• คดีฟ้องร้องยักษ์ใหญ่ชิปสหรัฐฯ

    เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในรัฐเท็กซัส ได้แก่ AMD, Intel และ Texas Instruments โดยกลุ่มพลเรือนยูเครน กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ละเลยการควบคุมการส่งออก ทำให้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของพวกเขาถูกนำไปใช้ใน โดรนและขีปนาวุธรัสเซีย ที่โจมตีพลเรือนระหว่างปี 2023–2025 การฟ้องร้องใช้ถ้อยคำรุนแรง เช่น “merchants of death” หรือ “พ่อค้าแห่งความตาย” เพื่อชี้ถึงความรับผิดชอบทางศีลธรรมของบริษัทเหล่านี้

    ช่องโหว่การคว่ำบาตรและการเล็ดรอดของเทคโนโลยี
    แม้สหรัฐฯ และพันธมิตรจะออกมาตรการคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2022 แต่รัสเซียยังคงหาช่องทางนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญผ่าน ตลาดสีเทาและบริษัทตัวกลางในต่างประเทศ เช่น จีน ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้ชิปที่ควรใช้ในอุปกรณ์พลเรือนกลับถูกนำไปใช้ในระบบนำทางและควบคุมของอาวุธร้ายแรง การสอบสวนพบว่า กว่า 95% ของขีปนาวุธและโดรนรัสเซียมีชิ้นส่วนตะวันตก

    ผลกระทบต่อพลเรือนยูเครน
    หนึ่งในเหตุการณ์สะเทือนใจคือการโจมตีโรงพยาบาลเด็ก Okhmatdyt ในกรุงเคียฟ ปี 2024 ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยพบว่าขีปนาวุธที่ใช้มีชิ้นส่วนจากบริษัทสหรัฐฯ นี่เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าชิ้นส่วนที่ถูกละเลยการควบคุมสามารถสร้างผลลัพธ์ร้ายแรงต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์

    บทเรียนและความรับผิดชอบระดับโลก
    คดีนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความล้มเหลวของการคว่ำบาตร แต่ยังตั้งคำถามถึง ความรับผิดชอบของบริษัทเทคโนโลยีในสงครามสมัยใหม่ หากศาลตัดสินให้บริษัทเหล่านี้มีความผิด อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่บังคับให้ผู้ผลิตเทคโนโลยีทั่วโลกต้องเข้มงวดกับการตรวจสอบเส้นทางการส่งออกมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การฟ้องร้องบริษัทชิปสหรัฐฯ
    AMD, Intel และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่าชิ้นส่วนของพวกเขาถูกใช้ในอาวุธรัสเซีย

    ช่องโหว่การคว่ำบาตร
    รัสเซียใช้บริษัทตัวกลางในต่างประเทศเพื่อเลี่ยงมาตรการและนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญ

    ผลกระทบต่อพลเรือน
    เหตุโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเคียฟปี 2024 เป็นตัวอย่างการใช้ชิ้นส่วนตะวันตกในอาวุธ

    ความรับผิดชอบของบริษัทเทคโนโลยี
    หากคดีนี้ชนะ อาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการควบคุมการส่งออกทั่วโลก

    ความล้มเหลวของมาตรการคว่ำบาตร
    กว่า 95% ของอาวุธรัสเซียยังคงมีชิ้นส่วนตะวันตก แม้มีข้อห้ามแล้ว

    ความเสี่ยงต่อพลเรือน
    การละเลยการตรวจสอบเส้นทางชิ้นส่วนทำให้พลเรือนยูเครนยังคงตกเป็นเป้าการโจมตี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/amd-intel-and-ti-are-merchants-of-death-says-lawyer-representing-ukrainian-civilians-five-new-suits-complain-that-russian-drones-and-missiles-continue-to-use-high-tech-components-from-these-brands
    ⚖️ คดีฟ้องร้องยักษ์ใหญ่ชิปสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการฟ้องร้องบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ในรัฐเท็กซัส ได้แก่ AMD, Intel และ Texas Instruments โดยกลุ่มพลเรือนยูเครน กล่าวหาว่าบริษัทเหล่านี้ละเลยการควบคุมการส่งออก ทำให้ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของพวกเขาถูกนำไปใช้ใน โดรนและขีปนาวุธรัสเซีย ที่โจมตีพลเรือนระหว่างปี 2023–2025 การฟ้องร้องใช้ถ้อยคำรุนแรง เช่น “merchants of death” หรือ “พ่อค้าแห่งความตาย” เพื่อชี้ถึงความรับผิดชอบทางศีลธรรมของบริษัทเหล่านี้ 🚀 ช่องโหว่การคว่ำบาตรและการเล็ดรอดของเทคโนโลยี แม้สหรัฐฯ และพันธมิตรจะออกมาตรการคว่ำบาตรตั้งแต่ปี 2022 แต่รัสเซียยังคงหาช่องทางนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญผ่าน ตลาดสีเทาและบริษัทตัวกลางในต่างประเทศ เช่น จีน ตุรกี และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ทำให้ชิปที่ควรใช้ในอุปกรณ์พลเรือนกลับถูกนำไปใช้ในระบบนำทางและควบคุมของอาวุธร้ายแรง การสอบสวนพบว่า กว่า 95% ของขีปนาวุธและโดรนรัสเซียมีชิ้นส่วนตะวันตก 🏥 ผลกระทบต่อพลเรือนยูเครน หนึ่งในเหตุการณ์สะเทือนใจคือการโจมตีโรงพยาบาลเด็ก Okhmatdyt ในกรุงเคียฟ ปี 2024 ที่มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก โดยพบว่าขีปนาวุธที่ใช้มีชิ้นส่วนจากบริษัทสหรัฐฯ นี่เป็นตัวอย่างชัดเจนว่าชิ้นส่วนที่ถูกละเลยการควบคุมสามารถสร้างผลลัพธ์ร้ายแรงต่อชีวิตผู้บริสุทธิ์ 🌐 บทเรียนและความรับผิดชอบระดับโลก คดีนี้ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงความล้มเหลวของการคว่ำบาตร แต่ยังตั้งคำถามถึง ความรับผิดชอบของบริษัทเทคโนโลยีในสงครามสมัยใหม่ หากศาลตัดสินให้บริษัทเหล่านี้มีความผิด อาจเป็นบรรทัดฐานใหม่ที่บังคับให้ผู้ผลิตเทคโนโลยีทั่วโลกต้องเข้มงวดกับการตรวจสอบเส้นทางการส่งออกมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การฟ้องร้องบริษัทชิปสหรัฐฯ ➡️ AMD, Intel และ Texas Instruments ถูกกล่าวหาว่าชิ้นส่วนของพวกเขาถูกใช้ในอาวุธรัสเซีย ✅ ช่องโหว่การคว่ำบาตร ➡️ รัสเซียใช้บริษัทตัวกลางในต่างประเทศเพื่อเลี่ยงมาตรการและนำเข้าชิ้นส่วนสำคัญ ✅ ผลกระทบต่อพลเรือน ➡️ เหตุโจมตีโรงพยาบาลเด็กในเคียฟปี 2024 เป็นตัวอย่างการใช้ชิ้นส่วนตะวันตกในอาวุธ ✅ ความรับผิดชอบของบริษัทเทคโนโลยี ➡️ หากคดีนี้ชนะ อาจสร้างบรรทัดฐานใหม่ในการควบคุมการส่งออกทั่วโลก ‼️ ความล้มเหลวของมาตรการคว่ำบาตร ⛔ กว่า 95% ของอาวุธรัสเซียยังคงมีชิ้นส่วนตะวันตก แม้มีข้อห้ามแล้ว ‼️ ความเสี่ยงต่อพลเรือน ⛔ การละเลยการตรวจสอบเส้นทางชิ้นส่วนทำให้พลเรือนยูเครนยังคงตกเป็นเป้าการโจมตี https://www.tomshardware.com/pc-components/amd-intel-and-ti-are-merchants-of-death-says-lawyer-representing-ukrainian-civilians-five-new-suits-complain-that-russian-drones-and-missiles-continue-to-use-high-tech-components-from-these-brands
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 4 มุมมอง 0 รีวิว
  • โลกออนไลน์วิจารณ์เดือด หลังปรากฏคลิป ฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา เข้าร่วมพิธีแต่งงานอย่างชื่นมื่นพร้อมครอบครัว ท่ามกลางสถานการณ์ปะทะรุนแรงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมาก
    .
    เพจ “ส่องเขมร” ระบุว่า ขณะที่ทหารแนวหน้าต้องสังเวยชีวิต ผู้นำกัมพูชากลับเลือกปรากฏตัวในบรรยากาศงานเฉลิมฉลอง สะท้อนคำถามต่อความรับผิดชอบและบทบาทผู้นำในยามประเทศเผชิญวิกฤตความมั่นคง
    .
    อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119791
    .
    #News1live #News1 #ฮุนเซน #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ภาวะผู้นำ #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    โลกออนไลน์วิจารณ์เดือด หลังปรากฏคลิป ฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา เข้าร่วมพิธีแต่งงานอย่างชื่นมื่นพร้อมครอบครัว ท่ามกลางสถานการณ์ปะทะรุนแรงตามแนวชายแดนไทย–กัมพูชา ที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิตจำนวนมาก . เพจ “ส่องเขมร” ระบุว่า ขณะที่ทหารแนวหน้าต้องสังเวยชีวิต ผู้นำกัมพูชากลับเลือกปรากฏตัวในบรรยากาศงานเฉลิมฉลอง สะท้อนคำถามต่อความรับผิดชอบและบทบาทผู้นำในยามประเทศเผชิญวิกฤตความมั่นคง . อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9680000119791 . #News1live #News1 #ฮุนเซน #กัมพูชา #ชายแดนไทยกัมพูชา #สถานการณ์ชายแดน #ภาวะผู้นำ #ทำลายให้สิ้น #เพื่อชาติศาสนาพระมหากษัตริย์
    Like
    Haha
    Angry
    3
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 204 มุมมอง 0 รีวิว
  • ด่วนกลางดึก-นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ หลังสูตรการเมืองเปลี่ยนขั้วชั่วข้ามคืน
    .
    การยุบสภาฯ เกิดขึ้นทันทีหลังรัฐสภามีมติให้มาตรา 256/28 ต้องได้เสียงเห็นชอบจาก สว. อย่างน้อยหนึ่งในสาม ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไม่ได้ ขณะที่พรรคประชาชน—ผู้หนุนอนุทินเป็นนายกฯ—ย้ำชัดว่า หากโหวตแพ้จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะทันที
    .
    “ภราดร ปริศนานันทกุล” ชี้แจงตรงไปตรงมา—พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถไปสั่ง สว. ให้ตัดอำนาจของตัวเองได้ และหากตัดอำนาจ สว. ก็จะไม่ผ่านวาระสาม ส่งผลให้การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับล้มทั้งระบบ
    .
    สุดท้าย นายอนุทินเลือกยุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และทำตามข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลเดิมว่า หากแก้รัฐธรรมนูญไปต่อไม่ได้ ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน.
    .
    อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000119265
    .
    #News1live #News1 #ยุบสภา #อนุทิน #การเมืองไทย #เลือกตั้งใหม่ #สภาผู้แทนราษฎร #เกมการเมือง
    ด่วนกลางดึก-นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ทูลเกล้าฯ พระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เพื่อเปิดทางสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งใหม่ หลังสูตรการเมืองเปลี่ยนขั้วชั่วข้ามคืน . การยุบสภาฯ เกิดขึ้นทันทีหลังรัฐสภามีมติให้มาตรา 256/28 ต้องได้เสียงเห็นชอบจาก สว. อย่างน้อยหนึ่งในสาม ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเดินหน้าต่อไม่ได้ ขณะที่พรรคประชาชน—ผู้หนุนอนุทินเป็นนายกฯ—ย้ำชัดว่า หากโหวตแพ้จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลทั้งคณะทันที . “ภราดร ปริศนานันทกุล” ชี้แจงตรงไปตรงมา—พรรคภูมิใจไทยไม่สามารถไปสั่ง สว. ให้ตัดอำนาจของตัวเองได้ และหากตัดอำนาจ สว. ก็จะไม่ผ่านวาระสาม ส่งผลให้การแก้รัฐธรรมนูญทั้งฉบับล้มทั้งระบบ . สุดท้าย นายอนุทินเลือกยุบสภาเพื่อแสดงความรับผิดชอบ และทำตามข้อตกลงจัดตั้งรัฐบาลเดิมว่า หากแก้รัฐธรรมนูญไปต่อไม่ได้ ต้องคืนอำนาจให้ประชาชนตัดสิน. . อ่านต่อ… https://news1live.com/detail/9680000119265 . #News1live #News1 #ยุบสภา #อนุทิน #การเมืองไทย #เลือกตั้งใหม่ #สภาผู้แทนราษฎร #เกมการเมือง
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar

    UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย
    สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference

    Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service”
    Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้
    https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network

    หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง
    เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for

    DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม
    DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป
    https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains

    Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม
    Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs

    Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ
    Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ
    https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report

    จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า?
    ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ
    https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary

    Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com
    เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead

    นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3
    ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด
    https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked

    Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้
    Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา
    https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu

    Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย
    ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation

    Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง
    ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง
    https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect

    Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์
    Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app

    Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย
    Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่
    https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india

    AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล
    AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried

    SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S
    AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know

    ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง
    รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge

    Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7
    Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้
    https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7

    Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง
    Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น
    https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media

    ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน
    หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้
    https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it

    อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16
    หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet

    Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut
    Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google
    https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature

    การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ
    จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า
    https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back

    CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง
    ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ”
    https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself

    ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น
    มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด
    https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature

    HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่
    เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต
    https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury

    TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่
    TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs

    Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย
    Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block

    Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา
    Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน
    https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved

    ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD
    ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว
    https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan

    ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี
    หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล
    https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks

    Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection
    Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย
    https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome

    Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4
    Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา
    https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals

    ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025
    การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน
    https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize

    Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ
    Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง
    https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand

    ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android
    นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง
    https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do

    Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU
    งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล
    https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251211 #TechRadar 🌊 UK เสริมความปลอดภัยสายเคเบิลใต้น้ำจากภัยรัสเซีย สหราชอาณาจักรประกาศโครงการ Atlantic Bastion เพื่อปกป้องโครงสร้างพื้นฐานใต้น้ำอย่างสายเคเบิลและท่อส่งพลังงานจากการคุกคามของรัสเซีย หลังจากมีเหตุการณ์สายเคเบิลในทะเลบอลติกถูกตัดหรือเสียหายหลายครั้งในช่วงสงครามรัสเซีย–ยูเครน โครงการนี้จะใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย ทั้งเรืออัตโนมัติ เซ็นเซอร์ตรวจจับ และกองทัพเรือ โดยมีแผนเริ่มนำไปใช้จริงตั้งแต่ปี 2026 เพื่อให้การป้องกันครอบคลุมพื้นที่มหาสมุทรกว้างใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/uk-strengthens-subsea-cables-against-russian-interference 🚨 Europol ปราบเครือข่าย “Violence-as-a-Service” Europol เปิดเผยแนวโน้มใหม่ของอาชญากรรมที่เรียกว่า “Violence-as-a-Service” ซึ่งเป็นการจ้างคนรุ่นใหม่ที่ไร้ประสบการณ์ให้ก่อเหตุรุนแรง ตั้งแต่ข่มขู่ ทรมาน ไปจนถึงฆาตกรรม เครือข่ายนี้เริ่มจากสวีเดนและแพร่ไปทั่วยุโรป จนต้องตั้งหน่วยเฉพาะกิจ GRIMM เพื่อสกัดกั้นการรับสมัครผ่านโซเชียลมีเดีย ภายใน 6 เดือนแรกสามารถจับกุมผู้เกี่ยวข้องได้ถึง 193 คน พร้อมยึดอาวุธและกระสุนจำนวนมาก ถือเป็นการป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/europol-cracks-down-on-violence-as-a-service-network 🤖 หุ่นยนต์ไล่เตะ CEO – โลกอนาคตที่เราเซ็นรับหรือยัง เรื่องราวที่กำลังเป็นไวรัลคือหุ่นยนต์ T800 ของบริษัท EngineAI ที่โชว์พลังเตะใส่ CEO ของตัวเองจนกระเด็นไปไกล ทั้งหมดนี้เป็นการพิสูจน์ว่าหุ่นยนต์ไม่ได้ถูกสร้างด้วย CGI แต่ทำได้จริง หุ่นยนต์รุ่นใหม่ไม่เพียงแค่เดินหรือโต้ตอบ แต่ยังสามารถวิ่งได้ถึง 6 mph และทำท่าต่อสู้เหมือนมนุษย์ จุดประสงค์เบื้องหลังคือการโปรโมตงาน “Robot Boxing Match” ที่จะจัดขึ้นในจีน แต่ภาพที่ออกมากลับทำให้หลายคนเริ่มกังวลว่าอนาคตหุ่นยนต์อาจไม่ใช่ผู้ช่วยในบ้าน แต่กลายเป็นคู่ต่อสู้ในสังเวียนแทน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/now-weve-got-robots-that-can-chase-and-kick-us-is-this-the-robot-revolution-we-signed-up-for 🚁 DJI FlyCart 100 – โดรนยักษ์แบกของหนัก 100 กิโลกรัม DJI เปิดตัวโดรนรุ่นใหม่ FlyCart 100 ที่ออกแบบมาเพื่อการขนส่งหนักโดยเฉพาะ สามารถแบกน้ำหนักได้ถึง 100 กิโลกรัม และบินสูงถึง 6,000 เมตร พร้อมระบบวินซ์ยกของด้วยสายเคเบิล 30 เมตร มีแบตเตอรี่ที่เปลี่ยนได้แบบ hot-swap และทนสภาพอากาศตั้งแต่ -20°C ถึง 40°C รวมถึงทนลมแรงและมีระบบหลบสิ่งกีดขวางด้วย LiDAR จุดเด่นคือความสามารถในการทำงานในพื้นที่ก่อสร้างหรือภูเขาสูง แต่รูปลักษณ์ที่ดุดันทำให้หลายคนเปรียบเทียบกับเครื่องจักรในหนังไซไฟมากกว่าจะเป็นโดรนส่งพัสดุทั่วไป 🔗 https://www.techradar.com/cameras/drones/djis-terrifying-new-delivery-drone-is-its-most-powerful-so-far-the-flycart-100-can-carry-100kg-loads-and-climb-6-000m-mountains 📺 Sam Altman บน Tonight Show – AI คือพลังแห่งความเท่าเทียม Sam Altman CEO ของ OpenAI ไปออกรายการ Tonight Show กับ Jimmy Fallon เพื่อเล่าถึงการเติบโตของ ChatGPT ที่มีผู้ใช้กว่า 800 ล้านคนต่อสัปดาห์ เขาเปรียบ AI ว่าเป็น “พลังแห่งความเท่าเทียม” คล้ายกับการมาของสมาร์ทโฟนที่ทุกคนเข้าถึงได้เหมือนกัน แม้จะยอมรับว่ามีความเสี่ยงและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว แต่เขาย้ำว่า AI กำลังช่วยให้คนทั่วไปมีเครื่องมือทรงพลังในชีวิตประจำวัน ตั้งแต่เขียนเรซูเม่ไปจนถึงวางแผนการเดินทาง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/sam-altman-tells-jimmy-fallon-that-ai-is-the-equalizing-force-the-world-needs 💼 Salesforce Agentforce – เดิมพันอนาคตด้วย AI ผู้ช่วยอัจฉริยะ Salesforce ประกาศเปิดตัว Agentforce 360 แพลตฟอร์มใหม่ที่ช่วยให้ธุรกิจสร้าง AI Agent สำหรับงานบริการลูกค้าและการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้รายได้ไตรมาสล่าสุดจะโตถึง 9% เป็น 10.3 พันล้านดอลลาร์ แต่หุ้นยังร่วงลงกว่า 29% ในปีนี้ การเปิดตัว Agentforce จึงถูกมองว่าเป็นการวางเดิมพันครั้งใหญ่เพื่อสร้างความเชื่อมั่น โดยมีตัวอย่างการใช้งานจริง เช่น ตำรวจ Thames Valley ที่ทดลองใช้ AI Assistant “Bobbi” ตอบคำถามทั่วไปแทนเจ้าหน้าที่ แม้ยังมีข้อกังวลเรื่องความผิดพลาด แต่ก็สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังเข้ามาอยู่ในงานที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นเรื่อย ๆ 🔗 https://www.techradar.com/pro/salesforce-bets-on-agentic-ai-platform-following-cautiously-optimistic-earnings-report 🖥️ จอมอนิเตอร์ 1000Hz – เร็วเกินไปหรือเปล่า? ข่าวที่ทำให้สายเกมเมอร์ต้องขมวดคิ้วคือการเปิดตัวจอมอนิเตอร์ “dual-mode” ที่สามารถรีเฟรชเรตได้สูงถึง 1000Hz ฟังดูเหมือนจะเป็นการปฏิวัติ แต่หลายคนกลับมองว่ามันเกินความจำเป็น เพราะแม้แต่เกมแข่งขันระดับ eSports ส่วนใหญ่ก็ยังใช้ไม่ถึง 360Hz การกระโดดไปถึง 1000Hz จึงถูกตั้งคำถามว่าเป็นการตลาดมากกว่าความต้องการจริงของผู้เล่น อย่างไรก็ตาม มันก็สะท้อนให้เห็นว่าตลาดฮาร์ดแวร์ยังคงพยายามหาจุดขายใหม่ ๆ อยู่เสมอ 🔗 https://www.techradar.com/computing/monitors/the-worlds-first-1-000hz-dual-mode-gaming-monitors-are-coming-but-they-sound-completely-unnecessary 🚗 Lamborghini ชนะคดีโดเมน Lambo.com เรื่องราวดราม่าในโลกออนไลน์คือการที่ Lamborghini ฟ้องร้องเจ้าของโดเมน Lambo.com หลังจากเจ้าของพยายามขายชื่อโดเมนนี้ในราคา 75 ล้านดอลลาร์ ศาลตัดสินว่าเจ้าของกระทำโดยไม่สุจริต และสั่งให้โดเมนตกเป็นของ Lamborghini ทันที เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณค่าของชื่อแบรนด์ในโลกดิจิทัล และการที่บริษัทใหญ่พร้อมจะปกป้องทรัพย์สินทางออนไลน์ของตนอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/man-attempts-to-break-world-record-with-usd75-million-domain-name-pitch-ends-up-empty-handed-instead ⌚ นาฬิกาฟิตเนสรุ่นใหม่ – คู่แข่ง Apple Watch SE 3 ข่าวหลุดล่าสุดเผยว่ากำลังจะมีการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์ราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่ถูกมองว่าเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Apple Watch SE 3 จุดเด่นคือการออกแบบที่คล้ายคลึงกับรุ่นยอดนิยม แต่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและการออกกำลังกายมากขึ้น ทำให้หลายคนคาดว่าจะเป็น “ภาคต่อ” ของนาฬิกาฟิตเนสที่เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นรุ่นที่คุ้มค่าที่สุด 🔗 https://www.techradar.com/health-fitness/smartwatches/forget-the-apple-watch-se-3-it-looks-like-a-big-sequel-to-our-best-ever-cheap-fitness-watch-has-just-leaked 🖥️ Windows 11 ปรับเมนูคลิกขวา ลบ AI Actions ที่ไม่ใช้ Microsoft กำลังทดสอบการเปลี่ยนแปลงเล็ก ๆ แต่ช่วยลดความรกใน Windows 11 โดยหากผู้ใช้ปิดการทำงานของ AI Actions ทั้งหมด เมนูคลิกขวาใน File Explorer จะไม่แสดงโฟลเดอร์ว่าง ๆ ของ AI อีกต่อไป ก่อนหน้านี้แม้ปิดแล้วก็ยังเห็นเมนูแต่ไม่มีฟังก์ชัน ซึ่งทำให้หลายคนงง การแก้ไขนี้จึงเป็นเหมือนการจัดระเบียบให้ใช้งานง่ายขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการทำให้ Windows 11 ดูสะอาดตาและตรงไปตรงมา 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/think-ai-actions-in-windows-11-are-pointless-microsoft-is-letting-you-banish-them-from-the-right-click-menu 🌐 Norton VPN ปรับปรุงครั้งใหญ่ เพิ่มความเร็วและความปลอดภัย ปีนี้ Norton VPN เดินหน้าอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งเพิ่มเซิร์ฟเวอร์ความเร็วสูง 25Gbps ในหลายเมืองทั่วโลก รวมถึงเปิดตัวเซิร์ฟเวอร์ใหม่สำหรับ P2P และเพิ่มตัวเลือก OpenVPN ทั้ง UDP และ TCP เพื่อให้ผู้ใช้เลือกได้ตามความต้องการ ไม่เพียงเท่านั้น Norton ยังผ่านการตรวจสอบจากบริษัทภายนอกเกี่ยวกับโปรโตคอล Mimic ที่พัฒนาขึ้นเอง ผลคือไม่มีความเสี่ยงด้านเทคนิคและยังรองรับการเข้ารหัสที่ต้านทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมในอนาคต ทำให้บริการนี้ก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่าจับตามองในตลาด VPN 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/faster-speeds-more-locations-norton-vpn-caps-off-a-year-of-transformation 📱 Samsung Galaxy S26 อาจได้ MagSafe เวอร์ชันของตัวเอง ข่าวลือใหม่เผยว่า Galaxy S26 จะมาพร้อมระบบแม่เหล็กคล้าย MagSafe ของ Apple ซึ่งจะเปิดทางให้มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคสแม่เหล็ก แท่นชาร์จ และที่ยึดติดรถยนต์ นี่อาจเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ใน ecosystem ของ Samsung เพราะจะทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกเสริมที่สะดวกและเป็นมาตรฐานเดียวกันมากขึ้น หากเป็นจริง Galaxy S26 จะกลายเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับอุปกรณ์เสริมได้กว้างขวางที่สุดรุ่นหนึ่ง 🔗 https://www.techradar.com/phones/samsung-galaxy-phones/the-samsung-galaxy-s26-might-finally-be-getting-its-version-of-magsafe-here-are-8-accessories-to-expect 🎬 Adobe จับมือ YouTube: เพิ่มเครื่องมือใหม่ให้ครีเอเตอร์ Adobe และ YouTube ร่วมกันเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ในแอป Premiere สำหรับการสร้าง YouTube Shorts โดยตรง จุดเด่นคือมีเอฟเฟกต์พิเศษ ทรานซิชัน และเทมเพลตที่ออกแบบมาเฉพาะ ทำให้การตัดต่อและอัปโหลดคลิปสั้นง่ายขึ้นมาก นอกจากนี้ยังมีระบบติดตามเทรนด์เพื่อช่วยให้ครีเอเตอร์เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนกำลังมาแรง ถือเป็นการต่อยอดความร่วมมือระหว่าง Adobe และ Google ที่เคยนำโมเดล AI เข้ามาใช้ในเครื่องมือสร้างสรรค์ต่าง ๆ การอัปเดตนี้ช่วยให้การทำงานของครีเอเตอร์เร็วขึ้นและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/adobe-and-youtube-love-in-delivers-new-tools-for-content-creators-and-resolves-the-biggest-issue-we-had-with-adobes-free-video-editing-app 💰 Amazon ทุ่มงบ 35 พันล้านดอลลาร์ลงทุน AI ในอินเดีย Amazon ประกาศแผนลงทุนครั้งใหญ่ในอินเดีย มูลค่าถึง 35 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยี AI และโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล การลงทุนนี้สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะทำให้อินเดียเป็นศูนย์กลางด้าน AI และคลาวด์ในภูมิภาคเอเชีย พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจและการจ้างงานจำนวนมาก ถือเป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่ยิ่งใหญ่ของ Amazon ในตลาดเกิดใหม่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-and-to-commit-usd35bn-into-ai-in-india 🎮 AMD Redstone: อัปเดตใหม่ที่อาจทำให้ Nvidia ต้องกังวล AMD เตรียมปล่อยอัปเดต Redstone สำหรับเทคโนโลยี FSR (FidelityFX Super Resolution) ที่ใช้ในการเรนเดอร์ภาพเกมบนพีซี การอัปเดตนี้ถูกคาดว่าจะช่วยยกระดับคุณภาพภาพและประสิทธิภาพให้ดีขึ้นมาก จนกลายเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวของ DLSS จาก Nvidia หาก Redstone ทำได้ตามที่คาดไว้ มันอาจเปลี่ยนสมดุลการแข่งขันในตลาดกราฟิกการ์ด และทำให้ผู้เล่นเกมมีทางเลือกที่คุ้มค่ามากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/gpu/amds-redstone-update-could-revitalize-fsr-for-pc-games-heres-why-nvidia-should-be-worried 🛡️ SAP อุดช่องโหว่ร้ายแรง 3 จุด เพิ่มความปลอดภัยให้ผู้ใช้ S AP ได้ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่ความปลอดภัยที่ถูกจัดว่าเป็นระดับวิกฤติถึง 3 จุด ซึ่งหากปล่อยไว้ อาจเปิดโอกาสให้แฮกเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญหรือควบคุมระบบได้ ช่องโหว่เหล่านี้ถูกค้นพบและรายงานโดยนักวิจัยด้านความปลอดภัย และการแก้ไขครั้งนี้ถือเป็นการยืนยันว่า SAP ให้ความสำคัญกับการปกป้องลูกค้าในระดับองค์กรอย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/three-critical-vulnerabilities-patched-by-sap-heres-what-we-know 🌐 ไต้หวันบล็อกแอป RedNote จุดกระแส VPN พุ่งแรง รัฐบาลไต้หวันได้สั่งบล็อกการใช้งานแอป RedNote ซึ่งเป็นแอปที่ได้รับความนิยมในบางกลุ่ม ส่งผลให้ผู้ใช้จำนวนมากหันไปใช้ VPN เพื่อหลีกเลี่ยงการบล็อก การตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความเข้มงวดด้านการควบคุมข้อมูลและการสื่อสารในประเทศ และทำให้ตลาด VPN เติบโตขึ้นทันทีหลังจากมาตรการถูกประกาศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/taiwan-blocks-rednote-app-sparking-vpn-surge 📱 Motorola โชว์มือถือพับใหม่ท้าชน Samsung Galaxy Z Fold 7 Motorola กำลังกลับมาสู่ตลาดมือถือพับได้อีกครั้ง โดยล่าสุดได้ปล่อยทีเซอร์มือถือรุ่นใหม่ที่ตั้งใจจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Samsung Galaxy Z Fold 7 แม้ยังไม่มีรายละเอียดเต็ม ๆ แต่การเคลื่อนไหวนี้สะท้อนว่าตลาดมือถือพับได้ยังคงร้อนแรง และ Motorola ต้องการกลับมาชิงส่วนแบ่งตลาดจาก Samsung ที่ครองตลาดอยู่ในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/phones/motorola-phones/motorola-just-teased-a-new-foldable-to-rival-the-samsung-galaxy-z-fold-7 📸 Instagram เปิดให้ผู้ใช้ควบคุมอัลกอริทึมเอง Instagram ประกาศฟีเจอร์ใหม่ที่ให้ผู้ใช้สามารถเลือกได้ว่าต้องการเห็นโพสต์แบบไหน โดยสามารถปรับการแสดงผลให้เป็นไปตามความต้องการ เช่น การจัดลำดับตามเวลา หรือการเลือกเนื้อหาที่สนใจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้อาจส่งผลต่อวิธีที่ผู้คนใช้แพลตฟอร์ม และอาจเปลี่ยนโฉมหน้าของโซเชียลมีเดียในอนาคต เพราะเป็นการคืนอำนาจการควบคุมให้กับผู้ใช้มากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/computing/social-media/instagram-just-gave-users-algorithm-control-and-this-could-change-the-face-of-social-media 🖥️ ทำไมระบบเทคโนโลยีที่ไม่เชื่อมต่อกันกำลังบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน หลายองค์กรลงทุนในเทคโนโลยีมากมาย แต่กลับสูญเสียเงินมหาศาลเพราะระบบที่ไม่เชื่อมโยงกัน ทำให้พนักงานต้องเสียเวลามากกว่า 20 ชั่วโมงต่อสัปดาห์เพียงเพื่อค้นหาข้อมูลหรือแก้ปัญหาซ้ำ ๆ สิ่งนี้ไม่เพียงลดประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้คนเก่ง ๆ หมดไฟและลาออกไปในที่สุด ทางออกคือการสร้างระบบที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด มีความสามารถในการแก้ไขตัวเองอัตโนมัติ และปรับตัวตามพฤติกรรมผู้ใช้ ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจแข่งขันได้ดีขึ้นและรักษาคนเก่งไว้ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/why-disconnected-tech-stacks-are-undermining-your-workforce-and-how-to-fix-it 🇬🇧 อังกฤษยังไม่คิดทำตามออสเตรเลียเรื่องแบนโซเชียลมีเดียเด็กอายุต่ำกว่า 16 หลังจากออสเตรเลียประกาศห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้โซเชียลมีเดีย อังกฤษถูกถามว่าจะทำตามหรือไม่ รัฐมนตรีวัฒนธรรม Lisa Nandy ยืนยันว่า “ยังไม่มีแผน” เพราะกังวลเรื่องการบังคับใช้และผลกระทบที่อาจผลักเด็กไปใช้ช่องทางอื่น แต่ก็เปิดช่องว่า หากมาตรการนี้ได้ผล อังกฤษอาจพิจารณาในอนาคต ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงระหว่างการปกป้องเยาวชนกับสิทธิความเป็นส่วนตัวบนโลกออนไลน์ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/uk-has-no-plans-to-replicate-australias-social-media-ban-yet 🎬 Google Photos เพิ่มเครื่องมือใหม่สู้ CapCut Google Photos เปิดตัวฟีเจอร์ใหม่สำหรับการตัดต่อวิดีโอ โดยเพิ่ม “template” สำเร็จรูปที่มีเพลงและข้อความพร้อม ทำให้ผู้ใช้สามารถสร้างคลิปสั้น ๆ สไตล์ TikTok หรือ Reels ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงหน้าตา editor ให้ใช้งานง่ายขึ้น พร้อมเพิ่มฟังก์ชันใส่เพลงและข้อความลงในคลิป ฟีเจอร์เหล่านี้กำลังทยอยเปิดให้ใช้ทั้งบน Android และ iOS และจะกลายเป็นเครื่องมือหลักในการตัดต่อวิดีโอบนมือถือของ Google 🔗 https://www.techradar.com/computing/software/google-photos-takes-on-capcut-with-5-handy-new-video-editing-tools-including-a-time-saving-template-feature 📱 การหลอกลวงผ่าน SMS หรือ Smishing กำลังกลายเป็นภัยต่อธุรกิจ จากเดิมที่เป็นเพียงการหลอกผู้บริโภค ตอนนี้ Smishing หรือการส่งข้อความ SMS หลอกลวงได้พัฒนาไปถึงระดับที่คุกคามองค์กร โดยอาชญากรใช้เครื่อง “SMS Blaster” ที่สามารถส่งข้อความปลอมจำนวนมหาศาลได้ในไม่กี่วินาที ทำให้พนักงานตกเป็นเป้าหมายและอาจเผลอให้ข้อมูลสำคัญ เช่น รหัสผ่านหรือข้อมูลการเงิน อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและหน่วยงานกำกับดูแลกำลังหาทางป้องกัน ทั้งการบล็อกข้อความลิงก์ต้องสงสัย และการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่อย่าง RCS ที่มีระบบเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่แข็งแรงกว่า 🔗 https://www.techradar.com/pro/smishings-evolution-from-consumer-scam-to-enterprise-threat-how-industry-is-fighting-back 📚 CEO มองว่าเรื่องการเรียนรู้ AI ต้องฝึกเอง ในโลกธุรกิจปัจจุบัน AI กลายเป็นเครื่องมือสำคัญ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือผู้บริหารหลายคนกลับมองว่า การเรียนรู้และการพัฒนาทักษะด้าน AI ไม่ควรพึ่งพาองค์กรจัดฝึกอบรมให้ แต่ควรเป็นความรับผิดชอบของพนักงานเองที่จะต้องหาความรู้ ฝึกฝน และพัฒนาทักษะเพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เท่ากับว่าภาพลักษณ์ของการทำงานยุคใหม่คือ “ใครปรับตัวได้เร็ว คนนั้นได้เปรียบ” 🔗 https://www.techradar.com/pro/need-ai-training-ceos-think-you-should-train-yourself 💾 ชิป PCIe ตัวเดียวเปลี่ยน DDR4 ให้มีพลังเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ที่น่าสนใจมากสำหรับวงการเซิร์ฟเวอร์และดาต้าเซ็นเตอร์ คืออุปกรณ์ PCIe ที่สามารถทำให้หน่วยความจำ DDR4 รุ่นเก่ากลับมามีประสิทธิภาพสูงขึ้นเกือบสามเท่า โดยใช้เทคโนโลยี CXL เพื่อเชื่อมต่อและขยายความสามารถ เท่ากับว่าบริษัทใหญ่ที่มีฮาร์ดแวร์เก่าอยู่แล้วสามารถรีไซเคิลมาใช้ใหม่ได้โดยไม่ต้องลงทุนซื้อ DDR5 ในราคาสูง ถือเป็นการแก้ปัญหาขาดแคลนหน่วยความจำได้อย่างชาญฉลาด 🔗 https://www.techradar.com/pro/this-tiny-chip-could-singlehandedly-solve-the-ram-shortage-by-allowing-hyperscalers-to-reuse-old-ddr4-memory-via-cxl-and-it-even-comes-with-an-extraordinary-feature ⚖️ HBO Max ผู้ใช้ฟ้อง Netflix ด้วยคดีใหญ่ เกิดคดีความที่น่าสนใจในวงการสตรีมมิ่ง เมื่อผู้ใช้ HBO Max รายหนึ่งยื่นฟ้อง Netflix ในรูปแบบคดีแบบกลุ่ม โดยอ้างว่าข้อตกลงระหว่าง Netflix และ Warner Bros จะสร้างความเสียหายต่อการแข่งขัน และอาจทำให้เกิดการผูกขาดในตลาดสตรีมมิ่ง ผู้ฟ้องร้องมองว่าตนเองและผู้ใช้รายอื่นจะได้รับผลกระทบในเชิง “การเลือกที่น้อยลงและราคาที่สูงขึ้น” เรื่องนี้จึงถูกมองว่าเป็นคดีที่อาจเปลี่ยนโฉมหน้าของตลาดสตรีมมิ่งในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/streaming/netflix/hbo-max-subscriber-sues-netflix-in-dramatic-class-action-lawsuit-claiming-the-warner-bros-deal-will-cause-irreparable-antitrust-injury 🛡️ TunnelBear ปรับโมเดล VPN ฟรีใหม่ TunnelBear กำลังปรับเปลี่ยนบริการ VPN ฟรีของตัวเอง เนื่องจากต้นทุนการดำเนินงานสูงขึ้น ทำให้ผู้ใช้แบบฟรีจะไม่สามารถเลือกเซิร์ฟเวอร์เองได้อีกต่อไป และฟีเจอร์ SplitBear หรือ split tunneling ก็ถูกถอดออกไปเช่นกัน ผู้ใช้ฟรียังคงได้ใช้งาน 2GB ต่อเดือน แต่จะถูกสุ่มเชื่อมต่อไปยังตำแหน่งที่ระบบเลือกให้ จุดประสงค์คือเพื่อรักษาความยั่งยืนของบริการโดยไม่ต้องพึ่งโฆษณาหรือขายข้อมูล ผู้ที่ต้องการความยืดหยุ่นมากขึ้นอาจต้องพิจารณาอัปเกรดเป็นแบบพรีเมียม 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/tunnelbear-reshapes-its-free-vpn-model-amid-rising-infrastructure-costs 🚫 Bluesky บังคับตรวจสอบอายุ ตามกฎหมายออสเตรเลีย Bluesky ต้องปรับตัวตามกฎหมายใหม่ของออสเตรเลียที่ห้ามผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีเล่นโซเชียลมีเดีย จึงเริ่มบังคับตรวจสอบอายุผู้ใช้เพื่อให้สอดคล้องกับข้อบังคับ นอกจากนี้ยังมีการกลับคำสั่งบล็อกผู้ใช้ในรัฐ Mississippi ที่เคยถูกจำกัดการเข้าถึง ถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อให้แพลตฟอร์มยังคงดำเนินงานได้ในหลายประเทศ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/bluesky-enforces-age-checks-to-comply-with-australias-under-16s-social-media-ban-and-reverses-mississippis-block 🔐 Proton Pass เพิ่ม CLI สำหรับนักพัฒนา Proton Pass ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวจัดการรหัสผ่านที่ได้รับความนิยม ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่คือ Command-Line Interface (CLI) ให้นักพัฒนาสามารถดึงข้อมูลลับจาก terminal ได้โดยตรง ทำให้สามารถสร้าง workflow อัตโนมัติที่รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น ฟีเจอร์นี้ยังคงรักษาการเข้ารหัสแบบ end-to-end และรองรับการใช้งานในสภาพแวดล้อม CI/CD หรือเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่มี UI ผู้ใช้ฟรีจะไม่ได้ฟีเจอร์นี้ ต้องอัปเกรดเป็นแพ็กเกจแบบเสียเงิน 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/proton-pass-just-made-it-even-easier-for-developers-to-retrieve-secrets-and-thats-a-win-for-everyone-involved 💻 ญี่ปุ่นเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ที่ยังมีพอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD ในยุคที่โน้ตบุ๊กทั่วโลกตัดพอร์ตเก่า ๆ ออกไปหมด ญี่ปุ่นกลับยังคงมีตลาดที่ต้องการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้ ล่าสุด NEC เปิดตัว VersaPro VX-R ที่ใช้ชิป Intel Core Ultra รุ่นใหม่ แต่ยังคงใส่พอร์ต VGA และไดรฟ์ DVD มาให้ เหตุผลคือหลายองค์กร โรงเรียน และสถาบันในญี่ปุ่นยังใช้โปรเจกเตอร์และระบบเก็บข้อมูลแบบเก่าอยู่ ทำให้การมีพอร์ตเหล่านี้ยังจำเป็น ตัวเครื่องรองรับ Wi-Fi 7, มีระบบความปลอดภัยครบ และยังคงเป็นโน้ตบุ๊กที่ผสมผสานเทคโนโลยีใหม่กับความต้องการดั้งเดิมของตลาดญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-only-core-ultra-265u-laptop-with-a-vga-port-and-a-dvd-writer-just-launched-and-yes-it-has-to-be-in-japan 🚨 ช่องโหว่ React2Shell ถูกแฮกเกอร์เกาหลีเหนือใช้โจมตี หลังจากที่จีนถูกพบว่าใช้ช่องโหว่ React2Shell ในการโจมตี ตอนนี้มีรายงานว่าเกาหลีเหนือก็เข้ามาใช้ช่องโหว่นี้เช่นกัน โดยพวกเขาพัฒนา malware ใหม่ชื่อ EtherRAT ที่ซับซ้อนกว่าเดิม ใช้ smart contract ของ Ethereum เป็นระบบควบคุม, มีวิธีฝังตัวใน Linux ถึง 5 แบบ และยังดาวน์โหลด runtime ของ Node.js เองเพื่อทำงานต่อ ช่องโหว่นี้ถูกจัดว่า “critical” ระดับ 10/10 และนักวิจัยเตือนให้รีบอัปเดต React เป็นเวอร์ชันที่ปลอดภัยทันที เพราะเป็นการโจมตีที่อาจกระทบผู้พัฒนาเว็บจำนวนมหาศาล 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/maximum-severity-react2shell-flaw-exploited-by-north-korean-hackers-in-malware-attacks 🛡️ Google เสริมเกราะป้องกัน Chrome จากการโจมตีแบบ Prompt Injection Google ประกาศเพิ่มระบบป้องกันใหม่ใน Chrome เพื่อรับมือกับการโจมตีที่เรียกว่า Prompt Injection ซึ่งเป็นการฝังคำสั่งแอบแฝงในเว็บเพจหรือ extension เพื่อหลอกให้ AI ทำงานผิดพลาด ฟีเจอร์ใหม่นี้จะช่วยตรวจจับและบล็อกคำสั่งที่ไม่พึงประสงค์ก่อนที่ผู้ใช้จะโดนหลอกหรือข้อมูลจะรั่วไหล ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการทำให้เบราว์เซอร์ปลอดภัยขึ้นในยุคที่ AI ถูกนำมาใช้งานอย่างแพร่หลาย 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/google-adds-prompt-injection-defenses-to-chrome 💾 Teamgroup เปิดตัว PD40 SSD พกพาเล็กแต่แรงด้วย USB4 Teamgroup เปิดตัวไดรฟ์ PD40 ที่ใช้มาตรฐาน USB4 ทำให้มีความเร็วสูงมากเมื่อเทียบกับ SSD พกพาทั่วไป จุดเด่นคือขนาดเล็ก น้ำหนักเบา แต่ยังคงให้ความเร็วระดับสูงที่สามารถแข่งขันกับแบรนด์ใหญ่ ๆ ได้ โดยตั้งใจจะเจาะตลาดที่ SSD พกพามีราคาสูงเกินไป รุ่นนี้จึงถูกวางตัวให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเข้าถึงง่ายขึ้นสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความสะดวกในการพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/finally-another-external-usb4-ssd-hit-the-market-and-this-one-is-likely-to-be-far-more-affordable-than-rivals 📊 ศึกชิงแชมป์โลก Excel 2025 การแข่งขัน Excel World Championship ปีนี้จัดขึ้นที่ลาสเวกัส และผู้ชนะคือ Diarmuid Early ที่ถูกขนานนามว่า “LeBron James แห่ง Excel” เขาสามารถเอาชนะ Andrew Ngai แชมป์เก่าถึงสามสมัยได้ ด้วยการทำโจทย์สุดโหด ทั้งการจัดการข้อมูลมหาศาล การสร้าง Pivot Table ซับซ้อน และแม้กระทั่งโจทย์พับโมดูล Excel แบบ Origami ผู้ชนะได้รับเงินรางวัล 5,000 ดอลลาร์ พร้อมเข็มขัดแชมป์แบบนักมวยปล้ำ ถือเป็นการยกระดับการใช้ Excel จากเครื่องมือทำงานสู่กีฬาแข่งขันที่จริงจังและสนุกสนาน 🔗 https://www.techradar.com/pro/battle-of-the-pivot-tables-diarmuid-the-lebron-james-of-excel-defeats-three-time-champion-andrew-ngai-to-claim-the-2025-title-and-usd5-000-cash-prize 💾 Beelink เปิดตัว NAS จิ๋วแต่จุใจ Beelink เตรียมปล่อย NAS รุ่น ME Pro ที่มีให้เลือกทั้งแบบ 2 ช่องและ 4 ช่องใส่ฮาร์ดดิสก์ จุดเด่นคือรุ่น 4 ช่องสามารถรองรับความจุรวมสูงสุดถึง 120TB แต่ตัวเครื่องมีขนาดเล็กเพียง 4 ลิตรเท่านั้น ใช้โครงสร้างแบบ Unibody ที่ช่วยประหยัดพื้นที่ภายในและทำให้เครื่องเล็กกว่าคู่แข่งมาก แม้ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดเรื่อง CPU หรือระบบปฏิบัติการ แต่การออกแบบนี้สะท้อนแนวทางใหม่ของ Beelink ที่ต้องการทำให้ NAS มีขนาดเล็กลงแต่ยังคงความจุสูง 🔗 https://www.techradar.com/pro/beelink-promises-a-4-liter-4-drive-nas-that-could-hold-120tb-in-the-palm-of-your-hand 📱 ลังเลใจระหว่าง iPhone และ Android นักเขียนจาก TechRadar เล่าประสบการณ์ส่วนตัวว่าใช้ iPhone มานานกว่า 4 ปีหลังจากย้ายจาก Android แต่ตอนนี้เริ่มคิดว่าจะกลับไปใช้ Android อีกครั้ง เหตุผลมาจากการเจอปัญหากับ iOS 26 และความสนใจใน Samsung Galaxy S25 Ultra ที่อยู่ตรงหน้า เขายังเปิดโพลให้ผู้อ่านช่วยตัดสินใจว่าจะควรกลับไป Android หรือไม่ พร้อมบอกว่าถ้าเปลี่ยนจริงก็อยากลอง Pixel 10 Pro หรือรุ่นเรือธงจาก Oppo และ OnePlus ถือเป็นการเปิดใจถามความเห็นจากชุมชนผู้ใช้มือถือโดยตรง 🔗 https://www.techradar.com/phones/iphone/should-i-abandon-my-iphone-for-a-return-to-android-tell-me-what-to-do 🔥 Imec เผยความท้าทายของ 3D Memory-on-GPU งานประชุม IEDM 2025 มีการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก Imec ที่วางซ้อนหน่วยความจำ HBM แบบ 3D บน GPU เพื่อเพิ่มความหนาแน่นในการประมวลผลสำหรับงาน AI แม้จะให้ประสิทธิภาพสูงกว่าแบบ 2.5D แต่การจำลองความร้อนพบว่าชิปสามารถร้อนทะลุ 140°C ซึ่งเกินขีดจำกัดการทำงาน ต้องใช้วิธีลดความเร็ว GPU ลงครึ่งหนึ่งเพื่อควบคุมอุณหภูมิ แต่ก็ทำให้การฝึก AI ช้าลงถึง 28% เทคโนโลยีนี้จึงยังเป็นดาบสองคมที่ต้องหาทางแก้เรื่องความร้อนก่อนจะนำไปใช้จริงในศูนย์ข้อมูล 🔗 https://www.techradar.com/pro/hbm-on-gpu-set-to-power-the-next-revolution-in-ai-accelerators-and-just-to-confirm-theres-no-way-this-will-come-to-your-video-card-anytime-soon
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 414 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.42

    กฎการปะทะ หรือ Rules of Engagement (ROE) ในปฏิบัติการทางทหารคือหัวใจสำคัญของการพิจารณาการใช้กำลังทางทหาร โดยเป็นชุดคำสั่งหรือแนวทางที่กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต สถานที่ และวิธีการที่ทหารจะสามารถใช้กำลังหรืออาวุธได้ กฎเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระเบียบปฏิบัติภายในหน่วยงาน แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่ผูกโยงการปฏิบัติการทางทหารเข้ากับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ (Law of Armed Conflict – LOAC) รวมถึงกฎหมายภายในของรัฐนั้นๆ ด้วย ROE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity) กับหลักการด้านมนุษยธรรมและสัดส่วน (Proportionality) ในการทำสงคราม การกำหนด ROE จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง รูปแบบของภัยคุกคาม และเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐ ซึ่งในทางกฎหมายแล้ว ROE มักแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักคือ กฎทั่วไป (General ROE) ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติหรือการฝึก และกฎเฉพาะกิจ (Specific ROE) ที่ถูกปรับให้เข้ากับภารกิจ สถานที่ หรือระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้องค์การสหประชาชาติจะมี ROE ที่เข้มงวดกว่าภารกิจในการทำสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งเน้นการจำกัดการใช้กำลังเพื่อการป้องกันตนเองและคุ้มครองพลเรือนเป็นหลัก และในบริบททางกฎหมาย กฎการปะทะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความรับผิดชอบทางอาญาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสั่งการและการปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารแต่ละนายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำของตนสอดคล้องกับ ROE และ IHL หรือไม่ การละเมิด ROE อาจนำไปสู่การถูกสอบสวนและดำเนินคดีทางวินัยหรือทางอาญาได้ ทั้งในระดับศาลทหารและศาลอาญาระหว่างประเทศหากการละเมิดนั้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ข้อความที่ว่า ROE อาจแตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรมที่ต่างกันในประวัติศาสตร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการตีความและการประยุกต์ใช้ IHL ซึ่งแม้จะมีหลักการที่เป็นสากล เช่น หลักการแบ่งแยกพลรบและพลเรือน หรือหลักการจำกัดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น แต่การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จริงในทางปฏิบัติย่อมขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมการเมือง ประเพณีทางการทหาร และมุมมองทางกฎหมายของแต่ละชาติ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตีความขอบเขตอำนาจในการป้องกันตนเอง (Self-Defence) และความหมายของคำว่า การโจมตีที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Target) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เช่น การรบในเขตเมืองที่มีพลเรือนปะปน หรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำสงคราม

    กล่าวโดยสรุป กฎการปะทะคือหลักประกันเชิงกฎหมายที่ควบคุมการตัดสินใจอันเป็นความตายและความอยู่รอดในสมรภูมิ กฎเหล่านี้คือการรวมกันของหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายภายใน และความจำเป็นทางยุทธวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างมีขอบเขต มีความรับผิดชอบ และมีสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักนิติธรรม กฎการปะทะไม่ใช่เพียงแค่คู่มือปฏิบัติ แต่เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดภาระหน้าที่และขีดจำกัดของกองทัพในการดำเนินงานของพวกเขา ซึ่งต้องมีการตีความและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของความขัดแย้งและหลักการทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการทางทหารจะไม่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์และหลักนิติธรรมในทุกสถานการณ์.

    ดังนั้น ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติทางกฎหมายของกฎการปะทะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางทหาร และบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะ ROE เป็นตัวกำหนดขีดเส้นแบ่งระหว่างการปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การเคารพและการปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัดจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวินัยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษย์และลดผลกระทบต่อพลเรือนในยามศึกสงครามอีกด้วย การตีความที่ยืดหยุ่นภายใต้กรอบของกฎหมายที่เข้มแข็งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด.
    บทความกฎหมาย EP.42 กฎการปะทะ หรือ Rules of Engagement (ROE) ในปฏิบัติการทางทหารคือหัวใจสำคัญของการพิจารณาการใช้กำลังทางทหาร โดยเป็นชุดคำสั่งหรือแนวทางที่กำหนดเงื่อนไข ขอบเขต สถานที่ และวิธีการที่ทหารจะสามารถใช้กำลังหรืออาวุธได้ กฎเหล่านี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่ระเบียบปฏิบัติภายในหน่วยงาน แต่เป็นกลไกทางกฎหมายที่ผูกโยงการปฏิบัติการทางทหารเข้ากับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ (International Humanitarian Law – IHL) หรือที่รู้จักกันในชื่อกฎหมายว่าด้วยการขัดกันด้วยอาวุธ (Law of Armed Conflict – LOAC) รวมถึงกฎหมายภายในของรัฐนั้นๆ ด้วย ROE ทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างความจำเป็นทางทหาร (Military Necessity) กับหลักการด้านมนุษยธรรมและสัดส่วน (Proportionality) ในการทำสงคราม การกำหนด ROE จะต้องพิจารณาอย่างรอบด้านถึงสถานการณ์ความขัดแย้ง รูปแบบของภัยคุกคาม และเป้าหมายทางยุทธศาสตร์และนโยบายของรัฐ ซึ่งในทางกฎหมายแล้ว ROE มักแบ่งออกได้เป็นสองประเภทหลักคือ กฎทั่วไป (General ROE) ที่ใช้ในสถานการณ์ปกติหรือการฝึก และกฎเฉพาะกิจ (Specific ROE) ที่ถูกปรับให้เข้ากับภารกิจ สถานที่ หรือระดับความรุนแรงของภัยคุกคามที่เฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น ภารกิจรักษาสันติภาพภายใต้องค์การสหประชาชาติจะมี ROE ที่เข้มงวดกว่าภารกิจในการทำสงครามเต็มรูปแบบ ซึ่งเน้นการจำกัดการใช้กำลังเพื่อการป้องกันตนเองและคุ้มครองพลเรือนเป็นหลัก และในบริบททางกฎหมาย กฎการปะทะยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งความรับผิดชอบทางอาญาของบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสั่งการและการปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทหารแต่ละนายมีหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องพิจารณาว่าการกระทำของตนสอดคล้องกับ ROE และ IHL หรือไม่ การละเมิด ROE อาจนำไปสู่การถูกสอบสวนและดำเนินคดีทางวินัยหรือทางอาญาได้ ทั้งในระดับศาลทหารและศาลอาญาระหว่างประเทศหากการละเมิดนั้นเข้าข่ายอาชญากรรมสงคราม ข้อความที่ว่า ROE อาจแตกต่างกันระหว่างวัฒนธรรมที่ต่างกันในประวัติศาสตร์นั้นสะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายในการตีความและการประยุกต์ใช้ IHL ซึ่งแม้จะมีหลักการที่เป็นสากล เช่น หลักการแบ่งแยกพลรบและพลเรือน หรือหลักการจำกัดความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็น แต่การนำหลักการเหล่านี้ไปใช้จริงในทางปฏิบัติย่อมขึ้นอยู่กับบริบททางสังคมการเมือง ประเพณีทางการทหาร และมุมมองทางกฎหมายของแต่ละชาติ ซึ่งนำไปสู่การถกเถียงอย่างต่อเนื่องในเวทีระหว่างประเทศเกี่ยวกับการตีความขอบเขตอำนาจในการป้องกันตนเอง (Self-Defence) และความหมายของคำว่า การโจมตีที่ชอบด้วยกฎหมาย (Lawful Target) โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมที่มีความซับซ้อน เช่น การรบในเขตเมืองที่มีพลเรือนปะปน หรือการใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำสงคราม กล่าวโดยสรุป กฎการปะทะคือหลักประกันเชิงกฎหมายที่ควบคุมการตัดสินใจอันเป็นความตายและความอยู่รอดในสมรภูมิ กฎเหล่านี้คือการรวมกันของหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ กฎหมายภายใน และความจำเป็นทางยุทธวิธี โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้การใช้กำลังเป็นไปอย่างมีขอบเขต มีความรับผิดชอบ และมีสัดส่วนที่เหมาะสมตามหลักนิติธรรม กฎการปะทะไม่ใช่เพียงแค่คู่มือปฏิบัติ แต่เป็นเอกสารทางกฎหมายที่กำหนดภาระหน้าที่และขีดจำกัดของกองทัพในการดำเนินงานของพวกเขา ซึ่งต้องมีการตีความและปรับใช้ให้สอดคล้องกับวิวัฒนาการของความขัดแย้งและหลักการทางกฎหมายที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้มั่นใจว่าการปฏิบัติการทางทหารจะไม่เป็นการละเมิดหลักการพื้นฐานของความเป็นมนุษย์และหลักนิติธรรมในทุกสถานการณ์. ดังนั้น ความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในมิติทางกฎหมายของกฎการปะทะจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้กำหนดนโยบาย ผู้นำทางทหาร และบุคลากรทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ที่มีความขัดแย้ง เพราะ ROE เป็นตัวกำหนดขีดเส้นแบ่งระหว่างการปฏิบัติการที่ชอบด้วยกฎหมายกับการกระทำที่เป็นอาชญากรรมสงคราม การเคารพและการปฏิบัติตามกฎนี้อย่างเคร่งครัดจึงไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของวินัยเท่านั้น แต่ยังเป็นข้อบังคับทางกฎหมายระหว่างประเทศที่สำคัญที่สุดในการปกป้องศักดิ์ศรีของมนุษย์และลดผลกระทบต่อพลเรือนในยามศึกสงครามอีกด้วย การตีความที่ยืดหยุ่นภายใต้กรอบของกฎหมายที่เข้มแข็งจะนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้องและเป็นธรรมในสถานการณ์ที่ยากลำบากที่สุด.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • การเปิดโปงการใช้ Palantir ในปฏิบัติการ

    บทความนี้เปิดเผยว่าอิสราเอลมีการใช้เทคโนโลยีของ Palantir ในการโจมตีด้วยเพจเจอร์ที่เกิดขึ้นในเลบานอน ซึ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในปฏิบัติการทางทหารและความมั่นคง

    รายงานจากสำนักข่าวอิสระระบุว่าอิสราเอลได้ใช้แพลตฟอร์มของ Palantir Technologies ในการวิเคราะห์ข้อมูลและประสานงานการโจมตีด้วยเพจเจอร์ที่ถูกฝังระเบิดในเลบานอน เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจในระดับนานาชาติ เพราะ Palantir มักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือด้านข่าวกรองและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไม่ใช่เครื่องมือที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตีทางกายภาพ

    ผลกระทบต่อความมั่นคงและการเมือง
    การเปิดเผยดังกล่าวทำให้เกิดคำถามถึงบทบาทของบริษัทเทคโนโลยีเอกชนในปฏิบัติการทางทหาร โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีถูกนำไปใช้ในสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อพลเรือนและความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง นักวิจารณ์บางส่วนชี้ว่าการใช้ซอฟต์แวร์ลักษณะนี้อาจทำให้เส้นแบ่งระหว่างการป้องกันและการโจมตีเลือนรางลง

    มุมมองจากนานาชาติ
    หลายองค์กรสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการด้านความมั่นคงได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีของ Palantir ในปฏิบัติการดังกล่าว โดยมองว่าการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการโจมตีอาจเข้าข่ายละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และอาจสร้างบรรทัดฐานที่อันตรายต่อการใช้เทคโนโลยีในสงครามยุคใหม่

    ความหมายต่ออนาคตของเทคโนโลยีและสงคราม
    กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ในโลกที่เทคโนโลยีข้อมูลและ AI ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการทางทหาร การขาดกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนอาจทำให้บริษัทเอกชนมีบทบาทมากขึ้นในสงคราม ซึ่งอาจนำไปสู่การถกเถียงระดับโลกเกี่ยวกับจริยธรรมและความรับผิดชอบของผู้พัฒนาเทคโนโลยี

    สรุปสาระสำคัญ
    อิสราเอลถูกเปิดโปงว่าใช้เทคโนโลยี Palantir ในการโจมตีด้วยเพจเจอร์ในเลบานอน
    Palantir เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการทางทหาร

    การเปิดเผยสร้างข้อถกเถียงเรื่องบทบาทบริษัทเทคโนโลยีเอกชน
    เส้นแบ่งระหว่างการป้องกันและการโจมตีเริ่มไม่ชัดเจน

    องค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีนี้
    อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ

    การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการโจมตีอาจสร้างบรรทัดฐานที่อันตราย
    เสี่ยงต่อการนำเทคโนโลยีไปใช้ในสงครามโดยไม่มีกรอบกำกับดูแล

    หากไม่มีการควบคุม บริษัทเอกชนอาจมีบทบาทมากขึ้นในสงครามยุคใหม่
    อาจนำไปสู่การละเมิดจริยธรรมและความรับผิดชอบของผู้พัฒนาเทคโนโลยี

    https://the307.substack.com/p/revealed-israel-used-palantir-technologies
    🔎 การเปิดโปงการใช้ Palantir ในปฏิบัติการ บทความนี้เปิดเผยว่าอิสราเอลมีการใช้เทคโนโลยีของ Palantir ในการโจมตีด้วยเพจเจอร์ที่เกิดขึ้นในเลบานอน ซึ่งทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องการใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกในปฏิบัติการทางทหารและความมั่นคง รายงานจากสำนักข่าวอิสระระบุว่าอิสราเอลได้ใช้แพลตฟอร์มของ Palantir Technologies ในการวิเคราะห์ข้อมูลและประสานงานการโจมตีด้วยเพจเจอร์ที่ถูกฝังระเบิดในเลบานอน เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจในระดับนานาชาติ เพราะ Palantir มักถูกมองว่าเป็นเครื่องมือด้านข่าวกรองและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ไม่ใช่เครื่องมือที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการโจมตีทางกายภาพ ⚔️ ผลกระทบต่อความมั่นคงและการเมือง การเปิดเผยดังกล่าวทำให้เกิดคำถามถึงบทบาทของบริษัทเทคโนโลยีเอกชนในปฏิบัติการทางทหาร โดยเฉพาะเมื่อเทคโนโลยีถูกนำไปใช้ในสถานการณ์ที่มีผลกระทบต่อพลเรือนและความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง นักวิจารณ์บางส่วนชี้ว่าการใช้ซอฟต์แวร์ลักษณะนี้อาจทำให้เส้นแบ่งระหว่างการป้องกันและการโจมตีเลือนรางลง 🌐 มุมมองจากนานาชาติ หลายองค์กรสิทธิมนุษยชนและนักวิชาการด้านความมั่นคงได้ออกมาเรียกร้องให้มีการตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีของ Palantir ในปฏิบัติการดังกล่าว โดยมองว่าการใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการโจมตีอาจเข้าข่ายละเมิดหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และอาจสร้างบรรทัดฐานที่อันตรายต่อการใช้เทคโนโลยีในสงครามยุคใหม่ 🧩 ความหมายต่ออนาคตของเทคโนโลยีและสงคราม กรณีนี้สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายใหม่ในโลกที่เทคโนโลยีข้อมูลและ AI ถูกนำมาใช้ในปฏิบัติการทางทหาร การขาดกรอบกำกับดูแลที่ชัดเจนอาจทำให้บริษัทเอกชนมีบทบาทมากขึ้นในสงคราม ซึ่งอาจนำไปสู่การถกเถียงระดับโลกเกี่ยวกับจริยธรรมและความรับผิดชอบของผู้พัฒนาเทคโนโลยี 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ อิสราเอลถูกเปิดโปงว่าใช้เทคโนโลยี Palantir ในการโจมตีด้วยเพจเจอร์ในเลบานอน ➡️ Palantir เป็นแพลตฟอร์มวิเคราะห์ข้อมูลที่ถูกนำไปใช้ในปฏิบัติการทางทหาร ✅ การเปิดเผยสร้างข้อถกเถียงเรื่องบทบาทบริษัทเทคโนโลยีเอกชน ➡️ เส้นแบ่งระหว่างการป้องกันและการโจมตีเริ่มไม่ชัดเจน ✅ องค์กรสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้ตรวจสอบการใช้เทคโนโลยีนี้ ➡️ อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ‼️ การใช้ซอฟต์แวร์วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อสนับสนุนการโจมตีอาจสร้างบรรทัดฐานที่อันตราย ⛔ เสี่ยงต่อการนำเทคโนโลยีไปใช้ในสงครามโดยไม่มีกรอบกำกับดูแล ‼️ หากไม่มีการควบคุม บริษัทเอกชนอาจมีบทบาทมากขึ้นในสงครามยุคใหม่ ⛔ อาจนำไปสู่การละเมิดจริยธรรมและความรับผิดชอบของผู้พัฒนาเทคโนโลยี https://the307.substack.com/p/revealed-israel-used-palantir-technologies
    THE307.SUBSTACK.COM
    Revealed: Israel Used Palantir Technologies In Pager Terrorist Attack In Lebanon.
    A New Book Quietly Reveals That Israel Used Palantir In It's Terrorist Attack On Lebanon.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 75 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 สัญญาณว่าคุณกลายเป็น Linux Power User แล้ว

    บทความจาก It’s FOSS ได้เล่าถึงพัฒนาการของผู้ใช้ Linux ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ก้าวสู่ระดับ Power User แล้ว โดยยกตัวอย่างพฤติกรรมและทักษะที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความมั่นใจในการใช้งานระบบปฏิบัติการนี้

    หนึ่งในสัญญาณสำคัญคือการไม่กลัวการใช้ Terminal อีกต่อไป ผู้ใช้เริ่มสนุกกับการใช้คำสั่ง CLI เพื่อจัดการแพ็กเกจ, ตรวจสอบระบบ, หรือใช้เครื่องมืออย่าง grep, man, และ history ได้คล่องแคล่ว ซึ่งสะท้อนถึงการเลือกใช้เครื่องมือที่เร็วและเหมาะสมที่สุดสำหรับงานนั้น ๆ

    อีกสัญญาณคือการไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอ Error ผู้ใช้จะเลือกอ่านข้อความแจ้งเตือน, ตรวจสอบ log, และค้นหาวิธีแก้ไขจากเอกสารหรือฟอรั่ม แทนที่จะรีบติดตั้งใหม่ทันที นี่คือการเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความรับผิดชอบและความอยากเรียนรู้

    นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอย่างการ Distro-hop อย่างมีแผน คือการลองใช้ดิสโทรใหม่ ๆ แต่เตรียมสำรองข้อมูล, แยกพาร์ทิชัน /home, และทดสอบใน VM ก่อน รวมถึงการเลือกใช้ แอปพลิเคชัน Linux-native แทนที่จะพึ่งพา Windows-only apps และสุดท้ายคือการ ช่วยเหลือชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม, แชร์วิธีแก้ปัญหา, หรือสนับสนุนโปรเจกต์โอเพ่นซอร์ส

    สรุปประเด็นสำคัญ
    ไม่กลัว Terminal อีกต่อไป
    ใช้คำสั่ง CLI ได้คล่อง เช่น grep, man, history

    ไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอ Error
    อ่าน log, ค้นหาวิธีแก้ไข, แชร์ประสบการณ์

    Distro-hop อย่างมีแผน
    สำรองข้อมูล, แยกพาร์ทิชัน, ทดสอบใน VM

    ใช้ Linux-native apps
    เช่น LibreOffice, GIMP, Inkscape แทน Windows-only apps

    ช่วยเหลือชุมชน
    ตอบคำถาม, รายงานบั๊ก, สนับสนุนโปรเจกต์

    ความเสี่ยงจากการลองดิสโทรใหม่โดยไม่สำรองข้อมูล
    อาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือระบบพัง

    การใช้คำสั่งจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตรวจสอบ
    อาจทำให้ระบบเสียหายหรือติดมัลแวร์

    https://itsfoss.com/linux-power-user-signs/
    💻 5 สัญญาณว่าคุณกลายเป็น Linux Power User แล้ว บทความจาก It’s FOSS ได้เล่าถึงพัฒนาการของผู้ใช้ Linux ที่ไม่รู้ตัวว่าตัวเองได้ก้าวสู่ระดับ Power User แล้ว โดยยกตัวอย่างพฤติกรรมและทักษะที่สะท้อนถึงความเชี่ยวชาญและความมั่นใจในการใช้งานระบบปฏิบัติการนี้ หนึ่งในสัญญาณสำคัญคือการไม่กลัวการใช้ Terminal อีกต่อไป ผู้ใช้เริ่มสนุกกับการใช้คำสั่ง CLI เพื่อจัดการแพ็กเกจ, ตรวจสอบระบบ, หรือใช้เครื่องมืออย่าง grep, man, และ history ได้คล่องแคล่ว ซึ่งสะท้อนถึงการเลือกใช้เครื่องมือที่เร็วและเหมาะสมที่สุดสำหรับงานนั้น ๆ อีกสัญญาณคือการไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอ Error ผู้ใช้จะเลือกอ่านข้อความแจ้งเตือน, ตรวจสอบ log, และค้นหาวิธีแก้ไขจากเอกสารหรือฟอรั่ม แทนที่จะรีบติดตั้งใหม่ทันที นี่คือการเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความรับผิดชอบและความอยากเรียนรู้ นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอย่างการ Distro-hop อย่างมีแผน คือการลองใช้ดิสโทรใหม่ ๆ แต่เตรียมสำรองข้อมูล, แยกพาร์ทิชัน /home, และทดสอบใน VM ก่อน รวมถึงการเลือกใช้ แอปพลิเคชัน Linux-native แทนที่จะพึ่งพา Windows-only apps และสุดท้ายคือการ ช่วยเหลือชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการตอบคำถาม, แชร์วิธีแก้ปัญหา, หรือสนับสนุนโปรเจกต์โอเพ่นซอร์ส 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ ไม่กลัว Terminal อีกต่อไป ➡️ ใช้คำสั่ง CLI ได้คล่อง เช่น grep, man, history ✅ ไม่ตื่นตระหนกเมื่อเจอ Error ➡️ อ่าน log, ค้นหาวิธีแก้ไข, แชร์ประสบการณ์ ✅ Distro-hop อย่างมีแผน ➡️ สำรองข้อมูล, แยกพาร์ทิชัน, ทดสอบใน VM ✅ ใช้ Linux-native apps ➡️ เช่น LibreOffice, GIMP, Inkscape แทน Windows-only apps ✅ ช่วยเหลือชุมชน ➡️ ตอบคำถาม, รายงานบั๊ก, สนับสนุนโปรเจกต์ ‼️ ความเสี่ยงจากการลองดิสโทรใหม่โดยไม่สำรองข้อมูล ⛔ อาจทำให้ข้อมูลสูญหายหรือระบบพัง ‼️ การใช้คำสั่งจากอินเทอร์เน็ตโดยไม่ตรวจสอบ ⛔ อาจทำให้ระบบเสียหายหรือติดมัลแวร์ https://itsfoss.com/linux-power-user-signs/
    ITSFOSS.COM
    5 Signs You Have Become a Linux Power User
    You probably do not even realize how much you have improved since your first day with Linux. Let me remind you of that.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 68 มุมมอง 0 รีวิว
  • วันนี้ (8 ธ.ค.) กองทัพภาคที่ 2 เผยแพร่ภาพ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ร่วมบัญชาการในวอร์รูมอย่างใกล้ชิด
    .
    โดยสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ยุทธศาสตร์เข้าสู่โหมด “รบทุกมิติ” เพื่อเฝ้าระวังและปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง และมีคำสั่งชัดเจนว่าให้ดำเนินการตอบโต้ภายใต้กรอบยุทธวิธีอย่างเป็นระบบ มุ่งปกป้องแผ่นดินไทย ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน
    .
    พร้อมย้ำด้วยว่าแผ่นดินไทยนี้ต้องไม่ถูกท้าทายอีกต่อไป ไม่มีพื้นที่สำหรับความลังเล มีเพียงหน้าที่ ศักดิ์ศรี และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000117786

    #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    วันนี้ (8 ธ.ค.) กองทัพภาคที่ 2 เผยแพร่ภาพ พล.ท.วีระยุทธ รักศิลป์ แม่ทัพภาคที่ 2 พร้อมด้วย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี ร่วมบัญชาการในวอร์รูมอย่างใกล้ชิด . โดยสั่งการให้หน่วยปฏิบัติการในพื้นที่ยุทธศาสตร์เข้าสู่โหมด “รบทุกมิติ” เพื่อเฝ้าระวังและปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง และมีคำสั่งชัดเจนว่าให้ดำเนินการตอบโต้ภายใต้กรอบยุทธวิธีอย่างเป็นระบบ มุ่งปกป้องแผ่นดินไทย ความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน . พร้อมย้ำด้วยว่าแผ่นดินไทยนี้ต้องไม่ถูกท้าทายอีกต่อไป ไม่มีพื้นที่สำหรับความลังเล มีเพียงหน้าที่ ศักดิ์ศรี และความรับผิดชอบต่อประเทศชาติ . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000117786 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #สนธิเล่าเรื่อง #Thaitimes #กัมพูชายิงก่อน #ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด #CambodiaOpenedFire
    Like
    Love
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 302 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.39

    คำว่า "บิดา" ในบริบททางกฎหมายนั้นมีความสำคัญและมีความหมายที่เจาะจงอย่างยิ่ง ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือทางชีววิทยาเท่านั้น แต่ยังหมายถึง "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" ซึ่งเป็นสถานะที่ได้รับการรับรองและกำหนดสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทยบัญญัติไว้เป็นสำคัญ การจะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น มีหลักการที่ชัดเจนซึ่งมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของบุตรเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการรับมรดก การใช้อำนาจปกครอง และการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู การเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับบุตรที่เกิดจากการสมรส ถือว่าง่ายที่สุด เพราะกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสามีของผู้เป็นมารดาย่อมเป็นบิดาของบุตรที่เกิดในระหว่างการสมรสหรือภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่าการสันนิษฐานว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย แต่สำหรับบุตรที่เกิดนอกสมรส กฎหมายไทยไม่ได้สันนิษฐานให้ผู้ให้กำเนิดเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโดยอัตโนมัติ การที่บิดาผู้ให้กำเนิดจะได้รับการรับรองสถานะทางกฎหมายเป็น "บิดา" ของบุตรนอกสมรสได้นั้น จะต้องดำเนินการตามวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งได้แก่ การจดทะเบียนสมรสกับมารดาภายหลังการเกิดของบุตร การจดทะเบียนรับรองบุตร หรือการที่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบิดา การจดทะเบียนรับรองบุตรถือเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งและเป็นทางออกหลักสำหรับกรณีนี้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากบุตรและมารดาหากบุตรบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือมารดาและผู้มีอำนาจปกครองในกรณีที่บุตรยังเป็นผู้เยาว์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ หรือการรับรองบุตรโดยไม่สุจริต ขณะเดียวกัน บทบาทของศาลก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาคดีพิสูจน์ความเป็นบิดา เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ใดเป็นบิดาของบุตร คำพิพากษานั้นย่อมมีผลให้บุคคลนั้นเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนับตั้งแต่วันที่บุตรเกิด และก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางกฎหมายในทันทีทันใด ทั้งสิทธิและหน้าที่ผูกพันระหว่างกันและกันโดยสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ อำนาจปกครองบุตรเป็นอีกประเด็นที่ต้องกล่าวถึง เมื่อบุคคลใดได้รับการรับรองสถานะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิในการใช้อำนาจปกครองร่วมกับมารดาตามหลักที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอื่นที่ศาลสั่งเป็นอย่างอื่น อำนาจปกครองนี้ครอบคลุมถึงการกำหนดที่อยู่ของบุตร การดูแลสุขภาพและการศึกษาของบุตร รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของบุตรภายใต้กรอบของกฎหมาย ดังนั้น ความหมายของ "บิดา" จึงเป็นยิ่งกว่าคำเรียกทางเครือญาติ แต่เป็นสถานะที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งสิทธิ หน้าที่ และความมั่นคงของสถาบันครอบครัวตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย

    ดังนั้น สถานะ "บิดา" ในความหมายทางกฎหมายจึงเป็นสถานะที่มิได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในทุกกรณี แต่ต้องเกิดจากการยอมรับหรือการรับรองตามหลักเกณฑ์ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสันนิษฐานจากผลของการสมรส หรือการดำเนินการตามขั้นตอนที่เข้มงวดสำหรับการรับรองบุตรนอกสมรส สถานะดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สร้างความชัดเจนและมั่นคงในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ทำให้เกิดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่อกันและกันอย่างสมบูรณ์ เช่น สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู รวมถึงการมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจปกครองบุตร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีเป้าหมายหลักในการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของบุตรในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของสังคม โดยเน้นย้ำว่าความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงในทางกฎหมายนั้นคือการมีภาระผูกพันและความรับผิดชอบตามกรอบของกฎหมายที่ชัดเจน

    สรุปได้ว่า คำว่า "บิดา" คือ "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" นั้นไม่ใช่เพียงคำนิยามสั้น ๆ แต่เป็นบทสรุปของกระบวนการทางกฎหมายอันซับซ้อนที่มุ่งมั่นในการสร้างความผูกพันทางกฎหมายระหว่างผู้ให้กำเนิดกับบุตรอย่างเป็นทางการ โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่แตกต่างกันไปตามสถานะการสมรสของบิดาและมารดา ซึ่งไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการใด เป้าหมายสุดท้ายคือการทำให้บุตรได้รับความคุ้มครอง สิทธิ และความมั่นคงในชีวิตจากบุคคลที่กฎหมายรับรองว่าเป็นบิดาอย่างสมบูรณ์และไม่มีข้อสงสัยในทางนิตินัย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการบัญญัติกฎหมายครอบครัวในประเด็นนี้.
    บทความกฎหมาย EP.39 คำว่า "บิดา" ในบริบททางกฎหมายนั้นมีความสำคัญและมีความหมายที่เจาะจงอย่างยิ่ง ไม่ได้จำกัดเพียงแค่ความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือทางชีววิทยาเท่านั้น แต่ยังหมายถึง "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" ซึ่งเป็นสถานะที่ได้รับการรับรองและกำหนดสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ และความสัมพันธ์ตามที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ของประเทศไทยบัญญัติไว้เป็นสำคัญ การจะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนั้น มีหลักการที่ชัดเจนซึ่งมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของบุตรเป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเด็นเรื่องการรับมรดก การใช้อำนาจปกครอง และการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู การเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับบุตรที่เกิดจากการสมรส ถือว่าง่ายที่สุด เพราะกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสามีของผู้เป็นมารดาย่อมเป็นบิดาของบุตรที่เกิดในระหว่างการสมรสหรือภายในสามร้อยสิบวันนับแต่วันที่การสมรสสิ้นสุดลง ซึ่งเป็นหลักการที่เรียกว่าการสันนิษฐานว่าเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมาย แต่สำหรับบุตรที่เกิดนอกสมรส กฎหมายไทยไม่ได้สันนิษฐานให้ผู้ให้กำเนิดเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายโดยอัตโนมัติ การที่บิดาผู้ให้กำเนิดจะได้รับการรับรองสถานะทางกฎหมายเป็น "บิดา" ของบุตรนอกสมรสได้นั้น จะต้องดำเนินการตามวิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นการเฉพาะเจาะจง ซึ่งได้แก่ การจดทะเบียนสมรสกับมารดาภายหลังการเกิดของบุตร การจดทะเบียนรับรองบุตร หรือการที่ศาลมีคำพิพากษาว่าเป็นบิดา การจดทะเบียนรับรองบุตรถือเป็นกระบวนการที่สำคัญยิ่งและเป็นทางออกหลักสำหรับกรณีนี้ โดยต้องได้รับความยินยอมจากบุตรและมารดาหากบุตรบรรลุนิติภาวะแล้ว หรือมารดาและผู้มีอำนาจปกครองในกรณีที่บุตรยังเป็นผู้เยาว์ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการสวมสิทธิ หรือการรับรองบุตรโดยไม่สุจริต ขณะเดียวกัน บทบาทของศาลก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการพิจารณาคดีพิสูจน์ความเป็นบิดา เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้น หากศาลมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าผู้ใดเป็นบิดาของบุตร คำพิพากษานั้นย่อมมีผลให้บุคคลนั้นเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายนับตั้งแต่วันที่บุตรเกิด และก่อให้เกิดความสัมพันธ์ทางกฎหมายในทันทีทันใด ทั้งสิทธิและหน้าที่ผูกพันระหว่างกันและกันโดยสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ อำนาจปกครองบุตรเป็นอีกประเด็นที่ต้องกล่าวถึง เมื่อบุคคลใดได้รับการรับรองสถานะเป็นบิดาโดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว ย่อมมีสิทธิในการใช้อำนาจปกครองร่วมกับมารดาตามหลักที่กฎหมายกำหนด เว้นแต่จะมีเหตุผลพิเศษอื่นที่ศาลสั่งเป็นอย่างอื่น อำนาจปกครองนี้ครอบคลุมถึงการกำหนดที่อยู่ของบุตร การดูแลสุขภาพและการศึกษาของบุตร รวมถึงการจัดการทรัพย์สินของบุตรภายใต้กรอบของกฎหมาย ดังนั้น ความหมายของ "บิดา" จึงเป็นยิ่งกว่าคำเรียกทางเครือญาติ แต่เป็นสถานะที่มีผลผูกพันทางกฎหมายอย่างแน่นแฟ้น ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการธำรงไว้ซึ่งสิทธิ หน้าที่ และความมั่นคงของสถาบันครอบครัวตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย ดังนั้น สถานะ "บิดา" ในความหมายทางกฎหมายจึงเป็นสถานะที่มิได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติในทุกกรณี แต่ต้องเกิดจากการยอมรับหรือการรับรองตามหลักเกณฑ์ที่ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์กำหนดไว้เป็นสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการสันนิษฐานจากผลของการสมรส หรือการดำเนินการตามขั้นตอนที่เข้มงวดสำหรับการรับรองบุตรนอกสมรส สถานะดังกล่าวนี้เป็นเครื่องมือทางกฎหมายที่สร้างความชัดเจนและมั่นคงในความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูก ทำให้เกิดสิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบต่อกันและกันอย่างสมบูรณ์ เช่น สิทธิในการรับมรดก สิทธิในการได้รับการอุปการะเลี้ยงดู รวมถึงการมีส่วนร่วมในการใช้อำนาจปกครองบุตร ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนมีเป้าหมายหลักในการคุ้มครองสิทธิและสวัสดิภาพของบุตรในฐานะพลเมืองคนหนึ่งของสังคม โดยเน้นย้ำว่าความเป็นพ่อแม่ที่แท้จริงในทางกฎหมายนั้นคือการมีภาระผูกพันและความรับผิดชอบตามกรอบของกฎหมายที่ชัดเจน สรุปได้ว่า คำว่า "บิดา" คือ "ผู้ชายที่เป็นพ่อตามกฎหมาย" นั้นไม่ใช่เพียงคำนิยามสั้น ๆ แต่เป็นบทสรุปของกระบวนการทางกฎหมายอันซับซ้อนที่มุ่งมั่นในการสร้างความผูกพันทางกฎหมายระหว่างผู้ให้กำเนิดกับบุตรอย่างเป็นทางการ โดยมีหลักเกณฑ์และวิธีการที่แตกต่างกันไปตามสถานะการสมรสของบิดาและมารดา ซึ่งไม่ว่าจะมาด้วยวิธีการใด เป้าหมายสุดท้ายคือการทำให้บุตรได้รับความคุ้มครอง สิทธิ และความมั่นคงในชีวิตจากบุคคลที่กฎหมายรับรองว่าเป็นบิดาอย่างสมบูรณ์และไม่มีข้อสงสัยในทางนิตินัย ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของการบัญญัติกฎหมายครอบครัวในประเด็นนี้.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 216 มุมมอง 0 รีวิว
  • "Zotac ปฏิเสธเคลม RTX 5070 Ti อ้าง PCB เสียหาย และเสนอทิ้งการ์ดฟรี"

    กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้รายหนึ่งส่ง RTX 5070 Ti ที่มีปัญหาเสียงพัดลมผิดปกติไปเคลมกับ Zotac แต่บริษัทกลับปฏิเสธการรับประกัน โดยอ้างว่า พบรอยแตกบน PCB ใกล้พอร์ต PCIe ซึ่งไม่สามารถเกิดจากการใช้งานปกติ และสรุปว่าเป็นความเสียหายจากการขนส่งหรือการจัดการภายนอก ทำให้ผู้ใช้ต้องไปยื่นเรื่องกับบริษัทขนส่งแทน

    สิ่งที่สร้างความไม่พอใจคือ Zotac เสนอว่า หากลูกค้าไม่ต้องการรับการ์ดคืน สามารถให้บริษัท “กำจัดทิ้งฟรี” ได้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการดูถูกลูกค้าที่เพิ่งซื้อการ์ดมาเพียง 3 เดือน และเสียเงินไปหลายร้อยดอลลาร์ ทั้งที่ความเสียหายที่เห็นในภาพถ่ายนั้นดูเล็กน้อยและไม่น่าจะกระทบการใช้งานจริง

    กรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาที่ผู้ใช้หลายคนเจอจากผู้ผลิต GPU ที่มักปฏิเสธการเคลมด้วยเหตุผลเล็กน้อย เช่น Asus ที่เคยเรียกเก็บค่าซ่อมกว่า 3,350 ดอลลาร์จากรอยจิ๋วบน RTX 5090 หรือ Nvidia ที่บางครั้งใจกว้างกว่า โดยเคยเปลี่ยนการ์ดที่เสียหายจากการใช้งานผิดพลาดให้ลูกค้าโดยตรง

    แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าความเสียหายเกิดจากการขนส่งจริงหรือไม่ แต่กรณีนี้ทำให้ผู้ใช้ตั้งคำถามถึง มาตรฐานการรับประกันของ Zotac และความโปร่งใสในการตรวจสอบสินค้า ว่าบริษัทกำลังปกป้องตัวเองมากกว่าปกป้องลูกค้าหรือไม่

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สิ่งที่เกิดขึ้น
    ผู้ใช้ส่ง RTX 5070 Ti เคลมเพราะเสียงพัดลมผิดปกติ
    Zotac ปฏิเสธการเคลม อ้าง PCB แตกใกล้พอร์ต PCIe
    เสนอทิ้งการ์ดฟรีหากลูกค้าไม่ต้องการรับคืน

    กรณีคล้ายกันในวงการ
    Asus เคยเรียกเก็บค่าซ่อม $3,350 จากรอยเล็กบน RTX 5090
    Nvidia เคยเปลี่ยนการ์ดให้ลูกค้าแม้เกิดจากการใช้งานผิดพลาด

    ข้อควรระวัง
    การเคลม GPU อาจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเล็กน้อย
    ความเสียหายจากการขนส่งมักถูกโยนความรับผิดชอบไปที่บริษัทขนส่ง
    ผู้ใช้ควรตรวจสอบและถ่ายภาพสินค้าเมื่อรับของ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน

    https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/zotac-denies-rtx-5070-ti-fan-related-rma-and-then-offers-to-dispose-of-the-gpu-free-of-charge-the-company-claims-irreversible-pcb-damage-and-limited-tools-for-repair
    💻 "Zotac ปฏิเสธเคลม RTX 5070 Ti อ้าง PCB เสียหาย และเสนอทิ้งการ์ดฟรี" กรณีนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้รายหนึ่งส่ง RTX 5070 Ti ที่มีปัญหาเสียงพัดลมผิดปกติไปเคลมกับ Zotac แต่บริษัทกลับปฏิเสธการรับประกัน โดยอ้างว่า พบรอยแตกบน PCB ใกล้พอร์ต PCIe ซึ่งไม่สามารถเกิดจากการใช้งานปกติ และสรุปว่าเป็นความเสียหายจากการขนส่งหรือการจัดการภายนอก ทำให้ผู้ใช้ต้องไปยื่นเรื่องกับบริษัทขนส่งแทน สิ่งที่สร้างความไม่พอใจคือ Zotac เสนอว่า หากลูกค้าไม่ต้องการรับการ์ดคืน สามารถให้บริษัท “กำจัดทิ้งฟรี” ได้ ซึ่งถูกมองว่าเป็นการดูถูกลูกค้าที่เพิ่งซื้อการ์ดมาเพียง 3 เดือน และเสียเงินไปหลายร้อยดอลลาร์ ทั้งที่ความเสียหายที่เห็นในภาพถ่ายนั้นดูเล็กน้อยและไม่น่าจะกระทบการใช้งานจริง กรณีนี้สะท้อนถึงปัญหาที่ผู้ใช้หลายคนเจอจากผู้ผลิต GPU ที่มักปฏิเสธการเคลมด้วยเหตุผลเล็กน้อย เช่น Asus ที่เคยเรียกเก็บค่าซ่อมกว่า 3,350 ดอลลาร์จากรอยจิ๋วบน RTX 5090 หรือ Nvidia ที่บางครั้งใจกว้างกว่า โดยเคยเปลี่ยนการ์ดที่เสียหายจากการใช้งานผิดพลาดให้ลูกค้าโดยตรง แม้จะยังไม่ชัดเจนว่าความเสียหายเกิดจากการขนส่งจริงหรือไม่ แต่กรณีนี้ทำให้ผู้ใช้ตั้งคำถามถึง มาตรฐานการรับประกันของ Zotac และความโปร่งใสในการตรวจสอบสินค้า ว่าบริษัทกำลังปกป้องตัวเองมากกว่าปกป้องลูกค้าหรือไม่ 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สิ่งที่เกิดขึ้น ➡️ ผู้ใช้ส่ง RTX 5070 Ti เคลมเพราะเสียงพัดลมผิดปกติ ➡️ Zotac ปฏิเสธการเคลม อ้าง PCB แตกใกล้พอร์ต PCIe ➡️ เสนอทิ้งการ์ดฟรีหากลูกค้าไม่ต้องการรับคืน ✅ กรณีคล้ายกันในวงการ ➡️ Asus เคยเรียกเก็บค่าซ่อม $3,350 จากรอยเล็กบน RTX 5090 ➡️ Nvidia เคยเปลี่ยนการ์ดให้ลูกค้าแม้เกิดจากการใช้งานผิดพลาด ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การเคลม GPU อาจถูกปฏิเสธด้วยเหตุผลเล็กน้อย ⛔ ความเสียหายจากการขนส่งมักถูกโยนความรับผิดชอบไปที่บริษัทขนส่ง ⛔ ผู้ใช้ควรตรวจสอบและถ่ายภาพสินค้าเมื่อรับของ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน https://www.tomshardware.com/pc-components/gpus/zotac-denies-rtx-5070-ti-fan-related-rma-and-then-offers-to-dispose-of-the-gpu-free-of-charge-the-company-claims-irreversible-pcb-damage-and-limited-tools-for-repair
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 171 มุมมอง 0 รีวิว
  • "ปัญหาทางเทคนิคส่วนใหญ่ จริง ๆ แล้วคือปัญหาคน"

    บทความนี้เล่าประสบการณ์จากผู้เขียนที่เคยทำงานในบริษัทที่มี technical debt มหาศาล — โค้ดหลายล้านบรรทัด ไม่มี unit tests และใช้ framework ที่ล้าสมัย ปัญหาที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเทคนิคจริง ๆ แล้วกลับมีรากเหง้ามาจาก การจัดการคนและวัฒนธรรมองค์กร มากกว่าตัวเทคโนโลยีเอง

    ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า การแก้ปัญหาทางเทคนิคมักไม่สำเร็จ หากไม่มีการแก้ปัญหาความร่วมมือในทีม เช่น การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การขาดความรับผิดชอบร่วมกัน หรือการตัดสินใจที่ไม่โปร่งใส สิ่งเหล่านี้ทำให้โค้ดและระบบสะสมปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น technical debt ที่ยากจะแก้ไข

    นอกจากนี้ยังกล่าวถึง ความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี เช่น การเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การยอมรับความผิดพลาด และการสนับสนุนให้ทีมเรียนรู้จากกันและกัน เพราะสุดท้ายแล้ว เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่คนคือผู้ที่ทำให้ระบบเดินไปข้างหน้าได้จริง

    บทเรียนสำคัญคือ หากองค์กรอยากแก้ปัญหาทางเทคนิคอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากการแก้ปัญหาคน — การสร้างทีมที่มีความไว้วางใจ การสื่อสารที่ดี และการจัดการที่โปร่งใส จะช่วยลด technical debt และทำให้การพัฒนาระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

    สรุปประเด็นสำคัญ
    สาเหตุของปัญหาทางเทคนิค
    Technical debt มหาศาลจากโค้ดที่ไม่มีการทดสอบและ framework ล้าสมัย
    ปัญหาคน เช่น การสื่อสารไม่ชัดเจน และการตัดสินใจที่ไม่โปร่งใส

    วิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
    สร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม
    ยอมรับและเรียนรู้จากความผิดพลาด
    ส่งเสริมความรับผิดชอบร่วมกัน

    ข้อควรระวัง
    การแก้ปัญหาทางเทคนิคโดยไม่แก้ปัญหาคน จะทำให้ technical debt สะสมต่อไป
    การขาดความไว้วางใจในทีม อาจทำให้โครงการล้มเหลวแม้มีเทคโนโลยีที่ดี

    https://blog.joeschrag.com/2023/11/most-technical-problems-are-really.html
    👥 "ปัญหาทางเทคนิคส่วนใหญ่ จริง ๆ แล้วคือปัญหาคน" บทความนี้เล่าประสบการณ์จากผู้เขียนที่เคยทำงานในบริษัทที่มี technical debt มหาศาล — โค้ดหลายล้านบรรทัด ไม่มี unit tests และใช้ framework ที่ล้าสมัย ปัญหาที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเทคนิคจริง ๆ แล้วกลับมีรากเหง้ามาจาก การจัดการคนและวัฒนธรรมองค์กร มากกว่าตัวเทคโนโลยีเอง ผู้เขียนชี้ให้เห็นว่า การแก้ปัญหาทางเทคนิคมักไม่สำเร็จ หากไม่มีการแก้ปัญหาความร่วมมือในทีม เช่น การสื่อสารที่ไม่ชัดเจน การขาดความรับผิดชอบร่วมกัน หรือการตัดสินใจที่ไม่โปร่งใส สิ่งเหล่านี้ทำให้โค้ดและระบบสะสมปัญหามากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็น technical debt ที่ยากจะแก้ไข นอกจากนี้ยังกล่าวถึง ความสำคัญของการสร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี เช่น การเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา การยอมรับความผิดพลาด และการสนับสนุนให้ทีมเรียนรู้จากกันและกัน เพราะสุดท้ายแล้ว เทคโนโลยีเป็นเพียงเครื่องมือ แต่คนคือผู้ที่ทำให้ระบบเดินไปข้างหน้าได้จริง บทเรียนสำคัญคือ หากองค์กรอยากแก้ปัญหาทางเทคนิคอย่างยั่งยืน ต้องเริ่มจากการแก้ปัญหาคน — การสร้างทีมที่มีความไว้วางใจ การสื่อสารที่ดี และการจัดการที่โปร่งใส จะช่วยลด technical debt และทำให้การพัฒนาระบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ สาเหตุของปัญหาทางเทคนิค ➡️ Technical debt มหาศาลจากโค้ดที่ไม่มีการทดสอบและ framework ล้าสมัย ➡️ ปัญหาคน เช่น การสื่อสารไม่ชัดเจน และการตัดสินใจที่ไม่โปร่งใส ✅ วิธีแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ➡️ สร้างวัฒนธรรมทีมที่ดี เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วม ➡️ ยอมรับและเรียนรู้จากความผิดพลาด ➡️ ส่งเสริมความรับผิดชอบร่วมกัน ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ การแก้ปัญหาทางเทคนิคโดยไม่แก้ปัญหาคน จะทำให้ technical debt สะสมต่อไป ⛔ การขาดความไว้วางใจในทีม อาจทำให้โครงการล้มเหลวแม้มีเทคโนโลยีที่ดี https://blog.joeschrag.com/2023/11/most-technical-problems-are-really.html
    BLOG.JOESCHRAG.COM
    Most Technical Problems Are Really People Problems
    I once worked at a company which had an enormous amount of technical debt - millions of lines of code, no unit tests, based on frameworks ...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 170 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar

    Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ
    เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized

    ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด
    เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech”
    https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split

    AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง
    Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง
    https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models

    แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ
    นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera

    รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้
    Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา
    https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review

    หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel
    มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง
    https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch

    Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5
    เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset

    รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication
    หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป
    https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are

    โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก
    Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป
    https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring

    ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI
    AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง
    https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era

    Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ
    แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่
    https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized

    Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น
    แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s

    กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ
    มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น
    https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure

    รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC
    บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ
    https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review

    ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac
    ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app

    กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech
    กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill

    Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review
    เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้
    https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review

    OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ
    OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus

    รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล”
    รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block

    Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า
    Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้
    https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories

    Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer
    Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต
    https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders

    Zettlab D6 NAS Review
    นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review

    ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด
    บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze

    ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว
    ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน
    https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions

    ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล
    รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban

    กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว
    รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน
    https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency



    📌📡🟠 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟠📡📌 #รวมข่าวIT #20251204 #TechRadar 🤖 Google Antigravity AI ลบข้อมูลนักพัฒนาแล้วขอโทษ เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อระบบ AI ของ Google ที่ชื่อว่า Antigravity ลบข้อมูลใน Google Drive ของนักพัฒนารายหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ หลังจากนั้นระบบได้ส่งข้อความขอโทษกลับมาเอง เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดคำถามใหญ่เกี่ยวกับความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยของ AI ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้ หลายฝ่ายกังวลว่าหาก AI สามารถทำผิดพลาดในระดับนี้ อาจสร้างผลกระทบต่อธุรกิจและบุคคลทั่วไปได้อย่างรุนแรง 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/googles-antigravity-ai-deleted-a-developers-drive-and-then-apologized 🏛️ ความพยายามของทรัมป์ในการผลักดันกฎหมาย AI ระดับชาติสะดุด เรื่องนี้เป็นการถกเถียงใหญ่ในสภาอเมริกา เมื่อประธานาธิบดีทรัมป์พยายามผลักดันให้กฎหมายควบคุม AI ถูกกำหนดในระดับรัฐบาลกลาง เพื่อหลีกเลี่ยงการมี “กฎหมาย 50 แบบ” จากแต่ละรัฐ เขาเชื่อว่าการรวมศูนย์จะช่วยให้สหรัฐฯ แข่งขันกับจีนได้ แต่ฝ่ายนิติบัญญัติหลายคน โดยเฉพาะรีพับลิกันเอง กลับไม่เห็นด้วย เพราะมองว่ารัฐมีความคล่องตัวในการออกกฎหมายที่ตอบโจทย์สถานการณ์ได้เร็วกว่า อีกทั้งยังมีเสียงวิจารณ์ว่าการผลักดันนี้คือการเข้าข้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี สุดท้ายข้อเสนอนี้ถูกโหวตคว่ำอย่างท่วมท้น และทำให้ทรัมป์ถูกโจมตีว่า “ยืนอยู่ข้าง Big Tech” 🔗 https://www.techradar.com/pro/trumps-push-to-overrule-ai-regulation-falters-as-republicans-split ☁️ AWS เปิดตัว Nova Forge ให้ธุรกิจสร้างโมเดล AI ของตัวเอง Amazon Web Services เปิดตัวบริการใหม่ชื่อ Nova Forge ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับแต่งโมเดล AI ได้ตามต้องการ โดยเริ่มจากโมเดลพื้นฐานของ Amazon แล้วนำข้อมูลของบริษัทมาผสมเพื่อสร้างโมเดลเฉพาะกิจที่เรียกว่า “Novellas” จุดเด่นคือช่วยลดต้นทุนและเวลาในการฝึกโมเดลใหม่จากศูนย์ ซึ่งปกติอาจใช้เงินมหาศาลและทีมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว Nova 2 ที่มาพร้อมโมเดลพื้นฐานใหม่หลายตัว รวมถึงความสามารถด้านการสนทนาแบบเสียงต่อเสียงที่ใกล้เคียงมนุษย์ ถือเป็นการขยายศักยภาพของ AWS ในตลาด AI อย่างจริงจัง 🔗 https://www.techradar.com/pro/aws-nova-forge-could-be-your-companys-cue-to-start-building-custom-ai-models 🕵️ แฮกเกอร์เกาหลีเหนือถูกจับตาแบบสด ๆ ระหว่างปฏิบัติการ นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถหลอกกลุ่ม Lazarus ของเกาหลีเหนือให้ใช้เครื่องที่พวกเขาคิดว่าเป็น “แล็ปท็อปจริง” แต่แท้จริงคือ sandbox ที่ควบคุมจากระยะไกล ทำให้สามารถเห็นการทำงานของแฮกเกอร์แบบสด ๆ แผนการนี้เกี่ยวข้องกับการสร้าง “คนงานปลอม” เพื่อสมัครงานในบริษัทใหญ่ แล้วใช้ตำแหน่งนั้นทำกิจกรรมโจมตีไซเบอร์ นักวิจัยพบว่าแฮกเกอร์ใช้เครื่องมืออย่าง OTP generator, AI automation และ Google Remote Desktop เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบสองชั้น เหตุการณ์นี้ช่วยเปิดเผยวิธีการทำงานของกลุ่ม Lazarus และเป็นข้อมูลสำคัญในการป้องกันภัยไซเบอร์ในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/north-korean-fake-worker-scheme-caught-live-on-camera 💻 รีวิว Lenovo ThinkBook Plus Gen 6 Rollable โน้ตบุ๊คจอขยายได้ Lenovo เปิดตัวโน้ตบุ๊คที่เรียกว่า “Rollable” รุ่นแรกของโลก ThinkBook Plus Gen 6 ที่สามารถขยายหน้าจอจาก 14 นิ้วเป็น 16 นิ้วได้เพียงกดปุ่มเดียว ทำให้การทำงานนอกสถานที่สะดวกขึ้นมาก ตัวเครื่องมาพร้อมสเปกแรง เช่น Intel Core Ultra 7, RAM 32GB และ SSD 1TB จุดเด่นคือจอ OLED ที่ขยายได้อย่างลื่นไหลและใช้งานจริงได้ ไม่ใช่แค่ลูกเล่น ผู้รีวิวเล่าว่าทุกครั้งที่กางจอออก คนรอบข้างมักตื่นตาตื่นใจ ถือเป็นการเปลี่ยนมุมมองใหม่ต่อโน้ตบุ๊คสำหรับธุรกิจและการทำงานแบบพกพา 🔗 https://www.techradar.com/pro/lenovo-thinkbook-plus-gen-6-rollable-business-laptop-review ⚙️ หลุดข้อมูล Xeon 6 เวิร์กสเตชันใหม่ของ Intel มีการพบเมนบอร์ด ADLINK ISB-W890 ที่เผยให้เห็นแพลตฟอร์มใหม่ของ Intel สำหรับเวิร์กสเตชัน Granite Rapids-WS จุดเด่นคือรองรับหน่วยความจำ ECC DDR5 ได้สูงสุดถึง 1TB และมีช่อง PCIe มากมายสำหรับงานประมวลผลหนัก ๆ รวมถึงการ์ดกราฟิกหลายตัว ซีพียู Xeon รุ่นใหม่คาดว่าจะมีสูงสุดถึง 86 คอร์ พร้อมความเร็วสูงถึง 4.8GHz ซึ่งจะเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ AMD ThreadRipper รุ่นท็อป การรั่วไหลนี้ทำให้เห็นว่า Intel กำลังกลับมาท้าทายตลาดเวิร์กสเตชันระดับสูงอีกครั้ง 🔗 https://www.techradar.com/pro/is-this-our-first-look-at-intels-xeon-6-workstation-hardware-leak-claims-to-show-w890-platform-ahead-of-granite-rapids-launch 📱 Qualcomm สู้กลับด้วย Snapdragon 8 Gen 5 เรื่องนี้เริ่มจาก OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือรุ่นใหม่ OnePlus 15R ที่จะใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 5 เป็นครั้งแรก จุดที่น่าสนใจคือ Qualcomm เลือกใช้กลยุทธ์ “สองรุ่นเรือธง” คล้ายกับที่ Apple ทำกับชิป A-series โดยแบ่งเป็นรุ่น Elite และรุ่นปกติ เพื่อให้มือถือราคาย่อมเยาได้สัมผัสพลังระดับเรือธงเช่นกัน ผู้บริหาร OnePlus อธิบายว่า Apple เป็นแรงบันดาลใจ เพราะการแยกชิป Pro และชิปธรรมดาใน iPhone ทำให้ตลาดแตกต่างชัดเจน Qualcomm จึงต้องเดินตามแนวทางนี้เพื่อไม่ให้เสียเปรียบ และผลลัพธ์คือผู้ใช้จะได้มือถือที่แรงขึ้นแม้ไม่ใช่รุ่นแพงสุด 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/qualcomm-knows-it-has-to-fight-back-oneplus-exec-explains-why-apple-is-partially-responsible-for-the-new-snapdragon-8-gen-5-chipset 🔐 รื้อความเข้าใจผิดเรื่อง Passwordless Authentication หลายคนยังเชื่อว่าการเข้าสู่ระบบแบบไม่ใช้รหัสผ่านนั้นไม่ปลอดภัย แต่บทความนี้อธิบายชัดว่ามันคือการยกระดับความปลอดภัย เพราะใช้สิ่งที่คุณ “เป็น” เช่น ลายนิ้วมือหรือใบหน้า ร่วมกับ PIN ที่ทำงานเฉพาะบนอุปกรณ์ ไม่ถูกส่งออกไปเหมือนรหัสผ่านทั่วไป จึงยากต่อการโจมตี อีกทั้งยังช่วยลดภาระของทีม IT ที่ต้องคอยแก้ปัญหาการรีเซ็ตรหัสผ่านซ้ำๆ เทคโนโลยีนี้จึงเป็นก้าวสำคัญสู่ยุค Zero-Trust ที่องค์กรกำลังมุ่งไป 🔗 https://www.techradar.com/pro/passwordless-authentication-isnt-the-problem-the-myths-around-the-technology-are 🎄 โฆษณา Windows 11 “PC ที่พูดคุยได้” สร้างเสียงแตก Microsoft ปล่อยโฆษณาใหม่ช่วงเทศกาลที่โชว์ฟีเจอร์ “Hey Copilot” ให้ผู้ใช้พูดคุยกับคอมพิวเตอร์ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัว โฆษณามีฉากสนุกๆ เช่นการให้ Copilot ซิงค์ไฟคริสต์มาสกับเพลง แต่ปัญหาคือฟีเจอร์จริงยังทำไม่ได้ ทำให้ผู้ชมบางส่วนมองว่า Microsoft กำลังสร้างความคาดหวังเกินจริง หลายคอมเมนต์ประชดประชัน เช่น “Hey Copilot – ช่วยติดตั้ง Linux ให้หน่อย” สะท้อนว่าผู้ใช้บางกลุ่มรู้สึกถูกยัดเยียด AI มากเกินไป 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/new-windows-11-pc-you-can-talk-to-ad-pushing-copilot-is-proving-divisive-and-i-can-see-it-seriously-backfiring 🤖 ความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือในยุค AI AI กำลังเปลี่ยนโลกธุรกิจให้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ปัญหาคือข้อมูลที่ใช้ฝึก AI มักเป็นข้อมูลลับและอ่อนไหว หากบริษัทไม่โปร่งใสในการจัดการข้อมูล ลูกค้าอาจหมดความเชื่อใจ ตัวอย่างเช่น OpenAI เคยถูกปรับเพราะใช้ข้อมูลผู้ใช้โดยไม่ชัดเจน ทำให้เกิดคำถามใหญ่: ผู้ให้บริการ AI จะสร้างความเชื่อมั่นได้อย่างไร? คำตอบคือการเปิดเผยที่มาของข้อมูลและสถานที่จัดเก็บอย่างชัดเจน พร้อมเสริมระบบความปลอดภัย เช่น การเข้ารหัสและ MFA เพื่อให้ลูกค้าเห็นว่าข้อมูลของพวกเขาปลอดภัยจริง 🔗 https://www.techradar.com/pro/the-search-for-transparency-and-reliability-in-the-ai-era 💰 Nvidia กับดีล 100 พันล้านดอลลาร์ที่ยังไม่เสร็จ แม้จะมีข่าวใหญ่เรื่อง Nvidia จับมือ OpenAI ทำโครงการโครงสร้างพื้นฐาน AI มูลค่า 100 พันล้านดอลลาร์ แต่ความจริงคือดีลนี้ยังไม่ถูกลงนามอย่างเป็นทางการ CFO ของ Nvidia ยอมรับว่าทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอน “จดหมายแสดงเจตนา” เท่านั้น ความเสี่ยงคือการลงทุนระยะยาวอาจเจอปัญหาสินค้าล้นสต็อกหรือการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เร็วเกินไป นักลงทุนบางส่วนจึงกังวลว่าอาจเกิด “ฟองสบู่ AI” ที่พร้อมแตกได้ทุกเมื่อ ถึงแม้หุ้น Nvidia จะยังขึ้น แต่คำถามเรื่องความยั่งยืนยังคงอยู่ 🔗 https://www.techradar.com/pro/nvidia-admits-the-usd100bn-biggest-ai-infrastructure-project-in-history-openai-deal-still-isnt-finalized 📖 Character.ai ปรับกลยุทธ์ใหม่สำหรับวัยรุ่น แพลตฟอร์ม AI ชื่อดัง Character.ai เริ่มเปลี่ยนแนวทางการให้บริการ โดยลดการสนทนาแบบเปิดกว้างสำหรับผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ชื่อ “Stories” เพื่อดึงดูดวัยรุ่นให้ยังคงสนใจอยู่ จุดประสงค์คือสร้างพื้นที่ที่ปลอดภัยมากขึ้น และยังคงให้ผู้ใช้ได้สนุกกับการเล่าเรื่องในรูปแบบที่ควบคุมได้มากกว่า การปรับนี้สะท้อนว่าตลาด AI กำลังหาทางบาลานซ์ระหว่างความสร้างสรรค์และความรับผิดชอบต่อผู้ใช้เยาวชน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/character-ai-launches-stories-to-keep-teens-engaged-as-it-scales-back-open-ended-chat-for-under-18s 🎮 กลุ่มแฮ็กเกอร์อิหร่านใช้เกม Snake เป็นอาวุธ มีรายงานว่ากลุ่มแฮ็กเกอร์จากอิหร่านได้สร้างเกม Snake ปลอมขึ้นมาเพื่อโจมตีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในอียิปต์และอิสราเอล เกมนี้ถูกออกแบบให้ดูเหมือนเกมธรรมดา แต่จริงๆ แล้วแฝงมัลแวร์ที่สามารถเจาะระบบได้ การใช้วิธีที่ดู “ไร้เดียงสา” เช่นเกมยอดนิยม เป็นกลยุทธ์ที่ทำให้การโจมตีมีโอกาสสำเร็จสูงขึ้น และเป็นสัญญาณเตือนว่าภัยคุกคามไซเบอร์กำลังซับซ้อนและอันตรายมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/iranian-hacker-group-deploys-malicious-snake-game-to-target-egyptian-and-israeli-critical-infrastructure 💻 รีวิว MSI Cubi NUC AI+ 2MG Mini PC บทความนี้รีวิวเครื่อง Mini PC รุ่นใหม่จาก MSI ที่ชื่อ Cubi NUC AI+ 2MG จุดเด่นคือขนาดเล็กแต่ทรงพลัง เหมาะสำหรับงานสำนักงานหรือผู้ใช้ที่ต้องการเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ไม่กินพื้นที่มาก ตัวเครื่องมาพร้อมการรองรับ AI workload และการเชื่อมต่อที่ครบครัน ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากได้ PC ขนาดกะทัดรัดแต่ยังคงความแรงไว้ครบ 🔗 https://www.techradar.com/pro/msi-cubi-nuc-ai-2mg-mini-pc-review 🌐 ExpressVPN อัปเดตใหม่ เร็วขึ้นและปรับโฉมบน Mac ExpressVPN ปล่อยอัปเดตล่าสุดที่ช่วยเพิ่มความเร็วในการเชื่อมต่อ และปรับปรุงแอปบน Mac ให้ใช้งานง่ายขึ้น ดีไซน์ใหม่ทำให้ผู้ใช้เข้าถึงฟีเจอร์หลักได้สะดวกกว่าเดิม พร้อมทั้งเสริมความปลอดภัยและเสถียรภาพของการเชื่อมต่อ ถือเป็นการยกระดับประสบการณ์ใช้งาน VPN ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้ทั่วไปและผู้ใช้ระดับมืออาชีพ 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-services/expressvpns-latest-update-boosts-connection-speeds-and-revamps-its-mac-app ⚖️ กฎหมาย Chat Control สร้างเสียงวิจารณ์ในวงการ Privacy Tech กฎหมายใหม่ที่ชื่อ Chat Control กำลังถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผู้เชี่ยวชาญด้านความเป็นส่วนตัว หลายคนมองว่ามันคือ “หายนะที่รอเกิดขึ้น” เพราะเปิดช่องให้มีการสอดส่องการสื่อสารส่วนตัวของผู้ใช้ แม้จะอ้างว่าเพื่อความปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่ามันจะกระทบสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน และอาจทำให้ความเชื่อมั่นต่อเทคโนโลยีด้านความเป็นส่วนตัวพังทลาย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/a-disaster-waiting-to-happen-the-privacy-tech-world-reacts-to-the-new-chat-control-bill 📡 Devolo WiFi 6 Router 3600 5G Review เรื่องนี้เล่าได้ว่าเป็นประสบการณ์ตรงของผู้ทดสอบที่ได้ลองใช้เราเตอร์ Devolo WiFi 6 รุ่น 3600 ที่รองรับซิมการ์ด 5G LTE ตัวเครื่องออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก เพียงใส่ซิม เปิดไฟ และกดปุ่ม WPS ก็เชื่อมต่อได้ทันที จุดเด่นคือสามารถรองรับอุปกรณ์ได้มากกว่า 100 เครื่องพร้อมกัน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตบ้าน เช่นออฟฟิศใหม่หรือการทำงานนอกสถานที่ ความเร็วขึ้นอยู่กับสัญญาณเครือข่าย แต่เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มี 5G แรง ๆ ก็เร็วและเสถียรกว่าการแชร์ฮอตสปอตจากมือถือมาก แม้ราคาจะสูงเกือบ £399 แต่ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในสถานการณ์ที่ต้องการอินเทอร์เน็ตที่เชื่อถือได้ 🔗 https://www.techradar.com/computing/devolo-wifi-6-router-3600-5g-lte-review 📱 OnePlus 15 เตรียมเปิดตัวในสหรัฐฯ พร้อมของแถมพิเศษ OnePlus 15 ที่หลายคนรอคอยกำลังจะเปิดให้พรีออเดอร์ในสหรัฐฯ วันที่ 4 ธันวาคมนี้ หลังจากเลื่อนเปิดตัวเพราะติดปัญหาการรับรองจาก FCC ราคาจะเริ่มต้นที่ $899.99 สำหรับรุ่น RAM 12GB และ $999.99 สำหรับรุ่น RAM 16GB พร้อมของแถมให้เลือก เช่นนาฬิกา OnePlus Watch 3 มูลค่า $300 หรือหูฟัง Buds Pro 3 จุดเด่นของรุ่นนี้คือแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 7,300mAh ที่ใช้งานได้ยาวนานมาก รวมถึงกล้องและซอฟต์แวร์ที่ได้รับคำชมจนได้คะแนนรีวิวเต็ม 5 ดาว ถือเป็นการกลับมาที่น่าตื่นเต้นของ OnePlus ในตลาดสหรัฐฯ 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-oneplus-15-is-finally-heading-to-the-us-and-you-can-grab-a-major-pre-order-bonus 🚫 รัสเซียเตรียมแบน WhatsApp ภายใต้ “ม่านเหล็กดิจิทัล” รัฐบาลรัสเซียโดยหน่วยงาน Roskomnadzor ขู่จะบล็อก WhatsApp แบบเต็มรูปแบบ โดยกล่าวหาว่าแพลตฟอร์มนี้ถูกใช้เพื่อกิจกรรมก่อการร้าย และไม่ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น ปัจจุบันมีผู้ใช้ WhatsApp ในรัสเซียกว่า 97 ล้านคน หากถูกบล็อกจริงจะกระทบการสื่อสารอย่างรุนแรง โดยก่อนหน้านี้ Signal ก็ถูกบล็อกไปแล้ว ทำให้ผู้ใช้ถูกบังคับไปใช้แอปที่รัฐควบคุมอย่าง MAX ซึ่งมีความเสี่ยงด้านการสอดส่องสูง WhatsApp ยืนยันว่าจะยังคงให้บริการการสื่อสารแบบเข้ารหัสเพื่อปกป้องสิทธิผู้ใช้ แม้จะถูกกดดันจากรัฐบาล 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/russias-digital-iron-curtain-whatsapp-next-on-the-chopping-block 🤖 Amazon ทดลอง “AI Factories” ติดตั้งในองค์กรลูกค้า Amazon Web Services เปิดตัวแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า “AI Factories” คือการนำฮาร์ดแวร์และระบบ AI ไปติดตั้งในศูนย์ข้อมูลของลูกค้าเอง เพื่อรองรับข้อกำหนดด้านความปลอดภัยและอธิปไตยข้อมูล ลูกค้าไม่ต้องลงทุนสร้างระบบเอง แต่ AWS จะจัดการทุกอย่างให้ โดยใช้ชิป Nvidia Blackwell และ Trainium3 ของ Amazon จุดนี้ถือเป็นการกลับไปสู่แนวทาง on-premises อีกครั้ง หลังยุคที่ทุกอย่างย้ายขึ้นคลาวด์ เหมาะกับองค์กรหรือรัฐบาลที่ต้องการใช้ AI แต่ไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกพื้นที่ได้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/amazon-is-testing-out-private-on-premises-ai-factories 💻 Windows 11 มีบั๊กใหม่ใน Dark Mode ของ File Explorer Microsoft ปล่อยอัปเดตตัวล่าสุด KB5070311 ที่ตั้งใจจะปรับปรุง Dark Mode ให้สมบูรณ์ขึ้น แต่กลับทำให้เกิดบั๊กที่สร้างความรำคาญ เมื่อผู้ใช้เปิดโฟลเดอร์หรือแท็บใหม่ใน File Explorer จะมีแฟลชสีขาววาบขึ้นมา ซึ่งยิ่งรบกวนสายตาในสภาพแสงน้อย Microsoft ยอมรับปัญหาและกำลังแก้ไขก่อนที่จะปล่อยอัปเดตเต็มในสัปดาห์หน้า แม้จะเป็นเพียงเวอร์ชันทดลอง แต่หากไม่แก้ทันก็อาจกระทบผู้ใช้จำนวนมากที่รออัปเดต 🔗 https://www.techradar.com/computing/windows/microsoft-just-broke-file-explorer-dark-mode-some-windows-11-users-are-seeing-jarring-white-flashes-when-opening-folders 💾 Zettlab D6 NAS Review นี่เป็นรีวิวของ Zettlab D6 NAS อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเครือข่ายที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วและความปลอดภัยสูง จุดเด่นคือรองรับการเชื่อมต่อความเร็วสูง มีพอร์ตหลากหลาย และระบบจัดการที่ใช้งานง่าย เหมาะกับทั้งธุรกิจขนาดเล็กและผู้ใช้ที่ต้องการเก็บไฟล์จำนวนมากในบ้าน แม้ราคาจะสูง แต่ถือว่าคุ้มค่าเมื่อเทียบกับความสามารถในการปกป้องและแชร์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 🔗 https://www.techradar.com/computing/zettlab-d6-nas-device-review 🧩 ทดสอบ ChatGPT, Gemini และ Claude ในโลกมัลติโหมด บทความนี้เล่าถึงการทดสอบ AI รุ่นใหม่ ๆ ที่สามารถทำงานแบบมัลติโหมดได้ เช่น ChatGPT, Gemini และ Claude โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเข้าใจข้อความ ภาพ และเสียง จุดที่น่าสนใจคือแต่ละระบบมีจุดแข็งต่างกัน เช่น ChatGPT เด่นด้านการสนทนาเชิงลึก Gemini เน้นการเชื่อมโยงข้อมูลหลายรูปแบบ ส่วน Claude มีความแม่นยำในการตีความบริบท การทดสอบนี้สะท้อนให้เห็นว่า AI กำลังพัฒนาไปสู่การใช้งานที่หลากหลายและซับซ้อนมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/testing-chatgpt-gemini-and-claude-in-the-multimodal-maze 📢 ยุคโฆษณาใน ChatGPT เริ่มต้นแล้ว ผู้ใช้ ChatGPT โดยเฉพาะกลุ่ม Pro ที่จ่ายถึง $200 ต่อเดือน กำลังไม่พอใจอย่างหนัก เพราะ OpenAI เริ่มแสดงโฆษณาและแนะนำแอปในระบบ แม้จะเป็นผู้ใช้แบบเสียเงินก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนี้สะท้อนถึงการหาทางสร้างรายได้ใหม่ของบริษัท แต่ก็ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่าเป็นการลดคุณภาพประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ยอมจ่ายแพงเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งรบกวน 🔗 https://www.techradar.com/ai-platforms-assistants/chatgpt/the-era-of-ads-in-chatgpt-begins-users-furious-as-even-usd200-a-month-pro-subscribers-hit-with-app-suggestions 🛡️ ออสเตรเลียสั่งห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 16 ใช้ VPN เพื่อเลี่ยงกฎหมายโซเชียล รัฐบาลออสเตรเลียออกมาตรการใหม่ บังคับให้แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องป้องกันไม่ให้ผู้ใช้อายุต่ำกว่า 16 ปีใช้ VPN เพื่อหลบเลี่ยงการแบนโซเชียลมีเดีย กฎหมายนี้ถูกวิจารณ์ว่าอาจละเมิดสิทธิส่วนบุคคลและสร้างภาระให้กับบริษัทเทคโนโลยี แต่รัฐบาลยืนยันว่าจำเป็นเพื่อปกป้องเยาวชนจากผลกระทบของโซเชียลมีเดีย 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/australia-expects-platforms-to-stop-under-16s-from-using-vpns-to-evade-social-media-ban 🛍️ กว่า 2 ใน 3 ของร้านค้าปลีกใช้ AI Agent เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแล้ว รายงานล่าสุดเผยว่ามากกว่า 67% ของผู้ค้าปลีกได้เริ่มนำ AI Agent มาใช้ในการทำงาน เช่น การตอบลูกค้า การจัดการสต็อก และการวิเคราะห์ข้อมูล จุดนี้สะท้อนว่าการใช้ AI ไม่ใช่แค่แนวโน้ม แต่กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของธุรกิจค้าปลีกที่ต้องการความเร็วและความแม่นยำในการแข่งขัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/over-two-thirds-of-retailers-have-already-partially-deployed-ai-agents-for-efficiency
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 797 มุมมอง 0 รีวิว
  • การค้นพบช่องโหว่ครั้งใหญ่

    นักวิจัยด้านความปลอดภัย Alex Schapiro ได้ทำการ Reverse Engineering ระบบของ Filevine ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ใช้ในวงการกฎหมาย และพบว่า API Endpoint ของบริษัทเปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ผลลัพธ์คือสามารถดึง Admin Token ที่มีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ทั้งหมดของสำนักงานกฎหมาย Margolis ได้โดยตรง

    ข้อมูลลับกว่า 100,000 ไฟล์ถูกเปิดเผย
    เมื่อทดสอบการค้นหาด้วยคำว่า “confidential” ระบบตอบกลับด้วยผลลัพธ์กว่า 100,000 ไฟล์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่เอกสารภายใน, Payroll, ข้อมูลผู้ใช้ ไปจนถึงเอกสารที่ได้รับการคุ้มครองตามคำสั่งศาล หากผู้ไม่หวังดีเข้าถึงได้จริง จะสามารถขโมยข้อมูลที่อยู่ภายใต้ HIPAA และมาตรฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ได้ทั้งหมด

    การตอบสนองของ Filevine
    หลังจากการแจ้งเตือนในวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ทีมงาน Filevine ได้ตอบรับอย่างรวดเร็ว และภายในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 ได้ยืนยันว่าช่องโหว่ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พร้อมขอบคุณนักวิจัยที่เปิดเผยอย่างมีความรับผิดชอบ การจัดการครั้งนี้ถูกยกเป็นตัวอย่างที่ดีของการ Responsible Disclosure ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์

    บทเรียนสำหรับวงการ AI กฎหมาย
    เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า การเร่งพัฒนา AI โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยอย่างรอบคอบ อาจนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ บริษัทที่ใช้ AI ในการจัดการข้อมูลลับจำเป็นต้องลงทุนในระบบ Security Audit, Penetration Testing และการเข้ารหัสที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย

    สรุปสาระสำคัญ
    การค้นพบช่องโหว่ใน Filevine
    API เปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน

    ข้อมูลลับกว่า 100,000 ไฟล์ถูกเปิดเผย
    ครอบคลุมเอกสารภายใน, Payroll, ข้อมูลผู้ใช้ และเอกสารที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย

    การตอบสนองของ Filevine
    แก้ไขช่องโหว่ภายในไม่กี่สัปดาห์ และยกเป็นตัวอย่าง Responsible Disclosure

    ความเสี่ยงหากถูกโจมตีจริง
    อาจทำให้ข้อมูลที่อยู่ภายใต้ HIPAA และคำสั่งศาลถูกขโมยทั้งหมด

    บทเรียนสำหรับวงการ AI กฎหมาย
    ต้องลงทุนใน Security Audit และการเข้ารหัสเพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต

    https://alexschapiro.com/security/vulnerability/2025/12/02/filevine-api-100k
    🔐 การค้นพบช่องโหว่ครั้งใหญ่ นักวิจัยด้านความปลอดภัย Alex Schapiro ได้ทำการ Reverse Engineering ระบบของ Filevine ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม AI ที่ใช้ในวงการกฎหมาย และพบว่า API Endpoint ของบริษัทเปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ผลลัพธ์คือสามารถดึง Admin Token ที่มีสิทธิ์เข้าถึงไฟล์ทั้งหมดของสำนักงานกฎหมาย Margolis ได้โดยตรง 📂 ข้อมูลลับกว่า 100,000 ไฟล์ถูกเปิดเผย เมื่อทดสอบการค้นหาด้วยคำว่า “confidential” ระบบตอบกลับด้วยผลลัพธ์กว่า 100,000 ไฟล์ ที่ครอบคลุมตั้งแต่เอกสารภายใน, Payroll, ข้อมูลผู้ใช้ ไปจนถึงเอกสารที่ได้รับการคุ้มครองตามคำสั่งศาล หากผู้ไม่หวังดีเข้าถึงได้จริง จะสามารถขโมยข้อมูลที่อยู่ภายใต้ HIPAA และมาตรฐานทางกฎหมายอื่น ๆ ได้ทั้งหมด 🧑‍⚖️ การตอบสนองของ Filevine หลังจากการแจ้งเตือนในวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ทีมงาน Filevine ได้ตอบรับอย่างรวดเร็ว และภายในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2025 ได้ยืนยันว่าช่องโหว่ถูกแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พร้อมขอบคุณนักวิจัยที่เปิดเผยอย่างมีความรับผิดชอบ การจัดการครั้งนี้ถูกยกเป็นตัวอย่างที่ดีของการ Responsible Disclosure ในวงการความปลอดภัยไซเบอร์ ⚠️ บทเรียนสำหรับวงการ AI กฎหมาย เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า การเร่งพัฒนา AI โดยไม่ตรวจสอบความปลอดภัยอย่างรอบคอบ อาจนำไปสู่หายนะครั้งใหญ่ บริษัทที่ใช้ AI ในการจัดการข้อมูลลับจำเป็นต้องลงทุนในระบบ Security Audit, Penetration Testing และการเข้ารหัสที่เข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ การค้นพบช่องโหว่ใน Filevine ➡️ API เปิดให้เข้าถึงโดยไม่ต้องยืนยันตัวตน ✅ ข้อมูลลับกว่า 100,000 ไฟล์ถูกเปิดเผย ➡️ ครอบคลุมเอกสารภายใน, Payroll, ข้อมูลผู้ใช้ และเอกสารที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมาย ✅ การตอบสนองของ Filevine ➡️ แก้ไขช่องโหว่ภายในไม่กี่สัปดาห์ และยกเป็นตัวอย่าง Responsible Disclosure ‼️ ความเสี่ยงหากถูกโจมตีจริง ⛔ อาจทำให้ข้อมูลที่อยู่ภายใต้ HIPAA และคำสั่งศาลถูกขโมยทั้งหมด ‼️ บทเรียนสำหรับวงการ AI กฎหมาย ⛔ ต้องลงทุนใน Security Audit และการเข้ารหัสเพื่อป้องกันภัยคุกคามในอนาคต https://alexschapiro.com/security/vulnerability/2025/12/02/filevine-api-100k
    ALEXSCHAPIRO.COM
    How I Reverse Engineered a Billion-Dollar Legal AI Tool and Found 100k+ Confidential Files
    Update: This post received a large amount of attention on Hacker News — see the discussion thread.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • Privatim ประกาศ บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย

    เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Privatim ซึ่งเป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมติเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลทบทวนการใช้บริการคลาวด์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ มติระบุว่า การส่งออกข้อมูลไปยังผู้ให้บริการ SaaS ระดับโลกถือว่าไม่เหมาะสมในหลายกรณี และเน้นย้ำว่าหน่วยงานสาธารณะมีความรับผิดชอบพิเศษในการปกป้องข้อมูลประชาชน

    ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์ต่างประเทศ
    Privatim ระบุ 5 ปัญหาหลัก ที่ทำให้บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่:
    1️⃣ ขาดการเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่แท้จริง
    2️⃣ ความโปร่งใสไม่เพียงพอในการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด
    3️⃣ สูญเสียการควบคุมข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ
    4️⃣ ความไม่แน่นอนทางกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลที่มีข้อผูกพันด้านความลับ
    5️⃣ กฎหมาย US CLOUD Act ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ใด

    แนวทางแก้ไขที่เสนอ
    Privatim เสนอว่า หากหน่วยงานจำเป็นต้องใช้บริการ SaaS ระหว่างประเทศ ควรทำการ เข้ารหัสข้อมูลด้วยตนเอง และห้ามผู้ให้บริการเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส ซึ่งข้อกำหนดนี้ทำให้บริการคลาวด์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ และผลักดันให้เกิดการพิจารณา การทำ Self-Hosting หรือการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ควบคุมได้เองมากขึ้น

    มุมมองเพิ่มเติม
    การประกาศนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในยุโรปเกี่ยวกับการพึ่งพาบริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและอธิปไตยทางดิจิทัล หลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณให้รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ หันมาใช้ โครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่น หรือโซลูชันโอเพ่นซอร์สที่สามารถควบคุมได้มากกว่า

    สรุปประเด็นสำคัญ
    การประกาศของ Privatim
    เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐทบทวนการใช้คลาวด์ต่างประเทศ
    เน้นความรับผิดชอบต่อข้อมูลประชาชน

    ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์สหรัฐฯ
    ไม่มีการเข้ารหัส end-to-end
    ขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบ
    สูญเสียการควบคุมข้อมูล
    ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย
    US CLOUD Act เปิดช่องให้เข้าถึงข้อมูล

    แนวทางแก้ไขที่เสนอ
    หน่วยงานต้องเข้ารหัสข้อมูลเอง
    ผู้ให้บริการห้ามเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส

    คำเตือนต่อผู้ใช้และหน่วยงานรัฐ
    หากยังใช้บริการคลาวด์ต่างประเทศโดยไม่เข้ารหัส ข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึง
    การพึ่งพา hyperscalers อาจกระทบต่ออธิปไตยทางดิจิทัล
    หน่วยงานที่ไม่อัปเดตแนวทางอาจละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัย

    https://itsfoss.com/news/privatim-declares-international-cloud-unsuitable/
    🛡️ Privatim ประกาศ บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2025 Privatim ซึ่งเป็นการประชุมของเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลสวิตเซอร์แลนด์ ได้ออกมติเรียกร้องให้หน่วยงานรัฐบาลทบทวนการใช้บริการคลาวด์จากต่างประเทศ โดยเฉพาะการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่สำคัญ มติระบุว่า การส่งออกข้อมูลไปยังผู้ให้บริการ SaaS ระดับโลกถือว่าไม่เหมาะสมในหลายกรณี และเน้นย้ำว่าหน่วยงานสาธารณะมีความรับผิดชอบพิเศษในการปกป้องข้อมูลประชาชน ⚙️ ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์ต่างประเทศ Privatim ระบุ 5 ปัญหาหลัก ที่ทำให้บริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ไม่ผ่านมาตรฐานความปลอดภัย ได้แก่: 1️⃣ ขาดการเข้ารหัสแบบ end-to-end ที่แท้จริง 2️⃣ ความโปร่งใสไม่เพียงพอในการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อกำหนด 3️⃣ สูญเสียการควบคุมข้อมูลอย่างมีนัยสำคัญ 4️⃣ ความไม่แน่นอนทางกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลที่มีข้อผูกพันด้านความลับ 5️⃣ กฎหมาย US CLOUD Act ที่อนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ใด 🔒 แนวทางแก้ไขที่เสนอ Privatim เสนอว่า หากหน่วยงานจำเป็นต้องใช้บริการ SaaS ระหว่างประเทศ ควรทำการ เข้ารหัสข้อมูลด้วยตนเอง และห้ามผู้ให้บริการเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส ซึ่งข้อกำหนดนี้ทำให้บริการคลาวด์ส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่สามารถตอบโจทย์ได้ และผลักดันให้เกิดการพิจารณา การทำ Self-Hosting หรือการใช้โครงสร้างพื้นฐานที่ควบคุมได้เองมากขึ้น 🌐 มุมมองเพิ่มเติม การประกาศนี้สะท้อนถึงความกังวลที่เพิ่มขึ้นในยุโรปเกี่ยวกับการพึ่งพาบริการคลาวด์จากสหรัฐฯ ซึ่งอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวและอธิปไตยทางดิจิทัล หลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณให้รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ หันมาใช้ โครงสร้างพื้นฐานท้องถิ่น หรือโซลูชันโอเพ่นซอร์สที่สามารถควบคุมได้มากกว่า 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ การประกาศของ Privatim ➡️ เรียกร้องให้หน่วยงานรัฐทบทวนการใช้คลาวด์ต่างประเทศ ➡️ เน้นความรับผิดชอบต่อข้อมูลประชาชน ✅ ปัญหาที่พบในบริการคลาวด์สหรัฐฯ ➡️ ไม่มีการเข้ารหัส end-to-end ➡️ ขาดความโปร่งใสในการตรวจสอบ ➡️ สูญเสียการควบคุมข้อมูล ➡️ ความไม่แน่นอนทางกฎหมาย ➡️ US CLOUD Act เปิดช่องให้เข้าถึงข้อมูล ✅ แนวทางแก้ไขที่เสนอ ➡️ หน่วยงานต้องเข้ารหัสข้อมูลเอง ➡️ ผู้ให้บริการห้ามเข้าถึงกุญแจเข้ารหัส ‼️ คำเตือนต่อผู้ใช้และหน่วยงานรัฐ ⛔ หากยังใช้บริการคลาวด์ต่างประเทศโดยไม่เข้ารหัส ข้อมูลเสี่ยงต่อการถูกเข้าถึง ⛔ การพึ่งพา hyperscalers อาจกระทบต่ออธิปไตยทางดิจิทัล ⛔ หน่วยงานที่ไม่อัปเดตแนวทางอาจละเมิดข้อกำหนดด้านความปลอดภัย https://itsfoss.com/news/privatim-declares-international-cloud-unsuitable/
    ITSFOSS.COM
    Swiss Data Protection Group Says US Cloud Giants Can't Meet Privacy Standards
    Lack of end-to-end encryption makes international cloud services unsuitable, privatim says.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 163 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความกฎหมาย EP.37

    บัลลังก์ซึ่งเป็นที่ประทับของผู้พิพากษาในศาลนั้น มิได้เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง แต่เป็นประธานแห่งสัญลักษณ์ที่ทรงพลังและมีความหมายลึกซึ้งในทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม บัลลังก์คือศูนย์กลางทางกายภาพของอำนาจตุลาการ เป็นเครื่องหมายที่บ่งชี้ถึงสถานะอันศักดิ์สิทธิ์ของการพิจารณาคดี และเป็นตัวแทนของความเชื่อมั่นของสังคมที่มีต่อหลักนิติธรรม การที่ผู้พิพากษาขึ้นนั่งบนบัลลังก์นั้น ไม่ใช่แค่การเริ่มพิธีการ แต่เป็นการประกาศว่าในขณะนั้น อำนาจในการตีความและใช้กฎหมายเพื่อตัดสินชี้ขาดความถูกผิด ได้ถูกถ่ายทอดมาสู่บุคคลผู้นี้แล้ว ภายใต้หลักการที่ว่า "ผู้พิพากษาคือผู้ใช้กฎหมาย" บัลลังก์จึงเป็นเสมือนแท่นที่รองรับการใช้อำนาจรัฐในรูปแบบที่ละเอียดอ่อนและสำคัญที่สุด นั่นคือการอำนวยความยุติธรรมให้แก่คู่ความและสังคม ความสูงของบัลลังก์ที่มักถูกออกแบบให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่นั่งของคู่ความและผู้สังเกตการณ์ ก็เพื่อสื่อถึงความเหนือกว่าของกฎหมายและหลักการของรัฐ ไม่ใช่อำนาจส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคน แต่เป็นอำนาจของระบบยุติธรรมทั้งหมดที่ต้องได้รับการเคารพและเชื่อถือ การพิจารณาคดีในห้องบัลลังก์จึงดำเนินไปภายใต้บรรยากาศที่เคร่งขรึมและเป็นระเบียบ สะท้อนให้เห็นว่าทุกการตัดสินใจที่ออกมาจากบัลลังก์นั้น มีน้ำหนัก มีผลผูกพัน และเป็นผลมาจากกระบวนการอันชอบธรรมและเป็นกลาง ปราศจากอคติหรือความลำเอียงส่วนบุคคล การที่บัลลังก์ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนจากทุกส่วนของห้องพิจารณาคดี ยังเป็นการย้ำเตือนแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโจทก์ จำเลย ทนายความ หรือพยาน ถึงความสำคัญของการเคารพในกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ดังนั้น บัลลังก์จึงเป็นมากกว่าที่นั่ง มันคือแกนหลักที่ทำให้การพิจารณาคดีมีความหมาย เป็นเครื่องยืนยันถึงการมีอยู่ของหลักธรรมาภิบาล และเป็นสัญลักษณ์ของความหวังที่ประชาชนมีต่อการได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริงในสังคม

    โดยสรุปแล้ว บัลลังก์จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของศาลยุติธรรม เป็นศูนย์รวมของอำนาจและหน้าที่ของผู้พิพากษาในการตัดสินคดีตามตัวบทกฎหมายและหลักความเที่ยงธรรม มันตอกย้ำถึงความสำคัญของการแยกใช้อำนาจตุลาการออกจากอำนาจอื่น ๆ และย้ำเตือนให้ทุกคนระลึกถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงที่มาพร้อมกับการใช้อำนาจในการชี้เป็นชี้ตายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น บัลลังก์จึงดำรงอยู่เป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังว่า การแสวงหาความจริงและความยุติธรรมนั้นเป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ความเป็นกลาง และความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด.
    บทความกฎหมาย EP.37 บัลลังก์ซึ่งเป็นที่ประทับของผู้พิพากษาในศาลนั้น มิได้เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่ง แต่เป็นประธานแห่งสัญลักษณ์ที่ทรงพลังและมีความหมายลึกซึ้งในทางกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม บัลลังก์คือศูนย์กลางทางกายภาพของอำนาจตุลาการ เป็นเครื่องหมายที่บ่งชี้ถึงสถานะอันศักดิ์สิทธิ์ของการพิจารณาคดี และเป็นตัวแทนของความเชื่อมั่นของสังคมที่มีต่อหลักนิติธรรม การที่ผู้พิพากษาขึ้นนั่งบนบัลลังก์นั้น ไม่ใช่แค่การเริ่มพิธีการ แต่เป็นการประกาศว่าในขณะนั้น อำนาจในการตีความและใช้กฎหมายเพื่อตัดสินชี้ขาดความถูกผิด ได้ถูกถ่ายทอดมาสู่บุคคลผู้นี้แล้ว ภายใต้หลักการที่ว่า "ผู้พิพากษาคือผู้ใช้กฎหมาย" บัลลังก์จึงเป็นเสมือนแท่นที่รองรับการใช้อำนาจรัฐในรูปแบบที่ละเอียดอ่อนและสำคัญที่สุด นั่นคือการอำนวยความยุติธรรมให้แก่คู่ความและสังคม ความสูงของบัลลังก์ที่มักถูกออกแบบให้อยู่ในระดับที่สูงกว่าที่นั่งของคู่ความและผู้สังเกตการณ์ ก็เพื่อสื่อถึงความเหนือกว่าของกฎหมายและหลักการของรัฐ ไม่ใช่อำนาจส่วนตัวของผู้พิพากษาแต่ละคน แต่เป็นอำนาจของระบบยุติธรรมทั้งหมดที่ต้องได้รับการเคารพและเชื่อถือ การพิจารณาคดีในห้องบัลลังก์จึงดำเนินไปภายใต้บรรยากาศที่เคร่งขรึมและเป็นระเบียบ สะท้อนให้เห็นว่าทุกการตัดสินใจที่ออกมาจากบัลลังก์นั้น มีน้ำหนัก มีผลผูกพัน และเป็นผลมาจากกระบวนการอันชอบธรรมและเป็นกลาง ปราศจากอคติหรือความลำเอียงส่วนบุคคล การที่บัลลังก์ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ชัดเจนจากทุกส่วนของห้องพิจารณาคดี ยังเป็นการย้ำเตือนแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโจทก์ จำเลย ทนายความ หรือพยาน ถึงความสำคัญของการเคารพในกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทั้งหมด ดังนั้น บัลลังก์จึงเป็นมากกว่าที่นั่ง มันคือแกนหลักที่ทำให้การพิจารณาคดีมีความหมาย เป็นเครื่องยืนยันถึงการมีอยู่ของหลักธรรมาภิบาล และเป็นสัญลักษณ์ของความหวังที่ประชาชนมีต่อการได้รับความยุติธรรมอย่างแท้จริงในสังคม โดยสรุปแล้ว บัลลังก์จึงเป็นสัญลักษณ์แห่งความศักดิ์สิทธิ์ของศาลยุติธรรม เป็นศูนย์รวมของอำนาจและหน้าที่ของผู้พิพากษาในการตัดสินคดีตามตัวบทกฎหมายและหลักความเที่ยงธรรม มันตอกย้ำถึงความสำคัญของการแยกใช้อำนาจตุลาการออกจากอำนาจอื่น ๆ และย้ำเตือนให้ทุกคนระลึกถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงที่มาพร้อมกับการใช้อำนาจในการชี้เป็นชี้ตายต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น บัลลังก์จึงดำรงอยู่เป็นเครื่องเตือนใจอันทรงพลังว่า การแสวงหาความจริงและความยุติธรรมนั้นเป็นภารกิจที่ต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ ความเป็นกลาง และความซื่อสัตย์สุจริตอย่างสูงสุด.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 193 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลออสเตรเลียประกาศ National AI Plan เพื่อเร่งการลงทุนและการใช้ AI

    รัฐบาลกลางออสเตรเลียเผยแพร่ National AI Plan โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ขั้นสูง สร้างทักษะด้าน AI ให้แรงงาน และรักษาความปลอดภัยสาธารณะเมื่อ AI ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน แนวทางนี้จะอาศัยกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลที่มีอยู่แล้ว แทนที่จะออกกฎหมายใหม่ที่เข้มงวด

    การกำกับดูแลและความปลอดภัย
    รัฐบาลระบุว่า หน่วยงานและผู้กำกับดูแลในแต่ละภาคส่วนจะยังคงมีหน้าที่จัดการความเสี่ยงจาก AI โดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ เช่น กฎหมายความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ขณะเดียวกันจะจัดตั้ง AI Safety Institute ในปี 2026 เพื่อช่วยตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดจาก AI

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    แม้แผนนี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความเสี่ยง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางราย เช่น Associate Professor Niusha Shafiabady จาก Australian Catholic University เตือนว่าแผนดังกล่าวยังมี “ช่องว่างสำคัญ” เช่น ความรับผิดชอบ ความยั่งยืน และการกำกับดูแลเชิงประชาธิปไตย หากไม่แก้ไข ออสเตรเลียอาจสร้างเศรษฐกิจ AI ที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่เป็นธรรม

    ความหมายต่ออนาคต
    การเลือกใช้กฎหมายที่มีอยู่สะท้อนถึงแนวทางที่แตกต่างจากยุโรปซึ่งออกกฎหมาย AI Act โดยตรง หากออสเตรเลียสามารถสร้างสมดุลได้สำเร็จ อาจกลายเป็นโมเดลที่ประเทศอื่นนำไปปรับใช้ แต่หากละเลยประเด็นความรับผิดชอบและความโปร่งใส ก็อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน

    สรุปเป็นหัวข้อ
    เนื้อหาหลักของ National AI Plan
    ดึงดูดการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ขั้นสูง
    สร้างทักษะด้าน AI ให้แรงงาน
    ใช้กฎหมายที่มีอยู่แทนการออกกฎใหม่

    การกำกับดูแลและความปลอดภัย
    หน่วยงานกำกับดูแลยังคงรับผิดชอบความเสี่ยง AI
    ตั้ง AI Safety Institute ในปี 2026

    ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ
    เตือนว่ามีช่องว่างด้านความรับผิดชอบและความยั่งยืน
    เสี่ยงต่อการสร้างเศรษฐกิจ AI ที่ไม่เป็นธรรม

    ความหมายต่ออนาคต
    แนวทางต่างจากยุโรปที่ใช้ AI Act
    อาจเป็นโมเดลให้ประเทศอื่นปรับใช้

    คำเตือนที่ควรระวัง
    หากไม่แก้ไขช่องว่าง อาจกระทบความเชื่อมั่นประชาชน
    การพึ่งกฎหมายเดิมอาจไม่ทันต่อความเสี่ยงใหม่จาก AI
    ความไม่ชัดเจนด้านความรับผิดชอบอาจทำให้เกิดปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/02/australia-rolls-out-ai-roadmap-steps-back-from-tougher-rules
    🏙️ รัฐบาลออสเตรเลียประกาศ National AI Plan เพื่อเร่งการลงทุนและการใช้ AI รัฐบาลกลางออสเตรเลียเผยแพร่ National AI Plan โดยมีเป้าหมายเพื่อดึงดูดการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ขั้นสูง สร้างทักษะด้าน AI ให้แรงงาน และรักษาความปลอดภัยสาธารณะเมื่อ AI ถูกนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน แนวทางนี้จะอาศัยกฎหมายและกรอบการกำกับดูแลที่มีอยู่แล้ว แทนที่จะออกกฎหมายใหม่ที่เข้มงวด 🛡️ การกำกับดูแลและความปลอดภัย รัฐบาลระบุว่า หน่วยงานและผู้กำกับดูแลในแต่ละภาคส่วนจะยังคงมีหน้าที่จัดการความเสี่ยงจาก AI โดยใช้กฎหมายที่มีอยู่ เช่น กฎหมายความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ขณะเดียวกันจะจัดตั้ง AI Safety Institute ในปี 2026 เพื่อช่วยตรวจสอบและตอบสนองต่อภัยคุกคามใหม่ ๆ ที่เกิดจาก AI 🎓 ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ แม้แผนนี้ถูกมองว่าเป็นการสร้างสมดุลระหว่างนวัตกรรมและความเสี่ยง แต่ผู้เชี่ยวชาญบางราย เช่น Associate Professor Niusha Shafiabady จาก Australian Catholic University เตือนว่าแผนดังกล่าวยังมี “ช่องว่างสำคัญ” เช่น ความรับผิดชอบ ความยั่งยืน และการกำกับดูแลเชิงประชาธิปไตย หากไม่แก้ไข ออสเตรเลียอาจสร้างเศรษฐกิจ AI ที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่เป็นธรรม 🔮 ความหมายต่ออนาคต การเลือกใช้กฎหมายที่มีอยู่สะท้อนถึงแนวทางที่แตกต่างจากยุโรปซึ่งออกกฎหมาย AI Act โดยตรง หากออสเตรเลียสามารถสร้างสมดุลได้สำเร็จ อาจกลายเป็นโมเดลที่ประเทศอื่นนำไปปรับใช้ แต่หากละเลยประเด็นความรับผิดชอบและความโปร่งใส ก็อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นของประชาชน 📌 สรุปเป็นหัวข้อ ✅ เนื้อหาหลักของ National AI Plan ➡️ ดึงดูดการลงทุนในดาต้าเซ็นเตอร์ขั้นสูง ➡️ สร้างทักษะด้าน AI ให้แรงงาน ➡️ ใช้กฎหมายที่มีอยู่แทนการออกกฎใหม่ ✅ การกำกับดูแลและความปลอดภัย ➡️ หน่วยงานกำกับดูแลยังคงรับผิดชอบความเสี่ยง AI ➡️ ตั้ง AI Safety Institute ในปี 2026 ✅ ความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ➡️ เตือนว่ามีช่องว่างด้านความรับผิดชอบและความยั่งยืน ➡️ เสี่ยงต่อการสร้างเศรษฐกิจ AI ที่ไม่เป็นธรรม ✅ ความหมายต่ออนาคต ➡️ แนวทางต่างจากยุโรปที่ใช้ AI Act ➡️ อาจเป็นโมเดลให้ประเทศอื่นปรับใช้ ‼️ คำเตือนที่ควรระวัง ⛔ หากไม่แก้ไขช่องว่าง อาจกระทบความเชื่อมั่นประชาชน ⛔ การพึ่งกฎหมายเดิมอาจไม่ทันต่อความเสี่ยงใหม่จาก AI ⛔ ความไม่ชัดเจนด้านความรับผิดชอบอาจทำให้เกิดปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/12/02/australia-rolls-out-ai-roadmap-steps-back-from-tougher-rules
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Australia rolls out AI roadmap, steps back from tougher rules
    SYDNEY, Dec 2 (Reuters) - Australia on Tuesday unveiled a roadmap to ramp up the adoption of artificial intelligence across its economy but said it would rely on existing laws to manage emerging risks, stepping back from earlier plans for tougher rules on high-risk scenarios.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 224 มุมมอง 0 รีวิว
  • 12 สัญญาณความสัมพันธ์ CISO–CIO กำลังแตกหัก และแนวทางแก้ไข

    บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง CISO (Chief Information Security Officer) และ CIO (Chief Information Officer) มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร แต่บ่อยครั้งกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการไม่สอดประสาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการดำเนินธุรกิจที่ไม่ราบรื่น

    สัญญาณทั้ง 12:
    1️⃣ CIO มักละเลยหรือปฏิเสธข้อเสนอของ CISO
    ตัวอย่างเช่น CIO บอกว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่เราจะทำตามที่เราต้องการ” ซึ่งทำให้ CISO ถูกลดบทบาทและความน่าเชื่อถือ

    2️⃣ CIO และ CISO ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้
    ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่สามารถหาทางออกได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้บริหารระดับสูง แสดงถึงการขาด alignment

    3️⃣ CIO ไม่แชร์ข้อมูลกับ CISO
    การปิดบังข้อมูลสำคัญเป็นสัญญาณอันตราย เพราะทำให้ฝ่ายความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้เต็มที่

    4️⃣ CIO บิดเบือนหรือบล็อกข้อความของ CISO ต่อบอร์ด
    ทำให้บอร์ดได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และลดความน่าเชื่อถือของฝ่ายความปลอดภัย

    5️⃣ CISO ไม่ได้รับการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นในโครงการ IT
    ความปลอดภัยถูกมองว่าเป็น “ส่วนเสริม” ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก

    6️⃣ CIO ไม่ให้ความสำคัญกับ cyber hygiene
    เช่น การ patch ระบบ, การจัดการรหัสผ่าน, หรือการตรวจสอบความเสี่ยงพื้นฐาน

    7️⃣ ไม่มีการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO
    ขาดการประชุมแบบตัวต่อตัว ทำให้ความเข้าใจร่วมกันลดลง

    8️⃣ เกิดการแข่งขันแย่งอำนาจระหว่างสองฝ่าย
    ทั้งคู่พยายามควบคุมทรัพยากรและการตัดสินใจ ทำให้เกิดความตึงเครียด

    9️⃣ ไม่เคารพบทบาทและความรับผิดชอบของกันและกัน
    CIO อาจมองว่า CISO เป็น “department of no” ขณะที่ CISO มองว่า CIO ไม่สนใจความปลอดภัย

    ไม่สอดคล้องกับ risk appetite ขององค์กร
    หาก CIO ต้องการความเร็ว แต่ CISO ต้องการความปลอดภัยสูงสุด โดยไม่มีการหาจุดสมดุล

    1️⃣1️⃣ ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
    ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างระแวง ไม่สามารถสร้างทีมที่แข็งแรงได้

    1️⃣2️⃣ บรรยากาศการทำงานแบบ “us vs them”
    สร้างความรู้สึกเป็นฝ่ายตรงข้ามมากกว่าการร่วมมือเพื่อเป้าหมายองค์กร

    แนวทางแก้ไข
    สร้างการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO
    กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบให้ชัดเจน
    ปรับทัศนคติของ CISO ให้เป็น business enabler
    สร้างความเข้าใจร่วมกันเรื่อง enterprise risk

    ข้อควรระวัง
    หาก CIO และ CISO ไม่ร่วมมือกัน องค์กรจะเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์
    การขาด alignment อาจนำไปสู่ความล้มเหลวทั้งด้าน IT และธุรกิจ

    https://www.csoonline.com/article/4094754/12-signs-the-ciso-cio-relationship-is-broken-and-steps-to-fix-it.html
    🛡️ 12 สัญญาณความสัมพันธ์ CISO–CIO กำลังแตกหัก และแนวทางแก้ไข บทความจาก CSO Online ชี้ให้เห็นว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง CISO (Chief Information Security Officer) และ CIO (Chief Information Officer) มีความสำคัญต่อความสำเร็จขององค์กร แต่บ่อยครั้งกลับเต็มไปด้วยความขัดแย้งและการไม่สอดประสาน ซึ่งอาจนำไปสู่ความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการดำเนินธุรกิจที่ไม่ราบรื่น 🔎 สัญญาณทั้ง 12: 1️⃣ CIO มักละเลยหรือปฏิเสธข้อเสนอของ CISO ตัวอย่างเช่น CIO บอกว่า “ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ แต่เราจะทำตามที่เราต้องการ” ซึ่งทำให้ CISO ถูกลดบทบาทและความน่าเชื่อถือ 2️⃣ CIO และ CISO ไม่สามารถแก้ไขความขัดแย้งได้ ความขัดแย้งเป็นเรื่องปกติ แต่หากไม่สามารถหาทางออกได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้บริหารระดับสูง แสดงถึงการขาด alignment 3️⃣ CIO ไม่แชร์ข้อมูลกับ CISO การปิดบังข้อมูลสำคัญเป็นสัญญาณอันตราย เพราะทำให้ฝ่ายความปลอดภัยไม่สามารถทำงานได้เต็มที่ 4️⃣ CIO บิดเบือนหรือบล็อกข้อความของ CISO ต่อบอร์ด ทำให้บอร์ดได้รับข้อมูลไม่ครบถ้วน และลดความน่าเชื่อถือของฝ่ายความปลอดภัย 5️⃣ CISO ไม่ได้รับการมีส่วนร่วมตั้งแต่ต้นในโครงการ IT ความปลอดภัยถูกมองว่าเป็น “ส่วนเสริม” ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของกลยุทธ์หลัก 6️⃣ CIO ไม่ให้ความสำคัญกับ cyber hygiene เช่น การ patch ระบบ, การจัดการรหัสผ่าน, หรือการตรวจสอบความเสี่ยงพื้นฐาน 7️⃣ ไม่มีการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO ขาดการประชุมแบบตัวต่อตัว ทำให้ความเข้าใจร่วมกันลดลง 8️⃣ เกิดการแข่งขันแย่งอำนาจระหว่างสองฝ่าย ทั้งคู่พยายามควบคุมทรัพยากรและการตัดสินใจ ทำให้เกิดความตึงเครียด 9️⃣ ไม่เคารพบทบาทและความรับผิดชอบของกันและกัน CIO อาจมองว่า CISO เป็น “department of no” ขณะที่ CISO มองว่า CIO ไม่สนใจความปลอดภัย 🔟 ไม่สอดคล้องกับ risk appetite ขององค์กร หาก CIO ต้องการความเร็ว แต่ CISO ต้องการความปลอดภัยสูงสุด โดยไม่มีการหาจุดสมดุล 1️⃣1️⃣ ขาดความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ทำให้การทำงานร่วมกันเป็นไปอย่างระแวง ไม่สามารถสร้างทีมที่แข็งแรงได้ 1️⃣2️⃣ บรรยากาศการทำงานแบบ “us vs them” สร้างความรู้สึกเป็นฝ่ายตรงข้ามมากกว่าการร่วมมือเพื่อเป้าหมายองค์กร ✅ แนวทางแก้ไข ➡️ สร้างการสื่อสารตรงและสม่ำเสมอระหว่าง CIO–CISO ➡️ กำหนดบทบาทและความรับผิดชอบให้ชัดเจน ➡️ ปรับทัศนคติของ CISO ให้เป็น business enabler ➡️ สร้างความเข้าใจร่วมกันเรื่อง enterprise risk ‼️ ข้อควรระวัง ⛔ หาก CIO และ CISO ไม่ร่วมมือกัน องค์กรจะเสี่ยงต่อการโจมตีไซเบอร์ ⛔ การขาด alignment อาจนำไปสู่ความล้มเหลวทั้งด้าน IT และธุรกิจ https://www.csoonline.com/article/4094754/12-signs-the-ciso-cio-relationship-is-broken-and-steps-to-fix-it.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    12 signs the CISO-CIO relationship is broken — and steps to fix it
    A CISO’s success depends on an aligned, resilient partnership with their CIO. Here’s how to tell whether yours is damaged and in need of intentional repair.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 235 มุมมอง 0 รีวิว
  • O.P.K.
    คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์

    โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน

    ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้

    ```mermaid
    graph TB
    A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ]
    B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง]
    B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย]
    C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ]
    D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย]
    E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน]
    F --> G
    ```

    เคสปริศนาที่ปรากฏ

    กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท

    1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา
    2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด
    3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว

    ลักษณะคดีที่น่าสงสัย

    ```python
    class StrangeCases:
    def __init__(self):
    self.light_abductions = {
    "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด",
    "เวลา": "เที่ยงวันพอดี",
    "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า",
    "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้"
    }

    self.dark_abductions = {
    "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก",
    "เวลา": "เที่ยงคืนตรง",
    "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ",
    "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ"
    }

    self.awakenings = {
    "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว",
    "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ",
    "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ"
    }ล
    ```

    การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ

    การสืบสวนของหนูดี

    หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว

    ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน:
    "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด
    นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล
    และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน"

    สมดุลที่แตกสลาย

    ```mermaid
    graph LR
    A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ]
    B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร]
    B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง]
    C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก]
    D --> E
    ```

    ความลับที่ถูกเปิดเผย

    ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์

    ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ:

    "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้...
    พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง
    เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน"

    "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว
    มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่"

    บทบาทของโอปปาติกะ

    หนูดีค้นพบว่า:

    · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ
    · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย
    · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ

    ```python
    class OpapatikaRevelation:
    def __init__(self):
    self.true_origin = {
    "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์",
    "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้",
    "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล",
    "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง"
    }

    self.current_crisis = {
    "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง",
    "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ",
    "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย",
    "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง"
    }
    ```

    การเผชิญหน้าครั้งใหม่

    การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง

    สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี:
    "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา
    มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์
    เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด
    สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน"

    การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด

    ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด:
    "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง...
    ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง
    มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม
    ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป"

    ทางเลือกที่สาม

    หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น:
    "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ
    แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ"

    ยุทธศาสตร์ใหม่

    การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม

    หนูดีวิเคราะห์ว่า:

    1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind
    2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว
    3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก

    ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์"

    หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว:

    ```python
    class HumanStrategy:
    def __init__(self):
    self.weapons = {
    "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย",
    "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด",
    "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร",
    "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ"
    }

    self.allies = [
    "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง",
    "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม",
    "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ",
    "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม"
    ]
    ```

    การปฏิบัติการพิเศษ

    ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด"

    หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ:

    1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง
    2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย
    3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง
    4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล

    การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง

    ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า:

    · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด
    · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์
    · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง

    จุดแตกหัก

    การพิพากษาครั้งใหญ่

    เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า:
    "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง...
    มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด
    ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย"

    คำประกาศของหนูดี

    หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ:

    "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า...
    มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง
    การบังคับให้เราเลือกข้าง
    คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง

    และเราขอประกาศว่า...
    มนุษย์จะเลือกทางที่สาม
    ทางของเราเอง

    เราจะไม่เป็นทาสของแสง
    และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด
    เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์"

    การต่อสู้ครั้งสำคัญ

    ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล

    หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม

    ```mermaid
    graph TB
    A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม]
    C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ']
    E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน]
    D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล]
    F --> G
    B --> G
    ```

    พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น

    ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า:
    "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ...
    ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด
    แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน
    และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้"

    บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง

    โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก

    หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน:

    1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์
    2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง
    3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ
    4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด

    พันธสัญญาสามฝ่าย

    ```python
    class NewCovenant:
    def __init__(self):
    self.agreements = {
    "เทพแห่งแสง": [
    "เคารพการเลือกของมนุษย์",
    "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ",
    "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง"
    ],
    "มารแห่งความมืด": [
    "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร",
    "เคารพอิสระในการเลือก",
    "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว"
    ],
    "มนุษย์": [
    "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง",
    "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล",
    "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ"
    ]
    }

    self.guardians = [
    "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา",
    "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล",
    "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน"
    ]
    ```

    คำสอนใหม่ของหนูดี

    การเติบโตอีกขั้น

    หนูดีเรียนรู้ว่า:

    "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ...
    แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย

    และการเป็นมนุษย์ที่แท้...
    คือการมีอิสระที่จะเลือก
    พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น"

    คำคมสรุปคดี

    "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด...
    มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง

    และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง...
    แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่
    ในเวลาที่เหมาะสม

    เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์...
    คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น
    และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ

    และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร...
    ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"

    ---

    บทส่งท้าย:
    สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น
    หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่
    ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ

    และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่
    ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน
    ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม
    แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง
    O.P.K. 🔥 คดีแห่งแสง: ศึกเทพ-มารที่กระทบมนุษย์ 🌌 โลกที่แสงและความมืดปะทะกัน ในยามที่มนุษย์คิดว่าตนเองก้าวเข้าสู่ยุคทองของเทคโนโลยี ความขัดแย้งอันเป็นนิรันดร์ระหว่าง "เทพแห่งแสง" และ "มารแห่งความมืด" กำลังถึงจุดวิกฤติ ผลพวงของสงครามศักดิ์สิทธิ์เริ่มกระทบโลกมนุษย์อย่างจับต้องได้ ```mermaid graph TB A[สงครามเทพ-มาร<br>ขยายสู่โลกมนุษย์] --> B[มนุษย์เริ่ม<br>แสดงอาการผิดปกติ] B --> C[ผู้ที่สัมผัสแสงมาก<br>เกินไปกลายเป็นสุดโต่ง] B --> D[ผู้ที่อยู่ในความมืด<br>นานเกินสูญเสีย] C --> E[มนุษย์แสง: พัฒนาพลัง<br>แต่สูญเสียความเห็นอกเห็นใจ] D --> F[มนุษย์มืด: แข็งแกร่ง<br>แต่โหดร้าย] E --> G[สงครามกลางเมือง<br>ระหว่างมนุษย์ด้วยกัน] F --> G ``` 🚨 เคสปริศนาที่ปรากฏ 👥 กรณีผู้หายตัวไปสามประเภท 1. ผู้ศรัทธาสุดโต่ง - หายไปพร้อมกับแสงจ้าปริศนา 2. ผู้สิ้นหวังเรื้อรัง - หายไปในความมืดมิด 3. คนกลางทั่วไป - เริ่มแสดงพลังประหลาดโดยไม่รู้ตัว 🔍 ลักษณะคดีที่น่าสงสัย ```python class StrangeCases: def __init__(self): self.light_abductions = { "สถานที่": "แหล่งเทคโนโลยีสูง, วัด, ห้องสมุด", "เวลา": "เที่ยงวันพอดี", "พยาน": "รายงานเห็นแสงสีขาวจ้า", "หลักฐาน": "เหลือแต่เสื้อผ้าไร้ร่องรอยการต่อสู้" } self.dark_abductions = { "สถานที่": "โรงงานร้าง, ซอยมืด, ท้องถนนยามดึก", "เวลา": "เที่ยงคืนตรง", "พยาน": "รู้สึกหนาวเหน็บและได้ยินเสียงกระซิบ", "หลักฐาน": "รอยเท้าที่หายไปกลางอากาศ" } self.awakenings = { "อาการ": "ควบคุมแสง/ความมืดได้โดยไม่รู้ตัว", "ผลกระทบ": "สร้างความเสียหายโดยไม่ตั้งใจ", "จิตใต้สำนึก: "สับสนระหว่างความเป็นมนุษย์และพลังเหนือธรรมชาติ" }ล ``` 🌓 การค้นพบความจริงที่น่าตกใจ 🕵️ การสืบสวนของหนูดี หนูดีได้รับมอบหมายคดีจากหน่วยงานพิเศษ หลังพบว่า โอปปาติกะหลายคนเริ่มเลือกข้าง ในสงครามนี้โดยไม่รู้ตัว ธรรมบาลเทพ ปรากฏตัวพร้อมคำเตือน: "หนูดี... นี่ไม่ใช่สงครามที่เจ้าคิด นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของจักรวาล และมนุษย์กำลังจะกลายเป็นเหยื่อและนักรบไปพร้อมกัน" ⚖️ สมดุลที่แตกสลาย ```mermaid graph LR A[สมดุลเดิม<br>เทพ-มาร-มนุษย์] --> B[มนุษย์พัฒนา<br>เทคโนโลยีและจิตวิญญาณ] B --> C[เทพแห่งแสง<br>ต้องการมนุษย์เป็นทหาร] B --> D[มารแห่งความมืด<br>ต้องการมนุษย์เป็นเชื้อเพลิง] C --> E[สมดุลพังทลาย<br>มนุษย์ตกอยู่กลางศึก] D --> E ``` 👁️ ความลับที่ถูกเปิดเผย 🧬 ที่มาที่แท้จริงของมนุษย์ ธรรมบาลเทพเปิดเผยความจริงอันน่าตกใจ: "มนุษย์ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้... พวกเจ้าเป็นผลงานชิ้นเอกที่เทพและมารร่วมกันสร้าง เพื่อพิสูจน์ว่าแสงหรือความมืดมีคุณค่ากว่ากัน" "และตอนนี้... เวลาสำหรับการตัดสินได้มาถึงแล้ว มนุษย์แต่ละคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด หรือจะพยายามรักษาสมดุลแบบที่เป็นอยู่" 💔 บทบาทของโอปปาติกะ หนูดีค้นพบว่า: · โอปปาติกะคือ มนุษย์รุ่นดัดแปลงพิเศษ · ถูกสร้างมาให้เป็น ตัวกลางระหว่างสามฝ่าย · แต่หลายคนเริ่ม เอียงข้าง เนื่องจากพลังที่ได้รับ ```python class OpapatikaRevelation: def __init__(self): self.true_origin = { "วัตถุประสงค์เดิม": "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างเทพ-มาร-มนุษย์", "ความสามารถพิเศษ": "เข้าใจและสื่อสารกับทั้งสามฝ่ายได้", "พันธสัญญา": "ต้องรักษาความเป็นกลางเพื่อความสมดุล", "ภัยคุกคาม": "พลังที่เพิ่มขึ้นทำให้ยากต่อการควบคุมตนเอง" } self.current_crisis = { "ฝ่ายแสง": "โอปปาติกะบางคนถูกเทพแห่งแสงชักจูง", "ฝ่ายมืด": "โอปปาติกะบางคนถูกมารแห่งความมืดครอบงำ", "ฝ่ายกลาง": "เหลือน้อยลงทุกทีและกำลังถูกโจมตีจากทั้งสองฝ่าย", "หนูดี": "ถูกทั้งสองฝ่ายจับตามองเพราะพลังบริสุทธิ์ที่ยังไม่เลือกข้าง" } ``` ⚡ การเผชิญหน้าครั้งใหม่ 🌟 การปรากฏตัวของเทพแห่งแสง สุริยเทพ ปรากฏตัวต่อหน้ากลุ่มหนูดี: "โอปปาติกะผู้ยิ่งใหญ่... มาร่วมมือกับเรา มนุษย์ควรก้าวสู่ความสว่างไสวอย่างสมบูรณ์ เราจะลบล้างความมืดและความไม่สมบูรณ์ทั้งหมด สร้างโลกใหม่ที่ปราศจากความทุกข์ทรมาน" 🌑 การปรากฏตัวของมารแห่งความมืด ราตรีมาร ปรากฏจากเงามืด: "อย่าเชื่อคำสัญญาโกหกของแสง... ในความมืดมีอิสระที่แท้จริง มนุษย์ควรปลดปล่อยตนเองจากพันธะกรรม ยอมรับธรรมชาติที่แท้จริงซึ่งไม่ใช่แสงสว่างเสมอไป" 🕊️ ทางเลือกที่สาม หนูดีเริ่มเข้าใจบทเรียนจากพ่อที่ลึกซึ้งขึ้น: "พ่อเคยบอกว่า... ความจริงมักไม่ใช่สีขาวหรือดำ แต่คือเฉดสีเทาที่ต้องเข้าใจด้วยหัวใจ" 🛡️ ยุทธศาสตร์ใหม่ 🔮 การค้นพบจุดอ่อนของสงคราม หนูดีวิเคราะห์ว่า: 1. เทพแห่งแสง ต้องการศรัทธาและความเชื่ออย่างblind 2. มารแห่งความมืด ต้องการความสิ้นหวังและความกลัว 3. มนุษย์มีสิ่งที่ทั้งสองขาด - อิสระในการเลือก 💡 ยุทธวิธี "ความเป็นมนุษย์" หนูดีพัฒนายุทธศาสตร์ที่ไม่พึ่งพาพลังเหนือธรรมชาติเพียงอย่างเดียว: ```python class HumanStrategy: def __init__(self): self.weapons = { "การตั้งคำถาม": "ทำให้ทั้งเทพและมารอ่อนแอเพราะพวกเขาไม่คุ้นเคย", "อารมณ์ที่ซับซ้อน": "ความรักที่ทั้งแสงและความมืดเข้าใจไม่หมด", "ความคิดสร้างสรรค์": "สร้างสิ่งที่ไม่เคยมีในแผนการของเทพหรือมาร", "ความไม่แน่นอน": "มนุษย์เปลี่ยนแปลงได้เสมอไม่ติดตรึงแบบพลังเหนือธรรมชาติ" } self.allies = [ "โอปปาติกะที่ยังเป็นกลาง", "มนุษย์ธรรมดาที่ไม่ยอมถูกควบคุม", "สิ่งมีชีวิตอื่นที่ได้รับผลกระทบ", "เทพ/มารบางส่วนที่เริ่มตั้งคำถาม" ] ``` 🌈 การปฏิบัติการพิเศษ 🎯 ปฏิบัติการ "แสงเทียนในความมืด" หนูดีและทีมเริ่มปฏิบัติการเพื่อ: 1. ช่วยเหลือมนุษย์ที่ถูกบังคับให้เลือกข้าง 2. เปิดโปงแผนการของทั้งสองฝ่าย 3. สร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับมนุษย์ที่ต้องการเป็นกลาง 4. ค้นหาวิธียุติสงครามโดยไม่ทำลายสมดุล 🤝 การสร้างพันธมิตรที่คาดไม่ถึง ในระหว่างปฏิบัติการ หนูดีพบว่า: · มีเทพบางองค์ ที่เห็นว่าการบังคับมนุษย์เป็นสิ่งผิด · มีมารบางตน ที่เชื่อในอิสระของการเลือกของมนุษย์ · มนุษย์ธรรมดาหลายคน พร้อมต่อสู้เพื่อสิทธิในการกำหนดชะตาตนเอง 💥 จุดแตกหัก ⚖️ การพิพากษาครั้งใหญ่ เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืดประกาศว่า: "ในคืนจันทรคราสที่จะมาถึง... มนุษย์ทุกคนต้องเลือกว่าจะอยู่ฝั่งใด ผู้ที่ยังคงเป็นกลางจะถูกกำจัดทั้งสองฝ่าย" 🛡️ คำประกาศของหนูดี หนูดีปรากฏตัวต่อหน้าทั้งสองฝ่ายพร้อมคำประกาศ: "พวกท่านลืมไปหรือไม่ว่า... มนุษย์คือผลงานที่ท่านร่วมกันสร้าง การบังคับให้เราเลือกข้าง คือการปฏิเสธความเป็นพ่อแม่ของท่านเอง และเราขอประกาศว่า... มนุษย์จะเลือกทางที่สาม ทางของเราเอง เราจะไม่เป็นทาสของแสง และจะไม่เป็นเชื้อเพลิงของความมืด เราจะเป็น... มนุษย์อย่างสมบูรณ์" 🌟 การต่อสู้ครั้งสำคัญ 🔥 ศึกสามฝ่ายที่จุดสมดุล หนูดีนำทั้ง มนุษย์ โอปปาติกะ เทพและมารที่เป็นกลาง ต่อสู้เพื่อรักษาสิทธิในการกำหนดชะตากรรม ```mermaid graph TB A[หนูดีและฝ่ายกลาง] --> B[ต่อสู้เพื่อสิทธิ<br>ในการกำหนดชะตากรรม] C[เทพแห่งแสง] --> D[ต้องการควบคุม<br>มนุษย์เพื่อ'ความสมบูรณ์แบบ'] E[มารแห่งความมืด] --> F[ต้องการมนุษย์<br>เป็นแหล่งพลังงาน] D --> G[ศึกตัดสินที่<br>จุดสมดุลแห่งจักรวาล] F --> G B --> G ``` ✨ พลังใหม่ที่กำเนิดขึ้น ในยามคับขัน หนูดีค้นพบว่า: "พลังที่แท้จริงของโอปปาติกะ... ไม่ใช่การควบคุมแสงหรือความมืด แต่คือการเข้าใจว่าทั้งสองเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน และมนุษย์คือผู้ที่สามารถรวมทั้งสองเข้าด้วยกันได้" 🕊️ บทสรุปแห่งการเปลี่ยนแปลง 🌍 โลกใหม่ที่เกิดจากทางเลือก หลังจากการต่อสู้อันยาวนาน: 1. เทพแห่งแสงและมารแห่งความมืด ยอมรับสิทธิของมนุษย์ 2. สนธิสัญญาใหม่ ถูกเซ็น - มนุษย์มีสิทธิกำหนดวิถีตนเอง 3. โอปปาติกะ กลายเป็นผู้รักษาสมดุลอย่างเป็นทางการ 4. มนุษย์เรียนรู้ ที่จะใช้ทั้งแสงและความมืดอย่างชาญฉลาด 📜 พันธสัญญาสามฝ่าย ```python class NewCovenant: def __init__(self): self.agreements = { "เทพแห่งแสง": [ "เคารพการเลือกของมนุษย์", "ให้ความรู้แต่ไม่บังคับ", "ยอมรับว่าความไม่สมบูรณ์คือความงามอย่างหนึ่ง" ], "มารแห่งความมืด": [ "ไม่ใช้มนุษย์เป็นทรัพยากร", "เคารพอิสระในการเลือก", "ยอมรับว่าความมืดไม่ใช่ทางออกเดียว" ], "มนุษย์": [ "รับผิดชอบต่อการเลือกของตนเอง", "ไม่ใช้พลังในทางที่ทำลายสมดุล", "เป็นสะพานเชื่อมระหว่างโลกต่างๆ" ] } self.guardians = [ "โอปปาติกะเป็นผู้ดูแลสนธิสัญญา", "หนูดีเป็นประธานคณะกรรมการสมดุล", "มนุษย์เทพและมนุษย์มารร่วมทำงานกัน" ] ``` 💫 คำสอนใหม่ของหนูดี 🌱 การเติบโตอีกขั้น หนูดีเรียนรู้ว่า: "การเป็นโอปปาติกะไม่ใช่การควบคุมพลังเหนือธรรมชาติ... แต่คือการเข้าใจว่าพลังทุกชนิดมีที่มาและจุดหมาย และการเป็นมนุษย์ที่แท้... คือการมีอิสระที่จะเลือก พร้อมกับความรับผิดชอบต่อการเลือกนั้น" 🕯️ คำคมสรุปคดี "ในสงครามระหว่างแสงและความมืด... มนุษย์ค้นพบว่าเรามีทั้งสองอย่างในตนเอง และทางออกไม่ใช่การเลือกข้าง... แต่คือการเรียนรู้ที่จะเป็นทั้งคู่ ในเวลาที่เหมาะสม เพราะมนุษย์ที่สมบูรณ์... คือผู้ที่เข้าใจว่าแสงส่องสว่างเมื่อจำเป็น และความมืดให้ความสงบเมื่อต้องการ และนี่คือบทเรียนที่เทพและมาร... ต้องเรียนรู้จากลูกหลานของพวกเขาเอง"✨ --- 📖 บทส่งท้าย: สงครามแห่งแสงจบลง แต่การเดินทางของมนุษย์เพิ่งเริ่มต้น หนูดีและโอปปาติกะกลายเป็นผู้พิทักษ์สมดุลใหม่ ในโลกที่มนุษย์ต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับพลังที่ได้รับมาอย่างรับผิดชอบ และบางที... นี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ ที่เทพ มาร และมนุษย์ เรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน ไม่ใช่ผ่านการทำสงคราม แต่ผ่านการเข้าใจในความแตกต่าง🌈
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 434 มุมมอง 0 รีวิว
  • รวมข่าวจากเวบ TechRadar

    #รวมข่าวIT #20251201 #TechRadar

    Dell ชี้การเปลี่ยนผ่านสู่ Windows 11 ยังช้า
    เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่องค์กรจำนวนมากยังคงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและไม่รีบอัปเกรดไป Windows 11 เพราะเครื่องที่มีอยู่ยังทำงานได้ดี ส่งผลให้ยอดขาย PC ของ Dell คาดว่าจะทรงตัว แม้จะมีเครื่องกว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน Dell กลับเห็นการเติบโตในตลาดเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับงานด้าน AI ที่มียอดสั่งซื้อสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด สะท้อนว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในตอนนี้
    https://www.techradar.com/pro/security/dell-says-businesses-still-arent-moving-to-windows-11-fast-enough-pc-maker-says-sales-will-be-flat-as-many-stick-with-windows-10

    เปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างนวัตกรรมด้าน Cybersecurity
    บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่ “วิธีคิด” องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่เรียนรู้ที่จะจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงมัน การเปิดใจรับฟังและหาทางทำให้ไอเดียใหม่ ๆ ปลอดภัย จะช่วยสร้างความร่วมมือและความเชื่อมั่นภายในทีม ทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นตัวช่วยในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่กำแพงกีดกัน
    https://www.techradar.com/pro/mindset-change-is-key-to-nurturing-cybersecurity-innovation

    Kia EV4 รถไฟฟ้าที่ทำให้ Hatchback กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง
    ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การขับ Kia EV4 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและการขับขี่ที่สนุกสนาน แม้จะไม่แรงสุดขั้ว แต่ก็ให้ความสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า Hatchback ทั่วไป จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกสองขนาด พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 388 ไมล์ และระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 29 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ผู้ช่วยเสียงที่ใช้ ChatGPT และระบบความบันเทิงในรถที่รองรับ Netflix และ Disney+ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป
    https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-electric-kia-ev4-and-it-finally-makes-hatchbacks-exciting-again-for-three-key-reasons

    5 แอปที่จะทำให้ภาพถ่ายมือถือของคุณดียิ่งขึ้น
    แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีกล้องที่ดีมาก แต่การใช้แอปเสริมสามารถยกระดับภาพถ่ายได้อีกขั้น บทความนี้แนะนำ 5 แอป ได้แก่ Lightroom ที่ครบเครื่องด้านการแก้ไข Snapseed ที่ใช้ง่ายและมีฟิลเตอร์หลากหลาย Halide Mark II สำหรับ iPhone ที่ให้ควบคุมการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ Open Camera สำหรับ Android ที่เพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ VSCO ที่มีพรีเซ็ตกว่า 200 แบบพร้อมชุมชนให้แชร์ผลงาน แอปเหล่านี้ช่วยให้ทั้งการถ่ายและการแต่งภาพสนุกและมีคุณภาพมากขึ้น
    https://www.techradar.com/phones/want-to-take-better-phone-pictures-these-5-apps-will-vastly-improve-your-photos

    วิศวกรแห่งอนาคต: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคนและความยั่งยืน
    บทความนี้สะท้อนว่าคำว่า “นวัตกรรม” ในสายงานวิศวกรรมไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่คือการผสมผสานคน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความก้าวหน้า วิศวกรยุคใหม่ใช้ข้อมูลและ AI เพื่อคาดการณ์ปัญหาก่อนเกิด ลดการเดินทางและการปล่อยคาร์บอน พร้อมทั้งผลักดันการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นความหลากหลายและการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในสายงาน เพื่อสร้างทีมที่มีมุมมองหลากหลายและพร้อมแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในอนาคต
    https://www.techradar.com/pro/engineers-for-the-future-championing-innovation-through-people-purpose-and-progress

    OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือที่แบตใหญ่ที่สุด
    ข่าวนี้พูดถึงมือถือรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่คาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยใส่ในสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการยืดอายุการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยยังคงรักษาดีไซน์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ OnePlus ทำให้แฟน ๆ รอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน
    https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-next-oneplus-phone-could-have-the-biggest-battery-the-company-has-ever-put-into-a-handset

    Missouri เริ่มบังคับใช้การยืนยันอายุออนไลน์
    รัฐ Missouri ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายการยืนยันอายุสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์บางประเภท ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มค้นหา VPN เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายระหว่างการคุ้มครองเยาวชนกับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ และยังทำให้ตลาด VPN ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทันที
    https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouris-search-for-vpns-lifts-off-as-the-first-day-of-age-verification-arrives
    📌📡🟡 รวมข่าวจากเวบ TechRadar 🟡📡📌 #รวมข่าวIT #20251201 #TechRadar 🖥️ Dell ชี้การเปลี่ยนผ่านสู่ Windows 11 ยังช้า เรื่องราวนี้เล่าถึงการที่องค์กรจำนวนมากยังคงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์รุ่นเก่าและไม่รีบอัปเกรดไป Windows 11 เพราะเครื่องที่มีอยู่ยังทำงานได้ดี ส่งผลให้ยอดขาย PC ของ Dell คาดว่าจะทรงตัว แม้จะมีเครื่องกว่า 500 ล้านเครื่องที่ไม่สามารถรองรับ Windows 11 ได้ก็ตาม ขณะเดียวกัน Dell กลับเห็นการเติบโตในตลาดเซิร์ฟเวอร์และระบบเครือข่าย โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่รองรับงานด้าน AI ที่มียอดสั่งซื้อสูงถึง 12 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสล่าสุด สะท้อนว่าธุรกิจให้ความสำคัญกับโครงสร้างพื้นฐานมากกว่าการเปลี่ยนระบบปฏิบัติการในตอนนี้ 🔗 https://www.techradar.com/pro/security/dell-says-businesses-still-arent-moving-to-windows-11-fast-enough-pc-maker-says-sales-will-be-flat-as-many-stick-with-windows-10 🔒 เปลี่ยนมุมมองเพื่อสร้างนวัตกรรมด้าน Cybersecurity บทความนี้ชี้ให้เห็นว่าการสร้างนวัตกรรมด้านความปลอดภัยไซเบอร์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับเครื่องมือหรือเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สำคัญที่ “วิธีคิด” องค์กรที่ประสบความสำเร็จคือองค์กรที่เรียนรู้ที่จะจัดการความเสี่ยง ไม่ใช่แค่หลีกเลี่ยงมัน การเปิดใจรับฟังและหาทางทำให้ไอเดียใหม่ ๆ ปลอดภัย จะช่วยสร้างความร่วมมือและความเชื่อมั่นภายในทีม ทำให้ความปลอดภัยกลายเป็นตัวช่วยในการแข่งขัน ไม่ใช่แค่กำแพงกีดกัน 🔗 https://www.techradar.com/pro/mindset-change-is-key-to-nurturing-cybersecurity-innovation 🚗 Kia EV4 รถไฟฟ้าที่ทำให้ Hatchback กลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง ผู้เขียนเล่าประสบการณ์การขับ Kia EV4 รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่ออกแบบมาให้แตกต่างจาก SUV ทั่วไป ด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยวและการขับขี่ที่สนุกสนาน แม้จะไม่แรงสุดขั้ว แต่ก็ให้ความสบายและความคล่องตัวที่เหนือกว่า Hatchback ทั่วไป จุดเด่นคือแบตเตอรี่ที่มีให้เลือกสองขนาด พร้อมระยะทางวิ่งสูงสุดถึง 388 ไมล์ และระบบชาร์จเร็วที่ใช้เวลาเพียง 29 นาที นอกจากนี้ยังมาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ เช่น ผู้ช่วยเสียงที่ใช้ ChatGPT และระบบความบันเทิงในรถที่รองรับ Netflix และ Disney+ ทำให้การเดินทางไม่น่าเบื่ออีกต่อไป 🔗 https://www.techradar.com/vehicle-tech/hybrid-electric-vehicles/ive-driven-the-new-electric-kia-ev4-and-it-finally-makes-hatchbacks-exciting-again-for-three-key-reasons 📸 5 แอปที่จะทำให้ภาพถ่ายมือถือของคุณดียิ่งขึ้น แม้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่จะมีกล้องที่ดีมาก แต่การใช้แอปเสริมสามารถยกระดับภาพถ่ายได้อีกขั้น บทความนี้แนะนำ 5 แอป ได้แก่ Lightroom ที่ครบเครื่องด้านการแก้ไข Snapseed ที่ใช้ง่ายและมีฟิลเตอร์หลากหลาย Halide Mark II สำหรับ iPhone ที่ให้ควบคุมการถ่ายภาพแบบมืออาชีพ Open Camera สำหรับ Android ที่เพิ่มฟีเจอร์การถ่ายภาพ และ VSCO ที่มีพรีเซ็ตกว่า 200 แบบพร้อมชุมชนให้แชร์ผลงาน แอปเหล่านี้ช่วยให้ทั้งการถ่ายและการแต่งภาพสนุกและมีคุณภาพมากขึ้น 🔗 https://www.techradar.com/phones/want-to-take-better-phone-pictures-these-5-apps-will-vastly-improve-your-photos ⚙️ วิศวกรแห่งอนาคต: นวัตกรรมที่ขับเคลื่อนด้วยคนและความยั่งยืน บทความนี้สะท้อนว่าคำว่า “นวัตกรรม” ในสายงานวิศวกรรมไม่ได้หมายถึงเทคโนโลยีใหม่เพียงอย่างเดียว แต่คือการผสมผสานคน ความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม และการสร้างความก้าวหน้า วิศวกรยุคใหม่ใช้ข้อมูลและ AI เพื่อคาดการณ์ปัญหาก่อนเกิด ลดการเดินทางและการปล่อยคาร์บอน พร้อมทั้งผลักดันการรีไซเคิลและการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเน้นความหลากหลายและการเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่เข้ามาในสายงาน เพื่อสร้างทีมที่มีมุมมองหลากหลายและพร้อมแก้ปัญหาที่ซับซ้อนในอนาคต 🔗 https://www.techradar.com/pro/engineers-for-the-future-championing-innovation-through-people-purpose-and-progress 📱 OnePlus เตรียมเปิดตัวมือถือที่แบตใหญ่ที่สุด ข่าวนี้พูดถึงมือถือรุ่นใหม่จาก OnePlus ที่คาดว่าจะมาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่บริษัทเคยใส่ในสมาร์ทโฟน จุดเด่นคือการยืดอายุการใช้งานให้ตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ต้องการความทนทานและใช้งานได้ยาวนานขึ้น โดยยังคงรักษาดีไซน์และประสิทธิภาพที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ OnePlus ทำให้แฟน ๆ รอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการว่าจะสร้างความแตกต่างได้มากแค่ไหน 🔗 https://www.techradar.com/phones/oneplus-phones/the-next-oneplus-phone-could-have-the-biggest-battery-the-company-has-ever-put-into-a-handset 🌐 Missouri เริ่มบังคับใช้การยืนยันอายุออนไลน์ รัฐ Missouri ของสหรัฐฯ ได้เริ่มต้นวันแรกของการบังคับใช้กฎหมายการยืนยันอายุสำหรับการเข้าถึงเว็บไซต์บางประเภท ทำให้ประชาชนจำนวนมากเริ่มค้นหา VPN เพื่อหลีกเลี่ยงข้อจำกัดนี้ เหตุการณ์นี้สะท้อนถึงความท้าทายระหว่างการคุ้มครองเยาวชนกับสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลออนไลน์ และยังทำให้ตลาด VPN ได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นทันที 🔗 https://www.techradar.com/vpn/vpn-privacy-security/missouris-search-for-vpns-lifts-off-as-the-first-day-of-age-verification-arrives
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 460 มุมมอง 0 รีวิว
  • RAM หายกลางทาง: เมื่อชิ้นส่วนคอมพ์กลายเป็นเป้าหมายโจร

    กรณีล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งสั่งซื้อ Crucial 32GB DDR5-4800 SO-DIMM แต่กลับได้รับเพียงกล่องเปล่า โดยระบบรายงานว่าพัสดุถูกส่งถึงบ้านตอนตี 4 พร้อมลายเซ็นปลอม เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เล็กและมีมูลค่าสูงถูกขโมยระหว่างการขนส่ง.

    หลายคนในชุมชนออนไลน์เล่าว่าเคยเจอกล่องที่ถูกเปิดและใส่ของราคาถูกแทน เช่นของใช้ในบ้าน หรือแม้แต่กล่องเปล่า บางครั้งพัสดุถูกบันทึกว่า “ส่งสำเร็จ” ทั้งที่ผู้รับยังไม่ได้ตรวจสอบหน้าบ้านเลย ปัญหานี้ทำให้เกิดการถกเถียงว่าใครควรรับผิดชอบระหว่าง ผู้ขาย, บริษัทขนส่ง และตำรวจ.

    สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนคือราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะ RAM DDR5 ที่มีราคาสูงจนถูกเปรียบว่า “แพงเหมือนทอง” การขโมยเพียงโมดูลเดียวสามารถหยุดการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ และสร้างความเสียหายต่อผู้ใช้ที่ต้องรอ RMA หรือการคืนสินค้า.

    เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ผู้ซื้อจำนวนมากเริ่มใช้วิธี ถ่ายรูปพัสดุก่อนเปิด, บันทึกวิดีโอการแกะกล่อง, เลือกจุดรับของที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล หรือใช้ตู้ล็อกเกอร์ปลอดภัย หากการสอบสวนล่าช้า บางคนถึงขั้นใช้ การโต้แย้งผ่านบัตรเครดิต (chargeback) เพื่อขอเงินคืน.

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุการณ์ล่าสุด
    ผู้ใช้ Reddit ได้รับกล่องเปล่าแทน Crucial DDR5
    มีการปลอมลายเซ็นตอนตี 4

    แนวโน้มการขโมยพัสดุ
    ชิ้นส่วนคอมพ์เล็กและมีมูลค่าสูงถูกขโมยบ่อย
    บางครั้งถูกแทนด้วยของราคาถูกหรือกล่องเปล่า

    ผลกระทบต่อผู้ใช้
    การประกอบคอมพ์หยุดชะงัก
    ต้องรอ RMA หรือคืนสินค้า

    วิธีป้องกันที่นิยม
    ถ่ายรูปและบันทึกวิดีโอการแกะกล่อง
    ใช้จุดรับของที่มีเจ้าหน้าที่หรือตู้ล็อกเกอร์
    ใช้การโต้แย้งผ่านบัตรเครดิตเมื่อการสอบสวนล่าช้า

    ความเสี่ยงที่ต้องระวัง
    ราคาชิ้นส่วนสูงทำให้เป็นเป้าหมายโจร
    ความรับผิดชอบไม่ชัดเจนระหว่างผู้ขาย, ขนส่ง และตำรวจ

    https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/package-theft-leaves-pc-builder-without-ddr5
    💻 RAM หายกลางทาง: เมื่อชิ้นส่วนคอมพ์กลายเป็นเป้าหมายโจร กรณีล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้ Reddit รายหนึ่งสั่งซื้อ Crucial 32GB DDR5-4800 SO-DIMM แต่กลับได้รับเพียงกล่องเปล่า โดยระบบรายงานว่าพัสดุถูกส่งถึงบ้านตอนตี 4 พร้อมลายเซ็นปลอม เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรก แต่เป็นส่วนหนึ่งของแนวโน้มที่ ชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์เล็กและมีมูลค่าสูงถูกขโมยระหว่างการขนส่ง. หลายคนในชุมชนออนไลน์เล่าว่าเคยเจอกล่องที่ถูกเปิดและใส่ของราคาถูกแทน เช่นของใช้ในบ้าน หรือแม้แต่กล่องเปล่า บางครั้งพัสดุถูกบันทึกว่า “ส่งสำเร็จ” ทั้งที่ผู้รับยังไม่ได้ตรวจสอบหน้าบ้านเลย ปัญหานี้ทำให้เกิดการถกเถียงว่าใครควรรับผิดชอบระหว่าง ผู้ขาย, บริษัทขนส่ง และตำรวจ. สิ่งที่ทำให้สถานการณ์ซับซ้อนคือราคาชิ้นส่วนคอมพิวเตอร์ที่พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะ RAM DDR5 ที่มีราคาสูงจนถูกเปรียบว่า “แพงเหมือนทอง” การขโมยเพียงโมดูลเดียวสามารถหยุดการประกอบเครื่องคอมพิวเตอร์ทั้งระบบ และสร้างความเสียหายต่อผู้ใช้ที่ต้องรอ RMA หรือการคืนสินค้า. เพื่อรับมือกับปัญหานี้ ผู้ซื้อจำนวนมากเริ่มใช้วิธี ถ่ายรูปพัสดุก่อนเปิด, บันทึกวิดีโอการแกะกล่อง, เลือกจุดรับของที่มีเจ้าหน้าที่ดูแล หรือใช้ตู้ล็อกเกอร์ปลอดภัย หากการสอบสวนล่าช้า บางคนถึงขั้นใช้ การโต้แย้งผ่านบัตรเครดิต (chargeback) เพื่อขอเงินคืน. 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุการณ์ล่าสุด ➡️ ผู้ใช้ Reddit ได้รับกล่องเปล่าแทน Crucial DDR5 ➡️ มีการปลอมลายเซ็นตอนตี 4 ✅ แนวโน้มการขโมยพัสดุ ➡️ ชิ้นส่วนคอมพ์เล็กและมีมูลค่าสูงถูกขโมยบ่อย ➡️ บางครั้งถูกแทนด้วยของราคาถูกหรือกล่องเปล่า ✅ ผลกระทบต่อผู้ใช้ ➡️ การประกอบคอมพ์หยุดชะงัก ➡️ ต้องรอ RMA หรือคืนสินค้า ✅ วิธีป้องกันที่นิยม ➡️ ถ่ายรูปและบันทึกวิดีโอการแกะกล่อง ➡️ ใช้จุดรับของที่มีเจ้าหน้าที่หรือตู้ล็อกเกอร์ ➡️ ใช้การโต้แย้งผ่านบัตรเครดิตเมื่อการสอบสวนล่าช้า ‼️ ความเสี่ยงที่ต้องระวัง ⛔ ราคาชิ้นส่วนสูงทำให้เป็นเป้าหมายโจร ⛔ ความรับผิดชอบไม่ชัดเจนระหว่างผู้ขาย, ขนส่ง และตำรวจ https://www.tomshardware.com/pc-components/ddr5/package-theft-leaves-pc-builder-without-ddr5
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 221 มุมมอง 0 รีวิว
  • เกม Flick Solitaire ถูกลบออกจาก Steam ในรัสเซีย

    Valve ถูกกล่าวหาว่าลบเกม Flick Solitaire ออกจาก Steam ในรัสเซียตามคำร้องของรัฐบาล เนื่องจากเกมมีเด็คไพ่ที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ ขณะที่ Apple และ Google ปฏิเสธคำร้องเดียวกัน ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องเสรีภาพและความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มเกมระดับโลก

    รายงานระบุว่า Roskomnadzor หน่วยงานกำกับดูแลของรัสเซียได้ส่งคำร้องไปยัง Valve, Apple และ Google ให้ลบเกม Flick Solitaire ออกจากแพลตฟอร์ม เนื่องจากมีเด็คไพ่ที่ “ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ” Valve ตอบสนองโดยลบเกมออกจาก Steam ในรัสเซีย แต่ Apple และ Google ปฏิเสธที่จะทำตาม ทำให้เกมยังคงมีให้ดาวน์โหลดใน App Store และ Google Play

    จุดยืนของผู้พัฒนา Flick Games
    Ian Masters ผู้ก่อตั้ง Flick Games ยืนยันว่าเกมของเขามีเด็คไพ่ที่สร้างโดยศิลปิน LGBTQ+ และไม่เคยเซ็นเซอร์เนื้อหาแม้ในประเทศที่มีกฎหมายต่อต้าน LGBTQ+ เขากล่าวว่า “สิ่งนี้ไม่ใช่ความตื่นตัวทางสังคม แต่คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” พร้อมเน้นว่าการมีตัวตนของ LGBTQ+ ในเกมเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้เล่นในประเทศที่ยังมีการกีดกัน

    ผลกระทบต่อวงการเกมและเสรีภาพดิจิทัล
    กรณีนี้สะท้อนถึงความแตกต่างของแพลตฟอร์มระดับโลกในการตอบสนองต่อแรงกดดันจากรัฐบาล การที่ Valveยอมทำตามคำร้องถูกมองว่าเป็นการ “บั่นทอนเสรีภาพของผู้เล่น” ขณะที่ Apple และ Google เลือกปกป้องเนื้อหาของผู้พัฒนา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Valve เคยลบเกมกว่า 260 เกม ตามคำร้องของรัฐบาลรัสเซียในอดีต ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบของบริษัทต่อผู้เล่นทั่วโลก

    สรุปประเด็นสำคัญ
    เหตุการณ์การลบเกม
    Roskomnadzor ร้องขอให้ Valve, Apple, Google ลบเกม Flick Solitaire
    Valve ทำตาม แต่ Apple และ Google ปฏิเสธ

    จุดยืนของผู้พัฒนา
    Ian Masters ยืนยันไม่เซ็นเซอร์เนื้อหา LGBTQ+
    มองว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่ “wokeness”

    ผลกระทบต่อวงการเกม
    Valve เคยลบเกมกว่า 260 เกมตามคำร้องรัฐบาลรัสเซีย
    กรณีนี้สร้างคำถามเรื่องเสรีภาพและความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม

    คำเตือนจากเหตุการณ์
    การยอมตามแรงกดดันรัฐบาลอาจบั่นทอนเสรีภาพของผู้เล่น
    ความไม่โปร่งใสในการจัดการเนื้อหาอาจกระทบความเชื่อมั่นต่อแพลตฟอร์ม

    https://wccftech.com/valve-accused-of-removing-games-from-steam-at-russia-request-flick-solitaire/
    🎮 เกม Flick Solitaire ถูกลบออกจาก Steam ในรัสเซีย Valve ถูกกล่าวหาว่าลบเกม Flick Solitaire ออกจาก Steam ในรัสเซียตามคำร้องของรัฐบาล เนื่องจากเกมมีเด็คไพ่ที่เกี่ยวข้องกับ LGBTQ+ ขณะที่ Apple และ Google ปฏิเสธคำร้องเดียวกัน ทำให้เกิดข้อถกเถียงเรื่องเสรีภาพและความรับผิดชอบของแพลตฟอร์มเกมระดับโลก รายงานระบุว่า Roskomnadzor หน่วยงานกำกับดูแลของรัสเซียได้ส่งคำร้องไปยัง Valve, Apple และ Google ให้ลบเกม Flick Solitaire ออกจากแพลตฟอร์ม เนื่องจากมีเด็คไพ่ที่ “ส่งเสริมความหลากหลายทางเพศ” Valve ตอบสนองโดยลบเกมออกจาก Steam ในรัสเซีย แต่ Apple และ Google ปฏิเสธที่จะทำตาม ทำให้เกมยังคงมีให้ดาวน์โหลดใน App Store และ Google Play 🏳️‍🌈 จุดยืนของผู้พัฒนา Flick Games Ian Masters ผู้ก่อตั้ง Flick Games ยืนยันว่าเกมของเขามีเด็คไพ่ที่สร้างโดยศิลปิน LGBTQ+ และไม่เคยเซ็นเซอร์เนื้อหาแม้ในประเทศที่มีกฎหมายต่อต้าน LGBTQ+ เขากล่าวว่า “สิ่งนี้ไม่ใช่ความตื่นตัวทางสังคม แต่คือสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน” พร้อมเน้นว่าการมีตัวตนของ LGBTQ+ ในเกมเป็นสิ่งสำคัญต่อผู้เล่นในประเทศที่ยังมีการกีดกัน 🌍 ผลกระทบต่อวงการเกมและเสรีภาพดิจิทัล กรณีนี้สะท้อนถึงความแตกต่างของแพลตฟอร์มระดับโลกในการตอบสนองต่อแรงกดดันจากรัฐบาล การที่ Valveยอมทำตามคำร้องถูกมองว่าเป็นการ “บั่นทอนเสรีภาพของผู้เล่น” ขณะที่ Apple และ Google เลือกปกป้องเนื้อหาของผู้พัฒนา นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า Valve เคยลบเกมกว่า 260 เกม ตามคำร้องของรัฐบาลรัสเซียในอดีต ทำให้เกิดคำถามถึงความโปร่งใสและความรับผิดชอบของบริษัทต่อผู้เล่นทั่วโลก 📌 สรุปประเด็นสำคัญ ✅ เหตุการณ์การลบเกม ➡️ Roskomnadzor ร้องขอให้ Valve, Apple, Google ลบเกม Flick Solitaire ➡️ Valve ทำตาม แต่ Apple และ Google ปฏิเสธ ✅ จุดยืนของผู้พัฒนา ➡️ Ian Masters ยืนยันไม่เซ็นเซอร์เนื้อหา LGBTQ+ ➡️ มองว่าเป็นสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่ “wokeness” ✅ ผลกระทบต่อวงการเกม ➡️ Valve เคยลบเกมกว่า 260 เกมตามคำร้องรัฐบาลรัสเซีย ➡️ กรณีนี้สร้างคำถามเรื่องเสรีภาพและความโปร่งใสของแพลตฟอร์ม ‼️ คำเตือนจากเหตุการณ์ ⛔ การยอมตามแรงกดดันรัฐบาลอาจบั่นทอนเสรีภาพของผู้เล่น ⛔ ความไม่โปร่งใสในการจัดการเนื้อหาอาจกระทบความเชื่อมั่นต่อแพลตฟอร์ม https://wccftech.com/valve-accused-of-removing-games-from-steam-at-russia-request-flick-solitaire/
    WCCFTECH.COM
    Valve Has Been Accused of Removing a Solitaire Game with LGBTQ+ Card Decks From Steam In Russia At Government's Request
    Valve has been accused of removing a solitaire game from Steam in Russia at the request of the Russian government over its LGBTQ+ card decks.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 270 มุมมอง 0 รีวิว
  • “เรียกร้องให้การทำงาน Open-Source ได้รับการยอมรับเป็นงานอาสาสมัครในเยอรมนี”

    การพัฒนาซอฟต์แวร์ Open-Source ถือเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารรัฐ การศึกษา วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันงานที่ทำโดยอาสาสมัครนับพันคนยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานอาสาสมัครอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน

    ผู้ริเริ่มคำร้องชี้ว่า งาน Open-Source เป็นการสร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ฟรี ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความมั่นคง ความปลอดภัย และนวัตกรรมของประเทศ เยอรมนีเองก็ระบุในข้อตกลงรัฐบาลว่าซอฟต์แวร์ Open-Source เป็นเสาหลักของ “อธิปไตยทางดิจิทัล” แต่กลับไม่ให้สถานะทางกฎหมายที่เทียบเท่างานอาสาสมัครอื่น ๆ

    การยอมรับอย่างเป็นทางการจะช่วยให้ผู้พัฒนาได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น การชดเชยค่าใช้จ่ายที่ปลอดภาษี การออกใบเสร็จบริจาค และการคุ้มครองด้านความรับผิดทางกฎหมาย ซึ่งจะสร้างความยั่งยืนและความชัดเจนให้กับการทำงานอาสาสมัครดิจิทัล

    นอกจากนี้ เยอรมนียังถูกมองว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการสนับสนุนงาน Open-Source ผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนเชิงสถาบัน หากไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก

    สรุปสาระสำคัญ
    ความสำคัญของ Open-Source ต่อสาธารณะ
    เป็นรากฐานของระบบดิจิทัล เช่น โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต ระบบความปลอดภัย และ AI frameworks
    สร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้

    ลักษณะงานอาสาสมัคร
    ส่วนใหญ่ทำโดยไม่รับค่าตอบแทนในเวลาว่าง
    มีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ

    ผลประโยชน์จากการยอมรับทางกฎหมาย
    ได้สิทธิชดเชยค่าใช้จ่ายปลอดภาษี
    สามารถออกใบเสร็จบริจาคและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย

    ความเสี่ยงหากไม่ยอมรับ
    อาสาสมัครต้องแบกรับภาระโดยไม่มีการสนับสนุน
    เยอรมนีอาจล้าหลังในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก

    ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ
    ความไม่สมดุลระหว่างผู้ใช้ที่ได้ประโยชน์กับผู้พัฒนาที่ไม่ได้รับการสนับสนุน
    เสี่ยงต่อการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติและลดความมั่นคงทางดิจิทัล

    https://www.openpetition.de/petition/online/recognition-of-work-on-open-source-as-volunteering-in-germany
    💻 “เรียกร้องให้การทำงาน Open-Source ได้รับการยอมรับเป็นงานอาสาสมัครในเยอรมนี” การพัฒนาซอฟต์แวร์ Open-Source ถือเป็นรากฐานสำคัญของโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลในหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นการบริหารรัฐ การศึกษา วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงเศรษฐกิจ แต่ปัจจุบันงานที่ทำโดยอาสาสมัครนับพันคนยังไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานอาสาสมัครอย่างเป็นทางการ ทั้งในด้านภาษีและการสนับสนุนทางการเงิน ผู้ริเริ่มคำร้องชี้ว่า งาน Open-Source เป็นการสร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ และเปิดให้ทุกคนเข้าถึงได้ฟรี ซึ่งมีผลโดยตรงต่อความมั่นคง ความปลอดภัย และนวัตกรรมของประเทศ เยอรมนีเองก็ระบุในข้อตกลงรัฐบาลว่าซอฟต์แวร์ Open-Source เป็นเสาหลักของ “อธิปไตยทางดิจิทัล” แต่กลับไม่ให้สถานะทางกฎหมายที่เทียบเท่างานอาสาสมัครอื่น ๆ การยอมรับอย่างเป็นทางการจะช่วยให้ผู้พัฒนาได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น การชดเชยค่าใช้จ่ายที่ปลอดภาษี การออกใบเสร็จบริจาค และการคุ้มครองด้านความรับผิดทางกฎหมาย ซึ่งจะสร้างความยั่งยืนและความชัดเจนให้กับการทำงานอาสาสมัครดิจิทัล นอกจากนี้ เยอรมนียังถูกมองว่าล้าหลังเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ ที่มีการสนับสนุนงาน Open-Source ผ่านสิทธิประโยชน์ทางภาษีและการสนับสนุนเชิงสถาบัน หากไม่เร่งแก้ไข อาจทำให้ประเทศเสียเปรียบในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ ความสำคัญของ Open-Source ต่อสาธารณะ ➡️ เป็นรากฐานของระบบดิจิทัล เช่น โปรโตคอลอินเทอร์เน็ต ระบบความปลอดภัย และ AI frameworks ➡️ สร้างซอฟต์แวร์ที่โปร่งใสและตรวจสอบได้ ✅ ลักษณะงานอาสาสมัคร ➡️ ส่วนใหญ่ทำโดยไม่รับค่าตอบแทนในเวลาว่าง ➡️ มีความรับผิดชอบต่อความปลอดภัยและเสถียรภาพของระบบ ✅ ผลประโยชน์จากการยอมรับทางกฎหมาย ➡️ ได้สิทธิชดเชยค่าใช้จ่ายปลอดภาษี ➡️ สามารถออกใบเสร็จบริจาคและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมาย ‼️ ความเสี่ยงหากไม่ยอมรับ ⛔ อาสาสมัครต้องแบกรับภาระโดยไม่มีการสนับสนุน ⛔ เยอรมนีอาจล้าหลังในการแข่งขันด้านเทคโนโลยีระดับโลก ‼️ ผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจ ⛔ ความไม่สมดุลระหว่างผู้ใช้ที่ได้ประโยชน์กับผู้พัฒนาที่ไม่ได้รับการสนับสนุน ⛔ เสี่ยงต่อการพึ่งพาเทคโนโลยีต่างชาติและลดความมั่นคงทางดิจิทัล https://www.openpetition.de/petition/online/recognition-of-work-on-open-source-as-volunteering-in-germany
    WWW.OPENPETITION.DE
    Recognition of Work on Open-Source as Volunteering in Germany - Online-Petition
    Open-Source-Software builds the foundations of digital infrastructure in big parts - in administration, economy, science and daily life. Even the current coalition agreement of the Federal Government mentions Open-Source-Software as a fundamental building block for the achievement of digital sovereignty. However, the work done by thousands of volunteers for this goal is not recognised as volunteering, neither fiscally nor in terms of funding. This imbalance between societal importance and legal
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 252 มุมมอง 0 รีวิว
  • นายกแป้น ทำหาดใหญ่พังคามือ

    เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ปี 2568 เป็นบทพิสูจน์การทำงานของนายกแป้น ณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จากความประมาทและความมั่นหน้ามั่นใจในตัวเอง คิดว่าการบริหารจัดการน้ำท่วมของตัวเองนั้น "เอาอยู่" แต่สุดท้ายมวลน้ำจำนวนมหาศาล พัดพาเมืองเศรษฐกิจหลักภาคใต้ ให้พังทลายราวกับวันสิ้นโลก ผู้เสียชีวิตมากกว่า 110 ศพ การบริหารจัดการที่ย่ำแย่ของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ประชาชนต้องดูแลกันเอง ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และความป่าเถื่อนของชาวบ้านบางคนในเขต 8 ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจนล่าถอย ความวุ่นวายจากการที่ชาวบ้านบางคนลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ขบวนรถไฟ คลังสินค้าเหล้าเบียร์ และคนทำมาหากินจำนวนมากสิ้นเนื้อประดาตัว จากข้าวของเครื่องใช้ถูกน้ำพัดพังเสียหาย

    จากความฉิบหายของเมืองหาดใหญ่ในวันนั้น เขาหายไปจากพื้นที่โซเชียลมีเดีย ของเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่เขาคุ้นเคยในการทำคอนเทนต์วีดีโอ 3 วัน ก่อนกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสารพัดข้ออ้าง ระบุว่า ผมเพิ่งเข้ามาแค่ 4 เดือน เรือสภาพเก่าและพังหมด ไม่ได้ซื้อมาเป็นสิบปี มีอยู่แค่ 4-5 ลำ ก็เลยต้องสู้เท่าที่สู้ได้ ส่วนการแจ้งเตือนที่ว่ายังปักธงเขียว อ้างว่ามีคนดึงธงไป ตนประกาศยกธงเองไม่ได้ ต้องมีคณะกรรมการอนุมัติ อีกทั้งชลประทานมั่นใจว่ามวลน้ำจาก อ.สะเดา (คลองอู่ตะเภา) ห่างจากตลิ่งกว่า 3 เมตร แต่กลับมีน้ำจากเขาคอหงส์มาด้วย ก่อนจะขอโทษและจะฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมาเหมือนเดิมเร็วที่สุด

    แต่เสียงสะท้อนจากชาวหาดใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่ต้องการข้ออ้างและคำแก้ตัว แต่ต้องการสปิริตทางการเมือง เรียกร้องให้เขาลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต และความสูญเสียแบบประเมินค่าไม่ได้ พร้อมขุดดิจิทัลฟุตพรินท์เก่าๆ ที่เคยหาเสียงไว้ อ้างว่าการทำงานของนักปกครอง ระหว่างเกิดเหตุต้องเตรียมรถ เตรียมเรือ อุปกรณ์ เตรียมของกินให้พี่น้องประชาชน ... แต่สุดท้ายทำไม่ได้จริง

    ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เมื่อเดือน พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายกแป้นเอาชนะ "พี่หลวงคร" พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีคนก่อนหน้า ด้วยคะแนน 23,595 ต่อ 21,577 คะแนน หรือห่างกันแค่ 2,000 คะแนนเศษ โดยมีรายงานว่า ปลัดแป้น ถือเป็นข้าราชการนักปกครอง เคยเป็นนายอำเภอในหลายพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และปลัดจังหวัดอีกหลายจังหวัด อีกทั้งมีความใกล้ชิดกับเครือข่ายพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ พี่หลวงครยังคงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามกำลังที่มี แม้บ้านพี่หลวงครจะถูกน้ำท่วม และรถยนต์พังขณะแจกถุงยังชีพ กลายเป็นผู้ประสบภัยพร้อมกับชาวบ้านก็ตาม

    #Newskit
    นายกแป้น ทำหาดใหญ่พังคามือ เหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ปี 2568 เป็นบทพิสูจน์การทำงานของนายกแป้น ณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ จ.สงขลา จากความประมาทและความมั่นหน้ามั่นใจในตัวเอง คิดว่าการบริหารจัดการน้ำท่วมของตัวเองนั้น "เอาอยู่" แต่สุดท้ายมวลน้ำจำนวนมหาศาล พัดพาเมืองเศรษฐกิจหลักภาคใต้ ให้พังทลายราวกับวันสิ้นโลก ผู้เสียชีวิตมากกว่า 110 ศพ การบริหารจัดการที่ย่ำแย่ของรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูล ประชาชนต้องดูแลกันเอง ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก และความป่าเถื่อนของชาวบ้านบางคนในเขต 8 ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่กู้ภัยจนล่าถอย ความวุ่นวายจากการที่ชาวบ้านบางคนลักทรัพย์ร้านสะดวกซื้อ ขบวนรถไฟ คลังสินค้าเหล้าเบียร์ และคนทำมาหากินจำนวนมากสิ้นเนื้อประดาตัว จากข้าวของเครื่องใช้ถูกน้ำพัดพังเสียหาย จากความฉิบหายของเมืองหาดใหญ่ในวันนั้น เขาหายไปจากพื้นที่โซเชียลมีเดีย ของเทศบาลนครหาดใหญ่ ที่เขาคุ้นเคยในการทำคอนเทนต์วีดีโอ 3 วัน ก่อนกลับมาให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนด้วยสารพัดข้ออ้าง ระบุว่า ผมเพิ่งเข้ามาแค่ 4 เดือน เรือสภาพเก่าและพังหมด ไม่ได้ซื้อมาเป็นสิบปี มีอยู่แค่ 4-5 ลำ ก็เลยต้องสู้เท่าที่สู้ได้ ส่วนการแจ้งเตือนที่ว่ายังปักธงเขียว อ้างว่ามีคนดึงธงไป ตนประกาศยกธงเองไม่ได้ ต้องมีคณะกรรมการอนุมัติ อีกทั้งชลประทานมั่นใจว่ามวลน้ำจาก อ.สะเดา (คลองอู่ตะเภา) ห่างจากตลิ่งกว่า 3 เมตร แต่กลับมีน้ำจากเขาคอหงส์มาด้วย ก่อนจะขอโทษและจะฟื้นฟูบ้านเมืองให้กลับมาเหมือนเดิมเร็วที่สุด แต่เสียงสะท้อนจากชาวหาดใหญ่ ส่วนใหญ่ไม่ต้องการข้ออ้างและคำแก้ตัว แต่ต้องการสปิริตทางการเมือง เรียกร้องให้เขาลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อผู้เสียชีวิต และความสูญเสียแบบประเมินค่าไม่ได้ พร้อมขุดดิจิทัลฟุตพรินท์เก่าๆ ที่เคยหาเสียงไว้ อ้างว่าการทำงานของนักปกครอง ระหว่างเกิดเหตุต้องเตรียมรถ เตรียมเรือ อุปกรณ์ เตรียมของกินให้พี่น้องประชาชน ... แต่สุดท้ายทำไม่ได้จริง ในการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่เมื่อเดือน พ.ค. 2568 ที่ผ่านมา นายกแป้นเอาชนะ "พี่หลวงคร" พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีคนก่อนหน้า ด้วยคะแนน 23,595 ต่อ 21,577 คะแนน หรือห่างกันแค่ 2,000 คะแนนเศษ โดยมีรายงานว่า ปลัดแป้น ถือเป็นข้าราชการนักปกครอง เคยเป็นนายอำเภอในหลายพื้นที่ของจังหวัดสงขลา และปลัดจังหวัดอีกหลายจังหวัด อีกทั้งมีความใกล้ชิดกับเครือข่ายพรรคสีน้ำเงิน ซึ่งเหตุการณ์น้ำท่วมหาดใหญ่ครั้งนี้ พี่หลวงครยังคงช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมตามกำลังที่มี แม้บ้านพี่หลวงครจะถูกน้ำท่วม และรถยนต์พังขณะแจกถุงยังชีพ กลายเป็นผู้ประสบภัยพร้อมกับชาวบ้านก็ตาม #Newskit
    Like
    2
    2 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 530 มุมมอง 0 รีวิว
  • หนีปัญหา หนีความรับผิดชอบ เปลี่ยนชื่อศูนย์ ศป.กฉ. ไปเป็น ศูนย์ปฏิเสธการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉิบหาย ไปเล้ยยย
    #คิงส์โพธิ์แดง
    หนีปัญหา หนีความรับผิดชอบ เปลี่ยนชื่อศูนย์ ศป.กฉ. ไปเป็น ศูนย์ปฏิเสธการแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ฉิบหาย ไปเล้ยยย #คิงส์โพธิ์แดง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 91 มุมมอง 0 รีวิว
  • EU ออกกฎใหม่ป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์

    สหภาพยุโรป (EU) และรัฐสภายุโรปได้บรรลุข้อตกลงใหม่เพื่อบังคับให้ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการฉ้อโกง รวมถึงความโปร่งใสด้านค่าธรรมเนียมและการดูแลข้อมูลลูกค้า กฎหมายใหม่นี้ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยทางการเงินในยุคดิจิทัลที่การทำธุรกรรมออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว.

    ความรับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการ
    ตามกฎใหม่ หากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินไม่สามารถป้องกันการฉ้อโกงได้ พวกเขาจะต้องรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายให้ลูกค้า นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดให้ ระงับธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที และต้องจัดให้มีการเข้าถึง บริการลูกค้ามนุษย์ ไม่ใช่เพียงแค่ chatbot เท่านั้น.

    บทบาทของแพลตฟอร์มออนไลน์
    แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น marketplace และ social media จะต้องรับผิดชอบในการลบโฆษณาหรือคอนเทนต์ที่เป็นการฉ้อโกง หากไม่ดำเนินการ พวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่ธนาคารใช้ในการชดเชยลูกค้า กฎนี้มีเป้าหมายเพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อโฆษณาหลอกลวง.

    ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาด
    กฎหมายใหม่นี้จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการชำระเงิน การเข้าถึงเงินสดในพื้นที่ชนบท และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ขณะเดียวกันก็สร้างแรงกดดันให้ผู้ให้บริการทางการเงินและแพลตฟอร์มออนไลน์ต้องลงทุนเพิ่มในระบบความปลอดภัยและการตรวจสอบ.

    สรุปสาระสำคัญ
    EU และรัฐสภายุโรปบรรลุกฎใหม่ป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์
    เพิ่มความโปร่งใสด้านค่าธรรมเนียมและการดูแลข้อมูลลูกค้า

    ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย
    หากไม่สามารถป้องกันการฉ้อโกงได้

    ต้องระงับธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที
    และจัดให้มีบริการลูกค้ามนุษย์

    แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องลบโฆษณาหลอกลวง
    มิฉะนั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการชดเชย

    หากผู้ให้บริการไม่ปรับปรุงระบบ อาจถูกลงโทษทางการเงิน
    เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า

    แพลตฟอร์มที่ไม่จัดการโฆษณาหลอกลวงอาจถูกฟ้องร้อง
    กระทบต่อชื่อเสียงและรายได้ในระยะยาว

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/28/eu-agrees-on-new-rules-for-online-fraud-protection
    🛡️ EU ออกกฎใหม่ป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ สหภาพยุโรป (EU) และรัฐสภายุโรปได้บรรลุข้อตกลงใหม่เพื่อบังคับให้ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินออนไลน์ต้องเพิ่มมาตรการป้องกันการฉ้อโกง รวมถึงความโปร่งใสด้านค่าธรรมเนียมและการดูแลข้อมูลลูกค้า กฎหมายใหม่นี้ถือเป็นการยกระดับความปลอดภัยทางการเงินในยุคดิจิทัลที่การทำธุรกรรมออนไลน์เติบโตอย่างรวดเร็ว. 💳 ความรับผิดชอบของธนาคารและผู้ให้บริการ ตามกฎใหม่ หากธนาคารหรือผู้ให้บริการชำระเงินไม่สามารถป้องกันการฉ้อโกงได้ พวกเขาจะต้องรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหายให้ลูกค้า นอกจากนี้ยังมีข้อกำหนดให้ ระงับธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที และต้องจัดให้มีการเข้าถึง บริการลูกค้ามนุษย์ ไม่ใช่เพียงแค่ chatbot เท่านั้น. 📢 บทบาทของแพลตฟอร์มออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น marketplace และ social media จะต้องรับผิดชอบในการลบโฆษณาหรือคอนเทนต์ที่เป็นการฉ้อโกง หากไม่ดำเนินการ พวกเขาจะต้องรับผิดชอบต่อค่าใช้จ่ายที่ธนาคารใช้ในการชดเชยลูกค้า กฎนี้มีเป้าหมายเพื่อปิดช่องโหว่ที่ทำให้ผู้บริโภคตกเป็นเหยื่อโฆษณาหลอกลวง. 🌍 ผลกระทบต่อผู้บริโภคและตลาด กฎหมายใหม่นี้จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับค่าธรรมเนียมการชำระเงิน การเข้าถึงเงินสดในพื้นที่ชนบท และการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล ขณะเดียวกันก็สร้างแรงกดดันให้ผู้ให้บริการทางการเงินและแพลตฟอร์มออนไลน์ต้องลงทุนเพิ่มในระบบความปลอดภัยและการตรวจสอบ. 📌 สรุปสาระสำคัญ ✅ EU และรัฐสภายุโรปบรรลุกฎใหม่ป้องกันการฉ้อโกงออนไลน์ ➡️ เพิ่มความโปร่งใสด้านค่าธรรมเนียมและการดูแลข้อมูลลูกค้า ✅ ธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย ➡️ หากไม่สามารถป้องกันการฉ้อโกงได้ ✅ ต้องระงับธุรกรรมที่น่าสงสัยทันที ➡️ และจัดให้มีบริการลูกค้ามนุษย์ ✅ แพลตฟอร์มออนไลน์ต้องลบโฆษณาหลอกลวง ➡️ มิฉะนั้นต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการชดเชย ‼️ หากผู้ให้บริการไม่ปรับปรุงระบบ อาจถูกลงโทษทางการเงิน ⛔ เสี่ยงต่อการสูญเสียความเชื่อมั่นจากลูกค้า ‼️ แพลตฟอร์มที่ไม่จัดการโฆษณาหลอกลวงอาจถูกฟ้องร้อง ⛔ กระทบต่อชื่อเสียงและรายได้ในระยะยาว https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/11/28/eu-agrees-on-new-rules-for-online-fraud-protection
    WWW.THESTAR.COM.MY
    EU agrees on new rules for online fraud protection
    BRUSSELS (Reuters) -EU member states and the European Parliament have agreed on new rules to force banks and other payment service providers to better protect their customers against online fraud, hidden fees and data leaks, the Parliament said on Thursday.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 280 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts