• อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส
    สัทธรรมลำดับที่ : 720
    ชื่อบทธรรม :- อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า
    ‘เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม’
    ดังนี้
    นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า ?”
    --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ !
    ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงาม คำถามสวยสลวย.
    +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า เป็นพหูสูต ทรงธรรม กันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ! เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป็น
    สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ
    +--ภิกษุ ! ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแห่งคาถา
    แม้เพียง สี่บท แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม
    นั่นแหละควรจะเรียกว่า เป็น #พหูสูตผู้ทรงธรรม(พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร).
    http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร

    “สาธุ พระเจ้าข้า !”
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า
    “ผู้มีการศึกษามีปัญญา เครื่องเจาะแทงกิเลส
    ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส”
    ดังนี้
    นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอพระเจ้าข้า ?”
    --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณ งดงามคำถามสวยสลวย.
    +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า
    ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส (นิพเพธิกปัญญา)
    เป็นกันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ?
    “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ภิกษุ มี
    ๑.การศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็น ความทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี;
    ๒.มีการศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี;
    ๓.มีการศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี;
    ๔.มีการศึกษาอยู่ว่า
    “อย่างนี้ เป็นหนทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้
    แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี.
    +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า “#ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส.”
    http://etipitaka.com/read/pali/21/242/?keywords=นิพฺเพธิกปญฺโญ

    “สาธุ พระเจ้าข้า !”
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า
    “ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก“
    ดังนี้
    นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า !”
    --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงามคำถามสวยสลวย.
    +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก
    เป็นกัน ได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ?
    “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !”
    +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้
    ++-ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก
    ย่อมไม่รู้ไป ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย
    ไม่รู้ไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่รู้ไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก;
    ++-เมื่อจะรู้ ย่อมรู้แจ้งอย่างเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น
    เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง.
    +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า #ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.-
    http://etipitaka.com/read/pali/21/243/?keywords=มหาปญฺโญ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .21/171/186.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/171/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .๒๑/๒๔๑/๑๘๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=720
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส สัทธรรมลำดับที่ : 720 ชื่อบทธรรม :- อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า ‘เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม’ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า ?” --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงาม คำถามสวยสลวย. +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า เป็นพหูสูต ทรงธรรม กันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ! เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป็น สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ +--ภิกษุ ! ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแห่งคาถา แม้เพียง สี่บท แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นั่นแหละควรจะเรียกว่า เป็น #พหูสูตผู้ทรงธรรม(พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร). http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=พหุสฺสุโต+ธมฺมธโร “สาธุ พระเจ้าข้า !” --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้มีการศึกษามีปัญญา เครื่องเจาะแทงกิเลส ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส” ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอพระเจ้าข้า ?” --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณ งดงามคำถามสวยสลวย. +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส (นิพเพธิกปัญญา) เป็นกันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ภิกษุ มี ๑.การศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็น ความทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; ๒.มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; ๓.มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; ๔.มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นหนทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี. +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า “#ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส.” http://etipitaka.com/read/pali/21/242/?keywords=นิพฺเพธิกปญฺโญ “สาธุ พระเจ้าข้า !” --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก“ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า !” --ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงามคำถามสวยสลวย. +--ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก เป็นกัน ได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” +--ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ++-ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ย่อมไม่รู้ไป ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย ไม่รู้ไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่รู้ไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก; ++-เมื่อจะรู้ ย่อมรู้แจ้งอย่างเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง. +--ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า #ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.- http://etipitaka.com/read/pali/21/243/?keywords=มหาปญฺโญ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .21/171/186. http://etipitaka.com/read/thai/21/171/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ .๒๑/๒๔๑/๑๘๖. http://etipitaka.com/read/pali/21/241/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%96 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=720 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=720 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะ ของกาม
    -(ความรู้ที่ทำให้รู้จักกลัวต่อสิ่งที่ควรกลัว จัดเป็นสัมมาทิฏฐิในชั้นต้นๆ ได้ จึงนำมาใส่ไว้ในที่นี้). ๑ .ดูรายละเอียดของการกระทำกรรมกรณ์เหล่านี้ ที่เชิงอรรถแห่งหน้า ๙๓๗ - ๙๓๘ แห่งหนังสือเล่มนี้ ที่หัวข้อว่า “อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะ ของกาม.” อริยสัจสี่ เป็นอารมณ์แห่งนิพเพธิกปัญญา “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำที่กล่าวกันอยู่ว่า ‘เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม เป็นพหูสูตผู้ทรงธรรม’ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า ?” ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงาม คำถามสวยสลวย. ภิกษุ ! เธอถามเราว่า เป็นพหูสูต ทรงธรรม กันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! เราแสดงธรรมแล้ว มากมายครบถ้วนขบวนความ เป็น สุตตะ เคยยะ เวยยากรณ์ คาถา อุทาน อิติวุตตกะ ชาตกะ อัพภูตธัมม์ เวทัลละ ภิกษุ ! ผู้รู้อรรถรู้ธรรมแห่งคาถาแม้เพียงสี่บท แล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม นั่นแหละควรจะเรียกว่า เป็น พหูสูตผู้ทรงธรรม. “สาธุ พระเจ้าข้า !” “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้มีการศึกษามีปัญญา เครื่องเจาะแทงกิเลส ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส” ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอพระเจ้าข้า ?” ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณ งดงามคำถามสวยสลวย. ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้มีการศึกษามีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส (นิพเพธิกปัญญา) เป็นกันได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้นพระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ภิกษุ มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็น ความทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นเหตุเกิดขึ้นแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่ง เนื้อความแห่งสัจจะนั้น เห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้เป็นความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี; มีการศึกษาอยู่ว่า “อย่างนี้ เป็นหนทางให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้ แล้วแทงตลอดซึ่งเนื้อความแห่งสัจจะนั้นเห็นด้วยปัญญาอยู่ ก็ดี. ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า “ผู้มีการศึกษา มีปัญญาเครื่องเจาะแทงกิเลส.” “สาธุ พระเจ้าข้า !” “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! มีคำกล่าวกันอยู่ว่า “ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก“ ดังนี้ นั้นเป็นได้ด้วยเหตุเท่าไรหนอ พระเจ้าข้า !” ดีจริง ดีจริง ภิกษุ ! ปัญญาของเธอเฉียบแหลม ปฏิภาณงดงามคำถามสวยสลวย. ภิกษุ ! เธอถามเราว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก เป็นกัน ได้ด้วยเหตุเท่าไร ดังนั้นหรือ? “อย่างนั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! ในกรณีนี้ ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก ย่อมไม่คิดไป ในทางทำตนเองให้ลำบากเลย ไม่คิดไปในทางทำผู้อื่นให้ลำบาก ไม่คิดไปในทางทำทั้งสองฝ่ายให้ลำบาก; เมื่อจะคิด ย่อมคิดอย่างเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ตนเอง เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ผู้อื่น เป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่ทั้งสองฝ่าย คือเป็นประโยชน์เกื้อกูลแก่โลกทั้งปวงนั่นเอง. ภิกษุ ! อย่างนี้แล ชื่อว่า ผู้เป็นบัณฑิตมีปัญญามาก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 61 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาลูกโซ่แห่งความดับทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 351
    ชื่อบทธรรม :- ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=351
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์
    --ภิกษุ ท.! เพราะความจางคลาย
    จนดับไม่เหลือแห่งอวิชชา นั่นแหละ จึงมีความดับแห่งสังขาร ;
    เพราะความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ;
    เพราะความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ;
    เพราะความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งอายตนะหก ;
    เพราะความดับแห่งอายตนะหก จึงมีความดับแห่งผัสสะ ;
    เพราะความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ;
    เพราะความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ;
    เพราะความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ;
    เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ;
    เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ;
    เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส
    ย่อมดับไม่เหลือ.
    ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ)​
    ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล.-
    http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ

    #ทุกขนิโรธ#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2/3.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒/๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%93
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=351
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=351
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาลูกโซ่แห่งความดับทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 351 ชื่อบทธรรม :- ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=351 เนื้อความทั้งหมด :- --ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์ --ภิกษุ ท.! เพราะความจางคลาย จนดับไม่เหลือแห่งอวิชชา นั่นแหละ จึงมีความดับแห่งสังขาร ; เพราะความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; เพราะความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ; เพราะความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งอายตนะหก ; เพราะความดับแห่งอายตนะหก จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; เพราะความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ย่อมดับไม่เหลือ. ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น(ทุกฺขกฺขนฺธสฺส นิโรโธ)​ ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล.- http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=ทุกฺขกฺขนฺธสฺส+นิโรโธ #ทุกขนิโรธ​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/2/3. http://etipitaka.com/read/thai/16/2/?keywords=%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒/๓. http://etipitaka.com/read/pali/16/2/?keywords=%E0%B9%93 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=351 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=351 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์
    -ลูกโซ่แห่งความดับทุกข์ ภิกษุ ท.! เพราะความจางคลาย จนดับไม่เหลือแห่งอวิชชา นั่นแหละ จึงมีความดับแห่งสังขาร ; เพราะความดับแห่งสังขาร จึงมีความดับแห่งวิญญาณ ; เพราะความดับแห่งวิญญาณ จึงมีความดับแห่งนามรูป ; เพราะความดับแห่งนามรูป จึงมีความดับแห่งอายตนะหก ; เพราะความดับแห่งอายตนะหก จึงมีความดับแห่งผัสสะ ; เพราะความดับแห่งผัสสะ จึงมีความดับแห่งเวทนา ; เพราะความดับแห่งเวทนา จึงมีความดับแห่งตัณหา ; เพราะความดับแห่งตัณหา จึงมีความดับแห่งอุปาทาน ; เพราะความดับแห่งอุปาทาน จึงมีความดับแห่งภพ ; เพราะความดับแห่งภพ จึงมีความดับแห่งชาติ ; เพราะความดับแห่งชาติ, ชรา มรณะ โสกะ ปริเทวะ ทุกขะ โทมนัส อุปายาส ย่อมดับไม่เหลือ. ความดับไม่เหลือแห่งกองทุกข์ทั้งสิ้นนั้น ย่อมมีได้ ด้วยอาการอย่างนี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 56 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ)
    สัทธรรมลำดับที่ : 719
    ชื่อบทธรรม :- ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=719
    เนื้อความทั้งหมด :-
    หมวด ค. ว่าด้วย อุปกรณ์-เหตุปัจจัย ของสัมมาทิฏฐิ
    --ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ)
    --ภิกษุ ท. ! ความกลัว ๔ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สี่อย่าง อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ
    ๑.ความกลัวต่อการติเตียน ตนด้วยตน
    ๒.ความกลัวต่อการการติเตียน จากผู้อื่น
    ๓.ความกลัวต่ออาชญา
    ๔.ความกลัวต่อทุคติ.

    --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า
    “ถ้าเราประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต, มโนทุจริต,
    เราจะไม่พึงติเตียนเราโดยศีลได้อย่างไรกันเล่า?”
    ดังนี้.
    เขากลัวต่อภัยจากการติเตียนตนด้วยตนแล้วจึง
    ละกายทุจริต เจริญกายสุจริต,
    ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต,
    ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต,
    บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่.
    ๑--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน.

    --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อการติเตียนจากผู้อื่น เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า
    “ถ้าเราประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต,
    ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงติเตียนเรา โดยศีลได้อย่างไรกันเล่า.”
    ดังนี้
    เขากลัวต่อภัยจากการติเตียนจากผู้อื่นแล้วจึง
    ละกายทุจริต เจริญกายสุจริต,
    ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต,
    ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต,
    บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่,
    ๒--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่อการติเตียนจากผู้อื่น.

    --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่ออาชญา เป็นอย่างไรเล่า?
    +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน
    เห็นพระราชาจับโจรผู้ประพฤติชั่วร้ายมากระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ คือ
    โบยด้วยแส้บ้าง เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง หวดด้วยเชือกหนังบ้าง ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง
    ตัดมือเสียบ้าง ตัดเท้าเสียบ้าง ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง
    ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ขอดสังข์” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ปากราหู” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มาลัยไฟ” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มือคบเพลิง” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ริ้วส่าย” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “นุ่งเปลือกไม้” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ยืนกวาง” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เกี่ยวเหยื่อเบ็ดบ้าง” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เหรียญกษาปณ์” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ทาเกลือ” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “แปรงแสบ” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เวียนหลัก” บ้าง
    ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ตั่งฟาง” บ้าง
    ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง
    ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง บ้าง
    ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็นๆ บ้าง
    ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง*--๑
    เขามานึกขึ้นได้ว่า
    “เพราะเหตุแห่งการทำกรรมอันลามกเช่นนี้
    พระราชาจึงจับโจรอันชั่วร้ายมากระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ
    เช่น โบยด้วยแส้บ้าง ....ฯลฯ.... ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง.
    ถ้าเราจะพึงกระทำกรรมอันลามกเช่นนั้น
    พระราชาก็จะจับแม้เราไปกระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ เช่นนั้นเหมือนกัน
    คือ โบยด้วยแส้บ้าง ....ฯลฯ....ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง”
    ดังนี้
    เขากลัวต่อภัยจากอาชญาแล้ว จึงไม่ประพฤติการฉกชิงทรัพย์ของผู้อื่นอยู่.
    ๓--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่ออาชญา.

    --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อทุคติ เป็นอย่างไรเล่า ?
    +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า
    “วิบากของ กายทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า,
    วิบากของ วจีทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า
    วิบากของ มโนทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า.
    ถ้าเราประพฤติทุจริตด้วยกาย ประพฤติทุจริตด้วยวาจา ประพฤติทุจริตด้วยใจ
    แล้วจะต้องสงสัยอะไรกันอีกเล่าในข้อที่เราจะพึงเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก
    ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย”
    เขากลัวต่อภัยแห่งทุคติดังนี้แล้ว จึง
    ละกายทุจริต เจริญกายสุจริต,
    ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต,
    ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต,
    บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่.
    ๔--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่อทุคติ.

    --ภิกษุท. ! เหล่านี้แลคือความกลัว ๔ อย่าง.-
    (ความรู้ที่ทำให้รู้จักกลัวต่อสิ่งที่ควรกลัว
    จัดเป็น สัมมาทิฏฐิในชั้นต้นๆ ได้
    จึงนำมาใส่ไว้ในที่นี้).

    *--๑ .ดูรายละเอียดของ การกระทำกรรมกรณ์ เหล่านี้
    ที่หัวข้อว่า “อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะ ของกาม.”

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/122-124/121.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/122/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๖๒-๑๖๔/๑๒๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/162/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91
    ศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=719
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=719
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ) สัทธรรมลำดับที่ : 719 ชื่อบทธรรม :- ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=719 เนื้อความทั้งหมด :- หมวด ค. ว่าด้วย อุปกรณ์-เหตุปัจจัย ของสัมมาทิฏฐิ --ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ) --ภิกษุ ท. ! ความกลัว ๔ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สี่อย่าง อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ ๑.ความกลัวต่อการติเตียน ตนด้วยตน ๒.ความกลัวต่อการการติเตียน จากผู้อื่น ๓.ความกลัวต่ออาชญา ๔.ความกลัวต่อทุคติ. --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า “ถ้าเราประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต, มโนทุจริต, เราจะไม่พึงติเตียนเราโดยศีลได้อย่างไรกันเล่า?” ดังนี้. เขากลัวต่อภัยจากการติเตียนตนด้วยตนแล้วจึง ละกายทุจริต เจริญกายสุจริต, ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต, ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต, บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่. ๑--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน. --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อการติเตียนจากผู้อื่น เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า “ถ้าเราประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต, ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงติเตียนเรา โดยศีลได้อย่างไรกันเล่า.” ดังนี้ เขากลัวต่อภัยจากการติเตียนจากผู้อื่นแล้วจึง ละกายทุจริต เจริญกายสุจริต, ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต, ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต, บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่, ๒--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่อการติเตียนจากผู้อื่น. --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่ออาชญา เป็นอย่างไรเล่า? +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน เห็นพระราชาจับโจรผู้ประพฤติชั่วร้ายมากระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ คือ โบยด้วยแส้บ้าง เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง หวดด้วยเชือกหนังบ้าง ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง ตัดมือเสียบ้าง ตัดเท้าเสียบ้าง ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ขอดสังข์” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ปากราหู” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มาลัยไฟ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มือคบเพลิง” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ริ้วส่าย” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “นุ่งเปลือกไม้” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ยืนกวาง” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เกี่ยวเหยื่อเบ็ดบ้าง” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เหรียญกษาปณ์” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ทาเกลือ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “แปรงแสบ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เวียนหลัก” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ตั่งฟาง” บ้าง ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้ง บ้าง ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็นๆ บ้าง ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง*--๑ เขามานึกขึ้นได้ว่า “เพราะเหตุแห่งการทำกรรมอันลามกเช่นนี้ พระราชาจึงจับโจรอันชั่วร้ายมากระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ เช่น โบยด้วยแส้บ้าง ....ฯลฯ.... ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง. ถ้าเราจะพึงกระทำกรรมอันลามกเช่นนั้น พระราชาก็จะจับแม้เราไปกระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ เช่นนั้นเหมือนกัน คือ โบยด้วยแส้บ้าง ....ฯลฯ....ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง” ดังนี้ เขากลัวต่อภัยจากอาชญาแล้ว จึงไม่ประพฤติการฉกชิงทรัพย์ของผู้อื่นอยู่. ๓--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่ออาชญา. --ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อทุคติ เป็นอย่างไรเล่า ? +--ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า “วิบากของ กายทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า, วิบากของ วจีทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า วิบากของ มโนทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า. ถ้าเราประพฤติทุจริตด้วยกาย ประพฤติทุจริตด้วยวาจา ประพฤติทุจริตด้วยใจ แล้วจะต้องสงสัยอะไรกันอีกเล่าในข้อที่เราจะพึงเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย” เขากลัวต่อภัยแห่งทุคติดังนี้แล้ว จึง ละกายทุจริต เจริญกายสุจริต, ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต, ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต, บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่. ๔--ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า #ความกลัวต่อทุคติ. --ภิกษุท. ! เหล่านี้แลคือความกลัว ๔ อย่าง.- (ความรู้ที่ทำให้รู้จักกลัวต่อสิ่งที่ควรกลัว จัดเป็น สัมมาทิฏฐิในชั้นต้นๆ ได้ จึงนำมาใส่ไว้ในที่นี้). *--๑ .ดูรายละเอียดของ การกระทำกรรมกรณ์ เหล่านี้ ที่หัวข้อว่า “อัสสาทะ-อาทีนวะ-นิสสรณะ ของกาม.” #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/122-124/121. http://etipitaka.com/read/thai/21/122/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๑๖๒-๑๖๔/๑๒๑. http://etipitaka.com/read/pali/21/162/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91 ศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=719 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=719 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หมวด ค. ว่าด้วย อุปกรณ์-เหตุปัจจัย ของสัมมาทิฏฐิ
    -หมวด ค. ว่าด้วย อุปกรณ์-เหตุปัจจัย ของสัมมาทิฏฐิ ความกลัวเป็นเหตุแห่งสัมมาทิฏฐิ (ชนิดโลกิยะ) ภิกษุ ท. ! ความกลัว ๔ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สี่อย่าง อย่างไรเล่า ? สี่อย่างคือ ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน ความกลัวต่อการการติเตียนจาก ผู้อื่น ความกลัวต่ออาชญา ความกลัวต่อทุคติ. ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า “ถ้าเราประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต, มโนทุจริต, เราจะไม่พึงติเตียนเราโดยศีลได้อย่างไรกันเล่า?” ดังนี้. เขากลัวต่อภัยจากการติเตียนตนด้วยตนแล้วจึงละกายทุจริต เจริญกายสุจริต, ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต, ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต, บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า ความกลัวต่อการติเตียนตนด้วยตน. ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อการติเตียนจากผู้อื่น เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า “ถ้าเราประพฤติกายทุจริต วจีทุจริต มโนทุจริต, ชนเหล่าอื่นจะไม่พึงติเตียนเรา โดยศีลได้อย่างไรกันเล่า.” ดังนี้ เขากลัวต่อภัยจากการติเตียนจากผู้อื่นแล้วจึงละกายทุจริต เจริญกายสุจริต, ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต, ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่, ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า ความกลัวต่อการติเตียนจากผู้อื่น. ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่ออาชญา เป็นอย่างไรเล่า? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน เห็นพระราชาจับโจรผู้ประพฤติชั่วร้ายมากระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ คือ โบยด้วยแส้บ้าง เฆี่ยนด้วยหวายบ้าง หวดด้วยเชือกหนังบ้าง ทุบด้วยท่อนไม้บ้าง ตัดมือเสียบ้าง ตัดเท้าเสียบ้าง ตัดเสียทั้งมือและเท้าบ้าง ตัดหูบ้าง ตัดจมูกบ้าง ตัดเสียทั้งหูและจมูกบ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “หม้อเคี่ยวน้ำส้ม” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ขอดสังข์” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ปากราหู” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มาลัยไฟ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “มือคบเพลิง” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ริ้วส่าย” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “นุ่งเปลือกไม้” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ยืนกวาง” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เกี่ยวเหยื่อเบ็ดบ้าง” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เหรียญกษาปณ์” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ทาเกลือ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “แปรงแสบ” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “เวียนหลัก” บ้าง ย่อมกระทำกรรมกรณ์ชื่อ “ตั่งฟาง” บ้าง ย่อมราดด้วยน้ำมันร้อนๆ บ้าง ย่อมปล่อยให้สุนัขทึ้งบ้าง ย่อมให้นอนหงายบนหลาวทั้งเป็นๆ บ้าง ย่อมตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง๑ เขามานึกขึ้นได้ว่า “เพราะเหตุแห่งการทำกรรมอันลามกเช่นนี้ พระราชาจึงจับโจรอันชั่วร้ายมากระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ เช่น โบยด้วยแส้บ้าง ....ฯลฯ.... ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง. ถ้าเราจะพึงกระทำกรรมอันลามกเช่นนั้น พระราชาก็จะจับแม้เราไปกระทำการลงโทษโดยวิธีต่างๆ เช่นนั้นเหมือนกัน คือ โบยด้วยแส้บ้าง ....ฯลฯ....ตัดศีรษะด้วยดาบบ้าง” ดังนี้ เขากลัวต่อภัยจากอาชญาแล้ว จึงไม่ประพฤติการฉกชิงทรัพย์ของผู้อื่นอยู่. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า ความกลัวต่ออาชญา. ภิกษุ ท. ! ความกลัวต่อทุคติ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ บุคคลบางคน ย่อมใคร่ครวญเห็นอย่างนี้ว่า “วิบากของกายทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า, วิบากของวจีทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า วิบากของมโนทุจริตอันชั่วร้าย จักมีข้างหน้า. ถ้าเราประพฤติทุจริตด้วยกาย ประพฤติทุจริตด้วยวาจา ประพฤติทุจริตด้วยใจ แล้วจะต้องสงสัยอะไรกันอีกเล่าในข้อที่เราจะพึงเข้าถึง อบาย ทุคติ วินิบาต นรก ภายหลังแต่การตายเพราะการทำลายแห่งกาย” เขากลัวต่อภัยแห่งทุคติดังนี้แล้ว จึงละกายทุจริต เจริญกายสุจริต, ละวจีทุจริต เจริญวจีสุจริต, ละมโนทุจริต เจริญมโนสุจริต, บริหารตนให้บริสุทธิ์อยู่. ภิกษุ ท. ! นี้เรากล่าวว่า ความกลัวต่อทุคติ. ภิกษุท. ! เหล่านี้แลคือความกลัว ๔ อย่าง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 101 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ
    สัทธรรมลำดับที่ : 350
    ชื่อบทธรรม :- ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=350
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ
    --ปุณณะ !
    รูป ที่เห็นด้วยตาก็ดี,
    เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี,
    กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี,
    รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี,
    โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี,
    ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี,
    อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตา ยวนใจให้รัก
    เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่ ;

    ---ภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มีรูป เป็นต้นนั้น.
    เมื่อภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มี รูป เป็นต้นนั้นอยู่,
    นันทิ (ความเพลิน) ย่อมดับไป.

    --ปุณณะ ! เรากล่าวว่า
    “ความดับไม่มีเหลือของทุกข์มีได้
    #เพราะความดับไม่เหลือของความเพลิน”
    http://etipitaka.com/read/pali/14/482/?keywords=นนฺทินิโรธา+ทุกฺขนิโรโธ
    ดังนี้ แล.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม.14/362/756.
    http://etipitaka.com/read/thai/14/362/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%95%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม.๑๔/๔๘๒/๗๕๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/14/482/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%95%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=350
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=350
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ สัทธรรมลำดับที่ : 350 ชื่อบทธรรม :- ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=350 เนื้อความทั้งหมด :- --ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ --ปุณณะ ! รูป ที่เห็นด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี, ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตา ยวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่ ; ---ภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มีรูป เป็นต้นนั้น. เมื่อภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มี รูป เป็นต้นนั้นอยู่, นันทิ (ความเพลิน) ย่อมดับไป. --ปุณณะ ! เรากล่าวว่า “ความดับไม่มีเหลือของทุกข์มีได้ #เพราะความดับไม่เหลือของความเพลิน” http://etipitaka.com/read/pali/14/482/?keywords=นนฺทินิโรธา+ทุกฺขนิโรโธ ดังนี้ แล.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม.14/362/756. http://etipitaka.com/read/thai/14/362/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%95%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - อุปริ. ม.๑๔/๔๘๒/๗๕๖. http://etipitaka.com/read/pali/14/482/?keywords=%E0%B9%97%E0%B9%95%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=350 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=350 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ
    -ความดับทุกข์มี เพราะความดับแห่งนันทิ ปุณณะ ! รูป ที่เห็นด้วยตาก็ดี, เสียง ที่ฟังด้วยหูก็ดี, กลิ่น ที่ดมด้วยจมูกก็ดี, รส ที่ลิ้มด้วยลิ้นก็ดี, โผฏฐัพพะ ที่สัมผัสด้วยกายก็ดี, ธรรมารมณ์ ที่รู้แจ้งด้วยใจก็ดี, อันเป็นสิ่งที่น่าปรารถนา น่ารักใคร่ น่าพอใจ เป็นที่ยวนตา ยวนใจให้รัก เป็นที่เข้าไปตั้งอาศัยอยู่แห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัดย้อมใจ มีอยู่ ; ภิกษุย่อมไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มีรูป เป็นต้นนั้น. เมื่อภิกษุไม่เพลิดเพลิน ไม่พร่ำสรรเสริญ ไม่เมาหมก ซึ่งอารมณ์มี รูป เป็นต้นนั้นอยู่, นันทิ (ความเพลิน) ย่อมดับไป. ปุณณะ ! เรากล่าวว่า “ความดับไม่มีเหลือของทุกข์มีได้ เพราะความดับไม่เหลือของความเพลิน” ดังนี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชชา
    สัทธรรมลำดับที่ : 718
    ชื่อบทธรรม :- ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชชา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=718
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชา
    --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๒ อย่างเหล่านี้ เป็นส่วนแห่งวิชชา มีอยู่สองอย่าง อะไรเล่า ?
    สองอย่างคือ สมถะและวิปัสสนา.
    --ภิกษุ ท. ! #สมถะ เมื่ออบรมแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/20/77/?keywords=สมโถ
    อบรมแล้ว จิตจะเจริญ.
    จิต เจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ?
    เจริญแล้ว #จะละราคะได้.
    --ภิกษุ ท. ! #วิปัสสนา เล่า เมื่อเจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? http://etipitaka.com/read/pali/20/77/?keywords=วิปสฺสนา
    เจริญแล้ว ปัญญาจะเจริญ.
    ปัญญา เจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ?
    เจริญแล้ว #จะละอวิชชาได้แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก.อํ 20/49/275.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/49/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%97
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก.อํ ๒๐/๗๗/๒๗๕.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/77/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%95
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=718
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=718
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชชา สัทธรรมลำดับที่ : 718 ชื่อบทธรรม :- ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชชา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=718 เนื้อความทั้งหมด :- --ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชา --ภิกษุ ท. ! ธรรม ๒ อย่างเหล่านี้ เป็นส่วนแห่งวิชชา มีอยู่สองอย่าง อะไรเล่า ? สองอย่างคือ สมถะและวิปัสสนา. --ภิกษุ ท. ! #สมถะ เมื่ออบรมแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? http://etipitaka.com/read/pali/20/77/?keywords=สมโถ อบรมแล้ว จิตจะเจริญ. จิต เจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? เจริญแล้ว #จะละราคะได้. --ภิกษุ ท. ! #วิปัสสนา เล่า เมื่อเจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? http://etipitaka.com/read/pali/20/77/?keywords=วิปสฺสนา เจริญแล้ว ปัญญาจะเจริญ. ปัญญา เจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? เจริญแล้ว #จะละอวิชชาได้แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก.อํ 20/49/275. http://etipitaka.com/read/thai/20/49/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%95%E0%B9%97 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก.อํ ๒๐/๗๗/๒๗๕. http://etipitaka.com/read/pali/20/77/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%97%E0%B9%95 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=718 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=718 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชา
    -ธรรมเป็นส่วนแห่งวิชา ภิกษุ ท. ! ธรรม ๒ อย่างเหล่านี้ เป็นส่วนแห่งวิชชา มีอยู่สองอย่าง อะไรเล่า ? สองอย่างคือ สมถะและวิปัสสนา. ภิกษุ ท. ! สมถะ เมื่ออบรมแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? อบรมแล้ว จิตจะเจริญ. จิต เจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? เจริญแล้ว จะละราคะได้. ภิกษุ ท. ! วิปัสสนา เล่า เมื่อเจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? เจริญแล้ว ปัญญาจะเจริญ. ปัญญา เจริญแล้ว จะได้ประโยชน์อะไร ? เจริญแล้ว จะละอวิชชาได้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 97 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​​นิโรธอริยสัจ(ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา)​
    สัทธรรมลำดับที่ : 349
    ชื่อบทธรรม :- นิทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ--ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=349
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --นิทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ-ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา
    http://etipitaka.com/read/pali/10/345/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ
    --ภิกษุ ท.! ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในที่ไหน ?
    เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในที่ไหน ?
    --ภิกษุ ท.! สิ่งใด มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    --ภิกษุ ท.! สิ่งใดเล่า มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ?
    --ภิกษุ ท.! ตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    หู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    จมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    กาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! รูป ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    เสียงทั้งหลายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    กลิ่นทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    รสทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    โผฏฐัพพะทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ธรรมารมณ์ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับไปย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! วิญญาณทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    วิญญาณทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    วิญญาณทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    วิญญาณทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    วิญญาณทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    วิญญาณทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    สัมผัสทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    สัมผัสทางกายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    สัมผัสทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! ความหมายรู้ในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความหมายรู้ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความหมายรู้ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความหมายรู้ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความหมายรู้ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความหมายรู้ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    --ภิกษุ ท.! ความคิดนึกในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความคิดนึกในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความคิดนึกในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความคิดนึกในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความคิดนึกในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความคิดนึกในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! ตัณหาในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ตัณหาในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ตัณหาในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รัก ที่ยินดีในโลก,
    ตัณหาในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ตัณหาในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ตัณหาในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ.
    --ภิกษุ ท.! ความตริตรองในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความตริตรองในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความตริตรองในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความตริตรองในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความตริตรองในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก,
    ความตริตรองในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ;
    ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ,
    เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,-
    http://etipitaka.com/read/pali/10/348/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหา. ที. 10/230/298.
    http://etipitaka.com/read/thai/10/230/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหา. ที. ๑๐/๓๔๖/๒๙๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/10/346/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=349
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=349
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟัง​เสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​​นิโรธอริยสัจ(ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา)​ สัทธรรมลำดับที่ : 349 ชื่อบทธรรม :- นิทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ--ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=349 เนื้อความทั้งหมด :- --นิทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ-ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา http://etipitaka.com/read/pali/10/345/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ --ภิกษุ ท.! ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในที่ไหน ? เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในที่ไหน ? --ภิกษุ ท.! สิ่งใด มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ, --ภิกษุ ท.! สิ่งใดเล่า มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ? --ภิกษุ ท.! ตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, หู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, จมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, กาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! รูป ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เสียงทั้งหลายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, กลิ่นทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, รสทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, โผฏฐัพพะทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ธรรมารมณ์ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไปย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! วิญญาณทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางกายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! ความหมายรู้ในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ, --ภิกษุ ท.! ความคิดนึกในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! ตัณหาในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รัก ที่ยินดีในโลก, ตัณหาในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ. --ภิกษุ ท.! ความตริตรองในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,- http://etipitaka.com/read/pali/10/348/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหา. ที. 10/230/298. http://etipitaka.com/read/thai/10/230/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหา. ที. ๑๐/๓๔๖/๒๙๘. http://etipitaka.com/read/pali/10/346/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%99%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=349 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=349 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟัง​เสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ
    -นิทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ ____________ นิทเทศ ๙ ว่าด้วยความดับแห่งตัณหา (มี ๒๙ เรื่อง) ที่ละไปดับไป แห่งตัณหา ภิกษุ ท.! ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในที่ไหน ? เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในที่ไหน ? ภิกษุ ท.! สิ่งใด มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ, ภิกษุ ท.! สิ่งใดเล่า มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ? ภิกษุ ท.! ตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, หู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, จมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, กาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! รูป ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เสียงทั้งหลายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, กลิ่นทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, รสทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, โผฏฐัพพะทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ธรรมารมณ์ทั้งหลาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดี ในโลก; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไปในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไปย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! วิญญาณทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, วิญญาณทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางกายมีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, สัมผัสทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางตา มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางหู มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางจมูก มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางลิ้น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางกาย มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, เวทนาเกิดแต่สัมผัสทางใจ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! ความหมายรู้ในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความหมายรู้ในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความ หมายรู้ในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ, ภิกษุ ท.! ความคิดนึกในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความคิดนึกในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! ตัณหาในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รัก ที่ยินดีในโลก, ตัณหาในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ตัณหาในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละ ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไปในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! ความตริตรึกในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึกในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึกในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึก ในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึกในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรึกในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับ ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ. ภิกษุ ท.! ความตริตรองในรูป มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในเสียง มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในกลิ่น มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในรส มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในโผฏฐัพพะ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก, ความตริตรองในธรรมารมณ์ มีภาวะเป็นที่รักที่ยินดีในโลก ; ตัณหานั้น เมื่อจะละไป ย่อมละไป ในสิ่งนั้น ๆ, เมื่อจะดับไป ย่อมดับไป ในสิ่งนั้น ๆ,-
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    สัทธรรมลำดับที่ : 717
    ชื่อบทธรรม :- วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    --ภิกษุ ท. ! #วิชชาเป็นสิ่งที่มาล่วงหน้า
    เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย
    อันติดตามมาด้วย หิริโอตตัปปะ
    http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=วิชฺชา+หิโรตฺตปฺปํ
    --ภิกษุ ท. !
    ๑--สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้ถึงซึ่งวิชชา มีความเห็นแจ้ง;
    ๒--สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ;
    ๓--สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ;
    ๔--สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา;
    ๕--สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ;
    ๖--สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ;
    ๗--สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้สัมมาวายามะ;
    ๘--สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/2/?keywords=สมฺมาสมาธิ
    (เป็นอันว่า องค์แปดแห่งสัมมามรรคหรือสัมมัตตะ ย่อมมีครบบริบูรณ์.
    ในสูตรอื่น (๒๔/๒๒๙/๑๐๕)
    http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95
    ได้ตรัสขยายออกไปอีก ๒ ข้อคือ :- )​
    http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=สมฺมาญาณํ
    ๙--สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ;
    ๑๐--สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/1/3.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/1/?keywords=%E0%B9%93
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑/๓.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=%E0%B9%93
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=717
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค สัทธรรมลำดับที่ : 717 ชื่อบทธรรม :- วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717 เนื้อความทั้งหมด :- --วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค --ภิกษุ ท. ! #วิชชาเป็นสิ่งที่มาล่วงหน้า เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย อันติดตามมาด้วย หิริโอตตัปปะ http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=วิชฺชา+หิโรตฺตปฺปํ --ภิกษุ ท. ! ๑--สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้ถึงซึ่งวิชชา มีความเห็นแจ้ง; ๒--สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ; ๓--สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ; ๔--สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา; ๕--สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ; ๖--สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ; ๗--สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้สัมมาวายามะ; ๘--สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ. http://etipitaka.com/read/pali/19/2/?keywords=สมฺมาสมาธิ (เป็นอันว่า องค์แปดแห่งสัมมามรรคหรือสัมมัตตะ ย่อมมีครบบริบูรณ์. ในสูตรอื่น (๒๔/๒๒๙/๑๐๕) http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%90%E0%B9%95 ได้ตรัสขยายออกไปอีก ๒ ข้อคือ :- )​ http://etipitaka.com/read/pali/24/229/?keywords=สมฺมาญาณํ ๙--สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ; ๑๐--สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/1/3. http://etipitaka.com/read/thai/19/1/?keywords=%E0%B9%93 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๑/๓. http://etipitaka.com/read/pali/19/1/?keywords=%E0%B9%93 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=717 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=717 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค
    -วิชชาเป็นตัวชักนำมาซึ่งองค์แปดแห่งสัมมามรรค ภิกษุ ท. ! วิชชา เป็นสิ่งที่มาล่วงหน้า เพื่อความถึงพร้อมแห่งกุศลธรรมทั้งหลาย อันติดตามมาด้วยหิริโอตตัปปะ ภิกษุ ท. ! สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้ถึงซึ่งวิชชา มีความเห็นแจ้ง; สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ; สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ; สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา; สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ; สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ; สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้สัมมาวายามะ; สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ. (เป็นอันว่า องค์แปดแห่งสัมมามรรคหรือสัมมัตตะ ย่อมมีครบบริบูรณ์. ในสูตรอื่น (๒๔/๒๒๘/๑๐๕) ได้ตรัสขยายออกไปอีก ๒ ข้อคือ :-) สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ; สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 108 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​ว่าความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์
    สัทธรรมลำดับที่ : 348
    ชื่อบทธรรม :- อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ
    --ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ (นิโรธอริยสัจ)​
    เป็นอย่างไรเล่า ?
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ
    --ภิกษุ ท. !
    ความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหานั้นนั่นเทียว,
    ความละไปของตัณหานั้น,
    ความสลัดกลับคืนของตัณหานั้น,
    ความหลุดออกไปของตัณหานั้น และ
    ความไม่มีที่อาศัยอีกต่อไปของตัณหานั้น อันใด ;
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ตณฺหา
    อันนี้ เราเรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.-

    #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/422/1681
    http://etipitaka.com/read/thai/19/422/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๔/๑๖๘๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=348
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​ว่าความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์ สัทธรรมลำดับที่ : 348 ชื่อบทธรรม :- อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348 เนื้อความทั้งหมด :- --อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ --ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ (นิโรธอริยสัจ)​ เป็นอย่างไรเล่า ? http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ทุกฺขนิโรโธ+อริยสจฺจํ --ภิกษุ ท. ! ความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหานั้นนั่นเทียว, ความละไปของตัณหานั้น, ความสลัดกลับคืนของตัณหานั้น, ความหลุดออกไปของตัณหานั้น และ ความไม่มีที่อาศัยอีกต่อไปของตัณหานั้น อันใด ; http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=ตณฺหา อันนี้ เราเรียกว่า #ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.- #ทุกขนิโรธ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/422/1681 http://etipitaka.com/read/thai/19/422/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๓๔/๑๖๘๑. http://etipitaka.com/read/pali/19/534/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%96%E0%B9%98%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=348 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=348 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - นิทเทศ ๘
    -นิทเทศ ๘ ว่าด้วยกิเลสทั้งหลายในฐานะสมุทัย จบ ภาค ๒ ว่าด้วยทุกขสมุทยอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐคือเหตุให้เกิดทุกข์ จบ คำชี้ชวนวิงวอน ____________ ภิกษุ ท.! โยคกรรม อันเธอพึงกระทำ เพื่อให้รู้ว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดทุกข์ นี้ความดับสนิทแห่งทุกข์ นี้ทางให้ถึงความดับสนิทแห่งทุกข์.” เทสิตํ. โว มยา นิพฺพานํ เทสิโต นิพฺพานคามิมคฺโค นิพพาน เราได้แสดงแล้ว, ทางให้ถึงนิพพาน เราก็ได้แสดงแล้ว แก่เธอทั้งหลาย. กิจใด ที่ศาสดาผู้เอ็นดู แสวงหาประโยชน์เกื้อกูล อาศัยความเอ็นดูแล้ว จะพึงทำแก่สาวกทั้งหลาย, กิจนั้น เราได้ทำแล้วแก่พวกเธอ. นั่น โคนไม้ ; นั่น เรือนว่าง. พวกเธอจงเพียรเผากิเลส, อย่าได้ประมาท, อย่าเป็นผู้ที่ต้องร้อนใจ ในภายหลังเลย. อยํ โว อมฺหากํ อนุสาสนี นี่แหละ วาจาเครื่องพร่ำสอนของเรา แก่เธอทั้งหลาย. (มหาวาร. สํ. - สฬา.สํ.) ภาค ๓ ว่าด้วย นิโรธอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์ ภาค ๓ มีเรื่อง :-นิทเทศ ๙ ว่าด้วยเรื่องความดับแห่งตัณหา ๒๙ เรื่อง นิทเทศ ๑๐ ว่าด้วยธรรมเป็นที่ดับตัณหา ๖๑ เรื่อง นิทเทศ ๑๑ ว่าด้วยผู้ดับตัณหา ๑๐๖ เรื่อง นิทเทศ ๑๒ ว่าด้วยอาการดับแห่งตัณหา ๖๑ เรื่อง อริยสัจจากพระโอษฐ์ ภาค ๓ ว่าด้วย นิโรธอริยสัจ ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ (มี ๔ นิทเทศ) อุทเทศแห่งนิโรธอริยสัจ ภิกษุ ท.! ความจริงอันประเสริฐ คือความดับไม่เหลือของทุกข์ เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ความดับสนิทเพราะความจางคลายไปโดยไม่เหลือของตัณหานั้นนั่นเทียว, ความละไปของตัณหานั้น, ความสลัดกลับคืนของตัณหานั้น, ความหลุดออกไปของตัณหานั้น และความไม่มีที่อาศัยอีกต่อไปของตัณหานั้น อันใด ; อันนี้ เราเรียกว่า ความจริงอันประเสริฐคือความดับไม่เหลือของทุกข์.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    สัทธรรมลำดับที่ : 716
    ชื่อบทธรรม :- ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน
    --ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ;
    เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก.
    --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด.
    +--เพราะว่า #ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด
    เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ;
    นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น
    http://etipitaka.com/read/pali/25/52/?keywords=นรสฺส+นาริสุ
    เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น.
    ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ
    จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว.
    +--คนพาลย่อมคิดผิดว่า
    เราจักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูฝน จักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน ดังนี้
    ย่อมไม่รู้อันตราย มัจจุย่อมพาเอาคนผู้มัวเมาในบุตรและปสุสัตว์
    มีมนัสข้องติดในอารมณ์ต่างๆ เหมือนห้วงน้ำใหญ่พาเอาชาวบ้านผู้หลับไป ฉะนั้น
    +--เมื่อบุคคลถูกมัจจุผู้ทำซึ่งที่สุดครอบงำแล้ว
    บุตรทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทานบิดา
    ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ถึงพวกพ้องทั้งหลาย
    ก็ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ความเป็นผู้ต้านทานไม่มีในญาติทั้งหลาย
    +--บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นี้แล้ว
    พึงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยศีล
    พึงรีบชำระทางเป็นที่ไปสู่นิพพานพลันทีเดียว

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/36/30.
    http://etipitaka.com/read/thai/25/36/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=716
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน สัทธรรมลำดับที่ : 716 ชื่อบทธรรม :- ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716 เนื้อความทั้งหมด :- --ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน --ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ; เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก. --ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด. +--เพราะว่า #ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ; นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น http://etipitaka.com/read/pali/25/52/?keywords=นรสฺส+นาริสุ เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น. ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว. +--คนพาลย่อมคิดผิดว่า เราจักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูฝน จักอยู่ในที่นี้ตลอดฤดูหนาว และฤดูร้อน ดังนี้ ย่อมไม่รู้อันตราย มัจจุย่อมพาเอาคนผู้มัวเมาในบุตรและปสุสัตว์ มีมนัสข้องติดในอารมณ์ต่างๆ เหมือนห้วงน้ำใหญ่พาเอาชาวบ้านผู้หลับไป ฉะนั้น +--เมื่อบุคคลถูกมัจจุผู้ทำซึ่งที่สุดครอบงำแล้ว บุตรทั้งหลาย ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทานบิดา ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ถึงพวกพ้องทั้งหลาย ก็ย่อมไม่มีเพื่อความต้านทาน ความเป็นผู้ต้านทานไม่มีในญาติทั้งหลาย +--บัณฑิตทราบอำนาจประโยชน์นี้แล้ว พึงเป็นผู้สำรวมแล้วด้วยศีล พึงรีบชำระทางเป็นที่ไปสู่นิพพานพลันทีเดียว #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. 25/36/30. http://etipitaka.com/read/thai/25/36/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ธ. ขุ. ๒๕/๕๑/๓๐. http://etipitaka.com/read/pali/25/51/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=716 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=716 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - [สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “ไม่ใช่ของเธอ” นั้น ในสูตรอื่น (๑๘/๑๖๒ /๒๒๐) ทรงแสดงด้วย อาตนะภายนอกหก คือ รูปะ .... สัททะ .... คันธะ .... รสะ .... โผฏฐัพพะ .... ธัมมารัมมณะ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๒/๒๗๙/๒๘๗; ๑๗/๔๒/๗๑-๗๒) ทรงแสดงด้วย เบญจขันธ์ คือ รูป .... เวทนา .... สัญญา .... สังขาร .... วิญญาณ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๘/๑๐๐/๑๔๙) ทรงแสดงด้วย อายตนิกธรรมห้าหมวด คืออายตนะภายในหก .... อายตนะภายนอกหก .... วิญญาณหก .... สัมผัสหก .... เวทนาหก.... รวมเป็นสามสิบ ดังนี้ก็มี].
    -[สำหรับสิ่งที่เรียกว่า “ไม่ใช่ของเธอ” นั้น ในสูตรอื่น (๑๘/๑๖๒ /๒๒๐) ทรงแสดงด้วย อาตนะภายนอกหก คือ รูปะ .... สัททะ .... คันธะ .... รสะ .... โผฏฐัพพะ .... ธัมมารัมมณะ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๒/๒๗๙/๒๘๗; ๑๗/๔๒/๗๑-๗๒) ทรงแสดงด้วย เบญจขันธ์ คือ รูป .... เวทนา .... สัญญา .... สังขาร .... วิญญาณ ดังนี้ก็มี ; ในสูตรอื่นอีก (๑๘/๑๐๐/๑๔๙) ทรงแสดงด้วย อายตนิกธรรมห้าหมวด คืออายตนะภายในหก .... อายตนะภายนอกหก .... วิญญาณหก .... สัมผัสหก .... เวทนาหก.... รวมเป็นสามสิบ ดังนี้ก็มี]. ฆ่ากิเลสอย่าฆ่าคน ท่านทั้งหลาย จงตัดป่าเถิด อย่าตัดต้นไม้ ; เพราะว่าภัยย่อมเกิด จากป่าต่างหาก. ภิกษุ ท. ! เธอทั้งหลาย จงตัดป่าและความรกแห่งป่าเสีย แล้วเป็นคนไม่มีป่าเถิด. เพราะว่า ตลอดเวลาที่กิเลสเพียงดังความรกของป่า ยังไม่ถูกตัดขาด เหลืออยู่แก่นระแม้สักว่าอณูเดียว ในนารีทั้งหลาย ; นระนั้น จักมีจิตปฏิพัทธ์ในนารีนั้น ตลอดกาลเพียงนั้น เหมือนลูกวัวที่ยังกินนมแม่ ติดพันแม่วัวอยู่ ฉันใด ก็ฉันนั้น. ท่านจงถอนเยื่อใยแห่งจิตใจของตนเสีย เหมือนเขาถอนบัวสายในฤดูสารทด้วยมือ จงพอกพูนทางแห่งสันติเถิด เพราะว่านิพพานเป็นสิ่งที่พระสุคตแสดงไว้แล้ว.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    สัทธรรมลำดับที่ : 347
    ชื่อบทธรรม :- ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    --ภิกษุ ท. ! อริยสัจมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ:-
    ๑.ทุกขอริยสัจ
    ๒.ทุกขสมุทยอริยสัจ
    ๓.ทุกขนิโรธอริยสัจ
    ๔.ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ.
    --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ #อริยสัจสี่อย่าง.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=จตฺตาริ+อริยสจฺจานิ
    --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอริยสัจสี่อย่างเหล่านี้,
    อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้ มีอยู่,
    อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละ มีอยู่.

    -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้นั้น ได้แก่ อริยสัจคือ ทุกข์ ;
    -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละนั้น ได้แก่ อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์.
    ทุกขนิโรธอริยสัจ ควรกระทำให้แจ้ง
    ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ควรให้เกิดมี(เจริญ)

    --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้
    พวกเธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามที่เป็นจริง
    ว่า ‘ทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’, ดังนี้ ;
    ว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’ ;ดังนี้; ...
    เถิด.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก#บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/432/1709
    http://etipitaka.com/read/thai/19/432/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๖/๑๗๐๙
    http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=347
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน..
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ สัทธรรมลำดับที่ : 347 ชื่อบทธรรม :- ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347 เนื้อความทั้งหมด :- --ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ --ภิกษุ ท. ! อริยสัจมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ:- ๑.ทุกขอริยสัจ ๒.ทุกขสมุทยอริยสัจ ๓.ทุกขนิโรธอริยสัจ ๔.ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ. --ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ #อริยสัจสี่อย่าง. http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=จตฺตาริ+อริยสจฺจานิ --ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอริยสัจสี่อย่างเหล่านี้, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้ มีอยู่, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละ มีอยู่. -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้นั้น ได้แก่ อริยสัจคือ ทุกข์ ; -​-ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละนั้น ได้แก่ อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์. ทุกขนิโรธอริยสัจ ควรกระทำให้แจ้ง ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ ควรให้เกิดมี(เจริญ) --ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตามที่เป็นจริง ว่า ‘ทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’, ดังนี้ ; ว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’ ;ดังนี้; ... เถิด.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก​ #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/432/1709 http://etipitaka.com/read/thai/19/432/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๔๖/๑๗๐๙ http://etipitaka.com/read/pali/19/546/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%90%E0%B9%99 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=347 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=347 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน.. http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ
    -ทุกขสมุทยอริยสัจเป็นสิ่งที่ควรละ ภิกษุ ท. ! อริยสัจมีสี่อย่างเหล่านี้, สี่อย่างเหล่าไหนเล่า ? สี่อย่างคือ:- ทุกขอริยสัจ ทุกขสมุทยอริยสัจ ทุกขนิโรธอริยสัจ ทุกขนิโรธคามินีปฏิปทาอริยสัจ. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้แล คือ อริยสัจสี่อย่าง. ภิกษุ ท. ! ในบรรดาอริยสัจสี่อย่างเหล่านี้, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้มีอยู่, อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละ มีอยู่. .... ภิกษุ ท. ! อริยสัจที่ใคร ๆ ควรรอบรู้นั้น ได้แก่ อริยสัจคือ ทุกข์ ; อริยสัจที่ใคร ๆ ควรละนั้น ได้แก่ อริยสัจคือ เหตุให้เกิดทุกข์. .... ภิกษุ ท. ! เพราะฉะนั้น ในกรณีนี้ พวกเธอทั้งหลาย พึงทำความเพียรเพื่อให้รู้ตาที่เป็นจริง ว่า ‘ทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’, ดังนี้ ; ว่า ‘เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นเช่นนี้ ๆ’ ; .... ดังนี้เถิด.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์
    สัทธรรมลำดับที่ : 715
    ชื่อบทธรรม :- ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=715
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์
    --ภิกษุ ท. ! สิ่งใด ไม่ใช่ของเธอ, สิ่งนั้น จงละมันเสีย ;
    สิ่งนั้นอันเธอละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ.
    --ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า ที่ไม่ใช่ของเธอ ?
    --ภิกษุ ท. ! จักษุ ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย ;
    จักษุนั้นอันเธอ ละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ.
    (ในกรณีแห่ง
    โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และมโน
    ก็ได้ตรัสต่อไปด้วยข้อความอย่างเดียวกัน
    ).
    --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน อะไรๆ ในแค่ว้นนี้
    ที่เป็นหญ้า เป็นไม้ เป็นกิ่งไม้ เป็นใบไม้
    ที่คนเขาขนไปทิ้ง หรือเผาเสีย หรือทำตามปัจจัย ;
    พวกเธอรู้สึกอย่างนี้บ้างหรือไม่ว่า
    คนเขาขนเราไป หรือเผาเรา หรือทำแก่เราตามปัจจัยของเขา ?
    “ไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า !” เพราะเหตุไรเล่า ?
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุไรเล่า ?
    ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่า ความรู้สึกว่า
    ตัวตน (อตตา) ของตน (อตตนิยา)
    http://etipitaka.com/read/pali/18/162/?keywords=อตฺตา+วา+อตฺตนิยํ+วาติ
    ของข้าพระองค์ไม่มีในสิ่งเหล่านั้น พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น
    : จักษุ .... โสตะ .... ฆานะ .... ชิวหา .... กายะ .... มโน
    ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย สิ่งเหล่านั้นอันเธอละเสียแล้ว
    #จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ แล.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/131/219-220.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/131/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๖๑/๒๑๙-๒๒๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/161/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99​ ถึง
    http://etipitaka.com/read/pali/18/161/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=715
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=715
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53
    ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์ สัทธรรมลำดับที่ : 715 ชื่อบทธรรม :- ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=715 เนื้อความทั้งหมด :- --ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์ --ภิกษุ ท. ! สิ่งใด ไม่ใช่ของเธอ, สิ่งนั้น จงละมันเสีย ; สิ่งนั้นอันเธอละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ. --ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า ที่ไม่ใช่ของเธอ ? --ภิกษุ ท. ! จักษุ ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย ; จักษุนั้นอันเธอ ละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ. (ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และมโน ก็ได้ตรัสต่อไปด้วยข้อความอย่างเดียวกัน ). --ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน อะไรๆ ในแค่ว้นนี้ ที่เป็นหญ้า เป็นไม้ เป็นกิ่งไม้ เป็นใบไม้ ที่คนเขาขนไปทิ้ง หรือเผาเสีย หรือทำตามปัจจัย ; พวกเธอรู้สึกอย่างนี้บ้างหรือไม่ว่า คนเขาขนเราไป หรือเผาเรา หรือทำแก่เราตามปัจจัยของเขา ? “ไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า !” เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุไรเล่า ? ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่า ความรู้สึกว่า ตัวตน (อตตา) ของตน (อตตนิยา) http://etipitaka.com/read/pali/18/162/?keywords=อตฺตา+วา+อตฺตนิยํ+วาติ ของข้าพระองค์ไม่มีในสิ่งเหล่านั้น พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : จักษุ .... โสตะ .... ฆานะ .... ชิวหา .... กายะ .... มโน ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย สิ่งเหล่านั้นอันเธอละเสียแล้ว #จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ แล.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/131/219-220. http://etipitaka.com/read/thai/18/131/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๖๑/๒๑๙-๒๒๐. http://etipitaka.com/read/pali/18/161/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%91%E0%B9%99​ ถึง http://etipitaka.com/read/pali/18/161/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%92%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=715 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53&id=715 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=53 ลำดับสาธยายธรรม : 53 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_53.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์
    -(การรู้อริยสัจทั้งสี่ ท่านจัดเป็นสัมมาทิฏฐิ แต่เป็นสัมมาทิฏฐิที่รวดเร็วกว่าสัมมาทิฏฐิอื่นๆ ในการทำลายกิเลส บรรลุนิพพาน ดังนั้นจึงเรียกในที่นี้ว่า ญาณประเภทยิงเร็ว). ทิ้งเสียนั่นแหละกลับจะเป็นประโยชน์ ภิกษุ ท. ! สิ่งใด ไม่ใช่ของเธอ, สิ่งนั้น จงละมันเสีย ; สิ่งนั้นอันเธอละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ. ภิกษุ ท. ! อะไรเล่า ที่ไม่ใช่ของเธอ ? ภิกษุ ท. ! จักษุ ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย ; จักษุนั้นอันเธอ ละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ. (ในกรณีแห่ง โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ และมโน ก็ได้ตรัสต่อไปด้วยข้อความอย่างเดียวกัน). ภิกษุ ท. ! เปรียบเหมือน อะไรๆ ในแคว้นนี้ ที่เป็นหญ้า เป็นไม้ เป็นกิ่งไม้ เป็นใบไม้ ที่คนเขาขนไปทิ้ง หรือเผาเสีย หรือทำตามปัจจัย ; พวกเธอรู้สึกอย่างนี้บ้างหรือไม่ว่า คนเขาขนเราไป หรือเผาเรา หรือทำแก่เราตามปัจจัยของเขา ? “ไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย พระเจ้าข้า !” เพราะเหตุไรเล่า ? “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุไรเล่า ? ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! เพราะเหตุว่า ความรู้สึกว่าตัวตน (อตตา) ของตน (อตตนิยา) ของข้าพระองค์ไม่มีในสิ่งเหล่านั้น พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ท. ! ฉันใดก็ฉันนั้น : จักษุ .... โสตะ .... ฆานะ .... ชิวหา .... กายะ .... มโน ไม่ใช่ของเธอ เธอจงละมันเสีย สิ่งเหล่านั้นอันเธอละเสียแล้ว จักเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขแก่เธอ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 112 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​ว่าอวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    สัทธรรมลำดับที่ : 346
    ชื่อบทธรรม :- อวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=346
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ที่เรียกกันว่า
    ‘อวิชชา-อวิชชา’ ดังนี้นั้น เป็นอย่างไร ?
    http://etipitaka.com/read/pali/17/209/?keywords=อวิชฺชา+อวิชฺชาติ
    และด้วยเหตุเพียงเท่าไร บุคคลจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงซึ่งอวิชชา ?
    พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ! ในกรณีนี้ บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ
    +--ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริง ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันมีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา ว่า
    “เป็นสิ่งที่มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา”
    ดังนี้ ;
    +--ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ว่า
    “เป็นสิ่งที่มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา”
    ดังนี้ ;
    +--ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
    อันมีทั้งความก่อขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ว่า
    “เป็นสิ่งที่มีความก่อขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา”
    ดังนี้.
    -​-ภิกษุ ! ความไม่รู้นี้ เราเรียกว่า #อวิชชา ;
    และบุคคลชื่อว่าเป็นผู้ถึงซึ่งอวิชชา ย่อมมีได้ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้
    แล.-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/209/320.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/165/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๐๙/๓๒๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/209/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=346
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=346
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​ว่าอวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา สัทธรรมลำดับที่ : 346 ชื่อบทธรรม :- อวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=346 เนื้อความทั้งหมด :- --อวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ที่เรียกกันว่า ‘อวิชชา-อวิชชา’ ดังนี้นั้น เป็นอย่างไร ? http://etipitaka.com/read/pali/17/209/?keywords=อวิชฺชา+อวิชฺชาติ และด้วยเหตุเพียงเท่าไร บุคคลจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงซึ่งอวิชชา ? พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ! ในกรณีนี้ บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ +--ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริง ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา ว่า “เป็นสิ่งที่มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา” ดังนี้ ; +--ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ว่า “เป็นสิ่งที่มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา” ดังนี้ ; +--ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีทั้งความก่อขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ว่า “เป็นสิ่งที่มีความก่อขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา” ดังนี้. -​-ภิกษุ ! ความไม่รู้นี้ เราเรียกว่า #อวิชชา ; และบุคคลชื่อว่าเป็นผู้ถึงซึ่งอวิชชา ย่อมมีได้ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ แล.- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/209/320. http://etipitaka.com/read/thai/17/165/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๒๐๙/๓๒๐. http://etipitaka.com/read/pali/17/209/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%92%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=346 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=346 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    -อวิชชา ของผู้ถึงซึ่งอวิชชา “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ที่เรียกกันว่า ‘อวิชชา-อวิชชา’ ดังนี้นั้น เป็นอย่างไร ? และด้วยเหตุเพียงเท่าไร บุคคลจึงชื่อว่า เป็นผู้ถึงซึ่งอวิชชา ? พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! ในกรณีนี้ บุถุชนผู้ไม่มีการสดับ ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริง ซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา ว่า “เป็นสิ่งที่มีความก่อขึ้นเป็นธรรมดา” ดังนี้ ; ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ว่า “เป็นสิ่งที่มีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา” ดังนี้ ; ไม่รู้ชัดแจ้งตามเป็นจริงซึ่งรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ อันมีทั้งความก่อขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา ว่า “เป็นสิ่งที่มีความก่อขึ้นและความเสื่อมไปเป็นธรรมดา” ดังนี้. ภิกษุ ! ความไม่รู้นี้ เราเรียกว่า อวิชชา ; และบุคคลชื่อว่าเป็นผู้ถึงซึ่งอวิชชา ย่อมมีได้ด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    สัทธรรมลำดับที่ : 714
    ชื่อบทธรรม :- อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    --ภิกษุ ท. ! นักรบอาชีพที่ประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ
    ย่อมเป็นผู้ ควรแก่พระราชา เป็นผู้ที่พระราชาควรใช้สอย
    ถึงการนับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา.
    องค์สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการคือ นักรบอาชีพในกรณีนี้
    ๑.เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง (ศีล-ปาติโมกขสังวร)
    ๒.เป็นผู้ยิงได้ไกล (ปัญญา-ญาณ)
    ๓.เป็นผู้ยิงได้เร็ว (อริยสัจจ)และ
    ๔.เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ๆ(อวิชชา)ได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่ประกอบด้วยธรรมสี่ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือ
    เป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล
    เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
    ธรรมสี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการคือ ภิกษุในกรณีนี้
    เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร
    http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=สีลวา+โหติ
    ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร
    มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย
    สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย.
    นี้แล #ภิกษุผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมเห็นตามที่เป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ
    ซึ่งรูปใดๆอันเป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน
    ที่เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด
    เลวหรือประณีตมีในที่ใกล้หรือในที่ไกล อย่างนี้ว่า
    “รูปทั้งปวงนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา”
    ดังนี้.

    (ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน).

    นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้ไกล.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้เร็ว เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า
    “นี้ทุกข์
    นี้เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์
    นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์
    นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้.
    นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้เร็ว.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ?
    คือ ภิกษุในกรณีนี้
    ย่อมทำลายกองอวิชชาใหญ่ได้.
    นี้แล #ภิกษุผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้.
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรมสี่ประการเหล่านี้แล
    ย่อมเป็นอาหุเนยยบุคคล
    ปาหุเนยยบุคคล
    ทักขิเณยยบุคคล
    อัญชลิกรณียบุคคล
    เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.-
    (การรู้อริยสัจทั้งสี่ ท่านจัดเป็นสัมมาทิฏฐิ
    แต่เป็นสัมมาทิฏฐิที่รวดเร็วกว่าสัมมาทิฏฐิอื่นๆ
    ในการทำลายกิเลส บรรลุนิพพาน
    ดังนั้นจึงเรียกในที่นี้ว่า #ญาณประเภทยิงเร็ว
    ).

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/165/181.
    http://etipitaka.com/read/thai/21/165/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๓๑/๑๘๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=714
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52
    ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว สัทธรรมลำดับที่ : 714 ชื่อบทธรรม :- อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714 เนื้อความทั้งหมด :- --อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว --ภิกษุ ท. ! นักรบอาชีพที่ประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ ย่อมเป็นผู้ ควรแก่พระราชา เป็นผู้ที่พระราชาควรใช้สอย ถึงการนับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา. องค์สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการคือ นักรบอาชีพในกรณีนี้ ๑.เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง (ศีล-ปาติโมกขสังวร) ๒.เป็นผู้ยิงได้ไกล (ปัญญา-ญาณ) ๓.เป็นผู้ยิงได้เร็ว (อริยสัจจ)และ ๔.เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ๆ(อวิชชา)ได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่ประกอบด้วยธรรมสี่ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือ เป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. ธรรมสี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=สีลวา+โหติ ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย. นี้แล #ภิกษุผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเห็นตามที่เป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ ซึ่งรูปใดๆอันเป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน ที่เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีตมีในที่ใกล้หรือในที่ไกล อย่างนี้ว่า “รูปทั้งปวงนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้. (ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน). นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้ไกล. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้เร็ว เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. นี้แล #ภิกษุผู้ยิงได้เร็ว. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมทำลายกองอวิชชาใหญ่ได้. นี้แล #ภิกษุผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. --ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรมสี่ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.- (การรู้อริยสัจทั้งสี่ ท่านจัดเป็นสัมมาทิฏฐิ แต่เป็นสัมมาทิฏฐิที่รวดเร็วกว่าสัมมาทิฏฐิอื่นๆ ในการทำลายกิเลส บรรลุนิพพาน ดังนั้นจึงเรียกในที่นี้ว่า #ญาณประเภทยิงเร็ว ). #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. 21/165/181. http://etipitaka.com/read/thai/21/165/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - จตุกฺก. อํ. ๒๑/๒๓๑/๑๘๑. http://etipitaka.com/read/pali/21/231/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%98%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=714 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=714 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52 ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว
    -อริยสัจจญาณ เป็นญาณประเภทยิงเร็ว ภิกษุ ท. ! นักรบอาชีพที่ประกอบด้วยองค์ ๔ ประการ ย่อมเป็นผู้ ควรแก่พระราชา เป็นผู้ที่พระราชาควรใช้สอย ถึงการนับว่าเป็นองค์อวัยวะของพระราชา. องค์สี่ประการ อย่างไรเล่า ? สี่ประการคือ นักรบอาชีพในกรณีนี้เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ๆได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่ประกอบด้วยธรรมสี่ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน คือ เป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า. ธรรมสี่ประการ อย่างไรเล่า? สี่ประการคือ ภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นผู้ยิงได้เร็ว และเป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมด้วยปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยมรรยาทและโคจร มีปกติเห็นเป็นภัยในโทษทั้งหลายแม้ว่าเป็นโทษเล็กน้อย สมาทานศึกษา อยู่ในสิกขาบททั้งหลาย. นี้แล ภิกษุผู้ฉลาดในฐานที่ตั้ง. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้ไกล เป็นอย่างไรเล่า ? คือภิกษุในกรณีนี้ ย่อมเห็นตามที่เป็นจริงด้วยปัญญาอันชอบ ซึ่งรูปใดๆอันเป็นอดีตอนาคตและปัจจุบัน ที่เป็นภายในหรือภายนอก หยาบหรือละเอียด เลวหรือประณีตมีในที่ใกล้หรือในที่ไกล อย่างนี้ว่า “รูปทั้งปวงนั้นไม่ใช่ของเรา ไม่เป็นเรา ไม่ใช่ตัวตนของเรา” ดังนี้. (ในกรณีแห่งเวทนา สัญญา สังขาร และวิญญาณ ก็มีข้อความที่ตรัสไว้อย่างเดียวกัน). นี้แล ภิกษุผู้ยิงได้ไกล. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ยิงได้เร็ว เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมรู้ชัดตามเป็นจริงว่า “นี้ทุกข์ นี้เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์ นี้ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ นี้ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”ดังนี้. นี้แล ภิกษุผู้ยิงได้เร็ว. ภิกษุ ท. ! ภิกษุที่เป็นผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้ เป็นอย่างไรเล่า ? คือ ภิกษุในกรณีนี้ ย่อมทำลายกองอวิชชาใหญ่ได้. นี้แล ภิกษุผู้ทำลายกองทัพใหญ่ได้. ภิกษุ ท. ! ภิกษุประกอบด้วยธรรมสี่ประการเหล่านี้แล ย่อมเป็นอาหุเนยยบุคคล ปาหุเนยยบุคคล ทักขิเณยยบุคคล อัญชลิกรณียบุคคล เป็นนาบุญของโลกไม่มีนาบุญอื่นยิ่งกว่า.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยอวิชชา
    สัทธรรมลำดับที่ : 345
    ชื่อบทธรรม :- บุคคลผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=345
    เนื้อความทั้งหมด :-
    บุคคลผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘อวิชชา-อวิชชา’ ดังนี้.
    ก็อวิชชานั้น เป็นอย่างไร ?
    และบุคคลชื่อว่า มีอวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ?​ พระเจ้าข้า !”
    --ภิกษุ ! ในโลกนี้ บุถุชนผู้ไม่ได้ยินได้ฟัง ย่อม
    ไม่รู้จัก รูป,
    ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของรูป,
    ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของรูป,
    ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของรูป ;
    +--เขาย่อม
    ไม่รู้จัก เวทนา,
    ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของเวทนา,
    ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของเวทนา,
    ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของเวทนา;
    +--เขาย่อม
    ไม่รู้จัก สัญญา,
    ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของสัญญา,
    ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของสัญญา,
    ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับของไม่เหลือของสัญญา ;
    +--เขาย่อม
    ไม่รู้จัก สังขารทั้งหลาย,
    ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของ สังขารทั้งหลาย,
    ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของ สังขารทั้งหลาย,
    ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของ สังขารทั้งหลาย ;
    +--เขาย่อม
    ไม่รู้จัก วิญญาณ*--๑,
    ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของวิญญาณ,
    ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของวิญญาณ,
    ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของวิญญาณ,
    +--ภิกษุ ! ความไม่รู้นี้ เราเรียกว่า “#อวิชชา” ;
    http://etipitaka.com/read/pali/17/198/?keywords=อวิชฺชา
    และบุคคลชื่อว่า มีอวิชชาด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ แล.-

    *--๑.วิญญาณในที่นี้ หมายถึง มโนวิญญาณ #ที่รู้สึกต่อความเพลินและความมัวเมาในรูปนั้น;
    ไม่ใช่จักขุวิญญาณ ที่เห็นรูปตามธรรมดา.

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/156/300.
    http://etipitaka.com/read/thai/17/156/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๘/๓๐๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/17/198/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=345
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=345
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่าบุคคลเป็นผู้ประกอบด้วยอวิชชา สัทธรรมลำดับที่ : 345 ชื่อบทธรรม :- บุคคลผู้ถึงซึ่งอวิชชา https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=345 เนื้อความทั้งหมด :- บุคคลผู้ถึงซึ่งอวิชชา --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘อวิชชา-อวิชชา’ ดังนี้. ก็อวิชชานั้น เป็นอย่างไร ? และบุคคลชื่อว่า มีอวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ?​ พระเจ้าข้า !” --ภิกษุ ! ในโลกนี้ บุถุชนผู้ไม่ได้ยินได้ฟัง ย่อม ไม่รู้จัก รูป, ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของรูป, ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของรูป, ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของรูป ; +--เขาย่อม ไม่รู้จัก เวทนา, ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของเวทนา, ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของเวทนา, ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของเวทนา; +--เขาย่อม ไม่รู้จัก สัญญา, ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของสัญญา, ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของสัญญา, ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับของไม่เหลือของสัญญา ; +--เขาย่อม ไม่รู้จัก สังขารทั้งหลาย, ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของ สังขารทั้งหลาย, ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของ สังขารทั้งหลาย, ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของ สังขารทั้งหลาย ; +--เขาย่อม ไม่รู้จัก วิญญาณ*--๑, ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของวิญญาณ, ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของวิญญาณ, ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของวิญญาณ, +--ภิกษุ ! ความไม่รู้นี้ เราเรียกว่า “#อวิชชา” ; http://etipitaka.com/read/pali/17/198/?keywords=อวิชฺชา และบุคคลชื่อว่า มีอวิชชาด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ แล.- *--๑.วิญญาณในที่นี้ หมายถึง มโนวิญญาณ #ที่รู้สึกต่อความเพลินและความมัวเมาในรูปนั้น; ไม่ใช่จักขุวิญญาณ ที่เห็นรูปตามธรรมดา. #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. 17/156/300. http://etipitaka.com/read/thai/17/156/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ขนฺธ. สํ. ๑๗/๑๙๘/๓๐๐. http://etipitaka.com/read/pali/17/198/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%90%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=345 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=345 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - บุคคลผู้ถึงซึ่งอวิชชา
    -บุคคลผู้ถึงซึ่งอวิชชา “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คนกล่าวกันว่า ‘อวิชชา-อวิชชา’ ดังนี้. ก็อวิชชานั้น เป็นอย่างไร ? และบุคคลชื่อว่า มีอวิชชา ด้วยเหตุเพียงเท่าไร ? พระเจ้าข้า !” ภิกษุ ! ในโลกนี้ บุถุชนผู้ไม่ได้ยินได้ฟัง ย่อม ไม่รู้จักรูป, ไม่รู้จัก เหตุให้เกิดของรูป, ไม่รู้จัก ความดับไม่เหลือของรูป, ไม่รู้จัก ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของรูป ; เขาย่อมไม่รู้จัก เวทนา, ไม่รู้จักเหตุให้เกิดของเวทนา, ไม่รู้จักความดับไม่เหลือของเวทนา, ไม่รู้จักทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของเวทนา; เขาย่อมไม่รู้จัก สัญญา, ไม่รู้จักเหตุให้เกิดของสัญญา, ไม่รู้จักความดับไม่เหลือของสัญญา, ไม่รู้จักทางดำเนินให้ถึงความดับ ๑. วิญญาณในที่นี้ หมายถึงมโนวิญญาณที่รู้สึกต่อความเพลินและความมัวเมาในรูปนั้น; ไม่ใช่จักขุวิญญาณ ที่เห็นรูปตามธรรมดา. ไม่เหลือของสัญญา ; เขาย่อมไม่รู้จักสังขารทั้งหลาย, ไม่รู้จักเหตุให้เกิดของสังขารทั้งหลาย, ไม่รู้จักความดับไม่เหลือของสังขารทั้งหลาย, ไม่รู้จักทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของสังขารทั้งหลาย ; เขาย่อมไม่รู้จัก วิญญาณ, ไม่รู้จักเหตุให้เกิดของวิญญาณ, ไม่รู้จักความดับไม่เหลือของวิญญาณ, ไม่รู้จักทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือของวิญญาณ, ภิกษุ ! ความไม่รู้นี้ เราเรียกว่า “อวิชชา” ; และบุคคลชื่อว่า มีอวิชชาด้วยเหตุมีประมาณเท่านี้ แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป
    สัทธรรมลำดับที่ : 713
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=713
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป
    ....
    --“ไพเราะนัก พระเจ้าข้า ! ไพเราะนัก พระเจ้าข้า ! เปรียบเหมือน
    การหงายของที่คว่ำ
    การเปิดของที่ปิด
    การชี้ทางแก่คนหลงทาง หรือ
    การตามประทีปไว้ในที่มืดเพื่อคนมีตายังดีจะได้เห็นรูป,
    ฉันใด ;
    ธรรมปริยายเป็นอันมาก ที่พระผู้มีพระภาคประกาศแล้ว
    ก็ฉันนั้น.
    --ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคที่เป็นที่พึ่ง
    รวมทั้งพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงจำข้าพระองค์ไว้ว่า
    เป็นอุบาสกผู้ถือเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ จนตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้ไป.
    --ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! โทษได้ท่วมทับข้าพระองค์แล้ว
    ตามที่เป็นคนพาล ตามที่เป็นคนหลง ตามที่มีจิตเป็นอกุศล
    คือข้อที่ข้าพระองค์ได้ปลงพระชนม์พระบิดาผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นธรรมราชา
    เสียจากชีวิต เพราะเหตุแห่งความต้องการเป็นใหญ่.
    --ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ !
    ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับซึ่งโทษโดยความเป็นโทษของข้าพระองค์
    เพื่อความสำรวมระวังต่อไปเถิด พระเจ้าข้า !”
    --เอาละ มหาราช ! โทษได้ท่วมทับมหาบพิตร
    ตามที่เป็นคนพาล ตามที่เป็นคนหลง ตามที่มีจิตเป็นอกุศล
    #จนถึงกับปลงพระชนม์บิดาผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นธรรมราชา เสียจากชีวิต
    http://etipitaka.com/read/pali/9/112/?keywords=ปิตรํ+ธมฺมิกํ+ธมฺมราชา
    เพราะเหตุแห่งความต้องการเป็นใหญ่.

    --มหาราช ! แต่ เพราะเหตุที่มหาบพิตรเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้ว
    ทำคืนตามธรรม พวกเรายอมรับโทษนั้นของมหาบพิตร.
    --มหาราช ! ผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้วทำคืนตามธรรม
    ถึงความสำรวมต่อไป; ข้อนี้เป็นความเจริญในอริยวินัย
    http://etipitaka.com/read/pali/9/113/?keywords=อริย+วินเย
    ของผู้นั้น.-
    ....
    เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท้าวเธอได้กราบทูลลาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
    ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลาไปในบัดนี้ หม่อมฉันมีกิจมาก มีกรณียะมาก พระผู้มีพระภาค
    ตรัสว่า ขอมหาบพิตรทรงสำคัญเวลา ณ บัดนี้เถิด.
    ครั้งนั้นแล พระเจ้าแผ่นดินมคธพระนามว่าอชาตศัตรู เวเทหีบุตร
    http://etipitaka.com/read/pali/9/113/?keywords=อชาตสตฺตุ+เวเทหิปุตฺโต
    ทรงเพลิดเพลินยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว เสด็จลุกจากอาสนะ
    ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทรงกระทำประทักษิณแล้วเสด็จไป.
    เมื่อท้าวเธอเสด็จไปไม่นานพระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า
    --ดูกรภิกษุทั้งหลาย
    พระราชาพระองค์นี้ถูกขุดเสียแล้วพระราชาพระองค์นี้ถูกขจัดเสียแล้ว
    #หากท้าวเธอจักไม่ปลงพระชนมชีพพระบิดาผู้ดำรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรมไซร้
    ธรรมจักษุ ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน จักเกิดขึ้นแก่ท้าวเธอ ณ ที่ประทับนี้ทีเดียว.
    พระผู้มีพระภาคได้ตรัสคำเป็นไวยากรณ์นี้แล้ว.
    +--ภิกษุเหล่านั้นชื่นชมยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้วแล.

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/78/138-140.
    http://etipitaka.com/read/thai/9/78/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%99
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๑๑๒/๑๓๘​-๑๔๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/9/112/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=713
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=713
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52
    ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป สัทธรรมลำดับที่ : 713 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=713 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป .... --“ไพเราะนัก พระเจ้าข้า ! ไพเราะนัก พระเจ้าข้า ! เปรียบเหมือน การหงายของที่คว่ำ การเปิดของที่ปิด การชี้ทางแก่คนหลงทาง หรือ การตามประทีปไว้ในที่มืดเพื่อคนมีตายังดีจะได้เห็นรูป, ฉันใด ; ธรรมปริยายเป็นอันมาก ที่พระผู้มีพระภาคประกาศแล้ว ก็ฉันนั้น. --ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคที่เป็นที่พึ่ง รวมทั้งพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงจำข้าพระองค์ไว้ว่า เป็นอุบาสกผู้ถือเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ จนตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้ไป. --ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! โทษได้ท่วมทับข้าพระองค์แล้ว ตามที่เป็นคนพาล ตามที่เป็นคนหลง ตามที่มีจิตเป็นอกุศล คือข้อที่ข้าพระองค์ได้ปลงพระชนม์พระบิดาผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นธรรมราชา เสียจากชีวิต เพราะเหตุแห่งความต้องการเป็นใหญ่. --ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับซึ่งโทษโดยความเป็นโทษของข้าพระองค์ เพื่อความสำรวมระวังต่อไปเถิด พระเจ้าข้า !” --เอาละ มหาราช ! โทษได้ท่วมทับมหาบพิตร ตามที่เป็นคนพาล ตามที่เป็นคนหลง ตามที่มีจิตเป็นอกุศล #จนถึงกับปลงพระชนม์บิดาผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นธรรมราชา เสียจากชีวิต http://etipitaka.com/read/pali/9/112/?keywords=ปิตรํ+ธมฺมิกํ+ธมฺมราชา เพราะเหตุแห่งความต้องการเป็นใหญ่. --มหาราช ! แต่ เพราะเหตุที่มหาบพิตรเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้ว ทำคืนตามธรรม พวกเรายอมรับโทษนั้นของมหาบพิตร. --มหาราช ! ผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้วทำคืนตามธรรม ถึงความสำรวมต่อไป; ข้อนี้เป็นความเจริญในอริยวินัย http://etipitaka.com/read/pali/9/113/?keywords=อริย+วินเย ของผู้นั้น.- .... เมื่อพระผู้มีพระภาคตรัสอย่างนี้แล้ว ท้าวเธอได้กราบทูลลาว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเช่นนั้นหม่อมฉันขอทูลลาไปในบัดนี้ หม่อมฉันมีกิจมาก มีกรณียะมาก พระผู้มีพระภาค ตรัสว่า ขอมหาบพิตรทรงสำคัญเวลา ณ บัดนี้เถิด. ครั้งนั้นแล พระเจ้าแผ่นดินมคธพระนามว่าอชาตศัตรู เวเทหีบุตร http://etipitaka.com/read/pali/9/113/?keywords=อชาตสตฺตุ+เวเทหิปุตฺโต ทรงเพลิดเพลินยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้ว เสด็จลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค ทรงกระทำประทักษิณแล้วเสด็จไป. เมื่อท้าวเธอเสด็จไปไม่นานพระผู้มีพระภาคตรัสกะภิกษุทั้งหลายว่า --ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระราชาพระองค์นี้ถูกขุดเสียแล้วพระราชาพระองค์นี้ถูกขจัดเสียแล้ว #หากท้าวเธอจักไม่ปลงพระชนมชีพพระบิดาผู้ดำรงธรรม เป็นพระราชาโดยธรรมไซร้ ธรรมจักษุ ปราศจากธุลี ปราศจากมลทิน จักเกิดขึ้นแก่ท้าวเธอ ณ ที่ประทับนี้ทีเดียว. พระผู้มีพระภาคได้ตรัสคำเป็นไวยากรณ์นี้แล้ว. +--ภิกษุเหล่านั้นชื่นชมยินดีภาษิตของพระผู้มีพระภาคแล้วแล. #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สี. ที. 9/78/138-140. http://etipitaka.com/read/thai/9/78/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%99 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สี. ที. ๙/๑๑๒/๑๓๘​-๑๔๐. http://etipitaka.com/read/pali/9/112/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%93%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=713 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=713 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52 ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป
    -สัมมาทิฏฐิควรจะรวมไปถึงการสำนึกบาป “ไพเราะนัก พระเจ้าข้า ! ไพเราะนัก พระเจ้าข้า ! เปรียบเหมือนการหงายของที่คว่ำ การเปิดของที่ปิด การชี้ทางแก่คนหลงทาง หรือการตามประทีปไว้ในที่มืดเพื่อคนมีตายังดีจะได้เห็นรูป, ฉันใด ; ธรรมปริยายเป็นอันมาก ที่พระผู้มีพระภาคประกาศแล้ว ก็ฉันนั้น. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ข้าพระองค์ขอถึงพระผู้มีพระภาคที่เป็นที่พึ่ง รวมทั้งพระธรรมและพระภิกษุสงฆ์ ขอพระผู้มีพระภาค จงทรงจำข้าพระองค์ไว้ว่า เป็นอุบาสกผู้ถือเอาพระรัตนตรัยเป็นสรณะ จนตลอดชีวิต จำเดิมแต่วันนี้ไป. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! โทษได้ท่วมทับข้าพระองค์แล้ว ตามที่เป็นคนพาล ตามที่เป็นคนหลง ตามที่มีจิตเป็นอกุศล คือข้อที่ข้าพระองค์ได้ปลงพระชนม์พระบิดาผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นธรรมราชา เสียจากชีวิต เพราะเหตุแห่งความต้องการเป็นใหญ่. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงรับซึ่งโทษโดยความเป็นโทษของข้าพระองค์ เพื่อความสำรวมระวังต่อไปเถิด พระเจ้าข้า !” เอาละ มหาราช ! โทษได้ท่วมทับมหาบพิตร ตามที่เป็นคนพาล ตามที่เป็นคนหลง ตามที่มีจิตเป็นอกุศล จนถึงกับปลงพระชนม์บิดาผู้ประกอบด้วยธรรม เป็นธรรมราชา เสียจากชีวิต เพราะเหตุแห่งความต้องการเป็นใหญ่. มหาราช ! แต่ เพราะเหตุที่มหาบพิตรเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้วทำคืนตามธรรม พวกเรายอมรับโทษนั้นของมหาบพิตร. มหาราช ! ผู้ใดเห็นโทษโดยความเป็นโทษแล้วทำคืนตามธรรม ถึงความสำรวมต่อไป; ข้อนี้เป็นความเจริญในอริยวินัย องผู้นั้น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 176 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่า เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม
    สัทธรรมลำดับที่ : 344
    ชื่อบทธรรม :- เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=344
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย
    ที่ทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม ?”
    --ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! รูป ทั้งหลายที่จะพึงรู้ได้ด้วยจักษุ มีอยู่,
    เป็นรูปที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก
    เป็นที่เข้าไปอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด.

    ถ้าว่า ภิกษุย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งรูปนั้น แล้วไซร้ ;
    เมื่อภิกษุนั้นเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะรูปนั้น,
    วิญญาณนั้น เป็นวิญญาณอันตัณหาในอารมณ์คือรูปอาศัยแล้ว
    วิญญาณนั้น คืออุปาทาน.
    --ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! #ภิกษุผู้มีอุปาทานย่อมไม่ปรินิพพาน.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/128/?keywords=สอุปาทาโน

    (ในกรณีแห่ง
    เสียง ที่จะพึงรู้สึกด้วย โสตะ
    กลิ่น ที่จะพึงรู้สึกด้วย ฆานะ
    รส ที่จะพึงรู้สึกด้วย ชิวหา
    กระทบทางผิวหนัง ที่จะพึงรู้สึกด้วย กายะ(ผิวกายทั่วไป)
    และธรรมารมณ์ ที่จะพึงรู้สึกด้วย​ มนะ
    ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำนองเดียวกันกับในกรณีแห่ง
    รูป ที่จะพึงรู้ได้ด้วย จักษุ
    ข้างบนนั้น
    ).
    --ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! นี้แล เป็นเหตุ
    นี้เป็นปัจจัย #ที่ทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม.-
    http://etipitaka.com/read/pali/18/128/?keywords=ทิฏฺเฐ+ว+ธมฺเม+โน+ปรินิพฺพายนฺติ

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/103/178.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/103/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๒๘/๑๗๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/128/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=344
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=344
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึง​ฝึกหัด​ศึกษาว่า เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม สัทธรรมลำดับที่ : 344 ชื่อบทธรรม :- เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=344 เนื้อความทั้งหมด :- --เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม ?” --ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! รูป ทั้งหลายที่จะพึงรู้ได้ด้วยจักษุ มีอยู่, เป็นรูปที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด. ถ้าว่า ภิกษุย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งรูปนั้น แล้วไซร้ ; เมื่อภิกษุนั้นเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะรูปนั้น, วิญญาณนั้น เป็นวิญญาณอันตัณหาในอารมณ์คือรูปอาศัยแล้ว วิญญาณนั้น คืออุปาทาน. --ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! #ภิกษุผู้มีอุปาทานย่อมไม่ปรินิพพาน. http://etipitaka.com/read/pali/18/128/?keywords=สอุปาทาโน (ในกรณีแห่ง เสียง ที่จะพึงรู้สึกด้วย โสตะ กลิ่น ที่จะพึงรู้สึกด้วย ฆานะ รส ที่จะพึงรู้สึกด้วย ชิวหา กระทบทางผิวหนัง ที่จะพึงรู้สึกด้วย กายะ(ผิวกายทั่วไป) และธรรมารมณ์ ที่จะพึงรู้สึกด้วย​ มนะ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำนองเดียวกันกับในกรณีแห่ง รูป ที่จะพึงรู้ได้ด้วย จักษุ ข้างบนนั้น ). --ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! นี้แล เป็นเหตุ นี้เป็นปัจจัย #ที่ทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม.- http://etipitaka.com/read/pali/18/128/?keywords=ทิฏฺเฐ+ว+ธมฺเม+โน+ปรินิพฺพายนฺติ #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/103/178. http://etipitaka.com/read/thai/18/103/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๒๘/๑๗๘. http://etipitaka.com/read/pali/18/128/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=344 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=344 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม
    -เหตุให้ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรเป็นปัจจัย ที่ทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม ?” ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! รูป ทั้งหลายที่จะพึงรู้ได้ด้วยจักษุ มีอยู่, เป็นรูปที่น่าปรารถนา น่าใคร่ น่าพอใจ มีลักษณะน่ารัก เป็นที่เข้าไปอาศัยแห่งความใคร่ เป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด. ถ้าว่า ภิกษุย่อมเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ ซึ่งรูปนั้น แล้วไซร้ ; เมื่อภิกษุนั้นเพลิดเพลิน พร่ำสรรเสริญ เมาหมกอยู่ กะรูปนั้น, วิญญาณนั้น เป็นวิญญาณอันตัณหา ในอารมณ์คือรูปอาศัยแล้ว วิญญาณนั้นคืออุปาทาน.๑ ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! ภิกษุผู้มีอุปาทาน ย่อมไม่ปรินิพพาน. (ในกรณีแห่งเสียงที่จะพึงรู้สึกด้วยโสตะ กลิ่น ที่จะพึงรู้สึกด้วยฆานะ รส ที่จะพึงรู้สึกด้วยชิวหา สัมผัสทางผิวหนัง ที่จะพึงรู้สึกด้วยกายะ(ผิวกายทั่วไป) และธรรมารมณ์ ที่จะพึงรู้สึกด้วยมนะ ก็ได้ตรัสไว้ด้วยข้อความทำนองเดียวกันกับในกรณีแห่งรูปที่จะพึงรู้ได้ด้วยจักษุ ข้างบนนั้น). ท่านผู้เป็นจอมเทพ ! นี้แล เป็นเหตุ นี้เป็นปัจจัย ที่ทำให้สัตว์บางพวกในโลกนี้ ไม่ปรินิพพานในทิฏฐธรรม.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 148 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่
    สัทธรรมลำดับที่ : 712
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=712
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา,
    นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็น นิมิตล่วงหน้า กล่าวคือ #รุ่งอรุณ.
    +--ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น
    : นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า
    เพื่อการรู้พร้อมอย่างยิ่งตามที่เป็นจริงซึ่งอริยสัจทั้งสี่ของภิกษุ
    สิ่งนั้นก็คือ #สัมมาทิฏฐิ.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/552/?keywords=ปุพฺพนิมิตฺตํ+ยทิทํ+สมฺมาทิฏฺฐิ
    +--ภิกษุ ท. ! สิ่งที่พึงหวังได้สำหรับภิกษุผู้มีสัมมาทิฏฐินั้น คือเธอจัก
    รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ทุกข์”
    รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์”
    รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์”
    ดังนี้.
    --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้
    เธอพึงประกอบโยคกรรมอันเป็นเครื่องกระทำ ให้รู้ว่า
    “ทุกข์ เป็นอย่างนี้,
    เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างนี้,
    ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้,
    ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้”
    ดังนี้.-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/437/1720.
    http://etipitaka.com/read/thai/19/437/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%92%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๕๒/๑๗๒๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/19/552/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%92%E0%B9%90
    ศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=712
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=712
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52
    ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่ สัทธรรมลำดับที่ : 712 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=712 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่ --ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา, นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็น นิมิตล่วงหน้า กล่าวคือ #รุ่งอรุณ. +--ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า เพื่อการรู้พร้อมอย่างยิ่งตามที่เป็นจริงซึ่งอริยสัจทั้งสี่ของภิกษุ สิ่งนั้นก็คือ #สัมมาทิฏฐิ. http://etipitaka.com/read/pali/19/552/?keywords=ปุพฺพนิมิตฺตํ+ยทิทํ+สมฺมาทิฏฺฐิ +--ภิกษุ ท. ! สิ่งที่พึงหวังได้สำหรับภิกษุผู้มีสัมมาทิฏฐินั้น คือเธอจัก รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ทุกข์” รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์” รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. --ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอันเป็นเครื่องกระทำ ให้รู้ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างนี้, ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้.- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. 19/437/1720. http://etipitaka.com/read/thai/19/437/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%92%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - มหาวาร. สํ. ๑๙/๕๕๒/๑๗๒๐. http://etipitaka.com/read/pali/19/552/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%97%E0%B9%92%E0%B9%90 ศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=712 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=712 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52 ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่
    -สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งการรู้อริยสัจสี่ ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา, นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็น นิมิตล่วงหน้า กล่าวคือ รุ่งอรุณ. ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า เพื่อการรู้พร้อมอย่างยิ่งตามที่เป็นจริงซึ่งอริยสัจทั้งสี่ของภิกษุ สิ่งนั้นก็คือ สัมมาทิฏฐิ. ภิกษุ ท. ! สิ่งที่พึงหวังได้สำหรับภิกษุผู้มีสัมมาทิฏฐินั้น คือเธอจักรู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ทุกข์” รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ เหตุให้เกิดขึ้นแห่งทุกข์” รู้ชัดตามความเป็นจริงว่า “นี้ ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่งทุกข์” ดังนี้. ภิกษุ ท. ! เพราะเหตุนั้น ในเรื่องนี้ เธอพึงประกอบโยคกรรมอันเป็นเครื่องกระทำ ให้รู้ว่า “ทุกข์ เป็นอย่างนี้, เหตุให้เกิดทุกข์ เป็นอย่างนี้, ความดับไม่เหลือแห่งทุกข์เป็นอย่างนี้, ทางดำเนินให้ถึงความดับไม่เหลือแห่ง ทุกข์ เป็นอย่างนี้” ดังนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 343
    ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=343
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ
    http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=วินยสญฺญี
    บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่วินัยในสิ่งที่ไม่ใช่วินัย
    บุคคลผู้ สำคัญว่าวินัยในสิ่งที่เป็นวินัย.
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญแก่บุคคล ๒ จำพวก ๆ เหล่านี้แล.-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทสสุตันตปิฎก : -ทุก. อํ. 20/80/362.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/80/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๘/๓๖๒.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%92
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=343
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=343
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก สัทธรรมลำดับที่ : 343 ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=343 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=วินยสญฺญี บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่วินัยในสิ่งที่ไม่ใช่วินัย บุคคลผู้ สำคัญว่าวินัยในสิ่งที่เป็นวินัย. --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญแก่บุคคล ๒ จำพวก ๆ เหล่านี้แล.- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทสสุตันตปิฎก : -ทุก. อํ. 20/80/362. http://etipitaka.com/read/thai/20/80/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : -ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๘/๓๖๒. http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%92 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=343 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=343 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่วินัยในสิ่งที่ไม่ใช่วินัย บุคคลผู้ สำคัญว่าวินัยในสิ่งที่เป็นวินัย.
    -ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลายย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่วินัยในสิ่งที่ไม่ใช่วินัย บุคคลผู้ สำคัญว่าวินัยในสิ่งที่เป็นวินัย. ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญแก่บุคคล ๒ จำพวก ๆ เหล่านี้แล.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่าสัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม
    สัทธรรมลำดับที่ : 711
    ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=711
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม
    --ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา,
    นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า
    กล่าวคือ #รุ่งอรุณ.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=อรุณุตฺตํ
    --ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า
    +--แห่งกุศลธรรมทั้งหลาย สิ่งนั้นก็คือ #สัมมาทิฏฐิ.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=สมฺมาทิฏฺฐิกสฺส
    --ภิกษุ ท. !
    +--สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาทิฏฐิ;
    +--สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาสังกัปปะ;
    +--สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาวาจา;
    +--สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมากัมมันตะ;
    +--สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาอาชีวะ;
    +--สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาวายามะ;
    +--สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาสติ;
    +--สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาสมาธิ;
    +--สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาญาณะ.-
    http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=สมฺมาวิมุตฺติ

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ. 24/207/121.
    http://etipitaka.com/read/thai/24/207/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ. ๒๔/๒๕๔/๑๒๑.
    http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=711
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=711
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52
    ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่าสัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม สัทธรรมลำดับที่ : 711 ชื่อบทธรรม :- สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=711 เนื้อความทั้งหมด :- --สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม --ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา, นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า กล่าวคือ #รุ่งอรุณ. http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=อรุณุตฺตํ --ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า +--แห่งกุศลธรรมทั้งหลาย สิ่งนั้นก็คือ #สัมมาทิฏฐิ. http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=สมฺมาทิฏฺฐิกสฺส --ภิกษุ ท. ! +--สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาทิฏฐิ; +--สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาสังกัปปะ; +--สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาวาจา; +--สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมากัมมันตะ; +--สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาอาชีวะ; +--สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาวายามะ; +--สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาสติ; +--สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาสมาธิ; +--สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มี สัมมาญาณะ.- http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=สมฺมาวิมุตฺติ #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ. 24/207/121. http://etipitaka.com/read/thai/24/207/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทสก.อํ. ๒๔/๒๕๔/๑๒๑. http://etipitaka.com/read/pali/24/254/?keywords=%E0%B9%91%E0%B9%92%E0%B9%91 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=711 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52&id=711 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=52 ลำดับสาธยายธรรม : 52 ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_52.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม
    -สัมมาทิฏฐิเป็นรุ่งอรุณแห่งกุศลธรรม ภิกษุ ท. ! เมื่อดวงอาทิตย์อุทัยขึ้นมา, นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า กล่าวคือ รุ่งอรุณ. ภิกษุ ท. ! ข้อนี้ก็ฉันนั้น : นั่นเป็นสิ่งที่มาก่อน นั่นเป็นนิมิตล่วงหน้า แห่งกุศลธรรมทั้งหลาย สิ่งนั้นก็คือ สัมมาทิฏฐิ. ภิกษุ ท. ! สัมมาสังกัปปะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาทิฏฐิ; สัมมาวาจา ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสังกัปปะ; สัมมากัมมันตะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวาจา; สัมมาอาชีวะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมากัมมันตะ; สัมมาวายามะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาอาชีวะ; สัมมาสติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาวายามะ; สัมมาสมาธิ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสติ; สัมมาญาณะ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาสมาธิ; สัมมาวิมุตติ ย่อมมีอย่างเต็มที่ แก่ผู้มีสัมมาญาณะ.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 342
    ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=ธมฺมสญฺญี
    บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ
    บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่ธรรม ในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม
    บุคคลผู้ สำคัญว่าธรรมในสิ่งที่เป็นธรรม.
    ....-

    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/360.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๘/๓๖๐.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90
    ศึกษาเพิ่มเติ่ม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=342
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษา​อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก สัทธรรมลำดับที่ : 342 ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=ธมฺมสญฺญี บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่ธรรม ในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม บุคคลผู้ สำคัญว่าธรรมในสิ่งที่เป็นธรรม. ....- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/360. http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๘/๓๖๐. http://etipitaka.com/read/pali/20/108/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%96%E0%B9%90 ศึกษาเพิ่มเติ่ม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=342 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=342 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸­à¸²à¸ªà¸§à¸°à¸—ั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    -ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่ธรรม ในสิ่งที่ไม่ใช่ธรรม บุคคลผู้ สำคัญว่าธรรมในสิ่งที่เป็นธรรม. ....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 157 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 341
    ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=341
    เนื้อความทั้งหมด :-
    ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=อนาปตฺ
    บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ
    บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่อาบัติในสิ่งที่ไม่ใช่อาบัติ
    บุคคลผู้ สำคัญว่าอาบัติในสิ่งที่เป็นอาบัติ.
    ...-
    #ทุกขสมุทัย#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/358.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๗/๓๕๘.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=341
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=341
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก สัทธรรมลำดับที่ : 341 ชื่อบทธรรม :- อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=341 เนื้อความทั้งหมด :- ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=อนาปตฺ บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่อาบัติในสิ่งที่ไม่ใช่อาบัติ บุคคลผู้ สำคัญว่าอาบัติในสิ่งที่เป็นอาบัติ. ...- #ทุกขสมุทัย​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/358. http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๗/๓๕๘. http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%98 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=341 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=341 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸­à¸²à¸ªà¸§à¸°à¸—ั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    -ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ใช่อาบัติในสิ่งที่ไม่ใช่อาบัติ บุคคลผู้ สำคัญว่าอาบัติในสิ่งที่เป็นอาบัติ. ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 709
    ชื่อบทธรรม :- ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง)
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=709
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง)
    (ระดับสูงสุด)
    --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คำที่กล่าวกันว่า “สัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ” ดังนี้ ;
    สัมมาทิฏฐิ ย่อมมี ด้วยเหตุเพียงไร พระเจ้าข้า ?”
    --กัจจานะ ! สัตว์โลกนี้ อาศัยแล้วซึ่งส่วนสุดทั้งสอง โดยมาก คือ
    http://etipitaka.com/read/pali/16/21/?keywords=อตฺถิต+นตฺถิต
    ส่วนสุดว่าสิ่งทั้งปวงมี (อตฺถิตา) และ
    ส่วนสุดว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี (นตฺถิตา).
    --กัจจานะ ! เมื่อบุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริง
    ซึ่งธรรมเป็นแดนเกิดขึ้นแห่งโลก (โลกสมุทย) อยู่,
    ทิฏฐิที่ว่าสิ่งทั้งปวงไม่มีในโลก ย่อมไม่มี.
    --กัจจานะ ! เมื่อบุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริง
    ซึ่งความดับไม่เหลือแห่งโลก (โลกนิโรธ) อยู่,
    ทิฏฐิที่ว่าสิ่งทั้งปวงมีในโลก ย่อมไม่มี.
    --กัจจานะ ! สัตว์โลกนี้โดยมาก มีอุปายะ อุปาทานะ และอภินิเวส เป็นเครื่องผูกพัน ;
    ส่วนสัมมาทิฏฐินี้ ย่อมไม่เข้าไปหา ย่อมไม่ยึดมั่น ย่อมไม่ตั้งทับ
    ซึ่งอุปายะและอุปาทานทั้งสองนั้น
    ในฐานะเป็นที่ตั้งทับเป็นที่ตามนอนแห่งอภินิเวส ของจิต ว่า
    “อัตตาของเรา”
    ดังนี้.
    “ทุกข์นั่นแหละ เมื่อเกิดย่อมเกิด
    ทุกข์นั่นแหละ เมื่อดับย่อมดับ”
    ดังนี้
    เป็นสัจจะที่ผู้มีสัมมาทิฏฐิไม่สงสัย ไม่ลังเล.
    ญาณดังนี้นั้น ย่อมมีแก่เขา ในกรณีนี้ โดยไม่มีผู้อื่นเป็นปัจจัยเพื่อความเชื่อ.
    --กัจจานะ ! สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/21/?keywords=สมฺมาทิฏฺฐิ

    (สัมมาทิฏฐิ ชนิดนี้
    เป็น #สัมมาทิฏฐิระดับโลกุตตระ คือเป็นไปเพื่อ โลกุตตระ
    ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะ ไม่มีส่วนแห่งบุญ ไม่ค่อยผ่านสายตา ไม่ค่อยผ่านหูผู้ศึกษาทั่ว ๆ ไป
    http://etipitaka.com/read/pali/16/20/?keywords=อวิชฺชา
    เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร
    เพราะสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ
    ...
    ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
    เพราะอวิชชานั่นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ สังขารจึงดับ
    เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ
    ...
    ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้
    ).-

    #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/15-16/42-44.
    http://etipitaka.com/read/thai/16/15/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒๐-๒๑/๔๒-๔๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/16/20/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92
    ศึกษา​เพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=709
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=709
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51
    ลำดับสาธยายธรรม : 51​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง) สัทธรรมลำดับที่ : 709 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง) https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=709 เนื้อความทั้งหมด :- --ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง) (ระดับสูงสุด) --“ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คำที่กล่าวกันว่า “สัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ” ดังนี้ ; สัมมาทิฏฐิ ย่อมมี ด้วยเหตุเพียงไร พระเจ้าข้า ?” --กัจจานะ ! สัตว์โลกนี้ อาศัยแล้วซึ่งส่วนสุดทั้งสอง โดยมาก คือ http://etipitaka.com/read/pali/16/21/?keywords=อตฺถิต+นตฺถิต ส่วนสุดว่าสิ่งทั้งปวงมี (อตฺถิตา) และ ส่วนสุดว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี (นตฺถิตา). --กัจจานะ ! เมื่อบุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริง ซึ่งธรรมเป็นแดนเกิดขึ้นแห่งโลก (โลกสมุทย) อยู่, ทิฏฐิที่ว่าสิ่งทั้งปวงไม่มีในโลก ย่อมไม่มี. --กัจจานะ ! เมื่อบุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริง ซึ่งความดับไม่เหลือแห่งโลก (โลกนิโรธ) อยู่, ทิฏฐิที่ว่าสิ่งทั้งปวงมีในโลก ย่อมไม่มี. --กัจจานะ ! สัตว์โลกนี้โดยมาก มีอุปายะ อุปาทานะ และอภินิเวส เป็นเครื่องผูกพัน ; ส่วนสัมมาทิฏฐินี้ ย่อมไม่เข้าไปหา ย่อมไม่ยึดมั่น ย่อมไม่ตั้งทับ ซึ่งอุปายะและอุปาทานทั้งสองนั้น ในฐานะเป็นที่ตั้งทับเป็นที่ตามนอนแห่งอภินิเวส ของจิต ว่า “อัตตาของเรา” ดังนี้. “ทุกข์นั่นแหละ เมื่อเกิดย่อมเกิด ทุกข์นั่นแหละ เมื่อดับย่อมดับ” ดังนี้ เป็นสัจจะที่ผู้มีสัมมาทิฏฐิไม่สงสัย ไม่ลังเล. ญาณดังนี้นั้น ย่อมมีแก่เขา ในกรณีนี้ โดยไม่มีผู้อื่นเป็นปัจจัยเพื่อความเชื่อ. --กัจจานะ ! สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล. http://etipitaka.com/read/pali/16/21/?keywords=สมฺมาทิฏฺฐิ (สัมมาทิฏฐิ ชนิดนี้ เป็น #สัมมาทิฏฐิระดับโลกุตตระ คือเป็นไปเพื่อ โลกุตตระ ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะ ไม่มีส่วนแห่งบุญ ไม่ค่อยผ่านสายตา ไม่ค่อยผ่านหูผู้ศึกษาทั่ว ๆ ไป http://etipitaka.com/read/pali/16/20/?keywords=อวิชฺชา เพราะอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมีสังขาร เพราะสังขารเป็นปัจจัยจึงมีวิญญาณ ... ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ เพราะอวิชชานั่นแหละดับด้วยการสำรอกโดยไม่เหลือ สังขารจึงดับ เพราะสังขารดับ วิญญาณจึงดับ ... ความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ).- #ทุกขมรรค #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. 16/15-16/42-44. http://etipitaka.com/read/thai/16/15/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - นิทาน. สํ. ๑๖/๒๐-๒๑/๔๒-๔๔. http://etipitaka.com/read/pali/16/20/?keywords=%E0%B9%94%E0%B9%92 ศึกษา​เพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=709 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=709 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51 ลำดับสาธยายธรรม : 51​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง)
    -ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ (อีกปริยายหนึ่ง) (ระดับสูงสุด) “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ! คำที่กล่าวกันว่า “สัมมาทิฏฐิ สัมมาทิฏฐิ” ดังนี้ ; สัมมาทิฏฐิ ย่อมมี ด้วยเหตุเพียงไร พระเจ้าข้า ?” กัจจานะ ! สัตว์โลกนี้ อาศัยแล้วซึ่งส่วนสุดทั้งสอง โดยมาก คือ ส่วนสุดว่าสิ่งทั้งปวงมี (อตฺถิตา) และ ส่วนสุดว่าสิ่งทั้งปวงไม่มี (นตฺถิตา). กัจจานะ ! เมื่อบุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริง ซึ่งธรรมเป็นแดนเกิดขึ้นแห่งโลก (โลกสมุทย) อยู่, ทิฏฐิที่ว่าสิ่งทั้งปวงไม่มีในโลก ย่อมไม่มี. กัจจานะ ! เมื่อบุคคลเห็นด้วยปัญญาอันชอบตามที่เป็นจริง ซึ่งความดับไม่เหลือแห่งโลก (โลกนิโรธ) อยู่, ทิฏฐิที่ว่าสิ่งทั้งปวงมีในโลก ย่อมไม่มี. กัจจานะ ! สัตว์โลกนี้โดยมาก มีอุปายะ อุปาทานะ และอภินิเวสเป็นเครื่องผูกพัน๑ ; ส่วนสัมมาทิฏฐินี้ ย่อมไม่เข้าไปหา ย่อมไม่ยึดมั่น ย่อมไม่ตั้งทับ ซึ่งอุปายะและอุปาทานทั้งสองนั้น ในฐานะเป็นที่ตั้งทับเป็นที่ตามนอนแห่งอภินิเวส ของจิต ว่า “อัตตาของเรา” ดังนี้. “ทุกข์นั่นแหละ เมื่อเกิดย่อมเกิด ทุกข์นั่นแหละ เมื่อดับย่อมดับ” ดังนี้ เป็นสัจจะที่ผู้มีสัมมาทิฏฐิไม่สงสัย ไม่ลังเล. ญาณดังนี้นั้น ย่อมมีแก่เขา ในกรณีนี้ โดยไม่มีผู้อื่นเป็นปัจจัยเพื่อความเชื่อ. กัจจานะ ! สัมมาทิฏฐิ ย่อมมีด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล. (สัมมาทิฏฐิ ชนิดนี้ เป็น สัมมาทิฏฐิระดับโลกุตตระ คือเป็นไปเพื่อ โลกุตตระ ไม่เป็นไปเพื่ออาสวะ ไม่มีส่วนแห่งบุญ ไม่ค่อยผ่านสายตา ไม่ค่อยผ่านหูผู้ศึกษาทั่ว ๆ ไป).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 340
    ชื่อบทธรรม :-​ อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=340
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%95+กปฺปิเย
    บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ
    บุคคล ผู้สำคัญว่าไม่ควรในสิ่งที่ไม่ควร
    บุคคล ผู้สำคัญว่าควรในสิ่งที่ควร.
    ....-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์

    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/356.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๗/๓๕๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=340
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=340
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก สัทธรรมลำดับที่ : 340 ชื่อบทธรรม :-​ อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=340 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%95+กปฺปิเย บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคล ผู้สำคัญว่าไม่ควรในสิ่งที่ไม่ควร บุคคล ผู้สำคัญว่าควรในสิ่งที่ควร. ....- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/356. http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๗/๓๕๖. http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%96 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=340 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=340 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸­à¸²à¸ªà¸§à¸°à¸—ั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    -ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ สำคัญว่าไม่ควรในสิ่งที่ไม่ควร บุคคล ผู้สำคัญว่าควรในสิ่งที่ควร. ....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ(การเห็นอยู่โดยถูกต้อง)
    สัทธรรมลำดับที่ : 708
    ชื่อบทธรรม :- ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=708
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ - อุปมา - ไวพจน์ ของสัมมาทิฏฐิ
    --ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ
    --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเห็น จักษุ อันไม่เที่ยงนั่นแล
    ว่าไม่เที่ยง ความเห็น เช่นนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ (การเห็นอยู่โดยถูกต้อง) ของภิกษุนั้น.
    +-เมื่อเห็นอยู่โดยชอบ ย่อมเบื่อหน่าย;
    +-เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ;
    +-เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ;
    +-เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ
    กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้น แล้วด้วยดี” ดังนี้.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/179/?keywords=นิพฺพินฺทติ+นนฺทิ+ราค

    (ในกรณีแห่งอายตนะภายนอกในที่เหลืออีก ๕ คือ
    ๒.โสตะ ๓.ฆานะ ๔.ชิวหา ๕.กายะ ๖.มโน
    และ
    ในกรณีแห่งอายตนะภายนอก ๖ คือ
    ๑.รูป ๒.เสียง ๓.กลิ่น ๔.รส ๕.โผฏฐัพพะ ๖.ธรรมารมณ์
    ก็ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่ง ๑.จักษุ
    ทุกประการ
    ).-

    #ทุกขมรรค#อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/145/245-246.
    http://etipitaka.com/read/thai/18/145/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%95
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๙/๒๔๕-๒๔๖.
    http://etipitaka.com/read/pali/18/179/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%95
    สศึกษา​เพิ่มเติม....
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=708
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=708
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51
    ลำดับสาธยายธรรม : 51 ฟัง​เสียง...
    http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    อริย​สาวก​พึง​ฝึกหัด​ศึกษา​ว่า​ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ(การเห็นอยู่โดยถูกต้อง) สัทธรรมลำดับที่ : 708 ชื่อบทธรรม :- ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=708 เนื้อความทั้งหมด :- --หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ - อุปมา - ไวพจน์ ของสัมมาทิฏฐิ --ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ --ภิกษุ ท. ! ภิกษุเห็น จักษุ อันไม่เที่ยงนั่นแล ว่าไม่เที่ยง ความเห็น เช่นนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ (การเห็นอยู่โดยถูกต้อง) ของภิกษุนั้น. +-เมื่อเห็นอยู่โดยชอบ ย่อมเบื่อหน่าย; +-เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ; +-เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ; +-เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้น แล้วด้วยดี” ดังนี้. http://etipitaka.com/read/pali/18/179/?keywords=นิพฺพินฺทติ+นนฺทิ+ราค (ในกรณีแห่งอายตนะภายนอกในที่เหลืออีก ๕ คือ ๒.โสตะ ๓.ฆานะ ๔.ชิวหา ๕.กายะ ๖.มโน และ ในกรณีแห่งอายตนะภายนอก ๖ คือ ๑.รูป ๒.เสียง ๓.กลิ่น ๔.รส ๕.โผฏฐัพพะ ๖.ธรรมารมณ์ ก็ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่ง ๑.จักษุ ทุกประการ ).- #ทุกขมรรค​ #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. 18/145/245-246. http://etipitaka.com/read/thai/18/145/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%95 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - สฬา. สํ. ๑๘/๑๗๙/๒๔๕-๒๔๖. http://etipitaka.com/read/pali/18/179/?keywords=%E0%B9%92%E0%B9%94%E0%B9%95 สศึกษา​เพิ่มเติม.... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=708 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51&id=708 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=51 ลำดับสาธยายธรรม : 51 ฟัง​เสียง... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_51.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ - อุปมา - ไวพจน์ ของสัมมาทิฏฐิ--ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ
    -(ผู้ศึกษาพึงสังเกตุให้เห็นว่า สัมมาทิฏฐิ ๆ คำเดียวกันนี้ แยกออกไปได้ อย่างตรงกันข้าม คือพวกหนึ่งมีอาสวะ เป็นไปเพื่ออาสวะ มีส่วนแห่งบุญอันเป็นอุปธิ มีลักษณะเป็นตัวตน หรือเนื่องด้วยตัวตน ส่วนสัมมาทิฏฐิอีกชนิดหนึ่งนั้นตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง ไม่มีลักษณะแห่งตัวตน ไม่เกี่ยวข้องกับบุญ แถมยังนำไปสู่โลกุตตระด้วย จึงแบ่งแยกเป็นโลกิยสัมมาทิฏฐิและโลกุตตรสัมมาทิฏฐิ ไม่พึงนำไปปนกัน หรือใช้แทนกันอย่างที่พูดกันอย่างสะเพร่าหรือหละหลวมจนเข้าใจธรรมะในพระพุทธศาสนาไม่ได้ ขอให้ช่วยกันระวังให้มากที่สุด). หมวด ข. ว่าด้วย ลักษณะ - อุปมา - ไวพจน์ ของสัมมาทิฏฐิ ลักษณะของสัมมาทิฏฐิ ภิกษุ ท. ! ภิกษุเห็น จักษุ อันไม่เที่ยงนั่นแล ว่าไม่เที่ยง ความเห็น เช่นนั้น เป็นสัมมาทิฏฐิ (การเห็นอยู่โดยถูกต้อง) ของภิกษุนั้น. เมื่อเห็นอยู่โดยชอบ ย่อมเบื่อหน่าย; เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิ จึงมีความสิ้นไปแห่งราคะ; เพราะความสิ้นไปแห่งราคะ จึงมีความสิ้นไปแห่งนันทิ; เพราะความสิ้นไปแห่งนันทิและราคะ กล่าวได้ว่า “จิตหลุดพ้น แล้วด้วยดี” ดังนี้. (ในกรณีแห่งอายตนะภายนอกในที่เหลืออีก ๕ คือ โสตะ ฆานะ ชิวหา กายะ มโน และในกรณีแห่งอายตนะภายนอก ๖ คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ก็ตรัสอย่างเดียวกันกับในกรณีแห่งจักษุ ทุกประการ).
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 186 มุมมอง 0 รีวิว
  • อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    สัทธรรมลำดับที่ : 339
    ชื่อบทธรรม : อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=339
    เนื้อความทั้งหมด :-
    --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=อาสว
    บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ
    บุคคลผู้ ไม่ขยะแขยงต่อสิ่งที่ไม่ควรขยะแขยง
    บุคคลผู้ ขยะแขยงสิ่งที่ควรขยะแขยง.
    ....-

    #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์
    อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/354.
    http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%94
    อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๗/๓๕๔.
    http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%94
    ศึกษาเพิ่มเติม...
    https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=339
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=339
    หรือ
    http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23
    ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    อริยสาวกพึงฝึกหัด​ศึกษาอาสวะย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก สัทธรรมลำดับที่ : 339 ชื่อบทธรรม : อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=339 เนื้อความทั้งหมด :- --ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=อาสว บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ ไม่ขยะแขยงต่อสิ่งที่ไม่ควรขยะแขยง บุคคลผู้ ขยะแขยงสิ่งที่ควรขยะแขยง. ....- #ทุกขสมุทัย #อริยสัจสี่ #สุตันตปิฎก #บาลีสุตันตปิฎก #พุทธธัมมเจดีย์​ อ้างอิงไทยสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. 20/79/354. http://etipitaka.com/read/thai/20/79/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%94 อ้างอิงบาลีสุตันตปิฎก : - ทุก. อํ. ๒๐/๑๐๗/๓๕๔. http://etipitaka.com/read/pali/20/107/?keywords=%E0%B9%93%E0%B9%95%E0%B9%94 ศึกษาเพิ่มเติม... https://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/AriyasajSearch/SinglePage.php?key=339 http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23&id=339 หรือ http://www.xn--n3ccdaca9awfta5nmbzd0nd.com/2015/checkForm.php?songno=23 ลำดับสาธยายธรรม : 23​ ฟังเสียงอ่าน... http://www.manodham.com/sound/002/mp3/002_23.mp3
    WWW.XN--N3CCDACA9AWFTA5NMBZD0ND.COM
    - ¸­à¸²à¸ªà¸§à¸°à¸—ั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก
    -ภิกษุ ท. ! อาสวะทั้งหลาย ย่อมไม่เจริญ แก่บุคคล ๒ จำพวก. บุคคล ๒ จำพวกเหล่าไหนเล่า ? สองจำพวกคือ บุคคลผู้ ไม่ขยะแขยงต่อสิ่งที่ไม่ควรขยะแขยง บุคคลผู้ ขยะแขยงสิ่งที่ควรขยะแขยง. ....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts