• ♣️ เมื่อนักการเมืองสายอนุรักษ์หัดสร้างวาทกรรม มันก็จะเลี่ยนๆ ไม่เนียน และย้อนแย้งกับผลการสอบของกรมที่ดิน ที่ปกป้องผู้บุกรุกเขากระโดง
    #7ดอกจิก
    ♣️ เมื่อนักการเมืองสายอนุรักษ์หัดสร้างวาทกรรม มันก็จะเลี่ยนๆ ไม่เนียน และย้อนแย้งกับผลการสอบของกรมที่ดิน ที่ปกป้องผู้บุกรุกเขากระโดง #7ดอกจิก
    Like
    Haha
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 201 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปานเทพ" น็อก "ทนายปาเกียว"
    เปิดสัญญาเด็ด โยงปม 71ล.
    ย้ำ "เมียตั้ม" รู้เห็นเงินโกงหวยออนไลน์
    .
    "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ออกรายการโหนกระแส ย้อนรอยที่มาคดีเงิน 71 ล้านบาท ย้ำไม่ใช่ให้โดยเสน่หา ไม่ใช่ทั้งกู้และยืมเงิน สัญญาชัดคุณอ้อยกับผู้ผลิตแพลตฟอร์ม ไม่มีทนายตั้มเกี่ยวข้อง ชี้ถ้ามีไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่เรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว ถูกอายัดทรัพย์ ส่วนที่อ้างว่าภรรยาไม่รู้นั้นไม่จริง ยังไงก็รับทราบโดยตลอด
    .
    วันนี้ (13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย และคณะมาร้องเรียนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีเครือข่ายมาก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถเปิดความจริงและต่อสู้ผ่านสื่อน่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูล คลิปทั้งหมด แต่ไม่คิดจะเปิดในช่วงแรก เพราะรอให้คดีนี้เข้าสู่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจะเปิดประเด็นก่อน
    .
    เมื่อนายษิทราและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 และนายกรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าทำไมนายษิทราจึงรวย มีของแบรนด์เนม นายษิทราหลุดมาว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งในตอนเช้านายษิทราโทรศัพท์ไปหาทนายความของ น.ส.จตุพร เพราะรู้ว่ามีการแจ้งความและรู้ว่ามีเรื่องต่อกัน และเมื่อเห็นว่านายษิทราอาศัยรายการดังกล่าวสร้างภาพ และฟอกตัวว่าไม่มีปัญหาต่อกัน ทำให้เครือผู้จัดการตัดสินใจเปิดข้อมูลในช่วงบ่าย โดยนำข้อมูลในรายการไปลงปิดท้ายด้วย ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจเปิดประเด็น และจะเปิดสักวันหนึ่งเมื่อคดีคืบหน้าจากทั้งสองฝั่งแล้ว
    .
    เมื่อเปิดข้อมูล ปรากฎว่านายษิทราไปพาดพิงนายสนธิท้าว่าใครแพ้จะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ 71 แก้ว ทำให้ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด แล้วนายษิทราก็เงียบหายไป ต่อมานายษิทราไปออกรายการของ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ อ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา และครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม อ้างว่าให้โดยเสน่หาโดยไม่มีเงื่อนไข และจะมีการจ่ายภาษี 5% ของรายได้ที่เกิน 10 ล้านบาท คำถามก็คือที่กล่าวว่าให้โดยเสน่หามาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนในรายการวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน ตกลงเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือเงินยืมเพื่อการลงทุนกันแน่
    .
    ส่วนกรณีที่นายษิทราเคยนำโทรศัพท์มือถือไปให้ อ.ยิ่งศักดิ์อ่าน และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา นำเอกสารมาให้นายกรรชัย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความอ่าน อ้างว่าเป็นแชตสำคัญ ตนรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแชตนี้ ไม่ใช่แชตระหว่างนายษิทรากับคุณอ้อย และรู้ว่าไม่สามารถจะเป็นไม้เด็ดได้ หากเป็นไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่ในเรือนจำ ประกันตัวไม่ได้ และอายัดทรัพย์ หลักฐานนี้เป็นการสร้างวาทกรรมการพิมพ์ไลน์ของทนายตั้มเพื่อคุยกับคุณน้อย เลขาส่วนตัว เพื่อสมอ้างว่าได้คุยกับคุณอ้อยแล้ว และข้อความไม่ได้แปลว่าสำเร็จแล้วโดยนายษิทรา เป็นการขอให้คุณน้อยไปเจรจากับคุณอ้อยอีกครั้งหนึ่ง แปลว่ายังไม่ได้เห็นด้วย
    .
    ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 28-30 ม.ค. 2566 หลังจากนั้นมีการตกลงกันที่ไม่ใช่ในแชต นายษิทราอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา 3 ครั้ง โดยจ่ายภาษี 5% แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว เหลือแค่ 2 อย่าง คือการกู้เงินหรือยืมเงิน พลิกไปพลิกมา ทั้งที่การกู้เงินต้องมีสัญญา ส่วนการลงทุนต้องมีผลตอบแทนและสัดส่วนหุ้นชัดเจน หากเป็นการยืมเพื่อลงทุน ก็ถือว่าเป็นการกู้อยู่ดี นายษิทราเป็นนักกฎหมาย เป็นคู่สัญญาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมต้องรู้ว่าจะต้องร่างสัญญากู้เงิน แต่กลับไม่มี แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืมเงิน ส่วนการลงทุน มีการจดทะเบียนทรัพย์สินหรือไม่ ในแชตไลน์นำไปสู่การอ้างว่าจะทำแอปฯ หวยออนไลน์
    .
    แต่ที่ไม่เปิดนอกจากโต้ไม่ได้แล้ว ยังอวดอ้างว่ามีเส้นสายในการรับสัมปทานหวยออนไลน์ ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากจะพูดคนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ข้อกฎหมาย และหลงเชื่อว่ามีเส้นสาย มีคอนเนกชัน มีระบบสัมปทานที่จะทำได้ ก็เลยไม่กล้าเปิด อีกทั้งการลงทุนต้องมีหุ้นในสัดส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีทางไม่มีสัญญาเพราะนายษิทราเป็นนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคุณอ้อย จะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณอ้อยเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตแอปพลิเคชัน ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ลงนามจริงวันที่ 5 ก.พ. 2566 ทำขึ้นระหว่างคุณอ้อยกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตแอปพลิเคชัน แสดงว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของนายษิทรา ที่อ้างว่าเป็นการกู้ยืมเงินจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น
    .
    "คนเราจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับสัญญา ไม่ใช่แชตไลน์คุย เพราะการแชตไลน์คุย คุณอ้างหลักฐานพิมพ์เองว่าตกลงกันแล้วอะไรก็ได้ คุณคุยกับเลขาฯ ไม่ได้คุยกับพี่อ้อยด้วย แต่ผลลัพธ์คือเซ็นสัญญาที่ไม่มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องเลย จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืมก็ไม่ได้ เงินลงทุนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีชื่อคุณแม้แต่คำเดียว และที่สำคัญ สัญญานี้ทำการปรับปรุงและแก้ไขจากสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว
    .
    เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า ใครเป็นคนสั่งให้ทำสัญญานี้ และสัญญานี้คุณอ้อยให้ทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหน่วยงานราชการฝรั่งเศส นำเงินมาให้นายษิทราจริงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดีเพราะมีการแอบอ้างว่าสัญญาทำขึ้นเพื่อเป็นนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้มีสัญญาชัดเจน คุณอ้อยมาประเทศไทยวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 ภายใต้สัญญานี้ เมื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสก็ไปทำเรื่องถอนเงิน เตรียมขายหลักทรัพย์เพื่อโอนเงินมา เพราะเป็นทรัพย์สินของเขาเอง และการโอนเงินจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทย ถ้าเป็นทรัพย์สินของตัวเองไม่ต้องเสียภาษี จ่ายแค่ธรรมเนียม รวมทั้งเงินทำบุญและใช้ส่วนตัวก็หลักการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างนิติกรรมอำพราง
    .
    หลังจากนั้นจึงนำเงินไปให้นายษิทราเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 เพราะนายษิทราอ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่นายษิทราเป็นคนติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันเอง และติดต่อคุณอ้อยโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเจอกัน โดยอ้างว่ารับเงินมาแล้วไปดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้านบาทจ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับดังกล่าว และสัญญาดังกล่าวระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ก.พ. 2566 แต่โอนเงินเข้ามาไม่ทัน ต้องเป็นวันรุ่งขึ้น จึงสอดคล้องกับสัญญานี้ โดยที่คุณอ้อยหลงเชื่อว่าควรจะเป็นทรัพย์สินที่เดินหน้าทำสลากออนไลน์เพราะหลงเชื่อนายษิทรา
    .
    ทั้งนี้ นายษิทราอ้างในไลน์ตลอดว่าทำสลากออนไลน์ พอได้เงินมาเสร็จหลังจากนั้นถอนเงินไปซื้อบ้านด้วยเงินสด กรณีนี้จึงเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคุณอ้อย เพราะเมื่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันไม่ได้เงินก็ถามว่า ไหนสัญญาบอกว่าจะได้รับเงิน นายษิทรากล่าวว่า คุณอ้อยยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งที่คุณอ้อยไม่ได้ยกเลิกและจ่ายเงินไปแล้ว แต่บริษัทไม่รู้ว่ามีการจ่ายเงิน และเมื่อไม่มีการโอนเงินก็ยุติสัญญา เดิมนายษิทราและภรรยาไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในราคา 43 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 22 มี.ค. 2566 นำเงินก้อนนี้เปลี่ยนจากสินเชื่อกลายเป็นซื้อเงินสด เพราะได้เงินมาจากคุณอ้อย กรณีนี้ถ้าทำกันถึงขนาดนี้คิดว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะชี้ขาดว่าใครเป็นคู่สัญญาและเจ้าของทรัพย์สิน แต่นายษิทราเป็นตัวกลางกลับนำเงินตรงนี้ไปใช้ส่วนตัวซื้อบ้านซึ่งไม่เกี่ยว
    .
    เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า รู้เรื่องการโอนเงินไปยังล่ามที่ชื่อจุ๋ม ซึ่งถูกหัก 40% หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ทรัพย์สินไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณอ้อยโดยตรง แล้วชื่อบัญชีเป็นคุณอ้อย ชื่อสัญญาเป็นคุณอ้อย จะเป็นสัญญาคนอื่นในการโอนตรงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าตั้งใจโอนเงินเป็นทรัพย์สินของเขาเอง
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า จากนั้นใกล้ปลายปี 2566 ก็เริ่มคิดเรื่องภาษีว่านายษิทราจะนำเงินที่มา 71 ล้านบาทเป็นอย่างไร จึงมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า ขอผ่านเงินสัก 70 ล้านบาทได้ไหม เพื่อที่จะมีบันทึกโดยไม่บอกที่มาที่ไป ต่อมาไม่มีความคืบหน้า มาเจรจาอีกครั้ง 27 ก.พ. 2567 ใกล้ถึงรอบวงจ่ายภาษี นายษิทราเสนอว่าจะเอาเงินผ่านโดยไม่บอกว่าเป็นสัญญาเดิม ครั้งที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งที่สาม 11 ล้านบาท แล้วจะให้ค่าตอบแทน 10 ล้านบาท บริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันจึงคิดว่ายอดใกล้ 71 ล้านบาท สงสัยจะฟอกเงินและบริษัทฯ จะเป็นแพะ จึงปฎิเสธ ซึ่งมีบทสนทนา
    .
    พอถึงช่วงที่จะส่งมอบแอปพลิเคชัน กลับไม่มีการส่งมอบ คุณอ้อยจึงดำเนินการทำโนติสถึงนายษิทรา และเมื่อนายษิทราไม่สามารถนำส่งได้ ทั้งที่ได้ดำเนินการและรับเงินไปแล้ว อีกทั้งนายษิทราบอกเองว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ ทำไมถึงยังไม่ได้ ปรากฎว่านายษิทราแชตไลน์ไปพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า มีแพลตฟอร์มนาคี ชื่อเหมือนกันแต่โลโก้เป็นสีเขียว อ้างว่าไปจ้างเขาทำมาเอง เหมือนถูกเลียนแบบ นายษิทราให้ช่วยนำแอปพลิเคชันนี้ส่งให้คุณอ้อย แต่บริษัทปฎิเสธทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำ และไม่ใช่แอปฯ ของบริษัท จะไปหลอกคุณอ้อยแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ เรื่องแบบนี้เป็นการให้โดยเสน่หาได้อย่างไร ให้เพื่อการลงทุนได้อย่างไรเพราะไม่มีของสักอย่างแล้วอุปโลกน์เป็นอย่างอื่น จะเรียกว่าฉ้อโกงหรือไม่
    .
    นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายนายษิทรามีความคิดที่จะประกันตัวนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ภรรยา โดยอ้างว่าแค่รับเงินมาซื้อบ้าน ไม่รับรู้ที่ไปที่มา ตนอยากจะบอกว่าไม่จริง เพราะตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ป่านนี้รู้แล้วว่ามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแชตไลน์ทั้งหมดไปหมดแล้ว ยังไงนางปทิตตาอยู่ในคณะทำงานเรื่องหวยออนไลน์และรับทราบโดยตลอด ไม่ใช่ไม่รับรู้ ลองไปยื่นประกันตัวดู ตนเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่า นางปทิตตารับรู้โดยตลอดในธุรกรรมนี้ อย่างน้อยที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนั้น ไม่จริง รู้แน่นอน หลักฐานตำรวจเขาน่าจะมีในตอนนี้
    .
