรือ วิปวุฒิสภา ได้นัดหารือวิปวุฒิสภา เป็นกรณีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ห้องประชุม 406-407 ตึกวุฒิสภา เวลา 08.00 น. ที่เป็นช่วงก่อนเข้าประชุมวุฒิสภา โดยได้มีการส่งข้อความถึงสว.ที่อยู่ในวิปวุฒิสภาให้แจ้งการเข้าประชุม โดยหากใครลาการประชุมขอให้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งเดิมที วิปวุฒิสภา จะนัดประชุมวันที่ 26 ก.พ.แต่ได้เลื่อนมาเป็น 24 ก.พ. หลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ นัดประชุมวันที่ 25 ก.พ. เพื่อลงมติว่าจะรับเรื่องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสอบสวนการเลือกสว.ชุดปัจจุบันเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งการจะรับเป็นคดีพิเศษ ต้องใช้เสียงของกรรมการอย่างน้อย 2 ใน 3 จากกรรมการที่มีอยู่ 22 คนหรือประมาณ 15 เสียง ดีเอสไอถึงเข้าสอบสวนได้ แต่ต้องจับตาว่าจะมีกรรมการเข้าประชุมครบหรือไม่
    .
    นอกจากนี้ ยังมีการรายงานอีกว่า ได้มีการขอความร่วมมือจากกลุ่มส.ว.ให้งดการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไว้ก่อน เพื่อรอฟังมติที่ประชุมบอร์ดดีเอสไอในวันอังคารที่ 25 ก.พ.
    .............
    Sondhi X
    จับผิดฮั้วเลือก ส.ว.สายสีน้ำเงินขยับ "นันทนา" เชียร์ดีเอสไอ . ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของส.ว.บางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการดำเนินของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่เข้ามาตรวจสอบกระบวนการเลือกส.ว. ปรากฎว่ายังมีส.ว.อีกส่วนหนึ่งที่สนับสนุนการทำงานของดีเอสไอ นำโดย น.ส.นันทนา นันทวโรภาส ส.ว.ในกลุ่มอิสระ ซึ่งระบุว่า เดิมทีทำหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในการสืบสวน สอบสวนการทุจริตเลือกตั้งต่างๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไป 7 เดือนแล้ว กกต.ยังเงียบอยู่ ทำให้มีประชาชนเริ่มกังขาการทำหน้าที่ของ กกต. และการที่ดีเอสไอแสดงท่าทีว่าจะเข้ามารับทำคดีนี้ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนที่เขามีข้อสงสัยเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว.ชุดนี้ . "ส่วนกระบวนการที่ดีเอสไอจะดำเนินการสืบสวนนั้น เข้าใจว่าเป็นเรื่องทางคดีอาญาเกี่ยวกับการอั้งยี่ที่แยกออกจากเรื่องคดีเลือกตั้ง ซึ่งหากทางดีเอสไอเข้ามาดำเนินการและสามารถทำให้คลายข้อสงสัยของประชาชนจำนวนมากได้ ก็เห็นด้วย" . "ส่วนตัวเห็นว่ากระบวนการได้มาซึ่ง ส.ว.ตรงนี้มันวิปริตบิดเบี้ยวไปตามข้อกำหนดของรัฐธรรมนูญ นั่นคือเป็นกระบวนการที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วม เพราะเป็นคนที่สมัคร จ่ายเงิน และเข้ามาเลือกกันเอง ฉะนั้น หากกระบวนการไปถึงขั้นตอนที่พบว่ามีความผิดปกติ ไม่ชอบมาพากล และต้องมีการล้มกระดาน คิดว่าก่อนที่จะมีการล้มกระดานควรจะมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับการได้มาซึ่ง ส.ว. เพื่อเปลี่ยนกติกาก่อน เพราะหากมีการล้มกระดานจริง แต่ยังใช้กติกาเดิม มันก็เหมือนเดิม ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไร" ส.ว.นันทนา ระบุ . ขณะเดียวกัน มีรายงานจากวุฒิสภาว่า นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร ประธานคณะกรรมาธิการคมนาคม วุฒิสภา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการประสานงานวุฒิสภาหรือ วิปวุฒิสภา ได้นัดหารือวิปวุฒิสภา เป็นกรณีพิเศษ ในวันจันทร์ที่ 24 ก.พ.นี้ ที่ห้องประชุม 406-407 ตึกวุฒิสภา เวลา 08.00 น. ที่เป็นช่วงก่อนเข้าประชุมวุฒิสภา โดยได้มีการส่งข้อความถึงสว.ที่อยู่ในวิปวุฒิสภาให้แจ้งการเข้าประชุม โดยหากใครลาการประชุมขอให้แจ้งล่วงหน้า ซึ่งเดิมที วิปวุฒิสภา จะนัดประชุมวันที่ 26 ก.พ.แต่ได้เลื่อนมาเป็น 24 ก.พ. หลังคณะกรรมการคดีพิเศษ หรือบอร์ดดีเอสไอ นัดประชุมวันที่ 25 ก.พ. เพื่อลงมติว่าจะรับเรื่องการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าสอบสวนการเลือกสว.ชุดปัจจุบันเป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งการจะรับเป็นคดีพิเศษ ต้องใช้เสียงของกรรมการอย่างน้อย 2 ใน 3 จากกรรมการที่มีอยู่ 22 คนหรือประมาณ 15 เสียง ดีเอสไอถึงเข้าสอบสวนได้ แต่ต้องจับตาว่าจะมีกรรมการเข้าประชุมครบหรือไม่ . นอกจากนี้ ยังมีการรายงานอีกว่า ได้มีการขอความร่วมมือจากกลุ่มส.ว.ให้งดการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนไว้ก่อน เพื่อรอฟังมติที่ประชุมบอร์ดดีเอสไอในวันอังคารที่ 25 ก.พ. ............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2624 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts