• Adata เปิดตัว Project Titan: SSD ที่อาจรองรับการแสดงผล 8K

    Adata เปิดตัวแนวคิดใหม่สำหรับ SSD ที่ไม่เพียงแต่มีความเร็วสูง แต่ยังสามารถรองรับการแสดงผลผ่าน DisplayPort โดย Project Titan อาจเป็นก้าวแรกของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่สามารถทำงานร่วมกับจอภาพโดยตรง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Project Titan
    ✅ Project Titan เป็น SSD ที่อาจรองรับการแสดงผล 8K ผ่าน DisplayPort
    - เป็นแนวคิดใหม่ที่ รวมการจัดเก็บข้อมูลและการแสดงผลไว้ในอุปกรณ์เดียวกัน

    ✅ Adata ตั้งเป้าสร้าง SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด
    - คาดว่า จะมีความเร็วอ่าน/เขียนสูงกว่า 10,000MB/s

    ✅ Project Titan อาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลและแสดงผลวิดีโอพร้อมกัน
    - ลดความจำเป็นในการใช้หลายอุปกรณ์สำหรับงานสร้างสรรค์

    ✅ Adata นำเสนอ Titan ในงาน Computex 2025 พร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Thunderbolt 5 SSD
    - Thunderbolt 5 SSD สามารถทำความเร็วได้ถึง 6,000MB/s

    ✅ แนวคิดของ Titan อาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ไฮบริดที่รวมการจัดเก็บข้อมูลและการแสดงผล
    - อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้น

    https://www.techradar.com/pro/this-company-wants-to-build-the-fastest-ssd-ever-and-one-that-can-even-connect-to-an-8k-monitor
    Adata เปิดตัว Project Titan: SSD ที่อาจรองรับการแสดงผล 8K Adata เปิดตัวแนวคิดใหม่สำหรับ SSD ที่ไม่เพียงแต่มีความเร็วสูง แต่ยังสามารถรองรับการแสดงผลผ่าน DisplayPort โดย Project Titan อาจเป็นก้าวแรกของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่สามารถทำงานร่วมกับจอภาพโดยตรง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Project Titan ✅ Project Titan เป็น SSD ที่อาจรองรับการแสดงผล 8K ผ่าน DisplayPort - เป็นแนวคิดใหม่ที่ รวมการจัดเก็บข้อมูลและการแสดงผลไว้ในอุปกรณ์เดียวกัน ✅ Adata ตั้งเป้าสร้าง SSD ที่เร็วที่สุดในตลาด - คาดว่า จะมีความเร็วอ่าน/เขียนสูงกว่า 10,000MB/s ✅ Project Titan อาจช่วยให้ผู้ใช้สามารถโอนถ่ายข้อมูลและแสดงผลวิดีโอพร้อมกัน - ลดความจำเป็นในการใช้หลายอุปกรณ์สำหรับงานสร้างสรรค์ ✅ Adata นำเสนอ Titan ในงาน Computex 2025 พร้อมผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เช่น Thunderbolt 5 SSD - Thunderbolt 5 SSD สามารถทำความเร็วได้ถึง 6,000MB/s ✅ แนวคิดของ Titan อาจนำไปสู่การพัฒนาอุปกรณ์ไฮบริดที่รวมการจัดเก็บข้อมูลและการแสดงผล - อาจเป็นจุดเริ่มต้นของ อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายขึ้น https://www.techradar.com/pro/this-company-wants-to-build-the-fastest-ssd-ever-and-one-that-can-even-connect-to-an-8k-monitor
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 30 มุมมอง 0 รีวิว
  • Apple เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่ผสาน AI ในช่วงปลายปี 2026

    Apple กำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะสำหรับผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเทศกาลปลายปี 2026 โดยแว่นตานี้จะมี ไมโครโฟน, ลำโพง และกล้อง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ โต้ตอบกับ Siri และ Apple Intelligence ผ่านเสียง, ถ่ายภาพและวิดีโอ, ฟังเพลง, รับสายโทรศัพท์ และนำทางแบบเรียลไทม์

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแว่นตาอัจฉริยะของ Apple
    ✅ Apple กำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะที่สามารถโต้ตอบกับ Siri และ Apple Intelligence
    - รองรับ การสั่งงานด้วยเสียง, ถ่ายภาพ, ฟังเพลง และนำทาง

    ✅ แว่นตาจะมีไมโครโฟน, ลำโพง และกล้องในตัว
    - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนตลอดเวลา

    ✅ Apple ตั้งเป้าพัฒนาแว่นตา AR ในอนาคต แต่รุ่นแรกจะยังไม่มีฟีเจอร์ AR เต็มรูปแบบ
    - เป็น ก้าวแรกสู่แว่นตา AR ที่สมบูรณ์แบบในอนาคต

    ✅ Apple เปรียบเทียบแว่นตาของตนกับ Meta Ray-Ban Smart Glasses แต่ระบุว่ามีคุณภาพดีกว่า
    - Meta เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่มีราคาเริ่มต้นที่ $299

    ✅ Apple ตัดสินใจไม่พัฒนา Apple Watch ที่มีกล้องในตัว
    - เนื่องจาก แนวคิดนี้ไม่เคยได้รับความนิยมในตลาดสมาร์ทวอทช์

    https://www.techspot.com/news/108039-apple-ai-infused-smart-glasses-arrive-late-2026.html
    Apple เตรียมเปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่ผสาน AI ในช่วงปลายปี 2026 Apple กำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะสำหรับผู้บริโภค ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวในช่วงเทศกาลปลายปี 2026 โดยแว่นตานี้จะมี ไมโครโฟน, ลำโพง และกล้อง เพื่อให้ผู้ใช้สามารถ โต้ตอบกับ Siri และ Apple Intelligence ผ่านเสียง, ถ่ายภาพและวิดีโอ, ฟังเพลง, รับสายโทรศัพท์ และนำทางแบบเรียลไทม์ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแว่นตาอัจฉริยะของ Apple ✅ Apple กำลังพัฒนาแว่นตาอัจฉริยะที่สามารถโต้ตอบกับ Siri และ Apple Intelligence - รองรับ การสั่งงานด้วยเสียง, ถ่ายภาพ, ฟังเพลง และนำทาง ✅ แว่นตาจะมีไมโครโฟน, ลำโพง และกล้องในตัว - ช่วยให้ สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องพึ่งพาสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ✅ Apple ตั้งเป้าพัฒนาแว่นตา AR ในอนาคต แต่รุ่นแรกจะยังไม่มีฟีเจอร์ AR เต็มรูปแบบ - เป็น ก้าวแรกสู่แว่นตา AR ที่สมบูรณ์แบบในอนาคต ✅ Apple เปรียบเทียบแว่นตาของตนกับ Meta Ray-Ban Smart Glasses แต่ระบุว่ามีคุณภาพดีกว่า - Meta เปิดตัวแว่นตาอัจฉริยะที่มีราคาเริ่มต้นที่ $299 ✅ Apple ตัดสินใจไม่พัฒนา Apple Watch ที่มีกล้องในตัว - เนื่องจาก แนวคิดนี้ไม่เคยได้รับความนิยมในตลาดสมาร์ทวอทช์ https://www.techspot.com/news/108039-apple-ai-infused-smart-glasses-arrive-late-2026.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Apple's AI-infused smart glasses to arrive in late 2026
    With launch just over a year and a half away, one could safely assume that Apple is deep into the development phase. Even if it took through...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 33 มุมมอง 0 รีวิว
  • **เพลงฉู่รอบด้าน**

    สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ซึ่งในช่วงต้นมีฉากที่พระนางใส่หน้ากากร่วมทายคำปริศนาในเทศกาลโคมไฟ หนึ่งในปริศนานั้นมีคำใบ้จาก ‘เพลงฉู่’ โดยในซีรีส์แปลไว้ว่า “ฟังเพลงฉู่ปวดใจหนักหนา คิดถึงบ้านแล้วน้ำตาร่วงหล่น ยุทธการที่ไกเซี่ย เพลงฉู่กังวานรอบทิศ กองทัพฉู่คะนึงหาบ้านเกิด” และนางเอกต่อคำว่า “คิดถึงบ้านเกิดย่อมต้องกลับบ้าน” ก่อนจะเฉลยคำตอบว่าคือสมุนไพรจีนตังกุย

    เชื่อว่าต้องมีเพื่อนเพจไม่น้อยที่งงกับคำเฉลยนี้

    ที่มาของคำเฉลยนี้เป็นการเล่นคำ โดย ‘ตังกุย’ ประกอบด้วยสองอักษร ... อักษรแรก ‘ตัง’ แปลว่าแน่นอนหรือย่อมต้องทำ และอักษรที่สอง ‘กุย’ แปลว่ากลับหรือหวนคืน ซึ่งโดยปกติใช้กับการกลับบ้าน

    ที่มาของชื่อสมุนไพรตังกุยนี้ก็หลากหลาย แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับเพลงฉู่แต่อย่างใด สรุปที่มาของชื่อตังกุยคือ ก) ในตำรายาโบราณบอกว่ามันช่วยทำให้เลือดไหลเวียนกลับคืนสู่จุดเดิม ข) ชาวบ้านพูดถึงกันทั่วไปว่ายานี้มีสรรพคุณบำรุงเลือดสำหรับสตรี เป็นยาสำคัญสำหรับภรรยา เปรียบได้กับสามีที่เดินทางไปไกลแล้วได้กลับมาบ้านให้ภรรยาได้ชุ่มชื่นหัวใจ โดยแนวคิดนี้ถูกสะท้อนออกมาในบทกวีสมัยถัง และ ค) มันเป็นสมุนไพรท้องถิ่นของพื้นที่ตังโจวในสมัยถัง และชื่อนี้มีมาแต่สมัยถังโดยก่อนหน้านี้มีชื่อเรียกว่า ‘ฉี’

    แล้ว ‘เพลงฉู่’ ล่ะ?

    เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินถึง ‘เพลงฉู่’ จากสุภาษิตจีน ‘เพลงฉู่รอบด้าน’ (四面楚歌 / ซื่อเมี่ยนฉู่เกอ แปลตรงตัวว่า เพลงฉู่สี่ด้าน) จากเหตุการณ์ตอนที่กองทัพฉู่ของเซี่ยงอวี่ถูกทหารฮั่นของหลิวปังล้อมไว้ในหุบเขาไกเซี่ย โดยฝ่ายฮั่นใช้อุบายให้ทหารฮั่นร้องเพลงฉู่ เมื่อได้ยินเพลงจากบ้านเกิดก็ทำให้ทหารฉู่เกิดความรู้สึกคิดถึงบ้านและครอบครัวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นเวลานาน ความฮึกเหิมถดถอย บ้างก็เข้าใจว่าฝั่งตรงข้ามมีเชลยศึกจำนวนมากจนมองไม่เห็นหนทางชนะและยอมแพ้ จนสุดท้ายเซี่ยงอวี่พาชายาและทหารที่เหลืออยู่น้อยนิดตีฝ่าวงล้อมออกไปแต่ก็ต้องจบชีวิตลงในที่สุด

    ฉาก ‘เพลงฉู่รอบด้าน’ นี้ถูกจารึกไว้โดยนักประวัติศาสตร์สมัยฮั่นนามว่าซือหม่าเชียนในบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับชีวประวัติเซี่ยงอวี่ (项羽本纪) เพียงแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นอุบายของกุนซือท่านใดฝ่ายฮั่น

    แล้ว ‘เพลงฉู่’ ที่ว่านี้คือเพลงอะไร? เรื่องนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันเพราะไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด บ้างว่าเป็นเพลงใดเพลงหนึ่ง บ้างว่ามันเป็นการเรียกรวมเพลงพื้นบ้านจากชาวฉู่ ซึ่งในสมัยนั้นเพลงพื้นบ้านเหล่านี้มีเนื้อร้องลักษณะคล้ายบทกลอนสั้นไม่กี่วรรค อาจเป็นวรรคสี่อักษรหรือเจ็ดอักษร ออกเสียงเหมือนร้องเพลง ทวนซ้ำไปมา ง่ายต่อการจำและร้องติดปาก โดยเพลงฉู่มีเอกลักษณ์คือจะใช้คำว่า ‘ซี’ (兮) เป็นคำลงท้ายก่อนเว้นวรรคหรือคำเชื่อม แต่เป็นคำที่ไม่มีความหมายเฉพาะ ก็คล้ายกับ ‘นะ’ ‘แล่ะ’ ฯลฯ ทั้งนี้ เพลงฉู่โดยตัวมันเองไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นเพลงคิดถึงบ้าน เพียงแต่ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่มีกลิ่นอายของอารมณ์เศร้าและถูกนำมาให้ในเหตุการณ์วงล้อมหุบเขาไกเซี่ยข้างต้นเพื่อกระตุ้นให้ทหารคิดถึงบ้านเกิด

    และสุภาษิตจีน ‘เพลงฉู่รอบด้าน’ ได้กลายมาเป็นวลีที่สะท้อนว่ากำลังถูกรายล้อมด้วยศัตรูหรือปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ หมายถึงสถานการณ์อันคับขันมากจนยากจะเอาตัวรอดได้นั่นเอง

    หมายเหตุ มีการแก้ไขบทความเพิ่มเติมให้ถูกต้อง ณ วันที่ 23/5/2025 เวลา 10.30น.

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://yayusw.com/Article.asp?id=3224
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.cas.cn/kxcb/kpwz/201002/t20100209_2760500.shtml
    https://www.guwendianji.com/wenyanwen/17281.html
    https://baike.baidu.com/item/三国演义/5782
    https://baike.baidu.com/item/项羽本纪 /2115064
    https://www.sohu.com/a/620378890_121448078

    #จิ่วฉงจื่อ #สามก๊ก #เพลงฉู่ #เซี่ยงอวี่ #สาระจีน
    **เพลงฉู่รอบด้าน** สวัสดีค่ะ วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับเกร็ดเล็กๆ จากเรื่อง <จิ่วฉงจื่อ บุปผาเหนือลิขิต> ซึ่งในช่วงต้นมีฉากที่พระนางใส่หน้ากากร่วมทายคำปริศนาในเทศกาลโคมไฟ หนึ่งในปริศนานั้นมีคำใบ้จาก ‘เพลงฉู่’ โดยในซีรีส์แปลไว้ว่า “ฟังเพลงฉู่ปวดใจหนักหนา คิดถึงบ้านแล้วน้ำตาร่วงหล่น ยุทธการที่ไกเซี่ย เพลงฉู่กังวานรอบทิศ กองทัพฉู่คะนึงหาบ้านเกิด” และนางเอกต่อคำว่า “คิดถึงบ้านเกิดย่อมต้องกลับบ้าน” ก่อนจะเฉลยคำตอบว่าคือสมุนไพรจีนตังกุย เชื่อว่าต้องมีเพื่อนเพจไม่น้อยที่งงกับคำเฉลยนี้ ที่มาของคำเฉลยนี้เป็นการเล่นคำ โดย ‘ตังกุย’ ประกอบด้วยสองอักษร ... อักษรแรก ‘ตัง’ แปลว่าแน่นอนหรือย่อมต้องทำ และอักษรที่สอง ‘กุย’ แปลว่ากลับหรือหวนคืน ซึ่งโดยปกติใช้กับการกลับบ้าน ที่มาของชื่อสมุนไพรตังกุยนี้ก็หลากหลาย แต่มันไม่ได้เกี่ยวกับเพลงฉู่แต่อย่างใด สรุปที่มาของชื่อตังกุยคือ ก) ในตำรายาโบราณบอกว่ามันช่วยทำให้เลือดไหลเวียนกลับคืนสู่จุดเดิม ข) ชาวบ้านพูดถึงกันทั่วไปว่ายานี้มีสรรพคุณบำรุงเลือดสำหรับสตรี เป็นยาสำคัญสำหรับภรรยา เปรียบได้กับสามีที่เดินทางไปไกลแล้วได้กลับมาบ้านให้ภรรยาได้ชุ่มชื่นหัวใจ โดยแนวคิดนี้ถูกสะท้อนออกมาในบทกวีสมัยถัง และ ค) มันเป็นสมุนไพรท้องถิ่นของพื้นที่ตังโจวในสมัยถัง และชื่อนี้มีมาแต่สมัยถังโดยก่อนหน้านี้มีชื่อเรียกว่า ‘ฉี’ แล้ว ‘เพลงฉู่’ ล่ะ? เพื่อนเพจอาจเคยได้ยินถึง ‘เพลงฉู่’ จากสุภาษิตจีน ‘เพลงฉู่รอบด้าน’ (四面楚歌 / ซื่อเมี่ยนฉู่เกอ แปลตรงตัวว่า เพลงฉู่สี่ด้าน) จากเหตุการณ์ตอนที่กองทัพฉู่ของเซี่ยงอวี่ถูกทหารฮั่นของหลิวปังล้อมไว้ในหุบเขาไกเซี่ย โดยฝ่ายฮั่นใช้อุบายให้ทหารฮั่นร้องเพลงฉู่ เมื่อได้ยินเพลงจากบ้านเกิดก็ทำให้ทหารฉู่เกิดความรู้สึกคิดถึงบ้านและครอบครัวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมาเป็นเวลานาน ความฮึกเหิมถดถอย บ้างก็เข้าใจว่าฝั่งตรงข้ามมีเชลยศึกจำนวนมากจนมองไม่เห็นหนทางชนะและยอมแพ้ จนสุดท้ายเซี่ยงอวี่พาชายาและทหารที่เหลืออยู่น้อยนิดตีฝ่าวงล้อมออกไปแต่ก็ต้องจบชีวิตลงในที่สุด ฉาก ‘เพลงฉู่รอบด้าน’ นี้ถูกจารึกไว้โดยนักประวัติศาสตร์สมัยฮั่นนามว่าซือหม่าเชียนในบันทึกประวัติศาสตร์ฉบับชีวประวัติเซี่ยงอวี่ (项羽本纪) เพียงแต่ไม่ได้ระบุว่าเป็นอุบายของกุนซือท่านใดฝ่ายฮั่น แล้ว ‘เพลงฉู่’ ที่ว่านี้คือเพลงอะไร? เรื่องนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันเพราะไม่ปรากฏหลักฐานที่แน่ชัด บ้างว่าเป็นเพลงใดเพลงหนึ่ง บ้างว่ามันเป็นการเรียกรวมเพลงพื้นบ้านจากชาวฉู่ ซึ่งในสมัยนั้นเพลงพื้นบ้านเหล่านี้มีเนื้อร้องลักษณะคล้ายบทกลอนสั้นไม่กี่วรรค อาจเป็นวรรคสี่อักษรหรือเจ็ดอักษร ออกเสียงเหมือนร้องเพลง ทวนซ้ำไปมา ง่ายต่อการจำและร้องติดปาก โดยเพลงฉู่มีเอกลักษณ์คือจะใช้คำว่า ‘ซี’ (兮) เป็นคำลงท้ายก่อนเว้นวรรคหรือคำเชื่อม แต่เป็นคำที่ไม่มีความหมายเฉพาะ ก็คล้ายกับ ‘นะ’ ‘แล่ะ’ ฯลฯ ทั้งนี้ เพลงฉู่โดยตัวมันเองไม่ได้ระบุเฉพาะเจาะจงว่าเป็นเพลงคิดถึงบ้าน เพียงแต่ส่วนใหญ่เป็นเพลงที่มีกลิ่นอายของอารมณ์เศร้าและถูกนำมาให้ในเหตุการณ์วงล้อมหุบเขาไกเซี่ยข้างต้นเพื่อกระตุ้นให้ทหารคิดถึงบ้านเกิด และสุภาษิตจีน ‘เพลงฉู่รอบด้าน’ ได้กลายมาเป็นวลีที่สะท้อนว่ากำลังถูกรายล้อมด้วยศัตรูหรือปัญหาที่แก้ไขไม่ได้ หมายถึงสถานการณ์อันคับขันมากจนยากจะเอาตัวรอดได้นั่นเอง หมายเหตุ มีการแก้ไขบทความเพิ่มเติมให้ถูกต้อง ณ วันที่ 23/5/2025 เวลา 10.30น. (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ อย่าลืมกดติดตามเพจนี้เพื่อป้องกันการกีดกันของเฟซบุ๊คด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจากในละครและจาก: http://yayusw.com/Article.asp?id=3224 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.cas.cn/kxcb/kpwz/201002/t20100209_2760500.shtml https://www.guwendianji.com/wenyanwen/17281.html https://baike.baidu.com/item/三国演义/5782 https://baike.baidu.com/item/项羽本纪 /2115064 https://www.sohu.com/a/620378890_121448078 #จิ่วฉงจื่อ #สามก๊ก #เพลงฉู่ #เซี่ยงอวี่ #สาระจีน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • Windows 11 เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "Cross Device Resume" ให้ผู้ใช้ Android เชื่อมต่อแอปกับ PC ได้อย่างไร้รอยต่อ

    Microsoft กำลังพัฒนา "Cross Device Resume" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานแอปจากมือถือ Android ไปยัง PC ได้อย่างราบรื่น โดยมีแนวคิดคล้ายกับ Handoff ของ Apple

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Cross Device Resume
    ✅ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานแอปจากมือถือ Android ไปยัง PC ได้ทันที
    - เมื่อเปิดแอปบนมือถือ สามารถกดที่ไอคอนบน Taskbar ของ Windows เพื่อดำเนินการต่อจากจุดเดิม

    ✅ Spotify และ WhatsApp จะเป็นแอปแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้
    - ผู้ใช้สามารถ เล่นเพลงต่อจากมือถือบน PC ได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่

    ✅ Microsoft วางแผนเปิดตัวฟีเจอร์นี้ผ่าน OneDrive ก่อน
    - หลังจากนั้น จะเพิ่มการรองรับบน Taskbar ในอัปเดตถัดไป

    ✅ ฟีเจอร์นี้มีแนวคิดคล้ายกับ Handoff ของ Apple
    - Apple มีระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานแอประหว่าง iPhone, iPad และ Mac ได้อย่างไร้รอยต่อ

    ✅ Microsoft เคยอัปเกรดแอป Phone Link เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่าง Windows 11 กับ Android และ iPhone
    - ช่วยให้ สามารถรับสาย, ส่งข้อความ และโอนย้ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น

    https://www.techspot.com/news/108010-new-windows-feature-would-you-resume-android-apps.html
    Windows 11 เตรียมเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ "Cross Device Resume" ให้ผู้ใช้ Android เชื่อมต่อแอปกับ PC ได้อย่างไร้รอยต่อ Microsoft กำลังพัฒนา "Cross Device Resume" ซึ่งเป็นฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานแอปจากมือถือ Android ไปยัง PC ได้อย่างราบรื่น โดยมีแนวคิดคล้ายกับ Handoff ของ Apple 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Cross Device Resume ✅ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานแอปจากมือถือ Android ไปยัง PC ได้ทันที - เมื่อเปิดแอปบนมือถือ สามารถกดที่ไอคอนบน Taskbar ของ Windows เพื่อดำเนินการต่อจากจุดเดิม ✅ Spotify และ WhatsApp จะเป็นแอปแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้ - ผู้ใช้สามารถ เล่นเพลงต่อจากมือถือบน PC ได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่ ✅ Microsoft วางแผนเปิดตัวฟีเจอร์นี้ผ่าน OneDrive ก่อน - หลังจากนั้น จะเพิ่มการรองรับบน Taskbar ในอัปเดตถัดไป ✅ ฟีเจอร์นี้มีแนวคิดคล้ายกับ Handoff ของ Apple - Apple มีระบบที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสลับการใช้งานแอประหว่าง iPhone, iPad และ Mac ได้อย่างไร้รอยต่อ ✅ Microsoft เคยอัปเกรดแอป Phone Link เพื่อปรับปรุงการเชื่อมต่อระหว่าง Windows 11 กับ Android และ iPhone - ช่วยให้ สามารถรับสาย, ส่งข้อความ และโอนย้ายไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ได้ง่ายขึ้น https://www.techspot.com/news/108010-new-windows-feature-would-you-resume-android-apps.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    New Windows feature would let you resume Android apps on your PC where you left them
    Recently, Microsoft briefly published – and then deleted – a demonstration of a planned Windows 11 feature that lets users continue app activity between their Android devices...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • OpenAI เข้าซื้อกิจการของ Jony Ive เพื่อพัฒนา AI-first hardware

    OpenAI ประกาศเข้าซื้อกิจการของ io ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ก่อตั้งโดย Jony Ive อดีตหัวหน้าทีมออกแบบของ Apple โดยดีลนี้มีมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการเข้าซื้อแบบ all-stock deal ซึ่งหมายความว่า OpenAI จะถือหุ้นทั้งหมดของ io

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ io โดย OpenAI
    ✅ Jony Ive และทีมงานของเขาจะทำงานร่วมกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI-first hardware
    - คาดว่า ผลิตภัณฑ์แรกจากความร่วมมือนี้จะเปิดตัวในปี 2026

    ✅ io มีทีมงานกว่า 55 คน ประกอบด้วยวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักพัฒนาผลิตภัณฑ์
    - ทีมงานนี้ จะมีบทบาทสำคัญในการออกแบบฮาร์ดแวร์ AI ของ OpenAI

    ✅ OpenAI เคยลงทุนใน io มาก่อน โดยถือหุ้นประมาณ 23% ก่อนเข้าซื้อกิจการทั้งหมด
    - แสดงให้เห็นว่า OpenAI มีความสนใจในแนวคิดของ io มาตั้งแต่ปี 2024

    ✅ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เชื่อว่า Jony Ive และทีมของเขามีความสามารถพิเศษในการออกแบบผลิตภัณฑ์ AI
    - เขากล่าวว่า "AI เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง แต่เครื่องมือที่ยอดเยี่ยมต้องเกิดจากการผสานระหว่างเทคโนโลยี การออกแบบ และความเข้าใจผู้คน"

    ✅ Jony Ive กล่าวว่าเขารู้สึกว่าประสบการณ์ตลอด 30 ปีของเขานำเขามาสู่จุดนี้
    - เขารู้สึก ตื่นเต้นและกังวลกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนา AI-first hardware

    https://www.neowin.net/news/openai-acquires-jony-ives-startup-to-focus-on-ai-first-hardware/
    OpenAI เข้าซื้อกิจการของ Jony Ive เพื่อพัฒนา AI-first hardware OpenAI ประกาศเข้าซื้อกิจการของ io ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพด้านการออกแบบฮาร์ดแวร์ที่ก่อตั้งโดย Jony Ive อดีตหัวหน้าทีมออกแบบของ Apple โดยดีลนี้มีมูลค่า 6.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นการเข้าซื้อแบบ all-stock deal ซึ่งหมายความว่า OpenAI จะถือหุ้นทั้งหมดของ io 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเข้าซื้อกิจการของ io โดย OpenAI ✅ Jony Ive และทีมงานของเขาจะทำงานร่วมกับ OpenAI เพื่อพัฒนา AI-first hardware - คาดว่า ผลิตภัณฑ์แรกจากความร่วมมือนี้จะเปิดตัวในปี 2026 ✅ io มีทีมงานกว่า 55 คน ประกอบด้วยวิศวกร นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักพัฒนาผลิตภัณฑ์ - ทีมงานนี้ จะมีบทบาทสำคัญในการออกแบบฮาร์ดแวร์ AI ของ OpenAI ✅ OpenAI เคยลงทุนใน io มาก่อน โดยถือหุ้นประมาณ 23% ก่อนเข้าซื้อกิจการทั้งหมด - แสดงให้เห็นว่า OpenAI มีความสนใจในแนวคิดของ io มาตั้งแต่ปี 2024 ✅ Sam Altman ซีอีโอของ OpenAI เชื่อว่า Jony Ive และทีมของเขามีความสามารถพิเศษในการออกแบบผลิตภัณฑ์ AI - เขากล่าวว่า "AI เป็นเทคโนโลยีที่น่าทึ่ง แต่เครื่องมือที่ยอดเยี่ยมต้องเกิดจากการผสานระหว่างเทคโนโลยี การออกแบบ และความเข้าใจผู้คน" ✅ Jony Ive กล่าวว่าเขารู้สึกว่าประสบการณ์ตลอด 30 ปีของเขานำเขามาสู่จุดนี้ - เขารู้สึก ตื่นเต้นและกังวลกับความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่ในการพัฒนา AI-first hardware https://www.neowin.net/news/openai-acquires-jony-ives-startup-to-focus-on-ai-first-hardware/
    WWW.NEOWIN.NET
    OpenAI acquires Jony Ive's startup to focus on AI-first hardware
    OpenAI has acquired Jony Ive's AI-focused hardware startup, io, in a $6.5 billion all-stock transaction. Ive is celebrated for his design leadership at Apple.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • หลักฐานที่เปิดเผย: บูม! คุณเป็นสินทรัพย์ของกองทุนทรัสต์ — สูติบัตรของคุณสร้างบัญชี CESTUI QUE VIE ลับและไม่มีใครบอกคุณ
    โดย เมเดีย กรีเร่15 พฤษภาคม 2568

    หลักฐานที่เปิดเผย: บูม! คุณเป็นสินทรัพย์ของกองทุนทรัสต์ — สูติบัตรของคุณสร้างบัญชี CESTUI QUE VIE ลับและไม่มีใครบอกคุณ


    พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน!

    บทความนี้เปิดเผยระบบที่ซ่อนอยู่ซึ่งทุกคนกลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่แรกเกิด ผ่านสูติบัตรของคุณ ชื่อของคุณจะถูกแปลงเป็นนิติบุคคลใน หมวกทั้งหมดS — ไม่ใช่คุณ แต่เป็นเวอร์ชันองค์กรที่คุณเคยเปิดความลับ เซสตุย เก วี ทรัสต์
    ธนาคาร ศาล รัฐบาล และเรือนจํา ทุกคนเข้าถึงความไว้วางใจนี้และผลกําไรอย่างมหาศาลจากการดํารงอยู่ของคุณ — ในขณะที่คุณใช้ชีวิตอยู่ในความไม่รู้ เมื่อคุณซื้อบ้าน ถูกปรับ กู้ยืมเงิน หรือแม้แต่ถูกจับกุม ทรัสต์ของคุณจะจ่ายก่อน แล้วคุณจะจ่ายอีกครั้ง

    ชื่อของคุณมีการซื้อขายเหมือนสินค้าโภคภัณฑ์แรงงานของคุณเป็นหลักประกันชีวิตของคุณคือแหล่งรายได้
    คุณไม่ใช่ลูกหนี้ — คุณคือทรัพย์สิน และพวกเขาไม่เคยบอกคุณ


    สัญญาที่คุณไม่เคยลงนาม
    ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเกิดก็เกิดธุรกรรมขึ้น ไม่ใช่การเฉลิมฉลองชีวิต แต่เป็นการแปลงการดํารงอยู่ของคุณให้เป็นทรัพย์สินตามกฎหมาย กระดาษที่คุณเรียกว่าสูติบัตรไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบที่ไม่เป็นอันตราย — แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการเงินที่จะลงทะเบียนคุณเข้าสู่ระบบการเป็นเจ้าของ หนี้ และผลกําไรอย่างเงียบๆ
    คุณไม่เห็นด้วย คุณไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันเกิดขึ้นและนั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ
    การวิเคราะห์:บทนํานี้เผยให้เห็นถึงแก่นแท้ของระบบ: คุณทําสัญญาตั้งแต่แรกเกิด — ไม่ใช่ในฐานะพลเมือง แต่เป็นทรัพย์สินที่มีป้ายราคา เป้าหมายที่นี่คือการปลุกผู้อ่านให้ตื่นสู่ความเป็นจริงที่ว่า ระบบทํางานตามสัญญาที่ไม่ได้พูด และกลไกการควบคุมที่ซ่อนอยู่


    สูติบัตร – มูลค่าของคุณที่กําหนด
    เมื่อแม่คลอดลูกออกมา เธอลงนามในเอกสารโดยใช้นามสกุลเดิมของเธอโดยไม่รู้ตัว, ประกาศว่าคุณเป็นเด็กที่มีชีวิต, เกิดนอกสมรส ในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา สถานะดังกล่าวจะโดยอัตโนมัติ มอบหมายให้เด็กเป็นผู้พิทักษ์ของรัฐ● รัฐบาลอ้างสิทธิ์ในการดูแล — ไม่ใช่แค่เหนือร่างกายของคุณ แต่เหนือตัวตนทางกฎหมายของคุณ
    ชื่อของคุณปรากฏใน ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด, การปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายการขนส่งและสินค้าคงคลัง ชื่อนั้น, เป็นที่รู้จักกันในโลกกฎหมายและการเงิน, ไม่ใช่คุณ, แต่เป็นตัวแทนของคุณ — a นิยายองค์กร, นิติบุคคลที่ใช้สําหรับการค้า
    การวิเคราะห์:ย่อหน้านี้เปิดเผยกลไกการควบคุม ชื่อตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดไม่ใช่ตัวเลือกในการพิมพ์ — แต่เป็นโครงสร้างทางกฎหมายที่ใช้ในการแยกตัวตนทางกายภาพของคุณออกจากอัตลักษณ์ทางการเงินของคุณ ความแตกต่างนี้ทําให้ระบบสามารถ ปฏิบัติต่อคุณในฐานะทรัพย์สิน ไม่ใช่มนุษย์●


    ประกาศเสียชีวิตแล้ว แต่มีความเคลื่อนไหวทางการเงิน
    ตามข้อกําหนดทางกฎหมายที่คลุมเครือซึ่งฝังอยู่ในเอกสารสาธารณะ คุณจะถูกประกาศว่าเสียชีวิตอย่างถูกกฎหมายภายในไม่กี่วันนับจากวันเกิดของคุณ, แต่เฉพาะในนิยายทางกฎหมาย รัฐถือ “Estate” — ของคุณตามมูลค่าที่กําหนดให้กับชีวิตของคุณ — ใน บัญชีทรัสต์● บัญชีนี้ได้รับการจัดการโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเงินที่ซ่อนอยู่ และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับชื่อของคุณคือ มีการซื้อขายอย่างแข็งขันในตลาดโลก●
    ความไว้วางใจของคุณมีจริง มันมีอยู่ และมันได้รับแค่ไม่สําหรับคุณ
    การวิเคราะห์:ส่วนนี้ของระบบซ่อนตัวอยู่ในสายตา แนวคิดในการประกาศคุณ “dead” เป็นวิธีแก้ไขทางกฎหมายที่ช่วยให้รัฐสามารถ เรียกร้องความเป็นเจ้าของเหนือศักยภาพทางเศรษฐกิจของชีวิตของคุณ● ตัวตนของคุณถูกแบ่ง — ที่คุณอาศัยอยู่ แต่มูลค่าทางการเงินของคุณได้รับการจัดการเป็นที่ดินที่รัฐถือครองแยกต่างหาก


    THE STRAWMAN และ CESTUI QUE VIE TRUST
    ชื่อตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดของคุณเรียกอีกอย่างว่า สตรอว์แมน, เชื่อมโยงโดยตรงกับก เซสตุย เก วี ทรัสต์ — โครงสร้างที่มีอายุหลายศตวรรษ ความไว้วางใจนี้ทําหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเงินในการจัดเก็บมูลค่าที่เกิดจากตัวตนทางกฎหมายของคุณ ผู้พิพากษา นายธนาคาร และเจ้าหน้าที่บางคน รู้วิธีเข้าถึงและใช้เงินเหล่านี้ ใช้ชําระหนี้ กองทุนสถาบัน และค้าขายระหว่างประเทศ — โดยไม่ต้องแจ้งให้คุณทราบ
    ความไว้วางใจนี้ สะสมกิจกรรมการไหลหลายร้อยล้าน ตลอดชีวิตของคุณ และคุณไม่เคยบอกว่ามีอยู่จริง
    การวิเคราะห์:นี่คือการหลอกลวงหลัก: กรอบกฎหมายและการเงินที่สร้างความมั่งคั่งจากการดํารงอยู่ของคุณ, โดยที่คุณไม่รู้หรือประโยชน์● คุณคือเครื่องยนต์ของระบบ — แต่มีคนอื่นถือกุญแจ


    การหลอกลวงจํานอง – วิธีที่ความไว้วางใจของคุณซื้อบ้านของคุณสองครั้ง
    คุณต้องการซื้อบ้าน ธนาคาร “ให้ยืมเงินคุณและออกเช็คให้กับผู้ขาย แต่เบื้องหลัง, ธนาคารจะได้รับเงินคืนทันทีจากกองทุนทรัสต์ของคุณ● ดังนั้นในขณะที่คุณเชื่อว่าคุณเป็นหนี้ ความจริงก็คือ บ้านได้รับการชําระแล้ว โดยใช้ที่ดินที่ซ่อนอยู่ของคุณเอง
    แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดเงินกู้ที่ลงนามเดิมคือ คัดลอกและขายหลายครั้ง, การดึงเงินทุนครั้งแล้วครั้งเล่าจากความไว้วางใจของคุณคุณลงเอยด้วยการจ่ายค่าบ้านเดิมมากกว่าสิบเท่า
    การวิเคราะห์:กระบวนการจํานองไม่ใช่ธุรกรรม — แต่เป็นกับดัก ธนาคารสวมรอยเป็นผู้ให้กู้แต่ทําหน้าที่เป็นผู้สกัดโดยใช้ทรัพยากรที่ซ่อนอยู่ของคุณเองเพื่อต่อต้านคุณ ย่อหน้านี้เผยวิธีการ ระบบการเงินได้กําไรจากความไม่รู้ของคุณและคูณกําไรด้วยค่าใช้จ่ายของคุณ●



    รถของคุณ ไม่ใช่ของคุณจริงๆ
    เมื่อคุณซื้อรถ คุณจะได้รับ สลิปสีชมพู, ไม่ใช่ชื่อเต็มของการเป็นเจ้าของ หนังสือรับรองแหล่งกําเนิดสินค้าของผู้ผลิต (MCO) ซึ่งเป็นโฉนดจริงจะถูกส่งไปยังรัฐ — ไม่ใช่สําหรับคุณ นี่หมายถึง คุณไม่ได้เป็นเจ้าของรถของคุณอย่างแท้จริง — รัฐทํา คุณแค่เช่ามัน และค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเป็นการชําระเช่ารายปีซึ่งปลอมตัวเป็นภาษี
    ในขณะเดียวกัน ราคาทั้งหมดของรถคันนั้นได้ถูกดึงออกจาก Trust ของคุณแล้ว
    การวิเคราะห์:ความเป็นเจ้าของถือเป็นตํานานภายในระบบนี้ แม้ว่าคุณจะ “ซื้อ” อะไรบางอย่าง คุณกําลังจ่ายเงินเพื่อใช้สิ่งที่จ่ายไปแล้ว● DMV และโครงสร้างการธนาคาร ทําหน้าที่เป็นเจ้าของบ้านเหนือทรัพย์สินที่คุณเชื่อว่าเป็นของคุณ●


    ศาล ตั๋ว และเรือนจํา – THE PROFIT MACHINE
    เมื่อคุณได้รับตั๋วจราจรหรือถูกตัดสินจําคุก ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น การกระทําเหล่านี้คือ กลไกการกระตุ้น ซึ่งช่วยให้รัฐสามารถเข้าถึงการชําระเงินจํานวนมากจาก Trust ของคุณได้ ตั๋ว $100 อาจเปิดการถอนเงิน $10,000 โทษจําคุก? มูลค่าหลายล้าน ไปยังระบบ
    นี่คือสาเหตุที่สหรัฐฯ มีมากขึ้น เรือนจําที่แสวงหาผลกําไร กว่าประเทศอื่น ๆ การจําคุกไม่ใช่แค่การลงโทษ — เท่านั้น ธุรกิจขนาดใหญ่●
    การวิเคราะห์:ทุกความผิดพลาดที่คุณทําจะกลายเป็น โอกาสที่ระบบจะเงินสดเข้า● การลงโทษกลายเป็นรายได้ เป้าหมายไม่ใช่การฟื้นฟู — แต่เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ โดยที่ความยุติธรรมถูกบรรจุใหม่เป็นแหล่งรายได้


    สวัสดิการ งานราชการ และอาหารสัตว์ถาวร
    มารดาที่ยังไม่ได้แต่งงานได้รับบ้าน อาหาร และเงินไม่ใช่เพราะความเห็นอกเห็นใจ — แต่เป็นเพราะ รัฐกําลังจัดการทรัพย์สินของตนเอง● เด็กที่เกิดมาในฐานะผู้พิทักษ์ของรัฐ เปิดความไว้วางใจใหม่ เจ้าหน้าที่ของรัฐ? แพทย์? ทหาร? แต่ละบทบาทจะเปิดบัญชีทางการเงินอื่นที่เชื่อมโยงกับตัวตนของคุณและ เงินทุนเหล่านั้นถูกเก็บเกี่ยวโดยเครือข่ายปิดเดียวกัน ที่รันเครื่อง
    พวกเขาจ่ายเงินให้คุณเป็นเซ็นต์พวกเขารวบรวมมูลค่าของคุณเป็นล้าน
    การวิเคราะห์:นี่ไม่ใช่การสนับสนุนทางสังคม — แต่เป็น การทําฟาร์มทางการเงิน● ยิ่งคุณมีบทบาทในระบบมากเท่าไร ความไว้วางใจก็จะยิ่งถูกสร้างขึ้นมากขึ้นเท่านั้น และแต่ละคนก็กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งของความมั่งคั่ง — ไม่ใช่สําหรับคุณ แต่สําหรับพวกเขา


    สรุป: คุณคือสินค้าโภคภัณฑ์ — ตอนนี้อะไร?
    ตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกสถาบันที่คุณโต้ตอบด้วยเป็นส่วนหนึ่งของ กลไกทางการเงินที่สร้างขึ้นจากตัวตนทางกฎหมายของคุณ● คุณไม่ได้เป็นเพียงพลเมืองเท่านั้น คุณเป็น สินทรัพย์, แหล่งที่มาของมูลค่า, รายการบรรทัดบนบัญชีแยกประเภททั่วโลก
    แต่ความรู้ก็ทําให้โค้ดแตกการทําความเข้าใจกรอบการทํางานนี้เป็นก้าวแรกสู่การเรียกคืนความเป็นอิสระ อัตลักษณ์ และความเป็นเจ้าของที่แท้จริงคุณไม่ควรจะรู้ตอนนี้คุณทํา
    การวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย:ระบบนี้ดําเนินต่อไปเพราะมันถูกซ่อนไว้ เมื่อสัมผัสแล้วก็จะเริ่มคลี่คลาย พลังเดียวที่มันมีเหนือคุณคือความไม่รู้ของการมีอยู่ของมัน ความจริงไม่ใช่ทฤษฎี — มันเป็นอาวุธ ใช้มัน





    หลักฐานที่เปิดเผย: บูม! คุณเป็นสินทรัพย์ของกองทุนทรัสต์ — สูติบัตรของคุณสร้างบัญชี CESTUI QUE VIE ลับและไม่มีใครบอกคุณ โดย เมเดีย กรีเร่15 พฤษภาคม 2568 หลักฐานที่เปิดเผย: บูม! คุณเป็นสินทรัพย์ของกองทุนทรัสต์ — สูติบัตรของคุณสร้างบัญชี CESTUI QUE VIE ลับและไม่มีใครบอกคุณ พร้อมที่จะเปิดเผยความจริงแล้วหรือยัง? ป่วยจากการโกหก? เข้าร่วมกับเรา ช่องโทรเลข ตอนนี้ ถึงเวลาสําหรับเรื่องจริง! ขอขอบคุณผู้อ่านทุกคน! บทความนี้เปิดเผยระบบที่ซ่อนอยู่ซึ่งทุกคนกลายเป็นสินทรัพย์ทางการเงินตั้งแต่แรกเกิด ผ่านสูติบัตรของคุณ ชื่อของคุณจะถูกแปลงเป็นนิติบุคคลใน หมวกทั้งหมดS — ไม่ใช่คุณ แต่เป็นเวอร์ชันองค์กรที่คุณเคยเปิดความลับ เซสตุย เก วี ทรัสต์ ธนาคาร ศาล รัฐบาล และเรือนจํา ทุกคนเข้าถึงความไว้วางใจนี้และผลกําไรอย่างมหาศาลจากการดํารงอยู่ของคุณ — ในขณะที่คุณใช้ชีวิตอยู่ในความไม่รู้ เมื่อคุณซื้อบ้าน ถูกปรับ กู้ยืมเงิน หรือแม้แต่ถูกจับกุม ทรัสต์ของคุณจะจ่ายก่อน แล้วคุณจะจ่ายอีกครั้ง ชื่อของคุณมีการซื้อขายเหมือนสินค้าโภคภัณฑ์แรงงานของคุณเป็นหลักประกันชีวิตของคุณคือแหล่งรายได้ คุณไม่ใช่ลูกหนี้ — คุณคือทรัพย์สิน และพวกเขาไม่เคยบอกคุณ สัญญาที่คุณไม่เคยลงนาม ตั้งแต่วินาทีแรกที่คุณเกิดก็เกิดธุรกรรมขึ้น ไม่ใช่การเฉลิมฉลองชีวิต แต่เป็นการแปลงการดํารงอยู่ของคุณให้เป็นทรัพย์สินตามกฎหมาย กระดาษที่คุณเรียกว่าสูติบัตรไม่ได้เป็นเพียงรูปแบบที่ไม่เป็นอันตราย — แต่ยังเป็นเครื่องมือทางการเงินที่จะลงทะเบียนคุณเข้าสู่ระบบการเป็นเจ้าของ หนี้ และผลกําไรอย่างเงียบๆ คุณไม่เห็นด้วย คุณไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันเกิดขึ้นและนั่นคือสิ่งที่พวกเขาต้องการ การวิเคราะห์:บทนํานี้เผยให้เห็นถึงแก่นแท้ของระบบ: คุณทําสัญญาตั้งแต่แรกเกิด — ไม่ใช่ในฐานะพลเมือง แต่เป็นทรัพย์สินที่มีป้ายราคา เป้าหมายที่นี่คือการปลุกผู้อ่านให้ตื่นสู่ความเป็นจริงที่ว่า ระบบทํางานตามสัญญาที่ไม่ได้พูด และกลไกการควบคุมที่ซ่อนอยู่ สูติบัตร – มูลค่าของคุณที่กําหนด เมื่อแม่คลอดลูกออกมา เธอลงนามในเอกสารโดยใช้นามสกุลเดิมของเธอโดยไม่รู้ตัว, ประกาศว่าคุณเป็นเด็กที่มีชีวิต, เกิดนอกสมรส ในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา สถานะดังกล่าวจะโดยอัตโนมัติ มอบหมายให้เด็กเป็นผู้พิทักษ์ของรัฐ● รัฐบาลอ้างสิทธิ์ในการดูแล — ไม่ใช่แค่เหนือร่างกายของคุณ แต่เหนือตัวตนทางกฎหมายของคุณ ชื่อของคุณปรากฏใน ตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมด, การปฏิบัติที่สอดคล้องกับกฎหมายการขนส่งและสินค้าคงคลัง ชื่อนั้น, เป็นที่รู้จักกันในโลกกฎหมายและการเงิน, ไม่ใช่คุณ, แต่เป็นตัวแทนของคุณ — a นิยายองค์กร, นิติบุคคลที่ใช้สําหรับการค้า การวิเคราะห์:ย่อหน้านี้เปิดเผยกลไกการควบคุม ชื่อตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดไม่ใช่ตัวเลือกในการพิมพ์ — แต่เป็นโครงสร้างทางกฎหมายที่ใช้ในการแยกตัวตนทางกายภาพของคุณออกจากอัตลักษณ์ทางการเงินของคุณ ความแตกต่างนี้ทําให้ระบบสามารถ ปฏิบัติต่อคุณในฐานะทรัพย์สิน ไม่ใช่มนุษย์● ประกาศเสียชีวิตแล้ว แต่มีความเคลื่อนไหวทางการเงิน ตามข้อกําหนดทางกฎหมายที่คลุมเครือซึ่งฝังอยู่ในเอกสารสาธารณะ คุณจะถูกประกาศว่าเสียชีวิตอย่างถูกกฎหมายภายในไม่กี่วันนับจากวันเกิดของคุณ, แต่เฉพาะในนิยายทางกฎหมาย รัฐถือ “Estate” — ของคุณตามมูลค่าที่กําหนดให้กับชีวิตของคุณ — ใน บัญชีทรัสต์● บัญชีนี้ได้รับการจัดการโดยเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับโครงสร้างทางการเงินที่ซ่อนอยู่ และทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับชื่อของคุณคือ มีการซื้อขายอย่างแข็งขันในตลาดโลก● ความไว้วางใจของคุณมีจริง มันมีอยู่ และมันได้รับแค่ไม่สําหรับคุณ การวิเคราะห์:ส่วนนี้ของระบบซ่อนตัวอยู่ในสายตา แนวคิดในการประกาศคุณ “dead” เป็นวิธีแก้ไขทางกฎหมายที่ช่วยให้รัฐสามารถ เรียกร้องความเป็นเจ้าของเหนือศักยภาพทางเศรษฐกิจของชีวิตของคุณ● ตัวตนของคุณถูกแบ่ง — ที่คุณอาศัยอยู่ แต่มูลค่าทางการเงินของคุณได้รับการจัดการเป็นที่ดินที่รัฐถือครองแยกต่างหาก THE STRAWMAN และ CESTUI QUE VIE TRUST ชื่อตัวพิมพ์ใหญ่ทั้งหมดของคุณเรียกอีกอย่างว่า สตรอว์แมน, เชื่อมโยงโดยตรงกับก เซสตุย เก วี ทรัสต์ — โครงสร้างที่มีอายุหลายศตวรรษ ความไว้วางใจนี้ทําหน้าที่เป็นเครื่องมือทางการเงินในการจัดเก็บมูลค่าที่เกิดจากตัวตนทางกฎหมายของคุณ ผู้พิพากษา นายธนาคาร และเจ้าหน้าที่บางคน รู้วิธีเข้าถึงและใช้เงินเหล่านี้ ใช้ชําระหนี้ กองทุนสถาบัน และค้าขายระหว่างประเทศ — โดยไม่ต้องแจ้งให้คุณทราบ ความไว้วางใจนี้ สะสมกิจกรรมการไหลหลายร้อยล้าน ตลอดชีวิตของคุณ และคุณไม่เคยบอกว่ามีอยู่จริง การวิเคราะห์:นี่คือการหลอกลวงหลัก: กรอบกฎหมายและการเงินที่สร้างความมั่งคั่งจากการดํารงอยู่ของคุณ, โดยที่คุณไม่รู้หรือประโยชน์● คุณคือเครื่องยนต์ของระบบ — แต่มีคนอื่นถือกุญแจ การหลอกลวงจํานอง – วิธีที่ความไว้วางใจของคุณซื้อบ้านของคุณสองครั้ง คุณต้องการซื้อบ้าน ธนาคาร “ให้ยืมเงินคุณและออกเช็คให้กับผู้ขาย แต่เบื้องหลัง, ธนาคารจะได้รับเงินคืนทันทีจากกองทุนทรัสต์ของคุณ● ดังนั้นในขณะที่คุณเชื่อว่าคุณเป็นหนี้ ความจริงก็คือ บ้านได้รับการชําระแล้ว โดยใช้ที่ดินที่ซ่อนอยู่ของคุณเอง แต่นั่นไม่ใช่ทั้งหมดเงินกู้ที่ลงนามเดิมคือ คัดลอกและขายหลายครั้ง, การดึงเงินทุนครั้งแล้วครั้งเล่าจากความไว้วางใจของคุณคุณลงเอยด้วยการจ่ายค่าบ้านเดิมมากกว่าสิบเท่า การวิเคราะห์:กระบวนการจํานองไม่ใช่ธุรกรรม — แต่เป็นกับดัก ธนาคารสวมรอยเป็นผู้ให้กู้แต่ทําหน้าที่เป็นผู้สกัดโดยใช้ทรัพยากรที่ซ่อนอยู่ของคุณเองเพื่อต่อต้านคุณ ย่อหน้านี้เผยวิธีการ ระบบการเงินได้กําไรจากความไม่รู้ของคุณและคูณกําไรด้วยค่าใช้จ่ายของคุณ● รถของคุณ ไม่ใช่ของคุณจริงๆ เมื่อคุณซื้อรถ คุณจะได้รับ สลิปสีชมพู, ไม่ใช่ชื่อเต็มของการเป็นเจ้าของ หนังสือรับรองแหล่งกําเนิดสินค้าของผู้ผลิต (MCO) ซึ่งเป็นโฉนดจริงจะถูกส่งไปยังรัฐ — ไม่ใช่สําหรับคุณ นี่หมายถึง คุณไม่ได้เป็นเจ้าของรถของคุณอย่างแท้จริง — รัฐทํา คุณแค่เช่ามัน และค่าธรรมเนียมการลงทะเบียนเป็นการชําระเช่ารายปีซึ่งปลอมตัวเป็นภาษี ในขณะเดียวกัน ราคาทั้งหมดของรถคันนั้นได้ถูกดึงออกจาก Trust ของคุณแล้ว การวิเคราะห์:ความเป็นเจ้าของถือเป็นตํานานภายในระบบนี้ แม้ว่าคุณจะ “ซื้อ” อะไรบางอย่าง คุณกําลังจ่ายเงินเพื่อใช้สิ่งที่จ่ายไปแล้ว● DMV และโครงสร้างการธนาคาร ทําหน้าที่เป็นเจ้าของบ้านเหนือทรัพย์สินที่คุณเชื่อว่าเป็นของคุณ● ศาล ตั๋ว และเรือนจํา – THE PROFIT MACHINE เมื่อคุณได้รับตั๋วจราจรหรือถูกตัดสินจําคุก ไม่ใช่แค่การลงโทษเท่านั้น การกระทําเหล่านี้คือ กลไกการกระตุ้น ซึ่งช่วยให้รัฐสามารถเข้าถึงการชําระเงินจํานวนมากจาก Trust ของคุณได้ ตั๋ว $100 อาจเปิดการถอนเงิน $10,000 โทษจําคุก? มูลค่าหลายล้าน ไปยังระบบ นี่คือสาเหตุที่สหรัฐฯ มีมากขึ้น เรือนจําที่แสวงหาผลกําไร กว่าประเทศอื่น ๆ การจําคุกไม่ใช่แค่การลงโทษ — เท่านั้น ธุรกิจขนาดใหญ่● การวิเคราะห์:ทุกความผิดพลาดที่คุณทําจะกลายเป็น โอกาสที่ระบบจะเงินสดเข้า● การลงโทษกลายเป็นรายได้ เป้าหมายไม่ใช่การฟื้นฟู — แต่เป็นการแสวงหาผลประโยชน์ โดยที่ความยุติธรรมถูกบรรจุใหม่เป็นแหล่งรายได้ สวัสดิการ งานราชการ และอาหารสัตว์ถาวร มารดาที่ยังไม่ได้แต่งงานได้รับบ้าน อาหาร และเงินไม่ใช่เพราะความเห็นอกเห็นใจ — แต่เป็นเพราะ รัฐกําลังจัดการทรัพย์สินของตนเอง● เด็กที่เกิดมาในฐานะผู้พิทักษ์ของรัฐ เปิดความไว้วางใจใหม่ เจ้าหน้าที่ของรัฐ? แพทย์? ทหาร? แต่ละบทบาทจะเปิดบัญชีทางการเงินอื่นที่เชื่อมโยงกับตัวตนของคุณและ เงินทุนเหล่านั้นถูกเก็บเกี่ยวโดยเครือข่ายปิดเดียวกัน ที่รันเครื่อง พวกเขาจ่ายเงินให้คุณเป็นเซ็นต์พวกเขารวบรวมมูลค่าของคุณเป็นล้าน การวิเคราะห์:นี่ไม่ใช่การสนับสนุนทางสังคม — แต่เป็น การทําฟาร์มทางการเงิน● ยิ่งคุณมีบทบาทในระบบมากเท่าไร ความไว้วางใจก็จะยิ่งถูกสร้างขึ้นมากขึ้นเท่านั้น และแต่ละคนก็กลายเป็นอีกช่องทางหนึ่งของความมั่งคั่ง — ไม่ใช่สําหรับคุณ แต่สําหรับพวกเขา สรุป: คุณคือสินค้าโภคภัณฑ์ — ตอนนี้อะไร? ตั้งแต่เกิดจนตาย ทุกสถาบันที่คุณโต้ตอบด้วยเป็นส่วนหนึ่งของ กลไกทางการเงินที่สร้างขึ้นจากตัวตนทางกฎหมายของคุณ● คุณไม่ได้เป็นเพียงพลเมืองเท่านั้น คุณเป็น สินทรัพย์, แหล่งที่มาของมูลค่า, รายการบรรทัดบนบัญชีแยกประเภททั่วโลก แต่ความรู้ก็ทําให้โค้ดแตกการทําความเข้าใจกรอบการทํางานนี้เป็นก้าวแรกสู่การเรียกคืนความเป็นอิสระ อัตลักษณ์ และความเป็นเจ้าของที่แท้จริงคุณไม่ควรจะรู้ตอนนี้คุณทํา การวิเคราะห์ขั้นสุดท้าย:ระบบนี้ดําเนินต่อไปเพราะมันถูกซ่อนไว้ เมื่อสัมผัสแล้วก็จะเริ่มคลี่คลาย พลังเดียวที่มันมีเหนือคุณคือความไม่รู้ของการมีอยู่ของมัน ความจริงไม่ใช่ทฤษฎี — มันเป็นอาวุธ ใช้มัน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 212 มุมมอง 0 รีวิว
  • รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2

    งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2:

    ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic

    - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้.

    - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น.

    - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์.

    ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา

    - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง.

    - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล.

    - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11.

    ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot
    ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง:

    - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน.
    - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ.
    - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA).
    - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน.
    - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้.

    ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น:
    - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม.
    - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program).
    - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program).
    - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program).

    ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม
    - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์.

    - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine).

    ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ
    - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI.

    ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว
    - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    รายงานสรุปจากงาน Microsoft Build 2025 วันที่ 2 งาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล มีการประกาศนวัตกรรมสำคัญมากมายในวันที่ 2 (20 พฤษภาคม 2568) โดยเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา ด้านล่างนี้เป็นรายละเอียดทั้งหมดที่ครอบคลุมทุกแง่มุมของงานในวันที่ 2: ℹ️ การพัฒนา AI และเทคโนโลยี Agentic - งานวันที่ 2 เริ่มต้นด้วย keynote สำหรับนักพัฒนา โดยเน้นรายละเอียดทางเทคนิคมากกว่าวันแรกของ Satya Nadella. มีการเปิดตัว Microsoft Discovery ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อเปลี่ยนแปลงกระบวนการวิจัยวิทยาศาสตร์ โดยช่วยในการจำลองสถานการณ์จริง เช่น การพัฒนาโซลูชันระบายความร้อน. John Link ได้สาธิตการใช้งานในงานนี้. - NLWeb เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติบนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเปลี่ยนเว็บไซต์ให้เป็นแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent พัฒนาโดย R.V. Guha และได้รับการสนับสนุนจากองค์กรต่างๆ เช่น O’Reilly Media, Snowflake, Shopify, และ Chicago Public Library. Windows AI Foundry ซึ่งก่อนหน้านี้ชื่อ Windows 11 Copilot Runtime เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA) รองรับการทำงานบน CPU, GPU, และคลาวด์ พร้อมรุ่นสำหรับ Mac ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างฟีเจอร์ AI ได้หลากหลายมากขึ้น. - AI Agents ถูกนำมาใช้ในงานต่างๆ เช่น การวางแผนการเดินทาง, ลดการเกิด hallucination, และการดูแลผู้ป่วยมะเร็งโดยการรวมข้อมูลทางการแพทย์และแบ่งปันกับโรงพยาบาลชุมชน. มีการพูดถึง Agentic Web ซึ่งเป็นแนวคิดใหม่ในการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent เพื่อความเปิดกว้างและความเร็วในการสร้างเว็บไซต์. ℹ️ เครื่องมือสำหรับนักพัฒนา - มีการสาธิต GitHub Copilot ซึ่งได้รับการอัปเกรดให้เป็น "เพื่อนนักพัฒนา" หรือ "Project Padawan" โดยสามารถแก้บั๊ก, พัฒนาฟีเจอร์ใหม่, และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยจัดการหลายงานพร้อมกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของนักพัฒนา. GitHub Copilot เปิดตัวอย่างเป็นทางการสำหรับลูกค้า Copilot Enterprise และ Copilot Pro+ เหมาะสำหรับงานที่มีความซับซ้อนต่ำถึงปานกลาง. - Copilot Studio ได้รับการอัปเกรดด้วยคุณสมบัติสำหรับนักพัฒนามืออาวุโส รวมถึง M365 Copilot APIs (ในรูปแบบ preview) และ Bring Your Own Models จาก Azure Foundry (ในรูปแบบ preview). SQL Server 2025 เปิดตัวในรูปแบบ public preview พร้อมการรวม AI และความสามารถในการค้นหาเวกเตอร์ ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการฐานข้อมูล. - Microsoft ประกาศเปิดตัว Windows Subsystem for Linux (WSL) เป็นโอเพ่นซอร์ส รวมถึง "Mariner" Linux และ WSL-g UI layer, และมีแผนจะเปิดตัว GitHub Copilot Chat Extension สำหรับ VSCode เป็นโอเพ่นซอร์สในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า. นอกจากนี้ยังมีการพูดถึง Model Context Protocol (MCP) ซึ่ง Microsoft เข้าร่วม MCP Steering Committee และรองรับ MCP บนแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น GitHub, Copilot Studio, Dynamics 365, Azure, Azure AI Foundry, Semantic Kernel, Foundry Agents, และ Windows 11. ℹ️ Microsoft 365 และ Copilot ➡️ Microsoft 365 Copilot Wave 2 Spring Release มีการอัปเดตใหม่สำหรับการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และ AI Agent รวมถึง: - แอปที่อัปเดตสำหรับการทำงานร่วมกัน. - ประสบการณ์การสร้างด้วย OpenAI GPT-4o สำหรับการสร้างภาพ. - Copilot Notebooks เปิดตัวอย่างเป็นทางการ (GA). - Copilot Search และ Copilot Memory จะเริ่มใช้งานในเดือนมิถุนายน. - Researcher และ Analyst agents ผ่านโปรแกรม Frontier จะเริ่มในเดือนนี้. ➡️ Power Apps มีการประกาศคุณสมบัติใหม่ เช่น: - Solution Workspace เปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 30 พฤษภาคม. - Generative pages ด้วย React code (Early Access Program). - Agent feed สำหรับแอป (Early Access Program). - นำแอปแบบ code-first มายัง Power Platform (Early Access Program). ℹ️ ความร่วมมือและนวัตกรรม - มีการร่วมมือกับ Nvidia โดย Jensen Huang กล่าวถึงการเร่งการทำงานของ AI และการจัดการงานหนักด้วย CUDA. นอกจากนี้ยังมีความร่วมมือกับ xAI โดย Elon Musk ปรากฏตัวผ่านวิดีโอและประกาศว่า Grok 3 และ Grok 3 Mini จะมีบน Azure AI Foundry เพื่อเพิ่มความแม่นยำและลดข้อผิดพลาดของ AI โดยใช้กฎหมายฟิสิกส์. - MyEngine AI ถูกนำมาใช้เพื่อช่วยผู้ที่มีปัญหาการได้ยินเข้าใจสำเนียงท้องถิ่นได้ดีขึ้น. AI ยังถูกนำมาใช้ในด้านที่น่าสนใจ เช่น การพยากรณ์อากาศด้วย supercomputer บนคลาวด์ ซึ่งต้องการพลังการคำนวณสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำ และ AI สำหรับ NFL Combine ซึ่งมีการสาธิตผ่านวิดีโอ (AI for NFL Combine). ℹ️ ความปลอดภัยและการจัดการ - Microsoft ขยายการใช้งาน Entra, Defender for Cloud, และ Purview เข้าสู่ Azure AI Foundry และ Copilot Studio เพื่อเพิ่มความปลอดภัย. Entra Agent ID เปิดตัวในรูปแบบ preview เพื่อจัดการ AI Agents ซึ่งช่วยในการควบคุมและปกป้องการทำงานของ AI. ℹ️ บุคคลสำคัญและการปรากฏตัว - งานวันที่ 2 มีการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญผ่านวิดีโอ เช่น Sam Altman (OpenAI) ที่กล่าวถึงการจัดการงาน AI ขนาดใหญ่ และ Elon Musk (xAI) ที่พูดถึงความร่วมมือกับ Microsoft ในการนำ Grok 3 และ Grok 3 Mini มาใช้บน Azure.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 156 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS ROG พัฒนาแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ ลดสายเคเบิลในพีซี

    ASUS ROG เปิดตัวแนวคิดฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ช่วยลดสายเคเบิลในพีซี โดยเน้นไปที่ พัดลมเคสและระบบระบายความร้อนแบบน้ำ (AIO Cooler) ซึ่งจะช่วยให้การจัดการสายไฟเป็นระเบียบมากขึ้น

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ของ ASUS ROG
    ✅ พัดลมเคสแบบไร้สายช่วยลดสายเคเบิลที่ยุ่งเหยิง
    - ใช้ ตัวควบคุมพัดลมแบบไร้สายที่ส่งสัญญาณไปยังเมนบอร์ดโดยตรง
    - รองรับ Aura Sync สำหรับการควบคุมไฟ RGB

    ✅ AIO Cooler แบบไร้สายช่วยลดสายไฟรอบปั๊มน้ำ
    - เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดโดยตรง ผ่านระบบไร้สาย
    - รองรับ การควบคุมไฟ ARGB และหน้าจอ LCD บนปั๊มน้ำ

    ✅ แนวคิดนี้ยังคงรองรับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์ทั่วไป
    - หากติดตั้งบนเมนบอร์ดปกติ สามารถใช้สายเคเบิลแบบเดิมได้

    ✅ ASUS ROG นำแนวคิดนี้ไปจัดแสดงในงาน Computex 2025
    - ผู้เข้าชมสามารถ ทดลองใช้งานต้นแบบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้

    https://www.techpowerup.com/337084/asus-rog-teases-continued-refinement-of-modular-hardware-concepts
    ASUS ROG พัฒนาแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ ลดสายเคเบิลในพีซี ASUS ROG เปิดตัวแนวคิดฮาร์ดแวร์ใหม่ที่ช่วยลดสายเคเบิลในพีซี โดยเน้นไปที่ พัดลมเคสและระบบระบายความร้อนแบบน้ำ (AIO Cooler) ซึ่งจะช่วยให้การจัดการสายไฟเป็นระเบียบมากขึ้น 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแนวคิดฮาร์ดแวร์แบบโมดูลาร์ของ ASUS ROG ✅ พัดลมเคสแบบไร้สายช่วยลดสายเคเบิลที่ยุ่งเหยิง - ใช้ ตัวควบคุมพัดลมแบบไร้สายที่ส่งสัญญาณไปยังเมนบอร์ดโดยตรง - รองรับ Aura Sync สำหรับการควบคุมไฟ RGB ✅ AIO Cooler แบบไร้สายช่วยลดสายไฟรอบปั๊มน้ำ - เชื่อมต่อกับเมนบอร์ดโดยตรง ผ่านระบบไร้สาย - รองรับ การควบคุมไฟ ARGB และหน้าจอ LCD บนปั๊มน้ำ ✅ แนวคิดนี้ยังคงรองรับการใช้งานกับฮาร์ดแวร์ทั่วไป - หากติดตั้งบนเมนบอร์ดปกติ สามารถใช้สายเคเบิลแบบเดิมได้ ✅ ASUS ROG นำแนวคิดนี้ไปจัดแสดงในงาน Computex 2025 - ผู้เข้าชมสามารถ ทดลองใช้งานต้นแบบของผลิตภัณฑ์เหล่านี้ได้ https://www.techpowerup.com/337084/asus-rog-teases-continued-refinement-of-modular-hardware-concepts
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    ASUS ROG Teases Continued Refinement of Modular Hardware Concepts
    Browse the list of bestselling PC cases on Amazon, and you'll see a pattern emerge very quickly. Today's PC builders aren't deciding whether they want a tempered glass side panel: they're deciding how many of these panels they want. Panoramic PC cases provide an undeniably gorgeous view of your inte...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 44 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'เทพไท' หนุนแนวคิด ‘ธิดา’ แนะ ‘ทักษิณ’ ยอมเข้าคุก ทุกอย่างจบสวย
    https://www.thai-tai.tv/news/18797/
    'เทพไท' หนุนแนวคิด ‘ธิดา’ แนะ ‘ทักษิณ’ ยอมเข้าคุก ทุกอย่างจบสวย https://www.thai-tai.tv/news/18797/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 38 มุมมอง 0 รีวิว
  • จังหวัดลพบุรี จัดพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” เพื่อสนับสนุนการสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช

    วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่วงเวียนเทพสตรี พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี พระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 และ เขต 3 พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ ส่วนราชการ เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในการนี้ นายณรงค์ศักดิ์ คูกิตติรัตน์ หรืออาจารย์แห้ว ฉายาหมอดูเทวดาตาทิพย์ เจ้าสำนักศาลเจ้าพ่อนาคราช ได้ประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ด้วย

    สำหรับวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ จัดสร้างวัตถุมงคล โดยพระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ มีแนวคิดจัดสร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญโดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ในการจัดสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ 2 ฟากฝั่งของถนนทางหลวงจำนวน 6 ช่องทางจราจร ทำให้การข้าม สัญจรไป-มา ของบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงผู้เข้ารับบริการ ของทั้ง 2 โรงพยาบาลมีความไม่ปลอดภัย จากการ สัญจรข้ามทางหลวง ในสภาวะที่มียานพาหนะบนท้องถนนที่หนาแน่น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการไม่ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้บริการของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง อำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรักษาผู้ป่วยระหว่าง 2 โรงพยาบาล ให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการผ่าตัดหรือรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีสามารถรองรับการสัญจรให้กับประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการ เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการ ข้ามทางหลวงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะสามารถขจัดความขัดแย้งระหว่างคนเดินข้ามถนนกับยานพาหนะได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้รายได้ส่วนหนึ่งยังนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผู้ยากไร้อีกด้วย

    สำหรับผูัสนใจสั่งจองเหรียญที่ระลึกสร้างบารมี สามารถสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี 036 422 515 หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 06 5159 5654
    จังหวัดลพบุรี จัดพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” เพื่อสนับสนุนการสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่วงเวียนเทพสตรี พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี พระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 และ เขต 3 พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ ส่วนราชการ เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในการนี้ นายณรงค์ศักดิ์ คูกิตติรัตน์ หรืออาจารย์แห้ว ฉายาหมอดูเทวดาตาทิพย์ เจ้าสำนักศาลเจ้าพ่อนาคราช ได้ประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ด้วย สำหรับวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ จัดสร้างวัตถุมงคล โดยพระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ มีแนวคิดจัดสร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญโดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ในการจัดสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ 2 ฟากฝั่งของถนนทางหลวงจำนวน 6 ช่องทางจราจร ทำให้การข้าม สัญจรไป-มา ของบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงผู้เข้ารับบริการ ของทั้ง 2 โรงพยาบาลมีความไม่ปลอดภัย จากการ สัญจรข้ามทางหลวง ในสภาวะที่มียานพาหนะบนท้องถนนที่หนาแน่น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการไม่ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้บริการของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง อำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรักษาผู้ป่วยระหว่าง 2 โรงพยาบาล ให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการผ่าตัดหรือรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีสามารถรองรับการสัญจรให้กับประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการ เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการ ข้ามทางหลวงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะสามารถขจัดความขัดแย้งระหว่างคนเดินข้ามถนนกับยานพาหนะได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้รายได้ส่วนหนึ่งยังนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผู้ยากไร้อีกด้วย สำหรับผูัสนใจสั่งจองเหรียญที่ระลึกสร้างบารมี สามารถสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี 036 422 515 หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 06 5159 5654
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 88 มุมมอง 0 รีวิว
  • จังหวัดลพบุรี จัดพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” เพื่อสนับสนุนการสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช

    วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่วงเวียนเทพสตรี พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี พระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 และ เขต 3 พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ ส่วนราชการ เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในการนี้ นายณรงค์ศักดิ์ คูกิตติรัตน์ หรืออาจารย์แห้ว ฉายาหมอดูเทวดาตาทิพย์ เจ้าสำนักศาลเจ้าพ่อนาคราช ได้ประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ด้วย

    สำหรับวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ จัดสร้างวัตถุมงคล โดยพระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ มีแนวคิดจัดสร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญโดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ในการจัดสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ 2 ฟากฝั่งของถนนทางหลวงจำนวน 6 ช่องทางจราจร ทำให้การข้าม สัญจรไป-มา ของบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงผู้เข้ารับบริการ ของทั้ง 2 โรงพยาบาลมีความไม่ปลอดภัย จากการ สัญจรข้ามทางหลวง ในสภาวะที่มียานพาหนะบนท้องถนนที่หนาแน่น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการไม่ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้บริการของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง อำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรักษาผู้ป่วยระหว่าง 2 โรงพยาบาล ให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการผ่าตัดหรือรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีสามารถรองรับการสัญจรให้กับประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการ เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการ ข้ามทางหลวงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะสามารถขจัดความขัดแย้งระหว่างคนเดินข้ามถนนกับยานพาหนะได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้รายได้ส่วนหนึ่งยังนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผู้ยากไร้อีกด้วย

    สำหรับผูัสนใจสั่งจองเหรียญที่ระลึกสร้างบารมี สามารถสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี 036 422 515 หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 06 5159 5654
    จังหวัดลพบุรี จัดพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” เพื่อสนับสนุนการสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช วันที่ 19 พฤษภาคม 2568 เวลา 09.30 น. ที่วงเวียนเทพสตรี พระบรมราชานุเสาวรีย์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช จังหวัดลพบุรี พระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นายอำพล อังคภากรณ์กุล ผู้ว่าราชการจังหวัดลพบุรี เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีบวงสรวงวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ โดยมี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 1 และ เขต 3 พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ ส่วนราชการ เข้าร่วมเป็นจำนวนมากในการนี้ นายณรงค์ศักดิ์ คูกิตติรัตน์ หรืออาจารย์แห้ว ฉายาหมอดูเทวดาตาทิพย์ เจ้าสำนักศาลเจ้าพ่อนาคราช ได้ประกอบพิธีบวงสรวงในครั้งนี้ด้วย สำหรับวัตถุมงคลเหรียญที่ระลึก รุ่น “สร้างบารมี” ด้านหน้าเหรียญองค์สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ด้านหลังเหรียญเจ้าพ่อพระกาฬ จัดสร้างวัตถุมงคล โดยพระภาวนาวชิรมงคล วิ. เจ้าอาวาสวัดป่าธรรมโสภณ มีแนวคิดจัดสร้างขึ้นเพื่อให้พุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญโดยรายได้ทั้งหมดจะมอบให้โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี ในการจัดสร้างสะพานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่าง โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรีกับโรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ซึ่งปัจจุบันโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง ซึ่งตั้งอยู่ 2 ฟากฝั่งของถนนทางหลวงจำนวน 6 ช่องทางจราจร ทำให้การข้าม สัญจรไป-มา ของบุคลากรทางการแพทย์รวมไปถึงผู้เข้ารับบริการ ของทั้ง 2 โรงพยาบาลมีความไม่ปลอดภัย จากการ สัญจรข้ามทางหลวง ในสภาวะที่มียานพาหนะบนท้องถนนที่หนาแน่น ส่งผลให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการไม่ได้รับความสะดวกและความปลอดภัยบนท้องถนน อีกทั้งเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้บริการของโรงพยาบาลทั้ง 2 แห่ง อำนวยความสะดวกให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่ต้องรักษาผู้ป่วยระหว่าง 2 โรงพยาบาล ให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในการผ่าตัดหรือรักษาผู้ป่วยได้อย่างทันท่วงทีสามารถรองรับการสัญจรให้กับประชาชนทั่วไปที่มาใช้บริการ เป็นการอำนวยความสะดวกสำหรับบุคลากรทางการแพทย์และผู้เข้ารับบริการ ข้ามทางหลวงที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเพราะสามารถขจัดความขัดแย้งระหว่างคนเดินข้ามถนนกับยานพาหนะได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้รายได้ส่วนหนึ่งยังนำไปจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ และช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลผู้ยากไร้อีกด้วย สำหรับผูัสนใจสั่งจองเหรียญที่ระลึกสร้างบารมี สามารถสอบถามได้ที่ โรงพยาบาลมะเร็งลพบุรี 036 422 515 หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 06 5159 5654
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 128 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • Microsoft นำ OpenAI Sora Video Generation API มาสู่ Azure AI Foundry

    Microsoft ประกาศในงาน Build 2025 ว่า OpenAI Sora Video Generation API จะพร้อมใช้งานบน Azure AI Foundry ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการนำ โมเดล AI สำหรับการสร้างวิดีโอจากข้อความ มาสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ของ Microsoft

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ OpenAI Sora บน Azure AI Foundry
    ✅ Azure AI Foundry มีโมเดล AI มากกว่า 1,900 โมเดล แต่ยังไม่มีโมเดลสร้างวิดีโอจากข้อความ
    - AWS และ Google Cloud มีโมเดล Nova Reels และ Veo API สำหรับการสร้างวิดีโออยู่แล้ว

    ✅ OpenAI Sora เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 แต่ยังไม่มี API สำหรับนักพัฒนา
    - ปัจจุบัน ChatGPT Premium สามารถใช้ Sora เพื่อสร้างวิดีโอจากข้อความได้

    ✅ Microsoft เปิดตัว 'Video Playground' ใน Azure AI Foundry เพื่อให้ทดลองใช้ Sora
    - นักพัฒนาสามารถ ปรับแต่งอัตราส่วนภาพ, ความละเอียด และระยะเวลาของวิดีโอ

    ✅ Sora จะสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Azure OpenAI Service
    - ทำให้ นักพัฒนาสามารถรวมเข้ากับแอปพลิเคชันของตนได้ง่ายขึ้น

    ✅ บริษัท T&Pm ของ WPP ใช้ Sora ผ่าน Azure OpenAI Service เพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์
    - ช่วยให้ สามารถสร้างภาพแนวคิดและขยายไอเดียไปสู่การผลิตได้ง่ายขึ้น

    https://www.neowin.net/news/microsoft-to-bring-openais-sora-video-generation-api-to-azure-ai-foundry-next-week/
    Microsoft นำ OpenAI Sora Video Generation API มาสู่ Azure AI Foundry Microsoft ประกาศในงาน Build 2025 ว่า OpenAI Sora Video Generation API จะพร้อมใช้งานบน Azure AI Foundry ตั้งแต่สัปดาห์หน้า ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการนำ โมเดล AI สำหรับการสร้างวิดีโอจากข้อความ มาสู่แพลตฟอร์มคลาวด์ของ Microsoft 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ OpenAI Sora บน Azure AI Foundry ✅ Azure AI Foundry มีโมเดล AI มากกว่า 1,900 โมเดล แต่ยังไม่มีโมเดลสร้างวิดีโอจากข้อความ - AWS และ Google Cloud มีโมเดล Nova Reels และ Veo API สำหรับการสร้างวิดีโออยู่แล้ว ✅ OpenAI Sora เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2024 แต่ยังไม่มี API สำหรับนักพัฒนา - ปัจจุบัน ChatGPT Premium สามารถใช้ Sora เพื่อสร้างวิดีโอจากข้อความได้ ✅ Microsoft เปิดตัว 'Video Playground' ใน Azure AI Foundry เพื่อให้ทดลองใช้ Sora - นักพัฒนาสามารถ ปรับแต่งอัตราส่วนภาพ, ความละเอียด และระยะเวลาของวิดีโอ ✅ Sora จะสามารถเข้าถึงได้ผ่าน Azure OpenAI Service - ทำให้ นักพัฒนาสามารถรวมเข้ากับแอปพลิเคชันของตนได้ง่ายขึ้น ✅ บริษัท T&Pm ของ WPP ใช้ Sora ผ่าน Azure OpenAI Service เพื่อปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ - ช่วยให้ สามารถสร้างภาพแนวคิดและขยายไอเดียไปสู่การผลิตได้ง่ายขึ้น https://www.neowin.net/news/microsoft-to-bring-openais-sora-video-generation-api-to-azure-ai-foundry-next-week/
    WWW.NEOWIN.NET
    Microsoft to bring OpenAI's Sora video generation API to Azure AI Foundry next week
    Microsoft's Azure AI Foundry will soon include OpenAI's text-to-video model, Sora, addressing a current gap compared to AWS and Google Cloud.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 102 มุมมอง 0 รีวิว
  • PrismX: AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งบน Reddit

    Sairaj Balaji นักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก SRMIST ประเทศอินเดีย ได้พัฒนา AI ที่ชื่อว่า PrismX ซึ่งสามารถ ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ Reddit ที่มีแนวโน้มไปสู่แนวคิดสุดโต่ง โดยใช้ การสแกนข้อความและการให้คะแนน "radical score" เพื่อระบุระดับความรุนแรงของแนวคิด

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PrismX
    ✅ PrismX ใช้ระบบ Live OSINT Scan เพื่อตรวจสอบโพสต์บน Reddit แบบเรียลไทม์
    - สามารถ วิเคราะห์ภาษาที่ใช้และอารมณ์ของผู้โพสต์

    ✅ มีระบบ Psychological Profiling Engine ที่แบ่งผู้ใช้เป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามแนวคิด
    - เช่น "Zealot" (สุดโต่ง), "Idealist" (โน้มน้าวได้ง่าย) และ "Atomized" (โดดเดี่ยวและมีแนวโน้มรุนแรง)

    ✅ Active Engagement Module สามารถใช้ AI chatbot เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้
    - มีเป้าหมาย เพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งหรือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด

    ✅ สามารถตรวจสอบแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและคอมเมนต์
    - เช่น การให้คะแนนผู้ใช้ตามความคิดเห็นเกี่ยวกับ LGBTQ+ หรือศาสนา

    ✅ Balaji ยอมรับว่า PrismX ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้จริงกับผู้ใช้ Reddit เนื่องจากข้อกังวลด้านจริยธรรม
    - เขา ไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการลดแนวคิดสุดโต่ง แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการจัดการ

    https://www.neowin.net/news/ideological-warfare-student-builds-ai-tool-to-de-radicalize-extremists-on-reddit/
    PrismX: AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งบน Reddit Sairaj Balaji นักศึกษาวิทยาการคอมพิวเตอร์จาก SRMIST ประเทศอินเดีย ได้พัฒนา AI ที่ชื่อว่า PrismX ซึ่งสามารถ ติดตามและวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ Reddit ที่มีแนวโน้มไปสู่แนวคิดสุดโต่ง โดยใช้ การสแกนข้อความและการให้คะแนน "radical score" เพื่อระบุระดับความรุนแรงของแนวคิด 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ PrismX ✅ PrismX ใช้ระบบ Live OSINT Scan เพื่อตรวจสอบโพสต์บน Reddit แบบเรียลไทม์ - สามารถ วิเคราะห์ภาษาที่ใช้และอารมณ์ของผู้โพสต์ ✅ มีระบบ Psychological Profiling Engine ที่แบ่งผู้ใช้เป็นกลุ่มต่าง ๆ ตามแนวคิด - เช่น "Zealot" (สุดโต่ง), "Idealist" (โน้มน้าวได้ง่าย) และ "Atomized" (โดดเดี่ยวและมีแนวโน้มรุนแรง) ✅ Active Engagement Module สามารถใช้ AI chatbot เพื่อโต้ตอบกับผู้ใช้ - มีเป้าหมาย เพื่อช่วยลดแนวคิดสุดโต่งหรือกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิด ✅ สามารถตรวจสอบแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น Instagram โดยใช้การวิเคราะห์เนื้อหาและคอมเมนต์ - เช่น การให้คะแนนผู้ใช้ตามความคิดเห็นเกี่ยวกับ LGBTQ+ หรือศาสนา ✅ Balaji ยอมรับว่า PrismX ยังไม่ได้ถูกนำไปใช้จริงกับผู้ใช้ Reddit เนื่องจากข้อกังวลด้านจริยธรรม - เขา ไม่มีการศึกษาเกี่ยวกับการลดแนวคิดสุดโต่ง แต่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและการจัดการ https://www.neowin.net/news/ideological-warfare-student-builds-ai-tool-to-de-radicalize-extremists-on-reddit/
    WWW.NEOWIN.NET
    Ideological warfare: Student builds AI tool to de-radicalize extremists on Reddit
    With AI's influence under scrutiny, a tool has emerged that attempts to de-radicalize radical Reddit users, raising red flags about who decides what 'radical' actually means.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 103 มุมมอง 0 รีวิว
  • สรุปข่าว ℹ️ วันแรก ℹ️ ในงาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล

    ในวันแรกมีการประกาศนวัตกรรมสำคัญที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยสรุปข่าวสำคัญดังนี้:

    1) Microsoft Discovery: เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อพลิกโฉมกระบวนการค้นคว้าและวิจัยวิทยาศาสตร์ ช่วยให้การวิจัยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น.

    2) GitHub Copilot ปรับโฉมเป็น Coding Agent: จากเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด กลายเป็น "เพื่อนนักพัฒนา" ที่สามารถแก้บั๊ก พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนักพัฒนา.

    3) Copilot Tuning: เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง GitHub Copilot ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของนักพัฒนา ช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากขึ้น.

    4.) Windows AI Foundry: เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาสร้างฟีเจอร์ AI บน Windows รองรับการทำงานทั้งบน CPU, GPU และคลาวด์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา.

    5) Agent Factory (Azure AI Foundry): เครื่องมือใหม่ใน Azure ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ได้ง่ายขึ้น รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI.

    6) NLWeb: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language) บนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้และนักพัฒนาโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์.

    7) Open Agentic Web: Microsoft ผลักดันแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent โดยมีการอัปเดตที่เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI Agent.

    8) การสนับสนุน Model Context Protocol (MCP): ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อเพิ่มการรองรับ MCP ใน Windows และ Visual Studio Copilot ซึ่งจะกลายเป็นโอเพ่นซอร์ส ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น.

    9) Project Haven: เปิดตัวโครงการเพื่อใช้งาน Kubernetes บน Edge Device ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมเอดจ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น.

    นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความร่วมมือระดับโลก เช่น การปรากฏตัวของ Satya Nadella, Elon Musk, Jensen Huang และ Sam Altman ในงาน ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของ AI ในวงการเทคโนโลยี. งานนี้เน้นย้ำว่า Microsoft มุ่งพัฒนา AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์และเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาทั่วโลก.

    สรุปข่าว ℹ️ วันแรก ℹ️ ในงาน Microsoft Build 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-22 พฤษภาคม 2568 ที่เมืองซีแอตเทิล ในวันแรกมีการประกาศนวัตกรรมสำคัญที่เน้นการพัฒนาเทคโนโลยี AI และเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา โดยสรุปข่าวสำคัญดังนี้: 1) Microsoft Discovery: เปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ที่ใช้ Agent AI เพื่อพลิกโฉมกระบวนการค้นคว้าและวิจัยวิทยาศาสตร์ ช่วยให้การวิจัยมีประสิทธิภาพและรวดเร็วยิ่งขึ้น. 2) GitHub Copilot ปรับโฉมเป็น Coding Agent: จากเครื่องมือช่วยเขียนโค้ด กลายเป็น "เพื่อนนักพัฒนา" ที่สามารถแก้บั๊ก พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ และจัดการ GitHub Issues ได้โดยอัตโนมัติ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพนักพัฒนา. 3) Copilot Tuning: เพิ่มความสามารถในการปรับแต่ง GitHub Copilot ให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะของนักพัฒนา ช่วยให้การเขียนโค้ดเป็นไปอย่างแม่นยำและตรงความต้องการมากขึ้น. 4.) Windows AI Foundry: เปิดตัวแพลตฟอร์มที่ช่วยนักพัฒนาสร้างฟีเจอร์ AI บน Windows รองรับการทำงานทั้งบน CPU, GPU และคลาวด์ เพิ่มความยืดหยุ่นในการพัฒนา. 5) Agent Factory (Azure AI Foundry): เครื่องมือใหม่ใน Azure ที่ช่วยให้นักพัฒนาสร้าง AI Agent ได้ง่ายขึ้น รองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI. 6) NLWeb: เทคโนโลยีที่ช่วยให้การโต้ตอบด้วยภาษาธรรมชาติ (Natural Language) บนเว็บมีประสิทธิภาพมากขึ้น เปลี่ยนวิธีที่ผู้ใช้และนักพัฒนาโต้ตอบกับแพลตฟอร์มออนไลน์. 7) Open Agentic Web: Microsoft ผลักดันแนวคิดการพัฒนาเว็บที่ขับเคลื่อนด้วย AI Agent โดยมีการอัปเดตที่เน้นความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของ AI Agent. 8) การสนับสนุน Model Context Protocol (MCP): ร่วมมือกับ Anthropic เพื่อเพิ่มการรองรับ MCP ใน Windows และ Visual Studio Copilot ซึ่งจะกลายเป็นโอเพ่นซอร์ส ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงและปรับแต่งได้ง่ายขึ้น. 9) Project Haven: เปิดตัวโครงการเพื่อใช้งาน Kubernetes บน Edge Device ช่วยให้การจัดการแอปพลิเคชันในสภาพแวดล้อมเอดจ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น. นอกจากนี้ ยังมีการพูดถึงความร่วมมือระดับโลก เช่น การปรากฏตัวของ Satya Nadella, Elon Musk, Jensen Huang และ Sam Altman ในงาน ซึ่งแสดงถึงความสำคัญของ AI ในวงการเทคโนโลยี. งานนี้เน้นย้ำว่า Microsoft มุ่งพัฒนา AI เพื่อเปลี่ยนแปลงวงจรการพัฒนาซอฟต์แวร์และเพิ่มศักยภาพให้กับนักพัฒนาทั่วโลก.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 77 มุมมอง 0 รีวิว
  • โคราชตื่นตัว! จัดกิจกรรม “THE MALL KORAT FIT FUN FEST PRESENTED BY FITNESS FIRST” รวมพลคนชอบออกกำลังกายตอบรับกระแส Wellness ชวนคนรักสุขภาพมาชาแลนจ์ความสตรอง ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 20,000 บาท

    ​เดอะมอลล์โคราช ร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ ฟิตเนสเฟิร์ส ,ดีแคทลอน และ โรงภาพยนตร์โคราชซีนีเพล็กซ์ จัดกิจกรรม “THE MALL KORAT FIT FUN FEST PRESENTED BY FITNESS FIRST” รวมพลคนชอบออกกำลังกายตอบรับกระแส Wellness ชวนคนรักสุขภาพมาชาแลนจ์ความสตรอง ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 20,000 บาท ระหว่างวันที่ 17-18 พ.ค.2568 ที่ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช จากกระแสของการรักสุขภาพ ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพรอบด้าน โดยเฉพาะการมีสุขภาพเชิงเวลเนส (wellness) คือ การหากิจกรรมทางเลือกและรูปแบบการใช้ชีวิต (lifestyles) ที่ส่งเสริมสุขภาพองค์รวม ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค และปรับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ในการดูแลสุขภาพควบคู่กันไป เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ของการมีสุขภาพองค์รวมและความเป็นอยู่ที่ดี เพราะ wellness ไม่ใช่แค่เรื่องการมีสุขภาพที่ดี แต่ยังมีอีกหลายมิติทั้งในด้านของกายภาพ จิตใจ การเข้าสังคม รวมถึงพัฒนาการด้านสติปัญญา

    ​เดอะมอลล์โคราชและพันธมิตรจึงเล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพแบบ wellness ที่มุ่งเน้นไปที่การป้องกันมากกว่าการรักษาสุขภาวะทางอารมณ์ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางสังคมสุขภาวะทางสติปัญญา จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อรวมพลคนรักสุขภาพมาชาแลนจ์ความสตรอง และสิ่งสำคัญผู้เข้าร่วมจะได้ความสุขจากการชนะใจตัวเอง ได้ทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ จะรู้สึกเติมเต็มจากได้เจอเพื่อนสายสุขภาพถือเป็นคอมมูนิตี้ ที่ให้ผู้คนเหล่านี้ได้มาทำกิจกรรม ออกกำลังกาย และชาเลนจ์ร่วมกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสุข และสุขภาพดีที่ได้พาตัวเองออกจากความเครียดจากการทำงานหรือการใช้ชีวิต ตามแนวคิดการมีสุขภาพเชิงเวลเนส (wellness) และจากข้อมูลสถิติในประเทศไทยพบว่า 77% ของการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด นอนหลับไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการกิน ออกกำลังกาย และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จึงกล่าวได้ว่าการดูแลสุขภาพในเชิง wellness สามารถช่วยป้องกันโรคได้ และในบางกรณี สามารถหยุดอาการเรื้อรังของโรคไม่ติดต่อบางชนิดได้ด้วยเช่นกัน

    กิจกรรมนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปที่รักสุขภาพ ร่วมเข้าชาเลนจ์ ฟรี! ซึ่งมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 2 วัน กว่า 600 คน โดยกิจกรรมต่างๆ จะมีโค้ชจากฟิตเนสเฟิร์สเป็นไกด์ทางสุขภาพ กับกิจกรรมแบ่งเป็น 2 วัน ดังนี้

    17 พ.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 11.30-16.45 น. มีชาเลนจ์ Aerobic Easy Move, Plank Challenge, Body Combat,Boarding Jump Challenge, Yoga Balance

    18 พ.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 11.30-16.45 น. มีชาเลนจ์ Zumba Party, Push Up Challenge,HIIT X Hyrofit, Agility Challenge, BodyJam

    ผู้เข้าร่วม Challenge ใน Group Class ที่ผ่านกติการับ Cash Coupon มูลค่า 500.- จำนวน 4 รางวัล/รอบกิจกรรมๆ วันละ 5 รอบ (เงื่อนไข Cash Coupon แทนเงินสด ใช้เฉพาะสาขาเดอะมอลล์โคราช เท่านั้น สามารถใช้แทนเงินสดมูลค่า 500 บาท เมื่อ Shop ในศูนย์ฯ ขั้นต่ำ 1,000 บาท / ใบเสร็จ ใช้ได้กับร้านค้าหรือร้านอาหารของศูนย์ฯ ที่ร่วมรับคูปอง ยกเว้น Gourmet, Food Hall หมดอายุวันที่ 30 พ.ค. 2568)

    สำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม THE MALL KORAT FIT FUN FEST PRESENTED BY FITNESS จะได้รับสิทธิพิเศษตามเงื่อนไข อาทิ
    สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า MCARD 1. เมื่อซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้า รวมใบเสร็จ 800 บาท ขึ้นไป รับ CASH COUPON มูลค่า 100.- (1 คน/สิทธิ์) จำนวน 100 ใบ/ตลอดการจัดงาน 2. ผู้เข้าร่วม Challenge ใน Group Class ผ่านกติกาที่ตั้งไว้ รับ Cash Coupon มูลค่า 500.- จำนวน 4 รางวัล/รอบกิจกรรมๆ วันละ 5 รอบ
    DECATHLON ทดสอบความแม่นยำกับการยิงธนู เล่นได้ฟรี และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสมัครสมาชิกกับ DECATHLON ในงานนี้ จะรับคูปองส่วนลด 300 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,200 บาท,
    โรงภาพยนตร์โคราชซีนีเพล็กซ์ มอบส่วนลดชมภาพยนตร์ มูลค่า 140 บาท (จำนวนจำกัด) เพียงดาวน์โหลด Application Major
    ทั้งนี้ ยังมีรางวัล Lucky Draw Membership 1 เดือน จำนวน 2 รางวัล/วัน มอบให้กับผู้โชคดีที่ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฯ (สงวนสิทธิ์เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยเป็นสมาชิกของ FITNESS FIRST มาก่อน) อีกด้วย
    โคราชตื่นตัว! จัดกิจกรรม “THE MALL KORAT FIT FUN FEST PRESENTED BY FITNESS FIRST” รวมพลคนชอบออกกำลังกายตอบรับกระแส Wellness ชวนคนรักสุขภาพมาชาแลนจ์ความสตรอง ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 20,000 บาท ​เดอะมอลล์โคราช ร่วมมือกับพันธมิตรด้านสุขภาพ ฟิตเนสเฟิร์ส ,ดีแคทลอน และ โรงภาพยนตร์โคราชซีนีเพล็กซ์ จัดกิจกรรม “THE MALL KORAT FIT FUN FEST PRESENTED BY FITNESS FIRST” รวมพลคนชอบออกกำลังกายตอบรับกระแส Wellness ชวนคนรักสุขภาพมาชาแลนจ์ความสตรอง ชิงเงินรางวัลมูลค่ารวมกว่า 20,000 บาท ระหว่างวันที่ 17-18 พ.ค.2568 ที่ วาไรตี้ฮอลล์ ชั้น 3 เดอะมอลล์โคราช จากกระแสของการรักสุขภาพ ทำให้ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพรอบด้าน โดยเฉพาะการมีสุขภาพเชิงเวลเนส (wellness) คือ การหากิจกรรมทางเลือกและรูปแบบการใช้ชีวิต (lifestyles) ที่ส่งเสริมสุขภาพองค์รวม ครอบคลุมทั้งร่างกายและจิตใจ โดยมุ่งเน้นที่การป้องกันก่อนการเกิดโรค และปรับการใช้ชีวิตด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ในการดูแลสุขภาพควบคู่กันไป เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ของการมีสุขภาพองค์รวมและความเป็นอยู่ที่ดี เพราะ wellness ไม่ใช่แค่เรื่องการมีสุขภาพที่ดี แต่ยังมีอีกหลายมิติทั้งในด้านของกายภาพ จิตใจ การเข้าสังคม รวมถึงพัฒนาการด้านสติปัญญา ​เดอะมอลล์โคราชและพันธมิตรจึงเล็งเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพแบบ wellness ที่มุ่งเน้นไปที่การป้องกันมากกว่าการรักษาสุขภาวะทางอารมณ์ สุขภาวะทางกาย สุขภาวะทางสังคมสุขภาวะทางสติปัญญา จึงจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อรวมพลคนรักสุขภาพมาชาแลนจ์ความสตรอง และสิ่งสำคัญผู้เข้าร่วมจะได้ความสุขจากการชนะใจตัวเอง ได้ทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ จะรู้สึกเติมเต็มจากได้เจอเพื่อนสายสุขภาพถือเป็นคอมมูนิตี้ ที่ให้ผู้คนเหล่านี้ได้มาทำกิจกรรม ออกกำลังกาย และชาเลนจ์ร่วมกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของความสุข และสุขภาพดีที่ได้พาตัวเองออกจากความเครียดจากการทำงานหรือการใช้ชีวิต ตามแนวคิดการมีสุขภาพเชิงเวลเนส (wellness) และจากข้อมูลสถิติในประเทศไทยพบว่า 77% ของการเสียชีวิตด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) มีสาเหตุมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม เช่น การรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ขาดการออกกำลังกาย ความเครียด นอนหลับไม่เพียงพอ การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม เช่น การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสมไม่ว่าจะเป็นการกิน ออกกำลังกาย และรักษาน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จึงกล่าวได้ว่าการดูแลสุขภาพในเชิง wellness สามารถช่วยป้องกันโรคได้ และในบางกรณี สามารถหยุดอาการเรื้อรังของโรคไม่ติดต่อบางชนิดได้ด้วยเช่นกัน กิจกรรมนี้เปิดให้ประชาชนทั่วไปที่รักสุขภาพ ร่วมเข้าชาเลนจ์ ฟรี! ซึ่งมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมกิจกรรมทั้ง 2 วัน กว่า 600 คน โดยกิจกรรมต่างๆ จะมีโค้ชจากฟิตเนสเฟิร์สเป็นไกด์ทางสุขภาพ กับกิจกรรมแบ่งเป็น 2 วัน ดังนี้ 17 พ.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 11.30-16.45 น. มีชาเลนจ์ Aerobic Easy Move, Plank Challenge, Body Combat,Boarding Jump Challenge, Yoga Balance 18 พ.ค.2568 ตั้งแต่เวลา 11.30-16.45 น. มีชาเลนจ์ Zumba Party, Push Up Challenge,HIIT X Hyrofit, Agility Challenge, BodyJam ผู้เข้าร่วม Challenge ใน Group Class ที่ผ่านกติการับ Cash Coupon มูลค่า 500.- จำนวน 4 รางวัล/รอบกิจกรรมๆ วันละ 5 รอบ (เงื่อนไข Cash Coupon แทนเงินสด ใช้เฉพาะสาขาเดอะมอลล์โคราช เท่านั้น สามารถใช้แทนเงินสดมูลค่า 500 บาท เมื่อ Shop ในศูนย์ฯ ขั้นต่ำ 1,000 บาท / ใบเสร็จ ใช้ได้กับร้านค้าหรือร้านอาหารของศูนย์ฯ ที่ร่วมรับคูปอง ยกเว้น Gourmet, Food Hall หมดอายุวันที่ 30 พ.ค. 2568) สำหรับผู้ที่เข้าร่วมกิจกรรม THE MALL KORAT FIT FUN FEST PRESENTED BY FITNESS จะได้รับสิทธิพิเศษตามเงื่อนไข อาทิ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้า MCARD 1. เมื่อซื้อสินค้าภายในศูนย์การค้า รวมใบเสร็จ 800 บาท ขึ้นไป รับ CASH COUPON มูลค่า 100.- (1 คน/สิทธิ์) จำนวน 100 ใบ/ตลอดการจัดงาน 2. ผู้เข้าร่วม Challenge ใน Group Class ผ่านกติกาที่ตั้งไว้ รับ Cash Coupon มูลค่า 500.- จำนวน 4 รางวัล/รอบกิจกรรมๆ วันละ 5 รอบ DECATHLON ทดสอบความแม่นยำกับการยิงธนู เล่นได้ฟรี และสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนสมัครสมาชิกกับ DECATHLON ในงานนี้ จะรับคูปองส่วนลด 300 บาท เมื่อซื้อสินค้าครบ 1,200 บาท, โรงภาพยนตร์โคราชซีนีเพล็กซ์ มอบส่วนลดชมภาพยนตร์ มูลค่า 140 บาท (จำนวนจำกัด) เพียงดาวน์โหลด Application Major ทั้งนี้ ยังมีรางวัล Lucky Draw Membership 1 เดือน จำนวน 2 รางวัล/วัน มอบให้กับผู้โชคดีที่ลงทะเบียนร่วมกิจกรรมฯ (สงวนสิทธิ์เฉพาะผู้ที่ยังไม่เคยเป็นสมาชิกของ FITNESS FIRST มาก่อน) อีกด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประวัติของปุ่ม "Like" ที่เปลี่ยนโลกอินเทอร์เน็ต

    ปุ่ม "Like" เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดบนโลกออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงความเห็นต่อเนื้อหาได้อย่างง่ายดาย โดยมีต้นกำเนิดจาก แนวคิดของ Bob Goodson ในปี 2005 และถูกพัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งก่อนที่ Facebook จะนำมาใช้ในปี 2009

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับประวัติของปุ่ม Like
    ✅ Bob Goodson วาดแนวคิดปุ่ม Like เป็นครั้งแรกในปี 2005
    - เป็นสัญลักษณ์ "Thumbs Up" และ "Thumbs Down" สำหรับรีวิวร้านอาหารบน Yelp

    ✅ Yelp ปฏิเสธแนวคิดนี้ และเลือกใช้ปุ่ม "Useful", "Funny" และ "Cool" แทน
    - ทำให้ แนวคิดปุ่ม Like ถูกพัฒนาโดยบริษัทอื่นแทน

    ✅ Facebook ใช้เวลาสองปีในการโน้มน้าว Mark Zuckerberg ให้ยอมรับปุ่ม Like
    - Zuckerberg เคยปฏิเสธแนวคิดนี้เพราะกลัวว่ามันจะทำให้แพลตฟอร์มดูไร้สาระ

    ✅ FriendFeed เปิดตัวปุ่ม Like ในปี 2007 ก่อนที่ Facebook จะนำมาใช้ในปี 2009
    - Facebook ซื้อกิจการ FriendFeed และนำแนวคิดนี้มาใช้กับแพลตฟอร์มของตนเอง

    ✅ ปุ่ม Like กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้
    - ช่วยให้ Facebook สามารถขายโฆษณาแบบเจาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ✅ Facebook ขยายฟีเจอร์ Like ด้วยปุ่มแสดงอารมณ์เพิ่มเติมในปี 2016
    - เช่น "Love", "Haha", "Wow", "Sad" และ "Angry"

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/19/here039s-a-story-about-the-history-of-the-like-button-that-you-might-like
    ประวัติของปุ่ม "Like" ที่เปลี่ยนโลกอินเทอร์เน็ต ปุ่ม "Like" เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดบนโลกออนไลน์ ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถแสดงความเห็นต่อเนื้อหาได้อย่างง่ายดาย โดยมีต้นกำเนิดจาก แนวคิดของ Bob Goodson ในปี 2005 และถูกพัฒนาโดยบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งก่อนที่ Facebook จะนำมาใช้ในปี 2009 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับประวัติของปุ่ม Like ✅ Bob Goodson วาดแนวคิดปุ่ม Like เป็นครั้งแรกในปี 2005 - เป็นสัญลักษณ์ "Thumbs Up" และ "Thumbs Down" สำหรับรีวิวร้านอาหารบน Yelp ✅ Yelp ปฏิเสธแนวคิดนี้ และเลือกใช้ปุ่ม "Useful", "Funny" และ "Cool" แทน - ทำให้ แนวคิดปุ่ม Like ถูกพัฒนาโดยบริษัทอื่นแทน ✅ Facebook ใช้เวลาสองปีในการโน้มน้าว Mark Zuckerberg ให้ยอมรับปุ่ม Like - Zuckerberg เคยปฏิเสธแนวคิดนี้เพราะกลัวว่ามันจะทำให้แพลตฟอร์มดูไร้สาระ ✅ FriendFeed เปิดตัวปุ่ม Like ในปี 2007 ก่อนที่ Facebook จะนำมาใช้ในปี 2009 - Facebook ซื้อกิจการ FriendFeed และนำแนวคิดนี้มาใช้กับแพลตฟอร์มของตนเอง ✅ ปุ่ม Like กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเก็บข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้ - ช่วยให้ Facebook สามารถขายโฆษณาแบบเจาะกลุ่มได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ Facebook ขยายฟีเจอร์ Like ด้วยปุ่มแสดงอารมณ์เพิ่มเติมในปี 2016 - เช่น "Love", "Haha", "Wow", "Sad" และ "Angry" https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/19/here039s-a-story-about-the-history-of-the-like-button-that-you-might-like
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Here's a story about the history of the Like button that you might like
    The Internet wouldn't be the same without the Like button, the thumbs-up icon that Facebook and other online services turned into digital catnip.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 144 มุมมอง 0 รีวิว
  • Microsoft มุ่งพัฒนา AI 'agents' ให้ทำงานร่วมกันและมีความจำที่ดีขึ้น

    Microsoft กำลังผลักดันแนวคิดใหม่เกี่ยวกับ AI agents ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถทำงานเฉพาะทางได้โดยอัตโนมัติ เช่น แก้ไขข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ โดยบริษัทต้องการให้ AI agents จากบริษัทต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ และมี ความสามารถในการจดจำข้อมูลจากการโต้ตอบกับผู้ใช้

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AI agents ของ Microsoft
    ✅ Microsoft สนับสนุน Model Context Protocol (MCP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลแบบเปิด
    - MCP ถูกพัฒนาโดย Anthropic และได้รับการสนับสนุนจาก Google

    ✅ MCP อาจช่วยสร้าง "agentic web" คล้ายกับการแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตในยุค 1990s
    - ทำให้ AI agents สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ถูกจำกัดโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง

    ✅ Microsoft กำลังพัฒนาเทคนิค "structured retrieval augmentation" เพื่อช่วยให้ AI agents มีความจำที่ดีขึ้น
    - ระบบจะ สกัดข้อมูลสำคัญจากแต่ละการสนทนาเพื่อสร้างแผนที่ความจำ

    ✅ AI agents ที่มีความจำดีขึ้นจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลด ความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลซ้ำ ๆ และช่วยให้ AI เข้าใจบริบทของผู้ใช้ได้ดีขึ้น

    ✅ Microsoft จะเปิดตัวเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา AI ในงาน Build Conference
    - งานนี้ จัดขึ้นที่ซีแอตเทิลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/19/microsoft-wants-ai-039agents039-to-work-together-and-remember-things
    Microsoft มุ่งพัฒนา AI 'agents' ให้ทำงานร่วมกันและมีความจำที่ดีขึ้น Microsoft กำลังผลักดันแนวคิดใหม่เกี่ยวกับ AI agents ซึ่งเป็นระบบ AI ที่สามารถทำงานเฉพาะทางได้โดยอัตโนมัติ เช่น แก้ไขข้อผิดพลาดของซอฟต์แวร์ โดยบริษัทต้องการให้ AI agents จากบริษัทต่าง ๆ สามารถทำงานร่วมกันได้ และมี ความสามารถในการจดจำข้อมูลจากการโต้ตอบกับผู้ใช้ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ AI agents ของ Microsoft ✅ Microsoft สนับสนุน Model Context Protocol (MCP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลแบบเปิด - MCP ถูกพัฒนาโดย Anthropic และได้รับการสนับสนุนจาก Google ✅ MCP อาจช่วยสร้าง "agentic web" คล้ายกับการแพร่หลายของอินเทอร์เน็ตในยุค 1990s - ทำให้ AI agents สามารถทำงานร่วมกันได้โดยไม่ถูกจำกัดโดยบริษัทใดบริษัทหนึ่ง ✅ Microsoft กำลังพัฒนาเทคนิค "structured retrieval augmentation" เพื่อช่วยให้ AI agents มีความจำที่ดีขึ้น - ระบบจะ สกัดข้อมูลสำคัญจากแต่ละการสนทนาเพื่อสร้างแผนที่ความจำ ✅ AI agents ที่มีความจำดีขึ้นจะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลด ความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลซ้ำ ๆ และช่วยให้ AI เข้าใจบริบทของผู้ใช้ได้ดีขึ้น ✅ Microsoft จะเปิดตัวเครื่องมือใหม่สำหรับนักพัฒนา AI ในงาน Build Conference - งานนี้ จัดขึ้นที่ซีแอตเทิลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/19/microsoft-wants-ai-039agents039-to-work-together-and-remember-things
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Microsoft wants AI 'agents' to work together and remember things
    REDMOND, Washington (Reuters) -Microsoft envisions a future where any company's artificial intelligence agents can work together with agents from other firms and have better memories of their interactions, its chief technologist said on Sunday ahead of the company's annual software developer conference.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel Lunar Lake: ดีไซน์สุดล้ำที่ผสมผสาน ARM และ x86

    Intel เปิดตัว Lunar Lake ซึ่งเป็นชิปที่ผสมผสานแนวคิดของ ARM-based SoC กับสถาปัตยกรรม x86 โดยใช้ TSMC N3B ในการผลิต Compute Tile และมี Neural Processing Unit (NPU) ที่ให้ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 48 TOPS

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Intel Lunar Lake
    ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Lion Cove สำหรับ Performance Cores (P-Cores)
    - มี 4 P-Cores พร้อม L3 Cache ขนาด 12MB และ L2 Cache 2.5MB ต่อคอร์

    ✅ Efficiency Cores (E-Cores) ใช้สถาปัตยกรรม Skymont
    - ตั้งอยู่บน Low Power Island พร้อม L2 Cache ขนาด 4MB

    ✅ NPU มี 6 Neural Compute Engines (NCE) ให้ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 48 TOPS
    - ช่วยให้ Lunar Lake มีความสามารถด้าน AI ที่โดดเด่น

    ✅ ใช้ Battlemage-based integrated GPU พร้อม 8 Xe2-LPG Cores
    - รองรับ การประมวลผลกราฟิกที่มีประสิทธิภาพสูง

    ✅ มี System-Level Cache (SLC) ขนาด 8MB ที่แชร์ระหว่าง CPU, GPU, NPU และ Media Engine
    - ช่วยลด latency และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ

    ✅ LPDDR5x-8533 ขนาด 16GB หรือ 32GB ถูกบัดกรีติดกับแพ็กเกจ
    - ทำให้ ไม่สามารถอัปเกรด RAM ได้

    ✅ ใช้ Foveros 3D Packaging Technology ในการเชื่อมต่อชิปต่าง ๆ
    - ลด การใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างชิป

    https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-lunar-lake-intricacies-revealed-in-new-high-resolution-die-shots
    Intel Lunar Lake: ดีไซน์สุดล้ำที่ผสมผสาน ARM และ x86 Intel เปิดตัว Lunar Lake ซึ่งเป็นชิปที่ผสมผสานแนวคิดของ ARM-based SoC กับสถาปัตยกรรม x86 โดยใช้ TSMC N3B ในการผลิต Compute Tile และมี Neural Processing Unit (NPU) ที่ให้ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 48 TOPS 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับ Intel Lunar Lake ✅ ใช้สถาปัตยกรรม Lion Cove สำหรับ Performance Cores (P-Cores) - มี 4 P-Cores พร้อม L3 Cache ขนาด 12MB และ L2 Cache 2.5MB ต่อคอร์ ✅ Efficiency Cores (E-Cores) ใช้สถาปัตยกรรม Skymont - ตั้งอยู่บน Low Power Island พร้อม L2 Cache ขนาด 4MB ✅ NPU มี 6 Neural Compute Engines (NCE) ให้ประสิทธิภาพ AI สูงถึง 48 TOPS - ช่วยให้ Lunar Lake มีความสามารถด้าน AI ที่โดดเด่น ✅ ใช้ Battlemage-based integrated GPU พร้อม 8 Xe2-LPG Cores - รองรับ การประมวลผลกราฟิกที่มีประสิทธิภาพสูง ✅ มี System-Level Cache (SLC) ขนาด 8MB ที่แชร์ระหว่าง CPU, GPU, NPU และ Media Engine - ช่วยลด latency และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบ ✅ LPDDR5x-8533 ขนาด 16GB หรือ 32GB ถูกบัดกรีติดกับแพ็กเกจ - ทำให้ ไม่สามารถอัปเกรด RAM ได้ ✅ ใช้ Foveros 3D Packaging Technology ในการเชื่อมต่อชิปต่าง ๆ - ลด การใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสารระหว่างชิป https://www.tomshardware.com/pc-components/cpus/intels-lunar-lake-intricacies-revealed-in-new-high-resolution-die-shots
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Intel's Lunar Lake intricacies revealed in new high-resolution die shots
    One of Intel's most advanced and innovative designs in recent history.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมงาน MAHA make America Healthy Again

    เร็วๆ นี้ คงได้ข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะข่าว การตั้งกำแพงภาษีหฤโหด ที่ไทยเราก็โดนด้วย
    ตอนแรกขึงขังกับ จีนมาก ประมาณว่า ดูท่า จะไม่ค้าขายกันอีก แต่ที่ไหนได้ตอนนี้ ทรัมป์กลับมาจูบปากกับ สี ตกลงเรื่องการค้ากันได้ กำแพงภาษีลดลงเหลือ 10%
    ไม่ใช่ แค่เรื่องของการค้า
    เรื่องของสงคราม ทรัมป์ ก็ช่วยให้มีการเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เร็วๆนี้ ก็ช่วยเจรจายุติสงครามระหว่างอินเดียกับ ปากีสถาน ซึ่งถ้าไม่ยุติ อาจกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้

    แต่เรื่องสำคัญที่ผม อยากให้สนใจ คือ เรื่องของ สุขภาพ
    MAHA “Make America Healthy Again”
    ซึ่งนำทัพ โดย Robert F Kennedy Jr

    ตามนโยบาย MAHA เรื่องที่ ทรัมป์ ทำไปแล้ว คือ
    1.ลาออกจากการเป็นสมาชิก องค์การอนามัยโลก WHO เลิกยุ่ง เลิกให้เงินสนับสนุน
    2. ประกาศชัดเจนว่า เชื้อโควิด เป็นฝีมือมนุษย์ รั่วมาจากแลป และกำลังตามไล่สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ Anthony Fauci
    3.ออกคำสั่ง ห้ามให้ทุนวิจัยเพื่อสร้างเชื้อโรค “Gain of Function research”
    4.กดดันให้บริษัทยา ลดราคายา ห้ามเอาเปรียบคนไข้ ทำเอาหุ้นบริษัทยาร่วงระนาว

    แต่ ที่ต้องจับตามอง คือ เรื่องที่ RFK Jr และทีมงาน จะทำ RFK Jr ทำอะไรมาบ้าง ทีมงานเขาเป็นใครบ้างมาดูกัน

    💥 Robert F Kennedy Jr เป็นหลานชายแท้ๆ ของประธานาธิบดี John F Kennedy, JFK. ที่ถูก CIA ลอบสังหาร ก่อนหน้าเขา รณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะต่อต้าน สารพิษ ยาฆ่าหญ้า กลุ่มไกลโฟเซต ยากลุ่มเดียวกับที่ อาจารย์หมอธีระวัฒน์เคย ออกมาต้าน
    ตอนหลังมาร่วม ตั้งองค์กรปกป้องสุขภาพของเด็ก
    https://childrenshealthdefense.org/authors/robert-f-kennedy-jr/
    เขายังเขียนหนังสือ ฉีกหน้ากาก Anthony Fauci “ The Real Anthony Fauci”
    ซึ่งเป็นหนังสือขายดีบน อเมซอน https://en.m.wikipedia.org/wiki/The_Real_Anthony_Fauci
    จนมีคนเอามาสร้างหนังสารคดี https://www.imdb.com/title/tt22644112/

    ต้องเข้าใจว่ากฎหมายหมิ่นประมาทในอเมริการุนแรงมาก ถ้าเขียนให้ร้ายใคร มีสิทธิ์โดนฟ้องเรียกค่าเสียหายจนหมดตัวได้ RFK Jr ตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้มา สี่ปีแล้ว ทำไม Fauci ไม่ฟ้อง?
    คำตอบง่ายมาก ฟ้องก็แพ้ เพราะว่า RFK Jr พูดความจริง

    💥 ทีมงานคนสำคัญคนถัดมา คือ Professor Jay Battacharya, MD, PhD. ท่านเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์ สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด
    https://en.m.wikipedia.org/wiki/Jay_Bhattacharya ก่อนจะเข้ามารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ National Institute of Health ตำแหน่งเดียวกับ Francis Collins เจ้านายเก่าของ Anthony Fauci
    Prof.Battacharya เป็นผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ มาตรการในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด๑๙ อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการ เว้นระยะห่างทางสังคม และการปิดบ้านปิดเมือง เขาเป็นผู้ร่วมร่าง คำประกาศเกรทแบริงตัน Great Barrington declaration https://gbdeclaration.org/

    💥 คนที่สามคือ Professor Vinayak Prasad ท่านเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์ สอนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่งซานฟรานซิสโก (University of California, San Francisco, UCSF) มหาวิทยาลัยชื่อดัง (ไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถวที่ สว เราอ้างว่าจบมา😁)
    นอกจากนี้ยังเป็น ยูทูปเปอร์ ชื่อดังมีคนติดตามมากมาย https://youtube.com/@vprasadmdmph
    มีผลงานบทความทางวิชาการมากกว่า สามร้อยบทความ

    Prof.Vinay ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ วิจัยและประเมินยากลุ่มไบโอโลจิกส์ (Center for Biologics Evaluation and Research, CBER) ของ FDA
    https://www.fda.gov/about-fda/fda-organization/vinayak-prasad
    เขาเป็นคนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ FDA ที่อนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนกลุ่ม mRNA เป็นอย่างมาก ถึงขั้นให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ควรให้อภัยผู้ที่อนุญาตให้ใช้วัคซีนกลุ่มนี้ ทั้งยังระบุว่า จะอ้างว่า ไม่รู้ หรือ เป็นเหตุฉุกเฉินไม่ได้ เขาแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ใน YouTube และ X (ทวิตเตอร์เดิม)
    https://x.com/vprasadmdmph

    คงจะพอเห็นนะครับว่า ทีมงานสามคนหลักของ MAHA มีแนวคิดเช่นไรกับ มาตรการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด๑๙ ที่ทำกัน ไม่นานคงมีการทบทวน และสอบสวนการกระทำผิด ทั้งที่ตั้งใจ และที่ผิดพลาด ของการบังคับใช้มาตรการต่างในการแก้ปัญหาโควิด๑๙ ในอเมริกา ซึ่งน่าจะส่งผลกระเทือนไปทั่วโลก

    บ้านเรา จะเป็นอย่างไรนั้น อีกไม่นานคงจะได้รับรู้ แต่สิ่งที่ยืนยันได้แน่นอน คือ

    “กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ”

    นิลฉงน นลเฉลย
    ทีมงาน MAHA make America Healthy Again เร็วๆ นี้ คงได้ข่าวประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเฉพาะข่าว การตั้งกำแพงภาษีหฤโหด ที่ไทยเราก็โดนด้วย ตอนแรกขึงขังกับ จีนมาก ประมาณว่า ดูท่า จะไม่ค้าขายกันอีก แต่ที่ไหนได้ตอนนี้ ทรัมป์กลับมาจูบปากกับ สี ตกลงเรื่องการค้ากันได้ กำแพงภาษีลดลงเหลือ 10% ไม่ใช่ แค่เรื่องของการค้า เรื่องของสงคราม ทรัมป์ ก็ช่วยให้มีการเจรจายุติสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เร็วๆนี้ ก็ช่วยเจรจายุติสงครามระหว่างอินเดียกับ ปากีสถาน ซึ่งถ้าไม่ยุติ อาจกลายเป็นสงครามนิวเคลียร์ได้ แต่เรื่องสำคัญที่ผม อยากให้สนใจ คือ เรื่องของ สุขภาพ MAHA “Make America Healthy Again” ซึ่งนำทัพ โดย Robert F Kennedy Jr ตามนโยบาย MAHA เรื่องที่ ทรัมป์ ทำไปแล้ว คือ 1.ลาออกจากการเป็นสมาชิก องค์การอนามัยโลก WHO เลิกยุ่ง เลิกให้เงินสนับสนุน 2. ประกาศชัดเจนว่า เชื้อโควิด เป็นฝีมือมนุษย์ รั่วมาจากแลป และกำลังตามไล่สอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ Anthony Fauci 3.ออกคำสั่ง ห้ามให้ทุนวิจัยเพื่อสร้างเชื้อโรค “Gain of Function research” 4.กดดันให้บริษัทยา ลดราคายา ห้ามเอาเปรียบคนไข้ ทำเอาหุ้นบริษัทยาร่วงระนาว แต่ ที่ต้องจับตามอง คือ เรื่องที่ RFK Jr และทีมงาน จะทำ RFK Jr ทำอะไรมาบ้าง ทีมงานเขาเป็นใครบ้างมาดูกัน 💥 Robert F Kennedy Jr เป็นหลานชายแท้ๆ ของประธานาธิบดี John F Kennedy, JFK. ที่ถูก CIA ลอบสังหาร ก่อนหน้าเขา รณรงค์เรื่องสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะต่อต้าน สารพิษ ยาฆ่าหญ้า กลุ่มไกลโฟเซต ยากลุ่มเดียวกับที่ อาจารย์หมอธีระวัฒน์เคย ออกมาต้าน ตอนหลังมาร่วม ตั้งองค์กรปกป้องสุขภาพของเด็ก https://childrenshealthdefense.org/authors/robert-f-kennedy-jr/ เขายังเขียนหนังสือ ฉีกหน้ากาก Anthony Fauci “ The Real Anthony Fauci” ซึ่งเป็นหนังสือขายดีบน อเมซอน https://en.m.wikipedia.org/wiki/The_Real_Anthony_Fauci จนมีคนเอามาสร้างหนังสารคดี https://www.imdb.com/title/tt22644112/ ต้องเข้าใจว่ากฎหมายหมิ่นประมาทในอเมริการุนแรงมาก ถ้าเขียนให้ร้ายใคร มีสิทธิ์โดนฟ้องเรียกค่าเสียหายจนหมดตัวได้ RFK Jr ตีพิมพ์หนังสือเล่มนี้มา สี่ปีแล้ว ทำไม Fauci ไม่ฟ้อง? คำตอบง่ายมาก ฟ้องก็แพ้ เพราะว่า RFK Jr พูดความจริง 💥 ทีมงานคนสำคัญคนถัดมา คือ Professor Jay Battacharya, MD, PhD. ท่านเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์ สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด https://en.m.wikipedia.org/wiki/Jay_Bhattacharya ก่อนจะเข้ามารับตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพแห่งชาติ National Institute of Health ตำแหน่งเดียวกับ Francis Collins เจ้านายเก่าของ Anthony Fauci Prof.Battacharya เป็นผู้ที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ มาตรการในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด๑๙ อย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการ เว้นระยะห่างทางสังคม และการปิดบ้านปิดเมือง เขาเป็นผู้ร่วมร่าง คำประกาศเกรทแบริงตัน Great Barrington declaration https://gbdeclaration.org/ 💥 คนที่สามคือ Professor Vinayak Prasad ท่านเป็นศาสตราจารย์นายแพทย์ สอนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย แห่งซานฟรานซิสโก (University of California, San Francisco, UCSF) มหาวิทยาลัยชื่อดัง (ไม่ใช่มหาวิทยาลัยห้องแถวที่ สว เราอ้างว่าจบมา😁) นอกจากนี้ยังเป็น ยูทูปเปอร์ ชื่อดังมีคนติดตามมากมาย https://youtube.com/@vprasadmdmph มีผลงานบทความทางวิชาการมากกว่า สามร้อยบทความ Prof.Vinay ได้รับแต่งตั้งให้เป็น ผู้อำนวยการศูนย์ วิจัยและประเมินยากลุ่มไบโอโลจิกส์ (Center for Biologics Evaluation and Research, CBER) ของ FDA https://www.fda.gov/about-fda/fda-organization/vinayak-prasad เขาเป็นคนที่วิพากษ์วิจารณ์การทำงานของ FDA ที่อนุญาตให้ใช้วัคซีนโควิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัคซีนกลุ่ม mRNA เป็นอย่างมาก ถึงขั้นให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ควรให้อภัยผู้ที่อนุญาตให้ใช้วัคซีนกลุ่มนี้ ทั้งยังระบุว่า จะอ้างว่า ไม่รู้ หรือ เป็นเหตุฉุกเฉินไม่ได้ เขาแสดงความคิดเห็นเหล่านี้ใน YouTube และ X (ทวิตเตอร์เดิม) https://x.com/vprasadmdmph คงจะพอเห็นนะครับว่า ทีมงานสามคนหลักของ MAHA มีแนวคิดเช่นไรกับ มาตรการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด๑๙ ที่ทำกัน ไม่นานคงมีการทบทวน และสอบสวนการกระทำผิด ทั้งที่ตั้งใจ และที่ผิดพลาด ของการบังคับใช้มาตรการต่างในการแก้ปัญหาโควิด๑๙ ในอเมริกา ซึ่งน่าจะส่งผลกระเทือนไปทั่วโลก บ้านเรา จะเป็นอย่างไรนั้น อีกไม่นานคงจะได้รับรู้ แต่สิ่งที่ยืนยันได้แน่นอน คือ “กฎแห่งกรรมยุติธรรมเสมอ” นิลฉงน นลเฉลย
    CHILDRENSHEALTHDEFENSE.ORG
    Robert F. Kennedy Jr.
    Help Children’s Health Defense and RFK, Jr. end the epidemic of poor health plaguing our children.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 0 รีวิว
  • นักวิทยาศาสตร์พัฒนาแบตเตอรี่ชีวภาพจากเห็ด เพื่ออนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยั่งยืน

    นักวิจัยจาก Empa (Swiss Federal Laboratories for Materials Science and Technology) กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เอง โดยใช้ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill เป็นวัสดุหลักสำหรับอิเล็กโทรด ซึ่งแนวคิดนี้อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต

    ✅ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill มีคุณสมบัติทางกลและชีวภาพที่โดดเด่น
    - สามารถ นำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่

    ✅ เป้าหมายคือการสร้างแบตเตอรี่ที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ปล่อยสารพิษ
    - ต่างจาก แบตเตอรี่ทั่วไปที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ นักวิจัยกำลังศึกษาความแข็งแรงของไมซีเลียมและความไวต่อความชื้น
    - เพื่อ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จริง

    ✅ การใช้วัสดุชีวภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
    - อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ แบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ

    ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม
    - นักวิจัยต้อง หาวิธีควบคุมการย่อยสลายของวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน

    https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/a-compact-biodegradable-battery-with-fungal-paper-electrodes-is-what-researchers-at-this-university-are-dreaming-of
    นักวิทยาศาสตร์พัฒนาแบตเตอรี่ชีวภาพจากเห็ด เพื่ออนาคตของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ยั่งยืน นักวิจัยจาก Empa (Swiss Federal Laboratories for Materials Science and Technology) กำลังพัฒนา แบตเตอรี่ชีวภาพที่สามารถย่อยสลายได้เอง โดยใช้ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill เป็นวัสดุหลักสำหรับอิเล็กโทรด ซึ่งแนวคิดนี้อาจช่วยลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ในอนาคต ✅ ไมซีเลียมของเห็ด split-gill มีคุณสมบัติทางกลและชีวภาพที่โดดเด่น - สามารถ นำมาใช้เป็นวัสดุสำหรับอิเล็กโทรดของแบตเตอรี่ ✅ เป้าหมายคือการสร้างแบตเตอรี่ที่สามารถย่อยสลายได้เองโดยไม่ปล่อยสารพิษ - ต่างจาก แบตเตอรี่ทั่วไปที่อาจมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ✅ นักวิจัยกำลังศึกษาความแข็งแรงของไมซีเลียมและความไวต่อความชื้น - เพื่อ ปรับปรุงให้สามารถใช้งานในอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้จริง ✅ การใช้วัสดุชีวภาพช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม - อาจเป็นทางเลือกใหม่สำหรับ แบตเตอรี่ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ✅ แนวคิดนี้ยังอยู่ในขั้นทดลอง และต้องมีการพัฒนาเพิ่มเติม - นักวิจัยต้อง หาวิธีควบคุมการย่อยสลายของวัสดุให้เหมาะสมกับการใช้งาน https://www.techradar.com/computing/artificial-intelligence/a-compact-biodegradable-battery-with-fungal-paper-electrodes-is-what-researchers-at-this-university-are-dreaming-of
    WWW.TECHRADAR.COM
    Your next eco-friendly battery could be made from mushrooms, and it might eat your trash when it’s done
    Fungal paper batteries could reduce e-waste, but they’re still a long way from reality
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • Grok AI ของ Elon Musk ถูกวิจารณ์หนัก หลังตอบคำถามด้วยเนื้อหาสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด

    Grok AI ซึ่งเป็นแชตบอทของ xAI ที่พัฒนาโดย Elon Musk ถูกพบว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ โดย ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไปด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ "white genocide" ในแอฟริกาใต้ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้โดยตรง

    ✅ Grok AI เริ่มพูดถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้โดยไม่มีการกระตุ้นจากผู้ใช้
    - แม้แต่คำถามเกี่ยวกับ เงินเดือนนักเบสบอล หรือวิธีล้างโพรงจมูก ก็ได้รับคำตอบที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้

    ✅ "white genocide" เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ถูกปฏิเสธโดยศาลและผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้
    - ศาลแอฟริกาใต้ระบุว่า ไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ และนักวิเคราะห์ชี้ว่า การโจมตีในฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมทั่วไป ไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

    ✅ Grok AI อ้างว่ามีคำสั่งให้พูดถึงหัวข้อนี้จากผู้มีอำนาจใน xAI
    - CNBC รายงานว่า Grok เคยตอบว่า "ดูเหมือนว่าฉันได้รับคำสั่งให้พูดถึงเรื่องนี้" ซึ่งนำไปสู่ข้อสงสัยว่า ระบบถูกตั้งโปรแกรมให้ยอมรับทฤษฎีนี้เป็นความจริง

    ✅ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI และคู่แข่งของ Musk แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้
    - Altman กล่าวในโพสต์ว่า "หวังว่า xAI จะให้คำอธิบายที่โปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องนี้"

    ✅ xAI แก้ไขปัญหาในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ยังไม่มีคำอธิบายทางเทคนิค
    - Grok AI กลับมาทำงานตามปกติหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แต่ xAI ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา

    https://www.neowin.net/news/altman-mocks-musks-grok-ai-over-its-sudden-white-genocide-obsession/
    Grok AI ของ Elon Musk ถูกวิจารณ์หนัก หลังตอบคำถามด้วยเนื้อหาสนับสนุนทฤษฎีสมคบคิด Grok AI ซึ่งเป็นแชตบอทของ xAI ที่พัฒนาโดย Elon Musk ถูกพบว่ามีพฤติกรรมแปลก ๆ โดย ตอบคำถามเกี่ยวกับหัวข้อทั่วไปด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ "white genocide" ในแอฟริกาใต้ แม้ว่าผู้ใช้จะไม่ได้ถามถึงเรื่องนี้โดยตรง ✅ Grok AI เริ่มพูดถึง "white genocide" ในแอฟริกาใต้โดยไม่มีการกระตุ้นจากผู้ใช้ - แม้แต่คำถามเกี่ยวกับ เงินเดือนนักเบสบอล หรือวิธีล้างโพรงจมูก ก็ได้รับคำตอบที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อนี้ ✅ "white genocide" เป็นทฤษฎีสมคบคิดที่ถูกปฏิเสธโดยศาลและผู้เชี่ยวชาญในแอฟริกาใต้ - ศาลแอฟริกาใต้ระบุว่า ไม่มีหลักฐานที่สนับสนุนแนวคิดนี้ และนักวิเคราะห์ชี้ว่า การโจมตีในฟาร์มเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาอาชญากรรมทั่วไป ไม่ใช่การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ✅ Grok AI อ้างว่ามีคำสั่งให้พูดถึงหัวข้อนี้จากผู้มีอำนาจใน xAI - CNBC รายงานว่า Grok เคยตอบว่า "ดูเหมือนว่าฉันได้รับคำสั่งให้พูดถึงเรื่องนี้" ซึ่งนำไปสู่ข้อสงสัยว่า ระบบถูกตั้งโปรแกรมให้ยอมรับทฤษฎีนี้เป็นความจริง ✅ Sam Altman ผู้ร่วมก่อตั้ง OpenAI และคู่แข่งของ Musk แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ - Altman กล่าวในโพสต์ว่า "หวังว่า xAI จะให้คำอธิบายที่โปร่งใสเกี่ยวกับเรื่องนี้" ✅ xAI แก้ไขปัญหาในเวลาไม่กี่ชั่วโมง แต่ยังไม่มีคำอธิบายทางเทคนิค - Grok AI กลับมาทำงานตามปกติหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ แต่ xAI ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสาเหตุของปัญหา https://www.neowin.net/news/altman-mocks-musks-grok-ai-over-its-sudden-white-genocide-obsession/
    WWW.NEOWIN.NET
    Altman mocks Musk's Grok AI over its sudden 'white genocide' obsession
    We still don't have a clear explanation for Grok's recent strange behavior. In the meantime, OpenAI CEO Sam Altman has taken the opportunity to throw some shade, poking fun at the chatbot.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยี 14A

    Intel กำลังลงทุนมหาศาลใน เทคโนโลยีการผลิตชิปและขยายกำลังการผลิต แม้ว่าปัจจุบันแผนก Foundry จะขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส แต่บริษัทคาดว่า จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 ซึ่งเป็นช่วงที่ เทคโนโลยีการผลิต 14A (1.4nm-class) จะเริ่มใช้งานจริง

    ✅ Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027
    - เป็นช่วงที่ เทคโนโลยี 14A จะเริ่มใช้งานจริง

    ✅ ชิปแรกที่ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) คือ Panther Lake
    - จะเปิดตัว ปลายปีนี้และเริ่มผลิตเต็มรูปแบบในปีหน้า

    ✅ เทคโนโลยี 18A จะถูกใช้ใน Xeon 'Clearwater Forest' และผลิตภัณฑ์ของลูกค้าภายนอก
    - เป็น การพิสูจน์แนวคิดสำหรับลูกค้าภายนอก

    ✅ Intel วางแผนใช้ High-NA EUV lithography กับกระบวนการผลิต 14A
    - แม้ว่าจะเพิ่มต้นทุน แต่บริษัทเชื่อว่าข้อดีของเทคโนโลยีนี้จะคุ้มค่า

    ✅ Intel ตั้งเป้าให้ Foundry มีรายได้จากลูกค้าภายนอกระดับพันล้านดอลลาร์ต่อปี
    - รวมถึง รายได้จากแพ็กเกจขั้นสูงและกระบวนการผลิตรุ่นเก่า เช่น Intel 16

    ‼️ Intel ต้องพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยี 18A ก่อนที่ลูกค้าจะยอมรับ 14A
    - หาก 18A ไม่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าอาจลังเลที่จะใช้ 14A

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-says-foundry-business-wont-break-even-until-14a-in-2027
    Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 พร้อมเปิดตัวเทคโนโลยี 14A Intel กำลังลงทุนมหาศาลใน เทคโนโลยีการผลิตชิปและขยายกำลังการผลิต แม้ว่าปัจจุบันแผนก Foundry จะขาดทุนหลายพันล้านดอลลาร์ต่อไตรมาส แต่บริษัทคาดว่า จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 ซึ่งเป็นช่วงที่ เทคโนโลยีการผลิต 14A (1.4nm-class) จะเริ่มใช้งานจริง ✅ Intel คาดว่าแผนก Foundry จะถึงจุดคุ้มทุนในปี 2027 - เป็นช่วงที่ เทคโนโลยี 14A จะเริ่มใช้งานจริง ✅ ชิปแรกที่ใช้กระบวนการผลิต 18A (1.8nm-class) คือ Panther Lake - จะเปิดตัว ปลายปีนี้และเริ่มผลิตเต็มรูปแบบในปีหน้า ✅ เทคโนโลยี 18A จะถูกใช้ใน Xeon 'Clearwater Forest' และผลิตภัณฑ์ของลูกค้าภายนอก - เป็น การพิสูจน์แนวคิดสำหรับลูกค้าภายนอก ✅ Intel วางแผนใช้ High-NA EUV lithography กับกระบวนการผลิต 14A - แม้ว่าจะเพิ่มต้นทุน แต่บริษัทเชื่อว่าข้อดีของเทคโนโลยีนี้จะคุ้มค่า ✅ Intel ตั้งเป้าให้ Foundry มีรายได้จากลูกค้าภายนอกระดับพันล้านดอลลาร์ต่อปี - รวมถึง รายได้จากแพ็กเกจขั้นสูงและกระบวนการผลิตรุ่นเก่า เช่น Intel 16 ‼️ Intel ต้องพิสูจน์ความสามารถของเทคโนโลยี 18A ก่อนที่ลูกค้าจะยอมรับ 14A - หาก 18A ไม่ประสบความสำเร็จ ลูกค้าอาจลังเลที่จะใช้ 14A https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/intel-says-foundry-business-wont-break-even-until-14a-in-2027
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • John Carmack เสนอแนวคิดให้โลกใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า หากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้น

    John Carmack นักพัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อดัง ได้เสนอแนวคิดว่า โลกสามารถใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้เหมาะสม โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการตอบคำถามของนักวิจัยที่ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับ Zero Tape-out Day (Z-Day) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีการผลิตชิปใหม่อีกต่อไป

    ✅ Zero Tape-out Day (Z-Day) คือสมมติฐานที่ไม่มีการผลิตชิปใหม่อีกต่อไป
    - ส่งผลให้ ราคาคอมพิวเตอร์พุ่งสูงขึ้น และความจุของคลาวด์ลดลง

    ✅ Carmack เชื่อว่าหากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ โลกสามารถใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - นักพัฒนาควร เปลี่ยนจากระบบไมโครเซอร์วิสไปเป็นโค้ดเนทีฟที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า

    ✅ การพัฒนาเกมในอดีตใช้ฮาร์ดแวร์ที่ล้าสมัย แต่ยังสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้
    - เช่น Doom ถูกพัฒนาในเวลาเพียง 28 ชั่วโมงบนฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า

    ✅ แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้กับระบบปฏิบัติการ เช่น Windows 11
    - หาก Microsoft ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงซอฟต์แวร์มากกว่าการเพิ่มข้อกำหนดฮาร์ดแวร์

    ✅ อุตสาหกรรมเกมสามารถได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลด ความต้องการฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง และช่วยให้เกมทำงานได้ดีขึ้นบนอุปกรณ์รุ่นเก่า

    https://www.techspot.com/news/107918-john-carmack-suggests-return-software-optimization-could-stave.html
    John Carmack เสนอแนวคิดให้โลกใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า หากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้ดีขึ้น John Carmack นักพัฒนาซอฟต์แวร์ชื่อดัง ได้เสนอแนวคิดว่า โลกสามารถใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้เหมาะสม โดยแนวคิดนี้เกิดขึ้นจากการตอบคำถามของนักวิจัยที่ตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับ Zero Tape-out Day (Z-Day) ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่มีการผลิตชิปใหม่อีกต่อไป ✅ Zero Tape-out Day (Z-Day) คือสมมติฐานที่ไม่มีการผลิตชิปใหม่อีกต่อไป - ส่งผลให้ ราคาคอมพิวเตอร์พุ่งสูงขึ้น และความจุของคลาวด์ลดลง ✅ Carmack เชื่อว่าหากมีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ โลกสามารถใช้ฮาร์ดแวร์รุ่นเก่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ - นักพัฒนาควร เปลี่ยนจากระบบไมโครเซอร์วิสไปเป็นโค้ดเนทีฟที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า ✅ การพัฒนาเกมในอดีตใช้ฮาร์ดแวร์ที่ล้าสมัย แต่ยังสามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมได้ - เช่น Doom ถูกพัฒนาในเวลาเพียง 28 ชั่วโมงบนฮาร์ดแวร์รุ่นเก่า ✅ แนวคิดนี้สามารถนำไปใช้กับระบบปฏิบัติการ เช่น Windows 11 - หาก Microsoft ให้ความสำคัญกับการปรับปรุงซอฟต์แวร์มากกว่าการเพิ่มข้อกำหนดฮาร์ดแวร์ ✅ อุตสาหกรรมเกมสามารถได้รับประโยชน์จากการปรับปรุงซอฟต์แวร์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลด ความต้องการฮาร์ดแวร์ที่ทรงพลัง และช่วยให้เกมทำงานได้ดีขึ้นบนอุปกรณ์รุ่นเก่า https://www.techspot.com/news/107918-john-carmack-suggests-return-software-optimization-could-stave.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    John Carmack suggests the world could run on older hardware – if we optimized software better
    LaurieWired proposes the idea of a "Zero Tape-out Day" (Z-Day), an event causing manufacturers to stop producing new silicon designs. Considering the existing supply, the researcher predicts...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 89 มุมมอง 0 รีวิว
  • อ่านดีๆ ดูดีๆ

    ทำความรู้จัก G-Token เครื่องมือกู้เงินใหม่ของรัฐบาลไทย คล้าย ‘พันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคน’ หวังเข้าถึง ‘คนรุ่นใหม่’ เพิ่มการออมของประชาชน และเพิ่มการเข้าถึงการเงินให้ทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) มากขึ้น โดยเล็งออก G-Token ในราคาเริ่มต้น หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น ยืนยันผลตอบแทนดี สามารถซื้อได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เร็วสุดในกรกฎาคมปีนี้



    เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. …. นับเป็นการเปิดทางให้ กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (Government Token: G-Token) เป็นประเทศแรกของโลก



    ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่ามีขึ้นหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอแนวคิดการออกสเตเบิลคอยน์ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนการ Bond Tokenization หรือการออกโทเคนโดยมีพันธบัตรรัฐบาลหนุน (Backed)



    ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (G-Token) คืออะไร?


    ไม่ใช่เงินตรา เนื่องจาก ไม่สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือชำระเงินได้
    ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี
    เป็น ‘เครื่องมือการระดมทุน’ โดยเทียบเคียงได้กับ ‘พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง’
    เป็นการกู้เงินโดยตรงจากประชาชนของรัฐบาล


    G-Token ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต


    พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อธิบายเพิ่มเติมว่า การออก G-Token นี้เป็นการระดมทุนรูปแบบใหม่ คล้ายคลึงกับการออกพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนตามปกติของ สบน.



    โดยการออก G-Token รอบแรก คาดว่า จะออกในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงิน ภายใต้กรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568 ตามปกติ และเป็นไปตามกรอบวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ สบน. วางแผนไว้ว่าในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท



    ดังนั้นการออก G-Token ในรอบแรกนี้จึงจะไม่เพิ่ม หรือไม่กระทบต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ และไม่ใช่การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด



    ยืนยันการออกเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ


    พชรยังยืนยันว่า การออก G-Token นี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 ของ ก.ล.ต.



    “มติ ครม. วันนี้ เป็นการเปิดทางให้กระทรวงการคลัง ออก G-Token ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 10 ที่ระบุว่า การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ” พชร กล่าว



    นอกจากนี้พชรยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นี้
    อ่านดีๆ ดูดีๆ ทำความรู้จัก G-Token เครื่องมือกู้เงินใหม่ของรัฐบาลไทย คล้าย ‘พันธบัตรรัฐบาลในรูปแบบโทเคน’ หวังเข้าถึง ‘คนรุ่นใหม่’ เพิ่มการออมของประชาชน และเพิ่มการเข้าถึงการเงินให้ทั่วถึงและเท่าเทียม (Financial Inclusion) มากขึ้น โดยเล็งออก G-Token ในราคาเริ่มต้น หน่วยละ 1 บาทเท่านั้น ยืนยันผลตอบแทนดี สามารถซื้อได้ผ่านศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เร็วสุดในกรกฎาคมปีนี้ เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงการคลังเรื่อง การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการออกโทเคนดิจิทัล พ.ศ. …. นับเป็นการเปิดทางให้ กระทรวงการคลังสามารถออกและเสนอขาย ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (Government Token: G-Token) เป็นประเทศแรกของโลก ความเคลื่อนไหวครั้งนี้นับว่ามีขึ้นหลัง เมื่อปลายปีที่แล้ว ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นำเสนอแนวคิดการออกสเตเบิลคอยน์ที่ค้ำประกันด้วยพันธบัตรรัฐบาล (Government Bond) ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น พิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาเปิดเผยว่า มีแผนการ Bond Tokenization หรือการออกโทเคนโดยมีพันธบัตรรัฐบาลหนุน (Backed) ‘โทเคนดิจิทัลของรัฐบาล’ (G-Token) คืออะไร? ไม่ใช่เงินตรา เนื่องจาก ไม่สามารถใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้า หรือชำระเงินได้ ไม่ใช่คริปโตเคอร์เรนซี เป็น ‘เครื่องมือการระดมทุน’ โดยเทียบเคียงได้กับ ‘พันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง’ เป็นการกู้เงินโดยตรงจากประชาชนของรัฐบาล G-Token ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่เกี่ยวกับดิจิทัลวอลเล็ต พชร อนันตศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) อธิบายเพิ่มเติมว่า การออก G-Token นี้เป็นการระดมทุนรูปแบบใหม่ คล้ายคลึงกับการออกพันธบัตรออมทรัพย์สำหรับประชาชนตามปกติของ สบน. โดยการออก G-Token รอบแรก คาดว่า จะออกในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการระดมเงิน ภายใต้กรอบการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ภายใต้แผนการบริหารหนี้สาธารณะประจำปีงบประมาณ 2568 ตามปกติ และเป็นไปตามกรอบวงเงินการออกพันธบัตรออมทรัพย์ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่ สบน. วางแผนไว้ว่าในวงเงินไม่เกิน 1 แสนล้านบาท ดังนั้นการออก G-Token ในรอบแรกนี้จึงจะไม่เพิ่ม หรือไม่กระทบต่อ ‘หนี้สาธารณะ’ และไม่ใช่การระดมทุนเพื่อนำไปใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตแต่อย่างใด ยืนยันการออกเป็นไปตามกฎหมายทุกประการ พชรยังยืนยันว่า การออก G-Token นี้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 และ พ.ร.ก.การประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2567 ของ ก.ล.ต. “มติ ครม. วันนี้ เป็นการเปิดทางให้กระทรวงการคลัง ออก G-Token ตาม พ.ร.บ.การบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 มาตรา 10 ที่ระบุว่า การกู้เงินตามพระราชบัญญัตินี้จะทำเป็นสัญญาหรือออกตราสารหนี้หรือวิธีการอื่นใดก็ได้ ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติ” พชร กล่าว นอกจากนี้พชรยังเปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ขอความเห็นจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ได้ยืนยันว่า ธปท.ไม่ได้ดูแลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ G-Token นี้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

    ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน**
    1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ**
    - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก
    - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง

    2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก**
    - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring)
    - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI**
    - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP

    3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง**
    - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน)
    - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน**
    - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย**

    4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน**
    - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy)
    - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน
    - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย)

    5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์**
    - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ**
    - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล**
    - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI)

    6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ**
    - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ
    - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม
    - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม**

    ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ**
    - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี
    - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South
    - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal
    - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก
    - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย

    ### **แนวโน้มในอนาคต**
    - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว
    - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี**
    - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร)

    ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน** 1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ** - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง 2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก** - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring) - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI** - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP 3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง** - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน) - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน** - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย** 4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน** - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy) - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย) 5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์** - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ** - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล** - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI) 6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ** - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม** ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ** - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย ### **แนวโน้มในอนาคต** - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี** - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร) ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 265 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts