แกนคำสอนในศาสนาพุทธโดยเรียบเรียงจากพระไตรปิฏก
อัปเดตล่าสุด
- อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาใน ธรรม - อธรรม - อรรถ - อนรรถ ที่ควรทราบ
สัทธรรมลำดับที่ : 979
ชื่อบทธรรม :- ธรรม-อธรรม-อรรถ-อนรรถ ที่ควรทราบ
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=979
เนื้อความทั้งหมด :-
--ธรรม(ความเป็นจริงแท้)-อธรรม(ความไม่จริงแท้)
--อรรถ(ความเป็นประโยชน์)-อนรรถ(ความไม่เป็นประโยชน์) ที่ควรทราบ
--ภิกษุ ท. !
อธรรม เป็นสิ่งที่ควรทราบ, อนรรถ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ.
ธรรม เป็นสิ่งที่ควรทราบ, อรรถ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ.
รู้แจ้งทั้งอธรรมและอนรรถ, รู้แจ้งทั้งธรรมและอรรถแล้ว
บุคคลพึงปฏิบัติ ตามที่เป็นธรรม, ตามที่เป็นอรรถ.
--ภิกษุ ท. ! อะไรเป็น อธรรม และเป็น อนรรถ ?
มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ
มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ
มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ
มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า อธรรม เรียกว่า อนรรถ.
http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=อธมฺโม+อนตฺโถ
--ภิกษุ ท. ! อะไรเป็น ธรรม อะไรเป็น อรรถ ?
สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ
สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ
สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ
สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ธรรม เรียกว่า อรรถ.
http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=ธมฺโม+อตฺโถ
--ภิกษุ ท. ! เราอาศัยเหตุผลดังกล่าวมานี้แล้ว เราจึงกล่าวว่า
“ภิกษุ ท. !
อธรรมเป็นสิ่งที่ควรทราบ, อนรรถก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ.
ธรรมเป็นสิ่งที่ควรทราบ, อรรถก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ.
รู้แจ้งทั้งอธรรมและอนรรถ, รู้แจ้งทั้งธรรมและอรรถแล้ว
บุคคลพึงปฏิบัติ ตามที่เป็นธรรม, ตามที่เป็นอรรถ”
ดังนี้.-
(--
ในสูตรถัดไป (๒๔/๒๓๘/๑๑๔).
http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%94
ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อธรรม ด้วยมิจฉัตตะ,
ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า ธรรม ด้วยสัมมัตตะ;
ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อนรรถ ด้วยบาปอกุศลธรรมต่างๆ ที่เกิดจากมิจฉัตตะแต่ละอย่างๆ เป็นปัจจัย, และ
ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อรรถ ด้วยกุศลธรรมต่างๆ ที่เกิดแต่สัมมัตตะแต่ละอย่างๆ เป็นปัจจัย.
--ในสูตรอื่นอีก (๒๔/๒๗๓/๑๖๐)
http://etipitaka.com/read/pali/24/273/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90
ทรงแสดง อธรรม และ อนรรถ ด้วยอกุศลกัมมบถสิบ และ
ทรงแสดง ธรรม และ อรรถ ด้วยกุศลกัมมบถสิบ.
--ในอีกสูตรหนึ่ง (๒๔/๒๘๑/๑๖๒)
http://etipitaka.com/read/pali/24/281/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%92
ทรงแสดง อธรรม ด้วยอกุศลกัมมบถ
แสดง ธรรม ด้วยกุศลกัมมบถ
แสดง อนรรถ ด้วยวิบากแห่งอกุศลกัมมบถ
และแสดง อรรถ ด้วยวิบากแห่งกุศลกัมมบถ
--).
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/192/113.
http://etipitaka.com/read/thai/24/192/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%93
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๓๘/๑๑๓.
http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%93
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=979
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=979
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84
ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาใน ธรรม - อธรรม - อรรถ - อนรรถ ที่ควรทราบ สัทธรรมลำดับที่ : 979 ชื่อบทธรรม :- ธรรม-อธรรม-อรรถ-อนรรถ ที่ควรทราบ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=979 เนื้อความทั้งหมด :- --ธรรม(ความเป็นจริงแท้)-อธรรม(ความไม่จริงแท้) --อรรถ(ความเป็นประโยชน์)-อนรรถ(ความไม่เป็นประโยชน์) ที่ควรทราบ --ภิกษุ ท. ! อธรรม เป็นสิ่งที่ควรทราบ, อนรรถ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. ธรรม เป็นสิ่งที่ควรทราบ, อรรถ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. รู้แจ้งทั้งอธรรมและอนรรถ, รู้แจ้งทั้งธรรมและอรรถแล้ว บุคคลพึงปฏิบัติ ตามที่เป็นธรรม, ตามที่เป็นอรรถ. --ภิกษุ ท. ! อะไรเป็น อธรรม และเป็น อนรรถ ? มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า อธรรม เรียกว่า อนรรถ. http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=อธมฺโม+อนตฺโถ --ภิกษุ ท. ! อะไรเป็น ธรรม อะไรเป็น อรรถ ? สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ. +--ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ธรรม เรียกว่า อรรถ. http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=ธมฺโม+อตฺโถ --ภิกษุ ท. ! เราอาศัยเหตุผลดังกล่าวมานี้แล้ว เราจึงกล่าวว่า “ภิกษุ ท. ! อธรรมเป็นสิ่งที่ควรทราบ, อนรรถก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. ธรรมเป็นสิ่งที่ควรทราบ, อรรถก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. รู้แจ้งทั้งอธรรมและอนรรถ, รู้แจ้งทั้งธรรมและอรรถแล้ว บุคคลพึงปฏิบัติ ตามที่เป็นธรรม, ตามที่เป็นอรรถ” ดังนี้.- (-- ในสูตรถัดไป (๒๔/๒๓๘/๑๑๔). http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%94 ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อธรรม ด้วยมิจฉัตตะ, ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า ธรรม ด้วยสัมมัตตะ; ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อนรรถ ด้วยบาปอกุศลธรรมต่างๆ ที่เกิดจากมิจฉัตตะแต่ละอย่างๆ เป็นปัจจัย, และ ทรงแสดงสิ่งที่เรียกว่า อรรถ ด้วยกุศลธรรมต่างๆ ที่เกิดแต่สัมมัตตะแต่ละอย่างๆ เป็นปัจจัย. --ในสูตรอื่นอีก (๒๔/๒๗๓/๑๖๐) http://etipitaka.com/read/pali/24/273/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%90 ทรงแสดง อธรรม และ อนรรถ ด้วยอกุศลกัมมบถสิบ และ ทรงแสดง ธรรม และ อรรถ ด้วยกุศลกัมมบถสิบ. --ในอีกสูตรหนึ่ง (๒๔/๒๘๑/๑๖๒) http://etipitaka.com/read/pali/24/281/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%92 ทรงแสดง อธรรม ด้วยอกุศลกัมมบถ แสดง ธรรม ด้วยกุศลกัมมบถ แสดง อนรรถ ด้วยวิบากแห่งอกุศลกัมมบถ และแสดง อรรถ ด้วยวิบากแห่งกุศลกัมมบถ --). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. 24/192/113. http://etipitaka.com/read/thai/24/192/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก. อํ. ๒๔/๒๓๘/๑๑๓. http://etipitaka.com/read/pali/24/238/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%91%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=979 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84&id=979 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=84 ลำดับสาธยายธรรม : 84 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_84.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ธรรม - อธรรม - อรรถ - อนรรถ ที่ควรทราบ-ธรรม - อธรรม - อรรถ - อนรรถ ที่ควรทราบ ภิกษุ ท. ! อธรรม เป็นสิ่งที่ควรทราบ, อนรรถ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. ธรรม เป็นสิ่งที่ควรทราบ, อรรถ ก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. รู้แจ้งทั้งอธรรมและอนรรถ, รู้แจ้งทั้งธรรมและอรรถแล้ว บุคคลพึงปฏิบัติตามที่เป็นธรรมตามที่เป็นอรรถ. ภิกษุ ท. ! อะไรเป็น อธรรม และเป็น อนรรถ ? มิจฉาทิฏฐิ มิจฉาสังกัปปะ มิจฉาวาจา มิจฉากัมมันตะ มิจฉาอาชีวะ มิจฉาวายามะ มิจฉาสติ มิจฉาสมาธิ มิจฉาญาณะ มิจฉาวิมุตติ. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า อธรรม เรียกว่า อนรรถ. ภิกษุ ท. ! อะไรเป็น ธรรม อะไรเป็น อรรถ ? สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ สัมมาญาณะ สัมมาวิมุตติ. ภิกษุ ท. ! นี้เราเรียกว่า ธรรม เรียกว่า อรรถ. ภิกษุ ท. ! เราอาศัยเหตุผลดังกล่าวมานี้แล้ว เราจึงกล่าวว่า “ภิกษุ ท. ! อธรรมเป็นสิ่งที่ควรทราบ, อนรรถก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. ธรรมเป็นสิ่งที่ควรทราบ, อรรถก็เป็นสิ่งที่ควรทราบ. รู้แจ้งทั้งอธรรมและอนรรถ, รู้แจ้งทั้งธรรมและอรรถแล้ว บุคคลพึงปฏิบัติตามที่เป็นธรรมตามที่เป็นอรรถ” ดังนี้.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิวกรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อกดถูกใจ แชร์ และแสดงความคิดเห็น! - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
สัทธรรมลำดับที่ : 611
ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=611
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์
--ภิกษุ ท. !
เพราะ ความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งอวิชชานั้น นั่นเทียว จึงมีความดับแห่งสังขาร ;
เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;
เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ;
เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ ;
เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ;
เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ;
เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ;
เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล. ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น
: #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้แล.-
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ
#ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/5/18.
http://etipitaka.com/read/thai/16/4/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๕/๑๘.
http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=611
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=611
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ สัทธรรมลำดับที่ : 611 ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=611 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ --ภิกษุ ท. ! เพราะ ความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งอวิชชานั้น นั่นเทียว จึงมีความดับแห่งสังขาร ; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ; เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ ; เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล. ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : #ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้แล.- http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/5/18. http://etipitaka.com/read/thai/16/4/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๕/๑๘. http://etipitaka.com/read/pali/16/5/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=611 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=611 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- อาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์-อาการดับแห่งทุกข์โดยสมบูรณ์ ภิกษุ ท. ! เพราะ ความจางคลายดับไปไม่เหลือแห่งอวิชชานั้น นั่นเทียว จึงมีความดับแห่งสังขาร ; เพราะมีความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; เพราะมีความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ; เพราะมีความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งสฬายตนะ ; เพราะมีความดับแห่งสฬายตนะ จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; เพราะมีความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะมีความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะมีความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะมีความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะมีความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะมีความดับแห่งชาตินั่นแล. ชรามรณะ โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาสทั้งหลาย จึงดับสิ้น : ความดับลงแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนี้ ย่อมมีด้วยอาการอย่างนี้แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงเรียนรู้ว่าผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์
สัทธรรมลำดับที่ : 205
ชื่อบทธรรม :- ผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205
เนื้อความทั้งหมด :-
--ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้,
สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย,
สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=ทีฆรตฺตํ+หิตาย+สุขาย
--ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ?
+--ภิกษุ ท. ! รูป มิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย ;
รูปนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
+--ภิกษุ ท. ! เวทนา มิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย ;
เวทนานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
+--ภิกษุ ท. ! สัญญา มิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย ;
สัญญานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
+--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย มิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเสีย ;
สังขารทั้งหลายเหล่านั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
+--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ มิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย ;
วิญญาณนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน.
--ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญ ความข้อนี้ว่าอย่างไร ?
คือข้อที่หญ้าไม้ กิ่งไม้และใบไม้ ใด ๆ มีอยู่ ในเชตวันนี้,
เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม
หรือกระทำตามความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ;
พวกเธอเคยเกิดความคิดอย่างนี้บ้างหรือไม่ ว่า
“คนเขาขนเอาเราไปบ้าง
เขาเผาเราบ้าง
เขาทำแก่เราตามความปรารถนาของเขาบ้าง”
ดังนี้ ?
--“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !”
ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ?
“เพราะเหตุว่านั่น หาได้เป็น ตัวตน
หรือของเนื่องด้วยตัวตน ของข้าพระองค์ไม่ พระเจ้าข้า !”
--ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น,
คือ สิ่งใด มิใช่ของพวกเธอ,
พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย ;
สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว
#จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน
http://etipitaka.com/read/pali/12/280/?keywords=หิตาย+สุขาย+ภวิสฺสติ
แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/194/287
http://etipitaka.com/read/thai/12/194/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๒๗๙/๒๘๗
http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=205
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงเรียนรู้ว่าผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์ สัทธรรมลำดับที่ : 205 ชื่อบทธรรม :- ผลการศึกษาแห่งอริยบุคคลทั้งหลายจักมีเพื่อประโยชน์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=ทีฆรตฺตํ+หิตาย+สุขาย --ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ? +--ภิกษุ ท. ! รูป มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย ; รูปนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! เวทนา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย ; เวทนานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! สัญญา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย ; สัญญานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเสีย ; สังขารทั้งหลายเหล่านั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. +--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย ; วิญญาณนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. --ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญ ความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือข้อที่หญ้าไม้ กิ่งไม้และใบไม้ ใด ๆ มีอยู่ ในเชตวันนี้, เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม หรือกระทำตามความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ; พวกเธอเคยเกิดความคิดอย่างนี้บ้างหรือไม่ ว่า “คนเขาขนเอาเราไปบ้าง เขาเผาเราบ้าง เขาทำแก่เราตามความปรารถนาของเขาบ้าง” ดังนี้ ? --“ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “เพราะเหตุว่านั่น หาได้เป็น ตัวตน หรือของเนื่องด้วยตัวตน ของข้าพระองค์ไม่ พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น, คือ สิ่งใด มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย ; สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว #จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน http://etipitaka.com/read/pali/12/280/?keywords=หิตาย+สุขาย+ภวิสฺสติ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มู. ม. 12/194/287 http://etipitaka.com/read/thai/12/194/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มู. ม. ๑๒/๒๗๙/๒๘๗ http://etipitaka.com/read/pali/12/279/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%98%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=205 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=205 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ?-ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, สิ่งใดมิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย, สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! ก็สิ่งใดเล่า มิใช่ของพวกเธอ ? ภิกษุ ท. ! รูป มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละรูปนั้นเสีย ; รูปนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! เวทนา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละเวทนานั้นเสีย ; เวทนานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! สัญญา มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสัญญานั้นเสีย ; สัญญานั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสังขารทั้งหลายเหล่านั้นเสีย ; สังขารทั้งหลายเหล่านั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละวิญญาณนั้นเสีย ; วิญญาณนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน. ภิกษุ ท. ! พวกเธอจะสำคัญ ความข้อนี้ว่าอย่างไร ? คือข้อที่หญ้าไม้ กิ่งไม้และใบไม้ ใด ๆ มีอยู่ ในเชตวันนี้, เมื่อคนเขาขนเอามันไปก็ตามเผาเสียก็ตาม หรือกระทำตามความต้องการอย่างใดอย่างหนึ่งก็ตาม ; พวกเธอเคยเกิดความคิดอย่างนี้บ้างหรือไม่ ว่า “คนเขาขนเอาเราไปบ้าง เขาเผาเราบ้าง เขาทำแก่เราตามความปรารถนาของเขาบ้าง” ดังนี้ ? “ข้อนั้น หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “เพราะเหตุว่านั่น หาได้เป็น ตัวตน หรือของเนื่องด้วยตัวตน ของข้าพระองค์ไม่ พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น, คือ สิ่งใด มิใช่ของพวกเธอ, พวกเธอจงละสิ่งนั้นเสีย ; สิ่งนั้น อันพวกเธอละได้แล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแก่พวกเธอเอง ตลอดกาลนาน แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว - อาริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอนัตตรัตนสูตร
สัทธรรมลำดับที่ : 204
ชื่อบทธรรม :- อนัตตรัตนสูตร
(อาริยสาวกที่ศึกษาด้วยดีแล้วก็จะมีจิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น.)
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=204
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาริยสาวกที่ศึกษาด้วยดีแล้วก็จะมีจิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น.
--ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา.
http://etipitaka.com/read/pali/17/82/?keywords=รูป+อนตฺตา
+--ภิกษุ ท. ! ถ้ารูป จักเป็นอัตตาแล้วไซร้
รูปนี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ (ความถูกเบียดเบียนด้วยโรคเป็นต้น) ;
อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในรูปตามปรารถนาว่า
‘รูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ รูปเป็นอนัตตา
รูป จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ย่อมไม่ได้ในรูปตามปรารถนาว่า
‘รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด,
รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา.
http://etipitaka.com/read/pali/17/82/?keywords=เวทนา+อนตฺตา
+--ภิกษุ ท. ! ถ้าเวทนา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้
เวทนานี้ ก็ไม่พึงเป็นเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า
‘เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ เวทนาเป็นอนัตตา
เวทนา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า
‘เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
เวทนาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา.
http://etipitaka.com/read/pali/17/83/?keywords=สญฺญา+อนตฺตา
+--ภิกษุ ท. ! ถ้าสัญญา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้
สัญญานี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า
‘สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ สัญญาเป็นอนัตตา
สัญญา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า
‘สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
สัญญาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา.
http://etipitaka.com/read/pali/17/83/?keywords=สงฺขาร+อนตฺตา
+--ภิกษุ ท. ! ถ้าสังขารทั้งหลายจักเป็นอัตตาแล้วไซร้
สังขารทั้งหลายเหล่านี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า
‘สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา
สังขารทั้งหลาย จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า
‘สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา.
http://etipitaka.com/read/pali/17/83/?keywords=วิญฺญาณํ+อนตฺตา
+--ภิกษุ ท. ! ถ้าวิญญาณ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้
วิญญาณนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า
‘วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ วิญญาณเป็นอนัตตา
วิญญาณ จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ;
อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า
‘วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด,
วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้,
รูป ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู่
จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม
เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม
หยาบหรือละเอียดก็ตาม
เลวหรือประณีตก็ตาม
มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,
รูปทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. !
