นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้
นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาล (cosmic filament) ที่ยาวกว่า 49 ล้านปีแสง และกำลังหมุนรอบแกนกลางของมันเอง ถือเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบว่ามีการหมุนในเอกภพ
การค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ MeerKAT ในแอฟริกาใต้ และการสำรวจท้องฟ้า Sloan Digital Sky Survey พบเส้นใยจักรวาลที่ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี เรียงตัวเป็นเส้นตรงยาว และมีการหมุนคล้าย “ทอร์นาโดจักรวาล”
หลักฐานการหมุน
นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบการเลื่อนสีของแสง (redshift และ blueshift) จากกาแล็กซีที่อยู่สองฝั่งของเส้นใย พบว่าฝั่งหนึ่งเคลื่อนเข้าหาเรา ส่วนอีกฝั่งเคลื่อนออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างทั้งหมดกำลังหมุนด้วยความเร็วราว 110 กิโลเมตรต่อวินาที
ความหมายต่อทฤษฎีจักรวาล
การค้นพบนี้สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory ที่เสนอว่าความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกสามารถถ่ายโอนโมเมนตัมเชิงมุมให้กับเส้นใยจักรวาล ทำให้มันหมุนได้ การหมุนนี้ยังอาจเป็นตัวกำหนดการหมุนของกาแล็กซีที่ก่อตัวอยู่ภายในเส้นใยด้วย
ผลต่อการศึกษาจักรวาล
เส้นใยจักรวาลหมุนได้ไม่เพียงช่วยอธิบายการกระจายตัวของกาแล็กซี แต่ยังชี้ให้เห็นว่า เอกภพเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เราคิด การศึกษานี้อาจช่วยไขปริศนาว่ากาแล็กซีได้รับการหมุนและเชื้อเพลิงในการก่อตัวดาวฤกษ์จากโครงสร้างขนาดใหญ่อย่างไร
สรุปเป็นหัวข้อ
ค้นพบเส้นใยจักรวาลยาว 49 ล้านปีแสง
เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่พบว่ามีการหมุน
ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี
เรียงตัวเป็นเส้นตรงคล้ายทอร์นาโดจักรวาล
หลักฐานจาก redshift และ blueshift
ยืนยันการหมุนด้วยความเร็ว ~110 กม./วินาที
สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory
ความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกทำให้เส้นใยหมุน
ผลต่อการศึกษากาแล็กซีและเอกภพ
ช่วยอธิบายการหมุนและการก่อตัวของกาแล็กซี
ยังไม่เข้าใจกลไกทั้งหมดของการหมุน
ต้องการการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีและผลกระทบต่อเอกภพ
https://www.sciencealert.com/tornado-of-galaxies-could-be-the-longest-spinning-structure-ever-seen
นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาล (cosmic filament) ที่ยาวกว่า 49 ล้านปีแสง และกำลังหมุนรอบแกนกลางของมันเอง ถือเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบว่ามีการหมุนในเอกภพ
การค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ MeerKAT ในแอฟริกาใต้ และการสำรวจท้องฟ้า Sloan Digital Sky Survey พบเส้นใยจักรวาลที่ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี เรียงตัวเป็นเส้นตรงยาว และมีการหมุนคล้าย “ทอร์นาโดจักรวาล”
หลักฐานการหมุน
นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบการเลื่อนสีของแสง (redshift และ blueshift) จากกาแล็กซีที่อยู่สองฝั่งของเส้นใย พบว่าฝั่งหนึ่งเคลื่อนเข้าหาเรา ส่วนอีกฝั่งเคลื่อนออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างทั้งหมดกำลังหมุนด้วยความเร็วราว 110 กิโลเมตรต่อวินาที
ความหมายต่อทฤษฎีจักรวาล
การค้นพบนี้สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory ที่เสนอว่าความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกสามารถถ่ายโอนโมเมนตัมเชิงมุมให้กับเส้นใยจักรวาล ทำให้มันหมุนได้ การหมุนนี้ยังอาจเป็นตัวกำหนดการหมุนของกาแล็กซีที่ก่อตัวอยู่ภายในเส้นใยด้วย
ผลต่อการศึกษาจักรวาล
เส้นใยจักรวาลหมุนได้ไม่เพียงช่วยอธิบายการกระจายตัวของกาแล็กซี แต่ยังชี้ให้เห็นว่า เอกภพเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เราคิด การศึกษานี้อาจช่วยไขปริศนาว่ากาแล็กซีได้รับการหมุนและเชื้อเพลิงในการก่อตัวดาวฤกษ์จากโครงสร้างขนาดใหญ่อย่างไร
สรุปเป็นหัวข้อ
ค้นพบเส้นใยจักรวาลยาว 49 ล้านปีแสง
เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่พบว่ามีการหมุน
ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี
เรียงตัวเป็นเส้นตรงคล้ายทอร์นาโดจักรวาล
หลักฐานจาก redshift และ blueshift
ยืนยันการหมุนด้วยความเร็ว ~110 กม./วินาที
สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory
ความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกทำให้เส้นใยหมุน
ผลต่อการศึกษากาแล็กซีและเอกภพ
ช่วยอธิบายการหมุนและการก่อตัวของกาแล็กซี
ยังไม่เข้าใจกลไกทั้งหมดของการหมุน
ต้องการการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีและผลกระทบต่อเอกภพ
https://www.sciencealert.com/tornado-of-galaxies-could-be-the-longest-spinning-structure-ever-seen
🌀 นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้
นักดาราศาสตร์ค้นพบเส้นใยจักรวาล (cosmic filament) ที่ยาวกว่า 49 ล้านปีแสง และกำลังหมุนรอบแกนกลางของมันเอง ถือเป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่เคยพบว่ามีการหมุนในเอกภพ
🌌 การค้นพบเส้นใยจักรวาลหมุนได้
ทีมนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดและเคมบริดจ์ใช้ข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์วิทยุ MeerKAT ในแอฟริกาใต้ และการสำรวจท้องฟ้า Sloan Digital Sky Survey พบเส้นใยจักรวาลที่ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี เรียงตัวเป็นเส้นตรงยาว และมีการหมุนคล้าย “ทอร์นาโดจักรวาล”
🔬 หลักฐานการหมุน
นักวิทยาศาสตร์ตรวจสอบการเลื่อนสีของแสง (redshift และ blueshift) จากกาแล็กซีที่อยู่สองฝั่งของเส้นใย พบว่าฝั่งหนึ่งเคลื่อนเข้าหาเรา ส่วนอีกฝั่งเคลื่อนออกไป ซึ่งเป็นสัญญาณชัดเจนว่าโครงสร้างทั้งหมดกำลังหมุนด้วยความเร็วราว 110 กิโลเมตรต่อวินาที
🧩 ความหมายต่อทฤษฎีจักรวาล
การค้นพบนี้สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory ที่เสนอว่าความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกสามารถถ่ายโอนโมเมนตัมเชิงมุมให้กับเส้นใยจักรวาล ทำให้มันหมุนได้ การหมุนนี้ยังอาจเป็นตัวกำหนดการหมุนของกาแล็กซีที่ก่อตัวอยู่ภายในเส้นใยด้วย
🚀 ผลต่อการศึกษาจักรวาล
เส้นใยจักรวาลหมุนได้ไม่เพียงช่วยอธิบายการกระจายตัวของกาแล็กซี แต่ยังชี้ให้เห็นว่า เอกภพเชื่อมโยงกันมากกว่าที่เราคิด การศึกษานี้อาจช่วยไขปริศนาว่ากาแล็กซีได้รับการหมุนและเชื้อเพลิงในการก่อตัวดาวฤกษ์จากโครงสร้างขนาดใหญ่อย่างไร
📌 สรุปเป็นหัวข้อ
✅ ค้นพบเส้นใยจักรวาลยาว 49 ล้านปีแสง
➡️ เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ที่สุดที่พบว่ามีการหมุน
✅ ประกอบด้วยกว่า 283 กาแล็กซี
➡️ เรียงตัวเป็นเส้นตรงคล้ายทอร์นาโดจักรวาล
✅ หลักฐานจาก redshift และ blueshift
➡️ ยืนยันการหมุนด้วยความเร็ว ~110 กม./วินาที
✅ สอดคล้องกับ Tidal Torque Theory
➡️ ความไม่สมมาตรของแรงโน้มถ่วงในเอกภพยุคแรกทำให้เส้นใยหมุน
✅ ผลต่อการศึกษากาแล็กซีและเอกภพ
➡️ ช่วยอธิบายการหมุนและการก่อตัวของกาแล็กซี
‼️ ยังไม่เข้าใจกลไกทั้งหมดของการหมุน
⛔ ต้องการการสำรวจเพิ่มเติมเพื่อยืนยันทฤษฎีและผลกระทบต่อเอกภพ
https://www.sciencealert.com/tornado-of-galaxies-could-be-the-longest-spinning-structure-ever-seen
0 Comments
0 Shares
66 Views
0 Reviews