• 5/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ

    เครดิตวิดีโอ "เปาบุ้นจุ้น"

    https://web.facebook.com/share/v/1GyEErbPh2/
    5/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ เครดิตวิดีโอ "เปาบุ้นจุ้น" https://web.facebook.com/share/v/1GyEErbPh2/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 150 Views 30 0 Reviews
  • 4/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ

    เครดิตวิดีโอ "ออยศรีและผองเผือก"
    https://web.facebook.com/share/v/14x8WFQWYf/
    4/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ เครดิตวิดีโอ "ออยศรีและผองเผือก" https://web.facebook.com/share/v/14x8WFQWYf/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 151 Views 23 0 Reviews
  • 3/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ
    .
    เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ"
    https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    3/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ . เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ" https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 149 Views 31 0 Reviews
  • 2/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ
    .
    เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ"
    https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    2/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ . เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ" https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 146 Views 27 0 Reviews
  • 1/
    ด่วน!!
    เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม.
    ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ
    .
    เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ"
    https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    1/ ด่วน!! เกิดเหตุแผ่นดินไหว คาดการณ์ว่า ศูนย์กลางแผ่นดินไหว อยู่ที่ เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา 7.7 แมกนิจูด ลึก 10 กม. ภาพเหตุการณ์ตึกที่จตุจักร ถล่ม รถไฟฟ้า BTS MRT งดให้บริการ . เครดิตวิดีโอ "คนสู้ชีวิต อดีตไม่สวยหลอกนะ" https://web.facebook.com/share/v/15W6D3B668/
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 95 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายโจมตีองค์กรด้านการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี และโทรคมนาคมในสหรัฐฯ และเอเชีย ผ่าน เราเตอร์ของ Juniper Networks โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนชื่อว่า UNC3886

    UNC3886 ถูกจับตามองโดยทีม Mandiant ซึ่งเผยว่ากลุ่มนี้มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเราเตอร์ Juniper พวกเขาใช้มัลแวร์ชนิด TINYSHELL ซึ่งเป็น backdoor ที่มีหลากหลายความสามารถ โดยเจาะผ่านระบบป้องกัน Veriexec ซึ่งปกติจะตรวจจับและป้องกันการรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต

    กลุ่มแฮกเกอร์นี้สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันได้ผ่านการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในหน่วยความจำของกระบวนการที่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกตรวจจับ

    คำแนะนำจาก Mandiant
    - อัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีมาตรการป้องกันและลายเซ็นใหม่สำหรับเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ของ Juniper
    - ใช้ Juniper Malware Removal Tool (JMRT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการอัปเดต
    - สแกนและตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น

    แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า UNC3886 มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนอื่น ๆ อย่าง Salt Typhoon หรือ Volt Typhoon แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด

    https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-targeting-juniper-networks-routers-so-patch-now
    ข่าวนี้เล่าถึงการโจมตีทางไซเบอร์ครั้งใหม่ที่มีเป้าหมายโจมตีองค์กรด้านการป้องกันประเทศ เทคโนโลยี และโทรคมนาคมในสหรัฐฯ และเอเชีย ผ่าน เราเตอร์ของ Juniper Networks โดยกลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับจีนชื่อว่า UNC3886 UNC3886 ถูกจับตามองโดยทีม Mandiant ซึ่งเผยว่ากลุ่มนี้มีความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีของเราเตอร์ Juniper พวกเขาใช้มัลแวร์ชนิด TINYSHELL ซึ่งเป็น backdoor ที่มีหลากหลายความสามารถ โดยเจาะผ่านระบบป้องกัน Veriexec ซึ่งปกติจะตรวจจับและป้องกันการรันโค้ดที่ไม่ได้รับอนุญาต กลุ่มแฮกเกอร์นี้สามารถหลีกเลี่ยงการป้องกันได้ผ่านการฉีดโค้ดที่เป็นอันตรายเข้าไปในหน่วยความจำของกระบวนการที่เชื่อถือได้ ทำให้มัลแวร์สามารถทำงานได้โดยไม่ถูกตรวจจับ คำแนะนำจาก Mandiant - อัปเดตอุปกรณ์ของคุณให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดที่มีมาตรการป้องกันและลายเซ็นใหม่สำหรับเครื่องมือกำจัดมัลแวร์ของ Juniper - ใช้ Juniper Malware Removal Tool (JMRT) เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของระบบหลังการอัปเดต - สแกนและตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อป้องกันภัยไซเบอร์ที่อาจเกิดขึ้น แม้จะไม่มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่า UNC3886 มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มแฮกเกอร์จีนอื่น ๆ อย่าง Salt Typhoon หรือ Volt Typhoon แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความสามารถที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มดังกล่าว ซึ่งอาจสร้างผลกระทบต่อการดำเนินงานขององค์กรขนาดใหญ่ และย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ในระดับสูงสุด https://www.techradar.com/pro/security/chinese-hackers-targeting-juniper-networks-routers-so-patch-now
    WWW.TECHRADAR.COM
    Chinese hackers targeting Juniper Networks routers, so patch now
    Defense, technology, and telecommunications organizations are being targeted with backdoors.
    0 Comments 0 Shares 205 Views 0 Reviews
  • เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025

    ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16%

    สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน

    ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน

    จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara)

    มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange)

    2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์

    อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562

    #Newskit
    เคาะวันเปิด LRT3 มาเลเซีย 30 กันยายน 2025 ในที่สุดโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาสายชาห์อลัม (Shah Alam Line) หรือ LRT3 รัฐสลังงอร์ ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างสถานีบันดาร์ อูตามา (Bandar Utama) กับสถานีโยฮัน เซเตีย (Johan Setia) มีกำหนดเปิดให้บริการในวันที่ 30 ก.ย. 2568 หลังส่งมอบโครงการให้กับบริษัท ปราซารานา (Prasarana) ในวันที่ 31 ก.ค. 2568 ตามที่กระทรวงคมนาคมมาเลเซีย เปิดเผยเมื่อวันพุธ (26 ก.พ.) ระบุว่าความคืบหน้าของโครงการอยู่ที่ 98.16% สำหรับโครงการรถไฟฟ้ารางเบาสายที่ 3 (LRT3) ถือเป็นระบบขนส่งมวลชนลำดับที่ 11 ในหุบเขาแคลง มีระยะทาง 37 กิโลเมตร รวมทั้งอุโมงค์ความยาว 2 กิโลเมตร พาดผ่านเขตเปตาลิง จายา (Petaling Jaya) ชาห์อลัม (Shah Alam) และแคลง (Klang) รองรับประชากรมากกว่า 2 ล้านคน มีสถานีรถไฟฟ้า 20 สถานี และอีก 5 สถานีที่ก่อสร้างเพิ่มเติม พร้อมที่จอดรถ 6 สถานี รองรับรถยนต์รวม 2,000 คัน ส่วนขบวนรถมี 3 ตู้ รวม 22 ขบวน ผลิตโดยบริษัท CRRC Corporation รองรับผู้โดยสารสูงสุด 18,630 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ให้บริการความถี่ทุก 6 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน คาดว่าจะมีผู้โดยสาร 67,000 เที่ยวคนต่อวัน จุดเริ่มต้นอยู่ที่สถานีบันดาร์ อูตามา ใกล้กับศูนย์การค้าวันอูตามา (1 Utama) ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก ผ่านสถานที่สำคัญอย่างสนามกีฬาชาห์อลัม (Stadium Shah Alam) มัสยิดสุลต่านซาลาฮุดดินอับดุลอาซิซ (Masjid Sultan Salahuddin Abdul Aziz Shah) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยียูไอทีเอ็ม (UiTM) โครงการไอ-ซิตี้ (i-City) สวนสนุกไอ-ซิตี้ ธีมพาร์ค (i-City Theme Park) มัสยิดบันดาร์ดิราจาแคลงอูตารา (Masjid Bandar Diraja Klang Utara) มีสถานีเชื่อมต่อ ได้แก่ 1. สถานีบันดาร์ อูตามา เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที สายกาจัง (MRT Kajang Line) เส้นทางระหว่างสถานีควาซาดามานซารา (Kwasa Damansara) กับสถานีกาจัง (Kajang) ผ่านสถานีบูกิตบินตัง (Bukit Bintang) และสถานีตุนราซัคเอ็กซ์เชนจ์ (Tun Razak Exchange) 2. สถานีเกลนมารี 2 (Glenmarie 2) เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า LRT สายเกลานา จายา (Kelana Jaya Line) เส้นทางระหว่างสถานีปูตราไฮต์ (Putra Heights) กับสถานีกอมบัค (Gombak) ผ่านสถานีเคแอล เซ็นทรัล (KL Sentral) และสถานีเคแอลซีซี (KLCC) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอาคารปิโตรนาส ทวิน ทาวเวอร์ อนึ่ง ที่สถานีเซคชันตูจู (Seksyen 7) บริเวณเขต 7 ของรัฐสลังงอร์ มีศูนย์การค้าเซ็นทรัล ไอ-ซิตี้ (Central i-City) ซึ่งกลุ่มเซ็นทรัลพัฒนาจากประเทศไทย ลงทุนร่วมกับไอ-เบอร์ฮัด (I-Berhad) เปิดให้บริการเมื่อปี 2562 #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 441 Views 0 Reviews
  • https://www.youtube.com/live/HK9CJRmrTQk?si=RuhqA8nRLGS4RQII
    https://www.youtube.com/live/HK9CJRmrTQk?si=RuhqA8nRLGS4RQII
    - YouTube
    เพลิดเพลินไปกับวิดีโอและเพลงที่คุณชอบ อัปโหลดเนื้อหาต้นฉบับ และแชร์เนื้อหาทั้งหมดกับเพื่อน ครอบครัว และผู้คนทั่วโลกบน YouTube
    0 Comments 0 Shares 94 Views 0 Reviews
  • ซันเวย์ปั้นมิกซ์ยูสยะโฮร์ สถานี RTS Link เชื่อมสิงคโปร์

    โครงการก่อสร้างรถไฟเชื่อมระหว่างยะโฮร์-สิงคโปร์ หรือ อาร์ทีเอส ลิงก์ (RTS Link) ระยะทาง 4 กิโลเมตร ลงทุนร่วมกันระหว่าง เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ประเทศมาเลเซีย กับเอสเอ็มอาร์ที คอร์ปอเรชัน ผู้ให้บริการรถไฟประเทศสิงคโปร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2564 เชื่อมระหว่างสถานีบูกิตชาการ์ (Bukit Chagar) ฝั่งมาเลเซีย และสถานีวูดแลนด์นอร์ธ (Woodlands North) ฝั่งสิงคโปร์ เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายทอมสัน-อีสต์โคสต์ มีแผนจะเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2570

    ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เอ็มอาร์ที คอร์ป ได้ลงนามสัญญากับซันเวย์ กรุ๊ป (Sunway Group) พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูสย่านสถานีบูกิตชาการ์ มูลค่า 2,600 ล้านริงกิต ประกอบด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์การศึกษา และศูนย์สุขภาพ บนพื้นที่ 4.23 เอเคอร์ พร้อมอาคารจอดรถยนต์ 1,550 คัน และจักรยานยนต์ 1,015 คัน รองรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค. 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี คาดว่าจะเปิดอาคารจอดรถในเดือน พ.ย. 2569 ส่วนโครงการเฟสแรกเปิดให้บริการในปี 2576

    สำหรับซันเวย์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ประกอบธุรกิจหลากหลายกว่า 13 ประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง การศึกษา โรงแรม การแพทย์ ศูนย์การค้า ธีมพาร์ค ดิจิทัล ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนและการเงิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย และเหมืองหิน อีกทั้งยังลงทุนในหลายประเทศ โดยประเทศไทยได้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การขนส่งทางอุตสาหกรรม เช่น สายยางไฮโดรลิก สายยางอุตสาหกรรม และเครื่องบีบสาย

    สำหรับรัฐยะโฮร์ กลุ่มซันเวย์ กรุ๊ปลงทุนทั้งธุรกิจก่อสร้าง เหมืองหิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย การศึกษา รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการซันเวย์ ซิตี้ อิสกันดาร์ ปูเตรี (Sunway City Iskandar Puteri) บนพื้นที่ 2,000 เอเคอร์ ที่ประกอบด้วยบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬา โรงเรียนนานาชาติ และโรงแรม

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์ลงนามเปิดตัวเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (JS-SEZ) เพื่อดึงดูดการลงทุนระดับโลก ครอบคลุมพื้นที่ 3,571 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น 9 โซนเศรษฐกิจ รองรับ 11 ภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิต โลจิสติกส์ ความมั่นคงด้านอาหาร การท่องเที่ยว พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว บริการทางการเงิน บริการทางธุรกิจ การศึกษา และสุขภาพ โดยตั้งเป้าหมาย 50 โครงการใน 5 ปีแรกและ 100 โครงการในอีก 10 ปีข้างหน้า

    #Newskit
    ซันเวย์ปั้นมิกซ์ยูสยะโฮร์ สถานี RTS Link เชื่อมสิงคโปร์ โครงการก่อสร้างรถไฟเชื่อมระหว่างยะโฮร์-สิงคโปร์ หรือ อาร์ทีเอส ลิงก์ (RTS Link) ระยะทาง 4 กิโลเมตร ลงทุนร่วมกันระหว่าง เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ประเทศมาเลเซีย กับเอสเอ็มอาร์ที คอร์ปอเรชัน ผู้ให้บริการรถไฟประเทศสิงคโปร์ เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2564 เชื่อมระหว่างสถานีบูกิตชาการ์ (Bukit Chagar) ฝั่งมาเลเซีย และสถานีวูดแลนด์นอร์ธ (Woodlands North) ฝั่งสิงคโปร์ เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายทอมสัน-อีสต์โคสต์ มีแผนจะเปิดให้บริการในเดือน ม.ค. 2570 ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 ม.ค. เอ็มอาร์ที คอร์ป ได้ลงนามสัญญากับซันเวย์ กรุ๊ป (Sunway Group) พัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์แบบมิกซ์ยูสย่านสถานีบูกิตชาการ์ มูลค่า 2,600 ล้านริงกิต ประกอบด้วยที่พักอาศัย ศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์การศึกษา และศูนย์สุขภาพ บนพื้นที่ 4.23 เอเคอร์ พร้อมอาคารจอดรถยนต์ 1,550 คัน และจักรยานยนต์ 1,015 คัน รองรับการท่องเที่ยวและการเดินทางเพื่อธุรกิจ โดยจะเริ่มก่อสร้างในเดือน มี.ค. 2568 ใช้เวลาก่อสร้าง 8 ปี คาดว่าจะเปิดอาคารจอดรถในเดือน พ.ย. 2569 ส่วนโครงการเฟสแรกเปิดให้บริการในปี 2576 สำหรับซันเวย์ กรุ๊ป เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศมาเลเซีย ประกอบธุรกิจหลากหลายกว่า 13 ประเภท ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้าง การศึกษา โรงแรม การแพทย์ ศูนย์การค้า ธีมพาร์ค ดิจิทัล ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนและการเงิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย และเหมืองหิน อีกทั้งยังลงทุนในหลายประเทศ โดยประเทศไทยได้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์การขนส่งทางอุตสาหกรรม เช่น สายยางไฮโดรลิก สายยางอุตสาหกรรม และเครื่องบีบสาย สำหรับรัฐยะโฮร์ กลุ่มซันเวย์ กรุ๊ปลงทุนทั้งธุรกิจก่อสร้าง เหมืองหิน วัสดุก่อสร้าง การผลิตและจำหน่าย การศึกษา รวมทั้งธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น โครงการซันเวย์ ซิตี้ อิสกันดาร์ ปูเตรี (Sunway City Iskandar Puteri) บนพื้นที่ 2,000 เอเคอร์ ที่ประกอบด้วยบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน ศูนย์การค้า ศูนย์กีฬา โรงเรียนนานาชาติ และโรงแรม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. รัฐบาลมาเลเซียและสิงคโปร์ลงนามเปิดตัวเขตเศรษฐกิจพิเศษยะโฮร์-สิงคโปร์ (JS-SEZ) เพื่อดึงดูดการลงทุนระดับโลก ครอบคลุมพื้นที่ 3,571 ตารางกิโลเมตร แบ่งเป็น 9 โซนเศรษฐกิจ รองรับ 11 ภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิต โลจิสติกส์ ความมั่นคงด้านอาหาร การท่องเที่ยว พลังงาน เศรษฐกิจดิจิทัล เศรษฐกิจสีเขียว บริการทางการเงิน บริการทางธุรกิจ การศึกษา และสุขภาพ โดยตั้งเป้าหมาย 50 โครงการใน 5 ปีแรกและ 100 โครงการในอีก 10 ปีข้างหน้า #Newskit
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 561 Views 0 Reviews
  • 📌วิตามิน ที่ดีต่อร่างกาย📌
    ❤️วิตามินคือกุญแจสู่สุขภาพที่ดี! ช่วยเติมสารอาหารที่ขาดจากมื้ออาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน ✅️ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และ✅️ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน เพื่อให้คุณพร้อมเผชิญทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ดูแลตัวเองง่าย ๆ ด้วยวิตามินที่ใช่สำหรับคุณ เริ่มวันนี้!!
    📣มีรายละเอียดใต้รูป สั่งซื้อกดลิงค์เลยค่ะ
    📌https://www.facebook.com/61563551567782/posts/pfbid02CyDAshTyJvyzpNdECMRTGxCTicdRmmbzUTQsTfcezdp8ncxWF7ACyCmk84DDP7sEl/
    📌วิตามิน ที่ดีต่อร่างกาย📌 ❤️วิตามินคือกุญแจสู่สุขภาพที่ดี! ช่วยเติมสารอาหารที่ขาดจากมื้ออาหาร เสริมภูมิคุ้มกัน ✅️ลดความเสี่ยงโรคเรื้อรัง และ✅️ฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรงจากภายใน เพื่อให้คุณพร้อมเผชิญทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ดูแลตัวเองง่าย ๆ ด้วยวิตามินที่ใช่สำหรับคุณ เริ่มวันนี้!! 📣มีรายละเอียดใต้รูป สั่งซื้อกดลิงค์เลยค่ะ 📌https://www.facebook.com/61563551567782/posts/pfbid02CyDAshTyJvyzpNdECMRTGxCTicdRmmbzUTQsTfcezdp8ncxWF7ACyCmk84DDP7sEl/
    4 Comments 0 Shares 354 Views 0 Reviews
  • โพลเผย "คนกรุง" 3 ใน 4 ชี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รุนแรงมาก
    "รัฐ-กทม." ไร้ประสิทธิภาพ-รถฟรีไม่ช่วยแก้ปัญหา
    .
    วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “กรุงเทพฯ เมืองในฝุ่น” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ชาวกทม. มากกว่า 90% ชี้ปัญหารุนแรงถึงรุนแรงมาก, รถเมล์-รถไฟฟ้าฟรีช่วยแก้ปัญหาได้น้อย, ส่วนใหญ่ชี้หน่วยงานภาครัฐ-กทม. ไร้ประสิทธิภาพโดยเฉพาะ กรมควบคุมมลพิษ และกรุงเทพมหานคร
    .
    สำหรับคำถามและผลการสำรวจที่น่าสนใจมีดังนี้คือ
    .
    เมื่อถามประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครถึงความรุนแรงของวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงหลายวันที่ผ่านมา พบว่า
    ร้อยละ 74.43 ระบุว่า มีความรุนแรงมาก
    ร้อยละ 18.55 ระบุว่า ค่อนข้างมีความรุนแรง
    ร้อยละ 5.88 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความรุนแรง
    ร้อยละ 1.14 ระบุว่า ไม่มีความรุนแรงเลย
    .
    ขณะที่ความคิดเห็นต่อการสั่งการหรือขอความร่วมมือให้ปิดสถานศึกษาและทำงานที่บ้าน (Work from Home) ช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร พบว่า
    ร้อยละ 33.82 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้พอสมควร
    ร้อยละ 33.21 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้น้อยมาก
    ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเลย
    ร้อยละ 8.47 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้มาก
    .
    ในประเด็นการให้ประชาชนใช้บริการรถเมล์และรถไฟฟ้า BTS - MRT ฟรี 7 วัน ช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร พบว่า
    ร้อยละ 34.89 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้น้อยมาก
    ร้อยละ 33.89 ระบุว่า ไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเลย
    ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้พอสมควร
    ร้อยละ 6.72 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้มาก
    .
    ส่วนคำถามเรื่องประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง พบว่า
    ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ
    ร้อยละ 35.34 ระบุว่า ไม่มีประสิทธิภาพเลย
    ร้อยละ 20.38 ระบุว่า ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
    ร้อยละ 3.13 ระบุว่า มีประสิทธิภาพมาก
    .
    เมื่อถามถึงหน่วยงานที่ประชาชนคาดหวังให้แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร พบว่า
    ร้อยละ 41.15 ระบุว่า กรมควบคุมมลพิษ
    ร้อยละ 34.27 ระบุว่า กรุงเทพมหานคร
    ร้อยละ 27.02 ระบุว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร
    ร้อยละ 20.23 ระบุว่า กรมการขนส่งทางบก
    ร้อยละ 17.56 ระบุว่า ไม่มีความหวังกับหน่วยงานราชการใดๆ
    ร้อยละ 16.34 ระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรม
    ร้อยละ 13.89 ระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
    ร้อยละ 12.67 ระบุว่า สำนักนายกรัฐมนตรี
    ร้อยละ 12.44 ระบุว่า กระทรวงมหาดไทย
    ร้อยละ 10.46 ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
    ร้อยละ 9.39 ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ
    ร้อยละ 8.70 ระบุว่า กระทรวงกลาโหม
    ร้อยละ 8.47 ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์
    ร้อยละ 7.79 ระบุว่า กระทรวงการคลัง
    .
    คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9680000010602
    โพลเผย "คนกรุง" 3 ใน 4 ชี้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 รุนแรงมาก "รัฐ-กทม." ไร้ประสิทธิภาพ-รถฟรีไม่ช่วยแก้ปัญหา . วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 ศูนย์สำรวจความคิดเห็นนิด้าโพล สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง “กรุงเทพฯ เมืองในฝุ่น” ทำการสำรวจระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม 2568 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร กระจายทุกระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ รวมจำนวนทั้งสิ้น 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พบว่า ชาวกทม. มากกว่า 90% ชี้ปัญหารุนแรงถึงรุนแรงมาก, รถเมล์-รถไฟฟ้าฟรีช่วยแก้ปัญหาได้น้อย, ส่วนใหญ่ชี้หน่วยงานภาครัฐ-กทม. ไร้ประสิทธิภาพโดยเฉพาะ กรมควบคุมมลพิษ และกรุงเทพมหานคร . สำหรับคำถามและผลการสำรวจที่น่าสนใจมีดังนี้คือ . เมื่อถามประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานครถึงความรุนแรงของวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ช่วงหลายวันที่ผ่านมา พบว่า ร้อยละ 74.43 ระบุว่า มีความรุนแรงมาก ร้อยละ 18.55 ระบุว่า ค่อนข้างมีความรุนแรง ร้อยละ 5.88 ระบุว่า ไม่ค่อยมีความรุนแรง ร้อยละ 1.14 ระบุว่า ไม่มีความรุนแรงเลย . ขณะที่ความคิดเห็นต่อการสั่งการหรือขอความร่วมมือให้ปิดสถานศึกษาและทำงานที่บ้าน (Work from Home) ช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร พบว่า ร้อยละ 33.82 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้พอสมควร ร้อยละ 33.21 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้น้อยมาก ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเลย ร้อยละ 8.47 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้มาก . ในประเด็นการให้ประชาชนใช้บริการรถเมล์และรถไฟฟ้า BTS - MRT ฟรี 7 วัน ช่วยแก้ไขปัญหาวิกฤตฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร พบว่า ร้อยละ 34.89 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้น้อยมาก ร้อยละ 33.89 ระบุว่า ไม่ช่วยแก้ไขปัญหาเลย ร้อยละ 24.50 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้พอสมควร ร้อยละ 6.72 ระบุว่า ช่วยแก้ไขปัญหาได้มาก . ส่วนคำถามเรื่องประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานครของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง พบว่า ร้อยละ 41.15 ระบุว่า ไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 35.34 ระบุว่า ไม่มีประสิทธิภาพเลย ร้อยละ 20.38 ระบุว่า ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ ร้อยละ 3.13 ระบุว่า มีประสิทธิภาพมาก . เมื่อถามถึงหน่วยงานที่ประชาชนคาดหวังให้แก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในกรุงเทพมหานคร พบว่า ร้อยละ 41.15 ระบุว่า กรมควบคุมมลพิษ ร้อยละ 34.27 ระบุว่า กรุงเทพมหานคร ร้อยละ 27.02 ระบุว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ร้อยละ 20.23 ระบุว่า กรมการขนส่งทางบก ร้อยละ 17.56 ระบุว่า ไม่มีความหวังกับหน่วยงานราชการใดๆ ร้อยละ 16.34 ระบุว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ร้อยละ 13.89 ระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยละ 12.67 ระบุว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 12.44 ระบุว่า กระทรวงมหาดไทย ร้อยละ 10.46 ระบุว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร้อยละ 9.39 ระบุว่า กระทรวงการต่างประเทศ ร้อยละ 8.70 ระบุว่า กระทรวงกลาโหม ร้อยละ 8.47 ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ ร้อยละ 7.79 ระบุว่า กระทรวงการคลัง . คลิกอ่าน >> https://sondhitalk.com/detail/9680000010602
    Like
    3
    0 Comments 0 Shares 780 Views 0 Reviews
  • 31/1/68

    ป้องกันฝุ่นpm2.5ทำแบบคนญี่ปุ่น​ คือ​

    1.ซื้อวาสลีนทาบางๆ​ ในรูจมูก​ ความเหนียวของวาสลีนจะดักจับฝุ่น​ PM2.5​ และเกสรดอกไม้ไว้ได้

    2. ใส่แมส โดยพับครึ่ง กดขึ้นรูป เพิ่อรองรับจมูกให้ปิดสนิท

    3. ตอนเย็นกลับเข้าบ้าน เอาทิชชูเช็ดที่รูจมูกให้สะอาด

    ได้ผลดี ราคาถูกด้วย
    ป้องกันฝุ่นละอองเกสรร้ายง่ายๆที่คุณไม่เคยรู้ รักสุขภาพต้องดู
    https://youtu.be/xMrtL7tvME4
    31/1/68 ป้องกันฝุ่นpm2.5ทำแบบคนญี่ปุ่น​ คือ​ 1.ซื้อวาสลีนทาบางๆ​ ในรูจมูก​ ความเหนียวของวาสลีนจะดักจับฝุ่น​ PM2.5​ และเกสรดอกไม้ไว้ได้ 2. ใส่แมส โดยพับครึ่ง กดขึ้นรูป เพิ่อรองรับจมูกให้ปิดสนิท 3. ตอนเย็นกลับเข้าบ้าน เอาทิชชูเช็ดที่รูจมูกให้สะอาด ได้ผลดี ราคาถูกด้วย ป้องกันฝุ่นละอองเกสรร้ายง่ายๆที่คุณไม่เคยรู้ รักสุขภาพต้องดู https://youtu.be/xMrtL7tvME4
    0 Comments 0 Shares 426 Views 0 Reviews
  • DRT มาเลเซีย ทลายข้อจำกัดรถไฟฟ้า

    แม้ว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย จะมีรถไฟฟ้าและรถเมล์ด่วนพิเศษ (BRT) ครอบคลุมพื้นที่หุบเขาแคลง (Klang Valley) กระจายไปยังเมืองบริวารในรัฐสลังงอร์ (Selangor) และปุตราจายา (Putrajaya) แต่มีประชาชนจำนวนน้อยใช้บริการเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากที่ตั้งสถานี อยู่ห่างไกลจากที่พักอาศัย ด้วยลักษณะทางกายภาพ เช่น ตั้งอยู่บนหุบเขา มีทางด่วนกั้นอยู่ ต้องเดินเท้านานกว่า 30 นาทีถึงสถานี ส่วนรถโดยสารประจำทางล่าช้าเนื่องจากการจราจรติดขัด

    แรพิดบัส (Rapid Bus) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง จึงได้เริ่มให้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง หรือ DRT ซึ่งย่อมาจาก Demand Responsive Transport ภายใต้ชื่อ Rapid DRT เมื่อเดือน พ.ค.2566 เริ่มจากสายแรก สถานีรถไฟฟ้า LRT Universiti ไปยังมหาวิทยาลัยมาลายา ด้วยรถตู้ 1 คัน ค่าโดยสารโปรโมชันคนละ 1 ริงกิตต่อเที่ยว ต่อมาในเดือน ส.ค.2567 ขยายเป็น 9 เส้นทาง ด้วยรถตู้ 20 คัน และผู้ให้บริการ 3 ราย ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-23.30 น. ทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวันกว่า 59% จาก 1,271 คน เป็น 2,023 คน

    สำหรับขั้นตอนการใช้บริการ เริ่มจากจองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการ เลือกจุดขึ้นรถ จุดลงรถ และจำนวนผู้โดยสาร จากนั้นรอรถตู้มาถึง แตะบัตรโดยสารเพื่อชำระเงินแล้วขึ้นไปบนรถ ระหว่างทางรถตู้จะรับผู้โดยสารรายอื่น เมื่อถึงปลายทางก็ลงจากรถ คล้ายกับบริการเรียกรถ e-hailing มีรัศมีให้บริการประมาณ 2 กิโลเมตร

    จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้แรพิดบัสประกาศเปิดเพิ่มอีก 4 เส้นทางด้วยรถตู้ 10 คัน เชื่อมโยงรถไฟฟ้า LRT Bangsar รถไฟฟ้า MRT Putrajaya และอีก 2 เส้นทางใช้ช่องทางเดินรถประจำทาง นำผู้โดยสารจากย่านที่อยู่อาศัย มายังเส้นทางเดินรถบนถนนสายหลัก พร้อมกันนี้ยังเปลี่ยนชื่อบริการใหม่จาก Rapid DRT เป็น Rapid KL On-Demand ส่วนอีก 9 เส้นทางที่เหลือ จะปรับปรุงเส้นทาง จากปัจจุบันมีจุดจอด 203 จุด จะเพิ่มจุดจอดบนเส้นทางเป็นระยะ 50% ตามความต้องการของชุมชนโดยรอบ

    ก่อนหน้านี้นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า บริษัทปราสรานา (Prasarana) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแรพิดบัส จะนำรถตู้อีก 300 คันมาให้บริการ DRT ซึ่งบริการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารไม่ต้องใช้เวลาเดินเท้าไปยังสถานีรถไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ขณะที่นายโมฮัมหมัด อาซารุดดิน มัต ซาห์ ประธานบริษัทปราสรานา กล่าวว่า มีแผนจะเปิดตัวบริการ DRT พื้นที่ใหม่ตามแนวเส้นทางรถไฟปุตราจายา กาจัง และอัมปัง รวมถึงในพื้นที่ที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า หรือรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT

    #Newskit
    -----
    [วันนี้วันสุดท้าย] ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9

    ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 ก.พ. 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes
    DRT มาเลเซีย ทลายข้อจำกัดรถไฟฟ้า แม้ว่ากรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย จะมีรถไฟฟ้าและรถเมล์ด่วนพิเศษ (BRT) ครอบคลุมพื้นที่หุบเขาแคลง (Klang Valley) กระจายไปยังเมืองบริวารในรัฐสลังงอร์ (Selangor) และปุตราจายา (Putrajaya) แต่มีประชาชนจำนวนน้อยใช้บริการเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากที่ตั้งสถานี อยู่ห่างไกลจากที่พักอาศัย ด้วยลักษณะทางกายภาพ เช่น ตั้งอยู่บนหุบเขา มีทางด่วนกั้นอยู่ ต้องเดินเท้านานกว่า 30 นาทีถึงสถานี ส่วนรถโดยสารประจำทางล่าช้าเนื่องจากการจราจรติดขัด แรพิดบัส (Rapid Bus) ผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง จึงได้เริ่มให้บริการขนส่งสาธารณะเพื่อตอบสนองความต้องการเดินทาง หรือ DRT ซึ่งย่อมาจาก Demand Responsive Transport ภายใต้ชื่อ Rapid DRT เมื่อเดือน พ.ค.2566 เริ่มจากสายแรก สถานีรถไฟฟ้า LRT Universiti ไปยังมหาวิทยาลัยมาลายา ด้วยรถตู้ 1 คัน ค่าโดยสารโปรโมชันคนละ 1 ริงกิตต่อเที่ยว ต่อมาในเดือน ส.ค.2567 ขยายเป็น 9 เส้นทาง ด้วยรถตู้ 20 คัน และผู้ให้บริการ 3 ราย ให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00-23.30 น. ทำให้มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้นเฉลี่ยต่อวันกว่า 59% จาก 1,271 คน เป็น 2,023 คน สำหรับขั้นตอนการใช้บริการ เริ่มจากจองผ่านแอปพลิเคชันของผู้ให้บริการ เลือกจุดขึ้นรถ จุดลงรถ และจำนวนผู้โดยสาร จากนั้นรอรถตู้มาถึง แตะบัตรโดยสารเพื่อชำระเงินแล้วขึ้นไปบนรถ ระหว่างทางรถตู้จะรับผู้โดยสารรายอื่น เมื่อถึงปลายทางก็ลงจากรถ คล้ายกับบริการเรียกรถ e-hailing มีรัศมีให้บริการประมาณ 2 กิโลเมตร จากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้แรพิดบัสประกาศเปิดเพิ่มอีก 4 เส้นทางด้วยรถตู้ 10 คัน เชื่อมโยงรถไฟฟ้า LRT Bangsar รถไฟฟ้า MRT Putrajaya และอีก 2 เส้นทางใช้ช่องทางเดินรถประจำทาง นำผู้โดยสารจากย่านที่อยู่อาศัย มายังเส้นทางเดินรถบนถนนสายหลัก พร้อมกันนี้ยังเปลี่ยนชื่อบริการใหม่จาก Rapid DRT เป็น Rapid KL On-Demand ส่วนอีก 9 เส้นทางที่เหลือ จะปรับปรุงเส้นทาง จากปัจจุบันมีจุดจอด 203 จุด จะเพิ่มจุดจอดบนเส้นทางเป็นระยะ 50% ตามความต้องการของชุมชนโดยรอบ ก่อนหน้านี้นายแอนโทนี่ โลค รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า บริษัทปราสรานา (Prasarana) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแรพิดบัส จะนำรถตู้อีก 300 คันมาให้บริการ DRT ซึ่งบริการนี้ออกแบบมาเพื่อให้ผู้โดยสารไม่ต้องใช้เวลาเดินเท้าไปยังสถานีรถไฟฟ้า และส่งเสริมการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ขณะที่นายโมฮัมหมัด อาซารุดดิน มัต ซาห์ ประธานบริษัทปราสรานา กล่าวว่า มีแผนจะเปิดตัวบริการ DRT พื้นที่ใหม่ตามแนวเส้นทางรถไฟปุตราจายา กาจัง และอัมปัง รวมถึงในพื้นที่ที่ยังไม่มีรถไฟฟ้า หรือรถโดยสารด่วนพิเศษ BRT #Newskit ----- [วันนี้วันสุดท้าย] ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9 ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 ก.พ. 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes
    Like
    6
    0 Comments 0 Shares 772 Views 0 Reviews
  • รถไฟมาเลย์ KLIA Ekspres เพิ่มตั๋วใน Google Wallet ได้แล้ว

    เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 บริการรถไฟ KLIA Ekspres (เคแอลไอเอ เอ็กซ์เพรส) ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ถึงสถานี KL Sentral สามารถเพิ่มตั๋วโดยสารลงใน Google Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพกตั๋วโดยสารโดยไม่ต้องเปิดอีเมล และไม่ต้องพิมพ์ตั๋วแบบกระดาษออกมาอีก

    ผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งและชำระเงินผ่านเว็บไซต์ www.KLIAekspres.com ผ่านมือถือเรียบร้อยแล้ว จะมีปุ่ม Add to Google Wallet ให้กดเข้าไป ระบบจะเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet กดเข้าไปที่ View pass เพื่อดูตั๋วโดยสาร จากนั้นเมื่อถึงประตูทางเข้า (Boarding Gate) ให้เปิด Google Wallet เลือกตั๋วโดยสาร แล้วนำ QR Code มาสแกนที่ประตูทางเข้า แล้วประตูจะเปิดออกมา เมื่อถึงสถานีปลายทางให้นำ QR Code มาสแกนที่ประตูทางออก ปัจจุบันให้บริการเฉพาะตั๋ว Standard Tickets ทั้งบริการ KLIA Ekspres และ KLIA Transit ประเภทบุคคลทั่วไปและประเภทเด็กเท่านั้น

    สำหรับรถไฟ KLIA Ekspres ระยะทาง 57 กิโลเมตร มีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ บริการ KLIA Ekspres จอดเฉพาะอาคาร KLIA2, KLIA1 และสถานี KL Sentral โดยไม่จอดสถานีอื่น ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที ค่าโดยสารบุคคลทั่วไป เที่ยวเดียว 55 ริงกิต ไป-กลับ 100 ริงกิต เด็กอายุ 6-15 ปี เที่ยวเดียว 25 ริงกิต ไป-กลับ 45 ริงกิต ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี โดยสารฟรีสูงสุด 3 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน ให้บริการทุก 20 นาที จากต้นทางอาคาร KLIA2 เที่ยวแรก 04.55 น. เที่ยวสุดท้าย 00.00 น. จากต้นทางสถานี KL Sentral เที่ยวแรก 05.00 น. เที่ยวสุดท้าย 00.00 น.

    ส่วนบริการ KLIA Transit จอดส่งผู้โดยสารสถานีซาลักติงกิ (Salak Tinggi), สถานีปุตราจายาและไซเบอร์จายา (Putrajaya & Cyberjaya) และสถานีบันดาร์ตาซิกเซลาตัน (Bandar Tasik Selatan) ใช้เวลาจากต้นทางถึงปลายทาง 39 นาที ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง (เช่น จากอาคาร KLIA2 ไป Putrajaya & Cyberjaya ราคา 9.40 ริงกิต) ให้บริการทุก 15 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน และ 30 นาทีนอกชั่วโมงเร่งด่วนและวันหยุด จากต้นทางอาคาร KLIA2 เที่ยวแรก 05.18 น. เที่ยวสุดท้าย 00.30 น. จากต้นทางสถานี KL Sentral เที่ยวแรก 05.03 น. เที่ยวสุดท้าย 00.03 น.

    คำแนะนำ : สามารถใช้บริการ KLIA Transit จากอาคาร KLIA2 ไปสถานี Putrajaya & Cyberjaya แล้วต่อรถไฟฟ้า MRT สาย Putrajaya ลงที่สถานี Ampang Park ค่าโดยสาร 4.40 ริงกิต (ถ้าใช้บัตร TNG ลดเหลือ 3.80 ริงกิต) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT สาย Kelana Jaya ได้

    #Newskit
    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    รถไฟมาเลย์ KLIA Ekspres เพิ่มตั๋วใน Google Wallet ได้แล้ว เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 บริการรถไฟ KLIA Ekspres (เคแอลไอเอ เอ็กซ์เพรส) ประเทศมาเลเซีย เชื่อมระหว่างท่าอากาศยานนานาชาติกัวลาลัมเปอร์ (KLIA) ถึงสถานี KL Sentral สามารถเพิ่มตั๋วโดยสารลงใน Google Wallet กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์มือถือแอนดรอยด์ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการพกตั๋วโดยสารโดยไม่ต้องเปิดอีเมล และไม่ต้องพิมพ์ตั๋วแบบกระดาษออกมาอีก ผู้โดยสารที่สำรองที่นั่งและชำระเงินผ่านเว็บไซต์ www.KLIAekspres.com ผ่านมือถือเรียบร้อยแล้ว จะมีปุ่ม Add to Google Wallet ให้กดเข้าไป ระบบจะเพิ่มบัตรลงใน Google Wallet กดเข้าไปที่ View pass เพื่อดูตั๋วโดยสาร จากนั้นเมื่อถึงประตูทางเข้า (Boarding Gate) ให้เปิด Google Wallet เลือกตั๋วโดยสาร แล้วนำ QR Code มาสแกนที่ประตูทางเข้า แล้วประตูจะเปิดออกมา เมื่อถึงสถานีปลายทางให้นำ QR Code มาสแกนที่ประตูทางออก ปัจจุบันให้บริการเฉพาะตั๋ว Standard Tickets ทั้งบริการ KLIA Ekspres และ KLIA Transit ประเภทบุคคลทั่วไปและประเภทเด็กเท่านั้น สำหรับรถไฟ KLIA Ekspres ระยะทาง 57 กิโลเมตร มีให้เลือก 2 ประเภท ได้แก่ บริการ KLIA Ekspres จอดเฉพาะอาคาร KLIA2, KLIA1 และสถานี KL Sentral โดยไม่จอดสถานีอื่น ใช้เวลาเดินทาง 28 นาที ค่าโดยสารบุคคลทั่วไป เที่ยวเดียว 55 ริงกิต ไป-กลับ 100 ริงกิต เด็กอายุ 6-15 ปี เที่ยวเดียว 25 ริงกิต ไป-กลับ 45 ริงกิต ส่วนเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี โดยสารฟรีสูงสุด 3 คนต่อผู้ใหญ่ 1 คน ให้บริการทุก 20 นาที จากต้นทางอาคาร KLIA2 เที่ยวแรก 04.55 น. เที่ยวสุดท้าย 00.00 น. จากต้นทางสถานี KL Sentral เที่ยวแรก 05.00 น. เที่ยวสุดท้าย 00.00 น. ส่วนบริการ KLIA Transit จอดส่งผู้โดยสารสถานีซาลักติงกิ (Salak Tinggi), สถานีปุตราจายาและไซเบอร์จายา (Putrajaya & Cyberjaya) และสถานีบันดาร์ตาซิกเซลาตัน (Bandar Tasik Selatan) ใช้เวลาจากต้นทางถึงปลายทาง 39 นาที ค่าโดยสารคิดตามระยะทาง (เช่น จากอาคาร KLIA2 ไป Putrajaya & Cyberjaya ราคา 9.40 ริงกิต) ให้บริการทุก 15 นาทีในชั่วโมงเร่งด่วน และ 30 นาทีนอกชั่วโมงเร่งด่วนและวันหยุด จากต้นทางอาคาร KLIA2 เที่ยวแรก 05.18 น. เที่ยวสุดท้าย 00.30 น. จากต้นทางสถานี KL Sentral เที่ยวแรก 05.03 น. เที่ยวสุดท้าย 00.03 น. คำแนะนำ : สามารถใช้บริการ KLIA Transit จากอาคาร KLIA2 ไปสถานี Putrajaya & Cyberjaya แล้วต่อรถไฟฟ้า MRT สาย Putrajaya ลงที่สถานี Ampang Park ค่าโดยสาร 4.40 ริงกิต (ถ้าใช้บัตร TNG ลดเหลือ 3.80 ริงกิต) เชื่อมต่อรถไฟฟ้า LRT สาย Kelana Jaya ได้ #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 ม.ค. 2568 คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 516 Views 0 Reviews
  • Mrt วัดมังกร 14/1/2025
    Mrt วัดมังกร 14/1/2025
    0 Comments 0 Shares 136 Views 0 Reviews
  • นับหนึ่งถึงอนาคต รถไฟฟ้าสายแรกปีนัง

    รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะมีรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายแรกเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หลังจากเมื่อเดือน มี.ค.2567 รัฐบาลกลางมาเลเซีย รับช่วงต่อจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐปีนัง พัฒนาโครงการรถไฟรางเบาสายมูเทียร่า ไลน์ (Mutiara Line) โดยแต่งตั้งบริษัท เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด เป็นผู้พัฒนาโครงการ

    พิธีวางศิลาฤกษ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2568 บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธาน

    จากการลงพื้นที่ของ Newskit พบว่า สถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) ติดกับทางด่วนลิม ชอง ยู (Lim Chong Eu) ใกล้กับมัสยิดอัล บัคฮารี่ (Al Bukhary) และทางจักรยานเลียบชายทะเล บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะปีนัง เมื่อข้ามแม่น้ำปีนังไปแล้วจะเป็นสถานีแมคคัลลัม ก่อนแยกเป็นสองสาย แยกซ้ายไปสถานีคอมตาร์ แยกขวาข้ามทะเลไปสถานีปีนังเซ็นทรัล

    ก่อนที่เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 จะมีการลงนามสัญญาก่อสร้างช่วงคอมตาร์-เกาะซิลิคอน (Komtar-Silicon Island) ระยะทาง 24 กิโลเมตร รวม 19 สถานี มูลค่าประมาณ 8,310 ล้านริงกิต (64,000 ล้านบาท) โดยมีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสอาร์เอส ที่บริษัทก่อสร้างกามูดา (Gamuda) ถือหุ้น 60% เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้าง โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2574

    ส่วนช่วงคอมตาร์-ปีนังเซ็นทรัล (Komtar-Penang Sentral) จากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ในเมืองจอร์จทาวน์ ผ่านช่องแคบปีนัง ระยะทาง 5.8 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.ค. 2568 และประกาศผลการประมูลในต้นปี 2569 ส่วนการประมูลระบบรถไฟฟ้าและการบำรุงรักษา กำลังดำเนินการ โดยมีกำหนดส่งข้อเสนอขั้นสุดท้ายในวันที่ 14 เม.ย. 2568

    นายแอนโทนี ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญได้อย่างราบรื่น สนับสนุนโครงการ Penang Silicon Design @5km+ การยกระดับท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง และเขตอุตสาหกรรมเสรีบายัน เลอปาส (Bayan Lepas)

    อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังมีปัญหาเรื่องที่ดินก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง บริเวณสถานีสุไหงนิบง (Sungai Nibong) ซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีการจัดงานเทศกาลประจำปี เพสต้า ปูเลา ปีนัง (Pesta Pulau Pinang) มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2509 แต่ทาง MRT Corp ยืนยันว่าจะใช้พื้นที่ไม่มาก ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรองและพื้นที่พัฒนารอบสถานี (TOD) เท่านั้น

    #Newskit

    -----
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    นับหนึ่งถึงอนาคต รถไฟฟ้าสายแรกปีนัง รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย กำลังจะมีรถไฟฟ้ารางเบา (LRT) สายแรกเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ หลังจากเมื่อเดือน มี.ค.2567 รัฐบาลกลางมาเลเซีย รับช่วงต่อจากรัฐบาลท้องถิ่นรัฐปีนัง พัฒนาโครงการรถไฟรางเบาสายมูเทียร่า ไลน์ (Mutiara Line) โดยแต่งตั้งบริษัท เอ็มอาร์ที คอร์ป (MRT Corp) ที่มีกระทรวงการคลังถือหุ้นทั้งหมด เป็นผู้พัฒนาโครงการ พิธีวางศิลาฤกษ์ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2568 บริเวณสถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซียเป็นประธาน จากการลงพื้นที่ของ Newskit พบว่า สถานที่ก่อสร้างสถานีบันดาร์ ศรี ปีนัง (Bandar Sri Pinang) ติดกับทางด่วนลิม ชอง ยู (Lim Chong Eu) ใกล้กับมัสยิดอัล บัคฮารี่ (Al Bukhary) และทางจักรยานเลียบชายทะเล บริเวณฝั่งตะวันออกของเกาะปีนัง เมื่อข้ามแม่น้ำปีนังไปแล้วจะเป็นสถานีแมคคัลลัม ก่อนแยกเป็นสองสาย แยกซ้ายไปสถานีคอมตาร์ แยกขวาข้ามทะเลไปสถานีปีนังเซ็นทรัล ก่อนที่เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 2568 จะมีการลงนามสัญญาก่อสร้างช่วงคอมตาร์-เกาะซิลิคอน (Komtar-Silicon Island) ระยะทาง 24 กิโลเมตร รวม 19 สถานี มูลค่าประมาณ 8,310 ล้านริงกิต (64,000 ล้านบาท) โดยมีกลุ่มกิจการร่วมค้าเอสอาร์เอส ที่บริษัทก่อสร้างกามูดา (Gamuda) ถือหุ้น 60% เป็นผู้รับเหมาในการก่อสร้าง โดยมีระยะเวลาก่อสร้าง 6 ปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2574 ส่วนช่วงคอมตาร์-ปีนังเซ็นทรัล (Komtar-Penang Sentral) จากสถานีแมคคัลลัม (Macallum) ในเมืองจอร์จทาวน์ ผ่านช่องแคบปีนัง ระยะทาง 5.8 กิโลเมตร คาดว่าจะเปิดประมูลในเดือน ก.ค. 2568 และประกาศผลการประมูลในต้นปี 2569 ส่วนการประมูลระบบรถไฟฟ้าและการบำรุงรักษา กำลังดำเนินการ โดยมีกำหนดส่งข้อเสนอขั้นสุดท้ายในวันที่ 14 เม.ย. 2568 นายแอนโทนี ลก รมว.คมนาคมมาเลเซีย กล่าวว่า โครงการนี้ได้รับการวางแผนอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรมที่สำคัญได้อย่างราบรื่น สนับสนุนโครงการ Penang Silicon Design @5km+ การยกระดับท่าอากาศยานนานาชาติปีนัง และเขตอุตสาหกรรมเสรีบายัน เลอปาส (Bayan Lepas) อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ยังมีปัญหาเรื่องที่ดินก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุง บริเวณสถานีสุไหงนิบง (Sungai Nibong) ซึ่งเป็นสถานที่ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม มีการจัดงานเทศกาลประจำปี เพสต้า ปูเลา ปีนัง (Pesta Pulau Pinang) มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2509 แต่ทาง MRT Corp ยืนยันว่าจะใช้พื้นที่ไม่มาก ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรองและพื้นที่พัฒนารอบสถานี (TOD) เท่านั้น #Newskit ----- ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes คลิก >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9
    Like
    4
    0 Comments 0 Shares 947 Views 0 Reviews
  • ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes

    มูลค่า 10 ริงกิต (77.09 บาท) เป็นบัตรเปล่า ไม่มียอดเงินในบัตร

    สามารถเติมเงินลงในบัตรได้ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT Corp หรือ Rapid KL หรือเครื่อง Kiosk ของ Touch 'n Go และร้านค้า อาทิ 7-Eleven (มาเลเซีย), ECONSAVE, Watsons (มาเลเซีย), KK Mart, 99 Speedmart, Lotus's (มาเลเซีย) หรือจุดบริการตามที่ Touch 'n Go กำหนด แต่ถ้ามีซิมการ์ดค่ายมือถือประเทศมาเลเซีย สามารถใช้ร่วมกับแอปพลิเคชัน Touch 'n Go e-Wallet ได้

    เพียงกรอกแบบฟอร์มนี้ >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9

    เฉพาะชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้สำหรับจัดส่งของรางวัลหากเป็นผู้โชคดีเท่านั้น

    (แบบฟอร์มนี้ไม่มีการกรอกข้อมูลทางการเงิน อาทิ ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ทั้งสิ้น)

    ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes

    เงื่อนไขเป็นไปตามที่เพจ Newskit กำหนด กิจกรรมนี้ทาง Thaitimes ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
    ลุ้นรับฟรี บัตร Touch 'n Go มาเลเซีย สำหรับผู้อ่าน Newskit บน Thaitimes มูลค่า 10 ริงกิต (77.09 บาท) เป็นบัตรเปล่า ไม่มียอดเงินในบัตร สามารถเติมเงินลงในบัตรได้ที่สถานีรถไฟฟ้า MRT Corp หรือ Rapid KL หรือเครื่อง Kiosk ของ Touch 'n Go และร้านค้า อาทิ 7-Eleven (มาเลเซีย), ECONSAVE, Watsons (มาเลเซีย), KK Mart, 99 Speedmart, Lotus's (มาเลเซีย) หรือจุดบริการตามที่ Touch 'n Go กำหนด แต่ถ้ามีซิมการ์ดค่ายมือถือประเทศมาเลเซีย สามารถใช้ร่วมกับแอปพลิเคชัน Touch 'n Go e-Wallet ได้ เพียงกรอกแบบฟอร์มนี้ >>> https://forms.gle/sCSp9i1Ub9KDjYZg9 เฉพาะชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรศัพท์มือถือ เพื่อใช้สำหรับจัดส่งของรางวัลหากเป็นผู้โชคดีเท่านั้น (แบบฟอร์มนี้ไม่มีการกรอกข้อมูลทางการเงิน อาทิ ข้อมูลบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิต บัตรเดบิต หรือข้อมูลบัตรอิเล็กทรอนิกส์ใดๆ ทั้งสิ้น) ร่วมสนุกได้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2568 ประกาศรายชื่อผู้โชคดี 3 กุมภาพันธ์ 2568 ที่เพจ Newskit ใน Thaitimes เงื่อนไขเป็นไปตามที่เพจ Newskit กำหนด กิจกรรมนี้ทาง Thaitimes ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 526 Views 0 Reviews
  • BEM x SIEMENS เรารู้กันอยู่ 3 ตู้...3 ตู้เท่านั้น

    เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มบริษัทซีเมนส์ โมบิลิตี้ ประเทศเยอรมนี ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ให้ดำเนินโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey) ของระบบเครื่องกลและไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร ครอบคลุมการส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าขนาด 3 ตู้ 32 ขบวน รวมถึงการบูรณาการระบบเครื่องกลและไฟฟ้า พร้อมสัญญาซ่อมบำรุง

    และโครงการปรับปรุงรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน หลักสอง-ท่าพระ ระยะทาง 48 กิโลเมตร ครอบคลุมการส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 3 ตู้เพิ่มเติม 21 ขบวน รวมถึงการปรับปรุงระบบเครื่องกลและไฟฟ้าเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความถี่การเดินรถพร้อมสัญญาซ่อมบำรุง อีกทั้งยังได้เซ็นสัญญาการบำรุงรักษาครบวงจรสำหรับขบวนรถไฟใหม่ที่เพิ่มเติมมา รวมถึงการขยายสัญญาการบำรุงรักษาครบวงจรที่มีอยู่เดิม สิ้นสุดสัญญาในปี 2582

    มีคนสงสัยว่าทำไม BEM ยังคงใช้ขบวนรถไฟฟ้าขนาด 3 ตู้ กับสายสีน้ำเงินและสายสีส้ม ทั้งๆ ที่คู่แข่งอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เพิ่มตู้รถไฟฟ้าของซีเมนส์จากแบบ 3 ตู้ เป็น 4 ตู้ทั้ง 35 ขบวน ส่วนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงก็มีทั้ง 4 ตู้ต่อขบวน และ 6 ตู้ต่อขบวน คำตอบอย่างไม่เป็นทางการก็คือ ต้องไปแก้ไขระบบอาณัติสัญญาณ (Signaling) และประตูกั้นชานชาลา (PSD) ถ้าเพิ่มขบวนรถไม่ต้องแก้ไข และช่วยเพิ่มความถี่ให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน

    ในตอนหนึ่งการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น BEM ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2567 ชี้แจงว่าเนื่องจากสายทางของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) มีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานีร่วม ดังนั้นเมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกเปิดให้บริการในปี 2571 จะส่งต่อผู้โดยสารจำนวนมากเข้าสู่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

    บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มเติมอีก 21 ขบวน และปรับปรุงระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการให้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยมีแนวทางในการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแบบ 3 ตู้ประกอบต่อขบวน ซึ่งจะสามารถเพิ่มความถี่ในการให้บริการมากขึ้น มีความยืดหยุ่นได้ตลอดเส้นทาง ไม่เกิดผลกระทบต่อการให้บริการเดินรถในช่วงปรับปรุงระบบรถไฟฟ้า

    อนึ่ง ปัจจุบันรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินมีทั้งหมด 54 ขบวน แบ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรก 19 ขบวน และรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 35 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ หากมีขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มเติม 21 ขบวน จะทำให้มีรถไฟฟ้ารวม 75 ขบวน

    #Newskit
    BEM x SIEMENS เรารู้กันอยู่ 3 ตู้...3 ตู้เท่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ กลุ่มบริษัทซีเมนส์ โมบิลิตี้ ประเทศเยอรมนี ได้รับการว่าจ้างจาก บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ให้ดำเนินโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey) ของระบบเครื่องกลและไฟฟ้าในโครงการรถไฟฟ้ามหานคร (MRT) สายสีส้ม บางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กิโลเมตร ครอบคลุมการส่งมอบขบวนรถไฟฟ้าขนาด 3 ตู้ 32 ขบวน รวมถึงการบูรณาการระบบเครื่องกลและไฟฟ้า พร้อมสัญญาซ่อมบำรุง และโครงการปรับปรุงรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน หลักสอง-ท่าพระ ระยะทาง 48 กิโลเมตร ครอบคลุมการส่งมอบรถไฟฟ้าขนาด 3 ตู้เพิ่มเติม 21 ขบวน รวมถึงการปรับปรุงระบบเครื่องกลและไฟฟ้าเดิม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพความถี่การเดินรถพร้อมสัญญาซ่อมบำรุง อีกทั้งยังได้เซ็นสัญญาการบำรุงรักษาครบวงจรสำหรับขบวนรถไฟใหม่ที่เพิ่มเติมมา รวมถึงการขยายสัญญาการบำรุงรักษาครบวงจรที่มีอยู่เดิม สิ้นสุดสัญญาในปี 2582 มีคนสงสัยว่าทำไม BEM ยังคงใช้ขบวนรถไฟฟ้าขนาด 3 ตู้ กับสายสีน้ำเงินและสายสีส้ม ทั้งๆ ที่คู่แข่งอย่างรถไฟฟ้าบีทีเอสได้เพิ่มตู้รถไฟฟ้าของซีเมนส์จากแบบ 3 ตู้ เป็น 4 ตู้ทั้ง 35 ขบวน ส่วนรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงก็มีทั้ง 4 ตู้ต่อขบวน และ 6 ตู้ต่อขบวน คำตอบอย่างไม่เป็นทางการก็คือ ต้องไปแก้ไขระบบอาณัติสัญญาณ (Signaling) และประตูกั้นชานชาลา (PSD) ถ้าเพิ่มขบวนรถไม่ต้องแก้ไข และช่วยเพิ่มความถี่ให้ผู้โดยสารไม่ต้องรอนาน ในตอนหนึ่งการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น BEM ครั้งที่ 1/2567 เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2567 ชี้แจงว่าเนื่องจากสายทางของโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออก (ศูนย์วัฒนธรรมฯ-มีนบุรี) มีจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานีร่วม ดังนั้นเมื่อรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกเปิดให้บริการในปี 2571 จะส่งต่อผู้โดยสารจำนวนมากเข้าสู่รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บริษัทฯ จึงจำเป็นต้องจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มเติมอีก 21 ขบวน และปรับปรุงระบบที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับการให้บริการทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยมีแนวทางในการจัดซื้อขบวนรถไฟฟ้าแบบ 3 ตู้ประกอบต่อขบวน ซึ่งจะสามารถเพิ่มความถี่ในการให้บริการมากขึ้น มีความยืดหยุ่นได้ตลอดเส้นทาง ไม่เกิดผลกระทบต่อการให้บริการเดินรถในช่วงปรับปรุงระบบรถไฟฟ้า อนึ่ง ปัจจุบันรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินมีทั้งหมด 54 ขบวน แบ่งเป็นรถไฟฟ้ารุ่นแรก 19 ขบวน และรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ 35 ขบวน ขบวนละ 3 ตู้ หากมีขบวนรถไฟฟ้าเพิ่มเติม 21 ขบวน จะทำให้มีรถไฟฟ้ารวม 75 ขบวน #Newskit
    Like
    2
    0 Comments 0 Shares 731 Views 0 Reviews
  • #ที่ดิน 102 ตรว.(+ 3 ตรว.) พร้อมบ้านไม้เก่า 1 หลัง เขตกรุงเทพฯชั้นใน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี ใกล้ BTS และ MRT
    - เลขที่ 39 ซอยสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 12 ถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ห่างจากจุดตัดถนนกรุงธนบุรี ตรงแยกตากสินถึงที่ดินระยะทาง 370 เมตร
    - ขายราคา 280,000 บาท/ตรว. 102 ตรว.+ รวมเป็นเงิน 28,560,000 บาท ค่าโอนฝ่ายละครึ่ง
    ********************************
    #ข้อมูลจำเพาะของที่ดิน
    - ผังเมืองสีน้ำตาล ย.9-22 (ประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก)
    - หน้ากว้าง 20 เมตร ลึก 21 เมตร ติดถนนซอยตากสิน 12 ห่างจากถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 120 เมตร
    - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ประมาณ 750 เมตร
    - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร ประมาณ 720 เมตร
    - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ MRT สำเหร่ (ตรงข้ามไปรษณีย์สำเหร่ แล้วสร็จปี 2571) ประมาณ 500 เมตร
    - เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสาร รถรับจ้างสาธารณะ และ รถส่วนบุคคล ใกล้ด่านทางด่วน พระราม 3 พระราม 2 และ ด่านทางด่วน ถ.สีลม ถ.สาทร และ ถ.จันทน์
    - ใกล้ ถ.กรุงธนบุรี ถ.รัชดาภิเษก ถ.เจริญนคร ถ.ประชาธิปก ถ.สาทร- บางรัก
    - ใกล้ เดอะมอลล์ท่าพระ ห้างฯบิ๊กซีดาวคะนอง ไอคอนสยาม ท่าเรือคลองสาน ท่าเป๊ปซี่
    - ใกล้ รพ.สมิติเวช ธนบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า รพ.กรุงเทพคริสเตียน
    - สิ่งแวดล้อมดี บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เพราะอยู่ในซอยไม่ลึกมากคนและยานพาหนะไม่พลุกพล่าน ความปลอดภัยสูง
    - ที่ดินเหมาะสำหรับปลูกบ้านพักอาศัย สร้างโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยว B2B ทำโฮมออฟฟิศ ทาวน์เฮ้าส์ คลังสินค้าในเมือง และ อื่นๆ
    ********************************
    สนใจถามรายละเอียดเพิ่มเติม
    - คุณกรณ์ 083 061 4654
    - m.me/SBJ.kornkampee
    - พิกัดแปลงที่ดิน : 13.718644046460595, 100.48887519999998
    >> https://goo.gl/maps/SD7eShYWTXAfvgyw6

    #ที่ดินทำเลทอง #ใกล้ย่านธุรกิจ #โรงเรียน #โรงพยาบาล #โรงแรม #แหล่งท่องเที่ยว #ตลาดสด #สถานที่ราชการหลายแห่ง #เดินทางสะดวก #รถไฟฟ้า #ถนนตากสิน #BTS #MRT #เฉลิมมหานคร #วงเวียนใหญ่ #สำเหร
    #ที่ดิน 102 ตรว.(+ 3 ตรว.) พร้อมบ้านไม้เก่า 1 หลัง เขตกรุงเทพฯชั้นใน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี ใกล้ BTS และ MRT - เลขที่ 39 ซอยสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 12 ถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน แขวงบุคคโล เขตธนบุรี กทม. ห่างจากจุดตัดถนนกรุงธนบุรี ตรงแยกตากสินถึงที่ดินระยะทาง 370 เมตร - ขายราคา 280,000 บาท/ตรว. 102 ตรว.+ รวมเป็นเงิน 28,560,000 บาท ค่าโอนฝ่ายละครึ่ง ******************************** #ข้อมูลจำเพาะของที่ดิน - ผังเมืองสีน้ำตาล ย.9-22 (ประเภทที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก) - หน้ากว้าง 20 เมตร ลึก 21 เมตร ติดถนนซอยตากสิน 12 ห่างจากถนนสมเด็จเจ้าพระยาตากสิน 120 เมตร - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS วงเวียนใหญ่ ประมาณ 750 เมตร - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS โพธิ์นิมิตร ประมาณ 720 เมตร - ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ MRT สำเหร่ (ตรงข้ามไปรษณีย์สำเหร่ แล้วสร็จปี 2571) ประมาณ 500 เมตร - เดินทางสะดวกด้วยรถโดยสาร รถรับจ้างสาธารณะ และ รถส่วนบุคคล ใกล้ด่านทางด่วน พระราม 3 พระราม 2 และ ด่านทางด่วน ถ.สีลม ถ.สาทร และ ถ.จันทน์ - ใกล้ ถ.กรุงธนบุรี ถ.รัชดาภิเษก ถ.เจริญนคร ถ.ประชาธิปก ถ.สาทร- บางรัก - ใกล้ เดอะมอลล์ท่าพระ ห้างฯบิ๊กซีดาวคะนอง ไอคอนสยาม ท่าเรือคลองสาน ท่าเป๊ปซี่ - ใกล้ รพ.สมิติเวช ธนบุรี รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า รพ.กรุงเทพคริสเตียน - สิ่งแวดล้อมดี บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัว เพราะอยู่ในซอยไม่ลึกมากคนและยานพาหนะไม่พลุกพล่าน ความปลอดภัยสูง - ที่ดินเหมาะสำหรับปลูกบ้านพักอาศัย สร้างโฮสเทลสำหรับนักท่องเที่ยว B2B ทำโฮมออฟฟิศ ทาวน์เฮ้าส์ คลังสินค้าในเมือง และ อื่นๆ ******************************** สนใจถามรายละเอียดเพิ่มเติม - คุณกรณ์ 083 061 4654 - m.me/SBJ.kornkampee - พิกัดแปลงที่ดิน : 13.718644046460595, 100.48887519999998 >> https://goo.gl/maps/SD7eShYWTXAfvgyw6 #ที่ดินทำเลทอง #ใกล้ย่านธุรกิจ #โรงเรียน #โรงพยาบาล #โรงแรม #แหล่งท่องเที่ยว #ตลาดสด #สถานที่ราชการหลายแห่ง #เดินทางสะดวก #รถไฟฟ้า #ถนนตากสิน #BTS #MRT #เฉลิมมหานคร #วงเวียนใหญ่ #สำเหร
    0 Comments 0 Shares 1037 Views 0 Reviews
  • 9/12/67

    มุมมองที่ฝรั่งมองประเทศไทยเป็นโลกที่ 3 ถึงกับส่งสารถึงรัฐบาลตัวเอง หลังจากนั่งรถไฟฟ้าไทย

    มองชาวฝรั่ง ที่ตัวเค้าเองได้ยินมาตลอดทั้งจากคนรอบตัว และเพื่อนๆ จนพอได้มาเมืองไทยแล้วได้สัมผัสการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ถึงกับส่งสารไปยังรัฐบาลตัวเองทันที!!!

    🚇 Experience Bangkok's Modern MRT Transportation! 🚇

    Join our foreign guest on an exciting one-day tour through the bustling city of Bangkok, as he explores the MRT train system and shares his thoughts on how modern, convenient, and impeccably clean this mode of transportation is! 🌟

    In this video, you'll discover why the MRT is a top choice for both locals and tourists alike, with highlights including:

    🛡️ Safety - Travel with peace of mind knowing that the MRT is one of the safest ways to get around the city. 🌟 Convenience - Enjoy the seamless connectivity and easy access to major attractions, shopping centers, and dining spots. ✨ Cleanliness - Be impressed by the spotless stations and trains, making every journey a pleasant experience.

    Whether you're a local or planning your next holiday to Thailand, this video will give you an insider's view of Bangkok's impressive MRT system. Watch as our guest navigates through the city with ease, enjoying every moment of this efficient and well-maintained transportation network.

    🚀 Call to Action: Thinking about visiting Thailand? 🇹🇭 Hop on the MRT and see for yourself why it's a favorite among tourists! Share your experiences and tips in the comments below. Help us promote Thailand by liking, sharing, and subscribing. Let’s spread the word about Thailand's amazing transportation and incredible tourism opportunities!

    📢 Make Bangkok your next travel destination and enjoy a smooth ride with the MRT!

    #avaganic #mamia #มุมมองเพื่อนบ้าน #มุมมองประเทศไทย #welovethailand #รักเมืองไทย #ชีวิตต่างประเทศ #คนต่างแดน #คนไทยใจดี #เมืองไทย #thailandtravel #thailand #thaifo
    cr:Mania 4.0

    https://youtu.be/V0K7g7nuSdU?si=oYitT6ib-gUw_fRY
    9/12/67 มุมมองที่ฝรั่งมองประเทศไทยเป็นโลกที่ 3 ถึงกับส่งสารถึงรัฐบาลตัวเอง หลังจากนั่งรถไฟฟ้าไทย มองชาวฝรั่ง ที่ตัวเค้าเองได้ยินมาตลอดทั้งจากคนรอบตัว และเพื่อนๆ จนพอได้มาเมืองไทยแล้วได้สัมผัสการนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ถึงกับส่งสารไปยังรัฐบาลตัวเองทันที!!! 🚇 Experience Bangkok's Modern MRT Transportation! 🚇 Join our foreign guest on an exciting one-day tour through the bustling city of Bangkok, as he explores the MRT train system and shares his thoughts on how modern, convenient, and impeccably clean this mode of transportation is! 🌟 In this video, you'll discover why the MRT is a top choice for both locals and tourists alike, with highlights including: 🛡️ Safety - Travel with peace of mind knowing that the MRT is one of the safest ways to get around the city. 🌟 Convenience - Enjoy the seamless connectivity and easy access to major attractions, shopping centers, and dining spots. ✨ Cleanliness - Be impressed by the spotless stations and trains, making every journey a pleasant experience. Whether you're a local or planning your next holiday to Thailand, this video will give you an insider's view of Bangkok's impressive MRT system. Watch as our guest navigates through the city with ease, enjoying every moment of this efficient and well-maintained transportation network. 🚀 Call to Action: Thinking about visiting Thailand? 🇹🇭 Hop on the MRT and see for yourself why it's a favorite among tourists! Share your experiences and tips in the comments below. Help us promote Thailand by liking, sharing, and subscribing. Let’s spread the word about Thailand's amazing transportation and incredible tourism opportunities! 📢 Make Bangkok your next travel destination and enjoy a smooth ride with the MRT! #avaganic #mamia #มุมมองเพื่อนบ้าน #มุมมองประเทศไทย #welovethailand #รักเมืองไทย #ชีวิตต่างประเทศ #คนต่างแดน #คนไทยใจดี #เมืองไทย #thailandtravel #thailand #thaifo cr:Mania 4.0 https://youtu.be/V0K7g7nuSdU?si=oYitT6ib-gUw_fRY
    0 Comments 0 Shares 1064 Views 0 Reviews
  • ได้รับเเจ้งจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
    .
    ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ท้องสนามหลวงติดภารกิจ ทำให้ไม่สามารถจอดรถได้
    ที่จอดรถแนะนำ สำหรับผู้ที่มาร่วมงาน ความจริงมีหนึ่งเดียว เพื่อชาติ ได้แก่
    1.ถ.มหาธาตุ
    2.ถ.อัษฎางค์ (หลังศาลฎีกา พระแม่ธรณี)
    3.ถ.ราชินี(หน้าโรงละครแห่งชาติ)
    4.ถ.พระอาทิตย์ * อย่าจอดซ้อนคัน*
    5.อาคารจอดรถ กทม.บางลำภู
    6.วัดมหาธาตุ
    7.ท่ามหาราช
    8.ราชนาวีสโมสร
    9.สายใต้เก่า / เซนทรัลปิ่นเกล้า
    10.รอบอนุสาวรีย์ทหารอาสา (หน้าโรงละครแห่งชาติ)
    11.วัดชนะสงคราม
    12. ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า

    ฝั่งธนบุรี มีอีก 2 จุด
    จุดจอดรถที่ 1 ลานจอดรถ สวนหลวงใต้สะพานพระราม 8 (รองรับรถได้ 100 คัน)
    จุดจอดรถที่ 2 ลานจอดรถ วัดอมรินทรารามวรวิหาร (รองรับรถได้ 300 คัน)

    หรือใช้รถสาธารณะจะสะดวกกว่า
    ถ้านั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่สถานีสนามไชย(รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) เลือกเดิน: ทางออก 1. แล้วก็เดินต่อไปได้ง่าย ๆ ผ่านวัดวัดโพธิ์ ไปหาวัดพระแก้ว และสนามหลวง ตรงมายัง ม.ธรรมศาสตร์ หอประชุมใหญ่

    ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้
    คนที่มีบัตรเเล้ว พบกันครับ ประตูเปิด 9 โมงเช้า
    ได้รับเเจ้งจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ . ในวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2567 ท้องสนามหลวงติดภารกิจ ทำให้ไม่สามารถจอดรถได้ ที่จอดรถแนะนำ สำหรับผู้ที่มาร่วมงาน ความจริงมีหนึ่งเดียว เพื่อชาติ ได้แก่ 1.ถ.มหาธาตุ 2.ถ.อัษฎางค์ (หลังศาลฎีกา พระแม่ธรณี) 3.ถ.ราชินี(หน้าโรงละครแห่งชาติ) 4.ถ.พระอาทิตย์ * อย่าจอดซ้อนคัน* 5.อาคารจอดรถ กทม.บางลำภู 6.วัดมหาธาตุ 7.ท่ามหาราช 8.ราชนาวีสโมสร 9.สายใต้เก่า / เซนทรัลปิ่นเกล้า 10.รอบอนุสาวรีย์ทหารอาสา (หน้าโรงละครแห่งชาติ) 11.วัดชนะสงคราม 12. ลานคนเมือง ศาลาว่าการกทม. เสาชิงช้า ฝั่งธนบุรี มีอีก 2 จุด จุดจอดรถที่ 1 ลานจอดรถ สวนหลวงใต้สะพานพระราม 8 (รองรับรถได้ 100 คัน) จุดจอดรถที่ 2 ลานจอดรถ วัดอมรินทรารามวรวิหาร (รองรับรถได้ 300 คัน) หรือใช้รถสาธารณะจะสะดวกกว่า ถ้านั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลงที่สถานีสนามไชย(รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน) เลือกเดิน: ทางออก 1. แล้วก็เดินต่อไปได้ง่าย ๆ ผ่านวัดวัดโพธิ์ ไปหาวัดพระแก้ว และสนามหลวง ตรงมายัง ม.ธรรมศาสตร์ หอประชุมใหญ่ ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ คนที่มีบัตรเเล้ว พบกันครับ ประตูเปิด 9 โมงเช้า
    Like
    Love
    20
    3 Comments 1 Shares 8128 Views 4 Reviews
  • แผนกแพทย์แผนจีนที่ RegeneLife Vital Center เรามุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลร่างกาย อย่างครอบคลุมในเชิงป้องกันและบำบัดรักษา
    --
    การฝังเข็ม : สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ อาการบาดเจ็บ ปวดหัวไมเกรน ปวดประจําเดือน และอาการปวดคอ หลัง หรือหัวเข่า นอกจากนี้ยังช่วยให้ภาวะและระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ดีขึ้นได้ ผลข้างเคียงของโรคมะเร็งและการรักษามะเร็ง ระบบภูมิคุ้มกัน
    นอกจากทางศูนย์จะผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ทั้งโดย BTSราชดำริ และ MRT สีลม หมดความกังวลใจเรื่องที่จอดรถ เพราะทางเรามีบริการลานจอดรถที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง
    จองคิวล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติม
    💙 RVC Clinic Rajadamri
    ✅Line : @rvc.official https://lin.ee/9azUqvQ
    📞 phone : 083-9485178
    💙 Facebook : https://www.facebook.com/Regenelife?mibextid=uzlsIk
    💖Instagram: https://www.instagram.com/rvc_rajadamri...
    🌟TikTok : rvc.official
    📍5th Fl. Regent House 2 building
    https://maps.app.goo.gl/UgibdJL3NQibkYae9?g_st=ic
    ฝังเข็ม #ออฟฟิศซินโดรม #ครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #chinesemedicine #acupuncture #cupping #ราชดำริ #สวนลุมพินี #นอนไม่หลับ #หลับยาก #หน้าใส #ฝังเข็มหน้าใส #RegeneLife #regenelifevitalcenter #thaitimes
    แผนกแพทย์แผนจีนที่ RegeneLife Vital Center เรามุ่งเน้นการดูแลปรับสมดุลร่างกาย อย่างครอบคลุมในเชิงป้องกันและบำบัดรักษา -- การฝังเข็ม : สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดเรื้อรัง เช่น โรคข้ออักเสบ อาการบาดเจ็บ ปวดหัวไมเกรน ปวดประจําเดือน และอาการปวดคอ หลัง หรือหัวเข่า นอกจากนี้ยังช่วยให้ภาวะและระบบต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ดีขึ้นได้ ผลข้างเคียงของโรคมะเร็งและการรักษามะเร็ง ระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากทางศูนย์จะผ่านการรับรองตามมาตรฐาน ยังตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางสะดวก ทั้งโดย BTSราชดำริ และ MRT สีลม หมดความกังวลใจเรื่องที่จอดรถ เพราะทางเรามีบริการลานจอดรถที่รองรับผู้ใช้บริการอย่างกว้างขวาง จองคิวล่วงหน้าหรือสอบถามเพิ่มเติม 💙 RVC Clinic Rajadamri ✅Line : @rvc.official https://lin.ee/9azUqvQ 📞 phone : 083-9485178 💙 Facebook : https://www.facebook.com/Regenelife?mibextid=uzlsIk 💖Instagram: https://www.instagram.com/rvc_rajadamri... 🌟TikTok : rvc.official 📍5th Fl. Regent House 2 building https://maps.app.goo.gl/UgibdJL3NQibkYae9?g_st=ic ฝังเข็ม #ออฟฟิศซินโดรม #ครอบแก้ว #แพทย์แผนจีน #chinesemedicine #acupuncture #cupping #ราชดำริ #สวนลุมพินี #นอนไม่หลับ #หลับยาก #หน้าใส #ฝังเข็มหน้าใส #RegeneLife #regenelifevitalcenter #thaitimes
    Love
    3
    0 Comments 0 Shares 1311 Views 0 Reviews
  • 4/11/67

    เปิดแล้ว! "ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์" หน้าซีคอน บางแค

    ห้างซีคอน บางแค เดินหน้าสานต่อโครงการ “ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์” แห่งแรกของฝั่งธน รับได้ 40 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ

    ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค เปิดบริการป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของฝั่งธน (Seacon Air Condition Solar Bus Station) ป้ายรถเมล์ที่เป็นมากกว่าจุดรถรับส่งผู้โดยสาร
    สำหรับป้ายรถเมล์อัจฉริยะแห่งนี้เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการป้ายรถเมล์ติดแอร์แห่งแรก “Sabuy Square” ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และเป็นแห่งที่สองของโครงการ เป็นต้นแบบของการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีต้นทุนต่อสังคมและองค์กรน้อยที่สุด แต่เกิดเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสาธารณะ จึงได้นำมาประยุกต์ปรับใช้กับการเดินทางในชีวิตประจำวันของคนเมือง

    สำหรับป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ถนนเพชรเกษม MRT สถานีภาษีเจริญ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30 – 23.00 น. มีพื้นที่พักคอยทั้งภายในและภายนอกรวมขนาดพื้นที่ 56 ตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนคนกว่า 40 คน

    โดยได้ออกแบบวางระบบเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้พักพิงระหว่างรอคอยเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างครบครัน ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ KUKU พลังงานแสงอาทิตย์ บริการ Free Wi-Fi จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ที่เสียบ USB สำหรับซาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ กล้อง CCTV เชื่อมต่อระบบไปยังศูนย์บริหารจัดการ ระบบสัญญาณเตือนฉุกเฉิน (Panic Button) จอแสดงสายรถเมล์ที่กำลังจะมาถึง ตัวโครงสร้างช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลมฝน ปกป้องจากสภาวะมลพิษฝุ่นควัน PM2.5 รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายจากท้องถนนอีกด้วย
    ขอบคุณ:www.posttofay.com
    4/11/67 เปิดแล้ว! "ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์" หน้าซีคอน บางแค ห้างซีคอน บางแค เดินหน้าสานต่อโครงการ “ป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์” แห่งแรกของฝั่งธน รับได้ 40 คน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ห้างสรรพสินค้าซีคอน บางแค เปิดบริการป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรกของฝั่งธน (Seacon Air Condition Solar Bus Station) ป้ายรถเมล์ที่เป็นมากกว่าจุดรถรับส่งผู้โดยสาร สำหรับป้ายรถเมล์อัจฉริยะแห่งนี้เป็นการต่อยอดมาจาก โครงการป้ายรถเมล์ติดแอร์แห่งแรก “Sabuy Square” ที่ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ และเป็นแห่งที่สองของโครงการ เป็นต้นแบบของการนำเทคโนโลยีพลังงานสะอาดมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีต้นทุนต่อสังคมและองค์กรน้อยที่สุด แต่เกิดเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมสาธารณะ จึงได้นำมาประยุกต์ปรับใช้กับการเดินทางในชีวิตประจำวันของคนเมือง สำหรับป้ายรถเมล์ติดแอร์พลังงานแสงอาทิตย์แห่งนี้ ศูนย์สรรพสินค้าซีคอน บางแค ถนนเพชรเกษม MRT สถานีภาษีเจริญ เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 05.30 – 23.00 น. มีพื้นที่พักคอยทั้งภายในและภายนอกรวมขนาดพื้นที่ 56 ตารางเมตร สามารถรองรับจำนวนคนกว่า 40 คน โดยได้ออกแบบวางระบบเพื่อให้บริการแก่ประชาชนได้พักพิงระหว่างรอคอยเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้งสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ชีวิตคนเมืองอย่างครบครัน ประกอบด้วย เครื่องปรับอากาศ KUKU พลังงานแสงอาทิตย์ บริการ Free Wi-Fi จากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) ที่เสียบ USB สำหรับซาร์จแบตโทรศัพท์มือถือ ตู้กดน้ำดื่มสาธารณะ กล้อง CCTV เชื่อมต่อระบบไปยังศูนย์บริหารจัดการ ระบบสัญญาณเตือนฉุกเฉิน (Panic Button) จอแสดงสายรถเมล์ที่กำลังจะมาถึง ตัวโครงสร้างช่วยป้องกันความร้อนจากแสงแดดและลมฝน ปกป้องจากสภาวะมลพิษฝุ่นควัน PM2.5 รวมถึงช่วยป้องกันอันตรายจากท้องถนนอีกด้วย ขอบคุณ:www.posttofay.com
    0 Comments 0 Shares 542 Views 0 Reviews
  • ขสมก.เดินรถหมวด 3 เดอะแบกกรมขนส่งฯ

    วันที่ 1 พ.ย. 2567 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รับหน้าที่เดินรถโดยสาร หมวด 3 สาย 356 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต)-บางบัวทอง-บางใหญ่ เป็นการชั่วคราว แทนบริษัท สหายยนต์ จำกัด ผู้ประกอบการรายเดิมที่ยุติการเดินรถ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา อาจรู้สึกแปลกใจสำหรับกลุ่มบัสแฟน เพราะเป็นการเดินรถข้ามหมวด ไม่ตรงตามภารกิจขององค์กรฯ ที่เดินรถในเส้นทางหมวด 1 และหมวด 4 ในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อกรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือก็ต้องทำ

    นับตั้งแต่การปฎิรูปรถเมล์สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็น รมว.คมนาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2559 ให้ขนส่งฯ มีอำนาจควบคุมรถเมล์ในกรุงเทพฯ แทน ขสมก. และลดสถานะ ขสมก.เหลือเพียงแค่ผู้ประกอบการรายหนึ่ง โดยที่ผ่านมา ขสมก. กลายเป็นเดอะแบก รับคำสั่งจากขนส่งฯ เวลาที่ผู้ประกอบการเอกชนเดินรถแล้วเจ๊ง เพราะขนส่งฯ ไม่เคยเหลียวแลผู้ประกอบการยามเดือดร้อน

    รถเมล์สายที่ ขสมก.ช่วยเดินรถชั่วคราว อาทิ สาย R26E (สาย 3-26E) สถาบันจักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 กระทั่งขนส่งฯ ได้จัดหาผู้ประกอบการรายใหม่ คือ ไทยสมายล์บัส ให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 ทำให้ ขสมก.เดินรถวันที่ 29 ต.ค.เป็นวันสุดท้าย ต่อด้วยสาย Y70E (สาย 4-70E) ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2566 และสาย 3-21 หรือสาย 207 เดิม มหาวิทยาลัยรามคำแหง 1-รามคำแหง 2 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2566

    อย่างไรก็ตาม ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรถเมล์เส้นทางหมวด 3 ตัวอย่างเช่น สาย 356 ปากน้ำ-บางปะกง และสำโรง-บางพลี เดินรถโดย บริษัท สันติมิตรขนส่ง จำกัด, สาย 381 ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-มศว องครักษ์ เดินรถโดย บริษัท ธัญบุรีขนส่ง จำกัด, สาย 388 ปากเกร็ด-ศาลายา เดินรถโดย บริษัท นิธิทัศน์ทัวร์ (2004) จำกัด ปัจจุบันหยุดการเดินรถแล้ว และสาย 402 สมุทรสาคร-กระทุ่มแบน-นครปฐม เดินรถโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจดีย์ทองขนส่ง

    สำหรับการเดินรถสาย 356 แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต)-บางบัวทอง-บางใหญ่ ผ่านฟิวเจอร์พาร์ครังสิต สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแยก คปอ. สะพานใหม่ ถนนแจ้งวัฒนะ ราชภัฎพระนคร ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมเจอร์ปากเกร็ด สถานีรถไฟฟ้า MRT คลองบางไผ่ สิ้นสุดที่ห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต ช่วงที่ 2 วงกลม (ปากเกร็ด-ดอนเมือง) จากท่าน้ำปากเกร็ด ใช้ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต สนามบินดอนเมือง กลับเส้นทางเดิม ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-22.00 น.

    #Newskit #ขสมก #รถเมล์ไทย
    ขสมก.เดินรถหมวด 3 เดอะแบกกรมขนส่งฯ วันที่ 1 พ.ย. 2567 องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) รับหน้าที่เดินรถโดยสาร หมวด 3 สาย 356 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต)-บางบัวทอง-บางใหญ่ เป็นการชั่วคราว แทนบริษัท สหายยนต์ จำกัด ผู้ประกอบการรายเดิมที่ยุติการเดินรถ ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา อาจรู้สึกแปลกใจสำหรับกลุ่มบัสแฟน เพราะเป็นการเดินรถข้ามหมวด ไม่ตรงตามภารกิจขององค์กรฯ ที่เดินรถในเส้นทางหมวด 1 และหมวด 4 ในกรุงเทพมหานคร แต่เมื่อกรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือก็ต้องทำ นับตั้งแต่การปฎิรูปรถเมล์สมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่มีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เป็น รมว.คมนาคม คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2559 ให้ขนส่งฯ มีอำนาจควบคุมรถเมล์ในกรุงเทพฯ แทน ขสมก. และลดสถานะ ขสมก.เหลือเพียงแค่ผู้ประกอบการรายหนึ่ง โดยที่ผ่านมา ขสมก. กลายเป็นเดอะแบก รับคำสั่งจากขนส่งฯ เวลาที่ผู้ประกอบการเอกชนเดินรถแล้วเจ๊ง เพราะขนส่งฯ ไม่เคยเหลียวแลผู้ประกอบการยามเดือดร้อน รถเมล์สายที่ ขสมก.ช่วยเดินรถชั่วคราว อาทิ สาย R26E (สาย 3-26E) สถาบันจักรีนฤบดินทร์-โรงพยาบาลรามาธิบดี เมื่อวันที่ 1 ต.ค. 2565 กระทั่งขนส่งฯ ได้จัดหาผู้ประกอบการรายใหม่ คือ ไทยสมายล์บัส ให้บริการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2567 ทำให้ ขสมก.เดินรถวันที่ 29 ต.ค.เป็นวันสุดท้าย ต่อด้วยสาย Y70E (สาย 4-70E) ศาลายา-สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต เมื่อวันที่ 12 มิ.ย. 2566 และสาย 3-21 หรือสาย 207 เดิม มหาวิทยาลัยรามคำแหง 1-รามคำแหง 2 เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 2566 อย่างไรก็ตาม ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรถเมล์เส้นทางหมวด 3 ตัวอย่างเช่น สาย 356 ปากน้ำ-บางปะกง และสำโรง-บางพลี เดินรถโดย บริษัท สันติมิตรขนส่ง จำกัด, สาย 381 ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต-มศว องครักษ์ เดินรถโดย บริษัท ธัญบุรีขนส่ง จำกัด, สาย 388 ปากเกร็ด-ศาลายา เดินรถโดย บริษัท นิธิทัศน์ทัวร์ (2004) จำกัด ปัจจุบันหยุดการเดินรถแล้ว และสาย 402 สมุทรสาคร-กระทุ่มแบน-นครปฐม เดินรถโดย ห้างหุ้นส่วนจำกัด เจดีย์ทองขนส่ง สำหรับการเดินรถสาย 356 แบ่งเป็น 2 ช่วง ได้แก่ ช่วงที่ 1 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศูนย์รังสิต)-บางบัวทอง-บางใหญ่ ผ่านฟิวเจอร์พาร์ครังสิต สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสแยก คปอ. สะพานใหม่ ถนนแจ้งวัฒนะ ราชภัฎพระนคร ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เมเจอร์ปากเกร็ด สถานีรถไฟฟ้า MRT คลองบางไผ่ สิ้นสุดที่ห้างเซ็นทรัลเวสต์เกต ช่วงที่ 2 วงกลม (ปากเกร็ด-ดอนเมือง) จากท่าน้ำปากเกร็ด ใช้ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต สนามบินดอนเมือง กลับเส้นทางเดิม ให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-22.00 น. #Newskit #ขสมก #รถเมล์ไทย
    Like
    6
    1 Comments 0 Shares 1358 Views 0 Reviews
  • มิตซูโคชิ เดปาจิกะ ร่างใหม่อิเซตันในไทย

    การเปิดตัวโครงการวันแบงค็อก (One Bangkok) บนถนนพระรามที่ 4 เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 หนึ่งในแมกเนต คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์แบบญี่ปุ่น "มิตซูโคชิ เดปาจิกะ" (Mitsukoshi Depachika) แห่งแรกในไทย บนพื้นที่ 4,600 ตารางเมตร ที่ชั้น B1 โซนพาเหรด (Parade) จากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี ทางออก 1 ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวขวา เปิดให้บริการแบบซอฟต์โอเพนนิง ก่อนเปิดเต็มรูปแบบในปี 2568

    ช่วงแนะนำถึง 31 ธ.ค. 2567 สำหรับลูกค้าสมัครสมาชิกที่บูทกิจกรรม โดยแสกนคิวอาร์โค้ด แอดไลน์และลงทะเบียน รับโบนัสพอยท์ 400 คะแนน สามารถใช้เป็นส่วนลด 50 บาทได้ที่แคชเชียร์ ในไลน์ยังมีคูปองสมาชิก 2 ใบ (ซื้อ 500 บาท ลด 35 บาท และซื้อ 800 บาท ลด 100 บาท) ใช้ได้ถึง 31 ธ.ค. 2567 ซื้อสินค้า 1,200 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จรับฟรีกระเป๋าเก็บความเย็น ถึง 30 พ.ย. 2567 โดยสมาชิกซื้อสินค้าทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน ครบ 8 คะแนนใช้เป็นส่วนลดได้ 1 บาท

    จากการสังเกตพบว่ามีทั้งสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น ต่างประเทศ กับสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย อาหารสดเน้นไปที่อาหารญี่ปุ่น ผลไม้ ช็อกโกแลต อีกด้านจะรวมร้านอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน ถ้าเปรียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน เทียบได้กับ ทาคา มาร์เช่ (TAKA Marche') ของห้างสยามทาคาชิมายะ (Siam Takashimaya) ในศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 6 ปี

    การเปิดตัว มิตซูโคชิ เดปาจิกะ ถือเป็นการกลับมาของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น อิเซตัน มิตซูโคชิ (Isetan Mitsukoshi) หลังจากยุติการดำเนินธุรกิจห้างอิเซตัน ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน เนื่องจากหมดสัญญาเช่า หลังเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2535 สมัยที่ยังเป็นศูนย์การค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ยาวนานถึง 28 ปี แต่ที่ผ่านมาอิเซตันก็ปิดห้างสรรพสินค้าในหลายประเทศ

    กลุ่มอิเซตัน มิตซูโคชิ ไม่ได้ทำห้างฯ เหมือนแต่ก่อน แต่นำ "เดปาจิกะ" เป็นคำประสมของคำว่า "เดปา" ซึ่งย่อมาจาก Department Store และ "จิกะ" แปลว่าชั้นใต้ดิน รวมกันเป็นคำศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหารชั้นใต้ดินของห้างฯ เป็นไปได้ว่าเพราะมีฐานลูกค้าจำนวนมากที่ชื่นชอบสินค้าและอาหารญี่ปุ่น สมัยห้างอิเซตัน ลูกค้าชาวไทยนิยมอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ที่เคยเปิดบนชั้น 5 เซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งนี้จึงเน้นไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์เป็นหลัก

    นอกจากนี้ กลุ่มอิเซตัน มิตซูโคชิ ยังร่วมลงทุนในอาคารสำนักงาน วัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 4 กับกลุ่มสิริวัฒนภักดีอีกด้วย

    #Newskit #OneBangkok #MITSUKOSHIDEPACHIKA
    มิตซูโคชิ เดปาจิกะ ร่างใหม่อิเซตันในไทย การเปิดตัวโครงการวันแบงค็อก (One Bangkok) บนถนนพระรามที่ 4 เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2567 หนึ่งในแมกเนต คือ ซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์แบบญี่ปุ่น "มิตซูโคชิ เดปาจิกะ" (Mitsukoshi Depachika) แห่งแรกในไทย บนพื้นที่ 4,600 ตารางเมตร ที่ชั้น B1 โซนพาเหรด (Parade) จากสถานีรถไฟฟ้า MRT ลุมพินี ทางออก 1 ขึ้นบันไดเลื่อนแล้วเลี้ยวขวา เปิดให้บริการแบบซอฟต์โอเพนนิง ก่อนเปิดเต็มรูปแบบในปี 2568 ช่วงแนะนำถึง 31 ธ.ค. 2567 สำหรับลูกค้าสมัครสมาชิกที่บูทกิจกรรม โดยแสกนคิวอาร์โค้ด แอดไลน์และลงทะเบียน รับโบนัสพอยท์ 400 คะแนน สามารถใช้เป็นส่วนลด 50 บาทได้ที่แคชเชียร์ ในไลน์ยังมีคูปองสมาชิก 2 ใบ (ซื้อ 500 บาท ลด 35 บาท และซื้อ 800 บาท ลด 100 บาท) ใช้ได้ถึง 31 ธ.ค. 2567 ซื้อสินค้า 1,200 บาทขึ้นไปต่อใบเสร็จรับฟรีกระเป๋าเก็บความเย็น ถึง 30 พ.ย. 2567 โดยสมาชิกซื้อสินค้าทุก 25 บาท รับ 1 คะแนน ครบ 8 คะแนนใช้เป็นส่วนลดได้ 1 บาท จากการสังเกตพบว่ามีทั้งสินค้านำเข้าจากญี่ปุ่น ต่างประเทศ กับสินค้าที่ผลิตในประเทศไทย อาหารสดเน้นไปที่อาหารญี่ปุ่น ผลไม้ ช็อกโกแลต อีกด้านจะรวมร้านอาหาร เครื่องดื่ม และขนมหวาน ถ้าเปรียบกับคู่แข่งในระดับเดียวกัน เทียบได้กับ ทาคา มาร์เช่ (TAKA Marche') ของห้างสยามทาคาชิมายะ (Siam Takashimaya) ในศูนย์การค้าไอคอนสยาม ที่เปิดให้บริการมาแล้ว 6 ปี การเปิดตัว มิตซูโคชิ เดปาจิกะ ถือเป็นการกลับมาของกลุ่มธุรกิจค้าปลีกสัญชาติญี่ปุ่น อิเซตัน มิตซูโคชิ (Isetan Mitsukoshi) หลังจากยุติการดำเนินธุรกิจห้างอิเซตัน ในศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2563 หรือเมื่อ 4 ปีก่อน เนื่องจากหมดสัญญาเช่า หลังเปิดให้บริการเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2535 สมัยที่ยังเป็นศูนย์การค้าเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ ยาวนานถึง 28 ปี แต่ที่ผ่านมาอิเซตันก็ปิดห้างสรรพสินค้าในหลายประเทศ กลุ่มอิเซตัน มิตซูโคชิ ไม่ได้ทำห้างฯ เหมือนแต่ก่อน แต่นำ "เดปาจิกะ" เป็นคำประสมของคำว่า "เดปา" ซึ่งย่อมาจาก Department Store และ "จิกะ" แปลว่าชั้นใต้ดิน รวมกันเป็นคำศัพท์เฉพาะที่ใช้เรียกศูนย์รวมร้านค้าและร้านอาหารชั้นใต้ดินของห้างฯ เป็นไปได้ว่าเพราะมีฐานลูกค้าจำนวนมากที่ชื่นชอบสินค้าและอาหารญี่ปุ่น สมัยห้างอิเซตัน ลูกค้าชาวไทยนิยมอาหารญี่ปุ่นแบบต้นตำรับ ที่เคยเปิดบนชั้น 5 เซ็นทรัลเวิลด์ ครั้งนี้จึงเน้นไปที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและฟู้ดฮอลล์เป็นหลัก นอกจากนี้ กลุ่มอิเซตัน มิตซูโคชิ ยังร่วมลงทุนในอาคารสำนักงาน วัน แบงค็อก ทาวเวอร์ 4 กับกลุ่มสิริวัฒนภักดีอีกด้วย #Newskit #OneBangkok #MITSUKOSHIDEPACHIKA
    Like
    Yay
    6
    1 Comments 0 Shares 960 Views 0 Reviews
More Results