เวทนา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่
จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม
เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม
หยาบหรือละเอียดก็ตาม
เลวหรือประณีตก็ตาม
มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,
เวทนาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. !
สัญญา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่
จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม
เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม
หยาบหรือละเอียดก็ตาม
เลวหรือประณีตก็ตาม
มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,
สัญญาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่
จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม
เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม
หยาบหรือละเอียดก็ตาม
เลวหรือประณีตก็ตาม
มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,
สังขารทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’
ดังนี้.
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่
จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม
เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม
หยาบหรือละเอียดก็ตาม
เลวหรือประณีตก็ตาม
มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม,
วิญญาณทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’
ดังนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/64-66/127-129.
http://etipitaka.com/read/thai/17/64/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%97
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๒-๘๔/๑๒๗-๑๒๙.
http://etipitaka.com/read/pali/17/82/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%97
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=204
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=204
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง....
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อาริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอนัตตรัตนสูตร สัทธรรมลำดับที่ : 204 ชื่อบทธรรม :- อนัตตรัตนสูตร (อาริยสาวกที่ศึกษาด้วยดีแล้วก็จะมีจิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น.) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=204 เนื้อความทั้งหมด :- --อาริยสาวกที่ศึกษาด้วยดีแล้วก็จะมีจิตหลุดพ้นจากอาสวะเพราะไม่ถือมั่น. --ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา. http://etipitaka.com/read/pali/17/82/?keywords=รูป+อนตฺตา +--ภิกษุ ท. ! ถ้ารูป จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ (ความถูกเบียดเบียนด้วยโรคเป็นต้น) ; อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในรูปตามปรารถนาว่า ‘รูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ รูปเป็นอนัตตา รูป จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ย่อมไม่ได้ในรูปตามปรารถนาว่า ‘รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา. http://etipitaka.com/read/pali/17/82/?keywords=เวทนา+อนตฺตา +--ภิกษุ ท. ! ถ้าเวทนา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ เวทนานี้ ก็ไม่พึงเป็นเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า ‘เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ เวทนาเป็นอนัตตา เวทนา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า ‘เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, เวทนาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา. http://etipitaka.com/read/pali/17/83/?keywords=สญฺญา+อนตฺตา +--ภิกษุ ท. ! ถ้าสัญญา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สัญญานี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า ‘สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ สัญญาเป็นอนัตตา สัญญา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า ‘สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สัญญาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา. http://etipitaka.com/read/pali/17/83/?keywords=สงฺขาร+อนตฺตา +--ภิกษุ ท. ! ถ้าสังขารทั้งหลายจักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สังขารทั้งหลายเหล่านี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า ‘สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา สังขารทั้งหลาย จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า ‘สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา. http://etipitaka.com/read/pali/17/83/?keywords=วิญฺญาณํ+อนตฺตา +--ภิกษุ ท. ! ถ้าวิญญาณ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า ‘วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ วิญญาณเป็นอนัตตา วิญญาณ จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า ‘วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, รูป ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, รูปทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เวทนา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, เวทนาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! สัญญา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, สัญญาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, สังขารทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, วิญญาณทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/64-66/127-129. http://etipitaka.com/read/thai/17/64/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๘๒-๘๔/๑๒๗-๑๒๙. http://etipitaka.com/read/pali/17/82/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=204 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=204 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง.... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา. ภิกษุ ท. ! ถ้ารูป จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ (ความถูกเบียดเบียนด้วยโรคเป็นต้น) ; อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในรูปตามปรารถนาว่า ‘รูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ รูปเป็นอนัตตา รูป จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ย่อมไม่ได้ในรูปตามปรารถนาว่า ‘รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้.-ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา. ภิกษุ ท. ! ถ้ารูป จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ รูปนี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ (ความถูกเบียดเบียนด้วยโรคเป็นต้น) ; อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในรูปตามปรารถนาว่า ‘รูปของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ รูปเป็นอนัตตา รูป จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ย่อมไม่ได้ในรูปตามปรารถนาว่า ‘รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด, รูปของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา. ภิกษุ ท. ! ถ้าเวทนา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ เวทนานี้ ก็ไม่พึงเป็นเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์จะพึงได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า ‘เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, เวทนาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ เวทนา เป็นอนัตตา เวทนา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในเวทนาตามปรารถนาว่า ‘เวทนาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, เวทนาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา. ภิกษุ ท. ! ถ้าสัญญา จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สัญญานี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า ‘สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สัญญาของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ สัญญา เป็นอนัตตาสัญญา จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสัญญาตามปรารถนาว่า ‘สัญญาของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สัญญาของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ดังนี้. ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา. ภิกษุ ท. ! ถ้าสังขารทั้งหลายจักเป็นอัตตาแล้วไซร้ สังขารทั้งหลายเหล่านี้ ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า ‘สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่สังขารทั้งหลายเป็นอนัตตา สังขารทั้งหลายจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในสังขารทั้งหลายตามปรารถนาว่า ‘สังขารทั้งหลายของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, สังขารทั้งหลายของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา. ภิกษุ ท. ! ถ้าวิญญาณ จักเป็นอัตตาแล้วไซร้ วิญญาณนี้ก็ไม่พึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ จะพึงได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า ‘วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ วิญญาณเป็นอนัตตา วิญญาณ จึงเป็นไปเพื่ออาพาธ ; อนึ่ง สัตว์ ย่อมไม่ได้ในวิญญาณตามปรารถนาว่า ‘วิญญาณของเรา จงเป็นอย่างนี้เถิด, วิญญาณของเรา อย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย’ ดังนี้. .... ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้, รูป ชนิดใดชนิดหนึ่งมีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, รูปทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เวทนา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, เวทนาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! สัญญา ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, สัญญาทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, สังขารทั้งหลายทั้งปวงเหล่านั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้. ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ชนิดใดชนิดหนึ่ง มีอยู่ จะเป็นอดีตอนาคตหรือปัจจุบันก็ตาม เป็นภายในหรือภายนอกก็ตาม หยาบหรือละเอียดก็ตาม เลวหรือประณีตก็ตาม มีในที่ไกลหรือใกล้ก็ตาม, วิญญาณทั้งปวงนั้น อันใคร ๆ พึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า ‘นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา’ ดังนี้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 39 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเมื่อตีความคำบัญญัติผิด-แม้ทารกนอนเบาะก็มีศีล
สัทธรรมลำดับที่ : 978
ชื่อบทธรรม :- เมื่อตีความคำบัญญัติผิด
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=978
เนื้อความทั้งหมด :-
--เมื่อตีความคำบัญญัติผิด-แม้ทารกนอนเบาะก็มีศีลโดยอัตโนมัติ
...
(อุคคาหมานปริพพาชก ได้กล่าวกะช่างไม้ชื่อปัญจกังคะว่า
“--ถปติ ! เราบัญญัติบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ
ว่าเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง
เป็นสมณผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆ รบให้แพ้ไม่ได้.
สี่อย่างอย่างไรเล่า? สี่อย่างคือ บุคคลในกรณีนี้
๑.ย่อมไม่กระทำกรรมอันเป็นบาปด้วยกาย ๑
๒.ย่อมไม่กล่าววาจาอันเป็นบาป ๑
๓.ย่อมไม่ดำริความดำริอันเป็นบาป ๑
๔.ย่อมไม่เลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพอันเป็นบาป ๑.”
--ช่างไม้(ถปติ)ไม่ยินดีไม่คัดค้านถ้อยคำนั้น
เข้าไปเฝ้าแล้วกราบทูลข้อความนั้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าทุกประการ. ตรัสว่า :-
)
--ถปติ ! ถ้าเป็นอย่างที่ปริพพาชกนั้นกล่าวแล้ว เด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะ
ก็จะกลายเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง
เป็นสมณะผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆรบให้แพ้ไม่ได้ ไปเสีย.
+--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น
แม้แต่ความรู้จักว่า “กายๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว
จักกระทำกรรมอันเป็นบาปด้วยกายได้แต่ที่ไหน
อย่างมากก็เพียงกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเบาะ.
+--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น
แม้แต่ความรู้จักว่า “วาจาๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว
จักกล่าววาจาอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน
อย่างมากก็เพียงส่งเสียงร้องไห้.
+--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น
แม้แต่ความรู้จักว่า “ดำริๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว
จักดำริความดำริอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน
อย่างมากก็เพียงแสดงอาการอึดอัด (ตามประสาเด็ก).
+--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น
แม้แต่ความรู้จักที่ว่า “อาชีพๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว
จักเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน
อย่างมากทำได้ก็แต่เพียงกินนมแม่.
--ถปติ ! เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะ
จักเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม
อันใครๆรบให้แพ้ไม่ได้ ดังคำกล่าวของอุคคาหมานปริพพาชกนั้นได้อย่างไร.
--ถปติ ! เราบัญญัติบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ อย่าง
http://etipitaka.com/read/pali/13/344/?keywords=ปริพฺพาชก
(ตามที่อุคคาหมานปริพพาชกกล่าวนั้น) ว่า
ยังไม่ใช่ผู้มีกุศลสมบูรณ์ ยังไม่ใช่ผู้มีกุศลอย่างยิ่ง
ยังไม่ใช่สมณะผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดมอันใครๆ รบให้แพ้ไม่ได้
อย่างมาก บุคคลนั้นเพียงแต่จะดีกว่าเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะบ้าง
เท่านั้น.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/264-266/358-360.
http://etipitaka.com/read/thai/13/264/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๓๔๓-๓๔๕/๓๕๘-๓๖๐.
http://etipitaka.com/read/pali/13/343/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=978
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=978
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเมื่อตีความคำบัญญัติผิด-แม้ทารกนอนเบาะก็มีศีล สัทธรรมลำดับที่ : 978 ชื่อบทธรรม :- เมื่อตีความคำบัญญัติผิด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=978 เนื้อความทั้งหมด :- --เมื่อตีความคำบัญญัติผิด-แม้ทารกนอนเบาะก็มีศีลโดยอัตโนมัติ ... (อุคคาหมานปริพพาชก ได้กล่าวกะช่างไม้ชื่อปัญจกังคะว่า “--ถปติ ! เราบัญญัติบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ว่าเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆ รบให้แพ้ไม่ได้. สี่อย่างอย่างไรเล่า? สี่อย่างคือ บุคคลในกรณีนี้ ๑.ย่อมไม่กระทำกรรมอันเป็นบาปด้วยกาย ๑ ๒.ย่อมไม่กล่าววาจาอันเป็นบาป ๑ ๓.ย่อมไม่ดำริความดำริอันเป็นบาป ๑ ๔.ย่อมไม่เลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพอันเป็นบาป ๑.” --ช่างไม้(ถปติ)ไม่ยินดีไม่คัดค้านถ้อยคำนั้น เข้าไปเฝ้าแล้วกราบทูลข้อความนั้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าทุกประการ. ตรัสว่า :- ) --ถปติ ! ถ้าเป็นอย่างที่ปริพพาชกนั้นกล่าวแล้ว เด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะ ก็จะกลายเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณะผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆรบให้แพ้ไม่ได้ ไปเสีย. +--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักว่า “กายๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว จักกระทำกรรมอันเป็นบาปด้วยกายได้แต่ที่ไหน อย่างมากก็เพียงกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเบาะ. +--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักว่า “วาจาๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว จักกล่าววาจาอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน อย่างมากก็เพียงส่งเสียงร้องไห้. +--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักว่า “ดำริๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว จักดำริความดำริอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน อย่างมากก็เพียงแสดงอาการอึดอัด (ตามประสาเด็ก). +--ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักที่ว่า “อาชีพๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว จักเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน อย่างมากทำได้ก็แต่เพียงกินนมแม่. --ถปติ ! เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะ จักเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆรบให้แพ้ไม่ได้ ดังคำกล่าวของอุคคาหมานปริพพาชกนั้นได้อย่างไร. --ถปติ ! เราบัญญัติบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ อย่าง http://etipitaka.com/read/pali/13/344/?keywords=ปริพฺพาชก (ตามที่อุคคาหมานปริพพาชกกล่าวนั้น) ว่า ยังไม่ใช่ผู้มีกุศลสมบูรณ์ ยังไม่ใช่ผู้มีกุศลอย่างยิ่ง ยังไม่ใช่สมณะผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดมอันใครๆ รบให้แพ้ไม่ได้ อย่างมาก บุคคลนั้นเพียงแต่จะดีกว่าเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะบ้าง เท่านั้น.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม. ม. 13/264-266/358-360. http://etipitaka.com/read/thai/13/264/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม. ม. ๑๓/๓๔๓-๓๔๕/๓๕๘-๓๖๐. http://etipitaka.com/read/pali/13/343/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=978 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=978 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เมื่อตีความคำบัญญัติผิด-เมื่อตีความคำบัญญัติผิด แม้ทารกนอนเบาะก็มีศีลโดยอัตโนมัติ (อุคคาหมานปริพพาชก ได้กล่าวกะช่างไม้ชื่อปัญจกังคะว่า “ถปติ ! เราบัญญัติบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ ประการ ว่าเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆ รบให้แพ้ไม่ได้. สี่อย่างอย่างไรเล่า? สี่อย่างคือ บุคคลในกรณีนี้ ย่อมไม่กระทำกรรมอันเป็นบาปด้วยกาย ๑ ย่อมไม่กล่าววาจาอันเป็นบาป ๑ ย่อมไม่ดำริ ความดำริอันเป็นบาป ๑ ย่อมไม่เลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพอันเป็นบาป ๑.” ช่างไม้ไม่ยินดีไม่คัดค้านถ้อยคำนั้น เข้าไปเฝ้าแล้วกราบทูลข้อความนั้นแก่พระผู้มีพระภาคเจ้าทุกประการ. ตรัสว่า :-) ถปติ ! ถ้าเป็นอย่างที่ปริพพาชกนั้นกล่าวแล้ว เด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะ ก็จะกลายเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณะผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆรบให้แพ้ไม่ได้ ไปเสีย. ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักว่า “กายๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มีแล้ว จักกระทำกรรมอันเป็นบาปด้วยกายได้แต่ที่ไหน อย่างมากก็เพียงกลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเบาะ. ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักว่า “วาจาๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มี แล้ว จักกล่าววาจาอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน อย่างมากก็เพียงส่งเสียงร้องไห้. ถปติ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักว่า “ดำริๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มี. แล้ว จักดำริความดำริอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน อย่างมากก็เพียงแสดงอาการอึดอัด (ตามประสาเด็ก). ถปติ ! สำหรับเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะนั้น แม้แต่ความรู้จักที่ว่า “อาชีพๆ” ดังนี้ ก็ยังมิได้มี. แล้ว จักเลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพอันเป็นบาปได้แต่ที่ไหน อย่างมากทำได้ก็แต่เพียงกินนมแม่. ถปติ ! เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะ จักเป็นผู้มีกุศลสมบูรณ์ มีกุศลอย่างยิ่ง เป็นสมณผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดม อันใครๆรบให้แพ้ไม่ได้ ดังคำกล่าวของอุคคาหมานปริพพาชกนั้นได้อย่างไร. ถปติ ! เราบัญญัติบุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ๔ อย่าง (ตามที่อุคคาหมานปริพพาชกกล่าวนั้น) ว่า ยังไม่ใช่ผู้มีกุศลสมบูรณ์ ยังไม่ใช่ผู้มีกุศลอย่างยิ่ง ยังไม่ใช่สมณะผู้บรรลุถึงการบรรลุอันอุดมอันใครๆ รบให้แพ้ไม่ได้ อย่างมาก บุคคลนั้นเพียงแต่จะดีกว่าเด็กอ่อนนอนหงายอยู่บนเบาะบ้างเท่านั้น.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป
สัทธรรมลำดับที่ : 610
ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=610
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป
--มิคชาละ ! รูปทั้งหลายที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ
อันเป็นรูปที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก
เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่.
ถ้าภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นไซร้.
เมื่อเธอนั้น ไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นอยู่, นันทิย่อมดับ.
+--มิคชาละ ! เรากล่าวว่า
“ความดับแห่งทุกข์ย่อมมี #เพราะความดับแห่งนันทิ”
http://etipitaka.com/read/pali/18/45/?keywords=นนฺทิ+อภินนฺทโต
ดังนี้.
(ในกรณีแห่ง เสียงที่จะพึงรู้แจ้งด้วยหู ก็ดี
ในกรณีแห่ง กลิ่นที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก ก็ดี
ในกรณีแห่ง รสที่จะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น ก็ดี
ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะที่จะพึงรู้แจ้งด้วยผิวกาย ก็ดี และ
ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ ก็ดี
ก็ได้ตรัสไว้โดยนัยอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูป
ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ ทุกประการ ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น
).-
#ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/36/69.
http://etipitaka.com/read/thai/18/36/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๔๕/๖๙.
http://etipitaka.com/read/pali/18/45/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=610
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=610
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป สัทธรรมลำดับที่ : 610 ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=610 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป --มิคชาละ ! รูปทั้งหลายที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันเป็นรูปที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่. ถ้าภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นไซร้. เมื่อเธอนั้น ไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นอยู่, นันทิย่อมดับ. +--มิคชาละ ! เรากล่าวว่า “ความดับแห่งทุกข์ย่อมมี #เพราะความดับแห่งนันทิ” http://etipitaka.com/read/pali/18/45/?keywords=นนฺทิ+อภินนฺทโต ดังนี้. (ในกรณีแห่ง เสียงที่จะพึงรู้แจ้งด้วยหู ก็ดี ในกรณีแห่ง กลิ่นที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก ก็ดี ในกรณีแห่ง รสที่จะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น ก็ดี ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะที่จะพึงรู้แจ้งด้วยผิวกาย ก็ดี และ ในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ ก็ดี ก็ได้ตรัสไว้โดยนัยอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูป ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ ทุกประการ ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น ).- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. 18/36/69. http://etipitaka.com/read/thai/18/36/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา.สํ. ๑๘/๔๕/๖๙. http://etipitaka.com/read/pali/18/45/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=610 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=610 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- อาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป-อาการดับแห่งทุกข์ โดยสังเขป มิคชาละ ! รูปทั้งหลายที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ อันเป็นรูปที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด มีอยู่. ถ้าภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นไซร้. เมื่อเธอนั้น ไม่เพลิดเพลินไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่สยบมัวเมา ซึ่งรูปนั้นอยู่, นันทิย่อมดับ. มิคชาละ ! เรากล่าวว่า “ความดับแห่งทุกข์ย่อมมี เพราะความดับแห่งนันทิ” ดังนี้. (ในกรณีแห่ง เสียงที่จะพึงรู้แจ้งด้วยหู ก็ดี ในกรณีแห่ง กลิ่นที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจมูก ก็ดี ในกรณีแห่ง รสที่จะพึงรู้แจ้งด้วยลิ้น ก็ดี ในกรณีแห่ง โผฏฐัพพะที่จะพึงรู้แจ้งด้วยผิวกาย ก็ดี และในกรณีแห่ง ธรรมารมณ์ที่จะพึงรู้แจ้งด้วยใจ ก็ดี ก็ได้ตรัสไว้โดยนัยอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปที่จะพึงรู้แจ้งด้วยจักษุ ทุกประการ ต่างกันแต่ชื่อเท่านั้น).0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 65 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเบญจขันธ์เป็นอนัตตา
สัทธรรมลำดับที่ : 203
ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นอนัตตา
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=203
เนื้อความทั้งหมด :-
--เบญจขันธ์เป็นอนัตตา
--ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา,
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=รูป+อนตฺตา
บุคคล พึงเห็นรูปนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา,
บุคคล พึงเห็นเวทนานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา,
บุคคล พึงเห็นสัญญานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา,
บุคคล พึงเห็นสังขารทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา,
บุคคล พึงเห็นวิญญาณนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา. นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ
ดังนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ สํ. 17/22/44.
http://etipitaka.com/read/thai/17/22/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ สํ. ๑๗/๒๘/๔๔.
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=203
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=203
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเบญจขันธ์เป็นอนัตตา สัทธรรมลำดับที่ : 203 ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นอนัตตา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=203 เนื้อความทั้งหมด :- --เบญจขันธ์เป็นอนัตตา --ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา, http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=รูป+อนตฺตา บุคคล พึงเห็นรูปนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นเวทนานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสัญญานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสังขารทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นวิญญาณนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา. นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=เนตํ+มม+เนโสหมสฺมิ+เมโส+อตฺตาติ ดังนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ สํ. 17/22/44. http://etipitaka.com/read/thai/17/22/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ สํ. ๑๗/๒๘/๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=203 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=203 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เบญจขันธ์เป็นอนัตตา-เบญจขันธ์เป็นอนัตตา ภิกษุ ท. ! รูป เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นรูปนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ แล. ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นเวทนานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสัญญานั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นสังขารทั้งหลายเหล่านั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นอนัตตา, บุคคล พึงเห็นวิญญาณนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา. นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 55 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์
สัทธรรมลำดับที่ : 202
ชื่อบทธรรม :- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=202
เนื้อความทั้งหมด :-
--เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์
--ภิกษุ ท. ! รูป เป็นทุกข์,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็เป็นทุกข์,
รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ;
http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=รูป+ทุกฺข+ปจฺจโย
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นทุกข์,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็เป็นทุกข์,
เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นทุกข์,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญา ก็เป็นทุกข์,
สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็เป็นทุกข์,
สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นทุกข์,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็เป็นทุกข์,
วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/29/46.
http://etipitaka.com/read/thai/17/22/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%96
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๙/๔๖.
http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%96
ศึกษาเพื่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=202
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=202
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 202 ชื่อบทธรรม :- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=202 เนื้อความทั้งหมด :- --เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์ --ภิกษุ ท. ! รูป เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็เป็นทุกข์, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=รูป+ทุกฺข+ปจฺจโย --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็เป็นทุกข์, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญา ก็เป็นทุกข์, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็เป็นทุกข์, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็เป็นทุกข์, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/29/46. http://etipitaka.com/read/thai/17/22/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๙/๔๖. http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%96 ศึกษาเพื่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=202 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=202 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์-เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็เป็นทุกข์ ภิกษุ ท. ! รูป เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็เป็นทุกข์, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็เป็นทุกข์, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญา ก็เป็นทุกข์, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็เป็นทุกข์, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นทุกข์, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็เป็นทุกข์, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันเป็นทุกข์แล้ว จักเป็นสุขได้อย่างไร.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล
สัทธรรมลำดับที่ : 977
ชื่อบทธรรม : -ลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=977
เนื้อความทั้งหมด :-
--ลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล
...
--ดูก่อนจุนที ! ศีลทั้งหลายมีประมาณเท่าไร,
ผู้รู้กล่าวกันว่า #อริยกันตศีล (ศีลอันประเสริญเป็นอริยะ)
เลิศกว่าศีลเหล่านั้น;
http://etipitaka.com/read/pali/22/38/?keywords=สีลานิ+อริยกนฺตานิ
กล่าวคือ ศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทแก่ตัว
วิญญูชนสรรเสริญ ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิลูบคลำ #เป็นไปพร้อมเพื่อสมาธิ.
--จุนที ! บุคคลเหล่าใด ทำให้บริบูรณ์ในอริยกันตศีล,
บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่ากระทำให้บริบูรณ์ในสิ่งอันเลิศ;
ก็วิบากอันเลิศ ย่อมมีแก่ผู้กระทำให้บริบูรณ์ในสิ่งอันเลิศ
แล.-
อคฺคโต เว ปสนฺนานํ อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ
อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร
อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ วิราคูปสเม สุเข
อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ ปุญฺญกฺเขตฺเต อนุตฺตเร
อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ อคฺคํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ
อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ
อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี อคฺคธมฺมสมาหิโต
เทวภูโต มนุสฺโส วา อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตีติ ฯ
http://etipitaka.com/read/pali/22/38/?keywords=อคฺคธมฺมสมาหิโต
บุญอันเลิศ คือ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุขและกำลัง
ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมที่เลิศ
เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศคือ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ
ผู้เป็นทักขิเณยบุคคลชั้นเยี่ยม เลื่อมใสในพระธรรมที่เลิศ
อันปราศจากราคะ เป็นที่เข้าไปสงบ เป็นสุข เลื่อมใสในพระสงฆ์ผู้เลิศ
เป็นนาบุญชั้นเยี่ยม ให้ทานในสิ่งที่เลิศ
ปราชญ์ผู้ถือมั่นธรรมที่เลิศ
ให้สิ่งที่เลิศ เป็นเทวดาหรือมนุษย์
ย่อมถึงสถานที่เลิศ บันเทิงใจอยู่
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/32/32.
http://etipitaka.com/read/thai/22/32/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๓๘/๓๒.
http://etipitaka.com/read/pali/22/38/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=977
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=977
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล สัทธรรมลำดับที่ : 977 ชื่อบทธรรม : -ลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=977 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล ... --ดูก่อนจุนที ! ศีลทั้งหลายมีประมาณเท่าไร, ผู้รู้กล่าวกันว่า #อริยกันตศีล (ศีลอันประเสริญเป็นอริยะ) เลิศกว่าศีลเหล่านั้น; http://etipitaka.com/read/pali/22/38/?keywords=สีลานิ+อริยกนฺตานิ กล่าวคือ ศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทแก่ตัว วิญญูชนสรรเสริญ ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิลูบคลำ #เป็นไปพร้อมเพื่อสมาธิ. --จุนที ! บุคคลเหล่าใด ทำให้บริบูรณ์ในอริยกันตศีล, บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่ากระทำให้บริบูรณ์ในสิ่งอันเลิศ; ก็วิบากอันเลิศ ย่อมมีแก่ผู้กระทำให้บริบูรณ์ในสิ่งอันเลิศ แล.- อคฺคโต เว ปสนฺนานํ อคฺคํ ธมฺมํ วิชานตํ อคฺเค พุทฺเธ ปสนฺนานํ ทกฺขิเณยฺเย อนุตฺตเร อคฺเค ธมฺเม ปสนฺนานํ วิราคูปสเม สุเข อคฺเค สงฺเฆ ปสนฺนานํ ปุญฺญกฺเขตฺเต อนุตฺตเร อคฺคสฺมึ ทานํ ททตํ อคฺคํ ปุญฺญํ ปวฑฺฒติ อคฺคํ อายุ จ วณฺโณ จ ยโส กิตฺติ สุขํ พลํ อคฺคสฺส ทาตา เมธาวี อคฺคธมฺมสมาหิโต เทวภูโต มนุสฺโส วา อคฺคปฺปตฺโต ปโมทตีติ ฯ http://etipitaka.com/read/pali/22/38/?keywords=อคฺคธมฺมสมาหิโต บุญอันเลิศ คือ อายุ วรรณะ ยศ เกียรติ สุขและกำลัง ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้รู้แจ้งธรรมที่เลิศ เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศคือ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้าผู้เลิศ ผู้เป็นทักขิเณยบุคคลชั้นเยี่ยม เลื่อมใสในพระธรรมที่เลิศ อันปราศจากราคะ เป็นที่เข้าไปสงบ เป็นสุข เลื่อมใสในพระสงฆ์ผู้เลิศ เป็นนาบุญชั้นเยี่ยม ให้ทานในสิ่งที่เลิศ ปราชญ์ผู้ถือมั่นธรรมที่เลิศ ให้สิ่งที่เลิศ เป็นเทวดาหรือมนุษย์ ย่อมถึงสถานที่เลิศ บันเทิงใจอยู่ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. 22/32/32. http://etipitaka.com/read/thai/22/32/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ปญฺจก. อํ. ๒๒/๓๘/๓๒. http://etipitaka.com/read/pali/22/38/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=977 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=977 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล-ลักษณะความสมบูรณ์แห่งศีล ดูก่อนจุนที ! ศีลทั้งหลายมีประมาณเท่าไร, ผู้รู้กล่าวกันว่า อริยกันตศีล (ศีลเป็นที่ชอบใจของพระอริยเจ้า) เลิศกว่าศีลเหล่านั้น; กล่าวคือ ศีลที่ไม่ขาด ไม่ทะลุ ไม่ด่าง ไม่พร้อย เป็นไทแก่ตัว วิญญูชนสรรเสริญ ไม่ถูกตัณหาทิฏฐิลูบคลำ เป็นไปพร้อมเพื่อสมาธิ. จุนที ! บุคคลเหล่าใด ทำให้บริบูรณ์ในอริยกันตศีล, บุคคลเหล่านั้น ชื่อว่ากระทำให้บริบูรณ์ในสิ่งอันเลิศ; ก็วิบากอันเลิศ ย่อมมีแก่ผู้กระทำให้บริบูรณ์ในสิ่งอันเลิศ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด
สัทธรรมลำดับที่ : 609
ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=609
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด
...
--ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง อุปาทาน ๔ เหล่านี้ มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุ
เกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด?
อุปาทาน ๔ เหล่านี้ มีตัณหาเป็นต้นเหตุมีตัณหาเป็นเหตุเกิด
มีตัณหาเป็นกำเนิด มีตัณหาเป็นแดนเกิด
--ภิกษุทั้งหลาย
ตัณหานี้เล่ามีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุ เกิดมีอะไรเป็นกำเนิด
มีอะไรเป็นแดนเกิด?
ตัณหามีเวทนาเป็นต้นเหตุ มีเวทนาเป็นเหตุเกิด
มีเวทนาเป็นกำเนิด มีเวทนาเป็นแดนเกิน
--ภิกษุทั้งหลายเวทนานี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด?
เวทนามีผัสสะเป็นต้นเหตุ มีผัสสะเป็นเหตุเกิด
มีผัสสะเป็นกำเนิด มีผัสสะเป็นแดนเกิด
--ภิกษุทั้งหลาย ผัสสะนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด
มีอะไรเป็นกำเนิดมีอะไรเป็นแดนเกิด?
ผัสสะมีสฬายตนะเป็นต้นเหตุ มีสฬายตนะเป็นเหตุเกิด
มีสฬายตนะเป็นกำเนิด มีสฬายตนะเป็นแดนเกิด
--ภิกษุทั้งหลาย สฬายตนะนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด?
สฬายตนะมีนามรูปเป็นต้นเหตุ มีนามรูปเป็นเหตุเกิด
มีนามรูปเป็นกำเนิด มีนามรูปเป็นแดนเกิด
--ภิกษุทั้งหลาย นามรูปนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด?
นามรูปมีวิญญาณเป็นต้นเหตุ มีวิญญาณเป็นเหตุเกิด
มีวิญญาณเป็นกำเนิด มีวิญญาณเป็นแดนเกิด
--ภิกษุทั้งหลาย วิญญาณนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด?
วิญญาณมีสังขารเป็นต้นเหตุ มีสังขารเป็นเหตุเกิด
มีสังขารเป็นกำเนิด มีสังขารเป็นแดนเกิด
--ภิกษุทั้งหลาย สังขารนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด
มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด?
#สังขารมีอวิชชาเป็นต้นเหตุ มีอวิชชาเป็นเหตุเกิด
มีอวิชชาเป็นกำเนิด มีอวิชชาเป็นแดนเกิด
http://etipitaka.com/read/pali/12/135/?keywords=อวิชฺชา
...
--ภิกษุ ท. ! ในกาลใด
อวิชชาเป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว วิชชาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ;
ในกาลนั้น ภิกษุนั้น
ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งกามุปาทาน,
ย่อมไม่ยึดมั่น ซึ่งทิฏฐุปาทาน,
ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งสีลัพพัตตุปาทาน,
ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งอัตตวาทุปาทาน ;
(ทั้งนี้)
เพราะการสำรอกเสียได้หมดซึ่งอวิชชา เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา.
เมื่อไม่ยึดมั่นอยู่, ย่อมไม่สะดุ้ง ;
เมื่อไม่สะดุ้ง, #ย่อมปรินิพพานเฉพาะตนนั่นเทียว.
http://etipitaka.com/read/pali/12/135/?keywords=ปรินิพฺพายติ
เธอนั้นย่อมรู้ชัดว่า
“ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว
กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นผู้หลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก”
ดังนี้.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม.ม.12/134/158.
http://etipitaka.com/read/thai/12/93/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%98
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม.ม.๑๒/๑๓๔/๑๕๘.
http://etipitaka.com/read/pali/12/134/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%98
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=609
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=609
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าอาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด สัทธรรมลำดับที่ : 609 ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=609 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด ... --ภิกษุทั้งหลาย อนึ่ง อุปาทาน ๔ เหล่านี้ มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุ เกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? อุปาทาน ๔ เหล่านี้ มีตัณหาเป็นต้นเหตุมีตัณหาเป็นเหตุเกิด มีตัณหาเป็นกำเนิด มีตัณหาเป็นแดนเกิด --ภิกษุทั้งหลาย ตัณหานี้เล่ามีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุ เกิดมีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? ตัณหามีเวทนาเป็นต้นเหตุ มีเวทนาเป็นเหตุเกิด มีเวทนาเป็นกำเนิด มีเวทนาเป็นแดนเกิน --ภิกษุทั้งหลายเวทนานี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? เวทนามีผัสสะเป็นต้นเหตุ มีผัสสะเป็นเหตุเกิด มีผัสสะเป็นกำเนิด มีผัสสะเป็นแดนเกิด --ภิกษุทั้งหลาย ผัสสะนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด มีอะไรเป็นกำเนิดมีอะไรเป็นแดนเกิด? ผัสสะมีสฬายตนะเป็นต้นเหตุ มีสฬายตนะเป็นเหตุเกิด มีสฬายตนะเป็นกำเนิด มีสฬายตนะเป็นแดนเกิด --ภิกษุทั้งหลาย สฬายตนะนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? สฬายตนะมีนามรูปเป็นต้นเหตุ มีนามรูปเป็นเหตุเกิด มีนามรูปเป็นกำเนิด มีนามรูปเป็นแดนเกิด --ภิกษุทั้งหลาย นามรูปนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? นามรูปมีวิญญาณเป็นต้นเหตุ มีวิญญาณเป็นเหตุเกิด มีวิญญาณเป็นกำเนิด มีวิญญาณเป็นแดนเกิด --ภิกษุทั้งหลาย วิญญาณนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? วิญญาณมีสังขารเป็นต้นเหตุ มีสังขารเป็นเหตุเกิด มีสังขารเป็นกำเนิด มีสังขารเป็นแดนเกิด --ภิกษุทั้งหลาย สังขารนี้เล่า มีอะไรเป็นต้นเหตุ มีอะไรเป็นเหตุเกิด มีอะไรเป็นกำเนิด มีอะไรเป็นแดนเกิด? #สังขารมีอวิชชาเป็นต้นเหตุ มีอวิชชาเป็นเหตุเกิด มีอวิชชาเป็นกำเนิด มีอวิชชาเป็นแดนเกิด http://etipitaka.com/read/pali/12/135/?keywords=อวิชฺชา ... --ภิกษุ ท. ! ในกาลใด อวิชชาเป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว วิชชาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ; ในกาลนั้น ภิกษุนั้น ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งกามุปาทาน, ย่อมไม่ยึดมั่น ซึ่งทิฏฐุปาทาน, ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งสีลัพพัตตุปาทาน, ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งอัตตวาทุปาทาน ; (ทั้งนี้) เพราะการสำรอกเสียได้หมดซึ่งอวิชชา เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา. เมื่อไม่ยึดมั่นอยู่, ย่อมไม่สะดุ้ง ; เมื่อไม่สะดุ้ง, #ย่อมปรินิพพานเฉพาะตนนั่นเทียว. http://etipitaka.com/read/pali/12/135/?keywords=ปรินิพฺพายติ เธอนั้นย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นผู้หลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ม.ม.12/134/158. http://etipitaka.com/read/thai/12/93/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ม.ม.๑๒/๑๓๔/๑๕๘. http://etipitaka.com/read/pali/12/134/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=609 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=609 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- อาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด-อาการดับแห่งทุกข์โดยสังเขปที่สุด ภิกษุ ท. ! ในกาลใด อวิชชาเป็นสิ่งที่ภิกษุละได้แล้ว วิชชาเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว ; ในกาลนั้น ภิกษุนั้นย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งกามุปาทาน, ย่อมไม่ยึดมั่น ซึ่งทิฏฐุปาทาน, ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งสีลัพพัตตุปาทาน, ย่อมไม่ยึดมั่นซึ่งอัตตวาทุปาทาน ; (ทั้งนี้) เพราะการสำรอกเสียได้หมดซึ่งอวิชชา เพราะการเกิดขึ้นแห่งวิชชา. เมื่อไม่ยึดมั่นอยู่, ย่อมไม่สะดุ้ง ; เมื่อไม่สะดุ้ง, ย่อมปรินิพพานเฉพาะตนนั่นเทียว. เธอนั้นย่อมรู้ชัดว่า “ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำได้ทำสำเร็จแล้ว กิจอื่นที่จะต้องทำเพื่อความเป็นผู้หลุดพ้นอย่างนี้ มิได้มีอีก” ดังนี้.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 104 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงศึกษาว่าการเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง
สัทธรรมลำดับที่ : 201
ชื่อบทธรรม :- เห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=201
เนื้อความทั้งหมด :-
--อริยสาวกพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง
--ภิกษุ ท. ! &รูป เป็น ทุกข์,
สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=ยถาภูตํ+สมฺมปฺปญฺญาย
ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่นไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! &เวทนา เป็นทุกข์,
สิ่งใด เป็นทุกข์, สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ
ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! &สัญญา เป็นทุกข์,
สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ
ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! &สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์,
สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ
ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! &วิญญาณ เป็นทุกข์,
สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น #ด้วยปัญญาอันชอบ
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=ยถาภูตํ+สมฺมปฺปญฺญาย
ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
ดังนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/21/43.
http://etipitaka.com/read/thai/17/21/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘/๔๓.
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=201
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=201
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงศึกษาว่าการเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง สัทธรรมลำดับที่ : 201 ชื่อบทธรรม :- เห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=201 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยสาวกพึงเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริง --ภิกษุ ท. ! &รูป เป็น ทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=ยถาภูตํ+สมฺมปฺปญฺญาย ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่นไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! &เวทนา เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์, สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! &สัญญา เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! &สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! &วิญญาณ เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น #ด้วยปัญญาอันชอบ http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=ยถาภูตํ+สมฺมปฺปญฺญาย ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/21/43. http://etipitaka.com/read/thai/17/21/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘/๔๓. http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=201 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=201 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ภิกษุ ท. ! รูป เป็น ทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่นไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;-ภิกษุ ท. ! รูป เป็น ทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่นไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์, สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้นเป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเบญจขันธ์เป็นทุกข์
สัทธรรมลำดับที่ : 200
ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นทุกข์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=200
เนื้อความทั้งหมด :-
--เบญจขันธ์เป็นทุกข์
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘ทุกข์ ทุกข์’
http://etipitaka.com/read/pali/17/240/?keywords=ทุกฺข
ดังนี้,
ทุกข์นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”
--ราธะ ! รูป เป็นทุกข์,
เวทนา เป็นทุกข์,
สัญญา เป็นทุกข์,
สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, และ
วิญญาณ เป็นทุกข์ แล.
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า
‘ทุกขธรรม ทุกขธรรม (มีทุกข์เป็นธรรมดา)’
http://etipitaka.com/read/pali/17/240/?keywords=ทุกฺขธมฺโม
ดังนี้,
ก็ทุกขธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”
--ราธะ ! รูป เป็นทุกขธรรม,
เวทนา เป็นทุกขธรรม,
สัญญา เป็นทุกข์ธรรม,
สังขารทั้งหลาย เป็นทุกขธรรม, และ
วิญญาณ เป็นทุกขธรรม แล.-
#ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/198/381-382.
http://etipitaka.com/read/thai/17/198/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๔๐/๓๘๑-๓๘๒.
http://etipitaka.com/read/pali/17/240/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=200
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=200
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเบญจขันธ์เป็นทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 200 ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=200 เนื้อความทั้งหมด :- --เบญจขันธ์เป็นทุกข์ --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘ทุกข์ ทุกข์’ http://etipitaka.com/read/pali/17/240/?keywords=ทุกฺข ดังนี้, ทุกข์นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” --ราธะ ! รูป เป็นทุกข์, เวทนา เป็นทุกข์, สัญญา เป็นทุกข์, สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, และ วิญญาณ เป็นทุกข์ แล. --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘ทุกขธรรม ทุกขธรรม (มีทุกข์เป็นธรรมดา)’ http://etipitaka.com/read/pali/17/240/?keywords=ทุกฺขธมฺโม ดังนี้, ก็ทุกขธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” --ราธะ ! รูป เป็นทุกขธรรม, เวทนา เป็นทุกขธรรม, สัญญา เป็นทุกข์ธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นทุกขธรรม, และ วิญญาณ เป็นทุกขธรรม แล.- #ทุกข์ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/198/381-382. http://etipitaka.com/read/thai/17/198/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๔๐/๓๘๑-๓๘๒. http://etipitaka.com/read/pali/17/240/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=200 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=200 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เบญจขันธ์เป็นทุกข์-เบญจขันธ์เป็นทุกข์ “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘ทุกข์ ทุกข์’ ดังนี้, ทุกข์นั้นเป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” ราธะ ! รูป เป็นทุกข์, เวทนา เป็นทุกข์, สัญญา เป็นทุกข์, สังขารทั้งหลาย เป็นทุกข์, และวิญญาณ เป็นทุกข์ แล. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘ทุกขธรรม ทุกขธรรม (มีทุกข์เป็นธรรมดา)’ ดังนี้, ก็ทุกขธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” ราธะ ! รูป เป็นทุกขธรรม, เวทนา เป็นทุกขธรรม, สัญญา เป็นทุกข์ธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นทุกขธรรม, และวิญญาณ เป็นทุกขธรรม แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 74 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
สัทธรรมลำดับที่ : 608
ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งความทุกข์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=608
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาการดับแห่งความทุกข์
--ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ;
การประจวบพร้อม ( แห่งตา + รูป + จักขุวิญญาณ)
ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะความดับด้วยความจางคลายไปโดยไม่เหลือแห่งตัณหา
นั้นแหละ จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
เพราะความดับแห่งชาติ,
ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงดับไม่เหลือ.
ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้.
--ภิกษุ ท. ! นี้คือ #ความดับแห่งทุกข์.
http://etipitaka.com/read/pali/18/107/?keywords=ทุกฺขสฺส+อตฺถงฺคโม
(ในกรณีที่เกี่ยวกับ
อายตนะภายใน(หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส และ ใจ) ที่เหลือ อีก ๕ อย่าง
http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=ทุกฺขสฺส+อตฺถงฺคโม
ก็มีข้อความอย่างเดียวกันกับกรณีของตาอย่างข้างบนนี้
).-
#ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/89/155.
http://etipitaka.com/read/thai/18/89/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%95
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๗/๑๕๕.
http://etipitaka.com/read/pali/18/107/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%95
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=608
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=608
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 608 ชื่อบทธรรม :- อาการดับแห่งความทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=608 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการดับแห่งความทุกข์ --ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม ( แห่งตา + รูป + จักขุวิญญาณ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดมีตัณหา ; เพราะความดับด้วยความจางคลายไปโดยไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นแหละ จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงดับไม่เหลือ. ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ ทั้งสิ้นนั้นย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! นี้คือ #ความดับแห่งทุกข์. http://etipitaka.com/read/pali/18/107/?keywords=ทุกฺขสฺส+อตฺถงฺคโม (ในกรณีที่เกี่ยวกับ อายตนะภายใน(หู จมูก ลิ้น กายสัมผัส และ ใจ) ที่เหลือ อีก ๕ อย่าง http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=ทุกฺขสฺส+อตฺถงฺคโม ก็มีข้อความอย่างเดียวกันกับกรณีของตาอย่างข้างบนนี้ ).- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/89/155. http://etipitaka.com/read/thai/18/89/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๗/๑๕๕. http://etipitaka.com/read/pali/18/107/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=608 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=608 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- อาการดับแห่งความทุกข์-อาการดับแห่งความทุกข์ ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม ( แห่งตา + รูป + จักขุวิญญาณ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัยจึงเกิดมีตัณหา ; เพราะความดับด้วยความจางคลายไปโดยไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นแหละ จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงดับไม่เหลือ. ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้. ภิกษุ ท. ! นี้คือความดับแห่งทุกข์. (ในกรณีที่เกี่ยวกับอายตนะภายในที่เหลือ อีก ๕ อย่าง ก็มีข้อความอย่างเดียวกันกับกรณีของตาอย่างข้างบนนี้).0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว - อรืยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง
สัทธรรมลำดับที่ : 199
ชื่อบทธรรม :- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=199
เนื้อความทั้งหมด :-
--เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง
--ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง,
http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=รูป+อนิจฺจํ
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ รูป
ก็ไม่เที่ยง, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! เวทนา ไม่เที่ยง,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ เวทนา
ก็ไม่เที่ยง, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา ไม่เที่ยง,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ สัญญา
ก็ไม่เที่ยง, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง,
ถึงแม้เหตุแม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ สังขารทั้งหลาย
ก็ไม่เที่ยง, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัยอันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ไม่เที่ยง,
ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ วิญญาณ
ก็ไม่เที่ยง, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัยอันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. ส. 17/22/45.
http://etipitaka.com/read/thai/17/22/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. ส. ๑๗/๒๙/๔๕.
http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=199
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=199
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อรืยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง สัทธรรมลำดับที่ : 199 ชื่อบทธรรม :- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=199 เนื้อความทั้งหมด :- --เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง --ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง, http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=รูป+อนิจฺจํ ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ รูป ก็ไม่เที่ยง, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! เวทนา ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ เวทนา ก็ไม่เที่ยง, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ สัญญา ก็ไม่เที่ยง, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุแม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ สังขารทั้งหลาย ก็ไม่เที่ยง, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัยอันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของ วิญญาณ ก็ไม่เที่ยง, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัยอันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. ส. 17/22/45. http://etipitaka.com/read/thai/17/22/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. ส. ๑๗/๒๙/๔๕. http://etipitaka.com/read/pali/17/29/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=199 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=199 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง-เหตุปัจจัยของเบญจขันธ์ก็ไม่เที่ยง ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของรูป ก็ไม่เที่ยง, รูป ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! เวทนา ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของเวทนา ก็ไม่เที่ยง, เวทนา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! สัญญา ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสัญญาก็ไม่เที่ยง, สัญญา ที่เกิดจากเหตุปัจจัย อันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของสังขารทั้งหลาย ก็ไม่เที่ยง, สังขาร ที่เกิดจากเหตุปัจจัยอันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ไม่เที่ยง, ถึงแม้เหตุ แม้ปัจจัย เพื่อการบังเกิดขึ้นของวิญญาณ ก็ไม่เที่ยง, วิญญาณ ที่เกิดจากเหตุปัจจัยอันไม่เที่ยงแล้ว จักเป็นของเที่ยงได้อย่างไร.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 64 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเบญจขันธ์ เป็นทุกข์
สัทธรรมลำดับที่ : 198
ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์ เป็นทุกข์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=198
เนื้อความทั้งหมด :
--ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง,
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=รูป+อนิจฺ
สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์,
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา
พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! เวทนา ไม่เที่ยง,
สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์,
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=เวทนา+ทุกฺข
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา ไม่เที่ยง,
สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์,
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง,
สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์,
สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ไม่เที่ยง,
สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์,
สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา,
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=วิญฺญาณ+อนตฺตา
สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า
“นั่น ไม่ใช่ของเรา,
นั่น ไม่ใช่เรา,
นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้
แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/21/42.
http://etipitaka.com/read/thai/17/21/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘/๔๒.
http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=198
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=198
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าเบญจขันธ์ เป็นทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 198 ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์ เป็นทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=198 เนื้อความทั้งหมด : --ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง, http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=รูป+อนิจฺ สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! เวทนา ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=เวทนา+ทุกฺข สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=วิญฺญาณ+อนตฺตา สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/21/42. http://etipitaka.com/read/thai/17/21/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘/๔๒. http://etipitaka.com/read/pali/17/28/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=198 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=198 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ;-ภิกษุ ท. ! รูป ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! เวทนา ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! สัญญา ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริง อย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้นเป็นทุกข์, สิ่งใด เป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่นไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ ไม่เที่ยง, สิ่งใด ไม่เที่ยง สิ่งนั้น เป็นทุกข์, สิ่งใดเป็นทุกข์ สิ่งนั้น เป็นอนัตตา, สิ่งใด เป็นอนัตตา พึงเห็นสิ่งนั้น ด้วยปัญญาอันชอบ ตามที่เป็นจริงอย่างนี้ว่า “นั่น ไม่ใช่ของเรา, นั่น ไม่ใช่เรา, นั่น ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 85 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอธิสิกขาสาม
สัทธรรมลำดับที่ : 975
ชื่อบทธรรม :- อธิสิกขาสาม
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=975
เนื้อความทั้งหมด :-
--อธิสิกขาสาม
--ภิกษุ ท. ! สิกขา ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ?
สามอย่างคือ
อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา.
--ภิกษุ ท. ! อธิสีลสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
เป็นผู้มีศีล
สำรวมด้วยการสำรวมในปาติโมกข์
ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร
มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย
สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #อธิสีลสิกขา.
http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=อธิสีลสิกฺขา
--ภิกษุ ท. ! อธิจิตตสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้
สงัดจากกามทั้งหลาย สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย
เข้าถึงปฐมฌาน ....
ทุติยฌาน ....
ตติยฌาน ....
จตุตถฌาน แล้วแลอยู่.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #อธิจิตตสิกขา.
http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=อธิจิตฺตสิกฺขา
--ภิกษุ ท. ! อธิปัญญาสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ?
-‐ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า
“นี้ทุกข์
นี้เหตุให้เกิดทุกข์
นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
นี้ทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
ดังนี้.
+--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #อธิปัญญาสิกขา.
http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=อธิปญฺญาสิกฺขา
--ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล #สิกขาสามอย่าง.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/224/529.
http://etipitaka.com/read/thai/20/224/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%99
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๓๐๓/๕๒๙.
http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%99
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=975
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=975
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอธิสิกขาสาม สัทธรรมลำดับที่ : 975 ชื่อบทธรรม :- อธิสิกขาสาม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=975 เนื้อความทั้งหมด :- --อธิสิกขาสาม --ภิกษุ ท. ! สิกขา ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา. --ภิกษุ ท. ! อธิสีลสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #อธิสีลสิกขา. http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=อธิสีลสิกฺขา --ภิกษุ ท. ! อธิจิตตสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ สงัดจากกามทั้งหลาย สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาน .... ทุติยฌาน .... ตติยฌาน .... จตุตถฌาน แล้วแลอยู่. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #อธิจิตตสิกขา. http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=อธิจิตฺตสิกฺขา --ภิกษุ ท. ! อธิปัญญาสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ? -‐ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. +--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #อธิปัญญาสิกขา. http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=อธิปญฺญาสิกฺขา --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล #สิกขาสามอย่าง.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. 20/224/529. http://etipitaka.com/read/thai/20/224/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ติก. อํ. ๒๐/๓๐๓/๕๒๙. http://etipitaka.com/read/pali/20/303/?keywords=%E0%B9%95%E0%B9%92%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=975 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=975 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- อธิสิกขาสาม-อธิสิกขาสาม ภิกษุ ท. ! สิกขา ๓ อย่างเหล่านี้ มีอยู่. สามอย่าง อย่างไรเล่า ? สามอย่างคือ อธิสีลสิกขา อธิจิตตสิกขา อธิปัญญาสิกขา. ภิกษุ ท. ! อธิสีลสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยการสำรวมในปาติโมกข์ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า อธิสีลสิกขา. ภิกษุ ท. ! อธิจิตตสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ สงัดจากกามทั้งหลาย สงัดจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึงปฐมฌาน .... ทุติยฌาน .... ตติยฌาน .... จตุตถฌาน แล้วแลอยู่. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า อธิจิตตสิกขา. ภิกษุ ท. ! อธิปัญญาสิกขา เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า อธิปัญญาสิกขา. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล สิกขา ๓ อย่าง.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการดับแห่งตัณหา
สัทธรรมลำดับที่ : 607
ชื่อบทธรรม :-อาการดับแห่งตัณหา
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=607
เนื้อความทั้งหมด :-
--อาการดับแห่งโลก
--ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งโลก เป็นอย่างไรเล่า ?
http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=โลกสฺส+อตฺถงฺคโมติ
--ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ;
การประจวบพร้อม (แห่งตา + รูป + จักขุวิญญาณ)
ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ;
เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ;
เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ;
เพราะความดับด้วยความจางคลายไปโดยไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นแหละ จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงดับไม่เหลือ.
ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการ อย่างนี้.
--ภิกษุ ท. ! นี้คือ #ความดับแห่งโลก.-
http://etipitaka.com/read/pali/18/109/?keywords=โลกสฺส+อตฺถงฺคโมติ
-
(ในกรณีที่เกี่ยวกับอายตนะภายในที่เหลืออีก ๕ อย่าง
ก็มีข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีของตาอย่างข้างบนนี้).-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/90/157.
http://etipitaka.com/read/thai/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%97
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๘/๑๕๗.
http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%97
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=607
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=607
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาอาการดับแห่งตัณหา สัทธรรมลำดับที่ : 607 ชื่อบทธรรม :-อาการดับแห่งตัณหา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=607 เนื้อความทั้งหมด :- --อาการดับแห่งโลก --ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งโลก เป็นอย่างไรเล่า ? http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=โลกสฺส+อตฺถงฺคโมติ --ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งตา + รูป + จักขุวิญญาณ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะความดับด้วยความจางคลายไปโดยไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นแหละ จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงดับไม่เหลือ. ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการ อย่างนี้. --ภิกษุ ท. ! นี้คือ #ความดับแห่งโลก.- http://etipitaka.com/read/pali/18/109/?keywords=โลกสฺส+อตฺถงฺคโมติ - (ในกรณีที่เกี่ยวกับอายตนะภายในที่เหลืออีก ๕ อย่าง ก็มีข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีของตาอย่างข้างบนนี้).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/90/157. http://etipitaka.com/read/thai/18/90/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๐๘/๑๕๗. http://etipitaka.com/read/pali/18/108/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95%E0%B9%97 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=607 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=607 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- นิทเทศ ๑๑ ว่าด้วย ผู้ดับตัณหา--จบ--นิทเทศ ๑๒ ว่าด้วยอาการดับแห่งตัณหา-นิทเทศ ๑๑ ว่าด้วย ผู้ดับตัณหา จบ นิทเทศ ๑๒ ว่าด้วยอาการดับแห่งตัณหา มี ๖๑ เรื่อง) อาการดับแห่งโลก ภิกษุ ท. ! ความดับแห่งโลก เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! เพราะอาศัยตาด้วย รูปด้วย จึงเกิดจักขุวิญญาณขึ้น ; การประจวบพร้อม (แห่งตา + รูป + จักขุวิญญาณ) ทั้ง ๓ อย่างนั้น จึงเกิดมีผัสสะ ; เพราะผัสสะเป็นปัจจัย จึงเกิดมีเวทนา ; เพราะเวทนาเป็นปัจจัย จึงเกิดมีตัณหา ; เพราะความดับด้วยความจางคลายไปโดยไม่เหลือแห่งตัณหา นั้นแหละ จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส และอุปายาส จึงดับไม่เหลือ. ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ด้วยอาการ อย่างนี้. ภิกษุ ท. ! นี้คือความดับแห่งโลก. (ในกรณีที่เกี่ยวกับอายตนะภายในที่เหลืออีก ๕ อย่าง ก็มีข้อความอย่างเดียวกันกับในกรณีของตาอย่างข้างบนนี้).0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 90 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงศึกษาว่าเบญจขันธ์เป็นธรรมมีความ ก่อขึ้น เสื่อม ดับ เป็นธรรมดา
สัทธรรมลำดับที่ : 197
ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นธรรมมีความ ก่อขึ้น เสื่อม ดับ เป็นธรรมดา
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=197
เนื้อความทั้งหมด :
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
คนกล่าวกันว่า ‘สมุทยธรรม, #สมุทยธรรม (มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา)' ดังนี้,. http://etipitaka.com/read/pali/17/242/?keywords=สมุทยธมฺ
ก็ สมุทยธรรม นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”
--ราธะ !
รูป เป็นสมุทยธรรม,
เวทนา เป็นสมุทยธรรม,
สัญญา เป็นสมุทยธรรม,
สังขารทั้งหลาย เป็นสมุทยธรรม, และ
วิญญาณ เป็นสมุทยธรรม
แล.
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
คนกล่าวกันว่า ‘วยธรรม, #วยธรรม (มีความเสื่อมเป็นธรรมดา)’ ดังนี้,
http://etipitaka.com/read/pali/17/241/?keywords=วยธมฺ
ก็ วยธรรม นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”
--ราธะ !
รูป เป็นวยธรรม,
เวทนา เป็นวยธรรม,
สัญญา เป็นวยธรรม,
สังขารทั้งหลาย เป็นวยธรรม, และ
วิญญาณ เป็นวยธรรม
แล.
--“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
คนกล่าวกันว่า ‘นิโรธธรรม, #นิโรธธรรม (มีความดับเป็นธรรมดา)’ ดังนี้,
http://etipitaka.com/read/pali/17/242/?keywords=นิโรธธมฺ
ก็ นิโรธธรรม นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”
--ราธะ !
รูป เป็นนิโรธธรรม,
เวทนา เป็นนิโรธธรรม,
สัญญา เป็นนิโรธธรรม,
สังขารทั้งหลาย เป็นนิโรธธรรม, และ
วิญญาณ เป็น นิโรธธรรม
แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/201-2/387,386,388.
http://etipitaka.com/read/thai/17/201/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%97
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๔๑-๒/๓๘๗,๓๘๖,๓๘๘.
http://etipitaka.com/read/pali/17/241/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%97
ศึกษาเพื่มเติ่ม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=197
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=197
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงศึกษาว่าเบญจขันธ์เป็นธรรมมีความ ก่อขึ้น เสื่อม ดับ เป็นธรรมดา สัทธรรมลำดับที่ : 197 ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์เป็นธรรมมีความ ก่อขึ้น เสื่อม ดับ เป็นธรรมดา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=197 เนื้อความทั้งหมด : --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘สมุทยธรรม, #สมุทยธรรม (มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา)' ดังนี้,. http://etipitaka.com/read/pali/17/242/?keywords=สมุทยธมฺ ก็ สมุทยธรรม นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” --ราธะ ! รูป เป็นสมุทยธรรม, เวทนา เป็นสมุทยธรรม, สัญญา เป็นสมุทยธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นสมุทยธรรม, และ วิญญาณ เป็นสมุทยธรรม แล. --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘วยธรรม, #วยธรรม (มีความเสื่อมเป็นธรรมดา)’ ดังนี้, http://etipitaka.com/read/pali/17/241/?keywords=วยธมฺ ก็ วยธรรม นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” --ราธะ ! รูป เป็นวยธรรม, เวทนา เป็นวยธรรม, สัญญา เป็นวยธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นวยธรรม, และ วิญญาณ เป็นวยธรรม แล. --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘นิโรธธรรม, #นิโรธธรรม (มีความดับเป็นธรรมดา)’ ดังนี้, http://etipitaka.com/read/pali/17/242/?keywords=นิโรธธมฺ ก็ นิโรธธรรม นั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” --ราธะ ! รูป เป็นนิโรธธรรม, เวทนา เป็นนิโรธธรรม, สัญญา เป็นนิโรธธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นนิโรธธรรม, และ วิญญาณ เป็น นิโรธธรรม แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/201-2/387,386,388. http://etipitaka.com/read/thai/17/201/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๔๑-๒/๓๘๗,๓๘๖,๓๘๘. http://etipitaka.com/read/pali/17/241/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%98%E0%B9%97 ศึกษาเพื่มเติ่ม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=197 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=197 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘สมุทยธรรม สมุทยธรรม’ (มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา) ดังนี้, ก็สมุทยธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !”-“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘สมุทยธรรม สมุทยธรรม’ (มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา) ดังนี้, ก็สมุทยธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” ราธะ ! รูป เป็นสมุทยธรรม, เวทนา เป็นสมุทยธรรม, สัญญา เป็นสมุทยธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นสมุทยธรรม, และวิญญาณ เป็นสมุทยธรรม แล. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘วยธรรม วยธรรม (มีความเสื่อมเป็นธรรมดา)’ ดังนี้, ก็วยธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” ราธะ ! รูป เป็นวยธรรม, เวทนา เป็นวยธรรม, สัญญา เป็นวยธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นวยธรรม, และวิญญาณ เป็นวยธรรม แล. “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘นิโรธธรรม, นิโรธธรรม (มีความดับเป็นธรรมดา)’ ดังนี้, ก็นิโรธธรรมนั้น เป็นอย่างไรเล่า ? พระเจ้าข้า !” ราธะ ! รูป เป็นนิโรธธรรม, เวทนา เป็นนิโรธธรรม, สัญญา เป็นนิโรธธรรม, สังขารทั้งหลาย เป็นนิโรธธรรม, และวิญญาณ เป็น นิโรธธรรม แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเบญจขันธ์ไม่เที่ยง
สัทธรรมลำดับที่ : 196
ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์ไม่เที่ยง
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=196
เนื้อความทั้งหมด :-
--เบญจขันธ์ไม่เที่ยง
--ภิกษุ ท. ! รูป เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ;
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอย่างอื่นได้ ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอย่างอื่นได้
แล.-
--ภิกษุทั้งหลาย &ผู้ใดเชื่อมั่นไม่หวั่นไหวซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้
เรากล่าวผู้นี้ว่า "#สัทธานุสารี "
http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=สทฺธานุสารี
ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม ก้าวลงสู่สัปปุริสภูมิ ล่วงภูมิปุถุชน
ไม่ควรเพื่อทำกรรมที่บุคคลทำแล้วพึงเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน หรือปิตติวิสัย
ไม่ควรเพื่อทำกาละ ตราบเท่าที่ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่ง โสดาปัตติผล.
--ภิกษุทั้งหลาย &ธรรมเหล่านี้ย่อมควรเพ่งด้วยปัญญาโดยประมาณอย่างนี้แก่ผู้ใด.
เรากล่าวผู้นี้ว่า "#ธัมมานุสารี "
http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=ธมฺมานุสารี
ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม ก้าวลงสู่สัปปุริสภูมิ ล่วงภูมิปุถุชน
ไม่ควรเพื่อทำกรรมที่บุคคลทำแล้วพึงเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานหรือปิตติวิสัย
ไม่ควรเพื่อทำกาละ ตราบเท่าที่ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่ง โสดาปัตติผล.
--ภิกษุทั้งหลาย &ผู้ใดรู้เห็นธรรมเหล่านี้อย่างนี้.
เรากล่าวผู้นี้ว่า เป็น"#พระโสดาบัน "
http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=โสตาปตฺติผลํ
มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดาเป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า.
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/250/478.
http://etipitaka.com/read/thai/17/250/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97%E0%B9%98
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๑/๔๗๘.
http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97%E0%B9%98
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=196
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=196
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=196
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง..
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาเบญจขันธ์ไม่เที่ยง สัทธรรมลำดับที่ : 196 ชื่อบทธรรม :- เบญจขันธ์ไม่เที่ยง https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=196 เนื้อความทั้งหมด :- --เบญจขันธ์ไม่เที่ยง --ภิกษุ ท. ! รูป เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ; --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอย่างอื่นได้ ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอย่างอื่นได้ แล.- --ภิกษุทั้งหลาย &ผู้ใดเชื่อมั่นไม่หวั่นไหวซึ่งธรรมเหล่านี้อย่างนี้ เรากล่าวผู้นี้ว่า "#สัทธานุสารี " http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=สทฺธานุสารี ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม ก้าวลงสู่สัปปุริสภูมิ ล่วงภูมิปุถุชน ไม่ควรเพื่อทำกรรมที่บุคคลทำแล้วพึงเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉาน หรือปิตติวิสัย ไม่ควรเพื่อทำกาละ ตราบเท่าที่ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่ง โสดาปัตติผล. --ภิกษุทั้งหลาย &ธรรมเหล่านี้ย่อมควรเพ่งด้วยปัญญาโดยประมาณอย่างนี้แก่ผู้ใด. เรากล่าวผู้นี้ว่า "#ธัมมานุสารี " http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=ธมฺมานุสารี ก้าวลงสู่สัมมัตตนิยาม ก้าวลงสู่สัปปุริสภูมิ ล่วงภูมิปุถุชน ไม่ควรเพื่อทำกรรมที่บุคคลทำแล้วพึงเข้าถึงนรก กำเนิดสัตว์ดิรัจฉานหรือปิตติวิสัย ไม่ควรเพื่อทำกาละ ตราบเท่าที่ยังไม่ทำให้แจ้งซึ่ง โสดาปัตติผล. --ภิกษุทั้งหลาย &ผู้ใดรู้เห็นธรรมเหล่านี้อย่างนี้. เรากล่าวผู้นี้ว่า เป็น"#พระโสดาบัน " http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=โสตาปตฺติผลํ มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดาเป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/250/478. http://etipitaka.com/read/thai/17/250/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๘๑/๔๗๘. http://etipitaka.com/read/pali/17/281/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%97%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=196 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=196 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=196 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เบญจขันธ์ไม่เที่ยง-เบญจขันธ์ไม่เที่ยง ภิกษุ ท. ! รูป เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ; ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ; ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็น โดยอย่างอื่นได้ ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอย่างอื่นได้ ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นของไม่เที่ยง มีความแปรปรวน มีความเป็นโดยอย่างอื่นได้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าสิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ
สัทธรรมลำดับที่ : 974
ชื่อบทธรรม :- สิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=974
เนื้อความทั้งหมด :-
--สิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ
(เมื่อพระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่อุทยานอัมพลัฏฐิกา
ในราชอาคาร ทรงกระทำ ธรรมมีกถาเป็นอันมากแก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้ว่า :-
)
ศีล เป็นอย่างนี้,
สมาธิ เป็นอย่างนี้,
ปัญญา เป็นอย่างนี้.
http://etipitaka.com/read/pali/10/96/?keywords=สีล+สมาธิ+ปญฺญา+จิต
สมาธิ ที่ ศีล อบรมแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่;
ปัญญา ที่ สมาธิ อบรมแล้ว
ย่อมมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่;
สมาธิ(จิต) ที่ ปัญญา อบรมแล้ว
ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย โดยชอบเทียว,
คือพ้นจากกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหา. ที. 10/72/76.
http://etipitaka.com/read/thai/10/72/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหา. ที. ๑๐/๙๖/๗๖.
http://etipitaka.com/read/pali/10/96/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=974
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=974
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าสิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ สัทธรรมลำดับที่ : 974 ชื่อบทธรรม :- สิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=974 เนื้อความทั้งหมด :- --สิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ (เมื่อพระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่อุทยานอัมพลัฏฐิกา ในราชอาคาร ทรงกระทำ ธรรมมีกถาเป็นอันมากแก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้ว่า :- ) ศีล เป็นอย่างนี้, สมาธิ เป็นอย่างนี้, ปัญญา เป็นอย่างนี้. http://etipitaka.com/read/pali/10/96/?keywords=สีล+สมาธิ+ปญฺญา+จิต สมาธิ ที่ ศีล อบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่; ปัญญา ที่ สมาธิ อบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่; สมาธิ(จิต) ที่ ปัญญา อบรมแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย โดยชอบเทียว, คือพ้นจากกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหา. ที. 10/72/76. http://etipitaka.com/read/thai/10/72/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหา. ที. ๑๐/๙๖/๗๖. http://etipitaka.com/read/pali/10/96/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=974 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=974 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- สิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ-สิกขาสาม เป็นสิ่งที่ส่งเสริมกันตามลำดับ (เมื่อพระผู้มีพระภาค ประทับอยู่ที่อุทยานอัมพลัฏฐิกา ในราชอาคาร ทรงกระทำ ธรรมมีกถาเป็นอันมากแก่ภิกษุทั้งหลาย ดังนี้ว่า :-) ศีล เป็นอย่างนี้, สมาธิ เป็นอย่างนี้, ปัญญา เป็นอย่างนี้. สมาธิ ที่ศีลอบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่; ปัญญา ที่สมาธิอบรมแล้ว ย่อมมีผลใหญ่มีอานิสงส์ใหญ่; จิต ที่ปัญญาอบรมแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากอาสวะทั้งหลาย โดยชอบเทียว, คือพ้นจากกามาสวะ ภวาสวะ อวิชชาสวะ.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 100 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงศึกษาฐานะระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์
สัทธรรมลำดับที่ : 606
ชื่อบทธรรม :- ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=606
เนื้อความทั้งหมด :-
--ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์
--ภิกษุ ท. ! บุคคลเปรียบด้วยบุคคลตกน้ำเจ็ดจำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.
เจ็ดจำพวกเหล่าไหนเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ :-
(๑) บุคคลบางคน จมน้ำคราวเดียวแล้วก็จมเลย ;
(๒) บุคคลบางคน ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย ;
(๓) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ยืนอยู่ ;
(๔) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว เหลียวดูรอบ ๆ อยู่ ;
(๕) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ว่ายเข้าหาฝั่ง ;
(๖) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว ;
(๗) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่.
--ภิกษุ ท. ! (๑) บุคคล จมน้ำคราวเดียวแล้วก็จมเลย เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ประกอบด้วยอกุศลธรรมฝ่ายเดียว โดยส่วนเดียว.
อย่างนี้แล เรียกว่า จมคราวเดียว แล้วจมเลย.
--ภิกษุ ท. ! (๒) บุคคล ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ
มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย
แต่ว่า สัทธา เป็นต้น ของเขา ไม่ตั้งอยู่นาน ไม่เจริญ เสื่อมสิ้นไป.
อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย.
--ภิกษุ ท. ! (๓) บุคคล ผุดขึ้นแล้วยืนอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ
มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรม ทั้งหลาย
และ สัทธา เป็นต้น ของเขาไม่เสื่อม ไม่เจริญ แต่ทรงตัวอยู่.
อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้วลอยยืนอยู่.
--ภิกษุ ท. ! (๔) บุคคล ผุดขึ้นแล้วเหลียวดูรอบ ๆ อยู่ เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ
มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย.
บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม
เป็น #โสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา
http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=โสตาปนฺโน
เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน มีการตรัสรู้พร้อมในเบื้องหน้า.
อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เหลียวดูรอบ ๆ อยู่.
--ภิกษุ ท. ! (๕) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้าหาฝั่ง เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ
มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย.
บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม และเพราะความเบาบางแห่งราคะโทสะโมหะ
เป็น #สกทาคามี มาสู่โลกนี้เพียงครั้งเดียว แล้วทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.
อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้าหาฝั่ง.
http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=สกทาคามี
--ภิกษุ ท. ! (๖) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ
มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย.
บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ทั้งห้า
เป็น #โอปปาติกะ(อนาคามี) มีการปรินิพพานในภพนั้น
ไม่เวียนกลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา.
อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว.
http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=โอปปาติโก
--ภิกษุ ท. ! (๗) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว ถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ?
+--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ
มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย
มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย.
บุคคลนั้น ได้ กระทำให้แจ้งซึ่ง #เจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ
http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=เจโตวิมุตฺตึ+ปญฺญาวิมุตฺตึ
อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย
ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วอยู่.
อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้วถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่.
--ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล #บุคคลเปรียบด้วยบุคคลตกน้ำเจ็ดจำพวก
ซึ่งมีอยู่หาได้อยู่ ในโลก.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/11/15.
http://etipitaka.com/read/thai/23/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๐/๑๕.
http://etipitaka.com/read/pali/23/10/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=606
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=606
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42
ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3อริยสาวกพึงศึกษาฐานะระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 606 ชื่อบทธรรม :- ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=606 เนื้อความทั้งหมด :- --ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์ --ภิกษุ ท. ! บุคคลเปรียบด้วยบุคคลตกน้ำเจ็ดจำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. เจ็ดจำพวกเหล่าไหนเล่า ? --ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ :- (๑) บุคคลบางคน จมน้ำคราวเดียวแล้วก็จมเลย ; (๒) บุคคลบางคน ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย ; (๓) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ยืนอยู่ ; (๔) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว เหลียวดูรอบ ๆ อยู่ ; (๕) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ว่ายเข้าหาฝั่ง ; (๖) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว ; (๗) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่. --ภิกษุ ท. ! (๑) บุคคล จมน้ำคราวเดียวแล้วก็จมเลย เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ประกอบด้วยอกุศลธรรมฝ่ายเดียว โดยส่วนเดียว. อย่างนี้แล เรียกว่า จมคราวเดียว แล้วจมเลย. --ภิกษุ ท. ! (๒) บุคคล ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย แต่ว่า สัทธา เป็นต้น ของเขา ไม่ตั้งอยู่นาน ไม่เจริญ เสื่อมสิ้นไป. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย. --ภิกษุ ท. ! (๓) บุคคล ผุดขึ้นแล้วยืนอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรม ทั้งหลาย และ สัทธา เป็นต้น ของเขาไม่เสื่อม ไม่เจริญ แต่ทรงตัวอยู่. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้วลอยยืนอยู่. --ภิกษุ ท. ! (๔) บุคคล ผุดขึ้นแล้วเหลียวดูรอบ ๆ อยู่ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม เป็น #โสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=โสตาปนฺโน เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน มีการตรัสรู้พร้อมในเบื้องหน้า. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เหลียวดูรอบ ๆ อยู่. --ภิกษุ ท. ! (๕) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้าหาฝั่ง เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม และเพราะความเบาบางแห่งราคะโทสะโมหะ เป็น #สกทาคามี มาสู่โลกนี้เพียงครั้งเดียว แล้วทำที่สุดแห่งทุกข์ได้. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้าหาฝั่ง. http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=สกทาคามี --ภิกษุ ท. ! (๖) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดี ในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ทั้งห้า เป็น #โอปปาติกะ(อนาคามี) มีการปรินิพพานในภพนั้น ไม่เวียนกลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว. http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=โอปปาติโก --ภิกษุ ท. ! (๗) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว ถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น ได้ กระทำให้แจ้งซึ่ง #เจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ http://etipitaka.com/read/pali/23/12/?keywords=เจโตวิมุตฺตึ+ปญฺญาวิมุตฺตึ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วอยู่. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้วถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล #บุคคลเปรียบด้วยบุคคลตกน้ำเจ็ดจำพวก ซึ่งมีอยู่หาได้อยู่ ในโลก.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. 23/11/15. http://etipitaka.com/read/thai/23/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สตฺตก. อํ. ๒๓/๑๐/๑๕. http://etipitaka.com/read/pali/23/10/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%95 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=606 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42&id=606 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=42 ลำดับสาธยายธรรม : 42 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_42.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์-(ข้อนี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อบุรุษนั้นกำลังปรุงแต่งเหตุแห่งความทุกข์อยู่ วิราคะก็เกิดขึ้นได้ เมื่อเขาเพ่งดูเหตุแห่งความทุกข์ยิ่ง ๆ ขึ้นไป วิราคะก็ยิ่งเกิดขึ้น จนกระทั่งว่าเขาสามารถละราคะ ในหญิงคือทุกข์นั้นเสียได้. ผู้ที่ยังไม่มีความทุกข์ ก็อย่าไปปรุงแต่งเหตุแห่งความทุกข์ขึ้นมาเลย มีความสุขโดยชอบธรรมอยู่แล้วเพียงใด ก็ไม่มัวเมาในความสุขนั้น ก็จะชื่อว่า ไม่เอาความทุกข์มาทับถมตนซึ่งไม่มีความทุกข์อยู่แล้ว และมีวิราคะในความทุกข์ได้ นี้ย่อมเป็นสิ่งที่กระทำได้). ระดับต่าง ๆ แห่งบุคคลผู้ถอนตัวขึ้นจากทุกข์ ภิกษุ ท. ! บุคคลเปรียบด้วยบุคคลตกน้ำเจ็ดจำพวก เหล่านี้ มีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก. เจ็ดจำพวกเหล่าไหนเล่า ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ : (๑) บุคคลบางคน จมน้ำคราวเดียวแล้วก็จมเลย ; (๒) บุคคลบางคน ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย ; (๓) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ยืนอยู่ ; (๔) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้วเหลียวดูรอบ ๆ อยู่ ; (๕) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ว่ายเข้าหาฝั่ง ; (๖) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้วเดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว ; (๗) บุคคลบางคน ผุดขึ้นแล้ว ถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่. ภิกษุ ท. ! (๑) บุคคล จมน้ำคราวเดียวแล้วก็จมเลย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ประกอบด้วยอกุศลธรรมฝ่ายเดียว โดยส่วนเดียว. อย่างนี้แล เรียกว่า จมคราวเดียว แล้วจมเลย. ภิกษุ ท. ! (๒) บุคคล ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. แต่ว่าสัทธาเป็นต้นของเขา ไม่ตั้งอยู่นาน ไม่เจริญ เสื่อมสิ้นไป. อย่างนี้แลเรียกว่า ผุดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วจึงจมเลย. ภิกษุ ท. ! (๓) บุคคล ผุดขึ้นแล้วยืนอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรม ทั้งหลาย. และ สัทธาเป็นต้นของเขา ไม่เสื่อม ไม่เจริญ แต่ทรงตัวอยู่. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้วลอยยืนอยู่. ภิกษุ ท. ! (๔) บุคคล ผุดขึ้นแล้วเหลียวดูรอบ ๆ อยู่ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม เป็น โสดาบัน มีความไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยงแท้ต่อพระนิพพาน มีการตรัสรู้พร้อมในเบื้องหน้า. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เหลียวดูรอบ ๆ อยู่. ภิกษุ ท. ! (๕) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้าหาฝั่ง เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งสังโยชน์สาม และเพราะความเบาบางแห่งราคะโทสะโมหะ เป็น สกทาคามี มาสู่โลกนี้เพียงครั้งเดียว แล้วทำที่สุดแห่งทุกข์ได้. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้าหาฝั่ง. ภิกษุ ท. ! (๖) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น เพราะสิ้นไปแห่งโอรัมภาคิยสังโยชน์ทั้งห้า เป็น โอปปาติกะ มีการปรินิพ- พานในภพนั้น ไม่เวียนกลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้ว เดินเข้ามาถึงที่ตื้นแล้ว. ภิกษุ ท. ! (๗) บุคคล ผุดขึ้นแล้ว ถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! บุคคลบางคนในกรณีนี้ ผุดขึ้น คือ มีสัทธาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย มีหิริดี-มีโอตตัปปะดี-มีวิริยะดี-มีปัญญาดีในกุศลธรรมทั้งหลาย. บุคคลนั้น ได้ กระทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุตติปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะความสิ้นไปแห่งอาสวะทั้งหลาย ด้วยปัญญาอันยิ่งเอง ในทิฏฐธรรมนี้ เข้าถึงแล้วอยู่. อย่างนี้แล เรียกว่า ผุดขึ้นแล้วถึงฝั่งข้ามขึ้นบกแล้ว เป็นพราหมณ์ยืนอยู่. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล บุคคลเปรียบด้วยบุคคลตกน้ำเจ็ดจำพวก ซึ่งมีอยู่ หาได้อยู่ ในโลก.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษารู้จักทุกข์ได้เพราะการแปรเปลี่ยน-ของขันธ์ห้า(เบญจขันธ์)
สัทธรรมลำดับที่ : 195
ชื่อบทธรรม : -เบญจขันธ์เป็นธรรมฝ่ายที่แตกสลายได้
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=195
เนื้อความทั้งหมด :-
--เบญจขันธ์เป็นธรรมฝ่ายที่แตกสลายได้
--ภิกษุ ท. ! เราจักแสดง สิ่งซึ่งแตกสลายได้ และ สิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้,
http://etipitaka.com/read/pali/17/40/?keywords=รูป+เวทนา+สญฺญา+สงฺขาร+วิญฺญาณ
พวกเธอทั้งหลายจงฟังข้อนั้น.
--ภิกษุ ท. ! สิ่งซึ่งแตกสลายได้ เป็นอย่างไร ?
และสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ?
--ภิกษุ ท. ! รูป เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้,
ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือเป็นที่สงบระงับ
และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของรูป นั้น,
นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ;
--ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้,
ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ
และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของเวทนานั้น,
นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ;
--ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้,
ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ
และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของสัญญานั้น,
นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ;
--ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้,
ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ
และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของสังขารทั้งหลายเหล่านั้น,
นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ;
--ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้,
ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ
และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของวิญญาณนั้น,
นั่นคือ สิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ;
http://etipitaka.com/read/pali/17/40/?keywords=อตฺถงฺคโม
ดังนี้ แล.-
#ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทนสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/31/70.
http://etipitaka.com/read/thai/17/31/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%90
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๔๐/๗๐.
http://etipitaka.com/read/pali/17/40/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%90
ศึกษาเพิ่มเติ่ม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=195
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=195
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง..
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษารู้จักทุกข์ได้เพราะการแปรเปลี่ยน-ของขันธ์ห้า(เบญจขันธ์) สัทธรรมลำดับที่ : 195 ชื่อบทธรรม : -เบญจขันธ์เป็นธรรมฝ่ายที่แตกสลายได้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=195 เนื้อความทั้งหมด :- --เบญจขันธ์เป็นธรรมฝ่ายที่แตกสลายได้ --ภิกษุ ท. ! เราจักแสดง สิ่งซึ่งแตกสลายได้ และ สิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้, http://etipitaka.com/read/pali/17/40/?keywords=รูป+เวทนา+สญฺญา+สงฺขาร+วิญฺญาณ พวกเธอทั้งหลายจงฟังข้อนั้น. --ภิกษุ ท. ! สิ่งซึ่งแตกสลายได้ เป็นอย่างไร ? และสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ? --ภิกษุ ท. ! รูป เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือเป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของรูป นั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; --ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของเวทนานั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; --ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของสัญญานั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; --ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของสังขารทั้งหลายเหล่านั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; --ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของวิญญาณนั้น, นั่นคือ สิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; http://etipitaka.com/read/pali/17/40/?keywords=อตฺถงฺคโม ดังนี้ แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทนสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/31/70. http://etipitaka.com/read/thai/17/31/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๔๐/๗๐. http://etipitaka.com/read/pali/17/40/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติ่ม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=195 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=195 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- เบญจขันธ์เป็นธรรมฝ่ายที่แตกสลายได้-เบญจขันธ์เป็นธรรมฝ่ายที่แตกสลายได้ ภิกษุ ท. ! เราจักแสดง สิ่งซึ่งแตกสลายได้ และ สิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้, พวกเธอทั้งหลายจงฟังข้อนั้น. ภิกษุ ท. ! สิ่งซึ่งแตกสลายได้ เป็นอย่างไร ? และสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! รูป เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือเป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของรูป นั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; ภิกษุ ท. ! เวทนา เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของเวทนานั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; ภิกษุ ท. ! สัญญา เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของสัญญานั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; ภิกษุ ท. ! สังขารทั้งหลาย เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของสังขารทั้งหลายเหล่านั้น, นั่นคือสิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; ภิกษุ ท. ! วิญญาณ เป็นสิ่งซึ่งแตกสลายได้, ส่วนธรรมเป็นที่ดับไม่เหลือ เป็นที่สงบระงับ และเป็นที่เข้าไปตั้งอยู่ไม่ได้ ของวิญญาณนั้น, นั่นคือ สิ่งซึ่งแตกสลายไม่ได้ ; ดังนี้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 93 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงศึกษาลักษณะแห่งสิกขาสามอันได้แก่สีลขันธ์ สมาธิขันธ์และปัญญาขันธ์
สัทธรรมลำดับที่ : 973
ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973
เนื้อความทั้งหมด :-
--ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด
๑. สีลขันธ์ โดยละเอียด
--“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสีลขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า
http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=อริโย+สีลกฺขนฺโธ
ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้
ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?”
--มาณพ !
ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเอง
สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก
เป็นสารถีผึกคนควรฝึกไม่มีใครยิ่งไปกว่า
เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้ว จำแนกธรรมออกสอนสัตว์.
ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้ กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์
พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว
สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม.
ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด,
ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะและพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง.
+--คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือผู้เกิดในตระกูลใดตระกูลหนึ่งในภายหลังก็ดี
ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดศรัทธาในตถาคต.
เขาผู้ประกอบด้วยศรัทธรย่อมพิจารณาเห็น ว่า
“ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี, บรรพชาเป็นโอกาส (คือที่โปร่งโล่ง) อันยิ่ง;
การที่คนอยู่ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียว
เหมือนสังข์ที่เขาขัดแล้วนั้น ไม่ทำได้โดยง่าย.
ถ้ากระไรเราจะปลงผมและหนวด ครองผ้ากาสายะ
ออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด”,
ดังนี้.
+--โดยสมัยอื่นต่อมา เขาละกองสมบัติน้อยใหญ่
และวงศ์ญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด
ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว.
+--กุลบุตรนั้น ครั้นบวชแล้วอย่างนี้
เป็นผู้สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์อยู่
ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย
ประกอบด้วย กายกรรม วจีกรรมอันเป็นกุศล มีอาชีวะบริสุทธิ์ &ถึงพร้อมด้วยศีล
....
--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า ?
--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้
เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว
มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่
....ฯลฯ ....
(ข้อความต่อจากที่กล่าวนี้ ตั้งแต่ คำว่า
เป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน
.... ไปจนถึงคำว่า
.... (จบอริยสีลขันธ์)
....
).
๒. สมาธิขันธ์ โดยละเอียด
--“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสมาธิขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า
http://etipitaka.com/read/pali/9/255/?keywords=อริโย+สมาธิกฺขนฺโธ
ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนให้สมาทาน
ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?”
(บุรพภาคแห่งการเจริญสมาธิ)
--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ?
+--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตาแล้ว
ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวบถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว)
ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วนๆ ;
อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัส
จะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด,
เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษาอินทรีย์คือตา
ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา.
+--(ในกรณีแห่ง
อินทรีย์คือหู
อินทรีย์คือจมูก
อินทรีย์คือลิ้น
อินทรีย์คือกาย และ
อินทรีย์คือ ใจ
ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน).
....
--มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้แล.
--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ?
+--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบ
ในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง,
การแลดู การเหลียวดู,
การคู้ การเหยียด,
การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร,
การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม,
การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ,
เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการไป การหยุด,
การนั่ง การนอน , การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง.
....
+--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยอาการอย่างนี้ แล.
--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ เป็นอย่างไรเล่า ?
+--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้สันโดษ (ยินดีตามที่มีอยู่)
ด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย สันโดษด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง
ภิกษุนั้น จะหลีกไปโดยทิศใดๆ ย่อม ถือเอาบาตรและจีวรนั้นหลักไปได้ โดยทิศนั้นๆ.
+--มาณพ ! เปรียบเสมือนนกมีปีก จะบินไปโดยทิศใดๆ มีปีกอย่างเดียวเป็นภาระบินไป ฉันใด; ภิกษุก็ฉันนั้น
: เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง
ถือเอาแล้วหลีกไปโดยทิศใดๆ ได้.
....
+--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ(สันตุฏฐิ)ด้วยอาการอย่างนี้แล.
(การเจริญสมาธิ)
--ภิกษุนั้น
ประกอบด้วยอริยสีสขันธ์ (ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น) นี้ด้วย
ประกอบด้วยอริยอินทรีย์นี้ด้วย
ประกอบด้วยอริยสติสัมปชัญญะนี้ด้วย
ประกอบด้วยอริยสันตุฏฐินี้ด้วย แล้ว,
เธอเสพเสนาสนะอันสงัด คือ
ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง),
ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว
เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า
....ฯลฯ....
(ข้อความตอนต่อจากนี้ ดูได้ที่ภาคผนวก ตั้งแต่คำว่า ละอภิชฌาโลภะแล้ว
มีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ .... ไปถึงคำว่า ....
(จบอริยสมาธิขันธ์)
...
) .
๓. ปัญญาขันธ์ โดยละเอียด
--“ท่านอานนท์ผู้เจริญ! #อริยปัญญาขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า
http://etipitaka.com/read/pali/9/263/?keywords=อริโย+ปญฺญากฺขนฺโธ
ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ให้สมาทาน
ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?”
--ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว
เธอชักนำจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ.
เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบอยู่ด้วยมหาภูตทั้งสี่
มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด
ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา,
แต่วิญญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น;
(เธอรู้เห็นอย่างชัดเจน) เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว
แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง,
ในแก้วนั้นมีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง,
บุรุษผู้มีตาดี วางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้
เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว
สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง.
ในแก้วนี้มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, ฉันนั้นเหมือนกัน.
แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง.
....ฯลฯ....
(ข้อความตอนต่อจากนี้ไป ตั้งแต่คำว่า
ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส
เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว
เธอชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ.
เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้
.... ไปจนถึงคำว่า
.... (จบอริยปัญญาขันธ์)
).-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/284 - 304/318 - 337.
http://etipitaka.com/read/thai/9/284/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๒๕๒ - ๒๗๒/๓๑๘ - ๓๓๗.
http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=973
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83
ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3อริยสาวกพึงศึกษาลักษณะแห่งสิกขาสามอันได้แก่สีลขันธ์ สมาธิขันธ์และปัญญาขันธ์ สัทธรรมลำดับที่ : 973 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด ๑. สีลขันธ์ โดยละเอียด --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสีลขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=อริโย+สีลกฺขนฺโธ ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” --มาณพ ! ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเอง สมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีผึกคนควรฝึกไม่มีใครยิ่งไปกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้ว จำแนกธรรมออกสอนสัตว์. ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้ กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม. ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด, ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะและพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง. +--คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือผู้เกิดในตระกูลใดตระกูลหนึ่งในภายหลังก็ดี ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดศรัทธาในตถาคต. เขาผู้ประกอบด้วยศรัทธรย่อมพิจารณาเห็น ว่า “ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี, บรรพชาเป็นโอกาส (คือที่โปร่งโล่ง) อันยิ่ง; การที่คนอยู่ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียว เหมือนสังข์ที่เขาขัดแล้วนั้น ไม่ทำได้โดยง่าย. ถ้ากระไรเราจะปลงผมและหนวด ครองผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด”, ดังนี้. +--โดยสมัยอื่นต่อมา เขาละกองสมบัติน้อยใหญ่ และวงศ์ญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว. +--กุลบุตรนั้น ครั้นบวชแล้วอย่างนี้ เป็นผู้สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์อยู่ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วย กายกรรม วจีกรรมอันเป็นกุศล มีอาชีวะบริสุทธิ์ &ถึงพร้อมด้วยศีล .... --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า ? --มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่ ....ฯลฯ .... (ข้อความต่อจากที่กล่าวนี้ ตั้งแต่ คำว่า เป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน .... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยสีลขันธ์) .... ). ๒. สมาธิขันธ์ โดยละเอียด --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! #อริยสมาธิขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า http://etipitaka.com/read/pali/9/255/?keywords=อริโย+สมาธิกฺขนฺโธ ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” (บุรพภาคแห่งการเจริญสมาธิ) --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวบถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว) ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วนๆ ; อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด, เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษาอินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา. +--(ในกรณีแห่ง อินทรีย์คือหู อินทรีย์คือจมูก อินทรีย์คือลิ้น อินทรีย์คือกาย และ อินทรีย์คือ ใจ ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน). .... --มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้แล. --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ? +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบ ในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง, การแลดู การเหลียวดู, การคู้ การเหยียด, การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร, การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม, การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ, เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการไป การหยุด, การนั่ง การนอน , การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง. .... +--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยอาการอย่างนี้ แล. --มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ เป็นอย่างไรเล่า ? +--มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้สันโดษ (ยินดีตามที่มีอยู่) ด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย สันโดษด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ภิกษุนั้น จะหลีกไปโดยทิศใดๆ ย่อม ถือเอาบาตรและจีวรนั้นหลักไปได้ โดยทิศนั้นๆ. +--มาณพ ! เปรียบเสมือนนกมีปีก จะบินไปโดยทิศใดๆ มีปีกอย่างเดียวเป็นภาระบินไป ฉันใด; ภิกษุก็ฉันนั้น : เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ถือเอาแล้วหลีกไปโดยทิศใดๆ ได้. .... +--มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ(สันตุฏฐิ)ด้วยอาการอย่างนี้แล. (การเจริญสมาธิ) --ภิกษุนั้น ประกอบด้วยอริยสีสขันธ์ (ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น) นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยอินทรีย์นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสติสัมปชัญญะนี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสันตุฏฐินี้ด้วย แล้ว, เธอเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง), ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ ดูได้ที่ภาคผนวก ตั้งแต่คำว่า ละอภิชฌาโลภะแล้ว มีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ .... ไปถึงคำว่า .... (จบอริยสมาธิขันธ์) ... ) . ๓. ปัญญาขันธ์ โดยละเอียด --“ท่านอานนท์ผู้เจริญ! #อริยปัญญาขันธ์ นั้น เป็นอย่างไรเล่า http://etipitaka.com/read/pali/9/263/?keywords=อริโย+ปญฺญากฺขนฺโธ ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” --ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ. เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบอยู่ด้วยมหาภูตทั้งสี่ มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา, แต่วิญญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น; (เธอรู้เห็นอย่างชัดเจน) เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง, ในแก้วนั้นมีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, บุรุษผู้มีตาดี วางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้ เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง. ในแก้วนี้มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง. ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ไป ตั้งแต่คำว่า ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ. เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้ .... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยปัญญาขันธ์) ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/284 - 304/318 - 337. http://etipitaka.com/read/thai/9/284/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๒๕๒ - ๒๗๒/๓๑๘ - ๓๓๗. http://etipitaka.com/read/pali/9/252/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%91%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=973 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83&id=973 https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=83 ลำดับสาธยายธรรม : 83 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_83.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด-(ข้อความข้างบนนี้ เป็นคำของธัมมทินนาเถรี กล่าวตอบแก่วิสาขอุบาสก ครั้นอุบาสกนำข้อความนี้ไปกราบทูลพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า “วิสาขะ ! ธัมมทินนาภิกษุณีเป็นบัณฑิต มีปัญญามาก; ถ้าเธอถามข้อความนั้นกะเรา เราก็จะพยากรณ์กะเธอเช่นเดียวกับที่ธัมมทินนาภิกษุณีพยากรณ์แล้วแก่เธอ เธอจงทรงจำเนื้อความนั้นไว้.” ดังนั้นเป็นอันว่า ข้อความของธรรมทินนาเถรีมีค่าเท่ากับพระพุทธภาษิต จึงนำมาใส่ไว้ในหนังสือนี้ ในลักษณะเช่นนี้). ลักษณะแห่งสิกขาสามโดยละเอียด ๑. สีลขันธ์ โดยละเอียด “ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! อริยสีลขันธ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” มาณพ ! ตถาคตเกิดขึ้นในโลกนี้ เป็นพระอรหันต์ ตรัสรู้ชอบเองสมบูรณ์ด้วยวิชชาและจรณะ ดำเนินไปดี รู้แจ้งโลก เป็นสารถีผึกคนควรฝึกไม่มีใครยิ่งไปกว่า เป็นครูของเทวดาและมนุษย์ เป็นผู้เบิกบานแล้ว จำแนกธรรมออกสอนสัตว์. ตถาคตนั้นทำให้แจ้งซึ่งโลกนี้ กับทั้งเทวดา มาร พรหม หมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาพร้อมทั้งมนุษย์ ด้วยปัญญาอันยิ่งเองแล้ว สอนผู้อื่นให้รู้แจ้งตาม. ตถาคตนั้น แสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น ท่ามกลาง ที่สุด, ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถะและพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง. คหบดีหรือบุตรคหบดี หรือผู้เกิดในตระกูลใดตระกูลหนึ่งในภายหลังก็ดี ได้ฟังธรรมนั้นแล้ว เกิดศรัทธาในตถาคต. เขาผู้ประกอบด้วยศรัทธรย่อมพิจารณาเห็น ว่า “ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี, บรรพชาเป็นโอกาส (คือที่โปร่งโล่ง) อันยิ่ง; การที่คนอยู่ครองเรือน จะประพฤติพรหมจรรย์ให้บริสุทธิ์บริบูรณ์โดยส่วนเดียวเหมือนสังข์ที่เขาขัดแล้วนั้น ไม่ทำได้โดยง่าย. ถ้ากระไรเราจะปลงผมและหนวด ครองผ้ากาสายะ ออกจากเรือนบวชเป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนเถิด”, ดังนี้. โดยสมัยอื่นต่อมา เขาละกองสมบัติน้อยใหญ่ และวงศ์ญาติน้อยใหญ่ปลงผมและหนวด ออกจากเรือนบวช เป็นผู้ไม่เกี่ยวข้องด้วยเรือนแล้ว. กุลบุตรนั้น ครั้นบวชแล้วอย่างนี้ เป็นผู้สำรวมแล้วด้วยการสำรวมในปาติโมกข์อยู่ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้ง หลายแม้มีประมาณน้อย สมาทานศึกษาอยู่ในสิกขาบททั้งหลาย ประกอบด้วยกายกรรมวจีกรรมอันเป็นกุศล มีอาชีวะบริสุทธิ์ ถึงพร้อมด้วยศีล .... มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ถึงพร้อมด้วยศีล เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ละปาณาติบาต เว้นขาดจากปาณาติบาต วางท่อนไม้และศัสตราเสียแล้ว มีความละอาย ถึงความเอ็นดูกรุณา หวังประโยชน์เกื้อกูลในบรรดาสัตว์ทั้งหลายอยู่ ....ฯลฯ .... (ข้อความต่อไปนี้ ดูได้ที่ภาคผนวกแห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หน้า ๑๕๔๑ ตั้งแต่ คำว่า เป็นผู้ละอทินนาทาน เว้นขาดจากอทินนาทาน ... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยสีลขันธ์) .... ที่หน้า ๑๕๕๑). ๒. สมาธิขันธ์ โดยละเอียด “ท่านอานนท์ผู้เจริญ ! อริยสมาธิขันธ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” (บุรพภาคแห่งการเจริญสมาธิ) มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้วในอินทรีย์ทั้งหลาย เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เห็นรูปด้วยตาแล้ว ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการรวบถือเอาทั้งหมด (รวมเป็นภาพเดียว) ไม่เป็นผู้ถือเอาในลักษณะที่เป็นการถือเอาโดยแยกเป็นส่วนๆ ; อกุศลธรรมอันลามกคืออภิชฌาและโทมนัส จะพึงไหลไปตามบุคคลผู้ไม่สำรวมอยู่ซึ่งอินทรีย์อันเป็นต้นเหตุคือตาใด, เธอย่อมปฏิบัติเพื่อสำรวมซึ่งอินทรีย์นั้น ย่อมรักษาอินทรีย์คือตา ย่อมถึงการสำรวมในอินทรีย์คือตา. (ในกรณีแห่งอินทรีย์คือหู อินทรีย์คือจมูก อินทรีย์คือลิ้น อินทรีย์คือกาย และอินทรีย์คือ ใจ ก็มีข้อความที่ได้ตรัสไว้ทำนองเดียวกัน). .... มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้มีทวารอันคุ้มครองแล้ว ในอินทรีย์ทั้งหลาย ด้วยอาการอย่างนี้แล. มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการก้าวไปข้างหน้า การถอยกลับไปข้างหลัง, การแลดู การเหลียวดู, การคู้ การเหยียด, การทรงสังฆาฏิ บาตร จีวร, การฉัน การดื่ม การเคี้ยว การลิ้ม, การถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะ, เป็นผู้กระทำความรู้ตัวรอบคอบในการไป การหยุด, การนั่ง การนอน , การหลับ การตื่น, การพูด การนิ่ง. .... มาณพ ! ภิกษุเป็นผู้ประกอบด้วยสติสัมปชัญญะ ด้วยอาการอย่างนี้ แล. มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ เป็นอย่างไรเล่า ? มาณพ ! ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเป็นผู้สันโดษ (ยินดีตามที่มีอยู่) ด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย สันโดษด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ภิกษุนั้น จะหลีกไปโดยทิศใดๆ ย่อม ถือเอาบาตรและจีวรนั้นหลักไปได้ โดยทิศนั้นๆ. มาณพ ! เปรียบเสมือนนกมีปีก จะบินไปโดยทิศใดๆ มีปีกอย่างเดียวเป็นภาระบินไป ฉันใด; ภิกษุก็ฉันนั้น : เป็นผู้สันโดษด้วยจีวรเป็นเครื่องบริหารกาย ด้วยบิณฑบาตเป็นเครื่องบริหารท้อง ถือเอาแล้วหลีกไปโดยทิศใดๆ ได้. .... มาณพ ! ภิกษุ เป็นผู้สันโดษ ด้วยอาการอย่างนี้แล. (การเจริญสมาธิ) ภิกษุนั้น ประกอบด้วยอริยสีสขันธ์ (ดังที่กล่าวแล้วข้างต้น) นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยอินทรีย์นี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสติสัมปชัญญะนี้ด้วย ประกอบด้วยอริยสันตุฏฐินี้ด้วย แล้ว, เธอเสพเสนาสนะอันสงัด คือ ป่า โคนไม้ ภูเขา ซอกห้วย ท้องถ้ำ ป่าช้า ป่าชัฏ ที่แจ้ง ลอมฟาง (อย่างใดอย่างหนึ่ง), ในเวลาภายหลังอาหาร กลับจากบิณฑบาตแล้ว เธอนั่งคู้บัลลังก์ตั้งกายตรง ดำรงสติเฉพาะหน้า ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ ดูได้ที่ภาคผนวกหน้า ๑๕๕๓ แห่งหนังสือเล่มนี้ ตั้งแต่คำว่า ละอภิชฌาโลภะแล้ว มีจิตปราศจากอภิชฌาอยู่ .... ไปถึงคำว่า .... (จบอริยสมาธิขันธ์) .... ที่หน้า ๑๕๕๘). ๓. ปัญญาขันธ์ โดยละเอียด “ท่านอานนท์ผู้เจริญ! อริยปัญญาขันธ์นั้น เป็นอย่างไรเล่า ที่พระสมณโคดมทรงสรรเสริญ และทรงชักชวนมหาชนนี้ให้สมาทาน ให้เข้าไปอยู่ ให้ตั้งไว้เฉพาะ ?” ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่น บริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อญาณทัสสนะ. เธอย่อมรู้ชัดอย่างนี้ว่า กายของเรานี้ มีรูป ประกอบอยู่ด้วยมหาภูตทั้งสี่ มีมารดาบิดาเป็นแดนเกิด เจริญขึ้นด้วยข้าวสุกและขนมสด ต้องห่อหุ้มนวดฟั้นอยู่เนืองนิจ แต่ก็ยังมีการแตกทำลายสึกกร่อนเป็นธรรมดา, แต่วิญญาณของเรานี้ อาศัยอยู่ในกายนั้น เนื่องอยู่ในกายนั้น; (เธอรู้เห็นอย่างชัดเจน) เปรียบเหมือนมณีไพฑูรย์อันสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง, ในแก้วนั้นมีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, บุรุษ ผู้มีตาดี วางแก้วนั้นลงในมือแล้ว ก็จะเห็นโดยประจักษ์ว่า มณีไพฑูรย์นี้ เป็นของสวยงาม สมชาติแก้ว แปดเหลี่ยม เจียระไนดีแล้ว สดใส ผ่องใส ถึงพร้อมด้วยคุณค่าทั้งปวง. ในแก้วนี้มีด้ายร้อยอยู่ สีเขียวบ้าง สีเหลืองบ้าง สีแดงบ้าง สีขาวบ้าง สีส้มบ้าง, ฉันนั้นเหมือนกัน. แม้นี้ ก็เป็นปัญญาของเธอประการหนึ่ง. ....ฯลฯ.... (ข้อความตอนต่อจากนี้ไป ดูได้ที่ภาคผนวกแห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หน้า ๑๕๕๙ ตั้งแต่คำว่า ภิกษุนั้น ครั้นจิตตั้งมั่นบริสุทธิ์ผ่องใส ไม่มีกิเลส ปราศจากอุปกิเลส เป็นธรรมชาติอ่อนโยน ควรแก่การงาน ตั้งอยู่อย่างไม่หวั่นไหวเช่นนี้แล้ว เธอชักนำจิตไปเพื่อการนิรมิตกายอันสำเร็จด้วยใจ. เธอถอดกายอื่นออกจากกายนี้ .... ไปจนถึงคำว่า .... (จบอริยปัญญาขันธ์)., ที่หน้า ๑๕๖๔).0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
สัทธรรมลำดับที่ : 605
ชื่อบทธรรม :- ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605
เนื้อความทั้งหมด :-
--ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้
--ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้อย่างไร ?
--ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้
ย่อม ไม่นำความทุกข์มาทับถมตน ซึ่งไม่มีทุกข์ทับถม
ไม่ต้องสละความสุขอันประกอบด้วยธรรมที่มีอยู่ด้วย และ
ก็ไม่มัวเมาอยู่ในความสุขนั้น ด้วย.
