• จะเป็นอย่างไรเมื่อ " นางนาก "ถูกสร้างโดยผู้กำกับ
    ชื่อดังทั่วโลก (ครบรอบ 26 ปีนางนาก)

    1. เซอร์ คริสโตเฟอร์ โนแลน
    - พี่มากกลับมาจากรบ และรู้ว่าแม่นากรอเขาจนตาย พี่มากเสียใจสุดๆ จึงพยายามทำทุกทางเพื่ออยากเจออีนากอีกครั้ง วันเวลาผ่านไปเป็นสิบปี จนเขาได้เจอกับคนที่อ้างว่ามาจากอนาคต และสามารถทำให้พี่มากย้อนเวลาไปหาอีนากได้ เขาจึงเข้าเครื่องย้อนเวลา และทำให้กลับไปเจออีนากอีกครั้ง อีนากตกใจกับผัวที่แก่ขึ้น และทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน จนพี่มากพลั้งมือฆ่าอีนากตาย..

    2. เควนติน มารันติโน่
    - อีนากปากหมา ไล่ด่าทุกคน ก่อนเควนตินจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์หนัง อีนากไม่ตาย แต่เป็นไอ้มากตายและกลายเป็นผีมาหลอกแทน

    3. หว่อง-กาไว
    - อีนากนั่งรอพี่มากที่ท่าน้ำกับบรรยากาศสุดเหงายามเย็นที่มีแสงไฟจากตะเกียง พร้อมอีนากหยิบยาสูบขึ้นมาสูบ ทุกอย่างมันสโลไปหมด ยกเว้นอีนากคนเดียว

    4. ปู่มาร์ตี้
    - พี่มากเป็นหัวหน้าแก๊งค์รีดไถ่เงินในพระโขนง มีเพื่อนสนิทอยู่ 4 คน และมีเมียเป็นอีนาก ก่อนที่อีนากจะเล่นชู้กับเพื่อนพี่มากพร้อมกับเป่าหูให้ทุกคนหักหลังกัน และทั้งเรื่องจะเป็นการหักเหลี่ยมกันของแก๊งค์ ที่มีฉากไล่ข้าวโพดเป็นตอนจบ

    5. ไมเคิล เบย์
    - อีนากไม่ได้ท้องและออกไปรอบกับไอ้มากด้วย พร้อมกับระเบิดภูเขาเผ่ากระท่อมเหมือนเดิม

    5.1. ไมเคิล เบย์
    -อีนากหนีมาจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนแต่ระบบเสียงเสียพูดไม่ได้ จากนั้นอีนากจะส่งแสงขึ้นฟ้าเป็นรูปสัญลักษณ์ ไอ้มากเห็นจึงเดินทางมายังดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า โลกกกกก !?

    6. จอห์น วู
    - อีนากนั่งรอที่ท่าน้ำจะมีนกพิราบบินแบบสโลโมชั่น ฉากระเบิดที่สงครามไอ้มากไปรบต้องใหญ่ๆไฟและควันพุ่งขึ้นสูงๆ

    7. โรเบิร์ต รอดริเกซ
    - อีนากตาย และกลายเป็นแวมไพร์ ไล่ฆ่าคน

    8. พี่เจ้ย
    - อีนากปลงชีวิต เดินเข้าไปใช้ชีวิตในป่า เดินไปเจอกับธรรมชาติมากมาย ก่อนนางจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น

    9. เอ็มไนต์ ชายามาลาน
    - อีนากตายเป็นผี ไอ้มากไม่รู้และไม่มีใครบอก เขาก็เลยอยู่กินกับผี จนพี่มากสังเกตและรู้เองว่าอีนากตายไปนานแล้ว ก่อนอีนากจะบอกว่า มึงก็ตายไปนานแล้วเหมือนกัน..

    10. เวส แอนเดอร์สัน
    - พระโขนงจะกลายเป็นสีพาสเทล

    11. พี่พจน์ อานนท์
    - พี่มากเป็นเกย์ และตบกะอีนาก

    12. คิมคิ ด็อก
    - ทั้งเรื่องจะเงียบ และไม่มีบทพูด อีนากจะเงียบและรอคอยพี่มาก แต่ตัวละครรอบข้างจะพูดปกติ

    13. เดวิด ฟินเชอร์
    - อีนากถูกฆาตกรรม จนไอ้มากต้องออกมาช่วยกันสืบคดี จนสุดท้ายไอ้มากเปิดลังกระดาษแล้วพบกับ!!

    14. หม่อมน้อย
    - ดีเทลทุกอย่างของคลองพระโขนงจะต้องเนี้ยบ เสื้อผ้าต้องเย็บใหม่ให้เหมือนในอดีต

    15. ลาร์ส ฟอร์นเทียร์
    - นางเอกจะติดเซ็กส์ และต้องการค้นหาตัวเอง

    16. เป็นเอก รัตนเรือง
    - ไม่เน้นผี เน้นตีความ

    17. พี่เต๋อ
    - ตัวละครทุกตัวจะพูดแบบเท่ๆ

    18. ทิม เบอร์ตัน
    - ทุกตัวละครจะขอบตาดำกันหมดแต่งกายด้วยชุดอังกฤษยุคเลเนซองค์

    19. เดอนี วีลเนิฟว์
    - ฉากหลังอีนากเป็นยุคไซเบอร์พังค์

    20. จอร์ด มิลเลอร์
    - เรื่องราวไม่ได้เกิดในพระโขนง แต่เกิดในทะเลทราย

    21. คูบริก
    นักแสดงนางนากจะถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวไว้ จนกว่าจะยืดแขนเองได้

    22. เดวิด ลินซ์
    - มึงดูไม่เข้าใจกันหรอก

    23. จิบลิ
    - อีนากตายหลงเข้าไปในมิติวิญญาณ และไปทำงานในซ่องของโลกหลังความตาย

    24.ชิออน โซโนะ
    - อีนากเบื่อการเป็นแม่บ้าน จึงออกไปหาความสำราญจนโดนหลอก.. แต่ติดใจ

    25. ชินไค มาโคโตะ
    - แม่นากจะตามหาพี่มากตลอดไป จะost. ชื่อ 9.8 meter per sec ซึ่งมาจากความเร็วของมะนาวที่แม่นากทำหล่นจากชานบ้าน /เอ้าซู๊ดดดดดด

    26. อังลี่
    - อีนากคลอดลูกและรอดตาย ไอ้มากกลับมาปลอดภัย จนไอ้มากต้องไปทำงานเลี้ยงแกะบนเขา จนไปพบรักกับชายหนุ่มและทั้งคู่แอบเป็นชู้กัน

    27. พอล ดับบิวเอสแอนเดอสัน
    - แม่นากแสดงโดยเมียตัวเอง ให้แม่นากเก่งที่สุดในโลก มีพลังจิตมองตาพิฆาตสังหาร มีซอมบี้ เอาลูกซองที่ลูกกระสุนเป็นเหรียญลากหัวซอมบี้คมๆ

    28. เจมส์ เคเมรอน
    - สร้างพระโขนงขึ้นมาใหม่ เอาให้เหมือนจริงสุดๆ จนนักแสดงแก่หมดแล้ว หนังก็ยังสร้างไม่เสร็จ..

    29. ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ
    - แม่นากไอ้มาก ลักเด็กที่ถูกทำร้ายจากครอบครัวอีปริกมาเลี้ยงและหลายๆคนในครอบครัวไม่ใช่สายเลือดเดียวกันเพราะอีนากมีลูกไม่ได้

    30. กีเยโมร์ เดลโทโร่
    -นางมากและไอ้มากอยู่ในหน่วยพิทักษ์โลเพราะในการขับหุ่นยนต์ยักเยเกอร์ต้องใช้พลขับ 2 คนโดยทั้ง 2 ขับหุ่นยนต์ที่ชื่อ ยิปซี แดนเจอร์ ขับไปไปขับมาเลยได้เสียกันอีนากท้อง จากนั้นจึงตั้งชื่อลูกว่าไอ้แดง

    31.โรเบิร์ต เซเมคิส
    - นางนากต้องเป็นคนที่ไอ้มากปักใจรักมากที่สุดในชีวิต ก่อนนางจะใช้ชีวิตแบบขนนกที่ล่องลอยไปแบบที่นางอยากเป็น ผิดกับไอ้มากที่หลังจากไปรบในสงครามก็ใช้ชีวิตแบบขนนกที่ปลิวไปตามสายลมลมจะหอบไปทางไหนแต่เขาก็ตั้งใจทำมันทุกๆอย่างจนประสบความสำเร็จ สุดท้ายอีนากก็มีลูกชายกับไอ้มากแล้วนางก็ตาย ทำให้ไอ้มากต้องดูแลลูกชายหรือไอ้แดงเพียงคนเดียว ไอ้มากจึงสอนลูกชายเสมอว่า " ความตายเป็นส่วนนึงของชีวิต และ ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อคโกแลตเราไม่มีทางรู้ว่ามีรสชาติใดอยู่ข้างในบ้าง.."

