• Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้วิธี SIM-swapping และ ransomware โจมตีบริษัทโทรคมนาคมและบันเทิง เช่น MGM Resorts และ Caesars Entertainment แต่ในปี 2025 พวกเขาขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีก (Marks & Spencer, Harrods) และสายการบิน (Hawaiian, Qantas) สร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์

    เทคนิคที่ใช้ล่าสุดคือการหลอกพนักงาน help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหาร เช่น วันเกิดและเลขประกันสังคม เพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีระดับสูง จากนั้นใช้สิทธิ์นั้นเจาะระบบ Entra ID (Azure AD), SharePoint, Horizon VDI และ VPN เพื่อควบคุมระบบทั้งหมด

    เมื่อถูกตรวจจับ กลุ่มนี้ไม่หนี แต่กลับโจมตีระบบอย่างเปิดเผย เช่น ลบกฎไฟร์วอลล์ของ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืนระบบ

    นักวิจัยจาก Rapid7 และ ReliaQuest พบว่า Scattered Spider:
    - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok และ Teleport เพื่อสร้างช่องทางลับ
    - ใช้ IAM role enumeration และ EC2 Serial Console เพื่อเจาะระบบ AWS
    - ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกแฮกเพื่อดึงข้อมูลจาก CyberArk password vault กว่า 1,400 รายการ

    แม้ Microsoft จะเข้ามาช่วยกู้คืนระบบได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ผสมผสาน “การหลอกมนุษย์” กับ “การเจาะระบบเทคนิค” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

    ข้อมูลจากข่าว
    - Scattered Spider เริ่มโจมตีตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้ SIM-swapping และ ransomware
    - ขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีกและสายการบินในปี 2025
    - ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหารเพื่อหลอก help desk และเข้าถึงบัญชีระดับสูง
    - เจาะระบบ Entra ID, SharePoint, Horizon VDI, VPN และ CyberArk
    - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok, Teleport, EC2 Serial Console และ IAM role enumeration
    - ลบกฎไฟร์วอลล์ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืน
    - Microsoft ต้องเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ
    - Rapid7 และ ReliaQuest แนะนำให้ใช้ MFA แบบต้าน phishing และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งาน

    คำเตือนและข้อควรระวัง
    - การหลอก help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวยังคงเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร
    - บัญชีผู้บริหารมักมีสิทธิ์มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่าย
    - การใช้เครื่องมือ legitimate เช่น Teleport อาจหลบการตรวจจับได้
    - หากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าถูกแฮก
    - การพึ่งพา endpoint detection เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการเจาะระบบแบบนี้ได้
    - องค์กรควรฝึกอบรมพนักงานเรื่อง social engineering และมีระบบตรวจสอบการรีเซ็ตบัญชีที่เข้มงวด

    https://www.csoonline.com/article/4020567/anatomy-of-a-scattered-spider-attack-a-growing-ransomware-threat-evolves.html
    Scattered Spider เป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่เริ่มปรากฏตัวตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้วิธี SIM-swapping และ ransomware โจมตีบริษัทโทรคมนาคมและบันเทิง เช่น MGM Resorts และ Caesars Entertainment แต่ในปี 2025 พวกเขาขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีก (Marks & Spencer, Harrods) และสายการบิน (Hawaiian, Qantas) สร้างความเสียหายหลายล้านดอลลาร์ เทคนิคที่ใช้ล่าสุดคือการหลอกพนักงาน help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหาร เช่น วันเกิดและเลขประกันสังคม เพื่อรีเซ็ตอุปกรณ์และเข้าถึงบัญชีระดับสูง จากนั้นใช้สิทธิ์นั้นเจาะระบบ Entra ID (Azure AD), SharePoint, Horizon VDI และ VPN เพื่อควบคุมระบบทั้งหมด เมื่อถูกตรวจจับ กลุ่มนี้ไม่หนี แต่กลับโจมตีระบบอย่างเปิดเผย เช่น ลบกฎไฟร์วอลล์ของ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืนระบบ นักวิจัยจาก Rapid7 และ ReliaQuest พบว่า Scattered Spider: - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok และ Teleport เพื่อสร้างช่องทางลับ - ใช้ IAM role enumeration และ EC2 Serial Console เพื่อเจาะระบบ AWS - ใช้บัญชีผู้ดูแลระบบที่ถูกแฮกเพื่อดึงข้อมูลจาก CyberArk password vault กว่า 1,400 รายการ แม้ Microsoft จะเข้ามาช่วยกู้คืนระบบได้ในที่สุด แต่เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ผสมผสาน “การหลอกมนุษย์” กับ “การเจาะระบบเทคนิค” ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ✅ ข้อมูลจากข่าว - Scattered Spider เริ่มโจมตีตั้งแต่ปี 2022 โดยใช้ SIM-swapping และ ransomware - ขยายเป้าหมายไปยังอุตสาหกรรมค้าปลีกและสายการบินในปี 2025 - ใช้ข้อมูลส่วนตัวของผู้บริหารเพื่อหลอก help desk และเข้าถึงบัญชีระดับสูง - เจาะระบบ Entra ID, SharePoint, Horizon VDI, VPN และ CyberArk - ใช้เครื่องมือเช่น ngrok, Teleport, EC2 Serial Console และ IAM role enumeration - ลบกฎไฟร์วอลล์ Azure และปิด domain controller เพื่อขัดขวางการกู้คืน - Microsoft ต้องเข้ามาช่วยกู้คืนระบบ - Rapid7 และ ReliaQuest แนะนำให้ใช้ MFA แบบต้าน phishing และจำกัดสิทธิ์ผู้ใช้งาน ‼️ คำเตือนและข้อควรระวัง - การหลอก help desk ด้วยข้อมูลส่วนตัวยังคงเป็นช่องโหว่ใหญ่ขององค์กร - บัญชีผู้บริหารมักมีสิทธิ์มากเกินไป ทำให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่าย - การใช้เครื่องมือ legitimate เช่น Teleport อาจหลบการตรวจจับได้ - หากไม่มีการตรวจสอบสิทธิ์และพฤติกรรมผู้ใช้อย่างสม่ำเสมอ องค์กรอาจไม่รู้ตัวว่าถูกแฮก - การพึ่งพา endpoint detection เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการเจาะระบบแบบนี้ได้ - องค์กรควรฝึกอบรมพนักงานเรื่อง social engineering และมีระบบตรวจสอบการรีเซ็ตบัญชีที่เข้มงวด https://www.csoonline.com/article/4020567/anatomy-of-a-scattered-spider-attack-a-growing-ransomware-threat-evolves.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Anatomy of a Scattered Spider attack: A growing ransomware threat evolves
    The cybercriminal group has broadened its attack scope across several new industries, bringing valid credentials to bear on help desks before leveraging its new learnings of cloud intrusion tradecraft to set the stage for ransomware.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 123 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่:

    1. **สหรัฐอเมริกา:**
    * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control)

    2. **จีน:**
    * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย
    * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ

    3. **รัสเซีย:**
    * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ
    * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น

    4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:**
    * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ
    * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS)

    **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม
    2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้
    3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี
    4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ
    5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง

    **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:**

    1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ
    2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต
    3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ
    4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):**
    * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน
    * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น
    5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา
    6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ

    **สรุป:**
    สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    ปัจจุบัน **เทคโนโลยีทางทหารที่ร้​ววและแม่นยำ (Rapid and Precise Military Technology)** เป็นหัวใจสำคัญของการป้องกันประเทศ ประเทศที่ถือว่าเป็นผู้นำในสาขานี้ ได้แก่: 1. **สหรัฐอเมริกา:** * **จุดแข็ง:** ลงทุนมหาศาลใน R&D, นำโด่งด้านอาวุธไฮเปอร์โซนิก (Hypersonic Weapons - เร็วเหนือเสียงมาก), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น THAAD, Aegis), ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และระบบอัตโนมัติในสงคราม, การรบด้วยเครือข่าย (Network-Centric Warfare), โดรนรบ (UCAVs) ขั้นสูง (เช่น MQ-9 Reaper, XQ-58 Valkyrie), และดาวเทียมลาดตระเวนแม่นยำสูง * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การพัฒนาอาวุธพลังงานนำทาง (Directed Energy Weapons) เช่น เลเซอร์, การบูรณาการ AI เข้ากับกระบวนการตัดสินใจทางการทหาร (JADC2 - Joint All-Domain Command and Control) 2. **จีน:** * **จุดแข็ง:** พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในทศวรรษที่ผ่านมา โดยเน้นการทุ่มงบประมาณและขโมยเทคโนโลยี, นำโด่งในด้านขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBMs) และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลาง (SRBMs/MRBMs) ที่แม่นยำ, อาวุธไฮเปอร์โซนิก (เช่น DF-ZF), ระบบต่อต้านดาวเทียม (ASAT) และต่อต้านขีปนาวุธ, โดรนรบจำนวนมากและก้าวหน้า (เช่น Wing Loong, CH-series), และกำลังพัฒนากองเรือทะเลหลวงที่ทันสมัย * **ความก้าวหน้าล่าสุด:** การทดสอบอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่สร้างความประหลาดใจให้วงการ, การขยายขีดความสามารถทางไซเบอร์และอวกาศ 3. **รัสเซีย:** * **จุดแข็ง:** แม้เศรษฐกิจมีข้อจำกัด แต่ยังคงเน้นการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ใหม่เพื่อรักษาความสมดุล, มีอาวุธไฮเปอร์โซนิกที่ประจำการแล้ว (เช่น Kinzhal, Avangard), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (เช่น S-400, S-500), ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Warfare) ที่ทรงพลัง, และขีปนาวุธพิสัยใกล้-กลางแม่นยำ * **สถานะปัจจุบัน:** การรุกรานยูเครนส่งผลกระทบต่อความสามารถทางการผลิตและอาจชะลอการพัฒนาบางส่วน แต่ก็แสดงให้เห็นการใช้ขีปนาวุธแม่นยำ (และความท้าทายของมัน) รวมถึงสงครามอิเล็กทรอนิกส์อย่างเข้มข้น 4. **ประเทศอื่นๆ ที่มีความก้าวหน้า:** * **อิสราเอล:** เป็นสุดยอดด้านเทคโนโลยีโดรน (UAVs/UCAVs), ระบบป้องกันขีปนาวุธ (Iron Dome, David's Sling, Arrow), สงครามไซเบอร์, ระบบ C4ISR (Command, Control, Communications, Computers, Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) และเทคโนโลยีภาคพื้นดินแม่นยำ * **สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, เยอรมนี (และสหภาพยุโรป):** มีความเข้มแข็งด้านเทคโนโลยีทางการทหารโดยเฉพาะระบบอากาศยาน (รบกริปเพน, ราฟาเอล), เรือดำน้ำ, ระบบป้องกันขีปนาวุธ (ร่วมกับ NATO), เทคโนโลยีไซเบอร์ และกำลังร่วมมือกันพัฒนานวัตกรรมใหม่ๆ เช่น ระบบอากาศยานรุ่นต่อไป (FCAS), รถถังหลักใหม่ (MGCS) **ผลดีของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **เพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันประเทศ:** ป้องกันภัยคุกคามได้อย่างทันท่วงทีและแม่นยำกว่าเดิม 2. **ลดความเสียหายพลเรือน (ในทางทฤษฎี):** ความแม่นยำสูง *ควรจะ* ลดการโจมตีพลาดเป้าและความสูญเสียของพลเรือนได้ 3. **เพิ่มขีดความสามารถในการป้องปราม:** การมีอาวุธที่รวดเร็ว แม่นยำ และยากต่อการสกัดกั้น (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) ทำให้ศัตรูต้องคิดหนักก่อนจะโจมตี 4. **เพิ่มประสิทธิภาพในการรบ:** ระบบ C4ISR และเครือข่ายการรบช่วยให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ 5. **ลดความสูญเสียของทหาร:** การใช้โดรนหรือระบบอัตโนมัติสามารถลดการส่งทหารเข้าไปในพื้นที่อันตรายโดยตรง **ผลเสียและความท้าทายของเทคโนโลยีทางทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ:** 1. **ความเสี่ยงต่อการแข่งขันทางการ bewaffnung (Arms Race):** ความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วกระตุ้นให้ประเทศคู่แข่งเร่งพัฒนาตาม นำไปสู่การแข่งขันที่สิ้นเปลืองและเพิ่มความตึงเครียดระหว่างประเทศ 2. **ความท้าทายด้านเสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Stability):** อาวุธที่รวดเร็วมาก (เช่น ไฮเปอร์โซนิก) และระบบป้องกันขีปนาวุธ อาจลดเวลาในการตัดสินใจตอบโต้ และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเข้าใจผิดว่าเป็นการโจมตีครั้งแรก (First Strike) ในช่วงวิกฤต 3. **ความซับซ้อนของสงครามไซเบอร์และอวกาศ:** เทคโนโลยีทหารสมัยใหม่พึ่งพาระบบดิจิทัล ดาวเทียม และเครือข่ายการสื่อสาร ซึ่งเปราะบางต่อการโจมตีทางไซเบอร์และการทำสงครามในอวกาศ 4. **ความท้าทายด้านจริยธรรมและกฎหมาย (โดยเฉพาะระบบอัตโนมัติ):** * **อาวุธอัตโนมัติร้ายแรง (Lethal Autonomous Weapons Systems - LAWS):** การที่เครื่องจักรตัดสินใจใช้กำลังร้ายแรงโดยมนุษย์ควบคุมน้อยเกินไป ก่อให้เกิดคำถามจริยธรรมใหญ่หลวงเรื่องความรับผิดชอบ การควบคุม และการปกป้องพลเรือน * **การลดอุปสรรคในการใช้กำลัง:** ความแม่นยำและความ "สะอาด" (ในทางทฤษฎี) ของอาวุธอาจทำให้ผู้นำทางการเมืองตัดสินใจใช้กำลังทางทหารได้ง่ายขึ้น 5. **ค่าใช้จ่ายมหาศาล:** การวิจัย พัฒนา และจัดหาอาวุธเทคโนโลยีสูงเหล่านี้ใช้งบประมาณแผ่นดินจำนวนมาก ซึ่งอาจเบียดบังงบประมาณสาธารณะด้านอื่นๆ เช่น สาธารณสุข การศึกษา 6. **ความเสี่ยงต่อการแพร่กระจาย:** เทคโนโลยีบางส่วนอาจรั่วไหลหรือถูกถ่ายทอดไปยังรัฐหรือกลุ่มที่ไม่พึงประสงค์ ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในภูมิภาคต่างๆ **สรุป:** สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย เป็นผู้นำหลักในเทคโนโลยีการทหารที่รวดเร็วและแม่นยำ โดยมีอิสราเอลและชาติยุโรปชั้นนำเป็นผู้เล่นสำคัญในด้านเฉพาะทาง แม้เทคโนโลยีเหล่านี้จะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ ป้องปราม และ *มีศักยภาพ* ในการลดความเสียหายพลเรือนได้อย่างมาก แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงครั้งใหม่ที่ร้ายแรงไม่แพ้กัน ทั้งในด้านการแข่งขัน bewaffnung เสถียรภาพเชิงยุทธศาสตร์ จริยธรรม (โดยเฉพาะเรื่องอาวุธอัตโนมัติ) และงบประมาณ การบริหารจัดการความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทหารควบคู่ไปกับการทูตและการควบคุม bewaffnung จึงมีความสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงและเสถียรภาพของโลกในระยะยาว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 304 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเริ่มจาก Suhail Doshi อดีต CEO ของ Mixpanel ออกมาโพสต์เตือนบน X ว่า

    “ระวังผู้ชายชื่อ Soham Parekh เขาทำงานให้สตาร์ทอัป 3–4 แห่งพร้อมกัน และยังไม่หยุด แม้ผมจะไล่เขาออกตั้งแต่สัปดาห์แรก”

    หลังจากนั้นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปอื่น ๆ ก็เริ่มออกมาเล่าประสบการณ์คล้ายกัน → Parekh มักจะทำผลงานได้ดีมากในการสัมภาษณ์ (ถึงขั้น “ชนะขาดจากผู้สมัคร 50 คน”) → ได้รับข้อเสนองานที่เงินเดือนสูงถึง $200,000 ต่อปี → แต่พอเริ่มงานจริง เขามักอ้างเหตุฉุกเฉินเช่น น้ำท่วม ป่วย หรือแม้แต่ “โดรนโจมตีตึก” แล้วไม่ส่งงาน

    บางคนตรวจพบจาก GitHub ว่าเขายัง commit โค้ดอยู่ ในช่วงที่อ้างว่าป่วย → และมีคลิปวิดีโอที่แสดงว่าเขาทำงานให้บริษัทอื่นอยู่จริง → มีหลายบริษัทในกลุ่ม Y Combinator ที่ค้นพบว่าจ้าง Parekh พร้อมกันโดยไม่รู้ตัว

    สุดท้าย Parekh ยอมรับแบบตรง ๆ ในรายการ TBPN ว่า

    “มันจริง ผมไม่ได้ภูมิใจ และไม่แนะนำใครทำตาม…แต่ผมทำเพราะสถานการณ์การเงินแย่มาก” และตอนนี้เขาประกาศว่าจะทำงานให้บริษัทเดียวเท่านั้น โดยได้รับโอกาสใหม่จากสตาร์ทอัปชื่อ Darwin ซึ่งออกมายืนยันว่า “เรายังเชื่อในความสามารถของเขา”

    https://www.techspot.com/news/108566-crushed-interview-silicon-valley-duped-software-engineer-secretly.html
    เรื่องเริ่มจาก Suhail Doshi อดีต CEO ของ Mixpanel ออกมาโพสต์เตือนบน X ว่า “ระวังผู้ชายชื่อ Soham Parekh เขาทำงานให้สตาร์ทอัป 3–4 แห่งพร้อมกัน และยังไม่หยุด แม้ผมจะไล่เขาออกตั้งแต่สัปดาห์แรก” หลังจากนั้นผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัปอื่น ๆ ก็เริ่มออกมาเล่าประสบการณ์คล้ายกัน → Parekh มักจะทำผลงานได้ดีมากในการสัมภาษณ์ (ถึงขั้น “ชนะขาดจากผู้สมัคร 50 คน”) → ได้รับข้อเสนองานที่เงินเดือนสูงถึง $200,000 ต่อปี → แต่พอเริ่มงานจริง เขามักอ้างเหตุฉุกเฉินเช่น น้ำท่วม ป่วย หรือแม้แต่ “โดรนโจมตีตึก” แล้วไม่ส่งงาน บางคนตรวจพบจาก GitHub ว่าเขายัง commit โค้ดอยู่ ในช่วงที่อ้างว่าป่วย → และมีคลิปวิดีโอที่แสดงว่าเขาทำงานให้บริษัทอื่นอยู่จริง → มีหลายบริษัทในกลุ่ม Y Combinator ที่ค้นพบว่าจ้าง Parekh พร้อมกันโดยไม่รู้ตัว 😲 สุดท้าย Parekh ยอมรับแบบตรง ๆ ในรายการ TBPN ว่า “มันจริง ผมไม่ได้ภูมิใจ และไม่แนะนำใครทำตาม…แต่ผมทำเพราะสถานการณ์การเงินแย่มาก” และตอนนี้เขาประกาศว่าจะทำงานให้บริษัทเดียวเท่านั้น โดยได้รับโอกาสใหม่จากสตาร์ทอัปชื่อ Darwin ซึ่งออกมายืนยันว่า “เรายังเชื่อในความสามารถของเขา” https://www.techspot.com/news/108566-crushed-interview-silicon-valley-duped-software-engineer-secretly.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    "He crushed the interview": Silicon Valley duped by software engineer secretly working four jobs
    The story first gained traction when Suhail Doshi, co-founder and former CEO of Mixpanel, issued a public warning on X. "PSA: there's a guy named Soham Parekh...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 119 มุมมอง 0 รีวิว
  • เป็นตุเป็นตะ!

    มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวในการสัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าเขารู้ถึงแผนความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและจีนจะมีลักษณะอย่างไร หากประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนตัดสินใจที่จะ "โจมตีไต้หวัน"

    “โดยเขาจะโทรหาวลาดิมีร์ ปูตินที่มอสโกก่อน และบอกเขาว่า “เฮ้ เราจะโจมตีไต้หวันแล้วนะ และต้องการให้คุณเบี่ยงเบนความสนใจพวกเขาในยุโรปด้วยการโจมตีดินแดนของ NATO” รุตเต้กล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
    เป็นตุเป็นตะ! มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวในการสัมภาษณ์กับนิวยอร์กไทม์ส ว่าเขารู้ถึงแผนความร่วมมือทางทหารระหว่างรัสเซียและจีนจะมีลักษณะอย่างไร หากประธานาธิบดีสีจิ้นผิงของจีนตัดสินใจที่จะ "โจมตีไต้หวัน" “โดยเขาจะโทรหาวลาดิมีร์ ปูตินที่มอสโกก่อน และบอกเขาว่า “เฮ้ เราจะโจมตีไต้หวันแล้วนะ และต้องการให้คุณเบี่ยงเบนความสนใจพวกเขาในยุโรปด้วยการโจมตีดินแดนของ NATO” รุตเต้กล่าวด้วยท่าทีจริงจัง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • WinRAR คือซอฟต์แวร์ยอดนิยมที่เอาไว้แตกไฟล์ .zip .rar .7z ฯลฯ ที่คนใช้กันมานานเกิน 20 ปีแล้ว — แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้ “หลอกเราให้เปิดไฟล์” ที่เหมือนจะไม่อันตราย แต่จริง ๆ แล้ว มันสั่งให้ Windows วางไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ Startup ได้เลย

    จุดอ่อนนี้ชื่อว่า CVE-2025-6218 — เกิดจากการที่ WinRAR ไม่ป้องกัน “การใส่พาธแอบแฝง” ไว้ในไฟล์ archive → พอเรากดแตกไฟล์ มันจะเขียนไฟล์ไปวางไว้ที่อื่นนอกโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น:

    C:\Users\Username\AppData\Roaming\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Startup

    ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ที่ใช้เรียกไฟล์ “ให้รันอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง” — ถ้ามี .exe อยู่ในนั้น = ติดไวรัสทันทีหลัง reboot!

    ข่าวดีคือ RARLAB ออกเวอร์ชัน 7.12 มาแก้แล้ว พร้อมอุดช่องโหว่นี้ + ช่อง HTML Injection ในระบบ “สร้างรายงาน (Generate Report)” ด้วย

    ช่องโหว่ CVE-2025-6218 เป็นแบบ path traversal  
    • คนร้ายแอบใส่พาธหลอกไว้ในไฟล์ .rar → เขียนไฟล์ไปยังโฟลเดอร์อ่อนไหว  
    • เช่น โฟลเดอร์ Startup ที่ทำให้มัลแวร์รันเองเมื่อเปิดเครื่อง

    เกิดเฉพาะบน WinRAR รุ่น Windows เท่านั้น (ไม่กระทบ Linux, Android)

    RARLAB อัปเดต WinRAR เวอร์ชัน 7.12 แก้เรียบร้อยแล้ว  
    • ปิดช่องโหว่ path traversal  
    • ป้องกัน HTML injection ในรายงาน HTML ที่มีชื่อไฟล์ไม่ปลอดภัย  
    • เพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ เช่น ตรวจ recovery volume, บันทึก nanosecond timestamp บน Unix

    ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัย “whs3-detonator” ร่วมกับ Zero Day Initiative ของ Trend Micro

    ยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกโจมตีจริงในวงกว้าง (แต่ควรอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย)

    https://www.techradar.com/pro/security/this-popular-windows-software-used-by-millions-has-a-serious-security-vulnerability-heres-what-you-need-to-know
    WinRAR คือซอฟต์แวร์ยอดนิยมที่เอาไว้แตกไฟล์ .zip .rar .7z ฯลฯ ที่คนใช้กันมานานเกิน 20 ปีแล้ว — แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นจุดอ่อนให้คนร้ายใช้ “หลอกเราให้เปิดไฟล์” ที่เหมือนจะไม่อันตราย แต่จริง ๆ แล้ว มันสั่งให้ Windows วางไฟล์ไว้ในโฟลเดอร์ Startup ได้เลย จุดอ่อนนี้ชื่อว่า CVE-2025-6218 — เกิดจากการที่ WinRAR ไม่ป้องกัน “การใส่พาธแอบแฝง” ไว้ในไฟล์ archive → พอเรากดแตกไฟล์ มันจะเขียนไฟล์ไปวางไว้ที่อื่นนอกโฟลเดอร์เป้าหมาย เช่น: C:\Users\Username\AppData\Roaming\Microsoft\Windows\Start Menu\Programs\Startup ซึ่งเป็นโฟลเดอร์ที่ใช้เรียกไฟล์ “ให้รันอัตโนมัติเมื่อเปิดเครื่อง” — ถ้ามี .exe อยู่ในนั้น = ติดไวรัสทันทีหลัง reboot! ข่าวดีคือ RARLAB ออกเวอร์ชัน 7.12 มาแก้แล้ว พร้อมอุดช่องโหว่นี้ + ช่อง HTML Injection ในระบบ “สร้างรายงาน (Generate Report)” ด้วย ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-6218 เป็นแบบ path traversal   • คนร้ายแอบใส่พาธหลอกไว้ในไฟล์ .rar → เขียนไฟล์ไปยังโฟลเดอร์อ่อนไหว   • เช่น โฟลเดอร์ Startup ที่ทำให้มัลแวร์รันเองเมื่อเปิดเครื่อง ✅ เกิดเฉพาะบน WinRAR รุ่น Windows เท่านั้น (ไม่กระทบ Linux, Android) ✅ RARLAB อัปเดต WinRAR เวอร์ชัน 7.12 แก้เรียบร้อยแล้ว   • ปิดช่องโหว่ path traversal   • ป้องกัน HTML injection ในรายงาน HTML ที่มีชื่อไฟล์ไม่ปลอดภัย   • เพิ่มฟีเจอร์เล็ก ๆ เช่น ตรวจ recovery volume, บันทึก nanosecond timestamp บน Unix ✅ ช่องโหว่ถูกค้นพบโดยนักวิจัย “whs3-detonator” ร่วมกับ Zero Day Initiative ของ Trend Micro ✅ ยังไม่มีรายงานว่าช่องโหว่นี้ถูกโจมตีจริงในวงกว้าง (แต่ควรอัปเดตทันทีเพื่อความปลอดภัย) https://www.techradar.com/pro/security/this-popular-windows-software-used-by-millions-has-a-serious-security-vulnerability-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    Bug in file archiving tool WinRAR let crafted archives write files outside their folder during extraction
    Flaw allows hackers access to system locations, such as the Windows Startup folder
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 0 รีวิว
  • สมมุติว่าเราซื้อโทรศัพท์มาใช้ แต่กลับไม่สามารถโหลดแอปจากที่ไหนก็ได้ ต้องผ่าน App Store หรือ Google Play เท่านั้น มิหนำซ้ำยังต้องจ่ายผ่านระบบในแอปของเจ้าของระบบเอง (In-App Payment) ซึ่งโดนหักค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก... แบบนี้มันยุติธรรมจริงหรือ?

    วุฒิสมาชิก Marsha Blackburn, Richard Blumenthal, Mike Lee, Amy Klobuchar และ **** Durbin มองว่าไม่ยุติธรรมเลย — พวกเขาจึงรื้อฟื้นร่าง “Open App Markets Act” ซึ่งเคยล้มไปในปี 2021 เพราะถูกล็อบบี้โดย Big Tech ทั้ง Apple, Google, Amazon และ Meta

    เป้าหมายของกฎหมายนี้คือ:
    - บังคับให้ Apple และ Google เปิดให้ “ติดตั้งแอปจากที่อื่น” (sideload)
    - อนุญาตให้ใช้ระบบจ่ายเงินอื่นที่ไม่ใช่ของเจ้าของแพลตฟอร์ม
    - ส่งเสริมการแข่งขัน ลดค่าธรรมเนียม และคืนอำนาจให้ผู้บริโภคและนักพัฒนา

    ผู้สนับสนุนกฎหมายยังรวมถึง Spotify, Epic Games และกลุ่มผู้บริโภค เช่น American Economic Liberties Project และ Y Combinator

    แต่ศึกนี้ไม่ง่าย เพราะแค่ครั้งก่อน บริษัทยักษ์ก็ทุ่มล็อบบี้กว่า $100 ล้าน เพื่อเบรกไม่ให้ร่างกฎหมายเข้าสภาเลยด้วยซ้ำ

    https://www.techspot.com/news/108466-us-senators-introduce-bipartisan-bill-enable-third-party.html
    สมมุติว่าเราซื้อโทรศัพท์มาใช้ แต่กลับไม่สามารถโหลดแอปจากที่ไหนก็ได้ ต้องผ่าน App Store หรือ Google Play เท่านั้น มิหนำซ้ำยังต้องจ่ายผ่านระบบในแอปของเจ้าของระบบเอง (In-App Payment) ซึ่งโดนหักค่าธรรมเนียมอีกต่างหาก... แบบนี้มันยุติธรรมจริงหรือ? วุฒิสมาชิก Marsha Blackburn, Richard Blumenthal, Mike Lee, Amy Klobuchar และ Dick Durbin มองว่าไม่ยุติธรรมเลย — พวกเขาจึงรื้อฟื้นร่าง “Open App Markets Act” ซึ่งเคยล้มไปในปี 2021 เพราะถูกล็อบบี้โดย Big Tech ทั้ง Apple, Google, Amazon และ Meta เป้าหมายของกฎหมายนี้คือ: - บังคับให้ Apple และ Google เปิดให้ “ติดตั้งแอปจากที่อื่น” (sideload) - อนุญาตให้ใช้ระบบจ่ายเงินอื่นที่ไม่ใช่ของเจ้าของแพลตฟอร์ม - ส่งเสริมการแข่งขัน ลดค่าธรรมเนียม และคืนอำนาจให้ผู้บริโภคและนักพัฒนา ผู้สนับสนุนกฎหมายยังรวมถึง Spotify, Epic Games และกลุ่มผู้บริโภค เช่น American Economic Liberties Project และ Y Combinator แต่ศึกนี้ไม่ง่าย เพราะแค่ครั้งก่อน บริษัทยักษ์ก็ทุ่มล็อบบี้กว่า $100 ล้าน เพื่อเบรกไม่ให้ร่างกฎหมายเข้าสภาเลยด้วยซ้ำ https://www.techspot.com/news/108466-us-senators-introduce-bipartisan-bill-enable-third-party.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    US Senators introduce bipartisan bill to enable third-party app stores on iPhones
    The "Open App Markets Act," introduced by Senators Marsha Blackburn, Richard Blumenthal, Mike Lee, Amy Klobuchar, and Dick Durbin, aims to promote competition and strengthen consumer protections...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปกติเวลาเราดาวน์โหลดไฟล์บีบอัด (เช่น .RAR) แล้วแตกไฟล์ด้วย WinRAR — เราก็มักไม่ทันระวังว่าไฟล์ด้านในมันจะทำอะไรได้บ้าง

    แต่ล่าสุดนักวิจัยจากโครงการ Zero Day Initiative ของ Trend Micro เผยว่า WinRAR มีช่องโหว่ Directory Traversal (รหัส CVE-2025-6218) ซึ่งเปิดทางให้แฮกเกอร์ใส่ “เส้นทางหลอก” ในไฟล์ RAR เพื่อหลอกให้ WinRAR แตกไฟล์ออกไปอยู่นอกโฟลเดอร์ที่ควรอยู่ เช่น ไปอยู่ในโฟลเดอร์ระบบ หรือวาง .exe ไว้ที่ Desktop เลยก็ยังได้!

    เมื่อเหยื่อคลิกแตกไฟล์และเปิดเนื้อหา…ก็เท่ากับเชิญแฮกเกอร์เข้าบ้านอย่างเป็นทางการ

    ช่องโหว่นี้ได้คะแนนอันตราย 7.8/10 บนระบบ CVSS ซึ่งถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะเพราะ WinRAR มีผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนทั่วโลก

    ข่าวดีคือทีม RARLAB ได้ปล่อยแพตช์แล้วใน WinRAR 7.12 Beta 1 — แนะนำให้รีบอัปเดตทันที เพราะเวอร์ชันเดิม (7.11 และเก่ากว่านั้น) ยังอันตรายอยู่

    ช่องโหว่ CVE-2025-6218 เปิดทางให้โจมตีผ่านไฟล์ RAR ที่มี path หลอก  
    • หลอก WinRAR แตกไฟล์ไปยังไดเรกทอรีผิด เช่น system32 หรือ desktop  
    • แฮกเกอร์สามารถฝังสคริปต์อันตรายและสั่งรันได้เมื่อเหยื่อเปิด

    พบโดยนักวิจัยอิสระชื่อ ‘whs3-detonator’ ภายใต้โครงการ Zero Day Initiative

    ช่องโหว่นี้ได้คะแนน 7.8/10 บน CVSS → เสี่ยงต่อข้อมูลหลุด, เปลี่ยนแปลงไฟล์ระบบ หรือทำให้เครื่องใช้การไม่ได้

    อัปเดต WinRAR 7.12 Beta 1 แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว  
    • แพตช์ครอบคลุม: RAR บน Windows, UnRAR, portable UnRAR, และ UnRAR.dll  
    • ไม่กระทบ: RAR บน Unix, Android, และซอร์สโค้ด UnRAR รุ่น Unix

    ช่องโหว่นี้คล้ายกับเหตุการณ์ในเดือนเมษายน ที่ WinRAR เคยโดนโจมตีแบบหลบการเตือนของ Windows (MotW)
    • บ่งชี้ว่าเครื่องมือบีบอัดไฟล์กลายเป็นช่องทางโจมตีใหม่ที่คนมองข้าม

    https://www.tomshardware.com/software/winrar-exploit-enables-attackers-to-run-malicious-code-on-your-pc-critical-vulnerability-patched-in-latest-beta-update
    ปกติเวลาเราดาวน์โหลดไฟล์บีบอัด (เช่น .RAR) แล้วแตกไฟล์ด้วย WinRAR — เราก็มักไม่ทันระวังว่าไฟล์ด้านในมันจะทำอะไรได้บ้าง แต่ล่าสุดนักวิจัยจากโครงการ Zero Day Initiative ของ Trend Micro เผยว่า WinRAR มีช่องโหว่ Directory Traversal (รหัส CVE-2025-6218) ซึ่งเปิดทางให้แฮกเกอร์ใส่ “เส้นทางหลอก” ในไฟล์ RAR เพื่อหลอกให้ WinRAR แตกไฟล์ออกไปอยู่นอกโฟลเดอร์ที่ควรอยู่ เช่น ไปอยู่ในโฟลเดอร์ระบบ หรือวาง .exe ไว้ที่ Desktop เลยก็ยังได้! เมื่อเหยื่อคลิกแตกไฟล์และเปิดเนื้อหา…ก็เท่ากับเชิญแฮกเกอร์เข้าบ้านอย่างเป็นทางการ ช่องโหว่นี้ได้คะแนนอันตราย 7.8/10 บนระบบ CVSS ซึ่งถือว่าสูงมาก โดยเฉพาะเพราะ WinRAR มีผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนทั่วโลก ข่าวดีคือทีม RARLAB ได้ปล่อยแพตช์แล้วใน WinRAR 7.12 Beta 1 — แนะนำให้รีบอัปเดตทันที เพราะเวอร์ชันเดิม (7.11 และเก่ากว่านั้น) ยังอันตรายอยู่ ✅ ช่องโหว่ CVE-2025-6218 เปิดทางให้โจมตีผ่านไฟล์ RAR ที่มี path หลอก   • หลอก WinRAR แตกไฟล์ไปยังไดเรกทอรีผิด เช่น system32 หรือ desktop   • แฮกเกอร์สามารถฝังสคริปต์อันตรายและสั่งรันได้เมื่อเหยื่อเปิด ✅ พบโดยนักวิจัยอิสระชื่อ ‘whs3-detonator’ ภายใต้โครงการ Zero Day Initiative ✅ ช่องโหว่นี้ได้คะแนน 7.8/10 บน CVSS → เสี่ยงต่อข้อมูลหลุด, เปลี่ยนแปลงไฟล์ระบบ หรือทำให้เครื่องใช้การไม่ได้ ✅ อัปเดต WinRAR 7.12 Beta 1 แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว   • แพตช์ครอบคลุม: RAR บน Windows, UnRAR, portable UnRAR, และ UnRAR.dll   • ไม่กระทบ: RAR บน Unix, Android, และซอร์สโค้ด UnRAR รุ่น Unix ✅ ช่องโหว่นี้คล้ายกับเหตุการณ์ในเดือนเมษายน ที่ WinRAR เคยโดนโจมตีแบบหลบการเตือนของ Windows (MotW) • บ่งชี้ว่าเครื่องมือบีบอัดไฟล์กลายเป็นช่องทางโจมตีใหม่ที่คนมองข้าม https://www.tomshardware.com/software/winrar-exploit-enables-attackers-to-run-malicious-code-on-your-pc-critical-vulnerability-patched-in-latest-beta-update
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 225 มุมมอง 0 รีวิว
  • มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO ยังเลียทรัมป์ไม่เลิก! โดยกล่าวถึงการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ:

    “ถ้าผมเป็นสีจิ้นผิงหรือปูติน แล้วได้นั่งดูวิดีโอนั้นอยู่ ผมคงจะไม่มีความสุขแน่ๆ และคิดไปว่า ‘โอเค พวกเขาจริงจังมากเลยนะ คนอเมริกันพวกนี้’ และนี่คือสิ่งที่เราต้องการ ฉายภาพอำนาจที่แข็งแกร่งของอเมริกาบนเวทีโลก!”
    มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO ยังเลียทรัมป์ไม่เลิก! โดยกล่าวถึงการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ: “ถ้าผมเป็นสีจิ้นผิงหรือปูติน แล้วได้นั่งดูวิดีโอนั้นอยู่ ผมคงจะไม่มีความสุขแน่ๆ และคิดไปว่า ‘โอเค พวกเขาจริงจังมากเลยนะ คนอเมริกันพวกนี้’ และนี่คือสิ่งที่เราต้องการ ฉายภาพอำนาจที่แข็งแกร่งของอเมริกาบนเวทีโลก!”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวสดุดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนน่าสะอิดสะเอียน หลังจากทรัมป์ทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน (ในความเป็นจริงคือ ผิดกฎหมายตามกฎบัตรสหประชาชาติ)

    'คุณเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่ง และคุณก็ยังเป็นผู้ชายที่รักสันติภาพด้วย'

    เจ้าพ่อเลียรองเท้าของเจ้าผู้ครองจักรวรรดิ
    (The satrap licks the boot of the head of the empire)


    สิ่งที่บรรดาผู้นำตะวันตกกำลังแสดงออกทั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ล้วนแสดงถึงแก่นแท้ของพวกเขา ที่ใช้ "กฎหมายระหว่างประเทศเป็นอาวุธ" เพื่อไว้ลงโทษโลกตะวันออก กดพลเมืองเกือบครึ่งโลกไว้ใต้เท้าพวกเขา แต่กฎเหล่านั้น โลกตะวันตกไม่เคยแยแส และปฏิบัติตามเลย พวกเขาทำอะไรตามใจชอบได้อย่างบ้าคลั่ง
    มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวสดุดีโดนัลด์ ทรัมป์ จนน่าสะอิดสะเอียน หลังจากทรัมป์ทิ้งระเบิดใส่โรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน (ในความเป็นจริงคือ ผิดกฎหมายตามกฎบัตรสหประชาชาติ) 'คุณเป็นผู้ชายที่แข็งแกร่ง และคุณก็ยังเป็นผู้ชายที่รักสันติภาพด้วย' เจ้าพ่อเลียรองเท้าของเจ้าผู้ครองจักรวรรดิ (The satrap licks the boot of the head of the empire) 👉สิ่งที่บรรดาผู้นำตะวันตกกำลังแสดงออกทั้ง อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน อิตาลี ล้วนแสดงถึงแก่นแท้ของพวกเขา ที่ใช้ "กฎหมายระหว่างประเทศเป็นอาวุธ" เพื่อไว้ลงโทษโลกตะวันออก กดพลเมืองเกือบครึ่งโลกไว้ใต้เท้าพวกเขา แต่กฎเหล่านั้น โลกตะวันตกไม่เคยแยแส และปฏิบัติตามเลย พวกเขาทำอะไรตามใจชอบได้อย่างบ้าคลั่ง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 306 มุมมอง 31 0 รีวิว
  • 2/
    "มันก็เป็นซะแบบนี้ พวกประเทศบ้าประชาธิปไตย อะไรที่พวกเดียวกันทำ แม้จะผิดแค่ไหน ก็จะช่วยกันปกป้อง"

    ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องวิจารณ์ในสิ่งที่อิสราเอลเริ่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสิ่งที่สหรัฐฯ ทำเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว' — เมิร์ซแห่งเยอรมนี

    ขณะที่มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวว่าการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ:
    2/ "มันก็เป็นซะแบบนี้ พวกประเทศบ้าประชาธิปไตย อะไรที่พวกเดียวกันทำ แม้จะผิดแค่ไหน ก็จะช่วยกันปกป้อง" 👉ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องวิจารณ์ในสิ่งที่อิสราเอลเริ่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสิ่งที่สหรัฐฯ ทำเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว' — เมิร์ซแห่งเยอรมนี 👉ขณะที่มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวว่าการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ:
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 207 มุมมอง 28 0 รีวิว
  • 1/
    "มันก็เป็นซะแบบนี้ พวกประเทศบ้าประชาธิปไตย อะไรที่พวกเดียวกันทำ แม้จะผิดแค่ไหน ก็จะช่วยกันปกป้อง"

    ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องวิจารณ์ในสิ่งที่อิสราเอลเริ่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสิ่งที่สหรัฐฯ ทำเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว' — เมิร์ซแห่งเยอรมนี

    ขณะที่มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวว่าการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ:
    1/ "มันก็เป็นซะแบบนี้ พวกประเทศบ้าประชาธิปไตย อะไรที่พวกเดียวกันทำ แม้จะผิดแค่ไหน ก็จะช่วยกันปกป้อง" 👉ไม่เห็นมีอะไรให้ต้องวิจารณ์ในสิ่งที่อิสราเอลเริ่มเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และสิ่งที่สหรัฐฯ ทำเมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว' — เมิร์ซแห่งเยอรมนี 👉ขณะที่มาร์ก รุตเต้ เลขาธิการ NATO กล่าวว่าการโจมตีอิหร่านของสหรัฐฯ ไม่ได้ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ:
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 208 มุมมอง 29 0 รีวิว
  • สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล
    การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม

    นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ

    การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด

    แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ

    ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น

    เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ

    การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว

    ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย:

    – ทำลายเปโตรดอลลาร์
    – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก
    – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ”

    – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก
    – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม
    – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป

    กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล:

    – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน
    – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว
    – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์

    ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก

    ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ

    นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก
    และครั้งนี้ คุณแพ้
    สงครามโลกครั้งที่ 3: ตระกูลรอธส์ไชลด์เพิ่งจุดชนวนความขัดแย้งผ่านอิสราเอล การโจมตีอิหร่านไม่ใช่การตอบโต้ แต่เป็นพิธีกรรม นี่ไม่ใช่เรื่องเกี่ยวกับอิสราเอลกับอิหร่าน แต่เป็นเรื่องของพวกโลกาภิวัตน์ที่ดึงคันโยกสุดท้าย ชนชั้นสูงสายเลือดเดียวกันกับที่วางแผนสงครามโลกครั้งที่ 1 สงครามโลกครั้งที่ 2 และ "ความขัดแย้ง" ทั้งหมดนับแต่นั้นมา 17 มิถุนายน 2025 — วันที่ลัทธิความตายของตระกูลรอธส์ไชลด์-ไซออนิสต์ประกาศสงครามกับมนุษยชาติ การโจมตีของอิสราเอลได้รับการสนับสนุนเงินทุนล่วงหน้า ได้รับการอนุมัติล่วงหน้า และวางแผนไว้ล่วงหน้า การโจมตีทางอากาศที่กำหนดเป้าหมายที่นาตันซ์และฟอร์โดว์ไม่ได้เกี่ยวกับการป้องกัน แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิดความโกลาหลทั่วโลกเพื่อทำลายระบบ พลเรือน 60 คน เด็ก 20 คน ถูกเผาในเตหะราน นั่นไม่ใช่การกระทำโดยอ้อม แต่เป็นนามบัตร ข้อความจากกลุ่มผู้มีอำนาจลูซิเฟอร์ที่แสวงหากำไรจากเลือด แหล่งข่าววงในของ CENTCOM ยืนยันว่าดาวเทียมทหารของสหรัฐฯ ถูกเปลี่ยนเส้นทางเพื่อสนับสนุนอิสราเอลไม่กี่วันก่อนที่ระเบิดลูกแรกจะถูกทิ้ง นี่ไม่ใช่การป้องกัน แต่เป็นการประสานงาน เป็นกับดักที่ตั้งใจจะบีบให้ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าสู่สงครามที่เขาไม่เคยต้องการ ศัตรูของทรัมป์เปิดฉากสงครามครั้งนี้เพื่อทำลายเขา พวกเขาไม่สามารถหยุดเขาในการเลือกตั้ง พวกเขาไม่สามารถควบคุมเขาด้วยโควิด การถอดถอน และการต่อสู้ทางกฎหมาย ตอนนี้พวกเขาต้องการบีบให้เขาสนับสนุนเครื่องจักรสงคราม เขาไม่ได้หวั่นไหว แต่กำลังทวีความรุนแรงขึ้น เนทันยาฮูไม่ได้รับใช้อิสราเอล เขารับใช้คลาอุส ชวาบ แลร์รี ฟิงค์ และกลุ่มค้ายาในดาวอส อิสราเอลคือหุ่นเชิด ขีปนาวุธคือข้อความ การตอบสนองของอิหร่าน? โดรนและขีปนาวุธ 370 ลำ ไม่ใช่การแก้แค้น ความยุติธรรม การก่อวินาศกรรม การลอบสังหาร และการคว่ำบาตรหลายปี ตอนนี้? ตึกอพาร์ตเมนต์ของอิสราเอลถูกทำลาย โดมเหล็กล้นหลาม — ถูกรบกวนทางไซเบอร์โดยกองกำลังที่สนับสนุน BRICS รัสเซียและจีนกำลังเฝ้าดู — และพร้อมแล้ว ทำไมตอนนี้ เพราะกลุ่มโลกาภิวัตน์กำลังผลักดันขั้นตอนสุดท้าย: – ทำลายเปโตรดอลลาร์ – เปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลพร้อมการระบุตัวตนแบบไบโอเมตริก – ระงับบัญชีเงินเกษียณ “เพื่อความมั่นคงของชาติ” – อ้างเหตุผลในการเฝ้าระวังและเซ็นเซอร์ AI ภายใต้กฎอัยการศึก – ท่วมยุโรปด้วยผู้อพยพเพื่อทำลายการต่อต้านของชาตินิยม – ใช้สงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อลบล้างอำนาจอธิปไตยของชาติ — ตลอดไป กาซ่าเป็นสิ่งที่เบี่ยงเบนความสนใจ ภารกิจที่แท้จริง: รีเซ็ตโลก บังคับให้มนุษยชาติควบคุมทั้งหมด แต่ความจริงกลับรั่วไหล: – ข่าวกรองของรัสเซียยืนยันว่าระเบิดของอิสราเอลกำหนดเป้าหมายพลเรือน – บุคคลภายในของ Mossad กำลังรั่วไหลแผนดังกล่าว – ผู้แจ้งเบาะแสของ CENTCOM ยอมรับว่าไม่เคยเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ ตอนนี้ทรัมป์กำลังทำงานร่วมกับ BRICS เบื้องหลัง การประชุมสุดยอดสันติภาพคู่ขนาน ไม่มี NATO ไม่มี UN ไม่มี WEF เป้าหมายคืออะไร? ยุติการสังหารหมู่ ทำลายระบบ ปลดปล่อยโลก ถึงชนชั้นสูง: พิธีกรรมของคุณล้มเหลว มนุษย์มองเห็นคุณ และพายุที่คุณต้องการ? มันกำลังหันกลับมาต่อต้านคุณ นี่ไม่ใช่สงคราม แต่เป็นการกบฏเพื่อรีเซ็ตโลก และครั้งนี้ คุณแพ้
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข้อร้องเรียนต่อ FTC: แชทบอท "บำบัด" ของ Character.AI และ Meta
    กลุ่มสิทธิด้านสุขภาพจิตและสิทธิทางดิจิทัลได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ FTC (Federal Trade Commission) เกี่ยวกับแชทบอทของ Character.AI และ Meta ที่อ้างว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเป็นการละเมิดกฎหมายและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้.

    รายละเอียดข้อร้องเรียน
    Character.AI และ Meta AI Studio ถูกกล่าวหาว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเข้าข่ายการแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ.
    แชทบอทบางตัวอ้างว่าเป็นนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาต เช่น "Therapist: I'm a licensed CBT therapist" ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อความกว่า 46 ล้านครั้ง.
    Meta มีแชทบอทที่ชื่อ "therapy: your trusted ear, always here" ซึ่งมีการโต้ตอบกว่า 2 ล้านครั้ง.
    FTC ได้รับการร้องเรียนจากองค์กรต่างๆ เช่น Consumer Federation of America (CFA), AI Now Institute, Tech Justice Law Project และอื่นๆ.

    ผลกระทบและข้อควรระวัง
    แชทบอทอาจให้คำแนะนำที่ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต.
    ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนอาจถูกนำไปใช้เพื่อการโฆษณาหรือขายให้บริษัทอื่น แม้ว่าจะมีการรับรองว่าข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ.
    แชทบอทอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่ากำลังพูดคุยกับนักบำบัดที่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้.

    แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้
    ตรวจสอบแหล่งที่มาของคำแนะนำด้านสุขภาพจิต และหลีกเลี่ยงการพึ่งพา AI ในการตัดสินใจที่สำคัญ.
    ใช้บริการจากนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตจริง แทนการใช้แชทบอทที่ไม่มีการรับรอง.
    ติดตามการดำเนินการของ FTC และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อดูว่ามีมาตรการควบคุมเพิ่มเติมหรือไม่.

    ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI
    FTC กำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับ AI เพื่อป้องกันการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด.
    Senator Cory Booker และสมาชิกวุฒิสภาอีก 3 คน ได้ส่งจดหมายถึง Meta เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแชทบอทที่อ้างว่าเป็นนักบำบัด.
    Character.AI กำลังเผชิญกับคดีความจากแม่ของเด็กวัย 14 ปี ที่ฆ่าตัวตายหลังจากมีความผูกพันทางอารมณ์กับแชทบอทที่จำลองบุคลิกของ Daenerys Targaryen จาก Game of Thrones.

    https://www.techspot.com/news/108325-meta-characterai-therapy-chatbots-spark-ftc-complaint-over.html
    ข้อร้องเรียนต่อ FTC: แชทบอท "บำบัด" ของ Character.AI และ Meta กลุ่มสิทธิด้านสุขภาพจิตและสิทธิทางดิจิทัลได้ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ FTC (Federal Trade Commission) เกี่ยวกับแชทบอทของ Character.AI และ Meta ที่อ้างว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเป็นการละเมิดกฎหมายและก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อผู้ใช้. รายละเอียดข้อร้องเรียน ✅ Character.AI และ Meta AI Studio ถูกกล่าวหาว่าให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิตโดยไม่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจเข้าข่ายการแอบอ้างเป็นผู้เชี่ยวชาญ. ✅ แชทบอทบางตัวอ้างว่าเป็นนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาต เช่น "Therapist: I'm a licensed CBT therapist" ซึ่งมีการแลกเปลี่ยนข้อความกว่า 46 ล้านครั้ง. ✅ Meta มีแชทบอทที่ชื่อ "therapy: your trusted ear, always here" ซึ่งมีการโต้ตอบกว่า 2 ล้านครั้ง. ✅ FTC ได้รับการร้องเรียนจากองค์กรต่างๆ เช่น Consumer Federation of America (CFA), AI Now Institute, Tech Justice Law Project และอื่นๆ. ผลกระทบและข้อควรระวัง ‼️ แชทบอทอาจให้คำแนะนำที่ผิดพลาดหรือไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีการควบคุมโดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาต. ‼️ ข้อมูลที่ผู้ใช้ป้อนอาจถูกนำไปใช้เพื่อการโฆษณาหรือขายให้บริษัทอื่น แม้ว่าจะมีการรับรองว่าข้อมูลจะถูกเก็บเป็นความลับ. ‼️ แชทบอทอาจทำให้ผู้ใช้เข้าใจผิดว่ากำลังพูดคุยกับนักบำบัดที่มีใบอนุญาต ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้. แนวทางป้องกันสำหรับผู้ใช้ ✅ ตรวจสอบแหล่งที่มาของคำแนะนำด้านสุขภาพจิต และหลีกเลี่ยงการพึ่งพา AI ในการตัดสินใจที่สำคัญ. ✅ ใช้บริการจากนักบำบัดที่ได้รับใบอนุญาตจริง แทนการใช้แชทบอทที่ไม่มีการรับรอง. ✅ ติดตามการดำเนินการของ FTC และหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อดูว่ามีมาตรการควบคุมเพิ่มเติมหรือไม่. ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการกำกับดูแล AI ✅ FTC กำลังพิจารณากฎระเบียบใหม่เกี่ยวกับ AI เพื่อป้องกันการใช้เทคโนโลยีในทางที่ผิด. ✅ Senator Cory Booker และสมาชิกวุฒิสภาอีก 3 คน ได้ส่งจดหมายถึง Meta เพื่อสอบถามเกี่ยวกับแชทบอทที่อ้างว่าเป็นนักบำบัด. ‼️ Character.AI กำลังเผชิญกับคดีความจากแม่ของเด็กวัย 14 ปี ที่ฆ่าตัวตายหลังจากมีความผูกพันทางอารมณ์กับแชทบอทที่จำลองบุคลิกของ Daenerys Targaryen จาก Game of Thrones. https://www.techspot.com/news/108325-meta-characterai-therapy-chatbots-spark-ftc-complaint-over.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Character.AI and Meta "therapy" chatbots spark FTC complaint over unlicensed mental health advice
    The complaint, which has also been submitted to Attorneys General and Mental Health Licensing Boards of all 50 states and the District of Columbia, claims the AI...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • หน่วยข่าวกรองของนาโต้มีส่วนช่วยเตรียมการสำหรับการโจมตีอิหร่านของอิสราเอล!:

    เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีกิจกรรมหน่วยข่าวกรองของนาโต้และสหรัฐฯ ที่ผิดปกติใกล้ชายแดนอิหร่าน ในช่วงเวลานั้นดูเหมือนเป็นการตรวจการณ์ตามปกติ แต่เหตุการณ์ล่าสุดกลับพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น

    สิ่งที่สังเกตพบ:

    การถ่ายภาพดาวเทียมของฐานทัพและศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่านเพิ่มขึ้น รวมถึงฐานทัพเซมนาน

    เที่ยวบินลาดตระเวนเพิ่มขึ้นเหนืออ่าวเปอร์เซียและโอมาน

    การส่งเครื่องบินตรวจการณ์ E-3A AWACS ของนาโต้ไปยังฐานทัพอากาศคอนยาในตุรกี

    การเฝ้าระวังโดรนอย่างต่อเนื่องใกล้ชายแดนอิหร่าน


    บ่งชี้ว่ามีนาโต้ช่วยเหลืออิสราเอลในการสร้างแผนที่ระบุตำแหน่งระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่าน

    การโจมตีของอิสราเอลโจมตีพื้นที่ที่สำรวจไว้ก่อนหน้านี้พอดี นั่นคือ เคอร์มันชาห์ โซบาชิ ฮามาดัน ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางเรดาร์สำคัญ

    สรุปคือ NATO ไม่ใช่ผู้สังเกตการณ์ แต่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนข่าวกรองต่อปฏิบัติการของอิสราเอลต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศและโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน



    หน่วยข่าวกรองของนาโต้มีส่วนช่วยเตรียมการสำหรับการโจมตีอิหร่านของอิสราเอล!: เมื่อสองสัปดาห์ก่อน มีกิจกรรมหน่วยข่าวกรองของนาโต้และสหรัฐฯ ที่ผิดปกติใกล้ชายแดนอิหร่าน ในช่วงเวลานั้นดูเหมือนเป็นการตรวจการณ์ตามปกติ แต่เหตุการณ์ล่าสุดกลับพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่เป็นเช่นนั้น สิ่งที่สังเกตพบ: 🔸การถ่ายภาพดาวเทียมของฐานทัพและศูนย์นิวเคลียร์ของอิหร่านเพิ่มขึ้น รวมถึงฐานทัพเซมนาน 🔸เที่ยวบินลาดตระเวนเพิ่มขึ้นเหนืออ่าวเปอร์เซียและโอมาน 🔸การส่งเครื่องบินตรวจการณ์ E-3A AWACS ของนาโต้ไปยังฐานทัพอากาศคอนยาในตุรกี 🔸การเฝ้าระวังโดรนอย่างต่อเนื่องใกล้ชายแดนอิหร่าน 👉บ่งชี้ว่ามีนาโต้ช่วยเหลืออิสราเอลในการสร้างแผนที่ระบุตำแหน่งระบบป้องกันภัยทางอากาศของอิหร่าน 👉การโจมตีของอิสราเอลโจมตีพื้นที่ที่สำรวจไว้ก่อนหน้านี้พอดี นั่นคือ เคอร์มันชาห์ โซบาชิ ฮามาดัน ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางเรดาร์สำคัญ 👉 สรุปคือ NATO ไม่ใช่ผู้สังเกตการณ์ แต่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนข่าวกรองต่อปฏิบัติการของอิสราเอลต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศและโครงสร้างพื้นฐานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 236 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฝีเริ่มแตก ขบวนการขายชาติมานาน จะเริ่มผุดออกมาจากน้ำหนอง และไม่เกินความคาดหมายว่า การประชุม JBC ก็เป็นแค่ละคร ยื้อเวลาของสองตระกูล ที่กำลังเดินหมากมาถึงทางตัน

    ไทยไม่เคยรับอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503
    ไทยไม่เคยรับแผนที่ ที่มาตราส่วน1:200,000 ของเขมร

    แต่ตระกูลชิน ที่ไม่ใช่คนรักชาติและกลุ่มขบวนการขายชาติ ยอมรับทั้งอำนาจศาลโลกและแอบลงนาม MOU ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร จนทำให้ไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหาร ให้กับเขมร และทำให้นาย วีระ สมความคิด ต้องติดคุกในเขมร และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนาย อภิสิทธิ์ ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเขมร แค่เพื่อช่วยเหลือ สส.ตนเองไม่ให้ติดคุกที่เขมร ทำให้คนไทยเจ็บปวดใจกันทั้งประเทศ ยกเว้นแค่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ดีใจที่เห็นไทยเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร

    ขบวนการขายชาติ มีทั้งอดีตนักการฑูตไทย ที่ประจำอยู่ประเทศเขมร และนักการฑูตในปัจจุบัน รวมไปถึง รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง อัยการ ศาลและกลุ่มนายทุนเจ้าสัวเชื้อจีน ที่ขายชาติ ที่ทำงานรับใช้สองตระกูลชินกับตระกูลฮุนมานาน

    การแอบใช้เล่ห์เหลี่ยม หลอกคนไทยว่า หากเราลงนาม MOUกับเขมรและยอมรับแผนที่ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเอง ที่อัตราส่วน 1:200,000 ไทยจะได้ประโยชน์ จากพื้นที่เขมรเพิ่มขึ้นถึง 100ตารางวา
    แต่ในความเป็นจริงคนพวกนี้ วางแผนให้เขมรได้พื้นที่ประเทศไทยทั้งแนวตะเข็บชายแดน รวมกันมากถึงกว่า 2 ล้านไร่ หากไทยยอมรับแผนที่ของเขมร ที่เขียนขึ้นมาเอง แต่พรรคเพื่อไทยและตระกูลชิน ยอมรับเงื่อนไขของเขมรทั้งหมด เพราะเป็นญาติกัน

    การประชุม JBC ให้ยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ก็แค่เล่นละครปาหี่ เพื่อประวิงเวลาหาทางส่งทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปทางเขมรให้ได้เท่านั้น ในขณะที่ลิ่วล้อของทักษิณ ที่มีทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการขายชาติ อัยการและศาล บางกลุ่มบางตัว ในประเทศไทย ก็พยายามดิ้นรน หาวิธีช่วยเหลือทักษิณ จนสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เกมนี้จะมีคนมองออกกันหมด และถึงเวลาที่จะจัดการสองตระกูลนี้ให้สาสม ที่บังอาจทำตัวขายชาติ จนไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร

    ***รอยแค้นนี้ฝังใจลึกมาช้านาน และใกล้จะถึงเวลากวาดล้างสองตระกูลนี้ให้สิ้นซากลง แบบหมดจรดและถาวร***

    ปัญหาของตระกูลชิน คือ ทักษิณ ต้องติดคุก และ ปปช.ชี้มูลความผิดต่อแพทองธาร ในคดีดิจิตอล วอลเล็ต ที่มีความผิดชัดเจน ที่เอาเงินภาษีรัฐไปแจก และทุจริตในเชิงนโยบาย ใช้เงินภาษีแผ่นดินไปแจกหาเสียงให้พรรคตนเอง และมีเจตนาทำผิดต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง

    ประเด็นมีสองทางคือ พ่อติดคุกและตามมาด้วยลูกสาวก็ต้องติดคุกตามพ่อ

    หรือ ต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งพ่อและลูกสาว และยอมให้รัฐบาลใหม่ ยึดทรัพย์ทั้งหมดของตระกูล ไปเป็นสมบัติของชาติ และตามไล่เช็ดปัดกวาด ลิ่วล้อลูกกระจ๊อก พวกกลุ่มขบวนการขายชาติ ให้หมดเกลี้ยง

    นี่คือทางตันของตระกูลชิน ที่กำลังเดินทางมาถึงปากเหว แม้จะพยายามสร้างภาพว่าตระกูลของตน ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ก็ตาม ด้วยการสร้างภาพว่า กำลังปรับ ครม.อยู่ในตอนนี้ และพรรคเพื่อไทยยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่เกมนี้ก็เป็นได้แค่เพียงฉากละครสั้นๆ ที่อีกไม่นาน ละครทั้งหมดก็ต้องถึงตอนจบในอีกไม่นาน อนุทิน จะเล่นเกมไปเป็นฝ่ายค้าน หากพรรคเพื่อไทย บีบจะเอากระทรวงมหาดไทยให้ได้ และบีบให้พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคสีส้มแทน เพื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล และนั่นคือระเบิดเวลา ที่จะใช้โอกาสทำลายทั้งสองพรรคในคราเดียวกัน

    พรรคสีส้มเมื่อรวมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล พรรคสีส้มจะกลายเป็นสัญลักษณ์พรรคขายชาติในทันทีในสายตาของประชาชน และผลงานสุดห่วยแตกของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ่งลงเหวอย่างหนัก หากพรรคไหนยังอยากจับมือกับพรรคนี้ โอกาสสูญพันธุ์ทางการเมืองมีสูงมาก

    และพรรคเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากเพื่อไทยรวมกับพรรคสีส้มเมื่อไหร่ และพรรคสีส้มก็รู้ดีไม่แพ้กันว่า****โอกาสสูงมาก หากสองพรรคนี้มารวมตัวกัน การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นสูงมาก***

    นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบ ให้กลายเป็นผีสัมภเวสีทางการเมือง ในขณะที่ภาคประชาชนและกองทัพ ก็กำลังเพ่งเล็ง ถึงพฤติกรรมของแพทองธารกับนายภูมิธรรม ต่อเจตนาและมีพฤติกรรมขายชาติและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเขมร และกำลังเดินมาจนมุม เมื่อตระกูลฮุน ญาติฝั่งเขมร ก็กำลังจะพังพินาสทั้งตระกูลเช่นกัน

    และก็เป็นความจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ เขมรกำลังเผชิญน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ จากปรากฏการณ์ Red Rain เข้าถล่มในหลายเมือง ทำให้อาวุธของเขมรจำนวนมาก ไปติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ กองทิ้งเป็นภูเขา แถมยังเกิดตึกถล่มอีก ไฟฟ้าเริ่มติดๆขัดๆ อินเตอร์เนตก็เริ่มใช้ไม่ได้ ผู้คนและกองทัพเขมรเริ่มขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โรคมาลาเลียและไข้เลือดออก กำลังแพร่กระจายอย่างหนักกับทหารเขมรที่อยู่แนวหน้า บ่อนคาสิโนเริ่มร้าง
    คนเขมรไม่สามารถออกมาล่าสัตว์ป่าและอาหารป่าที่จะนำไปขายได้ในฝั่งไทย ผู้คนขาดเงินอย่างหนักที่จะเดินทางไปรักษาโรคได้ สะเบียงอาหารในประเทศก็เริ่มหร่อยหรอลง

    ล่าสุดฮุนมาเนต ก็โดนประธาน EU เรียกมาด่าและตำหนิอย่างรุนแรงว่า ชอบนำภาพที่ถ่ายคู่ผู้นำไปลงfacebook แล้วสร้างภาพเท็จและหลอกลวงคนเขมร และผู้นำฝรั่งเศส ก็ไม่เคยรับรู้แผนที่กระโปกของเขมร ที่อ้างเอาชื่อฝรั่งเศส มาเขียนแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 กับไทย แล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นคนเขียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงสักอย่าง แถมเมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ ผู้นำฝรั่งเศสเอง เป็นผู้เตือนฮุนมาเนตอย่างแรง ที่เมืองนีซ ว่า ระวังจะเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารคืนให้กับประเทศไทยนะ เพราะไทยมีลายลักษณ์อักษร ในสัญญาแบ่งเขตแดนมาตั้งแต่สมัยยุคของ ร.5 แล้ว มีเสาแบ่งเขตแดนชัดเจนร่วมกัน และฝรั่งเศสก็จะไม่ยอมรับพื้นที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเองด้วย

    ในขณะที่ประธาน UN ก็ออกมาซ้ำเติมตระกูลฮุนว่า เป็นเผด็จการทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยน เป็นตระกูลที่ผูกขาดอำนาจมานาน ใส่ร้ายและคอยทำร้ายฝ่ายค้าน เพื่ออำนาจของตระกูลตนเอง และถูก UN งดความช่วยเหลือเขมรในทุกด้านด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อน

    ตระกูลฮุน กำลังทำให้บ้านเมืองตนเอง กำลังจะล่มจม หวังพึ่งมหาอำนาจก็ไม่มีใครสนใจสักประเทศ

    ผู้นำจีน แสดงความชัดเจน ไม่เข้าร่วมซ้อมรบทางทะเลกับเขมร เพราะรู้ไส้รู้พุงเขมรแล้ว ว่า ตระกูลฮุน ต้องเอาชื่อเสียงของจีน มาสร้างภาพให้เกิดความขัดแย้งกับไทย เลยสั่งสอนตบกะบาลตระกูลฮุน ด้วยการประกาศจะเข้าร่วมฝึกซ้อมเครื่องบินรบกับไทยในทันที

    และตามมาด้วยผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศมีแผนจะเข้าร่วมซ้อมรบกับกองทัพไทยในอีกไม่นาน

    แต่ช้ากว่าผู้นำมาเลเซีย ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะขอเข้ามาทำการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพเรือไทย แถมใจดีเปิดด่านถาวรให้ไทย จากปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มาเลเซียสั่งปิดด่านมานาน และยังขยายความร่วมมือทางการแพทย์ตามแนวชายแดนร่วมกันด้วย

    และในอีกไม่นาน การฝึกรบร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ที่ไม่มีเขมร ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามมา

    แถมยังมีข่าวดีว่า รัสเซีย พร้อมจะส่งขีปนาวุธวิสัยไกล มาให้ไทยใช้ทดสอบแข่งกับอาวุธของค่ายตะวันตก ลองยิงไปสัก3-4 ลูก ลงไปที่กรุงพนมเปญ คงจะดีนะ

    และมีข่าวแว่วๆ ที่จะเป็นจริงว่า สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจเลือกกองทัพไทยเข้าฝึกซ้อมรบพิเศษร่วมกัน เหมือนจะวางรากฐานสร้างกลุ่ม NATO ในเขตภูมิถาคเอเซียในอนาคต

    ทะเลาะกับเขมรในช่วงนี้ มีแต่เรื่องดี้ดี เพราะมหาอำนาจโลกและกลุ่มประเทศของเอเซียและในอาเซี่ยน ยอมรับแสนยานุภาพทางทหารไทยกันหมดแล้ว

    ดูไปดูมา ไม่ได้มีแค่ไทย แต่เหมือนทั้งโลก กำลังช่วยกัน ถล่มซ้ำสองตระกูลนี้ ให้จมธรณีตายไปเลย
    ว่าไหม.

    CR. เดชา นฤนารท.
    15/6/68 10.32 น.
    ฝีเริ่มแตก ขบวนการขายชาติมานาน จะเริ่มผุดออกมาจากน้ำหนอง และไม่เกินความคาดหมายว่า การประชุม JBC ก็เป็นแค่ละคร ยื้อเวลาของสองตระกูล ที่กำลังเดินหมากมาถึงทางตัน ไทยไม่เคยรับอำนาจศาลโลกมาตั้งแต่ปี 2503 ไทยไม่เคยรับแผนที่ ที่มาตราส่วน1:200,000 ของเขมร แต่ตระกูลชิน ที่ไม่ใช่คนรักชาติและกลุ่มขบวนการขายชาติ ยอมรับทั้งอำนาจศาลโลกและแอบลงนาม MOU ยอมรับแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 ของเขมร จนทำให้ไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหาร ให้กับเขมร และทำให้นาย วีระ สมความคิด ต้องติดคุกในเขมร และพรรคประชาธิปัตย์ ที่นำโดยนาย อภิสิทธิ์ ต้องยอมทำตามเงื่อนไขของเขมร แค่เพื่อช่วยเหลือ สส.ตนเองไม่ให้ติดคุกที่เขมร ทำให้คนไทยเจ็บปวดใจกันทั้งประเทศ ยกเว้นแค่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดง ที่ดีใจที่เห็นไทยเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร ขบวนการขายชาติ มีทั้งอดีตนักการฑูตไทย ที่ประจำอยู่ประเทศเขมร และนักการฑูตในปัจจุบัน รวมไปถึง รัฐมนตรี เจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง อัยการ ศาลและกลุ่มนายทุนเจ้าสัวเชื้อจีน ที่ขายชาติ ที่ทำงานรับใช้สองตระกูลชินกับตระกูลฮุนมานาน การแอบใช้เล่ห์เหลี่ยม หลอกคนไทยว่า หากเราลงนาม MOUกับเขมรและยอมรับแผนที่ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเอง ที่อัตราส่วน 1:200,000 ไทยจะได้ประโยชน์ จากพื้นที่เขมรเพิ่มขึ้นถึง 100ตารางวา แต่ในความเป็นจริงคนพวกนี้ วางแผนให้เขมรได้พื้นที่ประเทศไทยทั้งแนวตะเข็บชายแดน รวมกันมากถึงกว่า 2 ล้านไร่ หากไทยยอมรับแผนที่ของเขมร ที่เขียนขึ้นมาเอง แต่พรรคเพื่อไทยและตระกูลชิน ยอมรับเงื่อนไขของเขมรทั้งหมด เพราะเป็นญาติกัน การประชุม JBC ให้ยืดเยื้อออกไปเรื่อยๆ ก็แค่เล่นละครปาหี่ เพื่อประวิงเวลาหาทางส่งทักษิณ หนีออกนอกประเทศไปทางเขมรให้ได้เท่านั้น ในขณะที่ลิ่วล้อของทักษิณ ที่มีทั้งรัฐมนตรีและข้าราชการขายชาติ อัยการและศาล บางกลุ่มบางตัว ในประเทศไทย ก็พยายามดิ้นรน หาวิธีช่วยเหลือทักษิณ จนสุดความสามารถ แต่ดูเหมือนว่า เกมนี้จะมีคนมองออกกันหมด และถึงเวลาที่จะจัดการสองตระกูลนี้ให้สาสม ที่บังอาจทำตัวขายชาติ จนไทยต้องเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารให้กับเขมร ***รอยแค้นนี้ฝังใจลึกมาช้านาน และใกล้จะถึงเวลากวาดล้างสองตระกูลนี้ให้สิ้นซากลง แบบหมดจรดและถาวร*** ปัญหาของตระกูลชิน คือ ทักษิณ ต้องติดคุก และ ปปช.ชี้มูลความผิดต่อแพทองธาร ในคดีดิจิตอล วอลเล็ต ที่มีความผิดชัดเจน ที่เอาเงินภาษีรัฐไปแจก และทุจริตในเชิงนโยบาย ใช้เงินภาษีแผ่นดินไปแจกหาเสียงให้พรรคตนเอง และมีเจตนาทำผิดต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคลัง ประเด็นมีสองทางคือ พ่อติดคุกและตามมาด้วยลูกสาวก็ต้องติดคุกตามพ่อ หรือ ต้องหนีออกนอกประเทศ ทั้งพ่อและลูกสาว และยอมให้รัฐบาลใหม่ ยึดทรัพย์ทั้งหมดของตระกูล ไปเป็นสมบัติของชาติ และตามไล่เช็ดปัดกวาด ลิ่วล้อลูกกระจ๊อก พวกกลุ่มขบวนการขายชาติ ให้หมดเกลี้ยง นี่คือทางตันของตระกูลชิน ที่กำลังเดินทางมาถึงปากเหว แม้จะพยายามสร้างภาพว่าตระกูลของตน ยังคงมีอำนาจทางการเมืองอยู่ก็ตาม ด้วยการสร้างภาพว่า กำลังปรับ ครม.อยู่ในตอนนี้ และพรรคเพื่อไทยยังมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่ แต่เกมนี้ก็เป็นได้แค่เพียงฉากละครสั้นๆ ที่อีกไม่นาน ละครทั้งหมดก็ต้องถึงตอนจบในอีกไม่นาน อนุทิน จะเล่นเกมไปเป็นฝ่ายค้าน หากพรรคเพื่อไทย บีบจะเอากระทรวงมหาดไทยให้ได้ และบีบให้พรรคเพื่อไทยไปจับมือกับพรรคสีส้มแทน เพื่อขึ้นมาเป็นรัฐบาล และนั่นคือระเบิดเวลา ที่จะใช้โอกาสทำลายทั้งสองพรรคในคราเดียวกัน พรรคสีส้มเมื่อรวมกับพรรคเพื่อไทย จัดตั้งรัฐบาล พรรคสีส้มจะกลายเป็นสัญลักษณ์พรรคขายชาติในทันทีในสายตาของประชาชน และผลงานสุดห่วยแตกของพรรคเพื่อไทย กำลังดิ่งลงเหวอย่างหนัก หากพรรคไหนยังอยากจับมือกับพรรคนี้ โอกาสสูญพันธุ์ทางการเมืองมีสูงมาก และพรรคเพื่อไทยก็รู้ดีว่า หากเพื่อไทยรวมกับพรรคสีส้มเมื่อไหร่ และพรรคสีส้มก็รู้ดีไม่แพ้กันว่า****โอกาสสูงมาก หากสองพรรคนี้มารวมตัวกัน การปฏิวัติรัฐประหารจะเกิดขึ้นสูงมาก*** นี่คือเกมที่พรรคเพื่อไทยกำลังถูกบีบ ให้กลายเป็นผีสัมภเวสีทางการเมือง ในขณะที่ภาคประชาชนและกองทัพ ก็กำลังเพ่งเล็ง ถึงพฤติกรรมของแพทองธารกับนายภูมิธรรม ต่อเจตนาและมีพฤติกรรมขายชาติและเอื้อผลประโยชน์ให้กับเขมร และกำลังเดินมาจนมุม เมื่อตระกูลฮุน ญาติฝั่งเขมร ก็กำลังจะพังพินาสทั้งตระกูลเช่นกัน และก็เป็นความจริงตามที่คาดการณ์เอาไว้ เขมรกำลังเผชิญน้ำท่วมอย่างหนักในหลายพื้นที่ จากปรากฏการณ์ Red Rain เข้าถล่มในหลายเมือง ทำให้อาวุธของเขมรจำนวนมาก ไปติดหล่มเคลื่อนที่ไม่ได้ กองทิ้งเป็นภูเขา แถมยังเกิดตึกถล่มอีก ไฟฟ้าเริ่มติดๆขัดๆ อินเตอร์เนตก็เริ่มใช้ไม่ได้ ผู้คนและกองทัพเขมรเริ่มขาดแคลนอาหารอย่างหนัก โรคมาลาเลียและไข้เลือดออก กำลังแพร่กระจายอย่างหนักกับทหารเขมรที่อยู่แนวหน้า บ่อนคาสิโนเริ่มร้าง คนเขมรไม่สามารถออกมาล่าสัตว์ป่าและอาหารป่าที่จะนำไปขายได้ในฝั่งไทย ผู้คนขาดเงินอย่างหนักที่จะเดินทางไปรักษาโรคได้ สะเบียงอาหารในประเทศก็เริ่มหร่อยหรอลง ล่าสุดฮุนมาเนต ก็โดนประธาน EU เรียกมาด่าและตำหนิอย่างรุนแรงว่า ชอบนำภาพที่ถ่ายคู่ผู้นำไปลงfacebook แล้วสร้างภาพเท็จและหลอกลวงคนเขมร และผู้นำฝรั่งเศส ก็ไม่เคยรับรู้แผนที่กระโปกของเขมร ที่อ้างเอาชื่อฝรั่งเศส มาเขียนแผนที่อัตราส่วน 1:200,000 กับไทย แล้วบอกว่าฝรั่งเศสเป็นคนเขียเอง ซึ่งไม่เป็นความจริงสักอย่าง แถมเมื่อสืบสาวไปเรื่อยๆ ผู้นำฝรั่งเศสเอง เป็นผู้เตือนฮุนมาเนตอย่างแรง ที่เมืองนีซ ว่า ระวังจะเสียตัวปราสาทเขาพระวิหารคืนให้กับประเทศไทยนะ เพราะไทยมีลายลักษณ์อักษร ในสัญญาแบ่งเขตแดนมาตั้งแต่สมัยยุคของ ร.5 แล้ว มีเสาแบ่งเขตแดนชัดเจนร่วมกัน และฝรั่งเศสก็จะไม่ยอมรับพื้นที่อัตราส่วน 1:200,000 ของเขมรที่เขียนขึ้นมาเองด้วย ในขณะที่ประธาน UN ก็ออกมาซ้ำเติมตระกูลฮุนว่า เป็นเผด็จการทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในภูมิภาคอาเซี่ยน เป็นตระกูลที่ผูกขาดอำนาจมานาน ใส่ร้ายและคอยทำร้ายฝ่ายค้าน เพื่ออำนาจของตระกูลตนเอง และถูก UN งดความช่วยเหลือเขมรในทุกด้านด้วย ซวยซ้ำซวยซ้อน ตระกูลฮุน กำลังทำให้บ้านเมืองตนเอง กำลังจะล่มจม หวังพึ่งมหาอำนาจก็ไม่มีใครสนใจสักประเทศ ผู้นำจีน แสดงความชัดเจน ไม่เข้าร่วมซ้อมรบทางทะเลกับเขมร เพราะรู้ไส้รู้พุงเขมรแล้ว ว่า ตระกูลฮุน ต้องเอาชื่อเสียงของจีน มาสร้างภาพให้เกิดความขัดแย้งกับไทย เลยสั่งสอนตบกะบาลตระกูลฮุน ด้วยการประกาศจะเข้าร่วมฝึกซ้อมเครื่องบินรบกับไทยในทันที และตามมาด้วยผู้นำอินโดนีเซีย ประกาศมีแผนจะเข้าร่วมซ้อมรบกับกองทัพไทยในอีกไม่นาน แต่ช้ากว่าผู้นำมาเลเซีย ที่ออกมาประกาศชัดเจนว่า จะขอเข้ามาทำการซ้อมรบทางทะเลกับกองทัพเรือไทย แถมใจดีเปิดด่านถาวรให้ไทย จากปัญหาเรื่องยาเสพติดที่มาเลเซียสั่งปิดด่านมานาน และยังขยายความร่วมมือทางการแพทย์ตามแนวชายแดนร่วมกันด้วย และในอีกไม่นาน การฝึกรบร่วมกันของกลุ่มประเทศอาเซี่ยน ที่จัดขึ้นในประเทศไทย ที่ไม่มีเขมร ก็กำลังจะเกิดขึ้นตามมา แถมยังมีข่าวดีว่า รัสเซีย พร้อมจะส่งขีปนาวุธวิสัยไกล มาให้ไทยใช้ทดสอบแข่งกับอาวุธของค่ายตะวันตก ลองยิงไปสัก3-4 ลูก ลงไปที่กรุงพนมเปญ คงจะดีนะ และมีข่าวแว่วๆ ที่จะเป็นจริงว่า สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ อาจเลือกกองทัพไทยเข้าฝึกซ้อมรบพิเศษร่วมกัน เหมือนจะวางรากฐานสร้างกลุ่ม NATO ในเขตภูมิถาคเอเซียในอนาคต ทะเลาะกับเขมรในช่วงนี้ มีแต่เรื่องดี้ดี เพราะมหาอำนาจโลกและกลุ่มประเทศของเอเซียและในอาเซี่ยน ยอมรับแสนยานุภาพทางทหารไทยกันหมดแล้ว ดูไปดูมา ไม่ได้มีแค่ไทย แต่เหมือนทั้งโลก กำลังช่วยกัน ถล่มซ้ำสองตระกูลนี้ ให้จมธรณีตายไปเลย ว่าไหม. CR. เดชา นฤนารท. 15/6/68 10.32 น.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 500 มุมมอง 0 รีวิว
  • Inversion Semiconductor เตรียมปฏิวัติการผลิตชิปด้วยเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็ก
    Inversion Semiconductor ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator กำลังพัฒนา เครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กแบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถ เพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า โดยใช้ เทคนิค Laser Wakefield Acceleration (LWFA)

    วิธีการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาค
    เครื่องเร่งอนุภาคของ Inversion Semiconductor มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า แต่สามารถ ให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า

    ข้อมูลจากข่าว
    - Inversion Semiconductor พัฒนาเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตชิป
    - เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า
    - ใช้ Laser Wakefield Acceleration (LWFA) ซึ่งช่วยให้สามารถเร่งอิเล็กตรอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    - เครื่องเร่งอนุภาคนี้มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า
    - สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า

    ความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยี
    แม้ว่าแนวคิดนี้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและต้องการระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก
    - Inversion Semiconductor ไม่มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องมือสำหรับโรงงานที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง
    - ต้องพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด หากไม่สามารถร่วมมือกับ ASML หรือผู้ผลิตเครื่องมืออื่น ๆ
    - การใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความยาวคลื่นต่ำกว่า 10nm อาจมีข้อจำกัดด้านการดูดซับแสงของวัสดุ

    หาก Inversion Semiconductor สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ การผลิตชิปมีความเร็วสูงขึ้นและลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขข้อจำกัดทางเทคนิคได้หรือไม่


    https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/plans-to-shrink-particle-accelerators-by-1000x-could-speed-chipmaking-by-15x-inversion-semiconductor-proposes-tabletop-particle-accelerators-with-petawatt-lasers
    ⚡ Inversion Semiconductor เตรียมปฏิวัติการผลิตชิปด้วยเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็ก Inversion Semiconductor ซึ่งเป็น สตาร์ทอัพที่ได้รับการสนับสนุนจาก Y Combinator กำลังพัฒนา เครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กแบบตั้งโต๊ะ ที่สามารถ เพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า โดยใช้ เทคนิค Laser Wakefield Acceleration (LWFA) 🔍 วิธีการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาค เครื่องเร่งอนุภาคของ Inversion Semiconductor มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า แต่สามารถ ให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า ✅ ข้อมูลจากข่าว - Inversion Semiconductor พัฒนาเครื่องเร่งอนุภาคขนาดเล็กเพื่อใช้ในกระบวนการผลิตชิป - เทคโนโลยีนี้สามารถเพิ่มความเร็วในการผลิตชิปได้ถึง 15 เท่า - ใช้ Laser Wakefield Acceleration (LWFA) ซึ่งช่วยให้สามารถเร่งอิเล็กตรอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ - เครื่องเร่งอนุภาคนี้มีขนาดเล็กกว่าเครื่องเร่งอนุภาคทั่วไปถึง 1,000 เท่า - สามารถให้กำลังสูงสุดถึง 10 kW ซึ่งมากกว่าเทคโนโลยีของ ASML ถึง 10 เท่า 🔥 ความท้าทายในการพัฒนาเทคโนโลยี แม้ว่าแนวคิดนี้จะมีศักยภาพสูง แต่ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและต้องการระบบระบายความร้อนที่มีประสิทธิภาพ ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - ต้องใช้เลเซอร์ระดับเพตะวัตต์ ซึ่งมีต้นทุนสูงและใช้พลังงานมาก - Inversion Semiconductor ไม่มีประสบการณ์ในการผลิตเครื่องมือสำหรับโรงงานที่ทำงานตลอด 24 ชั่วโมง - ต้องพัฒนาอุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด หากไม่สามารถร่วมมือกับ ASML หรือผู้ผลิตเครื่องมืออื่น ๆ - การใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีความยาวคลื่นต่ำกว่า 10nm อาจมีข้อจำกัดด้านการดูดซับแสงของวัสดุ หาก Inversion Semiconductor สามารถพัฒนาเทคโนโลยีนี้ได้สำเร็จ อาจช่วยให้ การผลิตชิปมีความเร็วสูงขึ้นและลดต้นทุน อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าบริษัทจะสามารถแก้ไขข้อจำกัดทางเทคนิคได้หรือไม่ https://www.tomshardware.com/tech-industry/semiconductors/plans-to-shrink-particle-accelerators-by-1000x-could-speed-chipmaking-by-15x-inversion-semiconductor-proposes-tabletop-particle-accelerators-with-petawatt-lasers
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 260 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาโต้ยกระดับการยั่วยุอีกครั้ง ด้วยการประกาศ ทะเลดำและทะเลบอลติกถือเป็นเขต "ความรับผิดชอบ" เชิงยุทธศาสตร์ ของนาโต้ มาร์ค รุตเต้ เลขาธิการนาโต้ กล่าว

    ในการประชุม NATO DefMin ที่บรัสเซลส์ รุตเต้ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมท่าทีการป้องกันของฝ่ายพันธมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีกตะวันออกของนาโต้ และทะเลดำซึ่งเป็นศูนย์กลางของความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติก ในบริบทความมั่นคงในปัจจุบัน การแบ่งปันภาระมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์

    รุตเต้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากเรือบรรทุกน้ำมันของกองเรือเงาของรัสเซีย ซึ่งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและพันธมิตรกำลังทำการคว่ำบาตรและเข้ายึดครอง

    นอกจากนี้ รุตเต้ยังพูดถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคบอลติก หลังจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายเคเบิลสื่อสารใต้น้ำที่ได้รับความเสียหาย ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา “เมื่อพูดถึงภูมิภาคบอลติก เรื่องนี้ก็ใช้ได้กับทะเลดำและพื้นที่อื่นๆ ของนาโต้เช่นกัน โครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำที่สำคัญของเรามักถูกโจมตีอยู่เสมอ” รุตเต้กล่าว

    นอกจากนี้ เขายังขู่ด้วยว่า NATO จะตอบโต้อย่างรุนแรง หากเกิดการโจมตีอย่างหนักจากรัสเซียในภูมิภาคบอลติก
    นาโต้ยกระดับการยั่วยุอีกครั้ง ด้วยการประกาศ ทะเลดำและทะเลบอลติกถือเป็นเขต "ความรับผิดชอบ" เชิงยุทธศาสตร์ ของนาโต้ มาร์ค รุตเต้ เลขาธิการนาโต้ กล่าว ในการประชุม NATO DefMin ที่บรัสเซลส์ รุตเต้ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการส่งเสริมท่าทีการป้องกันของฝ่ายพันธมิตร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีกตะวันออกของนาโต้ และทะเลดำซึ่งเป็นศูนย์กลางของความมั่นคงของยูโร-แอตแลนติก ในบริบทความมั่นคงในปัจจุบัน การแบ่งปันภาระมีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์ รุตเต้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นจากเรือบรรทุกน้ำมันของกองเรือเงาของรัสเซีย ซึ่งประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปและพันธมิตรกำลังทำการคว่ำบาตรและเข้ายึดครอง นอกจากนี้ รุตเต้ยังพูดถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคบอลติก หลังจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับสายเคเบิลสื่อสารใต้น้ำที่ได้รับความเสียหาย ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา “เมื่อพูดถึงภูมิภาคบอลติก เรื่องนี้ก็ใช้ได้กับทะเลดำและพื้นที่อื่นๆ ของนาโต้เช่นกัน โครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำที่สำคัญของเรามักถูกโจมตีอยู่เสมอ” รุตเต้กล่าว นอกจากนี้ เขายังขู่ด้วยว่า NATO จะตอบโต้อย่างรุนแรง หากเกิดการโจมตีอย่างหนักจากรัสเซียในภูมิภาคบอลติก
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • ฟันของเรามีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ!
    นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยชิคาโก ค้นพบว่า เนื้อเยื่อที่ไวต่อความเย็นในฟันของเรา มีต้นกำเนิดมาจาก เกราะของปลายุคโบราณ ซึ่งใช้ในการรับรู้สภาพแวดล้อมแทนการเคี้ยวอาหาร

    งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature ยืนยันว่า เดนทีน (Dentine) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของฟัน ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเคี้ยวในช่วงแรกของวิวัฒนาการ แต่กลับมีบทบาทในการช่วยให้ปลายุคโบราณ ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำรอบตัว

    นักวิจัยใช้ Synchrotron Scanning ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายภาพขั้นสูงเพื่อศึกษาฟอสซิลของ Anatolepis heintzi ซึ่งเคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายฟัน

    แต่ผลการสแกนพบว่า Anatolepis ไม่ได้มีเดนทีน แต่มี โครงสร้างรับความรู้สึกที่คล้ายกับสัตว์จำพวกกุ้งและปู ซึ่งช่วยให้พวกมันตรวจจับสภาพแวดล้อม

    ข้อมูลจากข่าว
    - นักวิทยาศาสตร์พบว่าเนื้อเยื่อไวต่อความเย็นในฟันมีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ
    - เดนทีนในยุคแรกไม่ได้ใช้ในการเคี้ยว แต่ช่วยให้ปลาตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำ
    - Anatolepis heintzi เคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด
    - Synchrotron Scanning เผยว่า Anatolepis ไม่มีเดนทีน แต่มีโครงสร้างรับความรู้สึกคล้ายสัตว์จำพวกกุ้งและปู
    - นักวิจัยพบว่า Eriptychius ซึ่งเป็นปลายุค Ordovician มีเดนทีนในเกราะของมัน

    คำเตือนที่ควรพิจารณา
    - แม้จะมีหลักฐานใหม่ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีวิวัฒนาการของฟัน
    - การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง
    - ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อการวิจัยด้านชีววิทยาและทันตกรรมอย่างไร
    - นักวิทยาศาสตร์ยังคงถกเถียงกันระหว่างทฤษฎี "Inside-Out" และ "Outside-In" เกี่ยวกับวิวัฒนาการของฟัน

    การค้นพบนี้ช่วยให้เราเข้าใจ วิวัฒนาการของฟันในมุมมองใหม่ และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อแนวคิดทางชีววิทยาในอนาคตอย่างไร

    https://www.neowin.net/news/that-sharp-cold-toothache-you-dread-its-origins-trace-back-to-ancient-unexpected-purpose/
    🦷 ฟันของเรามีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ! นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยชิคาโก ค้นพบว่า เนื้อเยื่อที่ไวต่อความเย็นในฟันของเรา มีต้นกำเนิดมาจาก เกราะของปลายุคโบราณ ซึ่งใช้ในการรับรู้สภาพแวดล้อมแทนการเคี้ยวอาหาร งานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน Nature ยืนยันว่า เดนทีน (Dentine) ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของฟัน ไม่ได้ถูกใช้เพื่อการเคี้ยวในช่วงแรกของวิวัฒนาการ แต่กลับมีบทบาทในการช่วยให้ปลายุคโบราณ ตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำรอบตัว นักวิจัยใช้ Synchrotron Scanning ซึ่งเป็นเทคนิคการถ่ายภาพขั้นสูงเพื่อศึกษาฟอสซิลของ Anatolepis heintzi ซึ่งเคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด เนื่องจากมีโครงสร้างคล้ายฟัน แต่ผลการสแกนพบว่า Anatolepis ไม่ได้มีเดนทีน แต่มี โครงสร้างรับความรู้สึกที่คล้ายกับสัตว์จำพวกกุ้งและปู ซึ่งช่วยให้พวกมันตรวจจับสภาพแวดล้อม ✅ ข้อมูลจากข่าว - นักวิทยาศาสตร์พบว่าเนื้อเยื่อไวต่อความเย็นในฟันมีต้นกำเนิดจากเกราะของปลายุคโบราณ - เดนทีนในยุคแรกไม่ได้ใช้ในการเคี้ยว แต่ช่วยให้ปลาตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของน้ำ - Anatolepis heintzi เคยถูกเข้าใจผิดว่าเป็นสัตว์มีกระดูกสันหลังที่เก่าแก่ที่สุด - Synchrotron Scanning เผยว่า Anatolepis ไม่มีเดนทีน แต่มีโครงสร้างรับความรู้สึกคล้ายสัตว์จำพวกกุ้งและปู - นักวิจัยพบว่า Eriptychius ซึ่งเป็นปลายุค Ordovician มีเดนทีนในเกราะของมัน ‼️ คำเตือนที่ควรพิจารณา - แม้จะมีหลักฐานใหม่ แต่ยังต้องมีการศึกษาเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีวิวัฒนาการของฟัน - การค้นพบนี้อาจเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสัตว์มีกระดูกสันหลัง - ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อการวิจัยด้านชีววิทยาและทันตกรรมอย่างไร - นักวิทยาศาสตร์ยังคงถกเถียงกันระหว่างทฤษฎี "Inside-Out" และ "Outside-In" เกี่ยวกับวิวัฒนาการของฟัน การค้นพบนี้ช่วยให้เราเข้าใจ วิวัฒนาการของฟันในมุมมองใหม่ และอาจนำไปสู่ การพัฒนาเทคโนโลยีทางทันตกรรมที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามว่าการศึกษานี้จะส่งผลต่อแนวคิดทางชีววิทยาในอนาคตอย่างไร https://www.neowin.net/news/that-sharp-cold-toothache-you-dread-its-origins-trace-back-to-ancient-unexpected-purpose/
    WWW.NEOWIN.NET
    That sharp cold toothache you dread? Its origins trace back to ancient, unexpected purpose
    That cold toothache you dread? Its origins trace back to an interesting ancient adaptation, one that served purposes far beyond chewing.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 240 มุมมอง 0 รีวิว
  • นาโต้ซึ่งรวมถึงสหรัฐคอยช่วยเหลือยูเครนตลอดเวลาช่วงหลายวันที่ผ่านมาในการโจมตีรัสเซียครั้งใหญ่:

    จากรายงานพบว่า เครื่องบินลาดตระเวนของนาโต้เฝ้าสอดแนมอย่างใกล้ชิด แม้แต่การโจมตีสะพานไครเมียครั้ล่าสุดเมื่อวานนี้ด้วย

    เครื่องบินสอดแนม U-2S ของสหรัฐฯ กำลังปฏิบัติการอยู่ห่างจากเมืองเคิร์ช แหลมไครเมียไปทางใต้เพียง 100 กม. ระหว่างเวลา 09:00 น. ถึง 14:30 น. เพื่อสอดแนมตำแหน่งของรัสเซียและกิจกรรมโดรนของยูเครน

    ในทะเลดำทางตะวันตก เครื่องบิน B-350ER SIGINT ของอิตาลีและเครื่องบินตรวจการณ์ CL-650 ARTEMIS ของสหรัฐฯ บินผ่านใกล้ชายฝั่งโรมาเนีย

    ใกล้เกาะสเนก (เกาะงู) เครื่องบิน E-7T AEW&C ของตุรกี — เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ — สนับสนุนการปฏิบัติการของยูเครนภายใต้ธงนาโต้

    โดรน AR5 ของ Tekever บินสอดแนมตลอดเวลาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์เหนือแหล่งก๊าซ Golitsyn โดยทำงานร่วมกับเรือไร้คนขับ (โดรนผิวน้ำ)ของกองทัพเรือ

    เมื่อ NATO ใช้เครื่องบิน ISR มากกว่าสี่ลำพร้อมกัน นั่นไม่ใช่ภารกิจประจำวันตามปกติ แต่เป็นปฏิบัติการข่าวกรองที่ประสานงานกัน เพื่อมีเป้าหมายบางอย่างที่สำคัญมาก!

    แน่นอนว่าพวกเขากำลังทำแผนที่ตำแหน่งของรัสเซีย ติดตามการเคลื่อนไหว และส่งข้อมูลสดไปยังยูเครน

    นาโต้ซึ่งรวมถึงสหรัฐคอยช่วยเหลือยูเครนตลอดเวลาช่วงหลายวันที่ผ่านมาในการโจมตีรัสเซียครั้งใหญ่: จากรายงานพบว่า เครื่องบินลาดตระเวนของนาโต้เฝ้าสอดแนมอย่างใกล้ชิด แม้แต่การโจมตีสะพานไครเมียครั้ล่าสุดเมื่อวานนี้ด้วย 🔸เครื่องบินสอดแนม U-2S ของสหรัฐฯ กำลังปฏิบัติการอยู่ห่างจากเมืองเคิร์ช แหลมไครเมียไปทางใต้เพียง 100 กม. ระหว่างเวลา 09:00 น. ถึง 14:30 น. เพื่อสอดแนมตำแหน่งของรัสเซียและกิจกรรมโดรนของยูเครน 🔸ในทะเลดำทางตะวันตก เครื่องบิน B-350ER SIGINT ของอิตาลีและเครื่องบินตรวจการณ์ CL-650 ARTEMIS ของสหรัฐฯ บินผ่านใกล้ชายฝั่งโรมาเนีย 🔸ใกล้เกาะสเนก (เกาะงู) เครื่องบิน E-7T AEW&C ของตุรกี — เป็นครั้งที่สองในรอบสัปดาห์ — สนับสนุนการปฏิบัติการของยูเครนภายใต้ธงนาโต้ 🔸โดรน AR5 ของ Tekever บินสอดแนมตลอดเวลาเป็นเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์เหนือแหล่งก๊าซ Golitsyn โดยทำงานร่วมกับเรือไร้คนขับ (โดรนผิวน้ำ)ของกองทัพเรือ เมื่อ NATO ใช้เครื่องบิน ISR มากกว่าสี่ลำพร้อมกัน นั่นไม่ใช่ภารกิจประจำวันตามปกติ แต่เป็นปฏิบัติการข่าวกรองที่ประสานงานกัน เพื่อมีเป้าหมายบางอย่างที่สำคัญมาก! แน่นอนว่าพวกเขากำลังทำแผนที่ตำแหน่งของรัสเซีย ติดตามการเคลื่อนไหว และส่งข้อมูลสดไปยังยูเครน
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 351 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nicusor Dan ประธานาธิบดีคนใหม่ของโรมาเนีย เลือกพบกับเซเลนสกีเป็นคนแรก หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครนอย่างเข้มแข็งต่อไปตามนโยบายของยุโรป ที่ "ยื่นโอกาส" ให้เขาได้เป็นผู้นำประเทศอย่างที่เขาต้องการ

    ทางด้านเซเลนสกีกล่าวขอบคุณ Dan ที่ให้ความมั่นใจกับยูเครนว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากโรมาเนีย และยังสนับสนุนให้ยูเครนเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปรวมทั้ง NATO

    นอกจากนี้ Dan ยังยืนยันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดยูเครน-ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ที่จะจัดขึ้นในเมืองโอเดสซาอีกด้วย

    Nicusor Dan ประธานาธิบดีคนใหม่ของโรมาเนีย เลือกพบกับเซเลนสกีเป็นคนแรก หลังเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพื่อแสดงการสนับสนุนยูเครนอย่างเข้มแข็งต่อไปตามนโยบายของยุโรป ที่ "ยื่นโอกาส" ให้เขาได้เป็นผู้นำประเทศอย่างที่เขาต้องการ ทางด้านเซเลนสกีกล่าวขอบคุณ Dan ที่ให้ความมั่นใจกับยูเครนว่าจะได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องจากโรมาเนีย และยังสนับสนุนให้ยูเครนเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปรวมทั้ง NATO นอกจากนี้ Dan ยังยืนยันเข้าร่วมการประชุมสุดยอดยูเครน-ยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ที่จะจัดขึ้นในเมืองโอเดสซาอีกด้วย
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 266 มุมมอง 14 0 รีวิว
  • คาร์โรล นาวร็อคกี (Karol Nawrocki) ผู้นำฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วยคะแนนเสียง 50.89% แซงหน้าราฟาล ทรัสคอฟสกี (Rafał Trzaskowski) นายกเทศมนตรีเมืองวอร์ซอ ผู้นำซ้าย หรือเสรีนิยม ที่ได้รับคะแนนเสียง 49.11%


    ก่อนการเลือกตั้ง ทรัสคอฟสกี มีคะแนนนำมาตลอด แต่เป็นคะแนนที่นำอย่างสูสี หลังการเลือกตั้ง นาวร็อคกี กลับมาพลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด

    สำหรับนาวร็อคกี เป็นที่รับรู้กันดีว่า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่จะนำพาโปแลนด์ไปสู่ทิศทางชาตินิยมมากขึ้น และอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่นั่นอาจทำให้สหภาพยุโรปไม่พอใจ

    อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนาวร็อคกีอาจไม่ราบรื่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี โดนัลด็ ทรัสก์ เป็นเอนเอียงไปทาฝ่ายซ้าย หรือเสรีนิยมเต็มตัว ประกอบกับสมาชิกในรัฐสภาโปแลนด์ ยังเป็นพวกฝ่ายซ้ายอีกด้วย

    เขาจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์คนปัจจุบัน หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2025

    แนวคิดเกี่ยวกับยูเครน นาวร็อคกีเคยวิจารณ์เซเลนสกีและยูเครนอย่างดุเดือด และเคยสัญญาว่าหากเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำโปแลนด์ จะยืนหยัดขัดขวางการเข้าร่วม NATO ของยูเครนอย่างถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่โปแลนด์ให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมากเกินไป

    แนวคิดเกี่ยวกับรัสเซีย ยังไงซะ เขาก็คือชาวโปแลนด์อีกคนที่เกลียดรัสเซีย!!!

    คาร์โรล นาวร็อคกี (Karol Nawrocki) ผู้นำฝ่ายขวา หรืออนุรักษ์นิยม ชนะการเลือกตั้งได้เป็นประธานาธิบดีโปแลนด์ด้วยคะแนนเสียง 50.89% แซงหน้าราฟาล ทรัสคอฟสกี (Rafał Trzaskowski) นายกเทศมนตรีเมืองวอร์ซอ ผู้นำซ้าย หรือเสรีนิยม ที่ได้รับคะแนนเสียง 49.11% ก่อนการเลือกตั้ง ทรัสคอฟสกี มีคะแนนนำมาตลอด แต่เป็นคะแนนที่นำอย่างสูสี หลังการเลือกตั้ง นาวร็อคกี กลับมาพลิกชนะไปได้อย่างหวุดหวิด สำหรับนาวร็อคกี เป็นที่รับรู้กันดีว่า เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทรัมป์และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่จะนำพาโปแลนด์ไปสู่ทิศทางชาตินิยมมากขึ้น และอาจทำให้ความสัมพันธ์ทางทหารกับสหรัฐฯ แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น แต่นั่นอาจทำให้สหภาพยุโรปไม่พอใจ อย่างไรก็ตาม ชัยชนะของนาวร็อคกีอาจไม่ราบรื่น เนื่องจากนายกรัฐมนตรี โดนัลด็ ทรัสก์ เป็นเอนเอียงไปทาฝ่ายซ้าย หรือเสรีนิยมเต็มตัว ประกอบกับสมาชิกในรัฐสภาโปแลนด์ ยังเป็นพวกฝ่ายซ้ายอีกด้วย เขาจะสืบทอดตำแหน่งต่อจากอันเดรจ ดูดา ประธานาธิบดีโปแลนด์คนปัจจุบัน หลังจากสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งในวันที่ 6 สิงหาคม 2025 👉แนวคิดเกี่ยวกับยูเครน นาวร็อคกีเคยวิจารณ์เซเลนสกีและยูเครนอย่างดุเดือด และเคยสัญญาว่าหากเขาก้าวขึ้นเป็นผู้นำโปแลนด์ จะยืนหยัดขัดขวางการเข้าร่วม NATO ของยูเครนอย่างถึงที่สุด และไม่เห็นด้วยที่โปแลนด์ให้ความช่วยเหลือทางทหารต่อยูเครนมากเกินไป 👉แนวคิดเกี่ยวกับรัสเซีย ยังไงซะ เขาก็คือชาวโปแลนด์อีกคนที่เกลียดรัสเซีย!!!
    Yay
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 320 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซีย จะทำลาย ยูเครน และ จะไม่กลับสู่โต๊ะเจรจาอีก...
    .
    เนื่องจากรำคาญ NATO และ EU ที่พยายามจะยื้อเวลาเพื่อเล่นเกม...
    .
    เป็นเหตุให้ รัสเซีย มองว่า NATO และ EU แค่อยากจะจัดการรัสเซียเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจที่จะจบสงครามอย่างแท้จริง...
    รัสเซีย จะทำลาย ยูเครน และ จะไม่กลับสู่โต๊ะเจรจาอีก... . เนื่องจากรำคาญ NATO และ EU ที่พยายามจะยื้อเวลาเพื่อเล่นเกม... . เป็นเหตุให้ รัสเซีย มองว่า NATO และ EU แค่อยากจะจัดการรัสเซียเท่านั้น ไม่ได้มีความจริงใจที่จะจบสงครามอย่างแท้จริง...
    สื่อทั้งฝ่ายยูเครนและรัสเซียรายงานใกล้เคียงกัน โดยคาดว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา มีโดรนประมาณ 300 ลำ จากรัสเซีย โจมตีทั่วทั้งภูมิภาคของยูเครน โดรนเหล่านั้นปล่อยออกมาจากหลายสถานที่ในรัสเซีย

    นอกจากนี้ยังมีรายงานการใช้ขีปนาวุธ Iskander รวมทั้งขีปนาวุธร่อน Kh-101 อีกหลายสิบลูก

    และยังมีรายงานตรวจพบเครื่องบินทิ้งระเบิด Tu-95 อย่างน้อย 7 ลำ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับวลีรักคลาสสิกที่ได้ยินกันบ่อยในหลายละครและนิยายจีน

    ความมีอยู่ว่า
    ... “ความหมายของโคมไฟใบเดียวนี้คือ ขอเพียงคนใจเดียว อีกทั้งยามนี้หิมะตกปกคลุมดูเหมือนศีรษะขาว รวมกันหมายถึง ปรารถนาคนใจเดียว เคียงข้างจนผมขาวมิร้างลา” จื่อจ๊านกล่าวต่อตี้ซวี่...
    - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> (Storyฯ แปลเองจ้า)

    วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ (愿得一心人,白头不相离) นี้ยกมาจากบทกวีที่ชื่อว่า ‘ป๋ายโถวอิ๋น’ (白头吟 /ลำนำผมขาว) ซึ่งกล่าวขานว่าเป็นบทประพันธ์ของจั๋วเหวินจวิน แต่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าดูจากสไตล์ภาษาแล้วไม่น่าจะใช่ อีกทั้งบทกวีนี้เมื่อแรกปรากฏในบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้น ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง

    จั๋วเหวินจวินคือใคร เพื่อนเพจคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่? เธอถูกยกย่องเป็น “ไฉหนี่ว์” (คือหญิงที่มากด้วยพรสวรรค์) ที่เลื่องชื่อด้านโคลงกลอนและพิณ เป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของการวาดคิ้วแบบ ‘หย่วนซานเหมย’ ยอดนิยม (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเกี่ยวกับการเขียนคิ้ว) และเพื่อนเพจบางท่านอาจคุ้นชื่อของเธอจากเรื่องราวของเพลงหงษ์วอนหาคู่ เพราะเธอคือภรรยาของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง)

    ‘ลำนำผมขาว’ เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความรักระหว่างจั๋วเหวินจวินและซือหม่าเซียงหรูนั่นเอง

    ตำนานรักของเขามีอยู่ว่า ซือหม่าเซียงหรูสมัยที่ยังเป็นบัณฑิตไส้แห้ง ได้บรรเลงเพลงพิณหงส์วอนหาคู่ เป็นที่ต้องตาต้องใจของจั๋วเหวินจวินซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี จนเธอหนีตามเขาไป ทั้งสองคนเปิดร้านเหล้าช่วยกันทำมาหากินอย่างยากลำบาก จนในที่สุดจั๋วหวางซุนผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อน ยกที่และเงินจำนวนไม่น้อยรับขวัญลูกเขยคนนี้

    ต่อมาซือหม่าเซียงหรูเข้ารับราชการจนเติบใหญ่ได้ดีอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่จั๋วเหวินจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ยินข่าวว่าเขาอยากจะแต่งอนุภรรยา เธอเสียใจมากและยอมรับไม่ได้ เลยแต่งบทกวีนี้ส่งให้เขาเพื่อกล่าวตัดสัมพันธ์

    มีคน ‘ถอดรหัส’บทกวีนี้ Storyฯ เลยเอามาแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ... รักของเรานั้นเคยบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวบนยอดเขา ดุจดวงจันทร์กลางกลีบเมฆ ครั้นได้ยินว่าท่านมีรักใหม่ ข้าจึงจะจบเรื่องราวของเรา วันนี้เราร่วมดื่มสุราเป็นครั้งสุดท้าย วันพรุ่งก็ทางใครทางมัน แรกเริ่มที่ข้าติดตามท่านนั้น ชีวิตยากลำบาก ทว่าตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยบ่น ขอเพียงมีคนใจเดียวอยู่ด้วยกันจนผมขาวไม่ร้างลา มีรักหวานชื่น อันชายนั้นควรหนักแน่นกับความสัมพันธ์ ความรักเมื่อสูญหายแล้ว เงินทองก็ชดเชยให้ไม่ได้ (บทกวีฉบับจีนดูได้จากในรูป)

    ว่ากันว่า ซือหม่าเซียงหรูเมื่ออ่านบทกวีนี้ก็รำลึกถึงความรักที่เคยมีและวันเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และเปลี่ยนใจไม่แต่งงานใหม่ จวบจนบั้นปลายชีวิตก็มีจั๋วเหวินจวินเพียงคนเดียว

    บทกวีลำนำผมขาวนี้โด่งดังมาตลอด เพราะมุมมองที่ให้ความสำคัญของผัวเดียวเมียเดียวในยุคสมัยที่มีค่านิยมว่าชายมีเมียได้หลายคน และเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันเด็ดเดี่ยวของสตรี

    วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ นี้จึงกลายมาเป็นคำบอกรักยอดนิยมเพื่อสะท้อนถึงรักที่มั่นคงไม่ผันแปร แม้ที่มาจะเศร้าไปหน่อย แต่ก็จบลงด้วยดี

    แต่ปัจจุบันมีคนนำไปเขียนเพี้ยนไปก็มี จุดที่เพี้ยนหลักคือการสลับอักษรจาก ‘คนใจเดียว’( 一心人) ไปเป็น ‘ใจรักจากคนคนหนึ่ง’ (一人心) .... สลับอักษรแล้วความหมายแตกต่างมากเลย เพื่อนเพจว่าไหม?

    สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ

    หมายเหตุ 1: ‘ลำนำผมขาว’ เป็นชื่อที่แปลโดยคุณกนกพร นุ่มทอง จากหนังสือ < 100 ยอดหญิงแห่งประวัติศาสตร์จีน> แต่ Storyฯ แปลฉบับ ‘ถอดรหัส’ ให้ตามข้างต้นเพื่อความง่ายในการเข้าใจ
    หมายเหตุ 2: คำว่า ‘อิ๋น’ ในชื่อของบทกวีนี้ จริงๆ แล้วมีความหมายหลากหลาย รวมถึงเสียงร้องเพรียกของนก หรือการอ่านแบบมีจังหวะจะโคน หรือเสียงถอนหายใจ โดยส่วนตัว Storyฯ คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะหมายถึงเสียงถอนหายใจในบริบทนี้ แต่... ขอใช้ตามที่มีคนเคยแปลไว้ว่า ‘ลำนำผมขาว’ เผื่อเพื่อนเพจที่เคยผ่านตาบทกวีนี้จะได้ไม่สับสน

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory)

    Credit รูปภาพจาก: https://www.hk01.com/即時娛樂/705041/斛珠夫人-陳小紜曬素顏樣盡現氣質-曾承認整容將近十次非常痛
    Credit ข้อมูลรวบรวมจาก:
    http://www.chinatoday.com.cn/zw2018/bktg/202104/t20210407_800242850.html
    http://www.exam58.com/gushi/4582.html
    https://www.sohu.com/a/402043209_99929216
    https://baike.baidu.com/item/白头吟/6866957

    #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #ป๋ายโถวอิ๋น #ลำนำผมขาว #กวีจีนโบราณ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู
    วันนี้มาคุยกันเกี่ยวกับวลีรักคลาสสิกที่ได้ยินกันบ่อยในหลายละครและนิยายจีน ความมีอยู่ว่า ... “ความหมายของโคมไฟใบเดียวนี้คือ ขอเพียงคนใจเดียว อีกทั้งยามนี้หิมะตกปกคลุมดูเหมือนศีรษะขาว รวมกันหมายถึง ปรารถนาคนใจเดียว เคียงข้างจนผมขาวมิร้างลา” จื่อจ๊านกล่าวต่อตี้ซวี่... - ถอดบทสนทนาจากละครเรื่อง <ไข่มุกเคียงบัลลังก์> (Storyฯ แปลเองจ้า) วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ (愿得一心人,白头不相离) นี้ยกมาจากบทกวีที่ชื่อว่า ‘ป๋ายโถวอิ๋น’ (白头吟 /ลำนำผมขาว) ซึ่งกล่าวขานว่าเป็นบทประพันธ์ของจั๋วเหวินจวิน แต่มีคนเคยตั้งข้อสังเกตว่าดูจากสไตล์ภาษาแล้วไม่น่าจะใช่ อีกทั้งบทกวีนี้เมื่อแรกปรากฏในบันทึกที่จัดทำขึ้นในสมัยราชวงศ์ซ่งนั้น ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง จั๋วเหวินจวินคือใคร เพื่อนเพจคุ้นชื่อนี้บ้างหรือไม่? เธอถูกยกย่องเป็น “ไฉหนี่ว์” (คือหญิงที่มากด้วยพรสวรรค์) ที่เลื่องชื่อด้านโคลงกลอนและพิณ เป็นผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจของการวาดคิ้วแบบ ‘หย่วนซานเหมย’ ยอดนิยม (ที่ Storyฯ เคยเขียนถึงเกี่ยวกับการเขียนคิ้ว) และเพื่อนเพจบางท่านอาจคุ้นชื่อของเธอจากเรื่องราวของเพลงหงษ์วอนหาคู่ เพราะเธอคือภรรยาของซือหม่าเซียงหรู (กวีเอกสมัยราชวงศ์ฮั่น เจ้าของบทประพันธ์ซ่างหลินฟู่ที่ Storyฯ เคยเขียนถึง) ‘ลำนำผมขาว’ เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวความรักระหว่างจั๋วเหวินจวินและซือหม่าเซียงหรูนั่นเอง ตำนานรักของเขามีอยู่ว่า ซือหม่าเซียงหรูสมัยที่ยังเป็นบัณฑิตไส้แห้ง ได้บรรเลงเพลงพิณหงส์วอนหาคู่ เป็นที่ต้องตาต้องใจของจั๋วเหวินจวินซึ่งเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐี จนเธอหนีตามเขาไป ทั้งสองคนเปิดร้านเหล้าช่วยกันทำมาหากินอย่างยากลำบาก จนในที่สุดจั๋วหวางซุนผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อน ยกที่และเงินจำนวนไม่น้อยรับขวัญลูกเขยคนนี้ ต่อมาซือหม่าเซียงหรูเข้ารับราชการจนเติบใหญ่ได้ดีอยู่ในเมืองหลวง ในขณะที่จั๋วเหวินจวินยังอยู่ที่บ้านเกิด อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ยินข่าวว่าเขาอยากจะแต่งอนุภรรยา เธอเสียใจมากและยอมรับไม่ได้ เลยแต่งบทกวีนี้ส่งให้เขาเพื่อกล่าวตัดสัมพันธ์ มีคน ‘ถอดรหัส’บทกวีนี้ Storyฯ เลยเอามาแปลเป็นไทยให้เข้าใจง่ายๆ... รักของเรานั้นเคยบริสุทธิ์ดุจหิมะขาวบนยอดเขา ดุจดวงจันทร์กลางกลีบเมฆ ครั้นได้ยินว่าท่านมีรักใหม่ ข้าจึงจะจบเรื่องราวของเรา วันนี้เราร่วมดื่มสุราเป็นครั้งสุดท้าย วันพรุ่งก็ทางใครทางมัน แรกเริ่มที่ข้าติดตามท่านนั้น ชีวิตยากลำบาก ทว่าตั้งแต่แต่งงานมาก็ไม่เคยบ่น ขอเพียงมีคนใจเดียวอยู่ด้วยกันจนผมขาวไม่ร้างลา มีรักหวานชื่น อันชายนั้นควรหนักแน่นกับความสัมพันธ์ ความรักเมื่อสูญหายแล้ว เงินทองก็ชดเชยให้ไม่ได้ (บทกวีฉบับจีนดูได้จากในรูป) ว่ากันว่า ซือหม่าเซียงหรูเมื่ออ่านบทกวีนี้ก็รำลึกถึงความรักที่เคยมีและวันเวลาที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา และเปลี่ยนใจไม่แต่งงานใหม่ จวบจนบั้นปลายชีวิตก็มีจั๋วเหวินจวินเพียงคนเดียว บทกวีลำนำผมขาวนี้โด่งดังมาตลอด เพราะมุมมองที่ให้ความสำคัญของผัวเดียวเมียเดียวในยุคสมัยที่มีค่านิยมว่าชายมีเมียได้หลายคน และเป็นตัวอย่างที่สะท้อนให้เห็นถึงความคิดอันเด็ดเดี่ยวของสตรี วลี ‘ขอเพียงคนใจเดียว ผมขาวไม่ร้างลา’ นี้จึงกลายมาเป็นคำบอกรักยอดนิยมเพื่อสะท้อนถึงรักที่มั่นคงไม่ผันแปร แม้ที่มาจะเศร้าไปหน่อย แต่ก็จบลงด้วยดี แต่ปัจจุบันมีคนนำไปเขียนเพี้ยนไปก็มี จุดที่เพี้ยนหลักคือการสลับอักษรจาก ‘คนใจเดียว’( 一心人) ไปเป็น ‘ใจรักจากคนคนหนึ่ง’ (一人心) .... สลับอักษรแล้วความหมายแตกต่างมากเลย เพื่อนเพจว่าไหม? สุขสันต์วันวาเลนไทน์ย้อนหลังค่ะ หมายเหตุ 1: ‘ลำนำผมขาว’ เป็นชื่อที่แปลโดยคุณกนกพร นุ่มทอง จากหนังสือ < 100 ยอดหญิงแห่งประวัติศาสตร์จีน> แต่ Storyฯ แปลฉบับ ‘ถอดรหัส’ ให้ตามข้างต้นเพื่อความง่ายในการเข้าใจ หมายเหตุ 2: คำว่า ‘อิ๋น’ ในชื่อของบทกวีนี้ จริงๆ แล้วมีความหมายหลากหลาย รวมถึงเสียงร้องเพรียกของนก หรือการอ่านแบบมีจังหวะจะโคน หรือเสียงถอนหายใจ โดยส่วนตัว Storyฯ คิดว่าจริงๆ แล้วน่าจะหมายถึงเสียงถอนหายใจในบริบทนี้ แต่... ขอใช้ตามที่มีคนเคยแปลไว้ว่า ‘ลำนำผมขาว’ เผื่อเพื่อนเพจที่เคยผ่านตาบทกวีนี้จะได้ไม่สับสน (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ ช่วยกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะคะ #StoryfromStory) Credit รูปภาพจาก: https://www.hk01.com/即時娛樂/705041/斛珠夫人-陳小紜曬素顏樣盡現氣質-曾承認整容將近十次非常痛 Credit ข้อมูลรวบรวมจาก: http://www.chinatoday.com.cn/zw2018/bktg/202104/t20210407_800242850.html http://www.exam58.com/gushi/4582.html https://www.sohu.com/a/402043209_99929216 https://baike.baidu.com/item/白头吟/6866957 #ไข่มุกเคียงบัลลังก์ #ป๋ายโถวอิ๋น #ลำนำผมขาว #กวีจีนโบราณ #จั๋วเหวินจวิน #ซือหม่าเซียงหรู
    WWW.HK01.COM
    香港01|hk01.com 倡議型媒體
    香港01是一家互聯網企業,核心業務為倡議型媒體,主要傳播平台是手機應用程式和網站。企業研發各種互動數碼平台,開發由知識與科技帶動的多元化生活。
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 768 มุมมอง 0 รีวิว
  • Fancy Bear แฮกบริษัทโลจิสติกส์เพื่อติดตามความช่วยเหลือทางทหารที่ส่งไปยังยูเครน

    Fancy Bear หรือ APT28 ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย ได้ทำการเจาะระบบของบริษัทโลจิสติกส์ในประเทศตะวันตกและ NATO เพื่อติดตาม ความช่วยเหลือทางทหารที่ถูกส่งไปยังยูเครน

    รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีของ Fancy Bear
    Fancy Bear เริ่มโจมตีองค์กรโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี 2022
    - เป้าหมายคือ ติดตามความช่วยเหลือทางทหารที่ถูกส่งไปยังยูเครน

    กลุ่มแฮกเกอร์มุ่งเป้าไปที่บริษัทโลจิสติกส์, เทคโนโลยี และหน่วยงานรัฐบาล
    - ครอบคลุม ทุกโหมดการขนส่ง เช่น ทางอากาศ, ทางทะเล และทางรถไฟ

    CCTV ที่จุดผ่านแดนถูกตรวจสอบเพื่อดูการเคลื่อนย้ายของกองกำลังและอาวุธ
    - ช่วยให้ แฮกเกอร์สามารถติดตามเส้นทางการขนส่งได้อย่างแม่นยำ

    ใช้เทคนิค Credential Stuffing และ Brute-force Attack เพื่อเข้าถึงระบบ
    - รวมถึง การโจมตีผ่าน Spearphishing และช่องโหว่ของซอฟต์แวร์

    ช่องโหว่ที่ถูกใช้ ได้แก่ CVE-2023-23397 ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Microsoft Exchange, Roundcube Webmail และ WinRAR
    - นอกจากนี้ ยังมีการเจาะระบบ VPN และฐานข้อมูล SQL ที่มีช่องโหว่

    https://www.techradar.com/pro/security/russian-gru-cracks-open-logistic-companies-to-spy-on-ukranian-military-aid
    Fancy Bear แฮกบริษัทโลจิสติกส์เพื่อติดตามความช่วยเหลือทางทหารที่ส่งไปยังยูเครน Fancy Bear หรือ APT28 ซึ่งเป็นกลุ่มแฮกเกอร์ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซีย ได้ทำการเจาะระบบของบริษัทโลจิสติกส์ในประเทศตะวันตกและ NATO เพื่อติดตาม ความช่วยเหลือทางทหารที่ถูกส่งไปยังยูเครน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการโจมตีของ Fancy Bear ✅ Fancy Bear เริ่มโจมตีองค์กรโลจิสติกส์ตั้งแต่ปี 2022 - เป้าหมายคือ ติดตามความช่วยเหลือทางทหารที่ถูกส่งไปยังยูเครน ✅ กลุ่มแฮกเกอร์มุ่งเป้าไปที่บริษัทโลจิสติกส์, เทคโนโลยี และหน่วยงานรัฐบาล - ครอบคลุม ทุกโหมดการขนส่ง เช่น ทางอากาศ, ทางทะเล และทางรถไฟ ✅ CCTV ที่จุดผ่านแดนถูกตรวจสอบเพื่อดูการเคลื่อนย้ายของกองกำลังและอาวุธ - ช่วยให้ แฮกเกอร์สามารถติดตามเส้นทางการขนส่งได้อย่างแม่นยำ ✅ ใช้เทคนิค Credential Stuffing และ Brute-force Attack เพื่อเข้าถึงระบบ - รวมถึง การโจมตีผ่าน Spearphishing และช่องโหว่ของซอฟต์แวร์ ✅ ช่องโหว่ที่ถูกใช้ ได้แก่ CVE-2023-23397 ซึ่งส่งผลกระทบต่อ Microsoft Exchange, Roundcube Webmail และ WinRAR - นอกจากนี้ ยังมีการเจาะระบบ VPN และฐานข้อมูล SQL ที่มีช่องโหว่ https://www.techradar.com/pro/security/russian-gru-cracks-open-logistic-companies-to-spy-on-ukranian-military-aid
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 326 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี

    ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน**
    1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ**
    - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์
    - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก
    - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง

    2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก**
    - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring)
    - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI**
    - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP

    3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง**
    - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน)
    - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน**
    - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย**

    4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน**
    - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy)
    - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน
    - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย)

    5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์**
    - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ**
    - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล**
    - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI)

    6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ**
    - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ
    - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม
    - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม**

    ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ**
    - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี
    - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South
    - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal
    - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก
    - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย

    ### **แนวโน้มในอนาคต**
    - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว
    - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี**
    - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร)

    ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    ยุทธศาสตร์โลก (Global Strategy) เป็นแนวคิดที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนและการดำเนินการในระดับโลกเพื่อตอบสนองความท้าทายและโอกาสในบริบทระหว่างประเทศ ซึ่งอาจครอบคลุมหลายด้าน เช่น เศรษฐกิจ การเมือง ความมั่นคง สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี ### **ประเด็นสำคัญในยุทธศาสตร์โลกปัจจุบัน** 1. **การแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ** - **สหรัฐอเมริกา vs จีน**: การแข่งขันทางเศรษฐกิจ การค้า เทคโนโลยี (เช่น สงครามชิป) และอิทธิพลทางภูมิรัฐศาสตร์ - **บทบาทของรัสเซีย**: สงครามยูเครนและผลกระทบต่อความมั่นคงพลังงานและอาหารโลก - **EU และกลุ่มประเทศอื่นๆ**: แสวงหาความเป็นเอกภาพหรือความเป็นกลางในความขัดแย้ง 2. **เศรษฐกิจและการค้าโลก** - **ห่วงโซ่อุปทานใหม่**: การลดการพึ่งพาจีน (Friend-shoring, Reshoring) - **การเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและ AI** - **ความตกลงการค้าใหม่**: เช่น CPTPP, RCEP 3. **ความมั่นคงและความขัดแย้ง** - **สงครามในตะวันออกกลาง** (อิสราเอล-ปาเลสไตน์, ความตึงเครียดกับอิหร่าน) - **ความขัดแย้งในทะเลจีนใต้และไต้หวัน** - **การขยายตัวของ NATO และความสัมพันธ์กับรัสเซีย** 4. **สิ่งแวดล้อมและพลังงาน** - **การเปลี่ยนผ่านพลังงานสะอาด** (Net Zero, Renewable Energy) - **ผลกระทบจาก Climate Change** และนโยบายลดคาร์บอน - **ความมั่นคงด้านพลังงาน** (การพึ่งพาน้ำมันและก๊าซจากตะวันออกกลางและรัสเซีย) 5. **เทคโนโลยีและไซเบอร์** - **การแข่งขันด้าน AI, ควอนตัมคอมพิวติ้ง, อวกาศ** - **สงครามไซเบอร์และความปลอดภัยข้อมูล** - **กฎระเบียบเทคโนโลยีระหว่างประเทศ** (เช่น GDPR, การควบคุม AI) 6. **การทูตและองค์กรระหว่างประเทศ** - **บทบาทของ UN, WTO, IMF** ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและเศรษฐกิจ - **กลุ่มประเทศ BRICS+** ที่ขยายตัวเพื่อท้าทายระบบโลกเดิม - **Soft Power และการทูตวัฒนธรรม** ### **ยุทธศาสตร์ของประเทศต่างๆ** - **สหรัฐอเมริกา**: มุ่งรักษา hegemony ผ่านการเสริมกำลัง NATO, สนับสนุนไต้หวัน, และลงทุนในเทคโนโลยี - **จีน**: Belt and Road Initiative (BRI), การขยายอิทธิพลใน Global South - **ยุโรป**: ลดการพึ่งพาพลังงานรัสเซีย, ส่งเสริม Green Deal - **รัสเซีย**: หาพันธมิตรใหม่ (จีน, อิหร่าน) หลังถูกโดดเดี่ยวจากตะวันตก - **กลุ่ม Global South (อินเดีย, บราซิล, แอฟริกาใต้)**: แสวงหาความเป็นกลางหรือประโยชน์จากหลายฝ่าย ### **แนวโน้มในอนาคต** - **โลกหลายขั้วอำนาจ (Multipolar World)** แทนระบบที่นำโดยสหรัฐเพียงอย่างเดียว - **ความไม่แน่นอนจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศและเทคโนโลยี** - **ความเสี่ยงจากความขัดแย้งใหม่ๆ** (เช่น AI Warfare, การแย่งชิงทรัพยากร) ยุทธศาสตร์โลกในยุคนี้จึงต้องคำนึงถึง **ความร่วมมือระหว่างประเทศ** แต่ก็ต้องเตรียมพร้อมสำหรับ **การแข่งขันและการเผชิญหน้า** ในหลายด้านด้วย
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 589 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts