• เฉิงตู – จิ่วจ้ายโกว – ตูเจียงเยี่ยน 5 วัน 4 คืน
    เดินทาง ก.ย. – ธ.ค. 2568
    โดยสายการบิน Air China (CA)
    พักโรงแรม 4 ดาว
    ราคาดี๊ดี เริ่มต้นเพียง **฿18,999.-** ต่อท่าน

    ไฮไลท์สุดฟิน
    นั่งรถไฟความเร็วสูงสู่จิ่วจ้ายโกว
    เที่ยว อุทยานจิ่วจ้ายโกว เต็มวัน
    หมู่บ้านชาวทิเบตสุดอบอุ่น
    กลับเฉิงตูด้วยรถไฟความเร็วสูง
    เที่ยวน้ำตาสีฟ้า เขื่อนตูเจียงเอี้ยน
    เดินเล่น **ซอยกว้างแคบ**
    ชม "หมีแพนด้าปีนตึก"
    ปิดท้ายด้วยช้อปปิ้งที่ POP MART

    พร้อมออกเดินทางทุกเดือน กันยา – ธันวา 68

    จองก่อนเต็ม

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/eaa92c

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #จิ่วจ้ายโกว #เฉิงตู #ตูเจียงเยี่ยน #เที่ยวจีน #ทัวร์จีนราคาดี #เที่ยวหน้าหนาว #หิมะจีน #POPmart #หมีแพนด้า #เที่ยวคุ้ม #ของมันต้องไป #เที่ยวกับแฟน #เที่ยวจีน2568 #ChinaTrip #เที่ยวธรรมชาติ #AirChina #โปรเด็ด #เที่ยวเต็มวัน
    📍เฉิงตู – จิ่วจ้ายโกว – ตูเจียงเยี่ยน 5 วัน 4 คืน เดินทาง ก.ย. – ธ.ค. 2568 ✈️ โดยสายการบิน Air China (CA) 🏨 พักโรงแรม 4 ดาว 💰 ราคาดี๊ดี เริ่มต้นเพียง **฿18,999.-** ต่อท่าน 📌 ไฮไลท์สุดฟิน 🚄 นั่งรถไฟความเร็วสูงสู่จิ่วจ้ายโกว 🏞️ เที่ยว อุทยานจิ่วจ้ายโกว เต็มวัน 🏘️ หมู่บ้านชาวทิเบตสุดอบอุ่น 🚄 กลับเฉิงตูด้วยรถไฟความเร็วสูง 💧 เที่ยวน้ำตาสีฟ้า เขื่อนตูเจียงเอี้ยน 🏙️ เดินเล่น **ซอยกว้างแคบ** 🐼 ชม "หมีแพนด้าปีนตึก" 🛍️ ปิดท้ายด้วยช้อปปิ้งที่ POP MART 📆 พร้อมออกเดินทางทุกเดือน กันยา – ธันวา 68 📲 จองก่อนเต็ม‼️ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/eaa92c LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #จิ่วจ้ายโกว #เฉิงตู #ตูเจียงเยี่ยน #เที่ยวจีน #ทัวร์จีนราคาดี #เที่ยวหน้าหนาว #หิมะจีน #POPmart #หมีแพนด้า #เที่ยวคุ้ม #ของมันต้องไป #เที่ยวกับแฟน #เที่ยวจีน2568 #ChinaTrip #เที่ยวธรรมชาติ #AirChina #โปรเด็ด #เที่ยวเต็มวัน
    0 Comments 0 Shares 101 Views 0 Reviews
  • ทัวร์ไต้หวัน HIGHLIGHT!… ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา
    5 วัน 3 คืน ฟินจัดเต็มทั้งไหว้พระ เที่ยวธรรมชาติ ช้อปปิ้งเพลิน!

    เดินทาง:
    30 ก.ค. - 3 ส.ค. 2568
    13 - 17 ส.ค. 2568

    สายการบิน: VietJet Air (VZ)
    ราคาเพียง 11,999.-

    โปรแกรมสุดปัง:
    ขอพรเสริมเฮงที่วัดหลงซาน / วัดเหวิ่นหวู่ / วัดพระถีงซัมจั๋ง
    ล่องเรือชมวิวสุดชิวที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา
    เที่ยวหมู่บ้านโบราณจีวเฟิน
    ถ่ายรูปชิคๆ ที่ท่าเรือเจิ้งปิน
    แวะชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค / อุทยานเหย๋หลิว
    ช้อปปิ้งมันส์ที่ซีเหมินติง / กลอเรียเอาท์เล็ต / ดิวตี้ฟรี
    เดินชิลไถจงไนท์มาร์เก็ต / เถาหยวนไนท์มาร์เก็ต

    รีบจองด่วน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด!

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ea2fe8

    ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/b999ee

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ไต้หวันฟินเวอร์ #ล่องเรือสุริยันจันทรา #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาดี #ไต้หวันVZ #จีวเฟิน #ซีเหมินติง #ตลาดกลางคืนไต้หวัน #ทัวร์ไฟไหม้ #เที่ยวไต้หวันต้องไป
    🇹🇼 ทัวร์ไต้หวัน HIGHLIGHT!… ล่องเรือทะเลสาบสุริยันจันทรา 🛶✨ 5 วัน 3 คืน ฟินจัดเต็มทั้งไหว้พระ เที่ยวธรรมชาติ ช้อปปิ้งเพลิน! 📅 เดินทาง: 30 ก.ค. - 3 ส.ค. 2568 13 - 17 ส.ค. 2568 ✈️ สายการบิน: VietJet Air (VZ) 💰 ราคาเพียง 11,999.- 📍 โปรแกรมสุดปัง: 🙏 ขอพรเสริมเฮงที่วัดหลงซาน / วัดเหวิ่นหวู่ / วัดพระถีงซัมจั๋ง 🚢 ล่องเรือชมวิวสุดชิวที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา 🎎 เที่ยวหมู่บ้านโบราณจีวเฟิน 🚢 ถ่ายรูปชิคๆ ที่ท่าเรือเจิ้งปิน 📸 แวะชมอนุสรณ์สถานเจียงไคเช็ค / อุทยานเหย๋หลิว 🛍️ ช้อปปิ้งมันส์ที่ซีเหมินติง / กลอเรียเอาท์เล็ต / ดิวตี้ฟรี 🌃 เดินชิลไถจงไนท์มาร์เก็ต / เถาหยวนไนท์มาร์เก็ต 🔥 รีบจองด่วน ที่นั่งมีจำนวนจำกัด! ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ea2fe8 ดูทัวร์ไต้หวันทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/b999ee LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ไต้หวัน #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #ไต้หวันฟินเวอร์ #ล่องเรือสุริยันจันทรา #เที่ยวไต้หวัน #ทัวร์ไต้หวันราคาดี #ไต้หวันVZ #จีวเฟิน #ซีเหมินติง #ตลาดกลางคืนไต้หวัน #ทัวร์ไฟไหม้ #เที่ยวไต้หวันต้องไป
    0 Comments 0 Shares 353 Views 0 Reviews
  • ฟรีพักเดี่ยว! ด่วนจำนวนจำกัด
    เหลือ*4 ที่สุดท้าย เท่านั้น
    หมดเขต*พุธที่ 16 ก.ค. 2568*

    กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน
    เดินทาง 26-28 ก.ค. 68
    เพียง 3,999.- / ท่าน

    ไฮไลท์การเดินทาง
    วัดพระธาตุนครชุม
    อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร
    วัดพระสี่อิริยาบถ – วัดพระแก้ว – วัดช้างรอบ – วัดพระนอน
    จุดเช็คอินศาลหลักเมือง & ถนนคนเดินกำแพง
    เที่ยวธรรมชาติ คลองลาน – ช่องเย็น – โมโกจูน้อย – กิ่วกระทิง
    น้ำตกคลองลาน – น้ำตกคลองน้ำไหล – จุดชมอ่าง
    พักสบายที่ "กำแพงเพชรเดอะรูม" และ "คลองลานมากบุญรีสอร์ท" หรือเทียบเท่า
    ช้อปปิ้งตลาดมอกกล้วยไข่

    รีบจองก่อนเต็มนะจ๊ะ

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติม
    https://78s.me/ed904c

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #เที่ยวกำแพงเพชร #ทัวร์ถูกและดี #ฟรีพักเดี่ยว #โปรไฟไหม้ #ที่พักดีวิวสวย #ธรรมชาติบำบัด #เที่ยวไทยให้หายคิดถึง #ไฮไลท์ครบจบในทริปเดียว
    🎉 ฟรีพักเดี่ยว! ด่วนจำนวนจำกัด เหลือ*4 ที่สุดท้าย เท่านั้น ⏳หมดเขต*พุธที่ 16 ก.ค. 2568* 📍 กำแพงเพชร 3 วัน 2 คืน 🗓️ เดินทาง 26-28 ก.ค. 68 💰 เพียง 3,999.- / ท่าน 🌟 ไฮไลท์การเดินทาง 🛕 วัดพระธาตุนครชุม 🏛️ อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร 🙏 วัดพระสี่อิริยาบถ – วัดพระแก้ว – วัดช้างรอบ – วัดพระนอน 📸 จุดเช็คอินศาลหลักเมือง & ถนนคนเดินกำแพง 🌳 เที่ยวธรรมชาติ คลองลาน – ช่องเย็น – โมโกจูน้อย – กิ่วกระทิง 💦 น้ำตกคลองลาน – น้ำตกคลองน้ำไหล – จุดชมอ่าง 🏡 พักสบายที่ "กำแพงเพชรเดอะรูม" และ "คลองลานมากบุญรีสอร์ท" หรือเทียบเท่า 🛍️ ช้อปปิ้งตลาดมอกกล้วยไข่ 📌 รีบจองก่อนเต็มนะจ๊ะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติม https://78s.me/ed904c LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway #เที่ยวกำแพงเพชร #ทัวร์ถูกและดี #ฟรีพักเดี่ยว #โปรไฟไหม้ #ที่พักดีวิวสวย #ธรรมชาติบำบัด #เที่ยวไทยให้หายคิดถึง #ไฮไลท์ครบจบในทริปเดียว 🌿🚌✨
    0 Comments 0 Shares 335 Views 0 Reviews
  • รีวิวกรุ๊ปส่วนตัว 22 ท่าน
    #เวียงจันทน์#คุนหมิง 5 วัน 4 คืน
    เดินทาง 30 พ.ค. – 4 มิ.ย. 68

    ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บินลัดฟ้าจากลาวสู่จีน
    เริ่มต้นที่เวียงจันทน์ ชมประตูชัย-พระธาตุหลวง
    ต่อด้วยรถไฟความเร็วสูงสู่คุนหมิง
    ⛰ เที่ยวธรรมชาติที่สวยตะลึง ทั้งหุบเขา น้ำตก และสวนสวยเมืองจีน
    อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองทั้งลาว-จีน
    เก็บภาพประทับใจเต็มกล้อง

    ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้เราดูแล

    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่ได้เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง
    ทุกความทรงจำเป็นกำลังใจอันมีค่าสำหรับพวกเราค่ะ
    หวังว่าจะได้ดูแลทริปหน้าของทุกท่านอีกนะคะ

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    🎉 รีวิวกรุ๊ปส่วนตัว 22 ท่าน 🎉 #เวียงจันทน์ – #คุนหมิง 5 วัน 4 คืน 📅 เดินทาง 30 พ.ค. – 4 มิ.ย. 68 🌟 ทริปสุดเอ็กซ์คลูซีฟ บินลัดฟ้าจากลาวสู่จีน 📍 เริ่มต้นที่เวียงจันทน์ ชมประตูชัย-พระธาตุหลวง 🚄 ต่อด้วยรถไฟความเร็วสูงสู่คุนหมิง ⛰ เที่ยวธรรมชาติที่สวยตะลึง ทั้งหุบเขา น้ำตก และสวนสวยเมืองจีน 🍱 อิ่มอร่อยกับอาหารพื้นเมืองทั้งลาว-จีน 📸 เก็บภาพประทับใจเต็มกล้อง 🙏 ขอบคุณทุกท่านที่ไว้วางใจให้เราดูแล ❤️ ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่ได้เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง 📸 ทุกความทรงจำเป็นกำลังใจอันมีค่าสำหรับพวกเราค่ะ 😘 หวังว่าจะได้ดูแลทริปหน้าของทุกท่านอีกนะคะ 💖✈️ LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 308 Views 0 Reviews
  • อย่ายอมแพ้แค่เพราะมันยาก แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ในวันที่โลกทั้งใบไม่เข้าข้างคุณ ชีวิตมันไม่ง่าย...แต่ก็คุ้มค่าที่จะ "ไม่ยอมแพ้"

    แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ไม่หยุด = ชนะ สำหรับคนที่เจอวิกฤต ชีวิตมันยาก...แต่คุณ "ต้องรอด

    บทความนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อคุณ...ผู้ที่กำลังเผชิญช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิต ชีวิตอาจไม่ง่าย แต่คุณยังมีพลังเงียบในตัวเองเสมอ ขอแค่คุณไม่หยุดเดิน ก็ถือว่าคุณ "ชนะ" แล้ว

    ชีวิตไม่ได้ง่ายสำหรับใครเลย...แต่คุณก็ยังไปต่อได้เสมอ ทุกคนล้วนมี "วันที่เหนื่อยแทบล้มทั้งยืน" วันที่เหมือนถูกทั้งโลก ผลักให้จมดิ่งลงไปเรื่อยๆ วันที่ไม่เหลือแม้แต่ "คำปลอบใจ" จากใครสักคน...

    แต่รู้ไหม? คุณไม่ได้อ่อนแอที่รู้สึกท้อ และคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในความรู้สึกแบบนี้... บทความนี้...เขียนเพื่อคุณ เพื่อบอกคุณว่า "แค่ไม่ยอมแพ้...ก็ถือว่าชนะแล้ว"

    แรงบันดาลใจ ไม่ใช่พลังวิเศษ ไม่ใช่พลังมหาศาลแบบในหนังฮีโร่ แต่มันคือ “พลังเงียบ” ที่ช่วยให้เรา "ลุกจากเตียง" ในวันที่ไม่อยากตื่นเลยด้วยซ้ำ...

    แรงบันดาลใจ... ไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องเว่อร์ แค่คิดถึง "คนที่เรารัก" ก็เป็นพลัง หรือบางทีแค่ "ประโยคหนึ่ง" จากบทความนี้
    ก็อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของคุณได้

    ทำไมเราต้องมีแรงบันดาลใจ? เพราะในวันที่ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผน แรงบันดาลใจจะคอย "เตือนใจ" เราว่า ชีวิตยังมีความหมายอยู่...แม้มันจะยังไม่ง่ายก็ตาม

    เมื่อทุกอย่างพังทลาย...อะไรคือสิ่งที่ยังเหลืออยู่ ชีวิตบางครั้งเหมือนห้องที่ถูกพายุถล่ม จนเละไม่มีชิ้นดี บ้านอาจพอซ่อมได้...แต่ “ใจ” ที่พังนี่แหละ ซ่อมยากที่สุด

    ในวันที่คุณรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีแสง ไม่มีทางเริ่มต้นใหม่ ลองมองดูให้ดี... คุณยังมี “ตัวเอง” ยังมี หัวใจ ที่ยังเต้น แปลว่าคุณยัง "มีโอกาส" ยังมี สมอง ที่จะเปลี่ยนความคิดทุกอย่างได้ และที่สำคัญ...ยัง เลือกได้ เสมอว่าจะ “ลุก” หรือ “นอนจม” ต่อไป

    อย่าลืมว่า...ต่อให้โลกจะไม่เข้าใจ แต่คุณยัง "เข้าใจตัวเอง" ได้เสมอ

    บทเรียนจากวิกฤต ทุกปัญหาคือของขวัญ ในรูปแบบที่เราไม่คาดคิด หลายคนค้นพบ "ตัวเอง" ในช่วงที่ยากที่สุดของชีวิต เพราะชีวิตไม่ได้ส่งวิกฤตมาเพื่อ "ทำร้ายเรา" แต่มันส่งมาเพื่อ "ทำให้เราเติบโต"

    คนที่เคยกลัวความล้มเหลว กลายเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว

    คนที่เคยอ่อนแอ กลายเป็นคนที่เข้มแข็งจนคนรอบข้างทึ่ง

    ทุกปัญหา…มีของขวัญซ่อนอยู่ ถ้าคุณ “กล้าพอ” ที่จะเปิดมันออกมาดู

    อย่ายอมแพ้…แม้ในวันที่ไม่มีใครอยู่ข้างคุณ ในวันที่คุณไม่มีใคร คุณยังมี “ตัวเอง” และคุณต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ของตัวเองให้ได้ พูดกับตัวเองในกระจกว่า “เก่งมากแล้วนะ ที่ยังยืนอยู่ได้” ให้กำลังใจตัวเอง แบบที่คุณอยากได้จากคนอื่น

    และจงจำไว้เสมอว่า คุณคือคนเดียวที่อยู่กับตัวเอง ไปจนวันสุดท้าย อย่าให้ความโดดเดี่ยวทำให้คุณยอมแพ้ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีทุกคนเข้าใจ แค่คุณ “เข้าใจตัวเอง” ก็เพียงพอแล้ว

    ความหวัง & ความเชื่อ พลังเล็กๆ ที่เปลี่ยนโลกทั้งใบได้ ความหวัง คือ "แสง" ที่ปลายอุโมงค์ มันอาจจะไกล...แต่มัน "มีอยู่จริง" คนที่เชื่อว่า "ชีวิตจะดีขึ้น" มักมีโอกาส “เจอสิ่งดีๆ” มากกว่าคนที่หมดหวัง

    ความเชื่อ คือ “พลังล่องหน” ที่สามารถขับเคลื่อนเรา แม้ในวันที่ดูเหมือนไม่เหลืออะไรเลย ความหวังไม่ใช่คำปลอบใจ
    แต่มันคือเครื่องมือในการ “เอาตัวรอด” อย่างแท้จริง

    กลยุทธ์ฟื้นตัวในวันที่ชีวิตพัง ทำอย่างไรให้กลับมายืนได้อีกครั้ง

    ตั้งสติ ไม่โทษตัวเอง ความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่ต้อง “ลงโทษตัวเอง” แต่เป็นสิ่งที่ต้อง “เรียนรู้”

    พัก แต่ไม่ถอย เหนื่อยได้ ร้องไห้ได้ แต่ขอแค่ “อย่าถอยกลับไปที่เดิม”

    มองหาความสุขเล็กๆ อย่ามองหาแต่เป้าหมายใหญ่ จนลืมว่ารอยยิ้มจากกาแฟแก้วหนึ่ง...ก็เป็นพลังได้เหมือนกัน

    เขียนไดอารี่ บันทึกความรู้สึก เพราะเมื่อคุณย้อนกลับมาอ่าน มันจะเตือนว่าคุณ "ผ่านอะไรมาได้มากแค่ไหนแล้ว"

    หาคนฟังที่ไม่ตัดสิน บางครั้งเราต้องการแค่คนที่ “ฟังเรา” โดยไม่พยายามแก้ไขอะไรเลย แค่รับฟัง

    ไม่หยุด = ชนะแล้ว คุณไม่ต้อง "ชนะทุกอย่าง" แค่คุณ “ไม่ยอมแพ้” ก็ถือว่า “คุณชนะแล้ว” ล้มได้ แต่ลุกอีกครั้ง เดินช้าได้ แต่ขอแค่อย่าหยุด เหนื่อยได้ แต่จงจำไว้ว่า "พัก" ไม่ใช่ "ถอย"

    อย่าลืมว่า… คนที่ผ่านช่วงมืดที่สุดมาได้ คือคนที่จะ "สว่างกว่าใคร" เมื่อถึงเวลา

    คำคมสร้างพลังใจ
    "ถ้าคุณยังหายใจอยู่ แปลว่าคุณยังเปลี่ยนทุกอย่างได้เสมอ"

    "ชีวิตมันไม่ง่าย...แต่มัน ‘คุ้มค่า’ ที่จะใช้"

    "ล้มได้ ไม่เป็นไร ขอแค่ ‘อย่าล้มเลิก’"

    ถ้ารู้สึกท้อทุกวัน ควรเริ่มจากการดูแลตัวเองทีละนิด พักผ่อนให้เพียงพอ หาแรงบันดาลใจจากสิ่งเล็กๆ และอย่าลืมหาคนที่พร้อมจะฟังคุณอย่างแท้จริง

    หากแรงบันดาลใจหายไป ให้กลับไปหา "จุดเริ่มต้น" ที่ทำให้คุณเริ่มฝัน ลองนึกถึงคนที่คุณอยากภูมิใจในตัวคุณ แล้วเริ่มใหม่จากตรงนั้น

    หากรู้สึกไม่มีค่าเลย เพราะคุณกำลังใช้มาตรฐานของคนอื่น ตัดสินตัวเอง ลองกลับมาโฟกัสที่สิ่งที่คุณทำได้ดี แม้จะเล็กน้อย ก็ยังมีคุณค่า

    ถ้าคุณยังยืนอยู่ได้หลังจากที่เจ็บมา นั่นแปลว่าคุณ “ผ่านวิกฤตมาแล้วครึ่งหนึ่ง”

    เขียนจดหมายถึงตัวเองในอนาคต เดินเล่นคนเดียว ไปเที่ยวธรรมชาติ หรือฟังเพลงที่ให้พลังบวก เพื่อฟืเนพลังใจ

    ไม่มีใครเก่งพอจะไม่ล้ม แต่ทุกคนเก่งพอที่จะ “ลุก” ได้เสมอ

    สาระสำคัญที่ควรจดจำ ชีวิตไม่ได้ต้องการให้เราชนะทุกวัน แค่คุณ “ไม่ยอมแพ้” ก็คือ “คุณเก่งมากแล้ว”

    จงเลือกที่จะเดินต่อ...แม้จะช้าก็ตาม เพราะความหวังอยู่ที่ปลายทางเสมอ พร้อมหรือยังที่จะ "ไม่ยอมแพ้"...?
    คุณไปต่อได้แน่นอน

    ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222210 เม.ย. 2568

    #แรงบันดาลใจ #ชีวิตไม่ง่ายแต่ต้องรอด #อย่ายอมแพ้ #กำลังใจดีๆ #สู้ชีวิต #พลังใจ #ความหวังยังมีเสมอ #คำคมชีวิต #เอาชนะใจตัวเอง #ชีวิตคือการเดินทาง
    อย่ายอมแพ้แค่เพราะมันยาก แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ในวันที่โลกทั้งใบไม่เข้าข้างคุณ ชีวิตมันไม่ง่าย...แต่ก็คุ้มค่าที่จะ "ไม่ยอมแพ้" 🔍 แรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต ไม่หยุด = ชนะ สำหรับคนที่เจอวิกฤต ชีวิตมันยาก...แต่คุณ "ต้องรอด ✨ 📌 บทความนี้ถูกเขียนขึ้นเพื่อคุณ...ผู้ที่กำลังเผชิญช่วงเวลาที่มืดมนที่สุดในชีวิต ชีวิตอาจไม่ง่าย แต่คุณยังมีพลังเงียบในตัวเองเสมอ ขอแค่คุณไม่หยุดเดิน ก็ถือว่าคุณ "ชนะ" แล้ว 💪 ชีวิตไม่ได้ง่ายสำหรับใครเลย...แต่คุณก็ยังไปต่อได้เสมอ ทุกคนล้วนมี "วันที่เหนื่อยแทบล้มทั้งยืน" วันที่เหมือนถูกทั้งโลก ผลักให้จมดิ่งลงไปเรื่อยๆ วันที่ไม่เหลือแม้แต่ "คำปลอบใจ" จากใครสักคน... แต่รู้ไหม? คุณไม่ได้อ่อนแอที่รู้สึกท้อ และคุณไม่ได้อยู่คนเดียวในความรู้สึกแบบนี้... บทความนี้...เขียนเพื่อคุณ เพื่อบอกคุณว่า "แค่ไม่ยอมแพ้...ก็ถือว่าชนะแล้ว" 🌟 แรงบันดาลใจ ไม่ใช่พลังวิเศษ ไม่ใช่พลังมหาศาลแบบในหนังฮีโร่ แต่มันคือ “พลังเงียบ” ที่ช่วยให้เรา "ลุกจากเตียง" ในวันที่ไม่อยากตื่นเลยด้วยซ้ำ... แรงบันดาลใจ... ไม่ต้องใหญ่ ไม่ต้องเว่อร์ แค่คิดถึง "คนที่เรารัก" ก็เป็นพลัง หรือบางทีแค่ "ประโยคหนึ่ง" จากบทความนี้ ก็อาจเปลี่ยนชีวิตทั้งชีวิตของคุณได้ 🎯 ทำไมเราต้องมีแรงบันดาลใจ? เพราะในวันที่ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผน แรงบันดาลใจจะคอย "เตือนใจ" เราว่า ชีวิตยังมีความหมายอยู่...แม้มันจะยังไม่ง่ายก็ตาม 🧩 เมื่อทุกอย่างพังทลาย...อะไรคือสิ่งที่ยังเหลืออยู่ ชีวิตบางครั้งเหมือนห้องที่ถูกพายุถล่ม จนเละไม่มีชิ้นดี บ้านอาจพอซ่อมได้...แต่ “ใจ” ที่พังนี่แหละ ซ่อมยากที่สุด 🧱 ในวันที่คุณรู้สึกว่าไม่มีใครเข้าใจ ไม่มีแสง ไม่มีทางเริ่มต้นใหม่ ลองมองดูให้ดี... คุณยังมี “ตัวเอง” ยังมี หัวใจ ที่ยังเต้น แปลว่าคุณยัง "มีโอกาส" ยังมี สมอง ที่จะเปลี่ยนความคิดทุกอย่างได้ และที่สำคัญ...ยัง เลือกได้ เสมอว่าจะ “ลุก” หรือ “นอนจม” ต่อไป ❤️ อย่าลืมว่า...ต่อให้โลกจะไม่เข้าใจ แต่คุณยัง "เข้าใจตัวเอง" ได้เสมอ ❤️ 🎁 บทเรียนจากวิกฤต ทุกปัญหาคือของขวัญ ในรูปแบบที่เราไม่คาดคิด หลายคนค้นพบ "ตัวเอง" ในช่วงที่ยากที่สุดของชีวิต เพราะชีวิตไม่ได้ส่งวิกฤตมาเพื่อ "ทำร้ายเรา" แต่มันส่งมาเพื่อ "ทำให้เราเติบโต" คนที่เคยกลัวความล้มเหลว กลายเป็นคนที่ไม่กลัวอะไรอีกแล้ว คนที่เคยอ่อนแอ กลายเป็นคนที่เข้มแข็งจนคนรอบข้างทึ่ง ทุกปัญหา…มีของขวัญซ่อนอยู่ ถ้าคุณ “กล้าพอ” ที่จะเปิดมันออกมาดู 🤝 อย่ายอมแพ้…แม้ในวันที่ไม่มีใครอยู่ข้างคุณ ในวันที่คุณไม่มีใคร คุณยังมี “ตัวเอง” และคุณต้องเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด ของตัวเองให้ได้ พูดกับตัวเองในกระจกว่า “เก่งมากแล้วนะ ที่ยังยืนอยู่ได้” ให้กำลังใจตัวเอง แบบที่คุณอยากได้จากคนอื่น และจงจำไว้เสมอว่า คุณคือคนเดียวที่อยู่กับตัวเอง ไปจนวันสุดท้าย อย่าให้ความโดดเดี่ยวทำให้คุณยอมแพ้ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องมีทุกคนเข้าใจ แค่คุณ “เข้าใจตัวเอง” ก็เพียงพอแล้ว ✨ ความหวัง & ความเชื่อ พลังเล็กๆ ที่เปลี่ยนโลกทั้งใบได้ ความหวัง คือ "แสง" ที่ปลายอุโมงค์ มันอาจจะไกล...แต่มัน "มีอยู่จริง" 💡 คนที่เชื่อว่า "ชีวิตจะดีขึ้น" มักมีโอกาส “เจอสิ่งดีๆ” มากกว่าคนที่หมดหวัง ความเชื่อ คือ “พลังล่องหน” ที่สามารถขับเคลื่อนเรา แม้ในวันที่ดูเหมือนไม่เหลืออะไรเลย ความหวังไม่ใช่คำปลอบใจ แต่มันคือเครื่องมือในการ “เอาตัวรอด” อย่างแท้จริง 🛠️ กลยุทธ์ฟื้นตัวในวันที่ชีวิตพัง ทำอย่างไรให้กลับมายืนได้อีกครั้ง ตั้งสติ ไม่โทษตัวเอง ความผิดพลาดไม่ใช่สิ่งที่ต้อง “ลงโทษตัวเอง” แต่เป็นสิ่งที่ต้อง “เรียนรู้” พัก แต่ไม่ถอย เหนื่อยได้ ร้องไห้ได้ แต่ขอแค่ “อย่าถอยกลับไปที่เดิม” มองหาความสุขเล็กๆ อย่ามองหาแต่เป้าหมายใหญ่ จนลืมว่ารอยยิ้มจากกาแฟแก้วหนึ่ง...ก็เป็นพลังได้เหมือนกัน ☕ เขียนไดอารี่ บันทึกความรู้สึก เพราะเมื่อคุณย้อนกลับมาอ่าน มันจะเตือนว่าคุณ "ผ่านอะไรมาได้มากแค่ไหนแล้ว" หาคนฟังที่ไม่ตัดสิน บางครั้งเราต้องการแค่คนที่ “ฟังเรา” โดยไม่พยายามแก้ไขอะไรเลย แค่รับฟัง 🏁 ไม่หยุด = ชนะแล้ว คุณไม่ต้อง "ชนะทุกอย่าง" แค่คุณ “ไม่ยอมแพ้” ก็ถือว่า “คุณชนะแล้ว” ล้มได้ แต่ลุกอีกครั้ง เดินช้าได้ แต่ขอแค่อย่าหยุด เหนื่อยได้ แต่จงจำไว้ว่า "พัก" ไม่ใช่ "ถอย" อย่าลืมว่า… คนที่ผ่านช่วงมืดที่สุดมาได้ คือคนที่จะ "สว่างกว่าใคร" เมื่อถึงเวลา 💬 คำคมสร้างพลังใจ "ถ้าคุณยังหายใจอยู่ แปลว่าคุณยังเปลี่ยนทุกอย่างได้เสมอ" "ชีวิตมันไม่ง่าย...แต่มัน ‘คุ้มค่า’ ที่จะใช้" "ล้มได้ ไม่เป็นไร ขอแค่ ‘อย่าล้มเลิก’" ถ้ารู้สึกท้อทุกวัน ควรเริ่มจากการดูแลตัวเองทีละนิด พักผ่อนให้เพียงพอ หาแรงบันดาลใจจากสิ่งเล็กๆ และอย่าลืมหาคนที่พร้อมจะฟังคุณอย่างแท้จริง หากแรงบันดาลใจหายไป ให้กลับไปหา "จุดเริ่มต้น" ที่ทำให้คุณเริ่มฝัน ลองนึกถึงคนที่คุณอยากภูมิใจในตัวคุณ แล้วเริ่มใหม่จากตรงนั้น หากรู้สึกไม่มีค่าเลย เพราะคุณกำลังใช้มาตรฐานของคนอื่น ตัดสินตัวเอง ลองกลับมาโฟกัสที่สิ่งที่คุณทำได้ดี แม้จะเล็กน้อย ก็ยังมีคุณค่า ถ้าคุณยังยืนอยู่ได้หลังจากที่เจ็บมา นั่นแปลว่าคุณ “ผ่านวิกฤตมาแล้วครึ่งหนึ่ง” เขียนจดหมายถึงตัวเองในอนาคต เดินเล่นคนเดียว ไปเที่ยวธรรมชาติ หรือฟังเพลงที่ให้พลังบวก เพื่อฟืเนพลังใจ ไม่มีใครเก่งพอจะไม่ล้ม แต่ทุกคนเก่งพอที่จะ “ลุก” ได้เสมอ 🔑 สาระสำคัญที่ควรจดจำ ชีวิตไม่ได้ต้องการให้เราชนะทุกวัน แค่คุณ “ไม่ยอมแพ้” ก็คือ “คุณเก่งมากแล้ว” จงเลือกที่จะเดินต่อ...แม้จะช้าก็ตาม เพราะความหวังอยู่ที่ปลายทางเสมอ พร้อมหรือยังที่จะ "ไม่ยอมแพ้"...? 💥 คุณไปต่อได้แน่นอน ✨ ป้อม-อัครวัฒน์ ธนันฐ์กิตติกุล 222210 เม.ย. 2568 📱 #แรงบันดาลใจ #ชีวิตไม่ง่ายแต่ต้องรอด #อย่ายอมแพ้ #กำลังใจดีๆ #สู้ชีวิต #พลังใจ #ความหวังยังมีเสมอ #คำคมชีวิต #เอาชนะใจตัวเอง #ชีวิตคือการเดินทาง
    0 Comments 0 Shares 777 Views 0 Reviews
  • ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์

    เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง

    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้

    ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง)

    ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน)

    ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู)

    กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด

    ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป

    ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์:
    ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
    วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ
    พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่
    • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก
    • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี
    • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล
    นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที
    พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่
    • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM)
    • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
    • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT


    ปภ. แจ้ง 23 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 68 เร่งประสานพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 68 เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 โดยให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เสี่ยงและบริเวณที่มีฝนตกสะสม เตรียมความพร้อมด้านบุคลากร อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้สามารถเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือประชาชนได้อย่างรวดเร็วเมื่อเกิดสถานการณ์ภัยขึ้น รวมถึงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้า และประชาสัมพันธ์ข้อมูลสถานการณ์และวิธีการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัยให้ประชาชนทราบอย่างทั่วถึง นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้ติดตามสภาวะอากาศและพิจารณาปัจจัยเสี่ยง ประกอบกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่าบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางจากสาธารณรัฐประชาชนจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ ทำให้ภาคเหนือและภาคกลางยังคงมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น และได้ประเมินวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ ซึ่งมีพื้นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ระหว่างวันที่ 15 -17 เมษายน 2568 ดังนี้ ภาคเหนือ จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน (อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน และอำเภอแม่สะเรียง) เชียงใหม่ (อำเภอเมืองเชียงใหม่ จอมทอง เชียงดาว ดอยสะเก็ด ดอยหล่อ พร้าว แม่แจ่ม แม่แตง แม่ริม แม่วาง แม่ออน สันกำแพง สันทราย และอำเภออมก๋อย) เชียงราย (อำเภอเวียงป่าเป้า) ลำพูน (อำเภอเมืองลำพูน บ้านธิ ป่าซาง และอำเภอแม่ทา) ลำปาง (อำเภอเมืองลำปาง งาว แจ้ห่ม เมืองปาน วังเหนือ สบปราบ เสริมงาม และอำเภอห้างฉัตร) พะเยา (อำเภอปง) แพร่ (อำเภอสอง) และจังหวัดตาก (อำเภอท่าสองยาง และอำเภออุ้มผาง) ภาคกลาง จำนวน 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี (อำเภอเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค ทองผาภูมิ บ่อพลอย ศรีสวัสดิ์ สังขละบุรี และอำเภอหนองปรือ) สระบุรี (อำเภอแก่งคอย) ตราด (อําเภอเขาสมิง และอำเภอบ่อไร่) และจังหวัดเพชรบุรี (อำเภอแก่งกระจาน) ภาคใต้ จำนวน 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี (อำเภอชัยบุรี พนม บ้านตาขุน พระแสง และอำเภอเวียงสระ) นครศรีธรรมราช (อำเภอฉวาง ชะอวด ช้างกลาง ถ้ำพรรณรา ทุ่งสง ทุ่งใหญ่ และอำเภอนาบอน) พัทลุง (อำเภอเมืองพัทลุง ควนขนุน ป่าพะยอม และอำเภอป่าบอน) สงขลา (อำเภอนาทวี คลองหอยโข่ง ควนเนียง รัตภูมิ สะเดา และอำเภอสะบ้าย้อย) ยะลา (อำเภอเมืองยะลา กรงปินัง เบตง ธารโต บันนังสตา กาบัง ยะหา และอำเภอรามัน) นราธิวาส (อำเภอจะแนะ และอำเภอระแงะ) ระนอง (อำเภอกระบุรี) พังงา (อำเภอเมืองพังงา กะปง คุระบุรี ทับปุด และอำเภอท้ายเหมือง) กระบี่ (อำเภอเมืองกระบี่ เขาพนม คลองท่อม ปลายพระยา เหนือคลอง และอำเภออ่าวลึก) ตรัง (อำเภอกันตัง วังวิเศษ สีเกา และอำเภอหัวยอด) และจังหวังหวัดสตูล (อำเภอเมืองสตล ควนกาหลง ควนโดน ท่าแพ ทุ่งหว้า มะนัง และอำเภอละงู) กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก) โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) จึงได้ประสานแจ้งจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เตรียมพร้อมรับมือกับปริมาณฝนที่ตกหนักซึ่งอาจทำให้เกิดอุทกภัย โดยกำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีฝนตกหนักและพื้นที่ที่มีฝนตกติดต่อกันเป็นเวลานาน สำหรับสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ โดยเฉพาะถ้ำน้ำตก ถ้ำลอด หากมีความเสี่ยงเกิดสถานการณ์ภัย ให้ประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด และจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวตลอด 24 ชั่วโมง ในกรณีที่มีคลื่นลมแรง ให้แจ้งเตือนประชาชนบริเวณชายฝั่งทะเลและนักท่องเที่ยวห้ามลงเล่นน้ำโดยเด็ดขาด พร้อมให้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมเจ้าท่า กองทัพเรือ ตำรวจน้ำ แจ้งเตือนการเดินเรือ ให้ชาวเรือ ผู้บังคับเรือ ผู้ประกอบการเดินเรือโดยสาร เดินเรือด้วยความระมัดระวัง หากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น ให้พิจารณาห้ามเดินเรือออกจากฝั่งโดยเด็ดขาด นอกจากนี้ ให้เตรียมความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย รถปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต (ERT) ให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดสถานการณ์ขึ้น และให้จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยทราบล่วงหน้าเพื่อให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์โดยปฏิบัติตามคำแนะนำจากทางราชการอย่างเคร่งครัด ท้ายนี้ ขอให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศ ข้อมูลสถานการณ์ และข่าวสารจากทางราชการอย่างต่อเนื่อง และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยที่อาจเกิดขึ้นโดยปฏิบัติตามคำแนะนำของทางราชการอย่างเคร่งครัด โดยสามารถติดตามประกาศการแจ้งเตือนภัยที่แอปพลิเคชัน “THAI DISASTER ALERT” ซึ่งสามารถดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android และทางสื่อสังคมออนไลน์บัญชีทางการของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย Facebook กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews ทั้งนี้ หากได้รับความเดือดร้อนจากสาธารณภัย ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM รวมถึงสายด่วนนิรภัย1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือต่อไป ได้เลยครับ นี่คือตัวอย่างสรุปข่าวในรูปแบบที่เหมาะสำหรับเผยแพร่ในเว็บไซต์หรือใช้ในสคริปต์ข่าวทีวี/ออนไลน์: ปภ. แจ้งเตือน 23 จังหวัดเสี่ยงน้ำท่วม-ดินถล่ม ช่วง 15-17 เม.ย. 68 เร่งเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ วันนี้ (15 เม.ย. 2568) เวลา 12.30 น. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แจ้งเตือน 23 จังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขัง และดินถล่ม ในช่วงวันที่ 15 - 17 เมษายน 2568 พร้อมสั่งการให้พื้นที่เสี่ยงภัยติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกล อุปกรณ์ เพื่อสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ทันทีเมื่อเกิดเหตุ พื้นที่ที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ • ภาคเหนือ: แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก • ภาคกลาง: กาญจนบุรี สระบุรี ตราด เพชรบุรี • ภาคใต้: สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา นราธิวาส ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง และสตูล นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดี ปภ. เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศร่วมกับสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ พบว่า ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้หลายพื้นที่ยังมีพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักต่อเนื่อง จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะพื้นที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก ถ้ำ และถ้ำลอด หากพบความเสี่ยงให้สั่งปิดทันที พร้อมกันนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย ติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัย หากพบเหตุหรือได้รับความเดือดร้อน สามารถแจ้งขอความช่วยเหลือได้ที่ • ไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” (Line ID: @1784DDPM) • สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง • หรือผ่านแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT
    0 Comments 0 Shares 1472 Views 0 Reviews
  • #รีวิว เส้นทาง #ฮอกไกโด #ญี่ปุ่น จากคุณนิศานาถนะคะ เมื่อวันที่ 20-25 พ.ย.67 67 ที่ผ่านมานะคะ
    ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com
    แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ

    #หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือ Hell Valley เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงในเมืองโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของสถานที่นี้คือภูมิประเทศที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต ทำให้พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน ไอน้ำที่พวยพุ่ง และกลิ่นกำมะถันที่เป็นเอกลักษณ์

    ดูทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดได้ที่
    https://78s.me/a32eb2

    LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307
    Facebook: etravelway 78s.me/8a4061
    Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5
    Tiktok : https://78s.me/543eb9
    : etravelway 78s.me/05e8da
    : 0 2116 6395

    #ทัวร์ญี่ปุ่น #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    ❤️ #รีวิว เส้นทาง #ฮอกไกโด #ญี่ปุ่น จากคุณนิศานาถนะคะ❤️ เมื่อวันที่ 20-25 พ.ย.67 67 ที่ผ่านมานะคะ📍 ❤️ขอขอบพระคุณมากๆเลยนะคะที่ไว้ใจทาง eTravelWay.com แอดมินประทับใจเสมอที่เห็นภาพสวยๆจากผู้เดินทาง และเป็นกำลังใจกับพวกเราค่ะ😘 #หุบเขานรกจิโกกุดานิ (Jigokudani) หรือ Hell Valley เป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีชื่อเสียงในเมืองโนโบริเบทสึ (Noboribetsu) บนเกาะฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น จุดเด่นของสถานที่นี้คือภูมิประเทศที่เกิดจากการปะทุของภูเขาไฟในอดีต ทำให้พื้นที่นี้เต็มไปด้วยบ่อน้ำพุร้อน ไอน้ำที่พวยพุ่ง และกลิ่นกำมะถันที่เป็นเอกลักษณ์ ดูทัวร์ญี่ปุ่นทั้งหมดได้ที่ https://78s.me/a32eb2 LINE ID: @etravelway 78s.me/d0c307 Facebook: etravelway 78s.me/8a4061 Twitter: @eTravelWay 78s.me/e603f5 Tiktok : https://78s.me/543eb9 📷: etravelway 78s.me/05e8da ☎️: 0 2116 6395 #ทัวร์ญี่ปุ่น #แพ็คเกจทัวร์ #จัดกรุ๊ปส่วนตัว #eTravelway
    0 Comments 0 Shares 691 Views 0 Reviews
  • 5 ที่เที่ยววังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา
    วังน้ำเขียวเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชศรีมาที่มีพื้นที่เที่ยวดีๆ มากมาย แถมยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกแนว ไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายกิน สายธรรมชาติ สายซื้อ สายบุญ หรือสายความรู้ สำหรับใครที่กำลังทำทริปวังน้ำเขียว แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ได้เตรียมรวบรวมที่เที่ยวดีๆ มารอเสิร์ฟไว้แล้ว

    1.เขาแผงม้า
    เขาแผงม้าเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาในบริเวณนี้นิยมมาเที่ยวกันมากๆ ยิ่งกับคนที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป ส่องสัตว์ยิ่งจะชอบเขาแผงม้าเข้าไปอีก

    จุดเด่น
    บริเวณเขาแผงม้าจะมีรั้วที่ใช้กั้นฝูงกระทิงป่าจากเขตชุมชน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็จะสามารถเข้าชมส่องดูฝูงกระทิงได้ ซึ่งจุดที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นบริเวณจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ที่จะสามารถเห็นฝูงกระทิงที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 300 ตัว ออกมาหากินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้ากว้างได้อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเขาและชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอดูฝูงกระทิงได้อีกด้วย สำหรับคนที่ต้องการนอนค้างคืนกางเตนท์ก็สามารถมาขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ได้

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท

    วิธีเดินทาง : การเดินทางไปเขาแผงม้า สามารถเดินทางจากอำเภอวังน้ำเขียวมุ่งหน้าเข้าสู่เขาแผงม้า กม.ที่ 83 โดยใช้เส้นทางถนนศาลเจ้าพ่อ-วังหมี แล้วจึงตรงไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะเจอเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมกระทิงนี้เอง

    2. ผาเก็บตะวัน
    ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดชมวิวเหนือหน้าผาที่มีธรรมชาติสวยงามและนิยมมาถ่ายภาพ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอ่อนๆ และยังอาจจะได้เห็นคนท้องถิ่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการปิกนิกใกล้หน้าผา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย

    จุดเด่น
    ผาเก็บตะวันมีสายหมอกบางๆ ในยามเช้า ยิ่งในช่วงเวลาบางเดือนของปีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ในวันมีแดดแรงก็จะได้เห็นป่าไม้อันอุมดมสมบูรณ์สีเขียวชอุ่ม หรือจะในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ตกดิน แสงของท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกราวกับอยู่ในนิยายให้ได้เห็นกัน นอกจากชมวิวและถ่ายรูปแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่มีทั้ง เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือ ลูกลาน

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท

    วิธีเดินทาง : ผาเก็บตะวันตั้งอยู่ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา

    3.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง
    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง หรือ เขื่อนลำพระเพลิง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับเขาแผงม้าเช่นกันด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค แต่ถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ในภายหลัง

    จุดเด่น
    อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีการพัฒนาให้มีความเป็นสวนสาธารณะมากขึ้น เช่น เลนจักรยานที่ขนานไปกับถนน และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง สำหรับปั่นจักรยานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด ตามบริเวณทางเดิน จุดชมวิว และบริเวณหน้า ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะจะเป็นช่วงที่แดดไม่แรงและวิวกำลังถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน

    วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กลับรถเข้าสู่ถนนลาดยางสาย นม. 3060 จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนโยธาธิการ ก็จะเจอกับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง

    4.น้ำตกม่านฟ้า
    น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากโขดหินในที่ต่างๆ บuแอ่งน้ำที่สามารถแช่ตัวและคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนได้ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่หลายคนจะผ่านไปเมื่อมีทริปวังน้ำเขียวกัน

    จุดเด่น
    น้ำตกม่านฟ้าจะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม ผู้คนมักนิยมเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์น้ำตกที่ตกจากผาสูง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูปนิยมไปที่นี่กันเป็นอย่างมาก

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่อยู่เหนือน้ำตกห้วยใหญ่ ขึ้นไปอีกเพียง 100 เมตร โดยมีทางเดินจากบริเวณน้ำตกห้วยใหญ่ไปได้ เปิดทำการทุกวันในเวลา 06:00 – 18:00

    5.ทุ่งลาเวนเดอร์
    ในบริเวณวังน้ำเขียวยังมีทุ่งดอกไม้ที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์แห่งเดียวในเมืองไทย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายภาพได้ เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงอันแสนงดงาม

    จุดเด่น
    ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ก็จะมีจุดเด่นอย่างดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ส่องสว่างและสายลมพัดผ่านก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ที่นำความสงบมาสู่จิตใจได้ไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวหรือถ่ายรูป ดื่มด่ำไปกับความงามของโลก โดยช่วงเวลาที่มีดอกไม้ให้ชมก็จะเป็น ปลายมกราคม – มีนาคม

    เวลาทำการและวิธีเดินทาง
    เวลาทำการ : เปิดให้บริการเมื่อ 07:00 – 18:00 น. ของทุกวัน

    วิธีเดินทาง : ทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในสวน Chateau Chili
    5 ที่เที่ยววังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา วังน้ำเขียวเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดนครราชศรีมาที่มีพื้นที่เที่ยวดีๆ มากมาย แถมยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวทุกแนว ไม่ว่าจะสายถ่ายรูป สายกิน สายธรรมชาติ สายซื้อ สายบุญ หรือสายความรู้ สำหรับใครที่กำลังทำทริปวังน้ำเขียว แล้วไม่รู้จะเที่ยวที่ไหนดี บทความนี้ได้เตรียมรวบรวมที่เที่ยวดีๆ มารอเสิร์ฟไว้แล้ว 1.เขาแผงม้า เขาแผงม้าเป็นอีกหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวที่ผ่านมาในบริเวณนี้นิยมมาเที่ยวกันมากๆ ยิ่งกับคนที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ถ่ายรูป ส่องสัตว์ยิ่งจะชอบเขาแผงม้าเข้าไปอีก จุดเด่น บริเวณเขาแผงม้าจะมีรั้วที่ใช้กั้นฝูงกระทิงป่าจากเขตชุมชน ซึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาก็จะสามารถเข้าชมส่องดูฝูงกระทิงได้ ซึ่งจุดที่ได้รับความนิยม ก็จะเป็นบริเวณจุดสกัดเขาสูง เขาแผงม้า ที่จะสามารถเห็นฝูงกระทิงที่ปัจจุบันมีจำนวนสูงกว่า 300 ตัว ออกมาหากินหญ้าบริเวณทุ่งหญ้ากว้างได้อย่างใกล้ชิด นักท่องเที่ยวยังสามารถเดินเขาและชมวิวทิวทัศน์ระหว่างรอดูฝูงกระทิงได้อีกด้วย สำหรับคนที่ต้องการนอนค้างคืนกางเตนท์ก็สามารถมาขออนุญาตกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลพื้นที่ได้ เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน มีค่าเข้าชมคนไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท และชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่ 200 บาท เด็ก 100 บาท วิธีเดินทาง : การเดินทางไปเขาแผงม้า สามารถเดินทางจากอำเภอวังน้ำเขียวมุ่งหน้าเข้าสู่เขาแผงม้า กม.ที่ 83 โดยใช้เส้นทางถนนศาลเจ้าพ่อ-วังหมี แล้วจึงตรงไปอีก 7 กิโลเมตร ก็จะเจอเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาแผงม้า เลี้ยวซ้ายตรงไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะเจอจุดชมกระทิงนี้เอง 2. ผาเก็บตะวัน ผาเก็บตะวัน ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติทับลาน เป็นจุดชมวิวเหนือหน้าผาที่มีธรรมชาติสวยงามและนิยมมาถ่ายภาพ เวลาที่ดีที่สุดในการเยี่ยมชมสถานที่แห่งนี้ คือ ช่วงเช้าตรู่ ซึ่งจะได้ชมทิวทัศน์อันน่าทึ่งของภูเขาที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้เขียวขจี ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกอ่อนๆ และยังอาจจะได้เห็นคนท้องถิ่นจำนวนมากมาที่นี่เพื่อเพลิดเพลินกับการปิกนิกใกล้หน้าผา เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนจากส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย จุดเด่น ผาเก็บตะวันมีสายหมอกบางๆ ในยามเช้า ยิ่งในช่วงเวลาบางเดือนของปีที่สภาพอากาศเอื้ออำนวยก็อาจจะมีทะเลหมอกให้ได้ชมกัน ในวันมีแดดแรงก็จะได้เห็นป่าไม้อันอุมดมสมบูรณ์สีเขียวชอุ่ม หรือจะในช่วงเย็นใกล้อาทิตย์ตกดิน แสงของท้องฟ้าก็จะเปลี่ยนเป็นสีชมพูสร้างบรรยากาศที่แสนโรแมนติกราวกับอยู่ในนิยายให้ได้เห็นกัน นอกจากชมวิวและถ่ายรูปแล้วนักท่องเที่ยวยังสามารถทำกิจกรรมยิงหนังสติ๊กปลูกป่าที่มีทั้ง เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หรือ ลูกลาน เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน 06.00-18.00 น. มีค่าเข้าชมอยู่ที่ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท วิธีเดินทาง : ผาเก็บตะวันตั้งอยู่ในตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา 3.อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง หรือ เขื่อนลำพระเพลิง เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณนี้ ซึ่งก็จะอยู่ในบริเวณเดียวกับเขาแผงม้าเช่นกันด้วย สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2505 เพื่อใช้เป็นที่กักเก็บน้ำสำหรับอุปโภคและบริโภค แต่ถูกพัฒนาต่อยอดให้กลายเป็นสถานที่พักผ่อน ชมวิวทิวทัศน์และถ่ายรูปได้ในภายหลัง จุดเด่น อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิงมีการพัฒนาให้มีความเป็นสวนสาธารณะมากขึ้น เช่น เลนจักรยานที่ขนานไปกับถนน และ อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง สำหรับปั่นจักรยานท่ามกลางวิวทิวทัศน์ธรรมชาติที่งดงาม มีมุมให้ถ่ายรูปหลายจุด ตามบริเวณทางเดิน จุดชมวิว และบริเวณหน้า ต่างๆ โดยนักท่องเที่ยวจะนิยมมาในช่วงบ่ายๆ เย็นๆ เพราะจะเป็นช่วงที่แดดไม่แรงและวิวกำลังถ่ายรูปได้อย่างสวยงาม เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้เข้าชมทุกวัน วิธีเดินทาง : สามารถเดินทางผ่านทางหลวงหมายเลข 2 (ถนนมิตรภาพ) กลับรถเข้าสู่ถนนลาดยางสาย นม. 3060 จากนั้นก็เลี้ยวขวาเข้าสู่ ถนนโยธาธิการ ก็จะเจอกับอ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง 4.น้ำตกม่านฟ้า น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่สวยงามไหลลงมาจากภูเขา น้ำที่ไหลออกมาจากโขดหินในที่ต่างๆ บuแอ่งน้ำที่สามารถแช่ตัวและคลายร้อนในวันที่อากาศร้อนได้ เป็นหนึ่งในน้ำตกที่หลายคนจะผ่านไปเมื่อมีทริปวังน้ำเขียวกัน จุดเด่น น้ำตกม่านฟ้าจะมีน้ำมากในช่วงเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม ผู้คนมักนิยมเดินทางมาชมวิวทิวทัศน์น้ำตกที่ตกจากผาสูง ท่ามกลางธรรมชาติอันงดงาม ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งสายธรรมชาติและสายถ่ายรูปนิยมไปที่นี่กันเป็นอย่างมาก เวลาทำการและวิธีเดินทาง น้ำตกม่านฟ้าเป็นน้ำตกที่อยู่เหนือน้ำตกห้วยใหญ่ ขึ้นไปอีกเพียง 100 เมตร โดยมีทางเดินจากบริเวณน้ำตกห้วยใหญ่ไปได้ เปิดทำการทุกวันในเวลา 06:00 – 18:00 5.ทุ่งลาเวนเดอร์ ในบริเวณวังน้ำเขียวยังมีทุ่งดอกไม้ที่มีความพิเศษอย่างมาก เพราะเป็นทุ่งลาเวนเดอร์แห่งเดียวในเมืองไทย ที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปชมและถ่ายภาพได้ เพลิดเพลินไปกับทุ่งดอกไม้สีม่วงอันแสนงดงาม จุดเด่น ที่ทุ่งลาเวนเดอร์ก็จะมีจุดเด่นอย่างดอกลาเวนเดอร์ที่สวยงาม ในช่วงเวลาที่แดดอ่อนๆ ส่องสว่างและสายลมพัดผ่านก็จะเป็นวิวทิวทัศน์ที่นำความสงบมาสู่จิตใจได้ไม่น้อย นักท่องเที่ยวสามารถมาชมวิวหรือถ่ายรูป ดื่มด่ำไปกับความงามของโลก โดยช่วงเวลาที่มีดอกไม้ให้ชมก็จะเป็น ปลายมกราคม – มีนาคม เวลาทำการและวิธีเดินทาง เวลาทำการ : เปิดให้บริการเมื่อ 07:00 – 18:00 น. ของทุกวัน วิธีเดินทาง : ทุ่งลาเวนเดอร์อยู่ในสวน Chateau Chili
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1061 Views 0 Reviews
  • อุทยานอ่าวมะนาว -เขาตันหยง จ.นราธิวาส

    ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลกะลุวอเหนือ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว ๔ กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ๆ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์
    หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติน่าเที่ยวแห่งจังหวัดนราธิวาส เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งชายทะเล เนินเขาสูง พื้นที่ป่าสงวน ป่าพรุ และมีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้สภาพธรรมชาติมีความสมบูรณ์หลากหลาย มีการพบต้นมะนาวผี ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก รวมถึงสัตว์ป่าหายากหลากชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง

    อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่บ้านบางมะนาว หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อหลายปีก่อน ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น สำนักงานป่าไม้ปัตตานีจึงได้สนองพระราชดำริดังกล่าว โดยทำการสำรวจพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติพิเศษ ป่าเขาตันหยง ในพื้นที่บริเวณนอกเขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยานก่อนในเริ่มแรก มีเนื้อที่ประมาณ 23,278.25 ไร่ แล้วตั้งชื่อว่า วนอุทยานอ่าวมะนาว โดยกรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2536

    การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๔ นราธิวาส-ตากใบ ๓ กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก ๓ กิโลเมตร
    พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางนราจะมีทางเลี้ยวซ้าย เข้าไปเพียง 2.5 ม. ก็จะไปถึงแนวป่าสนร่มรื่นและชายทะเลยาวเหยียด พร้อมทั้งป้ายใหญ่โตชื่อ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง
    ท่านจะพบบริเวณริมหาดที่มีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด (beach forest) ระยะทาง ๑ กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้ง เช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (คล้ายสับปะรด) เป็นต้น และในบริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านพักของเอกชนให้บริการ

    เขาตันหยงนั้นเป็นภูเขาเตี้ยๆ มียอดหลายยอดมีพื้นที่พอประมาณไม่สูงนัก ด้านตะวันออกของภูเขาติดชายทะเลอ่าวไทยติดชายหาด ส่วนด้านตะวันตกติดแนวถนนหมายเลข 4064 ด้านทิศใต้เป็นพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์และด้านทิศเหนือจึงเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว-เขาตันหยงนี่เอง
    ช่วงหน้าน้ำช่วงที่ฝนตกมาหลายวันต่อเนื่องกัน จะมีลำธารน้ำเล็กๆ ตกลงมาจากเขาตันหยงลงสู่ทะเลสองสาย กลายเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ คือน้ำตกธาราสวรรค์ที่ไหลลงชายหาดอ่าวมะนาวแล้วลงสูทะเล กัยน้ำตกริมผา ที่ไหลตกลงจากหน้าผาเล็กๆ ก่อนไหลเข้าหมู่บ้านแล้วออกสู่ชายทะเลด้านทศเหนือ ห่างที่ทำการอุทยานฯไปไม่ไกล

    อุทยานแหงชาติอ่าวมะนาว-ขาตันหยง ยังคงสถานภาพเป็นอุทยานเตรียมการประกาศ แต่ก็ได้รักษาดูแลสถานที่ไว้จนสวยงาม สมกับเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสที่สุด

    มานราคราววหน้า ลองมาเที่ยวเขาตันหยง-อ่าวมะนาว แล้วจะประทับใจเมืองนี้ไปอีกนาน....







    อุทยานอ่าวมะนาว -เขาตันหยง จ.นราธิวาส ตั้งอยู่หมู่ ๑ ตำบลกะลุวอเหนือ เป็นชายหาดที่ยาวต่อเนื่องจากชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกของจังหวัดปัตตานี เป็นโค้งอ่าวเชื่อมต่อกันยาว ๔ กิโลเมตร มีโขดหินคั่นสลับโค้งหาดเป็นระยะ ๆ ด้านหนึ่งติดพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติน่าเที่ยวแห่งจังหวัดนราธิวาส เพลิดเพลินกับการเที่ยวชมระบบนิเวศที่หลากหลาย ทั้งชายทะเล เนินเขาสูง พื้นที่ป่าสงวน ป่าพรุ และมีอาณาเขตพื้นที่ติดต่อกับพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ทำให้สภาพธรรมชาติมีความสมบูรณ์หลากหลาย มีการพบต้นมะนาวผี ที่มีขนาดใหญ่และสวยงามมาก รวมถึงสัตว์ป่าหายากหลากชนิด เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ และรักธรรมชาติโดยแท้จริง อุทยานแห่งชาติแห่งนี้มาจากการที่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธรฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมาทรงเยี่ยมราษฎรในบริเวณพื้นที่บ้านบางมะนาว หมู่ที่ 1 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส เมื่อหลายปีก่อน ทรงมีพระราชดำริให้มีการปรับปรุงด้านต่างๆ ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การศึกษา วัฒนธรรมและการส่งเสริมการท่องเที่ยว ซึ่งในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวนั้น สำนักงานป่าไม้ปัตตานีจึงได้สนองพระราชดำริดังกล่าว โดยทำการสำรวจพื้นที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติพิเศษ ป่าเขาตันหยง ในพื้นที่บริเวณนอกเขตพระราชฐานพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เพื่อจัดตั้งเป็นวนอุทยานก่อนในเริ่มแรก มีเนื้อที่ประมาณ 23,278.25 ไร่ แล้วตั้งชื่อว่า วนอุทยานอ่าวมะนาว โดยกรมป่าไม้ได้ขึ้นทะเบียนเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2536 การเดินทาง ใช้ทางหลวงหมายเลข ๔๐๘๔ นราธิวาส-ตากใบ ๓ กิโลเมตร และมีทางแยกไปสู่หาดอีก ๓ กิโลเมตร พอข้ามสะพานข้ามแม่น้ำบางนราจะมีทางเลี้ยวซ้าย เข้าไปเพียง 2.5 ม. ก็จะไปถึงแนวป่าสนร่มรื่นและชายทะเลยาวเหยียด พร้อมทั้งป้ายใหญ่โตชื่อ อุทยานแห่งชาติอ่าวมะนาว-เขาตันหยง ท่านจะพบบริเวณริมหาดที่มีสวนรุกขชาติ และทิวสนร่มรื่นเหมาะแก่การพักผ่อน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายหาด (beach forest) ระยะทาง ๑ กิโลเมตร พันธุ์ไม้ที่พบจะเป็นไม้ที่ชอบความแห้งแล้ง เช่น จักทะเล มะนาวผี เตยทะเล (คล้ายสับปะรด) เป็นต้น และในบริเวณใกล้เคียงยังมีบ้านพักของเอกชนให้บริการ เขาตันหยงนั้นเป็นภูเขาเตี้ยๆ มียอดหลายยอดมีพื้นที่พอประมาณไม่สูงนัก ด้านตะวันออกของภูเขาติดชายทะเลอ่าวไทยติดชายหาด ส่วนด้านตะวันตกติดแนวถนนหมายเลข 4064 ด้านทิศใต้เป็นพระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์และด้านทิศเหนือจึงเป็นที่ทำการของอุทยานแห่งชาติ อ่าวมะนาว-เขาตันหยงนี่เอง ช่วงหน้าน้ำช่วงที่ฝนตกมาหลายวันต่อเนื่องกัน จะมีลำธารน้ำเล็กๆ ตกลงมาจากเขาตันหยงลงสู่ทะเลสองสาย กลายเป็นน้ำตกชั้นเล็กๆ คือน้ำตกธาราสวรรค์ที่ไหลลงชายหาดอ่าวมะนาวแล้วลงสูทะเล กัยน้ำตกริมผา ที่ไหลตกลงจากหน้าผาเล็กๆ ก่อนไหลเข้าหมู่บ้านแล้วออกสู่ชายทะเลด้านทศเหนือ ห่างที่ทำการอุทยานฯไปไม่ไกล อุทยานแหงชาติอ่าวมะนาว-ขาตันหยง ยังคงสถานภาพเป็นอุทยานเตรียมการประกาศ แต่ก็ได้รักษาดูแลสถานที่ไว้จนสวยงาม สมกับเป็นอุทยานแห่งชาติที่ใกล้กับตัวเมืองนราธิวาสที่สุด มานราคราววหน้า ลองมาเที่ยวเขาตันหยง-อ่าวมะนาว แล้วจะประทับใจเมืองนี้ไปอีกนาน....
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1041 Views 0 Reviews
  • บันทึกเตือนความจำ
    ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่

    กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก)

    เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง

    คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น
    เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ
    ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย
    คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม

    การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้
    โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง

    ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย
    หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น.

    ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ
    โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า

    วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป

    สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก

    วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ
    แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน

    ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง

    https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    บันทึกเตือนความจำ ภัยธรรมชาติที่เกิดจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงสุดขั้วนำมาซึ่งปริมาณน้ำฝนที่ไหลหลั่งลงสู่แหล่งน้ำ จำนวนมหาศาล ไหลบ่าจากป่าสู่เมืองในที่ลุ่มต่ำ ในทางกลับกันเชื่อแน่ว่าไม่ช้าก็เร็วเราน่าจะเจอกับเหตุการณ์ในขั้วตรงกันข้ามคือแล้ง ร้อนสุดโต่งแน่ กันยายนต่อเนื่องถึงตุลาคม ฝนตกต่อเนื่องจนเกิดมวลน้ำจำนวนมหาศาลจากต้นน้ำแม่แตง ไหลเข้าสู่ลำน้ำแม่แตง สายน้ำแห่งการท่องเที่ยวธรรมชาติของเชียงใหม่ ที่ตลอดสองข้างลำน้ำมีแหล่งท่องเที่ยวจำนวนมาก รวมทั้งปางช้างต่างๆเรียงรายตลอดลำน้ำแม่แตง ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาจากรายงานของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (๒๕๕๘-๒๕๖๗) พบว่ามีปางช้างถึง ๔๙ ปาง (ช้างจำนวน ๕๔๖ เชือก) เหตุระทึกเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่บ่ายวันพฤหัสที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๗ มวลน้ำจำนวนมากไหลบ่าล้นตลิ่งทั้งสองฝั่งของลำน้ำแม่แตงอย่างรวดเร็ว ต่อเนื่องจนถึงเช้ามืดวันศุกร์ น้ำเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว ช้างส่วนใหญ่ถูกอพยพนำขึ้นไปผูกล่ามไว้ในที่สูง ในขณะที่ปางช้างขนาดใหญ่ (มีช้างมากกว่าหนึ่งร้อยเชือก) ของมูลนิธิช้างและสิ่งแวดล้อม ยังคงสาละวนและพยายามขนย้ายช้างและสัตว์อื่นๆอีกนับพันอาทิ สุนัข แมว แพะ โค กระบือ และสุกร ซึ่งยังคงไม่ทันการณ์ เป็นผลให้มวลน้ำจำนวนมหึมาไหลเข้าสู่ปางช้าง (ระดับน้ำสูงมากกว่า ๑.๕-๒.๐ เมตร เมื่อประเมินด้วยสายตา) การขนย้ายช้างนับร้อย เป็นเรื่องที่ยากและสุ่มเสี่ยงต่อการสูญเสียมากทั้งชีวิตคนและช้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อช้างเหล่านี้มิได้ถูกฝึกหรือสื่อสารกับคนเลี้ยงอย่างใกล้ชิดมาก่อน เราเริ่มจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะพอช่วยเหลือสนับสนุนอะไรได้บ้าง คณะของสถาบันคชบาลแห่งชาติ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เริ่มเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องเมื่อเช้าตรู่ของวันศุกร์ จากการร้องขอของเจ้าหน้าที่มูลนิธิทางโทรศัพท์ โดยเบื้องต้นรับทราบมาว่าให้ช่วยเคลื่อนย้ายและดูแลช้างเพศผู้ที่ยังอยู่ในคอกแต่ไม่สามารถออกมาได้ ในขณะที่ระดับน้ำกำลงัเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว คณะทำงานถูกตามตัว รวมทีมและประชุมอย่างเร่งด่วน และออกเดินทางในช่วงสายของวันนั้น เมื่อแรกไปถึงพบว่าเส้นทางเข้าถึงปางช้างถูกตัดขาด ท่ามกลางกระแสน้ำที่เชี่ยวกราก การติดต่อด้วยโทรศัพท์ไม่สามารถทำได้ ต้องสื่อสารผ่านวิทยุสื่อสารคลื่นสั้นเท่านั้น คณะจึงต้องรอจนถึงบ่ายแก่ๆจึงได้เรือจากหน่วยกู้ภัย จ.กาฬสินธิ์ ข้ามน้ำเพื่อไปดูช้างตัวผู้ในคอกต่างๆเพื่อประเมินสถานการณ์ เราพบว่าช้างตัวผู้ยังอยู่ครบทั้งสิบเชือก ในสภาพที่ช้างลอยคออยู่ภายในคอก แต่ที่แปลกใจคือยังมีช้างตัวเมียอีกหลายสิบเชือกติดค้างอยู่ในคอกด้วย บ้างก็พิการขาเป๋ ตาบอด และยังทราบอีกว่าช้างอีกหลายเชือกได้สูญหายลอยไปกับน้ำด้วย เมื่อช่วงก่อนหน้า ซึ่งต่อมาพบ ซากของช้างฟ้าใส(วันเฉลิม)และพลอยทอง เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งต่อการสูญเสีย คณะจึงตัดสินใจแบ่งทีมงานออกเป็น ๒ ทีมเพื่อช่วยเหลือช้างให้ครอบคลุมทั้งสองกลุ่ม การดำเนินการในภาวะวิกฤติและเร่งด่วนเช่นนี้ โดยหลักการแล้ว หากพบว่าช้างกับควาญสามารถสื่อสารกันได้ก็จะให้ควาญช้างเป็นผู้นำและกำหนดทิศทางการเดินของช้างเพื่อความปลอดภัย เพราะช้างเองมักเดินเฉพาะเส้นทางที่เคยชิน ซึ่งในกรณีนี้ช้างมักคุ้นชินกับการเดินแบบอิสระในทุ่งกว้างที่อยู่ติดกับน้ำแม่แตง ที่กำลังไหลเชี่ยว นับว่าอันตรายอย่างยิ่ง ฉะนั้นจึงจำเป็นที่ช้างเหล่านี้จะต้องมีควาญเป็นผู้ควบคุมทิศทาง ในกรณีช้างเพศเมียหรือช้างที่ไม่ดุร้าย หากช้างกับควาญมิได้มีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน หรือมีแต่เพียงเล็กน้อย ในทางทฤษฎีที่มีการเคลื่อนย้ายช้างป่ามักวางยาซึมและนำทางด้วยผ้าพรางแสงตลอดทางเดินเพื่อนำช้างไปยังจุดที่ต้องการ แต่ในกรณีนี้มีน้ำท่วมสูงจึงค่อนข้างเสี่ยงที่จะวางยาซึม (ยาซึมช้างมีฤทธิ์คลายกล้ามเนื้อ ทำให้งวงตกลงสู่พื้น) โดยในวันนั้นคณะทำงานที่ประกอบด้วยสัตวแพทย์ ควาญช้างจากสถาบันคชบาลแห่งชาติ ควาญพี่เบิ้ม(ปางที่อยู่ติดกัน) และภัทรฟาร์ม ซึ่งมีความชำนาญ ร่วมกับควาญช้างของมูลนิธิช่วยกันควบคุมและกำหนดเส้นทางด้วยเชือกให้ช้างเดินไปยังจุดที่ปลอดภัย แต่ก็ทุลักทุเลพอควรด้วยเพราะควาญกับช้างสื่อสารกันแทบไม่รู้เรื่อง วันนั้นทีมเราช่วยเหลือช้างตัวเมียได้บางส่วนจนกระทั่งมืดค่ำจึงยุติภารกิจในเวลา ๑๙.๓๐ น. ในกรณีช้างเพศผู้ เราไม่สามารถวางยาซึมช้างในขณะที่ยังอยู่ในน้ำได้ ซึ่งจากข้อมูลที่ทีมงานได้รับพบว่าช้างทุกเชือกไม่เคยผ่านการฝึกและบางเชือกมีประวัติทำร้ายคนมาก่อน จึงเกิดคำถามว่าหากเคลื่อนย้ายออกมาได้แล้วจะนำช้างไปผูกล่ามอย่างไร ที่ไหน ทั้งในภาวะซึมหรือปกติ ด้วยเพราะช้างไม่คุ้นเคยกับคนหรือช้างใดๆ ช้างแต่ละเชือกอยุ่ตัวเดียวในคอกมานาน ซึ่งจากการประเมินพบว่าช้างทุกเชือกยังมีสภาพร่างกายปกติ (ยกเว้นพลายขุนเดชที่บาดเจ็บที่ขาหน้า) ดังนั้นจึงใช้วิธีวางแท่นพยุงให้ช้างสามารถใช้งวงยึดพยุงมิให้จมน้ำ หากพบว่าระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอีก เพราะจากประสบการณ์ตรงของคณะทำงานพบว่าช้างมักลอยน้ำและอยู่ในน้ำได้นานถึง ๒ วัน ๑ คืนในสภาพน้ำนิ่ง โดยไม่เกิดอันตราย ซึ่งจากสภาพช้างภายในคอกพบว่ากระแสน้ำยังคงไหลแต่ไม่เชี่ยวมากนักเมื่อเทียบกับในลำน้ำ ช้างน่าจะยังพอพยุงตัวเองไว้ได้ในระยะเวลาหนึ่ง ด้วยเพราะธรรมชาติของน้ำทางภาคเหนือมักมาเร็วไปเร็ว ไม่น่าจะท่วมนาน เราจึงกำหนดให้ทำแพต้นกล้วยไว้ให้ช้างเพื่อช่วยพยุง ต้นกล้วยยังเป็นอาหารและมีน้ำช่วยประทังชีวิตให้ช้างได้อีกด้วย ทั้งนี้ให้เฝ้าระวังพลายขุนเดชเป็นพิเศษ โชคดีในช่วงเย็นของวันเดียวกันระดับน้ำเริ่มลดระดับลง เป็นสัญญาณว่าน้ำน่าจะลดลงเป็นปกติในไม่ช้า วันรุ่งขึ้นระดับน้ำลดลง เหลือเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำ ช้างเพศเมียถูกเคลื่อนย้ายขึ้นที่สูง ช้างตัวผู้ยังอยู่ในคอกของตัวเอง แต่ทุกตัวยังมีชีวิตอยู่แม้บางเชือกอาจแสดงอาการอ่อนเพลียบ้าง ดังนั้นการฟื้นฟูสุขภาพกาย และสภาวะจิตใจของช้างและควาญจึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะโรคต่างๆที่มาหลังน้ำท่วม ก็ดี น้ำป่าที่อาจเข้าสู่ร่างกายช้างในช่วงก่อนหน้าทั้งทางเดินหายใจ ทางเดินอาหารก็ดี ดินโคลนที่มีรสชาดเย้ายวนต่อการลิ้มลองของช้างก็ดี หรือแม้กระทั่งอาหารที่อาจปนเปื้อน ที่ล้วนนำมาซึ่งความเจ็บป่วยของช้างเหล่านี้ได้ และสภาพจิตใจของช้างที่อาจตระหนกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การไม่คุ้นเคยกับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป เหล่านี้จำเป็นต้องฟื้นฟูและเฝ้าระวังกันต่อไป สรุปยอดรวมช้างในปางก่อนเกิดเหตุ จำนวน ๑๑๘ เชือก ภายหลังน้ำลด พบช้างเพศเมีย ๑๐๖ เชือก เป็นช้างเพศผู้ ๑๐ เชือก สูญหายและเสียชีวิต ๒ เชือก วันนี้ฝนตกเบาบางลงแล้ว แต่หากเกิดเหตุการณ์แบบเดียวกันอีก การเรียนรู้บทเรียนและเตรียมแผนเผชิญเหตุทั้งของปางและผู้เกี่ยวข้องเป็นสิ่งที่ต้องจัดทำ แม้ในวันนี้ช้างบ้านของไทยจะมีสถานะเป็นทรัพย์สินของผู้ถือครองตามกฎหมาย (พรบ.สัตว์พาหนะ ) แต่จากเหตุการณ์หลายๆครั้งที่ผ่านมา ล้วนกระทบจิตใจคนไทยส่วนใหญ่ หลายส่วนยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม ผู้หลักผู้ใหญ่ของบ้านเมืองติดตามอย่างใกล้ชิด จึงเป็นสิ่งที่ทุกท่านพึงตระหนักให้ดีว่า "ช้าง" มีสถานะยิ่งกว่าทรัพย์สิน แต่เขาคือสิ่งที่มีคุณค่า ที่สูงค่าอันประเมินมูลค่ามิได้ ซึ่งเป็นสมบัติของคนไทยเราทุกคน ปล. ขอบคุณภาพมุมสูงจากคุณน้ำหนึ่ง https://www.facebook.com/share/p/zPKFtdBiFkUnLwdL/
    0 Comments 0 Shares 992 Views 0 Reviews
  • เพจเทพชวนเที่ยววันนี้ ขอพาเพื่อนๆไปเที่ยว 'เกาะกูด' สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม เกาะกูดมีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 65,625 ไร่ ความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร ความกว้าง 12 กิโลเมตร ถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของไทย รองจากเกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้าง เกาะตะรุเตา และเกาะพะงัน ตั้งอยู่ในอ่าวไทย เป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกไทย อยู่ในการบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด ส่วนหนึ่งของอำเภอเกาะกูดในจังหวัดตราด

    เกาะกูดนั้นยังมีสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกที่ขึ้นชื่อคือ 'น้ำตกคลองเจ้า' ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ นับตั้งแต่อ่าวยายกี๋ หาดคลองเจ้า หาดอ่าวพร้าว อ่าวง่ามโข่ หาดอ่าวเบ้า หาดคลองหิน อ่าวพร้าวจนสุดปลายแหลมเทียน ล้วนแต่เป็นหาดที่มีทรายสวยงามน้ำทะเลใส ประกอบกับธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังหลากชนิด รวมทั้งเกาะแรดและเกาะไม้ซี้ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะกูด

    น้ำตกคลองเจ้า ถือว่าเป็นน้ำตกมหัศจรรย์ของเกาะกูด ที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี มีทัศนียภาพที่สวยงาม จึงทำให้ที่นี่คลายเป็นจุดเช็คอินคลายร้อนยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเกาะกูด ที่มีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่าทะเลเลย

    ประวัติ น้ำตกคลองเจ้า
    นอกจากจะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ย้อนไปยังสมัยรัชกาลที่ 1 น้ำตกคลองเจ้า หรือ น้ำตกธารสนุก เคยเป็นสถานที่ลี้ภัยสงครามของ เจ้าญวน “องเชียงสือ” แห่งแคว้นอันนัม (เวียดนาม) จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ "น้ำตกคลองเจ้า" นั่นเอง จนกระทั่งสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จมายังเกาะกูด พระองค์ก็ได้พระราชทานนามให้ใหม่เป็น “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อระลึกถึง องเชียงสือ แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกจนติดปากว่า น้ำตกคลองเจ้า เนื่องจากเป็นน้ำตกที่มีทั้งเจ้าญวน และพระมหากษัตริย์ไทยเสด็จประพาสมาที่นี่นั่นเอง


    ไฮไลท์ น้ำตกคลองเจ้า
    น้ำตกคลองเจ้า เป็นน้ำตกขนาดกลาง ความสูงโดยรวม 10 เมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างจะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างใสสะอาด เหมาะกับการมาเล่นน้ำคลายร้อนเป็นอย่างมาก ด้านหน้ามีก้อนหินใหญ่จารึกพระปรมาภิไธยย่อ "วปร" ส่วนด้านบนสุดจะเป็นธารหินที่มีน้ำไหลลงสู่เบื้องล่าง จนเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่ง!!
    และแม้จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี จนสามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอด แต่ช่วงเวลาที่สวยและน่าเที่ยวที่สุดก็คือ ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคมค่ะ (ก็คือช่วงนี้นั่นเอง) เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่มีน้ำมาก ธรรมชาติโดยรอบก็มีความเขียวขจี อากาศชุ่มชื่นเย็นสบาย กลายเป็นสถานที่พักผ่อนคลายร้อนที่สดชื่นไม่แพ้ทะเลเลยทีเดียว

    เกาะกูด นอกจากจะเป็นพื้นทีที่ทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่รอนักท่องเที่ยวไปพิสูจน์ความสวยงามและน่าพิศวงอีกมากมาย เพื่อนๆท่านใดมีโปรแกรมว่าไปไปเที่ยวเกาะกูด หรือเคยไปมาแล้ว คอมเม้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันก็ได้นะครับ

    #เกาะกูด #ตราด #ท่องเที่ยว #น้ำตกคลองเจ้า
    เพจเทพชวนเที่ยววันนี้ ขอพาเพื่อนๆไปเที่ยว 'เกาะกูด' สถานที่ท่องเที่ยวอันสวยงาม เกาะกูดมีเนื้อที่ 105 ตารางกิโลเมตรหรือประมาณ 65,625 ไร่ ความยาวของเกาะ 25 กิโลเมตร ความกว้าง 12 กิโลเมตร ถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ 6 ของไทย รองจากเกาะภูเก็ต เกาะสมุย เกาะช้าง เกาะตะรุเตา และเกาะพะงัน ตั้งอยู่ในอ่าวไทย เป็นเกาะสุดท้ายแห่งน่านน้ำตะวันออกไทย อยู่ในการบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด ส่วนหนึ่งของอำเภอเกาะกูดในจังหวัดตราด😊 เกาะกูดนั้นยังมีสภาพความเป็นธรรมชาติอย่างสมบูรณ์ โดยมีภูเขาและที่ราบสันเขาซึ่งเป็นต้นกำเนิดลำธาร ทำให้เกาะกูดมีน้ำตกที่ขึ้นชื่อคือ 'น้ำตกคลองเจ้า' ที่มีน้ำไหลตลอดทั้งปี ทางฝั่งตะวันตกของเกาะ นับตั้งแต่อ่าวยายกี๋ หาดคลองเจ้า หาดอ่าวพร้าว อ่าวง่ามโข่ หาดอ่าวเบ้า หาดคลองหิน อ่าวพร้าวจนสุดปลายแหลมเทียน ล้วนแต่เป็นหาดที่มีทรายสวยงามน้ำทะเลใส ประกอบกับธรรมชาติสงบเงียบ ร่มรื่นด้วยทิวมะพร้าวริมหาด นอกจากนี้บนเกาะกูดยังมีป่าชายเลนที่สมบูรณ์และแนวปะการังหลากชนิด รวมทั้งเกาะแรดและเกาะไม้ซี้ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะกูด น้ำตกคลองเจ้า ถือว่าเป็นน้ำตกมหัศจรรย์ของเกาะกูด ที่มีน้ำใสไหลเย็นตลอดทั้งปี มีทัศนียภาพที่สวยงาม จึงทำให้ที่นี่คลายเป็นจุดเช็คอินคลายร้อนยอดฮิตอีกแห่งหนึ่งของเกาะกูด ที่มีเสน่ห์ไม่น้อยไปกว่าทะเลเลย🥰 ประวัติ น้ำตกคลองเจ้า นอกจากจะเป็นที่เที่ยวธรรมชาติที่สวยงามแล้ว ยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจไม่น้อยเลย ย้อนไปยังสมัยรัชกาลที่ 1 น้ำตกคลองเจ้า หรือ น้ำตกธารสนุก เคยเป็นสถานที่ลี้ภัยสงครามของ เจ้าญวน “องเชียงสือ” แห่งแคว้นอันนัม (เวียดนาม) จึงกลายเป็นที่มาของชื่อ "น้ำตกคลองเจ้า" นั่นเอง จนกระทั่งสมัยที่ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เสด็จมายังเกาะกูด พระองค์ก็ได้พระราชทานนามให้ใหม่เป็น “น้ำตกอนัมก๊ก” เพื่อระลึกถึง องเชียงสือ แต่ชาวบ้านก็ยังเรียกจนติดปากว่า น้ำตกคลองเจ้า เนื่องจากเป็นน้ำตกที่มีทั้งเจ้าญวน และพระมหากษัตริย์ไทยเสด็จประพาสมาที่นี่นั่นเอง ไฮไลท์ น้ำตกคลองเจ้า น้ำตกคลองเจ้า เป็นน้ำตกขนาดกลาง ความสูงโดยรวม 10 เมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างจะมีแอ่งน้ำขนาดใหญ่ที่ค่อนข้างใสสะอาด เหมาะกับการมาเล่นน้ำคลายร้อนเป็นอย่างมาก ด้านหน้ามีก้อนหินใหญ่จารึกพระปรมาภิไธยย่อ "วปร" ส่วนด้านบนสุดจะเป็นธารหินที่มีน้ำไหลลงสู่เบื้องล่าง จนเกิดเป็นทัศนียภาพอันงดงามจนน่าทึ่ง!! และแม้จะมีน้ำไหลตลอดทั้งปี จนสามารถมาท่องเที่ยวได้ตลอด แต่ช่วงเวลาที่สวยและน่าเที่ยวที่สุดก็คือ ฤดูฝน ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-ตุลาคมค่ะ (ก็คือช่วงนี้นั่นเอง) เพราะจะเป็นช่วงเวลาที่มีน้ำมาก ธรรมชาติโดยรอบก็มีความเขียวขจี อากาศชุ่มชื่นเย็นสบาย กลายเป็นสถานที่พักผ่อนคลายร้อนที่สดชื่นไม่แพ้ทะเลเลยทีเดียว😀 เกาะกูด นอกจากจะเป็นพื้นทีที่ทางประวัติศาสตร์แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอีกมากมาย ที่รอนักท่องเที่ยวไปพิสูจน์ความสวยงามและน่าพิศวงอีกมากมาย เพื่อนๆท่านใดมีโปรแกรมว่าไปไปเที่ยวเกาะกูด หรือเคยไปมาแล้ว คอมเม้นแลกเปลี่ยนประสบการณ์กันก็ได้นะครับ🤩 #เกาะกูด #ตราด #ท่องเที่ยว #น้ำตกคลองเจ้า
    Like
    1
    0 Comments 0 Shares 1228 Views 0 Reviews