• 63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥

    ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์

    🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า

    🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️

    จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️

    🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚

    เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭

    ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞

    🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️

    ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔

    🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾

    ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️

    🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ

    จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️

    🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️

    🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️

    🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗

    แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค

    🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต

    ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568

    🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    63 ปี "ครูรวม วงศ์พันธ์" จากลูกชาวนา สู่เป้าประหารชีวิต “คอมมิวนิสต์” คนแรกของไทย 🔥 ย้อนไปสู่เหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ที่ยังคงสะเทือนใจคนรุ่นหลัง “ครูรวม วงศ์พันธ์” ครูผู้ใฝ่รู้ ผู้กลายเป็นนักโทษคอมมิวนิสต์คนแรกที่ถูกยิงเป้า ประหารชีวิตตามคำสั่งมาตรา 17 ของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ 🟦 จากลูกชาวนาแห่งสุพรรณบุรี สู่ผู้ต้องหาคดีคอมมิวนิสต์คนแรกของไทย ที่ถูกประหารชีวิต เรื่องราวสะท้อนยุคสมัย ที่อุดมการณ์นำมาสู่ชะตากรรม อันน่าเศร้า 🔶 ช่วงเวลาหนึ่งของประวัติศาสตร์ไทย ในยุคสงครามเย็น มีบุคคลหนึ่งที่ชื่อ “รวม วงศ์พันธ์” ถูกจารึกไว้ว่าเป็น “ผู้กระทำการอันเป็นคอมมิวนิสต์” คนแรกที่ถูกประหารชีวิต ตามกฎหมายมาตรา 17 ของธรรมนูญการปกครองราชอาณาจักรปี พ.ศ. 2502 ✍️ จะพาย้อนกลับไป 63 ปี ที่ผ่านมา เพื่อศึกษาทั้งชีวิตของครูรวม เบื้องหลังคำสั่งประหาร และบริบทของการเมืองไทยยุคนั้น 🕯️ 🟤 จากลูกชาวนา...สู่ครูใหญ่โรงเรียนจีน 👨‍🏫 “รวม วงศ์พันธ์” เกิดเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2465 ที่บ้านมะขามล้ม อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรชายของนายอยู่ และนางไร มีพี่น้องทั้งหมด 6 คน เติบโตในครอบครัวชาวนาธรรมดา แต่เต็มไปด้วยความใฝ่เรียน 📚 เรียนหนังสือจากโรงเรียนวัดเล็กๆ ใกล้บ้าน ต่อมาได้เข้าเรียนโรงเรียนชื่อดังในกรุงเทพฯ อย่างสวนกุหลาบวิทยาลัย และพาณิชยการพระนคร ก่อนเข้าเรียนต่อในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งในยุคนั้น ถือเป็นแหล่งเพาะบ่มความคิดเสรี ของนักศึกษาไทย 🇹🇭 ความรักในการเรียน รักในการสอน ครูรวมเริ่มต้นอาชีพครูในโรงเรียนจีน “กวงกงสวย” ก่อนก้าวขึ้นเป็นครูใหญ่ฝ่ายไทย เป็นที่เคารพรักของนักเรียน และครูร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้แต่งงานกับ "ครูประดิษฐ์ สุทธิจิตร์" คู่ชีวิตผู้ร่วมทุกข์ร่วมสุข ในชีวิตอุดมการณ์ 💞 🟥 สถานการณ์โลกกับภัยคอมมิวนิสต์ 🌍 ช่วงปี 2460–2500 โลกกำลังเผชิญกับ ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อรัสเซียกลายเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ จีนถูกยึดครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์ นำโดย "เหมา เจ๋อตง" และในหลายประเทศอุดมการณ์นี้แผ่ขยายเข้าสู่ สังคมชนบทและแรงงาน 🛠️ ความกลัวในสายตารัฐ ประเทศไทยในยุคนั้น อยู่ภายใต้ความตื่นกลัวต่อภัย “แดง” หรือภัยคอมมิวนิสต์จากต่างประเทศ รัฐบาลในหลายยุค รวมถึงยุคของ "จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์" จึงเลือกใช้มาตรการเด็ดขาด เพื่อตัดไฟแต่ต้นลม ⛔ 🟩 แม้รัฐจะมีกฎหมายควบคุมแนวคิดคอมมิวนิสต์ มาตั้งแต่ปี 2476 แต่ก็ไม่อาจหยุดยั้งการแพร่กระจายได้ โดยเฉพาะในหมู่ชนชั้นแรงงาน ชาวนา และครู ซึ่งเป็นกลุ่มที่เข้าถึง ปัญหาความเหลื่อมล้ำโดยตรง 👩‍🌾 ครูรวมเป็นหนึ่งในกลุ่มคนที่เชื่อ ในอุดมการณ์ความเท่าเทียม และใช้วิธีการพูดคุย แบ่งปันความรู้กับชาวบ้านในชนบท รวมถึงสร้าง “ไร่รวม” ที่กาญจนบุรี เพื่อเป็นโรงเรียนการเมืองอย่างลับๆ 🏕️ 🟦 การจับกุม คำพิพากษา และคำสั่งประหาร ⚖️ ในปี พ.ศ. 2505 รัฐบาลจับกุมครูรวม จากการสืบสวน และคำให้การของพยานร่วมกลุ่ม กล่าวหาว่า เป็นผู้นำเครือข่ายคอมมิวนิสต์ ลอบรับคำสั่งจากต่างชาติ และพยายามล้มล้างสถาบันชาติ จอมพลสฤษดิ์ใช้อำนาจตาม “มาตรา 17” สั่งให้ประหารชีวิตทันที โดยไม่ต้องขึ้นศาล ⛓️ 🕕 ค่ำวันอังคารที่ 24 เมษายน 2505 เวลา 18.00 น. ที่เรือนจำกลางบางขวาง ครูรวมถูกยิงเป้าจนเสียชีวิต นับเป็นครั้งแรก ที่มีการประหารผู้ต้องหาคอมมิวนิสต์ ในประวัติศาสตร์ไทย 🇹🇭⚰️ 🟨 วิเคราะห์คดีครูรวม ในบริบทสังคมไทย “ฮีโร่” หรือ “กบฏ”? กรณีของครูรวม สะท้อนถึงยุคสมัยที่ “ความเชื่อ” อาจถูกตีความว่าเป็น “ภัย” การกระทำของครูรวมในสายตารัฐ เป็นอันตรายต่อความมั่นคง แต่ในสายตาของชาวบ้าน และนักศึกษาในยุคต่อมา คือผู้จุดประกายความคิด เพื่อเสรีภาพ 🕊️ 🟪 มรดกแห่งความทรงจำ กว่า 33 ปีหลังการประหาร ศพของครูรวมเพิ่งถูกพบ ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม โดยไร้ป้ายบอกชื่อ เป็นอีกหนึ่งเครื่องหมายคำถาม ที่สะท้อนว่า... เรื่องราวนี้ อาจไม่ได้รับความยุติธรรมเท่าที่ควร ❗ แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ชื่อของ “ครูรวม วงศ์พันธ์” ยังคงเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนรุ่นใหม่ ที่เชื่อในอุดมการณ์ เสรีภาพ และความเสมอภาค 🧭 ครูรวมไม่ใช่แค่ครูธรรมดา แต่เป็นบุคคลหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างแน่วแน่ เพื่อเปลี่ยนแปลงสังคม แม้จะต้องแลกด้วยชีวิต ✊ แม้ถูกประหารในฐานะ “คอมมิวนิสต์” แต่ยังคงเป็น “ครูของประชาชน” ในความทรงจำของผู้คนมากมาย ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 241115 เม.ย. 2568 🔖 #ครูรวมวงศ์พันธ์ #คอมมิวนิสต์ไทย #คดีประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์การเมืองไทย #มาตรา17 #ยุคสงครามเย็น #การศึกษากับอุดมการณ์ #ครูไทยในอดีต #ประหารชีวิต #วีรบุรุษประชาชน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 24 มุมมอง 0 รีวิว
  • 'ประชาชน' ย้ำจุดยืน ปิดประตูร่วมรัฐบาล สมัยหน้าค่อยว่ากัน
    .
    สถานการณ์ความขัดแย้งภายในรัฐบาลยังคงมีความเคลื่อนไหวให้เห็นเป็นระยะ แม้ว่าภาพภายนอกที่เหล่าแกนนำแสดงออกมาจะบ่งบอกถึงความกลมเกลียวกันอยู่ แต่ด้านหนึ่งก็ยังเต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำ ทำให้เริ่มมีรายงานว่าการที่พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเขี่ยพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาลนั้นเพราะเตรียมดึงพรรคพลังประชารัฐหรือแม้แต่พรรคประชาชนเข้ามาร่วมรัฐบาล แต่ปปรากฎว่าล่าสุดทั้งสองพรรคได้ออกมาปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพรรคประชาชนที่ออกมายืนยันในจุดยืนดังกล่าวอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี พบว่าผู้นำพรรคประชาชนกลับส่งสัญญาณทางการเมืองออกมาให้เห็นบางประการ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038321

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes

    'ประชาชน' ย้ำจุดยืน ปิดประตูร่วมรัฐบาล สมัยหน้าค่อยว่ากัน . สถานการณ์ความขัดแย้งภายในรัฐบาลยังคงมีความเคลื่อนไหวให้เห็นเป็นระยะ แม้ว่าภาพภายนอกที่เหล่าแกนนำแสดงออกมาจะบ่งบอกถึงความกลมเกลียวกันอยู่ แต่ด้านหนึ่งก็ยังเต็มไปด้วยคลื่นใต้น้ำ ทำให้เริ่มมีรายงานว่าการที่พรรคเพื่อไทยพร้อมจะเขี่ยพรรคภูมิใจไทยออกจากรัฐบาลนั้นเพราะเตรียมดึงพรรคพลังประชารัฐหรือแม้แต่พรรคประชาชนเข้ามาร่วมรัฐบาล แต่ปปรากฎว่าล่าสุดทั้งสองพรรคได้ออกมาปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะพรรคประชาชนที่ออกมายืนยันในจุดยืนดังกล่าวอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี พบว่าผู้นำพรรคประชาชนกลับส่งสัญญาณทางการเมืองออกมาให้เห็นบางประการ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038321 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 73 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดศึกวิวาทะกันอีกรอบในวันพุธ(23เม.ย.) เกี่ยวกับความพยายามยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีในยูเครน โดยผู้นำอเมริกาตวาดใส่ เซเลนสกี ต่อกรณีที่ไม่ยอมรับรองการยึดครองไครเมียของรัสเซีย
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038280

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และ ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เปิดศึกวิวาทะกันอีกรอบในวันพุธ(23เม.ย.) เกี่ยวกับความพยายามยุติสงครามที่ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปีในยูเครน โดยผู้นำอเมริกาตวาดใส่ เซเลนสกี ต่อกรณีที่ไม่ยอมรับรองการยึดครองไครเมียของรัสเซีย . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000038280 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • Discord ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตำแหน่งผู้นำ โดย Jason Citron ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 28 เมษายน 2025 และ Humam Sakhnini จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ Sakhnini มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมจากการทำงานที่ Activision Blizzard และ King Digital ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เหมาะสมกับทิศทางของ Discord ในการเตรียมตัวสำหรับการเติบโตในอนาคต

    Citron จะยังคงมีบทบาทในบริษัทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร โดยเขาได้กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นการส่งต่อภารกิจให้กับผู้นำที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านเพื่อช่วยให้ Discord ก้าวไปสู่บทใหม่ของการเติบโต

    ✅ Jason Citron ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO
    - Citron จะยังคงมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร
    - เขาเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเร่งการเติบโตของ Discord

    ✅ Humam Sakhnini เข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่
    - Sakhnini มีประสบการณ์จาก Activision Blizzard และ King Digital
    - การแต่งตั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับการเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต

    ✅ Discord ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์
    - มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น PC overlay และการปรับปรุง UI
    - Discord กำลังสำรวจวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น การโฆษณาและการซื้อในแอป

    https://www.neowin.net/news/discord-appoints-new-ceo-as-jason-citron-prepares-to-step-down/
    Discord ได้ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในตำแหน่งผู้นำ โดย Jason Citron ผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO จะก้าวลงจากตำแหน่งในวันที่ 28 เมษายน 2025 และ Humam Sakhnini จะเข้ามารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ Sakhnini มีประสบการณ์ในอุตสาหกรรมเกมจากการทำงานที่ Activision Blizzard และ King Digital ซึ่งเป็นจุดเด่นที่เหมาะสมกับทิศทางของ Discord ในการเตรียมตัวสำหรับการเติบโตในอนาคต Citron จะยังคงมีบทบาทในบริษัทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร โดยเขาได้กล่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นการส่งต่อภารกิจให้กับผู้นำที่มีประสบการณ์เฉพาะด้านเพื่อช่วยให้ Discord ก้าวไปสู่บทใหม่ของการเติบโต ✅ Jason Citron ก้าวลงจากตำแหน่ง CEO - Citron จะยังคงมีบทบาทในฐานะที่ปรึกษาและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร - เขาเน้นว่าการเปลี่ยนแปลงนี้จะช่วยเร่งการเติบโตของ Discord ✅ Humam Sakhnini เข้ารับตำแหน่ง CEO คนใหม่ - Sakhnini มีประสบการณ์จาก Activision Blizzard และ King Digital - การแต่งตั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมตัวสำหรับการเป็นบริษัทมหาชนในอนาคต ✅ Discord ยังคงมุ่งเน้นการพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์ - มีการเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ เช่น PC overlay และการปรับปรุง UI - Discord กำลังสำรวจวิธีการสร้างรายได้เพิ่มเติม เช่น การโฆษณาและการซื้อในแอป https://www.neowin.net/news/discord-appoints-new-ceo-as-jason-citron-prepares-to-step-down/
    WWW.NEOWIN.NET
    Discord appoints new CEO as Jason Citron prepares to step down
    After almost a decade as Discord's CEO, Jason Citron is stepping down, and a replacement will take over in the next few days.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 7 มุมมอง 0 รีวิว
  • AMD ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ในงาน Computex 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม โดยมีการเปิดเผยว่าจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs, เกม, และ โซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9000 เช่น RX 9060 XT และโปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI

    ✅ AMD จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Computex 2025
    - ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs และโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI
    - การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่สำหรับเกมบนเดสก์ท็อป มือถือ และอุปกรณ์พกพา

    ✅ การคาดการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่
    - AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ด RX 9060 XT ในงานนี้
    - โปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI

    ✅ การร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรม
    - Jack Huynh รองประธานอาวุโสของ AMD จะร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์

    ✅ การจัดงานเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน
    - AMD จะจัดงานแยกต่างหากในวันที่ 12 มิถุนายน โดยมี Lisa Su เป็นผู้ดำเนินการ

    https://www.neowin.net/news/amd-confirms-new-product-announcements-at-computex-2025-in-may/
    AMD ได้ประกาศว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีใหม่ในงาน Computex 2025 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 21 พฤษภาคม โดยมีการเปิดเผยว่าจะมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs, เกม, และ โซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่า AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ดรุ่นใหม่ในซีรีส์ Radeon RX 9000 เช่น RX 9060 XT และโปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI ✅ AMD จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ในงาน Computex 2025 - ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI-powered PCs และโซลูชันสำหรับศูนย์ข้อมูล AI - การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่สำหรับเกมบนเดสก์ท็อป มือถือ และอุปกรณ์พกพา ✅ การคาดการณ์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ใหม่ - AMD อาจเปิดตัวกราฟิกการ์ด RX 9060 XT ในงานนี้ - โปรเซสเซอร์ Gordon Point ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งาน AI ✅ การร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรม - Jack Huynh รองประธานอาวุโสของ AMD จะร่วมมือกับผู้นำในอุตสาหกรรมเพื่อเปิดตัวผลิตภัณฑ์ ✅ การจัดงานเพิ่มเติมในเดือนมิถุนายน - AMD จะจัดงานแยกต่างหากในวันที่ 12 มิถุนายน โดยมี Lisa Su เป็นผู้ดำเนินการ https://www.neowin.net/news/amd-confirms-new-product-announcements-at-computex-2025-in-may/
    WWW.NEOWIN.NET
    AMD confirms new product announcements at Computex 2025 in May
    AMD fans should mark May 21 on the calendar as the company has just confirmed its presence and product announcements at Computex 2025.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 9 มุมมอง 0 รีวิว
  • SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่าเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2025 โดยแฮกเกอร์พยายามขโมยข้อมูล USIM (Universal Subscriber Identity Module) ของลูกค้า ซึ่งข้อมูลนี้สามารถนำไปใช้ในการติดตามตำแหน่ง การปิดการใช้งานซิม หรือแม้กระทั่งการดักฟังการสื่อสารได้ แม้ว่าบริษัทจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่เหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในยุคดิจิทัล

    ✅ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์
    - แฮกเกอร์ใช้มัลแวร์เพื่อพยายามเข้าถึงข้อมูล USIM ของลูกค้า
    - ทีม IT ของ SK Telecom ตรวจพบและแยกอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว

    ✅ ข้อมูล USIM มีความสำคัญและอาจถูกใช้ในทางที่ผิด
    - USIM ใช้ในการยืนยันตัวตนของอุปกรณ์บนเครือข่ายมือถือ
    - ข้อมูลนี้สามารถใช้ในการติดตามตำแหน่ง ดักฟังการสื่อสาร หรือข้ามการรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน

    ✅ มาตรการป้องกันเพิ่มเติมจาก SK Telecom
    - บริษัทได้เพิ่มการป้องกันการเปลี่ยนซิมและการยืนยันตัวตนที่ผิดปกติ
    - บัญชีที่มีกิจกรรมที่น่าสงสัยจะถูกระงับการใช้งานทันที

    ✅ SK Telecom เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคมของเกาหลีใต้
    - ให้บริการลูกค้ากว่า 34 ล้านราย และครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 49%

    https://www.techradar.com/pro/security/sk-telecom-reveals-cyberattack-customer-usim-data-stolen-could-be-used-in-attacks
    SK Telecom บริษัทโทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุดของเกาหลีใต้ ได้เปิดเผยว่าเผชิญกับการโจมตีทางไซเบอร์ในช่วงกลางเดือนเมษายน 2025 โดยแฮกเกอร์พยายามขโมยข้อมูล USIM (Universal Subscriber Identity Module) ของลูกค้า ซึ่งข้อมูลนี้สามารถนำไปใช้ในการติดตามตำแหน่ง การปิดการใช้งานซิม หรือแม้กระทั่งการดักฟังการสื่อสารได้ แม้ว่าบริษัทจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว แต่เหตุการณ์นี้ยังคงสร้างความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูลในยุคดิจิทัล ✅ การโจมตีเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ - แฮกเกอร์ใช้มัลแวร์เพื่อพยายามเข้าถึงข้อมูล USIM ของลูกค้า - ทีม IT ของ SK Telecom ตรวจพบและแยกอุปกรณ์ที่ได้รับผลกระทบได้อย่างรวดเร็ว ✅ ข้อมูล USIM มีความสำคัญและอาจถูกใช้ในทางที่ผิด - USIM ใช้ในการยืนยันตัวตนของอุปกรณ์บนเครือข่ายมือถือ - ข้อมูลนี้สามารถใช้ในการติดตามตำแหน่ง ดักฟังการสื่อสาร หรือข้ามการรักษาความปลอดภัยของแอปพลิเคชัน ✅ มาตรการป้องกันเพิ่มเติมจาก SK Telecom - บริษัทได้เพิ่มการป้องกันการเปลี่ยนซิมและการยืนยันตัวตนที่ผิดปกติ - บัญชีที่มีกิจกรรมที่น่าสงสัยจะถูกระงับการใช้งานทันที ✅ SK Telecom เป็นผู้นำในตลาดโทรคมนาคมของเกาหลีใต้ - ให้บริการลูกค้ากว่า 34 ล้านราย และครองส่วนแบ่งตลาดประมาณ 49% https://www.techradar.com/pro/security/sk-telecom-reveals-cyberattack-customer-usim-data-stolen-could-be-used-in-attacks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 52 มุมมอง 0 รีวิว
  • 9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี”

    📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน

    แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา

    🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭

    👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥)

    👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์

    แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น

    🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด
    ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
    🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์

    จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪

    🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️

    🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰

    บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น

    👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย

    🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ

    แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน

    💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก

    ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️

    ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦

    อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢

    ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗

    แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์

    🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า

    “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง”

    🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง

    สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที

    📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ

    “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้

    “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ

    นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้

    📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉

    จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์

    จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568

    🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    9 ปี สิ้น “บรรหาร ศิลปอาชา” 🐉 มังกรสุพรรณ นายกฯ ผู้สร้างเมืองด้วยมือปลาไหลใส่สเก็ต รวยอันดับสอง รองจากทักษิณ ชายผู้พลิกเมือง “สุพรรณบุรี” จนกลายเป็น “บรรหารบุรี” 📅 เช้าตรู่วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2559 แวดวงการเมืองไทย ต้องพบกับความสูญเสียครั้งสำคัญ เมื่อ “นายบรรหาร ศิลปอาชา” อดีตนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 ถึงแก่อนิจกรรมด้วยภาวะภูมิแพ้ และหอบหืดกำเริบ ที่โรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ รวมอายุได้ 83 ปี 247 วัน แม้เวลาจะผ่านมา 9 ปี แต่ชื่อของบรรหารก็ยังคงดังก้อง ในหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทั้งในฐานะนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพล นายกฯ ที่สู้จนได้เป็นผู้นำประเทศ และ “เจ้าพ่อเมืองสุพรรณ” ผู้ปั้นเมืองทั้งเมืองด้วยความตั้งใจ และสายสัมพันธ์ทางการเมืองอันแน่นหนา 🧠 จะพาคุณย้อนรอยชีวิต และผลงานของชายผู้ได้ฉายาว่า “ปลาไหลใส่สเก็ต” อย่างบรรหาร พร้อมเจาะลึกทุกมิติที่ควรรู้ ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ และมรดกที่ทิ้งไว้ให้เมืองสุพรรณบุรี 🇹🇭 👦 ชีวิตวัยเด็กของ "เต็กเซียง แซ่เบ๊" เด็กชายแห่งท่าพี่เลี้ยง บรรหารเกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2475 ที่ตำบลท่าพี่เลี้ยง อำเภอเมือง จังหวัดสุพรรณบุรี โดยมีชื่อเดิมว่า “เต็กเซียง แซ่เบ๊” (馬德祥) 👨‍👩‍👧‍👦 เป็นบุตรคนที่ 4 จากทั้งหมด 6 คน ของครอบครัวชาวจีนแต้จิ๋ว ที่ทำธุรกิจร้านขายสิ่งทอชื่อ “ย่งหยูฮง” พ่อแม่คือ "เซ่งกิม" และ "สายเอ็ง แซ่เบ๊" ซึ่งปลูกฝังความขยันขันแข็ง และแนวคิดแบบพ่อค้า ให้แก่บรรหารตั้งแต่วัยเยาว์ แม้จะเรียนถึงแค่ระดับมัธยมต้น ที่โรงเรียนวัฒนศิลป์วิทยาลัยในกรุงเทพฯ แต่ต้องหยุดเรียนเพราะสงครามโลก ครั้งที่สอง จึงเลือกเดินทางสายนักธุรกิจ สร้างฐานะด้วยตนเองจากงานรับเหมาก่อสร้าง จนในที่สุดกลายเป็นนักธุรกิจใหญ่ ผู้ก่อตั้งบริษัทมากมาย เช่น 🏗️ บริษัทสหศรีชัยก่อสร้าง จำกัด ⚗️ บริษัทบี.เอส.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด 🧪 บริษัทคอสติกไทย จำกัด จำหน่ายเคมีภัณฑ์ จากเด็กชายในเมืองเล็ก ๆ สู่เจ้าของอาณาจักรธุรกิจ และผู้นำประเทศ บรรหารถือเป็นตัวอย่าง ของคนที่สร้างทุกอย่างจากศูนย์ 💪 🏛️ ก้าวแรกสู่การเมือง จากเทศบาลเมือง สู่สภาผู้แทนราษฎร เส้นทางการเมืองของบรรหาร เริ่มต้นในฐานะ “สมาชิกสภาเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี” จากการแต่งตั้งในปี พ.ศ. 2516 ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา ในปี พ.ศ. 2518 และลงเลือกตั้งเป็น ส.ส. สุพรรณบุรีในปี พ.ศ. 2519 ซึ่งเขาชนะทุกครั้งที่ลงสมัคร รวมทั้งสิ้น 11 สมัย! 🗳️ 🏆 จากพลังแห่งความนิยมในพื้นที่สุพรรณบุรี บรรหารก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่ เป็นรัฐมนตรีหลายกระทรวง อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม 🚆 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🏢 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 🌾 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง 💰 บรรหารได้รับสมญานามว่า “มังกรสุพรรณ” ด้วยพลังในการควบคุมพื้นที่อย่างแน่นหนา และ “ปลาไหลใส่สเก็ต” ด้วยสไตล์ทางการเมือง ที่ลื่นไหลยืดหยุ่น 👑 สู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีไทย คนที่ 21 📌 ปี พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 21 ของประเทศไทย พร้อมควบตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย 🎯 ผลงานสำคัญที่เกิดขึ้นในรัฐบาลบรรหาร ได้แก่ ริเริ่มร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540, เป็นเจ้าภาพ ASEM และ ASEAN Summitm การแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่เชียงใหม่, การจัดงานเกษตรอุตสาหกรรมโลก WORLDTECH’95 และการตั้งกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ แม้การบริหารของบรรหาร ถูกฝ่ายค้านวิจารณ์อย่างหนัก จนต้องยุบสภาในปี พ.ศ. 2539 แต่ผลงานจำนวนมาก ก็ยังถูกพูดถึงจนถึงปัจจุบัน 💸 รวยจริง ไม่ต้องโชว์ บรรหารกับทรัพย์สินมหาศาล 📈 จากรายงานของสำนักข่าวอิศรา “บรรหาร” ได้รับการจัดอันดับให้เป็น “นายกรัฐมนตรีที่ร่ำรวยที่สุด เป็นอันดับ 2” รองจาก “ทักษิณ ชินวัตร” โดยทรัพย์สินส่วนใหญ่มาจาก ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง 🏗️ ธุรกิจเคมีภัณฑ์ 📦 อสังหาริมทรัพย์ทั้งในเมือง และต่างจังหวัด 🏢 ของสะสม เช่น พระเครื่อง นาฬิกาหรู รถยนต์หรู ⌚🚗 แต่สิ่งที่ทำให้บรรหาร ได้รับความเคารพคือ “การใช้เงินเป็น” ไม่ใช่ “โชว์หรู” ใช้ทรัพย์สินเพื่อพัฒนา ไม่ใช่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ 🌸 มรดกที่ทิ้งไว้ "บรรหารบุรี" เมืองต้นแบบของจังหวัดนิยม เมืองสุพรรณบุรีในวันนี้ กลายเป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่แบบ “จังหวัดนิยม” (Provincial Identity) ซึ่งนักวิชาการญี่ปุ่น "Yoshinori Nishizaki" อธิบายไว้ชัดเจนว่า “บรรหารสามารถสร้างอัตลักษณ์ใหม่ให้เมือง ผ่านโครงการต่างๆ ที่จับต้องได้จริง จนกลายเป็นแรงศรัทธาทางการเมือง” 🧱 ตัวอย่างผลงานในสุพรรณบุรี เช่น หอคอยเมืองสุพรรณ, ถนนคุณภาพระดับประเทศ, โรงเรียนบรรหารแจ่มใส, โรงพยาบาล, ศูนย์ราชการรวมศูนย์, พิพิธภัณฑ์, หอเกียรติยศ และศาลหลักเมือง สิ่งเหล่านี้ช่วยให้ผู้คนมองเห็นว่า “นักการเมืองที่ดี” คือคนที่ “พัฒนาชุมชน” ไม่ใช่แค่พูดสวยหรูบนเวที 📌 บทเรียนจากชีวิตบรรหาร สัจจะ และกตัญญู หากถามถึงคุณธรรมสำคัญในชีวิตของบรรหาร มีอยู่ 2 คำ ที่บรรหารยึดมั่นเสมอ คือ “สัจจะ” คำพูดต้องรักษาให้ได้ “กตัญญู” ต่อบ้านเกิด และผู้มีพระคุณ นี่คือสิ่งที่ทำให้ชื่อของบรรหาร ยังถูกพูดถึงแม้เวลาผ่านไปหลายปี และยังเป็นแบบอย่างให้กับนักการเมืองรุ่นใหม่ ได้ศึกษาเรียนรู้ 📜 มังกรสุพรรณ ผู้ล่องด้วยสัจจะ "บรรหาร ศิลปอาชา" ไม่ใช่แค่ “อดีตนายกรัฐมนตรี” แต่คือชายที่หล่อหลอมเมืองสุพรรณบุรี ให้กลายเป็นพื้นที่พิเศษ ในประวัติศาสตร์การเมืองไทย 🐉 จากชายที่เกิดในครอบครัวพ่อค้า สู่ผู้พัฒนาจังหวัดด้วยวิสัยทัศน์ จากนักธุรกิจที่สร้างตัวเอง สู่ผู้นำที่เปลี่ยนภูมิทัศน์การเมืองไทย 🇹🇭 ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 231016 เม.ย. 2568 🔖 #บรรหารศิลปอาชา #นายกรัฐมนตรีไทย #มังกรสุพรรณ #บรรหารบุรี #ปลาไหลใส่สเก็ต #สุพรรณบุรี #การเมืองไทย #พัฒนาท้องถิ่น #จังหวัดนิยม #บุคคลสำคัญ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • Intel กำลังวางแผนลดจำนวนพนักงานกว่า 20% เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและลดความซับซ้อนในโครงสร้างองค์กร โดยการลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม และแก้ไขปัญหาการจัดการที่ซับซ้อนในระดับกลาง

    ✅ Intel วางแผนลดจำนวนพนักงานกว่า 20%
    - การลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร
    - CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ระบุว่าการลดจำนวนพนักงานเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก

    ✅ การลดจำนวนพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดค่าใช้จ่ายมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์
    - Intel เผชิญกับต้นทุนที่สูงและกำไรที่ลดลงในกลุ่ม PC และ Data Center
    - การเปลี่ยนแปลงนี้ยังรวมถึงการปรับกลยุทธ์ด้าน AI เพื่อแข่งขันกับ Nvidia

    ✅ Intel มีการปรับโครงสร้างทีมผู้นำ
    - กลุ่มชิปสำคัญรายงานตรงต่อ CEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ

    ✅ การลดจำนวนพนักงานในปี 2024 มีผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 15,000 คน
    - การลดจำนวนพนักงานในปี 2025 จะมีผลกระทบมากขึ้น

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/intel-to-cut-over-20-of-workforce-bloomberg-news-reports
    Intel กำลังวางแผนลดจำนวนพนักงานกว่า 20% เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานและลดความซับซ้อนในโครงสร้างองค์กร โดยการลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนด้วยวิศวกรรม และแก้ไขปัญหาการจัดการที่ซับซ้อนในระดับกลาง ✅ Intel วางแผนลดจำนวนพนักงานกว่า 20% - การลดจำนวนพนักงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการปรับปรุงโครงสร้างองค์กร - CEO คนใหม่ Lip-Bu Tan ระบุว่าการลดจำนวนพนักงานเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก ✅ การลดจำนวนพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของแผนลดค่าใช้จ่ายมูลค่า 10 พันล้านดอลลาร์ - Intel เผชิญกับต้นทุนที่สูงและกำไรที่ลดลงในกลุ่ม PC และ Data Center - การเปลี่ยนแปลงนี้ยังรวมถึงการปรับกลยุทธ์ด้าน AI เพื่อแข่งขันกับ Nvidia ✅ Intel มีการปรับโครงสร้างทีมผู้นำ - กลุ่มชิปสำคัญรายงานตรงต่อ CEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดสินใจ ✅ การลดจำนวนพนักงานในปี 2024 มีผลกระทบต่อพนักงานประมาณ 15,000 คน - การลดจำนวนพนักงานในปี 2025 จะมีผลกระทบมากขึ้น https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/intel-to-cut-over-20-of-workforce-bloomberg-news-reports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Intel to cut over 20% of workforce, Bloomberg News reports
    (Reuters) -Intel is set to unveil plans this week to slash more than 20% of its workforce, in a move to streamline operations and reduce bureaucratic inefficiencies, Bloomberg News reported on Tuesday, citing a person familiar with the matter.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 27 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการเดินทางขององค์กรต่างๆ ในการนำแนวคิด Zero Trust มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระบบ โดย Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่ไว้วางใจบุคคลหรืออุปกรณ์ใดๆ ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายขององค์กร และต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง

    ✅ องค์กรทั่วโลกกว่า 63% ได้นำกลยุทธ์ Zero Trust มาใช้บางส่วน
    - จากการสำรวจของ Gartner ในปี 2024 พบว่า 58% ขององค์กรเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น
    - มีเพียงไม่ถึง 50% ของสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมด้วย Zero Trust

    ✅ Zero Trust ต้องการการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยี
    - การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการนำเทคโนโลยี เช่น Multi-Factor Authentication (MFA) และ Privileged Access Management (PAM) มาใช้
    - ต้องมีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง

    ✅ การนำ Zero Trust มาใช้ต้องการการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง
    - การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายในองค์กร เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้นำธุรกิจ
    - การสร้างความเข้าใจและการฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญ

    ✅ Zero Trust ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความปลอดภัยได้อย่างละเอียด
    - เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงตามระดับความสำคัญของข้อมูล
    - ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์

    https://www.csoonline.com/article/3965399/security-leaders-shed-light-on-their-zero-trust-journeys.html
    บทความนี้กล่าวถึงการเดินทางขององค์กรต่างๆ ในการนำแนวคิด Zero Trust มาใช้เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในระบบ โดย Zero Trust เป็นแนวคิดที่ไม่ไว้วางใจบุคคลหรืออุปกรณ์ใดๆ ทั้งภายในและภายนอกเครือข่ายขององค์กร และต้องมีการตรวจสอบสิทธิ์อย่างต่อเนื่อง ✅ องค์กรทั่วโลกกว่า 63% ได้นำกลยุทธ์ Zero Trust มาใช้บางส่วน - จากการสำรวจของ Gartner ในปี 2024 พบว่า 58% ขององค์กรเหล่านี้ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้น - มีเพียงไม่ถึง 50% ของสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมด้วย Zero Trust ✅ Zero Trust ต้องการการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านวัฒนธรรมและเทคโนโลยี - การเปลี่ยนแปลงนี้รวมถึงการนำเทคโนโลยี เช่น Multi-Factor Authentication (MFA) และ Privileged Access Management (PAM) มาใช้ - ต้องมีการจัดการสิทธิ์การเข้าถึงและการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง ✅ การนำ Zero Trust มาใช้ต้องการการสนับสนุนจากผู้บริหารระดับสูง - การเปลี่ยนแปลงนี้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายในองค์กร เช่น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้นำธุรกิจ - การสร้างความเข้าใจและการฝึกอบรมเป็นสิ่งสำคัญ ✅ Zero Trust ช่วยให้องค์กรสามารถจัดการความปลอดภัยได้อย่างละเอียด - เช่น การกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงตามระดับความสำคัญของข้อมูล - ช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีทางไซเบอร์ https://www.csoonline.com/article/3965399/security-leaders-shed-light-on-their-zero-trust-journeys.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Security leaders shed light on their zero trust journeys
    Most CISOs recognize the improved security posture zero trust will bring. But cultural and technological changes make for an arduous path that takes business savvy and technical acumen to navigate.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 57 มุมมอง 0 รีวิว
  • 48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ

    ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม

    🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ

    เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️

    จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔

    👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖

    เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก

    ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️

    อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง

    ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง

    แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน

    แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที

    🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น

    นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ”

    แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที

    ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ

    นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"?

    🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด”
    เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?”

    ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง

    เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด

    เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏

    เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง

    คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ"

    จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก

    🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า

    “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด

    เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?"

    สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ"

    🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?”

    แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?”

    การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล

    การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้

    การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป

    ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย...

    🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️

    48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่...

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568

    📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    48 ปี ประหาร “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ นักโทษกบฏคนสุดท้าย ที่ตายด้วยการยิงเป้า 🇹🇭⚖️ เสียงปืนสุดท้าย ของการปฏิวัติ ที่ไม่สำเร็จ ย้อนรอยคดีประหารชีวิตด้วยการยิงเป้า ที่สะท้อนทั้งความหวัง ความกล้า และการถูกลืม 🧭 บทเรียนจากอดีต ที่ไม่อาจมองข้าม บ่ายวันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2520 เวลา 15.24 น. ณ เรือนจำกลางบางขวาง เสียงปืนชุดหนึ่ง ดังก้องสะท้อนในความเงียบสงบ เป็นการสิ้นสุดชีวิตของ “เสธ. หลาด” หรือ "พลเอกฉลาด หิรัญศิริ" นายทหารชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งถูกตัดสินประหารชีวิต ในข้อหากบฏ เสธ.หลาดเป็นคนสุดท้ายในประวัติศาสตร์ไทย ที่ถูกประหารด้วยการยิงเป้า โดยคำสั่งตามมาตรา 21 แห่งรัฐธรรมนูญไทย ซึ่งเปิดช่องให้รัฐบาลในเวลานั้น สามารถออกคำสั่งให้ประหารชีวิตได้ โดยไม่ต้องผ่านศาล 👁️‍🗨️ จะพาเจาะลึกตั้งแต่ชีวประวัติของ "พล.อ.ฉลาด หิรัญศิริ" เหตุการณ์รัฐประหารที่ล้มเหลว การตัดสินโทษ และคำถามที่ยังไร้คำตอบว่า... “ทำไมเสธ.หลาดต้องถูกประหาร?” 🤔 👤 จากทหารกล้า สู่ผู้นำกบฏ "พล.อ. ฉลาด หิรัญศิริ" ถือกำเนิดในยุคสงครามโลก ครั้งที่สอง เริ่มรับราชการในปี พ.ศ. 2483 ที่อุดรธานี มีชีวิตในวงการทหารมายาวนาน ผ่านสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม เป็นหนึ่งในผู้ได้รับการยอมรับว่าเป็น “ทหารนักรบของจริง” 🪖 เคยดำรงตำแหน่ง รองผู้บังคับกองร้อย เสนาธิการกรมยุทธศึกษาทหารบก ผู้บัญชาการกองกำลังทหารไทย ในเวียดนามใต้ (ผลัด 2) และผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ชื่อเสียงของเสธ.หลาดในสนามรบ เป็นที่เลื่องลือ ถึงขนาดได้รับประกาศเกียรติคุณ จากประธานาธิบดีเวียดนามใต้ 🎖️ อย่างไรก็ตาม เส้นทางในกองทัพ กลับไม่เป็นไปตามฝัน เมื่อการเมืองเข้ามาแทรกแซง ส่งผลให้ความทะเยอทะยานของเสธ.หลาด ในการก้าวสู่ตำแหน่ง "ผู้บัญชาการทหารบก" ต้องพังทลายลง ⚔️ ปฏิบัติการยึดอำนาจ 26 มีนาคม 2520 ความพยายามที่สิ้นสุดด้วยการล้อม เมื่อการเมืองไม่เอื้อ เสธ.หลาดเลือกเส้นทาง ของการก่อรัฐประหาร โดยในวันที่ 26 มีนาคม 2520 พล.อ. ฉลาด พร้อมพวก เข้ายึดศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก “สวนรื่นฤดี” โดยมีลูกชายของเขา "พ.ต. อัศวิน หิรัญศิริ" เป็นผู้บัญชาการกองกำลัง แผนการดูเหมือนจะประสบความสำเร็จในช่วงแรก แต่กลับถูกฝ่ายรัฐบาล ควบคุมสถานการณ์ได้ ในเวลาไม่นาน โดยมี "พ.ต. สุรยุทธ์ จุลานนท์" เป็นตัวกลางในการเจรจาให้ยอมแพ้ และเสนอให้ลี้ภัยไปไต้หวัน แต่ข้อตกลงนี้ กลับไม่สำเร็จ เมื่อการเดินทางไปไต้หวันล้มเหลว และผู้นำรัฐประหารทั้งหมด ถูกจับกุมทันที 🔥 ทำไมต้องประหาร? คำถามที่ยังไร้คำตอบ การใช้ มาตรา 21 ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2519 คือประเด็นที่ถกเถียงมากที่สุดในกรณีนี้ เนื่องจากไม่ผ่านกระบวนการศาลปกติ แต่เป็นอำนาจตรงจากรัฐบาลในเวลานั้น นายกรัฐมนตรี "ธานินทร์ กรัยวิเชียร" กล่าวภายหลังว่า “ไม่เห็นควรใช้มาตรา 21 อย่างพร่ำเพรื่อ” แต่เสียงของนายกฯ แพ้เสียงทหาร ในที่ประชุมร่วมรัฐบาล-คณะปฏิรูป เพราะคะแนนเสียงห่างกัน 16 ต่อ 26 ทำให้คดีนี้ถูกนำไปสู่การตัดสินโทษประหารทันที ✨ ข้อสังเกตจาก "สุธรรม แสงประทุม" นักโทษการเมือง ฝ่ายทหารหวาดกลัวว่า เสธ.หลาด จะหลบหนี ดพราะเชื่อว่ายังมีอิทธิพลภายใน รวมถึงกังวลว่า จะถูกเปิดโปงภายในกองทัพ นี่คือการ "กำจัด" มากกว่าการ "ยุติธรรม"? 🕊️ ช่วงสุดท้ายของชีวิต “เสธ. หลาด” เวลา 14.00 น. เสธ.หลาดถูกเบิกตัวจากแดนพิเศษ ไปยังห้องควบคุม เขาถามเจ้าหน้าที่พี่เลี้ยงว่า “ญาติมาเยี่ยมหรือ เขาอนุญาตให้เยี่ยมแล้วใช่ไหม?” ไม่มีคำตอบ เขารู้ในใจว่าชะตากำลังจะมาถึง เวลา 14.20 น. เสธ.หลาดฟังคำสั่งประหารอย่างสงบ พร้อมเซ็นชื่อรับทราบ แล้วเขียนพินัยกรรม 4 แผ่น ✍️ ปฏิเสธอาหารมื้อสุดท้าย และขอดื่มเพียง น้ำส้ม 1 ขวด เวลา 14.50 น. พระมหาเจียมเทศนาเรื่องกรรม เสธ.หลาดกล่าว "สาธุ" และก้มกราบ 3 ครั้ง พร้อมประเคนเงินจำนวน 100 บาท และนาฬิกาโอเมกา🙏 เวลา 15.24 น. เสียงปืนจบชีวิต "เสธ.หลาด" ตรงศาลาแปดเหลี่ยม ในเรือนจำบางขวาง คำพูดสุดท้าย "ถ้าพร้อมแล้ว จะบอกนะ" จากนั้น...มือของเสธ.หลาดสั่นเบา ๆ เพื่อ "เขย่าดอกไม้ในมือ" เป็นสัญญาณให้เพชฌฆาตเหนี่ยวไก 🪦 เสธ. หลาดในความทรงจำ ของนักโทษการเมือง "สุธรรม แสงประทุม" เล่าว่า เสธ.หลาด หรือ “ลุงหลาด” อยู่ตึกเดียวกันในบางขวาง โดย “ลุงหลาด” มักชอบพูดเสมอว่า “ลุงถูกหักหลัง” ใครคือผู้หักหลัง? ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด... หรืออาจรู้ แต่ไม่มีใครกล้าพูด เสธ.หลาดยังถามสุธรรมซ้ำ ๆ ว่า "การต่อสู้ของลุง สมควรแก่เหตุหรือเปล่า?" สุธรรมตอบว่า "ก็พอสมควรแก่เหตุครับ" 🧩 เสธ. หลาดในหน้าประวัติศาสตร์: วีรบุรุษ? กบฏ? หรือเหยื่อการเมือง? สิ่งที่ควรถามในวันนี้ไม่ใช่แค่ว่า “เขาผิดหรือไม่?” แต่คือ “เขาได้รับความยุติธรรมหรือเปล่า?” การประหารชีวิต ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการศาล การเจรจาที่หลอกให้เขายอมแพ้ การกล่าวหาว่า เขามีอิทธิพลเกินไป ทั้งหมดนี้คือคำถาม ที่ยังไม่มีคำตอบ และอาจไม่เคยมีวันหนึ่ง ที่คำตอบเหล่านั้นจะถูกเปิดเผย... 🔚 เสียงสะท้อนจากกระสุนในวันนั้น เรื่องราวของ “เสธ.หลาด” พลเอกฉลาด หิรัญศิริ ไม่ใช่แค่ประวัติศาสตร์ของคน คนหนึ่ง แต่มันสะท้อนถึง โครงสร้างอำนาจของไทยในอดีต สะท้อนถึงความเปราะบางของ “ความยุติธรรม” เมื่อ “อำนาจ” มาแทนที่ 📜⚖️ 48 ปี ผ่านไป คำถามยังคงอยู่... ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 221706 เม.ย. 2568 📱 #เสธหลาด #ฉลาดหิรัญศิริ #กบฏ2520 #ประหารชีวิต #ประวัติศาสตร์ไทย #คดีดังไทย #รัฐประหาร #การเมืองไทย #บางขวาง #มาตรา21
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 13 ความสำคัญของการมีเงินออม
    .
    การเปลี่ยนการออมเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดและได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจจนอาจเรียกได้ว่า “เงินทำงานรับใช้” นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดังพูด มีหลายประเด็นดังต่อไปนี้ที่ควรใคร่ครวญ
    .
    บ่อยครั้งที่เงินออมของเรามีไม่เพียงพอ จึงต้องกู้ยืมเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าดอกเบี้ยเงินกู้ บางครั้งการกู้ยืมและผ่อนชำระก็ถือได้ว่าเป็นเงินออมอย่างหนึ่งดังกรณีของบ้านและรถยนต์ บ้านเป็นสิ่งที่ให้คุณค่าในการอยู่อาศัย การผ่อนชำระหนี้บ้านทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และเกิดความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย มีความรู้สึกว่าเป็นอิสระเพราะไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่น ส่วนรถยนต์เป็นสิ่งสร้างความสะดวกสะบายที่ช่วยลดโสหุ้ยในเรื่องเวลาและการเดินทาง
    .
    อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงอยุ่ไม่น้อยในการกู้และผ่อนชำระจนครบ หรือพูดอีกอย่างนึงว่า กว่าจะออมจนประสบผลสำเร็จสามารถมีบ้านเป็นของตนเอง ข้อเท็จจริงหนึ่งที่สำคัญเมื่อกู้ยืมและผ่อนชำระบ้านหรือรถยนต์หรือโรงงานก็คือ แท้จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ยังไม่ใช่ของผู้กู้ตามกฏหมาย เนื่องจากโฉนดและเอกสารแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของยังมิได้ระบุตนเองเป็นเจ้าของ ซึ่งความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ผ่อนชำระครบแล้วเท่านั้น ข้อเท็จจริงนี้ผู้กู้จะต้องตระหนักอยู่เสมอ จะได้มีพฤติกรรมอันเหมาะสมในการใช้จ่ายเงินในระหว่างที่เป็นหนี้
    .
    ความไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างแท้จริงดังกล่าว เป็นความเสี่ยงที่ผู้กู้ควรตระหนัก เพราะ “อุบัติเหตุ” หลายประการดังต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้ตลอดช่วงเวลาของการกู้ยืม โดยเฉพาะการกู้ยืมที่มีระยะเวลายาวนาน นั่นก็คือ (1) รายจ่ายของครอบครัวอาจสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดอ้นเนื่องมาจากความเจ็บป่วยของสมาชิกในครอบครัว หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หรือมีภาระผูกพันทางการเงินเพิ่มขึ้นอีก (2) รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นดังที่หวังไว้ แต่อาจลดลงเพราะตกงานหรือเปลี่ยนงาน หรือสภาวะเศรษฐกิจผันผวนจนทำให้ธุรกิจที่เคยรุ่งโรจน์ซบเซา หรือธุรกิจต้องการเงินลงทุนเพิ่มขึ้น (3) อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้นในช่วงเวลาต่อมาจนต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้น
    .
    อุทาหรณ์ในเรื่องนี้ก็คือ ก่อนการกู้ยืมควรใคร่ครวญให้รอบคอบและเลือกผ่อนซื้อสิ่งที่มีมูลค่าสอดคล้องกับฐานะของตนเองอย่างแท้จริงเท่านั้น มีข้อแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัยจาก “อุบัติเหตุ” ดังกล่าว จึงไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงเกินกว่าหนึ่งเท่าของรายได้ครัวเรือนในหนึ่งปี
    .
    เมื่อมีเงินออมและจะนำไปลงทุน มีข้อเท็จจริงหลายประการที่ควรทราบ ดังนี้
    (1) การลงทุนบางอย่างไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระหว่างที่ถือครองอยู่ แต่อาจมีมูลค่าสูงเมื่อเลิกการถือครองแล้วก็เป็นได้เช่น ทองคำ ที่ดิน เพชรนิลจินดา ของเก่ามีค่า เป็นต้น สิ่งที่ต้องยอมสละไประหว่างการถือครองก็คือดอกเบี้ย เงินปันผล หรือผลตอบแทนรูปอื่นที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือการลงทุนอย่างอื่น นอกจากนี้เจ้าของเองอาจไม่มีโอกาสได้เก็บเกี่ยวดอกผลจากมูลค่าที่สูงขึ้นเพราะเสียชีวิตไปก่อนก็เป็นได้
    (2) การลงทุนบางอย่างได้รับผลตอบแทนระหว่างที่ครอง แต่อาจมีมูลค่าไม่สูงดังคาดหวังเมื่อจบสิ้นช่วงเวลาหนึ่งก็เป็นได้ เช่น หุ้น บ้านหรืออพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมให้เช่า อย่างไรก็ดีแม้ผลตอบแทนจากการถือครองอาจไม่สูงนัก แต่ก็สามารถนำไปลงทุนต่อเพื่อให้เกิดเงิน “ชั้นลูกชั้นหลาน” ขึ้นมาได้
    (3) ความเสี่ยงในการลงทุนไม่เท่ากันระหว่างประเภทของการลงทุน เช่น หุ้นกับพันธบัตร หรือที่ดินกับกองทุนรวม ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากธรรมชาติของการเกิดผลตอบแทนนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้ความเสี่ยงจากการลงทุนในประเภทเดียวกันของการลงทุนแต่ละอย่างก็แตกต่างกันอีกด้วย เช่น การลงทุนซื้อหุ้นธนาคาร ก. อาจมีความเสี่ยงมากกว่าธนาคาร ข. อาจเนื่องมาจากธนาคาร ข. มีระบบการบริการงานที่มีประสิทธิภาพกว่า และมีธรรมาภิบาลสูงกว่าก็เป็นได้
    (4) ในการตัดสินใจว่าร่วมลงทุนในกิจการใด ไม่ว่าในรูปของการลงทุนร่วมประกอบการ SME’s หรือซื้อหุ้นโดยตรง พึงพิจารณาคุณภาพของการบริหารกิจการนั้นเป็นสำคัญระวังการหลงติดกับภาพลักษณ์และการโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การบริหารที่มีคุณภาพสูงประกอบด้วยผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ มีประวัติดี มีคุณธรรม มีประวัติของความสำเร็จ มีทีมงานที่แข็งขันสนับสนุนกิจการ มีนโยบายและการปฏิบัติอย่างจริงจังในเรื่องธรรมาภิบาลอย่างเป็นที่ประจักษ์
    (5) คำพูดที่ว่า “เสี่ยงสูง – ผลตอบแทนสูง” นั้นหมายถึงว่า เมื่อผู้ลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่สูง ก็จำเป็นต้องลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูงเป็นธรรมดา มิได้หมายความว่าถ้ากิจการมีความเสี่ยงสูงแล้วจะได้รับผลตอบแทนสูงเสมอไป
    .
    เมื่อข้อเท็จจริงในเรื่องการลงทุนเป็นเช่นนี้ จึงสมควรใช้เงินออมไปลงทุนในหลากหลายประเภทและหลากหลายหน่วยธุรกิจ เพราะความผันผวนในทางลบจากการลงทุนหนึ่งอาจถูกคานไว้ด้วยความผันผวนในด้านบวกจากอีกการลงทุนหนึ่ง
    .
    การลงทุนขึ้นอยู่กับโชค แต่ภายในขอบเขตหนึ่ง หากเลือกลงทุนอย่างมีเหตุมีผลแล้ว ตัวแปรสร้างความผันผวนที่ชื่อว่า “โชค” อาจลดอิทธิฤทธิ์ลงไปได้มากทีเดียว
    รู้จักใช้ เข้าใจเงิน ตอนที่ 13 ความสำคัญของการมีเงินออม . การเปลี่ยนการออมเป็นการลงทุนที่ชาญฉลาดและได้รับผลตอบแทนในระดับที่น่าพอใจจนอาจเรียกได้ว่า “เงินทำงานรับใช้” นั้นเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายดังพูด มีหลายประเด็นดังต่อไปนี้ที่ควรใคร่ครวญ . บ่อยครั้งที่เงินออมของเรามีไม่เพียงพอ จึงต้องกู้ยืมเพิ่มเติมเพื่อผลประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กว่าดอกเบี้ยเงินกู้ บางครั้งการกู้ยืมและผ่อนชำระก็ถือได้ว่าเป็นเงินออมอย่างหนึ่งดังกรณีของบ้านและรถยนต์ บ้านเป็นสิ่งที่ให้คุณค่าในการอยู่อาศัย การผ่อนชำระหนี้บ้านทำให้ไม่ต้องจ่ายค่าเช่าบ้าน และเกิดความหวังว่าจะได้เป็นเจ้าของที่อยู่อาศัย มีความรู้สึกว่าเป็นอิสระเพราะไม่ต้องพึ่งพิงคนอื่น ส่วนรถยนต์เป็นสิ่งสร้างความสะดวกสะบายที่ช่วยลดโสหุ้ยในเรื่องเวลาและการเดินทาง . อย่างไรก็ดี มีความเสี่ยงอยุ่ไม่น้อยในการกู้และผ่อนชำระจนครบ หรือพูดอีกอย่างนึงว่า กว่าจะออมจนประสบผลสำเร็จสามารถมีบ้านเป็นของตนเอง ข้อเท็จจริงหนึ่งที่สำคัญเมื่อกู้ยืมและผ่อนชำระบ้านหรือรถยนต์หรือโรงงานก็คือ แท้จริงแล้วทรัพย์สินเหล่านี้ยังไม่ใช่ของผู้กู้ตามกฏหมาย เนื่องจากโฉนดและเอกสารแสดงสิทธิความเป็นเจ้าของยังมิได้ระบุตนเองเป็นเจ้าของ ซึ่งความเป็นเจ้าของอย่างแท้จริงจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อได้ผ่อนชำระครบแล้วเท่านั้น ข้อเท็จจริงนี้ผู้กู้จะต้องตระหนักอยู่เสมอ จะได้มีพฤติกรรมอันเหมาะสมในการใช้จ่ายเงินในระหว่างที่เป็นหนี้ . ความไม่ได้เป็นเจ้าของทรัพย์สินอย่างแท้จริงดังกล่าว เป็นความเสี่ยงที่ผู้กู้ควรตระหนัก เพราะ “อุบัติเหตุ” หลายประการดังต่อไปนี้อาจเกิดขึ้นได้ตลอดช่วงเวลาของการกู้ยืม โดยเฉพาะการกู้ยืมที่มีระยะเวลายาวนาน นั่นก็คือ (1) รายจ่ายของครอบครัวอาจสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดอ้นเนื่องมาจากความเจ็บป่วยของสมาชิกในครอบครัว หรือมีความจำเป็นต้องใช้เงินก้อนใหญ่ หรือมีภาระผูกพันทางการเงินเพิ่มขึ้นอีก (2) รายได้ไม่ได้เพิ่มขึ้นดังที่หวังไว้ แต่อาจลดลงเพราะตกงานหรือเปลี่ยนงาน หรือสภาวะเศรษฐกิจผันผวนจนทำให้ธุรกิจที่เคยรุ่งโรจน์ซบเซา หรือธุรกิจต้องการเงินลงทุนเพิ่มขึ้น (3) อัตราดอกเบี้ยอาจสูงขึ้นในช่วงเวลาต่อมาจนต้องผ่อนชำระในแต่ละเดือนด้วยเงินก้อนใหญ่ขึ้น . อุทาหรณ์ในเรื่องนี้ก็คือ ก่อนการกู้ยืมควรใคร่ครวญให้รอบคอบและเลือกผ่อนซื้อสิ่งที่มีมูลค่าสอดคล้องกับฐานะของตนเองอย่างแท้จริงเท่านั้น มีข้อแนะนำว่าเพื่อความปลอดภัยจาก “อุบัติเหตุ” ดังกล่าว จึงไม่ควรกู้เงินซื้อบ้านหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ซึ่งมีมูลค่าสูงเกินกว่าหนึ่งเท่าของรายได้ครัวเรือนในหนึ่งปี . เมื่อมีเงินออมและจะนำไปลงทุน มีข้อเท็จจริงหลายประการที่ควรทราบ ดังนี้ (1) การลงทุนบางอย่างไม่ก่อให้เกิดรายได้ในระหว่างที่ถือครองอยู่ แต่อาจมีมูลค่าสูงเมื่อเลิกการถือครองแล้วก็เป็นได้เช่น ทองคำ ที่ดิน เพชรนิลจินดา ของเก่ามีค่า เป็นต้น สิ่งที่ต้องยอมสละไประหว่างการถือครองก็คือดอกเบี้ย เงินปันผล หรือผลตอบแทนรูปอื่นที่อาจเกิดขึ้นจากการนำเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปลงทุนในหลักทรัพย์หรือการลงทุนอย่างอื่น นอกจากนี้เจ้าของเองอาจไม่มีโอกาสได้เก็บเกี่ยวดอกผลจากมูลค่าที่สูงขึ้นเพราะเสียชีวิตไปก่อนก็เป็นได้ (2) การลงทุนบางอย่างได้รับผลตอบแทนระหว่างที่ครอง แต่อาจมีมูลค่าไม่สูงดังคาดหวังเมื่อจบสิ้นช่วงเวลาหนึ่งก็เป็นได้ เช่น หุ้น บ้านหรืออพาร์ตเมนต์หรือคอนโดมิเนียมให้เช่า อย่างไรก็ดีแม้ผลตอบแทนจากการถือครองอาจไม่สูงนัก แต่ก็สามารถนำไปลงทุนต่อเพื่อให้เกิดเงิน “ชั้นลูกชั้นหลาน” ขึ้นมาได้ (3) ความเสี่ยงในการลงทุนไม่เท่ากันระหว่างประเภทของการลงทุน เช่น หุ้นกับพันธบัตร หรือที่ดินกับกองทุนรวม ฯลฯ ทั้งนี้เนื่องจากธรรมชาติของการเกิดผลตอบแทนนั้นแตกต่างกัน นอกจากนี้ความเสี่ยงจากการลงทุนในประเภทเดียวกันของการลงทุนแต่ละอย่างก็แตกต่างกันอีกด้วย เช่น การลงทุนซื้อหุ้นธนาคาร ก. อาจมีความเสี่ยงมากกว่าธนาคาร ข. อาจเนื่องมาจากธนาคาร ข. มีระบบการบริการงานที่มีประสิทธิภาพกว่า และมีธรรมาภิบาลสูงกว่าก็เป็นได้ (4) ในการตัดสินใจว่าร่วมลงทุนในกิจการใด ไม่ว่าในรูปของการลงทุนร่วมประกอบการ SME’s หรือซื้อหุ้นโดยตรง พึงพิจารณาคุณภาพของการบริหารกิจการนั้นเป็นสำคัญระวังการหลงติดกับภาพลักษณ์และการโฆษณาชวนเชื่อให้ร่วมลงทุน การบริหารที่มีคุณภาพสูงประกอบด้วยผู้นำที่มีความรู้ ความสามารถ มีประวัติดี มีคุณธรรม มีประวัติของความสำเร็จ มีทีมงานที่แข็งขันสนับสนุนกิจการ มีนโยบายและการปฏิบัติอย่างจริงจังในเรื่องธรรมาภิบาลอย่างเป็นที่ประจักษ์ (5) คำพูดที่ว่า “เสี่ยงสูง – ผลตอบแทนสูง” นั้นหมายถึงว่า เมื่อผู้ลงทุนคาดหวังผลตอบแทนที่สูง ก็จำเป็นต้องลงทุนในกิจการที่มีความเสี่ยงสูงเป็นธรรมดา มิได้หมายความว่าถ้ากิจการมีความเสี่ยงสูงแล้วจะได้รับผลตอบแทนสูงเสมอไป . เมื่อข้อเท็จจริงในเรื่องการลงทุนเป็นเช่นนี้ จึงสมควรใช้เงินออมไปลงทุนในหลากหลายประเภทและหลากหลายหน่วยธุรกิจ เพราะความผันผวนในทางลบจากการลงทุนหนึ่งอาจถูกคานไว้ด้วยความผันผวนในด้านบวกจากอีกการลงทุนหนึ่ง . การลงทุนขึ้นอยู่กับโชค แต่ภายในขอบเขตหนึ่ง หากเลือกลงทุนอย่างมีเหตุมีผลแล้ว ตัวแปรสร้างความผันผวนที่ชื่อว่า “โชค” อาจลดอิทธิฤทธิ์ลงไปได้มากทีเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 99 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 206 มุมมอง 0 รีวิว
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จำกัดการติดต่อด้านการทูตกับจีนให้แคบลงในแทบทุกช่องทาง โดยมีเป้าหมายคือต้องการเจรจาต่อรองโดยตรงกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติที่ลุกลามบานปลายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองสัญชาติอเมริกา อ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037508

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จำกัดการติดต่อด้านการทูตกับจีนให้แคบลงในแทบทุกช่องทาง โดยมีเป้าหมายคือต้องการเจรจาต่อรองโดยตรงกับ สี จิ้นผิง ผู้นำจีน ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่าง 2 ชาติที่ลุกลามบานปลายหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของโพลิติโก เว็บไซต์ข่าวการเมืองสัญชาติอเมริกา อ้างอิงแหล่งข่าวที่ไม่ประสงค์เอ่ยนาม . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037508 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 615 มุมมอง 0 รีวิว
  • คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลับสู่ทำเนียบขาว โดยที่อเมริกันชนจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรายนี้ในการขยายขอบเขตอำนาจประธานาธิบดี จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอส ที่เผยแพร่ในวันจันทร์(21เม.ย.)
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037478

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    คะแนนนิยมของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลับสู่ทำเนียบขาว โดยที่อเมริกันชนจำนวนมากแสดงให้เห็นถึงสัญญาณแห่งความวิตกกังวลเกี่ยวกับความพยายามของผู้นำรายนี้ในการขยายขอบเขตอำนาจประธานาธิบดี จากผลสำรวจความคิดเห็นที่จัดทำโดยรอยเตอร์/อิปซอส ที่เผยแพร่ในวันจันทร์(21เม.ย.) . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000037478 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 596 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่

    นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น

    สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน

    ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000037319

    #MGROnline #สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย #ข้าวไทย #ส่งออกข้าวขาว
    สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยเผยส่งออกข้าว 3 เดือน ปี 68 ทำได้แค่ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% ได้รับผลกระทบอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาว อินโดนีเซียหยุดนำเข้า ส่วนทรัมป์ 2.0 ทำให้สหรัฐฯ มีการเร่งซื้อข้าวไทยไปเก็บสต๊อก แต่ระยะยาว หากภาษีขึ้น ส่งออกกระทบแน่ ยังยืนเป้าปีนี้ 7.5 ล้านตัน รอดูครึ่งปีจะทบทวนหรือไม่ • นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า การส่งออกข้าวไทยในช่วง 3 เดือน ปี 2568 (ม.ค.-มี.ค.) มีปริมาณ 2.1 ล้านตัน ลดลง 30% เนื่องจากอินเดียกลับมาส่งออกข้าวขาวอีกครั้ง หลังระงับส่งออกในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และยังได้รับผลกระทบจากอินโดนีเซีย ซึ่งผู้นำเข้ารายสำคัญในปีที่ผ่านมา ที่นำเข้าสูงถึง 4 ล้านตัน แต่ช่วงนี้หยุดการนำเข้าข้าวจากไทย เพราะมีผลผลิตในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปีนี้ทั้งปีอินโดนีเซียอาจนำเข้าข้าวไม่ถึง 1 ล้านตัน และคาดว่าจะกลับมานำเข้าในช่วงครึ่งปีหลัง ทำให้ปริมาณส่งออกข้าวขาวลดลงถึง 53% แต่ยังดีที่มียอดส่งออกข้าวหอมมะลิไทย และข้าวนึ่งเพิ่มขึ้น • สำหรับนโยบายทรัมป์ 2.0 ยังเป็นประเด็นที่ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้มีการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากไทยแล้ว 10% จากเดิมภาษีอยู่ที่ 0% โดยการชะลอการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในอัตรา 36% ออกไป 90 วัน ทำให้มีคำสั่งซื้อข้าวไทยเพิ่มมากขึ้น เพื่อเก็บในสต็อก โดยในช่วงไตรมาสแรก มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทยไปแล้วกว่า 2 แสนตัน ส่วนปีที่ผ่านมา ส่งออกข้าวไปตลาดสหรัฐฯ ปริมาณ 830,000 ตัน เป็นข้าวหอมมะลิไทย 630,000 ตัน และข้าวหอมไทย 120,000 ตัน โดยแต่ละปี มีการส่งออกข้าวหอมมะลิไทย รวม 1.3-1.4 ล้านตัน • ทั้งนี้ ในระยะต่อไป หากไทยถูกสหรัฐฯ เก็บภาษีเพิ่มขึ้นเป็น 25% ราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยปัจจุบันอยู่ที่ 1,000 เหรียญสหรัฐต่อตัน ราคาจะเพิ่มเป็น 1,250 เหรียญสหรัฐต่อตัน ซึ่งไม่แน่ใจว่าผู้บริโภคสหรัฐฯ จะรับราคาที่เพิ่มได้หรือไม่ ซึ่งต้องรอดูผลตอบรับต่อไป • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> https://mgronline.com/business/detail/9680000037319 • #MGROnline #สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย #ข้าวไทย #ส่งออกข้าวขาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 152 มุมมอง 0 รีวิว
  • Klaus Schwab ลาออกจากตำแหน่งประธาน World Economic Forum (WEF) มีผลทันที!

    WEF คือองค์กรที่เขาก่อตั้งเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กลายเป็นงานประชุมสำคัญซึ่งผู้นำประเทศมหาอำนาจของโลกต้องเข้าร่วมประชุมทุกปีในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

    “หลังจากการประกาศเมื่อไม่นานนี้ และในขณะที่ผมก้าวเข้าสู่ปีที่ 88 ผมได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร โดยมีผลทันที” Schwab กล่าว

    เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน NY Post รายงานว่า Schwab จะลาออกทันทีหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยุบองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID)
    Klaus Schwab ลาออกจากตำแหน่งประธาน World Economic Forum (WEF) มีผลทันที! WEF คือองค์กรที่เขาก่อตั้งเมื่อ 50 ปีที่แล้ว กลายเป็นงานประชุมสำคัญซึ่งผู้นำประเทศมหาอำนาจของโลกต้องเข้าร่วมประชุมทุกปีในเมืองดาวอส ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ “หลังจากการประกาศเมื่อไม่นานนี้ และในขณะที่ผมก้าวเข้าสู่ปีที่ 88 ผมได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธานและสมาชิกคณะกรรมการบริหาร โดยมีผลทันที” Schwab กล่าว เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน NY Post รายงานว่า Schwab จะลาออกทันทีหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์ยุบองค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID)
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • .. ส่วนตัวอย่าลืมว่าdeep stateซื้อคนไว้แล้วในทุกๆวงการ แค่อยากให้เรามารู้อะไรที่พวกมันวางหมากให้อยากรู้อยากสื่ออยากบอกก่อนจะลงมือทำจริง,หรือขออนุญาตพระเจ้าก่อนก็ว่า แบบๆกูบอกมึงแล้วนะ อย่าหาว่ากูไม่บอกนะ,เหมือนdeep stateลัทธิตาเดียวของฝรั่งท่านหลอดกาแฟจะทำอะไรมันเตือนผ่านสื่อผ่านเครื่องหมายผ่านสัญลักษณ์จากสมุนคนของมันนัันล่ะ...ประเทศไทยแปลกกว่าทุกๆชาติทั่วโลกที่มารอสูรต่างด้าวมิติชั่วเลวยังยอมใจ ไม่สามารถเอาชนะได้แม้มีสาระพัดฤทธิ์เดชเวทมนต์ดำชั่วมากมายเก่งกาจขนาดไหนก็อยากจะสร้างหายนะให้สิ้นชาติได้,บังเอิญอาจคนดีทั่วจักรวาลมาเกิดร่วมกันบนแผ่นดินไทยโดยมากมั้ง,วางความท้าทายเป็นพระรามกับทศกัณฐ์ก็ได้ มีแขนมีหน้ามีหัวแบบคนธรรมดาก็สามารถเอาชนะได้,พระรามเปรียบเสมือนประชาชนคนธรรมดา,ทศกัณฐ์เปรียบเสมือนผู้นำผู้ปกครองเลวชั่วประดับชั่วคราวแขวนไว้รอเชือดตกลงมาตายบนพื้นก็ว่าที่มีฤทธิ์เดชอำนาจสร้างชั่วเลวเต็มตรึมแผ่นดินทั่วประเทศกับสมุนรับใช้ขี้ข้าทาสเลวชั่วเหมือนกันกับมันทั้งเดอะแก๊ง.,และจุดจบจุดอวสานของเรื่องกำลังเดินมาถึงแล้ว,อย่างเร็วเดือนหน้า,อย่างช้าถ้ายานสภากาแล็กติกไม่มาลงร่วมวงระเบิดพวกมันด้วยอาจ2-3ปี.,และนี้คือเกมส์หมากเพื่อวางทางแบบตั้งใจก็อาจใช่ด้วย.,มันสมควรจบและสมควรแก้เวลาแล้วจริงๆ...ถ้าเราคนไทยไม่จบสิ่งเลวชั่วนี้จริงๆเราไม่สามารถสร้างชาติไทยให้ไปต่อใดๆได้และอาจเป็นทาสไร้อิสระเสรีทั้งทางกายและจิตวิญญาณแน่นอน.,ถูกกดขี่เป็นชนชั้นทาสชนชั้นไพร่ชนชั้นที่3,4,5ที่ไม่ใช่สถานะเจ้าของร่วมกันของแผ่นดินไทยเรานี้ที่เคยเป็นมาก็ว่า.

    https://youtube.com/watch?v=vXVPDryr7n8&si=-sLXVMJNepTs6TiQ
    .. ส่วนตัวอย่าลืมว่าdeep stateซื้อคนไว้แล้วในทุกๆวงการ แค่อยากให้เรามารู้อะไรที่พวกมันวางหมากให้อยากรู้อยากสื่ออยากบอกก่อนจะลงมือทำจริง,หรือขออนุญาตพระเจ้าก่อนก็ว่า แบบๆกูบอกมึงแล้วนะ อย่าหาว่ากูไม่บอกนะ,เหมือนdeep stateลัทธิตาเดียวของฝรั่งท่านหลอดกาแฟจะทำอะไรมันเตือนผ่านสื่อผ่านเครื่องหมายผ่านสัญลักษณ์จากสมุนคนของมันนัันล่ะ...ประเทศไทยแปลกกว่าทุกๆชาติทั่วโลกที่มารอสูรต่างด้าวมิติชั่วเลวยังยอมใจ ไม่สามารถเอาชนะได้แม้มีสาระพัดฤทธิ์เดชเวทมนต์ดำชั่วมากมายเก่งกาจขนาดไหนก็อยากจะสร้างหายนะให้สิ้นชาติได้,บังเอิญอาจคนดีทั่วจักรวาลมาเกิดร่วมกันบนแผ่นดินไทยโดยมากมั้ง,วางความท้าทายเป็นพระรามกับทศกัณฐ์ก็ได้ มีแขนมีหน้ามีหัวแบบคนธรรมดาก็สามารถเอาชนะได้,พระรามเปรียบเสมือนประชาชนคนธรรมดา,ทศกัณฐ์เปรียบเสมือนผู้นำผู้ปกครองเลวชั่วประดับชั่วคราวแขวนไว้รอเชือดตกลงมาตายบนพื้นก็ว่าที่มีฤทธิ์เดชอำนาจสร้างชั่วเลวเต็มตรึมแผ่นดินทั่วประเทศกับสมุนรับใช้ขี้ข้าทาสเลวชั่วเหมือนกันกับมันทั้งเดอะแก๊ง.,และจุดจบจุดอวสานของเรื่องกำลังเดินมาถึงแล้ว,อย่างเร็วเดือนหน้า,อย่างช้าถ้ายานสภากาแล็กติกไม่มาลงร่วมวงระเบิดพวกมันด้วยอาจ2-3ปี.,และนี้คือเกมส์หมากเพื่อวางทางแบบตั้งใจก็อาจใช่ด้วย.,มันสมควรจบและสมควรแก้เวลาแล้วจริงๆ...ถ้าเราคนไทยไม่จบสิ่งเลวชั่วนี้จริงๆเราไม่สามารถสร้างชาติไทยให้ไปต่อใดๆได้และอาจเป็นทาสไร้อิสระเสรีทั้งทางกายและจิตวิญญาณแน่นอน.,ถูกกดขี่เป็นชนชั้นทาสชนชั้นไพร่ชนชั้นที่3,4,5ที่ไม่ใช่สถานะเจ้าของร่วมกันของแผ่นดินไทยเรานี้ที่เคยเป็นมาก็ว่า. https://youtube.com/watch?v=vXVPDryr7n8&si=-sLXVMJNepTs6TiQ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 114 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..เราก้าวมาถึงทางตันเลยก็ว่าหรือผู้นำนั้นล่ะพาเดินมาทางตัน ,หลงทาง ออกจากเขาวงกตไม่ได้ และเจตจาพามาฆ่าสังหารทำให้ตายแล้วยึดชิงปล้นทรัพย์เต็มที่ไร้การขัดขืนใดๆอีก.

    ..ปฏิวัตอย่างเดียว ทหารคือหนทางออกกับนักการเมืองอีลิทdeep stateควบคุมนี้,ล้มเหลว&ตกประเมินด้านไปทางพ้นยากจนด้วย,เจริญเพียงเดอะแก๊งdeep state ,จะมองคาสิโนมองบ่อน้ำมันมองแลนด์บริจด์ล้วนdeep stateข้ามชาติต้องการอยากได้หมด.

    ..เรามันยุคปฏิวัติรุ่นน้ำหมากจริงๆ,คนหนุ่มสาวไร้สติปัญญากำลังไร้สมองบวกถูกล้างสมองสิ้น,โน้นdeep stateพาชูสามนิ้วแทรกแซงมุกปั่นป่วนสร้างก่อโกลาหลมันก็พากันไปตรึม.ดีนะที่ยังมีคนรุ่นน้ำหมากรุ่นสุดท้ายยังเหลือ,ชาติไทยจึงต้องจบและเริ่มกวาดล้างสิ้นซากมิให้คนพวกนี้มีชีวิตจึงสำคัญมากๆ.
    ..และทำไมจึงรอนานจังหวะมาขนาดนี้,เราไม่ยินดีในทหารยึดอำนาจแบบๆยุคอดีตซึ่งทั้งหมดเป็นฝ่ายของdeep stateเล่นบททำเองแต่งชงกินเองทั้งสิ้น,เราต้องการทหารพระราชาจริงๆ.บ้านเมืองชาติไหนจะเป็นแบบใดไม่ใส่ใจ บ้านเมืองเราต้องดีขึ้นคู่ขนานทั้งกายวัตถุธาตุภายนอกและเจริญล้ำทางจิตวิญญาณที่ทรงคุณค่าสถานเดียวจริงๆและสมควรเป็นเช่นนั้นนานมาแล้ว.
    ..การปกครองจริงๆเพราะอำนาจการปกครองคนดีต้องได้ครอบครอง.

    https://youtube.com/watch?v=6a5e8msRYLE&si=MDVkuZBrEh4QXq8B
    ..เราก้าวมาถึงทางตันเลยก็ว่าหรือผู้นำนั้นล่ะพาเดินมาทางตัน ,หลงทาง ออกจากเขาวงกตไม่ได้ และเจตจาพามาฆ่าสังหารทำให้ตายแล้วยึดชิงปล้นทรัพย์เต็มที่ไร้การขัดขืนใดๆอีก. ..ปฏิวัตอย่างเดียว ทหารคือหนทางออกกับนักการเมืองอีลิทdeep stateควบคุมนี้,ล้มเหลว&ตกประเมินด้านไปทางพ้นยากจนด้วย,เจริญเพียงเดอะแก๊งdeep state ,จะมองคาสิโนมองบ่อน้ำมันมองแลนด์บริจด์ล้วนdeep stateข้ามชาติต้องการอยากได้หมด. ..เรามันยุคปฏิวัติรุ่นน้ำหมากจริงๆ,คนหนุ่มสาวไร้สติปัญญากำลังไร้สมองบวกถูกล้างสมองสิ้น,โน้นdeep stateพาชูสามนิ้วแทรกแซงมุกปั่นป่วนสร้างก่อโกลาหลมันก็พากันไปตรึม.ดีนะที่ยังมีคนรุ่นน้ำหมากรุ่นสุดท้ายยังเหลือ,ชาติไทยจึงต้องจบและเริ่มกวาดล้างสิ้นซากมิให้คนพวกนี้มีชีวิตจึงสำคัญมากๆ. ..และทำไมจึงรอนานจังหวะมาขนาดนี้,เราไม่ยินดีในทหารยึดอำนาจแบบๆยุคอดีตซึ่งทั้งหมดเป็นฝ่ายของdeep stateเล่นบททำเองแต่งชงกินเองทั้งสิ้น,เราต้องการทหารพระราชาจริงๆ.บ้านเมืองชาติไหนจะเป็นแบบใดไม่ใส่ใจ บ้านเมืองเราต้องดีขึ้นคู่ขนานทั้งกายวัตถุธาตุภายนอกและเจริญล้ำทางจิตวิญญาณที่ทรงคุณค่าสถานเดียวจริงๆและสมควรเป็นเช่นนั้นนานมาแล้ว. ..การปกครองจริงๆเพราะอำนาจการปกครองคนดีต้องได้ครอบครอง. https://youtube.com/watch?v=6a5e8msRYLE&si=MDVkuZBrEh4QXq8B
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 125 มุมมอง 0 รีวิว
  • 21 เมษายน .. #วันเกิดกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 243 ปี ตามพื้นดวง ท่านโหราจารย์ ท่านผูกดวงเมืองให้กษัตริย์เป็นใหญ่ที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด และกุมดวงเมือง ดังนั้นใครจะมาบังอาจตีเสมอ เลิกคิด !!!

    ท่านผูกให้ทหารเป็นราชาโชค คือโชคของพระราชา ใครบังอาจแตะต้องทหารก็ต้องหยุดอีก!!!

    ท่านผูกให้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เนื่องนองในแผ่นดินใครบังอาจแตะก็ต้องหยุดเช่นกัน เอาไปแล้วเอาไปเพราะจะเป็นไฟบรรลัยกัลป์เผาบ้านเผาตระกูล ตายไปก็ลงนรก ที่สุดก็จะมีแหล่งใหม่ผุดขึ้นมาอีก เพราะท่านให้ฤกษ์ดวงเมืองเป็นมหัทธโนฤกษ์ คือฤกษ์เศรษฐี ประชาชนจะมีกินมีใช้ ถ้าจนก็จะมีกิน ไม่มีความว่าอดอยากอดตาย คิดดูหมาในวัดยังอ้วนเลย

    ท่านผูกดวงให้มีทรัพย์ในดินสินในน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์สุดๆ ประเทศจะมีพระราชินีที่งดงาม เก่ง ....ประเทศจะไม่ขาดผู้หญิงงาม หญิงไทยจะเป็นความภูมืใจของชาติ

    ท่านผูกให้พระศาสนาแข็งแกร่ง มีพระรัตตัญญูเป็นสังฆราช มีพระรัตตัญญูเป็นมิ่งขวัญของพระศาสนา ในพระศาสนาต้องพระเฒ่าค่ะ พระเด็กถ้าลัดวงจร ก็ต้องจรไปตามกำลังกรรม ประเทศนี้ไม่ได้ผู้ดวงให้พระเด็กค่ะ ดังนั้นหยุด!!!

    ประเทศไทย อบายมุขทุกประเภท แค่คิดก็อาเพศแล้ว

    คำทำนายของวันเกิดประเทศปีนี้

    1. ภาคประชาชนจะมีกำลังและอำนาจมหาศาล

    2. การผลักดันเรื่องพลังงานจะสำเร็จ

    3. ประเทศไทยจะได้ผู้นำคนใหม่ที่เป็นผู้เฒ่า

    4. จะมีคนหนีออกนอกประเทศ

    5. อบายมุขทุกประเภทจะถูกทำลาย

    6. คนรุ่นใหม่ยังไม่ได้เกิด เพราะท่านไม่ได้ผูกดวงให้เด็กเป็นใหญ่

    .....

    ทำนายโดย แม่ชีแดงต้อย
    20 เม.ย. 2568
    21 เมษายน .. #วันเกิดกรุงรัตนโกสินทร์ ครบรอบ 243 ปี ตามพื้นดวง ท่านโหราจารย์ ท่านผูกดวงเมืองให้กษัตริย์เป็นใหญ่ที่สุด ยิ่งใหญ่ที่สุด และกุมดวงเมือง ดังนั้นใครจะมาบังอาจตีเสมอ เลิกคิด !!! ท่านผูกให้ทหารเป็นราชาโชค คือโชคของพระราชา ใครบังอาจแตะต้องทหารก็ต้องหยุดอีก!!! ท่านผูกให้น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เนื่องนองในแผ่นดินใครบังอาจแตะก็ต้องหยุดเช่นกัน เอาไปแล้วเอาไปเพราะจะเป็นไฟบรรลัยกัลป์เผาบ้านเผาตระกูล ตายไปก็ลงนรก ที่สุดก็จะมีแหล่งใหม่ผุดขึ้นมาอีก เพราะท่านให้ฤกษ์ดวงเมืองเป็นมหัทธโนฤกษ์ คือฤกษ์เศรษฐี ประชาชนจะมีกินมีใช้ ถ้าจนก็จะมีกิน ไม่มีความว่าอดอยากอดตาย คิดดูหมาในวัดยังอ้วนเลย ท่านผูกดวงให้มีทรัพย์ในดินสินในน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์สุดๆ ประเทศจะมีพระราชินีที่งดงาม เก่ง ....ประเทศจะไม่ขาดผู้หญิงงาม หญิงไทยจะเป็นความภูมืใจของชาติ ท่านผูกให้พระศาสนาแข็งแกร่ง มีพระรัตตัญญูเป็นสังฆราช มีพระรัตตัญญูเป็นมิ่งขวัญของพระศาสนา ในพระศาสนาต้องพระเฒ่าค่ะ พระเด็กถ้าลัดวงจร ก็ต้องจรไปตามกำลังกรรม ประเทศนี้ไม่ได้ผู้ดวงให้พระเด็กค่ะ ดังนั้นหยุด!!! ประเทศไทย อบายมุขทุกประเภท แค่คิดก็อาเพศแล้ว คำทำนายของวันเกิดประเทศปีนี้ 1. ภาคประชาชนจะมีกำลังและอำนาจมหาศาล 2. การผลักดันเรื่องพลังงานจะสำเร็จ 3. ประเทศไทยจะได้ผู้นำคนใหม่ที่เป็นผู้เฒ่า 4. จะมีคนหนีออกนอกประเทศ 5. อบายมุขทุกประเภทจะถูกทำลาย 6. คนรุ่นใหม่ยังไม่ได้เกิด เพราะท่านไม่ได้ผูกดวงให้เด็กเป็นใหญ่ ..... ทำนายโดย แม่ชีแดงต้อย 20 เม.ย. 2568
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 151 มุมมอง 0 รีวิว
  • เขมรฉลาดกว่าคนไทยที่มีการศึกษาสูงๆ หลอกง่าย เขมรนำคนมาอยู่รอบๆ เขาพระวิหารตรงเขมรใช้เป็นหลักกับศาลโลก ทหารไทย รัฐบาลไทยเขลาไม่กล้าไล่
    เช่นเดียวกัน เขมรให้คนมาอยู่เกาะกูด แผนเดิมๆ ไปศาลไหนก็ชนะ เพราะผู้นำเป็นญาติเขมรเซ็นเอกสารใดๆ ถือว่าแบ่งเกาะกูดแล้วศาลฝรั่งเขาต้องการทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราอยู่แล้ว เขาต้องการแผ่นดินไทยมาก
    เขมรฉลาดกว่าคนไทยที่มีการศึกษาสูงๆ หลอกง่าย เขมรนำคนมาอยู่รอบๆ เขาพระวิหารตรงเขมรใช้เป็นหลักกับศาลโลก ทหารไทย รัฐบาลไทยเขลาไม่กล้าไล่ เช่นเดียวกัน เขมรให้คนมาอยู่เกาะกูด แผนเดิมๆ ไปศาลไหนก็ชนะ เพราะผู้นำเป็นญาติเขมรเซ็นเอกสารใดๆ ถือว่าแบ่งเกาะกูดแล้วศาลฝรั่งเขาต้องการทำลาย ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เราอยู่แล้ว เขาต้องการแผ่นดินไทยมาก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 105 มุมมอง 0 รีวิว
  • เราเป็นเมืองเกษตรกรรม..ที่จะเลี้ยงคนในประเทศและอีกหลายประเทศ จากนี้ไปการเกษตรสำคัญมาก.ต้องใช้เลี้ยงคนทั้งประเทศ ยิ่งโลกมีสงครามอาหารสำคัญมากกว่าสิ่งใด..ผู้นำประเทศต้องฉลาดมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล
    หากมีผู้นำเขลาและวิสัยทัศน์ที่แคบ และมีความรู้รอบด้านน้อย ประเทศชาติจะไปไม่รอด
    เราเป็นเมืองเกษตรกรรม..ที่จะเลี้ยงคนในประเทศและอีกหลายประเทศ จากนี้ไปการเกษตรสำคัญมาก.ต้องใช้เลี้ยงคนทั้งประเทศ ยิ่งโลกมีสงครามอาหารสำคัญมากกว่าสิ่งใด..ผู้นำประเทศต้องฉลาดมีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกล หากมีผู้นำเขลาและวิสัยทัศน์ที่แคบ และมีความรู้รอบด้านน้อย ประเทศชาติจะไปไม่รอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 94 มุมมอง 0 รีวิว
  • ถึงคิว "บูร์กินาฟาโซ"

    สหรัฐกล่าวหาผู้นำบูร์กินาฟาโซ ใช้ทองคำสำรองของประเทศเพื่อปกป้องตนเองและพรรคพวก ด้านวุฒิสภาสหรัฐกำลังพูดถึงมาตรการที่เตรียมออกมาใช้กับประเทศที่เพิ่งหลุดพ้นจากอิทธิพลฝรั่งเศส

    นายพลไมเคิล แลงลีย์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐเขตแอฟริกา (AFRICOM) กล่าวหากัปตันอิบราฮิม ตราโอเร่ ผู้นำบูร์กินาฟาโซ ว่าใช้ทองคำของประเทศเพื่อปกป้องตนเองและกลุ่มผู้ปกครองประเทศที่มาจากคณะรัฐประหาร มากกว่าใช้เพื่อความมั่นคงของประชาชน ในระหว่างการตอบคำถามของ 'โรเจอร์ วิกเกอร์' สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2025 เกี่ยวกับการทุจริตและการติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับการค้ากับจีน จนนำไปสู่การขับไล่ผู้บริหารบริษัทจีนออกนอกประเทศ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 เมษายน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศบูร์กินาฟาโซ "คาราโมโก ฌอง มารี ตราโอเร" ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าข้อกล่าวหา "ไม่มีมูลความจริง" และข้อกล่าวหาดังกล่าวยังไม่ชัดเจน หรือหลักฐานเพียงพอ

    สิ่งนี้เนื่องจากข้อมูลที่มีความขัดแย้งกันและหลักฐานที่ไม่เพียงพอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กว้างขึ้น เนื่องจากบูร์กินาฟาโซกำลังละทิ้งอิทธิพลของชาติตะวันตก จำเป็นต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าทองคำดังกล่าวถูกนำมาใช้อย่างไร

    เมื่อสหรัฐนำเรื่องใดก็ตามเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภา นั่นหมายความว่า พวกเขากำลังเตรียมสร้างเหตุผลเพื่อเพิ่มทำอะไรบางอย่างในบูร์กินาฟาโซ ซึ่งอาจส่งผลถึงอนาคตของกัปตันตราโอเร่ในอนาคต
    ถึงคิว "บูร์กินาฟาโซ" สหรัฐกล่าวหาผู้นำบูร์กินาฟาโซ ใช้ทองคำสำรองของประเทศเพื่อปกป้องตนเองและพรรคพวก ด้านวุฒิสภาสหรัฐกำลังพูดถึงมาตรการที่เตรียมออกมาใช้กับประเทศที่เพิ่งหลุดพ้นจากอิทธิพลฝรั่งเศส นายพลไมเคิล แลงลีย์ ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐเขตแอฟริกา (AFRICOM) กล่าวหากัปตันอิบราฮิม ตราโอเร่ ผู้นำบูร์กินาฟาโซ ว่าใช้ทองคำของประเทศเพื่อปกป้องตนเองและกลุ่มผู้ปกครองประเทศที่มาจากคณะรัฐประหาร มากกว่าใช้เพื่อความมั่นคงของประชาชน ในระหว่างการตอบคำถามของ 'โรเจอร์ วิกเกอร์' สมาชิกวุฒิสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2025 เกี่ยวกับการทุจริตและการติดสินบนที่เกี่ยวข้องกับการค้ากับจีน จนนำไปสู่การขับไล่ผู้บริหารบริษัทจีนออกนอกประเทศ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 15 เมษายน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของประเทศบูร์กินาฟาโซ "คาราโมโก ฌอง มารี ตราโอเร" ออกแถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่าข้อกล่าวหา "ไม่มีมูลความจริง" และข้อกล่าวหาดังกล่าวยังไม่ชัดเจน หรือหลักฐานเพียงพอ สิ่งนี้เนื่องจากข้อมูลที่มีความขัดแย้งกันและหลักฐานที่ไม่เพียงพอ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่กว้างขึ้น เนื่องจากบูร์กินาฟาโซกำลังละทิ้งอิทธิพลของชาติตะวันตก จำเป็นต้องมีการสืบสวนเพิ่มเติมเพื่อยืนยันว่าทองคำดังกล่าวถูกนำมาใช้อย่างไร เมื่อสหรัฐนำเรื่องใดก็ตามเข้าสู่การพิจารณาในรัฐสภา นั่นหมายความว่า พวกเขากำลังเตรียมสร้างเหตุผลเพื่อเพิ่มทำอะไรบางอย่างในบูร์กินาฟาโซ ซึ่งอาจส่งผลถึงอนาคตของกัปตันตราโอเร่ในอนาคต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 287 มุมมอง 0 รีวิว
  • Seagate ได้เผยแพร่รายงานชื่อ "Decarbonizing Data" ซึ่งเน้นถึงความท้าทายด้านความยั่งยืนที่ศูนย์ข้อมูลต้องเผชิญในยุคที่ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2023 และยังเน้นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล

    ✅ ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030
    - การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขยายตัวของธุรกิจและการใช้งาน AI
    - 53.5% ของผู้นำธุรกิจ กังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น

    ✅ Seagate แนะนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน
    - เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการใช้ HVAC ที่มีประสิทธิภาพสูง
    - แพลตฟอร์ม HAMR-based Mozaic 3+ ของ Seagate ช่วยลดคาร์บอนต่อเทราไบต์ได้กว่า 70%

    ✅ การยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ
    - 92.2% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เห็นด้วยว่าการยืดอายุการใช้งานช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

    ✅ HDD มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า SSD
    - SSD สร้างคาร์บอนสะสมต่อเทราไบต์มากกว่า HDD ถึง 160 เท่า ในช่วงอายุการใช้งาน 5 ปี

    https://www.neowin.net/news/as-millions-of-windows-10-pcs-await-ewaste-dump-seagate-claims-ssds-are-way-worse-than-hdds/
    Seagate ได้เผยแพร่รายงานชื่อ "Decarbonizing Data" ซึ่งเน้นถึงความท้าทายด้านความยั่งยืนที่ศูนย์ข้อมูลต้องเผชิญในยุคที่ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในยุคของปัญญาประดิษฐ์ (AI) รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลทั่วโลกอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030 เมื่อเทียบกับปี 2023 และยังเน้นถึงความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน เช่น การใช้ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการเพิ่มประสิทธิภาพของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล ✅ ความต้องการพลังงานของศูนย์ข้อมูลอาจเพิ่มขึ้นถึง 165% ภายในปี 2030 - การเพิ่มขึ้นนี้เกิดจากการขยายตัวของธุรกิจและการใช้งาน AI - 53.5% ของผู้นำธุรกิจ กังวลเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้น ✅ Seagate แนะนำเทคโนโลยีที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน - เช่น ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวและการใช้ HVAC ที่มีประสิทธิภาพสูง - แพลตฟอร์ม HAMR-based Mozaic 3+ ของ Seagate ช่วยลดคาร์บอนต่อเทราไบต์ได้กว่า 70% ✅ การยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ - 92.2% ของผู้ตอบแบบสอบถาม เห็นด้วยว่าการยืดอายุการใช้งานช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ✅ HDD มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า SSD - SSD สร้างคาร์บอนสะสมต่อเทราไบต์มากกว่า HDD ถึง 160 เท่า ในช่วงอายุการใช้งาน 5 ปี https://www.neowin.net/news/as-millions-of-windows-10-pcs-await-ewaste-dump-seagate-claims-ssds-are-way-worse-than-hdds/
    WWW.NEOWIN.NET
    As millions of Windows 10 PCs await eWaste dump, Seagate claims SSDs are way worse than HDDs
    Microsoft is ending support for Windows 10 later this year, and that means millions of unsupported PCs will be dumped. Seagate has published a new report considering the e-waste aspect of that.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 145 มุมมอง 0 รีวิว
  • ..วิถีปกครองที่เราทำล้มเหลวเอง,วิถีปกครองที่เสียอธิปไตยชัดเจนที่มาในรูปแบบการลงทุน&ย้ายฐานการผลิต,หากเปรียบกลศึกสงคราม แม่ทัพเราเองขายทัพ&ทรยศบ้านเมืองเอง,ทัพศัตรูตีชิงเมืองแต่ละเมืองก่อนให้ไ้ก็เปรียบทัพย้ายฐานการผลิตนี้ล่ะ,เราคือผู้ปกครองที่ชั่วเขลาเองไปช่วยศัตรูข้าศึกสร้างฐานทัพในบ้านในเมืองตนหรือเชิญข้าศึกมาตั้งค่ายตีเอาเมืองตนเอง,ปัจจุบันใช้มุกเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ล่ะ เคสโยนหินถามทางคือเขตEECนี้ล่ะ,อ้างว่าชาติจะได้ประโยชน์บังหน้า แต่ผลกระทบนั้นคืออธิปไตยความมั่นคงมากมายในนัยยะหลากหลายที่สูญเสียไป,บวกฝีมือไม่ถึงกากอีกในการจัดการแก้ไขปัญหา,โดยเฉพาะความไม่ซื่อสัตย์ในคนราชการของเขตพื้นที่นั้น,และสถานะคนไทยมากมายที่ถูกแย่งชิงไป,ไม่ว่าจะต่างชาติใดๆล้วนไม่ดีที่สุดเท่าคนไทยเราเอง,ซึ่งจัดการได้แบบไทยๆไม่ยากและจบอย่างดีงามด้วย,แต่ต่างชาติจะจีนจะพวกรอบบ้านจะแขกจะฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆ อดีตคือบทเรียนมากมายแล้ว,การสร้างชาติให้อิสระเสรีดีงามเจริญแข็งแกร่งสงบสุขจริงมิใช่คนบ้านอื่นเมืองอื่นมาอยู่แทนมาสร้างแทนให้ดีได้นะ,จีนก็จริตปลูกฝังสั่งสอนแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ยิ่งคนเขามากมาย คนมันไร้ค่าล่ะในสายตาเขา ฝรั่งก็ด้วยแบบที่ๆปล้นชิงอะไรๆเราไปมากมาย,ทั้งหมดคือวิถีสไตล์ปกครองเราที่กากๆนี้ล่ะ ผู้นำผู้มีอำนาจผู้ปกครองเราคือตัวปัญหาของการปกครอง ต่างชาติจึงเหยียบย่ำยีเราได้.
    ..การผลักดันฐานผลิตโรงงานต่างๆจึงสำคัญ เราไม่มีความจำเป็นอะไรมากมายเลยต้องมีโรงงานบนแผ่นดินไทยมากๆ เพราะพวกนายทุนทั้งนั้นได้ประโยชน์ได้ตังกำไรมหาศาลฝ่ายเดียว,เราเปิดเสรีนำเข้าก็ช่วยเรื่องราคาสินค้าไม่แพงได้แล้ว ที่เหลือตรวจสอบคุณภาพสินค้าว่าผ่านไม่ผ่าน มีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ ข้าราชการไทยต้องตรวจสอบอย่างซื่อสัตย์คือจบต้นเรื่อง,น้ำมันนำเข้าเสรีดูสิ ราคาลดลงทันที,บ่อน้ำมันในไทยไม่ต้องขุดก็ได้,ตั้งปั้มน้ำมันต่างชาติที่น้ำเข้าเสรีได้มาตราฐานสากลการใช้ทั่วไปกลางๆคนทั่วโลกมาเปิดปั้มขายน้ำมันแข่งราคากันถูกๆเลยล่ะ ใครฮั่วขับออกจากประเทศ ไม่มีเพดานราคาน้ำมัน ใครขายถูกขายแพงตามสบาย,แต่อยู่ในสายตาพิจารณาจากคนปกครองเรา,แพงเกินก็ปิดปรับปรุงชั่วคราวพักงานสัก3-6เดือนก็ว่า,ต่างพากันขายไม่แพง อาจเทียบกับขายในอิหร่านลิตรละ1-2บาทกันเลยล่ะ,ชาติอื่นๆบริหารแบบไหนไม่สน,ชาติไทยต้นทุนเราถูกจบดีก็พอ,
    ..โรงงานมากมาย เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นนี้มากมายบนฐานการแย่งชิงพื้นที่แผ่นดินไทยที่มีอยู่จำกัดมันไม่ดีหรอก,แย่งชิงทำลายระบบธรรมชาตินิเวศน์อีก คลองห้วยหนองแม่น้ำมีสารพิษจากโรงงาน ดูดน้ำชาวบ้านไปตอบสนองสายการผลิตตน,ดูดอากาศ&ปล่อยอากาศแก๊สพิษบวกสารพิษนำเข้ามากมาย กากขยะโรงงานอีก,นี้คือภัยนัยยะมากมาย,ประเทศใดโรงงานมาก แสดงว่าประเทศนั้นกากมากๆมิว่า ขี้ข้าทุนเสือกไม่รู้ตัว,อุตสาหกรรมคือการขับเคลื่อนประเทศใคร ขับเคลื่อนประเทศแม่มันสิไม่ว่า,เขาฉลาดล้างสมองควายวัวจึงมาสร้างเขาในชาติตน แล้วส่งออกเงินมหาศาลกลับชาติแม่มันโน้น เหลือไว้แค่ขยะสารพิษ เศษซากเนื้อติดกระดูกแบบวลีอ้างว่าคนไทยจะได้ใช้ของถูกราคาไม่แพงมีคุณภาพนะ เขาไม่โง่ เขามาอ้างชื่อประเทศไทยส่งสินค้าออกไปเอากำไรรายได้,
    ..เรามีผู้ปกครองที่โง่และเห็นแก่ตัว ร่ำรวยมั่งคั่งแก่คัวแก่โคตรเหง้าเชื้อสายมันมากนานพอแล้วหรือยัง,ล้ำๆผีบ้าแบบไหน,แต่คนไทยยากจนมากมายเพิ่มขึ้น ตัวบอกชัดคือบัตรคนจนไง.ลงทะเบียนเพิ่มตรึม.

    https://youtube.com/watch?v=UWyKGTPyS5o&si=5sUC7z4lJDe8mQLi
    ..วิถีปกครองที่เราทำล้มเหลวเอง,วิถีปกครองที่เสียอธิปไตยชัดเจนที่มาในรูปแบบการลงทุน&ย้ายฐานการผลิต,หากเปรียบกลศึกสงคราม แม่ทัพเราเองขายทัพ&ทรยศบ้านเมืองเอง,ทัพศัตรูตีชิงเมืองแต่ละเมืองก่อนให้ไ้ก็เปรียบทัพย้ายฐานการผลิตนี้ล่ะ,เราคือผู้ปกครองที่ชั่วเขลาเองไปช่วยศัตรูข้าศึกสร้างฐานทัพในบ้านในเมืองตนหรือเชิญข้าศึกมาตั้งค่ายตีเอาเมืองตนเอง,ปัจจุบันใช้มุกเขตเศรษฐกิจพิเศษนี้ล่ะ เคสโยนหินถามทางคือเขตEECนี้ล่ะ,อ้างว่าชาติจะได้ประโยชน์บังหน้า แต่ผลกระทบนั้นคืออธิปไตยความมั่นคงมากมายในนัยยะหลากหลายที่สูญเสียไป,บวกฝีมือไม่ถึงกากอีกในการจัดการแก้ไขปัญหา,โดยเฉพาะความไม่ซื่อสัตย์ในคนราชการของเขตพื้นที่นั้น,และสถานะคนไทยมากมายที่ถูกแย่งชิงไป,ไม่ว่าจะต่างชาติใดๆล้วนไม่ดีที่สุดเท่าคนไทยเราเอง,ซึ่งจัดการได้แบบไทยๆไม่ยากและจบอย่างดีงามด้วย,แต่ต่างชาติจะจีนจะพวกรอบบ้านจะแขกจะฝรั่งหรือคนต่างชาติใดๆ อดีตคือบทเรียนมากมายแล้ว,การสร้างชาติให้อิสระเสรีดีงามเจริญแข็งแกร่งสงบสุขจริงมิใช่คนบ้านอื่นเมืองอื่นมาอยู่แทนมาสร้างแทนให้ดีได้นะ,จีนก็จริตปลูกฝังสั่งสอนแบบเผด็จการคอมมิวนิสต์ ยิ่งคนเขามากมาย คนมันไร้ค่าล่ะในสายตาเขา ฝรั่งก็ด้วยแบบที่ๆปล้นชิงอะไรๆเราไปมากมาย,ทั้งหมดคือวิถีสไตล์ปกครองเราที่กากๆนี้ล่ะ ผู้นำผู้มีอำนาจผู้ปกครองเราคือตัวปัญหาของการปกครอง ต่างชาติจึงเหยียบย่ำยีเราได้. ..การผลักดันฐานผลิตโรงงานต่างๆจึงสำคัญ เราไม่มีความจำเป็นอะไรมากมายเลยต้องมีโรงงานบนแผ่นดินไทยมากๆ เพราะพวกนายทุนทั้งนั้นได้ประโยชน์ได้ตังกำไรมหาศาลฝ่ายเดียว,เราเปิดเสรีนำเข้าก็ช่วยเรื่องราคาสินค้าไม่แพงได้แล้ว ที่เหลือตรวจสอบคุณภาพสินค้าว่าผ่านไม่ผ่าน มีสารพิษหรือไม่มีสารพิษ ข้าราชการไทยต้องตรวจสอบอย่างซื่อสัตย์คือจบต้นเรื่อง,น้ำมันนำเข้าเสรีดูสิ ราคาลดลงทันที,บ่อน้ำมันในไทยไม่ต้องขุดก็ได้,ตั้งปั้มน้ำมันต่างชาติที่น้ำเข้าเสรีได้มาตราฐานสากลการใช้ทั่วไปกลางๆคนทั่วโลกมาเปิดปั้มขายน้ำมันแข่งราคากันถูกๆเลยล่ะ ใครฮั่วขับออกจากประเทศ ไม่มีเพดานราคาน้ำมัน ใครขายถูกขายแพงตามสบาย,แต่อยู่ในสายตาพิจารณาจากคนปกครองเรา,แพงเกินก็ปิดปรับปรุงชั่วคราวพักงานสัก3-6เดือนก็ว่า,ต่างพากันขายไม่แพง อาจเทียบกับขายในอิหร่านลิตรละ1-2บาทกันเลยล่ะ,ชาติอื่นๆบริหารแบบไหนไม่สน,ชาติไทยต้นทุนเราถูกจบดีก็พอ, ..โรงงานมากมาย เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้นนี้มากมายบนฐานการแย่งชิงพื้นที่แผ่นดินไทยที่มีอยู่จำกัดมันไม่ดีหรอก,แย่งชิงทำลายระบบธรรมชาตินิเวศน์อีก คลองห้วยหนองแม่น้ำมีสารพิษจากโรงงาน ดูดน้ำชาวบ้านไปตอบสนองสายการผลิตตน,ดูดอากาศ&ปล่อยอากาศแก๊สพิษบวกสารพิษนำเข้ามากมาย กากขยะโรงงานอีก,นี้คือภัยนัยยะมากมาย,ประเทศใดโรงงานมาก แสดงว่าประเทศนั้นกากมากๆมิว่า ขี้ข้าทุนเสือกไม่รู้ตัว,อุตสาหกรรมคือการขับเคลื่อนประเทศใคร ขับเคลื่อนประเทศแม่มันสิไม่ว่า,เขาฉลาดล้างสมองควายวัวจึงมาสร้างเขาในชาติตน แล้วส่งออกเงินมหาศาลกลับชาติแม่มันโน้น เหลือไว้แค่ขยะสารพิษ เศษซากเนื้อติดกระดูกแบบวลีอ้างว่าคนไทยจะได้ใช้ของถูกราคาไม่แพงมีคุณภาพนะ เขาไม่โง่ เขามาอ้างชื่อประเทศไทยส่งสินค้าออกไปเอากำไรรายได้, ..เรามีผู้ปกครองที่โง่และเห็นแก่ตัว ร่ำรวยมั่งคั่งแก่คัวแก่โคตรเหง้าเชื้อสายมันมากนานพอแล้วหรือยัง,ล้ำๆผีบ้าแบบไหน,แต่คนไทยยากจนมากมายเพิ่มขึ้น ตัวบอกชัดคือบัตรคนจนไง.ลงทะเบียนเพิ่มตรึม. https://youtube.com/watch?v=UWyKGTPyS5o&si=5sUC7z4lJDe8mQLi
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ส่งออกชะงัก! รอเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ : [Biz Talk]

    สินค้าส่งออกไทยค้างสต๊อก ออร์เดอร์ใหม่ชะงัก! เหตุผู้นำเข้า กังวลนโยบายภาษีทรัมป์ 2.0 หอการค้าไทย หวังการเจรจาต่อรองไทย-สหรัฐ ทำได้เร็ว บรรลุผล ช่วยลดผลกระทบส่งออกไทย เม.ย.-พ.ค. แต่หากไม่สามารถเจรจากันได้ /ส่งออกไทย มิ.ย.68 เป็นต้นไป ปัญหาใหญ่แน่! แนะหลักการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ Fair : Balance
    ส่งออกชะงัก! รอเจรจาการค้าไทย-สหรัฐ : [Biz Talk] สินค้าส่งออกไทยค้างสต๊อก ออร์เดอร์ใหม่ชะงัก! เหตุผู้นำเข้า กังวลนโยบายภาษีทรัมป์ 2.0 หอการค้าไทย หวังการเจรจาต่อรองไทย-สหรัฐ ทำได้เร็ว บรรลุผล ช่วยลดผลกระทบส่งออกไทย เม.ย.-พ.ค. แต่หากไม่สามารถเจรจากันได้ /ส่งออกไทย มิ.ย.68 เป็นต้นไป ปัญหาใหญ่แน่! แนะหลักการเจรจาต่อรองกับสหรัฐฯ Fair : Balance
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 536 มุมมอง 21 0 รีวิว
Pages Boosts