• สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน บอกกับผู้นำบราซิล ทั้ง 2 ชาติสามารถเป็นต้นแบบของ "การพึ่งพาตนเอง" สำหรับมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่ ท่ามกลางความท้าทายด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เลื่อนรีดภาษีปักกิ่งออกไป 90 วัน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076630

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน บอกกับผู้นำบราซิล ทั้ง 2 ชาติสามารถเป็นต้นแบบของ "การพึ่งพาตนเอง" สำหรับมหาอำนาจเศรษฐกิจเกิดใหม่ ท่ามกลางความท้าทายด้านการค้าและภูมิรัฐศาสตร์ที่หนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ความเคลื่อนไหวซึ่งมีขึ้นหลังจาก ทรัมป์ เลื่อนรีดภาษีปักกิ่งออกไป 90 วัน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000076630 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 60 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่วนตัวถ้าเป็นนายกฯจะเลื่อนยศเป็นพลเอกเลย,ต่ออายุราชการเพื่อเสียสละมารับใช้ชาติต่ออีกจนจบสงครามนี้,หรือจัดการฮุนเซนจบเร็วเคลมเร็วทันที,ตัวปัญหาสงคราม,ไม่มีใครเปลี่ยนแม่ทัพที่รบดีอยู่แล้วตลอดเข้าใจศัตรูเป็นอย่างดีจากผลงานที่เห็นประจักษ์ชัดเจน สองเป็นขวัญกำลังใจของทหารที่ดี สงครามสำคัญสูงสุดคือขวัญกำลังใจของนักรบ ที่แม่ทัพเริ่มสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันพร้อมๆกันบนสนามสงครามปัจจุบัน,มีแต่คนทรยศไส้ศึกขายชาติเท่านั้นที่อ้างกฎกติกาผีบ้ามาบังหน้าเพื่อทำลายทุกๆช่องทางด้านยุทธวิธีสงครามของตนเองให้ทัพตนเองแพ้สงครามนั้น,นักวิชาการเหล่านี้หนักแผ่นดินชัดเจน,แม่ทัพมีชัยสร้างผลงานดีเยี่ยม ควบคุมสนามรบได้ดี รู้รายละเอียดสนามรบมีฝีมือชำนาญการความสามารถซึ่งแต่ละคนอัจฉริยะหยั่งใจลึกล้ำนั้นมีเฉพาะใครมันลอกเลียนแบบไม่ได้ ทั้งกว่าจะปรับความเข้ากันเข้าใจกันได้กับเพื่อนร่วมงานมันต้องใช้เวลา,นี้ความเข้าใจเต็มเปี่ยมขวัญกำลังเกินล้าน%เสือกจะมาเปลี่ยนแม่ทัพ กฎกติกามันเรื่องขี้หมา รองต่างๆอยากขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคใจแทบขาดหรือไงหรือรัฐบาลเตรียมคนของตนที่สั่งได้ไว้แล้วใช่หรือไม่ แบบสั่งหยุดยิงได้ ยิงแต่ปืนคอแบบยุทธปืนคอนั้น,นี้คือคนบ่อนทำลายขวัญกำลังใจทหารชัดเจน,และมาเล่นเวลานี้ กำลังสร้างกระแสความแตกแยกชัดเจนภายในกองทัพ, บิ๊กกุ้งและบิ๊กปู ยืนหนึ่งในเวลานี้และท่านอื่นๆที่รักชาติบ้านเมืองไม่แพ้กัน,แม่ทัพจึงสำคัญมาก,แม่ทัพเท่านั้นจะจัดการแม่ทัพแบบฮุนเซนฮุนมาเนตเด็ดหัวมันสมน้ำสมเนื้อชดใช้สิ่งที่มันเปิดก่อนจนประชาชนเราเสียชีวิตอย่างที่ไม่สมควรเสียและทหารไทยเราที่รักสงบปกติแต่มาสูญเสียเพราะเขมรที่รัฐบาลสมยอมมองทหารไทยตนเองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามตนเอง,กบฎชัดเจน,นักวิชาการต่างๆก็ด้วยเจตนาทำให้ไทยแพ้สงครามชัดเจนนั้นเอง ,แม่ทัพรบแพ้ยึดพื้นที่กว่าสิบจุดไม่ได้ต่างหากสมควรไม่ต้องมีข้อเรียกร้องนี้จากภาคประชาชน,เอาง่ายๆหากเด็ดหัวถล่มบ้านฮุนเซนฮุนมาเนตไม่ตายภายใน50วัน จะไม่ต่ออายุราชการให้,หากเด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตถล่มบ้านมันได้ภายใน50วันจนพิสูจน์ซากศพมันได้ว่าเป็นมันคือฮุนเซนฮุนมาเนตจริงจะต่ออายุราชการให้แต่ท่านจะรับหรือไม่คือสิทธิของท่านแต่เลื่อนเป็นพลเอกนี้ท่านต้องรับ. เป็นต้น.
    ..ประเด็นคือประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการปกป้องประเทศไทยจากเขมรเลยอย่างสิ้นเชิงด้วย,หากลงมติทั่วประเทศเรียลไทม์ออนไลน์ให้รัฐบาลนี้หมดอำนาจ ประชาชนคนไทยแน่นอนว่าเกือบทั้งประเทศจะลงมติปุ่มว่าให้สิ้นอำนาจหมดอำนาจทันทีโน้นเลยล่ะ.
    ..นักวิชาการมากมายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะล็อบบี้ซื้อตัวออกมาพูดมาปั่นกระแสแบบใดๆก็ได้,แต่จริงๆสมควรไปจับอาวุธยิงกับเขมรจริงที่ชายแดนสนามรบจริงโน้น,ไปหันยิงปืนก่อน ก่อนจะมาขัดขวางท่าน ขวัญกำลังใจทหารแนวรบท่าน.

    https://youtube.com/watch?v=4oaLhddMTD4&si=9xkwGq0ECRCCETTd
    ส่วนตัวถ้าเป็นนายกฯจะเลื่อนยศเป็นพลเอกเลย,ต่ออายุราชการเพื่อเสียสละมารับใช้ชาติต่ออีกจนจบสงครามนี้,หรือจัดการฮุนเซนจบเร็วเคลมเร็วทันที,ตัวปัญหาสงคราม,ไม่มีใครเปลี่ยนแม่ทัพที่รบดีอยู่แล้วตลอดเข้าใจศัตรูเป็นอย่างดีจากผลงานที่เห็นประจักษ์ชัดเจน สองเป็นขวัญกำลังใจของทหารที่ดี สงครามสำคัญสูงสุดคือขวัญกำลังใจของนักรบ ที่แม่ทัพเริ่มสู้เคียงบ่าเคียงไหล่มาด้วยกันพร้อมๆกันบนสนามสงครามปัจจุบัน,มีแต่คนทรยศไส้ศึกขายชาติเท่านั้นที่อ้างกฎกติกาผีบ้ามาบังหน้าเพื่อทำลายทุกๆช่องทางด้านยุทธวิธีสงครามของตนเองให้ทัพตนเองแพ้สงครามนั้น,นักวิชาการเหล่านี้หนักแผ่นดินชัดเจน,แม่ทัพมีชัยสร้างผลงานดีเยี่ยม ควบคุมสนามรบได้ดี รู้รายละเอียดสนามรบมีฝีมือชำนาญการความสามารถซึ่งแต่ละคนอัจฉริยะหยั่งใจลึกล้ำนั้นมีเฉพาะใครมันลอกเลียนแบบไม่ได้ ทั้งกว่าจะปรับความเข้ากันเข้าใจกันได้กับเพื่อนร่วมงานมันต้องใช้เวลา,นี้ความเข้าใจเต็มเปี่ยมขวัญกำลังเกินล้าน%เสือกจะมาเปลี่ยนแม่ทัพ กฎกติกามันเรื่องขี้หมา รองต่างๆอยากขึ้นมาเป็นแม่ทัพภาคใจแทบขาดหรือไงหรือรัฐบาลเตรียมคนของตนที่สั่งได้ไว้แล้วใช่หรือไม่ แบบสั่งหยุดยิงได้ ยิงแต่ปืนคอแบบยุทธปืนคอนั้น,นี้คือคนบ่อนทำลายขวัญกำลังใจทหารชัดเจน,และมาเล่นเวลานี้ กำลังสร้างกระแสความแตกแยกชัดเจนภายในกองทัพ, บิ๊กกุ้งและบิ๊กปู ยืนหนึ่งในเวลานี้และท่านอื่นๆที่รักชาติบ้านเมืองไม่แพ้กัน,แม่ทัพจึงสำคัญมาก,แม่ทัพเท่านั้นจะจัดการแม่ทัพแบบฮุนเซนฮุนมาเนตเด็ดหัวมันสมน้ำสมเนื้อชดใช้สิ่งที่มันเปิดก่อนจนประชาชนเราเสียชีวิตอย่างที่ไม่สมควรเสียและทหารไทยเราที่รักสงบปกติแต่มาสูญเสียเพราะเขมรที่รัฐบาลสมยอมมองทหารไทยตนเองว่าเป็นฝ่ายตรงข้ามตนเอง,กบฎชัดเจน,นักวิชาการต่างๆก็ด้วยเจตนาทำให้ไทยแพ้สงครามชัดเจนนั้นเอง ,แม่ทัพรบแพ้ยึดพื้นที่กว่าสิบจุดไม่ได้ต่างหากสมควรไม่ต้องมีข้อเรียกร้องนี้จากภาคประชาชน,เอาง่ายๆหากเด็ดหัวถล่มบ้านฮุนเซนฮุนมาเนตไม่ตายภายใน50วัน จะไม่ต่ออายุราชการให้,หากเด็ดหัวฮุนเซนฮุนมาเนตถล่มบ้านมันได้ภายใน50วันจนพิสูจน์ซากศพมันได้ว่าเป็นมันคือฮุนเซนฮุนมาเนตจริงจะต่ออายุราชการให้แต่ท่านจะรับหรือไม่คือสิทธิของท่านแต่เลื่อนเป็นพลเอกนี้ท่านต้องรับ. เป็นต้น. ..ประเด็นคือประชาชนไม่ไว้วางใจรัฐบาลในการปกป้องประเทศไทยจากเขมรเลยอย่างสิ้นเชิงด้วย,หากลงมติทั่วประเทศเรียลไทม์ออนไลน์ให้รัฐบาลนี้หมดอำนาจ ประชาชนคนไทยแน่นอนว่าเกือบทั้งประเทศจะลงมติปุ่มว่าให้สิ้นอำนาจหมดอำนาจทันทีโน้นเลยล่ะ. ..นักวิชาการมากมายนักการเมืองฝ่ายรัฐบาลจะล็อบบี้ซื้อตัวออกมาพูดมาปั่นกระแสแบบใดๆก็ได้,แต่จริงๆสมควรไปจับอาวุธยิงกับเขมรจริงที่ชายแดนสนามรบจริงโน้น,ไปหันยิงปืนก่อน ก่อนจะมาขัดขวางท่าน ขวัญกำลังใจทหารแนวรบท่าน. https://youtube.com/watch?v=4oaLhddMTD4&si=9xkwGq0ECRCCETTd
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 107 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่า: การเดินทางสู่โลก IoT และบ้านอัจฉริยะ

    วันก่อนผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ เรื่องบ้านอัจฉริยะ แล้วก็ย้อนคิดไปว่าจริงๆ แนวคิดนี้มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยนะ หลายคนอาจคิดว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเพราะมี Wi-Fi หรือสมาร์ทโฟน แต่จริงๆ รากของมันมีมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้ว สมัยนั้นคนก็เริ่มคิดอยากควบคุมอะไรจากระยะไกล อย่างในปี 1832 ก็มีการประดิษฐ์โทรเลขแม่เหล็กไฟฟ้า ที่ส่งสัญญาณควบคุมระยะไกลได้ หรือเทอร์โมสแตตแบบกลไกที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิบ้าน ซึ่งสำหรับยุคนั้นถือว่าล้ำสุดๆ

    เวลาผ่านมาถึงช่วงปี 1999 ก็มีคนตั้งชื่อให้ความคิดนี้ว่า “Internet of Things” หรือ IoT จุดพลิกผันจริงๆ มันเกิดราวปี 2008-2009 ที่จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีมากกว่าจำนวนคนบนโลกแล้ว จากนั้นทุกอย่างก็ระเบิดพลังเต็มที่เพราะมีสมาร์ทโฟน, Wi-Fi และคลาวด์ เข้ามาเสริม พูดง่ายๆ คือบ้านเริ่มมีสมอง คุยกันได้ และคุยกับเราผ่านเน็ตได้ด้วย

    เพื่อนบางคนถามว่าบ้านอัจฉริยะมันทำงานยังไง ผมก็บอกว่ามันเหมือนบ้านมีตา มีมือ และมีสมอง ตาก็คือพวกเซ็นเซอร์ ที่คอยจับว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ แสงเพียงพอไหม หรือมีคนเดินผ่านไหม มือก็คือพวกมอเตอร์หรือสวิตช์ไฟ ที่ทำงานตามคำสั่ง ส่วนสมองก็คือศูนย์ควบคุม ที่คิด วิเคราะห์ แล้วสั่งการต่อไป

    ทุกวันนี้บ้านอัจฉริยะก็มีหลายค่ายใหญ่แข่งกัน อย่าง Amazon Alexa ที่รองรับอุปกรณ์ได้เยอะมาก Google Home ที่เก่งเรื่องฟังและเข้าใจภาษามนุษย์ หรือ Apple HomeKit ที่เน้นความปลอดภัย แต่ปัญหาคือแต่ละค่ายก็มีระบบของตัวเอง บางทีอุปกรณ์ไม่คุยกัน ต้องใช้หลายแอปเหมือนต้องพกรีโมทหลายอันอยู่บ้านเดียวกัน

    ในไทยเองกระแสนี้ก็มานะ ตลาด IoT โตเร็วมาก ภาครัฐก็มองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะในภาคการผลิต และเมืองอัจฉริยะ แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีอุปสรรค อย่างเรื่องความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ หรือปัญหาความปลอดภัย เพราะถ้าอุปกรณ์ถูกแฮ็กได้ก็อาจเปิดประตูบ้านเราได้เลย ซึ่งฟังดูน่ากลัวอยู่เหมือนกัน

    ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้บ้านอัจฉริยะไม่ได้แค่ “ฟังคำสั่ง” อีกแล้ว แต่เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยตัดสินใจแทนเรา เช่น ตู้เย็นบางรุ่นของ Samsung ใช้ AI คอยสแกนของในตู้ แล้วแนะนำเมนูอาหาร หรือเตือนว่าอะไรใกล้หมดอายุ เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ก็ใช้ AI ปรับรอบหมุนและปริมาณน้ำตามชนิดของผ้า เพื่อให้ซักได้สะอาดและประหยัดพลังงาน หรือแม้แต่ระบบตรวจจับน้ำรั่ว อย่าง Moen Flo ที่เรียนรู้รูปแบบการใช้น้ำในบ้าน แล้วสั่งปิดวาล์วอัตโนมัติถ้าพบว่ามีความผิดปกติ — ป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ก่อนที่เราจะรู้ตัวเสียอีก

    อนาคตยังมีสิ่งน่าสนใจรออยู่ อย่างมาตรฐานใหม่ชื่อ Matter ที่ตั้งใจให้ทุกอุปกรณ์คุยกันได้โดยไม่ต้องสนใจยี่ห้อ ไหนจะการเอา AI มาผสมกับเทคโนโลยี Edge Computing ให้บ้านฉลาดพอจะเดาความต้องการของเรา เช่น เห็นฝนกำลังตกก็ปิดหน้าต่างให้เอง หรือเปิดเครื่องฟอกอากาศทันทีเมื่อเซ็นเซอร์จับว่ามีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน หรือใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างโซลาร์เซลล์ เพื่อให้บ้านยั่งยืนและประหยัดพลังงานมากขึ้น

    คิดไปคิดมา จากบ้านธรรมดาที่มีแต่สวิตช์เปิดไฟ วันนี้เรามีบ้านที่คุยกับเราได้ คิดแทนเราได้ และอีกไม่นานมันจะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิต เหมือนที่ทุกบ้านมี Wi-Fi ในตอนนี้นั่นแหละ

    #ลุงเขียนหลานอ่าน
    🏠 เรื่องเล่า: การเดินทางสู่โลก IoT และบ้านอัจฉริยะ 🤖 ☕ วันก่อนผมนั่งคุยกับเพื่อนๆ เรื่องบ้านอัจฉริยะ แล้วก็ย้อนคิดไปว่าจริงๆ แนวคิดนี้มันไม่ใช่เรื่องใหม่เลยนะ หลายคนอาจคิดว่ามันเพิ่งเกิดขึ้นเพราะมี Wi-Fi หรือสมาร์ทโฟน 📱 แต่จริงๆ รากของมันมีมาตั้งแต่ร้อยกว่าปีก่อนแล้ว สมัยนั้นคนก็เริ่มคิดอยากควบคุมอะไรจากระยะไกล อย่างในปี 1832 ก็มีการประดิษฐ์โทรเลขแม่เหล็กไฟฟ้า 📡 ที่ส่งสัญญาณควบคุมระยะไกลได้ หรือเทอร์โมสแตตแบบกลไกที่ช่วยควบคุมอุณหภูมิบ้าน ซึ่งสำหรับยุคนั้นถือว่าล้ำสุดๆ เวลาผ่านมาถึงช่วงปี 1999 ก็มีคนตั้งชื่อให้ความคิดนี้ว่า “Internet of Things” หรือ IoT 🌐 จุดพลิกผันจริงๆ มันเกิดราวปี 2008-2009 ที่จำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมีมากกว่าจำนวนคนบนโลกแล้ว จากนั้นทุกอย่างก็ระเบิดพลังเต็มที่เพราะมีสมาร์ทโฟน, Wi-Fi และคลาวด์ ☁️ เข้ามาเสริม พูดง่ายๆ คือบ้านเริ่มมีสมอง คุยกันได้ และคุยกับเราผ่านเน็ตได้ด้วย เพื่อนบางคนถามว่าบ้านอัจฉริยะมันทำงานยังไง ผมก็บอกว่ามันเหมือนบ้านมีตา มีมือ และมีสมอง ตาก็คือพวกเซ็นเซอร์ 👀 ที่คอยจับว่าอุณหภูมิเท่าไหร่ แสงเพียงพอไหม หรือมีคนเดินผ่านไหม มือก็คือพวกมอเตอร์หรือสวิตช์ไฟ 🤖 ที่ทำงานตามคำสั่ง ส่วนสมองก็คือศูนย์ควบคุม 🧠 ที่คิด วิเคราะห์ แล้วสั่งการต่อไป ทุกวันนี้บ้านอัจฉริยะก็มีหลายค่ายใหญ่แข่งกัน อย่าง Amazon Alexa ที่รองรับอุปกรณ์ได้เยอะมาก Google Home ที่เก่งเรื่องฟังและเข้าใจภาษามนุษย์ 🗣️ หรือ Apple HomeKit ที่เน้นความปลอดภัย 🔒 แต่ปัญหาคือแต่ละค่ายก็มีระบบของตัวเอง บางทีอุปกรณ์ไม่คุยกัน ต้องใช้หลายแอปเหมือนต้องพกรีโมทหลายอันอยู่บ้านเดียวกัน ในไทยเองกระแสนี้ก็มานะ 🇹🇭 ตลาด IoT โตเร็วมาก ภาครัฐก็มองว่าเป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ โดยเฉพาะในภาคการผลิต 🏭 และเมืองอัจฉริยะ 🏙️ แต่แน่นอนว่ามันก็ยังมีอุปสรรค อย่างเรื่องความเข้ากันได้ของอุปกรณ์ หรือปัญหาความปลอดภัย 🔐 เพราะถ้าอุปกรณ์ถูกแฮ็กได้ก็อาจเปิดประตูบ้านเราได้เลย ซึ่งฟังดูน่ากลัวอยู่เหมือนกัน ที่น่าสนใจคือ ตอนนี้บ้านอัจฉริยะไม่ได้แค่ “ฟังคำสั่ง” อีกแล้ว แต่เริ่มใช้ AI เข้ามาช่วยตัดสินใจแทนเรา เช่น ตู้เย็นบางรุ่นของ Samsung ใช้ AI คอยสแกนของในตู้ 🍎🥦 แล้วแนะนำเมนูอาหาร หรือเตือนว่าอะไรใกล้หมดอายุ เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ก็ใช้ AI ปรับรอบหมุนและปริมาณน้ำตามชนิดของผ้า 👕 เพื่อให้ซักได้สะอาดและประหยัดพลังงาน หรือแม้แต่ระบบตรวจจับน้ำรั่ว 💧 อย่าง Moen Flo ที่เรียนรู้รูปแบบการใช้น้ำในบ้าน แล้วสั่งปิดวาล์วอัตโนมัติถ้าพบว่ามีความผิดปกติ — ป้องกันน้ำท่วมบ้านได้ก่อนที่เราจะรู้ตัวเสียอีก อนาคตยังมีสิ่งน่าสนใจรออยู่ อย่างมาตรฐานใหม่ชื่อ Matter 📜 ที่ตั้งใจให้ทุกอุปกรณ์คุยกันได้โดยไม่ต้องสนใจยี่ห้อ ไหนจะการเอา AI 🤖 มาผสมกับเทคโนโลยี Edge Computing 💻 ให้บ้านฉลาดพอจะเดาความต้องการของเรา เช่น เห็นฝนกำลังตกก็ปิดหน้าต่างให้เอง หรือเปิดเครื่องฟอกอากาศทันทีเมื่อเซ็นเซอร์จับว่ามีฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน หรือใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างโซลาร์เซลล์ 🌞 เพื่อให้บ้านยั่งยืนและประหยัดพลังงานมากขึ้น คิดไปคิดมา จากบ้านธรรมดาที่มีแต่สวิตช์เปิดไฟ วันนี้เรามีบ้านที่คุยกับเราได้ คิดแทนเราได้ และอีกไม่นานมันจะกลายเป็นเรื่องปกติในชีวิต เหมือนที่ทุกบ้านมี Wi-Fi 📶 ในตอนนี้นั่นแหละ #ลุงเขียนหลานอ่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 116 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษก ทบ.โต้ “มาลี” ป้องแม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่มีความพยายามที่มีการยั่วยุหรือวางแผนใช้กำลังทางทหาร ต่อกรณีปราสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง

    วันนี้(11 ส.ค.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.)กล่าวถึง กรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในเรื่องของปราสาทตาควาย ขอยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาค 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา

    สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ เลยวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร

    แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสมของอนาคต พร้อมกล่าวว่าจะเตรียมการนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงกรอบ RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม

    ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ไช่ความพยายามที่มีการยั่วยุ และมีการวางแผน ใช้กำลังทางทหารต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000076203

    #MGROnline #มาลี #แม่ทัพภาค2 #ปราสาทตาควาย
    โฆษก ทบ.โต้ “มาลี” ป้องแม่ทัพภาค 2 ย้ำไทยไม่มีความพยายามที่มีการยั่วยุหรือวางแผนใช้กำลังทางทหาร ต่อกรณีปราสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้าง • วันนี้(11 ส.ค.) พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก(ทบ.)กล่าวถึง กรณี พล.ท.มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงการณ์ถึงคำสัมภาษณ์ พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในเรื่องของปราสาทตาควาย ขอยืนยันว่าเนื้อหาที่แม่ทัพภาค 2 พูด ไม่ได้มีความหมายในแบบที่โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชาได้แถลงไป โดยเฉพาะท่านไม่พูดเรื่องการเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อรุกล้ำอธิปไตยกัมพูชา • สิ่งที่ท่านได้กล่าวในวันนั้นคือ ปราสาทตาควายอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทย ในช่วงที่มีการปะทะที่ผ่านมาพยายามเข้าไปยึดด้วยการวางกำลัง แต่ยังไม่สำเร็จ เลยวางกำลังบริเวณด้านนอก ห่างจากตัวปราสาท 30 เมตร • แต่ในอนาคตจะต้องพยายามนำกลับมาภายใต้การควบคุมของไทยให้ได้ ตามขั้นตอนที่เหมาะสมของอนาคต พร้อมกล่าวว่าจะเตรียมการนำเรื่องต่างๆ ไปพูดคุยเจรจาในวงกรอบ RBC ที่จะเกิดขึ้นใน 2 สัปดาห์ และย้ำถึงจุดยืนว่าไทยจะไม่ถอยจากแนวการวางกำลังเดิม • ขอยืนยันว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ได้พูดถึงเรื่องการใช้กำลังทางทหาร ไปดำเนินการอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นที่กล่าวไปในข้างต้น จึงไม่ไช่ความพยายามที่มีการยั่วยุ และมีการวางแผน ใช้กำลังทางทหารต่อกรณีประสาทตาควาย อย่างที่กัมพูชากล่าวอ้างแต่อย่างใด • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000076203 • #MGROnline #มาลี #แม่ทัพภาค2 #ปราสาทตาควาย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 131 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดคลิปนักเรียนชายชั้น ม.5 ทำร้ายครูสาววัย 33 ปี เหตุเพราะไม่พอใจคะแนนสอบกลางภาค ส่งผลให้ดวงตาฟกช้ำ หัวด้านซ้ายบวม ซี่โครงอักเสบ

    เพื่อนสนิทของคุณครู เหยื่อความรุนแรงรายนี้ เล่าว่าครูสอนที่โรงเรียนแห่งนี้มา 11 ปีแล้ว นิสัยส่วนตัวเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูดกับใคร ไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใคร และเป็นคนที่ใจดีกับเด็กนักเรียน

    เพื่อนของครูยังเล่าอีกว่า วันที่โดนนักเรียนชายทำร้าย หลังจากที่กลับบ้านไป ครูสาวรายนี้ต้องโกหกลูกตัวเองว่า ที่หน้าบวมเพราะว่าโดนผึ้งต่อย เนื่องจากลูกยังเล็ก ไม่อยากให้ลูกรู้เหตุการณ์

    ส่วนเด็กนักเรียนคนนี้เมื่อเทอมที่แล้วก็เคยตบเด็กนักเรียนผู้หญิงหน้าบวม และพ่อกับแม่มาเคลียร์ และย้อนไปประมาณ ม.4 เคยทำร้ายร่างกายพ่อตัวเอง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เด็กคนนี้เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง
    เปิดคลิปนักเรียนชายชั้น ม.5 ทำร้ายครูสาววัย 33 ปี เหตุเพราะไม่พอใจคะแนนสอบกลางภาค ส่งผลให้ดวงตาฟกช้ำ หัวด้านซ้ายบวม ซี่โครงอักเสบ เพื่อนสนิทของคุณครู เหยื่อความรุนแรงรายนี้ เล่าว่าครูสอนที่โรงเรียนแห่งนี้มา 11 ปีแล้ว นิสัยส่วนตัวเป็นคนเรียบร้อยไม่ค่อยพูดกับใคร ไม่ค่อยมีปากมีเสียงกับใคร และเป็นคนที่ใจดีกับเด็กนักเรียน เพื่อนของครูยังเล่าอีกว่า วันที่โดนนักเรียนชายทำร้าย หลังจากที่กลับบ้านไป ครูสาวรายนี้ต้องโกหกลูกตัวเองว่า ที่หน้าบวมเพราะว่าโดนผึ้งต่อย เนื่องจากลูกยังเล็ก ไม่อยากให้ลูกรู้เหตุการณ์ ส่วนเด็กนักเรียนคนนี้เมื่อเทอมที่แล้วก็เคยตบเด็กนักเรียนผู้หญิงหน้าบวม และพ่อกับแม่มาเคลียร์ และย้อนไปประมาณ ม.4 เคยทำร้ายร่างกายพ่อตัวเอง ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า เด็กคนนี้เป็นคนที่มีอารมณ์รุนแรง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ชัยภูมิมีความสำคัญมากในการรบสงครามในครั้งนี้ สมัยใหม่ยุทธวิธีการรบยิ่งมีจุดที่ดีสามารถมีชัยไปก่วาครึ่งแล้ว ภูมิรัฐศาสตร์สงครามสมัยใหม่ภูเขา ที่สูงมองเห็นและโจมตีศัตรูจากมุมที่สูงอย่าคิดว่าไม่สำคัญๆมากๆ#เพราะฉะนั้นประสาทตาควายไทยจึงต้องยึดเป็นฐานที่มั่นให้ได้เขมรมันต้องการลากเส้นจากบนบกลงสู่อ่าวไทย กองทัพเรือจะมีอันตรายถ้าสถานที่นี้ไปอยู่ในมือศัตรู #แม่ทัพภาค2คะเราควรเคลียรทหารถอยออกมาให้พ้นรัศมระเบิดใช้ "F16..ทิ้งระเบิดประสาทตาควายนั้นทิ้งไปพร้อมกับให้พวกมันเฝ้าประสาทให้เราไปด้วยเลยอย่าเอาชีวิตทหารไปเสี่ยงเด็ดขาดไม่ควร เรามี F16&กริฟฟินใช้ให้เป็นประโยชน์ดีก่วาถ้าท่านเกษียนไปใครจะมาคนของมันเราจะไว้ใจได้ไง ทุกจุดที่ยึดมาได้ให้ตั้งกองทหารประจำการถ่ายวีดีโอ&ถาพนิ่งเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใครเข้ามาแล้วทำเสียไปอีกจะถือว่ามันขายชาติเป็นกบฎประหารชีวิตอย่างเดียว
    ชัยภูมิมีความสำคัญมากในการรบสงครามในครั้งนี้ สมัยใหม่ยุทธวิธีการรบยิ่งมีจุดที่ดีสามารถมีชัยไปก่วาครึ่งแล้ว ภูมิรัฐศาสตร์สงครามสมัยใหม่ภูเขา ที่สูงมองเห็นและโจมตีศัตรูจากมุมที่สูงอย่าคิดว่าไม่สำคัญๆมากๆ#เพราะฉะนั้นประสาทตาควายไทยจึงต้องยึดเป็นฐานที่มั่นให้ได้เขมรมันต้องการลากเส้นจากบนบกลงสู่อ่าวไทย กองทัพเรือจะมีอันตรายถ้าสถานที่นี้ไปอยู่ในมือศัตรู #แม่ทัพภาค2คะเราควรเคลียรทหารถอยออกมาให้พ้นรัศมระเบิดใช้ "F16..ทิ้งระเบิดประสาทตาควายนั้นทิ้งไปพร้อมกับให้พวกมัน💀เฝ้าประสาทให้เราไปด้วยเลยอย่าเอาชีวิตทหารไปเสี่ยงเด็ดขาดไม่ควร เรามี F16&กริฟฟินใช้ให้เป็นประโยชน์ดีก่วาถ้าท่านเกษียนไปใครจะมาคนของมันเราจะไว้ใจได้ไง ทุกจุดที่ยึดมาได้ให้ตั้งกองทหารประจำการถ่ายวีดีโอ&ถาพนิ่งเก็บไว้เป็นหลักฐาน ใครเข้ามาแล้วทำเสียไปอีกจะถือว่ามันขายชาติเป็นกบฎประหารชีวิตอย่างเดียว
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • ตอน 14
    เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง
    จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ
    มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ
    พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา
    เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม
    แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ
    พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้
    เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5
    เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!)
    เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า
    อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ
    ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร
    ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย
    แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน!
    ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ
    แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว
    ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน
    พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์
    ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ
    เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด
    สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน
    แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม

    คนเล่านิทาน
    ตอน 14 เล่าเรื่องชาว บ้านซะหลายมื้อ กลับเข้ามาบ้านเราต่อดีกว่า เดี๋ยวท่านผู้อ่านจะงง มันจะเล่าเรื่องอะไรกันแน่นะ ก็แหมมันต้องให้เห็นภาพ บอกแล้วอย่าดูแต่สิ่งที่เห็นข้างหน้าอย่างเดียว หัดมองภาพกว้าง ภาพลึก 3 มิติบ้าง จิ๊กโก๋๋ไปหากินอยู่ซอยอื่น ตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 จนเดี๋ยวนี้ยังพล่านอยู่ เพราะฉะนั้นตั้งแต่รัฐบาลคุณป๋าจ๊อกกี้ จนมาถึงคุณน้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ บ้านเราจึงแบ่งกันกินแย่งกันกัด โดยไม่มีจิ๊กโก๋๋ต่างถิ่นมาขัดคอ มาเกิดเหตุบังเอิญ ตอนคุณน้าขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ แกจัดงานเลี้ยงบุพเฟ่ต์บ่อยไปหน่อย แถมอาหารแต่ละจาน มันก็มีพวกจิ๊กโก๋๋อยากร่วมวงรับประทานกินด้วย เรื่องบังเอิญมันถึงได้เกิด ไทยแลนด์แดนสยาม จึงมีนายกชื่อ คุณน้านัน จำได้ใช่ไหมครับ พอคุณน้านันเป็นนายก นอกจากจะจัดสรรเมนูอาหารให้ถูกปากแล้ว รัฐบาลคุณน้านัน ยังเป็นรัฐบาลที่ออกกฎหมาย เกี่ยวกับการทำธุรกิจ ธุรกรรมการเงิน อีกมากมาย รวมทั้งการเปิดเสรีทางการเงินอีกด้วย พร้อมทั้งจัดให้มีการร่างรัฐธรรมนูญและเลือกตั้งใหม่ เราต้องเป็นประชาธิปไตย เราต้องมีธรรมาภิบาล ฯลฯ นโยบายของคุณน้านันนี่ ถ้าไม่เขียนออกมาเป็นภาษาไทยว่า นโยบายนายกอานันท์นี่ เผลอๆ ท่านผู้อ่านจะนึกว่ากำลังอ่าน Doctrine ต่างๆ ของพี่เบิ้มอเมริกา เลือกตั้งแล้ว เราก็ได้รัฐบาลปี๋ชวนเชื่องช้า รัฐบาลป๋าเติ้งปลาโหลตัวสั้นแลบลิ้นแผล็บๆ รัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว แล้วก็กลับมาปี๋ชวนเชื่องช้าอีก เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนสมัยรัฐบาลทหาร พอเป็นรัฐบาลพลเรือน ก็ไม่ต่างกัน แบ่งกันกินแย่งกันกัดเหมือนเดิม แล้วไง จิ๊กโก๋๋ก็ยังไปวุ่นอยู่ซอยอื่น เพราะคิดว่า สมันน้อยมันเหลือแต่กระดูกแล้ว ไม่มีความหมายแล้ว สมันแดนอื่นมันน่าหม่ำกว่าแยะ พ.ศ.2540 (ค.ศ.1997) ช่วงรัฐบาลน้าจิ๋วจอมมั่ว เป็นนายก บริหารเก่งจนเกิดวิกฤติต้มยำกุ้ง ดังไปทั่วโลก น้อยใจยุบสภากลับบ้าน ไปนอนซบน้าเครือตู้ทองเคลื่อนที่ดีกว่า ปี๋ชวนเชื่องช้ากลับเข้ามาเป็นรัฐบาล ไทยแลนด์กระเป๋าฉีกขาดกระจุย เงินคงคลังเหลือแต่คลัง ไม่มีเงินคงเหลือ อ้ายน้อยธารินทร์รมว.คลังที่ทุกคนรอคอยยังกะเทวดามาโปรด นักเรียนเก่าฮาร์วาร์ด บอกอย่ากระนั้นเลย เราต้องไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเก่าสถาบันเดียวกัน จิ๊กโก๋๋แถววอชิงตันน่าจะช่วยเราได้ เป็นไปตามคาด (ไม่รู้ใครคาด) จิ๊กโก๋๋วอชิงตันบอกเสียใจนะ อ้ายน้อย ไอให้ยูยืมเงินไม่ได้หรอก แต่ไอก็ไม่ทิ้งยู ยูไปเข้าโปรแกรม IMF ล่ะกันนะ ไอจะแนะนำไปให้ อ้ายน้อยเดินหน้าขรึมกลับบ้าน บอกปี๋ชวน เขาช่วยเราโดยให้ไปกู้ IMF 5 5 5 เงินกู้ IMF มาพร้อมกับเงื่อนไข 508 ประการ เช่นการออกกฎหมายขายชาติ 11 ฉบับ ที่สำคัญเกิด ปรากฏการณ์ปิด 56 ไฟแนนซ์ (เบื้องหลังการปิดไฟแนนซ์นี่ ถ้าจะต้องไปตามอ่านจากเพจคุณThanong Fanclub น่าจะดีกว่า!) เจ้าสัวทั้งหลายแทบจะเดินเอากระจาดปิดก้นกันเป็นแถว พ่อค้าจีนไทยเจ๊ง ตลาดหุ้นเจ๊ง ธุรกิจพัง อสังหาริม ทรัพย์ร้าง ขนาดอาเฮียนักการเงินเดินหน้าแห้งบอก ตูไปขายแซนด์วิชดีกว่า อืม เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดจริงๆ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เขียนเหมือนสนุก แต่มันเจ็บลึก เจ็บจริงๆ นี่ยังไม่นับเรื่องการซื้อขายทรัพย์สินของ ปรส. นะ ภารกิจ IMF นี่มันซับซ้อนต้องเล่ากันยาว แต่เล่ามาเท่านี้ นักฟังนิทานก็น่าจะพอเดากันออกบ้างว่า มันวางไลน์กันอย่างไร ต้องบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ว่า ไทยเคยเสียอธิปไตยให้แก่อเมริกาครั้งแรก เมื่อคราวปี พ.ศ.2505 -2515 สมัยสงครามเวียตนาม อเมริกาใช้ไทยเป็นฐานทัพ โดยไม่มีเอกสารสัญญาเป็นเรื่องเป็นราว การปฏิบัติการรบทางอากาศที่อาศัยฐานทัพ 7 แห่งในบ้านเรา อนุมัติโดยอเมริกา และทหารอเมริกันมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต ไม่ต้องขึ้นศาลไทย แต่ไทยก็ไม่เคยรู้ซึ้ง ถึงเล่ห์รักของเพื่อน เชื่อใจเขา จนถึงปี พ.ศ.2540 ไทยก็เสียอธิปไตยอีกครั้ง ครั้งนี้จากการปฎิเสธความช่วยเหลือไทยของประธานาธิบดีคลินตัน โดยให้ไทยเข้าโครงการ IMF แทน! ผลของโครงการ IMF เปิดทางให้ต่างชาติ ครอบงำธุรกิจไทยเบ็ดเสร็จ ไม่ว่าอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจ อุตสาหกรรม ที่สำคัญสถาบันการเงินไทย ถูกต่างชาติเข้ามาครอบงำ จนทุกวันนี้ มีธนาคารชื่อไทย แต่ไส้เป็นของต่าง ชาติกี่ธนาคาร คำตอบคือ เกือบหมด ไปหารายงานของตลาดหลักทรัพย์หรือธนาคารแห่งประเทศไทยอ่านซะบ้าง จะได้รู้สภาพประเทศตัวเองเป็นอย่างไร อย่าหลงเทิดทูนหัวทองตาสีฟ้ากันมากนัก เทิดทูนจนถึงกับฟอกผม ฟอกผิวนี่นะ มันยิ่งกว่างี่เง่าอีกนะ แต่วิกฤติการณ์ต้มยำกุ้ง เงินกู้ IMF ก็ไม่ทำให้สมันน้อยรู้ตัว ถ้าเราเคยดูหนังสารคดี discovery เราจะเห็นนิสัยของสัตว์อ่อนแอ พวกนี้ชัดเจน พวกมันเคยวิ่งข้ามแม่น้ำนี้แล้ว โดนจระเข้กัด ขึ้นบกเจอสิงโตตะปบ มากี่ฤดู ก็ทำมันซ้ำซากอยู่นั่น ไม่เคยคิดเปลี่ยนเส้นทาง แต่มันก็เป็นเพียงสมันน้อย ไม่มีสมองเหมือนมนุษย์ ชนชาวไทยเคยเป็นนักสู้ บรรพบุรุษกู้บ้านรักษาเมืองมาตลอด เราถึงมีบ้านเมืองเหลืออยู่จนทุกวันนี้ มาสมัยนี้ เรามีแต่สมันน้อยกลัวภัย เซ่อกิน ไม่คิดต่อสู้ป้องกันตัวเลย รู้ว่าจระเข้คอยอยู่ในน้ำ สิงโตคอยอยู่บนฝั่ง ก็ยังดันวิ่งเข้าไปใส่ นิทานเรื่องนี้มันสอนอะไรได้บ้างไหมหนอ เขาว่า โชคร้ายมักมาซ้ำสอง หลังจากปี๋ชวนกะอ้ายน้อย โดนจิ๊กโก๋๋วอซิงตันหักหลังจนเดินไม่เป็น ลี้กายหายวับ ก็เกิดมีอัศวินควายดำโผล่ขึ้นมา อัศวินควายดำหน้าเหลี่ยมใช้เล่ห์ และขนมหลายพันล้านห่อ จัดการจนตัวเองได้เป็นรัฐบาล พอเป็นรัฐบาลไม่เท่าไหร่ก็ประกาศศักดา UN ไม่ใช่พ่อ (แต่เป็นปู่ ฮา ฮา) จะใช้หนี้ IMF ให้หมด ไทยจะได้เป็นไทแก่ตัว ไม่ต้องเป็นหนี้เขา ว่าแล้วก็อัดนโยบายประชานิยม มาให้ดินแดนแห่งสมันน้อยเต็มพิกัด สมันน้อยแค่จะคิดเอาตัวรอดไปวันๆ ก็เหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว ก็คิดไม่เก่งน่ะนะ ยังมาเจอเหลี่ยมอัศวินควายดำ จะไปเหลืออะไร โอ้ย! เขาเก่งนะ เขารวยแล้วไม่โกง ฮา 500 หน แล้วอัศวินควายดำนี่ชาญฉลาดมาจากไหน อยู่ดีๆ ก็โผล่จากรูมาหรือไร อันนี้ต้องไปหาหนังสือประเภทรู้ทันเหลี่ยม 1,2,3,4,5 ถึง 100 มาอ่าน ก็จะได้พอรู้ประวัติ รู้พัฒนาการเล่ห์ของเหลี่ยมเขา แต่นิทานเรื่องนี้จะเล่าเรื่องที่หนังสือรู้ทัน ไม่ได้เขียนไว้ดีไหม คนเล่านิทาน
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากเงามืด: Tor จากโครงการทหารสู่เครื่องมือแห่งเสรีภาพดิจิทัล

    ลองจินตนาการว่าคุณนั่งอยู่บนรถไฟเก่าในอังกฤษ อากาศเย็นจัดและ Wi-Fi ก็ไม่ค่อยดีนัก คุณพยายามเปิดเว็บไซต์เพื่อทำวิจัย แต่กลับเจอหน้าบล็อกจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คุณถอนหายใจ เปิด Tor Browser แล้วพิมพ์ URL... เว็บไซต์โหลดขึ้นทันที

    นี่คือพลังของ Tor—เครื่องมือที่เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อการสื่อสารลับ และกลายเป็นเสาหลักของความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์

    Tor ย่อมาจาก “The Onion Router” เป็นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์กระจายทั่วโลกที่เข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น แล้วส่งผ่านโหนดต่าง ๆ เพื่อปกปิดตัวตนของผู้ใช้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์หรือเผชิญกับการติดตามจากรัฐ Tor ก็ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลอย่างอิสระ

    แม้ Tor จะถูกมองว่าเป็นประตูสู่ Dark Web ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักข่าว นักเคลื่อนไหว และประชาชนในประเทศเผด็จการ ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ถูกตรวจสอบ

    ในยุค 1990s กลุ่ม Cypherpunks ได้ต่อสู้ใน “Crypto Wars” เพื่อผลักดันการใช้การเข้ารหัสระดับทหารในสาธารณะ พวกเขาเตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นฝันร้ายแบบเผด็จการ และ Tor คือหนึ่งในผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้น

    แม้รัฐบาลบางส่วนจะพยายามควบคุมอินเทอร์เน็ต แต่กลับเป็นผู้สนับสนุนการพัฒนา Tor ด้วยงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น DARPA, กองทัพเรือ, และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ

    Tor เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1990s
    พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Naval Research Lab เพื่อสร้างการสื่อสารที่ไม่สามารถติดตามได้

    Tor Browser ใช้เทคนิค “onion routing” เพื่อเข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น
    ส่งผ่านโหนด 3 ชั้น: Entry, Middle, Exit เพื่อปกปิดตัวตน

    Tor ถูกใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศเผด็จการ
    เช่น BBC และ Facebook มีเวอร์ชันเฉพาะบน Tor

    Tor ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรสิทธิมนุษยชน
    เช่น EFF, Human Rights Watch, Google และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ

    Cypherpunks เป็นกลุ่มผู้ผลักดันการเข้ารหัสเพื่อเสรีภาพดิจิทัล
    เตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นเครื่องมือของรัฐเผด็จการ

    Tor Browser ไม่เก็บประวัติการใช้งาน และลบ cookies ทุกครั้งที่ปิด
    ป้องกันการติดตามและการระบุตัวตนจากเว็บไซต์

    Tor ถูกใช้ในเหตุการณ์ Arab Spring เพื่อหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์
    ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงโซเชียลมีเดียและข่าวสารที่ถูกบล็อก

    Tor เป็นโอเพ่นซอร์สและมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก
    มีโหนด relays กว่าหลายพันจุดที่ดำเนินการโดยอาสาสมัคร

    Tor Browser มีฟีเจอร์ป้องกัน fingerprinting และการติดตามขั้นสูง
    ถูกนำไปใช้ในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Firefox ผ่านโครงการ Tor Uplift

    Tor สามารถใช้ร่วมกับ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น
    โดยเฉพาะในประเทศที่มีการตรวจสอบการเชื่อมต่อ Tor

    https://thereader.mitpress.mit.edu/the-secret-history-of-tor-how-a-military-project-became-a-lifeline-for-privacy/
    🕵️‍♂️🌐 เรื่องเล่าจากเงามืด: Tor จากโครงการทหารสู่เครื่องมือแห่งเสรีภาพดิจิทัล ลองจินตนาการว่าคุณนั่งอยู่บนรถไฟเก่าในอังกฤษ อากาศเย็นจัดและ Wi-Fi ก็ไม่ค่อยดีนัก คุณพยายามเปิดเว็บไซต์เพื่อทำวิจัย แต่กลับเจอหน้าบล็อกจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต คุณถอนหายใจ เปิด Tor Browser แล้วพิมพ์ URL... เว็บไซต์โหลดขึ้นทันที นี่คือพลังของ Tor—เครื่องมือที่เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ เพื่อการสื่อสารลับ และกลายเป็นเสาหลักของความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ Tor ย่อมาจาก “The Onion Router” เป็นเครือข่ายเซิร์ฟเวอร์กระจายทั่วโลกที่เข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น แล้วส่งผ่านโหนดต่าง ๆ เพื่อปกปิดตัวตนของผู้ใช้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์หรือเผชิญกับการติดตามจากรัฐ Tor ก็ช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลอย่างอิสระ แม้ Tor จะถูกมองว่าเป็นประตูสู่ Dark Web ที่เต็มไปด้วยอาชญากรรม แต่ก็เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักข่าว นักเคลื่อนไหว และประชาชนในประเทศเผด็จการ ที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ถูกตรวจสอบ ในยุค 1990s กลุ่ม Cypherpunks ได้ต่อสู้ใน “Crypto Wars” เพื่อผลักดันการใช้การเข้ารหัสระดับทหารในสาธารณะ พวกเขาเตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นฝันร้ายแบบเผด็จการ และ Tor คือหนึ่งในผลลัพธ์ของการต่อสู้นั้น แม้รัฐบาลบางส่วนจะพยายามควบคุมอินเทอร์เน็ต แต่กลับเป็นผู้สนับสนุนการพัฒนา Tor ด้วยงบประมาณจากหน่วยงานต่าง ๆ เช่น DARPA, กองทัพเรือ, และกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ✅ Tor เริ่มต้นจากโครงการของกองทัพเรือสหรัฐฯ ในปี 1990s ➡️ พัฒนาโดยนักวิจัยจาก Naval Research Lab เพื่อสร้างการสื่อสารที่ไม่สามารถติดตามได้ ✅ Tor Browser ใช้เทคนิค “onion routing” เพื่อเข้ารหัสข้อมูลหลายชั้น ➡️ ส่งผ่านโหนด 3 ชั้น: Entry, Middle, Exit เพื่อปกปิดตัวตน ✅ Tor ถูกใช้เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ที่ถูกบล็อกในประเทศเผด็จการ ➡️ เช่น BBC และ Facebook มีเวอร์ชันเฉพาะบน Tor ✅ Tor ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐฯ และองค์กรสิทธิมนุษยชน ➡️ เช่น EFF, Human Rights Watch, Google และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ✅ Cypherpunks เป็นกลุ่มผู้ผลักดันการเข้ารหัสเพื่อเสรีภาพดิจิทัล ➡️ เตือนว่าอินเทอร์เน็ตอาจกลายเป็นเครื่องมือของรัฐเผด็จการ ✅ Tor Browser ไม่เก็บประวัติการใช้งาน และลบ cookies ทุกครั้งที่ปิด ➡️ ป้องกันการติดตามและการระบุตัวตนจากเว็บไซต์ ✅ Tor ถูกใช้ในเหตุการณ์ Arab Spring เพื่อหลีกเลี่ยงการเซ็นเซอร์ ➡️ ช่วยให้ผู้คนเข้าถึงโซเชียลมีเดียและข่าวสารที่ถูกบล็อก ✅ Tor เป็นโอเพ่นซอร์สและมีผู้ใช้งานหลายล้านคนทั่วโลก ➡️ มีโหนด relays กว่าหลายพันจุดที่ดำเนินการโดยอาสาสมัคร ✅ Tor Browser มีฟีเจอร์ป้องกัน fingerprinting และการติดตามขั้นสูง ➡️ ถูกนำไปใช้ในเบราว์เซอร์อื่น เช่น Firefox ผ่านโครงการ Tor Uplift ✅ Tor สามารถใช้ร่วมกับ VPN เพื่อเพิ่มความปลอดภัยอีกชั้น ➡️ โดยเฉพาะในประเทศที่มีการตรวจสอบการเชื่อมต่อ Tor https://thereader.mitpress.mit.edu/the-secret-history-of-tor-how-a-military-project-became-a-lifeline-for-privacy/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • หม่ำแล้วตามมาคลอเคลีย น่ารักเน้อ
    หม่ำแล้วตามมาคลอเคลีย น่ารักเน้อ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 34 มุมมอง 0 รีวิว
  • โฆษกกลาโหมกัมพูชา แถลงยังไม่ได้รับรายงานทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด นอกจากได้เห็นจากสื่อไทย อ้างกัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง หวังว่าไทยจะเคารพเช่นกัน โดยเฉพาะข้อ 2 ห้ามเคลื่อนกำลัง ไม่ลาดตระเวนเลยเขตของตน

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075772

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    โฆษกกลาโหมกัมพูชา แถลงยังไม่ได้รับรายงานทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิด นอกจากได้เห็นจากสื่อไทย อ้างกัมพูชาเคารพข้อตกลงหยุดยิง หวังว่าไทยจะเคารพเช่นกัน โดยเฉพาะข้อ 2 ห้ามเคลื่อนกำลัง ไม่ลาดตระเวนเลยเขตของตน อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000075772 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 458 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องวิจัย Tesla: เมื่อ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องยุติลง และ Elon หันไปพึ่ง Nvidia กับ AMD

    ย้อนกลับไปในปี 2021 Tesla เปิดตัวโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปแบบ wafer-scale เพื่อฝึก AI สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) และหุ่นยนต์ Optimus โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพา Nvidia และสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองเพื่อควบคุมทุกมิติของการประมวลผล AI

    แต่ล่าสุด Elon Musk ตัดสินใจยุติโครงการ Dojo อย่างเป็นทางการ โดยมีการยุบทีมงานและย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่นภายใน Tesla ขณะเดียวกัน Peter Bannon หัวหน้าโครงการ Dojo ก็เตรียมลาออก และมีสมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI

    Tesla จะหันไปพึ่งพา Nvidia และ AMD มากขึ้น โดย TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับรถ Tesla รุ่นใหม่ในปี 2025 และ Samsung จะผลิต AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ Musk ยังกล่าวว่าเขาอยากให้ชิปที่ใช้ในรถยนต์และเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานร่วมกัน

    Tesla ยุติโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป wafer-scale
    โครงการเริ่มในปี 2021 เพื่อฝึก AI สำหรับ FSD และ Optimus

    Elon Musk สั่งยุบทีม Dojo และย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่น
    Peter Bannon หัวหน้าโครงการเตรียมลาออก

    สมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI
    เน้นพัฒนา AI สำหรับหุ่นยนต์และยานยนต์

    Tesla จะเพิ่มการพึ่งพา Nvidia และ AMD สำหรับฮาร์ดแวร์ AI
    Nvidia ยังคงเป็นผู้จัดหา GPU ส่วน AMD จะมีบทบาทมากขึ้น

    TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับ Tesla ในปี 2025
    Samsung จะผลิตชิป AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ

    Musk ต้องการให้ชิปในรถและเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน
    เพื่อใช้ร่วมกันได้ทั้งใน Optimus และระบบคลัสเตอร์

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/tesla-scraps-custom-dojo-wafer-level-processor-initiative-dismantles-team-musk-to-lean-on-nvidia-and-amd-more
    🚗🧠 เรื่องเล่าจากห้องวิจัย Tesla: เมื่อ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ต้องยุติลง และ Elon หันไปพึ่ง Nvidia กับ AMD ย้อนกลับไปในปี 2021 Tesla เปิดตัวโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิปแบบ wafer-scale เพื่อฝึก AI สำหรับระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ (FSD) และหุ่นยนต์ Optimus โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพา Nvidia และสร้างฮาร์ดแวร์ของตัวเองเพื่อควบคุมทุกมิติของการประมวลผล AI แต่ล่าสุด Elon Musk ตัดสินใจยุติโครงการ Dojo อย่างเป็นทางการ โดยมีการยุบทีมงานและย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่นภายใน Tesla ขณะเดียวกัน Peter Bannon หัวหน้าโครงการ Dojo ก็เตรียมลาออก และมีสมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI Tesla จะหันไปพึ่งพา Nvidia และ AMD มากขึ้น โดย TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับรถ Tesla รุ่นใหม่ในปี 2025 และ Samsung จะผลิต AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ Musk ยังกล่าวว่าเขาอยากให้ชิปที่ใช้ในรถยนต์และเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน เพื่อความสะดวกในการพัฒนาและใช้งานร่วมกัน ✅ Tesla ยุติโครงการ Dojo ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ชิป wafer-scale ➡️ โครงการเริ่มในปี 2021 เพื่อฝึก AI สำหรับ FSD และ Optimus ✅ Elon Musk สั่งยุบทีม Dojo และย้ายบุคลากรไปยังแผนกอื่น ➡️ Peter Bannon หัวหน้าโครงการเตรียมลาออก ✅ สมาชิกทีมกว่า 20 คนย้ายไปสร้างสตาร์ทอัพใหม่ชื่อ DensityAI ➡️ เน้นพัฒนา AI สำหรับหุ่นยนต์และยานยนต์ ✅ Tesla จะเพิ่มการพึ่งพา Nvidia และ AMD สำหรับฮาร์ดแวร์ AI ➡️ Nvidia ยังคงเป็นผู้จัดหา GPU ส่วน AMD จะมีบทบาทมากขึ้น ✅ TSMC จะผลิตชิป AI5 สำหรับ Tesla ในปี 2025 ➡️ Samsung จะผลิตชิป AI6 รุ่นถัดไปในช่วงปลายทศวรรษ ✅ Musk ต้องการให้ชิปในรถและเซิร์ฟเวอร์มีสถาปัตยกรรมเดียวกัน ➡️ เพื่อใช้ร่วมกันได้ทั้งใน Optimus และระบบคลัสเตอร์ https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/tesla-scraps-custom-dojo-wafer-level-processor-initiative-dismantles-team-musk-to-lean-on-nvidia-and-amd-more
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 153 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากห้องประชุม: CISO ผู้นำความมั่นคงไซเบอร์ที่องค์กรยุคใหม่ขาดไม่ได้

    ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กร ตำแหน่ง “CISO” หรือ Chief Information Security Officer จึงกลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดในระดับผู้บริหาร โดยมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและระบบดิจิทัลทั้งหมดขององค์กร

    แต่รู้ไหมว่า...มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือเท่านั้นที่มี CISO และในบริษัทที่มีรายได้เกินพันล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 15%! หลายองค์กรยังมองว่า cybersecurity เป็นแค่ต้นทุนด้าน IT ไม่ใช่ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ทำให้ CISO บางคนต้องรายงานต่อ CIO หรือ CSO แทนที่จะได้ที่นั่งในห้องประชุมผู้บริหาร

    CISO ที่มีอำนาจจริงจะต้องรับผิดชอบตั้งแต่การวางนโยบายความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยง การตอบสนองเหตุการณ์ ไปจนถึงการสื่อสารกับบอร์ดและผู้ถือหุ้น พวกเขาต้องมีทั้งความรู้ด้านเทคนิค เช่น DNS, VPN, firewall และความเข้าใจในกฎหมายอย่าง GDPR, HIPAA, SOX รวมถึงทักษะการบริหารและการสื่อสารเชิงธุรกิจ

    ในปี 2025 บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI, การควบรวมกิจการ และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ทำให้พวกเขากลายเป็น “ผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร” ไม่ใช่แค่ “ผู้เฝ้าประตูระบบ”

    CISO คือผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    ดูแลทั้งระบบ IT, นโยบาย, การตอบสนองเหตุการณ์ และการบริหารความเสี่ยง

    มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือที่มี CISO
    และเพียง 15% ของบริษัทที่มีรายได้เกิน $1B ที่มี CISO ในระดับ C-suite

    CISO ที่รายงานตรงต่อ CEO หรือบอร์ดจะมีอิทธิพลมากกว่า
    ช่วยให้การตัดสินใจด้านความปลอดภัยมีน้ำหนักในเชิงกลยุทธ์

    หน้าที่หลักของ CISO ได้แก่:
    Security operations, Cyber risk, Data loss prevention, Architecture, IAM, Program management, Forensics, Governance

    คุณสมบัติของ CISO ที่ดีต้องมีทั้งพื้นฐานเทคนิคและทักษะธุรกิจ
    เช่น ความเข้าใจใน DNS, VPN, ethical hacking, compliance และการสื่อสารกับผู้บริหาร

    บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI และการควบรวมกิจการ
    ทำให้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ไม่ใช่แค่ฝ่ายเทคนิค

    มีการแบ่งประเภท CISO เป็น 3 กลุ่ม: Strategic, Functional, Tactical
    Strategic CISO มีอิทธิพลสูงสุดในองค์กรและได้รับค่าตอบแทนสูง

    ความท้าทายใหม่ของ CISO ได้แก่ภัยคุกคามจาก AI, ransomware และ social engineering
    ต้องใช้แนวทางป้องกันที่ปรับตัวได้และเน้นการฝึกอบรมพนักงาน

    การมี CISO ที่มี visibility ในบอร์ดช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและโอกาสเติบโต
    เช่น การสร้างความสัมพันธ์กับบอร์ดนอกการประชุม

    https://www.csoonline.com/article/566757/what-is-a-ciso-responsibilities-and-requirements-for-this-vital-leadership-role.html
    🛡️🏢 เรื่องเล่าจากห้องประชุม: CISO ผู้นำความมั่นคงไซเบอร์ที่องค์กรยุคใหม่ขาดไม่ได้ ในยุคที่ข้อมูลคือทรัพย์สินที่มีค่าที่สุดขององค์กร ตำแหน่ง “CISO” หรือ Chief Information Security Officer จึงกลายเป็นหนึ่งในบทบาทที่สำคัญที่สุดในระดับผู้บริหาร โดยมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของข้อมูลและระบบดิจิทัลทั้งหมดขององค์กร แต่รู้ไหมว่า...มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือเท่านั้นที่มี CISO และในบริษัทที่มีรายได้เกินพันล้านดอลลาร์ ตัวเลขนี้ลดลงเหลือเพียง 15%! หลายองค์กรยังมองว่า cybersecurity เป็นแค่ต้นทุนด้าน IT ไม่ใช่ความเสี่ยงเชิงกลยุทธ์ ทำให้ CISO บางคนต้องรายงานต่อ CIO หรือ CSO แทนที่จะได้ที่นั่งในห้องประชุมผู้บริหาร CISO ที่มีอำนาจจริงจะต้องรับผิดชอบตั้งแต่การวางนโยบายความปลอดภัย การจัดการความเสี่ยง การตอบสนองเหตุการณ์ ไปจนถึงการสื่อสารกับบอร์ดและผู้ถือหุ้น พวกเขาต้องมีทั้งความรู้ด้านเทคนิค เช่น DNS, VPN, firewall และความเข้าใจในกฎหมายอย่าง GDPR, HIPAA, SOX รวมถึงทักษะการบริหารและการสื่อสารเชิงธุรกิจ ในปี 2025 บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI, การควบรวมกิจการ และการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล ทำให้พวกเขากลายเป็น “ผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร” ไม่ใช่แค่ “ผู้เฝ้าประตูระบบ” ✅ CISO คือผู้บริหารระดับสูงที่รับผิดชอบด้านความปลอดภัยของข้อมูล ➡️ ดูแลทั้งระบบ IT, นโยบาย, การตอบสนองเหตุการณ์ และการบริหารความเสี่ยง ✅ มีเพียง 45% ของบริษัทในอเมริกาเหนือที่มี CISO ➡️ และเพียง 15% ของบริษัทที่มีรายได้เกิน $1B ที่มี CISO ในระดับ C-suite ✅ CISO ที่รายงานตรงต่อ CEO หรือบอร์ดจะมีอิทธิพลมากกว่า ➡️ ช่วยให้การตัดสินใจด้านความปลอดภัยมีน้ำหนักในเชิงกลยุทธ์ ✅ หน้าที่หลักของ CISO ได้แก่: ➡️ Security operations, Cyber risk, Data loss prevention, Architecture, IAM, Program management, Forensics, Governance ✅ คุณสมบัติของ CISO ที่ดีต้องมีทั้งพื้นฐานเทคนิคและทักษะธุรกิจ ➡️ เช่น ความเข้าใจใน DNS, VPN, ethical hacking, compliance และการสื่อสารกับผู้บริหาร ✅ บทบาทของ CISO ขยายไปสู่การกำกับดูแล AI และการควบรวมกิจการ ➡️ ทำให้กลายเป็นผู้ขับเคลื่อนกลยุทธ์องค์กร ไม่ใช่แค่ฝ่ายเทคนิค ✅ มีการแบ่งประเภท CISO เป็น 3 กลุ่ม: Strategic, Functional, Tactical ➡️ Strategic CISO มีอิทธิพลสูงสุดในองค์กรและได้รับค่าตอบแทนสูง ✅ ความท้าทายใหม่ของ CISO ได้แก่ภัยคุกคามจาก AI, ransomware และ social engineering ➡️ ต้องใช้แนวทางป้องกันที่ปรับตัวได้และเน้นการฝึกอบรมพนักงาน ✅ การมี CISO ที่มี visibility ในบอร์ดช่วยเพิ่มความพึงพอใจในงานและโอกาสเติบโต ➡️ เช่น การสร้างความสัมพันธ์กับบอร์ดนอกการประชุม https://www.csoonline.com/article/566757/what-is-a-ciso-responsibilities-and-requirements-for-this-vital-leadership-role.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    What is a CISO? The top IT security leader role explained
    The chief information security officer (CISO) is the executive responsible for an organization’s information and data security. Here’s what it takes to succeed in this role.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 179 มุมมอง 0 รีวิว

  • ตอน 13
    มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น
    เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี
    อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย)
    อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี)
    และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน
    ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989
    สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน
    สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก
    แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ
    เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น
    ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ
    ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่
    พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน)
    ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน
    เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน)
    เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน!
    แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง
    แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย!
    ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ)
    รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย
    บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว
    พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน
    พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร
    คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน
    เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้
    มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม
    แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น

    คนเล่านิทาน



    เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น
    นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด

    ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้
    ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า

    สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?!
    ๑๓-๑
     ตอน 13 มีคนมากระตุกแขนนิดๆ เอ! แล้ว พี่เบิ้มเขาทำไมเปลี๊ยนไป จากยุ่งกะสมันน้อยถึงขนาดเอาลงเปลเห่กล่อม แล้วช่วงนี้เขาหายไปไหนล่ะลุง ก็บอก แล้วไง พี่เบิ้มเขาเป็นจิ๊กโก๋๋ปากซอย ซอยไทยแลนด์นี้ เขาคุมเบ็ดเสร็จแล้ว วางแผนแล้วว่า ต้องมีวินมอเตอร์ไซด์ ตรงไหน คิวเป็นอย่างไร เขาไม่อยู่ใครดูแลแทน เส้นทางเป็นอย่างไร เก็บเงินอย่างไร ใครมาเบ่ง ตีหัวมันอย่างไร เจอสาวสวยนุ่งกระโปรงสั้นให้นั่งฟรีได้ไหม จัดไว้หมด ว่าแล้วก็ขยายไปดูซอยอื่น เวลาพี่เบิ้มเขาไปยุ่งกับภูมิภาคอื่น จะสังเกตง่าย ๆ ไปอยู่ที่ไหน ความ ฉ ห ก็เกิดขึ้นแถวนั้นแหละ เพราะอเมริกาหากินหรืออยู่ได้ด้วย 2 กรรมวิธี อย่างแรก ขโมยทรัพยากรชาวบ้าน (จิ๊กโก๋๋ขี้ขโมย) อย่างที่สอง สร้างสงครามเพื่อขายอาวุธ (จิ๊กโก๋๋ชวนตี) และทั้ง 2 เรื่อง มันก็โยงกัน ขบวนการก็ไม่ยาก หาเรื่องไปทะเลาะกับชาวบ้าน หรือหาเรื่องให้คนในบ้านทะเลาะกันเอง มีแค่นี้แหละ ดูไม่ยากหรอกเช่น กรณีสหภาพโซเวียต ก็ใช้วิธีปิดล้อมโซเวียต ยุโรปตะวันออก จนในที่สุดกำแพง เบอร์ลินทะลายในปี ค.ศ.1989 สหภาพโซเวียตล่ม แตกกระจุย แล้วก็รบกันเอง จากเป็นสหภาพโซเวียต ท้ายสุดแตกเป็นหลายสิบประเทศ จนจำชื่อไม่ไหว เล่นเอาพี่เบิ้มผลิตอาวุธไป หัวร่อไป ขายแทบไม่ทัน สำหรับคุณอาแถวทะเลทราย พี่เบิ้มก็ยุแยง ทำให้แตกกัน วุ่นวายกัน ทะเลาะกันเองเพราะ พี่เบิ้มคิดจะขโมยน้ำมันเขา เลยใช้วิธีกล่าวหาว่าบ้านโน้นหักหลังบ้านนี้ บ้านนี้สะสมอาวุธ สารพัดจะโกหก แต่มันก็ได้ผลนะ อิหร่านรบกับอิรัก อิรักรบกับคูเวต อียิปต์ทะเลาะกับอิสราเอล อิสราเอลทะเลาะกับเลบานอน ซีเรียทะเลาะกันเอง ปาเลสไตน์ทะเลาะกับอิสราเอล ตุรกีทะเลาะกับอิหร่าน ตอนนี้อียิปต์กลับมาทะเลาะกันเองอีกฯลฯ เป็นไงฝีมือพี่เบิ้มไหม เข้าไปที่ไหนฉิบหายที่นั่น ยังไม่พอ เสือกต่อไปยุ่งแถวอเมริกาใต้ อาฟริกา วุ่นไปถึงอาฟกานิสถาน อันสุดท้ายนี้น่าสงสารมาก ประชาชนเขาจนจะตายอยู่แล้ว ยังไปทำให้เขาแตกแยก เพื่อฉวยโอกาสยึดทรัพยากรเขาอย่างหน้าด้านๆ ชั่วได้ใจจริงๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดหมาดๆ คือ อิรัก หาว่าเขามีนิวเคลียร์ พี่เบิ้มยืนเท้ากระเอว ชี้นิ้วสั่งให้ UN ส่งคนไปตรวจไปดูเดี๋ยวนี้นะ CNN ก็ประโคมทำข่าวรายงานการตรวจทุกวัน แต่ผลปรากฏว่าไม่เจออะไรในก่อไผ่ พี่เบิ้มเสียหน้า แก้เกี้ยว ยกทัพไปจับ ตั๊กกะแตนเองเลย รบไป 8 ปี อิรักฉิบหายทั้งประเทศ มีผู้ลี้ภัยหนีไปนอกประเทศ 4.7 ล้านคน (16% ของประชาชน) ประชาชนพลัดถิ่นในประเทศ 2.7 ล้านคน เด็ก 5 ล้านคน เป็นกำพร้า (35% ของประชาชน) เพียงเพราะจิ๊กโก๋๋อยากได้น้ำมันเขา แล้วไง ตอนยกทัพเข้าไปอ้างว่ามีอาวุธนิวเคลียร์ ผู้นำแบบซัดดัมข่มเหงประชาชน พอเก็บซัดดัมได้ ยึดเมืองเขาแล้วเจอไหม นิวเคลียร์ที่อ้างน่ะ เจอแต่บ่อน้ำมัน! แบบนี้มันน่าส่งพี่ตุ๊ดตู่ กะป้าธิดาไปทวงถามความเป็นธรรมให้ประชาชนอิรักซะให้เข็ด ! แล้วท่านผู้อ่านอย่าลืมไปหาเรื่องสงครามอิรักมาอ่านต่อเป็นอุทาหรณ์นะครับ  เผื่อมันจะมาเกิดแถวนี้จะได้รู้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง แล้วบ้านเราล่ะ พี่เบิ้มเขาใช้วิธีไหน เข้ามาเดินกร่างอยู่ในซอย! ขอพูดถึงอาฟกานิสถาน ต่ออีกหน่อย เพราะเป็นเหยื่อพี่เบิ้มที่นาสงสารมาก ถูกเอาประเทศเป็นสนามรบมาเกือบ 20 ปี จนบัดนี้ยังไม่เลิก ประชาชนก็จนลง จนลง อัฟกานิสถานได้ถูกระบุอยู่ในรายงานของเพนตากอน (Pentagon) ว่า เป็นประเทศที่มีแหล่งทรัพยากรแร่ธาตุสูงสุดที่ยังเหลืออยู่ในโลก (ก็ไอ้ที่มีๆ น่ะ พวกนักล่ามันเอาไปหมดแล้ว เหลือเจ้านี้หลุดตามาได้ ก็เพราะสภาพภูมิศาสตร์ของประเทศ) รัสเซียเข้าไปก่อน เพราะอยู่ใกล้กว่าพี่เบิ้มอเมริกา แบบนี้มันหักหน้ากันนี้หว่า จิ๊กโก๋๋จะทนได้ยังไง ว่าแล้วก็โดดเข้าไป ไอจะปกป้องยูเอง จากการคุกคามของรัสเซีย บทนี้คุ้นๆ ไหม แหม! คุณโดโนแวน เอ๊ย! จอห์น เวน มาเอง อีกแล้ว พี่เบิ้มลงทุนฝึกอาวุธให้ชาวอาฟกัน ต่อสู้กับรัสเซีย แถมส่งมือดีไปช่วย มือดีนั้นใคร ทายถูกไม่มีรางวัล .. มือดีก็คือ พี่บิน ลาเดน ไง เอ๊ะ อย่าทำเป็นงง พี่บินมาได้ไงกัน พี่บิน ลาเดน เป็นเศรษฐีอยู่ซาอุ มิตรรักของอเมริกาเขาไง ซี้ย่ำปึก ไอจะไปบุกที่ไหนยูไปด้วยไม๊ ไปไหนไปกัน พี่บินถึงได้รบเก่ง แถมรู้แกวรู้แนวการรบการจิ๊กโก๋๋หมด ก็จิ๊กโก๋๋ฝึกให้เขาเองนี่นะ อาวุธก็ส่งให้จะไปโทษใคร แล้วดันมาแตกคอกันเอง หักหลังกัน ซะหลังหักแต่ไม่รู้ใครหักกว่าใคร คงจำกันได้ ตอนพี่เบิ้มสั่งเก็บพี่บิน ภาพพี่บินหลังโดนถล่มยับที่บ้านลับ น่าขำมาก รูปถ่ายตอนตาย วางหน้ารูปถ่ายเหมือนตอนเป็นเปี๊ยบเลย เพียงแต่หน้าเยินกว่าเท่านั้น ไม่รู้มันจะหลอกใครกัน เล่าไป เล่ามา เกือบลืมเรื่องสำคัญ แร่ธาตุ ที่อาฟกานิสถานมีมาก คือโปแตส ยูเรเนียม และทองคำ 2 อย่างแรก เหมาะสำหรับทำอะไร เร็ว เข้าไปกดกูเกิลดู ก็รู้ มันเหมาะสำหรับทำทุกอย่าง เป็นสารนำในการผลิตอุตสาหกรรมและที่สำคัญเหมาะสำหรับทำระเบิดครับผม แล้วใครล่ะ ผลิตอาวุธ ผลิตระเบิดขาย จนรวยล้น คนเล่านิทาน เป็นเอกสาร ต้ังแต่ปี 1951 เป็นรายงานการสนทนา ระหว่าง จอมพล ป สมัยเป็น นายกฯ กับ นาย Edwin Stanton ฑูดเอมริกา ประจำไทย ซึ่งฑูด มีไปถึงต้นสังกัด ดูจากเอกสาร เหมือนอเมริกามีความเป็นห่วงไทย ว่าจะมีน้ำมันไม่พอใช้ ดูอีกที มันเป็นการมาล้วงตับเรา เพราะบอกให้ทางไทย แสดงรายละเอียดความต้องการของน้ำมัน ของหน่วยงานของเราแต่ละหน่วย แต่ความจรืงน่าจะเพราะ กลัวน้ำมันไปตกอยู่ในมือคอมมิวนิสต์มากกว่า สรุป น้ำมัน เป็นประเด็นใหญ่ของจิ๊กโก๋ ต้ังกะสมัยนั้น ถึงสมัยนี้ !?! ๑๓-๑
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 174 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทหารไทยเคลียร์พื้นที่ ภูมะเขือ พบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น พร้อมกระสุนและอาวุธอีกมาก หลังการสู้รบยุติ ชี้เป็นหลักฐานสำคัญยืนยันกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน

    ย่อข่าว..https://news1live.com/detail/9680000075686

    #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    ทหารไทยเคลียร์พื้นที่ ภูมะเขือ พบ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล PMN-2 จำนวน 18 ทุ่น พร้อมกระสุนและอาวุธอีกมาก หลังการสู้รบยุติ ชี้เป็นหลักฐานสำคัญยืนยันกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน ย่อข่าว..https://news1live.com/detail/9680000075686 #News1Feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #CambodiaOpenedFire #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ภูมิธรรม" เสียใจเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิดชายแดน ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สั่ง กต.เก็บหลักฐานยื่นร้อง ผิดอนุสัญญายาออตตาวา ขอใช้กลไก RBC เคลียร์เหตุ เชื่อไม่บานปลายเกิดปะทะรอบ 2

    วันนี้(9 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิด ที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์ - กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมาว่า ตนได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกองร้อย ร.111 ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ใช่ในหมู่บ้าน แต่เป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการเจาะเป็นช่อง เพื่อเป็นการป้องกันการหลุดรอดเข้ามา แต่ถึงอย่างไรตนขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางปฏิบัติไม่ใช่การที่จะนำไปสู่ความเข้าใจกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เรามีการบันทึกรายละเอียดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ เพราะอย่างไรเราก็ต้องบันทึกในเรื่องนี้ เพื่อจะนำเข้าสู่อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่เราก็ต้องดำเนินการตรวจและระมัดระวัง เคลียร์พื้นที่อื่นตามไป ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้มีการเคลียร์พื้นที่ไปแล้วกว่า 400 ลูก

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000075666

    #MGROnline #ทหารเหยียบทุ่นระเบิด #ชายแดน #ศรีสะเกษ #ผิดอนุสัญญายาออตตาวา
    "ภูมิธรรม" เสียใจเหตุทหารเหยียบทุ่นระเบิดชายแดน ศรีสะเกษ บาดเจ็บ 3 นาย สั่ง กต.เก็บหลักฐานยื่นร้อง ผิดอนุสัญญายาออตตาวา ขอใช้กลไก RBC เคลียร์เหตุ เชื่อไม่บานปลายเกิดปะทะรอบ 2 • วันนี้(9 ส.ค.) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเหตุเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิด ที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์ - กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษ เมื่อเวลา 10:00 น. ที่ผ่านมาว่า ตนได้รับรายงานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นกองร้อย ร.111 ขณะนี้กำลังตรวจสอบ ซึ่งเป็นพื้นที่ไม่ใช่ในหมู่บ้าน แต่เป็นพื้นที่ที่มีการดำเนินการเจาะเป็นช่อง เพื่อเป็นการป้องกันการหลุดรอดเข้ามา แต่ถึงอย่างไรตนขอแสดงความเสียใจกับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทางปฏิบัติไม่ใช่การที่จะนำไปสู่ความเข้าใจกัน แต่อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เรามีการบันทึกรายละเอียดส่งให้กระทรวงการต่างประเทศ เพราะอย่างไรเราก็ต้องบันทึกในเรื่องนี้ เพื่อจะนำเข้าสู่อนุสัญญาออตตาวาว่าด้วยการห้ามใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อแสดงให้เห็นว่ายังมีสิ่งเหล่านี้อยู่ แต่เราก็ต้องดำเนินการตรวจและระมัดระวัง เคลียร์พื้นที่อื่นตามไป ซึ่งจังหวัดสุรินทร์ได้มีการเคลียร์พื้นที่ไปแล้วกว่า 400 ลูก • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/politics/detail/9680000075666 • #MGROnline #ทหารเหยียบทุ่นระเบิด #ชายแดน #ศรีสะเกษ #ผิดอนุสัญญายาออตตาวา
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุคนี้โดรนสำคัญ ดาวเทียมสำคัญมากด้วย,รัฐบาลชุดนี้ไม่ทันโลกทันหมากทันเกมส์ค่าจริงของโลกมาก อ่อนด้อยไร้ฝีมือและไม่เป็นทีมงานที่เป็นมืออาชีพ,การปกครองยุคนี้จะมาเหี้ยเล่นๆแบบในอดีตไม่ได้แล้วจริงๆ,ผู้นำพลาดคือหายนะของชาติไทยและคนไทยเราทุกๆคนด้วย,จะมาเล่นการเมืองแบยอดีตรุ่นเดอะรุ่นน้ำหมากชายชราแบบเดิมไม่ได้,แบบชูสามนิ้วเหี้ยนั้นก็ไม่ใช่เพราะคำว่ารักประชาชนรักแผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองตนเองไม่มีในหัวใจพวกมันแน่นอนรุ่นใหม่ลักษณะนั้นก็ด้วย เป็นได้แต่ทาสและขี้ข้าเขาเท่านั้น หลอกคนไทยให้หลงผิดชัด้จนด้วยต้องกำจัดทิ้งสถานเดียวเช่นกัน,
    ..
    ..ยุคอนาคตใครควบคุมโดรนได้คือผู้ชนะในสนามรบผิวดิน,ใครควบคุมท้องฟ้าบรรยากาศได้ก็ชนะโดรนเช่นกัน,ใครควบคุมดาวเทียมได้แมร่งชนะทุกๆสนามสงครามเพราะดาวเทียมยิงทุกๆโดรนได้ ร่วงหมดทุกๆความถี่ล่ะ ลำแสงความถี่คลื่นปืนคลื่นความถี่ยิงโดรนนั้นเอง,จะครอบคลุมแคบกว้างได้หมด,ตรวจจับผู้บังคับโดรนผ่านดาวเทียมแล้วจัดการด้วยปืนลำแสงจากดาวเทียม คนบินโดรนดับอนาถแน่นอน,รวมทั้งโดรนด้วย,มันเห็นทุกๆการเคลื่อนไหวของข้าศึกทั้งที่มืดและที่แจ้งแล้วจะเหลืออะไร,กล้องดาวเทียมซูมจนเห็นรูขุมขนโน้น ทะลุผ่านตึกก็ได้ ,ระเบิดEMPชนิดพิเศษยิงจัดการดาวเทียมระเบิดทั่วอวกาศจึงสำคัญไม่แพ้กันตราบใดที่ยังใช้เทคโนโลยีไม่พิเศษก็ทำลายวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้,คือดาวเทียมยิงลงมาผิวโลกระเบิดเป้าหมายศูนย์บัญชาการทหารผิวดินได้ก็อักเสบเหมือนกันล่ะอาจแพ้รบตอนนั้นของสนามรบจุดนั้นก็ได้อีก,ไทยเราจึงต้องมีผู้นำผู้ปกครองไม่กากไม่กระจอกไง อย่างน้อยรับฟังความคิดอ่านผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ตราบใดที่ผู้ปกครองมิใช่คนเหนือมนุษย์มีพลังงานทำลายล้างด้วยตนเองได้แบบโงกุนดราก้อนบอลก็ว่า,
    ..
    ..ทหารไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ ศัตรูข้าศึกเรามีรอบด้านนะ,ความสามัคคีประชาชนคนไทยยังไม่พอ ต้องมีผู้นำที่มิใช่ปัจจุบันนี้ด้วย ประเทศไทยจึงจะรอด และอาจคือคนกลางจริงๆที่เป็นประเทศแรกในโลกที่สามารถให้จีนให้รัสเชียจับมือกับอเมริกาเพื่อสร้างสงบสุขสันติแก่โลกเราจริงๆก็ได้ ,มิใช่ปาหี่เจรจาผีบ้าแบบปัจจุบัน,ยกเลิกMOU43/44ก็จบแล้ว,แล้วใช้จริงที่1:50,000 ทุกๆการหยุดยิงจะเป็นจริงทันที,เรื่องทั้งหมดเพราะกอด43/44นี้ไว้,โดรนพวกนี้จะมาใช้จริงก็ต้นเหตุเกิดจากmou43/44นี้,ตกลงร่วมกันใช้1:50,000อันเดิมก็จบ.ไม่จบก็สิ้นชาติเขมรเลย,ยึดมาแล้วแบ่งลาวแบ่งเวียดนามให้สิ้นเรื่อง.
    ยุคนี้โดรนสำคัญ ดาวเทียมสำคัญมากด้วย,รัฐบาลชุดนี้ไม่ทันโลกทันหมากทันเกมส์ค่าจริงของโลกมาก อ่อนด้อยไร้ฝีมือและไม่เป็นทีมงานที่เป็นมืออาชีพ,การปกครองยุคนี้จะมาเหี้ยเล่นๆแบบในอดีตไม่ได้แล้วจริงๆ,ผู้นำพลาดคือหายนะของชาติไทยและคนไทยเราทุกๆคนด้วย,จะมาเล่นการเมืองแบยอดีตรุ่นเดอะรุ่นน้ำหมากชายชราแบบเดิมไม่ได้,แบบชูสามนิ้วเหี้ยนั้นก็ไม่ใช่เพราะคำว่ารักประชาชนรักแผ่นดินไทยบ้านเกิดเมืองตนเองไม่มีในหัวใจพวกมันแน่นอนรุ่นใหม่ลักษณะนั้นก็ด้วย เป็นได้แต่ทาสและขี้ข้าเขาเท่านั้น หลอกคนไทยให้หลงผิดชัด้จนด้วยต้องกำจัดทิ้งสถานเดียวเช่นกัน, .. ..ยุคอนาคตใครควบคุมโดรนได้คือผู้ชนะในสนามรบผิวดิน,ใครควบคุมท้องฟ้าบรรยากาศได้ก็ชนะโดรนเช่นกัน,ใครควบคุมดาวเทียมได้แมร่งชนะทุกๆสนามสงครามเพราะดาวเทียมยิงทุกๆโดรนได้ ร่วงหมดทุกๆความถี่ล่ะ ลำแสงความถี่คลื่นปืนคลื่นความถี่ยิงโดรนนั้นเอง,จะครอบคลุมแคบกว้างได้หมด,ตรวจจับผู้บังคับโดรนผ่านดาวเทียมแล้วจัดการด้วยปืนลำแสงจากดาวเทียม คนบินโดรนดับอนาถแน่นอน,รวมทั้งโดรนด้วย,มันเห็นทุกๆการเคลื่อนไหวของข้าศึกทั้งที่มืดและที่แจ้งแล้วจะเหลืออะไร,กล้องดาวเทียมซูมจนเห็นรูขุมขนโน้น ทะลุผ่านตึกก็ได้ ,ระเบิดEMPชนิดพิเศษยิงจัดการดาวเทียมระเบิดทั่วอวกาศจึงสำคัญไม่แพ้กันตราบใดที่ยังใช้เทคโนโลยีไม่พิเศษก็ทำลายวงจรอิเล็กทรอนิกส์ได้,คือดาวเทียมยิงลงมาผิวโลกระเบิดเป้าหมายศูนย์บัญชาการทหารผิวดินได้ก็อักเสบเหมือนกันล่ะอาจแพ้รบตอนนั้นของสนามรบจุดนั้นก็ได้อีก,ไทยเราจึงต้องมีผู้นำผู้ปกครองไม่กากไม่กระจอกไง อย่างน้อยรับฟังความคิดอ่านผู้ใต้บังคับบัญชาได้ ตราบใดที่ผู้ปกครองมิใช่คนเหนือมนุษย์มีพลังงานทำลายล้างด้วยตนเองได้แบบโงกุนดราก้อนบอลก็ว่า, .. ..ทหารไทยต้องเด็ดขาดจริงๆ ศัตรูข้าศึกเรามีรอบด้านนะ,ความสามัคคีประชาชนคนไทยยังไม่พอ ต้องมีผู้นำที่มิใช่ปัจจุบันนี้ด้วย ประเทศไทยจึงจะรอด และอาจคือคนกลางจริงๆที่เป็นประเทศแรกในโลกที่สามารถให้จีนให้รัสเชียจับมือกับอเมริกาเพื่อสร้างสงบสุขสันติแก่โลกเราจริงๆก็ได้ ,มิใช่ปาหี่เจรจาผีบ้าแบบปัจจุบัน,ยกเลิกMOU43/44ก็จบแล้ว,แล้วใช้จริงที่1:50,000 ทุกๆการหยุดยิงจะเป็นจริงทันที,เรื่องทั้งหมดเพราะกอด43/44นี้ไว้,โดรนพวกนี้จะมาใช้จริงก็ต้นเหตุเกิดจากmou43/44นี้,ตกลงร่วมกันใช้1:50,000อันเดิมก็จบ.ไม่จบก็สิ้นชาติเขมรเลย,ยึดมาแล้วแบ่งลาวแบ่งเวียดนามให้สิ้นเรื่อง.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 0 รีวิว

  • ตอน 11
    ท่านผู้อ่านนิทาน อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว คงพอจะรู้จักจิ๊กโก๋๋ นักล่ารุ่นใหม่ หมายเลข 1 กันบ้างแล้ว

    และคิดว่าจิ๊กโก๋๋เขาจะจบแค่เวียตนาม หรือ เปล่าหรอก หมดธุระเรื่องเวียตนาม เขาได้อย่างที่ต้องการ ตามใบสั่งของนายทุนผู้ค้าอาวุธ ซึ่งกุมคอหอยจิ๊กโก๋๋อีกที แล้วเขาก็เปลี่ยนเข็มทิศ มองไปทางไหนหนอ อ้อ ทางไหนก็ได้ที่มีทรัพยากรของคนอื่น ที่เขาอยากได้ไง
    น้ำมัน น้ำมันไง มาถึงแล้ว จิ๊กโก๋๋มันแสนรู้ จมูกไว
    เมื่อทุนนิยมเข้าไปที่ไหน อุตสาหกรรมก็เกิด เมื่อมีอุตสาหกรรม ก็ต้องอาศัยพลังงาน ทั้งไฟฟ้าและ น้ำมัน แหม! แล้วใครล่ะ ที่มีน้ำมันมีมาก ก็พวกคุณอาทั้งหลาย แถวทะเลทรายไงล่ะ
    ดังนั้นแผนของนักล่า ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเวียตนาม จึงเพ่นพ่าน ถือไม้สามง่ามเล็งหาน้ำมัน นู่นไปนู่นเลย ไปหาประวัติศาสตร์อิหร่านแตก พระเจ้าชาห์หนี ซาอุดิอารเบียจับมือกับอเมริกา สงคราม Gulf War ระหว่างคูเวต อิรัก อเมริกา จนถึงสงครามอิรัก ขอไม่เล่ารายละเอียด เพราะวันนี้จะเขียนที่เกี่ยว กับไทยแลนด์จังๆ ก่อนนะ แต่ถ้าไม่บอกเดี๋ยวท่านผู้อ่านนิทานก็จะงงว่าแล้วไง มันหายไปจากบ้านเรา แล้วมันไปไหน ไปทำอะไร
    ก็อย่างว่า จิ๊กโก๋๋เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก มันก็ไปทำมาหากิน ขุดเผือกขุดมันขุดน้ำมันของคนอื่นเขาละซิ เราก็นึกว่าเขาไม่ยุ่งกะเราแล้ว เปล่าหร๊อก มันแค่เปลี่ยนแนว เหมือนหนังฮอลลีวู้ดเปลี่ยนฉากน่ะ ไม่ต้องตื่นเต้น บทเขาเขียนไว้ต่อเนื่อง ตั้งกะปีมะโว้ อีกร้อยปีก็เล่นไม่จบ เว้นแต่มันจะจบกันไปคนละข้างก่อน
    ระหว่างที่จิ๊กโก๋๋ ย้ายซอยไปขุดเผือกขุดน้ำมันที่อื่น บ้านเราก็อ้างว่า เป็นช่วงเวลาพัฒนาประชาธิปไตย ที่จิ๊กโก๋๋หว่านเมล็ดพันธุ์ไว้ ทุกคนก็ร่ำร้องหาแต่ประชาธิปไตย (ตอนนี้ยังหาอยู่เลย ลูกพระยาพหล อยู่ไหมจ๊ะ ป่านนี้แก่หง่อมหรือลาขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ไม่รู้)
    บ้านเมืองเราก็เลยล้มลุก หกคะเมนตีลังกาตั้งแต่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 จนถึง 6 ตุลาคม พ.ศ.2519
    ถึงจิ๊กโก๋๋จะไปขุดน้ำมัน เขาก็ใช่ว่า จะลืมสมันน้อยนะ จิ๊กโก๋๋ชอบทหาร ก็ของมันคุ้น ของมันเคย รัฐบาลพลเรือน เจอแต่ละคน จิ๊กโก๋๋ก็มึนเหมือนกัน อย่างอาจารย์สัญญาน่ะ เหมือนเป็นพ่อพระ จะสั่งให้พระไปทิ้งระเบิดใคร มันง่ายนักเหรอ แล้วอาจารย์คึกฤทธิ์ล่ะ เล่นด่า Ugly American ใส่ แถมยืนคำขาด กำหนดวันที่พี่เบิ้มต้องถอนทหารอเมริกันให้หมดจากบ้านเราด้วย ส่วนคุณหอยธานินทร์นั้น เกินกว่าจะบรรยาย
    ว่าแล้วการเมืองไทยก็กลับมาอยู่ใน ความครอบงำของทหารเหมือนเดิม แปลกดีไหมคิดสิ เป็นไปตามธรรมชาติ หรือมีใบสั่ง อย่าให้ต้องเขียนรายละเอียด เหมือนสมัยคุณป๋าสฤษดิ์ คุณน้าหนอมเลยนะ เอาย่อๆว่า ไม่มีอะไรลอดสายตาพญาอินทรีหรอก เพียงแต่เขาจะกางกรงเล็บขยุมเราโดยตรง หรือใช้ “วิธีอื่น” เท่านั้นเอง
    หลังจากเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ.2519 เราก็เลยได้ทหารกลับมาบริหารประเทศอีก พล.อ. เกรียงศักดิ์ ทำแกงเนื้อใส่บรั่นดี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 – 2523 พล.อ. ป๋า เจ้าของวลีเด็ด เราเป็น Jockey ไม่ใช่เจ้าของคอก ทำหน้าที่ Jockey  ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 – 2531 พล.อ. น้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ ปี พ.ศ.2531- 2534 ช่วงทหารมีอำนาจบริหารบ้านเมือง ยุคหลัง 14 ตุลา พ.ศ.2516 ต่างกับ ช่วงก่อน 14 ตุลา พ.ศ.2516 อย่างน่าสนใจ

    อย่างที่เล่ามาตอนแรกก่อน 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เรามีจอมพลคนใส่หมวกแล้วชาติเจริญ คุณป๋ารักชาติ และเหล่านักวิ่งผลัด การพัฒนาประเทศช่วงนั้น ถูกกำกับโดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและผู้เชี่ยวชาญต่าง ชาติมาดเข้ม เดินประกบหน้าประกบหลังไทยแลนด์ เอาผ้าห่มวัฒนธรรมอเมริกัน ห่อไทยแลนด์เสียมิด ชิด จนไทยแลนด์ลืมสนิทไปเลย ว่า ไทยแท้เป็นยังไง จำได้แต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกัน
    แต่ช่วงหลัง 14 ตุลา พ.ศ.2516  ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติถูกอัญเชิญออกไปแยะ จากปัจจัยภายในประเทศเราและประเทศเขา แต่พี่เบิ้มเขาก็ไม่ปล่อยเกียร์ว่าง เขาควบคุมด้วยวิธีแยบยล โดยใช้เหล่าข้าราชการที่เรียกว่า Technocrat มาช่วยคุณทหาร บริหารประเทศ
    Technocrat เหล่านี้เป็นใคร ก็เป็นต้นกล้าที่คุณพ่ออเมริกาหว่านเอาไว้ เขาเหล่านั้นเป็นนักเรียนนอก เติบโตมาภายใต้ระบบการศึกษาและแนวคิดของฝรั่ง เรียนแบบถ่ายสำเนาอัดก็อปบี้ออกมาเลย คุณพ่อฝรั่งว่า ขาวก็ขาวด้วย คุณพ่อว่า ดำก็ดำด้วย นี่สี่เหลี่ยม นี่กลม โอ้ย! ท่องจำกันได้หมด แล้วก็กลับเอาคำท่องจำมาใช้สอนต่อ หรือมาใช้ทำงานในบ้านเรา
    ดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอก สมันน้อยไม่ไปไหน คุณพ่อฝรั่งไม่อยู่ คุณพ่อก็ให้พวก good boy technocratเด็กในคาถา มาทำหน้าที่ดูแลแทน นี่ยังไง นักวิชาการ ข้าราชการ สื่อฯลฯ ที่ถูกฟอกย้อมเอาไว้เรียบ ร้อยแบบไม่รู้ตัว… หรือรู้ตัวแต่ชอบ ของย้อมน่ะ… แล้วจะมีอะไรเหลือ …ไทยพันธุ์แท้หายไปไหนหมด เหลือแต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกา!
    แต่เรื่องทุกเรื่องมันก็มีหักมุมนะ คุณน้าชาตินี้แกใช่ย่อยที่ไหน ถึงจะเป็นทหาร แกก็ไม่ได้ฟังเทคโนแครตมากนัก แกตั้งที่ปรึกษาบ้านพิษขึ้นมาเอง พวกนี้ก็มีพิษไปอีกแบบ ไทยแลนด์ก็เลยเหมือนหนีเสือปะจระเข้ หนีชะนีไปเจอค่าง อะไรอย่างนั้นแหละ รัฐบาลคุณน้าชาติ เป็นตัวแปรที่สำคัญ ต้องศึกษากันให้ดีๆ
    คุณน้า แกมีนโยบายล้ำเลิศ จะเปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามค้า แกคิดโครงการแต่ละอัน เด็ดสะระตี่ทั้ง นั้น จะค้าขาย มันก็ต้องมีท่าเรือมารองรับการขนส่ง นั่นมาแล้ว Eastern Sea Board จะติดต่อค้าขายกัน การสื่อ สารมันก็ต้องทันสมัย จะใช้นกพิราบไปเรื่อยๆ ไม่ไหวมั้ง คุณน้าก็ให้คิดโครงการ 3 ล้านเลขหมาย คิดเรื่องดาว เทียม! คิดโครงการขนส่ง Hopewell ระบบทางด่วน ฯลฯ คุณน้าแกช่างคิดหาตังค์จริงๆ ต้องยอมรับ ไม่งั้นจะได้สมญารัฐบาลฟาสต์ฟูดเหรอ
    โครงการต่างๆ เหล่านี้ มันมูลค่ามหึมา ไอ้ 3 เกลอหัวแข็งที่มัวแต่ไปวุ่นๆ อยู่ทางอื่นของโลก ก็หันขวับจนคอเคล็ดมาดู เออ! เฮ้ย! มันกำลังจะทำอะไร สมันน้อยทำไมไม่บอกไอ นี่มันเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น ไอ้พวกgood boy technocrat เด็กๆ ของเราหายไปไหนหมด ทำไม่มันไม่เตือน เขากำลังจะเข้าฮอร์สกันหมดแล้ว

    คนเล่านิทาน
     ตอน 11 ท่านผู้อ่านนิทาน อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว คงพอจะรู้จักจิ๊กโก๋๋ นักล่ารุ่นใหม่ หมายเลข 1 กันบ้างแล้ว และคิดว่าจิ๊กโก๋๋เขาจะจบแค่เวียตนาม หรือ เปล่าหรอก หมดธุระเรื่องเวียตนาม เขาได้อย่างที่ต้องการ ตามใบสั่งของนายทุนผู้ค้าอาวุธ ซึ่งกุมคอหอยจิ๊กโก๋๋อีกที แล้วเขาก็เปลี่ยนเข็มทิศ มองไปทางไหนหนอ อ้อ ทางไหนก็ได้ที่มีทรัพยากรของคนอื่น ที่เขาอยากได้ไง น้ำมัน น้ำมันไง มาถึงแล้ว จิ๊กโก๋๋มันแสนรู้ จมูกไว เมื่อทุนนิยมเข้าไปที่ไหน อุตสาหกรรมก็เกิด เมื่อมีอุตสาหกรรม ก็ต้องอาศัยพลังงาน ทั้งไฟฟ้าและ น้ำมัน แหม! แล้วใครล่ะ ที่มีน้ำมันมีมาก ก็พวกคุณอาทั้งหลาย แถวทะเลทรายไงล่ะ ดังนั้นแผนของนักล่า ตั้งแต่ช่วงหลังสงครามเวียตนาม จึงเพ่นพ่าน ถือไม้สามง่ามเล็งหาน้ำมัน นู่นไปนู่นเลย ไปหาประวัติศาสตร์อิหร่านแตก พระเจ้าชาห์หนี ซาอุดิอารเบียจับมือกับอเมริกา สงคราม Gulf War ระหว่างคูเวต อิรัก อเมริกา จนถึงสงครามอิรัก ขอไม่เล่ารายละเอียด เพราะวันนี้จะเขียนที่เกี่ยว กับไทยแลนด์จังๆ ก่อนนะ แต่ถ้าไม่บอกเดี๋ยวท่านผู้อ่านนิทานก็จะงงว่าแล้วไง มันหายไปจากบ้านเรา แล้วมันไปไหน ไปทำอะไร ก็อย่างว่า จิ๊กโก๋๋เขาไม่ได้หายไปไหนหรอก มันก็ไปทำมาหากิน ขุดเผือกขุดมันขุดน้ำมันของคนอื่นเขาละซิ เราก็นึกว่าเขาไม่ยุ่งกะเราแล้ว เปล่าหร๊อก มันแค่เปลี่ยนแนว เหมือนหนังฮอลลีวู้ดเปลี่ยนฉากน่ะ ไม่ต้องตื่นเต้น บทเขาเขียนไว้ต่อเนื่อง ตั้งกะปีมะโว้ อีกร้อยปีก็เล่นไม่จบ เว้นแต่มันจะจบกันไปคนละข้างก่อน ระหว่างที่จิ๊กโก๋๋ ย้ายซอยไปขุดเผือกขุดน้ำมันที่อื่น บ้านเราก็อ้างว่า เป็นช่วงเวลาพัฒนาประชาธิปไตย ที่จิ๊กโก๋๋หว่านเมล็ดพันธุ์ไว้ ทุกคนก็ร่ำร้องหาแต่ประชาธิปไตย (ตอนนี้ยังหาอยู่เลย ลูกพระยาพหล อยู่ไหมจ๊ะ ป่านนี้แก่หง่อมหรือลาขึ้นสวรรค์ไปแล้วก็ไม่รู้) บ้านเมืองเราก็เลยล้มลุก หกคะเมนตีลังกาตั้งแต่ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 จนถึง 6 ตุลาคม พ.ศ.2519 ถึงจิ๊กโก๋๋จะไปขุดน้ำมัน เขาก็ใช่ว่า จะลืมสมันน้อยนะ จิ๊กโก๋๋ชอบทหาร ก็ของมันคุ้น ของมันเคย รัฐบาลพลเรือน เจอแต่ละคน จิ๊กโก๋๋ก็มึนเหมือนกัน อย่างอาจารย์สัญญาน่ะ เหมือนเป็นพ่อพระ จะสั่งให้พระไปทิ้งระเบิดใคร มันง่ายนักเหรอ แล้วอาจารย์คึกฤทธิ์ล่ะ เล่นด่า Ugly American ใส่ แถมยืนคำขาด กำหนดวันที่พี่เบิ้มต้องถอนทหารอเมริกันให้หมดจากบ้านเราด้วย ส่วนคุณหอยธานินทร์นั้น เกินกว่าจะบรรยาย ว่าแล้วการเมืองไทยก็กลับมาอยู่ใน ความครอบงำของทหารเหมือนเดิม แปลกดีไหมคิดสิ เป็นไปตามธรรมชาติ หรือมีใบสั่ง อย่าให้ต้องเขียนรายละเอียด เหมือนสมัยคุณป๋าสฤษดิ์ คุณน้าหนอมเลยนะ เอาย่อๆว่า ไม่มีอะไรลอดสายตาพญาอินทรีหรอก เพียงแต่เขาจะกางกรงเล็บขยุมเราโดยตรง หรือใช้ “วิธีอื่น” เท่านั้นเอง หลังจากเกิดเหตุการณ์ 6 ตุลา พ.ศ.2519 เราก็เลยได้ทหารกลับมาบริหารประเทศอีก พล.อ. เกรียงศักดิ์ ทำแกงเนื้อใส่บรั่นดี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 – 2523 พล.อ. ป๋า เจ้าของวลีเด็ด เราเป็น Jockey ไม่ใช่เจ้าของคอก ทำหน้าที่ Jockey  ตั้งแต่ปี พ.ศ.2523 – 2531 พล.อ. น้าชาติ ขวัญใจนักธุรกิจสาวอินเตอร์ ปี พ.ศ.2531- 2534 ช่วงทหารมีอำนาจบริหารบ้านเมือง ยุคหลัง 14 ตุลา พ.ศ.2516 ต่างกับ ช่วงก่อน 14 ตุลา พ.ศ.2516 อย่างน่าสนใจ อย่างที่เล่ามาตอนแรกก่อน 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 เรามีจอมพลคนใส่หมวกแล้วชาติเจริญ คุณป๋ารักชาติ และเหล่านักวิ่งผลัด การพัฒนาประเทศช่วงนั้น ถูกกำกับโดยแผนพัฒนาเศรษฐกิจและผู้เชี่ยวชาญต่าง ชาติมาดเข้ม เดินประกบหน้าประกบหลังไทยแลนด์ เอาผ้าห่มวัฒนธรรมอเมริกัน ห่อไทยแลนด์เสียมิด ชิด จนไทยแลนด์ลืมสนิทไปเลย ว่า ไทยแท้เป็นยังไง จำได้แต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกัน แต่ช่วงหลัง 14 ตุลา พ.ศ.2516  ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติถูกอัญเชิญออกไปแยะ จากปัจจัยภายในประเทศเราและประเทศเขา แต่พี่เบิ้มเขาก็ไม่ปล่อยเกียร์ว่าง เขาควบคุมด้วยวิธีแยบยล โดยใช้เหล่าข้าราชการที่เรียกว่า Technocrat มาช่วยคุณทหาร บริหารประเทศ Technocrat เหล่านี้เป็นใคร ก็เป็นต้นกล้าที่คุณพ่ออเมริกาหว่านเอาไว้ เขาเหล่านั้นเป็นนักเรียนนอก เติบโตมาภายใต้ระบบการศึกษาและแนวคิดของฝรั่ง เรียนแบบถ่ายสำเนาอัดก็อปบี้ออกมาเลย คุณพ่อฝรั่งว่า ขาวก็ขาวด้วย คุณพ่อว่า ดำก็ดำด้วย นี่สี่เหลี่ยม นี่กลม โอ้ย! ท่องจำกันได้หมด แล้วก็กลับเอาคำท่องจำมาใช้สอนต่อ หรือมาใช้ทำงานในบ้านเรา ดังนั้นไม่ต้องห่วงหรอก สมันน้อยไม่ไปไหน คุณพ่อฝรั่งไม่อยู่ คุณพ่อก็ให้พวก good boy technocratเด็กในคาถา มาทำหน้าที่ดูแลแทน นี่ยังไง นักวิชาการ ข้าราชการ สื่อฯลฯ ที่ถูกฟอกย้อมเอาไว้เรียบ ร้อยแบบไม่รู้ตัว… หรือรู้ตัวแต่ชอบ ของย้อมน่ะ… แล้วจะมีอะไรเหลือ …ไทยพันธุ์แท้หายไปไหนหมด เหลือแต่ไทยแลนด์แบรนด์อเมริกา! แต่เรื่องทุกเรื่องมันก็มีหักมุมนะ คุณน้าชาตินี้แกใช่ย่อยที่ไหน ถึงจะเป็นทหาร แกก็ไม่ได้ฟังเทคโนแครตมากนัก แกตั้งที่ปรึกษาบ้านพิษขึ้นมาเอง พวกนี้ก็มีพิษไปอีกแบบ ไทยแลนด์ก็เลยเหมือนหนีเสือปะจระเข้ หนีชะนีไปเจอค่าง อะไรอย่างนั้นแหละ รัฐบาลคุณน้าชาติ เป็นตัวแปรที่สำคัญ ต้องศึกษากันให้ดีๆ คุณน้า แกมีนโยบายล้ำเลิศ จะเปลี่ยนสนามรบ เป็นสนามค้า แกคิดโครงการแต่ละอัน เด็ดสะระตี่ทั้ง นั้น จะค้าขาย มันก็ต้องมีท่าเรือมารองรับการขนส่ง นั่นมาแล้ว Eastern Sea Board จะติดต่อค้าขายกัน การสื่อ สารมันก็ต้องทันสมัย จะใช้นกพิราบไปเรื่อยๆ ไม่ไหวมั้ง คุณน้าก็ให้คิดโครงการ 3 ล้านเลขหมาย คิดเรื่องดาว เทียม! คิดโครงการขนส่ง Hopewell ระบบทางด่วน ฯลฯ คุณน้าแกช่างคิดหาตังค์จริงๆ ต้องยอมรับ ไม่งั้นจะได้สมญารัฐบาลฟาสต์ฟูดเหรอ โครงการต่างๆ เหล่านี้ มันมูลค่ามหึมา ไอ้ 3 เกลอหัวแข็งที่มัวแต่ไปวุ่นๆ อยู่ทางอื่นของโลก ก็หันขวับจนคอเคล็ดมาดู เออ! เฮ้ย! มันกำลังจะทำอะไร สมันน้อยทำไมไม่บอกไอ นี่มันเรื่องผลประโยชน์ทั้งนั้น ไอ้พวกgood boy technocrat เด็กๆ ของเราหายไปไหนหมด ทำไม่มันไม่เตือน เขากำลังจะเข้าฮอร์สกันหมดแล้ว คนเล่านิทาน
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ทำงานเทศบาลวันที่ 5 แล้วครับ พรุ่งนี้ก็วันที่ 6 พอดี ก่อนหยุดยาวตามวันหยุดราชการ 4 วัน แต่การปรับคอมให้ใช้โหมดโทนมืดแทนโทนสว่าง เพราะประหยัดพลังงาน เห็นโปรแกรมเมอร์ที่เห็นผ่านๆตามาก็ยังใช้โหมดมืดเลยนะครับ พักนี้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปกลับ แต่ช่วงเย็นรถติดเลยดีเลย์หน่อย แต่ชีวิตมันต้องสู้ เมื่อวานรับบัตร PT คืนจากร้านพันธุ์ไทย เพราะลืมไว้เมื่อวันเสาร์ ไปแมกซ์มาร์ท บัตร PT หาย เพราะลืมไว้ที่ร้านพันธุ์ไทยใกล้บ้านผมเองครับ ผมอาจจะอัพเดทความคืบหน้าของงานที่ผมกำลังจะขับเคลื่อนด้วยแนวความคิดใหม่และวิถีใหม่ ลงใน Thaitimes,VK,Linkedin
    ภูมิใจสุดๆที่ได้นำบุรีรัมย์โมเดลมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตทำให้อะไรๆก็ง่ายสบายคล่องขึ้นไปหมดครับ งานก็ไม่ได้ดีเลย์อย่างที่คิดเลย แต่ใส่หูฟังไป พอเขารีเควสงานผมก็ตอบรับและทำทันทีไม่ต้องพูดอะไรเยอะ แต่ก็งานไวดีอยู่ ตอนเป็นลูกจ้าง กกต. ก็ใช้หลักการ 7 ข้อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการที่ออกข้อสอบ ก.พ. กันบ่อย ไม่เสียแรงเลยจริงๆที่ฝึกทำข้อสอบกฎหมาย ก.พ. 600 ข้อ + 30 ข้อ และทำข้อสอบภาษาอังกฤษได้ แต่เกือบประมาทเรื่อง Immediately จริงๆมันก็ความหมายตรงกับ Urgent นั่นแหละ แปลว่า เร่งด่วน และ ด่วนทันที เลยเข้าใจโครงสร้างศัพท์ภาษาอังกฤษไปบ้างจากที่ฟังคลิปภาษาอังกฤษหลายๆคลิป ประกอบกับวันใกล้สอบมาฝึกทำข้อสอบภาษาอังกฤษ เป็นอะไรที่ Flow เอามากๆเลยนะครับ ตัดมาที่ความรู้ความสามารถทั่วไป ไอ้เหี้ยอนุกรมแม่งยากอะไรเบอร์นั้นวะ อนุกรมฟูเรียร์ อนุกรมเทย์เลอร์ อนุกรมโบดี(ระบบควบคุม) ยังไม่ยากเท่าอนุกรมที่เจอในห้องสอบเลย ทดเกือบชั่วโมง โอย กระทบกับ สถิติ เงื่อนไขสัญลักษณ์ เงื่อนไขตาราง แต่เดาล้วนๆเพื่อแก้ทาง แต่ทำครบทุกข้อเกือบไม่ทันอะ
    วันนี้ทำงานเทศบาลวันที่ 5 แล้วครับ พรุ่งนี้ก็วันที่ 6 พอดี ก่อนหยุดยาวตามวันหยุดราชการ 4 วัน แต่การปรับคอมให้ใช้โหมดโทนมืดแทนโทนสว่าง เพราะประหยัดพลังงาน เห็นโปรแกรมเมอร์ที่เห็นผ่านๆตามาก็ยังใช้โหมดมืดเลยนะครับ พักนี้ขี่มอเตอร์ไซค์ไปกลับ แต่ช่วงเย็นรถติดเลยดีเลย์หน่อย แต่ชีวิตมันต้องสู้ เมื่อวานรับบัตร PT คืนจากร้านพันธุ์ไทย เพราะลืมไว้เมื่อวันเสาร์ ไปแมกซ์มาร์ท บัตร PT หาย เพราะลืมไว้ที่ร้านพันธุ์ไทยใกล้บ้านผมเองครับ ผมอาจจะอัพเดทความคืบหน้าของงานที่ผมกำลังจะขับเคลื่อนด้วยแนวความคิดใหม่และวิถีใหม่ ลงใน Thaitimes,VK,Linkedin ภูมิใจสุดๆที่ได้นำบุรีรัมย์โมเดลมาปรับใช้ในการดำเนินชีวิตทำให้อะไรๆก็ง่ายสบายคล่องขึ้นไปหมดครับ งานก็ไม่ได้ดีเลย์อย่างที่คิดเลย แต่ใส่หูฟังไป พอเขารีเควสงานผมก็ตอบรับและทำทันทีไม่ต้องพูดอะไรเยอะ แต่ก็งานไวดีอยู่ ตอนเป็นลูกจ้าง กกต. ก็ใช้หลักการ 7 ข้อเพิ่มประสิทธิภาพระบบราชการที่ออกข้อสอบ ก.พ. กันบ่อย ไม่เสียแรงเลยจริงๆที่ฝึกทำข้อสอบกฎหมาย ก.พ. 600 ข้อ + 30 ข้อ และทำข้อสอบภาษาอังกฤษได้ แต่เกือบประมาทเรื่อง Immediately จริงๆมันก็ความหมายตรงกับ Urgent นั่นแหละ แปลว่า เร่งด่วน และ ด่วนทันที เลยเข้าใจโครงสร้างศัพท์ภาษาอังกฤษไปบ้างจากที่ฟังคลิปภาษาอังกฤษหลายๆคลิป ประกอบกับวันใกล้สอบมาฝึกทำข้อสอบภาษาอังกฤษ เป็นอะไรที่ Flow เอามากๆเลยนะครับ ตัดมาที่ความรู้ความสามารถทั่วไป ไอ้เหี้ยอนุกรมแม่งยากอะไรเบอร์นั้นวะ อนุกรมฟูเรียร์ อนุกรมเทย์เลอร์ อนุกรมโบดี(ระบบควบคุม) ยังไม่ยากเท่าอนุกรมที่เจอในห้องสอบเลย ทดเกือบชั่วโมง โอย กระทบกับ สถิติ เงื่อนไขสัญลักษณ์ เงื่อนไขตาราง แต่เดาล้วนๆเพื่อแก้ทาง แต่ทำครบทุกข้อเกือบไม่ทันอะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย

    7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข

    รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ:
    1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568
    2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
    3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ)
    4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง
    5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย
    6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน
    7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน
    8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ
    9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ
    10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ
    11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน
    12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน
    13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    ไทย-กัมพูชา ลงนามหยุดยิงภายใต้ข้อตกลง 13 ข้อ ในการประชุม GBC ณ ประเทศมาเลเซีย 7 ส.ค. 2025 การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ ณ กระทรวงกลาโหมมาเลเซีย สิ้นสุดลงด้วยการลงนาม MOU 13 ข้อ เพื่อยืนยันการหยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข รายละเอียดข้อตกลง 13 ข้อ: 🔘1. หยุดยิงทันทีและไม่มีเงื่อนไข : ทั้งสองฝ่ายยุติการยิงทุกประเภทตั้งแต่เที่ยงคืนวันที่ 28 ก.ค. 2568 🔘2. ห้ามเคลื่อนย้ายกองกำลัง : ห้ามเพิ่มกำลังทหารหรือเคลื่อนย้ายกองทัพในพื้นที่พิพาท เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด 🔘3. ห้ามโจมตีพลเรือน : ห้ามการยิงหรือโจมตีเป้าหมายพลเรือน เช่น โรงเรียน, โรงพยาบาล ฯลฯ (แต่กัมพูชาทำฉ่ำ) 🔘4. จัดตั้งกลไกตรวจสอบ : สร้างทีมสังเกตการณ์ ASEAN นำโดยมาเลเซีย ร่วมกับสหรัฐอเมริกาและจีน เพื่อตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลง 🔘5. ฟื้นฟูช่องทางการสื่อสาร : เปิดช่องทางตรงระหว่างนายกฯ รัฐมนตรีต่างประเทศ และกลาโหมของทั้งสองฝ่าย 🔘6. อำนวยความสะดวกด้านมนุษยธรรม : อนุญาตให้ส่งคืนผู้บาดเจ็บและศพจากทั้งสองฝ่าย รวมถึงช่วยเหลือพลเรือน 🔘7. จัดตั้งคณะทำงานท้องถิ่น : สร้างทีมประสานงานระดับท้องถิ่นเพื่อจัดการปัญหาเฉพาะหน้าในพื้นที่ชายแดน 🔘8. ห้ามใช้ระเบิดหรืออาวุธหนัก : จำกัดการใช้ระเบิด เช่น จรวด BM-21 หรือการโจมตีทางอากาศ 🔘9. ถอนทหารจากพื้นที่พิพาท : ค่อย ๆ ลดกำลังทหารในพื้นที่ เช่น บริเวณพระวิหารและภูมะเขือ 🔘10. เคารพหลัก ASEAN : ใช้กรอบทวิภาคีเป็นหลัก โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลาง ไม่ยอมให้มหาอำนาจครอบงำ 🔘11. จัดการปัญหาแรงงาน : อำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชากลับไทยอย่างปลอดภัย และลดความตึงเครียดในชุมชน 🔘12. เจรจาต่อเนื่องใน GBC : กำหนดประชุม GBC ครั้งต่อไปที่กัมพูชา เพื่อแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตแดน 🔘13. รายงานความคืบหน้า : ทั้งสองฝ่ายต้องรายงานการปฏิบัติตามข้อตกลงต่ออาเซียนและผู้สังเกตการณ์ทุก 2 สัปดาห์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • ธาตุแท้อเมริกามาแล้วจริงๆ,จะยุคสมัยไหน สรุปเชื่อใจฝรั่งตาขาวตาฟ้าตาแดงนี้ไม่ได้,ตอแหลปลิ้นปล้อนเหมือนเขมรนี้ล่ะ เผ่าพันธุ์เดียวกันจึงคุ้มครองกันเอง ไม่สนใจความไร้มนุษยธรรมที่รัฐบาลที่นำโดยฮุนเซนจะเกณฑ์ประชาชนเด็กน้อยๆเยาวชนชายหญิง คนชราแก่เฒ่าไปรบไปตายในสนาม อเมริกาสนับสนุนการไร้มนุษยธรรมของจริง ข้ออ้างสวยหรูว่าเพื่อยุติการหยุดยิงแต่มอบอาวุธและปืนระเบิดให้,อเมริกาสมควรถูกกำจัดออกไปจากโลก อิทธิพลแบบอเมริกาคือสไตล์คนพาลคนเลวของจริง มิน่าชนอินเดียแดงจึงบอกว่าเผ่าพันธุ์ฝรั่งแดนอเมริกาเป็นพวกตระบัดสัตย์ไม่ซื่อ คตในวาจา ตอแหลมึนด้านหนาไม่ต่างกันกับชนเผ่าเขมรแบบฮุนเซนและฮุนมาเนตนี้,ทรัมป์ก็เหี้ยไม่ต่างจากไบเดนห่าเหวนั้น,หรือโอบามาก็ด้วย ควายๆรับใข้อีลิทซาตานเหมือนกัน,เผลอๆทหารอเมริกาลักพาตัวเด็กๆในประเทศเขมรไปให้อีลิทdeep stateเอาไปต้มไปแดกไปปรุงรสชาดสาระพัดอีกหรือทรมานทารุนทำอะดริโนโครมเองก็ด้วย,ประชาชนเขมรอาจถูกลักพาตัวไปมากมาย หายตัวไปมากมายระหว่างอพยพหนีภาวะสงครามนี้ เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดใช้อ้างคนหาย หายสาปสูญได้สนิทใจ ตายระหว่างอพยพหนีตาย หายระหว่างหนีตาย ทิ้งเด็กๆมากมายไว้ในบ้าน เพราะพ่อแม่พี่น้องคนชรามีชีวิตถูกจับไปใส่ชุดทหารหมด,เผด็จการฮุนเซนฮุนมาเนตตะจัดการเหยื่อตาทบ้านประชาชนได้สะดวกหมดล่ะเพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องไม่เหลือสักคนนั้นเอง,สิ่งนี้จึงค้ำประกันถึงบริบทที่ชั่วเลวของอเมริกาไปในตัวที่ไปสนับสนุนจับมือกับฮุนเซน เสือกเจาะจงเรื่องอาวุธเทคโนโลยี ไม่พูดหาไม่บอกไม่ตบหัวฮุนเซนว่าอย่าเกณฑ์เด็กคนชราผู้หญิงประชาชนธรรมดาไปเป็นทหารสู้รบ,ไม่บอกฮุนเซนสักแอะว่าฮุนเซนไปเก็บศพทหารในสนามรบคืนมาให้ญาติทำพิธีให้หมด,มิใช่แบบกูในสงครามเวียดนามเก็บไม่ได้เพราะไม่ใช่ท้องถิ่นกูจริงเขตอาณาเขตสนามสงครามกูภายในประเทศแบบดินแดนเขมรภายในเขตเขมรเองของมรึงจริงแบบปัจจุบัน สามารถเข้าเก็บศพทหารตนเองบนประเทศตนเองแท้ได้ตลอดเวลา มรึงต้องไปทำก่อนกูอเมริกาจึงค่อยสนับสนุนเทคโนโลยีหรือใดๆแก่มรึงเขมรเพื่อความสงบสันติในการหยุดยิงนี้,อเมริกาจึงชัดเจนว่าสนับสนุนสงครามจริง,ไร้มนุษยธรรมจริง,อเมริกาสมควรสิ้นสถานะความเป็นประเทศด้วย,50รัฐอเมริกาสมควรแยกตนเองปกครองตนเองได้แล้ว,เป็นประเทศเอกราชตนเอง,พื้นที่ดินแดนมากมายคนอเมริกันทำไมโง่บัดสบทั้งทวีปแบบนั้น,สนับสนุนสงครามผ่าน50รัฐด้วย,โง่และชั่วเลวในเวลาเดียวกัน,จะตัดตอนมิให้ทรัมป์หรือใครๆไปมีอิทธิป่าเถื่อนไปทั่วโลกด้วย,รัฐใดอย่างทำสงครามก็ตามสบายเพราะเงินสนับสนุนจะจบแล้วเพราะแยกขาดเป็นประเทศของใครของมันแล้วนั้นเอง,50รัฐ ในรัฐประเทศใดประเทศหนึ่งเสมือนตัดตอนทุนอีลิทdeep stateรุ่นagendaด้วยก็ได้,เอกเทศใครมันปฏิเสธสงครามทุกๆกรณีได้ที่ไร้มนุษยธรรมแบบทรัมป์กำลังทำอยู่,ปฏิเสธวัคซีนโควิดทางตรงผ่านประเทศตนได้ที่แยกตัวเป็นประเทศใครมันทั้ง50รัฐแล้ว ไม่ผีบ้าต้องมาปฏิบัติตามคำสั่งประธานาธิบดีแบบผีบ้าไบเดนหรือป่วยจิตแบบทรัมป์ไม่สืบหาความจริงว่าเขมรฮุนเซนไร้มนุษยธรรมแก่ชนคนเขมรภายในประเทศแบบใดๆเลย ปิดหูปิดตาโคตรบรมโง่ทั้งทหารกองทัพอเมริกาจริงๆเก่งแค่ขโมยหรือขายโลกทรยศโลกตกลงกับต่างดาวชั่วแลกเทคโนโลยีเท่านั้นล่ะ,
    ..คนอเมริกาสมควรยื่นแบ่งแยกประเทศเถอะ,เวลารัสเชียเวลาจีนหรืออิหร่านยิงขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์จะได้ไม่เคลียร์พื้นที่ประเทศรัฐนั้นๆที่แยกตัวเป็นประเทศตนเองอิสระออกมาจากอเมริกาเดิมแล้ว,ประกาศตนเป็นกลาง จีนกับรัสเชียและอิหร่านจะล็อกพิกัดgpsจุดตกขีปนาวุธนิวเคลียร์ใหม่แทนตกที่ใหม่แทน,
    ..ยุโรปและอเมริกา ชาติฝรั่งพวกนี้สมควรหายไปจากโลกจริงๆ,ตลอดระยะเวลายาวนานนี้ พวกฝรั่งนี้ล่ะปล้นชิงชาวโลกไปทั่ว สร้างความไม่สงบสุขเป็นวงกว้างโดยมาเพียงเพราะโลภอยากได้ทรัพยากรเขาหรือแดกเขาก็ด้วยในเผ่าพันธุ์แรปทีเลี่ยนที่แดกมนุษย์เป็นปกติอยู่แล้ว.
    ธาตุแท้อเมริกามาแล้วจริงๆ,จะยุคสมัยไหน สรุปเชื่อใจฝรั่งตาขาวตาฟ้าตาแดงนี้ไม่ได้,ตอแหลปลิ้นปล้อนเหมือนเขมรนี้ล่ะ เผ่าพันธุ์เดียวกันจึงคุ้มครองกันเอง ไม่สนใจความไร้มนุษยธรรมที่รัฐบาลที่นำโดยฮุนเซนจะเกณฑ์ประชาชนเด็กน้อยๆเยาวชนชายหญิง คนชราแก่เฒ่าไปรบไปตายในสนาม อเมริกาสนับสนุนการไร้มนุษยธรรมของจริง ข้ออ้างสวยหรูว่าเพื่อยุติการหยุดยิงแต่มอบอาวุธและปืนระเบิดให้,อเมริกาสมควรถูกกำจัดออกไปจากโลก อิทธิพลแบบอเมริกาคือสไตล์คนพาลคนเลวของจริง มิน่าชนอินเดียแดงจึงบอกว่าเผ่าพันธุ์ฝรั่งแดนอเมริกาเป็นพวกตระบัดสัตย์ไม่ซื่อ คตในวาจา ตอแหลมึนด้านหนาไม่ต่างกันกับชนเผ่าเขมรแบบฮุนเซนและฮุนมาเนตนี้,ทรัมป์ก็เหี้ยไม่ต่างจากไบเดนห่าเหวนั้น,หรือโอบามาก็ด้วย ควายๆรับใข้อีลิทซาตานเหมือนกัน,เผลอๆทหารอเมริกาลักพาตัวเด็กๆในประเทศเขมรไปให้อีลิทdeep stateเอาไปต้มไปแดกไปปรุงรสชาดสาระพัดอีกหรือทรมานทารุนทำอะดริโนโครมเองก็ด้วย,ประชาชนเขมรอาจถูกลักพาตัวไปมากมาย หายตัวไปมากมายระหว่างอพยพหนีภาวะสงครามนี้ เพราะเป็นโอกาสที่ดีที่สุดใช้อ้างคนหาย หายสาปสูญได้สนิทใจ ตายระหว่างอพยพหนีตาย หายระหว่างหนีตาย ทิ้งเด็กๆมากมายไว้ในบ้าน เพราะพ่อแม่พี่น้องคนชรามีชีวิตถูกจับไปใส่ชุดทหารหมด,เผด็จการฮุนเซนฮุนมาเนตตะจัดการเหยื่อตาทบ้านประชาชนได้สะดวกหมดล่ะเพราะพ่อแม่ญาติพี่น้องไม่เหลือสักคนนั้นเอง,สิ่งนี้จึงค้ำประกันถึงบริบทที่ชั่วเลวของอเมริกาไปในตัวที่ไปสนับสนุนจับมือกับฮุนเซน เสือกเจาะจงเรื่องอาวุธเทคโนโลยี ไม่พูดหาไม่บอกไม่ตบหัวฮุนเซนว่าอย่าเกณฑ์เด็กคนชราผู้หญิงประชาชนธรรมดาไปเป็นทหารสู้รบ,ไม่บอกฮุนเซนสักแอะว่าฮุนเซนไปเก็บศพทหารในสนามรบคืนมาให้ญาติทำพิธีให้หมด,มิใช่แบบกูในสงครามเวียดนามเก็บไม่ได้เพราะไม่ใช่ท้องถิ่นกูจริงเขตอาณาเขตสนามสงครามกูภายในประเทศแบบดินแดนเขมรภายในเขตเขมรเองของมรึงจริงแบบปัจจุบัน สามารถเข้าเก็บศพทหารตนเองบนประเทศตนเองแท้ได้ตลอดเวลา มรึงต้องไปทำก่อนกูอเมริกาจึงค่อยสนับสนุนเทคโนโลยีหรือใดๆแก่มรึงเขมรเพื่อความสงบสันติในการหยุดยิงนี้,อเมริกาจึงชัดเจนว่าสนับสนุนสงครามจริง,ไร้มนุษยธรรมจริง,อเมริกาสมควรสิ้นสถานะความเป็นประเทศด้วย,50รัฐอเมริกาสมควรแยกตนเองปกครองตนเองได้แล้ว,เป็นประเทศเอกราชตนเอง,พื้นที่ดินแดนมากมายคนอเมริกันทำไมโง่บัดสบทั้งทวีปแบบนั้น,สนับสนุนสงครามผ่าน50รัฐด้วย,โง่และชั่วเลวในเวลาเดียวกัน,จะตัดตอนมิให้ทรัมป์หรือใครๆไปมีอิทธิป่าเถื่อนไปทั่วโลกด้วย,รัฐใดอย่างทำสงครามก็ตามสบายเพราะเงินสนับสนุนจะจบแล้วเพราะแยกขาดเป็นประเทศของใครของมันแล้วนั้นเอง,50รัฐ ในรัฐประเทศใดประเทศหนึ่งเสมือนตัดตอนทุนอีลิทdeep stateรุ่นagendaด้วยก็ได้,เอกเทศใครมันปฏิเสธสงครามทุกๆกรณีได้ที่ไร้มนุษยธรรมแบบทรัมป์กำลังทำอยู่,ปฏิเสธวัคซีนโควิดทางตรงผ่านประเทศตนได้ที่แยกตัวเป็นประเทศใครมันทั้ง50รัฐแล้ว ไม่ผีบ้าต้องมาปฏิบัติตามคำสั่งประธานาธิบดีแบบผีบ้าไบเดนหรือป่วยจิตแบบทรัมป์ไม่สืบหาความจริงว่าเขมรฮุนเซนไร้มนุษยธรรมแก่ชนคนเขมรภายในประเทศแบบใดๆเลย ปิดหูปิดตาโคตรบรมโง่ทั้งทหารกองทัพอเมริกาจริงๆเก่งแค่ขโมยหรือขายโลกทรยศโลกตกลงกับต่างดาวชั่วแลกเทคโนโลยีเท่านั้นล่ะ, ..คนอเมริกาสมควรยื่นแบ่งแยกประเทศเถอะ,เวลารัสเชียเวลาจีนหรืออิหร่านยิงขีปนาวุธข้ามทวีปติดหัวรบนิวเคลียร์จะได้ไม่เคลียร์พื้นที่ประเทศรัฐนั้นๆที่แยกตัวเป็นประเทศตนเองอิสระออกมาจากอเมริกาเดิมแล้ว,ประกาศตนเป็นกลาง จีนกับรัสเชียและอิหร่านจะล็อกพิกัดgpsจุดตกขีปนาวุธนิวเคลียร์ใหม่แทนตกที่ใหม่แทน, ..ยุโรปและอเมริกา ชาติฝรั่งพวกนี้สมควรหายไปจากโลกจริงๆ,ตลอดระยะเวลายาวนานนี้ พวกฝรั่งนี้ล่ะปล้นชิงชาวโลกไปทั่ว สร้างความไม่สงบสุขเป็นวงกว้างโดยมาเพียงเพราะโลภอยากได้ทรัพยากรเขาหรือแดกเขาก็ด้วยในเผ่าพันธุ์แรปทีเลี่ยนที่แดกมนุษย์เป็นปกติอยู่แล้ว.
    รัฐมนตรีกลาโหมกัมพูชาเปิดเผย สหรัฐฯจะจับตาสถานการณ์ด้วยความกระตือรือร้น เพื่อรับประกันความสำเร็จและประสิทธิผลของการบังคับใช้ข้อตกลงหยุดยิงระหว่างกัมพูชาและไทย พร้อมยืนยันวอชิงตันจะมอบแรงสนับสนุนทั้งทางโลจิสติกและทางเทคนิค แก่คณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000074763

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire

    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 196 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกการค้า: ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีชิปนำเข้า 100% เพื่อผลักดันการผลิตในประเทศ

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการประกาศเก็บภาษี 100% สำหรับชิปและเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หันมาผลิตในสหรัฐฯ แทนการพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน จีน หรือเวียดนาม

    อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีการลงทุนในสหรัฐฯ อยู่แล้ว เช่น Apple, NVIDIA, TSMC และ Samsung จะได้รับการยกเว้นภาษี หากสามารถพิสูจน์ได้ว่ากำลังสร้างหรือมีแผนสร้างโรงงานในประเทศจริง โดย Apple ได้ประกาศลงทุนเพิ่มอีก $100 พันล้านในโครงการ American Manufacturing Program ซึ่งรวมถึงโรงงานในเท็กซัสและศูนย์วิจัยในหลายรัฐ

    การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากยุคก่อนที่เน้นการให้เงินสนับสนุนผ่าน CHIPS Act มาเป็นการใช้ “ไม้แข็ง” เพื่อบังคับให้บริษัทต่างชาติย้ายฐานการผลิตมาในสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในวงกว้าง เช่น สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า และคอนโซลเกม

    ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 100% สำหรับชิปนำเข้าจากต่างประเทศ
    ยกเว้นเฉพาะบริษัทที่ผลิตหรือมีแผนสร้างโรงงานในสหรัฐฯ

    Apple ได้รับการยกเว้นภาษีจากการลงทุน $100 พันล้านในโครงการ AMP
    รวมถึงโรงงานในเท็กซัสและการขยายกำลังผลิตในรัฐเคนทักกี

    TSMC ลงทุนรวมกว่า $165 พันล้านในโรงงานที่รัฐแอริโซนา
    เตรียมสร้างโรงงานผลิตชิป 6 แห่งและศูนย์วิจัย

    NVIDIA ประกาศสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI และชิปในรัฐเท็กซัส
    ถือเป็นการ “onshoring” ครั้งใหญ่ของบริษัท

    บริษัทที่ “แค่สัญญา” แต่ไม่ดำเนินการจริงจะถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง
    ทรัมป์ย้ำว่า “ต้องจ่ายแน่นอน” หากไม่ทำตามแผน

    https://wccftech.com/president-trump-to-impose-a-whopping-100-tariff-on-all-chips-coming-into-the-us/
    🇺🇸💥 เรื่องเล่าจากโลกการค้า: ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีชิปนำเข้า 100% เพื่อผลักดันการผลิตในประเทศ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอีกครั้ง ด้วยการประกาศเก็บภาษี 100% สำหรับชิปและเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อผลักดันให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่หันมาผลิตในสหรัฐฯ แทนการพึ่งพาการผลิตจากต่างประเทศ เช่น ไต้หวัน จีน หรือเวียดนาม อย่างไรก็ตาม บริษัทที่มีการลงทุนในสหรัฐฯ อยู่แล้ว เช่น Apple, NVIDIA, TSMC และ Samsung จะได้รับการยกเว้นภาษี หากสามารถพิสูจน์ได้ว่ากำลังสร้างหรือมีแผนสร้างโรงงานในประเทศจริง โดย Apple ได้ประกาศลงทุนเพิ่มอีก $100 พันล้านในโครงการ American Manufacturing Program ซึ่งรวมถึงโรงงานในเท็กซัสและศูนย์วิจัยในหลายรัฐ การเคลื่อนไหวนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแนวทางจากยุคก่อนที่เน้นการให้เงินสนับสนุนผ่าน CHIPS Act มาเป็นการใช้ “ไม้แข็ง” เพื่อบังคับให้บริษัทต่างชาติย้ายฐานการผลิตมาในสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ในวงกว้าง เช่น สมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ รถยนต์ไฟฟ้า และคอนโซลเกม ✅ ทรัมป์ประกาศเก็บภาษี 100% สำหรับชิปนำเข้าจากต่างประเทศ ➡️ ยกเว้นเฉพาะบริษัทที่ผลิตหรือมีแผนสร้างโรงงานในสหรัฐฯ ✅ Apple ได้รับการยกเว้นภาษีจากการลงทุน $100 พันล้านในโครงการ AMP ➡️ รวมถึงโรงงานในเท็กซัสและการขยายกำลังผลิตในรัฐเคนทักกี ✅ TSMC ลงทุนรวมกว่า $165 พันล้านในโรงงานที่รัฐแอริโซนา ➡️ เตรียมสร้างโรงงานผลิตชิป 6 แห่งและศูนย์วิจัย ✅ NVIDIA ประกาศสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ AI และชิปในรัฐเท็กซัส ➡️ ถือเป็นการ “onshoring” ครั้งใหญ่ของบริษัท ✅ บริษัทที่ “แค่สัญญา” แต่ไม่ดำเนินการจริงจะถูกเรียกเก็บภาษีย้อนหลัง ➡️ ทรัมป์ย้ำว่า “ต้องจ่ายแน่นอน” หากไม่ทำตามแผน https://wccftech.com/president-trump-to-impose-a-whopping-100-tariff-on-all-chips-coming-into-the-us/
    WCCFTECH.COM
    President Trump to Impose a Whopping 100% Tariff on All Chips Coming into the US; No Extra Charge on Semiconductors Produced Domestically
    While talking alongside Apple's CEO Tim Cook, Trump has announced a massive chip tariff, a figure that the markets weren't expecting at all.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 180 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากแดนมังกร: แผน “เมกะเมอร์เจอร์” ของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สะดุดกลางทาง

    จีนมีเป้าหมายใหญ่ในการรวมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิปให้กลายเป็น “แชมป์แห่งชาติ” ที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปได้ โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งในประเทศเอง

    แต่แผนการนี้กลับสะดุดอย่างหนัก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการประเมินมูลค่าที่ไม่ลงตัว ความขัดแย้งทางการเมือง และช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลจากคู่แข่งระดับโลก

    แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานรัฐอย่าง NDRC ที่พยายามรวมบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปให้เป็นหนึ่งเดียว แต่การเจรจากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างผู้ขายที่ไม่อยากขายต่ำกว่าราคาตลาด กับผู้ซื้อที่ไม่อยากจ่ายแพงเกินจริง

    ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากในจีนก็ล้มละลายหรือถอนตัวจากตลาด IPO ทำให้รัฐบาลต้องหันมาเน้นการควบรวมกิจการแทนการลงทุนกระจาย เพื่อรวมทรัพยากรและบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพสูง

    ถึงแม้ภาพรวมจะดูไม่สดใส แต่ก็ยังมีข่าวดีบ้าง เช่น Naura Technology เข้าซื้อหุ้นใน Kingsemi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี

    จีนพยายามรวมบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว
    เพื่อแข่งกับ Applied Materials, KLA และ Lam Research จากสหรัฐฯ

    หน่วยงาน NDRC เป็นผู้ผลักดันแผนการรวมกิจการ
    หวังลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความเข้ากันได้ของเครื่องมือ

    Naura Technology เข้าซื้อหุ้น 9.49% ใน Kingsemi มูลค่า $235 ล้าน
    เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี

    มีการประกาศควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว 26 รายการในปี 2025
    รวมถึงการควบรวมระหว่าง Sugon และ Hygon

    รัฐบาลจีนต้องการสร้าง “แชมป์แห่งชาติ” ที่มีขนาดใหญ่และแข่งขันระดับโลกได้
    เพื่อดึงดูดเงินทุนและรวมบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพ

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-semiconductor-megamerger-strategy-reportedly-stalling-new-report-says-high-level-merger-plans-to-strengthen-domestic-chip-industry-face-multiple-headwinds
    🇨🇳🔧 เรื่องเล่าจากแดนมังกร: แผน “เมกะเมอร์เจอร์” ของจีนในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ที่สะดุดกลางทาง จีนมีเป้าหมายใหญ่ในการรวมบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์และชิปให้กลายเป็น “แชมป์แห่งชาติ” ที่สามารถแข่งขันกับยักษ์ใหญ่จากสหรัฐฯ และยุโรปได้ โดยหวังว่าจะลดการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติ และสร้างระบบนิเวศที่แข็งแกร่งในประเทศเอง แต่แผนการนี้กลับสะดุดอย่างหนัก เพราะมีอุปสรรคหลายด้าน ทั้งการประเมินมูลค่าที่ไม่ลงตัว ความขัดแย้งทางการเมือง และช่องว่างทางเทคโนโลยีที่ยังห่างไกลจากคู่แข่งระดับโลก แม้จะมีความพยายามจากหน่วยงานรัฐอย่าง NDRC ที่พยายามรวมบริษัทผู้ผลิตเครื่องมือผลิตชิปให้เป็นหนึ่งเดียว แต่การเจรจากลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างผู้ขายที่ไม่อยากขายต่ำกว่าราคาตลาด กับผู้ซื้อที่ไม่อยากจ่ายแพงเกินจริง ในขณะเดียวกัน บริษัทขนาดเล็กจำนวนมากในจีนก็ล้มละลายหรือถอนตัวจากตลาด IPO ทำให้รัฐบาลต้องหันมาเน้นการควบรวมกิจการแทนการลงทุนกระจาย เพื่อรวมทรัพยากรและบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพสูง ถึงแม้ภาพรวมจะดูไม่สดใส แต่ก็ยังมีข่าวดีบ้าง เช่น Naura Technology เข้าซื้อหุ้นใน Kingsemi เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี ✅ จีนพยายามรวมบริษัทผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ให้เป็นหนึ่งเดียว ➡️ เพื่อแข่งกับ Applied Materials, KLA และ Lam Research จากสหรัฐฯ ✅ หน่วยงาน NDRC เป็นผู้ผลักดันแผนการรวมกิจการ ➡️ หวังลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความเข้ากันได้ของเครื่องมือ ✅ Naura Technology เข้าซื้อหุ้น 9.49% ใน Kingsemi มูลค่า $235 ล้าน ➡️ เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านอุปกรณ์เคลือบโฟโตลิโธกราฟี ✅ มีการประกาศควบรวมกิจการในอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์แล้ว 26 รายการในปี 2025 ➡️ รวมถึงการควบรวมระหว่าง Sugon และ Hygon ✅ รัฐบาลจีนต้องการสร้าง “แชมป์แห่งชาติ” ที่มีขนาดใหญ่และแข่งขันระดับโลกได้ ➡️ เพื่อดึงดูดเงินทุนและรวมบุคลากรไว้ในบริษัทที่มีศักยภาพ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/china-semiconductor-megamerger-strategy-reportedly-stalling-new-report-says-high-level-merger-plans-to-strengthen-domestic-chip-industry-face-multiple-headwinds
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปี
    6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ใส่ประเทศญี่ปุ่น

    https://rarehistoricalphotos.com/hiroshima-atomic-bombing-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTpleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g
    .
    https://rarehistoricalphotos.com/the-fall-of-imperial-japan-in-pictures-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTdleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g
    ย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปี 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ ใส่ประเทศญี่ปุ่น https://rarehistoricalphotos.com/hiroshima-atomic-bombing-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTpleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g . https://rarehistoricalphotos.com/the-fall-of-imperial-japan-in-pictures-1945/?fbclid=IwY2xjawMAGTdleHRuA2FlbQIxMABicmlkETFVQlgxZ3ZtVVZDZUxBUVdRAR65uBFuY8eemYjypZs2ZOdrHukZlFUScyVBe4QUfFKgkpM-Ue7CEEe0hp5tdg_aem_pZE_N51Lao_x1nLRtHYT-g
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

    ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70%
    หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน
    ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด
    ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น 👉 ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70% 👉 หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน 👉 ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด 👉 ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 233 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น

    ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70%

    หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน

    ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด

    ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    วันนี้เมื่อ 80 ปีก่อน: เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 เป็นวันที่สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ หรือที่มีเรียกว่า "ลิตเติลบอย" (Little Boy) ลงที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น 👉 ระเบิดลูกนี้มีปริมาณระเบิดเทียบเท่ากับทีเอ็นที 15,000 ตัน ทำลายเมืองและเผาผลาญเมืองไปประมาณ 70% 👉 หลังการทิ้งระเบิดเพียงไม่กี่เดือนในฮิโรชิมา ผู้คนล้มตายไปประมาณ 140,000 คน 👉 ราว 50% ของผู้ที่อยู่ภายในรัศมี 1.2 กิโลเมตรจากศูนย์กลางการระเบิดเสียชีวิตทันทีในวันนั้น โอกาสเสียชีวิตสูงถึง 80-100% หากอยู่ในรัสมีการระเบิด 👉 ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีผู้เสียชีวิตตามมาอีกจำนวนมากในปีต่อๆ มา จากผลกระทบของการได้รับรังสี รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็ง และโรคอื่นๆ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 222 มุมมอง 0 0 รีวิว
Pages Boosts