• อาลัย 3 ตำรวจกล้า "กองบินตำรวจ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของตำรวจกล้าทั้ง 3 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ตก ในพื้นที่ จว.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยานร่วมภารกิจที่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จว.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลครอบครัวตำรวจกล้า ดูแลด้านสิทธิประโยชน์ สวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่.1.พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พล.ต.ต.2.ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย อายุ 34 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.อ.3.ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ช่างอากาศยาน (สบ1) รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.9 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.ท..พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียกำลังพลครั้งนี้ สั่งการดูแลเยียวยา และเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
    อาลัย 3 ตำรวจกล้า "กองบินตำรวจ"สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของตำรวจกล้าทั้ง 3 นาย ที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ รุ่น เบลล์ 212 ตก ในพื้นที่ จว.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะปฏิบัติภารกิจทางอากาศยานร่วมภารกิจที่ในพื้นที่ภาคใต้ โดยก่อนเกิดเหตุนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นบินจาก จว.ชุมพร เพื่อกลับหน่วยบินตำรวจจังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างทางจะแวะเติมน้ำมันที่หน่วยบินฯ แต่เกิดอุบัติเหตุเสียก่อน.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตรียมจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ พร้อมดูแลครอบครัวตำรวจกล้า ดูแลด้านสิทธิประโยชน์ สวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่.1.พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ อายุ 33 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 2) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พล.ต.ต.2.ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย อายุ 34 ปี ตำแหน่ง นักบิน (สบ 1) กลุ่มงานการบิน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.4 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.อ.3.ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย อายุ 55 ปี ตำแหน่ง ช่างอากาศยาน (สบ1) รอง สว.(อก.) กลุ่มงานช่างอากาศยาน กองบินตำรวจ มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 1.9 ล้านบาท ปูนบำเหน็จเลื่อนยศเป็น พ.ต.ท..พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียกำลังพลครั้งนี้ สั่งการดูแลเยียวยา และเร่งหาสาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 218 มุมมอง 0 รีวิว
  • ไม่ว่าคุณจะเจ็บจากการสูญเสีย...
    Cr.Wiwan Boonya
    ไม่ว่าคุณจะเจ็บจากการสูญเสีย... Cr.Wiwan Boonya
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 42 มุมมอง 0 รีวิว
  • Infineon ร่วมมือกับ NVIDIA พัฒนาเทคโนโลยีจ่ายพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล AI

    Infineon Technologies AG ประกาศความร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนาโครงสร้างการจ่ายพลังงานแบบใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ ระบบ HVDC (High-Voltage Direct Current) ขนาด 800V ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการสูญเสียในการแปลงไฟ

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Infineon และ NVIDIA
    ✅ ระบบ HVDC 800V ช่วยให้การจ่ายพลังงานในศูนย์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น
    - ลดการสูญเสียพลังงาน โดยแปลงไฟตรงที่ตัวชิป AI (GPU) บนเซิร์ฟเวอร์

    ✅ Infineon ใช้เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เช่น Silicon (Si), Silicon Carbide (SiC) และ Gallium Nitride (GaN)
    - ช่วยให้ การแปลงพลังงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการใช้งานในระดับ Hyperscale

    ✅ AI Data Centers ต้องการพลังงานมากขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นทศวรรษจะใช้พลังงานมากกว่า 1MW ต่อ IT Rack
    - ทำให้ HVDC เป็นโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับอนาคต

    ✅ ระบบใหม่นี้ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถขยายขนาดได้ง่ายขึ้นและลดต้นทุนการดำเนินงาน
    - NVIDIA สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ดีขึ้น

    ✅ Infineon เป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์สำหรับระบบจ่ายพลังงาน และคาดว่าการใช้ HVDC จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
    - บริษัท ยังคงพัฒนาโซลูชัน DCDC multiphase และระบบจ่ายพลังงานแบบไฮบริดสำหรับ Hyperscalers

    https://www.techpowerup.com/337085/infineon-announces-collaboration-with-nvidia-on-power-delivery-chips-for-future-server-racks
    Infineon ร่วมมือกับ NVIDIA พัฒนาเทคโนโลยีจ่ายพลังงานสำหรับศูนย์ข้อมูล AI Infineon Technologies AG ประกาศความร่วมมือกับ NVIDIA เพื่อพัฒนาโครงสร้างการจ่ายพลังงานแบบใหม่สำหรับศูนย์ข้อมูล AI โดยใช้ ระบบ HVDC (High-Voltage Direct Current) ขนาด 800V ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและลดการสูญเสียในการแปลงไฟ 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่าง Infineon และ NVIDIA ✅ ระบบ HVDC 800V ช่วยให้การจ่ายพลังงานในศูนย์ข้อมูลมีประสิทธิภาพมากขึ้น - ลดการสูญเสียพลังงาน โดยแปลงไฟตรงที่ตัวชิป AI (GPU) บนเซิร์ฟเวอร์ ✅ Infineon ใช้เทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เช่น Silicon (Si), Silicon Carbide (SiC) และ Gallium Nitride (GaN) - ช่วยให้ การแปลงพลังงานมีประสิทธิภาพสูงขึ้นและรองรับการใช้งานในระดับ Hyperscale ✅ AI Data Centers ต้องการพลังงานมากขึ้น โดยคาดว่าภายในสิ้นทศวรรษจะใช้พลังงานมากกว่า 1MW ต่อ IT Rack - ทำให้ HVDC เป็นโซลูชันที่เหมาะสมสำหรับอนาคต ✅ ระบบใหม่นี้ช่วยให้ศูนย์ข้อมูลสามารถขยายขนาดได้ง่ายขึ้นและลดต้นทุนการดำเนินงาน - NVIDIA สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานของโครงสร้างพื้นฐาน AI ได้ดีขึ้น ✅ Infineon เป็นผู้นำด้านเซมิคอนดักเตอร์สำหรับระบบจ่ายพลังงาน และคาดว่าการใช้ HVDC จะเพิ่มขึ้นในอนาคต - บริษัท ยังคงพัฒนาโซลูชัน DCDC multiphase และระบบจ่ายพลังงานแบบไฮบริดสำหรับ Hyperscalers https://www.techpowerup.com/337085/infineon-announces-collaboration-with-nvidia-on-power-delivery-chips-for-future-server-racks
    WWW.TECHPOWERUP.COM
    Infineon Announces Collaboration with NVIDIA on Power Delivery Chips for Future Server Racks
    Infineon Technologies AG is revolutionizing the power delivery architecture required for future AI data centers. In collaboration with NVIDIA, Infineon is developing the next generation of power systems based on a new architecture with central power generation of 800 V high-voltage direct current (H...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 95 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google, Microsoft และ Meta นำเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์ข้อมูล

    ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI workloads ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยนำ ระบบไฟฟ้า 400VDC และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเคยใช้ใน รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) มาปรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการพลังงานสูง

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในศูนย์ข้อมูล
    ✅ Google ใช้ระบบไฟฟ้า 400VDC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
    - ลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น

    ✅ Meta, Microsoft และ Open Compute Project (OCP) สนับสนุนมาตรฐาน Mt. Diablo
    - เป็น มาตรฐานใหม่สำหรับการจ่ายไฟในศูนย์ข้อมูล

    ✅ Google TPU Supercomputers ทำงานที่ระดับกิกะวัตต์ พร้อม uptime 99.999%
    - ใช้ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแทนฮีตซิงค์แบบเดิม

    ✅ ชิป AI รุ่นใหม่ใช้พลังงานมากกว่า 1,000 วัตต์ต่อชิป
    - ทำให้ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ

    ✅ การใช้เทคโนโลยีจาก EVs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 3%
    - ลด การสูญเสียพลังงานจากการแปลงไฟฟ้า

    https://www.techradar.com/pro/microsoft-google-and-meta-have-borrowed-ev-tech-for-the-next-big-thing-in-data-center-1mw-watercooled-racks
    Google, Microsoft และ Meta นำเทคโนโลยีจากรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในศูนย์ข้อมูล ศูนย์ข้อมูลกำลังเผชิญกับความต้องการพลังงานที่เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลจาก AI workloads ทำให้บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน โดยนำ ระบบไฟฟ้า 400VDC และระบบระบายความร้อนด้วยของเหลว ซึ่งเคยใช้ใน รถยนต์ไฟฟ้า (EVs) มาปรับใช้กับเซิร์ฟเวอร์ที่ต้องการพลังงานสูง 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในศูนย์ข้อมูล ✅ Google ใช้ระบบไฟฟ้า 400VDC เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน - ลดพื้นที่ที่ใช้สำหรับระบบจ่ายไฟ ทำให้มีพื้นที่สำหรับเซิร์ฟเวอร์มากขึ้น ✅ Meta, Microsoft และ Open Compute Project (OCP) สนับสนุนมาตรฐาน Mt. Diablo - เป็น มาตรฐานใหม่สำหรับการจ่ายไฟในศูนย์ข้อมูล ✅ Google TPU Supercomputers ทำงานที่ระดับกิกะวัตต์ พร้อม uptime 99.999% - ใช้ ระบบระบายความร้อนด้วยของเหลวแทนฮีตซิงค์แบบเดิม ✅ ชิป AI รุ่นใหม่ใช้พลังงานมากกว่า 1,000 วัตต์ต่อชิป - ทำให้ ระบบระบายความร้อนด้วยอากาศเริ่มไม่เพียงพอ ✅ การใช้เทคโนโลยีจาก EVs ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานขึ้น 3% - ลด การสูญเสียพลังงานจากการแปลงไฟฟ้า https://www.techradar.com/pro/microsoft-google-and-meta-have-borrowed-ev-tech-for-the-next-big-thing-in-data-center-1mw-watercooled-racks
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 158 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia เตรียมเปิดตัวชิปใหม่สำหรับตลาดจีน หลังถูกสหรัฐฯ จำกัดการส่งออก

    Nvidia กำลังพัฒนาชิปใหม่ที่ไม่ใช่ซีรีส์ Hopper เพื่อเจาะตลาดจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้การขายชิป H20 ต้องมีใบอนุญาตส่งออก ทำให้ Nvidia ต้องยกเลิกแผนการพัฒนาชิป H20 รุ่นลดสเปกสำหรับจีน และหันไปพัฒนา ชิปที่อาจเป็นรุ่นลดสเปกของซีรีส์ Blackwell แทน

    🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนของ Nvidia ในตลาดจีน
    ✅ Nvidia ยกเลิกการพัฒนาชิป H20 รุ่นลดสเปกสำหรับจีน
    - เนื่องจาก รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออก

    ✅ บริษัทอาจกำลังพัฒนาชิปใหม่ที่ไม่ใช่ซีรีส์ Hopper
    - CEO ของ Nvidia ยืนยันว่าไม่สามารถปรับแต่ง H20 ได้อีกต่อไป

    ✅ ตลาดจีนคิดเป็น 13% ของรายได้ Nvidia หรือประมาณ 17 พันล้านดอลลาร์
    - ทำให้ Nvidia ไม่ต้องการสูญเสียตลาดนี้

    ✅ Nvidia วางแผนตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในเซี่ยงไฮ้
    - เพื่อ รักษาสถานะในตลาดจีนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับข้อจำกัดทางการค้า

    ✅ CEO ของ Nvidia ปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าชิป AI ไปยังจีน
    - โดยระบุว่า ชิป AI มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะลักลอบนำเข้าได้

    https://www.neowin.net/news/nvidia-is-reportedly-preparing-a-non-hopper-series-chip-for-china/
    Nvidia เตรียมเปิดตัวชิปใหม่สำหรับตลาดจีน หลังถูกสหรัฐฯ จำกัดการส่งออก Nvidia กำลังพัฒนาชิปใหม่ที่ไม่ใช่ซีรีส์ Hopper เพื่อเจาะตลาดจีน หลังจากที่รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้การขายชิป H20 ต้องมีใบอนุญาตส่งออก ทำให้ Nvidia ต้องยกเลิกแผนการพัฒนาชิป H20 รุ่นลดสเปกสำหรับจีน และหันไปพัฒนา ชิปที่อาจเป็นรุ่นลดสเปกของซีรีส์ Blackwell แทน 🔍 รายละเอียดสำคัญเกี่ยวกับแผนของ Nvidia ในตลาดจีน ✅ Nvidia ยกเลิกการพัฒนาชิป H20 รุ่นลดสเปกสำหรับจีน - เนื่องจาก รัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ต้องมีใบอนุญาตส่งออก ✅ บริษัทอาจกำลังพัฒนาชิปใหม่ที่ไม่ใช่ซีรีส์ Hopper - CEO ของ Nvidia ยืนยันว่าไม่สามารถปรับแต่ง H20 ได้อีกต่อไป ✅ ตลาดจีนคิดเป็น 13% ของรายได้ Nvidia หรือประมาณ 17 พันล้านดอลลาร์ - ทำให้ Nvidia ไม่ต้องการสูญเสียตลาดนี้ ✅ Nvidia วางแผนตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาในเซี่ยงไฮ้ - เพื่อ รักษาสถานะในตลาดจีนและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับข้อจำกัดทางการค้า ✅ CEO ของ Nvidia ปฏิเสธข่าวลือเกี่ยวกับการลักลอบนำเข้าชิป AI ไปยังจีน - โดยระบุว่า ชิป AI มีขนาดใหญ่เกินกว่าจะลักลอบนำเข้าได้ https://www.neowin.net/news/nvidia-is-reportedly-preparing-a-non-hopper-series-chip-for-china/
    WWW.NEOWIN.NET
    Nvidia is reportedly preparing a non-Hopper series chip for China
    After the recent US crackdown on exporting H20 chips to China, Nvidia is working on a new downgraded chip for its Chinese customers.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 140 มุมมอง 0 รีวิว
  • กองทัพอากาศยูเครนยอมรับว่าสูญเสียเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ไปอีกหนึ่งลำเมื่อคืนนี้ ขณะขึ้นบินสกัดการโจมตีของโดรน Geran ของรัสเซีย

    ช่วงเวลากลางคืนต่อเนื่องจนถึงเช้า โดรน Geran-2 ของรัสเซียประมาณ 150 ลำ ทำการโจมตีกองกำลังติดอาวุธยูเครนและโรงงานอุตสาหกรรมการทหารในยูเครน เป้าหมายการโจมตีกระจายไปในภูมิภาคเคียฟ เชอร์นิฮิฟ เชอร์คาซี ซูมี และนิโคลาเยฟ


    กองทัพอากาศยูเครนส่งเครื่องบินรบ F-16 เพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากโดรน แต่ในระหว่างทำการบินอยู่นั้น นักบินรายงานถึง "สถานการณ์ผิดปกติ" เกิดขึ้นบนเครื่องบิน และเร่งบินออกนอกพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย - กองทัพอากาศยูเครนรายงาน


    ครั้งล่าสุดที่มีรายงานการสูญเสียเครื่องบิน F-16 เพิ่งเหิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางกองทัพอากาศยูเครนรายงานในครั้งนั้นว่า เครื่องบินรบ F-16 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจรบได้ถูกทำลายทำให้ นักบิน "พาเวล อิวานอฟ" เสียชีวิต
    กองทัพอากาศยูเครนยอมรับว่าสูญเสียเครื่องบินรบ F-16 ของสหรัฐฯ ไปอีกหนึ่งลำเมื่อคืนนี้ ขณะขึ้นบินสกัดการโจมตีของโดรน Geran ของรัสเซีย ช่วงเวลากลางคืนต่อเนื่องจนถึงเช้า โดรน Geran-2 ของรัสเซียประมาณ 150 ลำ ทำการโจมตีกองกำลังติดอาวุธยูเครนและโรงงานอุตสาหกรรมการทหารในยูเครน เป้าหมายการโจมตีกระจายไปในภูมิภาคเคียฟ เชอร์นิฮิฟ เชอร์คาซี ซูมี และนิโคลาเยฟ กองทัพอากาศยูเครนส่งเครื่องบินรบ F-16 เพื่อสกัดกั้นการโจมตีจากโดรน แต่ในระหว่างทำการบินอยู่นั้น นักบินรายงานถึง "สถานการณ์ผิดปกติ" เกิดขึ้นบนเครื่องบิน และเร่งบินออกนอกพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่น และสามารถดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย - กองทัพอากาศยูเครนรายงาน ครั้งล่าสุดที่มีรายงานการสูญเสียเครื่องบิน F-16 เพิ่งเหิดขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งทางกองทัพอากาศยูเครนรายงานในครั้งนั้นว่า เครื่องบินรบ F-16 ซึ่งกำลังปฏิบัติภารกิจรบได้ถูกทำลายทำให้ นักบิน "พาเวล อิวานอฟ" เสียชีวิต
    0 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 248 มุมมอง 0 รีวิว
  • แอฟริกาใต้กำลัง "สูงขึ้น" แทนที่จะ "จมลง" เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

    นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบอนน์ พบว่า แอฟริกาใต้กำลังยกตัวขึ้นประมาณ 2 มิลลิเมตรต่อปี ไม่ใช่เพราะ การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่เกิดจาก การสูญเสียน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรง

    ✅ ข้อมูลจากสถานี GNSS (Global Navigation Satellite System) ระบุว่า ระหว่างปี 2012-2020 พื้นที่บางส่วนของประเทศยกตัวขึ้นถึง 6 มิลลิเมตร
    - เดิมทีนักวิทยาศาสตร์คิดว่า เกิดจากการไหลของแมนเทิลใต้พื้นโลก

    ✅ นักวิจัยนำโดย Dr. Makan Karegar พบว่า การสูญเสียน้ำใต้ดินเป็นสาเหตุหลักของการยกตัวของแผ่นดิน
    - ใช้ ข้อมูล GPS รายวันตั้งแต่ปี 2000-2021 และวิเคราะห์ด้วย Singular Spectral Analysis (SSA)

    ✅ ข้อมูลจากดาวเทียม GRACE ของ NASA สนับสนุนแนวคิดนี้
    - GRACE ตรวจจับ การเปลี่ยนแปลงแรงโน้มถ่วงที่เกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำใต้ดิน
    - พบว่า พื้นที่ที่สูญเสียน้ำมากที่สุดก็ยกตัวขึ้นเร็วที่สุด

    ✅ เมื่อเปรียบเทียบข้อมูล GPS กับข้อมูลจาก GRACE และแบบจำลองทางอุทกศาสตร์ พบว่ามีความสัมพันธ์สูงถึง 90%-94% ในระดับเดือน และ 46%-53% ในระยะยาว
    - ยืนยันว่า ภัยแล้งเป็นตัวการหลักของการยกตัวของแผ่นดิน

    https://www.neowin.net/news/climate-change-causes-south-africa-to-mysteriously-rise-instead-of-sink-nasa-helps-find-why/
    แอฟริกาใต้กำลัง "สูงขึ้น" แทนที่จะ "จมลง" เพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นักวิทยาศาสตร์จาก มหาวิทยาลัยบอนน์ พบว่า แอฟริกาใต้กำลังยกตัวขึ้นประมาณ 2 มิลลิเมตรต่อปี ไม่ใช่เพราะ การเคลื่อนตัวของเปลือกโลก แต่เกิดจาก การสูญเสียน้ำใต้ดิน ซึ่งเป็นผลกระทบจากภัยแล้งที่รุนแรง ✅ ข้อมูลจากสถานี GNSS (Global Navigation Satellite System) ระบุว่า ระหว่างปี 2012-2020 พื้นที่บางส่วนของประเทศยกตัวขึ้นถึง 6 มิลลิเมตร - เดิมทีนักวิทยาศาสตร์คิดว่า เกิดจากการไหลของแมนเทิลใต้พื้นโลก ✅ นักวิจัยนำโดย Dr. Makan Karegar พบว่า การสูญเสียน้ำใต้ดินเป็นสาเหตุหลักของการยกตัวของแผ่นดิน - ใช้ ข้อมูล GPS รายวันตั้งแต่ปี 2000-2021 และวิเคราะห์ด้วย Singular Spectral Analysis (SSA) ✅ ข้อมูลจากดาวเทียม GRACE ของ NASA สนับสนุนแนวคิดนี้ - GRACE ตรวจจับ การเปลี่ยนแปลงแรงโน้มถ่วงที่เกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำใต้ดิน - พบว่า พื้นที่ที่สูญเสียน้ำมากที่สุดก็ยกตัวขึ้นเร็วที่สุด ✅ เมื่อเปรียบเทียบข้อมูล GPS กับข้อมูลจาก GRACE และแบบจำลองทางอุทกศาสตร์ พบว่ามีความสัมพันธ์สูงถึง 90%-94% ในระดับเดือน และ 46%-53% ในระยะยาว - ยืนยันว่า ภัยแล้งเป็นตัวการหลักของการยกตัวของแผ่นดิน https://www.neowin.net/news/climate-change-causes-south-africa-to-mysteriously-rise-instead-of-sink-nasa-helps-find-why/
    WWW.NEOWIN.NET
    Climate change causes South Africa to mysteriously rise instead of sink. NASA helps find why
    A study has finally revealed why South Africa keeps rising against the ocean instead of sinking and how climate change is also causing this.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 231 มุมมอง 0 รีวิว
  • “ปัตตานีไม่ใช่ดินแดนที่ถูกยึด”
    เปิดหลักฐานสยามและอังกฤษที่ยืนยันอธิปไตยของไทย

    #อัษฎางค์ยมนาค

    การเมืองของประวัติศาสตร์ และมายาคติแห่งการ “สูญเสียดินแดน”

    เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย โพสต์ข้อความเรียกร้องความเห็นใจต่อ “การสูญเสียดินแดนของชาวมลายู” โดยมีนัยว่าพรมแดนปัจจุบันของมาเลเซียถูกจำกัด เพราะดินแดนบางส่วนตกเป็นของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย วาทกรรมนี้จึงถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ปลุกอารมณ์ผู้คน และสร้างภาพลวงตาว่าชาวมลายูเคยถูก “ยึดครอง”

    แต่หากไม่ใช้ปัญญาแยกแยะระหว่างวาทกรรมกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “มายาคติแห่งการถูกกดขี่” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดแบ่งแยกดินแดนที่ยังคุกรุ่น

    ประเทศไทยไม่เคย “ยึด” ดินแดนจากมาเลเซีย เพราะ “มาเลเซีย” ยังไม่ปรากฏในฐานะรัฐชาติในช่วงเวลานั้น ดินแดนที่เรียกว่า มลายา หรือ คาบสมุทรมลายู ในอดีต ประกอบด้วยรัฐสุลต่านอิสระหลายแห่ง รวมถึง ปัตตานี ซึ่งยอมรับอธิปไตยของสยามในฐานะ “รัฐบรรณาการ” มาตั้งแต่สมัยอยุธยา

    ในบรรดาหัวเมืองมลายูที่เคยขึ้นกับไทย ได้แก่ ไทรบุรี กะลันตัน ตรังกานู และปัตตานี ซึ่งอังกฤษเองก็รับรองอย่างเป็นทางการใน “สัญญาเบอร์นี” (พ.ศ. 2369) ว่าเมืองเหล่านี้เป็นดินแดนภายใต้อำนาจของกรุงเทพฯ

    อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิอังกฤษขยายอิทธิพลในภูมิภาค หลังชัยชนะเหนือจีนและพม่า ไทยซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคม จึงต้องยอมแลกดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาเอกราชโดยรวม

    ผลก็คือ ไทยต้องเสีย ไทรบุรี กะลันตัน และตรังกานู ไปให้อังกฤษ ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ ปัตตานี ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยจนถึงปัจจุบัน

    เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด และตั้งหลักให้กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จึงขอนำเสนอหลักฐานจาก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 5 พระนิพนธ์โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมอ้างอิงเอกสารของอังกฤษ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ยืนเคียงข้างวาทกรรมร่วมสมัยอย่างมีศักดิ์ศรี

    อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่
    www.atsadang.com/?p=5503
    #อัษฎางค์ดอทคอม
    “ปัตตานีไม่ใช่ดินแดนที่ถูกยึด” เปิดหลักฐานสยามและอังกฤษที่ยืนยันอธิปไตยของไทย #อัษฎางค์ยมนาค การเมืองของประวัติศาสตร์ และมายาคติแห่งการ “สูญเสียดินแดน” เมื่อ ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตผู้นำผู้ทรงอิทธิพลของมาเลเซีย โพสต์ข้อความเรียกร้องความเห็นใจต่อ “การสูญเสียดินแดนของชาวมลายู” โดยมีนัยว่าพรมแดนปัจจุบันของมาเลเซียถูกจำกัด เพราะดินแดนบางส่วนตกเป็นของประเทศเพื่อนบ้านอย่างไทย วาทกรรมนี้จึงถูกปล่อยออกมาในลักษณะที่ปลุกอารมณ์ผู้คน และสร้างภาพลวงตาว่าชาวมลายูเคยถูก “ยึดครอง” แต่หากไม่ใช้ปัญญาแยกแยะระหว่างวาทกรรมกับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ ก็ย่อมตกเป็นเหยื่อของ “มายาคติแห่งการถูกกดขี่” ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับแนวคิดแบ่งแยกดินแดนที่ยังคุกรุ่น ประเทศไทยไม่เคย “ยึด” ดินแดนจากมาเลเซีย เพราะ “มาเลเซีย” ยังไม่ปรากฏในฐานะรัฐชาติในช่วงเวลานั้น ดินแดนที่เรียกว่า มลายา หรือ คาบสมุทรมลายู ในอดีต ประกอบด้วยรัฐสุลต่านอิสระหลายแห่ง รวมถึง ปัตตานี ซึ่งยอมรับอธิปไตยของสยามในฐานะ “รัฐบรรณาการ” มาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในบรรดาหัวเมืองมลายูที่เคยขึ้นกับไทย ได้แก่ ไทรบุรี กะลันตัน ตรังกานู และปัตตานี ซึ่งอังกฤษเองก็รับรองอย่างเป็นทางการใน “สัญญาเบอร์นี” (พ.ศ. 2369) ว่าเมืองเหล่านี้เป็นดินแดนภายใต้อำนาจของกรุงเทพฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อจักรวรรดิอังกฤษขยายอิทธิพลในภูมิภาค หลังชัยชนะเหนือจีนและพม่า ไทยซึ่งเป็นประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ไม่ตกเป็นอาณานิคม จึงต้องยอมแลกดินแดนบางส่วนเพื่อรักษาเอกราชโดยรวม ผลก็คือ ไทยต้องเสีย ไทรบุรี กะลันตัน และตรังกานู ไปให้อังกฤษ ซึ่งต่อมาถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของมาเลเซีย แต่ ปัตตานี ยังคงอยู่ภายใต้อธิปไตยของไทยจนถึงปัจจุบัน เพื่อคลี่คลายความเข้าใจผิด และตั้งหลักให้กับข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ บทความนี้จึงขอนำเสนอหลักฐานจาก พระราชพงศาวดารรัชกาลที่ 5 พระนิพนธ์โดย สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ พร้อมอ้างอิงเอกสารของอังกฤษ เพื่อให้ข้อเท็จจริงได้ยืนเคียงข้างวาทกรรมร่วมสมัยอย่างมีศักดิ์ศรี อ่านรายละเอียดฉบับเต็มได้ที่ www.atsadang.com/?p=5503 #อัษฎางค์ดอทคอม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 403 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก

    กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่

    หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม

    ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต
    - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค
    - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024

    ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต
    - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต
    - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย

    ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต
    - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
    - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์

    ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins
    - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    รัฐบาลสหราชอาณาจักรเตรียมออกกฎหมายใหม่เพื่อ ห้ามไม่ให้ผู้บริโภคใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต และจำกัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่เกี่ยวข้องกับคริปโต โดยมีเป้าหมายเพื่อ เพิ่มการคุ้มครองผู้บริโภค ในขณะที่อุตสาหกรรมคริปโตถูกนำเข้าสู่การกำกับดูแลเป็นครั้งแรก กระทรวงการคลังของอังกฤษประกาศว่า จะบังคับใช้กฎระเบียบกับตลาดคริปโต โดยให้ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต อยู่ภายใต้กฎหมายที่มีอยู่ หน่วยงานกำกับดูแลด้านการเงิน (FCA) ระบุว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตในสหราชอาณาจักรใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 6% ในปี 2022 ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้รัฐบาลต้องออกมาตรการควบคุม ✅ การห้ามใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโต - รัฐบาลต้องการ ลดความเสี่ยงทางการเงินของผู้บริโภค - FCA พบว่า 14% ของนักลงทุนคริปโตใช้บัตรเครดิตซื้อคริปโตในปี 2024 ✅ การกำกับดูแลตลาดคริปโต - กระทรวงการคลังจะบังคับใช้กฎระเบียบกับ แพลตฟอร์มซื้อขาย, ผู้ให้บริการ และผู้ออกเหรียญคริปโต - ต้องการ กำจัดผู้เล่นที่ไม่โปร่งใส และสนับสนุน นวัตกรรมที่ถูกต้องตามกฎหมาย ✅ ข้อจำกัดเกี่ยวกับสินเชื่อคริปโต - FCA กำลังพิจารณา การตรวจสอบเครดิตของผู้ลงทุน และ ทดสอบความรู้เกี่ยวกับการลงทุน - การให้สินเชื่อคริปโตอาจมี ความเสี่ยงด้านสภาพคล่องและการสูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ ✅ ข้อยกเว้นสำหรับ Stablecoins - ผู้บริโภคยังสามารถใช้สินเชื่อซื้อ Stablecoins ที่ออกโดยบริษัทที่ได้รับการกำกับดูแลจาก FCA https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/05/02/britain-to-bar-consumers-from-borrowing-to-buy-crypto-under-new-regime
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Britain to bar consumers from borrowing to buy crypto under new regime
    LONDON (Reuters) -Britain is to restrict consumers' use of credit cards to buy crypto and their access to crypto lending products, the regulator said on Friday, a move aimed at improving protection as cryptoassets are regulated for the first time.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้รายงานของ Wall Street Journal (WSJ) ที่อ้างว่า คณะกรรมการของ Tesla กำลังมองหาซีอีโอคนใหม่ โดย Musk ระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ" และเป็น "การละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง"

    WSJ รายงานว่าคณะกรรมการของ Tesla ได้ติดต่อบริษัทจัดหาผู้บริหารเพื่อเริ่มกระบวนการค้นหาซีอีโอคนใหม่ อย่างไรก็ตาม Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X ของบริษัท โดยระบุว่า "ข่าวนี้เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และเราได้แจ้งไปยังสื่อก่อนที่รายงานจะถูกเผยแพร่"

    รายงานของ WSJ เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla กำลังเผชิญกับ ยอดขายและกำไรที่ลดลง รวมถึงการสูญเสียตำแหน่ง ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ให้กับ BYD จากจีน นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี

    อีกหนึ่งประเด็นที่ WSJ กล่าวถึงคือ บทบาททางการเมืองของ Musk ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla โดย Musk ได้แสดงการสนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐฯ และยุโรป

    นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ เวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla เนื่องจากเขามีบทบาทสำคัญใน SpaceX, Neuralink และ X ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่าเขายังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่

    ✅ การตอบโต้ของ Elon Musk และ Tesla
    - Musk ระบุว่ารายงานของ WSJ เป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ"
    - Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X

    ✅ สถานการณ์ทางธุรกิจของ Tesla
    - Tesla มียอดขายและกำไรลดลงในไตรมาสแรกของปี 2025
    - สูญเสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดให้กับ BYD จากจีน

    ✅ บทบาททางการเมืองของ Musk
    - Musk สนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ DOGE
    - ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla ในสหรัฐฯ และยุโรป

    ✅ ข้อกังวลเกี่ยวกับเวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla
    - นักลงทุนตั้งคำถามว่า Musk ยังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่
    - Musk ระบุว่าเขาจะ เพิ่มเวลาที่ใช้กับ Tesla ตั้งแต่เดือนหน้า

    https://www.neowin.net/news/elon-musk-accuses-wsj-of-lying-about-tesla-looking-for-a-new-ceo/
    Elon Musk ได้ออกมาตอบโต้รายงานของ Wall Street Journal (WSJ) ที่อ้างว่า คณะกรรมการของ Tesla กำลังมองหาซีอีโอคนใหม่ โดย Musk ระบุว่าข่าวดังกล่าวเป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ" และเป็น "การละเมิดจริยธรรมอย่างร้ายแรง" WSJ รายงานว่าคณะกรรมการของ Tesla ได้ติดต่อบริษัทจัดหาผู้บริหารเพื่อเริ่มกระบวนการค้นหาซีอีโอคนใหม่ อย่างไรก็ตาม Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ได้ออกมาปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X ของบริษัท โดยระบุว่า "ข่าวนี้เป็นเท็จโดยสิ้นเชิง และเราได้แจ้งไปยังสื่อก่อนที่รายงานจะถูกเผยแพร่" รายงานของ WSJ เกิดขึ้นในช่วงที่ Tesla กำลังเผชิญกับ ยอดขายและกำไรที่ลดลง รวมถึงการสูญเสียตำแหน่ง ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในโลก ให้กับ BYD จากจีน นอกจากนี้ หุ้นของ Tesla ก็ลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปี อีกหนึ่งประเด็นที่ WSJ กล่าวถึงคือ บทบาททางการเมืองของ Musk ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla โดย Musk ได้แสดงการสนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ Department of Government Efficiency (DOGE) ซึ่งสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในสหรัฐฯ และยุโรป นอกจากนี้ ยังมีข้อกังวลเกี่ยวกับ เวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla เนื่องจากเขามีบทบาทสำคัญใน SpaceX, Neuralink และ X ทำให้นักลงทุนตั้งคำถามว่าเขายังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่ ✅ การตอบโต้ของ Elon Musk และ Tesla - Musk ระบุว่ารายงานของ WSJ เป็น "บทความที่จงใจให้ข้อมูลเท็จ" - Robyn Denholm ประธานคณะกรรมการของ Tesla ปฏิเสธข่าวนี้ผ่านบัญชี X ✅ สถานการณ์ทางธุรกิจของ Tesla - Tesla มียอดขายและกำไรลดลงในไตรมาสแรกของปี 2025 - สูญเสียตำแหน่งผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดให้กับ BYD จากจีน ✅ บทบาททางการเมืองของ Musk - Musk สนับสนุน Donald Trump และมีส่วนร่วมในโครงการ DOGE - ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ Tesla ในสหรัฐฯ และยุโรป ✅ ข้อกังวลเกี่ยวกับเวลาที่ Musk ใช้กับ Tesla - นักลงทุนตั้งคำถามว่า Musk ยังสามารถให้ความสำคัญกับ Tesla ได้มากพอหรือไม่ - Musk ระบุว่าเขาจะ เพิ่มเวลาที่ใช้กับ Tesla ตั้งแต่เดือนหน้า https://www.neowin.net/news/elon-musk-accuses-wsj-of-lying-about-tesla-looking-for-a-new-ceo/
    WWW.NEOWIN.NET
    Elon Musk accuses WSJ of lying about Tesla looking for a new CEO
    A recent report claimed that the Tesla board was seeking to replace its CEO. Now, Tesla's chair and Elon Musk have called this report false.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 298 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้กล่าวถึงการค้นพบเทคนิคการโจมตีทางไซเบอร์แบบใหม่ที่เรียกว่า Data Splicing Attacks ซึ่งสามารถหลบเลี่ยงเครื่องมือป้องกันการสูญเสียข้อมูล (DLP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการโจมตีนี้ใช้วิธีการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นเล็กๆ และเข้ารหัสหรือแปลงข้อมูลในเบราว์เซอร์ ก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้รับการป้องกัน

    การโจมตีนี้ยังใช้ช่องทางการสื่อสารทางเลือก เช่น gRPC, WebRTC หรือแพลตฟอร์มส่งข้อความที่ปลอดภัยอย่าง WhatsApp และ Telegram เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ SSL-based inspections นักวิจัยยังได้พัฒนาเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ชื่อว่า Angry Magpie เพื่อช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถประเมินความเสี่ยงและช่องโหว่ในระบบของตน

    ✅ เทคนิคการโจมตีใหม่
    - ใช้วิธีการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นเล็กๆ และเข้ารหัสในเบราว์เซอร์
    - ข้อมูลถูกประกอบใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้รับการป้องกัน

    ✅ ช่องทางการสื่อสารทางเลือก
    - ใช้ gRPC, WebRTC หรือแพลตฟอร์มส่งข้อความที่ปลอดภัย เช่น WhatsApp และ Telegram
    - หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ SSL-based inspections

    ✅ การพัฒนาเครื่องมือ Angry Magpie
    - เครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่วยประเมินความเสี่ยงและช่องโหว่
    - ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบระบบในสถานการณ์ที่สมจริง

    ✅ ผลกระทบต่อองค์กร
    - การโจมตีนี้สามารถหลบเลี่ยงเครื่องมือ DLP และ EPP ได้
    - เพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลในองค์กร

    https://www.techradar.com/pro/thousands-of-businesses-at-risk-worldwide-as-new-data-exfiltration-technique-uncovered-heres-what-you-need-to-know
    บทความนี้กล่าวถึงการค้นพบเทคนิคการโจมตีทางไซเบอร์แบบใหม่ที่เรียกว่า Data Splicing Attacks ซึ่งสามารถหลบเลี่ยงเครื่องมือป้องกันการสูญเสียข้อมูล (DLP) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการโจมตีนี้ใช้วิธีการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นเล็กๆ และเข้ารหัสหรือแปลงข้อมูลในเบราว์เซอร์ ก่อนที่จะนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้รับการป้องกัน การโจมตีนี้ยังใช้ช่องทางการสื่อสารทางเลือก เช่น gRPC, WebRTC หรือแพลตฟอร์มส่งข้อความที่ปลอดภัยอย่าง WhatsApp และ Telegram เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบ SSL-based inspections นักวิจัยยังได้พัฒนาเครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ชื่อว่า Angry Magpie เพื่อช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถประเมินความเสี่ยงและช่องโหว่ในระบบของตน ✅ เทคนิคการโจมตีใหม่ - ใช้วิธีการแบ่งข้อมูลเป็นชิ้นเล็กๆ และเข้ารหัสในเบราว์เซอร์ - ข้อมูลถูกประกอบใหม่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่ได้รับการป้องกัน ✅ ช่องทางการสื่อสารทางเลือก - ใช้ gRPC, WebRTC หรือแพลตฟอร์มส่งข้อความที่ปลอดภัย เช่น WhatsApp และ Telegram - หลีกเลี่ยงการตรวจสอบ SSL-based inspections ✅ การพัฒนาเครื่องมือ Angry Magpie - เครื่องมือโอเพ่นซอร์สที่ช่วยประเมินความเสี่ยงและช่องโหว่ - ช่วยให้ทีมรักษาความปลอดภัยสามารถตรวจสอบระบบในสถานการณ์ที่สมจริง ✅ ผลกระทบต่อองค์กร - การโจมตีนี้สามารถหลบเลี่ยงเครื่องมือ DLP และ EPP ได้ - เพิ่มความเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลในองค์กร https://www.techradar.com/pro/thousands-of-businesses-at-risk-worldwide-as-new-data-exfiltration-technique-uncovered-heres-what-you-need-to-know
    WWW.TECHRADAR.COM
    Enterprise browser could become the next battleground for hackers looking to exfiltrate data
    Browser vulnerabilities render DLP tools ineffective as new data exfiltration attacks emerge
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 333 มุมมอง 0 รีวิว
  • Offensive Security ซึ่งเป็นผู้ดูแล Kali Linux ได้แจ้งเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับปัญหาการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการสูญเสียคีย์ลงนาม (signing key) ของ repository ซอฟต์แวร์ Kali Linux ระบบ Linux ใช้คีย์เหล่านี้เพื่อยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของแพ็กเกจก่อนการติดตั้ง หากไม่มีคีย์ที่ถูกต้อง ระบบจะไม่สามารถอัปเดตได้

    ทีมงาน Kali ได้แก้ไขปัญหาโดยการสร้างคีย์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดและติดตั้งคีย์ใหม่ด้วยตนเองผ่านคำสั่งใน terminal เช่น wget หรือ curl นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยอิมเมจ Kali เวอร์ชันใหม่ที่รวมคีย์ใหม่ไว้แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งระบบใหม่ได้ทันที

    ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น
    - การสูญเสีย signing key ของ repository ซอฟต์แวร์ Kali Linux
    - ระบบไม่สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้หากไม่มีคีย์ที่ถูกต้อง

    ✅ การแก้ไขปัญหา
    - ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งคีย์ใหม่ผ่านคำสั่ง wget หรือ curl
    - Kali ปล่อยอิมเมจเวอร์ชันใหม่ที่รวมคีย์ใหม่ไว้แล้ว

    ✅ คำแนะนำเพิ่มเติม
    - ตรวจสอบ checksum ของไฟล์คีย์ที่ดาวน์โหลดเพื่อความปลอดภัย
    - ใช้เวอร์ชันใหม่ของ Kali (2025.1c หรือใหม่กว่า) เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา

    ✅ ความสำคัญของการแก้ไข
    - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์และรับแพตช์ความปลอดภัยล่าสุด

    https://www.neowin.net/news/kali-issues-warning-to-users-about-update-failures-due-to-lost-repository-signing-key/
    Offensive Security ซึ่งเป็นผู้ดูแล Kali Linux ได้แจ้งเตือนผู้ใช้งานเกี่ยวกับปัญหาการอัปเดตซอฟต์แวร์ที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากการสูญเสียคีย์ลงนาม (signing key) ของ repository ซอฟต์แวร์ Kali Linux ระบบ Linux ใช้คีย์เหล่านี้เพื่อยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของแพ็กเกจก่อนการติดตั้ง หากไม่มีคีย์ที่ถูกต้อง ระบบจะไม่สามารถอัปเดตได้ ทีมงาน Kali ได้แก้ไขปัญหาโดยการสร้างคีย์ใหม่และแนะนำให้ผู้ใช้งานดาวน์โหลดและติดตั้งคีย์ใหม่ด้วยตนเองผ่านคำสั่งใน terminal เช่น wget หรือ curl นอกจากนี้ ยังมีการปล่อยอิมเมจ Kali เวอร์ชันใหม่ที่รวมคีย์ใหม่ไว้แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถติดตั้งระบบใหม่ได้ทันที ✅ ปัญหาที่เกิดขึ้น - การสูญเสีย signing key ของ repository ซอฟต์แวร์ Kali Linux - ระบบไม่สามารถอัปเดตซอฟต์แวร์ได้หากไม่มีคีย์ที่ถูกต้อง ✅ การแก้ไขปัญหา - ผู้ใช้งานสามารถดาวน์โหลดและติดตั้งคีย์ใหม่ผ่านคำสั่ง wget หรือ curl - Kali ปล่อยอิมเมจเวอร์ชันใหม่ที่รวมคีย์ใหม่ไว้แล้ว ✅ คำแนะนำเพิ่มเติม - ตรวจสอบ checksum ของไฟล์คีย์ที่ดาวน์โหลดเพื่อความปลอดภัย - ใช้เวอร์ชันใหม่ของ Kali (2025.1c หรือใหม่กว่า) เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา ✅ ความสำคัญของการแก้ไข - ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถอัปเดตซอฟต์แวร์และรับแพตช์ความปลอดภัยล่าสุด https://www.neowin.net/news/kali-issues-warning-to-users-about-update-failures-due-to-lost-repository-signing-key/
    WWW.NEOWIN.NET
    Kali issues warning to users about update failures due to lost repository signing key
    Kali Linux's maintainer, OffSec, has lost the repository signing key. This means updates will fail until you manually install the new key.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 146 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก

    Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน

    Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ

    สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ

    ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค
    - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ
    - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง

    ✅ การจัดสรรเงินทุน
    - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025
    - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน

    ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE)
    - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ
    - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์

    ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp!
    - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025

    https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    Google ได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับพันธมิตรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเพื่อเสริมสร้างการป้องกันการหลอกลวงออนไลน์ โดยในปี 2024 ผู้เสียหายจากการหลอกลวงในภูมิภาคนี้สูญเสียเงินรวมกว่า 688 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็นสองในสามของการสูญเสียทั่วโลก Google ได้จัดงาน Online Safety Dialogue ในไต้หวัน โดยร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อพัฒนาการแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มการหลอกลวง การประสานงานระหว่างประเทศ การพัฒนาเครื่องมือตรวจจับขั้นสูง และการลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง นอกจากนี้ Google.org ยังได้จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์ สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในปี 2025 โดยก่อนหน้านี้ได้มอบเงินทุน 2 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ ให้กับองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในไต้หวัน Google ยังได้ขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) ซึ่งเปิดตัวในปี 2024 เพื่อแบ่งปันสัญญาณและการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการหลอกลวงแบบเรียลไทม์ โดยมีพันธมิตร 20 รายที่ร่วมแบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ สุดท้าย Google เตรียมเปิดตัวเกม ShieldUp! ในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 ซึ่งเป็นเกมที่ช่วยให้ผู้เล่นเรียนรู้วิธีป้องกันการหลอกลวงผ่านการจำลองสถานการณ์แบบอินเทอร์แอคทีฟ ✅ ความร่วมมือกับพันธมิตรในภูมิภาค - Google ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัลของไต้หวันเพื่อแบ่งปันข้อมูลและพัฒนาเครื่องมือตรวจจับ - การลงทุนในแคมเปญการศึกษาเพื่อป้องกันการหลอกลวง ✅ การจัดสรรเงินทุน - Google.org จัดสรรเงินทุน 5 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการป้องกันการหลอกลวงในปี 2025 - เงินทุนก่อนหน้านี้รวมถึง 2 ล้านดอลลาร์ในสิงคโปร์ และ 1 ล้านดอลลาร์ในไต้หวัน ✅ การขยายแพลตฟอร์ม Global Signals Exchange (GSE) - แพลตฟอร์ม GSE มีพันธมิตร 20 รายที่แบ่งปันสัญญาณกว่า 180 ล้านรายการ - การขยายแพลตฟอร์มช่วยเพิ่มการแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ✅ การเปิดตัวเกม ShieldUp! - เกม ShieldUp! จะเปิดตัวในออสเตรเลีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และไทยในปี 2025 https://www.neowin.net/news/google-bolsters-its-anti-scam-efforts-across-asia-pacific/
    WWW.NEOWIN.NET
    Google bolsters its anti-scam efforts across Asia-Pacific
    In 2024, customers across Asia-Pacific lost 688 billion USD to scams. At Taiwan's Online Safety Dialogue, Google unveiled new partnerships, grants, and real-time tools to fight back.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 317 มุมมอง 0 รีวิว
  • Commvault ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญใน Command Center ซึ่งเป็นคอนโซลการจัดการแบบเว็บสำหรับการปกป้องข้อมูลและการสำรองข้อมูล ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CV-2025-34028 และสามารถถูกใช้โดยผู้โจมตีเพื่อรันโค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตบนระบบที่ติดตั้งบน Linux และ Windows โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน

    ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ Server-Side Request Forgery (SSRF) ซึ่งสามารถถูกยกระดับให้เป็นการรันโค้ดระยะไกล (RCE) โดยใช้ไฟล์ ZIP ที่มีโค้ด JSP ที่เป็นอันตราย การโจมตีนี้สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนการยืนยันตัวตน ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อระบบที่มีการจัดการข้อมูลสำคัญ

    Commvault ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้ในเวอร์ชัน 11.38.20 และแนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเดตระบบทันที หากไม่สามารถอัปเดตได้ ควรแยก Command Center ออกจากการเข้าถึงเครือข่ายภายนอก

    ✅ ช่องโหว่ใน Command Center
    - ช่องโหว่ SSRF สามารถถูกยกระดับให้เป็นการรันโค้ดระยะไกล (RCE)
    - การโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้ก่อนการยืนยันตัวตน

    ✅ ผลกระทบต่อระบบ
    - ระบบที่ใช้ Command Center อาจถูกโจมตีและนำไปสู่การสูญเสียข้อมูล
    - การโจมตีสามารถส่งผลต่อการสำรองข้อมูลและการกู้คืนระบบ

    ✅ การตอบสนองของ Commvault
    - ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 11.38.20 เพื่อแก้ไขช่องโหว่
    - แนะนำให้แยก Command Center ออกจากการเข้าถึงเครือข่ายภายนอก

    ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ
    - ผู้ใช้งานควรอัปเดตระบบทันทีและตรวจสอบว่าระบบถูกโจมตีหรือไม่
    - ควรตั้งค่าการจำกัดการเข้าถึงผ่านไฟร์วอลล์

    https://www.csoonline.com/article/3970946/critical-commvault-ssrf-could-allow-attackers-to-execute-code-remotely.html
    Commvault ได้ออกคำเตือนเกี่ยวกับช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่สำคัญใน Command Center ซึ่งเป็นคอนโซลการจัดการแบบเว็บสำหรับการปกป้องข้อมูลและการสำรองข้อมูล ช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CV-2025-34028 และสามารถถูกใช้โดยผู้โจมตีเพื่อรันโค้ดโดยไม่ได้รับอนุญาตบนระบบที่ติดตั้งบน Linux และ Windows โดยไม่ต้องมีการยืนยันตัวตน ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ Server-Side Request Forgery (SSRF) ซึ่งสามารถถูกยกระดับให้เป็นการรันโค้ดระยะไกล (RCE) โดยใช้ไฟล์ ZIP ที่มีโค้ด JSP ที่เป็นอันตราย การโจมตีนี้สามารถเกิดขึ้นได้ก่อนการยืนยันตัวตน ทำให้มีความเสี่ยงสูงต่อระบบที่มีการจัดการข้อมูลสำคัญ Commvault ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้ในเวอร์ชัน 11.38.20 และแนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเดตระบบทันที หากไม่สามารถอัปเดตได้ ควรแยก Command Center ออกจากการเข้าถึงเครือข่ายภายนอก ✅ ช่องโหว่ใน Command Center - ช่องโหว่ SSRF สามารถถูกยกระดับให้เป็นการรันโค้ดระยะไกล (RCE) - การโจมตีสามารถเกิดขึ้นได้ก่อนการยืนยันตัวตน ✅ ผลกระทบต่อระบบ - ระบบที่ใช้ Command Center อาจถูกโจมตีและนำไปสู่การสูญเสียข้อมูล - การโจมตีสามารถส่งผลต่อการสำรองข้อมูลและการกู้คืนระบบ ✅ การตอบสนองของ Commvault - ออกแพตช์ในเวอร์ชัน 11.38.20 เพื่อแก้ไขช่องโหว่ - แนะนำให้แยก Command Center ออกจากการเข้าถึงเครือข่ายภายนอก ✅ คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ - ผู้ใช้งานควรอัปเดตระบบทันทีและตรวจสอบว่าระบบถูกโจมตีหรือไม่ - ควรตั้งค่าการจำกัดการเข้าถึงผ่านไฟร์วอลล์ https://www.csoonline.com/article/3970946/critical-commvault-ssrf-could-allow-attackers-to-execute-code-remotely.html
    WWW.CSOONLINE.COM
    Commvault warns of critical Command Center flaw
    The flaw, tracked as CV-2025-34028, could allow remote attackers to execute arbitrary code without authentication on affected Linux as well as Windows installations.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 195 มุมมอง 0 รีวิว
  • พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตำรวจตกทะเล ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน เคารพร่างผู้ใต้บังคับบัญชา 5 ราย กำชับดูแลครอบครัวผู้สูญเสียจัดพิธีสมเกียรติ เผย นักบินระดับครูการบิน สดุดีผู้เสียชีวิต ลักษณะการเกิดเหตุเครื่องบินเอียงขวา หากตกฝั่งขวาจะเป็นบ้านเรือนประชาชน แต่เครื่องบินบังคับให้เอียงซ้าย มั่นใจว่านักบินพยายามนำเครื่องลงทะเล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่รุนแรง จึงทำให้เกิดการสูญเสีย เตรียมตั้งทีมสอบสวนหาสาเหตุ

    -สเปกเครื่องบินเอนกประสงค์
    -คุมโลหะหนักกระดาษอาหาร
    -ยังค้นหาแม้อากาศร้อนจัด
    -ลงทุน 7 พันล้าน ไม่คุ้มค่า
    พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่เกิดเหตุเครื่องบินเล็กตำรวจตกทะเล ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน เคารพร่างผู้ใต้บังคับบัญชา 5 ราย กำชับดูแลครอบครัวผู้สูญเสียจัดพิธีสมเกียรติ เผย นักบินระดับครูการบิน สดุดีผู้เสียชีวิต ลักษณะการเกิดเหตุเครื่องบินเอียงขวา หากตกฝั่งขวาจะเป็นบ้านเรือนประชาชน แต่เครื่องบินบังคับให้เอียงซ้าย มั่นใจว่านักบินพยายามนำเครื่องลงทะเล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุที่รุนแรง จึงทำให้เกิดการสูญเสีย เตรียมตั้งทีมสอบสวนหาสาเหตุ -สเปกเครื่องบินเอนกประสงค์ -คุมโลหะหนักกระดาษอาหาร -ยังค้นหาแม้อากาศร้อนจัด -ลงทุน 7 พันล้าน ไม่คุ้มค่า
    Like
    3
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 721 มุมมอง 47 0 รีวิว
  • ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยครับ

    เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม
    อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย
    วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน
    6 นาย คือ
    1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต
    2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต
    3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
    4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต
    5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต
    โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด
    ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้

    *********************************************
    สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
    ขอแสดงความเสียใจกับญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตด้วยครับ เครื่องบินตำรวจตก ขณะปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน ฝึกกระโดดร่ม อ.หัวหิน จว.ประจวบคีรีขันธ์ เสียชีวิตทั้ง 6 นาย วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลาประมาณ 08.00 น. พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า เกิดเหตุเครื่องบินของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกระหว่างการปฏิบัติภารกิจทดสอบการบิน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการฝึกกระโดดร่ม ณ พื้นที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในเครื่องบินจำนวน 6 นาย คือ 1. พ.ต.อ.ประธาน เขียวขำ นักบิน เสียชีวิต 2.พ.ต.ท.ปานเทพ มณิวชิรางกูร นักบิน เสียชีวิต 3.ร.ต.อ.จตุรงค์ วัฒนไพรสาณฑ์ นักบิน ได้รับบาดเจ็บ นำส่งรพ.หัวหิน เสียชีวิตที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา 4.ร.ต.ท.ธนวรรษ เมฆประเสริฐสุข วิศวกร เสียชีวิต 5.จ.ส.ต.ประวัติ พลหงษ์สา ช่างเครื่อง เสียชีวิต 6.ส.ต.ต.จิราวัฒน์ มากสาขา ช่างเครื่อง เสียชีวิต โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุ โดยจะมีการเก็บข้อมูลจากซากเครื่องบิน กล่องบันทึกการบิน (Black Box) และพยานแวดล้อมทางเทคนิค พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านอากาศยานเข้าตรวจสอบร่วมกันอย่างละเอียด ทั้งนี้ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ดูแลครอบครัวของผู้เสียชีวิตอย่างใกล้ชิด และจัดพิธีอย่างสมเกียรติ พร้อมกำชับให้เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริง เพื่อป้องกันเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำในอนาคต สำนักงานตำรวจแห่งชาติขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียสละจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ********************************************* สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอบคุณที่กรุณาเผยแพร่ข่าวสาร
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 363 มุมมอง 0 รีวิว
  • ASUS ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เสียหายได้ โดยช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2024-54085 และได้รับการจัดอันดับความรุนแรงสูงสุดที่ 10/10 ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ MegaRAC Baseboard Management Controller (BMC) ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล แม้ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ปิดอยู่

    นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Eclypsium ระบุว่าช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้ในการโจมตีด้วยมัลแวร์ แรนซัมแวร์ และการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น การทำให้เมนบอร์ดเสียหายหรือรีบูตเซิร์ฟเวอร์อย่างไม่สิ้นสุด

    ASUS ได้ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น และแนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง

    ✅ ช่องโหว่ใน MegaRAC BMC
    - ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ผู้โจมตีข้ามการยืนยันตัวตนผ่าน Redfish Host Interface
    - อาจนำไปสู่การสูญเสียความลับ ความสมบูรณ์ และความพร้อมใช้งานของระบบ

    ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
    - การควบคุมเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล
    - การติดตั้งมัลแวร์หรือแรนซัมแวร์
    - การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ด

    ✅ การตอบสนองของ ASUS
    - ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น ได้แก่ PRO WS W790E-SAGE SE, PRO WS W680M-ACE SE, PRO WS WRX90E-SAGE SE, และ Pro WS WRX80E-SAGE SE WIFI
    - แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที

    ✅ การตอบสนองของผู้ผลิตรายอื่น
    - HPE ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ MegaRAC BMC

    https://www.techradar.com/pro/security/asus-patches-security-flaw-which-could-have-bricked-servers
    ASUS ได้ออกแพตช์เพื่อแก้ไขช่องโหว่ด้านความปลอดภัยที่อาจทำให้เซิร์ฟเวอร์เสียหายได้ โดยช่องโหว่นี้ถูกติดตามในชื่อ CVE-2024-54085 และได้รับการจัดอันดับความรุนแรงสูงสุดที่ 10/10 ช่องโหว่นี้เกี่ยวข้องกับ MegaRAC Baseboard Management Controller (BMC) ซึ่งเป็นเฟิร์มแวร์ที่ช่วยให้ผู้ดูแลระบบสามารถจัดการเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล แม้ในขณะที่เซิร์ฟเวอร์ปิดอยู่ นักวิจัยด้านความปลอดภัยจาก Eclypsium ระบุว่าช่องโหว่นี้สามารถถูกใช้ในการโจมตีด้วยมัลแวร์ แรนซัมแวร์ และการปรับแต่งเฟิร์มแวร์ ซึ่งอาจนำไปสู่การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น การทำให้เมนบอร์ดเสียหายหรือรีบูตเซิร์ฟเวอร์อย่างไม่สิ้นสุด ASUS ได้ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น และแนะนำให้ผู้ใช้งานอัปเดตเฟิร์มแวร์ทันทีเพื่อป้องกันความเสี่ยง ✅ ช่องโหว่ใน MegaRAC BMC - ช่องโหว่นี้อนุญาตให้ผู้โจมตีข้ามการยืนยันตัวตนผ่าน Redfish Host Interface - อาจนำไปสู่การสูญเสียความลับ ความสมบูรณ์ และความพร้อมใช้งานของระบบ ✅ ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น - การควบคุมเซิร์ฟเวอร์จากระยะไกล - การติดตั้งมัลแวร์หรือแรนซัมแวร์ - การทำลายฮาร์ดแวร์ เช่น เมนบอร์ด ✅ การตอบสนองของ ASUS - ออกแพตช์สำหรับเมนบอร์ด 4 รุ่น ได้แก่ PRO WS W790E-SAGE SE, PRO WS W680M-ACE SE, PRO WS WRX90E-SAGE SE, และ Pro WS WRX80E-SAGE SE WIFI - แนะนำให้อัปเดตเฟิร์มแวร์ทันที ✅ การตอบสนองของผู้ผลิตรายอื่น - HPE ได้ออกอัปเดตความปลอดภัยสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ MegaRAC BMC https://www.techradar.com/pro/security/asus-patches-security-flaw-which-could-have-bricked-servers
    WWW.TECHRADAR.COM
    Asus patches security flaw which could have bricked servers
    Flaw spotted in MegaRAC Baseboard Management Controller
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 219 มุมมอง 0 รีวิว
  • Google ได้ประกาศเปลี่ยนแผนเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้ third-party cookies ในเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลอย่างมาก โดยเดิมที Google มีแผนที่จะยกเลิกการใช้ third-party cookies เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลังจากได้รับความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น UK's Competition and Markets Authority (CMA) Google ตัดสินใจที่จะคงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในรูปแบบเดิมไว้

    การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในโครงการ Privacy Sandbox เช่น Topics API และเครื่องมือวัดผลโฆษณา แต่พบว่ามีข้อจำกัดในด้านความสามารถในการประมวลผลแบบเรียลไทม์และความซับซ้อนทางเทคนิค นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาและความเป็นธรรมในตลาด

    https://www.techspot.com/news/107649-google-abandons-plans-phase-out-third-party-cookies.html
    Google ได้ประกาศเปลี่ยนแผนเกี่ยวกับการยกเลิกการใช้ third-party cookies ในเบราว์เซอร์ Chrome ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโฆษณาดิจิทัลอย่างมาก โดยเดิมที Google มีแผนที่จะยกเลิกการใช้ third-party cookies เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่หลังจากได้รับความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมและการตรวจสอบจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น UK's Competition and Markets Authority (CMA) Google ตัดสินใจที่จะคงการตั้งค่าความเป็นส่วนตัวในรูปแบบเดิมไว้ การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากที่ Google ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ในโครงการ Privacy Sandbox เช่น Topics API และเครื่องมือวัดผลโฆษณา แต่พบว่ามีข้อจำกัดในด้านความสามารถในการประมวลผลแบบเรียลไทม์และความซับซ้อนทางเทคนิค นอกจากนี้ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการสูญเสียรายได้ของผู้เผยแพร่โฆษณาและความเป็นธรรมในตลาด https://www.techspot.com/news/107649-google-abandons-plans-phase-out-third-party-cookies.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Google Chrome abandons plans to phase out third-party cookies
    The announcement, delivered by Anthony Chavez, VPt of Privacy Sandbox at Google, confirmed that Chrome users will continue to manage their third-party cookie preferences through existing privacy...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 257 มุมมอง 0 รีวิว
  • Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่เรียกว่า Direct-to-Chip Liquid Cooling เพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล AI โดยระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบระเหยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังมีข้อจำกัดด้านการออกแบบและค่าใช้จ่ายที่สูง

    ✅ ระบบระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip Liquid Cooling
    - ใช้แผ่นเย็น (cold plates) ที่ติดตั้งบน GPU, CPU และส่วนประกอบที่สร้างความร้อน
    - ระบบนี้เป็นแบบวงจรปิด (closed-loop) ซึ่งช่วยลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย

    ✅ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล AI
    - ระบบนี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องทำความเย็นแบบกลไก (mechanical chillers)
    - รองรับการใช้น้ำอุ่นในการระบายความร้อน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน

    ✅ การออกแบบที่รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่
    - ใช้ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (liquid-to-liquid heat exchangers)
    - รองรับการจัดการความร้อนสูงถึง 2 เมกะวัตต์

    ✅ ความร่วมมือกับ Schneider Electric
    - Nvidia ได้พัฒนาการออกแบบร่วมกับ Schneider Electric เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการติดตั้ง

    https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-aims-to-solve-ais-water-consumption-problems-with-direct-to-chip-cooling-claims-300x-improvement-with-closed-loop-systems
    Nvidia ได้เปิดตัวระบบระบายความร้อนแบบใหม่ที่เรียกว่า Direct-to-Chip Liquid Cooling เพื่อแก้ปัญหาการใช้พลังงานและน้ำในศูนย์ข้อมูล AI โดยระบบนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานได้ถึง 25 เท่า และลดการใช้น้ำได้ถึง 300 เท่า เมื่อเทียบกับระบบระบายความร้อนแบบระเหยทั่วไป อย่างไรก็ตาม ระบบนี้ยังมีข้อจำกัดด้านการออกแบบและค่าใช้จ่ายที่สูง ✅ ระบบระบายความร้อนแบบ Direct-to-Chip Liquid Cooling - ใช้แผ่นเย็น (cold plates) ที่ติดตั้งบน GPU, CPU และส่วนประกอบที่สร้างความร้อน - ระบบนี้เป็นแบบวงจรปิด (closed-loop) ซึ่งช่วยลดการสูญเสียน้ำจากการระเหย ✅ ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นในศูนย์ข้อมูล AI - ระบบนี้ช่วยลดความจำเป็นในการใช้เครื่องทำความเย็นแบบกลไก (mechanical chillers) - รองรับการใช้น้ำอุ่นในการระบายความร้อน ซึ่งช่วยประหยัดพลังงาน ✅ การออกแบบที่รองรับการใช้งานในศูนย์ข้อมูลขนาดใหญ่ - ใช้ตัวแลกเปลี่ยนความร้อนแบบของเหลวต่อของเหลว (liquid-to-liquid heat exchangers) - รองรับการจัดการความร้อนสูงถึง 2 เมกะวัตต์ ✅ ความร่วมมือกับ Schneider Electric - Nvidia ได้พัฒนาการออกแบบร่วมกับ Schneider Electric เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความสะดวกในการติดตั้ง https://www.tomshardware.com/tech-industry/artificial-intelligence/nvidia-aims-to-solve-ais-water-consumption-problems-with-direct-to-chip-cooling-claims-300x-improvement-with-closed-loop-systems
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 205 มุมมอง 0 รีวิว
  • บทความนี้เปรียบเทียบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสองรุ่นยอดนิยม ได้แก่ Tesla 4680 cylindrical cell และ BYD Blade prismatic cell โดยการวิเคราะห์ครอบคลุมถึงการออกแบบ วัสดุ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่น รวมถึงแนวทางในการพัฒนาแบตเตอรี่ในอนาคต

    ✅ Tesla 4680 ใช้เคมี NMC811 และมีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่า
    - ความหนาแน่นพลังงานแบบ gravimetric: 241.01 Wh/kg
    - ความหนาแน่นพลังงานแบบ volumetric: 643.3 Wh/l

    ✅ BYD Blade ใช้เคมี Lithium Iron Phosphate (LFP)
    - ความหนาแน่นพลังงานแบบ gravimetric: 160 Wh/kg
    - ความหนาแน่นพลังงานแบบ volumetric: 355 Wh/l

    ✅ การออกแบบและการผลิตที่แตกต่างกัน
    - Tesla ใช้การออกแบบแบบ cylindrical พร้อม tabless electrode configuration
    - BYD ใช้การออกแบบแบบ prismatic พร้อม dual welding (laser และ ultrasonic)

    ✅ ข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่น
    - Tesla มีความหนาแน่นพลังงานสูง แต่ผลิตความร้อนมากกว่า BYD ถึง 23 เท่า
    - BYD มี thermal profile ที่ดีกว่าและลดการสูญเสียพลังงาน

    ✅ การใช้งานที่เหมาะสม
    - Tesla เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการพลังงานสูง
    - BYD เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพในระยะยาว

    https://www.neowin.net/news/complete-teardown-shows-what-exactly-makes-byd-batteries-better-or-worse-than-tesla/
    บทความนี้เปรียบเทียบแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนสองรุ่นยอดนิยม ได้แก่ Tesla 4680 cylindrical cell และ BYD Blade prismatic cell โดยการวิเคราะห์ครอบคลุมถึงการออกแบบ วัสดุ และประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ ซึ่งช่วยให้เห็นถึงข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่น รวมถึงแนวทางในการพัฒนาแบตเตอรี่ในอนาคต ✅ Tesla 4680 ใช้เคมี NMC811 และมีความหนาแน่นพลังงานสูงกว่า - ความหนาแน่นพลังงานแบบ gravimetric: 241.01 Wh/kg - ความหนาแน่นพลังงานแบบ volumetric: 643.3 Wh/l ✅ BYD Blade ใช้เคมี Lithium Iron Phosphate (LFP) - ความหนาแน่นพลังงานแบบ gravimetric: 160 Wh/kg - ความหนาแน่นพลังงานแบบ volumetric: 355 Wh/l ✅ การออกแบบและการผลิตที่แตกต่างกัน - Tesla ใช้การออกแบบแบบ cylindrical พร้อม tabless electrode configuration - BYD ใช้การออกแบบแบบ prismatic พร้อม dual welding (laser และ ultrasonic) ✅ ข้อดีและข้อเสียของแต่ละรุ่น - Tesla มีความหนาแน่นพลังงานสูง แต่ผลิตความร้อนมากกว่า BYD ถึง 23 เท่า - BYD มี thermal profile ที่ดีกว่าและลดการสูญเสียพลังงาน ✅ การใช้งานที่เหมาะสม - Tesla เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการพลังงานสูง - BYD เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความเสถียรและประสิทธิภาพในระยะยาว https://www.neowin.net/news/complete-teardown-shows-what-exactly-makes-byd-batteries-better-or-worse-than-tesla/
    WWW.NEOWIN.NET
    Complete teardown shows what exactly makes BYD batteries better or worse than Tesla
    Recently, a thorough and complete teardown of Tesla and BYD batteries was performed, and it shows the strengths and weaknesses of each.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 256 มุมมอง 0 รีวิว
  • ปมร้อนข่าวลึก : แดนใต้ลุกเป็นไฟ ฆ่าเณร ยิงไทยพุทธ ย้ำรัฐไทยไร้น้ำยาสู้โจร
    .
    คนไทยต้องโศกสลดกับการสูญเสียจากความรุนแรงในเหตุการณ์ความไม่สงบพื้นที่ภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อโจรใต้สวมวิญญาณอำมหิตดักยิงพระภิกษุและสามเณร ซึ่งนั่งรถไปบิณฑบาต

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037937

    #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    ปมร้อนข่าวลึก : แดนใต้ลุกเป็นไฟ ฆ่าเณร ยิงไทยพุทธ ย้ำรัฐไทยไร้น้ำยาสู้โจร . คนไทยต้องโศกสลดกับการสูญเสียจากความรุนแรงในเหตุการณ์ความไม่สงบพื้นที่ภาคใต้อีกครั้งหนึ่ง เมื่อโจรใต้สวมวิญญาณอำมหิตดักยิงพระภิกษุและสามเณร ซึ่งนั่งรถไปบิณฑบาต อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9680000037937 #News1live #News1 #Sondhitalk #SondhiX #คุยทุกเรื่องกับสนธิ #Thaitimes
    Sad
    7
    2 ความคิดเห็น 1 การแบ่งปัน 532 มุมมอง 0 รีวิว
  • CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรสำคัญ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงสองคน ได้แก่ Bob Lord และ Lauren Zabierek ประกาศลาออกในวันเดียวกัน การลาออกเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่ CISA กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านทรัพยากรบุคคลและการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์

    ✅ Bob Lord และ Lauren Zabierek ประกาศลาออกในวันเดียวกัน
    - Bob Lord เคยดำรงตำแหน่ง Senior Technical Advisor และมีประสบการณ์ใน Yahoo และ Democratic National Committee
    - Lauren Zabierek เคยดำรงตำแหน่ง Senior Advisor และมีประสบการณ์ใน Recorded Future และ National Geospatial-Intelligence Agency

    ✅ CISA เผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรสำคัญ
    - การลาออกเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่เรียกว่า “brain drain”
    - มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลทรัมป์อาจลดจำนวนพนักงานของ CISA ลงถึง 1,300 คน

    ✅ CISA ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาความปลอดภัยไซเบอร์
    - Bridget Bean ผู้อำนวยการบริหารของ CISA ยืนยันว่าหน่วยงานยังคงมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ

    ✅ การพัฒนา Secure by Design
    - CISA เรียกร้องให้บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบ

    https://www.techradar.com/pro/security/cisa-loses-two-more-cyber-pros-in-resignations
    CISA (Cybersecurity and Infrastructure Security Agency) ของสหรัฐฯ กำลังเผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรสำคัญ โดยมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงสองคน ได้แก่ Bob Lord และ Lauren Zabierek ประกาศลาออกในวันเดียวกัน การลาออกเหล่านี้เกิดขึ้นในช่วงที่ CISA กำลังเผชิญกับความท้าทายด้านทรัพยากรบุคคลและการปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสามารถในการดำเนินงานด้านความปลอดภัยไซเบอร์ ✅ Bob Lord และ Lauren Zabierek ประกาศลาออกในวันเดียวกัน - Bob Lord เคยดำรงตำแหน่ง Senior Technical Advisor และมีประสบการณ์ใน Yahoo และ Democratic National Committee - Lauren Zabierek เคยดำรงตำแหน่ง Senior Advisor และมีประสบการณ์ใน Recorded Future และ National Geospatial-Intelligence Agency ✅ CISA เผชิญกับปัญหาการสูญเสียบุคลากรสำคัญ - การลาออกเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการที่เรียกว่า “brain drain” - มีการคาดการณ์ว่ารัฐบาลทรัมป์อาจลดจำนวนพนักงานของ CISA ลงถึง 1,300 คน ✅ CISA ยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาความปลอดภัยไซเบอร์ - Bridget Bean ผู้อำนวยการบริหารของ CISA ยืนยันว่าหน่วยงานยังคงมุ่งเน้นการทำงานร่วมกับภาคส่วนต่างๆ ✅ การพัฒนา Secure by Design - CISA เรียกร้องให้บริษัทพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยตั้งแต่การออกแบบ https://www.techradar.com/pro/security/cisa-loses-two-more-cyber-pros-in-resignations
    WWW.TECHRADAR.COM
    CISA loses two more cyber pros in resignations
    Is there a brain drain taking place at CISA?
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 167 มุมมอง 0 รีวิว
  • Scythe บริษัทผู้ผลิต CPU cooler กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงินในยุโรป โดยศาลเยอรมันได้แต่งตั้งผู้ดูแลชั่วคราวเพื่อจัดการทรัพย์สินและตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท Scythe EU GmbH ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการล้มละลายชั่วคราว การแข่งขันจากผู้ผลิตจีนที่เสนอสินค้าราคาถูกและการเพิ่มขึ้นของ CPU cooler แบบงบประมาณต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Scythe

    ✅ Scythe EU GmbH กำลังเผชิญกับกระบวนการล้มละลายชั่วคราว
    - ศาลเยอรมันได้แต่งตั้งผู้ดูแลชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2025
    - กระบวนการนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินและจัดการการดำเนินงานของบริษัท

    ✅ การแข่งขันจากผู้ผลิตจีนที่เสนอสินค้าราคาถูก
    - CPU cooler แบบงบประมาณต่ำจากจีนมีราคาถูกกว่าและได้รับความนิยมในตลาด
    - สินค้าจากจีนมักเลียนแบบการออกแบบและชื่อรุ่นของแบรนด์ชั้นนำ

    ✅ ผลกระทบต่อการจัดจำหน่าย CPU cooler ของ Scythe
    - สินค้าของ Scythe ขาดตลาดในยุโรปเนื่องจากปัญหาทางการเงิน

    ✅ Scythe เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในยุโรปผ่าน Scythe EU GmbH
    - บริษัทมีสำนักงานใน Oststeinbek ประเทศเยอรมนี

    https://www.tomshardware.com/pc-components/scythe-faces-uncertain-future-in-europe-as-insolvency-proceedings-begin
    Scythe บริษัทผู้ผลิต CPU cooler กำลังเผชิญกับความท้าทายทางการเงินในยุโรป โดยศาลเยอรมันได้แต่งตั้งผู้ดูแลชั่วคราวเพื่อจัดการทรัพย์สินและตรวจสอบการดำเนินงานของบริษัท Scythe EU GmbH ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการล้มละลายชั่วคราว การแข่งขันจากผู้ผลิตจีนที่เสนอสินค้าราคาถูกและการเพิ่มขึ้นของ CPU cooler แบบงบประมาณต่ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจของ Scythe ✅ Scythe EU GmbH กำลังเผชิญกับกระบวนการล้มละลายชั่วคราว - ศาลเยอรมันได้แต่งตั้งผู้ดูแลชั่วคราวเมื่อวันที่ 17 เมษายน 2025 - กระบวนการนี้มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการสูญเสียทรัพย์สินและจัดการการดำเนินงานของบริษัท ✅ การแข่งขันจากผู้ผลิตจีนที่เสนอสินค้าราคาถูก - CPU cooler แบบงบประมาณต่ำจากจีนมีราคาถูกกว่าและได้รับความนิยมในตลาด - สินค้าจากจีนมักเลียนแบบการออกแบบและชื่อรุ่นของแบรนด์ชั้นนำ ✅ ผลกระทบต่อการจัดจำหน่าย CPU cooler ของ Scythe - สินค้าของ Scythe ขาดตลาดในยุโรปเนื่องจากปัญหาทางการเงิน ✅ Scythe เป็นบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนินธุรกิจในยุโรปผ่าน Scythe EU GmbH - บริษัทมีสำนักงานใน Oststeinbek ประเทศเยอรมนี https://www.tomshardware.com/pc-components/scythe-faces-uncertain-future-in-europe-as-insolvency-proceedings-begin
    WWW.TOMSHARDWARE.COM
    Scythe faces uncertain future in Europe as insolvency proceedings begin
    The German court appointed a provisional insolvency administrator as financial pressures continue to mount.
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 199 มุมมอง 0 รีวิว
  • ทุกการพบคือ... การเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลานี้ ให้ดีที่สุด! คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้ จนไม่ได้เจอกันอีกเลย

    เมื่อวันพรุ่งนี้อาจไม่มีอีกแล้ว... รักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความโกรธพรากคนที่คุณรัก ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด เพราะทุกการพบคือการเตรียมจากลา

    จะพาทบทวนความสัมพันธ์ ความเปราะบางของชีวิต และเหตุผลที่เราควรใช้ช่วงเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะมีให้กับทุกคนอีกหรือไม่

    🌿 ชีวิตคือ “ของขวัญชั่วคราว” ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า วันหมดอายุคือเมื่อไหร่ เคยไหม... อยู่กับใครสักคนทุกวัน จนหลงลืมว่า เขาอาจไม่อยู่กับเราตลอดไป?

    เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” และ “การสูญเสีย” แม้จะรู้ดีว่าความตาย เป็นปลายทางของทุกชีวิต แต่หลายคนก็ยังใช้ชีวิตราวกับว่า มีเวลามากมายไม่รู้จบ ทั้งที่จริง... เราไม่มีใครรู้เลยว่า “วันนี้” อาจเป็น “วันสุดท้าย” ที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคน

    การเข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เรา “เห็นคุณค่า” ของแต่ละวินาทีที่ยังมีอยู่ ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะ “สายเกินไป”

    ความหมายของคำว่า “ทุกการพบคือการเตรียมจากลา” คำพูดที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเต็มไปด้วยความจริงที่ลึกซึ้ง

    เราเกิดมาเพื่อ “พบเจอ” และ “จากลา” เป็นวัฏจักรของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แม้เราจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงมัน แต่ความตายก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันเวลาที่มาถึง

    📌 “เราต่างพบกันชั่วคราว เพื่อจากกันตลอดกาลเท่านั้นเอง”

    ประโยคนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจหาย แต่มันคือ “ความจริง” ที่ควรเตือนใจเราทุกวัน ว่า... อย่าประมาทกับเวลา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการรัก การให้อภัย หรือการดูแลกัน และอย่าปล่อยให้ความโกรธ กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทิ้งไว้ให้กัน

    เพราะ “ความตาย” ไม่รอใคร... 🖤 บางคนเพิ่งกอดกันเมื่อวาน วันนี้อาจเหลือแค่ความว่างเปล่า...

    มนุษย์เรามีแนวโน้ม จะมองข้ามความเปราะบางของชีวิต เราใช้ชีวิตเหมือนมีพรุ่งนี้เสมอ ทั้งที่พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง สำหรับบางคน

    ลองคิดดูสิ... ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย คุณจะยังโกรธใครอยู่ไหม? ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไป คุณจะยังเลือกความเงียบมากกว่าการสื่อสารไหม? ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณจะเสียใจแค่ไหน ที่ไม่ได้บอกรักเขาอีกสักครั้ง?

    💡 “การตาย” อาจเกิดขึ้นทันที โดยไม่ให้เวลาเตรียมใจแม้แต่นาทีเดียว

    คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้... จนไม่ได้เจอกันอีกเลย โกรธ... คืออารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมี แต่การเก็บความโกรธไว้นาน ๆ โดยไม่หาทางปลดปล่อยมัน อาจกลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีวันรักษาได้

    🔥 คนเราทะเลาะกันได้ ผิดใจกันได้ แต่ควรรีบเคลียร์ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า “โอกาสหน้า” จะยังมีอยู่หรือเปล่า

    “ความโกรธไม่ใช่ปัญหา... แต่การไม่จัดการความโกรธต่างหาก ที่เป็นปัญหา” ทุกความโกรธ ทุกความเข้าใจผิด ควรถูกแก้ไขในวันที่ยังมีโอกาส ไม่ใช่ในวันงานศพ ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว

    ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด รักให้มากที่สุด เท่าที่เวลาจะมีให้ ⏳ เวลาคือทรัพยากรที่ใช้แล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ แทนที่จะมัวเสียเวลาไปกับความคาดหวัง การเปรียบเทียบ หรือความขุ่นเคืองใจ ลองหันกลับมาใช้ “เวลาที่เหลืออยู่” เพื่อทำสิ่งเหล่านี้...

    บอกรักให้บ่อยขึ้น กอดกันให้แน่นขึ้น ให้อภัยเร็วขึ้น ฟังกันมากขึ้น ใส่ใจกันมากกว่าก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว... ไม่มีใครเสียใจที่รักมากเกินไป แต่ทุกคนเสียใจที่ “ไม่ได้รักให้มากพอ”

    เมื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีอีกแล้ว... 🎗️ โลกนี้ไม่เคยเตรียมเราให้พร้อมกับการจากลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ทุกคนล้วนมีวันจากไป บางคนอาจจากกันด้วยเหตุผล บางคนจากกันด้วยความตาย และบางคนจากไป... โดยไม่มีแม้แต่คำลา

    และเมื่อวันนั้นมาถึง... ไม่มีเวลาแก้ตัว ไม่มีเวลาอธิบาย ไม่มีเวลาขอโทษ ไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่ จะดีกว่าไหม ถ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด... เหมือนมันคือวันสุดท้าย

    อย่าทำร้ายกันด้วยความเงียบ 💬 การไม่พูด การไม่อธิบาย การไม่บอกความรู้สึก คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ได้มากกว่าคำพูดรุนแรงเสียอีก

    ในช่วงเวลาที่มีจำกัด คำพูดง่าย ๆ อย่าง “ขอโทษ” “คิดถึง” หรือ “รักนะ” อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้ และอาจเป็นคำสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเรา

    ถ้าเป็นวันนี้... คุณยังอยากโกรธอยู่ไหม? ลองถามตัวเอง... ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา... เรายังอยากถือโทษใครอยู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่า... ความโกรธนั้น ไม่สำคัญพอจะเก็บมันไว้ตั้งแต่แรก

    ชีวิตสั้นเกินกว่าจะเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ 🌼 ทุกการพบคือการเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่า ใช้ใจในการรัก ใช้เวลาในการฟัง ใช้โอกาสในการให้อภัย ใช้คำพูดในการสร้างความเข้าใจ

    โลกใบนี้ไม่แน่นอน แต่การกระทำของเราวันนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลงความทรงจำของใครสักคนตลอดไป”

    ทุกลมหายใจ คือของขวัญ 🕊️ อย่ารอให้สายเกินไป ก่อนจะพูดว่า... "ฉันรักเธอ"

    เราควรให้อภัยคนที่ทำร้ายเรา? เพราะการให้อภัย คือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวเรา ที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างสงบ

    หากคุณยังรู้สึกผิด หรือยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แปลว่า... ยังไม่สายเกินไปที่จะพูดคำขอโท

    คำว่า “ชั่วคราว” มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป

    เราจะหยุดโกรธคนที่เรารัก หากนึกถึงช่วงเวลาที่ดี นึกถึงวันหนึ่งที่เขาอาจไม่อยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าความโกรธไม่คุ้มค่า

    ความรักจะช่วยเยียวยาความเสียใจได้ เพราะความรักคือการเข้าใจ ให้อภัย และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความเศร้า

    เริ่มใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจากวันนี้ ลองโทรหาคนที่คุณคิดถึง พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222155 เม.ย. 2568

    #ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด #อย่าปล่อยให้สายเกินไป #รักให้เต็มที่ #คำขอโทษสุดท้าย #ความตายคือปลายทาง #ความรักและการให้อภัย #ความทรงจำดีๆ #ชีวิตสั้นนัก #พบเพื่อจาก #เราต่างพบกันชั่วคราว
    ทุกการพบคือ... การเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลานี้ ให้ดีที่สุด! คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้ จนไม่ได้เจอกันอีกเลย เมื่อวันพรุ่งนี้อาจไม่มีอีกแล้ว... รักให้มากที่สุด ก่อนที่จะสายเกินไป อย่าปล่อยให้ความโกรธพรากคนที่คุณรัก ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด เพราะทุกการพบคือการเตรียมจากลา จะพาทบทวนความสัมพันธ์ ความเปราะบางของชีวิต และเหตุผลที่เราควรใช้ช่วงเวลาทุกวินาทีให้คุ้มค่า เพราะเราไม่มีวันรู้เลยว่า วันพรุ่งนี้จะมีให้กับทุกคนอีกหรือไม่ 🌿 ชีวิตคือ “ของขวัญชั่วคราว” ที่ไม่มีใครบอกได้ว่า วันหมดอายุคือเมื่อไหร่ เคยไหม... อยู่กับใครสักคนทุกวัน จนหลงลืมว่า เขาอาจไม่อยู่กับเราตลอดไป? เราอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วย “ความไม่แน่นอน” และ “การสูญเสีย” แม้จะรู้ดีว่าความตาย เป็นปลายทางของทุกชีวิต แต่หลายคนก็ยังใช้ชีวิตราวกับว่า มีเวลามากมายไม่รู้จบ ทั้งที่จริง... เราไม่มีใครรู้เลยว่า “วันนี้” อาจเป็น “วันสุดท้าย” ที่เราจะได้เห็นรอยยิ้มของใครบางคน การเข้าใจความไม่แน่นอนของชีวิต ไม่ได้ทำให้เราต้องใช้ชีวิตอย่างเศร้าสร้อย แต่กลับเป็นแรงผลักดันให้เรา “เห็นคุณค่า” ของแต่ละวินาทีที่ยังมีอยู่ ใช้โอกาสนี้ให้ดีที่สุดก่อนที่จะ “สายเกินไป” ความหมายของคำว่า “ทุกการพบคือการเตรียมจากลา” คำพูดที่ดูเรียบง่ายนี้ กลับเต็มไปด้วยความจริงที่ลึกซึ้ง เราเกิดมาเพื่อ “พบเจอ” และ “จากลา” เป็นวัฏจักรของชีวิต ที่ไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้ แม้เราจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงมัน แต่ความตายก็ยังอยู่ตรงนั้น รอวันเวลาที่มาถึง 📌 “เราต่างพบกันชั่วคราว เพื่อจากกันตลอดกาลเท่านั้นเอง” ประโยคนี้อาจทำให้ใครหลายคนรู้สึกใจหาย แต่มันคือ “ความจริง” ที่ควรเตือนใจเราทุกวัน ว่า... อย่าประมาทกับเวลา อย่าผัดวันประกันพรุ่งในการรัก การให้อภัย หรือการดูแลกัน และอย่าปล่อยให้ความโกรธ กลายเป็นสิ่งสุดท้ายที่เราทิ้งไว้ให้กัน เพราะ “ความตาย” ไม่รอใคร... 🖤 บางคนเพิ่งกอดกันเมื่อวาน วันนี้อาจเหลือแค่ความว่างเปล่า... มนุษย์เรามีแนวโน้ม จะมองข้ามความเปราะบางของชีวิต เราใช้ชีวิตเหมือนมีพรุ่งนี้เสมอ ทั้งที่พรุ่งนี้อาจไม่มีจริง สำหรับบางคน ลองคิดดูสิ... ถ้าคืนนี้เป็นคืนสุดท้าย คุณจะยังโกรธใครอยู่ไหม? ถ้าคนที่คุณรักกำลังจะจากไป คุณจะยังเลือกความเงียบมากกว่าการสื่อสารไหม? ถ้าพรุ่งนี้เขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นแล้ว คุณจะเสียใจแค่ไหน ที่ไม่ได้บอกรักเขาอีกสักครั้ง? 💡 “การตาย” อาจเกิดขึ้นทันที โดยไม่ให้เวลาเตรียมใจแม้แต่นาทีเดียว คุ้มค่าจริงหรือ? ที่จะเก็บความโกรธไว้... จนไม่ได้เจอกันอีกเลย โกรธ... คืออารมณ์ที่มนุษย์ทุกคนมี แต่การเก็บความโกรธไว้นาน ๆ โดยไม่หาทางปลดปล่อยมัน อาจกลายเป็นบาดแผลในความสัมพันธ์ ที่ไม่มีวันรักษาได้ 🔥 คนเราทะเลาะกันได้ ผิดใจกันได้ แต่ควรรีบเคลียร์ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า “โอกาสหน้า” จะยังมีอยู่หรือเปล่า “ความโกรธไม่ใช่ปัญหา... แต่การไม่จัดการความโกรธต่างหาก ที่เป็นปัญหา” ทุกความโกรธ ทุกความเข้าใจผิด ควรถูกแก้ไขในวันที่ยังมีโอกาส ไม่ใช่ในวันงานศพ ที่ไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด รักให้มากที่สุด เท่าที่เวลาจะมีให้ ⏳ เวลาคือทรัพยากรที่ใช้แล้ว ไม่สามารถเรียกคืนได้ แทนที่จะมัวเสียเวลาไปกับความคาดหวัง การเปรียบเทียบ หรือความขุ่นเคืองใจ ลองหันกลับมาใช้ “เวลาที่เหลืออยู่” เพื่อทำสิ่งเหล่านี้... บอกรักให้บ่อยขึ้น กอดกันให้แน่นขึ้น ให้อภัยเร็วขึ้น ฟังกันมากขึ้น ใส่ใจกันมากกว่าก่อน เพราะสุดท้ายแล้ว... ไม่มีใครเสียใจที่รักมากเกินไป แต่ทุกคนเสียใจที่ “ไม่ได้รักให้มากพอ” เมื่อวันพรุ่งนี้ไม่มีอีกแล้ว... 🎗️ โลกนี้ไม่เคยเตรียมเราให้พร้อมกับการจากลา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ คนรัก เพื่อนสนิท หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง ทุกคนล้วนมีวันจากไป บางคนอาจจากกันด้วยเหตุผล บางคนจากกันด้วยความตาย และบางคนจากไป... โดยไม่มีแม้แต่คำลา และเมื่อวันนั้นมาถึง... ไม่มีเวลาแก้ตัว ไม่มีเวลาอธิบาย ไม่มีเวลาขอโทษ ไม่มีเวลาเริ่มต้นใหม่ จะดีกว่าไหม ถ้าทำทุกวันให้ดีที่สุด... เหมือนมันคือวันสุดท้าย อย่าทำร้ายกันด้วยความเงียบ 💬 การไม่พูด การไม่อธิบาย การไม่บอกความรู้สึก คือสิ่งที่ทำร้ายจิตใจ ได้มากกว่าคำพูดรุนแรงเสียอีก ในช่วงเวลาที่มีจำกัด คำพูดง่าย ๆ อย่าง “ขอโทษ” “คิดถึง” หรือ “รักนะ” อาจเป็นสิ่งที่เปลี่ยนใจใครบางคนได้ และอาจเป็นคำสุดท้ายที่เขาได้ยินจากเรา ถ้าเป็นวันนี้... คุณยังอยากโกรธอยู่ไหม? ลองถามตัวเอง... ถ้าวันนี้เป็นวันสุดท้ายของเรา... เรายังอยากถือโทษใครอยู่ไหม? ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่า... ความโกรธนั้น ไม่สำคัญพอจะเก็บมันไว้ตั้งแต่แรก ชีวิตสั้นเกินกว่าจะเก็บความรู้สึกดี ๆ ไว้ 🌼 ทุกการพบคือการเตรียมจากลา ใช้ช่วงเวลาที่มีให้คุ้มค่า ใช้ใจในการรัก ใช้เวลาในการฟัง ใช้โอกาสในการให้อภัย ใช้คำพูดในการสร้างความเข้าใจ โลกใบนี้ไม่แน่นอน แต่การกระทำของเราวันนี้สามารถ “เปลี่ยนแปลงความทรงจำของใครสักคนตลอดไป” ทุกลมหายใจ คือของขวัญ 🕊️ อย่ารอให้สายเกินไป ก่อนจะพูดว่า... "ฉันรักเธอ" เราควรให้อภัยคนที่ทำร้ายเรา? เพราะการให้อภัย คือการปลดปล่อยตัวเอง ไม่ใช่เพื่อตัวเขา แต่เพื่อตัวเรา ที่จะได้ก้าวต่อไปอย่างสงบ หากคุณยังรู้สึกผิด หรือยังคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้น แปลว่า... ยังไม่สายเกินไปที่จะพูดคำขอโท คำว่า “ชั่วคราว” มีพลังมาก เพราะมันเตือนให้เรารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดยั่งยืน ทุกอย่างเกิดขึ้นแล้วก็ผ่านไป เราจะหยุดโกรธคนที่เรารัก หากนึกถึงช่วงเวลาที่ดี นึกถึงวันหนึ่งที่เขาอาจไม่อยู่ แล้วคุณจะรู้ว่าความโกรธไม่คุ้มค่า ความรักจะช่วยเยียวยาความเสียใจได้ เพราะความรักคือการเข้าใจ ให้อภัย และเป็นพลังงานที่อยู่เหนือความเศร้า เริ่มใช้ชีวิตให้คุ้มค่าจากวันนี้ ลองโทรหาคนที่คุณคิดถึง พูดในสิ่งที่อยากพูด ทำในสิ่งที่อยากทำ ก่อนจะไม่มีโอกาสอีก ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222155 เม.ย. 2568 #ใช้เวลานี้ให้ดีที่สุด #อย่าปล่อยให้สายเกินไป #รักให้เต็มที่ #คำขอโทษสุดท้าย #ความตายคือปลายทาง #ความรักและการให้อภัย #ความทรงจำดีๆ #ชีวิตสั้นนัก #พบเพื่อจาก #เราต่างพบกันชั่วคราว
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 515 มุมมอง 0 รีวิว
  • พระสันตะปาปาฟรังซิส สิ้นพระชนม์ด้วยพระชันษา 88 ปี

    “พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าขอแจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาฟรังซิส เมื่อเวลา 07.35 น. ของวันนี้ พระสังฆราชแห่งโรม ฟรังซิส เสด็จฯ กลับมายังบ้านของพระสันตะปาปา พระองค์ทรงอุทิศชีวิตทั้งชีวิตของพระองค์ในการรับใช้พระเจ้าและคริสตจักรของพระองค์ พระองค์ทรงสอนเราให้ดำเนินชีวิตตามค่านิยมของพระกิตติคุณด้วยความซื่อสัตย์ กล้าหาญ และความรักสากล (Universal Love) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ที่ถูกเลือกปฎิบัติมากที่สุด ด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับแบบอย่างของพระองค์ ในฐานะสาวกที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ เราขอฝากวิญญาณของพระสันตะปาปาฟรังซิสไว้กับความรักอันเมตตาอันไร้ขอบเขตของพระเจ้าองค์เดียวและตรีเอกภาพ”

    คำกล่าวของพระคาร์ดินัล เควิน ฟาร์เรลล์ ประกาศข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ด้วยพระชันษา 88 ปี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นับเป็นการสูญเสียพระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์และคนทั่วโลกเคารพนับถือ ด้วยพระกรณียกิจที่ทรงพระเมตตา โดยเฉพาะผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หนึ่งในนั้น ทรงประทานอนุญาตให้บาทหลวงสามารถทำพิธีให้พรแก่คู่รักเพศทางเลือก (LGBTQ+) ได้ เมื่อปี 2023 แม้คริตจักรยังคงห้ามการสมรสเพศทางเลือกต่อไป แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะยุติการกีดกันภายในคริตจักรคาทอลิก

    สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระนามเดิมคือ พระคาร์ดินัลฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 1936 (2479) ที่ประเทศอาร์เจนตินา ทรงมีพระอุปนิสัยเยือกเย็นสุขุม ใช้ชีวิตอย่างสมถะ เมื่อครั้งยังทรงเป็นพระอัครสังฆราช ที่พํานักของพระองค์ในกรุงบัวโนสไอเรส เป็นเพียงแฟลตที่ตบแต่งอย่างเรียบง่าย ทําอาหารรับประทานเองทุกวัน โดยไม่ต้องการแม่ครัว หรือแม่บ้านมารับใช้ตนเองตลอดชีวิตสงฆ์ อีกทั้งโดยสารรถไฟใต้ดิน และรถประจําทางเหมือนคนทั่วไป เมื่อเสด็จไปกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก็ยังทรงเลือกบินชั้นประหยัด และมักทรงเลือกสวมชุดบาทหลวงสีดําธรรมดา แทนที่จะเป็นชุดสีแดง ตามศักดิ์และสิทธิของพระคาร์ดินัล ชาวกรุงบัวโนสไอเรสโดยทั่วไปรู้จักพระองค์ในนาม คุณพ่อฮอร์เก ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2013 (2556)

    สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เคยเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยเมื่อวันที่ 20-23 พ.ย. 2019 (2562) ทรงหวังให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการเสวนาเพื่อศาสนสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจ การร่วมมือทำงานกันฉันพี่น้อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนยากจน ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และการทำงานเพื่อสันติภาพ

    #Newskit
    พระสันตะปาปาฟรังซิส สิ้นพระชนม์ด้วยพระชันษา 88 ปี “พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าขอแจ้งข่าวการสิ้นพระชนม์ของพระสันตะปาปาฟรังซิส เมื่อเวลา 07.35 น. ของวันนี้ พระสังฆราชแห่งโรม ฟรังซิส เสด็จฯ กลับมายังบ้านของพระสันตะปาปา พระองค์ทรงอุทิศชีวิตทั้งชีวิตของพระองค์ในการรับใช้พระเจ้าและคริสตจักรของพระองค์ พระองค์ทรงสอนเราให้ดำเนินชีวิตตามค่านิยมของพระกิตติคุณด้วยความซื่อสัตย์ กล้าหาญ และความรักสากล (Universal Love) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการช่วยเหลือผู้ยากไร้และผู้ที่ถูกเลือกปฎิบัติมากที่สุด ด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งสำหรับแบบอย่างของพระองค์ ในฐานะสาวกที่แท้จริงของพระเยซูคริสต์ เราขอฝากวิญญาณของพระสันตะปาปาฟรังซิสไว้กับความรักอันเมตตาอันไร้ขอบเขตของพระเจ้าองค์เดียวและตรีเอกภาพ” คำกล่าวของพระคาร์ดินัล เควิน ฟาร์เรลล์ ประกาศข่าวการสิ้นพระชนม์ของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส ด้วยพระชันษา 88 ปี เมื่อวันที่ 21 เม.ย. นับเป็นการสูญเสียพระประมุขพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ที่ผู้นับถือศาสนาคริสต์และคนทั่วโลกเคารพนับถือ ด้วยพระกรณียกิจที่ทรงพระเมตตา โดยเฉพาะผู้ยากไร้และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม หนึ่งในนั้น ทรงประทานอนุญาตให้บาทหลวงสามารถทำพิธีให้พรแก่คู่รักเพศทางเลือก (LGBTQ+) ได้ เมื่อปี 2023 แม้คริตจักรยังคงห้ามการสมรสเพศทางเลือกต่อไป แต่ได้รับการยกย่องว่าเป็นก้าวแห่งการเปลี่ยนแปลงที่จะยุติการกีดกันภายในคริตจักรคาทอลิก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระนามเดิมคือ พระคาร์ดินัลฮอร์เก มาริโอ แบร์โกลิโอ พระราชสมภพเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. 1936 (2479) ที่ประเทศอาร์เจนตินา ทรงมีพระอุปนิสัยเยือกเย็นสุขุม ใช้ชีวิตอย่างสมถะ เมื่อครั้งยังทรงเป็นพระอัครสังฆราช ที่พํานักของพระองค์ในกรุงบัวโนสไอเรส เป็นเพียงแฟลตที่ตบแต่งอย่างเรียบง่าย ทําอาหารรับประทานเองทุกวัน โดยไม่ต้องการแม่ครัว หรือแม่บ้านมารับใช้ตนเองตลอดชีวิตสงฆ์ อีกทั้งโดยสารรถไฟใต้ดิน และรถประจําทางเหมือนคนทั่วไป เมื่อเสด็จไปกรุงโรม ประเทศอิตาลี ก็ยังทรงเลือกบินชั้นประหยัด และมักทรงเลือกสวมชุดบาทหลวงสีดําธรรมดา แทนที่จะเป็นชุดสีแดง ตามศักดิ์และสิทธิของพระคาร์ดินัล ชาวกรุงบัวโนสไอเรสโดยทั่วไปรู้จักพระองค์ในนาม คุณพ่อฮอร์เก ได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปา เมื่อวันที่ 13 มี.ค. 2013 (2556) สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส เคยเสด็จเยือนราชอาณาจักรไทยเมื่อวันที่ 20-23 พ.ย. 2019 (2562) ทรงหวังให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงความสำคัญของการเสวนาเพื่อศาสนสัมพันธ์ด้วยความเข้าใจ การร่วมมือทำงานกันฉันพี่น้อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือคนยากจน ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ และการทำงานเพื่อสันติภาพ #Newskit
    Like
    2
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 457 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts