• ♥️To Gen-Y and Gen -X♥️
    👉“เหวี่ยงง่าย หงุดหงิดหนัก อารมณ์แปรปรวน…ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ว่าฮอร์โมนกำลังจะพัง!”

    😡คุณเคยไหมครับ…
    ตื่นเช้ามาแบบยังไม่ทันมีใครทำอะไร ก็รู้สึกหงุดหงิด
    ขับรถอยู่ก็รู้สึกอยากตะโกนใส่ทุกคันที่แทรกหน้า
    หรือบางวันอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล

    บางครั้งก็รู้สึกผิดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
    ทั้งที่ใจลึกๆ ก็รู้ว่า “เราไม่ได้อยากเหวี่ยงใคร”
    แต่มันก็ยั้งไม่อยู่จริงๆ

    👉และเมื่ออาการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ
    หลายคนกลับคิดว่า…
    “เป็นเพราะฉันเครียดมั้ง”
    “แค่เหนื่อยเฉยๆ เดี๋ยวก็หาย”
    แต่ความจริงคือ มันไม่หายครับ ถ้าต้นเหตุมันยังอยู่

    🟢 ผู้หญิงวัย 40+ กับคลื่นอารมณ์ที่ไม่ได้เกิดจากใจ แต่เกิดจาก “ฮอร์โมน”

    🟢 เมื่อร่างกายเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน (Perimenopause)
    ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
    แต่ที่สำคัญคือ ฮอร์โมนจะ “แปรปรวน” มากกว่า “ลดลงเฉยๆ”
    ซึ่งทำให้สมองและระบบประสาทรับผลกระทบโดยตรง

    ✨️งานวิจัยจาก Harvard Medical School ระบุว่า
    “ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลโดยตรงต่อสมองส่วนควบคุมอารมณ์ ความทรงจำ และสมาธิ”
    เมื่อฮอร์โมนนี้ไม่สมดุล จะทำให้เกิดอาการอารมณ์แปรปรวนแบบฉับพลัน เหวี่ยงง่าย และรู้สึกไม่มั่นคงทางใจได้โดยไม่รู้ตัว

    ❓️ทำไมผู้หญิงวัย 40+ ถึงอารมณ์แกว่งได้ง่ายกว่าที่คิด?
    1. ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงเร็ว → สมองไวต่อความเครียด
    2. การหลับไม่ลึก → ฮอร์โมนความสุขหลั่งไม่พอ
    3. ระบบเผาผลาญช้าลง → ร่างกายรู้สึกหนัก เหนื่อยง่าย → หงุดหงิด
    4. โภชนาการที่ไม่สมดุล → ขาดกรดไขมันดีและแมกนีเซียมที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์

    🟢ไม่ใช่ป่วยทางจิต ไม่ใช่เป็นอะไรผิดปกติ แค่ร่างกายส่งสัญญาณว่า “ฉันกำลังต้องการความเข้าใจ”

    การเข้าใจอาการอารมณ์แปรปรวน ไม่ใช่การ “ปล่อยผ่าน”
    แต่คือการ “ฟังร่างกายอย่างเข้าใจ”
    และเลือกดูแลตัวเองแบบไม่ต้องรู้สึกผิด

    🎯 5 เทคนิคง่ายๆ ปรับสมดุลอารมณ์ในวัย 40+

    1. งดน้ำตาล & คาเฟอีนช่วงบ่ายถึงค่ำ

    น้ำตาลและกาแฟทำให้ฮอร์โมน Cortisol พุ่งสูงในช่วงที่ควรจะลดลง ส่งผลให้สมองตึง อารมณ์พุ่ง

    2. กินอาหารไขมันดี & แมกนีเซียมสูง

    อะโวคาโด, เมล็ดแฟลกซ์, ปลาแซลมอน, ผักใบเขียว ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และลดอาการซึมเศร้า

    3. เดินกลางแดดเช้าอย่างน้อย 10 นาที/วัน

    แสงแดดกระตุ้นเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุข และช่วยให้นอนหลับลึกขึ้นตอนกลางคืน

    4. ฝึกหายใจลึก (Deep Breathing)

    ใช้เวลา 5 นาที/วัน หายใจเข้า 4 วินาที กลั้น 4 วินาที และออก 6 วินาที
    ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ลดความเหวี่ยงได้จริง

    5. ฝึกขอบคุณเล็กๆ ก่อนนอน

    เขียน 3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน
    จะช่วยปรับคลื่นสมองให้สงบและทำให้ตื่นเช้ามาด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้น

    ♥️สรุป
    ถ้าท่านรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองไม่มั่นคงในช่วงวัย 40+
    อย่าเพิ่งโทษตัวเองว่าใจไม่แข็ง หรือว่าเป็นคนไม่ดี
    เพราะความจริง…ท่านแค่ต้องการ “การดูแลจากภายใน”

    ฮอร์โมนที่แปรปรวน คือธรรมชาติของร่างกาย
    แต่เราสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ ด้วยความเข้าใจและความรักตัวเองอย่างถูกวิธี

    ดูแลหัวใจให้ดี แล้วใจจะดูแลเราตอบแทนกลับมาเสมอครับ
    ♥️To Gen-Y and Gen -X♥️ 👉“เหวี่ยงง่าย หงุดหงิดหนัก อารมณ์แปรปรวน…ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ว่าฮอร์โมนกำลังจะพัง!” 😡คุณเคยไหมครับ… ตื่นเช้ามาแบบยังไม่ทันมีใครทำอะไร ก็รู้สึกหงุดหงิด ขับรถอยู่ก็รู้สึกอยากตะโกนใส่ทุกคันที่แทรกหน้า หรือบางวันอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล บางครั้งก็รู้สึกผิดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ใจลึกๆ ก็รู้ว่า “เราไม่ได้อยากเหวี่ยงใคร” แต่มันก็ยั้งไม่อยู่จริงๆ 👉และเมื่ออาการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ หลายคนกลับคิดว่า… “เป็นเพราะฉันเครียดมั้ง” “แค่เหนื่อยเฉยๆ เดี๋ยวก็หาย” แต่ความจริงคือ มันไม่หายครับ ถ้าต้นเหตุมันยังอยู่ 🟢 ผู้หญิงวัย 40+ กับคลื่นอารมณ์ที่ไม่ได้เกิดจากใจ แต่เกิดจาก “ฮอร์โมน” 🟢 เมื่อร่างกายเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน (Perimenopause) ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ที่สำคัญคือ ฮอร์โมนจะ “แปรปรวน” มากกว่า “ลดลงเฉยๆ” ซึ่งทำให้สมองและระบบประสาทรับผลกระทบโดยตรง ✨️งานวิจัยจาก Harvard Medical School ระบุว่า “ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลโดยตรงต่อสมองส่วนควบคุมอารมณ์ ความทรงจำ และสมาธิ” เมื่อฮอร์โมนนี้ไม่สมดุล จะทำให้เกิดอาการอารมณ์แปรปรวนแบบฉับพลัน เหวี่ยงง่าย และรู้สึกไม่มั่นคงทางใจได้โดยไม่รู้ตัว ❓️ทำไมผู้หญิงวัย 40+ ถึงอารมณ์แกว่งได้ง่ายกว่าที่คิด? 1. ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงเร็ว → สมองไวต่อความเครียด 2. การหลับไม่ลึก → ฮอร์โมนความสุขหลั่งไม่พอ 3. ระบบเผาผลาญช้าลง → ร่างกายรู้สึกหนัก เหนื่อยง่าย → หงุดหงิด 4. โภชนาการที่ไม่สมดุล → ขาดกรดไขมันดีและแมกนีเซียมที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ 🟢ไม่ใช่ป่วยทางจิต ไม่ใช่เป็นอะไรผิดปกติ แค่ร่างกายส่งสัญญาณว่า “ฉันกำลังต้องการความเข้าใจ” การเข้าใจอาการอารมณ์แปรปรวน ไม่ใช่การ “ปล่อยผ่าน” แต่คือการ “ฟังร่างกายอย่างเข้าใจ” และเลือกดูแลตัวเองแบบไม่ต้องรู้สึกผิด 🎯 5 เทคนิคง่ายๆ ปรับสมดุลอารมณ์ในวัย 40+ 1. งดน้ำตาล & คาเฟอีนช่วงบ่ายถึงค่ำ น้ำตาลและกาแฟทำให้ฮอร์โมน Cortisol พุ่งสูงในช่วงที่ควรจะลดลง ส่งผลให้สมองตึง อารมณ์พุ่ง 2. กินอาหารไขมันดี & แมกนีเซียมสูง อะโวคาโด, เมล็ดแฟลกซ์, ปลาแซลมอน, ผักใบเขียว ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และลดอาการซึมเศร้า 3. เดินกลางแดดเช้าอย่างน้อย 10 นาที/วัน แสงแดดกระตุ้นเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุข และช่วยให้นอนหลับลึกขึ้นตอนกลางคืน 4. ฝึกหายใจลึก (Deep Breathing) ใช้เวลา 5 นาที/วัน หายใจเข้า 4 วินาที กลั้น 4 วินาที และออก 6 วินาที ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ลดความเหวี่ยงได้จริง 5. ฝึกขอบคุณเล็กๆ ก่อนนอน เขียน 3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน จะช่วยปรับคลื่นสมองให้สงบและทำให้ตื่นเช้ามาด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้น ♥️สรุป ถ้าท่านรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองไม่มั่นคงในช่วงวัย 40+ อย่าเพิ่งโทษตัวเองว่าใจไม่แข็ง หรือว่าเป็นคนไม่ดี เพราะความจริง…ท่านแค่ต้องการ “การดูแลจากภายใน” ฮอร์โมนที่แปรปรวน คือธรรมชาติของร่างกาย แต่เราสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ ด้วยความเข้าใจและความรักตัวเองอย่างถูกวิธี ดูแลหัวใจให้ดี แล้วใจจะดูแลเราตอบแทนกลับมาเสมอครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • 😡❓️ “เหวี่ยงง่าย หงุดหงิดหนัก อารมณ์แปรปรวน…ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ว่าฮอร์โมนกำลังจะพัง!”

    😡คุณเคยไหมครับ…
    ตื่นเช้ามาแบบยังไม่ทันมีใครทำอะไร ก็รู้สึกหงุดหงิด
    ขับรถอยู่ก็รู้สึกอยากตะโกนใส่ทุกคันที่แทรกหน้า
    หรือบางวันอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล

    👉บางครั้งก็รู้สึกผิดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้
    ทั้งที่ใจลึกๆ ก็รู้ว่า “เราไม่ได้อยากเหวี่ยงใคร”
    แต่มันก็ยั้งไม่อยู่จริงๆ

    และเมื่ออาการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ
    หลายคนกลับคิดว่า…
    “เป็นเพราะฉันเครียดมั้ง”
    “แค่เหนื่อยเฉยๆ เดี๋ยวก็หาย”
    แต่ความจริงคือ มันไม่หายครับ ถ้าต้นเหตุมันยังอยู่

    ✴️ผู้หญิงวัย 40+ กับคลื่นอารมณ์ที่ไม่ได้เกิดจากใจ แต่เกิดจาก “ฮอร์โมน”

    เมื่อร่างกายเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน (Perimenopause)
    ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
    แต่ที่สำคัญคือ ฮอร์โมนจะ “แปรปรวน” มากกว่า “ลดลงเฉยๆ”
    ซึ่งทำให้สมองและระบบประสาทรับผลกระทบโดยตรง

    👉งานวิจัยจาก Harvard Medical School ระบุว่า
    “ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลโดยตรงต่อสมองส่วนควบคุมอารมณ์ ความทรงจำ และสมาธิ”
    เมื่อฮอร์โมนนี้ไม่สมดุล จะทำให้เกิดอาการอารมณ์แปรปรวนแบบฉับพลัน เหวี่ยงง่าย และรู้สึกไม่มั่นคงทางใจได้โดยไม่รู้ตัว

    ❓️ทำไมผู้หญิงวัย 40+ ถึงอารมณ์แกว่งได้ง่ายกว่าที่คิด?
    1. ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงเร็ว → สมองไวต่อความเครียด
    2. การหลับไม่ลึก → ฮอร์โมนความสุขหลั่งไม่พอ
    3. ระบบเผาผลาญช้าลง → ร่างกายรู้สึกหนัก เหนื่อยง่าย → หงุดหงิด
    4. โภชนาการที่ไม่สมดุล → ขาดกรดไขมันดีและแมกนีเซียมที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์


    ไม่ใช่ป่วยทางจิต ไม่ใช่เป็นอะไรผิดปกติ แค่ร่างกายส่งสัญญาณว่า “ฉันกำลังต้องการความเข้าใจ”

    การเข้าใจอาการอารมณ์แปรปรวน ไม่ใช่การ “ปล่อยผ่าน”
    แต่คือการ “ฟังร่างกายอย่างเข้าใจ”
    และเลือกดูแลตัวเองแบบไม่ต้องรู้สึกผิด


    ✴️✴️5 เทคนิคง่ายๆ ปรับสมดุลอารมณ์ในวัย 40+

    1. งดน้ำตาล & คาเฟอีนช่วงบ่ายถึงค่ำ

    น้ำตาลและกาแฟทำให้ฮอร์โมน Cortisol พุ่งสูงในช่วงที่ควรจะลดลง ส่งผลให้สมองตึง อารมณ์พุ่ง

    2. กินอาหารไขมันดี & แมกนีเซียมสูง

    อะโวคาโด, เมล็ดแฟลกซ์, ปลาแซลมอน, ผักใบเขียว ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และลดอาการซึมเศร้า

    3. เดินกลางแดดเช้าอย่างน้อย 10 นาที/วัน

    แสงแดดกระตุ้นเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุข และช่วยให้นอนหลับลึกขึ้นตอนกลางคืน

    4. ฝึกหายใจลึก (Deep Breathing)

    ใช้เวลา 5 นาที/วัน หายใจเข้า 4 วินาที กลั้น 4 วินาที และออก 6 วินาที
    ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ลดความเหวี่ยงได้จริง

    5. ฝึกขอบคุณเล็กๆ ก่อนนอน

    👉เขียน 3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน
    จะช่วยปรับคลื่นสมองให้สงบและทำให้ตื่นเช้ามาด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้น
    ✴️สรุป

    ถ้าท่านรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองไม่มั่นคงในช่วงวัย 40+
    อย่าเพิ่งโทษตัวเองว่าใจไม่แข็ง หรือว่าเป็นคนไม่ดี
    เพราะความจริง…ท่านแค่ต้องการ “การดูแลจากภายใน”

    👉ฮอร์โมนที่แปรปรวน คือธรรมชาติของร่างกาย
    แต่เราสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ ด้วยความเข้าใจและความรักตัวเองอย่างถูกวิธี

    ❤️ดูแลหัวใจให้ดี แล้วใจจะดูแลเราตอบแทนกลับมาเสมอครับ

    😡❓️ “เหวี่ยงง่าย หงุดหงิดหนัก อารมณ์แปรปรวน…ผู้หญิงหลายคนไม่รู้ว่าฮอร์โมนกำลังจะพัง!” 😡คุณเคยไหมครับ… ตื่นเช้ามาแบบยังไม่ทันมีใครทำอะไร ก็รู้สึกหงุดหงิด ขับรถอยู่ก็รู้สึกอยากตะโกนใส่ทุกคันที่แทรกหน้า หรือบางวันอยู่ดีๆ ก็ร้องไห้โดยไม่มีเหตุผล 👉บางครั้งก็รู้สึกผิดที่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ทั้งที่ใจลึกๆ ก็รู้ว่า “เราไม่ได้อยากเหวี่ยงใคร” แต่มันก็ยั้งไม่อยู่จริงๆ และเมื่ออาการแบบนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ หลายคนกลับคิดว่า… “เป็นเพราะฉันเครียดมั้ง” “แค่เหนื่อยเฉยๆ เดี๋ยวก็หาย” แต่ความจริงคือ มันไม่หายครับ ถ้าต้นเหตุมันยังอยู่ ✴️ผู้หญิงวัย 40+ กับคลื่นอารมณ์ที่ไม่ได้เกิดจากใจ แต่เกิดจาก “ฮอร์โมน” เมื่อร่างกายเริ่มก้าวเข้าสู่ช่วงก่อนวัยหมดประจำเดือน (Perimenopause) ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนจะเริ่มลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ที่สำคัญคือ ฮอร์โมนจะ “แปรปรวน” มากกว่า “ลดลงเฉยๆ” ซึ่งทำให้สมองและระบบประสาทรับผลกระทบโดยตรง 👉งานวิจัยจาก Harvard Medical School ระบุว่า “ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีผลโดยตรงต่อสมองส่วนควบคุมอารมณ์ ความทรงจำ และสมาธิ” เมื่อฮอร์โมนนี้ไม่สมดุล จะทำให้เกิดอาการอารมณ์แปรปรวนแบบฉับพลัน เหวี่ยงง่าย และรู้สึกไม่มั่นคงทางใจได้โดยไม่รู้ตัว ❓️ทำไมผู้หญิงวัย 40+ ถึงอารมณ์แกว่งได้ง่ายกว่าที่คิด? 1. ฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลงเร็ว → สมองไวต่อความเครียด 2. การหลับไม่ลึก → ฮอร์โมนความสุขหลั่งไม่พอ 3. ระบบเผาผลาญช้าลง → ร่างกายรู้สึกหนัก เหนื่อยง่าย → หงุดหงิด 4. โภชนาการที่ไม่สมดุล → ขาดกรดไขมันดีและแมกนีเซียมที่ช่วยปรับสมดุลอารมณ์ ไม่ใช่ป่วยทางจิต ไม่ใช่เป็นอะไรผิดปกติ แค่ร่างกายส่งสัญญาณว่า “ฉันกำลังต้องการความเข้าใจ” การเข้าใจอาการอารมณ์แปรปรวน ไม่ใช่การ “ปล่อยผ่าน” แต่คือการ “ฟังร่างกายอย่างเข้าใจ” และเลือกดูแลตัวเองแบบไม่ต้องรู้สึกผิด ✴️✴️5 เทคนิคง่ายๆ ปรับสมดุลอารมณ์ในวัย 40+ 1. งดน้ำตาล & คาเฟอีนช่วงบ่ายถึงค่ำ น้ำตาลและกาแฟทำให้ฮอร์โมน Cortisol พุ่งสูงในช่วงที่ควรจะลดลง ส่งผลให้สมองตึง อารมณ์พุ่ง 2. กินอาหารไขมันดี & แมกนีเซียมสูง อะโวคาโด, เมล็ดแฟลกซ์, ปลาแซลมอน, ผักใบเขียว ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง และลดอาการซึมเศร้า 3. เดินกลางแดดเช้าอย่างน้อย 10 นาที/วัน แสงแดดกระตุ้นเซโรโทนิน ฮอร์โมนแห่งความสุข และช่วยให้นอนหลับลึกขึ้นตอนกลางคืน 4. ฝึกหายใจลึก (Deep Breathing) ใช้เวลา 5 นาที/วัน หายใจเข้า 4 วินาที กลั้น 4 วินาที และออก 6 วินาที ช่วยให้ระบบประสาทผ่อนคลาย ลดความเหวี่ยงได้จริง 5. ฝึกขอบคุณเล็กๆ ก่อนนอน 👉เขียน 3 สิ่งที่รู้สึกขอบคุณในแต่ละวัน จะช่วยปรับคลื่นสมองให้สงบและทำให้ตื่นเช้ามาด้วยอารมณ์ที่สดใสขึ้น ✴️สรุป ถ้าท่านรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองไม่มั่นคงในช่วงวัย 40+ อย่าเพิ่งโทษตัวเองว่าใจไม่แข็ง หรือว่าเป็นคนไม่ดี เพราะความจริง…ท่านแค่ต้องการ “การดูแลจากภายใน” 👉ฮอร์โมนที่แปรปรวน คือธรรมชาติของร่างกาย แต่เราสามารถอยู่ร่วมกับมันได้ ด้วยความเข้าใจและความรักตัวเองอย่างถูกวิธี ❤️ดูแลหัวใจให้ดี แล้วใจจะดูแลเราตอบแทนกลับมาเสมอครับ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ไม่รู้เจอเรื่องเหี้ยไร จะเนชั่น...สุนัข เวิร์คพล่อย ซ่อง8 ซ่อง7 ซ่อง3 ซ่องวันหลีหน้าฮบ ซ่องทุยPBS ซ่องพีพีบิวกิ้นกีบทีวี ซ่องอำหมาริน สื่อแม่งก์พูดตามขี้ปากยิวไซออนิสต์ทั้งสิ้น ยิ่งเห็นหน้าไอ้เหี้ยจักรภพ เพ็ญแข ผมนี่ยึ่งเจ็บใจเหี้ยๆที่ต้องมาเห็นหน้าคนเหี้ยๆแบบนี้ เป็นเพราะคนรอบข้างและคนในครอบครัวล้วนๆเลยโดยเฉพาะพ่อ แต่ผมไม่อยากจะไปตอบโต้แก แต่บางทีผมอยากแยกกับพ่อเพราะบางทีพ่อไม่ควรล้วงลูกเรื่องของผมไปเสียทุกเรื่อง ไม่ควรจะสอดแทรกไปเสียทุกเรื่อง เป็นห่วงอันนี้เข้าใจ แต่พ่ออยากให้ผมสอบรับราชการ แต่รับงานที่ต้องย้ายทะเบียนบ้านตรงนี้เจ็บสุดๆ แต่ตอนนี้เหมือนต้องย้ายทะเบียนบ้านมาอีก โอ๊ยเครียด จะให้ย้ายทะเบียนบ้านบ่อยไปเพื่ออะไรกัน ผมอยู่จุดที่ผมอยู่ก็พอใจแล้ว ยุ่งเรื่องผม สทร.เรื่องผม จนผมจะประสาทรับประทานอยู่แล้ว บางทีผมอยากจะบอกพ่อตรงๆว่า จากนี้ไป ผมต่างคนต่างอยู่นะ เพราะอยู่ร่วมกันครอบครัวคนอื่นไม่เห็นต้องมาแทรกแซงชีวิตลูกแบบนี้นะ กลัวลูกถูกหลอกลวงต้มตุ๋น กลัวลูกทำงานเอกชนไม่ได้ กลัวลูกอยู่ร่วมสังคมที่ผมชอบอยู่ไม่ได้ แต่อยากให้ผมอยู่ในสังคมที่ผมไม่อยากอยู่และสุดแสนจะ Toxic เป็นห่วงผมมากขนาดนั้นเลยคาดคั้นบีบบังคับให้ผมสอบรับราชการ อ้าวรู้งี้ก็ไม่ต้องอยู่ร่วมกันแล้ว เพราะอยู่ไปเดี๋ยวได้บาดหมางหนักกว่าเก่าอีก เพราะความคิดที่ต้องควบคุมลูก ให้ลูกเป็นแบบนี้แบบนั้น จ้ำจี้จ้ำไชตลอดเวลาจนผมรู้สึกอึดอัด คือผมจะกตัญญูคนอย่างเขาซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองไหวหรือ ผมว่าไม่ไหวหรอก เพราะทัศนคติแย่ๆที่พ่อพยายามดูถูก ท็อกซิก ล้างสมองและหว่านล้อมต่อผม ผมไม่อยากจะฟังมันแล้ว ปีนี้เจ็บสุดแล้ว ปีก่อนก็เจ็บกว่านี้เพราะย้ายทะเบียนบ้าน เกือบฟิวส์ขาดที่อำเภอละ
    วันนี้ไม่รู้เจอเรื่องเหี้ยไร จะเนชั่น...สุนัข เวิร์คพล่อย ซ่อง8 ซ่อง7 ซ่อง3 ซ่องวันหลีหน้าฮบ ซ่องทุยPBS ซ่องพีพีบิวกิ้นกีบทีวี ซ่องอำหมาริน สื่อแม่งก์พูดตามขี้ปากยิวไซออนิสต์ทั้งสิ้น ยิ่งเห็นหน้าไอ้เหี้ยจักรภพ เพ็ญแข ผมนี่ยึ่งเจ็บใจเหี้ยๆที่ต้องมาเห็นหน้าคนเหี้ยๆแบบนี้ เป็นเพราะคนรอบข้างและคนในครอบครัวล้วนๆเลยโดยเฉพาะพ่อ แต่ผมไม่อยากจะไปตอบโต้แก แต่บางทีผมอยากแยกกับพ่อเพราะบางทีพ่อไม่ควรล้วงลูกเรื่องของผมไปเสียทุกเรื่อง ไม่ควรจะสอดแทรกไปเสียทุกเรื่อง เป็นห่วงอันนี้เข้าใจ แต่พ่ออยากให้ผมสอบรับราชการ แต่รับงานที่ต้องย้ายทะเบียนบ้านตรงนี้เจ็บสุดๆ แต่ตอนนี้เหมือนต้องย้ายทะเบียนบ้านมาอีก โอ๊ยเครียด จะให้ย้ายทะเบียนบ้านบ่อยไปเพื่ออะไรกัน ผมอยู่จุดที่ผมอยู่ก็พอใจแล้ว ยุ่งเรื่องผม สทร.เรื่องผม จนผมจะประสาทรับประทานอยู่แล้ว บางทีผมอยากจะบอกพ่อตรงๆว่า จากนี้ไป ผมต่างคนต่างอยู่นะ เพราะอยู่ร่วมกันครอบครัวคนอื่นไม่เห็นต้องมาแทรกแซงชีวิตลูกแบบนี้นะ กลัวลูกถูกหลอกลวงต้มตุ๋น กลัวลูกทำงานเอกชนไม่ได้ กลัวลูกอยู่ร่วมสังคมที่ผมชอบอยู่ไม่ได้ แต่อยากให้ผมอยู่ในสังคมที่ผมไม่อยากอยู่และสุดแสนจะ Toxic เป็นห่วงผมมากขนาดนั้นเลยคาดคั้นบีบบังคับให้ผมสอบรับราชการ อ้าวรู้งี้ก็ไม่ต้องอยู่ร่วมกันแล้ว เพราะอยู่ไปเดี๋ยวได้บาดหมางหนักกว่าเก่าอีก เพราะความคิดที่ต้องควบคุมลูก ให้ลูกเป็นแบบนี้แบบนั้น จ้ำจี้จ้ำไชตลอดเวลาจนผมรู้สึกอึดอัด คือผมจะกตัญญูคนอย่างเขาซึ่งเป็นพ่อแท้ๆของตัวเองไหวหรือ ผมว่าไม่ไหวหรอก เพราะทัศนคติแย่ๆที่พ่อพยายามดูถูก ท็อกซิก ล้างสมองและหว่านล้อมต่อผม ผมไม่อยากจะฟังมันแล้ว ปีนี้เจ็บสุดแล้ว ปีก่อนก็เจ็บกว่านี้เพราะย้ายทะเบียนบ้าน เกือบฟิวส์ขาดที่อำเภอละ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 72 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลูกชาย "รังสรรค์ ต่อสุวรรณ" โต้ข่าวลือขาย "ตึกสาทร" ยันพ่อไม่ได้ประกาศขายเอง เผยตึกมีข้อพิพาท-คดีความซับซ้อน
    https://www.thai-tai.tv/news/17990/
    ลูกชาย "รังสรรค์ ต่อสุวรรณ" โต้ข่าวลือขาย "ตึกสาทร" ยันพ่อไม่ได้ประกาศขายเอง เผยตึกมีข้อพิพาท-คดีความซับซ้อน https://www.thai-tai.tv/news/17990/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 80 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพจช่างกฎหมายมันส์ เผยเรื่องราวผู้ออกแบบตึกสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ โดย อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกในตำนาน ถูกกระบวนการยุติธรรมทำลายชีวิต แม้สุดท้ายศาลจะตัดสินให้เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ชีวิตต้องพังพินาจเป็น “บุคคลล้มละลาย” เมื่อโดนคดี นักลงทุนหนีหาย ไม่มีเงิน ตึกก็ไปต่อไม่ได้ เป็นตึกร้างจนถึงทุกวันนี้

    วันนี้ (30 มี.ค.) เพจ "ช่างกฎหมายมันส์-Letitbelaw" ได้โพสต์เล่าเรื่องราวผู้ก่อสร้างตึกสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ (อังกฤษ: Sathorn Unique Tower) เป็นตึกระฟ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ บนถนนเจริญกรุง ในพื้นที่แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร อาคารนี้ซึ่งวางแผนไว้ว่าเป็นโครงการอาคารชุดสูง ต้องหยุดชะงักลงในระหว่างวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 โดยระบุข้อความว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ โดยรังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกในตำนาน ยังเด่นโดยท้าทาย ตำนานผู้ออกแบบที่โดนกระบวนการยุติธรรมทำลายชีวิต วางเงินมาแล้วเราจะเล่าให้ฟัง

    จากข่าวตึก สตง.โครงสร้างเสร็จสิ้นแต่ถล่มจากแผ่นดินไหว มองมาที่ตึกสาธรที่โครงสร้างเสร็จเช่นเดียวกัน แต่ยังยืนเด่นโดยท้าทาย อาจารย์รังสรรค์ คือผู้บุกเบิกการออกแบบยุคใหม่ การออกแบบในยุคนั้นนิยมในลักษณะอาร์ตเดคอร์ที่มีความโด่ดเด่นในลักษณะเรขาคณิต และมีความเหลี่ยม แข็ง ซึ่งง่ายต่อการก่อสร้าง และงานปูน สามารถดูได้ตามสถานที่ราชการเก่าๆ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030282

    #MGROnline #สาธรยูนีค #สาทรยูนีค #ตึกร้างสาทร
    เพจช่างกฎหมายมันส์ เผยเรื่องราวผู้ออกแบบตึกสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ โดย อ.รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกในตำนาน ถูกกระบวนการยุติธรรมทำลายชีวิต แม้สุดท้ายศาลจะตัดสินให้เป็นผู้บริสุทธิ์ แต่ชีวิตต้องพังพินาจเป็น “บุคคลล้มละลาย” เมื่อโดนคดี นักลงทุนหนีหาย ไม่มีเงิน ตึกก็ไปต่อไม่ได้ เป็นตึกร้างจนถึงทุกวันนี้ • วันนี้ (30 มี.ค.) เพจ "ช่างกฎหมายมันส์-Letitbelaw" ได้โพสต์เล่าเรื่องราวผู้ก่อสร้างตึกสาทร ยูนีค ทาวเวอร์ (อังกฤษ: Sathorn Unique Tower) เป็นตึกระฟ้าที่ยังสร้างไม่เสร็จ บนถนนเจริญกรุง ในพื้นที่แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร อาคารนี้ซึ่งวางแผนไว้ว่าเป็นโครงการอาคารชุดสูง ต้องหยุดชะงักลงในระหว่างวิกฤตการณ์การเงินในเอเชีย พ.ศ. 2540 โดยระบุข้อความว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์ โดยรังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกในตำนาน ยังเด่นโดยท้าทาย ตำนานผู้ออกแบบที่โดนกระบวนการยุติธรรมทำลายชีวิต วางเงินมาแล้วเราจะเล่าให้ฟัง • จากข่าวตึก สตง.โครงสร้างเสร็จสิ้นแต่ถล่มจากแผ่นดินไหว มองมาที่ตึกสาธรที่โครงสร้างเสร็จเช่นเดียวกัน แต่ยังยืนเด่นโดยท้าทาย อาจารย์รังสรรค์ คือผู้บุกเบิกการออกแบบยุคใหม่ การออกแบบในยุคนั้นนิยมในลักษณะอาร์ตเดคอร์ที่มีความโด่ดเด่นในลักษณะเรขาคณิต และมีความเหลี่ยม แข็ง ซึ่งง่ายต่อการก่อสร้าง และงานปูน สามารถดูได้ตามสถานที่ราชการเก่าๆ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030282 • #MGROnline #สาธรยูนีค #สาทรยูนีค #ตึกร้างสาทร
    Like
    Sad
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • 35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️

    🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️

    🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน

    ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

    🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨

    แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย…

    📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง

    🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦

    มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended

    เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น

    🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์
    โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว

    👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา…

    💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก

    🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก

    อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️

    💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน

    📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90%

    ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕

    🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า…

    ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย"

    ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎

    🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้

    “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย

    ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜

    🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต…

    🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม
    ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568

    🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    35 ปี ตึกร้างผีสิง “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ร่องรอยวิกฤตต้มยำกุ้ง แต่… ไร้รอยฝุ่นฟุ้งแผ่นดินไหว 🏚️ 🏙️ เมื่อสถานที่กลายเป็น ร่องรอยของเหตุการณ์ในอดีต สถานที่บางแห่ง ถูกสร้างขึ้นเพื่อจดจำสิ่งยิ่งใหญ่ เช่น รูปปั้นเทพีเสรีภาพของอเมริกา หรืออนุสาวรีย์ประชาธิปไตยของไทย แต่บางครั้งสถานที่กลับกลายเป็น "ร่องรอยที่ไม่มีใครอยากจดจำ" อย่างเช่น ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ (Sathorn Unique Tower) ที่ไม่ได้ตั้งอยู่เพื่อเป็นอนุสรณ์ แต่กลับกลายเป็นหนึ่งในหลักฐานชิ้นเอกของ วิกฤตการณ์ต้มยำกุ้ง ปี พ.ศ. 2540 🕰️ 🌉 Sathorn Unique Tower:ความหวังระดับลักซ์ชัวรี่ใจกลางกรุง ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2533 ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจไทย เฟื่องฟูแบบก้าวกระโดด โครงการอสังหาริมทรัพย์หรู ผุดขึ้นทั่วเมืองกรุง หนึ่งในนั้นคือ “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ที่ออกแบบโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์รังสรรค์ ต่อสุวรรณ สถาปนิกชื่อดัง ผู้อยู่เบื้องหลังดีไซน์ของ State Tower ที่โด่งดังเช่นกัน ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์ เป็นคอนโดฯ สไตล์โรมันสูง 49 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน 2 ชั้น บนความสูง 185 เมตร 🏢 รวมทั้งหมด 600 ยูนิต มูลค่าลงทุนมากถึง 1,800 ล้านบาท เป้าหมายคือการเป็นแลนด์มาร์กสุดหรู ริมแม่น้ำเจ้าพระยา 🏗️ โครงการในฝัน กลายเป็นฝันร้าย? แม้จะมีเงินลงทุนจากพรีเซลล์ และบริษัทร่วมทุน แต่ก็ยังไม่พอ จึงต้องพึ่งพาเงินกู้จาก บริษัทหลักทรัพย์ไทยเม็กซ์ ซึ่งต่อมากลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะทันทีที่เจ้าของโครงการ ถูกกล่าวหาคดีอาญาเรื่องจ้างวานฆ่า ซึ่งภายหลังถูกยกฟ้อง ก็ส่งผลให้สถาบันการเงิน “เบรก” การปล่อยกู้ทันที 😨 แม้จะฟื้นคืนการเงินได้ในภายหลัง แต่ “ความเชื่อมั่น” ก็ไม่กลับมาอีกเลย… 📉 วิกฤตต้มยำกุ้ง จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจที่ทำให้ตึกหยุดสร้าง 🔍 พื้นหลังเศรษฐกิจไทยยุคทอง ก่อนปี 2540 เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 9% ต่อปี เงินทุนไหลเข้ามหาศาล ดอกเบี้ยในประเทศสูง ต่างชาติแห่ลงทุน ธนาคารไทยเองก็ขยายเครดิตอย่างหนัก 🏦 มีการตั้ง BIBF เพื่อปล่อยกู้เงินต่างประเทศ เข้ามาภายในประเทศ แต่บริษัทส่วนใหญ่กลับกู้ระยะสั้น ทั้งที่อสังหาฯ ต้องใช้เงินระยะยาว ระบบเศรษฐกิจ "เติบโตเกินจริง" หรือ Overextended เมื่อค่าเงินบาทถูก "ลอยตัว" จาก 25 บาท/ดอลลาร์ ไปแตะ 50 บาท/ดอลลาร์ ทำให้ภาคเอกชนต้องใช้หนี้เพิ่มขึ้น “เท่าตัว” โดยไม่มีรายได้เพิ่มขึ้น 🧨 เมื่อฟองสบู่แตก บริษัทเงินทุนล่มสลาย ปี 2540 รัฐบาลประกาศปิดบริษัทเงินทุนกว่า 50 แห่ง รวมถึง ไทยเม็กซ์ โครงการสาธร ยูนีค ที่เดินหน้าไปแล้ว 80% ก็ต้องหยุดกะทันหัน ท่ามกลางวิกฤตความเชื่อมั่น และต้นทุนกู้ยืมที่สูงเกินรับไหว 👻 จาก “สาธร ยูนีค” สู่ “Ghost Tower” ตำนานความหลอนใจกลางเมือง หลังจากการก่อสร้างถูกปล่อยทิ้งร้าง ตึกนี้ก็เริ่มเสื่อมโทรมตามกาลเวลา และเพราะเป็นตึกสูงใหญ่โดดเด่นที่ "ไม่เสร็จ" ผู้คนก็เริ่มแต่งเรื่องลี้ลับขึ้นมา… 💀 ข่าวลือที่สร้างชื่อเสียงแบบไม่ตั้งใจ บางคนเชื่อว่า ตึกสร้างไม่เสร็จเพราะอาถรรพ์ บ้างลือว่าตึกนี้ ตั้งอยู่บนพื้นที่สุสานเก่า มีข่าวลือถึงการเสียชีวิตปริศนาในตึก 🎥 ในปี 2557 มีเหตุสลดจริง เมื่อพบศพชายชาวสวีเดน แขวนคอในตึกดังกล่าว ทำให้ทางเจ้าของตึกแจ้งความ และมีการ “ปิดทางเข้า” ไม่ให้คนภายนอกเข้าไปอีก อย่างไรก็ตาม ภาพจากตึกนี้ยังคงปรากฏในหนังหลายเรื่อง เช่น “เพื่อน…ที่ระลึก” ที่ตีแผ่ความหลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจและการพลัดพราก 🕯️ 💡 ทำไมถึงขายไม่ได้? ราคาพุ่งจาก 3,000 ล้าน สู่ 4,000 ล้าน 📌 ต้นทุนที่ยังค้างคา เจ้าของคนปัจจุบันคือ นายพรรษิษฐ์ ต่อสุวรรณ บุตรชาย ผศ.รังสรรค์ ยืนยันว่า จะขายตึกในราคาที่สามารถคืนทุนทั้งหมด และคืนเงินให้กับผู้ที่ซื้อพรีเซลล์ไว้แล้วกว่า 90% ปัจจุบันราคาตึกตั้งไว้ที่ 3,000-4,000 ล้านบาท ซึ่งสูงเกินกว่าที่นักลงทุนรายใหม่จะรับได้ โดยเฉพาะเมื่อโครงสร้างห้องในอดีตเน้น “ขนาดใหญ่” ซึ่งสวนทางกับเทรนด์ห้องยุคปัจจุบัน ที่ต้องการห้องขนาดกะทัดรัด 😕 🧱 แต่… “Ghost Tower” แข็งแรงกว่าที่คิด! 🌍 เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2568 ผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ขายตึกนี้ในราคา 4,000 ล้านบาท พร้อมข้อมูลว่า… ❗ "แม้จะเกิดแผ่นดินไหว แต่โครงสร้างตึก ไม่กระทบเลยแม้แต่น้อย" ทำให้มีคนเริ่มสนใจตึกนี้ในฐานะ “อสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแรง และโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม” อีกครั้ง ตึกนี้ไม่เพียงรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจ แต่ยัง "ยืนหยัดท่ามกลางแรงสั่นสะเทือนจากธรรมชาติ" ได้อีกด้วย 💪🌎 🧠 “สาธร” หรือ “สาทร” สรุปใช้คำไหนกันแน่? แม้ตึกจะใช้ชื่อว่า “สาธร ยูนีค ทาวเวอร์” ตามชื่อบริษัทที่จดทะเบียน แต่ในความเป็นจริง ชื่อเขตที่ตั้งควรสะกดว่า “สาทร” โดยมีที่มาทางประวัติศาสตร์ดังนี้ “สาทร” มาจาก หลวงสาทรราชายุตก์ ผู้สร้างถนนและคลองในยุค ร.5 เอกสารราชการในยุค ร.6 ใช้คำว่า “สาทร” อย่างชัดเจน ปัจจุบันการสะกดผิดพลาด และใช้คำว่า “สาธร” แพร่หลาย ราชบัณฑิตยสถานจึงแนะนำให้ใช้คำว่า “สาทร” เพื่อความถูกต้องตามประวัติศาสตร์ 📜 🎬 "Sathorn Unique Tower" แลนด์มาร์กของ “อดีต” ที่ยังยืนอยู่ใน “ปัจจุบัน” แม้จะผ่านเวลามาแล้ว 35 ปี ตึกแห่งนี้ยังคงตั้งตระหง่าน อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ได้เพียงเป็นตึกร้าง แต่กลายเป็น สัญลักษณ์ของบทเรียนเศรษฐกิจ กลายเป็น แลนด์มาร์กแห่งความทรงจำ และอาจเป็น “โอกาสใหม่” ที่รอเพียงการตีความใหม่อีกครั้ง ในอนาคต… 🔚 "ตึกสาธร ยูนีค ทาวเวอร์" อดีตที่ยัง “ยืนอยู่” ตึกนี้คือบทเรียนทางเศรษฐกิจ สถาปัตยกรรม และวัฒนธรรม ที่ยังไม่จบ… และอาจเป็น “จุดเริ่มต้นใหม่” หากมีใครกล้าคิด…ต่าง 💡 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 301305 มี.ค. 2568 🏷️ #ตึกสาธรยูนีค #GhostTower #วิกฤตต้มยำกุ้ง #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย #สถานที่หลอน #ตึกผีสิง #กรุงเทพมหานคร #SathornUniqueTower #ตำนานเมืองกรุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวจริงหรือเฟกนิวส์ หลังพบมีนายหน้าประกาศขายตึก “สาธร ยูนีค” ราคา 4 พันล้านบาท ล่าสุดเผยว่ามีติดต่อมาแล้ว 5 รายใหญ่

    จากกรณี จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทยรู้สึกถึงความสั่นไหวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอาคารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ บนถนนกำแพงเพชร 2 ตรงข้ามศูนย์การค้าเจเจมอลล์ แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตได้นำตึกของ สตง.ไปเปรียบเทียบกับ ตึกใบหยก , ตึกช้างและตึกสาธร ยูนีค

    อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ชาวเน็ตแห่แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งอ้างว่าตนเองเป็นนายหน้า ประกาศขายตึกสาธร ยูนีค ในราคา 4 พันล้าน โดยได้ระบุข้อความว่า

    “#ขายตึกสูง 49ชั้น #ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา #ตึกสาธร ยูนิท ที่ดิน3.19ไร่ ตึกยังสร้างไม่เสร็จ เจอ I M F,เสียก่อน ‼️อยู่ถนนเจริญกรุง ไม่โดนมรดกโลกปิดบังทัศนียภาพ ผู้ออกแบบสถาปนิก อ,รังสรรถ้าสร้างเสร็จจะสวยดั่งรูปภาพแบบคอนโดที่หรูที่สุดในใจกลางเมืองมีสระว่ายน้ำรวมอยู่ด้วยใกล้สถานี BTS ไกล้ห้างโรบิลสัน ร,ร,แซงการิล่า หรือโอเร็นเต้ลริมแม่น้ำ สวยสุดแปลงที่เหลือ ขาย 4,000ล้านบาท สี่พันล้านบาท)ราคามาคุยกันได้คับ

    ออกแบบรองรับ แผ่นดินไหว โดยผู้เชี่ยชาญ สถาปนิกมือหนึ่งของไทยและ จากต่างประเทศ ขาย 4 พันล้านถ้วน “

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030057

    #MGROnline #สาธรยูนีค #สาทรยูนีค #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย
    ข่าวจริงหรือเฟกนิวส์ หลังพบมีนายหน้าประกาศขายตึก “สาธร ยูนีค” ราคา 4 พันล้านบาท ล่าสุดเผยว่ามีติดต่อมาแล้ว 5 รายใหญ่ • จากกรณี จากกรณีเกิดเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเมียนมา ซึ่งส่งผลกระทบถึงประเทศไทยรู้สึกถึงความสั่นไหวในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะอาคารของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ บนถนนกำแพงเพชร 2 ตรงข้ามศูนย์การค้าเจเจมอลล์ แขวงและเขตจตุจักร กรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม มีชาวเน็ตได้นำตึกของ สตง.ไปเปรียบเทียบกับ ตึกใบหยก , ตึกช้างและตึกสาธร ยูนีค • อย่างไรก็ตาม พบว่าเมื่อวันที่ 28 มี.ค. ชาวเน็ตแห่แชร์โพสต์ของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งซึ่งอ้างว่าตนเองเป็นนายหน้า ประกาศขายตึกสาธร ยูนีค ในราคา 4 พันล้าน โดยได้ระบุข้อความว่า “#ขายตึกสูง 49ชั้น #ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา #ตึกสาธร ยูนิท ที่ดิน3.19ไร่ ตึกยังสร้างไม่เสร็จ เจอ I M F,เสียก่อน ‼️อยู่ถนนเจริญกรุง ไม่โดนมรดกโลกปิดบังทัศนียภาพ ผู้ออกแบบสถาปนิก อ,รังสรรถ้าสร้างเสร็จจะสวยดั่งรูปภาพแบบคอนโดที่หรูที่สุดในใจกลางเมืองมีสระว่ายน้ำรวมอยู่ด้วยใกล้สถานี BTS ไกล้ห้างโรบิลสัน ร,ร,แซงการิล่า หรือโอเร็นเต้ลริมแม่น้ำ สวยสุดแปลงที่เหลือ ขาย 4,000ล้านบาท สี่พันล้านบาท)ราคามาคุยกันได้คับ ออกแบบรองรับ แผ่นดินไหว โดยผู้เชี่ยชาญ สถาปนิกมือหนึ่งของไทยและ จากต่างประเทศ ขาย 4 พันล้านถ้วน “ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/onlinesection/detail/9680000030057 • #MGROnline #สาธรยูนีค #สาทรยูนีค #ตึกร้างกรุงเทพ #อสังหาริมทรัพย์ไทย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 425 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกมล้มซักฟอกเอาจริงหรือปั่นประสาทรัฐบาลเจี๊ยะ-ฝ่ายค้านเจ๊ง? : ข่าวลึกปมลับ 11/03/68
    เกมล้มซักฟอกเอาจริงหรือปั่นประสาทรัฐบาลเจี๊ยะ-ฝ่ายค้านเจ๊ง? : ข่าวลึกปมลับ 11/03/68
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 353 มุมมอง 6 0 รีวิว
  • .......📌#ว่าด้วยเรื่องหัวไชเท้า.........
    .........................................
    ใครที่ชอบ ทาน หัวไชเท้า เป็นชีวิตจิตใจ ได้โปรดอ่านให้ละเอียดเลย

    เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง

    สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน

    เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย

    หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ

    หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี

    หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี

    ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว

    ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส

    ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง

    จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก

    โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี

    ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง

    Cr: Boos Day ❤️
    ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
    .......📌#ว่าด้วยเรื่องหัวไชเท้า......... ......................................... ใครที่ชอบ ทาน หัวไชเท้า เป็นชีวิตจิตใจ ได้โปรดอ่านให้ละเอียดเลย เมื่อทานผักผลไม้และสมุนไพรได้ อาหารเสริมจึงไม่ได้มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะอาหารเสริมก็สกัดมาจากพืชผัก ผลไม้และสมุนไพรเช่นเดียวกัน ตามคำนิยามที่ว่า ทานอาหารเป็นยานั่นเอง สำหรับหัวไชเท้านี้เป็นอาหารทางการแพทย์ที่มีมากเป็นอันดับสองของโลก เป็นผักตระกูลกระหล่ำ ความพิเศษและแตกต่างจากไม้ตระกูลกะหล่ำที่เหลือคือ หัวไชเท้ามีองค์ประกอบสองส่วน คือมีรากและหัวไชเท้าช่วยเติมเต็มระบบภูมิคุ้มกัน เมื่อเราทานเข้าไป กำมะถันที่มีอยู่ในหัวไชเท้าจะขับไล่เชื้อโรคทุกชนิดและทำหน้าที่เป็นมูลไส้เดือน มันจะช่วยฆ่าหนอนพยาธิในลำไส้และปรสิตอื่น ๆ ทั้งหมดได้อีกด้วย หัวไชเท้ามีส่วนประกอบของ ออร์กาโนซัลเฟอร์ช่วยให้หลอดเลือดแดงและหลอดเลือดดำสะอาดและสร้างเกราะป้องกันในตัวเพื่อป้องกันไม่ให้คราบจุลินทรีย์เกาะติดกับเยื่อบุ หัวไชเท้าช่วยบำรุงหัวใจ ช่วยป้องกันโรคหัวใจและปัญหาหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ ได้ดี เพราะหัวไชเท้าช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอล ชนิดที่ดี และลดคอเลสเตอรอล ชนิดที่ไม่ดี หัวไชเท้าช่วยขับไล่มะเร็งได้เกือบทุกชนิด เพราะสามารถฟื้นฟูไต ตับ ตับอ่อน และม้ามได้เป็นอย่างดี ใบของหัวไชเท้าไม่ต้องทิ้งเพราะเป็นหนึ่งในอาหารรักษาร่างกาย ที่ดีมาก เช่นกัน เพราะใบไม้หัวไชเท้าเป็นพรีไบโอติกที่มีประสิทธิภาพมากเป็นอันดับสองรองจาก บลูเบอร์รี่ป่า เลยทีเดียว ทั้งหัวไชเท้าและใบและมีสารอาหารจำนวนมาก เช่น วิตามิน แร่ธาตุ สารต้านอนุมูลอิสระ ไฟโตเคมิคอล และอัลคาลอยด์ ต้านมะเร็ง และมีคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ช่วยซ่อมแซมลำไส้ใหญ่ และส่วนอื่น ๆ ของลำไส้ที่สูญเสียความสามารถในการดูดซึมสารอาหาร สารอาหารของมันนั้นถูกดูดซึมโดยระบบย่อยอาหารที่ทำงานผิดปกติมากที่สุด และดูดซึมได้ดีกว่าอาหารอื่น ๆ เนื่องจากมีเอนไซม์สูง จริง ๆ แล้ว ใบหัวไชเท้าเป็นอาหารป่า แม้ว่าจะปลูกในสวนหรือในฟาร์มก็ตาม ใบไม้เหล่านี้ช่วยกำจัดสารพิษทั้ง 4 อย่างออกจากร่างกาย คือ กำจัดดีดีที รังสี โลหะหนัก ไวรัส ทานได้ทั้งสดและต้มใส่ซุบน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มจืดหรือแกงส้ม ส่วนทานสดโดยจิ้มน้ำพริกหรือทานกับชูชิ ปั่นดื่มจะดีมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำความสะอาดโลหะหนักในระดับที่รุนแรง และกำจัดสารปรอท ตะกั่ว สารหนู และอะลูมิเนียมออกจากร่างกาย มีพลังเกือบเท่าผักชี ใบและหัวไชเท้าช่วยป้องกันโรคทางระบบประสาทรวมถึงโรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง เอแอลเอส ( ALS ) และโรคไลม์ ( Lyme ) ทางระบบประสาท หัวไชเท้าจึงได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผักใบที่ทรงพลังที่สุดสำหรับสุขภาพของผู้คนนั่นเอง Cr: Boos Day ❤️ ด้วยความรักและปรารถนาดีจากแพทย์และทีมงานสถาบันสุขภาพครอบครัวองค์รวมดร.อรวรรณ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 629 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง หลังคาคลุมทางเท้า 20 ล้าน

    ยังคงมีเรื่องดรามาไม่หยุด สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อมีโครงการปรับรูปแบบโครงการทางเดินเท้าแบบมีหลังคาคลุม (Covered walkway) บริเวณถนนสาทรใต้ โดยสำนักการโยธา ได้ร่วมกับศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) ศึกษาและออกแบบ ก่อสร้างนำร่องบริเวณถนนสาทรใต้ ช่วงสถานีรถไฟฟ้าลุมพินี ถึงสกายวอล์กช่องนนทรี ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร งบประมาณ 20,523,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน

    แต่เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการท่อร้อยสายไฟ และมีแผนจะหักเสาไฟประมาณเดือน พ.ค. 2569 จึงต้องปรับรูปแบบการก่อสร้าง โดยทำการเว้าเพื่อหลบเสาไฟฟ้า เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงาน เมื่อการไฟฟ้านครหลวงหักเสาเสร็จแล้ว ถึงจะปรับปรุงบริเวณที่มีการเว้าให้สมบูรณ์ตามแบบต่อไป

    วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สามารถใช้สัญจรในทุกสภาพอากาศ ท่ามกลางอากาศร้อนจัดและฝนตกชุกหลายเดือน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเลือกสัญจรโดยขนส่งมวลขนและการเดินเท้า สามารถเดินเท้าเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาการจราจรของเมือง และอ้างว่าประเทศสิงคโปร์ หรือเมืองต่างๆ ของไต้หวันได้ทำ

    โครงการหลังคาคลุมทางเท้า เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบประมาณตกเมตรละ 13,000 บาท คุ้มค่าหรือไม่ สารพัดข้อสงสัยมีตั้งแต่ สภาพทางเท้าที่แท้จริงเหมาะกับการเดินเท้าหรือไม่ กันแดดกันฝนได้จริงหรือไม่ คนพิการใช้งานสะดวกหรือไม่ มีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืนหรือไม่ การที่ยังไม่หักเสาไฟจะกลายเป็นมุมอับสำหรับมิจฉาชีพหรือไม่ ภูมิทัศน์ไม่รกสายตาหรือไม่ เมื่อหลังคาหรือเสาสกปรกเพราะสัตว์พาหะ เช่น สุนัข แมว หนู นก ฯลฯ เศษขยะ หรือมีคนมือบอนขีดเขียน จะสามารถทำความสะอาดได้หรือไม่

    และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทางเท้ายังเป็นทางเท้า ไม่ถูกทำให้กลายเป็นทางสัญจรของรถจักรยานยนต์ กลายเป็นแหล่งขายของบรรดาหาบเร่แผงลอย หรือเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนของคนไร้บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กเพจ Bangkok Sightseeing ยังเผยแพร่ภาพรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าถนนสาทรใต้ ที่กำลังก่อสร้างหลังคาคลุมทางเท้า และเริ่มมีวินรถจักรยานยนต์จอดรถกันเป็นกลุ่มเพื่อจับจองพื้นที่แล้ว

    หลังคาคลุมทางเท้าอาจกลายเป็นโครงการที่มีข้อครหา ไม่ต่างจากกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ที่พบว่าลู่วิ่งราคา 7.5 แสนบาท หรือการก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางรูปแบบใหม่ ที่มีราคาสูงถึงหลังละ 280,000-320,000 บาท หรือการจัดซื้อจัดจ้างอีกมากที่ยังเคลือบแคลงสงสัย

    #Newskit
    กรุงเทพฯ ดุจเทพสร้าง หลังคาคลุมทางเท้า 20 ล้าน ยังคงมีเรื่องดรามาไม่หยุด สำหรับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ยุคผู้ว่าฯ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เมื่อมีโครงการปรับรูปแบบโครงการทางเดินเท้าแบบมีหลังคาคลุม (Covered walkway) บริเวณถนนสาทรใต้ โดยสำนักการโยธา ได้ร่วมกับศูนย์ออกแบบและพัฒนาเมือง (UDDC) ศึกษาและออกแบบ ก่อสร้างนำร่องบริเวณถนนสาทรใต้ ช่วงสถานีรถไฟฟ้าลุมพินี ถึงสกายวอล์กช่องนนทรี ระยะทาง 1.6 กิโลเมตร งบประมาณ 20,523,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 180 วัน แต่เนื่องจากการไฟฟ้านครหลวง ได้ดำเนินการท่อร้อยสายไฟ และมีแผนจะหักเสาไฟประมาณเดือน พ.ค. 2569 จึงต้องปรับรูปแบบการก่อสร้าง โดยทำการเว้าเพื่อหลบเสาไฟฟ้า เพื่อให้การก่อสร้างแล้วเสร็จตามแผนงาน เมื่อการไฟฟ้านครหลวงหักเสาเสร็จแล้ว ถึงจะปรับปรุงบริเวณที่มีการเว้าให้สมบูรณ์ตามแบบต่อไป วัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สามารถใช้สัญจรในทุกสภาพอากาศ ท่ามกลางอากาศร้อนจัดและฝนตกชุกหลายเดือน เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนเลือกสัญจรโดยขนส่งมวลขนและการเดินเท้า สามารถเดินเท้าเชื่อมต่อไปยังระบบขนส่งสาธารณะได้สะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดปัญหาการจราจรของเมือง และอ้างว่าประเทศสิงคโปร์ หรือเมืองต่างๆ ของไต้หวันได้ทำ โครงการหลังคาคลุมทางเท้า เรียกเสียงวิจารณ์จากชาวเน็ตอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะประเด็นการใช้งบประมาณตกเมตรละ 13,000 บาท คุ้มค่าหรือไม่ สารพัดข้อสงสัยมีตั้งแต่ สภาพทางเท้าที่แท้จริงเหมาะกับการเดินเท้าหรือไม่ กันแดดกันฝนได้จริงหรือไม่ คนพิการใช้งานสะดวกหรือไม่ มีแสงสว่างเพียงพอในยามค่ำคืนหรือไม่ การที่ยังไม่หักเสาไฟจะกลายเป็นมุมอับสำหรับมิจฉาชีพหรือไม่ ภูมิทัศน์ไม่รกสายตาหรือไม่ เมื่อหลังคาหรือเสาสกปรกเพราะสัตว์พาหะ เช่น สุนัข แมว หนู นก ฯลฯ เศษขยะ หรือมีคนมือบอนขีดเขียน จะสามารถทำความสะอาดได้หรือไม่ และจะแน่ใจได้อย่างไรว่าทางเท้ายังเป็นทางเท้า ไม่ถูกทำให้กลายเป็นทางสัญจรของรถจักรยานยนต์ กลายเป็นแหล่งขายของบรรดาหาบเร่แผงลอย หรือเป็นที่อยู่อาศัยหลับนอนของคนไร้บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้เฟซบุ๊กเพจ Bangkok Sightseeing ยังเผยแพร่ภาพรถจักรยานยนต์ขับขี่บนทางเท้าถนนสาทรใต้ ที่กำลังก่อสร้างหลังคาคลุมทางเท้า และเริ่มมีวินรถจักรยานยนต์จอดรถกันเป็นกลุ่มเพื่อจับจองพื้นที่แล้ว หลังคาคลุมทางเท้าอาจกลายเป็นโครงการที่มีข้อครหา ไม่ต่างจากกรณีการจัดซื้อเครื่องออกกำลังกาย ที่พบว่าลู่วิ่งราคา 7.5 แสนบาท หรือการก่อสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางรูปแบบใหม่ ที่มีราคาสูงถึงหลังละ 280,000-320,000 บาท หรือการจัดซื้อจัดจ้างอีกมากที่ยังเคลือบแคลงสงสัย #Newskit
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 767 มุมมอง 0 รีวิว
  • #การอักเสบ

    ส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมด้านสุขภาพของคุณได้อย่างไร

    การอักเสบควบคุมชีวิตของเรา ถ้าคุณหรือคนที่คุณรักกำลังต่อสู้กับอาการปวด โรคอ้วน โรคสมาธิสั้น ปลายประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไมเกรน ปัญหาต่อมไทรอยด์ ปัญหาทางทันตกรรมหรือโรคมะเร็ง

    น่าเศร้าที่คนส่วนใหญ่กำลังทุกข์ทรมานจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งของความผิดปกติเหล่านี้ แต่ไม่มีแนวความคิดหรือวิธีการที่จะกำจัดการอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ใช้ยาแทนการมุ่งเป้าไปที่ต้นตอของสาเหตุ

    มันมักจะดูเหมือนว่า..มันเป็นเรื่องแปลกเป็นอย่างยิ่งเมื่อตระหนักว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการอักเสบเริ่มต้นในลำไส้จากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันซึ่งจะดำเนินการอักเสบไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจัดการอย่างแท้จริงและหวังว่าจะเอาชนะโรค

    การมองให้ลึกถึงขั้นตอนแห่งการเริ่มต้นเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด

    ....การอักเสบเริ่มต้นที่ใด.....

    ลำไส้ของคุณประกอบขึ้นด้วยเยื่อบุกึ่งซึมผ่านที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ พื้นที่ผิวของลำไส้ของคุณสามารถครอบคลุมพื้นที่เท่ากับสนามเทนนิส 2 สนามเมื่อแผ่ออกให้แบน

    ระดับของการซึมผ่านผันผวนตามการตอบสนองต่อความหลากหลายของสภาพสารเคมี... ตัวอย่างเช่นเมื่อฮอร์โมน cortisol สูงขึ้นเนื่องจากความเครียดจากการโต้แย้งหรือระดับฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ของคุณเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการเผาผลาญน้ำมันในตอนเที่ยงคืน เยื่อบุลำไส้ของคุณจะซึมผ่านได้มากขึ้น ณ เวลานั้น ๆ

    จากนั้นเมื่อกินอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้บางส่วน อาหารที่มีสารพิษ... ไวรัส ยีสต์และแบคทีเรียก็มีโอกาสที่จะผ่านลำไส้และการเข้าไปยังกระแสเลือด..สิ่งนี้รู้จักกันว่าเป็นกลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่วหรือ leaky gut syndrome (LGS)

    เมื่อเยื่อบุลำไส้ได้รับความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เซลล์ที่เสียหายเรียกกันว่า microvilli จะไม่สามารถทำงานของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง พวกเขาไม่สามารถดำเนินการและใช้ประโยชน์จากสารอาหารและเอนไซม์ที่มีความสำคัญในการย่อยอาหารที่เหมาะสม ในท้ายที่สุดการย่อยอาหารและการดูดซึมของสารอาหารจะลดลง นี่คือผลกระทบในเชิงลบ เมื่อเยื่อบุลำไส้ของคุณสัมผัสกับสิ่งที่กล่าวมามากขึ้น..ร่างกายของคุณก็เริ่มต้นการถูกโจมตีจากผู้รุกรานเหล่านี้ และร่างกายจะตอบสนองด้วยการอักเสบที่ก่อให้เกิด ภูมิแพ้ แพ้ภูมิ และอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอีกมากมาย

    ดังนั้นคุณอาจจะถามว่า : การอักเสบเป็นอันตรายได้อย่างไรและเกิดอาการแพ้อย่างต่อเนื่องหรือไม่

    มันอาจฟังดูเหมือนว่าค่อนข้างจะไม่อันตรายสักเท่าไหร่..แต่สถานการณ์นี้สามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงและบั่นทอนได้อีกมากมาย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะมีภาระมากเกินไป การอักเสบเหล่านี้จะเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่องผ่านทางเลือดของคุณที่พวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท อวัยวะ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ข้อต่อและกล้ามเนื้อ

    การอักเสบก่ออาการของโรคอื่นๆ

    การปรากฏตัวของการอักเสบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคส่วนใหญ่ มันมักจะเกิดขึ้นมานานหลายปีก่อนที่มันจะอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนหรือมีนัยสำคัญทางคลินิก

    รายการต่อไปนี้มีความเกี่ยวข้องกับการอักเสบเสมอ

    โรคภูมิแพ้----ภูมิคุ้มกัน 4 ประเภท + ความไว..ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการอักเสบ

    อัลไซม์เมอร์----การอักเสบเรื้อรังทำลายเซลล์สมอง

    โรคโลหิตจาง---- cytokinesที่กระตุ้นการอักเสบโจมตีการผลิต erythropoietin

    Ankylosing Spondylitis (โรคกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด)----cytokines ที่กระตุ้นการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองในข้อต่างๆ

    หอบหืด---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานให้ตอบสนองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ

    ออทิสติก---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานที่ผิดปกติเข้าไปควบคุมการพัฒนาสมองซีกขวา

    โรคข้ออักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำลายกระดูกอ่อนและของเหลว synovial

    Carpal Tunnel Syndrome (โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ) เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในความเครียดของกล้ามเนื้อที่มากเกินไปทำให้เส้นเอ็นแขนหดตัวและข้อมือบีบอัดเส้นประสาท

    Celiac Chronic (โรคแพ้กลูเตน)----ภูมิคุ้มกันจัดการกับความเสียหายและก่อให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุลำไส้

    โรค Crohn ----โรคเรื้อรังจากระบบภูมิคุ้มกันเกิดความเสียหายและเกิดการอักเสบเยื่อบุลำไส้

    หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดการเสียหายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ

    กลาก สิวเอ็กซิม่า----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับกำจัดสารพิษได้ไม่ดีและมักจะเกิดจากแอนติบอดีต่อสู้กับ Transglutaminase-3

    Fibromyalgia (ปวดทั่วสรรพางค์กาย)---- เนื้อเยื่อเกี่ยวพันอักเสบ เกิดจากความเป็นกรดของร่างกายที่ยินยอมให้จุลชีพฝั่งเลวเข้าเล่นงานเนื้อเยื่ออ่อนและมาจากความไม่สมดุลทางโภชนาการและระบบประสาทรอง

    โรคปอดอักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเข้าโจมตีเนื้อเยื่อที่บอบช้ำ

    โรคถุงน้ำดี----การอักเสบของท่อน้ำดีหรือคอเลสเตอรอลส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อการอักเสบในลำไส้

    โรคกรดไหลย้อน----การอักเสบของหลอดอาหารและระบบทางเดินอาหารเกือบตลอดเวลา ความไวต่ออาหารและค่า pH เป็นตัวขับเคลื่อน

    โรคจีบีเอส โรคกิลแลงบาร์เร GBS Guillain-Barre syndrome ภูมิคุ้มกันอัตโนมัติเข้าโจมตีระบบประสาทมักจะเกิดโดยการตอบสนองของ autoimmune ต่อความเครียดภายนอกเช่นการฉีดวัคซีน

    Hashimoto's Thyroiditis (ต่อมไทรอยด์อักเสบ)----ภูมิคุ้มกันเกิดปฏิกิริยาในลำไส้โดยเรียกแอนติบอดีมาต่อต้านเอนไซม์และของต่อมไทรอยด์และโปรตีน

    หัวใจวาย----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดหลอดเลือดหัวใจตีบ

    ไตวาย----cytokines ที่ก่อการอักเสบจำกัด การไหลเวียนและก่อความเสียหายต่อ nephrons และท่อไต

    โรคลูปัส พุ่มพวง SLE---- cytokines ที่ก่ออักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

    โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง Multiple Sclerosis ----cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลิน myelin

    โรคระบบประสาท---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลินและหลอดเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งทำให้ระคายเคืองเส้นประสาท

    ตับอ่อนอักเสบ---- cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดการบาดเจ็บของเซลล์ตับอ่อน

    โรคสะเก็ดเงิน Psoriasis ----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับล้างพิษได้ไม่เต็มความสามารถ

    ปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนเหตุอักเสบเรื้อรัง Polymyalgia rheumatic PMR ----cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

    โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับข้อต่อ

    โรคหนังแข็ง scleroderma---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน

    โรคหลอดเลือดสมอง----การอักเสบเรื้อรังส่งเสริมให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน

    ทำไมการอักเสบจะต้องอยู่ที่รากเหง้าของปัญหา

    ความจริงที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณขับเคลื่อนกระบวนการอักเสบในโรคต่างๆเป็นที่ยอมรับกันมานาน แต่น่าเสียดายที่การแพทย์ตะวันตกมีคำตอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในการจัดการหรือการเอาชนะกระบวนการของภูมิต้านทานน้อยเกินไป

    วิธีการโดยทั่วไปในการรักษาคือการปราบปรามการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้วยยาปราบภูมิคุ้มกันหรือบางครั้งก็สเตียรอยด์ วิธีการทั้งสองได้รับการออกแบบเพื่อลดการอักเสบ แต่ไม่ได้หยุดกระบวนการของโรคประจำตัวหรือช่วยให้เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการกู้คืน

    ถ้าคุณปิดกั้นสาเหตุที่แท้จริงของการก่อโรค (การอักเสบ) ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือการหยุดการทำลายเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกายและปล่อยให้ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ใหม่ที่ไม่ก่อการอักเสบ

    การเชื่อมโยงระหว่างการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้และโรคทั้งหลายที่มาจากการอักเสบ

    คำว่าการอักเสบมักจะไม่ค่อยทำให้ใครหลายคนนึกเห็นภาพที่ถูกต้องอย่างแท้จริงในใจของพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะประสบกับมันจริงๆ จากนั้นก็จะเริ่มทำให้รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ

    จะเห็นได้ว่าหลายโรคที่เกิดจากการอักเสบและสร้างความทุกข์ทรมาน มันมาจากลำไส้

    แต่การรักษาทั่วไปไม่นำเสนอประเด็นนี้.. Dr. Maios Hadjivassiliou แห่งอังกฤษ- ผู้ค้นพบกลูแตน-ได้รายงานใน The Lancet ว่า"ความไวต่อกลูแตนสามารถเป็นหลักในการวินิจฉัยเบื้องต้นและในบางครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางระบบประสาท" ซึ่งหมายความว่าคนที่ไวต่อกลูแตนจะมีปัญหากับการทำงานของสมองแม้จะไม่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารแต่อย่างใด ดร. Hadjivassiliou แสดงให้เห็นว่าแอนติบอดี้จะเกิดขึ้นในร่างกายเมื่อพวกเขามีความไวต่อกลูแตนและสามารถส่งความเป็นพิษเข้าสู่สมองได้โดยตรง สำหรับสิ่งนี้การทดสอบพิเศษจึงถูกพัฒนาขึ้น

    ผู้เขียนอีกคนที่ตีพิมพ์ในฉบับล่าสุดของ Pediatrics กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความแปรปรวนของความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นในโรคแพ้กลูแตนขยายวงกว้างกว่ารายงานที่มีก่อนหน้านี้และรวมถึงความผิดปกติของระบบประสาทรวมทั้งอาการปวดหัวเรื้อรัง พัฒนาการล่าช้า hypotonia(ความตึงตัวของกล้ามเนื้อต่ำ) และความผิดปกติของการเรียนรู้หรือ ADHD " เห็นได้ชัดว่าเราควรจะขยายเกณฑ์การประเมินของเราและบางทีความหมายของโรคเมื่อผู้ป่วยมีอาการไม่เหมาะสมกับการวินิจฉัยตามกรอบทางคลินิกทั่วไป

    วิธีการประเมินโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ

    เนื่องจากการอักเสบโดยทั่วไปผ่านมาจากลำไส้ซึ่งมันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของตรรกะในขั้นตอนการประเมินผู้ป่วยใด ๆ

    มี 7 พื้นที่ที่ควรพิจารณาเพื่อมองไปที่ปัจจัยอันก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมสำหรับการอักเสบเรื้อรัง รายการด้านล่างนี้เป็นส่วนสำคัญในหมวดหมู่ของของอาหารและการประเมินอื่น ๆ :

    อาหาร: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลูแตน เคซีน อาหารแปรรูป น้ำตาล นม เห็ด ผลไม้หวานไขมันโอเมก้า 6 ไขมันทรานส์ อาหารจานด่วน

    ยา: Corticosteroids ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด สารแปลกปลอม(ผงปรุสรส สารให้ความหวานเทียม และอื่น ๆ )

    การติดเชื้อ: เช่น H-Pylori ยีสต์ หรือแบคทีเรียมากเกินขนาด ไวรัสหรือการติดเชื้อปรสิต

    ความเครียด :เพิ่มฮอร์โมน Cortisol และ catecholamines
    ฮอร์โมน : ไทรอยด์ โพรเจสเตอโรน เอสโตรเจน เทสโทสเทอโรน

    ระบบประสาท : สมองบาดเจ็บ โรคหลอดเลือดสมอง ประสาทเสื่อม

    เมตาบอลิก: Glycosylated End Products (ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ก่อการอักเสบจากการเผาผลาญน้ำตาล) ลำไส้อักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง

    โรคจากการอักเสบและโรคภูมิต้านทาน

    ความจริงของสถานการณ์นี้ล้วนมาจากอาหาร-การซึมผ่านในลำไส้ที่มากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงว่าคุณจะสามารถจะรู้สึกได้หรือไม่มักจะเป็นสาเหตุสำคัญของการเติบโตของเงื่อนไขที่ก่อโรคต่าง ๆ รายการที่กล่าวมาด้านบน (อาหาร ยา การติดเชื้อ ความเครียดฮอร์โมน ระบบประสาทหรือการเผาผลาญ) สามารถทำลายการซึมผ่านของลำไส้ ก่อการอักเสบและสุดท้ายช่วยให้กลไกของลำไส้รั่วเริ่มต้น

    Autoimmunity (การไม่ตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนของตนเอง) สามารถปรับเปลี่ยนได้และจะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งรวมทั้งให้ชีวิตที่ดีขึ้นถ้าวิถีชีวิตเปลี่ยน

    มันเคยเชื่อกันว่า "รักษาไม่หาย" แต่มันไม่จริงด้วยความรู้ที่เปลี่ยนไป

    ดังนั้น ถ้าใครกำลังทนทุกข์ทรมานจากโรคที่กล่าวมาแล้ว แนะนำให้ระงับเหตุ ก่อนที่สารเคมีหรือยาใด ๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนประกอบของร่างกายตั้งแต่เริ่มต้นจะเล่นงานคุณ

    อาหารต้านการอักเสบที่ดี

    อาหาร เช่น ผลไม้ ผัก และเครื่องเทศ มีสารต้านการอักเสบและอาจช่วยลดการอักเสบได้ อาหารต้านการอักเสบที่ดีที่สุด ได้แก่:

    • เบอร์รี่

    • ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3

    • บรอกโคลี

    • อะโวคาโด

    • ชาเขียว

    • พริก

    • ขมิ้น

    • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ

    • ช็อกโกแลตดำและโกโก้

    • มะเขือเทศ

    • เชอร์รี่

    เบอร์รี่

    เบอร์รี่เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ

    มีมากมายหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากที่สุด ได้แก่:

    • สตรอว์เบอร์รี่

    • บลูเบอร์รี่

    • ราสเบอร์รี

    • แบล็กเบอร์รี่

    เบอร์รี่

    มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน สารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้

    บทวิจารณ์การวิจัยในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าไฟโตเคมีคัลที่พบในผลเบอร์รี่อาจช่วยชะลอการพัฒนาและการลุกลามของมะเร็ง แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม แต่ไฟโตเคมีคัลอาจเป็นประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันบำบัด

    ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ NK ตามธรรมชาติ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างถูกต้อง

    ในการศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่ง พบว่าผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินซึ่งกิน
    สตรอเบอร์รี่มีระดับของเครื่องหมายการอักเสบเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน

    ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3

    ปลาที่มีไขมันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและกรดไขมันโอเมก้า 3 สายยาว เช่น กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA)
    แม้ว่าปลาทุกชนิดจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่บ้าง แต่ปลาที่มีไขมันเหล่านี้ก็เป็นแหล่งที่ดีที่สุด:

    • ปลาแซลมอน

    • ปลาซาร์ดีน

    • ปลาแมกเคอเรล

    • ปลาสวาย

    EPA และ DHA ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น :

    • กลุ่มอาการเมตาบอลิก

    • โรคหัวใจ

    • โรคเบาหวาน

    • โรคไต

    ร่างกายของคุณเผาผลาญกรดไขมันเหล่านี้เป็นสารประกอบที่เรียกว่าเรโซลวินและโปรเทกติน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

    จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานปลาแซลมอนหรืออาหารเสริม EPA และ DHA มีปริมาณโปรตีนซีรีแอคทีฟ (CRP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลง

    อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งรับประทาน EPA และ DHA ทุกวันไม่พบความแตกต่างในตัวบ่งชี้การอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก

    บร็อคโคลี

    บร็อคโคลีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง

    เป็นผักตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำบรัสเซลส์ และคะน้า

    การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผักตระกูลกะหล่ำหลายชนิดมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็งที่ลดลง
    ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผลต้านการอักเสบของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักเหล่านั้น

    บร็อคโคลีอุดมไปด้วยซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดการอักเสบโดยลดระดับไซโตไคน์และแฟกเตอร์นิวเคลียร์แคปปาบี (NF-κB) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายของคุณ

    อะโวคาโด

    มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ ยังมีแคโรทีนอยด์และโทโคฟีรอล ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรคหัวใจที่ลดลง
    นอกจากนี้ สารประกอบชนิดหนึ่งในอะโวคาโดอาจช่วยลดการอักเสบในเซลล์ผิวหนังที่เพิ่งก่อตัวได้

    ในการศึกษาคุณภาพสูงครั้งหนึ่งซึ่งทำการศึกษากับผู้ใหญ่ 51 คนที่มีน้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่รับประทานอะโวคาโดเป็นเวลา 12 สัปดาห์มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบอย่างอินเตอร์ลิวคิน 1 เบตา (IL-1β) และซีอาร์พี ลดลง

    ชาเขียว

    งานวิจัยพบว่าการดื่มชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคอ้วน และโรคอื่นๆ

    ประโยชน์หลายประการของชาเขียวมาจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า epigallocatechin-3-gallate (EGCG)

    EGCG ยับยั้งการอักเสบโดยลดการผลิตไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อกรดไขมันในเซลล์ของคุณ

    พริก

    พริกหยวกและพริกชี้ฟ้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบอย่างทรงพลัง

    พริกหยวกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเคอร์ซิตินซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน

    พริกมีกรดซินาปิกและกรดเฟอรูลิกซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบและช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น

    ขมิ้น

    ขมิ้นเป็นเครื่องเทศที่มีรสชาติอบอุ่นและมีกลิ่นดิน มักใช้ในแกงและอาหารอื่นๆ

    ขมิ้นได้รับความสนใจมากเนื่องจากมีสารเคอร์คูมิน ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ

    การวิจัยแสดงให้เห็นว่าขมิ้นชันช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคอื่นๆ

    จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอาการเมตาบอลิกซินโดรมรับประทานเคอร์คูมิน 1 กรัมต่อวันร่วมกับไพเพอรีนจากพริกไทยดำ พบว่าระดับซีอาร์พี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    การได้รับเคอร์คูมินจากขมิ้นเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยากที่จะเห็นผลชัดเจน การรับประทานอาหารเสริมที่มีเคอร์คูมินแยกเดี่ยวอาจมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก

    อาหารเสริมเคอร์คูมินมักประกอบด้วยไพเพอรีน ซึ่งสามารถกระตุ้นการดูดซึมเคอร์คูมินได้ถึง 2,000%

    น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ

    น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งที่คุณสามารถรับประทานได้

    น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเป็นอาหารหลักในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย

    การศึกษาวิจัยแนะนำว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็งสมอง โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ได้

    การวิจัยแนะนำว่าการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนและการเสริมด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษสามารถลดตัวบ่งชี้การอักเสบได้อย่างมาก

    ผลของโอเลโอแคนธัล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำมันมะกอก ได้รับการเปรียบเทียบกับยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน

    โปรดจำไว้ว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีประโยชน์ในการต้านการอักเสบมากกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์

    ช็อกโกแลตดำและโกโก้

    ช็อกโกแลตดำมีรสชาติอร่อย เข้มข้น และน่าพอใจ

    นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคและนำไปสู่การมีอายุยืนยาวขึ้น

    ฟลาโวนอลเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของช็อกโกแลต และช่วยให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดแดงแข็งแรง

    มะเขือเทศ

    มะเขือเทศเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง

    มะเขือเทศมีวิตามินซี โพแทสเซียม และไลโคปีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่น่าประทับใจ

    ไลโคปีนอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดสารประกอบที่ก่อให้เกิดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งหลายชนิด

    การปรุงมะเขือเทศในน้ำมันมะกอกสามารถช่วยให้คุณดูดซึมไลโคปีนได้มากขึ้น

    นั่นเป็นเพราะไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดูดซึมได้ดีกว่าในแหล่งของไขมันและโปรดควักไส้มะเขือเทศทิ้งเมื่อประกอบอาหาร

    เชอร์รี่

    เชอร์รี่มีรสชาติดีและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานินและคาเทชิน ซึ่งช่วยลดการอักเสบ

    แม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของเชอร์รี่เปรี้ยวมากกว่าพันธุ์อื่น แต่เชอร์รี่หวานก็อาจมีประโยชน์เช่นกัน

    การศึกษาวิจัยในปี 2019 ที่ทำการศึกษาผู้สูงอายุ 37 คน พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ต 16 ออนซ์ (480 มล.) ทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบ CRP ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

    อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่งพบว่าน้ำเชอร์รี่ทาร์ตไม่มีผลต่อการอักเสบในผู้ใหญ่ที่อายุน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง หลังจากที่พวกเขาดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ตทุกวันเป็นเวลา 30 วัน

    ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ

    ถ้าอักเสบจากน้ำตาลและผลไม้หรือแอลกอฮอล์: K cal
    ถ้าอักเสบในลำไส้จากการกินเห็ดและยีสต์: Paa vill,Synbc
    ถ้าอักเสบจากการกินของปิ้งย่างหรือน้ำมันโอเมก้า 6:Paa super h
    ถ้าเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ:Glube,Whole c
    ถ้าอักเสบจากการใช้งานร่างกายหรืออวัยวะมากเกินไป:ชาขิงขมิ้น
    ถ้าอักเสบในดวงตาและระบบสืบพันธุ์:Glap
    ถ้าอักเสบในหลอดเลือด: โกโก้ป๋า

    ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง

    Cr. Santi Manadee
    #การอักเสบ ส่งผลกระทบต่อทุกแง่มุมด้านสุขภาพของคุณได้อย่างไร การอักเสบควบคุมชีวิตของเรา ถ้าคุณหรือคนที่คุณรักกำลังต่อสู้กับอาการปวด โรคอ้วน โรคสมาธิสั้น ปลายประสาทอักเสบ โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไมเกรน ปัญหาต่อมไทรอยด์ ปัญหาทางทันตกรรมหรือโรคมะเร็ง น่าเศร้าที่คนส่วนใหญ่กำลังทุกข์ทรมานจากหนึ่งหรือมากกว่าหนึ่งของความผิดปกติเหล่านี้ แต่ไม่มีแนวความคิดหรือวิธีการที่จะกำจัดการอักเสบ แพทย์ส่วนใหญ่ใช้ยาแทนการมุ่งเป้าไปที่ต้นตอของสาเหตุ มันมักจะดูเหมือนว่า..มันเป็นเรื่องแปลกเป็นอย่างยิ่งเมื่อตระหนักว่าสาเหตุส่วนใหญ่ของการอักเสบเริ่มต้นในลำไส้จากปฏิกิริยาของภูมิคุ้มกันซึ่งจะดำเนินการอักเสบไปยังระบบต่าง ๆ ของร่างกายเพื่อให้มีประสิทธิภาพในการจัดการอย่างแท้จริงและหวังว่าจะเอาชนะโรค การมองให้ลึกถึงขั้นตอนแห่งการเริ่มต้นเป็นกุญแจที่สำคัญที่สุด ....การอักเสบเริ่มต้นที่ใด..... ลำไส้ของคุณประกอบขึ้นด้วยเยื่อบุกึ่งซึมผ่านที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ พื้นที่ผิวของลำไส้ของคุณสามารถครอบคลุมพื้นที่เท่ากับสนามเทนนิส 2 สนามเมื่อแผ่ออกให้แบน ระดับของการซึมผ่านผันผวนตามการตอบสนองต่อความหลากหลายของสภาพสารเคมี... ตัวอย่างเช่นเมื่อฮอร์โมน cortisol สูงขึ้นเนื่องจากความเครียดจากการโต้แย้งหรือระดับฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์ของคุณเปลี่ยนแปลงไปเนื่องจากการเผาผลาญน้ำมันในตอนเที่ยงคืน เยื่อบุลำไส้ของคุณจะซึมผ่านได้มากขึ้น ณ เวลานั้น ๆ จากนั้นเมื่อกินอาหารที่ไม่สามารถย่อยได้บางส่วน อาหารที่มีสารพิษ... ไวรัส ยีสต์และแบคทีเรียก็มีโอกาสที่จะผ่านลำไส้และการเข้าไปยังกระแสเลือด..สิ่งนี้รู้จักกันว่าเป็นกลุ่มอาการของโรคลำไส้รั่วหรือ leaky gut syndrome (LGS) เมื่อเยื่อบุลำไส้ได้รับความเสียหายซ้ำแล้วซ้ำเล่า เซลล์ที่เสียหายเรียกกันว่า microvilli จะไม่สามารถทำงานของพวกเขาได้อย่างถูกต้อง พวกเขาไม่สามารถดำเนินการและใช้ประโยชน์จากสารอาหารและเอนไซม์ที่มีความสำคัญในการย่อยอาหารที่เหมาะสม ในท้ายที่สุดการย่อยอาหารและการดูดซึมของสารอาหารจะลดลง นี่คือผลกระทบในเชิงลบ เมื่อเยื่อบุลำไส้ของคุณสัมผัสกับสิ่งที่กล่าวมามากขึ้น..ร่างกายของคุณก็เริ่มต้นการถูกโจมตีจากผู้รุกรานเหล่านี้ และร่างกายจะตอบสนองด้วยการอักเสบที่ก่อให้เกิด ภูมิแพ้ แพ้ภูมิ และอาการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับโรคอีกมากมาย ดังนั้นคุณอาจจะถามว่า : การอักเสบเป็นอันตรายได้อย่างไรและเกิดอาการแพ้อย่างต่อเนื่องหรือไม่ มันอาจฟังดูเหมือนว่าค่อนข้างจะไม่อันตรายสักเท่าไหร่..แต่สถานการณ์นี้สามารถนำไปสู่โรคร้ายแรงและบั่นทอนได้อีกมากมาย เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของคุณจะมีภาระมากเกินไป การอักเสบเหล่านี้จะเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่องผ่านทางเลือดของคุณที่พวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท อวัยวะ เนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ข้อต่อและกล้ามเนื้อ การอักเสบก่ออาการของโรคอื่นๆ การปรากฏตัวของการอักเสบเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโรคส่วนใหญ่ มันมักจะเกิดขึ้นมานานหลายปีก่อนที่มันจะอยู่ในระดับที่เพียงพอต่อการแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจนหรือมีนัยสำคัญทางคลินิก รายการต่อไปนี้มีความเกี่ยวข้องกับการอักเสบเสมอ โรคภูมิแพ้----ภูมิคุ้มกัน 4 ประเภท + ความไว..ทั้งหมดนี้ทำให้เกิดการอักเสบ อัลไซม์เมอร์----การอักเสบเรื้อรังทำลายเซลล์สมอง โรคโลหิตจาง---- cytokinesที่กระตุ้นการอักเสบโจมตีการผลิต erythropoietin Ankylosing Spondylitis (โรคกระดูกสันหลังอักเสบยึดติด)----cytokines ที่กระตุ้นการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองในข้อต่างๆ หอบหืด---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานให้ตอบสนองต่อเยื่อบุทางเดินหายใจ ออทิสติก---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้เกิดปฏิกิริยาของภูมิต้านทานที่ผิดปกติเข้าไปควบคุมการพัฒนาสมองซีกขวา โรคข้ออักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำลายกระดูกอ่อนและของเหลว synovial Carpal Tunnel Syndrome (โรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ) เกิดจากการอักเสบเรื้อรังในความเครียดของกล้ามเนื้อที่มากเกินไปทำให้เส้นเอ็นแขนหดตัวและข้อมือบีบอัดเส้นประสาท Celiac Chronic (โรคแพ้กลูเตน)----ภูมิคุ้มกันจัดการกับความเสียหายและก่อให้เกิดการอักเสบที่เยื่อบุลำไส้ โรค Crohn ----โรคเรื้อรังจากระบบภูมิคุ้มกันเกิดความเสียหายและเกิดการอักเสบเยื่อบุลำไส้ หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดการเสียหายต่อกล้ามเนื้อหัวใจ กลาก สิวเอ็กซิม่า----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับกำจัดสารพิษได้ไม่ดีและมักจะเกิดจากแอนติบอดีต่อสู้กับ Transglutaminase-3 Fibromyalgia (ปวดทั่วสรรพางค์กาย)---- เนื้อเยื่อเกี่ยวพันอักเสบ เกิดจากความเป็นกรดของร่างกายที่ยินยอมให้จุลชีพฝั่งเลวเข้าเล่นงานเนื้อเยื่ออ่อนและมาจากความไม่สมดุลทางโภชนาการและระบบประสาทรอง โรคปอดอักเสบ---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเข้าโจมตีเนื้อเยื่อที่บอบช้ำ โรคถุงน้ำดี----การอักเสบของท่อน้ำดีหรือคอเลสเตอรอลส่วนเกินที่เกิดขึ้นจากการตอบสนองต่อการอักเสบในลำไส้ โรคกรดไหลย้อน----การอักเสบของหลอดอาหารและระบบทางเดินอาหารเกือบตลอดเวลา ความไวต่ออาหารและค่า pH เป็นตัวขับเคลื่อน โรคจีบีเอส โรคกิลแลงบาร์เร GBS Guillain-Barre syndrome ภูมิคุ้มกันอัตโนมัติเข้าโจมตีระบบประสาทมักจะเกิดโดยการตอบสนองของ autoimmune ต่อความเครียดภายนอกเช่นการฉีดวัคซีน Hashimoto's Thyroiditis (ต่อมไทรอยด์อักเสบ)----ภูมิคุ้มกันเกิดปฏิกิริยาในลำไส้โดยเรียกแอนติบอดีมาต่อต้านเอนไซม์และของต่อมไทรอยด์และโปรตีน หัวใจวาย----การอักเสบเรื้อรังก่อให้เกิดหลอดเลือดหัวใจตีบ ไตวาย----cytokines ที่ก่อการอักเสบจำกัด การไหลเวียนและก่อความเสียหายต่อ nephrons และท่อไต โรคลูปัส พุ่มพวง SLE---- cytokines ที่ก่ออักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีต่อเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง Multiple Sclerosis ----cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลิน myelin โรคระบบประสาท---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับไมอีลินและหลอดเลือดและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งทำให้ระคายเคืองเส้นประสาท ตับอ่อนอักเสบ---- cytokinesที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดการบาดเจ็บของเซลล์ตับอ่อน โรคสะเก็ดเงิน Psoriasis ----การอักเสบเรื้อรังของลำไส้และตับล้างพิษได้ไม่เต็มความสามารถ ปวดกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออ่อนเหตุอักเสบเรื้อรัง Polymyalgia rheumatic PMR ----cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคไขข้ออักเสบรูมาตอยด์---- cytokines ที่ก่อการอักเสบทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้ภูมิตัวเองกับข้อต่อ โรคหนังแข็ง scleroderma---- cytokines ที่ก่อการอักเสบเหนี่ยวนำให้ autoimmune เกิดการโจมตีกับเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน โรคหลอดเลือดสมอง----การอักเสบเรื้อรังส่งเสริมให้เกิดลิ่มเลือดอุดตัน ทำไมการอักเสบจะต้องอยู่ที่รากเหง้าของปัญหา ความจริงที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันของคุณขับเคลื่อนกระบวนการอักเสบในโรคต่างๆเป็นที่ยอมรับกันมานาน แต่น่าเสียดายที่การแพทย์ตะวันตกมีคำตอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในการจัดการหรือการเอาชนะกระบวนการของภูมิต้านทานน้อยเกินไป วิธีการโดยทั่วไปในการรักษาคือการปราบปรามการตอบสนองของภูมิคุ้มกันด้วยยาปราบภูมิคุ้มกันหรือบางครั้งก็สเตียรอยด์ วิธีการทั้งสองได้รับการออกแบบเพื่อลดการอักเสบ แต่ไม่ได้หยุดกระบวนการของโรคประจำตัวหรือช่วยให้เนื้อเยื่อที่เสียหายได้รับการกู้คืน ถ้าคุณปิดกั้นสาเหตุที่แท้จริงของการก่อโรค (การอักเสบ) ทั้งหมดที่คุณต้องทำคือการหยุดการทำลายเซลล์ทุกเซลล์ของร่างกายและปล่อยให้ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ใหม่ที่ไม่ก่อการอักเสบ การเชื่อมโยงระหว่างการทำงานที่ผิดปกติของลำไส้และโรคทั้งหลายที่มาจากการอักเสบ คำว่าการอักเสบมักจะไม่ค่อยทำให้ใครหลายคนนึกเห็นภาพที่ถูกต้องอย่างแท้จริงในใจของพวกเขาจนกว่าพวกเขาจะประสบกับมันจริงๆ จากนั้นก็จะเริ่มทำให้รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดและความผิดปกติที่เกี่ยวข้องกับการอักเสบ จะเห็นได้ว่าหลายโรคที่เกิดจากการอักเสบและสร้างความทุกข์ทรมาน มันมาจากลำไส้ แต่การรักษาทั่วไปไม่นำเสนอประเด็นนี้.. Dr. Maios Hadjivassiliou แห่งอังกฤษ- ผู้ค้นพบกลูแตน-ได้รายงานใน The Lancet ว่า"ความไวต่อกลูแตนสามารถเป็นหลักในการวินิจฉัยเบื้องต้นและในบางครั้งโดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคทางระบบประสาท" ซึ่งหมายความว่าคนที่ไวต่อกลูแตนจะมีปัญหากับการทำงานของสมองแม้จะไม่มีปัญหาระบบทางเดินอาหารแต่อย่างใด ดร. Hadjivassiliou แสดงให้เห็นว่าแอนติบอดี้จะเกิดขึ้นในร่างกายเมื่อพวกเขามีความไวต่อกลูแตนและสามารถส่งความเป็นพิษเข้าสู่สมองได้โดยตรง สำหรับสิ่งนี้การทดสอบพิเศษจึงถูกพัฒนาขึ้น ผู้เขียนอีกคนที่ตีพิมพ์ในฉบับล่าสุดของ Pediatrics กล่าวว่า "การศึกษาครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าความแปรปรวนของความผิดปกติทางระบบประสาทที่เกิดขึ้นในโรคแพ้กลูแตนขยายวงกว้างกว่ารายงานที่มีก่อนหน้านี้และรวมถึงความผิดปกติของระบบประสาทรวมทั้งอาการปวดหัวเรื้อรัง พัฒนาการล่าช้า hypotonia(ความตึงตัวของกล้ามเนื้อต่ำ) และความผิดปกติของการเรียนรู้หรือ ADHD " เห็นได้ชัดว่าเราควรจะขยายเกณฑ์การประเมินของเราและบางทีความหมายของโรคเมื่อผู้ป่วยมีอาการไม่เหมาะสมกับการวินิจฉัยตามกรอบทางคลินิกทั่วไป วิธีการประเมินโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ เนื่องจากการอักเสบโดยทั่วไปผ่านมาจากลำไส้ซึ่งมันควรจะเป็นจุดเริ่มต้นของตรรกะในขั้นตอนการประเมินผู้ป่วยใด ๆ มี 7 พื้นที่ที่ควรพิจารณาเพื่อมองไปที่ปัจจัยอันก่อให้เกิดความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารเพื่อประเมินสภาพแวดล้อมสำหรับการอักเสบเรื้อรัง รายการด้านล่างนี้เป็นส่วนสำคัญในหมวดหมู่ของของอาหารและการประเมินอื่น ๆ : อาหาร: เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ กลูแตน เคซีน อาหารแปรรูป น้ำตาล นม เห็ด ผลไม้หวานไขมันโอเมก้า 6 ไขมันทรานส์ อาหารจานด่วน ยา: Corticosteroids ยาปฏิชีวนะ ยาลดกรด สารแปลกปลอม(ผงปรุสรส สารให้ความหวานเทียม และอื่น ๆ ) การติดเชื้อ: เช่น H-Pylori ยีสต์ หรือแบคทีเรียมากเกินขนาด ไวรัสหรือการติดเชื้อปรสิต ความเครียด :เพิ่มฮอร์โมน Cortisol และ catecholamines ฮอร์โมน : ไทรอยด์ โพรเจสเตอโรน เอสโตรเจน เทสโทสเทอโรน ระบบประสาท : สมองบาดเจ็บ โรคหลอดเลือดสมอง ประสาทเสื่อม เมตาบอลิก: Glycosylated End Products (ผลิตภัณฑ์สุดท้ายที่ก่อการอักเสบจากการเผาผลาญน้ำตาล) ลำไส้อักเสบ ภูมิคุ้มกันบกพร่อง โรคจากการอักเสบและโรคภูมิต้านทาน ความจริงของสถานการณ์นี้ล้วนมาจากอาหาร-การซึมผ่านในลำไส้ที่มากเกินไปโดยไม่คำนึงถึงว่าคุณจะสามารถจะรู้สึกได้หรือไม่มักจะเป็นสาเหตุสำคัญของการเติบโตของเงื่อนไขที่ก่อโรคต่าง ๆ รายการที่กล่าวมาด้านบน (อาหาร ยา การติดเชื้อ ความเครียดฮอร์โมน ระบบประสาทหรือการเผาผลาญ) สามารถทำลายการซึมผ่านของลำไส้ ก่อการอักเสบและสุดท้ายช่วยให้กลไกของลำไส้รั่วเริ่มต้น Autoimmunity (การไม่ตอบสนองทางภูมิคุ้มกันต่อแอนติเจนของตนเอง) สามารถปรับเปลี่ยนได้และจะมีผลกระทบอย่างลึกซึ้งรวมทั้งให้ชีวิตที่ดีขึ้นถ้าวิถีชีวิตเปลี่ยน มันเคยเชื่อกันว่า "รักษาไม่หาย" แต่มันไม่จริงด้วยความรู้ที่เปลี่ยนไป ดังนั้น ถ้าใครกำลังทนทุกข์ทรมานจากโรคที่กล่าวมาแล้ว แนะนำให้ระงับเหตุ ก่อนที่สารเคมีหรือยาใด ๆ ซึ่งไม่ใช่ส่วนประกอบของร่างกายตั้งแต่เริ่มต้นจะเล่นงานคุณ อาหารต้านการอักเสบที่ดี อาหาร เช่น ผลไม้ ผัก และเครื่องเทศ มีสารต้านการอักเสบและอาจช่วยลดการอักเสบได้ อาหารต้านการอักเสบที่ดีที่สุด ได้แก่: • เบอร์รี่ • ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3 • บรอกโคลี • อะโวคาโด • ชาเขียว • พริก • ขมิ้น • น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ • ช็อกโกแลตดำและโกโก้ • มะเขือเทศ • เชอร์รี่ เบอร์รี่ เบอร์รี่เป็นผลไม้ขนาดเล็กที่อุดมไปด้วยไฟเบอร์ วิตามิน และแร่ธาตุ มีมากมายหลายพันธุ์ โดยพันธุ์ที่พบมากที่สุด ได้แก่: • สตรอว์เบอร์รี่ • บลูเบอร์รี่ • ราสเบอร์รี • แบล็กเบอร์รี่ เบอร์รี่ มีสารต้านอนุมูลอิสระที่เรียกว่าแอนโธไซยานิน สารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ซึ่งอาจช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ บทวิจารณ์การวิจัยในปี 2018 แสดงให้เห็นว่าไฟโตเคมีคัลที่พบในผลเบอร์รี่อาจช่วยชะลอการพัฒนาและการลุกลามของมะเร็ง แม้ว่าจะต้องมีการวิจัยเพิ่มเติม แต่ไฟโตเคมีคัลอาจเป็นประโยชน์ต่อภูมิคุ้มกันบำบัด ร่างกายของคุณสร้างเซลล์ NK ตามธรรมชาติ และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้อย่างถูกต้อง ในการศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่ง พบว่าผู้ใหญ่ที่มีน้ำหนักเกินซึ่งกิน สตรอเบอร์รี่มีระดับของเครื่องหมายการอักเสบเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจต่ำกว่าผู้ที่ไม่ได้กิน ปลาที่มีไขมันโอเมก้า3 ปลาที่มีไขมันเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีและกรดไขมันโอเมก้า 3 สายยาว เช่น กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (EPA) และกรดโดโคซาเฮกซาอีโนอิก (DHA) แม้ว่าปลาทุกชนิดจะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 อยู่บ้าง แต่ปลาที่มีไขมันเหล่านี้ก็เป็นแหล่งที่ดีที่สุด: • ปลาแซลมอน • ปลาซาร์ดีน • ปลาแมกเคอเรล • ปลาสวาย EPA และ DHA ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา เช่น : • กลุ่มอาการเมตาบอลิก • โรคหัวใจ • โรคเบาหวาน • โรคไต ร่างกายของคุณเผาผลาญกรดไขมันเหล่านี้เป็นสารประกอบที่เรียกว่าเรโซลวินและโปรเทกติน ซึ่งมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ จากการศึกษาพบว่าผู้ที่รับประทานปลาแซลมอนหรืออาหารเสริม EPA และ DHA มีปริมาณโปรตีนซีรีแอคทีฟ (CRP) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลง อย่างไรก็ตาม จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งรับประทาน EPA และ DHA ทุกวันไม่พบความแตกต่างในตัวบ่งชี้การอักเสบเมื่อเทียบกับผู้ที่ได้รับยาหลอก บร็อคโคลี บร็อคโคลีมีคุณค่าทางโภชนาการสูง เป็นผักตระกูลกะหล่ำเช่นเดียวกับกะหล่ำดอก กะหล่ำบรัสเซลส์ และคะน้า การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการรับประทานผักตระกูลกะหล่ำหลายชนิดมีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและมะเร็งที่ลดลง ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับผลต้านการอักเสบของสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักเหล่านั้น บร็อคโคลีอุดมไปด้วยซัลโฟราเฟน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ลดการอักเสบโดยลดระดับไซโตไคน์และแฟกเตอร์นิวเคลียร์แคปปาบี (NF-κB) ซึ่งเป็นโมเลกุลที่กระตุ้นการอักเสบในร่างกายของคุณ อะโวคาโด มีโพแทสเซียม แมกนีเซียม ไฟเบอร์ และไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีประโยชน์ต่อหัวใจ ยังมีแคโรทีนอยด์และโทโคฟีรอล ซึ่งเชื่อมโยงกับความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งและโรคหัวใจที่ลดลง นอกจากนี้ สารประกอบชนิดหนึ่งในอะโวคาโดอาจช่วยลดการอักเสบในเซลล์ผิวหนังที่เพิ่งก่อตัวได้ ในการศึกษาคุณภาพสูงครั้งหนึ่งซึ่งทำการศึกษากับผู้ใหญ่ 51 คนที่มีน้ำหนักเกิน พบว่าผู้ที่รับประทานอะโวคาโดเป็นเวลา 12 สัปดาห์มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบอย่างอินเตอร์ลิวคิน 1 เบตา (IL-1β) และซีอาร์พี ลดลง ชาเขียว งานวิจัยพบว่าการดื่มชาเขียวช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็ง โรคอัลไซเมอร์ โรคอ้วน และโรคอื่นๆ ประโยชน์หลายประการของชาเขียวมาจากคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ โดยเฉพาะสารที่เรียกว่า epigallocatechin-3-gallate (EGCG) EGCG ยับยั้งการอักเสบโดยลดการผลิตไซโตไคน์ที่ก่อให้เกิดการอักเสบและความเสียหายต่อกรดไขมันในเซลล์ของคุณ พริก พริกหยวกและพริกชี้ฟ้าอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบอย่างทรงพลัง พริกหยวกยังมีสารต้านอนุมูลอิสระเคอร์ซิตินซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน พริกมีกรดซินาปิกและกรดเฟอรูลิกซึ่งอาจช่วยลดการอักเสบและช่วยให้มีอายุยืนยาวขึ้น ขมิ้น ขมิ้นเป็นเครื่องเทศที่มีรสชาติอบอุ่นและมีกลิ่นดิน มักใช้ในแกงและอาหารอื่นๆ ขมิ้นได้รับความสนใจมากเนื่องจากมีสารเคอร์คูมิน ซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่มีประสิทธิภาพ การวิจัยแสดงให้เห็นว่าขมิ้นชันช่วยลดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ เบาหวาน และโรคอื่นๆ จากการศึกษาวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอาการเมตาบอลิกซินโดรมรับประทานเคอร์คูมิน 1 กรัมต่อวันร่วมกับไพเพอรีนจากพริกไทยดำ พบว่าระดับซีอาร์พี ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้อาการอักเสบลดลงอย่างมีนัยสำคัญ การได้รับเคอร์คูมินจากขมิ้นเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยากที่จะเห็นผลชัดเจน การรับประทานอาหารเสริมที่มีเคอร์คูมินแยกเดี่ยวอาจมีประสิทธิภาพมากกว่ามาก อาหารเสริมเคอร์คูมินมักประกอบด้วยไพเพอรีน ซึ่งสามารถกระตุ้นการดูดซึมเคอร์คูมินได้ถึง 2,000% น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษเป็นไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุดชนิดหนึ่งที่คุณสามารถรับประทานได้ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอุดมไปด้วยไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวและเป็นอาหารหลักในอาหารเมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย การศึกษาวิจัยแนะนำว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษอาจช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ มะเร็งสมอง โรคอ้วน และปัญหาสุขภาพร้ายแรงอื่นๆ ได้ การวิจัยแนะนำว่าการรับประทานอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียนและการเสริมด้วยน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษสามารถลดตัวบ่งชี้การอักเสบได้อย่างมาก ผลของโอเลโอแคนธัล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในน้ำมันมะกอก ได้รับการเปรียบเทียบกับยาต้านการอักเสบ เช่น ไอบูโพรเฟน โปรดจำไว้ว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษมีประโยชน์ในการต้านการอักเสบมากกว่าน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ช็อกโกแลตดำและโกโก้ ช็อกโกแลตดำมีรสชาติอร่อย เข้มข้น และน่าพอใจ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดการอักเสบ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของโรคและนำไปสู่การมีอายุยืนยาวขึ้น ฟลาโวนอลเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบของช็อกโกแลต และช่วยให้เซลล์เยื่อบุผนังหลอดเลือดแดงแข็งแรง มะเขือเทศ มะเขือเทศเป็นแหล่งอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง มะเขือเทศมีวิตามินซี โพแทสเซียม และไลโคปีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบที่น่าประทับใจ ไลโคปีนอาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการลดสารประกอบที่ก่อให้เกิดการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งหลายชนิด การปรุงมะเขือเทศในน้ำมันมะกอกสามารถช่วยให้คุณดูดซึมไลโคปีนได้มากขึ้น นั่นเป็นเพราะไลโคปีนเป็นแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่ดูดซึมได้ดีกว่าในแหล่งของไขมันและโปรดควักไส้มะเขือเทศทิ้งเมื่อประกอบอาหาร เชอร์รี่ เชอร์รี่มีรสชาติดีและอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น แอนโธไซยานินและคาเทชิน ซึ่งช่วยลดการอักเสบ แม้ว่าจะมีการศึกษาวิจัยคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของเชอร์รี่เปรี้ยวมากกว่าพันธุ์อื่น แต่เชอร์รี่หวานก็อาจมีประโยชน์เช่นกัน การศึกษาวิจัยในปี 2019 ที่ทำการศึกษาผู้สูงอายุ 37 คน พบว่าผู้ที่ดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ต 16 ออนซ์ (480 มล.) ทุกวันเป็นเวลา 12 สัปดาห์ มีระดับของสารบ่งชี้การอักเสบ CRP ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม การศึกษาวิจัยอีกกรณีหนึ่งพบว่าน้ำเชอร์รี่ทาร์ตไม่มีผลต่อการอักเสบในผู้ใหญ่ที่อายุน้อยที่มีสุขภาพแข็งแรง หลังจากที่พวกเขาดื่มน้ำเชอร์รี่ทาร์ตทุกวันเป็นเวลา 30 วัน ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมแนะนำ ถ้าอักเสบจากน้ำตาลและผลไม้หรือแอลกอฮอล์: K cal ถ้าอักเสบในลำไส้จากการกินเห็ดและยีสต์: Paa vill,Synbc ถ้าอักเสบจากการกินของปิ้งย่างหรือน้ำมันโอเมก้า 6:Paa super h ถ้าเกิดการอักเสบจากการติดเชื้อ:Glube,Whole c ถ้าอักเสบจากการใช้งานร่างกายหรืออวัยวะมากเกินไป:ชาขิงขมิ้น ถ้าอักเสบในดวงตาและระบบสืบพันธุ์:Glap ถ้าอักเสบในหลอดเลือด: โกโก้ป๋า ด้วยรักและห่วงใยจากใจจริง Cr. Santi Manadee
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1594 มุมมอง 0 รีวิว
  • กรณีศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษายกฟ้อง "ตู้ห่าว" กับอดีตเมียนายตำรวจหญิง พร้อมพวกรวม 19 คนทุกข้อกล่าวหาทั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และฟอกเงิน ต้องปล่อยตัวออกจากเรือนจำทันที หลังถูกตำรวจนครบาลจับกุมดำเนินคดีข้อหาเปิดผับ "จินหลิง" ย่านสาทร ให้ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้าไปมั่วยาเสพติด ส่วนลูกน้อง 6 คนโดนลงโทษข้อหายาเสพติด ติดคุกระหว่าง 21 ปี 4 เดือน ถึง 28 ปี 12 เดือน ปรับคนละ 1,706,666 ถึง 2,600,000 บาท

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000014185

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    กรณีศาลอาญากรุงเทพใต้มีคำพิพากษายกฟ้อง "ตู้ห่าว" กับอดีตเมียนายตำรวจหญิง พร้อมพวกรวม 19 คนทุกข้อกล่าวหาทั้งองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ยาเสพติด และฟอกเงิน ต้องปล่อยตัวออกจากเรือนจำทันที หลังถูกตำรวจนครบาลจับกุมดำเนินคดีข้อหาเปิดผับ "จินหลิง" ย่านสาทร ให้ลูกค้าต่างชาติส่วนใหญ่เป็นชาวจีนเข้าไปมั่วยาเสพติด ส่วนลูกน้อง 6 คนโดนลงโทษข้อหายาเสพติด ติดคุกระหว่าง 21 ปี 4 เดือน ถึง 28 ปี 12 เดือน ปรับคนละ 1,706,666 ถึง 2,600,000 บาท อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000014185 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Haha
    Angry
    Like
    Love
    Sad
    9
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 989 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩KnightsBridge Prime Sathorn - ไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร
    🚟850 m from BTS Chong Nonsi / 850 ม. จาก BTS ช่องนนทรี
    - rent 27,000 baht/month (1 year contract)
    - 39 sq.m.
    - Duplex
    - 1 bedroom, 1 bathroom
    Near
    - BTS Saint Louis / BTS Chong Nonsi
    - Saint Louis Hospital / BNH Hospital
    - Central Silom Complex
    map/แผนที่ https://maps.app.goo.gl/Rp6d7m5VPrC1oJgp9
    #NB2903
    _______________________________
    - เช่า 27,000 บาท/เดือน (สัญญา 1 ปี)​
    - 39 ตร.ม.
    - Duplex
    - 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ
    ใกล้
    - BTS เซนต์หลุยส์ / BTS ช่องนนทรี
    - รพ.เซนต์หลุยส์ / โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
    - เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์
    _______________________________
    I OK Condo – everything OK
    Mr. Sittipol (Meng)
    นาย สิทธิพล (เหม่ง)
    Tel : 0886060125
    Wechat : IOKcondo
    Line : 0886060125 / yggdrasiltree
    Line QR : https://line.me/ti/p/Tm8FV72ejK
    #KnightsBridgePrimeSathorn #ไนท์บริดจ์ไพร์มสาทร
    #คอนโดใกล้bts #คอนโดสาทร #คอนโดช่องนนทรี
    #คอนโดBTSเซนต์หลุยส์ #คอนโดBTSช่องนนทรี
    #สาทร #ช่องนนทรี #Duplex
    🚩KnightsBridge Prime Sathorn - ไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร 🚟850 m from BTS Chong Nonsi / 850 ม. จาก BTS ช่องนนทรี - rent 27,000 baht/month (1 year contract) - 39 sq.m. - Duplex - 1 bedroom, 1 bathroom Near - BTS Saint Louis / BTS Chong Nonsi - Saint Louis Hospital / BNH Hospital - Central Silom Complex map/แผนที่ https://maps.app.goo.gl/Rp6d7m5VPrC1oJgp9 #NB2903 _______________________________ - เช่า 27,000 บาท/เดือน (สัญญา 1 ปี)​ - 39 ตร.ม. - Duplex - 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ ใกล้ - BTS เซนต์หลุยส์ / BTS ช่องนนทรี - รพ.เซนต์หลุยส์ / โรงพยาบาลบีเอ็นเอช - เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ _______________________________ I OK Condo – everything OK Mr. Sittipol (Meng) นาย สิทธิพล (เหม่ง) Tel : 0886060125 Wechat : IOKcondo Line : 0886060125 / yggdrasiltree Line QR : https://line.me/ti/p/Tm8FV72ejK #KnightsBridgePrimeSathorn #ไนท์บริดจ์ไพร์มสาทร #คอนโดใกล้bts #คอนโดสาทร #คอนโดช่องนนทรี #คอนโดBTSเซนต์หลุยส์ #คอนโดBTSช่องนนทรี #สาทร #ช่องนนทรี #Duplex
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 790 มุมมอง 0 รีวิว
  • 🚩KnightsBridge Prime Sathorn - ไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร
    🚟850 m from BTS Chong Nonsi / 850 ม. จาก BTS ช่องนนทรี
    - rent 27,000 baht/month (1 year contract)
    - 39 sq.m.
    - Duplex
    - 1 bedroom, 1 bathroom
    Near
    - BTS Saint Louis / BTS Chong Nonsi
    - Saint Louis Hospital / BNH Hospital
    - Central Silom Complex
    map/แผนที่ https://maps.app.goo.gl/Rp6d7m5VPrC1oJgp9
    #NB9306
    _______________________________
    - เช่า 27,000 บาท/เดือน (สัญญา 1 ปี)​
    - 39 ตร.ม.
    - Duplex
    - 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ
    ใกล้
    - BTS เซนต์หลุยส์ / BTS ช่องนนทรี
    - รพ.เซนต์หลุยส์ / โรงพยาบาลบีเอ็นเอช
    - เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์
    _______________________________
    I OK Condo – everything OK
    Mr. Sittipol (Meng)
    นาย สิทธิพล (เหม่ง)
    Tel : 0886060125
    Wechat : IOKcondo
    Line : 0886060125 / yggdrasiltree
    Line QR : https://line.me/ti/p/Tm8FV72ejK
    #KnightsBridgePrimeSathorn #ไนท์บริดจ์ไพร์มสาทร
    #คอนโดใกล้bts #คอนโดสาทร #คอนโดช่องนนทรี
    #คอนโดBTSเซนต์หลุยส์ #คอนโดBTSช่องนนทรี
    #สาทร #ช่องนนทรี #Duplex
    🚩KnightsBridge Prime Sathorn - ไนท์บริดจ์ ไพร์ม สาทร 🚟850 m from BTS Chong Nonsi / 850 ม. จาก BTS ช่องนนทรี - rent 27,000 baht/month (1 year contract) - 39 sq.m. - Duplex - 1 bedroom, 1 bathroom Near - BTS Saint Louis / BTS Chong Nonsi - Saint Louis Hospital / BNH Hospital - Central Silom Complex map/แผนที่ https://maps.app.goo.gl/Rp6d7m5VPrC1oJgp9 #NB9306 _______________________________ - เช่า 27,000 บาท/เดือน (สัญญา 1 ปี)​ - 39 ตร.ม. - Duplex - 1 ห้องนอน / 1 ห้องน้ำ ใกล้ - BTS เซนต์หลุยส์ / BTS ช่องนนทรี - รพ.เซนต์หลุยส์ / โรงพยาบาลบีเอ็นเอช - เซ็นทรัล สีลมคอมเพล็กซ์ _______________________________ I OK Condo – everything OK Mr. Sittipol (Meng) นาย สิทธิพล (เหม่ง) Tel : 0886060125 Wechat : IOKcondo Line : 0886060125 / yggdrasiltree Line QR : https://line.me/ti/p/Tm8FV72ejK #KnightsBridgePrimeSathorn #ไนท์บริดจ์ไพร์มสาทร #คอนโดใกล้bts #คอนโดสาทร #คอนโดช่องนนทรี #คอนโดBTSเซนต์หลุยส์ #คอนโดBTSช่องนนทรี #สาทร #ช่องนนทรี #Duplex
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 804 มุมมอง 0 รีวิว
  • #ที่ดิน 102 ตรว.(+ 3 ตรว.) พร้อมบ้านไม้เก่า 1 หลัง เขตกรุงเทพฯชั้นใน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี ใกล้ BTS และ MRT
    - เลขที่ 39 ซอยสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 12 ถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ห่างจากจุดตัดถนนกรุงธนบุรี ตรงแยกตากสินถึงที่ดินระยะทาง 370 เมตร
    - ขายราคา 280,000 บาท/ตรว. 102 ตรว.+ รวมเป็นเงิน 28,560,000 บาท ค่าโอนฝ่ายละครึ่ง
    ********************************
    #ข้อมูลจำเพาะของที่ดิน
    - ผังเมืองสีน้ำตาล ย.9-22 (ประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก)
    - หน้ากว้าง 20 เมตร ลึก 21 เมตร ติดถนนซอยตากสิน 12 ห่างจากถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 120 เมตร
    - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ประมาณ 750 เมตร
    - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร ประมาณ 720 เมตร
    - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ MRT สำเหร่ (ตรงข้ามไปรษณีย์สำเหร่ แล้วสร็จปี 2571) ประมาณ 500 เมตร
    - เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสาร รถรับจ้างสาธารณะ และ รถส่วนบุคคล ใกล้ด่านทางด่วน พระราม 3 พระราม 2 และ ด่านทางด่วน ถ.สีลม ถ.สาทร และ ถ.จันทน์
    - ใกล้ ถ.กรุงธนบุรี ถ.รัชดาภิเษก ถ.เจริญนคร ถ.ประชาธิปก ถ.สาทร- บางรัก
    - ใกล้ เดอะมอลล์ท่าพระ ห้างฯบิ๊กซีดาวคะนอง ไอคอนสยาม ท่าเรือคลองสาน ท่าเป๊ปซี่
    - ใกล้ รพ.สมิติเวช ธนบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า รพ.กรุงเทพคริสเตียน
    - สิ่งแวดล้อมดี บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เพราะอยู่ในซอยไม่ลึกมากคนและยานพาหนะไม่พลุกพล่าน ความปลอดภัยสูง
    - ที่ดินเหมาะสำหรับปลูกบ้านพักอาศัย สร้างโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยว B2B ทำโฮมออฟฟิศ ทาวน์เฮ้าส์ คลังสินค้าในเมือง และ อื่นๆ
    ********************************
    สนใจถามรายละเอียดเพิ่มเติม
    - คุณกรณ์ 083 061 4654
    - m.me/SBJ.kornkampee
    - พิกัดแปลงที่ดิน : 13.718644046460595, 100.48887519999998
    >> https://goo.gl/maps/SD7eShYWTXAfvgyw6

    #ที่ดินทำเลทอง #ใกล้ย่านธุรกิจ #โรงเรียน #โรงพยาบาล #โรงแรม #แหล่งท่องเที่ยว #ตลาดสด #สถานที่ราชการหลายแห่ง #เดินทางสะดวก #รถไฟฟ้า #ถนนตากสิน #BTS #MRT #เฉลิมมหานคร #วงเวียนใหญ่ #สำเหร
    #ที่ดิน 102 ตรว.(+ 3 ตรว.) พร้อมบ้านไม้เก่า 1 หลัง เขตกรุงเทพฯชั้นใน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี ใกล้ BTS และ MRT - เลขที่ 39 ซอยสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 12 ถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ห่างจากจุดตัดถนนกรุงธนบุรี ตรงแยกตากสินถึงที่ดินระยะทาง 370 เมตร - ขายราคา 280,000 บาท/ตรว. 102 ตรว.+ รวมเป็นเงิน 28,560,000 บาท ค่าโอนฝ่ายละครึ่ง ******************************** #ข้อมูลจำเพาะของที่ดิน - ผังเมืองสีน้ำตาล ย.9-22 (ประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) - หน้ากว้าง 20 เมตร ลึก 21 เมตร ติดถนนซอยตากสิน 12 ห่างจากถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 120 เมตร - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ประมาณ 750 เมตร - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร ประมาณ 720 เมตร - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ MRT สำเหร่ (ตรงข้ามไปรษณีย์สำเหร่ แล้วสร็จปี 2571) ประมาณ 500 เมตร - เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสาร รถรับจ้างสาธารณะ และ รถส่วนบุคคล ใกล้ด่านทางด่วน พระราม 3 พระราม 2 และ ด่านทางด่วน ถ.สีลม ถ.สาทร และ ถ.จันทน์ - ใกล้ ถ.กรุงธนบุรี ถ.รัชดาภิเษก ถ.เจริญนคร ถ.ประชาธิปก ถ.สาทร- บางรัก - ใกล้ เดอะมอลล์ท่าพระ ห้างฯบิ๊กซีดาวคะนอง ไอคอนสยาม ท่าเรือคลองสาน ท่าเป๊ปซี่ - ใกล้ รพ.สมิติเวช ธนบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า รพ.กรุงเทพคริสเตียน - สิ่งแวดล้อมดี บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เพราะอยู่ในซอยไม่ลึกมากคนและยานพาหนะไม่พลุกพล่าน ความปลอดภัยสูง - ที่ดินเหมาะสำหรับปลูกบ้านพักอาศัย สร้างโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยว B2B ทำโฮมออฟฟิศ ทาวน์เฮ้าส์ คลังสินค้าในเมือง และ อื่นๆ ******************************** สนใจถามรายละเอียดเพิ่มเติม - คุณกรณ์ 083 061 4654 - m.me/SBJ.kornkampee - พิกัดแปลงที่ดิน : 13.718644046460595, 100.48887519999998 >> https://goo.gl/maps/SD7eShYWTXAfvgyw6 #ที่ดินทำเลทอง #ใกล้ย่านธุรกิจ #โรงเรียน #โรงพยาบาล #โรงแรม #แหล่งท่องเที่ยว #ตลาดสด #สถานที่ราชการหลายแห่ง #เดินทางสะดวก #รถไฟฟ้า #ถนนตากสิน #BTS #MRT #เฉลิมมหานคร #วงเวียนใหญ่ #สำเหร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1181 มุมมอง 0 รีวิว
  • เปิดเอกสารสัญญา-หลักฐานถึงพี่เมียทนายตั้ม
    .
    วันนี้ผมเปิดเผยเอกสารชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ และยังไม่มีใครเปิดเผยมาก่อน เอกสารชิ้นนี้คือสัญญาและหลักฐานสำคัญในการจ้างที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างคุณจตุพร อุบลเลิศ กับบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม อ้างอิงอยู่ในใบบันทึกคำให้การผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความของคุณจตุพร อุบลเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567
    .
    สิ่งที่น่าสนใจของสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่เมษายน 2565 มีการจ่ายเงินค่าจ้างเดือนละ 3 แสนบาท และจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำจดหมายยกเลิกสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักทนายความของทนายตั้มไม่ได้ทำอะไรสมกับค่าจ้างที่ได้รับไปและยังขนครอบครัวไปต่างประเทศแทบทุกเดือน ไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่าย
    .
    แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ หลักฐานการเงินระบุชัดเจนว่าฝั่งพี่อ้อยไม่เคยโอนเงินเข้าบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม แต่ษิทราระบุว่าให้โอนเข้าบัญชีของบุคคลที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ โดยตลอด มีเพจ CSILA ที่ไม่กี่วันมานี้ ออกมาตั้งคำถามว่า "อยากให้ตำรวจและนักข่าวตรวจสอบพี่สาวเมียทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งมีอาชีพคือคนใช้กับเลี้ยงลูกตั้ม แต่เงินในบัญชีเยอะมาก ถ้าตรวจสอบเส้นเงินได้ก็เกมส์"
    .
    เมื่อเราไปเปิดดูงบการเงินบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ตั้งอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทร แจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง มีรายได้รวมประมาณ 37 ล้านบาท มีรายได้ดีอยู่ปีเดียว คือปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 21.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นรายได้อยู่ในระดับประมาณ 2 ล้านบาทและขาดทุนมากกว่า
    .
    หลายคนถามว่า คุณษิทราเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาหลายสิบล้าน มีรถหรูอีกหลายคัน นาฬิกาหรู เสื้อแบรนด์เนมอีกเพียบ ส่วนที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณใช้เงินของพี่อ้อยนั่นเอง
    .
    ผมเอารูปรถให้ดูนะครับ Porsche Cayenne ที่ทนายตั้มขับมาที่กองปราบ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 รถหรูราคาแพงที่นายษิทราใช้อยู่นั้น ซื้อด้วยเงินสด แต่ไม่มีชื่อนายษิทราเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คันเดียว อนุมานได้ไหมครับคุณษิทรา ว่าคุณกำลังซ่อนเร้นเรื่องเงินก้อนนี้อยู่ โดยที่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าของรถแทนคุณ มันเป็นวิธีการง่ายๆ ของคนที่ชอบฟอกเงินในอดีต
    .
    ด้วยเหตุนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจึงชี้ให้เห็นว่า การกระทำของทนายตั้มในการรับค่าจ้างที่ปรึกษาพี่อ้อย แต่กลับโอนเงินเข้าคนอื่น ในทางภาษี ในทางกฎหมาย มันเข้าข่ายเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน
    .
    เรื่องนี้เป็นเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ เรื่องราวที่คุณชูวิทย์เล่าเมื่อปีที่แล้ว มันช่างคล้ายๆ กับทนายแบรนด์เนมคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่ทนายตั้ม ษิทรา สำนักกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม กับพี่สาวภรรยาที่ขึ้นต้นด้วย ป. ที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กรุณาช่วยสืบค้นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ผมหน่อย
    .
    และผมอยากให้กรมสรรพากร ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการว่าคุณปิณฑิราได้รับเงินมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ทราบ เป็นประจำเดือน มีหลักฐานเงินโอนเข้าบัญชีให้ เดือนละ 3 แสนบาท ปีหนึ่งเป็นเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท ผมใคร่จะถามด้วยความเคารพว่า ผู้รับเงินรายได้นี้ ได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เสียเลยเป็นเวลา 12 เดือน ควรจะต้องถูกเสียภาษีย้อนหลังประมาณเท่าไร และจะต้องถูกเบี้ยปรับอีกเท่าไร ถ้าตอบผมได้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง อันนี้เข้าข่ายในการฟอกเงินหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลกฎหมายอยู่จะต้องเป็นคนตัดสินใจครับ
    เปิดเอกสารสัญญา-หลักฐานถึงพี่เมียทนายตั้ม . วันนี้ผมเปิดเผยเอกสารชิ้นหนึ่งที่หลายๆ คนเฝ้ารอ และยังไม่มีใครเปิดเผยมาก่อน เอกสารชิ้นนี้คือสัญญาและหลักฐานสำคัญในการจ้างที่ปรึกษาดูแลผลประโยชน์ทางธุรกิจ ระหว่างคุณจตุพร อุบลเลิศ กับบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม อ้างอิงอยู่ในใบบันทึกคำให้การผู้กล่าวหา หรือใบแจ้งความของคุณจตุพร อุบลเลิศ เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 . สิ่งที่น่าสนใจของสัญญาฉบับนี้ สัญญาฉบับนี้มีระยะเวลา 1 ปีตั้งแต่เมษายน 2565 มีการจ่ายเงินค่าจ้างเดือนละ 3 แสนบาท และจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้ายเมื่อเดือนมีนาคม 2566 ทำจดหมายยกเลิกสัญญาจ้างอย่างเป็นทางการ เนื่องจากสำนักทนายความของทนายตั้มไม่ได้ทำอะไรสมกับค่าจ้างที่ได้รับไปและยังขนครอบครัวไปต่างประเทศแทบทุกเดือน ไปพักโรงแรมหรูๆ แล้วให้เขารับผิดชอบค่าใช้จ่าย . แต่ประเด็นที่น่าสนใจมากคือ หลักฐานการเงินระบุชัดเจนว่าฝั่งพี่อ้อยไม่เคยโอนเงินเข้าบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม แต่ษิทราระบุว่าให้โอนเข้าบัญชีของบุคคลที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ โดยตลอด มีเพจ CSILA ที่ไม่กี่วันมานี้ ออกมาตั้งคำถามว่า "อยากให้ตำรวจและนักข่าวตรวจสอบพี่สาวเมียทนายตั้ม น.ส.ปิณฑิรา การิวัลย์ ซึ่งมีอาชีพคือคนใช้กับเลี้ยงลูกตั้ม แต่เงินในบัญชีเยอะมาก ถ้าตรวจสอบเส้นเงินได้ก็เกมส์" . เมื่อเราไปเปิดดูงบการเงินบริษัท ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม ตั้งอยู่ที่อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ ถนนสาทร แจ้งงบการเงิน 5 ปีย้อนหลัง มีรายได้รวมประมาณ 37 ล้านบาท มีรายได้ดีอยู่ปีเดียว คือปี 2565 ซึ่งมีรายได้รวม 21.9 ล้านบาท ก่อนหน้านั้นรายได้อยู่ในระดับประมาณ 2 ล้านบาทและขาดทุนมากกว่า . หลายคนถามว่า คุณษิทราเอาเงินที่ไหนไปซื้อบ้านราคาหลายสิบล้าน มีรถหรูอีกหลายคัน นาฬิกาหรู เสื้อแบรนด์เนมอีกเพียบ ส่วนที่ไปเที่ยวเมืองนอกบ่อยๆ คุณรู้แล้วใช่ไหมว่าคุณใช้เงินของพี่อ้อยนั่นเอง . ผมเอารูปรถให้ดูนะครับ Porsche Cayenne ที่ทนายตั้มขับมาที่กองปราบ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2567 รถหรูราคาแพงที่นายษิทราใช้อยู่นั้น ซื้อด้วยเงินสด แต่ไม่มีชื่อนายษิทราเป็นเจ้าของเลยแม้แต่คันเดียว อนุมานได้ไหมครับคุณษิทรา ว่าคุณกำลังซ่อนเร้นเรื่องเงินก้อนนี้อยู่ โดยที่ให้คนอื่นมาเป็นเจ้าของรถแทนคุณ มันเป็นวิธีการง่ายๆ ของคนที่ชอบฟอกเงินในอดีต . ด้วยเหตุนี้ มีผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีจึงชี้ให้เห็นว่า การกระทำของทนายตั้มในการรับค่าจ้างที่ปรึกษาพี่อ้อย แต่กลับโอนเงินเข้าคนอื่น ในทางภาษี ในทางกฎหมาย มันเข้าข่ายเลี่ยงภาษีอย่างชัดเจน . เรื่องนี้เป็นเหตุบังเอิญอย่างร้ายกาจ เรื่องราวที่คุณชูวิทย์เล่าเมื่อปีที่แล้ว มันช่างคล้ายๆ กับทนายแบรนด์เนมคนหนึ่งซึ่งผมไม่รู้ว่าเป็นใคร จะใช่ทนายตั้ม ษิทรา สำนักกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม กับพี่สาวภรรยาที่ขึ้นต้นด้วย ป. ที่ชื่อ ปิณฑิรา การิวัลย์ หรือไม่ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ กรุณาช่วยสืบค้นข้อเท็จจริงเรื่องนี้ให้ผมหน่อย . และผมอยากให้กรมสรรพากร ซึ่งผมจะไปยื่นเรื่องร้องเรียนอย่างเป็นทางการว่าคุณปิณฑิราได้รับเงินมาจากแหล่งที่มาที่ไม่ทราบ เป็นประจำเดือน มีหลักฐานเงินโอนเข้าบัญชีให้ เดือนละ 3 แสนบาท ปีหนึ่งเป็นเงิน 3 ล้าน 6 แสนบาท ผมใคร่จะถามด้วยความเคารพว่า ผู้รับเงินรายได้นี้ ได้เสียภาษีเงินได้หรือเปล่า ถ้าไม่ได้เสียเลยเป็นเวลา 12 เดือน ควรจะต้องถูกเสียภาษีย้อนหลังประมาณเท่าไร และจะต้องถูกเบี้ยปรับอีกเท่าไร ถ้าตอบผมได้ก็จะเป็นพระคุณยิ่ง อันนี้เข้าข่ายในการฟอกเงินหรือเปล่า ขึ้นอยู่กับผู้เกี่ยวข้องที่ดูแลกฎหมายอยู่จะต้องเป็นคนตัดสินใจครับ
    Like
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1482 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตำรวจกองปราบตรวจค้นบ้านหรู "ทนายตั้ม" นานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงคดีโกง "พี่อ้อย" ส่วนหมายจับล็อต 2 อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน

    วันนี้ (7 พ.ย.) มีรายงานว่าตำรวจกองปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน โดยใช้เวลาในการตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงนางจตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย ก่อนจะขับรถออกมา โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเข้าตรวจคนที่สำนักงานกฎหมาย บริษัทษิทธา ลอร์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้ม ที่ย่านสาทร เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย

    ส่วนหมายจับล็อตที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการในการฉ้อโกงเงินพี่อ้อยนั้น ต้องดูคำให้การของทนายตั้มและภรรยา ว่ามีความสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนมีหรือไม่

    #MGROnline #ทนายตั้ม #พี่อ้อย
    ตำรวจกองปราบตรวจค้นบ้านหรู "ทนายตั้ม" นานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อหาพยานหลักฐานเชื่อมโยงคดีโกง "พี่อ้อย" ส่วนหมายจับล็อต 2 อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน • วันนี้ (7 พ.ย.) มีรายงานว่าตำรวจกองปราบปราม นำกำลังเข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ที่หมู่บ้านหรูแห่งหนึ่งย่านตลิ่งชัน โดยใช้เวลาในการตรวจค้นนานกว่า 2 ชั่วโมง เพื่อหาหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีฉ้อโกงนางจตุพร อุบลเลิศ หรือพี่อ้อย ก่อนจะขับรถออกมา โดยคาดการณ์ว่าจะมีการเข้าตรวจคนที่สำนักงานกฎหมาย บริษัทษิทธา ลอร์ เฟิร์ม จำกัด ของทนายตั้ม ที่ย่านสาทร เพื่อเก็บพยานหลักฐานเพิ่มเติมด้วย • ส่วนหมายจับล็อตที่ 2 ซึ่งเป็นผู้ร่วมขบวนการในการฉ้อโกงเงินพี่อ้อยนั้น ต้องดูคำให้การของทนายตั้มและภรรยา ว่ามีความสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่พนักงานสอบสวนมีหรือไม่ • #MGROnline #ทนายตั้ม #พี่อ้อย
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 770 มุมมอง 0 รีวิว
  • มารู้จักตัวนี้กัน อยุใน P กับ A
    ⏩เชื้อทริพาโนโซมา (Trypanosoma) เป็นโปรโตซัวที่มีหางยาวช่วยในการเคลื่อนที่
    👉อาศัยอยู่ในเลือดและภายในเซลล์ของคนและสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ และมีแมลงเป็นพาหะนำโรค
    📌นาน ๆ ครั้งจะพบผู้ติดเชื้อจากการรับเลือด, การปลูกถ่ายอวัยวะ, และทางมารดาสู่ทารก
    📌เพราะเชื้อทริพาโนโซมาอาศัยอยู่ในเลือด และสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ ทารกที่ติดเชื้อแต่กำเนิดมักแท้งหรือเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก
    💢อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ
    ✅ระยะที่หนึ่ง
    📌มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวมโตอักเสบ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นเชื้อ T. b. gambiense จะไม่ค่อยพบแผลแบบนี้
    📌หลังรับเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มีไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายไข้มาลาเรีย
    ⏩ระยะนี้ผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ เหงื่อออกมากกว่าปกติ ซีด และต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณคอ (posterior cervical glands) เรียกว่า Winter-bottom's sign
    ⏩บางรายอาจมีผื่นแดงจาง ๆ ที่ผิวหนังนานเป็นเดือน ถ้าเจาะเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำ
    📌ระยะนี้ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ❗️กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis)
    และ ❗️หน่วยไตอักเสบ (glomerulonephritis)
    ✅ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่สมอง
    👉ผู้ป่วยจะปวดศีรษะตลอดเวลา ทานยาอะไรก็ไม่หาย
    ⏩กลางคืนนอนไม่หลับ แต่เซื่องซึม ง่วงเหงาหาวนอนตอนกลางวัน จึงเป็นที่มาของชื่อโรคว่า Sleeping sickness 📌หรือโรคเหงาหลับ
    💢ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์แปรปรวน บางรายอาจวุ่นวายสับสน บางรายอาจซึมเศร้า เบื่ออาหาร ผอมลง ม้ามโต
    📌ในเด็กมักพบมี "ชัก"
    ในระยะท้ายสมองจะบวม มีจุดเลือดออกในเนื้อสมอง
    📌พบเซลล์อักเสบทั่วไปในชั้นเยื่อหุ้มสมอง ประสาทรับสัมผัสจะเสียไป การเดินและทรงตัวผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิต
    http://mutualselfcare.org/.../inf.../trypanosomiasis.aspx...
    เครดิต เฟสบุ๊ก ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    มารู้จักตัวนี้กัน อยุใน P กับ A ⏩เชื้อทริพาโนโซมา (Trypanosoma) เป็นโปรโตซัวที่มีหางยาวช่วยในการเคลื่อนที่ 👉อาศัยอยู่ในเลือดและภายในเซลล์ของคนและสัตว์ มีหลายสายพันธุ์ และมีแมลงเป็นพาหะนำโรค 📌นาน ๆ ครั้งจะพบผู้ติดเชื้อจากการรับเลือด, การปลูกถ่ายอวัยวะ, และทางมารดาสู่ทารก 📌เพราะเชื้อทริพาโนโซมาอาศัยอยู่ในเลือด และสามารถผ่านรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ ทารกที่ติดเชื้อแต่กำเนิดมักแท้งหรือเสียชีวิตตั้งแต่ยังเด็ก 💢อาการแบ่งได้เป็น 2 ระยะ ✅ระยะที่หนึ่ง 📌มีต่อมน้ำเหลืองบริเวณใกล้เคียงบวมโตอักเสบ แผลจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองในเวลาหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นเชื้อ T. b. gambiense จะไม่ค่อยพบแผลแบบนี้ 📌หลังรับเชื้อจะเข้าสู่กระแสโลหิต ทำให้มีไข้สูงเป็น ๆ หาย ๆ คล้ายไข้มาลาเรีย ⏩ระยะนี้ผู้ป่วยจะอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ ปวดตามข้อ เหงื่อออกมากกว่าปกติ ซีด และต่อมน้ำเหลืองโตทั่วไปโดยเฉพาะบริเวณคอ (posterior cervical glands) เรียกว่า Winter-bottom's sign ⏩บางรายอาจมีผื่นแดงจาง ๆ ที่ผิวหนังนานเป็นเดือน ถ้าเจาะเลือดจะพบเม็ดเลือดขาวต่ำ 📌ระยะนี้ภาวะแทรกซ้อนที่สำคัญคือ ❗️กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) และ ❗️หน่วยไตอักเสบ (glomerulonephritis) ✅ระยะที่สอง เชื้อจะเข้าสู่สมอง 👉ผู้ป่วยจะปวดศีรษะตลอดเวลา ทานยาอะไรก็ไม่หาย ⏩กลางคืนนอนไม่หลับ แต่เซื่องซึม ง่วงเหงาหาวนอนตอนกลางวัน จึงเป็นที่มาของชื่อโรคว่า Sleeping sickness 📌หรือโรคเหงาหลับ 💢ผู้ป่วยจะมีพฤติกรรมเปลี่ยน อารมณ์แปรปรวน บางรายอาจวุ่นวายสับสน บางรายอาจซึมเศร้า เบื่ออาหาร ผอมลง ม้ามโต 📌ในเด็กมักพบมี "ชัก" ในระยะท้ายสมองจะบวม มีจุดเลือดออกในเนื้อสมอง 📌พบเซลล์อักเสบทั่วไปในชั้นเยื่อหุ้มสมอง ประสาทรับสัมผัสจะเสียไป การเดินและทรงตัวผิดปกติ หากไม่ได้รับการรักษาผู้ป่วยจะเสียชีวิต http://mutualselfcare.org/.../inf.../trypanosomiasis.aspx... เครดิต เฟสบุ๊ก ภูสณิตา วิเศษปุณรัตน์
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 796 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ
    อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด
    ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร
    ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโkวิdให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม
    ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้
    ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง
    ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้
    ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย
    📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve
    📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ
    ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้
    📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron
    ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ)
    ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด
    ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้
    📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน
    ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells
    ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon
    📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป
    ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว
    📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม
    ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต
    📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ
    ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve
    📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น
    📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา
    😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโkวิdด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก
    ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโkวิdตามต้องการ
    📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น
    📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง
    ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น
    📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย
    ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic
    📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก
    ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น
    📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง
    ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว
    ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง
    📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้
    📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง
    📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น
    📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน
    📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05)
    ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%.
    📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า
    การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ
    📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย
    📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโkวิdทันที
    📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ
    ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท
    เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021
    Cr : Ramone Jira
    คนที่ชอบ swab บ่อยๆ อดทนอ่านสักนิดนะ อันนี้เค้าแปลไทยมาให้แล้ว บรรทัดต่อบรรทัด ว่ามันอันตรายยังไง แบบไหน เพราะอะไร ⏩เหตุใดหน่วยงานภาครัฐจึงยังดึงดันที่จะบังคับใช้ TR-PCT test เป็น Gold Standard ในการวินิจฉัยผู้ติดเชื้อโkวิdให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ และบ่อยครั้งที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้ในบุคคลเดิม ⏩ทั้งที่เทคนิคนี้ได้รับการพิสูจน์อย่างกว้างขวางโดยนักวิทยาศาตร์และบุคลากรทางการแพทย์กว่าห้าหมื่นคนทั่วโลกแล้วว่าเป็นวิธีที่เชื่อถือไม่ได้ ⏩ให้ผลบวกลวง หรือ False Positive มหาศาลกว่า 90% และแม้แต่ Dr. Kary Mullis ผู้คิดค้นเทคนิคนี้เอง ยังยืนกรานออกสื่อหลายครั้งว่ามันไม่เที่ยงตรงและนำไปสู่การแปลผลผิดพลาดได้ ❓เหตุใดจึงเลือกวิธีล่วงล้ำเข้าไปในอวัยวะของพวกเราอย่างมากทั้งที่สามารถทำได้ง่ายจากการตรวจวิเคราะห์น้ำลาย 📌การสอดไม้ Swab เข้าไปกว้านลึกถึงเพดานจมูกสามารถสร้างความเสียหายต่อเนื้อเยื่อพังผืดที่ห่อหุ้ม Olfactory Nerve 📌ซึ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพและอายุขัยของมนุษย์ เนื่องจาก olfactory nerve เป็นปราการด่านหนึ่งในสองของกะโหลกศรีษะ ⏩ซึ่งเชื่อมระหว่างโพรงจมูกกับสมอง ที่ไวรัสและแบคทีเรียสามารถเดินทางข้าม blood-brain barrier เข้าสู่สมองได้ 📌นอกจากนี้ olfactory nerve ยังเป็นเซลล์ชนิดเดียวในกะโหลกศรีษะที่มี stem cells เรียกว่า olfactory ensheathing cells ที่ล้อมรอบเซลล์รับกลิ่น olfactory sensory axons ส่วนที่ยื่นออกมาจากเซลล์ประสาท neuron ⏩ทำหน้าที่ส่งผ่านกระแสประสาทจากเซลล์ร่างกาย พวกมันทำหน้าที่ปกป้อง olfactory nerve และช่วยการสร้างเซลล์ใหม่เมื่อเกิดความบาดเจ็บเสียหาย (สเต็มเซลล์ชนิดนี้มีความพิเศษมากจนถูกนำไปใช้ในการซ่อมแซมไขสันหลังบาดเจ็บและรักษาโรคทางสมองหลายชนิดในการแพทย์ปัจจุบันอย่างประสบความสำเร็จ) ⏩นอกจากนี้ olfactory ensheathing cells ยังช่วยเป็นภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด ✅เนื่องจากมันประพฤติตัวเป็น phagocytic กล่าวคือ จับกินและย่อยสลายเชื้อโรคได้ 📌ดังนั้น มันจึงเป็นปราการสำคัญที่ช่วยป้องกันสมองโดยระบบภูมิคุ้มกันธรรมชาติของร่างกาย โดยเซลล์ประสาท Olfactory และ neuron bulb มีอายุขัย 4-8 เดือน ก่อนจะถูกแทนที่อย่างต่อเนื่องด้วย neuron stem cell อย่าง olfactory ensheathing cells ⏩มันช่วยส่งเสริมการอยู่รอดของเซลล์ประสาทและช่วยในการขยายตัวของ axon 📌จากงานวิจัยล่าสุด แสดงให้เห็นว่า หาก olfactory ensheathing cells สูญเสียความสามารถในการสร้างใหม่หรือซ่อมแซมตัวเองไป ‼️จะทำให้โอกาสการเสียชีวิตภายใน 5 ปี ในผู้ใหญ่วัย 57 – 85 ปี เพิ่มสูงขึ้นมากกว่า 4 เท่าตัว 📌การทำงานของ olfactory จึงเสมือนเป็นเครื่องทำนายความสามารถในการดำรงชีวิตภายใน 5 ปี เป็นสัญญาณเตือนเมื่อการสร้างใหม่ของเซลล์ช้าลง และใช้เป็นเครื่องบ่งชี้เมื่อมีการสะสมสารพิษที่สัมผัสจากสิ่งแวดล้อม ‼️ Olfactory nerve ที่เสียหายเสมือนป้อมปราการสู่สมองถูกทำลาย ทำให้ง่ายต่อการถูกโจมตีด้วยสิ่งแปลกปลอมและส่งผลอันตรายถึงแก่ชีวิต 📌การ swab PCR เป็นระยะ จนทำลายความสามารถในการสร้างใหม่ต่อ Olfactory nerve ทำให้เกิดการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรในผู้ใหญ่อายุ 57 – 85 ปี ซึ่งเป็นประชากรกลุ่มผู้สูงอายุ ‼️การทดสอบ PCR test มีบทบาทสำคัญในการสร้างความเสียหายครั้งแล้วครั้งเล่าต่อ Olfactory nerve 📌ทำให้เกิดการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ⏩ซึ่งยอดผู้ติดเชื้อนี้ได้ถูกนำไปสนับสนุนให้รัฐบาลยกระดับมาตรการต่อโรคระบาดยิ่งขึ้น 📌เมื่อมีผู้ถูกทดสอบโดย PCR เพิ่มขึ้น เซลล์ป้องกันจึงถูกทำลายมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อหลากหลายชนิดเพิ่มขึ้นในครั้งต่อมา 😔โดยจะถูกตีความต่อไปว่า เกิดการติดเชื้อจากไวรัสโkวิdด้วยการเพิ่มจำนวน Cycle ใน thermal cycler จนกว่าเปอร์เซ็นต์จะเพิ่มจนให้ผลเป็นบวก ⏩เพื่อสรุปว่าเป็นโkวิdตามต้องการ 📌อาจมีการโต้แย้งว่า การทดสอบ swab ช่องจมูกที่ถูกต้อง ควรกวาดเป็นมุมสูงไม่เกิน 30 องศา จากแนวระนาบเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสเส้นประสาทรับกลิ่น 📌แต่ในตำแหน่งดังกล่าวนี้ ไม้ Swab จะไปไปสัมผัสเส้นประสาท Trigeminal แทน ซึ่งเป็น blood-brain barrier เข้าสู่สมองปราการที่สอง ‼️ส่งผลต่อการรับรสและการมองเห็น 📌นอกจากนี้ เพื่อเป็นการทำลายประสาทรับกลิ่นและรส ไม้ swab ไม่จำเป็นต้องไปสัมผัสโดนจนก่ออันตรายต่อเซลล์ประสาท Trigeminal หรือ Olfactory โดยตรงเลย ⁉️แค่ลำพังการสร้างความระคายเคืองต่อเยื่อเมือกในโพรงจมูก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออวัยวะทั้งระบบ Limbic 📌เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก ‼️สิ่งนี้สามารถอธิบายได้ว่าเหตุใดผู้ป่วยโควิดจึงสูญเสียการตอบสนองทางพฤติกรรมที่ควบคุมโดยระบบ Limbic เช่น การนอนหลับ ความเหนื่อยล้า การรับรู้ การปรับตัว การเคลื่อนไหว ความจำ เป็นต้น 📌นอกจากปลายของไม้ swab มีเขี้ยวขรุขระ ประกอบกับวิธีการสอดที่ลึกและการหมุนที่กว้างอย่างรุนแรง ⏩ถูกออกแบบมาเพื่อขีดข่วนสร้างความเสียหายให้เยื่อยุผิวมากที่สุดแล้ว ‼️ยังพบว่ามีการใช้สารเคมี ethylene oxide ที่รู้จักกันดีว่าเป็นสารก่อมะเร็ง 📌ถูกนำมาใช้ในการฆ่าเชื้อใน PCR swab test ก่ออันตรายกับเยื่อเมือกโพรงจมูกซึ่งเป็นเนื้อเยื่อที่มีความไวต่อการแพ้ 📌ร่วมกับมาตรการบังคับใช้ให้สวมหน้ากากอนามัยทั้งในที่ร่มและกลางแจ้ง 📌จึงเป็นการเพิ่มจำนวนแบคทีเรียและไวรัสให้เข้าสู่สมองผ่าน Olfactory nerve และ Trigeminal neve ที่เสียหายให้มากยิ่งขึ้น 📌จากผลการศึกษาหลายร้อยชิ้น แสดงให้เห็นว่าภายใต้หน้ากากอนามัยเป็นแหล่งปนเปื้อนแบคทีเรียและเชื้อราจำนวนมาก เมื่อสวมใส่เป็นเวลานาน 📌และหลายงานวิจัยยืนยันว่าการใส่หน้ากากอนามัยเป็นประจำ นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของระบบทางเดินหายใจสั้นลง และความเหนื่อยล้าอย่างมีนัยสำคัญ (P<0.05) ⏩ในหน้ากาก N95 ออกซิเจนลดลง 72%, คาร์บอนไดออกไซด์เพิ่มขึ้น 82%, อาการปวดหัว 60%, ความบกพร่องของการหายในอุณหภูมิและความชื้นที่เพิ่มขึ้น 100%. 📌นอกจากนี้ หลายการศึกษาพบว่า การใส่หน้ากากอนามัย ไม่สามารถปิดกั้นการแพร่กระจายของละอองไวรัสได้อย่างสมบูรณ์แม้ขณะปิดสนิท จึงไม่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อ 📌ในปี 2020 เด็กและวัยรุ่นส่วนใหญ่รอดพ้นการการทดสอบ PCR มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีอาการแสดงการติดเชื้อโควิดเลย 📌กระทั่งปี 2021 เมื่อมีการทดสอบเชิงรุก พวกเขาก็เริ่มแสดงอาการ ที่เกิดจากโkวิdทันที 📌ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการสร้างความเสียหายต่อสมองโดยจงใจ ‼️ความบกพร่องในการทำงานของศูนย์กลางการหายใจในสมอง Medula oblongata ก่อให้เกิดภาวะหายใจลำบาก Dyspnoea โดยที่ไม่มีการติดเชื้อหรือรอยโรคใดที่ปอด แต่เป็นความเสียหายทางสมองและระบบประสาท เราเรียบเรียงใหม่จากส่วนหนึ่งในบทความ PCR Tests and the Depopulation Program by Kevin Galalae, 10 October 2021 Cr : Ramone Jira
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 941 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันแบงค็อก กับห้าง‘หลง’ที่สุด

    จากความตั้งใจของเสี่ยเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่อยากให้ประเทศไทยมีแลนด์มาร์คพิเศษ ที่ทำให้ชาวโลกรู้สึกชื่นชมที่จะนำความเจริญ และความภาคภูมิใจมาสู่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำมาสู่ วันแบงค็อก (One Bangkok) โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดในไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 120,000 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 108 ไร่ ซึ่งเช่าระยะยาวจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567

    พื้นที่ค้าปลีกกว่า 190,000 ตารางเมตร ที่เปิดให้บริการมี 2 โซน ได้แก่ โซนพาเหรด (Parade) โซนเดอะสตอรี่ส์ (The Storeys) ที่ยังไม่เปิดคือโซนโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท (POST 1928) เสียงวิจารณ์ที่ตามมานอกจากทำถนนวิทยุ ถนนพระรามที่ 4 และถนนสาทร รถติดหนักกว่าเดิมแล้ว โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่และแยกเป็นหลายอาคาร ทำให้คนที่มาเยือนครั้งแรกเกิดหลงทางทันที จากเดิมที่เซ็นทรัลเวิลด์ครองแชมป์เดินแล้วหลง เจอวันแบงค็อกเข้าไปต้องเรียกพี่

    แนะนำว่าถ้ามาครั้งแรก ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีลุมพินี ทางออก 1 ดีที่สุด มีทางเชื่อมใต้ดินไปยังโครงการ และจำไว้ว่า MRT ตั้งอยู่ในโซนพาเหรด ชั้น B1 อาคาร Tower 3 ฝั่งถนนพระรามที่ 4

    ชั้น B1 พบกับบิ๊กซีมินิ ร้านอาหาร เดินเลี้ยวขวาสุดทางเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์สัญชาติญี่ปุ่น มิตซูโคชิ เดปาจิกะ (Mitsukoshi Depachika) ชั้น G เป็นลานพาเหรดสแควร์ (Parade Square) สำหรับจัดงานมินิคอนเสิร์ต ชั้น 1-2 เป็นคิงเพาเวอร์ ซิตี้บูติก (King Power City Boutique) จำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรี สินค้าซื้อแล้วรับกลับทันที ชั้น 3 เป็นห้างสารพัดไทย ของคิงเพาเวอร์ ชั้น 5 เป็นโรงภาพยนตร์วันอัลตร้าสกรีน (One Ultra Screen) และศูนย์อาหารฟู้ดสตรีท (Food Street)

    เดินไปทางซ้ายจะเป็นโซนเดอะสตอรี่ส์ ฝั่งถนนวิทยุ ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งสองโซนจะเชื่อมถึงกัน ตรงกลางจะเป็นวันแบงค็อกพาร์ค (One Bangkok Park) พื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเข้าอาคาร Tower 4

    ถัดไปจะเป็นวันแบงค็อกบูเลอวาร์ด (One Bangkok Boulevard) อาคารโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท อาคาร Tower 5 และอาคารวันแบงค็อกฟอรั่ม (One Bangkok Forum) ศูนย์ประชุมและจัดคอนเสิร์ต โดยชั้น G มีบิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marché) โมเดลฟู้ดเพลสรูปแบบใหม่ แต่ยังไม่เปิดเต็มรูปแบบ อยู่ใกล้ทางเชื่อมทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านลุมพินีมากที่สุด นับจากนี้จะมีโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ตามมา และอาคารสูงที่สุดในประเทศไทย ปี 2569

    #Newskit #OneBangkok
    วันแบงค็อก กับห้าง‘หลง’ที่สุด จากความตั้งใจของเสี่ยเจริญ และคุณหญิงวรรณา สิริวัฒนภักดี ที่อยากให้ประเทศไทยมีแลนด์มาร์คพิเศษ ที่ทำให้ชาวโลกรู้สึกชื่นชมที่จะนำความเจริญ และความภาคภูมิใจมาสู่กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นำมาสู่ วันแบงค็อก (One Bangkok) โครงการอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดในไทย มูลค่าการลงทุนกว่า 120,000 ล้านบาท บนที่ดินกว่า 108 ไร่ ซึ่งเช่าระยะยาวจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 พื้นที่ค้าปลีกกว่า 190,000 ตารางเมตร ที่เปิดให้บริการมี 2 โซน ได้แก่ โซนพาเหรด (Parade) โซนเดอะสตอรี่ส์ (The Storeys) ที่ยังไม่เปิดคือโซนโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท (POST 1928) เสียงวิจารณ์ที่ตามมานอกจากทำถนนวิทยุ ถนนพระรามที่ 4 และถนนสาทร รถติดหนักกว่าเดิมแล้ว โครงการมิกซ์ยูสที่ใหญ่และแยกเป็นหลายอาคาร ทำให้คนที่มาเยือนครั้งแรกเกิดหลงทางทันที จากเดิมที่เซ็นทรัลเวิลด์ครองแชมป์เดินแล้วหลง เจอวันแบงค็อกเข้าไปต้องเรียกพี่ แนะนำว่าถ้ามาครั้งแรก ใช้บริการรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ลงสถานีลุมพินี ทางออก 1 ดีที่สุด มีทางเชื่อมใต้ดินไปยังโครงการ และจำไว้ว่า MRT ตั้งอยู่ในโซนพาเหรด ชั้น B1 อาคาร Tower 3 ฝั่งถนนพระรามที่ 4 ชั้น B1 พบกับบิ๊กซีมินิ ร้านอาหาร เดินเลี้ยวขวาสุดทางเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์สัญชาติญี่ปุ่น มิตซูโคชิ เดปาจิกะ (Mitsukoshi Depachika) ชั้น G เป็นลานพาเหรดสแควร์ (Parade Square) สำหรับจัดงานมินิคอนเสิร์ต ชั้น 1-2 เป็นคิงเพาเวอร์ ซิตี้บูติก (King Power City Boutique) จำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรี สินค้าซื้อแล้วรับกลับทันที ชั้น 3 เป็นห้างสารพัดไทย ของคิงเพาเวอร์ ชั้น 5 เป็นโรงภาพยนตร์วันอัลตร้าสกรีน (One Ultra Screen) และศูนย์อาหารฟู้ดสตรีท (Food Street) เดินไปทางซ้ายจะเป็นโซนเดอะสตอรี่ส์ ฝั่งถนนวิทยุ ประกอบด้วยร้านอาหาร ร้านค้าแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ ซึ่งทั้งสองโซนจะเชื่อมถึงกัน ตรงกลางจะเป็นวันแบงค็อกพาร์ค (One Bangkok Park) พื้นที่จัดกิจกรรมกลางแจ้ง ทางเข้าอาคาร Tower 4 ถัดไปจะเป็นวันแบงค็อกบูเลอวาร์ด (One Bangkok Boulevard) อาคารโพสต์ไนน์ทีนไนน์ตี้เอท อาคาร Tower 5 และอาคารวันแบงค็อกฟอรั่ม (One Bangkok Forum) ศูนย์ประชุมและจัดคอนเสิร์ต โดยชั้น G มีบิ๊กซี บางกอก มาร์เช่ (Big C Bangkok Marché) โมเดลฟู้ดเพลสรูปแบบใหม่ แต่ยังไม่เปิดเต็มรูปแบบ อยู่ใกล้ทางเชื่อมทางด่วนเฉลิมมหานคร ด่านลุมพินีมากที่สุด นับจากนี้จะมีโรงแรม เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์ตามมา และอาคารสูงที่สุดในประเทศไทย ปี 2569 #Newskit #OneBangkok
    Like
    Love
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1236 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,558
    วันพระ: แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (25 October 2024)

    Photo Album Set 3/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดศรีสระแก้ววนาราม อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67)
    22. วัดคลองใหญ่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
    (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67)
    23. วัดมงคลศรี อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
    (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67)
    24. วัดธาตุกู่ทอง อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67)
    25. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67)
    26. วัดป่าหนองบัวใหญ่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    27. วัดท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 27 ต.ค.67)
    28. วัดยานาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 01 พ.ย.67)
    29. วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.จันทบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    30. วัดแก้วพิจิตร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 3 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,558 วันพระ: แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (25 October 2024) Photo Album Set 3/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดศรีสระแก้ววนาราม อ.กุดจับ จ.อุดรธานี (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67) 22. วัดคลองใหญ่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67) 23. วัดมงคลศรี อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67) 24. วัดธาตุกู่ทอง อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67) 25. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67) 26. วัดป่าหนองบัวใหญ่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) 27. วัดท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ทอดกฐินพระราชทาน 27 ต.ค.67) 28. วัดยานาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 01 พ.ย.67) 29. วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.จันทบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) 30. วัดแก้วพิจิตร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 3 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 507 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,558
    วันพระ: แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง
    วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (25 October 2024)

    Photo Album Set 3/3
    ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท
    21. วัดศรีสระแก้ววนาราม อ.กุดจับ จ.อุดรธานี
    (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67)
    22. วัดคลองใหญ่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง
    (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67)
    23. วัดมงคลศรี อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ
    (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67)
    24. วัดธาตุกู่ทอง อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น
    (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67)
    25. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67)
    26. วัดป่าหนองบัวใหญ่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด
    (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67)
    27. วัดท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
    (ทอดกฐินพระราชทาน 27 ต.ค.67)
    28. วัดยานาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ
    (ทอดกฐินพระราชทาน 01 พ.ย.67)
    29. วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.จันทบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67)
    30. วัดแก้วพิจิตร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
    (ทอดกฐินพระราชทาน 3 พ.ย.67)
    #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์
    * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๐ วัน
    I am willing to depart this life at the age of 75.
    ทำบุญออนไลน์ >>> วันที่ 1,558 วันพระ: แรม ๘ ค่ำ เดือน ๑๑ ปีมะโรง วันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๗ (25 October 2024) Photo Album Set 3/3 ทอดกฐินสามัคคี 30 วัด เป็นเงิน 600 บาท 21. วัดศรีสระแก้ววนาราม อ.กุดจับ จ.อุดรธานี (ทอดกฐินสามัคคี 28 ต.ค.67) 22. วัดคลองใหญ่ อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67) 23. วัดมงคลศรี อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ (ทอดกฐินสามัคคี 29 ต.ค.67) 24. วัดธาตุกู่ทอง อ.เปือยน้อย จ.ขอนแก่น (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67) 25. วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต กรุงเทพฯ (ทอดกฐินสามัคคี 30 ต.ค.67) 26. วัดป่าหนองบัวใหญ่ อ.พนมไพร จ.ร้อยเอ็ด (ทอดกฐินสามัคคี 31 ต.ค.67) 27. วัดท่านางหอม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา (ทอดกฐินพระราชทาน 27 ต.ค.67) 28. วัดยานาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ (ทอดกฐินพระราชทาน 01 พ.ย.67) 29. วัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.จันทบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 2 พ.ย.67) 30. วัดแก้วพิจิตร อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี (ทอดกฐินพระราชทาน 3 พ.ย.67) #โอนเงินทำบุญโดยคุณณรงค์ * เวลาที่เหลืออยู่ในชาตินี้ เท่ากับ ๒๖ ปี ๑๑๐ วัน I am willing to depart this life at the age of 75.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 0 รีวิว
  • ร้านอาหารอีสาน บรรยากาศสุดชิล ฟีลลานเบียร์ วันนี้เราขอพาสายกินดื่มทุกคนมาที่ร้าน ราชาคอหมูย่าง พระราม 4 ตัวร้านมีที่นั่งทั้งโซน Indoor และ Outdoor ใครชอบทานอาหารรสแซ่บบอกเลยว่าต้องชอบที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นสายปลาร้า สายแซ่บ และสายนั่งชิลแฮงค์เอาท์ มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง

    พิกัด : https://goo.gl/maps/RMrCkcvfaWxtHvWE7
    ที่อยู่ : 43/1 ถนน เชื้อเพลิง แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพฯ
    ร้านเปิดบริการ : 17.00 - 23.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ เปิด 11.00 น.)
    โทร : 09-0519-7465

    #อาหารอีสาน #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    ร้านอาหารอีสาน บรรยากาศสุดชิล ฟีลลานเบียร์ วันนี้เราขอพาสายกินดื่มทุกคนมาที่ร้าน ราชาคอหมูย่าง พระราม 4 ตัวร้านมีที่นั่งทั้งโซน Indoor และ Outdoor ใครชอบทานอาหารรสแซ่บบอกเลยว่าต้องชอบที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นสายปลาร้า สายแซ่บ และสายนั่งชิลแฮงค์เอาท์ มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง พิกัด : https://goo.gl/maps/RMrCkcvfaWxtHvWE7 ที่อยู่ : 43/1 ถนน เชื้อเพลิง แขวง ทุ่งมหาเมฆ เขต สาทร กรุงเทพฯ ร้านเปิดบริการ : 17.00 - 23.00 น. (เสาร์-อาทิตย์ เปิด 11.00 น.) โทร : 09-0519-7465 #อาหารอีสาน #กินสาระนัวร์ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 575 มุมมอง 0 รีวิว
  • คำเตือนจาก กทม. เรื่อง น้ำท่วม ทั้งมี และ ไม่มี ในกทม.ในปี 2567

    จากสถานการณ์น้ำจะท่วม หรือ ไม่ท่วม ในพื้นที่เขตต่างๆของ กทม.สรุป ได้ เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้

    1. กลุ่มที่ 1 : เขตที่น้ำไม่ท่วม มี 12 เขต คือ ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ คลองสาน ป้อมปราบศัตรูพ่าย ราชเทวี วังทองหลาง พญาไท วัฒนา สาทร สวนหลวง ปทุมวัน และ บางนา

    2. กลุ่มที่ 2 : เขตที่จะท่วม ช่วงสั้น ๆ มี 9 เขต ที่จะเสียหายบางส่วนจากปริมาณ "น้ำเจ้าพระยาขึ้น-ลง" ประกอบด้วย พระนคร ดุสิต สัมพันธวงศ์ บางรัก บางคอแหลม คลองเตย ยานนาวา พระโขนง และ บางซื่อ

    3. กลุ่มที่ 3 : เขตที่จะเสียหายบางส่วน แยกเป็น 2 ส่วนคือ

    3.1 เขตที่จะเสียหายเกิน 20% มี 9 เขต ได้แก่ ประเวศ คันนายาว มีนบุรี ลาดกระบัง สะพานสูง ลาดพร้าว บางกอกน้อย และบางบอน
    3.2 เขตที่จะเสียหายน้อยกว่า 20% มี 8 เขตคือ ดินแดง ห้วยขวาง บึงกุ่ม บางกะปิ บางกอกใหญ่ จอมทอง ธนบุรี และบางขุนเทียน

    4. เขตที่จะเสียหายแบบยกเขต และ ได้รับผลกระทบเป็นเวลานานมี 12 เขต ได้แก่ ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางพลัด บางแค ภาษีเจริญ หนองแขม ดอนเมือง บางเขน สายไหม หลักสี่ จตุจักร และคลองสามวา

    ใครที่อยู่ในเขตกลุ่มที่ 4 ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และ น้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่ม เพราะ เสมือน ท่านอยู่ในพื้นที่แอ่งกระทะ โอกาสถูกน้ำท่วมสูง และ ถูกท่วมนาน นะจาบอกให้ เมื่อ 3 น้ำ คือ น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และ น้ำฝน มาบรรจบกัน อย่ามาต่อว่า ว่า ทำไม จึงไม่ออกมาเตือน มิได้นะ มิได้นะ

    ท่านตรวจสอบเพิ่มเติมเอง
    8 ตุลาคม 2567
    คำเตือนจาก กทม. เรื่อง น้ำท่วม ทั้งมี และ ไม่มี ในกทม.ในปี 2567 จากสถานการณ์น้ำจะท่วม หรือ ไม่ท่วม ในพื้นที่เขตต่างๆของ กทม.สรุป ได้ เป็น 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. กลุ่มที่ 1 : เขตที่น้ำไม่ท่วม มี 12 เขต คือ ทุ่งครุ ราษฎร์บูรณะ คลองสาน ป้อมปราบศัตรูพ่าย ราชเทวี วังทองหลาง พญาไท วัฒนา สาทร สวนหลวง ปทุมวัน และ บางนา 2. กลุ่มที่ 2 : เขตที่จะท่วม ช่วงสั้น ๆ มี 9 เขต ที่จะเสียหายบางส่วนจากปริมาณ "น้ำเจ้าพระยาขึ้น-ลง" ประกอบด้วย พระนคร ดุสิต สัมพันธวงศ์ บางรัก บางคอแหลม คลองเตย ยานนาวา พระโขนง และ บางซื่อ 3. กลุ่มที่ 3 : เขตที่จะเสียหายบางส่วน แยกเป็น 2 ส่วนคือ 3.1 เขตที่จะเสียหายเกิน 20% มี 9 เขต ได้แก่ ประเวศ คันนายาว มีนบุรี ลาดกระบัง สะพานสูง ลาดพร้าว บางกอกน้อย และบางบอน 3.2 เขตที่จะเสียหายน้อยกว่า 20% มี 8 เขตคือ ดินแดง ห้วยขวาง บึงกุ่ม บางกะปิ บางกอกใหญ่ จอมทอง ธนบุรี และบางขุนเทียน 4. เขตที่จะเสียหายแบบยกเขต และ ได้รับผลกระทบเป็นเวลานานมี 12 เขต ได้แก่ ตลิ่งชัน ทวีวัฒนา บางพลัด บางแค ภาษีเจริญ หนองแขม ดอนเมือง บางเขน สายไหม หลักสี่ จตุจักร และคลองสามวา ใครที่อยู่ในเขตกลุ่มที่ 4 ต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และ น้ำฝนที่จะตกลงมาเพิ่ม เพราะ เสมือน ท่านอยู่ในพื้นที่แอ่งกระทะ โอกาสถูกน้ำท่วมสูง และ ถูกท่วมนาน นะจาบอกให้ เมื่อ 3 น้ำ คือ น้ำเหนือ น้ำทะเลหนุน และ น้ำฝน มาบรรจบกัน อย่ามาต่อว่า ว่า ทำไม จึงไม่ออกมาเตือน มิได้นะ มิได้นะ ท่านตรวจสอบเพิ่มเติมเอง 8 ตุลาคม 2567
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 2 การแบ่งปัน 779 มุมมอง 0 รีวิว
  • ตุลาคมเหนื่อยต่อเนื่อง ฝนไม่ทันหมด ฝุ่นพิษกำลังก่อตัว
    .
    ถ้าว่ากันด้วยเรื่องสภาพอากาศของประเทศไทยในช่วงเวลานี้เปรียบได้กับ "ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก" อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากยังไม่ทันทีฤดูฝนจะหมดไป และคนส่วนใหญ่ยังต้องระทึกกันว่าจะมีมวลน้ำมาเยี่ยมถึงหน้าบ้านหรือไม่ ปรากฎว่ากำลังมาเจอกับแรงปะทะครั้งใหม่จากปัญหาคุณภาพอากาศที่เลวร้าย ภายหลังกรมควบคุมพลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ กทม.และปริมณฑล เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินมาตรฐาน (37.5 มคก./ลบ.ม.) หลายพื้นที่
    .
    ไม่ว่าจะเป็นบริเวณจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม รวมไปถึงกรุงเทพมหานครในหลายพื้นที่ เช่น เขตทุ่งครุ เขตบางบอน เขตหนองแขม เขตภาษีเจริญ เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตคลองสาน เขตธนบุรี เขตบางนา เขตสาทร เขตบางรัก เขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตราชเทวี เขตราษฎร์บูรณะ เขตบางคอแหลม เขตบางขุนเทียน เขตบางพลัด เขตจอมทอง เขตบึงกุ่ม เขตปทุมวัน
    .
    สำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 8 - 16 ตุลาคม การระบายอากาศ ที่อยู่ในเกณฑ์ไม่ดี อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดฝนตกตลอดช่วง และเนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนตอนใต้ ทำให้เกิดภาวะที่อากาศด้านบนกดทับอากาศด้านล่าง ส่งผลให้มลพิษไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ และลมที่พัดเบา ประกอบกับชั้นอากาศที่สามารถผสมกันได้มีความสูงน้อย จึงทำให้อัตราการระบายอากาศไม่ดีและมลพิษสะสมอยู่ในอากาศเพิ่มขึ้น
    .
    ด้วยเหตุนี้ จึงได้ประกาศให้ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น
    ...............
    Sondhi X
    ตุลาคมเหนื่อยต่อเนื่อง ฝนไม่ทันหมด ฝุ่นพิษกำลังก่อตัว . ถ้าว่ากันด้วยเรื่องสภาพอากาศของประเทศไทยในช่วงเวลานี้เปรียบได้กับ "ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก" อย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากยังไม่ทันทีฤดูฝนจะหมดไป และคนส่วนใหญ่ยังต้องระทึกกันว่าจะมีมวลน้ำมาเยี่ยมถึงหน้าบ้านหรือไม่ ปรากฎว่ากำลังมาเจอกับแรงปะทะครั้งใหม่จากปัญหาคุณภาพอากาศที่เลวร้าย ภายหลังกรมควบคุมพลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รายงานงานสถานการณ์คุณภาพอากาศ พื้นที่ กทม.และปริมณฑล เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจพบฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) เกินมาตรฐาน (37.5 มคก./ลบ.ม.) หลายพื้นที่ . ไม่ว่าจะเป็นบริเวณจังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดนครปฐม รวมไปถึงกรุงเทพมหานครในหลายพื้นที่ เช่น เขตทุ่งครุ เขตบางบอน เขตหนองแขม เขตภาษีเจริญ เขตทวีวัฒนา เขตตลิ่งชัน เขตบางกอกน้อย เขตบางกอกใหญ่ เขตคลองสาน เขตธนบุรี เขตบางนา เขตสาทร เขตบางรัก เขตสัมพันธวงศ์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตราชเทวี เขตราษฎร์บูรณะ เขตบางคอแหลม เขตบางขุนเทียน เขตบางพลัด เขตจอมทอง เขตบึงกุ่ม เขตปทุมวัน . สำหรับปัจจัยที่เกี่ยวข้อง (คาดการณ์แนวโน้มสภาพอากาศที่ส่งผลกระทบต่อฝุ่นPM2.5 โดยสภาพทางอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 8 - 16 ตุลาคม การระบายอากาศ ที่อยู่ในเกณฑ์ไม่ดี อย่างไรก็ตาม มีโอกาสเกิดฝนตกตลอดช่วง และเนื่องจากช่วงนี้เริ่มมีความกดอากาศสูงจากประเทศจีนตอนใต้ ทำให้เกิดภาวะที่อากาศด้านบนกดทับอากาศด้านล่าง ส่งผลให้มลพิษไม่สามารถลอยขึ้นไปได้ และลมที่พัดเบา ประกอบกับชั้นอากาศที่สามารถผสมกันได้มีความสูงน้อย จึงทำให้อัตราการระบายอากาศไม่ดีและมลพิษสะสมอยู่ในอากาศเพิ่มขึ้น . ด้วยเหตุนี้ จึงได้ประกาศให้ประชาชนทั่วไปควรเฝ้าระวังสุขภาพ ลดเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ผู้ที่ต้องดูแลสุขภาพเป็นพิเศษ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองหากมีความจำเป็น ............... Sondhi X
    Sad
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1640 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts