• Amazon กำลังเผชิญกับความขัดแย้งกับรัฐบาลทรัมป์ หลังจากมีรายงานว่า Amazon เตรียมแสดง ต้นทุนภาษีศุลกากร บนหน้ารายละเอียดสินค้า ซึ่งถูกมองว่าเป็น การกระทำที่เป็นศัตรูและมีเจตนาทางการเมือง โดย Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า Amazon กำลังร่วมมือกับ หน่วยงานโฆษณาชวนเชื่อของจีน

    การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งนโยบายภาษีศุลกากรเป็นประเด็นร้อนที่ถูกถกเถียงกันอย่างหนัก รายงานจาก Punchbowl News ระบุว่า Amazon อาจต้องการให้ผู้บริโภคเห็นว่าภาษีศุลกากรส่งผลต่อราคาสินค้าโดยตรง

    แม้ว่า Amazon ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การตอบโต้จากทำเนียบขาวอาจทำให้บริษัทต้องพิจารณาแนวทางใหม่

    ✅ แผนของ Amazon
    - เตรียมแสดงต้นทุนภาษีศุลกากรบนหน้ารายละเอียดสินค้า
    - อาจต้องการให้ผู้บริโภคเห็นว่าภาษีส่งผลต่อราคาสินค้าโดยตรง

    ✅ การตอบโต้จากรัฐบาลทรัมป์
    - โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า Amazon กำลังร่วมมือกับหน่วยงานโฆษณาชวนเชื่อของจีน
    - มองว่าเป็นการกระทำที่เป็นศัตรูและมีเจตนาทางการเมือง

    ✅ ผลกระทบต่อ Amazon
    - อาจต้องพิจารณาแนวทางใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับรัฐบาล
    - อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง Amazon และผู้บริโภคในสหรัฐฯ

    ✅ แนวโน้มของตลาดอีคอมเมิร์ซ
    - หาก Amazon ดำเนินแผนนี้ต่อไป อาจส่งผลต่อการกำหนดราคาสินค้าในตลาด

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/amazons-tariff-transparency-plans-for-product-pages-dubbed-hostile-and-political-act-by-the-trump-administration
    Amazon กำลังเผชิญกับความขัดแย้งกับรัฐบาลทรัมป์ หลังจากมีรายงานว่า Amazon เตรียมแสดง ต้นทุนภาษีศุลกากร บนหน้ารายละเอียดสินค้า ซึ่งถูกมองว่าเป็น การกระทำที่เป็นศัตรูและมีเจตนาทางการเมือง โดย Karoline Leavitt โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า Amazon กำลังร่วมมือกับ หน่วยงานโฆษณาชวนเชื่อของจีน การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นในช่วง 100 วันแรกของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งนโยบายภาษีศุลกากรเป็นประเด็นร้อนที่ถูกถกเถียงกันอย่างหนัก รายงานจาก Punchbowl News ระบุว่า Amazon อาจต้องการให้ผู้บริโภคเห็นว่าภาษีศุลกากรส่งผลต่อราคาสินค้าโดยตรง แม้ว่า Amazon ยังไม่ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่การตอบโต้จากทำเนียบขาวอาจทำให้บริษัทต้องพิจารณาแนวทางใหม่ ✅ แผนของ Amazon - เตรียมแสดงต้นทุนภาษีศุลกากรบนหน้ารายละเอียดสินค้า - อาจต้องการให้ผู้บริโภคเห็นว่าภาษีส่งผลต่อราคาสินค้าโดยตรง ✅ การตอบโต้จากรัฐบาลทรัมป์ - โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า Amazon กำลังร่วมมือกับหน่วยงานโฆษณาชวนเชื่อของจีน - มองว่าเป็นการกระทำที่เป็นศัตรูและมีเจตนาทางการเมือง ✅ ผลกระทบต่อ Amazon - อาจต้องพิจารณาแนวทางใหม่เพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งกับรัฐบาล - อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่าง Amazon และผู้บริโภคในสหรัฐฯ ✅ แนวโน้มของตลาดอีคอมเมิร์ซ - หาก Amazon ดำเนินแผนนี้ต่อไป อาจส่งผลต่อการกำหนดราคาสินค้าในตลาด https://www.tomshardware.com/tech-industry/big-tech/amazons-tariff-transparency-plans-for-product-pages-dubbed-hostile-and-political-act-by-the-trump-administration
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วง 100 วันแรก ของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดย S&P 500 ลดลงเกือบ 8% ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2025

    นโยบายของทรัมป์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามการค้าและการเปลี่ยนแปลงภาษีส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาด โดยมีทั้ง บริษัทที่ได้รับประโยชน์และบริษัทที่ได้รับผลกระทบ อย่างชัดเจน

    ✅ บริษัทที่ได้รับประโยชน์
    - Palantir เพิ่มขึ้นเกือบ 60% เนื่องจากได้รับสัญญาจากกระทรวงกลาโหม
    - Newsmax เพิ่มขึ้นกว่า 60% หลังเปิดตัวในตลาดหุ้น
    - Newmont และบริษัทเหมืองทองอื่นๆ เพิ่มขึ้น 20-50% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

    ✅ บริษัทที่ได้รับผลกระทบ
    - สายการบินสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 33% เนื่องจากภาษีและความต้องการเดินทางที่ลดลง
    - Tesla ลดลง 33% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล
    - Kohl’s ลดลง 46% และ Macy’s ลดลง 17% เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง
    - Teradyne และ Zebra Technologies ลดลงกว่า 40% เนื่องจากผลกระทบจากภาษีและข้อจำกัดทางการค้า

    ✅ แนวโน้มของตลาดหุ้น
    - นักลงทุนยังคงจับตานโยบายของทรัมป์ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว
    - ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยม

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/wall-street039s-winners-and-losers-during-trump039s-100-days-at-white-house
    บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ในช่วง 100 วันแรก ของการดำรงตำแหน่ง ซึ่งส่งผลกระทบต่อ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อย่างมีนัยสำคัญ โดย S&P 500 ลดลงเกือบ 8% ตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2025 นโยบายของทรัมป์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามการค้าและการเปลี่ยนแปลงภาษีส่งผลให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาด โดยมีทั้ง บริษัทที่ได้รับประโยชน์และบริษัทที่ได้รับผลกระทบ อย่างชัดเจน ✅ บริษัทที่ได้รับประโยชน์ - Palantir เพิ่มขึ้นเกือบ 60% เนื่องจากได้รับสัญญาจากกระทรวงกลาโหม - Newsmax เพิ่มขึ้นกว่า 60% หลังเปิดตัวในตลาดหุ้น - Newmont และบริษัทเหมืองทองอื่นๆ เพิ่มขึ้น 20-50% เนื่องจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ✅ บริษัทที่ได้รับผลกระทบ - สายการบินสหรัฐฯ ลดลงเกือบ 33% เนื่องจากภาษีและความต้องการเดินทางที่ลดลง - Tesla ลดลง 33% เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับบทบาทของ Elon Musk ในรัฐบาล - Kohl’s ลดลง 46% และ Macy’s ลดลง 17% เนื่องจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคลดลง - Teradyne และ Zebra Technologies ลดลงกว่า 40% เนื่องจากผลกระทบจากภาษีและข้อจำกัดทางการค้า ✅ แนวโน้มของตลาดหุ้น - นักลงทุนยังคงจับตานโยบายของทรัมป์ที่อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจในระยะยาว - ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยม https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/29/wall-street039s-winners-and-losers-during-trump039s-100-days-at-white-house
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Wall Street's winners and losers during Trump's 100 days at White House
    (Reuters) -The dramatic shift in U.S. domestic and foreign policy since President Donald Trump returned to the White House on January 20 has sent shockwaves across global financial markets.
    0 Comments 0 Shares 20 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ในช่วง 100 วันแรก ซึ่งมีผลกระทบต่อการป้องกันข้อมูลเท็จและการแทรกแซงจากต่างประเทศ โดยมีการลดงบประมาณสำหรับการวิจัยข้อมูลเท็จ การปิดหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดการข้อมูลเท็จ และการปรับโครงสร้างในหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง

    การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สร้างความกังวลในด้านความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากเปิดโอกาสให้คู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น รัสเซีย จีน และอิหร่าน สามารถเผยแพร่ข้อมูลเท็จได้ง่ายขึ้น

    ✅ การลดงบประมาณและการปิดหน่วยงาน
    - ลดงบประมาณสำหรับการวิจัยข้อมูลเท็จและการแทรกแซงจากต่างประเทศ
    - ปิดหน่วยงาน Counter Foreign Information Manipulation and Interference (R/FIMI)

    ✅ ผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
    - เปิดโอกาสให้คู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์เผยแพร่ข้อมูลเท็จได้ง่ายขึ้น
    - การปิดหน่วยงานทำให้ไม่มีการติดตามข้อมูลเท็จจากต่างประเทศ

    ✅ การปรับโครงสร้างในหน่วยงานรัฐบาล
    - ปรับโครงสร้างในกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
    - ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้ง

    ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง
    - ส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/us-anti-disinformation-guardrails-fall-in-trump039s-first-100-days
    บทความนี้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การบริหารของประธานาธิบดี Donald Trump ในช่วง 100 วันแรก ซึ่งมีผลกระทบต่อการป้องกันข้อมูลเท็จและการแทรกแซงจากต่างประเทศ โดยมีการลดงบประมาณสำหรับการวิจัยข้อมูลเท็จ การปิดหน่วยงานที่รับผิดชอบการจัดการข้อมูลเท็จ และการปรับโครงสร้างในหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้สร้างความกังวลในด้านความมั่นคงของประเทศ เนื่องจากเปิดโอกาสให้คู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์ เช่น รัสเซีย จีน และอิหร่าน สามารถเผยแพร่ข้อมูลเท็จได้ง่ายขึ้น ✅ การลดงบประมาณและการปิดหน่วยงาน - ลดงบประมาณสำหรับการวิจัยข้อมูลเท็จและการแทรกแซงจากต่างประเทศ - ปิดหน่วยงาน Counter Foreign Information Manipulation and Interference (R/FIMI) ✅ ผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศ - เปิดโอกาสให้คู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์เผยแพร่ข้อมูลเท็จได้ง่ายขึ้น - การปิดหน่วยงานทำให้ไม่มีการติดตามข้อมูลเท็จจากต่างประเทศ ✅ การปรับโครงสร้างในหน่วยงานรัฐบาล - ปรับโครงสร้างในกระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - ลดจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ทำงานเกี่ยวกับการแทรกแซงการเลือกตั้ง ✅ เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลง - ส่งเสริมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของประชาชน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/28/us-anti-disinformation-guardrails-fall-in-trump039s-first-100-days
    WWW.THESTAR.COM.MY
    US anti-disinformation guardrails fall in Trump's first 100 days
    The moves could have national security implications, experts warn, granting US adversaries more freedom to sow disinformation as geopolitical rivalries intensify.
    0 Comments 0 Shares 23 Views 0 Reviews
  • 28-04-68/02 : หมี CNN / E-ทรัมปป์ อยู่เป็น ใครมันจะโง่เปิดศึกพร้อมกัน ทั้งรัสเซีย-จีน กันล่ะ อีทรัมปป์ชี้ทางสว่างให้อีเสี้ยนยาแล้ว ยอมเสียไคร์เมียร์กับอีก 4 แคว้นรัสเซียใหม่ไปเหอะ ดีกว่ามรึงเสียหมดทั้งแผ่นดิน เพราะเค้าสามารถยึดมรึงได้หมดอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ทำ เพราะค่าฟื้นฟูมันคุ้มซะที่ไหนกันล่ะ เอาโปรรัสเซียขึ้นแท่นมาคุม เวลาผ่านไป ออกกฎหมายผนวกรวมรัสเซียใหม่ แค่นี้ กูก็ไม่ต้องลงทุนจ่ายซักกะบาท เพราะจะเหลือใครมีเงินมากพอจะอุ้มมรึงต่อไหว หากไม่ใช่รัสเซีย จีน ใช้โปรรัสเซียขึ้นก่อน แล้วค่อยกลืนภายหลัง หมากหลายชั้น ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา แต่ที่อีเสี้ยนยามันดิ้น มันสู้ต่อ เพราะนายใหญ่ตัวจริงสั่งให้ไม่ถอย ยอมมอบเมื่อไหร่ ทั้งยุโรปตายทันที โดมิโน่แอฟเฟค ท่อน้ำเลี้ยงจากที่เคยแดร๊กวอชิงตัน EU ต้องมาลงขันกันต่อเอง แผนลึกเชิงซ้อนเยอะ ปูตินไม่ได้แค่ยึดยูเครนสำเร็จ แต่กำลังจะทุบหม้อข้าวไอ้อีวอชิงตันและอีหน้าโง่ยุโรปไปพร้อมกันทีเดียว หมดตูดไม่พอ คลังแสงเกลี้ยง กำลังพลถดถอย เพราะตายห่าไปเยอะ ดาบเดียว แดร๊กหมดทั้งกระดาน รัสเซียอยู่เป็น เป็นงาน ก่อนที่มรึงจะอ้างอะไร ให้ไปดูสาเหตุ ต้นเหตุ ที่ศึกยุเครนเกิดขึ้นเพราะใครกันแน่? NATO จะรับรองอียูเครน นี่ก็เงื่อนไขนึง อีเสี้ยนยาไล่ฆ่าชาวรัสเซียในดอนบาส นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง อียูเครนติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง พวกมรึงแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง เพราะคิดว่าเอารัสเซียอยู่ อ่านการ์ตูนเล่มละบาท มากไปป่ะ? ตอนนี้ ทั้ง WAGNER เชเชน ปูพรมเก็บกวาดหลายเมืองใหญ่เกลี้ยง มรึงทำได้แค่ลอบกัด ส่งมือสังหารไปลอบวางระเบิดแสวงเครื่องติดรถยนต์นายพล เสธทหาร ถึงรัสเซีย เรื่องแบบนี้ เค้ารู้กันอยู่แล้ว หน่วยข่าวกรองมี มรึงทำได้แค่นี้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์อะไรได้ ยูเครนแตกเมื่อไหร่ อีโปล+3 เสือก จะไปทันที เอาไม่อยู่ดอก แล้วเมื่อบอลติคเละเทะเป็นโจ๊ก ไม่ต้องถามกรีนแลนด์ จะตกเป็นของใคร? ปูตินยังไม่ยื่นมือเข้ามาตอนนี้ เพราะต้องการให้อเมริกาบุกกรีนแลนด์ สุดท้ายไอ้หน้าโง่ยุโรปมันจะหันไปพึ่งพาใครได้อีก หากไม่ใช่กู ต้องการทั้งพลังงาน กองทัพ อาหาร เสบียง และตรายางคุ้มครอง เสร็จเครมลินไปตามระเบียบ นี่มหาเทพปูติน วางหมากรวบแดร๊กยุโรปทั้งทวีปเลยรึเนี่ย? โหดไปป่ะ? กูบอกแล้วไง อยากปลุกหมีตื่น มรึงจะซวยกันทั้งทวีป ชอบลองของชิมิ? เอาให้สุดซอยไปเลยเพ่..

    Crimea will stay with Russia – Trump ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย

    ------------------------------------------------------------------------—
    RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย

    เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ว่า คาบสมุทรไครเมียจะยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียจากข้อตกลงล่าสุดในความขัดแย้งกับยูเครน

    รัฐไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014 หลังการลงประชามติตามการปฏิบัติที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกในเมืองเคียฟ ยูเครน และประเทศที่สนับสนุนไม่ยอมรับผลจากการทำประชามติซึ่งมองว่าผิดกฎหมาย ยูเครนยังคงอ้างสิทธิในคาบสมุทรดังกล่าวซึ่งยืนยันที่จะเอาดินแดนคืนมาไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม

    จากบทสัมภาษณ์ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐไครเมีย “เป็นของรัสเซีย” นานแล้วและเสนอว่า “ทุกคนเข้าใจ” ว่า ยูเครนจะไม่ได้รัฐไครเมียคืน

    ตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขากดดันทั้งรัสเซียและยูเครนให้หาทางออกต่อความขัดแย้ง ระหว่างการหาเสียง เขาระบุว่า เขาจะยุติความขัดแย้ง “ภายในเวลา 24 ชั่วโมง” หลังเข้ารับตำแหน่ง

    ไม่นานมานี้ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาไม่พอใจต่อการขาดความก้าวหน้าเพื่อจะหาแนวทางการแก้ปัญหาต่อความขัดแย้งในยูเครน เขาแสดงความไม่พอใจต่อเซเลนสกี เขาคิดว่าปูตินพูดคุยง่ายกว่าเซเลนสกีตามรายงานจาก Truth Social ในสัปดาห์นี้ทรัมป์ประณามเซเลนสกีที่ปฏิเสธการพิจารณาการยอมรับดินแดน

    รัสเซียขอบคุณในความพยายามเพื่อสันติภาพของทรัม์และระบุว่า ประเทศพร้อมที่จะเจรจา

    อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องเคารพความเป็นจริงทางดินแดนและพูดถึงสาเหตุหลักของความขัดแย้ง เช่น ความต้องการที่จะเข้าเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้ ของยูเครน

    ตามบทสัมภาษณ์ ทรัมป์ยอมรับว่า ยูเครนอาจไม่สามารถเข้าร่วมกับนาโต้ เขาอ้างถึงความต้องการของยูเครนที่จะเข้าร่วมกลุ่มว่าเป็นประเด็นที่ “ทำให้เกิดสงคราม”

    www.rt.com/news/61627...

    ------------------------------------------------------------------------—
    เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : line.me/R/ti/p/@mh...

    หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT
    voom-studio.line.biz/account/@h... หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u

    **เพจหลักของหมี CNN คือ**
    www.minds.com/mheecnn2/

    เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn
    www.vk.com/id448335733

    **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!**
    twitter.com/CnnMhee

    **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)**
    ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า
    www.facebook.com/profile.ph...
    28-04-68/02 : หมี CNN / E-ทรัมปป์ อยู่เป็น ใครมันจะโง่เปิดศึกพร้อมกัน ทั้งรัสเซีย-จีน กันล่ะ อีทรัมปป์ชี้ทางสว่างให้อีเสี้ยนยาแล้ว ยอมเสียไคร์เมียร์กับอีก 4 แคว้นรัสเซียใหม่ไปเหอะ ดีกว่ามรึงเสียหมดทั้งแผ่นดิน เพราะเค้าสามารถยึดมรึงได้หมดอยู่แล้ว แต่ที่ไม่ทำ เพราะค่าฟื้นฟูมันคุ้มซะที่ไหนกันล่ะ เอาโปรรัสเซียขึ้นแท่นมาคุม เวลาผ่านไป ออกกฎหมายผนวกรวมรัสเซียใหม่ แค่นี้ กูก็ไม่ต้องลงทุนจ่ายซักกะบาท เพราะจะเหลือใครมีเงินมากพอจะอุ้มมรึงต่อไหว หากไม่ใช่รัสเซีย จีน ใช้โปรรัสเซียขึ้นก่อน แล้วค่อยกลืนภายหลัง หมากหลายชั้น ประหยัดทั้งเงิน ทั้งเวลา แต่ที่อีเสี้ยนยามันดิ้น มันสู้ต่อ เพราะนายใหญ่ตัวจริงสั่งให้ไม่ถอย ยอมมอบเมื่อไหร่ ทั้งยุโรปตายทันที โดมิโน่แอฟเฟค ท่อน้ำเลี้ยงจากที่เคยแดร๊กวอชิงตัน EU ต้องมาลงขันกันต่อเอง แผนลึกเชิงซ้อนเยอะ ปูตินไม่ได้แค่ยึดยูเครนสำเร็จ แต่กำลังจะทุบหม้อข้าวไอ้อีวอชิงตันและอีหน้าโง่ยุโรปไปพร้อมกันทีเดียว หมดตูดไม่พอ คลังแสงเกลี้ยง กำลังพลถดถอย เพราะตายห่าไปเยอะ ดาบเดียว แดร๊กหมดทั้งกระดาน รัสเซียอยู่เป็น เป็นงาน ก่อนที่มรึงจะอ้างอะไร ให้ไปดูสาเหตุ ต้นเหตุ ที่ศึกยุเครนเกิดขึ้นเพราะใครกันแน่? NATO จะรับรองอียูเครน นี่ก็เงื่อนไขนึง อีเสี้ยนยาไล่ฆ่าชาวรัสเซียในดอนบาส นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง อียูเครนติดตั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง นี่ก็อีกเงื่อนไขนึง พวกมรึงแกว่งเท้าหาเสี้ยนเอง เพราะคิดว่าเอารัสเซียอยู่ อ่านการ์ตูนเล่มละบาท มากไปป่ะ? ตอนนี้ ทั้ง WAGNER เชเชน ปูพรมเก็บกวาดหลายเมืองใหญ่เกลี้ยง มรึงทำได้แค่ลอบกัด ส่งมือสังหารไปลอบวางระเบิดแสวงเครื่องติดรถยนต์นายพล เสธทหาร ถึงรัสเซีย เรื่องแบบนี้ เค้ารู้กันอยู่แล้ว หน่วยข่าวกรองมี มรึงทำได้แค่นี้ แต่ไม่สามารถเปลี่ยนผลลัพธ์อะไรได้ ยูเครนแตกเมื่อไหร่ อีโปล+3 เสือก จะไปทันที เอาไม่อยู่ดอก แล้วเมื่อบอลติคเละเทะเป็นโจ๊ก ไม่ต้องถามกรีนแลนด์ จะตกเป็นของใคร? ปูตินยังไม่ยื่นมือเข้ามาตอนนี้ เพราะต้องการให้อเมริกาบุกกรีนแลนด์ สุดท้ายไอ้หน้าโง่ยุโรปมันจะหันไปพึ่งพาใครได้อีก หากไม่ใช่กู ต้องการทั้งพลังงาน กองทัพ อาหาร เสบียง และตรายางคุ้มครอง เสร็จเครมลินไปตามระเบียบ นี่มหาเทพปูติน วางหมากรวบแดร๊กยุโรปทั้งทวีปเลยรึเนี่ย? โหดไปป่ะ? กูบอกแล้วไง อยากปลุกหมีตื่น มรึงจะซวยกันทั้งทวีป ชอบลองของชิมิ? เอาให้สุดซอยไปเลยเพ่.. Crimea will stay with Russia – Trump ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย ------------------------------------------------------------------------— RONIN500(Admin Nidnoi) แปลโดย นิดหน่อย : ทรัมป์ระบุว่า รัฐไครเมียจะยังอยู่กับรัสเซีย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์กล่าวระหว่างให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ว่า คาบสมุทรไครเมียจะยังเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียจากข้อตกลงล่าสุดในความขัดแย้งกับยูเครน รัฐไครเมียเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อปี 2014 หลังการลงประชามติตามการปฏิบัติที่ได้รับการสนับสนุนจากตะวันตกในเมืองเคียฟ ยูเครน และประเทศที่สนับสนุนไม่ยอมรับผลจากการทำประชามติซึ่งมองว่าผิดกฎหมาย ยูเครนยังคงอ้างสิทธิในคาบสมุทรดังกล่าวซึ่งยืนยันที่จะเอาดินแดนคืนมาไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม จากบทสัมภาษณ์ ทรัมป์กล่าวว่า รัฐไครเมีย “เป็นของรัสเซีย” นานแล้วและเสนอว่า “ทุกคนเข้าใจ” ว่า ยูเครนจะไม่ได้รัฐไครเมียคืน ตั้งแต่ที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง เขากดดันทั้งรัสเซียและยูเครนให้หาทางออกต่อความขัดแย้ง ระหว่างการหาเสียง เขาระบุว่า เขาจะยุติความขัดแย้ง “ภายในเวลา 24 ชั่วโมง” หลังเข้ารับตำแหน่ง ไม่นานมานี้ ทรัมป์ส่งสัญญาณว่า เขาไม่พอใจต่อการขาดความก้าวหน้าเพื่อจะหาแนวทางการแก้ปัญหาต่อความขัดแย้งในยูเครน เขาแสดงความไม่พอใจต่อเซเลนสกี เขาคิดว่าปูตินพูดคุยง่ายกว่าเซเลนสกีตามรายงานจาก Truth Social ในสัปดาห์นี้ทรัมป์ประณามเซเลนสกีที่ปฏิเสธการพิจารณาการยอมรับดินแดน รัสเซียขอบคุณในความพยายามเพื่อสันติภาพของทรัม์และระบุว่า ประเทศพร้อมที่จะเจรจา อย่างไรก็ตาม ทางการรัสเซียย้ำว่า ข้อตกลงสันติภาพต้องเคารพความเป็นจริงทางดินแดนและพูดถึงสาเหตุหลักของความขัดแย้ง เช่น ความต้องการที่จะเข้าเป็นสมาชิกขององค์การนาโต้ ของยูเครน ตามบทสัมภาษณ์ ทรัมป์ยอมรับว่า ยูเครนอาจไม่สามารถเข้าร่วมกับนาโต้ เขาอ้างถึงความต้องการของยูเครนที่จะเข้าร่วมกลุ่มว่าเป็นประเด็นที่ “ทำให้เกิดสงคราม” www.rt.com/news/61627... ------------------------------------------------------------------------— เข้าถ้ำ RONIN คลิกที่ LINK ตามนี้ : line.me/R/ti/p/@mh... หรือเข้า LINE OFFICIAL ACCOUNT voom-studio.line.biz/account/@h... หรือเสิร์หหาใน LINE ได้ที่ @hfs0310u **เพจหลักของหมี CNN คือ** www.minds.com/mheecnn2/ เพจ VK ของรัสเซีย พิมคำว่า Frank Mheecnn www.vk.com/id448335733 **เพจหมี CNN ใน Twitter ตัวใหม่ล่าสุด!** twitter.com/CnnMhee **เพจหมี CNN ใน FB ห้องปิด ตัวใหม่ล่าสุด(2568)** ชื่อเพจ "SUBPRAYUTH THALUFAH" สัปยุทธ ทะลุฟ้า www.facebook.com/profile.ph...
    0 Comments 0 Shares 166 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น

    ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย
    - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย

    ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย
    - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด
    - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

    ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์
    - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต
    - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ

    ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา
    - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา

    https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    ข่าวนี้กล่าวถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ส่งผลให้ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่ เช่น Lenovo, HP และ Dell ต้องพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย โดยนโยบายภาษีที่สูงถึง 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทเหล่านี้ต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิตเพื่อหลีกเลี่ยงต้นทุนที่เพิ่มขึ้น ซาอุดีอาระเบียได้เสนอสิ่งจูงใจที่น่าสนใจ เช่น การรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด และการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) ซึ่งมีมูลค่าถึง 620 พันล้านดอลลาร์ โดย Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบียเพื่อขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ✅ การย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo, HP และ Dell กำลังพิจารณาย้ายฐานการผลิตไปยังซาอุดีอาระเบีย - Lenovo ได้ประกาศแผนการลงทุนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ในซาอุดีอาระเบีย ✅ สิ่งจูงใจจากซาอุดีอาระเบีย - ซาอุดีอาระเบียเสนอการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการสร้างโรงงานใหม่ทั้งหมด - กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ (PIF) สนับสนุนการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ✅ ผลกระทบจากนโยบายภาษีของทรัมป์ - ภาษี 245% สำหรับสินค้านำเข้าจากจีนทำให้บริษัทต้องหาทางเลือกใหม่ในการผลิต - ซาอุดีอาระเบียมีภาษีเพียง 10% ซึ่งเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ✅ การขยายตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา - การย้ายฐานการผลิตช่วยเพิ่มการเข้าถึงตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา https://www.techspot.com/news/107672-trump-tariffs-push-world-top-pc-makers-toward.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Trump tariffs push top PC makers Lenovo, HP, and Dell toward Saudi Arabia
    The so-called "reciprocal tariffs" imposed by the Trump administration could push major PC manufacturers to find new production hubs, and it likely won't be in the US....
    0 Comments 0 Shares 121 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการเพิ่มมูลค่าของเหรียญคริปโต $TRUMP ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญระดับสูงเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษกับประธานาธิบดีที่สนามกอล์ฟ Trump National Golf Club ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน VIP Reception และทัวร์พิเศษสำหรับผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรก

    เหรียญนี้ถูกเปิดตัวก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ และมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอย่างมากในตลาดคริปโต โดยมีการเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ออกไป 90 วัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้อีกครั้ง

    ✅ การเพิ่มมูลค่าเหรียญ $TRUMP:
    - เหรียญมีมนี้เพิ่มมูลค่ากว่า 60% หลังการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษ.

    ✅ งานดินเนอร์สุดพิเศษ:
    - ผู้ถือเหรียญ 220 อันดับแรกจะได้รับเชิญเข้าร่วมงานดินเนอร์กับประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรกจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม.

    ✅ การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญ:
    - การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/dinner-with-the-president-trump-meme-coin-surges-on-offer-to-top-buyers
    ข่าวนี้เล่าถึงการเพิ่มมูลค่าของเหรียญคริปโต $TRUMP ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ โดยมีการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญระดับสูงเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษกับประธานาธิบดีที่สนามกอล์ฟ Trump National Golf Club ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม นอกจากนี้ยังมีการจัดงาน VIP Reception และทัวร์พิเศษสำหรับผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรก เหรียญนี้ถูกเปิดตัวก่อนการเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์ และมีการเปลี่ยนแปลงมูลค่าอย่างมากในตลาดคริปโต โดยมีการเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ออกไป 90 วัน ซึ่งช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้อีกครั้ง ✅ การเพิ่มมูลค่าเหรียญ $TRUMP: - เหรียญมีมนี้เพิ่มมูลค่ากว่า 60% หลังการประกาศเชิญชวนผู้ถือเหรียญเข้าร่วมงานดินเนอร์สุดพิเศษ. ✅ งานดินเนอร์สุดพิเศษ: - ผู้ถือเหรียญ 220 อันดับแรกจะได้รับเชิญเข้าร่วมงานดินเนอร์กับประธานาธิบดีทรัมป์ และผู้ถือเหรียญ 25 อันดับแรกจะได้รับสิทธิพิเศษเพิ่มเติม. ✅ การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญ: - การเลื่อนการปลดล็อกเหรียญใหม่ช่วยเพิ่มความสนใจในเหรียญนี้ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/24/dinner-with-the-president-trump-meme-coin-surges-on-offer-to-top-buyers
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Dinner with the president: Trump meme coin surges on offer to top buyers
    NEW YORK (Reuters) -President Donald Trump's meme coin surged more than 60% on Wednesday after a post announcing "the most EXCLUSIVE INVITATION in the world" promised the top 220 buyers of $TRUMP a private gala dinner with the president on May 22.
    0 Comments 0 Shares 86 Views 0 Reviews
  • Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 สำหรับ Copilot+ PCs ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วผ่านการใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้ และฟีเจอร์ Click to Do ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11 ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาไฟล์และข้อมูล

    ✅ ฟีเจอร์ Recall ช่วยให้การค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น
    - ใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้เพื่อค้นหาข้อมูลผ่านการค้นหาแบบภาษาธรรมชาติ
    - ฟีเจอร์นี้เป็นแบบ opt-in และมีการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด

    ✅ ฟีเจอร์ Click to Do เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับบริบทได้อย่างรวดเร็ว
    - มีการทดสอบการรวม Reading Coach เพื่อช่วยในการอ่าน

    ✅ การปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11
    - ใช้ AI เพื่อค้นหาไฟล์และข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับ Windows 10
    - รองรับการค้นหาภาพและข้อมูลทั้งในอุปกรณ์และบนคลาวด์

    ✅ การขยายฟีเจอร์ Live Captions
    - รองรับการแปลแบบเรียลไทม์ในภาษาจีน (Simplified) และอีก 27 ภาษา

    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-finally-plays-its-trump-ai-card-recall-in-windows-11-but-for-me-its-completely-overshadowed-by-another-new-ability-for-copilot-pcs
    Microsoft ได้เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ใน Windows 11 สำหรับ Copilot+ PCs ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ Recall ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วผ่านการใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้ และฟีเจอร์ Click to Do ที่ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11 ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มความสะดวกในการค้นหาไฟล์และข้อมูล ✅ ฟีเจอร์ Recall ช่วยให้การค้นหาข้อมูลง่ายขึ้น - ใช้ภาพหน้าจอที่บันทึกไว้เพื่อค้นหาข้อมูลผ่านการค้นหาแบบภาษาธรรมชาติ - ฟีเจอร์นี้เป็นแบบ opt-in และมีการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวด ✅ ฟีเจอร์ Click to Do เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับบริบทได้อย่างรวดเร็ว - มีการทดสอบการรวม Reading Coach เพื่อช่วยในการอ่าน ✅ การปรับปรุงฟังก์ชันการค้นหาใน Windows 11 - ใช้ AI เพื่อค้นหาไฟล์และข้อมูลได้เร็วขึ้นถึง 70% เมื่อเทียบกับ Windows 10 - รองรับการค้นหาภาพและข้อมูลทั้งในอุปกรณ์และบนคลาวด์ ✅ การขยายฟีเจอร์ Live Captions - รองรับการแปลแบบเรียลไทม์ในภาษาจีน (Simplified) และอีก 27 ภาษา https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-finally-plays-its-trump-ai-card-recall-in-windows-11-but-for-me-its-completely-overshadowed-by-another-new-ability-for-copilot-pcs
    0 Comments 0 Shares 118 Views 0 Reviews
  • Trump Media & Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดการเงินด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ รวมถึง กองทุน ETF และ คริปโตเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนแนวทาง America First และสร้างความหลากหลายในบริการของบริษัท

    ✅ Trump Media เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ในตลาดการเงิน
    - รวมถึงกองทุน ETF ที่สนับสนุนแนวทาง America First และผลิตภัณฑ์คริปโตเคอร์เรนซี
    - กองทุนเหล่านี้คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ โดยต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล

    ✅ ความร่วมมือกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors
    - Trump Media ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors
    - Crypto.com ได้รับการยืนยันจาก SEC ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการสอบสวนในปี 2024

    ✅ Trump Media มีการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีหลายรูปแบบ
    - รวมถึง Trump NFTs, meme coin และการถือหุ้นในบริษัทผลิต Bitcoin ชื่อ American Bitcoin

    ✅ การจัดการทรัพย์สินของ Trump Media อยู่ในความดูแลของครอบครัว Trump
    - ทรัพย์สินและธุรกิจของ Trump Media มูลค่า $2.7 พันล้าน ถูกจัดการโดยลูกๆ ของ Trump

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/trump-media-pushes-forward-with-pivot-to-crypto-etf-plans
    Trump Media & Technology Group ซึ่งเป็นบริษัทของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กำลังขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาดการเงินด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ รวมถึง กองทุน ETF และ คริปโตเคอร์เรนซี โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนแนวทาง America First และสร้างความหลากหลายในบริการของบริษัท ✅ Trump Media เปิดตัวผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ในตลาดการเงิน - รวมถึงกองทุน ETF ที่สนับสนุนแนวทาง America First และผลิตภัณฑ์คริปโตเคอร์เรนซี - กองทุนเหล่านี้คาดว่าจะเปิดตัวในปีนี้ โดยต้องได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแล ✅ ความร่วมมือกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors - Trump Media ได้บรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับ Crypto.com และ Yorkville Advisors - Crypto.com ได้รับการยืนยันจาก SEC ว่าจะไม่มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการสอบสวนในปี 2024 ✅ Trump Media มีการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซีหลายรูปแบบ - รวมถึง Trump NFTs, meme coin และการถือหุ้นในบริษัทผลิต Bitcoin ชื่อ American Bitcoin ✅ การจัดการทรัพย์สินของ Trump Media อยู่ในความดูแลของครอบครัว Trump - ทรัพย์สินและธุรกิจของ Trump Media มูลค่า $2.7 พันล้าน ถูกจัดการโดยลูกๆ ของ Trump https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/23/trump-media-pushes-forward-with-pivot-to-crypto-etf-plans
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump Media pushes forward with pivot to crypto, ETF plans
    (Reuters) -U.S. President Donald Trump's social media firm, Trump Media & Technology Group, said on Tuesday it had reached a binding agreement to roll out an array of retail investment products, including crypto, in its latest bid to diversify into financial services.
    0 Comments 0 Shares 154 Views 0 Reviews
  • บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    บทวิเคราะห์ของ สมหมาย ภาษี อดีตรัฐมนตรีคลัง “นโยบายปรับภาษี (Tariff) ของ Trump จะทำให้โลกใบนี้ไม่เหมือนเดิมอีกแล้วพัฒนาการของการค้าโลกในช่วงประมาณ 50 ปีที่ผ่านมา มีการตั้งองค์การด้านการค้าโลกขึ้น เริ่มด้วยการตั้ง GATTS แล้วต่อมาปรับเป็น WTO (World Trade Organization) เพื่อสร้างกฎเกณฑ์การค้าขายระหว่างประเทศและกำกับให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อยตามแนวทางการค้าเสรี ช่วงนี้จะมีประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา รัสเซีย ประเทศใหญ่ๆในยุโรป และประเทศญี่ปุ่นได้ปรับตัวให้ตนเองมั่งคั่งและสะสมความร่ำรวย เข้าไปควบคุมตลาดเงินและสกุลเงินตราสำคัญ รวมทั้งควบคุมตลาดการค้าหลักๆให้เป็นระเบียบและเอื้อต่อการขยายตัวของการค้าขายของแต่ละประเทศเพื่อประโยชน์ต่อตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ .แต่แล้วในช่วงดังกล่าวนี้ประเทศจีนเสือหลับแห่งเอเชีย ที่ได้ผู้นำประเทศที่ขึ้นมาพลิกผันประเทศได้อย่างเป็นรูปธรรมได้รวดเร็วและต่อเนื่อง ชื่อ เติ้ง เสี่ยวผิง เติ้งได้ทำการปฏิวัติและปฏิรูปประเทศในทุกด้านโดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมตั้งแต่แบบเก่าจนแบบที่ต้องใช้เทคนิคล้ำหน้า จนขณะนี้จีนภายใต้ผู้นำชื่อ สี จิ้น ผิง ที่เข้มแข็ง มือสะอาด มีฝีมือ มีคุณธรรม มีความตั้งใจจริง เข้ามาบริหารประเทศที่มีพลเมืองมากที่สุดให้ใหญ่โตจนทัดเทียมกับประเทศสหรัฐอเมริกาในทุกด้าน จนผู้นำของสหรัฐอย่าง Trump รู้สึกเสียหน้ามาก. ที่มาของการใช้มาตรการทำสงครามการค้าของ Trump ความแข็งแกร่งของจีนในขณะนี้ Trump ได้เฝ้าดูแลมาร่วม 8 ปี เมื่อเขาสามารถเข้ามาเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐอีกครั้งก็ไม่รีรอที่จะลงมือนำนโยบายปรับภาษีสินค้านำเข้าและส่งออก (Tariff) ชนิดสุดโต่งและจำเพาะเจาะจงมาใช้กับประเทศจีนโดยทันที ขณะเดียวกันก็ได้ประกาศใช้กับประเทศคู่ค้าอื่นๆ ทั่วโลกด้วย แต่มาตรการจะเบากว่าที่ใช้กับจีน. สิ่งที่เห็นตามที่เป็นข่าวอยู่ทุกวันนี้ก็คือ การเกิดแรงกระแทกอย่างมากต่อวิถีการค้าระหว่างประเทศที่เป็นอยู่ทั่วโลก ไม่ต้องถามว่าทำไม Trump ต้องทำแบบนี้ เพราะเขาเองเห็นชัดว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาของเขากำลังตกต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดดุลการค้าอย่างมากที่เกิดต่อเนื่องมานานและมีหนี้สาธารณะสูงมาก .Trump ยังได้เห็นชัดว่า ฝ่ายของจีนมีพวกพ้องมากขึ้น โดยเฉพาะการจัดตั้งกลุ่ม BRICS ประกอบด้วย Brazil, Russia, India, China และ South Africa รวมหัวกันทำการค้าต่อกันอย่างใกล้ชิด คิดใช้สกุลเงินตราของตนเอง โดยหันหน้าหนีการใช้เงินดอลลาร์สหรัฐ.เท่านั้นยังไม่พอ กลุ่ม BRICS ยังค่อยๆลดการลงทุนในพันธบัตรของสหรัฐที่แต่ละประเทศถือไว้มากมายลงไปโดยการขายออก และหันไปซื้อทองคำหรือกระจายการลงทุนเป็นอย่างอื่น ขณะเดียวกันนักลงทุนรายใหญ่อื่นๆ ในตลาดเงินก็ทำการทิ้งพันธบัตรสหรัฐตามกันไปด้วย มีผลทำให้พันธบัตรซึ่งเป็นสินทรัพย์ในอนาคตจำนวนมากของสหรัฐด้อยค่าลงมากอย่างที่ไม่เคยเกิดมาก่อน.สรุปได้ว่า Trump ได้มองเห็นอย่างชัดเจนว่าสหรัฐอเมริกาตอนนี้ได้ต่ำต้อยลงอย่างรวดเร็วมาก ตัวเองจึงจำเป็นต้องทำตัวเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามากู้ประเทศให้พลิกผันให้สหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งอย่างเต็มตัวต่อไป ที่ Trump ตั้งใจจะทำก่อนและให้แรงมากคือเล่นงานด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าของสินค้าจีนอย่างบ้าระห่ำ ซึ่งจีนก็ได้ตอบโต้ด้วยมาตรการทำนองเดียวกัน แบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน นี่เป็นแค่ยกแรกแค่นั้น.ประเทศน้อยใหญ่ และสถาบันการเงินระหว่างประเทศทั้งหลายต่างก็มองการกระทำของ Trump ในแง่ลบ แม้แต่ประธาน Federal Reserve ของสหรัฐเองอย่าง Jerome Powell เองก็มีอาการกึ่งช็อคกึ่งหัวหมุนกับนโยบายประเภทบ้าบิ่นที่ประธานาธิบดีของเขาจัดมาเป็นชุดๆ Powell ถึงกับกล่าวว่านโยบายของ Trump ที่นำออกมาใช้นี้จะเป็นสิ่งกระตุ้นให้เงินเฟ้อสูงขึ้น ภาวะเศรษฐกิจจะตกต่ำและการว่างงานจะมีมากขึ้น ตลาดหลักทรัพย์หรือตลาดหุ้นก็จะปั่นป่วนมาก ความตั้งใจที่ Fed จะลดดอกเบี้ยลงจึงทำได้ยากขึ้นซึ่งความเห็นของประธาน Fed ดังกล่าว Trump ไม่พอใจมากเพราะเขาอยากให้มีการลดดอกเบี้ยถึงกับเอ่ยออกมาว่าคงต้องคิดเรื่องการเด้งประธาน Fed ซะแล้ว ฟังคล้ายกำลังจะเอาอย่างประเทศไทย.แนวทางของไทยที่จะรับมือเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประเทศทุกประเทศที่โดนผลกระทบในเรื่องการขึ้น Tariff ของ Trump ต่างก็กำลังระดมความคิดและเตรียมตัวที่จะส่งผู้แทนไปเจรจา ยกเว้นจีนประเทศเดียวที่ขึ้นป้ายจะสู้กับสหรัฐอย่างแน่วแน่.สำหรับประเทศไทย ยังฟังไม่ได้ศัพท์จากฝ่ายรัฐบาลว่าจะมีกลยุทธ์ในการรับมือกับเรื่องนี้อย่างไร ชี้ให้เห็นชัดว่าศักยภาพของรัฐบาลไทยในการแก้ปัญหาใหญ่ต่ำมาก ฟังความได้อย่างเดียวจากท่านนายกรัฐมนตรีว่าจะใช้นโยบายและแนวทางเหมือนกับประเทศอาเซียนอื่นๆเท่านั้นตอนนี้ก็เห็นภาพชัดขึ้นอีกจากคณะผู้แทนที่เตรียมการจะไปเจรจา โดยจะไปบอกทางสหรัฐว่าไทยเราจะซื้อสินค้าจากเขามากขึ้น เช่น LNG ข้าวโพด ถั่วเหลือง เป็นต้น ถ้าจะเดาก็จะขอให้ทางสหรัฐบันยะบันยังกับการเพิ่มภาษีสินค้าที่นำเข้าจากไทยที่มีมูลค่าถึง 18 % ของมูลค่าการส่งออกของไทยทั้งหมด.ส่วนผลกระทบต่อไทย เท่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) พยายามจะบอกพอสังเขป สรุปได้ว่าการส่งออกของไทยจะโดนกระทบมากโดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอาหารแปรรูป และจะทำให้การเติบโตของ GDP ในปีนี้ลดต่ำกว่าเป้าเหลือโตไม่ถึง 2.5 % และอัตราเงินเฟ้อของไทยก็จะชะลอลงด้วย นี่ยังไม่พูดถึงผลกระทบในปีหน้าและต่อๆไป ว่าจะรุนแรงสักแค่ไหน เชื่อได้เถอะครับมันแรงเกินคาด.ความเห็นผมนั้น เห็นว่าไทยเราจะโดนหนักกว่าที่รัฐบาลและหน่วยราชการไทยประเมินไว้มาก เกินศักยภาพของรัฐบาลไทยชุดนี้จะรับมือได้ วิกฤตที่จะเกิดขึ้นจากเรื่อง Tariff หนนี้ ไม่ใช่ Covid 19 นะครับ มันเป็นเรื่องประเทศใครประเทศมัน ใครมีผู้นำเก่งก็ทำให้เบาได้ สามารถเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาสได้.แนวทางในการคิดแก้วิกฤตของประเทศขนาดเล็กผมอยากนำท่านผู้อ่านไปดูว่าผู้นำของสิงคโปร์อย่างอดีตนายกลี เซียนลุง ได้พูดเมื่อไม่กี่วันมานี้ซึ่งดีมาก เขาเริ่มบอกประชาชนรวมทั้งคณะรัฐมนตรีที่บริหารประเทศและนักธุรกิจ นักลงทุนของเขาว่าแม้จะมีความไม่แน่นอนในช่วง 90 วันที่ Trump จะให้ประเทศอื่นๆ นอกจากจีนไปคิดกันให้ดี แต่ก็ต้องมองให้ออกว่าทุกอย่างจะไม่กลับไปเหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว ดังนั้น เราต้องกังวลและคิดให้ตกว่ามันจะส่งผลกับเรามากแค่ไหน ต้องตระหนักให้ได้ว่าวิกฤตที่จะเกิดทั่วโลกนี้ บางสิ่งบางอย่างที่สำคัญมันแตกต่างไปจากเดิมมาก .ลี เซียนลุง ชี้ให้เห็นชัดว่า การขึ้นภาษีหรือ Tariff ไปทั่วโลกครั้งนี้มันจะก่อกวนต่อการผลิตมากกว่าที่คิด เพราะ Supply Chain หรือ ห่วงโซ่การผลิตทุกอย่างจะหยุดชะงัก แผนการผลิตเดิมทุกอย่างจะหายไป และจะนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ (Recession) อย่างรวดเร็ว และขอให้คาดหวังไว้ได้เลยว่า ปัญหานี้จะอยู่กับเราไปอีกนาน.หลังจากลี เซียนลุง พูดเรื่องนี้ได้ไม่กี่วัน นายกรัฐมนตรีของสิงคโปร์ที่มีเสียงสนับสนุนหนาแน่นอยู่ได้ประเทศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 18 เมษายน นี้เอง เหตุผลเพื่อให้ประชาชนมีโอกาสเลือกผู้นำใหม่ขึ้นมา นี่คือสิงคโปร์ นี่คือสิ่งที่เขาเป็นชาติที่เจริญได้อย่างรวดเร็วและมั่นคงจนเราไม่สามารถแหงนหน้าขึ้นไปมองเขาได้แล้ว.ทางรอดของไทยจะเป็นอย่างไร ท้ายที่สุดนี้ เรามาดูว่าประเทศไทยเราจะมีทางรอดแค่ไหนก่อนเราต้องส่องกระจกดูตัวเอง และต้องฟังดูว่ามีใครมองเราอย่างไรบ้างให้ชัดก่อน เมื่อไม่กี่เดือนมานี้เองได้มีการชี้แนะจากสถาบันการเงินระหว่างประเทศแห่งหนึ่งว่า “ประเทศไทยนั้นมีเรื่องคอร์รัปชั่นเป็นตัวหลักที่ทำให้การบริหารประเทศในทุกด้านเดินหน้าไม่ได้” และเมื่อมีนาคม 2568 นี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้ชี้ว่าเศรษฐกิจไทยน่าห่วงเทียบได้เป็น “คนป่วยแห่งเอเชีย”เป็นคนป่วยยังไงหรือ ทางด้านเศรษฐกิจก็เห็นกันชัดอยู่แล้วว่าไทยเรา กำลังเผชิญกับหนี้สาธารณะสูงมาก ภาษีเก็บได้น้อย ช่องทางในการหาเงินมาบริหารประเทศยังชักหน้าไม่ถึงหลัง อนาคตด้านการคลังริบหรี่ ปัญหาพื้นฐานทางเศรษฐกิจเรื่องหนี้ครัวเรือนก็ไม่มีทางจะแก้ให้เบาบางลงได้ แม้ไม่มีเรื่องการปรับ Tariff ของ Trump ประเทศไทยเราก็มีความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจมากเกินอยู่แล้ว นี่คืออาการของคนป่วยเรื้อรังแห่งเอเชีย.ไม่ต้องสาธยายกันมาก อีกเรื่องทุกคนก็รู้ดีอยู่ว่า การเมืองของไทยยักแย่ยักยันอยู่ในปลักโคลนตมเดิมจนโงหัวไม่ขึ้นมานานแล้ว การเล่นการเมืองของนักการเมืองไทยเด็กๆก็รู้ว่าเพื่ออำนาจและผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องเท่านั้น ใครจะเห็นต่างกี่คนก็บอกมา.เมื่อองคาพยพของการเมืองไทยซึ่งมีการแต่งตั้งคณะรัฐบาลมาบริหารประเทศจากรากเหง้าเก่าๆที่รู้กันอยู่ เมื่อเจอกับปัญหาใหญ่ระดับโลกชนิดที่ว่าหันไปทางไหนก็มากระทบเราทั้งนั้น ท่านผู้ที่ได้ใช้สิทธิใช้เสียงเลือกพวกเขาเข้ามาบริหารประเทศ เชื่อและมั่นใจหรือไม่ว่าเขาจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมากระทบประเทศเราได้ .หันไปดูนโยบายของพรรคการเมืองผู้กุมอำนาจบริหารประเทศอยู่ในขณะนี้ก็จะเห็นชัดเจนว่า ตอนนี้นโยบายของพวกเขาเหล่านั้น มันเน่าบูดกันแทบหมดแล้วครับ ถ้าจะแก้ปัญหาใหญ่ที่จะมีแรงกระแทกก่อให้เกิดวิกฤตที่ใหญ่เกินคาด ด้วยการปรับ ครม. แต่ยังดันทุรังคงสภาผู้แทนราษฎรชุดนี้ไว้ น่าจะไม่เป็นการกระทำของผู้นำที่รักชาติจริง”
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 369 Views 0 Reviews
  • 22 เมษายน 2568-รายงานบทวิเคราะห์ของ ทนง ขันทอง “ ดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบสามปี เพราะกำแพงภาษีกับความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับประธานเฟดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกของตลาดเกี่ยวกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงกับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ICE – ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก – ลดลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 97.923 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำใหม่เมื่อเทียบกับยูโร ปอนด์ เยน และฟรังก์สวิส รวมถึงอ่อนค่าต่อเงินรูเบิล ร่วงต่ำกว่า 80 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องนับตั้งแต่ทรัมป์เปิดตัวภาษีที่เขาเรียกว่า “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรการค้าทั่วโลก ความเชื่อมั่นของตลาดยิ่งสั่นคลอนเมื่อทรัมป์ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานเฟดอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าอาจปลดพาวเวลล์ได้ “ถ้าผมอยากให้เขาออก เขาก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพาวเวลล์เตือนว่าภาษีนั้น “มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น” และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ต่อมา เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลกำลังศึกษาว่ามีช่องทางทางกฎหมายในการปลดพาวเวลล์ก่อนครบวาระหรือไม่โดนัลด์ เจ. ทรัมป์@realDonaldTrumpเขียนในTruth Socialเมื่อวานนี้ว่า“การเรียกร้องให้มี “การลดดอกเบี้ยล่วงหน้า” กำลังเพิ่มมากขึ้นจากหลายฝ่าย ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างมาก ราคาสินค้าอาหาร (รวมถึงหายนะไข่ของไบเดน!) ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งของอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง จึงแทบไม่มีเงินเฟ้อเลย ด้วยต้นทุนที่ลดลงอย่างราบรื่นเช่นนี้ ซึ่งผมก็ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นแบบนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินเฟ้อ แต่เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง หากคุณนาย “มาสายตลอด” ซึ่งเป็นผู้แพ้รายใหญ่ ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ยุโรปลดไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง พาวเวลล์มักจะ “มาช้าเสมอ” ยกเว้นช่วงเลือกตั้งที่เขาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยโจ ไบเดนจอมง่วง (และต่อมาคามาลา) ให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วมันได้ผลไหมล่ะ?ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แม้ว่าพาวเวลล์จะยืนยันว่าเขาไม่มีแผนจะลาออกก่อนกำหนด และเน้นย้ำว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็น “เรื่องของกฎหมาย”ทรัมป์กลับมาโจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันจันทร์ โดยโพสต์บน Truth Social เรียกเขาว่า “คุณมาสาย ผู้แพ้รายใหญ่” พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหากไม่ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบอีกระลอก โดยดัชนีดาวโจนส์ แนสแด็ก และ S&P 500 ต่างร่วงลงมากกว่า 3%“นักลงทุนกำลังเผชิญกับแหล่งความกังวลทางมหภาคครั้งใหม่: การคุกคามของทรัมป์ต่อความเป็นอิสระของ Fed” อดัม คริซาฟุลลี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจาก Vital Knowledge กล่าวกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ความพยายามปลดพาวเวลล์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง คริชนา กูฮา รองประธาน Evercore ISI กล่าวกับสื่อทรัมป์แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 และเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยวาระของเขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026ที่มา RT22/4/2025
    22 เมษายน 2568-รายงานบทวิเคราะห์ของ ทนง ขันทอง “ ดอลล่าร์อ่อนค่าสุดในรอบสามปี เพราะกำแพงภาษีกับความขัดแย้งระหว่างทรัมป์กับประธานเฟดค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบสามปีเมื่อวันจันทร์ ท่ามกลางความวิตกของตลาดเกี่ยวกับสงครามภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงกับประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เจอโรม พาวเวลล์ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ ICE – ซึ่งติดตามค่าเงินดอลลาร์เทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก – ลดลงมากกว่า 1% มาอยู่ที่ 97.923 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 ดอลลาร์ยังอ่อนค่าลงแตะระดับต่ำใหม่เมื่อเทียบกับยูโร ปอนด์ เยน และฟรังก์สวิส รวมถึงอ่อนค่าต่อเงินรูเบิล ร่วงต่ำกว่า 80 เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2024ค่าเงินดอลลาร์เผชิญแรงกดดันต่อเนื่องนับตั้งแต่ทรัมป์เปิดตัวภาษีที่เขาเรียกว่า “วันปลดแอก” เมื่อวันที่ 2 เมษายน ซึ่งมุ่งเป้าไปยังพันธมิตรการค้าทั่วโลก ความเชื่อมั่นของตลาดยิ่งสั่นคลอนเมื่อทรัมป์ออกมาโจมตีพาวเวลล์อย่างเปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการปรับลดดอกเบี้ยประธานาธิบดีวิจารณ์ประธานเฟดอย่างรุนแรง เรียกร้องให้ลดอัตราดอกเบี้ย และเตือนว่าอาจปลดพาวเวลล์ได้ “ถ้าผมอยากให้เขาออก เขาก็จะออกไปอย่างรวดเร็ว” ทรัมป์กล่าว โดยแถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากพาวเวลล์เตือนว่าภาษีนั้น “มีแนวโน้มสูงที่จะทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างน้อยในระยะสั้น” และส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ลดดอกเบี้ยในเร็ว ๆ นี้ต่อมา เควิน แฮสเซตต์ ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ระบุว่ารัฐบาลกำลังศึกษาว่ามีช่องทางทางกฎหมายในการปลดพาวเวลล์ก่อนครบวาระหรือไม่โดนัลด์ เจ. ทรัมป์@realDonaldTrumpเขียนในTruth Socialเมื่อวานนี้ว่า“การเรียกร้องให้มี “การลดดอกเบี้ยล่วงหน้า” กำลังเพิ่มมากขึ้นจากหลายฝ่าย ด้วยต้นทุนพลังงานที่ลดลงอย่างมาก ราคาสินค้าอาหาร (รวมถึงหายนะไข่ของไบเดน!) ที่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และสิ่งของอื่น ๆ ส่วนใหญ่ที่มีแนวโน้มลดลง จึงแทบไม่มีเงินเฟ้อเลย ด้วยต้นทุนที่ลดลงอย่างราบรื่นเช่นนี้ ซึ่งผมก็ได้ทำนายไว้ล่วงหน้าแล้วว่าเป็นแบบนี้ จึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีเงินเฟ้อ แต่เศรษฐกิจอาจจะชะลอตัวลง หากคุณนาย “มาสายตลอด” ซึ่งเป็นผู้แพ้รายใหญ่ ไม่รีบลดอัตราดอกเบี้ยตอนนี้ ยุโรปลดไปแล้วถึงเจ็ดครั้ง พาวเวลล์มักจะ “มาช้าเสมอ” ยกเว้นช่วงเลือกตั้งที่เขาลดดอกเบี้ยเพื่อช่วยโจ ไบเดนจอมง่วง (และต่อมาคามาลา) ให้ชนะการเลือกตั้ง แล้วมันได้ผลไหมล่ะ?ความขัดแย้งดังกล่าวสร้างความวิตกให้กับนักลงทุน แม้ว่าพาวเวลล์จะยืนยันว่าเขาไม่มีแผนจะลาออกก่อนกำหนด และเน้นย้ำว่าความเป็นอิสระของธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เป็น “เรื่องของกฎหมาย”ทรัมป์กลับมาโจมตีพาวเวลล์อีกครั้งในวันจันทร์ โดยโพสต์บน Truth Social เรียกเขาว่า “คุณมาสาย ผู้แพ้รายใหญ่” พร้อมเตือนว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวหากไม่ลดดอกเบี้ยลงอย่างรวดเร็วตลาดหุ้นสหรัฐได้รับผลกระทบอีกระลอก โดยดัชนีดาวโจนส์ แนสแด็ก และ S&P 500 ต่างร่วงลงมากกว่า 3%“นักลงทุนกำลังเผชิญกับแหล่งความกังวลทางมหภาคครั้งใหม่: การคุกคามของทรัมป์ต่อความเป็นอิสระของ Fed” อดัม คริซาฟุลลี ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมจาก Vital Knowledge กล่าวกับ CNBC เมื่อวันจันทร์ความพยายามปลดพาวเวลล์อาจทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลงอย่างรุนแรง คริชนา กูฮา รองประธาน Evercore ISI กล่าวกับสื่อทรัมป์แต่งตั้งพาวเวลล์เป็นประธาน Fed ในปี 2018 และเขาได้รับการแต่งตั้งอีกครั้งโดยอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในปี 2022 โดยวาระของเขาจะดำรงตำแหน่งจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026ที่มา RT22/4/2025
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยี โดยการเปลี่ยนแปลงภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี Donald Trump ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรม ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและอาจต้องปรับราคาสินค้า เช่น Sony ที่ประกาศขึ้นราคาคอนโซล PlayStation 5 ในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

    ✅ Sony ประกาศขึ้นราคาคอนโซล PlayStation 5
    - การขึ้นราคามีผลในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์
    - สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้า

    ✅ สหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั่วคราว
    - การยกเว้นนี้ช่วยลดผลกระทบต่อบริษัท เช่น Apple, Google และ Dell
    - อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว

    ✅ บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญกับต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น
    - การเปลี่ยนแปลงภาษีทำให้บริษัทต้องใช้การขนส่งทางอากาศมากขึ้น
    - ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นและอาจกระทบต่อราคาสินค้า

    ✅ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อาจได้รับการยกเว้นภาษีบางส่วน
    - บริษัทในกลุ่ม "Magnificent Seven" เช่น Apple และ Nvidia อาจได้รับการยกเว้นบางส่วน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/20/severe-strain-on-tech-supply-chains-will-cause-more-price-rises
    บทความนี้กล่าวถึงผลกระทบของนโยบายภาษีของสหรัฐฯ ที่มีต่อห่วงโซ่อุปทานด้านเทคโนโลยี โดยการเปลี่ยนแปลงภาษีนำเข้าของประธานาธิบดี Donald Trump ทำให้เกิดความไม่แน่นอนในอุตสาหกรรม ส่งผลให้บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญกับต้นทุนที่สูงขึ้นและอาจต้องปรับราคาสินค้า เช่น Sony ที่ประกาศขึ้นราคาคอนโซล PlayStation 5 ในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ✅ Sony ประกาศขึ้นราคาคอนโซล PlayStation 5 - การขึ้นราคามีผลในยุโรป ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ - สาเหตุหลักมาจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภาษีนำเข้า ✅ สหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีสำหรับสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ชั่วคราว - การยกเว้นนี้ช่วยลดผลกระทบต่อบริษัท เช่น Apple, Google และ Dell - อย่างไรก็ตาม อาจเป็นเพียงมาตรการชั่วคราว ✅ บริษัทเทคโนโลยีต้องเผชิญกับต้นทุนการขนส่งที่สูงขึ้น - การเปลี่ยนแปลงภาษีทำให้บริษัทต้องใช้การขนส่งทางอากาศมากขึ้น - ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้นและอาจกระทบต่อราคาสินค้า ✅ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อาจได้รับการยกเว้นภาษีบางส่วน - บริษัทในกลุ่ม "Magnificent Seven" เช่น Apple และ Nvidia อาจได้รับการยกเว้นบางส่วน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/20/severe-strain-on-tech-supply-chains-will-cause-more-price-rises
    WWW.THESTAR.COM.MY
    'Severe strain' on tech supply chains will cause more price rises
    The "uncertainty" created by US President Donald Trump's changing tariffs policy is putting tech manufacturing supply chains under "severe strain", and sparking price rises, experts have said.
    0 Comments 0 Shares 248 Views 0 Reviews
  • บทความนี้กล่าวถึงการตอบสนองของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ต่อรายงานที่ระบุว่าบริษัทได้จัดส่งชิป AI ขั้นสูงให้กับ Huawei ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีของจีน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ห้ามการส่งออกชิปขั้นสูงไปยัง Huawei ตั้งแต่ปี 2020 โดย TSMC ยืนยันว่าไม่ได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ใดๆ ให้กับ Huawei ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 และได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด

    ✅ TSMC ยืนยันว่าไม่ได้จัดส่งชิปให้ Huawei ตั้งแต่ปี 2020
    - การห้ามส่งออกชิปขั้นสูงไปยัง Huawei เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2020 ภายใต้การบริหารของรัฐบาล Trump
    - TSMC ระบุว่าได้หยุดการจัดส่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้กับ Huawei ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020

    ✅ TSMC ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด
    - บริษัทได้สื่อสารกับกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับคำสั่งซื้อที่น่าสงสัย
    - หากพบคำสั่งซื้อที่น่าสงสัย TSMC จะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    ✅ รายงานระบุว่า Huawei อาจผลิตชิป Ascend ได้เอง
    - มีรายงานว่า Huawei ได้รับแม่พิมพ์ (dies) สำหรับการผลิตชิปก่อนที่ข้อจำกัดจะมีผลบังคับใช้

    ✅ TSMC ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง
    - ปัจจุบัน TSMC ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรสำหรับชิปที่ใช้พลังงานต่ำ เช่น โปรเซสเซอร์สมาร์ทโฟน

    https://wccftech.com/tsmc-breaks-silence-on-reports-it-shipped-advanced-ai-chips-to-chinas-huawei/
    บทความนี้กล่าวถึงการตอบสนองของ TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing Company) ต่อรายงานที่ระบุว่าบริษัทได้จัดส่งชิป AI ขั้นสูงให้กับ Huawei ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีของจีน แม้ว่าจะมีข้อจำกัดจากรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ห้ามการส่งออกชิปขั้นสูงไปยัง Huawei ตั้งแต่ปี 2020 โดย TSMC ยืนยันว่าไม่ได้จัดส่งผลิตภัณฑ์ใดๆ ให้กับ Huawei ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 และได้ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด ✅ TSMC ยืนยันว่าไม่ได้จัดส่งชิปให้ Huawei ตั้งแต่ปี 2020 - การห้ามส่งออกชิปขั้นสูงไปยัง Huawei เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคม 2020 ภายใต้การบริหารของรัฐบาล Trump - TSMC ระบุว่าได้หยุดการจัดส่งผลิตภัณฑ์ทั้งหมดให้กับ Huawei ตั้งแต่เดือนกันยายน 2020 ✅ TSMC ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับอย่างเคร่งครัด - บริษัทได้สื่อสารกับกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับคำสั่งซื้อที่น่าสงสัย - หากพบคำสั่งซื้อที่น่าสงสัย TSMC จะดำเนินการตรวจสอบและแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ✅ รายงานระบุว่า Huawei อาจผลิตชิป Ascend ได้เอง - มีรายงานว่า Huawei ได้รับแม่พิมพ์ (dies) สำหรับการผลิตชิปก่อนที่ข้อจำกัดจะมีผลบังคับใช้ ✅ TSMC ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูง - ปัจจุบัน TSMC ใช้กระบวนการผลิต 3 นาโนเมตรสำหรับชิปที่ใช้พลังงานต่ำ เช่น โปรเซสเซอร์สมาร์ทโฟน https://wccftech.com/tsmc-breaks-silence-on-reports-it-shipped-advanced-ai-chips-to-chinas-huawei/
    WCCFTECH.COM
    TSMC Breaks Silence On Reports It Shipped Advanced AI Chips To China's Huawei
    TSMC breaks silence on reports that Huawei has acquired advanced AI chips built by the firm's manufacturing technologies.
    0 Comments 0 Shares 209 Views 0 Reviews
  • Intel กำลังเผชิญกับข้อจำกัดใหม่ในการส่งออกชิป Gaudi AI ไปยังจีน โดยต้องได้รับ ใบอนุญาตส่งออก ตามนโยบายการค้าล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทในตลาดจีน

    ✅ Intel ต้องได้รับใบอนุญาตส่งออกเพื่อขายชิป Gaudi AI ไปยังจีน
    - ข้อจำกัดนี้มีผลกับ ชิปที่มีแบนด์วิดท์ DRAM 1,400 GB/s หรือสูงกว่า
    - Intel เคยมีลูกค้ารายใหญ่ในจีน เช่น ByteDance ซึ่งซื้อชิปของบริษัทเป็นทางเลือกแทน Nvidia

    ✅ ข้อจำกัดนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ AI ของ Intel ในจีน
    - แม้ Intel จะมีธุรกิจในจีนที่เล็กกว่า Nvidia แต่ก็ยังต้องเผชิญกับ กระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน
    - Nvidia และ AMD ก็ถูกจำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนเช่นกัน

    ✅ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจช่วยให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง
    - จีนอาจหันไปใช้ ชิป Ascend ของ Huawei แทนชิปจากบริษัทสหรัฐฯ
    - ข้อจำกัดนี้อาจกระตุ้นให้จีน เร่งพัฒนาโซลูชัน AI ในประเทศ

    ✅ Intel อาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาตลาดในจีน
    - บริษัทอาจต้อง นำเสนอชิปที่มีสเปคต่ำลง เพื่อให้ผ่านข้อกำหนดการส่งออก
    - หรืออาจต้อง หาทางเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อขอผ่อนปรนข้อจำกัด

    https://wccftech.com/intel-sees-no-leverage-from-the-trump-administration-now-requires-license-to-sell-gaudi-chips-to-china/
    Intel กำลังเผชิญกับข้อจำกัดใหม่ในการส่งออกชิป Gaudi AI ไปยังจีน โดยต้องได้รับ ใบอนุญาตส่งออก ตามนโยบายการค้าล่าสุดของสหรัฐฯ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจของบริษัทในตลาดจีน ✅ Intel ต้องได้รับใบอนุญาตส่งออกเพื่อขายชิป Gaudi AI ไปยังจีน - ข้อจำกัดนี้มีผลกับ ชิปที่มีแบนด์วิดท์ DRAM 1,400 GB/s หรือสูงกว่า - Intel เคยมีลูกค้ารายใหญ่ในจีน เช่น ByteDance ซึ่งซื้อชิปของบริษัทเป็นทางเลือกแทน Nvidia ✅ ข้อจำกัดนี้ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ AI ของ Intel ในจีน - แม้ Intel จะมีธุรกิจในจีนที่เล็กกว่า Nvidia แต่ก็ยังต้องเผชิญกับ กระบวนการทางกฎหมายที่ซับซ้อน - Nvidia และ AMD ก็ถูกจำกัดการส่งออกชิป AI ไปยังจีนเช่นกัน ✅ นโยบายการค้าของสหรัฐฯ อาจช่วยให้จีนพัฒนาเทคโนโลยีของตนเอง - จีนอาจหันไปใช้ ชิป Ascend ของ Huawei แทนชิปจากบริษัทสหรัฐฯ - ข้อจำกัดนี้อาจกระตุ้นให้จีน เร่งพัฒนาโซลูชัน AI ในประเทศ ✅ Intel อาจต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรักษาตลาดในจีน - บริษัทอาจต้อง นำเสนอชิปที่มีสเปคต่ำลง เพื่อให้ผ่านข้อกำหนดการส่งออก - หรืออาจต้อง หาทางเจรจากับรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อขอผ่อนปรนข้อจำกัด https://wccftech.com/intel-sees-no-leverage-from-the-trump-administration-now-requires-license-to-sell-gaudi-chips-to-china/
    WCCFTECH.COM
    Intel Sees No Leverage From the Trump Administration, Now Requires Export License to Sell Gaudi Chips to China
    US chipmaker Intel hasn't seen any exemption at all, as it is reported that the firm would require a license to sell its chips in China.
    0 Comments 0 Shares 259 Views 0 Reviews
  • Shein และ Temu เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนโยบายของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับ ภาษีนำเข้าและการปิดช่องโหว่ทางการค้า ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น

    ✅ Shein และ Temu จะปรับขึ้นราคาสินค้าในวันที่ 25 เมษายน 2025
    - ทั้งสองบริษัทส่งจดหมายแจ้งลูกค้าให้รีบซื้อสินค้าก่อนราคาจะปรับขึ้น
    - การขึ้นราคาสินค้าเป็นผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงกฎการค้าระหว่างประเทศและภาษีนำเข้า

    ✅ นโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Shein และ Temu
    - ก่อนหน้านี้ Shein และ Temu อาศัย ข้อยกเว้น "de minimis" ที่อนุญาตให้สินค้าราคาไม่เกิน $800 เข้าสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษี
    - คำสั่งบริหารใหม่ของทรัมป์ ปิดช่องโหว่นี้ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2025

    ✅ ราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มก่อนการปรับขึ้น
    - Shein มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $6 ถึง $91
    - Temu มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $2.48 ถึง $210

    ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดอีคอมเมิร์ซ
    - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
    - อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/shein-temu-to-get-pricier-as-trump-cracks-down-on-cheap-imports
    Shein และ Temu เตรียมปรับขึ้นราคาสินค้าในสัปดาห์หน้า เนื่องจากนโยบายของ อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เข้มงวดขึ้นเกี่ยวกับ ภาษีนำเข้าและการปิดช่องโหว่ทางการค้า ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทเพิ่มขึ้น ✅ Shein และ Temu จะปรับขึ้นราคาสินค้าในวันที่ 25 เมษายน 2025 - ทั้งสองบริษัทส่งจดหมายแจ้งลูกค้าให้รีบซื้อสินค้าก่อนราคาจะปรับขึ้น - การขึ้นราคาสินค้าเป็นผลมาจาก การเปลี่ยนแปลงกฎการค้าระหว่างประเทศและภาษีนำเข้า ✅ นโยบายภาษีนำเข้าของทรัมป์ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Shein และ Temu - ก่อนหน้านี้ Shein และ Temu อาศัย ข้อยกเว้น "de minimis" ที่อนุญาตให้สินค้าราคาไม่เกิน $800 เข้าสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษี - คำสั่งบริหารใหม่ของทรัมป์ ปิดช่องโหว่นี้ และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 2 พฤษภาคม 2025 ✅ ราคาสินค้าบนแพลตฟอร์มก่อนการปรับขึ้น - Shein มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $6 ถึง $91 - Temu มีสินค้าราคาอยู่ระหว่าง $2.48 ถึง $210 ✅ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาดอีคอมเมิร์ซ - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นสำหรับสินค้าแฟชั่นและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ - อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมการซื้อของผู้บริโภคในสหรัฐฯ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/17/shein-temu-to-get-pricier-as-trump-cracks-down-on-cheap-imports
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Shein, Temu to get pricier as Trump cracks down on cheap imports
    (Reuters) -Chinese e-marketplace Temu and fast-fashion retailer Shein will raise prices next week as U.S. President Donald Trump's sweeping tariffs and crackdown on low-value imports push up costs for the companies known for their budget offerings.
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายที่ Google กำลังเผชิญในการจัดการความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับชิป AI โดยบริษัทกำลังพิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI

    Google CFO Anat Ashkenazi เปิดเผยว่า Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการนี้ในปี 2025 นอกจากนี้ Google ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นกับ CoreWeave เพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลของ CoreWeave สำหรับชิป TPU ที่ Google พัฒนาขึ้นเอง

    ในขณะเดียวกัน CoreWeave ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25% ในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง เนื่องจากผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด

    ✅ ความต้องการชิป AI ของ Google
    - Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน
    - กำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการในปี 2025

    ✅ การเจรจากับ CoreWeave
    - Google พิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave
    - อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นเพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลสำหรับชิป TPU

    ✅ สถานการณ์ของ CoreWeave
    - CoreWeave เผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25%
    - ผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อการพึ่งพา CoreWeave
    - การพึ่งพา CoreWeave อาจเพิ่มความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทเผชิญปัญหาทางการเงิน
    - ความไม่แน่นอนในตลาดอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐาน

    ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI
    - ความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตชิป
    - การแข่งขันในตลาด AI อาจเข้มข้นขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่

    https://www.techradar.com/pro/google-rumored-to-be-looking-to-rent-latest-nvidia-ai-gpu-from-coreweave-because-it-doesnt-have-enough-of-them
    ข่าวนี้เล่าถึงความท้าทายที่ Google กำลังเผชิญในการจัดการความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับชิป AI โดยบริษัทกำลังพิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์ที่ปรับแต่งสำหรับงาน AI Google CFO Anat Ashkenazi เปิดเผยว่า Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน และกำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการนี้ในปี 2025 นอกจากนี้ Google ยังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นกับ CoreWeave เพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลของ CoreWeave สำหรับชิป TPU ที่ Google พัฒนาขึ้นเอง ในขณะเดียวกัน CoreWeave ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Nvidia กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25% ในเวลาเพียง 48 ชั่วโมง เนื่องจากผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด ✅ ความต้องการชิป AI ของ Google - Google มีความต้องการชิป AI มากกว่าความสามารถที่มีอยู่ในปัจจุบัน - กำลังเพิ่มการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานเพื่อรองรับความต้องการในปี 2025 ✅ การเจรจากับ CoreWeave - Google พิจารณาเช่าชิป Nvidia Blackwell จาก CoreWeave - อยู่ในขั้นตอนการเจรจาเบื้องต้นเพื่อเช่าพื้นที่ในศูนย์ข้อมูลสำหรับชิป TPU ✅ สถานการณ์ของ CoreWeave - CoreWeave เผชิญกับความท้าทายทางการเงิน โดยมูลค่าหุ้นลดลงถึง 25% - ผลกระทบจากภาษีของรัฐบาล Trump และความไม่แน่นอนในตลาด ℹ️ ความเสี่ยงต่อการพึ่งพา CoreWeave - การพึ่งพา CoreWeave อาจเพิ่มความเสี่ยงในกรณีที่บริษัทเผชิญปัญหาทางการเงิน - ความไม่แน่นอนในตลาดอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของโครงสร้างพื้นฐาน ℹ️ ผลกระทบต่ออุตสาหกรรม AI - ความต้องการชิป AI ที่เพิ่มขึ้นอาจสร้างแรงกดดันต่อผู้ผลิตชิป - การแข่งขันในตลาด AI อาจเข้มข้นขึ้นจากการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ https://www.techradar.com/pro/google-rumored-to-be-looking-to-rent-latest-nvidia-ai-gpu-from-coreweave-because-it-doesnt-have-enough-of-them
    WWW.TECHRADAR.COM
    Google rumored to be looking to rent latest Nvidia AI GPU from CoreWeave because it doesn't have enough of them
    However Google is still expected to spend significantly less than Microsoft and OpenAI
    0 Comments 0 Shares 243 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้เล่าถึงการประกาศของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้า ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดในสัปดาห์หน้า โดย Trump ระบุว่าจะมีความยืดหยุ่นสำหรับบางบริษัทในอุตสาหกรรมนี้

    Trump ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างการเดินทางกลับจาก West Palm Beach โดยระบุว่าการกำหนดอัตราภาษีใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งเน้นการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศและลดการพึ่งพาการนำเข้า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราภาษีหรือบริษัทที่จะได้รับการยกเว้น

    ในมุมมองที่กว้างขึ้น การกำหนดภาษีนี้อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทที่พึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศ เช่น บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์

    ✅ การประกาศอัตราภาษีใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์
    - Trump ระบุว่าจะมีการประกาศอัตราภาษีใหม่ในสัปดาห์หน้า
    - มีความยืดหยุ่นสำหรับบางบริษัทในอุตสาหกรรม

    ✅ เป้าหมายของนโยบาย
    - สนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ
    - ลดการพึ่งพาการนำเข้า

    ℹ️ ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน
    - การกำหนดภาษีอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี
    - บริษัทที่พึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศอาจต้องปรับตัว

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ทางการค้า
    - การกำหนดภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และประเทศผู้ส่งออก
    - ความขัดแย้งทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/14/trump-says-will-announce-semiconductor-tariffs-over-next-week
    ข่าวนี้เล่าถึงการประกาศของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เกี่ยวกับการกำหนดอัตราภาษีใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ที่นำเข้า ซึ่งจะมีการประกาศรายละเอียดในสัปดาห์หน้า โดย Trump ระบุว่าจะมีความยืดหยุ่นสำหรับบางบริษัทในอุตสาหกรรมนี้ Trump ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ระหว่างการเดินทางกลับจาก West Palm Beach โดยระบุว่าการกำหนดอัตราภาษีใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของนโยบายที่มุ่งเน้นการสนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศและลดการพึ่งพาการนำเข้า อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราภาษีหรือบริษัทที่จะได้รับการยกเว้น ในมุมมองที่กว้างขึ้น การกำหนดภาษีนี้อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี โดยเฉพาะในกลุ่มบริษัทที่พึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศ เช่น บริษัทผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และยานยนต์ ✅ การประกาศอัตราภาษีใหม่สำหรับเซมิคอนดักเตอร์ - Trump ระบุว่าจะมีการประกาศอัตราภาษีใหม่ในสัปดาห์หน้า - มีความยืดหยุ่นสำหรับบางบริษัทในอุตสาหกรรม ✅ เป้าหมายของนโยบาย - สนับสนุนอุตสาหกรรมในประเทศ - ลดการพึ่งพาการนำเข้า ℹ️ ผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน - การกำหนดภาษีอาจเพิ่มต้นทุนการผลิตในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี - บริษัทที่พึ่งพาเซมิคอนดักเตอร์จากต่างประเทศอาจต้องปรับตัว ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ทางการค้า - การกำหนดภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และประเทศผู้ส่งออก - ความขัดแย้งทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/14/trump-says-will-announce-semiconductor-tariffs-over-next-week
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Trump says will announce semiconductor tariffs over next week
    ABOARD AIR FORCE ONE (Reuters) - U.S. President Donald Trump on Sunday said he would be announcing the tariff rate on imported semiconductors over the next week, adding that there would be flexibility on some companies in the sector.
    0 Comments 0 Shares 185 Views 0 Reviews
  • รายงานข่าวจากเพจแบไต๋ระบุว่ารัฐบาลจีนออกมาเผยว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับ TikTok จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของจีน เป็นการตอบกลับกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายกำหนดเวลาที่ ByteDance จะต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ไป 75 วันสำหรับกรณีการขาย TikTok นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทำการขยายกำหนดเวลาที่ TikTok จะต้องขายกิจการให้บริษัทที่ไม่ได้มาจากจีน ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกแบนห้ามใช้ในประเทศอย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะสำเร็จก็ยากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่อนุมัติการเข้าซื้อ TikTok หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ตอนนี้สูงถึง 104% แล้วเมื่อถูกถามถึงการขยายเวลาซื้อ TikTok โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่า จีนต่อต้านการดำเนินการที่ไม่สนใจกฎหมายของเศรษฐกิจในตลาด การเข้าปล้นด้วยกำลัง และการสร้างความเสียหายให้กับสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงยังชี้ด้วยว่าการดำเนินการในกรณีของ TikTok ซึ่งรวมถึงการส่งออกเทคโนโลยี (ในที่นี้หมายถึงอัลกอริทึม) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายจีน
    รายงานข่าวจากเพจแบไต๋ระบุว่ารัฐบาลจีนออกมาเผยว่าข้อตกลงใด ๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับ TikTok จะต้องเป็นไปตามกฎหมายของจีน เป็นการตอบกลับกรณีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ต้องการขยายกำหนดเวลาที่ ByteDance จะต้องขายกิจการของ TikTok ในสหรัฐฯ ไป 75 วันสำหรับกรณีการขาย TikTok นั้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์ได้ทำการขยายกำหนดเวลาที่ TikTok จะต้องขายกิจการให้บริษัทที่ไม่ได้มาจากจีน ไม่เช่นนั้น TikTok จะถูกแบนห้ามใช้ในประเทศอย่างไรก็ดี ความเป็นไปได้ที่ดีลนี้จะสำเร็จก็ยากขึ้น เพราะรัฐบาลจีนระบุว่าจะไม่อนุมัติการเข้าซื้อ TikTok หลังจากที่ทรัมป์ขึ้นภาษีนำเข้าจากจีนที่ตอนนี้สูงถึง 104% แล้วเมื่อถูกถามถึงการขยายเวลาซื้อ TikTok โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ชี้ว่า จีนต่อต้านการดำเนินการที่ไม่สนใจกฎหมายของเศรษฐกิจในตลาด การเข้าปล้นด้วยกำลัง และการสร้างความเสียหายให้กับสิทธิอันชอบธรรมและผลประโยชน์ของธุรกิจต่าง ๆ รวมถึงยังชี้ด้วยว่าการดำเนินการในกรณีของ TikTok ซึ่งรวมถึงการส่งออกเทคโนโลยี (ในที่นี้หมายถึงอัลกอริทึม) จะต้องเป็นไปตามกฎหมายจีน
    0 Comments 0 Shares 347 Views 0 Reviews
  • Trump ได้กล่าวถึง Musk ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรี โดยชื่นชมว่า Musk ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ CEO ของ Tesla และ SpaceX อย่างไรก็ตาม Trump ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล แม้ว่า Musk จะมีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency ที่มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล

    Trump ยังกล่าวถึงการซื้อรถ Tesla ของเขาเอง โดยยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษใดๆ การแสดงออกนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ท่ามกลางการประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla

    ✅ ความคิดเห็นของ Trump เกี่ยวกับ Musk
    - Trump ชื่นชม Musk ว่าเป็นบุคคลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม
    - ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล

    ✅ บทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาล
    - Musk มีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency
    - โครงการนี้มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล

    ✅ การซื้อรถ Tesla ของ Trump
    - Trump ยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษ
    - การซื้อรถ Tesla ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของ Musk
    - การประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Musk
    - การสนับสนุนจาก Trump อาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคม

    ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาล
    - การมีบทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์
    - ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามในแง่ความโปร่งใส

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/donald-trump-says-elon-musk-hasnt-been-treated-properly-but-he-doesnt-need-tesla-ceo-for-anything
    Trump ได้กล่าวถึง Musk ในระหว่างการประชุมกับคณะรัฐมนตรี โดยชื่นชมว่า Musk ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฐานะ CEO ของ Tesla และ SpaceX อย่างไรก็ตาม Trump ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล แม้ว่า Musk จะมีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency ที่มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล Trump ยังกล่าวถึงการซื้อรถ Tesla ของเขาเอง โดยยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษใดๆ การแสดงออกนี้ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ท่ามกลางการประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla ✅ ความคิดเห็นของ Trump เกี่ยวกับ Musk - Trump ชื่นชม Musk ว่าเป็นบุคคลที่ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม - ยืนยันว่าเขาไม่ได้พึ่งพา Musk ในการดำเนินงานของรัฐบาล ✅ บทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาล - Musk มีบทบาทสำคัญในโครงการของกระทรวง Government Efficiency - โครงการนี้มุ่งลดการสูญเสียและการฉ้อโกงในรัฐบาล ✅ การซื้อรถ Tesla ของ Trump - Trump ยืนยันว่าเขาจ่ายเงินในราคาปกติและไม่ได้รับส่วนลดพิเศษ - การซื้อรถ Tesla ถูกมองว่าเป็นการสนับสนุน Musk ℹ️ ความเสี่ยงต่อภาพลักษณ์ของ Musk - การประท้วงและการโจมตีที่เกิดขึ้นกับ Tesla อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Musk - การสนับสนุนจาก Trump อาจเพิ่มความขัดแย้งในสังคม ℹ️ ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาล - การมีบทบาทของ Musk ในโครงการรัฐบาลอาจถูกวิจารณ์ว่าเป็นการเอื้อประโยชน์ - ความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและรัฐบาลอาจถูกตั้งคำถามในแง่ความโปร่งใส https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/donald-trump-says-elon-musk-hasnt-been-treated-properly-but-he-doesnt-need-tesla-ceo-for-anything
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Donald Trump says Elon Musk ‘hasn’t been treated properly’ but he doesn’t need Tesla CEO ‘for anything’
    Trump has been accused of using his presidency to benefit Musk, including turning the White House into a Tesla showroom during a press event last month.
    0 Comments 0 Shares 175 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump ได้ออกคำแนะนำใหม่ที่ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% การยกเว้นภาษีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 และช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภคและบริษัทที่พึ่งพาการผลิตจากจีน

    อย่างไรก็ตาม จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% โดยไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใดเลย นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน

    ✅ การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี
    - สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์
    - การยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025

    ✅ การตอบโต้จากจีน
    - จีนเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125%
    - ไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใด

    ✅ ผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆ
    - เวียดนามและอินเดียได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น
    - เวียดนามเผชิญภาษี 46% และอินเดีย 27%

    ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
    - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
    - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก

    ℹ️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัท
    - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายราคาสินค้าที่สูงขึ้นหากไม่มีการยกเว้นภาษี
    - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน

    https://www.neowin.net/news/tech-gets-a-pass-smartphones-computers-and-chips-exempted-from-trump-tariffs/
    รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของ Donald Trump ได้ออกคำแนะนำใหม่ที่ยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี เช่น สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งก่อนหน้านี้สินค้ากลุ่มนี้ต้องเผชิญกับภาษีสูงถึง 145% การยกเว้นภาษีนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 และช่วยลดภาระให้กับผู้บริโภคและบริษัทที่พึ่งพาการผลิตจากจีน อย่างไรก็ตาม จีนได้ตอบโต้ด้วยการเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% โดยไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใดเลย นอกจากนี้ ประเทศผู้ผลิตอื่นๆ เช่น เวียดนามและอินเดีย ก็ได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ✅ การยกเว้นภาษีสำหรับสินค้ากลุ่มเทคโนโลยี - สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีสำหรับสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และชิปเซมิคอนดักเตอร์ - การยกเว้นนี้มีผลตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2025 ✅ การตอบโต้จากจีน - จีนเพิ่มภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ เป็น 125% - ไม่มีการยกเว้นสำหรับสินค้ากลุ่มใด ✅ ผลกระทบต่อประเทศผู้ผลิตอื่นๆ - เวียดนามและอินเดียได้รับผลกระทบจากภาษีที่เพิ่มขึ้น - เวียดนามเผชิญภาษี 46% และอินเดีย 27% ℹ️ ความเสี่ยงต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ - การตอบโต้ทางภาษีอาจเพิ่มความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีน - ความขัดแย้งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก ℹ️ ผลกระทบต่อผู้บริโภคและบริษัท - ผู้บริโภคอาจต้องจ่ายราคาสินค้าที่สูงขึ้นหากไม่มีการยกเว้นภาษี - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน https://www.neowin.net/news/tech-gets-a-pass-smartphones-computers-and-chips-exempted-from-trump-tariffs/
    WWW.NEOWIN.NET
    Tech gets a pass; Smartphones, computers, and chips exempted from Trump tariffs
    Donald Trump has exempted some widely used electronic devices from paying hefty tariffs, temporarily relieving American consumers.
    0 Comments 0 Shares 221 Views 0 Reviews
  • Meta Platforms ได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่สองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหาร ได้แก่ Dina Powell McCormick และ Patrick Collison โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างและการขยายมุมมองของบริษัทในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ

    ✅ การเพิ่มสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการ:
    - Dina Powell McCormick เคยดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของ Donald Trump และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้นำที่ Goldman Sachs
    - Patrick Collison เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีชื่อเสียง และเคยเป็นสมาชิกของ Meta Advisory Group

    ✅ การขยายคณะกรรมการ:
    - Meta ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะกรรมการเป็น 15 คน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานโยบายใหม่ ๆ

    ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Meta:
    - ก่อนหน้านี้ Meta ได้ยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐฯ และยุติโครงการด้านความหลากหลาย

    ✅ ความคิดเห็นจาก Mark Zuckerberg:
    - Zuckerberg กล่าวถึงสมาชิกใหม่ว่า Dina มีประสบการณ์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ ส่วน Patrick มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/meta-to-add-dina-powell-mccormick-patrick-collison-to-board
    Meta Platforms ได้ประกาศเพิ่มสมาชิกใหม่สองคนเข้าสู่คณะกรรมการบริหาร ได้แก่ Dina Powell McCormick และ Patrick Collison โดยการเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการปรับโครงสร้างและการขยายมุมมองของบริษัทในด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจ ✅ การเพิ่มสมาชิกใหม่ในคณะกรรมการ: - Dina Powell McCormick เคยดำรงตำแหน่งรองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติในรัฐบาลของ Donald Trump และมีประสบการณ์ในตำแหน่งผู้นำที่ Goldman Sachs - Patrick Collison เป็น CEO และผู้ร่วมก่อตั้ง Stripe ซึ่งเป็นบริษัทฟินเทคที่มีชื่อเสียง และเคยเป็นสมาชิกของ Meta Advisory Group ✅ การขยายคณะกรรมการ: - Meta ได้เพิ่มจำนวนสมาชิกในคณะกรรมการเป็น 15 คน เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนานโยบายใหม่ ๆ ✅ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของ Meta: - ก่อนหน้านี้ Meta ได้ยกเลิกโปรแกรมตรวจสอบข้อเท็จจริงในสหรัฐฯ และยุติโครงการด้านความหลากหลาย ✅ ความคิดเห็นจาก Mark Zuckerberg: - Zuckerberg กล่าวถึงสมาชิกใหม่ว่า Dina มีประสบการณ์ในการสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจและผู้ประกอบการ ส่วน Patrick มีความมุ่งมั่นในการขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/12/meta-to-add-dina-powell-mccormick-patrick-collison-to-board
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Meta to add Dina Powell McCormick, Patrick Collison to board
    (Reuters) - Meta Platforms will add former Republican official Dina Powell McCormick and fintech firm Stripe's CEO Patrick Collison to its board, effective April 15, the social media company said on Friday.
    0 Comments 0 Shares 226 Views 0 Reviews
  • รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ

    ✅ การลดงบประมาณของ NASA:
    - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate
    - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50%

    ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก:
    - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก
    - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ

    ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA:
    - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน

    ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์:
    - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ:
    - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์

    ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์:
    - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี

    ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ:
    - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ

    https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    รัฐบาลทรัมป์ได้เสนอร่างงบประมาณปี 2026 ที่มีการลดงบประมาณของ NASA ลงถึง 20% หรือประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อโครงการวิทยาศาสตร์และความเป็นผู้นำด้านอวกาศของสหรัฐฯ ✅ การลดงบประมาณของ NASA: - งบประมาณของ NASA จะลดลงจาก 25 พันล้านดอลลาร์เหลือ 20 พันล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะในส่วนของ Science Mission Directorate - การลดงบประมาณนี้จะส่งผลให้โครงการวิทยาศาสตร์ เช่น Astrophysics, Planetary Science และ Earth Science ถูกลดงบประมาณลงถึง 50% ✅ โครงการที่อาจถูกยกเลิก: - Nancy Grace Roman Space Telescope ซึ่งเป็นกล้องโทรทรรศน์ที่มีศักยภาพเทียบเท่ากับ Hubble และ James Webb อาจถูกยกเลิก - โครงการสำคัญอื่น ๆ เช่น Mars Sample Return และ DAVINCI Mission to Venus ก็อาจได้รับผลกระทบ ✅ ผลกระทบต่อศูนย์ NASA: - การลดงบประมาณอาจนำไปสู่การปิดศูนย์ Goddard Space Flight Center ในรัฐแมริแลนด์ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อพนักงานกว่า 10,000 คน ✅ การตอบสนองของนักวิจารณ์: - นักวิจารณ์และผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายวิทยาศาสตร์เรียกการลดงบประมาณนี้ว่าเป็น "เหตุการณ์ระดับการสูญพันธุ์" สำหรับโครงการวิทยาศาสตร์ของ NASA == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ℹ️ การรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศ: - สหรัฐฯ ควรพิจารณาเพิ่มงบประมาณเพื่อรักษาความเป็นผู้นำด้านอวกาศและสนับสนุนการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ℹ️ การสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์: - ควรมีการสนับสนุนโครงการวิทยาศาสตร์ที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการค้นพบใหม่ ๆ และการพัฒนาทางเทคโนโลยี ℹ️ การสื่อสารกับสาธารณะ: - NASA ควรสื่อสารกับสาธารณะเกี่ยวกับความสำคัญของโครงการวิทยาศาสตร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการลดงบประมาณ https://www.neowin.net/news/trump-white-houses-proposed-huge-nasa-budget-cut-could-decimate-american-space-leadership/
    WWW.NEOWIN.NET
    Trump White House's proposed huge NASA budget cut could "decimate American space leadership"
    A massive cut to the budget spending for NASA science research has been proposed by The White House that "could decimate American leadership in space".
    0 Comments 0 Shares 218 Views 0 Reviews
  • ข่าวนี้กล่าวถึงการสอบสวนของ Irish Data Protection Commission (DPC) เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป (EU) โดยแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) เพื่อฝึกอบรมระบบ AI Grok

    ✅ การสอบสวนของ DPC:
    - DPC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลใน EU ได้เริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากโพสต์ที่เข้าถึงได้สาธารณะบนแพลตฟอร์ม X เพื่อฝึกอบรมโมเดล AI.
    - การสอบสวนนี้มีอำนาจในการกำหนดค่าปรับสูงสุดถึง 4% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทภายใต้กฎ GDPR.

    ✅ การตอบสนองของ X:
    - X ได้ตกลงที่จะหยุดการฝึกอบรมระบบ AI โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานใน EU ก่อนที่ผู้ใช้งานจะมีตัวเลือกในการถอนความยินยอม.
    - การตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินคดีในศาลที่ DPC เรียกร้องให้ X หยุดการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว.

    ✅ ความสำคัญของ GDPR:
    - GDPR เป็นกฎหมายที่เข้มงวดใน EU ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล.
    - DPC เคยกำหนดค่าปรับให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ TikTok รวมถึง X ในปี 2020.

    ✅ ความคิดเห็นจากบุคคลสำคัญ:
    - Elon Musk เจ้าของ X และที่ปรึกษาของ Donald Trump ได้วิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบของ EU โดยเฉพาะกฎที่กำหนดโดย Brussels

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/irish-regulator-investigates-x-over-use-of-eu-personal-data-to-train-grok-ai
    ข่าวนี้กล่าวถึงการสอบสวนของ Irish Data Protection Commission (DPC) เกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานในสหภาพยุโรป (EU) โดยแพลตฟอร์ม X (เดิมชื่อ Twitter) เพื่อฝึกอบรมระบบ AI Grok ✅ การสอบสวนของ DPC: - DPC ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลข้อมูลใน EU ได้เริ่มการสอบสวนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลจากโพสต์ที่เข้าถึงได้สาธารณะบนแพลตฟอร์ม X เพื่อฝึกอบรมโมเดล AI. - การสอบสวนนี้มีอำนาจในการกำหนดค่าปรับสูงสุดถึง 4% ของรายได้ทั่วโลกของบริษัทภายใต้กฎ GDPR. ✅ การตอบสนองของ X: - X ได้ตกลงที่จะหยุดการฝึกอบรมระบบ AI โดยใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้งานใน EU ก่อนที่ผู้ใช้งานจะมีตัวเลือกในการถอนความยินยอม. - การตกลงนี้เกิดขึ้นหลังจากการดำเนินคดีในศาลที่ DPC เรียกร้องให้ X หยุดการประมวลผลข้อมูลดังกล่าว. ✅ ความสำคัญของ GDPR: - GDPR เป็นกฎหมายที่เข้มงวดใน EU ซึ่งกำหนดให้บริษัทต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความเป็นส่วนตัวและการปกป้องข้อมูล. - DPC เคยกำหนดค่าปรับให้กับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ เช่น Meta และ TikTok รวมถึง X ในปี 2020. ✅ ความคิดเห็นจากบุคคลสำคัญ: - Elon Musk เจ้าของ X และที่ปรึกษาของ Donald Trump ได้วิพากษ์วิจารณ์กฎระเบียบของ EU โดยเฉพาะกฎที่กำหนดโดย Brussels https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/irish-regulator-investigates-x-over-use-of-eu-personal-data-to-train-grok-ai
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Irish regulator investigates X over use of EU personal data to train Grok AI
    DUBLIN (Reuters) - Ireland's data regulator on Friday said it had opened an investigation into social media platform X over the use of personal data collected from European Union users to train its AI system Grok.
    0 Comments 0 Shares 173 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ระงับแผนการห้ามส่งออก GPU รุ่น Nvidia H20 HGX ไปยังจีน หลังจากการประชุมกับ Jensen Huang CEO ของ Nvidia ที่งานดินเนอร์มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจาก Nvidia ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ

    ✅ การระงับแผนการห้ามส่งออก:
    - รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะห้ามการส่งออก GPU Nvidia H20 HGX ไปยังจีน แต่ได้ระงับแผนดังกล่าวหลังการประชุมระหว่างทรัมป์และ Huang
    - Nvidia ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ เพื่อช่วยลดความกังวลของรัฐบาล

    ✅ กฎ AI Diffusion Rule:
    - กฎ AI Diffusion Rule ของรัฐบาล Biden จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งจะห้ามการส่งออกโปรเซสเซอร์ AI ของสหรัฐฯ ไปยังจีนโดยไม่มีใบอนุญาต
    - Nvidia H20 HGX ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการส่งออกที่จำกัด แต่จีนยังคงไม่สามารถซื้อโปรเซสเซอร์ AI ขั้นสูงจากสหรัฐฯ ได้

    ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia:
    - Nvidia ขาย GPU H20 HGX มูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทในจีนในไตรมาสแรกของปี 2025
    - การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการส่งออกอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ Nvidia

    ✅ ความสำคัญของการลงทุนใน AI:
    - การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/trump-reportedly-suspends-nvidia-h20-export-ban-plan-after-usd1-million-dinner-with-jensen-huang
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ระงับแผนการห้ามส่งออก GPU รุ่น Nvidia H20 HGX ไปยังจีน หลังจากการประชุมกับ Jensen Huang CEO ของ Nvidia ที่งานดินเนอร์มูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ โดยการตัดสินใจนี้เกิดขึ้นหลังจาก Nvidia ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ ✅ การระงับแผนการห้ามส่งออก: - รัฐบาลสหรัฐฯ มีแผนที่จะห้ามการส่งออก GPU Nvidia H20 HGX ไปยังจีน แต่ได้ระงับแผนดังกล่าวหลังการประชุมระหว่างทรัมป์และ Huang - Nvidia ให้คำมั่นว่าจะลงทุนในศูนย์ข้อมูล AI ในสหรัฐฯ เพื่อช่วยลดความกังวลของรัฐบาล ✅ กฎ AI Diffusion Rule: - กฎ AI Diffusion Rule ของรัฐบาล Biden จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 15 พฤษภาคม ซึ่งจะห้ามการส่งออกโปรเซสเซอร์ AI ของสหรัฐฯ ไปยังจีนโดยไม่มีใบอนุญาต - Nvidia H20 HGX ถูกออกแบบให้สอดคล้องกับข้อกำหนดการส่งออกที่จำกัด แต่จีนยังคงไม่สามารถซื้อโปรเซสเซอร์ AI ขั้นสูงจากสหรัฐฯ ได้ ✅ ผลกระทบต่อ Nvidia: - Nvidia ขาย GPU H20 HGX มูลค่า 16 พันล้านดอลลาร์ให้กับบริษัทในจีนในไตรมาสแรกของปี 2025 - การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการส่งออกอาจส่งผลกระทบต่อรายได้ของ Nvidia ✅ ความสำคัญของการลงทุนใน AI: - การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน AI ในสหรัฐฯ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/trump-reportedly-suspends-nvidia-h20-export-ban-plan-after-usd1-million-dinner-with-jensen-huang
    0 Comments 0 Shares 193 Views 0 Reviews
  • ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen ได้ออกมาประกาศว่า EU อาจใช้มาตรการทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงการเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หากการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ล้มเหลว โดยการเจรจานี้เกี่ยวข้องกับการหยุดชั่วคราวของการเพิ่มภาษีในระยะเวลา 90 วัน

    ✅ การเจรจาทางการค้า:
    - EU กำลังพยายามบรรลุข้อตกลงที่สมดุลกับสหรัฐฯ ในช่วงเวลาหยุดชั่วคราวของการเพิ่มภาษี
    - หากการเจรจาล้มเหลว EU อาจขยายสงครามการค้าไปยังบริการดิจิทัล เช่น การเก็บภาษีจากรายได้โฆษณาดิจิทัลของบริษัทเทคโนโลยี เช่น Meta และ Google

    ✅ ผลกระทบจากสงครามการค้า:
    - Von der Leyen ระบุว่าสงครามการค้าของทรัมป์ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าทั่วโลกอย่างสิ้นเชิง
    - EU จะไม่ยอมให้สินค้าจีนที่เผชิญภาษีจากสหรัฐฯ ทะลักเข้าสู่ตลาดยุโรป

    ✅ มาตรการป้องกัน:
    - Brussels เตรียมใช้ระบบตรวจสอบใหม่เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของสินค้านำเข้าจากจีน

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก:
    - การขยายสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

    ⚠️ การตอบสนองของบริษัทเทคโนโลยี:
    - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเก็บภาษีใหม่ ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการดำเนินงาน

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/eu-could-tax-big-tech-if-trump-trade-talks-fail-von-der-leyen-says-to-ft
    ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป Ursula von der Leyen ได้ออกมาประกาศว่า EU อาจใช้มาตรการทางการค้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุด รวมถึงการเก็บภาษีจากบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ หากการเจรจากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ล้มเหลว โดยการเจรจานี้เกี่ยวข้องกับการหยุดชั่วคราวของการเพิ่มภาษีในระยะเวลา 90 วัน ✅ การเจรจาทางการค้า: - EU กำลังพยายามบรรลุข้อตกลงที่สมดุลกับสหรัฐฯ ในช่วงเวลาหยุดชั่วคราวของการเพิ่มภาษี - หากการเจรจาล้มเหลว EU อาจขยายสงครามการค้าไปยังบริการดิจิทัล เช่น การเก็บภาษีจากรายได้โฆษณาดิจิทัลของบริษัทเทคโนโลยี เช่น Meta และ Google ✅ ผลกระทบจากสงครามการค้า: - Von der Leyen ระบุว่าสงครามการค้าของทรัมป์ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการค้าทั่วโลกอย่างสิ้นเชิง - EU จะไม่ยอมให้สินค้าจีนที่เผชิญภาษีจากสหรัฐฯ ทะลักเข้าสู่ตลาดยุโรป ✅ มาตรการป้องกัน: - Brussels เตรียมใช้ระบบตรวจสอบใหม่เพื่อป้องกันการเพิ่มขึ้นของสินค้านำเข้าจากจีน == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก: - การขยายสงครามการค้าอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ⚠️ การตอบสนองของบริษัทเทคโนโลยี: - บริษัทเทคโนโลยีอาจต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับการเก็บภาษีใหม่ ซึ่งอาจเพิ่มต้นทุนการดำเนินงาน https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/04/11/eu-could-tax-big-tech-if-trump-trade-talks-fail-von-der-leyen-says-to-ft
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU could tax big tech if Trump trade talks fail, Von der Leyen tells FT
    (Reuters) -The EU is prepared to deploy its most powerful trade measures and may impose levies on U.S. digital companies if negotiations with U.S. President Donald Trump fail, EU President Ursula von der Leyen told the Financial Times on Thursday.
    0 Comments 0 Shares 144 Views 0 Reviews
  • ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งพิเศษเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับของ Chris Krebs อดีตผู้อำนวยการ CISA และบริษัท SentinelOne ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความกังวลในวงการความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับ:
    - คำสั่งพิเศษนี้เพิกถอนสิทธิ์ของ Chris Krebs และพนักงาน SentinelOne ที่เกี่ยวข้องกับเขา
    - การเพิกถอนสิทธิ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์โดยตรง

    ✅ ผลกระทบต่อ SentinelOne:
    - SentinelOne อาจเผชิญกับความท้าทายในการให้บริการแก่รัฐบาล เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิ์อาจทำให้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับเป็นโมฆะ
    - บริษัทระบุว่ามีพนักงานน้อยกว่า 10 คนที่ได้รับผลกระทบ และไม่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจโดยรวม

    ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ:
    - ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงวิจารณ์ว่าการเพิกถอนสิทธิ์โดยคำสั่งพิเศษนี้ขัดต่อกระบวนการที่ควรมี เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยและการให้เหตุผล

    ✅ ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต:
    - Chris Krebs ถูกไล่ออกจากตำแหน่งในปี 2020 หลังจากยืนยันว่าการเลือกตั้งในปีนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์

    == ข้อเสนอแนะและคำเตือน ==
    ⚠️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล:
    - การใช้คำสั่งพิเศษในลักษณะนี้อาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม

    ⚠️ ผลกระทบต่อวงการความปลอดภัยไซเบอร์:
    - การเพิกถอนสิทธิ์ของ SentinelOne อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่มั่นคงในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล

    https://www.csoonline.com/article/3958808/trump-revokes-security-clearances-for-chris-krebs-sentinelone-in-problematic-precedent-for-security-vendors.html
    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกคำสั่งพิเศษเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับของ Chris Krebs อดีตผู้อำนวยการ CISA และบริษัท SentinelOne ซึ่งเป็นการกระทำที่สร้างความกังวลในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ การเพิกถอนสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลลับ: - คำสั่งพิเศษนี้เพิกถอนสิทธิ์ของ Chris Krebs และพนักงาน SentinelOne ที่เกี่ยวข้องกับเขา - การเพิกถอนสิทธิ์ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับบริษัทความปลอดภัยไซเบอร์โดยตรง ✅ ผลกระทบต่อ SentinelOne: - SentinelOne อาจเผชิญกับความท้าทายในการให้บริการแก่รัฐบาล เนื่องจากการเพิกถอนสิทธิ์อาจทำให้สัญญาที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลับเป็นโมฆะ - บริษัทระบุว่ามีพนักงานน้อยกว่า 10 คนที่ได้รับผลกระทบ และไม่คาดว่าจะกระทบต่อธุรกิจโดยรวม ✅ การตอบสนองของผู้เชี่ยวชาญ: - ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายความมั่นคงวิจารณ์ว่าการเพิกถอนสิทธิ์โดยคำสั่งพิเศษนี้ขัดต่อกระบวนการที่ควรมี เช่น การตรวจสอบความปลอดภัยและการให้เหตุผล ✅ ความสัมพันธ์กับเหตุการณ์ในอดีต: - Chris Krebs ถูกไล่ออกจากตำแหน่งในปี 2020 หลังจากยืนยันว่าการเลือกตั้งในปีนั้นเป็นการเลือกตั้งที่ปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์ == ข้อเสนอแนะและคำเตือน == ⚠️ ความเสี่ยงต่อความน่าเชื่อถือของรัฐบาล: - การใช้คำสั่งพิเศษในลักษณะนี้อาจสร้างความกังวลเกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางที่ไม่เหมาะสม ⚠️ ผลกระทบต่อวงการความปลอดภัยไซเบอร์: - การเพิกถอนสิทธิ์ของ SentinelOne อาจสร้างบรรยากาศที่ไม่มั่นคงในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ โดยเฉพาะบริษัทที่ทำงานร่วมกับรัฐบาล https://www.csoonline.com/article/3958808/trump-revokes-security-clearances-for-chris-krebs-sentinelone-in-problematic-precedent-for-security-vendors.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Trump revokes security clearances for Chris Krebs, SentinelOne in problematic precedent for security vendors
    US President Donald Trump issued an executive order revoking the security clearance of Krebs and cybersecurity giant SentinelOne as retribution for the former CISA director’s defense of the 2020 election. The move holds significant implications for SentinelOne going forward.
    0 Comments 0 Shares 168 Views 0 Reviews
More Results