+--ภิกษุนั้นรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า
“เมื่อเรากำลังตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์อยู่เป็นอารมณ์
วิราคะก็เกิดมีได้จากการตั้งไว้ ซึ่งความปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ;
และเมื่อเราเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่
วิราคะก็เกิดมีได้” ดังนี้.
+--ภิกษุนั้น เมื่อตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์ใดเป็นอารมณ์อยู่
วิราคะย่อมมีขึ้นได้เพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ดังนี้แล้ว
เธอก็ตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งในเหตุแห่งทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ (ยิ่งขึ้นไป) ;
+--และเมื่อเธอเข้าไปเพ่งซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์ใด ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่
วิราคะย่อมมีขึ้นได้ ดังนี้แล้ว เธอก็เจริญความเพ่งในเหตุแห่งทุกข์ นั้น (ยิ่งขึ้นไป).
เมื่อเธอตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ เป็นอารมณ์อยู่
วิราคะก็มีขึ้นเพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่นั้นเป็นเหตุ ;
เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป ;
เมื่อเธอเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ๆ ทำความเพ่งให้เจริญยิ่ง อยู่
วิราคะก็มีขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป.
http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=วิราโค
(นี้คืออาการที่ความบากบั่น ความพากเพียร เกิดมีผล).
--ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์
http://etipitaka.com/read/pali/14/14/?keywords=ปฏิพทฺธจิตฺโต
พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนหนึ่ง,
เขาเห็นหญิงนั้นยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น.
โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่เขาใช่ไหม ?
“อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
เพราะว่าบุรุษ นั้นมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ
มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนนั้นพระเจ้าข้า !”
--ภิกษุ ท. ! ต่อมาบุรุษคนนั้นคิดว่า
“โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส เกิดขึ้นแก่เรา
เพราะเรามีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ
มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงนั้น ;
ถ้ากระไร เราจะละฉันทราคะในหญิงนั้นเสีย” ดังนี้ ;
แล้วเขาก็ละเสีย,
ต่อมาเขาก็เห็นหญิงคนนั้น ยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น.
โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่เขาอีกหรือไม่หนอ ?
“หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ?
“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่าบุรุษนั้นไม่มีราคะในหญิงนั้นเสียแล้ว”.
--ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้
แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.-
#ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/11/12-13.
http://etipitaka.com/read/thai/14/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๑๓/๑๒-๑๓.
http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92
ศึกษาเพิ่มเติม....
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=605
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41
ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาว่าผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ สัทธรรมลำดับที่ : 605 ชื่อบทธรรม :- ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605 เนื้อความทั้งหมด :- --ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ --ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้อย่างไร ? --ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อม ไม่นำความทุกข์มาทับถมตน ซึ่งไม่มีทุกข์ทับถม ไม่ต้องสละความสุขอันประกอบด้วยธรรมที่มีอยู่ด้วย และ ก็ไม่มัวเมาอยู่ในความสุขนั้น ด้วย. +--ภิกษุนั้นรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า “เมื่อเรากำลังตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์อยู่เป็นอารมณ์ วิราคะก็เกิดมีได้จากการตั้งไว้ ซึ่งความปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ; และเมื่อเราเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะก็เกิดมีได้” ดังนี้. +--ภิกษุนั้น เมื่อตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์ใดเป็นอารมณ์อยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้เพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ดังนี้แล้ว เธอก็ตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งในเหตุแห่งทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ (ยิ่งขึ้นไป) ; +--และเมื่อเธอเข้าไปเพ่งซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์ใด ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้ ดังนี้แล้ว เธอก็เจริญความเพ่งในเหตุแห่งทุกข์ นั้น (ยิ่งขึ้นไป). เมื่อเธอตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ เป็นอารมณ์อยู่ วิราคะก็มีขึ้นเพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่นั้นเป็นเหตุ ; เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป ; เมื่อเธอเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ๆ ทำความเพ่งให้เจริญยิ่ง อยู่ วิราคะก็มีขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป. http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=วิราโค (นี้คืออาการที่ความบากบั่น ความพากเพียร เกิดมีผล). --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ http://etipitaka.com/read/pali/14/14/?keywords=ปฏิพทฺธจิตฺโต พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนหนึ่ง, เขาเห็นหญิงนั้นยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่เขาใช่ไหม ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่าบุรุษ นั้นมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนนั้นพระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ต่อมาบุรุษคนนั้นคิดว่า “โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส เกิดขึ้นแก่เรา เพราะเรามีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงนั้น ; ถ้ากระไร เราจะละฉันทราคะในหญิงนั้นเสีย” ดังนี้ ; แล้วเขาก็ละเสีย, ต่อมาเขาก็เห็นหญิงคนนั้น ยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่เขาอีกหรือไม่หนอ ? “หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่าบุรุษนั้นไม่มีราคะในหญิงนั้นเสียแล้ว”. --ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. 14/11/12-13. http://etipitaka.com/read/thai/14/11/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม. ๑๔/๑๓/๑๒-๑๓. http://etipitaka.com/read/pali/14/13/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=605 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41&id=605 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=41 ลำดับสาธยายธรรม : 41 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_41.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้-ผู้อยู่อย่างคนมีความสุขก็ทำวิราคะให้ปรากฏได้ ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้อย่างไร ? ภิกษุ ท. ! ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อม ไม่นำความทุกข์มาทับถมตน ซึ่งไม่มีทุกข์ทับถม ไม่ต้องสละความสุขอันประกอบด้วยธรรมที่มีอยู่ด้วย และก็ไม่มัวเมาอยู่ในความสุขนั้น ด้วย. ภิกษุนั้นรู้ชัดอยู่อย่างนี้ว่า “เมื่อเรากำลังตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์อยู่เป็นอารมณ์ วิราคะก็เกิดมีได้จากการตั้งไว้ ซึ่งความปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ; และเมื่อเราเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะก็เกิดมีได้” ดังนี้. ภิกษุนั้น เมื่อตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์ใดเป็นอารมณ์อยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้เพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งนั้นเป็นเหตุ ดังนี้แล้ว เธอก็ตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งในเหตุแห่งทุกข์นั้นเป็นอารมณ์ (ยิ่งขึ้นไป) ; และเมื่อเธอเข้าไปเพ่งซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์ใด ทำความเพ่งให้เจริญยิ่งอยู่ วิราคะย่อมมีขึ้นได้ ดังนี้แล้ว เธอก็เจริญความเพ่งในเหตุแห่งทุกข์ นั้น (ยิ่งขึ้นไป). เมื่อเธอตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่งเหตุแห่งทุกข์นั้นๆ เป็นอารมณ์อยู่ วิราคะก็มีขึ้นเพราะการตั้งไว้ซึ่งการปรุงแต่นั้นเป็นเหตุ ; เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป ; เมื่อเธอเข้าไปเพ่งอยู่ซึ่งตัวเหตุแห่งทุกข์นั้น ๆ ทำความเพ่งให้เจริญยิ่ง อยู่ วิราคะก็มีขึ้น เมื่อเป็นดังนี้ ความทุกข์นั้นของเธอ ก็สูญสิ้นไป. (นี้คืออาการที่ความบากบั่น ความพากเพียร เกิดมีผล). ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือนบุรุษมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนหนึ่ง, เขาเห็นหญิงนั้นยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะพึงเกิดขึ้นแก่เขาใช่ไหม ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะว่าบุรุษ นั้นมีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจมุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงคนนั้นพระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! ต่อมาบุรุษคนนั้นคิดว่า “โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส เกิดขึ้นแก่เรา เพราะเรามีจิตกำหนัดปฏิพัทธ์ พอใจ มุ่งหมายอย่างแรงกล้าในหญิงนั้น ; ถ้ากระไร เราจะละฉันทราคะในหญิงนั้นเสีย” ดังนี้ ; แล้วเขาก็ละเสีย, ต่อมาเขาก็เห็นหญิงคนนั้น ยืนอยู่ พูดอยู่ ระริกซิกซี้อยู่กับบุรุษอื่น. โสกะปริเทวะทุกขะโทมนัสอุปายาส จะเกิดขึ้นแก่เขาอีกหรือไม่หนอ ? “หามิได้ พระเจ้าข้า !” ข้อนั้น เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่าบุรุษนั้นไม่มีราคะในหญิงนั้นเสียแล้ว”. .... ภิกษุ ท. ! ความบากบั่น ความพากเพียร จะมีผลขึ้นมาได้ แม้ด้วยอาการอย่างนี้แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 159 มุมมอง 0 รีวิว - อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาความลับของเบญจขันธ์
สัทธรรมลำดับที่ : 193
ชื่อบทธรรม :- ความลับของเบญจขันธ์
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=193
เนื้อความทั้งหมด :-
--ความลับของเบญจขันธ์
--ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก #อัสสาทะ (รสอร่อย)
http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=อสฺสาโท
ของรูปก็ดี
ของเวทนาก็ดี
ของสัญญาก็ดี
ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ
ของวิญญาณก็ดี เหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้,
สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่กำหนัดยินดีนัก
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ เหล่านี้.
--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ อัสสาทะ
ของรูปก็ดี
ของเวทนาก็ดี
ของสัญญาก็ดี
ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ
ของวิญญาณก็ดี มีอยู่,
สัตว์ทั้งหลาย จึงกำหนัดยินดีนัก
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ.
--ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก #อาทีนพ (โทษ)
http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=อาทีนโว
ของรูปก็ดี
ของเวทนาก็ดี
ของสัญญาก็ดี
ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ
ของวิญญาณก็ดี
เหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้,
สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่เบื่อหน่าย
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลายและในวิญญาณ เหล่านี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ อาทีนพ
ของรูปก็ดี
ของเวทนาก็ดี
ของสัญญาก็ดี
ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ
ของวิญญาณก็ดี มีอยู่,
สัตว์ทั้งหลาย จึงเบื่อหน่าย
ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ.
--ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก #นิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้นไปได้)
http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=นิสฺสรณํ
จากรูปก็ดี
จากเวทนาก็ดี
จากสัญญาก็ดี
จากสังขารทั้งหลายก็ดี และ
จากวิญญาณก็ดีเหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้,
สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่ออกไปพ้นได้
จากรูป จากเวทนา จากสัญญา จากสังขารทั้งหลาย และจากวิญญาณ เหล่านี้.
+--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ นิสสรณะ
จากรูปก็ดี
จากเวทนาก็ดี
จากสัญญาก็ดี
จากสังขารทั้งหลายก็ดี และ
จากวิญญาณก็ดี มีอยู่,
สัตว์ทั้งหลาย จึงออกไปพ้นได้
จากรูป จากเวทนา จากสัญญา จากสังขารทั้งหลาย และจากวิญญาณ,
ดังนี้ แล.-
--ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ยังไม่รู้ยิ่งซึ่ง
คุณโดยความเป็นคุณ
โทษโดยความเป็นโทษ และ
เครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก
แห่งอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้
ตามความเป็นจริง เพียงใด
สัตว์ทั้งหลาย ก็ยังไม่เป็นผู้ออกไป พรากไป หลุดพ้นไป
มีใจอันหาขอบเขตมิได้อยู่ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์
พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เพียงนั้น.
--ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด สัตว์ทั้งหลาย รู้ยิ่ง
ซึ่งคุณโดยความเป็นคุณ
ซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ
ซึ่งเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก
แห่งอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้
ตามความเป็นจริง เมื่อนั้น
สัตว์ทั้งหลายจึงเป็นผู้ออกไป พรากไป หลุดพ้นไป
มีจิตอันหาขอบเขตมิได้อยู่ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์
พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์.
#ทุกขสมัทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/29/62-63.
http://etipitaka.com/read/thai/17/29/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92
อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๗/๖๒-๖๓.
http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92
http://etipitaka.com/read/pali/17/38/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93
ศึกษาเพิ่มเติม...
https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=193
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=193
หรือ
http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14
ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง...
http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3อริยสาวกพึงฝึกหัดศึกษาความลับของเบญจขันธ์ สัทธรรมลำดับที่ : 193 ชื่อบทธรรม :- ความลับของเบญจขันธ์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=193 เนื้อความทั้งหมด :- --ความลับของเบญจขันธ์ --ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก #อัสสาทะ (รสอร่อย) http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=อสฺสาโท ของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ ของวิญญาณก็ดี เหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้, สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่กำหนัดยินดีนัก ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ เหล่านี้. --ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ อัสสาทะ ของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ ของวิญญาณก็ดี มีอยู่, สัตว์ทั้งหลาย จึงกำหนัดยินดีนัก ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ. --ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก #อาทีนพ (โทษ) http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=อาทีนโว ของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ ของวิญญาณก็ดี เหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้, สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่เบื่อหน่าย ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลายและในวิญญาณ เหล่านี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ อาทีนพ ของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และ ของวิญญาณก็ดี มีอยู่, สัตว์ทั้งหลาย จึงเบื่อหน่าย ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ. --ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก #นิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้นไปได้) http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=นิสฺสรณํ จากรูปก็ดี จากเวทนาก็ดี จากสัญญาก็ดี จากสังขารทั้งหลายก็ดี และ จากวิญญาณก็ดีเหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้, สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่ออกไปพ้นได้ จากรูป จากเวทนา จากสัญญา จากสังขารทั้งหลาย และจากวิญญาณ เหล่านี้. +--ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ นิสสรณะ จากรูปก็ดี จากเวทนาก็ดี จากสัญญาก็ดี จากสังขารทั้งหลายก็ดี และ จากวิญญาณก็ดี มีอยู่, สัตว์ทั้งหลาย จึงออกไปพ้นได้ จากรูป จากเวทนา จากสัญญา จากสังขารทั้งหลาย และจากวิญญาณ, ดังนี้ แล.- --ภิกษุทั้งหลาย สัตว์ทั้งหลาย ยังไม่รู้ยิ่งซึ่ง คุณโดยความเป็นคุณ โทษโดยความเป็นโทษ และ เครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก แห่งอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ ตามความเป็นจริง เพียงใด สัตว์ทั้งหลาย ก็ยังไม่เป็นผู้ออกไป พรากไป หลุดพ้นไป มีใจอันหาขอบเขตมิได้อยู่ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ เพียงนั้น. --ภิกษุทั้งหลาย เมื่อใด สัตว์ทั้งหลาย รู้ยิ่ง ซึ่งคุณโดยความเป็นคุณ ซึ่งโทษโดยความเป็นโทษ ซึ่งเครื่องสลัดออกโดยความเป็นเครื่องสลัดออก แห่งอุปาทานขันธ์ ๕ เหล่านี้ ตามความเป็นจริง เมื่อนั้น สัตว์ทั้งหลายจึงเป็นผู้ออกไป พรากไป หลุดพ้นไป มีจิตอันหาขอบเขตมิได้อยู่ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก ในหมู่สัตว์ พร้อมทั้งสมณพราหมณ์เทวดาและมนุษย์. #ทุกขสมัทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/29/62-63. http://etipitaka.com/read/thai/17/29/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๓๗/๖๒-๖๓. http://etipitaka.com/read/pali/17/37/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%92 http://etipitaka.com/read/pali/17/38/?keywords=%E0%B9%96%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=193 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14&id=193 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=14 ลำดับสาธยายธรรม : 14 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_14.mp3WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM- (ในสูตรอื่นทรงแสดง สัญโญชนิยธรรม ด้วยอายตนะภายในหก (๑๘/๑๑๐/๑๕๙) และอายตนะภายนอกหก (๑๘/๑๓๕/๑๘๙).-(ในสูตรอื่นทรงแสดง สัญโญชนิยธรรม ด้วยอายตนะภายในหก (๑๘/๑๑๐/๑๕๙) และอายตนะภายนอกหก (๑๘/๑๓๕/๑๘๙). ความลับของเบญจขันธ์ ภิกษุ ท. ! ถ้าหากอัสสาทะ (รสอร่อย) ของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และของวิญญาณก็ดี เหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่ แล้วไซร้, สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่กำหนัดยินดีนักในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ เหล่านี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่อัสสาทะของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และของวิญญาณก็ดี มีอยู่, สัตว์ทั้งหลาย จึงกำหนัดยินดีนัก ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ. ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก อาทีนพ (โทษ) ของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และของวิญญาณก็ดี เหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้, สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่เบื่อหน่าย ในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลายและในวิญญาณ เหล่านี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่อาทีนพของรูปก็ดี ของเวทนาก็ดี ของสัญญาก็ดี ของสังขารทั้งหลายก็ดี และของวิญญาณก็ดี มีอยู่, สัตว์ทั้งหลาย จึงเบื่อหน่ายในรูป ในเวทนา ในสัญญา ในสังขารทั้งหลาย และในวิญญาณ. ภิกษุ ท. ! ถ้าหาก นิสสรณะ (อุบายเครื่องออกพ้นไปได้) จากรูปก็ดีจากเวทนาก็ดี จากสัญญาก็ดี จากสังขารทั้งหลายก็ดี และจากวิญญาณก็ดีเหล่านี้ จักไม่ได้มีอยู่แล้วไซร้, สัตว์ทั้งหลาย ก็จะไม่ออกไปพ้นได้จากรูป จากเวทนา จากสัญญา จากสังขารทั้งหลาย และจากวิญญาณ เหล่านี้. ภิกษุ ท. ! แต่เพราะเหตุที่ นิสสรณะจากรูปก็ดี จากเวทนาก็ดี จากสัญญาก็ดี จากสังขารทั้งหลายก็ดี และจากวิญญาณก็ดี มีอยู่, สัตว์ทั้งหลาย จึงออกไปพ้นได้จากรูป จากเวทนา จากสัญญา จากสังขารทั้งหลาย และจากวิญญาณ, ดังนี้ แล.0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 155 มุมมอง 0 รีวิว
เรื่องราวเพิ่มเติม