    Live โหนกระแส อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ มาแล้ว เชื่อทนายปาเกียวกำลังพลิกคดี มั่นใจเมียตั้มมีรู้เห็นทั้งหมด

    https://www.youtube.com/watch?v=7X__nPHGDD0

    #Thaitimes
    "ปานเทพ" น็อก "ทนายปาเกียว" เปิดสัญญาเด็ด โยงปม 71ล. ย้ำ "เมียตั้ม" รู้เห็นเงินโกงหวยออนไลน์ . "ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ออกรายการโหนกระแส ย้อนรอยที่มาคดีเงิน 71 ล้านบาท ย้ำไม่ใช่ให้โดยเสน่หา ไม่ใช่ทั้งกู้และยืมเงิน สัญญาชัดคุณอ้อยกับผู้ผลิตแพลตฟอร์ม ไม่มีทนายตั้มเกี่ยวข้อง ชี้ถ้ามีไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่เรือนจำ ไม่ได้ประกันตัว ถูกอายัดทรัพย์ ส่วนที่อ้างว่าภรรยาไม่รู้นั้นไม่จริง ยังไงก็รับทราบโดยตลอด . วันนี้ (13 พ.ย.) นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยผ่านรายการโหนกระแส ทางสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ดำเนินรายการโดยนายกรรชัย กำเนิดพลอย ว่า น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือคุณอ้อย และคณะมาร้องเรียนกับนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ เนื่องจากนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นบุคคลมีชื่อเสียงและมีเครือข่ายมาก ถ้าจะมีใครสักคนสามารถเปิดความจริงและต่อสู้ผ่านสื่อน่าจะเป็นค่ายผู้จัดการ ระหว่างนั้นก็เก็บข้อมูล คลิปทั้งหมด แต่ไม่คิดจะเปิดในช่วงแรก เพราะรอให้คดีนี้เข้าสู่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วจะเปิดประเด็นก่อน . เมื่อนายษิทราและนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ไปออกรายการโหนกระแส เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 และนายกรรชัย กำเนิดพลอย ผู้ดำเนินรายการ ถามว่าทำไมนายษิทราจึงรวย มีของแบรนด์เนม นายษิทราหลุดมาว่าให้โดยเสน่หา ซึ่งในตอนเช้านายษิทราโทรศัพท์ไปหาทนายความของ น.ส.จตุพร เพราะรู้ว่ามีการแจ้งความและรู้ว่ามีเรื่องต่อกัน และเมื่อเห็นว่านายษิทราอาศัยรายการดังกล่าวสร้างภาพ และฟอกตัวว่าไม่มีปัญหาต่อกัน ทำให้เครือผู้จัดการตัดสินใจเปิดข้อมูลในช่วงบ่าย โดยนำข้อมูลในรายการไปลงปิดท้ายด้วย ทั้งที่ตอนนั้นยังไม่ตัดสินใจเปิดประเด็น และจะเปิดสักวันหนึ่งเมื่อคดีคืบหน้าจากทั้งสองฝั่งแล้ว . เมื่อเปิดข้อมูล ปรากฎว่านายษิทราไปพาดพิงนายสนธิท้าว่าใครแพ้จะให้ดื่มน้ำปัสสาวะ 71 แก้ว ทำให้ต้องเปิดข้อมูลทั้งหมด แล้วนายษิทราก็เงียบหายไป ต่อมานายษิทราไปออกรายการของ อ.ยิ่งศักดิ์ จงเลิศเจษฎาวงศ์ อ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา และครั้งที่ 3 ให้สัมภาษณ์ที่กองปราบปราม อ้างว่าให้โดยเสน่หาโดยไม่มีเงื่อนไข และจะมีการจ่ายภาษี 5% ของรายได้ที่เกิน 10 ล้านบาท คำถามก็คือที่กล่าวว่าให้โดยเสน่หามาตลอด เพิ่งมาเปลี่ยนในรายการวานนี้ (12 พ.ย.) ว่าเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน ตกลงเป็นเงินกู้เพื่อการลงทุน หรือเงินยืมเพื่อการลงทุนกันแน่ . ส่วนกรณีที่นายษิทราเคยนำโทรศัพท์มือถือไปให้ อ.ยิ่งศักดิ์อ่าน และนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา นำเอกสารมาให้นายกรรชัย และนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความอ่าน อ้างว่าเป็นแชตสำคัญ ตนรู้ตั้งแต่แรกว่าเป็นแชตนี้ ไม่ใช่แชตระหว่างนายษิทรากับคุณอ้อย และรู้ว่าไม่สามารถจะเป็นไม้เด็ดได้ หากเป็นไม้เด็ดจริงคงไม่อยู่ในเรือนจำ ประกันตัวไม่ได้ และอายัดทรัพย์ หลักฐานนี้เป็นการสร้างวาทกรรมการพิมพ์ไลน์ของทนายตั้มเพื่อคุยกับคุณน้อย เลขาส่วนตัว เพื่อสมอ้างว่าได้คุยกับคุณอ้อยแล้ว และข้อความไม่ได้แปลว่าสำเร็จแล้วโดยนายษิทรา เป็นการขอให้คุณน้อยไปเจรจากับคุณอ้อยอีกครั้งหนึ่ง แปลว่ายังไม่ได้เห็นด้วย . ทั้งนี้ บทสนทนาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วง วันที่ 28-30 ม.ค. 2566 หลังจากนั้นมีการตกลงกันที่ไม่ใช่ในแชต นายษิทราอ้างว่าเป็นการให้โดยเสน่หา 3 ครั้ง โดยจ่ายภาษี 5% แต่ตอนนี้ไม่เอาแล้ว เหลือแค่ 2 อย่าง คือการกู้เงินหรือยืมเงิน พลิกไปพลิกมา ทั้งที่การกู้เงินต้องมีสัญญา ส่วนการลงทุนต้องมีผลตอบแทนและสัดส่วนหุ้นชัดเจน หากเป็นการยืมเพื่อลงทุน ก็ถือว่าเป็นการกู้อยู่ดี นายษิทราเป็นนักกฎหมาย เป็นคู่สัญญาในฐานะที่ปรึกษากฎหมาย ย่อมต้องรู้ว่าจะต้องร่างสัญญากู้เงิน แต่กลับไม่มี แสดงว่าไม่ใช่การกู้ยืมเงิน ส่วนการลงทุน มีการจดทะเบียนทรัพย์สินหรือไม่ ในแชตไลน์นำไปสู่การอ้างว่าจะทำแอปฯ หวยออนไลน์ . แต่ที่ไม่เปิดนอกจากโต้ไม่ได้แล้ว ยังอวดอ้างว่ามีเส้นสายในการรับสัมปทานหวยออนไลน์ ทั้งที่ไม่มีอยู่จริง นอกจากจะพูดคนที่ไม่เข้าใจ ไม่รู้ข้อกฎหมาย และหลงเชื่อว่ามีเส้นสาย มีคอนเนกชัน มีระบบสัมปทานที่จะทำได้ ก็เลยไม่กล้าเปิด อีกทั้งการลงทุนต้องมีหุ้นในสัดส่วนอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่มีทางไม่มีสัญญาเพราะนายษิทราเป็นนักกฎหมายและเป็นที่ปรึกษากฎหมายของคุณอ้อย จะต้องมีอย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งคุณอ้อยเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมายังประเทศไทย เมื่อวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 เพื่อเซ็นสัญญากับบริษัทผลิตแอปพลิเคชัน ลงวันที่ 3 ก.พ. 2566 ลงนามจริงวันที่ 5 ก.พ. 2566 ทำขึ้นระหว่างคุณอ้อยกับบริษัทผู้รับจ้างผลิตแอปพลิเคชัน แสดงว่าทรัพย์สินไม่ใช่ของนายษิทรา ที่อ้างว่าเป็นการกู้ยืมเงินจึงเป็นความเท็จทั้งสิ้น . "คนเราจะตัดสินใจอย่างไร ขึ้นอยู่กับสัญญา ไม่ใช่แชตไลน์คุย เพราะการแชตไลน์คุย คุณอ้างหลักฐานพิมพ์เองว่าตกลงกันแล้วอะไรก็ได้ คุณคุยกับเลขาฯ ไม่ได้คุยกับพี่อ้อยด้วย แต่ผลลัพธ์คือเซ็นสัญญาที่ไม่มีชื่อทนายตั้มเกี่ยวข้องเลย จะมาอ้างว่าเงินกู้ยืมก็ไม่ได้ เงินลงทุนก็ไม่ได้ เพราะสัญญาไม่มีชื่อคุณแม้แต่คำเดียว และที่สำคัญ สัญญานี้ทำการปรับปรุงและแก้ไขจากสำนักงานทนายความษิทรา ลอว์เฟิร์ม ทั้งสิ้น" นายปานเทพ กล่าว . เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า ใครเป็นคนสั่งให้ทำสัญญานี้ และสัญญานี้คุณอ้อยให้ทำโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงหน่วยงานราชการฝรั่งเศส นำเงินมาให้นายษิทราจริงหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า เป็นคำถามที่ดีเพราะมีการแอบอ้างว่าสัญญาทำขึ้นเพื่อเป็นนิติกรรมอำพราง เรื่องนี้มีสัญญาชัดเจน คุณอ้อยมาประเทศไทยวันที่ 2-8 ก.พ. 2566 ภายใต้สัญญานี้ เมื่อกลับไปประเทศฝรั่งเศสก็ไปทำเรื่องถอนเงิน เตรียมขายหลักทรัพย์เพื่อโอนเงินมา เพราะเป็นทรัพย์สินของเขาเอง และการโอนเงินจากฝรั่งเศสมายังประเทศไทย ถ้าเป็นทรัพย์สินของตัวเองไม่ต้องเสียภาษี จ่ายแค่ธรรมเนียม รวมทั้งเงินทำบุญและใช้ส่วนตัวก็หลักการเดียวกัน จึงไม่จำเป็นต้องสร้างนิติกรรมอำพราง . หลังจากนั้นจึงนำเงินไปให้นายษิทราเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2566 เพราะนายษิทราอ้างว่าเป็นผู้ดำเนินการ โดยที่นายษิทราเป็นคนติดต่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันเอง และติดต่อคุณอ้อยโดยไม่ให้ทั้งสองฝ่ายเจอกัน โดยอ้างว่ารับเงินมาแล้วไปดำเนินการต่อ เพราะฉะนั้นเงิน 71 ล้านบาทจ่ายไปเพื่อวัตถุประสงค์ตามสัญญาฉบับดังกล่าว และสัญญาดังกล่าวระบุว่าจะต้องมีการจ่ายเงินภายในวันที่ 15 ก.พ. 2566 แต่โอนเงินเข้ามาไม่ทัน ต้องเป็นวันรุ่งขึ้น จึงสอดคล้องกับสัญญานี้ โดยที่คุณอ้อยหลงเชื่อว่าควรจะเป็นทรัพย์สินที่เดินหน้าทำสลากออนไลน์เพราะหลงเชื่อนายษิทรา . ทั้งนี้ นายษิทราอ้างในไลน์ตลอดว่าทำสลากออนไลน์ พอได้เงินมาเสร็จหลังจากนั้นถอนเงินไปซื้อบ้านด้วยเงินสด กรณีนี้จึงเป็นการตั้งขึ้นมาเพื่อหลอกคุณอ้อย เพราะเมื่อบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันไม่ได้เงินก็ถามว่า ไหนสัญญาบอกว่าจะได้รับเงิน นายษิทรากล่าวว่า คุณอ้อยยกเลิกสัญญาแล้ว ทั้งที่คุณอ้อยไม่ได้ยกเลิกและจ่ายเงินไปแล้ว แต่บริษัทไม่รู้ว่ามีการจ่ายเงิน และเมื่อไม่มีการโอนเงินก็ยุติสัญญา เดิมนายษิทราและภรรยาไปขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านในราคา 43 ล้านบาท จากนั้นวันที่ 22 มี.ค. 2566 นำเงินก้อนนี้เปลี่ยนจากสินเชื่อกลายเป็นซื้อเงินสด เพราะได้เงินมาจากคุณอ้อย กรณีนี้ถ้าทำกันถึงขนาดนี้คิดว่าเข้าข่ายฉ้อโกง เพราะชี้ขาดว่าใครเป็นคู่สัญญาและเจ้าของทรัพย์สิน แต่นายษิทราเป็นตัวกลางกลับนำเงินตรงนี้ไปใช้ส่วนตัวซื้อบ้านซึ่งไม่เกี่ยว . เมื่อทีมกฎหมายของนายษิทราส่งข้อความไปยังนายกรรชัย ถามว่า รู้เรื่องการโอนเงินไปยังล่ามที่ชื่อจุ๋ม ซึ่งถูกหัก 40% หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า กรณีนี้ทรัพย์สินไม่ใช่คนอื่น เป็นคุณอ้อยโดยตรง แล้วชื่อบัญชีเป็นคุณอ้อย ชื่อสัญญาเป็นคุณอ้อย จะเป็นสัญญาคนอื่นในการโอนตรงก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง จึงแสดงเจตนารมณ์ชัดเจนว่าตั้งใจโอนเงินเป็นทรัพย์สินของเขาเอง . นายปานเทพ กล่าวว่า จากนั้นใกล้ปลายปี 2566 ก็เริ่มคิดเรื่องภาษีว่านายษิทราจะนำเงินที่มา 71 ล้านบาทเป็นอย่างไร จึงมีการเจรจากับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า ขอผ่านเงินสัก 70 ล้านบาทได้ไหม เพื่อที่จะมีบันทึกโดยไม่บอกที่มาที่ไป ต่อมาไม่มีความคืบหน้า มาเจรจาอีกครั้ง 27 ก.พ. 2567 ใกล้ถึงรอบวงจ่ายภาษี นายษิทราเสนอว่าจะเอาเงินผ่านโดยไม่บอกว่าเป็นสัญญาเดิม ครั้งที่หนึ่ง 30 ล้านบาท ครั้งที่สอง 30 ล้านบาท และครั้งที่สาม 11 ล้านบาท แล้วจะให้ค่าตอบแทน 10 ล้านบาท บริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันจึงคิดว่ายอดใกล้ 71 ล้านบาท สงสัยจะฟอกเงินและบริษัทฯ จะเป็นแพะ จึงปฎิเสธ ซึ่งมีบทสนทนา . พอถึงช่วงที่จะส่งมอบแอปพลิเคชัน กลับไม่มีการส่งมอบ คุณอ้อยจึงดำเนินการทำโนติสถึงนายษิทรา และเมื่อนายษิทราไม่สามารถนำส่งได้ ทั้งที่ได้ดำเนินการและรับเงินไปแล้ว อีกทั้งนายษิทราบอกเองว่าเป็นผู้ประสานงานโครงการนี้ ทำไมถึงยังไม่ได้ ปรากฎว่านายษิทราแชตไลน์ไปพูดคุยกับบริษัทผู้ผลิตแอปพลิเคชันว่า มีแพลตฟอร์มนาคี ชื่อเหมือนกันแต่โลโก้เป็นสีเขียว อ้างว่าไปจ้างเขาทำมาเอง เหมือนถูกเลียนแบบ นายษิทราให้ช่วยนำแอปพลิเคชันนี้ส่งให้คุณอ้อย แต่บริษัทปฎิเสธทำไม่ได้ เพราะไม่เคยทำ และไม่ใช่แอปฯ ของบริษัท จะไปหลอกคุณอ้อยแบบนั้นไม่ได้ ก็เลยไม่ทำ เรื่องแบบนี้เป็นการให้โดยเสน่หาได้อย่างไร ให้เพื่อการลงทุนได้อย่างไรเพราะไม่มีของสักอย่างแล้วอุปโลกน์เป็นอย่างอื่น จะเรียกว่าฉ้อโกงหรือไม่ . นายปานเทพ กล่าวว่า ตอนนี้ฝ่ายนายษิทรามีความคิดที่จะประกันตัวนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือเดือน ภรรยา โดยอ้างว่าแค่รับเงินมาซื้อบ้าน ไม่รับรู้ที่ไปที่มา ตนอยากจะบอกว่าไม่จริง เพราะตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน ป่านนี้รู้แล้วว่ามีข้อมูลการใช้โทรศัพท์ และแชตไลน์ทั้งหมดไปหมดแล้ว ยังไงนางปทิตตาอยู่ในคณะทำงานเรื่องหวยออนไลน์และรับทราบโดยตลอด ไม่ใช่ไม่รับรู้ ลองไปยื่นประกันตัวดู ตนเชื่อว่าตำรวจมีหลักฐานพอที่จะยืนยันได้ว่า นางปทิตตารับรู้โดยตลอดในธุรกรรมนี้ อย่างน้อยที่บอกว่าไม่รู้เรื่องนั้น ไม่จริง รู้แน่นอน หลักฐานตำรวจเขาน่าจะมีในตอนนี้ . Live โหนกระแส อ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ มาแล้ว เชื่อทนายปาเกียวกำลังพลิกคดี มั่นใจเมียตั้มมีรู้เห็นทั้งหมด https://www.youtube.com/watch?v=7X__nPHGDD0 #Thaitimes
    Like
    Haha
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 512 มุมมอง 1 รีวิว
  • เปิดคนอื่นไม่ทั่ว ไม่เคยดูความซั่วของตัวเอง
    ก่อนจะข้ามรุ่นมาเล่นกับ สนธิ ลิ่มทองกุล ทนายเดชา จุ๊กกรู๊ ก็มีคู่ปรับระดับเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว มีคดีคาโรงคาสานกันอยู่ในเวลานี้ ก็คือ อาจารย์อ๊อด แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นอินฟลูฯ โด่งดังคนหนึ่ง จากการจับเท็จ โกหกตอแหลของทนายจุกกู้ ศึกระหว่างอาจารย์อ๊อดและทนายเดชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2565
    เมื่อทนายเดชารับเป็นทนายความให้นายสุธี หรือเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยพันล้านเมืองเพชรฟ้องอาจารย์อ๊อดเรียกค่าเสียหาย150 ล้าน กล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน แต่คดีนี้กลับไม่ได้สู้กันเฉพาะคดีความในศาล ทนายเดชาใช้อาวุธของตัวคือวาทกรรมไลฟ์สดแบบไม่ออกชื่อ กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าโกงๆ
    แม้อาจารย์อ๊อดรู้สึกว่าเสียหายจากวาทกรรมเหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถฟ้องเอาผิดทนายเดชาได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าเป็นตัวเองที่ถูกใส่ร้าย แต่อาจารย์อ๊อดปักหลักสู้ไม่ถอย จึงไปร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทย ทนายเดชาเลยฟ้องอาจารย์อ๊อด กล่าวหาว่าอาจารย์อ๊อดแจ้งความเท็จหลายคดีแต่คราวนี้อาจารย์อ๊อดเป็นฝ่ายชนะรวดหลายคดีถึงที่สุดเรียบร้อย อาจารย์อ๊อดเลยเอาคืนบ้างเป็นฝ่ายยื่นฟ้องทนายเดชาข้อหาฟ้องเท็จ คดียังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลและเพราะต้องตั้งรับสู้คดีกับทนายเดชาและเครือข่ายมาอย่างโชกโชน อาจารย์อ๊อดเลยมีความรู้ด้านกฎหมายงอกเงยขึ้นมา จากเดิมที่รู้แต่วิชาเคมีไหนไหนก็ไหนไหนอาจารย์อ๊อดเลยตั้งสํานักงานกฎหมายขึ้นมามีทนายความประจําสํานักงาน ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
    ถึงตอนนี้อาจารย์อ๊อดเคลียร์ใจกับเสี่ยเปี๊ยกร่ําไห้กอดกันถอนคดีไปเรียบร้อยแล้วแต่คู่กัดคนสําคัญกลับเป็นอดีตทนายความของเสี่ยเปี๊ยกแทน โดยอาจารย์อ๊อดประกาศชัด ต้องเอาทนายเดชาถึงติดคุกให้ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจอาจารย์อ๊อด
    ก็คือ สภาทนายความที่ไม่เคยขานรับเรื่องร้องเรียนใดๆโดยในการร้องเรียนทนายเดชาต่อกรรมการมารยาททนายความ อาจารย์อ๊อดระบุว่าการประพฤติตนของทนายความรายนี้ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ จึงขอให้สภาทนายความเพิกถอนใบอนุญาตว่าความของทนายเดชาเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงต่อทนายความที่จะไม่รักษาข้อบังคับสภาทนายความ
    ขณะที่สภาทนายความที่รับร้องเรียนจากอาจารย์อ๊อดไปตั้งแต่ปีมะโว้จนบัดนี้ก็ยังแบะๆๆก็ไม่น่าแปลกใจที่สังคมจะตั้งคําถามอื้ออึงสภาทนายมีไว้ทําอะไร ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่
    #คิงส์โพธิ์ดำ
    เปิดคนอื่นไม่ทั่ว ไม่เคยดูความซั่วของตัวเอง ก่อนจะข้ามรุ่นมาเล่นกับ สนธิ ลิ่มทองกุล ทนายเดชา จุ๊กกรู๊ ก็มีคู่ปรับระดับเดียวกันอยู่ก่อนแล้ว มีคดีคาโรงคาสานกันอยู่ในเวลานี้ ก็คือ อาจารย์อ๊อด แห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ซึ่งเป็นอินฟลูฯ โด่งดังคนหนึ่ง จากการจับเท็จ โกหกตอแหลของทนายจุกกู้ ศึกระหว่างอาจารย์อ๊อดและทนายเดชาเกิดขึ้นเมื่อปี 2565 เมื่อทนายเดชารับเป็นทนายความให้นายสุธี หรือเสี่ยเปี๊ยก เสี่ยพันล้านเมืองเพชรฟ้องอาจารย์อ๊อดเรียกค่าเสียหาย150 ล้าน กล่าวหาว่าหลอกร่วมลงทุน แต่คดีนี้กลับไม่ได้สู้กันเฉพาะคดีความในศาล ทนายเดชาใช้อาวุธของตัวคือวาทกรรมไลฟ์สดแบบไม่ออกชื่อ กล่าวหาฝ่ายตรงข้ามว่าโกงๆ แม้อาจารย์อ๊อดรู้สึกว่าเสียหายจากวาทกรรมเหล่านั้น แต่ก็ไม่สามารถฟ้องเอาผิดทนายเดชาได้ เพราะไม่สามารถพิสูจน์ในศาลได้ว่าเป็นตัวเองที่ถูกใส่ร้าย แต่อาจารย์อ๊อดปักหลักสู้ไม่ถอย จึงไปร้องเรียนกรรมการมรรยาททนายความของสภาทนายความแห่งประเทศไทย ทนายเดชาเลยฟ้องอาจารย์อ๊อด กล่าวหาว่าอาจารย์อ๊อดแจ้งความเท็จหลายคดีแต่คราวนี้อาจารย์อ๊อดเป็นฝ่ายชนะรวดหลายคดีถึงที่สุดเรียบร้อย อาจารย์อ๊อดเลยเอาคืนบ้างเป็นฝ่ายยื่นฟ้องทนายเดชาข้อหาฟ้องเท็จ คดียังอยู่ในการพิจารณาในชั้นศาลและเพราะต้องตั้งรับสู้คดีกับทนายเดชาและเครือข่ายมาอย่างโชกโชน อาจารย์อ๊อดเลยมีความรู้ด้านกฎหมายงอกเงยขึ้นมา จากเดิมที่รู้แต่วิชาเคมีไหนไหนก็ไหนไหนอาจารย์อ๊อดเลยตั้งสํานักงานกฎหมายขึ้นมามีทนายความประจําสํานักงาน ของตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย ถึงตอนนี้อาจารย์อ๊อดเคลียร์ใจกับเสี่ยเปี๊ยกร่ําไห้กอดกันถอนคดีไปเรียบร้อยแล้วแต่คู่กัดคนสําคัญกลับเป็นอดีตทนายความของเสี่ยเปี๊ยกแทน โดยอาจารย์อ๊อดประกาศชัด ต้องเอาทนายเดชาถึงติดคุกให้ได้ สิ่งหนึ่งที่ยังคาใจอาจารย์อ๊อด ก็คือ สภาทนายความที่ไม่เคยขานรับเรื่องร้องเรียนใดๆโดยในการร้องเรียนทนายเดชาต่อกรรมการมารยาททนายความ อาจารย์อ๊อดระบุว่าการประพฤติตนของทนายความรายนี้ฝ่าฝืนต่อศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียต่อศักดิ์ศรีและเกียรติคุณของทนายความ ตามข้อบังคับสภาทนายความ จึงขอให้สภาทนายความเพิกถอนใบอนุญาตว่าความของทนายเดชาเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงต่อทนายความที่จะไม่รักษาข้อบังคับสภาทนายความ ขณะที่สภาทนายความที่รับร้องเรียนจากอาจารย์อ๊อดไปตั้งแต่ปีมะโว้จนบัดนี้ก็ยังแบะๆๆก็ไม่น่าแปลกใจที่สังคมจะตั้งคําถามอื้ออึงสภาทนายมีไว้ทําอะไร ติดตามข่าวซีฟๆแบบนี้ได้ที่ #คิงส์โพธิ์ดำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR)
    .
    เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม
    .
    ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน
    .
    ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง
    .
    ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน
    .
    หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา
    .
    กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย
    .
    ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน
    .
    เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022
    .
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689
    ..............
    Sondhi X
    สหรัฐฯกำลังพิจารณาจัดการเลือกตั้งในยูเครนในปีหน้า สำหรับเป็นหนทางที่ชอบธรรมในการหาคนมาแทนรัฐบาลของประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี จากคำกล่าวของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย (SVR) . เซเลนสกี ยังคงอยู่ในอำนาจในยูเครน แม้สมัยการดำรงตำแหน่งของเขาหมดวาระลงไปอย่างเป็นทางการแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา เขาประกาศเลื่อนศึกเลือกตั้งประธานาธิบดี โดยอ้างกฎอัยการศึกที่เขาประกาศบังคับใช้ในปี 2022 . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซียระบุในถ้อยแถลง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเชื่อว่า เซเลนสกี ใช้สิทธิ์ที่เลยเถิดเกินไป และอาจจัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรัฐสภายูเครน เพื่อเขี่ยเขาพ้นจากอำนาจในปี 2025 แม้ยังอยู่ระหว่างการทำศึกสงครามก็ตาม . ข้อมูลตามคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ารัสเซียตัดสินใจเริ่มทำงานในขั้นต้นแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างสภาพแวดล้อมต่างๆสำหรับเปิดแคมเปญรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งในยูเครน . ในขั้นแรกของแผนดังกล่าว จะได้เห็นบรรดาเอ็นจีโอที่ได้รับการสนับสนุนทางการเงินจากสหรัฐฯ ใช้โครงสร้างประชาสังคมยูเครนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของพวกเขา ผลักดันให้มีการเดินหน้าริเริ่มจัดการเลือกตั้ง . ถ้อยแถลงระบุต่อว่า หลังจากได้รับการสนับสนุนจากประชาชนในวงกว้างแล้ว บรรดาแคนดิเดทที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง จะถูกเลือกภายใต้การประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ นอกจากนี้แล้วบรรดาผู้สังเกตการณ์การเลือกตั้งนั้น จะเป็นกลุ่มคนที่ได้รับการแต่งตั้งจากเอ็นจีโอทั้งหลาย ที่มีความเกี่ยวข้องกับวอชิงตัน . หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย อ้างด้วยว่าสหรัฐฯได้เริ่มพูดคุยหารือกันในเบื้องต้นกันไปแล้ว สำหรับการจัดตั้งพรรคการเมืองฝักใฝ่อเมริกาพรรคใหม่ในยูเครน นอกเหนือจากบรรดานักเคลื่อนไหวยูเครนที่กินเงินเดือนของพวกเขา . กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯคาดหวังว่าพรรคการเมืองพรรคนี้ จะสามารถผงาดก้าวเข้าสู่รัฐสภา และช่วยทำให้ประธานาธิบดีรายหนึ่งรายใดของยูเครนในอนาคต ยังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของอเมริกาต่อไป จากคำกล่าวอ้างของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย . ทั้งนี้หน่วยข่าวกรองต่างประเทศแห่งรัสเซีย บ่งชี้ว่าความเคลื่อนไหวต่างๆนานาเหล่านี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่าวาทกรรม "ไม่มีอะไรเกี่ยวกับยูเครน หากปราศจากยูเครน" ที่พวกเจ้าหน้าที่อเมริกามักพูดซ้ำๆตลอดความขัดแย้ง เป็นเพียงแต่คำพูดที่ว่างเปล่า และในความเป็นจริงคือ ชะตากรรมของประเทศนี้และบรรดาผู้นำหุ่นเชิดของพวกเขา จะยังขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงในวอชิงตัน . เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เซเลนสกีขยายกรอบเวลากฎอัยการศึกออกไปอีก และประกาศระดมพลในยูเครนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถือเป็นการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นครั้งที่ 13 แล้ว นับตั้งแต่ความขัดแย้งกับรัสเซีย ลุกลามบานปลายในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 . โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ให้สัญญาหลายต่อหลายครั้งระหว่างหาเสียงเลือกตั้ง ว่าจะจบความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับเคียฟอย่างรวดเร็ว ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดกับทำเนียบประธานาธิบดียูเครน ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวท้องถิ่นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ว่าเซเลนสกี จะไร้ซึ่งอำนาจในการขัดขืนใดๆ หากว่า ทรัมป์ ต้องการให้ผู้นำยูเครนรายนี้ หยุดการสู้รบและเสาะหาสันติภาพกับรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000108689 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    11
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 801 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุน ว่าตนเองไม่มีรสนิยมเริ่มสงครามและยืนยันอเมริกาภายใต้การนำของเขาจะไม่ง่วนอยู่กับความขัดแย้งติดอาวุธครั้งใหญ่ใหม่ๆ คำประกาศซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาเมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.)
    .
    ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่าการบริหารประเทศสมัยที่ 2 ของเขา จะนำมาซึ่ง "ยุคทองครั้งใหม่ของอเมริกา"
    .
    ในขณะที่คำปราศรัยฉลองชัยชนะมุ่งเน้นไปที่นโยบายภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ แต่ ทรัมป์ พูดเช่นกันว่า "อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและทรงพลัง แม้ในทางหลักการแล้ว เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน"
    .
    พร้อมกันนั้น ทรัมป์ กล่าวอ้างด้วยว่าครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรกระหว่างปี 2017 ถึง 2021 "เราไม่มีสงคราม ในความหมายก็คือ สหรัฐฯ แทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวในความขัดแย้งติดอาวุธครั้งใหญ่ใหม่ใดๆ"
    .
    "เป็นเวลา 4 ปี ที่เราไม่มีสงคราม ยกเว้นแต่ที่เรากำราบไอเอส" เขากล่าว อ้างถึงยุทธการทางทหารนานาชาติในตะวันออกกลาง ที่ร่วมกันจัดการกับองค์กรก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) พร้อมคุยโวต่อว่า "พวกเขาบอกว่า ผมจะเริ่มสงคราม ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มสงครามหนึ่งใดด้วยซ้ำ และผมกำลังจะเป็นคนหยุดสงครามต่างๆ"
    .
    ทรัมป์ เน้นย้ำคำกล่าวอ้างที่ว่าเขาจะหยุดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าได้รับเลือกตั้ง และกระทั่งมีความเป็นไปได้ว่ามันจะเกิดขึ้นก่อนหน้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางทหาร
    .
    แม้รัฐบาลของเขาจัดส่งอาวุธไปให้ยูเครน ในช่วงก่อนหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย แต่ตัวของทรัมป์เองไม่ได้อยู่ในทำเนียบขาวแล้ว ครั้งที่ มอสโก เผยแพร่ข้อเสนอหนึ่งสำหรับคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดในเดือนธันวาคม 2021
    .
    ทรัมป์ ไม่เคยนำเสนอคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับแผนยุติความขัดแย้งยูเครนต่อสาธารณะ แต่เคยมีข่าวว่าเขามีความตั้งใจถาโถมแรงกดดันใส่มอสโกและเคียฟ บีบให้ทั้ง 2 ชาติยอมประนีประนอม
    .
    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียบอกว่าจะไม่ยอมทางออกใดๆ ที่เพียงแค่ตรึงสถานภาพปัจจุบัน โดยปราศจากการคลี่คลายต้นตอหลักของความขัดแย้ง
    .
    วังเครมลินในวันพุธ (6 พ.ย.) แสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง หลัง ทรัมป์ ประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกายังคงเป็นรัฐศัตรู และเวลาจะให้คำตอบว่าวาทกรรมเกี่ยวกับการยุติสงครามยูเครนของทรัมป์นั้น จะกลายเป็นจริงหรือไม่
    .
    ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 โหมกระพือการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างมอสโกกับตะวันตก นับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 ครั้งที่สหภาพโซเวียตกับสหรัฐฯ เฉียดเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์
    .
    ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ มีถ้อยแถลงบางอย่างที่มีความสำคัญเกี่ยวกับความต้องการยุติสงครามยูเครน แต่เวลาเท่านั้นจะเป็นคนบอกว่าคำพูดเหล่านั้นจะนำไปสู่การกระทำหรือไม่
    .
    "จงอย่าลืมว่า เรากำลังพูดถึงประเทศหนึ่งที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับในการทำสงครามกับประเทศของเราทั้งโดยตรงและทางอ้อม" เปสคอฟบอกกับพวกผู้สื่อข่าว
    .
    นอกจากนี้ เปสคอฟเผยด้วยว่าเขาไม่ทราบว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีแผนใดๆ หรือไม่ที่จะแสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้ง พร้อมเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์กับวอชิงตันยังอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
    .
    "เราเน้นย้ำมาตลอดว่าสหรัฐฯ สามารถส่งเสริมให้ยุติความขัดแย้งนี้ มันไม่อาจทำได้ในช่วงข้ามคืน แต่สหรัฐฯ สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีนโยบายต่างประเทศของพวกเขา เรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร เราจะรอดูหลังจากเดือนมกราคม (พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ)" เปสคอฟระบุ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107152
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุน ว่าตนเองไม่มีรสนิยมเริ่มสงครามและยืนยันอเมริกาภายใต้การนำของเขาจะไม่ง่วนอยู่กับความขัดแย้งติดอาวุธครั้งใหญ่ใหม่ๆ คำประกาศซึ่งเกิดขึ้นระหว่างการประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกาเมื่อวันอังคาร (5 พ.ย.) . ทรัมป์ ประกาศกร้าวว่าการบริหารประเทศสมัยที่ 2 ของเขา จะนำมาซึ่ง "ยุคทองครั้งใหม่ของอเมริกา" . ในขณะที่คำปราศรัยฉลองชัยชนะมุ่งเน้นไปที่นโยบายภายในประเทศเป็นส่วนใหญ่ แต่ ทรัมป์ พูดเช่นกันว่า "อเมริกาจำเป็นต้องมีกองทัพที่เข้มแข็งและทรงพลัง แม้ในทางหลักการแล้ว เราไม่จำเป็นต้องใช้มัน" . พร้อมกันนั้น ทรัมป์ กล่าวอ้างด้วยว่าครั้งดำรงตำแหน่งสมัยแรกระหว่างปี 2017 ถึง 2021 "เราไม่มีสงคราม ในความหมายก็คือ สหรัฐฯ แทบไม่ได้ยุ่งเกี่ยวในความขัดแย้งติดอาวุธครั้งใหญ่ใหม่ใดๆ" . "เป็นเวลา 4 ปี ที่เราไม่มีสงคราม ยกเว้นแต่ที่เรากำราบไอเอส" เขากล่าว อ้างถึงยุทธการทางทหารนานาชาติในตะวันออกกลาง ที่ร่วมกันจัดการกับองค์กรก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) พร้อมคุยโวต่อว่า "พวกเขาบอกว่า ผมจะเริ่มสงคราม ผมไม่ได้เป็นคนเริ่มสงครามหนึ่งใดด้วยซ้ำ และผมกำลังจะเป็นคนหยุดสงครามต่างๆ" . ทรัมป์ เน้นย้ำคำกล่าวอ้างที่ว่าเขาจะหยุดความขัดแย้งระหว่างรัสเซียกับยูเครน ภายใน 24 ชั่วโมง ถ้าได้รับเลือกตั้ง และกระทั่งมีความเป็นไปได้ว่ามันจะเกิดขึ้นก่อนหน้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางทหาร . แม้รัฐบาลของเขาจัดส่งอาวุธไปให้ยูเครน ในช่วงก่อนหน้าสถานการณ์ความขัดแย้งลุกลามบานปลาย แต่ตัวของทรัมป์เองไม่ได้อยู่ในทำเนียบขาวแล้ว ครั้งที่ มอสโก เผยแพร่ข้อเสนอหนึ่งสำหรับคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดในเดือนธันวาคม 2021 . ทรัมป์ ไม่เคยนำเสนอคำกล่าวอ้างเกี่ยวกับแผนยุติความขัดแย้งยูเครนต่อสาธารณะ แต่เคยมีข่าวว่าเขามีความตั้งใจถาโถมแรงกดดันใส่มอสโกและเคียฟ บีบให้ทั้ง 2 ชาติยอมประนีประนอม . อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียบอกว่าจะไม่ยอมทางออกใดๆ ที่เพียงแค่ตรึงสถานภาพปัจจุบัน โดยปราศจากการคลี่คลายต้นตอหลักของความขัดแย้ง . วังเครมลินในวันพุธ (6 พ.ย.) แสดงท่าทีอย่างระมัดระวัง หลัง ทรัมป์ ประกาศชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ บอกว่าอเมริกายังคงเป็นรัฐศัตรู และเวลาจะให้คำตอบว่าวาทกรรมเกี่ยวกับการยุติสงครามยูเครนของทรัมป์นั้น จะกลายเป็นจริงหรือไม่ . ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซียในปี 2022 โหมกระพือการเผชิญหน้าครั้งใหญ่ที่สุดระหว่างมอสโกกับตะวันตก นับตั้งแต่วิกฤตขีปนาวุธคิวบาปี 1962 ครั้งที่สหภาพโซเวียตกับสหรัฐฯ เฉียดเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์ . ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน กล่าวว่าระหว่างการรณรงค์หาเสียง ทรัมป์ มีถ้อยแถลงบางอย่างที่มีความสำคัญเกี่ยวกับความต้องการยุติสงครามยูเครน แต่เวลาเท่านั้นจะเป็นคนบอกว่าคำพูดเหล่านั้นจะนำไปสู่การกระทำหรือไม่ . "จงอย่าลืมว่า เรากำลังพูดถึงประเทศหนึ่งที่ไม่เป็นมิตร ซึ่งเกี่ยวข้องกับในการทำสงครามกับประเทศของเราทั้งโดยตรงและทางอ้อม" เปสคอฟบอกกับพวกผู้สื่อข่าว . นอกจากนี้ เปสคอฟเผยด้วยว่าเขาไม่ทราบว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย มีแผนใดๆ หรือไม่ที่จะแสดงความยินดีกับ ทรัมป์ ต่อชัยชนะในศึกเลือกตั้ง พร้อมเน้นย้ำว่าความสัมพันธ์กับวอชิงตันยังอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ . "เราเน้นย้ำมาตลอดว่าสหรัฐฯ สามารถส่งเสริมให้ยุติความขัดแย้งนี้ มันไม่อาจทำได้ในช่วงข้ามคืน แต่สหรัฐฯ สามารถเปลี่ยนแปลงวิถีนโยบายต่างประเทศของพวกเขา เรื่องนี้จะเกิดขึ้นหรือไม่ อย่างไร เราจะรอดูหลังจากเดือนมกราคม (พิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ)" เปสคอฟระบุ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107152 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1209 มุมมอง 0 รีวิว
  • จีนจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของความเคารพกันและกัน จากคำยืนยันของกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา แต่พวกนักยุทธศสตร์เตือนว่าปักกิ่งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเจ็บปวดจากการถูกมหาอำนาจคู่อริแห่งนี้เล่นงานในประเด็นการค้า เทคโนโลยีและความมั่นคง
    .
    "นโยบายของเราที่มีต่อสหรัฐฯ มีความคงเส้นคงวา ไม่เปลี่ยนแปลง" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในกรุงปักกิ่ง เมื่อถูกถามว่าการหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ จะส่งผลประทบอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
    .
    "เราจะยังคงมองและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สอดคล้องกับหลักการของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือกันแบบที่เป็นฝ่ายชนะทั้งคู่(วิน-วิน)" เธอกล่าว
    .
    อย่างไรก็ตามพวกนักยุทธศาสตร์จีน คาดหมายว่าปักกิ่งอาจต้องเจอกับวาทกรรมที่เผ็ดร้อนมากกว่าเดิมและเป็นไปได้ว่าจะโดนมาตรการรีดภาษีที่หนักหน่วงจากทรัมป์ แม้บางส่วนเชื่อว่านโยบายต่างประเทศของทรัมป์ ที่ค่อนข้างจะโน้มเอียงไปทางลัทธิโดดเดี่ยว (Isolationism) อาจเปิดช่องว่างให้ปักกิ่งแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลกเช่นกัน
    .
    "ปักกิ่งคาดหมายว่าการชิงชัยจะเป็นไปอย่างคู่คี่สูสีในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ และแม้ชัยชนะของทรัมป์ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่จีนชื่นชอบและก่อความกังวลต่างๆนานา แต่มันก็ไม่ได้ผิดคาดไปโดยสิ้นเชิง" ถง จ้าว เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสแห่งมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ( CEIP ) ให้ความเห็น
    .
    "มีความเป็นไปได้ว่าผู้นำจีนจะมุ่งมั่นคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรที่อบอุ่นและจริงใจกับทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็จะพยายามอย่างเข้มข้นในความพยายามฉายภาพพลานุภาพและความเข้มแข็งของจีน" เขากล่าว
    .
    ต้า เหว่ย ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงและยุทธศาตร์ระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง บอกว่า "ชัยชนะของทรัมป์ อาจก่อความท้าทายค่อนข้างใหญ่หลวงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อ้างอิงจากนโยบายต่างๆที่เขาเสนอระหว่างการหาเสียง และการกระทำต่างๆนานาของเขาครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยก่อน"
    .
    "สืบเนื่องจากทรัมป์ เป็นคนคาดเดาได้ยากมากๆ ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับจีน ที่จะบอกได้ว่ามีแผนอย่างเต็มขึ้นสำหรับรับมือเมื่อ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่อำนาจ นอกจากนี้แล้วมันยังขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลของทรัมป์จะนำนโยบายใดบ้างมาใช้" เขากล่าว
    .
    ทรัมป์ เคยเสนอรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเกินกว่า 60% และยุติสถานะของจีน ในด้านชาติที่ได้รับอนุเคราะห์สูงสุดทางการค้า(most-favoured-nation trading status) ขณะที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มของสงครามการค้าที่อาจโหมกระพืออีกรอบ อาจก่อแรงสั่นสะเทือนความเป็นผู้นำของจีน
    .
    จีน ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และขายส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่อเมริกาซื้อจากประเทศอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าอีกหลานแสนล้านดอลลาร์เช่นกัน
    .
    "ปักกิ่งมีความกังวลโดยเฉพาะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการคืนชีพสงครามการค้าภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันนี้จีนกำลังเผชิญความท้าทายหนักหน่วงเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ" จ้าวกล่าว
    .
    "จีนคาดหมายเช่นกันว่า ทรัมป์ จะเร่งรัดแยกตัวห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling) ระหว่างสหรัฐฯและจีน ความเคลื่อนไหวที่อาจคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเสถียรภาพทางสังคมและการเมืองของประเทศ" เขาระบุ
    .
    "ในการตอบโต้ มีความเป็นไปได้ว่าจีนจะยกระดับผลักดันการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจและเทคโนโนโลยีมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็อาจรู้สึกเหมือนถึงกดดันให้ต้องยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆอย่างเช่นรัสเซีย ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม"
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107153
    ..............
    Sondhi X
    จีนจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ บนพื้นฐานของความเคารพกันและกัน จากคำยืนยันของกระทรวงการต่างประเทศแดนมังกร หลัง โดนัลด์ ทรัมป์ คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีอเมริกา แต่พวกนักยุทธศสตร์เตือนว่าปักกิ่งต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความเจ็บปวดจากการถูกมหาอำนาจคู่อริแห่งนี้เล่นงานในประเด็นการค้า เทคโนโลยีและความมั่นคง . "นโยบายของเราที่มีต่อสหรัฐฯ มีความคงเส้นคงวา ไม่เปลี่ยนแปลง" เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างแถลงสรุปประจำวันในกรุงปักกิ่ง เมื่อถูกถามว่าการหวนคืนสู่ทำเนียบขาวของทรัมป์ จะส่งผลประทบอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ . "เราจะยังคงมองและจัดการความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ สอดคล้องกับหลักการของการให้ความเคารพซึ่งกันและกัน อยู่ร่วมกันอย่างสันติ และร่วมมือกันแบบที่เป็นฝ่ายชนะทั้งคู่(วิน-วิน)" เธอกล่าว . อย่างไรก็ตามพวกนักยุทธศาสตร์จีน คาดหมายว่าปักกิ่งอาจต้องเจอกับวาทกรรมที่เผ็ดร้อนมากกว่าเดิมและเป็นไปได้ว่าจะโดนมาตรการรีดภาษีที่หนักหน่วงจากทรัมป์ แม้บางส่วนเชื่อว่านโยบายต่างประเทศของทรัมป์ ที่ค่อนข้างจะโน้มเอียงไปทางลัทธิโดดเดี่ยว (Isolationism) อาจเปิดช่องว่างให้ปักกิ่งแผ่ขยายอิทธิพลไปทั่วโลกเช่นกัน . "ปักกิ่งคาดหมายว่าการชิงชัยจะเป็นไปอย่างคู่คี่สูสีในศึกเลือกตั้งสหรัฐฯ และแม้ชัยชนะของทรัมป์ ไม่ใช่ผลลัพธ์ที่จีนชื่นชอบและก่อความกังวลต่างๆนานา แต่มันก็ไม่ได้ผิดคาดไปโดยสิ้นเชิง" ถง จ้าว เจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสแห่งมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ ( CEIP ) ให้ความเห็น . "มีความเป็นไปได้ว่าผู้นำจีนจะมุ่งมั่นคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ที่แสดงออกถึงความเป็นมิตรที่อบอุ่นและจริงใจกับทรัมป์ แต่ขณะเดียวกันก็จะพยายามอย่างเข้มข้นในความพยายามฉายภาพพลานุภาพและความเข้มแข็งของจีน" เขากล่าว . ต้า เหว่ย ผู้อำนวยการศูนย์ความมั่นคงและยุทธศาตร์ระหว่างประเทศ แห่งมหาวิทยาลัยชิงหวาในกรุงปักกิ่ง บอกว่า "ชัยชนะของทรัมป์ อาจก่อความท้าทายค่อนข้างใหญ่หลวงต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับสหรัฐฯ อ้างอิงจากนโยบายต่างๆที่เขาเสนอระหว่างการหาเสียง และการกระทำต่างๆนานาของเขาครั้งที่ดำรงตำแหน่งสมัยก่อน" . "สืบเนื่องจากทรัมป์ เป็นคนคาดเดาได้ยากมากๆ ผมคิดว่ามันจะเป็นเรื่องยากสำหรับจีน ที่จะบอกได้ว่ามีแผนอย่างเต็มขึ้นสำหรับรับมือเมื่อ ทรัมป์ ก้าวเข้าสู่อำนาจ นอกจากนี้แล้วมันยังขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลของทรัมป์จะนำนโยบายใดบ้างมาใช้" เขากล่าว . ทรัมป์ เคยเสนอรีดภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเกินกว่า 60% และยุติสถานะของจีน ในด้านชาติที่ได้รับอนุเคราะห์สูงสุดทางการค้า(most-favoured-nation trading status) ขณะที่พวกนักวิเคราะห์มองว่าแนวโน้มของสงครามการค้าที่อาจโหมกระพืออีกรอบ อาจก่อแรงสั่นสะเทือนความเป็นผู้นำของจีน . จีน ขายสินค้าให้แก่สหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่ากว่า 400,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี และขายส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์ต่างๆที่อเมริกาซื้อจากประเทศอื่นๆ คิดเป็นมูลค่าอีกหลานแสนล้านดอลลาร์เช่นกัน . "ปักกิ่งมีความกังวลโดยเฉพาะเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของการคืนชีพสงครามการค้าภายใต้การบริหารงานของทรัมป์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปัจจุบันนี้จีนกำลังเผชิญความท้าทายหนักหน่วงเกี่ยวกับปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ" จ้าวกล่าว . "จีนคาดหมายเช่นกันว่า ทรัมป์ จะเร่งรัดแยกตัวห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling) ระหว่างสหรัฐฯและจีน ความเคลื่อนไหวที่อาจคุกคามการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน และส่งผลกระทบทางอ้อมต่อเสถียรภาพทางสังคมและการเมืองของประเทศ" เขาระบุ . "ในการตอบโต้ มีความเป็นไปได้ว่าจีนจะยกระดับผลักดันการพึ่งพาตนเองทางเศรษฐกิจและเทคโนโนโลยีมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็อาจรู้สึกเหมือนถึงกดดันให้ต้องยกระดับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศต่างๆอย่างเช่นรัสเซีย ให้แน่นแฟ้นกว่าเดิม" . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000107153 .............. Sondhi X
    Like
    Love
    Angry
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1252 มุมมอง 1 รีวิว
  • การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด
    .
    ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่
    .
    หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้
    .
    ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้
    .
    นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020
    .
    ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้
    .
    ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้
    .
    แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ
    .
    ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน
    .
    อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้
    .
    ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน
    .
    อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น
    .
    การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร
    .
    ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง
    .
    ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม”
    .
    ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ
    .
    ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา
    .
    ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน
    .
    ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง
    .
    สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น
    .
    ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า
    .
    ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น
    .
    ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ
    .
    รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742
    ..............
    Sondhi X
    การแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระหว่าง โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งพรรครีพับลิกัน กับกมลา แฮร์ริส ของพรรคเดโมแครต เคลื่อนเข้าสู่ระยะพุ่งโถมตัวเข้าสู่เส้นชัยซึ่งยังมีความไม่แน่นอนเป็นอย่างยิ่งในวันอังคาร (5 พ.ย.) ขณะที่ผู้ออกเสียงชาวอเมริกันหลายสิบล้านคนเดินทางไปยังหน่วยเลือกตั้ง เพื่อตัดสินใจเลือก 2 วิสัยทัศน์สำหรับประเทศชาติซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างเด่นชัด . ในเวลาที่หน่วยเลือกตั้งแห่งแรกๆ เริ่มเปิดต้อนรับผู้ออกมาใช้สิทธิ ผลโพลสำรวจและพวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า คู่แข่งขันสำคัญทั้งสองคือ รองประธานาธิบดี กมลา แฮร์ริส วัย 60 ที่เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต และอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ วัย 78 ผู้สมัครของพรรครีพับลิกัน ยังคงอยู่ในสภาพที่มีคะแนนนิยมคู่คี่สูสีจนยากลำบากแก่การตัดสินชี้ขาด ในการต่อสู้ช่วงชิงทำเนียบขาวครั้งที่ถือว่ายากลำบากและพลิกผันไปมามากที่สุดในยุคสมัยใหม่ . หน่วยเลือกตั้งในรัฐทางภาคตะวันออก เป็นต้นว่า เวอร์จิเนีย นอร์ทแคโรไลนา และนิวยอร์ก เปิดให้เข้าไปใช้สิทธิตั้งแต่เวลา 06.00 น. (ตรงกับ 18.00 น.เวลาเมืองไทย) โดยคาดหมายกันว่าตลอดทั้งวันจะผู้ไปใช้สิทธิกันหลายสิบล้านคน เพิ่มเติมจากจำนวนกว่า 82 ล้านคนซึ่งไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันแล้วในช่วงหลายๆ สัปดาห์ก่อนหน้านี้ . ขณะที่ผลลัพธ์สุดท้ายอาจจะยังไม่เป็นที่ทราบกันไปอีกหลายวันทีเดียว ถ้าผลมีความคู่คี่กันมากอย่างที่โพลทั้งหลายบ่งชี้ไว้ ซึ่งก็จะเป็นการเพิ่มความตึงเครียดในประเทศที่มีการแตกแยกแบ่งขั้วกันอย่างล้ำลึกอยู่แล้วแห่งนี้ . นอกจากนั้น ยังมีความหวาดกลัวกันว่าจะเกิดความปั่นป่วนวุ่นวาย และกระทั่งความรุนแรงขึ้นมา ถ้าหาก ทรัมป์ เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ และท้าทายผลเลือกตั้งอย่างที่เขาเคยกระทำในการเลือกตั้งปี 2020 . ในวันจันทร์ (4) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์หาเสียง ทั้ง ทรัมป์ และ แฮร์ริส ต่างทำงานอย่างไม่ยอมเหน็ดยอมเหนื่อยเพื่อปลุกเร้าให้ผู้สนับสนุนของพวกเขาออกมาใช้สิทธิที่คูหาเลือกตั้ง ขณะเดียวกับที่พยายามหาทางเอาชนะใจพวกผู้มีสิทธิออกเสียงที่ยังไม่ได้ตัดสินใจคนท้ายๆ โดยเฉพาะในบรรดารัฐสมรภูมิ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเป็นผู้ชี้ขาดผลการแข่งขันคราวนี้ . ทรัมป์ ให้สัญญาจะนำอเมริกาสู่ “ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น” ส่วนกมลา แฮร์ริส เรียกร้อง “การเริ่มต้นใหม่” หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองซึ่งมุ่งปลุกเร้าความเกลียดชังและความรุนแรงของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . รองประธานาธิบดีหญิงจากพรรคเดโมแครตปิดฉากการหาเสียงที่ร็อคกี้สเต็ปส์ในพิพิธภัณฑ์ศิลปะฟิลาเดลเฟีย ซึ่งเป็นสถานที่ถ่ายทำฉากสำคัญของภาพยนตร์ดัง “ร็อกกี้” ในรัฐเพนซิลเวเนีย 1 ใน 7 รัฐสมรภูมิที่ต้องชนะให้ได้ . แฮร์ริสประกาศว่า การเลือกตั้งครั้งนี้อาจเป็นการแข่งขันที่สูสีที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งทุกคะแนนเสียงมีความสำคัญ และอ้างอิงถึงหนัง “ร็อกกี้” ว่า ขอยกย่องทุกคนที่เริ่มต้นในฐานะมวยรองแต่สามารถฝ่าฝันสู่ชัยชนะสำเร็จ . ที่ผ่านมา แฮร์ริส ย้ำอยู่เสมอว่า ตนเองเป็นมวยรอง โดยเธอได้ตั๋วชิงทำเนียบขาวในฐานะตัวแทนพรรคเดโมแครตแบบกะทันหัน หลังจากเมื่อ 3 เดือนที่แล้วประธานาธิบดีโจ ไบเดน ยอมจำนนต่อการกดดันภายในพรรคและขอถอนตัวจากการแข่งขัน . อย่างไรก็ตาม แฮร์ริสยืนยันว่า เธอจะชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ . ทางด้านทรัมป์พาสมาชิกครอบครัวหลายคนขึ้นเวทีทิ้งทวนการหาเสียงที่เมืองแกรนด์ราปิดส์ รัฐมิชิแกน . อดีตประธานาธิบดีจากพรรครีพับลิกันผู้นี้ก็เรียกร้องให้ผู้สนับสนุนออกไปลงคะแนนในวันอังคาร (5) เพื่อให้ตนเองสามารถแก้ไขปัญหาทั้งหมดที่ประเทศเผชิญอยู่ รวมทั้งพาอเมริกาและโลกสู่ความรุ่งโรจน์ยิ่งขึ้น . การปราศรัยส่งท้ายของทั้งคู่สะท้อนว่า การออกไปใช้สิทธิมีความสำคัญอย่างยิ่งในการต่อสู้ครั้งนี้ โดยทั้งทรัมป์และแฮร์ริสต่างบอกว่า รู้สึกมีกำลังใจจากจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้าซึ่งสูงถึง 82 ล้านคน และตอนนี้ทั้งคู่จำเป็นต้องระดมผู้สนับสนุนออกไปเลือกตั้งในวันอังคาร . ทั้งนี้ ในการหาเสียงช่วงหลายวันสุดท้าย ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันส่งสาส์นถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกันคนละประเด็นโดยสิ้นเชิง . ที่เมืองรีดดิ้ง รัฐเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ย้ำว่า อเมริกากำลังตกต่ำและตึงเครียดจากปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่เขาเรียกว่า “สัตว์” และบรรยายว่า “โหดเหี้ยม” . ด้านแฮร์ริสชูประเด็นต่อต้านการห้ามทำแท้งทั่วอเมริกา และเรียกร้องการเริ่มต้นใหม่ หลังจากอเมริกาถูกครอบงำด้วยวาทกรรมทางการเมืองของทรัมป์มาเกือบทศวรรษ . ถึงแม้มัวหมองจากการถูกตัดสินกระทำผิดคดีอาญา และเรื่องอื้อฉาวที่เหล่าผู้สนับสนุนบุกโจมตีอาคารรัฐสภาเมื่อ 4 ปีก่อนตอนที่เขาไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ในการแข่งขันกับ โจ ไบเดน แต่ต้องถือว่า ทรัมป์ ที่ได้ชื่อว่า เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่อายุมากที่สุด มีข้อได้เปรียบหลายอย่างในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเฉพาะจากการตามจิกเรื่องเศรษฐกิจซึ่งคนอเมริกันกำลังมีความกังวล โดยเฉพาะเกี่วกับอัตราเงินเฟ้อ ตลอดจนการใช้ถ้อยคำรุนแรงโจมตีปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมายที่ได้ใจฐานเสียงปีกขวา . ในทางกลับกัน แฮร์ริสมีเวลาสร้างแคมเปญหาเสียงแค่ 3 เดือน กระนั้นก็ประสบความสำเร็จไม่ใช่น้อยๆ ในการปลุกเร้าพรรคเดโมแครต รวมถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มหนุ่มสาวและผู้หญิงอย่างชัดเจน . ขณะเดียวกัน ทั่วโลกกำลังตั้งตารอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากจะมีนัยสำคัญต่อวิกฤตการณ์ความขัดแย้งในตะวันออกกลางและสงครามในยูเครน รวมถึงการจัดการปัญหาการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่ทรัมป์กล่าวหาว่า เป็นเรื่องโกหกหลอกลวง . สถานการณ์เฉพาะหน้าที่น่ากลัวที่สุดคือประชาธิปไตยของอเมริกากำลังจะถูกทดสอบ หากทรัมป์แพ้แต่ไม่ยอมรับเหมือนเมื่อ 4 ปีที่แล้วที่เหล่ากองเชียร์ของเขาบุกโจมตีอาคารรัฐสภา รวมทั้งการที่ก่อนหน้านี้ทรัมป์ถูกลอบสังหารถึง 2 ครั้ง ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์รุนแรงดูเป็นไปได้มากขึ้น . ที่กรุงวอชิงตันมีการติดตั้งรั้วสูงรอบบริเวณที่พักแฮร์ริสและทำเนียบขาว ขณะที่ห้างร้านหลายแห่งนำแผ่นไม้อัดมาตีปิดกระจกด้านหน้า . ทั้งรัฐออริกอน วอชิงตัน และเนวาดา ต่างเรียกกองทหารรักษาดินแดน (เนชั่นแนล การ์ด) เข้ารักษาการณ์ และกระทรวงกลาโหมเผยว่า อย่างน้อย 17 รัฐสั่งให้สมาชิกกองทหารรักษาดินแดนรวม 600 นายเตรียมพร้อมหากจำเป็น . ด้านสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) จัดตั้งศูนย์บัญชาการการเลือกตั้งแห่งชาติในวอชิงตันเพื่อตรวจติดตามภัยคุกคามตลอดสัปดาห์การเลือกตั้ง นอกจากนั้น ยังมีการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในคูหาเลือกตั้งเกือบ 100,000 แห่งทั่วประเทศ . รันเบ็ก อิเล็กชัน เซอร์วิส ผู้ให้บริการเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัยปฏิบัติการเลือกตั้ง ยืนยันข่าวที่ว่า ได้จัดส่งปุ่มกดฉุกเฉิน 1,000 ชุดสำหรับลูกค้าที่รวมถึงพวกหน่วยเลือกตั้งและเจ้าหน้าที่ประจำหน่วย โดยอุปกรณ์นี้มีขนาดเล็กสามารถห้อยคอหรือเก็บในกระเป๋า ซึ่งจะจับคู่กับมือถือของผู้ใช้ และเชื่อมต่อกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายและหน่วยงานกำกับดูแลอื่นๆ เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000106742 .............. Sondhi X
    Like
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1350 มุมมอง 0 รีวิว
  • โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) เน้นย้ำคำกล่าวอ้างของเขาเกี่ยวกับการโกงคะแนนโหวตในรัฐสมรภูมิต่างๆ ในขณะที่เขาและคู่แข่งอย่าง กมลา แฮร์ริส จากเดโมแครต ใช้ช่วงเวลา 48 ชั่วโมงสุดท้าย ของการรณรงค์หาเสียง ระดมเสียงสนับสนุนในเป้าหมายคว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่คู่คี่สูสีที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์
    .
    คาดหมายว่าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสูสีมากๆ โดยผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่าจนถึง ณ ขณะนี้มีอยู่หลายรัฐที่คะแนนนิยมของทั้งคู่ยังคงใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา
    .
    ขณะเดียวกัน พบว่าจนถึงตอนนี้มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 77.3 ล้านคน ก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันอังคาร (5 พ.ย.) มากกว่าครึ่งของจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในปี 2020
    .
    ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงวันเลือกตั้ง เป็นอีกครั้งที่ ทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และใช้วาทกรรมเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม และสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าแม้ไม่มีหลักฐานสำคัญใดๆ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในสหรัฐฯ แต่ ทรัมป์ อ้างว่าพวกเดโมแครตในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิ กำลังทำงานอย่างหนักในการขโมยผลการเลือกตั้ง
    .
    นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังแสดงความขุ่นเคืองบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายที่มักรายงานในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ข่าวปลอม" เล่นงานเขาเป็นประจำ โดย ทรัมป์ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า จะไม่ว่าอะไรหากมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถูกยิงบ้าง
    .
    ระหว่างการปราศรัยหาเสียงเป็นเวลา 90 นาที ทรัมป์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่เขาเกือบเสียชีวิตในเหตุลอบสังหารเมื่อเดือนกรกฎาคม พร้อมระบุว่าสำหรับเขาแล้ว หากถูกยิงอีกรอบ คราวนี้กระสุนควรจะพุ่งผ่านกลุ่มสื่อมวลชน "สำหรับผม หากมีใครถูกยิงจากการนำเสนอข่าวปลอม ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมไม่แคร์ด้วย" เขาพูดไปหัวเราะไป
    .
    ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แฮร์ริส ได้ไปร่วมพิธีที่โบสถ์แห่งหน่ง ที่มีชาวผิวสีเป็นชนกลุ่มใหญ่ ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน และใช้โอกาสนี้เรียกร้องอเมริกันชน ก้าวข้าม ทรัมป์ "ขอพวกเราจงก้าวไปข้างหน้า และเขียนบทตอนถัดไปในประวัติศาสตร์ของเรา" รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุ "ขณะที่เรารู้ดีว่ามีคนที่กำลังหาทางสร้างความแตกแยกหนักหน่วงขึ้น หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง และก่อความวุ่นวาย ในช่วงเวลาที่ประเทศของเราเต็มไปด้วยการเมืองที่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากมายเหลือเกิน"
    .
    แฮร์ริส เรียกคำกล่าวหาของทรัมป์ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งว่าเป็นความพยายามทำให้ผู้คนรู้สึกว่าคะแนนโหวตของพวกเขานั้นไม่มีความสำคัญ "ระบบต่างๆ ที่ใช้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ในปี 2024 มีความซื่อตรง" เธอกล่าว "และประชาชนจะเป็นคนตัดสินผลการเลือกตั้ง"
    .
    เหมือนกับเพนซิลเวเนีย ในรัฐมิชิแกน อีกรัฐสมรภูมิก็ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทรัมป์ เคยพลิกเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ในป้อมปราการของเดโมแครตแห่งนี้ ในศึกเลือกตั้งปี 2016 แต่ ไบเดน นำพารัฐแห่งนี้กลับมาเป็นป้อมปราการของเดโมแครตอีกรอบในปี 2020 ได้แรงหนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงแรงงานสหภาพและคนผิวสี
    .
    อย่างไรก็ตาม คราวนี้ แฮร์ริส กำลังเสี่ยงสูญเสียแรงสนับสนุนจากชุมชนอเมริกันเชื้อสายอาหรับที่มีอยู่กว่า 200,000 คน ที่ประณามแนวทางของไบเดน ในการจัดการสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในกาซา
    .
    สถานการณ์การเลือกตั้งเวลานี้ มีรายงานระบุว่า ชาวอเมริกัน 75 ล้านคนไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของรีลเคลียร์โพลิติกส์จนถึงค่ำวันเสาร์ระบุว่า ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสไม่มีใครนำใครเกิน 3 จุดในรัฐหนึ่งรัฐใดใน 7 รัฐสมรภูมิที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้ง
    .
    บรรดาผู้สนับสนุนรีพับลิกันให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า พร้อมโยนความสงสัยเกี่ยวกับระบบการเลือกตั้งทิ้งทันที ถ้าทรัมป์ชนะแบบแลนด์สไลด์
    .
    เชิร์ล วัย 39 ปีที่ทำงานในองค์กรไม่หวังผลกำไรแห่งหนึ่งบอกว่า เธอคง “สงสัย” ถ้าผลเลือกตั้งออกมาว่า แฮร์ริสชนะ แต่จะ “มั่นใจมาก” ถ้าผลออกมาว่า ทรัมป์ชนะ
    .
    “เพราะพระเจ้าลิขิตมาแล้วให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี พวกเราแค่รอเท่านั้น”
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000105983
    ..............
    Sondhi X
    โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวแทนพรรครีพับลิกัน ในวันอาทิตย์ (3 พ.ย.) เน้นย้ำคำกล่าวอ้างของเขาเกี่ยวกับการโกงคะแนนโหวตในรัฐสมรภูมิต่างๆ ในขณะที่เขาและคู่แข่งอย่าง กมลา แฮร์ริส จากเดโมแครต ใช้ช่วงเวลา 48 ชั่วโมงสุดท้าย ของการรณรงค์หาเสียง ระดมเสียงสนับสนุนในเป้าหมายคว้าชัยในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งที่คู่คี่สูสีที่สุดหนหนึ่งในประวัติศาสตร์ . คาดหมายว่าศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนี้จะเป็นไปอย่างสูสีมากๆ โดยผลสำรวจความคิดเห็นต่างๆ พบว่าจนถึง ณ ขณะนี้มีอยู่หลายรัฐที่คะแนนนิยมของทั้งคู่ยังคงใกล้เคียงกันอย่างยิ่ง เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของศึกเลือกตั้งครั้งที่ผ่านๆ มา . ขณะเดียวกัน พบว่าจนถึงตอนนี้มีผู้ใช้สิทธิลงคะแนนล่วงหน้าไปแล้วกว่า 77.3 ล้านคน ก่อนถึงวันเลือกตั้งในวันอังคาร (5 พ.ย.) มากกว่าครึ่งของจำนวนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งทั้งหมดในปี 2020 . ในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่กี่ชั่วโมงก่อนถึงวันเลือกตั้ง เป็นอีกครั้งที่ ทรัมป์ บ่งชี้ว่าเขาอาจไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และใช้วาทกรรมเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม และสำนักข่าวเอเอฟพีระบุว่าแม้ไม่มีหลักฐานสำคัญใดๆ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งในสหรัฐฯ แต่ ทรัมป์ อ้างว่าพวกเดโมแครตในรัฐเพนซิลเวเนีย รัฐสมรภูมิ กำลังทำงานอย่างหนักในการขโมยผลการเลือกตั้ง . นอกจากนี้ ทรัมป์ ยังแสดงความขุ่นเคืองบรรดาสื่อมวลชนทั้งหลายที่มักรายงานในสิ่งที่เขาเรียกว่า "ข่าวปลอม" เล่นงานเขาเป็นประจำ โดย ทรัมป์ บอกกับบรรดาผู้สนับสนุนว่า จะไม่ว่าอะไรหากมีผู้สื่อข่าวรายหนึ่งถูกยิงบ้าง . ระหว่างการปราศรัยหาเสียงเป็นเวลา 90 นาที ทรัมป์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ที่เขาเกือบเสียชีวิตในเหตุลอบสังหารเมื่อเดือนกรกฎาคม พร้อมระบุว่าสำหรับเขาแล้ว หากถูกยิงอีกรอบ คราวนี้กระสุนควรจะพุ่งผ่านกลุ่มสื่อมวลชน "สำหรับผม หากมีใครถูกยิงจากการนำเสนอข่าวปลอม ผมไม่ว่าอะไรหรอก ผมไม่แคร์ด้วย" เขาพูดไปหัวเราะไป . ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น แฮร์ริส ได้ไปร่วมพิธีที่โบสถ์แห่งหน่ง ที่มีชาวผิวสีเป็นชนกลุ่มใหญ่ ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน และใช้โอกาสนี้เรียกร้องอเมริกันชน ก้าวข้าม ทรัมป์ "ขอพวกเราจงก้าวไปข้างหน้า และเขียนบทตอนถัดไปในประวัติศาสตร์ของเรา" รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ระบุ "ขณะที่เรารู้ดีว่ามีคนที่กำลังหาทางสร้างความแตกแยกหนักหน่วงขึ้น หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง และก่อความวุ่นวาย ในช่วงเวลาที่ประเทศของเราเต็มไปด้วยการเมืองที่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมากมายเหลือเกิน" . แฮร์ริส เรียกคำกล่าวหาของทรัมป์ เกี่ยวกับการโกงเลือกตั้งว่าเป็นความพยายามทำให้ผู้คนรู้สึกว่าคะแนนโหวตของพวกเขานั้นไม่มีความสำคัญ "ระบบต่างๆ ที่ใช้ในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ในปี 2024 มีความซื่อตรง" เธอกล่าว "และประชาชนจะเป็นคนตัดสินผลการเลือกตั้ง" . เหมือนกับเพนซิลเวเนีย ในรัฐมิชิแกน อีกรัฐสมรภูมิก็ถูกจับตาอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ทรัมป์ เคยพลิกเอาชนะ ฮิลลารี คลินตัน ในป้อมปราการของเดโมแครตแห่งนี้ ในศึกเลือกตั้งปี 2016 แต่ ไบเดน นำพารัฐแห่งนี้กลับมาเป็นป้อมปราการของเดโมแครตอีกรอบในปี 2020 ได้แรงหนุนจากผู้มีสิทธิออกเสียงแรงงานสหภาพและคนผิวสี . อย่างไรก็ตาม คราวนี้ แฮร์ริส กำลังเสี่ยงสูญเสียแรงสนับสนุนจากชุมชนอเมริกันเชื้อสายอาหรับที่มีอยู่กว่า 200,000 คน ที่ประณามแนวทางของไบเดน ในการจัดการสงครามอิสราเอล-ฮามาส ในกาซา . สถานการณ์การเลือกตั้งเวลานี้ มีรายงานระบุว่า ชาวอเมริกัน 75 ล้านคนไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้าแล้ว ขณะที่ผลสำรวจความคิดเห็นของรีลเคลียร์โพลิติกส์จนถึงค่ำวันเสาร์ระบุว่า ทั้งทรัมป์และแฮร์ริสไม่มีใครนำใครเกิน 3 จุดในรัฐหนึ่งรัฐใดใน 7 รัฐสมรภูมิที่จะเป็นตัวชี้ขาดผลการเลือกตั้ง . บรรดาผู้สนับสนุนรีพับลิกันให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพีว่า พร้อมโยนความสงสัยเกี่ยวกับระบบการเลือกตั้งทิ้งทันที ถ้าทรัมป์ชนะแบบแลนด์สไลด์ . เชิร์ล วัย 39 ปีที่ทำงานในองค์กรไม่หวังผลกำไรแห่งหนึ่งบอกว่า เธอคง “สงสัย” ถ้าผลเลือกตั้งออกมาว่า แฮร์ริสชนะ แต่จะ “มั่นใจมาก” ถ้าผลออกมาว่า ทรัมป์ชนะ . “เพราะพระเจ้าลิขิตมาแล้วให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี พวกเราแค่รอเท่านั้น” . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000105983 .............. Sondhi X
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 907 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣️ วาทกรรมเก่ายังไม่หาย ก็สร้างวาทกรรมใหม่มาอีก เสแสร้งถวายบังคมเพื่อจะมาล้มล้าง
    #7ดอกจิก
    ♣️ วาทกรรมเก่ายังไม่หาย ก็สร้างวาทกรรมใหม่มาอีก เสแสร้งถวายบังคมเพื่อจะมาล้มล้าง #7ดอกจิก
    Angry
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ว่าแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังมีอาสาสมัครบางส่วนเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กมลา แฮร์ริส
    .
    แคมป์หาเสียงของผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางในวอชิงตัน เรียกร้องให้ทำการสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างผิดกฎหมายจากพรรคเลเบอร์ที่มอบแก่ทีมหาเสียงของแฮร์ริส
    .
    รอยเตอร์อ้างว่าเป็นเวลานานแล้วที่บรรดาอาสาสมัครทางการเมืองสหราชอาณาจักร จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคเลเบอร์ พรรคซ้ายกลาง ปกติแล้วมักให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต ส่วนพรรคคอนเซอร์เวทีฟ จะให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกัน
    .
    พวกเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ ยอมรับว่าที่ปรึกษาระดับสูงบางส่วนของพรรคเลเบอร์ เดินทางไปพบกับเหล่านักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคม
    .
    นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับทรัมป์ หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้คว้าชัยชนะอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างว่าบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเลเบอร์สมัครใจช่วยแฮร์ริส หาเสียงนอกเวลางาน
    .
    "พวกเขาทำมันในเวลาว่าง พวกเขาทำมันโดยสมัครใจ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่นั่น พร้อมกับอาสมัครคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก"
    .
    เกรก สเวนสัน ประธาน Republicans Overseas UK องค์กรการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกาที่โหวตเลือกรีพับลิกัน ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร บอกว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับสตาร์เมอร์
    .
    "ทรัมป์มักทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้เป็นประเด็นพิพาทส่วนตัวส่งผลกระทบกับเขา" สเวนสันกล่าวกับรอยเตอร์ "แต่ผมคิดว่าทรัมป์จะมองข้ามเรื่องนี้ เรื่องนี้อาจก่อรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ หรืออาจจะไม่ก่อบาดแผลใดๆ เลยก็ได้"
    .
    อ้างอิงกฎระเบียบในสหรัฐฯ ชาวต่างชาติสามารถสมัครใจเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง แต่ไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงิน
    .
    คำร้องเรียนจากทีมหาเสียงของทรัมปื อ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนและข้อความหนึ่งบน LinkedIn ที่โพสต์โดย โซเฟีย พาเทล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของพรรคเลเบอร์สหราชอาณาจักร ที่เขียนว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคเลเบอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบ 100 คน ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง
    .
    ในคำร้องเรียนเขียนว่า "ข้าพเจ้าในนามของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในทันทีต่อการแทรกแซงโดยต่างชาติอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือตั้งประธานาธิบดี 2024 ในรูปแบบที่เหมือนเป็นการสนับสนุนอย่างผิดกฎหมายโดยต่างประเทศ"
    .
    "การค้นหาว่ามีต่างชาติแทรกแซงศึกเลือกตั้งของเราหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมองไม่ไกลนอกเหนือจากโพสต์บน LinkedIn เลย มองด้วยสายตาเปล่าก็รู้ว่าการแทรกแซงกำลังเกิดขึ้น"
    .
    ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า "สหราชอาณาจักรกำลังมา" ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายซ้าย" เป็นแรงบันดาลใจในนโยบายเสรีนิยมและวาทกรรมที่เป็นอันตรายของกมลา แฮร์ริส
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102310
    ..............
    Sondhi X
    ทีมหาเสียงของโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวหาพรรคเลเบอร์ของนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร ว่าแทรกแซงอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลังมีอาสาสมัครบางส่วนเดินทางมาช่วยหาเสียงให้กมลา แฮร์ริส . แคมป์หาเสียงของผู้สมัครจากรีพับลิกัน ยื่นคำร้องไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางในวอชิงตัน เรียกร้องให้ทำการสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาให้คำจำกัดความว่าเป็นความช่วยเหลืออย่างผิดกฎหมายจากพรรคเลเบอร์ที่มอบแก่ทีมหาเสียงของแฮร์ริส . รอยเตอร์อ้างว่าเป็นเวลานานแล้วที่บรรดาอาสาสมัครทางการเมืองสหราชอาณาจักร จะเดินทางมายังสหรัฐฯ ก่อนหน้าศึกเลือกตั้ง โดยที่พวกนักเคลื่อนไหวจากพรรคเลเบอร์ พรรคซ้ายกลาง ปกติแล้วมักให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต ส่วนพรรคคอนเซอร์เวทีฟ จะให้การสนับสนุนพรรครีพับลิกัน . พวกเจ้าหน้าที่สหราชอาณาจักร ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม บอกกับรอยเตอร์ ยอมรับว่าที่ปรึกษาระดับสูงบางส่วนของพรรคเลเบอร์ เดินทางไปพบกับเหล่านักยุทธศาสตร์ของเดโมแครตในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา หลังจากพวกเขาได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในศึกเลือกตั้งสหราชอาณาจักรเมื่อเดือนกรกฎาคม . นายกรัฐมนตรีสตาร์เมอร์ ปฏิเสธข้อสันนิษฐานที่ว่าเสียงคร่ำครวญเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับทรัมป์ หากว่าอดีตประธานาธิบดีรายนี้คว้าชัยชนะอีกครั้งในวันที่ 5 พฤศจิกายน โดยอ้างว่าบรรดาผู้สนับสนุนพรรคเลเบอร์สมัครใจช่วยแฮร์ริส หาเสียงนอกเวลางาน . "พวกเขาทำมันในเวลาว่าง พวกเขาทำมันโดยสมัครใจ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยู่ที่นั่น พร้อมกับอาสมัครคนอื่นๆ มันเป็นเรื่องที่ตรงไปตรงมาอย่างมาก" . เกรก สเวนสัน ประธาน Republicans Overseas UK องค์กรการเมืองที่เกี่ยวข้องกับชาวอเมริกาที่โหวตเลือกรีพับลิกัน ที่พำนักอยู่ในสหราชอาณาจักร บอกว่า ทรัมป์ เป็นคนที่ยากจะคาดเดา แต่ถ้าเขาชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีในเดือนหน้า เหตุการณ์นี้ไม่น่าจะก่อความเสียหายในความสัมพันธ์กับสตาร์เมอร์ . "ทรัมป์มักทำเรื่องต่างๆ ให้เป็นเรื่องส่วนตัว และปล่อยให้เป็นประเด็นพิพาทส่วนตัวส่งผลกระทบกับเขา" สเวนสันกล่าวกับรอยเตอร์ "แต่ผมคิดว่าทรัมป์จะมองข้ามเรื่องนี้ เรื่องนี้อาจก่อรอยแผลเป็นเล็กๆ น้อยๆ หรืออาจจะไม่ก่อบาดแผลใดๆ เลยก็ได้" . อ้างอิงกฎระเบียบในสหรัฐฯ ชาวต่างชาติสามารถสมัครใจเข้าร่วมรณรงค์หาเสียง แต่ไม่มีสิทธิให้การสนับสนุนทางการเงิน . คำร้องเรียนจากทีมหาเสียงของทรัมปื อ้างรายงานข่าวของสื่อมวลชนและข้อความหนึ่งบน LinkedIn ที่โพสต์โดย โซเฟีย พาเทล หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของพรรคเลเบอร์สหราชอาณาจักร ที่เขียนว่ามีเจ้าหน้าที่พรรคเลเบอร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบ 100 คน ที่จะเดินทางไปยังสหรัฐฯ ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อช่วยให้ แฮร์ริส รองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตได้รับเลือกตั้ง . ในคำร้องเรียนเขียนว่า "ข้าพเจ้าในนามของโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2024 ร้องขอให้ดำเนินการสืบสวนในทันทีต่อการแทรกแซงโดยต่างชาติอย่างโจ่งแจ้งในศึกเลือตั้งประธานาธิบดี 2024 ในรูปแบบที่เหมือนเป็นการสนับสนุนอย่างผิดกฎหมายโดยต่างประเทศ" . "การค้นหาว่ามีต่างชาติแทรกแซงศึกเลือกตั้งของเราหรือไม่ ไม่จำเป็นต้องมองไม่ไกลนอกเหนือจากโพสต์บน LinkedIn เลย มองด้วยสายตาเปล่าก็รู้ว่าการแทรกแซงกำลังเกิดขึ้น" . ในข่าวประชาสัมพันธ์ที่ใช้ชื่อว่า "สหราชอาณาจักรกำลังมา" ทีมหาเสียงของทรัมป์ยังกล่าวด้วยว่า "พรรคเลเบอร์ พรรคฝ่ายซ้าย" เป็นแรงบันดาลใจในนโยบายเสรีนิยมและวาทกรรมที่เป็นอันตรายของกมลา แฮร์ริส . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9670000102310 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    9
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1820 มุมมอง 0 รีวิว
  • Challenger 2 ป้อมบิน

    นี่คือภาพป้อมปืนของรถถัง Challenger 2 ที่อังกฤษส่งให้ยูเครน แล้วถูกทำลายในแคว้น Kursk ความจริงรถถังคันนี้ถูกทำลายตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม แต่สื่อรัสเซียเพิ่งเข้าไปทำข่าว เลยเพิ่งมีภาพซากรถถังคันนี้แบบชัดๆ ออกมาครับ

    จากภาพนี้ก็แสดงให้เห็นว่าที่มีคนปั่นกันว่ามีแต่รถถังรัสเซียหรือรถถังที่ใช้ autoloader เท่านั้นที่ป้อมบินจึงไม่เป็นความจริงนะครับ การที่ป้อมของรถถังจะบินนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย กรณีของรถถังรัสเซียคือกระสุนใน autoloader ใต้ป้อมปืนเกิดการระเบิด ในส่วนของรถถัง Challenger 2 ของอังกฤษ ก็มีการเก็บกระสุนจำนวนหนึ่งไว้ในตัวรถ ถ้ากระสุนส่วนนี้ระเบิดก็มีโอกาสที่ป้อมปืนจะบินได้เช่นกัน ดังนั้นเวลาเห็นใครปั่นวาทกรรมอะไรในโซเชียลก็ไม่ต้องอินไปกับเขามาก

    สวัสดี

    การทูตและการทหาร
    Military and Diplomacy

    16.10.2024
    Challenger 2 ป้อมบิน นี่คือภาพป้อมปืนของรถถัง Challenger 2 ที่อังกฤษส่งให้ยูเครน แล้วถูกทำลายในแคว้น Kursk ความจริงรถถังคันนี้ถูกทำลายตั้งแต่ช่วงประมาณเดือนสิงหาคม แต่สื่อรัสเซียเพิ่งเข้าไปทำข่าว เลยเพิ่งมีภาพซากรถถังคันนี้แบบชัดๆ ออกมาครับ จากภาพนี้ก็แสดงให้เห็นว่าที่มีคนปั่นกันว่ามีแต่รถถังรัสเซียหรือรถถังที่ใช้ autoloader เท่านั้นที่ป้อมบินจึงไม่เป็นความจริงนะครับ การที่ป้อมของรถถังจะบินนั้นขึ้นกับหลายปัจจัย กรณีของรถถังรัสเซียคือกระสุนใน autoloader ใต้ป้อมปืนเกิดการระเบิด ในส่วนของรถถัง Challenger 2 ของอังกฤษ ก็มีการเก็บกระสุนจำนวนหนึ่งไว้ในตัวรถ ถ้ากระสุนส่วนนี้ระเบิดก็มีโอกาสที่ป้อมปืนจะบินได้เช่นกัน ดังนั้นเวลาเห็นใครปั่นวาทกรรมอะไรในโซเชียลก็ไม่ต้องอินไปกับเขามาก สวัสดี การทูตและการทหาร Military and Diplomacy 16.10.2024
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เดือดดาลสุดขีด ตอบโต้กลับ เอ็มมานูเอล มาครง หลังไม่พอใจคำพูดของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่เตือนความทรงจำว่าการก่อตั้งประเทศอิสราเอล เป็นผลลัพธ์จากมติของสหประชาชาติ และเรียกร้องรัฐยิวปฏิบัติตามการตัดสินใจต่างๆ ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ศึกวาทกรรมรอบใหม่ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุกระทบกระทั่ง ทหารอิสราเอลยิงใส่กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเลบานอน
    .
    มีรายงานข่าวว่า มาครง พูดกับคณะรัฐมนตรีฝรั่งเศส ระหว่างการประชุมหนึ่งเมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า "เนทันยาฮูต้องไม่ลืมว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยการตัดสินใจของสหประชาชาติ" อ้างถึงมติหนึ่งที่รับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 1947 ให้แบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐของชาวยิวและชาวอาหรับแยกกัน
    .
    เอเอฟพีรายงานอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมประชุมรายหรึ่ง อ้างว่า มาครง ยังพูดด้วยว่า "นี่ไม่ใช่เวลาตัดขาดตัวเองจากการตัดสินใจต่างๆ ของยูเอ็น" ดูเหมือนเป็นการพาดพิงถึงกรณีที่อิสราเอลยกพลบุกเลบานอน เพื่อเล่นงานพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ แม้มีเสียงเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสหประชาชาติที่ขอให้หยุดความเป็นปรปักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้รับบาดเจ็บในพื้นที่
    .
    เนทันยาฮู ตอบโต้กลับความเห็นของมาครง ยืนยันว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยเลือดของทหารอิสราเอลในสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 1948 ความขัดแย้งที่ปะทะขึ้นหลังจากปาเลสไตน์ปฏิเสธมติของสหประชาชาติ และโจมตีรัฐยิว ซึ่งเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะหลังการสู้รบลากยาวประมาณ 1 ปี
    .
    "ขอเตือนความทรงจำประธานาธิบดีฝรั่งเศสหน่อย มันไม่ใช่มติของสหประชาชาติที่ก่อตั้งประเทศอิสราเอล แต่มันคือการบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะในสงครามเอกราช ที่นองไปด้วยเลือดนักรบวีรชน หลายคนในนั้นคือผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดีย
    .
    ถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เนทันยาฮู และ มาครง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ในเวลาต่อมา โดยที่ทางนายกรัฐมนตรีอิสราเอลบอกกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ว่าเขาจะไม่เห็นพ้องใดๆ กับ "ข้อตกลงหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียว" ในเลบานอน
    .
    มาครงและเนทันยาฮู เปิดศึกวาทกรรมมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ครั้งที่ผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องให้ตะวันตกระงับส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอล โดยชี้ว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะบีบให้รัฐยิวหยุดความขัดแย้งในกาซาและเลบานอน นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาอิสราเอล จงใจทำให้กองกำลังสันติภาพของสหประชาชาติ ที่มีกำลังมากกว่า 10,000 นายทางใต้ของเลบานอน ตกอยู่ในความเสี่ยง ในนั้นราว 700 นาย เป็นทหารฝรั่งเศส
    .
    เนทันยาฮู ประณามคำชี้แนะของมาครง เกี่ยวกับมาตรการปิดล้อมทางอาวุธ ว่า "น่าอดสู" และประกาศว่าอิสราเอลจะคว้าชัยไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกหรือไม่ก็ตาม ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ผู้นำอิสราเอลเรียกร้องสหประชาชาติ อพยพกองกำลังรักษาสันติภาพออกจากเลบานอน อ้างว่าพวกฮิซบอลเลาะห์กำลังใช้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์ อย่างไรก็ตามทาง ฌอง-ปิแอร์ ลาครัวซ์ หัวหน้ากองกำลังรักษาสันติภาพ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (14 ต.ค.) ว่ากองกำลังรักษาสันติภาพจะปักหลักอยู่ตามที่มั่นต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง
    .
    ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเพิ่งก่อความขุ่นเคืองแก่ประชาคมนานาชาติ ด้วยการประกาศให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ หลังจากผู้นำยูเอ็นประณามความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง และเรียกร้องหยุดยิง แต่เบื้องต้นไม่ประณามอิหร่าน ตามหลังเตหะรานยิงห่าขีปนาวุธโจมตีแก้รัฐยิว
    .
    อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวก่อความเคลื่อนไหวของบรรดารัฐสมาชิกของสหประชาชาติมากกว่า 100 ประเทศ ที่ร่วมลงนามในหนังสือแสดงจุดยืนสนับสนุน กูเตอร์เรส ก่อนต่อมา กูเตอร์เรส ได้กล่าวปราศรัยกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประณามการโจมตีของอิหร่านที่เล่นงานอิสราเอล
    .
    อ่านเพิ่มเติม..
    ..............
    Sondhi X
    เบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เดือดดาลสุดขีด ตอบโต้กลับ เอ็มมานูเอล มาครง หลังไม่พอใจคำพูดของประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่เตือนความทรงจำว่าการก่อตั้งประเทศอิสราเอล เป็นผลลัพธ์จากมติของสหประชาชาติ และเรียกร้องรัฐยิวปฏิบัติตามการตัดสินใจต่างๆ ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ศึกวาทกรรมรอบใหม่ที่เกิดขึ้นท่ามกลางเหตุกระทบกระทั่ง ทหารอิสราเอลยิงใส่กองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเลบานอน . มีรายงานข่าวว่า มาครง พูดกับคณะรัฐมนตรีฝรั่งเศส ระหว่างการประชุมหนึ่งเมื่อวันอังคาร (15 ต.ค.) ว่า "เนทันยาฮูต้องไม่ลืมว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยการตัดสินใจของสหประชาชาติ" อ้างถึงมติหนึ่งที่รับรองโดยที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ 1947 ให้แบ่งปาเลสไตน์ออกเป็นรัฐของชาวยิวและชาวอาหรับแยกกัน . เอเอฟพีรายงานอ้างอิงคำบอกเล่าของผู้เข้าร่วมประชุมรายหรึ่ง อ้างว่า มาครง ยังพูดด้วยว่า "นี่ไม่ใช่เวลาตัดขาดตัวเองจากการตัดสินใจต่างๆ ของยูเอ็น" ดูเหมือนเป็นการพาดพิงถึงกรณีที่อิสราเอลยกพลบุกเลบานอน เพื่อเล่นงานพวกนักรบฮิซบอลเลาะห์ แม้มีเสียงเรียกร้องซ้ำแล้วซ้ำเล่าต่อสหประชาชาติที่ขอให้หยุดความเป็นปรปักษ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากมีกองกำลังรักษาสันติภาพของสหประชาชาติได้รับบาดเจ็บในพื้นที่ . เนทันยาฮู ตอบโต้กลับความเห็นของมาครง ยืนยันว่าประเทศของเขาก่อตั้งโดยเลือดของทหารอิสราเอลในสงครามอาหรับ-อิสราเอล ปี 1948 ความขัดแย้งที่ปะทะขึ้นหลังจากปาเลสไตน์ปฏิเสธมติของสหประชาชาติ และโจมตีรัฐยิว ซึ่งเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะหลังการสู้รบลากยาวประมาณ 1 ปี . "ขอเตือนความทรงจำประธานาธิบดีฝรั่งเศสหน่อย มันไม่ใช่มติของสหประชาชาติที่ก่อตั้งประเทศอิสราเอล แต่มันคือการบรรลุเป้าหมายแห่งชัยชนะในสงครามเอกราช ที่นองไปด้วยเลือดนักรบวีรชน หลายคนในนั้นคือผู้รอดชีวิตจากการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว" เนทันยาฮูระบุในถ้อยแถลง ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทม์ออฟอินเดีย . ถ้อยแถลงของทำเนียบประธานาธิบดีฝรั่งเศส เปิดเผยว่า เนทันยาฮู และ มาครง ได้พูดคุยทางโทรศัพท์ในเวลาต่อมา โดยที่ทางนายกรัฐมนตรีอิสราเอลบอกกับประธานาธิบดีฝรั่งเศส ว่าเขาจะไม่เห็นพ้องใดๆ กับ "ข้อตกลงหยุดยิงแต่เพียงฝ่ายเดียว" ในเลบานอน . มาครงและเนทันยาฮู เปิดศึกวาทกรรมมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ครั้งที่ผู้นำฝรั่งเศสเรียกร้องให้ตะวันตกระงับส่งออกอาวุธไปยังอิสราเอล โดยชี้ว่ามันเป็นหนทางเดียวที่จะบีบให้รัฐยิวหยุดความขัดแย้งในกาซาและเลบานอน นอกจากนี้ เขายังกล่าวหาอิสราเอล จงใจทำให้กองกำลังสันติภาพของสหประชาชาติ ที่มีกำลังมากกว่า 10,000 นายทางใต้ของเลบานอน ตกอยู่ในความเสี่ยง ในนั้นราว 700 นาย เป็นทหารฝรั่งเศส . เนทันยาฮู ประณามคำชี้แนะของมาครง เกี่ยวกับมาตรการปิดล้อมทางอาวุธ ว่า "น่าอดสู" และประกาศว่าอิสราเอลจะคว้าชัยไม่ว่าจะได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกหรือไม่ก็ตาม ในวันอาทิตย์ (13 ต.ค.) ผู้นำอิสราเอลเรียกร้องสหประชาชาติ อพยพกองกำลังรักษาสันติภาพออกจากเลบานอน อ้างว่าพวกฮิซบอลเลาะห์กำลังใช้พวกเขาเป็นโล่มนุษย์ อย่างไรก็ตามทาง ฌอง-ปิแอร์ ลาครัวซ์ หัวหน้ากองกำลังรักษาสันติภาพ บอกกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (14 ต.ค.) ว่ากองกำลังรักษาสันติภาพจะปักหลักอยู่ตามที่มั่นต่างๆ ไม่เปลี่ยนแปลง . ก่อนหน้านี้ อิสราเอลเพิ่งก่อความขุ่นเคืองแก่ประชาคมนานาชาติ ด้วยการประกาศให้ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการใหญ่แห่งสหประชาชาติ เป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ หลังจากผู้นำยูเอ็นประณามความขัดแย้งที่ขยายวงกว้างในตะวันออกกลาง และเรียกร้องหยุดยิง แต่เบื้องต้นไม่ประณามอิหร่าน ตามหลังเตหะรานยิงห่าขีปนาวุธโจมตีแก้รัฐยิว . อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าวก่อความเคลื่อนไหวของบรรดารัฐสมาชิกของสหประชาชาติมากกว่า 100 ประเทศ ที่ร่วมลงนามในหนังสือแสดงจุดยืนสนับสนุน กูเตอร์เรส ก่อนต่อมา กูเตอร์เรส ได้กล่าวปราศรัยกับคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ประณามการโจมตีของอิหร่านที่เล่นงานอิสราเอล . อ่านเพิ่มเติม.. .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    6
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 752 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิดยังไงกับวาทกรรมของอาเฮียแก?!?🤔
    คิดยังไงกับวาทกรรมของอาเฮียแก?!?🤔
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 10 มุมมอง 0 รีวิว
  • “สมคิด” ยันรัฐบาลไม่กังวล “สนธิ” เตรียมปลุกม็อบไล่ ชี้เป็นเรื่องปกติ พร้อมพูดคุยด้วยเหตุและผล ยินดีให้ประสานเข้ามา บอก “จตุพร” พูดไปเรื่อย ขายชาติตรงไหน เรื่องเช่าที่ดิน 99 ปี ยังเป็นแค่แนวคิด ซัดสร้างแต่วาทกรรมทำลายประเทศ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094799

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “สมคิด” ยันรัฐบาลไม่กังวล “สนธิ” เตรียมปลุกม็อบไล่ ชี้เป็นเรื่องปกติ พร้อมพูดคุยด้วยเหตุและผล ยินดีให้ประสานเข้ามา บอก “จตุพร” พูดไปเรื่อย ขายชาติตรงไหน เรื่องเช่าที่ดิน 99 ปี ยังเป็นแค่แนวคิด ซัดสร้างแต่วาทกรรมทำลายประเทศ อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9670000094799 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Love
    26
    8 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 3530 มุมมอง 0 รีวิว
  • คิงส์โพธิ์แดง SPECIAL EP.2 ศาสดาธนาทวย หลวงประดิษฐ์วาทกรรมและวลีสร้างภาพ
    #คิงส์โพธิ์แดง
    #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง
    #คิงส์โพธิ์แดงSPECIAL
    คิงส์โพธิ์แดง SPECIAL EP.2 ศาสดาธนาทวย หลวงประดิษฐ์วาทกรรมและวลีสร้างภาพ #คิงส์โพธิ์แดง #คิงส์โพธิ์แดงสำรอง #คิงส์โพธิ์แดงSPECIAL
    Like
    Yay
    Love
    28
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 1085 มุมมอง 844 0 รีวิว
  • ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง/วัน
    แต่ละคนเลือกทำ "กรรม" แตกต่างกัน
    ย่อมส่งผลให้ได้รับ "วิบาก" ที่แตกต่างกันด้วย

    "ความเสมอภาค" คือ วาทกรรมที่ใช้หลอกลวงคนเขลา !
    ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง/วัน แต่ละคนเลือกทำ "กรรม" แตกต่างกัน ย่อมส่งผลให้ได้รับ "วิบาก" ที่แตกต่างกันด้วย "ความเสมอภาค" คือ วาทกรรมที่ใช้หลอกลวงคนเขลา !
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 43 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง/วัน
    แต่ละคนเลือกทำ "กรรม" แตกต่างกัน
    ย่อมส่งผลให้ได้รับ "วิบาก" ที่แตกต่างกันด้วย

    "ความเสมอภาค" คือ วาทกรรมที่ใช้หลอกลวงคนเขลา !
    ทุกคนมีเวลาเท่ากัน 24 ชั่วโมง/วัน แต่ละคนเลือกทำ "กรรม" แตกต่างกัน ย่อมส่งผลให้ได้รับ "วิบาก" ที่แตกต่างกันด้วย "ความเสมอภาค" คือ วาทกรรมที่ใช้หลอกลวงคนเขลา !
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 36 มุมมอง 0 รีวิว
  • กลุ่มมุสลิมในสหรัฐฯ บอกกับไบเดนว่า “ให้ปฏิบัติต่อชาวปาเลสเหมือนเป็นมนุษย์”
    สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม (CAIR) เรียกร้องให้ไบเดนประณามการดับชีพชายชาวปาเลสวัย 58 ปีจากเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งร่างไร้วิญญาณของเขาถูกส่งกลับพร้อมร่องรอยการทรมานที่ชัดเจน หลังจากอยู่ในความควบคุมตัวของเอลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง
    นายนิฮาด อาวาด ผู้อำนวยการบริหารระดับชาติของ CAIR กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ประธานาธิบดีไบเดนประณามการดับชีพตัวประกันชาวเอลอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน และควรประณามการทรมานและดับชีพชายชาวปาเลสวัย 58 ปีจากเขตเวสต์แบงก์ และการดับชีพหมู่พลเรือนปาเลสหลายหมื่นคน ในกาซาเช่นเดียวกัน "
    “ชีวิตมนุษย์ที่บริสุทธิ์ทุกชีวิตมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นชาวปาเลส ชาวเอล หรือชาวอเมริกัน แต่นโยบายและวาทกรรมของรัฐบาลของเรากลับบอกเป็นอย่างอื่น ในที่สุด ประธานาธิบดีไบเดนจะต้องเริ่มปฏิบัติต่อชาวปาเลสในฐานะมนุษย์ที่สมควรได้รับสิทธิเช่นเดียวกับคนอื่นๆ”
    นอกจากนี้ อาวาดยังยินดีต้อนรับคำพูดของไบเดนที่ว่า เนทันยาฮูไม่ได้ทำอะไรมากพอในการปล่อยตัวนักโทษชาวเอลในกาซา แต่กล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องปฏิบัติให้สมกับคำพูดของเขา
    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #สิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    กลุ่มมุสลิมในสหรัฐฯ บอกกับไบเดนว่า “ให้ปฏิบัติต่อชาวปาเลสเหมือนเป็นมนุษย์” สภาความสัมพันธ์อเมริกัน-อิสลาม (CAIR) เรียกร้องให้ไบเดนประณามการดับชีพชายชาวปาเลสวัย 58 ปีจากเขตเวสต์แบงก์ที่ถูกยึดครอง ซึ่งร่างไร้วิญญาณของเขาถูกส่งกลับพร้อมร่องรอยการทรมานที่ชัดเจน หลังจากอยู่ในความควบคุมตัวของเอลเป็นเวลา 2 ชั่วโมง นายนิฮาด อาวาด ผู้อำนวยการบริหารระดับชาติของ CAIR กล่าวในแถลงการณ์ว่า "ประธานาธิบดีไบเดนประณามการดับชีพตัวประกันชาวเอลอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน และควรประณามการทรมานและดับชีพชายชาวปาเลสวัย 58 ปีจากเขตเวสต์แบงก์ และการดับชีพหมู่พลเรือนปาเลสหลายหมื่นคน ในกาซาเช่นเดียวกัน " “ชีวิตมนุษย์ที่บริสุทธิ์ทุกชีวิตมีความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นชาวปาเลส ชาวเอล หรือชาวอเมริกัน แต่นโยบายและวาทกรรมของรัฐบาลของเรากลับบอกเป็นอย่างอื่น ในที่สุด ประธานาธิบดีไบเดนจะต้องเริ่มปฏิบัติต่อชาวปาเลสในฐานะมนุษย์ที่สมควรได้รับสิทธิเช่นเดียวกับคนอื่นๆ” นอกจากนี้ อาวาดยังยินดีต้อนรับคำพูดของไบเดนที่ว่า เนทันยาฮูไม่ได้ทำอะไรมากพอในการปล่อยตัวนักโทษชาวเอลในกาซา แต่กล่าวว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะต้องปฏิบัติให้สมกับคำพูดของเขา . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #สิ่งที่เกิดขึ้นจริงบนโลกใบนี้ #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    Love
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 452 มุมมอง 0 รีวิว
  • วาทกรรมคนเท่ากัน แต่อำนาจนั้นเป็นของข้า แทรกซึมแทรกแซงทุกเวทีการเลือกตั้งเพื่อให้มีอำนาจ
    #7ดอกจิก
    #เลือกตั้ง
    #วาทกรรม
    วาทกรรมคนเท่ากัน แต่อำนาจนั้นเป็นของข้า แทรกซึมแทรกแซงทุกเวทีการเลือกตั้งเพื่อให้มีอำนาจ #7ดอกจิก #เลือกตั้ง #วาทกรรม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝ่ายค้านห่านอะไรเปลี่ยน "การอภิปราย" ให้เป็น"วาทกรรม Expo" โม้โอ้อวดถ้อยคำ หลักฐานปากเปล่า
    ประชาชนเหม็นขี้ฟันมรึงชิไห #คิงส์โพธิ์แดง
    ฝ่ายค้านห่านอะไรเปลี่ยน "การอภิปราย" ให้เป็น"วาทกรรม Expo" โม้โอ้อวดถ้อยคำ หลักฐานปากเปล่า ประชาชนเหม็นขี้ฟันมรึงชิไห #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • เอลยิV โฆษณาใส่ชาวโลก
    อ้างตัวเองทำถูกต้องแล้ว
    เอลได้ทำการโฆษณาในสื่อแพลทฟอร์มโซเชียลเจ้าหนึ่ง โดยมีข้อความที่แสดงออกถึงการไม่แยแสใดๆ ต่อความมีมนุษยะธรรมที่ชัดเจนที่สุดตั้งแต่มีมา
    “วาทกรรมการดับชีพหมู่ที่โจ่งแจ้งที่สุดของเอล”
    “โลกต้องประณาม” ข้อความที่เอลใช้ในการโฆษณานี้
    ข้อความระบุชัดเจนว่า “ไม่มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์อยู่ที่นั่น” โดยอ้างอิงถึงกาซา
    และเอาแต่โทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะ วันที่ 7 ตุลาคม ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ก่อนที่จะทำการลบโฆษณานั้นออกไป

    .
    #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews
    #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง
    -------------------------------
    สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    เอลยิV โฆษณาใส่ชาวโลก อ้างตัวเองทำถูกต้องแล้ว เอลได้ทำการโฆษณาในสื่อแพลทฟอร์มโซเชียลเจ้าหนึ่ง โดยมีข้อความที่แสดงออกถึงการไม่แยแสใดๆ ต่อความมีมนุษยะธรรมที่ชัดเจนที่สุดตั้งแต่มีมา “วาทกรรมการดับชีพหมู่ที่โจ่งแจ้งที่สุดของเอล” “โลกต้องประณาม” ข้อความที่เอลใช้ในการโฆษณานี้ ข้อความระบุชัดเจนว่า “ไม่มีพลเรือนผู้บริสุทธิ์อยู่ที่นั่น” โดยอ้างอิงถึงกาซา และเอาแต่โทษว่าทุกอย่างเป็นเพราะ วันที่ 7 ตุลาคม ที่เป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องทั้งหมด ก่อนที่จะทำการลบโฆษณานั้นออกไป . #WAYTNEWS #WayTNews #waytnews #ข่าวสารอัพเดท #ติดตามข่าว #สถานการณ์ปัจจุบัน #ข่าวสารความจริง ------------------------------- สนใจโปรไวต้า คลิก▶ https://www.facebook.com/TPIPolene?locale=t
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 190 มุมมอง 0 รีวิว