    ที่เหลือก็หาผกก.ที่ชอบคอมเม้นท์มาเองนะ
    จะเป็นอย่างไรเมื่อ " นางนาก "ถูกสร้างโดยผู้กำกับ ชื่อดังทั่วโลก (ครบรอบ 26 ปีนางนาก) 1. เซอร์ คริสโตเฟอร์ โนแลน - พี่มากกลับมาจากรบ และรู้ว่าแม่นากรอเขาจนตาย พี่มากเสียใจสุดๆ จึงพยายามทำทุกทางเพื่ออยากเจออีนากอีกครั้ง วันเวลาผ่านไปเป็นสิบปี จนเขาได้เจอกับคนที่อ้างว่ามาจากอนาคต และสามารถทำให้พี่มากย้อนเวลาไปหาอีนากได้ เขาจึงเข้าเครื่องย้อนเวลา และทำให้กลับไปเจออีนากอีกครั้ง อีนากตกใจกับผัวที่แก่ขึ้น และทั้งคู่ก็ทะเลาะกัน จนพี่มากพลั้งมือฆ่าอีนากตาย.. 2. เควนติน มารันติโน่ - อีนากปากหมา ไล่ด่าทุกคน ก่อนเควนตินจะเปลี่ยนประวัติศาสตร์หนัง อีนากไม่ตาย แต่เป็นไอ้มากตายและกลายเป็นผีมาหลอกแทน 3. หว่อง-กาไว - อีนากนั่งรอพี่มากที่ท่าน้ำกับบรรยากาศสุดเหงายามเย็นที่มีแสงไฟจากตะเกียง พร้อมอีนากหยิบยาสูบขึ้นมาสูบ ทุกอย่างมันสโลไปหมด ยกเว้นอีนากคนเดียว 4. ปู่มาร์ตี้ - พี่มากเป็นหัวหน้าแก๊งค์รีดไถ่เงินในพระโขนง มีเพื่อนสนิทอยู่ 4 คน และมีเมียเป็นอีนาก ก่อนที่อีนากจะเล่นชู้กับเพื่อนพี่มากพร้อมกับเป่าหูให้ทุกคนหักหลังกัน และทั้งเรื่องจะเป็นการหักเหลี่ยมกันของแก๊งค์ ที่มีฉากไล่ข้าวโพดเป็นตอนจบ 5. ไมเคิล เบย์ - อีนากไม่ได้ท้องและออกไปรอบกับไอ้มากด้วย พร้อมกับระเบิดภูเขาเผ่ากระท่อมเหมือนเดิม 5.1. ไมเคิล เบย์ -อีนากหนีมาจากดาวเคราะห์ไซเบอร์ตรอนแต่ระบบเสียงเสียพูดไม่ได้ จากนั้นอีนากจะส่งแสงขึ้นฟ้าเป็นรูปสัญลักษณ์ ไอ้มากเห็นจึงเดินทางมายังดาวเคราะห์ที่มีชื่อว่า โลกกกกก !? 6. จอห์น วู - อีนากนั่งรอที่ท่าน้ำจะมีนกพิราบบินแบบสโลโมชั่น ฉากระเบิดที่สงครามไอ้มากไปรบต้องใหญ่ๆไฟและควันพุ่งขึ้นสูงๆ 7. โรเบิร์ต รอดริเกซ - อีนากตาย และกลายเป็นแวมไพร์ ไล่ฆ่าคน 8. พี่เจ้ย - อีนากปลงชีวิต เดินเข้าไปใช้ชีวิตในป่า เดินไปเจอกับธรรมชาติมากมาย ก่อนนางจะเข้าใจชีวิตมากขึ้น 9. เอ็มไนต์ ชายามาลาน - อีนากตายเป็นผี ไอ้มากไม่รู้และไม่มีใครบอก เขาก็เลยอยู่กินกับผี จนพี่มากสังเกตและรู้เองว่าอีนากตายไปนานแล้ว ก่อนอีนากจะบอกว่า มึงก็ตายไปนานแล้วเหมือนกัน.. 10. เวส แอนเดอร์สัน - พระโขนงจะกลายเป็นสีพาสเทล 11. พี่พจน์ อานนท์ - พี่มากเป็นเกย์ และตบกะอีนาก 12. คิมคิ ด็อก - ทั้งเรื่องจะเงียบ และไม่มีบทพูด อีนากจะเงียบและรอคอยพี่มาก แต่ตัวละครรอบข้างจะพูดปกติ 13. เดวิด ฟินเชอร์ - อีนากถูกฆาตกรรม จนไอ้มากต้องออกมาช่วยกันสืบคดี จนสุดท้ายไอ้มากเปิดลังกระดาษแล้วพบกับ!! 14. หม่อมน้อย - ดีเทลทุกอย่างของคลองพระโขนงจะต้องเนี้ยบ เสื้อผ้าต้องเย็บใหม่ให้เหมือนในอดีต 15. ลาร์ส ฟอร์นเทียร์ - นางเอกจะติดเซ็กส์ และต้องการค้นหาตัวเอง 16. เป็นเอก รัตนเรือง - ไม่เน้นผี เน้นตีความ 17. พี่เต๋อ - ตัวละครทุกตัวจะพูดแบบเท่ๆ 18. ทิม เบอร์ตัน - ทุกตัวละครจะขอบตาดำกันหมดแต่งกายด้วยชุดอังกฤษยุคเลเนซองค์ 19. เดอนี วีลเนิฟว์ - ฉากหลังอีนากเป็นยุคไซเบอร์พังค์ 20. จอร์ด มิลเลอร์ - เรื่องราวไม่ได้เกิดในพระโขนง แต่เกิดในทะเลทราย 21. คูบริก นักแสดงนางนากจะถูกกังขังหน่วงเหนี่ยวไว้ จนกว่าจะยืดแขนเองได้ 22. เดวิด ลินซ์ - มึงดูไม่เข้าใจกันหรอก 23. จิบลิ - อีนากตายหลงเข้าไปในมิติวิญญาณ และไปทำงานในซ่องของโลกหลังความตาย 24.ชิออน โซโนะ - อีนากเบื่อการเป็นแม่บ้าน จึงออกไปหาความสำราญจนโดนหลอก.. แต่ติดใจ 25. ชินไค มาโคโตะ - แม่นากจะตามหาพี่มากตลอดไป จะost. ชื่อ 9.8 meter per sec ซึ่งมาจากความเร็วของมะนาวที่แม่นากทำหล่นจากชานบ้าน /เอ้าซู๊ดดดดดด 26. อังลี่ - อีนากคลอดลูกและรอดตาย ไอ้มากกลับมาปลอดภัย จนไอ้มากต้องไปทำงานเลี้ยงแกะบนเขา จนไปพบรักกับชายหนุ่มและทั้งคู่แอบเป็นชู้กัน 27. พอล ดับบิวเอสแอนเดอสัน - แม่นากแสดงโดยเมียตัวเอง ให้แม่นากเก่งที่สุดในโลก มีพลังจิตมองตาพิฆาตสังหาร มีซอมบี้ เอาลูกซองที่ลูกกระสุนเป็นเหรียญลากหัวซอมบี้คมๆ 28. เจมส์ เคเมรอน - สร้างพระโขนงขึ้นมาใหม่ เอาให้เหมือนจริงสุดๆ จนนักแสดงแก่หมดแล้ว หนังก็ยังสร้างไม่เสร็จ.. 29. ฮิโรคาสุ โคเรเอดะ - แม่นากไอ้มาก ลักเด็กที่ถูกทำร้ายจากครอบครัวอีปริกมาเลี้ยงและหลายๆคนในครอบครัวไม่ใช่สายเลือดเดียวกันเพราะอีนากมีลูกไม่ได้ 30. กีเยโมร์ เดลโทโร่ -นางมากและไอ้มากอยู่ในหน่วยพิทักษ์โลเพราะในการขับหุ่นยนต์ยักเยเกอร์ต้องใช้พลขับ 2 คนโดยทั้ง 2 ขับหุ่นยนต์ที่ชื่อ ยิปซี แดนเจอร์ ขับไปไปขับมาเลยได้เสียกันอีนากท้อง จากนั้นจึงตั้งชื่อลูกว่าไอ้แดง 31.โรเบิร์ต เซเมคิส - นางนากต้องเป็นคนที่ไอ้มากปักใจรักมากที่สุดในชีวิต ก่อนนางจะใช้ชีวิตแบบขนนกที่ล่องลอยไปแบบที่นางอยากเป็น ผิดกับไอ้มากที่หลังจากไปรบในสงครามก็ใช้ชีวิตแบบขนนกที่ปลิวไปตามสายลมลมจะหอบไปทางไหนแต่เขาก็ตั้งใจทำมันทุกๆอย่างจนประสบความสำเร็จ สุดท้ายอีนากก็มีลูกชายกับไอ้มากแล้วนางก็ตาย ทำให้ไอ้มากต้องดูแลลูกชายหรือไอ้แดงเพียงคนเดียว ไอ้มากจึงสอนลูกชายเสมอว่า " ความตายเป็นส่วนนึงของชีวิต และ ชีวิตก็เหมือนกล่องช็อคโกแลตเราไม่มีทางรู้ว่ามีรสชาติใดอยู่ข้างในบ้าง.." ที่เหลือก็หาผกก.ที่ชอบคอมเม้นท์มาเองนะ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 54 มุมมอง 0 รีวิว
  • สื่อกัมพูชารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เครื่องบินทหารไทยของสหรัฐฯ F-16 โดนยิงตกไป 1 ลำพร้อมชี้เสร็จสรรพออกมาจากฐานไหนแต่บีบีซีของอังกฤษเพิ่งรายงาน F-16 จำนวน 6 ลำของไทยกลับถึงฐานอย่างปลอดภัยพร้อมสามารถยิงทำลายฐานบัญชาการพิเศษเขมร 2 แห่ง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069854

    #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    สื่อกัมพูชารายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า เครื่องบินทหารไทยของสหรัฐฯ F-16 โดนยิงตกไป 1 ลำพร้อมชี้เสร็จสรรพออกมาจากฐานไหนแต่บีบีซีของอังกฤษเพิ่งรายงาน F-16 จำนวน 6 ลำของไทยกลับถึงฐานอย่างปลอดภัยพร้อมสามารถยิงทำลายฐานบัญชาการพิเศษเขมร 2 แห่ง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000069854 #News1live #News1 #SondhiX #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 359 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากงานแต่งที่ไม่ใช่แค่เรื่องรัก: เมื่อลูกสาว Steve Jobs จัดงานแต่งที่สะท้อนทั้ง Silicon Valley และความหรูหราแบบอังกฤษ

    Eve Jobs วัย 27 ปี แม้จะเป็นทายาทของบุคคลที่เปลี่ยนโลกเทคโนโลยี แต่เธอเลือกเดินเส้นทางของตัวเองในวงการแฟชั่น และหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อเสียงของพ่อเพื่อเข้าสู่วงการไอที

    งานแต่งของเธอกับ Harry Charles นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติอังกฤษ จะจัดขึ้นใน Oxfordshire ประเทศอังกฤษ โดยมี:
    - งบประมาณกว่า $6.7 ล้าน
    - ผู้จัดงานคือ Stanlee Gatti นักออกแบบงานอีเวนต์ชื่อดังจากแคลิฟอร์เนีย
    - คาดว่าจะมีการตกแต่งด้วยดอกไม้ immersive, สวนเทียน, และบรรยากาศแบบเทพนิยาย

    แขกที่ได้รับเชิญ ได้แก่:
    - Elton John (แสดงสด)
    - Kamala Harris (อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ)
    - เจ้าหญิง Beatrice
    - Jessica Springsteen
    - Jennifer และ Phoebe Gates
    - Matt Helders (Arctic Monkeys)

    แม้หลายคนจะคิดว่า Eve ใช้เงินจากมรดกของ Steve Jobs แต่ Laurene Powell Jobs แม่ของเธอเคยประกาศชัดว่าไม่เชื่อใน “การส่งต่อความมั่งคั่ง” และจะใช้ทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนงานการกุศลแทน

    งานแต่งนี้จึงสะท้อนว่า Eve กำลัง “นิยามใหม่” ของการสืบทอดชื่อ Jobs — ไม่ใช่ด้วยเทคโนโลยี แต่ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความสง่างามในแบบของเธอเอง

    https://wccftech.com/steve-jobs-daughter-to-host-6-7m-high-profile-tech-wedding-elton-john-performing-kamala-harris-attending-and-oxfordshire-bracing-for-a-star-studded-affair/
    🎙️ เรื่องเล่าจากงานแต่งที่ไม่ใช่แค่เรื่องรัก: เมื่อลูกสาว Steve Jobs จัดงานแต่งที่สะท้อนทั้ง Silicon Valley และความหรูหราแบบอังกฤษ Eve Jobs วัย 27 ปี แม้จะเป็นทายาทของบุคคลที่เปลี่ยนโลกเทคโนโลยี แต่เธอเลือกเดินเส้นทางของตัวเองในวงการแฟชั่น และหลีกเลี่ยงการใช้ชื่อเสียงของพ่อเพื่อเข้าสู่วงการไอที งานแต่งของเธอกับ Harry Charles นักกีฬาขี่ม้าทีมชาติอังกฤษ จะจัดขึ้นใน Oxfordshire ประเทศอังกฤษ โดยมี: - งบประมาณกว่า $6.7 ล้าน - ผู้จัดงานคือ Stanlee Gatti นักออกแบบงานอีเวนต์ชื่อดังจากแคลิฟอร์เนีย - คาดว่าจะมีการตกแต่งด้วยดอกไม้ immersive, สวนเทียน, และบรรยากาศแบบเทพนิยาย แขกที่ได้รับเชิญ ได้แก่: - Elton John (แสดงสด) - Kamala Harris (อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ) - เจ้าหญิง Beatrice - Jessica Springsteen - Jennifer และ Phoebe Gates - Matt Helders (Arctic Monkeys) แม้หลายคนจะคิดว่า Eve ใช้เงินจากมรดกของ Steve Jobs แต่ Laurene Powell Jobs แม่ของเธอเคยประกาศชัดว่าไม่เชื่อใน “การส่งต่อความมั่งคั่ง” และจะใช้ทรัพย์สินเพื่อสนับสนุนงานการกุศลแทน งานแต่งนี้จึงสะท้อนว่า Eve กำลัง “นิยามใหม่” ของการสืบทอดชื่อ Jobs — ไม่ใช่ด้วยเทคโนโลยี แต่ด้วยความคิดสร้างสรรค์และความสง่างามในแบบของเธอเอง https://wccftech.com/steve-jobs-daughter-to-host-6-7m-high-profile-tech-wedding-elton-john-performing-kamala-harris-attending-and-oxfordshire-bracing-for-a-star-studded-affair/
    WCCFTECH.COM
    Steve Jobs’ Daughter To Host $6.7M High-Profile Tech Wedding - Elton John Performing, Kamala Harris Attending, And Oxfordshire Bracing For A Star-Studded Affair
    Eve Jobs, daughter of Apple's co-founder Steve Jobs is grabbing headlines for tying the knot in rather lavish wedding affair
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 81 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากรหัสผ่านเดียวที่ล้มบริษัท 158 ปี

    KNP เป็นบริษัทขนส่งที่มีรถบรรทุกกว่า 500 คัน และพนักงานราว 700 คน โดยมีมาตรการด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม รวมถึงประกันภัยไซเบอร์ แต่กลับถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เริ่มต้นจากการ “เดารหัสผ่าน” ของพนักงานคนหนึ่ง

    แฮกเกอร์เข้าระบบได้และเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดของบริษัท — แม้จะมีประกัน แต่บริษัทประเมินว่าค่าไถ่อาจสูงถึง £5 ล้าน ซึ่งเกินกว่าที่จะจ่ายไหว สุดท้าย KNP ต้องปิดกิจการ และพนักงานทั้งหมดตกงาน

    Paul Abbott ผู้อำนวยการบริษัทบอกว่าเขาไม่เคยแจ้งพนักงานคนนั้นว่า “รหัสผ่านของเขาคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลาย” เพราะไม่อยากให้ใครต้องแบกรับความรู้สึกผิดเพียงคนเดียว

    หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่า:
    - ปีที่ผ่านมา มีการโจมตี ransomware กว่า 19,000 ครั้ง
    - ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน
    - หนึ่งในสามของบริษัทเลือก “จ่ายเงิน” เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อได้

    Suzanne Grimmer จาก National Crime Agency เตือนว่า:

    “ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ปีนี้จะเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ ransomware ในสหราชอาณาจักร”

    KNP Logistics Group ถูกโจมตีด้วย ransomware จากรหัสผ่านที่เดาง่ายของพนักงาน
    ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัส และบริษัทไม่สามารถจ่ายค่าไถ่ได้

    บริษัทมีพนักงานราว 700 คน และรถบรรทุกกว่า 500 คัน
    เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งเก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ

    ค่าไถ่ถูกประเมินว่าอาจสูงถึง £5 ล้าน แม้จะมีประกันภัยไซเบอร์
    เกินกว่าที่บริษัทจะรับไหว ทำให้ต้องปิดกิจการ

    หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่ามี ransomware กว่า 19,000 ครั้งในปีที่ผ่านมา
    ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน และหนึ่งในสามของบริษัทเลือกจ่ายเงิน

    Paul Abbott ไม่แจ้งพนักงานเจ้าของรหัสผ่านว่าเป็นต้นเหตุของการล่มสลาย
    เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกผิดที่รุนแรงเกินไป

    ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแฮกเกอร์มัก “รอวันที่องค์กรอ่อนแอ” แล้วลงมือทันที
    ไม่จำเป็นต้องเจาะระบบซับซ้อน แค่รหัสผ่านอ่อนก็พอ

    https://www.techspot.com/news/108749-one-weak-password-brought-down-158-year-old.html
    🎙️ เรื่องเล่าจากรหัสผ่านเดียวที่ล้มบริษัท 158 ปี KNP เป็นบริษัทขนส่งที่มีรถบรรทุกกว่า 500 คัน และพนักงานราว 700 คน โดยมีมาตรการด้านความปลอดภัยตามมาตรฐานอุตสาหกรรม รวมถึงประกันภัยไซเบอร์ แต่กลับถูกโจมตีด้วย ransomware ที่เริ่มต้นจากการ “เดารหัสผ่าน” ของพนักงานคนหนึ่ง แฮกเกอร์เข้าระบบได้และเข้ารหัสข้อมูลทั้งหมดของบริษัท — แม้จะมีประกัน แต่บริษัทประเมินว่าค่าไถ่อาจสูงถึง £5 ล้าน ซึ่งเกินกว่าที่จะจ่ายไหว สุดท้าย KNP ต้องปิดกิจการ และพนักงานทั้งหมดตกงาน Paul Abbott ผู้อำนวยการบริษัทบอกว่าเขาไม่เคยแจ้งพนักงานคนนั้นว่า “รหัสผ่านของเขาคือจุดเริ่มต้นของการล่มสลาย” เพราะไม่อยากให้ใครต้องแบกรับความรู้สึกผิดเพียงคนเดียว หน่วยงานด้านความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่า: - ปีที่ผ่านมา มีการโจมตี ransomware กว่า 19,000 ครั้ง - ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน - หนึ่งในสามของบริษัทเลือก “จ่ายเงิน” เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อได้ Suzanne Grimmer จาก National Crime Agency เตือนว่า: 🔖 “ถ้าแนวโน้มนี้ยังดำเนินต่อไป ปีนี้จะเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดสำหรับ ransomware ในสหราชอาณาจักร” ✅ KNP Logistics Group ถูกโจมตีด้วย ransomware จากรหัสผ่านที่เดาง่ายของพนักงาน ➡️ ส่งผลให้ข้อมูลทั้งหมดถูกเข้ารหัส และบริษัทไม่สามารถจ่ายค่าไถ่ได้ ✅ บริษัทมีพนักงานราว 700 คน และรถบรรทุกกว่า 500 คัน ➡️ เป็นหนึ่งในบริษัทขนส่งเก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ ✅ ค่าไถ่ถูกประเมินว่าอาจสูงถึง £5 ล้าน แม้จะมีประกันภัยไซเบอร์ ➡️ เกินกว่าที่บริษัทจะรับไหว ทำให้ต้องปิดกิจการ ✅ หน่วยงานความมั่นคงไซเบอร์ของอังกฤษระบุว่ามี ransomware กว่า 19,000 ครั้งในปีที่ผ่านมา ➡️ ค่าไถ่เฉลี่ยอยู่ที่ £4 ล้าน และหนึ่งในสามของบริษัทเลือกจ่ายเงิน ✅ Paul Abbott ไม่แจ้งพนักงานเจ้าของรหัสผ่านว่าเป็นต้นเหตุของการล่มสลาย ➡️ เพื่อไม่ให้เกิดความรู้สึกผิดที่รุนแรงเกินไป ✅ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่าแฮกเกอร์มัก “รอวันที่องค์กรอ่อนแอ” แล้วลงมือทันที ➡️ ไม่จำเป็นต้องเจาะระบบซับซ้อน แค่รหัสผ่านอ่อนก็พอ https://www.techspot.com/news/108749-one-weak-password-brought-down-158-year-old.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    One weak password brought down a 158-year-old company
    A business is only as strong as its weakest link and when that weak point happens to be an employee's easy-to-guess password, the outcome can be devastating....
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • สหรัฐฯส่งอาวุธนิวเคลียร์มาประจำที่อังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีหลังสงครามยูเครนระอุหนัก รัสเซียส่งโดรนโจมตึงสถานีรถไฟใต้ดินเมโทรกรุงเคียฟที่หลบภัยคนจำนวนมากสำลักฝุ่นควันอยู่ใต้ดิน เยอรมันทนไม่ไหวประกาศจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต 5 ระบบให้ท่ามกลางข่าวรีบเอาจากคลังแสงกองทัพเยอรมันรวม 2 ระบบส่งเข้ายูเครน
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000069133

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    สหรัฐฯส่งอาวุธนิวเคลียร์มาประจำที่อังกฤษเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสิบปีหลังสงครามยูเครนระอุหนัก รัสเซียส่งโดรนโจมตึงสถานีรถไฟใต้ดินเมโทรกรุงเคียฟที่หลบภัยคนจำนวนมากสำลักฝุ่นควันอยู่ใต้ดิน เยอรมันทนไม่ไหวประกาศจะส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศแพทริออต 5 ระบบให้ท่ามกลางข่าวรีบเอาจากคลังแสงกองทัพเยอรมันรวม 2 ระบบส่งเข้ายูเครน . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000069133 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Like
    Sad
    Haha
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 640 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชาติตะวันตก 25 ประเทศซึ่งรวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส และแคนาดา เรียกร้องวานนี้ (21 ก.ค.) ให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการสงครามในกาซาทันที พร้อมทั้งวิจารณ์การเข่นฆ่าพลเรือนปาเลสไตน์ “อย่างไร้มนุษยธรรม” ซึ่งรวมถึงประชาชนหลายร้อยที่เสียชีวิตใกล้ๆ กับจุดแจกจ่ายอาหาร

    คำแถลงร่วมจาก 25 ชาติยังประณามสิ่งที่เรียกว่า “การช่วยเหลือแบบให้อาหารเหลวทีละหยด” (drip feeding aid) แก่ชาวปาเลสไตน์ในกาซา และย้ำว่าการที่พลเรือนกว่า 800 คนถูกสังหารระหว่างเข้าไปรับความช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งที่ “น่าสะพรึงกลัว”

    การเสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นในบริเวณจุดแจกจ่ายอาหารของ Gaza Humanitarian Foundation (GHF) ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และอิสราเอลให้เข้าไปทำหน้าที่แจกจ่ายความช่วยเหลือแทนเครือข่ายของสหประชาชาติ

    GHF ใช้บริการจากบริษัทด้านความปลอดภัยและโลจิสติกของเอกชนเพื่อส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในกาซาโดยไม่ผ่านช่องทางของสหประชาชาติ ซึ่งอิสราเอลอ้างว่ามีช่องโหว่ให้พวกฮามาสสามารถปล้นชิงข้าวของที่ควรจะถึงมือประชาชน ในขณะที่ฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

    “รูปแบบการแจกจ่ายความช่วยเหลือของรัฐบาลอิสราเอลนั้นอันตราย ยั่วยุให้เกิดความระส่ำระสาย และเป็นการลดเกียรติความเป็นมนุษย์ของชาวกาซา” รัฐมนตรีต่างประเทศของ 25 ชาติระบุในถ้อยแถลงร่วม

    “ความทุกข์ทรมานของพลเรือนในกาซากำลังดำดิ่งลงสู่ความเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า”

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000068792

    #Thaitimes #MGROnline #ชาติตะวันตก #25ประเทศ #พลเรือนปาเลสไตน์
    ชาติตะวันตก 25 ประเทศซึ่งรวมถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส และแคนาดา เรียกร้องวานนี้ (21 ก.ค.) ให้อิสราเอลยุติปฏิบัติการสงครามในกาซาทันที พร้อมทั้งวิจารณ์การเข่นฆ่าพลเรือนปาเลสไตน์ “อย่างไร้มนุษยธรรม” ซึ่งรวมถึงประชาชนหลายร้อยที่เสียชีวิตใกล้ๆ กับจุดแจกจ่ายอาหาร • คำแถลงร่วมจาก 25 ชาติยังประณามสิ่งที่เรียกว่า “การช่วยเหลือแบบให้อาหารเหลวทีละหยด” (drip feeding aid) แก่ชาวปาเลสไตน์ในกาซา และย้ำว่าการที่พลเรือนกว่า 800 คนถูกสังหารระหว่างเข้าไปรับความช่วยเหลือนั้นเป็นสิ่งที่ “น่าสะพรึงกลัว” • การเสียชีวิตส่วนใหญ่นั้นเกิดขึ้นในบริเวณจุดแจกจ่ายอาหารของ Gaza Humanitarian Foundation (GHF) ซึ่งเป็นองค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ และอิสราเอลให้เข้าไปทำหน้าที่แจกจ่ายความช่วยเหลือแทนเครือข่ายของสหประชาชาติ • GHF ใช้บริการจากบริษัทด้านความปลอดภัยและโลจิสติกของเอกชนเพื่อส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เข้าไปในกาซาโดยไม่ผ่านช่องทางของสหประชาชาติ ซึ่งอิสราเอลอ้างว่ามีช่องโหว่ให้พวกฮามาสสามารถปล้นชิงข้าวของที่ควรจะถึงมือประชาชน ในขณะที่ฮามาสปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ • “รูปแบบการแจกจ่ายความช่วยเหลือของรัฐบาลอิสราเอลนั้นอันตราย ยั่วยุให้เกิดความระส่ำระสาย และเป็นการลดเกียรติความเป็นมนุษย์ของชาวกาซา” รัฐมนตรีต่างประเทศของ 25 ชาติระบุในถ้อยแถลงร่วม • “ความทุกข์ทรมานของพลเรือนในกาซากำลังดำดิ่งลงสู่ความเลวร้ายยิ่งกว่าเก่า” • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/around/detail/9680000068792 • #Thaitimes #MGROnline #ชาติตะวันตก #25ประเทศ #พลเรือนปาเลสไตน์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 172 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากสนามโอลิมปิกคณิตศาสตร์: เมื่อ AI ได้เหรียญทองในสนามมนุษย์

    IMO เป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกที่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1959 โดยแต่ละประเทศส่งนักเรียนมัธยมปลาย 6 คนมาแข่งขันกันในโจทย์ที่ยากมากในสาขา:
    - พีชคณิต (Algebra)
    - ทฤษฎีจำนวน (Number Theory)
    - เรขาคณิต (Geometry)
    - คอมบิเนอริกส์ (Combinatorics)

    ปีนี้ Google DeepMind ส่งโมเดล Gemini Deep Think เข้าร่วมในฐานะ AI system ที่ถูกประเมินโดยกรรมการ IMO จริง — และสามารถแก้โจทย์ได้ 5 จาก 6 ข้ออย่างถูกต้อง ได้คะแนนรวม 35 จาก 42 คะแนน ซึ่งเทียบเท่ากับระดับเหรียญทองของมนุษย์

    สิ่งที่น่าทึ่งคือ:
    - ปีที่แล้ว AlphaGeometry + AlphaProof ทำได้แค่ระดับเหรียญเงิน (28 คะแนน)
    - ต้องใช้การแปลโจทย์เป็นภาษาสัญลักษณ์ (เช่น Lean) และใช้เวลาคำนวณ 2–3 วัน
    - ปีนี้ Gemini Deep Think ทำงานแบบ end-to-end ด้วยภาษาอังกฤษธรรมดา
    - ใช้เวลาเท่ากับการแข่งขันจริง (4.5 ชั่วโมง) และให้คำตอบที่ตรวจสอบได้

    เบื้องหลังความสำเร็จคือการใช้เทคนิคใหม่ เช่น:
    - Parallel Thinking: คิดหลายแนวทางพร้อมกันก่อนเลือกคำตอบ
    - Reinforcement Learning: ฝึกจากข้อมูลการแก้โจทย์หลายขั้นตอน
    - Corpus คุณภาพสูง: รวมคำแนะนำและตัวอย่างการแก้โจทย์ IMO

    Gemini Deep Think ทำคะแนน 35/42 ใน IMO 2025 เทียบเท่าระดับเหรียญทอง
    แก้โจทย์ 5 จาก 6 ข้อได้อย่างถูกต้องภายในเวลาแข่งขันจริง

    เป็นครั้งแรกที่ AI ได้รับการประเมินโดยกรรมการ IMO อย่างเป็นทางการ
    ใช้เกณฑ์เดียวกับนักเรียนมนุษย์ในการตรวจคำตอบ

    ปีที่แล้ว AlphaGeometry + AlphaProof ได้แค่ระดับเหรียญเงิน
    ต้องใช้การแปลโจทย์และคำนวณหลายวัน ไม่ใช่แบบ end-to-end

    Gemini Deep Think ทำงานแบบ natural language ทั้งหมด
    ไม่ต้องแปลเป็นภาษาสัญลักษณ์ และให้คำตอบที่ตรวจสอบได้ทันที

    ใช้เทคนิค Parallel Thinking เพื่อคิดหลายแนวทางพร้อมกัน
    เพิ่มความสามารถในการเลือกวิธีแก้ที่ดีที่สุด

    ฝึกด้วย reinforcement learning บนข้อมูลการพิสูจน์และแก้โจทย์หลายขั้นตอน
    ทำให้เข้าใจตรรกะเชิงลึกและการให้เหตุผลแบบมนุษย์

    จะเปิดให้กลุ่มนักคณิตศาสตร์ทดลองใช้ก่อนปล่อยสู่ผู้ใช้ Google AI Ultra
    เพื่อรับฟีดแบ็กและปรับปรุงก่อนใช้งานจริง

    การตรวจคำตอบของ IMO ไม่ได้ประเมินระบบหรือโมเดลเบื้องหลัง
    หมายความว่าแม้คำตอบจะถูก แต่ยังไม่รับรองความน่าเชื่อถือของกระบวนการทั้งหมด

    การใช้ AI ในการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ยังต้องการการตรวจสอบจากมนุษย์
    เพราะบางคำตอบอาจดูถูกต้องแต่ขาดตรรกะหรือหลักฐานที่ชัดเจน

    การฝึกด้วย corpus เฉพาะทางอาจทำให้โมเดลเก่งเฉพาะโจทย์ IMO
    ไม่สามารถสรุปว่า AI เข้าใจคณิตศาสตร์ทั่วไปหรือสามารถสอนคนได้จริง

    การใช้ AI ในการแก้โจทย์อาจทำให้เกิดการพึ่งพาโดยไม่เข้าใจพื้นฐาน
    ต้องมีการออกแบบให้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ตัวแทนความเข้าใจ

    https://deepmind.google/discover/blog/advanced-version-of-gemini-with-deep-think-officially-achieves-gold-medal-standard-at-the-international-mathematical-olympiad/
    🎙️ เรื่องเล่าจากสนามโอลิมปิกคณิตศาสตร์: เมื่อ AI ได้เหรียญทองในสนามมนุษย์ IMO เป็นการแข่งขันคณิตศาสตร์ระดับโลกที่จัดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 1959 โดยแต่ละประเทศส่งนักเรียนมัธยมปลาย 6 คนมาแข่งขันกันในโจทย์ที่ยากมากในสาขา: - พีชคณิต (Algebra) - ทฤษฎีจำนวน (Number Theory) - เรขาคณิต (Geometry) - คอมบิเนอริกส์ (Combinatorics) ปีนี้ Google DeepMind ส่งโมเดล Gemini Deep Think เข้าร่วมในฐานะ AI system ที่ถูกประเมินโดยกรรมการ IMO จริง — และสามารถแก้โจทย์ได้ 5 จาก 6 ข้ออย่างถูกต้อง ได้คะแนนรวม 35 จาก 42 คะแนน ซึ่งเทียบเท่ากับระดับเหรียญทองของมนุษย์ สิ่งที่น่าทึ่งคือ: - ปีที่แล้ว AlphaGeometry + AlphaProof ทำได้แค่ระดับเหรียญเงิน (28 คะแนน) - ต้องใช้การแปลโจทย์เป็นภาษาสัญลักษณ์ (เช่น Lean) และใช้เวลาคำนวณ 2–3 วัน - ปีนี้ Gemini Deep Think ทำงานแบบ end-to-end ด้วยภาษาอังกฤษธรรมดา - ใช้เวลาเท่ากับการแข่งขันจริง (4.5 ชั่วโมง) และให้คำตอบที่ตรวจสอบได้ เบื้องหลังความสำเร็จคือการใช้เทคนิคใหม่ เช่น: - Parallel Thinking: คิดหลายแนวทางพร้อมกันก่อนเลือกคำตอบ - Reinforcement Learning: ฝึกจากข้อมูลการแก้โจทย์หลายขั้นตอน - Corpus คุณภาพสูง: รวมคำแนะนำและตัวอย่างการแก้โจทย์ IMO ✅ Gemini Deep Think ทำคะแนน 35/42 ใน IMO 2025 เทียบเท่าระดับเหรียญทอง ➡️ แก้โจทย์ 5 จาก 6 ข้อได้อย่างถูกต้องภายในเวลาแข่งขันจริง ✅ เป็นครั้งแรกที่ AI ได้รับการประเมินโดยกรรมการ IMO อย่างเป็นทางการ ➡️ ใช้เกณฑ์เดียวกับนักเรียนมนุษย์ในการตรวจคำตอบ ✅ ปีที่แล้ว AlphaGeometry + AlphaProof ได้แค่ระดับเหรียญเงิน ➡️ ต้องใช้การแปลโจทย์และคำนวณหลายวัน ไม่ใช่แบบ end-to-end ✅ Gemini Deep Think ทำงานแบบ natural language ทั้งหมด ➡️ ไม่ต้องแปลเป็นภาษาสัญลักษณ์ และให้คำตอบที่ตรวจสอบได้ทันที ✅ ใช้เทคนิค Parallel Thinking เพื่อคิดหลายแนวทางพร้อมกัน ➡️ เพิ่มความสามารถในการเลือกวิธีแก้ที่ดีที่สุด ✅ ฝึกด้วย reinforcement learning บนข้อมูลการพิสูจน์และแก้โจทย์หลายขั้นตอน ➡️ ทำให้เข้าใจตรรกะเชิงลึกและการให้เหตุผลแบบมนุษย์ ✅ จะเปิดให้กลุ่มนักคณิตศาสตร์ทดลองใช้ก่อนปล่อยสู่ผู้ใช้ Google AI Ultra ➡️ เพื่อรับฟีดแบ็กและปรับปรุงก่อนใช้งานจริง ‼️ การตรวจคำตอบของ IMO ไม่ได้ประเมินระบบหรือโมเดลเบื้องหลัง ⛔ หมายความว่าแม้คำตอบจะถูก แต่ยังไม่รับรองความน่าเชื่อถือของกระบวนการทั้งหมด ‼️ การใช้ AI ในการพิสูจน์ทางคณิตศาสตร์ยังต้องการการตรวจสอบจากมนุษย์ ⛔ เพราะบางคำตอบอาจดูถูกต้องแต่ขาดตรรกะหรือหลักฐานที่ชัดเจน ‼️ การฝึกด้วย corpus เฉพาะทางอาจทำให้โมเดลเก่งเฉพาะโจทย์ IMO ⛔ ไม่สามารถสรุปว่า AI เข้าใจคณิตศาสตร์ทั่วไปหรือสามารถสอนคนได้จริง ‼️ การใช้ AI ในการแก้โจทย์อาจทำให้เกิดการพึ่งพาโดยไม่เข้าใจพื้นฐาน ⛔ ต้องมีการออกแบบให้ AI เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ตัวแทนความเข้าใจ https://deepmind.google/discover/blog/advanced-version-of-gemini-with-deep-think-officially-achieves-gold-medal-standard-at-the-international-mathematical-olympiad/
    DEEPMIND.GOOGLE
    Advanced version of Gemini with Deep Think officially achieves gold-medal standard at the International Mathematical Olympiad
    Our advanced model officially achieved a gold-medal level performance on problems from the International Mathematical Olympiad (IMO), the world’s most prestigious competition for young...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 134 มุมมอง 0 รีวิว
  • 15 อันดับภาษาที่มีคนพูดมากที่สุด

    1. ภาษาอังกฤษ, 1,456 ล้านคน
    2. ภาษาจีนกลาง 1,138 ล้านคน
    3. ภาษาฮินดี, 610 ล้านคน
    4. ภาษาสเปน, 559 ล้านคน
    5. ฝรั่งเศส, 310 ล้านคน
    6. ภาษาอาหรับมาตรฐาน 274 ล้านคน
    7. ภาษาเบงกาลี 273 ล้านคน
    8. โปรตุเกส, 264 ล้านคน
    9. รัสเซีย, 255 ล้าน
    10. อูรดู, 232 ล้านคน
    11. อินโดนีเซีย, 199 ล้านคน
    12. เยอรมัน, 133 ล้านคน
    13. ญี่ปุ่น, 123 ล้านคน
    14. ภาษาพิดจินไนจีเรีย 121 ล้านคน
    15. ภาษาอาหรับอียิปต์, 102 ล้านคน

    เคยสงสัยไหมว่าภาษาใดที่พูดกันมากที่สุดในโลก แม้ว่าปัจจุบันจะมีมากกว่า 7,000 ภาษา แต่ประชากรมากกว่าครึ่งโลกพูดเพียง 23 ภาษาเท่านั้น

    ที่มา: Berlitz Index
    15 อันดับภาษาที่มีคนพูดมากที่สุด 1. 🏴󠁧󠁢󠁥󠁮󠁧󠁿 ภาษาอังกฤษ, 1,456 ล้านคน 2. 🇨🇳 ภาษาจีนกลาง 1,138 ล้านคน 3. 🇮🇳 ภาษาฮินดี, 610 ล้านคน 4. 🇪🇸 ภาษาสเปน, 559 ล้านคน 5. 🇫🇷 ฝรั่งเศส, 310 ล้านคน 6. 🇸🇦 ภาษาอาหรับมาตรฐาน 274 ล้านคน 7. 🇧🇩 ภาษาเบงกาลี 273 ล้านคน 8. 🇵🇹 โปรตุเกส, 264 ล้านคน 9. 🇷🇺 รัสเซีย, 255 ล้าน 10. 🇵🇰 อูรดู, 232 ล้านคน 11. 🇮🇩 อินโดนีเซีย, 199 ล้านคน 12. 🇩🇪 เยอรมัน, 133 ล้านคน 13. 🇯🇵 ญี่ปุ่น, 123 ล้านคน 14. 🌍 ภาษาพิดจินไนจีเรีย 121 ล้านคน 15. 🇪🇬 ภาษาอาหรับอียิปต์, 102 ล้านคน 📌 เคยสงสัยไหมว่าภาษาใดที่พูดกันมากที่สุดในโลก แม้ว่าปัจจุบันจะมีมากกว่า 7,000 ภาษา แต่ประชากรมากกว่าครึ่งโลกพูดเพียง 23 ภาษาเท่านั้น ที่มา: Berlitz Index
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากออฟฟิศแห่งอนาคต: เมื่อทุกงานกลายเป็นเรื่องของ AI

    Yahoo Japan ซึ่งบริหาร LINE ด้วยเช่นกัน ได้เริ่มใช้ internal tool ชื่อว่า SeekAI ซึ่งเป็นระบบ AI ช่วยจัดการหลายเรื่องที่กินเวลางาน เช่น:
    - สรุปบันทึกการประชุม
    - เขียนและตรวจแก้รายงาน
    - จัดการคำขอคืนค่าใช้จ่าย
    - ค้นข้อมูลคู่แข่งหรือแนวโน้มทางธุรกิจ

    โดยในระยะแรกบริษัทตั้งเป้า “อัตโนมัติ 30% ของงานที่กินเวลามากที่สุด” เช่นการพิมพ์เอกสาร หาข้อมูล และเขียนอีเมล — เพื่อเปลี่ยนเวลาเหล่านั้นให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และการสื่อสารแบบมนุษย์

    สิ่งที่ Yahoo Japan ย้ำคือ “AI เป็นเลเยอร์ช่วยงาน ไม่ใช่ตัวแทนมนุษย์” — ต่างจากบางองค์กรที่ใช้ AI เพื่อทดแทนคนแล้วมักเจอปัญหา เช่นบริษัทในอังกฤษหลายแห่งที่ “เสียใจหลังจากใช้ AI แทนแรงงานจริง” เพราะงานบางประเภทต้องอาศัยบริบท, ความเข้าใจ, และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่ง AI ยังทำไม่ได้ดีพอ

    Yahoo Japan ใช้ Generative AI กับพนักงานกว่า 11,000 คนแบบ "ทุกคนต้องใช้"
    ตั้งเป้าเพิ่ม productivity ขึ้น 2 เท่า ภายในปี 2028

    เริ่มจากอัตโนมัติงานพื้นฐาน 30% เช่น drafting, meeting notes, research
    เพื่อให้คนมีเวลาสำหรับตัดสินใจและคิดเชิงกลยุทธ์มากขึ้น

    ใช้ SeekAI เป็นเครื่องมือหลักภายในองค์กรสำหรับจัดการงานเอกสารและข้อมูล
    เช่นสรุปรายงาน, proofread, ค้นหาข้อมูลจาก template prompt

    AI ถูกใช้ในงาน competitive research และ expense management ด้วย
    ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสาร แต่ครอบคลุมทุกส่วนที่ใช้เวลาเยอะ

    แนวทางนี้มองว่า AI คือ support layer สำหรับงานมนุษย์ ไม่ใช่ตัวแทน
    เป้าหมายคือความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพ ไม่ใช่ลดต้นทุนโดยตรง

    อ้างอิงจากรายงานของ Orgvue: บริษัทอังกฤษที่ใช้ AI แทนคนกว่า “ครึ่งหนึ่งเสียใจ” ภายหลัง
    แสดงว่าแนวคิดแทนคนโดยตรงอาจไม่เวิร์กในระยะยาว

    การบังคับใช้ AI กับพนักงานทุกคนต้องมีการฝึกและวางระบบความเข้าใจอย่างดี
    หากพนักงานรู้สึกว่าใช้ AI แทนตนเอง อาจเกิดความต้านทานและลด morale

    งานบางอย่างยังต้องใช้ “ความเข้าใจมนุษย์” เช่นการตัดสินใจเชิงบริบท หรือการสื่อสารแบบเห็นอกเห็นใจ
    หากใช้ AI เกินไปในงานเหล่านี้ อาจทำให้คุณภาพและความสัมพันธ์ในองค์กรลดลง

    การผลักดัน productivity โดยใช้ AI อาจไม่สำเร็จ หากไม่มีการประเมิน impact เชิงคุณภาพควบคู่
    เพราะ productivity สูงขึ้นไม่เท่ากับความคิดสร้างสรรค์หรือสุขภาพองค์กรดีขึ้น

    ความสำเร็จขึ้นกับ “การนำ AI มาใช้ให้เหมาะ” มากกว่า “ใช้ให้ครบทุกคนทุกงาน”
    ถ้าขาดความยืดหยุ่นและเลือกใช้แบบ blanket policy อาจกลายเป็นข้อจำกัดแทนที่จะเป็นนวัตกรรม

    https://www.techradar.com/pro/yahoo-japan-wants-all-its-11-000-employees-to-use-gen-ai-to-double-their-productivity-by-2028-is-it-a-sign-of-things-to-come
    🎙️ เรื่องเล่าจากออฟฟิศแห่งอนาคต: เมื่อทุกงานกลายเป็นเรื่องของ AI Yahoo Japan ซึ่งบริหาร LINE ด้วยเช่นกัน ได้เริ่มใช้ internal tool ชื่อว่า SeekAI ซึ่งเป็นระบบ AI ช่วยจัดการหลายเรื่องที่กินเวลางาน เช่น: - สรุปบันทึกการประชุม - เขียนและตรวจแก้รายงาน - จัดการคำขอคืนค่าใช้จ่าย - ค้นข้อมูลคู่แข่งหรือแนวโน้มทางธุรกิจ โดยในระยะแรกบริษัทตั้งเป้า “อัตโนมัติ 30% ของงานที่กินเวลามากที่สุด” เช่นการพิมพ์เอกสาร หาข้อมูล และเขียนอีเมล — เพื่อเปลี่ยนเวลาเหล่านั้นให้กลายเป็นพื้นที่สำหรับการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์และการสื่อสารแบบมนุษย์ สิ่งที่ Yahoo Japan ย้ำคือ “AI เป็นเลเยอร์ช่วยงาน ไม่ใช่ตัวแทนมนุษย์” — ต่างจากบางองค์กรที่ใช้ AI เพื่อทดแทนคนแล้วมักเจอปัญหา เช่นบริษัทในอังกฤษหลายแห่งที่ “เสียใจหลังจากใช้ AI แทนแรงงานจริง” เพราะงานบางประเภทต้องอาศัยบริบท, ความเข้าใจ, และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่ง AI ยังทำไม่ได้ดีพอ ✅ Yahoo Japan ใช้ Generative AI กับพนักงานกว่า 11,000 คนแบบ "ทุกคนต้องใช้" ➡️ ตั้งเป้าเพิ่ม productivity ขึ้น 2 เท่า ภายในปี 2028 ✅ เริ่มจากอัตโนมัติงานพื้นฐาน 30% เช่น drafting, meeting notes, research ➡️ เพื่อให้คนมีเวลาสำหรับตัดสินใจและคิดเชิงกลยุทธ์มากขึ้น ✅ ใช้ SeekAI เป็นเครื่องมือหลักภายในองค์กรสำหรับจัดการงานเอกสารและข้อมูล ➡️ เช่นสรุปรายงาน, proofread, ค้นหาข้อมูลจาก template prompt ✅ AI ถูกใช้ในงาน competitive research และ expense management ด้วย ➡️ ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสาร แต่ครอบคลุมทุกส่วนที่ใช้เวลาเยอะ ✅ แนวทางนี้มองว่า AI คือ support layer สำหรับงานมนุษย์ ไม่ใช่ตัวแทน ➡️ เป้าหมายคือความคิดสร้างสรรค์และประสิทธิภาพ ไม่ใช่ลดต้นทุนโดยตรง ✅ อ้างอิงจากรายงานของ Orgvue: บริษัทอังกฤษที่ใช้ AI แทนคนกว่า “ครึ่งหนึ่งเสียใจ” ภายหลัง ➡️ แสดงว่าแนวคิดแทนคนโดยตรงอาจไม่เวิร์กในระยะยาว ‼️ การบังคับใช้ AI กับพนักงานทุกคนต้องมีการฝึกและวางระบบความเข้าใจอย่างดี ⛔ หากพนักงานรู้สึกว่าใช้ AI แทนตนเอง อาจเกิดความต้านทานและลด morale ‼️ งานบางอย่างยังต้องใช้ “ความเข้าใจมนุษย์” เช่นการตัดสินใจเชิงบริบท หรือการสื่อสารแบบเห็นอกเห็นใจ ⛔ หากใช้ AI เกินไปในงานเหล่านี้ อาจทำให้คุณภาพและความสัมพันธ์ในองค์กรลดลง ‼️ การผลักดัน productivity โดยใช้ AI อาจไม่สำเร็จ หากไม่มีการประเมิน impact เชิงคุณภาพควบคู่ ⛔ เพราะ productivity สูงขึ้นไม่เท่ากับความคิดสร้างสรรค์หรือสุขภาพองค์กรดีขึ้น ‼️ ความสำเร็จขึ้นกับ “การนำ AI มาใช้ให้เหมาะ” มากกว่า “ใช้ให้ครบทุกคนทุกงาน” ⛔ ถ้าขาดความยืดหยุ่นและเลือกใช้แบบ blanket policy อาจกลายเป็นข้อจำกัดแทนที่จะเป็นนวัตกรรม https://www.techradar.com/pro/yahoo-japan-wants-all-its-11-000-employees-to-use-gen-ai-to-double-their-productivity-by-2028-is-it-a-sign-of-things-to-come
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 175 มุมมอง 0 รีวิว
  • เยอรมนี นอร์เวย์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน อังกฤษ แคนาดา และฟินแลนด์ ตกลงตามแผนของทรัมป์ในการจัดหาอาวุธให้กับยูเครน

    -Wall Street Journal รายงาน
    เยอรมนี นอร์เวย์ เดนมาร์ก เนเธอร์แลนด์ สวีเดน อังกฤษ แคนาดา และฟินแลนด์ ตกลงตามแผนของทรัมป์ในการจัดหาอาวุธให้กับยูเครน -Wall Street Journal รายงาน
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 147 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=noQmsLbKTo4
    แนวข้อสอบภาษาอังกฤษเข้ารับราชการ ก.พ. ชุดที่ 18
    #สอบเข้ารับราชการ #ข้อสอบภาษาอังกฤษ #ข้อสอบเก่า
    https://www.youtube.com/watch?v=noQmsLbKTo4 แนวข้อสอบภาษาอังกฤษเข้ารับราชการ ก.พ. ชุดที่ 18 #สอบเข้ารับราชการ #ข้อสอบภาษาอังกฤษ #ข้อสอบเก่า
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 78 มุมมอง 0 รีวิว
  • https://www.youtube.com/watch?v=jOUMseNUm4M
    เกมทายภาพสัตว์เลี้ยงสำหรับเด็ก โดยจะมีรูปสัตว์เลี้ยง 10 รูปให้ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
    #เกมภาษาอังกฤษ #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #สัตว์เลี้ยง
    https://www.youtube.com/watch?v=jOUMseNUm4M เกมทายภาพสัตว์เลี้ยงสำหรับเด็ก โดยจะมีรูปสัตว์เลี้ยง 10 รูปให้ทายคำศัพท์ภาษาอังกฤษ #เกมภาษาอังกฤษ #ภาษาอังกฤษสำหรับเด็ก #สัตว์เลี้ยง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 96 มุมมอง 0 รีวิว
  • แฟนแมนยู จะดีใจเรื่องนี้ไหมครับ 19/07/68 #แฟนแมนยู #แชมป์กองเชียร์ #สถิติแฟนบอล #รัฐบาลอังกฤษ #ปิศาจแดง
    แฟนแมนยู จะดีใจเรื่องนี้ไหมครับ 19/07/68 #แฟนแมนยู #แชมป์กองเชียร์ #สถิติแฟนบอล #รัฐบาลอังกฤษ #ปิศาจแดง
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน
    ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด
    เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน

    โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============


    อ.สนธิ ครับ “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่” ต้องสร้างให้สมบูรณ์ ซึ่งจำเป็นให้มี เพื่อเป็นภาพให้ภาคประชาชนเรามุ่งก้าวเดิน เพื่อเดินเป็นเอกภาพกัน ซึ่ง “โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2” นี้ มันเป็นร่างขั้นต้นเท่านั้น ดังนั้น ต้องช่วยกันพัฒนาร่างใหม่ให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะมันจะเป็นแม่บทให้ก้าวเดินเอกภาพกัน เพื่อเป็นแม่บทแด่”พรรคการเมืองใหม่”ก้าวเดิน โครงสร้าง สังคมยุคใหม่ ภาค 1.2 .. ศุกร์ 18-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 369 มุมมอง 0 รีวิว
  • เรื่องเล่าจากโลกความรู้สึก: เมื่อ AI ยังไม่เข้าใจอารมณ์แบบอังกฤษ

    แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานธุรการ เช่น การติดตามพัสดุหรือการจองบริการต่าง ๆ ได้ดี แต่เมื่อพูดถึงการสื่อสารที่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การแจ้งข่าวร้าย หรือการปิดบัญชีหลังการสูญเสีย AI กลับยังไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม

    ผลสำรวจจาก ServiceNow พบว่า:
    - 69% ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรเชื่อว่า AI ไม่เข้าใจน้ำเสียงทางอารมณ์
    - 68% ระบุว่า AI ยังไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
    - มีเพียง 3% เท่านั้นที่ไว้วางใจให้ AI จัดการงานที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์

    แม้ผู้บริโภคจะไม่ชอบการรอคิวนาน (59%) หรือการต้องพูดซ้ำหลายครั้ง (46%) กับเจ้าหน้าที่มนุษย์ แต่พวกเขายังเลือกที่จะพูดคุยกับคนจริง ๆ มากกว่า AI เพราะรู้สึกว่า “เข้าใจ” มากกว่า

    ServiceNow จึงเสนอว่า AI ควรพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้มากขึ้น แทนที่จะพยายามแทนที่ทั้งหมด โดยเฉพาะในงานบริการลูกค้าที่ต้องการความเข้าใจและความเห็นใจ

    69% ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรเชื่อว่า AI ไม่เข้าใจอารมณ์
    โดยเฉพาะน้ำเสียง ความหงุดหงิด หรือความเศร้า

    68% ระบุว่า AI ยังไม่ตอบสนองความคาดหวังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา
    แม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

    มีเพียง 3% ที่ไว้วางใจให้ AI จัดการงานที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์
    เช่น การปิดบัญชีธนาคารหลังการเสียชีวิต

    ผู้บริโภคยังชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มนุษย์มากกว่า AI
    แม้จะต้องรอคิวนานหรือพูดซ้ำหลายครั้ง

    ServiceNow เสนอให้พัฒนา AI เพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์
    ไม่ใช่แทนที่ทั้งหมด โดยเน้นความร่วมมือและความเข้าใจ

    AI ยังมีประโยชน์ในงานธุรการ เช่น การติดตามพัสดุหรือจองบริการ
    เพราะไม่ต้องใช้การตีความอารมณ์

    การใช้ AI ในงานบริการลูกค้าที่มีอารมณ์เกี่ยวข้องอาจสร้างความไม่พอใจ
    โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้รู้สึกว่า “ไม่ได้รับการเข้าใจ”

    ความไว้วางใจต่อ AI ยังต่ำมากในสหราชอาณาจักร
    อาจส่งผลต่อการนำ AI ไปใช้ในองค์กรหรือบริการสาธารณะ

    การพัฒนา AI ที่เข้าใจอารมณ์ยังเป็นความท้าทายทางเทคโนโลยี
    ต้องใช้ข้อมูลหลากหลายและการฝึกโมเดลที่ซับซ้อน

    หากองค์กรพึ่งพา AI มากเกินไป อาจสูญเสียความสัมพันธ์กับลูกค้า
    โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังต้องการการสื่อสารแบบมนุษย์

    https://www.techradar.com/pro/ai-doesnt-understand-british-emotional-tone-and-its-turning-customers-off-the-technology
    🎙️ เรื่องเล่าจากโลกความรู้สึก: เมื่อ AI ยังไม่เข้าใจอารมณ์แบบอังกฤษ แม้ AI จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในงานธุรการ เช่น การติดตามพัสดุหรือการจองบริการต่าง ๆ ได้ดี แต่เมื่อพูดถึงการสื่อสารที่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง เช่น การแจ้งข่าวร้าย หรือการปิดบัญชีหลังการสูญเสีย AI กลับยังไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเหมาะสม ผลสำรวจจาก ServiceNow พบว่า: - 69% ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรเชื่อว่า AI ไม่เข้าใจน้ำเสียงทางอารมณ์ - 68% ระบุว่า AI ยังไม่สามารถตอบสนองความคาดหวังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา - มีเพียง 3% เท่านั้นที่ไว้วางใจให้ AI จัดการงานที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ แม้ผู้บริโภคจะไม่ชอบการรอคิวนาน (59%) หรือการต้องพูดซ้ำหลายครั้ง (46%) กับเจ้าหน้าที่มนุษย์ แต่พวกเขายังเลือกที่จะพูดคุยกับคนจริง ๆ มากกว่า AI เพราะรู้สึกว่า “เข้าใจ” มากกว่า ServiceNow จึงเสนอว่า AI ควรพัฒนาให้สามารถทำงานร่วมกับมนุษย์ได้มากขึ้น แทนที่จะพยายามแทนที่ทั้งหมด โดยเฉพาะในงานบริการลูกค้าที่ต้องการความเข้าใจและความเห็นใจ ✅ 69% ของผู้บริโภคในสหราชอาณาจักรเชื่อว่า AI ไม่เข้าใจอารมณ์ ➡️ โดยเฉพาะน้ำเสียง ความหงุดหงิด หรือความเศร้า ✅ 68% ระบุว่า AI ยังไม่ตอบสนองความคาดหวังในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ➡️ แม้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ✅ มีเพียง 3% ที่ไว้วางใจให้ AI จัดการงานที่มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ ➡️ เช่น การปิดบัญชีธนาคารหลังการเสียชีวิต ✅ ผู้บริโภคยังชอบพูดคุยกับเจ้าหน้าที่มนุษย์มากกว่า AI ➡️ แม้จะต้องรอคิวนานหรือพูดซ้ำหลายครั้ง ✅ ServiceNow เสนอให้พัฒนา AI เพื่อทำงานร่วมกับมนุษย์ ➡️ ไม่ใช่แทนที่ทั้งหมด โดยเน้นความร่วมมือและความเข้าใจ ✅ AI ยังมีประโยชน์ในงานธุรการ เช่น การติดตามพัสดุหรือจองบริการ ➡️ เพราะไม่ต้องใช้การตีความอารมณ์ ‼️ การใช้ AI ในงานบริการลูกค้าที่มีอารมณ์เกี่ยวข้องอาจสร้างความไม่พอใจ ⛔ โดยเฉพาะเมื่อผู้ใช้รู้สึกว่า “ไม่ได้รับการเข้าใจ” ‼️ ความไว้วางใจต่อ AI ยังต่ำมากในสหราชอาณาจักร ⛔ อาจส่งผลต่อการนำ AI ไปใช้ในองค์กรหรือบริการสาธารณะ ‼️ การพัฒนา AI ที่เข้าใจอารมณ์ยังเป็นความท้าทายทางเทคโนโลยี ⛔ ต้องใช้ข้อมูลหลากหลายและการฝึกโมเดลที่ซับซ้อน ‼️ หากองค์กรพึ่งพา AI มากเกินไป อาจสูญเสียความสัมพันธ์กับลูกค้า ⛔ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ยังต้องการการสื่อสารแบบมนุษย์ https://www.techradar.com/pro/ai-doesnt-understand-british-emotional-tone-and-its-turning-customers-off-the-technology
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • ⚽️ รวมบัตร 2 แมตซ์ - รวมวีซ่า⚽️
    โปรแกรมใหม่! เดือดคูณสอง! เชียร์ "ลิเวอร์พูล" สด ๆ ที่แอนฟิลด์ 2 เกมติดมันส์ยันเค้าท์ดาวน์...ฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีที่ลิเวอร์พูล รวมทุกอย่างไม่ต้องจ่ายเพิ่ม!

    LIVERPOOL Red Dreams Tour 8D6N ทัวร์ดูบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยอร์ค ลีดส์ นิวคาสเซิล ราคาเพียง 199,000 บาท บินฟูลเซอร์วิส ฟรี!น้ำหนักกระเป๋า 23 ก.ก.

    Air France เดินทางวันที่
    26 ธ.ค.68 - 02 ม.ค.69 ราคา 199,000.- รับได้ 20 ที่ (วันปีใหม่)

    ⚽️ เชียร์หงส์แดงสัมผัสบรรยากาศแห่งแอนฟิลด์ 2 แมตช์ติด!! ( Liverpool v Wolve และ Liverpool v Leeds ) รวมตั๋วเข้าชม 2 แมตช์!
    ⚽️ ฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีตามอัธยาศัยในเมืองลิเวอร์พูล
    ⚽️ ทัวร์สนาม ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด
    ⚽️ แวะชมสนาม แมนฯ ซิตี้ - เอฟเวอร์ตัน - ลีดส์ - นิวคาสเซิล
    ⚽️ ชมสตรีทอาร์ตย่านแอนฟิลด์
    ⚽️ ซิตี้ทัวร์แมนเชสเตอร์
    ⚽️ พักดี 4 ดาวทุกคืน
    ⚽️ รวมทุกอย่างไม่ต้องจ่ายเพิ่ม!
    ⚽️ YOU'LL NEVER TRAVEL ALONE

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/e277a0

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ⚽️ ✔️รวมบัตร 2 แมตซ์ - ✔️รวมวีซ่า⚽️ 📣 โปรแกรมใหม่! เดือดคูณสอง! เชียร์ "ลิเวอร์พูล" สด ๆ ที่แอนฟิลด์ 2 เกมติด‼️มันส์ยันเค้าท์ดาวน์...ฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีที่ลิเวอร์พูล รวมทุกอย่างไม่ต้องจ่ายเพิ่ม! 🏆 LIVERPOOL Red Dreams Tour 8D6N ทัวร์ดูบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูล แมนเชสเตอร์ ยอร์ค ลีดส์ นิวคาสเซิล 💸 ราคาเพียง 199,000 บาท บินฟูลเซอร์วิส ฟรี!น้ำหนักกระเป๋า 23 ก.ก. ✈️ Air France เดินทางวันที่ 📅 26 ธ.ค.68 - 02 ม.ค.69 ราคา 199,000.- รับได้ 20 ที่ (วันปีใหม่) ⚽️ เชียร์หงส์แดงสัมผัสบรรยากาศแห่งแอนฟิลด์ 2 แมตช์ติด!! ( Liverpool v Wolve และ Liverpool v Leeds ) รวมตั๋วเข้าชม 2 แมตช์! ⚽️ ฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีตามอัธยาศัยในเมืองลิเวอร์พูล ⚽️ ทัวร์สนาม ลิเวอร์พูล - แมนฯ ยูไนเต็ด ⚽️ แวะชมสนาม แมนฯ ซิตี้ - เอฟเวอร์ตัน - ลีดส์ - นิวคาสเซิล ⚽️ ชมสตรีทอาร์ตย่านแอนฟิลด์ ⚽️ ซิตี้ทัวร์แมนเชสเตอร์ ⚽️ พักดี 4 ดาวทุกคืน ⚽️ รวมทุกอย่างไม่ต้องจ่ายเพิ่ม! ⚽️ YOU'LL NEVER TRAVEL ALONE ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/e277a0 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 214 มุมมอง 0 รีวิว
  • โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า
    A======================== =============

    โครงสร้างสังคมยุคใหม่ ภาค 1.1 .. 16-7-68 E:\ 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิง “อำนาจครองเมือง” เพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของ ระบบแข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง เพื่อชิง “อำนาจครองเมือง” แห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่า “สส.อดัม สมิธ” ครองเมืองอีกต่อไป 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดผนวกระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิก “ธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง” การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ รพ.เอกชน 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ไกล ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎระเบียบ จัดวางระเบียบ. บริหารการปฏิบัติในระบบ-ระเบียบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย (บุคลากรทั้วไป)ปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบใช้แรงแต่ไม่ถนัดใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบในส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขาอยู่แล้ว นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขาในชีวิตประจำวัน ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน หาแววที่มีคุณภาพด้วยการจองตัวนักศึกษากับทางมหาวิทยาลัย เลือกนักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งานของเขา 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ก็ต้องรู้จักคัดเลือกแววตามลักษณะพิเศษของเขาให้ตรงตำแหน่งหน้าที่งาน ในตำแหน่งหน้าที่สำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำ(วิสัยทัศณ์ไกล คิดการล่วงหน้า)ขององค์กร กับแวว-ผู้บริหารขององค์กร (คุมกฎระเบียบวินัยเคร่งครัด) บริหารให้บรรลุข้อกำหนดและเป้าหมายที่วางเอาไว้ -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ยอมรับว่า ตัวเขาความจำไม่ดีนัก แต่อาศัยความทรหดกับความมีจินตนาการในการค้นคว้า A======================== =============
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 340 มุมมอง 0 รีวิว
  • การปิดชายแดน อันมีต้นตอจากความขัดแย้งด้านเขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ได้นำมาสู่การระงับค้าขายสินค้าจำนวนมากระหว่าง 2 ชาติ และล่าสุดสำนักข่าวคิริโพสต์ สื่อมวลชนเขมรภาคภาษาอังกฤษ รายงานว่าร้านอาหาร ร้านกาแฟและธุรกิจอื่นๆในกัมพูชา กำลังเผชิญกับวิกฤตอุปทานนม หลังจากสินค้าเริ่มขาดตลาด
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000066344

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    การปิดชายแดน อันมีต้นตอจากความขัดแย้งด้านเขตแดนระหว่างกัมพูชาและไทย ได้นำมาสู่การระงับค้าขายสินค้าจำนวนมากระหว่าง 2 ชาติ และล่าสุดสำนักข่าวคิริโพสต์ สื่อมวลชนเขมรภาคภาษาอังกฤษ รายงานว่าร้านอาหาร ร้านกาแฟและธุรกิจอื่นๆในกัมพูชา กำลังเผชิญกับวิกฤตอุปทานนม หลังจากสินค้าเริ่มขาดตลาด . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000066344 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes
    Haha
    Like
    Love
    4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 940 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาค1 ส 12-7-68 ..
    E:\- m1 ภาค ส่ง
    1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม
    2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก
    3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้!
    4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม
    5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา
    6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม
    - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา
    • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว
    • ขจัดความยากจนของประเทศ
    • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด
    - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย
    กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว
    การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้
    ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ
    7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม
    8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์
    9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม
    # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4
    -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี
    -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ
    # ยกเลิกระบบลูกจ้าง
    -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล
    ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ)
    -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน
    9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด
    9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ
    ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด
    ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก"
    ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม
    9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน
    9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร
    -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ
    -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่
    -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต
    -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ
    9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :-
    9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้
    • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ
    • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ
    • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา
    • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ!
    9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์
    จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน

    ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง

    ภาค1 ส 12-7-68 .. E:\- m1 ภาค ส่ง 1.ยุคนี้ เป็นยุคสส.(อดัม สมิธ)ที่ภาครัฐต้องเอื้ออำนวยบทบาทเอกชนเหล่าสส.เล่นได้เต็มที่ก็จะเกิดความมั่งคั่งตามทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิตซึ่งเป็นผลดีต่อตลาดแข่งขันเสรีโดยรวมแห่งระบบเลือกตั้งสังคมทุนนิยม 2.เมื่อโลกใบนี้(รวมทั้งไทย)ที่สส.ฐานะเป็นเอกชนซึ่งมีความโลภมีบทบาทแข่งกันเข้ากอบโกยสร้างรวยแก่ตนได้ อันเป็นความชอบธรรมทางทฤษฎีเศรษฐศาสตร์อดัมสมิธ สส.จึงลงทุนซื้อเสียงเลือกตั้งชิงอำนาจครองเมืองเพื่อความได้เปรียบคู่แข่งต่อการกอบโกยอันเป็นลักษณะทั่วไปของระบบ “แข่งขันเข้าคูหาเลือกตั้ง” เพื่อชิงอำนาจครองเมืองแห่งทุนเสรีในยุคปัจจุบัน -นับแต่นี้ไป ต้องไม่เอื้อเหล่าสส.อดัม สมิธ ครองเมืองอีก 3.ประเทศไทยต้องสร้าง “การเมืองใหม่” ขึ้นมาให้ได้! 4.ธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ทั้งลม-ฟ้า-อากาศ และผืนดิน ธรรมชาติจึงสร้างมนุษย์ให้พึ่งพากันโดยมีแวว “ทักษะและความชอบ” แตกต่างกันไปเชิงสังคม 5.โครงสร้างสังคมหลักเศรษฐศาสตร์ใหม่ของเรา อิงวิถีธรรมชาติที่ให้เรามา 6.อนึ่ง ประเทศจีนปฏิวัติสังคมประเทศไปก่อนแล้ว โดยนำระบบการตลาดควบระบบสังคมนิยม - ด้านผลสำเร็จ คือทิศทางเราควรศึกษาจากเขา • จีนทุ่มงานวิจัยr&dเยอะจึงพัฒนาไปเร็ว • ขจัดความยากจนของประเทศ • ปราบคอร์รัปชั่นเฉียบขาด - ส่วนด้านจุดอ่อนนั้น เราก็อย่าให้เกิดซ้ำรอยที่เราอีก ในกรณี “อาชีพเก็งกำไร” เช่น ธุรกิจอสังหาฯ ธุรกิจธนาคารเอกชน ธุรกิจสอนพิเศษ ตลาดหลักทรัพย์ จะต้องไม่ให้เกิดที่ไทย กรณีบทเรียนจีนอุดหนุนเอกชนผลิตรถอีวี แข่งขันกันพากันเจ๊ง กรณีจีนอุดหนุนส่งเสริมผลิตสินค้าผลิตให้มากเพื่อได้ต้นทุนต่ำ ผลิตล้นขายทั้งในและนอกประเทศเดือดร้อนไปทั่ว การศึกษาแข่งขันกันสูง ค่าเล่าเรียนจึงสูงมาก จบออกมาก็ยังหางานทำไม่ได้ ค่าบ้าน ค่าเรียน จึงเป็นภาระหนักของประชาชน จึงเป็นเหตุให้ไม่อยากแต่งงาน แต่งงานก็ไม่อยากมีลูก เป็นเหตุให้จีนคนสูงวัยเยอะ แต่ขาดวัยแรงงานพัฒนาประเทศ 7.ประเทศไทย ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน คือด้านพลังงาน ต้องเป็นรัฐวิสาหกิจทั้งหมด (การกลั่นน้ำมัน ขายปลีกปั๋มน้ำมัน ไปจนถึงพลังงานทดแทน เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศและประชาชน ควบคู่ไปกับการดูแลสิ่งแวดล้อมและสังคม 8. ยกเลิกธุรกิจเก็งกำไรทั้งปวง การธนาคารต้องเป็นรัฐ วิสาหกิจ(ยกเลิกการธนาคารเอกชน) รวมถึง อสังหาริมทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์ 9] ปลดโซ่ตรวนทุนเสรีทั้งปวง สร้างกำลังซื้อประชาชน การเงินจะได้สะพัดในระบบเศรษฐกิจสังคม # ต้องลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ลดภาระปัจจัย4 -บ้าน/อาคาร ที่พักอาศัย ที่ทำกิน-ที่ค้าขายต้องอยู่ฟรี -เครื่องมือ-อุปกรณ์การทำอาชีพต้องสนองให้และฟรี และมีการพัฒนาและเสริมให้ใหม่อยู่เสมอ # ยกเลิกระบบลูกจ้าง -ทุกอาชีพที่ต้องใช้คนช่วย ตั้งบริษัท เป็นนิติบุคคล ตั้งเป็นบริษัทพัฒนา (ตามสมัครใจ) -“บริษัฒนา” ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน 9.1]ด้วยธรรมชาติโลกใบนี้ “ปั่นป่วน” ยิ่งนัก ธรรมชาติจึงให้ “แวว” มนุษย์แตกต่างกันเกื้อกูลกันเชิงสังคม ภาครัฐต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูเด็กๆ ตั้งแต่ย่างเข้าสู่วัย “เตรียมอนุบาล” เพื่อพัฒนาการ “แวว” ของเด็กแต่ละคนให้ตรงจุด 9.1.1] “เตรียมอนุบาล”เป็นวัยเริ่มต้นของชีวิต เป็นวัยที่เริ่มแสดงออกถึงแววไปทางใด เช่น (ลักษณะผู้นำ) : คิดการไกล-มีวิสัยทัศน์ ช่างคิด คิดต่างเสมอ (ลักษณะผู้บริหาร) :อิงระบบ คุมกฎ ชอบจัด-วางระเบียบ. บุคลากรปฏิบัติตามกฎระเบียบและคำสั่ง บุคลากรที่ชอบออกแรงแบบใช้สมอง บุคลากรที่ชอบออกแรงแต่ไม่ชอบใช้สมอง ฯ ภาครัฐก็จะได้ส่งเสริมทิศทางแววได้ถูกจุด และเจ้าตัวก็จะได้รับรู้แววของตัวเองไปทางใด ดังคำพังเพยที่ว่า"ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก" ไม่จำเป็นต้องดัดอะไรอีกเลย เพียงทราบทิศทางแววไปทางไหนก็พัฒนาการไปทางนั้น นั่นคือจะเกิดความชื่นชอบส่วนลึกทางจิตใจโดยวิถีธรรมชาติของเขา นั่นความสุขใจในการปฏิบัติงานของเขา ก็จะได้ทรัพยากรบุคคที่มีคุณภาพให้แก่สังคม 9.1.2] ภาคเอกชน ก็รู้จักใช้คน ด้วยการจองตัวนักศึกษากับมหาวิทยาลัย นักศึกษาที่ “แววดี” คะแนนดี มีผลงาน เอาไว้ใช้งาน 9.1.3] ภาครัฐก็เช่นกัน ควรวางตัวบุคคลากรในหน่วยงานตามลัษณะพิเศษของแวว ในตำแหน่งสำคัญๆ คือ แวว-ผู้นำองค์กร แวว-ผู้บริหารองค์กร -เช่น ภาครั.ฐวิสาหกิจ และหน่วยงานราชการ -มิเช่นนั้น กิจการรั.ฐวิสาหกิจก็จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ -คำกล่าวขานกันว่า ถ้าเป็นกิจการของรัฐมักไม่โต -อีกประการหนึ่ง กิจการของภาครัฐ มักถูกนักการเมืองเข้าบอนไซ ทำให้ง่อยเปลี้ยแล้วเข้าฮุบกิจการ 9.2]ยังมีแววลักษณะพิเศษอื่นๆ เช่น :- 9.2.1]เรียนไม่เก่งก็สร้างความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ • อย่าง “แจ็คหม่า” เรียนไม่เก่ง ซ้ำชั้นบ่อยแม้ภาษาอังกฤษก็เรียนไม่ผ่าน ไปสมัครงานที่ไหนๆก็ไม่มีใครรับกัน KFCเขาก็ไม่รับ • แจ็คหม่ามีแววช่างคิด(เจ้าปัญญา)เขาเชื่อใจตัวเองว่า:เขาสามารถเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ ฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองได้ เขาปั่นจักรยานร่วมชั่วโมงไปในเมืองเป็นไกด์ จากที่เริ่มต้นพูดงูๆปลาๆจนพูดได้ดี ก็ไปเรียนต่อภาษาอังกฤษจนจบได้เป็นครูสอนภาษาอังกฤษได้สมใจ • แจ็กหม่าเริ่มรู้จักอินเตอร์เน็ทตอนทำธุรกิจการแปลภาษา กับตอนที่เป็นล่ามที่อเมริกา • แจ็คหม่าข้องใจว่า ในอีเตอร์เน็ทต่างประเทศลงสินค้าจีนแต่ไม่มีตัวแทนจีนเอาไปลงเลย สินค้าจีนบางตัวก็ไม่มีลง ก็ทำให้แจ็คหม่ามีแรงบันดาลใจ กลับจีนจะไปผลักดันเรื่องนี้ พอกลับก็ไปผลักดันจนในที่สุดก็สร้าง “เว็บไซต์ E-commerce อาลีบาบา”ขึ้นมา เป็นตลาดซื้อขายระดับต่างๆ ผลให้แจ็กหม่าในปี 2018 มีทรัพย์สินราว ๆ 1.2 ล้านล้านบาท กลายเป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 20 ของโลกในที่สุด – จากเด็กยากจนและเรียนไม่เก่ง แต่มีแววช่างคิดวิสัยทัศน์ไกลผลให้เติบโตสุดๆ! 9.2.2]คำวลี "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้" นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ จินตนาการหมายถึง การคิดสร้างภาพในจิตใจหรือพลังของจิตที่สร้างภาพขันใหม่ภายในใจ ให้น่าพอใจกว่า สวยกว่า เป็นระเบียบกว่าหรือร้ายกาจกว่าสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติทั่วไป จินตนาการทำให้เกิดภาพขึ้นในสำนึกเรียกว่า “จินตภาพ” จินตภาพเหล่านี้เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ได้นับสะสมอยู่ภายใน ปล.ภาค1 ยังไม่จบ ต่อภาค2 ก่อน เกี่ยวกับตั้งพรรคการเมือง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 398 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้เราคุยกันเรื่องวัฒนธรรมแต่งงานอีกแบบ ที่มาคือชื่อภาษาจีนของละครและนิยายจีนเรื่อง “จุ้ยซวี่” (赘婿 ชื่อละครภาษาไทยแปลตามชื่อภาษาอังกฤษว่า <สามีข้าคือฮีโร่>)

    ขอเริ่มเรื่องจากบทสนทนาจากในละครของเจ้าบ่าวหนิงอี้กับพ่อบ้านแห่งสกุลซู เพื่อให้เห็นภาพ
    ...หนิงอี้: “นี่คืออันใด?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “นี้คือเกี้ยวเจ้าสาว”
    หนิงอี้: “ของคุณหนู?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “ของท่าน”
    หนิงอี้: “เพราะเหตุใด?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “เพราะท่านเป็นจุ้ยซวี่”
    หนิงอี้: “เป็นจุ้ยซวี่ก็ต้องนั่งเกี้ยวรึ?”
    พ่อบ้านเกิ่ง: “เป็นจุ้ยซวี่ต้องนั่งเกี้ยว”...

    ในละครเรื่องนี้ หนิงอี้ผู้เป็นเจ้าบ่าวต้องนั่งเกี้ยวถูกส่งตัวไปยังบ้านของฝ่ายหญิง (ตามรูปประกอบ) อีกทั้งระหว่างทางยังโดนคนชี้นิ้ววิพากย์วิจารณ์มากมายราวกับว่าเป็นเรื่องน่าดูแคลน เหตุเพราะเขาเป็น “จุ้ยซวี่”

    “จุ้ยซวี่” คือการเรียกเขยที่แต่งเข้าไปในสกุลของฝ่ายเจ้าสาว พำนักอยู่ในเรือนของฝ่ายหญิง และหากมีลูก ลูกก็จะใช้แซ่หรือนามสกุลตามฝ่ายหญิง ซึ่งเพื่อนเพจที่พอคุ้นเคยกับธรรมเนียมจีนจะรู้ว่าเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับธรรมเนียมปกติที่ผู้หญิงจะแต่งเข้าบ้านฝ่ายชาย เมื่อมีลูกก็จะใช้นามสกุลของฝ่ายชาย

    ทำไมถึงมีจุ้ยซวี่? การแต่งชายเข้าบ้านฝ่ายหญิงนั้น เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายเจ้าสาวมาจากตระกูลคหบดีหรือมียศถาบรรดาศักดิ์แต่ขาดบุตรชายที่จะสืบสกุล ดังนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวจึงมักเป็นคนที่มีฐานะต่ำต้อย

    แล้วธรรมเนียมแต่งจุ้ยซวี่เข้าเรือนเกิดขึ้นในยุคสมัยใด? ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ มีการกล่าวถึงจุ้ยซวี่มาตั้งแต่ยุคสมัยชุนชิว แต่ในวัฒนธรรมจีนนั้นการสืบสกุลเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของชายชาตรี ดังนั้นการละทิ้งสกุลของตนเพื่อไปสืบเชื้อสายให้สกุลอื่นจึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ในสมัยนั้นจุ้ยซวี่จึงมีฐานะต่ำต้อยมาก มีการเปรียบเสมือนเป็นทาสในเรือน ในสมัยนั้นยังมีกฎห้ามจุ้ยซวี่แยกเรือนออกไปอยู่เอง ห้ามไม่ให้ถือครองที่ดิน และลูกหลานจะเข้ารับราชการได้นั้นต้องผ่านไปแล้วสามรุ่นด้วยกัน (โอ้โห!)

    ในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง จุ้ยซวี่ได้รับการปฏิบัติดีขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นแม้จะไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น ว่ากันว่า เป็นเพราะว่าบิดาของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง (องค์ซ่งไท่จู่) ก็เป็นจุ้ยซวี่ สังคมรับเรื่องนี้ได้มากขึ้นถึงขนาดที่ว่ามีชายบางคนที่ฐานะครอบครัวไม่เลว ยังขวนขวายแต่งเข้าสกุลของฝ่ายหญิงที่เรืองอำนาจเพื่อเสริมสร้างอำนาจทางการเมืองให้แก่ตนเลยทีเดียว

    (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ กดไลค์กดแชร์กันหน่อยนะคะ)

    เครดิตรูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/450812871_100288750 และจากละคร
    เครดิตข้อมูลรวบรวมจาก:
    https://www.sohu.com/a/451219092_588218
    https://www.52shijing.com/kjxs/113551.html

    #สามีข้าคือฮีโร่ #ประเพณีจีนโบราณ #จุ้ยซวี่ #เกี้ยวเจ้าสาว #StoryfromStory
    วันนี้เราคุยกันเรื่องวัฒนธรรมแต่งงานอีกแบบ ที่มาคือชื่อภาษาจีนของละครและนิยายจีนเรื่อง “จุ้ยซวี่” (赘婿 ชื่อละครภาษาไทยแปลตามชื่อภาษาอังกฤษว่า <สามีข้าคือฮีโร่>) ขอเริ่มเรื่องจากบทสนทนาจากในละครของเจ้าบ่าวหนิงอี้กับพ่อบ้านแห่งสกุลซู เพื่อให้เห็นภาพ ...หนิงอี้: “นี่คืออันใด?” พ่อบ้านเกิ่ง: “นี้คือเกี้ยวเจ้าสาว” หนิงอี้: “ของคุณหนู?” พ่อบ้านเกิ่ง: “ของท่าน” หนิงอี้: “เพราะเหตุใด?” พ่อบ้านเกิ่ง: “เพราะท่านเป็นจุ้ยซวี่” หนิงอี้: “เป็นจุ้ยซวี่ก็ต้องนั่งเกี้ยวรึ?” พ่อบ้านเกิ่ง: “เป็นจุ้ยซวี่ต้องนั่งเกี้ยว”... ในละครเรื่องนี้ หนิงอี้ผู้เป็นเจ้าบ่าวต้องนั่งเกี้ยวถูกส่งตัวไปยังบ้านของฝ่ายหญิง (ตามรูปประกอบ) อีกทั้งระหว่างทางยังโดนคนชี้นิ้ววิพากย์วิจารณ์มากมายราวกับว่าเป็นเรื่องน่าดูแคลน เหตุเพราะเขาเป็น “จุ้ยซวี่” “จุ้ยซวี่” คือการเรียกเขยที่แต่งเข้าไปในสกุลของฝ่ายเจ้าสาว พำนักอยู่ในเรือนของฝ่ายหญิง และหากมีลูก ลูกก็จะใช้แซ่หรือนามสกุลตามฝ่ายหญิง ซึ่งเพื่อนเพจที่พอคุ้นเคยกับธรรมเนียมจีนจะรู้ว่าเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับธรรมเนียมปกติที่ผู้หญิงจะแต่งเข้าบ้านฝ่ายชาย เมื่อมีลูกก็จะใช้นามสกุลของฝ่ายชาย ทำไมถึงมีจุ้ยซวี่? การแต่งชายเข้าบ้านฝ่ายหญิงนั้น เกิดขึ้นเมื่อฝ่ายเจ้าสาวมาจากตระกูลคหบดีหรือมียศถาบรรดาศักดิ์แต่ขาดบุตรชายที่จะสืบสกุล ดังนั้นฝ่ายเจ้าบ่าวจึงมักเป็นคนที่มีฐานะต่ำต้อย แล้วธรรมเนียมแต่งจุ้ยซวี่เข้าเรือนเกิดขึ้นในยุคสมัยใด? ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ มีการกล่าวถึงจุ้ยซวี่มาตั้งแต่ยุคสมัยชุนชิว แต่ในวัฒนธรรมจีนนั้นการสืบสกุลเป็นหน้าที่อันยิ่งใหญ่ของชายชาตรี ดังนั้นการละทิ้งสกุลของตนเพื่อไปสืบเชื้อสายให้สกุลอื่นจึงเป็นเรื่องน่ารังเกียจ ในสมัยนั้นจุ้ยซวี่จึงมีฐานะต่ำต้อยมาก มีการเปรียบเสมือนเป็นทาสในเรือน ในสมัยนั้นยังมีกฎห้ามจุ้ยซวี่แยกเรือนออกไปอยู่เอง ห้ามไม่ให้ถือครองที่ดิน และลูกหลานจะเข้ารับราชการได้นั้นต้องผ่านไปแล้วสามรุ่นด้วยกัน (โอ้โห!) ในยุคสมัยราชวงศ์ซ่ง จุ้ยซวี่ได้รับการปฏิบัติดีขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้นแม้จะไม่ได้มีสิทธิ์มีเสียงมากขึ้น ว่ากันว่า เป็นเพราะว่าบิดาของปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์ซ่ง (องค์ซ่งไท่จู่) ก็เป็นจุ้ยซวี่ สังคมรับเรื่องนี้ได้มากขึ้นถึงขนาดที่ว่ามีชายบางคนที่ฐานะครอบครัวไม่เลว ยังขวนขวายแต่งเข้าสกุลของฝ่ายหญิงที่เรืองอำนาจเพื่อเสริมสร้างอำนาจทางการเมืองให้แก่ตนเลยทีเดียว (ป.ล. หากอ่านแล้วชอบใจ กดไลค์กดแชร์กันหน่อยนะคะ) เครดิตรูปภาพจาก: https://www.sohu.com/a/450812871_100288750 และจากละคร เครดิตข้อมูลรวบรวมจาก: https://www.sohu.com/a/451219092_588218 https://www.52shijing.com/kjxs/113551.html #สามีข้าคือฮีโร่ #ประเพณีจีนโบราณ #จุ้ยซวี่ #เกี้ยวเจ้าสาว #StoryfromStory
    WWW.SOHU.COM
    《赘婿》首播:剧情搞笑,宋轶获赞,郭麒麟槽点较为集中_宁毅
    而郭麒麟从脸上讲就有点不合适,大家可以看一下这个镜头他和张若昀的对比,年龄和气质的差异一下子就能看出来,而且郭麒麟看起来特别的黑。 大家其实对郭麒麟这个演员没有什么意见,甚至也承认郭麒麟在平常生活中…
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 350 มุมมอง 0 รีวิว
  • เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา!

    ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10%

    สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี

    นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้

    การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024  
    • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)  
    • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า

    ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7

    ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:  
    • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%)

    ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022)

    โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก

    การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี)

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    เศรษฐกิจในปี 2024 ไม่ได้โตจากรถสิบล้อวิ่งเข้าโรงงานอีกต่อไป…แต่โตจาก “การเทเงินเข้าไปที่ซอฟต์แวร์, โมเดล AI และสิทธิบัตรทางปัญญา” → รายงานร่วมจาก UN + Luiss Business School เผยว่า ประเทศกว่า 27 แห่งลงทุนในทรัพย์สินแบบไม่มีตัวตนถึง 7.6 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ → โตขึ้นจากปีที่แล้ว (~7.4 ล้านล้าน) แม้เศรษฐกิจโลกจะซบเซา! ประเทศที่ทุ่มสุดคือ สหรัฐฯ → ลงทุนมากกว่าฝรั่งเศส, เยอรมนี, ญี่ปุ่น และอังกฤษรวมกัน → ส่วน “ประเทศที่เข้มข้นที่สุด” ในแง่สัดส่วน GDP คือ สวีเดน ที่การลงทุนแบบ intangible กินพื้นที่เศรษฐกิจถึง 16% → ตามด้วยสหรัฐฯ, ฝรั่งเศส และฟินแลนด์ (15%) → และอินเดียก็ขยับแซงหลายชาติ EU แล้วด้วยตัวเลขเกือบ 10% สิ่งที่โตเร็วที่สุดไม่ใช่แค่โมเดล AI → แต่คือ ซอฟต์แวร์ + ฐานข้อมูล ซึ่งโตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ปี 2013–2022 → เพราะระบบ AI ต้องการ “ดาต้าที่สะอาดและมีลิขสิทธิ์ชัดเจน” มาป้อนให้โมเดลเรียนรู้ → ซึ่งกลายเป็นหัวใจของมูลค่าทรัพย์สินใหม่โลกเทคโนโลยี นักวิจัย UN ยังทิ้งท้ายว่า… → ตอนนี้คือ “จุดเริ่มต้นของยุค AI” ไม่ใช่จุดกลางหรือจุดท้าย → ความเปลี่ยนแปลงที่ลึกกว่านี้อาจยังมาไม่ถึง แต่ต้องเตรียมรับตั้งแต่วันนี้ ✅ การลงทุนในทรัพย์สินไม่มีตัวตน (intangible assets) โต 3 เท่าเมื่อเทียบกับทรัพย์สินจริง (machinery, buildings) ปี 2024   • รวมมูลค่าประมาณ $7.6T จาก 27 ประเทศ (โตจาก $7.4T ปี 2023)   • ปัจจัยที่ฉุด tangible asset = ดอกเบี้ยสูง, เศรษฐกิจฟื้นช้า ✅ ประเทศที่ลงทุนสูงสุดใน absolute คือ สหรัฐอเมริกา → มากกว่าทุกประเทศในกลุ่ม G7 ✅ ประเทศที่มีความเข้มข้นสูงสุดด้านทรัพย์สินไร้ตัวตนต่อ GDP:   • สวีเดน (16%), สหรัฐฯ–ฝรั่งเศส–ฟินแลนด์ (15%), อินเดีย (~10%) ✅ ซอฟต์แวร์และฐานข้อมูล เป็นกลุ่มที่โตเร็วที่สุดในกลุ่ม intangible assets (โตเฉลี่ย 7%/ปี ตั้งแต่ 2013–2022) ✅ โมเดล AI ช่วยเร่งการลงทุนแบบ intangible → โดยเฉพาะด้านฐานข้อมูล, ทรัพย์สินทางปัญญา, และการเรียนรู้เชิงลึก ✅ การโตของ intangible asset มีความเสถียรตลอดช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ เช่น ปี 2008 หรือช่วงโควิด (โตเฉลี่ย 4% ต่อปี) https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/07/10/un-investments-rise-in-data-ai-outpacing-physical-assets
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 300 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    3/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 2/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    2/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 264 มุมมอง 0 0 รีวิว
  • 1/
    กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

    เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี

    การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล

    มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    1/ กลุ่มฮูตีในเยเมนเผยแพร่ภาพวิดีโอช่วงเวลาเข้ายึดเรือ “Magic Seas” และระเบิดเรือทิ้งจนจมลงสู่ก้นทะเลเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เรือ “Magic Seas” ซึ่งเป็นเรือบรรทุกสินค้าแห้งของอังกฤษ ใช้ธงไลบีเรีย และบริหารจัดการโดยบริษัท Stem Shipping จากกรีก พยายามฝ่าฝืนประกาศเตือนภัยในการปิดล้อมทะเลแดงของฮูตี การโจมตีเรือโดยกลุ่มฮูตีใช้อาวุธหลายประเภทอย่างเป็นขั้นตอน ประกอบด้วยการใช้เรือโดรนพลีชีพ การบุกขึ้นเรือ และการวางระเบิดรอบเรืออย่างแม่นยำส่งผลให้เรือจมลงสู่ก้นทะเล มีรายงานว่า เรือที่จมนั้นเป็นเรือเปล่า สินค้าต่างๆรวมทั้งลูกเรือ 22 คนอพยพออกไปได้อย่างปลอดภัย ด้วยความช่วยเหลือจากเรือ “Safeen Prism” ของ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ที่ตอบรับสัญญาณช่วยเหลือจากลูกเรือ “Magic Seas”
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ลองนึกภาพว่าคุณต้องเข้าออฟฟิศที่ทาสีเทาๆ มีไฟเพดานที่ทำให้ปวดตา โต๊ะจัดเป็นแถวแบบโรงเรียนประถม และไม่มีอะไรน่าสนใจเลยทุกวัน... → นั่นแหละคือสิ่งที่พนักงานในอังกฤษจำนวนมากรู้สึกกับสถานที่ทำงานของพวกเขา → และผลสำรวจจาก Kinly พบว่า 34% ถึงขั้นคิดจะลาออกเพราะดีไซน์ออฟฟิศน่าเบื่อ! → โดยเฉพาะคนช่วงอายุ 25–34 ปี บางคน “ลาออกไปแล้วจริง ๆ”

    ต้นเหตุไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามนะครับ → 21% บอกว่าที่ทำงานแบบนี้กระทบ “สุขภาพจิต” โดยตรง → สร้างความรู้สึกแย่ หมดไฟ และไม่อยากมาทำงาน

    ข่าวดีก็คือ บริษัทจำนวนมากในอังกฤษเริ่ม หันมาใช้เทคโนโลยี AV เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศออฟฟิศ → มีทั้งจอภาพ เสียง ระบบเซ็นเซอร์ และสื่อมัลติมีเดีย → เพื่อช่วยให้พื้นที่ทำงานมีชีวิตชีวา สดชื่นขึ้น และเสริมจินตนาการ

    ที่น่าสนใจคือ 65% ของผู้เชี่ยวชาญ AV บอกว่าออฟฟิศควรมีความสวยงาม “พอ ๆ กับฟังก์ชัน” → และตอนนี้ มากกว่า 2 ใน 3 ของทีม AV เริ่มทำงานร่วมกับฝ่าย HR โดยตรงเพื่อดูแลสุขภาวะพนักงาน

    34% ของพนักงานชาวอังกฤษคิดจะลาออกเพราะออฟฟิศน่าเบื่อ  
    • โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 25–34 ปี  
    • เกือบครึ่งเคย “ลาออกจริง” เพราะเหตุผลนี้

    21% บอกว่าสภาพแวดล้อมออฟฟิศส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต  
    • ความน่าเบื่อ ความอึดอัด แสงไม่เหมาะสม สีทึม ทำให้หมดไฟ

    77% ของผู้เชี่ยวชาญ AV เชื่อว่าออฟฟิศที่น่ามองส่งผลต่อผลิตภาพโดยตรง

    บริษัทมากกว่าครึ่งในอังกฤษ เริ่มใช้เทคโนโลยีภาพและเสียงมาปรับสภาพแวดล้อม  
    • เช่น ป้ายดิจิทัล จอแสดงผล เสียงประกอบ ambient lighting  
    • ใช้เพื่อรองรับพนักงาน neurodiverse และเชื่อมโยงพนักงาน remote–onsite

    Kinly CEO ย้ำว่า “ออฟฟิศไม่ใช่แค่สวย แต่เป็นกลยุทธ์” ที่ต้องวางแผนแบบมีเป้าหมาย

    https://www.techspot.com/news/108577-workers-quitting-over-their-depressing-offices-but-av.html
    ลองนึกภาพว่าคุณต้องเข้าออฟฟิศที่ทาสีเทาๆ มีไฟเพดานที่ทำให้ปวดตา โต๊ะจัดเป็นแถวแบบโรงเรียนประถม และไม่มีอะไรน่าสนใจเลยทุกวัน... → นั่นแหละคือสิ่งที่พนักงานในอังกฤษจำนวนมากรู้สึกกับสถานที่ทำงานของพวกเขา → และผลสำรวจจาก Kinly พบว่า 34% ถึงขั้นคิดจะลาออกเพราะดีไซน์ออฟฟิศน่าเบื่อ! → โดยเฉพาะคนช่วงอายุ 25–34 ปี บางคน “ลาออกไปแล้วจริง ๆ” ต้นเหตุไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามนะครับ → 21% บอกว่าที่ทำงานแบบนี้กระทบ “สุขภาพจิต” โดยตรง → สร้างความรู้สึกแย่ หมดไฟ และไม่อยากมาทำงาน ข่าวดีก็คือ บริษัทจำนวนมากในอังกฤษเริ่ม หันมาใช้เทคโนโลยี AV เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศออฟฟิศ → มีทั้งจอภาพ เสียง ระบบเซ็นเซอร์ และสื่อมัลติมีเดีย → เพื่อช่วยให้พื้นที่ทำงานมีชีวิตชีวา สดชื่นขึ้น และเสริมจินตนาการ ที่น่าสนใจคือ 65% ของผู้เชี่ยวชาญ AV บอกว่าออฟฟิศควรมีความสวยงาม “พอ ๆ กับฟังก์ชัน” → และตอนนี้ มากกว่า 2 ใน 3 ของทีม AV เริ่มทำงานร่วมกับฝ่าย HR โดยตรงเพื่อดูแลสุขภาวะพนักงาน ✅ 34% ของพนักงานชาวอังกฤษคิดจะลาออกเพราะออฟฟิศน่าเบื่อ   • โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่อายุ 25–34 ปี   • เกือบครึ่งเคย “ลาออกจริง” เพราะเหตุผลนี้ ✅ 21% บอกว่าสภาพแวดล้อมออฟฟิศส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต   • ความน่าเบื่อ ความอึดอัด แสงไม่เหมาะสม สีทึม ทำให้หมดไฟ ✅ 77% ของผู้เชี่ยวชาญ AV เชื่อว่าออฟฟิศที่น่ามองส่งผลต่อผลิตภาพโดยตรง ✅ บริษัทมากกว่าครึ่งในอังกฤษ เริ่มใช้เทคโนโลยีภาพและเสียงมาปรับสภาพแวดล้อม   • เช่น ป้ายดิจิทัล จอแสดงผล เสียงประกอบ ambient lighting   • ใช้เพื่อรองรับพนักงาน neurodiverse และเชื่อมโยงพนักงาน remote–onsite ✅ Kinly CEO ย้ำว่า “ออฟฟิศไม่ใช่แค่สวย แต่เป็นกลยุทธ์” ที่ต้องวางแผนแบบมีเป้าหมาย https://www.techspot.com/news/108577-workers-quitting-over-their-depressing-offices-but-av.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Some workers are quitting over their depressing office designs, but AV tech is helping
    Most offices are bland, dull, miserable boxes, with migraine-inducing lighting and drab colors. They certainly don't make occupants happy to come into work, and can even affect...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 197 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts