• “พายุ” ซัดกลับ “รอมฎอน” โยนบาปรัฐบาล ไม่ประณามโจรใต้ก่อเหตุ โซเชียลจวกซ้ำเป็นสส.หรือแนวร่วมฯ
    https://www.thai-tai.tv/news/17576/
    “พายุ” ซัดกลับ “รอมฎอน” โยนบาปรัฐบาล ไม่ประณามโจรใต้ก่อเหตุ โซเชียลจวกซ้ำเป็นสส.หรือแนวร่วมฯ https://www.thai-tai.tv/news/17576/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 37 มุมมอง 0 รีวิว
  • ♣ บ้านเราขายอา.วุธเสรีกันมาตั้งนานแล้ว ใครจะกล้าให้เป็นของขวัญปีใหม่กันละทีนี้ ผ้าเช็ดตัวรับเคราะห์ ของใช้กลายเป็นอา.วุธปลิดชีพโจ้ ไอ้คนก่อเหตุก็ไม่คิดจะอ้างให้แนบเนียนหน่อยเลย
    #7ดอกจิก
    #ผ้าขนหนูผืนเล็ก
    ♣ บ้านเราขายอา.วุธเสรีกันมาตั้งนานแล้ว ใครจะกล้าให้เป็นของขวัญปีใหม่กันละทีนี้ ผ้าเช็ดตัวรับเคราะห์ ของใช้กลายเป็นอา.วุธปลิดชีพโจ้ ไอ้คนก่อเหตุก็ไม่คิดจะอ้างให้แนบเนียนหน่อยเลย #7ดอกจิก #ผ้าขนหนูผืนเล็ก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 121 มุมมอง 0 รีวิว
  • รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประณามกลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงในซีเรีย ที่สังหารพลเรือนในซีเรียตะวันตก "พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลซีเรียต้องเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ"

    ขณะเดียวกัน "สหรัฐฯและรัสเซีย" เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากวิกฤตซีเรียที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยจะขอให้มีการประชุมแบบปิดในวันจันทร์
    รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ ประณามกลุ่มก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรงในซีเรีย ที่สังหารพลเรือนในซีเรียตะวันตก "พร้อมเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐบาลซีเรียต้องเอาผิดกับผู้ก่อเหตุ" ขณะเดียวกัน "สหรัฐฯและรัสเซีย" เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากวิกฤตซีเรียที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยจะขอให้มีการประชุมแบบปิดในวันจันทร์
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 118 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ผบ.ทบ.” เสียใจ เหตุบึ้มชายแดนใต้ ย้ำเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เร่งดำเนินคดีคนก่อเหตุ ประณาม ‘บีอาร์เอ็น’ ไม่หวังสันติสุข จชต. - เจตนาละเมิดกฎหมาย

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022819

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    “ผบ.ทบ.” เสียใจ เหตุบึ้มชายแดนใต้ ย้ำเพิ่มมาตรการคุมเข้ม เร่งดำเนินคดีคนก่อเหตุ ประณาม ‘บีอาร์เอ็น’ ไม่หวังสันติสุข จชต. - เจตนาละเมิดกฎหมาย อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022819 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Sad
    5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 676 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ ยัน..ไม่มีชุลมุนภายในทัณฑสถานจนมีผู้ต้องขังบาดเจ็บ 15 ราย บอกแค่ผู้ต้องขังคนเชียงใหม่กับลำปาง ขัดแย้งชกต่อยกันธรรมดา ไม่มีการใช้อาวุธ-ทุกอย่างปกติแล้ว พร้อมให้ จนท.จัดระเบียบ-แยกคนก่อเหตุไว้คนละห้อง

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022768

    #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ผอ.ทัณฑสถานบำบัดพิเศษ ยัน..ไม่มีชุลมุนภายในทัณฑสถานจนมีผู้ต้องขังบาดเจ็บ 15 ราย บอกแค่ผู้ต้องขังคนเชียงใหม่กับลำปาง ขัดแย้งชกต่อยกันธรรมดา ไม่มีการใช้อาวุธ-ทุกอย่างปกติแล้ว พร้อมให้ จนท.จัดระเบียบ-แยกคนก่อเหตุไว้คนละห้อง อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000022768 #News1live #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    10
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 697 มุมมอง 0 รีวิว
  • มีใคร "ประณาม" หรือยัง!?!
    มีใครแสดงความ "กังวล" หรือยัง!?!

    “แบรด ซิกมอน” (Brad Sigmon) ปัจจุบันอายุ 67 ปี เมื่อปี 2001 ได้ก่อเหตุฆาตกรรมพ่อแม่ของแฟนเก่า ถูกศาลรัฐเซาท์แคโรไลนาตัดสินประหารชีวิตด้วยการ “ยิงเป้า” เนื่องจากนักโทษไม่ต้องการถูกฉีดสารพิษ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีของสหรัฐ
    มีใคร "ประณาม" หรือยัง!?! มีใครแสดงความ "กังวล" หรือยัง!?! “แบรด ซิกมอน” (Brad Sigmon) ปัจจุบันอายุ 67 ปี เมื่อปี 2001 ได้ก่อเหตุฆาตกรรมพ่อแม่ของแฟนเก่า ถูกศาลรัฐเซาท์แคโรไลนาตัดสินประหารชีวิตด้วยการ “ยิงเป้า” เนื่องจากนักโทษไม่ต้องการถูกฉีดสารพิษ ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 15 ปีของสหรัฐ
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 133 มุมมอง 0 รีวิว
  • แก๊งวัยรุ่นไทยใหญ่สุดเหิม ยกพวกรุมกระทบหนุ่มไทยวัย 18 ปีกับเพื่อนพร้อมชักมีดแทงดับคาตลาดสดกลางเมืองเชียงใหม่ เหตุไม่พอใจที่มองหน้า ขณะที่ตำรวจโชว์ฝีมือติดตามรวบตัวผู้ก่อเหตุได้ทันควัน 6 คน จากทั้งหมด 8 คน ซึ่งเป็นเยาวชนทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 2 คนทราบตัวแล้วและน่าจะจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้ เบื้องต้นตั้งข้อหาเจตนาฆ่า

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021098

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    แก๊งวัยรุ่นไทยใหญ่สุดเหิม ยกพวกรุมกระทบหนุ่มไทยวัย 18 ปีกับเพื่อนพร้อมชักมีดแทงดับคาตลาดสดกลางเมืองเชียงใหม่ เหตุไม่พอใจที่มองหน้า ขณะที่ตำรวจโชว์ฝีมือติดตามรวบตัวผู้ก่อเหตุได้ทันควัน 6 คน จากทั้งหมด 8 คน ซึ่งเป็นเยาวชนทั้งหมด ส่วนที่เหลืออีก 2 คนทราบตัวแล้วและน่าจะจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้ เบื้องต้นตั้งข้อหาเจตนาฆ่า อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000021098 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Angry
    Sad
    8
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 722 มุมมอง 0 รีวิว
  • ภาพขณะเจ้าหน้าที่ไล่ล่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุขับรถพุ่งเข้าใส่ฝูงชน จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 25 ราย

    รายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้จะก่อเหตุเพียงคนเดียว
    ภาพขณะเจ้าหน้าที่ไล่ล่าผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุขับรถพุ่งเข้าใส่ฝูงชน จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 25 ราย รายงานล่าสุด เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวได้แล้ว 1 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อว่าผู้ต้องสงสัยรายนี้จะก่อเหตุเพียงคนเดียว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 126 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เตรียมพาชายขี่ จยย.ถูกคนขับเก๋งสีแดงเฉี่ยวชน บนถนนราชพฤกษ์ เข้าแจ้งความเอาผิด อาจเข้าข่ายพยายามฆ่า

    จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถยนต์เก๋งสีแดงขับเฉี่ยวรถจักรยานยนต์บนถนนเลนขวาสุด ซึ่งต่อมาคนในสังคมโซเชียลมีเดีย ต่างเข้าแสดงความคิดเห็น และตั้งคำถามว่า คนขับขี่รถยนต์เก๋งสีแดงขับรถแบบนี้ มีเจตนาชนรถจักรยานยนต์หรือไม่นั้น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ที่เพจสายไหมต้องรอด นายจินตการ อายุ 49 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 8.00 น. ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์บนเส้นถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าไปยังท่าอิฐปากเกร็ด เมื่อมาถึงบริเวณใต้ทางต่างระดับ ตนได้ยินเสียงบีบแตรดังมาจากข้างหลัง และรถยนต์คันก่อเหตุก็เฉี่ยวชนรถของตนทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไวมาก โชคดีที่วันนั้นตนสามารถประคองรถเอาไว้ได้เลย ทำให้รถไม่ล้มแต่ก็เซเล็กน้อย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020301

    #MGROnline #มาสด้าแดง #พี่แว่นมาสด้าแดง #ตั้งใจชน #พยายามฆ่า #สายไหมต้องรอด
    ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด เตรียมพาชายขี่ จยย.ถูกคนขับเก๋งสีแดงเฉี่ยวชน บนถนนราชพฤกษ์ เข้าแจ้งความเอาผิด อาจเข้าข่ายพยายามฆ่า • จากกรณีโซเชียลมีเดียมีการแชร์คลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถยนต์เก๋งสีแดงขับเฉี่ยวรถจักรยานยนต์บนถนนเลนขวาสุด ซึ่งต่อมาคนในสังคมโซเชียลมีเดีย ต่างเข้าแสดงความคิดเห็น และตั้งคำถามว่า คนขับขี่รถยนต์เก๋งสีแดงขับรถแบบนี้ มีเจตนาชนรถจักรยานยนต์หรือไม่นั้น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค.) ที่เพจสายไหมต้องรอด นายจินตการ อายุ 49 ปี ผู้ขี่รถจักรยานยนต์ที่ปรากฏในคลิป เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 8.00 น. ขณะที่ตนขับขี่รถจักรยานยนต์บนเส้นถนนราชพฤกษ์ขาออกมุ่งหน้าไปยังท่าอิฐปากเกร็ด เมื่อมาถึงบริเวณใต้ทางต่างระดับ ตนได้ยินเสียงบีบแตรดังมาจากข้างหลัง และรถยนต์คันก่อเหตุก็เฉี่ยวชนรถของตนทันทีโดยไม่ทันตั้งตัว ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นไวมาก โชคดีที่วันนั้นตนสามารถประคองรถเอาไว้ได้เลย ทำให้รถไม่ล้มแต่ก็เซเล็กน้อย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000020301 • #MGROnline #มาสด้าแดง #พี่แว่นมาสด้าแดง #ตั้งใจชน #พยายามฆ่า #สายไหมต้องรอด
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 251 มุมมอง 0 รีวิว
  • 39 ปี ลอบสังหารนายกสวีเดน "อูลอฟ พัลเมอ" คดีปริศนาที่ใช้เวลาสืบสวนนาน 34 ปี

    🕵️‍♂️ เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่เป็นปริศนายาวนานที่สุดในโลก ย้อนไปเมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 สวีเดนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อ "อูลอฟ พัลเมอ" (Olof Palme) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนนานถึง 34 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดคดี โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่า "สตีก เอ็งสเตริม" (Stig Engström) เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543

    นี่คือหนึ่งในคดีฆาตกรรมทางการเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังคงเป็นที่ถกเถียง ในแวดวงกฎหมายและสื่อมวลชน มาจนถึงปัจจุบัน

    🔎 นายกรัฐมนตรีสวีเดน ผู้ทรงอิทธิพลและขั้วขัดแย้ง ✨ "สเวน อูลอฟ โยอาคิม พัลเมอ" (Sven Olof Joachim Palme) เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2470 เป็นนักการเมืองคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้นำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสวีเดน (Social Democrats - SAP)

    📌 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย
    - วาระแรก พ.ศ. 2512 - 2519
    - วาระที่สอง พ.ศ. 2525 - 2529

    นายกพัลเมอเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิแรงงาน สวัสดิการสังคม และต่อต้านสงคราม มีนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ขั้วมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพโซเวียต ทำให้ถูกมองว่า เป็นบุคคลที่ "แตกต่าง" ในเวทีการเมืองโลก

    🌍 นักการเมืองที่กล้าท้าทายอำนาจโลก นายกพัลเมอเป็นผู้นำชาวตะวันตกคนแรกที่
    ✅ เดินทางไปเยือนคิวบา และพบกับ "ฟิเดล คาสโตร" หลังการปฏิวัติคิวบา
    ✅ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจักรวรรดินิยม และการปกครองแบบเผด็จการ
    ✅ ต่อต้านระบอบแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้
    ✅ เปรียบเทียบการทิ้งระเบิดฮานอยของสหรัฐฯ กับ "อาชญากรรมสงคราม"

    📢 ความกล้าของนายกพัลเมอ ทำให้มีทั้งผู้สนับสนุนและศัตรูมากมาย และนั่นอาจเป็นสาเหตุ ที่นำไปสู่การลอบสังหารในท้ายที่สุด

    🔫 คืนสังหาร 28 กุมภาพันธ์ 2529 คืนวันศุกร์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สวีเดนตลอดกาล 🌃

    📍 เหตุเกิดที่ถนนสเวียแวเกน (Sveavägen) หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุด ของกรุงสต็อกโฮล์ม

    🚶‍♂️ ไม่มีการ์ดคุ้มกัน ในคืนนั้น นายกพัลเมอและภรรยา "ลิสเบต พัลเมอ" (Lisbeth Palme) ตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ "The Mozart Brothers" โดย ไม่ได้มีบอดี้การ์ดไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนายกพัลเมอ

    🕵️‍♂️ มือปืนลอบสังหาร เวลา 23.21 น. นายกพัลเมอและภรรยา เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มือปืนเดินปรี่เข้ามาจากด้านหลัง และจ่อยิงนายกพัลเมอเข้ากลางหลังหนึ่งนัด ด้วยปืนลูกโม่ .357 แม็กนัม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และจ่อยิงภรรยานายกพัลเมออีกหนึ่งนัด แล้วหลบหนีไป โดยไม่มีใครสามารถจับตัวได้

    💥 การลอบสังหารครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมผู้นำประเทศสวีเดนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2335 ใช้เวลาสืบสวนที่ยาวนาน 34 ปี 🏛️

    🔍 การสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สวีเดน มีพยานถูกสอบปากคำหลายพันคน บุคคลที่ถูกสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย มากกว่า 130 ราย คดีนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจ และกฎหมายของสวีเดน

    👤 ผู้ต้องสงสัยรายแรก "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน"
    ปี 2531 ตำรวจจับกุม "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" (Christer Pettersson) ชายติดยาในพื้นที่ และศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานฆาตกรรม

    ❌ แต่ภายหลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เนื่องจาก
    1️⃣ ไม่มีหลักฐานชัดเจน
    2️⃣ อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่เคยถูกพบ
    3️⃣ แรงจูงใจในการสังหารไม่ชัดเจน

    เพ็ตเตอช็อนเสียชีวิตในปี 2547 ทำให้การสืบสวน หวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง

    🛑 ปิดคดีในปี 2563: ฆาตกรคือ "สกันเดียแมน"?
    🔎 ในเดือน มิถุนายน 2563 คณะอัยการสวีเดนประกาศว่า

    👉 สตีก เอ็งสเตริม (Stig Engström) หรือ "สกันเดียแมน" เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก

    👨‍💼 "สกันเดียแมน" เป็นนักออกแบบกราฟิก ทำงานที่บริษัท "สกันเดีย" (Skandia) ใกล้ที่เกิดเหตุ มีทักษะในการใช้ปืน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายกพัลเมออย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน และติดสุรา

    💀 แต่ปัญหาคือ เอ็งสเตริมเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ ไม่มีทางนำตัวมาพิจารณาคดีในชั้นศาลได้

    📢 "การสืบสวนจึงถูกปิด โดยไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ"

    🤔 คำถามที่ยังไร้คำตอบ
    ❓ แรงจูงใจของฆาตกรคืออะไร?
    ❓ เป็นแผนลอบสังหาร จากรัฐบาลเผด็จการหรือไม่?
    ❓ มีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า?
    ❓ เหตุใดตำรวจถึงใช้เวลานานถึง 34 ปี ในการสรุปคดีนี้?

    แม้ว่าอัยการจะปิดคดีนี้ไปแล้ว แต่ข้อสงสัยมากมายยังคงอยู่ ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็น "ปริศนาแห่งสวีเดน" ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน

    🔥 คดีฆาตกรรมที่สะเทือนโลก
    📌 "อูลอฟ พัลเมอ" เป็นนายกฯ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน
    📌 ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ในปี 2529
    📌 คดีนี้สืบสวนนาน 34 ปี ก่อนสรุปว่า "สตีก เอ็งสเตริม" เป็นมือปืน
    📌 คดีถูกปิด แต่คำถามมากมาย ยังคงไม่มีคำตอบ

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 282037 ก.พ. 2568

    #OlofPalme #ฆาตกรรมปริศนา #ลอบสังหาร #คดีดัง #สวีเดน #TrueCrime
    39 ปี ลอบสังหารนายกสวีเดน "อูลอฟ พัลเมอ" คดีปริศนาที่ใช้เวลาสืบสวนนาน 34 ปี 🕵️‍♂️ เหตุการณ์ลอบสังหารผู้นำประเทศ ที่เป็นปริศนายาวนานที่สุดในโลก ย้อนไปเมื่อ 39 ปี ที่ผ่านมา ในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 สวีเดนต้องเผชิญกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ ที่ไม่มีใครคาดคิด เมื่อ "อูลอฟ พัลเมอ" (Olof Palme) นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม คดีนี้ใช้เวลาสืบสวนนานถึง 34 ปี ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะประกาศปิดคดี โดยมีการตั้งข้อสงสัยว่า "สตีก เอ็งสเตริม" (Stig Engström) เป็นผู้ก่อเหตุ แต่เจ้าตัวเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 นี่คือหนึ่งในคดีฆาตกรรมทางการเมือง ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และยังคงเป็นที่ถกเถียง ในแวดวงกฎหมายและสื่อมวลชน มาจนถึงปัจจุบัน 🔎 นายกรัฐมนตรีสวีเดน ผู้ทรงอิทธิพลและขั้วขัดแย้ง ✨ "สเวน อูลอฟ โยอาคิม พัลเมอ" (Sven Olof Joachim Palme) เกิดเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2470 เป็นนักการเมืองคนสำคัญของสวีเดน และเป็นผู้นำของพรรคสังคมประชาธิปไตยสวีเดน (Social Democrats - SAP) 📌 ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 สมัย - วาระแรก พ.ศ. 2512 - 2519 - วาระที่สอง พ.ศ. 2525 - 2529 นายกพัลเมอเป็นนักการเมืองที่มีแนวคิดก้าวหน้า สนับสนุนสิทธิแรงงาน สวัสดิการสังคม และต่อต้านสงคราม มีนโยบายที่ไม่ฝักใฝ่ขั้วมหาอำนาจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา หรือสหภาพโซเวียต ทำให้ถูกมองว่า เป็นบุคคลที่ "แตกต่าง" ในเวทีการเมืองโลก 🌍 นักการเมืองที่กล้าท้าทายอำนาจโลก นายกพัลเมอเป็นผู้นำชาวตะวันตกคนแรกที่ ✅ เดินทางไปเยือนคิวบา และพบกับ "ฟิเดล คาสโตร" หลังการปฏิวัติคิวบา ✅ วิพากษ์วิจารณ์ลัทธิจักรวรรดินิยม และการปกครองแบบเผด็จการ ✅ ต่อต้านระบอบแบ่งแยกสีผิวในแอฟริกาใต้ ✅ เปรียบเทียบการทิ้งระเบิดฮานอยของสหรัฐฯ กับ "อาชญากรรมสงคราม" 📢 ความกล้าของนายกพัลเมอ ทำให้มีทั้งผู้สนับสนุนและศัตรูมากมาย และนั่นอาจเป็นสาเหตุ ที่นำไปสู่การลอบสังหารในท้ายที่สุด 🔫 คืนสังหาร 28 กุมภาพันธ์ 2529 คืนวันศุกร์ที่เปลี่ยนประวัติศาสตร์สวีเดนตลอดกาล 🌃 📍 เหตุเกิดที่ถนนสเวียแวเกน (Sveavägen) หนึ่งในถนนที่คึกคักที่สุด ของกรุงสต็อกโฮล์ม 🚶‍♂️ ไม่มีการ์ดคุ้มกัน ในคืนนั้น นายกพัลเมอและภรรยา "ลิสเบต พัลเมอ" (Lisbeth Palme) ตัดสินใจไปชมภาพยนตร์ "The Mozart Brothers" โดย ไม่ได้มีบอดี้การ์ดไปด้วย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติสำหรับนายกพัลเมอ 🕵️‍♂️ มือปืนลอบสังหาร เวลา 23.21 น. นายกพัลเมอและภรรยา เดินออกจากโรงภาพยนตร์ มือปืนเดินปรี่เข้ามาจากด้านหลัง และจ่อยิงนายกพัลเมอเข้ากลางหลังหนึ่งนัด ด้วยปืนลูกโม่ .357 แม็กนัม เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ และจ่อยิงภรรยานายกพัลเมออีกหนึ่งนัด แล้วหลบหนีไป โดยไม่มีใครสามารถจับตัวได้ 💥 การลอบสังหารครั้งนี้ เป็นการฆาตกรรมผู้นำประเทศสวีเดนครั้งแรก นับตั้งแต่ปี 2335 ใช้เวลาสืบสวนที่ยาวนาน 34 ปี 🏛️ 🔍 การสอบสวนครั้งใหญ่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สวีเดน มีพยานถูกสอบปากคำหลายพันคน บุคคลที่ถูกสอบสวนในฐานะผู้ต้องสงสัย มากกว่า 130 ราย คดีนี้นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบตำรวจ และกฎหมายของสวีเดน 👤 ผู้ต้องสงสัยรายแรก "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" ปี 2531 ตำรวจจับกุม "คริสเตอร์ เพ็ตเตอช็อน" (Christer Pettersson) ชายติดยาในพื้นที่ และศาลตัดสินว่า มีความผิดฐานฆาตกรรม ❌ แต่ภายหลัง ศาลอุทธรณ์กลับคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาเป็นอิสระ เนื่องจาก 1️⃣ ไม่มีหลักฐานชัดเจน 2️⃣ อาวุธที่ใช้ก่อเหตุไม่เคยถูกพบ 3️⃣ แรงจูงใจในการสังหารไม่ชัดเจน เพ็ตเตอช็อนเสียชีวิตในปี 2547 ทำให้การสืบสวน หวนกลับไปสู่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง 🛑 ปิดคดีในปี 2563: ฆาตกรคือ "สกันเดียแมน"? 🔎 ในเดือน มิถุนายน 2563 คณะอัยการสวีเดนประกาศว่า 👉 สตีก เอ็งสเตริม (Stig Engström) หรือ "สกันเดียแมน" เป็นผู้ต้องสงสัยหลัก 👨‍💼 "สกันเดียแมน" เป็นนักออกแบบกราฟิก ทำงานที่บริษัท "สกันเดีย" (Skandia) ใกล้ที่เกิดเหตุ มีทักษะในการใช้ปืน ได้วิพากษ์วิจารณ์นายกพัลเมออย่างรุนแรง อีกทั้งยังมีปัญหาด้านการเงิน และติดสุรา 💀 แต่ปัญหาคือ เอ็งสเตริมเสียชีวิตไปตั้งแต่ปี 2543 ทำให้ ไม่มีทางนำตัวมาพิจารณาคดีในชั้นศาลได้ 📢 "การสืบสวนจึงถูกปิด โดยไม่มีการตั้งข้อหาใด ๆ" 🤔 คำถามที่ยังไร้คำตอบ ❓ แรงจูงใจของฆาตกรคืออะไร? ❓ เป็นแผนลอบสังหาร จากรัฐบาลเผด็จการหรือไม่? ❓ มีองค์กรลับอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า? ❓ เหตุใดตำรวจถึงใช้เวลานานถึง 34 ปี ในการสรุปคดีนี้? แม้ว่าอัยการจะปิดคดีนี้ไปแล้ว แต่ข้อสงสัยมากมายยังคงอยู่ ทำให้เหตุการณ์นี้กลายเป็น "ปริศนาแห่งสวีเดน" ที่จะถูกพูดถึงไปอีกนาน 🔥 คดีฆาตกรรมที่สะเทือนโลก 📌 "อูลอฟ พัลเมอ" เป็นนายกฯ ที่มีอุดมการณ์ชัดเจน 📌 ถูกลอบสังหารกลางกรุงสต็อกโฮล์ม ในปี 2529 📌 คดีนี้สืบสวนนาน 34 ปี ก่อนสรุปว่า "สตีก เอ็งสเตริม" เป็นมือปืน 📌 คดีถูกปิด แต่คำถามมากมาย ยังคงไม่มีคำตอบ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 282037 ก.พ. 2568 #OlofPalme #ฆาตกรรมปริศนา #ลอบสังหาร #คดีดัง #สวีเดน #TrueCrime
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 338 มุมมอง 0 รีวิว
  • หมวกกันน็อกใบเดียว ใช้ทำร้ายผู้อื่นถึงตายได้

    เหตุอุกอาจทำร้ายร่างกายใจกลางเมือง ขณะที่ นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข เจ้าของมาลิคลินิกเวชกรรม สาขาสีลม 3 กำลังเดินออกจากคลีนิกหลังเลิกงาน มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน บุกเข้ามารุมทำร้ายด้วยการใช้หมวกกันน็อกรุมตีหลายครั้งจนเลือดอาบ เจ้าตัวพยายามวิ่งหลบหนีหกล้มกลางถนน ก่อนที่จะมีรถยนต์ของชาวบ้านขับผ่านมา คนร้ายจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแสด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.28 น. ของวันที่ 25 ม.ค. 2568 นพ.ชเนษฎ์ ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเลือดอาบ ก่อนแจ้งความกับ ว่าที่ พ.ต.ท.สถิต สะดีวงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ

    เมื่อมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน ผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยทนายความจึงเข้ามอบตัวสู้คดีและประกันตัวออกไป อ้างว่าหูแว่ว ติดยา ในวันที่ไปศาลแขวงพระนครใต้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2568 จำเลยพาภรรยา ญาติ และลูกน้อยไปศาลพร้อมทนายความด้วย ตอนแรกจำเลยกล่าวหาว่า นพ.ชเนษฎ์ ไปด่าพ่อ แต่ต่อมาก็อ้างว่าพนักงานคลีนิกไปด่าพ่อ ซึ่ง นพ.ชเนษฎ์ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมา มีความพยายามใช้ชื่อปลอมร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาสอบสวนคลินิก แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ถึงกระนั้นเหตุการณ์นี้เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ทุกวันนี้ต้องว่าจ้างทีมอารักขามืออาชีพช่วยดูแลความปลอดภัย

    สิ่งที่น่าคิดจากคดีนี้ก็คือ คนร้ายเลือกใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย นพ.ชเนษฎ์ เปิดเผยว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยในไทยหลายแห่งได้แจ้งมาว่า จากคดีดังกล่าวพบว่าหมวกกันน็อกเป็นที่นิยมในหมู่คนร้าย เพราะมีโทษเบาไปถึงศาลแขวง ไม่ใช่ศาลอาญา รวมทั้งหามาเป็นอาวุธได้ง่าย มีการแนะนำให้ตนหาหมวกกันน็อกมาลองทุบแตงโมดู จึงทดลองทุบเอง ที่กลุ่มสืบเสาะและพินิจ กรมคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 5 ซึ่งเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.ชเนษฎ์ นำมาเผยแพร่ พบว่าแตงโมแตก ซึ่งหากทุบจุดสำคัญของศีรษะอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

    ถึงกระนั้น ตามกฎหมายแล้วหมวกกันน็อกไม่ถือว่าเป็นอาวุธ และในทางคดีพบว่าเป็นการทำร้ายร่างกายธรรมดาไม่สาหัส ทำให้คดีทำร้ายร่างกายครั้งนี้ไปถึงแค่ศาลแขวง ไปไม่ถึงศาลอาญา แม้เหตุการณ์นี้จะทำให้ นพ.ชเนษฎ์ บาดเจ็บถึงขั้นเลือดอาบก็ตาม ปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์มากกว่า 22.85 ล้านคัน รถจักรยายยนต์รับจ้างกว่า 1.17 แสนคัน และมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์รวมกันกว่า 13.10 ล้านใบ การใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย ถือเป็นอีกช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่พลเมืองดีและสุจริตชนทั้งหลายพึงระวัง

    #Newskit
    หมวกกันน็อกใบเดียว ใช้ทำร้ายผู้อื่นถึงตายได้ เหตุอุกอาจทำร้ายร่างกายใจกลางเมือง ขณะที่ นพ.ชเนษฎ์ ศรีสุโข เจ้าของมาลิคลินิกเวชกรรม สาขาสีลม 3 กำลังเดินออกจากคลีนิกหลังเลิกงาน มีคนร้ายเป็นชาย 2 คน บุกเข้ามารุมทำร้ายด้วยการใช้หมวกกันน็อกรุมตีหลายครั้งจนเลือดอาบ เจ้าตัวพยายามวิ่งหลบหนีหกล้มกลางถนน ก่อนที่จะมีรถยนต์ของชาวบ้านขับผ่านมา คนร้ายจึงขับขี่รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ สีแสด ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนหลบหนีไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.28 น. ของวันที่ 25 ม.ค. 2568 นพ.ชเนษฎ์ ได้รับบาดเจ็บ ศีรษะถูกตีด้วยของแข็งจนเลือดอาบ ก่อนแจ้งความกับ ว่าที่ พ.ต.ท.สถิต สะดีวงศ์ พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ และตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ เมื่อมีการนำเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชน ผู้ก่อเหตุพร้อมด้วยทนายความจึงเข้ามอบตัวสู้คดีและประกันตัวออกไป อ้างว่าหูแว่ว ติดยา ในวันที่ไปศาลแขวงพระนครใต้ เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2568 จำเลยพาภรรยา ญาติ และลูกน้อยไปศาลพร้อมทนายความด้วย ตอนแรกจำเลยกล่าวหาว่า นพ.ชเนษฎ์ ไปด่าพ่อ แต่ต่อมาก็อ้างว่าพนักงานคลีนิกไปด่าพ่อ ซึ่ง นพ.ชเนษฎ์ ตั้งข้อสังเกตว่าที่ผ่านมา มีความพยายามใช้ชื่อปลอมร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ให้เข้ามาสอบสวนคลินิก แต่ไม่พบความผิดปกติใดๆ ก่อนจะเกิดเรื่องขึ้น ถึงกระนั้นเหตุการณ์นี้เปลี่ยนชีวิตไปตลอดกาล ทุกวันนี้ต้องว่าจ้างทีมอารักขามืออาชีพช่วยดูแลความปลอดภัย สิ่งที่น่าคิดจากคดีนี้ก็คือ คนร้ายเลือกใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย นพ.ชเนษฎ์ เปิดเผยว่า บริษัทรักษาความปลอดภัยในไทยหลายแห่งได้แจ้งมาว่า จากคดีดังกล่าวพบว่าหมวกกันน็อกเป็นที่นิยมในหมู่คนร้าย เพราะมีโทษเบาไปถึงศาลแขวง ไม่ใช่ศาลอาญา รวมทั้งหามาเป็นอาวุธได้ง่าย มีการแนะนำให้ตนหาหมวกกันน็อกมาลองทุบแตงโมดู จึงทดลองทุบเอง ที่กลุ่มสืบเสาะและพินิจ กรมคุมประพฤติ กรุงเทพมหานคร 5 ซึ่งเฟซบุ๊กส่วนตัวของ นพ.ชเนษฎ์ นำมาเผยแพร่ พบว่าแตงโมแตก ซึ่งหากทุบจุดสำคัญของศีรษะอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถึงกระนั้น ตามกฎหมายแล้วหมวกกันน็อกไม่ถือว่าเป็นอาวุธ และในทางคดีพบว่าเป็นการทำร้ายร่างกายธรรมดาไม่สาหัส ทำให้คดีทำร้ายร่างกายครั้งนี้ไปถึงแค่ศาลแขวง ไปไม่ถึงศาลอาญา แม้เหตุการณ์นี้จะทำให้ นพ.ชเนษฎ์ บาดเจ็บถึงขั้นเลือดอาบก็ตาม ปัจจุบัน ณ เดือนมกราคม 2568 ประเทศไทยมีรถจักรยานยนต์มากกว่า 22.85 ล้านคัน รถจักรยายยนต์รับจ้างกว่า 1.17 แสนคัน และมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์รวมกันกว่า 13.10 ล้านใบ การใช้หมวกกันน็อกเป็นอาวุธทำร้ายร่างกาย ถือเป็นอีกช่องโหว่ทางกฎหมาย ที่พลเมืองดีและสุจริตชนทั้งหลายพึงระวัง #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 362 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผกก.สน.ปทุมวัน เผยผู้ก่อเหตุแทง ผจก.ร้านขายเก้าอี้นวดไฟฟ้าเสียชีวิตในห้างดัง สารภาพทำเพราะถูกนินทา และทวงค่าคอมหลายครั้งยังไม่ได้ ด้านแฟนผู้ตายยืนยันไม่ทีทางให้อภัย

    จากกรณี นายประโยชน์ อายุ 40 ปี ถูกอาวุธมีดแทงบริเวณหน้าอกเสียชีวิต ภายในห้างดัง ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมนายสรศักดิ์ อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุไว้ได้ เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนร่วมงานกันตามที่เสนอข่าวนั่น

    ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.อ.อาคม ชุพรัตน์ ผกก. สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายสรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นลูกจ้างในร้านขายเครื่องนวดเก้าอี้ไฟฟ้า ส่วนผู้ตายเป็นผู้จัดการร้าน สำหรับมูลเหตุจูงใจ ผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนหน้านี้มีปากเสียงทะเลาะกับคนตายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากคนตายชอบเอาเรื่องของตนไปนินทาให้คนอื่นฟัง อีกทั้งผู้ต้องหาได้ทวงถามค่าคอมมิชชั่นจากคนตายหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้สักที

    เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การอะไรมาก โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวสอบเข้มตลอดทั้งวัน และจะนำตัวผู้ต้องหาถูกฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.)

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000018155

    #MGROnline #ผู้จัดการร้าน #ค่าคอมมิชชั่น
    ผกก.สน.ปทุมวัน เผยผู้ก่อเหตุแทง ผจก.ร้านขายเก้าอี้นวดไฟฟ้าเสียชีวิตในห้างดัง สารภาพทำเพราะถูกนินทา และทวงค่าคอมหลายครั้งยังไม่ได้ ด้านแฟนผู้ตายยืนยันไม่ทีทางให้อภัย • จากกรณี นายประโยชน์ อายุ 40 ปี ถูกอาวุธมีดแทงบริเวณหน้าอกเสียชีวิต ภายในห้างดัง ย่านปทุมวัน กรุงเทพฯ ต่อมาตำรวจสามารถจับกุมนายสรศักดิ์ อายุ 27 ปี ผู้ก่อเหตุไว้ได้ เบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุและผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนร่วมงานกันตามที่เสนอข่าวนั่น • ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.อ.อาคม ชุพรัตน์ ผกก. สน.ปทุมวัน เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำ นายสรศักดิ์ ให้การรับสารภาพว่า ตนเป็นลูกจ้างในร้านขายเครื่องนวดเก้าอี้ไฟฟ้า ส่วนผู้ตายเป็นผู้จัดการร้าน สำหรับมูลเหตุจูงใจ ผู้ต้องหาอ้างว่า ก่อนหน้านี้มีปากเสียงทะเลาะกับคนตายอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากคนตายชอบเอาเรื่องของตนไปนินทาให้คนอื่นฟัง อีกทั้งผู้ต้องหาได้ทวงถามค่าคอมมิชชั่นจากคนตายหลายครั้งแต่ก็ยังไม่ได้สักที • เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา ซึ่งผู้ต้องหายังไม่ได้ให้การอะไรมาก โดยในวันนี้พนักงานสอบสวนจะคุมตัวสอบเข้มตลอดทั้งวัน และจะนำตัวผู้ต้องหาถูกฝากขังต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันพรุ่งนี้ (25 ก.พ.) • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000018155 • #MGROnline #ผู้จัดการร้าน #ค่าคอมมิชชั่น
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลฎีกาจีนเผยแพร่ผลการพิจารณาคดีสำคัญ 7 คดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงผ่านระบบโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต โดยล่าสุดมีการตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 4 ผู้ต้องหาคนสำคัญจากกลุ่มอาชญากรรมที่ก่อเหตุฉ้อโกงข้ามชาติผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในคดีประเภท "โรแมนซ์สแกม"

    รายงานของศาลฎีการะบุว่า ในช่วงต้นปี 2563 ผู้ต้องหาชาวจีนได้จัดตั้งกลุ่มฉ้อโกงที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ที่เรียกว่า "สวนไฉเสิน อินเตอร์เนชั่นแนล" (Caishen International Park) โดยพวกเขาจ้างสมาชิกอีกหลายคนมาเป็นทีมงานเพื่อดำเนินการหลอกลวงประชาชนจีนผ่านโลกออนไลน์ โดยมีเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิงที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี

    วิธีการของกลุ่มนี้คือใช้แอปพลิเคชั่นแชทและโซเชียลมีเดียต่างชาติในการเข้าหาเหยื่อ ปลอมตัวเป็นผู้ชายที่มีฐานะดีหน้าตาดี ทำทีตีสนิท พูดคุยจนเหยื่อเชื่อใจ จากนั้นหลอกล่อให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงทุนออนไลน์หรือพนันออนไลน์ปลอมชื่อ "จินเทียนลี่" และแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มสามารถควบคุมและจัดการผลลัพธ์ให้เหยื่อหลงเชื่อได้ เมื่อเหยื่อลงทุนด้วยจำนวนเงินมากแล้ว กลุ่มจะตัดช่องทางถอนเงินออก และตัดการติดต่อกับเหยื่อในทันที

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000018150

    #MGROnline #โรแมนซ์สแกม
    ศาลฎีกาจีนเผยแพร่ผลการพิจารณาคดีสำคัญ 7 คดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงผ่านระบบโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ต โดยล่าสุดมีการตัดสินจำคุกตลอดชีวิต 4 ผู้ต้องหาคนสำคัญจากกลุ่มอาชญากรรมที่ก่อเหตุฉ้อโกงข้ามชาติผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ ในคดีประเภท "โรแมนซ์สแกม" • รายงานของศาลฎีการะบุว่า ในช่วงต้นปี 2563 ผู้ต้องหาชาวจีนได้จัดตั้งกลุ่มฉ้อโกงที่เมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา ในพื้นที่ที่เรียกว่า "สวนไฉเสิน อินเตอร์เนชั่นแนล" (Caishen International Park) โดยพวกเขาจ้างสมาชิกอีกหลายคนมาเป็นทีมงานเพื่อดำเนินการหลอกลวงประชาชนจีนผ่านโลกออนไลน์ โดยมีเป้าหมายหลักเป็นผู้หญิงที่เป็นนักธุรกิจหรือผู้มีฐานะทางเศรษฐกิจดี • วิธีการของกลุ่มนี้คือใช้แอปพลิเคชั่นแชทและโซเชียลมีเดียต่างชาติในการเข้าหาเหยื่อ ปลอมตัวเป็นผู้ชายที่มีฐานะดีหน้าตาดี ทำทีตีสนิท พูดคุยจนเหยื่อเชื่อใจ จากนั้นหลอกล่อให้เหยื่อดาวน์โหลดแอปพลิเคชันลงทุนออนไลน์หรือพนันออนไลน์ปลอมชื่อ "จินเทียนลี่" และแพลตฟอร์มอื่นๆ ซึ่งกลุ่มสามารถควบคุมและจัดการผลลัพธ์ให้เหยื่อหลงเชื่อได้ เมื่อเหยื่อลงทุนด้วยจำนวนเงินมากแล้ว กลุ่มจะตัดช่องทางถอนเงินออก และตัดการติดต่อกับเหยื่อในทันที • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/china/detail/9680000018150 • #MGROnline #โรแมนซ์สแกม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 293 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปล่อยเช่าเครื่อง EDC ขโมยรูดปรื๊ดบัตรเครดิต

    ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนางวิยะดา พลเวียง อายุ 41 ปี เจ้าของเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ปล่อยให้คนร้ายเช่าที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการลักขโมยวงเงินบัตรเครดิต ที่ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนไทยร่วมมือกับชาวจีนร่วมกระทำความผิด แม้นางวิยะดาอ้างว่าให้แฟนสาวของแก๊งชาวจีนเช่าเครื่องรูดบัตร ได้ค่าตอบแทน 15% รวมกว่า 130,000 บาท แต่ไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดก็ตาม

    ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านเอกมัย กทม. เป็นคนทำทีไปใช้บริการออนเซน แล้วแอบเก็บเอาสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) ที่ใช้สแกนเข้าออกและเปิดตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่ม โดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา ก่อนตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายรายต่างๆ ระหว่างแช่ออนเซน แล้วหยิบบัตรเครดิตไปรูดโดยใช้เครื่อง EDC แบบพกพา

    สำหรับเครื่องรูดบัตรที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้เป็นแบบพกพายี่ห้อ BLUEPAD-50 v2 ของบริษัท DATECS ที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งให้บริการร้านค้ารับบัตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารทำรายการ รองรับการชำระเงินด้วยการแตะบัตร (Contactless) จำกัดไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ และการเสียบบัตรชิปการ์ด (Dip Chip) ลงในเครื่อง ซึ่งไม่จำกัดวงเงินต่อรายการ

    โดยเปิดแอปฯ ผ่านสมาร์ทโฟน ใส่จำนวนเงินลงไป เสียบบัตรเครดิตที่เครื่องรูดบัตร กระทั่งรายการอนุมัติเพียงไม่กี่นาที ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูดบัตรเครดิตด้วยมูลค่าตั้งแต่ 85,900 บาท ถึง 343,000 บาท บางธนาคารยอมระงับรายการที่คนร้ายรูดและช่วยเหลือตำรวจสืบสวน แต่บางธนาคารให้ลูกค้าไปตามเรื่องเอาเอง ไม่ยอมระงับรายการ และไม่เปิดเผยข้อมูลร้านค้าที่กระทำความผิด โดยพบว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จ.นนทบุรี ธุรกิจรถฉุกเฉิน จ.ปทุมธานี และเต็นท์รถมือสองที่ จ.มหาสารคาม

    ปัจจุบันการขอใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ของแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างง่ายดาย ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ขอได้ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้มีขบวนการปล่อยเช่าเครื่องรูดบัตรเพื่อกระทำความผิด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมีการใช้เครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าโดยตรงหรือไม่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร้านค้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้ในทางที่ผิด เช่นการปล่อยเช่าแก่กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายแก่ผู้คนในสังคม

    #Newskit
    ปล่อยเช่าเครื่อง EDC ขโมยรูดปรื๊ดบัตรเครดิต ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) จับกุมนางวิยะดา พลเวียง อายุ 41 ปี เจ้าของเครื่องรูดบัตร (EDC) ที่ปล่อยให้คนร้ายเช่าที่ อ.กันทรวิชัย จ.มหาสารคาม เมื่อวันที่ 22 ก.พ. ถือเป็นการต่อจิ๊กซอว์ขบวนการลักขโมยวงเงินบัตรเครดิต ที่ปรากฎเป็นข่าวไปเมื่อต้นปี 2568 ซึ่งพบว่ามีกลุ่มคนไทยร่วมมือกับชาวจีนร่วมกระทำความผิด แม้นางวิยะดาอ้างว่าให้แฟนสาวของแก๊งชาวจีนเช่าเครื่องรูดบัตร ได้ค่าตอบแทน 15% รวมกว่า 130,000 บาท แต่ไม่รู้เห็นกับการกระทำความผิดก็ตาม ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ม.ค. ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ทองหล่อ จับกุม น.ส.ธัญชนก ชุ่มชื่นจิตร อายุ 22 ปี หนึ่งในผู้ร่วมก่อเหตุที่คอนโดมิเนียมย่านเอกมัย กทม. เป็นคนทำทีไปใช้บริการออนเซน แล้วแอบเก็บเอาสายรัดข้อมือ (ริสแบนด์) ที่ใช้สแกนเข้าออกและเปิดตู้ล็อกเกอร์ไปทำแถบแม่เหล็กเพิ่ม โดยให้กลุ่มเพื่อนชาวจีนอีก 4 คน ช่วยทำอันใหม่ขึ้นมา ก่อนตระเวนเปิดล็อกเกอร์ของผู้เสียหายรายต่างๆ ระหว่างแช่ออนเซน แล้วหยิบบัตรเครดิตไปรูดโดยใช้เครื่อง EDC แบบพกพา สำหรับเครื่องรูดบัตรที่กลุ่มคนร้ายนำมาใช้เป็นแบบพกพายี่ห้อ BLUEPAD-50 v2 ของบริษัท DATECS ที่ธนาคารขนาดใหญ่แห่งหนึ่งให้บริการร้านค้ารับบัตร เชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธ โดยใช้แอปพลิเคชันธนาคารทำรายการ รองรับการชำระเงินด้วยการแตะบัตร (Contactless) จำกัดไม่เกิน 1,500 บาทต่อรายการ และการเสียบบัตรชิปการ์ด (Dip Chip) ลงในเครื่อง ซึ่งไม่จำกัดวงเงินต่อรายการ โดยเปิดแอปฯ ผ่านสมาร์ทโฟน ใส่จำนวนเงินลงไป เสียบบัตรเครดิตที่เครื่องรูดบัตร กระทั่งรายการอนุมัติเพียงไม่กี่นาที ซึ่งพบว่ามีผู้เสียหายถูกคนร้ายรูดบัตรเครดิตด้วยมูลค่าตั้งแต่ 85,900 บาท ถึง 343,000 บาท บางธนาคารยอมระงับรายการที่คนร้ายรูดและช่วยเหลือตำรวจสืบสวน แต่บางธนาคารให้ลูกค้าไปตามเรื่องเอาเอง ไม่ยอมระงับรายการ และไม่เปิดเผยข้อมูลร้านค้าที่กระทำความผิด โดยพบว่ามีทั้งคาเฟ่ ร้านอาหาร จ.นนทบุรี ธุรกิจรถฉุกเฉิน จ.ปทุมธานี และเต็นท์รถมือสองที่ จ.มหาสารคาม ปัจจุบันการขอใช้เครื่องรูดบัตร (EDC) ของแต่ละธนาคารเป็นไปอย่างง่ายดาย ร้านค้าบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ขอได้ กลายเป็นช่องว่างที่ทำให้มีขบวนการปล่อยเช่าเครื่องรูดบัตรเพื่อกระทำความผิด จึงเป็นเรื่องที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องตรวจสอบว่าร้านค้าแต่ละแห่งมีการใช้เครื่องรูดบัตรที่ร้านค้าโดยตรงหรือไม่ และเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของร้านค้าหรือไม่ เพื่อไม่ให้กลายเป็นการนำเครื่องรูดบัตรไปใช้ในทางที่ผิด เช่นการปล่อยเช่าแก่กลุ่มมิจฉาชีพ สร้างความเสียหายแก่ผู้คนในสังคม #Newskit
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 379 มุมมอง 0 รีวิว
  • "บอล เขาวิเศษ" หรือ นายปราโมทย์ ชูจันทร์ หนุ่มตรัง วัย 35 ปี เริ่มต้นจากเด็กบ้านนอกคอกนาทั่วไป ช่วยพ่อแม่ทำสวนทำไร่ แต่เมื่อเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อก็หลงระเริงไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเงินไม่พอซื้อก็ผันตัวมาเป็นเด็กเดินยา และนักค้ารายย่อย

    กระทั่งปี 52 ขณะเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ก็มาพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อร่วมกับพวกก่อเหตุแทงคู่อริจนเสียชีวิต ถูกจับติดคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรังนานหลายปี พอพ้นโทษออกมาเมื่อปี 61 จากเด็กเดินยาต๊อกต๋อย ก็ขยับขึ้นชั้นเป็นผู้ค้ารายสำคัญ มีชื่อเสียง เงินทอง อำนาจบารมีชั่วช้าจนกลายเป็นไอดอลของเด็กใฝ่เลวในพื้นที่ จากสายสัมพันธ์เครือข่ายพ่อค้ายาที่รู้จักกันในเรือนจำจังหวัดตรัง

    ต่อมาเมื่อปี 62 ได้ก่อคดีจ้างวานฆ่าเจ้าของลานปาล์ม ปมหักหลังธุรกิจสีเทา แต่ระหว่างต่อสู้คดีก็ยังก่อเหตุฉุดนักเรียนสาวมัธยมจากหน้าโรงเรียนไปข่มขืนที่รีสอร์ตอีกด้วย

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000017808

    #MGROnline #บอลเขาวิเศษ
    "บอล เขาวิเศษ" หรือ นายปราโมทย์ ชูจันทร์ หนุ่มตรัง วัย 35 ปี เริ่มต้นจากเด็กบ้านนอกคอกนาทั่วไป ช่วยพ่อแม่ทำสวนทำไร่ แต่เมื่อเข้าสู่หัวเลี้ยวหัวต่อก็หลงระเริงไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เมื่อเงินไม่พอซื้อก็ผันตัวมาเป็นเด็กเดินยา และนักค้ารายย่อย • กระทั่งปี 52 ขณะเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ก็มาพบกับจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เมื่อร่วมกับพวกก่อเหตุแทงคู่อริจนเสียชีวิต ถูกจับติดคุกอยู่ในเรือนจำจังหวัดตรังนานหลายปี พอพ้นโทษออกมาเมื่อปี 61 จากเด็กเดินยาต๊อกต๋อย ก็ขยับขึ้นชั้นเป็นผู้ค้ารายสำคัญ มีชื่อเสียง เงินทอง อำนาจบารมีชั่วช้าจนกลายเป็นไอดอลของเด็กใฝ่เลวในพื้นที่ จากสายสัมพันธ์เครือข่ายพ่อค้ายาที่รู้จักกันในเรือนจำจังหวัดตรัง • ต่อมาเมื่อปี 62 ได้ก่อคดีจ้างวานฆ่าเจ้าของลานปาล์ม ปมหักหลังธุรกิจสีเทา แต่ระหว่างต่อสู้คดีก็ยังก่อเหตุฉุดนักเรียนสาวมัธยมจากหน้าโรงเรียนไปข่มขืนที่รีสอร์ตอีกด้วย • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000017808 • #MGROnline #บอลเขาวิเศษ
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • 4/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    4/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • 3/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    3/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 499 มุมมอง 18 1 รีวิว
  • 2/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก

    2/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 482 มุมมอง 16 0 รีวิว
  • 1/
    ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

    เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์

    ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที

    รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง"

    สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์)

    เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน

    นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย

    มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก

    1/ ภาพจากจุดเกิดเหตุรถบัสโดยสารอย่างน้อย 3 คัน ระเบิดในเขตบัตยัม (Bat Yam) ทางตอนใต้ของกรุงเทลอาวีฟเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่รายงานไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เนทันยาฮู กล่าวว่า เหตุระเบิดในเทลอาวีฟมีความรุนแรงอย่างยิ่งและได้สั่งการให้มีปฏิบัติการรุกอย่างเข้มงวดในเขตเวสต์แบงก์ ทางด้าน "อิสราเอล แคทซ์" รัฐมนตรีกลาโหมอิสราเอล สั่งการให้กองกำลัง IDF ยกระดับปฏิบัติการทางทหารในเขตเวสต์แบงก์ทันที รัฐมนตรีรายนี้กล่าวว่า "เราจะตามล่าผู้ก่อการร้ายอย่างไม่ลดละและรื้อถอนโครงสร้างพื้นฐานด้านการก่อการร้ายของพวกเขา ผู้ที่ให้ที่พักพิงแก่ผู้ก่อการร้ายจะต้องจ่ายราคาแพง" สื่ออิสราเอลเผยแพร่ภาพของอุปกรณ์ระเบิดที่ถูกฝังไว้บนรถบัสโดยมีข้อความว่า "ของขวัญจากค่ายตูลคาร์ม" เขียนอยู่ด้วย (ตูลคาร์ม อยู่ในเขตเวสต์แบงก์) เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลรายงานว่า มีการตรวจค้นรถโดยสารประจำทางทั่วประเทศ และเจอระเบิดที่ซุกซ่อนในไว้ในรถคันอื่นอีก 5 ลูก ในเขตโฮลอน นอกจากนี้นี้ยังมีการโพสต์วิดีโอของผู้ก่อเหตุที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยลงบนอินเทอร์เน็ตด้วย มีการตั้งข้อสังเกตว่า นี่อาจเป็นการจัดฉากของอิสราเอล เนื่องจากบนรถบัสไม่มีผู้โดยสารอยู่ และข่าวกรองของอิสราเอลที่ขึ้นชื่อเรื่องประสิทธิภาพระดับโลก
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 344 มุมมอง 0 รีวิว
  • ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์

    บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน”

    เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ

    จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว

    แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป

    เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    ชายชาวอิสราเอลรายหนึ่งที่อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ถูกตั้งข้อหาพยายามฆ่าหลังจากยิงนักท่องเที่ยว 2 ราย ซึ่งเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน โดยเข้าใจผิดคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ มอร์เดไค บราฟแมน (Mordechai Brafman) ผู้ต้องหาชาวอิสราเอล วัย 28 ปี อาศัยอยู่ในไมอามี รัฐฟลอริดา ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงใส่นักท่องเที่ยวพ่อลูกชาวอิสราเอล 2 ราย รวม 17 นัด จนได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยคิดว่าทั้งสองคือชาวปาเลสไตน์ บราฟแมน เป็นหนึ่งในอิสราเอลหัวรุนแรงที่อาศัยอยู่ในไมอามีบีช ยอมรับกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า “เขาสังหารชาวปาเลสไตน์ 2 คน” เจ้าหน้าที่ตำรวจ รายงานว่า จากกล้องวิดีโอวงจรปิดที่บันทึกภาพไว้ เผยให้เห็นภาพรถของบราฟแมนที่กำลังวิ่งอยู่ และจอดตรงหน้ารถของเหยื่อ จากนั้นบราฟแมนก็เดินออกมาจากรถ ยืนอยู่ใกล้ฝั่งคนขับ และเริ่มยิงไปที่รถของเหยื่อทันทีในขณะที่เหยื่อทั้งสองยังอยู่ในรถ จากรายงานของสื่อระบุว่า บราฟแมนไม่ได้เตรียมตัวในการก่อเหตุมาก่อนล่วงหน้า เขาเห็นคนขับซึ่งเข้าใจว่าเป็นชาวปาเลสไตน์สองคนจึงขับรถตามและยิงใส่ทันที และคิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว แต่สิ่งที่น่าตลกคือ เหยื่อที่ถูกยิงในครั้งนี้ โพสต์ข้อความว่าเขาถูกทำร้ายจากกลุ่มผู้ต้อต้านชาวยิว และลงท้ายด้วยการโทษชาวอาหรับ แต่เมื่อเขารู้ความจริงว่าเป็นชาวอิสราเอลด้วยกัน เหยื่อรายนี้ก็ลบโพสต์ทิ้งไป เหตุการณ์ครั้งนี้บ่งบอกได้เป็นอย่างดีถึงผลจากการป้อนข้อมูลความเกลียดชังและการปลูกฝังลัทธิต่อต้านชาวปาเลสไตน์ที่ฝังรากลึกในอิสราเอลและชุมชนที่สนับสนุนอิสราเอลในสหรัฐฯ
    Sad
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 346 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย

    วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง

    ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น

    ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี

    และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น

    อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย

    #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    กำแพงเพชร - ตำรวจเรียก “โน๊ต” ผู้ต้องหายิง 3 พ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุงสอบอีก ด้านญาติผู้ตายคาใจ ถ้าแค่เรื่องเงินทำไมต้องยิง ขึ้นโรงพักขอคุยแบบลูกผู้ชาย • วันนี้(16 ก.พ.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน สภ.คลองขลุง นำตัว “โน๊ต-ศิวกร” ผู้ต้องหามือยิง 3 พาอแม่ลูก หมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างริมถนนคลองขลุง มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีภรรยาพร้อมทนายร่วมฟัง • ทั้งนี้พบว่า “โน๊ต”มีสีหน้าเรียบเฉยไม่เหมือนเช่นเคย และระหว่างสอบสวนอยู่นั้นได้มีญาติของผู้เสียชีวิตเดินทางมาขอพบเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอพูดคุยกับผู้ก่อเหตุเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น เพราะยังมีเรื่องคาใจในหลายประเด็น • ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายสุพัฒน์ สุบิน ลูกพี่ลูกน้องของนายใหม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางญาติยังสงสัยในประเด็นต่างๆหหลายประเด็น โดยเฉพาะเส้นทางที่ไปกันนั้น ไปกับใคร ไปด้วยกันได้อย่างไร ทำไมถึงต้องยิงกัน ทรัพย์สินมีอะไรบ้างจริงๆแล้วมีเท่าไหร่ รวมทั้งอาวุธปืนเอาไปไว้ไหน อยากให้พูดมาให้หมดมันจะได้ง่ายต่อคดี • และตนยังมองว่าจากคำให้การเรื่องนี้มันแปลก ที่อยู่ๆ จะชวนกันไปกลางทุ่งนา เรื่องเงินคุยที่ไหนก็คุยได้ที่บ้านก็คุยได้ ทำไมต้องไปยังจุดนั้น • อีกทั้งยังมองว่าคนที่ลงมือฆ่าเป็นทั้งสองคนอยู่แล้ว คนเดียวทำไม่ได้ เพราะอีกคนจะให้เขาชวนไปได้ยังไง วันนี้พร้อมที่จะคุยกันตรงๆ แบบลูกผู้ชาย • #MGROnline #กำแพงเพชร #โน๊ต #ผู้ต้องหา #บ้านร้างคลองขลุง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 323 มุมมอง 0 รีวิว
  • กำแพงเพชร – ตำรวจแจงละเอียดยิบพฤติกรรมโหด “โน๊ต”มือฆ่าพ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุง นัดเคลียร์ขอกู้เงินแล้วโดนเบี้ยว จนทะเลาะกันแรง-ใช้บีบีกันดัดแปลง .38 ยิงพ่อก่อนเรียก “เข้” ช่วยยกศพขึ้นรถ จี้บังคับสองแม่ลูกนั่งกระบะไปด้วย อ้างระหว่างทางปืนลั่นทะลุเบ้าตาเด็ก-เลือดขึ้นหน้ายิงแม่ปิดปาก ก่อนขับรถหมกศพทิ้งบ้านร้าง-ให้ญาติมาพาหนี แต่ยังหาผ้าคลุมรถย้อนมาอำพราง-ตามดูวันพบศพ

    วันนี้(15 ก.พ.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมพ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อกองทัพสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก คือ นายวงศกร (ใหม่) หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ (แจง) นาซึ อายุ 35 ปี ,ด.ช.นัทกร หงสไกร อายุ 7 ปี (น้องซันเดย์) ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค. หมกศพในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังพบศพวันที่ 13 ก.พ. ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ตามจับผู้ต้องหาได้

    สำหรับมูลเหตุการฆ่าอำพรางศพ 3พ่อแม่ลูก นายโน๊ต (ผู้ต้องหา)รับว่าเกิดจากนายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตายเคยตกลงยินยอม จะให้นายศิวกรกู้เงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปซื้อโดรนการเกษตร เนื่องจากนายโน๊ต มีอาชีพ ขับโดรนการเกษตร ซึ่งนายโน๊ตนำโดรนเก่าไปตีเทิรน์กับทางร้าน พร้อมวางมัดจำ 7 หมื่นบาท - ทำสัญญาจะหาเงินที่เหลืออีก 1 แสน 5 หมื่นบาทมาซื้อคืน ต่อมานายวงศกร เปลี่ยนใจไม่ให้กู้ยืม ทำให้นายศิวกรเกิดความเสียหาย จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนประเด็นในวงเเชร์เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่าไม่มีมูลเหตุเกี่ยวข้องแต่อย่างใด

    ไทมไลน์นั้น วันเกิดเหตุ จากคำให้การของ นายโน๊ต (ผู้ต้องหา) ได้นัดผู้ตายไปเคลียร์เรื่องเงิน โดยให้ผู้ตายไปรับที่บ้าน แล้วนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งมีการขับรถไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง เพื่อไปจอดรถคุยกัน จากนั้นลงไปเคลียร์นอกรถจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายโน๊ตจะยิงไปที่นายใหม่ 1 นัด โดยอ้างว่าใช้ปืนที่เคยไปจำนำกับนายใหม่ มาก่อเหตุ

    ก่อนจะโทรหานายเข้ หรือนายนิรุธ มาช่วยเหลือยกร่างนายใหม่ หรือนายวงศกรมาไว้ที่หลังรถ

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000015247

    #MGROnline #กู้เงิน #บีบีกันดัดแปลง
    กำแพงเพชร – ตำรวจแจงละเอียดยิบพฤติกรรมโหด “โน๊ต”มือฆ่าพ่อแม่ลูกหมกกระบะคลุมผ้าจอดบ้านร้างคลองขลุง นัดเคลียร์ขอกู้เงินแล้วโดนเบี้ยว จนทะเลาะกันแรง-ใช้บีบีกันดัดแปลง .38 ยิงพ่อก่อนเรียก “เข้” ช่วยยกศพขึ้นรถ จี้บังคับสองแม่ลูกนั่งกระบะไปด้วย อ้างระหว่างทางปืนลั่นทะลุเบ้าตาเด็ก-เลือดขึ้นหน้ายิงแม่ปิดปาก ก่อนขับรถหมกศพทิ้งบ้านร้าง-ให้ญาติมาพาหนี แต่ยังหาผ้าคลุมรถย้อนมาอำพราง-ตามดูวันพบศพ • วันนี้(15 ก.พ.) พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อมพ.ต.อ.รัฐศรัณย์ เกตุสิงห์สร้อย ผกก.สภ.คลองขลุง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อกองทัพสื่อมวลชนที่ติดตามทำข่าวฆ่าโหด 3 พ่อแม่ลูก คือ นายวงศกร (ใหม่) หงสไกร อายุ 37 ปี ,น.ส.นันทกานต์ (แจง) นาซึ อายุ 35 ปี ,ด.ช.นัทกร หงสไกร อายุ 7 ปี (น้องซันเดย์) ที่หายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค. หมกศพในรถกระบะ จอดอยู่ภายในบ้านร้างริมถนน อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร หลังพบศพวันที่ 13 ก.พ. ตำรวจใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน ตามจับผู้ต้องหาได้ • สำหรับมูลเหตุการฆ่าอำพรางศพ 3พ่อแม่ลูก นายโน๊ต (ผู้ต้องหา)รับว่าเกิดจากนายวงศกร หรือใหม่ ผู้ตายเคยตกลงยินยอม จะให้นายศิวกรกู้เงินจำนวน 1 แสนบาท เพื่อที่จะนำเงินจำนวนดังกล่าว ไปซื้อโดรนการเกษตร เนื่องจากนายโน๊ต มีอาชีพ ขับโดรนการเกษตร ซึ่งนายโน๊ตนำโดรนเก่าไปตีเทิรน์กับทางร้าน พร้อมวางมัดจำ 7 หมื่นบาท - ทำสัญญาจะหาเงินที่เหลืออีก 1 แสน 5 หมื่นบาทมาซื้อคืน ต่อมานายวงศกร เปลี่ยนใจไม่ให้กู้ยืม ทำให้นายศิวกรเกิดความเสียหาย จึงได้ลงมือก่อเหตุดังกล่าว ส่วนประเด็นในวงเเชร์เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา ตรวจสอบพบว่าไม่มีมูลเหตุเกี่ยวข้องแต่อย่างใด • ไทมไลน์นั้น วันเกิดเหตุ จากคำให้การของ นายโน๊ต (ผู้ต้องหา) ได้นัดผู้ตายไปเคลียร์เรื่องเงิน โดยให้ผู้ตายไปรับที่บ้าน แล้วนั่งรถไปด้วยกัน ซึ่งมีการขับรถไปเรื่อยๆ ระหว่างทาง เพื่อไปจอดรถคุยกัน จากนั้นลงไปเคลียร์นอกรถจนมีปากเสียงกัน ก่อนที่นายโน๊ตจะยิงไปที่นายใหม่ 1 นัด โดยอ้างว่าใช้ปืนที่เคยไปจำนำกับนายใหม่ มาก่อเหตุ • ก่อนจะโทรหานายเข้ หรือนายนิรุธ มาช่วยเหลือยกร่างนายใหม่ หรือนายวงศกรมาไว้ที่หลังรถ • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/local/detail/9680000015247 • #MGROnline #กู้เงิน #บีบีกันดัดแปลง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 461 มุมมอง 0 รีวิว
  • สตม.คุมตัว 10 ผู้ต้องหาชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์เมียวดี ก่อเหตุลวง "ซิงซิง" ข้ามแดน ส่งตัวให้ตำรวจจีนดำเนินคดี

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015026

    #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    สตม.คุมตัว 10 ผู้ต้องหาชาวจีน แก๊งคอลเซ็นเตอร์เมียวดี ก่อเหตุลวง "ซิงซิง" ข้ามแดน ส่งตัวให้ตำรวจจีนดำเนินคดี อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000015026 #News1feed #News1 #Sondhitalk #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Like
    Haha
    Love
    16
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1204 มุมมอง 0 รีวิว
  • งด 1 ปี! ป.12 ห้ามออกใบอนุญาตพกพา แก้ปัญหาพกปืนเกลื่อนเมือง หวังลดอาชญากรรม

    📢 มาตรการคุมเข้มอาวุธปืน! รัฐบาลสั่งห้ามออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน (ป.12) เป็นเวลา 1 ปี เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม และสร้างความปลอดภัยในสังคม 🚔

    📰 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมลงนามในคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย ที่ 478/2568 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งกำหนดให้ งดการออกใบอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว (ป.12) เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 ปี

    📌 มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป หลังมีการประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา โดยเจ้าหน้าที่นายทะเบียน จะไม่สามารถออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน ให้แก่ประชาชนทั่วไป จนกว่าคำสั่งนี้จะสิ้นสุด

    🔫 ปัญหาการพกพาอาวุธปืน ที่รุนแรงขึ้นในสังคมไทย
    การออกคำสั่งครั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ การใช้อาวุธปืนในปัจจุบัน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น
    - มีการพกพาอาวุธปืน ไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็น
    - มีการแสดงอาวุธปืน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ทั้งในที่สาธารณะ และบนสื่อออนไลน์
    - การพกปืนโดยไม่มีเหตุผล นำไปสู่อาชญากรรมร้ายแรง
    - ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ ทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจ

    😨 เหตุการณ์เหล่านี้ ส่งผลให้ประชาชน เกิดความหวาดกลัว และกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ของสังคม

    🔍 ป.12 คืออะไร? 📜
    ใบอนุญาต ป.12 หรือ "ใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนติดตัว" เป็นเอกสารที่ออกโดย เจ้าหน้าที่นายทะเบียน ภายใต้กฎหมายอาวุธปืนของไทย

    📌 ผู้ที่ได้รับอนุญาต สามารถพกพาอาวุธปืน ติดตัวไปในที่สาธารณะ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

    🔎 เงื่อนไขของการขอใบอนุญาต ป.12
    การขอใบอนุญาตพกพาปืน ต้องมีเหตุผลที่สมควร เช่น
    ✅ เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
    ✅ เป็นนักธุรกิจ ที่ต้องพกพาทรัพย์สินมูลค่าสูง
    ✅ อาชีพที่เสี่ยงต่อชีวิต เช่น ทนายความ หรือพนักงานเก็บเงิน

    ❌ แต่การอนุญาตนี้ กลับถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทำให้มีการพกพาอาวุธปืน อย่างไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของอาชญากรรม และเหตุการณ์รุนแรง

    ⚖️ การห้ามออกใบอนุญาตพกพาปืน ป.12 ช่วยลดอาชญากรรมได้จริงหรือ?
    📉 3 ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากมาตรการนี้
    1️⃣ ลดจำนวนอาวุธปืนในที่สาธารณะ
    คนที่ไม่มีใบอนุญาต จะไม่สามารถพกปืนได้ ลดโอกาสที่ปืนจะถูกนำไปใช้ในการก่อเหตุร้าย

    2️⃣ ป้องกันเหตุอาชญากรรม และความรุนแรง
    ลดความเสี่ยงของ เหตุยิงกันในที่สาธารณะ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา ป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท ที่ลุกลามไปถึงขั้นใช้อาวุธปืน

    3️⃣ เสริมสร้างความปลอดภัย ให้ประชาชน
    ทำให้ประชาชน รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เมื่อเดินทางในที่สาธารณะ ลดความหวาดกลัว จากการเผชิญหน้า กับผู้ที่พกพาอาวุธปืน โดยไม่มีเหตุจำเป็น

    🤔 ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบ? 🔄
    - ประชาชนทั่วไป ที่ต้องการพกปืนเพื่อป้องกันตัว
    - นักธุรกิจ หรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงภัย ที่พกปืนเพื่อรักษาความปลอดภัย
    - ร้านค้าและธุรกิจ ที่มีใบอนุญาตพกปืน เพื่อป้องกันการโจรกรรม

    🚨 ทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัย
    ถึงแม้ว่าจะไม่มีใบอนุญาต ป.12 แต่ประชาชนยังสามารถ ครอบครองอาวุธปืนไว้ที่บ้าน หรือที่ทำงานได้ โดยมีใบอนุญาต ป.4 (ใบอนุญาตครอบครองปืน) ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่

    📌 นอกจากนี้ รัฐบาลแนะนำให้ใช้ มาตรการรักษาความปลอดภัยรูปแบบอื่นๆ เช่น
    - ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV)
    - ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ
    - จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง

    📊 สถิติอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในไทย
    🔎 จากข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) มีคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

    📌 คดีอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน
    - ฆาตกรรม เพิ่มขึ้น 12%
    - ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน เพิ่มขึ้น 18%
    - การยิงกันในที่สาธารณะ เพิ่มขึ้น 22%

    📢 มาตรการนี้ เป็นความพยายามของรัฐบาล ในการลดจำนวนคดี ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน และทำให้สังคมไทย ปลอดภัยยิ่งขึ้น

    🔚 มาตรการห้ามออกใบอนุญาต ป.12 เป็นก้าวสำคัญของการลดอาชญากรรม
    ✅ การห้ามออกใบอนุญาตพกพาปืน (ป.12) เป็นการควบคุมการพกพาอาวุธปืน ในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันอาชญากรรม และสร้างความปลอดภัย ให้กับประชาชน

    ✅ ถึงแม้ว่าผู้ที่ต้องการพกปืน จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังสามารถครอบครองอาวุธปืนที่บ้าน หรือที่ทำงานได้ ภายใต้ใบอนุญาต ป.4

    ✅ นี่เป็นเพียง มาตรการระยะสั้น 1 ปี แต่หากเห็นผลดี รัฐบาลอาจพิจารณาปรับปรุง กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนต่อไป

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131508 ก.พ. 2568

    🔗 #ควบคุมอาวุธปืน #ลดอาชญากรรม #งดป12 #ปืนในที่สาธารณะ #กฎหมายปืน #ความปลอดภัยสาธารณะ #รัฐบาลไทย #พกปืนต้องมีเหตุผล #มาตรการเข้ม #CrimePrevention
    งด 1 ปี! ป.12 ห้ามออกใบอนุญาตพกพา แก้ปัญหาพกปืนเกลื่อนเมือง หวังลดอาชญากรรม 📢 มาตรการคุมเข้มอาวุธปืน! รัฐบาลสั่งห้ามออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน (ป.12) เป็นเวลา 1 ปี เพื่อลดปัญหาอาชญากรรม และสร้างความปลอดภัยในสังคม 🚔 📰 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ร่วมลงนามในคำสั่ง สำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงมหาดไทย ที่ 478/2568 ลงวันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งกำหนดให้ งดการออกใบอนุญาต ให้มีอาวุธปืนติดตัว (ป.12) เป็นการชั่วคราว เป็นระยะเวลา 1 ปี 📌 มาตรการนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นต้นไป หลังมีการประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา โดยเจ้าหน้าที่นายทะเบียน จะไม่สามารถออกใบอนุญาตพกพาอาวุธปืน ให้แก่ประชาชนทั่วไป จนกว่าคำสั่งนี้จะสิ้นสุด 🔫 ปัญหาการพกพาอาวุธปืน ที่รุนแรงขึ้นในสังคมไทย การออกคำสั่งครั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์ การใช้อาวุธปืนในปัจจุบัน ที่ทวีความรุนแรงขึ้น - มีการพกพาอาวุธปืน ไปในที่สาธารณะ โดยไม่มีเหตุจำเป็น - มีการแสดงอาวุธปืน โดยไม่มีเหตุอันสมควร ทั้งในที่สาธารณะ และบนสื่อออนไลน์ - การพกปืนโดยไม่มีเหตุผล นำไปสู่อาชญากรรมร้ายแรง - ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นเหยื่อ ทั้งชีวิต ทรัพย์สิน และสภาพจิตใจ 😨 เหตุการณ์เหล่านี้ ส่งผลให้ประชาชน เกิดความหวาดกลัว และกระทบต่อความสงบเรียบร้อย ของสังคม 🔍 ป.12 คืออะไร? 📜 ใบอนุญาต ป.12 หรือ "ใบอนุญาตให้พกพาอาวุธปืนติดตัว" เป็นเอกสารที่ออกโดย เจ้าหน้าที่นายทะเบียน ภายใต้กฎหมายอาวุธปืนของไทย 📌 ผู้ที่ได้รับอนุญาต สามารถพกพาอาวุธปืน ติดตัวไปในที่สาธารณะ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย 🔎 เงื่อนไขของการขอใบอนุญาต ป.12 การขอใบอนุญาตพกพาปืน ต้องมีเหตุผลที่สมควร เช่น ✅ เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ✅ เป็นนักธุรกิจ ที่ต้องพกพาทรัพย์สินมูลค่าสูง ✅ อาชีพที่เสี่ยงต่อชีวิต เช่น ทนายความ หรือพนักงานเก็บเงิน ❌ แต่การอนุญาตนี้ กลับถูกนำไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ทำให้มีการพกพาอาวุธปืน อย่างไม่เหมาะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของอาชญากรรม และเหตุการณ์รุนแรง ⚖️ การห้ามออกใบอนุญาตพกพาปืน ป.12 ช่วยลดอาชญากรรมได้จริงหรือ? 📉 3 ผลลัพธ์ที่คาดหวังจากมาตรการนี้ 1️⃣ ลดจำนวนอาวุธปืนในที่สาธารณะ คนที่ไม่มีใบอนุญาต จะไม่สามารถพกปืนได้ ลดโอกาสที่ปืนจะถูกนำไปใช้ในการก่อเหตุร้าย 2️⃣ ป้องกันเหตุอาชญากรรม และความรุนแรง ลดความเสี่ยงของ เหตุยิงกันในที่สาธารณะ ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา ป้องกันเหตุทะเลาะวิวาท ที่ลุกลามไปถึงขั้นใช้อาวุธปืน 3️⃣ เสริมสร้างความปลอดภัย ให้ประชาชน ทำให้ประชาชน รู้สึกปลอดภัยมากขึ้น เมื่อเดินทางในที่สาธารณะ ลดความหวาดกลัว จากการเผชิญหน้า กับผู้ที่พกพาอาวุธปืน โดยไม่มีเหตุจำเป็น 🤔 ใครบ้างที่ได้รับผลกระทบ? 🔄 - ประชาชนทั่วไป ที่ต้องการพกปืนเพื่อป้องกันตัว - นักธุรกิจ หรือผู้ที่ทำงานเสี่ยงภัย ที่พกปืนเพื่อรักษาความปลอดภัย - ร้านค้าและธุรกิจ ที่มีใบอนุญาตพกปืน เพื่อป้องกันการโจรกรรม 🚨 ทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการความปลอดภัย ถึงแม้ว่าจะไม่มีใบอนุญาต ป.12 แต่ประชาชนยังสามารถ ครอบครองอาวุธปืนไว้ที่บ้าน หรือที่ทำงานได้ โดยมีใบอนุญาต ป.4 (ใบอนุญาตครอบครองปืน) ซึ่งยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ 📌 นอกจากนี้ รัฐบาลแนะนำให้ใช้ มาตรการรักษาความปลอดภัยรูปแบบอื่นๆ เช่น - ติดตั้งกล้องวงจรปิด (CCTV) - ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยอัตโนมัติ - จ้างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ที่ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง 📊 สถิติอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในไทย 🔎 จากข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2563-2567) มีคดีอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 📌 คดีอาชญากรรม ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน - ฆาตกรรม เพิ่มขึ้น 12% - ปล้นทรัพย์โดยใช้อาวุธปืน เพิ่มขึ้น 18% - การยิงกันในที่สาธารณะ เพิ่มขึ้น 22% 📢 มาตรการนี้ เป็นความพยายามของรัฐบาล ในการลดจำนวนคดี ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืน และทำให้สังคมไทย ปลอดภัยยิ่งขึ้น 🔚 มาตรการห้ามออกใบอนุญาต ป.12 เป็นก้าวสำคัญของการลดอาชญากรรม ✅ การห้ามออกใบอนุญาตพกพาปืน (ป.12) เป็นการควบคุมการพกพาอาวุธปืน ในที่สาธารณะ เพื่อป้องกันอาชญากรรม และสร้างความปลอดภัย ให้กับประชาชน ✅ ถึงแม้ว่าผู้ที่ต้องการพกปืน จะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ยังสามารถครอบครองอาวุธปืนที่บ้าน หรือที่ทำงานได้ ภายใต้ใบอนุญาต ป.4 ✅ นี่เป็นเพียง มาตรการระยะสั้น 1 ปี แต่หากเห็นผลดี รัฐบาลอาจพิจารณาปรับปรุง กฎหมายเกี่ยวกับอาวุธปืนต่อไป ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 131508 ก.พ. 2568 🔗 #ควบคุมอาวุธปืน #ลดอาชญากรรม #งดป12 #ปืนในที่สาธารณะ #กฎหมายปืน #ความปลอดภัยสาธารณะ #รัฐบาลไทย #พกปืนต้องมีเหตุผล #มาตรการเข้ม #CrimePrevention
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 563 มุมมอง 0 รีวิว
  • ศาลสั่งขังยกแก๊ง ขบวนการสาดน้ำซุป อว.ล้างมาเฟียมหาลัย
    .
    ความคืบหน้ากรณีอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังสาดน้ำร้อนใส่ผู้เสียหายนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินขยายผลต่อเนื่อง ภายหลังตำรวจ สภ.คลอง จ.ปทุมธานี สามารถจับกุมตัว นายรษิภา หรือ เจ๊พรีม อายุ 22 ปี และ นายชคัทพล หรือ โอชิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 2 ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ 4.ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย
    .
    ทั้งนี้ ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุได้อีกรวมทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย นาย ดลลธี หรือ พอล อายุ 21 ปี น.ส.วรัญญา หรือ แบม อายุ 21 น.ส.กันยาพัชร หรือ พิมเจล อายุ 21 ปี นักแสดงซีรี่ย์ น.ส.อุ้มบุญ หรือ อุ้มบุญ อายุ 21 ปี นาย นพคุณ หรือ เจ๊จั๊ก อายุ 21 ปี นาย ภราดร หรือ ไอซ์ อายุ 21 ปี พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดธัญบุรี โดยศาลจังหวัดธัญบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน
    .
    ด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ร่วมหารือแนวทางการดูแลป้องกันความปลอดภัยในสถาบันอุดมศึกษา กับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ที่เดินทางมาพร้อมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่เป็นผู้เสียหาย จากกรณีโดนรุ่นพี่ LGBTQ มหาวิทยาลัยเดียวกันทำร้ายและข่มขู่
    .
    น.ส.ศุภมาส ได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจผู้เสียหาย พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีศึกษาว่ามีกลุ่มมาเฟียในมหาวิทยาลัย หลังจากเกิดเรื่องทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดโดยให้พ้นสภาพนักศึกษาทันที พร้อมเข้าไปดูแลผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ทำให้เห็นว่าคนทำผิดต้องได้รับโทษ และทุกภาคส่วนพร้อมอ้าแขนปกป้องน้องๆ ให้กลับเข้าไปเรียนได้อย่างมีความสุข
    .
    “ขณะนี้ยังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าคนที่ทำผิดกฎมหาวิทยาลัยต้องโดนไล่ออก คนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย สถานศึกษาต้องเป็นที่ที่ปลอดภัย ต้องไม่มีมาเฟียหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย เรามี พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่เอาไว้กำกับดูแลมหาวิทยาลัยเอกชน”
    .
    น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า ถ้ามหาวิทยาลัยทำผิดเราสามารถเข้าไปควบคุมหรือปิดมหาวิทยาลัยได้ ถ้ามหาวิทยาลัยนั้นๆ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว จากนี้กระทรวง อว. จะกำชับไปยังทุกมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องไม่ปล่อยผ่าน หน้าที่ของเราคือต้องดูแลนักศึกษาให้เรียนได้อย่างมีความสุข และต้องรู้สึกปลอดภัย
    .............
    Sondhi X
    ศาลสั่งขังยกแก๊ง ขบวนการสาดน้ำซุป อว.ล้างมาเฟียมหาลัย . ความคืบหน้ากรณีอดีตนักศึกษามหาวิทยาลัยชื่อดังสาดน้ำร้อนใส่ผู้เสียหายนั้น เวลานี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินขยายผลต่อเนื่อง ภายหลังตำรวจ สภ.คลอง จ.ปทุมธานี สามารถจับกุมตัว นายรษิภา หรือ เจ๊พรีม อายุ 22 ปี และ นายชคัทพล หรือ โอชิ อายุ 19 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดธัญบุรี ในข้อหา 1.ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ 2 ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ 3.ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังหรือกระทำด้วยประการใดๆ ทำให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพ 4.ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใด ไม่กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยใช้กำลังประทุษร้าย . ทั้งนี้ ล่าสุดตำรวจสามารถจับกุมกลุ่มเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุได้อีกรวมทั้งหมด 8 คน ประกอบด้วย นาย ดลลธี หรือ พอล อายุ 21 ปี น.ส.วรัญญา หรือ แบม อายุ 21 น.ส.กันยาพัชร หรือ พิมเจล อายุ 21 ปี นักแสดงซีรี่ย์ น.ส.อุ้มบุญ หรือ อุ้มบุญ อายุ 21 ปี นาย นพคุณ หรือ เจ๊จั๊ก อายุ 21 ปี นาย ภราดร หรือ ไอซ์ อายุ 21 ปี พร้อมนำตัวไปฝากขังยังศาลจังหวัดธัญบุรี โดยศาลจังหวัดธัญบุรี ไม่อนุญาตให้ประกันตัวผู้ต้องหาทั้ง 8 คน . ด้าน น.ส.ศุภมาส อิศรภักดี รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) พร้อมด้วย ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล ปลัดกระทรวง อว. ร่วมหารือแนวทางการดูแลป้องกันความปลอดภัยในสถาบันอุดมศึกษา กับนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ที่เดินทางมาพร้อมกับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยกรุงเทพที่เป็นผู้เสียหาย จากกรณีโดนรุ่นพี่ LGBTQ มหาวิทยาลัยเดียวกันทำร้ายและข่มขู่ . น.ส.ศุภมาส ได้พูดคุยสอบถามและให้กำลังใจผู้เสียหาย พร้อมกล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นกรณีศึกษาว่ามีกลุ่มมาเฟียในมหาวิทยาลัย หลังจากเกิดเรื่องทางมหาวิทยาลัยก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ รีบดำเนินการลงโทษผู้กระทำผิดโดยให้พ้นสภาพนักศึกษาทันที พร้อมเข้าไปดูแลผู้เสียหายให้ได้รับความเป็นธรรม แสดงให้เห็นถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา ทำให้เห็นว่าคนทำผิดต้องได้รับโทษ และทุกภาคส่วนพร้อมอ้าแขนปกป้องน้องๆ ให้กลับเข้าไปเรียนได้อย่างมีความสุข . “ขณะนี้ยังดำเนินการสอบสวนอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าคนที่ทำผิดกฎมหาวิทยาลัยต้องโดนไล่ออก คนที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องได้รับโทษตามกฎหมาย สถานศึกษาต้องเป็นที่ที่ปลอดภัย ต้องไม่มีมาเฟียหรือการกระทำที่ผิดกฎหมาย เรามี พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน ที่เอาไว้กำกับดูแลมหาวิทยาลัยเอกชน” . น.ส.ศุภมาส กล่าวอีกว่า ถ้ามหาวิทยาลัยทำผิดเราสามารถเข้าไปควบคุมหรือปิดมหาวิทยาลัยได้ ถ้ามหาวิทยาลัยนั้นๆ ไม่ทำหน้าที่ของตัวเอง ซึ่งเราเคยทำมาแล้ว จากนี้กระทรวง อว. จะกำชับไปยังทุกมหาวิทยาลัยไม่ว่าจะเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ต้องไม่ปล่อยผ่าน หน้าที่ของเราคือต้องดูแลนักศึกษาให้เรียนได้อย่างมีความสุข และต้องรู้สึกปลอดภัย ............. Sondhi X
    Like
    Love
    Sad
    15
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 2237 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts