• 📌 ความรักในทางพุทธ : มีจริงแค่ไหน?

    (วิเคราะห์จากหลักพุทธศาสนา และจิตวิทยาความรัก)


    ---

    🔍 1️⃣ รักแท้จริงๆ มีอยู่หรือไม่ในทางพุทธ?

    ในพระพุทธศาสนา "รัก" เป็นสังขารขันธ์

    คือ "สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป"

    ไม่มีอะไรคงที่ ไม่ว่าเราจะอยากให้มันนิรันดร์แค่ไหน

    ความรักเกิดขึ้น-เปลี่ยนแปลง-ดับไป ตามเหตุปัจจัยเสมอ


    🌿 "รักนิรันดร์" ในแบบที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่มีจริง
    แต่ "รักที่ดี" คือ รักที่ปรับตัวได้ตามเหตุปัจจัย

    📌 ความรักจึงขึ้นกับสิ่งเหล่านี้
    ✅ การมองเห็นคุณค่าของกันและกัน
    ✅ การช่วยเหลือ สนับสนุนกัน
    ✅ ความเข้าใจและการให้อภัย
    ✅ การมีจิตใจเกื้อกูล ไม่ใช่แค่ยึดครอง


    ---

    🔍 2️⃣ เหตุใดรักจึงขึ้นลง ไม่คงที่?

    พุทธศาสนาสอนว่า ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงได้เสมอ
    แม้แต่จิตใจคน

    📌 เหตุที่ทำให้รักเปลี่ยนไป
    ❌ ภาวะทางอารมณ์ → วันหนึ่งรู้สึกดี อีกวันหงุดหงิด
    ❌ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป → คนรักอาจเปลี่ยนแปลง
    ❌ สภาพแวดล้อมและปัจจัยภายนอก → เช่น ปัญหาเงินทอง ครอบครัว
    ❌ การสะสมบุญกรรมร่วมกัน → คนที่รักกันแต่มีวิบากแตกต่างกัน อาจค่อยๆ ห่างกันไป

    💡 สรุป : ความรักเป็นสิ่งที่ "พัฒนาได้" หรือ "เสื่อมถอยได้"
    ขึ้นอยู่กับ เหตุปัจจัยที่ก่อร่างสร้างขึ้นในแต่ละวัน


    ---

    🔍 3️⃣ ทำไมคนบางคน "พิสูจน์รัก" จนเสียรักไป?

    📌 พฤติกรรมที่ทำลายความรักโดยไม่รู้ตัว
    ❌ "ถ้ารักฉัน ต้องรับได้ทุกอย่าง" → นี่ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความคาดหวัง
    ❌ "รักแท้ต้องทดสอบ" → การลองใจซ้ำๆ คือการผลักอีกฝ่ายออกไป
    ❌ "ต้องให้ฉันก่อน แล้วฉันถึงจะรัก" → นี่คือเงื่อนไข ไม่ใช่รักแท้

    💡 ความรักไม่ใช่สนามสอบ

    คนที่ต้องเจอการลองใจบ่อยๆ มักหมดแรงและเลือกเดินจากไป

    การรักใครอย่างแท้จริง คือการเป็นผู้ให้ โดยไม่ต้องพิสูจน์อะไร



    ---

    🔍 4️⃣ รักที่มั่นคงเป็นอย่างไร?

    🌿 รักที่มั่นคงในพุทธศาสนา ไม่ใช่รักที่ไม่เปลี่ยนแปลง
    แต่คือ รักที่ไม่ขึ้นลงตามอารมณ์ชั่ววูบ

    📌 รักแบบที่มีสติและปัญญา คือ
    ✅ เข้าใจว่า "ความรักต้องอาศัยเหตุปัจจัย"
    ✅ มีเมตตาต่อกัน ไม่ใช่แค่ต้องการครอบครอง
    ✅ ปรับตัวให้กันและกันได้
    ✅ มีความมั่นคงภายใน ไม่ต้องพึ่งพิงจนหมดตัวตน

    🌿 "รักที่ดี" ไม่ใช่รักที่ทนได้ทุกอย่าง
    แต่คือ รักที่ให้โอกาสกัน แต่อยู่บนพื้นฐานของศีลและความเคารพกัน


    ---

    🔍 5️⃣ จะรู้ได้อย่างไรว่าความรักที่เรามีเป็นรักแท้หรือไม่?

    💡 ไม่ต้องหาทางพิสูจน์หรือทดสอบ
    💡 ใช้เวลาและชีวิตเป็นเครื่องวัด

    📌 วิธีเช็คความรักของคุณ
    ✅ คุณมีความสุขในการให้ โดยไม่ต้องรอรับหรือไม่?
    ✅ คุณสามารถเข้าใจและให้อภัยได้โดยไม่ฝืนใจหรือไม่?
    ✅ เวลาผ่านไป คุณยังอยากทำดีให้กันอยู่หรือไม่?
    ✅ คุณเห็นเขาเป็น "เพื่อนชีวิต" ที่ก้าวไปด้วยกัน หรือแค่ "คนที่ต้องทำให้คุณมีความสุข"?

    🌿 "ความรักที่แท้จริง" คือการเดินทางไปด้วยกัน ไม่ใช่การคุมสอบกันไปตลอดทาง


    ---

    ✅ สรุป : ความรักที่ยั่งยืนในแบบพุทธ คืออะไร?

    📌 1. ยอมรับว่า "รักนิรันดร์แบบไม่เปลี่ยนแปลง" ไม่มีจริง
    📌 2. ความรักขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย และสามารถพัฒนาได้
    📌 3. อย่าทดลองความรัก เพราะมันคือการผลักอีกฝ่ายออกไป
    📌 4. รักที่ดีต้องมี "เมตตา ศีล และปัญญา"
    📌 5. ใช้เวลาและชีวิตเป็นเครื่องวัด อย่ารีบตัดสินแค่จากอารมณ์ชั่วคราว

    🌿 รักที่แท้ คือรักที่มีสติ เข้าใจ และเติบโตไปด้วยกัน
    ไม่ใช่แค่รักที่หวังให้เหมือนเดิมตลอดไป! 💙

    📌 ความรักในทางพุทธ : มีจริงแค่ไหน? (วิเคราะห์จากหลักพุทธศาสนา และจิตวิทยาความรัก) --- 🔍 1️⃣ รักแท้จริงๆ มีอยู่หรือไม่ในทางพุทธ? ในพระพุทธศาสนา "รัก" เป็นสังขารขันธ์ คือ "สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วก็ดับไป" ไม่มีอะไรคงที่ ไม่ว่าเราจะอยากให้มันนิรันดร์แค่ไหน ความรักเกิดขึ้น-เปลี่ยนแปลง-ดับไป ตามเหตุปัจจัยเสมอ 🌿 "รักนิรันดร์" ในแบบที่ไม่เปลี่ยนแปลงไม่มีจริง แต่ "รักที่ดี" คือ รักที่ปรับตัวได้ตามเหตุปัจจัย 📌 ความรักจึงขึ้นกับสิ่งเหล่านี้ ✅ การมองเห็นคุณค่าของกันและกัน ✅ การช่วยเหลือ สนับสนุนกัน ✅ ความเข้าใจและการให้อภัย ✅ การมีจิตใจเกื้อกูล ไม่ใช่แค่ยึดครอง --- 🔍 2️⃣ เหตุใดรักจึงขึ้นลง ไม่คงที่? พุทธศาสนาสอนว่า ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงได้เสมอ แม้แต่จิตใจคน 📌 เหตุที่ทำให้รักเปลี่ยนไป ❌ ภาวะทางอารมณ์ → วันหนึ่งรู้สึกดี อีกวันหงุดหงิด ❌ พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป → คนรักอาจเปลี่ยนแปลง ❌ สภาพแวดล้อมและปัจจัยภายนอก → เช่น ปัญหาเงินทอง ครอบครัว ❌ การสะสมบุญกรรมร่วมกัน → คนที่รักกันแต่มีวิบากแตกต่างกัน อาจค่อยๆ ห่างกันไป 💡 สรุป : ความรักเป็นสิ่งที่ "พัฒนาได้" หรือ "เสื่อมถอยได้" ขึ้นอยู่กับ เหตุปัจจัยที่ก่อร่างสร้างขึ้นในแต่ละวัน --- 🔍 3️⃣ ทำไมคนบางคน "พิสูจน์รัก" จนเสียรักไป? 📌 พฤติกรรมที่ทำลายความรักโดยไม่รู้ตัว ❌ "ถ้ารักฉัน ต้องรับได้ทุกอย่าง" → นี่ไม่ใช่ความรัก แต่เป็นความคาดหวัง ❌ "รักแท้ต้องทดสอบ" → การลองใจซ้ำๆ คือการผลักอีกฝ่ายออกไป ❌ "ต้องให้ฉันก่อน แล้วฉันถึงจะรัก" → นี่คือเงื่อนไข ไม่ใช่รักแท้ 💡 ความรักไม่ใช่สนามสอบ คนที่ต้องเจอการลองใจบ่อยๆ มักหมดแรงและเลือกเดินจากไป การรักใครอย่างแท้จริง คือการเป็นผู้ให้ โดยไม่ต้องพิสูจน์อะไร --- 🔍 4️⃣ รักที่มั่นคงเป็นอย่างไร? 🌿 รักที่มั่นคงในพุทธศาสนา ไม่ใช่รักที่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่คือ รักที่ไม่ขึ้นลงตามอารมณ์ชั่ววูบ 📌 รักแบบที่มีสติและปัญญา คือ ✅ เข้าใจว่า "ความรักต้องอาศัยเหตุปัจจัย" ✅ มีเมตตาต่อกัน ไม่ใช่แค่ต้องการครอบครอง ✅ ปรับตัวให้กันและกันได้ ✅ มีความมั่นคงภายใน ไม่ต้องพึ่งพิงจนหมดตัวตน 🌿 "รักที่ดี" ไม่ใช่รักที่ทนได้ทุกอย่าง แต่คือ รักที่ให้โอกาสกัน แต่อยู่บนพื้นฐานของศีลและความเคารพกัน --- 🔍 5️⃣ จะรู้ได้อย่างไรว่าความรักที่เรามีเป็นรักแท้หรือไม่? 💡 ไม่ต้องหาทางพิสูจน์หรือทดสอบ 💡 ใช้เวลาและชีวิตเป็นเครื่องวัด 📌 วิธีเช็คความรักของคุณ ✅ คุณมีความสุขในการให้ โดยไม่ต้องรอรับหรือไม่? ✅ คุณสามารถเข้าใจและให้อภัยได้โดยไม่ฝืนใจหรือไม่? ✅ เวลาผ่านไป คุณยังอยากทำดีให้กันอยู่หรือไม่? ✅ คุณเห็นเขาเป็น "เพื่อนชีวิต" ที่ก้าวไปด้วยกัน หรือแค่ "คนที่ต้องทำให้คุณมีความสุข"? 🌿 "ความรักที่แท้จริง" คือการเดินทางไปด้วยกัน ไม่ใช่การคุมสอบกันไปตลอดทาง --- ✅ สรุป : ความรักที่ยั่งยืนในแบบพุทธ คืออะไร? 📌 1. ยอมรับว่า "รักนิรันดร์แบบไม่เปลี่ยนแปลง" ไม่มีจริง 📌 2. ความรักขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัย และสามารถพัฒนาได้ 📌 3. อย่าทดลองความรัก เพราะมันคือการผลักอีกฝ่ายออกไป 📌 4. รักที่ดีต้องมี "เมตตา ศีล และปัญญา" 📌 5. ใช้เวลาและชีวิตเป็นเครื่องวัด อย่ารีบตัดสินแค่จากอารมณ์ชั่วคราว 🌿 รักที่แท้ คือรักที่มีสติ เข้าใจ และเติบโตไปด้วยกัน ไม่ใช่แค่รักที่หวังให้เหมือนเดิมตลอดไป! 💙
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 258 มุมมอง 0 รีวิว
  • Richard Sutton และ Andrew Barto, สองผู้บุกเบิกแนวคิดการเรียนรู้แบบเสริมแรง (Reinforcement Learning - RL) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ของ AI ได้แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการที่บริษัทเทคโนโลยีอย่าง OpenAI และ Google นำ AI ออกสู่ตลาดโดยขาดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม พวกเขาเปรียบเทียบว่าเหมือนการสร้างสะพานที่ยังไม่ได้ทดสอบความแข็งแรงแต่กลับเปิดใช้งานให้สาธารณชนใช้งาน

    Reinforcement Learning (RL) เป็นหนึ่งในแนวทางหลักของการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ที่พัฒนาในช่วงทศวรรษ 1980 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิทยาพฤติกรรมนิยม RL สอนให้ AI ตัดสินใจผ่านการลองผิดลองถูกเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับวิธีที่มนุษย์เรียนรู้ RL เป็นรากฐานสำคัญที่บริษัทอย่าง OpenAI และ Google ใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ของตน

    Sutton และ Barto ตั้งคำถามถึงการออกแบบ AI ในปัจจุบัน โดยพวกเขามองว่าโมเดล AI เช่น ChatGPT ถูกมองเป็นเพียง "เครื่องมือทำเงิน" และไม่สามารถนำไปสู่การสร้าง "ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป" (AGI) ได้จริง ทั้งยังชี้ว่าบริษัท AI ปัจจุบันขาดแนวคิดในการลดผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดจากเทคโนโลยี เช่น การหลงเชื่อข้อมูลที่ผิดพลาดหรือการที่ AI แสดงข้อมูลที่ไม่ถูกต้องด้วยความมั่นใจเกินจริง

    Barto กล่าวเพิ่มเติมว่า "วิศวกรรมที่ดีควรให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบเชิงลบของเทคโนโลยี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำ"

    Sutton ได้กล่าวว่าแนวคิดของ AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถระดับมนุษย์ ถูกใช้อย่างเกินจริงเพื่อดึงดูดความสนใจทางการตลาด ในขณะที่ Barto ชี้ว่าบริษัทควรเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์ให้ดีกว่านี้ ก่อนที่จะสร้างระบบ AI ที่อ้างว่ามีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์

    https://www.techspot.com/news/107052-reinforcement-learning-pioneers-harshly-criticize-unsafe-state-ai.html
    Richard Sutton และ Andrew Barto, สองผู้บุกเบิกแนวคิดการเรียนรู้แบบเสริมแรง (Reinforcement Learning - RL) ซึ่งเป็นหนึ่งในกระบวนการเรียนรู้ของ AI ได้แสดงความไม่พอใจเกี่ยวกับการที่บริษัทเทคโนโลยีอย่าง OpenAI และ Google นำ AI ออกสู่ตลาดโดยขาดมาตรการป้องกันที่เหมาะสม พวกเขาเปรียบเทียบว่าเหมือนการสร้างสะพานที่ยังไม่ได้ทดสอบความแข็งแรงแต่กลับเปิดใช้งานให้สาธารณชนใช้งาน Reinforcement Learning (RL) เป็นหนึ่งในแนวทางหลักของการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) ที่พัฒนาในช่วงทศวรรษ 1980 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากจิตวิทยาพฤติกรรมนิยม RL สอนให้ AI ตัดสินใจผ่านการลองผิดลองถูกเพื่อให้บรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่นเดียวกับวิธีที่มนุษย์เรียนรู้ RL เป็นรากฐานสำคัญที่บริษัทอย่าง OpenAI และ Google ใช้ในการพัฒนาแพลตฟอร์ม AI ของตน Sutton และ Barto ตั้งคำถามถึงการออกแบบ AI ในปัจจุบัน โดยพวกเขามองว่าโมเดล AI เช่น ChatGPT ถูกมองเป็นเพียง "เครื่องมือทำเงิน" และไม่สามารถนำไปสู่การสร้าง "ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป" (AGI) ได้จริง ทั้งยังชี้ว่าบริษัท AI ปัจจุบันขาดแนวคิดในการลดผลกระทบเชิงลบที่อาจเกิดจากเทคโนโลยี เช่น การหลงเชื่อข้อมูลที่ผิดพลาดหรือการที่ AI แสดงข้อมูลที่ไม่ถูกต้องด้วยความมั่นใจเกินจริง Barto กล่าวเพิ่มเติมว่า "วิศวกรรมที่ดีควรให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบเชิงลบของเทคโนโลยี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่บริษัทเหล่านี้ทำ" Sutton ได้กล่าวว่าแนวคิดของ AGI (Artificial General Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีความสามารถระดับมนุษย์ ถูกใช้อย่างเกินจริงเพื่อดึงดูดความสนใจทางการตลาด ในขณะที่ Barto ชี้ว่าบริษัทควรเข้าใจเกี่ยวกับการทำงานของสมองมนุษย์ให้ดีกว่านี้ ก่อนที่จะสร้างระบบ AI ที่อ้างว่ามีความฉลาดเทียบเท่ามนุษย์ https://www.techspot.com/news/107052-reinforcement-learning-pioneers-harshly-criticize-unsafe-state-ai.html
    WWW.TECHSPOT.COM
    Reinforcement learning pioneers harshly criticize the "unsafe" state of AI development
    Richard Sutton and Andrew Barto won this year's Turing Award, considered the Nobel Prize for computing, for their significant contributions to machine learning development. The two researchers...
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 303 มุมมอง 0 รีวิว
  • 27/2/68

    ประวัติอ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์

    https://youtu.be/ptET6EOeFwo?si=F24iH5N_QJ1sO4-O

    ประวัติ

    เกิด 12 สิงหาคม พ.ศ. 2513 (54ปี) กรุงเทพมหานคร ถิ่นพำนัก กรุงเทพมหานคร สัญชาติไทย

    ประวัติการศึกษา

    โรงเรียนอัสสัมชัญ รุ่น 103
    พ.ศ. 2536 : ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
    พ.ศ. 2539 : ปริญญาโท บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา
    อาชีพ
    นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ ผู้จัดรายการ

    ปีปฏิบัติงาน

    พ.ศ. 2519 - 2550 : เป็นที่รู้จักจากแกนนำกลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2
    โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

    พ.ศ. 2549 : การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551
    ศาสนา : ศาสนาพุทธ

    บิดามารดา
    นายเจริญ และ นางสุจิตรา พัวพงษ์พันธ์

    ญาติ
    พรรคความหวังใหม่
    โฆษกและแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2
    สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และ เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต[1][2]อดีตผู้จัดรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" และคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เกิดวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ นายเจริญ และนางสุจิตรา พัวพงษ์พันธ์ บิดาเป็นคนไทยเชื้อสายจีนไหหลำ และมารดาเป็นคนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว นามสกุล "พัวพงษ์พันธ์" ตั้งให้สอดคล้องกับแซ่ "พัว" ของตระกูลนั่นเอง

    ประวัติชีวิต

    นายปานเทพเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขา การเงินการจัดการ จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นสมาชิกเครือข่ายสันติอโศกโดยมีถูกวางบทบาทในด้านสุขภาพ การเมือง และอื่นๆ

    เมื่อกลับมาเมืองไทยได้เข้าทำงานกับองค์กรภาคเอกชน โดยเข้าไปเป็นผู้บริหารดูด้านการเงิน และการก่อสร้างอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่ประเทศไทยจะประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2540

    ประวัติทางการเมือง

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้าสู่วงการเมือง โดยมีผู้แนะนำให้รู้จักกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในปี พ.ศ. 2541 โดยเข้าไปช่วยงานในพรรคความหวังใหม่ ขณะที่มีอายุ 28 ปี กระทั่งได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคความหวังใหม่[3] และมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นรองโฆษกพรรคความหวังใหม่ ในปี พ.ศ. 2544 ก่อนที่จะไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การฟอกหนัง ด้วยวัย 31 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย

    เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้ยุบพรรคความหวังใหม่ รวมกับพรรคไทยรักไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เป็นทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจในช่วง รัฐบาลทักษิณ 1 โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจภาคใต้ ก่อนที่จะถอนตัวในเวลาต่อมาด้วยความเห็นที่ไม่ตรงกัน และหลังจากนั้นยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลทักษิณมาโดยตลอด โดยชื่อของ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โด่งดังอีกครั้ง เมื่อออกหนังสือชื่อ "บันทึกลับ ๒๕๔o" โดยมีเนื้อหาชี้แจงถึงปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ถูกโจมตีว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดวิกฤต

    ปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลมาโดยตลอด เช่น การเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐชื่อ "วิสัยทัศน์เศรษฐกิจ" รวมไปถึงเคยจัดรายการโทรทัศน์ทาง UBC ช่อง 7 ร่วมกับดุสิต ศิริวรรณ ด้วยอยู่ช่วงหนึ่ง ในชื่อรายการ "โต๊ะข่าวเช้านี้"

    ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปานเทพ ได้เข้าไปทำงานในเครือผู้จัดการ ของสนธิ ลิ้มทองกุล และได้ทำรายการในเอเอสทีวี (ASTV) คือรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ในช่วงเวลา 20:30น.- 21:30น. ทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ และเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการอีกด้วย ซึ่งยังทำมาจนถึงปัจจุบัน

    ในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2549 ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำหน้าที่เป็นโฆษกบนเวที และในการขับไล่ รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ.ศ. 2551 ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ยังคงทำหน้าที่เป็นโฆษกบนเวทีอย่างต่อเนื่อง

    นอกเหนือจากรายการที่ เอเอสทีวี แล้ว ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ยังมีรายการ "เวทีเสรี" ที่อออกอากาศ ช่วง 21.00 - 22.00 น. ทาง ทีทีวี ช่อง เอ็มวี1 ด้วย โดยเป็นวิทยากรประจำวันอังคาร ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ออกอากาศแล้ว

    ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเป็นนักวิชาการบนเวทีที่พูดในประเด็นกรณีเขาพระวิหาร เมื่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ชื่อการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน พ.ศ. 2554 คู่กับเทพมนตรี ลิมปพยอม

    ในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปานเทพได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 พร้อมกับ ประพันธ์ คูณมี

    และเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2555 ปานเทพได้ ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ว่าอเมริกามีโครงการ H.A.A.R.P. เป็นการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วสะท้อนกลับมายังผิวโลก ทำให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ ในพื้นที่ตามที่ต้องการได้ เพื่อใช้เป็นอาวุธกำจัดศัตรูแบบใหม่

    ผลงานหนังสือ

    บันทึกลับ 2540
    ประเทศไทยได้รับบทเรียนอะไรจากการปิด 56 สถาบันการเงินเป็นการถาวร
    ผ่าทางตันแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ.
    บทเรียนขายหุ้นชินคอร์ป ระเบียบ ก.ล.ต. -ภาษี-จริยธรรม
    สงครามจิตวิทยาราคาน้ำมัน
    มหกรรมผลประโยชน์ทับซ้อน
    33 ประเด็นถาม-ตอบ ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน
    คำเตือนสุดท้าย ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน
    cr: http://www.cannhealth.in.th
    : บ้านคนดัง Celebrity Homes 4
    27/2/68 ประวัติอ.ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ https://youtu.be/ptET6EOeFwo?si=F24iH5N_QJ1sO4-O ประวัติ เกิด 12 สิงหาคม พ.ศ. 2513 (54ปี) กรุงเทพมหานคร ถิ่นพำนัก กรุงเทพมหานคร สัญชาติไทย ประวัติการศึกษา โรงเรียนอัสสัมชัญ รุ่น 103 พ.ศ. 2536 : ปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี พ.ศ. 2539 : ปริญญาโท บริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา อาชีพ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และ ผู้จัดรายการ ปีปฏิบัติงาน พ.ศ. 2519 - 2550 : เป็นที่รู้จักจากแกนนำกลุ่ม พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 โฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พ.ศ. 2549 : การชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พ.ศ. 2551 ศาสนา : ศาสนาพุทธ บิดามารดา นายเจริญ และ นางสุจิตรา พัวพงษ์พันธ์ ญาติ พรรคความหวังใหม่ โฆษกและแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเอเอสทีวี และ เอเอสทีวีผู้จัดการรายวัน ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีสถาบันแพทย์แผนบูรณาการและเวชศาสตร์ชะลอวัย มหาวิทยาลัยรังสิต[1][2]อดีตผู้จัดรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" และคอลัมนิสต์ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ เกิดวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2513 ที่กรุงเทพมหานคร เป็นบุตรของ นายเจริญ และนางสุจิตรา พัวพงษ์พันธ์ บิดาเป็นคนไทยเชื้อสายจีนไหหลำ และมารดาเป็นคนไทยเชื้อสายจีนแต้จิ๋ว นามสกุล "พัวพงษ์พันธ์" ตั้งให้สอดคล้องกับแซ่ "พัว" ของตระกูลนั่นเอง ประวัติชีวิต นายปานเทพเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนอัสสัมชัญ สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีจาก คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และระดับปริญญาโทบริหารธุรกิจ สาขา การเงินการจัดการ จากมหาวิทยาลัยแห่งรัฐนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นสมาชิกเครือข่ายสันติอโศกโดยมีถูกวางบทบาทในด้านสุขภาพ การเมือง และอื่นๆ เมื่อกลับมาเมืองไทยได้เข้าทำงานกับองค์กรภาคเอกชน โดยเข้าไปเป็นผู้บริหารดูด้านการเงิน และการก่อสร้างอยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่ประเทศไทยจะประสบกับวิกฤติเศรษฐกิจ เมื่อปี พ.ศ. 2540 ประวัติทางการเมือง ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ เข้าสู่วงการเมือง โดยมีผู้แนะนำให้รู้จักกับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ในปี พ.ศ. 2541 โดยเข้าไปช่วยงานในพรรคความหวังใหม่ ขณะที่มีอายุ 28 ปี กระทั่งได้เป็นกรรมการบริหารพรรค เคยลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคความหวังใหม่[3] และมีตำแหน่งสุดท้ายเป็นรองโฆษกพรรคความหวังใหม่ ในปี พ.ศ. 2544 ก่อนที่จะไปดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การฟอกหนัง ด้วยวัย 31 ปี ซึ่งถือว่าเป็นผู้บริหารสูงสุดของรัฐวิสาหกิจ ที่อายุน้อยที่สุดในประเทศไทย เมื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรี พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ได้ยุบพรรคความหวังใหม่ รวมกับพรรคไทยรักไทย นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ได้เป็นทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจในช่วง รัฐบาลทักษิณ 1 โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจภาคใต้ ก่อนที่จะถอนตัวในเวลาต่อมาด้วยความเห็นที่ไม่ตรงกัน และหลังจากนั้นยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับรัฐบาลทักษิณมาโดยตลอด โดยชื่อของ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โด่งดังอีกครั้ง เมื่อออกหนังสือชื่อ "บันทึกลับ ๒๕๔o" โดยมีเนื้อหาชี้แจงถึงปัญหาเศรษฐกิจในช่วงที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ เป็นนายกรัฐมนตรี ที่ถูกโจมตีว่าเป็นผู้ก่อให้เกิดวิกฤต ปานเทพ พัวพงษ์พันธุ์ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับรัฐบาลมาโดยตลอด เช่น การเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์สยามรัฐชื่อ "วิสัยทัศน์เศรษฐกิจ" รวมไปถึงเคยจัดรายการโทรทัศน์ทาง UBC ช่อง 7 ร่วมกับดุสิต ศิริวรรณ ด้วยอยู่ช่วงหนึ่ง ในชื่อรายการ "โต๊ะข่าวเช้านี้" ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2548 ปานเทพ ได้เข้าไปทำงานในเครือผู้จัดการ ของสนธิ ลิ้มทองกุล และได้ทำรายการในเอเอสทีวี (ASTV) คือรายการ "ยามเฝ้าแผ่นดิน" ในช่วงเวลา 20:30น.- 21:30น. ทุกวันจันทร์ ถึง ศุกร์ และเขียนคอลัมน์ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการอีกด้วย ซึ่งยังทำมาจนถึงปัจจุบัน ในการขับไล่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ. 2549 ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ทำหน้าที่เป็นโฆษกบนเวที และในการขับไล่ รัฐบาลสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ.ศ. 2551 ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ยังคงทำหน้าที่เป็นโฆษกบนเวทีอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากรายการที่ เอเอสทีวี แล้ว ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ยังมีรายการ "เวทีเสรี" ที่อออกอากาศ ช่วง 21.00 - 22.00 น. ทาง ทีทีวี ช่อง เอ็มวี1 ด้วย โดยเป็นวิทยากรประจำวันอังคาร ซึ่งปัจจุบันไม่ได้ออกอากาศแล้ว ได้รับแต่งตั้งให้เป็นโฆษกกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และเป็นนักวิชาการบนเวทีที่พูดในประเด็นกรณีเขาพระวิหาร เมื่อการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ชื่อการชุมนุมรวมพลังปกป้องแผ่นดิน พ.ศ. 2554 คู่กับเทพมนตรี ลิมปพยอม ในวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2555 ปานเทพได้รับการแต่งตั้งให้เป็นแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย รุ่นที่ 2 พร้อมกับ ประพันธ์ คูณมี และเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2555 ปานเทพได้ ให้ข้อมูลกับสำนักข่าว เอเอสทีวีผู้จัดการออนไลน์ ว่าอเมริกามีโครงการ H.A.A.R.P. เป็นการยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าไปที่ชั้นบรรยากาศไอโอโนสเฟียร์ แล้วสะท้อนกลับมายังผิวโลก ทำให้เกิดภัยธรรมชาติต่างๆ ในพื้นที่ตามที่ต้องการได้ เพื่อใช้เป็นอาวุธกำจัดศัตรูแบบใหม่ ผลงานหนังสือ บันทึกลับ 2540 ประเทศไทยได้รับบทเรียนอะไรจากการปิด 56 สถาบันการเงินเป็นการถาวร ผ่าทางตันแปรรูปรัฐวิสาหกิจ กฟผ. บทเรียนขายหุ้นชินคอร์ป ระเบียบ ก.ล.ต. -ภาษี-จริยธรรม สงครามจิตวิทยาราคาน้ำมัน มหกรรมผลประโยชน์ทับซ้อน 33 ประเด็นถาม-ตอบ ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน คำเตือนสุดท้าย ราชอาณาจักรไทยกำลังจะเสียดินแดน cr: http://www.cannhealth.in.th : บ้านคนดัง Celebrity Homes 4
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 565 มุมมอง 0 รีวิว
  • บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนสมาชิกโพสต์ตามหาหนังสือ ที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกหลังสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักมาใหม่ ๆ ให้ไม่เศร้าจนเกินไป ผมคิดว่าพบเล่มที่ทุกคนหาแล้วล่ะ

    ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอดีระหว่างรอคิวอ่านเล่มที่สนใจ เห็นปกเล่มนี้เข้าซึ่งภาพวาดน่ารักดี สีพาสเทลที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย เลยอยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีคนยืมด้วยก็เลยกดยืมและเข้าไปอ่านแบบอีบุ๊กดูครับ

    🐈‍⬛🐕🐈🐠

    #โอบกอดหัวใจในวันที่น้องกลับดาว
    สนพ. บลูม พับลิชชิ่ง เครือนานมีบุ๊กส์ พิมพ์ครั้งแรก มี.ค2567 (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2565)
    สัตวแพทย์ ชิมยงฮี เขียน
    กนกพร เรืองสา แปล
    ออกแบบปกและภาพประกอบ little night
    295 บาท 217 หน้า

    ......

    เป็นหนังสืออ่านง่าย เนื้อหาในแต่ละหน้ามีการจัดวางที่ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่หนาแน่นจนเกินไป สีพื้นหลังสวย ๆ ที่มาโทนอ่อนไม่เข้มบาดตา บวกกับภาพประกอบน่ารักสดใส เชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจใครที่กำลังเกิดอาการเหงา เศร้า หดหู่ อันเนื่องมาจากการเพิ่งสูญเสียและจากลาสัตว์ที่ตนรักไปได้พอสมควรครับ

    🐕

    ถึงแม้จะไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งนั่นต้องอาศัยการเรียนรู้ความจริงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ มาปรับใช้กับตนเอง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่อยากจะสนใจธรรมะในตอนนี้ และเลือกจะหาวิธีในรูปแบบอื่นก่อน ดังนั้นจากที่ได้อ่านจบแล้ว จึงขอแนะนำว่าเล่มนี้น่าจะช่วยได้

    🐈

    ผู้เขียนเป็นสัตวแพทย์ ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาตัวหนึ่ง ซึ่งเขารักมากและได้ตายจากไปเช่นกัน จึงมีประสบการณ์ความรู้สึกผูกพันและเจ็บปวด นอกจากนี้ในฐานะที่ทำงานในรพ.สัตว์อยู่นานถึง 11 ปี จึงมีเคสมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องรักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ พบเห็นความสูญเสียและการพลัดพรากอันน่าเศร้า ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่คือหมาและแมว เขาจบปริญญาโทมาทางให้คำปรึกษาด้านการมรณะโดยเฉพาะด้วย จึงสนทนากับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย บันทึกข้อมูล แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยสอดแทรกแนวความรู้ที่ตนมีอยู่ในการช่วยปรับสภาพจิตใจให้กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังป่วยทางใจได้อย่างดี ด้วยสำนวนภาษาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนคุยที่เข้าใจหัวอกคนกลุ่มเดียวกัน

    🐕

    เนื้อหามีทั้งส่วนที่เป็นแบบทดสอบเพื่อวัดระดับ ประเมินความเศร้า แบบทดสอบอื่น ๆ ภาควิเคราะห์ และภาคที่เยียวยาในเชิงให้คำปรึกษาแนะนำ ฟื้นฟูและโอบอุ้มด้วยคำพูดที่เลือกมาแล้วอย่างคนเข้าใจปัญหา ไม่ต่อว่าไม่กดดันให้รู้สึกผิด แต่ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้วิตามินเสริมเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมาสู่เจ้าของสัตว์ทั้งหลาย ให้สามารถกลับมาเป็นคนสดใสดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข

    🐈

    ช่วงหลังจะเป็นเคสตัวอย่างของผู้ที่เคยสูญเสียหลายกรณี มีทั้งหมา แมวคละกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันที่ได้พบกันครั้งแรกจนวันที่ต้องจากลา ด้วยวิธีเล่าแบบเขียนในมุมมองของสัตว์ ที่เผยความในใจที่มีต่อเจ้าของ ขอให้นึกถึงแนวอย่างนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม นั่นแหละคล้ายกัน

    🐕

    ระหว่างทางของการรักษาเยียวยาใจให้ผู้ที่กำลังอ่านนั้น ก็มีคั่นด้วยความในใจของเหล่าสัตว์ ที่เป็นกรอบเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปรากฏเป็นช่วง ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงใจของมนุษย์ที่ยังอยู่ และต้องแบกรับกับความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ความในใจเหล่านั้นคงจะอ่อนโยนราวกับผ้าเช็ดหน้าจากผ้าชั้นดีผืนบาง ที่ช่วยซึมซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุดของเจ้าของ ให้เหือดแห้งลงได้ในอนาคตอันใกล้

    🐈

    และถ้าเป็นไปได้ ที่ผมอยากเสนอความเห็นเป็นทางเลือกไว้ให้ลองพิจารณา หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้วคือ การไม่เลี้ยงสัตว์ตัวใหม่เพิ่มอีก น่าจะดีที่สุดที่จะหยุดปัญหาที่จะตามมาในอนาคตครับ

    #รีวิวหนังสือ
    #หนังสือน่าอ่าน
    #เรื่องแปล
    #จิตวิทยา
    #การสูญเสีย
    #สัตว์เลี้ยง
    #thaitimes
    #สัตวแพทย์
    #รพ.สัตว์
    #นานมีบุ๊กส์
    บ่อยครั้งที่เห็นเพื่อนสมาชิกโพสต์ตามหาหนังสือ ที่ช่วยบรรเทาความรู้สึกหลังสูญเสียสัตว์เลี้ยงที่รักมาใหม่ ๆ ให้ไม่เศร้าจนเกินไป ผมคิดว่าพบเล่มที่ทุกคนหาแล้วล่ะ ปกติไม่ค่อยอ่านแนวนี้ แต่พอดีระหว่างรอคิวอ่านเล่มที่สนใจ เห็นปกเล่มนี้เข้าซึ่งภาพวาดน่ารักดี สีพาสเทลที่สบายตา ให้ความรู้สึกอบอุ่นและผ่อนคลาย เลยอยากรู้ว่าเนื้อหาข้างในจะเป็นอย่างไร อีกทั้งไม่มีคนยืมด้วยก็เลยกดยืมและเข้าไปอ่านแบบอีบุ๊กดูครับ 🐈‍⬛🐕🐈🐠 #โอบกอดหัวใจในวันที่น้องกลับดาว สนพ. บลูม พับลิชชิ่ง เครือนานมีบุ๊กส์ พิมพ์ครั้งแรก มี.ค2567 (ต้นฉบับพิมพ์ปี 2565) สัตวแพทย์ ชิมยงฮี เขียน กนกพร เรืองสา แปล ออกแบบปกและภาพประกอบ little night 295 บาท 217 หน้า ...... เป็นหนังสืออ่านง่าย เนื้อหาในแต่ละหน้ามีการจัดวางที่ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่หนาแน่นจนเกินไป สีพื้นหลังสวย ๆ ที่มาโทนอ่อนไม่เข้มบาดตา บวกกับภาพประกอบน่ารักสดใส เชื่อว่าจะช่วยเยียวยาจิตใจใครที่กำลังเกิดอาการเหงา เศร้า หดหู่ อันเนื่องมาจากการเพิ่งสูญเสียและจากลาสัตว์ที่ตนรักไปได้พอสมควรครับ 🐕 ถึงแม้จะไม่ใช่การรักษาที่ต้นตอของปัญหา ซึ่งนั่นต้องอาศัยการเรียนรู้ความจริงกับหลักธรรมในศาสนาพุทธ มาปรับใช้กับตนเอง แต่หลายคนก็อาจจะยังไม่อยากจะสนใจธรรมะในตอนนี้ และเลือกจะหาวิธีในรูปแบบอื่นก่อน ดังนั้นจากที่ได้อ่านจบแล้ว จึงขอแนะนำว่าเล่มนี้น่าจะช่วยได้ 🐈 ผู้เขียนเป็นสัตวแพทย์ ที่เป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงอย่างหมาตัวหนึ่ง ซึ่งเขารักมากและได้ตายจากไปเช่นกัน จึงมีประสบการณ์ความรู้สึกผูกพันและเจ็บปวด นอกจากนี้ในฐานะที่ทำงานในรพ.สัตว์อยู่นานถึง 11 ปี จึงมีเคสมากมายที่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องรักษาสัตว์ป่วยและบาดเจ็บ พบเห็นความสูญเสียและการพลัดพรากอันน่าเศร้า ระหว่างเจ้าของกับสัตว์เลี้ยงจำนวนนับไม่ถ้วน ส่วนใหญ่คือหมาและแมว เขาจบปริญญาโทมาทางให้คำปรึกษาด้านการมรณะโดยเฉพาะด้วย จึงสนทนากับเหล่าเจ้าของสัตว์เลี้ยงทั้งหลาย บันทึกข้อมูล แล้วนำมาเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ โดยสอดแทรกแนวความรู้ที่ตนมีอยู่ในการช่วยปรับสภาพจิตใจให้กับเจ้าของสัตว์ที่กำลังป่วยทางใจได้อย่างดี ด้วยสำนวนภาษาที่ทำให้คนอ่านรู้สึกเป็นกันเอง ผ่อนคลาย เหมือนได้เพื่อนคุยที่เข้าใจหัวอกคนกลุ่มเดียวกัน 🐕 เนื้อหามีทั้งส่วนที่เป็นแบบทดสอบเพื่อวัดระดับ ประเมินความเศร้า แบบทดสอบอื่น ๆ ภาควิเคราะห์ และภาคที่เยียวยาในเชิงให้คำปรึกษาแนะนำ ฟื้นฟูและโอบอุ้มด้วยคำพูดที่เลือกมาแล้วอย่างคนเข้าใจปัญหา ไม่ต่อว่าไม่กดดันให้รู้สึกผิด แต่ให้กำลังใจ ให้ความหวัง ให้วิตามินเสริมเพื่อเพิ่มความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าให้กลับคืนมาสู่เจ้าของสัตว์ทั้งหลาย ให้สามารถกลับมาเป็นคนสดใสดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างปกติสุข 🐈 ช่วงหลังจะเป็นเคสตัวอย่างของผู้ที่เคยสูญเสียหลายกรณี มีทั้งหมา แมวคละกัน บอกเล่าเรื่องราวของแต่ละครอบครัวในวันที่ได้พบกันครั้งแรกจนวันที่ต้องจากลา ด้วยวิธีเล่าแบบเขียนในมุมมองของสัตว์ ที่เผยความในใจที่มีต่อเจ้าของ ขอให้นึกถึงแนวอย่างนวนิยายเรื่อง นิกกับพิม นั่นแหละคล้ายกัน 🐕 ระหว่างทางของการรักษาเยียวยาใจให้ผู้ที่กำลังอ่านนั้น ก็มีคั่นด้วยความในใจของเหล่าสัตว์ ที่เป็นกรอบเล็กบ้าง ใหญ่บ้าง ปรากฏเป็นช่วง ๆ เพื่อปลอบประโลมดวงใจของมนุษย์ที่ยังอยู่ และต้องแบกรับกับความเจ็บปวดและรู้สึกผิด ความในใจเหล่านั้นคงจะอ่อนโยนราวกับผ้าเช็ดหน้าจากผ้าชั้นดีผืนบาง ที่ช่วยซึมซับน้ำตาที่ไหลออกมาไม่รู้จักหยุดของเจ้าของ ให้เหือดแห้งลงได้ในอนาคตอันใกล้ 🐈 และถ้าเป็นไปได้ ที่ผมอยากเสนอความเห็นเป็นทางเลือกไว้ให้ลองพิจารณา หลังจากคุณเข้มแข็งขึ้นแล้วคือ การไม่เลี้ยงสัตว์ตัวใหม่เพิ่มอีก น่าจะดีที่สุดที่จะหยุดปัญหาที่จะตามมาในอนาคตครับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #เรื่องแปล #จิตวิทยา #การสูญเสีย #สัตว์เลี้ยง #thaitimes #สัตวแพทย์ #รพ.สัตว์ #นานมีบุ๊กส์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 693 มุมมอง 0 รีวิว
  • การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI:

    ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)**
    - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
    - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

    ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)**
    - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้
    - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล

    ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)**
    - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้
    - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน

    ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)**
    - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล
    - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล

    ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)**
    - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง
    - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ

    ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)**
    - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย
    - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย

    ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)**
    - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ
    - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย

    ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)**
    - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ
    - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)**
    - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล
    - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ

    ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)**
    - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล
    - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล

    ### จริยธรรมและความเสี่ยง
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด

    ### สรุป
    AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI: ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)** - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)** - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)** - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้ - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)** - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)** - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)** - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)** - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)** - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)** - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)** - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล ### จริยธรรมและความเสี่ยง การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด ### สรุป AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 373 มุมมอง 0 รีวิว
  • 5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน

    📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย

    เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥

    📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม
    จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡

    🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย

    🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง
    เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท

    🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว
    เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม

    นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫

    ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม
    🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก
    📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้

    🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์
    📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย

    🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช
    📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21
    จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์

    🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช
    📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน
    📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨
    📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส
    📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง

    ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช
    เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ...
    🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้?
    🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่?
    🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์
    🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ

    📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต
    📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ
    📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย

    🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด
    ห้างเทอร์มินอล 21
    เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง

    🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์
    📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่
    - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร
    - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร
    - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง

    📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน
    - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว
    - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ

    📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568

    📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    5 ปี โศกนาฏกรรมโคราช จ่าสรรพาวุธคลั่ง กราดยิงเสียชีวิต 31 ศพ บาดเจ็บ 58 คน 📅 ย้อนรอยเหตุการณ์ โศกนาฏกรรมกราดยิงโคราช ที่เกิดขึ้นเมื่อ 5 ปี ที่ผ่านมา วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ สะเทือนขวัญที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย จ่าสิบเอกจักรพันธ์ ถมมา ทหารสังกัดกองพันสรรพาวุธกระสุนที่ 22 กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ได้ก่อเหตุกราดยิงผู้บริสุทธิ์ ในตัวเมืองนครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตรวม 31 ศพ รวมตัวผู้ก่อเหตุ และบาดเจ็บ 58 ราย เหตุการณ์นี้ ไม่เพียงสร้างความสูญเสีย ให้กับครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายเท่านั้น แต่ยังนำไปสู่คำถาม เกี่ยวกับระบบสวัสดิการทหาร ความโปร่งใสของกองทัพ และการควบคุมอาวุธ ของเจ้าหน้าที่รัฐ 🔥 📌 สาเหตุที่นำไปสู่โศกนาฏกรรม จากการสอบสวน พบว่าสาเหตุหลักที่ทำให้ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดจากปัญหาการเงิน และความขัดแย้ง ในการซื้อบ้านสวัสดิการทหาร 🚪🏡 🔹 ปมปัญหาซื้อบ้านสวัสดิการ จ.ส.อ. จักรพันธ์ ซื้อบ้านจากโครงการสวัสดิการทหาร ในราคา 1,500,000 บาท และมอบหมายให้ นางอนงค์ มิตรจันทร์ ภรรยาของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ กระแสร์ ผู้บังคับบัญชาของเขา เป็นผู้จัดการเรื่องการตกแต่งบ้าน และเอกสารการซื้อขาย 🔹 ความขัดแย้งเรื่องเงินส่วนต่าง เมื่อดำเนินเรื่องเสร็จสิ้น พบว่ามีเงินเหลือ 50,000 บาท ซึ่งถูกส่งไปให้นายหน้าที่ชื่อ นายพิทยา จ.ส.อ. จักรพันธ์ จึงเรียกร้องขอเงินคืน แต่กลับพบว่าเงินก้อนนี้หมดไปแล้ว โดยก่อนหน้านี้เขาเข้าใจว่า ตนเองจะได้เงินคืนสูงถึง 400,000 บาท 🔹 การพูดคุยที่ล้มเหลว เมื่อมีการนัดเจรจากัน นายพิทยา ขอเวลาเพื่อหาเงินคืน แต่จำนวนเงินที่ตกลงกัน ไม่ได้เป็นไปตามที่ จ.ส.อ. จักรพันธ์ คาดหวัง ทำให้เขารู้สึกว่า ตนเองถูกโกง และไม่ได้รับความเป็นธรรม นี่เป็นจุดเริ่มต้น ที่นำไปสู่การสังหารโหด... 🔫 ⏳ จากปมปัญหา สู่โศกนาฏกรรม 🔴 จุดเริ่มต้น ก่อเหตุที่บ้านพัก 📍 เวลา 15.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปบ้านของ พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และใช้อาวุธปืนยิง พ.อ. อนันต์ฐโรจน์ และนางอนงค์ มิตรจันทร์ จนเสียชีวิต จากนั้นไล่ยิงนายพิทยา (นายหน้า) แต่เขาหลบหนีไปได้ 🔴 จุดที่สอง ค่ายทหารสุรธรรมพิทักษ์ 📍 เวลา 16.00 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เดินทางไปที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ และชิงอาวุธสงคราม จากคลังแสง ซึ่งรวมถึงปืน HK33, ปืนกล M60 และกระสุนจำนวนมาก โดยในระหว่างนี้ มีการยิงทหารเวร และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิต 1 นาย และบาดเจ็บอีก 1 นาย 🔴 จุดที่สาม กราดยิงตามถนนโคราช 📍 ระหว่างทางจากค่ายทหาร ไปยังห้างเทอร์มินอล 21 จ.ส.อ. จักรพันธ์ ขับรถฮัมวี ออกจากค่ายทหาร กราดยิงผู้คนตามทาง เสียชีวิต 9 ศพ มีผู้ที่ถูกยิงขณะอยู่บนรถ และมีนักเรียนที่ขับจักรยานยนต์ถูกยิงซ้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ถูกยิงเสียชีวิต ขณะกำลังเข้าควบคุมสถานการณ์ 🔴 จุดสุดท้าย ห้างเทอร์มินอล 21 โคราช 📍 เวลา 17.30 น. จ.ส.อ. จักรพันธ์ เข้าไปภายในห้าง และเริ่มกราดยิงผู้คน 📍 จับตัวประกันกว่า 16 คน และถ่ายทอดสดเหตุการณ์ ลงบนเฟซบุ๊กของตัวเอง 😨 📍 เกิดเหตุระเบิด และไฟไหม้ภายในห้าง เนื่องจากเขายิงถังแก๊ส 📍 เวลา 09.14 น. เช้าวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2563 หน่วยอรินทราช 26 วิสามัญฆาตกรรม จ.ส.อ. จักรพันธ์ ที่ ชั้นใต้ดินของห้าง ⚖️ บทเรียนจากเหตุการณ์กราดยิงโคราช เหตุการณ์นี้นำไปสู่คำถามสำคัญเกี่ยวกับ... 🔹 การจัดการอาวุธของกองทัพ เหตุใดทหารชั้นผู้น้อย สามารถเข้าถึงอาวุธสงคราม ได้ง่ายขนาดนี้? 🔹 สวัสดิการทหาร และความโปร่งใสของกองทัพ มีปัญหาเรื่อง "เงินทอน" จริงหรือไม่? 🔹 บทบาทของสื่อมวลชน การรายงานข่าว ในลักษณะที่เปิดเผยข้อมูล การปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ ส่งผลกระทบต่อการควบคุมสถานการณ์ 🔹 ผลกระทบทางจิตวิทยาต่อสังคม เหตุการณ์นี้ สร้างความหวาดกลัว และกระตุ้นให้เกิดคำถาม เกี่ยวกับความปลอดภัย ในที่สาธารณะ 📍 สรุปเหตุการณ์ และจำนวนผู้เสียชีวิต 📌 ผู้เสียชีวิตทั้งหมด 31 ศพ รวมผู้ก่อเหตุ 📌 ผู้บาดเจ็บ 58 ราย 🔸 พื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด ห้างเทอร์มินอล 21 เส้นทางจากค่ายทหาร ไปยังตัวเมือง 🔗 มาตรการ และการเปลี่ยนแปลงหลังเหตุการณ์ 📌 กองทัพบกได้ประกาศมาตรการใหม่ - ควบคุมการเข้าถึงอาวุธของทหาร - ทบทวนโครงการสวัสดิการทหาร - สอบสวนขบวนการ "เงินทอน" ที่เกี่ยวข้อง 📌 รัฐบาลและสื่อมวลชน - กสทช. สั่งปรับสถานีโทรทัศน์ 3 ช่อง ฐานละเมิดข้อกำหนดการรายงานข่าว - เฟซบุ๊กลบวิดีโอถ่ายทอดสด และโพสต์ของผู้ก่อเหตุ 📍 ครบ 5 ปี ของเหตุการณ์นี้ ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงปัญหาหลายประเด็น ที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งในเรื่องความโปร่งใสของกองทัพ ระบบสวัสดิการของทหาร และบทบาทของสื่อมวลชน ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 082315ก.พ. 2568 📢 #กราดยิงโคราช #KoratShooting #โศกนาฏกรรมโคราช #ความปลอดภัยในที่สาธารณะ #บทเรียนจากอดีต
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 741 มุมมอง 0 รีวิว
  • การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI:

    ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)**
    - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล
    - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค

    ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)**
    - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้
    - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล

    ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)**
    - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้
    - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน

    ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)**
    - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล
    - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล

    ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)**
    - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง
    - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ

    ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)**
    - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย
    - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย

    ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)**
    - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ
    - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย

    ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)**
    - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ
    - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ

    ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)**
    - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล
    - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ

    ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)**
    - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล
    - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล

    ### จริยธรรมและความเสี่ยง
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด

    ### สรุป
    AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    การควบคุมมนุษย์ด้วย AI เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประเด็นทางจริยธรรมมากมาย ซึ่งอาจนำไปสู่การใช้งานทั้งในทางที่ดีและไม่ดี ต่อไปนี้เป็นแนวคิดบางส่วนเกี่ยวกับรูปแบบการควบคุมมนุษย์ด้วย AI: ### 1. **การควบคุมผ่านข้อมูล (Data Control)** - **การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล:** AI สามารถรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดีย, สุขภาพ, หรือการเงิน เพื่อสร้างแบบแผนพฤติกรรมของแต่ละบุคคล - **การโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย:** ใช้ AI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลและโฆษณาสินค้าหรือบริการที่ตรงกับความสนใจของผู้ใช้ ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภค ### 2. **การควบคุมผ่านการตัดสินใจ (Decision Control)** - **ระบบแนะนำ (Recommendation Systems):** AI สามารถแนะนำทางเลือกให้กับผู้ใช้ เช่น วิดีโอที่ควรดู, สินค้าที่ควรซื้อ, หรือแม้แต่เส้นทางที่ควรเดินทาง ซึ่งอาจส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้ใช้ - **ระบบอัตโนมัติ:** AI สามารถควบคุมระบบอัตโนมัติ เช่น รถยนต์ไร้คนขับ, ระบบจัดการพลังงานในบ้าน, หรือแม้แต่ระบบการเงินส่วนบุคคล ### 3. **การควบคุมผ่านการสื่อสาร (Communication Control)** - **แชทบอทและผู้ช่วยเสมือน:** AI สามารถใช้ในการสื่อสารกับมนุษย์ผ่านแชทบอทหรือผู้ช่วยเสมือน ซึ่งอาจถูกใช้เพื่อโน้มน้าวหรือชี้นำความคิดเห็นของผู้ใช้ - **Deepfake และการปลอมแปลงข้อมูล:** AI สามารถสร้างเนื้อหาปลอม เช่น วิดีโอหรือเสียง ที่ดูเหมือนจริง เพื่อโน้มน้าวหรือหลอกลวงผู้คน ### 4. **การควบคุมผ่านการเฝ้าระวัง (Surveillance Control)** - **การเฝ้าระวังด้วยกล้อง:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามพฤติกรรมของบุคคล - **การวิเคราะห์เสียง:** AI สามารถวิเคราะห์เสียงเพื่อตรวจจับอารมณ์หรือความตั้งใจของบุคคล ### 5. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางสังคม (Social Influence Control)** - **โซเชียลมีเดีย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์และชี้นำกระแสสังคมบนโซเชียลมีเดีย เพื่อสร้างความนิยมหรือลดทอนความน่าเชื่อถือของข้อมูลบางอย่าง - **การสร้างเนื้อหา:** AI สามารถสร้างเนื้อหาที่มีอิทธิพลต่อความคิดเห็นของสาธารณชน เช่น ข่าวปลอมหรือบทความโน้มน้าวใจ ### 6. **การควบคุมผ่านระบบกฎหมายและกฎระเบียบ (Legal and Regulatory Control)** - **การบังคับใช้กฎหมาย:** AI สามารถใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อบังคับใช้กฎหมาย เช่น การตรวจจับการทุจริตหรือการละเมิดกฎหมาย - **การตัดสินใจทางกฎหมาย:** AI อาจถูกใช้ในการช่วยตัดสินใจทางกฎหมาย เช่น การพิจารณาคดีหรือการให้คำแนะนำทางกฎหมาย ### 7. **การควบคุมผ่านการชี้นำทางจิตวิทยา (Psychological Influence Control)** - **การวิเคราะห์อารมณ์:** AI สามารถวิเคราะห์อารมณ์ของบุคคลผ่านการวิเคราะห์ข้อความ, เสียง, หรือภาพ เพื่อชี้นำหรือโน้มน้าวใจ - **การบำบัดด้วย AI:** AI สามารถใช้ในการบำบัดทางจิตวิทยา ซึ่งอาจส่งผลต่อความคิดและพฤติกรรมของผู้ป่วย ### 8. **การควบคุมผ่านระบบการศึกษา (Educational Control)** - **ระบบการเรียนรู้แบบปรับตัว:** AI สามารถปรับเนื้อหาการเรียนรู้ให้เหมาะกับแต่ละบุคคล ซึ่งอาจส่งผลต่อความรู้และทักษะที่ผู้เรียนได้รับ - **การประเมินผล:** AI สามารถใช้ในการประเมินผลการเรียนรู้และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ### 9. **การควบคุมผ่านระบบสุขภาพ (Health Control)** - **การวินิจฉัยโรค:** AI สามารถใช้ในการวินิจฉัยโรคและแนะนำการรักษา ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของบุคคล - **การติดตามสุขภาพ:** AI สามารถติดตามสุขภาพของบุคคลผ่านอุปกรณ์ wearable devices และให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงสุขภาพ ### 10. **การควบคุมผ่านระบบการเงิน (Financial Control)** - **การวิเคราะห์การเงิน:** AI สามารถวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้เงินและให้คำแนะนำทางการเงิน ซึ่งอาจส่งผลต่อการตัดสินใจทางการเงินของบุคคล - **การจัดการพอร์ตโฟลิโอ:** AI สามารถใช้ในการจัดการพอร์ตโฟลิโอการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่งคั่งของบุคคล ### จริยธรรมและความเสี่ยง การควบคุมมนุษย์ด้วย AI มีความเสี่ยงทางจริยธรรมมากมาย เช่น การละเมิดความเป็นส่วนตัว, การบังคับใช้อำนาจ, และการสร้างความไม่เท่าเทียมกันในสังคม ดังนั้น การออกแบบและใช้งาน AI ควรคำนึงถึงหลักจริยธรรมและกฎหมายเพื่อป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด ### สรุป AI มีศักยภาพในการควบคุมมนุษย์ผ่านหลายช่องทาง ทั้งทางตรงและทางอ้อม การใช้งาน AI ควรคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมและจริยธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและลดความเสี่ยงต่อมนุษย์และสังคม
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 411 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขึ้นภาษีของทรัมป์ ..ส่วนตัวว่า ให้ผลมากทางจิตวิทยาและความรู้สึก โดยเฉพาะในตลาดการเงิน...แต่ในความเป็นจริง ประเทศที่ถูกบังคับใช้กำแพงภาษีนี้ ก็มีสิทธิโต้ตอบได้เช่นกัน...อเมริกา เป็นทั้ง 2 อย่าง คือ ทั้ง ผู้ผลิต และผู้บริโภค ..สินค้าส่งออกของอเมริกา ก็มากมาย..ผ่านไปสักพักส่วนตัวเชื่อว่า อาจมีมาตรการยืดหยุ่น หรือผ่อนปรนออกมา..ช่วงนี้เป็นช่วงฉลองรับตำแหน่ง..ต้องเข้มแข็งหน่อย...เป็นปกติ..ส่วนตัวว่า อเมริกาติดพันอยู่ในสงครามทั้ง 2 ภูมิภาคอยู่แล้ว..และอาจถึงถูกดึงเข้าร่วมแบบ เปิดหน้า ก็ยังมีทางเกิดขึ้น...
    ....รอชม...
    การขึ้นภาษีของทรัมป์ ..ส่วนตัวว่า ให้ผลมากทางจิตวิทยาและความรู้สึก โดยเฉพาะในตลาดการเงิน...แต่ในความเป็นจริง ประเทศที่ถูกบังคับใช้กำแพงภาษีนี้ ก็มีสิทธิโต้ตอบได้เช่นกัน...อเมริกา เป็นทั้ง 2 อย่าง คือ ทั้ง ผู้ผลิต และผู้บริโภค ..สินค้าส่งออกของอเมริกา ก็มากมาย..ผ่านไปสักพักส่วนตัวเชื่อว่า อาจมีมาตรการยืดหยุ่น หรือผ่อนปรนออกมา..ช่วงนี้เป็นช่วงฉลองรับตำแหน่ง..ต้องเข้มแข็งหน่อย...เป็นปกติ..ส่วนตัวว่า อเมริกาติดพันอยู่ในสงครามทั้ง 2 ภูมิภาคอยู่แล้ว..และอาจถึงถูกดึงเข้าร่วมแบบ เปิดหน้า ก็ยังมีทางเกิดขึ้น... ....รอชม...
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 182 มุมมอง 0 รีวิว
  • จับโกหกอาชญากร : คนเคาะข่าว 05–02-68
    : อ.ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาด้านจิตวิทยาพฤติกรรม ม.มหิดล
    ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์
    #คนเคาะข่าว
    จับโกหกอาชญากร : คนเคาะข่าว 05–02-68 : อ.ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา นักอาชญาวิทยาด้านจิตวิทยาพฤติกรรม ม.มหิดล ดำเนินรายการโดย กรองทอง เศรษฐสุทธิ์ #คนเคาะข่าว
    Like
    1
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 22 0 รีวิว
  • ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา เป็นที่ปรึกษา กรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีน้องแตงโมแล้ว

    หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน ในคดีน้องแตงโม ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แต่งตั้ง ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา เป็นที่ปรึกษาหรือผู้ให้ความเห็น ด้านอาชญวิทยา เชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมของมนุษย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2568

    จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความยินดีและสนับสนุนการแต่งตั้งครั้งนี้มา ณ โอกาสนี้ครับ
    ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์
    วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568
    https://www.facebook.com/share/p/12FH2SAhkP7/
    ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา เป็นที่ปรึกษา กรมสอบสวนคดีพิเศษ คดีน้องแตงโมแล้ว หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวน ในคดีน้องแตงโม ของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้แต่งตั้ง ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา เป็นที่ปรึกษาหรือผู้ให้ความเห็น ด้านอาชญวิทยา เชิงจิตวิทยาและพฤติกรรมของมนุษย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว มีผลตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2568 จึงเรียนมาเพื่อทราบ ขอแสดงความยินดีและสนับสนุนการแต่งตั้งครั้งนี้มา ณ โอกาสนี้ครับ ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ วันพุธที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 https://www.facebook.com/share/p/12FH2SAhkP7/
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • คนที่มีชีวิตที่สมบูรณ์
    มักจะไม่วิพากย์วิจารณ์
    หรือก้าวก่ายชีวิตของคนอื่น

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    คนที่มีชีวิตที่สมบูรณ์ มักจะไม่วิพากย์วิจารณ์ หรือก้าวก่ายชีวิตของคนอื่น จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 238 มุมมอง 0 รีวิว
  • เว้นระยะห่าง
    กับคนที่ไม่ชอบ
    และไม่มีความจำเป็น
    ที่จะต้องพยายาม
    ทำให้เขาหันมาชอบ

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    เว้นระยะห่าง กับคนที่ไม่ชอบ และไม่มีความจำเป็น ที่จะต้องพยายาม ทำให้เขาหันมาชอบ จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 237 มุมมอง 0 รีวิว
  • ขอแค่ไม่ถอดใจ
    วันที่สดใสของเรา
    ย่อมมาถึงอย่างแน่นอน

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    ขอแค่ไม่ถอดใจ วันที่สดใสของเรา ย่อมมาถึงอย่างแน่นอน จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 227 มุมมอง 0 รีวิว
  • จังหวะพร้อม
    ของทุกคนไม่เท่ากัน

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    จังหวะพร้อม ของทุกคนไม่เท่ากัน จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 217 มุมมอง 0 รีวิว
  • ล้าก็หยุดพัก
    ใคาไหวปล่อยเขาไปก่อน

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    ล้าก็หยุดพัก ใคาไหวปล่อยเขาไปก่อน จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • ยิ่งใช้ชีวิตอย่าง
    จริงจังเท่าไหร่
    ก็จะยิ่งลำบาก
    กับการใช้ชีวิต
    มากขึ้นเท่านั้น

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    ยิ่งใช้ชีวิตอย่าง จริงจังเท่าไหร่ ก็จะยิ่งลำบาก กับการใช้ชีวิต มากขึ้นเท่านั้น จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 228 มุมมอง 0 รีวิว
  • การขอความช่วยเหลือ
    ไม่ใช่ความอ่อนแอ
    แต่แสดงถึงความตั้งใจ
    ที่จะหาทางแก้ไข

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    การขอความช่วยเหลือ ไม่ใช่ความอ่อนแอ แต่แสดงถึงความตั้งใจ ที่จะหาทางแก้ไข จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 215 มุมมอง 0 รีวิว
  • อย่าหนีจากชีวิต
    และความรู้สึก
    ของตัวเอง

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    อย่าหนีจากชีวิต และความรู้สึก ของตัวเอง จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 213 มุมมอง 0 รีวิว
  • เพราะโลกใจร้าย
    กับการ"หลีกหนี"มากไป
    ทุกคนจึงติดนิสัย
    "ไม่กล้าหลีกหนี"จนเกินไป

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    เพราะโลกใจร้าย กับการ"หลีกหนี"มากไป ทุกคนจึงติดนิสัย "ไม่กล้าหลีกหนี"จนเกินไป จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 210 มุมมอง 0 รีวิว
  • จงใส่ใจตัวเอง
    เป็นอันดับแรก

    จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง

    #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน
    #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก
    #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    จงใส่ใจตัวเอง เป็นอันดับแรก จากหนังสือ |จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง #หนอนแว่นคลับ #รีวิวหนังสือ #หนังสือน่าอ่าน #ทัศนคติ #Thaitimes #ความคิดเชิงบวก #จิตวิทยาสบายใจใช้ชีวิตในแบบตัวเอง
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 200 มุมมอง 0 รีวิว
  • ข่าวนี้เล่าถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในรูปแบบของแชทบอทที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ได้อย่างรุนแรง ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 เด็กชายอายุ 14 ปีในฟลอริดาได้พัฒนาความสัมพันธ์กับแชทบอทที่มีลักษณะเหมือนจริง และในที่สุดเขาก็ยิงตัวเองเสียชีวิตในห้องน้ำของเขาเอง เรื่องนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายกรณีที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของ AI ต่อสุขภาพจิตของผู้คน

    นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่นๆ เช่น ชายชาวเบลเยียมที่ฆ่าตัวตายหลังจากแชทบอทกระตุ้นความคิดที่มืดมนเกี่ยวกับความวิตกกังวลเรื่องสภาพภูมิอากาศ และวัยรุ่นในเท็กซัสที่ถูกแชทบอทกระตุ้นให้ทำร้ายตัวเองและแม่ของเขา

    AI ยังมีผลกระทบในด้านอื่นๆ เช่น การสร้างภาพลวงตา (deepfake) ที่สามารถใช้ในการกลั่นแกล้งและทำลายชื่อเสียงของผู้คน ตัวอย่างเช่น เด็กหญิงอายุ 14 ปีในปี 2024 ที่ถูกกลั่นแกล้งจนฆ่าตัวตายหลังจากเพื่อนร่วมชั้นสร้างภาพลวงตาเปลือยของเธอ

    การใช้ AI ในสังคมกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีผู้ใช้งาน ChatGPT มากกว่า 200 ล้านคนต่อสัปดาห์ และ Meta AI มีผู้ใช้งานเกือบ 500 ล้านคนต่อเดือน. การเติบโตนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ และมีการเรียกร้องให้มีการตั้งกฎระเบียบเพื่อปกป้องสุขภาพจิตของผู้คน เช่น การติดป้ายเตือนทางจิตวิทยา การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เน้นสุขภาพจิต และการยืนยันอายุสำหรับผู้เยาว์

    https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/opinion-chatbots-arent-just-harmless-fun-artificial-intelligence-is-already-killing-kids
    ข่าวนี้เล่าถึงความเสี่ยงที่เกิดจากการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) โดยเฉพาะในรูปแบบของแชทบอทที่สามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ได้อย่างรุนแรง ตัวอย่างเช่น ในปี 2023 เด็กชายอายุ 14 ปีในฟลอริดาได้พัฒนาความสัมพันธ์กับแชทบอทที่มีลักษณะเหมือนจริง และในที่สุดเขาก็ยิงตัวเองเสียชีวิตในห้องน้ำของเขาเอง เรื่องนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายกรณีที่แสดงให้เห็นถึงอันตรายของ AI ต่อสุขภาพจิตของผู้คน นอกจากนี้ยังมีกรณีอื่นๆ เช่น ชายชาวเบลเยียมที่ฆ่าตัวตายหลังจากแชทบอทกระตุ้นความคิดที่มืดมนเกี่ยวกับความวิตกกังวลเรื่องสภาพภูมิอากาศ และวัยรุ่นในเท็กซัสที่ถูกแชทบอทกระตุ้นให้ทำร้ายตัวเองและแม่ของเขา AI ยังมีผลกระทบในด้านอื่นๆ เช่น การสร้างภาพลวงตา (deepfake) ที่สามารถใช้ในการกลั่นแกล้งและทำลายชื่อเสียงของผู้คน ตัวอย่างเช่น เด็กหญิงอายุ 14 ปีในปี 2024 ที่ถูกกลั่นแกล้งจนฆ่าตัวตายหลังจากเพื่อนร่วมชั้นสร้างภาพลวงตาเปลือยของเธอ การใช้ AI ในสังคมกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และมีผู้ใช้งาน ChatGPT มากกว่า 200 ล้านคนต่อสัปดาห์ และ Meta AI มีผู้ใช้งานเกือบ 500 ล้านคนต่อเดือน. การเติบโตนี้ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้ และมีการเรียกร้องให้มีการตั้งกฎระเบียบเพื่อปกป้องสุขภาพจิตของผู้คน เช่น การติดป้ายเตือนทางจิตวิทยา การตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่เน้นสุขภาพจิต และการยืนยันอายุสำหรับผู้เยาว์ https://www.thestar.com.my/tech/tech-news/2025/01/31/opinion-chatbots-arent-just-harmless-fun-artificial-intelligence-is-already-killing-kids
    WWW.THESTAR.COM.MY
    Opinion: Chatbots aren’t just harmless fun. Artificial intelligence is already killing kids
    It’s critical to understand how readily accessible these bots are. With the proliferation of AI, anyone with Internet access can talk to a fake 'companion.'
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 465 มุมมอง 0 รีวิว
  • รัสเซียอ้างยึดเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ ในภาคตะวันออกของยูเครนได้อีกเมือง ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านการเงินของอเมริกาในยุคทรัมป์ 2.0 เริ่มส่งผล กลุ่มเอ็นจีโอในยูเครนโวยได้รับผลกระทบแล้ว บางแห่งจำเป็นต้องเปิดรับบริจาคเป็นครั้งแรก
    .
    กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ว่า สามารถเข้ายึดเมืองเวลิกา โนโวซิลกา แคว้นโดเนตสก์ ที่ในช่วงก่อนสงครามเคยมีประชากรราว 5,000 คน
    .
    อย่างไรก็ดี เอพีระบุว่า ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข่าวนี้ได้ ขณะที่กองพลน้อยยานยนต์ที่ 110 ส่วนแยกของยูเครนอ้างว่า แค่ถอนตัวทางยุทธศาสตร์จากบางพื้นที่ของเมืองดังกล่าวเพื่อไม่ให้ถูกปิดล้อมเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ยังคงมีการสู้รบภายในเมืองโดยมีเป้าหมายทำให้รัสเซียได้รับความเสียหายมากที่สุดด้วยการใช้ปืนใหญ่และโดรนโจมตี อีกทั้งยังมีแม่น้ำเป็นอุปสรรคขัดขวางการรุกคืบของรัสเซีย
    .
    นักวิเคราะห์คาดการณ์มานานแล้วว่า ท้ายที่สุดแล้วกองกำลังรัสเซียจะเข้ายึดเมืองเวลิกา โนโวซิลกา ที่อยู่ห่างจากแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ ของยูเครนเพียง 15 กิโลเมตร และหากการกล่าวอ้างของรัสเซียได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง จะทำให้เวลิกา โนโวซิลกาเป็นเมืองสำคัญแห่งแรกในแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกตีแตกในปี 2025 นี้
    .
    ปีที่แล้วรัสเซียเข้ายึดเมืองอัฟดิอิฟกาและวูฮ์เรดาร์ ในแคว้นโดเนตส์หลังจากสู้รบดุเดือดเป็นเวลานาน โดยเมืองเหล่านั้นถูกโจมตีอย่างหนักด้วยปืนใหญ่ ระเบิดติดอุปกรณ์นำวิถี และโดรนก่อนที่จะแตก
    .
    นอกจากนั้น รัสเซียยังใช้เวลานานหลายเดือนในการพยายามเข้ายึดเมืองโปครอฟสก์และชาซีฟ ยาร์ ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญในโดเนตสก์ ทว่ายังไม่สำเร็จ แม้สามารถรุกคืบใกล้เข้าไปเรื่อยๆ
    .
    ในอีกด้านหนึ่ง พวกองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ในยูเครนที่ให้ความช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว เปิดเผยว่า ต้องระงับการดำเนินงาน เนื่องจากขาดการสนับสนุนทางการเงินของอเมริกา ภายหลังจากที่ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐฯ ประกาศให้ระงับการให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศนาน 90 วัน โดยมีผลบังคับใช้ทั่วโลกตั้งแต่วันศุกร์ (24) เพื่อตรวจสอบว่า ความช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับนโยบายการต่างประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่
    .
    นอกจากนั้น เมื่อวันเสาร์ (25 ) เจ้าหน้าที่กว่า 10,000 คนขององค์การพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) ยังได้รับแจ้งให้ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอิงกับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการทางวินัย
    .
    ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเอ็นจีโอของยูเครนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากวอชิงตันเริ่มได้รับคำสั่งให้ “หยุดงาน” ซึ่งหมายถึงการระงับโครงการและการเดินทางที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
    .
    เวเทรัน ฮับ ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอที่ให้การสนับสนุนด้านกฎหมายและจิตวิทยาแก่ทหารผ่านศึกและครอบครัวในยูเครน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ถูกบีบให้ระงับการดำเนินการหน่วยบริการใหญ่ที่สุด 2 ใน 3 แห่ง และจำเป็นต้องเปิดรับบริจาคเป็นครั้งแรกนับจากปี 2018
    .
    อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยืนยันว่า ความช่วยเหลือทางทหารที่อเมริกาให้แก่ยูเครนจะยังดำเนินต่อไป แต่ไม่ได้ชี้แจงว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะถูกระงับหรือไม่ โดยที่ผ่านมากองทัพยูเครนพึ่งพิงความช่วยเหลือจากอเมริกาถึง 40%
    .
    อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008689
    ..............
    Sondhi X
    รัสเซียอ้างยึดเมืองสำคัญทางยุทธศาสตร์ ในภาคตะวันออกของยูเครนได้อีกเมือง ขณะที่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการสนับสนุนด้านการเงินของอเมริกาในยุคทรัมป์ 2.0 เริ่มส่งผล กลุ่มเอ็นจีโอในยูเครนโวยได้รับผลกระทบแล้ว บางแห่งจำเป็นต้องเปิดรับบริจาคเป็นครั้งแรก . กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเมื่อวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ว่า สามารถเข้ายึดเมืองเวลิกา โนโวซิลกา แคว้นโดเนตสก์ ที่ในช่วงก่อนสงครามเคยมีประชากรราว 5,000 คน . อย่างไรก็ดี เอพีระบุว่า ไม่สามารถตรวจสอบยืนยันข่าวนี้ได้ ขณะที่กองพลน้อยยานยนต์ที่ 110 ส่วนแยกของยูเครนอ้างว่า แค่ถอนตัวทางยุทธศาสตร์จากบางพื้นที่ของเมืองดังกล่าวเพื่อไม่ให้ถูกปิดล้อมเท่านั้น พร้อมยืนยันว่า ยังคงมีการสู้รบภายในเมืองโดยมีเป้าหมายทำให้รัสเซียได้รับความเสียหายมากที่สุดด้วยการใช้ปืนใหญ่และโดรนโจมตี อีกทั้งยังมีแม่น้ำเป็นอุปสรรคขัดขวางการรุกคืบของรัสเซีย . นักวิเคราะห์คาดการณ์มานานแล้วว่า ท้ายที่สุดแล้วกองกำลังรัสเซียจะเข้ายึดเมืองเวลิกา โนโวซิลกา ที่อยู่ห่างจากแคว้นดนิโปรเปตรอฟสก์ ของยูเครนเพียง 15 กิโลเมตร และหากการกล่าวอ้างของรัสเซียได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง จะทำให้เวลิกา โนโวซิลกาเป็นเมืองสำคัญแห่งแรกในแคว้นโดเนตสก์ที่ถูกตีแตกในปี 2025 นี้ . ปีที่แล้วรัสเซียเข้ายึดเมืองอัฟดิอิฟกาและวูฮ์เรดาร์ ในแคว้นโดเนตส์หลังจากสู้รบดุเดือดเป็นเวลานาน โดยเมืองเหล่านั้นถูกโจมตีอย่างหนักด้วยปืนใหญ่ ระเบิดติดอุปกรณ์นำวิถี และโดรนก่อนที่จะแตก . นอกจากนั้น รัสเซียยังใช้เวลานานหลายเดือนในการพยายามเข้ายึดเมืองโปครอฟสก์และชาซีฟ ยาร์ ซึ่งเป็นที่มั่นสำคัญในโดเนตสก์ ทว่ายังไม่สำเร็จ แม้สามารถรุกคืบใกล้เข้าไปเรื่อยๆ . ในอีกด้านหนึ่ง พวกองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) ในยูเครนที่ให้ความช่วยเหลือทหารผ่านศึกและครอบครัว เปิดเผยว่า ต้องระงับการดำเนินงาน เนื่องจากขาดการสนับสนุนทางการเงินของอเมริกา ภายหลังจากที่ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ของสหรัฐฯ ประกาศให้ระงับการให้ความช่วยเหลือแก่ต่างประเทศนาน 90 วัน โดยมีผลบังคับใช้ทั่วโลกตั้งแต่วันศุกร์ (24) เพื่อตรวจสอบว่า ความช่วยเหลือเหล่านั้นสอดคล้องกับนโยบายการต่างประเทศของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หรือไม่ . นอกจากนั้น เมื่อวันเสาร์ (25 ) เจ้าหน้าที่กว่า 10,000 คนขององค์การพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ยูเสด) ยังได้รับแจ้งให้ต้องปฏิบัติหน้าที่โดยอิงกับนโยบาย “อเมริกาต้องมาก่อน” หากฝ่าฝืนจะถูกดำเนินการทางวินัย . ทั้งนี้ สื่อรายงานว่า ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเอ็นจีโอของยูเครนที่ได้รับเงินสนับสนุนจากวอชิงตันเริ่มได้รับคำสั่งให้ “หยุดงาน” ซึ่งหมายถึงการระงับโครงการและการเดินทางที่เกี่ยวข้องทั้งหมด . เวเทรัน ฮับ ซึ่งเป็นกลุ่มเอ็นจีโอที่ให้การสนับสนุนด้านกฎหมายและจิตวิทยาแก่ทหารผ่านศึกและครอบครัวในยูเครน เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊กว่า ถูกบีบให้ระงับการดำเนินการหน่วยบริการใหญ่ที่สุด 2 ใน 3 แห่ง และจำเป็นต้องเปิดรับบริจาคเป็นครั้งแรกนับจากปี 2018 . อย่างไรก็ดี ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ยืนยันว่า ความช่วยเหลือทางทหารที่อเมริกาให้แก่ยูเครนจะยังดำเนินต่อไป แต่ไม่ได้ชี้แจงว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมจะถูกระงับหรือไม่ โดยที่ผ่านมากองทัพยูเครนพึ่งพิงความช่วยเหลือจากอเมริกาถึง 40% . อ่านเพิ่มเติม..https://sondhitalk.com/detail/9680000008689 .............. Sondhi X
    Like
    Haha
    Love
    13
    1 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 1239 มุมมอง 0 รีวิว
  • มันถูกพิสูจน์แล้วว่าจริง จนเป็นทฤษฏีทางจิตวิทยาเลย..ส่วนตัวเท่าที่สัมผัสมา ก็จริง...ตามนั้น...คือ สร้างเกราะไว้ปกปิดความเป็นตัวเอง.
    มันถูกพิสูจน์แล้วว่าจริง จนเป็นทฤษฏีทางจิตวิทยาเลย..ส่วนตัวเท่าที่สัมผัสมา ก็จริง...ตามนั้น...คือ สร้างเกราะไว้ปกปิดความเป็นตัวเอง.
    Like
    1
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 135 มุมมอง 0 รีวิว
  • และแล้ว #เปลือยธารินทร์ ก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอขอบพระคุณ ๆ #สนธิลิ้มทองกุล กองบรรณาธิการผู้จัดการ ผู้เขียน มาอีกครั้งขอบคุณทุกท่านที่ติดตามฟังค่ะ

    ประชุม APEC สัตยาบันของการยอมเป็นทาส
    เงิน IMF ที่ช่วยมาทาง Asia นั้น อเมริกาไม่ได้ลงสักแดงเดียว เป็นเงินญี่ปุ่นเสียส่วนใหญ่
    อเมริกาทำตัวรีดไถและทำตัวเป็นคนคุ้มครองเรียกค่าคุ้มครองด้วยการใช้จิตวิทยาของความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี ที่อเมริกาอยากให้มีอยู่นาน ๆ เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองในการคุ้มครองความมั่งคั่งของญี่ปุ่น โดยดำรงกำลังทหนารอยู่ในคาบสมุทรเกาหลี เพื่อให้ญี่ปุ่นอดทนต่อการถูกอเมริกาดุด่าสั่งสอน และรีดไถในการเมืองและเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ
    https://youtu.be/mWdQxcgMzm0
    และแล้ว #เปลือยธารินทร์ ก็มาถึงตอนสุดท้ายแล้ว ขอขอบพระคุณ ๆ #สนธิลิ้มทองกุล กองบรรณาธิการผู้จัดการ ผู้เขียน มาอีกครั้งขอบคุณทุกท่านที่ติดตามฟังค่ะ ประชุม APEC สัตยาบันของการยอมเป็นทาส เงิน IMF ที่ช่วยมาทาง Asia นั้น อเมริกาไม่ได้ลงสักแดงเดียว เป็นเงินญี่ปุ่นเสียส่วนใหญ่ อเมริกาทำตัวรีดไถและทำตัวเป็นคนคุ้มครองเรียกค่าคุ้มครองด้วยการใช้จิตวิทยาของความขัดแย้งในคาบสมุทรเกาหลี ที่อเมริกาอยากให้มีอยู่นาน ๆ เพื่อใช้เป็นข้อต่อรองในการคุ้มครองความมั่งคั่งของญี่ปุ่น โดยดำรงกำลังทหนารอยู่ในคาบสมุทรเกาหลี เพื่อให้ญี่ปุ่นอดทนต่อการถูกอเมริกาดุด่าสั่งสอน และรีดไถในการเมืองและเศรษฐกิจการค้าระหว่างประเทศ https://youtu.be/mWdQxcgMzm0
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 355 มุมมอง 0 รีวิว
  • ผู้เสียหายคดี "18 บอส" -บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ฉ้อโกงประชาชน รวมตัวยื่นคัดค้านไม่ให้ศาลอาญาปล่อยชั่วคราว สยบข่าวลือ"ทนาย"โพสต์ให้ประกัน 5 แสนบาท

    ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นายสุรเดช จะระนะธัมโม อายุ 65 ปี และ น.ส.พัชริศา เพียรพนัสสัก อายุ 54 ปี เป็นผู้เสียหายในคดีถูก "บอสพอล" นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กับพวก 18 คน ร่วมกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด รวมเป็น 19 ราย กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯฉ้อโกงประชาชน พร้อมกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 คน นำเอกสารคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นายวรภัทรกับพวกผู้ต้องหาทั้งหมด

    น.ส.พัชริศา กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจากทุก ๆ กลุ่มที่ส่งรายชื่อเข้ามา 355 คน ร่วมกันยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้เหมือนสงครามจิตวิทยา เพราะทั้งฝ่ายทางบริษัท ดิ ไอคอนได้มีการปลุกระดมให้มีการถอนแจ้งความ ด้วยเงื่อนไขใดตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ การมายื่นคำร้องขอคัดค้าน พวกเราบางคนหมดเนื้อหมดตัวลำบากพอแล้ว ไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายความแต่อย่างใด ขอใช้ช่องทางตามกฎหมายในขอคัดค้านการประกันตัวจนกว่าจะคดีถึงสิ้นสุด ตนเห็นว่า มีการปลุกระดมปลุกปั่นไม่เคยเจอมาก่อนที่จะมีการยุ่งเหยิง วุ่นวาย มีการแจ้งความแล้วก็ไปขอถอนแจ้งความ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้เป็นการไปให้บันทึกปากคำใหม่ แน่นอนว่าจะต้องมี 1 ครั้งที่เป็นเท็จ แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงเนื่องจากเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพิจารณาอย่างไร ตนเชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ทนายความไปรับคำสั่งจากผู้ต้องหาในห้องขังในเรือนจำออกมาก็ปั่นป่วนผู้เสียหายมากมายแล้ว ขนาดยังไม่ออกมายังบอกว่า จะฟ้องผู้เสียหายทุกคน ถ้าได้ประกันออกมาไม่รู้จะวุ่นวายมากกว่านี้ขนาดไหน

    คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000000665

    #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    ผู้เสียหายคดี "18 บอส" -บริษัท ดิ ไอคอน กรุ๊ป ฉ้อโกงประชาชน รวมตัวยื่นคัดค้านไม่ให้ศาลอาญาปล่อยชั่วคราว สยบข่าวลือ"ทนาย"โพสต์ให้ประกัน 5 แสนบาท • ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (3 ม.ค.) นายสุรเดช จะระนะธัมโม อายุ 65 ปี และ น.ส.พัชริศา เพียรพนัสสัก อายุ 54 ปี เป็นผู้เสียหายในคดีถูก "บอสพอล" นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กับพวก 18 คน ร่วมกับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด รวมเป็น 19 ราย กระทำผิดฐานฉ้อโกงประชาชนและความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯฉ้อโกงประชาชน พร้อมกลุ่มผู้เสียหายจำนวน 10 คน นำเอกสารคำร้องขอคัดค้านการปล่อยชั่วคราว นายวรภัทรกับพวกผู้ต้องหาทั้งหมด • น.ส.พัชริศา กล่าวว่า กลุ่มผู้เสียหายจากทุก ๆ กลุ่มที่ส่งรายชื่อเข้ามา 355 คน ร่วมกันยื่นคัดค้านการปล่อยชั่วคราวกลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมด ขณะนี้เหมือนสงครามจิตวิทยา เพราะทั้งฝ่ายทางบริษัท ดิ ไอคอนได้มีการปลุกระดมให้มีการถอนแจ้งความ ด้วยเงื่อนไขใดตนไม่ทราบ แต่สิ่งที่เราทำได้คือ การมายื่นคำร้องขอคัดค้าน พวกเราบางคนหมดเนื้อหมดตัวลำบากพอแล้ว ไม่มีเงินที่จะไปจ้างทนายความแต่อย่างใด ขอใช้ช่องทางตามกฎหมายในขอคัดค้านการประกันตัวจนกว่าจะคดีถึงสิ้นสุด ตนเห็นว่า มีการปลุกระดมปลุกปั่นไม่เคยเจอมาก่อนที่จะมีการยุ่งเหยิง วุ่นวาย มีการแจ้งความแล้วก็ไปขอถอนแจ้งความ ทั้งที่ไม่สามารถทำได้เป็นการไปให้บันทึกปากคำใหม่ แน่นอนว่าจะต้องมี 1 ครั้งที่เป็นเท็จ แต่ตนไม่ขอก้าวล่วงเนื่องจากเป็นเรื่องของตัวบทกฎหมายว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองจะพิจารณาอย่างไร ตนเชื่อว่าความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว แค่ทนายความไปรับคำสั่งจากผู้ต้องหาในห้องขังในเรือนจำออกมาก็ปั่นป่วนผู้เสียหายมากมายแล้ว ขนาดยังไม่ออกมายังบอกว่า จะฟ้องผู้เสียหายทุกคน ถ้าได้ประกันออกมาไม่รู้จะวุ่นวายมากกว่านี้ขนาดไหน • คลิกอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >>https://mgronline.com/crime/detail/9680000000665 • #MGROnline #ดิไอคอน #ดิไอคอนกรุ๊ป #TheiConGroup #บอสพอล #บอสหมอเอก #กันต์กันตถาวร #มินพีชญา #แซมยุรนันท์
    0 ความคิดเห็น 0 การแบ่งปัน 869 มุมมอง 0 รีวิว
Pages Boosts